|
|
|
|
3 มีนาคม 2558 |
ดอยช้าง ชูแฟรนไชส์ดันเติบโต จับมือ "สิงห์" รุกกาแฟสดแคปซูล
"ดอยช้าง" จับมือ "สิงห์ คอร์เปอเรชั่น" ลุยรีเทลกาแฟ ชูกาแฟแคปซูลเจาะกลุ่มครอบครัว พร้อมเดินหน้าขยายสาขาด้วยโมเดลแฟรนไชส์ คาดสิ้นปีทะลุ 100 แห่ง เผยแผนรุกตลาดต่างประเทศเน้นขายวัตถุดิบ-เล็งสยายปีกเปิดสาขาเพิ่มในกัมพูชา ญี่ปุ่น จีน มั่นใจสิ้นปีรายได้โต 50%
หลังดำเนินธุรกิจกาแฟแบบครบวงจรมาตั้งแต่ปี 2546 และขยายตลาดไปในต่างประเทศกว่า 10 ปี วันนี้กาแฟ "ดอยช้าง" จัดทัพใหม่หันมาโฟกัสตลาดในประเทศมากขึ้น เพื่อรับกับโอกาสการเติบโตของธุรกิจกาแฟในประเทศที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยยังคงเน้นการดำเนินธุรกิจผลิตเมล็ดกาแฟเป็นหลัก และให้ความสำคัญกับธุรกิจรีเทลเพิ่มมากขึ้น
นายพิษณุชัย แก้วพิชัย ประธานที่ปรึกษา บริษัท ดอยช้าง คอฟฟี่ ออริจินอล จำกัด ผู้ผลิต-จำหน่ายเมล็ดกาแฟและบริหารร้านกาแฟ "ดอยช้าง" กล่าวว่า ทิศทางการดำเนินธุรกิจในปีนี้จะเน้นสร้างการเติบโตของตลาดในประเทศให้มากขึ้น เพื่อรับกับโอกาสการเติบโตของธุรกิจกาแฟภายในประเทศ
ซึ่งมีแนวโน้มที่ผู้บริโภคคนไทยจะดื่มกาแฟมากขึ้น และธุรกิจกาแฟในไทยยังคงเติบโตได้อีกมาก จากอัตราการบริโภคกาแฟต่อปีของคนไทยที่ยังน้อยกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลก และพฤติกรรมผู้บริโภคก็จะดื่มกาแฟเพราะชื่นชอบในรสชาติมากกว่าการดื่มเพื่อคลายความง่วง ก็เป็นโอกาสให้ดื่มกาแฟได้บ่อยขึ้น
ทั้งนี้ บริษัทใช้โมเดลร้านกาแฟแฟรนไชส์ในชื่อของกาแฟดอยช้าง (DOI CHAANG CAFFE") เป็นกลยุทธ์หลักในการรุกตลาดหลังจากที่ได้เริ่มทดลองโมเดลแฟรนไชส์มาตั้งแต่ปี 2556 ปัจจุบันมีอยู่กว่า 20 สาขา โดยกำหนดเงื่อนไขเป็น ค่าใช้จ่ายในการเปิดร้าน 1,300,000-3,000,000 บาท ซึ่งบริษัทจะสนับสนุนแฟรนไชซีทั้งเรื่องอุปกรณ์ องค์ความรู้ในการชงกาแฟและเครื่องดื่มอื่น ๆ เคาน์เตอร์ร้าน เมล็ดกาแฟที่จะจำหน่ายให้โดยมีส่วนลดกว่า 30%
"นอกจากร้านกาแฟดอยช้างกว่า 20 แห่ง ปัจจุบันยังมีร้านกาแฟอื่น ๆ กว่า 200 รายที่ซื้อเมล็ดกาแฟของบริษัทไปเป็นวัตถุดิบ และในจำนวนนี้จะมี 60-70 รายที่จะเปลี่ยนมาเข้าระบบแฟรนไชส์ และมั่นใจว่าภายในสิ้นปีนี้ร้านกาแฟดอยช้างมีสาขาเพิ่มขึ้นมาเป็นประมาณ 100 สาขา นอกจากนี้ บริษัทยังจะทยอยเปลี่ยนป้ายรับรองตราสินค้าใหม่ให้ร้านกาแฟรายย่อยที่ใช้เมล็ดกาแฟของดอยช้าง เพื่อแก้ปัญหาการแอบอ้างใช้ตราสินค้าปลอม"
ทั้งนี้ ดอยช้างวางโพซิชันนิ่งให้เป็นร้านกาแฟพรีเมี่ยม ทั้งในส่วนของกาแฟและอุปกรณ์ในการชง ขยายสาขาในห้างสรรพสินค้าหรือพื้นที่อื่น ๆ ที่สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้ดี เน้นให้ผู้บริโภคเข้ามาใช้บริการในร้านเพื่อแนะนำกันปากต่อปากมากกว่าการใช้งบฯการตลาดเพื่อสร้างแบรนด์
นายพิษณุชัยกล่าวต่อไปว่านอกจากนี้ เมื่อปีที่ผ่านมาบริษัทได้ร่วมทุนบริษัท วราฟู้ดส์ แอนด์ ดริ้งค์ จำกัด บริษัทในเครือสิงห์ คอร์เปอเรชั่น จัดตั้งบริษัท ดีวีเอส 2014 จำกัด ทุนจดทะเบียน 30 ล้านบาท ถือหุ้นในสัดส่วน 50% เพื่อดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์กาแฟเข้าโมเดิร์นเทรดอย่างจริงจัง การจำหน่ายกาแฟแคปซูล กาแฟคั่วบดละเอียดที่บรรจุอยู่ในแคปซูล
เพื่อทำให้ผู้บริโภคสามารถชงกาแฟสดได้เองที่บ้านอย่างสะดวกสบาย ตอบรับกับความต้องการของผู้บริโภคกลุ่มครอบครัวที่มีแนวโน้มเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ตลอดจนความต้องการใช้ในห้องพักตามโรงแรม รวมทั้งการจัดจำหน่ายเมล็ดกาแฟที่ไม่ใช่ของดอยช้าง จะเริ่มดำเนินธุรกิจในส่วนรีเทลอย่างเข้มข้นขึ้นตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป
ส่วนในต่างประเทศปัจจุบันดอยช้างส่งเมล็ดกาแฟไปจำหน่ายในแคนาดาอเมริกาเหนือ เกาหลี ทั้งการส่งกาแฟสาร--ไปคั่วในโรงงานที่ร่วมทุนกับพันธมิตรในต่างประเทศ จำหน่ายกาแฟคั่วบรรจุถุง และการเปิดร้านกาแฟดอยช้าง ซึ่งปัจจุบันมีร้านที่มาเลเซีย 14 ร้าน เมียนมาร์ ลาว สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และมีแผนจะเปิดสาขาในประเทศเหล่านี้เพิ่มเติม รวมทั้งการเปิดสาขาในประเทศใหม่ ๆ อย่างกัมพูชา ญี่ปุ่น และจีน ซึ่งกำลังจะเปิดอีก 40 สาขา
"จากแนวทางการเพิ่มน้ำหนักธุรกิจในประเทศด้วยการรุกแฟรนไชส์ ธุรกิจรีเทล รวมทั้งทำตลาดในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง คาดว่าปีนี้จะมีรายได้เติบโตจากปีที่ผ่านมากว่า 50%" นายพิษณุชัยกล่าว
อ้างอิงจาก ประชาชาติธุรกิจ
|
|
|
|
|
