นายโสภณ ผลประสิทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ กสอ. ได้นำคณะผู้ประกอบการเอสเอ็มอี นำสินค้าเอสเอ็มอีของประเทศไทย ไปร่วมงาน ไทย-จีนอาเซียนเอ็กซ์โป ครั้งที่ 10 ประจำปีนี้ ที่ เมืองผู้ประกอบการเอสเอ็มอี

โดยมีเป้าหมายในการเสริมสร้างศักยภาพและยกระดับธุรกิจให้เข้มแข็ง ในการสร้างตราสินค้าและกลยุทธ์ทางการตลาด เพื่อให้เกิดความได้เปรียบทางการแข่งขันในเสริมสร้างศักยภาพและยกระดับธุรกิจ ระหว่างอาเซียนและจีน ปรากฏว่าได้รับความสนใจจากประชาชนและผู้ประกอบการเอสเอ็มอีของจีน ที่ได้มาร่วมกิจกรรมจับคู่ทางธุรกิจกับเอสเอ็มอีไทย ซึ่งจะทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนวัตถุดิบระหว่างกันหรือการเข้ามาลงทุนตั้ง กิจการธุรกิจเอสเอ็มอีในประเทศไทยในอนาคต 
 

 
 

รวมทั้งการเซ็นสัญญาเป็นพันธมิตรซื้อขายสินค้าเพื่อนำไปจำหน่ายที่จีนและนำ มาจำหน่ายที่ไทย ร่วมกันอีกหลายราย นายโสภณ กล่าวว่า เหตุผลที่เอสเอ็มอีของไทย ได้รับความไว้วางจากในการจับคู่ธุรกิจกับเอสเอ็มอีในครั้งนี้ เป็นผลมาจาก กสอ.ได้เข้าไปสนับสนุนให้เอสเอ็มอีไทย ที่กสอ.นำไปเปิดตลาดในจีนในครั้งนี้ ภายใต้หลักสูตร 3 กิจกรรมหลัก

อาทิ การจัดอบรมสัมมนาด้านสร้างกลยุทธ์เพื่อเจาะหาตลาดเป้าหมาย ในกลุ่มอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร บรรจุภัณฑ์โลหะ นวัตศิลป์บางกอก และสิ่งทอ ในหัวข้อต่าง ๆ อาทิ การเตรียมพร้อมเข้าสู่ตลาดต่างประเทศ แนวโน้มพฤติกรรมผู้บริโภคในตลาดต่างประเทศ และการเจรจาต่อรองและเทคนิคการเจรจาการค้าระหว่างประเทศ, การให้คำปรึกษาและแนะนำเชิงลึก เพื่อสร้างกลยุทธ์ให้กับผลิตภัณฑ์
 

 
 

นางอัจฉรา ทิพยรัต เจ้าของผลิตภัณฑ์อัจฉราไข่วิจิตร ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์หัตถกรรมจากเปลือกไข่ หนึ่งในผู้ประกอบการที่ได้เข้ารับการสนับสนุนจากโครงการ และได้ นำสินค้าไปจัดแสดงในงานดังกล่าว กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์ของตนทำจากเปลือกไข่ทุกชนิด เช่น ไข่ไก่ ไข่เป็ด ไข่นกกระทา ไข่ห่าน และไข่นกอีมู เป็นต้น

ซึ่งเป็นงานฝีมือที่ต้องใช้ความละเอียดและประณีตสูง เหมาะสำหรับซื้อเป็นของฝาก ของขวัญและของที่ระลึก และตนได้เข้าร่วมกิจกรรมกับ กสอ. ตั้งแต่เริ่มทำธุรกิจ และได้นำความรู้ที่ได้จากการเข้าร่วมอบรมในกิจกรรมต่างๆ มาใช้ในการพัฒนาธุรกิจ ทำให้ขณะนี้มีตลาดส่งออกไปยังสหรัฐ สหภาพยุโรป ญี่ปุ่น และเมื่อมาเปิดตลาดในจีนครั้งนี้ ถือว่าประสบความสำเร็จ มียอดจำหน่ายในระดับหนึ่งและมีการจับคู่ทางธุรกิจอีกด้วย

อ้างอิงจาก ไทยรัฐ