3.1K
9 มิถุนายน 2558
อโรม่ากรุ๊ปเร่งเครื่องหวังโตรอบทิศ บุกเออีซี/รีแบรนด์94คอฟฟี่-ปรับอิมเมจ"ชาวดอย"


"อโรม่า กรุ๊ป" เร่งเครื่องโตรอบทิศ เปิดแผนลงทุนทั่วอาเซียน ตั้งมาสเตอร์แฟรนไชส์ในเมียนมา-กัมพูชา ส่วนตลาดในประเทศชูโมเดล "ดีลเลอร์ช็อป" ขายกาแฟ-อุปกรณ์รองรับตลาดร้านกาแฟรายเล็กขยายตัว พร้อมรีแบรนด์ 94 คอฟฟี่ปรับภาพลักษณ์ "ชาวดอย" คาดสิ้นปีรายได้ทะลุ 1,500 ล้าน

นายพริษฐ์ อนุกูลธนาการ ผู้ช่วยรองกรรมการผู้จัดการในเครืออโรม่า กรุ๊ป ผู้ดำเนินธุรกิจด้านกาแฟคั่วบด และผู้บริหารร้านกาแฟไนน์ตี้-โฟร์ คอฟฟี่ และชาวดอย กล่าวว่า ทิศทางธุรกิจจากนี้ไปนอกจากตลาดกาแฟในไทยแล้ว บริษัทมีแผนจะขยายการลงทุนไปยังประเทศเพื่อนบ้านในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้นปลายปีนี้

โดยเฉพาะประเทศกลุ่มซีแอลเอ็มวี (CLMV) หรือกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม ด้วยนโยบายที่จะเป็นผู้ให้บริการเกี่ยวกับธุรกิจกาแฟครบวงจร (Coffee Solution) เช่นเดียวกับประเทศไทย ซึ่งจะจำหน่ายวัตถุดิบ อุปกรณ์ ที่ปรึกษาด้านธุรกิจกาแฟ การฝึกอบรม แต่การรุกออกไปต่างประเทศด้วยโมเดลนี้คงต้องค่อยเป็นค่อยไป

ทั้งนี้รูปแบบการรุกตลาดต่างประเทศ จะเน้นเข้าไปร่วมมือกับพันธมิตรท้องถิ่น เนื่องจากคนท้องถิ่นมีจุดแข็งเรื่องคอนเน็กชั่นและโลเกชั่นที่ดี

ล่าสุดได้เซ็นสัญญาแต่งตั้งมาสเตอร์แฟรนไชส์แบรนด์ชาวดอยในเมียนมา และจะเริ่มทยอยเปิดสาขาตั้งแต่ไตรมาส 3เป็นต้นไป เบื้องต้นประมาณ 10 สาขา ขณะที่กัมพูชาจะเริ่มเข้าไปดำเนินธุรกิจร้านกาแฟภายในปีนี้ ส่วนลาวที่ผ่านมาได้เข้าไปทดลองตลาดบ้างแล้วแต่จะเป็นสเต็ปต่อไป เพราะตลาดในลาวก็มีผู้เล่นท้องถิ่นรายใหญ่เป็นเจ้าตลาดอยู่


อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้บริษัทได้เข้าไปลงทุนตั้งโรงคั่วกาแฟที่โฮจิมินห์ซิตี้ เวียดนาม และเร็ว ๆ นี้มีแผนจะทำธุรกิจร้านกาแฟ ซึ่งปีที่ผ่านมาก็ได้มีการแต่งตั้งดีลเลอร์ในมาเลเซีย ทำหน้าที่ขายแบรนด์ร้านกาแฟและรับจ้างผลิตกาแฟ

สำหรับตลาดร้านกาแฟในไทย นายพริษฐ์กล่าวว่า มีโอกาสขยายตัวอีกมากจากอัตราบริโภคกาแฟของคนไทยค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับคนลาวและเวียดนาม โดยคนไทยดื่มกาแฟเฉลี่ย 230 แก้วต่อคนต่อปี

ปัจจุบันตลาดกาแฟโดยรวมของไทยมีมูลค่าประมาณ 30,000 ล้านบาท (รวมทั้งกาแฟสด ทรีอินวัน กาแฟผงสำเร็จรูป) เติบโตเฉลี่ยปีละ 20% เฉพาะกาแฟสดมีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 6,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 5% ของตลาดกาแฟรวม

ทั้งนี้ ตลาดร้านกาแฟสดมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการเกิดขึ้นของร้านกาแฟรายเล็กที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และถือเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ตลาดกาแฟสดเติบโตขึ้น ขณะที่ร้านกาแฟที่เป็นร้านแฟรนไชส์กลับมีแนวโน้มการเติบโตที่ลดลง บริษัทจึงพัฒนาโมเดลร้าน "อโรม่าช็อป" ขึ้น ตั้งแต่ปี 2554 เพื่อจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับกาแฟ อาทิ เมล็ดกาแฟ อุปกรณ์การชงกาแฟ วัตถุดิบ ฯลฯ เพื่อรองรับการขยายตัวของร้านกาแฟอินดี้หรือร้านกาแฟรายย่อย

ปัจจุบันมีอโรม่าช็อป 30 สาขาทั่วประเทศและจะเปิดให้ครบ 50 สาขา ในอนาคตจะเปิดให้ครบ 77 จังหวัด


สำหรับร้านกาแฟ "ไนน์ตี้-โฟร์ คอฟฟี่"ปัจจุบันมี 28 สาขา (เป็นสาขาแฟรนไชส์ 80% อีก 20% เป็นของบริษัท) อยู่ระหว่างการรีแบรนด์ ปรับโลโก้ และรูปแบบร้านใหม่ให้พรีเมี่ยมทันสมัยมากขึ้น ภายใต้งบฯลงทุน 10 ล้านบาท

ส่วนแบรนด์ร้านกาแฟ "ชาวดอย" ที่ผ่านมาได้ทยอยปิดร้านในบางโลเกชั่นลงจาก 600 สาขา ปัจจุบันเหลือ 300 สาขา และได้รีเฟรชแบรนด์ใหม่รวมถึงปรับภาพลักษณ์ให้พรีเมี่ยมขึ้น จากนี้ไปชาวดอยจะเน้นเปิดใน 4 รูปแบบ คือ คีออสก์ขนาด 1.8 เมตร ลงทุน 290,000 บาท คีออสก์ช็อปไซซ์ S, M, L ลงทุนระหว่าง 300,000-1,000,000 บาท (ตามขนาดของพื้นที่) เป้าหมายปีนี้จะเปิดแบรนด์ชาวดอยเพิ่มอีก 60-100 สาขา

อย่างไรก็ตาม จากแนวทางการดำเนินงานดังกล่าว บริษัทคาดว่าสิ้นปีนี้จะมีรายได้รวม 1,500 ล้านบาท เติบโต 30% จากปีก่อน

อ้างอิงจาก  ประชาชาติธุรกิจ
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
สาขาใหม่มาแล้ว! บุราณ ..
937
รวมภาพบรรยากาศ คอร์ส F..
645
“เติมพลังความรู้” กับ ..
591
มาโนอิ ร่วมงานครบรอบ 1..
562
สมาร์ทเบรน จินตคณิต เป..
553
โทกิวอช ร้านสะดวกซัก เ..
517
ข่าวแฟรนไชส์มาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด