|
|
|
|
7 ตุลาคม 2554 |
งานมหกรรมแฟรนไชส์เงินหมื่น กำลังมาแล้วจ้า!
เงินลงทุนหลักหมื่นเป็นเถ้าแก่ได้จริง... ชวนคุณมาเปิดโลกทัศน์ใหม่ ผ่านมุมมอง “คุณวีระเดช ชูแสงกิจ” ผู้จัดงานมหกรรมแฟรนไชส์เงินหมื่น ครั้งที่ 1
แม้การลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์เงินหมื่นจะให้ผลตอบแทนไม่มากมายเสมือนการทำธุรกิจใหญ่โต แต่หากผู้ลงทุนเปิดใจให้กว้างพร้อมที่จะสั่งสมเรียนรู้ในธุรกิจนั้นบวกกับประสบการณ์ที่พยายามมาอย่างเต็มที่ จุดหมายของผู้สำเร็จหรือเถ้าแก่ใหม่ ก็คือ การขยายสาขาแฟรนไชส์ให้มากที่สุดและมั่นคงที่สุด
คุณวีระเดช ชูแสงกิจ ผู้จัดงานมหกรรมแฟรนไชส์เงินหมื่น ครั้งที่ 1 และกรรมการบริหารนิตยสารตั้งตัว กล่าวว่า “ปัจจุบันความต้องการของผู้ลงทุนที่ต้องการมีธุรกิจเป็นของตนเองมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากการขยายตัวของธุรกิจ เศรษฐกิจ รวมถึงประเภทของการเข้ามาลงทุนที่มีความหลากหลายขึ้น ทำให้ผู้ลงทุนทั่วไปมองเห็นโอกาสเพื่อเข้ามาค้าขายและมีธุรกิจเป็นของตนเอง แต่การเริ่มต้นที่จะมีธุรกิจเป็นของตนเองปัจจุบันอาจจะไม่ใช่เรื่องง่าย เมื่อการแข่งขันทางธุรกิจประเภทต่างๆ ทวีความรุนแรงขึ้น รวมถึงการมองหาทำเลที่ดีหรือถูกใจสักแห่ง เพื่อให้ตรงกับสินค้าและตรงกลุ่มเป้าหมายเหมือนการงมเข็มในมหาสมุทรเป็นเรื่องที่ยากกว่า
 “จากการที่ผมคลุกคลีอยู่ในวงการผู้ประกอบการเอสเอ็มอี มีโอกาสพูดคุยธุรกิจกับเจ้าของแฟรนไชส์มานานเกือบ 8 ปี พบว่า การจัดงานแฟรนไชส์ส่วนใหญ่จะใช้เงินลงทุนสูง ตั้งแต่หลักแสนขึ้นไป ทำให้กำลังการลงทุนของผู้บริโภคลดลง
ทั้งที่ๆ มีเงินในกระเป๋าแต่ยังไม่พร้อมที่จะลงทุน ซึ่งการงานมหกรรมแฟรนไชส์สร้างอาชีพที่ผ่านมาทั้งสิ้น 6 ครั้ง เราพบข้อมูลจากการจากการทำแบบสอบถามผู้เข้าร่วมงาน ซึ่งความต้องการของตลาดผู้ลงทุนให้ความสนใจลงทุนในกลุ่มแฟรนไชส์หลักหมื่นเป็นจำนวนมาก เนื่องจากมีโอกาสทางธุรกิจมากกว่า มีโอกาสในการคืนทุนได้มากกว่า มีโอกาสในการสร้างรายได้มากกว่า สามารถเคลื่อนย้ายหรือเปลี่ยนโลเกชั่นได้สะดวกกว่า ซึ่งเป็นประเด็นหลักสำคัญที่ผู้ลงทุนตัดสินใจลงทุนได้ง่ายขึ้น
“ผมจึงมีแนวคิดจัดงานมหกรรมแฟรนไชส์เงินหมื่น ครั้งที่ 1 ขึ้นอย่างจริงจัง ในระหว่างวันที่ 2 – 6 พฤศจิกายน 2554
ล่าสุด! ประกาศเลื่อนแล้ว เป็นวันที่ 5 - 9 มกราคม 2555 เนื่องากสถานการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ในไทย
โดยเราได้เนรมิตพื้นที่เกือบทั้งหมดของอิมพีเรียล เวิลด์ สำโรง ที่เปรียบเหมือนศูนย์รวมผู้คนทุกระดับชั้นในย่านสมุทรปราการเพราะเราเชื่อว่าประเทศไทยไม่ได้มีแค่กรุงเทพฯ และด้วยกำลังซื้อมหาศาลกับทำเลอีกมากมายในแถบสมุทรปราการ อีกทั้งยังเป็นทำเลที่โดดเด่น มีรถไฟฟ้าให้บริการถึงสถานีแบริ่ง กลุ่มผู้ใช้บริการในห้างเป็นกลุ่มคนวัยทำงานเป็นกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการลงทุน ซึ่งการจัดงานมหกรรมการลงทุนครั้งยิ่งใหญ่และครั้งแรกของเมืองไทย ซึ่งในประเทศไทยยังไม่เคยมีผู้จัดงานที่รวบรวมเฉพาะแฟรนไชส์ที่ลงทุนเริ่มต้นด้วยเงินหลักหมื่นมาก่อน งานที่รวมธุรกิจแฟรนไชส์ที่ใช้เงินลงทุนเริ่มต้นหลักหมื่น เพื่อให้คนไทยได้ช้อปธุรกิจแบบสบายกระเป๋า และทุกคนจะรู้สึกว่ามางานนี้แล้วจะได้กินและช้อปธุรกิจแฟรนไชส์ที่มีคุณภาพนั่นเอง
“โดยกลุ่มธุรกิจที่ร่วมออกบูธส่วนใหญ่ก็จะเป็นกลุ่มแฟรนไชส์ที่ใช้เงินลงทุนไม่เกินแสน ซึ่งที่เป็นกลุ่มแฟรนไชส์ที่มีการขับเคลื่อนตลาดแฟรนไชส์ในภาพรวมสูงที่สุด
โดยส่วนใหญ่ประกอบด้วย แฟรนไชส์ขนาดเล็กที่ใช้เงินลงทุนหลักหมื่นขึ้นไป ไม่ว่าจะเป็นแฟรนไชส์หมวดเครื่องดื่ม, หมวดอาหาร, หมวดอาหารว่าง, หมวดเครื่องหยอดเหรียญ, หมวดความสวยความงาม, หมวดการศึกษา ตลอดจนธุรกิจเครือข่ายต่างๆ แบ่งสัดส่วนออกเป็นกลุ่มแฟรนไชส์หมวดอาหาร – เครื่องดื่ม 80% และกลุ่มแฟรนไชส์หมวดอื่นๆ 20%
“นอกจากกลุ่มแฟรนชส์คุณภาพที่เราคัดสรรพมาเสิร์ฟให้กับผู้ลงทุนถึงที่แล้ว ผมยังมีกิจกรรมไฮไลท์ในงานเพื่อเป็นกิมมิกส์เล็กๆ สำหรับผู้ลงทุนใหม่ที่อยากจะมีธุรกิจของตนเองด้วยเงินเพียงหลักหมื่นด้วย อาทิ กิจกรรมเด่นๆ ในงานมหกรรมแฟรนไชส์เงินหมื่น ครั้งที่ 1 คือ แจกแฟรนไชส์ฟรีทุกวัน 5 วัน 5 แฟรนไชส์, ดาราทอล์กธุรกิจทุกวัน, ร่วมฟังบรรยายจากเจ้าของธุรกิจแบรนด์ดังทุกวัน,
ร่วมทอล์กร่วมงานร่วมกันโหวต “แฟรนไชส์มหาชน 2554” ประกาศแฟรนไชส์ที่ได้รับผลโหวตสูงสุด 5 แฟรนไชส์ในวันสุดท้ายของการจัดงาน และตามติดภารกิจพิชิตแฟรนไชส์ ที่จะให้ผู้ที่สนใจอยากได้แฟรนไชส์ไปฟรีร่วมทำภารกิจสนุกๆ ได้ภายในงาน
“ธุรกิจแฟรนไชส์ในบ้านเราอย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่ามีการพัฒนาและอัตราการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง การสร้าง 1 ธุรกิจให้เติบโตได้แบบทวีคูณ 1 สาขาอาจสร้างกำไรได้เพียง 10,000 บาทต่อเดือน แต่ถ้าเราขยายได้ 10 สาขา ก็จะทำให้เรามีรายได้เพิ่มเป็น 100,000 บาทต่อเดือน มีพลังที่มากพอที่จะไปลงทุนในธุรกิจที่ใหญ่โตกว่า ซึ่งการมีประสบการณ์จากการเป็นเจ้าของธุรกิจทำให้เราเรียนรู้และพลาดได้น้อยในการก้าวไปสู่การทำธุรกิจที่ใหญ่ขึ้น
ซึ่งต้องอาศัยการพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล ในการนำพาธุรกิจให้เติบโตต่อไป สุดท้ายผมขอเรียนเชิญท่านผู้อ่านหรือผู้สนใจที่อยากมีธุรกิจส่วนตัวมาดูว่า “เงินหลักหมื่นทำอะไรได้บ้าง” ไม่แน่ว่าเพียงเงินหลักหมื่น อาจทำให้คุณก้าวผ่านจากพนักงานเงินเดือนไปเป็นเจ้าของธุรกิจได้อย่างสบาย ขอเรียนเชิญทุกท่านครับ”
|
|
|
|
|
