1.2K
11 กันยายน 2563
ดีไอทีพี รวมพล ผปก.ร่วมถกแนวทางดันธุรกิจส่งออกผ่านโครงการ Smart Exporter พร้อมแนะโมเดลการปรับตัว สู้แบบรวมกลุ่ม
 
 
 
สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (NEA) กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ร่วมผลักดันการสร้างเครือข่ายธุรกิจส่งออกให้ผู้ประกอบการไทยกว่า 800 ราย ผ่านโครงการ Smart Exporter เพื่อสร้างทางรอดในช่วงที่ทั่วโลกประสบปัญหาทางเศรษฐกิจ และการค้าระหว่างประเทศชะลอตัว รวมถึงผลักดันให้แต่ละธุรกิจได้มีโอกาสเข้าถึงตลาดที่มีศักยภาพเพิ่มมากขึ้น พร้อมชี้ผลสำเร็จจากการจัดโครงการที่ผ่านมา เกิดมูลค่าทางการค้ากว่า 64,000 ล้านบาท และทำให้ผู้ประกอบการไทยได้มีโอกาสเจาะตลาดต่างประเทศได้มากขึ้น นอกจากนี้ ยังได้ดึงนักส่งออกไทยร่วมแชร์ประสบการณ์และกลยุทธ์การทำตลาดธุรกิจมะพร้าวแปรรูปในช่วงที่เกิดกระแสการต่อต้านมะพร้าวไทย รวมถึงเทคนิคการขยายตลาดไปในต่างประเทศ
 
นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศมีเป้าหมายสำคัญที่จะพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการธุรกิจการค้าระหว่างประเทศให้สามารถดำเนินธุรกิจได้ในทุกบริบท โดยเฉพาะในสถานการณ์ปัจจุบันที่จำเป็นต้องสร้างทางรอดให้ผู้ประกอบการผ่านการบ่มเพาะเทคนิคและองค์ความรู้ รวมถึงผ่านกิจกรรมต่างๆ ซึ่งกลยุทธ์ที่สำคัญด้านหนึ่งคือ การสนับสนุนให้เกิดการรวมกลุ่มทางการค้า รวมถึงสร้างการเติบโตในรูปแบบเครือข่ายเพื่อให้การประสบความสำเร็จในมิติต่างๆ เป็นไปในแบบห่วงโซ่และเกื้อกูล ทั้งยังเป็นการสร้างความแข็งแกร่งจากการที่ต่างฝ่ายต่างได้รับประโยชน์จากความร่วมมือ ดังที่จะเห็นได้ในหลายๆ ประเทศทั่วโลก
 
ที่ผ่านมาสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ หรือ NEA จึงได้จัดหลักสูตร “ผู้ส่งออกอัจฉริยะ : Smart Exporter” ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่สำคัญในการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการไทยไปพร้อมๆ กับการพัฒนาสินค้าและบริการให้ตรงความต้องการของตลาดต่างประเทศ ทั้งนี้ กรมได้มีการจัดโครงการฝึกอบรม “ผู้ส่งออกอัจฉริยะ : Smart Exporter” ตั้งแต่รุ่นที่ 1 จนถึงรุ่น 19 ซึ่งหลักสูตรดังกล่าวสามารถผลิตนักรบทางการค้าเป็นผลสำเร็จจำนวนทั้งสิ้น 871 ราย และสามารถสร้างมูลค่าส่งออกประมาณ 64,300 ล้านบาทในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
 
ในปีหน้ากรมฯ จะเปิดรับสมัครผู้ประกอบการเข้าร่วมหลักสูตร “ผู้ส่งออกอัจฉริยะ : Smart Exporter” รุ่นที่ 20 และ 21 โดยจะจัดทั้งในกรุงเทพฯ และภูมิภาค เพื่อปูทางการทำธุรกิจส่งออกให้ไปถึงในระดับภูมิภาค และส่งผลให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจเป็นไปอย่างทั่วถึง

 
สำหรับการสร้างเครือข่ายและการส่งเสริมให้เกิดการรวมกลุ่มทางการค้านั้น สิ่งสำคัญที่กรมมีความมุ่งหวังให้เกิดผลสัมฤทธิ์แก่ผู้ประกอบการและส่งต่อไปยังภาพรวมของเศรษฐกิจไทย คือ
  1. ทำให้ผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่นและส่งเสริมภาวะผู้นำให้กับตนเอง ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจส่งออกของไทยเป็นที่ยอมรับผ่านภาพลักษณ์ที่น่าเชื่อถือ และเป็นตัวแปรสำคัญที่จะทำให้แต่ละอุตสาหกรรม หรือแต่ละธุรกิจก้าวสู่ผู้นำในระดับภูมิภาคหรือระดับโลก
  2. เมื่อเกิดการรวมกลุ่มจะทำให้ผู้ประกอบการไทยมีอำนาจและสามารถต่อรองการค้าได้ในหลายๆ บริบท ซึ่งเป็นความได้เปรียบอย่างหนึ่งทางเศรษฐกิจทำให้ธุรกิจเล็กๆ ที่มารวมตัวกันได้รับผลประโยชน์ต่างๆ เทียบเท่ากับกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ในหลากหลายด้าน และมีวิธีการจัดการองค์กรด้วยเทคนิคที่หลากหลายขึ้น
  3. ทำให้ในบางธุรกิจที่ยังเข้าไม่ถึงในบางตลาดได้มีการเรียนรู้ และนำไปต่อยอดเพื่อขยายสินค้าและบริการไปยังประเทศเป้าหมายได้ในอนาคต และ
  4. เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการในระดับท้องถิ่น หรือในระดับภูมิภาค (Local) ได้มีโอกาสนำพาตนเองก้าวสู่ระดับสากล ซึ่งจะส่งผลไปถึงการจ้างงาน และเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่นที่เติบโตขึ้น
ด้าน นางอารดา เฟื่องทอง ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (NEA) กล่าวว่า เพื่อเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์และขยายเครือข่ายผู้ประกอบการ Smart Exporter ในแต่ละรุ่น เพื่อให้เกิดความรู้จักและดำเนินธุรกิจแบบ “พี่ช่วยน้อง” และ “เพื่อนช่วยเพื่อน” สถาบัน NEA จึงได้จัดงานรวมรุ่น Smart Exporter ครั้งแรกในปี 2562 ภายใต้โครงการเชื่อมสายใย Smart Exporter และในปีนี้กับชื่องาน The Billionaire Club 2020 - Challenge the New Normal
 
โครงการดังกล่าวได้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด Challenge the New Normal สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันที่การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นส่งผลกระทบอย่างรุนแรงและรวดเร็วทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคมประกอบด้วยกิจกรรมหลัก 3 กิจกรรม ได้แก่ Business Review การทบทวนกลยุทธ์และแนวทางการทำธุรกิจโดยอาจารย์ที่ร่วมในหลักสูตร Smart Exporter และ Business Lesson Learned การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ โดยศิษย์เก่า Smart Exporter และ Business Network กิจกรรมการเชื่อมสัมพันธ์ผู้ผ่านหลักสูตร Smart Exporter ทั้ง 19 รุ่น ภายใต้แนวคิด “ครอบครัว Smart Exporter”
 
 
อีกทั้งสำหรับศิษย์เก่าที่มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ที่สำคัญ ได้แก่
  • ณัฐดนัย นิลเอก บริษัท ทรอปิคานา ออยล์ จำกัด (Smart Exporter รุ่นที่ 16) เจ้าของธุรกิจสินค้าน้ำมันมะพร้าว และผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางสกัดจากน้ำมันมะพร้าวกว่า 100 ชนิด ภายใต้ชื่อแบรนด์ “ทรอปิคานา” ส่งออกกว่า 20 ประเทศทั่วโลก มาแชร์ประสบการณ์การแก้ปัญหาการทำธุรกิจท่ามกลางกระแสการต่อต้านมะพร้าวจากไทย
  • อธิษฐ์พัชร นิพิษฐาภัทร บริษัท โอแฟงห์ จำกัด (Smart Exporter รุ่นที่ 17) เจ้าของธุรกิจขนมครกสิงคโปร์แบรนด์ “ท่าช้าง” ได้ตัดสินใจขยายธุรกิจไปยังตลาดต่างประเทศ โดยการขาย Franchise ธุรกิจขนมครกท่าช้างให้นักธุรกิจ CLMV และนอกจากนี้ได้นำ Smart Exporter รุ่นอื่นๆ ไปเจาะตลาด CLMV
  • พร้อมทั้งอำพูล เอื้อจงมานี บริษัท ดาสมุทร จำกัด (Smart Exporter รุ่นที่ 14) เจ้าของธุรกิจอาหารทะเลแปรรูป/ปลาเส้นปรุงรสยี่ห้อ Full Fish โดยก่อนเข้าร่วมหลักสูตร Smart Exporter ไม่มีประสบการณ์ด้านการส่งออกเลย แต่หลังจากจบหลักสูตรก็ได้เริ่มทำการส่งออกจนประสบความสำเร็จ โดยปัจจุบันส่งออกสินค้าไปยังประเทศเพื่อนบ้านและอื่นๆ รวม 8 ประเทศ
  • พรรณี ชิตรัตฐา บริษัท คัพเวอร์ เอิร์ท จำกัด (Smart Exporter รุ่นที่ 16) ผู้นำกลุ่มศิษย์เก่า Smart Exporter รุ่น 16 และรุ่น 17 เดินทางบุกเบิกตลาดแอฟริกาและประสบความสำเร็จอย่างดีกับการก่อตั้งสมาคมการค้าไทย-ยูกันดาขึ้นเป็นครั้งแรก
  • และนพดา อธิกากัมพู บริษัท นพดาโปรดักส์ จำกัด (ประธาน Smart Exporter รุ่นที่ 18) เจ้าของธุรกิจกระเทียมดำ แบรนด์ B-Garlic ได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ร่วมกับปรเมศร์ สายอุปราช บริษัท ลีฟ ครีโอชั่น จำกัด (Smart Exporter รุ่นที่ 18) เจ้าของธุรกิจผลิตภัณฑ์ใบตองตึงแบรนด์ “Mr. Leaf” โดยทั้งคู่ได้นำเปลือกกระเทียมดำมาผลิตกระเป๋าและอุปกรณ์ที่ใช้ในสำนักงาน
นี่จึงถือเป็นตัวอย่างผู้ประกอบการจากโครงการ Smart Exporter ที่ได้นำเครือข่ายธุรกิจมาเชื่อมโยงกัน เพื่อคิดค้นและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ขึ้นมาเพื่อนำไปพัฒนาร่วมกันต่อไปในอนาคตอีกด้วย สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (NEA) nea.ditp.go.th หรือ www.ditp.go.th และ www.facebook.com/nea.ditp หรือ 1169 กด 1
 
อ้างอิงจาก : MGROnline.com
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ชายสี่ คอร์ปอเรชั่น เป..
5,071
ชีสซี่ฟราย สแน็ค เปิดต..
4,097
เริ่มแล้ว! งานแฟรนไชส์..
2,896
แรงจริง! #แฟรนไชส์ ก๋ว..
1,632
ธงไชยผัดไทย ร่วมกับ 7-..
1,000
พบบูธ “ก๋วยเตี๋ยวเรือป..
986
ข่าว SMEsมาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด