ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - พรสัก ส่องแสง

หน้า: 1 2 [3] 4 5 6 7 8 ... 10
101
ยื่นภาษี

สำหรับคนรุ่นใหม่ที่เพิ่งเริ่มทำงาน เมื่อทำงานได้ครบปีแล้ว ก็จำเป็นจะต้องยื่นภาษี 2567 เพราะการยื่นภาษีอย่างถูกต้องและครบถ้วนจะช่วยให้เราได้รับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ของภาครัฐ เช่น การขอคืนภาษี การลดหย่อนภาษี สิทธิประโยชน์ทางการศึกษา สิทธิประโยชน์ทางสาธารณสุข เป็นต้น โดยจะต้องยื่นภาษีออนไลน์2566 ภายในวันที่ 31 มีนาคม ของทุกปี

แล้วการยื่นภาษีคืออะไร ทำไมเราจะต้องยื่นภาษี 2567 จะทราบได้อย่างไรว่า เราจะต้องยื่นแบบฟอร์มใด แบบฟอร์มภงด91คืออะไร แล้วแบบภ.ง.ด. 90 และ ภ.ง.ด. 31 แตกต่างกันอย่างไร เราจะคำนวณภาษีเงินได้อย่างไร จำเป็นต้องชำระภาษีเพิ่มหรือได้ภาษีคืน บทความนี้ มีคำตอบ

ยื่นภาษีคืออะไร ทำไมเราต้องยื่น?
การยื่นภาษี คือ การยื่นแบบแสดงรายการภาษี เพื่อแจ้งรายละเอียดเงินได้และค่าลดหย่อนของเราให้กรมสรรพากรทราบ โดยภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา คือ ภาษีที่จัดเก็บจากบุคคลธรรมดาทั่วไป หรือจากหน่วยภาษีที่มีลักษณะพิเศษ ตามที่กฎหมายกําหนด และมีรายได้เกิดขึ้นตามเกณฑ์ที่กําหนด ซึ่งโดยปกติ จะยื่นแบบภาษีเพื่อจัดเก็บเป็นรายปี รายได้ที่ได้รับในปีใด ๆ ผู้มีรายได้มีหน้าที่ต้องนำไปแสดงรายการตนเอง ตามแบบแสดงรายการภาษีที่กำหนด ภายในเดือนมกราคม ถึงมีนาคมของปีถัดไป

แล้วทำไมเราต้องยื่นภาษี? เพราะภาษีเป็นรายได้ของภาครัฐ ซึ่งนำไปใช้จ่ายในกิจการสาธารณะ เช่น การก่อสร้างถนน โรงพยาบาล โรงเรียน การรักษาพยาบาล เป็นต้น ภาษีจึงเป็นหน้าที่พลเมืองอย่างหนึ่งที่จะต้องปฏิบัติตาม โดยมีระยะเวลาในการยื่นภาษีบุคคลธรรมดาประจำปี 2566 คือ ระหว่างวันที่ 1 มกราคม ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2567 หรืออาจเรียกว่า ยื่นภาษี 2567

การยื่นภาษีสามารถทำได้ 2 ช่องทาง คือ ยื่นภาษีด้วยตนเอง ณ สำนักงานสรรพากรพื้นที่ และการยื่นภาษีออนไลน์ผ่านอินเทอร์เน็ต หากไม่ยื่นภาษีภายในกำหนด จะมีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท และหากพ้นกำหนดเกิน 1 ปี โทษปรับจะเพิ่มเป็นไม่เกิน 10,000 บาท โดยการยื่นภาษีเป็นหน้าที่พลเมืองที่ทุกคนควรปฏิบัติเป็นประจำทุกปี

ใครบ้างที่ต้องยื่นภาษี?

ยื่นภาษี 2567

โดยทั่วไปแล้ว ผู้ที่มีหน้าที่ยื่นภาษี คือ ผู้ที่มีเงินได้ในระหว่างปีภาษีนั้น ๆ ซึ่งจะต้องยื่นแบบภาษี เมื่อมีเงินได้ถึงเกณฑ์ขั้นต่ำตามกฎหมายกำหนด แม้ว่า เมื่อคำนวณภาษีออกมาแล้ว จะต้องชำระภาษีเพิ่มเติมหรือไม่ก็ตาม แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ดังต่อไปนี้

1.บุคคลธรรมดาที่มีรายได้เกินเกณฑ์ที่กำหนด จะต้องยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยเกณฑ์ขั้นต่ำในการยื่นภาษีบุคคลธรรมดา แบ่งตามสถานะโสดและสมรส ดังนี้

  • คนโสดที่มีรายได้เป็นเงินเดือนตั้งแต่ 10,000 บาท ต่อเดือน (ภงด91) หรือ 120,000 บาท ต่อปี รวมถึงคนโสดที่มีรายได้ประเภทอื่นที่ไม่ใช่เงินเดือน (ภงด90) ตั้งแต่ 5,000 บาท ต่อเดือน หรือ 60,000 บาท ต่อปี
  • คู่สมรสที่มีรายได้รวมกันตั้งแต่ 20,000 บาท ต่อเดือน (ภงด94) หรือ 240,000 บาท ต่อปี
2.ห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคลที่มีรายได้รวมแล้วเกินปีละ 60,000 บาท มีหน้าที่ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ประจำปี
3.นิติบุคคลทุกประเภทที่มีรายได้รวมแล้วเกินปีละ 60,000 บาท มีหน้าที่ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ประจำปี

นอกจากนี้ สำหรับผู้มีรายได้ไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนด ก็ยังมีหน้าที่ต้องยื่นภาษี เช่น

  • ผู้มีรายได้จากเงินได้ประเภทอื่นที่ไม่ใช่เงินเดือน เช่น เงินได้จากการเช่าทรัพย์สิน เงินได้จากการประกอบอาชีพอิสระ เป็นต้น
  • ผู้มีรายได้จากต่างประเทศ
  • ผู้มีรายได้จากเงินได้ที่ได้รับยกเว้นภาษี แต่มีเงินได้ประเภทอื่นที่ต้องนำมาคำนวณภาษี

วิธีการคำนวณภาษีเงินได้
ก่อนจะยื่นภาษีจำเป็นต้องเข้าใจวิธีการคำนวณภาษีเงินได้เสียก่อน โดยวิธีการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แบ่งออกเป็น 2 ขั้นตอน ดังนี้

ขั้นตอนที่ 1 คำนวณหาเงินได้สุทธิ
โดยเงินได้สุทธิ คือ เงินได้หลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อน โดยคำนวณจากสูตรยื่นภาษี ดังนี้

เงินได้สุทธิ = เงินได้รวม - ค่าใช้จ่าย - ค่าลดหย่อน
ซึ่งอธิบายความหมาย คือ

  • เงินได้รวม คือ เงินได้ทั้งหมดที่ได้รับในปีภาษีนั้น ๆ โดยแบ่งออกเป็นประเภทต่าง ๆ ดังนี้
1.เงินได้จากการจ้างงาน (เงินเดือน ค่าจ้าง เบี้ยเลี้ยง ค่าตอบแทน ฯลฯ)
2.เงินได้จากทรัพย์สิน (ดอกเบี้ย เงินปันผล เงินได้จากการเช่า ฯลฯ)
3.เงินได้จากธุรกิจ (กำไรสุทธิจากกิจการ)
4.เงินได้อื่น ๆ (เงินได้จากการประกอบอาชีพอิสระ เงินได้จากการเล่นเกม ฯลฯ)

  • ค่าใช้จ่าย คือ ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการหารายได้ โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้
1.ค่าใช้จ่ายที่กฎหมายกำหนดให้นำมาหักได้ (ค่าใช้จ่ายตามมาตรา 65 แห่งประมวลรัษฎากร) เช่น ค่าเบี้ยประกันชีวิต ค่ารักษาพยาบาล ค่าเดินทาง ค่าการศึกษา เป็นต้น
2.ค่าใช้จ่ายที่กฎหมายกำหนดให้นำมาหักได้เฉพาะกรณี (ค่าใช้จ่ายตามมาตรา 66 แห่งประมวลรัษฎากร) เช่น ค่าลิขสิทธิ์ ค่าธรรมเนียม ค่าเช่า ค่าซ่อมแซม ค่าประกันภัย ค่าน้ำมัน ค่าอาหาร เป็นต้น

  • ค่าลดหย่อน คือ ค่าใช้จ่ายที่กฎหมายกำหนดให้นำมาหักออกจากเงินได้ก่อนคำนวณภาษี โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้
1.ค่าลดหย่อนทั่วไป (ค่าลดหย่อนตามมาตรา 40 แห่งประมวลรัษฎากร) เช่น ค่าลดหย่อนค่าจ้าง ค่าเบี้ยประกันชีวิต ค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตร เป็นต้น
2.ค่าลดหย่อนเฉพาะบุคคล (ค่าลดหย่อนตามมาตรา 43 แห่งประมวลรัษฎากร) เช่น ค่าลดหย่อนค่าซื้อสินค้าและบริการ ค่าซื้อสินค้าและบริการส่งเสริมอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม ค่าซื้อสินค้าและบริการเพื่อการศึกษา เป็นต้น

ขั้นตอนที่ 2 คำนวณหาภาษีที่ต้องชำระ ก่อนยื่นภาษี
ภาษีที่ต้องชำระ คือ ภาษีที่คำนวณจากเงินได้สุทธิ โดยคำนวณจากสูตรยื่นภาษีดังนี้
ภาษีที่ต้องชำระ = เงินได้สุทธิ x อัตราภาษี

โดยอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แบ่งออกเป็น 5 ขั้น ดังนี้
  • เงินได้สุทธิ ไม่เกิน 150,000 บาท อัตราภาษี 0%
  • เงินได้สุทธิ 150,001 - 300,000 บาท อัตราภาษี 5%
  • เงินได้สุทธิ 300,001 - 500,000 บาท อัตราภาษี 10%
  • เงินได้สุทธิ 500,001 - 750,000 บาท อัตราภาษี 15%
  • เงินได้สุทธิ 750,001 บาทขึ้นไป อัตราภาษี 20%

ยกตัวอย่างการคำนวณภาษีเงินได้ เพื่อนำไปใช้ในการยื่นภาษี เช่น นาย A มีรายได้รวมในปีภาษี 2566 เป็นเงิน 500,000 บาท โดยหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนแล้ว เหลือเงินได้สุทธิ 400,000 บาท ดังนั้น ภาษีที่ต้องชำระของนาย A คือ ภาษีที่ต้องชำระ = 400,000 x 10% = 40,000 บาท หรือนาย B เหลือเงินได้สุทธิ 50,000 บาท ดังนั้น ภาษีที่ต้องชำระของนาย B คือ ภาษีที่ต้องชำระ = 50,000 x 0% = 0 บาท นั่นหมายความว่า นาย B ไม่ต้องชำระภาษี หากแต่ยังต้องยื่นภาษี 2567 ตามกำหนด

ทั้งนี้ ตัวอย่างข้างต้นเป็นเพียงตัวอย่างการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยอัตราภาษีและค่าลดหย่อนอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามประกาศของกรมสรรพากร

ยื่นภาษีแบบภ.ง.ด. 90 และ ภ.ง.ด. 31 แตกต่างกันอย่างไร?

ประเภทของการยื่นภาษี

การยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา มี 2 แบบหลัก ๆ คือ แบบ ภ.ง.ด. 90 และแบบ ภ.ง.ด. 31 ซึ่งมีความแตกต่างกัน ดังนี้

  • แบบ ภ.ง.ด. 90 โดย ภงด90คือ การยื่นโดยบุคคลธรรมดาที่มีรายได้จากเงินเดือน ค่าจ้าง เบี้ยเลี้ยง ค่าตอบแทน ฯลฯ โดยรายได้รวมตั้งแต่ 120,000 บาท (คนโสด) หรือ 220,000 บาท (คู่สมรส) ซึ่งมีกำหนดยื่นภายในวันที่ 31 มีนาคม ของทุกปี และสามารถขอคืนภาษีได้
  • แบบ ภ.ง.ด. 31 เป็นการยื่นโดยบุคคลธรรมดาที่มีรายได้จากเงินได้ประเภทอื่นที่ไม่ใช่เงินเดือน เช่น เงินได้จากการเช่าทรัพย์สิน เงินได้จากการประกอบอาชีพอิสระ ฯลฯ โดยรายได้รวมตั้งแต่ 60,000 บาท ซึ่งกำหนดยื่นภายในวันที่ 31 มีนาคม ของทุกปี แต่ไม่สามารถขอคืนภาษีได้

หากดำเนินการยื่นภาษีไม่ทันจะต้องทำอย่างไร?
ในการยื่นภาษี 2567 ตามความเข้าใจคือ การยื่นภาษีของปี 2566 จะต้องยื่นภาษีบุคคลภายในวันที่ 1 มกราคม 2567 - 31 มีนาคม 2567 แต่ทั้งนี้ หากยื่นภาษีไม่ทันภายในเวลาดังกล่าว สามารถยื่นภาษีย้อนหลังได้ โดยต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภ.ง.ด. 90 หรือ ภ.ง.ด. 31 แล้วแต่กรณี พร้อมชำระเงินภาษีและเงินเพิ่ม โดยคำนวณจากอัตราร้อยละ 1.5 ต่อเดือนของเงินภาษีที่ต้องชำระ นับแต่วันพ้นกำหนดเวลาการยื่นภาษีจนถึงวันชำระภาษี

นอกจากนี้ หากมีเงินภาษีที่ต้องชำระคืน ก็ยังสามารถยื่นภาษีย้อนหลังได้ โดยต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภ.ง.ด. 90 หรือ ภ.ง.ด. 31 แล้วแต่กรณี พร้อมขอคืนเงินภาษี ทั้งนี้ ควรยื่นภาษีภายในกำหนด เพื่อหลีกเลี่ยงโทษปรับและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้น

ข้อมูลสรุปเกี่ยวกับยื่นภาษี 2567
การยื่นภาษี คือ การยื่นแบบแสดงรายการภาษี เพื่อแจ้งรายละเอียดเงินได้และค่าลดหย่อนของเราให้กรมสรรพากรทราบ โดยจะต้องยื่นภาษีภายในเดือนมกราคม ถึงมีนาคมของปีถัดไป สำหรับการยื่นภาษี 2567 คือ การยื่นภาษีบุคคลธรรมดา2566 ว่ามีเงินได้และค่าลดหย่อนเท่าใด โดยเราสามารถคำนวณภาษีเงินได้ด้วยตนเอง แล้วยื่นแบบให้ถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นแบบฟอร์มภงด91, ภงด90, ภงด50, ภงด53 หรือ ภ.ง.ด. 31

สำหรับผู้ต้องยื่นภาษีที่มีเงินได้เกินเกณฑ์ที่กำหนด อาจจะต้องชำระภาษีกับกรมสรรพากร หากไม่ชำระภายในกำหนดเวลา ก็อาจจะต้องชำระเงินเพิ่มได้ ดังนั้น เพื่อให้สามารถยื่นภาษีออนไลน์2566 และชำระภาษีได้อย่างราบรื่น ก็อาจเลือกใช้บริการบัตรกดเงินสดของ KTC ได้ ทุกคนสามารถสมัครง่าย อนุมัติไว ได้เงินก้อนมาใช้จ่าย แก้ทุกปัญหาทางการเงินในกรณีต้องการใช้เงินเร่งด่วน

102
เครื่องมือวัดระดับ

เมื่อมีเหตุให้ต้องหาซื้อเครื่องมือวัดระดับนั้น สิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึงก็คือการใช้งานว่าเหมาะที่จะใช้กับเครื่องวัดระดับชนิดใด และแน่นอนต้องรวมถึงมาตรฐานการวัดว่ามีความน่าเชื่อถือ (Reliability), ความไว (Sensitivity), ความถูกต้อง (Accuracy) และความเที่ยงตรง (Precision) มากน้อยเพียงใด
 
ในบทความนี้นี้เราจะมาแนะนำเกี่ยวกับเครื่องมือวัดระดับ ว่าอุปกรณ์ชิ้นนี้คืออะไร มีประเภทอะไรบ้าง มีวิธีการทำงาน และข้อจำกัดอย่างไร

รู้จักกับเครื่องมือวัดระดับคืออะไร ?

ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับคำว่า “เครื่องมือวัดระดับ” (Level Sensor / Level Switch) คือ เครื่องมือที่ใช้วัดระดับของวัตถุดิบที่เป็นได้ทั้งของเหลว และของแข็งที่มีการบรรจุไว้ในภาชนะ หรืออยู่ตามแหล่งน้ำธรรมชาติ แล้วจึงนำค่าที่ได้รับการแปลงสัญญาณตามมาตรฐานไปใช้ในกระบวนการการควบคุมการผลิตต่อไป
 
เครื่องมือที่ใช้วัดระดับมีหลากหลายขึ้นกับวัตถุประสงค์ในการวัด วิธีการ และระดับเลเวลความแม่นยำ แต่ทั้งนี้ต้องสามารถตรวจสอบได้ ซึ่งค่าที่อุปกรณ์ตรวจวัดปริมาณทางฟิสิกส์ต่าง ๆ สามารถวัดได้ก็จะมี การวัดอุณหภูมิ, ความชื้น แสง, เสียง และความดัน เป็นต้น
 
ซึ่งเครื่องมือวัดระดับที่มีคุณภาพ มาตรฐานสูงนั้นต้องให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำ เชื่อถือได้ และให้ค่าวัดตรงกันทุกครั้งที่ทำการวัด

เครื่องมือวัดระดับ คืออะไร

หลักการทำงานของเครื่องมือวัดระดับ

หลักการทำงานของเครื่องมือวัดระดับ (Level Transmitter) แต่ละชนิดก็จะมีความแตกต่างกันไป ยกตัวอย่างเช่น

  • เครื่องมือวัดระดับ Ultrasonic Level Transmitter ชนิดอัลตราโซนิกส์ แบบคลื่นความถี่เหนือเสียงนั้น จะมีการติดตั้งไว้บนภาชนะบรรจุ เช่น ถัง ที่ความถี่ประมาณ 70-200 kHz แล้วใช้หลักความเร็วในการเคลื่อนที่ของคลื่น Ultrasonic มาเทียบกับระยะทาง แล้วคำนวณออกมาเป็นค่าระดับ
  • เครื่องมือวัดระดับ Pressure Transmitter ที่ใช้วัดแรงของเหลวที่กดลงตรงจุดที่วัดความดันที่มีผลต่อความสูง แล้วนำมาคำนวณเป็นค่าระดับได้ โดยต้องระวังว่า จะมีความแตกต่างด้านคำนวณระหว่างที่ถังเปิดและถังปิด
  • เครื่องมือวัดระดับ Displacer Level Transmitter มีการทำงานที่คล้ายกับลูกลอยที่ขึ้นลงตามระดับของเหลว เพียงแต่มีการกำหนดค่าถ่วงจำเพาะจึงจำกัดให้ระยะเคลื่อนที่ไม่สูงเท่าระดับจริง นำมาต่อเข้ากับ transmitter ก่อนที่จะทำการคำนวณระดับแล้วแสดงผลไปยัง controller
แต่เครื่องส่งสัญญาณของเครื่องมือวัดระดับจะวัดระดับด้วยหนึ่งในวิธีการดังต่อไปนี้ คือ

  • น้ำหนักของของเหลว
  • หัวความดันของของเหลว
  • ตำแหน่งของของเหลวในภาชนะ

แนะนำเครื่องมือวัดระดับของเหลวที่สามารถเลือกใช้ให้เหมาะกับอุตสาหกรรมต่าง ๆ

เครื่องมือวัดระดับนั้นมีหลากหลาย และมีไว้เพื่อวัดระดับอย่างต่อเนื่อง เราพอจะจำแนกตามประเภทการส่งสัญญาณได้ ดังต่อไปนี้

เครื่องวัดระดับของเหลว (Liquid Level Transmitters)

เครื่องมือวัดระดับประเภทนี้ ใช้วัดความดันส่วนหัวของของเหลว

เครื่องวัดระดับอัลตราโซนิก (Ultrasonic Level Transmitters)
 
ใช้พัลส์อัลตราโซนิกกระทบพื้นผิวของของเหลวและสะท้อนกลับ เพื่อให้เซนเซอร์คำนวณระดับการเติม

เครื่องวัดระดับความจุ (Capacitance Level Transmitters)

ใช้อิเล็กโทรดหุ้มฉนวนทำหน้าที่วัดความเปลี่ยนแปลงของความจุของของเหลว

เครื่องวัดระดับแบบไฮโดรสแตติก (Hydrostatic Level Transmitters)

วัดระดับของเหลวด้วยการใช้ความดันของของเหลวภายในภาชนะมาประมวลผล

เครื่องวัดระดับแบบเรดาร์ (Radar Fill Level Transmitters)

อาศัยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าติดตั้งด้านบนของภาชนะที่เต็มไปด้วยของเหลว ได้รับสัญญาณสะท้อนที่ส่งไปวิเคราะห์ระดับในปัจจุบัน

เครื่องวัดระดับแบบใช้ลำแสง (Optical Type Level Sensor)

ใช้ลำแสงที่เกิดการหักเหเมื่อเซนเซอร์สัมผัสกับของเหลว และให้ผลลัพธ์เป็น NPN หรือ PNP อุปกรณ์ชิ้นนี้ต้องการพื้นที่ติดตั้งน้อย และเหมาะใช้เตือนการรั่ว

เครื่องวัดระดับแบบใช้ความดัน (Pneumatic Level Sensor)

ใช้ความดันของของเหลวมาประมวลผมเพื่อเตือนหรือควบคุมระดับของเหลว มีอยู่ 2 ชนิด คือ แบบสวิตซ์ และ แบบส่งสัญญาณ 4-20 mA เป็นต้น

เครื่องมือวัดระดับแบบต่าง ๆ

ตัวอย่างการนำเครื่องวัดระดับไปใช้ในงานอุตสาหกรรม

หนึ่งในเครื่องมือวัดระดับที่เราสามารถนำไปใช้ในงานอุตสาหกรรมคือเครื่องวัดระดับน้ำที่นำมาใช้วัดความลาดเอียงของพื้นผิว เพื่อหาค่าความลาดเอียงของ 2 จุดในระยะ 1 เมตรว่ามีความสูงต่างกันกี่มิลลิเมตร
 
ถ้าหากความไวในการวัด (Sensitivity) คือ Grade A : 0.02 mm/1m ดังนั้นหากฟองอากาศในเครื่องวัดระดับน้ำเคลื่อนจากตรงกลางไปทางซ้าย 3 ขีด ก็แสดงให้เห็นว่าด้านซ้ายสูงกว่าด้านขวา 0.02 x 3 = 0.06 mm ในระยะ 1m หากขาของเครื่องจักรห่างกัน 1.5 m จะให้ความสูงของขาทั้ง 2 ข้างต่างกัน 0.06 x1.5 = 0.09 mm นั่นเอง
 
การหาค่าความเอียงก็เพื่อความสะดวกในการปรับความสูงของขาตั้งเครื่องจักรเพราะองศาในการติดตั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ ในเครื่องจักรที่มีใช้ร่วมกันหลายเครื่องจะกระทบกับการควบคุมการทำงานซึ่งมีผลต่อความแข็งแรงและคุณภาพการผลิตเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐาน

ข้อจำกัดของเครื่องมือวัดระดับ

เพื่อที่จะได้เครื่องมือวัดระดับที่ให้ค่าวัดที่แม่นยำสูงมาก การใช้งานก็ต้องเป็นไปด้วยความระมัดระวังอย่างสูงเช่นกัน ดังนั้นควรเตรียมเครื่องตรวจวัดระดับน้ำก่อนใช้งานทุกครั้งดังนี้

  • ต้องปรับสอบเทียบ (Calibration) ตามกำหนดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ได้ค่าวัดที่ถูกต้องแม่นยำเสมอ
  • ควรทำความสะอาดพื้นผิวที่จะทำการวัดให้สะอาดก่อนทุกครั้ง
  • ต้องมีความเข้าใจในเครื่องตรวจวัดระดับน้ำ ชนิด หลักการทำงาน เพื่อที่จะได้ใช้งานตรงวัตถุประสงค์ เพื่อผลลัพธ์ที่แม่นยำและน่าเชื่อถือ
สรุปเครื่องมือวัดระดับ

เครื่องมือวัดระดับ level measurement เป็นหนึ่งในเครื่องมือวัดอุตสาหกรรมที่ใช้วัดค่าทางวิทยาศาสตร์เหมือนกับเครื่องมือวัดทั่วไป เพียงแต่สามารถนำมาติดตั้งในสภาพแวดล้อม เช่น โรงงานอุตสาหกรรมเพื่อให้รู้ค่าต่าง ๆ เพื่อประโยชน์ในการควบคุมการผลิตทางด้านปริมาณของวัตถุดิบ เป็นต้น
 
นอกเหนือจากที่กล่าวมาแล้วข้างต้นยังมีเครื่องมือวัดระดับในรูปแบบสวิตซ์ใบพัด และสวิตซ์ลูกลอยที่สามารถใช้ในการวัดความสูงของภาชนะที่ใช้เก็บวัตถุดิบต่าง ๆ โดยระดับปริมาณวัตถุดิบก็จะมีการบันทึกเก็บไว้ด้วย ซึ่งข้อมูลเหล่านี้มีประโยชน์ต่อผู้ใช้งานที่ต้องควบคุมวัตถุดิบในการผลิต สรุปได้ว่าเครื่องมือวัดระดับสามารถสร้างประโยชน์ให้กับภาคอุตสาหกรรมได้เป็นอย่างดี

103
หางานกรุงเทพ

การหางานกรุงเทพซึ่งเป็นแหล่งหางานที่มีทั้งความท้าทายและน่าตื่นเต้นที่ทุกคนต้องเผชิญหน้าทั้งในวัยทำงาน นักศึกษาฝึกงาน เด็กจบใหม่รวมไปถึงกลุ่มมนุษย์เงินเดือนที่ต้องการความก้าวหน้า ตำแหน่งงานที่สูงขึ้นที่มาพร้อมกับเงินเดือนที่มากกว่าเดิม สำหรับผู้ที่ต้องการสร้างฐานรากอาชีพโดยการหางานกรุงเทพมหานครซึ่งมีเคล็ดลับที่นำมาแชร์เพื่อเพิ่มโอกาสได้งานที่น่าสนใจ เป็นงานจากองค์กรที่มีความน่าเชื่อถือและมั่นใจได้ว่าจะไม่โดนมิจฉาชีพหลอกให้โอนเงิน วางเงินมัดจำหรือเรียกเก็บเงินค้ำประกันการทำงาน

การหางานกรุงเทพ ผ่านเว็บหางานทั้งสะดวก รวดเร็ว

หางานกรุงเทพ

การเริ่มต้นในการค้นหางานกรุงเทพมหานครที่มีโอกาสดี ๆ ทั้งตำแหน่งงานและเงินเดือนสูงได้ตามต้องการนั้น มีขั้นตอนแรกที่สำคัญคือการเลือกหางานกรุงเทพที่มาจากเว็บไซต์หางาน กทม.ที่เชื่อถือได้ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่มีการอัปเดตอย่างรวดเร็ว และป้องกันความเสี่ยงในเรื่องของข้อมูลส่วนบุคคลของกลุ่มคนที่สมัครงานกรุงเทพที่อาจถูกนำไปใช้โดยไม่เหมาะสมได้ ในกรณีที่มีการส่งข้อมูลสมัครงานไป ซึ่งในปัจจุบันนี้ก็มีมิจฉาชีพที่ซ่อนตัวและผสมเข้ากับเว็บไซต์หางานมากขึ้น ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่ไม่มีการยืนยันตัวตนของผู้ว่าจ้างหรือองค์กรทำให้ใคร ๆ ก็สามารถโพสต์รับสมัครงานกรุงเทพได้ การเลือกใช้บริการเว็บไซต์สำหรับผู้สมัครงาน กทม. จึงมีความสำคัญเป็นอย่างแรกที่ต้องพิจารณาเพื่อให้มั่นใจว่าจะได้รับจ้างงานจากองค์กรที่มีความน่าเชื่อถือ

ข้อควรรู้ก่อนเริ่มหางานกรุงเทพเพื่อที่ตรงใจ องค์กรก้าวหน้าและมั่นคง

หางานกรุงเทพ

1. สมัครงาน กทม. ที่ตรงกับคุณสมบัติของตนเอง ทั้งทักษะและความสามารถพิเศษซึ่งควรเลือกอาชีพหรือหางานในกรุงเทพที่ตนเองสามารถจะทำประโยชน์ให้กับองค์กรได้ นอกจากนี้คำนึงถึงการทำงานที่ต้องมีความมั่นคงในระยะยาว

• ต้องการทำงานกับหน่วยงานใด (รัฐบาล เอกชน รัฐวิสาหกิจ) ขนาดอะไร (ใหญ่ กลาง เล็ก
• เป็นองค์กรใหม่หรือดำเนินกิจการมานานแล้ว มีความก้าวหน้าเป็นอย่างไร
• หางานกรุงเทพยังต้องคำนึงถึงสถานที่ตั้งและการเดินทาง

2. องค์กรหรือหน่วยงานที่เปิดรับสมัครงานกรุงเทพ มีความพร้อมมากเพียงใดกับการสร้างคุณภาพชีวิตให้กับคนกำลังจะสมัครงานมีความมั่นคงหรือไม่ มีแนวโน้มเป็นอย่างไร

• สวัสดิการและรายได้ รวมถึงความก้าวหน้า
• สิ่งแวดล้อมในการทำงาน บรรยากาศของการทำงาน
• ค่านิยมและเป้าหมายในการทำงาน

เว็บหางานกรุงเทพที่น่าสนใจ

หางานกรุงเทพ

การเลือกใช้บริการเว็บไซต์ที่มีความน่าเชื่อถือ สำหรับการหางานกรุงเทพถือว่าประสบความสำเร็จไปแล้วครึ่งทาง เพราะทางเว็บพร้อมที่จะให้การช่วยเหลือกับการอัปเดตตำแหน่งงานจากบริษัทหรือองค์กรที่มีความมั่นคงและเชื่อถือได้ ทำให้คนที่หางานในกรุงเทพได้รับการโปรโมตและเข้าถึงกลุ่มบริษัทกับตำแหน่งงานที่สมัครได้ง่ายขึ้น

1. JobFinFin

เป็นเว็บหางานกรุงเทพที่อัปเดตข้อมูลตำแหน่งต่าง ๆ ไว้ให้กับกลุ่มคนที่กำลังหางานในกรุงเทพพร้อมแนะนำเทคนิคมากมายในการสัมภาษณ์ให้ผ่านได้แบบฉุย ภายในเว็บยังมีการแบ่งกลุ่มตำแหน่งในแต่ละสายงานไว้อย่างชัดเจน เพื่อให้คนที่หางานกรุงเทพมหานครได้เข้ามาใช้งานได้สะดวก เป็นเว็บไซต์ที่เหมาะสำหรับคนหางานทุกกลุ่มทุกอาชีพที่มีมากกว่า 800,000 รายขึ้นไป ทางเว็บยังมีการโปรโมตและแนะนำเพื่อให้บริษัทหรือองค์กรเข้าถึงโปรไฟล์ของผู้สมัครได้ง่าย

2. Jobbkk

เว็บหางานที่ดีที่สุดเว็บหนึ่งที่ขอนำเสนอ มีงานให้เลือกทั่วประเทศไม่เฉพาะแค่การหางานกรุงเทพ เป็นเว็บที่เปิดให้บริการมานานกว่า 15 ปีซึ่งมีบริษัทชั้นนำเป็นสมาชิกและมีตำแหน่งงานมากกว่า 100,000 งานโดยผู้สมัครงาน กทม. สามารถสร้าง resume และใบสมัครงานได้เองง่าย ๆ ด้วยระบบ multi-resume ซึ่งทำให้ไม่ต้องกรอกข้อมูลจำนวนมาก และยังรองรับไฟล์ที่ส่งได้สูงสุดถึง 100 MB

3. JobTH

เป็นอีกเว็บหางานกรุงเทพที่มีผู้ใช้บริการมากกว่า 8,000 รายทั้งคนที่หางาน กทม. และองค์กรหรือบริษัทที่เปิดรับสมัครงานกรุงเทพมหานครทั้งงานราชการ งานรัฐวิสาหกิจ และงานเอกชนมากมาย ซึ่งการกรอกข้อมูลการสมัครงานยังสามารถเข้าไปตรวจสอบหรือแก้ไขได้ตลอดเวลา รวมทั้งทางเว็บไซต์ยังมีระบบเตือนผ่านทาง SMS ให้แบบฟรีกับการนัดสัมภาษณ์งาน ทั้งระบบการให้บริการหางานในกรุงเทพกับทางเว็บไซต์ยังไม่มีการเรียกเก็บค่าสมาชิก
 
4. Jobthai

เป็นเว็บที่เปิดให้บริการมามากกว่า 20 ปีเพื่อเป็นสื่อกลางให้กับคนที่กำลังหางานกรุงเทพและบริษัทหรือองค์กรที่เปิดรับสมัครงานกรุงเทพซึ่งมีการแบ่งประเภทของงาน กทม.ไว้ได้อย่างละเอียด ที่สามารถเข้ามาใช้บริการได้แบบฟรี โดยการเข้ามาใช้งานทางเว็บพร้อมทีมงานจะมีการแนะนำการเขียนประวัติเพื่อใช้สำหรับยื่นสมัครงานได้ซึ่งยิ่งมีความสะดวกและรวดเร็วมากขึ้นด้วย ในการส่งใบสมัครออนไลน์กับทางเว็บ

สรุป

สำหรับการหางานกรุงเทพผ่านเว็บหางาน กทม.จะได้รับทั้งความสะดวก รวดเร็ว และมีระบบต่าง ๆ ที่คอยช่วยเหลือตั้งแต่สามารถเลือกบริษัทที่มีความมั่นคง การเขียนประวัติการสมัครงานกรุงเทพมหานครที่มีการแนะนำจากทีมงานของเว็บ และช่วยโปรโมตให้ตรงกับตำแหน่งงาน กทม.ของบริษัทต่าง ๆ ได้เห็นและนำไปพิจารณา


104
ฟิล์มกรองแสงอาคาร

ฟิล์มกรองแสงไม่ได้จำเป็นสำหรับรถยนต์เท่านั้นแต่การติดฟิล์มกระจกบ้านก็มีความสำคัญหลายประการด้วยเช่นกัน ซึ่งฟิล์มกระจกบ้านก็มีให้เลือกหลายแบบ และมีความเข้มที่ต่างกันอย่างเช่น 40 60 80 ทำให้สามารถเลือกใช้งานความทึบได้ตามความต้องการ รวมถึงฟิล์มติดกระจกมีลวดลายสวยงามให้เลือกหลากหลายแบบสามารถใช้ลดความร้อนและแต่งบ้านได้เช่นกัน

หากพูดถึงการติดฟิล์มกระจกบ้านแล้วสามารถติดได้ด้วยตัวเองหรือจ้างช่างมืออาชีพมาติดฟิล์มกระจกได้ที่บ้านซึ่งทั้ง 2 แบบก็มีข้อแตกต่างกันออกไป ซึ่งสามารถหาคำตอบได้ในบทความนี้รวมถึงเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับวิธีติดฟิล์มกระจกบ้านรวมไว้ให้คุณแล้ว

การติดฟิล์มกระจกบ้าน ช่วยแก้ปัญหาอะไร

สำหรับบ้านหรืออาคารไหนที่กำลังประสบปัญหาต่อไป สามารถแก้ปัญหาได้โดยการติดฟิล์มกระจกบ้านหรือติดฟิล์มอาคารโดยเลือกความเข้มของฟิล์มได้แก่ 40 60 80 เป็นต้น แล้วปัญหาที่ควรแก้ไขด้วยการใช้ฟิล์มติดกระจกมีอะไรบ้างดังต่อไปนี้

  • ปัญหาบ้านร้อน ภายในบ้านหรืออาคารสำนักงานที่มีหน้าต่างรับแสงแดดตลอดทั้งวัน ส่งผลให้ภายในบ้านอากาศร้อน ปัญหานี้สามารถแก้ได้ด้วยการฟิล์มกรองแสงอาคารเพื่อป้องกันรังสีอินฟราเรดสาเหตุของการทำให้ภายในบ้านร้อน เมื่อรังสีความร้อนจากดวงอาทิตย์ส่องเข้ามาภายในได้น้อยลงจะช่วยลดความร้อนภายในบ้านได้มากเลยทีเดียว
  • ปัญหากระจกบ้านมีรอยขีดข่วน แน่นอนว่ากระจกบ้านหรือกระจกสำนักงานเป็นกระจกประเภทใสที่สามารถมองเห็นรอยขีดข่วน ได้อย่างชัดเจนซึ่งหากทำการติดฟิล์มกระจกบ้าน การเคลือบสารกันรอยขีดข่วนก็เป็นการป้องกันการเกิดรอยบนกระจกได้
  • ปัญหาอุบัติเหตุจากกระจกแตก กระจกถือได้ว่าแตกได้ง่ายมากหากมีวัตถุไปกระทบหรือกระจกเครียดที่สามารถแตกเองได้ ซึ่งการติดฟิล์มกระจกบ้านช่วยลดอุบัติเหตุจากเศษกระจกแตกได้ เนื่องจากในฟิล์มกระจกมีส่วนที่เป็นกาว หากกระจกแตกตัวฟิล์มกาวจะเกาะยึดกระจกที่แตกไว้ไม่ให้กระจาย
  • ปัญหากระจกบ้านใสไม่เป็นส่วนตัว สำหรับบ้านหรือตัวอาคารที่มีกระจกใสรอบบ้านแต่ต้องการความเป็นส่วนตัวและต้องการเปิดรับแสงจากภายนอก สามารถติดฟิล์มกระจกบ้านที่มีความเข้มสูงช่วยให้ไม่สามารถมองเห็นภายในบ้านได้ แต่ภายในบ้านสามารถมองไปข้างนอกได้
  • ปัญหาห้องมืดต้องการติดฟิล์มป้องกันรังสี UV ปัญหาภายในบ้านมืดสามารถแก้ปัญหาได้โดยการติดผ้าม่าน แต่การติดผ้าม่านนั้นไม่สามารถป้องกันรังสี UV ได้ ในที่นี้แก้ปัญหาได้ด้วยการติดฟิล์มกระจกบ้านช่วยป้องกันรังสียูวีได้ถึง 99%
ข้อดีของการติดฟิล์มกระจกบ้าน

วิธีติดฟิล์มบ้านหรือฟิล์มกรองแสงอาคารช่วยแก้ปัญหาได้หลายอย่างเลยทีเดียวและทราบหรือไม่ว่ายังมีข้อดีในการช่วยประหยัดไฟบ้าน ที่เกิดได้จากการติดฟิล์มกระจกบ้านช่วยลดความร้อนภายในบ้าน ส่งผลให้ลดการทำงานของเครื่องปรับอากาศทำให้ประหยัดไฟนั่นเอง รวมถึงการติดฟิล์มบ้านช่วยป้องกันรังสีอินฟราเรดไม่ให้ส่องถึงภายในบ้านเป็นข้อดีในการช่วยปกป้องเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านได้อีกด้วย

ข้อควรระวังก่อนติดฟิล์มกระจกบ้าน

ก่อนจะลงมือติดฟิล์มกระจกบ้านต้องทราบถึงข้อควรระวังที่หากติดพลาด ทำให้ต้องเสียทั้งเงินเสียทั้งเวลาเลยก็ว่าได้ ซึ่งก่อนติดฟิล์มกระจกบ้านควรทราบถึงประเภทของฟิล์มติดกระจกที่มี 4 ประเภทได้แก่ ฟิล์มติดกระจกแบบใส แบบดำ ฟิล์มเซรามิก ฟิล์มปรอท และมีความเข้มที่แตกต่างกันควรเลือกให้เหมาะกับการใช้งาน ดังนั้นหากคุณไม่ทราบเกี่ยวกับเรื่องประเภทของฟิล์มอาจทำให้ติดผิดจนต้องทิ้งทั้งหมด

วิธีติดฟิล์มกระจกบ้านต้องทำอย่างไร

วิธีติดฟิล์มกระจกบ้าน หรือฟิล์มกรองแสงอาคารอย่างมืออาชีพให้เรียบเนียนไม่เกิดฟองอากาศ มีเทคนิคที่ต้องเตรียมอุปกรณ์และขั้นตอนในการติดฟิล์มกระจกดังต่อไปนี้

รับติดฟิล์มอาคาร

1. เตรียมอุปกรณ์ติดฟิล์มกระจกบ้าน

หากคุณไม่ต้องการใช้บริการรับติดฟิล์มบ้านแต่ต้องการติดฟิล์มด้วยตัวเอง จำเป็นต้องเตรียมอุปกรณ์ในการติดกระจกบ้านได้แก่มีดคัตเตอร์ ฟิล์มกรองแสง เกรียงรีด น้ำยาติดฟิล์ม ยางรีดน้ำ เป็นต้น เมื่อเตรียมอุปกรณ์ครบแล้วให้ทำความสะอาดบริเวณที่ต้องการติดฟิล์มกระจก

2. ลงมือติดฟิล์มกระจกบ้านให้เรียบเนียน

นำน้ำยาติดฟิล์มฉีดบนกระจกที่ทำความสะอาดเรียบร้อยแล้วและทำการติดฟิล์มทับลงไป และปรับตำแหน่งตามต้องการ ต่อมาใช้เกรียงรีดไล่ฟองอากาศออกจากฟิล์มให้หมด แล้วใช้คัตเตอร์ตัดฟิล์มส่วนเกินออกจากกระจกอย่างระมัดระวัง หากมีฟองอากาศเล็ก ๆ ไม่ต้องกังวล ฟองอากาศจะค่อย ๆ หายไปเอง

3. วิธีดูแลหลังติดฟิล์มกระจกบ้าน

หลังจากติดฟิล์มกระจกบ้านเรียบร้อยแล้วห้ามใช้น้ำน้ำยาเช็ดกระจกที่มีส่วนผสมของแอมโมเนียในการทำความสะอาดกระจก ควรงดเช็ดความสะอาดกระจกหลังติดตั้งประมาณหนึ่งอาทิตย์ แต่หากมีสิ่งสกปรกสามารถใช้ผ้าที่ไม่หยาบเช็ดทำความสะอาดกระจกได้

ติดฟิล์มกระจกบ้านเอง VS จ้างช่างมืออาชีพ

ในการติดตั้งฟิล์มกระจกบ้านสามารถทำได้ด้วยตัวเองและจ้างช่างมืออาชีพแต่ทั้ง 2 วิธีก็มีความแตกต่างกันคือ การติดฟิล์มกระจกบ้านเองช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายแต่มีข้อเสียคืออาจเกิดปัญหาตามจากการติดฟิล์มกระจกได้ แต่หากจ้างช่างมืออาชีพที่มีประสบการณ์ในการติดตั้งฟิล์มกระจกบ้านสร้างความสะดวกรวดเร็วได้งานติดกระจกอย่างมืออาชีพ ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับปัญหาที่จะตามมาภายหลัง รวมถึงบริษัทรับติดฟิล์มอาคารมีฟิล์มให้เลือกหลากหลายแบบ พร้อมให้คำแนะนำโดยช่างที่มีประสบการณ์และงบในการติดตั้งไม่บานปลายอีกด้วย

ติดฟิล์มกระจกบ้านดีกว่าติดม่านอย่างไร

การติดฟิล์มกระจกบ้านช่วยป้องกันรังสี UV และรังสีอินฟราเรดต้นเหตุที่ทำให้บ้านร้อนและทำร้ายผิวรวมถึงเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านด้วย ทำให้การติดฟิล์มกระจกบ้านช่วยป้องกันรังสีได้มากกว่าและมีข้อดีในการลดแสงจ้าเข้ามาภายในบ้าน แต่หากติดม่านทึบไม่สามารถช่วยลดให้บ้านเย็นและแสงแดดยังทำให้ผ้าม่านเสื่อมสภาพเร็วขึ้นอีกด้วย สุดท้ายนี้หากต้องการใช้บริการ รับติดฟิล์มบ้านควรเลือกช่างที่มีประสบการณ์ติดตั้งอย่างยาวนานและมีฟิล์มกระจกบ้างให้เลือกหลายรูปแบบ


105
ท่อ HDPE ประปา

น้ำประปาถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ขาดไม่ได้ ดังนั้น ระบบการขนส่งน้ำประปาจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะการเลือกใช้ท่อ HDPE ประปา ซึ่งเป็นท่อพลาสติกที่มีความแข็งแรง ทนทานต่อทุกสภาพแวดล้อม มีความยืดหยุ่นสูง น้ำหนักเบา ขนย้ายง่าย จึงทำให้ท่อน้ำ PE ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก

ท่อ HDPE ประปา คือ อะไร?

ท่อน้ำ PE

ท่อประปา HDPE ย่อมาจาก High-Density Polyethylene Pipe ซึ่งเป็นท่อที่ผลิตจากวัสดุพลาสติกชนิดหนึ่งที่เรียกว่าโพลีเอทิลีน (Polyethylene) มีคุณสมบัติโดดเด่นหลายประการ ทั้งมีความหนาแน่นสูง (High-Density) จึงได้ชื่อเรียกว่า ท่อ HDPE ประปา แล้วด้วยความหนาแน่นสูงนี้ ส่งผลให้ท่อมีความแข็งแรงและทนทานต่อปัจจัยภายนอกต่าง ๆ นอกจากนี้ ยังมีความยืดหยุ่นดี ใช้งานได้ในทุกสภาพแวดล้อม ทนทานต่อสิ่งต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสารเคมี แสงแดด น้ำทะเล การกัดกร่อนของดินและเชื้อโรคในดิน

ท่อนี้นิยมนำมาใช้ในระบบท่อประปา จึงเรียกว่า ท่อ PE ประปา หรือท่อ HDPE ประปา เพราะนอกเหนือจากคุณสมบัติเด่น ๆ ดังกล่าวแล้ว ท่อประปา PE ยังมีน้ำหนักเบา ทำให้ขนส่งสะดวก ติดตั้งได้ง่าย ทนทานต่อการกัดกร่อนของสารเคมีต่าง ๆ ถูกทำลายหรือแตกหักได้ยาก มีอายุการใช้งานยาวนาน หากมีการต่อท่อ HDPE ดี จะสามารถกันน้ำได้เป็นอย่างดี ขนส่งน้ำประปาได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้น ท่อ HDPE ประปาจึงได้รับความนิยมในการก่อสร้างระบบประปาใหม่หรือใช้ซ่อมแซมในระบบปัจจุบัน

คุณสมบัติของท่อ HDPE ประปา มีอะไรบ้าง?

การต่อท่อ HDPE

อย่างที่ทราบดีว่า ท่อ HDPE ประปามีลักษณะเป็นท่อน้ำสีดำ แล้วมีคุณสมบัติโดดเด่นหลายประการ โดยสามารถอธิบายรายละเอียดได้ ดังนี้

ความแข็งแรงและทนทาน

ท่อ HDPE ประปามีคุณสมบัติเรื่องความแข็งแรงและทนทานทางกายภาพสูง โดยสามารถแบ่งออกเป็น 2 ด้าน คือ

  • ความทนทานต่อแรงดัน ด้วยท่อประปา HDPE สามารถทนทานต่อแรงดันน้ำได้เป็นอย่างดี จึงเหมาะสำหรับใช้เป็นท่อน้ำ PE รับส่งน้ำผ่านท่อไปยังสถานที่ต่าง ๆ
  • ความทนทานต่อแรงกระแทก เมื่อท่อ HDPE ประปาสามารถทนต่อแรงกระแทกได้ดี ทำให้ท่อสามารถรับแรงกระแทกที่เกิดขึ้นจากปัจจัยต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นระหว่างขนส่งท่อประปา PE ไปติดตั้ง หรือระหว่างส่งน้ำประปา หรือมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น หรือเกิดจากแรงกระแทกในการใช้งานก็ตาม
ดังนั้น คุณสมบัติแรกของท่อ HDPE ประปา คือ ความแข็งแรงและทนทานทางกายภาพ ซึ่งสามารถรับแรงดันและแรงกระแทกจากภายในและภายนอกได้เป็นอย่างดี มีความหนาแน่นสูง  ยืดหยุ่นได้เป็นอย่างดี ทำให้รับแรงกระแทกได้ โดยไม่เกิดการแตกหักเสียหาย

ทนทานต่อสภาพแวดล้อม

อีกคุณสมบัติของท่อ PE ประปา คือ ความทนทานต่อสภาพแวดล้อมต่าง ๆ เช่น

  • ทนทานต่อสารเคมี ด้วยท่อ HDPE ประปามีความทนทานต่อสารเคมี ไม่ปล่อยให้สารพิษหรือสารเคมีอันตรายรั่วซึมผ่านท่อเข้าไปทำปฏิกิริยากับน้ำประปาภายในท่อ ทำให้น้ำประปามีความปลอดภัย
  • ทนทานต่อแสงแดด เพราะบางครั้ง มีการต่อท่อ HDPE ในบริเวณกลางแจ้ง ดังนั้น ท่อน้ำ HDPE จึงต้องมีคุณสมบัติในการทนทานต่อการทำลายจากรังสีแสงแดด UV เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน ใช้งานได้ทุกพื้นที่
  • ทนทานต่อการกัดกร่อน เนื่องจากบางสถานที่ที่ใช้การต่อท่อ HDPE อาจจะมีสภาพแวดล้อมที่เป็นกรด หรือดินสามารถกัดกร่อนท่อได้ ดังนั้น ท่อ HDPE ประปาจึงควรทนทานต่อการกัดกร่อนของเชื้อโรคและดินต่าง ๆ
คุณสมบัติการทนทานต่อสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสารเคมี แสงแดด หรือการกัดกร่อน สาเหตุเหล่านี้ ล้วนต่อผลต่อคุณภาพของน้ำประปาภายในท่อ PE ประปาทั้งสิ้น เพราะหากต้องการให้น้ำประปาสะอาด ปลอดภัยจนถึงมือผู้รับน้ำ ท่อ HDPE ประปาจึงควรเป็นกลาง ไม่ทำปฏิกิริยากับปัจจัยภายนอกใด ๆ ทั้งสิ้น เพื่อรักษาคุณสมบัติ ความสะอาด และความปลอดภัยของน้ำประปาไว้อย่างครบถ้วน

การต่อท่อ HDPE ง่ายและรวดเร็ว

ท่อ HDPE ประปาสามารถเชื่อมต่อได้ด้วยวิธีการง่าย ๆ สามารถติดตั้งได้อย่างรวดเร็ว มีมาตรฐาน ปลอดภัย ไม่มีรอยรั่วซึมหรือชำรุด เพราะหากมีการต่อท่อ HDPE ที่ดี ก็จะช่วยให้สามารถใช้งานท่อ PE ประปาได้อย่างยาวนานมากยิ่งขึ้น ลดปัญหาการซ่อมแซมในอนาคตได้

ดังนั้น จะเห็นได้ว่า ท่อ HDPE ประปามีคุณสมบัติโดดเด่นอยู่ 3 ประการ คือ ความแข็งแรงทนทานทางกายภาพ สามารถรับแรงดันและแรงกระแทกได้ดี มีความยืดหยุ่นสูง ทนทานต่อสารเคมี แสงแดด และการกัดกร่อนจากดินได้ อีกทั้งยังเอื้อให้การต่อท่อ HDPE ติดตั้งได้ง่าย สะดวก โดยนอกจากนี้ ยังมีน้ำหนักเบา สามารถขนย้ายได้สะดวก ใช้งานได้นาน ปลอดภัยตลอดการขนส่งน้ำประปา เพราะสารเคมีหรือปัจจัยภายนอกต่าง ๆ ไม่สามารถรั่วซึมผ่านท่อ PE ประปาเข้ามาได้

สรุป

ท่อ HDPE ประปาเป็นท่อพลาสติกประเภทโพลีเอทิลีน มีคุณสมบัติแข็งแรง ทนทานต่อสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นแรงดันน้ำ แรงกระแทก แสงแดด สารเคมี หรือการกัดกร่อนของดิน มีความหนาแน่นสูง ยืดหยุ่นได้ดี น้ำหนักเบา อีกทั้งการต่อท่อ HDPE ก็สามารถติดตั้งได้ง่าย ทำให้ท่อน้ำ PE หรือท่อประปา PE ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก หลายโครงการหรืออุตสาหกรรมเลือกใช้ท่อ HDPE ประปาในการวางระบบประปาใหม่ รวมถึงใช้ในการซ่อมแซมระบบประปาเก่าอีกด้วย

106
ติดตั้งโซล่าเซลล์สำคัญอย่างไร ?

ในปัจจุบันในยุคที่ค่าไฟมีแนวโน้มที่จะปรับตัวสูงขึ้น เชื่อได้ว่าหลาย ๆ คนกำลังมองหาวิธีที่จะช่วยลดค่าไฟกันอย่างแน่นอน ซึ่งหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายที่หลายคนน่าจะต้องเคยได้ยินอย่างแน่นอนนั้นก็คือ การติดตั้งโซล่าเซลล์สำหรับการใช้งานไฟฟ้าภายในบ้าน เป็นหนึ่งในวิธีที่มีผลลัพธ์ที่มีความคุ้มค่าในระยะยาวสำหรับผู้ที่ต้องการลดค่าใช้จ่ายค่าไฟได้เป็นอย่างดี โดยในวันนี้ในบทความนี้จะมาแนะนำการติดตั้งโซล่าเซลล์อย่างถูกวิธี เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน พร้อมประมาณราคาการติดตั้งโซล่าเซลล์ ราคาเริ่มต้นที่เท่าไหร่ ให้กับผู้ที่มีความสนใจทุกคนได้ทราบ

แนะนำการติดตั้งโซล่าเซลล์ (Solar Cell)

ติดตั้งโซล่าเซลล์ดีอย่างไร ?

ก่อนที่จะเริ่มทำการติดตั้งโซล่าเซลล์ เบื้องต้นนั้นผู้ที่ต้องการติดโซล่าเซลล์ควรทำความรู้จักเบื้องต้นกับโซล่าเซลล์ก่อนว่าคืออะไร รู้จักกับข้อดีของโซล่าเซลล์มีนั้นข้อดีแบบไหน เพื่อที่จะได้เป็นตัวช่วยในการตัดสินใจก่อนที่จะเริ่มติดโซล่าเซลล์บ้านของตนเอง

ติดตั้งโซล่าเซลล์ คืออะไร
การติดตั้งโซล่าเซลล์ คือการติดชุดอุปกรณ์ต่าง ๆ ของระบบโซล่าเซลล์ไปยังจุดที่เจ้าของบ้านต้องการ โดยจะสามารถติดได้ทั้งบนหลังคาบ้าน หรือติดตั้งแผงโซล่าเซลล์บนดาดฟ้าของตัวบ้าน โดยจะขึ้นอยู่ว่าจุดไหนที่มีความเหมาะสมมากที่สุดที่จะโดนแสงแดดในตอนกลางวัน

ข้อดีของการติดตั้งโซล่าเซลล์
  • การติดโซล่าเซลล์สามารถช่วยลดปัญหาโลกร้อนได้ เพราะเป็นพลังงานสะอาดไม่ก่อให้เกิดมลภาวะเป็นพิษต่อธรรมชาติ
  • เป็นเทคโนโลยีที่มีระบบความปลอดภัยที่สูงต่อผู้ที่พักอาศัยในบ้าน และระบบไฟฟ้า
  • การติดตั้งโซล่าเซลล์ช่วยลดค่าไฟฟ้าในแต่ละเดือนได้มากถึง 30-70 %
  • มีอายุในการใช้งานที่ยาวนานมากถึง 25 ปี มีการบำรุงรักษาระบบที่ไม่มาก
  • การติดตั้งโซล่าเซลล์เป็นการลงทุนในระยะยาว ใช้เวลาในการคืนทุนไม่นาน ถือเป็นระบบที่มีความคุ้มค่า
  • พลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานที่ไม่มีวันหมด เหมาะกับประเทศไทยเพราะเป็นประเทศเขตร้อน
  • ช่วยให้บ้านเย็นขึ้นได้ เนื่องจากการติดตั้งโซล่าเซลล์ส่วนมากจะติดตั้งบนหลังคาที่มีชื่อเรียกว่า โซล่ารูฟท็อป หรือหลังคาโซล่าเซลล์

บริการติดตั้งโซล่าเซลล์ มีรูปแบบไหนบ้าง

ติดตั้งโซล่าเซลล์มีบริการใดบ้าง ?

เมื่อรู้จักกันแล้วว่าการติดตั้งโซล่าเซลล์คืออะไร ข้อดีของการติดโซล่าเซลล์มีข้อดีแบบไหน ในหัวข้อนี้ก็จะบอกถึงบริการติดตั้ง Solar Cell ว่ามีการให้บริการอย่างไรบ้างที่จะได้รับจากผู้ที่ให้บริการรับติดโซล่าเซลล์ใช้ในบ้าน โดยจะมีรายละเอียดการให้บริการทั้งหมดดังนี้

ออกแบบและติดตั้งโซล่าเซลล์
ทางผู้ให้บริการติดตั้งโซล่าเซลล์ จะให้คำแนะนำ และคำปรึกษาต่าง ๆ เพื่อช่วยวางแผนการติดตั้งว่าจะเป็นการติดตั้งในรูปแบบใด ติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ไว้ในจุดใน รวมถึงช่วยทำเอกสารการอนุญาตติดโซล่าเซลล์ให้กับทางภาครัฐให้เป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

ตรวจสอบและทำความสะอาด แผงโซลาร์เซลล์
นอกจากการให้บริการติดตั้งโซล่าเซลล์แล้ว ทางผู้ให้บริการส่วนใหญ่ยังมีบริการรับตรวจสอบความสมบูรณ์ของระบบโซล่าเซลล์ รับทำความสะอาดแผงโซล่าเซลล์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตกระแสไฟฟ้า สำหรับระบบโซล่าเซลล์ที่ติดตั้งมาเป็นระยะเวลานาน และเพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน

ราคาติดตั้งโซล่าเซลล์
การติดตั้งโซล่าเซลล์โดยปกติแล้วจะมีราคาติดตั้งโซล่าเซลล์เริ่มต้นที่ 165,000 - 390,000 บาท ซึ่งจะมีความแตกต่างกันขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละบ้านที่ไม่เท่ากัน ซึ่งถ้าต้องการรายละเอียดต่าง ๆ เพิ่มเติม ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากผู้ให้บริการติดตั้งโซล่าเซลล์จากทาง Q-Chang ได้เลย โดยจะมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้คำแนะนำ พร้อมให้คำปรึกษาเกี่ยวกับด้านการติดโซล่าเซลล์อย่างมืออาชีพ

ขั้นตอนการติดตั้งโซล่าเซลล์

การติดตั้งโซล่าเซลล์มีขั้นตอนอย่างไร ?

ขั้นตอนการติดตั้งโซล่าเซลล์หากใช้บริการจากทางผู้ให้บริการติดตั้งมืออาชีพ จะมีขั้นตอนในการดำเนินงานต่าง ๆ ดังนี้

1.ผู้ที่สนใจเข้ารับคำปรึกษาเพื่อบอกถึงระบบโซล่าเซลล์ที่ต้องการ รวมถึงงบประมาณกับทีมงาน
2.ทางทีมงานรับติดตั้งโซล่าเซลล์จะนำรายละเอียดต่าง ๆ พร้อมเสนอราคาติดตั้งโซล่าเซลล์ตามงบประมาณของผู้ที่สนใจได้เลือกหลากหลายแพ็กเกจ
3.เมื่อเลือกแพ็กเกจที่ตรงกับความต้องการได้แล้ว ทางทีมงานจะส่งใบเสนอราคา พร้อมกับต้องชำระราคาค่าติดตั้งโซล่าเซลล์ล่วงหน้า 40 % พร้อมนัดหมายในการสำรวจพื้นที่
4.ทีมงานเข้าไปตรวจสอบพื้นที่การติดตั้งแผงโซล่าเซลล์
5.ทางทีมงานจะเป็นผู้ทำเรื่องขอใบอนุญาตการติดโซล่าเซลล์กับหน่วยงานภาครัฐ
6.ชำระค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เหลือ 60 %
7.ทางทีมงานติดตั้งโซล่าเซลล์จะเริ่มดำเนินการติดตั้งตามแผนที่ได้วางเอาไว้ เมื่อติดตั้งเสร็จแล้วทางทีมงานจะส่งมอบงาน พร้อมอธิบายระบบโซล่าเซลล์ที่ติดตั้ง พร้อมสอนวิธีการใช้งาน การแก้ไขปัญหาต่าง ๆ อย่างละเอียด

ติดตั้งโซล่าเซลล์คุ้มค่าขนาดไหน ?
การติดตั้งโซล่าเซลล์ถือเป็นการลงทุนที่มีความคุ้มค่า สำหรับผู้ที่ต้องการลดค่าใช้จ่ายค่าไฟในระยะยาว โดยการติดโซล่าเซลล์ในปัจจุบันถือเป็นระบบที่มีความปลอดภัย มีความเสถียรสูง และมีความเหมาะสมกับสภาพอากาศของประเทศไทยอย่างมาก สุดท้ายนี้หากผู้ใดสนใจอยากติดตั้งโซล่าเซลล์ที่ต้องการการติดตั้งระบบที่มีความปลอดภัย ขอแนะนำให้ปรึกษากับผู้ให้บริการรับติดโซล่าเซลล์มืออาชีพโดยตรง

107
พิธีหมั้น

ความรักเป็นเรื่องราวดี ๆ สำหรับคน 2 คน หากทั้งสองตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันแล้ว ก็จำเป็นต้องจัดงานพิธีหมั้น ซึ่งพิธีหมั้นในปัจจุบัน มีรายละเอียด รายการของพิธีหมั้น และขั้นตอนการจัดพิธีหมั้นค่อนข้างเยอะ จำเป็นต้องมีการวางแผนเตรียมการล่วงหน้า เพื่อให้สามารถจัดพิธีสวมแหวนหมั้นได้อย่างราบรื่น ไม่มีสะดุด โดยบทความนี้ จะช่วยอธิบายเกี่ยวกับพิธีหมั้นอย่างละเอียด เพื่อให้ว่าที่เจ้าบ่าวและเจ้าสาวเตรียมตัวได้อย่างเหมาะสม

ความสำคัญของพิธีหมั้นในไทย

ควมสำคัญของพิธีหมั้น

พิธีหมั้นเป็นประเพณีไทยที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน มีความสำคัญต่อคู่รักและครอบครัวทั้งสองฝ่าย โดยพิธีหมั้นผูกข้อมือจะจัดขึ้นเพื่อประกาศให้โลกรับรู้ถึงความสัมพันธ์ของคู่รักอย่างเป็นทางการ เป็นการผูกพันระหว่างครอบครัวทั้งสองฝ่าย และเป็นการแสดงความตกลงที่จะแต่งงานกันในอนาคต

ในอดีต ก่อนจัดพิธีแต่งงานจะให้จัดพิธีหมั้นไว้ก่อน โดยฝ่ายชายจะยกขบวนขันหมากมาสู่ขอฝ่ายหญิงที่บ้านฝ่ายหญิง มีการเจรจาสู่ขอระหว่างผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย และฝ่ายชายจะมอบสินสอดทองหมั้นให้กับฝ่ายหญิง ในปัจจุบัน พิธีหมั้นและพิธีแต่งงานมักจะจัดขึ้นในวันเดียวกันเพื่อความสะดวก อีกทั้งยังนิยมจัดงานหมั้นแบบเรียบง่าย

รายการของสำคัญที่มักใช้ในพิธีหมั้น
โดยในการจัดพิธีหมั้นจำเป็นเตรียมของพิธีหมั้นให้พร้อม ทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิง เพื่อให้งานพิธีหมั้นสามารถดำเนินไปได้อย่างราบรื่น ดังนั้น เจ้าของงานพิธีหมั้นจะต้องเตรียมของในแต่ละฝ่าย ดังนี้

ฝ่ายชาย
ของพิธีหมั้นสำหรับฝ่ายชาย จะต้องเตรียมในงานพิธีหมั้น ดังต่อไปนี้

  • ขันหมากงานหมั้น ประกอบด้วยพานขันหมาก 9 พาน ซึ่งประกอบด้วย
1.พานขันหมากเอก (พานขันหมากใหญ่) ประกอบด้วย สิ่งของที่จำเป็นต่อการดำเนินชีวิต เช่น ข้าวสาร เกลือ น้ำตาล น้ำอบ เป็นต้น
2.พานขันหมากโท (พานขันหมากรอง) ประกอบด้วย สิ่งของที่เป็นสัญลักษณ์แห่งความสุข เช่น ทองคำ เงิน ไข่ไก่ เป็นต้น
3.พานขันหมากบ่าวขันหมาก (พานขันหมากเล็ก) ประกอบด้วย สิ่งของที่เป็นสัญลักษณ์แห่งความรัก เช่น ดอกไม้ ธูปเทียน เป็นต้น

  • สินสอดทองหมั้น ประกอบด้วย เงินสด ทองคำ เครื่องประดับ เป็นต้น
  • แหวนหมั้น มอบให้กับฝ่ายหญิงเป็นสัญลักษณ์ของการจับจอง
  • ชุดไทยหรือชุดสูท สวมใส่ในพิธีหมั้น

ฝ่ายหญิง
ส่วนของพิธีหมั้นสำหรับฝ่ายหญิง มีดังนี้

  • ชุดไทย สวมใส่ในพิธีหมั้น
  • เครื่องประดับ เช่น สร้อยคอ ต่างหู แหวน เป็นต้น
  • สินสอดทองหมั้น ประกอบด้วย เงินสด ทองคำ เครื่องประดับ เป็นต้น
  • แหวนหมั้น มอบให้กับฝ่ายชายเป็นสัญลักษณ์ของการจับจอง

นอกจากนี้ ยังมีของพิธีหมั้นอื่น ๆ ที่อาจใช้ในพิธีหมั้น เช่น

  • ขันหมากเอกฝ่ายหญิง ประกอบด้วย สิ่งของที่จำเป็นต่อการดำเนินชีวิต เช่น ข้าวสาร เกลือ น้ำตาล น้ำอบ เป็นต้น
  • ขันหมากโทฝ่ายหญิง ประกอบด้วย สิ่งของที่เป็นสัญลักษณ์แห่งความสุข เช่น ทองคำ เงิน ไข่ไก่ เป็นต้น
  • ขันหมากบ่าวขันหมากฝ่ายหญิง ประกอบด้วย สิ่งของที่เป็นสัญลักษณ์แห่งความรัก เช่น ดอกไม้ ธูปเทียน เป็นต้น
  • เครื่องแต่งกายของผู้ใหญ่ สวมใส่ในพิธีหมั้นเล็ก ๆ
  • ของขวัญในพิธีหมั้นแบบง่าย ๆ จากญาติผู้ใหญ่และแขกที่มาร่วมงาน

ลำดับขั้นตอนของพิธีหมั้น

ขั้นตอนของพิธีหมั้น

สำหรับผู้ที่ต้องการจัดพิธีหมั้นเพียงอย่างเดียว นอกจากรายการของพิธีหมั้นที่จะต้องจัดเตรียมแล้ว ยังต้องเข้าใจแต่ละขั้นตอนของพิธีก่อน แม้ว่าจะเป็นการจัดงานหมั้นแบบเรียบง่าย หรือเป็นการจัดพิธีหมั้นแบบอีสาน โดยทั่วไป ก็จะมีขั้นตอน ดังนี้

1.พิธีสงฆ์ ซึ่งคู่บ่าวสาวจะร่วมกันจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย กล่าวอาราธนาศีล 5 รับศีล 5 สวดมนต์ และตักบาตร จากนั้นจะเป็นการถวายดอกไม้ธูปเทียน และเครื่องปัจจัยไทยธรรม พร้อมทั้งรับน้ำมนต์จากพระสงฆ์ เพื่อเพิ่มความเป็นสิริมงคล
2.พิธีสู่ขอ โดยเถ้าแก่ฝ่ายชายจะเจรจาสู่ขอฝ่ายหญิงกับพ่อแม่หรือญาติผู้ใหญ่ของฝ่ายหญิง โดยฝ่ายชายจะแจ้งว่าได้นำสินสอดทองหมั้นอะไร จำนวนเท่าไหร่มาบ้าง พ่อแม่หรือญาติผู้ใหญ่ของฝ่ายหญิงจะพิจารณาสินสอดทองหมั้นและตอบตกลงหรือปฏิเสธ
3.พิธีมอบสินสอดทองหมั้น ฝ่ายชายจะมอบสินสอดทองหมั้นให้กับพ่อแม่หรือญาติผู้ใหญ่ของฝ่ายหญิง สินสอดทองหมั้นจะประกอบด้วยเงินสด ทองคำ เครื่องประดับ เป็นต้น
4.พิธีสวมแหวนหมั้น ฝ่ายชายจะสวมแหวนหมั้นให้กับฝ่ายหญิง แหวนหมั้นเป็นสัญลักษณ์ของการจับจองและแสดงถึงความรักของคู่รัก
5.พิธีรับไหว้ คู่บ่าวสาวจะรับไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย โดยฝ่ายชายจะกราบพ่อแม่และญาติผู้ใหญ่ของฝ่ายหญิง ส่วนฝ่ายหญิงจะกราบพ่อแม่และญาติผู้ใหญ่ของฝ่ายชาย
6.พิธีเลี้ยงฉลอง คู่บ่าวสาวจะเลี้ยงฉลองให้กับแขกที่มาร่วมงาน เป็นการแสดงความยินดีกับคู่รักที่กำลังจะเริ่มต้นชีวิตคู่ใหม่

โดยลำดับขั้นตอนของพิธีหมั้นอาจมีการปรับเปลี่ยนได้ตามประเพณีของแต่ละท้องถิ่นหรือของแต่ละครอบครัว หรืออาจจะมีการจัดพิธีหมั้นแบบฝรั่ง หรือปรับให้มีแต่งานหมั้นเช้าเพียงอย่างเดียว แต่ในปัจจุบัน พิธีหมั้นและพิธีแต่งงานนิยมจัดขึ้นในวันเดียวกัน เพื่อความสะดวก ปรับลำดับขั้นตอนของพิธีหมั้นให้ผนวกรวมกับพิธีแต่งงานบางส่วน เช่น พิธีสู่ขออาจมีการรวมเข้ากับขบวนแห่ขันหมาก เป็นต้น

สรุปเกี่ยวกับพิธีหมั้น
การจัดพิธีหมั้นเป็นประเพณีไทย ซึ่งประกาศให้ทุกคนรับรู้ถึงความสัมพันธ์ของคู่รักอย่างเป็นทางการ โดยมีรายละเอียด รายการของพิธีหมั้น ฤกษ์แต่งงานพิธีหมั้น และขั้นตอนการจัดพิธีหมั้นค่อนข้างเยอะ จึงจำเป็นต้องมีการวางแผนเตรียมการล่วงหน้า เพื่อให้เป็นการจัดพิธีหมั้นเล็ก ๆ แต่ก็ครบถ้วนสมบูรณ์ตามขั้นตอนประเพณีไทย

108
ดนตรีคลาสสิค

ดนตรีเป็นสื่อความบันเทิงประเภทหนึ่งที่ช่วยให้ผู้ฟังเกิดความรู้สึกผ่อนคลาย ตลอดจนนำมาศึกษาหรือประกอบเป็นอาชีพ ซึ่งดนตรีก็มีหลายแนวหลายประเภท แต่ดนตรีคลาสสิคถือว่าเป็นแนวเพลงที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 จนได้รับการยอมรับให้เป็นดนตรีชั้นสูงประเภทหนึ่ง เพราะมีอิทธิพลส่งผลต่อศิลปะในวงกว้างไปทั่วโลก

ดนตรีคลาสสิก คืออะไร
ดนตรีคลาสสิก (Classical music) คือ แนวเพลงดนตรีที่เป็นศิลปะของประเทศทางฝั่งตะวันตก นิยมใช้เครื่องดนตรีชนิดเครื่องสาย เมื่อเล่นกันเป็นกลุ่มจะเรียกว่า วงออร์เคสตรา ซึ่งมีการเล่นดนตรีร่วมกันระหว่างเครื่องดนตรีประเภทต่าง ๆ เพิ่มขึ้น

ดนตรีคลาสสิคเป็นแนวดนตรีที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในช่วงศตวรรษที่ 18 - 19 โดยคำว่า คลาสสิก หมายถึง รูปแบบดนตรีที่พัฒนามาจากโครงสร้างการประพันธ์ดนตรีในยุคคลาสสิก โดยดนตรีคลาสสิคมีลักษณะการใช้โน้ตที่ซับซ้อน ประกอบกับท่วงทำนองที่หลากหลาย ด้วยการใช้ดนตรีคาสิกประเภทต่าง ๆ เช่น ไวโอลิน, เชลโล, คลาริเนต และทรัมเป็ต

ดนตรีคลาสสิกมีรากฐานในประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน มีการพัฒนาอย่างเป็นระบบมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 9 - 20 จึงถือได้ว่า แนวเพลง คลาสสิคเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ทางดนตรีที่ได้รับการยอมรับ ส่งผลต่อการสร้างสรรค์ทางวรรณกรรมและศิลปวัฒนธรรมทั่วโลก จะเห็นได้จากศิลปะในโบสถ์ พิพิธภัณฑ์ การแสดงคอนเสิร์ต ตลอดจนการศึกษาต่าง ๆ

ประวัติของดนตรีคลาสสิค

ดนตรีคลาสสิก

ดนตรีคลาสสิกมีประวัติความเป็นมาอย่างยาวนาน นับตั้งแต่ศตวรรษที่ 9 - 20 จึงเกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยประวัติ ดนตรีคลาสสิคได้เริ่มต้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 9 โดยมีการใช้คอราล, ไนบล์ และออร์แกน เป็นเครื่องดนตรีหลัก

จนดนตรีคลาสสิคได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในศตวรรษที่ 18 - 19 ซึ่งยังมีการแต่งเพลงแบบบาร็อกโก่อยู่ แต่มีความละมุน สดใสในแนวเพลงมากกว่า จนกระทั่งมีการพัฒนาถึงจุดสูงสุดทางด้านการประพันธ์เพลง โดยประพันธ์เพลงให้เครื่องดนตรี ยุคคลาสสิกอย่างออร์แกน เปียโน และไวโอลิน มากขึ้น

ดนตรี ยุคคลาสสิกเป็นยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงทางดนตรีมากที่สุด เพราะมีการกำหนดกฎเกณฑ์ รูปแบบ และหลักการในการเล่นดนตรีอย่างชัดเจน ซึ่งศูนย์กลางของดนตรีคลาสสิกอยู่ที่กรุงเวียนนา และเมืองมานไฮม์ของประเทศออสเตรีย

เครื่องดนตรีคลาสสิคประเภทต่าง ๆ

เครื่องดนตรี ยุคคลาสสิก

หลายคนอาจจะสงสัยว่า “เครื่องดนตรีคลาสสิค มีอะไรบ้าง” ด้วยดนตรีคลาสสิกมีการใช้เครื่องดนตรีหลากหลายประเภท เพื่อให้สร้างผลงานที่สมบูรณ์ ครบทุกโทนเสียง ดังนั้น เครื่องดนตรี ยุคคลาสสิกแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่

1.เครื่องดนตรี ยุคคลาสสิกประเภทเครื่องสาย (String) เช่น
  • ไวโอลิน (Violin) เป็นเครื่องดนตรีสายที่มีลักษณะทรงยาวและบาง
  • เชลโล (Cello) เครื่องดนตรีสายที่มีลักษณะใกล้เคียงกับไวโอลิน แต่มีขนาดใหญ่กว่า และเล่นโดยวางไว้บนพื้น
  • ฮาร์พ (Harp) เครื่องดนตรีสายที่ทำให้เกิดเสียงต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับการกดแต่ละเส้น
  • เปียโน (Piano) เครื่องดนตรีสาย มีแป้น มีโน๊ตเสียงที่สามารถเปลี่ยนระดับความดังได้

2.เครื่องดนตรี ยุคคลาสสิกประเภทเครื่องเป่าลมไม้ (Woodwind) เช่น
  • คลาริเนต (Clarinet) เป็นเครื่องดนตรีเป่าลมทำจากไม้หรือพลาสติก มีท่อในรูปทรงกรวยและใช้ฝาปิดที่จะปรับสูงต่ำของเสียง
  • ฟลูท (Flute) เครื่องดนตรีเป่าลมทำจากทองแดงหรือเหล็ก มีรูเดียว
  • โอโบ (Oboe) เครื่องดนตรีเป่าลมทำจากไม้ที่มีท่อแบน และมีลิ้นในช่อง ทำให้เสียงที่มีลักษณะเฉพาะ
  • ปิคโคโล (Piccolo) เครื่องดนตรีเป่าลมมีขนาดเล็กและเสียงสูง

3.เครื่องดนตรี ยุคคลาสสิกประเภทเครื่องเป่าทองเหลือง (Brass) เช่น
  • ทรัมเป็ต (Trumpet) เป็นเครื่องดนตรีเป่าทำจากทองแดงหรือเหล็ก
  • เฟรนช์ฮอร์น (French Horn) เครื่องดนตรีเป่ามีรูปร่างโค้ง ใช้เล่นเพื่อเพิ่มความสมบูรณ์ของเสียงในวง
  • ทรอมโบน (Trombone) เป็นเครื่องเป่าที่มีท่อตรงยาว มีลิ้นที่ใช้เปลี่ยนเสียง
  • คอร์เนต (Cornet) เป็นเครื่องเป่าที่คล้ายกับทรัมเป็ตแต่มีลักษณะท่อที่มีรูปทรงกรวยแตกต่างกัน
  • ทูบา (Tuba) เป็นเครื่องเป่าที่มีท่อขนาดใหญ่ ให้โทนเสียงเป็นเอกลักษณ์ หนักหน่วง

4.เครื่องดนตรี ยุคคลาสสิกประเภทเครื่องกระทบ (Percussion) เช่น
  • กลองทิมปานี (Timpani) กลองที่มีขนาดใหญ่เป็นทรงโค้งสามารถปรับเสียงสูง-ต่ำ ทำให้ได้เสียงที่แตกต่างกัน
  • ฉาบ (Xylophone) เป็นเครื่องดนตรีที่ทำให้เกิดเสียงโดยการกระทบกัน
  • กลองใหญ่ (Drum Kit) ประกอบด้วยกลองต่าง ๆ รวมอยู่ในชุดเดียว
  • ไทรแองเกิล (Triangle) เป็นเครื่องดนตรีที่ทำจากเหล็กทรงสามเหลี่ยม มีด้ามใช้ตี
  • ไวบราโฟน (Vibraphone) เป็นเครื่องดนตรีที่มีแถบไม้ที่เรียงต่อกัน มีแผ่นโลหะใต้แถบไม้ ทำให้เกิดเสียง   

ประเภทแนวเพลงคลาสสิค
ด้วยประวัติ ดนตรีคลาสสิคมีมาอย่างยาวนาน ทำให้ดนตรีคลาสสิกแบ่งออกเป็นหลากหลายแนวเพลง ซึ่งสามารถสรุปแนวเพลง คลาสสิคได้ 4 ประเภท คือ

1. ซิมโฟนี (Symphony)
แนวเพลง คลาสสิคแรก คือ ซิมโฟนี เป็นการประพันธ์ที่มีโครงสร้าง 4 ท่อน (movements) ซึ่งแต่ละท่อนมีลักษณะแตกต่างกัน โดยจะมีความเร็วในแต่ละท่อนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ประกอบกับมีเนื้อหาซ่อนอยู่ภายใต้เสียงเพลง วงดนตรี คลาสสิคอย่างเช่นวงออร์เคสตรา

2. โอเวอร์เจอร์ (Overture)
แนวเพลง คลาสสิคอย่างโอเวอร์เจอร์ (Overture) นิยมเป็นการเล่นโหมโรงในคอนเสิร์ต หรือโอเปร่า หรือละครเพลง ก่อนจะเข้าสู่การแสดงหลัก นิยมใช้เนื้อเพลงหรือแนวเพลงที่เป็นที่รู้จัก

3. คอนแชร์โต (Concerto)
ดนตรีคลาสสิกแบบคอนแชร์โต นิยมมี 3 ท่อน คือ เร็ว-ช้า-เร็ว เป็นการเล่นประชันกัน ระหว่างเครื่องดนตรีหรือวงดนตรี คลาสสิคอย่างเช่นวงออร์เคสตรา เพื่อประชันเสียงและลีลาดนตรี

4. โซนาตโต (Sonata)
ดนตรีคลาสสิคโซนาตโต (Sonata) เป็นการประพันธ์เพลงสำหรับนักดนตรีเดี่ยว กล่าวคือ สำหรับการเล่นเครื่องดนตรีประเภทเดียว โดยไม่ต้องมีเครื่องดนตรีอื่นประกอบ อย่างเช่นเปียโน แต่ถ้าหากเล่นดนตรีประเภทอื่นชิ้นเดียว ก็อาจจะมีเปียโนประกอบด้วย

สรุป
ดนตรีคลาสสิกเป็นแนวเพลงที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในศตวรรษที่ 18 - 19 มีประวัติ ดนตรีคลาสสิคมาอย่างยาวนาน ทำให้ได้รับความยอมรับจากหลาย ๆ วงการ รวมถึงส่งผลต่อศิลปะทั่วโลก ดั่งปรากฏในโบสถ์หรือพิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ


109
เครื่องวัดฝุ่น

จากสถานการณ์ของประเทศไทยในปัจจุบันที่หลายพื้นต่างมีปัญหาทางสภาพอากาศ โดยเฉพาะในเรื่องของฝุ่นในอากาศ ไม่ว่าจะเป็นฝุ่น PM 2.5 หรือจะเป็นฝุ่นมลพิษจากการเผาไหม้ต่าง ๆ ก็ตาม ทำให้เครื่องวัดฝุ่นกลายมาเป็นอุปกรณ์ที่มีความจำเป็นในการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่

โดยในบทความนี้จะมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับเครื่องวัดฝุ่นกันว่า เครื่องวัดฝุ่นคืออะไร? ข้อจำกัดเครื่องตรวจวัดฝุ่นมีอะไรบ้าง พร้อมแนะนำประเภทของเครื่องวัดฝุ่นละอองในอากาศ

เครื่องวัดฝุ่น (Dust Monitors) คืออะไร? มีกี่แบบ?

เครื่องวัดฝุ่น หรือ Dust Monitors คือ อุปกรณ์ในการตรวจวัดปริมาณฝุ่นละอองในอากาศ โดยใช้วิธีการทางไฟฟ้าในการตรวจวัดฝุ่นละอองในอากาศที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางเล็กกว่า 2.5 ไมครอน และ 10 ไมครอน โดยเครื่องวัดปริมาณฝุ่นจะมีแยกประเภทชัดเจนว่าเป็นเครื่องวัดฝุ่น PM 2.5 หรือเครื่องวัดฝุ่น PM 10 ดังนั้นก่อนการเลือกซื้อเครื่องวัดฝุ่นจะต้องทราบก่อนว่าจะนำไปใช้กับฝุ่นละอองหรืองานแบบไหน เพื่อจะได้เลือกใช้เครื่องมือได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพ

เครื่องวัดฝุ่นมีความสำคัญอย่างไร? มีประโยชน์อย่างไรบ้าง

หลังจากที่ได้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับเครื่องวัดฝุ่นกันไปแล้ว ถัดมาเราจะมาดูกันว่าเครื่องมือวัดฝุ่นมีประโยชน์และสามารถช่วยแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง

  • ช่วยตรวจสอบคุณภาพอากาศภายในอาคาร (IAQ) ในห้องสะอาด (Clean Room) หรือในสถานที่ปิด
  • ใช้ในการตรวจวัดค่ามลพิษทางอากาศจากของเสียที่เกิดขึ้นจากโรงงานก่อนมีการบำบัดและปล่อยสู่ธรรมชาติ
  • ใช้ตรวจวัดเพื่อควบคุมความเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจได้
  • ใช้ในการติดตามสถานการณ์ของฝุ่นละอองในพื้นที่ต่าง ๆ ได้เช่น การตรวจค่าฝุ่น PM 2.5 ในแต่ละวันเป็นต้น
  • การใช้งานในหน่วยงานต่าง ๆ ที่มีหน้าที่แก้ไข ดูแล และควบคุม ปริมาณมลพิษทางอากาศในพื้นที่

เครื่องวัดฝุ่นมีข้อจำกัดอย่างไร?

  • ความแม่นยำ เครื่องวัดฝุ่นจะมีความแม่นยำที่แตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับประเภทและคุณภาพของตัววัดค่าฝุ่น โดยทั่วไปแล้วเครื่องวัดฝุ่นแบบพกพามีความแม่นยำน้อยกว่าเครื่องวัดฝุ่นแบบตั้งโต๊ะ
  • ช่วงการวัด เครื่องวัดฝุ่นแต่ละเครื่องมีช่วงการวัดที่แตกต่างกัน โดยทั่วไปแล้วเครื่องวัดฝุ่นแบบพกพาสามารถวัดปริมาณฝุ่นละอองได้ตั้งแต่ระดับต่ำถึงระดับปานกลางเท่านั้น
  • ความไวต่อความชื้น เครื่องวัดฝุ่นบางรุ่นมีความไวต่อความชื้น ซึ่งสามารถส่งผลให้เกิดความคลาดเคลื่อนจากการวัดค่าได้
  • ความไวต่ออุณหภูมิ เครื่องวัดฝุ่นบางรุ่นมีความไวต่ออุณหภูมิ ส่งผลให้ค่าที่วัดได้อาจมีความคลาดเคลื่อน
  • ความไวต่อปัจจัยแวดล้อมอื่น ๆ เครื่องวัดฝุ่นบางรุ่นมีความไวต่อปัจจัยแวดล้อมอื่น ๆ ที่อาจส่งผลให้ค่าที่วัดได้มีความคลาดเคลื่อนเช่น ลม ฝน แสงแดด เป็นต้น

ประเภทของเครื่องวัดฝุ่นมีอะไรบ้าง?

ประเภทของเครื่องวัดฝุ่นจะถูกแบ่งประเภทออกตามลักษณะการใช้งาน โดยเครื่องมือวัดคุณภาพอากาศจะสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ ๆ ดังนี้

  • เครื่องวัดฝุ่นสำหรับใช้งานในบ้าน

ประเภทของเครื่องวัดฝุ่น

เครื่องวัดฝุ่นในห้องหรือตามจุดต่าง ๆ ภายในตัวบ้าน จะมีฟังก์ชันการทำงานที่สามารถเชื่อมการทำงานกับแอปพลิเคชันได้ โดยจะมีความแม่นยำและราคาที่ค่อนข้างสูงกว่าเครื่องวัดฝุ่นแบบพกพา

  • เครื่องวัดฝุ่นสำหรับใช้งานในโรงงาน

เครื่องวัดฝุ่นสำหรับโรงงาน

เครื่องวัดฝุ่นในโรงงานจะมีความแม่นยำในการวัดฝุ่นละอองสูงมาก แต่จะมีราคาที่ค่อนข้างสูงตามเช่นกัน มักใช้ในการวิจัย ควบคุม หรือตรวจวัดคุณภาพอากาศให้เป็นไปตามข้อกำหนด เพื่อความปลอดภัยและป้องกันการเกิดอันตรายต่อสุขภาพ

  • เครื่องวัดฝุ่นแบบพกพา

เครื่องวัดฝุ่นแบบพกพา

เครื่องวัดฝุ่นแบบพกพาหรือเครื่องวัดฝุ่น PM 2.5 มีจุดเด่นคือมีขนาดเล็กพกพาสะดวก และเป็นที่นิยมอย่างมากในช่วงที่มีปริมาณฝุ่น PM 2.5 หนาแน่นในตรวจวัดฝุ่นละอองในอากาศเพื่อใช้ประเมินความเป็นอันตรายต่อสุขภาพในการใช้ชีวิตประจำวัน

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเครื่องวัดฝุ่น

AQI คืออะไร เครื่องวัดฝุ่นช่วยได้อย่างไร?

AQI (Air Quality Index) คือ ดัชนีคุณภาพอากาศที่จะแสดงระดับของคุณภาพอากาศที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยจะใช้งานร่วมกับเครื่องวัดฝุ่นในการวัดค่าฝุ่นละอองในอากาศและนำมาเปรียบเทียบกับค่า AQI

เครื่องวัดฝุ่นช่วยเรื่อง PM2.5 หรือไม่?

เนื่องจากเครื่องวัดฝุ่นเป็นเพียงอุปกรณ์ในการตรวจวัดค่าฝุ่นละอองในอากาศ จึงไม่สามารถแก้ไขปัญหาเรื่อง PM 2.5 ได้โดยตรง แต่สามารถช่วยให้เราทราบว่าพื้นที่บริเวณไหนที่มีปัญหาเรื่อง PM 2.5 และสามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด

สรุปเกี่ยวกับเครื่องวัดฝุ่น

การเลือกใช้งานเครื่องวัดฝุ่นละอองในอากาศควรเลือกใช้เครื่องวัดฝุ่นให้เหมาะสมกับสถานการณ์และสถานที่ที่ทำการตรวจวัด เพื่อให้การวัดคุณภาพมีความแม่นยำและมีประสิทธิภาพมากที่สุด หากเป็นการเลือกใช้งานเครื่องวัดฝุ่นสำหรับการวัด PM 2.5 ก็ควรเลือกเครื่องวัดฝุ่นที่ใช้งานสำหรับการวัดฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอนโดยเฉพาะ ซึ่งสำหรับการใช้งานโดยทั่วไปแล้วการเลือกใช้งานเครื่องวัดฝุ่นแบบพกพาในการตรวจวัดค่า PM 2.5 ก็เพียงพอต่อการทราบระดับความอันตรายของสภาพอากาศในพื้นที่ที่มีผลกระทบต่อสุขภาพแล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องวัดฝุ่นที่มีความแม่นยำสูงที่ใช้ในระดับโรงงานหรือห้องวิจัยในการตรวจวัดคุณภาพอากาศ

110
เครื่องวัดความชื้น

ในปัจจุบันเครื่องวัดความชื้นนั้นสำคัญต่อการทำธุรกิจที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรม, ห้องปฏิบัติการ, ห้องเก็บข้อมูล, ห้องควบคุมสภาพแวดล้อม และห้องเก็บสินค้าและวัสดุ หรือที่อยู่อาศัย สิ่งที่สำคัญต่อเรื่องพวกนี้คือความชื้นหากมีความชื้นสูงเกินไปก็จะทำให้สินค้าและบริการเกิดความเสียหายได้ รวมถึงอาจทำให้แบคทีเรียและไวรัสเจริญเติบโตจนส่งผลต่อสุขภาพได้

จากปัญหาที่กล่าวมา หากสามารถที่จะรู้ปริมาณความชื้นว่ามีเท่าใดก็จะสามารถหาวิธีป้องกันและแก้ปัญหาได้ จึงมีการคิดค้นเครื่องวัดความชื้นขึ้นมา เพื่อหาค่าความชื้นนั่นเอง ในบทความนี้จะให้ความรู้เกี่ยวกับเครื่องวัดความชื้นว่ามีความสำคัญอย่างไร มีความสำคัญอย่างไร มีประเภทอะไรบ้าง เป็นต้น

Moisture Meter หรือเครื่องวัดความชื้นคืออะไร?
Moisture meter หรือเครื่องวัดความชื้นคืออุปกรณ์ที่ใช้วัดระดับความชื้นในสิ่งของต่าง ๆ อาทิเช่น ไม้, ปูน, กระดาษ, หิน, หรือวัสดุอื่น ๆ ที่มีความสำคัญสำหรับควบคุมความชื้น เช่น ในงานก่อสร้าง, การผลิต หรือการบำรุงรักษา

การวัดความชื้นเป็นสิ่งสำคัญเพราะมีผลต่อคุณภาพของวัสดุ และอาจมีผลกระทบต่อโครงสร้างหรือผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้น เช่น ความชื้นสูงมักทำให้ไม้ขยายหรือหดได้, สามารถทำให้เกิดการกัดเซาะ หรือการเกิดเชื้อรา เป็นต้น

Moisture meter ทำงานโดยการใช้เซนเซอร์ที่ตรวจจับปริมาณน้ำในวัสดุ และแสดงผลลัพธ์ในรูปแบบของค่าเปอร์เซ็นต์ความชื้น. การใช้ moisture meter ช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับการบำรุงรักษาหรือการใช้งานวัสดุในทางที่เหมาะสมต่อความชื้นที่มีอยู่ในสภาพแวดล้อม

เครื่องวัดความชื้นมีความสำคัญอย่างไร?
เครื่องวัดความชื้นมีความสำคัญมากในหลายอุตสาหกรรม เช่น

  • อุตสาหกรรมก่อสร้าง โดยใช้เครื่องวัดความชื้นเพื่อตรวจสอบความชื้นของวัสดุก่อสร้าง เช่น คอนกรีต ไม้ อิฐ และวัสดุฉนวน ความชื้นในวัสดุก่อสร้างสามารถส่งผลต่อความแข็งแรง ความทนทาน และอายุการใช้งานของวัสดุ
  • อุตสาหกรรมไม้ โดยใช้เครื่องวัดความชื้นเพื่อตรวจสอบความชื้นของไม้เพื่อกำหนดคุณภาพของไม้ ไม้ที่มีความชื้นสูงจะเปราะและแตกหักได้ง่าย ไม้ที่มีความชื้นต่ำจะแห้งและเปราะบาง
  • อุตสาหกรรมอาหาร โดยใช้เครื่องวัดความชื้นเพื่อตรวจสอบความชื้นของอาหารเพื่อควบคุมคุณภาพของอาหาร อาหารที่มีความชื้นสูงจะเน่าเสียได้ง่าย อาหารที่มีความชื้นต่ำจะแข็งและแห้ง
  • อุตสาหกรรมยา โดยใช้เครื่องวัดความชื้นเพื่อตรวจสอบความชื้นของยาเพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วย ยาที่มีความชื้นสูงอาจเสื่อมสภาพหรือปนเปื้อนเชื้อโรคได้
  • อุตสาหกรรมเกษตร โดยใช้เครื่องวัดความชื้นเพื่อตรวจสอบความชื้นของดิน หากความชื้นของดินต่ำเกินไปอาจทำให้พืชเหี่ยวเฉาและตายได้ ความชื้นของดินสูงเกินไปอาจทำให้รากพืชเน่าและตายได้

ประเภทของเครื่องวัดความชื้น

ประเภทของเครื่องวัดความชื้น

ประเภทของเครื่องวัดความชื้นสามารถแบ่งตามการใช้งานในด้านต่าง ๆ ได้ดังนี้

เครื่องมือวัดความชื้นไม้

การวัดความชื้นในไม้เป็นสิ่งสำคัญในหลายสถานการณ์ เช่น ในงานทำไม้ช่าง, การปรับปรุงบ้าน หรือการผลิตผลิตภัณฑ์ไม้ มี 2 ประเภทย่อย ๆ ได้แก่

  • Pin-type Moisture Meter for Wood (เครื่องวัดความชื้นประเภทมีขาสำหรับไม้) เป็นเครื่องวัดความชื้นที่มีขาหรือเสาที่แทรกเข้าไปในไม้ ซึ่งสามารถแทรกลงในไม้เพื่อวัดความชื้นในลำดับต่าง ๆ บางรุ่นยังมีความสามารถสำหรับวัดความหนาแน่นของไม้อีกด้วย
  • Pinless Moisture Meter for Wood (เครื่องวัดความชื้นประเภทไร้ขาสำหรับไม้) เป็นประเภทไม่ต้องใช้ขาหรือเสาที่ต้องแทรกเข้าไปในไม้ มักใช้การส่งสัญญาณไร้สายหรือคลื่นไมโครเวฟเพื่อวัดความชื้นในพื้นผิวของไม้ เหมาะสำหรับการวัดความชื้นในพื้นผิวไม้โดยไม่ทำลาย

เครื่องตรวจความชื้นสำหรับอาหาร
เครื่องมือวัดความชื้นอาหารเป็นอุปกรณ์ที่ใช้เพื่อวัดระดับความชื้นในอาหาร เพื่อประโยชน์สำหรับควบคุมคุณภาพ, ความปลอดภัย และความอร่อยของอาหาร
 
เครื่องมือวัดค่าความชื้นในอากาศ
เครื่องมือวัดค่าความชื้นในอากาศหรือ Hygrometer (ไฮกรอมิเตอร์) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้วัดและบอกปริมาณความชื้นในอากาศ เพื่อควบคุมสภาพแวดล้อม, การเจริญเติบโตของจุลินทรีย์, เพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องทำความร้อนหรือเครื่องปรับอากาศ และความปลอดภัยของวัสดุก่อสร้าง

เครื่องมือวัดความชื้นสำหรับดิน
เครื่องมือวัดความชื้นสำหรับดินเป็นอุปกรณ์ที่ใช้วัดระดับความชื้นในดิน เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับสภาพการเจริญเติบโตของพืช, การบำรุงรักษาดิน หรือการวิเคราะห์ดินสำหรับเตรียมการปลูกพืชหรือในงานที่เกี่ยวข้องกับดิน

เครื่องวัดความชื้นผนังคอนกรีต
เครื่องมือวัดความชื้นผนังคอนกรีต (Concrete Moisture Meter) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับวัดระดับความชื้นในผนังหรือพื้นที่ที่ติดตั้งวัสดุคอนกรีต การวัดความชื้นในคอนกรีตเป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันปัญหาที่เกิดจากความชื้น เช่น การสะสมของแร่เกลือที่สามารถทำให้เกิดความเสียหายต่อวัสดุหรือโครงสร้าง

เลือกซื้อเครื่องวัดความชื้นยังไง?
การเลือกซื้อเครื่องวัดความชื้นคือกระบวนการที่ค่อนข้างสำคัญเนื่องจากต้องการเครื่องมือที่มีความแม่นยำสำหรับวัดและเข้าใจความต้องการสำหรับใช้งาน ควรพิจารณาเรื่อง

  • ประเภทของวัสดุที่ต้องการวัด เพราะเครื่องวัดความชื้นมีหลายประเภท ขึ้นอยู่กับหลักการสำหรับวัดความชื้นของวัสดุ การเลือกประเภทของเครื่องวัดความชื้นที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับประเภทของวัสดุที่ต้องการวัด
  • ระดับความแม่นยำที่ต้องการ เพราะเครื่องวัดความชื้นมีความแม่นยำแตกต่างกันไป การเลือกระดับความแม่นยำที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับความสำคัญของการวัด
  • งบประมาณ เพราะเครื่องวัดความชื้นมีราคาแตกต่างกันไป การเลือกเครื่องวัดความชื้นที่มีราคาที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับงบประมาณที่มีอยู่
  • คุณสมบัติอื่น ๆ เช่น ความสามารถสำหรับวัดอุณหภูมิ ความสามารถสำหรับบันทึกข้อมูล และความสามารถสำหรับเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ การเลือกคุณสมบัติอื่น ๆ ที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับความต้องการใช้งาน

เปรียบเทียบความชื้นประเภทต่าง ๆ
ความชื้นมีหลายประเภทและมีการวัดและแสดงผลต่างกันตามลักษณะของสิ่งวัด หรือเซนเซอร์ที่ใช้ ซึ่งจะใช้เครื่องวัดความชื้นแตกต่างกัน เช่น

  • ความชื้นสัมพัทธ์ (Relative Humidity - RH): คือ ปริมาณความชื้นที่ปรากฏในอากาศเปรียบเทียบกับปริมาณความชื้นสูงสุดที่สามารถรับได้ในอุณหภูมิที่กำหนด มักแสดงเป็นเปอร์เซ็นต์
  • ความชื้นในดิน (Soil Moisture): วัดปริมาณน้ำที่อยู่ในดิน, สำคัญในการเกษตรและการบำรุงรักษาพืช
  • ความชื้นในอากาศ (Air Moisture): ปริมาณน้ำที่อยู่ในอากาศ มักวัดด้วยเครื่องวัดความชื้นอากาศหรือไฮกรอมิเตอร์
  • ความชื้นในวัสดุ (Material Moisture): วัดปริมาณน้ำในวัสดุเช่น ไม้, ฟิล์มพลาสติก หรือวัสดุก่อสร้าง
  • ความชื้นในอาหาร (Food Moisture): วัดความชื้นในอาหาร เพื่อควบคุมคุณภาพ และความปลอดภัย ๆ
  • ความชื้นในโครงสร้าง (Structural Moisture): วัดความชื้นในโครงสร้าง เช่น คอนกรีต, ไม้ หรือสิ่งก่อสร้างอื่น ๆ
  • ความชื้นในอากาศแบบละอองน้ำ (Vapor Moisture): คือน้ำแบบละอองน้ำในอากาศ

สรุปเรื่องเครื่องวัดความชื้น
เครื่องวัดความชื้นเป็นเครื่องมือที่ใช้สำหรับวัดความชื้นของวัสดุต่างๆ เช่น ไม้ คอนกรีต อาหาร และยา เครื่องวัดความชื้นมีหลายประเภท ขึ้นอยู่กับหลักการสำหรับวัดความชื้นของวัสดุ การเลือกเครื่องวัดความชื้นที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น ประเภทของวัสดุที่ต้องการวัด ระดับความแม่นยำที่ต้องการ และงบประมาณที่มีอยู่

111
PLC

ในปัจจุบันในระบบควบคุมต่าง ๆ ภายในระบบอุตสาหกรรมที่ซับซ้อน มักจะถูกควบคุมด้วยระบบอัตโนมัติ PLC คือสิ่งมหัศจรรย์ทางเทคโนโลยี ที่ปฏิวัติวิธีการควบคุมเครื่องจักร รวมถึงกระบวนการต่าง ๆ ซึ่งอุปกรณ์ดิจิทัลเฉพาะทางเหล่านี้ ได้กลายเป็นหัวใจหลักของอุตสาหกรรม ด้วยการจัดการงานที่ซับซ้อนด้วยความแม่นยำ อย่างมีประสิทธิภาพ

ความสำคัญของ PLC มีมากกว่าคุณสมบัติทางเทคนิค สิ่งเหล่านี้แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงพื้นฐานในกระบวนควบคุมแบบระบบอัตโนมัติ เพื่อที่เราจะรู้จักกับ PLC มากยิ่งขึ้น ไม่เพียงแต่ฟังก์ชันหลักเท่านั้น แต่ยังรวมถึงบทบาทสำคัญของ PLC ในการขับเคลื่อนความเป็นเลิศในการปฏิบัติงาน เพิ่มผลผลิต และมีส่วนช่วยให้การดำเนินการกระบวนการทางอุตสาหกรรมที่ซับซ้อนเป็นไปอย่างราบรื่น

การทำความเข้าใจว่า PLC คืออะไร กลายเป็นส่วนสำคัญในการดำเนินงานของอุตสาหกรรมได้อย่างไร พร้อมแสดงให้เห็นเรื่องราวของวิวัฒนาการทางเทคโนโลยี การแสวงหาประสิทธิภาพอย่างไม่หยุดยั้งในยุคการผลิตสมัยใหม่

PLC (Programmable Logic Controller) คืออะไร? ความสำคัญอย่างไร

PLC คือ

PLC ย่อมาจาก Programmable Logic Controller หรือกล่าวได้ว่า PLC คือ โปรแกรมคอมพิวเตอร์เฉพาะ ที่ถูกออกแบบมาสำหรับระบบ Automationทางอุตสาหกรรม ลักษณะที่ง่ายต่อการตั้งค่าโปรแกรม รวมถึงทำให้ผู้ใช้สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันต่าง ๆ ตามกระบวนการที่เฉพาะเจาะจง ในปัจจุบันมีการนำ PLC มาใช้อย่างกว้างขวางในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เพื่อทำให้กระบวนการต่าง ๆ ที่ต้องการความแม่นยำ การนำระบบอัตโนมัติมาใช้ถือเป็นความคิดที่ดี

ประเภทของ PLC

หลังจากที่เราทราบแล้วว่า PLC คืออุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่คอยทำหน้าที่ในการควบคุมระบบต่าง ๆ ภายในอุตสาหกรรมแล้ว ต่อไปเราจะมาทำความรู้จักกับประเภทของ PLC ที่มีอยู่ด้วยกันอยู่หลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภท ต่างได้รับการออกแบบให้เหมาะกับการใช้งานแบบเฉพาะ ตรงตามข้อกำหนดทางอุตสาหกรรม การทำความเข้าใจ PLC ประเภทต่าง ๆ เป็นสิ่งสำคัญในการเลือก PLC ที่เหมาะสมที่สุดในแต่ละการใช้งาน

Fixed PLC

PLC เหล่านี้มีการกำหนดค่าอินพุตและเอาต์พุตคงที่ ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานที่มีข้อกำหนดการควบคุมที่มั่นคงและชัดเจน มีความคุ้มค่าและง่ายต่อการนำไปใช้

Modular PLC

PLC แบบแยกส่วน ช่วยให้ผู้ใช้ปรับเปลี่ยนค่าอินพุตและเอาต์พุตได้ตามต้องการ ทำให้มีความยืดหยุ่นสูงกว่า เหมาะสำหรับอุตสาหกรรมที่มีกระบวนที่ยังคงมีการพัฒนาต่อยอด

Rack-Mounted PLC

PLC แบบติดตั้งบนชั้นวาง ประกอบด้วยชั้นวางหรือแชสซีที่รองรับโมดูลต่าง ๆ สำหรับการเชื่อมต่ออินพุต-เอาต์พุตนั้น มีการออกแบบที่ช่วยให้สามารถปรับแต่งได้ง่าย ทำให้มีความหลากหลายสำหรับการตั้งค่าทางอุตสาหกรรมที่แตกต่างกัน

Compact PLC

PLC ขนาดกะทัดรัด มีลักษณะเด่นด้วยขนาดที่เล็ก เหมาะสำหรับการใช้งานที่มีพื้นที่จำกัด

Nano PLC

Nano PLC มีขนาดเล็กที่สุด ออกแบบมาเพื่อการใช้งานในการควบคุมที่มีขนาดเล็ก ทำให้ประหยัดพื้นที่ ทำให้เหมาะสำหรับการดำเนินงานขนาดเล็ก

Programmable Automation Controller (PAC)

PAC เป็นการรวมรวม PLC เข้าด้วยกัน ทั้งยังมีความสามารถเพิ่มเติมอย่าง การเก็บข้อมูล การควบคุมการเคลื่อนไหว ไปจนถึงการคำนวณขั้นสูง เหมาะอย่างยิ่งสำหรับระบบอัตโนมัติที่มีความซับซ้อน

PLC ต้องประกอบด้วยอะไรบ้าง? แต่ละอย่างทำหน้าที่อย่างไร

PLC คือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่คอยทำหน้าที่ในการควบคุม ประกอบด้วยชิ้นส่วนดังนี้

  • หน่วยประมวลผลกลาง (CPU) สมองของ PLC รับผิดชอบในการดำเนินการควบคุม ประสานงานกับส่วนต่าง ๆ
  • โมดูลขาเข้า รวบรวมข้อมูลจากภาคสนาม โดยแปลงสัญญาณภายนอกเป็นรูปแบบที่ CPU สามารถประมวลผลได้
  • โมดูลขาออก เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ภายนอก แปลสัญญาณที่สร้างโดย CPU ออกไป เช่น การเปิดใช้งานมอเตอร์หรือวาล์ว
  • หน่วยความจำ จัดเก็บโปรแกรมควบคุม กับข้อมูลชั่วคราวระหว่างการทำงาน ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการดำเนินการในการประมวลผลควบคุม
  • พาวเวอร์ซัพพลาย จ่ายพลังงานไฟฟ้าที่จำเป็น โดยแปลงแหล่งพลังงานภายนอกให้เป็นแรงดันไฟฟ้าที่ PLC ต้องการ
  • พอร์ตการสื่อสาร ช่วยให้สามารถโต้ตอบกับอุปกรณ์อื่น ๆ อำนวยความสะดวกในการแลกเปลี่ยนข้อมูล การประสานงานภายในอุตสาหกรรม

programmable logic controller

ขอบคุณภาพจาก https: // pico .co.th/th/product/guardplc-opc-server-software/

GuardPLC OPC Server Software

GuardPLC OPC Server Software เป็นส่วนหนึ่งของ PLC คือ ซอฟต์แวร์เซิร์ฟเวอร์ OPC ช่วยให้ PC ที่ใช้ Windows® สามารถอ่านและเขียนข้อมูลไปยังตัวควบคุม GuardPLC ทั่วทั้งเครือข่ายของ GuardPLC ได้ โดดเด่นด้วยคุณสมบัติที่สามารถใช้งานกับคอนโทรลเลอร์ GuardPLC™ ได้ทั้งหมด

โครงสร้างของ PLC

ขอบคุณภาพจาก https: // pico .co.th/th/product/guardplc-1600-safety-controllers/

GuardPLC 1600 Safety Controllers

GuardPLC 1600 Safety Controllers เป็นอีกหนึ่ง PLC คือ ระบบที่มีความปลอดภัยเร็วสุดในอุตสาหกรรม ทำงานด้วยระยะเวลา 10 มิลลิวินาที จึงสามารถมั่นใจในความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือของระบบได้
ระบบควบคุม Bulletin 1753 GuardPLC™ 1800 โดยสื่อสารผ่าน GuardPLC™ Ethernet และผ่าน EtherNet/IP™

ประโยชน์ของ PLC คืออะไร?

เพื่อให้คุณสามารถนำ PLC สามารถไปใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ จึงเป็นที่จะต้องรู้ก่อนว่า PLC คืออะไรบ้าง

  • ความแม่นยำ PLC มีความเป็นเลิศในการควบคุมกระบวนการทางอุตสาหกรรมที่แม่นยำ ทำให้มั่นใจว่างานที่ได้จะมีประสิทธิภาพสม่ำเสมอ
  • ความน่าเชื่อถือและเสถียรภาพ PLC เป็นที่รู้จักในด้านการทำงานที่ซับซ้อน ด้วยการตั้งค่าที่แม่นยำ ทำให้ผลิตภัณฑ์ที่ออกมานั้นตรงกับที่ตั้งค่าไว้
  • เวลาตอบสนองที่รวดเร็ว การตอบสนองที่รวดเร็วถือเป็นอีกจุดเด่นของ PCL ทำให้สามารถแก้ปัญหาได้อย่างทันท่วงที ช่วยลดความล่าช้า และความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
  • ความง่ายในการแก้ไขปัญหา ด้วยการทำงานของ PCL ที่แยกออกเป็นส่วนย่อย ๆ ช่วยให้แก้ไขปัญหาได้ง่าย ลดการหยุดทำงาน ทั้งค่าบำรุงรักษาลงได้
  • ความยืดหยุ่นในการเขียนโปรแกรม PLC นั้นรองรับการเขียนโปรแกรมหลากหลายภาษา ถือว่ามีความยืดหยุ่นสำหรับวิศวกร ในการสร้างระบบควบคุมขึ้นมา ซึ่งจำเป็นสำหรับการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น
  • ประหยัดต้นทุน PLC มีส่วนช่วยในการประหยัดต้นทุน โดยการปรับการใช้พลังงานให้เหมาะสม ลดเวลาหยุดทำงานที่ไม่จำเป็น ทั้งยังทำให้กระบวนการผลิตคล่องตัวขึ้น
  • ความสามารถในการบูรณาการ PLC สามารถทำงานร่วมกับระบบควบคุมอื่น ๆ และซอฟต์แวร์ระดับองค์กรได้อย่างราบรื่น ส่งเสริมการสื่อสาร แลกเปลี่ยนข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ความสามารถในการปรับขนาด ระบบ PLC สามารถปรับขนาดได้ รองรับการเปลี่ยนแปลงขนาดการผลิตหรือข้อกำหนดเดิมได้ ทำให้มั่นใจได้ว่าระบบควบคุมจะเติบโตไปพร้อมกับความต้องการของอุตสาหกรรม
  • อินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย อินเทอร์เฟซการเขียนโปรแกรม PLC ได้รับการออกแบบให้ใช้งานง่าย ช่วยให้สามารถจัดการระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

สรุป PLC คือสิ่งจำเป็นของอุตสาหกรรม

PLC คือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่คอยทำหน้าที่ในการควบคุม และตรวจสอบกระบวนการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นกระบวนการผลิต กระบวนการทดสอบ กระบวนการประกอบ หรือจะเป็นกระบวนการบรรจุภายในอุตสาหกรรม เป็นต้น ซึ่งระบบ PLC นี้จะช่วยในการควบคุมให้กระบวนการต่าง ๆ ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ตามที่กำหนดไว้โดยอัตโนมัติ

112
ใกล้เปิดตัวเข้าไปทุกทีกับการเปิดตัวอย่างสมาร์ตโฟนรุ่นเรือธงจากแบรนด์อันดับโลกอย่าง Samsung Galaxy  S24 ที่จะมีด้วยกันทั้งหมด 3 รุ่นย่อยคือ S24 S24+ และรุ่นสุดพรีเมียมอย่าง S24 Ultra ทำให้มีข้อมูลต่าง ๆ มากมายมาให้แฟนๆและผู้ที่สนใจวิเคราะห์และมองหาอุปกรณ์เสริม เช่น หูฟัง เคส S24 Ultra และรุ่นอื่นๆ กันโดยข้อมูลนั้นมาทั้งจากสำนักข่าวต่างประเทศ และสำนักข่าวชื่อดังทั้งนี้ข้อมูลต่าง ๆ ที่ผู้เขียนนำมาเสนอนั้นเป็นเพียงการคาดการณ์จากแหล่งข่าวต่าง ๆ เท่านั้นอาจมีการคลาดเคลื่อนของข้อมูลหลังการเปิดตัวได้

Samsung S24 Ultra นั้นมีสเปคที่แรงและทรงพลังอย่างมากหากเทียบกับรุ่นอื่น ๆ ทำให้คาดว่าจะใช้งานได้ครบรสกัน ด้วยตัวอย่างสเปคชิปประมวลผล Snapdraon 8 Gen 3 for galaxy ที่ติดท็อปความเร็ว RAM 12GB ที่ทำให้ใช้งานมัลติทาสก์ได้อย่างเหนือชั้นความจุที่คิดว่าจะมีให้เลือก 3 ขนาดคือ 256GB, 512GB และ 1TB ที่ทำให้เก็บข้อมูลได้มากมาย และหน้าจอ Dynamic AMOLED 2x ขนาด 6.8 นิ้ว refresh rate  120Hz ลื่นไม่มีสะดุดและไฮไลท์ของ S24 Ultra นั่นคือ S24 จะใช้วัสดุไทเทเนียมที่มีความสวยงามและทนทานกว่า ทำให้เหล่าที่ชื่นชอบการใส่เคสนั้น อาจเลือกเคส S24 Ultra ที่โชว์ตัวเครื่องเพื่อโชว์ความสวยงามของวัสดุไทเทเนียมได้อีกด้วย

เคส S24 Ultra และอุปกรณ์เสริม

ขอบคุณภาพจาก https:// www .techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/samsung-galaxy-s24-ultra

ทำไมควรซื้ออุปกรณ์เสริมที่จำเป็นและเคส S24 Ultra

ด้วยสเปคของ S24 Ultra นั้นที่ทรงพลัง และตัวเครื่องที่สวยงาม ทำให้ผู้เขียนคิดว่ามีหลายคนสนใจที่จะจับจองเป็นเจ้าของกันไม่น้อย ซึ่งแน่นอนการมีโทรศัพท์สักเครื่องไม่เพียงมีแต่ตัวเครื่องเท่านั้นยังมีอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ เพื่อช่วยให้ใช้งาน S24 Ultra ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นหรือช่วยเสริมให้ตัวเครื่องดูสวยงามขึ้นอย่างเคส S24 Ultraที่มีสี รูปทรงและรูปแบบมากมายให้เลือก และหากรูปทรงและตำแหน่งปุ่มต่าง ๆ นั้นไม่ต่างจาก S23 Ultra มากนั้นคาดว่าจะสามารถใช้เคสร่วมกันระหว่าง S23 Ultra และ เคส S24 Ultra ได้

นอกจากเคสแล้วยังมี S24 Ultra accessories อื่น ๆเช่น ใครสายจดหรือบันทึกปากกา S Pen รุ่นใหม่เป็นปากกามากความสามารถจาก Samsung ที่คาดว่าจะมาพร้อมกับ S24 Ultra โดยรองรับการใช้งานได้อย่างครบถ้วนซึ่งทาง S24 Ultra ลำโพงภายในตัวเครื่องของ S24 Ultra ที่กระหึ่มทรงพลัง เล่นเกม ดูหนัง ฟังเพลงได้ครบรส แต่หากใครสนใจที่จะใช้หูฟังทาง Samsung ก็มีหูฟังหลายรุ่นเพื่อให้เหมาะกับการใช้งานต่าง ๆกับ S24 Ultra หน้าจอที่สวยงามด้วยเทคโนโลยีจาก Samsung และใช้กระจกระดับ Gorilla Glas Victus+ กระจกที่ขึ้นชื่อเรื่องการทนทานต่อรอยขีดข่วนและแรงกระแทก แต่หากใครยังกังวลก็สามารถซื้อฟิล์มหรือกระจกติดหน้าจออีกทีเพื่อความสบายใจได้ ทั้งนี้ S24 Ultra  accessories ต่าง ๆมีไว้เพื่อให้ใช้งาน S24 Ultra ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นนั่นเอง

คาดการณ์เคส S24 Ultra และอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ

เคส Samsung S24 Ultra

ขอบคุณภาพจาก https:// www .mobilefun.co.uk/blog/2024/01/official-samsung-s24-series-accessories-leaked/

เคสสำหรับ S24 Ultra

เคส S24 Ultra นั้นมีให้เลือกมากมายไม่ว่าจะเป็น TPU กันกระแทก เคสหนัง เคสS24 Ultra แบบมีฝาเปิด เคสที่มีขาตั้งด้านหลังไว้ประคองโทรศัพท์เพื่อให้ตั้งดูได้ โดยมาเริ่มกันที่

• เคสใสจาก FenixSheild รุ่น Air Slim Jacket

เคส S24 Ultra วัสดุที่ TPU ใสป้องกันรอยขีดข่วนจากภายนอกและได้โชว์ตัวเครื่องที่เป็นวัสดุไทเทเนียมสุดพรีเมียมได้อย่างเต็มที่

• เคส S24 Ultra ใสลายกากเพชรจาก FenixShield

สำหรับใครที่คิดว่าเคส S24 Ultra ใสไม่มีลดลายดูจืดจากไปสักนิดนึงรุ่นนี้มีลายกากเพชรระยิบระยับเพิ่มความโดดเด่นให้กับตัวเคส S24 Ultra และตัวเครื่องให้ดูสวยงามไปอีกรูปแบบหนึ่ง

• เคส S24 Ultra Fusion-x

สำหรับใครที่กังวลหรือมีพฤติกรรมที่มักทำมือถือตกบ่อยครั้งคงอยากได้เคสที่สามารถลดความเสียหายจากการหล่นได้ โดยเคส S24 Ultra Fusion-X นี้เป็นเคสกันกระแทกด้วยคอนเซปต์ Unique X-concept hybrid case high-level protection and performance for daily use เป็นเคส S24 Ultra ที่มีความแข็งแรงปกป้องมือถือรอบด้านออกแบบมาเพื่อลดแรงกระแทกและป้องกันโทรศัพท์ เคสที่ออกแบบมานั้นไม่หนาจนเกินไปเพื่อความสะดวกในการพกพาใช้ชีวิตประจำวัน ด้วยวัสดุที่ผสมด้วย PC และ TPU ที่มีความแข็งแรงแต่ยืดหยุ่นได้ดี

• Olixar Black Eco-Leather Wallet Stand Case

สำหรับใครที่ชอบเครื่องหนังหรือต้องการให้เคสโทรศัพท์ดูมีความพรีเมียมด้วย เคส S24 Ultra แบบมีฝาพับแม่เหล็กรุ่นนี้วัสดุทำมาจาก หนัง Eco-Leather ที่เป็นที่นิยมกันในปัจจุบันให้ความรู้สึกพรีเมียมของหนังหลังฝาปิดนั้นจะมีช่องใส่บัตรเพื่อเก็บบัตรที่ใช้ประจำอีกที่ตัวเคสยังออกแบบมาให้สามารถตั้งแนวนอนได้เพื่อการใช้งานอีกรูปแบบหนึ่ง ใครสนใจเคสหนัง S24 Ultra เคสรุ่นนี้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีเลย

หูฟังที่เหมาะกับ S24 Ultra

S24 Ultra นั้นสามารถใช้งานได้อย่างครบเครื่องด้วยขุมพลังสเปคที่เร็วและแรงหากใครสายบันเทิงหรือชอบฟังเพลงนั้นการมีหูฟังที่ดีเพื่อใช้งานคู่กับ S24 Ultra ทาง Samsung มีหูฟัง True wireless หลายรุ่นที่เหมาะสำหรับเป็นหูฟังS24 Ultra โดยผู้เขียนได้นำรุ่นหูฟังที่น่าสนใจจาก Samsung มาให้ดูกันโดยมาเริ่มกันที่

• Samsung Galaxy Buds Live - ด้วยดีไซน์เพื่อสรีระหูโดยเฉพาะทำให้สวมใส่ได้ตลอดทั้งวัน มีระบบตัดเสียงรบกวนภายนอก เสียงครบย่านได้มาตรฐานจาก AKG
• Samsung Galaxy Buds FE - สวมสบายตามสรีราศาสตร์ ใส่สบายไม่เจ็บหู เบสที่อัพเกรดขึ้นระบบ noise cancelling ที่ทรงพลังลิ้มรสความบันเทิงได้ดีเยี่ยม
• Samsung Galaxy Buds2 - เพื่อความสมดุลให้แก่เสียงมากกว่ารุ่นก่อน ระบบ ANC ที่ยอดเยี่ยม เพื่อเพิ่มอรรถรสได้มากขึ้น ตัวหูฟังที่มีน้ำหนักเบาอย่างมากทำให้รู้สึกสบายหูสามารถใส่ได้ทั้งวัน
• Samsung Galaxy Buds2 Pro - โปรขึ้นไปอีกขั้นด้วยเสียงระดับ Hi-Fi 24 bit ที่ทำให้คุณดื่มด่ำไปกับเสียงเพลงและอรรถรสได้อย่างสูงสุด ระบบ 360 Audio ที่สามารถรับฟังได้อย่างกับอยู่ในเหตุการณ์จริง ระบบ ANC ที่ทำให้คุณโฟกัสไปกับความบันเทิงของคุณได้

หัวชาร์จสำหรับ S24 Ultra

S24 Ultra นั้นสำหรับสเปคการชาร์จด้วยชาร์จไว 45W และรองรับ wireless Charging ทำให้ไม่ต้องเพียงยึดติดเพียงแต่สายชาร์จเท่านั้น ซึ่ง S24 Ultra นั้นจะเป็นสายชาร์จแบบ Type-C ที่รองรับการส่งข้อมูลสูงและชาร์จไว สำหรับอแดปเตอร์ S24 Ultra นั้นสามารถเลือกอแดปเตอร์ที่ให้กำลังไฟได้มากถึง 45W เพื่อให้รองรับการชาร์จไวของ S24 Ultra อีกทั้งยังสามารถหาแท่นชาร์จไร้สายเพื่อการใช้งาน Wireless Charging อีกด้วย

ปากกา S Pen สำหรับ S24 Ultra โดยเฉพาะ

ปากกา S Pen ที่มาพร้อมกับ S24 Ultra นั้นจะเป็นรุ่นใหม่ที่เปิดตัวพร้อมกันโดยทางหน่วยงาน FCC ได้เปิดเผยข้อมูลและผ่านการตรวจสอบปากกา S Pen รุ่นใหม่แล้วโดยจะมีลักษณะที่คล้ายคลึงกับ S Pen จาก S23 Ultra แต่จะมีคนละสี หางปากกาที่สามารถก็สั่งงานได้ มีการระบุรองรับคลื่น Bluetooth LE แต่ยังไม่มีการเปิดเผยที่แน่ชัดเกี่ยวกับมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น แต่ผู้เขียนคาดการณ์ว่าอาจมี IP68 เช่นเดียวกับ S Pen ของ S23 Ultra ซึ่ง S Pen เป็น S24 Ultra accessories ที่ขาดไม่ได้นั่นเอง

ฟิล์มติดหน้าจอ S24 Ultra

ฟิล์มติดหน้าสำหรับ S24 Ultra นั้นเรียกได้ว่าเป็นอุปกรณ์เสริม s24 Ultra ที่ไม่ว่าจะโทรศัพท์รุ่นไหนก็ขาดไม่ได้มีหลากหลายชนิดให้เลือกไม่ว่าจะเป็นฟิล์มใสปกติ ฟิล์มเพื่อความส่วนตัวที่จะสะท้อนแสงรอบข้างทำให้คนที่อยู่ข้างๆนั้นไม่สามารถดูหน้าจอโทรศัพท์เราได้ ฟิล์มกระจกที่มีความแข็งแรงสวยงาม ป้องกันรอยขีดข่วนบนหน้าจอและมีความแข็งแรงอย่างมากสามารถทนต่อแรงกระแทกปกป้องหน้าจอได้อย่างสบายใจหรือหากใครที่ไม่ชอบฟิล์มที่มีความแข็งฟิล์มแบบไฮโดรเจลที่มีความสวยงามและมีข้อดีที่มีความบางแนบกับโทรศัพท์อีกทั้งยังสามารถรักษารอยขีดข่วนเล็ก ๆ ได้ หากใครสนใจฟิล์มชนิดต่าง ๆ สามารถหาซื้อได้ตามแบรนด์ฟิล์มชั้นนำต่าง ๆ ได้

สรุปเคส Samsung S24 Ultra อุปกรณ์เสริมเพิ่มการใช้งาน

S24 Ultra ที่กำลังจะเปิดตัวเร็ว ๆ นี้นั้นมีสเปคที่สมกับเป็นรุ่นเรือธงด้วยความเร็วความแรงและความจุที่ครบเครื่องทำให้มีผู้คนสนใจในของ S24 Ultra อย่างมาก ทำให้มีอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ มากมายออกมารองรับความต้องการของผู้ที่ต้องการถือครอง S24 Ultra อย่างเคส S24 Ultra ที่มีให้เลือกมากมายไม่ว่าจะเป็นเคสใส เคสหนัง s24 Ultra เคสกันกระแทกสำหรับผู้ที่มีกิจกรรมชอบลุย หูฟังที่เหมาะสมสำหรับ S24 Ultra หลายรุ่นจากทาง Samsung ที่ทำให้เพลิดเพลินไปกับมือถือคุณได้อีกขั้น การองรับชาร์จไวของ S24 Ultra ที่ทำให้หลายคนมองหาหัวชาร์จที่สามารถชาร์จไวได้ และฟิล์มหน้าจอเพื่อป้องกันและถนอมหน้าจอสุดสวยของ S24 Ultra หากใครสนใจที่จับจองเป็นเจ้าของสมาร์ตโฟนรุ่นนี้ก็รอการเปิดตัวได้เลย


113
Smart Watch
ขอบคุณรูปจาก: h ttps:/ /www.samsung.com/th/watches/galaxy-watch/galaxy-watch6-40mm-gold-bluetooth-sm-r930nzeaasa/

นาฬิกาข้อมือสมาร์ทวอทช์ได้ถูกพัฒนากันมาอย่างยาวนานมีรุ่นใหม่ ๆ ออกวางขายในแต่ละปี พร้อมเปิดประสบการณ์พบฟังก์ชันดี ๆ ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายต่อใช้ชีวิต Smart Watch เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ชนิดหนึ่งที่เป็นมากกว่านาฬิกาข้อมือปกติ ไม่ได้ใช้บอกเวลาเพียงยังเดียว Smart Watch ยังสามารถใช้โทรออก, ตอบข้อความ, ดูแลสุขภาพ, ไว้ฟังเพลงได้ ทำให้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากนอกจากนี้ ยังใช้เพื่อเสริมภาพลักษณ์ให้ดูเท่ ดูดีเป็นแฟชั่นได้ด้วย สำหรับบทความนี้เรามาดู Smart Watch 2024 กันว่าในแต่ละรุ่นจะมีประโยชน์อะไรบ้างและฟีเจอร์น่าสนใจแค่ไหน

Smart Watch เกิดขึ้นมาได้อย่างไร

ด้วยความที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทต่อการใช้ชีวิตเป็นอย่างมาก Smart Watch จึงได้รับการพัฒนาจากนาฬิกาข้อมือบอกเวลาธรรมดาสู่นาฬิกาข้อมือดิจิตอลอัจฉริยะใช้โทรออก, ฟังเพลง, ดูเวลาในการนอน, เก็บข้อมูลการออกกำลังกาย, บอกแผนที่, เป็นกล้องถ่ายรูปขนาดเล็ก, วัดการเต้นของหัวใจและใช้ Smart Watch วัดความดันได้ซึ่ง Smart Watch มีการออกแบบรุ่นใหม่ ๆ พร้อมกับเพิ่มฟังก์ชันให้ตอบโจทย์การใช้งานในทุกปี

โดยสมาร์ทวอทช์ทำงานร่วมกับเครือข่ายบลูทูธเชื่อมต่อสมาร์ตโฟน หูฟังแบบไร้สายได้ทั้งในแบบ Android และ iOS จึงได้รับความนิยมอย่างมากในผู้ที่สนใจเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพราะนอกจากช่วยเรื่องความสะดวกด้านต่าง ๆ ของการออกกำลังกาย ยังมีฟังก์ชันการใช้งานหลากหลายใช้เป็นแฟชั่นเสริมภาพลักษณ์ได้อีกด้วย

ประโยชน์ของ Smart Watch ทำไมถึงเป็นที่ต้องการของใครหลายคน

Smart Watch เมื่อเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟนการแจ้งเตือนในมือถือทั้งข้อความ, สายเรียกเข้า, อีเมลก็จะถูกแจ้งเตือนมายังนาฬิกาสมาร์ทวอทช์ของผู้ใช้ด้วย จึงทำให้กลุ่มคนที่ชื่นชอบออกกำลังกายหรือมือไม่ว่างจับโทรศัพท์สามารถใช้งานต่าง ๆ บน Smart Watch แทนได้ช่วยให้ชีวิตสบายมากขึ้นและยังมีประโยชน์ใช้สอยอีกหลายด้านเช่น

  • เชื่อมต่อกับมือถือใช้งานฟังก์ชันต่าง ๆ บน Smart Watch แทนเช่น การแจ้งเตือนจากอีเมล
  • Smart Watch โทรได้นอกจากนี้ยังใช้เป็นรีโมทควบคุมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ได้ด้วย
  • สมาร์ทวอทช์ช่วยเก็บข้อมูลการเคลื่อนไหวและช่วยคำนวณพลังงานเกี่ยวกับการออกกำลังกาย
  • ใช้ Smart Watch วัดความดัน, อัตราการเต้นของหัวใจ, เวลาหลับพักผ่อนช่วยดูแลสุขภาพของคุณ
  • ดูเวลา, แผนที่, เข็มทิศและตั้งนาฬิกาปลุกแทนการใช้โทรศัพท์มือถือ
  • ด้วยการออกแบบที่เน้นสวยงาม สีสันน่ารัก สดใสสไตล์วัยรุ่นจึงทำให้เป็นที่นิยมด้านแฟชั่น

แนะนำ Smart Watch ในปี 2024 รุ่นไหนน่าสนใจบ้าง
Smart Watch 2024 มีรุ่นไหนน่าสนใจบ้างถ้าพูดถึงสมาร์ทวอทช์คงหนีไม่พ้นแบรนด์ใหญ่ระดับโลกอย่าง Samsung ที่ออก Galaxy Watch มาทุกปีมากถึง 6 รุ่น แต่วันนี้เราจะมาแนะนำ 4 รุ่นใหม่ในปี 2024 พร้อมรายละเอียดและราคา Smart Watch กันเลย

Galaxy Watch5

Smart Watch Galaxy Watch5
ขอบคุณรูปจาก: h ttps:/ /www.samsung.com/th/watches/galaxy-watch/galaxy-watch6-40mm-gold-bluetooth-sm-r930nzeaasa/

Smart Watch Samsung Galaxy Watch5 ใช้ระบบปฏิบัติการ Wear OS 3.5 หน้าจอระบบสัมผัส Super AMOLED กว้าง 1.2 - 1.4 นิ้ว วัสดุเป็นอะลูมิเนียมสายนาฬิกาแบบ Sport Band ทำให้เห็นความสวยงามทนเหงื่อเวลาออกกำลังกายมีสีให้เลือกหลายสีเช่น Blue, Pink, Black, Silver, Gold, Graphite เป็นต้น สามารถนับก้าว, ดูเวลาในการนอน, เช็กลิสต์กิจกรรมที่ต้องทำในแต่ละวัน, คำนวณแคลอรี, รับสายโทรเข้า, ตอบข้อความ, กันน้ำได้ชั่วคราวรวมไปถึงนับประจำเดือน ราคาเปิดตัวเริ่มต้นที่ 8,490  - 12,490 บาท มีให้เลือกด้วยกันถึง 4 รุ่น

Galaxy Watch5 Pro

Smart Watch Galaxy Watch5 Pro
ขอบคุณรูปจาก: h ttps:/ /www.samsung.com/th/watches/galaxy-watch/galaxy-watch6-40mm-gold-bluetooth-sm-r930nzeaasa/

Smart Watch Samsung Galaxy Watch5 Pro ใช้ระบบปฏิบัติการ Wear OS 3.5 หน้าจอระบบสัมผัสเช่นเดียวกับ Galaxy Watch5 กว้าง 1.4 นิ้ว แต่วัสดุเป็นไทเทเนียมทำให้ดูหรูหราขึ้นไปอีกหนึ่งระดับ สีมีให้เลือก 3 สี Black, Gray และ Titanium Gray สามารถตรวจวัดแสง, อัตราการเต้นของหัวใจ, ความดันในอากาศ, คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า, วัดค่าออกซิเจนในเลือดรวมไปถึงชำระเงินผ่านสมาร์ทวอทช์ได้ ราคาเปิดตัวเริ่มต้นที่ 12,900 - 16,900 บาท มีให้เลือกด้วยกันถึง 2 รุ่น

Galaxy Watch6 Classic

Smart Watch Galaxy Watch6 Classic
ขอบคุณรูปจาก: h ttps:/ /www.samsung.com/th/watches/galaxy-watch/galaxy-watch6-40mm-gold-bluetooth-sm-r930nzeaasa/

Smart Watch Samsung Galaxy Watch6 Classic ใช้ระบบปฏิบัติการ Wear OS 4 หน้าจอสัมผัส Super AMOLED กว้าง 1.3 - 1.5 นิ้ว วัสดุสเตนเลสสตีลเพิ่มความเท่คลาสสิก มีสีให้เลือก 2 สี Black และ Silver สามารถรับสายโทรเข้า, ส่งข้อความตอบกลับได้, โทรฉุกเฉินจากเบอร์ที่บันทึกไว้, ดูแผนที่, ชำระเงินผ่านสมาร์ทวอทช์, ดูตารางนัดหมาย, ตรวจวัดความดัน, ค่าออกซิเจนรวมไปถึงวางแผนออกกำลังกาย ราคาเปิดตัวเริ่มต้นที่ 12,400 - 15,400 บาท มีให้เลือกด้วยกันถึง 4 รุ่น

Galaxy Watch6

Smart Watch  Galaxy Watch6
ขอบคุณรูปจาก: h ttps:/ /www.samsung.com/th/watches/galaxy-watch/galaxy-watch6-40mm-gold-bluetooth-sm-r930nzeaasa/

Smart Watch Samsung Galaxy Watch6 ใช้ระบบปฏิบัติการ Wear OS 4 หน้าจอเหมือนกันกับรุ่น Watch6 Classic ใช้ระบบปฏิบัติการ Wear OS 4 แต่วัสดุเป็น Armor เพิ่มความแข็งแรงทนทานในการใส่เช่น ออกกำลังกาย, ลุยป่า, พายเรือ, เต้นและว่ายน้ำ มีสีให้เลือก 3 สี Gold, Black, Silver สามารถตรวจวัดแสง, วัดค่าความดัน, ดูเวลาในการนอนหลับ, วางแผนการเดินทาง ออกกำลังกาย, คำนวณระยะทาง, ชำระเงิน, ค้นหามือถือของตนเองได้ ราคาเปิดตัวเริ่มต้นที่ 8,400 - 10,400 บาท มีให้เลือกด้วยกันถึง 2 รุ่น

ฟีเจอร์เด่นบน Smart Watch มีอะไรบ้าง
Smart Watch มีฟีเจอร์ที่เด่นตอบโจทย์ในส่วนของการใช้งาน สมาร์ทวอทช์นั้นสามารถใช้ประโยชน์ได้หลายอย่างทั้งในเรื่องของสุขภาพและการใช้รับสายโทรศัพท์  จึงทำให้ไม่ต้องจับหรือยกโทรศัพท์ขึ้นมาดูการแจ้งเตือนเลย ไปรายละเอียดฟีเจอร์ของสมาร์ทวอทช์กันว่าจะโดดเด่นในด้านไหนบ้าง

วัด Oxygen บน Smart Watch
ระบบเซนเซอร์ตรวจวัด Oxygen บน Smart Watch ทำให้คุณรู้ถึงระดับออกซิเจนตลอดเวลาและวางแผนการดูแลสุขภาพในขั้นต้น โดยปกติคนเราจะมีระดับออกซิเจนในเลือดอยู่ระหว่าง 95 - 100% ถ้าระดับออกซิเจนต่ำกว่า 95% แสดงว่าได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ ถ้าเกิดระดับออกซิเจนต่ำกว่า 90% คุณอาจจะต้องรีบไปปรึกษาแพทย์เพราะอาจเกี่ยวข้องกับภาวะขาดออกซิเจนหรือระบบทางเดินหายใจได้

ใช้ Smart Watch วัดคุณภาพการนอน
คุณสามารถติดตามผลการนอนหลับจากสมาร์ทวอทช์ได้ หลายคนเวลานอนหลับและตื่นนอนอาจรู้สึกได้ว่านอนหลับไม่เพียงพอซึ่ง Smart Watch จะบอกเวลานอนหลับลึก, นอนหลับฝัน, นอนหลับกึ่งหลับกึ่งตื่น, นอนหลับเคลิ้ม แบ่งเป็น 4 ช่วงระยะจึงสามารถใช้สมาร์ทวอทช์วางแผนการพักผ่อนเพื่อให้ประสิทธิภาพในการนอนหลับดีขึ้นนั่นเอง

ใช้ Smart Watch เพื่อการรับสายโทรศัพท์
Smart Watch รับสายแทนโทรศัพท์มีข้อดีคือไม่ต้องคอยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับสายและนอกจากรับสายยังสามารถตอบกลับข้อความ เป็นรีโมทควบคุมอุปกรณ์ต่าง ๆ ในกรณีมือไม่ว่างรับจากสายโทรด่วนหรือในขณะที่ออกกำลังกายได้ด้วย

ใช้ Smart Watch เพื่อวัด Fat Mass
Smart Watch ตรวจมวลร่างกายเพื่อวัด Fat Mass ช่วยให้คุณวางแผนสุขภาพในการออกกำลังกายให้ได้ผล ดูสัดส่วนร่างกาย จำนวนแคลลอรีที่เผาผลาญได้ในแต่ละวันและติดตามผลลัพธ์จากการออกกำลังกายได้ตลอด

ใช้วัดอัตราส่วนน้ำในร่างกาย
สมาร์ทวอทช์ใช้วัดอัตราส่วนน้ำในร่างกายเพื่อบอกให้รู้ว่าร่างกายขาดน้ำมากน้อยเพียงใดหรือใช้เตือนให้ดื่มเมื่อร่างกายต้องการ ซึ่งเหมาะมากกับคนที่ชอบลืมดื่มน้ำระหว่างวัน

แนวทางการเลือกซื้อ Smart Watch ดูจากอะไรเป็นอันดับแรก

ซื้อ Smart Watch จากอะไร
ขอบคุณรูปจาก: h ttps:/ /www.samsung.com/th/watches/galaxy-watch/galaxy-watch6-40mm-gold-bluetooth-sm-r930nzeaasa/

การใช้งานของ Smart Watch จะเห็นได้ว่าเป็นทางเลือกสำหรับสายสุขภาพเช่น ใส่เล่นกีฬา, ว่ายน้ำ, ใช้ตอบข้อความ, รับสาย, ควบคุมเพลงแทนการกดโทรศัพท์เป็นต้น สำหรับใครที่กำลังมองหาสมาร์ทวอทช์ที่เข้ากับสไตล์ เป็นอุปกรณ์ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตควรดูจากอะไรบ้าง

ซื้อ Smart Watch จากเป้าหมายการใช้งาน
ซื้อ Smart Watch จากเป้าหมายการใช้งานเป็นอันดับแรกว่าเราซื้อมาใช้เพื่ออะไร เช่น ออกกำลังกาย ต้องการดูปัญหาสุขภาพ ติดตามผลการนอนหลับและฟังก์ชันของสมาร์ทวอทช์ตอบโจทย์หรือไม่

ซื้อ Smart Watch จากปริมาณแบตเตอรี่
ดูจากปริมาณแบตเตอรี่ โดยคุณอาจตรวจสอบสเปคของ Smart Watch ก่อนตัดสินใจว่าถ้าไม่ได้ชาร์จแบตจะใช้เก็บข้อมูลได้กี่วันและการใช้กับแอปพลิเคชันต่าง ๆ เพิ่มเติม

ซื้อ Smart Watch จากวัสดุที่ใช้
วัสดุเป็นอีกเรื่องที่ต้องควรให้ความสำคัญเช่น Smart Watch ทำจากสเตนเลสทนน้ำแข็งแรงเกิดอุบัติเหตุตกกระแทกก็ไม่แตกเสียหายและดีไซน์สวยงามจากการเลือกวัสดุสามารถใช้เป็นแฟชั่นใส่ในชีวิตประจำวันได้นอกจากการออกกำลังกาย

ซื้อ Smart Watch จากแบรนด์
แบรนด์เป็นเรื่องของความน่าเชื่อถือและบริการประกันหลังการขาย โดยสมาร์ทวอทช์ Samsung มีข้อมูลการเคลมประกันภายในระยะเวลา 12 เดือน รับประกันทั้งค่าอะไหล่ ค่าช่างหรืออาจมีโปรโมชั่นเสริม Samsung Care+ ที่รับประกันครอบคลุมทุกรูปแบบอาจจะต้องศึกษาอีกรอบเพื่อความมั่นใจในการตัดสินใจซื้อ

ซื้อ Smart Watch จากขนาด
ขนาดหน้าจอของสมาร์ทวอทช์ ก็มีหลายรูปแบบทั้งแบบหน้าจอสัมผัสวงกลม วงรีหรือสี่เหลี่ยม มีความกว้างไม่เท่ากันในแต่ละรุ่นตั้งแต่ 1.2 - 1.5 นิ้ว เพื่อไว้ใช้ดูข้อความ ดูแผนที่ได้เต็มขนาดมากขึ้นซึ่งราคาจะแตกต่างกันไปตามแต่ละแบบ

สาย Smart Watch มีให้เลือกหลายแบบควรใช้แบบไหนดี
สายนาฬิกา Smart Watch มีหลายแบบทั้งแบบสเตนเลส หนัง ซิลิโคน สำหรับใครที่เป็นสายออกกำลังกายคงต้องเลือกแบบที่กันน้ำได้ ซึ่งส่วนใหญ่ทำจากซิลิโคนทำให้สามารถใส่ว่ายน้ำออกกำลังกายหนัก ๆ ได้แต่ถ้าคุณต้องการเลือกสายชนิดอื่น โดยดูจากความเหมาะสมกับความต้องการเป็นหลักควรเลือกแบบไหนดีและมีหลายแบบด้วยกัน คือ

  • สาย Smart Watch แบบสเตนเลสข้อดีคือ เพิ่มความหรูหราให้กับตัว Smart Watch อีกระดับเหมาะกับผู้บริหาร งานที่ต้องพบปะผู้คนโดยเน้นความสุขุม รอบคอบเป็นหลักสายแบบสเตนเลสจะตอบโจทย์คนเหล่านี้มาก แต่จะมีข้อเสียตรงขนาดและน้ำหนักค่อนข้างมาก อาจทำให้ไม่สะดวกต่อการขยับข้อมือบางส่วนได้
  • สาย Smart Watch แบบหนังข้อดีคือ สวย ทนทาน ใส่ได้ทุกสไตล์เหมาะสมกับทุกวัยสามารถเลือกสี ลายให้เข้ากับสมาร์ทวอทช์ของคุณได้ แต่มีข้อเสียตรงที่ใช้ไปนาน ๆ จะมีกลิ่นอับชื้น กลิ่นหนังไม่เหมาะต่อการใส่ว่ายน้ำ โดนฝนบ่อย ๆ
  • สาย Smart Watch แบบซิลิโคนข้อดีคือ แข็งแรงทนทานไม่ฉีกขาดง่าย กันน้ำเหมาะสำหรับสายออกกำลังกายทั้งเริ่มต้นไปจนถึงหนัก เช่น ว่ายน้ำ, โยคะ, วิ่ง, อุปกรณ์ยกน้ำหนักใช้ต่อเนื่องได้เป็นระยะเวลานานและน้ำหนักเบา อาจมีข้อเสียตรงใส่ใช้งานได้ไม่หลากหลายโอกาส ตอบโจทย์กลุ่มคนชอบออกกำลังกายเป็นต้น

ข้อเสียของ Smart Watch มีอะไรบ้าง
ข้อเสียของ Smart Watch มีอะไรบ้างนอกจากข้อดีและประโยชน์ในด้านการใช้งานต่าง ๆ แล้วตัวสมาร์ทวอทช์ยังมีข้อจำกัดในการใช้งานบางส่วนนั่นก็คือ

  • แจ้งเตือนบ่อยเกินไป แจ้งเตือนในส่วนที่ไม่ได้ต้องการอาจมีเสียง สั่นตลอดเวลาทำให้รบกวนผู้สวมใส่ได้
  • ขนาดหน้าจอมีขนาดเล็ก อาจมองเห็นข้อความบางส่วนได้ไม่เต็มเวลาแจ้งเตือนหรือใช้งานค่อนข้างยากสำหรับผู้สูงอายุ
  • Smart Watch เนื่องจากต้องใส่ที่ข้อมือตลอดเวลา อาจเกิดเหตุการณ์แบตหมดขณะนอนหลับได้ ทำให้ต้องคอยถอดออกมาชาร์จแบตอยู่เสมอ สำหรับใครที่ต้องการดูข้อมูลสุขภาพการนอนหลับ

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Smart Watch 2024

Smart Watch แบตเสื่อมได้หรือไม่?
Smart Watch สามารถแบตเสื่อมได้แต่เราสามารถยืดอายุการใช้งานของสมาร์ทวอทช์ได้ เช่น ปิดการแจ้งเตือนบางส่วนที่ไม่ต้องการออก ลดแสงสว่างเวลาใช้งานอยู่ในห้องมีแสงสว่างเพียงพอ เปิดโหมดประหยัดพลังงาน ถอนการติดตั้งแอปพลิเคชันเบื้องหลังที่ไม่ได้ใช้งานออก เพียงเท่านี้ก็จะยืดอายุสมาร์ทวอทช์ให้ใช้งานได้ยาวนานขึ้นแล้ว

Smart Watch เก็บข้อมูลได้นานแค่ไหน?
เนื่องจาก Smart Watch เป็นนาฬิกาข้อมือใช้ใส่ติดตัวอยู่ตลอดเวลาเพราะต้องเก็บข้อมูลการเดิน รอบเดือน ระยะทางและอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งทำให้ต้องเลือกซื้อ Smart Watch ที่มีพื้นที่ความจุข้อมูลได้เยอะโดยเริ่มต้นอยู่ที่ 16 - 32 GB ขึ้นไปจึงเพียงพอต่อการใช้งาน

จะทำอย่างไรถ้าเชื่อมต่อ Smart Watch ไม่ติด?
เบื้องต้นแนะนำให้ลองปิด เปิดใหม่ดูอีกทีหรือควรตรวจสอบว่าคลื่น Bluetooth ตรงกันเพราะอาจมีสมาร์ตโฟนบางรุ่นที่ไม่สามารถเชื่อมต่อกับ Smart ได้ควรเช็กสเปคให้ดีก่อนทำการเลือกซื้อ

สรุปรวมฟีเจอร์น่าใช้ Smart Watch
นาฬิกาข้อมืออัจฉริยะ Smart Watch นอกจากบอกเวลายังมีฟีเจอร์น่าใช้มากมาย ตอบโจทย์ทั้งสายสุขภาพ สายออฟฟิศ เพิ่มความสะดวกสบายต่อการวางแผนใช้ชีวิตได้แก่ เก็บข้อมูลต่าง ๆ บันทึกกิจกรรมที่ต้องทำในแต่ละวัน รับสายโดยไม่ต้องแตะโทรศัพท์ เวลาฉุกเฉินหรืออันตรายสามารถโทรออกได้ ควรเลือกซื้อให้ตรงจุดประสงค์การใช้งาน โดยสมาร์ทวอทช์มีข้อดีและข้อเสียบางอย่างเช่น สายสมาร์ทวอทช์ต้องเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ปัญหาแบตหมดกลางคันขณะนอนหลับ

114
  ไบโพลาร์ อารมณ์สองขั้ว
 

ภาวะความเครียดที่เกิดขึ้นจากการใช้ชีวิตในประจำวันเป็นตัวกระตุ้นที่ทำให้ผลกระทบแก่ร่างกาย และก่อให้เกิดโรคภัยต่าง ๆ เช่น ไบโพลาร์ ผู้ป่วยที่กำลังต้องเผชิญกับโรคไบโพล่า มักจะพบว่ามีความผิดปกติทางด้านอารมณ์สองแบบเปลี่ยนแปลงสลับไปมา หรือมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ลักษณะทางด้านอารมณ์ของผู้ป่วยไบโพลาร์ คืออารมณ์ดีแบบสุดขั้ว หรือ อารมณ์ซึมเศร้า ส่งผลกระทบอย่างมากกับผู้ป่วย และคนรอบข้าง

จากสถิติพบว่าผู้ป่วยที่เป็นไบโพลาร์ หรือ โรคอารมณ์แปรปรวนสองขั้ว มีอยู่ 60 ล้านคนในทั่วโลก และในประเทศไทยพบว่ามีผู้ป่วยอยู่ที่ 5 แสนรายได้เข้ารับการรักษาไบโพล่าแค่เพียง 2 หมื่นกว่ารายเท่านั้น จากผลสำรวจกรมสุขภาพจิต

ในบทความนี้ทางเราได้รวบรวมข้อมูลที่มีความเกี่ยวข้องกับไบโพลาร์ หรือ โรคอารมณ์สองขั้ว รวมถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น อาการของผู้ป่วยไบโพลาร์ และวิธีดูแลรักษาผู้ป่วย

สาระน่ารู้ โรคไบโพลาร์ คืออะไร?
ไบโพลาร์ หรือ โรคอารมณ์สองขั้ว คือโรคทางจิตเวชประเภทหนึ่ง ซึ่งผู้ป่วยที่เป็นโรคไบโพล่าร์มักจะมีความผิดปกติทางด้านอารมณ์เป็นหลัก ลักษณะของอารมณ์ที่แสดงออกมาจะแบ่งออกเป็น 2 อารมณ์ เช่นภาวะแมเนีย (Mania) คืออารมณ์ดี คึกคัก สนุกสนาน และอารมณ์ซึมเศร้า (Depress) คือ ซึมเศร้า เสียใจ ร้องไห้ เกิดจากความผิดปกติของสารเคมีในสมอง หรืออาจเกิดจากพันธุกรรม และสาเหตุอื่น ๆ เช่นความเครียด  ผู้ป่วยไบโพลาร์ จะแสดงพฤติกรรมและอารมณ์ขั้วตรงข้ามของตนเองสลับไปมา ไม่สามารถควบคุมตนเองได้

ผู้ป่วยโรคไบโพล่าร์จะแสดงพฤติกรรมและอาการที่เปลี่ยนแปลงสลับไปมาเกือบทั้งวัน หรืออาจจะติดต่อกันเป็นสัปดาห์ ซึ่งจะส่งผมกระทบทางด้านจิตใจ อารมณ์ พฤติกรรม และร่างกาย ทำให้ผู้ป่วยมีร่างกายที่อ่อนเพลีย ไม่มีแรง ควรรีบพบแพทย์ด้านจิตเวช เพื่อหาวิธีรักษาโรคไบโพล่าได้อย่างถูกวิธี และหายจากโรคนี้

สาเหตุของไบโพลาร์
สาเหตุของไบโพลาร์ไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่าเกิดจากสาเหตุใดสาเหตุหนึ่ง แต่สาเหตุทำให้ผู้ป่วยเป็นไบโพล่า มักจะเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุรวม ๆ กัน โดยสาเหตุหลักที่ทำให้ผู้ป่วยเป็นไบโพลาร์ มีดังนี้

  • เกิดจากความผิดปกติของสารเคมีในสมอง ในส่วนของระบบสื่อสารเกิดความไม่สมดุล เช่น  สารเซโรโทนิน (Serotonin) สารโดพามีน (Dopamine) และสารนอร์อารีนาลิน (Noradrenaline) ซึ่งสารสื่อประสาทเหล่านี้มีหน้าที่ควบคุมอารมณ์ ความคิด และพฤติกรรม
  • พันธุกรรม พบว่าถ้าหากคนในครอบครอบไม่ว่าจะเป็น พ่อ หรือ แม่เคยมีประวัติเป็นโรคไบโพล่า มีความสุ่มเสี่ยงที่ลูกจะเป็นไบโพลาร์มากกว่าคนที่ไม่เคยมีประวัติเป็นโรคนี้
  • ปัจจัยทางด้านสิ่งแวดล้อม เช่น ความเครียด อุบัติเหตุที่ได้รับอาการบาดเจ็บตรงบริเวณศีรษะ ใช้สารเสพติด ความสูญเสีย และการนอนหลับที่ไม่เพียงพอ สิ่งเหล่านี้เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดไบโพลาร์หรือทำให้อาการของโรคอาจรุนแรงขึ้นได้

อาการที่เกิดขึ้นของไบโพลาร์

  ไบโพลาร์ อาการ
 

ช่วงซึมเศร้า (Depressive Episode)
ช่วงซึมเศร้า (Depressive Episode) เป็นส่วนหนึ่งของภาวะซึมเศร้าที่ผู้ป่วยไบโพลาร์จะมีลักษณะทางด้านอารมณ์เศร้าที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง ความรุนแรงของช่วงซึมเศร้า จะส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันกับผู้ป่วยเป็นอย่างมาก ช่วงซึมเศร้าอาจเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว หรือเกิดขึ้นซ้ำ ๆ ก็ได้ ระยะเวลาของช่วงซึมเศร้าอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล โดยเฉลี่ยแล้วมักประมาณ 2 สัปดาห์ หรือ 6 - 8 เดือน และในบางรายอาจจะเป็นปี

ลักษณะอาการของผู้ป่วยไบโพลาร์ ในช่วงซึมเศร้า (Depressive Episode) มีดังนี้

  • ผู้ป่วยจะมีอารมณ์ซึมเศร้า รู้สึกหดหู่ ชอบเก็บตัวอยู่ตัวคนเดียว ไม่อยากพูดคุยกับคนอื่น เมื่อมีสิ่งที่ทำให้กระทบจิตใจก็จะทำให้เสียใจ และร้องไห้ได้ง่าย
  • ไม่มีสมาธิ จิตใจไม่อยู่กับตัว ส่วนใหญ่ผู้ป่วยไบโพลาร์ในช่วงซึมเศร้า การตัดสินใจของผู้ป่วยจะลดลง ทำให้ตัดสินใจได้ช้า ลังเลในการตัดสินใจ ไม่มีสมาธิ ไม่สามารถจดจ่อกับสิ่งได้สิ่งหนึ่งได้นาน
  • มองโลกในแง่ลบอยู่เสมอ มีความวิตกกังวลกับสิ่งที่อยู่รอบข้างตัวเอง และประเมินคุณค่าของตัวเองต่ำ รู้สึกว่าชีวิตตนเองไม่มีคุณค่า
    ผู้ป่วยไบโพลาร์ในช่วงซึมเศร้าหากพบว่าตัวเอง หรือมีคนรอบตัวมีอาการที่กล่าวมาข้างต้น ควรรีบพบแพทย์ในทันที โดยผู้ป่วยอาจจะต้องประทานยารักษาโรคไบโพล่า ตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด

ช่วงคึกคักระยะสั้น (Hypomania Episode)
ช่วงคึกคักระยะสั้น (Hypomania Episode) เป็นช่วงที่ผู้ป่วยโรคไบโพลาร์มีอาการอารมณ์ดีผิดปกติ เช่น  กระวนกระวาย พูดมาก คิดเร็ว นอนน้อย ขาดสมาธิ ตัดสินใจเร็วโดยไม่คำนึงถึงผลเสีย และมีอารมณ์ที่ก้าวร้าวเปลี่ยนสลับไปมา ซึ่งจะแตกต่างจากช่วงซึมเศร้าโดยสิ้นเชิง ผู้ป่วยไบโพลาร์จะมีอาการช่วงคึกคักระยะสั้นติดต่อกันประมาณ 4 วัน

ลักษณะอาการของผู้ป่วยไบโพลาร์ช่วงคึกคักระยะสั้น (Hypomania Episode) มีดังนี้

  • อารมณ์ดีผิดปกติ รู้สึกมีความสุข กระปรี้กระเปร่า ตื่นตัว กระตือรือร้นอยู่ตลอดเวลา
  • ผู้ป่วยที่เป็นไบโพลาร์จะไม่สามารถอยู่นิ่ง ๆ ได้ ต้องเคลื่อนไหวตัวเองอยู่ตลอดเวลา และกระวนกระวาย
  • ชอบพูดคุยกับคนอื่น พูดไม่หยุด หากห้ามอาจจะทำให้ผู้ป่วยรู้สึกเศร้าได้ในทันที
  • ตัดสินใจเร็ว ชอบคิดเร็วแล้วลงมือทำทันที จะไม่คิดก่อนทำจึงไม่มีความรอบคอบในการตัดสินใจ
  • ไม่มีสมาธิ ผู้ป่วยไบโพลาร์จะไม่สามารถจ่อจอกับสิ่งใดได้เลย จะวอกแวกอยู่ตลอดเวลา

ช่วงคึกคักระยะยาว (Mania Episode)
ช่วงคึกคักระยะยาว (Mania Episode) เป็นช่วงที่ผู้ป่วยไบโพลาร์จะมีอารมณ์ที่ผิดปกติ โดยมีช่วงซึมเศร้าสลับเปลี่ยนกับช่วงที่อารมณ์ดี หรือ คึกคักมากกว่าปกติ ระยะเวลาของอาการช่วงคึกคักระยะยาวจะพบได้ติดต่อกันอย่างน้อย 1 สัปดาห์ ซึ่งส่งผลกระทบให้กับผู้ป่วยในการใช้ชีวิตประจำวัน และกับคนรอบข้าง

ลักษณะของอาการผู้ป่วยไบโพลาร์ช่วงคึกคักระยะยาว (Mania Episode) มีดังนี้

  • อารมณ์เปลี่ยนแปลงสลับไปมา ผู้ป่วยไบโพลาร์จะมีอารมณ์ร่าเริง ดูมีความสุข คนรอบตัวมักจะสังเกตเห็นได้ว่าอารมณ์ของผู้ป่วยเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมจนผิดแปลกไปจากเดิม ผู้ป่วยจะมีอาการติดต่อกันทุกวันอย่างน้อย 1 สัปดาห์
  • ปัญหาการเรื่องของการพักผ่อน ผู้ป่วยจะนอนพักผ่อนได้น้อยลง หรือผู้ป่วยบางรายอาจจะนอนหลับได้แค่ 3 - 4 ชม.เพราะรู้สึกว่าตัวเองนอนเต็มอิ่มแล้ว
  • มีความมั่นใจในตัวเองเพิ่มมากขึ้น ผู้ป่วยไบโพลาร์จะรู้สึกว่าตัวเองมีความสามารถ มั่นใจตัวเอง ด้วยกระบวนการทางความคิดของผู้ป่วยมีความผิดปกติอาจจะทำให้ผู้ป่วยคิดว่าตัวเองเป็นคนสำคัญ และบางรายคิดว่าตัวเองมีพลังพิเศษ

จะรักษาไบโพลาร์ที่ไหนดี?

  ยารักษาโรคไบโพลาร์
 

ผู้ป่วยมีความผิดปกติทางด้านอารมณ์และพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงแบบขั้วตรงข้ามของตนเองที่เกิดจากสารเคมีในสมองระบบสื่อสารผิดปกติ ซึ่งผู้ป่วยไม่สามารถหายได้เอง จำเป็นที่ต้องกินยารักษาไบโพล่า เพื่อให้อาการของผู้ป่วยดีขึ้น โรคไบโพลาร์รักษาที่ไหนดี ควรรักษาที่โรงพยาบาลที่มีแผนกด้านจิตเวช และแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านจิตเวช เพราะเนื่องจากไบโพลาร์เป็นโรคที่เกี่ยวกับจิตเวช ทางแพทย์ที่คอยดูแลรักษาผู้ป่วยจะเข้าใจผู้ป่วยที่เป็นไบโพลาร์ได้อย่างดี และสามารถหาดูแลวิธีที่รักษาให้ผู้ป่วยหายจากอาการป่วยได้

วิธีดูแลคนใกล้ชิดที่เป็นไบโพลาร์
ก่อนจะรู้วิธีดูแลคนใกล้ชิดที่เป็นไบโพลาร์ ครอบครัว หรือคนรอบตัวที่ใกล้ชิดผู้ป่วยจำเป็นต้องมีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับโรคและวิธีการรักษาให้ดีเสียก่อน ถึงจะสามารถรู้ว่าควรปฏิบัติตัว ดูแลผู้ป่วยอย่างไร เพื่อที่ผู้ป่วยจะได้มีอาการดีขึ้นและค่อย ๆ หายจากโรคอารมณ์สองขั้วนี้ สำหรับวิธีดูแลคนใกล้ชิดที่เป็นไบโพลาร์ จะทำอย่างไรได้บ้าง มาดูกัน

  • ผู้ดูแลหรือคนใกล้ชิดควรสนับสนุนให้ผู้ป่วยเข้ารับการรักษาทั้งจากจิตแพทย์และนักจิตบำบัดอย่างสม่ำเสมอ และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
  • หมั่นเช็กเวลาที่ผู้ป่วยทานยาว่า ทานยาแต่ละวันครบไหม ห้ามให้ผู้ป่วยหยุดยาเอง
  • ให้ความรักและความกำลังใจเป็นพิเศษ ผู้ดูแลควรให้กำลังใจและการสนับสนุนผู้ป่วยอยู่เสมอ คอยอยู่เคียงข้างและช่วยเหลือผู้ป่วยในทุก ๆ เรื่อง
  • ผู้ดูแลควรเข้าใจว่าพฤติกรรมเหล่านี้เป็นผลมาจากอาการของโรคไบโพล่า ไม่ใช่นิสัยที่ไม่ดีของผู้ป่วย ควรพูดคุยกับผู้ป่วยอย่างใจเย็นและอดทน

วิธีการดูแลตนเองสำหรับผู้ป่วยไบโพลาร์
การดูแลตนเองสำหรับผู้ป่วยไบโพลาร์นั้น มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการรักษาและควบคุมอาการของโรค ผู้ป่วยสามารถดูแลตนเองได้ ดังนี้

  • เข้ารับการรักษาอย่างสม่ำเสมอ มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการรักษาอาการและป้องกันอาการโรคไบโพลาร์กำเริบ
  • ดูแลสุขภาพทั่วไปให้ดี เช่น ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ รับประทานอาหารครบห้าหมู่ หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่
  • เรียนรู้ที่จะจัดการอารมณ์แปรปรวนของตนเอง นำคำแนะนำของนักจิตบำบัดหรือจิตแพทย์มาใช้เป็นแนวทางในการเปลี่ยนความคิด และเข้าใจอาการป่วยของตนเองเพื่อรับมืออาการที่เกิดขึ้นได้
  • หลีกเลี่ยงปัจจัยที่อาจกระตุ้นให้อาการกำเริบ เช่น ความเครียดจากเรื่องต่าง ๆ และการนอนหลับไม่เพียงพอ
  • ขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น ผู้ป่วยไบโพลาร์อาจประสบปัญหาในการใช้ชีวิต เช่น ปัญหาในการทำงาน การเรียนจึงควรขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นที่ใกล้ชิด

ไบโพลาร์ โรคทางใจรักษาได้
ปัจจุบันเรายังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดโรคไบโพลาร์ ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าเกิดจากหลายสาเหตุ ทั้งปัจจัยทางพันธุกรรม ความไม่สมดุลของสารสื่อประสาท และปัจจัยทางสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ และไม่ว่าจะเป็นปัจจัยใดก็ตามผู้ป่วยควรที่จะเข้ารับการรักษาเมื่อรู้ว่าตนเองมีอาการของโรคไบโพลาร์ การรักษาอย่างทันท่วงทีจะช่วยป้องกันไม่ให้อาการรุนแรงและส่งผลเสียต่อสุขภาพและการดำเนินชีวิต



115
บ้านเดี่ยวศาลายา

ขอบคุณรูปภาพจาก SC Asset.com

คุณเป็นหนึ่งคนที่เบื่อความแออัดจากตึกสูงบดบังทัศนียภาพหรือการจราจรติดขัดยากจะขยับตัวในเขตเมืองกรุงเทพฯชั้นในหรือเปล่า? ถ้าใช่ บ้านเดี่ยวศาลายาคือโครงการบ้านน่าอยู่ย่านชานเมืองที่ตอบโจทย์สำหรับคุณ ท่ามกลางความสงบร่มรื่นผสมผสานการเติบโตในด้านการค้าและเศรษฐกิจ บ้านเดี่ยวศาลายารายล้อมไปด้วยถนนเส้นทางหลากหลายสาย ง่ายต่อการเดินทาง ทั้งยังพรั่งพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทำให้บ้านเดี่ยวศาลายาเป็นโครงการบ้านเดี่ยวที่น่าจับตามองและน่าจับจองอย่างมากในเวลานี้

โครงการบ้านเดี่ยวศาลายา สัมผัสวิถีชีวิตเรียบง่ายบนทำเลทอง

โครงการบ้านแถวศาลายาฟังครั้งแรกอาจจะดูเป็นบ้านเดี่ยวที่อยู่ในทำเลห่างไกล แต่ในความเป็นจริงแล้วย่านบ้านเดี่ยวศาลายามีการเติบโตและพัฒนาอยู่เสมอ เป็นทำเลทองที่มีโครงการบ้านเดี่ยว คอนโดมิเนียม โปรเจกต์ต่าง ๆ มากมายเข้ามาลงทุน บ้านเดี่ยวศาลายายังแวดล้อมด้วยสถานที่สำคัญเป็นเอกลักษณ์พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ให้คุณใช้ชีวิตสงบเรียบง่ายได้อย่างมีสไตล์ นับว่าเป็นทำเลทองที่รองรับการขยับขยายอย่างต่อเนื่องของชุมชนและเติมเต็มการอยู่อาศัยได้อย่างสมบูรณ์

บ้านเดี่ยวศาลายาเหมาะกับใครและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์แบบไหน

บ้านเดี่ยวศาลายามีแบบโครงการตลอดจนสไตล์บ้านที่หลากหลายพร้อมรองรับผู้อยู่อาศัยทุกไลฟ์สไตล์ไม่ว่าจะอยู่เดี่ยวคนเดียว เลือกพักอาศัยเป็นคู่ มีครอบครัวขนาดเล็กหรือต้องการพื้นที่สำหรับครอบครัวขนาดใหญ่ โครงการบ้านใหม่ศาลายาตอบโจทย์ได้ทุกรูปแบบ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการความสงบเรียบง่าย ไม่แออัดวุ่นวาย ได้ใช้ชีวิตอยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ แต่ยังคงความสะดวกสบายรอบด้านทั้งการเดินทางและสิ่งอำนวยความสะดวก มีความทันสมัย และอยู่ไม่ไกลมากนักจากตัวเมือง

บ้านเดี่ยวศาลายา มนต์เสน่ห์บ้านเดี่ยวที่น่าจับจองในย่านน่าอยู่

บ้านเดี่ยวศาลายามีสิ่งแวดล้อมเหมาะสมกับการอยู่พักอาศัยทั้งบ้านเดี่ยวและครอบครัวใหญ่ ไม่ว่าจะความร่มรื่นใกล้ชิดธรรมชาติ ผู้คนไม่แออัด ราคาที่อยู่อาศัยอยู่ในโซนเป็นราคาจับต้องได้ไม่สูงเท่ากับบ้านเดี่ยวในย่านอื่นแต่ได้ปัจจัยสาธารณูปโภคในการใช้ชีวิตครบครัน จะเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวหรือขนส่งสาธารณะก็คล่องตัวไปได้หลายเส้นทาง อีกทั้งทำเลบ้านเดี่ยวแถวศาลายายังมีแผนขยายเส้นทางรถไฟฟ้าในอนาคตเพื่อให้การเดินทางในพื้นที่นั้นสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เรียกว่าเป็นเวลาดีน่ารีบจับจองสำหรับบ้านเดี่ยวศาลายา

บ้านเดี่ยวศาลายา แนะนำโครงการบ้านดี่ยวหลังใหญ่ที่น่าสนใจ

โครงการบ้านเดี่ยวหลังใหญ่มีให้เลือกมากมายอยู่ทั่วกรุงเทพฯ แต่จะมีโครงการใดบ้างตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวายในเมืองแต่ยังคงความทันสมัยในการใช้ชีวิตได้อย่างลงตัว เรามีบ้านเดี่ยวศาลายาโครงการใหม่ที่น่าสนใจอย่างบ้านเดี่ยวศาลายา Venue ID ปิ่นเกล้า ศาลายา จาก SC Asset มาแนะนำ

บ้านเดี่ยวศาลายา เวนิว ไอดี ปิ่นเกล้า-ศาลายา

บ้านเดี่ยวศาลายาโครงการใหม่

ขอบคุณรูปภาพจาก SC Asset.com

บ้านเดี่ยวศาลายา เวนิว ไอดี ปิ่นเกล้า-ศาลายา (Venue ID Pinklao-Salaya) บ้านเดี่ยวหลังใหญ่ที่ให้กลิ่นอายของความเรียบง่ายเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ ผสมผสานกับเทคโนโลยีในตัวบ้านได้อย่างลงตัว โดยโครงการบ้านเดี่ยวศาลายา Venue ID ได้แรงบันดาลใจมาจากหมู่บ้านชิราคาวาโกะ (Shirakawa-Go) หมู่บ้านมรดกโลกอายุกว่า 250 ปีของญี่ปุ่น บ้านทุกหลังมีระบบสัญญาณกันขโมยพร้อมดูแลคุณตลอด 24 ชั่วโมง ตัวโครงการมีพื้นที่รับรองสำหรับทำกิจกรรมอย่างคลับเฮ้าส์ทั้งแบบในร่มและกลางแจ้ง สวนส่วนกลางขนาดใหญ่ พื้นที่เสริมสร้างพัฒนาการเด็ก และ Co-working space

โดยตัวโครงการบ้านจัดสรร ศาลายา Venue ID มีแปลนบ้านให้ผู้ต้องการอยู่อาศัยเลือก 4 แบบด้วยกัน

  • แบบ TSUBAKI   ขนาด 5 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ และ 3 ที่จอดรถ บนพื้นที่ใช้สอย 296 ตารางเมตร
  • แบบ KAWAZU   ขนาด 5 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และ 2 ที่จอดรถ บนพื้นที่ใช้สอย 242 ตารางเมตร
  • แบบ YURI   ขนาด 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และ 2 ที่จอดรถ บนพื้นที่ใช้สอย 190 ตารางเมตร
  • แบบ HAGI   ขนาด 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และ 2 ที่จอดรถ บนพื้นที่ใช้สอย 190 ตารางเมตร

Venue ID โดย SC Asset ปิ่นเกล้า ศาลายา ตั้งอยู่บนถนนสำเร็จพัฒนา ทำเลทองเชื่อมต่อกับถนนเส้นหลักอย่างกาญจนาภิเษก, ถนนบรมราชชนนี, ถนนพุทฑมณฑลสาย 3 และสาย 4, วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครฝั่งตะวันตก นอกจากนี้แล้วยังใกล้กับทางคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนี, ทางด่วนพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอก ตลอดจนระบบขนส่งสาธารณะอย่างรถไฟฟ้าสายสีแดง สถานีตลิ่งชัน

นอกจากนี้แล้ว บ้านเดี่ยวศาลายา Venue ID ยังรายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้าอย่างแมคโคร ศาลายา, เดอะ พาซิโอ พาร์ค, โรงพยาบาลศาลายา, โรงพยาบาลพุทธมณฑล, โรงเรียนเทพศิรินทร์ นนทบุรี หรือมหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตศาลายา เรียกได้ว่าครบครันทุกความต้องการสำหรับที่พักอาศัยคุณภาพ Venue ID ศาลายา พร้อมให้คุณใช้ชีวิตเรียบง่าย สะดวกสบาย กับบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ใกล้ชิดธรรมชาติในราคาเริ่มต้นเพียง 6.29 ล้านบาท

สรุปเกี่ยวกับโครงการแนะนำบ้านเดี่ยวศาลายา

ทำเลบ้านเดี่ยวศาลายามีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องควบคู่ไปกับวิถีชีวิตร่มรื่นใกล้ชิดธรรมชาติ พื้นที่โดยรอบมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน การจราจรเดินทางง่ายกว่าในตัวเมือง พร้อมด้วยโครงการขยับขยายอีกมากมายที่จะส่งผลให้ที่ดินรวมถึงอสังหาริมทรัพย์บ้านแถวศาลายามีราคาเพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน หากใครที่กำลังมองหาบ้านเดี่ยว ปิ่นเกล้า ศาลายาอย่าง SC Asset ศาลายาสักหลังเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีในอนาคต รีบจับจองกันได้เลยตั้งแต่วันนี้

116
สินเชื่อรถแลกเงิน

ในปัจจุบันการกู้สินเชื่อได้เข้ามามีบทบาทสำคัญต่อผู้คนเป็นอย่างยิ่ง เพราะสินเชื่อจะช่วยทำให้คนที่ขาดสภาพคล่องทางการเงินแต่ต้องการใช้เงินมาลงทุนในธุรกิจส่วนตัว หรือชำระหนี้สินต่าง ๆ สามารถมีเงินก้อนไปใช้ตามที่ต้องการ ซึ่งการขอสินเชื่อก็มีหลากหลายรูปแบบ ซึ่งหนึ่งในสินเชื่อที่่ได้เงินไว และเป็นที่นิยมคือ สินเชื่อรถแลกเงิน เป็นสินเชื่อที่ทำมาเพื่อตอบโจทย์คนมีรถที่อยากใช้เงินก้อนกะทันหัน ในบทความนี้เราจะพาทุกคนมาไขข้อสงสัย ว่าการขอสินเชื่อรถแลกเงินนั้นต้องทำอย่างไร เหมาะกับใครบ้าง

สินเชื่อรถแลกเงินคืออะไร

สินเชื่อรถแลกเงิน หรือที่เรียกอีกอย่างว่า สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ คือหนึ่งในประเภทการขอสินเชื่อโดยจะมีการใช้รถยนต์ 4 ล้อ, รถกระบะ หรือรถมอเตอร์ไซค์ที่ทำการผ่อนหมดแล้วและต้องเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ครอบครอง มาใช้เป็นหลักค้ำประกันในการขอกู้สินเชื่อ โดยเจ้าของรถจะต้องนำเล่มทะเบียนรถมาเป็นหลักค้ำประกันเพื่อแลกกับเงินสด ซึ่งเจ้าของรถจะยังสามารถใช้รถได้ปกติและไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน ส่วนวงเงินของสินเชื่อนั้น จะได้มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ รุ่น ประเภท และปีที่ผลิตของรถที่นำมาขอสินเชื่อ

สินเชื่อรถแลกเงินเหมาะกับใคร

เนื่องจากแต่ละคนต่างมีภาระหนี้สินหรือความคล่องตัวทางการเงินไม่เหมือนกัน ดังนั้นสินเชื่อรถแลกเงินจึงเป็นตัวช่วยให้การให้คนที่มีปัญหาด้านการเงิน โดยสินเชื่อรถแลกเงินเหมาะกับใครบ้าง มีดังนี้

1.คนที่ต้องการเงินด่วน คือคนที่มีภาระค่าใช้จ่ายที่เข้ามาอย่างกะทันหัน และไม่สามารถนำเงินเก็บที่มีอยู่มาใช้ได้ ดังนั้นการขอสินเชื่อรถแลกเงินจึงเป็นทางเลือกที่จะช่วยให้เจ้าของรถสามารถได้รับเงินก้อนมาทำการใช้จ่ายภาระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ก่อนได้

2. คนที่ทำการผ่อนชำระรถยนต์หมดแล้ว อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าการขอสินเชื่อรถแลกเงินนั้น ผู้กู้จะต้องนำเล่มทะเบียนรถมาค้ำประกัน ดังนั้นจึงเหมาะแก่คนที่ผ่อนชำระรถยนต์หมดแล้ว และต้องไม่มีภาระการชำระหนี้รถยนต์จึงจะสามารถขอกู้สินเชื่อได้

3. คนที่ประกอบอาชีพอิสระ สำหรับคนที่ทำอาชีพอิสระหรือธุรกิจส่วนตัว บางครั้งอาจต้องการเงินเพื่อไปใช้ลงทุน หรือนำมาชำระหนี้สินต่าง ๆ ซึ่งการขอสินเชื่อรถแลกเงินนั้น ก็ถือว่าเป็นตัวช่วยให้คนที่ไม่มีรายได้ประจำ ให้สามารถได้เงินก้อนไปลงทุนหรือชำระหนี้ ได้ในเวลาอันรวดเร็ว

สมัครสินเชื่อรถแลกเงิน ต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง

สำหรับคนที่ต้องการสมัครสินเชื่อรถแลกเงิน จะต้องมีคุณสมบัติเบื้องต้นดังนี้

• เป็นคนที่มีสัญชาติไทย
• เป็นยุคคลธรรมดา มีอายุ 20 ปีบริบูรณ์และจะต้องไม่เกิน 65 ปี
• มีอาชีพ และรายได้ที่ชัดเจน และสามารถตรวจสอบได้ เช่น มีหลักฐานการรับเงินเดือน หรือหนังสือหักภาษี ณ ที่จ่าย
• มีรายได้ขั้นต่ำ 7,500 บาท/เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของแต่ละธนาคาร
• เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รถยนต์ตามที่ระบุบนเล่มทะเบียน หรือเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์โดยที่ปลอดชำระหนี้

ขั้นตอนการสมัครสินเชื่อรถแลกเงิน

ขั้นตอนการสมัครสินเชื่อรถแลกเงิน

ในส่วนของขั้นตอนการขอสินเชื่อรถแลกเงิน มีขั้นตอนหลัก ๆ ดังนี้

1.เตรียมเอกสารต่าง ๆ ที่ต้องใช้ในการขอสินเชื่อ โดยมีเอกสารที่ต้องเตรียม ดังนี้

• สำเนาบัตรประชาชนของผู้กู้
• สำเนาทะเบียนบ้านของผู้กู้
• เล่มทะเบียนรถตัวจริง
• หลักฐานการมีรายได้ เช่น สลิปเงินเดือนของพนักงานประจำ
• สำเนาบัญชีธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน  (สำหรับคนประกอบธุรกิจส่วนตัว/อาชีพอิสระ)
• หนังสือรับรองบริษัท, สำเนาทะเบียนการค้า ใบประกอบวิชาชีพ (สำหรับคนประกอบธุรกิจส่วนตัว/อาชีพอิสระ)
• หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย 50 ทวิ หรือ ภงด.90/91 ปีล่าสุด  (สำหรับคนประกอบธุรกิจส่วนตัว/อาชีพอิสระ)
• สำเนาสมุดหน้าแรกบัญชีธนาคาร สำหรับโอนเงินเข้า
• กรมธรรม์ต่าง ๆ ของรถยนต์ที่ผู้กู้ได้ทำไว้ เช่น ประกันรถยนต์ เป็นต้น (ถ้ามี)

2.ติดต่อกับสถาบันการเงินที่ต้องการทำเรื่องขอสินเชื่อ

3.กรอกเอกสารเพื่อขอยื่นเรื่องขอสินเชื่อรถแลกเงิน โดยผู้กู้ควรอ่านและตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้องเรียบร้อย เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาในภายหลัง

4.หลังจากกรอกเอกสาร และยื่นเอกสารเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ให้รอฟังผลการอนุมัติการขอสินเชื่อ ซึ่งโดยปกติแล้วจะใช้ระยะเวลาประมาณ 1-3 วัน จะทราบผล จากนั้นเงินจะถูกโอนเข้าบัญชีของผู้กู้

สินเชื่อรถแลกเงินยังไงให้ได้รับวงเงินสูง

สำหรับใครที่ต้องการขอสินเชื่อรถแลกเงินให้ได้วงเงินที่สูง จะต้องพิจารณา และเปรียบเทียบโปรโมชันของแต่ละสถาบันการเงิน โดยสิ่งที่ผู้กู้ควรรู้มีดังนี้

1.คำนวณวงเงินที่ต้องการ

ก่อนที่จะทำการขอสินเชื่อรถแลกเงิน ผู้กู้จะต้องพิจารณาก่อนว่าวงเงินที่ต้องการจะกู้นั้นมีจำนวนเท่าไหร่ เนื่องจากการขอสินเชื่อรถแลกเงินนั้นจะมีดอกเบี้ยที่ค่อนข้างถูก แต่มีระยะเวลาการผ่อนที่ค่อนข้างนาน ดังนั้นการรู้จำนวนเงินที่แน่ชัดจะช่วยให้ผู้กู้สามารถจัดการผ่อนชำระหนี้ได้สะดวก แม่นยำ และยังช่วยลดภาระหนี้ที่ไม่จำเป็นได้อีกด้วย

2.เปรียบเทียบสินเชื่อแต่ละเจ้า

สำหรับการเลือกสินเชื่อรถแลกเงินที่ไหนดีนั้น ผู้กู้ควรพิจารณาคือโปรโมชันของแต่ละธนาคารที่จะแตกต่างกันออกไป สิ่งที่ผู้กู้ควรนำมาเปรียบเทียบได้แก่

• วงเงินอนุมัติ โดยแต่ละธนาคารจะให้วงเงินที่ต่างกัน เริ่มตั้งแต่ 100% ไปจนถึง 150% ของราคาประเมิน
• ดอกเบี้ย แต่ละธนาคารจะมีอัตราดอกเบี้ยที่ต่างกันไป ผู้กู้ควรคำนวณอัตราดอกเบี้ยที่ตนเองมีกำลังที่จะสามารถผ่อนไหว โดยจะมีตั้งแต่อัตราดอกเบี้ย 0.27% - 0.98% ต่อเดือน
• ระยะเวลาการผ่อน ซึ่งแต่ละธนาคารจะมีการกำหนดระยะเวลาการผ่อนชำระที่แตกต่างกันไป ยิ่งระยะเวลาการผ่อนนาน ก็จะทำให้ผู้กู้ชำระหนี้ต่อเดือนถูกลง โดยจะมีระยะเวลาผ่อนตั้งแต่ 72 - 84 เดือน

3.ยี่ห้อและปีผลิตรถมีผลต่อวงเงิน

รถคือส่วนสำคัญที่จะกำหนดว่าผู้กู้จะได้วงเงินสูงมากน้อยแค่ไหน โดยธนาคารจะพิจารณาจากยี่ห้อ ปีที่ผลิต และสภาพของรถ ยิ่งหากรถที่นำมากู้นั้นเป็นยี่ห้อที่มีชื่อเสียง และปีที่ผลิตไม่นานนี้ ก็จะทำให้มีโอกาสได้วงเงินกู้ที่สูงตามไปด้วย ซึ่งทั่วไปแล้วธนาคารจะกำหนดให้รถที่สามารถทำสินเชื่อรถแลกเงินได้จะต้องมีอายุไม่เกิน 15 ปี

สินเชื่อรถแลกเงิน ใช้เวลาในการอนุมัติกี่วัน

หลายคนอาจมีข้อสงสัยว่า สินเชื่อรถแลกเงินนั้นใช้เวลาในการอนุมัติกี่วัน อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าหากผู้กู้เตรียมเอกสารสำหรับดำเนินการมาครบ ถูกต้อง ผู้กู้ก็จะได้รับผลการอนุมัติภายใน 1 -3 วัน ในกรณีที่เป็นการกู้แบบไม่โอนเล่ม หากเป็นการกู้สินเชื่อแบบโอนเล่มจะใช้ระยะเวลาอยู่ที่ 7 - 10 วัน

ขอสินเชื่อรถแลกเงินผ่าน Refinn ดีอย่างไร

หากใครที่กำลังมองหาตัวช่วยสำหรับเปรียบเทียบและเลือกว่าจะขอสินเชื่อรถแลกเงินที่ไหนดี Refinn คือตัวช่วยที่พร้อมให้การขอสินเชื่อของคุณสะดวก และได้วงเงินที่ตอบโจทย์ที่สุด โดยข้อดีของการขอสินเชื่อรถแลกเงินผ่าน Refinn มีดังนี้

1.ทราบวงเงินและอัตราดอกเบี้ยที่ถูกที่สุด

โดยบริการของ Refinn นั้น จะทำหน้าที่ช่วยเปรียบเทียบโปรโมชันขอสินเชื่อรถแลกเงิน ที่เหมาะกับคุณมากที่สุด เพียงแค่กรอกข้อมูลของรถที่ต้องการกู้บนเว็บไซต์ จากนั้นระบบจะทำการขึ้นหน้าโปรโมชันของแต่ละธนาคารพร้อมแสดงหน้า อัตราดอกเบี้ย วงเงิน และระยะเวลาการผ่อน ให้คุณเลือกตามความเหมาะสม

2.ประหยัดแรง ประหยัดเวลา

การใช้บริการกับ Refinn นั้น นอกจากจะช่วยเลือกโปรโมชันที่เหมาะสมที่สุดแล้ว ยังช่วยให้คุณประหยัดเวลา ประหยัดแรง ในการดำเนินการอีกด้วย โดยคุณไม่ต้องเสียเวลาทำการเปรียบเทียบโปรโมชันแต่ละธนาคารด้วยตนเอง แถมยังสามารถดำเนินการผ่านรูปแบบออนไลน์ ที่ทำได้ทุกที่ทุกเวลา เพียงมีอินเทอร์เน็ต

3.ติดตามผลอนุมัติแบบออนไลน์

นอกจากเปรียบเทียบโปรชันกับ Refinn แล้ว ผู้กู้ยังสามารถทำการขอสินเชื่อรถแลกเงินผ่าน Refinn ได้ด้วยเช่นกัน โดยมีเพียง 4 ขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้

• เลือกโปรโมชันผ่าน Refinn
• สมัครใช้บริการออนไลน์กับ Refinn โดยสมัครฟรี
• นัดตรวจเอกสารและสภาพรถ
• ทราบผลพิจารณาสินเชื่อ

4.ใช้บริการฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย

การใช้บริการขอสินเชื่อรถแลกเงินกับ Refinn นั้น ผู้กู้สามารถดำเนินงานได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ตั้งแต่ขั้นตอนแรก ไปจนถึงการทราบผลอนุมัติสินเชื่อ

117
ท่อ hdpe ท่อประปามีอะไรบ้าง

ท่อพีอีในท้องตลาดมีหลายสี หลายประเภทจนทำให้ใครหลายคนอาจสงสัยว่าท่อ pe แต่ละแบบเหมาะกับงานประเภทไหนใช้ทำอะไร มีคุณสมบัติและส่วนประกอบแบบไหน ในบทความจะพาทุกคนไปทำความรู้จักประเภทของท่อ hdpe ประปา, ท่อร้อยสายไฟที่ใช้งานด้านครัวเรือน อุตสาหกรรมต่าง ๆ ไปดูกันเลย

ท่อ PE คืออะไร
ทำความรู้จักท่อ pe

ท่อ hdpe คือ ท่อพลาสติกที่มีความหนาแน่นสูง เนื้อเหนียวทนทานต่อการกัดกร่อน สารเคมี แรงกระแทก ทนแสงยูวีและสภาพอากาศแปรปรวน มีคุณสมบัติโดดเด่นไม่เป็นสนิม น้ำหนักเบาเมื่อใช้ท่อ pe ตรงประเภทจะทำให้ยืดอายุการใช้งานได้อย่างยาวนาน เพื่อความสะดวกของการใช้งานที่แตกต่างกันลักษณะท่อ hdpe จึงแยกประเภทจากสัญลักษณ์ดังนี้

1.ท่อ hdpe คาดส้มถูกผลิตขึ้นให้มีคุณสมบัติทางเคมีรับแรงดันไฟฟ้าได้ถึง 500 KV ทนไฟ มีความยืดหยุ่นสูงจึงไม่ต้องตัดแต่งสามารถท่อติดตั้งได้อย่างรวดเร็วใช้ประโยชน์ได้ดีในด้านสายไฟทั้งที่โล่งแจ้ง, บนฝ้าอาคาร, สายไฟใต้ดินและสายเคเบิล

2.ท่อ hdpe คาดฟ้าถูกผลิตจากพลาสติกเชิงวิศวกรรมผิวสัมผัสภายในมันลื่น เมื่อนำมาใช้ประโยชน์เป็นท่อน้ำจะทำให้อัตราการไหลเวียนของน้ำดีขึ้น เหมาะสำหรับการสร้างท่อน้ำดื่ม, ชลประทาน, เกษตรกรรม เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับน้ำที่สะอาดและยังทำเป็นท่อน้ำทิ้งได้ด้วยเพราะขนาดท่อ hdpe สามารถโค้งงอได้

ท่อ PE มีคุณสมบัติที่โดดเด่นอย่างไรและเหมาะกับงานด้านไหนบ้าง
ท่อพีอีมีคุณสมบัติหลายอย่างเช่น ไม่เปราะหักง่าย อายุการใช้งานยาวนานมากกว่า 50 ปี ท่อต่อแสง UV น้ำหนักเบา โค้งงอได้ ติดตั้งง่าย พื้นผิวลื่นเรียบ ทนแรงกระแทกจากการฝังใต้ดินหรือดินทรุดตัวจึงประหยัดค่าบำรุงรักษา ทำให้ท่อ PE ถูกใช้ประโยชน์เป็นท่อประปาและท่อสายไฟติดตั้งในงานหลาย ๆ ด้านได้แก่

  • ท่อ hdpe ประปามาตรฐานสำหรับน้ำดื่มท่อ pe ผลิตจากพลาสติกเกรด ISO/DIS 9080 ได้รับการทดสอบจากสถาบันชั้นนำรับแรงดันน้ำได้สูงถึง 12.5 บาร์ และมีอายุการใช้งานมากกว่า 50 ปีทำให้ไม่ต้องซ่อมบำรุงบ่อยจึงหมดปัญหาร่วมซึม ปัญหาการรื้อถอนท่อไปได้อีกยาวนาน
  • ท่อน้ำ pe สำหรับภาคเกษตรกรรมเป็นท่อน้ำที่มีคุณสมบัติทนต่อการกัดกร่อน ปราศจากสารโรคและโลหะหนักต่าง ๆ ผ่านการรับรองการสุขาภิบาลทำให้สุขอนามัยของผู้บริโภคดีขึ้น หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสิ่งปฏิกูล น้ำเน่าเสีย
  • ท่อ hdpe สำหรับส่ง Natural Gas (แก๊สธรรมชาติ) ด้วยความยืดหยุ่น ทนต่อแรงกระแทกสูงของท่อ pe ทำให้เหมาะกับงานกระจายแก๊สธรรมชาติ ลดการรบกวนสภาพอากาศแก่ประชาชนและสภาพแวดล้อมบริเวณนั้นได้
  • ท่อพีอีสำหรับท่อน้ำทิ้งเป็นท่อพลาสติกประเภทพอลิเอทิลีน ทนต่อสารเคมี มีความเหนียวสูง ป้องกันรอยขีดข่วนทำให้ไม่แตกรั่วง่ายและไม่เป็นสนิม จึงถูกใช้งานโดยเทศบาลประจำโครงการต่าง ๆ เพื่อเปลี่ยนแปลงการระบายน้ำทิ้งของเสียตามครัวเรือน, การเกษตร, ชลประทาน, อุตสาหกรรมให้ดีต่อสภาพแวดล้อมยิ่งขึ้นกว่าเดิม
  • ท่อ pe คาดส้มสำหรับร้อยสายไฟ, สายเคเบิล, สายโทรศัพท์ต่าง ๆ ผลิตจากวัสดุชั้นดี มีคุณสมบัติทางฟิสิกส์และเคมีเป็นฉนวนไฟฟ้าป้องกันการเกิดกระแสไฟรั่ว ผิวด้านนอกมีความปลอดภัยต่อการซ่อมบำรุงท่อ ทนต่อกรด-ด่างทำให้เหมาะกับงานนำสายไฟฟ้าทั้งบนดิน ใต้ดินได้

ท่อ PE ทำมาจากอะไร มีส่วนประกอบที่ต่างจากท่อชนิดอื่นอย่างไร
ท่อ pe ทำมาจากอะไร

ท่อพีอีทำมาจากพอลิเอทิลีน Polyethylene หรือเรียกย่อว่าท่อ pe ผลิตจากขั้นตอนทางเคมีมีความหนาแน่นถึง 950 Kg/m3 เป็นฉนวนไฟฟ้า ทนแรงกระแทกและสามารถดัดแปลงเป็นวัสดุป้องกันสภาวะกรด ท่อ hdpe ยังใช้เป็นท่อประปาเนื่องจากทนน้ำ ทนแสงแดดสะดวกต่อการติดตั้งหลายด้านเช่น ใต้ดิน, ภายในอาคาร, โรงงานอุตสาหกรรม, พื้นที่โล่งแจ้งเป็นต้น

โดยท่อ hdpe ประปาเป็นทางเลือกใหม่สำหรับการส่งน้ำเนื่องจากคุณสมบัติที่เหมาะกับการใช้งาน ผิวท่อมีความมันเรียบ อีกทั้งท่อ pe ยังมีอายุการใช้งานยาวนาน ผ่านกระบวนการทดสอบได้มาตรฐานผลิตภัณฑ์ มอก.982-2556 การเลือกซื้อท่อ pe สามารถดูได้ที่เครื่องหมายการค้าบริษัทที่ได้รับมาตรฐาน (มอก.) มั่นใจของแท้ได้เลย

สรุป
ใช้ท่อ hdpe คาดส้มเป็นตัวห่อหุ้มสายไฟจะช่วยป้องกันไม่ให้สายเคเบิล สายโทรศัพท์เสียหายจากการไปสัมผัสกับวัสดุต่าง ๆ และยังป้องกันการเกิดไฟรั่ว สายไฟชำรุด การเกิดสะเก็ดประกายไฟได้ด้วย อีกทั้งยังสามารถใช้ท่อ pe คาดฟ้าในงานประปาเพื่อใช้ลำเลียงน้ำด้านการเกษตร ชลประทาน น้ำดื่มเนื่องจากทนทานต่อสภาพอากาศ สารเคมี ซึ่งการมีแถบคาดสีถูกกำหนดเอาไว้เพื่อแบ่งประเภทให้นำไปใช้ได้ถูกด้านเท่านั้น

118
แท็บเล็ต

ขอบคุณรุปภาพจาก samsung.com

แท็บเล็ตคืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ได้รับความนิยมไม่น้อยไปกว่าสมาร์ตโฟนหรือคอมพิวเตอร์ ด้วยหน้าจอขนาดใหญ่กว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ทำให้ผู้ใช้มองเห็นในมุมที่กว้างกว่า แถมฟังก์ชันยังครบครันเทียบเท่ากับโน้ตบุ๊ค อีกทั้งน้ำหนักตัวเครื่องยังเบาสบาย พกพาไปไหนก็ง่ายและสะดวก แต่แท็บเล็ตในปัจจุบันนั้นมีหลายรุ่นด้วยกัน ซึ่งแต่ละรุ่นก็มีความพิเศษและรูปลักษณ์ที่ต่างกันออกไปจนอาจทำให้ผู้ที่กำลังมองหาแท็บเล็ตดี ๆ สักเครื่องไม่แน่ใจว่าควรเลือกซื้อรุ่นไหนดี ดูจากสเปคเพียงอย่างเดียวมั้ย หรือแค่ราคาแท็บเล็ตเหมาะสมก็เพียงพอ เรามีข้อมูลที่น่าสนใจมาฝากกัน

พิจารณาเลือกจากขนาดหน้าจอแท็บเล็ต

เลือกแท็บเล็ตจากขนาดหน้าจอ

ขอบคุณรูปภาพจาก samsung.com

ขนาดหน้าจอแท็บเล็ตในท้องตลาดมีตั้งแต่ขนาด 7-8 นิ้ว เหมาะสำหรับคนที่ชอบถือทำงานนาน ๆ หรือหยิบมาใช้งานเมื่อไหร่ก็ง่าย เพราะมีน้ำหนักเบาทั้งยังพกพาได้สะดวก ไปจนถึงขนาดหน้าจอ 9-12 นิ้วที่จะช่วยเพิ่มพื้นที่สำหรับงานวาด งานตัดต่อที่ต้องการรายละเอียดสูง เห็นภาพได้ชัด งานเอกสารจดข้อมูลเลคเชอร์ต่าง ๆ หรือเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นอย่างเช่นเม้าส์หรือคีย์บอร์ดเพื่อให้การใช้งานนั้นสะดวกมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้แล้วแท็บเล็ตหน้าจอขนาดใหญ่ยังให้อรรถรสแก่ผู้ใช้งานได้เต็มตามากกว่า ไม่ว่าจะเล่นเกม ดูหนัง หรือดูซีรีส์เรื่องโปรด ซึ่งความจุแบตเตอรี่และความชัดหน้าจอขึ้นอยู่กับขนาดของตัวเครื่องด้วยเช่นกัน ซึ่งหากคุณต้องใช้งานบ่อยหรือยาวนาน แท็บเล็ตขนาดใหญ่จะเหมาะกับไลฟ์สไตล์มากที่สุด

พิจารณาเลือกจากระบบปฏิบัติการณ์ของแท็บเล็ต

ระบบปฏิบัติการเป็นอีกหนึ่งจุดสำคัญที่ควรพิจารณาก่อนเลือกซื้อแท็บเล็ตดี ๆ สักเครื่องมาใช้งาน เพราะถึงแม้ว่าประสิทธิภาพในการทำงานของตัวเครื่องจะอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกัน แต่ฟังก์ชันโดดเด่นหรือลูกเล่นของแต่ละระบบนั้นเรียกได้ว่าค่อนข้างต่างกันพอสมควร โดยระบบปฏิบัติการหลักในปัจจุบันมีอยู่ 3 ระบบด้วยกัน ได้แก่ Android, iOS และ Windows

ระบบปฏิบัติการ Android มีความพิเศษตรงเป็นระบบปฏิบัติการที่หลายค่ายเลือกใช้ทำให้เกิดการแข่งขันสูงในการผลิตและพัฒนาคุณภาพของแท็บเล็ตให้ตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้มากที่สุด แท็บเล็ตระบบปฏิบัติการ Android มีราคาที่จับต้องได้ทั้งยังใช้งานง่ายได้กับหลากหลายอุปกรณ์

ระบบปฏิบัติการ iOS มีชื่อเรียกเฉพาะว่า iPad ตัวเครื่องโดดเด่นทั้งในด้านการประมวลผลที่รวดเร็วและมีความเสถียรสูง ให้เฉดสีที่ละเอียดเหมาะอย่างมากกับงานด้านศิลปะ แต่ราคาจะค่อนข้างสูง อีกทั้งแอปพลิเคชันที่ช่วยเสริมการใช้งานส่วนใหญ่จำกัดเพียงแค่สำหรับอุปกรณ์ของ Apple เท่านั้น

สำหรับระบบปฏิบัติการ Windows น่าจะถูกใจสายงานด้านเอกสารต่าง ๆ เพราะเป็นระบบที่เสถียรที่สุดในการใช้งานโปรแกรมของ Adobe กับ Microsoft ตัวเครื่องเชื่อมต่อได้หลากหลายอุปกรณ์ มีประสิทธิภาพเทียบเท่าแท็บเล็ตระบบปฏิบัติการอื่น

พิจารณาเลือกซื้อแท็บเล็ตจากช่วงราคาที่เหมาะสม

นอกจากเรื่องของขนาดหน้าจอ ระบบปฏิบัติการตลอดจนสเปคและฟีดเจอร์ต่าง ๆ สิ่งสำคัญอีกข้อหนึ่งซึ่งควรพิจารณาในการเลือกซื้อแท็บเล็ตคือการซื้อเครื่องในราคาเหมาะสมกับคุณภาพการใช้งาน โดยการเปรียบเทียบข้อมูลคุณสมบัติของตัวเครื่องจากหลาย ๆ รุ่นและหลายแบรนด์ให้ชัดเจนก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อให้ได้แท็บเล็ตประสิทธิภาพดี คุ้มค่า ราคาเหมาะสมมาใช้งาน ไม่ต้องเสียเงินก้อนหนึ่งโดยใช่เหตุกับแท็บเล็ตที่คุณภาพสวนทางกับราคา

พิจารณาเลือกซื้อแท็บเล็ตจากรูปแบบการใช้งาน

สำหรับสายดูภาพยนตร์ ซีรี่ย์ หรือคลิปต่าง ๆ

แท็บเล็ตที่ดีคือแท็บเล็ตที่ตอบโจทย์การใช้งานสำหรับคุณ อย่างถ้าคุณเป็นสายบันเทิง ชอบดูภาพยนต์ ซีรีย์ หรือเป็นคอเกม แท็บเล็ตที่มีอัตรารีเฟรชหน้าจอสูงจะช่วยให้ภาพลื่นไหลไม่มีสะดุด นอกจากนี้แล้วหน้าจอที่มีตัวกรองแสงสีฟ้าจะช่วยถนอมสายตาของผู้ใช้งาน ช่วยให้คุณใช้เวลาเพลิดเพลินหน้าจอได้ยาวนานยิ่งขึ้น

สำหรับสายตัดต่อวิดีโอ หรือทำงานกราฟฟิกต่าง ๆ

แน่นอนว่าแท็บเล็ตแต่ละรุ่นย่อมมีจุดเด่นต่างกันออกไป แต่ฟังก์ชันที่ขาดไม่ได้สำหรับสายทำงานกราฟิกคือ หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) ที่จะช่วยให้การทำงานนั้นลื่นไหล ควบคู่ไปกับหน่วยประมวลผล (CPU) ที่เร็ว มีหน่วยความจำหลัก (Ram) เยอะ ช่วยในการรันข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงหน่วยความจำตัวเครื่อง (Rom) เพื่อการจัดเก็บและรองรับข้อมูลขนาดใหญ่

สำหรับสายธุรกิจ หรือสายทำงานประจำ

ใครที่เป็นสายเรียน สายทำงาน เน้นจดเลคเชอร์ พิมพ์งานเอกสาร หรือต้องพรีเซนท์งานบ่อย ๆ หน้าจอขนาดใหญ่จะช่วยขยายพื้นที่ในการจดบันทึกให้เป็นระเบียบมากยิ่งขึ้น ฟังก์ชันการใช้งานแบบ Multitasking ที่เปิดใช้งานหลายหน้าจอในเวลาเดียวกันก็ทำได้สบาย นอกจากนี้แล้วฟีดเจอร์ที่ให้สัมผัสราวกับเขียนบนกระดาษจริงจะช่วยเพิ่มมิติให้การทำงานผ่านแท็บเล็ตนั้นสนุกและไม่น่าเบื่อ

แท็บเล็ตประจำปี 2024 รุ่นไหนดี?

แท็บเล็ต 2023 รุ่นไหนดีเตรียมมาแรงรับต้นปี 2024 เรามาเริ่มกันที่ MatePad 11 PaperMatte Edition จาก HUAWEI ที่โดนเด่นด้วยสัมผัสผิวหน้าจอแบบด้าน ดีไซน์หรูหรา แบตจุได้เยอะ มีระบบชาร์จเร็ว มาพร้อมอุปกรณ์เสริมครบครันในราคาหมื่นปลาย หรือใครที่ชอบดูหนังฟังเพลง คุณต้องไม่พลาดแท็บเล็ต Xiaomi Pad 6 ที่จัดเต็มด้วยลำโพง 4 ตัวให้เสียงกระหึ่มสะใจกับสเปคลื่น ๆ ในราคาหมื่นต้น

สำหรับใครที่กำลังมองหาซัมซุงแท็บเล็ตสเปคแรง ประมวลผลได้เฉียบ แท็บเล็ตมีปากกาไม่ต้องซื้ออุปกรณ์จำเป็นเพิ่มให้วุ่นวาย แท็บเล็ต Samsung Galaxy Tab S9 FE คือตัวเลือกที่ตอบโจทย์ แท็บเล็ตซัมซุงรุ่นนี้มีดีไซน์สีสันโดดเด่น หน้าจอแสดงผลละเอียดคมชัด ทำงานได้รวดเร็ว มาพร้อมกับตัวกรองแสงสีฟ้า แบตเตอรี่ทนทานใช้งานได้ยาวนาน และเป็นแท็บเล็ตแรกของแบรนด์ที่สามารถกันน้ำกันฝุ่น จัดว่าครบเครื่องสุด ๆ ให้คุณเป็นเจ้าของได้าเบาสบายกับราคาแท็บเล็ตซัมซุงไม่เกินสองหมื่นบาท

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการซื้อแท็บเล็ต

แท็บเล็ตใช้งานได้กี่ปี?

จริงอยู่ว่าอุปกรณ์ไอทีเหล่านี้ย่อมมีอายุเสื่อมไปตามการเวลา ไม่ได้อยู่คงทนถาวร โดยอายุการใช้งานเฉลี่ยของแท็บเล็ตส่วนใหญ่แล้วอยู่ที่ประมาณ 5 ปีด้วยกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการดูแลของผู้ใช้งานด้วยว่าจะทำให้อายุของอุปกรณ์นั้นสั้นหรือยาวนานกว่าค่าอายุเฉลี่ย ใช้งานถูกวิธีไหม ชาร์จกับอุปกรณ์เสริมไม่ได้มาตรฐานหรือเปล่า เคยกระแทกตัวเครื่องกับของแข็ง ของมีคม หรือเคยทำตกหล่นหรือไม่ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลกระทบต่ออายุการใช้งานแท็บเล็ตทั้งสิ้น

ราคาของแท็บเล็ตไม่ควรเกินเท่าไหร่?

ราคาแท็บเล็ตโดยปกติแล้วจะอยู่ที่ราวหมื่นกลาง ๆ ถึงเกือบสามหมื่นบาทซึ่งถือเป็นโซนราคาที่จับต้องได้ไม่สูงจนเกินไป แต่ถ้าถามว่าราคาแท็บเล็ตไม่ควรสูงเกินเท่าไหร่อาจจะต้องพิจารณาถึงสเปค รูปแบบการใช้งานรวมถึงฟีดเจอร์ในแต่ละรุ่นเป็นองค์ประกอบ อย่างแท็บเล็ตตัวท็อปราคาห้าหมื่นกว่ามาพร้อมฟังก์ชันจัดเต็มที่คุณเองก็อาจใช้ได้ไม่ครบ กรณีนี้แน่นอนว่าราคาสูงเกินไปต่อความต้องการ เคล็ดลับง่าย ๆ จึงมีเพียงแค่เลือกซื้อแท็บเล็ตคุณภาพในราคาสอดคล้องกับการใช้งานของคุณ

แท็บเล็ตสามารถใช้แทนโน้ตบุ๊กได้หรือไม่?

แท็บเล็ตมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนมีความใกล้เคียงกับโน้ตบุ๊กและสามารถใช้งานพื้นฐานมากมาย ได้เหมือนกับโน้ตบุ๊กในปัจจุบัน ไม่ว่าจะงานด้านเอกสาร การพรีเซนท์นำเสนอ วาดภาพออกแบบ ตัดต่อวิดีโอ ไปจนถึงแอปพลิเคชันความบันเทิงต่าง ๆ ตัวเครื่องแท็บเล็ตก็ทำได้ดีครอบคลุมทุกการใช้งาน นอกจากนี้แล้วยังมีน้ำหนักเบาเหมาะแก่การพกพา เรียกว่าจบครบทุกอย่างไม่ต้องง้อโน้ตบุ๊คเลยทีเดียว

สรุปแท็บเล็ตน่าใช้

แท็บเล็ตน่าใช้ปี 2024

ขอบคุณรูปภาพจาก samsung.com

เป็นยังไงกันบ้างสำหรับข้อมูลที่เรานำมาฝาก ทั้งหมดนี้เองคือแนวทางในการเลือกซื้อแท็บเล็ตอย่างไรให้ได้แบบที่โดนใจ เหมาะกับการใช้งาน คุณสามารถนำวิธีการเหล่านี้ไปปรับใช้ในการเลือกซื้อแท็บเล็ตรวมถึงอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ จากร้านแท็บเล็ตได้ อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญคืออย่าลืมคำนึงถึงงบประมาณรวมถึงความจำเป็นในการใช้งาน เพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้ตัวเครื่องแท็บเล็ตราคาถูกประสิทธิภาพดีเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ ตอบโจทย์เต็มที่ทุกความต้องการในราคาแสนคุ้มค่า ซื้อมาแล้วไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน

119
ในยุคแห่งโลกดิจิทัล ที่โซเชียลเข้ามามีบทบาทเป็นอย่างมากในชีวิตประจำวันของ กิจกรรมแต่ละอย่างที่ต้องทำในแต่ละวันนั้น ล้วนดำเนินผ่านไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งเทคโนโลยีของปัจจุบันได้มีการออกแบบ พัฒนาสิ่งต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกสบายให้กับเรา

หูฟังบลูทูธ ถือว่าเป็นอุปกรณ์ชิ้นหนึ่งที่สำคัญ สำหรับชีวิตประจำวันของใครหลายๆ คน อย่างผู้ที่ชื่นชอบในเสียงดนตรี ฟังเพลง หรือจะเป็นเล่นเกม แทบปฏิเสธไม่ได้เลยว่า หูฟังไร้สาย ได้เข้ามามีบทบาทเป็นอย่างมาก และได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย

ในบทความนี้เราจะมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับความเป็นมาของหูฟังไร้สาย ราคาไม่แพง คุณภาพเสียงยอดเยี่ยม และเหมาะสมกับการใช้งานของคุณ

หูฟังบลูทูธ

ขอบคุณรูปจาก: https:// www. samsung.com/th/audio-sound/

ประวัติหูฟังบลูทูธไร้สาย มีความเป็นมาอย่างไร

หูฟัง ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองผู้คนที่ชื่นชอบในการฟังเพลง เป็นที่นิยมของผู้คนจำนวนมาก เนื่องจากมีลักษณะที่เล็กและเบา แต่หูฟังไร้สายในขณะนั้นยังไม่ได้รับความนิยม เนื่องจากคุณภาพเสียงที่ได้นั้นยังไม่อาจเทียบเท่าหูฟังแบบมีสาย และ ความเสถียรในการเชื่อมต่อยังไม่ดีมากพอ

จนกระทั่งไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ หูฟังบลูทูธไร้สาย มีพัฒนามาเพื่อตอบโจทย์ผู้ที่ชื่นชอบการใช้หูฟัง โดยมีการปรับปรุงคุณภาพเสียง สัญญาณ ในการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ ให้มีความเสถียรมากยิ่งขึ้น จึงกลายมาเป็นที่นิยมของผู้ที่ใช้อุปกรณ์อย่างสมาร์ตโฟนในปัจจุบัน

ทาง Samsung เองนั้นก็ได้มีการออกแบบ คิดค้น และพัฒนาหูฟังไร้สายที่เรียกว่า Earbuds ให้ตอบโจทย์กับผู้ใช้งาน มีหลากหลายรุ่นย่อยให้เลือกซื้อ เลือกใช้งาน ทุกคนอาจจะสงสัยว่า หูฟังบลูทูธไร้สายเลือกอย่างไรดี ให้เหมาะกับตนเอง ทางเรามีคำแนะนำและข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับหูฟังไร้สาย

จุดเด่นของหูฟังบลูทูธไร้สายกับเหตุผลดีๆ ที่ควรเลือกใช้

หูฟังบลูทูธไร้สายถูกออกแบบมาเพื่อลดขั้นตอน และเพิ่มความสะดวกสบายในกับผู้ใช้งาน ข้อดีและเหตุผลที่ควรเลือกใช้ มีดังนี้

• หูฟังบลูทูธนั้น สามารถที่จะเชื่อมต่อได้กับหลากหลายอุปกรณ์ อย่างเช่น สมาร์ตโฟน แท็ปเลต หรือจะเป็นสมาร์ตทีวี หากอุปกรณ์ที่ต้องการเชื่อมต่อนั้นมีบลูทูธในตัว ก็สามารถที่จะเชื่อมต่อได้อย่างสะดวก ง่ายต่อการใช้งาน

• สั่งการ ควบคุมอุปกรณ์ได้อย่างง่ายดาย หากต้องการจะเปลี่ยนเพลง สามารถที่จะสั่งการได้จากตัวหูฟังโดยตรง โดยไม่ต้องหยิบสมาร์ตโฟนออกมา

• ขนาดเล็ก กะทัดรัด พกพาสะดวก หลายคนคงอาจเคยมีปัญหากับหูฟังแบบมีสาย ที่เวลาสายของหูฟังพันกันนั้น สร้างความยุ่งยากต่อการแกะออกมาเพื่อใช้งาน แต่ปัญหานี้จะไม่เกิดขึ้นกับหูฟังบลูทูธอย่างแน่นอน

ซื้อหูฟังบลูทูธไร้สายรุ่นไหนดี เลือกอย่างไรเพื่อตอบโจทย์การใช้งาน

สำหรับผู้ที่กำลังตั้งคำถามว่า แล้วจะเลือกหูฟังบลูทูธไร้สายอย่างไรดี เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งาน ไลฟ์สไตล์ของตนเอง ขอแนะนำหูฟังบลูทูธจากทาง Samsung มีดังนี้

Galaxy Buds Pro

หูฟังบลูทูธ Galaxy Buds Pro

ขอบคุณรูปจาก: https:// www. samsung.com/th/audio-sound/all-audio-sound/

ถือเป็นหูฟังบลูทูธรุ่นแรกๆ ของ Samsung ที่มีความครบเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพเสียงที่ให้มารอบทิศทาง เสียงที่ได้มีความหนักแน่น สมจริง ด้วยระดับคุณภาพเสียงสตูดิโอ มาพร้อมกับฟังก์ชันตัดเสียงรบกวนภายนอก และคุณสมบัติกันน้ำสาดกระเซ็นด้วย IPX7

Galaxy Buds2 Pro

หูฟังบลูทูธ Galaxy Buds2 Pro

ขอบคุณรูปจาก: https:// www. samsung.com/th/audio-sound/all-audio-sound/

สำหรับรุ่นนี้ ได้ออกแบบตัวหูฟังเพื่อให้เข้ากับสรีระของหู ให้ดียิ่งขึ้น สามารถสวมใส่ได้อย่างกระชับ ไม่หลุดออกได้ง่าย ดื่มด่ำกับคุณภาพเสียง Hi-Fi 24 บิต ที่จะช่วยให้คุณเปิดประสบการณ์รูปแบบใหม่ในการฟังเพลง ตัดเสียงรบกวนจากภายนอกได้ดียิ่งขึ้น พร้อมกับมาตรฐาน IPX7 ที่ช่วยกันน้ำ กันเหงื่อ

Galaxy Buds Live

หูฟังบลูทูธสำหรับฟังเพลง

ขอบคุณรูปจาก: https:// www. samsung.com/th/audio-sound/all-audio-sound/

หูฟังบลูทูธไร้สายรุ่นระดับเริ่มต้น ที่มีราคาไม่แพง ด้วยการดีไซน์ออกแบบมาอย่างลงตัวและเป็นเอกลักษณ์ ปรับตัวหูฟังให้เข้ากับสรีระ มีความกระชับ คุณภาพเสียงดี คมชัด ลุ่มลึกและมีการตัดเสียงรบกวนจากภายนอกได้เป็นอย่างดี

Galaxy Buds2

หูฟังบลูทูธ Galaxy Buds Live

ขอบคุณรูปจาก: https:// www. samsung.com/th/audio-sound/all-audio-sound/

สำหรับ Galaxy Buds2 เป็นรุ่นที่ถูกออกแบบมาให้มีการใช้งานได้อย่างยาวนาน ด้วยความจุแบตเตอรี่ที่อึดและทน พร้อมการเสียงที่มีคุณภาพยอดเยี่ยมไม่แพ้หูฟังบลูทูธรุ่นอื่น รักษาสมดุลของเสียงได้ดี มีความเสถียรในการเชื่อมต่อ และระบบตัดเสียงภายนอกด้วย ANC

Galaxy Buds FE

หูฟังบลูทูธ Galaxy Buds FE

https:// www. samsung.com/th/audio-sound/galaxy-buds/galaxy-buds-fe-graphite-sm-r400nzaaasa/

จุดเด่นของ Galaxy Buds FE มาพร้อมกับแบตเตอรี่ที่แสนจะอึดทน ซึ่งการชาร์จไฟเพียงหนึ่งครั้ง สามารถใช้งานได้อย่างยาวนานถึง 30 ชั่วโมง ด้วยดีไซน์ขนาดกะทัดรัดล็อคเข้ากับหูอย่างพอดีอย่างกระชับ สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ของคุณได้อย่างรวดเร็ว ด้วยระบบ ANC ของหูฟังไร้สายที่จะช่วยตัดเสียงรบกวนออกไป ควบคุมการทำงานด้วยระบบเพียงปลายนิ้วสัมผัส มอบเสียงเพลงที่เน้นเบสเป็นหลัก หรือปรับโทนเสียงในแบบที่คุณต้องการได้ เพื่อเร้าถึงอารมณ์ในการฟังเพลง เฉดสีที่เรียบง่ายทั้งสองสี เข้ากับสไตล์การแต่งตัวทุกชุด

หูฟังบลูทูธไร้สายมีกี่แบบ แต่ละแบบแตกต่างกันอย่างไรบ้าง?

หูฟังบลูทูธมีแบบไหนบ้าง

ขอบคุณรูปจาก: https:// www. samsung.com/th/audio-sound/galaxy-buds/galaxy-buds2-olive-sm-r177nzgaasa/

รูปแบบของหูฟังบลูทูธไร้สายในปัจจุบัน มีหลากหลายรูปแบบให้เลือกใช้งานทั้ง ดีไซน์ ลักษณะภายนอกและจุดประสงค์ในการใช้งานที่แตกต่างกัน

หูฟังบลูทูธไร้สายแบบคาดหัว

หูฟังไร้สายประเภทนี้จะมีลักษณะค่อนข้างใหญ่ สวมใส่โดยการนำหูฟังคาดไว้ที่หัว ครอบที่หูทั้งสองข้าง นิยมใช้ในการทำงานหรือจะเป็นฟังเพลง เล่นเกม เพื่อให้ได้อรรถรสในการฟัง

หูฟังบลูทูธไร้สายแบบ Earbuds

ลักษณะจะเป็นหูฟังไร้สาย ที่มีตัวหูฟังทั้งสองข้างแยกออกจากกัน สวมใส่ที่หูโดยปรับให้เข้ากับสรีระ ล็อกกับรูหู สามารถนำข้างใดข้างหนึ่งเพื่อออกมาใช้งานได้ มีขนาดเล็กกะทัดรัด

หูฟังบลูทูธไร้สายแบบ In Ear

เช่นเดียวกันกับหูฟังบลูทูธไร้สายแบบ Earbuds แต่การสวมใส่จะแตกต่างกัน โดยตัว In Ear นี้จะมีจุกยางที่ใช้สำหรับใส่เข้าไปในหู ซึ่งสามารถตัดเสียงรบกวนภายนอกได้เป็นอย่างดี

หูฟังบลูทูธทไร้สาย Ear Clip

ตัวหูฟังจะถูกออกแบบมาคล้ายกับตะขอเกี่ยวเพื่อยึดติดกับหู ไม่หลุดออกได้ง่ายขณะใช้งาน เหมาะสำหรับกิจกรรมผาดโผนอย่างการเล่นกีฬา

หูฟังบลูทูธทไร้สาย Bone Conduction Headphones

สวมใส่โดยการคาดที่หัว มีขนาดที่ปานกลาง น้ำหนักเบา จะใช้การสั่นเพื่อส่งคลื่นเสียงผ่านกระดูก คุณภาพเสียงที่ได้อาจไม่เทียบเท่าหูฟังไร้สายทั่วไป

หูฟังบลูทูธแบบไหนเหมาะกับไลฟ์ไสตล์แบบไหน

ผู้ที่กำลังเลือกซื้อ มองหาหูฟังบลูทูธไร้สายราคาไม่แพง เพื่อให้ตอบโจทย์ในการใช้งานของตนเอง เลือกอย่างไรให้ตรงใจ เข้ากับกิจกรรม ไลฟ์สไตล์ของเรา

• หูฟังบลูทูธสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกาย ควรเลือกหูฟังที่มีความกระชับต่อหู ไม่หลุดได้ง่าย เพื่อทำให้รู้สึกสวมใส่สบายขณะที่ทำกิจกรรม มีการกันน้ำกันเหงื่อ อย่างหูฟังแบบ Ear clip หรือหูฟัง Bone Conduction Headphones

• หูฟังบลูทูธสำหรับกลุ่ม Audiophile สำหรับผู้ที่ชื่นชอบในเสียงดนตรี รักการฟังเพลง จะต้องเป็นหูฟังที่ให้คุณภาพเสียงที่ก้องกังวาน เบสหนัก มีความชัดเจนในท่วงทำนอง

• หูฟังบลูทูธสำหรับวัยทำงานที่ต้องติดต่อสื่อสารตลอดเวลา เน้นที่การพกพาง่าย มีขนาดเล็กและเบา สวมใส่ได้อย่างสะดวก ควรเลือกใช้เป็นหูฟังแบบ Ear buds หรือ In ear ที่สามารถควบคุมสั่งการได้โดยไม่ต้องหยิบจับสมาร์ตโฟน

• หูฟังบลูทูธสำหรับสายเล่นเกม ผู้ที่มองหาหูฟังไว้ใช้สำหรับเล่นเกมโดยเฉพาะ แนะนำเป็นหูฟังแบบครอบหู หรือ In Ears ที่จะทำให้รู้สึกสบายเมื่อสวมใส่ ระบบเสียงรอบทิศทางที่มีความแม่นยำ

วิธีเชื่อมต่อหูฟังบลูทูธไร้สาย มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง?

ในการใช้งานเชื่อมต่อหูฟังบลูทูธไร้สาย มีวิธีการง่ายๆ ดังนี้

1. เข้าไปที่การตั้งค่าของสมาร์ตโฟนหัวข้อ บลูทูธ
2. เลือกเป็น เปิด ใช้งานบลูทูธ
3. นำหูฟังไร้สายออกมาจากเคสแล้วสวมใส่ที่หูฟังสองข้าง
4. เลือกอุปกรณ์ หูฟังบลูทูธที่ต้องการเชื่อมต่อบลูทูธบนสมาร์ตโฟนของคุณ

ใช้หูฟังบลูทูธไร้สายอย่างไรปลอดภัยต่อหู สิ่งที่ควรรู้ก่อนเลือกใช้หูฟังไร้สาย

ในการเลือกใช้หูฟังบลูทูธไร้สายให้ปลอดภัยต่อหู ควรเลือกจากคุณภาพของแบรนด์ ที่มีมาตรฐานรองรับ สามารถเชื่อถือได้ โดยดูจากรีวิวต่างๆ และวิธีการใช้งานหูฟังไร้สายเบื้องต้น

ทำความสะอาดหูฟังบ่อยๆ

เนื่องจากหูฟังไร้สายส่วนใหญ่ถูกออกแบบมาให้สวมใส่เข้าไปในรูหู โดยเฉพาะหูฟังแบบ In Ear ควรที่จะทำความสะอาดจุกยางของหูฟัง เพื่อไม่ให้มีสิ่งสกปรกอุดตันอยู่ภายในรูหูฟัง

ไม่ฟังเสียงดังเกินไป

ควรปรับระดับเสียงของหูฟังให้มีความเหมาะสม เป็นกลาง หากปรับเสียงที่ดังเกินไปอาจทำให้เกิดอาการหูอื้อ หรือไม่ได้ยินชั่วขณะ

ไม่ใส่หูฟังติดต่อกันเป็นเวลานานเกินไป

ระยะเวลาการใส่หูฟังนั้น ไม่ควรใส่หูฟังนานเกินกว่า 2 ชั่วโมง เนื่องจากจะทำให้เกิดอาการปวดหูตามมา หรือเกิดอาการหูตึงชั่วขณะ

ใส่หูฟังที่มีระบบ ANC

เพื่อคุณภาพการฟังที่ดี และมีประสิทธิภาพ ควรเลือกหูฟังไร้สายที่มีระบบ ANC ที่จะช่วยในการตัดเสียงจากสภาพแวดล้อมได้เป็นอย่างดี ไม่มีเสียงรบกวนเข้ามาให้รู้สึกรำคาญใจ

หมั่นตรวจสอบระดับการได้ยินของตัวเองเสมอ ๆ

หลังจากที่ใช้งานหูฟังเป็นระยะเวลานาน ควรมีการตรวจสอบการได้ยินของหูทั้งสองข้างซ้าย-ขวา อยู่เสมอ ว่าการรับรู้เสียงจากภายนอกได้อย่างปกติ เพื่อไม่ให้มีปัญหาเกี่ยวกับการได้ยินตามมาในภายหลัง

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการใช้งานหูฟังบลูทูธไร้สาย มีอะไรบ้าง

เมื่อได้ลองเริ่มต้นใช้งานหูฟังบลูทูธไร้สายไปแล้ว หลายคนอาจจะมีข้อสงสัยเกี่ยวกับหูฟัง คำถามที่พบบ่อยในการใช้งาน

หูฟังไร้สายบลูทูธอันตรายหรือไม่

องค์กรอนามัยโลกระบุว่าสัญญาณคลื่นความถี่ กำลังส่งต้องไม่เกิน 2 วัตต์ ในการส่งสัญญาณของหูฟังบลูทูธใช้คลื่นความถี่เพียงแค่ 2 มิลิวัตต์เท่านั้น จึงไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายแต่อย่างใด

ระยะการส่งสัญญาณของหูฟังบลูทูธไร้สายได้ไกลแค่ไหน

ระยะการส่งสัญญาณหูฟังบลูทูธจะอยู่ในช่วง 8-10 เมตร ซึ่งถือว่ามีระยะที่ไม่ใกล้ไม่ไกลมากจนเกินไป หากมีสิ่งกีดขวางด้านหน้า อาจทำให้การส่งสัญญาณไม่เสถียรบ้างเพียงเล็กน้อย

สรุปเกี่ยวกับหูฟังบลูทูธ

ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานหูฟังบลูทูธไร้สายหรือหูฟังรูปแบบใดก็ตาม สิ่งที่สำคัญคือการเลือกใช้ ควรเลือกเป็นแบรนด์ที่ดี มีคุณภาพ ฟังก์ชันการใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน เชื่อมต่อได้อย่างเสถียรไม่ติดขัด มาพร้อมกับมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในสากล ช่วยอำนวยความสะดวกสบาย ประหยัดเวลา ลดขั้นตอนการใช้งาน


120
พัดลมตั้งโต๊ะ

ประเทศไทยเป็นประเทศเมืองร้อน จึงมีอากาศอบอ้าวตลอดเวลา ทำให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อสร้างความเย็นมียอดจำหน่ายสูงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพัดลมตั้งโต๊ะ ซึ่งถือว่าเป็นอุปกรณ์ช่วยสร้างความเย็นที่มีขนาดเล็กกะทัดรัด น้ำหนักเบา พกพาสะดวก อีกทั้งราคา พัดลมตั้งโต๊ะก็ไม่แพง ทำให้พัดตั้งโต๊ะได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง โดยบทความนี้ จะรีวิว พัดลมตั้งโต๊ะ 5 อันดับที่น่าสนใจ เพื่อเป็นทางเลือกก่อนตัดสินใจซื้อ

พัดลมตั้งโต๊ะ คืออะไร?

พัดตั้งโต๊ะ

พัดลมตั้งโต๊ะ เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อใช้สร้างการหมุนเวียนของอากาศในห้องหรือบริเวณที่มีพื้นที่จำกัด ให้เกิดความเย็นสบาย โดยทั่วไปแล้ว พัดลมตั้งโต๊ะจะมีหลากหลายขนาดให้เลือกซื้อ ตั้งแต่พัดตั้งโต๊ะขนาดเล็ก จนถึงขนาดใหญ่ สามารถใช้งานได้ทั้งที่บ้านหรือที่ทำงาน

พัดลมตั้งโต๊ะมักมีใบพัดหลายใบติดกับโครงขาตั้ง  สามารถปรับระดับความสูงของตัวพัดลมได้ตามต้องการ มีรูปแบบดีไซน์หลากหลาย เหมาะกับทุกความต้องการของตลาด บางรุ่นยังมีฟังก์ชั่นเสริม เช่นการปรับความเย็น การหมุนหรือไม่หมุน การควบคุมความเร็วในการหมุนของพัดลม เป็นต้น ซึ่งฟังก์ชั่นเหล่านี้ก็จะมีผลต่อราคา พัดลมตั้งโต๊ะ

สรุป คือ พัดลมตั้งโต๊ะเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งช่วยลดอุณหภูมิความร้อนภายในห้อง ช่วยให้อากาศถ่ายเทได้ดีขึ้น เพิ่มความสะดวกสบายในการทำงานหรือพักผ่อนภายในห้อง ซึ่งต้องการการหมุนเวียนของอากาศ

วิธีการเลือกพัดลมตั้งโต๊ะให้เหมาะกับตนเอง

ด้วยพัดลมตั้งโต๊ะในปัจจุบัน มีหลากหลายแบบ หลากหลายดีไซน์ จึงต้องเลือกซื้อให้เหมาะกับความต้องการ เพื่อให้เกิดประโยชน์ในการใช้งานให้มากที่สุด ดังนี้

  • ขนาดของห้อง ด้วยพัดลมตั้งโต๊ะมีขนาดหลากหลาย ดังนั้น จึงควรเลือกขนาดพัดตั้งโต๊ะที่เหมาะสมกับขนาดของห้อง เพื่อให้หมุนเวียนอากาศภายในได้อย่างเหมาะสม ดังนั้น หากห้องมีขนาดใหญ่ ก็ควรเลือกพัดลมตั้งโต๊ะขนาดใหญ่ด้วยเช่นกัน
  • พัดลมตั้งโต๊ะบางรุ่นมีฟังก์ชั่นการปรับความเย็น หรือมีระบบพ่นน้ำเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการลดความร้อน ดังนั้น หากต้องการให้พัดตั้งโต๊ะสามารถทำความเย็นได้ตามต้องการ ก็ควรจะพิจารณาพัดลมที่มีฟังก์ชั่นเหล่านี้เป็นพิเศษ
  • อีกคุณสมบัติของพัดลมตั้งโต๊ะที่ดี คือ การทำงานที่เงียบ โดยเฉพาะหากต้องการใช้งานภายในห้องทำงานหรือห้องนอน จึงควรเน้นคุณสมบัคิความเงียบ
  • ฟีเจอร์เสริมของพัดลมตั้งโต๊ะบางรุ่น เช่น การควบคุมระดับความเร็ว การตั้งเวลาปิด-เปิดอัตโนมัติ เป็นต้น
  • มาตรฐานความปลอดภัยของพัดตั้งโต๊ะก็ถือว่า เป็นปัจจัยสำคัญ เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย ไร้กังวล โดยเฉพาะการใช้ในห้องนอน ซึ่งเป็นเวลากลางคืน หากเกิดอุบัติเหตุขึ้น ก็อาจจะทำให้ไม่ทันสังเกตได้
  • ราคา พัดลมตั้งโต๊ะก็ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ โดยพิจารณาจากงบประมาณที่มี เพื่อให้เลือกซื้อพัดตั้งโต๊ะได้อย่างเหมาะสม ทั้งคุณภาพดีและพอดีกับงบที่มี เพื่อให้ได้พัดลมตั้งโต๊ะ ราคาถูก
  • ศึกษาและเปรียบเทียบข้อมูลรีวิว พัดลมตั้งโต๊ะ จากผู้ใช้งานที่มีประสบการณ์จริง เพื่อทราบข้อดี-ข้อเสียและประสิทธิภาพของรุ่นพัดลมตั้งโต๊ะที่สนใจ

5 อันดับพัดลมตั้งโต๊ะน่าสนใจ เลือกยี่ห้อไหนดี

ราคา พัดลมตั้งโต๊ะ

พัดลมตั้งโต๊ะมีการผลิตจากหลายยี่ห้อ ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็มีราคา พัดลมตั้งโต๊ะที่แตกต่างกัน โดยจะขอรีวิว พัดลมตั้งโต๊ะ 5 อันดับที่น่าสนใจ ดังนี้

1. HATARI พัดลมตั้งโต๊ะ รุ่น HB-S16M4

พัดลมตั้งโต๊ะ HATARI รุ่น HB-S16M4 เป็นพัดลมปรับระดับ 16 นิ้ว สามารถปรับแรงลมได้ 3 ระดับ อีกทั้งยังปรับระดับความสูงได้ 5 ระดับ หรือปรับให้พัดตั้งโต๊ะส่ายซ้าย-ขวาได้ นอกจากนี้ ยังมีระบบตัดไฟอัตโนมัติ โดยเป็นพัดลมตั้งโต๊ะ ราคา 1,990.00 บาท

2. JISULIFE พัดลมตั้งโต๊ะ รุ่น FA13P Extend Rotate Desk Fan

พัดลมตั้งโต๊ะ JISULIFE รุ่น FA13P Extend Rotate Desk Fan สามารถปรับความแรงลมได้สูงถึง 5 ระดับ พัดได้ไกลถึง 8 เมตร นอกจากนี้ ยังสามารถตั้งเวลา 1 /2 /4 ชั่วโมงได้ โดยสามารถใช้งานได้นานถึง 5 - 28 ชั่วโมง (ตามระดับความแรงลมที่ใช้) โดยเป็นพัดลมตั้งโต๊ะ ราคา 999.00 บาท

3. LUCKY MISU พัดลมตั้งโต๊ะ 18 นิ้ว

พัดลมตั้งโต๊ะ LUCKY MISU ขนาด 18 นิ้ว สูง 85 เซนติเมตร สามารถปรับความแรงได้ 3 ระดับ ปรับก้มเงย-ส่ายได้ โดยมีฐานกะทัดรัด น้ำหนักเบา ขนย้ายสะดวก เหมาะสำหรับผู้มีพื้นที่จำกัด โดยเป็นพัดลมตั้งโต๊ะ ราคา 999.00 บาท จากราคาเดิม 1,599.00 บาท

4. Xiaomi Rechargeable Mini Fan

พัดลมตั้งโต๊ะ Xiaomi Rechargeable Mini Fan เป็นพัดลมไร้สายแบบพกพา สามารถปรับความแรงของลมได้สูงถึง 4 ระดับ ทำงานเงียบ ไม่ส่งเสียงรบกวน ปรับส่ายหรือเงยได้ถึง 90 องศา โดยเป็นพัดลมตั้งโต๊ะ ราคา 771.00 บาท จากราคาเดิม 1,299.00 บาท

5. AIKO พัดลมตั้งโต๊ะ รุ่น AVF006

พัดลมตั้งโต๊ะ AIKO รุ่น AVF006 เป็นพัดตั้งโต๊ะใบพัดอะลูมิเนียม 6 นิ้ว สามารถปรับก้มเงยได้ พร้อมรับประกัน 7 วัน หลังจากได้รับสินค้า ใช้งานง่าย มีความปลอดภัย โดยเป็นพัดลมตั้งโต๊ะ ราคาถูก 659.00 บาท จากราคาเดิม 944.00 บาท

สรุป

พัดลมตั้งโต๊ะ เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ลดอุณหภูมิภายในห้อง สร้างลมเย็นสบาย หมุนเวียนอากาศ โดยมีหลากหลายราคา พัดลมตั้งโต๊ะจึงต้องเลือกซื้อให้เหมาะสมกับตนเอง ก่อนเลือกซื้อควรจะศึกษาข้อมูล เปรียบเทียบราคา เพื่อให้ได้พัดลมตั้งโต๊ะ ราคาถูก

ขอบคุณบทความดีๆจาก https://www.clickzy.com/


121
โรงงาน OEM

สำหรับคนที่อยากสร้างแบรนด์สินค้าออกมา การเลือกผลิต OEMกับโรงงานในปัจจุบันมีการแข่งทางการตลาดมีสูงมาก โรงงาน OEM ในตลาดหลายเจ้าที่สามารถรับผลิตสินค้าประเภทเครื่องสำอาง ครีม แบบ OEM, ODM, OBM ดังนั้นการที่จะผลิตภัณฑ์สินค้าออกมาสักตัว จึงต้องหาโรงงานที่ได้มาตรฐาน แล้วโรงงานแบบไหนถึงจะตอบโจทย์คนที่กำลังคิดอยากจะเป็นเจ้าของแบรนด์สินค้าเครื่องสำอาง

OEM คืออะไร
OEM ย่อมาจาก Original Equipment Manufacturer โดยการผลิต OEM จะเป็นการผลิตโดยโรงงานที่รับทำแบรนด์ผลิตสินค้าเครื่องสำอางอย่างครบวงจร แบบ One-Stop Service ที่ให้บริการตั้งแต่การให้คำปรึกษาสินค้า การออกแบบสูตรตามความต้องการ การออกแบบโลโก้ การวางแผนการตลาด หรือแม้แต่การบรรจุภัณฑ์สินค้า โรงงานผลิตแบบ OEM จะมีทีมงานดูแลและให้คำปรึกษาตลอดการให้บริการจนถึงพร้อมวางจำหน่าย

ข้อดีของโรงงานประเภท OEM

  • การผลิตแบบ OEM สามารถประหยัดงบและต้นทุนในการทำแบรนด์ เนื่องจากการผลิตสินค้า OEM ต้นทุนการผลิตสินค้าราคาไม่สูงมาก สามารถมีกำไรจากการขายได้มาก
  • โรงงานที่รับจ้างผลิต OEM จะมีสูตรแบบครบวงจร เราสามารถเลือกสูตรให้เหมาะกับผลิตภัณฑ์ที่ต้องการผลิตออกมา
  • โรงงานผลิตแบบ OEM Manufacturing สามารถมีกำลังผลิตครั้งละมากๆ และมีเครื่องจักรทำให้ลดเรื่องของแรงงานคนลงได้
  • โรงงาน OEM เครื่องสำอาง มีทีมงานการตลาด มีนักออกแบบ และทีมผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องสำอางที่พร้อมให้คำปรึกษาและดูแลอย่างครบวงจรตลอดการผลิตแบรนด์
  • การเลือกผลิตแบบ OEM สามารถเปลี่ยนหรือเลือกฐานผลิตใหม่ได้ หากเจอโรงงานที่ผลิต OEM ที่ราคาต้นทุนต่ำกว่า
  • ลดความเสี่ยงที่จะขาดทุนเพราะการผลิต OEM เจ้าของแบรนด์ไม่ได้เป็นเจ้าของโรงงานโดยตรง แต่เป็นการจ้างโรงงานผลิต ไม่ต้องสร้างโรงงานขึ้นมาเพื่อผลิตสินค้าเอง

ข้อเสียของโรงงานประเภท OEM

  • สูตรจากทางโรงงาน OEM เครื่องสำอาง มีให้จะเป็นสูตรที่คล้ายๆกันในท้องตลาด คุณภาพสินค้าอาจจะไม่โดดเด่น เป็นเอกลักษณ์เฉพาะแบรนด์ เนื่องจากส่วนผสมที่ใช้ในสูตรแทบจะไม่มีความแตกต่างกันกับแบรนด์ในท้องตลาด
  • การผลิตแบบ OEM มีความเป็นไปได้สูงมากในการลอกเลียนแบบสินค้า ทั้งการตลาด ส่วนผสม สรรพคุณ แม้แต่โลโก้อาจจะมีความคล้ายกันกับแบรนด์อื่น
  • เนื่องจากการผลิตแบบ OEM ต้นทุนการผลิตไม่สูงมากนัก บางโรงงานรับจ้างผลิต OEM อาจจะใช้สูตรหรือส่วนผสมที่ต่ำกว่ามาตรฐาน เพื่อลดต้นทุนการผลิต ดังนั้นเจ้าของแบรนด์ควรศึกษาและเลือกโรงงานที่มีคุณภาพน่าเชื่อถือ ปลอดภัย และมีการรับรองที่ถูกต้อง

ODM คืออะไร

รับทำแบรนด์

การผลิตสินค้าแบบ ODM (Original Design Manufactuere) คือ การผลิตสินค้าการครอบคลุมการให้บริการคล้ายกับการรับผลิต OEM โดยดูแลตั้งแต่ให้คำปรึกษาและออกแบบวางแผนการทำแบรนด์ ซึ่งความแตกต่างของการผลิตแบบ OEM กับ ODM คือ การผลิตแบบ ODM สามารถพัฒนาสูตรสินค้า สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบ หรือสูตรตามที่ต้องการได้ โดยมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาและพัฒนาสูตรให้เหมาะสมกับแบรนด์

ข้อดีของโรงงานประเภท ODM

  • การผลิต OEM ต่างจาก ODM คือ สามารถคิดค้นและปรับปรุงสูตรเพื่อให้ได้สินค้าที่ออกมาตรงกับความต้องการ
  • มีผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษา และมีทีมงานการตลาดทำการโปรโมทสินค้า หรือแม้แต่นักออกแบบที่จะออกแบบสินค้าให้มีความโดดเด่น โดยดูแลทุกขึ้นตอน เหมือนกับการผลิตแบบ OEM
  • รับทำแบรนด์สินค้าที่ผลิตออกมามีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่เหมือนสินค้าประเภทเดียวกันในท้องตลาด
  • ลดปัญหาด้านความเสี่ยงในการลงทุนสร้างโรงงานเอง เพราะไม่ต้องเป็นเจ้าของโรงงานเอง
  • สินค้าที่ผลิตออกมาแล้วพร้อมจำหน่าย ลดปัญหาการจ้างแรงงานคน และลดต้นทุนสินค้า เช่นเดียวกับผลิตแบบ OEM
  • สามารถกำหนด และควบคุมในการผลิตให้อยู่ในงบประมาณที่ต้องการได้

ข้อเสียของโรงงานประเภท ODM

  • ในการผลิตแบบ ODM มีราคาที่สูงกว่าการผลิตแบบ OEM เพราะรายละเอียดของการคิดค้นพัฒนา และปรับปรุงสูตร เพื่อให้ได้สินค้าออกมาตรงความต้องการของลูกค้ามากที่สุด
  • การผลิตแบบ ODM สารสกัดบางตัวต้องนำเข้ามาจากต่างประเทศทำให้มีต้นทุนในการผลิตที่ค่อนข้างสูงกว่าการผลิตแบบ OEM

OBM คืออะไร
Original Brand Manufacturer หรือที่เรียกสั้นๆว่า OBM คือ การรับทำแบรนด์สินค้าโดยเจ้าของแบรนด์เป็นเจ้าของโรงงานการผลิตเองโดยตรง จะผลิตสินค้าออกมาภายใต้ชื่อแบรนด์ เจ้าของแบรนด์จะต้องหาทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ทีมงานการตลาด และนักออกแบบเอง เป็นการผลิตแบรนด์แบบมั่นคง และเติบโต โดยการผลิตแบบ OBM จะคิดค้น พัฒนา และปรับปรุงสูตรโดยทีมผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องสำอาง ที่สามารถควบคุมและตรวจสอบการผลิตร่วมกับเจ้าของแบรนด์ โรงงานผลิตแบบ OBM จะทำให้สินค้าที่ผลิตออกมาจะมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแบรนด์นั้นๆ ต่างจากการผลิตแบบ OEM และ ODM

ข้อดีของโรงงานประเภท ODM

  • สามารถสั่งผลิตสินค้าได้ตามจำนวนที่ต้องการ ต่างจากโรงงาน OEM และ ODM ที่ต้องระบุจำนวนในการผลิตแต่ละครั้ง
  • สามารถวางแผนและปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ทางการตลาดได้เองไม่ซ้ำกับแบรนด์อื่น
  • สามารถคิดค้น หรือพัฒนาสูตร เพิ่มหรือลดส่วนผสมได้ตามที่ต้องการ
  • สินค้าที่ผลิตออกมามีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่ซ้ำกับสินค้าในท้องตลาด

ข้อเสียของโรงงานประเภท ODM

  • เนื่องจากเจ้าของแบรนด์จัดตั้งทำโรงงานขึ้นมาเอง ทำให้ต้นทุนในการผลิตสูง เพราะจะต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเอง เช่น การจัดหาคน การเลือกเครื่องจักรที่ใช้ผลิต เป็นต้น
  • ต้นทุนการทำแบรนด์สูง เพราะเจ้าของจะต้องลงทุนในกระบวการผลิตเองทั้งหมด เช่น สารสกัด บรรจุภัณฑ์ โลโก้ และจะต้องจัดหาแรงงานในการผลิตอีกด้วย
  • มีความเสี่ยงสูงจากคู่แข่งทางการตลาด อาจจะเกิดการลอกเลียนแบบสินค้าได้ง่าย เหมือนกับการผลิตแบบ OEM ที่มาสามารถลอกเลียนสินค้าได้ง่าย
  • ไม่สามารถย้ายฐานการผลิตได้ เนื่องจากโรงงานเป็นของเจ้าของแบรนด์โดยตรง
  • ไม่มีผู้ที่ให้คำปรึกษา เหมือนกับการใช้บริการโรงงานผลิตแบบ OEM และ ODM จะมีเพียงทีมงานที่เจ้าของแบรนด์จัดหามาเท่านั้นทำให้มุมมองการตลาดแคบลง
  • มีค่าใช้จ่ายสำหรับแรงงาน ทั้งแรงงานเครื่องจักร และแรงงานคน รวมไปถึงการแบกภาระในการจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ เองทั้งหมด

เลือกโรงงานแบบ oem ตัวช่วยของคนพึ่งเริ่มสร้างแบรนด์
ทั้งหมดนี้เป็นข้อมูลการผลิตสินค้าทั้ง 3 แบบ คือ OEM, ODM, OBM ซึ่งในการทำแบรนด์สินค้าออกมาวางจำหน่ายสู่ท้องตลาดนั้น จะต้องคำนึกถึงปัจจัยหลายๆของตัวเจ้าของแบรนด์เอง ว่ามีความพร้อมและงบประมาณในการสั่งผลิตมากน้อยแค่ไหน

การผลิตแบบ OEM คือ การผลิตที่เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังเริ่มต้นในการทำแบรนด์สินค้า ซึ่งควรที่จะศึกษาข้อมูล และเลือกโรงงานที่รับผลิต OEMได้มาตรฐาน สามารถตรวจสอบและมั่นใจได้สินค้าที่ผลิตออกมาจะมีความปลอดภัย มีการรับรองที่ถูกต้อง บริษัท PLD (Pure Derima Raboratories)  เป็นโรงงานที่สามารถผลิตแบบ OEM ที่มีบริการอย่างครบวงจรและได้มาตรฐานสากล แบบ One-Stop Service ที่ครบจบในที่เดียว มีทีมงานผู้เชี่ยวชาญ นักออกแบบโลโก้ และทีมงานในการวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดที่จะให้ปรึกษาและดูแลตลอดการผลิต

122
การหางานในเชียงรายหรือจังหวัดอื่น ๆ ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปคุณสามารถหางานเชียงรายหรือรับสมัครงานเชียงรายสามารถทำได้ง่าย ๆ ผ่านเว็บไซต์ที่สามารถหางานได้ทุกที่ทุกเวลามีงานว่างเชียงรายให้เลือกหลายรูปแบบทั้งแบบงานประจำ พาร์ทไทม์ ฟรีแลนซ์ สัญญาจ้างหรือจะเป็น ที่ฝึกงาน และตำแหน่งงานอีกมากมาย

ดังนั้นบทความนี้จึงได้รวบรวมเกี่ยวกับควรรู้เกี่ยวกับการเริ่มหางานเชียงรายควรทราบเกี่ยวกับอะไรบ้างและเว็บไซต์ไหนน่าสนใจ ที่จะช่วยให้คุณหางานได้ตอบโจทย์ตามความต้องการ มาเพิ่มโอกาสหางานในเชียงรายที่ตรงใจไปพร้อมกัน

สมัครงานเชียงรายล่าสุด


หางานเชียงรายบนเว็บหางานดีว่าอย่างไร

จังหวัดเชียงรายเป็นจังหวัดเหนือสุดของประเทศไทย ที่มีพรมแดนติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้านทั้งประเทศพม่าและลาว ทำให้มีธุรกิจบริษัทร้านค้ามากมายและมีการเปิดรับสมัครพนักงานอยู่หลายตำแหน่ง ซึ่งหากคุณคือหนึ่งในผู้คนที่ต้องการหางานเชียงรายคงไม่อยากพลาดตำแหน่งงานที่ต้องการอย่างแน่นอน

ในปัจจุบันมีประกาศหางานที่เชียงรายมีหลายช่องทางเช่นบน Facebook mujสามารถค้นหาเชียงรายหางานหรือหางานเชียงรายวันนี้แต่เวปที่ลงประกาศงานอาจมีรายละเอียดที่ไม่ครบถ้วนหรือเป็นประกาศหางานที่นานมาแล้ว

จะดีกว่าหรือไม่หากคุณสามารถทำการฝากประวัติหรือทำเรซูเม่ลงเว็บไซต์หางานเชียงราย ที่ช่วยเพิ่มโอกาสและช่วยให้คุณเป็นผู้สมัครงานเชียงรายล่าสุด อีกทั้งในเว็บไซต์หางานจะมีการอัพเดตและมีแจ้งเตือนตำแหน่งงานใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา ทำให้คุณไม่พลาดตำแหน่งงานที่ต้องการอย่างแน่นอน

เชียงรายหางาน

ก่อนเริ่มส่งเรซูเม่ในการหางานเชียงรายต้องทราบอะไรบ้าง

ก่อนเริ่มหางานเชียงรายควรรู้เกี่ยวกับอะไรบ้างที่จะทำให้คุณสมัครงานในเชียงรายและได้งานได้ตรงตามที่วางแผนไว้อย่างเช่นตำแหน่ง เงินเดือน สถานที่ทำงาน เป็นต้น ซึ่งการเตรียมตัววางแผนที่ดีจะช่วยให้คนหางานได้เร็วมากยิ่งขึ้น รวมถึงได้งานตรงตามที่วางแผนไว้สิ่งที่ควรรู้ก่อนเริ่มหางานเชียงรายมีดังนี้

• ระบุงานตำแหน่งงานให้ชัดเจน

การลงสมัครงานเชียงรายคุณควรกำหนดตำแหน่งงานให้ชัดเจน ว่าต้องการสมัครงานตำแหน่งใดแผนกอะไรเพื่อเจาะจงให้ชัดเจน รวมถึงประสบการณ์ทำงานว่าเคยทำงานหน้าที่อะไรตำแหน่งงานนี้บ้าง เพื่อที่จะให้บริษัทที่ต้องการรับตำแหน่งนั้นค้นหาโปรไฟล์หรือเรซูเม่ของคุณและส่งผลให้หางานทำเชียงรายได้ตรงตามที่ต้องการ

• กำหนดเงินเดือน

เว็บไซต์หางานเชียงรายบางเว็บไซต์สามารถค้นหาเรทเงินเดือนที่ต้องการได้ ดังนั้นการฝากประวัติหางานของคุณควรกำหนดเรทเงินเดือนว่าอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่ อย่างเช่นตำแหน่งงานที่เชียงรายของคุณอยู่ที่ประมาณ 25,000-30,000 บาทเป็นต้น เมื่อมีประกาศลงรับสมัครงานก็จะทำให้คุณสมัครตำแหน่งที่มีเรทเงินเดือนประมาณนี้ได้

• แนบผลงาน

การแนบผลงานในเรซูเม่เพื่อหางานเชียงรายจะช่วยให้โปรไฟล์ของคุณเป็นที่น่าสนใจมากยิ่งขึ้น เพราะผลงานที่แนบไว้จะจะช่วยเพิ่มความสามารถในการทำงาน รวมถึงการหางานเด็กจบใหม่ที่สามารถลงผลงานในระหว่างการเรียนได้เช่นกัน

• เว็บไซต์หางานเชียงรายที่มีการอัพเดตตลอดเวลา

วิธีการเลือกเว็บไซต์หางานเชียงรายก็เป็นอีกหนึ่งข้อที่ควรรู้ก่อนจะลงฝากประวัติ ซึ่งเว็บเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือมีบริษัทชั้นนำมาลงประกาศรับสมัครงาน รวมถึงมีผู้คนสมัครใช้งานจำนวนมากก็จะทำให้เพิ่มโอกาสหางานในเชียงรายได้เร็วและตำแหน่งที่ตรงใจมากยิ่งขึ้น

สมัครงานเชียงราย

4 เว็บตัวช่วยหางานเชียงรายที่น่าสนใจ

เว็บหางานที่น่าสนใจและมีการอัพเดตหางานเชียงรายล่าสุด มีการอัพเดตงานเชียงรายวันนี้ เพื่อให้คนที่ต้องการหาตำแหน่งงานว่างไม่พลาดงานที่ต้องการ และเป็นเว็บไซต์หางานที่มีบริษัทชั้นนำลงรับสมัครงานอยู่เป็นประจำรวมถึงบริษัทอื่น ๆ เตรียมเรซูเม่ของคุณให้พร้อมเพื่อลงฝากประวัติได้ที่เว็บไซต์ดังต่อไปนี้

หางานเชียงรายวันนี้

1. JobFinFin

หางานเชียงรายที่ JobFinFin เว็บไซต์หางานที่ตอบโจทย์ทุกสายอาชีพเพิ่มโอกาสในการหาตำแหน่งงานว่างเชียงรายที่มีทั้งบริษัทชั้นนำ ,บริษัท sme, บริษัทสตาร์ทอัพ และเพื่อให้ง่ายต่อการค้นหาตำแหน่งงานหรือการฝากเรซูเม่ลงบนเว็บไซต์ คุณสามารถเลือกประเภทงานที่สนใจเพื่อให้ทางเว็บไซต์แนะนำงานที่ตรงใจ รวมถึงมีการแจ้งเตือนประเภทงานที่คุณสนใจผ่านทางอีเมลทำให้คุณไม่พลาดทุกตำแหน่งงาน

อีกทั้งยังมีการติดตามสถานการณ์สมัครที่มีการส่งสมัครทุกใบ เพียงสมัครเข้าใช้งานภายในไม่กี่ขั้นตอนก็สามารถหางานเชียงรายได้ทุกตำแหน่งงาน รวมถึงการทำโปรไฟล์เพื่อเปิดรับโอกาสสำหรับงานที่น่าสนใจได้และอีกหนึ่งบริการที่น่าสนใจคือมีบริการค้นหางานที่อยู่ใกล้ผู้สมัคร ช่วยให้คุณหางานใกล้บ้านได้อย่างง่ายดาย

2. JobsDB

เว็บหางานทำเชียงรายที่ JobsDB สามารถค้นหาชื่อตำแหน่งรับสมัครงานเชียงรายหรือชื่อบริษัทรวมถึงประเภทงานที่คุณสามารถสร้างเรซูเม่เพื่อโพสต์ลงบนเว็บไซต์หางานเชียงรายได้ โดยที่คุณแค่อัพเดตโปรไฟล์อยู่สม่ำเสมอเพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถค้นหาเรซูเม่ของคุณเจอโดยที่ไม่จำเป็นต้องเฝ้าหน้าจออยู่ตลอดเวลา อีกทั้งยังสามารถกำหนดโปรไฟล์ให้มีความเป็นส่วนตัวได้ 3 ระดับคือ อนุญาตให้ดูข้อมูล, จำกัดการดูข้อมูล, ไม่อนุญาตให้ดูข้อมูล

3. Fastwork

ในปัจจุบันการทำงานไม่จำเป็นต้องเดินทางออกไปทำงานเท่านั้นแต่ยังมีงานที่สามารถทำงานที่ไหนก็ได้ อย่างฟรีแลนซ์ที่คุณสามารถหางานทำในเชียงรายได้ทางเว็บไซต์ Fastwork ที่มีการรับประกันการจ้างงานที่ผู้สมัครงานจะได้รับความคุ้มครองตั้งแต่เริ่มทำงานไปจนถึงได้รับงานที่พึงพอใจ ผู้สมัครสามารถค้นหาฟรีแลนที่ถูกใจพูดคุยรายละเอียดได้บนเว็บไซต์

4. Linkedin

เว็บไซต์ที่มีการลงรับสมัครงานเชียงราย สามารถค้นหางานใหม่ทั้งตำแหน่งงานหรือบริษัทที่สนใจ และการค้นหาอื่น ๆ เช่นเงินเดือน ตำแหน่งที่ตั้ง ระดับประสบการณ์ ประเภทของงานเป็นต้นเพื่อให้ผู้สมัครหางานในเชียงรายได้ตรงตามความต้องการนั้นเอง รวมถึงการพัฒนาตัวเองด้วยการค้นหาหลักสูตรหรือการฝึกอบรมในสายงานเพื่อเพิ่มความรู้ความสามารถ

สรุป

สุดท้ายนี้อย่าลืมวางแผนก่อนเริ่มหางานเชียงราย และทำเรซูเม่ของคุณให้มีเนื้อหาที่ครบถ้วนเพื่อเพิ่มโอกาสในการสมัครงานให้ประสบความสำเร็จ และการหางานเชียงรายล่าสุดจะทำให้คุณคือผู้สมัครอันดับแรก ๆ เป็นอีกวิธีที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการคัดเลือกเข้าทำงานด้วยเช่นกัน

123
คิ้วสแตนเลส

วัสดุที่ใช้สำหรับงานตกแต่ง ไม่ว่าจะเป็น การตกแต่งภายใน หรือ Built-in ตัวบ้านเพื่อเพิ่มความสวยงาม ความหรูหรา และความทันสมัยของตัวบ้านให้มากขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถทำได้ด้วยคิ้วสเตนเลส เป็นวัสดุที่ใช้ตกแต่งภายใน เพื่อเพิ่มเสน่ห์แต่ยังคงมีความเรียบง่าย โดยคิ้วสเตนเลส จะมีหลายประเภทด้วยกันทั้งขนาด สี เนื้อของวัสดุ สามารถนำมาปรับใช้งานได้อย่างหลากหลาย

นอกจากนี้คิ้วสแตนเลสยังสามารถนำมาตกแต่งอุปกรณ์เฟอร์นิเจอร์ให้มีความหรูหรามากขึ้น เพื่อการตกแต่งที่ลงตัวและสมบูรณ์แบบ วันนี้เราจะไปทำความรู้จักกับคิ้วสแตนเลสว่า คืออะไร ใช้งานอย่างไร คิ้วสแตนเลสแต่ละขนาด ควรนำมาใช้งานตกแต่งอย่างไรจึงจะเหมาะมากที่สุด นอกจากนี้แล้วความแตกต่างระหว่างกรุยเชิงสแตนเลสและคิ้วสแตนเลส คืออะไร

คิ้วสแตนเลสกับงานตกแต่งคืออะไร?
คิ้วสแตนเลส คือ วัสดุที่เป็นเหล็กกล้าไร้สนิม มีความทนทาน ต้านทานการกัดกร่อนได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีความเงางาม มีสีต่าง ๆ ให้เลือกจึงเหมาะกับการนำมาเป็นวัสดุอุปกรณ์สำหรับงานตกแต่งภายใน สามารถพบเห็นคิ้วสแตนเลสกับงานตกแต่งได้ อย่างเช่น งานตกแต่งภายในบ้าน ,งานตกแต่งผนังบริเวณโถงต้อนรับของโรงแรม หรืองานด้านสถาปัตยกรรม เป็นต้น

คุณสมบัติของคิ้วสแตนเลสจะมีความแข็งแรง ทนต่อแรงกระแทก ไม่แตกหรือเปราะหักง่าย สามารถใช้งานได้ทั้งสภาพอากาศที่ร้อนหรือเย็นจัด อีกทั้งยังทำความสะอาดได้ง่าย ไม่เป็นที่สะสมของแบคทีเรีย จึงทำให้คิ้วสแตนเลสเป็นวัสดุที่นิยมนำมาใช้งานตกแต่ง

คิ้วสแตนเลสกับกรุยเชิงสแตนเลสต่างกันไหม ? ใช้กับงานตกแต่งประเภทไหนบ้าง
คิ้วสแตนเลสกับกรุยเชิงสแตนเลส เป็นอุปกรณ์ที่ใช้งานตกแต่งเพื่อเพิ่มความหรูหราให้กับชิ้นงานเหมือนกัน แต่จะแตกต่างกันเล็กน้อยที่คิ้วสแตนเลสจะใช้กับงานตกแต่งเข้ามุมกระเบื้องเพื่อป้องกันกระเบื้องแตกร้าว และยังสามารถตกแต่งผนังและพื้น สำหรับกรุยเชิงสแตนเลสจะใช้สำหรับการแบ่งพื้นที่ระหว่างวัสดุที่ไม่เหมือนกัน หรือใช้เป็นเส้นนำสายตา อีกทั้งยังสามารถนำมาแตกแต่งผนังและพื้นได้อีกด้วย

คิ้วสแตนเลสกับกรุยเชิงสแตนเลสสามารถสรุปได้ว่ามันคือสิ่งเดียวกัน เพียงแต่คำว่าคิ้วสแตนเลสจะเป็นการครอบคลุมวัสดุที่เกี่ยวกับคิ้วสแตนเลสทั้งหมด แต่กรุยเชิงสแตนเลสนั้นจะเรียกใช้แทนบางประเภทเท่านั้น ได้แก่ คิ้วสแตนเลสตัวยู = กรุยเชิงสแตนเลสตัวยู ,คิ้วสแตนเลสตัวที = กรุยเชิงสแตนเลสตัวที เป็นต้น

คิ้วสแตนเลสใช้กับงานตกแต่งอะไรได้บ้าง?

คิ้วสแตนเลสใช้กับงานตกแต่งอะไรได้บ้าง

ขอบคุณรูปภาพจาก NARA Stainless

คิ้วสแตนเลสสามารถใช้กับงานตกแต่งได้หลากหลาย โดยสามารถใช้งานได้ดังต่อไปนี้
.
  • คิ้วสแตนเลสใช้ตกแต่งสำหรับงานผนัง เพื่อเพิ่มความแข็งแรงและความสวยงามให้กับผนังได้ สามารถใช้เป็นการเพิ่มลวดลายบนผนังให้บ้านของคุณน่าอยู่มากยิ่งขึ้น
  • คิ้วสแตนเลสสามารถนำมาใช้งานกับงานตกแต่งบันได นอกจากเพิ่มความสวยงามยังสามารถช่วยเรื่องความปลอดภัย ลดรอยคมของขอบบันได และช่วยเพิ่มความแข็งแรง
  • คิ้วสแตนเลสสามารถใช้งานกับเฟอร์นิเจอร์ได้หลากหลายประเภท ป้องกันขอบเฟอร์นิเจอร์ ลดความคม และป้องกันการเสียหายของเฟอร์นิเจอร์ให้ใช้งานได้ยาวนานมากยิ่งขึ้น
  • คิ้วสแตนเลสสามารถนำมาใช้กับงานตกแต่งกระเบื้องทางเดิน เพื่อเพิ่มลวดลายที่สวยงาม และความหรูหราใกล้กับสถานที่ต่าง ๆ ได้ เช่น โรงแรม ห้างสรรพสินค้า หรือตามคลินิกต่าง ๆ เป็นต้น

คิ้วสแตนเลสมีกี่แบบแต่ละแบบใช้งานอย่างไรบ้าง?

คิ้วสแตนเลสมีกี่แบบ

ขอบคุณรูปภาพจาก NARA Stainless

คิ้วสแตนเลสสำหรับใช้งานตกแต่งมีหลายประเภทด้วยกัน โดยประเภทของคิ้วสแตนเลสที่นิยมนำมาใช้กันก็คือ รูปทรงตัวยู ,ตัวที และคิ้วกระเบื้อง ซึ่งคิ้วสแตนเลสแต่ละประเภทก็จะมีขนาดที่แตกต่างกันออกไป เช่น 10 หรือ 20 มิลลิเมตร โดยแต่ละประเภทสามารถใช้งานได้ดังต่อไปนี้

  • คิ้วสแตนเลสรูปตัวที เป็นคิ้วสแตนเลสที่มีรูปแบบที่โดดเด่นสวยงาม สามารถใช้กับงานตกแต่งทั้งผนังและพื้น ปกปิดรอยต่อกระเบื้อง และหินอ่อนได้เนียน สามารถนำไปใช้กับงานตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ได้ เพิ่มความหรูหราให้กับการตกแต่งภายในได้อย่างสมบูรณ์ อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มมิติให้กับงานตกแต่งได้อีกด้วย
  • คิ้วสแตนเลสรูปตัวยู เป็นคิ้วสแตนเลสที่สามารถนำไปใช้กับงานตกแต่งได้หลายประเภทเช่นกัน โดยสามารถนำไปใช้กับงานปิดมุม ขอบ พื้น และเพดานที่มีขนาดหน้ากว้าง 50 มม. ขึ้นไป เหมาะกับงานตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ สามารถใช้คู่กับวัสดุเช่น หินอ่อน กระเบื้อง และแกรนิตโตได้เป็นอย่างดี
  • คิ้วกระเบื้องสแตนเลส เป็นอีกหนึ่งประเภทของคิ้วสแตนเลสที่ได้รับความนิยมในการนำมาใช้กับงานตกแต่ง ซึ่งจะเน้นไปที่ด้านสถาปัตยกรรมเพื่อเพิ่มความโดดเด่น ความหรูหรา และความสวยงามได้อย่างสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น  สามารถนำไปใช้กับงานปิดขอบต่าง ๆ เช่น ขอบบันได และขอบเคาน์เตอร์ครัว ใช้ได้สำหรับงานออกแบบภายใน และภายนอก มีความแข็งแรงทนทาน และไม่เกิดรอยง่าย

คิ้วสแตนเลสเหมาะกับการใช้งานตกแต่งประเภทไหน ?
การใช้งานสำหรับคิ้วสแตนเลสอย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่าเหมาะกับการใช้งานตกแต่ง แต่นอกจากงานตกแต่งแล้วคิ้วสแตนเลสยังเหมาะกับงานประเภทอื่น ๆ เพื่อเพิ่มมิติความสวยงามให้กับชิ้นงานต่าง ๆ ได้ ดังต่อไปนี้

  • คิ้วสแตนเลสเหมาะกับงานตกแต่งด้านสถาปัตยกรรม นอกจากขนาดของคิ้วสแตนเลสที่มีให้เลือกหลายขนาดแล้ว สีของคิ้วสแตนเลสแต่ละสีก็เหมาะกับการนำมาใช้ตกแต่งงานด้านสถาปัตยกรรมให้ดูสวยงาม และโดดเด่นมากขึ้นได้เช่นกัน
  • คิ้วสแตนเลสสามารถใช้งานกับการตกแต่งทั้งภายในและภายนอกกับสถานที่ที่ต้องการเพิ่มความหรูหรา อย่างเช่น อาคาร, สำนักงาน, ห้างสรรพสินค้า หรือโรงแรม เป็นต้น
  • คิ้วสแตนเลสสามารถนำมาใช้กับงานตกแต่งฝ้า เพดานได้เป็นอย่างดี ใช้ได้ทั้งซ่อนไฟ และไม่ซ่อนไฟ ช่วยปกปิดร่องหลุ่มฝ้าเพดานได้เรียบเนียน

คิ้วสแตนเลสติดตั้งอย่างไรได้บ้าง?
การติดตั้งคิ้วสแตนเลสไม่ว่าจะขนาดเท่าไหร่ หรือประเภทไหนก็ตามก็จะมีการติดตั้งที่ไม่ต่างกัน และยังติดตั้งได้ง่ายอีกด้วย โดยคิ้วสแตนเลสโดยทั่วไปสามารถติดตั้งได้ดังต่อไปนี้

  • เลือกประเภทกาวที่เหมาะสมกับพื้นผิวของวัสดุที่ต้องการนำไปติด เพื่อให้การติดตั้งคิ้วสแตนเลสติดนาน และมีคุณภาพในการใช้งานมากยิ่งขึ้น
  • เตรียมพื้นที่สำหรับติดตั้งคิ้วสแตนเลสให้เหมาะกับการวาง และควรเพิ่มพื้นที่การยึดติดของกาวเพื่อให้คิ้วสแตนเลสยึดติดกับพื้นผิววัสดุได้ดีมากยิ่งขึ้นด้วย

สำหรับการติดตั้งคิ้วสแตนเลสมีวิธีการที่ง่าย แต่ก็ยังมีข้อที่คุณควรระวังเอาไว้ ก็คือ หลีกเลี่ยงการใช้กาวชนิดที่มีกรดกับชิ้นงานคิ้วที่ผ่านการทำสี Anodize เนื่องจากไอระเหยของกาวอาจทำปฏิกิริยากับพื้นผิว และจะทำให้สีของคิ้วสแตนเลสผิดเพี้ยนได้ ซึ่งอาจทำให้งานตกแต่งของคุณไม่สวยงามตามที่คาดหวังไว้ และอาจต้องระวังเรื่องของความชื้น การเคลื่อนย้ายคิ้วสแตนเลสควรทำอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้เกิดการแตกหักของอุปกรณ์

สรุปคิ้วสแตนเลส
คิ้วสแตนเลสเป็นอุปกรณ์ที่นิยมใช้ในงานตกแต่งทั้งการตกแต่งภายใน และภายนอก นอกจากนี้ยังนิยมมาใช้ในงานด้านสถาปัตยกรรม เฟอร์นิเจอร์ เคาน์เตอร์ครัวต่าง ๆ เป็นต้น ซึ่งประเภทของคิ้วสแตนเลสก็มีให้เลือกหลากหลายขนาด และหลายประเภทด้วยกัน รวมถึงสีที่สามารถเลือกให้เข้ากับงานตกแต่งของคุณ ด้วยคุณสมบัติของคิ้วสแตนเลสที่มีความทนทาน ต้านทานการกัดกร่อนได้เป็นอย่างดี เพิ่มความแข็งแรงให้กับงานตกแต่ง จึงนับว่าคิ้วสแตนเลสเป็นอุปกรณ์ที่เหมาะกับการนำมาตกแต่งสถานที่ต่าง ๆ ให้ดูสวยงาม และเพิ่มความแข็งแรงให้มากขึ้นได้


124
ร่วมบริจาค

การบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบปัญหา ถือเป็นการกระทำที่มีเกียรติ แสดงถึงความเห็นอกเห็นใจ เพื่อเป็นเครื่องช่วยเหลือชีวิตของเขาเหล่านั้น ที่กำลังพบความลำบาก ไม่ว่าจะเป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติ เช่น พายุเฮอริเคน แผ่นดินไหว น้ำท่วม หรือวิกฤตด้านมนุษยธรรมต่าง ๆ เป็นต้น ซึ่งบริจาคได้ทั้งเป็นเงิน หรือสิ่งของต่าง ๆ

การบริจาคมีบทบาทสำคัญในการบรรเทาความทุกข์ทรมาน ทั้งยังช่วยเหลือการฟื้นฟู ซึ่งในบทความนี้เราได้รวบรวมข้อมูลต่าง ๆ ที่จะช่วยให้คุณสามารถบริจาคเงิน หรือสิ่งของต่าง ๆ ให้กับผู้ประสบภัยพิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ตกหล่น โดยเราจะแนะนำให้คุณรู้จักกับองค์กรที่มีชื่อเสียง ที่จะอำนวยความสะดวกในการบริจาคที่ง่าย ทั้งยังปลอดภัย รวมถึงวิธีคัดเลือกองค์กรที่เชื่อถือได้ สามารถตรวจผลลัพธ์ ของการบริจาคของคุณ และตอบคำถามทั่วไปที่เกี่ยวข้องกับการบริจาคอีกด้วย

แนะนำองค์กรที่สามารถบริจาคได้ง่าย ๆ เพียงแค่ปลายนิ้ว
เมื่อเกิดภัยพิบัติ หรือปัญหาต่าง ๆ ขึ้น หน่วยงานรัฐจะเป็นหน่วยงานแรกที่ต้องลงมาแก้ปัญหา แต่ก็สามารถช่วยเหลือได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะติดข้อจำกัดมากมาย ไม่ว่าจะเป็นด้านกฎหมาย ด้านงบประมาณ จำเป็นที่จะต้องมีองค์กร หรือโครงการต่าง ๆ ออกมา เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาได้อย่างทันท่วงที ซึ่งองค์กรเหล่านี้ก็จะมีรายได้หลักจากการรับบริจาค หรือจากรายได้เสริมส่วนอื่น ๆ

สิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งนั้นคือ การที่จะต้องบริจาคผ่านองค์กรที่น่าเชื่อถือ ซึ่งสามารถให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ที่ต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพ นี่คือองค์กรที่มีชื่อเสียงบางแห่งที่ช่วยให้คุณสร้างความแตกต่างได้ด้วยการคลิกเพียงไม่กี่ครั้ง

ติดต่อ บริจาคมูลนิธิกระจกเงา

มูลนิธิกระจกเงา
มูลนิธิกระจกเงา เป็นองค์กรอิสระที่ทำงานเกี่ยวกับการพัฒนาสังคม ในหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็น งานด้านสิทธิมนุษยชน ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ไปจนถึงงานพัฒนาอาสาสมัครต่าง ๆ เป็นต้น ซึ่งทำหน้าที่เป็นกระจกเงา ที่สะท้อนเรื่องราว ความเป็นจริงของสังคม พร้อมให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสังคม

ติดต่อ บริจาคองค์กร UNHCR Thailand

องค์กร UNHCR Thailand
ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) แห่งประเทศไทย ทุ่มเทเพื่อช่วยเหลือผู้ลี้ภัยและผู้พลัดถิ่น ถือเป็นภารกิจหลักของพวกเขา การปกป้องสิทธิ ความเป็นอยู่ที่ดีของประชากรกลุ่มเปราะบางเหล่านี้ สำหรับการบริจาคให้กับ UNHCR ประเทศไทย จะมีส่วนสนับสนุนโครงการริเริ่มต่าง ๆ เพื่อจัดหาที่พักอาศัย ให้การศึกษา ให้การรักษาพยาบาล รวมถึงอุปกรณ์ที่จำเป็นแก่บุคคลและครอบครัวผู้พลัดถิ่น

ติดต่อ บริจาคมูลนิธิปวีณาหงสกุล

มูลนิธิปวีณาหงสกุล
มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เป็นองค์กรหนึ่งที่ช่วยเหลือผู้ตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งเรื่องของการข่มขืน ทารุณกรรม ทำร้ายร่างกาย ถูกหลอกลวงจากขบวนการค้ามนุษย์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตัวอย่างเช่น การบังคับค้าประเวณี การนำเด็กมาเร่ขอทาน การใช้แรงงานเยี่ยงทาส เป็นต้น ไปจนถึงปัญหาภายในครอบครัวอีกด้วย

อยากร่วมบริจาค ควรเลือกองค์กรไหนดี ? แล้วต้องทำอย่างไรบ้าง
การเลือกองค์กรที่เหมาะสมสำหรับการบริจาคนั้น สิ่งสำคัญเพื่อให้แน่ใจว่าการเงิน หรือสิ่งของที่คุณต้องการบริจาคนั้นจะต้องถูกกฎหมาย สามารถส่งตรงถึงผู้ประสบปัญหาได้โดยตรง โดยปัจจัยที่ใช้ในการเลือกองค์กรที่ต้องการดังนี้

1.เลือกกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ ควรเลือกกลุ่มเป้าหมายที่ประสบปัญหาตามที่คุณอยากช่วยเหลือ องค์กรต่าง ๆ อาจมีความเชี่ยวชาญในแต่ละด้านที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้นควรเลือกองค์กรที่สอดคล้องกับความต้องการของคุณ

2.ตรวจสอบองค์กร ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียด เกี่ยวกับองค์กรที่คุณตั้งใจจะบริจาคให้ มีความโปร่งใส มีความรับผิดชอบ ไปจนถึงมีประวัติที่ได้รับการยอมรับ ว่ามีการบรรเทาภัยพิบัติหรือให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม

3.ตรวจสอบวิธีการบริจาค ตรวจสอบวิธีการบริจาคที่มีอยู่ องค์กรส่วนใหญ่เสนอแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ปลอดภัย ซึ่งคุณสามารถบริจาคได้โดยใช้บัตรเครดิต การโอนเงินผ่านธนาคาร หรือแอปชำระเงินผ่านมือถือ

4.กำหนดจำนวนเงินบริจาค ตัดสินใจเกี่ยวกับจำนวนเงินที่คุณต้องการบริจาค แม้แต่การบริจาคเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็สามารถสร้างความแตกต่างได้อย่างมาก เมื่อรวมกับการบริจาคของผู้อื่น

5.มีจัดสรรที่ชัดเจน บางองค์กรอนุญาตให้คุณระบุการบริจาคของคุณให้กับโครงการย่อยต่าง ๆ อย่างเฉพาะจุดได้

สำหรับผู้ที่ไม่รู้จะตัดสินใจเลือกองค์กรใดดี เราขอแนะนำ UNHCR ที่คอยให้ความช่วยเหลือผู้ลี้ภัยต่าง ๆ ที่เกิดมาจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ ไปจนถึงผลกระทบจากสงคราม ที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกวัน ซึ่งคุณสามารถมั่นใจได้ว่า สิ่งที่บริจาคไปจะถึงผู้ประสบปัญหาอย่างแน่นอน

เป้าหมายของ UNHCR ในการรับบริจาค มีเป้าหมายที่ชัดเจน
ก่อนที่จะบริจาคเงินให้กับ UNHCR (ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ) จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเข้าใจก่อนว่าองค์กรนี้ดำเนินงานโดยมีเป้าหมายที่ชัดเจนอย่างไร การบริจาคของคุณให้กับ UNHCR ไม่เพียงแต่เป็นการบริจาคเพื่อความสบายใจแล้ว ยังเป็นการลงทุนในการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอีกด้วย ที่นี่ เราเจาะลึกวัตถุประสงค์ของ UNHCR รวมถึงผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นกัน

1. ที่พักพิงและที่อยู่อาศัย
หนึ่งในเป้าหมายหลักของ UNHCR คือเพื่อให้แน่ใจว่าผู้พลัดถิ่นทั้งครอบครัว สามารถเข้าถึงที่พักพิงที่ปลอดภัย มั่นคง เงินบริจาคของคุณมีส่วนโดยตรงต่อการสร้าง ฟื้นฟู ไปจนถึงบำรุงรักษาศูนย์พักพิงในค่ายผู้ลี้ภัยต่าง ๆ ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤต ที่พักพิงเหล่านี้ให้ความคุ้มครอง การรักษาความปลอดภัยที่จำเป็นอย่างมากแก่ผู้ลี้ภัย

2. การศึกษา
การศึกษาเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน UNHCR ตระหนักถึงความสำคัญของการให้การศึกษาที่มีคุณภาพแก่เด็กรวมถึงเยาวชนผู้ลี้ภัย การบริจาคของคุณมีส่วนช่วยสร้างโรงเรียน จัดหาสื่อการเรียนรู้ที่จำเป็น ฝึกอบรมครู ด้วยการสนับสนุนโครงการนี้ คุณจะเสริมพลังความรู้ให้กับคนรุ่นต่อไป

3. การดูแลสุขภาพ
การเข้าถึงการรักษาพยาบาลถือเป็นภารกิจที่สำคัญอีกประการหนึ่งของ UNHCR ผู้พลัดถิ่นมักเผชิญกับความเสี่ยงด้านสุขภาพที่เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากสภาพความเป็นอยู่ที่ไม่สะดวกสบาย การเข้าถึงบริการทางการแพทย์ที่จำกัด การบริจาคของคุณช่วยให้ UNHCR สามารถสร้างสถานพยาบาล ให้บริการทางการแพทย์ และรับประกันว่าผู้ลี้ภัยจะได้รับการรักษา การดูแลทางการแพทย์ที่จำเป็น สิ่งนี้มีส่วนช่วยให้ผลลัพธ์ด้านสุขภาพดียิ่งขึ้น

4. โอกาสในการดำรงชีวิต
UNHCR ตระหนักถึงความสำคัญของการพึ่งพาตนเอง พวกเขาจึงทำงานเพื่อสร้างโอกาสในการดำรงชีวิตให้กับผู้ลี้ภัย ช่วยให้พวกเขาสามารถเลี้ยงดูตนเองและครอบครัวได้ การบริจาคของคุณช่วยสนับสนุนการฝึกอบรมสายอาชีพ โครงการการเป็นผู้ประกอบการ ซึ่งความคิดริเริ่มจะช่วยให้บุคคลเหล่านั้นได้มีชีวิตใหม่

5. การคุ้มครองทางกฎหมาย
UNHCR ทุ่มเทเพื่อสนับสนุนสิทธิ์ทางกฎหมายการคุ้มครองผู้ลี้ภัย พวกเขาทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อให้แน่ใจว่ากฎหมาย รวมถึงอนุสัญญาระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับผู้ลี้ภัย ต้องได้รับการยึดถือ ให้ความเคารพ การมีส่วนร่วมของคุณจะช่วยให้ความพยายามปรับปรุงกฎหมายให้กับผู้พลัดถิ่น ยกระดับความปลอดภัยของพวกเขา

6. การตอบสนองต่อเหตุการณ์ฉุกเฉิน
ในช่วงเวลาที่เกิดวิกฤตการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน UNHCR มีบทบาทสำคัญในการให้ความช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ การบริจาคของคุณช่วยให้ UNHCR สามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็วต่อภัยพิบัติต่าง ๆ ไปจนถึงผู้พลัดถิ่น ซึ่งเป็นสถานการณ์เร่งด่วนอื่น ๆ เพื่อให้มั่นใจว่าประชากรที่ได้รับผลกระทบจะได้รับความช่วยเหลือทันที รวมถึงที่พักพิง อาหาร น้ำสะอาด ไปจนถึงการรักษาพยาบาล

7. ความเท่าเทียมทางเพศ
UNHCR มุ่งมั่นที่จะส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ พร้อมปกป้องประชากรกลุ่มเปราะบาง รวมถึงผู้หญิงและเด็ก การบริจาคของคุณสนับสนุนโครงการตอบสนองความต้องการเหล่านี้ ถือเป็นความท้าทายเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังรวมถึงการคุ้มครองจากความรุนแรงทางเพศ การเข้าถึงบริการที่จำเป็น

สามารถร่วมบริจาคในช่องทางไหนได้บ้าง ? ที่สะดวกสบายที่สุด

บริจาคผ่านโทรศัพท์มือถือ

เพื่อให้คุณสามารถเข้าถึงวิธีบริจาคได้ง่ายยิ่งขึ้น ด้วยช่องทางต่าง ๆ มากมาย ที่สะดวกสบาย ทั้งยังปลอดภัยอีกด้วย

1. การบริจาคออนไลน์ องค์กรส่วนใหญ่นั้นมีเว็บไซต์เป็นของตนเอง ทั้งยังออกแบบให้เป็นมิตรกับผู้ใช้งานอีกด้วย ซึ่งคุณสามารถบริจาคเงินออนไลน์ได้อย่างปลอดภัย ไม่ว่าจะใช้บัตรเครดิต บัตรเดบิต หรือวิธีการชำระเงินดิจิทัลก็สามารถทำได้เช่นกัน

2. แอปพลิเคชันมือถือ บางองค์กรมีแอปพลิเคชันในมือถือโดยเฉพาะ เพื่อให้คุณสามารถเข้าถึงการบริจาคได้เพียงไม่กี่ขั้นตอนผ่านทางสมาร์ทโฟนเท่านั้น

3. การโอนเงินผ่านธนาคาร สำหรับผู้ที่ชื่นชอบวิธีการโอนผ่านธนาคารแบบเดิมๆ  หลายองค์กรจะแจ้งรายละเอียดบัญชีธนาคารอย่างชัดเจน เพื่อให้การทำรายการได้ง่ายยิ่งขึ้น

คำถามที่มักพบบ่อยเกี่ยวกับบริจาคเพื่อการกุศล
สำหรับผู้ที่กำลังมองหาช่องทางในบริจาคเพื่อการกุศล มักจะเกิดคำถามตามมามากมาย ซึ่งเราได้รวบรวมคำถามยอดนิยม เพื่อไขข้อข้องใจสำหรับทุกคน

บริจาคกับทาง UNHCR เงินจะถึงมือผู้รับ 100 % เลยไหม ?
การบริจาคของคุณนั้น จะไปถึงผู้รับอย่างรวดเร็ว และจะถูกนำไปใช้เพื่อผลประโยชน์อย่างสูงสุด แม้ว่าทางองค์กรจะมีค่าใช้จ่ายในการบริหาร แต่ในส่วนเงินบริจาคของคุณทั้งหมดนั้น จะถูกนำไปช่วยผู้ลี้ภัยทั้งหมดอย่างแน่นอน

การบริจาคเพื่อลดหย่อนภาษี มีขั้นตอนอะไรบ้าง ?
การบริจาคให้กับองค์กรการกุศลที่จดทะเบียนสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ หากต้องการขอลดหย่อนภาษี ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้รับใบเสร็จรับเงินหรือใบตอบรับจากองค์กรหรือไม่ ปรึกษาหน่วยงานด้านภาษีในพื้นที่ของคุณสำหรับหลักเกณฑ์เฉพาะเกี่ยวกับการขอหักภาษี

สามารถบริจาคเงินอย่างเจาะจงให้แก่โครงการนั้นๆ ทำได้ไหม ?
สามารถทำได้ องค์กรหลายแห่งจะมีโครงการทางเลือกนอกเหนือจากเป้าหมายหลักขององค์กร ทำให้คุณสามารถเลือกบริจาคโครงการที่ตรงกับความต้องการของคุณ ติดต่อองค์กรเพื่อสอบถามเกี่ยวกับการจัดสรรเงินบริจาคของคุณ

สรุปการรับบริจาค
ในช่วงเวลาที่เกิดเหตุการณ์อันตรายที่ทำให้หลาย ๆ คนต้องสูญเสียบางสิ่งบางอย่างไปนั้น การบริจาคเปรียบเหมือนแสงแห่งความหวัง ความมีน้ำใจของคุณสามารถให้สร้างที่พักพิง อาหาร การศึกษา ไปจนถึงการรักษาพยาบาลให้แก่ผู้ที่ประสบเหตุการณ์ต่าง ๆ ได้ ด้วยการเลือกองค์กรที่มีชื่อเสียง น่าเชื่อถือ เพื่อให้มั่นใจว่าสิ่งที่คุณบริจาคนั้นจะส่งไปถึงผู้รับอย่างครบถ้วน ซึ่งเพื่อให้การรับบริจาคง่ายขึ้น เหล่าองค์กรต่าง ๆ จึงใช้ประโยชน์จากความสะดวกในการบริจาคทางออนไลน์ เพื่อให้คุณสามารถช่วยเหลือและมอบโอกาสในชีวิตของผู้ประสบเหตุการณ์ที่เลวร้ายได้ตลอดเวลา

125
โทรศัพท์แอนดรอยด์ รุ่นไหนดี 2023

โทรศัพท์แอนดรอยด์ Smart phone ยอดฮิตที่เป็นที่หมายปองของใครหลาย ๆ คน ปัจจุบันโทรศัพท์แอนดรอยด์ถูกพัฒนาให้มีฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย เพื่อให้ผู้คนสามารถเลือกซื้อได้ตามไลฟ์สไตล์และความชอบส่วนบุคคลที่แตกต่างกัน โทรศัพท์แอนดรอยด์แต่ละรุ่นจึงถูกออกแบบให้มีฟังก์ชันการใช้งานแตกต่างกันออกไป

สำหรับท่านที่กำลังมองหาโทรศัพท์ android แต่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกรุ่นไหนดี แล้วรุ่นไหนที่จะมีฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตประจำวันของท่านมากที่สุด วันนี้เรามีโทรศัพท์แอนดรอยด์ยอดฮิตประจำปี 2023 ภายใต้แบรนด์ Sumsung แบรนด์มือถือชั้นนำที่ผลิตมือถือเรือธงออกมามากมาย พร้อมข้อมูลเปรียบเทียบ ราคา จุดเด่น ข้อดี ฟังก์ชันการใช้งาน และเคล็ดลับการเลือกซื้อโทรศัพท์แอนดรอย์ให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตมาแนะนำ ถ้าพร้อมแล้วเรามาเข้าสู่เนื้อหาในบทความกัน

โทรศัพท์แอนดรอยด์ คืออะไร
โทรศัพท์แอนดรอยด์ คือ โทรศัพท์พกพาเคลื่อนที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ (Android) เป็นซอฟต์แวร์ในการทำงาน ซึ่งซอฟต์แวร์ตัวนี้เป็นซอฟต์แวร์ที่ถูกพัฒนาโดยบริษัท Google โดยที่ทางบริษัทได้มีการพัฒนาให้ซอฟต์แวร์ตัวนี้ มีพฤติกรรมเลียนแบบมนุษย์ทั้งด้านกายภาพและพฤติกรรม

ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ถูกพัฒนาให้สามารถแก้ไขและสร้างโค้ดได้ด้วยภาษาพูด สามารถเรียนรู้ได้ โดยที่มีภาษา Java เป็นตัวพัฒนาระบบ ด้วยความที่โทรศัพท์แอนดรอยด์ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เป็นซอฟต์แวร์ในการทำงาน โทรศัพท์แอนดรอยด์จึงเป็น Smart phone ที่ใช้งานง่าย มีความทันสมัย มีประสิทธิภาพ และมีการอัปเดตอยู่ตลอดเวลา

นอกจากความฉลาดของระบบปฏิบัติการแล้ว โทรศัพท์แอนดรอยด์ยังเป็นโทรศัพท์มือถือที่ใช้งานง่าย มีฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย และมีการตั้งราคาที่ทำให้คนธรรมดาทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ เป็น Smarth phone ที่หากได้เปิดใจลองใช้สักครั้งจะต้องติดใจกับความฉลาดของระบบปฏิบัติการอย่างแน่นอน

แนะนำโทรศัพท์แอนดรอยด์สุดฮิต มีรุ่นไหนบ้าง
หลังจากรู้จักระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์กันไปแล้ว เราจะมาแนะนำโทรศัพท์แอนดรอยด์ 2023 และมือถือเรือธงหลากหลายราคา หลากหลายฟังก์ชัน หลากหลายการใช้งาน ภายใต้แบรนด์ Sumsung แบรนด์ Smart phone สุดฮิต ใครกำลังมองหาโทรศัพท์แอนดรอยด์อยู่ห้ามพลาด!

1. Samsung Galaxy Z Fold4 ราคาเริ่มต้น 44,900 บาท

มือถือแอนดรอยด์ Samsung Galaxy Z Fold4

ขอบคุณภาพจาก -h ttps://images.samsung.com/is/image/samsung/assets/th/explore/entertainment/galaxy-z-fold4-new-fold-phone-2022/zfold4_carousel_group_desktop_920x582.jpg?$920_N_JPG $-

โทรศัพท์แอนดรอยด์ดีไซน์โดดเด่น ที่มาพร้อมกับหน้าจอพับได้ ตัวเครื่องน้ำหนักเบาพกพาสะดวก หน้าจอกว้าง 7.6 นิ้ว ใช้งานดีไม่มีสะดุด เป็นโทรศัพท์แอนดรอยด์เรือธงเรื่องฟังก์ชันการใช้งานกล้องหลัง ที่กล้องหลักมีความละเอียดสูงถึง 50MP พร้อมกันสั่นแบบ OIS กล้อง Telephoto ความละเอียด 10MP พร้อมกันสั่นแบบ OIS และยังมีกล้อง Ultrawide ที่มีความละเอียดสูงถึง 12MP สามารถซูมได้สูงสุดกว่า 30x ในราคาเริ่มต้นเพียง 44,900 บาท ใครที่กำลังมองหาโทรศัพท์แอนดรอยด์กล้องสวยห้ามพลาด

2. Samsung Galaxy S23 Ultra ราคาเริ่มต้น 43,900 บาท

โทรศัพท์ android Samsung Galaxy S23 Ultra

ขอบคุณภาพจาก -h ttps://images.samsung.com/th/smartphones/galaxy-s23-ultra/images/galaxy-s23-ultra-highlights-online-exclusive-colors.jp g-

โทรศัพท์แอนดรอยด์ที่ดีที่สุด Samsung Galaxy S23 Ultra โทรศัพท์แอนดรอยด์ท็อปเรือธงประจำปี 2023 ดีไซน์ทันสมัยสเปคจัดเต็ม ที่มาพร้อมกับกล้องความละเอียดสูงถึง 200 MP วัสดุแข็งแรงทนทาน เหมาะกับคนที่ชอบทำกิจกรรมนอกบ้าน ด้านล่างของตัวเครื่องมีช่องเก็บ S Pen ทำให้สามารถใช้งานได้สะดวก จะวาดรูปก็ดี หรือจะตัดต่อวิดิโอก็ยังได้ ในราคาเริ่มต้นเพียง 49,100 บาท

3. Samsung Galaxy S23 | S23+ ราคาเริ่มต้น 30,900 บาท

มือถือ android Samsung Galaxy S23 | S23+

ขอบคุณภาพจาก -h ttps://images.samsung.com/is/image/samsung/assets/th/smartphones/galaxy-s23/images/galaxy-s23-highlights-kv.jp g-

โทรศัพท์แอนดรอยด์ที่มีดีไซน์โค้งมนเป็นเอกลักษณ์ เหมาะกับสาว ๆ ที่กำลังมองหามือถือแอนดรอยด์ดีไซน์น่ารักสีสันสดใส Samsung Galaxy S23 | S23+ มาพร้อมกับกล้องหลัง 3 ตัว โดยกล้องหลักมีความละเอียดสูงถึง 50MP กล้อง Ultrawide มีความละเอียด 12MP และกล้อง Telephoto มีความละเอียด 12MP หน้าจอ Dynamic AMOLED ขนาดตัวเครื่อง 6.6 นิ้ว พร้อมจอภาพแบบ Full HD+ (2340 x 1080) ในราคาเริ่มต้นเพียง 30,900 บาท

4. Samsung Galaxy Z Flip4 ราคาเริ่มต้น 26,900 บาท

โทรศัพท์แอนดรอยด์ 2023 Samsung Z Flip 4

ขอบคุณภาพจาก -h ttps://images.samsung.com/is/image/samsung/p6pim/th/sm-f721blbethl/gallery/th-galaxy-z-flip4-f721-sm-f721blbethl-53422640 2-

โทรศัพท์แอนดรอยด์พับได้สีสันสดใส ขนาดเล็กพกพาสะดวก เหมาะกับสาว ๆ ที่กำลังมองหาโทรศัพท์แอนดรอยด์ขนาดเล็ก Samsung Galaxy Z Flip4 โทรศัพท์ android จอกว้างขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ กันน้ำ มีกล้องหลังคู่ พร้อมกล้องหน้าอีกหนึ่งตัว โดยกล้องหลักมีความละเอียดสูงถึง 12 MP กล้อง Ultrawide ความละเอียด 12 MP ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 10 MP ในราคาเริ่มต้นเพียง 26,900 บาท

5. Samsung Galaxy A54 5G ราคา 13,999 บาท
มือถือ android Samsung Galaxy A54 5G

ขอบคุณภาพจาก -h ttps://images.samsung.com/is/image/samsung/p6pim/th/feature/164460296/th-feature-speed-will-take-you-further-535756211?$900*N_JPG $-

โทรศัพท์แอนดรอยด์ถูกและดี ที่ถูกวางให้เป็นโทรศัพท์เรือธงด้านดีไซน์และสีสันที่สดใส โดนใจวัยรุ่น มาพร้อมกับกล้องที่มีความคมชัดระดับ 4K พร้อมกันสั่นแบบ OSI แบตเตอรี่อึดสะใจ กันน้ำกันฝุ่น เหมาะกับสายลุยสายกิจกรรม ไม่จำเป็นต้องพกสายชาจให้เกะกะ ในราคาเริ่มต้นเพียง 13,999 บาทเท่านั้น

6. Samsung Galaxy A34 5G ราคา 11,999 บาท

มือถือแอนดรอยด์ Samsung Galaxy A34 5G

ขอบคุณภาพจาก -h ttps://images.samsung.com/is/image/samsung/assets/th/saleguide/galaxy-a34-5g/galaxy-a34-5g-part2.jp g-

โทรศัพท์แอนดรอยด์ ระดับกลางที่อัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์การใช้งานมากมาย มาพร้อมกับกล้องหลังสามตัวโดยกล้องหลักมีความละเอียดสูงถึง 48 MP ตัวเครื่องสีสันสดใสดีไซน์โค้งมน ขนาดความจุ 128 GB รองรับ 5G และ WIFI 6 พร้อมระบบสแกรนใบหน้า ในราคาเริ่มต้นเพียง 11,999 บาท เท่านั้น

7. Samsung Galaxy A14 5G ราคา 6,999 บาท

โทรศัพท์แอนดรอยด์ถูกและดี Samsung A14 5G

ขอบคุณภาพจาก
-h ttps://images.samsung.com/is/image/samsung/p6pim/th/feature/164337940/th-feature-galaxy-a14-5g-sm-a146-535153350?$FB_TYPE_K_JPG $-

โทรศัพท์แอนดรอยด์ราคาถูกที่มีฟังก์ชันการใช้งานครบครันทั้งจอภาพที่มีความคมชัดระดับ FULL HD+ ความจุเครื่อง 128 GB ความจุแบต 5000 mAh รองรับเครือข่าย 5G พร้อมกล้อง 3 ตัว ที่มีละเอียดสูงถึง 50MP Auto HDR ในราคาเริ่มต้นเพียง 6,999 บาท ใครกำลังมองหาโทรศัพท์แอนดรอยด์ราคาถูกฟังก์ชันครบครันห้ามพลาด

8. Samsung Galaxy A04s ราคา 4,699 บาท
โทรศัพท์แอนดรอยด์ถูกและดี Samsung A04s

ขอบคุณภาพจาก
-h ttps://images.samsung.com/is/image/samsung/assets/th/explore/entertainment/best-budget-phones/a04_bestbudgetphone_pc.png?$920_N_PNG $-

สำหรับท่านที่กำลังมองหาโทรศัพท์แอนดรอยด์ราคาถูก เราขอแนะนำ Samsung Galaxy A04s โทรศัพท์แอนดรอยด์ที่มาพร้อมกับสโลแกน “แบตอึดไม่มีขาดตอน” มีความจุแบตเตอรี่กว่า 5000 mAh พร้อมกล้องหลัง 3 ตัว จอกว้าง 6.5 นิ้ว ไร้ขอบ จอแสดงผลชัดระดับ HD น้ำหนักเบา ในราคาเริ่มต้นเพียง 4,999 บาท ใครมองหาโทรศัพท์แอนดรอยด์ราคาประหยัดห้ามพลาด

เปรียบเทียบโทรศัพท์แอนดรอยด์แต่ละรุ่น
หลังจากอ่านบทความมาจนถึงจุดนี้ ทุกท่านคงจะเห็นได้ว่าโทรศัพท์แอนดรอยด์แต่ละรุ่นนั้น มีความแตกต่างกันหลายด้านทั้งในด้านของราคา, สเปค, ขนาด, สีสัน, น้ำหนัก, ความจุ, ความคมชัด และอื่น ๆ บางท่านอาจเกิดความสับสนว่าควรเลือกโทรศัพท์รุ่นไหนดี แล้วโทรศัพท์ android รุ่นไหนดีสุด รุ่นไหนจะเหมาะกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคุณมากที่สุด มาดูกันในตารางเปรียบเทียบโทรศัพท์แอนดรอยด์ ตารางที่จะทำให้คุณตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น

Samsung Galaxy Z Fold4
  • จอด้านหน้า Dynamic AMOLED  ความละเอียด HD+ ขนาด 6.2 นิ้ว
  • จอหลัก Dynamic AMOLED ความละเอียด QXGA+ ขนาด 6.7 นิ้ว
  • หน่วยความจำ 256GB/512GB
  • สี Gray/Green/Phantom/Black/Beige/Burgundy
  • ราคาเริ่มต้น 44,900 บาท

Samsung Galaxy S23 Ultra
  • จอ Infinity-O Dynamic AMOLED 2X ความละเอียด QHD+ (3088 x 1440) รีเฟรชเรท 1 – 120Hz. ขนาด 6.8 นิ้ว
  • หน่วยความจำ  256GB/ 512GB/1TB
  • ความจุแบตเตอรี่ 5000 mAh
  • สี Red/Sky Blue/Lime/Graphite/Green/Phantom/Black/Lavender/Cream
  • ราคาเริ่มต้น 43,900 บาท

Samsung Galaxy S23 | S23+
  • จอความละเอียด FHD+ รองรับค่า Refresh Rate ระดับ 120Hz
  • หน้าจอของ S23 ขนาด 6.1 นิ้ว และ S23+ ขนาด 6.6 นิ้ว
  • หน่วยความจำ  128GB
  • ความจุแบตเตอรี่ 3900 mAh/4700 mAh
  • สี Lavender/Cream/Phantom Black/Green
  • ราคาเริ่มต้น 30,900 บาท

Samsung Galaxy Z Flip4
  • จอ Dynamic AMOLED 2X 24-bit (16 ล้านสี) ความละเอียด 512 x 260 พิกเซล ขนาด 6.7 นิ้ว
  • หน่วยความจำ  128GB/256GB/512GB
  • ความจุแบตเตอรี่ 3700 mAh
  • สี Pink/Blue/Gray/Purple
  • ราคาเริ่มต้น 26,900 บาท

Samsung Galaxy A54 5G
  • จอ Super AMOLED, 120Hz, Full HD+ (1080 x 2408 pixels) ขนาด 6.4 นิ้ว
  • หน่วยความจำ  128GB/256GB
  • ความจุแบตเตอรี่ 5000 mAh
  • สี Black/Light Green
  • ราคาเริ่มต้น 13,999 บาท

Samsung Galaxy A34 5G
  • จอ Super AMOLED 24-bit (16 ล้านสี) ขนาด 6.6 นิ้ว
  • หน่วยความจำ 128GB
  • ความจุแบตเตอรี่ 5000 mAh
  • สี Awesome Silver/Awesome Violet/Awesome Graphite
  • ราคาเริ่มต้น 11,999 บาท

Samsung Galaxy A14 5G
  • จอ PLS TFT LCD 6.6" 2412 x 1080 pixels 90Hz FHD+ ขนาด 6.6 นิ้ว
  • หน่วยความจำ 128 GB
  • ความจุแบตเตอรี่ 5000 mAh
  • สี Silver/Black
  • ราคาเริ่มต้น 6,999 บาท

Samsung Galaxy A04s
  • จอ LCD 24-bit (16 ล้านสี) ความละเอียด 720 x 1600 พิกเซล (270 ppi) ขนาด 6.5 นิ้ว
  • หน่วยความจำ 64 GB
  • ความจุแบตเตอรี่ 5000 mAh
  • สี Green/Black
  • ราคาเริ่มต้น 4,699 บาท

Samsung Galaxy Z Fold4
  • จอด้านหน้า Dynamic AMOLED  ความละเอียด HD+ ขนาด 6.2 นิ้ว
  • จอหลัก Dynamic AMOLED ความละเอียด QXGA+ ขนาด 6.7 นิ้ว
  • หน่วยความจำ 256GB/512GB
  • สี Gray/Green/Phantom/Black/Beige/Burgundy
  • ราคาเริ่มต้น 44,900 บาท

Samsung Galaxy S23 Ultra
  • จอ Infinity-O Dynamic AMOLED 2X ความละเอียด QHD+ (3088 x 1440) รีเฟรชเรท 1 – 120Hz. ขนาด 6.8 นิ้ว
  • หน่วยความจำ  256GB/ 512GB/1TB
  • ความจุแบตเตอรี่ 5000 mAh
  • สี Red/Sky Blue/Lime/Graphite/Green/Phantom/Black/Lavender/Cream
  • ราคาเริ่มต้น 43,900 บาท

Samsung Galaxy S23 | S23+
  • จอความละเอียด FHD+ รองรับค่า Refresh Rate ระดับ 120Hz
  • หน้าจอของ S23 ขนาด 6.1 นิ้ว และ S23+ ขนาด 6.6 นิ้ว
  • หน่วยความจำ  128GB
  • ความจุแบตเตอรี่ 3900 mAh/4700 mAh
  • สี Lavender/Cream/Phantom Black/Green
  • ราคาเริ่มต้น 30,900 บาท

Samsung Galaxy Z Flip4
  • จอ Dynamic AMOLED 2X 24-bit (16 ล้านสี) ความละเอียด 512 x 260 พิกเซล ขนาด 6.7 นิ้ว
  • หน่วยความจำ  128GB/256GB/512GB
  • ความจุแบตเตอรี่ 3700 mAh
  • สี Pink/Blue/Gray/Purple
  • ราคาเริ่มต้น 26,900 บาท

Samsung Galaxy A54 5G
  • จอ Super AMOLED, 120Hz, Full HD+ (1080 x 2408 pixels) ขนาด 6.4 นิ้ว
  • หน่วยความจำ  128GB/256GB
  • ความจุแบตเตอรี่ 5000 mAh
  • สี Black/Light Green
  • ราคาเริ่มต้น 13,999 บาท

Samsung Galaxy A34 5G
  • จอ Super AMOLED 24-bit (16 ล้านสี) ขนาด 6.6 นิ้ว
  • หน่วยความจำ 128GB
  • ความจุแบตเตอรี่ 5000 mAh
  • สี Awesome Silver/Awesome Violet/Awesome Graphite
  • ราคาเริ่มต้น 11,999 บาท

Samsung Galaxy A14 5G
  • จอ PLS TFT LCD 6.6" 2412 x 1080 pixels 90Hz FHD+ ขนาด 6.6 นิ้ว
  • หน่วยความจำ 128 GB
  • ความจุแบตเตอรี่ 5000 mAh
  • สี Silver/Black
  • ราคาเริ่มต้น 6,999 บาท

Samsung Galaxy A04s
  • จอ LCD 24-bit (16 ล้านสี) ความละเอียด 720 x 1600 พิกเซล (270 ppi) ขนาด 6.5 นิ้ว
  • หน่วยความจำ 64 GB
  • ความจุแบตเตอรี่ 5000 mAh
  • สี Green/Black
  • ราคาเริ่มต้น 4,699 บาท

ข้อดีของโทรศัพท์แอนดรอยด์
หลังจากทราบกันแล้วว่าโทรศัพท์แอนดรอยด์คืออะไร แล้วมีโทรศัพท์ android รุ่นไหนบ้างที่น่าสนใจในปี 2023 ต่อมาเราจะมีพูดถึงข้อดีและจุดเด่นของมือถือภายใต้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์กัน จะมีข้อดีด้านใดบ้างไปมาดูกัน

1.ข้อดีในเรื่องของแอปพลิเคชัน: โทรศัพท์แอนดรอยด์สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันที่ไม่ได้อยู่ใน Google Play Store ได้ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถใช้งานแอปพลิเคชันได้หลากหลาย และดาวน์โหลดแอปพลิเคชันจากภายนอกได้อย่างไม่จำกัด
2.ข้อดีในเรื่องของฟังก์ชันการใช้งาน: เนื่องจากระบบปฏิบัติการของโทรศัพท์แอนดรอยด์เป็นแบบเปิด ทำให้ผู้ใช้งานสามารถออกแบบฟังก์ชันการใช้งานได้ตามความต้องการของตัวเอง
3.ข้อดีในเรื่องของการอัปเดตระบบปฏิบัติการ:โทรศัพท์แอนดรอยด์ไม่จำเป็นต้องอัปเดตระบบปฏิบัติทำให้ผู้ใช้งานโทรศัพท์แอนดรอยด์สามารถใช้งาน Smart phone ได้แบบไม่สะดุด ไม่จำเป็นต้องมานั่งอัปเดตระบบปฏิบัติการเองให้เสียเวลา เพราะระบบแอนดรอยด์มีการอัปเดตเองแบบอัตโนมัติ
4.ข้อดีในเรื่องของ Multitasking: โทรศัพท์แอนดรอยด์สามารถใช้งานได้แบบ Full Multitask ทำให้ผู้ใช้งานสามารถใช้งานแอปพลิเคชันมากกว่า 2 แอปพลิเคชันได้ในเวลาเดียวกัน เป็นจุดเด่นที่จะทำให้ชีวิตการทำงานหรือการเรียนของคุณง่ายกว่าที่เคย

สรุปวิธีการเลือกซื้อโทรศัพท์แอนดรอยด์
หลังจากอ่านบทความนี้จนจบเราจะเห็นได้ว่า โทรศัพท์แอนดรอยด์เป็นโทรศัพท์มือถือที่มีจุดเด่นในเรื่องของการใช้งานที่ทั้งง่ายและหลากหลาย เหมาะกับท่านที่กำลังมองหา Smart phone ที่มีฟังก์ชันการใช้งานแบบไม่จำกัดกรอบความคิด ซึ่งโทรศัพท์แอนดรอยด์แต่ละรุ่นนั้น ก็มีจุดเด่นและราคาที่แตกต่างกันออกไป เพื่อที่จะตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานที่แตกต่างกัน ทำให้ทุกท่านสามารถเลือกซื้อโทรศัพท์แอนดรอยด์ได้ตามความชอบและไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตประจำวัน

126
ฉีด PRP

สำหรับปัญหาที่เกี่ยวกับเส้นผมและหนังศีรษะของแต่ละคนนั้นจะมีปัญหาที่เหมือน ๆ กัน เช่น ผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน ปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นได้หลายปัจจัย การรักษาปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน แบบวิธีรักษาธรรมชาติ และกำลังเป็นที่นิยมอยู่ ณ ตอนนี้ก็คือ ฉีด PRP ซึ่งเป็นนวัตกรรมในรูปแบบใหม่ที่ได้รับความนิยมในการรักษาที่เกี่ยวกับเส้นผม และหนังศีรษะ ไม่เจ็บตัว และไม่ต้องผ่าตัด  ฉีด PRP ผม การนำเอาเลือดของตัวเองออกมา 10 มิลลิลิตร หลังจากนั้นมาปั่นกับเครื่องปั่น เพื่อแยกส่วนของเกล็ดเลือดอก เกล็ดเลือดที่ได้จะเข้มข้น อุดมไปด้วยสารอาหารที่เรียกว่า Growth factor ที่ช่วยในเรื่องของการชะลอผมหลุดร่วง กระตุ้นเส้นผมให้งอกขึ้นมาใหม่ และทำให้ผมแข็งแรงขึ้นมากขึ้น  ฉีด PRP หรือฉีดเกล็ดเลือดหน้าใสได้อีกเหมือนกัน

ในบทความนี้ทางเราได้รวบรวมข้อมูลที่มีความเกี่ยวข้องกับฉีด PRP ขั้นตอนฉีด PRP แต่ละขั้นตอนมีอะไรบ้าง หรือฉีด PRP เหมาะสมกับใคร เห็นผลจริงหรือไม่? เมื่อฉีด PRP เข้าไป

1.เตรียมตัวก่อนรักษาฉีด PRP ผม

ฉีด PRP

ขั้นตอนนี้เป็นส่วนสำคัญอย่างมากกับคนไข้ที่ต้องการรักษาปัญหาเกี่ยวกับเส้นผม ที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นผมร่วง ผมบาง ผมเป็นหย่อม แลัศีรษะล้าน หากคนไข้มีการเตรียมตัวมาดี จึงจะทำให้ประสิทธิภาพฉีด PRP เห็นผลมาขึ้น สิ่งที่ควรเตรียมตัวก่อนรักษาด้วยวิธีฉีด PRP ผม มีดังนี้

  • คนไข้ควรเตรียมความพร้อมของร่างกาย ควรนอนพักผ่อนให้เพียงพออย่างนอนวันละ 8 ชั่วโมงต่อวัน เพราะจะทำให้เกล็ดเลือดได้คุณภาพ
  • คนไข้ควรดื่มน้ำเปล่าให้ได้วันละ 1.5 - 2 ลิตรต่อวัน และพอถึงวันที่ต้องฉีด PRP ค่อย ๆ ดื่มให้ครบ 1.5 - 2 ลิตรเหมือนกัน
  • คนไข้จำเป็นต้องงดการรับประทานอาหารจำพวก ของมัน ของทอด ของหมัก ของดอง และอาหารที่มีไขมันสูง
  • ก่อนฉีด PRPคนไข้ควรงดดื่มเครื่องที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เครื่องที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน เช่นเหล้า เบียร์ ชา กาแฟ และงดสูบบุหรี่ ควรงดอย่างน้อยประมาณ 1 เดือน
  • คนไข้ควรงดรับประทานอาหารเสริม หรือวิตามินต่าง ๆ เช่น โสม น้ำมันตับปลา แปะก๊วย ถั่งเช่า หอยนางรม สมุนไพรอื่น ๆ วิตามินอี และวิตามินบี
  • คนไข้ที่รับประทานยาจำพวกยาต้านการอักเสบ หรือยาละลายลิ่มเลือด และยาที่อาจจะมีผลต่อการไหลของเลือด ควรงดรับประทานยาที่กล่าวมาข้างต้นก่อนฉีด PRPอย่างน้อยประมาณ 2- 3 วัน
  • คนไข้ควรทำความสะอาดเส้นผม หรือหนังศีรษะก่อนฉีด PRP เช่น สระผม แต่ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับบำรุงเส้นผม และผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผม เช่น เจล น้ำมันแต่งผม โพเมด และสเปรย์ฉีดผม
  • วันที่ฉีด PRP คนไข้ไม่จำเป็นต้องงดประทานอาหาร สามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติ

2.พูดคุยสอบถามกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

ฉีด PRP

ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนแรกที่คนไข้จำเป็นต้องพูดคุยกับแพทย์ ทางแพทย์จะสอบถามถึงปัญหาอาการผมร่วง ผมบาง หน้าผากกว่า ศีรษะล้าน และอื่น ๆ  ที่เกิดขึ้นกับคนไข้เกิดจากสาเหตุอะไร เช่น กรรมพันธุ์ โรคประจำตัว หรือมีภาวะความเครียดสะสม และแพทย์จะแนะนำขั้นตอนการรักษาฉีด PRP อย่างละเอียดในแต่ละขั้นตอน

3.เจาะเอาเลือดของคนไข้

ฉีด PRP

ขั้นตอนนี้เมื่อเข้ารับการรักษาฉีด PRPทางแพทย์จะเริ่มฉีดยาชาที่ตรงบริเวณต้นแขน เมื่อยาชาที่ฉีดเข้าไปเริ่มออกฤทธิ์ ทางแพทย์จะเริ่มเจาะเลือดตรงบริเวณต้นแขนของคนไข้อีกครั้ง และจะนำเอาเลือดออกมาประมาณ 10 - 20 มิลลิลิตร ใส่ในขวดภาชนะที่เก็บเลือด หลังจากนั้นเอาเลือดมาใส่ในภาชนะที่เก็บเลือดแล้ว ถัดไปจะนำมาใส่ในเครื่องเหวี่ยงสาร เพื่อปั่นคัดแยกเกล็ดเลือด หรือที่เรียกกันว่า PRP ซึ่งจะได้เป็นเกล็ดเลือดที่มีความเข้มข้นสูง และมีประสิทธิภาพ

4.เริ่มรักษาโดยการฉีด PRP

ฉีด PRP

เมื่อแพทย์ได้เกล็ดเลือดที่มีความเข้มข้นสูง และมีประสิทธิภาพที่สามารถรักษาเพื่อกระตุ้นเซลล์รากผม และสามารถฟื้นฟูการทำงานของเซลล์ต่างๆ บริเวณรากผมได้แล้ว ทางแพทย์จะเริ่มทำความสะอาดตรงบริเวณที่คนไข้ต้องการ หลังจากนั้นทางแพทย์จะเริ่มฉีดยาชาอีกครั้งตรงที่ทำความสะอาด เมื่อยาชาเริ่มออกฤทธิ์ แพทย์จะนำเอาเกล็ดเลือด หรือ PRP  ฉีดเข้าไปที่หนังศีรษะของคนไข้ในปริมาณ 1 มิลลิลิตรต่อตารางเซนติเมตร ใช้เข็มขนาดเบอร์ 32 ฉีดด้วยความลึก 1.5 - 4 มิลลิเมตร พร้อมกับใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อลดอาการปวด เช่น น้ำแข็ง เครื่องสั่นลดปวด ร่วมกัน เมื่อแพทย์ฉีด PRP ให้กับคนไข้เสร็จเป็นที่เรียบร้อย ทางแพทย์จะฉายเลเซอร์ด้วยความเข้มข้นต่ำอีกประมาณ 20 นาทีให้กับคนไข้ เพื่อช่วยกระตุ้นฟื้นฟูการทำงานของเซลล์รากผมให้สร้างผมขึ้นมาใหม่ ช่วยบำรุงเส้นผม และหนังศีรษะ เมื่อถึงขั้นตอนนี้ถือว่าเป็นขั้นตอนรักษาสุดท้าย

5.ข้อควรปฏิบัติตัวหลังจากฉีด PRP

ฉีด PRP

หลังฉีด PRP ผม ทางแพทย์จะแนะนำข้อควรปฏิบัติ และการดูแลเส้นผมให้กับคนไข้อย่างละเอียด มีดังนี้

  • คนไข้จำเป็นต้องงดทำความสะอาดบนเส้นผม เช่น สระผม และห้ามใช้ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับเส้นผม เช่น ครีมนวดผม เจล น้ำมันแต่งผม โพเมด และสเปรย์ฉีดผม เป็นอันเด็ดขาดเพราะอาจจะทำให้การฉีด PRP ไม่มีประสิทธิภาพ และอาจจะไม่สามารถกระตุ้นฟื้นฟูเซลล์รากผมได้
  • คนไข้ควรงดดื่มเครื่องที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เครื่องที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน เช่นเหล้า เบียร์ ชา กาแฟ และงดสูบบุหรี่ หลังฉีด PRP ผม โดยประมาณ 1 วัน เพราะไม่ฉะนั้นจะส่งผลกระทบการทำงานของเกล็ดเลือด
  • คนไข้ที่รับประทานยาจำพวกยาต้านการอักเสบ หรือยาละลายลิ่มเลือด และยาที่อาจจะมีผลต่อการไหลของเลือด หลังฉีด PRP ผม ยังคงต้องงดประทานยาโดยประมาณอีก 2 - 3 วัน เพื่อให้เกล็ดเลือดได้ทำงานอย่างปกติ
  • หลังฉีด PRP ผม 2- 3 วัน คนไข้มีความจำเป็นที่จะต้องสระผม คนไข้สามารถสระผมได้ แต่ควรใช้ยาสระผมที่มีสูตรอ่อนโยนกับเส้นผม หนังศีรษะ หรือใช้ยาสระผมที่แพทย์ได้แนะนำให้ ในขณะที่สระผมคนไข้ห้ามถู หรือขยี้ตรงเส้นผม กับหนังศีรษะแรงจนเกินไป หรือตรงบริเวณที่จะฉีดเกล็ดเลือด
  • ถ้าหากคนไข้มีอาการบวมช้ำตรงบริเวณศีรษะ หรือใบหน้า คนไข้สามารถประคบเย็นเพื่อช่วยลดอาการบวมช้ำได้ หรืออาจจะนอนให้ศีรษะอยู่สูงกว่าปลายทาง อาการบวมจะลดลงภายใน 2 วัน ในส่วนของรอยช้ำจะลดลงภายใน 14 วัน ขึ้นอยู่ตัวบุคคล
  • หลังฉีด PRP ผม คนไข้ห้ามโดนแสงแดดโดยเด็ดขาด เพราะอาจจะทำให้การทำงานของเกล็ดเลือดไม่มีประสิทธิภาพ และไม่สามารถฟื้นฟูให้เส้นผมที่งอกขึ้นมาใหม่มีสภาพที่แข็งแรง

ฉีด PRP เหมาะสมกับใครบ้าง? และไม่เหมาะสมกับใคร?
ฉีด PRP เหมาะสมกับคนไข้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับเส้นผม เช่น เส้นผมไม่แข็ง ผมร่วงง่าย ผมบาง และศีรษะที่ยังมีเซลล์รากผมอยู่ รวมถึงคนไข้ที่ต้องการรักษาโดยไม่ต้องผ่าตัด และไม่ต้องการนอนพักฟื้นตัวเป็นเวลานาน ๆ
การฉีดเกล็ดเลือด หรือ PRP จึงเหมาะสมเพราะจะช่วยกระตุ้นฟื้นฟูเซลล์รากผมที่กำลังงอกขึ้นมาใหม่ให้เส้นผมมีสภาพที่แข็งแรงมากขึ้น

ฉีด PRP ข้อเสีย ไม่สามารถรักษาคนไข้ที่เป็นโรคมะเร็ง ติดเชื้อ คนไข้ที่มีโรคผิวหนังบางประเภท คนไข้ที่มีปัญหาหนังศีรษะที่ไม่มีรากผม เนื่องจากอาจจะทำให้มองไม่เห็นรูขุมขน และคนไข้ที่เป็นโรคโลหิตจาง

ฉีด PRP เห็นผลจริงหรือไม่?
ฉีด PRP เป็นการรักษาในรูปแบบวิธีธรรมชาติ ด้วยนวัตกรรมแบบใหม่ ซึ่งจำเป็นอย่างมากที่จะต้องเข้ารับการรักษาฉีดเกล็ดเลือดอย่างต่อเนื่องกันประมาณ 3 - 10 ครั้ง และควรพบแพทย์ติดต่อกัน 2 - 3 เดือน หลังจากนั้นคนไข้จะเริ่มเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงบนศีรษะมีเส้นผมที่งอกขึ้นมาใหม่หนามากขึ้น และมีเส้นผมที่แข็งแรง

บทสรุปฉีด PRP
วิธีการรักษาอาการผมร่วง ผมบาง ผมอ่อนแอด้วยวิธีฉีด PRP เป็นวิธีที่รักษาโดยใช้สาร หรือเกล็ดเลือดที่มาจากตัวเอง จึงเป็นข้อดีที่ไม่ส่งผลให้เกิดผลกระทบกับคนไข้ เช่น อาการแพ้ หรือติดเชื้อ อีกทั้งข้อดีฉีด PRP ไม่ต้องเข้ารับการผ่าตัด ไม่ต้องใช้ระยะเวลาพักฟื้น สามารถใช้ชีวิต หรือทำงานได้อย่างปกติ แต่การฉีด PRP ราคาที่ค่อนข้างสูง ควรปรึกษาขอคำแนะนำกับแพทย์ก่อนตัดสินใจเข้ารับการรักษา

127
รับทำ Sale Page

การทำธุรกิจออนไลน์นับว่าตอบโจทย์เป็นอย่างยิ่งกับยุคสมัยในปัจจุบัน อีกทั้งการสร้างหน้าเว็บไซต์ให้มีฟังก์ชันที่ครบถ้วน สะดวกและใช้งานง่าย จะช่วยเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจของคุณได้ โดยคุณสามารถปรับหน้าเว็บไซต์ให้เป็นหน้า Sale page เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขายของออนไลน์ แต่หากคุณไม่มีความรู้ในการปรับแต่งหน้าเว็บไซต์ สามารถใช้บริการรับทำ Sale Page จากบริษัทต่าง ๆ ได้ เป็นการออกแบบหน้า Sale Pageที่สะดวก มีฟังก์ชันที่ครบถ้วน ใช้งานง่าย ผู้บริโภคสามารถเข้าใจรายละเอียดสินค้าและกดสั่งซื้อสินค้าของคุณได้ภายในหน้าเดียว

สำหรับบทความนี้เราจะไปทำความรู้จักกับการสร้าง Sale apge คืออะไร มีประโยชน์ในด้านใดบ้าง เหตุผลที่เจ้าของธุรกิจออนไลน์หลายคนเลือกใช้บริการรับทำ Sale page คืออะไร สำหรับวันนี้เราได้รวมข้อมูลต่าง ๆ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อเจ้าของธุรกิจออนไลน์หลาย ๆ ท่าน และผู้ที่สนใจเกี่ยวกับการทำ Sale page

Sale Page คืออะไร ทำไมคนทำธุรกิจออนไลน์ต้องรู้จัก
บริการรับทำ Sale page มีความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากการสร้าง Sale page เป็นเครื่องมือสำหรับการขายของออนไลน์ โดยการนำเสนอหน้าเว็บไซต์เพียงหน้าเดียวในการแสดงข้อมูลที่สำคัญ ๆ ของสินค้าและบริการ อย่างเช่น รายละเอียดสินค้าและบริการ รูปภาพ ข้อความ ราคา รวมไปถึงโปรโมชันต่าง ๆ เป็นต้น ซึ่งการทำ Sale page จะมีข้อดีที่เป็นจุดเด่นก็คือ ช่วยปิดการขายและสร้างยอดขายให้กับธุรกิจของคุณได้

การสร้างหน้า Sale page เหมาะกับการตลาดออนไลน์ของผู้บริโภคในยุคปัจจุบันเป็นอย่างยิ่ง ด้วยการรายงานข้อมูลอย่างละเอียดที่สามารถเห็นได้ภายในเว็บไซต์หน้าเดียว มีความกระชับ เข้าใจง่าย ซึ่งเหมาะกับนิสัยของผู้บริโภคในปัจจุบันที่ไม่ชอบอ่านอะไรที่ยาวจนเกินไป หรือต้องคลิกไปหลาย ๆ หน้า และยังสะดวกต่อการเปิดใช้งานบนโทรศัพท์มือถืออีกด้วย 

นอกจากนี้การทำหน้า Slae page หรือการเลือกใช้บริการรับทำ Sale page จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจออนไลน์ของคุณได้อีกด้วย ลูกค้ากล้าที่จะซื้อและตัดสินใจซื้อสินค้าของคุณได้อย่างง่ายดาย หากมีรีวิวต่าง ๆ ก็สามารถนำมาแสดงให้กับลูกค้าใหม่ ๆ ให้เห็นได้ด้วยเช่นกัน

ธุรกิจแบบไหน เหมาะที่จะทำ Sale Page

ธุรกิจแบบไหน เหมาะที่จะทำ Sale Page

บริการรับทำ Sale page ที่จะช่วยปิดการขายได้อย่างรวดเร็ว และเป็นการเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจของคุณได้ โดยการสร้าง Sale page จะเหมาะกับธุรกิจบนโลกออนไลน์ทุกประเภท  ดังต่อไปนี้

  • การทำ Sale page หรือบริการรับทำ Sale page จะเหมาะกับการทำธุรกิจออนไลน์ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นสินค้าหรือบริการใดก็ตาม หากมีเว็บไซต์ก็สามารถทำ Sale page ได้ เพื่อเป็นการกระตุ้นยอดขายให้กับธุรกิจของคุณ
  • การทำ Sale page เหมาะกับธุรกิจประเภทโรงแรม รีสอร์ต หรือที่พักต่าง ๆ ที่ต้องแสดงรายละเอียดทั้งรูปภาพ รีวิว ข้อมูลต่าง ๆ ที่สำคัญต่อลูกค้า ทำให้การสร้างเว็บไซต์ หรือการทำ Sale page จะใช้งานได้สะดวกกว่าบนแพลตฟอร์มออนไลน์อื่น ๆ
  • การทำ Sale page จะเหมาะกับการทำธุรกิจที่ให้บริการทางการตลาด (Marketing Services) เช่น บริการโฆษณา ,การตลาดออนไลน์ ,การออกแบบกราฟิก หรือบริการทางดิจิทัลอื่น ๆ ก็สามารถใช้ Sale Page เพื่อโปรโมตและขายสินค้าหรือบริการของตนได้เช่นกัน
  • บริการรับทำ Sale page จะเหมาะกับผู้ที่ไม่มีความรู้ในการสร้างหน้า Sale page เป็นของตนเอง โดยคุณสามารถเลือกใช้บริการกับ บริษัทที่รับทำ Sale Pageได้ พร้อมการตกแต่งหน้าเว็บไซต์ให้ดูสวยงาม ดึงดูดผู้บริโภคมากขึ้น อีกทั้งมีฟังก์ชันการทำงานต่าง ๆ ที่ครบถ้วน สะดวกต่อการใช้งานของลูกค้า
  • การทำ Sale page เหมาะกับเจ้าของธุรกิจที่มีการขายของบนแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ อย่างเช่น  Facebook ,TikTok ,Instagram แต่รู้สึกว่าไม่เพียงพอ จึงต้องการสร้างเว็บไซต์ที่เน้นในเรื่องของการโปรโมตสินค้า เพิ่มยอดขาย หรือต้องการปิดการขายสินค้าให้รวดเร็วขึ้น

Sale Page กับหน้าเว็บไซต์ทั่วไป ต่างกันอย่างไร
หลาย ๆ คนอาจรู้จักกับเว็บไซต์กันเป็นอย่างดีว่ามันคืออะไร หน้าตาเป็นแบบไหน และสามารถใช้งานได้อย่างไร แต่พอ Sale page เข้ามาอาจทำให้หลายคนสงสัยว่า มันแตกต่างจากหน้าเว็บไซต์ปกติอย่างไร ซึ่งจริง ๆ แล้วหน้า Sale page ก็คือหน้าเว็บไซต์เเบบหนึ่ง ที่ออกแบบให้เน้นในเรื่องของการขายสินค้าและบริการ มีการตกแต่งที่สวยงาม ดึงดูดลูกค้ามากขึ้น ฟังก์ชันต่าง ๆ ที่ครบถ้วน พร้อมให้ลูกค้าเลือกและซื้อบริการภายในหน้าเดียวได้เลย

ในขณะเดียวกันหน้าเว็บไซต์ทั่วไป หรือ Home page จะมีข้อมูลหรือเนื้อหาที่ค่อนข้างเยอะ จำเป็นต้องมีหลาย ๆ หน้า ทำให้ลูกค้าต้องเสียเวลาเลื่อนหาข้อมูลต่าง ๆ  รวมไปถึงขั้นตอนที่กว่าจะสั่งซื้อสินค้าได้ในแต่ละทีก็ยุ่งยากเกินไป ซึ่งนั้นอาจทำให้ลูกค้ากดออกจากหน้าเว็บไซต์ของคุณก็เป็นได้ ทำให้การสร้าง Sale page หรือบริการรับทำ Sale page เข้ามามีบทบาทในการเพิ่มความสะดวกในการสั่งซื้อสินค้าบนเว็บไซต์ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น จึงทำให้เป็นที่นิยมสำหรับเจ้าของธุรกิจหลายท่าน

บริการรับทำ Sale Page เคล็ด(ไม่)ลับ ดันยอดขายในเวลาอันสั้น

Sale Page

เนื่องจากประโยชน์ของการทำ Sale page นั้นมีจุดเด่นในเรื่องของการกระตุ้นยอดขาย ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการทำให้ธุรกิจของคุณดำเนินต่อไปได้อย่างราบรื่น เจ้าของธุรกิจหลายท่ายจึงเลือกใช้บริการรับทำ Sale page เพื่อสร้างหน้าเว็บไซต์ที่เหมาะกับการขายของออนไลน์ในยุคปัจจุบัน โดยข้อดีของการสร้าง Sale page มีดังต่อไปนี้

1.เว็บไซต์เข้าใจง่าย ใส่รายละเอียดสินค้าได้ครบ
ในการสร้าง Sale page คุณสามารถที่จะนำเสนอรายละเอียดหรือข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าและบริการของคุณได้อย่างครบถ้วนภายในหน้าเดียว ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลการใช้งาน รูปภาพ ราคา รีวิว ช่องทางการซื้อ ช่องทางการจ่ายเงิน หรือช่องทางการติดต่อต่าง ๆ โดยข้อมูลทั้งหมดจะปรับแต่งให้เข้าใจได้ง่าย มีการใช้งานที่ง่าย เพิ่มประสบการณ์ที่ดีต่อลูกค้า และสามารถสร้างยอดขายให้กับธุรกิจของคุณได้

2.เพิ่มโอกาสในการปิดการขายได้รวดเร็ว
การทำ Sale page หรือการใช้บริการรับทำ Sale page จะช่วยปิดการขายให้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น เนื่องจากลูกค้าสามารถเห็นและเข้าใจข้อมูลต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจนภายในหน้าเดียว โดยที่ลูกค้าไปจำเป็นต้องเลื่อนไปหลาย ๆ หน้า เพื่อทำการสั่งซื้อหรือทำความเข้าใจกับสินค้าและบริการ จึงทำให้การสร้าง Sale page จะช่วยเพิ่มโอกาสที่ลูกค้าจะกดสั่งซื้อสินค้าของคุณให้รวดเร็วมากขึ้นได้

3.Sale Page ปรับแต่งง่าย ทำได้ด้วยตัวเอง
หน้า Sale page เป็นหน้าเว็บไซต์หนึ่งที่ต้องมีการตกแต่งให้สวยงาม มีความเหมาะสม สีสันที่มีความพอดีไม่มากจนเกินไป และไม่จืดชืดจนเกินไป เพื่อเป็นการสร้างความสนใจของลูกค้าได้ โดยคุณสามารถปรับหน้าเว็บไซต์ได้เอง แต่หากคุณไม่มั่นใจในการปรับแต่งรายละเอียดต่าง ๆ ก็สามารถเลือกใช้บริการรับทำ Sale page ได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งบริษัทรับทำ Sale Pageจะช่วยคุณออกแบบหน้าเว็บไซต์ เลือกสีที่เข้ากัน มีการคุมโทน การออกแบบกราฟิกที่จะช่วยสะดุดตาของลูกค้าได้ เป็นต้น

4.ราคาถูกกว่าเว็บไซต์รูปแบบอื่น ๆ
การทำ Sale page จะมีราคาที่ถูกกว่าการทำหน้าเว็บไซต์ในรูปแบบอื่น ๆ แต่สามารถให้คุณได้ใช้ฟังก์ชันที่ครบถ้วนได้ภายในหน้าเดียว แต่หากต้องการให้หน้า Sale page ของคุณมี Option เยอะมากขึ้นก็สามารถทำได้เช่นกัน เพียงแต่คุณก็ต้องเพิ่มงบประมาณในการทำเข้าไปด้วย

5.นำไปใช้ทำการตลาดรูปแบบอื่น ๆ ได้
อีกจุดเด่นหนึ่งของการทำ Sale page คือสามารถนำไปโปรโมตบนการตลาดในรูปแบบอื่นๆ ได้ โดยการแชร์ Link ไปยังช่องทางการขายอื่น ๆ  อย่างเช่น  Google, Facebook, หรือเว็บไซต์หลัก ฯลฯ เพื่อเป็นการบอกต่อ และสามารถเพิ่มกลุ่มลูกค้าให้มากขึ้นได้

รับทำ Sale Page คุณภาพโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการทำเว็บไซต์ Markety
ในการทำ Sale page หากคุณไม่มีความรู้หรือสร้าง Sale page ไม่เป็นก็สามารถเลือกใช้บริการรับทำ Sale page ได้จากบริษัทที่เปิดให้บริการ แต่คำถามคือเราควรเลือกทำ Sale Page กับเจ้าไหนดี เนื่องจากการทำ Sale page ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก จึงทำให้มีหลายบริษัทเปิดให้บริการในด้านนี้ ซึ่งวันนี้เราได้เลือกบริษัท Markety เป็นบริษัทรับทำ Sale page อันดับหนึ่งที่จะมาช่วยเพิ่มความโดดเด่นให้กับธุรกิจของคุณ เพื่อให้เหนือกว่าคู่แข่งในตลาด โดยทาง Markety จะช่วยสร้างเว็บไซต์ของคุณให้มีเอกลักษณ์และมีประสิทธิภาพในการขายของออนไลน์มากยิ่งขึ้น

สำหรับจุดเด่นของบริการรับทำ Sale page จากทาง Markety มีดังนี้

  • รองรับการขายสินค้าทุกช่องทางภายในหน้าเดียว
  • สามารถใช้งานได้ทุกอุปกรณ์ไม่ว่าจะเป็น โทรศัพท์ แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์
  • รองรับการทำ SEO ,SEM
  • รองรับการชำระเงินทุกช่องทางไม่ว่าจะเป็นเงินโอน บัตรเครดิต หรือการเก็บเงินปลายทาง
  • มีปุ่มที่ Link ไปยังแพลตฟอร์มต่าง ๆ ได้ โดยที่ลูกค้าไม่ต้องออกหรือเข้าหน้าเว็บหลาย ๆ รอบ
  • มีระบบ Upsell เพื่อเพิ่มยอดขาย
  • มีระบบแจ้งเตือนทุกออเดอร์ผ่านทาง Line
  • การใช้งานเว็บไซต์มีความเสถียร โหลดเร็ว ไม่ต้องรอนาน

จุดเด่นของบริการรับทำ Sale page จาก Markety ยังมีอีกมากมายที่จะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจของคุณ หากคุณสนใจสามารถติดต่อได้กับทางบริษัท Markety ได้ที่ เว็บไซต์ เบอร์โทร 02-002-9322 (ฝ่ายบริการลูกค้า) 084-509-5545 (ฝ่ายขาย) 061-924-7449 (ฝ่ายขาย) หรือ E-mail : -markety.thailand@ gmail.com-

คำถามที่พบบ่อยการรับทำ Landing page
คำถามที่พบได้บ่อยเกี่ยวกับบริการรับทำ Sale page

บริการรับทำ Sale Page การันตียอดขายได้จริงไหม
สำหรับบริการรับทำ Sale page จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขายของออนไลน์ได้ โดยทำให้ลูกค้าเข้าใจสินค้าและบริการของคุณได้อย่างชัดเจน ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าซื้อสินค้าและบริการของคุณ แต่ยอดขายนั้นก็จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยไม่ว่าจะเป็นคุณภาพของสินค้าและบริการ ความต้องการของตลาดในปัจจุบัน รวมไปถึงราคาที่จะต้องสมเหตุสมผลกับราคาสินค้าของคุณอีกด้วย ทำให้การสร้าง Sale page อาจไม่ได้เป็นตัวเลือกเดียวที่จะทำให้คุณสามารถสร้างยอดขายได้อย่างถล่มทลาย แต่จำเป็นต้องมีปัจจัยอื่น ๆ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเช่นกัน

ทำ Sale Page เองได้ไหม จำเป็นต้องจ้างเสมอไปหรือเปล่า
ในการทำ Sale page คุณสามารถทำเองได้ แต่การเลือกใช้บริการรับทำ Sale page จะแตกต่างจากกัน โดยที่การออกแบบหน้าเว็บไซต์ การจัดการกับองค์ประกอบต่าง ๆ ทางบริษัทจะมีการตกแต่งหน้าเว็บไซต์ที่สวยงาม และเหมาะกับประเภทของธุรกิจคุณ อีกทั้งฟังก์ชันต่าง ๆ ก็ครบถ้วน เหมาะกับการใช้งานของลูกค้าในยุคปัจจุบัน ซึ่งการจ้างผู้เชี่ยวชาญนั้น จะทำให้เว็บไซต์ของคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้นไปกว่าเดิม
 

128
ทาวน์โฮมบางนา

บางนา หนึ่งในย่านทำเลทองที่ได้ได้รับความสนใจทั้งจากผู้คนทั่วไปรวมถึงนักอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ในปัจจุบันมีโครงการคอนโด บ้านเดี่ยว บ้านทาวน์เฮ้าส์ บ้านทาวน์โฮมบางนาเพิ่มขึ้นมากมาย เพราะมีสิ่งอำนวยความสะดวกครอบคลุม เข้าถึงการคมนาคมขนส่งสาธารณะ ทั้งยังสามารถใช้ถนนภายในย่านหลายสาย และมีทางพิเศษที่ช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้ชีวิตเดินทางเข้าออกย่านได้สบาย ๆ

ทาวน์โฮมบางนา บ้านทำเลดีที่มีผู้สนใจอยู่มาก

หากพูดถึงความน่าสนใจของบ้านทาวน์โฮมบางนา จุดเด่นที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลย คือ ทำเลที่ตั้ง เพราะทาวน์โฮมบางนาส่วนมากตั้งอยู่ในบริเวณที่มีถนนเส้นสำคัญเข้าถึงหลายสายด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นถนนสุขุมวิท, ถนนอุดมสุข, ถนนบางนา-ตราด, ถนนศรีนครินทร์ และถนนอื่น ๆ มีทางพิเศษเฉลิมมหานคร, ทางพิเศษบางนา-อาจณรงค์ และทางพิเศษบูรพาวิถี ทำให้ทุกช่วงเวลาในการเดินทางภายในย่านสะดวกสบายถึงขีดสุด

สำหรับผู้ที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว ทาวน์โฮมแถวบางนาก็จะมีรถไฟฟ้าเข้าถึง และยังมีรถโดยสารประจำทางเคลื่อนผ่านตลอดทั้งวัน ทำให้เดินทางไปยังแหล่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล โรงเรียนหรือสถานที่อื่น ๆ ได้ไม่ยากในราคาไม่สูงมาก เป็นเหตุที่ทำให้ย่านบางนาเป็นที่ได้รับความสนใจ และมีบ้านต่าง ๆ รวมถึงบ้านทาวน์โฮมบางนาสร้างขึ้นจำนวนมาก

เลือกทาวน์โฮมบางนาอย่างไรให้ถูกใจพร้อมอยู่ระยะยาว?

ไม่ว่าจะมีแพลนซื้อบ้านสำหรับอยู่อาศัยในทำเลไหนก็จำเป็นต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วนเพื่อให้คุ้มค่ากับค่าใช้จ่ายในการซื้อบ้านมากที่สุด สำหรับการเลือกซื้อบ้านทาวน์โฮมบางนาเองก็มีเกณฑ์ที่ควรนำมาพิจารณา ดังนี้

  • งบประมาณ
เป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ ในการเลือกซื้อทาวน์โฮม โดยการเลือกซื้อบ้านนั้นจะต้องคำนึงถึงความสามารถในการชำระเงิน ในกรณีที่มีงบไม่สูงมากก็อาจจะพิจารณาเลือกซื้อทาวน์โฮมบางนาในราคาที่ไม่สูงมากเพื่อสามารถชำระเงินผ่อนได้อย่างไรปัญหา

  • ทำเลที่ตั้ง
ถึงแม้ว่าจะต้องการซื้อทาวน์โฮมแถวบางนา แต่บางนาเป็นย่านขนาดใหญ่ที่มีหลายโซนให้เลือกอยู่อาศัย ดังนั้นก่อนซื้อบ้านจะต้องตรวจสอบย่านที่ต้องการอยู่อาศัยเพื่อให้ได้ทำเลบ้านตรงกับที่ต้องการมากที่สุด

  • คุณสมบัติบ้าน
การเลือกซื้อบ้านนั้นจะต้องพิจารณาถึงขนาดพื้นที่ด้วย หากอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ การเลือกซื้อทาวน์โฮม 3 ชั้นในย่านบางนาก็จะทำให้ได้พื้นที่ใช้สอยในบ้านเพิ่มขึ้น

ใครบ้างที่เหมาะกับทาวน์โฮมบางนา?

ทาวน์โฮมบางนาอยู่ในทำเลที่ห่างจากย่านใจกลางเมืองเล็กน้อย แต่ก็มีการเดินทางที่สามารถเข้าออกนอกย่านได้สบาย ทั้งยังมีห้างสรรพสินค้าที่มีชื่อเสียงต่าง ๆ มากมาย เช่น ซีคอนสแควร์ เมกาบางนา มีโรงพยาบาลและโรงเรียนคอยพร้อมให้บริการผู้คนในย่านและผู้สัญจรได้เป็นอย่างดี ทาวน์โฮมบางนาจึงเหมาะกับผู้อยู่อาศัยทุกกลุ่ม ดังนี้

  • ผู้ที่อยู่อาศัยเป็นครอบครัวขนาดเล็ก กลาง ใหญ่
  • ผู้ที่ไม่ชอบความแออัดอย่างย่านใจกลางเมือง
  • ผู้ที่ต้องการซื้อบ้านทาวน์โฮมบางนาในราคาที่ไม่สูงมาก แต่ได้พื้นที่ใช้สอยกว้าง
  • ผู้ที่ต้องการอยู่บ้านทาวน์โฮมบางนาตราดหรือโซนอื่น ๆ ในย่านที่เข้าถึงขนส่งสาธารณะ

โครงการทาวน์โฮมบางนา น่าแนะนำจาก SC Asset

สำหรับผู้ที่กำลังมองหาโครงการบ้านแถวบางนาที่น่าสนใจก็จะมีโครงการจากทาง SC Asset ที่การันตีบ้านที่โมเดิร์นที่ดีไซน์ทันสมัยเข้ากับสภาพแวดล้อม โดยทาวน์โฮมบางนาจาก SC Asset ที่น่าแนะนำจะมีอยู่ 2 โครงการด้วยกัน คือ วี คอมพาวด์ บางนา และ วี คอมพาวด์ บางนา-ศรีนครินทร์ โดยแต่ละโครงการก็จะมีจุดเด่นอย่างไรบ้าง ในที่นี้ก็จะมีสรุปจุดเด่นที่ทำให้โครงการทาวน์โฮมบางนาทั้งสองแห่งเป็นที่น่าสนใจเลือกซื้อ

วี คอมพาวด์ บางนา

วี คอมพาวด์ บางนา

วี คอมพาวด์ บางนา(V Compound Bangna) เป็นทาวน์โฮมบางนาที่ถูกออกแบบในรูปแบบสไตล์ลอฟต์ ทำให้ตัวบ้านดูปลอดโปร่ง กว้างขวาง ด้วยดีไซน์ที่ทันสมัยทำให้ตัวบ้านยังดูใหม่ทุกครั้งที่มอง ในส่วนของส่วนกลางก็พร้อมมอบความสุขให้กับผู้อยู่อาศัย เพราะมีทั้งสระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, สวนส่วนกลาง และอื่น ๆ รวมถึงมีระบบรักษาความปลอดภัยตลอดทั้งวัน ทำให้รู้สึกอุ่นใจในการใช้ชีวิตในบ้านได้เป็นอย่างดี

สำหรับทำเลที่ตั้งทาวน์โฮมบางนาจากโครงการนี้นั้นอยู่บริเวณย่านบางบ่อซึ่งมีถนนเชื่อมต่อพร้อมเดินทางหลายสาย และอยู่ไม่ไกลจากทางพิเศษบูรพาวิถี ด้วยคุณสมบัติครบครันแต่โครงการวีคอมพาวด์บางนามีบ้านราคาเริ่มต้นเพียง 2.69 ล้าน ซึ่งเป็นราคาที่ไม่แรงจนเกินไป จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีความใฝ่ฝันมีบ้านหลังงามในงบไม่สูงมากเป็นของตนเอง

แหล่งอำนวยความสะดวกใกล้โครงการ

ห้างสรรพสินค้า

  • มาร์เก็ตวิลเลจ สุวรรณภูมิ
  • แม็คโคร บางนา
  • เมกาบางนา
  • เซ็นทรัลบางนา

โรงพยาบาล

  • โรงพยาบาลบางบ่อ
  • โรงพยาบาลบางนา 2
  • โรงพยาบาลรวมชัยประชารักษ์
  • โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 อินเตอร์

โรงเรียน

  • โรงเรียนนวมินทราชูทิศ
  • โรงเรียนบดินทรเดชา สมุทรปราการ
  • มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ
  • มหาวิทยาลัยหัวเฉียว

สถานที่อื่น ๆ

  • สนามบินสุวรรณภูมิ

วี คอมพาวด์ บางนา-ศรีนครินทร์

วี คอมพาวด์ บางนา-ศรีนครินทร์

วี คอมพาวด์ บางนา-ศรีนครินทร์(V compound Bangna-Srinakarin) อีกหนึ่งโครงการทาวน์โฮมบางนาที่อยู่ใกล้ชิดติดกับแหล่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า โรงเรียน โรงพยาบาล สามารถแวะเวียนง่าย ๆ โดยใช้ถนนเทพารักษ์ต่อไปยังถนนศรีนคริทร์ ในเวลาเร่งรีบก็มีทางพิเศษกาญจนาภิเษกพร้อมใช้บริการ ทั้งยังไม่ไกลจากรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและสายสีเขียวมากนัก

นอกจากการเดินทางที่แสนสะดวกแล้ว จุดเด่นของ v compound บางนา ศรีนครินทร์ ก็จะมีเรื่องของดีไซน์ที่เน้นสไตล์โมเดิร์นที่ดูทันสมัยเข้ากับบรรยากาศธรรมชาติรอบโครงการ พร้อมด้วยโซนส่วนกลางสำหรับพักผ่อนหรือทำกิจกรรมยามว่าง เช่น สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, สวน, coworking space และมีระบบรักษาความปลอดภัยให้กับผู้อาศัยตลอด 24 ชั่วโมงในราคาเริ่มต้น 3 ล้านบาทเท่านั้น

แหล่งอำนวยความสะดวกใกล้โครงการ

ห้างสรรพสินค้า

  • แจส เออเบิร์น ศรีนครินทร์
  • เซ็นทรัลบางนา
  • พาราไดซ์พาร์ค
  • ซีคอนสแควร์

โรงพยาบาล

  • โรงพยาบาลสินแพทย์ เทพารักษ์
  • โรงพยาบาลศิครินทร์
  • โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ
  • โรงพยาบาลไทยนครินทร์

โรงเรียน

  • โรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์กรุงเทพ
  • โรงเรียนอัสสัมชัญสมุทรปราการ
  • โรงเรียนเซนต์โยเซฟ บางนา
  • โรงเรียนบางกอกพัฒนา

สถานที่อื่น ๆ

  • สนามบินสุวรรณภูมิ

129
ทาวน์โฮมกรุงเทพ

ในขณะที่บ้าน Townhouse อย่างทาวน์เฮ้าส์ชั้นเดียวกรุงเทพราคาไม่เกิน 8 แสนเป็นตัวเลือกน่าสนใจสำหรับคนที่มองหาบ้านราคาไม่เกินล้าน บ้านทาวน์โฮมกรุงเทพถือเป็นที่พักอาศัยมาแรงยอดนิยมในปัจจุบัน ด้วยพื้นที่ใช้สอยที่มากกว่าทาวน์เฮ้าส์กรุงเทพและราคาถูกกว่าบ้านเดี่ยวส่วนใหญ่แต่ได้สิ่งอำนวยความสะดวกรวมถึงพื้นที่ต่าง ๆ ใกล้เคียงกัน หากคุณกำลังมองหาทาวน์โฮมกรุงเทพสภาพดี ราคาสบายในหลากหลายทำเลคุณภาพ เราได้รวบรวม 8 บ้านทาวน์โฮมล้านต้น ๆ กรุงเทพที่น่าสนใจและพร้อมอยู่มาแนะนำกัน

ทาวน์โฮมกรุงเทพในราคาเริ่มต้น 1 - 3 ล้าน

ทาวน์โฮมกรุงเทพสี่ห้องนอน

ทาวน์โฮมกรุงเทพบ้านสวนโครงการ 2 เขตทุ่งครุ เป็นบ้านทาวน์โฮมสองชั้นบนเนื้อที่ 30.8 ตารางวา ภายในบ้านประกอบไปด้วย 4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ และพื้นที่สำหรับจอดรถ 1 คัน พร้อมเฟอร์นิเจอร์เครื่องปรับอากาศจำนวน 2 เครื่อง และปั๊มน้ำ การเดินทางสะดวกสบาย ทำเลที่ตั้งใกล้ห้างสรรพสินค้ามาตาเจมส์, ซีพีเฟรชมาร์ท, แม็กซ์แวลู ซูเปอร์มาร์เก็ต, โรงเรียนบูรณะศึกษา และทรัพย์สมบูรณ์สหคลินิก ราคาไม่เกิน 3 ล้าน ขายอยู่ที่ 2,750,000 บาท

ทาวน์โฮมกรุงเทพสองล้าน

ทาวน์โฮมกรุงเทพหมู่บ้านพฤกษา พรีเว่ เขตคันนายาว เป็นบ้านทาวน์โฮมสองชั้นบนเนื้อที่ 16.8 ตารางวา ภายในบ้านประกอบไปด้วย 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำแยกโซนเปียก-แห้ง 1 ห้องครัวและพื้นที่สำหรับจอดรถ 1 คันสามารถดัดแปลงเป็นห้องทำงานได้ ภายในตกแต่งเรียบร้อยพร้อมเฟอร์นิเจอร์ครบครัน มีปั๊มน้ำและถังเก็บน้ำติดตั้ง ทำเลดีติดถนนใหญ่เดินทางสะดวก ที่ตั้งใกล้เดอะ พรอมานาด, แฟชั่นไอส์แลนด์, โรงเรียนสอนแฟชั่นดีไซน์ และโรงพยาบาลพญาไท นวมินทร์ ราคาไม่เกิน 4 ล้าน ซื้อขายในราคา 3,000,000 บาท

ทาวน์โฮมกรุงเทพราคาสบายเพียง 3 - 5 ล้าน

ทาวน์โฮมกรุงเทพราคาสบาย

ทาวน์โฮมกรุงเทพหมู่บ้านแสงตะวัน เขตบางบอน เป็นบ้านทาวน์โฮมสองชั้นบนเนื้อที่ 32.5 ตารางวา ภายในบ้านประกอบไปด้วย 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่น 1 ห้องครัว และพื้นที่สำหรับจอดรถ 2 คัน โครงการไม่มีค่าส่วนกลาง เลี้ยงสัตว์ได้ เดินทางเข้า-ออกได้ทั้งถนนเพชรเกษม ถนนบางบอน ถนนกาญจนาภิเษก ที่ตั้งใกล้ตลาดเจ้าสัว, เซ็นทรัลพระราม 2, เดอะมอลล์ บางแค, โรงพยาบาลวิชัยเวช, มหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์ และโรงเรียนสารสาสน์วิเทศบางบอน ซื้อขายในราคา 3,390,000 บาท

ทาวน์โฮมกรุงเทพสามล้าน

ทาวน์โฮมกรุงเทพหมู่บ้านกัสโต้ เขตหนองแขม เป็นบ้านทาวน์โฮมสองชั้นบนเนื้อที่ 25.6 ตารางวา ภายในบ้านประกอบไปด้วย 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องโถง 1 ห้องครัว และพื้นที่สำหรับจอดรถ 2 คัน ตัวบ้านรีโนเวทใหม่ มีพื้นที่ข้างบ้านและสวนหย่อม หมู่บ้านอยู่ติดถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งใต้ เดินทางได้ทั้งถนนเพชรเกษม ถนนกาญจนาภิเษก ถนนบางบอน ที่ตั้งใกล้ตลาดหนองแขม, เวิคตอเรียการ์เด้นท์, เดอะมอล์ บางแค, โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ บางแค และโรงเรียนสารสาสน์วิเทศหนองแขม ซื้อขายในราคา 3,790,000 บาท

ทาวน์โฮมกรุงเทพทำเลดี ราคา 5 - 7 ล้าน

ทาวน์โฮมกรุงเทพหกล้าน

ทาวน์โฮมกรุงเทพโครงการบ้านกลางเมือง ซอยรามคำแหง 39 เขตวังทองหลาง เป็นบ้านทาวน์โฮมสามชั้นบนเนื้อที่ 18.8 ตารางวา ภายในบ้านประกอบไปด้วย 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และพื้นที่สำหรับจอดรถ 2 คัน โครงการเดินทางได้สะดวกทั้งรถประจำทางและรถยนต์ส่วนตัว อยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้ารามคำแหง รวมถึงสถานที่ใกล้เคียงอย่างฟู้ดแลนด์ หัวหมาก, แม็คโคร ทาวน์อินทาวน์, เดอะมอล์ รามคำแหง, โรงพยาบาลรามคำแหง, โรงพยาบาลแพทย์ปัญญา และโรงเรียน KIS International School ซื้อขายในราคา 6,690,000 บาท

ทาวน์โฮมกรุงเทพสภาพดีในราคา 7 - 9 ล้าน

ทาวน์โฮมกรุงเทพเจ็ดล้าน

ทาวน์โฮมกรุงเทพหมู่บ้านเสียงสนนิเวศน์ ซอยสุขุมวิท 68 เขตบางนา เป็นบ้านทาวน์โฮมสองชั้นบนเนื้อที่ 24 ตารางวา ภายในบ้านประกอบไปด้วย 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ และพื้นที่สำหรับจอดรถ 1 คัน บ้านรีโนเวทใหม่พร้อมเฟอร์นิเจอร์วัสดุคุณภาพครบครันพร้อมเข้าอยู่ บ้านทำเลดีติดทางด่วนเฉลิมมหานครและสถานีรถไฟฟ้าอุดมสุขเพียง 800 เมตร

มีสถานที่ใกล้เคียงอย่างอัคนาท พลาซ่า, แม็คโคร ทาวน์อินทาวน์, โรงพยาบาลผู้สูงอายุกล้วยน้ำไท 2, Bangkok Health Clinic, โรงเรียนบางกอกพัฒนา และโรงเรียน Wells International School ซื้อขายในราคา 7,490,000 บาท

ทาวน์โฮมกรุงเทพเก้าล้าน

ทาวน์โฮมกรุงเทพหมู่บ้านอินดี้ 2 บริเวณบางนา-รามคำแหง 2 เขตประเวศ เป็นบ้านทาวน์โฮมสามชั้นบนเนื้อที่ 40 ตารางวา ภายในบ้านประกอบไปด้วย 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ห้องครัว และพื้นที่สำหรับจอดรถ 2 คัน เฟอร์นิเจอร์ครบครันพร้อมเข้าอยู่ การเดินทางสะดวกสบาย ทำเลที่ตั้งใกล้ห้างสรรพสินค้าเมกา บางนา, ตลาดนัมเบอร์วัน, บุญถาวรสาขาบางนา, โรงเรียนราชวินิตบางแก้ว และรามคำแหง 2 คลินิกเวชกรรม ราคาขายเต็มอยู่ที่ 9,500,000 บาท

ทาวน์โฮมกรุงเทพน่าอยู่ ราคา 10 ล้านขึ้นไป

ทาวน์โฮมกรุงเทพสิบล้าน

ทาวน์โฮมกรุงเทพหมู่ลีออง 2 ซอยสุขุมวิท 62 เขตประเวศ Townhome สามชั้นบนเนื้อที่ 25.1 ตารางวา ภายในบ้านประกอบไปด้วย 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องแต่งตัว 1 ห้องครัว และพื้นที่สำหรับจอดรถ 2 คัน บิวท์อินเฟอร์นิเจอร์ทั้งหลัง หมู่บ้านมีคลับเฮ้าส์ การเดินทางสะดวกสบายห่างจากสถานีรถไฟฟ้าบางจาก ถนนเชื่อมต่อพระราม 4 เอกมัยและบางนา อยู่ใกล้ทางด่วนสุขุมวิทและทางด่วนอาจณรงค์ ที่ตั้งใกล้เมเจอร์เอกมัย, เดอะฟิลล์ สุขุมวิท 54, โรงพยาบาลสุขุมวิท และโรงเรียน Wells International School ราคาขายเต็มอยู่ที่ 11,900,000 บาท

ทาวน์โฮมกรุงเทพในราคาที่ถูกใจ

เรียกได้ว่าทาวน์โฮมเป็นบ้านที่มีพื้นที่ใช้สอยรวมถึงฟังก์ชันทั่วไปครบครันกว่าทาวน์เฮ้าส์ราคาถูกกรุงเทพที่ราคาไม่เกิน 1.5 ล้านถึงราคาไม่เกิน 2 ล้านแต่ขายในราคาถูกกว่าบ้านเดี่ยว ซึ่งหากคุณกำลังมองหาบ้านทาวน์โฮมกรุงเทพเพื่ออยู่อาศัยในระยะยาว สิ่งสำคัญคือควรพิจารณาถึงพื้นที่ภายในบ้านที่ต้องการอย่าง 3 ห้องน้ำหรือ 5 ห้องนอน สิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบ รวมถึงการเดินทางไปยังแหล่งต่าง ๆ ว่าตอบโจทย์มากน้อยเพียงใด เท่านี้คุณก็เป็นเจ้าของทาวน์โฮมกรุงเทพที่ชื่นชอบในราคาที่ถูกใจได้ไม่ยาก

130
สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ

เพื่อให้เข้าใจเกี่ยวกับสถานีตรววจวัดคุณภาพอากาศมากขึ้น เราจำเป็นจะต้องทราบจุดเริ่มต้นเสียก่อน โดยเริ่มตั้งแต่ปีคริสต์ศักราชที่ 1760 ซึ่งเป็นการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่หนึ่ง โดยเริ่มมีการนำเทคโนโลยีเครื่องจักรต่างเข้ามาช่วยในการทำงานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านการเกษตรกรรม การขนส่ง การคมนาคม การผลิตสินค้า ล้วนได้รับอิทธิพลทั้งสิ้น และด้วยการนำเทคโนโลยีมาใช้นี้เอง ทำให้คุณภาพชีวิต วิถีชีวิต และสังคมของมนุษย์พัฒนาไปอย่างมาก

แต่ว่านอกจากด้านที่ดีนั้น ก็ย่อมมีด้านเสียเช่นกัน นั้นคือการเติบโตทางธุรกิจนั้นจึงให้กำเนิดโรงงานอุตสาหกรรมประเภทต่าง ๆ ขึ้นมากมายดังเช่นปัจจุบัน นอกจากทรัพยากรที่ถูกนำใช้งานอย่างมากขึ้น เพื่อตอบความสนองความต้องการที่ไม่สิ้นสุดแล้ว ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากกระบวนการผลิตเองก็ถือเป็นปัญหาที่สำคัญ

เนื่องจากกระบวนการผลิตในเกือบทุกขั้นตอนนั้นใช้เครื่องจักรในการผลิตสินค้าและบริการต่าง ๆ ซึ่งในกระบวนการทำงานนั้นเองก็อาจจะทำให้เกิดมลพิษได้ ซึ่งสามารถเป็นได้ทั้งมลพิษทางน้ำ ที่จำเป็นจะต้องมีกระบวนการบำบัดให้ได้ตามมาตรฐานที่ทางกระทรวงอุตสาหกรรมกำหนดไว้ และอากาศเองก็เช่นกัน ซึ่งในกระบวนการตรวจสอบนี้ จำจะต้องใช้สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ เข้ามาช่วย

ตอนนี้หลายคนอยาจะกำลังสงสัยว่า สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศนั้นมีความสำคัญอย่างไร แล้วแต่ละโรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ ถึงจำเป็นจะต้องใช้มัน บทความนี้จะช่วยอธิบายส่วนประกอบ และความสำคัญของ AQMS กัน ไปเริ่มกันเลย

สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศคืออะไร?

AQMS (Air Quality Monitoring Station) หรือก็คือสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศนั้นเอง ทำหน้าที่ตรวจสอบคุณภาพอากาศในบริเวณนั้น โดยสามารถตรวจสอบแก๊สหลัก ๆ รวมถึงฝุ่นละออง อันได้แก่ แก๊สซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2), ออกไซด์ของไนโตรเจน (NO), ฝุ่นละอองรวม (TSP), ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10), ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) เป็นต้น

นอกจากที่กล่าวมาแล้วสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ ยังสามารถเก็บข้อมูลชนิดอื่น ๆ ได้อีกคือ ความเร็ว ทิศทางลม อุณหภูมิ ความชื้นสัมพัทธ์ ความดันบรรยากาศ ทั้งยังบอกปริมาณน้ำฝนแสงอาทิตย์ได้อีกด้วย

ส่วนประกอบของสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ

สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ มีส่วนประกอบ 6 ส่วนด้วยกัน ได้แก่

  • เครื่องเก็บตัวอย่างฝุ่นละอองรวม (TSP) ดักเก็บฝุ่นละอองเพื่อที่aจะสามารถนำมาวิเคราะห์ว่าขนาดของฝุ่นแต่ละขนาดมีปริมาณมากน้อยเพียงได้ ซึ่งฝุ่นละอองหลัก ๆ ที่นำมาวิเคราะห์กัน คือ PM10 และ PM2.5 ซึ่งทั้ง 2 ล้วนมีผลเสียต่างสุขภาพทั้งสิ้น และทั้ง 2 นั้นต่างมีวิธีการจัดการที่แตกต่างกัน
  • เครื่องวัดแก๊สซัลเฟอร์ไดออกไซต์ (SO2) วัดค่าแก๊สซัลเฟอร์ไดออกไซต์เพื่อที่ สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศจะตรวจสอบว่ามีค่าเกินเกณฑ์ปกติหรือไม่ โดยค่าเฉลี่ยปกติของแก๊สซัลเฟอร์ไดออกไซต์ คือ 0.02-0.1 ppm ถ้าแก๊สซัลเฟอร์ไดออกไซต์ได้ทำปฏิกิริยากับแก๊สออกซิเจน อาจจะทำให้เกิดฝนกรดได้
  • เครื่องตรวจออกไซต์ของไนโตรเจน (NO, NO2) มักเกิดจากเผาไหม้จากกิจกรรมของมนุษย์ โดยเมื่อแก๊สไนโตรเจนออกไซต์ไปรวบกับแก๊สซัลเฟอร์ไดออกไซต์เกิดเป็นฝนกรด กรดไนตริก และยังทำให้เกิดภาวะเรือนกระจกได้อีกด้วย
  • ชุดตรวจอุตุนิยมวิทยา ประกอบไปด้วยชุดวัดปริมาณน้ำฝน อุปกรณ์วัดองศาแสงอาทิตย์ อุปกรณ์วัดอุณหภูมิและความชื้น  อุปกรณ์วัดความดันบรรยากาศ และอุปกรณ์วัดความเร็วและทิศทางลม เพื่อที่ สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศจะเก็บข้อมูลต่าง ๆ ไปวิเคราะห์ต่อไป
  • อุปกรณ์เก็บข้อมูล ทำหน้าที่เก็บรวบรวมข้อมูลจากอุปกรณ์อื่น ๆ มาไว้ที่เดียว เพื่อให้การใช้งานข้อมูลของสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศสามารถทำได้สะดวกสบาย
  • อุปกรณ์มอนิเตอร์ ทำหน้าที่แสดงผลที่ได้จากอุปกรณ์ต่าง ๆ โดยการดึงข้อมูลมาจากอุปกรณ์เก็บข้อมูล เพื่อให้ผู้ใช้งานอ่านค่าได้โดยง่าย

สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ มีประโยชน์อย่างไร

สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ มีประโยชน์ใดหลาย ๆ ด้าน ด้วยชุดเครื่องมือที่หลากหลาย จึงสามารถเก็บข้อมูลได้หลายชนิด จึงสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ดังนี้

  • ใช้ตรวจสอบคุณภาพอากาศ และสภาพแวดล้อมภายในโรงงานอุตสาหกรรม
  • สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ ตรวจสอบคุณภาพอากาศ และสภาพแวดล้อมในส่วนต่าง ๆ ตามเมืองต่าง ๆ
  • นำข้อมูลที่ได้จากการตรวจวัดคุณภาพอากาศและสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ เพื่อนำไปปรับปรุงแก้ไขเพื่อลดมลพิษทางอากาศต่อไป
  • เนื่องจากชุดตรวจอุตุนิยมวิทยามีเครื่องวัดองศาแสงอาทิตย์ สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศจึงสามารถเก็บข้อมูลองศาของแสงอาทิตย์ในแต่ละช่วงเวลา ทำให้สามารถออกแบบวางแผนการติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ได้

สถานีตรวจวัดคุณภาพาอากาศช่วยทำอะไรได้บ้าง

ประโยชน์ของสถานีตรวจวัดคุณภาพาอากาศ

สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ สามารถใช้งานได้ดังต่อไปนี้

  • สามารถแสดงผลคุณภาพอากาศ ทิศทางของลม และความเร็วลดได้แบบ Real-Time ทำให้สามารถรู้ข้อมูลในเวลานั้นได้ทันที
  • สามารถช่วยตรวจสอบคุณภาพแก๊สต่าง ๆ ที่ถูกปล่อยออกมาจากโรงงานอุตสาหกรรมได้ว่ามีค่าผ่านตามมาตรฐานที่กำหนดหรือไม่
  • สามารถช่วยวิเคราะห์ข้อมูลเปรียบเทียบก่อนและหลังปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิต หรือบำบัดต่าง ๆ เพื่อตรวจดูว่าผ่านเกณฑ์ตามมาตรฐานหรือไม่ ถ้าไม่ก็ต้องมีการปรับปรุงต่อไป
  • สามารถบอกคุณภาพอากาศ ค่าฝุ่นละออง PM10 และ PM2.5 แบบเฉลี่ยต่อวันได้

สรุปเกี่ยวกับสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ

สถานีตรวจสอบคุณภาพอากาศถูกออกแบบมาเพื่อประเมิน วิเคราะห์องค์ประกอบของอากาศในตำแหน่งเฉพาะ มาพร้อมกับเครื่องมือ รวมถึงเซ็นเซอร์ต่าง ๆ ที่ซับซ้อน โดยจะทำการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับมลพิษทางอากาศต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น อนุภาค (PM2.5 และ PM10) ไนโตรเจนไดออกไซด์ (NO2) ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2) คาร์บอนมอนอกไซด์ (CO) โอโซน ( O3) ไปจนถึงสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย (VOCs) เป็นต้น

เครื่องมือเหล่านี้ใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยเพื่อให้การตรวจวัดแบบเรียลไทม์ ช่วยให้สามารถติดตามแนวโน้มคุณภาพอากาศ ความอันตรายต่อสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างแม่นยำ จากนั้นข้อมูลที่รวบรวมจะถูกส่งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการวางแผนเกี่ยวกับการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและสาธารณสุขต่อไป

131
อยากสร้างแบรนด์ตัวเองกับบริษัทรับผลิตสบู่เริ่มยังไงดีบทความนี้มีคำตอบ ขอบอกเลยว่าต้องเริ่มจากการเลือกโรงงานผลิตสบู่แบบครบวงจรจะช่วยให้การสร้างแบรนด์สินค้าสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญโรงงานรับผลิตสบู่ต้องมีมาตรฐานการรับรองที่น่าเชื่อถือและพร้อมให้คำปรึกษา ตั้งแต่เริ่มต้นการวิจัยและพัฒนาสูตรไปจนถึงกระบวนการส่งมอบสินค้า

ผลิตสบู่เหลวสร้างแบรนด์

แนวโน้มตลาดจากโรงงานผลิตสบู่

สบู่เป็นผลิตภัณฑ์ใช้ในการทำความสะอาดทั้งร่างกายและใบหน้า และมีให้เลือกหลายประเภทอย่างเช่นสบู่ก้อน สบู่เหลว สบู่เจลลี่ สบู่แผ่น เป็นต้น เรียกได้ว่าสบู่เป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องใช้ในทุกวันและในปัจจุบันโรงงานผลิตสบู่มีการพัฒนาสูตรและเพิ่มส่วนผสมสมุนไพร Vitamin หรือสารสกัดที่มาจากธรรมชาติที่อ่อนโยนต่อผิวทำให้ผู้คนนิยมใช้สบู่ในการล้างหน้าหรือทำความสะอาดผิวมากยิ่งขึ้น

สำหรับการสร้างแบรนด์ตัวเองเป็นสินค้าสบู่นับว่าเป็นทางเลือกที่น่าลงทุนเป็นอย่างมาก อีกทั้งแนวโน้มกลุ่มตลาดของแบรนด์สบู่จะมีการเติมโตขึ้นเรื่อย ๆ อีกด้วย ซึ่งการเลือกโรงงานผลิตสบู่ครบวงจรสามารถคิดค้นสูตรผ่านแลปผลิตสบู่ที่มีมาตรฐานควบคุมด้วยผู้เชี่ยวชาญยิ่งทำให้สินค้ามีคุณภาพส่งผลต่อการเลือกซื้ออีกด้วย

3 สารสกัดยอดฮิตจากโรงงานรับผลิตสบู่

ก่อนเริ่มต้นสร้างแบรนด์ตัวเองต้องทราบก่อนว่าสารสกัดยอดฮิตขายดีจากโรงงานผลิตสบู่มีอะไรที่น่าสนใจบ้าง และอาจนำไปต่อยอดพัฒนาสูตรกับโรงงานรับผลิตสบู่ทําแบรนด์ได้อย่างมีมาตรฐาน กับสารสกัดยอดฮิต 3 อย่างดังต่อไปนี้

โรงงานรับผลิตสบู่ทําแบรนด์

สารสกัดจากธรรมชาติ เป็นสูตรที่โรงงานผลิตสบู่ได้อย่างอ่อนโยนปราศจากสารเคมีเหมาะสำหรับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวแพ้ง่ายที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ โดยโรงงานสบู่ที่มีสารสกัดจากธรรมชาติจะพัฒนาสูตรร่วมกับผู้เชี่ยวชาญ ทำให้สบู่สูตรจากธรรมชาติไม่ก่อให้เกิดการแพ้จึงเป็นที่ได้รับการนิยมเป็นอย่างมาก

สูตร Anti Acne Oil Control Cleansing Gel ปัญหาหน้ามันเป็นสิวก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาของผู้คนส่วนใหญ่ที่ต้องการเลือกใช้สบู่ที่มีส่วนผสมของ  Anti Acne เพื่อควบคุมความมันส่วนเกินบนใบหน้าและลดการเกิดสิว ซึ่งการสร้างแบรนด์ตัวเองและรับทำสบู่ที่มีส่วนผสมของ Anti Acne ก็ตอบโจทย์ของลูกค้ามากเลยทีเดียว

สารสกัดช่วยในเรื่องบำรุงผิว แน่นอนว่าสบู่ใช้ทำความสะอาดสิ่งสกปรกได้อย่างดีเยี่ยม แต่จะดีกว่าหรือไม่หากในสบู่มีส่วนผสมที่ช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื่นที่โรงงานผลิตสบู่นิยมใช้สารสกัดอุดมไปด้วย วิตามิน B5 ,B3 เป็นต้น จะนิยมผลิตสบู่เหลวสร้างแบรนด์หรือเป็นสบู่ก้อน

6 ขั้นตอนการสร้างแบรนด์กับโรงงานผลิตสบู่

เมื่อทราบถึงประเภทและสารสกัดสุดฮิตที่นำมาผลิตสูตรสบู่เรียบร้อยแล้ว มาถึงขั้นตอนการสร้างแบรนด์กับโรงงานผลิตสบู่ที่มีขั้นตอนไม่ยุ่งยากและสำหรับใครที่ต้องการการสร้างแบรนด์ตัวเองแต่ยังขาดประสบการณ์ ทางโรงงานผลิตสบู่ที่มีประสบการณ์มาอย่างยาวนานสามารถให้คำปรึกษาได้ทุกขั้นตอน ซึ่งขั้นตอนการรับผลิตสบู่ด้วยระบบมาตรฐานมี 6 ขั้นตอนดังนี้

Step 1 : เลือกสูตรสบู่

ต้องการสร้างแบรนด์ตัวเองสามารถเลือกสูตรที่ต้องการกับโรงงานผลิตสบู่ ที่มีให้เลือกทั้งรูปแบบ ODMและ OEM รวมถึงการเลือกประเภทของสบู่ที่ต้องการผลิตโรงงานผลิตสบู่เหลว สบู่ก้อน สบู่แผ่น ออยล์อาบน้ำ หรือสบู่เจลลี่ได้ตามความต้องการ

Step 2 : รับใบเสนอราคา และชำระมัดจำ

ทางเจ้าหน้าที่ของโรงงานผลิตสบู่จะดำเนินการรับใบเสนอราคาและมีวิธีในการชำระเงินแบบแบ่งจ่าย โดยการมัดจำก่อนรับทำสบู่ 50% และในส่วนที่เหลือจะนำส่งใบเสนอราคาเพื่อชำระค่าบริการภายหลังที่โรงงานสบู่ผลิตเสร็จเรียบร้อยแล้ว

Step 3 : คิดค้น วิจัย และพัฒนาสูตรสำหรับแบรนด์ของคุณ

ในส่วนของการคิดค้นวิจัยและพัฒนาสูตรสำหรับ สร้างแบรนด์ของคุณนั้นทางโรงงานผลิตสบู่จะมีผู้เชี่ยวชาญที่ควบคุมในส่วนของแลปผลิตสบู่ทั้งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและนักเคมี เพื่อคิดค้นและพัฒนาสูตรร่วมกับคุณให้ได้สูตรตามที่ความต้องการ

โรงงานผลิตสบู่เหลว

Step 4 : เริ่มกระบวนการผลิต

ทางโรงงานผลิตสบู่จะดำเนินขอใบอนุญาตขึ้นทะเบียนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.)  รวมถึงให้ลูกค้าออกแบบเลือกกล่องบรรจุภัณฑ์สินค้า จากนั้นจะทำการผลิตตามสูตรของลูกค้าที่ได้คิดค้นและพัฒนาสูตรในสร้างแบรนด์

Step 5 : ชำระค่าใช้จ่ายส่วนที่เหลือ

เมื่อโรงงานผลิตสบู่ดำเนินการผลิตสินค้าให้กับลูกค้าจะใช้เวลาในการผลิตประมาณ 14-20 วัน เมื่อครบกำหนดทางโรงงานสบู่จะทำใบเสนอราคาให้กับลูกค้าเพื่อชำระเงินส่วนที่เหลืออีก 50%

Step 6 : โรงงานส่งสินค้าให้แก่ลูกค้า

เมื่อโรงงานผลิตสบู่ทำการผลิตสินค้าและบรรจุลงกล่องเรียบร้อยแล้วจะนำส่งสินค้าให้กับลูกค้าตามที่อยู่ที่ระบุไว้ เมื่อได้รับสินค้าแล้วลูกค้าสามารถนำสินค้าวางขายได้ทันที

เลือกโรงงานรับผลิตสบู่แบบ One Stop Service มาตรฐานสากลที่ไหนดี

สำหรับการสร้างแบรนด์ของตัวเองต้องรู้เกี่ยวกับโรงงานรับผลิตสบู่แบบ One Stop Service มาตรฐานกตัวอย่างโรงงานผลิตสบู่ PURE DERIMA LABORATORIES ที่มีมาตรฐานรับรองจาก  GMP, ISO, FDA, Green Industry, HALAL, msds, coa พร้อมให้บริการผลิตสบู่แบบครบวงจร รวมถึงเป็นโรงงานผลิตรีบผลิตครีม ที่สามารถร่วมคิดค้นสูตรกับผู้เชี่ยวชาญเพื่อสร้างแบรนด์ตัวเองไปจนถึงขึ้นทะเบียนเครื่องสำอาง(อย.)

ช่องทางการติดต่อ
88/34-35 TTN Avenue Nanglinchee
Road Chong Nonsi Subdistrict,
Yannawa District Bangkok 10120
Line : @purederima
โทร : 02-285-4266

132
ในขณะที่เทคโนโลยีมีการพัฒนาก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง Samsung Galaxy A05s ราคาก็กลายเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงนวัตกรรมใหม่เหล่านั้น โดยนำเสนอการผสมผสานที่น่าประทับใจระหว่างความคุ้มค่าและประสิทธิภาพที่โดดเด่น เราจะมาเจาะลึกถึงวิวัฒนาการของเทคโนโลยีที่นำไปสู่การสร้าง Samsung Galaxy A05s ราคาคุ้มค่า ซึ่งจะเน้นคุณสมบัติที่โดดเด่นจากการใช้เทคโนโลยีในปัจจุบัน

ด้วย Samsung Galaxy A05s ได้รวบรวมการทำงานร่วมกันที่ของเทคโนโลยีล้ำสมัย ด้วยงบประมาณที่จำกัด โดยไม่ได้ลดทอนประสิทธิภาพ โทรศัพท์รุ่นนี้มีคุณสมบัติมากมายที่ช่วยยกระดับประสบการณ์ผู้ใช้โดยไม่ทำให้ราคาสูงเกินไป ด้วยจอแสดงผลที่สดใส ไปจนถึงโปรเซสเซอร์ที่แข็งแกร่ง สำหรับผู้ที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนที่น่าเชื่อถือ มีคุณสมบัติหลากหลาย ด้วย Samsung Galaxy A05s ราคาที่คุ้มค่า เหมาะกับทุกคน

Samsung A05s ราคา
ขอบคุณรูปจาก https:// www. samsung.com/th/smartphones/galaxy-a/galaxy-a05s-silver-128gb-sm-a057fzshthl/

ระหว่าง Samsung Galaxy A05s กับ Samsung Galaxy A05 ราคาแตกต่างกันอย่างไร ซื้อรุ่นไหนคุ้มกว่า

สำหรับผู้ที่กำลังตัดสินใจเลือกซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นต่าง ๆ นั้น จำเป็นจะต้องมีการเปรียบความต่างของเทคโนโลยี ซึ่ง A05s ราคาจะแตกต่างกันไม่มาก ระหว่าง Samsung Galaxy A05s และ Samsung Galaxy A05 รุ่นก่อน เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจได้ง่ายขึ้น เราจะยกตัวอย่างข้อแตกต่างหลัก ๆ ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาจากรุ่นก่อน เพื่อให้ผู้อ่านสามารถตัดสินใจได้ง่ายยิ่งขึ้น มีดังต่อไปนี้

  • คุณสมบัติที่ได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น เมื่อเทียบกับราคาที่ต้องจ่าย แม้ว่าทั้งสองรุ่นจะมีคุณสมบัติขั้นสูง แต่ Samsung Galaxy A05s นั้นได้รับการปรับปรุงจุดดด้อยจากรุ่นเดิม แม้ราคาจะสูงขึ้นเล็กน้อย แต่นับว่าไม่สูงมาก เมื่อเทียบกับคุณสมบัติที่ได้
  • ประสิทธิภาพที่อัปเกรดแล้ว A05s นำเสนอตัวชี้วัดประสิทธิภาพที่ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น ทำให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์สมาร์ทโฟนที่มีความรวดเร็ว เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน
  • ความสามารถของกล้อง การเปรียบเทียบคุณสมบัติของกล้องอย่างละเอียดจะเห็นว่า A05s นั้นผสานรวมความสามารถในการถ่ายภาพที่มียิ่งขึ้น ซึ่งช่วยสื่ออารมณ์ของภาพได้ดียิ่งขึ้น
จากที่กล่าวมาจะเห็นว่า Samsung Galaxy A05s ราคานั้นจะสูงว่า Samsung Galaxy A05 แต่ด้วยคุณสมบัติที่ได้รับการพัฒนาต่อยอด ช่วยลดข้อจำกัดจากรุ่นเดิมได้อย่างมาก ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับราคาที่เพิ่มขึ้นแล้ว ถือว่าคุ้มกับราคาที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก

Samsung Galaxy A05s ราคาล่าสุดตอนนี้

samsung A05s ราคาล่าสุด
ขอบคุณรูปจาก https:// www. samsung.com/th/smartphones/galaxy-a/galaxy-a05s-silver-128gb-sm-a057fzshthl/

Samsung Galaxy A05s เปิดตัวครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2023 เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยในไตรมาสที่ 4 โดย Samsung Galaxy A05s ราคาปิดตัวอยู่ที่ 5,499 บาท

ในโลกของเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ราคาจึงมีความผันผวนอยู่มาก จึงจำเป็นที่จะต้องมีการอัพเดตข้อมูลอยู่เสมอ การรับข่าวสารเกี่ยวกับราคาตลาดปัจจุบัน Samsung Galaxy A05s นั้นเพิ่งได้เปิดตัวเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ทำให้A05s ราคานั้นยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรมาก ยกเว้นแต่ทางผู้จัดจำหน่ายต่าง ๆ จะออกโปรโมชั่นต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นยอดขาย ซึ่งจะมากน้อยแตกต่างกันไปจามผู้จัดจำหน่าย จึงต้องมีการหาข้อมูลมาเปรียบเทียบอย่างรอบคอบ เมื่อตัดสินใจจะซื้อ Samsung Galaxy A05s

Samsung A05s ราคาพิเศษ ซื้อผ่านช่องทางไหนดี

สำหรับ Samsung Galaxy A05s ราคาพิเศษนั้น เราสามารถเลือกซื้อได้จากหลากหลายช่องทาง ซึ่งเราจะมาทำความรู้จักช่องทางจัดจำหน่ายของ Samsung Galaxy A05s ว่ามีอะไรกันบ้าง โดยเริ่มจาก

  • ศูนย์บริการ Samsung ถือเป็นแหล่งข้อเสนอพิเศษที่เชื่อถือได้ของคุณ ศูนย์บริการซัมซุงมักเสนอโปรโมชั่น หรือส่วนลดพิเศษสำหรับผลิตภัณฑ์ของเขา ในส่วนนี้จะเจาะลึกว่าการเยี่ยมชมศูนย์บริการซัมซุงไม่เพียงแต่จะได้รับความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น คุณยังสามารถได้ทดลองใช้งานจริง รวมถึงยังสามารถที่จะได้ Samsung Galaxy A05s ราคาพิเศษอีกด้วย
  • ผู้จัดจำหน่ายที่ได้รับอนุญาต ซึ่งสามารถรับประกันได้ เมื่อต้องการราคาพิเศษ ผู้จัดจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะมักจะมาพร้อมกับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม เช่น การรับประกัน การสนับสนุนหลังการขาย ไปจนถึงของแถมต่าง ๆ
  • ช่องทางออนไลน์ ยุคดิจิทัลได้เปลี่ยนแปลงวิธีการซื้อสินค้าไปอย่างมาก ช่องทางออนไลน์มอบโอกาสมากมายสำหรับข้อเสนอสุดพิเศษต่าง ๆ คุณสามารถพบกับ A05s ราคาพิเศษได้อย่างง่ายดาย ทั้งคุณสามารถสำรวจแพลตฟอร์มออนไลน์ที่มีชื่อเสียง หรือเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซต่าง ๆ ที่มักจะออกโปรโมชั่น หรือส่วนลดต่าง ๆ อยู่เสมอ
  • ผู้ค้าปลีกที่เป็นพันธมิตร Samsung ได้ร่วมมือกับผู้ค้าปลีกหลายรายเพื่อนำเสนอ A05s ราคาพิเศษ ให้กับกลุ่มเป้าหมายในวงกว้าง สามารถนำไปสู่ข้อเสนอ รวมถึงโปรโมชั่นสุดพิเศษสำหรับผู้ที่กำลังสนใจ Samsung Galaxy A05s ให้สะดวกสบายในการซื้อของคุณผ่านพันธมิตรเหล่านี้
  • การประมูลออนไลน์ คว้าข้อเสนอที่มีเวลาจำกัด สำหรับผู้ที่ชื่นชอบความตื่นเต้น สำหรับ A05s ราคาที่มีการแข่งขัน ส่วนนี้สามารถหาได้จากการประมูลออนไลน์ การเข้าร่วมกิจกรรมที่ต้องคำนึงถึงราคาของ Samsung Galaxy A05s ในตลาด เพื่อเปรียบเทียบกับราคาพิเศษพร้อมส่วนลดที่มีอยู่แล้ว ว่าอะไรคุ้มกว่ากัน
สำหรับผู้ที่กำลังมองหา Samsung A05s ราคาพิเศษนั้น สามารถเลือกซื้อกับผู้จัดจำหน่ายได้ตามที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นศูนย์บริการ samsung ตัวแทนจำหน่าย หรือจะเป็นช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ แต่ถ้าคุณไม่มั่นใจว่าสินค้าที่ได้จะมีตุณภาพดีมั้ย ของแท้หรือไม่ การซื้อผ่านทางศูนย์บริการ Samsung จะให้ความมั่นใจมากที่สุด

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Samsung A05s ราคาตอนนี้

สำหรับผู้ที่สนใจ แล้วกำลังหาข้อมูล A05s ราคาตอนนี้อยู่นั้น มักมีคำถามเกิดข้อมากมาย เพื่อใช้ในการประกอบการตัดสินในการเลือกซื้อโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเราได้รวบรวมคำถามยอดนิยมเอามาให้แล้ว มีดังต่อไปนี้

อยากซื้อ Samsung A05s ราคาพิเศษ นำเครื่องเก่าไปแลกเครื่องใหม่ได้ไหม รุ่นนี้เข้าร่วมรายการหรือไม่?

ผู้อ่านต้องเข้าใจก่อนว่า Samsung นั้นไม่มีโปรโมชั่นในการนำมือถือเครื่องเก่า มาแลกรับส่วนลดในการซื้อเครื่องใหม่ แต่มักจะเป็นตัวแทนจำหน่าย ๆ ไม่ว่าจะเป็นร้านขายโทรศัพท์ ร้านขายสินค้าไอที ไปจนถึงผู้ให้บริการเครือข่ายสัญญาณโทรศัพท์ ที่ต้องคอยออกโปรโมชั่นต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นยอดขายในร้านให้สูงขึ้น ไปจนถึงการทำให้ร้านเป็นที่รู้จักในวงกว้างอีกด้วย

เนื่องจาก Samsung Galaxy A05s เป็นโทรศัพท์รุ่นใหม่ที่พึ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา จึงถือเป็นโทรศัพท์อีกรุ่นหนึ่งที่ผู้จัดจำหน่ายจะเลือกจัดโปรโมชั่นโทรศัพท์เครื่องเก่า มาแลกเครื่องใหม่ ซึ่งต้องตรวจสอบเงื่อนไขขอโปรโมชั่นให้ครบถ้วน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมา

ความแตกต่างระหว่าง Samsung Galaxy A05 และ Samsung Galaxy A05s มีอะไรบ้าง

ข้อแตกต่างระหว่าง Samsung Galaxy A05 และ Samsung Galaxy A05s นั้นมีดังต่อไปนี้

  • ชิปเซตประมวลผล Samsung Galaxy A05 ใช้ Mediatek MT6769V/CZ Helio G85 (12nm) ส่วน Samsung Galaxy A05s ใช้ Qualcomm SM6225 Snapdragon 680 4G (6 nm)
  • กล้องหลัง Samsung Galaxy A05 มี 2 กล้อง ได้แก่ กล้องไวด์ 50 ล้านพิกเซล f/1.8 กับกล้องวัดระยะความลึก 2 ล้านพิกเซล f/2.4 ส่วน Samsung Galaxy A05s มีกล้อง 3 ตัว แบ่งเป็นกล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล f/1.8 กล้องมาโคร 2 ล้านพิกเซล f/2.4 และกล้องวัดระยะความลึก 2 ล้านพิกเซล f/2.4
  • กล้องหน้า Samsung Galaxy A05 มีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ส่วน Samsung Galaxy A05s นั้นมีความละเอียด 13 ล้านพิกเซล
  • จอแสดงผล Samsung Galaxy A05 มีความละเอียด 720 x 1600 พิกเซล ส่วน Samsung Galaxy A05s มีความละเอียด 1080 x 2400 พิกเซล
  • พื้นที่จัดเก็บข้อมูล Samsung Galaxy A05 มีความจุ 64 กับ 128 GB ส่วน Samsung Galaxy A05s มีความจุ 128 GB เท่านั้น
เนื่องจากทั้ง 2 รุ่นมีข้อแตกต่างกันไม่มาก ทำให้ A05s ราคาจะสูงกว่า A05 อยู่เพียงเล็กน้อย ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับโทรศัพท์มือถือในราคาใกล้เคียงกัน ถือว่าคุ้มค่า คุ้มราคา

สรุป Samsung Galaxy A05s ราคาดีน่าโดน

สำหรับท่านใดที่กำลังมองหาโทรศัพท์รุ่นใหม่ คุณภาพครบครัน ในราคาไม่แพง Samsung Galaxy A05s ถือเป็นตัวเลือกที่ไม่อาจมองข้าม ด้วย A05s ราคานั้นไม่สูงมาก แต่กับมีประสิทธิภาพการทำงานที่สูง ไม่ว่าจะเป็นจอแสดงผลที่สวยงาม ตอบสนองรวดเร็ว ไปจนถึงกล้องที่มีความละเอียดสูง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือว่าครอบคลุมการใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างครบถ้วน เหมาะกับคนทุกเพศ ทุกวัย

133
เครื่องจักรกล | Machinery / ระบบ automation control
« เมื่อ: ธันวาคม 18, 2023, 05:18:11 PM »
ปัจจุบันเทคโนโลยีมีความก้าวหน้าสูง ทำให้ระบบ automation controlถูกพัฒนาให้มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง เหตุผลหลักที่ระบบควบคุมในงานอุตสาหกรรมนำระบบ automation control มาใช้อย่างแพร่หลาย เนื่องจากผู้ผลิตสามารถควบคุมการทำงานของระบบได้ง่าย และยังสามารถให้ผลผลิตที่เพิ่มขึ้นด้วยต้นทุนที่น้อยลงอีกด้วย

ระบบ automation control คืออะไร

อะไรคือ automation control

ระบบ automation control หรือ automation system คือ ระบบควบคุมอัตโนมัติที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้ในกระบวนการผลิตเทคโนโลยีต่าง ๆ ทำให้ระบบควบคุมในงานอุตสาหกรรมการผลิตเป็นไปอย่างอัตโนมัติ เพื่อลดปริมาณการใช้ทรัพยากรมนุษย์ เนื่องจากในบางขั้นตอนการผลิตอาจมีสารต้องห้ามหรือมีกระบวนการผลิตที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสิ่งมีชีวิต ดังนั้นระบบควบคุมอัตโนมัติ จึงจำเป็นต่อสายงานอุตสาหกรรมอย่างมาก

ระบบ automation control ถูกคิดค้นและพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ระบบ AI, Machine Learning และหุ่นยนต์ สามารถทำงานในหน้าที่ต่าง ๆ ได้อย่างอัตโนมัติและสมบูรณ์แบบเพื่อเข้ามาแทนที่การใช้แรงงานมนุษย์ โดยระบบควบคุมในงานอุตสาหกรรมที่จำเป็นต้องใช้ระบบ automation control คือ เครื่องบินและยานพาหนะต่าง ๆ โรงงานผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ โรงงานนิวเคลียร์ และโรงงานใดก็ตามที่จำเป็นต้องใช้ระบบควบคุมเครื่องจักรในการผลิต

ระบบ automation control ประกอบด้วย

มีโรงงานอุตสกหรรมการผลิตเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับประเภทของรูปแบบการผลิตต่าง ๆ ทำให้ระบบ automation control ถูกนำมาใช้ในการสั่งการเครื่องจักรให้ทำงานตามระบบที่ถูกตั้งค่าไว้ตามสายงานผลิตของโรงงานนั้น ๆ ดังนั้นเราจะมาดูกันว่าระบบควบคุมในงานอุตสาหกรรม มีอะไรบ้าง และระบบ automation control แต่ละรูปแบบทำงานอย่างไร

ระบบ plc

ระบบ automation control plc หรือ Programmable Logic Control คือ ระบบที่สำคัญในการสั่งการผลิตด้วยเครื่องจักรอัตโนมัติ เป็นระบบที่ทำหน้าที่ประมวลผลรับชุดคำสั่งและส่งต่อไปยังแผนการผลิตเพื่อให้ได้ผลการผลิตตามรูปแบบที่ตั้งค่าไว้ หากต้องการสั่งการผลิตที่มีความซับซ้อนยิ่งขึ้น สามารถนำระบบplcมาเชื่อมผ่านระบบเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อตั้งค่าสั่งการเพิ่มเติมได้อีกด้วย

ระบบ dcs

ระบบ automation control dcs หรือ Distributed Control System คือ ระบบที่ถูกควบคุมด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ มักจะถูกใช้กับโรงงานอุตสาหกรรมที่มีขนาดใหญ่ เนื่องจากระบบ dcs มีความเสถียรและมีความแม่นยำสูงมาก จึงเหมาะกับอุตสาหกรรมที่มีความเสี่ยงสูงตามมาเช่นกัน

โดยระบบdcsยังสามารถ เชื่อมต่อกับอุปกรณ์การวัดและควบคุมอื่น ๆ เช่น เครื่องวัดอุณหภูมิ(Temp Transmitter), เครื่องวัดแรงดัน(Pressure Transmitter) และเครื่องวัดระดับของเหลว(Level Transmitter) รวมไปถึงการเชื่อมต่อกับระบบ PLC และ FSC โดยสามารถควบคุมระบบระยะไกลผ่านเครือค่ายเน็ตเวิร์คได้อีกด้วย ซึ่งหากเกิดความผิดปกติของกระบวนการทำงาน จะมีการแจ้งเตือนทั้งบนหน้าจอคอมพิวเตอร์และสัญญาณเสียง

ระบบ embedded system

ระบบ automation control embedded system คือ ระบบประมวลผลขนาดเล็กที่ใช้การสั่งการผ่านชิปฝังเข้าไปในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เช่นเครื่องใช้ไฟฟ้าและยานพาหนะ

ระบบ scada

ระบบ automation control SCADA หรือ Supervisory Control and Data Acquisition คือ ระบบตรวจสอบ ควบคุม และเก็บข้อมูลมาวิเคราะห์แบบ Real-time ซึ่งมักจะถูกใช้ในงานอุตสหกรรมด้านวิศวกรรม เช่น โทรคมนาคมสื่อสาร การประปา การบำบัดน้ำเสีย การจัดการด้านพลังงาน อุตสาหกรรมการกลั่นน้ำมันและก็าซ และกระบวนการนิวเคลียร์ในโรงไฟฟ้า เป็นต้น

ข้อเสียของ ระบบ automation control

  • โรงงานอุตสาหกรรมที่ใช้ระบบ automation control มักจะต้องพบเจอกับภัยคุกคามด้านความปลอดภัย เพราะระบบสั่งการผลิตจะถูกเชื่อมกับระบบอินเตอร์เน็ต ซึ่งอาจทำให้ระบบการทำงานโดนแฮกจากผู้ไม่หวังดีได้
  • ระบบ automation control มีข้อจำกัดด้านปัญญาและการแก้ไขสถานการณ์ตรงหน้า เนื่องจากระบบจะทำงานเท่าที่มนุษย์ได้ตั้งค่าไว้เท่านั้น
  • มีค่าใช้จ่ายเรื่องการพัฒนาและอัพเดทระบบ automation control เรื่อย ๆ ส่วนเรื่องค่าติดตั้งระบบ automation control เพื่อใช้ในโรงงานอุตสหกรรม จะมีค่าใช้จ่ายสูงแค่ช่วงติดตั้งระบบ แต่หลังจากนั้นค่าใช้จ่ายจะถูกลงเมื่อเทียบกับจำนวนการผลิตที่ได้

ข้อดีของ automation control

  • เพิ่มจำนวนสินค้าหรือเพิ่มผลผลิตได้มากขึ้น เนื่องจากเครื่องจักรสามารถทำงานตามที่ระบบสั่งการได้ตลอดเวลาไม่จำกัด
  • ปรับปรุงคุณภาพหรือเพิ่มคุณภาพของสินค้า โดยสามารถสั่งปรับเปลี่ยนแผนการผลิตอย่างไรก็ได้ผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์
  • ปรับปรุงความทนทานของกระบวนการผลิตหรือสินค้า โดยการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ควบคุมการทำงานประเภทอื่น ๆ
  • ปรับปรุงความคงเส้นคงวาของกระบวนการผลิต ระบบ automation control หากถูกเซ็ตข้อมูลการผลิตแบบใดไว้ เครื่องจักรจะทำงานด้วยระบบเดียวกันตลอดการผลิต ทำให้ได้ผลการผลิตที่เหมือนกันทั้งล็อต
  • ลดแรงงานและค่าจ้างของคนลงได้มาก การใช้แรงงานคนมีค่าใช้จ่ายที่เยอะกว่า เพราะแต่ละสายการผลิตใช้คนไม่เท่ากัน หากเปลี่ยนมาใช้ระบบ automation control จะมีคนกดสั่งการผ่านระบบเพียงไม่กี่คนเท่านั้น
  • เพิ่มความปลอดภัยให้กับโรงงานอุตสาหกรรม เนื่องจากไม่ใช้คนในกระบวนการผลิต

ข้อดีระบบ automation

สรุป ระบบ automation control

ระบบautomation control ถือว่าเป็นนวัตกรรมที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก การติดตั้งระบบ automation control ในโรงงานอุตสหกรรมทำให้ได้ผลการผลิตที่แม่นยำ สามารถควบคุมปริมาณการผลิตและระยะเวลาในการผลิตได้ ใช้ทรัพยกรมนุษย์น้อยลง และสามารถเพิ่มการผลิตให้กับโรงงานได้ตามต้องการ เพียงแค่สั่งการผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์เท่านั้น

134
เก็บเงินซื้อบ้าน

หลายคนคงมีความฝันอยากมีบ้านเป็นของตัวเองมาตั้งแต่เด็กๆ แต่โตมาได้ทำงานถึงรู้ว่าการเก็บเงินซื้อบ้านสักหลังนั้นยากมาก เพราะอสังหาฯ ในปัจจุบันแพงขึ้นเรื่อยๆ แต่ค่าแรงสวนทางกับเหล่ามนุษย์เงินเดือนอย่างมาก จะเก็บตังซื้อบ้านทั้งทีก็ต้องมีวิธีการเก็บเงินอย่างชาญฉลาด รอบคอบ และมีวินัยในตนเองอยู่เสมอ บทความนี้จะมาบอกเคล็ดลับในการเก็บเงินซื้อบ้าน

1. กำหนดเป้าหมายของตัวเองให้ชัดเจน

หลายคนพูดว่าอยากจะมีบ้านของตัวเอง แต่ไม่เริ่มเก็บหอมรอมริบ หรือตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนไม่ว่าจะเป็น กำหนดรูปแบบและขนาดของบ้านให้เข้ากับไลฟ์สไลต์ของคุณ อย่าลืมคำนึงถึงคนในครอบครัวและพื้นที่การใช้งานในบ้านที่คุณต้องการด้วยนะ, ราคาที่พึงพอใจ ราคาที่คุณสามารถจ่ายไหว ไม่เกินกำลังตัวเองมากเกินไปหรือทำให้คนรอบข้างต้องเดือดร้อน, ทำเลที่อยากได้ ย่านที่พักอาศัยเป็นปัจจัยสำคัญมากๆ เนื่องจากการเก็บเงินซื้อบ้านทั้งที ต้องใช้เงินจำนวนมากและต้องใช้ความรอบคอบในการพิจารณาซื้อบ้านสักหลังหนึ่ง เพราะคุณต้องอยู่ที่นี่ไปอีกนาน แนะนำให้คุณเลือกทำเลที่สะดวก ปลอดภัย มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับคุณ ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้า โรงพยาบาล ร้านสะดวกซื้อ และอย่าลืมเลือกซื้อบ้านที่ใกล้ที่ทำงานของคุณ เพื่อที่จะไม่ได้เสียค่าเดินทางมากและเหน็ดเหนื่อยกับการเดินทางไปทำงานมากจนเกินไป นี่เป็นการตั้งเป้าหมายเบื้องตนที่คุณจำเป็นต้องหาข้อมูลพวกนี้ใช้ประกอบการตัดสินใจซื้อบ้าน เพื่อเตรียมเก็บเงินสร้างบ้านในฝันของตัวเอง

2. ลิสต์โครงการบ้านที่คุณชื่นชอบ

จะเก็บเงินซื้อบ้านทั้งที อย่าลืมไปสำรวจบ้านหรือโครงการที่คุณชื่นชอบ โดยการทำลิสต์รายการบ้านที่คุณพึงพอใจทั้งในเรื่องของราคา ทำเลที่ตั้ง และเข้ากับไลฟ์สไตล์ของคุณ การทำแบบนี้จะช่วยให้คุณสามารถเปรียบเทียบและง่ายต่อการพิจารณาซื้อบ้านสักหลัง สามารถตัดช้อยส์ที่ไม่จำเป็นออกไปได้เลยทันที

3. มองหาบ้านที่สามารถต่อรองราคาได้

อย่าลืมมองหาบ้านที่สามารถคุยกับเจ้าของโครงการได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสัญญาการซื้อบ้าน การผ่อนจ่ายหรือมีโปรโมชั่นลดราคาอยู่พอดี เพื่อที่จะช่วยให้คุณประหยัดเงินในกระเป๋าลงไปได้อีกนิดหน่อย ยิ่งสถานกาณ์โควิด-19 ในปัจจุบันที่ส่งผลทำให้เศรษฐกิจซบเซาลง ทำให้เจ้าของอสังหาริมทรัพย์หลายโครงการจัดโปรโมชั่นลด แลก แจก แถม สุดคุ้มเพื่อดึงดูดให้คนเก็บเงินซื้อบ้านหรือคอนโดใหม่กันเพิ่มมากขึ้น ซึ่งให้คิดว่าการวางแผนเก็บเงินซื้อบ้าน คือ การลงทุนในระยะยาว หากได้ทำเลที่ดียังไงก็ขายได้ราคาสูง แต่ต้องรอบคอบและคิดให้ดีก่อนตัดสินใจ และที่สำคัญอย่าลืมดูกำลังผ่อนตัวเองว่าไหวที่เท่าไหร่ด้วย

4. คำนวณรายรับ-รายจ่ายในแต่เดือนของตัวเอง

คำนวณรายรับ-รายจ่ายของตัวเองในแต่ละเดือน โดยคิดค่าใช้จ่ายที่จำเป็นจริงๆ ก่อน ส่วนเงินที่เหลือนั้นให้แบ่งไว้เพื่อเก็บเงินซื้อบ้านในอนาคต อาจจะทำเป็นสมุดบัญชีขึ้นมาเลยก็ได้ ข้อดีของการทำแบบนี้เพื่อให้ทราบถึงพฤติกรรมการใช้เงินของตัวเองในแต่ละเดือนว่าหมดเงินไปกับอะไรบ้าง และทราบถึงสถานะทางการเงินของตัวเองในปัจจุบัน เพื่อที่จะสามารถปรับแผนการเงินได้อย่างเหมาะสม

5. แบ่งเก็บเงิน 20% ของราคาบ้าน

การเก็บเงินซื้อบ้านคุณควรที่จะต้องแบ่งเงินเก็บออกเป็น 20% ของราคาบ้าน ซึ่งก่อนที่จะซื้อคุณควรจะมีเงินก้อนแรกสำหรับดาวน์บ้าน รวมถึงเงินสำรองเพื่อใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่านายหน้า เงินจองบ้าน ค่าทำสัญญา ค่าโอนกรรมสิทธิ์ ค่าจดจำนอง เป็นต้น มาลองคำนวณคร่าวๆ ถ้าจะต้องเก็บเงินซื้อบ้านอย่างน้อย 20% ของราคาบ้าน เช่น หากต้องการซื้อบ้านราคา 4 ล้านบาท จะต้องมีเงินเก็บ 20% ของราคาบ้าน หรือเท่ากับ 800,000 บาท เพื่อใช้ดาวน์บ้านในเดือนแรก เป็นต้น หรือ หากคุณมีเป้าหมายจะผ่อนบ้านในอีก 5 ปีข้างหน้า โดยที่ราคาบ้านอยู่ที่ 3,000,000 บาท จะต้องมีเงินเก็บเพื่อซื้อบ้าน ( 3,000,000*20% = 600,000 บาท ) เลยทีเดียว

6. สร้างวินัยให้กับตัวเอง เงินเดือนเข้าปุ๊บโอนเก็บไว้อีกบัญชีปั๊บ

จะเก็บเงินซื้อบ้านทั้งที จะต้องหมั่นฝึกฝนตัวเองให้คุ้นชินกับการเก็บหอมรอมริบ เพราะจะต้องเก็บเงินก้อนใหญ่ในชีวิต สิ่งที่คุณจะขาดไม่ได้เลยคือ การมีวินัยในตนเองให้เก็บเงินอยู่อย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ โดยที่เงินเดือนเข้าปั๊บก็แบ่งเก็บไว้เลยอย่างน้อย 20% ของรายได้ทั้งหมด

7. ตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออก

ตัดค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ไม่จำเป็นออกให้หมด ลดความฟุ่มเฟือยลง ระวังเรื่องการใช้จ่ายให้มากขึ้น จะซื้ออะไรคิดให้ดีอย่างมีสติ ซื้อแต่ของที่จำเป็นในชีวิตประจำวันจริงๆ เท่านั้น คำนึงถึงเป้าหมายหลักในอนาคตที่กำลังรอคุณอยู่

8. เลือกสินเชื่อบ้านที่ดีๆ

การเลือกสินเชื่อบ้านที่ดีๆ เป็นอีกสิ่งที่สำคัญมาก อย่าลืมศึกษาอัตราดอกเบี้ยที่ต้องกู้ในปีแรกและปีถัดไปว่ามีเงื่อนไขอื่นเพิ่มเติมหรือไม่ อย่าเลือกจากการยื่นข้อเสนอที่ดีที่สุด เช่น ดอกเบี้ยในปีแรกต่ำเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ควรเลือกสินเชื่อที่เหมาะสมกับสถานะทางการเงินในปัจจุบันของคุณ การผ่อนชำระเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพหรือกระทบต่อสภาพคล่องในแต่ละเดือนของคุณหรือไม่ เพราะหากคุณเซ็นสัญญาไปแล้ว ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ทั้งนั้น

9. หาช่องทางการทำเงินหรือสร้างรายได้เสริม

การหารายได้เสริม เป็นอีกทางหนึ่งที่จะช่วยให้การเก็บเงินซื้อบ้านเป็นไปอย่างรวดเร็วขึ้น ลองหางานพาร์ทไทม์หรืองานฟรีแลนซ์ที่คุณถนัดหรือชื่นชอบอยู่แล้ว เพื่อเพิ่มช่องทางการทำเงินให้มากขึ้น แถมยังช่วยให้ฝันของคุณใกล้ความจริงได้รวดเร็วยิ่งขึ้นอีกด้วย

10. ลงทุนและต่อยอดจากเงินออม

การนำเงินเก็บที่มีอยู่บางส่วนมาลงทุนเป็นอีกหนึ่งทางที่จะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับคุณ ซึ่งการลงทุนมีหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนหุ้น, การลงทุนกองทุนรวม, การลงทุนตราสารหนี้หรือการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น หากคุณมีความรู้และการวางแผนที่ดี ก็จะได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้น ช่วยให้คุณสามารถเก็บเงินซื้อบ้านได้เร็วมากยิ่งขึ้น การลงทุนมีความเสี่ยงควรศึกษาให้ดีก่อนลงทุนเสมอด้วยนะ

เก็บเงินซื้อบ้านกับ Make by KBank ตัวช่วยที่ดีให้กับคุณ

หากคุณกำลังมองหาแอปธนาคารที่จะช่วยให้การเก็บเงินเป็นไปอย่างสะดวก รวดเร็ว และง่ายดาย เราขอแนะนำแอปพลิเคชัน Make by KBank ของธนาคารกสิกรไทย ที่จะเปลี่ยนวิธีเก็บเงินซื้อบ้านแบบเดิมๆ ให้น่าสนใจยิ่งขึ้นได้ในชั่วพริบตา

แอปเก็บเงิน MAKE by KBank ดีอย่างไร

1. สามารถวางแผนการเงินของคุณเองได้อย่างง่ายดาย
2. สามารถแบ่งเงินไว้ใช้ในส่วนต่างๆ อย่างชัดเจน และเป็นไปตามเป้าหมายที่คุณคาดหวังไว้
3. สามารถจ่ายเงินผ่านแอป  MAKE by KBank แทนการใช้แอปฯ ธนาคารได้เลย
4. สามารถติดตามรายจ่ายของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ฟีเจอร์ของแอปเก็บเงิน MAKE by KBank

1. Cloud Pocket
หนึ่งในฟีเจอร์ที่คนนิยมใช้งานของแอปเก็บเงิน MAKE by KBank ตัวช่วยแยกกระเป๋าเงิน เพื่อแสดงค่าใช้จ่ายต่างๆ ออกเป็นสัดส่วนอย่างชัดเจน ช่วยกำหนดปริมาณการใช้จ่ายในแต่ละเดือนอีกด้วย เนื่องจากสามารถระบุได้ว่า เงินแต่ละส่วนจะนำไปใช้ในเรื่องอะไรบ้าง สร้างความเป็นระเบียบให้กับตัวเองอีกด้วย แถมยังสามารถ Shared Cloud Pocket เพื่อใช้กระเป๋าเงินร่วมกับคนอื่นๆ เช่น ครอบครัว แฟน เพื่อนได้เช่นเดียวกัน

2. Expense Summary
ที่จะช่วยสรุปค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยจะแบ่งค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน ออกเป็น 6 หมวดหมู่ ได้แก่ ค่าอาหาร, ค่าเดินทาง, ความบันเทิง, ค่าช้อปปิ้ง, การชำระบิล, และหมวดหมู่อื่นๆ ช่วยให้คุณทราบว่าใช้เงินในแต่ละหมวดหมู่ไปเท่าไหร่บ้าง

3. Pop Pay
ความสามารถของฟีเจอร์นี้คือ สามารถโอนเงินให้คนอื่นได้ในทันที เพียงอยู่ใกล้กันในระยะไม่เกิน 10 เมตร และเปิดบลูทูธเชื่อมต่อ โดยที่อีกคนก็ต้องใช้แอป MAKE by KBank เหมือนกันด้วยนะ เพียงเท่านี้การโอนเงินก็สามารถทำได้ง่ายๆ ไม่ต้องขอเลขบัญชี  QR Code หรือ PromptPay อีกต่อไป แถมยังสามารถกดเงินสดแบบไม่ใช้บัตรจากตู้ ATM ธนาคารกสิกรไทย หรือชำระค่าสินค้าหรือบริการต่างๆ ผ่านแอป MAKE by KBank ได้เลยอีกด้วย

4. Chat Banking
หากมีการโอนเงินเข้าหรือออกจากบัญชี ก็จะโชว์สลิปที่มีลักษณะคล้ายโปรแกรมแชทแยกตามบัญชีที่เราทำธุรกรรม ง่ายต่อการอ่าน ไม่ยุ่งยากหาหมวดหมู่สลิป แถมยังสามารถโน้ตรายละเอียดต่างๆ ภายในแชทได้อีกด้วย

5. Money Request
ฟีเจอร์ที่จะช่วยเรียกเก็บเงินจากเพื่อนๆ ของคุณ เพียงแค่ส่ง Money Request หรือรายการเรียกเก็บไปได้เลย โดยที่ไม่ต้องเสียเวลาเหนื่อยตามทวงเงินคืนอีกต่อไป

เริ่มเก็บเงินซื้อบ้านได้เลยในตอนนี้

ใครที่อยากมีบ้านสักหลังเป็นของตัวเอง ควรรีบเก็บเงินซื้อบ้านไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ นอกจากจะมีโอกาสที่ราคาบ้านจะเพิ่มสูงขึ้นแล้ว ยังช่วยตั้งเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่หรือเป็นรางวัลให้กับชีวิตของคุณ สร้างวินัยในการเก็บออม ช่วยให้คุณเป็นคนระวังเรื่องการใช้เงินมากขึ้น การเก็บเงินซื้อบ้านจะเป็นเรื่องง่ายๆ หากคุณสามารถปฏิบัติตามวิธีการเก็บตังซื้อบ้านตามที่เราได้ให้ไปข้างต้น แถมในยุคนี้ยังมีตัวช่วยอำนวยความสะดวกที่จะทำให้การเก็บเงินไม่ใช้เรื่องยากอีกต่อไป


135
ติดตั้งประตูรีโมท

ปัจจุบันการติดตั้งประตูรีโมท (gate automation) เป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับคนมีบ้านที่จะช่วยอำนวยความสะดวกเวลาจะเข้า-ออกจากบ้าน โดยเฉพาะบ้านไหนที่ต้องใช้รถยนต์อยู่เป็นประจำ เพราะประตูรีโมทจะทำให้เจ้าของบ้านไม่ต้องออกมาจากรถเพื่อมาเลื่อนเปิด-ปิดรั้วบ้านนั่นเอง

แต่การติดตั้งประตูรีโมทไม่ใช่เรื่องง่าย บทความนี้จะพูดถึงข้อควรรู้ต่างๆ สำหรับผู้ที่อยากจะติดตั้ง หรือกำลังตามหาบริษัทที่รับติดตั้งประตูรีโมท เพื่อให้สามารถติดตั้งได้อย่างถูกต้อง และเหมาะสมกับตัวบ้าน ตามที่เราต้องการ

ประตูรีโมทคืออะไร? จำเป็นหรือไม่?

การติดตั้งประตูรีโมท

ประตูรีโมทคือประตูรั้วบ้านที่มีการติดตั้งเครื่องมอเตอร์ประตูรีโมทอัตโนมัติ โดยการติดตั้งประตูรีโมทจะทำให้เจ้าของบ้านสามารถควบคุมการเปิด-ปิดประตูรั้วหน้าบ้านได้ด้วยรีโมท โดยที่ไม่จำเป็นต้องเลื่อนรั้วเอง ซึ่งการติดตั้งประตูรีโมทจะช่วยประหยัดแรงและเวลาในการเปิด-ปิดรั้วบ้านได้มาก รวมถึงยังสามารถใช้รีโมทสั่งการได้จากในระยะไกลอีกด้วย โดยเฉพาะในวันที่สภาพอากาศไม่เป็นใจ ไม่ว่าจะฝนตกหรือแดดออกก็ไม่ต้องออกไปเลื่อนรั้วด้วยตัวเอง

โดยเครื่องมอเตอร์สำหรับติดตั้งประตูรีโมทก็มีอยู่หลายยี่ห้อ ซึ่งมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป เจ้าของบ้านจึงควรมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการติดตั้งประตูรีโมทโดยเบื้องต้น เพื่อให้สามารถเลือกใช้มอเตอร์ประตูรีโมทที่เหมาะสมกับรู้บ้านของตนเอง และลดความเสี่ยงการใช้งานมอเตอร์ผิดประเภทจนต้องซ่อมประตูรีโมทบ่อยๆ

การติดตั้งประตูรีโมทสำหรับประตูรั้วประเภทต่างๆ

ติดตั้งประตูรีโมท ประเภท

  • ประตูรีโมทแบบบานเลื่อน (Sliding Gates)
เป็นรูปแบบประตูรั้วที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายมากที่สุดไม่ว่าจะเป็นที่อยู่อาศัย ร้านค้า หรือโรงงานอุตสาหกรรม เนื่องจากการติดตั้งประตูรีโมทประเภทนี้ใช้มอเตอร์แค่เครื่องเดียว จึงทำให้ค่าใช้จ่ายสำหรับการติดตั้งและการดูแลรักษาน้อยกว่าประเภทอื่นๆ นอกจากนี้ประตูแบบบานเลื่อนยังมีวัสดุให้เลือกใช้ที่หลากหลาย สามารถเลือกใช้ตามความต้องการ

  • ประตูรีโมทแบบบานสวิง (Swing Gates)
ประตูบานสวิงเป็นอีกหนึ่งรูปแบบการติดตั้งประตูรีโมทที่ได้รับความนิยมรองลงมา เป็นประตูรั้วลักษณะที่มี 2 บาน โดยข้อดีของประตูรีโมทแบบบานสวิงคือสามารถเปิด-ปิด ได้สองทาง (เปิดเข้าหรือเปิดออกจากตัวอาคาร) แต่ก็มีจุดที่ควรระวังเช่นเดียวกัน นั่นคือจะต้องมีพื้นที่เพียงพอในบริเวณวงสวิงของประตู ไม่ให้มีสิ่งกีดขวางขณะเปิด-ปิดประตู ดังนั้นจึงไม่เหมาะสำหรับอาคารในพื้นที่แคบ หรือซอยแออัด

  • ประตูรีโมทแบบบานเฟี้ยม (Bi-folding Gates)
การติดตั้งประตูรีโมทแบบบานเฟี้ยม เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มีพื้นที่จำกัด เนื่องจากการเปิด-ปิดประตูบานเฟี้ยมจะเป็นการพับทบบานประตูเก็บเข้าหาตัวมันเอง จึงเป็นประตูรีโมทที่ใช้พื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังมีสไตล์ที่แปลกใหม่ ไม่เหมือนใคร

  • ประตูรีโมทแบบประตูโรงรถ (Garage Doors)
เหมาะสำหรับบ้านที่มีส่วนของโรงรถเพิ่มขึ้นมาจากตัวบ้าน โดยการติดตั้งประตูรีโมทแบบประตูโรงรถโดยส่วนมากแล้วจะเป็นลักษณะของการพับบานประตูขึ้นไปขนานกับฝาผนังของโรงรถ ในปัจจุบันการติดตั้งประตูรีโมทประเภทนี้มีหลายวัสดุให้เลือกหลากหลาย และมีระบบเซนเซอร์เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้อีกด้วย

  • ประตูรีโมทแบบอื่นๆ
นอกจากประตูรีโมทที่ได้กล่าวไปแล้ว ยังมีประตูรีโมทอีกหลายแบบให้เลือกใช้อีกมากมาย เพื่อตอบโจทย์การใช้งานของแต่บ้านหรืออาคารต่างๆ ตัวอย่างการติดตั้งประตูรีโมทรูปแบบอื่นๆ เช่น ประตูรีโมทแบบบานโค้ง, ประตูรีโมทแบบสลับ, ประตูรีโมทแบบบานพับ, ประตูรีโมทแบบบานเลื่อนซ้อน หรือประตูรีโมทแบบไม้กั้น เป็นต้น

วัสดุที่ใช้ติดตั้งประตูรีโมทมีแบบไหนบ้าง?

 ติดตั้งประตูรีโมท วัสดุ

ปัจจุบันประตูบ้านมีหลากหลายรูปแบบ รวมถึงสีและขนาดที่แตกต่างกันออกไป โดยเฉพาะในเรื่องของวัสดุที่ใช้ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการเลือกใช้มอเตอร์ในการติดตั้งประตูรีโมทได้อย่างเหมาะสม เนื่องจากแต่ละวัสดุมีคุณสมบัติและน้ำหนักที่แตกต่างกัน ยกตัวอย่างวัสดุที่นิยมใช้สำหรับประตูรั้วบ้าน พร้อมคำนวณน้ำหนักเฉลี่ยสำหรับประตูที่มีความสูง 2 เมตร ได้ดังนี้

  • สเตนเลส น้ำหนักประมาณ 60-75 กก./เมตร
  • สเตนเลสและไม้ น้ำหนักประมาณ 140-175 กก./เมตร
  • อัลลอย น้ำหนักประมาณ 180-225 กก./เมตร
  • เหล็กกล่อง น้ำหนักประมาณ 80-100 กก./เมตร
  • เหล็กกล่องและไม้ น้ำหนักประมาณ 160-200 กก./เมตร

ควรรู้น้ำหนักของประตูก่อนติดตั้งประตูรีโมท

ติดตั้งประตูรีโมท น้ำหนัก

สืบเนื่องจากลักษณะวัสดุของประตูแต่ละประเภท ที่มีคุณสมบัติแตกต่างกัน ผู้ที่กำลังจะติดตั้งประตูรีโมทมีความจำเป็นที่จะต้องทราบถึงน้ำหนักของประตูที่จะทำการติดตั้ง เพื่อให้สามารถเลือกใช้มอเตอร์ประตูรีโมทได้อย่างเหมาะสม เพราะหากเลือกใช้มอเตอร์ที่มีขนาดเล็กจนเกินไป อาจทำให้มอเตอร์ทำงานหนักขึ้นและอายุการใช้งานลดลง อาจทำให้ต้องซ่อมมอเตอร์ประตูรีโมทเป็นประจำ แต่หากเลือกใช้มอเตอร์ที่มีขนาดใหญ่จนเกินไป ก็อาจทำให้เปลืองค่าไฟโดยใช่เหตุ ถึงแม้จะมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า

โดยหลักการคำนวณเพื่อหาขนาดของมอเตอร์ที่เหมาะสมกับประตูรั้วของเรามีดังนี้
ขนาดมอเตอร์ (กก.) = ความยาวของประตูรั้วที่ต้องเลื่อน (เมตร) x น้ำหนักประตูรั้ว (กก.)

สรุปการติดตั้งประตูรีโมท

การติดตั้งประตูรีโมท เจ้าของบ้านหรืออาคารที่ต้องการติดตั้งมอเตอร์ประตูรีโมทอัตโนมัติจำเป็นที่จะต้องทำความเข้าใจถึงประเภทของประตูรั้ว รวมไปถึงวัสดุที่ใช้ ความยาวและน้ำหนักของประตูรั้วที่จะทำการติดตั้งก่อนการตัดสินใจเลือกซื้อทุกครั้ง เพื่อให้สามารถเลือกใช้รุ่นและขนาดของมอเตอร์ที่เหมาะสมที่สุด สามารถประหยัดต้นทุนและค่าบำรุงรักษาได้ในระยะยาว ทั้งนี้ไม่ควรติดตั้งประตูรีโมทด้วยตนเอง เนื่องจากเป็นงานที่ต้องใช้ความละเอียดและแม่นยำ หากไม่เชี่ยวชาญอาจเกิดความเสียหายและเกิดอันตรายได้ ดังนั้นหากยังไม่แน่ใจว่าควรเลือกใช้มอเตอร์แบบไหน หรือจะต้องติดตั้งประตูรีโมทราคาเท่าไหร่ ควรปรึกษาทีมช่างผู้มีประสบการณ์ก่อนนั่นเอง



136
ล้างแอร์

ในปัจจุบันหลาย ๆ สถานที่ไม่ว่าจะเป็นที่ทำงาน ร้านค้า หรือบ้าน ต่างก็มีการติดตั้งแอร์ทั้งสิ้นเพราะเนื่องจากสภาพอากาศของประเทศไทยนั้นมีอากาศร้อนตลอดทั้งปี การดูแลและบำรุงรักษาแอร์หรือเครื่องปรับอากาศนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่จะมีผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานของเครื่องและสุขภาพของผู้ใช้งานเช่นกัน

ในบทความนี้เราจะพูดถึงความสำคัญของการล้างแอร์ว่ามีผลกระทบอย่างไรบ้างหากแอร์ไม่ได้รับการทำความสะอาดหรือการล้างแอร์แต่ละครั้งควรเปลี่ยนน้ำยาแอร์หรือไม่และควรล้างแอร์บ่อยแค่ไหน

ทำไมต้องล้างแอร์ 

ล้างแอร์บ้าน

การล้างแอร์นอกจากจะเป็นการทำความสะอาดเพื่อช่วยให้แอร์สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพแล้วยังสามารถช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องสุขภาพของผู้ใช้งานอีกด้วย โดยเฉพาะในสภาพอากาศที่มีอุณหภูมิภายนอกค่อนข้างสูง แอร์จะมีบทบาทสำคัญในการช่วยควบคุมอุณหภูมิและความชื้นภายในห้องได้เป็นอย่างดี ดังนั้นเมื่อแอร์เกิดการสะสมของสิ่งสกปรกที่อาจเกิดจากฝุ่น สารเคมี หรือแบคทีเรียในระบบท่อ ก็จะส่งผลให้เกิดกลิ่นอับ น้ำแอร์หยด หรือปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพตามมาได้ นอกจากนี้ยังส่งผลให้มีปัญหาอื่น ๆ ตามมาเช่น

หากไม่ล้างแอร์อาจทำให้ค่าไฟสูงขึ้น

สำหรับแอร์ที่ไม่ได้ผ่านการล้างแอร์มาเป็นเวลานาน ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มีอาการหรือปัญหาเกิดขึ้นกับตัวแอร์อย่างชัดเจนก็อาจส่งผลให้ค่าไฟสูงขึ้นได้ เพราะหากไม่ได้ล้างแอร์เป็นระยะเวลานาน คอมเพสเซอร์ คอยร้อน และคอยเย็นจะทำงานหนักขึ้นและใช้กระไฟฟ้าที่สูงกว่าปกติ ส่งผลให้มิเตอร์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

หากไม่ล้างแอร์จะทำให้แอร์มีฝุ่นปะปนออกมา

หากใช้งานแอร์แล้วพบว่ามีฝุ่นปะปนออกมาด้วยนั่นแสดงว่า แผ่นกรองอากาศหรือฟิลเตอร์แอร์ที่เป็นตัวช่วยในการดักจับฝุ่นละอองถูกใช้งานจนไม่สามารถดักจับฝุ่นเพิ่มเติมได้อีกแล้ว ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าควรจะมีการล้างแอร์เพื่อให้ฟิลเตอร์แอร์สามารถกลับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพตามเดิม

ไม่ล้างแอร์ทำให้แอร์ไม่เย็น

ปัญหาแอร์ไม่เย็นเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นได้บ่อย อาจเป็นเพราะคุ้นชินกับการใช้งานแอร์เป็นประจำทำให้อาจไม่ได้สังเกตการเปลี่ยนแปลงสักเท่าไร และอาจทำให้หลายคนชะล่าใจเลือกที่จะไม่ล้างแอร์จนส่งผลให้มีปัญหาเกิดขึ้นตามมาได้ เพราะเมื่อแอร์ไม่เย็นเหมือนปกตินั่นอาจแสดงว่าระบบการทำงานภายในตัวเครื่องอาจทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพเพราะมีการสะสมของสิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ ภายใน ดังนั้นล้างคอยล์ร้อนแอร์จะช่วยแก้ไขปัญหาและสามารถยืดอายุการทำงานของแอร์ได้

ควรล้างแอร์บ่อยแค่ไหน

ล้างแอร์ด่วน

หลังจากที่ได้รู้ถึงความสำคัญของการล้างแอร์ไปแล้วว่าสามารถแก้ไขปัญหาหรือส่งผลอย่างไรบ้าง ทีนี้อาจจะมีคำถามว่าแล้วการล้างแอร์ควรล้างบ่อยแค่ไหนหรือควรล้างเมื่อไหร่ดี ซึ่งการล้างแอร์โดยปกติแล้วควรล้างเป็นประจำทุก 4 - 6 เดือน แต่สำหรับบางพื้นที่หรือบางลักษณะการใช้งานระยะเวลาในการล้างแอร์อาจแตกต่างกันออกไปเช่น

  • การใช้งานเป็นประจำ หากแอร์มีการใช้งานเป็นประจำหรือมีการเปิดใช้งานอย่างต่อเนื่องอาจส่งผลให้มีสิ่งสกปรกสะสมที่มากขึ้นและรวดเร็วกว่าปกติดังนั้นการล้างแอร์อาจมีการล้างที่บ่อยมากขึ้นจากทุก 4 - 6 เดือนเป็นทุก 1 -3 เดือนแทน
  • สภาพแวดล้อม ถ้าหากว่าอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีฝุ่นมากหรือในพื้นที่ที่มีมลพิษทางอากาศสูงอย่างในกรุงเทพ ตัวเมือง หรือใกล้เขตโรงงาน สถานที่ก่อสร้างต่าง ๆ ก็ควรมีการล้างแอร์ที่บ่อยมากขึ้นเพื่อป้องกันการสะสมของสิ่งสกปรก
  • การใช้งานในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง หากมีการใช้งานแอร์ในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง อาจทำให้เกิดการสะสมของรอยน้ำและแบคทีเรียเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้แอร์มีกลิ่นอับชื้นและท่อแอร์ตันได้ ดังนั้นจึงควรล้างแอร์ทุก ๆ 1 - 3 เดือนเพื่อป้องกันการเกิดปัญหาดังกล่าว
  • การตรวจสอบแผ่นฟิลเตอร์ หากแอร์ที่ใช้งานมีฟิลเตอร์กรอกสิ่งแปลกปลอมในอากาศ ควรหมั่นตรวจเช็กและทำการล้างแอร์รวมถึงแผ่นฟิลเตอร์เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาฝุ่นปะปนมากับแอร์

การล้างแอร์จำเป็นต้องเปลี่ยนน้ำยาแอร์ไหม

ล้างแอร์คอนโด

สำหรับการล้างแอร์บ้านไม่ได้จำเป็นจะต้องเปลี่ยนน้ำแอร์ทุกครั้ง แต่การเปลี่ยนหรือเติมน้ำยาแอร์จะมีการเปลี่ยนในบางกรณีเช่น ล้างแอร์แล้วไม่เย็น หรือ แอร์มีกลิ่นอับหลังจากล้างแอร์แล้วก็ยังไม่หาย การเปลี่ยนน้ำยาแอร์อาจช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้

สรุปการล้างแอร์ช่วยแก้ปัญหาได้มากกว่าที่คิด

การล้างแอร์เป็นประจำอย่างสม่ำเสมอคือสิ่งสำคัญที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของแอร์ให้สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและยังสามารถยืดอายุการใช้งานของแอร์ให้ใช้งานได้อย่างยาวนานอีกด้วย นอกจากนี้การล้างแอร์ยังช่วยแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ของแอร์ได้เช่น ปัญหาน้ำแอร์หยด แอร์มีเสียงดัง หรือปัญหาแอร์ไม่เย็น ซึ่งการใช้บริการล้างแอร์ในปัจจุบันนั้นสะดวกสบายมากเพราะมีบริการล้างแอร์ถึงที่ทั้ง ล้างแอร์คอนโด ล้างแอร์บ้าน ราคาไม่แพงแถมในบางที่ยังมีบริการล้างแอร์ด่วน 24 ชั่วโมงอีกด้วย

137
ยกระดับการบริการ ด้วยระบบบัตรคิว

ระบบบัตรคิว ถูกพัฒนาขึ้นมาใช้ในหลาย ๆ ธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจประเภทที่มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก ๆ ในช่วงเวลาเดียวกันก็เพื่อจุดประสงค์ในการหลีกเลี่ยงความแออัดของสถานที่ ช่วยจัดระเบียบในการให้บริการเป็นระบบ และพนักงานสามารถให้บริการลูกค้าได้เต็มประสิทธิภาพ สร้างความพึงพอใจแบบ first come first serve ตามบัตรคิว
 
การสร้างระบบคิวออนไลน์ยิ่งช่วยเพิ่มความสะดวกให้แก่ลูกค้ายิ่งขึ้น ไม่ต้องเสียเวลายืนรอเป็นเวลานานก่อนได้รับบริการการรับบัตรคิวก็เป็นไปด้วยสะดวกสบายขึ้น สิ่งเหล่านี้จะดึงดูดให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการอยู่เรื่อย ๆ
 
ระบบบัตรคิวเป็นระบบคิวที่สนับสนุนแนวคิดของการสร้างระยะห่างทางสังคม ลดความแออัดบริเวณหน้าร้าน เพื่อเพิ่มความปลอดภัยทางด้านสุขภาพ ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด และยังสามารถนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงบริการให้เหมาะสมยิ่งขึ้น

ระบบบัตรคิว กับความหมายที่น่าเรียนรู้เพื่อประโยชน์ในการทำธุรกิจ

ระบบบัตรคิว คือ หนึ่งในเครื่องมือที่ใช้ในการบริหารจัดการระบบคิวเพื่อให้ได้บริการที่มีคุณภาพดีขึ้น มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น พร้อมกับเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจที่เน้นการให้บริการเป็นสำคัญ
 
ระบบบัตรคิวเริ่มเข้ามามีบทบาทสำคัญ และกลายเป็นสิ่งจำเป็นโดยเฉพาะธุรกิจที่มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก ๆ เช่น โรงพยาบาล, โรงแรม, ธนาคาร, ร้านอาหาร, ศูนย์ราชการ ฯลฯ นอกจากนี้ยังเป็นระบบเรียกคิวที่เพิ่มความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการ ลดการแซงคิว และความผิดพลาดอื่น ๆ เช่น เรียกชื่อไม่ถูกต้อง เป็นต้น
 
ระบบคิวที่ใช้ควรเป็นแบบทันสมัย ใช้งานง่าย สามารถคัดแยกผู้มาติดต่อใช้บริการได้ถูกต้อง ตามลำดับก่อนหลังได้ราบรื่นยุติธรรม และยังช่วยจัดสรรงานของพนักงานได้อย่างเป็นขั้นเป็นตอน ไม่ซ้ำซ้อน สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายในการจัดหาอุปกรณ์สถานที่ในการรองรับลูกค้าจำนวนมากมาก เพียงแค่ติดตั้งเครื่องบัตรคิวไว้ใช้งานก็สามารถใช้งานระบบเรียกคิวได้อย่างเหมาะสมตรงตามประเภทลักษณะธุรกิจนั้น ๆ
 
มีข้อได้เปรียบอะไรบ้างในการมีระบบบัตรคิวไว้ใช้ในธุรกิจ

ปัจจุบันระบบบัตรคิวมีให้เลือกใช้หลากหลายโปรแกรม ทั้งนี้ขึ้นกับลูกค้าว่าเน้นความสำคัญที่คุณสมบัติใดเป็นพิเศษหรือไม่ โดยทั่วไปแล้ว จุดเด่น ๆ ของระบบบัตรคิว ก็จะมีดังนี้

• เป็นการติดตั้งเพื่อใช้งานที่ง่าย ไม่ยุ่งยาก สามารถเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ได้ และมี option เสริมที่ครอบคลุมการทำงานของระบบคิวอีกด้วย
• สามารถเรียกดูข้อมูลได้เป็นรายวันสำหรับข้อมูลการใช้งานบัตรคิว หรือคิวมือถือ แล้วเก็บรวบรวมนำมาใช้เป็นสถิติในการวางแผนการให้บริการ พัฒนาธุรกิจให้ดียิ่งขึ้นในอนาคตได้
• สามารถแยกประเภทบัตรคิวเพื่อให้บริการได้สะดวกรวดเร็วมากขึ้น ช่วยจัดการระบบเรียกคิวให้เป็นระเบียบมากขึ้น
• สามารถใช้ในการโฆษณาสินค้าหรือผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่วางแผนในการส่งเสริมได้ตามต้องการ
• ช่วยจัดลำดับคิวในเรื่องจำนวนคน จำนวนคิว และเวลารอคิวในแต่ละวันทำการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• อำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าที่มาใช้บริการให้สามารถจองบัตรคิวได้ด้วยตัวเองจากทุกสถานที่ เลือกวันเวลาที่สะดวก
• มีระบบแจ้งเตือนให้ลูกค้า เพื่อให้สะดวกสบายในการใช้บริการยิ่งขึ้น ไม่ต้องเสียเวลาในการจราจรที่แออัด หรือเสียเวลารอนาน ๆ หน้าสถานที่ให้บริการ
• สามารถใช้งานระบบบัตรคิวได้กับหลายอุปกรณ์ เช่น คอมพิวเตอร์, สมาร์ตโฟน, แท็บเล็ต เป็นต้น
• สร้างความพึงใจให้แก่ลูกค้าที่ใช้บริการว่าจะไม่มีปัญหาเกิดขึ้นเกี่ยวกับ แซงคิว, ลัดคิว หรือคิวตกหล่น เป็นต้น
• ช่วยควบคุมความเรียบร้อยในสถานบริการ ทำให้ง่ายต่อการรักษาความปลอดภัยของลูกค้า

ข้อได้เปรียบจากการใช้ระบบบัตรคิว

ระบบบัตรคิวมีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของคนในปัจจุบันอย่างไร

ระบบบัตรคิวกำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบันก็เพราะสามารถตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิตประจำวันของกลุ่มลูกค้า และยังเหมาะกับผู้ประกอบการที่จะมีไว้ช่วยจัดการธุรกิจหน้าร้านให้ราบรื่น รวดเร็ว เพิ่มความพึงพอใจแก่ผู้ใช้บริการที่มีจำนวนมากให้กลับมาใช้ประจำ ระบบคิวนี้ใช้ได้กับธุรกิจขนาดเล็กจนถึงขนาดใหญ่ ทั้งที่เป็นของราชการ หรือเอกชนก็ตาม
 
ระบบบัตรคิวอัตโนมัติมีใช้อุปกรณ์หลัก ๆ ไม่ยุ่งยาก ดังนี้

• เครื่องบัตรคิว ที่มีหน้าที่พิมพ์บัตรคิวออกมาให้ลูกค้าที่กดขอคิว
• แป้นกดเรียกคิวของบัตรคิวอัตโนมัติโดยพนักงานผู้ให้บริการ
• จอแสดงผลการเรียกของระบบเรียกคิว พร้อมแสดงผลเป็นไฟกะพริบแล้วแต่รูปแบบที่เลือกใช้
• ระบบคิวอัตโนมัติ ที่คอยประมวลผลพร้อมมีระบบเสียงเรียกตัว (เลือกได้)
 
ระบบบัตรคิวนั้นได้รับการพัฒนาจากการแจกบัตรคิวมาเป็นการใช้เครื่องบัตรคิวที่เป็นตู้กดปุ่มแบบทั่วไป ตู้กดสัมผัส จนมาถึงในรูปแบบที่ใช้ได้ทั้งในคอมพิวเตอร์ทั่วไป ในแท็บเล็ต หรือมือถือสมาร์ตโฟนก็ได้
 
จากการที่มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงานเป็นแบบวิธีใหม่ New Normal ทำให้พฤติกรรมของคนปัจจุบันในการดำเนินชีวิต การทำงานจำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนตามไปด้วยทั่วโลก จึงได้มีการนำมาใช้ระบบจองบัตรคิวออนไลน์ที่สามารถช่วยเพิ่มความสะดวกให้แก่กลุ่มลูกค้าที่สะดวกใจจะจองบัตรคิวจากที่บ้าน หรือ ที่ทำงานได้เลย

ระบบบัตรคิว มีผลอย่างไรต่อชีวิตประจำวัน

สรุป

ระบบบัตรคิว หรือ เครื่องบัตรคิว เป็นระบบที่ขาดไม่ได้หากต้องการประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจที่มีผู้ใช้บริการเป็นจำนวนมาก ลดปัญหาด้าน human error ได้มาก ระบบบัตรคิวสามารถช่วยสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า เพื่อให้มั่นใจได้วาว่าจะได้รับความใส่ใจอย่างเท่าเทียมกัน และช่วยให้พนักงานสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะมีระบบคิวที่ช่วยลดความยุ่งยาก

ขอบคุณความรู้ดีๆจาก https://betaskthai.com/

138
รับบรรจุสินค้าทุกชนิด

ปัจจุบันการขายของผ่าน e-commerce เป็นกระแสที่กำลังมาแรงเป็นอย่างมาก ไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้านก็สามารถขายสินค้าได้ ทำให้ผู้ประกอบการรายใหม่เกิดขึ้นมามากมายคู่แข่งในตลาดก็มากขึ้นเช่นกัน การสร้างความน่าเชื่อถือจึงเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการควรให้ความสำคัญ บริการรับบรรจุสินค้าจึงเกิดขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวให้กับผู้ประกอบการ

บริการรับบรรจุสินค้าเป็นบริการที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน เพราะมีผู้ประกอบการอยู่จำนวนไม่น้อยที่มีสินค้าอยู่ในมือและมีความต้องการในการบรรจุสินค้าลงบรรจุภัณฑ์ แต่ไม่มีเครื่องมือสำหรับบรรจุสินค้า ไม่สามารถทำสิ่งนี้เองได้ โรงงานรับบรรจุสินค้าจึงเกิดขึ้นเพื่อแก้ปัญหาตรงจุดนี้

รับบรรจุสินค้าลงบรรจุภัณฑ์ด้วยทีมงานคุณภาพตามมาตรฐานสากล

ความน่าเชื่อถือของแบรนด์เป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมากสำหรับการขายสินค้า เครื่องหมายยืนยันมาตรฐานจึงเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค โรงงานทุกแห่งจึงจำเป็นต้องมีเครื่องหมายรับรองคุณภาพตามมาตรฐานสากลก่อนที่จะให้บริการลูกค้า แล้วการบรรจุสินค้าที่มีคุณภาพตามมาตรฐานสากลควรมีเครื่องหมายอะไรรับรองบ้างมาดูกัน

  • เครื่องหมาย ISO 9001:2015 โรงงานรับบรรจุสินค้าที่ดีควรมีเครื่องหมาย ISO 9001:2015 รองรับ เพราะเครื่องหมายนี้แสดงถึงมาตรฐานของโรงงานในด้านการบริการที่มีคุณภาพ ตรงตามความต้องการของลูกค้า เป็นเครื่องหมายที่ได้รับการยอมรับทั้งในประเทศไทยและในระดับสากล ทำให้สินค้าที่ผลิตจากโรงงานที่มีเครื่องหมายนี้ สามารถส่งออกสู่ตลาดโลกได้
  • เครื่องหมาย GMP แสดงถึงมาตรฐานความปลอดภัยด้านการผลิตอาหาร ได้รับการรับรองจากนักวิชาการด้านอาหารทั่วโลก
  • เครื่องหมาย HACCP แสดงถึงมาตรฐานด้านกระบวนการผลิตที่ปลอดภัย ไม่มีสารปนเปื้อนที่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค ซึ่งเครื่องหมาย HACCP เป็นเครื่องหมายที่ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน

เลือกบริการรับบรรจุสินค้าที่ไหนดี

ถ้าคุณยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกบรรจุสินค้าที่โรงงานใด หรือกำลังมีข้อสงสัยว่าโรงงานที่คุณตัดสินใจเข้ารับบริการจะมีคุณภาพตามความต้องการของคุณหรือไม่ วันนี้เราจึงจะมาพูดถึงหลักเกณฑ์การเลือกโรงงานบรรจุสินค้า ว่าโรงงานที่ดีควรมีมาตรฐานอะไรบ้าง

สิ่งแรกที่โรงงานรับบรรจุสินค้าควรมีคือเครื่องหมายรับรองมาตรฐาน เพราะสิ่งนี้สามารถการันตีได้ว่าโรงงานนั้น ๆ มีคุณภาพและได้รับการยอมรับในระดับสากล เครื่องหมายรับรองมาตรฐานที่ผู้ให้บริการรับบรรจุสินค้าควรมีคือ เครื่องหมาย ISO 9001:2015 ที่แสดงถึงคุณภาพการบริการที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ ซึ่งเครื่องหมายรับรองมาตรฐานนี้เป็นเครื่องหมายรับรองที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล

หากท่านกำลังมองหาโรงงานรับบรรจุสินค้าเราขอแนะนำ Propack Asia ผู้ให้บริการรับบรรจุสินค้าที่เชี่ยวชาญด้านการบรรจุสินค้าประเภทอาหารเสริมและเครื่องสำอาง ที่ให้บริการบรรจุสินค้าแบบครบวงจร ทำงานโดยทีมงานคุณภาพที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี มั่นใจได้ในคุณภาพ เพราะมีการรับรองจาก ISO 9001:2015 เครื่องหมายรับรองตามมาตรฐานสากล ไม่ว่าจะงานเล็กหรืองานใหญ่ Propack Asia ก็สามารถทำได้ เริ่มต้นเพียง 100 ชิ้น พร้อมบริการจัดส่งฟรีถึงหน้าบ้าน

การรับบรรจุสินค้าลงบรรจุภัณฑ์มีขั้นตอนการทำงานอย่างไร และต้องผ่านกระบวนการใดบ้าง

โรงงานให้บริการรับแพ็คสินค้าที่ดีควรมีขั้นตอนการทำงานที่ชัดเจน หากคุณสงสัยว่ากระบวนการทำงานของผู้ให้บริการรับบรรจุสินค้าเป็นยังไง และมีขั้นตอนการทำงานอย่างไรบ้าง วันนี้เราจะมาอธิบายขั้นตอนและกระบวนการทำงานโดยรวมกันค่ะ

  • พูดคุยและชี้แจงรายละเอียดการทำงาน : อย่างที่บอกไปว่าโรงงานที่ดีต้องมีกระบวนการทำงานที่ชัดเจน โรงงานที่ดีจะมีการชี้แจงรายละเอียดให้ลูกค้าทราบทุกครั้งก่อนเริ่มงาน
  • ตกลงราคา : อัตราและราคาค่าบริการในแต่ละงานจะมีความแตกต่างกันออกไปตามปัจจัยต่าง ๆ การตกลงราคาจึงเป็นหนึ่งในขั้นตอนสำคัญที่ขาดไม่ได้
  • บรรรจุสินค้าลงบรรจุภัณฑ์ : เริ่มงานบรรจุสินค้าตามรายละเอียดงานที่ได้ตกลงกับลูกค้า
  • ตรวจสอบสินค้า : ตรวจสอบสินค้าที่บรรจุเสร็จก่อนส่งมอบให้กับลูกค้า
  • จัดส่งสินค้า : ส่งมอบงานให้กับลูกค้าตามสถานที่ที่ตกลง

บริการรับบรรจุสินค้าของ propack มีอะไรบ้าง

รับบรรจุสินค้ามีอะไรบ้าง

โรงงานรับบรรจุสินค้า Propack Asia รับบรรจุสินค้าประเภทอาหารเสริมและเครื่องสำอาง พร้อมจัดหา Packaging ตามความต้องการของลูกค้า ซึ่ง Propack Asia ไม่ได้มีแค่บริการรับบรรจุสินค้าเท่านั้น โรงงานยังมีบริการพิมพ์โลโก้ วันหมดอายุ ฉลากสินค้า เลขล็อตสินค้า สติกเกอร์แปะสินค้า และอื่น ๆ ด้วยเครื่องจักรที่ทันสมัยตามมาตรฐานสากล

สินค้าประเภทอาหารเสริม: ทางโรงงานมีบรรจุภัณฑ์ให้เลือกหลายรูปแบบ ไม่ว่าสินค้าของท่านจะเป็นอาหารเสริมในรูปแบบผง แคปซูล เม็ด หรือรูปแบบอื่น ๆ ทางโรงงานก็สามารถบรรจุให้คุณได้
สินค้าประเภทเครื่องสำอางและครีม: ไม่ว่าจะเป็นครีมแบบไหนทางโรงงานก็สามารถแบ่งบรรจุให้ได้ มีบรรจุภัณฑ์คุณภาพให้เลือกหลายแบบ ทั้งแบบขวด กระปุก ซอง หลอด ตามความต้องการของลูกค้า

นอกจากการบริการที่ได้กล่าวไป Propack Asia ยังมีบริการจัดส่งสินค้าถึงหน้าบ้าน ไม่ว่าจะเป็นออเดอร์เล็กหรือใหญ่ ทางโรงงานมีบริการจัดส่งให้ฟรีทุกออเดอร์ สะดวกสบาย ลูกค้าไม่ต้องมารับสินค้าเองที่โรงงาน

รับบรรจุสินค้าต้องเริ่มต้นที่กี่ชิ้นและคิดราคาค่าบริการอย่างไร

ช่วงราคาการให้บริการรับบรรจุสินค้าของแต่ละโรงงานจะมีราคาที่ไม่เท่ากัน รวมถึงราคาการบรรจุสินค้าในในแต่ละงานด้วย ถึงแม้ว่าจะเป็นสินค้าประเภทเดียวกัน ทำที่โรงงานเดียว จำนวนเท่ากัน ราคาการบรรจุสินค้าอาจไม่เท่ากัน เพราะการคิดราคาค่าบริการจำเป็นต้องคำนวนจากปัจจัยหลาย ๆ อย่าง เช่น ความยากง่ายของงาน บรรจุภัณฑ์ที่เลือกใช้ ความเร่งด่วนของงาน โปรโมชั่นของโรงงาน ยอดการสั่งผลิตของลูกค้า และอื่น ๆ หากต้องการทราบรายละเอียดหรือราคาที่ชัดเจน ควรทำการพูดคุยกับทางโรงงานโดยตรง เพื่อให้ผู้รับแพ็คสินค้าบรรจุสินค้าคิดราคาที่ชัดเจนให้

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการรับบรรจุสินค้า

การบรรจุสินค้าตามปกติเริ่มต้นที่กี่ชิ้น?

โดยปกติสามารถสั่งบรรจุสินค้าได้ตั้งแต่ 100 ชิ้นขึ้นไป

โรงงานรับบรรจุสินค้าที่ดีควรมีมาตรฐานอะไรบ้าง?

โรงงานรับบรรจุสินค้าที่ดีควรมีมาตรฐาน ISO 9001:2015 ที่เป็นมาตรฐานยืนยันคุณภาพว่าผู้ให้บริการสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ตามความคาดหวัง

สรุปภาพรวมการให้บริการรับบรรจุสินค้าลงบรรจุภัณฑ์

การบรรจุสินค้ากับโรงงานรับบรรจุสินค้าไม่ได้มีข้อดีแค่เรื่องความสะดวกสบายเพียงอย่างเดียว แต่การบรรจุสินค้ากับโรงงาน ยังช่วยให้แบรนด์ของผู้ว่าจ้างได้รับความน่าเชื่อถือจากผู้บริโภค จากมาตรฐานการควบคุมคุณภาพ ISO 9001:2015

ในแง่ของธุรกิจสิ่งนี้เป็นสิ่งที่คุ้มค่าที่จะจ่ายเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในธุรกิจอาหารเสริมและเครื่องสำอาง ที่เป็นผลิตภัณฑ์ที่เข้าสู่ร่างการของผู้บริโภคโดยตรง เรื่องความน่าเชื่อถือจึงเป็นปัจจับสำคัญ ที่จะทำให้ลูกค้าเลือกใช้สินค้า แม้สินค้าของคุณจะดีแค่ไหน หากไม่มีมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับมายืนยัน ก็เป็นเรื่องยากที่จะทำให้สินค้าของคุณอยู่ในใจของผู้บริโภค

139
การจำนำรถยนต์

การจำนำรถคือการทำสินเชื่อรูปแบบหนึ่ง โดยการนำรถยนต์ หรือเล่มทะเบียนรถไปใช้เป็นสิ่งค้ำประกัน ซึ่งหลายคนอาจคุ้นเคยกับ การจำนำรถจอดและการจำนำรถยนต์แบบไม่จอด ซึ่งในบทความนี้เราจะพาทุกคนไปไขข้อสงสัยว่า การจำนำรถยนต์ทั้งสองแบบนั้นคืออะไร ต่างกันอย่างไร และเหมาะกับใครบ้าง เพื่อเพิ่มความกระจ่างให้คนที่กำลังต้องการจำนำรถ และเลือกประเภทการกู้ที่เหมาะกับตนเองมากที่สุด

จำนำรถคืออะไร

จำนำรถยนต์ คือการทำสินเชื่อรูปแบบหนึ่งที่ใช้ ‘รถยนต์’ มาใช้ค้ำประกัน ซึ่งการจำนำรถนั้นจะมีหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็น จำนำรถแบบจอด, จำนำรถแบบไม่จอด, จำนำรถป้ายแดง, จำนำรถมือสอง และจำนำรถติดไฟแนนซ์ เป็นต้น ทั้งนี้การจำนำรถที่ค่อนข้างได้รับความนิยมคือ การจำนำรถแบบจอดและจำนำรถแบบไม่จอด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผู้จำนำว่ารถสะดวกแบบไหน รวมถึงตัวผู้รับจำนำสามารถรองรับแบบไหนบ้าง

จำนำรถจอด คืออะไร

การจำนำรถจอด หรือเรียกอีกชื่อว่า การจำนำรถแบบไม่มีเล่ม คือการทำสินเชื่อรถแลกเงินรูปแบบหนึ่งด้วยการนำรถที่ปลอดภาระ ไปเป็นหลักค้ำประกัน โดยเจ้าของรถจะต้องทำการจอดรถทิ้งไว้ให้ผู้รับจำนำดูแลต่อ ซึ่งจะมีทั้งแบบเต็นท์รถ หรือบุคคลทั่วไปที่รับจำนำรถ

ทั้งนี้การจำนำรถจอดรถค่อนข้างมีความเสี่ยงสูง เพราะมีโอกาสว่ารถที่จำนำนั้นอาจได้รับการดูแลที่ไม่ดี หรืออาจถูกผู้รับจำนำ นำรถไปให้คนอื่นใช้งานจนทำให้รถเกิดการเสื่อมสภาพ นอกจากนี้ทางสถาบันการเงินมักหลีกเลี่ยงการจำนำรถประเภทนี้ เนื่องจากรถที่นำมาจำนำมีโอกาสสูงที่จะติดไฟแนนซ์หรือค้างค่าส่ง

ข้อดีของการจำนำรถจอด

การจำนำรถจอด มีข้อดีกว่าการจำนำประเภทอื่น ดังนี้

  • อนุมัติไว เนื่องจากมีขั้นตอนการดำเนินการที่ไม่ยุ่งยาก เหมาะอย่างยิ่งแก่คนที่ต้องการใช้เงินด่วน
  • ดำเนินการไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องมีคนค้ำประกัน ผู้กู้สามารถเลือกที่จะนำเล่มทะเบียนไปเป็นหลักประกันพร้อมกับตัวรถได้ ทำให้ไม่ต้องโอนทะเบียนเล่มหรือไม่โอนกรรมสิทธิ์รถ
  • ในกรณีที่เลือกจำนำแบบโอนเล่ม จะช่วยให้ได้อัตราดอกเบี้ยที่ถูกกว่า และได้วงเงินที่สูงกว่าการจำนำแบบไม่โอนเล่ม เนื่องจากเป็นการเพิ่มความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น

ข้อจำกัดของการจำนำรถจอด

สำหรับข้อเสียของการจำนำรถจอด มีดังนี้

  • ผู้กู้จะไม่มีรถยนต์ไว้ใช้งาน เพราะต้องนำรถไปจอดทิ้งไว้กับผู้รับจำนำ จนกว่าจะผ่อนชำระสินเชื่อหมด
  • เสี่ยงต่อการเสื่อมสภาพของรถยนต์ เนื่องจากเจ้าของรถไม่สามารถรู้เลยว่าผู้รับจำนำนั้นจะนำรถของเราไปดูแลดีแค่ไหน
  • เสี่ยงต่อการนำรถไปสวมทะเบียนใหม่ เพื่อนำไปขายต่อในฐานะรถหลุดจำนำ

จำนำรถไม่จอด หรือจำนำทะเบียนรถ คืออะไร

จำนำรถไม่จอด กับ จำนำทะเบียนรถ

จำนำรถไม่จอด หรือเรียกอีกชื่อว่า “จำนำทะเบียนรถ” เป็นรูปแบบของการขอสินเชื่อโดยที่เจ้าของรถไม่ต้องนำรถมาค้ำประกันกับผู้รับจำนำ แต่จะใช้เล่มทะเบียนรถมาเป็นสินทรัพย์ในการค้ำประกันแทน เนื่องจากเป็นการทำธุรกรรมกับสถาบันการเงินหรือบริษัทไฟแนนซ์ที่มีความเชื่อใจได้ เมื่อผู้จำนำปิดบัญชีการผ่อนชำระแล้วจะสามารถได้รับเล่มทะเบียนกลับไป

ข้อดีของการจำนำรถไม่จอด

สำหรับข้อดีในการจำนำรถไม่จอด จะมีหลัก ๆ ดังนี้

  • ใช้เล่มทะเบียนรถในการจำนำ ทำให้ผู้จำนำจะได้รับเงินกู้ โดยที่ยังมีรถยนต์สำหรับใช้งานไม่ว่าจะประกอบอาชีพหรือใช้ในชีวิตประจำวัน
  • มีดอกเบี้ยที่ถูกกว่าการจำนำแบบจอดรถ เนื่องจากเป็นการกู้สินเชื่อผ่านสถาบันการเงินหรือบริษัทไฟแนนซ์ ทำให้ดอกเบี้ยจะอยู่ในขอบเขตสูงสุดที่ไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด
  • มีความปลอดภัย เชื่อถือได้ เพราะเป็นการดำเนินการกู้ผ่านสถาบันการเงินที่มีรูปแบบการกู้สินเชื่อที่เป็นขั้นตอนชัดเจน ซึ่งหากกรณีเกิดข้อผิดพลาดระหว่างกู้สินเชื่อผู้จำนำสามารถดำเนินการตามกฎหมายได้

ข้อจำกัดของการจำนำรถไม่จอด

นอกจากข้อดีแล้ว การจำนำรถไม่จอดก็มีข้อเสียเช่นกัน โดยมีดังนี้

  • มีขั้นตอนการดำเนินการที่ยุ่งยากกว่าการจำนำแบบจอดรถ เนื่องจากผู้จำนำจะต้องทำการโอนเล่มทะเบียนรถผ่านสถาบันการเงิน ซึ่งใช้เวลาที่ค่อนข้างยาวนาน ไม่เหมาะแก่คนที่ต้องรีบใช้เงินด่วน
  • ไม่เหมาะแก่คนที่มีประวัติเครดิตไม่ดี เพราะทางสถาบันการเงินจะทำการตรวจสอบสถานะทางการเงินของผู้กู้ ดังนั้นหากใครที่มีประวัติเครดิตไม่ดีก็จะยิ่งมีโอกาสกู้ไม่ผ่านได้
  • รถยนต์ที่ใช้จำนำนั้นจะต้องเป็นรถที่ปลอดภาระหรือผ่อนหมดแล้ว ทั้งนี้ผู้กู้จะต้องเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ของรถยนต์คันดังกล่าวจึงจะมีสิทธิ์กู้ได้

ควรเลือกการจำนำรถยนต์แบบไหนดี

1. สิ่งที่ใช้เป็นหลักค้ำประกัน

ข้อแตกต่างระหว่างการจำนำแบบจอดและการจำนำแบบไม่จอด อย่างแรกที่เห็นชัด ๆ คือสิ่งที่นำมาใช้เป็นหลักค้ำประกัน ซึ่งการจำนำจอดนั้นผู้กู้จะต้องนำรถทิ้งไว้กับผู้รับจำนำ ในขณะที่การจำนำไม่จอดรถนั้น ใช้เล่มทะเบียนรถในการกู้แทน ซึ่งการจำนำจอดนั้นจะมีความเสี่ยงในการที่รถอาจำได้รับการดูแลที่ไม่ดี รวมถึงผู้รับจำนำอาจนำรถยนต์ไปให้คนอื่นใช้งานโดยไม่ได้รับอนุญาต เสี่ยงต่อการเสื่อมสภาพเร็วขึ้น

ดังนั้นผู้กู้อาจต้องพิจารณาว่าในช่วงนั้นจำเป็นต้องใช้รถยนต์มากน้อยแค่ไหน หากผู้กู้ที่ต้องการใช้เงินด่วนและไม่ได้มีธุระจำเป็นต้องใช้รถมากการจำนำรถจอดรถอาจตอบโจทย์ ส่วนคนที่จำเป็นต้องใช้รถและไม่รีบใช้เงินกู้ การจำนำแบบไม่จอดเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า

2. วงเงินกู้

อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการพิจารณาการกู้เงินคือ วงเงินกู้ ซึ่งการจำนำจอดรถนั้นจะได้วงเกินกู้ที่ค่อนข้างสูงกว่าการจำนำแบบไม่จอดรถ เนื่องจากสิ่งที่เป็นหลักค้ำประกันของการจำนำแบบจอดรถนั้น คือรถยนต์ ซึ่งมีมูลค่าสูงกว่าการจำนำแบบใช้เล่ม ทั้งนี้การจำนำแบบไม่จอดรถนั้น วงเกินกู้จะขึ้นอยู่กับยี่ห้อและปีของรถ ยิ่งหากรถมีอายุหลายปีก็มีโอกาสได้วงเกินที่ต่ำลง แต่หากเป็นรถรุ่นใหม่ อาจมีโอกาสได้วงเงินสูงกว่าการจำนำแบบจอดรถ ดังนั้นการจำนำแบบจอดจึงเหมาะแก่คนที่ต้องการวงเงินสูง ส่วนการจำนำแบบไม่จอดจะเหมาะแก่คนที่ไม่ได้ต้องการวงเงินที่สูงมาก

3. ดอกเบี้ย

การทำธุรกรรมทางการเงินโดยเฉพาะการกู้สินเชื่อ สิ่งหนึ่งที่ควรคำนึงถึงทุกครั้งคือดอกเบี้ย เพราะหากดอกเบี้ยที่สูงเกินไปแทนที่จะเป็นการช่วยเหลือปัญหาทางการเงิน อาจเป็นภาระในการใช้จ่ายให้ตัวเรามากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งในกรณีการจำนำรถแบบจอดรถและไม่จอดรถนั้น จะเห็นได้ว่าการจำนำแบบจอดรถนั้นมีดอกเบี้ยที่ค่อนข้างสูง เนื่องจากการจำนำประเภทนี้จะขึ้นอยู่กับผู้รับจำนำเป็นหลัก ทำให้บางครั้งผู้กู้อาจเจอกับดอกเบี้ยที่สูงเกินความจำเป็น

ในขณะที่การจำนำแบบไม่จอดนั้น เป็นการกู้สินเชื่อผ่านสถาบันการเงิน ที่ดอกเบี้ยจะถูกกำหนดให้อยู่ภายในกรอบกฎหมาย ซึ่งได้มีข้อกำหนดจากธนาคารแห่งประเทศไทยว่าสินเชื่อของการจำนำรถแบบไม่จอดนั้นจะต้องไม่เกินร้อยละ 24 ต่อปี ดังนั้นจะเห็นได้ว่าการจำนำแบบไม่จอดนั้นเหมาะแก่คนที่ไม่ต้องการผ่อนดอกเบี้ยเป็นจำนวนมากจนเกินจำเป็น

4. ความจำเป็นในการใช้เงิน

ความจำเป็นของการใช้เงินของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางการเงินของแต่ละคน ซึ่งการจำนำแบบจอดนั้นจะช่วยตอบโจทย์ในฐานะการอนุมัติเงินที่รวดเร็ว ไม่ยุ่งยาก ในขณะที่การจำนำแบบไม่จอดนั้น จะมีการดำเนินการที่ยุ่งยากและใช้เวลาในการดำเนินการ เนื่องจากมีการเช็กประวัติทางการเงิน รวมถึงการโอนกรรมสิทธิ์เล่มทะเบียนรถ ดังนั้นการจำนำแบบจอดนั้นจึงเหมาะแก่คนที่ต้องการเงินด่วน กะทันหัน ส่วนการจำนำแบบไม่จอดนั้นจะเหมาะแก่คนที่ต้องการเงินกู้ที่ไม่ได้มีความจำเป็นต้องใช้รวดเร็วนัก

ข้อสรุปเกี่ยวกับการจำนำรถยนต์

จะเห็นได้ว่าการจำนำรถจอด และการจำนำรถแบบไม่จอดนั้น เป็นการทำสินเชื่อเงินกู้ที่มีข้อดีข้อเสียต่างกันโดยสิ้นเชิง ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่ใช้เป็นหลักค้ำประกัน, วงเงิน, ดอกเบี้ย ไปจนถึงการดำเนินการ แต่หากพูดถึงความเหมาะสมแล้วการจำนำรถยนต์แบบไม่จอด ค่อนข้างเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เพราะนอกจากจะเป็นการกู้กับสถาบันการเงินที่มีความเชื่อถือได้ ยังช่วยให้ผู้กู้ได้ดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าการจำนำรถแบบจอด นอกจากนี้ยังทำให้ผู้กู้ยังมีรถยนต์ไว้ใช้งานระหว่างที่ผ่อนชำระสินเชื่ออีกด้วย

140
ท่อ HDPE ประปา

น้ำประปาเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกครัวเรือน รวมถึงโรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ ดังนั้น การขนส่งน้ำประปาให้ไปถึงที่หมาย โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติของน้ำประปาจึงเป็นสิ่งสำคัญ ทำให้ท่อน้ำ PE หรือท่อ HDPE ประปา ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ด้วยคุณสมบัติที่ตอบทุกโจทย์ความต้องการ

ท่อ HDPE ประปา คืออะไร?

ท่อน้ำ PE

ท่อ HDPE ประปา หมายถึงท่อที่ทำจากวัสดุ High-Density Polyethylene (HDPE) ซึ่งเป็นพลาสติกที่มีความหนาแน่นสูง มีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ทั้งจากรังสี UV สารเคมี หรือทนต่อแรงกระแทกได้ดี จึงได้รับความนิยมนำมาผลิตเป็นท่อประปา PE เพื่อนำไปใช้ในอุตสาหกรรมหรือการเกษตร

ประกอบกับท่อ HDPE ประปามีข้อดีหลายประการ เช่น มีน้ำหนักเบา ไม่รั่วซึม ทนทานต่อสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ซึ่งส่งผลต่อพลาสติกหรือวัสดุผลิต ไม่ทำปฏิกิริยากับเคมี ไม่เป็นพิษต่อน้ำ มีอายุการใช้งานยาวนาน สามารถสะท้อนรังสีแสง UV ได้ดี จึงเหมาะสำหรับใช้ในพื้นที่โดนแสงแดด เช่น การต่อท่อ HDPE กลางแจ้ง

อีกทั้งยังสามารถนำน้ำประปาไปยังอาคารบ้านเรือน หรือโรงงานอื่น ๆ ที่ต้องการน้ำในปริมาณมากได้ โดยไม่รั่วซึม จะเห็นได้ว่า ในปัจจุบัน นิยมใช้ท่อ HDPE ประปา เพื่อขนส่งน้ำประปากันมากขึ้น ด้วยข้อดีต่าง ๆ ตามข้างต้น จึงไม่แปลกใจ หากหลายโรงงานอุตสาหกรรมหรือการเกษตรจะหันมาใช้ท่อประปา PE ขนส่งน้ำประปากันมากขึ้น

ท่อ HDPE ประปามีคุณสมบัติอย่างไร

ท่อประปา PE

ในการขนส่งน้ำประปาไปยังสถานที่ต่าง ๆ ทั้งอาคารบ้านเรือนหรือโรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ โดยยังคงประสิทธิภาพหรือคุณสมบัติของน้ำประปาไว้ จึงจำเป็นต้องใช้ท่อน้ำ HDPE เพราะการต่อท่อ HDPE ซึ่งมีคุณสมบัติเหมาะสม ได้แก่

มีความทนทาน
ท่อ HDPE ประปามีความทนทานในหลาย ๆ ลักษณะ เพราะ HDPE เป็นวัสดุที่มีความหนาแน่นสูง จึงทำให้ท่อประปา HDPE ทนทานได้ดี ในสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ได้แก่

  • ทนทานต่อแรงกระแทกได้ดี ท่อ HDPE ประปาสามารถรับแรงกระแทกได้ โดยไม่เกิดความเสียหายหรือแตกชำรุด รวมถึงความสามารถในการคืนทรงตัวได้ดี
  • ทนทานต่อการกัดเซาะจากสารเคมี ดิน หิน หรือวัตถุอื่น ๆ
  • ทนทานต่อการสึกหรอ (Abrasion Resistance) เพราะท่อ HDPE ประปามีความยืดหยุ่น แม้ว่าท่อจะถูกวางซ้อนกัน หรือวางลงในดิน ก็สามารถทนทานต่อการสึกหรอได้ดี
  • ทนทานต่อการแตก (Crack Resistance) ทำให้ท่อประปา HDPE มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ลดปัญหาแตกร้าว แล้วจำเป็นต้องเปลี่ยนท่อน้ำสีดำใหม่

ไม่รั่วซึม
คุณสมบัติของท่อน้ำ PE ซึ่งใช้สำหรับขนส่งน้ำประปา คือ การไม่รั่วซึม เพื่อให้สามารถส่งน้ำได้อย่างรวดเร็ว ครบถ้วน ไม่รั่วซึม จึงทำให้ท่อ HDPE ประปาได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ด้วยคุณสมบัติต่าง ๆ จึงทำให้ท่อไม่รั่วซึม ดังนี้

  • โครงสร้างโมเลกุลของท่อประปา PE ซึ่งเชื่อมติดกัน ทำให้ไม่มีช่องว่างใหญ่พอให้น้ำรั่วไหลออกไป
  • ท่อ PE ประปามีความยืดหยุ่นสูง ทำให้สามารถวางท่อได้อย่างอิสระ ไม่ทำให้เกิดรอยรั่วซึม
  • ท่อ HDPE ประปามีข้อต่อน้อย เพราะนิยมผลิตเป็นท่อยาว ๆ จึงลดจำนวนข้อต่อ ลดโอกาสเกิดรอยรั่วซึมที่ข้อต่อ
  • ทนทานต่อแรงกระแทกภายนอกได้เป็นอย่างดี โดยไม่เกิดรอยรั่วซึม
  • หากติดตั้งท่อน้ำสีดำถูกต้องก็จะช่วยป้องกันการรั่วซึมได้อีกทางหนึ่ง ด้วยการเชื่อมต่อท่อ HDPE ประปาให้เรียบร้อย โดยเฉพาะบริเวณข้อต่อ

ทนทุกสภาพแวดล้อม
ด้วยท่อ HDPE ประปาใช้สำหรับขนส่งน้ำประปาไปถึงทุกพื้นที่ หากเปรียบเทียบในประเทศไทย ก็จะต้องวางท่อให้ครบทุกภาค โดยในแต่ละภาคก็จะมีสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันไป เช่น ภาคเหนือก็มีภูเขา สภาพอากาศเย็น หากไปทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งมีภูมิอากาศร้อน แห้งแล้ง หรือภาคใต้ ซึ่งมีฝนตกชุก ทำให้ท่อน้ำ HDPE จึงต้องมีความทนทานต่อทุกสภาพแวดล้อม ดังต่อไปนี้

  • ทนทานต่อแสงแดด (UV Resistance) หรือรังสี UV เพราะบางพื้นที่อยู่กลางแจ้ง ต่อปะทะแสงแดดโดยตรง ตลอดทั้งวัน
  • ทนทานต่อสารเคมีหลายประเภท เพราะในน้ำประปาก็มีสารเคมีบางประเภท
  • ทนทานต่อการกัดกร่อน (Corrosion Resistance) จากสภาพแวดล้อมที่เป็นกรดหรือเคมี เหมาะกับบางพื้นที่
  • ทนทานต่ออุณหภูมิสูงและต่ำ ด้วยท่อ HDPE ประปาสามารถใช้ในบริเวณที่มีการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิตลอดเวลาได้

นอกจากนี้ ท่อ HDPE ประปายังไม่มีสารพิษ ถือว่าเป็นวัสดุ ซึ่งมีความปลอดภัยต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม รวมทั้งยังมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน หากติดตั้งได้อย่างถูกต้อง ก็ช่วยลดปัญหาการรั่วซึม ไม่จำเป็นต้องรื้อเส้นทางหรือท่อน้ำ PE ขึ้นมาปรับปรุง ซ่อมแซม หรือวางท่อใหม่ในระยะสั้น ๆ ดังนั้น ท่อน้ำ HDPE จึงมีความเหมาะสมสำหรับการต่อท่อ HDPE น้ำประปาในทุกสภาพแวดล้อม

สรุป
ท่อ HDPE ประปาผลิตจากวัสดุ High-Density Polyethylene (HDPE) ซึ่งมีคุณสมบัติทนทานต่อทุกสภาพแวดล้อม ไม่ทำปฏิกิริยาเคมีกับน้ำประปา ไม่รั่วซึม สามารถรับแรงกระแทกได้ดี จึงได้รับความนิยมในการต่อท่อ HDPE โดยใช้เป็นท่อน้ำ PE หรือท่อประปา PE เพื่อใช้ขนส่งน้ำประปาไปตามอาคารบ้านเรือน หรือโรงงานอุตสาหกรรม หรือการเกษตรต่าง ๆ ทั่วประเทศ

141
สครับปากสูตรไหนดี

แสงแดด มลภาวะ หรือแม้แต่การสูบบุหรี่สามารถทำให้ริมผีปากอมชมพูของคุณเปลี่ยนเป็นสีหมองคล้ำได้ โดยหลายๆ คนพยายามสรรหาวิธีบำรุงฝีปากให้กลับมาสีชมพูเหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็นการทาลิปบาล์มหรือมาส์กปากเพื่อบำรุง แต่ก็อาจจะยังไม่เพียงพอ เพราะยังขาดอีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญไป ก็คือ “การสครับปาก” นั่นเอง และสำหรับใครที่อยากได้สูตรสครับปากทำเอง ในบทความของเราวันนี้เรามี 7 สูตรครับปาก ทำเองได้ง่ายๆ ด้วยงบราคาประหยัด

รู้จักกับ สครับปาก คืออะไร?
สครับปาก คือผลิตภัณฑ์ดูแลริมฝีปากซึ่งมีหน้าที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพแล้วออกไป เพื่อเผยผิวริมฝีปากเนียนนุ่ม ชุ่มชื้น แลดูสุขภาพดี โดยส่วนประกอบหลักของสครับปาก ได้แก่ สารขัดผิวที่ช่วยผลัดเซลล์ (Exfoliating agent) และสารบำรุงผิว (Moisturizer) 2 ชนิด

7 สูตรครับปาก แก้ปากดำ คืนริมฝีปากอมชมพู
การสครับปากสามารถช่วยให้ริมฝีปากที่แห้งลอกเป็นขุยหลุดออกมาอย่างอ่อนโยน และกระตุ้นให้ผิวบริเวณริมฝีปากที่เกิดขึ้นใหม่แข็งแรงมากยิ่งขึ้น
สำหรับใครที่ไม่รู้ว่าสูตรทำสครับปากมีแบบไหน และควรสครับปากกี่นาที? วันนี้เราได้นำ 7 สูตรสครับปากทําเอง แก้ปากดำให้กลับมาอมชมพู ซึ่งสามารถทำตามได้ง่ายๆ ดังนี้

1. น้ำตาล + มะนาว
ริมฝีปากเป็นอวัยวะที่บอบบางกว่าผิวบริเวณอื่น ๆ ของร่างกาย เมื่อขาดน้ำหรือได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศ สามารถส่งผลให้ริมฝีปากสูญเสียสีชมพูตามธรรมชาติ และแห้งแตกได้
เพื่อแก้ปัญหานี้เราสามารถขัดหรือสครับริมฝีปากเพื่อกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วและแห้งออกไป ซึ่งสูตรสครับปาก DIY จากธรรมชาติที่ดีและอ่อนโยนคือมะนาวและน้ำตาล
โดยส่วนผสมของลิปสครับปากและวิธีสครับปากมะนาวและน้ำตาล มีดังนี้

ส่วนผสม
  • น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย ½ ช้อนชา

วิธีสครับปาก
  • ทาสครับปากลงบนริมฝีปากเบาๆ
  • นวดวนเป็นวงกลมประมาณ 1-2 นาที
  • ล้างออกด้วยน้ำสะอาด

2. น้ำมันมะกอก + เกลือ
สครับจากธรรมชาติอีกสูตรหนึ่งที่เหมาะสำหรับริมฝีปากที่แห้งแตก คือสครับน้ำมันมะกอกและเกลือ โดยเกลือจะช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วบนริมฝีปาก ในขณะที่น้ำมันมะกอกจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและบำรุงริมฝีปากให้เนียนนุ่ม
โดยส่วนผสมและวิธีสครับปาก มีดังต่อไปนี้

ส่วนผสม
  • น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือทะเล 1/2 ช้อนโต๊ะ

วิธีสครับปาก
  • ทาสครับปากด้วยน้ำมันมะกอกและเกลือ
  • นวดวนเป็นวงกลมประมาณ 1-2 นาที
  • ล้างออกด้วยน้ำสะอาด
  • ทาลิปบาล์มบำรุงริมฝีปาก

3. บีตรูต
บีตรูตเป็นผักที่มีสีแดงสดตามธรรมชาติ อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันความเสื่อมชราของเซลล์ต่างๆ นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วและปรับสีผิวให้กระจ่างใสขึ้น จึงทำให้บีตรูตเป็นส่วนผสมที่ได้รับความนิยมในการนำมาทำสครับปากเพื่อริมฝีปากอมชมพู
โดยส่วนผสมและวิธีสครับริมฝีปาก มีดังนี้

ส่วนผสม
  • บีตรูต 1 หัว
  • น้ำมันมะกอก หรือน้ำมันอัลมอนด์ 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีสครับปาก
  • ทาสครับปากลงบนริมฝีปากเบาๆ
  • นวดวนเป็นวงกลมประมาณ 1-2 นาที
  • ล้างออกด้วยน้ำสะอาด

4. ว่านหางจระเข้ + น้ำผึ้ง
ว่านหางจระเข้และน้ำผึ้ง เป็นวัตถุดิบธรรมชาติที่มีสรรพคุณดีต่อริมฝีปาก โดยว่านหางจระเข้มีสารฟลาโวนอยด์ ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีในผิวหนัง ทำให้ริมฝีปากแลดูกระจ่างใสขึ้น ส่วนน้ำผึ้งมีสรรพคุณช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ลดรอยคล้ำ และช่วยสมานแผล จึงช่วยบำรุงริมฝีปากให้เนียนนุ่มและสุขภาพดี

โดยส่วนผสมและวิธีสครับปากว่านหางจระเข้และน้ำผึ้ง มีดังนี้

ส่วนผสม
  • เจลว่านหางจระเข้ 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา

วิธีสครับปาก
  • ทามาส์กปากลงบนริมฝีปาก
  • นวดเบาๆ ให้ทั่วริมฝีปาก
  • ทิ้งไว้ 15-20 นาที
  • ล้างออกด้วยน้ำสะอาด

5. เกลือ + น้ำมันมะพร้าว + น้ำตาลทรายแดง
สูตรสครับปากเกลือทะเล น้ำตาล และน้ำมันมะพร้าว เป็นสูตรที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากส่วนผสมทั้งสามมีสรรพคุณที่ดีต่อริมฝีปาก โดยเกลือทะเลทำหน้าที่เป็นตัวผลัดเซลล์ผิวชั้นดี อีกทั้งยังเต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและกรดไขมัน ส่วนน้ำตาลทำหน้าที่เป็นตัวขัดผิวตามธรรมชาติที่ช่วยขจัดผิวที่ตายแล้วและแห้งออกไป และน้ำมันมะพร้าวก็เป็นมอยส์เจอไรเซอร์ชั้นเยี่ยม

โดยส่วนผสมและวิธีสครับปากสูตรนี้ สามารถดูได้ที่ด้านล่างนี้เลย

ส่วนผสม
  • เกลือทะเล 1 ช้อนชา
  • น้ำตาลทรายแดง 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันมะพร้าว 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีสครับปาก
  • ผสมเกลือ + น้ำมันมะพร้าว + น้ำตาลทรายแดงให้เข้ากัน
  • ทาสครับปากลงบนริมฝีปากเบาๆ
  • นวดวนเป็นวงกลมประมาณ 1-2 นาที
  • ล้างออกด้วยน้ำสะอาด
  • ทาลิปบาล์มบำรุงริมฝีปาก

6. กลีบกุหลาบ+นม
กลีบกุหลาบนอกจากเป็นดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมมากแล้ว ก็ยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและวิตามินต่างๆ ที่เหมาะแก่การนำมาทำสครับปากทำเองเพื่อบำรุงริมฝีปากให้เนียนนุ่ม กระจ่างใส อีกทั้งนมก็ยังมีสรรพคุณช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับริมฝีปากได้อีกด้วย
ส่วนผสมและวิธีสครับปากกลีบกุหลาบและนม ได้แก่

ส่วนผสม
  • กลีบกุหลาบแห้ง 1 ช้อนโต๊ะ
  • นมสด 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีสครับปาก
  • ทาสครับปากแล้วนวดวนบริเวณริมฝีปากประมาณ 1-2 นาที
  • ล้างออกด้วยน้ำสะอาด
  • ทาลิปบาล์มบำรุงริมฝีปาก

7. กากกาแฟ+น้ำมันมะพร้าว+น้ำมันหอมระเหยเปปเปอร์มินต์
หากใครมีปัญหาริมฝีปากแห้งแตกต้องไม่พลาดสครับปากทำเองสูตรนี้เลย เนื่องจากมีส่วนผสมของกากกาแฟที่มีสรรพคุณช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไป น้ำมันมะพร้าวช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น รวมถึงน้ำมันหอมระเหยเปปเปอร์มินต์ที่มีกลิ่นหอมเย็นๆ ช่วยเพิ่มความสดชื่น
โดยส่วนผสมและวิธีสครับปาก มีตามดังต่อไปนี้

ส่วนผสม
  • กากกาแฟ 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันหอมระเหยเปปเปอร์มินต์ 5 หยด

วิธีสครับปาก
  • ทาสครับปากที่ทำไว้ลงบนริมฝีปาก
  • นวดวนไปเรื่อยๆ ประมาณ 1-2 นาที
  • จากนั้นล้างสครับปากด้วยน้ำสะอาด
  • ทาลิปบาล์มบำรุงริมฝีปาก

สรุป

สครับปาก วิธีทำ

คุณสามารถเลือกสูตรสครับปากทำเองได้ตามความต้องการเลย โดยการสครับปากแก้ปากดําเป็นประจำจะช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไป ทำให้ริมฝีปากเรียบเนียนกระจ่างใสขึ้น นอกเหนือจากนี้ควรบำรุงริมฝีปากให้ชุ่มชื้นอยู่เสมอเพียงเท่านี้ริมฝีปากของคุณก็จะมีความเนียนนุ่ม ชุ่มชื้น และแลดูอมชมพูอยู่ตลอดเวลา!

142
หากว่าร่างกายของคุณเริ่มมีอาหารผิดปกติที่บริเวณท้อง นั้นอาจเป็นสัญญาณของกรดไหลย้อน เช่น ปวดท้อง แน่นท้อง แสบร้อนลิ้นปี่ หรือคลื่นไส้ หากอาการเหล่านี้ให้รีบหายาลดกรดไหลย้อนมาทานเพื่อเป็นการบรรเทาอาการเบื้องต้น แต่อาการเหล่านี้สามารถส่งผลกระทบกับการใช้ชีวิตประจำวันของคุณได้ แถมยังสร้างความทรมานระหว่างวันอีกด้วย สำหรับใครที่ไม่สะดวกที่จะเดินทางไปพบแพทย์ ในที่นี้ก็มียาลดกรดไหลย้อน ที่สามารถช่วยบรรเทาอาการเบื้องต้นก่อนได้เช่นกัน

ยาลดกรดไหลย้อนมีกี่แบบ ทานอย่างไรให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี

ระดับและความอันตรายของภาวะกรดไหลย้อน

อันตรายของโรคกรดไหลย้อนหากเป็นกรดไหลย้อนแล้วไม่ได้ทำการรักษาให้หายแล้วทำการปล่อยเนิ่นนานจนเป็นเรื้อรัง ก็สามารถส่งผลทำให้หลอดอาหารมีแผลหรือหลอดอาหารตีบได้  จึงทำให้เวลากลืนติด กลืนลำบาก หรือในบางคนอันตรายร้ายแรงจนถึงขั้นเป็นมะเร็งเลยที่หลอดอาหารเลยก็ได้ เพราะหลอดอาหารบริเวณส่วนปลายมีการสัมผัสกับกรดที่มากจนเกินไป เพราะเหตุนี้จึงทำให้ควรมียาลดกรดไหลย้อนติดบ้านว้เพื่อเป็นการบรรเทาอาการเบื้องต้นก่อน

วิธีบรรเทาอาการกรดไหลย้อนด้วยตัวเอง

สำหรับใครที่ไม่สะดวกรักษาอาการกรดไหลย้อนด้วยยาลดกรดในกระเพาะ ก็ยังมีวิธีแก้อาการกรดไหลย้อนเบื้องต้นที่ทำได้ง่ายๆด้วยตนเอง เช่น

• ปรับพฤติกรรมการกินอาหาร

วิธีที่สามารถแก้ปัญหาของกรดไหลย้อนได้ดีคือการปรับการกิน โดยจะต้องกินอาหารหรือกินจำนวนมื้ออาหารที่ถี่ขึ้น แต่ต้องลดปริมาณของอาหารลง และหลังทานอาหารเสร็จไม่ควรออกกำลังกาย

• กินอาหารที่มีความเป็นด่าง

หากใครที่ต้องการกินอาหารแทนการกินยาลดกรดในกระเพาะ ในที่นี้ก็สามารถเลือกกินอาหารที่มีความเป็นด่างเพื่อเป็นการลดกรดในกระเพาะอาหาร เช่น น้ำอัดลม กล้วย มะพร้าว มะละกอ แคนตาลูป เป็นต้น

• หลีกเลี่ยงอาหารที่จะไปกระตุ้นให้เกิดกรดไหลย้อน

การที่เราหลีกเลี่ยงอาหารบางประเภทถือว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถช่วยแก้กรดไหลย้อนเร่งด่วนที่สามารถทำได้ทันที โดยอาหารที่สามารถเข้าไปกระตุ้นให้เกิดอาการขึ้นอาจจะมีมะเขือเทศ หัวหอม ชา กาแฟ กระเทียม มิ้นท์ และยังรวมไปถึงอาหารที่มีรสชาติเผ็ด เปรี้ยว หรืออาหารที่มีไขมันค่อนข้างสูง แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ก็ควรลดลง และถ้ามีอาการเกิดขึ้นควรรักษาขั้นเบื้องต้นโดยทานยาลดกรดไหลย้อนเพื่อบรรเทาอาการไปก่อนก็ได้

• ปรับท่าทางในการนอน

สำหรับใครที่อยากจะหาวิธีแก้อาการกรดไหลย้อนเบื้องต้นด้วยการนอน ก็ควรที่จะให้ศีรษะอยู่สูงจากเตียงอย่างน้อย 6 นิ้ว โดยจะต้องมีการยกลำตัวถึงศีรษะให้ตั้งสูงชันเพื่อไม่ให้มีอาการกรดเกินในกระเพาะอาหารนั้นเอง

• งดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่

ในบุหรี่จะมีสารนิโคตินที่จะทำให้หูรูดของหลอดอาหารมีการหย่อนตัวลง และแอลกอฮอล์ก็สามารถทำให้หูรูดหย่อนตัวลงได้เช่นกัน อีกทั้งยังเป็นตัวกระตุ้นให้กระเพาะอาหารมีการสร้างกรดเพิ่มมากขึ้น เพราะฉะนั้นคนที่เป็นกรดไหลย้อนควรหลีกเลี่ยงในการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่

• ยาบรรเทาอาการกรดไหลย้อนแต่ละระดับมีอะไรบ้าง

การรักษาภาวะของกรดไหลย้อนส่วนใหญ่แล้วจะต้องขึ้นอยู่กับอาการและอายุของผู้ป่วยแต่ละบุคคล โดยแพทย์จะแนะนำให้ทานยาลดกรดไหลย้อนในปริมาณที่พอดี เพื่อเป็นการลดกรดไหลย้อนในกระเพาะอาหารเบื้องต้นอีกด้วย โดยยาลดกรดในกระเพาะมีทั้งหมด 3 ระดับแตกต่างกันดังนี้

ยาบรรเทาอาการกรดไหลย้อนแต่ละระดับมีอะไรบ้าง

ยาลดกรดไหลย้อนระดับที่ 1

สำหรับยาลดกรดไหลย้อนระดับที่ 1 จะเป็นยาลดกรด (Antacids) หรือยาลดการผลิตกรด (H2-BLOCKERS) และจะเป็นยาที่มักจะถูกนำมาใช้ก่อนยาชนิดอื่นๆ เพราะยาชนิดนี้จะช่วยทำให้กรดไม่สามารถไหลย้อนเข้าไปที่หลอดอาหารได้ และแพทย์มักจะนำยาชนิดนี้มาใช้กับผู้ป่วยที่เป็นเด็ก เนื่องจากเป็นยาชนิดน้ำมีชื่อสามัญดังนี้ Cimetidine(Tagamet), Ranitidine(Zantac), Famotidine(Pepcid), Nizatidine(Axid)

ยาลดกรดไหลย้อนระดับที่ 2

สำหรับยาลดกรดไหลย้อนระดับที่ 2 จะเป็นยาที่ทำให้หยุดการผลิตกรดในกระเพาะอาหาร โดยจะเป็นยาจำพวกกลุ่ม Proton – Pump Inhibitors (PPIs) ซึ่งมักจะมีหน้าที่ยับยั้งการผลิตกรดในกระเพาะอาหาร หรือไม่มีการผลิตกรดในกระเพาะอาหาร เพราะฉะนั้นยาประเภทนี้จะมีผลข้างเคียงน้อย แต่มีรายงานมาว่าผลข้างเคียงคืออาจจะมีอาหารท้องผูก คลื่นไส้ และปวดศีรษะ

โดยตัวอย่างของกลุ่มยาชนิดนี้จะมีดังนี้ Esomeprazole (Nexium), Lansoprazple(Prevacid), Rabeprazole(Aciphex), Pantoprazole(Protonix) เป็นต้น

ยาลดกรดไหลย้อนระดับที่ 3

สำหรับยาลดกรดไหลย้อนระดับที่ 3 จะเป็นยาProkinetic Agents และเป็นยาในกลุ่ม Prokinetic Agents มีหน้าที่ในการช่วยทำให้หูรูดของกระเพาะอาหารปิดลงได้อย่างสนิทขึ้น เพื่อเป็นการไม่ให้เกิดอาการภาวะกรดไหลย้อน โดยยาในกลุ่มนี้มักจะนิยมใช้ร่วมกับยาในกลุ่มที่ 1 หรือยาลดกรด ตัวอย่างของยาในกลุ่มนี้คือ Metoclopramide (Reglan), Cisapride(Propulsid), Erythromycin(Dispertab, Robimycin), Bethanechol(Duvoid, Urecholine) เป็นต้น

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับยาลดกรดไหลย้อน

คำถามที่มักจะพบบ่อยสำหรับคนที่มีอาการใกล้เคียงกับโรคกรดไหลย้อน มักจะเกิดคำถามขึ้นในหัวว่าถ้าหากว่ามีอาการแบบนี้จะสามารถทานยาลดกรดในกระเพาะหรือยาลดกรดไหลย้อนได้มั้ย แล้วจะต้องทานยาลดกรดในกระเพาะชนิดไหนถึงจะช่วยบรรเทาอาการเหล่านี้ได้

ยาชนิดใดช่วยให้ภาวะกรดไหลย้อนหายขาด?

การทานยาลดกรดไหลย้อนหรือยาลดกรดในกระเพาะ ส่วนใหญ่แล้วถ้าหากไปพบแพทย์ แพทย์จะทำการจัดยาตามอาการที่ผู้ป่วยเป็นอยู่ได้ แต่ถ้าหากว่าใครไม่ได้ไปพบแพทย์ก็สามารถทานยาลดกรดไหลย้อนเองได้ แต่จะต้องถามร้านขายยาว่าอาการนี้จะต้องทานยาชนิดไหนถึงจะหายดี แต่ถ้าไม่หายดีหรือไม่บรรเทาลง ควรไปพบแพทย์ทันที

อาการแสบร้อนกลางอกเกิดจากกรดไหลย้อนขึ้นคอใช่หรือไม่?

หากคุณเริ่มมีอาการแสบร้อนกลางอกอาการนี้ถือว่าเป็นอาการจุดเริ่มต้นของโรคกรดไหลย้อน เพราะเมื่อสารคัดหลั่งหรืออาหารไหลย้อนขึ้นมาสู่หลอดอาหาร คอ หรือปาก จึงทำให้เกิดอาหารนี้ขึ้นมาซึ่งโรคนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกวัยและกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงเช่น คนที่มีน้ำหนักมาก ดื่มสุรา สูบบุหรี่ หรือตั้งครรภ์ โดยการที่ได้ทานยาลดกรดในกระเพาะก็ถือว่าสามารถช่วยบรรเทาอาการเหล่านี้ลงไปได้เช่นกัน

สรุปยาลดกรดไหลย้อน

สรุปโดยรวมแล้วยาลดกรดในกระเพาะหรือยาลดกรดไหลย้อน ถือว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถช่วยลดอาการกรดไหลย้อนได้อย่างเร่งด่วน และสามารถลดอาการได้ในระยะเวลาไม่นาน โดยยาลดกรดไหลย้อนสามารถหาซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อและตามร้านขายยาทั่วไป แต่เพื่อไม่ให้มีอาการของผลข้างเคียงจึงควรกินยาในปริมาณที่เหมาะสมและไม่ควรกินติดต่อกันนานเกินไป และในกรณีที่อาการไม่ดีขึ้นควรที่จะไปพบแพทย์เพื่อรักษาอาการต่อไป

143
พัดลมตั้งโต๊ะรีวิว

ถ้าหากคุณกำลังมองหารีวิวพัดลมตั้งโต๊ะยี่ห้อรุ่นไหนดี รุ่นอะไรให้ลมแรง เย็นสบาย เสียงเงียบ ประหยัดไฟอยู่ละก็ ไม่ควรพลาดบทความนี้เพราะเราจะมาแนะนำวิธีการเลือกซื้อพัดลมตั้งโต๊ะให้เหมาะสมกับความต้องการของไลฟ์สไตล์ทั้งขนาด, คุณสมบัติ, ประสิทธิภาพการใช้งาน, วิธีดูมาตรฐานความปลอดภัยพร้อมบอก 5 อันดับพัดลมตั้งโต๊ะขายดีเป็นที่นิยมใช้ในปี 2023 คุ้มค่ากับการใช้งาน เข้ากับบ้านหลายสไตล์ คัดดีไซน์สวยมินิมอลทันสมัย ไม่ตกเทรนด์บ้าน Smart Home มาให้แล้วไปดูกันเลย

ทำความรู้จักพัดลมตั้งโต๊ะคืออะไรและมีการทำงานอย่างไร ?

ทำความรู้จักพัดลมตั้งโต๊ะ

พัดลมตั้งโต๊ะ เป็นพัดลมขนาดเล็กถูกพัฒนาออกแบบมาให้สามารถวางบนโต๊ะได้โดยไม่กินพื้นที่ ไม่รกบ้านสามารถพกพาไปท่องเที่ยวกางเต็นท์ ในป่า ภูเขา ทะเลหรือตั้งบนโต๊ะออฟฟิศที่ทำงานได้ตอบโจทย์เรื่องความสะดวกสบายเป็นอย่างมาก ในปัจจุบันพัดลมตั้งโต๊ะราคาจะมีตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพันขึ้นไปตามดีไซน์ ความเรียบหรูทันสมัยด้วยตัวพัดลมแบบมีสายใช้พลังงานไฟฟ้าและพัดลมแบบไร้สายชาร์จแบตเตอรี่แทน

ซึ่งพัดตั้งโต๊ะมีหลักการทำงานแบบเดียวกับพัดลมรูปแบบอื่น ๆ เมื่อกระแสไฟฟ้าถูกนำเข้าระบบ กระแสไฟฟ้าจะไหลผ่านมอเตอร์พัดลม จากนั้นใบพัดจะเริ่มทำงานตามระดับความแรงที่ปรับได้ของรุ่นนั้น ๆ ซึ่งส่วนมากสามารถปรับระดับได้ 3 เบอร์ ตามความต้องการของผู้ใช้งานว่าต้องการความแรงระดับไหน

วิธีการเลือกพัดลมตั้งโต๊ะให้คุ้มค่า ประหยัดไฟ

วิธีการเลือกพัดลมตั้งโต๊ะให้คุ้มค่าช่วยประหยัดไฟต่อการใช้งาน อันดับแรกควรพิจารณาจากราคาพัดลมตั้งโต๊ะดูก่อนแต่ถ้าเลือกจากพัดลมตั้งโต๊ะราคาถูกก็ไม่ได้เสมอไป ควรมองหารีวิวพัดลมตั้งโต๊ะที่เชื่อถือได้ จากคอมเมนต์ลูกค้าจริงตามสื่อออนไลน์ต่าง ๆ และควรเลือกให้เหมาะสมกับรูปแบบการใช้งานเช่น น้ำหนัก ขนาด ความเร็วของใบพัด โดยมีหลักการเลือกพัดลมตั้งโต๊ะดังนี้

• เลือกพัดลมตั้งโต๊ะที่มีเครื่องหมาย มอก. ได้รับรองความปลอดภัยจากประเทศไทยมั่นใจเรื่องการใช้งาน
• เลือกซื้อพัดลมที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 จะสามารถดูระดับการใช้ไฟฟ้าของพัดลม คำนวณค่าใช้จ่ายรายปีได้เพื่อการประหยัดไฟ
• เลือกพัดลมให้เหมาะสมกับการใช้งานจริงเช่น ซื้อพัดลมตั้งโต๊ะไปใช้ที่ออฟฟิศหรือพกพาไปตั้งแคมป์ท่องเที่ยว
• การบริการและรับประกันสินค้าหลังการขาย ควรตรวจสอบว่าใช้ประกันได้จริงเมื่อพัดลมชำรุดก็สามารถส่งซ่อมได้ทันที
• เลือกพัดลมที่เป็นที่นิยม ดูจากยี่ห้อ มาตรฐานการผลิต คุณภาพสินค้า ความทนทานเพื่อความปลอดภัยในระยะยาว

5 อันดับพัดลมตั้งโต๊ะขายดีปี 2023 ยี่ห้อไหนดี ?

พัดลมตั้งโต๊ะเย็นสบายผ่านมาตรฐาน มอก.

ปัจจุบันมีแบรนด์พัดลมตั้งโต๊ะออกมาวางขายมากมายในท้องตลาดทั้งออนไลน์และห้างสรรพสินค้าจนทำให้เลือกไม่ถูกเช่น แข่งขันกันในเรื่องราคาพัดลมตั้งโต๊ะ คุณภาพสินค้า ความคงทน ความแรงลม การประหยัดไฟรวมไปถึงดีไซน์ ซึ่งเราได้เลือกพัดลมตั้งโต๊ะ 5 ยี่ห้อขายดีเป็นที่นิยมปีใน 2023 มาให้แล้วได้แก่

Xiaomi

พัดลมตั้งโต๊ะจากแบรนด์ Xiaomi มีให้เลือกมากมายหลายแบบเช่นรุ่น Xiaomi VH Desktop Clip Fan แบบหนีบ มีให้เลือกหลายสี น้ำหนักเบา ขนาด 6 นิ้ว วางบนโต๊ะทำงานหรือตั้งพื้นได้แบบ 2IN1 พร้อมพอร์ตชาร์จ Micro USB แบตเตอรี่ 2000mAh

HATARI

พัดลมตั้งโต๊ะจากแบรนด์ HATARI รุ่น HF-T18M2 สี MINT ดีไซน์สวยมินิมอล สีสดใสน่ารักเอาใจวัยรุ่นและเป็นที่นิยมอยู่คู่คนไทยมาอย่างยาวนาน ด้วยระดับความเร็วรอบ 1,108 รอบ/นาที สามารถวางตั้งกับพื้นได้อย่างสวยงามโดยไม่กินเนื้อที่ภายในบ้าน

Eloop

พัดลมตั้งโต๊ะรุ่นพกพา F3 จากแบรนด์ Eloop สีขาวสไตล์ทันสมัยสามารถปรับความเร็วได้ 3 ระดับ รองรับชาร์จแบตไวเพียงแค่ 1 ชม. วัสดุแข็งแรง ทนทาน เสียงเบา ขนาดใบพัด 7 นิ้วเหมาะสมกับการตั้งบนโต๊ะคอมที่ทำงานเป็นอย่างมาก

AIKO

พัดลมตั้งโต๊ะสาย USB 4 นิ้ว รุ่น KN-L2855 มาพร้อมคลิปหนีบ สามารถหนีบที่ไหนก็ได้ไม่จำเป็นต้องตั้งโต๊ะหรือวางพื้น เช่น หนีบพกพาบนรถยนต์ ขอบโต๊ะ ขอบตู้รองรับหลายรูปแบบการใช้งานอีกทั้งยังมีระบบเปิดไฟให้ความสว่างเหมือนโคมไฟตั้งโต๊ะได้ด้วย

LUCKY MISU

พัดลมตั้งโต๊ะ LUCKY MISU ขนาด 12 นิ้ว ฐานเล็กกะทัดรัดวางบนโต๊ะทำงานได้ มาพร้อมตะแกรงตาถี่แบบวงแหวน 2 ชั้นป้องกันนิ้วมือหรืออุบัติเหตุเข้าไปเกี่ยวกับใบพัดลมเน้นเรื่องความปลอดภัยและถอดทำความสะอาดง่าย

สรุป

พัดลมตั้งโต๊ะเป็นตัวช่วยเรื่องทำความเย็น ระบายอากาศ มีจุดเด่นคือขนาดเล็ก กะทัดรัด พกพาสะดวกใช้ไปท่องเที่ยวหรือตั้งไว้ในมุมต่าง ๆ ของบ้าน วางบนโต๊ะทำงานก็ไม่กินพื้นที่และยังประหยัดไฟอีก ทำให้พัดลมตั้งโต๊ะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก มีตัวเลือกหลายยี่ห้อ หลายราคาคุณสามารถไปดูราคาพัดลมตั้งโต๊ะ พร้อมรีวิวพัดลมตั้งโต๊ะได้เลยที่ Clickzy.com

ขอบคุณบทความดีๆจาก https://www.clickzy.com/

144
รถแลกเงิน

ด้วยเศรษฐกิจในปัจจุบันอาจทำให้สภาพคล่องทางการเงินของใครหลายคนต้องชะงักไป การมองหาสินเชื่อส่วนบุคคลเพื่อให้มีเงินก้อนมาเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินของคุณให้ดีขึ้น อย่างสินเชื่อรถแลกเงิน เป็นสินเชื่อถูกกฎหมาย โดยนำรถของคุณไปขอสินเชื่อกับสถาบันทางการเงิน โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องเอารถไม่จอดทิ้งไว้ ก็ยังสามารถนำมาใช้ตามปกติได้ และได้เงินก้อนมาเพื่อใช้จ่าย ต่อยอดธุรกิจ หรือใช้เคลียร์หนี้สินต่าง ๆ ของคุณ

สำหรับใครที่ยังไม่แน่ใจว่าสินเชื่อรถแลกเงิน คืออะไร ความแตกต่างของสินเชื่อรถแลกเงินกับสินเชื่อส่วนบุคคล คือ เงื่อนไขของการนำรถแลก เงินมีเงื่อนไขอย่างไรบ้าง แนะนำสถาบันทางการเงินที่สามารถทำสินเชื่อรถแลกเงินได้ในราคาที่สูง ดอกเบี้ยถูก จ่ายสบาย ๆ พร้อมบอกข้อควรรู้ต่าง ๆ ก่อนที่คุณจะตัดสินใจทำสินเชื่อรถแลกเงิน

รถแลกเงินคืออะไร? ต่างจากสินเชื่อประเภทอื่นอย่างไร

ก่อนอื่นเราต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่าสินเชื่อรถแลกเงิน ไม่ใช่การรีไฟแนนซ์รถยนต์ หรือการจำนำรถยนต์แต่อย่างใด โดยสินเชื่อรถแลกเงินนั้น หมายถึง เจ้าของที่มีกรรมสิทธิ์รถยนต์ และต้องการเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินของตัวเอง หากมีรถเป็นของตัวเองก็สามารถนำมาแลกเงิน หรือสมัครขอสินเชื่อกับทางสถาบันทางการเงินต่าง ๆ ได้ เรียกง่าย ๆ ว่า หากคุณต้องการทำสินเชื่อรถแลกเงิน รถยนต์ของคุณต้องปลอดภาระการเป็นหนี้ หรือไม่ได้ค้างงวดชำระอยู่ หมายความว่าคุณจะไม่สามารถทำสินเชื่อรถแลกเงินได้หากยังผ่อนค่างวดรถอยู่  โดยจะต้องเป็นกรรมสิทธิ์ครอบครองของคุณเท่านั้น ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่สำคัญในการทำสินเชื่อรถแลกเงิน

การทำสินเชื่อรถแลกเงิน เพียงแค่คุณนำรถยนต์และเล่มทะเบียนรถตัวจริงมาสมัครขอสินเชื่อ โดยการใช้รถยนต์เป็นหลักทรัพย์สำหรับค้ำประกัน เพียงเท่านี้คุณก็สามารถนำเงินสดมาใช้จ่ายต่าง ๆ ได้ ซึ่งวงเงินที่ได้ก็จะขึ้นอยู่กับสภาพ และรุ่นของรถ อีกทั้งดอกเบี้ย ยังขึ้นอยู่กับแต่ละสถาบันทางการเงิน จะเป็นผู้กำหนดวงเงินและดอกเบี้ย รวมถึงจะสอบถามคุณเบื้องต้นด้วยว่า ในแต่ละเดือนคุณมีความสามารถในการจ่ายเดือนละเท่าไหร่ จากนั้นทางธนาคารก็จะทำการเสนอวงเงินที่เหมาะสมกับคุณ

เลือกสินเชื่อรถแลกเงินที่ไหนดีวงเงินสูง ดอกเบี้ยต่ำ

ปัจจุบันมีสถาบันทางการเงิน และธนาคารเปิดให้บริการสินเชื่อรถแลกเงินหลากหลายที่ เพื่อมารองรับผู้ที่ต้องการใช้บริการ ทั้งนี้แต่ละบริษัทที่รับทำสินเชื่อรถแลกเงินจะมีการให้ดอกเบี้ยต่ำหรือสูงนั้นจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยด้วยกัน รวมถึงวงเงินที่คุณจะได้จากการทำสินเชื่อรถแลกเงินก็ยังขึ้นอยู่กับแต่ละบริษัท หรือสภาพรถที่คุณนำไปทำสินเชื่ออีกด้วย

โดยหนึ่งในสถาบันทางการเงินอย่าง KTC พี่เบิ้ม รถ แลก เงิน จากบริษัทบัตรกรุงไทย เป็นบริษัทที่เปิดให้บริการสินเชื่อรถแลกเงินที่ให้วงเงินสูง พร้อมไปหาคุณถึงที่ อนุมัติไวภายใน 1 ชั่วโมง และสามารถรับเงินก้อนได้ทันทีเมื่อได้รับการอนุมัติ 

KTC พี่เบิ้ม สินเชื่อรถแลกเงินที่ตรงใจคุณ พร้อมขั้นตอนที่ง่าย อนุมัติไว วงเงินสูง

บริษัทบัตรกรุงไทย หรือ KTC เป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจด้านบัตรเครดิต และธุรกิจบัตรเครดิตต่าง ๆ ได้แก่ ธุรกิจร้านค้ารับบัตร (KTC Merchant) การให้บริการรับชำระเงินแทน และธุรกิจสินเชื่อบุคคล ซึ่งครอบคลุมไปถึง บัตรกดเงินสด (KTC PROUD) และสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน (KTC พี่เบิ้ม) โดยในวันนี้เราจะเน้นไปที่การบริการทำสินเชื่อรถแลกเงินของ KTC หรือ  KTC พี่เบิ้ม รถ แลก เงิน

โดยจุดเด่นของ KTC รถ แลก เงิน มีดังนี้

  • KTC พี่เบิ้มรถแลกเงินให้ดอกเบี้ยต่ำเริ่มต้นเพียง 0.98% ต่อเดือน โปร่งใส ไม่หมกเม็ด พร้อมผ่อนได้นานสูงสุด 84 เดือน
  • KTC พี่เบิ้มรถแลกเงิน ให้วงเงินสูงสุดถึง 1,000,000 บาท เพียงนำรถที่ไม่ติดไฟแนนซ์ และนำเล่มมาแลกเงินก้อนได้เลย
  • KTC พี่เบิ้มรถแลกเงิน ให้อนุมัติเร็วภายใน 1 ชั่วโมง เมื่อตรวจรถเสร็จ สามารถรับเงินทันทีหลังอนุมัติ และพร้อมให้บริการทุกวันไม่เว้นวันหยุด
  • เอกสารที่ใช้ทำสินเชื่อรถแลกเงิน ไม่ต้องใช้เอกสารให้ยุ่งยาก ไม่ต้องใช้สลิปเงินเดือน หรือทะเบียนการค้าก็ไม่ต้อง อีกทั้งยังสมัครได้ทุกอาชีพอีกด้วย
  • KTC พี่เบิ้ม รถ แลก เงิน พร้อมให้บัตรกดเงินสดกับคุณเอาไว้เบิกถอนเงินสดได้ทุกที่ทุกเวลาอีกด้วย

บริการทำสินเชื่อรถแลกเงิน หรือสินเชื่อรถมอเตอร์ไซค์แลกเงิน ของบริษัท KTC เพียงแค่คุณนำเล่มรถยนต์ หรือมอเตอร์ไซค์ ที่ไม่ติดไฟแนนซ์ ไม่ต้องมีผู้ค้ำ ก็สามารถแลกเงินได้วงเงินสูง อนุมัติไว ไม่ต้องมีขั้นตอนยุ่งยาก 

ขั้นตอนการสมัครสินเชื่อรถแลกเงิน มีอะไรบ้าง

ขั้นตอนการสมัครสินเชื่อรถแลกเงิน

สำหรับขั้นตอนของการทำสินเชื่อรถแลกเงินในปัจจุบันนั้น มีขั้นตอนที่ง่ายมากยิ่งขึ้น สามารถทำสินเชื่อรถแลกเงินแบบออนไลน์ได้ เพียงแค่คุณต้องเตรียมเอกสารให้ครบถ้วน และรอการอนุมัติจากบริษัท เพียงเท่านี้ก็สามารถสมัครทำสินเชื่อรถแลกเงินได้ โดยขั้นตอนในการทำสินเชื่อนั้น มีดังต่อไปนี้

  • สมัครสินเชื่อรถแลกเงิน เริ่มจากกรอกแบบฟอร์มออนไลน์ และจัดเตรียมเอกสารตามเงื่อนไขของแต่ละบริษัท โดยเอกสารที่สำคัญต่อการสมัคร เช่น เล่มทะเบียนรถเพื่อนำมาทำสินเชื่อรถแลกเงิน โดยมีชื่อผู้กู้เป็นเจ้าของ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนหรือใบขับขี่สากล สำเนาทะเบียนบ้าน เอกสารแสดงรายได้ เช่น หนังสือรับรองเงินเดือน หรือ สลิปเงินเดือนล่าสุด และอื่น ๆ
  • ส่งเอกสารที่สาขาของบริษัทรับทำสินเชื่อรถแลกเงิน หรือส่งเอกสารออนไลน์ตามแต่ละบริษัทกำหนด
  • รอผลการอนุมัติ เมื่อทำการสมัครแบบฟอร์ม และส่งเอกสารเรียบร้อยแล้ว จากนั้นก็รอการอนุมัติจากทางบริษัทภายในเวลาที่กำหนด
  • เมื่อการอนุมัติผ่านคุณก็รอรับเงินได้เลย โดยวงเงินและดอกเบี้ยในการทำสินเชื่อรถแลกเงิน ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบริษัทที่คุณได้ทำสินเชื่อ

การขอสินเชื่อรถแลกเงินเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่จะทำให้สภาพคล่องทางการเงินของคุณดีขึ้น ด้วยภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ทำให้หลายคนและหลายครอบครัวต้องการเงินด่วน หรือเงินก้อนจากการทำสินเชื่อรถแลกเงิน นับว่าเป็นทางออกหนึ่งที่เหมาะกับคนที่มีรถยนต์ หรือรถมอเตอร์ไซค์เป็นของตัวเอง อีกทั้งขั้นตอน และการสมัคร หรือการเตรียมเอกสารที่ไม่ต้องยุ่งยาก และไม่ต้องมีคนค้ำประกันอีกด้วย

คุณสมบัติผู้สมัครสินเชื่อรถแลกเงิน

ก่อนการเริ่มทำสินเชื่อรถแลกเงิน รถมอเตอร์ไซค์แลกเงิน ผู้ที่ยื่นทำสินเชื่อต้องมีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง

บุคคลธรรมดา ผู้มีรายได้ประจำ/ อาชีพอิสระ

สมบัติของการทำสินเชื่อรถแลกเงิน กรณีเป็นบุคคลธรรมดา

  • ผู้ที่ต้องการทำสินเชื่อรถแลกเงินต้องมีสัญชาติไทย อายุระหว่าง 20 - 65 ปี
  • ผู้ที่ต้องการทำสินเชื่อรถแลกเงินต้องมีรายได้ 8,000 บาทต่อเดือน
  • ผู้ที่ต้องการทำสินเชื่อรถแลกเงินจะต้องมีประสบการณ์ในการทำงานไม่ต่ำกว่า 4 เดือน
  • ผู้ที่ต้องการทำสินเชื่อรถแลกเงินต้องมีรถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ รถตู้เป็นของตัวเอง โดยถือเล่มทะเบียนไม่ต่ำกว่า 6 เดือน

เจ้าของกิจการ/ ประกอบธุรกิจส่วนตัว

กรณีเป็นเจ้าของกิจการ

  • ผู้ที่ต้องการทำสินเชื่อรถแลกเงินต้องมีสัญชาติไทย อายุระหว่าง 20 - 65 ปี
  • ผู้ที่ต้องการทำสินเชื่อรถแลกเงินต้องมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อเดือน
  • ผู้ที่ต้องการทำสินเชื่อรถแลกเงินสำหรับเจ้าของกิจการต้องดำเนินธุรกิจมาไม่ต่ำกว่า 6 เดือน
  • ผู้ที่ต้องการทำสินเชื่อรถแลกเงินต้องมีรถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ รถตู้เป็นของตัวเอง โดยถือเล่มทะเบียนไม่ต่ำกว่า 6 เดือน

นอกจากนี้คุณสมบัติที่สำคัญของผู้ที่ต้องการทำสินเชื่อรถแลกเงินต้องไม่เอารถเข้าไฟแนนซ์ หรือหากรถยังผ่อนอยู่ ก็ไม่สามารถทำสินเชื่อรถแลกเงินได้เช่นกัน ดังนั้นก่อนที่คุณจะตัดสินใจทำสินเชื่อคุณควรศึกษารายละเอียดทั้งเงื่อนไข คุณสมบัติของแต่ละบริษัทให้ดีเสียก่อน เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา และเพื่อการอนุมัติที่รวดเร็วมากขึ้น

ทำไมถึงสมัครสินเชื่อรถแลกเงินไม่ผ่าน? เหตุผลที่ทำให้ขอสินเชื่อรถไม่ผ่านเกิดจากกรณีใดได้บ้าง

กรณีที่คุณต้องทำสินเชื่อรถแลกเงิน แต่บริษัทไม่อนุมัติ หรือไม่สามารถทำสินเชื่อให้กับคุณได้ เหตุผลหรือกรณีไหนที่ทำให้คุณไม่สามารถสมัครสินเชื่อรถแลกเงินได้สำเร็จ วันนี้เราจะมาบอกเหตุผลว่า ทำไมคุณถึงสมัครสินเชื่อรถแลกเงินไม่ผ่าน เพื่อเป็นการเช็กตัวเองว่าทำอะไรผิดพลาดไปหรือเปล่า?

  • เหตุผลข้อแรกที่ทำให้คุณไม่สามารถสมัครสินเชื่อรถแลกเงินได้ คือ การยื่นเอกสารไม่ครบถ้วน ตามเงื่อนไขของบริษัทที่คุณสมัคร เอกสารเป็นสิ่งสำคัญในการอนุมัติว่าคุณจะทำสินเชื่อผ่านหรือไม่ ทั้งเอกสารประจำตัวที่ใช้แสดงตัวตน เอกสารแสดงรายได้ และที่สำคัญคือการทำสินเชื่อรถแลกเงินรถยนต์ของคุณนั้นจะต้องไม่ติดรีไฟแนนซ์ ซึ่งหมายถึงคุณต้องมีเล่มทะเบียนรถ เพื่อใช้ยื่นกับทางบริษัท
  • เหตุผลที่ทำให้คุณไม่สามารถสมัครสินเชื่อรถแลกเงินได้ คือ คุณสมบัติไม่ผ่านเกณฑ์ เช่น อายุยังไม่ถึงที่กำหนด รายได้ต่อเดือน ระยะเวลาการทำงาน หรือระยะเวลาการดำเนินธุรกิจของคุณ
  • เหตุผลที่จะทำให้คุณไม่ผ่านการทำสินเชื่อรถแลกเงิน คือ มีประวัติทางการเงินที่ไม่ดี โดยบริษัทที่รับทำสินเชื่อรถแลกเงินจะมีทั้งเช็กเครดิตบูโร หรือไม่เช็กเครดิตบูโร ซึ่งหากคุณยังมีหนี้สินที่ยังคงค้างอยู่เยอะ ทางบริษัทอาจจะพิจารณาให้คุณไม่สามารถทำสินเชื่อได้

ในการทำสินเชื่อรถแลกเงินจำเป็นอย่างมากที่คุณต้องทำ หรือมีคุณสมบัติตามเกณฑ์ที่ทางบริษัทได้กำหนดเอาไว้ หากคุณมีคุณสมบัติ และเอกสารที่ยื่นถูกต้องครบถ้วน การทำสินเชื่อรถแลกเงินของคุณก็จะได้รับการอนุมัติที่รวดเร็วมากยิ่งขึ้น

สินเชื่อรถแลกเงินต่างจากการรีไฟแนนซ์ยังไง? ควรเลือกแบบไหนดี

สินเชื่อรถแลกเงินต่างจากการรีไฟแนนซ์ยังไง?

ในปัจจุบันมีบริการทำสินเชื่อที่เกี่ยวกับรถยนต์ทั้งการทำรีไฟแนนซ์ หรือการทำสินเชื่อรถแลกเงิน ซึ่งทั้ง 2 อย่างนี้ไม่เหมือนกัน โดยการทำรีไฟแนนซ์กับการทำสินเชื่อรถแลกเงิน หากจะอธิบายให้เข้าใจอย่างง่าย ๆ มีดังนี้

การทำสินเชื่อรถแลกเงินเหมาะสำหรับผู้ที่มีรถที่ปลอดภาระหนี้สินแล้ว คือคุณต้องเป็นเจ้าของรถยนต์นั้น แล้วนำเล่มทะเบียนมาเป็นหลักประกันแทนการเอารถมาจอด ซึ่งการทำสินเชื่อรถแลกเงินจะมีทั้งแบบไม่ต้องโอนเล่ม และโอนเล่ม นอกจากนี้การทำสินเชื่อรถแลกเงินยังมีบริษัทที่ไม่เช็กเครดิตบูโร หรือสามารถทำสินเชื่อรถแลกเงินได้โดยที่ไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน แต่การเอารถเข้าไฟแนนซ์ คือ การทำสินเชื่อสำหรับผู้ที่ยังผ่อนรถไม่หมด แต่จะต้องมีการผ่อนรถมาแล้วไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของงวดทั้งหมดที่คุณต้องจ่ายจึงจะสามารถสมัครรีไฟแนนซ์ได้

คำถามที่พบบ่อย

คำถามที่คุณอาจพบได้บ่อยในการทำสินเชื่อรถแลกเงิน มีดังต่อไปนี้

ขอสินเชื่อรถแลกเงินแล้ว ยังสามารถใช้รถได้หรือไม่?

ในการทำสินเชื่อรถแลกเงินคุณสามารถจะใช้รถยนต์ของคุณได้ปกติ เพียงแต่ต้องใช้เล่มทะเบียนมาเป็นหลักประกันโดยที่ไม่ต้องนำรถมาจอดทิ้งไว้

สินเชื่อรถแลกเงินคิดดอกเบี้ยอย่างไร?

สำหรับสินเชื่อรถแลกเงินมีการคิดดอกเบี้ยอย่างไร ซึ่งหลายคนต้องการดอกเบี้ยที่ถูก ๆ จะขึ้นอยู่กับแต่ละบริษัทมีการคิดดอกเบี้ยดังนี้ หากเป็นอัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก จะคิดโดย

(จำนวนเงินต้นคงเหลือ x อัตราดอกเบี้ย) ÷ 365 x 31 = จำนวนที่นำไปหักดอกเบี้ยในแต่ละเดือน (31= คิดอัตราดอกเบี้ยเป็นรายวัน)

สรุปเกี่ยวกับรถแลกเงิน

การทำสินเชื่อรถแลกเงิน เป็นทางออกที่ดีสำหรับคนที่ปลอดภาระหนี้ หรือชำระค่างวดรถหมดแล้ว แต่ต้องการเงินก้อนเพื่อนำมาใช้จ่ายในสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ การทำสินเชื่อรถแลกเงินมีขั้นตอนการทำที่ง่าย เอกสารไม่ยุ่งยาก เพียงแค่คุณมีคุณสมบัติเพียงพอต่อเกณฑ์ที่ทางบริษัทได้ตั้งเอาไว้ หากคุณสนใจที่จะทำสินเชื่อรถแลกเงิน ก็สามารถทำกับบริษัท KTC หรือ KTC พี่เบิ้ม รถ แลก เงิน เพียงกรอกข้อมูลบนเว็บไซต์ ส่งเอกสาร และรอการอนุมัติ ไม่ต้องมีผู้ค้ำประกันให้วงเงินสูง ดอกเบี้ยถูก สามารถผ่อนได้นานสูงสุด 84 เดือน

145
แอร์ (Air conditioner) เป็นเครื่องปรับอากาศที่ทำหน้าที่ในการปรับอุณหภูมิของสถานที่ที่ได้ทำการติดตั้งเครื่องไว้ให้มีความเย็นฉ่ำ ช่วยสร้างความรู้สึกที่เย็นสบายให้แก่ผู้ที่อยู่ในสถานที่นั้น ๆ แต่มากกว่านั้นยังมีฟังก์ชันอื่น ๆ เพิ่มขึ้นมามาก เช่น ฟอกอากาศให้สะอาดขึ้น, ป้องกันฝุ่นละออง PM 2.5, ประหยัดพลังงาน, ฯลฯ 

5 อันดับแอร์ยอดนิยม

แอร์สำคัญอย่างไรต่อชีวิตประจำวันของเรา

จากสภาพอากาศร้อนอบอ้าวที่ทุกคนต้องเผชิญในทุกวันทำให้เครื่องปรับอากาศกลายเป็นสิ่งจำเป็นของหลาย ๆ ครอบครัวเพราะสิ่งแวดล้อมที่เต็มไปด้วยมลภาวะทำให้ไม่สามารถเปิดประตูหน้าต่างไว้คอยรับลมธรรมชาติ
 
ทุกวันนี้การดำเนินชีวิตประจำวันของทุกคนทั้งในที่ทำงานและที่พักอาศัยไม่สามารถหลีกเลี่ยงอากาศร้อนเพราะประเทศไทยเป็นประเทศร้อนทั้งปีนั่นเอง ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นการพักผ่อนหรือการทำงานอยู่ในที่ที่มีอากาศร้อนอบอ้าวตลอดเวลาย่อมส่งผลต่อสุขภาพของคนคนนั้นอย่างแน่นอน จึงต้องหาตัวช่วยซึ่งก็คือ เครื่องแอร์ นั่นเอง
 
เราสามารถกล่าวว่าแอร์เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่แทบทุกบ้าน จะมีติดไว้ในที่พักอาศัย รวมไปถึงออฟฟิศ สำนักงานทุกแห่ง ซึ่งความสำคัญของแอร์ต่อชีวิตประจำวันของเรา มีอยู่ด้วยกัน ดังนี้

  • ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคที่เกิดจากความร้อนกระทบต่อสุขภาพร่างกาย เช่น ฮีทสโตรก
  • ช่วยปรับอากาศ ทำให้อุณหภูมิของห้องเย็นสบาย คลายความเครียด
  • ช่วยปรับระดับความชื้นสัมพัทธ์ให้เหมาะสมแก่ร่างกาย ไม่ทำให้ผิวแห้ง
  • ช่วยลดอุณหภูมิห้อง ยืดอายุการใช้งานของเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทอื่น ๆ เช่น คอมพิวเตอร์
  • ช่วยฟอกอากาศ และป้องกันฝุ่นทำให้ห้องสะอาดขึ้น ลดปัญหาสุขภาพ

แอร์สำคัญอย่างไรต่อชีวิตประจำวัน

5 อันดับ แบรนด์แอร์ที่น่าสนใจ

เครื่องปรับอากาศที่ต้องการเลือกใช้ ควรมีขนาดเหมาะสมกับพื้นที่ มีราคาแอร์ที่เหมาะสม จับจ่ายไหวโดยไม่ทำให้เดือดร้อนค่าใช้จ่ายในครอบครัว แอร์โดยมากจะมาพร้อมกับค่าใช้จ่ายประจำ เช่น ค่าไฟฟ้า ค่าล้างทำความสะอาด ค่าซ่อมแซม ฯลฯ

ดังนั้นขอแนะนำให้เข้าไปช้อปปิ้งออนไลน์ที่ “คลิกซิ” ที่ได้คัดสรรสินค้าแอร์ในราคาพิเศษ โปรโมชั่น เพื่อลูกค้าทุก ๆ คน โดยเราจะมาแนะนำแอร์ปรับอากาศ 5 ยี่ห้อที่น่าสนใจมาให้พิจารณา เช่น

5 อันดับ แบรนด์แอร์ที่น่าสนใจ

1. เครื่องปรับอากาศ ยี่ห้อ Mitsubishi Electric

  • รุ่น Econo Air Non-Inverter MS-GN13VF ขนาด 12996 BTU : ได้รับฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5, ใช้แผ่นกรองทอ 3 มิติไว้ดักจับฝุ่นและยับยั้งการเติบโตของแบคทีเรีย เชื้อรา ลดกลิ่นเหม็นอับ, ระบบทำงานเงียบที่สุด ราคาเครื่องแอร์รวมติดตั้ง 19,000 บาท
  • รุ่น Super Inverter MSY-GT13VF ขนาด 12624 BTU : ได้รับอัปเกรดจนได้รับฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 สองดาว, ช่วยกรองสิ่งเจือปนขนาดเล็ก 2.5 ไมครอนด้วยฟิลเตอร์ประจุไฟฟ้า, เย็นเร็ว, สามารถปรับความเย็นสะสมได้อัตโนมัติ ราคาเครื่องแอร์ 21,600 บาท

2. เครื่องปรับอากาศ ยี่ห้อ TCL

  • รุ่น T-Pro Inverter TAC-WDP13 ขนาด 12000 BTU : ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5, เคลือบสาร Titan Gold ยืดอายุการใช้งานเพิ่มประสิทธิภาพความเย็น, บานสวิง 3D Air Flow, มีระบบเตือนทำความสะอาด ราคาเครื่องแอร์ 10,700 บาท
  • รุ่น T-Pro Wi-Fi Inverter TAC-WDP25 ขนาด 22800 BTU : ประหยัดไฟเบอร์ 5, เคลือบสาร Titan Gold ยืดอายุงานและเพิ่มความเย็น, บานสวิง 3D Air Flow, มีระบบเตือนทำความสะอาด ราคาเครื่องแอร์รวมติดตั้ง 20,400 บาท

3. เครื่องปรับอากาศ ยี่ห้อ SHARP

  • รุ่น XP Series Inverter AH-XP13 ขนาด 12000 BTU : ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5, ใช้เทคนิค Plasma Custer กำจัดแบคทีเรีย เชื้อรา ไวรัส สิ่งปนเปื้อนในอากาศได้, ประหยัดพลังงาน, เย็นมากขึ้น, ทำงานเงียบ, ได้รับมาตรฐานทนทานสูงจากญี่ปุ่น ราคาเครื่องแอร์ 12,600 บาท
  • รุ่น J-Tech Inverter AH-X10 ขนาด 9300 BTU : ประหยัดไฟเบอร์ 5, เย็นเร็ว, เย็นมากกว่าระบบทั่วไป 4 เท่า, ทำงานเงียบ, มีมาตรฐานทนทานจากญี่ปุ่น ราคาเครื่องแอร์ 10,200 บาท

4. เครื่องปรับอากาศ ยี่ห้อ LG

  • รุ่น Dual Cool Modern Inverter ISR10E1 ขนาด 9212 BTU : ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 หนึ่งดาว, ประกันคอมเพรสเซอร์ 10 ปี, เคลือบสาร Gold Fin ปกป้องการสึกกร่อน ยืดอายุใช้งาน, กรองละเอียดได้ 2.5 ไมครอน, ทำความสะอาดเครื่องอัตโนมัติ ราคาแอร์เครื่อง 20,990 บาท
  • รุ่น Dual Cool Modern Inverter ISR13E1 ขนาด 11942 BTU : ฉลากเบอร์ 5 หนึ่งดาว, ประกันคอมเพรสเซอร์ 10 ปี, ยืดอายุใช้งานด้วยการเคลือบ Gold Fin, กรองฝุ่นละเอียด 2.5 ไมครอน, ระบบทำความสะอาดอัตโนมัติ ราคาแอร์รวมติดตั้ง 25,490 บาท

5. เครื่องปรับอากาศ ยี่ห้อ Daikin

  • รุ่น FTM09PV2S แอร์ติดผนัง ขนาด 9000 BTU - ประหยัดไฟเบอร์ 5, ประหยัดพลังงาน, แผ่นกรองอากาศ Titanium Apatite Deodorizing Filter ดับกลิ่น ยับยั้งแบคทีเรีย ไวรัส, เย็นเร็ว, ทนทานต่อการกัดกร่อน ราคาแอร์ฟรีค่าติดตั้ง 16,135 บาท
  • Zdecor X Daikin รุ่น FTM18PV2S+RM18PV2S แอร์ติดผนัง ขนาด 18000 BTU - ให้ความเย็นสูงด้วยสาร R32, โหมดเย็นเร็ว, ใช้แผ่นกรองอากาศ Titanium Apatite Deodorizing Filter, ทนทาน ราคาแอร์ฟรีค่าติดตั้ง 25,495 บาท

สรุป

การตัดสินใจซื้อแอร์เพื่อมาติดตั้งในที่พักอาศัยควรเลือกให้ถูกกับลักษณะการใช้งาน อีกทั้งเครื่องปรับอากาศที่เลือกนั้นควรเป็นประเภทที่ตอบโจทย์และเหมาะกับสถานที่ เช่น แอร์ติดผนังในห้องที่มีพื้นที่จำกัด แถมมีฟีเจอร์หลากหลาย เช่น ฟอกอากาศ ป้องกันฝุ่น ประหยัดพลังงาน สั่งงานผ่าน Wi-Fi ได้ (บางรุ่น) เป็นต้น
 
เนื่องจากราคาแอร์ในปัจจุบันมีตั้งแต่หลักหมื่นต้น ๆ จนถึงหลายหมื่น เพื่อให้รอบคลุมกับผู้ใช้งานทุกฐานะ ให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการใช้งานแอร์ได้ เพราะอากาศของประเทศไทยที่มีแต่ร้อนขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้แอร์กลายเป็นสินค้าจำเป็นที่ต้องมี

ขอบคุณบทความดีๆจาก https://www.clickzy.com/

146
 โรคเครียด

ปัญหาชีวิต สภาวะกดดัน เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด อาการเครียดวิตกกังวลกับเรื่องที่ต้องเผชิญในแต่ละวัน ไม่ว่าจะเครียดเรื่องงาน เรื่องเงิน เรื่องส่วนตัว ปัญหาเหล่านี้มักส่งผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจของมนุษย์ นั่นส่งผลให้คนส่วนใหญ่ที่ประสบปัญหาเหล่ามีโอกาสเป็นโรคเครียดได้โดยไม่รู้ตัว แล้วโรคเครียดนั้นเป็นอย่างไร ต้องเครียดแค่ไหนถึงเรียกว่าเป็นโรคเครียดและเราจะมีวิธีในการรับมือกับโรคเครียดได้อย่างไร มาทำความเข้าใจกันเลย

โรคเครียด คืออะไร

โรคเครียด (Adjustment Disorder) คือ สภาวะที่มีการสะสมความกดดันทั้งจากภายในและภายนอก ที่เข้ามาคุกคามทั้งทางจิตใจและทางร่างกาย อาการเครียดสะสมจะส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้เช่น ปวดศีรษะ นอนไม่หลับ มีอาการเศร้าหมองไม่สดใส ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดโรคอื่น ๆ ตามมาได้

แต่ละคนจะมีความสามารถในการรับมือกับอาการเครียดที่แตกต่างกัน บางคนอาจสามารถจัดการกับอาการเครียดได้อย่างรวดเร็ว แต่บางคนไม่สามารถรับมือหรือจัดการกับความกดดันที่เกิดขึ้นได้จนอาจส่งผลให้เป็นโรคเครียดสะสมหรือโรคเครียดวิตกกังวลได้

สาเหตุที่ทำให้เกิดโรคเครียด มีอะไรบ้าง?

สาเหตุความเครียด มักเกิดจากสภาพแวดล้อมที่มีการเปลี่ยงแปลงอย่างรวดเร็วทำให้ไม่สามารถรับมือได้ทันหรือไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับสถาณการณ์ที่เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ ส่งผลให้เกิดแรงกดดันสะสมจนเกิดเป็นภาวะเครียดสะสมขึ้น โดยสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการโรคเครียดแบ่งออกได้เป็น 2 ปัจจัยหลัก ๆ ดังนี้

1.ปัจจัยภายนอก เป็นปัจจัยที่เกิดจากสภาพแวดล้อมภายนอกเช่น ความเครียดจากที่ทำงาน การเรียน การเงิน ปัญหาการเมือง สังคม คนในครอบครัว เป็นต้น

2.ปัจจัยภายใน เป็นปัจจัยที่เกิดจากสภาพร่างกายและจิตใจเช่น โรคจากทางจิตเวชอย่าง วิตกกังวล ซึมเศร้า หรือความบกพร่องของสารเคมีในสมอง ความเหนื่อยล้า การพักผ่อนไม่เพียงพอ เป็นต้น

สังเกตอาการของโรคเครียด

อาการวิตกกังวลเครียดมักเกิดขึ้นโดยทันทีหลังจากที่ได้เผชิญกับสถาณการณ์ที่ไม่ได้คาดคิดหรือประสบกับปัญหาต่าง ๆ โดยอาการคนเครียดอาจมีระยะเวลาหลายวันหรือเป็นสัปดาห์ก็เป็นได้ ดังนั้นการตรวจโรคเครียดโดยเบื้องตันสามารถทำได้ด้วยตัวเองด้วยวิธีสังเกตุลักษณะของอาการความเครียดที่เกิดขึ้นกับตัวเอง โดยโรคเครียดอาการจะมีลักษณะดังนี้

  • มีอาการอ่อนเพลีย รู้สึกเหนื่อยล้า
  • มีอาการปวดตามกล้ามเนื้อตามตัวและศีรษะ
  • หัวใจเต้นเร็ว เมือเท้าเย็น หายใจไม่ทั่วท้อง บางรายอาจมีอาการเจ็บบริเวณหน้าอก
  • มีพฤติกรรมในการทานอาหารมากขึ้นหรือน้อยลงแตกต่างจากปกติ
  • จะนึกถึงภาพเหตุการณ์ที่ทำให้รู้สึกเครียดซ้ำ ๆ วนไปมา
  • ไม่มีสมาธิ วอกแวกง่าย
  • มีปัญหาในการนอนหลับ นอนหลับไม่สนิท
  • มีอารมณ์เปลี่ยนแปลงเช่น หม่นหมอง ไม่สดใสร่าเริง หรืออาจจะหงุดหงิดได้ง่ายกว่าปกติ

ซึ่งอาการของโรคเครียดสามารถแบ่งได้ออกเป็น 3 ระดับด้วยกันคือ

1.Acute Stress
เป็นความเครียดระดับแรกที่จะเกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เช่น สภาพอากาศที่เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันหรือสูงเกินไป การตกใจหรือกลัวต่อสิ่งเร้า ซึ่งความเครียดในลักษณะจะเกิดขึ้นเมื่อร่างกายเกิดการตอบสนองจากสมองในทันที โดยการหลั่งฮอโมนที่ส่งผลให้เกิดความเครียดออกมา แต่เมื่อความเครียดหรือความกังวลหมดไปร่างกายก็จะกลับสู่สภาวะปกติทันที

2.Episodic Acute Stress
เป็นความเครียดระดับที่สองที่จะเกิดขึ้นเมื่อมีเหตุการณ์หลาย ๆ อย่างเกิดขึ้นพร้อมกันหรือมีปัญหาหลาย ๆ เรื่องมารวมกันเช่น ปัญหาด้านสุขภาพ ปัญหาด้านการเงิน หรือปัญหาการทะเลาะภายในครอบครัว

3.Chronic Stress
เป็นความเครียดระดับที่สามที่จะเกิดขึ้นจากความกังวลที่มีระยะเวลายาวนานต่อเนื่องมาจนถึงขั้นกลายเป็นอาการเครียดสะสม ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อจิตใจและสภาพร่างกายในระยะยาว

การรักษาโรคเครียด ทำได้อย่างไร

รักษาโรคเครียด

โรคเครียดรักษาได้ไม่ยาก หลัก ๆ สามารถรักษาโรคเครียดได้โดยไม่ต้องใช้ยาอย่างเช่น การรักษาด้วยวิธีจิตบำบัด (Psychotherapy) เพื่อให้เข้าถึงต้นตอของปัญหาที่ทำให้เกิดภาวะโรคเครียด นำไปสู่การเข้าใจตนเอง สามารถรับมือกับปัญหาและจัดการกับอารมณ์ได้ดีขึ้น
สำหรับอีกวิธีหนึ่งคือการรักษาโดยการใช้ยา

แพทย์บางท่านอาจจะพิจารณาให้ยากับผู้ที่มีอาการเครียดในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของแพทย์เจ้าของไข้ ยาที่ได้รับจะเป็นยาที่ช่วยให้คลายกังวลเช่น ยากลุ่ม Benzodiazepines แต่ในบางรายแพทย์อาจจ่ายยาในกลุ่ม SSRI ร่วมด้วย

โดยส่วนใหญ่แล้วยาที่แพทย์จะจ่ายให้กับผู้ที่มีอาการเครียดคือ ยาเบต้าบล็อกเกอร์ (Beta-Blocker) ยาตัวนี้จะช่วยยับยั้งการหลั่งฮอโมนที่ส่งผลให้เกิดอาการเครียด และยาไดอะซีแพม (Diazepam) ยาตัวนี้จัดอยู่ในกลุ่มยา Benzodiazepines ซึ่งเป็นยาที่มีผลระงับประสาท แพทย์จึงไม่ค่อยนิยมนำยาตัวนี้มาใช้รักษาผู้ที่เป็นโรคเครียด เว้นแต่บางกรณีที่จำเป็นต้องรักษาด้วยยา Diazepam

เมื่อเป็นโรคเครียดจะมีวิธีดูแลตัวเองอย่างไร

เมื่อพบว่าตัวเองมีลักษณะอาการคล้ายกับโรคเครียด ทั้งที่อาจเกิดจากปัญหาชีวิตหรืออาจเกิดจากการที่ต้องเผชิญกับเหตุการณืที่ไม่ได้คาดคิด สามารถดูแลตนเองได้ไม่ยากดังนี้

  • ทำกิจกรรมที่สร้างความผ่อนคลายให้กับตัวเองเช่น ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม หรือทำงานอดิเรกที่ชื่นชอบ
  • ทำกิจกรรมสังสรรค์ ออกไปพบปะพูดคุยกับเพื่อน คนในครอบครัว ระบายปัญหาในกับคนรอบข้างได้ฟัง ช่วยให้รู้สึกโล่งใจและผ่อนคลายขึ้น อีกทั้งยังอาจได้รับความคิดเห็นดี ๆ ที่อาจช่วยแก้ปัญหาที่กำลังเผชิญอยู่ได้
  • มองโลกในแง่ดี เปลี่ยนมุมมองความคิด พยายามคิดว่าทุกปัญหามีทางออกอยู่เสมอ
  • พักผ่อนให้เพียงพอ การพักผ่อนให้เพียงพอนอกจากจะช่วยให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างเต็มที่แล้ว การพักผ่อนยังช่วยให้สมองปลอดโปร่งยังช่วยลดภาวะกดดันกับปัญหาที่กำลังเผชิญอยู่ได้

โรคเครียดป้องกันอย่างไร

หากต้องการป้องกันไม่ให้ตัวเองมีโอกาสเผชิญกับโรคเครียด สามารถป้องกันได้โดยทำตามข้อแนะนำดังต่อไปนี้

  • แบ่งเวลาในการผ่อนคลายตัวเอง ให้เวลาตัวเองในแต่ละวันได้ทำในสิ่งที่ชอบอย่างเช่น การทำงานอดิเรก เล่นเกม นั่งสมาธิเป็นต้น
  • มองโลกในแง่บวก ฝึกจิตใจปรับแนวคิด ให้มีสติอยู่ตลอดเวลาและเชื่อว่าเราสามารถรับมือและแก้ไขกับปัญหาต่าง ๆ ได้ด้วยการมีสติ
  • เมื่อเจอปัญหาหรือเรื่องเครียด ให้ลองระบายหรือพูดคุยกับคนใกล้ตัวสามารถช่วยให้ผ่อนคลายขึ้นได้
  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้สารเคมีในสมองสามารถทำงานได้อย่างปกติ
  • หมั่นออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมที่มีการเคลื่อนไหวร่างกายอย่างสม่ำเสมอ
  • หลีกเลี่ยงการใช้สารเสพติดหรือการดื่มเครื่องดื่มมึนเมา เพราะอาจมีผลต่อการทำงานของสารเคมีในร่างกายได้
  • สำหรับคนที่ประกอบอาชีพที่มีความจำเป็นต้องเผชิญหน้ากับสถาณการณ์อันตรายเช่น ทหารหรือตำรวจ ต้องได้รับการฝึกอบรมเพื่อรับมือกับเหตุการณ์อันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ และปรึกษาจิตแพทย์หากเผชิญเหตุการณ์ที่ส่งผลต่อสภาพจิตใจ เพื่อลดโอกาสในการเป็นโรคเครียดและโรคอื่น ๆ ทางจิตที่อาจเกิดขึ้นได้

สรุปโรคเครียดจะมีวิธีรับมืออย่างไร

โรคเครียดอาการที่ไม่มีใครอยากเป็นแต่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนเมื่อต้องเผชิญกับเหตุการณ์ที่ไม่ได้คาดคิด ซึ่งเราสามารถป้องกันไม่ให้อาการของโรคเครียดรุนแรงขึ้นได้ แต่ในบางครั้งโรคเครียดก็อาจมีอาการที่รุนแรงหรือมีระยะเวลาที่ยาวนาน จำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุที่ร้ายแรงหรือเกิดโรคแทรกซ้อนจากโรคเครียดตามมา

147
โรควิตกกังวล

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าคนส่วนใหญ่มักมีอาการเครียดอันเนื่องมาจากการใช้ชีวิตที่ตึงเครียดจนเกินไป บางรายมีความกดดันมาก เพราะมีบาร์แห่งความคาดหวังในชีวิตที่สูง และเมื่อทำตามที่คาดหวังไม่ได้ ก็อาจทำให้เกิด โรควิตกกังวล หรือ โรควิตกกังวลซึมเศร้า ขึ้นมาในอนาคตโดยที่ไม่รู้ตัวได้เช่นกัน คนที่เป็นโรควิตกกังวลจะรู้สึกวิตกกังวลและกลัวอย่างเกินเหตุ จนมีผลทางลบต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน และในบทความนี้เราจะพาคุณมาทำความรู้จักกับโรควิตกกังวลรักษาที่ไหน ให้เข้าใจกันมากขึ้น

โรควิตกกังวล คืออะไร? และมีอาการอย่างไร?

โรควิตกกังวล (Anxiety disorder) คือ โรคทางจิตเวชที่มีลักษณะอาการวิตกกังวลเครียดและความกลัวที่มากเกินไป อาจเกิดได้จากปัจจัยหลัก ๆ อย่างพันธุกรรม เหตุการณ์รอบตัวที่ส่งผลต่ออารมณ์ความรู้สึก การทำงานของสมองส่วนหน้าที่ผิดพลาดไป และเกิดจากความเครียดที่มีระยะเวลายาวนานต่อเนื่อง โดยอาจส่งผลต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน เช่น การทำงาน การเรียน ความสัมพันธ์กับผู้อื่น และคุณภาพชีวิตโดยรวม

ซึ่งความวิตกกังวลเป็นอารมณ์ปกติที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่หากความวิตกกังวลนั้นรุนแรงและส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน อาจเป็นสัญญาณของโรควิตกกังวลประสบการณ์ที่ไม่ดีได้ และอาการเครียดวิตกกังวลอาจแตกต่างกันไปตามประเภทของโรควิตกกังวลอาการโดยทั่วไป อาจมีดังต่อไปนี้

  • ความกังวลและกลัวอย่างรุนแรง
  • รู้สึกกระวนกระวายใจ ไม่สามารถสงบได้
  • ใจสั่น หายใจถี่ เหงื่อออก
  • ปวดท้อง ปวดศีรษะ
  • นอนไม่หลับ
  • หงุดหงิด ฉุนเฉียว
  • ขาดสมาธิ

โรควิตกกังวล มีกี่ประเภท เกิดขึ้นจากอะไรได้บ้าง?

โรควิตกกังวลที่พบได้บ่อย สามารถแบ่งออกเป็น 5 ประเภทหลัก ดังนี้

โรควิตกกังวลทั่วไป (CAD)

โรควิตกกังวลทั่วไป (Generalized anxiety disorder) หรือ CAD เป็นโรควิตกกังวลชนิดหนึ่ง มีลักษณะอาการโรคเครียดวิตกกังวลและกังวลอย่างรุนแรงในเรื่องทั่ว ๆ ไป เช่น งาน ครอบครัว สุขภาพ โดยอาการวิตกกังวลนั้นอาจเกิดขึ้นตลอดทั้งวัน ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน เช่น การทำงาน การเรียน ความสัมพันธ์กับผู้อื่น และคุณภาพชีวิตโดยรวม

โรคกลัวแบบเฉพาะเจาะจง (Phobia)

โรควิตกกังวลอาการปวดศีรษะชนิดหนึ่ง มีลักษณะอาการวิตกกังวลกลัวอย่างรุนแรงต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งหรือสถานการณ์หนึ่ง โดยความกลัวนั้นไม่สมเหตุผลและไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง ส่งผลให้ผู้ป่วยหลีกเลี่ยงสิ่งหรือสถานการณ์ที่กลัวนั้นอย่างสุดความสามารถ ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน เช่น การทำงาน การเรียน ความสัมพันธ์กับผู้อื่น และคุณภาพชีวิตโดยรวม

โรคกลัวสังคม (Social Phobia)

โรคกลัวสังคม (Social Anxiety Disorder) หรือ SAD เป็นโรควิตกกังวลชนิดหนึ่ง มีลักษณะอาการของความวิตกกังวลอย่างรุนแรงเมื่อต้องอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องพบปะผู้คน เช่น พูดในที่สาธารณะ รับประทานอาหารในที่สาธารณะ เข้าร่วมกิจกรรมหรืองานสังคม เป็นต้น ผู้ป่วยจึงพยายามหลีกเลี่ยงสถานการณ์เหล่านี้อย่างสุดความสามารถ ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน เช่น การทำงาน การเรียน ความสัมพันธ์กับผู้อื่น และคุณภาพชีวิตโดยรวม

โรคย้ำคิดย้ำทำ (OCD)

โรคย้ำคิดย้ำทำ (Obsessive-Compulsive Disorder) หรือ OCD เป็นโรควิตกกังวลอาการที่มีลักษณะอาการโรควิตกกังวลของความคิดซ้ำ ๆ ที่ไม่พึงประสงค์ (obsession) และพฤติกรรมซ้ำ ๆ ที่ทำเพื่อตอบสนองต่อความคิดเหล่านั้น (compulsion) ผู้ป่วยโรค OCD จะรู้สึกกังวลหรือทุกข์ทรมานอย่างมากจากความคิดหรือพฤติกรรมเหล่านี้ ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน เช่น การทำงาน การเรียน ความสัมพันธ์กับผู้อื่น และคุณภาพชีวิตโดยรวม

โรคแพนิค (PD)

โรคแพนิค (Panic disorder) หรือโรคตื่นตระหนก เป็นโรควิตกกังวลชนิดหนึ่ง มีลักษณะอาการ Anxiety ของความตื่นตระหนกอย่างรุนแรงแบบฉับพลัน โดยอาจมีอาการใจสั่น หายใจถี่ เหงื่อออก คลื่นไส้ เวียนหัว กลัวตาย เป็นต้น อาการเหล่านี้อาจเกิดขึ้นซ้ำ ๆ โดยไม่คาดคิด และอาจทำให้ผู้ป่วยรู้สึกกลัวหรือวิตกกังวลว่าจะเป็นอันตรายหรือเสียชีวิต

โรคเครียดหลังเหตุสะเทือนใจ (PTSD)

โรคเครียดหลังเหตุการณ์สะเทือนขวัญ (Posttraumatic stress disorder) หรือ PTSD เป็นความผิดปกติทางจิตใจหรือ Anxiety อาการที่เกิดขึ้นหลังจากเผชิญกับเหตุการณ์คุกคามที่กระทบกระเทือนต่อจิตใจอย่างรุนแรง หรือเผชิญเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการบาดเจ็บที่มีความเป็นอันตรายถึงชีวิต ซึ่งความเครียดเหล่านี้ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันของผู้ป่วย

โรควิตกกังวลสังเกตอาการอะไรได้บ้าง

อาการของโรควิตกกังวล

อาการของโรควิตกกังวลสามารถแบ่งโรควิตกกังวลอาการออกเป็น 2 กลุ่มหลัก ๆ ได้แก่ อาการทางกายและอาการทางจิตใจ

อาการทางกาย ได้แก่

  • ใจสั่น
  • หายใจไม่ออก
  • เหงื่อออก
  • หน้ามืด
  • คลื่นไส้
  • ปวดท้อง
  • ปวดศีรษะ
  • กล้ามเนื้อตึง
  • นอนไม่หลับ

อาการทางจิตใจ ได้แก่

  • กังวลหรือตื่นตระหนกมากเกินไป
  • รู้สึกกระวนกระวาย
  • รู้สึกหงุดหงิดง่าย
  • มีปัญหาสมาธิ
  • รู้สึกเหนื่อยล้า
  • รู้สึกแยกตัวจากผู้อื่น
  • กลัวตาย

อาการของโรคเครียดวิตกกังวลอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับประเภทของโรควิตกกังวลและความรุนแรงของอาการ โดยทั่วไป อาการของโรคกังวลจะส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของผู้ป่วย เช่น การเรียน การงาน ความสัมพันธ์ และกิจกรรมต่าง ๆ เป็นต้น

วิธีรักษาโรควิตกกังวลอย่างปลอดภัย

การรักษาโรควิตกกังวลขึ้นอยู่กับประเภทของโรคและความรุนแรงของอาการ โดยทั่วไป การรักษาโรคนี้สามารถทำได้ด้วยวิธีต่าง ๆ ดังนี้

1. การรักษาด้วยยา มียาหลายกลุ่มที่สามารถช่วยควบคุมและบรรเทาอาการวิตกกังวลได้ ขึ้นอยู่กับอาการของผู้รับการรักษาโรควิตกกังวลด้วยตัวเองและดุลยพินิจของแพทย์ ซึ่งยาที่ใช้โดยทั่วไป ได้แก่

  • ยาระงับอาการวิตกกังวล เช่น ยากลุ่มเบนโซไดอะซีปีน (Benzodiazepine: BZD) เช่น ยาอัลปราโซแลม และยาโคลนาซีแพม ซึ่งเป็นยาช่วยลดความวิตกกังวล มักจะใช้ในโรควิตกกังวลรักษาเองทั่วไป หรือผู้ที่มีปัญหาการนอน ร่วมด้วย
  • ยารักษาอาการซึมเศร้า เช่น ยากลุ่มเอสเอสอาร์ไอ (SSRI) เป็นยากลุ่มที่ใช้รักษาอาการวิตกกังวลได้ เช่นเดียวกับการรักษาอาการซึมเศร้า
  • ยาช่วยควบคุมอาการทางร่างกาย คือ ยาเบต้า บล็อกเกอร์ เช่น ยาโพรพราโนลอล จะใช้เมื่อมีความวิตกกังวลและเกิดอาการทางกาย เช่น ใจสั่น มือสั่น
  • ยาอื่น ๆ ตามแพทย์สั่ง เช่น ยาระงับอาการทางจิต ยารักษาโรคลมชัก ฯลฯ
2. การปรึกษากับจิตแพทย์ การเข้ารับการบำบัดจากจิตแพทย์หรือนักจิตบำบัด สามารถช่วยให้ผู้ป่วยเรียนรู้วิธีจัดการกับความวิตกกังวลและอาการต่าง ๆ ของโรคขี้กังวลได้ 

โรควิตกกังวลดูแลตนเองอย่างไร จึงจะเห็นผล

การดูแลตัวเองสำหรับผู้ป่วยโรควิตกกังวลอาการต่าง ๆ สามารถทำได้ดังนี้

  • ดูแลสุขภาพกายและใจ รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ สูบุหรี่ และสารเสพติด
  • ฝึกเทคนิคการผ่อนคลาย เช่น การหายใจลึก ๆ การผ่อนคลายกล้ามเนื้อ การนั่งสมาธิ การฟังเพลง หรือการทำกิจกรรมที่ชอบ
  • หลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นความวิตกกังวล เช่น การดูข่าวหรืออ่านบทความที่กระตุ้นความเครียด การอยู่ท่ามกลางผู้คนจำนวนมาก หรือสถานที่ที่คุ้นเคย
  • ขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ หากอาการวิตกกังวลรุนแรงหรือส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน ควรพบจิตแพทย์เพื่อรับการรักษาด้วยยาหรือจิตบำบัด

เทคนิคการผ่อนคลายที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง เช่น

  • การหายใจลึก ๆ หายใจเข้าช้า ๆ และลึก ๆ ผ่านจมูก ค้างไว้สักครู่ แล้วหายใจออกช้า ๆ ผ่านปาก การทำเช่นนี้จะช่วยลดความวิตกกังวลและทำให้จิตใจสงบลง
  • การผ่อนคลายกล้ามเนื้อ เกร็งกล้ามเนื้อแต่ละส่วนในร่างกายค้างไว้สักครู่ แล้วค่อย ๆ คลายออก ทำซ้ำไปเรื่อย ๆ จะช่วยลดความตึงเครียดของอาการวิตกกังวลในร่างกายได้
  • การนั่งสมาธิ นั่งสมาธิโดยจดจ่ออยู่กับลมหายใจ ความคิด หรือเสียงใดเสียงหนึ่ง การทำเช่นนี้จะช่วยฝึกจิตใจให้สงบลง

นอกจากนี้ ผู้ป่วยโรควิตกกังวลควรหากิจกรรมหรืองานอดิเรกที่ชอบทำ เพื่อช่วยให้จิตใจผ่อนคลายและลดความเครียดจากอาการวิตกกังวลลงได้ เช่น การอ่านหนังสือ การฟังเพลง การวาดรูป การเล่นเกม เป็นต้น

สรุปโรควิตกกังวล

โรควิตกกังวล เป็นโรควิตกกังวลอาการทำให้เกิดความรู้สึกกังวล กระวนกระวายใจ กลัว หรือตื่นตระหนกอย่างรุนแรง ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวันและอาการทางร่างกายร่วมด้วย อย่างไรก็ตาม หากผู้ป่วยได้รับการรักษาอย่างเหมาะสมก็สามารถจัดการกับโรควิตกกังวลอาการปวดศีรษะและกลับมาใช้ชีวิตปกติได้

148
จัดการความเครียด

บางครั้งในชีวิตของเราก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงที่ต้องเผชิญกับความเครียดได้ ทำให้ในปัจจุบันมีผู้ที่ได้รับผลกระทบจากความเครียดมากมาย ไม่ว่าจะเป็นทางร่างกายหรือว่าจิตใจจนส่งผลกระทบต่อบุคคลรอบข้าง ดังนั้นการหาวิธีจัดการความเครียดจึงจะเป็นสิ่งที่ช่วยทำให้ผู้ที่ต้องเผชิญกับความเครียดสามารถรับมือและจัดการกับความเครียดได้เป็นอย่างดี

แต่ก็มีผู้คนบางส่วนไม่รู้ว่าตอนนี้ตนเองกำลังมีความรู้สึกเครียดอยู่ ซึ่งนั่นจะเป็นอุปสรรคที่ทำให้ไม่สามารถกำจัดความเครียดให้หมดไป หรือแม้ว่าจะรู้ว่ากำลังเครียดอยู่แต่ก็ไม่รู้วิธีกำจัดความเครียด ถ้าปล่อยความเครียดทิ้งไว้ก็จะส่งผลให้ความเครียดสะสมและส่งผลกระทบต่อร่างกายและการใช้ชีวิต ดังนั้นจึงควรจัดการความเครียดอย่างถูกวิธีเพื่อสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ด้วยสภาพกายและใจเต็มร้อย

สาเหตุที่ก่อให้เกิดความเครียด
ความเครียดสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุด้วยกัน แต่ในที่นี้จะขอจัดสาเหตุการเกิดความเครียดไว้เป็น 2 ปัจจัยใหญ่ คือ ปัจจัยจากภายนอกและปัจจัยจากภายใน

ความเครียดจากภายนอก
เป็นความเครียดที่เกิดขึ้นจากสภาพแวดล้อมภายนอกที่เป็นตัวกระตุ้นทำให้เกิดความเครียด เช่น
- ความสัมพันธ์ที่ไม่ราบรื่นระหว่างบุคคลรอบตัว เช่น ครอบครัว เพื่อน
- ตำแหน่ง สถานะทางที่ทำงานหรือสังคม
- สิ่งแวดล้อมรอบตัว เช่น มลภาวะทางอากาศ มลภาวะทางเสียง ความร้อน การจราจร
- สถานะทางการเงิน

ความเครียดจากภายใน
เป็นความเครียดที่เกิดขึ้นจากตนเอง ทั้งนี้อาจเกิดขึ้นได้จากอุปนิสัยหรือพฤติกรรม เช่น
- ผู้ที่ชอบกดดันตัวเอง ต้องทำให้ได้ดี ไม่มีข้อผิดพลาด
- ผู้ที่ชอบเอาชนะ จะต้องเป็นที่ 1 หรือเป็นคนที่อยู่จุดสูงสุด
- ผู้ที่ใจร้อน ชอบใช้เวลาอย่างเร่งรีบจนเกินไป
- ผู้ที่ชอบเก็บความรู้สึกไว้ภายใน ไม่ได้ระบายออกมา
- ผู้ที่ชอบสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์

ปัจจัยดังกล่าวนั้นล้วนส่งผลกระทบต่อชีวิตทั้งร่างกายและจิตใจ หากไม่หาวิธีจัดการความเครียดเพื่อลดความเครียดแล้วก็อาจจะส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันและบุคคลรอบข้างได้

ความเครียดส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตอย่างไร
หากปล่อยให้ตนเองจมอยู่กับความเครียดโดยที่ไม่หาวิธีจัดการความเครียด ความเครียดส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตทั้งทางด้านร่างกายและทางด้านจิตใจ ดังนี้

ผลกระทบทางด้านร่างกาย
- ร่างกายซูบผอมหรือน้ำหนักขึ้นจนเกินเกณฑ์
- เกิดโรคต่าง ๆ เช่น ความดันโลหิตสูง ไมเกรน นอนไม่หลับ กรดไหลย้อน เครียดลงกระเพาะ

ผลกระทบทางด้านจิตใจ
- ใจร้อน โมโหง่าย
- ขี้วิตกกังวล มองโลกในแง่ร้าย
- รู้สึกตัวเองไม่มีคุณค่า

ซึ่งความเครียดเหล่านี้หากไม่ทำการปรับเปลี่ยนหรือการรักษาก็จะทำให้คุณเริ่มเกิดความเครียดสะสม ปลีกวิเวกออกจากสังคม นำไปสู่ของการเป็นโรคซึมเศร้าหรือโรคเครียดได้

วิธีจัดการความเครียด มีอะไรบ้าง?
สำหรับผู้ที่อยากกำจัดความเครียดที่กำลังสะสมอยู่ให้ลดลงจนอยู่ในระดับที่ไม่ส่งผลต่อร่างกายและจิตใจ จนส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ในที่นี้ก็จะมีวิธีจัดการความเครียดที่สามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยตนเองดังนี้

1. ทำความเข้าใจเกี่ยวกับสาเหตุความเครียด
เพื่อที่จะใช้วิธีการจัดการความเครียดที่มีให้ลดลงอย่างถูกวิธี ในบางครั้งจะต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับสาเหตุและปัจจัยที่ทำให้เกิดความเครียดก่อน เช่น เครียดเรื่องเรียนหรือเรื่องทำงานก็สามารถทำงานอดิเรกลดความเครียด หรือถ้าเครียดเรื่องเงินหรือเรื่องคนในครอบครัว การพูดคุยปรึกษากับผู้อื่นก็จะช่วยปลดปล่อยความเครียดได้ เป็นต้น

ทั้งนี้ การเข้าใจสาเหตุความเครียดจะต้องยอมรับสภาวะปัญหาที่กำลังเผชิญอยู่ และในช่วงที่กำลังจะจัดการความเครียดที่มีนั้นจะต้องมีสติและระมัดระวังตัวอยู่เสมอเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาความสัมพันธ์ที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ เพราะในช่วงที่มีความเครียดส่วนใหญ่แล้วมักจะควบคุมอารมณ์ได้ค่อนข้างยาก

2. พูดคุยกับผู้อื่น
การพูดคุยก็เป็นหนึ่งในวิธีจัดการความเครียดที่ได้ผลลัพธ์ดีมาก แต่หลาย ๆ คนก็รู้สึกกลัวที่จะพูดระบายความเครียดของตัวเองออกมาเพราะไม่อยากให้ใครมารับรู้ความรู้สึกของตนเอง ในที่นี้การพูดคุยไม่ได้หมายถึงการระบายอารมณ์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่การพูดคุยยังสามารถคุยในรูปแบบการขอความเห็น หรือคุยเรื่องอื่น ๆ ทั่วไป ซึ่งจะช่วยให้เราเปลี่ยนไปคิดเรื่องอื่นแทนหรือได้รับมุมมองใหม่ ๆ เพื่อรับมือกับปัญหาได้

3. ทานอาหาร

วิธีจัดการความเครียด ทานอาหารที่มีประโยชน์

วิธีรับมือกับความเครียดที่ได้ผลลัพธ์ดีอีกวิธีหนึ่งที่สามารถทำได้ง่าย ๆ ก็คือ การทานอาหาร โดยอาหารบางชนิดก็สามารถทานเพื่อช่วยลดความเครียดได้ เช่น ดาร์กช็อกโกแลต ข้าวไม่ขัดสี แป้ง กล้วย ส้ม ฝรั่ง หรือถ้าในกรณีที่ไม่อยากอาหารก็สามารถดื่มน้ำชาเขียวเพื่อช่วยลดความเครียดได้ แต่การทานอาหารเพื่อลดความเครียดควรทานในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อไม่ให้เกิดผลเสียจากการทานเยอะเกินไป

4. การแบ่งเวลา
การแบ่งเวลาเป็นสิ่งที่หลายคนอาจจะไม่ได้นึกถึง แต่ถ้าแบ่งเวลาการใช้ชีวิตตามความเหมาะสม เช่น ทำงานในเฉพาะเวลางาน อ่านหนังสือ ทบทวนบทเรียนในช่วงเวลาที่กำหนด แบ่งระยะเวลาพักผ่อนร่างกายอย่างชัดเจน โดยไม่เอาเวลาพักผ่อนมาคิดถึงเรื่องเรียนหรือเรื่องงาน ซึ่งวิธีการจัดการความเครียดนี้จะช่วยลดโอกาสการเกิดความเครียดสะสมได้

5. ทำกิจกรรมงานอดิเรก
หากต้องการจัดการกับอารมณ์และความเครียดที่มีอยู่ให้ลดลง การทำงานอดิเรกต่าง ๆ ตามความชอบของตนเอง เช่น วาดรูประบายสี เล่นเกม เย็บปักถักร้อย เดินเล่น ช็อปปิ้ง ท่องเที่ยว ร้องเพลง และอื่น ๆ ก็จะช่วยทำให้เราโฟกัสกับกิจกรรมที่กำลังทำอยู่ปัจจุบันแทนการจมปลักกับความเครียด และในบางครั้งอาจช่วยให้เกิดความคิดแก้ปัญหาได้ด้วย

6. ออกกำลังกาย

 ออกกำลังกาย ลดเครียด

การออกกำลังกายเป็นหนึ่งในวิธีกำจัดความเครียดที่นอกจากจะช่วยให้ความเครียดลดลงแล้ว ยังมีส่วนที่ช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรงได้อีกด้วย เพราะเวลาออกกำลังกายร่างกายจะหลั่งสารเอ็นโดรฟินที่จะช่วยเพิ่มความสุขให้กับร่างกาย และยังช่วยทำให้รู้สึกผ่อนคลายความเครียดได้ โดยใช้เวลาออกกำลังกายประมาณ 30 นาทีต่อครั้งก็สามารถช่วยลดความเครียดได้เป็นอย่างดี

7. ดูหนัง ฟังเพลง
การดูหนัง ฟังเพลง เป็นหนึ่งในวิธีจัดการกับความเครียดที่ได้ผลลัพธ์ดี เพราะจะทำให้มีสมาธิจดจ่อกับเนื้อเรื่องหนังหรือรู้สึกเคลิบเคลิ้มไปกับท่วงทำนองดนตรีแทนการคิดถึงเรื่องเครียด ๆ และยังช่วยทำให้รู้สึกจิตใจปลอดโปร่งพร้อมกลับมาคิดหาวิธีจัดการปัญหาต่าง ๆ ได้

8. นั่งสมาธิ
การนั่งสมาธิเป็นวิธีจัดการอารมณ์และความเครียดได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะในระหว่างที่ทำสมาธิ สมองจะโฟกัสกับการกำหนดหายใจเข้าออกเป็นหลักแทนการคิดถึงเรื่องเครียด เรื่องทุกข์ หรือเรื่องอื่น ๆ ทั้งหมด ซึ่งผลลัพธ์จากการนั่งสมาธิจะช่วยให้สมองได้ปรับอารมณ์ และร่างกายและจิตใจรู้สึกสงบ ผ่อนคลาย

9. นอนหลับ

นอนหลับให้เพียงพอ ช่วยลดความเครียด

สิ่งหนึ่งที่สามารถทำได้ง่าย ๆ แต่หลายคนมักจะลืมก็คือ การนอนหลับ ในระหว่างที่นอนร่างกายของเราจะได้รับการพักผ่อน รวมถึงสมองที่คิดถึงเรื่องความเครียดก็จะหยุดพักไปด้วย โดยควรนอนวันละประมาณ 6-8 ชั่วโมง หรือถ้าในระหว่างวันก็อาจจะงีบประมาณ 10-15 นาที เพียงเท่านี้เวลาหลังจากตื่นนอนขึ้นมาก็จะรู้สึกสมองปลอดโปร่ง พร้อมรับมือกับความเครียดได้ดีมากขึ้น

10. พบแพทย์
การพบแพทย์เพื่อกำจัดความเครียดนั้นเป็นหนึ่งในวิธีจัดการความเครียดที่เหมาะกับผู้ที่ไม่สามารถรับมือและจัดการกับความเครียดได้ด้วยตนเองแม้ว่าจะพยายามแล้วก็ตาม ซึ่งถ้าหากปล่อยอาการเครียดสะสมไว้มาก ๆ ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้

ดังนั้นในกรณีที่พบว่ามีอาการทางอารมณ์รุนแรง ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์เศร้าเสียใจ โกรธโมโหรุนแรง เบื่อสิ่งต่าง ๆ แม้ว่าจะลองทำสิ่งที่ชอบ หรือนอนไม่หลับ และอาการอื่น ๆ เป็นระยะเวลานานควรเข้าพบแพทย์เพื่อตรวจสอบสาเหตุและเข้ารับการรักษาตามอาการความเครียดที่พบต่อไป

สามารถป้องกันความเครียดในชีวิตประจำวันได้อย่างไร
ความเครียดเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงและป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นได้อย่าง 100% แต่สามารถป้องกันไม่ให้ความเครียดที่มีอยู่ถูกสะสมจนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งการนำวิธีจัดการความเครียดมาใช้ในช่วงที่มีความเครียด เช่น การนอนหลับพักผ่อน การออกกำลังกาย การทำงานอดิเรก ก็จะช่วยลดความเครียดที่มีอยู่ลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สรุปวิธีจัดการความเครียดสำคัญอย่างไร
ความเครียดเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ง่าย ๆ หากได้รับแรงกระตุ้น แต่ผู้คนส่วนใหญ่เลือกที่จะเพิกเฉยต่อความเครียดที่มี เป็นเหตุให้ความเครียดถูกสะสมจนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ทั้งยังมีโอกาสแปรเปลี่ยนเป็นโรค เช่น โรคซึมเศร้า โรคเครียด และโรคอื่น ๆ ได้ ดังนั้นถ้ารู้สึกเครียด หากลองทำตามวิธีจัดการความเครียดก็จะช่วยให้ความเครียดที่มีลดลง และสามารถใช้ชีวิตได้อย่างจิตใจปลอดโปร่ง

149
โรงงานผลิตเครื่องสำอาง

การสร้างแบรนด์เป็นของตัวเอง โดยเฉพาะประเภทเครื่องสำอาง นับว่าเป็นธุรกิจที่น่าสนใจมีกลุ่มเป้าหมาย หรือลูกค้าขนาดใหญ่ ขั้นตอนในการสร้างธุรกิจสิ่งสำคัญคือการเลือกโรงงานผลิตเครื่องสำอางที่ได้มาตรฐาน มีการบริการที่ครบวงจร มีเทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยในขั้นตอนของการผลิต ทำให้คุณสามารถสร้างแบรนด์เครื่องสำอางเป็นของตัวเองได้อย่างมีคุณภาพ

โรงงานผลิตเครื่องสำอางที่ได้มาตรฐาน มักจะให้บริการที่ครบวงจร โดยคุณสามารถทำทุกอย่างให้ครบจบภายในที่เดียวได้ ไม่ต้องยุ่งยากไปหลาย ๆ ที่ สำหรับในบทความนี้เราจะกล่าวถึงวิธีการเลือกโรงงานผลิตเครื่องสำอาง ที่รับผลิตเครื่องสำอางได้อย่างครบวงจร ควรเลือกอย่างไร ค่าใช้จ่ายในการผลิตเครื่องสำอาง พร้อมกล่าวถึงแนวโน้มตลาดเครื่องสำอางว่ามีแนวโน้มอย่างไรบ้าง เหมาะกับการทำธุรกิจนี้ในปัจจุบันหรือไม่

แนวโน้มตลาดจากโรงงานผลิตเครื่องสำอาง

การทำธุรกิจเครื่องสำอาง หรือการสร้างแบรนด์เครื่องสำอางเป็นของตัวเอง ก่อนที่จะลงมือทำ คุณควรศึกษาแนวโน้มการตลาดประเภทเครื่องสำอางก่อนว่ามีความนิยมมากน้อยแค่ไหน ซึ่งธุรกิจประเภทเครื่องสำอางมีแนวโน้มทางการตลาดที่สูงและจะยิ่งสูงมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นผู้หญิง ผู้ชาย วัยรุ่น หรือวัยผู้ใหญ่ต่างก็ต้องการใช้เครื่องสำอางกันในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะในกลุ่มผู้หญิงที่ต้องการสร้างความสวยงามให้กับใบหน้า เพื่อเพิ่มความมั่นใจ ทำให้มีเครื่องสำอางหลากหลายแบรนด์ และหลากหลายประเภทได้ผลิตเครื่องออกมา เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าในปัจจุบัน

ด้วยความนิยมของเครื่องสำอางทำให้มีหลากหลายแบรนด์ผลิตออกมาจำนวนมาก แต่สิ่งสำคัญของคนที่อยากมีแบรนด์เครื่องสำอางเป็นของตัวเอง คือผลิตภัณฑ์ที่ได้คุณภาพ สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นสูตร สี กลิ่น สรรพคุณต่าง ๆ ที่ต้องเตรียมไว้ให้เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ด้วยสิ่งเหล่านี้นั้นจะได้มาจากโรงงานผลิตเครื่องสำอางที่ได้คุณภาพ มีมาตรฐานระดับสากล สามารถผลิตและคิดค้นสูตรเครื่องสำอางตามความต้องการของคุณได้ อีกทั้งยังพร้อมบริการอย่างครบวงจรตั้งแต่คิดค้นสูตร ออกแบบบรรจุภัณฑ์  ไปจนถึงการวางกลยุทธ์ทางการตลาด เป็นต้น เพียงเท่านี้คุณก็สามารถสร้างแบรนด์เครื่องสำอางเป็นของตนเองได้

เลือกโรงงานผลิตเครื่องสำอางยังไง แบบครบวงจรที่เดียว

เลือกโรงงานผลิตเครื่องสำอางยังไง แบบครบวงจรที่เดียว

สำหรับวันนี้เราได้เตรียมข้อควรรู้ในการเลือกโรงงานผลิตเครื่องสำอางอย่างไร เพื่อมาสร้างแบรนด์เครื่องสำอางให้กับคุณได้อย่างมีคุณภาพมากที่สุด โดยหลัก ๆ แล้วสิ่งที่คุณควรต้องพิจารณาก็คือ ความสามารถของทางโรงงานผลิตเครื่องสำอางที่สามารถผลิตตามความต้องการของคุณได้ พร้อมส่วนประกอบที่ได้คุณภาพ ขั้นตอนการผลิตที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพมากที่สุด

บริการรับวิจัย คิดค้น และพัฒนาสูตร 

ควรเลือกโรงงานผลิตเครื่องสำอางที่ให้บริการรับวิจัย คิดค้น และพัฒนาสูตรให้ตรงกับความต้องการของคุณ โดยจะต้องมีทีมวิจัย ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อการผลิตเครื่องสำอางที่ปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน และพร้อมคิดค้นสูตรให้คุณตามความต้องการของตลาดในปัจจุบันได้

บริการออกแบบโลโก้ บรรจุภัณฑ์ และฉลากสินค้า

ควรเลือกโรงงานผลิตเครื่องสำอางที่นอกจากรับผลิตเครื่องสำอางแล้ว ยังสามารถออกแบบโลโก้ และบรรจุภัณฑ์ต่าง ๆ ให้กับแบรนด์คุณได้ เพื่อที่คุณจะได้ทำแบรนด์ของคุณให้ครบจบภายในที่เดียว ไม่ต้องเสียเวลาไปจ้างหลาย ๆ บริษัท ซึ่งจะช่วยให้คุณประหยัดทั้งเงินและเวลาในการสร้างแบรนด์อีกด้วย

บริการให้คำปรึกษาวางแผนจากนักการตลาด

ควรเลือกโรงงานผลิตเครื่องสำอางที่มีทีมการตลาดที่คอยช่วยเหลือคุณให้คุณทำการตลาดได้อย่างมีคุณภาพ ช่วยให้คุณวิเคราะห์ต้นทุน ราคาขายสินค้าให้มีความเหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ของคุณมากที่สุด รวมไปถึงการทำการตลาดในด้านอื่น ๆ เพื่อการสร้างยอดขายที่ดีขึ้น

บริการวางแผน ผลิตครีม และเครื่องสำอาง

ควรเลือกโรงงานผลิตเครื่องสำอางที่มีบริการการวางแผนขั้นตอนรับผลิตเครื่องสำอางอย่างละเอียด รอบคอบ ให้ความใส่ใจในทุกขั้นตอนการผลิต เพื่อให้ได้เครื่องสำอางที่ได้คุณภาพ และมีความปลอดภัยต่อผู้ใช้งานมากที่สุด

ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นสำหรับโรงงานผลิตเครื่องสำอาง

สำหรับค่าใช้จ่ายที่คุณต้องจ่ายกับทางโรงงานผลิตเครื่องสำอาง ก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยด้วยกัน ทั้งการคิดค้นสูตร สี บรรจุภัณฑ์ ส่วนประกอบที่คุณเลือกใช้และรายละเอียดต่าง ๆ ที่อาจทำให้มีค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกันออกไป โดยทางโรงงานผลิตเครื่องสำอางก็จะคิดค่าใช้จ่าย และจำนวนขั้นต่ำมาให้กับคุณ ยกตัวอย่างเครื่องสำอางลิปสติก หากเป็นลิปมันธรรมดา Lip Balm จะเริ่มต้นที่ 2,000 บาท/กิโลกรัม, Power Matte Lip Colour เริ่มต้นที่ 10,000 บาท/กิโลกรัม เป็นต้น ซึ่งราคาและสูตรต่าง ๆ คุณสามารถที่จะคุยเพื่อตกลงกับทางโรงงานผลิตเครื่องสำอางได้เลย

มาตรฐานที่ดีของโรงงานผลิตเครื่องสำอางมาตรฐาน

การสร้างแบรนด์เครื่องสำอางเป็นของตนเองนั้น คุณสามารถทำได้เพียงแค่เลือกโรงงานผลิตเครื่องสำอางที่ได้มาตรฐาน มีบริการที่ครบวงจรไปจนถึงการทำการตลาด สามารถคิดค้นสูตรที่คุณต้องการได้ และควรเลือกโรงงานที่มีความน่าเชื่อถือ ควบคุมขั้นตอนการผลิตด้วยผู้เชี่ยวชาญ นักวิจัยหรือนักเคมีที่มีความรู้เฉพาะด้าน และหากคุณกำลังมองหาโรงงานผลิตเครื่องสำอางที่สามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการของคุณได้อย่าง บริษัท เพียวเดอริมา แลบบอราทอรีส์ จำกัด (Pure Derima Laboratories) เป็นโรงงานรับผลิตเครื่องสำอาง OEM อย่างครบวงจร เพื่อสร้างแบรนด์ที่ได้คุณภาพให้กับคุณ สามารถติดต่อได้ที่เว็บไซต์ หรือ Line : @purederima


150
ตรวจระบบไฟฟ้า

การตรวจสอบระบบไฟฟ้าภายในอาคารบ้านเรือน เป็นสิ่งที่ควรกระทำมีความสำคัญต่อความปลอดภัยของที่พักอยู่อาศัย ควรมีการตรวจสอบอย่างน้อยปีละครั้ง จึงทำให้มีบริการการตรวจสอบระบบไฟฟ้าเพื่อเช็กความสมบูรณ์ของวงจรไฟฟ้าภายในอาคาร ซึ่งจะสามารถลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นและจัดการแก้ไขปัญหาที่มาจากวงจรไฟฟ้าชำรุจหรือเสียหาย เช่น อาการไฟตกเป็นช่วงๆ ไฟดับกะทันหัน การเรียกใช้บริการตรวจสอบระบบไฟฟ้า จึงเป็นการลดความเสี่ยงจากความเสียหายของระบบไฟฟ้าที่อาจเกิดขึ้นและยังสามารถช่วยแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างปลอดภัยในทุกปัญหาได้

ตรวจสอบระบบไฟฟ้า คืออะไร

การตรวจสอบระบบไฟฟ้า คือการตรวจสอบเช็กความสมบูรณ์ของระบบไฟฟ้าภายในอาคาร บ้าน หรือที่พักอยู่อาศัย ที่มีความสำคัญจะต้องมีการตรวจสอบอย่างน้อยหนึ่งครั้งต่อปี เพื่อให้แน่ใจว่าระบบไฟฟ้าภายในอาคารนั้นมีการทำงานที่ถูกต้อง มีความปลอดภัยต่อผู้อยู่อาศัย และมีความเสี่ยงที่อาจเกิดระบบไฟฟ้าลัดวงจรต่ำ

แน่นอนว่าการตรวจสอบระบบไฟฟ้าไม่เรื่องง่ายเลยสำหรับหลายท่านดังนั้น จึงมีบริการตรวจสอบระบบไฟฟ้า ที่จะมีช่างผู้เชี่ยวชาญมีความรู้ทางด้านระบบไฟฟ้าโดยตรงมาให้บริการทำการตรวจสอบระบบไฟฟ้าได้อย่างปลอดภัย สามารถแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับระบบไฟฟ้าภายในอาคารบ้านเรือนได้ ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดปัญหาไฟฟ้าลัดวงจร

ทำไมต้องตรวจสอบระบบไฟฟ้า

ตรวจระบบไฟฟ้าประจำปี

การตรวจสอบระบบไฟฟ้าภายในอาคารบ้านเรือน หรือที่พักอยู่อาศัยต่าง ๆ เป็นสิ่งที่สำคัญมากไม่ควรมองข้าม หลายคนอาจคิดว่าการตรวจสอบระบบไฟฟ้าประจำปีเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นสิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย เพราะไม่ได้มีอาการไฟตกติดๆดับๆ หรือมีไฟฟ้าดับกระทันหัน จึงทำให้คิดว่าไม่จำเป็น แต่จริงๆแล้วการตรวจสอบไฟฟ้าอย่างน้อยหนึ่งครั้งต่อปี ก็เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาในระบบไฟฟ้าอย่างการลัดวงจรที่อาจทำให้อาคารเกิดการไฟไหม้ได้ ซึ่งเป็นความอันตรายที่สูงมาก การกันไว้ดีกว่าแก้จึงเป็นสิ่งที่ดีกว่า

ปัญหาที่มักเกิดขึ้นบ่อยมาจากการไม่ให้ความสำคัญในการตรวจสอบระบบไฟฟ้าเลย คือ การเกิดไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดไฟไหม้ ที่สามารถส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้คนในละแวกใกล้เคียงได้ นอกจากนี้แล้วยังมีปัญหาอย่างการไฟตก มีการติดๆดับๆ ที่อาจสร้างความรำคาญให้กับผู้อยู่อาศัยได้เนื่องจากจำเป็นต้องใช้ไฟฟ้า การใช้บริการตรวจสอบระบบไฟฟ้าจึงมีความสำคัญมาก ๆ ด้วยความมืออาชีพของทีมงานมีทั้งความปลอดภัย และสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ระบบไฟฟ้ามีความสมบูรณ์

บริการตรวจสอบระบบไฟฟ้า มีแบบไหนบ้าง

ตรวจรับรองระบบไฟฟ้า

บริการตรวจสอบระบบไฟฟ้า โดยช่างผู้เชี่ยวชาญด้านระบบไฟฟ้าทีมงานของ Q-CHANG โดยจะมีการตรวจสอบระบบไฟฟ้าอย่างละเอียดด้วยความมืออาชีพมีเครื่องมือที่เหมาะสม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ เมื่อทำการตรวจสอบครบถ้วนอย่างละเอียดแล้ว จะมีการรายงานผลความบกพร่องและจุดที่เสียหาย ก่อนจะทำการลงมือแก้ไขปัญหา โดยมีบริการตรวจสอบระบบไฟฟ้าด้วยกันถึง 3 แบบ ดังนี้

1.ตรวจสอบระบบไฟฟ้า มาตรฐาน 7 รายการ

รูปแบบบริการแรก จะเป็นการบริการตรวจสอบระบบไฟฟ้าขั้นพื้นฐาน เป็นการเช็กความปลอดภัยของระบบไฟฟ้า เหมาะกับบ้านที่ต้องการตรวจสอบระบบไฟฟ้าป้องกันไว้ก่อนที่จะมีปัญหา

1. แผงจ่ายไฟหลัก
2. เต้ารับและสวิตช์ไฟฟ้าภายในบ้าน 25 จุด
3. เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีโครงสร้างเป็นโลหะ ทั้งหมด 10 จุด เนื่องจากเสี่ยงต่อการเกิดไฟรั่ว
4. วงจรไฟฟ้านอกบ้านไม่เกิน 2 จุด
5. เครื่องทำน้ำอุ่นภายในบ้านไม่เกิน 2 จุด
6. ระบบไฟสำหรับปั๊มน้ำ 1 จุด
7. เบรกเกอร์ย่อยที่ติดตั้งเพิ่มเติม 5 จุด

2.ตรวจสอบระบบไฟฟ้า อย่างละเอียด 11-12 รายการ

รูปแบบบริการที่สอง จะเป็นบริการตรวจสอบระบบไฟฟ้าอย่างละเอียด ที่จะสามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้กับระบบไฟฟ้า เหมาะกับบ้านที่มีการใช้งานไฟฟ้าเยอะและต้องการตรวจสอบอย่างละเอียดทำให้สามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้

1. แผงจ่ายไฟหลัก
2. เต้ารับและสวิตซ์ไฟฟ้าภายในบ้าน 25 จุด
3. เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีโครงสร้างเป็นโลหะที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟรั่ว ทั้งหมด 10 จุด
4. วงจรไฟฟ้านอกบ้านไม่เกิน 2 จุด
5. เครื่องทำน้ำอุ่นภายในบ้านไม่เกิน 2 จุด
6. ระบบไฟสำหรับปั๊มน้ำ 1 จุด
7. เบรกเกอร์ย่อยที่ติดตั้งเพิ่มเติม 5 จุด
8. ตรวจเช็กสภาพสายไฟ
9. ใช้อุปกรณ์เฉพาะวัดค่าความต้านทานของสายดิน
10. ตรวจเช็กความร้อนบริเวณจุดรวมสายไฟด้วยอุปกรณ์สแกนอุณหภูมิความร้อนของสายไฟโดยเฉพาะ
11. ขันเพิ่มความแน่นให้กับตัวสายไฟ

3.ตรวจสอบระบบไฟฟ้า เฉพาะจุด

รูปแบบบริการที่สาม บริการตรวจสอบระบบไฟฟ้านี้จะเหมาสำหรับผู้ที่มีความต้องการต่อเติมระบบไฟฟ้าภายในบ้าน หรืออยากแก้ไขระบบไฟฟ้า

  • ต่อเติมไฟฟ้าที่แยกออกมาจากตัวบ้าน
  • เปลี่ยนระบบไฟฟ้า สายไฟภายในบ้าน
  • ติดตั้งระบบสายดิน
  • เปลี่ยนสายไฟฟ้า และปลั๊กไฟภายในบ้าน
  • เปลี่ยนตู้ควบคุมระบบไฟฟ้า

แนะนำบริการตรวจสอบระบบไฟฟ้า

โดยรวมแล้วการตรวจสอบระบบไฟฟ้ามีความสำคัญต่ออาคารหรือบ้านมาก จึงควรมีการตรวจสอบระบบไฟฟ้าประจำปี เนื่องจากอุปกรณ์ภายในบ้านจะต้องมีการใช้ไฟฟ้าต่อเนื่องเป็นเวลานาน จึงอาจทำให้ระบบไฟฟ้าเกิดการชำรุจได้ เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นมานั้น การใช้บริการตรวจสอบระบบไฟฟ้าถือเป็นตัวเลือกที่ควรให้ความสำคัญ ด้วยความชำนาญของช่างที่มีเครื่องมือที่เหมาะสมแล้วยังมีประสบการณ์ทำให้การตรวจสอบระบบไฟฟ้ามีความปลอดภัย ลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น และสามารถแก้ไขปัญหาได้ถูกจุดมากกว่าการตรวจสอบด้วยตัวเอง มีการตรวจสอบที่ครอบคลุมมีการรายงานผลที่ละเอียดก่อนที่จะลงมือแก้ไขปัญหา


หน้า: 1 2 [3] 4 5 6 7 8 ... 10