1.1K
20 ตุลาคม 2563
SME D Bank ผนึกหน่วยงานภาครัฐ นำร่องศึกษาโครงการ ‘วันใหม่-ไปต่อ’ พร้อมมอบสิทธิพักชำระเงินต้นเพิ่มอีก 6 เดือน!
 
 
ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank จับมือ IAM-SAM ศึกษาโครงการ “วันใหม่-ไปต่อ” ช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบโควิด-19 ฟื้นฟูกิจการด้วยหลักเกณฑ์ผ่อนปรน พร้อมช่วยต่อเนื่อง มอบสิทธิขยายเวลาพักชำระเงินต้นให้ลูกค้าสถานะชำระปกติเพิ่มอีก 6 เดือน ประคองธุรกิจกลับคืนสู่ภาวะปกติ
 
นางสาวนารถนารี รัฐปัตย์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank เปิดเผยว่า จากปัจจัยทางเศรษฐกิจต่างๆ โดยเฉพาะการแพร่ระบาดโควิด-19 ส่งผลต่อผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเป็นจำนวนมาก อีกทั้งกระทบความสามารถการชำระหนี้ที่มีแนวโน้มอ่อนแอลง ซึ่งกระบวนการปรับโครงสร้างหนี้ตามปกติของระบบสถาบันการเงินมีข้อจำกัดต้องเป็นไปตามมาตรการทางกฎหมาย อีกทั้งต้นทุนสูง และใช้เวลานาน ไม่เหมาะต่อสถานการณ์ปัจจุบันที่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมีความเปราะบาง ประกอบกับสถานการณ์เศรษฐกิจไทยและโลกยังไม่กลับสู่ภาวะปกติ
 
ดังนั้น SME D Bank จึงศึกษาแนวทางบูรณาการความช่วยเหลือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ร่วมกับบริษัท บริหารสินทรัพย์ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย จำกัด (IAM) และบริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (SAM) เพื่อแก้ไขปัญหาและหาทางออกที่ดีที่สุดในการช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่อ่อนแอเพราะสถานการณ์โควิด-19 ผ่านโครงการ “วันใหม่-ไปต่อ” พาเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูของสองหน่วยงานดังกล่าว ซึ่งจะได้รับการผ่อนปรนหลักเกณฑ์และข้อกำหนดทางกฎหมาย ลดภาระการชำระหนี้ พลิกฟื้นธุรกิจได้อีกครั้ง รวมถึงรักษาสถานะทางการเงินของธนาคาร ช่วยให้มีสภาพคล่องรองรับการขับเคลื่อนนโยบายทางการเงิน
 
ทั้งนี้ เมื่อผ่านกระบวนการฟื้นฟูมาแล้ว ทาง SME D Bank ประสานหน่วยงานกำกับดูแลและพันธมิตร เช่น กระทรวงการคลัง กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เป็นต้น ดำเนินกิจกรรมเพิ่มศักยภาพ รวมถึงพาสู่กระบวนการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ เช่น ขยายตลาดออนไลน์ มาตรฐานบัญชี เป็นต้น ช่วยยกระดับผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ในที่สุด ก่อประโยชน์ให้ผู้ประกอบการกลับมาเป็นเอสเอ็มอีที่มีความแข็งแรง ร่วมเป็นกำลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยต่อไป
 
“ในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมามีผู้ประกอบการหลายรายที่ได้รับการช่วยเหลือจากทาง SME D Bank เช่น บริษัท โซดา พริ้นติ้ง จำกัด ที่เป็นหนึ่งในผู้ประกอบการได้รับการช่วยเหลือจากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank ที่ได้เห็นการปรับเปลี่ยนธุรกิจตามวิกฤตที่ได้พบเจอ และถือเป็นโมเดลธุรกิจเอสเอ็มอีที่สามารถปรับตัวเร็ว และล่าสุดช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา ทางบริษัทได้ผลิตหน้ากากผ้า ซึ่งสอดรับกับความต้องการของตลาดได้เป็นอย่างดี โดยชูจุดเด่นในการพิมพ์ลายผ้า ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของทางร้าน” นางสาวนารถนารีกล่าวเพิ่มเติม
 
อีกทั้งโครงการ “วันใหม่-ไปต่อ” เป็นการบูรณาการความช่วยเหลือดูแลลูกหนี้กลุ่มที่ต้องการการฟื้นฟู ซึ่งมีข้อตกลงเบื้องต้นให้ทั้งสองหน่วยงานเข้ามาศึกษา portfolio ของธนาคาร ซึ่งกรอบแนวทาง นอกจากการปรับโครงสร้างทางการเงินที่หน่วยงานบริหารสินทรัพย์ (Asset Management Company : AMC) จะดำเนินการแล้ว ยังเพิ่มเติมด้วยการเสริมความรู้ด้านบริหารจัดการให้ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง และหากสามารถกลับเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจได้ SME D Bank ยินดีจะรับลูกค้ากลับมาดูแลต่อให้ธุรกิจดำเนินเติบโตต่อเนื่อง
 
โดย SME D Bank ช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ที่ผ่านมา ดำเนินการควบคู่ทั้งมาตรการทางการเงิน และมาตรการไม่ใช่การเงิน โดยด้านการเงิน ดำเนินมาตรการพักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยอัตโนมัติให้ลูกค้าทุกรายเป็นเวลา 6 เดือน เริ่มมีผลตั้งแต่เดือนเมษายน 2563 ที่ผ่านมา มีลูกค้าธนาคารเข้าเกณฑ์มาตรการพักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยอัตโนมัติ จำนวน 43,215 ราย มูลค่ารวม 66,479 ล้านบาท
 
สำหรับด้านที่ไม่ใช่ทางการเงิน ธนาคารได้สนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ด้วยแนวคิด “เติมความรู้คู่ทุน” ออฟไลน์ควบคู่ออนไลน์ ยกระดับรับยุค New Normal เช่น หลักสูตรเรียนรู้ด้วยตัวเองที่เว็บไซต์ wdev.smebank.co.th , เพิ่มช่องทางขายสินค้าในตลาดนัดออนไลน์ ด้วยเฟซบุ๊กกรุ๊ป “ฝากร้านฟรี SME D Bank” และผลักดันสินค้าขยายตลาดผ่านแพลตฟอร์มชอปปิ้งออนไลน์ชื่อดัง เช่น Shopee, LAZADA, Thailandpostmart.com, Alibaba, LINE , JD Central เป็นต้น เฉพาะแค่เดือนเมษายน 2563 ที่ผ่านมามียอดการเข้ามาลงทะเบียนร่วมกิจกรรมสูงกว่า 2,800 ราย ขณะที่ปัจจุบันมียอดร่วมกิจกรรมกว่า 23,321 ราย
 
นอกจากนั้น SME D Bank ช่วยเหลือลูกค้าต่อเนื่อง รองรับหลังครบมาตรการพักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยอัตโนมัติ 6 เดือนตั้งแต่วันที่ 22 ตุลาคม 2563 นี้เป็นต้นไป โดยให้สิทธิลูกค้าที่มีสถานะชำระปกติ ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2563 สามารถขยายระยะเวลาพักชำระเงินต้นเพิ่มเติม คงเหลือชำระเฉพาะดอกเบี้ยได้อีก 6 เดือน สำหรับภาระหนี้ที่พักชำระไว้ ธนาคารจะนำยอดดังกล่าวไปรวมให้ชำระในช่วงท้ายของสัญญา และในช่วงที่ผ่อนปรนนี้ไม่ถือว่าเสียประวัติข้อมูลเครดิต
 
สำหรับลูกค้าที่ต้องการพักชำระหนี้เงินต้นเพิ่มเติมอีก 6 เดือน สามารถลงทะเบียนผ่านการสแกน QR Code ในใบแจ้งหนี้ที่ทางธนาคารจะส่งไปให้ โดยเปิดให้ลูกค้าลงทะเบียนได้ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง หรือติดต่อได้ที่สาขา SME D Bank ทั่วประเทศ อีกทั้งตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน 2563 ที่ผ่านมา SME D Bank เข้าเยี่ยมลูกค้า เพื่อแนะนำแนวทางช่วยเหลือขยายระยะเวลาพักชำระเงินต้นเพิ่มอีก 6 เดือน ซึ่ง ณ วันที่ 5 ตุลาคม 2563 สอบถามลูกค้าไปแล้วกว่า 66% ของผู้เข้าเกณฑ์ได้รับสิทธิ์ทั้งหมด โดยมีลูกค้าแจ้งความประสงค์ขอพักชำระเงินต้นเพิ่มเติมจำนวน 4,576 ราย วงเงิน 7,207 ล้านบาท ซึ่งก่อนจะครบกำหนดมาตรการในวันที่ 22 ตุลาคมนี้ จะสอบถามความต้องการลูกค้าที่เข้าเกณฑ์ได้ครบถ้วนทุกรายแน่นอน ช่วยลูกค้ารักษาเครดิตการค้า และป้องกันการตกชั้นหนี้
 
สุดท้ายนี้ แนวทางในการช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีของธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank มีแนวทางในการจัดการทั้งช่วยในการเติมทุนใหม่เสริมสภาพคล่อง อีกทั้งยังช่วยมากกว่าประกาศ พ.ร.ก. ด้วยมาตรการ “ลด-พัก-ขยาย-ผ่อน-เพิ่ม” พร้อมทั้งติดปีกขยายตลาดผ่านแพลตฟอร์มชอปปิ้งออนไลน์ และ Upskill-Reskill ยกระดับสู่ยุค New Normal ต่อไป
 
อ้างอิงจาก : MGROnline.com
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
แฟรนไชส์ P.P.TYRE ร่วม..
1,439
แฟรนไชส์ “ไจแอ้นลูกชิ้..
1,373
“โฮมแคร์ภิบาล” จัด Ope..
1,259
ชีสซี่ฟราย สแน็ค เปิด ..
946
เรียนสร้างแฟรนไชส์ ในค..
846
ออลส์ บับเบิ้ลที เปิด ..
531
ข่าว SMEsมาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด