2.0K
13 พฤศจิกายน 2557
ชี้ช่องธุรกิจไทยบุกพม่า 9 เดือนไทยพลิกเกินดุล



ทูตพาณิชย์ชี้ช่องทัพธุรกิจไทยเร่งขยายลงทุนในเมียนมาร์ ชูธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง แฟรนไชส์ ร้านอาหาร ดาวเด่น แต่ยังห่วงกฎระเบียบไม่ชัดเจน ที่ดิน-ค่าเช่าอาคารแพงเว่อร์ ทำนักลงทุนไทยถอดใจแต่พร้อมเป็นพี่เลี้ยง ขณะตัวเลข 9 เดือนไทยพลิกเกินดุลการค้าเมียนมาร์ครั้งแรกรอบ 13 ปี

นายบูรณ์ อินธิรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สคร.) ณ กรุงย่างกุ้ง สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ถึง โอกาสการค้า การลงทุนในเมียนมาร์ในเวลานี้ยังมีช่องทางโอกาสอีกมาก

โดยในส่วนของการลงทุนนั้นทาง สคร.ได้กำหนดยุทธศาสตร์ธุรกิจที่ไทยมีศักยภาพและควรเร่งเข้าไปลงทุนในเมียนมาร์ในกลุ่มธุรกิจบริการและธุรกิจแฟรนไชส์ให้มากขึ้น เช่น ออกแบบ และรับเหมาก่อสร้าง  ธุรกิจโรงแรม ภัตตาคาร รีสอร์ต  อพาร์ตเมนต์  คอนโดมิเนียม โรงพยาบาล สุขภาพและความงาม  เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมีอุตสาหกรรมที่ไทยมีศักยภาพขยายการลงทุนในเมียนมาร์ เช่นโรงงานแปรรูปอาหารและเครื่องดื่ม  สิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูป ชิ้นส่วนและวัสดุก่อสร้าง รวมถึงโครงการสาธารณูปโภคอื่นๆ  ซึ่งสคร.ได้มีการรวบรวมข้อกฎหมาย และกฎระเบียบต่างๆ ในการเข้าไปประกอบธุรกิจในเมียนมาร์ไว้ให้สำหรับนักลงทุนที่สนใจ



"การลงทุนในเมียนมาร์อยากแนะนำให้เข้าไปร่วมทุนกับคนท้องถิ่นมากกว่าเข้าแบบเดี่ยวๆ  เนื่องจากคนท้องถิ่นจะรู้ภาษาและกฎระเบียบดีกว่า ทั้งนี้การลงทุนในเมียนมาร์เพิ่มขึ้นจากช่วง 2 ปีที่ผ่านมากว่า 3 เท่าตัวขณะที่ในส่วนของการค้าปัจจุบันไทยเป็นคู่ค้าอันดับ 2 ของเมียนมาร์ รองจากจีน"

ส่วนปัญหาอุปสรรคในการเข้าไปลงทุนในเมียนมาร์มีอยู่ไม่กี่ประเด็น เช่น ที่ดินมีราคาสูงเกินจริง เช่น ราคาที่ดินกลางกรุงย่างกุ้ง เฉลี่ยตารางวาละ 2-2.4 ล้านบาท ค่าเช่าพื้นที่หรืออาคารสำนักงาน สูงเกินไป เฉลี่ยตารางเมตรละ 90-100 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อเดือน

นอกจากนี้มีเรื่องข้อกฎหมาย ไม่มีรายละเอียดและระเบียบปฏิบัติที่ชัดเจน ระบบสาธารณูปโภคยังขาดแคลนและไม่มีประสิทธิภาพ แรงงานไร้ฝีมือ ขณะที่แรงงานที่มีฝีมือส่วนใหญ่อยู่ในไทยกว่า 2 ล้านคน ระบบการเงินการธนาคารยังไม่ทันสมัย มีค่าธรรมเนียมที่สูง การบริหารจัดการยังขาดความโปร่งใส เป็นต้น


"ช่วงที่นายกรัฐมนตรีของไทยไปเยือนเมียนมาร์ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมาได้มีการเสนอให้มีการจัดประชุมคณะทำงานร่วม หรือ JTC ระหว่างไทยกับเมียนมาร์ที่ทางเมียนมาร์จะเป็นเจ้าภาพในครั้งหน้า  การเสนอให้ทั้ง 2 ประเทศขยายการลงทุนและการค้าตามแนวชายแดน และปรับปรุงด่านต่างๆเพื่ออำนวยความสะดวกด้านการค้า การตั้งศูนย์กระจายสินค้า การจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษที่แม่สอด รวมทั้งสร้างความร่วมมือในการตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายและเขตเศรษฐกิจพิเศษติลาวา"

อย่างไรก็ดีอยากเสนอรัฐบาลให้เร่งก่อสร้างเส้นทางเชื่อมโยงกับเมียนมาร์ เพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของผู้ประกอบการในการขนส่งสินค้าไปยังอาเซียน  เช่น เส้นทางแม่สอด-ย่างกุ้ง ระยะทางประมาณ 400 กิโลเมตร มูลค่าก่อสร้าง5-6 พันล้านบาท และเส้นทางกรุงเทพฯ-ทวาย  ระยะทาง300กิโลเมตร มูลค่าลงทุน4-5พันล้านบาท  เป็นเส้นทางไฮเวย์เชื่อมต่อกับเส้นทางการค้าสู่อาเซียน

อนึ่ง การค้าไทย-เมียนมาร์ในปี 2556 มีมูลค่า  2.38 แสนล้านบาท โดยไทยส่งออก 1.14 แสนล้านบาท นำเข้า 1.23 แสนล้านบาท ไทยขาดดุล 9.17 พันล้านบาท ส่วนช่วง 9 เดือนแรกของปี นี้ การค้า 2 ฝ่ายมีมูลค่า  1.90 แสนล้านบาท ไทยส่งออก 1.02 แสนล้านบาท นำเข้า 8.83 หมื่นล้านบาท ไทยเกินดุลเมียนมาร์ 1.36 หมื่นล้านบาท ถือเป็นการเกินดุลครั้งแรกในรอบ 13 ปี


หลังจากไทยเกินดุลเมียนมาร์ครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2543 และหลังจากนั้นขาดดุลมาโดยตลอด จากเมียนมาร์มีการนำเข้าสินค้าพื้นฐานจากไทยเพิ่มขึ้น อาทิ น้ำมันสำเร็จรูป เครื่องดื่ม  เครื่องจักรกล ปูนซีเมนต์ เป็นต้น

อ้างอิงจาก  ฐานเศรษฐกิจ
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
สาขาใหม่ มาแล้ว! ทูลเก..
6,214
PLAY Q by CST bright u..
1,329
มาแล้ว! #งานแฟรนไชส์ ม..
947
อร่อย! เลิศ! รสเด็ด ก๋..
945
สุดปัง! แฟรนไชส์หม่าล่..
794
ลงทุนกับ “ซุปซุป” ร้าน..
770
ข่าว SMEsมาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด