นายเฟรด โมฮาวาด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จีเอฟเอ คอร์ปอเรชั่น (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้บริหารร้านอาหารภายใต้แบรนด์ คอฟฟี่ เวิลด์ , เดอะครีม แอนด์ ฟัดจ์ แฟกตอรี่ , พิซซ่า คอร์เนอร์ , นิวยอร์ก เดลี่ และเดอะโดนัท เบเกอร์ เปิดเผยว่า ในช่วง 5 เดือนหลังของปี 2550 บริษัท

เตรียมเปิดตัวร้านอาหารอีก 2 แบรนด์ใหม่ คือร้าน “โกลเด้น เพร็ทเซล” สาขาแรกที่ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต บนพื้นที่ประมาณ 20 ตารางเมตร โดยจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการภายในเดือนกันยายนนี้

 

 

 
ทั้งนี้ บริษัทจะใช้กลยุทธ์ด้านคุณภาพสินค้า ที่วางตำแหน่งสินค้าอาหารว่างประเภทเพร็ทเซลระดับบน จำหน่ายราคาเฉลี่ยต่อชิ้น 34-44 บาท สูงกว่ายี่ห้อที่เป็นเจ้าตลาดขณะนี้ประมาณ 20% เจาะกลุ่มเป้าหมายเฉพาะที่ชื่นชอบเพร็ทเซล และต้องการรสชาติของเพร็ทเซลที่แตกต่าง

ซึ่งแนวทางการขยายสาขาร้านดังกล่าว ยังเป็นทั้ง 2 แบบ คือ ลงทุนเอง และขายแฟรนไชส์ โดยตั้งเป้าปีแรกเปิดได้ครบ 5-10 สาขา ซึ่งขึ้นอยู่กับทำเลของร้านที่เหมาะสมเป็นหลัก

 

 

 
นอกจากนี้ ภายในสิ้นปีนี้ บริษัทยังจะเปิดอีก 1 ร้าน แบรนด์ใหม่ คือ “จุ๊ย โซมาเนีย” เป็นเครื่องดื่มน้ำผลไม้ 100% เป็นผลไม้แช่แข็งแล้วนำมากรองเป็นน้ำผลไม้ ที่มีส่วนผสมของโยเกิร์ต เป็นต้น โดยวางตำแหน่งเป็นแบรนด์เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ โดยจับกลุ่มเป้าหมายผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ที่รักสุขภาพ ซึ่งจะเปิดสาขาแรกที่พัทยา

 
แนวทางดังกล่าวจะดำเนินการพร้อมกับการสร้างแบรนด์ร้านอาหารต่าง ๆ ของบริษัทในครั้งปีหลังนี้ รวมทั้งการหาทำเลพื้นที่ในการเข้าไปขยายแบรนด์อาหารและเครื่องดื่มของบริษัท ซึ่งการขยายสาขาใหม่เพิ่มนั้นจะขึ้นอยู่กับทำเลที่เหมาะสมในแต่ละแบรนด์

หรือการเปิดสาขาใหม่ของหลายร้านอาหารหลายแบรนด์ร่วมกัน หรือ มัลติแบรนด์ ซึ่งบริษัทยังมีงบลงทุนอยู่ประมาณ 100 ล้านบาท จากต้นปีที่วางไว้ที่ 250 ล้านบาท โดยสิ้นปีคาดเปิดให้บริการสาขาร้านแบรนด์ต่าง ๆ ได้ทั้งสิ้น 110 สาขา จากปัจจุบันคาดอยู่ที่ 100 สาขา

 

 

 

นายโมฮาวาดกล่าวว่า ส่วนแผนการขยายสาขาในต่างประเทศ อยู่ระหว่างเตรียมเปิดสาขา คอฟฟี่ เวิลด์ ในประเทศจีน ที่เมืองไหหนาน ภายใต้ร้านรูปแบบมัลติแบรนด์ ประกอบด้วย พิซซ่า คอร์เนอร์, โดนัท เบเกอร์ และคอฟฟี่ เวิลด์ และคาดว่าจะเปิดเพิ่มเป็น 6 สาขาในปีหน้า 

 

ปัจจุบัน จีเอฟเอ มีสาขาในต่างประเทศทั้งหมด 9 เปิดให้บริการร้านกว่า 180 สาขาทั่วโลก โดยในประเทศไทยทั้งหมด 87 สาขาและแฟรนไชส์ในต่างประเทศ เช่น ประเทศอินเดีย บังคลาเทศ ดูไบ สาธารณรัฐอาหรับ เอมิเรตส์ เมียนมาร์ หมู่เกาะ รียูเนี่ยน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนจีน (มณทลไหหนาน) และอินโดนีเซีย และยังมีแผนงานขยายธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์ในอีกหลายประเทศ

 

นายโมฮาวาดกล่าวถึงผลประกอบการบริษัท 6-7 เดือนแรกปีนี้ว่า เติบโต 45% อย่างไรก็ตาม ยอดขายเติบโตลดลง 1.5% แต่คาดว่าถึงสิ้นปีจะมีรายได้รวมเติบโต 10-15%

 

 

 

สำหรับท่านที่กำลังหาโอกาสทำธุรกิจ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่โทรศัพท์ 0-2688-7360 หรือ ที่เวปไซต์ www.gfacorp.com

 

 

 

 

ที่มา : ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท จีเอฟเอ คอร์ปอเรชั่น (ไทยแลนด์) จำกัด