670
15 กุมภาพันธ์ 2566
กรมพัฒน์ฯ แจ้งความเอาผิดมิจฉาชีพหลอกลวงประชาชน
 

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า โร่...แจ้งความใช้หลักฐานจากผู้เสียหายเอาผิดกับมิจฉาชีพให้ถึงที่สุด โดยแบ่งเป็นความเสียหายจาก 2 กรณีหลัก คือ 1) การแอบอ้างชื่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าไปสร้างบัญชี Line การอ้างชื่อเจ้าหน้าที่กรมฯ และนำเข้าข้อมูลเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ และ 2) การปลอมเอกสาร/เอกสารราชการ โดยกรมฯ ได้แจ้งความดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวนเพื่อนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ และฝากประชาชน ให้หนักแน่น ไม่เชื่อคำเชิญชวนของมิจฉาชีพ ประกอบกับต้องรอบคอบตรวจสอบข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจหรือร่วมลงทุน
 
นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้แต่งตั้งคณะทำงานศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมกรมพัฒนาธุรกิจการค้าขึ้น เพื่อให้ข้อแนะนำและช่วยเหลือในการดำเนินคดีกับ ผู้แอบอ้างดังกล่าว ที่ผ่านมาคณะทำงานฯ ได้รับเบาะแสจากประชาชนที่แจ้งเข้ามาผ่านช่องทางสื่อสารของกรมฯ อย่างต่อเนื่อง และมอบหลักฐานสำคัญ อาทิ หมายเลขโทรศัพท์ ภาพการสนทนาผ่านทางระบบ Line กับมิจฉาชีพซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญต่อการแจ้งความดำเนินคดี โดยแบ่งเป็น 2 กรณี ดังนี้
 
1) แอบอ้างชื่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าไปสร้างบัญชี Line และอ้างชื่อเจ้าหน้าที่กรมฯ เพื่อใช้ติดต่อนิติบุคคลให้ยืนยันข้อมูลหรือกรอกข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน หากหลงเชื่อทำตามก็จะถูกเชื่อมโยงข้อมูลส่วนตัวกับแอพพลิเคชันทางการเงินที่ติดตั้งในโทรศัพท์และดูดเงินออกไปโดยที่ไม่รู้ตัว ซึ่งกรมฯ และเจ้าหน้าที่ที่ถูกแอบอ้างชื่อได้แจ้งความดำเนินคดีแล้ว โดยความผิดเป็นการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสร้างความเสียหาย ต่อประชาชน มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
 
2) การปลอมหนังสือรับรองนิติบุคคล หรือใบสำคัญแสดงการจดทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทเพื่อเอามาใช้หลอกประชาชนให้เชื่อว่ามีการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจขึ้นจริง สร้างความมั่นใจจนหลงเชื่อยินยอมทำตามที่มิจฉาชีพบอกหรือเข้าร่วมในธุรกิจ นอกจากนี้ยังมีการปลอมประกาศกรมฯ โดยมีเนื้อหาให้นิติบุคคลยืนยันข้อมูลทางแอพพลิเคชัน MOC ของกระทรวงพาณิชย์ และระบบ e-Registration ของกรมฯ ซึ่งทั้งหมดไม่เป็นความจริง ทั้งนี้ กรมฯ ได้แจ้งความดำเนินคดีไว้แล้วในท้องที่ ฐานปลอมเอกสาร มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และฐานปลอมเอกสารราชการ จำคุก 6 เดือน-5 ปี ปรับ 1,000-10,000 บาท รวมถึงมีการนำเอกสารดังกล่าวไปหาประโยชน์และสร้างความเสียหายแก่ประชาชนทำให้ความผิดนี้ มีอายุความ 10 ปี
 
“จากประเด็นความเสียหายข้างต้นกรมฯ ได้ส่งเรื่องจากผู้เสียหายที่มีหลักฐานครบถ้วนถึงการกระทำผิดที่เกี่ยวกับกรมฯ ให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด ทั้งนี้ ขอเตือนภัยไปยังประชาชนและธุรกิจให้ใช้ความระมัดระวัง ไม่ประมาทหลงเชื่อคำเชิญชวนต่างๆ หากพลาดพลั้งไปแล้วขอให้นำหลักฐานไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวนเพื่อช่วยกันหยุดการกระทำของมิจฉาชีพไม่ให้สร้างความเสียหายไปมากกว่านี้ และเมื่อจะทำธุรกรรมใดขอให้ตรวจสอบอย่างรอบคอบ

ซึ่งกรมฯ มีบริการตรวจค้นข้อมูลนิติบุคคลผ่านระบบ DataWarehouse+ เป็นข้อมูลที่เชื่อถือได้ และการออกประกาศใดๆ ของกรมฯ ก็สามารถเข้าดูได้ที่ www.dbd.go.th อย่างไรก็ดี หากมีข้อสงสัยหรือสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับการให้บริการของกรมฯ สามารถติดต่อได้ที่สายด่วน 1570” อธิบดี กล่าวในท้ายที่สุด


อ้างอิง MGRonline.com
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
แฟรนไชส์ P.P.TYRE ร่วม..
1,756
แฟรนไชส์ “ไจแอ้นลูกชิ้..
1,517
“โฮมแคร์ภิบาล” จัด Ope..
1,490
ชีสซี่ฟราย สแน็ค เปิด ..
1,192
ธงไชยผัดไทย เปิดโครงกา..
973
เรียนสร้างแฟรนไชส์ ในค..
908
ข่าว SMEsมาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด