ไพศาล อ่าวสถาพร รองกรรมการผู้จัดการ สาย งานธุรกิจอาหาร บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ด้วย "ชาบูชิ" ถือเป็น 1 ในแบรนด์ที่มีการ จัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง และต้องการตอกย้ำความเป็นผู้นำชาบู สุกี้หม้อไฟสไตล์ญี่ปุ่น

จึงได้สานต่อแคมเปญ "มหกรรมการแข่งกินชาบูชิ" "ชาบูลิมปิก 2013" ซึ่งถือเป็นปีที่ 2 เพื่อ กระตุ้นผู้บริโภคในช่วงครึ่งปีหลัง โดยชูกลยุทธ์ความเป็นบุฟเฟ่ต์วาไรตี้ เนื่องจากปีที่แล้วได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี มีผู้เข้า ร่วมแข่งขันกว่า 1,000 คนทั่วประเทศ
 

 

แต่สำหรับปีนี้จะแตกต่างจากปีที่แล้ว คือ จะมีทั้งแข่งแบบเดี่ยว แบบคู่ และแบบทีม 4 คน ซึ่งที่ผ่านมาจะมีเฉพาะแบบเดี่ยวเท่านั้น เนื่องจากเห็น ว่ากลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ของชาบูชิมักจะมาเป็นแก๊ง กินเป็นก๊วน และเพื่อสร้างการรับรู้และกระตุ้นการมีส่วนร่วมของผู้บริโภค จึงได้จัดทำภาพยนตร์โฆษณา ภายใต้แนวคิด "พวกเรานักกินพุงกล้าหาญ เชี่ยวชาญบุฟเฟ่ต์ไม่ย่นย่อ" ภายใต้งบ 20 ล้านบาท 

 

ทั้งนี้ ชาบูชิ ยังถือเป็นดาวเด่นของกลุ่มอาหาร ตามมาด้วยโออิชิ บุฟ เฟ่ต์ และโออิชิ ราเมน นอกจากนี้ กำลังอยู่ในระหว่างการปั้นแบรนด์นิกุยะ ซึ่งเป็นแบรนด์บุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่น และคาคาชิ ร้านอาหารบริการด่วนสไตล์ญี่ปุ่น โดยคาดว่าภายใน 2 ปีนับจากนี้สาขาของนิกุยะจะเพิ่มเป็น 50 สาขา จากปัจจุบัน 6 สาขา และจะเพิ่มเป็น 10 สาขาภายในสิ้นปีนี้ 
 

 
 

"มองว่าเศรษฐกิจไม่น่าจะดี แต่เซ็กเมนต์อาหารถือว่าไปได้ดีอยู่ เพราะ มองว่าเป็นเซ็กเมนต์หลังๆ ที่คนจะประหยัด โดย 6 เดือนที่ผ่านมากลุ่มบุฟ เฟ่ต์ของเราเฉพาะสาขาเดิมเติบโต 10% ซึ่งชาบูชิเป็นแบรนด์ที่เติบโตสูงสุด 20% นั่นจึงเป็นสาเหตุให้เราต้องตอก-ย้ำความเป็นผู้นำชาบู ด้วยการจัดชาบูลิมปิก เป็นการทำ Brand Engagement สร้างมูลค่าให้กับแบรนด์มากขึ้น ถือเป็นการทำกิจกรรมร่วมกับผู้บริโภค" 

 

ดังนั้น เพื่อขยายกลุ่มเป้าหมายให้กว้างขึ้น ทำให้ในช่วงครึ่งปีหลังจะขยายสาขาไปยังซูเปอร์เซ็นเตอร์ และ ไฮเปอร์มาร์เก็ตอีก 15 สาขา จากปัจจุบันมี 73 สาขา ทำให้สิ้นปีนี้จะมีทั้งหมด 88 สาขา เนื่องจากมีแผนจะขยายสาขาชาบูชิประมาณ 20 สาขาต่อปี แต่ถ้าบางปีห้างเปิดเยอะ ก็อาจจะเปิดได้มากกว่า 20 สาขา เพราะมองว่าจะสามารถเปิดชาบูชิได้ครบ 400 สาขาภายใน 5-6 ปี โดยจะใช้งบลง ทุนราว 18-22 ล้านบาทต่อสาขา ขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่ 

 

ปัจจุบัน ไทยจัดเป็นอันดับ 5 ของโลก ที่มีจำนวนร้านอาหารญี่ปุ่นมาก ทำให้ญี่ปุ่นอยากมาลงทุนด้วย โดยตลาดร้านอาหารญี่ปุ่น มีมูลค่าประมาณ 22,000 ล้านบาท เติบโต 15% โดย 80% เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นในห้างสรรพสินค้า ซึ่งร้านอาหารในเครือโออิชิมีทั้งสิ้น 6 แบรนด์ คือ โออิชิ บุฟเฟ่ต์, ชาบูชิ, โออิชิ ราเมน, นิกุยะ, คาคาชิ และคะโซคุเต 
 

 
 

นอกจากนี้ มีแผนจะขยายธุรกิจอาหารไปยังตลาดอาเซียน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษารูปแบบ อาจจะเป็นการขายแฟรนไชส์ หรือการร่วมทุนกับนักลงทุนท้องถิ่น โดยแบรนด์ที่จะเข้าไปลงทุน คือ นิกุยะ และชาบูชิ คาดว่าเร็วที่สุดน่าจะเปิดได้ประมาณไตรมาสแรกของปี 2557 โดยนำร่องที่เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า เนื่องจากยังไม่มีแบรนด์ใหญ่ๆ มากนัก มีเพียง ฟูจิที่เข้าไปเปิด 1 สาขาเท่านั้น 

 

ทั้งนี้ จะมีทั้งเปิดในห้าง และสแตนด์อโลน เพราะพาร์ตเนอร์ของเราที่เป็นคนท้องถิ่นจะมีพื้นที่ในห้างสรรพสินค้า ตอนนี้กำลังคุยอยู่ 2-3 ราย อีกอย่างที่เลือกเปิดที่พม่าก่อน เพราะการเติบโตของพม่าดีที่สุด เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ทั้งจำนวนประชากร และกำลังซื้อ เช่น ลาว เขมร โดยตั้งเป้า 5 สาขาในย่างกุ้ง ใช้งบลงทุนราว 10 ล้านบาทต่อสาขา

อ้างอิงจาก สยามธุรกิจ