2.1K
23 มกราคม 2557
แบงก์เผยเอสเอ็มอีในกรุงฯถูกผลกระทบจากชุมนุม หวั่นยืดเยื้ออาจไม่ไหว


 
ธนาคารแห่งประเทศไทยเผยผลกระทบการชุมนุมทางการเมืองส่งผลต่อเอสเอ็มอีในกรุงเทพฯ ยันหลายแห่งยังประคองตัวได้ ระบุแบงก์ช่วยยืดหนี้ และลดดอกเบี้ยให้
 
นางสาลินี วังตาล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดเผยถึง ผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมือง ว่า ธปท.อยู่ระหว่างติดตามดูสถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองในขณะนี้ว่าจะส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจไทยมากน้อยแค่ไหน ซึ่งเท่าที่หารือกับธนาคารพาณิชย์หลายแห่งพบว่า ลูกค้าในกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือเอสเอ็มอี (SME) ในกรุงเทพมหานคร ได้รับผลกระทบมากกว่าเอสเอ็มอีที่อยู่ตามต่างจังหวัด แต่เท่าที่รับทราบข้อมูลเห็นว่ากลุ่มผู้ประกอบการหลายแห่งในขณะนี้ยังสามารถจะประคับประคองตัวเองไปได้อยู่
 
“เท่าที่เข้าไปสอบถามในตอนนั้น ผู้ประกอบการบอกว่ายังไหวกันอยู่ อีกทั้งแบงก์เองก็พยายามช่วยประคับประคอง และให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการเหล่านี้ให้พอไปได้ เพียงแต่ทุกคนก็ห่วงว่าถ้าการชุมนุมลากยาวไปเรื่อยๆ อาจจะไม่ไหวก็ได้ เพราะตอนนี้ไม่ใช่แค่เอสเอ็มอีเท่านั้นที่กระทบ แม้แต่ผู้ประกอบการรายใหญ่เองก็โดนผลกระทบไปด้วยเช่นกัน เพียงแต่ว่ารายใหญ่นั้นมีสายป่านที่ยาว จึงพอเป็นกันชนช่วยได้บ้าง”นางสาลินีกล่าวและว่า
 
ทั้งนี้ สำหรับภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด เท่าที่สำรวจมาส่วนใหญ่เป็นธุรกิจด้านบริการ เนื่องจากธุรกิจดังกล่าวนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการใช้จ่ายของประชาชน ซึ่งขณะนี้การบริโภคของประชาชนถือว่าลดลงไปมากจากสถานการณ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยจะสู้ดีนัก
 
นางสาลินี กล่าวต่อไปอีกว่า ในส่วนของแนวทางการช่วยเหลือของธนาคารพาณิชย์กับกลุ่มเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมืองนั้น ส่วนใหญ่จะใช้วิธีการยืดอายุหนี้ออกไป รวมถึงการลดดอกเบี้ยเพื่อประคับประคองธุรกิจของลูกค้าในกลุ่มนี้
 
 
 
“ในตอนนี้แบงก์เองก็เริ่มมีแนวทางการช่วยเหลือลูกค้าออกมาบ้าง เช่น ยืดอายุหนี้ออกไป หรือ ลดดอกเบี้ยให้บ้าง โดยเฉพาะกับรายที่กระแสเงินสดลดลง หรือมีรายได้น้อยลง แต่การช่วยเหลือก็มักปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ ซึ่งสถานการณ์ในขณะนี้ดูเหมือนจะเปลี่ยนกันรายวัน ก็ต้องติดตามดูอย่างต่อเนื่อง”
 
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ ธปท. ค่อนข้างสบายใจ คือ แม้สินเชื่อโดยรวมจะชะลอตังลงตามภาวะเศรษฐกิจ แต่สินเชื่อในส่วนของธุรกิจเอสเอ็มอียังคงรักษาระดับการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยตัวเลขล่าสุดเดือนพฤศขิกายน 2556 ที่ผ่านมา สินเชื่อรวมทั้งระบบมีการเติบโตประมาณ 10% แต่สินเชื่อที่ให้กับธุรกิจเอสเอ็มอีสามารถเติบโตได้ประมาณ 14% ในขณะที่คุณภาพสินเชื่อเท่าที่ ธปท. ตรวจสอบดูก็ไม่ได้หย่อนยานแต่อย่างใด
 
“ตัวเลขหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือเอ็นพีแอล (NPL) นั้น ตัวเลขล่าสุดยอมรับว่ามีการปรับขึ้นมาบ้าง โดยเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอลง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ได้หมายความว่ามาตรฐานการให้สินเชื่อหย่อนยานลง”
 
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ ธปท. ได้ระบุว่าตัวเลขเอ็นพีแอลเดือนพฤศจิกายนขยับขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ระดับ 2.3% จากเดือนก่อนหน้านี้ ซึ่งอยู่ที่ระดับ 2.2%

อ้างอิงจาก ฐานเศรษฐกิจ
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
สาขาใหม่มาแล้ว! บุราณ ..
1,093
รวมภาพบรรยากาศ คอร์ส F..
769
“เติมพลังความรู้” กับ ..
617
มาโนอิ ร่วมงานครบรอบ 1..
589
สมาร์ทเบรน จินตคณิต เป..
577
โทกิวอช ร้านสะดวกซัก เ..
530
ข่าว SMEsมาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด