ปูนนครหลวงโหมรุกขยายแพลนต์คอนกรีตในรูปแฟรนไชส์อีก 20 สาขา จากที่มีอยู่ 80 สาขา  มุ่งเจาะบิ๊กโปรเจ็กต์ทำเลเกาะแนวรถไฟ-รถไฟฟ้า และไฮสปีดเทรน เพื่อรองรับงานก่อสร้างและการขยายชุมชนเมือง เกาะติดบริษัทชั้นนำในวงการอสังหาฯและรับเหมาเกรดเอ พร้อมเตรียมดึงซับคอนแทร็กต์ด้านขนส่งโลจิสติกส์เพิ่มจากปัจจุบันที่มีอยู่แล้วเกือบ 20 ราย

 

นายมนตรี นิธิกุล รองประธานสายงานคอนกรีตผสมเสร็จและอะกรีเกต บริษัท นครหลวงคอนกรีต จำกัด เปิดเผยว่า ในปีหน้ามีแผนรุกขยายสาขาแพลนต์ปูนซีเมนต์ผสมเสร็จในรูปแฟรนไชส์อีก 20 สาขา เพื่อรองรับการเติบโตของภาคก่อสร้าง คาดว่าตั้งแต่ปลายปีนี้โครงการต่างๆภายใต้งบประมาณปี 2557 จะเริ่มทยอยเปิดประมูลและเริ่มก่อสร้าง

โดยที่ปัจจุบันบริษัทมีแพลนต์ปูนซีเมนต์ผสมเสร็จกว่า 170 สาขา แบ่งเป็นสาขาแฟรนไชส์ 80 สาขา และที่เหลือบริษัทลงทุนเอง กระจายอยู่ในโซนพื้นที่ภาคตะวันออกของประเทศไทย และพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล
 

 
 

"ปัจจุบันความต้องการปูนซีเมนต์ผสมเสร็จมากกว่าซัพพลาย การใช้คอนกรีตจึงมีปริมาณมากขึ้น ยอดขายต่อแพลนต์จึงสูงมากกว่าปกติ ปัจจุบันมีการเพิ่มจำนวนแพลนต์จากปี 2554 ประมาณ 15 สาขา ซึ่งจะอยู่ในเขตกรุงเทพฯ-ปริมณฑลประมาณ 50% อีก 25% จะอยู่ในโซนอีสเทิร์นซีบอร์ด และอีก 25% จะกระจายในต่างจังหวัด"

 

นายมนตรีกล่าวถึงแผนรุกตลาดว่า ยังคงเกาะแนวรถไฟ-รถไฟฟ้า และไฮสปีดเทรนทั้งโครงการด้านอสังหาริมทรัพย์ที่จะเกิดขึ้นตามมารูปแบบชุมชนเมืองโดยเฉพาะโดยรอบจุดก่อสร้างสถานีต่างๆ อีกทั้งยังสามารถรับงานด้านระบบรางที่อยู่ระหว่างก่อสร้างได้ไปจนถึงต้นปีหน้า ทั้งรถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วงบางซื่อ-บางใหญ่  สายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางแค/บางซื่อ-ท่าพระ สายสีเขียวช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ และสายสีแดงช่วงบางซื่อ-รังสิต ผ่านบริษัทผู้รับเหมาที่ชนะการประมูลแต่ละสัญญา ซึ่งที่ผ่านมาปูนนครหลวงตั้งเป้าในส่วนนี้ไว้ประมาณ 25-30%
 

 
 

พร้อมกันนี้ได้เร่งพัฒนาศักยภาพการผลิตบ่อทรายที่พระนครศรีอยุธยาและชลบุรี บ่อหินที่สุพรรณบุรีและสระบุรีให้มากขึ้น ขณะนี้บ่อหินที่สุพรรณบุรีมีกำลังการผลิตได้ 350 ตัน/ชม. จะเร่งเพิ่มกำลังการผลิตให้ได้อีก 150 ตัน/ชม.เนื่องจากศักยภาพการผลิตสามารถทำได้สูงถึง 500 ตัน/ชม.

นอกจากนั้นยังเตรียมขยายบ่อหินและทรายเพิ่มอีกในพื้นที่อ่างทองและราชบุรีในต้นปีหน้า เพราะคิดว่าในอนาคตจะแข่งขันสูงมากจึงเร่งจัดหาแหล่งวัตถุดิบรองรับเอาไว้ก่อนตั้งแต่วันนี้ มีทั้งจัดซื้อที่ดินเองและลงทุนซื้อแหล่งวัตถุดิบที่มีอยู่แล้ว ซึ่งที่ดินที่จัดซื้อไว้ยังมีอยู่อีกหลายแปลง

 

ปัจจุบันบริษัทมียอดรับรู้รายได้ในอนาคตอยู่ประมาณ 30% โดยตั้งเป้าคอนกรีตผสมเสร็จปีนี้ไว้ 3.5 ล้านลูกบาศก์เมตร (คิว) ส่วนปีหน้าจะเพิ่มอีกเพราะแนวโน้มยังเติบโตได้ อีกทั้งยังมีแผนเจาะตลาดในต้นปีหน้าในเซ็กเมนต์อื่นๆ เช่น รุกขยายช่องทางจำหน่ายซีเมนต์ผสมเสร็จสู่วงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อนำไปผลิตวัสดุสำเร็จรูปซึ่งที่ผ่านมาป้อนให้กับกลุ่มแสนสิริและกลุ่มพฤกษามาแล้วหลายโครงการ
 

 
 

"ปูนนครหลวงได้ตั้งโรงงานผลิตปูนป้อนให้กับ 2 บริษัทดังกล่าว ซึ่งประเภทนี้เติบโตประมาณ 6% โดยภาพรวมในปี 2557 บริษัทยังมั่นใจว่าตลาดยังเติบโตต่อเนื่อง แข่งขันไม่รุนแรง แต่สิ่งที่เป็นกังวลในปีหน้าคือปัญหาด้านแรงงาน โดยเฉพาะคนขับรถ ซึ่งจะเตรียมงบลงทุนเทรนนิ่งในส่วนนี้อีกประมาณ 4 ล้านบาท นอกจากนั้นยังเตรียมขยายซับคอนแทร็กต์ด้านรถขนส่งปูนซีเมนต์และวัสดุป้อนให้กับบริษัทมากขึ้นจากที่ปัจจุบันมีอยู่แล้วเกือบ 20 ราย"

อ้างอิงจาก ฐานเศรษฐกิจ