กว่า 30 ปีแล้วที่ "เกรย์ฮาวด์" แบรนด์แฟชั่นจากการรังสรรค์ของ "ภาณุ อิงคะวัต" อดีตนักโฆษณาและนักครีเอทีฟแถวหน้าของเมืองไทย กระทั่งขยายไลน์ธุรกิจมาสู่ธุรกิจอาหารภายใต้แบรนด์ "เกรย์ฮาวด์ คาเฟ่" หรือ Greyhound Cafe เมื่อ 10 กว่าปีก่อน พร้อมด้วย "พรศิริ โรจน์เมธา" หุ้นส่วนสำคัญที่คลุกคลีและผ่านประสบการณ์จากวงการโฆษณามาอย่างโชกโชนไม่แพ้กัน

 

ถึงวันนี้สถาบันการเงินหลายแห่ง รวมถึงกลุ่มผู้ประกอบการร้านอาหารรายใหญ่ต่างจับตามอง กระทั่งมีข่าวสะพัดหนาหูออกมาว่ามีผู้ประกอบการรายใหญ่เสนอราคาเพื่อขอซื้อธุรกิจและแบรนด์ "เกรย์ฮาวด์" ทั้งในส่วนของร้านอาหารและร้านแฟชั่น ด้วยมูลค่าสูงลิบลิ่วถึง 2,000 ล้านบาทเลยทีเดียว
 

 

"ประชาชาติธุรกิจ" ได้สัมภาษณ์พิเศษ "พรศิริ โรจน์เมธา" กรรมการผู้จัดการ บริษัท เกรย์ฮาวด์ คาเฟ่ จำกัด ถึงแนวทางการทำตลาด การขยายสาขาทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงกระแสข่าวขายแบรนด์ "เกรย์ฮาวด์" ว่า กระแสข่าวที่ออกมาว่าจะขายแบรนด์มูลค่าสูงถึง 2,000 ล้านบาทนั้นไม่เป็นความจริง เพราะทุกวันนี้ทีมงานและผู้บริหารทั้งหมดยังนั่งทำงานกันอย่างหนัก เพื่อให้เป็นไปตามแผนการเปิดสาขาใหม่ที่วางไว้
 

 

แต่ยอมรับว่าที่ผ่านมา "เกรย์ฮาวด์" ได้รับการทาบทามจากสถาบันการเงินหลายแห่งที่เข้ามาเจรจาและชี้แนะแนวทางการสำหรับการเติบโตในอนาคต ทั้งรูปแบบการหาพาร์ตเนอร์ที่สนใจร่วมลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศมาให้ รวมถึงแนะนำเรื่องการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อระดมทุนมาลงทุนขยายสาขาในอนาคต

 

"เขาคงเห็นว่าตอนนี้เราขยายงานเยอะทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ จึงอยากเข้ามาแนะแนวทางให้ ซึ่งส่วนตัวเองและทีมผู้บริหารก็ได้ศึกษาเพื่อหาแนวทางในการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคตเช่นกัน แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงขั้นตอนของการตัดสินใจว่าเราจะมีพาร์ตเนอร์ หรือเราจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ หรือเราจะใช้แนวทางอื่น ๆ อย่างไร"
 

 

"พรศิริ" บอกว่า ปัจจุบันบริษัทมีรายได้และกำไรเพียงพอสำหรับการขายการลงทุนด้วยตัวเองอยู่ โดยมีแผนจะเปิดสาขาในประเทศเพิ่มขึ้นอีก 1 สาขาในช่วงปลายปีนี้บนทำเลใจกลางเมือง จากปัจจุบันที่เปิดให้บริการแล้วจำนวน 9 สาขา 

 

ส่วนแผนการขยายสาขาในต่างประเทศนั้นมีแผนเปิดเพิ่มอีก 3 แห่ง ประกอบด้วย เกาะฮ่องกง 1 สาขา และอีก 2 สาขาในประเทศจีนในเดือนสิงหาคมนี้ จากปัจจุบันที่เปิดสาขาต่างประเทศที่ฮ่องกงไปแล้ว 3 สาขา

 

"ในต่างประเทศนั้นเราขยายธุรกิจในรูปแบบของแฟรนไชส์ในคอนเซ็ปต์ "บางกอก คาเฟ่" หรือร้านอาหารที่มีความทันสมัย ซึ่งที่ผ่านมาเราได้ขายแฟรนไชส์ให้แก่กายา กรุ๊ป แมเนจเมนท์ ผู้บริหารธุรกิจร้านอาหารกว่า 10 แบรนด์ทั้งบนเกาะฮ่องกงและจีน ซึ่งเรามองว่าตลาดจีนเป็นอะไรที่ท้าทายมากทีเดียว ขณะเดียวกัน เราก็มองประเทศอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน" 
 

 

ไม่เพียงเท่านั้นในปีนี้ "เกรย์ฮาวด์ คาเฟ่" ยังได้ลงทุนอีกหลายสิบล้านบาททำครัวกลางและอาคารสำนักงาน บริเวณซอยสุขุมวิท 53 เพื่อรองรับการขยายตัวระบบแฟรนไชส์ดังกล่าว ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในอีก 2 เดือนข้างหน้านี้ 

 

และมั่นใจว่าทันทีที่ครัวกลางแห่งใหม่นี้เสร็จสมบูรณ์พร้อมใช้งานจะทำให้ระบบโลจิสติกส์และขนส่งสินค้าคล่องตัวขึ้น และมีศักยภาพในการสนับสนุนระบบแฟรนไชส์ในต่างประเทศได้แข็งแรงขึ้นและเร็วกว่าที่เป็นอยู่แน่นอน

 

กรรมการผู้จัดการ บริษัท เกรย์ฮาวด์ คาเฟ่ ยังบอกด้วยว่า ในอนาคต "เกรย์ฮาวด์" มีแผนที่จะให้น้ำหนักกับการขายแฟรนไชส์และขยายตลาดต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมาแบรนด์เกรย์ฮาวด์แจ้งเกิดและแข็งแรงและอยู่ในตลาดที่ศักยภาพในระดับหนึ่งแล้ว จึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะเปิดตลาดใหม่ ๆ ต่อไป

 

 

สำหรับตลาดในประเทศไทยนั้นจะยังคงตั้งเป้าขยายสาขาเฉลี่ยปีละ 1 สาขาเหมือนเดิม ส่วนในแง่การลงทุนขยายสาขาและการเลือกทำเลนั้น ปัจจุบันจะค่อนข้างหลากหลายขึ้น เนื่องจากมีแบรนด์ใหม่ ๆ ภายใต้อัมเบลล่าแบรนด์ของ "เกรย์ฮาวด์" เพิ่มขึ้นถึง 4 แบรนด์ คือ แบรนด์ anather hound Cafe, Grayhound Cafe ซึ่งเป็นร้านอาหาร ตั้งอยู่ในโลเกชั่นใจกลางเมือง แบรนด์ Sweet Hound เป็นร้านขนมหวาน และแบรนด์ Ground Hey by Grayhound Cafe ร้านอาหารสไตล์ฟิวชั่นฟู้ดการมีแบรนด์หลากหลายนี้เอง ทำให้แบรนด์ของ "เกรย์ฮาวด์" มีศักยภาพในการเข้าถึงกลุ่มผู้โภคได้มากและหลากหลายขึ้น 

 

อย่างไรก็ตาม เป้าหมายหลักของ "เกรย์ฮาวด์" ไม่ได้อยู่ที่ว่าจะต้องมีเป็น 100 สาขา หรือเดินไปไหนก็เจอ แต่จะเลือกเฉพาะทำเลที่มีศักยภาพและมีกลุ่มเป้าหมายชัดเจนเท่านั้น

อ้างอิงจาก ประชาชาติธุรกิจ