|
|
|
|
11 กรกฎาคม 2558 |
แฟรนไชส์แฮมเลย์ บุกเวียดนาม เร่งสยายธุรกิจ "ร้านของเล่น" นอกอังกฤษ
แม้สภาพเศรษฐกิจยังคงตกต่ำทั่วโลก แต่สำหรับธุรกิจค้าปลีกแล้วยังถือว่าช่วงเวลานี้เป็นโอกาสดีในการขยายสาขาเพิ่ม ด้วยต้นทุนค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่ถูกลง ไม่ว่าจะเป็นแรงงานหรือสถานที่ ทำให้ 1-2 ปีที่ผ่านมามักจะได้เห็นข่าวคราวการเปิดสาขาใหม่ของห้างร้านต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง
หนึ่งในนั้นคือ "แฮมเลย์" (Hamleys) เชนร้านของเล่นสัญชาติอังกฤษ ที่มีประวัติยาวนานกว่า 255 ปี ได้ประกาศแผนขยายสาขาเข้าไปในประเทศเวียดนามเป็นครั้งแรก และถือเป็นตลาดต่างประเทศลำดับที่ 18 ของบริษัท ต่อเนื่องจากการขยายสาขาในรัสเซีย เมื่อต้นปีที่ผ่านมา
สำนักข่าว "อินไซด์ รีเทลล์ เอเชีย" รายงานว่า แฮมเลย์ ได้ร่วมมือกับบริษัท "ไมสัน เจเอสซี" (Maison JSC) ตัวแทนจำหน่ายสินค้าแฟชั่นแบรนด์เนมในเวียดนาม ซึ่งมีแบรนด์ไฮสตรีตแฟชั่นอย่าง ท็อปช็อป (Topshop) โอเอซิส (Oasis) แมงโก้ (Mango) และอื่น ๆ รวมแล้วมากกว่า 10 แบรนด์ เพื่อเปิดร้านแฮมเลย์ สาขาแรกของเวียดนาม ที่ห้างสรรพสินค้าเอสซี วิโวซิตี้ (SC VivoCity) ในกรุงโฮจิมินห์
โดยเป็นร้าน 2 ชั้น รวมพื้นที่ 800 ตร.ม. และจะทำสถิติเป็นร้านค้าขนาดใหญ่ที่สุดในเวียดนาม โดยเป็นร้านแฮมเลย์สาขาที่ 56 นอกประเทศอังกฤษ แม้จะยังไม่มีกำหนดเปิดอย่างเป็นทางการ แต่บริษัทได้เปิดแฟนเพจของร้านเพื่อประชาสัมพันธ์ และกระตุ้นการรับรู้ล่วงหน้าไปแล้ว
ริชาร์ด เทียน (Richard Trinh) ประธานของไมสัน เจเอสซี กล่าวว่า บริษัทตั้งใจจะดึงร้านแฮมเลย์มาเปิดสาขาในเวียดนามมานานแล้ว โดยร้านแฮมเลย์สาขาเวียดนาม จะยังคงจุดเด่นต่าง ๆ ของแบรนด์เอาไว้ ตั้งแต่สินค้ากว่า 1 พันรายการ รวมถึงการออกแบบร้านที่คำนึงถึงเด็ก ๆ ที่เป็นลูกค้าหลัก บริการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับของเล่น และการสาธิตสินค้า เป็นต้น
ก่อนหน้านี้เมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา แฮมเลย์ได้เปิดสาขาใหม่ในรัสเซีย พร้อมครองตำแหน่งร้านของเล่นที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ด้วยพื้นที่ขายรวม 6,750 ตร.ม. ใหญ่กว่าสาขาเรือธงที่ประเทศอังกฤษ ซึ่งมีพื้นที่ 5,000 ตร.ม. โดยตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้าบริเวณจัตุรัสลูเบียงกา ใกล้กับอดีตอาคารสำนักงานใหญ่ของเคจีบี และสาขานี้จะกลายเป็นร้านของเล่นใหญ่ที่สุดในโลก หากร้านทอยส์ อาร์ อัส (Toys R Us) ไม่ต่อสัญญาเช่าร้านเรือธงในนครนิวยอร์กที่จะหมดลงในปี 2559
"เยฟเกนี บัตแมน" (Evgeny Butman) ผู้บริหารแฟรนไชส์แฮมเลย์ ในกรุงมอสโกของรัสเซีย กล่าวว่า แม้เศรษฐกิจรัสเซียจะย่ำแย่จากราคาน้ำมัน และวิกฤตยูเครน แต่เชื่อว่าสถานการณ์นี้จะไม่คงอยู่ตลอดไป เห็นได้จากตลาดของเล่นรัสเซียที่ยังเติบโต 3% ในปี 2557 จนมีมูลค่า 8,600 ล้านเหรียญสหรัฐ แม้จะน้อยเมื่อเทียบกับการเติบโตเฉลี่ย 11% ในปีก่อนหน้า
"เราบริหารร้านแฮมเลย์อีก 4 สาขาในรัสเซีย ซึ่งปีที่ผ่านมาทุกสาขาล้วนมีการเติบโต แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของแบรนด์ได้เป็นอย่างดี ซึ่งการเปิดสาขาใหม่ในมอสโกนั้นเพื่อชิงโอกาสเข้าถึงฐานประชากรที่เทียบเท่ากับลอนดอน และปารีส ก่อนคู่แข่งรายอื่น อีกทั้งแม้ค่าเงินรูเบิลจะอ่อนตัวลง แต่รายได้ของชาวมอสโกยังเทียบได้กับเมืองหลักอื่น ๆ ของยุโรป"
นอกจากนี้ แฮมเลย์ยังมีแผนขยายสาขาข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกไปยังตลาดสหรัฐอีกด้วย โดยเล็งที่จะเปิดสาขาขนาดเล็กในสนามบินกว่า 20 แห่งทั่วสหรัฐ โดยในภาพรวมแฮมเลย์มีร้าน 56 สาขานอกประเทศอังกฤษ ส่วนใหญ่อยู่ในอินเดีย ยุโรปเหนือ รัสเซีย และตะวันออกกลาง
ด้าน "กุดยอน เรย์นิสสัน" (Gudjon Reynisson) ซีอีโอของแฮมเลย์ กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าที่จะเพิ่มอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดด ด้วยการขยายสาขาอีก 25-50 สาขา รวมถึงเปิดแนวรุกเข้าไปในตลาดใหม่ ๆ เช่น แอฟริกาใต้ และเวียดนาม
ทั้งนี้ แฮมเลย์เริ่มหันมารุกตลาดต่างประเทศอย่างจริงจัง ตั้งแต่กลุ่มธุรกิจค้าปลีกลูเดนโด (Ludendo) ของฝรั่งเศส เข้ามาซื้อกิจการเมื่อปี 2555 อย่างไรก็ตาม ด้วยสภาพเศรษฐกิจโลกที่ยังลุ่ม ๆ ดอน ๆ นี้ แผนการของแฮมเลย์อาจไม่โรยด้วยกลีบกุหลาบนัก
อ้างอิงจาก ประชาชาติธุรกิจ
|
|
|
