8.9K
6 เมษายน 2558
บีทูสยายปีกรุกขายแฟรนไชส์โรงแรมโลว์คอสต์ในอาเซียน



บีทูสยายปีกรุกขายแฟรนไชส์โรงแรมโลว์คอสต์ในอาเซียน ประเดิมเปิด“บีทูหมอนทองลาว” เป็นแห่งแรกก่อนบุกทั่วภูมิภาคอาเซียน เมียนมาร์กัมพูชา อินโดฯ ชี้เสี่ยงน้อยกว่าลงทุนเอง

ส่วนแผน 5 ปี จะทุ่มงบ 2.5 พันเดินหน้าลงทุเมินศก.ซบเอกชนเทงบสวนกระแส17รายกลาง-เล็กลุยบ้านหรู 33ตลาดไฮเอนด์กทม.โตต่อล้านบาท เปิดรร.ใหม่ในไทย 25 แห่งคาดปี 60 มีเครือข่าย 50 แห่ง พร้อมเล็งผุดแบรนด์ใหม่เจาะเซ็กเมนต์กลุ่มไฮเอนด์และเตรียมนำบริษัทเข้าจดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์ฯ

นายนิรันดร์ จาวลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทโกลเบิ้ล พร๊อพเพอร์ตี้ คอนเซ้าติ้งแอนด์แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ จีพีซีเอ็ม กรุ๊ป(บริษัทบริหารจัดการโรงแรมต้นทุนตํ่าแบรนด์บีทู) เปิดเผย ว่านอกเหนือจากการขยายการลงทุนในประเทศแล้ว ล่าสุดยังได้รุกเข้าไปขายแฟรนไชส์แบรนด์บีทูให้ต่างประเทศ โดยจะมุ่งเน้นประเทศในภูมิภาคอาเซียนเป็นหลักก่อนเนื่องจากเห็นว่าการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซี ในปีนี้จะสร้างโอกาสในการขยายธุรกิจในต่างประเทศได้มากยิ่งขึ้น

“ขณะนี้เราได้ขายแฟรนไชส์ให้กับเจ้าของธุรกิจในเครือหมอนทอง ซึ่งเป็นนักลงทุนชาวลาว ที่ได้ขยายการลงทุนมาสร้างโรงแรมนอกเหนือจากที่ทำธุรกิจด้านเฟอร์นิเจอร์ และค้าขายเพชรพลอยในพื้นที่บ้านห้วยทราย สปป.ลาวโดยโรงแรมบีทูหมอนทอง มีจำนวนห้องพัก 80 ห้อง และได้เปิดอย่างไม่เป็นทางการช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา และมีแผนจะเปิดเป็นทางการในวันที่ 5 เดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้”


 
ทั้งนี้เงื่อนไขการขายแฟรนไชส์ให้กับเครือหมอนทอง จะคิดค่าธรรมเนียมแรกเข้าประมาณกว่า 1 ล้านบาทสัญญา 3 ปี และคิดค่าธรรมเนียมรายเดือนในอัตรา 8-10% ของรายได้ โดยจะมีการส่งคนเข้าไปบริหารจัดการรวมถึงการใช้มาร์เก็ตติ้งออนไลน์ของเครือบีทูฟรี ซึ่งการที่เครือหมอนทองตกลงเลือกบีทู เป็นเพราะเห็นว่ามีแผนขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับมีจุดแข็งของแบรนด์ที่ได้รับการตอบรับจากตลาดในฐานะผู้นำโรงแรมต้นทุนตํ่าในประเทศไทยทั้งเมื่อเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายแล้ว ก็จะเห็นว่าคุ้มค่ากว่าข้อเสนอของเชนหรือแบรนด์โรงแรมอื่น นายนิรันดร์กล่าวและระบุว่า

“บีทู หมอนทอง ถือเป็นโรงแรมแห่งที่ 24 ของเครือบีทู และการเลือกขายแฟรนไชส์ให้แก่เครือหมอนทองเป็นสาขาแรกในต่างประเทศ เพราะมองเห็นว่าในอนาคตพื้นที่นี้ จะเป็นย่านเศรษฐกิจใหม่เนื่องจากอยู่บริเวณห้วยทราย ของพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำฝั่งตรงข้ามของเชียงของ และสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 4 และในขณะเดียวกันบีทู ยังได้รับการติดต่อกับทางเสียบเรียบ ประเทศกัมพูชา สนใจที่จะซื้อแฟรนไชส์เช่นกันและขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา ซึ่งการขยายธุรกิจในต่างประเทศบีทูเน้นการขยายในรูปแบบของการขายแฟรนไชส์เป็นหลักก่อนมุ่งประเทศเพื่อนบ้านที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวสูง อาทิเมียนมาร์ กัมพูชา รวมไปถึงอินโดนีเซีย”

อย่างไรก็ดีการเริ่มขยายแบรนด์บีทูไปต่างประเทศ ที่เริ่มจากการขยายในรูปแบบแฟรนไชส์เป็นหลักก่อน เนื่องจากบริษัทฯ ประเมินแล้วว่าหากการลงทุนในต่างประเทศเองย่อมมีความเสี่ยง การลงทุนต้องมีการศึกษาความเข้าใจของตลาด รวมถึงจุดประสงค์การขยายธุรกิจของบีทูคือการวางรากฐานตลาดในไทยอย่างแข็งแกร่งแต่ในอนาคตหากสามารถวางระบบช่องทางซื้อขายออนไลน์ให้อย่างมีเสถียรภาพแล้ว


 
อาจมีการประเมินขยายการลงทุนในต่างประเทศเองอีกครั้งซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นภายในปี 2560 โดยหวังว่าภายในอีก 5 ปีนี้ บีทูน่าจะมีโรงแรมในไทยและต่างประเทศ ครบ 50 แห่งเนื่องจากปัจจุบันธุรกิจโรงแรมต้นทุนตํ่ายังมีช่องว่างในการขยายธุรกิจ เพื่อรองรับกับความต้องการของกลุ่มเอฟไอที(เดินทางด้วยตนเอง) ที่ปัจจุบันมีอัตราการเติบโตสูง ประกอบกับการรองรับกลุ่มคนชั้นกลางที่มีสัดส่วนมากที่สุดในสังคมอีกด้วย

“อีกทั้งแบรนด์บีทูเน้นรองรับพฤติกรรมการเดินทางท่องเที่ยวของกลุ่มคนยุคใหม่ที่เข้ามาใช้บริการเพียงพักผ่อนและมีเครื่องอำนวยความสะดวกเท่าที่จำเป็นเท่านั้น ส่วนมากแล้วจะออกไปสนุกสนานกับแหล่งท่องเที่ยวและรับประทานอาหารจากข้างนอก โรงแรมจึงถูกสร้างมาเพื่อตอบโจทย์ลูกค้า โดยที่ลูกค้าจ่ายค่าบริการในราคา 700 บาทเป็นต้นไป” นายนิรันดร์กล่าว

สำหรับแผนการขยายธุรกิจของบีทูในช่วง5 ปีนี้ (2558-2562)บริษัทวางเป้าหมายลงทุนเปิดโรงแรมใหม่ในประเทศไทยอีกปีละ 5 แห่งภายใต้งบลงทุนราว 100 ล้านบาทต่อสาขา ซึ่งภายใน 5 ปีนี้ บีทูจะมีโรงแรมเพิ่มอีก 25แห่ง ใช้เงินลงทุนราว 2.5 พันล้านบาท เป็นการลงทุนเองของบริษัทราว30-40%ที่เหลือเป็นการใช้สินเชื่อผ่านสถาบันการเงิน ส่งผลให้บีทู จะมีโรงแรมเพิ่มจากปัจจุบันที่มีอยู่ทั้งหมด23 แห่งครอบคลุมหัวเมืองต่างๆ ของประเทศ ไทย รวมจำนวนห้องพักกว่า 2 พันห้อง

ส่วนแผนการเปิดโรงแรมใหม่ในประเทศไทย ในปีนี้ จะเปิดโรงแรมใหม่อีก 5 แห่ง ประกอบไปด้วย โรงแรมบีทู เชียงใหม่ ริมแม่ปิง และโรงแรมบีทู กรุงเทพฯ บริเวณบางนา ที่คาดว่าจะเปิดบริการในช่วงไตรมาสที่ 2 รวมไปถึงการขยาย บีทู พัทยาใต้ เตรียมเปิดให้บริการไตรมาสที่ 3 โรงแรมบีทูแม่ฮ่องสอน และบีทู ปาย จะแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการในช่วงไตรมาสที่ 4ของปีนี้ ซึ่งใช้งบลงทุนปีนี้ไม่ตํ่ากว่า500 ล้านบาท



อย่างไรก็ตามการขยายโรงแรมบีทูแห่งใหม่ที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทยยังคงเน้นไปที่เมืองหัวเมืองต่างๆ ที่มีศักยภาพทั้งในด้านการท่องเที่ยว การศึกษา หรือการติดต่อธุรกิจ รวมถึงมองการขยายธุรกิจ สู่เมืองรอง อาทิ น่านพิษณุโลก ซึ่งจะสอดคล้องกับการโปรโมตของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่ผลักดันให้เกิดการกระจายตัวของการท่องเที่ยวไปยังเมืองรองอย่างการโปรโมต 12 เมืองต้องห้ามพลาด

นอกจากนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างการพิจารณาที่จะพัฒนาแบรนด์บริหารโรงแรมขึ้นมาอีก 1 แบรนด์ เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าเซ็กเมนต์ใหม่ ในกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูง โดยแบรนด์ที่ 2 นี้ น่าจะเริ่มเปิดตัวได้ภายในปี 2560 ในจ.เชียงใหม่เป็นแห่งแรก รวมทั้งยังมีแนวคิดที่จะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในอนาคตด้วย เพื่อสร้างแบรนด์บีทูให้แข็งแกร่งมากขึ้น แต่ทั้งนี้ก็คงต้องรอหลังการพัฒนาระบบออนไลน์ให้เสถียรภาพ รวมไปถึงขยายแบรนด์บีทูทั้งไทย และต่างประเทศครบ50 แห่ง

ด้านของการขยายฐานลูกค้าบริษัทเตรียมเปิดบริการบัตรสมาชิกของทูบี ชื่อ I Am B2 ซึ่งเป็นเสมือนบัตรสมาชิกของเครือบีทูทั้งหมด และจะเป็นบัตรเดบิตที่ลูกค้าสามารถใช้เติมเงินพร้อมชำระค่าบริการในเครือโรงแรมบีทูทุกสาขาได้ อีกทั้งยังสามารถสะสมแต้มนำมาแลกเปลี่ยนเป็นการชำระค่าโรงแรมและโปรโมชันตามที่โรงแรมได้กำหนดไว้

ขณะนี้อยู่ระหว่างขออนุญาตธนาคารแห่งประเทศไทยเพื่อเปิดบริการ คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จพร้อมเปิดใช้บริการทันทีภายในปีนี้ ซึ่งเบื้องต้นหลังเปิดใช้บัตรดังกล่าวบริษัทตั้งเป้าเพิ่มสมาชิกในเครือบีทูขึ้นเป็น 1แสนคน จากปัจจุบันมีประมาณ 5 หมื่นคน โดยในปีที่ผ่านมาลูกค้าของโรงแรมใช้บริการผ่านช่องทางออนไลน์ของบีทูกว่า 35% ซึ่งสามารถชำระค่าห้องพักผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส เอทีเอ็ม ทุกสาขาทั่วปรระเทศ นายนิรันดร์กล่าวในที่สุด

อ้างอิงจาก  ฐานเศรษกิจ
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
สาขาใหม่ มาแล้ว! ทูลเก..
6,151
PLAY Q by CST bright u..
1,319
มาแล้ว! #งานแฟรนไชส์ ม..
945
อร่อย! เลิศ! รสเด็ด ก๋..
943
สุดปัง! แฟรนไชส์หม่าล่..
793
ลงทุนกับ “ซุปซุป” ร้าน..
769
ข่าวแฟรนไชส์มาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด