7.4K
20 พฤศจิกายน 2553
พีดีเฮ้าส์เร่งสยายปีกสาขา ต่อยอดแฟรนไชส์-เป้าโต50% 


 
ปทุมดีไซน์ ฯแจงระบบแฟรนไชส์เข้าที่แล้ว เริ่มคืนผลตอบแทนกลับ ดันผลประกอบการเข้าเป้า เผย10 เดือนรายได้ 350 ล้านบาท คาด2เดือนที่เหลือโกยยอดขายไม่น้อยกว่า 120 ล้านบาท ดันทั้งปีรายได้เกินเป้า 450 ล้านบาท เชื่อปีหน้าฟ้าใหม่เศรษฐกิจขยายตัวดี เร่งขยายสาขาแฟรนไชส์เพิ่ม8สาขา ตั้งตัวเลขเติบโตของรายได้40- 50% หรือกว่า 600-700 ล้านบาท
       
        นายสิทธิพร สุวรรณสุต ประธานกรรมการ บริษัท ปทุมดีไซน์ ดีเวลลอป จำกัด หรือ พีดี เฮ้าส์ กล่าวว่า หลังจากที่บริษัทขยายเพิ่มสาขาแฟรนไชส์ออกไปในต่างจังหวัดมากขึ้น ทำให้ในขณะนี้มีสาขาของปทุมดีไซน์ให้บริการทั่วประเทศถึง 18 สาขา โดยสาขาทั้งหมดเริ่มอยู่ตัวและมีคำสั่งการสร้างบ้านเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จากในช่วงครึ่งปีแรก สาขาแฟรนไชส์อยู่ในระยะการทำตลาดซึ่งต้องใช้เวลาในการสร้างแบรนด์ให้ลูกค้าได้เข้าใจและยอมรับ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในกลุ่มลูกค้าว่า บริษัทรับสร้างบ้านคืออะไร



 
       
        อย่างไรก็ดี ภายหลังบริษัททำการขยายสาขาและเร่งทำตลาดอย่างต่อเนื่องและจริงจัง ส่งผลให้เป็นที่รู้จักของลูกค้ามากยิ่งๆขึ้น โดยผลสำเร็จดังกล่าวสะท้อนออกมาในรูปแบบของยอดขายที่เพิ่มขึ้นในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา สามารถทำได้แล้ว 350 ล้านบาทใกล้เคียงกับเป้าทั้งปีที่วางไว้
       
        “ ในช่วงครึ่งปีหลัง พีดีเฮ้าส์กลับมาตีตลาดในพื้นที่กทม.-ปริมณฑลได้มากขึ้น ทำให้รายได้เข้ามา จากที่รายได้หลักๆของบริษัทในช่วงต้นปีมาจากกลุ่มลูกค้าต่างจังหวัด โดยมีสัดส่วนสูงถึง70% และส่วนของพื้นที่กทม.-ปริมณฑล 30%” นายสิทธิพร กล่าวถึงวิธีการโอบล้อมตลาดรับสร้างบ้าน
      
        พร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่า ช่วง 2 เดือนที่เหลือ (พ.ย.-ธ.ค.) จะเพิ่มยอดเข้ามาอีกไม่น้อยกว่า 100-120 ล้านบาท ผลักดันให้บริษัทมีรายได้สูงกว่าเป้ารายได้ทั้งปีที่วางไว้ 450ล้านบาท เนื่องจากในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ลูกค้าเข้ามาขอรายละเอียดและสนใจใช้บริการก่อสร้างบ้านมากขึ้น หลังจากที่ปัญหาการเมืองคลี่คลายลง ขณะที่เศรษฐกิจของประเทศได้กลับมาขยายตัวสูงขึ้นทำให้ลูกค้ามีความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจและหันกลับมาตัดสินใจสร้างบ้านอีกครั้ง จากเดิมที่มีการชะลอการก่อสร้างบ้านออกไปในช่วงที่เกิดปัญหาทางการเมือง



 

       
        “กลุ่มลูกค้าหลักของบริษัทที่เข้ามาใช้บริการสร้างบ้านของ พีดี เฮ้าส์ ในปัจจุบันส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง โดยลูกค้าจะสร้างบ้านในระดับราคา4-5 ล้านบาท และเน้นกลุ่มบ้านประหยัดพลังงานเป็นหลัก ซึ่งถือเป็นจุดแข็งของบริษัท เนื่องจากมีรางวัลชนะการประกวดบ้านประหยัดพลังงานการันตี ซึ่งปีหนี้บริษัทคาดว่าจะได้รับรางวัลแบบบ้านประหยัดพลังงานแบบใหม่ไม่น้อยกว่า5 รางวัลจากที่ส่งเข้าประกวด10แบบ”
      
        นายสิทธิพร กล่าวว่า ในปี 2554 แนวโน้มเศรษฐกิจยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นผลดีแก่ธุรกิจของบริษัทรับสร้างบ้าน ดังนั้น เพื่อให้ทันกับการขยายตัวของเศรษฐกิจ บริษัทต้องเร่งขยายสาขาใหม่เพิ่มอีก 8 สาขาตามแผนระยะยาว 5ปี ที่มีให้ครบ 50 สาขาทั่วประเทศ โดยในปี 54 ตั้งเป้าว่าจะมีรายได้เติบโตจากการขยายสาขาและเข้าถึงลูกค้าใหม่ๆในตลาดที่มีการเปิดสาขาแล้วเพิ่มมากขึ้น โดยตั้งเป้าว่าจะมีรายได้เติบโตจกปีนี้ 40-50% หรือมีรายได้เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 600-700ล้านบาท
       
        อย่างไรก็ตามคาดว่าในปี 54 ผู้ประกอบการรายใหญ่ จะเริ่มขยายตลาดออกไปในต่างจังหวัดมากขึ้น โดยเฉพาะในเมืองและจังหวัดใหญ่ๆ ที่มีกำลังซื้อสูง ซึ่งอาจจะเป็นตลาดที่บริษัทมีสาขาเปิดให้บริการอยู่แล้ว แต่ไม่น่าจะส่งผลต่อบริษัท เพราะลูกค้าของบริษัทมีกำลังซื้ออยู่ในช่วง 4-5 ล้านบาท และส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่ต้องการแบบบ้านประหยัดพลังงาน ขณะที่ผู้ประกอบการรายใหญ่ที่จะเข้ามา จะเน้นไปที่ตลาดบ้านที่ให้พื้นที่(ฟังก์ชั่น)และรูปแบบบ้าน.
 

อ้างอิงจาก ผู้จัดการออนไลน์
 

ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
แฟรนไชส์ P.P.TYRE ร่วม..
1,635
แฟรนไชส์ “ไจแอ้นลูกชิ้..
1,462
“โฮมแคร์ภิบาล” จัด Ope..
1,427
ชีสซี่ฟราย สแน็ค เปิด ..
1,117
เรียนสร้างแฟรนไชส์ ในค..
888
ธงไชยผัดไทย เปิดโครงกา..
820
ข่าวแฟรนไชส์มาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด