สำหรับการส่งออกของไทยคาดการณ์ว่าจะขยายตัวได้ร้อยละ 3-4 หลังจากปี 2556 ที่ไม่มีการขยายตัว ซึ่งเป็นผลมาจากเศรษฐกิจโลกที่ดีขึ้นและค่าเงินบาทที่อ่อนลง ทั้งนี้แนวโน้มการส่งออกในอุตสาหกรรมอาหารของไทยมีโอกาสในการขยายตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะการเริ่มฟื้นตัวของอุตสาหกรรมกุ้งของไทยโดยการเติบโตของเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ คาดว่าจะอยู่ในอัตราร้อยละ 3.0-4.0 เทียบกับร้อยละ 3 ในปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจภูมิภาคในปี 2557 มีแนวโน้มเศรษฐกิจขยายตัวในทุกภาค โดยที่ ภาคเหนือ มีแนวโน้มขยายตัวร้อยละ 3.3 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แนวโน้มขยายตัวร้อยละ 3.7 ภาคใต้ แนวโน้มขยายตัวร้อยละ 3.6 และภาคกลาง มีแนวโน้มขยายตัวร้อยละ 5.4 สำหรับกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีแนวโน้มขยายตัวร้อยละ 4.2 ทั้งนี้ เป็นผลจากแนวโน้มของการค้าชายแดนที่ขยายตัวได้สูง การท่องเที่ยวที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และการขยายตัวของอุตสาหกรรม อันเนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ อาทิ รายได้จากการทำเกษตร ที่ยังมีแนวโน้มที่ไม่แน่นอน และการที่เกษตรกรได้รับเงินจากการจำนำข้าวที่ล่าช้า ทั้งยังมีความเสี่ยงจากสถานการณ์ทางการเมืองที่อาจส่งผลกระทบทำให้การท่องเที่ยว การบริโภค และการลงทุนชะลอตัว
นอกจากนี้ ยังมีผลจากที่โครงการลงทุนของภาครัฐยังไม่สามารถดำเนินการได้ ราคาสินค้าเกษตรที่ทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ (โดยเฉพาะราคายางพารา) ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยที่จะส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในช่วงสถานการณ์ที่ยังมีความไม่แน่นอนจากปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ หลายประการ หอการค้าไทยซึ่งเป็นสถาบันหลักของภาคธุรกิจ จะต้องเพิ่มความเข้มข้นในการดำเนินกิจกรรม เพื่อบรรเทาผลกระทบ และขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยเห็นว่างานแสดงสินค้าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอาหารของไทย ดังนั้น
เมื่อปี 2547 จึงได้เชิญ Koelnmesse GmbH ประเทศเยอรมนี ผู้จัดงาน ANUGA ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าอาหารที่ใหญ่ติด 1 ใน 3 ของโลก และกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ มาร่วมกันจัดงานแสดงสินค้าอาหารที่ยิ่งใหญ่ในระดับภูมิภาคอาเซียนขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ซึ่งนับเป็น 1 ทศวรรษของการทำงานร่วมกัน อันแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการจัดงานดังกล่าวได้เป็นอย่างดีงานแสดงสินค้าดังกล่าว
นอกจากจะเป็นเวทีให้กับผู้ประกอบการของไทยได้แสดงศักยภาพในการผลิตอาหารแล้ว ยังเป็นการเผยแพร่ให้ผู้คนจากทุกมุมโลกได้รับทราบถึงความก้าวหน้า ในการพัฒนาสินค้าอาหารและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นครัวของโลก ทั้งนี้ งาน THAIFEX จะสามารถสร้างแรงดึงดูดกำลังซื้อจากผู้ซื้อชาวต่างชาติ ให้เดินทางเข้ามายังประเทศไทย เพื่อจัดหาสินค้าอาหารสำหรับการส่งออกมากยิ่งขึ้น อันหมายถึงเม็ดเงินที่จะหมุนเวียนเข้าสู่ประเทศไทยมากยิ่งขึ้นด้วย
ทั้งนี้ งาน THAIFEX - World of food ASIA 2014 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21-25 พฤษภาคม 2557 นี้ ที่อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี บนพื้นที่รวม 60,000 ตารางเมตรซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญในการที่จะช่วยผลักดันการส่งออกอาหารของไทยให้บรรลุเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ
เนื่องจากงาน THAIFEX นั้น เป็นงานแสดงสินค้าอาหารที่มีความยิ่งใหญ่ติดอันดับต้น ๆ ของเอเชีย และเป็นเวทีสำคัญที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมอาหาร ทั้งในประเทศและต่างประเทศได้มาร่วมแสดงศักยภาพด้านการผลิตอาหาร เครื่องดื่ม เทคโนโลยี และบริการที่เกี่ยวข้อง สู่เวทีการค้าระดับสากล จึงเป็นการช่วยส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาคุณภาพสินค้าอาหารและเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการพัฒนาประเทศไทยสู่ความเป็นศูนย์กลางการค้าและการจัดงานแสดงสินค้าอาหารที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย
ซึ่งในปีที่ผ่านมา ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างยิ่ง โดยมีผู้เข้าชมงานจำนวนกว่า 93,667 คน และในปีนี้หอการค้าไทยยืนยันว่าจะมีการจัดงานดังกล่าวแน่นอน โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานประมาณ 100,000 คน
ภายในงานจะแบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือ วันเจรจาธุรกิจ ระหว่างวันที่ 21-23 พฤษภาคม 2557 ตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น.. ส่วนวันที่ 24-25 พฤษภาคม เป็นวันจำหน่ายปลีกแก่ประชาชนทั่วไป ตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น. ภายในงานมีการจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าอาหาร เครื่องดื่ม เทคโนโลยีการผลิตอาหาร ธุรกิจค้าปลีกและแฟรนไชส์ รวมทั้งธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องมาจัดแสดงอย่างครบวงจรกว่า 1,500 บริษัท จำนวน 3,600 คูหา เพิ่มจากปี 2013 ที่มีผู้มาร่วมงาน 1,233 บริษัท จำนวน 3,280 คูหา ซึ่งคาดว่าจะมีผู้ซื้อจากต่างประเทศกว่า 7,000 คนเดินทางเข้ามา
ขณะเดียวกันจะมีบริษัทชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ จาก 36 ประเทศมาร่วมเปิดบูธ อาทิ ประเทศในแถบเอเชียตะวันออก อาเซียน ยุโรป สหรัฐอเมริกา และไทย ส่วนผู้เข้าร่วมชมงานจะมาจากกลุ่มสหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น ตะวันออกกลาง เอเชีย ฯลฯ จึงเป็นการเชื่อมโยงตลาดให้ผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมอาหาร ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ได้มาสร้างโอกาสทางการค้ากับผู้ซื้อที่มีศักยภาพจากทั่วโลก
ส่วนกิจกรรมเด่น ๆ ในงาน THAIFEX - World of food ASIA 2014 ได้แก่
- สุดยอดความนิยมของอาหารแช่เยือกแข็งปี 2014 โดยงาน THAIFEX – World of Food Asia นำเสนอโอกาสมากมายให้กับผู้ประกอบการอาหารแช่เยือกแข็ง ทั้งแบบพร้อมปรุง (ready-to-cook) และแบบพร้อมรับประทาน (ready-to-eat)
- การประกวดแข่งขัน การประชุม และการประชุมเชิงปฏิบัติการ (Workshops)
2.1 การประกวดแข่งขันรายการ Thailand Ultimate Chef Challenge ครั้งที่ 3 เป็นการประกวด
สุดยอด Chef ประเทศไทย ซึ่งยังคงเป็นกิจกรรมสัญลักษณ์ของงาน THAIFEX – World of Food Asia ในปี 2014 โดยเป็นการมุ่งเน้นผู้เข้าร่วมแข่งขันจากนานาชาติ โดยเฉพาะในภูมิภาคอินโดจีน
2.2 การแข่งขันรางวัล Roasters’ Choice Award ครั้งที่ 2 เป็นการคัดเลือกเมล็ดกาแฟคั่วที่ดีที่สุดในเอเชีย โดยได้รับการสนับสนุนจากสมาคมบาริสต้าไทยและสมาคมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องในภูมิภาค
2.3 การอบรมความรู้และการประชุมเชิงปฏิบัติการ มีหลักสูตรการเรียนที่จะจัดขึ้นในงาน เพื่อให้ความรู้ ความเชี่ยวชาญด้านกาแฟแก่นักกาแฟมืออาชีพ ที่ต้องการยกระดับความรู้ในการคั่วกาแฟ การคัดเลือกกาแฟคุณภาพ การทดสอบและการจัดซื้อกาแฟ
2.4 การประชุม World of Food Safety Conference ครั้งที่ 2 การรับรองความปลอดภัยด้านอาหารตามระบบทั่วโลก จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22 -23 พฤษภาคม 2557 โดยจะนำข้าราชการระดับสูง ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยอาหารชั้นนำจากนานาประเทศที่มาจากผู้ประกอบการ ผู้ค้าปลีก ผู้จัดจำหน่าย รวมถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในด้านอาหารและเครื่องดื่ม เพื่อร่วมแบ่งปันประสบการณ์และการอภิปรายในหัวข้อที่ท้าทายต่อความปลอดภัยด้านอาหารโดยเฉพาะ
25 มกราคม 2557 
