1.1K
1 กันยายน 2564
ซีพี ออลล์ เปิดมุมมองธุรกิจ “Double C” และ “บ้านทองหยอด” 2 NEW GEN SME โตแรงในเซเว่นฯ
 
 
ซีพี ออลล์ เปิดมุมมองและกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจของ 2 SME รุ่นใหม่ อย่าง เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ “Double C” และ “บ้านทองหยอด” ขนมไทยที่มีชื่อเสียงยาวนานกว่า 40 ปี กับการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ที่น่าสนใจ พร้อมเป็น 2 ธุรกิจที่เติบโตและมาแรงในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น
 
ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในทุกบริบทของโลกการค้าในปัจจุบัน คนรุ่นใหม่ หรือ New Gen กลายเป็นความหวังหรืออนาคตของหลายๆ ครอบครัว หลายๆ ธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจ SME ที่ปัจจุบันต้องการแนวคิดและมุมมองของคนรุ่นใหม่มาช่วยขับเคลื่อนธุรกิจให้ก้าวผ่านการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ได้อย่างทันท่วงที จนสามารถแข่งขันในตลาดได้อย่างน่าชื่นชม
 
บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น และเซเว่น เดลิเวอรี่ ในฐานะหนึ่งในผู้นำที่ให้การสนับสนุนและส่งเสริมกลุ่มธุรกิจ SME มาตลอด จึงได้นำแนวคิดตลอดจนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจของ 2 SME รุ่นใหม่ ที่สามารถพัฒนาสินค้าให้ครองใจผู้บริโภคได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว และมีอัตราการเติบโตที่น่าจับตาในเซเว่น อีเลฟเว่น อย่างเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ “Double C” และ “บ้านทองหยอด” ขนมไทยที่มีชื่อเสียงยาวนานกว่า 40 ปี เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ที่น่าสนใจให้กับ NEW GEN SME
 
 
 นายชนินทร์ เฮ้งเจริญสุข (ซ้าย) และ นายสรวิศ เฮ้งเจริญสุข (ขวา)
 
Double C : มองหาโอกาส เดินหน้าให้ไว มีวินัยด้านการเงิน
 
เป็นที่ทราบกันดีว่า ตลาดครื่องดื่มประเภทไม่มีแอลกอฮอล์แบบพร้อมดื่มเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ โดยมีการคาดการณ์จากศูนย์วิจัยกสิกรไทยว่าในปี 2564 มูลค่าตลาดจะอยู่ที่ประมาณ 2 แสนล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตอยู่ที่ประมาณ 0.5-1.5% ภายใต้ตลาดที่มีขนาดใหญ่นั้นก็มีการแข่งขันที่สูงเช่นกัน ทำให้ SME หลายรายถอดใจไม่กล้าที่จะเข้ามาในตลาด แต่สำหรับคู่พี่น้องผู้บริหารหนุ่มรุ่นใหม่วัยเพียง 27 และ 25 ปี ชนินทร์ เฮ้งเจริญสุข และ สรวิศ เฮ้งเจริญสุข 2 กรรมการผู้จัดการ บริษัท หนองคายเพาเวอร์ดริ๊งก์ จำกัด เจ้าของ SME เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ “Double C” กลับไม่คิดเช่นนั้น ชนินทร์ หนึ่งในผู้บริหาร เล่าย้อนความให้ฟังว่า เดิมทีทำธุรกิจเครื่องดื่มชูกำลัง

แต่ด้วยสภาพการแข่งขันที่สูงของตลาด ทำให้บริษัทประสบปัญหาขาดทุนอย่างต่อเนื่อง ผมกับน้องชายจึงมองหาธุรกิจใหม่ โดยใช้ต้นทุนเดิมที่เรามีคือ เครื่องจักร และพบว่าตลาดเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จึงเดินหน้าผลิตเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ “Double C” แต่ด้วยสภาพคล่องทางด้านการเงิน จึงจำเป็นต้องขายทรัพย์สินที่มีอยู่ เพื่อนำมาใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
 
“เมื่อต้องเดินหน้าบนพื้นฐานของต้นทุนเดิม ผมกับน้องชายจึงต้องศึกษาหาข้อมูลของตลาดเครื่องดื่มอย่างหนัก และพบว่า สินค้าเพื่อสุขภาพมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และคู่แข่งยังไม่มาก จึงตัดสินใจที่จะทำเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ภายใต้แบรนด์ Double C โดยเข้าไปคุยกับทางเซเว่น อีเลฟเว่น ถึงแนวคิดดังกล่าว และทางเซเว่นก็ให้โอกาสเราได้ทำ

ซึ่งเงินทุนที่ใช้ในตอนนั้นต้องบอกว่าเป็นเงินทุนหมุนเวียนจริงๆ ทุกอย่างต้องเป็นเงินสด เพราะเรายังมีหนี้อยู่เยอะ แบงก์ไม่กล้าปล่อยสินเชื่อ ทำให้เราต้องรู้จักบริหารเงินทุนหมุนเวียนให้ดี ควบคู่ไปกับการสร้างวินัยที่ดีด้านการเงินกับสถาบันการเงิน และในช่วงสถานการณ์โควิด-19 เซเว่นเองก็ช่วยร่นระยะเวลาเครดิตให้จากเดิม 90 วัน เป็น 45 วัน ทำให้เรามีสภาพคล่องในการดำเนินงานมากขึ้น"

 
ด้าน สรวิศ ผู้บริหารอีกท่านหนึ่ง กล่าวเสริมว่า เมื่อทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง Double C ก็ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงปลายปี 2561 ภายใต้สโลแกน เครื่องดื่มวิตามินซี 200% ซึ่งได้รับการตอบรับจากตลาดเป็นอย่างดี เพราะรสชาติที่ถูกปาก พร้อมคุณประโยชน์ที่ตอบโจทย์คนรักสุขภาพในหลากหลายรสชาติ เช่น รสเลม่อนและมะนาว, รสส้มและเลม่อน, รสพีชและลิ้นจี่, รสเสาวรสและส้ม ในราคาเข้าถึงได้ง่ายเพียงขวดละ 15 บาท จึงทำให้ในปี 2562 บริษัทมีอัตราการเติบโตกว่า 300 % และก็เติบโตอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
 
“แม้ว่าสินค้าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี แต่เราก็ต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่องและต้องให้ไว เพราะตลาดนี้มีผู้สนใจจำนวนมาก หากเราช้าหรือหยุดพัฒนา จากผู้นำเราก็จะกลายเป็นผู้ตามในทันที ล่าสุดบริษัทได้ร่วมมือกับบริษัท เฟอร์โร เพอร์ฟอร์แมนซ์ แมททีเรียลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำด้านการผลิตสารเคลือบผิวสำหรับอุตสาหกรรม นำสารเคลือบผิวมาใช้ในการผลิตขวดใส ผ่านทาง บริษัท เวลโกรว์ กล๊าส อินด์ดัสทรี จำกัด (WGI) บริษัทโรงงานผลิตขวดชั้นนำของประเทศไทย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าว่าเครื่องดื่ม Double C จะให้วิตามินซีครบ 200% ด้วยนวัตกรรมขวดใสป้องกันแสง เจ้าแรก และเจ้าเดียวในประเทศไทย พร้อมขยายตลาดสู่กลุ่มประเทศ CLMV ในปีหน้า”
 
 
คุณภาณุวัฒก์ เงินศรีสุข
 
ขนมไทยบ้านทองหยอด : ค้นหาจุดแข็ง รักษามาตรฐาน พัฒนาต่อเนื่อง
 
แม้วันนี้ธุรกิจขนมไทย ภายใต้แบรนด์ “บ้านทองหยอด” จะถูกส่งไม้ต่อให้กับทายาทรุ่นที่ 3 แต่คุณภาพและรสชาติยังคงไม่เปลี่ยนแปลง แม้ว่ากาลเวลาจะล่วงเลยมากว่า 40 ปีแล้วก็ตาม ภาณุวัฒก์ เงินศรีสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีทีวาย ฟู้ด จำกัด เจเนอเรชันที่ 3 ของผลิตภัณฑ์ขนมไทย “บ้านทองหยอด” เล่าให้ฟังว่า แม้ตนเองจะเป็นรุ่นหลานที่เห็นธุรกิจนี้มาตั้งแต่เกิดก็ตาม แต่การเข้ามารับบริหารงานต่อก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะทุกอย่างมีความเปลี่ยนแปลงไม่ว่าจะเป็น ช่องทางการตลาด พฤติกรรมผู้บริโภค แต่สิ่งหนึ่งที่จะเปลี่ยนแปลงไม่ได้ในธุรกิจขนมก็คือ “รสชาติ”
 
“จุดแข็งของขนมไทยบ้านทองหยอด คือ มีรสชาติกลมกล่อม หอมอร่อย วัตถุดิบผ่านการคัดสรรมาเป็นอย่างดี ให้ความสำคัญและใส่ใจทุุกขั้นตอนการผลิต และถูกหลักอนามัย ซึ่งแม้เวลาจะผ่านไปนานเพียงใด จุดแข็งเหล่านี้ก็ยังคงอยู่ โดยเรายังคงมุ่งมั่นรักษามาตรฐานเป็นอย่างดี ทำให้ผลิตภัณฑ์ของเรายังคงได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคมาตลอด”

 
นอกจากนี้เรายังต้องพัฒนาสินค้าอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับขยายช่องทางการตลาดเพิ่มเติม จากเดิมในตอนแรกทำเฉพาะขนมทองหยอดและขนมทองหยิบจำหน่ายในตลาดสดเพียงช่องทางเดียว ก็พัฒนามาทำฝอยทองและเม็ดขนุนเพิ่มเติม เนื่องจากสามารถนำไปประยุกต์ในตลาดเบเกอรี่ได้

กระทั่งในปี 2560 และมองเห็นโอกาสในตลาดโมเดิร์นเทรด จึงเข้ามานำเสนอสินค้ากับทางซีพี ออลล์ และได้รับโอกาสนำขนมไทยบรรจุกล่องมาวางจำหน่าย ภายในกล่องประกอบด้วยขนม 3 ชนิด ได้แก่ ทองหยอด ฝอยทอง และเม็ดขนุนมาจำหน่ายที่ร้านเซเว่น อีเลฟเว่นในพื้นที่ภาคใต้เป็นครั้งแรก ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภค กระทั่งปัจจุบันสินค้าดังกล่าวจำหน่ายที่ร้านเซเว่น อีเลฟเว่นทั่วประเทศ
 
แม้ว่ารสชาติขนมจะได้มาตรฐาน รสชาติคงที่ และตรงตามความต้องการของตลาด แต่เราก็ไม่อาจที่จะหยุดพัฒนาโดยเฉพาะเรื่องการตลาด การพัฒนาสินค้า และการทำแพ็กเก็จจิ้ง โดยทางทีมงานของเซเว่นได้ให้คำแนะนำและให้ความรู้ในส่วนนี้อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ “ฝอยทองรังนก” ซึ่งทางเซเว่น ก็ได้เข้ามาให้ความรู้เช่นเดิม ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ได้รับการตอบรับดีเป็นอย่างดี
 
จากแนวคิดและมุมมองของผู้บริหาร NEW GEN ทั้ง 2 บริษัท เป็นเครื่องพิสูจน์ได้ว่า คนรุ่นใหม่ คืออีกหนึ่งความหวังและกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจ SME ให้สามารถก้าวผ่านทุกการเปลี่ยนแปลงในทุกบริบทของโลกการค้าได้อย่างน่าชื่นชม
 
อ้างอิงจาก : MGROnline.com
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
แฟรนไชส์ P.P.TYRE ร่วม..
1,728
แฟรนไชส์ “ไจแอ้นลูกชิ้..
1,496
“โฮมแคร์ภิบาล” จัด Ope..
1,475
ชีสซี่ฟราย สแน็ค เปิด ..
1,158
เรียนสร้างแฟรนไชส์ ในค..
904
ธงไชยผัดไทย เปิดโครงกา..
868
ข่าว SMEsมาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด