นายฤทธิ์ คิ้วคชา กรรมการผู้จัดการ บริษัท คชา บราเธอร์ส จำกัด ผู้ทำตลาดไอศกรีมและของหวานสไตล์ญี่ปุ่น ภายใต้แบรนด์ สฟรี, พาร์เฟริโอ, สฟรี เจอาร์, อัลดีส์ คอฟฟี่ไลท์ และเกียว โรล เอ็น ซึ่งเป็นแบรนด์ที่พัฒนาขึ้นเอง และเกี๊ยวซ่าแบรนด์เทราโอกะ ที่ซื้อแฟรนไชส์จากญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทได้ปรับลดเป้าอัตราการเติบโตของธุรกิจ แบรนด์สฟรีซึ่งเป็นแบรนด์หลักไว้เหลือเพียงตัวเลขหลักเดียวจากเดิมที่คาดว่าจะเติบ โต 10% เพราะช่วง 9 เดือนแรกปีนี้ธุรกิจได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจจึงต้องปรับเป้าหมายใหม่

 

อย่างไรก็ตามบริษัทฯยังเชื่อว่่าจากการทำตลาดเต็มที่จากนี้และการขยายสาขาใหม่ๆทุกแบรนด์รวมกันในปีนี้ 12 สาขา จะยังคงทำให้ภาพรวมของบริษัทฯเติบโตได้ 30% ในปีนี้ จากรายได้รวมปีที่แล้ว 112 ล้านบาท ส่วนปีหน้าก็คาดว่าจะเติบโตอีกเช่นกัน เพราะนอกจากแบรนด์เก่าแล้วบริษัทฯก็มีการวางแผนที่จะเพิ่มแบรนด์ใหม่อีกปีละ 1-2 แบรนด์
 

 
 

โดยเน้นการซื้อแบรนด์ที่มีชื่อเสียงอยู่แล้วในต่างประเทศเข้ามาทำธุรกิจ และการพัฒนาขึ้นมาเอง ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีสาขาทุกแบรนด์รวมทั้งหมด 34 สาขา และแบรนด์ล่าสุดคือ เทราโอกะ เกี๊ยวซ่า จะเป็นสาขาที่ 35

 

สำหรับแบรนด์ที่มีแนวโน้มเติบโตได้ดีคือ เกียวโรลเอ็น ที่เพิ่งพัฒนาและเปิดบริการมาได้ครบปีแล้วปัจจุบันมี 3 สาขาคือที่ เอกมัย สยามพารากอน และดิเอ็มโพเรียม และวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ จะเปิดอีก 1 สาขาที่เซ็นทรัลลาดพร้าว ใช้งบประมาณลงทุน 5 ล้านบาท มีพื้นที่ประมาณ 70 ตารางเมตร จำนวน 40 ที่นั่ง ซึ่งสาขานี้จะเป็นสาขา 2 ที่เปิดในลักษณะของช็อปต่อจากที่เอกมัย ส่วนสาขาสยามพารากอนและดิเอ็มโพเรี่ยมจะเป็นลักษณะของคีออส ขณะที่สาขาสยามสแควร์จะเลื่อนเปิดให้บริการออกไปเป็นช่วงต้นปีหน้า

 

โดยวางเป้าหมายที่จะเปิดร้านเกียวโรลเอ็นให้ครบ 15 สาขาภายในอีก 2 ปีจากนี้ ซึ่งปีหน้าวางแผนเปิดอีก 4 สาขา จะเน้นเปิดในทำเลที่เป็นลักชัวรี่และมีนักท่องเที่ยวอยู่ เป็นจำนวนมากรวมทั้งการขยายไปตามศูนย์การค้าใหม่ที่จะเปิดตัวด้วย แต่ละสาขาจะมีพื้นที่เฉลี่ย 70-100 ตารางเมตร ซึ่งจะส่งผลให้เกียวโรลเอ็นสามารถเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ทำรายได้เทียบเท่า กับแบรนด์สฟรี ที่เป็นแบรนด์หลักในเวลานี้และมีความแข็งแกร่งพอที่จะขยายธุรกิจต่อไปยังต่างประเทศได้

โดยจุดเด่นของเกียวโรลเอ็นคือรูปแบบและรสชาติของอาหารที่เป็นรสชาติดั้งเดิมฉบับเกียวโต ซึ่งบริษัทฯเป็นผู้พัฒนาและออกแบบร่วมกับพาร์ทเนอร์ชาวญี่ปุ่นมานานกว่า 2 ปี
 

 
 

ทั้งนี้บริษัทฯได้ทำการศึกษาการขยายธุรกิจไปต่างประเทศไว้บ้างแล้ว โดยจะใช้แบรนด์สฟรีและแบรนด์เกียวโรลเอ็นเป็นต้นแบบในการขยายตลาดต่างประเทศซึ้งตลาดที่น่าสนใจก็เช่น สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และมาเลเซีย โดยจะเป็นการเข้าไปดำเนินธุรกิจในรูปแบบจอยท์เวนเจอร์ทั้งหมด

อ้างอิงจาก ผู้จัดการออนไลน์