กุหลาบป่า( rosa roxbrghiitratt )เป็นพืชป่าจากจีนที่จัดเป็นพืชจำพวกกุหลาบชนิดหนึ่งมีประวัติกว่าหนึ่งพันปีมาแล้ว ในยุคโบราณเป็นยาบำรุงร่างกายเพื่อชะลอความแก่ที่ใช้ในราชวัง โดยปกติธรรมชาติของกุหลาบป่าจะออกดอกและผลปีละครั้งประมาณเดือน 9 - 11 ภูมิประเทศและอากาศที่จะอยู่ได้ก็คือ บนภูเขาสูงกว่า 800 เมตรสภาพอากาศที่เหมาะสมก็คือประเทศจีน นับว่าเป็นผลไม้ที่ปลูกและหายากเป็นอย่างยิ่ง
สรรพคุณ
1. กุหลาบป่าทุก 100 กรัมจะประกอบด้วยวิตามินสูงถึง 2500 มิลลิกรัม ( เป็น180 เท่าของแอปเปิลและ 120 เท่าของส้ม ) 2. มี SOD สูงถึง29100u ซึ่งเป็นเอมไซม์ชนิดหนึ่งที่สามารถต่อต้านโรคมะเร็ง ชะลอความแก่ ลดอาการอักเสบ ป้องกันการติดเชื้อ 3. มีกรดอะมิโนถึง 18 ชนิดที่ร่างกายเราต้องการรวมถึงวิตามินรวมต่างๆที่ผลไม้อย่างอื่นไม่มี โดยมีวิตามินบี1, วิตามินบี2 วิตามินเอ,วิตามินซี,วิตามินดี และวิตมินอี 4. มีแคลเซียม,ฟอสฟอรัส,เหล็ก,สารเยมาเนียม,สารทรอนเทียม,สารเซลีเนียม,สารแมกนีเซียม,ทองแดง,ดคบอลท์ และกรดทั่วไป ทำให้สามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ทั้งหมดนี้เป็นสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายสูงสุด เช่นโรคหัวใจ,เบาหวาน,ไขมันในเส้นเลือดสูง,เส้นเลือดแข็งตัว ทำให้ตับและม้ามแข็งแรงปรับประจำเดือน รวมทั้งโรควัยทองได้ผลเกินคาด สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว รับประทานวันละ 3 แคปซูล หากอายุไม่เกิน 30 ปี และ ไม่มีโรคประจำตัวทานแค่วันละ 2 แคปซูลได้
เคล็ดลับ
นอกจากรับประทานตามปกติแล้ว ยังสามารถดัดแปลงการใช้เพื่อผลลัพท์ที่ดียิ่งขึ้นไปอีกดังนี้ 1. ละลายกุหลาบป่า 3 แคปซูลในน้ำ ครึ่ง แก้ว ต้องรับประทานทั้งหมด ( ผู้ที่รับประทาน 2 แคปซูล ให้ละลายในน้ำครึ่งแก้วเหมือนกัน ) 2. ละลายกุหลาบป่า 1 แคปซูลในน้ำ 1 แก้ว ( 150 มิลลิลิตร ) นำน้ำกุหลาบป่าที่ละลายแล้ว 2-3 ช้อนผสมกับนำผึ้ง 1- 2 หยด น้ำมะนาว 1 - 2 หยด คนให้เข้ากัน สามารถใช้ทาบริเวณผิวหน้าทิ้งไว้ประมาณครึ่งชั่วโมงแล้วล้างออก จะทำให้ผิวหน้ากระจ่างใส่ รู้สึกสดชื่น ( สำหรับผิวมันไม่ต้องใช้นำผึ้งหยด ให้ใช้น้ำมะนาวอย่างเดียว และน้ำกุหลาบป่าที่ละลายไว้แล้วสามารถ เก็บแช่ ตู้เย็นไว้ใช้ทีหลังได้ ) 3. กุหลาบป่าที่ละลายไว้แล้วสามารถนำไปใส่ขวดสเปรย์ฉีดพ่นบริเวณหน้าได้เพื่อเพิ่มความชุ่มชื่น และฆ่าเชื้อ หรือใช้ฉีดพ่นบริเวณบาดแผลต่างๆได้ 4. กุหลาบป่าที่ละลายแล้ว เมื่อเป็นหวัดคัดจมูก สามารถใช้สำลีชุบน้ำกุหลาบป่า เช็ดโพรงจมูกทำให้หายใจสะดวกขึ้น |