แบล็คแคนยอน เปิดแคมเปญใหญ่ “Coffee Bonus Points” เอาใจคนรักกาแฟ
บริษัท แบล็คแคนยอน (ประเทศไทย) จำกัด ได้ดำเนินธุรกิจร้าน “แบล็คแคนยอน” ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2536 เป็นต้นมา ในช่วง 14 ปีที่ผ่านมา “แบล็คแคนยอน” เติบโตและขยายสาขาอย่างต่อเนื่องจนปัจจุบันมีร้านถึง 160 สาขาในประเทศและอีก 25 สาขาในต่างประเทศ
ได้แก่ ประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย สหภาพพม่า สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ และกัมพูชา โดยปลายปีนี้มีแผนงานจะเปิดเพิ่มอีก 2 สาขาในประเทศอินเดีย เพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับผู้บริโภค “แบล็คแคนยอน” จึงนำเสนอโปรโมชั่นพิเศษ เพื่อแนะนำรายการกาแฟ อาหาร และเครื่องดื่มใหม่ๆ ต่อเนื่องเสมอมา โดยจัดแคมเปญที่มุ่งสร้างประสบการณ์ดีๆ ให้กับผู้บริโภคทุกท่าน
คุณประวิทย์ จิตนราพงศ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แบล็คแคนยอน (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “ปีนี้ถึงเวลาแล้วที่แบล็คแคนยอนเปิดตัวแคมเปญใหญ่ประจำปี 2550 ภายใต้ชื่อ “Coffee Bonus Points” เพื่อเอาใจคนรักกาแฟโดยเฉพาะ โดยเสนอสิทธิพิเศษเป็นการคืนกำไรให้กับลูกค้า
เมื่อเลือกดื่มกาแฟแบล็คแคนยอนรายการใดก็ได้ 1 ถ้วย จะได้รับสติ๊กเกอร์สะสมแต้ม 1 ดวง สะสมจนครบ 5 ดวง รับกาแฟถ้วยโปรดให้ได้สดชื่นกันต่อฟรีอีก 1 ถ้วย เริ่มแคมเปญตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2550 หมดเขตการสะสมและรับสิทธิ์แลกกาแฟฟรีวันที่ 30 กันยายน 2550 ที่ร้าน “แบล็คแคนยอน” และร้าน “คาเฟ เนโร บาย แบล็คแคนยอน” ทุกสาขาทั่วประเทศ (ยกเว้นสาขาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 3 จุด คือ ชั้น 3 Landside, Concourse B และ Concourse F ชั้น 4) โดยมั่นใจว่าจะเป็นที่ถูกอกถูกใจลูกค้าแบล็คแคนยอนทุกท่าน ที่ต่างรอคอยแคมเปญอันยิ่งใหญ่เช่นนี้ ซึ่งมีปีละครั้งและไม่มีร้านกาแฟแห่งใดจะจัดต่อเนื่องมายาวนานทุกปีเช่นเรา”
คุณกรรณิการ์ ชินประสิทธิ์ชัย ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กล่าวเสริมว่า “กิจกรรมดังกล่าวนับเป็นแคมเปญใหญ่ที่จะจัดร่วมกันในทุกแบรนด์ของ “แบล็คแคนยอน” คือ “แบล็คแคนยอน คอฟฟี่, คาเฟ เนโร บาย แบล็คแคนยอน, แบล็คแคนยอนคิชเช่น และมายเบรด เดอะเบเกอรี่บูติก”
ซึ่งมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคดังเช่นทุกปีที่ผ่านมา โดยตั้งเป้าปีนี้จะได้รับการตอบรับที่สูงขึ้นจากปี 2549 ที่ผ่านมาถึง 10-15% และคาดว่ายอดการจำหน่ายกาแฟของร้าน “แบล็คแคนยอน” ทุกสาขาตลอด 4 เดือนที่จัดโปรโมชั่นนี้ ไม่ต่ำกว่า 2 ล้านถ้วย มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท และใช้งบในการส่งเสริมการขายและโฆษณาประชาสัมพันธ์รวม ทั้งค่าใช้จ่ายเพื่อคืนกำไรแก่ลูกค้าในครั้งนี้มากกว่า 12 ล้าน”
พร้อมกันนี้ คุณประวิทย์ จิตนราพงศ์ ยังได้ให้สัมภาษณ์ถึงการที่ “แบล็คแคนยอน” ได้รับเกียรติจากหนังสือชั้นนำจากต่างประเทศ 2 ฉบับ โดยเขียนถึงและกล่าวชื่นชม “แบล็คแคนยอน” คือ
- หนังสือ “Best of Dubai” ได้เขียนยกย่องให้ “แบล็คแคนยอน” สาขาในสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ เป็นหนึ่งในภัตตาคารชั้นเยี่ยมในดูไบ ในหมวด Casual Dining
- หนังสือ “Think ASEAN! Rethinking Marketing toward ASEAN Communication 2015 (Copyright @ 2007) ซึ่งเป็นหนังสือด้านการตลาด เขียนโดย Philip Kotler, Hermawan Kartajaya และ Hooi Den Huan กูรูด้านการตลาด ได้เขียนชื่นชมและยกเป็นกรณีศึกษา (ดังเอกสารแนบที่ส่งมานี้) ในตำราการตลาดเล่มล่าสุด ซึ่งกำลังวางจำหน่ายทั่วโลก โดยสำนักพิมพ์ McGraw-Hill
สำหรับการขยายสาขาของ “แบล็คแคนยอน” ที่เปิดให้บริการตั้งแต่มกราคม-มิถุนายน พ.ศ. 2550 ที่ผ่านมา พบว่า มีสาขาใหม่เปิดให้บริการทั้งในเขตกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดรวม 8 สาขา คือ พันธุ์ทิพย์ (งามวงศ์วาน), เจเจ มอลล์, แพลทินั่ม แฟชั่น มอลล์ (ประตูน้ำ), อาคาร IEC (ถนนรามคำแหง)
Image Mall (หมู่บ้าน Image Place ถนนพุทธมณฑล สาย 4 จ.นครปฐม), ท่าอากาศยานนานาชาติ จ.เชียงใหม่ (อาคารผู้โดยสารขชาออกระหว่างประเทศ ก่อนถึงจุดตรวจคนเข้าเมือง), โลตัส (อุดรธานี) และบิ๊กซี (ลำพูน) ส่วนแผนการขยายสาขาในครึ่งปีหลัง คาดว่าจะสามารถให้บริการเพิ่มอีก 7 สาขาในประเทศ และอีก 4-5 สาขาในต่างประเทศ
ที่มา : ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท แฟรนไชส์โฟกัส จำกัด
10 มิถุนายน 2550 
