4.0K
10 สิงหาคม 2553

สสว. เปิดเวทีประกวด “รางวัลสุดยอด SMEs แห่งชาติ ครั้งที่ 3” ยกระดับมาตรฐาน SMEs ต่อเนื่อง 



 
          สสว. ผนึกกำลัง สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ จัดงานแถลงข่าวการประกวด “รางวัลสุดยอด SMEs แห่งชาติ ครั้งที่ 3 ประจำปี 2553” โดยเชิญชวนธุรกิจ SMEs ทั่วประเทศ เข้าร่วมประกวด “รางวัล สุดยอด SMEs แห่งชาติ ครั้งที่ 3 ประจำปี 2553” มุ่งเฟ้นหาสุดยอดผู้ประกอบการ SMEs จาก ภาคอุตสาหกรรมหลัก 15 กลุ่มธุรกิจย่อย ที่มีประสิทธิภาพและความสามารถในการบริหารจัดการอย่างมีมาตรฐานในระดับสากล เปิดรับสมัครแล้วตั้งแต่วันนี้ - 31 สิงหาคม 2553

          งานแถลงข่าวได้รับเกียรติจาก นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงอุตสาหกรรม มาร่วมแสดงวิสัยทัศน์หัวข้อ “ยุทธศาสตร์การขับเคลื่อน SMEs ไทยสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน” พร้อมทั้งยังมีการเสวนา หัวข้อ “เสริมศักยภาพ SMEs ไทย กับรางวัลสุดยอด SMEs แห่งชาติ” โดย นายปราโมทย์ วิทยาสุข รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) และ นายพานิช เหล่าศิริรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2553 ณ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล 
 

 
          นายปราโมทย์ วิทยาสุข รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวในงานแถลงข่าวการประกวดฯ ว่า ปัจจุบันกลุ่มธุรกิจ SMEs นับวันจะทวีความสำคัญเพิ่มมากขึ้นในตลาดโลก ซึ่งจะเป็นโอกาสอันดีสำหรับประเทศไทย ที่จะได้ผลักดัน SMEs ของเราออกไปต่อสู้ในตลาดโลก แต่นั่นหมายความว่า เราต้องทำให้ SMEs เข้มแข็งและแข็งแกร่งให้ได้ก่อนที่จะออกไปสู่สนามระดับโลก รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมเผยอีกว่า “โดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งเสริมให้ SMEs สามารถดึงจุดแข็งและศักยภาพที่มีออกมาใช้ ทั้งนี้ รางวัล “สุดยอด SMEs แห่งชาติ” นับเป็นรางวัลระดับสากล อันเปรียบเสมือนตราสัญลักษณ์ที่บ่งบอกความมีมาตรฐานในการบริหารจัดการและ ความเป็นมืออาชีพที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกของ SMEs ไทย”

          “ผมเชื่อมั่นว่า ผู้ประกอบการทุกรายที่เข้าร่วมประกวดจะได้ประโยชน์อย่างมาก โดยเฉพาะการได้รู้จุดดีและจุดอ่อนขององค์กรตนเอง ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาและการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับองค์กร เพราะจะมีคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ได้บอกถึงบรรทัดฐานและแนวทางในการพัฒนาองค์กรของ SMEs ทุกบริษัทให้รู้ถึงช่องทางของการปรับปรุงแก้ไข และสามารถทำให้ประสบความสำเร็จในการบริหารจัดการ ซึ่งเท่ากับผู้ประกอบการ SMEs ทุกรายจะได้รับรางวัลโดยอัตโนมัติ” นายปราโทย์กล่าว
 

          นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า การจัดประกวดรางวัลสุดยอด SMEs แห่งชาติ 2 ครั้งที่ผ่านมานั้น นับว่ามีส่วนสำคัญในการสร้างแรงจูงใจและกระตุ้นให้ผู้ประกอบการ SMEs พัฒนาธุรกิจให้มีมาตรฐานมากขึ้นในระดับสากล ซึ่งการจัดประกวดดังกล่าวก็ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากผู้ประกอบการ SMEs ทุกภาคทั่วประเทศ โดยการประกวดครั้งแรกในปี 2549 นั้น มีธุรกิจ SMEs สนใจสมัครเข้าร่วมประกวด จำนวน 1,016 ราย ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มธุรกิจเครื่องจักรกลและอุปกรณ์ และครั้งที่ 2 ในปี 2552 ได้มีจำนวนผู้สมัครถึง 1,008 ราย โดยมีกลุ่มธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ สมัครเข้าร่วมประกวดเป็นจำนวนมากที่สุด

          “จากความสำเร็จดังกล่าว ทำให้วันนี้การประกวดรางวัลสุดยอด SMEs แห่งชาติ เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้นดังนั้นสสว. จึงได้จัดการประกวดขึ้นอีกเป็นครั้งที่ 3 โดยใช้ชื่อว่า “การประกวดรางวัลสุดยอด SMEs แห่งชาติ ครั้งที่ 3 ประจำปี 2553” หรือ “3rd SMEs National Awards 2010” เรายังคงมุ่งหวังว่าเวทีการประกวดนี้ จะช่วยค้นหาและสร้างเสริม SMEs ต้นแบบที่ได้มาตรฐานในกลุ่มธุรกิจ SMEs จาก 4 ภาคอุตสาหกรรมหลัก 15 กลุ่มธุรกิจย่อย เพื่อเป็นแนวทางในการสร้างความแข็งแกร่งให้กับผู้ประกอบการ SMEs ทั่วประเทศ โดยการศึกษาข้อมูลเพื่อนำมาพัฒนาตนเองอย่างมืออาชีพ และพร้อมก้าวไปสู่การแข่งขันบนเวทีการค้าโลกต่อไป” นายยุทธศักดิ์กล่าว
 

          นายพานิช เหล่าศิริรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ กล่าวว่า การเฟ้นหาสุดยอด SMEs แห่งชาติ และการพิจารณาตัดสินรางวัลในการประกวดทั้ง 2 ครั้งที่ผ่านมา รวมทั้งในปีนี้ เรายังคงยึดถือและนำแนวทางของเกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งชาติ (Thailand Quality Award: TQA) มาปรับใช้ เพื่อให้การพิจารณาต่างๆ มีความเหมาะสมและตรงกับวัตถุประสงค์ของกิจกรรม นอกจากนี้ การได้มาซึ่งรางวัลสุดยอด SMEs แห่งชาตินั้น องค์กร SMEs ที่สมัครขอรับรางวัลจะต้องผ่านการตรวจประเมินองค์กรที่ละเอียดถี่ถ้วนและโปร่งใส จากคณะกรรมการที่ได้รับการแต่งตั้ง อันประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิระดับสูง จากภาคราชการและภาคเอกชน

          “ด้วยแนวทางของเกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งชาติที่ได้นำมาประยุกต์ใช้ในการตัดสินรางวัลนี้เอง จะเป็นสิ่งที่สร้างความเชื่อมั่นได้ว่า ผู้ชนะเลิศที่ได้รับรางวัลสุดยอด SMEs แห่งชาติ จะต้องเป็นสุดยอดธุรกิจ SMEs ที่มีศักยภาพและขีดความสามารถในการบริหารจัดการธุรกิจอย่างมีมาตรฐาน และเป็นธุรกิจตัวอย่างในการสร้างแรงจูงใจและกระตุ้นให้ผู้ประกอบการ SMEs รายอื่นๆ พัฒนาธุรกิจตัวเองให้มีมาตรฐานมากขึ้นในระดับสากล” นายพานิชกล่าวเสริม

          สำหรับการประกวดรางวัลสุดยอด SMEs แห่งชาติ ครั้งที่ 3 ประจำปี 2553 ได้กำหนดกลุ่มธุรกิจ SMEs เป้าหมาย รวม 4 ภาคอุตสาหกรรมหลัก ซึ่งประกอบด้วย 15 กลุ่มธุรกิจย่อย ดังนี้

  • ภาคการผลิต
    1. ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม 
    2. ธุรกิจสิ่งทอและแฟชั่น 
    3. ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์และผลิตภัณฑ์จากไม้ 
    4. ธุรกิจหัตถกรรม 
    5. ธุรกิจอัญมณีและเครื่องประดับ
    6. ธุรกิจเครื่องจักรกลและอุปกรณ์
    7. ธุรกิจพลาสติกและยาง                    
    8. ธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์
    9. ธุรกิจสิ่งพิมพ์
       
  • ภาคการค้าและซ่อมบำรุง 
    1. ธุรกิจค้าปลีก
       
  • ภาคบริการ
    1. ธุรกิจโรงแรม ท่องเที่ยว และภัตตาคาร          
    2. ธุรกิจงานสร้างสรรค์และออกแบบ          
    3. ธุรกิจ Logistics         
    4. ธุรกิจเพื่อสุขภาพ
       
  • ภาควิสาหกิจที่ให้ความสำคัญเป็นพิเศษ 
    1. ธุรกิจเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
       

          ผู้ประกอบการ SMEs ที่สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมประกวดได้ตั้งแต่วันนี้ - 31 สิงหาคม นี้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งนี้ สามารถดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่เว็บไซต์ของ สสว. www.sme.go.th กรอกข้อมูลในใบสมัครให้ครบถ้วน พร้อมแนบเอกสารประกอบการสมัคร และนำส่งใบสมัครพร้อมเอกสารประกอบทั้งหมดมายังฝ่ายประสานและบริการ SMEs หรือ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายประสานและบริการ SMEs สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม สสว. โทร.02-278-8800 ต่อ 400 
 

ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
alls BUBBLE TEA แฟรนไช..
1,116
ยู้ฮู หวานเย็นเปิดสาขา..
1,002
รสเด็ดก๋วยเตี๋ยวกระทุ่..
914
สัมมนาลงทุน แฟรนไชส์คุ..
749
ยินดีต้อนรับ “ครอบครัว..
672
DOCTOR COSMETICS ACADE..
598
ข่าว SMEsมาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด