4.1K
28 มีนาคม 2557
ศูนย์ฯค้าไทยในฟิลิปปินส์คึกคัก


 
ศูนย์พัฒนาการค้าไทยในฟิลิปปินส์คึกคัก แห่ใช้บริการแล้วกว่า 200 ราย ก.พาณิชย์ชี้สินค้าอุปโภค-บริโภค และธุรกิจแฟรนไชส์ร้านอาหาร วัสดุก่อสร้าง ชิ้นส่วนรถยนต์มีสิทธิ์รุ่ง เหตุจีดีพีโตกว่า 7% ต่อปี และนำเข้าเป็นหลัก ขณะงานไทยแลนด์ วีกเล็งเป้าซื้อขาย 350 ล้าน

นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.) กระทรวงพาณิชย์ (พณ.)เปิดเผยในระหว่างการเดินทางเยือนประเทศฟิลิปปินส์ และเข้าร่วมงาน Thailand Weekฯ กรุงมะนิลา (19-21 มี.ค.)ว่า เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมของผู้ประกอบการไทยก่อนเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซีในปี2558

กรมได้เปิดศูนย์พัฒนาการค้าและธุรกิจในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในฟิลิปปินส์จากก่อนหน้านี้ได้เปิดศูนย์ทั้งในประเทศ และประเทศเพื่อนบ้านแล้วรวม 8 สาขา ยกเว้นบรูไนเนื่องจากเศรษฐกิจการค้าค่อนข้างเล็ก ทั้งนี้ศูนย์ดังกล่าวได้เปิดมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปีที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการไทยและฟิลิปปินส์เข้ามาใช้บริการแล้วกว่า 200 ราย ส่วนใหญ่ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์

อย่างไรก็ตามตลาดฟิลิปปินส์ถือว่าเป็นตลาดที่มีศักยภาพของการส่งออกและการลงทุนของไทย เนื่องจากเป็นประเทศที่ต้องพึ่งพาการนำเข้าเป็นหลักและเป็นประเทศที่มีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจระดับสูง เฉลี่ย 7% ต่อปี ทั้งนี้สินค้ามีแนวโน้มดีในตลาดฟิลิปปินส์ ได้แก่สินค้าอุปโภคบริโภค อาหาร ธุรกิจแฟรนไชส์ ประเภทร้านอาหาร วัสดุก่อสร้าง และชิ้นส่วนยานยนต์ โดยเฉพาะธุรกิจก่อสร้างที่มีแนวโน้มการขยายตัวจากเศรษฐกิจในประเทศที่โตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนักลงทุนควรเข้ามาลงทุนในลักษณะซื้อมาขายไปมากกว่าเข้ามาลงทุนเอง 100% หรือในลักษณะร่วมทุนโดยเฉพาะธุรกิจอาหาร เนื่องจากหุ้นส่วนภายในจะรู้ช่องทางทางการค้ามากกว่าเป็นบริษัทต่างชาติ100%

"ปัจจุบันมีนักธุรกิจไทยที่เข้ามาลงทุนในฟิลิปปินส์ส่วนใหญ่จะเป็นนักลงทุนรายใหญ่ อาทิ เครือเจริญโภคภัณฑ์หรือซีพี บริษัทผลิตไฟฟ้าจำกัด(มหาชน) กลุ่มเอสซีจี ธุรกิจโรงแรมอย่างเครือเซ็นทารา และดุสิตธานี ส่วนแฟรนไชส์ของไทยที่นักธุรกิจฟิลิปปินส์ซื้อได้แก่ แบล็คแคนยอน สุกี้โคคา และแมงโก้ทรี เป็นต้น"

นางนันทวัลย์ กล่าวอีกว่า จากที่ประเทศฟิลิปปินส์ได้รับผลกระทบจากซูเปอร์ไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนก่อนหน้านี้ ได้ก่อความเสียหายต่อภาคการเกษตร ทั้งพืชผลการเกษตร อุปกรณ์เครื่องจักรกลการเกษตร และสิ่งก่อสร้างรวมทั้งอาคารบ้านเรือนในฟิลิปปินส์เป็นอย่างมาก  ดังนั้นฟิลิปปินส์จึงมีความต้องการนำเข้าสินค้าที่จำเป็นต่อการบริโภคเพิ่มขึ้นได้แก่ ข้าว ข้าวโพด น้ำตาล อาหารสำเร็จรูปและสินค้าที่จำเป็นต่อการผลิตในภาคการเกษตร เช่นอุปกรณ์และเครื่องจักรกลการเกษตรรวมทั้งสินค้าที่จำเป็นในการซ่อมแซมสิ่งปลูกสร้างที่ได้รับความเสียหาย อย่างวัสดุก่อสร้าง อุปกรณ์ไฟฟ้า เครื่องใช้ในครัวเรือน เป็นต้น ซึ่งสินค้าดังกล่าวเป็นสินค้าที่ประเทศไทยมีศักยภาพในการผลิตและการส่งออก

สำหรับงานไทยแลนด์วีกที่กรมจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-23 มีนาคม 2557 มีผู้ประกอบการทั้งหมด 77 บริษัท 88 คูหา ในจำนวนนี้เป็นผู้ประกอบการจากไทย 73 บริษัท 81 คูหา (ที่เหลือเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าไทยในฟิลิปปินส์) คาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานไม่ต่ำกว่า 2หมื่นราย มีคำสั่งซื้อภายใน 1 ปีไม่ต่ำกว่า 350 ล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา

นอกจากนี้ยังมีการสัมมนา Doing Business in the Philippines เพื่อให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการไทยที่สนใจตลาดฟิลิปปินส์ ได้รับทราบข้อมูลที่เป็นจริงผ่านประสบการณ์ของผู้ประกอบการไทยในฟิลิปปินส์ โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้ประกอบการไทยที่เข้าร่วมแสดงสินค้า Thailand Week  ผู้ประกอบการไทยที่สนใจตลาดฟิลิปปินส์ ผู้ประกอบการไทยในฟิลิปปินส์และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ประมาณ 100 ราย

อ้างอิงจาก ฐานเศรษฐกิจ
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
สาขาใหม่มาแล้ว! บุราณ ..
950
รวมภาพบรรยากาศ คอร์ส F..
648
“เติมพลังความรู้” กับ ..
591
มาโนอิ ร่วมงานครบรอบ 1..
562
สมาร์ทเบรน จินตคณิต เป..
554
โทกิวอช ร้านสะดวกซัก เ..
517
ข่าว SMEsมาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด