กันปล้นเครื่องหมายการค้าผัดไทย  
 

 
แฉต่างชาติสุดแสบแอบจดทะเบียนพาณิชย์กลัวลูกค้าอาหารไทยสับสน

นางพวงรัตน์ อัศวพิศิษฐ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า กรมได้ทำหนังสือปฏิเสธ การยินยอมให้นักธุรกิจร้านอาหารอิตาลี ในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ นำชื่อ ผัดไทย  หรือ Pad-Thai ไปจดทะเบียนเป็นเครื่องหมายการค้าเพื่อเชิงพาณิชย์ เพราะผัดไทยเป็นชื่อสามัญ ที่แสดงเอกลักษณ์อาหารไทย ซึ่งเกรงว่าหาก อนุญาตจะทำให้เกิดความเข้าใจผิดในตัวอาหาร อีกทั้งยังเป็นการกีดกันลู่ทางการค้าของคนไทย ที่ไม่สามารถใช้ชื่อ ผัดไทย ตั้งชื่อร้านค้าได้ในอนาคต

เมื่อ 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งจากสถานทูตไทย ประจำเมืองดูไบว่ามีผู้ประกอบการร้านอาหารอิตาเลียน ชาวแคนาเดียน ทำหนังสือขอนำชื่อ Pad Thai ไปจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า ธุรกิจแฟรนไชส์ แต่กรมพิจารณาแล้วไม่อนุญาต เพราะกลัวว่าจะสูญเสียสิทธิในการใช้ชื่อ เหมือนกรณี ฤาษีดัดตน ที่ไทยถูก แอบอ้างไปจดเครื่องหมายการค้าในประเทศญี่ปุ่นจนเกิดความวุ่นวายในที่สุด

ทั้งนี้ ผัดไทย ถือเป็นเมนูอาหารไทย ที่ได้รับความนิยม และรู้จักแพร่หลายในต่างประเทศ เหมือนกับต้มยำกุ้ง ส้มตำ อีกทั้งเป็นรายการอาหารสำคัญที่ร้านอาหารไทยในต่างแดนใช้เป็นจุดขายดึงดูดลูกค้า ดังนั้น การที่จะขอนำชื่อผัดไทย ไปใช้ธุรกิจแฟรนไชส์ร้านอาหารอิตาลี โดยไม่มีความเกี่ยวข้องกับอาหารไทย จึงอาจทำให้ชาวต่างชาติสับสน และเข้าใจรสชาติผัดไทย อย่างไม่ถูกต้อง

นอกจากนี้ ชื่อผัดไทยยังเป็นชื่อ สามัญ ที่ไม่สามารถนำไปจดทะเบียนเป็นของตัวเองได้ เพราะตามนิยามกฎหมายเครื่องหมายการค้าระบุว่า การ ขอจดทะเบียนจะต้องเป็นเครื่องหมายที่เจ้าของเครื่องหมายใช้ หรือมีเจตนาจะใช้ในลักษณะเกี่ยวข้องหรือเป็นที่หมายกับสินค้าของตนเป็นการแสดง ให้บุคคลทั่วไปเห็นและเข้าใจว่าสินค้าที่ใช้เครื่องหมายของเจ้าของเครื่องหมายสินค้านั้น แตกต่างไปจากสินค้าที่ใช้เครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่น โดยมีข้อสังเกตเครื่องหมายการค้าต้องมีลักษณะบ่งเฉพาะ ที่เกิดขึ้นภายในตัวเครื่องหมายการค้า และลักษณะบ่งเฉพาะที่เกิดขึ้นภายหลังเนื่องจากความมีชื่อเสียงแพร่หลายของตัวเครื่องหมายการค้านั้น

นางพวงรัตน์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ กรมฯ ได้รับแจ้งปัญหาว่า เกิดการละเมิดเครื่องหมายการค้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ในประเทศจีนและอินเดีย โดยผู้ประกอบการชาวอินเดียได้นำโลโก้ของห้างเซ็นทรัลไปจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า ใช้ตั้งห้างสรรพสินค้าในอินเดีย 4 สาขา จนส่งผลให้แผนการลงทุนของ เซ็นทรัลกรุ๊ป ในอินเดียต้องสะดุด เพราะไม่สามารถใช้ชื่อซ้ำกันได้ และขณะนี้เรื่องอยู่ระหว่างการฟ้องศาลอินเดีย

ศาลอินเดียอยู่ระหว่างการไต่สวนว่าใครเป็นคนใช้ชื่อนี้ก่อน ซึ่งตามหลักฐานจากรายงานประจำปีของห้างเซ็นทรัลอินเดียระบุว่า สาเหตุที่จดทะเบียนชื่อเซ็นทรัล เพราะประทับใจกระบวนการทำงานบริหารห้างเซ็นทรัลของไทย. 
 



โดย เดลินิวส์ วัน อังคาร ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2551