|
|
17 มีนาคม 2557 |
อโรม่า ปรับใหญ่กาแฟ"ชาวดอย"ปิดดีลบริหารบาร์น้ำฟู้ดคอร์ตเทสโก้
อโรม่ากรุ๊ป ปรับใหญ่ธุรกิจร้านกาแฟชาวดอย ผนึกร้านชาบับเบิ้ล ที ในเครือ ปรับคอนเซ็ปต์สู่ร้าน "ดูโอแบรนด์" เพิ่มทางเลือกลูกค้า ล่าสุดผนึกพันธมิตร "เทสโก้ โลตัส" บริหารตู้กดน้ำ-บาร์น้ำ ทั่วประเทศ เซ็นสัญญา 2 ปี มูลค่าตกปีละ 300 ล้าน เดินหน้าเพิ่มไลน์ "น็อนคอฟฟี่" ตั้งเป้าโต 30%
นายพริษฐ์ อนุกูลธนาการ ผู้ช่วยรองกรรมการผู้จัดการ ในเครือ อโรม่า กรุ๊ป ผู้ดำเนินธุรกิจด้าน กาแฟคั่วบด และผู้บริหารร้านกาแฟไนน์ตี้ โฟร์ คอฟฟี่ และชาวดอย เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ตั้งแต่ปีที่ผ่านมาบริษัทได้ปรับกลยุทธ์ร้านกาแฟชาวดอยใหม่ทั้งหมด โดยหันมาเปิดร้านกาแฟชาวดอย คู่กับร้านชานมไข่มุก "บับเบิ้ล ที" ที่เปิดตัวตั้งแต่ต้นปีที่แล้ว หลังจากเห็นเทรนด์ที่เครื่องดื่มประเภทนี้กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง โดยเปิดเป็นร้านในคอนเซ็ปต์ "ดูโอแบรนด์" ภายใต้ชื่อ "ชาวดอยคอฟฟี่ แอนด์ บับเบิ้ล ที"
สาเหตุของการผนึกร้าน 2 คอนเซ็ปต์ในที่เดียวกัน เพราะมองว่าจะช่วยขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น และทำให้แฟรนไชส์สามารถขายสินค้าได้ง่ายขึ้น เนื่องจากธุรกิจกาแฟมีข้อจำกัดในแง่ของเวลา โดยผู้บริโภคมักไม่ดื่มในช่วงเย็น ขณะที่ชาสามารถดื่มได้ทุกเวลามากกว่า ขณะเดียวกันก็มีการรีวิวร้านกาแฟชาวดอยใหม่ทั้งหมด โดยเลือกปิดในบางทำเลที่อยู่ในโลเกชั่นที่ไม่ดีมากนัก ขณะเดียวกันก็ปรับโฉมร้านให้มีความทันสมัย รวมถึงเพิ่มไลน์กาแฟระดับพรีเมี่ยมเข้ามาให้บริการเพิ่มทางเลือกลูกค้า หลังจากนี้จะทยอยปรับร้านชาวดอยให้เป็นคอนเซ็ปต์ดูโอแบรนด์ทั้งหมด คาดว่าสิ้นปีจะมีทั้งสิ้น 250 สาขา
"ขณะนี้เราเปิดคอนเซ็ปต์ดูโอแบ รนด์ ทั้งสิ้น 80 สาขา บวกกับร้านชาวดอยในรูปแบบเดิมที่มีกว่า 200 สาขา แต่มีการปิดบางทำเลและปรับใหม่ อย่างน้อยภายในสิ้นปีนี้คาดว่าจะมีไม่ต่ำกว่า 250 สาขา"
ล่าสุด บริษัทยังได้พันธมิตรใหม่คือ เทสโก้ โลตัส โดยจะเข้าไปบริหารบาร์น้ำในฟู้ดคอร์ตของเทสโก้ โลตัส ที่เป็นไซซ์ใหญ่ รวมถึงบริหารตู้กดน้ำ สำหรับสาขาไซซ์เล็ก "โลตัส เอ็กซ์เพรส" เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนนี้ เซ็นสัญญา 2 ปี มูลค่าการบริหารปีละ 300 ล้านบาท โดยช่วงเริ่มต้นในส่วนของโลตัส เอ็กซ์เพรส จะนำร่องใน 600 สาขา และจะให้ครบทุกแห่งทั่วประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีทั้งสิ้นกว่า 1,400 สาขา ภายในสิ้นปีนี้
นายพริษฐ์กล่าวว่า ขณะเดียวกันยังเดินหน้าเพิ่มไลน์สินค้าประเภทที่ไม่ใช่กาแฟ (Non-Coffee) มากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่ม "ท็อปปิ้ง" ต่างๆ ที่ใส่ในเครื่องดื่ม รวมถึงผงผสมเครื่องดื่มต่างๆ ซึ่งที่ผ่านมาได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าในธุรกิจร้านอาหาร นอกจากนี้ ยังเตรียมเปิดตัว "แคปซูล" กาแฟภายใต้แบรนด์ของตัวเอง สำหรับเครื่องชงกาแฟ หลังจากปีที่ผ่านมาได้ผลิตเครื่องชงกาแฟ และเครื่องบดเมล็ดกาแฟภายใต้แบรนด์ของตัวเองออกมารุกตลาดแล้ว โดยปีนี้ตั้งเป้าเติบโต 30%
อ้างอิงจาก ประชาชาติธุรกิจ
|
|
|
|