3.1K
24 กรกฎาคม 2556
หอการค้าไทยแนะรัฐบาลเร่งหนุนเอกชนลงทุน

 
 
หอการค้าไทยแนะรัฐบาลยังไม่จำเป็นต้องออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ชี้เป็นการบิดเบือนกลไก อย่าเพิ่มหนี้ให้ประชาชน ควรเร่งช่วยเอสเอ็มอีให้เข้าถึงแหล่งทุนเพิ่มความคล่องตัวในการทำธุรกิจครึ่งปีหลังที่กำลังย่ำแย่

ด้านอดีตขุนคลัง “ธีระชัย” แนะรัฐบาลผลักดันเอกชนลงทุน หาช่องทางเพิ่มประสิทธิภาพของประเทศ สร้างความยั่งยืนให้ระบบเศรษฐกิจ ดีกว่าแจกเงินผ่านนโยบายประชานิยม
 
นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานกิตติมศักดิ์สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยกล่าวถึงภาพรวมเศรษฐกิจไทยช่วงครึ่งปีหลังว่าจะชะลอตัวลงเล็กน้อยเนื่องจากประชาชนลดการใช้จ่ายลง โดยเศรษฐกิจจะเติบโตเฉลี่ย 4% หรือต่ำกว่าเล็กน้อยเพราะโดยภาพรวมแล้วประเทศไทยยังมีอัตราการว่างงานต่ำ ภาคธุรกิจประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานฝีมือนอกจากนี้มองว่าภาคการส่งออกยังชะลอตัวลง เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกยังไม่ดี
 
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลยังไม่จำเป็นต้องออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใดๆ เพราะจะทำให้เกิดการบิดเบือนกลไกเศรษฐกิจของประเทศประกอบกับในช่วงที่ผ่านมาหนี้ครัวเรือนมีอัตราสูงขึ้น รัฐบาลจึงไม่ควรเพิ่มหนี้ให้กับประชาชนอีก แต่ควรให้เวลาแก่ประชาชนในการชำระหนี้มากกว่า ส่วนการดูแลค่าครองชีพที่รัฐบาลอยู่ระหว่างดำเนินการในขณะนี้ควรปล่อยให้ราคาสินค้าเป็นไปตามกลไกตลาด แต่ควรช่วยประชาชนเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อยให้มีรายได้เหมาะสมกับค่าครองชีพที่สูงขึ้นแต่ไม่ควรเป็นการให้เปล่า
 
 
 
ขณะที่ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือเอสเอ็มอี รัฐบาลจำเป็นต้องให้การสนับสนุนให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายช่วยให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างคล่องตัวมากขึ้นท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงในครึ่งปีหลังปีนี้
  
ส่วนโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมวงเงิน 2 ล้านล้านบาทนั้นจะยังไม่มีผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงระยะเวลาอันสั้นนี้ แต่จะส่งผลดีต่อศักยภาพในการแข่งขันของเศรษฐกิจไทยในอนาคต ดังนั้น สิ่งที่รัฐบาลควรทำคือเน้นดูแลเสถียรภาพเศรษฐกิจให้สามารถเดินหน้าต่อไปได้จะเหมาะสมกว่าการเร่งโครงการลงทุนนี้
 
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรมว.คลัง แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวผ่านเว็บไซต์สังคมออนไลน์ “เฟซบุ๊ค” โดยมองว่า การที่เศรษฐกิจไทยยังแผ่ว ทั้งที่รัฐบาลใช้เงินกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นจำนวนมากเป็นเพราะนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลผ่านประชานิยม ช่วยเพียงกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น แต่ไม่ทำให้เศรษฐกิจเติบโตต่อเนื่องและยั่งยืน เห็นได้ว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ จีดีพี ของปี 2555 ขยายตัวสูงแต่เมื่อมาถึงปีนี้เศรษฐกิจกลับเริ่มชะลอตัวลง
 
“พูดง่ายๆ หากรัฐบาลใช้วิธีแจกเงินแก่ประชาชนโดยเน้นการอุปโภคบริโภค ทำให้เศรษฐกิจปัจจุบันโตเร็วขึ้นตัวเลขจีดีพี สูงขึ้น แต่ผลดีมันจะเกิดเพียงสั้นๆ การกระตุ้นผ่านนโยบายประชานิยม ทำให้เกิดผลเร็ว แต่ไม่ต่อเนื่องเพราะเมื่อคนที่ได้เงินนำไปใช้กินใช้เที่ยว เมื่อหมดเงินก็จะหมดกำลังซื้อเศรษฐกิจก็จะกลับเหงาหงอย” นายธีระชัย ระบุ
 
นายธีระชัยกล่าวอีกว่า หากรัฐบาลเน้นสองอย่าง คือ กระตุ้นให้เอกชนลงทุนมากขึ้น และหาทางเพิ่มประสิทธิภาพของประเทศ จะเกิดผลดีต่อเนื่องเป็นระยะยาว เพียงแต่การใช้จ่ายแบบนี้ รัฐบาลต้องอดทน เพราะผลที่จะเกิดต่อตัวเลขจีดีพีจะล่าช้า อาจจะไม่เป็นที่ถูกใจของคนในพรรค แต่หากทำได้จะเกิดผลดีต่อประเทศมากมายมหาศาล
 
นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เศรษฐกิจขยายตัวน้อยกว่าที่ควรเนื่องจากงบประมาณของรัฐบาลที่ใช้ในนโยบายประชานิยมเช่น โครงการรับจำนำข้าว ไม่ได้ลงไปถึงมือชาวนาโดยตรง แต่กลับตกหล่นไปเข้ามือเจ้าของโรงสี หรือนักการเมืองท้องถิ่น ทำให้เงินไม่สามารถเข้าไปขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจได้เต็มที่
 
 
 
นายชินวุฒิ เตชานุวัตร์ นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินว่าการส่งออกของไทยในช่วง 5 เดือนแรกของปีขยายตัวเพียง 1.9% ปัจจัยหลักคือ การส่งออกไปยังประเทศจีนหดตัว ขณะที่รถยนต์ส่วนใหญ่ภายใต้นโยบายรถคันแรกได้ส่งมอบไปแล้วในครึ่งปีแรก รวมถึงความผันผวนของราคาสินทรัพย์จากแนวโน้มเงินทุนไหลออก และการลดราคาจำนำในการรับจำนำข้าวของภาครัฐส่งผลให้กำลังซื้อภาคครัวเรือนลดลง ปีนี้ยังประเมินเศรษฐกิจไทยเติบโตอยู่ในกรอบ 4.5-5%

อ้างอิงจาก แนวหน้า
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
แฟรนไชส์ P.P.TYRE ร่วม..
1,724
แฟรนไชส์ “ไจแอ้นลูกชิ้..
1,496
“โฮมแคร์ภิบาล” จัด Ope..
1,471
ชีสซี่ฟราย สแน็ค เปิด ..
1,158
เรียนสร้างแฟรนไชส์ ในค..
904
ธงไชยผัดไทย เปิดโครงกา..
865
ข่าว SMEsมาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด