|
|
25 กันยายน 2557 |
เอฟโวลูชั่น ควัก1.5พันล.รุกขยายแฟรนไชส์ ร้านอาหารไทย/เทศ
"เอฟโวลูชั่น แคปปิตอล" หลงเสน่ห์ธุรกิจร้านอาหารเมืองไทย ประกาศทุ่มงบอีกกว่า 1.5 พันล้าน ลงทุนยาว 5 ปี หวังดันรายได้ทะลุ 5 พันล้าน พร้อมเดินสายรุกตลาดเมียนมาร์ ลาว และเขมร
นายซานเจย์ ซิงห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอฟโวลูชั่น แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารร้านไก่ทอดเคียวโชน, เดอะ คอฟฟี่บีน แอนด์ ทีลีฟ,โดมิโน พิซซ่า ฯลฯ เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมใช้งบลงทุนอีกกว่า 1.5 พันล้านบาท ในการลงทุนธุรกิจร้านอาหารในช่วง 5 ปีนับจากนี้ หลังจากที่พบว่า ธุรกิจร้านอาหารได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี มียอดขายสูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ ทำให้บริษัทเร่งเดินหน้าขยายธุรกิจมากขึ้นทั้งในไทยและต่างประเทศ
โดยการขยายธุรกิจในไทย จะเน้นที่ร้านไก่ทอดเคียวโชน ซึ่งจะเปิดให้บริการครบ 5 แห่งในสิ้นปีนี้ จากปัจจุบันที่มีอยู่ 4 แห่ง พร้อมทั้งขยายสาขาในรูปแบบแฟรนไชส์ในประเทศเมียนมาร์ , กัมพูชา และสปป.ลาว โดยในปีหน้าจะเริ่มต้นลงทุนในกัมพูชา ร่วมกับพันธมิตรนักธุรกิจท้องถิ่น โดยตั้งเป้าที่จะมีสาขา 5 แห่งในปีหน้า และขยายการลงทุนสู่ประเทศเมียนมาร์ในปีถัดไป เนื่องจากมองว่าเมียนมาร์เป็นประเทศที่มีศักยภาพ พร้อมเติบโตได้ในระยะยาว ส่วนสปป.ลาว อยู่ระหว่างการศึกษาธุรกิจและกำลังซื้อ และต้องรอให้มีการพัฒนามากกว่านี้
ขณะเดียวกันบริษัท ได้พัฒนาแบรนด์ของตนเองขึ้น ภายใต้ชื่อ มิสเตอร์โจนส์ ออร์ฟาเนจ พร้อมเปิดให้บริการในประเทศญี่ปุ่น และมีแผนจะขยายไปยังต่างประเทศมากขึ้น หลังจากที่มีผู้สนใจติดต่อเข้ามาขอร่วมลงทุนในรูปแบบแฟรนไชส์ ทั้งจากประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ เป็นต้น
"ในไตรมาส 4 ปีนี้จนถึงปีหน้า คาดว่าจะยังไม่มีแบรนด์ใหม่ออกมาทำตลาดเนื่องจากบริษัทต้องการเดินหน้าขยายสาขาและสร้างแบรนด์ที่มีอยู่ให้เป็นที่รู้จักของผู้บริโภคในวงกว้าง ขณะเดียวกันก็ต้องการพัฒนาคุณภาพให้เป็นที่ยอมรับ โดยบริษัทวางเป้าหมายที่จะมีร้านไก่ทอดเคียวโชนทั้งสิ้น 40 แห่งใน 4 ปี ซึ่งมั่นใจว่าจะเดินตามแผนงานที่วางไว้ได้ หลังจากได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และล่าสุดบริษัทยังเปิดตัว แบรนด์แอมบาสซาเดอร์คนล่าสุด "ลี มิน โฮ" ซูเปอร์สตาร์ชาวเกาหลี ที่จะบินตรงมาเมืองไทยเพื่อร่วมเปิดตัวร้านเคียวโชน สาขาเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ด้วย"
สำหรับในปีนี้บริษัทตั้งเป้าที่จะมีรายได้ 670 ล้านบาท โดย 90% เป็นรายได้จากธุรกิจร้านอาหาร และจะเพิ่มขึ้นเป็น 5 พันล้านบาท ในอีก 5 ปีข้างหน้า
อ้างอิงจาก ฐานเศรษฐกิจ
|
|
|
|