1.9K
27 พฤษภาคม 2558
ศก.อืดซื้อขายแฟรนไชส์วูบ20% สมาคมเบนเข็มเจาะเพื่อนบ้าน


 

ธุรกิจแฟรนไชส์ติดไข้เศรษฐกิจ  ทำตลาดซื้อ-ขายแฟรนไชส์วูบ 15-20%  ขณะที่มูลค่าธุรกิจ 1.5 แสนล้านยังทรงตัว  สมาคมแฟรนไชส์ฯ อัดความรู้พร้อมทำคู่มือสร้างศักยภาพธุรกิจ  และเดินหน้าเจรจาสมาคมเพื่อนบ้าน  หวังใช้เป็นตลาดขยายแฟรนไชส์เพิ่มในอาเซียน

นายสวาสดิ์  มิตรอารี  นายกสมาคมแฟรนไชส์และไลเซนส์ เปิดเผยว่า  ปัจจุบันธุรกิจแฟรนสไชส์ได้รับผลกระทบจากภาพรวมของเศรษฐกิจที่ชะลอตัว  ส่งผลให้การซื้อขายแฟรนไชส์ของสมาชิกสมาคมลดลงในอัตราเฉลี่ย 15-20%  ซึ่งถือว่าลดลงมากที่สุดตั้งแต่ได้จัดตั้งสมาคมในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา 

โดยปัจจุบันสมาคมมีสมาชิก 250 ราย  แบ่งเป็น 5 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่  ธุรกิจอาหาร ธุรกิจสปา  ธุรกิจการศึกษา ธุรกิจฮาลาล และธุรกิจซัพพลายเชน  ซึ่งสมาชิกสมาคมมียอดขายรวมไม่ต่ำกว่า 1.5 แสนล้านบาทต่อปี  ในปีนี้ยอดขายน่าจะทรงตัว

สวาสดิ์ มิตรอารีสวาสดิ์ มิตรอารี  "ภาพรวมของธุรกิจแฟรนไชส์ของสมาชิกสมาคม  เริ่มเห็นสัญญาณการชะลอตัวลงตั้งแต่ช่วงต้นปีที่แล้ว  ซึ่งเป็นผลจากปัญหาการชุมนุมทางการเมือง  แต่คาดว่าสถานการณ์คงไม่แย่ไปกว่านี้  และคงจะเริ่มฟื้นตัวขึ้นในอนาคต  ซึ่งนอกจากจะเห็นว่าการซื้อแฟรนไชส์ใหม่จะลดลงแล้ว  สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นในวงการแฟรนไชส์ คือ การขายกิจการของตนเองที่ทำไม่ไหว  และมีปัญหาเศรษฐกิจ 

 

โดยเฉพาะกลุ่มอาหาร  ประเภทชานมไข่มุก  ก๋วยเตี๋ยว เป็นต้น  และการควบรวมกิจการระหว่างธุรกิจเกิดขึ้น  แต่ผู้ประกอบการบางส่วนก็เริ่มช่วยเหลือซึ่งกันและกัน  เช่น การนำสินค้าขนม ไปขายในร้านอาหาร เป็นต้น"

สำหรับแนวทางการช่วยเหลือผู้ประกอบการต่างๆ ภายใต้สมาชิกสมาคมนั้น  จะมุ่งเน้นการให้ความรู้ในการดำเนินธุรกิจ   รวมถึงการสร้างโอกาสทางธุรกิจ  อาทิ  การบันทึกข้อตกลงกับมหาวิทยาลัยสแตมฟอร์ด  และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระนคร  เพื่อเข้าอบรมให้ความรู้กับนักศึกษา ในเรื่องการทำธุรกิจแฟรนไชส์  เป็นต้น  ซึ่งจะเป็นการเปิดโอกาสให้นักศึกษาที่สนใจต้องการสร้างธุรกิจแฟรนไชส์เป็นของตนเอง  หรือการเลือกซื้อแฟรนไชส์ไปดำเนินธุรกิจ

นอกจากนี้  ทางสมาคมยังอยู่ระหว่างการจัดทำคู่มือการดำเนินธุรกิจแฟรนไชส์ ตามกลุ่มธุรกิจทั้ง 5 กลุ่ม  เพื่อใช้เป็นคู่มือสำหรับผู้ที่เข้ามาซื้อแฟรนไชส์ใหม่  หรือแฟรนไชส์เดิมที่ต้องการพัฒนา และเสริมสร้างศักยภาพทางด้านการแข่งขัน  ซึ่งปัจจุบันดำเนินการจัดทำเสร็จแล้ว 2 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจอาหารและธุรกิจการศึกษา  ขณะเดียวกันทางสมาคมยังเตรียมพัฒนาและอบรมความรู้ให้กับสมาชิกสมาคม  เพื่อรับมือกับสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง  และการให้ผู้ประกอบการในสมาคมได้ช่วยเหลือระหว่างกันด้วย

 

นายสวาสดิ์  กล่าวอีกว่า  ทางสมาคมยังอยู่ระหว่างการเข้าร่วมเป็นสมาชิกสมาคมแฟรนไชส์ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก  ที่มีสมาชิก 18 ประเทศด้วย  ซึ่งการเข้าร่วมเป็นสมาชิกดังกล่าว  จะทำให้ผู้ประกอบการไทยได้รับประโยชน์  ในด้านการได้รับการยอมรับในตลาดต่างประเทศ 

รวมถึงโอกาสในการขยายธุรกิจออกไปอย่างตลาดต่างประเทศมากขึ้น  จากปัจจุบันที่สมาชิกสมาคมประมาณ 40-50 รายได้ขยายตลาดไปยังต่างประเทศแล้ว  โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศอาเซียน

"ช่วงต้นปีที่ผ่านมาสมาคมได้เข้าประสานงานกับสมาคมด้านแฟรนไชส์และซัพพลายเชนของเมียนมา  ซึ่งทำให้เกิดการซื้อขายแฟรนไชส์ระหว่างกัน  ต่อไปทางสมาคมจะประสานงานไปทางสมาคมของสปป.ลาวต่อไป  ซึ่งคาดว่าจะทำให้มีโอกาสที่แฟรนไชส์ไทย จะขยายต่อไปยังสปป.ลาวด้วย  และแม้ว่าที่ผ่านมาสมาชิกหลายรายก็ได้ขยายธุรกิจไปก่อนหน้านี้แล้ว  แต่การที่ทางสมาคมจะติดต่อกับสมาคมต่างๆ ในอาเซียน โดยเฉพาะกลุ่ม CLMV จะเป็นการเพิ่มโอกาสทางการตลาดมากขึ้นด้วย"

อ้างอิงจาก  ฐานเศรษฐกิจ
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
สาขาใหม่มาแล้ว! บุราณ ..
960
รวมภาพบรรยากาศ คอร์ส F..
659
“เติมพลังความรู้” กับ ..
594
มาโนอิ ร่วมงานครบรอบ 1..
564
สมาร์ทเบรน จินตคณิต เป..
557
โทกิวอช ร้านสะดวกซัก เ..
519
ข่าวแฟรนไชส์มาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด