4.3K
14 มกราคม 2557
เปิดเกมรบร้านบะหมี่ยุ่น 'โนดุฟู้ดส์' ส่งมารุกาเมะท้าชิง


 
จากการที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้คาดการณ์มูลค่าตลาดร้านอาหารที่เป็นเครือข่ายในปีนี้ จะมีมูลค่า 97,431 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2555 ที่มีมูลค่า 85,466 ล้านบาท โดยร้านอาหารประเภทไก่และเบอร์เกอร์, สุกี้และชาบู และอาหารญี่ปุ่น ยังคงมีมูลค่าตลาดในสัดส่วนที่สูงใน 3 อันดับแรก คิดเป็นสัดส่วนรวมกันประมาณ 60% ของมูลค่าตลาดร้านอาหารที่เป็นเครือข่ายธุรกิจอาหารโดยรวม 
 
ทั้งนี้ ร้านอาหารญี่ปุ่นมีอัตราการเติบ โตสูงสุด คือ 20% ส่วนร้านอาหารไทยและร้านสุกี้และชาบู โต 15% และร้านอาหารปิ้งย่างเติบโต 16% ดังนั้นจะเห็นว่าในปัจจุบันมีร้านอาหารญี่ปุ่นเกิดขึ้นใหม่ เป็นจำนวนมาก ทั้งบุฟเฟ่ต์ ปิ้งย่าง ชาบู ราเมน และอุด้ง นั่นเป็นเพราะแนวโน้มของตลาดร้านอาหารญี่ปุ่นยังสดใสต่อเนื่อง และมีการแข่งขันที่สูงขึ้น 
 
ที่ผ่านมาจะเห็นว่าคนไทยเริ่มคุ้นเคย กับร้านบะหมี่ญี่ปุ่น หรือราเมนกันมากขึ้น ดูได้จากจำนวนสาขาของร้านราเมนในปัจจุบันที่มีการเปิดสาขามากขึ้น ทั้งร้านที่ญี่ปุ่นลงทุนเอง หรือร้านที่คนไทยซื้อแฟรนไชส์มา กระทั่งร้านที่พัฒนาขึ้นเองภายใต้แบรนด์ของคนไทย แต่สำหรับร้าน อุด้งและโซบะยังถือเป็นเรื่องใหม่สำหรับตลาดบ้านเรา แถมคนไทยส่วนใหญ่ยังไม่รู้ว่าราเมน อุด้ง และโซบะแตกต่างกันอย่างไรด้วยซ้ำ โดยส่วนใหญ่จะเป็นหนึ่งใน เมนูของร้านราเมนเท่านั้น นั่นจึงเป็นเหตุผล หนึ่งที่ทำให้ร้านอุด้งมีจำนวนน้อยกว่าราเมน 
 
แต่ทั้งนี้ การที่ผู้บริโภคคนไทยเริ่มรู้จัก อุด้งกันมากขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะยักษ์ใหญ่ ในตลาดร้านอาหารญี่ปุ่นอย่าง "โออิชิ" ได้ ซื้อแฟรนไชส์ "คะโซคุเต" ซึ่งเป็นร้านอุด้ง และโซบะจากโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น มาทำตลาดที่เมืองไทย จนกระทั่งปัจจุบันมีจำนวนสาขาเปิดให้บริการกว่า 7 สาขา 
 
 
 
หลังจากคะโซคุเตได้เข้าสู่ตลาดเมือง ไทย ก็ได้มีแบรนด์ใหม่ๆ ตบเท้าเข้าสู่ตลาด ตามมา อย่างล่าสุดก็จะมี "มิยาทาเกะ ซานูกิ อุด้ง" ซึ่งอยู่ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท เบทาโกร เฟิร์สท์ คอลเลคชั่น จำกัด เป็นการร่วมมือกันระหว่างบริษัท เบทาโกร เรสเทอรองท์ จำกัด, บริษัท โฟร์ ซีตส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด และบริษัท บอส ตัน เทรดดิ้ง จำกัด ในสัดส่วนการถือหุ้น 60:30:10 ตามลำดับ เพื่อดำเนินธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นในเมืองไทย 
 
ทั้งนี้ ร้านมิยาทาเกะ ซานูกิ อุด้ง ถือเป็นแบรนด์เก่าแก่ของญี่ปุ่นเช่นเดียวกัน โดยรูปแบบการให้บริการจะเป็นแบบบริการ ตนเอง โดยมีเป้าหมายจะขยายสาขาให้ครบ 40 สาขาภายใน 5 ปีนับจากนี้ โดยแต่ละสาขาจะใช้งบลงทุนราว 10 ล้านบาท โดยเปิดให้บริการสาขาแรกไปแล้วที่สยาม พารากอน เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2556 ที่ผ่านมา 
 
นอกจากนี้ ก็จะมีแบรนด์น้องใหม่อย่าง "มารุกาเมะ เซเมง" ซึ่งอยู่ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท โนดุฟู้ดส์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัท โทริ ดอลล์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดนิคเคอิ และดำเนินธุรกิจ ร้านอุด้ง "มารุกาเมะ เซเมง" จากประเทศ ญี่ปุ่น กับกลุ่มบริษัทบูทิค ซึ่งดำเนินธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ ที่ขยายธุรกิจมาสู่กลุ่มธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม ในสัดส่วนการถือหุ้น 40:60 
 
สำหรับร้านมารุกาเมะ เซเมง ถือเป็นเชนร้านอุด้งอันดับ 1 ในประเทศญี่ปุ่น เพราะมีสาขามากกว่า 770 สาขาญี่ปุ่น และมีอัตราการเติบโตรวดเร็วที่สุด จากการเปิดให้บริการเฉลี่ย 120 สาขาต่อปี นับตั้งแต่ปี 2552 ปัจจุบันมีสาขาทั้งสิ้น 819 สาขาทั่วโลก 
 
นายทาคายามะ อาวาดะ ประธานบริษัท โทริดอลล์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิด เผยว่า ด้วยเล็งเห็นว่าตลาดเมืองไทยมีศักยภาพสำหรับธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่น จึง ได้ตัดสินใจร่วมลงทุนในบริษัท โนดุฟู้ดส์ จำกัด เนื่องจากมองว่าไทยเป็นตลาดที่สำคัญ เพราะคนไทยชื่นชอบและรู้จักวัฒนธรรมญี่ปุ่นเป็นอย่างดี และเพื่อให้การขยายสาขาร้านมารุกาเมะ เซเมงในเมืองไทยเป็นไปอย่างรวดเร็ว 
 
 
 
"การเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหาร ร้านมารุกาเมะ เซเมงในประเทศไทย ทำให้ เกิดผลดี นั่นคือ บริษัทสามารถถ่ายทอดเคล็ดลับความรู้ในการบริหารงานร้านให้แก่ผู้บริหารร้านให้ประสบความสำเร็จได้ ขณะเดียวกันลูกค้าก็จะได้สนุกไปกับประสบการณ์การทานอุด้งแบบต้นตำรับญี่ปุ่น ซึ่งทำเส้นอุด้งสดและต้มเส้นสด" 
 
ทั้งนี้ ได้เปิดดำเนินการร้านมารุกาเมะ เซเมง เมื่อปี 2555 ปัจจุบันเปิดให้บริการแล้วกว่า 9 สาขา และมีแผนจะเปิด เพิ่มในปีหน้าอีก 15 สาขา ตลอดจนคาดว่า ภายในเดือนมีนาคม 2558 จะเปิดได้ครบ 30 สาขา ซึ่งถือว่าเร็วจากเป้าหมายเดิม 1 ปี แต่เดิมวางแผนไว้ในเดือนมีนาคม 2559 
 
ขณะที่นายปรับชะรัน ซิงห์ ทักราล กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัทบูทิค กล่าวว่า การลงทุนในร้านอาหารมารุกาเมะ เซเมง ถือเป็นการขยายพอร์ตธุรกิจของกลุ่มบริษัทบูทิค นอกเหนือจากการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์มาสู่กลุ่มธุรกิจร้านอาหาร และเครื่องดื่ม 
 
ในส่วนแผนการขยายสาขา จะขยาย ควบคู่กันไประหว่างกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยปีหน้ามีแผนจะเปิดอีก 15 สาขา ใช้งบลงทุนกว่า 100 ล้านบาท ขนาดพื้นที่ 100-120 ตารางเมตร โดยแต่ละสาขาใช้งบลงทุน 10 ล้านบาทต่อสาขา ขณะที่เมนู จะเริ่มต้นที่ 69 บาท 
 
อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากการเปิดร้านอุด้งแล้ว บริษัทยังมีแผนจะเปิดตัวร้านอาหารญี่ปุ่นในคอนเซปต์อื่นในอนาคตอีกด้วย เพราะทางโทริดอลล์เองก็มีความสนใจเพิ่มขอบข่ายธุรกิจในไทยให้กว้างมากขึ้น กว่า การเป็นแค่ร้านอาหารอุด้งเท่านั้น

อ้างอิงจาก สยามธุรกิจ
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ชายสี่ คอร์ปอเรชั่น เป..
4,998
ชีสซี่ฟราย สแน็ค เปิดต..
4,022
เริ่มแล้ว! งานแฟรนไชส์..
2,896
แรงจริง! #แฟรนไชส์ ก๋ว..
1,617
พบบูธ “ก๋วยเตี๋ยวเรือป..
985
ธงไชยผัดไทย ร่วมกับ 7-..
981
ข่าว SMEsมาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด