930
18 พฤษภาคม 2563
“เฉลิมชัย” ย้ำชัด “เราจะไม่ทิ้งกัน” พร้อมเปิดมาตรการคู่ขนานเพิ่มรายได้
 
 
 
เฉลิมชัยย้ำชัด “เราจะไม่ทิ้งกัน” เร่งจัดทำทะเบียนเกษตรกรให้ครอบคลุมแล้วเสร็จตามกำหนด พร้อมมีมาตรการคู่ขนานผลิตอาหารบริโภคในครัวเรือนและเพิ่มรายได้อีกทางหนึ่ง “อลงกรณ์” เคลียร์ชัดประเด็น เว็บ ธ.ก.ส. www.เยียวยาเกษตรกร.com เฉพาะเกษตรกรที่ไม่มีบัญชีกับ ธ.ก.ส.
 
นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า จากกรณีที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้เปิดเว็บไซต์ www.เยียวยาเกษตรกร.com โดยเปิดให้เกษตรกรลงทะเบียนเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2563 เวลา 20.00 น. ในโครงการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 นั้น มีเกษตรกรจากหลายจังหวัดสอบถามมาด้วยความข้องใจว่าต้องขึ้นทะเบียนเกษตรกรต่อ ธ.ก.ส.ด้วยหรือไม่ จึงขอชี้แจงว่าเว็บ “เยียวยาเกษตรกร” ของ ธ.ก.ส.ให้เกษตรกรลงทะเบียนว่าจะให้โอนเงินไปเข้าบัญชีธนาคารอะไรในกรณีที่ไม่มีบัญชีธนาคารกับ ธ.ก.ส.
 
สำหรับความคืบหน้าล่าสุด จำนวนเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนซึ่งจะได้รับรายละ 15,000 บาท จ่าย 5,000 บาทต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม 2563 วงเงิน 150,000 ล้านบาท จำนวนไม่เกิน 10 ล้านราย ประกอบด้วย
  1. เกษตรกรเป้าหมายกลุ่มแรก (ข้อมูลสรุป ณ 30 เม.ย. 63) จำนวนไม่เกิน 8.33 ล้านราย จ่ายเงินผ่าน ธ.ก.ส. และ
  2. เกษตรกรเป้าหมายกลุ่มที่สอง ได้แก่ เกษตรกรที่อยู่ระหว่างการขึ้นทะเบียน ซึ่งจะหมดเขตวันที่ 15 พ.ค. 63 จำนวนไม่เกิน 1.67 ล้านราย
นายอลงกรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตามที่นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน ได้มีความห่วงใยและกำชับให้ดูแลพี่น้องเกษตรกร เพราะนอกเหนือจากสถานการณ์โควิด-19 แล้ว พี่น้องเกษตรกรยังประสบปัญหาภัยแล้งและอุทกภัย กระทรวงเกษตรฯ จึงมีมาตรการต่างๆ เข้ามาช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรนอกเหนือจากมาตรการเยียวยาในช่วงโควิด-19 เช่น ในส่วนของกรมประมง จะมีการแจกจ่ายปลานิลแปลงเพศ ประมาณ 44,000 ราย รายละ 800 ตัว พร้อมอาหารปลาจำนวน 120 กิโลกรัม ซึ่งถือเป็นการเพิ่มรายได้อีกทางหนึ่งให้แก่เกษตรกร
 
นอกจากนี้ ยังมีการปล่อยกุ้งก้ามกร้ามตามแหล่งน้ำสาธารณะ 1,436 แห่ง 129 อำเภอ แห่งละ 200,000 ตัว และให้มีการตั้งคณะกรรมการมาดูแลแหล่งน้ำชุมชน เพื่อให้เป็นระบบในการบริหารจัดการแหล่งน้ำร่วมกัน โดยวัตถุประสงค์หลักเพื่อต้องการให้เกษตรกรและคนในชุมชนมีอาหารไว้บริโภคในครัวเรือน และเมื่อเหลือแล้วถึงเอาไปขาย โดยดำเนินการในลักษณะของชุมชน นอกจากนี้ ในส่วนของกรมปศุสัตว์ รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณในการมอบเป็ดไข่ ไก่ไข่ ไก่เนื้อ ประมาณ 77,000 ครอบครัว เพื่อให้เกิดรายได้อีกทางหนึ่งด้วย
 
“ในกรณีของชาวไร่ มีการสนับสนุนงบประมาณในการปลูกพืชใช้น้ำน้อย เช่น ถั่วเขียว ข้าวโพด มีการจัดสรรให้ 12,000 ครอบครัว เกือบ 100,000 ไร่ นอกจากนี้ ยังมีการจัดสรรเมล็ดพันธุ์ข้าวจำนวนหลายหมื่นตัน โดยให้กรมการข้าวและกรมส่งเสริมสหกรณ์เป็นผู้ผลิตและจัดสรรให้แก่เกษตรกร ซึ่งการดำเนินการในลักษณะดังกล่าวจะทำให้เม็ดเงินกลับคืนไปสู่เกษตรกร” นายอลงกรณ์กล่าวในที่สุด
 
ทั้งนี้ การขึ้นทะเบียนเกษตรกรของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จากเดิมที่มีการตรวจสอบเกษตรกรขึ้นทะเบียนต่อ 3 กรม ได้แก่ กรมส่งเสริมการเกษตร กรมประมง และกรมปศุสัตว์ ปัจจุบันจะมีการเพิ่มเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนต่อกรมหม่อนไหมด้วย นอกจากนี้ ยังมีการตรวจสอบทะเบียนเกษตรกรที่ไม่อยู่ภายใต้ระเบียบคณะกรรมการนโยบายและแผนฯ ว่าด้วยการขึ้นทะเบียนเกษตรกร พ.ศ. 2560

ได้แก่ เกษตรกรชาวสวนยางที่ขึ้นทะเบียนไว้กับการยางแห่งประเทศไทย เกษตรกรชาวไร่อ้อยที่ขึ้นทะเบียนไว้กับสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย และเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบที่ขึ้นทะเบียนไว้กับการยาสูบแห่งประเทศไทย ซึ่งในเบื้องต้นได้มีการหารือร่วมกับกระทรวงการคลังเพื่อกำหนดเป้าหมายที่จะดำเนินการช่วยเหลือเยียวยาในครั้งนี้
 
อ้างอิงจาก : MGROnline.com
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ชายสี่ คอร์ปอเรชั่น เป..
4,973
ชีสซี่ฟราย สแน็ค เปิดต..
4,007
เริ่มแล้ว! งานแฟรนไชส์..
2,894
แรงจริง! #แฟรนไชส์ ก๋ว..
1,607
พบบูธ “ก๋วยเตี๋ยวเรือป..
985
ธงไชยผัดไทย ร่วมกับ 7-..
974
ข่าว SMEsมาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด