9.0K
13 มกราคม 2554

"แพรนด้า"บุกอินเดีย เปิดช็อปพรีม่าอาร์ต แฟรนไชส์พรีม่าโกลด์

 


แพรนด้าจิวเวลรี่บุกตลาดอินเดีย เปิดช็อปจำหน่ายเครื่องประดับ "พรีม่าอาร์ต" อีก 3,000 แห่ง จากที่ตั้งเป้าไว้ 15,000 แห่ง พร้อมขายแฟรนไชส์ "พรีม่าโกลด์" 2 เมืองใหญ่ที่มุมไบ-อัมริตสา หวังจับกลุ่มอินเดียโพ้นทะเลที่มีกำลังซื้อสูงสุด


นายชนัตถ์ สรไกรกิติกูล ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท แพรนด้า จิวเวลรี่ จำกัด (มหาชน) หรือ PRANDA เปิดเผยกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ถึงแผนการดำเนินงานของบริษัทในปี 2554 ว่า บริษัทวางเป้าหมายที่จะรุกตลาดอินเดียอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากอินเดียเป็นตลาดที่มีศักยภาพการเติบโตที่สูงมาก ในปี 2553 สามารถทำรายได้เข้าสู่บริษัทประมาณ 100 ล้านบาท โดยเฉพาะ "พรีม่าอาร์ต" ถือเป็นสินค้าของบริษัทที่ขายดีที่สุดในอินเดีย

ปัจจุบันอินเดียมีร้านค้าจิวเวลรี่อยู่ทั่วประเทศประมาณ 100,000 แห่ง ขณะนี้บริษัทสามารถกระจายจุดจำหน่ายพรีม่าอาร์ตในลักษณะของช็อปภายในร้านค้าจิวเวลรี่ของอินเดียได้แล้วถึง 3,000 แห่ง ส่วนในระยะยาวบริษัทตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มจุดขายสินค้าผ่านร้านค้าจิวเวลรี่ที่มีศักยภาพทางการตลาดระดับกลาง-สูงทั่วประเทศอินเดียให้ครบ 15,000 แห่ง

ที่ผ่านมาบริษัทแพรนด้าได้ทดลองจำหน่ายสินค้าพรีม่าโกลด์ (เครื่องประดับทองคำ) ในอินเดียมาได้ระยะหนึ่งแล้ว ปรากฏได้รับความสนใจจากชาวอินเดียจำนวนมาก แต่ยังไม่มีช็อปในชื่อพรีม่าโกลด์โดยตรง ดังนั้นภายในไตรมาส 3 ปีนี้ บริษัทวางเป้าหมายที่จะเปิดร้านพรีม่าโกลด์ในระบบแฟรนไชส์จำนวน 2 แห่ง ที่เมือง มุมไบกับเมืองอามิตา (Amritsar) แถบภาคเหนือของอินเดีย ซึ่งเมืองแห่งนี้ปัจจุบันเป็นถิ่นพำนักของประชากรอินเดียจากโพ้นทะเลจำนวนมาก โดยประชากรกลุ่มนี้มีกำลังซื้อเครื่องประดับทองคำในสัดส่วนที่สูงมาก จากที่ผ่านมาบริษัทขายแฟรนไชส์พรีม่าโกลด์ไปแล้วใน 5 ประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, ดูไบ, โอมาน และมาเลเซีย
 

ส่วนตลาดจีนบริษัทแพรนด้าได้เข้าไปลงทุนสร้างโรงงานผลิตสินค้าเครื่องเงิน ประดับแมกาไซต์ (Marcasite) ในชื่อการค้าว่า "เอสเซ่ (ESSE)" ณ เมืองพานหยู มณฑลกว่างโจว พร้อมกับลงทุนเปิดเคาน์เตอร์เพื่อขายปลีกทั้งในปักกิ่ง 3 สาขา, เซี่ยงไฮ้ 3 สาขา และเสิ่นเจิ้นอีก 15 สาขา

ด้านนายดุษิต จงสุทธนามณี ผู้จัดการฝ่ายการเงิน บริษัท แพรนด้า จิวเวลรี่ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผลกำไรสุทธิย้อนหลังของ บมจ.แพรนด้าฯ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาถือว่าแกว่งตัวมาก เพราะมีอัตราขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน แต่มีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี ปัจจุบันบริษัทได้วางแผนควบคุมตัวเลขอัตราแลกเปลี่ยน โดยพยายามกู้ยืมเงินสกุลต่างประเทศเพื่อให้สมดุลกับลูกหนี้การค้าที่ชำระเงินในสกุลเงินต่างประเทศเดียวกัน เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากตัวเลขกำไรขาดทุน
 

ส่วนความสามารถการทำกำไรขั้นต้น (gross profit margin) ในปี 2554 คาดว่าจะอยู่ที่ 34-35% และพยายามรักษาหนี้สินต่อทุนไว้ไม่ให้เกิน 0.5 เท่า เมื่อมีการลงทุนใหม่ก็พยายามใช้กระแสเงินสดในกิจการเข้าไปลงทุนก่อน อย่างไรก็ตามบริษัทยังไม่มีนโยบายขายหุ้นเพื่อเพิ่มทุนเพราะ "เรายังสามารถบริหารงานได้ไม่ว่าในด้านกระแสเงินสดหรือกระแสเงินก่อหนี้ ปัจจุบันบริษัทได้อัตราเงินกู้จากแบงก์ค่อนข้างดี จ่ายอัตราดอกเบี้ยเพียงแค่ 5-6% เท่านั้นเอง ดังนั้นหากมีการขยายการลงทุนในอนาคต บริษัทก็จะคิดหาแหล่งเงินกู้ก่อนเป็นอันดับแรก" นายดุษิตกล่าว

ทั้งนี้ผลประกอบการของบริษัทล่าสุด ในไตรมาส 3/2553 บริษัท แพรนด้ามีกำไรสุทธิ 173.89 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 15.35% จากยอดขาย 9 เดือนที่ผ่านมา 2,862.46 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 14.04% ยอดขายที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากการพัฒนาแบรนด์และการเปิดตลาดใหม่ทั้งในจีนและอินเดีย การฟื้นตัวของตลาดยุโรป อย่างไรก็ตามบริษัทมีปัญหาจากอัตรา แลกเปลี่ยนเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น แม้ว่าบริษัทจะทำสัญญาซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนล่วงหน้า (Forward Contract) กับทำการซื้อขายสินค้าในสกุลเงินเดียวกัน (Natural Hedge) ไว้แล้วก็ตาม แต่บริษัทก็ยังขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 134.77 ล้านบาท


อ้างอิงจาก ประชาชาติธุรกิจ
 

ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
สาขาใหม่ มาแล้ว! ทูลเก..
6,225
PLAY Q by CST bright u..
1,331
มาแล้ว! #งานแฟรนไชส์ ม..
951
อร่อย! เลิศ! รสเด็ด ก๋..
948
สุดปัง! แฟรนไชส์หม่าล่..
797
ลงทุนกับ “ซุปซุป” ร้าน..
770
ข่าวแฟรนไชส์มาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด