เทคนิคขับ Grab ให้ได้ 4 หมื่นต่อเดือน
1. ช่วงเช้าคือเวลาที่ดีที่สุด
เวลาเช้าเป็นเวลาที่ทุกคนออกจากบ้านไม่ว่าจะไปเรียนหรือทำงานดังนั้นจะมีลูกค้าเยอะมาก แต่พาร์ทเนอร์หลายคนก็พลาดงานช่วงเวลานี้ ทำให้เสียโอกาสในการสร้างรายได้ที่มากขึ้น
2. ศึกษาเส้นทาง
เส้นทางในกรุงเทพค่อนข้างซับซ้อนการศึกษาเส้นทาง จะทำให้รู้จักทางลัดทางที่ควรหลีกเลี่ยง ซอยไหนเชื่อมต่อกับถนนอะไร
- ช่วยให้ประหยัดเวลาเดินทาง
- ไปหาลูกค้าได้เร็วขึ้นจบงานเร็ว
- มีเวลารับงานได้เพิ่ม
3. โทรคอนเฟิร์มงานกับลูกค้า
เมื่อรับงานแล้วโทรคอนเฟิร์มงานกับลูกค้าจะช่วยลดปัญหา
- ลูกค้าเรียกรถผิดประเภท
- ลูกค้าปักหมุดผิด
- หาลูกค้าไม่เจอ
4. หากลุ่ม / เพื่อนที่ขับแกร็บไบค์ด้วยกัน
การมีกลุ่มเพื่อนที่ขับแกร็บไบค์ด้วยกันเป็นสิ่งที่มีประโยชน์มากในการทำงาน เพราะเพื่อนในกลุ่มจะคอยส่งข่าวสารถึงกันว่า แถวไหนงานเยอะ แถวไหนรถติด ฝนตก แถมยังสามารถแลกเปลี่ยนเทคนิคการขับรถกันในกลุ่มได้อีกด้วย
5. รู้ว่าเวลาไหน ลูกค้าอยู่ตรงไหน
ต้องสังเกตว่า เวลาแบบนี้ควรไปรอผู้โดยสารตรงไหน หรือ บริเวณนี้ ผู้โดยสาร มักจะรอเรียกรถตรงไหน เช่น ช่วงเลิกงานย่านออฟฟิศ สถานีขนส่ง จะมีผู้โดยสารรอใช้บริการอยู่มาก หรือช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์แหล่งท่องเที่ยวจะมีผู้โดยสารมากเป็นพิเศษ
สร้างความประทับใจให้ลูกค้า
1.ความเป็นมิตรกับลูกค้า
การชวนคุยเป็นเรื่องที่คนขับ Grab ควรทำถึงลูกค้าบางคน อาจไม่ชอบการสนทนาแต่อย่างน้อย ก็ควรมีการกล่าวทักทาย
2.ขับรถให้นุ่มนวลที่สุด
ปลอดภัยไว้ก่อน ยิ่งขับรถดี สุภาพ ยิ่งสร้างความประทับใจได้มากกว่า
3.บริการพิเศษ
นอกจากอัธยาศัยดี ขับรถดี ก็ควรมีบริการพิเศษในรถด้วย เช่น บริการขนม ลูกอม
รายได้จากการขับ Grab
เลือกเวลา เลือกโซนรับงานที่ดี อดทน ขยัน ไม่กลัวรถติด อาจทำให้มีรายได้ มากกว่า 40,000 บาท ข้อมูลจากผู้ที่ขับ Grab เป็นอาชีพเสริมช่วงหลังเลิกงาน หรือวันหยุด พบว่า วันธรรมดา สร้างรายได้ไม่ต่ำกว่าวันละ 500-2,000 บาท/วัน วันหยุดสร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 1,500-2,000 บาท/วัน
ทั้งหมดนี้ ขึ้นอยู่กับความขยันและเทคนิคในการหาลูกค้าของแต่ละคน
10 ธันวาคม 2562 
