9.7K
6 ตุลาคม 2555
โละทิ้ง ‘ท็อปส์ เดลี่’ ดัน ‘แฟมิลี่ มาร์ท’ เสียบจีบโชวห่วยสู้เซเว่นฯ


ภาพจาก www.familymart.co.th
 
ซีอาร์ซี - ดิวคอนวีเนี่ยนสโตร์ไทย-ญี่ปุ่น สะเทือนยักษ์อิ่มสะดวก “ซีอาร์ซี” ถอด ป้าย “ท็อปส์ เดลี่” เป็น “แฟมิลี่มาร์ท” รุมเค้กร้านสะดวกซื้อ เผยกลยุทธ์ร้าน เล็กพื้นที่น้อย สินค้าแตกต่าง ยังรอให้วางอีกเยอะ จ่อคิวจีบโชห่วย สานกำลังขยาย 3,000 สาขาภายใน 10 ปี
 
นายทศ จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัลรีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ ซีอาร์ซี เปิดเผยว่า หลังจากเซ็นสัญญาร่วมทุนกับ บริษัท แฟมิลี่มาร์ท จำกัด ประเทศญี่ปุ่น โดยเข้าถือหุ้นในบริษัท สยามแฟมมิลี่มาร์ท จำกัด สัดส่วน 50.2% จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการบุกตลาดร้านสะดวกซื้อ ซึ่งก่อนหน้านี้ซีอาร์ซีมีร้านชื่อ ท็อปส์ เดลี่ มาแล้ว โดยภายใน 3 ปีนี้ ซีอาร์ซีจะพิจารณาปรับร้านท็อป เดลี่ เป็นแบรนด์ แฟมิลี่มาร์ท เนื่องจากไม่อยากให้ทั้ง 2 แบรนด์แข่งกันเอง และเกิดความไม่สบายใจต่อหุ้นส่วน
 
หากจะมองว่าการปิดท็อปส์ เดลี่ อาจจะเสียโอกาสเนื่องจากเป็นแบรนด์ที่จับกลุ่มเป้าหมายระดับบน ในอนาคตก็สามารถสร้างรูปแบบของแฟมมิลี่มาร์ทที่จับกลุ่มเป้าหมายระดับบนได้ เนื่องจากรูปแบบของร้านค้าปลีกในโลกนี้ ยังมีอีกหลากหลายนัก กล่าวได้ว่า การบุกตลาดร้านสะดวกซื้อของซีอาร์ซีต่อจากนี้ไป จะมุ่งไปที่แบรนด์ แฟมมิลี่มาร์ท เท่านั้น
 
เหตุผลหลักในการเข้ามาซื้อหุ้นในสยามแฟมิลี่มาร์ท เนื่องจากซีอาร์ซีต้องการบุกตลาดร้านสะดวกซื้อซึ่งมีโอกาสเติบโตสูง โดยเฉพาะในช่วง 5-10 ปีที่ผ่านมา และจะเติบโตอย่างรวดเร็วภายใน 10 ปีข้างหน้า อีกทั้งแฟมมิลี่มาร์ท เข้ามาในเมืองไทยมากว่า 20 ปี โดยมีสาขา 746 แห่งในปัจจุบัน ถือว่าเป็นแบรนด์ที่ลูกค้ารู้จัก แม้จะยังห่างจากเจ้าตลาด แต่ถือว่ามีศักยภาพในการพัฒนา เพราะที่ผ่านมาแฟมิลี่มาร์ทเจอกับปัญหาด้านการบริหารงาน จากภาษาและการสื่อสารระหว่างคนไทยและญี่ปุ่น ทำให้การพัฒนาเป็นไปได้ช้า
 

ภาพจาก www.facebook.com/FamilyMartThailand/
 
นอกจากนั้นยังพบว่า อัตราเฉลี่ยของประชากรกับจำนวนร้านสะดวกซื้อของประเทศไทย ยังอยู่ในอัตราที่ต่ำเมื่อเปรียบเทียบกับอีกหลายประเทศ เช่น ญี่ปุ่น 28,000 คนต่อ 1 ร้าน ไต้หวัน 25,000 คนต่อ 1 ร้าน เกาหลี 25,000 คนต่อ 1 ร้าน ส่วนประเทศไทยอยู่ที่ 6,800 คนต่อ 1 ร้าน จึงนับว่ามีโอกาสขยายตัวสูง
 
นายทศ กล่าวว่า เจ้าตลาดร้านสะดวกซื้อในประเทศไทย ถือว่ามีความแข็งแกร่งมาก ในช่วงต้นจึงไม่ได้ตั้งเป้าหมายในการขึ้นผู้นำตลาดในระยะเวลาอันรวดเร็ว แต่ก็มีเป้าหมายระยะไกลหลังจากปรับปรุงและพัฒนาร้านแฟมิลี่มาร์ทที่มีอยู่พร้อมการขยายสาขาใหม่ให้ได้ 3,000 สาขาภายใน 10 ปี ภายใต้งบลงทุนเบื้องต้น 3 พันล้านบาท
 
ขณะที่กลยุทธ์ในการบุกตลาด จะใช้จุดอ่อนของข้อจำกัดทางด้านพื้นที่เข้ามาแปลงเป็นจุดขาย กล่าวคือขนาดของร้านสะดวกซื้อมีขนาดเล็ก และยังไม่เพียงต่อการการหมุนเวียนของสินค้าที่มีอยู่ทั้งหมด ดังนั้น แค่วางสินค้าที่แตกต่างกัน ก็ทำให้แฟมมิลี่มาร์ทแตกต่างจากคู่แข่งแล้ว ส่วนแนวคิดหลักของร้านจะเป็นอย่างไรต้องอาศัยการวางแผนการตลาด และคาดว่าจะสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งได้
 

ภาพจาก www.facebook.com/FamilyMartThailand/
 
ส่วนเป้าหมายในเบื้องต้น แม้จะยังไม่สามารถเป็นที่ 1 ในด้านสาขาหรือยอดขายได้ แต่ซีอาร์ซีมีกลยุทธ์ที่จะทำให้แฟมิลี่มาร์ทเป็นผู้นำตลาดในด้านอื่นได้ก่อน อาทิ ผู้นำในด้านชื่อเสียงด้านใดด้านหนึ่ง เป็นต้น
 
สำหรับจำนวนสาขาของ ท็อปส์ เดลี่ ในปัจจุบันมี 119 สาขา และปีนี้ได้ประกาศจับมือกับปั๊มคาลเท็กซ์เพื่อบุกคลาดร้านสะดวกซื้อในปั๊มน้ำมัน โดยเริ่มต้นที่ 10 สาขาในปีนี้ และตั้งเป้าเป็น 100 สาขาในอีก 5 ปี ซึ่งคาดว่าหากผ่านการเจรจากับทางคาลเท็กซ์แล้ว ท็อปส์ เดลี่ ก็จะปรับเป็น แฟมิลี่มาร์ท ทั้งหมด แต่ยังไม่ทิ้งแบรนด์ ท็อปส์ เนื่องจากมีรูปแบบอื่นๆอยู่ภายใต้แบรนด์นี้และมีโอกาสของการทำให้ ท็อปส์ เดลี่ อยู่ในรูปแบบอื่นได้
 
ขณะที่แฟมิลี่มาร์ท ปัจจุบันมีอยู่ 746 สาขา รวมยอดขายกว่า 10,000 ล้านบาท งบลงทุนสาขาละประมาณ 3 ล้านบาท ขนาดพื้นที่ 100x150 ตารางเมตร โดยปัจจุบันสาขาของบริษัทอยู่ที่ 85% แฟรนไชส์ 15% จากนี้ไปจะเน้นขยายแฟรนไชส์ให้เพิ่มสัดส่วนเป็น 30% โดยเล็งไปที่การปรับร้านโชห่วยเดิมให้เปลี่ยนเป็นแฟมมิลี่มาร์ท
 
 

ภาพจาก www.facebook.com/FamilyMartThailand/
 
ด้านนายอุเอะดะ จุนจิ ประธานกรรมการ บริษัท แฟมมิลี่มาร์ท จำกัด (ประเทศญี่ปุ่น) ระบุว่า ปัจจุบัน แฟมิลี่มาร์ทมีอยู่กว่า 21,000 แห่ง ใน 7 ประเทศ โดยเป็นสาขาในญี่ปุ่นประมาณ 9,000 แห่ง ล่าสุดได้เข้าไปขยายสาขาในเวียดนาม และมีแผนการขยายต่อในอินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ภายในสิ้นปีนี้ จากนั้นจะทำการบุกตลาดพม่าและอินโดนีเซียต่อไป
 
การเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับทางซีอาร์ซี ถือเป็นเฟสสองของการทำธุรกิจในประเทศไทย หลังจากเข้ามานานแล้ว แต่มาเริ่มทำตลาดโดยการส่งผู้บริหารระดับซีอีโอเข้ามาดูแลตลาดเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา โดยความร่วมมือในครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งถึงเป้าหมายในการขยายสาขาให้ครบ 40,000 แห่งทั่วโลก ภายในปี พ.ศ. 2563
 
อ้างอิงจาก สยามธุรกิจ
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
สาขาใหม่ มาแล้ว! ทูลเก..
6,112
PLAY Q by CST bright u..
1,313
มาแล้ว! #งานแฟรนไชส์ ม..
945
อร่อย! เลิศ! รสเด็ด ก๋..
941
สุดปัง! แฟรนไชส์หม่าล่..
790
ลงทุนกับ “ซุปซุป” ร้าน..
769
ข่าวแฟรนไชส์มาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด