3.6K
9 ตุลาคม 2557
สนง.นวัตกรรมฯ เปิดตัวเครื่องวัดความอร่อย พร้อม 11 สูตรอาหารไทย เตรียมส่งผ่านความอร่อยจากครัวไทยสู่ครัวโลก


สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สนช. จัดกิจกรรมส่งเสริมความสำเร็จของโครงการโครงการ Thai Delicious สู่ตลาดโลก เพื่อประชาสัมพันธ์ความสำเร็จของโครงการ Thai Delicious สู่สาธารณชนและหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน และให้เกิดการรับรู้และเข้าถึงรสชาติอาหารไทยตำรับดั้งเดิม อีกทั้งยังเป็นการสร้างโอกาสและช่องทางต่อการขยายผลองค์ความรู้และผลิตภัณฑ์ภายใต้โครงการ Thai Delicious สู่กลุ่มเป้าหมายในตลาดโลก

นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล กรรมการนวัตกรรมแห่งชาติ ปฏิบัติหน้าที่แทนผู้อำนวยการ สนช. กล่าวว่า “สนช. ได้ดำเนิน โครงการ “Thai Delicious” ภายใต้ยุทธศาสตร์ประเทศ “ครัวไทยสู่ครัวโลก” เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนอุตสาหกรรมอาหารไทยให้มีการพัฒนานวัตกรรมตลอดห่วงโซ่คุณค่าตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ และสร้างมูลค่าเพิ่มอย่างต่อเนื่อง

รวมถึงเพื่อให้สามารถกำหนดมาตรฐานด้านรสชาติอาหารไทยให้ได้คุณภาพที่ไม่ผิดเพี้ยนไปจากตำรับดั้งเดิมของไทย ภายใต้แนวคิด “อาหารไทยไม่ว่าครัวที่ไหน ก็ต้องมีรสชาติไทยเดียวกัน” เพื่อตอบสนองความต้องการของรสชาติอาหารไทยในตลาดต่างประเทศ โดยการนำองค์ความรู้ด้านคหกรรมศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร และการทดสอบทางประสาทสัมผัสมาประยุกต์ใช้ร่วมกัน”

นายศุภชัย หล่อโลหการ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สนช. เปิดเผยถึงความสำเร็จของโครงการฯ ว่า จากการดำเนินงานที่ผ่านมา สนช. ได้พัฒนาและให้การสนับสนุนโครงการนวัตกรรมภายใต้โครงการ Thai Delicious จำนวนทั้งสิ้น 14 โครงการ วงเงินสนับสนุนกว่า 23.5 ล้านบาท ก่อให้เกิดมูลการลงทุนรวมกว่า 130.6 ล้านบาท

ซึ่งประกอบด้วย โครงการระบบบริหารจัดการคุณภาพและความปลอดภัยของวัตถุดิบอาหารไทยครบวงจร นำร่องในพืชวัตถุดิบอาหารไทย ได้แก่ พริก และกะเพรา โครงการเครื่องมือตรวจวัดมาตรฐานรสชาติอาหารไทย จำนวน 2 โครงการ ได้แก่ e-delicious และ ESenS ซึ่งสามารถวัดค่ารสสัมผัสพื้นฐานที่มนุษย์จะได้รับจากลิ้นสัมผัส ได้แก่ ความเปรี้ยว ความหวาน ความเค็ม ความเผ็ด หรือตัวแปรอื่นๆ ที่จำเป็น


พร้อมทั้งวัดกลิ่นที่มีองค์ประกอบทางเคมีที่สามารถกระตุ้นให้เกิดความอยากอาหารได้ เพื่อนำไปใช้ทดสอบและประเมินรสชาติอาหารไทย โดยการจำลองกระบวนการรับรู้ความอร่อยของมนุษย์ โดยอาศัยการรับรู้จากเซนเซอร์ทางเคมีไฟฟ้า นำไปประมวลผลในระบบคอมพิวเตอร์ด้วยปัญญาประดิษฐ์ (artificial intelligent; AI) โครงข่ายประสาทเทียม (neural network) และการบูรณาการร่วมกันระหว่างผู้เชี่ยวชาญด้านรสชาติอาหาร เพื่อฝึกสอนเครื่องมือตรวจวัดให้สามารถเข้าใจถึงรูปแบบของความอร่อยของอาหารไทยแต่ละชนิด

โครงการพัฒนาสูตรมาตรฐานอาหารไทยและผลิตภัณฑ์พร้อมปรุง จำนวน 11 ตำรับ ได้แก่ ต้มยำกุ้งน้ำใส ต้มยำกุ้งน้ำข้น ผัดไทย แกงมัสมั่น แกงเขียวหวาน ข้าวซอย ไส้อั่ว น้ำพริกหนุ่ม น้ำพริกอ่อง แกงเหลือง และซอสไก่กอและ ซึ่งสามารถเข้าไปดูข้อมูลได้จากเว็บไซต์ www.nia.or.th/thaidelicious หรือดาวน์โหลดผ่านแอพลิเคชั่นในระบบปฏิบัติการไอโอเอส

รวมถึงการต่อยอดนำสูตรมาตรฐานที่ได้ไปเผยแพร่ให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคในต่างประเทศ โดยจะนำร่องจัดตั้งต้นแบบร้านอาหารไทยสไตล์บริสโทรชื่อ “กะทิ (KATI)” ที่สุขุมวิท 49 ซึ่งจะใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากโครงการ Thai Delicious ทั้งหมด ทั้งนี้ จะดำเนินการในลักษณะธุรกิจแฟรนไชส์ คาดว่าจะเปิดสาขาแรกที่ประเทศญี่ปุ่น และขยายต่อไปยังเกาหลีและสวีเดนต่อไป

“สำหรับกิจกรรม “Thai Delicious Gala Dinner” ที่จัดขึ้นในวันนี้ สนช. มุ่งหวังในเกิดการสร้างโอกาสและช่องทางในการขยายผลองค์ความรู้และผลิตภัณฑ์สู่กลุ่มเป้าหมายในตลาดโลก รวมถึงเป็นแสดงให้เห็นถึงการนำเสนออาหารไทยในรูปแบบสากลที่ยังคงไว้ซึ่งรสชาติและความเป็นเอกลักษณ์ของอาหารไทย โดยใช้ผลิตภัณฑ์ภายใต้โครงการ Thai Delicious ที่สะดวกและง่ายต่อการปรุง

ซึ่งจะช่วยควบคุมมาตรฐานด้านรสชาติของอาหารไม่ให้เกิดการผิดเพี้ยน ซึ่งจะก่อให้เกิดการถ่ายทอดองค์ความรู้และผลิตภัณฑ์สู่ภาคเอกชนไทยและต่างชาติต่อไป” นายศุภชัย กล่าวเพิ่มเติม

อ้างอิงจาก กรุงเทพธุรกิจ
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
แฟรนไชส์ P.P.TYRE ร่วม..
1,428
แฟรนไชส์ “ไจแอ้นลูกชิ้..
1,351
“โฮมแคร์ภิบาล” จัด Ope..
1,248
ชีสซี่ฟราย สแน็ค เปิด ..
902
เรียนสร้างแฟรนไชส์ ในค..
840
ออลส์ บับเบิ้ลที เปิด ..
529
ข่าว SMEsมาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด