5.1K
18 มิถุนายน 2556
ดังกิ้นฯ ชู "ไลฟ์สไตล์ คาเฟ่" มัดใจลูกค้า-อุดช่องว่างมื้อระหว่างวัน


 
"ดังกิ้น โดนัท" เชนโดนัทรายใหญ่ที่สุดของโลก หลังจากที่ชูจุดขายเรื่องความรวดเร็วในการให้บริการมานาน ล่าสุดได้ปรับโฟกัสมาที่บรรยากาศและการดีไซน์ภายในร้านมากขึ้น เพื่อสร้างประสบการณ์และดึงลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น 
 
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า หลังจากที่ดังกิ้น โดนัทได้ใช้สโลแกน "American runs on Dunkin" ทำตลาดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เพื่อตอบโจทย์ความเร่งรีบในสังคมอเมริกัน กับวัฒนธรรมการดื่มกาแฟและโดนัทในช่วงเช้าก่อนไปทำงาน แม้กลยุทธ์ดังกล่าวจะได้รับการตอบรับที่ดี แต่สิ่งเกิดขึ้นคือทำให้ลูกค้ามักจะเข้าร้านดังกิ้น โดนัทในชั่วโมงเร่งด่วนเท่านั้น 
 
ความพยายามครั้งใหม่ของดังกิ้นฯ จึงต้องการดึงให้คนหันมาใช้เวลาอยู่ในร้านและแวะเวียนเข้ามาใช้บริการในช่วงเวลาอื่น ๆ นอกจากมื้อเช้า โดยการเปลี่ยนคอนเซ็ปต์ของร้านใหม่ให้มีความเป็น "คาเฟ่" มากยิ่งขึ้น ด้วยสีแนวเอิร์ธโทนและเพลงแจ๊ซที่ใช้บรรเลงขับกล่อมลูกค้า
 
แนวทางดังกล่าวดูคลับคล้ายกับสิ่งที่เชนร้านกาแฟยักษ์ใหญ่ของโลกอย่าง "สตาร์บัคส์" นำเสนอมาโดยตลอด คือการเป็นสถานที่ให้ผู้คนได้มาพบปะ ชิมกาแฟ ไปจนถึงใช้เวลาว่างในการนั่งเล่นอินเทอร์เน็ต
 
หลังจากการปรับเปลี่ยนรูปแบบร้านใหม่ ซีอีโอของดังกิ้น โดนัท "ไนเจล ทราวิส" ได้กล่าวขณะให้สัมภาษณ์ที่สำนักงานใหญ่แคนตัน แมสซาชูเซตส์ ว่า "เราได้หักล้างความคิดเดิม ๆ ของผู้บริโภคว่าดังกิ้นฯเป็นร้านที่คนมักจะเข้าก่อน 11 โมงเช้าเท่านั้น"  ซึ่งทำให้ช่วงกลางวันและตลอดบ่ายถือเป็น "ช่องว่าง" สำคัญที่เชนดังกิ้นฯรายนี้ต้องการเติมเต็ม 
 
"เราไม่ได้เป็นร้านที่เน้นบรรยากาศ เอื้อสำหรับการใช้เวลาอยู่ในร้านนานๆ ดังนั้น ด้วยดีไซน์ และสิ่งใหม่ๆ ที่เราใส่ลงไปครั้งนี้ จะทำให้ลูกค้าใช้เวลาทำกิจกรรมต่าง ๆ ในร้านนานขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่เราขาดหายมาโดยตลอด"
 
 
 
แรงผลักดันในการปรับตัวครั้งนี้ ส่วนหนึ่ง มาจากผลสำรวจก่อนหน้านี้ของ Nation"s Restaurant News และ WD Partner จัดอันดับร้านอาหารประเภทเครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยว พบว่า "ดังกิ้นฯ" มีคะแนนด้านบรรยากาศในร้านเป็นอันดับที่สอง จากท้ายตาราง ในขณะที่สตาร์บัคส์ได้คะแนนส่วนนี้เป็นที่ 1 
 
โมเดลของดังกิ้นฯยังคล้ายคลึงกับ "พาเนรา เบรด" เชนคาเฟ่เบเกอรี่จากสหรัฐ ที่อัพเกรดจากร้านที่เน้นความสะดวกรวดเร็ว เป็นร้านสไตล์ "ฟาสต์แคชชวล" คือให้บรรยากาศความเป็นร้านอาหารมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน ยังคงความรวดเร็วเอาไว้ การเปลี่ยนแปลงในลักษณะนี้ ยังเห็นได้จากที่ร้านเบอร์เกอร์อย่าง "เวนดี้ส์" ที่ได้ยกเครื่องจากร้านรูปแบบเดิม ๆ และนำบรรดาทีวีจอแบน เตาผิง เบาะรองนั่ง เข้าไปใส่ในร้าน 
 
ขณะที่สตาร์บัคส์ แม้จะเป็นผู้นำในด้านนี้อยู่แล้ว ก็ยังเดินหน้าพัฒนาอยู่ตลอดเวลา โดยในปีงบประมาณล่าสุด บริษัทใช้งบฯถึง 2 ใน 3 ของค่าใช้จ่ายในการลงทุน 1.2 พันล้านบาท ปรับรูปแบบร้านกว่า 1,400 จุดขายในสหรัฐ
 
จากรายงานของเทคโนมิค บริษัทที่ทำการสำรวจและวิเคราะห์ตลาดในชิคาโก กล่าวว่า ยอดขายของร้านกาแฟในสหรัฐเพิ่มขึ้น 8% ในปีที่แล้ว ขณะที่ร้านเบอร์เกอร์เติบโตขึ้น 5% และรูปแบบเรสเตอรองต์เติบโต 4.5% 
 
ในส่วนของดังกิ้นฯวางแผนที่จะเพิ่มจำนวนสาขาอีกเท่าตัวเป็น 15,000 จุด โดยเฉพาะทางตะวันตกของสหรัฐ และรักษาระดับของการเป็นร้านกาแฟและร้านขายอาหารว่างที่เติบโตเร็วที่สุดไว้ ปัจจุบันสาขาของดังกิ้นฯ 99% เป็นรูปแบบแฟรนไชส์ ซึ่งส่วนใหญ่ยินยอม "รีโมเดล" ช็อปใหม่ โดยสาขามากกว่า 1,000 แห่ง ลงทุนกว่า 13,000 เหรียญ เพิ่มบอร์ดเมนูที่เป็นดิจิทัลเข้าไปในร้านด้วย 
 
 
 
"ทราวิส" ระบุว่า ผู้ได้รับสิทธิ์แฟรนไชส์ของดังกิ้นฯ จำเป็นต้องเปลี่ยนรูปแบบร้านใหม่ อย่างน้อยทุก ๆ 10 ปี ถึงตอนนี้ดังกิ้นฯได้เปิดตัวช็อปรูปแบบใหม่ไปทั้งสิ้น 90 สาขา และคาดว่าจะมีครบ 600 สาขาภายในสิ้นปี "เราสามารถแข่งขันกับสตาร์บัคส์ได้แล้วในตอนนี้" Yini Castaneda ผู้จัดการของโปรเจ็กต์รีโมเดลระบุ 
 
ดังกิ้นฯยังได้เริ่มขายอาหารประเภทแซนด์วิชในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา โดยจับคู่โปรโมชั่นกับชาหรือกาแฟ ในราคา 99 เซนต์ ในช่วงเวลา 15.00-18.00 น. เพื่อดึงลูกค้าให้เข้าร้านช่วงบ่ายมากขึ้นด้วย 
 
ความพยายามต่าง ๆ พิสูจน์ได้จากสัดส่วนยอดขายช่วงบ่ายที่เพิ่มขึ้น สามารถไล่ผู้นำอย่างสตาร์บัคส์มาติด ๆ โดยยอดขายสตาร์บัคส์หลัง 11.00 น. มีสัดส่วนถึง 50% ขณะที่ดังกิ้นฯตอนนี้ทำได้ถึง 40%

อ้างอิงจาก ประชาชาติธุรกิจ
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
แฟรนไชส์ P.P.TYRE ร่วม..
1,414
แฟรนไชส์ “ไจแอ้นลูกชิ้..
1,331
“โฮมแคร์ภิบาล” จัด Ope..
1,231
ชีสซี่ฟราย สแน็ค เปิด ..
853
เรียนสร้างแฟรนไชส์ ในค..
834
ออลส์ บับเบิ้ลที เปิด ..
529
ข่าวแฟรนไชส์มาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด