"ซีอาร์จี"เพิ่มงบลงทุนขยายธุรกิจ ผุดร้าน"ข้าวหน้าเนื้อ"รับกระแสอาหารญี่ปุ่นมาแรง

"ซีอาร์จี" เติมพอร์ตร้านอาหารญี่ปุ่นเพิ่ม ซื้อแฟรนไชส์ "โยชิโนย่า" ข้าวหน้าเนื้อญี่ปุ่นชื่อดัง เปิดตัวไตรมาส 3 เสริมทัพชาบูตง-ริว ชาบู เกาะกระแสร้านอาหารญี่ปุ่นขาขึ้น ใช้งบฯ 40 ล้าน ขยาย 4 สาขา ปีนี้ จากงบฯลงทุนทั้งปี 500 ล้าน มั่นใจเติบโต 11% ปีนี้

นายธีระเดช จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด หรือซีอาร์จี เปิดเผยว่า ได้เตรียมแผนงานการขยายธุรกิจและนำแบรนด์ใหม่ ๆ เข้าสู่ตลาดอาหาร เพื่อให้มีความหลากหลายและเป็นทางเลือกใหม่ให้ผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น โดยเตรียมเปิดตัวแบรนด์ใหม่ โยชิโนย่า (YOSHINOYA) เชนร้านอาหารชื่อดังจากประเทศญี่ปุ่น โดยเป็นข้าวหน้าเนื้อสไตล์ญี่ปุ่น และข้าวหน้าต่าง ๆ คาดว่าจะได้รับความนิยมและยอมรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี

นายธีระเดชกล่าวว่า โยชิโนย่า มีความน่าสนใจตรงที่เป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับและรู้จักทั่วโลกมายาวนาน กว่า 100 ปี และการเลือกใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพ บริการรวดเร็ว คุ้มราคา สำหรับสาขาแรกในเมืองไทยจะเปิดให้บริการที่เซ็นทรัลลาดพร้าวประมาณไตรมาส 3 ปีนี้

โยชิโนย่า เปิดให้บริการครั้งแรกในโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อปี 1899 และยังมีสาขาในหลายประเทศแถบเอเชีย ได้แก่ จีน ไต้หวัน ฮ่องกง สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ อเมริกา ปัจจุบันมีสาขาทั้งหมดกว่า 1,500 สาขา

"มั่นใจว่าการที่บริษัทได้รับสิทธิ์แฟรนไชส์นำแบรนด์ โยชิโนย่า เข้ามาเปิดในประเทศไทยจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับซีอาร์จี อีกทั้งเป็นการเพิ่มความหลากหลายและครอบคลุมกลุ่มลูกค้าให้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยเตรียมงบประมาณการลงทุนและดำเนินการสำหรับการเปิดให้บริการ โยชิโนย่าไว้ราว 40 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถขยายสาขาได้ราว 4 สาขาในปี 2554" นายธีระเดชกล่าว
 

ตลอดปีนี้กลุ่มซีอาร์จีเตรียมงบฯลงทุนไว้ทั้งสิ้น 500 ล้านบาท โดย 3% เป็นการลงทุนในแบรนด์ใหม่ ๆ ได้แก่ เดอะ เทอเรส โคลด์สโตน และชาบูตง รวมถึงการเพิ่มสาขาของเคเอฟซี มิสเตอร์โดนัท และอานตี้ แอนส์ เทียบกับปีที่ผ่านมามีการลงทุน 300 ล้านบาท โดยปีนี้บริษัทตั้งเป้าเติบโต 11% จากปีที่ผ่านมาเติบโต 15%

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเปิดตัวโยชิโนย่า ซึ่งเป็นการเพิ่มแบรนด์ในกลุ่มร้านอาหารญี่ปุนที่ปัจจุบันมี "ชาบูตง ราเมน" และ "ริว ชาบู" ซึ่งทั้ง 2 แบรนด์ต่างได้รับการตอบรับที่ดีมาก บวกกับพฤติกรรมผู้บริโภคปัจจุบันให้ความนิยมในร้านอาหารญี่ปุ่นค่อนข้างสูง สังเกตได้จากค่ายธุรกิจต่าง ๆ ทั้งที่อยู่ในธุรกิจร้านอาหารและไม่ใช่ธุรกิจร้านอาหาร ต่างกระโดดเข้ามาเพื่อหวังแย่งส่วนแบ่งจากตลาดที่ยังเติบโตต่อเนื่อง
 

สำหรับซีอาร์จีตั้งแต่ปีที่ผ่านมาถือเป็นช่วงของการปรับเปลี่ยนอย่างชัดเจน จากเดิมที่เน้นทำแบรนด์อาหารจานด่วนแนวตะวันตก โดยเฉพาะในกลุ่มสแน็ก ขนมหวาน หรือไลต์ฟู้ด ก็เปลี่ยนมา โฟกัสที่ร้านอาหารญี่ปุ่น ซึ่งนอกจาก เป็นอาหารแนวตะวันออกแล้ว ยังเป็น อาหารจานหลักที่แตกต่างจากสไตล์เดิม

ปัจจุบันซีอาร์จีถือเป็นค่ายที่มีแบรนด์มากและหลากหลายที่สุดในบรรดาธุรกิจร้านอาหารประกอบด้วย แบรนด์มิสเตอร์โดนัท, เคเอฟซี, อานตี้ แอนส์, เปปเปอร์ ลันช์, เบียร์ด ปาปาส์, ชาบูตง ราเมน, ไอศกรีม โคลด์สโตน, ริว ชาบู, เดอะ เทอเรส และคาเฟ่ อันโดนัน


อ้างอิงจาก ประชาชาติธุรกิจ