16K
17 มกราคม 2554

ไก่ย่างห้าดาว ขยาย 5 ธุรกิจ เจาะตลาดปั้นแฟรนไชส์เถ้าแก่เล็ก

 

 


“อย่าลืมแวะซื้อไก่ย่างห้าดาวก่อนกลับบ้าน” ประโยคนี้เคยปรากฏในภาพยนตร์โฆษณาเมื่อ 25 ปีที่แล้ว ทำให้ภาพไก่ย่างที่หมุนอยู่ในตู้กระจกกลายเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป และอดที่จะลิ้มลองไม่ได้ มาวันนี้ธุรกิจห้าดาว ได้แตกสาขาไปอีก 4 ธุรกิจ เพิ่มทางเลือกให้เถ้าแก่ใหม่ด้วยเงินลงทุนสบายกระเป๋า เริ่มต้นแค่ 15,000 บาท

 

 
ธุรกิจไก่ย่างห้าดาวที่เห็นกันอยู่ดาษดื่น ที่แม้จะเป็นเพียงธุรกิจเล็กๆ ขยายสาขาแบบค่อยเป็นค่อยไป กระจายทั่วประเทศรวมกว่า 2,000 สาขา ใครจะคิดว่าการเติบโตอย่างเงียบๆ จะสร้างเถ้าแก่น้อยขึ้นมากมาย ทำให้ บริษัท ซีพีเอฟ ผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด แตกไลน์ธุรกิจอาหารในลักษณะใกล้เคียงกันอีก 4 ธุรกิจหวังเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้า แต่ยังคงคอนเซ็ปต์ผลิตภัณฑ์อาหารเปี่ยมคุณภาพ มากไปด้วยความคุ้มค่าเช่นเดิม ได้แก่ ไก่ทอดห้าดาว ข้าวมันไก่ห้าดาว บะหมี่เกี๊ยวกุ้ง และเรดดี้ มีล (Ready Meal)

 
นายสถิตย์ สังขนฤบดี รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส เล่าว่า ธุรกิจไก่ย่าง 5 ดาว เป็นธุรกิจแรกที่ทางบริษัทฯ เพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ไก่สด โดยในช่วง 15 ปีแรก คีออสไก่ย่าง 5 ดาว ทางบริษัทฯ เป็นผู้ลงทุนเองทั้งหมด จ้างพนักงานขาย แต่สุดท้ายคอนเซ็บต์นั้นไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากพนักงานไม่มีแรงจูงใจในการขายมากนัก

ดังนั้นจึงต้องปรับกลยุทธ์ใหม่ โดยได้นำระบบแฟรนไชส์เข้ามาใช้ ด้วยเงินลงทุนเพียง 15,000 บาทเท่านั้น แบ่งเป็นค่าเงินประกัน 3,000 และค่าเช่าอุปกรณ์ กับเงินทุนหมุนเวียนอีก 12,000 บาท ทั้งที่ต้นทุนแท้จริงในการลงทุนธุรกิจนี้อยู่ที่หลักแสนบาท โดยเฉพาะค่าตู้ย่างไก่ ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้ทางบริษัทฯ จะให้ยืมทั้งหมด เมื่อเลิกกิจการก็ต้องส่งคืน แต่ผู้ลงทุนจะได้รับเงินประกันคืน 3,000 บาท หากอุปกรณ์ไม่เสียหาย ซึ่งเงินและเงื่อนไขดังกล่าวได้ถูกนำมาใช้กับธุรกิจไก่ทอดห้าดาว และข้าวมันไก่ห้าดาว ด้วยเช่นกัน ส่วนธุรกิจบะหมี่เกี๊ยว ลงทุน 25,000 บาท ขณะที่ธุรกิจเรดดี้ มีล ลงทุน 20,000 บาท

 

 
“การที่บริษัทฯ ไม่ได้กำหนดราคาแฟรนไชส์มากนัก เพราะต้องการสร้างอาชีพให้คนไทย มีรายได้เลี้ยงครอบครัว ซึ่งเงินลงทุนเริ่มต้นที่ 15,000 บาท ถือว่าเหมาะสม อัตราการคืนทุนโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 1 เดือน แต่ต้องหลังบริษัทฯ ไปสำรวจทำเล และทำการวิจัยจำนวนคนที่อาศัยหรือทำงานอยู่ในย่านนั้นก่อน เมื่อเห็นว่าคุ้มค่ากับการลงทุน จึงจะให้แฟรนไชส์ซีลงทุนในพื้นที่นั้นได้ ซึ่งการวิจัยนี้ ทำให้แฟรนไชส์ซีประสบความสำเร็จมาแล้วหลายราย”
 

 

 
จากเงินลงทุนที่ไม่สูงมากนัก ส่งผลให้ปัจจุบันไก่ย่างห้าดาวมีจุดขาย 2,210 แห่ง ไก่ทอดห้าดาว 1,000 จุดขาย ข้าวมันไก่ห้าดาว 200 จุดขาย บะหมี่เกี๊ยว 100 จุดขาย และเรดดี้ มีล 40 จุดขาย โดยในปี 2554 บริษัทฯ ตั้งเป้าขยายธุรกิจในแบรนด์ห้าดาวรวม 4,600 จุดขาย พร้อมคลอดธุรกิจน้องใหม่อีก 1 แบรนด์ คือ ไส้กรอกห้าดาว เอาใจคนรักไส้กรอกหลากสไตล์โดยเฉพาะ

 

 
“ทั้ง 5 ธุรกิจในแบรนด์ห้าดาวที่มีอยู่ในปัจจุบัน เชื่อว่าตัวเลขในเรื่องของจำนวนสาขาจะขยับขึ้นทุกธุรกิจ แต่อาจจะไม่เท่ากัน ผมมองว่าอนาคตจำนวนจุดขายของไก่ย่างจะลดลงเนื่องจากครองตลาดมา 25 ปีแล้ว แต่ไก่ทอดห้าดาว จะเพิ่มใน 2-3 ปีนี้ หากมองภายในอีก 10 ปีข้างหน้า บะหมี่เกี๊ยว จะเป็นธุรกิจที่มาแรงและมีจำนวนจุดขายแซงไก่ย่างห้าดาวเพราะเป็นอาหารที่ผู้บริโภคสามารถรับประทานได้ถี่กว่าการรับประทานไก่ย่างหรือไก่ทอด ส่วนเรดดี้ มีล อาจจะค่อยๆ เติบโต ตามทำเลย่านสถานศึกษา และแหล่งชุมชน ที่ต้องการความเร่งรีบและสะดวกในการรับประทานอาหาร”


การยืนหยัดของธุรกิจไก่ย่างห้าดาวที่ครองตลาดมาได้นาน 25 ปี แถมยังแตกไลน์เป็นธุรกิจอื่นภายใต้แบรนด์ห้าดาว จะอาศัยการบริหารงานจัดการระบบที่ดีเพียงอย่างเดียวคงไม่ได้ คุณภาพสินค้าก็ถือเป็นสิ่งสำคัญเช่นเดียวกัน วัตถุดิบเป็นหัวใจหลักที่ทำให้สินค้าขายตัวเองได้ จากคุณภาพของวัตถุดิบทุกชนิดในแบรนด์ห้าดาว ล้วนถูกส่งมาจากโรงงานผลิตมาตรฐานระดับสากล ของบริษัทซีพี เริ่มจากผลิตภัณฑ์ไก่ย่าง ไก่ทอด และข้าวมันไก่ เป็นไก่สดที่เลี้ยงในฟาร์มระบบปิด สะอาด ปลอดภัย และปลอดสารที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย

ส่วนบะหมี่เกี๋ยวกุ้ง ใช้กุ้งทั้งตัวห่อด้วยแผ่นเกี๊ยวสด ในขณะที่บะหมี่ จะเป็นบะหมี่ไข่สด ไม่ใส่วัตถุดิบกันเสีย ดังนั้นบะหมี่ต้องแช่เย็นตลอดเวลาก่อนทำมาลวก ส่วนเรดดี้ มีล เป็นอาหารพร้อมรับประทาน ใช้เวลาปรุงไม่นาน ปรุงร้อน ณ จุดขาย เช่น ข้าวผัดปู ข้าวไก่คาราเกะ ข้าวสเต็กไก่เผ็ด และข้าวสเต็กไก่ซอสญี่ปุ่น เป็นต้น

 


25 ปี สำหรับการครองตลาด ถือเป็นตัวเลขที่น่าสนใจที่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีน้องใหม่ควรศึกษากลยุทธ์ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการสร้างธุรกิจของตนให้ยั่งยืน โดยนายสถิตย์ กล่าวว่า แนวคิดในการบริหารธุรกิจอย่างยั่งยืนของแบรนด์ห้าดาว จะเน้นการดำเนินธุรกิจร่วมกันของทั้ง 2 ฝ่าย คำนึงถึงผลประโยชน์ที่คุ้มค่าทั้งผู้ผลิตและแฟรนไชซี หวังให้เถ้าแก่เล็ก ต้องประสบความสำเร็จ ยึดเป็นอาชีพหลักมีรายได้หล่อเลี้ยงครอบครัว ในขณะที่แฟรนไชซอว์ ต้องสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง เลือกใช้วัตถุดิบเกรดเอ ขายในราคาไม่แพง โดยไม่ได้เน้นที่กำไรเป็นสำคัญ

 
ผู้สนใจเป็นเจ้าของธุรกิจแบรนด์ห้าดาวสามารถติดต่อตามเบอร์ที่ระบุไว้ ณ ตู้ขายนั้นๆ ได้ หรือติดต่อเบอร์กลางโทร.0-2746-9678-80 หรือที่
www.5dao.co.th
 
 
อ้างอิงจาก ผู้จัดการออนไลน์
 

ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ชายสี่ คอร์ปอเรชั่น เป..
5,058
ชีสซี่ฟราย สแน็ค เปิดต..
4,082
เริ่มแล้ว! งานแฟรนไชส์..
2,896
แรงจริง! #แฟรนไชส์ ก๋ว..
1,632
ธงไชยผัดไทย ร่วมกับ 7-..
1,000
พบบูธ “ก๋วยเตี๋ยวเรือป..
986
ข่าว SMEsมาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด