4.4K
4 พฤศจิกายน 2552

ปรากฏการณ์เหลือเชื่อ ! ขายความลับที่น่ารู้

แม้ว่าความรุดหน้าของเทคโนโลยี จะทำให้ใครๆ อดรู้สึกไม่ได้ว่าโลกเราทำไมแคบจัง !! แต่เชื่อหรือไม่ว่าโลกกลมๆ นี้ ยังมีความมหัศจรรย์ เรื่องแปลกแต่จริง ซ่อนตัวอยู่ทุกตรอกซอกมุม รอคอยการค้นหาอย่างไม่มีวันจบสิ้น

Ripley’s Believe It or Not! ซึ่งเปิดโชว์ความแปลก ไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์หรือสิ่งของ (แฟรนไชส์จากอเมริกา) พิสูจน์เสน่ห์ของมันได้เป็นอย่างดี เพราะพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ดำเนินอยู่คู่เมืองพัทยามาจนครบรอบขวบเลขลัคกี้คือปีที่ 13 แล้ว
 

สมพร นาคซื่อตรง ผู้จัดการทั่วไป ริปลีย์ส เวิลด์ ออฟ เอนเตอร์เทนเมนต์ พัทยา บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ให้ความเห็นว่าแม้พรมแดนของโลกจะถูกทลายทว่ามนต์เสน่ห์ของความแปลกไม่เคยเสื่อมถอย

"คนสองหน้า คนตัวเล็ก คนตัวใหญ่ ม้าสามขา ฯลฯ ที่เราเคยเห็นภาพในหนังสือ หรือในทีวีแต่ไม่เคยได้สัมผัสจริง ผมเชื่อว่ามีคนจำนวนมากที่อยากเห็นกับตาเหมือนการที่เราได้เห็นดารามันแตกต่างกันมากนะระหว่างจ้องมองภาพกับการที่ได้เห็นตัวจริงเสียงจริง"

ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นเบื้องหลังบานประตู Ripley’s Believe It or Not! ยังพบอีกหลายเรื่องราวที่เหนือความคาดหวังแต่ที่สุดก็กลายเป็นความจริงแสนงดงามอย่างไม่น่าเชื่อ

ตั้งแต่เรื่องของผู้บริหารเบอร์หนึ่งอย่างสมพรที่พลิกผันจากอาชีพที่เคยใฝ่ฝันคือ "กุ๊ก" (โรงแรมรีเจนท์หรือโฟร์ซีซั่นส์ปัจจุบัน) ทั้งเคยสวมบทผู้ประกอบการบรรเลงเพลงธุรกิจด้วยตัวเอง (เคยซื้อแฟรนไชส์จากออสเตรเลียชื่อ The Pizza Haven มาดำเนินการ)
 

...หากแต่สำหรับวันนี้เขากำลังก้าวอย่างมั่นคงในเส้นทางผู้บริหารมืออาชีพ (ล่าสุดตัดสินใจศึกษาต่อหวังคว้าดอกเตอร์มาเป็นเกียรตินำหน้าชื่อ)

ท่วงทำนองของชีวิตที่อาจคล้ายเพลงร็อคมากกว่าเพลงป๊อบเช่นนี้ ก่อให้เกิดมุมมองที่เปลี่ยนไปจากเดิมอีกด้วย เพราะสมพรเคยเชื่อว่าความสำเร็จของชีวิตอยู่กับการที่ได้เป็นเจ้าข้าวเจ้าของ แต่ในทางกลับกันนั้นแม้จะไม่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ครอบครองอาณาจักรธุรกิจใดๆ แต่สามารถก้าวสู่จุดสุดยอดได้ก็นับว่าเป็นชัยชนะของชีวิตได้เช่นเดียวกัน

เชื่อหรือไม่ว่าเขาไต่ระดับขึ้นมาจากความไม่รู้ เนื่องจากเมื่อสิบกว่าปีก่อนไม่เคยมีธุรกิจลักษณะเช่นนี้เลย

"อาจเป็นเพราะผมเองไม่เคยคิดจะอยู่มากกว่า คนที่อยู่ก่อนๆ ไม่ผ่านโปรถูกให้ออกหมด แต่ผมไม่ได้คาดหวังอะไรคิดว่าเดี๋ยวก็จะย้ายไปทำงานที่ชอบเลยทำงานอย่างเต็มที่สร้างผลงานโดยไม่เครียด แต่พอได้อยู่กลับพบว่างานนี้สนุก ไม่จำเจ ทำให้ภายหลังผมเองที่ขออยู่ตรงจุดนี้แม้ว่าผู้ใหญ่จะเสนองานที่มีโอกาสดีกว่าก็ตาม"

สมพรบอกว่าโชคดีที่ Ripley’s Believe It or Not! เป็นแฟรนไชส์ ทำให้เขามีโอกาสไปดูความสำเร็จหรือความล้มเหลวในสาขาอื่นๆ ทั่วโลก สงสัยตรงไหนก็ถามได้ จึงทำให้อะไรๆ นั้นง่ายขึ้น

แต่ความโชคดีสุดๆ ก็คือเขาทำงานอยู่ภายใต้การบริหารของซีอีโอชื่อ “วิลเลี่ยม อี. ไฮเนคกี้” ซึ่งได้รับความยอมรับในระดับโลกว่าฝีมือบริหารนั้นสุดยอด

ลูกน้องอย่างสมพรได้เอ่ยปากชื่นชมชายคนนี้เป็นระยะ เพราะได้ทำงานให้กันมานมนานและรู้ซึ้งว่าเจ้านายเก่งกาจเพียงไร

เจ้านายคนนี้เขา "แปลก" เป็นคน "ประหลาด" ไม่ใช่คนปกติ ..โชคดีจังที่ได้ทำงานกับเขา เป็นเสียงรำพึงให้ได้ยิน

"คุณไฮเนคกี้บอกผมว่าอย่ากลัวที่จะลอง ถ้าพังให้เริ่มต้นใหม่ ไม่ลองก็ไม่ได้เรียนรู้ เขาให้โอกาสคน และมีความคิดล่วงหน้าไปไกลผิดจากคนทั่วไป เขาสอนให้ผมมองอนาคตและต้องเป็นภาพโกลบอลมากกว่าจดจ่อกับปัจจุบัน เขามักถามว่ามีอะไรที่เขาพอจะช่วยทำให้ทำงานได้ง่ายขึ้นขอให้บอก เขาจะมีคำปรึกษา ความคิดเห็น และข้อมูลที่ดีให้เสมอ ซึ่งทำให้ลูกน้องอย่างผมมีกำลังใจมีแรงผลักดันที่อยากทำอะไรอีกเยอะแยะ"

สมพรเองได้นำเอาแนวทางเช่นนี้ไปใช้กับพนักงานภายใต้สังกัดที่มีอยู่ 60 ชีวิต และก็ถือว่าโชคดีที่ Ripley’s Believe It or Not! มีขนาดไม่ใหญ่โตจึงสามารถเนรมิตบรรยากาศการทำงานให้เกิดความอบอุ่นและใกล้ชิดได้ไม่ยากเย็น

"ผมให้ทุกคนร่วมคิดผนึกให้ทุกคนเป็นทีมเวิร์ค ไม่ปล่อยให้ใครทำงานโดยลำพัง เวลาประสบความสำเร็จก็คือผลงานของทั้งองค์กรไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง"

แต่หากใครคนใดคนหนึ่งเกิด "พลาด" ความผิดพลาดนั้นก็จะวิ่งหาทุกๆ คนเช่นเดียวกัน อีกทั้งผลงานจะถูกลิงค์เข้ากับการประเมินผลตอบแทนและโบนัสด้วย ซึ่งองค์กรนี้วัดผลกันเป็นรายเดือนเรียกว่าพนักงานจะเห็นผลบุญชนิดติดจรวดเลยทีเดียว

ขณะเดียวกันสมพรยอมรับว่าองค์กรอาจโตไม่ทันที่จะทำให้คนมีศักยภาพมีโอกาสก้าวสู่ตำแหน่งที่เหมาะสมได้ เพราะคนในระดับผู้บริหารที่มีอยู่ไม่เกิน 10 ตำแหน่งในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมาก็ไม่มีวี่แววว่าอยากจะลาออกแม้แต่น้อย ดังนั้นหากใครมีที่อื่นที่ดีกว่าก็ต้องสนับสนุนให้ไปเช่นกัน

ความจริงที่ต้องเชื่อสำหรับ Ripley’s Believe It or Not! อีกเรื่องก็คือการมีส่วนทำให้พัทยาเกิดภาพลักษณ์เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับครอบครัว

จุดขายก็คือของแปลกที่นำมาโชว์นั้นมีในสาขานี้เท่านั้น อาทิ ม้า 3 ขา, ชาย 4 ตา,ลูกวัว 2 หัว, หัวคนย่อส่วนเหลือ 3 นิ้ว เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีโซนโรงภาพยนตร์ 4 มิติ เขาวงกต และโกดังผีสิง อีกทั้งมีการจัดกิจกรรมพิเศษเพื่อโปรโมทเป็นประจำทุกปี โดยจะเน้นคอนเซปต์ "ที่สุดในโลก”

อย่างไรก็ดีสถานที่รวบรวมความเหลือเชื่อแห่งนี้ก็กำลังเผชิญหน้าความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นกับโลกเช่นเดียวกัน ก็ใครอยากจะเชื่อว่าโลกร้อนจะทำให้น้ำจะท่วมโลก (โปรดเชื่อโดยด่วน)

เพราะอยู่ในธุรกิจท่องเที่ยวดังนั้นเวลานักท่องเที่ยวหายก็เหมือนคนใกล้ตายเพราะขาดอากาศหายใจ ซึ่งสมพรบอกว่าปัจจัยที่ส่งผลลบมากที่สุดก็คือ การก่อเหตุร้าย และการเมือง

"คนไม่เข้าใจหรอกว่าพัทยากับสามจังหวัดชายแดนภาคใต้มันอยู่ใกล้กันหรือเปล่า แต่เขารู้สึกไม่ปลอดภัยเขาก็ไม่มา"

เส้นทางที่เดินผ่านมาแม้ว่าต้องประสบปัญหาต่างๆ ตลอดเวลา อาศัยการปรับเปลี่ยนรูปแบบบริหารงานเพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤติ อย่างช่วงเวลานี้เมื่อนักท่องเที่ยวลดน้อยก็ต้องหันพึ่งคนไทยมากขึ้นหาพันธมิตรเพิ่มเติมร่วมจัดแพ็คเกจทัวร์ที่น่าสนใจ...รวมกันเราอยู่มันจริงแท้แน่นอนอยู่แล้ว
 



"ปีหน้าเราจะเปิดพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งชื่อ Louis's Tussaud ถือเป็นแฟรนไชส์พิพิธภัณฑ์ขี้ผึ้งที่ดีที่สุดในโลก ซึ่งจะเป็นหุ่นคนดังทั่วโลกที่ยังอยู่ในกระแสข่าวในปัจจุบันจำนวนเป็นร้อยตัวและที่แตกต่างคือเราเปิดโอกาสให้คนเข้าชมสัมผัสได้"

รวมถึงมีแผนจะเปิดสวนสนุกและสถานบันเทิงแห่งใหม่ที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งตัวสมพรนั้นบอกว่ายังไม่สามารถแจงถึงรายละเอียดได้เนื่องจากเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์

อย่างไรก็ดีมีข่าวถูกตีพิมพ์แล้วว่า "บ็อบ แมสเธอสัน" ประธาน ริบลีส์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ เวิลด์ไวด์ เปิดเผยมีแผนที่จะร่วมลงทุนกับไมเนอร์กรุ๊ปก่อสร้างอะควาเรี่ยมขนาดใหญ่ขึ้นที่ภูเก็ต

โดยเขามั่นใจว่าจะมีขนาดใหญ่กว่าอันเดอร์วอเตอร์เวิลด์ที่ประเทศสิงคโปร์ด้วยและมั่นใจว่าจะได้รับความสนใจและตอบรับจากกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ และคนไทยอย่างมาก









ที่มา : ชนิตา ภระมรทัต (กรุงเทพธุรกิจ)

ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
มูฟ อีวี เอกซ์ แฟรนไชส..
1,284
ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว ทรา..
992
สาขาใหม่มาแล้ว! #แฟรนไ..
606
แฟรนไชส์สะดวกล้างมาแรง..
589
“โมโม่เชค” แฟรนไชส์ชาน..
544
อยากรวยเชิญทางนี้! ธงไ..
517
ข่าว SMEsมาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด