|
|
|
|
17 กรกฎาคม 2557 |
คอมเซเว่น ปูพรมยึดช่องทางขาย ดันโมเดลแฟรนไชส์ลุยตจว.
"คอมเซเว่นฯ" ควัก 400 ล้านบาทปูพรมขยายสาขา "บานาน่า ไอที-ไอสตูดิโอ-บานาน่า โมบาย" พรึ่บทั่วปท. เพิ่มน้ำหนักธุรกิจบริการซ่อมสารพัดสินค้าแอปเปิล เดินหน้าผุดแฟรนไชส์ "แมงโก้" รองรับตลาดสมาร์ทโฟน สบช่องอุปกรณ์เสริมบูม ปั้น "เฮาส์แบรนด์" ลงตลาด ตั้งเป้าปั๊มรายได้รวมโต 30% ทะลุ 17,000 ล้านบาท
นายสุระ คณิตทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอมเซเว่น อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เจ้าของร้านค้าปลีกสินค้าไอที "บานาน่า ไอที" และ "ไอสตูดิโอบายคอมเซเว่น" เปิดเผยว่า ยังเดินหน้าลงทุนขยายสาขา เป็นเงินอีก 400 ล้านบาท รวม 59 แห่ง จากปัจจุบันมี 259 สาขาทั่วประเทศ แบ่งเป็น "บานาน่า ไอที" 13 แห่ง (120 ล้านบาท), ไอสตูดิโอ-ไอบีต 16 แห่ง (150 ล้านบาท) และบานาน่า โมบาย 30 แห่ง (120 ล้านบาท) รวมถึงร้าน "แมงโก้โมบาย" ซึ่งเน้นขยายในรูปแบบแฟรนไชส์เป็นหลัก ตั้งเป้า 100 แห่งภายในสิ้นปีนี้ ปัจจุบันมี 15 แห่ง
"ยิ่งเศรษฐกิจไม่ดียิ่งต้องขยายเพื่อเตรียมพร้อม เมื่อตลาดกลับมาอีกครั้ง ครึ่งปีแรกตลาดไอทีไม่ค่อยดีนัก โดยเฉพาะไตรมาสแรกกำลังซื้อหายไปชัดเจน ขณะที่ในไตรมาส 2 ไม่ค่อยมีสินค้าใหม่ แต่เชื่อว่าครึ่งปีหลังจะกลับมาดีขึ้นผู้บริโภคกลับมาซื้อประกอบกับมีสินค้า รุ่นใหม่ออกมาจำนวนมาก"
โดยการเปิดร้านบานาน่า ไอที, ไอสตูดิโอ และไอบีตสาขาใหม่เน้นไปที่พื้นที่ต่างจังหวัดเป็นหลัก เนื่องจากในกรุงเทพฯครอบคลุมได้ครบแล้ว ส่วน "บานาน่า โมบาย" เน้นกรุงเทพฯเป็นหลัก รองรับลูกค้าที่จะเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีคนเข้าร้านกว่า 50 ล้านคน และซื้อสินค้า 2.3 ล้านคน โดยเป็นสมาชิกของบริษัท 1.5 ล้านราย
นอกจากนี้ บริษัทจะรุกธุรกิจซ่อมสินค้าเต็มตัว โดยขยายร้าน "ไอแคร์" รับซ่อมสินค้าของ "แอปเปิล" ทุกรุ่นทั้งที่อยู่ในประกันและหมดประกันแล้ว ปัจจุบันมี 8 สาขา เปิดเพิ่มเป็น 30 แห่งกระจายไปในต่างจังหวัดมากขึ้น เพราะสินค้าแอปเปิลเริ่มใช้แพร่หลายในอนาคตจะรับซ่อมสินค้าอื่น ๆ ด้วย ซึ่งหน้าร้านที่ชัดเจนจะช่วยสร้างรายได้ และความเชื่อถือให้ผู้บริโภค
"ไอแพดเป็นผลิตภัณฑ์ที่ลูกค้านำมาซ่อมมากที่สุด ทั้งตกพื้น, ตกน้ำ รองลงมาเป็นเครื่องแมค ส่วนไอโฟนค่อนข้างน้อยเพราะคนไม่รู้ว่ารับซ่อม ส่วนใหญ่ใช้โอเปอเรเตอร์ หรือซ่อมตามร้านตู้ ในภาพรวมไอแคร์อยู่ได้ด้วยตนเอง สินค้าที่นำมาซ่อม 80% จะอยู่ในเวลารับประกัน เพราะแอปเปิลซัพพอร์ตค่าซ่อมให้"
นายสุระ กล่าวถึง แฟรนไชส์ "แมงโก้โมบาย" ว่า เน้นขาย "สมาร์ทโฟน" ระดับล่างถึงกลาง โดยจะเปิดในต่างจังหวัดในระดับอำเภอทั้งแบบสแตนด์อะโลน และในโมเดิร์นเทรดขนาดเล็ก ปัจจุบันทดลองเปิดไปแล้ว 15 สาขา เช่น อ.ปลวกแดง จ.ระยอง และ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี เป็นต้น ซึ่งราคาสมาร์ทโฟนในร้านเฉลี่ยอยู่ที่ 2-3 พันบาท/เครื่อง อุปกรณ์เสริมอยู่ที่ 100 บาท/ชิ้น
"รอให้แมงโก้ฯเริ่มนิ่งก่อนถึงจะเปิดขายแฟรนไชส์ ถ้ายังทดลองตลาดไม่นานพอจะมีความเสี่ยง คาดว่าในท้ายไตรมาส 3 จะเริ่มขายแฟรนไชส์ได้ ซึ่งเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ เพราะถ้านำโมเดลเดียวกันไปเปิดในห้างคงสู้รายใหญ่ไม่ได้ แต่ถ้าลงไปในระดับอำเภอ คู่แข่งเป็นคนท้องถิ่นแข่งได้ง่ายกว่า ถ้าเปิดครบ 100 สาขาแล้ว สเต็ปถัดไปจะเปิดให้ซื้อสินค้าจากบานาน่า ไอทีได้ในราคาพิเศษ เรียกระบบนี้ว่า แมงโก้ช็อปปิ้งเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ที่อยู่ห่างไกล จะได้ไม่ต้องวิ่งเข้าเมืองมาซื้อ แถมได้ราคาถูก"
สินค้าที่จำหน่ายใน "แมงโก้โมบาย" เน้นสมาร์ทโฟนระดับกลางไปจนถึงไอโฟนรุ่นเก่า เช่น ไอโฟน 4 ที่ราคา 9,000 บาท เป็นราคาที่คนในพื้นที่เอื้อมถึง นอกจากนี้ จุดเด่นคือการรวมบริการของค่ายมือถือ 3 รายใหญ่ ตั้งแต่การลงทะเบียนซิม, เปิดเบอร์ใหม่, ชำระค่าบริการ และเปลี่ยนโปรโมชั่น แตกต่างจากร้านในท้องถิ่นที่ทำไม่ได้
ทั้งนี้ บริษัทยังหันมาทำตลาดสินค้าประเภทอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ เช่น เคส และสายไฟ โดยสั่งผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ Sync และ Seven Degrees โดยตั้งเป้ารายได้รวมปีนี้ไว้ที่ 17,000 ล้านบาท เพิ่มจากปีก่อนที่ทำได้ 14,000 ล้านบาท ประมาณ 30% ถือเป็นเป้าเดิมของปีที่แล้วที่ทำไม่ได้ เนื่องจากแอปเปิลเลื่อนการวางจำหน่ายสินค้าใหม่ ประกอบกับอารมณ์จับจ่ายของผู้บริโภคไม่ดีนัก ทำให้รายได้ปีที่แล้วเพิ่มขึ้นเพียง 10% คาดว่าในสิ้นปีนี้จะทำได้ตามเป้าเพราะจะมีสินค้าใหม่ออกสู่ตลาด เช่น ไอโฟน 6 โดยในครึ่งปีแรกทำได้ 7,500 ล้านบาท
อ้างอิงจาก ประชาชาติธุรกิจ
|
|
|
|
|
