2.8K
12 พฤษภาคม 2557
เดอมาสเตอร์ ชู Boutique Beauty รับกระแส "เมดิคอล ทัวริซึ่ม" บูม


เมดิคอลทัวริซึ่ม (Medical Tourism) ของไทยในปัจจุบันมีแนวโน้มขยายตัวอย่างชัดเจน เพราะได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่ได้พยายามโปรโมตสินค้าพวกโรงพยาบาล คลินิกในหลากหลายรูปแบบ เพื่อให้ไทยเป็นฮับของภูมิภาค

"ทีปกร โลจนะโกสินทร์" ประธานกรรมการ สถาบันความงามเดอมาสเตอร์ (Dermaster)  บอกว่า หลังจากที่มองเห็นโอกาสและมองเทรนด์ธุรกิจของสถาบันความงามแล้ว พบว่าเป็นตลาดที่มีช่องว่างและโอกาสในตลาดโลกมหาศาล จึงตัดสินใจลงทุนราว 200 ล้านบาท (ไม่รวมค่าที่ดิน) สำหรับเปิดให้บริการ "เดอมาสเตอร์" เมื่อ 2 ปีก่อน บริเวณถนนเอกมัยซอย 18-20 โดยวางโพซิชันนิ่ง ให้เป็นโรงพยาบาลแนวใหม่ที่ให้บริการทางด้านศัลยกรรม ภายใต้คอนเซ็ปต์ "Boutique Beauty Hospital"

เป็นการผสมผสานระหว่าง "บูติคโฮเต็ล" และ "โรงพยาบาล" ไว้ด้วยกัน และให้บริการอย่างครบวงจรในด้าน Well Being และความงามเป็นรายแรกของโลก

เป็น Skin Clinic โดยเฉพาะและชัดเจนทางด้าน Aesthetic ซึ่งรวมทั้งผิวพรรณตั้งแต่หนังศีรษะจดปลายเท้า รวมถึงรูปร่างสัดส่วนและการชะลอวัย จึงเน้นและให้ความสำคัญในเรื่องเครื่องมือทางการแพทย์มากที่สุด ทำให้ชื่อเสียงของเดอมาสเตอร์โด่งดัง เป็นที่ยอมรับว่าเป็นผู้นำนวัตกรรมเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัยที่สุดอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ยังมีแพทย์เฉพาะทางที่มีทักษะความชำนาญในการเลือกใช้เครื่องมือทุกชนิดให้เหมาะกับปัญหาของคนไข้แต่ละคนได้อย่างแม่นยำ


ทีปกร บอกด้วยว่า ปัจจุบันมีลูกค้าที่เป็นกลุ่มคนไทยประมาณ 70% อีกราว 30% เป็นลูกค้าชาวต่างชาติ ซึ่งหมายถึงรวม คนต่างชาติที่อาศัยในประเทศไทย เพื่อนบ้านใกล้เคียง และยังรวมถึงที่มาจากที่อื่น ไม่ว่าอเมริกา ยุโรป ตะวันออกกลาง รัสเซีย ออสเตรเลีย อาเซียน ฯลฯ โดยกลุ่มชาวต่างชาติทำรายได้คิดเป็นประมาณ 40% ของรายได้รวม

โดยทรีตเมนต์ที่ท็อปฮิตสุด คือพวก Botox, Filler, Thermage, Ulthera, Thread Lift, Zeltiq, Body Tight, Hair Transplant, Permanent Laser Hair Removal, พวกทรีตเมนต์ที่ใช้เวลาในการทำไม่มาก ทำเพียงครั้งเดียวเห็นผล อยู่ได้นานถึงครึ่งปีหรือหนึ่งปี พวกนี้จะมากสุด

"เราจะมีพนักงานที่พูดได้คล่องทั้งภาษาอังกฤษ อาหรับ เพราะลูกค้าเราเป็นชาวตะวันออกกลางค่อนข้างมาก และล่าสุดเรามีสาขาที่ซอยนานา ซึ่งเป็นตลาดอาหรับโดยเฉพาะ ที่คอยอำนวยความสะดวกลูกค้าอยู่แล้วและทุกวัน และมองว่ากลุ่มอาหรับเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพ เนื่องจากตัดสินใจจับจ่ายง่ายและมีกำลังซื้อสูง"

ผู้บริหารหนุ่มรายนี้ยังบอกอีกว่า หลังจากที่ได้เปิดให้บริการเดอมาสเตอร์ไปทั้ง 2 สาขา พบว่านักธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศให้ความสนใจและอยากซื้อโนว์ฮาว เพื่อนำไปลงทุนในต่างประเทศ ตนจึงมีแนวคิดที่จะขายระบบบริหารและขายแฟรนไชส์ และรับบริหารภายใต้แบรนด์ "เดอมาสเตอร์" สำหรับผู้ที่สนใจลงทุน

โดยที่ผ่านมาก็มีนักลงทุนจากหลายประเทศติดต่อเข้ามาจำนวนหนึ่งแล้ว ทั้งเวียดนาม เมียนมาร์ ฯลฯ ทั้งนี้ คาดว่าจะเห็นสาขาในต่างประเทศที่เมียนมาร์ในช่วงประมาณปลายปี 2558 ซึ่งจะเป็นรูปแบบการร่วมลงทุน


"ผมมองตลาดทุกประเทศทั่วโลก ที่มีความต้องการ ส่วนจะลงทุนแบบไหนนั้นเราเปิดกว้าง ทั้งร่วมทุน รับบริหาร ขายแฟรนไชส์ ฯลฯ" ส่วนตลาดในประเทศเราจะลงทุนเองเป็นหลัก"

สำหรับแนวทางการทำการตลาดนั้น "ทีปกร" บอกว่า ในส่วนของตลาดต่างประเทศนั้น ที่ผ่านมาได้ทำตลาดด้วยการไปโรดโชว์ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และทำเองด้วยในบางตลาด โดยทางเดอมาสเตอร์มีทีมงานสำหรับทำการตลาดต่างประเทศโดยตรงด้วย โดยเฉพาะตลาดในอาหรับและจีน

ประธานกรรมการสถาบันความงามเดอมาสเตอร์เสริมอีกว่า ในอนาคตเชื่อว่าประเทศเราจะต้องเติบโตเพิ่มมากยิ่งขึ้น เพราะเป็นประเทศที่ได้รับการยอมรับในทุก ๆ ด้าน ทำให้ภาพลักษณ์ดี สร้างความเชื่อมั่นจากสายตาชาวต่างชาติ จึงทำให้ Medical Tourism ของเราสามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศชาติได้ดีไม่แพ้การท่องเที่ยวในเชิง ต่าง ๆ ที่โด่งดังมีมาอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว

อ้างอิงจาก ประชาชาติธุรกิจ
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ชายสี่ คอร์ปอเรชั่น เป..
5,082
ชีสซี่ฟราย สแน็ค เปิดต..
4,103
เริ่มแล้ว! งานแฟรนไชส์..
2,897
แรงจริง! #แฟรนไชส์ ก๋ว..
1,632
ธงไชยผัดไทย ร่วมกับ 7-..
1,002
พบบูธ “ก๋วยเตี๋ยวเรือป..
986
ข่าวแฟรนไชส์มาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด