นายพสุสันต์ วัฒนบุญญา รองประธานบริหาร บริษัท กุศมัยมอเตอร์ จำกัด ผู้รับผิดชอบตลาดระบบแฟรนไชส์ทั้งระบบ ให้กับผลิตภัณฑ์ในเครือ กุศมัย กรุ๊ป เปิดมิติใหม่ การทำตลาด รถ 3 ล้อปิ๊กอัพ ซูโมต้า เป็นเจ้าแรกของประเทศไทย แทนการทำตลาดแบบเดิม ผ่านตัวแทนจำหน่าย

โดยที่ผ่านมาตัวแทนจำหน่ายส่วนใหญ่ ไม่ได้ให้ความสนใจในการทำตลาดรถ 3 ล้อ อย่างจริงจัง เนื่องจากมีธุรกิจหลักอยู่แล้ว ทำให้การขยายตลาดเป็นไปอย่างช้า รวมถึงตัวแทนจำหน่ายบางท่านก็บวกกำไรเกินจากที่บริษัทฯกำหนด ทำให้มีผลต่อภาพพจน์โดยรวม จึงได้ปรับเปลี่ยนพัฒนาระบบการตลาดใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับระบบการตลาด และพฤติกรรมผู้บริโภคโดยรวม

 

" ปัจจุบัน แบรนด์ ซูโมต้า เป็นที่ยอมรับจากผู้บริโภค ในเรื่องรถ 3 ล้อ คุณภาพสูง ทั้งด้านรูปแบบ โครงสร้าง และความแข็งแรง ทนทานที่สุด ซึ่งมีความหลากหลายกว่า ทั้งรุ่นเล็ก กลาง และ รุ่นใหญ่สุด ที่สามารถบรรทุกน้ำหนักได้ถึง 2 ตัน ซึ่งคู่แข่งในตลาดไม่มี เรามีศักยภาพในการตอบโจทก์ลูกค้าได้ทุกข้อ เช่น บริการหลังการขาย การรับประกัน รวมถึงด้านอะไหล่ที่ครบครัน เป็นที่พึงพอใจของลูกค้า

ดังนั้น จึงตัดสินใจเปิดมิติใหม่ของวงการ ด้วยการทำตลาดรถ 3 ล้อ บรรทุกขนาดเล็ก ในระบบแฟรนไชส์ และเตรียมเปิดรับสมัครผู้สนใจลงทุนที่ต้องการทำตลาด รถ 3 ล้อ ซูโมต้า อย่างจริงจัง

โดยได้กำหนดรูปแบบการลงทุนระบบแฟรนไชส์ ไว้ 3 ระดับคือ 1. ระดับ ตำบล 2. ระดับอำเภอ และ 3. ระดับจังหวัด ขึ้นอยู่กับความพร้อมของงบประมาณ และความสามารถในการทำตลาดของผู้ลงทุน แต่ทางบริษัทฯได้ให้ความสำคัญและอภิสิทธิ์ในเบื้องต้นกับผู้ลงทุนในระดับจังหวัดมากที่สุด เพราะนอกจากจะได้รับแต่งตั้งเป็น แฟรนไชส์ซี่ ในระดับจังหวัดแล้ว จะได้รับสิทธิพิเศษ และผลประโยชน์ต่างๆ มากกว่า ระดับอำเภอ และตำบล ซึ่งจะได้สิทธิ์ในการทำตลาด และจัดจำหน่าย รถ 3 ล้อ ซูโมต้า แบบครอบคลุมทั้งจังหวัด โดยไม่มีคู่แข่งเลย และที่สำคัญที่สุด ยังสามารถเรียกเก็บค่าแฟรนไชส์ จากผู้ลงทุนในระดับอำเภอ และระดับตำบล ได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย โดยไม่ต้องแบ่งคืนให้ทางบริษัทฯ และไม่ต้องเสียค่า รอยัลตี้ ( ROYALTY FEES ) ซึ่งคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ถึงประมาณ 3 – 12 % จากยอดขายทุกเดือน "
 

 
 

ทั้งนี้บริษัทได้กำหนดค่าแฟรนไชส์สำหรับ แฟรนไชส์ซี่ ในระดับจังหวัดเป็นจำนวน 200,000 บาท ซึ่ง แฟรนไชส์ซี่ ในระดับจังหวัด ยังสามารถได้เก็บค่าแฟรนไชส์ จากการเปิดตลาดแฟรนไชส์ในระดับอำเภอ และตำบล ในจังหวัดของตัวเอง ในจำนวน 100,000 บาท ในระดับอำเภอ ซึ่งถ้าสามารถเปิดแฟรนไชส์ในระดับอำเภอ 3 รายขึ้นไป ก็จะมีกำไรถึง 100,000 บาททันที ยังไม่ได้รวมผลกำไร จากยอดการขายที่ไม่ต่ำกว่าคันละ 5,000 ถึง 20,000 บาท จึงนับว่าเป็นธุรกิจแฟรนไชส์ที่สามารถทำกำไรได้อย่างรวดเร็ว และมีระยะเวลาคืนทุนไม่ถึง 1 ปี

 

ส่วนรายละเอียดการลงทุนสำหรับแฟรนไชส์ซี่ในระดับต่างๆ แบ่งเป็นระดับดังนี้ ระดับตำบล เงินลงทุนประมาณ 500,000 บาท จะได้รถ 3 ล้อ ซูโมต้า รุ่นขายดี จำนวน 5 คัน ในระดับอำเภอ ลงทุนประมาณ 1,000,000 บาท จะได้รถจำนวน 10 คัน และในระดับจังหวัดเงินลงทุนประมาณ 2,000,000 บาท จะได้รถจำนวน 20 คัน โดย แฟรนไชส์ซี่ ทุกระดับจะได้รับการอบรมด้านการทำตลาดอย่างเข็มข้น ก่อนการเปิดโชว์รูม รวมถึงเทคนิคการทำตลาดอย่างต่อเนื่องหลังจากเปิดตัวไปแล้ว นอกจากนี้ บริษัทยังมีอุปกรณ์ และสื่อการขายต่างๆให้ เช่น ป้ายผ้า ตู้ไฟ โรลอัพ โบว์ชัวร์ และเสื้อพนักงาน เพื่อความพร้อมในการทำตลาด

 

ทางด้านระบบเงินผ่อน ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่บริษัทฯให้ความสำคัญอย่างมาก โดยกำลังดำเนินการเซ็นสัญญาเป็นพันธมิตรกับ บริษัท ศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ จำกัด ซึ่งมีสาขาอยู่ทั่วประเทศประมาณกว่า 600 แห่ง เพื่อให้บริการด้านเงินผ่อนกับ แฟรนไชส์ซี่ และทั้งที่เป็นลูกค้าโดยตรง หรือลูกค้าที่เป็น ซัพแฟรนไชส์ ของ แฟรนไชส์ซี่ ในทุกระดับ

 

 
 

สำหรับผู้สนใจท่านใดที่เล็งเห็นโอกาส และอนาคต อยากลงทุนทำธุรกิจแฟรนไชส์ รถ 3 ล้อ ซูโมต้า สามารถติดต่อเพื่อดูรถต้นแบบทุกรุ่นได้ที่ โชว์รูม ซูโมต้า ถนนพระราม 2 ซอยเทียนทะเล 26 หรือ

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.kusamaimotor.com โทรศัพท์ 02-416-5700 และ 089-178-6867

อ้างอิงจาก สยามธุรกิจ