เจเอเอส แอสเซ็ท เล็งผุดโครงการมิกซ์ยูสปีหน้า เผยอยู่ระหว่างเจรจาที่ดิน 3-4 แปลงใน กทม.
นายสุพจน์ วรรณา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท ผู้ดำเนินธุรกิจคอมมูนิตี้มอลล์ภายใต้แบรนด์ แจส เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาโครงการมิกซ์ยูส ซึ่งจะประกอบไปด้วยพื้นที่ค้าปลีก และที่อยู่อาศัย เพื่อให้โครงการมีความครบวงจรมากขึ้น ภายหลังจากทดลองทำธุรกิจค้าปลีกในรูปแบบคอมมูนิตี้มอลล์มาแล้ว 2 แห่ง คือ เดอะ แจส วังหิน และเดอะ แจส รามอินทรา พบว่าลูกค้าให้ผลการตอบรับเป็นอย่างดี
อย่างไรก็ดี ตอนนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับเจ้าของที่ดินประมาณ 5-6 แปลง แบ่งเป็นในกรุงเทพฯ 3-4 แห่ง และในหัวหิน 1 แห่ง เพื่อพัฒนาพื้นที่ค้าปลีกในอนาคต ซึ่งบริษัทวางแผนไว้ว่าจะต้องพัฒนาคอมมูนิตี้มอลล์ใหม่ปีละไม่ต่ำกว่า 1 สาขา โดยในส่วนของที่ดินที่กำลังเจรจาในขณะนี้ เบื้องต้นในปี 2560 มีความเป็นไปได้ว่าจะได้ข้อสรุปจำนวน 1 แปลง นำมาพัฒนาเป็นโครงการมิกซ์ยูส
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้ ล่าสุดบริษัทได้เตรียมเปิดตัวคอมมูนิตี้มอลล์แห่งที่ 3 ในย่านศรีนครินทร์ ภายใต้ชื่อ แจส เออเบิร์น ศรีนครินทร์ ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่ 11 ไร่ แบ่งเป็นพื้นที่ค้าปลีกประมาณ 1.7 หมื่น ตร.ม. เป็นอาคาร 3 ชั้น และชั้นจอดรถใต้ดิน 1 ชั้น ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างภายใต้งบลงทุน 600 ล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการได้ภายในไตรมาส 4 นี้
"ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของโครงการ แจส เออเบิร์น ศรีนครินทร์ จะเน้นไปที่กลุ่มเจนเอ็กซ์ หรือกลุ่มครอบครัวที่พักอาศัยอยู่ในย่านบางพลี หรือสมุทรปราการ ซึ่งปัจจัยที่ทำให้บริษัทเลือกย่านศรีนครินทร์ เพราะรอบโครงการมีบ้านจัดสรร และคอนโดมิเนียมกว่าร้อยโครงการ
นอกจากนี้ กลุ่มผู้บริโภคในย่านนี้ยังมีกำลังซื้อสูง ซึ่งหลังจากเปิดให้บริการบริษัทมั่นใจว่าจะได้ผลการตอบรับที่ดี เพราะในย่านนี้ยังไม่มีโครงการในรูปแบบคอมมูนิตี้มอลล์ที่มีบริการครบวงจรไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ร้านค้าแฟชั่น ซูเปอร์มาร์เก็ต หรือโรงหนังดีๆ เปิดให้บริการ" นายสุพจน์ กล่าว
นอกจากนี้ ในส่วนของธุรกิจบริหารจัดการพื้นที่เช่าจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่และสินค้าเทคโนโลยีภายใต้ชื่อ ไอทีจังก์ชั่น ซึ่งเปิดให้บริการอยู่ภายในห้างบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ และห้างค้าปลีกอื่นๆ นั้น ในปีนี้มีแผนที่จะขยายเพิ่มประมาณ 10 สาขา จากปัจจุบันมี 48 สาขา ภายใต้งบลงทุนสาขาละประมาณ 5 ล้านบาท
ขณะที่ธุรกิจค้าปลีกในรูปแบบตลาดชุมชนภายใต้ชื่อ เจ.มาร์เก็ต ปัจจุบันมี 4 สาขา ในปีนี้ยังไม่มีแผนเปิดเพิ่ม เนื่องจากยังอยู่ในช่วงของการทดลองผลการตอบรับของลูกค้า ซึ่งหลังจากเดินหน้าขยายธุรกิจต่อเนื่องคาดสิ้นปีมีรายได้เติบโต 30% ตรงตามเป้าหมายที่วางไว้
อ้างอิงจาก reic.or.th
ขอบคุณรูปภาพจาก https://goo.gl/iIun26