นายปีเตอร์ ทวีผลเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แด๊ดดี้ โด (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจร้านโดนัทแบรนด์แด๊ดดี้ โด กล่าวว่า นโยบายบริษัทต้องการพัฒนาแบรนด์ใหม่ ๆ ออกมา จากปัจจุบันมี "แด๊ดดี้ โด" และ "เลมอน ฮับ" ที่เพิ่งเปิดตัวเข้ามาในตลาด เมื่อปลายปีแล้ว มีเป้าหมายก้าวสู่การเป็น "ฟู้ด คอมพานี" (Food Company) ที่มีบิสซิเนสโมเดลเหมือน "ไมเนอร์ กรุ๊ป" ซึ่งมีเชนร้านอาหารในเครือจำนวนมาก แต่บริษัทจะเน้นพัฒนาแบรนด์ขึ้นเอง
 

 
 

ทั้งนี้จะเริ่มเห็นแบรนด์ใหม่ ๆ ออกมาในไตรมาสแรกปีหน้า มองว่าการมีแบรนด์จำนวนมาก จะช่วยเพิ่มอำนาจการต่อรองกับซัพพลายเออร์ ในแง่ของการสั่งซื้อวัตถุดิบเป็นวอลุ่มใหญ่ รวมถึงเจ้าของพื้นที่ห้าง ทำให้การบริหารจัดการต้นทุนและการทำงานมีความคล่องตัวยิ่งขึ้น และสร้างการเติบโตให้กับบริษัท 

 

"อนาคตอาจมีเครื่องดื่ม อาหารคาวและหวาน เป็นบิสซิเนสโมเดลเดียวกับไมเนอร์ ไตรมาสแรกของปี 2557 น่าจะเริ่มเห็นการเปิดตัวแบรนด์ใหม่ ๆ ที่เป็นร้านอาหารกึ่งฟาสต์ฟู้ด" 

 

สำหรับแผนลงทุนจากนี้ บริษัทเตรียมงบฯ 7 ล้านบาท เปิดร้านแด๊ดดี้ โด อีก 2-3 สาขา และร้านเลมอนฮับอีก 1-2 สาขา 
 

 
 

ส่วนแฟรนไชส์แด๊ดดี้โดจะเปิดอีก 5 สาขา สิ้นปีจบที่ 40 สาขาอนาคตตั้งเป้าสัดส่วนร้านที่ลงทุนเองและแฟรนไชส์อยู่ที่ 50:50 ส่วนในต่างประเทศ อยู่ระหว่างเจรจากับนักลงทุนในสิงคโปร์ ในลักษณะของมาสเตอร์ แฟรนไชส์ จะเห็นความชัดเจนช่วงต้นปี 2557 

 

นายปีเตอร์ กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจโดนัทมูลค่า 2,500 ล้านบาท มีการแข่งขันรุนแรง ในแง่โปรโมชั่นแคมเปญ ทำให้บริษัทต้องปรับแผนในการจัดแคมเปญทุกเดือน อาทิ ซื้อ 6 แถม 6 เป็นครั้งแรก ทั้งนี้เพื่อให้แข่งขันกับคู่แข่งในตลาด บริษัทมีแผนที่จะเพิ่มวาไรตี้ของสินค้า จากหลัก ๆ ก็คือโดนัท และยังมีกลุ่มพาย เครื่องดื่ม อยู่ระหว่างการพัฒนาสินค้าใหม่ ๆ ออกมา ในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ เพื่อสร้างจุดต่างจากร้านโดนัทอื่น ๆ ในตลาด 
 

 
 

"โดนัทเป็นธุรกิจที่ต้องกระตุ้นให้เกิดการซื้อต่อครั้งเป็นจำนวนมาก จึงต้องทำโปรโมชั่นต่อเนื่อง ตอนนี้ยังเริ่มทดลองกลุ่มสินค้าใหม่ๆ อยากขายอย่างอื่นด้วย แด๊ดดี้ โด โดก็คือแป้ง ในอนาคตก็จะไปสู่ร้านเบเกอรี่และอื่นๆ เป็นไพ่ที่เก็บไว้ เพราะตอนนี้คู่แข่งทุกคนแข่งโดนัทอย่างเดียว" นายปีเตอร์กล่าวทิ้งท้าย

อ้างอิงจาก ประชาชาติธุรกิจ