ตั้งเป้าใน3ปีโกยยอดขาย2,000ล้าน นายนริศ ธรรมเกื้อกูล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี รีเทลลิงค์ จำกัด ในเครือซีพี ออลล์ ผู้นำธุรกิจจัดจำหน่ายอุปกรณ์ประกอบอาหารและเครื่องดื่มสำหรับภัตตาคาร โรงแรม ร้านสะดวกซื้อ และผู้นำเครื่องชงกาแฟ เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีแรก 2556 บริษัทมีการเติบโตอยู่ที่ 15%

โดยเฉพาะเครื่องชงกาแฟมียอดขายที่เติบโตอย่างมาก ทั้งนี้การเติบโตดังกล่าว เนื่องจากปัจจุบันพฤติกรรมของผู้บริโภคในเรื่องของการท่องเที่ยวมีการขยายตัว สอดคล้องกับการเติบโตของกลุ่มคอนวีเนี่ยนสโตว์หรือร้านสะดวกซื้อที่ใช้พื้นที่ไม่มากนักทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทำให้ภัตตาคาร โรงแรมต่างๆต้องใช้เครื่องชงกาแฟมารองรับกลุ่มลูกค้ามากขึ้น ซึ่งก็ส่งผลดีกับบริษัท

 

ดังนั้นในช่วงไตรมาส 4 ปี 2556 นี้ บริษัทมีแผนการขยายสัดส่วนในการรุกตลาดต่างประเทศมากขึ้น เพื่อรองรับการเติบโตหลังการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) โดยเริ่มจากลาว , พม่า และเขมร ด้วยการเจรจากับตัวแทนจำหน่ายในท้องถิ่น บริษัทตั้งเป้าหมายว่าภายในระยะเวลา 1 ปีนับจากนี้ จะมียอดขายจากต่างประเทศประมาณ 150 ล้านบาท

ขณะที่ในปี 2557 บริษัทจะขยายตลาดที่อินโดเนิชีย และฟิลิปินส์ ซึ่งบริษัทตั้งเป้าหมายสัดส่วนยอดขายสินค้าในต่างประเทศไว้ที่ 50% หรือประมาณ 2,000 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 2-3 ปีนับจากนี้
 

 
 

สำหรับในปี 2556 นี้ บริษัทได้ใช้งบลงทุน 100 ล้านบาท เพื่อพัฒนาระบบการให้บริการเกี่ยวกับการรับแจ้งปัญหาหรือแจ้งซ่อมอุปกรณ์ต่างๆ เนื่องจากลักษณะงานดังกล่าวมีการเติบโตมากเฉลี่ยประมาณ 10% ในแต่ละปี ส่วนผลประกอบการในปี 2556 บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตไว้ที่ 20% หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 2,400 ล้านบาท

 

นายนริศ กล่าวว่า บริษัทยังคงเดินหน้าจัดโครงการ “กาแฟสร้างอาชีพ เพื่อสังคมและชุมชน” อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 เพื่อส่งเสริมการสร้างอาชีพให้กับผู้ที่สนใจประกอบธุรกิจร้านกาแฟ ครอบคลุมด้านทำเล การจัดการ การตลาด การบริหารร้าน การสร้างความแตกต่างวิธีชงกาแฟและคัดเลือกวัตถุดิบที่ถูกต้อง การศึกษาร้านต้นแบบ ซึ่งการอบรมในโครงการนี้ไม่มีการข้อผูกมัด และอบรมให้ฟรี

ที่ผ่านมาได้รับความสนใจจากประชาชนทั่วไปเป็นอย่างมาก เนื่องจากตลาดร้านกาแฟในไทยเติบโตอย่างรวดเร็ว เห็นได้จากยอดจำหน่ายเครื่องชงกาแฟของบริษัทเติบโตถึง 30% นับเป็นผู้แทนจำหน่ายเครื่องชงกาแฟที่มียอดขายสูงสุดในไทย ปัจจุบันมีผู้ผ่านอบรมการทำธุรกิจร้านกาแฟจากบริษัทแล้วรวมกว่า 3,200 คน          
 

 
 

“อย่างไรก็ตาม ต้องถือว่าบริษัทเป็นผู้นำในการดำเนินธุรกิจการจัดจำหน่ายและให้บริการอุปกรณ์ประกอบอาหารและเครื่องดื่มสำหรับภัตตาคาร, โรงแรม, ร้านสะดวกซื้อ และอุปกรณ์เครื่องชงกาแฟ พร้อมเสริมความเข้มแข็งด้วยกลยุทธ์การให้บริการหลังการขาย และมีการบริการแบบครบวงจรตลอด 7 วัน 24 ชั่วโมง ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ ด้วยศูนย์บริการกว่า 50 จุด ด้วยทีมช่างและวิศวกรมากกว่า 1,400 คน และรถบริการกว่า 700 คันไว้รองรับลูกค้า”นายนริศ กล่าว

อ้างอิงจาก แนวหน้า