ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - พรสัก ส่องแสง

หน้า: 1 2 3 4 [5] 6 7 8 9
201
คอนโดลาดพร้าว

ลาดพร้าวถือว่าเป็นทำเลทองในกรุงเทพมหานครที่กำลังได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง อุดมไปด้วยแหล่งช้อปปิ้ง อาคารสำนักงาน สถานศึกษา สถานพยาบาล และสถานบันเทิง เรียกได้ว่า เป็นบริเวณที่ครบจบทุกความต้องการ เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์ ทำให้คอนโดลาดพร้าวกลายเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่หลาย ๆ คนต้องการจับจอง เพื่อพักอาศัย รวมถึงเป็นสินทรัพย์ที่จะมีมูลค่าเพิ่มในอนาคตอย่างแน่นอน

คอนโดลาดพร้าว คืออะไร

ลาดพร้าวเป็นย่านที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่ที่น่าสนใจในหลาย ๆ มิติ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางที่มีถนนสายหลักผ่านอย่างถนนพหลโยธินและถนนวิภาวดีรังสิต สิ่งอำนวยความสะดวกอย่างห้างสรรพสินค้า สถานศึกษา และสถานพยาบาลก็มีอย่างครบครัน เรียกได้ว่า ลาดพร้าว เป็นทำเลที่สามารถตอบโจทย์ได้ครบทุกไลฟ์สไตล์

ในแต่ละโซนของลาดพร้าวก็ยังมีความแตกต่างกัน เช่น โซนห้าแยกลาดพร้าวไปตามถนนพหลโยธิน ส่วนใหญ่จะเป็นห้างสรรพสินค้าและออฟฟิศสำนักงาน เป็นแหล่งรวมคนวัยทำงานและวัยรุ่น โซนโชคชัย 4 ลาดพร้าว-วังหิน ส่วนใหญ่จะเป็นโซนที่อยู่อาศัย เป็นหมู่บ้านหรือชุมชนมากกว่า ทำให้เต็มไปด้วยแหล่งช้อปปิ้งและร้านอาหารชื่อดังต่าง ๆ โซนเลียบด่วน-รามอินทรา เกษตรนวมินทร์ ที่อุดมไปด้วยสถานบันเทิง แหล่งช้อปปิ้ง และอาคารสำนักงานต่าง ๆ

ทำให้ลาดพร้าวกลายเป็นพื้นที่ที่น่าสนใจมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและมีแนวโน้มที่จะกลายเป็น New CBD ของกรุงเทพฯ หลายบริษัทอสังหาริมทรัพย์จึงได้มีการสร้างที่พักอาศัยในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม ทาวน์เฮ้าส์ หรือคอนโด โดยเฉพาะคอนโดที่สามารถจัดสรรพื้นที่ได้ง่าย ทำให้ใครหลาย ๆ คนเริ่มมองหาคอนโดลาดพร้าวกันมากขึ้น

และในปัจจุบัน โครงการคอนโดลาดพร้าวได้กระจายอยู่ในบริเวณโซนต่าง ๆ ของลาดพร้าว เพื่อรองรับความต้องการของใครหลาย ๆ คนที่ต้องการอาศัยในทำเลศักยภาพตรงนี้ ซึ่งถือว่าเป็นโอกาสที่ทำให้เราทุกคนสามารถเลือกคอนโดสำหรับพักอาศัยได้ตามความสะดวกและเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของตนเอง

ข้อดี ข้อเสีย คอนโดลาดพร้าว

คอนโดลาดพร้าวนั้นกระจายอยู่ทั่วโซนลาดพร้าว ซึ่งแต่ละที่ก็ล้วนแต่มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน ดังนั้น เราลองมาพิจารณาข้อดีข้อเสียที่ว่า เพื่อประกอบการตัดสินใจกัน ดังนี้

1. ข้อดีของคอนโดลาดพร้าว

  • แถวลาดพร้าวรายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า สถานศึกษา สถานพยาบาล และสถานบันเทิง ครบทุกไลฟ์สไตล์ที่คุณต้องการ
  • ประหยัดเวลาในการเดินทาง ยิ่งหากเราเป็นคนที่ต้องทำงานในลาดพร้าว การพักอาศัยในบริเวณเดียวกัน ก็ยิ่งลดเวลาในการเดินทาง เพิ่มเวลาในการใช้ชีวิตได้มากขึ้น
  • การเดินทางที่สะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นถนนสายหลัก ทางด่วน รถไฟฟ้า หรือรถไฟฟ้าใต้ดินก็ตาม
  • ลาดพร้าวเป็นทำเลที่ได้รับความสนใจอยู่ตลอด ทำให้เป็นอสังหาริมทรัพย์ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นในอนาคตอย่างแน่นอน

2. ข้อเสียของคอนโดลาดพร้าว

  • ด้วยความที่คอนโดลาดพร้าวอยู่ในย่านธุรกิจ ดังนั้น การจราจรบนท้องถนนจึงค่อนข้างติดขัด โดยเฉพาะในเวลาเร่งด่วน ถ้าหากเราเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวหรือรถสาธารณะก็อาจจะต้องเผื่อเวลาสำหรับการเดินทาง
  • จากข้อดีของทำเล ทำให้ความต้องการคอนโดลาดพร้าวพุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ ส่งผลให้ราคาของคอนโดสูงตามไปด้วย ดังนั้น ที่นี่จึงไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาในเรื่องงบประมาณที่มีจำกัด
  • จากแนวโน้มที่บริเวณลาดพร้าวจะได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและกลายเป็นแหล่งเศรษฐกิจใหม่ ซึ่งอาจจะกลายเป็นย่านแออัด ทำให้ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวหรือความเงียบสงบ

วิธีการเลือกคอนโดลาดพร้าวให้เหมาะกับตนเอง

วิธีการเลือกคอนโดลาดพร้าวให้เหมาะกับตนเอง

ด้วยย่านลาดพร้าวมีคอนโดลาดพร้าวเกิดขึ้นมากมาย แล้วเราจะมีวิธีการเลือกอย่างไร ว่าคอนโดแบบไหนจึงจะเหมาะสมกับตนเอง โดยเรามีแนวทางให้พิจารณาดังนี้

  • ไลฟ์สไตล์การดำเนินชีวิต พิจารณาว่า ที่ทำงานหรือสถานที่ใดที่เราจะต้องไปเป็นประจำ เราก็ควรเลือกคอนโดลาดพร้าวที่อยู่ใกล้ในบริเวณนั้น เพื่อลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
  • คอนโดลาดพร้าวมีหลายราคา ส่วนหนึ่ง เราอาจจะเลือกจากราคาของคอนโดและงบประมาณที่เรามี เพื่อใช้ประกอบในการตัดสินใจ
  • การเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ส่วนตัว รถสาธารณะ หรือรถไฟฟ้า โดยพิจารณาว่า บริเวณที่เราต้องไปเป็นประจำกับบริเวณคอนโดลาดพร้าวที่เราจะเลือกนั้น เดินทางด้วยวิธีใดสะดวกและรวดเร็วกว่ากัน
  • รูปแบบห้องของคอนโดลาดพร้าวกับบริบทของผู้พักอาศัย ด้วยบางดอนโดได้มีการออกแบบห้องมาหลากหลายรูปแบบ ทั้งขนาดพื้นที่ห้องพัก รูปแบบห้องพัก จำนวนห้องนอน ห้องน้ำ หรือแบบห้องครัว ซึ่งเราจะต้องพิจารณาองค์ประกอบเหล่านี้ ให้เหมาะกับผู้ที่จะอาศัยด้วย เช่น หากเราอาศัยคนเดียว ก็อาจจะเลือกห้องพักที่มีขนาดไม่กว้างนัก แต่หากอาศัยเป็นครอบครัว ก็อาจจะต้องมีจำนวนห้องนอนที่เพิ่มขึ้น เป็นต้น
  • สภาพแวดล้อมที่เหมาะกับผู้อยู่อาศัย เช่น สถานพยาบาล สถานศึกษา ห้างสรรพสินค้า เป็นต้น หากในครอบครัวมีบุตรหลาน ก็อาจจะต้องเลือกคอนโดลาดพร้าวที่ใกล้สถานศึกษา หรือหากมีผู้สูงอายุ ก็ต้องเลือกคอนโดที่ใกล้สถานพยาบาล เป็นต้น
  • สิ่งอำนวยความสะดวกภายในคอนโดลาดพร้าวเป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญ ว่า ภายในคอนโดสามารถตอบสนองความต้องการส่วนใดของเราได้บ้าง โดยที่เราอาจจะไม่จำเป็นต้องเดินทางไปที่อื่น เช่น สระว่ายน้ำ ฟิตเนส สวนหย่อม สนามเด็กเล่น ที่จอดรถ เป็นต้น
  • ภาพลักษณ์และชื่อเสียงของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่สร้างคอนโดลาดพร้าวนั้น โดยอาจจะศึกษาหาข้อมูลจากรีวิวต่าง ๆ ทั้งโลกออนไลน์และจากผู้พักอาศัยจริง ว่า มีการดูแลหลังการขาย การแก้ปัญหาเมื่อเข้าพักเป็นอย่างไร

แบรนด์คอนโดลาดพร้าวในประเทศไทย

บริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่สร้างคอนโดลาดพร้าวในประเทศไทยมีมากมาย หลากหลายแบรนด์ให้เราสามารถศึกษาและเปรียบเทียบข้อมูลก่อนตัดสินใจได้ เช่น

  • SC Asset เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทยที่มุ่งมั่นในการดูแลลูกค้า พร้อมทั้งตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ เพื่อให้ทุกคนได้รับสภาพแวดล้อมที่ดี มีความปลอดภัยในการดำเนินชีวิต
  • ศุภาลัย แบรนด์อสังหาริมทรัพย์ที่มีการพัฒนาที่พักอาศัยในหลากหลายรูปแบบ
  • พฤกษา เรียลเอสเตท อีกหนึ่งแบรนด์ที่เน้นการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีราคาไม่แพง ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของได้
  • แสนสิริ บริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยอย่างหลากหลายและมีคุณภาพสูง
  • AP (Asia Property) อีกหนึ่งแบรนด์ที่มีที่พักอาศัยแบบต่าง ๆ กระจายอยู่ทั่วกรุงเทพฯ

ราคาคอนโดลาดพร้าวในกรุงเทพยอดนิยม 2023

หากใครที่กำลังสนใจคอนโดลาดพร้าว ไม่ว่าจะเป็นการพักอยู่อาศัยเอง หรือเป็นการปล่อยเช่า เพื่อเพิ่มช่องทางรายได้ เราก็มีคอนโดลาดพร้าวที่น่าสนใจมานำเสนอ

เดอะ เครสท์ พาร์ค เรสซิเดนเซส ห้าแยกลาดพร้าว

คอนโดลาดพร้าว เดอะ เครสท์ พาร์ค เรสซิเดนเซส


เดอะ เครสท์ พาร์ค เรสซิเดนเซส (The Crest Park Residences) เป็นคอนโดลาดพร้าวที่มีการออกแบบดีไซน์ให้เชื่อมต่อกับบรรยากาศธรรมชาติ เป็นคอนโดหรูหนึ่งเดียวใจกลางห้าแยกลาดพร้าว ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 6.69 ล้านบาท รายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น

1. แหล่งช้อปปิ้งและสำนักงาน

  • เซ็นทรัล ลาดพร้าว
  • ยูเนี่ยน มอลล์
  • ตลาดนัดจตุจักร
  • SC Asset
  • การบินไทย
  • SCB

2. สถานศึกษา

  • โรงเรียน นานาชาติเซนต์สตีเฟ่นส์
  • โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
  • โรงเรียนหอวัง
  • มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

3. สถานพยาบาล

  • โรงพยาบาลวิภาวดี
  • โรงพยาบาลเปาโล เกษตร

4. การเดินทาง

  • Sky walk BTS สถานีห้าแยกลาดพร้าว เพียง 20 เมตร
  • MRT สถานีพหลโยธิน เพียง 80 เมตร

เลือกซื้อคอนโดลาดพร้าวที่ไหนดี

เลือกซื้อคอนโดลาดพร้าวที่ไหนดี


คอนโดลาดพร้าวจากบริษัทอสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย พร้อมให้เราเลือกจับจองเป็นเจ้าของ ซึ่งเราขอแนะนำ เดอะ เครสท์ พาร์ค เรสซิเดนเซส (The Crest Park Residences) คอนโดลาดพร้าวจาก SC Asset ซึ่งเป็นคอนโดหรูใจกลางห้าแยกลาดพร้าวที่มาพร้อมโปรโมชั่นดี ๆ ที่คุณอาจจะได้รับส่วนลดสูงสุดถึง 1.5 ล้าน

ด้วยแนวคิดของเดอะ เครสท์ พาร์ค เรสซิเดนเซส เป็นคอนโดลาดพร้าวที่มีวิวสวนใหญ่ใจกลางเมือง โดยดีไซน์ให้เชื่อมโยงกับธรรมชาติได้อย่างลงตัว (Embrace by Nature) การเดินทางที่สะดวกสบาย (Convenient Location) มีความเป็นส่วนตัวสูงด้วยฟังก์ชั่น Single Corridor และอำนวยความสะดวกเหมือนโรงแรม (Very Important Person)

คอนโดลาดพร้าวใกล้รถไฟฟ้าดีไหม

หากถามว่า คอนโดลาดพร้าวใกล้รถไฟฟ้าดีหรือไม่ โดยเบื้องต้น เมื่อพิจารณาจากภาพรวมแล้ว ก็ถือว่าเป็นการดี ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้

  • การคมนาคมสะดวก เพราะการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า มีระยะเวลาการเดินทางที่แน่นอน ทำให้เราสามารถวางแผนการเดินทางได้อย่างแม่นยำ
  • ประหยัดค่าเดินทาง เมื่อเทียบกับค่าน้ำมันที่จะต้องใช้กับรถยนต์ส่วนตัว
  • ประหยัดเวลา ด้วยเหตุผลที่กล่าวไปว่า รถไฟฟ้ามีรอบรถที่ชัดเจน ทำให้เราสามารถบริหารจัดการเวลาส่วนตัวได้อย่างเต็มที่
  • สามารถปล่อยเช่าหรือขายต่อได้ในราคาที่สูง เนื่องจากเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ในย่านใจกลางเมือง มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันและเดินทางสะดวก

จากข้อดีทั้งหลายที่กล่าวมา การที่มีคอนโดลาดพร้าวติดรถไฟฟ้าก็ยังมีข้อเสียด้วยเช่นกัน เช่น

  • หากคอนโดที่อยู่ติดกับรถไฟฟ้ามากเกินไป ก็อาจจะมีเสียงดังรบกวน ทั้งจากรถไฟฟ้าหรือผู้ที่สัญจรไปมา
  • ในชั่วโมงเร่งด่วน คอนโดลาดพร้าวที่ติดรถไฟฟ้าก็อาจจะแออัดด้วยจำนวนคนที่มากกว่าปกติ ทำให้คุณอาจจะติดขัด และไม่เป็นส่วนตัว

และจากข้อเสียที่กล่าวมา หากคุณไม่ได้มีปัญหาในเรื่องเสียงดังรบกวน หรือการใช้รถไฟฟ้าในชั่วโมงเร่งด่วน ข้อเสียเหล่านี้ก็อาจจะไม่ใช่ปัญหาสำหรับคุณ ดังนั้น ก็จะมีเพียงข้อดีที่เกิดขึ้น สุดท้ายแล้ว สำหรับการเลือกคอนโดลาดพร้าวก็ต้องให้คุณเป็นผู้พิจารณาจากหลาย ๆ องค์ประกอบและบริบทชีวิตของคุณว่า มีความเหมาะสมและเข้ากับไลฟ์สไตล์ของคุณหรือไม่

202
การเลือกทาวน์โฮม หรือทาว์เฮ้าส์สักหลังเพื่อการอยู่อาศัย คุณอาจจะต้องดูจากทำเลที่ตั้ง และงบประมาณที่มี ซึ่งบางครั้งทาวน์เฮ้าส์ และทาวน์โฮมบางแห่งในกรุงเทพชั้นในอาจมีราคาที่สูงเกินกว่างบที่คุณตั้งไว้ ดังนั้นวันนี้เรามีทาวน์โฮม และทาวน์เฮ้าส์ราคาย่อมเยามาแนะนำ ทาวน์โฮมกรุงเทพล้านต้นๆ และทาวน์เฮ้าส์ราคาถูกที่คุณสามารถเป็นเจ้าของได้ไม่ยาก โดยทำเลของโครงการที่เรานำมาแนะนำเป็นทำเลอยู่อาศัยที่สามารถเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองกรุงเทพได้ไม่ยาก

ทาวน์เฮ้าส์กรุงเทพ ทาวน์โฮมกรุงเทพ

แนะนำโครงการทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮมกรุงเทพ สะดวกสบาย พร้อมอยู่

เพื่อให้คุณได้ที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณ เราจึงขอแนะนำโครงการทาวน์เฮ้าส์ และทาวน์โฮมกรุงเทพราคาไม่แพง โดยจะมีราคาตั้งแต่ล้านต้นๆ ขึ้นไป ไปจนถึงราคาสี่ล้านกว่าๆ ซึ่งโครงการที่เราแนะนำมีตั้งแต่ 2 ห้องนอนไปจนถึง 5 ห้องนอน ให้คุณสามารถอยู่อาศัยได้ทั้งครอบครัว รวมถึงสามารถจอดรถได้ทั้งแบบ 1 คัน และ 2 คัน
ทำเลที่ตั้งของทาวน์โฮมกรุงเทพ และทาวน์เฮ้าส์กรุงเทพจะอยู่ในทำเลอยู่อาศัยที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และสามารถเดินทางเข้าสู่ย่านธุรกิจ และใจกลางเมืองได้อย่างสะดวกสบาย โดยโครงการที่น่าสนใจจะมีดังต่อไปนี้

โครงการทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น ย่านเขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร

ทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้นที่ตกแต่งสไตล์มินิมอลที่ตั้งอยู่ย่านกรุงเทพตะวันออก ซอยนวลจันทร์ 36 คลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม ซึ่งทาวน์เฮ้าส์หลังนี้มี 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ และสามารถจอดรถได้ 1 คัน เนื้อทั้งหมดที่ 15 ตารางวา โดยราคาจะอยู่ที่ 2,090,000 บาท เหมาะสำหรับครอบครัวเล็กๆ   

ทาวน์เฮ้าส์ราคาถูกกรุงเทพย่านบึงกุ่ม

โครงการหมู่บ้านเคซีรามอินทรา 8 

ทาวน์โฮมล้านต้นๆ กรุงเทพ ที่ตั้งอยู่ในซอยไทยรามัญ ถนนหทัยราษฎร์ แขวงสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา โครงการหมู่บ้านเคซีรามอินทรา 8 อยู่ในย่านที่อยู่อาศัยของกรุงเทพตอนบนที่ราคาไม่สูงมาก โดยราคาของทาวน์โฮมหลังนี้จะอยู่ที่ 1,600,000 บาท เป็นทาวน์โฮมส์ 2 ชั้น เนื้อที่ 20 ตารางวา มี 2 ชั้น ประกอบด้วย 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 2 คัน เหมาะสำหรับคนที่งบน้อย และอยากได้ที่อยู่อาศัยในกรุงเทพ

ทาวน์โฮมล้านต้นๆ กรุงเทพ

โครงการหมู่บ้านทัดชาวิลล่า

ทาวน์เฮาส์เล็กๆ น่ารัก 2 ชั้น ที่ถูกตกแต่งอย่างเรียบง่าย ตั้งอยู่ในโครงการหมู่บ้านทัดชาวิลล่า ซอย พหลโยธิน 73 ถนนพหลโยธิน แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร มีพื้นที่ทั้งหมด 16 ตารางวา สามารถจอดรถได้หนึ่งคัน ตัวบ้านประกอบด้วยห้องนอน 2 ห้อง ห้องน้ำ 1 ห้อง และห้องครัว โดยราคาจะอยู่ที่ 1,890,000 บาท 

ทาวน์เฮ้าส์ราคาถูกกรุงเทพ

รวมราคาทาวน์โฮมกรุงเทพ และทาวน์เฮ้าส์กรุงเทพ

นอกเหนือจากโครงการทาวน์โฮมกรุงเทพ และทาวน์เฮ้าส์กรุงเทพที่เราแนะนำไปข้างต้น เราจะรวบรวมราคาทาวน์โฮม และทาวน์เฮ้าส์กรุงเทพโครงการอื่นๆ มาให้คุณได้รู้จักด้วย โดยจะเริ่มตั้งแต่ราคาไม่เกิน 2 ล้านไปจนถึง ราคาไม่เกิน 4 ล้าน ซึ่งจะมีตั้งแต่โครงการย่านฝั่งธน กรุงเทพตะวันออก และกรุงเทพตอนบน เป็นต้น

โครงการทาวน์โฮม และทาวน์เฮ้าส์กรุงเทพ ราคาไม่เกิน 2 ล้าน ได้แก่

  • โครงการหมู่บ้านรัชธานี 9 เขตสายไหม กรุงเทพ ราคา 1,890,000 บาท
  • โครงการหมู่บ้านอรุณทอง 5 เพชรเกษม กรุงเทพ ราคา 1,750,000 บาท
  • โครงการหมู่บ้านพิศาล เขตบางขุนเทียน กรุงเทพ ราคา 2 ล้านบาท
  • โครงการหมู่บ้านเคหะธานี 4 สะพานสูง กรุงเทพ 1,890,000 บาท
  • โครงการหมู่บ้านเคหะร่มเกล้า ลาดกระบัง กรุงเทพ ราคา 1,150,000 บาท

โครงการทาวน์โฮม และทาวน์เฮ้าส์กรุงเทพ ราคาไม่เกิน 3 ล้าน ได้แก่

  • โครงการหมู่บ้านวิลลาจจิโอ พระราม 2 บางขุนเทียน กรุงเทพ ราคา 2,250,000 บาท
  • โครงการหมู่บ้านซิตี้เซนต์ พระราม 2-ท่าข้าม กรุงเทพ ราคา 2,790,000 บาท
  • โครงการหมู่บ้านพฤกษาวิลล์ 51 พหลโยธิน สายไหม กรุงเทพ ราคา 2,450,000 บาท
  • โครงการหมู่บ้านพฤกษาวิลล์ 48 หลักสี่-ดอนเมือง กรุงเทพ ราคา 2,690,000 บาท
  • โครงการหมู่บ้านเคซีรามอินทรา 1 หทัยราษฏร์ 39 กรุงเทพ ราคา 2,990,000 บาท

โครงการทาวน์โฮม และทาวน์เฮ้าส์กรุงเทพ ราคาไม่เกิน 4 ล้าน ได้แก่

  • โครงการหมู่บ้านกัสโต้ สุขสวัสดิ์ 26 กรุงเทพ ราคา 3,590,000 บาท
  • โครงการหมู่บ้านพราวด์ 36 พุทธบูชา ทุ่งครุ กรงเทพ ราคา 3,190,000 บาท
  • โครงการหมู่บ้านโกลเด้นทาวน์ บางนา-สวนหลวง กรุงเทพ ราคา 3,300,000 บาท
  • โครงการหมู่บ้านเฌอ สุขสวัสดิ์-พุทธบูชา ทุ่งครุ กรุงเทพ ราคา 3,290,000 บาท
  • โครงการหมู่บ้านสิริเพลส สุขสวัสดิ์-พระราม 3 จอมทอง กรุงเทพ ราคา 4 ล้านบาท

เทคนิคการเลือกโครงการบ้าน ทาวน์โฮม และทาวน์เฮ้าส์กรุงเทพ

การจะเลือกซื้อทาวน์โฮม หรือทาวน์เฮ้าส์กับโครงการดีๆ สักที่คุณอาจจะต้องรู้เทคนิคในการเลือกดังต่อไปนี้ เพื่อให้ได้ที่อยู่อาศัยที่ถูกใจ และสามารถอยู่ไปได้ยาวๆ กับครอบครัวอย่างมีความสุข

ตำแหน่งของทำเลที่ตั้ง

เทคนิคแรกที่คุณจะต้องพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อทาวน์โฮมกรุงเทพ และทาวน์เฮ้าส์กรุงเทพเลย ก็คือทำเลที่ตั้งของโครงการ คุณจะต้องดูว่าบริเวณโครงการ หรือทาวน์เฮ้าส์ และทาวน์โฮมที่คุณเลือกอยู่ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกอะไรบ้าง ยกตัวอย่างเช่น โรงพยาบาล โรงเรียน สถานศึกษา ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร หรือตลาด เป็นต้น ซึ่งสถานที่ต่างๆ เหล่านี้จะช่วยให้คุณสะดวกสบายในการอยู่อาศัยมากขึ้น

นอกจากนี้โครงการบ้านทาวน์เฮาส์ และทาวน์โฮมที่คุณเลือกควรจะอยู่ไม่ห่างจากสถานที่ทำงานมากนัก และไม่ควรอยู่ห่างจากโรงเรียนที่ลูกคุณเรียนด้วย เพื่อให้สามารถเดินทางได้สะดวก และประหยัดเวลาในการเดินทางได้มากขึ้น
 
ความสะดวกสบายในการเดินทาง

นอกจากทำเลที่ตั้งแล้ว สิ่งที่คุณควรคำนึงเป็นลำดับต่อไปคือ การเดินทาง ให้คุณลองสำรวจว่าบริเวณโครงการทาวน์เฮ้าส์ หรือทาวน์โฮมที่คุณเลือกมีการคมนาคมอย่างไรบ้าง ยกตัวอย่างเช่น มีรถไฟฟ้า หรือรถไฟใต้ดินให้สามารถเดินทางได้สะดวกบริเวณที่อยู่อาศัยไหม และมีรถเมล์สายไหนผ่านบ้าง รวมไปถึงหากคุณต้องใช้รถบริเวณใกล้เคียงมีจุดขึ้นลงทางด่วนหรือเปล่า

ซึ่งหากคุณเลือกโครงการที่อยู่ในซอยลึกมากเกินไป หรือไม่มีรถโดยสารสัญจร อาจทำให้คุณไม่สะดวกสบายในการเดินทางได้ หากคุณไม่มีรถยนต์ส่วนตัว ดังนั้นเทคนิคนี้ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งสำคัญในการตัดสินใจเลือกซื้อทาวน์โฮม และทาวน์เฮ้าส์เช่นกัน 

203
การเลือกที่พักอาศัยอย่างบ้านเดี่ยวในย่านของคนเมือง มีทำเลทองในการประกอบธุรกิจ พร้อมทั้งมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆที่ตอบโจทย์ต่อไลฟ์สไตล์ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นแหล่งศูนย์รวมของห้างสรรพสินค้า การเดินทางที่สะดวกสบายด้วยบริการรถไฟฟ้าสาธารณะ สถานศึกษา ที่ทำงานในด้านต่างๆ เป็นต้น

ถือได้ว่าโครงการบ้านเดี่ยวลาดพร้าวจึงตรงกับความต้องการของท่านที่สนใจโครงการบ้านเดี่ยวเป็นอย่างยิ่ง รวมถึงเหตุผลที่จะกล่าวในหัวข้อถัดไปที่ทำให้บ้านเดี่ยวลาดพร้าวได้รับความนิยมจนถึงปัจจุบันมากขึ้น

ทำไมต้องบ้านเดี่ยวลาดพร้าว

โครงการบ้านเดี่ยวลาดพร้าวที่ตรงใจ

https:// scasset.com/th/house/the-gentry-ekamai-ladprao/#lg=1&slide=8

เทรนด์บ้านเดี่ยวลาดพร้าว

บ้านเดี่ยวลาดพร้าวในปัจจุบันได้รับความสนใจ มีความนิยมมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นทำเลทองที่มีการพัฒนาให้เป็นแหล่งเศรษฐกิจ มีการพัฒนาให้มีความเจริญทางด้านธุรกิจ โดยมีนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ประเภทต่างๆเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงส่งผลให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกในด้านสาธารณูปโภค ไม่ว่าจะเป็นการเดินที่สะดวกมากยิ่งขึ้น ห้างสรรพสินค้า แหล่งสถานศึกษา รวมถึงสถานพยาบาลที่ทันสมัย บริการรถไฟฟ้าต่างๆ เป็นต้น รวมทั้งโครงการบ้านเดี่ยวจึงมีเพิ่มมากขึ้น เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้ที่สนใจอีกด้วย

ข้อดี - ข้อเสีย บ้านเดี่ยวลาดพร้าว

โครงการบ้านเดี่ยวลาดพร้าวที่มีหลากหลายแบบ เป็นโครงการที่มาพร้อมกับการพัฒนาทำเลที่ตั้ง แหล่งอำนวยความสะดวกที่สามารถรองรับต่อความต้องการของผู้อาศัยในบริเวณนั้น พร้อมกับเส้นทางที่สะดวกสบายต่อการเดินทาง พร้อมทั้งมีการบริการรถสาธารณะให้เลือกใช้ ในส่วนนี้เองที่โครงการบ้านเดี่ยวลาดพร้าว จึงเป็นโครงการที่มีผู้สนใจไม่แพ้โครงการอื่นๆ ซึ่งมีทั้งข้อดี ข้อเสียแตกต่างกันไปดังต่อไปนี้ 

  • ข้อดีของโครงการบ้านเดี่ยวลาดพร้าวจึงเป็นแหล่งที่ตอบโจทย์ต่อผู้ที่สนใจบ้านเดี่ยวเหล่านี้ โดยมีทำเลทองที่มีความสะดวกสบายในการเดินทาง มีบริการรถโดยสาธารณะ ใกล้แหล่งสถานพยาบาลที่ทันสมัย มีแหล่งสรรพสินค้าที่สามารถเดินทางไปจับจ่ายใช้สอยได้ง่าย รวมถึงมีสถานศึกษาที่ได้มาตรฐานเพื่อต่อยอดให้อนาคตบุตรหลานของท่านนั้นเอง
  • ข้อเสียของบ้านเดี่ยวลาดพร้าวคงจะหนีไม่พ้นกับแหล่งทำเลที่ตั้งของแต่ละโครงการที่มีราคาสูง เนื่องจากเป็นแหล่งที่สามารถนำมาพัฒนาต่อยอดในด้านต่างๆ ทั้งยังเป็นแหล่งธุรกิจที่มีนักลงทุนสนใจเป็นอย่างมาก รวมทั้งมีแหล่งที่อำนวยความสะดวกต่อหลายๆด้านอีกด้วย จึงส่งผลให้ราคาบ้านเดี่ยวมีราคาที่พุ่งสูงมากยิ่งขึ้นนั้นเอง

การเลือกบ้านเดี่ยวลาดพร้าวอย่างไรให้เหมาะกับตนเอง

การเลือกบ้านเดี่ยวลาดพร้าวอย่างไรให้เหมาะกับตนเอง

การเลือกบ้านเดี่ยวในโครงการบ้านเดี่ยวลาดพร้าวอย่างไรให้เหมาะกับตัวท่านเอง ซึ่งบ้านเดี่ยวเป็นบ้านที่เน้นในส่วนของความเป็นส่วนตัวของผู้ที่พักอาศัยในบ้านหลังนั้น บริเวณโดยรอบของบ้านจะมีขนาดที่ดิน รวมที่มีพื้นที่ใช้สอยที่มากกว่าบ้านในประเภทอื่นๆ ยังสามารถตกแต่งต่อเติมส่วนต่างๆเพิ่มได้ตามความต้องการของผู้เป็นเจ้าของได้อีกด้วย ซึ่งท่านสามารถเลือกพิจารณาบ้านเดี่ยวที่ต้องการได้ดังนี้

  • การมีพื้นที่ใช้สอย หากท่านในอนาคตสามารถมีสถานที่ให้บุตรหลาน หรือสัตว์เลี้ยงของท่าน ได้มีพื้นที่ทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัว มีพื้นที่ในการเรียนรู้สิ่งใหม่อยู่เสมอ
  • จำนวนสมาชิกที่อาศัยอยู่ ซึ่งจะขึ้นอยู่กับความต้องการในการสร้างครอบครัวขนาดกลางจนถึงขนาดใหญ่ที่เหมาะกับบ้านเดี่ยวที่ท่านเลือกพักอาศัย
  • ผู้ที่มีความเป็นส่วนตัว ซึ่งบ้านในโครงการบ้านเดี่ยวลาดพร้าว ท่านสามารถเลือกที่พักอาศัยที่ห่างไกลจากเสียงรบกวนของข้างบ้านให้ท่านได้พิจารณาเลือกได้ตามความต้องการ เพื่อเลี่ยงปัญหาข้างบ้านที่อาจเจอได้ในอนาคตนั้นเอง

แบรนด์บ้านเดี่ยวลาดพร้าวในประเทศไทย

โครงการบ้านเดี่ยวในพื้นที่ทำเลทองทางธุรกิจ การคมนาคม แหล่งห้างสรรพสินค้า ที่ได้รับความนิยมในพื้นที่ลาดพร้าวนั้น โครงการต่างๆจะมีให้ท่านได้คัดสรรตามความสนใจ ไลฟ์สไตล์ ความเป็นส่วนตัวตามที่ท่านต้องการ พร้อมด้วยบริการที่ครบครันทันสมัยในด้านต่างๆ โดยท่านสามารถเลือกโครงการบ้านเดี่ยวลาดพร้าวในแต่ละแบรนด์ได้ตามความแตกต่างของโครงการ ซึ่งมีโครงการบ้านเดี่ยวลาดพร้าวดังนี้

  • โครงการบ้านเดี่ยวในเครือบริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน)

: โครงการSupalai Essence ลาดพร้าว
 
  • โครงการบ้านเดี่ยวในเครือโกลเด้นแลนด์

: โครงการGrandio ลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์

  • โครงการบ้านเดี่ยวในเครือบริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)

: โครงการเมย์ฟิลด์ เลน รัชดา-ลาดพร้าว

  • โครงการบ้านเดี่ยวในเครือ SC Asset

: โครงการบางกอก บูเลอวาร์ด ซิกเนเจอร์ ลาดพร้าว – เสรีไทย และเดอะ เจนทริ เอกมัย

บ้านเดี่ยวลาดพร้าว ราคาเท่าไหร่

บ้านเดี่ยวลาดพร้าวที่มีบริการครบครัน พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยในด้านต่างๆ สำหรับโครงการบ้านเดี่ยวในเครือของ SC Asset นั้น จะประกอบด้วย 2 โครงการ มีราคาเริ่มต้นที่ 12.9 ล้านบาท โดยจะขึ้นอยู่กับความแตกต่างของบรรยากาศ สถานที่ตั้ง รวมถึงการกำหนดจำนวนผู้เข้าร่วมโครงการบ้านเดี่ยวของแต่ละโครงการ เช่นโครงการบ้านเดี่ยวบางกอก บูเลอวาร์ด ซิกเนเจอร์ ลาดพร้าว – เสรีไทย ราคาเริ่มต้นที่ 19 จนถึง 30 ล้านบาท และ โครงการบ้านเดี่ยวลาดพร้าว : เดอะ เจนทริ เอกมัย ซึ่งมีราคาเริ่มต้นที่ 37.9 ล้านบาท

บ้านเดี่ยวลาดพร้าวในกรุงเทพยอดนิยม 2023

โครงการบ้านเดี่ยวลาดพร้าวที่เป็นที่นิยมของโครงการบ้านเดี่ยวในเครือ SC Asset นั้น มีด้วยกัน 2 โครงการ ได้แก่

  • โครงการบ้านเดี่ยว : บางกอก บูเลอวาร์ด ซิกเนเจอร์ ลาดพร้าว – เสรีไทย
  • โครงการบ้านเดี่ยว : เดอะ เจนทริ เอกมัย – ลาดพร้าว

ซึ่งมีรายละเอียดของแต่ละโครงการดังต่อไปนี้
 
บางกอก บูเลอวาร์ด ซิกเนเจอร์ ลาดพร้าว – เสรีไทย

โครงการบางกอก บูเลอวาร์ด ซิกเนเจอร์ ลาดพร้าว – เสรีไทย

https:// scasset.com/th/house/bangkok-boulevard-signature-ladprao-serithai/

โครงการบ้านเดี่ยวลาดพร้าว : บางกอก บูเลอวาร์ด ซิกเนเจอร์ ลาดพร้าว – เสรีไทย

เป็นโครงการบ้านเดี่ยวสุดหรูสไตล์ คฤหาสน์ Luxury European Style ที่ได้แรงบันดาลใจการออกแบบจากเมือง Hallstatt, Austria ที่มีเอกลักษณ์มีความใกล้ชิดกับธรรมชาติ ประกอบด้วยผู้พักอาศัยเพียง 77 ครอบครัวซึ่งเหมาะสมกับท่านที่ต้องการสร้างครอบขนาดกลางจนถึงขนาดใหญ่ โดยมีสโมสรส่วนกลางขนาดใหญ่ สามารถชมวิวทะเลสาบที่เงียบสงบ มีความเป็นส่วนตัว

โดยโครงการนี้จะมีฟังก์ชัน Double Living Room และ Elder Care Solution ที่มาพร้อมการดูแลความปลอดภัยของผู้สูงวัย และระบบการรักษาความปลอดภัยแบบ Triple Security มาตรฐานจากโครงการของ SC Asset

โครงการดังกล่าวนั้น มีเส้นทางการเดินทางที่สะดวกสบาย ใกล้แหล่งสถานศึกษาชื่อดัง ทั้งตัวโครงการบ้านเดี่ยวยังไม่ห่างจากสถานพยาบาลที่สามารถช่วยเหลือท่านได้ในยามฉุกเฉิน อีกทั้งยังมีแหล่งบริการรถโดยสารสาธารณะต่างๆ ที่สามารถเลือกใช้ได้อย่างมากมายอีกด้วย

เดอะ เจนทริ เอกมัย

โครงการเดอะ เจนทริ เอกมัย

https:// scasset.com/th/house/the-gentry-ekamai-ladprao/#lg=1&slide=28

โครงการบ้านเดี่ยวลาดพร้าว : เดอะ เจนทริ เอกมัย – ลาดพร้าว

เป็นโครงการบ้านเดี่ยววิลลาสุดหรู 3 ชั้น ภายใต้การออกแบบด้วยแนวคิด ‘Intimate Living’ ที่ตอบสนองต่อความชอบในไลฟ์สไตล์ในเมือง เพื่อให้ผู้พักอาศัยได้พบกับความเป็นส่วนตัวสูงสุด โดยมีสวนของส่วนกลาง พร้อมทั้งผู้พักอาศัยในโครงการเพียง 16 ครอบครัวเท่านั้น

ซึ่งโครงการบ้านเดี่ยวเดอะ เจนทริ เอกมัย – ลาดพร้าว ตั้งอยู่ในทำเลที่อำนวยความสะดวกสบายครบครัน ไม่ว่าจะเป็น ห้างสรรพสินค้า สถานศึกษา ศูนย์สุขภาพที่ทันสมัย พร้อมด้วยแหล่งบริการรถสาธารณะต่างๆมากมาย รวมทั้งมีฟังก์ชันพิเศษ : Onsen & Relax room, Collectibles Room พร้อมระบบการรักษาความปลอดภัยที่ได้มาตรฐาน ทั้งกล้องCCTV ตลอด 24 ชั่วโมงจากโครงการในเครือ SC Asset

เลือกซื้อบ้านเดี่ยวลาดพร้าวที่ไหนดี

หากท่านต้องการเลือกซื้อบ้านเดี่ยวที่ตรงใจ โดยมีสิ่งที่อำนวยความสะดวกรอบโครงการบ้านเดี่ยวลาดพร้าว ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า แหล่งพักผ่อน สถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน รวมไปจนถึงสถานศึกษาระดับรัฐบาล – เอกชนชื่อดัง จนไปถึงมหาวิทยาลัยที่สามารถเป็นการเรียนรู้ในการเติบโตของบุตรหลานท่านได้

ทางโครงการบ้านเดี่ยวลาดพร้าวของ SC Asset จึงเป็นหนึ่งตัวเลือกที่ตอบโจทย์ของท่านได้อย่างแน่นอน หากท่านต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อเข้ามาได้ที่ www.scasset.com หรือ IG : scasset

บ้านเดี่ยวลาดพร้าวใกล้รถไฟฟ้าดีไหม

การเลือกบ้านเดี่ยวลาดพร้าวที่มีการบริการสาธารณะในการเดินทางที่สะดวกใกล้รถไฟฟ้านั้น อีกทั้งยังมีบริการรถไฟฟ้า เชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ช่วยให้ท่านสามารถเดินได้อย่างเร็วยิ่งขึ้น สามารถประหยัดเวลาในการเดินทางเพื่อให้ถึงที่หมายได้รวดเร็ว ไม่ต้องกังวลเรื่องหาที่จอดรถ กับช่วงเวลารถติดอย่างยาวนานบนท้องถนน ทำให้ท่านได้วางแผนการเดินทางได้สะดวกสบาย การเลือกบ้านเดี่ยวลาดพร้าวที่ใกล้สถานีรถไฟฟ้า จึงตอบสนองต่อการใช้ชีวิตของคนในเมืองได้ตรงโจทย์อีกทางหนึ่งได้นั้นเอง


204
วิธีล้างเครื่องซักผ้า

ล้างเครื่องซักผ้า เป็นเรื่องที่หลาย ๆ อาจละเลยหรือไม่ค่อยคำนึกถึงความสำคัญของการทำความสะอาดเครื่องซักผ้า เนื่องจากการที่เรามองไม่เห็นถึงความสกปรกภายในตัวเครื่องและไม่มีความรู้ในวิธีล้างเครื่องซักผ้า ล้างถังซักผ้าที่เหมาะสม

เครื่องซักผ้าที่ไม่ได้ล้างอาจสะสมคราบสกปรกและความสกปรกที่ส่งผลให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ในเครื่องซักผ้าและผ้าที่ซักล้าง นั่นอาจทำให้เสื้อผ้ามีกลิ่นอับเมื่อถูกซักล้างในเครื่องซักผ้าที่ไม่สะอาด และยิ่งไปกว่านั้นคือ คราบสกปรกและความสกปรกที่สะสมมาเป็นระยะเวลานานอาจส่งผลให้เกิดความเสียหายกับชิ้นส่วนของเครื่องซักผ้า เช่น ท่อน้ำที่อุดตัน ระบบปั๊มที่ไม่อาจทำงานได้อย่างถูกต้อง เป็นต้น นอกจากนี้ คราบสกปรกยังสามารถเกิดการสึกหรอในตัวเครื่องซักผ้าได้ ซึ่งอาจทำให้เครื่องซักผ้าทำงานไม่สมบูรณ์หรือเกิดการชำรุดได้

ล้างเครื่องซักผ้าเป็นกระบวนการที่ต้องใช้ความระมัดระวังและความเชี่ยวชาญ ซึ่งควรให้ผู้เชี่ยวชาญดูแลและดำเนินการให้เหมาะสม ดังนั้นล้างเครื่องซักผ้าควรเป็นสิ่งที่ผู้ใช้งานทุกท่านควรทำอย่างสม่ำเสมอ ทั้งเพื่อความสะอาดของเครื่องซักผ้าและยังส่งผลให้เครื่องซักผ้าของเรามีอายุการใช้งานที่นานขึ้น

ทำไมต้องล้างเครื่องซักผ้า?
เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงเคยพบปัญหา ซักผ้าแล้วผ้ามีกลิ่นอับ มีสิ่งแปลกปลอมอย่าง คราบ ขุยผงติดมากับผ้าที่ซัก โดยปัญหาเหล่านี้ส่วนใหญ่แล้วจะเกิดจากการไม่ได้ล้างเครื่องซักผ้าจึงทำให้เครื่องซักผ้าเหม็นอับ เครื่องซักผ้าสกปรก และยังส่งผลต่อการลดประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องซักที่ทำงานได้อย่างไม่เต็มที่ในการทำความสะอาดเสื้อผ้า

ซึ่งล้างเครื่องซักผ้า หรือทำความสะอาดเครื่องซักผ้า ก็เหมือนการล้างอุปกรณ์อื่น ๆ เมื่อเราเริ่มใช้งานเป็นระยะเวลาที่นานขึ้น ก็จะมีสิ่งสกปรกที่สะสม ตกค้างอยู่ภายในทั้งที่เรามองเห็นและมองไม่เห็น ล้างเครื่องซักจึงเป็นเรื่องที่ควรทำอย่างสม่ำเสมอเพื่อช่วยให้ตัวเครื่องซักผ้าสะอาดและเพิ่มประสิทธิภาพการทำความสะอาดของเครื่องซักผ้า ไม่ว่าจะเครื่องซักผ้าประเภทใดก็ตาม

ประโยชน์ของการล้างเครื่องซักผ้า

  • ความสะอาด เครื่องซักผ้าอาจสะสมคราบสกปรกจากเสื้อผ้าที่ล้างมาก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะเมื่อมีการใช้ผงซักฟอกล้างและน้ำซักล้างที่เต็มไปด้วยคราบสกปรกหรือหินปูนที่มาพร้อมกับน้ำประปา การล้างเครื่องซักผ้าจะช่วยล้างคราบสกปรกที่ตกค้างอยู่ในเครื่องซักผ้าออกไปได้
  • ป้องกันกลิ่นไม่พึงประสงค์ หากเครื่องซักผ้าไม่ได้ล้างเอาคราบสกปรกและความสกปรกออกทุกครั้งที่ใช้งาน มีโอกาสที่คราบสกปรกจะสะสมและสร้างกลิ่นไม่พึงประสงค์ในเครื่องซักผ้า ล้างเครื่องซักผ้าจะช่วยให้เครื่องซักผ้าคงสภาพสะอาดและไร้กลิ่นรบกวน
  • สุขอนามัย เครื่องซักผ้าที่ไม่ได้รับการล้างอย่างสม่ำเสมออาจเป็นที่อาศัยของเชื้อโรคและแบคทีเรีย การล้างเครื่องซักผ้าจะช่วยกำจัดเชื้อโรคและแบคทีเรียที่อาจแพร่กระจายไปยังเสื้อผ้าที่คุณซักล้าง
  • ยืดอายุการใช้งาน การล้างเครื่องซักผ้าอย่างสม่ำเสมอจะช่วยรักษาสภาพของเครื่องซักผ้าให้ดีและประสิทธิภาพการทำงานที่ดี หากล้างเครื่องซักผ้าอย่างสม่ำเสมอจะช่วยลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับชิ้นส่วนภายในเครื่องซักผ้าเนื่องจากคราบสกปรก

ตอนไหนถึงจะต้องล้างเครื่องซักผ้า

ทำความสะอาดเครื่องซักผ้า

ล้างเครื่องซักผ้า หรือทำความสะอาดเครื่องซักผ้า อาจไม่มีการระยะเวลาที่กำหนดชัดเจนว่า ควรล้างเครื่องซักผ้าเมื่อไร แต่เวลาที่ควรล้างเครื่องซักผ้าจะขึ้นอยู่กับปริมาณงานซักผ้าที่คุณมีและความถี่ในการใช้งานของเครื่องซักผ้าของคุณ

การกำหนดระยะเวลาในล้างเครื่องซักผ้า อาจสามารถศึกษาได้จากคู่มือที่มากับเครื่องว่ามีการกำหนดไว้หรือไม่อย่างไร เพื่อให้การล้างถังซัก ส่วนประกอบชิ้นส่วนภายในได้ถูกทำความสะอาดตามระยะเวลาที่แบรนด์กำหนดมาอย่างถูกต้อง หรือในกรณีที่ไม่มีคู่มือ เราก็สามารถกำหนดระยะเวลาล้างเครื่องซักผ้าได้ เช่น เมื่อเริ่มมีคราบสกปรกตกค้าง สะสมมากขึ้นหรือมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ ให้ล้างเครื่องซักผ้าทันที เพื่อให้คราบสกปรกถูกล้างออกและเครื่องซักผ้ากลับมาทำงานได้อย่างปกติ

แนะนำบริการล้างเครื่องซักผ้า
ล้างเครื่องซักผ้าถือเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ด้วยตนเอง ด้วยการศึกษาจากคู่มือหรือค้นหาจากบนอินเทอร์เน็ต แต่ทางที่ดีกว่าคือการเลือกใช้บริการทำความสะอาดจากผู้ที่มีความชำนาญ ความรู้ในเรื่องล้างเครื่องซักผ้าโดยตรงจะดียิ่งกว่า

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอุปกรณ์ เครื่องมือที่จะช่วยล้างเครื่องซักผ้าได้อยากสะอาดหมดจนทุกซอกทุกมุม หรือการเลือกทำความสะอาดแต่ละส่วนได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม ก็จะช่วยให้เราสบายใจ ไร้ข้อกังวลและยังไม่ต้องเสียเวลาในการล้างเครื่องซักผ้าด้วยตนเองอีกด้วย

บริการล้างเครื่องซักผ้า Q-chang ทำความสะอาดเครื่อวซักอบผ้าประเภทต่าง ๆ โดยทีมมืออาชีพ และชำนาญการ พร้อมอุปกรณ์การล้างทำความสะอาดครบครัน ตั้งแต่ถอดทำความสะอาด และประกอบเมื่อทำการล้างเครื่องซักผ้าเสร็จ และยังมีบริการตรวจเช็คการทำงานเครื่องซักผ้า 10 รายการ 

บริการล้างเครื่องซักผ้า แบบฝาหน้า
ส่วนประกอบชิ้นส่วนของเครื่องซักผ้าซับซ้อนและต้องใช้ความเชี่ยวชาญในการถอดและทำความสะอาดตัวเครื่องอย่าง ถังอุ้มน้ำ ถังซัก ตะแกรงกรองฝุ่น ที่ใส่ผงซักฟอก โดยล้างเครื่องซักผ้าฝาหน้าต้องใช้ปืนฉีดน้ำแรงดันสูง  พร้อมทั้งตรวจการทำงานของระบบไฟ บริการรับล้างเครื่องซักผ้าแบ่งเป็นความจุตั้งแต่น้อยกว่า 15 กิโลกรัมและมากกว่า 16 กิโลกรัม เวลาในการให้บริการประมาณ 3 ชั่วโมงต่อเครื่อง

ค่าบริการเริ่มต้น 1,600 - 1,800 บาทต่อเครื่อง

บริการล้างเครื่องซักผ้า แบบฝาบน
เนื่องจากเครื่องซักผ้าฝาบนจะมีการใช้ปริมาณของน้ำที่มากกว่าจำนวนผ้า คราบหินปูนที่มาจากน้ำหรือคราบที่มาจากผงซักฟอกอาจจะส่งผลให้เกิดการตกค้างของสิ่งสกปรก การทำความสะอาดล้างเครื่องซักผ้าฝาบน เช่น การฉีดน้ำแรงดันสูงล้างถังอุ้มน้ำ ถังซัก ตะแกรงกรองฝุ่น ช่องใส่ผงซักฟอก พร้อมทั้งตรวจการทำงานของระบบไฟ บริการรับล้างเครื่องซักผ้าแบ่งเป็นความจุตั้งแต่น้อยกว่า 15 กิโลกรัมถึง 24 กิโลกรัม เวลาในการให้บริการประมาณ 3 ชั่วโมงต่อเครื่อง เครื่องซักผ้าแบบ 2 ถัง หรือ ถังคู่ ขอสงวนสิทธิ์ในการให้บริการ

ค่าบริการเริ่มต้น 890 - 1,650 บาทต่อเครื่อง

บริการล้างเครื่องซักผ้า แบบหยอดเหรียญ
เครื่องซักผ้าแบบหยอดเหรียญมีทั้งรูปแบบฝาหน้าและฝาบน การทำความสะอาดเป็นไปในลักษณะเดียวกัน แต่อาจมีการระวังเรื่องของกล่องหยอดเหรียญ เพราะจะทำการล้างเพียงแค่ส่วนของเครื่องซักผ้าไม่รวมถึงกล่องหยอดเหรียญ การทำความสะอาดล้างเครื่องซักผ้า เช่น การฉีดน้ำแรงดันสูงล้างถังอุ้มน้ำ ถังซัก ตะแกรงกรองฝุ่น ช่องใส่ผงซักฟอก พร้อมทั้งตรวจการทำงานของระบบไฟ มีการรับประกันการล้าง 30 วัน

ค่าบริการเริ่มต้น 550 - 1,100 บาทต่อเครื่องขึ้นอยู่กับจำนวนการล้างและเครื่องซักผ้าประเภทใด

บริการล้างเครื่องซักผ้า แบบไม่ถอดถัง
บริการล้างเครื่องซักผ้าแบบไม่ถอดถัง โดยทีมงานมืออาชีพ ที่มีความรู้ ชำนาญการการทำความสะอาด เช่น การฉีดน้ำแรงดันสูงล้างถังอุ้มน้ำ ถังซัก ตะแกรงกรองฝุ่น ช่องใส่ผงซักฟอก พร้อมทั้งตรวจการทำงานของระบบไฟ และจะช่วยแก้ปัญหาผ้าเหม็นอับ เครื่องทิ้งน้ำไม่หมด ปั่นไม่แห้ง พื้นที่ให้บริการทั่วกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีการรับประกันการล้าง 30 วัน

ค่าบริการเริ่มต้น 850 - 1,100 บาทต่อเครื่อง

บริการล้างเครื่องอบผ้า
ส่วนประกอบชิ้นส่วนของเครื่องอบผ้ามีความซับซ้อน และต้องใช้ความเชี่ยวชาญในการถอดล้าง-ประกอบต้องทำโดยทีมงานชำนาญการ และอุปกรณ์การทำความสะอาดล้างเครื่องซักผ้าอย่างเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงเพื่อการทำความสะอาดทุกซอกทุกมุมของชิ้นส่วนภายในเครื่องซักผ้า

ค่าบริการเริ่มต้น 2,150- 2,200 บาทต่อเครื่อง

สรุป
สิ่งที่เป็นปัจจัยสำหรับการซักผ้าไม่ใช่แค่เพียงการเลือกยี่ห้อของน้ำยาซักผ้า การเลือกกลิ่นของน้ำยาปรับผ้านุ่ม แต่ต้องรวมถึงประสิทธิภาพของเครื่องซักผ้าด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นล้างเครื่องซักผ้าอย่างสม่ำเสมอจะสร้างผลลัพธ์ที่ดีกว่าให้กับการซักเสื้อผ้า ทั้งประโยชน์ในแง่ของความสะอาดเสื้อผ้า ประสิทธิภาพการทำงาน ไปจนถึงการยืดอายุการใช้งานของเครื่องซักผ้า

205
คอนโดในกรุงเทพ

สำหรับคนที่ทำงานในเมืองหลวงบางครั้งการซื้อบ้านเดี่ยวก็อาจไม่ตอบโจทย์ไลฟสไตล์ชีวิต เพราะในปัจจุบันขนาดของเมืองหลวงอย่างกรุงเทพฯ มีการขยายตัวมากขึ้น ทำให้ผู้คนที่อยากมีบ้านสักหลังเป็นของตัวเองต้องย้ายไปอยู่ชานเมือง ทำให้การเดินทางเข้ามาทำงานในแต่ละวันไม่สะดวก และต้องใช้เวลาในการเดินทางที่ค่อนข้างนาน

ดังนั้นการเลือกซื้อคอนโดที่อยู่ทำเลในเมืองอาจเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับคนที่ทำงานใจกลางเมือง และต้องการความสะดวกสบายในการเดินทาง คอนโดหลายแห่งอยู่ติดแนวรถไฟฟ้า และอยู่ในทำเลย่านธุรกิจที่สามารถเดินทางไปทำงานได้สะดวก แถมยังประหยัดเวลาในการเดินทางได้มาก ซึ่งวันนี้เรามาขอรีวิวคอนโดทำเลศักยภาพที่น่าอยู่ประจำปี 2023

คอนโด

ปัจจุบันแนวรถไฟฟ้าบีทีเอส และรถไฟใต้ดินเอ็มอาร์ทีได้มีการขยายเส้นทางมากขึ้น ทำให้มีโครงการคอนโดใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมายตามแนวรถไฟฟ้า ซึ่งราคาของคอนโดในแต่ละทำเลก็แตกต่างกันไป ซึ่งทาง SC Asset ก็ได้มีโครงการคอนโดทำเลดีในราคาที่คนวัยทำงานสามารถจับจองเป็นเจ้าของได้ พร้อมทั้งสามารถเดินทางได้สะดวก ใกล้ศูนย์การค้า และแหล่งอำนวยความสะดวกต่างๆ อย่างเช่น โรงพยาบาล และโรงเรียน เป็นต้น
เพราะฉะนั้นถ้าหากคุณจะซื้อคอนโดสักห้องเรื่องของทำเล ขนาดห้อง และความเหมาะสมของราคา อาจเป็นเหตุผลสำคัญในการตัดสินใจ นอกจากนี้บางคนอาจมองว่าการเลือกซื้อคอนโดในทำเลที่ดีจะช่วยสร้างรายได้จากการปล่อยเช่า หรือขายต่อในอนาคตได้

รีวิวคอนโดยอดนิยม 2023

โครงการของ SC Asset ที่เราจะมารีวิวให้ทุกคนได้ดูวันนี้เป็นคอนโดโครงการใหม่ยอดนิยมประจำปี 2023 ที่รอให้คุณเป็นเจ้าของบนทำเลศักยภาพในราคาที่คุ้มค่า ไม่ว่าคุณจะซื้ออยู่เอง หรือซื้อเพื่อทำกำไรก็ไม่ผิดหวัง โดยคอนโดโครงการยอดนิยมปี 2023 ได้แก่

New Condo Kaset-Sripatum

เตรียมพบกับคอนโดโครงการใหม่ของ SC Asset ย่านเกษตร-ศรีปทุม กับโครงการ Cobe Kaset-Sripatum ที่ตั้งอยู่ติดถนนพหลโยธิน ตรงข้ามมหาลัยศรีปทุม และสามารถเดินทางเข้าใจกลางเมืองได้สะดวกด้วยรถไฟฟ้าสถานีบางบัว ซึ่งเป็นโครงการที่เหมาะกับนักศึกษา โดยรูปแบบของห้องจะมีตั้งแต่ห้องแบบ Studio ห้องแบบหนึ่งห้องนอน แบบสองห้องนอน และแบบลอฟต์

ตัวโครงการ Cobe Kaset-Sripatum จะเป็นคอนโด High Rise ที่มีห้องพักอาศัยจำนวน 396 ยูนิต และราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 2 ล้านบาทขึ้นไป สามารถซื้อไว้อยู่เองแบบผ่อนสบายๆ หรือจะซื้อไว้ให้นักศึกษาเช่าก็ได้

28 ชิดลม

โครงการคอนโด 28 ชิดลม คอนโดตกแต่งพร้อมอยู่ใจกลางเมืองติดถนนชิดลมที่คุณสามารถเดินทางได้สะดวกด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีชิดลม นอกจากนี้บริเวณใกล้เคียงยังมีห้างสรรพสินค้าอย่าง เซนทรัลชิดลม และเซนทรัลเวิร์ล เป็นต้น บอกเลยว่าใจกลางเมืองสุดๆ จะเดินทางไปทำงานก็สะดวก เพราะโครงกลางตั้งอยู่บนย่านธุรกิจ แถมยังอยู่ไม่ไกลจากทางขึ้นลงทางด่วนด้วย ไม่ว่าคุณจะมีรถส่วนตัว หรือไม่มีก็สามารถเดินทางได้สบาย

โดยตัวโครงการจะเป็นคอนโด High Rise และมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น ฟิตเนส ซาวน่า สระว่ายน้ำ ห้องสตรีม และสวนลอยฟ้า โดยห้องทั้งหมดของโครงการจะมีด้วยกัน 425 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 11.9 ล้านบาท สำหรับห้องแบบ 1 ห้องนอน เหมาะแก่การซื้อเพื่อลงทุน หรือจะปล่อยเช่าก็ได้

คอนโด 28 ชิดลม

เดอะ เครสท์ พาร์ค เรสซิเดนเซส

โครงการเดอะ เครสท์ พาร์ค เรสซิเดนเซส อีกหนึ่งโครงการ Luxury ที่ตั้งอยู่ย่านลาดพร้าวติดสถานีรถไฟใต้ดินสถานีพหลโยธินใกล้กับห้างเซนทรัลลาดพร้าว และมหาวิทยาลัยต่างๆ โดยตัวโครงการมีทั้งหมด 261 ยูนิตเป็นคอนโด High Rise มาพร้อมกับ Facilities ที่ครบครัน เช่น Co-working Space Private Lounge และล็อบบี้ เป็นต้น

สำหรับโครงการนี้คุณสามารถซื้อไว้อยู่เอง หรือจะปล่อยเช่าก็ได้ เพราะสามารถเดินทางได้สะดวกไม่ว่าจะเดินทางโดยรถไฟฟ้า หรือรถส่วนตัว โดยราคาสำหรับห้องประเภทหนึ่งห้องนอนจะเริ่มต้นอยู่ที่ 6.69 ล้านบาท รวมเฟอร์นิเจอร์ให้คุณหิ้วกระเป๋าเข้าไปอยู่ได้ไม่ยุ่งยาก

คอนโด เดอะ เครสท์ พาร์ค เรสซิเดนเซส

เรฟเฟอเรนซ์ สาทร – วงเวียนใหญ่

โครงการย่านฝั่งธนอย่างเรฟเฟอเรนซ์ สาทร-วงเวียนใหญ่ ก็เป็นอีกหนึ่งโครงการที่น่าสนใจเช่นกัน เพราะอยู่ติดกับรถไฟฟ้าวงเวียนใหญ่ที่สามารถเดินทางเข้าสู่ย่านธุรกิจ อย่างถนนสาทร และสีลมได้เพียงแค่ 10 นาทีเท่านั้น โดยบริเวณใกล้เคียงบีทีเอสวงเวียนใหญ่จะมีร้านอาหาร และคาเฟ่ยอดนิยมหลายร้าน เหมาะกับไลฟสไตล์ของพนักงานออฟฟิศที่ต้องทำงานในเมืองมากๆ

โดยตัวโครงการจะมีด้วยกัน 2 อาคาร อาคารที่หนึ่ง 32 ชั้น และอาคารที่ 2 51 ชั้น โดยห้องพักอาศัยทั้งหมดจะมี 815 ยูนิต พร้อม Facilities ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้พักอาศัย ห้องประเภท One Bedroom Plus จะเริ่มต้นที่ 4.69 ล้านบาท สามารถซื้อเพื่อปล่อยเช่า หรือจะซื้อไว้อยู่อาศัยเองก็ได้

คอนโดเรฟเฟอเรนซ์ สาทร วงเวียนใหญ่

โค้บบ์ รัชดา-พระราม9

อีกหนึ่งโครงการใหม่ที่ราคาย่อมเยา แต่ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพอย่าง Cobe รัชดา-พระราม 9 คอนโดที่เหมาะกับคนรุ่นใหม่อยู่ใกล้ MRT ศูนย์วัฒนธรรม และทางด่วน จึงทำให้เดินทางได้ง่าย แถมบริเวณใกล้เคียงยังมีศูนย์การค้า และแหล่งช็อปปิ้งให้คุณได้สนุกกับการใช้ชีวิต ตัวโครงการได้มีการจัดสรรพื้นที่อย่างลงตัวไม่ว่าจะเป็น รูปแบบห้องพักอาศัย หรือพื้นที่อำนวยความสะดวกส่วนกลาง

ตัวห้องพักอาศัยของโครงการจะมาพร้อมกับเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งขนาดห้องจะเริ่มต้นตั้งแต่ 24 ตร.ม. ไปจนถึง 106 ตร.ม และมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 2.39 ล้านบาท เหมาะสำหรับผู้พักอาศัยที่ต้องทำงานในเมืองแต่ไม่อยากใช้วลาเดินทางเยอะ สามารถซื้อเพื่อเก็งกำไร หรือเพื่ออยู่อาศัยได้

วิธีการเลือกคอนโด

หากต้องการเลือกซื้อคอนโดสักที่ควรพิจารณา และคำนึงถึงเรื่องใดบ้าง วันนี้เรามีคำแนะนำวิธีการเลือกคอนโดที่จะช่วยให้คุณได้คอนโดที่ถูกใจ และตรงตามความต้องการของคุณ โดยสิ่งที่คุณต้องพิจารณามีดังต่อไปนี้

1. ทำเลที่ตั้ง

สิ่งสำคัญที่คุณจะควรพิจารณาก่อนอันดับแรกเลยคือ เรื่องของทำเลที่ตั้งตัวโครงการคอนโดที่คุณสนใจ ซึ่งควรจะต้องเดินทางได้สะดวก ติดแนวรถไฟฟ้า หรืออยู่ในทำเลที่ง่ายต่อการเดินทางไปยังที่ทำงานของคุณ โรงเรียน หรือมหาลัยของลูกคุณ และบริเวณนั้นควรจะมีห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ หรือโรงพยาบาลเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับคุณด้วย

2. สิ่งอำนวยความสะดวก

สิ่งอำนวยความสะดวกในที่นี้ก็หมายถึง Facilities ในคอนโด ซึ่งก็ได้แก่ สระว่ายน้ำ ฟิตเนส พนักงานรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ล็อบบี้ และพื้นที่ใช้สอยส่วนกลางอื่นๆ รวมไปถึงพื้นที่ในการจอดรถด้วย อาจมีจุดจอดแบบใหม่ที่สามารถใช้ชาร์จไฟรถได้ ก็จะถือว่าช่วยให้ผู้พักอาศัยสะดวกมากขึ้น

3. ราคา

อีกหนึ่งสิ่งที่จะไม่พิจารณาไม่ได้เลยคือ เรื่องของราคา ถ้าหากคอนโดที่คุณเลือกอยู่ในทำเลที่ดี มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน แต่ราคาสูงเกินกว่ากำลังซื้อคุณก็อาจมีเงินเหลือน้อยลงจากการที่ต้องจ่ายค่าคอนโดในแต่ละเดือน หรือบางโครงการคุณอาจคิดว่าราคาและทำเลที่ตั้งไม่เหมาะสมกัน คุณอาจเลือกพิจารณาโครงการคอนโดอื่นๆ แทนได้

4. ความน่าเชื่อถือของโครงการ

ความน่าเชื่อถือของโครงการถือว่ามีส่วนสำคัญในการตัดสินใจซื้อเช่นกัน เพราะวบางครั้งคอนโดจะมีการ Pre-Sale ก่อนสร้างดังนั้นคุณอาจจะพิจารณาชื่อเสียงของบริษัทที่เป็นเจ้าของโครงการก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อที่จะได้ไม่รู้สึกผิดหวังเมื่อต้องเข้าไปอยู่อาศัย

เลือกซื้อคอนโดที่ไหนดี

ก่อนจะตัดสินใจว่าจะเลือกซื้อคอนโดที่ไหนดี สิ่งแรกที่คุณจะต้องคิดก็คือคอนโดที่คุณกำลังจะซื้อนี้มีจุดประสงค์เพื่ออะไร หากใช้เป็นที่พักอาศัย คุณก็เลือกดูโครงการที่ใกล้กับที่ทำงาน มหาลัย หรือใกล้กับโรงเรียนที่ลูกคุณเรียนก็ได้ เพื่อคุณ และครอบครัวจะได้ประหยัดเวลาในการเดินทางมากขึ้น
แต่ถ้าหากคุณซื้อคอนโดเพื่อการลงทุน อยากให้คอนโดห้องนี้มีผู้มาเช่าเพื่อสร้างรายได้อีกทางหนึ่งให้กับคุณ ถ้าเป็นเพื่อจุดประสงค์นี้เราแนะนำให้เลือกทำเลที่ตั้งใจกลางเมือง หรือทำเลที่สามารถเดินทางเข้าสู่ย่านธุรกิจ แหล่งออฟฟิศได้สะดวกหน่อย เพราะจะทำให้คุณปล่อยเช่าได้ง่าย และได้ราคาดี โดยคุณไม่ควรเลือกโครงการที่มีราคาสูงจนเกินกำลังแต่ให้เลือกที่เหมาะสม และสามารถทำกำไรให้คุณได้ในอนาคต

เช่า หรือซื้อคอนโดเลือกแบบไหนดี

ถ้าคุณคิดว่าการอยู่คอนโดตอบโจทย์ความต้องการของคุณ และคุณมีกำลังเพียงพอที่จะซื้อ คุณก็สามารถเลือกกู้ซื้อคอนโด และผ่อนกับธนาคารได้ เพราะผลสุดท้ายหากคุณจะพักอาศัย หรือไม่คุณก็สามารถปล่อยเช่าได้ และถ้าหากในอนาคตคุณอยากซื้อบ้านเดี่ยวก็สามารถขายต่อได้ในอนาคต ซึ่งหากคอนโดอยู่ในทำเลที่ดีคุณก็จะได้กำไรจากการขายที่มากขึ้น
แต่ถ้าหากคุณคิดว่าจะอยู่เพียงชั่วคราวคุณ และไม่อยากเป็นภาระระยะยาวคุณก็เลือกที่จะเช่าดีกว่า เพราะหากคุณต้องย้ายที่พักอาศัยก็ไม่ต้องยุ่งยากในเรื่องของการขายต่อ หรือหาคนเช่า เพียงแต่คุณอาจจะไม่ได้ทรัพย์สินเป็นของตัวเอง

สรุป

การเลือกอยู่คอนโดอาจทำให้การใช้ชีวิตของคุณสะดวกสบายขึ้น ด้วยทำเลของคอนโดยอดนิยมประจำปี 2023 ที่อยู่ทั้งใจกลางเมือง และรอบตัวเมือง ติดแนวรถไฟฟ้า เดินทางสะดวก พร้อมทั้งยังมี Facilities อำนวยความสะดวกต่างๆ ที่จะมาตอบโจทย์ไลฟสไตล์ของคนรุ่นใหม่อย่างคุณ ไม่ว่าคุณจะอยู่อาศัยเอง หรือปล่อยเช่าก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะทำเลที่ตั้งของโครงการเราได้คัดสรรมาให้แล้วว่าเป็นทำเลที่มีศักยภาพจริง

206
คอนโดติดรถไฟฟ้า

ที่พักอาศัย นั้นเป็น 1 ในปัจจัย 4 ที่สำคัญต่อชีวิตของคนเรา ประกอบกับไลฟ์สไตล์ในการดำเนินชีวิตและการทำงานในเมืองหลวงอย่างกรุงเทพมหานคร ที่ขึ้นชื่อเรื่องการจราจรที่ติดขัด ทำให้ทุกอย่างดูรีบเร่งและต้องทันต่อเวลา หลายคนจึงเลือกที่จะมองหาคอนโดอยู่อาศัยมากกว่าบ้านเดี่ยว ซึ่งเราสามารถพักผ่อนได้ และที่สำคัญ คือ ต้องเดินทางไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก ทำให้ คอนโดติดรถไฟฟ้า กลายเป็นอสังหาริมทรัพย์ยอดนิยมที่หลายคนมองหา

คอนโดติดรถไฟฟ้า

ด้วยการเดินทางในกรุงเทพในปัจจุบัน ที่มีทั้งรถไฟฟ้าของ BTS และ MRT ทำให้การคมนาคมสะดวกขึ้นมาก ประกอบกับปัจจุบันที่หลายคนนิยมมองหาคอนโดใกล้ที่ทำงาน เพื่อพักผ่อนหลังจากที่ทำงานมาเหนื่อย ๆ ทำให้คอนโดติดรถไฟฟ้ากลายเป็นที่ต้องการของหลาย ๆ คน

และด้วยย่านธุรกิจต่าง ๆ มักอยู่ใจกลางเมือง ทำให้บริษัทอสังหาริมทรัพย์หลากหลายแบรนด์เลือกสร้างคอนโดติดรถไฟฟ้ากันอย่างหนาตา และครอบคลุมส่วนต่าง ๆ ของกรุงเทพ เช่น อโศก พร้อมพงษ์ ทองหล่อ ชิดลม เป็นต้น มีทั้งแบบให้เช่าและขายตามความต้องการ

ข้อดีและข้อเสียของคอนโดติดรถไฟฟ้า

ด้วยคอนโดติดรถไฟฟ้าเอง ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียที่เราจะต้องทราบ และนำมาประกอบการตัดสินใจ ก่อนที่จะเลือกซื้อคอนโดติดรถไฟฟ้า ดังต่อไปนี้

1. ข้อดี

  • การคมนาคมที่สะดวกสบาย สามารถเข้าถึงได้ง่าย ไมว่าจะเดินทางไปทำงาน เรียนหนังสือ หรือท่องเที่ยวต่าง ๆ ช่วยให้เราประหยัดค่าน้ำมันรถส่วนตัว
  • ประหยัดเวลาในการเดินทาง โดยเฉพาะในเวลาเร่งด่วน ที่มักจะมีการจราจรที่ติดขัด การมีคอนโดติดรถไฟฟ้าจะช่วยให้เราสามารถบริหารเวลาส่วนตัวได้มากขึ้น
  • การที่คอนโดติดรถไฟฟ้ามักจะเป็นที่ต้องการ และมักมีราคาที่สูงขึ้นอยู่เรื่อย ๆ ด้วยทำเลที่ดี เหมาะสม และสะดวกสบาย จึงส่งผลให้เราสามารถขายต่อได้ในราคาที่สูงขึ้นในอนาคต

2. ข้อเสีย

  • การที่คอนโดติดรถไฟฟ้าก็อาจจะมีเสียงรบกวนจากรถไฟฟ้าที่แล่นไปมาได้ ดังนั้น หากเราเป็นคนที่ไวต่อเสียงรบกวนหรือชอบสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบ คอนโดแบบนี้ก็อาจจะไม่เหมาะกับเรา
  • วยคอนโดติดรถไฟฟ้ามีแนวโน้มที่จะเป็นที่ต้องการสูง ทำให้ราคาอสังหาริมทรัพย์อาจจะสูงขึ้นได้ จึงอาจจะไม่เหมาะกับผู้ซื้อหรือผู้เช่าที่มีงบประมาณจำกัด
  • การจราจรทางเท้าที่รถไฟฟ้ามักจะมีปริมาณผู้คนที่แน่นขนัด ดังนั้น ในชั่วโมงที่เร่งด่วน ก็อาจจะทำให้เกิดความแออัดได้ เสี่ยงกับการเสียเวลาและเสียงรบกวนจากผู้สัญจรไปมา
  • ปกติพื้นที่รอบ ๆ สถานีรถไฟมักจะได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้คอนโดติดรถไฟฟ้าที่เราเลือกอาจจะกลายเป็นย่านแออัดก็เป็นได้ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมและคุณภาพชีวิตได้

จากที่กล่าวมา จึงเป็นข้อดีและข้อเสียของคอนโดติดรถไฟฟ้า ซึ่งทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวและไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน ที่เราจะต้องตัดสินใจให้ถี่ถ้วน

วิธีการเลือกคอนโดติดรถไฟฟ้าให้เหมาะกับตนเอง

วิธีการเลือกคอนโดติดรถไฟฟ้าให้เหมาะกับตนเอง

หลังจากที่เราเข้าใจข้อดีและข้อเสียของคอนโดติดรถไฟฟ้าเรียบร้อยแล้ว และถ้าหากเราต้องการเลือกคอนโดติดรถไฟฟ้าสักที่ เพื่ออยู่อาศัย เราจะต้องพิจารณาจากอะไรดี บทความนี้ จะแนะนำแนวทางในการเลือกคอนโดติดรถไฟฟ้าให้เหมาะกับตัวเราเอง ดังนี้

  • เลือกสถานีรถไฟฟ้าที่เราต้องการอยู่ในบริเวณนั้น พิจารณาจากการที่สถานีนั้นเป็นพื้นที่ที่เราไปบ่อย หรืออยู่ใกล้ที่ทำงาน โรงเรียน ศูนย์การค้า และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ ที่เราให้ความสำคัญ
  • กำหนดงบประมาณสำหรับการซื้อหรือเช่าคอนโดติดรถไฟฟ้า เพราะอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ติดสถานีรถไฟฟ้ามักจะมีราคาที่ค่อนข้างสูง เพราะนอกจากค่าห้องแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เพิ่มเติมในแต่ละเดือนด้วย
  • ขนาดห้องพักที่ต้องการ เช่น จำนวนห้องนอน ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอย รูปแบบของห้อง เป็นต้น เพื่อให้รองรับไลฟ์สไตล์และจำนวนคนที่จะมาอยู่อาศัย ซึ่งเราต้องคำนึงถึงเฟอร์นิเจอร์และที่เก็บของต่าง ๆ ด้วย
  • สิ่งอำนวยความสะดวกของคอนโดติดรถไฟฟ้า เช่น สระว่ายน้ำ ฟิตเนส สวนหย่อม สนามเด็กเล่น ที่จอดรถ บริการรักษาความปลอดภัย และพื้นที่ส่วนกลางที่สอดคล้องกับความชอบและไลฟ์สไตล์ของเรา
  • คุณภาพและชื่อเสียงของแบรนด์คอนโดติดรถไฟฟ้า จากการรีวิวออนไลน์ต่าง ๆ เพื่อประกอบการพิจารณา ทั้งในด้านการดูแลก่อนการขาย และหลังการขาย การกำกับติดตาม เมื่อเกิดปัญหา
  • สิ่งแวดล้อมรอบคอนโดติดรถไฟฟ้า เช่น ร้านขายของชำ ร้านอาหาร สถานพยาบาล สถานศึกษา ห้างสรรพสินค้า สวนสาธารณะ และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ
  • หากเราเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับความเงียบสงบและความเป็นส่วนตัว อาจจะต้องคำนึงถึงเสียงรบกวน ทั้งจากสถานีรถไฟและบริเวณโดยรอบ โดยอาจจะเข้าชมโครงการในช่วงเวลาต่าง ๆ ของวัน เพื่อประเมินระดับเสียงที่อาจจะส่งผลกระทบต่อตัวเราได้
  • แนวโน้มการพัฒนาพื้นที่ในอนาคต เช่น โครงการก่อสร้างใหม่ การปรับปรุงถนน หรือการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่อาจส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยของเรา

แบรนด์คอนโดติดรถไฟฟ้าในประเทศไทย

ในประเทศไทยมีบริษัทอสังหาริมทรัพย์อยู่มากมายให้เราสามารถเลือกซื้อคอนโดติดรถไฟฟ้าได้ตามความชอบ โดยบริษัทที่มีชื่อเสียง มีดังต่อไปนี้

1. SC Asset เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์แนวหน้าของประเทศไทยที่ให้ความสำคัญต่อความต้องการของลูกค้า เพื่อให้ทุกคนมีสภาพแวดล้อมที่ดีและปลอดภัย พร้อมการดูแลความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง
2. แสนสิริ เป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ เป็นที่รู้จักจากโครงการที่อยู่อาศัยคุณภาพสูง
3. AP (Asia Property) เป็นผู้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยหลากหลายประเภท
4. พฤกษา เรียลเอสเตท เป็นที่รู้จักในด้านตัวเลือกที่อยู่อาศัยราคาไม่แพง
5. ศุภาลัย เป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่พักอาศัยที่หลากหลาย

นี่เป็นเพียงตัวอย่างบางส่วนของแบรนด์คอนโดในประเทศไทย และนอกจากนี้ ยังมีบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่น่าสนใจอีกมากมายที่พร้อมให้คุณได้เลือกคอนโดติดรถไฟฟ้าตามไลฟ์สไตล์ของคุณ

ราคาคอนโดติดรถไฟฟ้าในกรุงเทพยอดนิยม 2023

อย่างที่ทราบกันดีว่า คอนโดติดรถไฟฟ้าในกรุงเทพนั้น กลายเป็นที่ต้องการของใครหลาย ๆ คน ด้วยความสะดวกสบายในการเดินทาง เราขอยกตัวอย่างราคาของคอนโดติดรถไฟฟ้ายอดนิยม ดังนี้

คอนโด 28 ชิดลม

คอนโด 28 ชิดลม

ขอบคุณภาพจาก https:// scasset.com/th/condominium/28-chidlom/

คอนโด 28 ชิดลม จาก SC Asset ถือว่า เป็นคอนโดมิเนียมระดับ Super Luxury บนที่ดินใจกลางชิดลม ซึ่งอยู่ห่างจาก Central Chidlom เพียง 180 เมตร รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ พร้อมกับส่วนกลางที่ครบครัน โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 11.9 ล้านบาท

เป็นคอนโดติดรถไฟฟ้าที่อยู่ท่ามกลาง…

  • ห้างสรรพสินค้า อย่างเช่น เซ็นทรัลชิดลม เซ็นทรัลเวิลด์ แพลทินัมแฟชั่นมอลล์ เป็นต้น
  • สถานศึกษา คือ โรงเรียนมาแตร์เดอี
  • โรงพยาบาล คือ บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก

คอนโด เดอะ เครสท์ พาร์ค เรสซิเดนเซส

คอนโด เดอะ เครสท์ พาร์ค เรสซิเดนเซส

ขอบคุณภาพจาก https:// scasset.com/th/condominium/the-crest-park-residences-ha-yaek-ladprao/

เดอะ เครสท์ พาร์ค เรสซิเดนเซส (The Crest Park Residences) เป็นคอนโดติดรถไฟฟ้าที่ได้รับการดีไซน์ให้เชื่อมต่อบรรยากาศธรรมชาติ เป็นโครงการใหม่หนึ่งเดียวใจกลางห้าแยกลาดพร้าว ใกล้เซ็นทรัล สามารถเดินทางสะดวกด้วย BTS สถานีห้าแยกลาดพร้าว หรือ MRT สถานีพหลโยธิน เพียง 80 เมตร โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 6.49 ล้านบาท

เป็นคอนโดติดรถไฟฟ้าที่อยู่ท่ามกลาง…

  • ห้างสรรพสินค้า อย่างเช่น เซ็นทรัล ลาดพร้าว ตลาดนัดจตุจักร ยูเนี่ยน มอลล์ เป็นต้น
  • สถานที่ทำงาน อย่างเช่น ปตท., SC Asset, การบินไทย, SCB เป็นต้น
  • สถานศึกษา อย่างเช่น โรงเรียน นานาชาติเซนต์สตีเฟ่นส์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โรงเรียนหอวัง เป็นต้น
  • โรงพยาบาล อย่างเช่น โรงพยาบาลวิภาวดี โรงพยาบาลเปาโล เกษตร เป็นต้น

เรฟเฟอเรนซ์ สาทร – วงเวียนใหญ่ (Reference Sathorn Wongwianyai)

เรฟเฟอเรนซ์ สาทร – วงเวียนใหญ่

ขอบคุณภาพจาก https:// scasset.com/th/condominium/reference-sathorn-wongwianyai/#lg=1&slide=0

เรฟเฟอเรนซ์ สาทร – วงเวียนใหญ่ (Reference Sathorn Wongwianyai) โครงการใหม่จาก SC Asset ที่มีการออกแบบที่โดดเด่น เพื่อให้สามารถตอบสนองได้กับทุกความต้องการของผู้อยู่อาศัย ห่างจาก BTS วงเวียนใหญ่ เพียง 130 เมตร โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 4.69 ล้านบาท

เป็นคอนโดติดรถไฟฟ้าที่อยู่ท่ามกลาง…

  • ห้างสรรพสินค้า อย่างเช่น The Mall ท่าพระ, ICONSIAM, Asiatique The Riverfront เป็นต้น
  • สถานศึกษา อย่างเช่น รร.ศึกษานารี รร.สวนกุหลาบวิทยาลัย รร.กรุงเทพคริสเตียน เป็นต้น
  • โรงพยาบาล อย่างเช่น รพ.เลิดสิน รพ.สมิติเวชธนบุรี รพ.สมเด็จพระปิ่นเกล้า เป็นต้น

เลือกซื้อคอนโดติดรถไฟฟ้าที่ไหนดี

แล้วเราควรจะเลือกซื้อคอนโดติดรถไฟฟ้าที่ไหนดี คำตอบอยู่ที่ไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน ด้วยบริบทการดำเนินชีวิตที่แตกต่างกัน แต่เราสามารถพิจารณาได้จากแนวทางที่ได้แนะนำไป ไม่ว่าจะเป็นสถานีรถไฟฟ้า สถานที่ทำงาน งบประมาณ ชื่อเสียงของแบรนด์ เป็นต้น

แต่ทั้งนี้ เราขอแนะนำคอนโดติดรถไฟฟ้าจาก SC Asset ที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของผู้อยู่อาศัยเป็นหลัก และเป็นย่านสำคัญ ใจกลางเมือง เช่น คอนโด 28 ชิดลม, คอนโด เดอะ เครสท์ พาร์ค เรสซิเดนเซส, เรฟเฟอเรนซ์ สาทร – วงเวียนใหญ่ เป็นต้น

คอนโดติดรถไฟฟ้าดีไหม

คอนโดติดรถไฟฟ้านั้น ถือว่า “ดี” หรือไม่ ขึ้นอยู่กับความชอบและความต้องการของแต่ละคน เพราะปัจจัยที่จะนำมาตัดสินนั้น รวมถึงข้อดีและข้อเสียที่เราสามารถรับได้ โดยดูจากปัจจัย ดังต่อไปนี้

  • การเดินทางที่สะดวกสบาย
  • ประหยัดเวลาในการเดินทาง
  • สามารถบริหารจัดการเวลาส่วนตัวได้มากขึ้น
  • อยู่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม
  • มีแนวโน้มที่จะสามารถขายต่อได้ในราคาที่สูงขึ้น

สุดท้ายแล้ว ความเหมาะสมของคอนโดติดรถไฟฟ้าขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ ความชอบ และความต้องการเฉพาะส่วนบุคคล ซึ่งเราจำเป็นต้องเข้าดูสถานที่จริง เพื่อประเมินสิ่งต่าง ๆ ว่า สถานที่นั้น สอดคล้องกับกิจกรรมประจำวันของเรามากน้อยแค่ไหน ชั่งน้ำหนักข้อดีและข้อเสีย ซึ่งนั่นจะทำให้เราตัดสินใจได้ว่า คอนโดติดรถไฟฟ้านั้น ดีและเหมาะสมกับเราหรือไม่

207
หาช่างไฟฟ้า

การติดตั้งระบบไฟฟ้าภายในบ้านหรืออาคารสำนักงานเป็นเรื่องสำคัญมาก และควรเลือกช่างไฟฟ้าที่มีประสบการณ์ และมีความเชี่ยวชาญในการติดตั้งไฟฟ้าโดยเฉพาะ เพราะหากเกิดไฟรั่ว หรือไฟฟ้าช็อตจะเป็นปัญหาใหญ่ที่ทำให้เกิดอันตรายต่อคุณและสมาชิกในครอบครัว จึงควรหาช่างไฟฟ้ามาช่วยซ่อมไฟฟ้าดีกว่า เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของคุณ

การเดินสายไฟฟ้าด้วยตัวเองเป็นเรื่องอันตรายมาก สำหรับผู้ที่มั่นใจว่าสามารถซ่อมไฟฟ้าได้เองโดยไม่ต้องหาช่างไฟฟ้า คุณอาจจะต้องพิจารณาอย่าถี่ถ้วน เพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับตัวคุณให้มากที่สุด การติดตั้งไฟฟ้าไม่ใช่เรื่องง่ายที่ใคร ๆ จะทำได้ คนส่วนใหญ่จึงมักจ้างช่างมาดูแลระบบไฟฟ้าผ่านระบบออนไลน์ที่จองคิวได้ง่ายตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งกระบวนการดำเนินงานของช่างก็มีรายละเอียดสำคัญมากมายที่เหมาะสำหรับผู้กำลังหาช่างเดินสายไฟบ้านใหม่

ช่างไฟฟ้า ช่วยแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง

ช่างไฟฟ้า

คุณควรจะสังเกตระบบไฟฟ้าภายในบ้านอยู่เสมอว่ามีความผิดปกติหรือไม่ หากสวิตช์ไฟไม่ติด หรือไฟกะพริบ ตลอดจนมีปัญหาน้ำรั่ว จนอาจกระทบกับสายไฟที่ติดตั้งไว้ ควรรีบหาช่างไฟฟ้ามาตรวจสอบทันที โดยปัญหาที่ช่างไฟฟ้าพบอยู่บ่อย ๆ มีดังต่อไปนี้

  • ไฟช็อต หรือไฟฟ้าลัดวงจร ที่เกิดจากสายไฟฟ้าที่ใช้มายาวนาน จนเกิดฉนวนชำรุด ฉนวนหุ้มเปื่อยขาด จนทำให้เกิดกระแสไฟรั่ว คุณจะเปลี่ยนสายไฟหรือเดินสายไฟบ้านใหม่

  • ไฟช็อต จากการต่อสายหรือเสียบอุปกรณ์ไฟฟ้าไม่แน่น ไม่เรียบร้อยทำให้เกิดความร้อน เป็นอันตรายอาจก่อให้เกิดไฟไหม้บ้านได้
  • อุปกรณ์ไฟฟ้าชำรุดเสียหาย ทำให้ไฟฟ้าเกิดความขัดข้อง
  • เปิดไฟแล้วติด ๆ ดับ ๆ ผิดปกติ อาจเกิดในตำแหน่งของตัวหลอดไฟฟ้ากับฉนวนไฟฟ้า ที่ติดตั้งไฟฟ้าบ้านถูกใช้งานมากเกินไป
  • หลอดไฟไหม้ ที่อาจเกิดจากเบรกเกอร์ หรือลวดตรงเซอร์กิตเสื่อมสภาพ ตลอดจนเกิดประกายไฟทำให้ดูน่ากลัวและเสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้
  • เต้าเสียบปลั๊กไฟเสีย ที่มักพบได้กรณีตัวเบรกเกอร์หรือตัวเชื่อมเกิดความร้อนมากเกินไป ทำให้ปลั๊กไฟไม่สามารถใช้งานได้
  • แสงสลัวหรือหลอดไฟส่องแสงได้ไม่เต็มที่ อาจเกิดจากการซื้อหลอดไฟที่ไม่ได้มาตรฐาน จึงควรหาช่างไฟฟ้าช่วยเลือกหลอดไฟที่ถูกต้องเหมาะสมให้

  • การใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสม จนทำให้เกิดความร้อนสูง และหากอยู่ใกล้กับแหล่งติดไฟง่าย เช่น เตาแก๊ส ก็เป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดประกายไฟ เสี่ยงต่อไฟไหม้ได้
  • ขนาดของสายไฟเล็กเกินไป ซึ่งไม่เพียงพอต่อการรับกระแสไฟฟ้าที่พอเหมาะกับกำลังไฟของบ้านคุณ ทำให้ระบบไฟฟ้าเกิดความขัดข้อง
  • สวิตช์ไฟเสีย หรือกดไม่ติด เกิดอาจตัวเครื่องใช้ไฟฟ้าชำรุด หรือทางเดินสายไฟที่ติดตั้งไว้เสีย จะต้องรีบหาช่างไฟฟ้ามาเปลี่ยนเพื่อให้ใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง

เทคนิคการมองหาช่างไฟฟ้ามืออาชีพ

 เดินสายไฟบ้านใหม่

ฟิวส์ขาด มาจากเซอร์กิตเบรกเกอร์ที่เป็นอุปกรณ์ป้องกันไฟ เมื่อฟิวส์ขาดก็ต้องรีบเปลี่ยน และการเปลี่ยนฟิวส์ควรหาช่างไฟฟ้ามาดำเนินการ เพื่อความปลอดภัย และไม่ทำให้เกิดความผิดพลาดในการเปลี่ยนฟิวส์ หากคุณไม่มีความชำนาญหรือเปลี่ยนฟิวส์ผิดวิธี ก็เสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้ได้ การหาช่างซ่อมไฟฟ้ามืออาชีพดูอย่างไร เลือกยังไงดี ไปดูกัน

1.ตรงต่อเวลา และมีวินัยในการทำงาน ความประทับใจแรกของการดูว่าช่างไฟฟ้าคนนี้ดีหรือไม่ก็คือความตรงต่อเวลา เพราะหากมีวินัยในเรื่องเวลา ก็ย่อมมีวินัยในการทำงาน ทำให้คุณวางใจได้ว่างานจะเสร็จทันเวลา ทำให้คุณมั่นใจได้มากขึ้น

2.มีความเอาใจใส่ การหาช่างไฟฟ้าที่มีความเอาใจใส่ต่องานไม่ใช่เรื่องง่าย คุณจึงควรเลือกบริษัทที่มีมาตรฐานเพราะเขาเหล่านั้นจะได้รับการอบรมมาอย่างดีให้ใส่ใจในการติดตั้งไฟฟ้าบ้านให้กับคุณ ทำให้งานมีความราบรื่น มีคุณภาพ หากเป็นงานใหญ่ ก็มีการบริหารงานเป็นทีมทำให้คุณสบายใจได้

3.รักษาเครื่องมือให้ปลอดภัย หากสภาพเครื่องมือของช่างซ่อมไฟฟ้าดูดีมีมาตรฐานก็จะช่วยให้คุณมีความวางใจได้ว่าช่างไฟฟ้ามีความละเอียด ไม่ต้องห่วงเรื่องทำงานไม่เรียบร้อย

4.รอบรู้เรื่องกฎแห่งความปลอดภัย มีความรอบคอบในการติดตั้งไฟฟ้าบ้าน รู้วิธีรักษาความปลอดภัย มีการติดตั้งอย่างระมัดระวัง และสามารถให้ความรู้ที่ถูกต้องต่อผู้ใช้บริการได้

5.หาช่างไฟฟ้าได้รับการอบรมเพื่อหาความรู้ใหม่ ๆ อยู่เสมอ เพราะอุปกรณ์ไฟฟ้าถูกผลิตออกมามากมายในท้องตลาด การมีความรู้ให้ก้าวทันต่อเหตุการณ์จึงเป็นสิ่งจำเป็นมาก เพื่อสามารถแก้ปัญหากับอุปกรณ์ไฟฟ้าสมัยใหม่ได้อย่างถูกวิธี

6.มีมนุษยสัมพันธ์ดี มีมารยาท สุภาพ เรียบร้อย ที่ช่วยให้คุณไม่รู้สึกเครียดเวลาคุยกับช่างไม่รู้เรื่อง

7.มีความซื่อสัตย์ ไว้ใจได้ คุณสมบัติที่สำคัญของช่างซ่อมไฟฟ้า หากคุณได้ช่างที่ไม่ซื่อสัตย์ นอกจากจะซ่อมไฟฟ้าไม่สำเร็จ หรือติดตั้งอุปกรณ์ที่ไม่มีคุณภาพแล้ว ข้าวของภายในบ้านก็อาจจะสูญหายได้

8.หาช่างไฟฟ้าจากบริษัทผู้มีความเชื่อถือ เพราะทำให้คุณมั่นใจได้ว่าช่างจะเป็นมีความเชี่ยวชาญ มีใบอนุญาตหรือใบประกอบวิชาชีพ ที่รับรองได้ว่าเป็นช่างที่มีประสบการณ์สามารถทำงานได้จริง สามารถติดต่อได้ทั้งหน้าร้านและระบบออนไลน์ อาทิเช่น Q-CHANG เป็นต้น 

แนะนำพื้นที่หาช่างไฟฟ้าที่ดี

ซ่อมไฟฟ้า

หาช่างไฟฟ้าทั่วไปหาง่าย แต่หาช่างไฟที่ดีหายาก การเลือกช่างซ่อมไฟฟ้ามากฝีมือเป็นที่ไว้วางใจ จะต้องพิจารณาจากปัจจัยหลายประการ ยิ่งบ้านคุณเป็นลักษณะคอนโดด้วยแล้ว การหาช่างไฟฟ้าจึงจะเป็นต้องเลือกช่างที่มีความปลอดภัย เพื่อไม่เกิดความเสี่ยงในการเรียกช่างมาติดตั้งไฟฟ้าบ้านภายในห้องของตนเอง ควรเลือกบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือ ให้บริการลูกค้ามาแล้วหลายราย สามารถตรวจสอบได้ว่าปัญหาของไฟช็อตหรือไฟฟ้าเสียเกิดจากอะไร และควรพิจารณาช่างที่มีความสามารถดังนี้

  • ซ่อมแซมไฟฟ้าด้วยความปลอดภัย สามารถประเมินสาเหตุจากการเกิดไฟเสียหรืออาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้ สามารถแก้ปัญหาไฟเสียที่มีความซับซ้อนได้เป็นอย่างดี และมีวิธีการซ่อมอย่างมืออาชีพ  คาดการณ์ความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตได้

  • สามารถทำงานยากได้ หาช่างไฟฟ้าที่มีประสบการณ์มีความเชี่ยวชาญสูงจะมีฝีมือในการซ่อมไฟฟ้าในเคสยาก ๆ ได้เป็นอย่างดี มีความเป็นมืออาชีพในการแก้ไขปัญหา และมีความแม่นยำสูง มีทักษะวิชาชีพเฉพาะที่เป็นสิ่งที่ไม่ได้เจอง่าย ๆ ในเหล่าช่างไฟฟ้าทั่วไป หากการแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด ก็จะทำให้ช่างไม่ต้องเดาสุ่มซ่อมไปเรื่อย จนไม่สามารถหาวิธีแก้ไขปัญหาได้ถูกต้อง ทำให้เกิดปัญหาไฟเสีย และเสี่ยงต่อความปลอดภัยตามมา ช่างที่มีเที่ยวบินสูงจะทำงานเสร็จเร็ว ประหยัดเวลาได้มากขึ้น

  • เดินสายไฟบ้านใหม่อย่างมีคุณภาพ บ้านแต่ละหลังย่อมมีการวางระบบไฟฟ้าที่แตกต่างกันตามสไตล์ของช่างที่ได้วางโครงการไว้เมื่อตอนแรกเริ่ม การหาช่างไฟฟ้าที่มีความน่าเชื่อถือ สามารถหาผ่านเว็บไซต์ได้ โดยคุณสามารถเลือกดูรีวิวจากลูกค้าที่ได้มาให้คอมเมนต์ไว้ เพื่อตรวจสอบว่าบริษัทนั้น ๆ มีคุณภาพหรือไม่ เพราะกว่าจะรู้ว่าช่างไฟฟ้าทำงานได้มีคุณภาพหรือไม่ก็เมื่อซ่อมไฟฟ้าเสร็จแล้วเท่านั้น การเลือกบริษัทที่มีมาตรฐานจึงจะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าผลงานจะมีคุณภาพ

  • ความคุ้มค่า การหาช่างไฟฟ้าจากบริษัทที่มีให้เลือกมากมายทั้งผ่านระบบออนไลน์ และออฟไลน์ คุณสามารถเปรียบเทียบราคาได้เลยว่าบริษัทไหนมีบริการเดินสายไฟบ้านใหม่ราคาประหยัด ตลอดจนสามารถสืบหาข้อมูลว่าช่างรับซ่อมแซมงานใดได้บ้าง ซึ่งโดยส่วนมากควรจะเป็นช่างที่สามารถซ่อมแซมไฟฟ้าได้ครบวงจร นอกจากนั้นการหาช่างซ่อมไฟฟ้าจากบริษัทที่มีมาตรฐานจะมีความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน 

สรุปการหาช่างไฟฟ้า 
การหาช่างไฟฟ้าควรเลือกช่างที่มีประสบการณ์และมีสังกัดในบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือ ซึ่งในปัจจุบันคุณสามารถค้นหาช่างไฟฟ้าผ่านระบบออนไลน์ ทั้งเว็บไซต์และแอปพลิเคชันต่าง ๆ ที่ช่วยให้คุณสามารถเปรียบเทียบราคาได้สะดวกและรวดเร็ว อาทิเช่น Q-CHANG ที่มีระบบการติดตั้งและซ่อมไฟฟ้าที่ปลอดภัย มีมาตรฐานพร้อมทีมงานคุณภาพ มีบริการที่ครบวงจร งบไม่บานปลาย จะติดตั้งหรือตรวจสอบก็ทำได้ ให้บริการมาแล้วกว่า 100,000 งาน พร้อมให้บริการทั่วประเทศ จองคิวง่ายตลอด 24 ชั่วโมง


208
สุขภาพ | Health / ทำ ICSI ราคาเท่าไหร่ ?
« เมื่อ: พฤษภาคม 21, 2023, 08:22:38 AM »
อย่างที่ทราบว่าการทำเด็กหลอดแก้วต้องใช้บุคลากรที่มีความรู้เฉพาะทาง มีอุปกรณ์ที่ครบครัน ดังนั้นส่งผลให้การทำเด็กหลอดแก้วราคาค่อนข้างสูง เป็นการแก้ปัญหาที่เห็นผลสำหรับครอบครัวผู้มีภาวะมีบุตรยากได้ แต่ต้องมีความพร้อมทางด้านการเงินในระดับนึงเลย แต่การทำ ICSI ราคาอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่หละ ? บทความวันนี้จะมานำเสนอราคาโดยประมาณของการทำเด็กหลอดแก้วในแต่ละที่กัน

ICSI ราคา

การทำเด็กหลอดแก้ว IVF และ ICSI ราคาต่างกันไหม ?
การทำเด็กหลอดแก้ว IVF และ ICSI มีกระบวนการที่ต่างกันเล็กน้อย ดังนั้นราคาย่อมมีความต่างกันเล็กน้อย แต่สำหรับสถานพยาบาลบางแห่งก็จัดเป็นโปรแกรมส่งเสริมการขายโดยให้ IVF และ ICSI ราคาเท่ากันก็มี แต่ก่อนอื่นเราต้องทำความเข้าใจถึงความต่างของสองกระบวนการนี้ก่อน เพื่อจะได้รู้สาเหตุที่ราคาต่างกัน

การทำเด็กหลอดแก้ว IVF และ ICSI คืออะไร ?
การทำเด็กหลอดแก้ว คือ การทำปฏิสนธิภายนอกเพื่อให้เกิดตัวอ่อนก่อนนำกลับไปฝั่งในครรภ์ของแม่เหมือนเดิม โดยจะนำเซลล์อสุจิของพ่อและเซลล์ไข่ของแม่มาทำการผสมกันภายนอกร่างกาย โดยการทำเด็กหลอดแก้วในปัจจุบันนี้จะมีอยู่ 2 แบบ

1.IVF (In-vitro Fertilization) : นำเซลล์ไข่และอสุจิมาผสมกันในห้องปฏิบัติการ โดยปล่อยให้ทำการปฏิสนธิกันเองตามธรรมชาติ
2.ICSI (Intracytoplasmic Sperm Injection) : คัดเลือกอสุจิที่แข็งแรงที่สุด มาฉีดใส่เซลล์ไข่โดยตรง เพื่อให้เกิดการปฏิสนธิทันที
จะเห็นได้ว่า ICSI มีขั้นตอนที่ต้องคัดเลือกอสุจิและฉีด ปรับปรุงขั้นตอนเพื่อเพิ่มโอกาสสำเร็จ จึงทำให้การทำ ICSI หรือ ทำอิ๊กซี่ราคาจะสูงกว่า IVF

การเตรียมค่าใช้จ่ายในการทำเด็กหลอดแก้ว
โดยปกติแล้วทั้งการทำ IVF และ ICSI ราคาจะอยู่ที่ประมาณหลักแสน ซึ่งอย่าพึ่งตกใจไป สถานพยาบาล ศูนย์ให้บริการหลายๆแห่ง สามารถให้จ่ายเงินแบบผ่อนจ่ายเป็นรายเดือนได้ ถ้าหากบริการจัดการเงินดีๆ ก็สามารถทำเด็กหลอดแก้วได้แล้ว ซี่งราคาแต่ละที่ก็ย่อมต่างกันขึ้นอยู่วิธีการ ยาที่ใช้ และต้นทุนอื่นๆ

เรทการทำเด็กหลอดแก้วราคาเท่าไหร่บ้าง ?
เราก็ได้รวบรวมราคาการทำเด็กหลอดแก้ว จากสถานพยาบาลชื่อดังหลายแห่ง เพื่อให้เป็นข้อมูลอ้างอิงสำหรับครอบครัวที่สนใจจะทำเด็กหลอดแก้ว มีดังนี้

ICSI
1.Beyondivf
เป็นศูนย์รักษาผู้มีบุตรยากประสบการณ์นานกว่า 20 ปี ในด้านการให้คำปรึกษาและรักษาผู้ที่มีภาวะมีลูกยาก มีอยู่ 2 สาขาคือ ทองหล่อ และพระราม 2
ราคา : 246,000 บาท (ผ่อนจ่ายดอกเบี้ย 0% 10 เดือน)

2.Genesis Fertility Center (GFC)
คลีนิคผู้มีบุตรยาก ตั้งอยู่ที่ยานนาวา มีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้คำปรึกษาเพื่อแก้ปัญหาให้ตรงจุด
ราคา : 190,000 บาท (ผ่อนจ่ายดอกเบี้ย 0% 10 เดือน)

3.โรงพยาบาลพญาไท 3
เป็นโรงพยาบาลที่ก่อตั้งมาตั้งปี 2539 ตั้งอยู่ที่เขตภาษีเจริญ มีแผนกศูนย์รักษาผู้มีบุตรยาก ที่พร้อมไปด้วยแพทย์และเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อรักษาผู้มีอาการมีบุตรยากด้วยวิธีการทำเด็กหลอดแก้ว ICSI มีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้คำปรึกษาเพื่อแก้ปัญหาให้ตรงจุด
ราคา : 172,000 บาท (ผ่อนจ่ายดอกเบี้ย 0% 10 เดือน)

IVF
1.โรงพยาบาลพญาไท 2
เป็นโรงพยาบาลที่ก่อตั้งมาตั้งปี 2530 ตั้งอยู่ที่เขตพญาไท สำหรับการทำเด็กหลอดแก้วที่นี่จะเป็นแบบ IVF โดยจะมีโปรโมชันแช่แข็งฝากไข่ฟรี 1 ปี สำหรับคุณแม่ที่ต้องการเวลาเตรียมตัวในการตั้งครรภ์
ราคา : 187,000 บาท (ผ่อนจ่ายดอกเบี้ย 0% 10 เดือน)

2.คลีนิคนวบุตร สยาม
คลีนิคตั้งอยู่ใจกลางเมือง ที่ตึกศูนย์หนังสือจุฬาแถวสยาม ก่อตั้งเมื่อปี 2536 โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งได้ผ่านการอบรมที่ต่างประเทศ และมีมาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล
ราคา : 180,000 - 200,000 บาท (ผ่อนจ่ายดอกเบี้ย 0% 10 เดือน)

3.Born IVF Clinic
คลีนิคตั้งอยู่ที่เขตจตุจักร ให้บริการรักษาภาวะผู้มีบุตรยาก ตั้งเเต่ปี 2542 ให้บริการตั้งแต่ตรวจวินิจฉัยสาเหตุ ไปจนถึงการรักษา
ราคา : 200,000 บาท (ผ่อนจ่ายดอกเบี้ย 0% 10 เดือน)

ICSI ราคาเท่าไหร่

สรุป
จะเห็นได้ว่าในบ้านเรามีตัวเลือกสถานพยาบาลที่ให้การรักษามากมายหลายที่ให้เราได้เลือก ซึ่งข้อมูลที่เราได้รวบรวมมาก็ทำให้เห็นได้ว่า การทำเด็กหลอดแก้วทั้ง IVF และ ICSI ราคาไม่ค่อยทิ้งห่างกันเท่าไหร่นัก อาจจะมีส่วนต่างนิดหน่อยขึ้นอยู่กับต้นทุนของแต่ละเจ้า ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกที่ไหนก็ขอให้หาข้อมูลให้ละเอียดก่อน ทั้งรีวิวจากผู้เคยใช้บริการมาก่อน ว่ารักษาดีไหม ได้ผลหรือเปล่า การบริการเป็นอย่างไรบ้าง ขอให้ทุกท่านโชคดีนะครับ

209
ปลูกผมแก้ปัญหาศีรษะล้าน

ปัญหาด้านทรงผมเป็นเรื่องความสวยความงามที่ไม่อาจมองข้ามได้ และคนที่มีผมบาง ศีรษะล้าน จนต้องได้รับการรักษาสามารถเลือกวิธีปลูกผมหลายวิธีด้วยกันไม่ว่าจะการปลูกผมถาวร หรือการปลูกผมธรรมชาติ โดยการเลือกวิธีแบบผ่าตัดหนังศีรษะเป็นวิธีที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ทั้งนี้จะต้องดำเนินการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะ

วิธีปลูกผมถาวรด้วยการผ่าตัด จะเริ่มด้วยการทำความสะอาดหนังศีรษะ และฉีดยาชาบริเวณที่ต้องการปลูกผมใหม่ จากนั้นแพทย์จะโกนผมเพื่อให้เห็นหนังศีรษะที่ชัดเจน จากนั้นจึงผ่าตัดหนังศีรษะบริเวณท้ายทอยมาปลูกบริเวณที่ไม่มีผม จากนั้นเย็บปิดแผล การปลูกผมยังมีอีกหลายวิธี ซึ่งคุณสามารถปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกวิธีตามที่คุณต้องการ ปลูกผมที่ไหนดี ทำง่ายไหม ปลูกผมธรรมชาติเป็นอย่างไร เราไปหาคำตอบกัน

ทำความรู้จัก การปลูกผม

ปลูกผม ราคา

การปลูกผม (Hair Transplant) เป็นวิธีการปลูกผมถาวรที่ใช้ศัลยกรรมปลูกผมแก้ปัญหาศีรษะล้าน โดยแพทย์จะมีวิธีการปลูกผมโดยการนำเอาผมของเจ้าตัวมาใช้ในการปลูกในบริเวณที่มีปัญหาศีรษะล้าน ซึ่งจะต้องดำเนินการภายใต้การดำเนินงานของแพทย์ผู้มีความเชี่ยวชาญโดยเฉพาะ มีความเป็นมืออาชีพ และทำในสถานพยาบาลที่มีความปลอดภัยได้รับการรับรองมาตรฐาน ที่จะทำให้คุณมั่นใจได้ว่าจะมีโอกาสประสบผลสำเร็จสูง

ปลูกผม มีกี่วิธี แต่ละวิธีเหมาะกับใคร
ในอดีตคุณอาจจะปลูกผมถาวรได้วิธีเดียวคือการผ่าตัด แต่ในปัจจุบันโชคดีกว่ามากที่มีการปลูกผมเพิ่มมาหลายวิธี ทั้งวิธี Strip FUT และวิธี FUE ซึ่งทั้งสองแบบเป็นการปลูกผมไม่ต้องผ่าตัดช่วยประหยัดเวลา เจ็บน้อย และได้ผลดี ปลูกผมไม่ต้องโกนผม มีผลข้างเคียงน้อย ทั้งสองแบบมีวิธีที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของตนดังนี้

วิธีปลูกผม Strip FUT

ปลูกผมที่ไหนดี

จุดเด่นของการปลูกผมด้วยวิธี Strip FUT คือปลูกผมไม่ต้องผ่าตัด โดยแพทย์จะทำการตัดหนังศีรษะชั้นบนบางส่วนจากท้ายทอย เพื่อนำรากผมออกมา และนำหนังศีรษะนั้นไปแยกกอรากผม โดยใช้กล้องจุลทรรศน์กำลังขยายสูงในการคัดเลือกรากผม จะได้รากผมที่สมบูรณ์ ติดง่าย แต่ก็มีผลที่ทำให้เกิดแผลหลังผ่าตัด

วิธีปลูกผม FUE

ปลูกผมถาวร

การปลูกผมด้วยวิธี FUE เป็นวิธีเจาะรากผมออกมาโดยเครื่องมือพิเศษที่ทำให้ได้รากผมออกมาทั้งกอ โดยไม่มีเนื้อเยื่อรอบ ๆ ติดออกมา ทำให้เกิดแผลขนาดเล็กมาก วิธีนี้ปลูกผมไม่ต้องโกนผมอวดหนังศีรษะได้สบาย แต่ก็มีข้อเสียที่ผมบริเวณท้ายทอยจะบางลง กอรากผมที่ขุดไปอาจได้รับความเสียหาย จนทำให้ปลูกผมไม่ขึ้น

การปลูกผมถาวร ข้อดีและข้อจำกัด
แน่นอนว่าปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้านเป็นเรื่องหนักอกของคนอยากมีผม และการปลูกผมถาวรจะช่วยแก้ปัญหาทำให้คุณเกิดความมั่นใจได้มากขึ้น ได้มีผมหนา ดกดำอีกครั้ง ข้อดีของการปลูกผมมีอะไรบ้าง เราได้รวบรวมข้อมูลไว้ดังนี้

ข้อดีของการปลูกผมถาวร
การปลูกผมถาวรจะมีโอกาสประสบผลสำเร็จมากกว่าการปลูกผมธรรมชาติ โดยมีข้อดีที่ผมจะอยู่บนหนังศีรษะไปตลอด ไม่หลุดร่วงง่าย จนทำให้ผมกลับไปบางลงอีก ทำให้คุณมั่นใจ ได้ผมที่สวยงาม ดูเป็นธรรมชาติ เป็นการลงทุนระยะยาวที่คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป

ข้อจำกัดของการปลูกผมถาวร
ข้อจำกัดของการปลูกผมถาวรก็คือผมที่อยู่บริเวณท้ายทอยจะต้องมีความสมบูรณ์เพียงพอต่อการปลูกผม และผมบริเวณท้ายทอยต้องมีจำนวนมากพอที่จะ
ทำการปลูกผมได้ ผ่าตัดแล้วต้องใช้เวลาการพักฟื้นอย่างน้อย 1 วัน และสำหรับการปลูกด้วยวิธี FUT หนังศีรษะจะต้องมีความยืดหยุ่นได้ดี

ขั้นตอนและวิธีการปลูกผมถาวร
 
วิธีปลูกผม

หลังจากได้ทราบรายละเอียดการปลูกผมมาพอสมควรแล้ว ทีนี้เรามาลองดูกันว่าขั้นตอนของการศัลยกรรมปลูกผมมีอะไรบ้าง เหมือนปลูกผมธรรมชาติหรือไม่เพื่อที่คุณจะได้เตรียมพร้อมก่อนเข้ารับการรักษา โดยขั้นตอนและวิธีการปลูกผมถาวรมีดังนี้

  • พบแพทย์เพื่อประเมินการรักษาว่าจะปลูกผมบริเวณไหน ออกแบบให้ตรงใจกับผู้ต้องการปลูกผม
  • หลังจากกำหนดวิธีปลูกผมแล้ว แพทย์จะเตรียมการผ่าตัดศัลยกรรมปลูกผมโดยโกนผมส่วนที่จะนำไปปลูก โดยเลือกเฉพาะบางส่วน
  • แพทย์จะฉีดยานอนหลับ หลังจากยาออกฤทธิ์ก็จะฉีดยาชารอบบริเวณที่ต้องการนำรากผมออกมา
  • หลังจากยาชาออกฤทธิ์ แพทย์จะนำรากผมออกมา โดยวิธี FUE จะเจาะแล้วแช่น้ำยารักษารากผมก่อนปลูก ส่วน FUT จะคัดเลือกรากผมแยกกอก่อนค่อยไปปลูก
  • เมื่อได้รากผมที่ต้องการแพทย์จะฉีดยาชาบริเวณที่ต้องการปลูกผม แล้วใช้ Implanter ค่อย ๆ ปลูกผมทีละเส้นตามทิศทางที่ได้วางแผนไว้ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ผมขึ้นสวยงามอย่างเป็นธรรมชาติ

ผลลัพธ์ของการปลูกผมถาวร ขึ้นอยู่ที่การเตรียมตัว
การปลูกผมถาวรอาจไม่ประสบผลสำเร็จทุกคน ขึ้นอยู่กับวิธีการดูแลตนเองและปัจจัยอื่น ๆ ของแต่ละบุคคล ซึ่งหากคุณปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ก็จะประสบผลสำเร็จในการปลูกผมสูง วิธีการเตรียมตัวก่อนเข้ารับการผ่าตัดปลูกผมมีความสำคัญที่คุณไม่อาจมองข้ามซึ่งประกอบด้วย

  • ควรหยุดยาหรืออาหารเสริมต่าง ๆ ที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน, วิตามิน และน้ำมันปลา เป็นต้น
  • แจ้งแพทย์เสมอหากมีโรคประจำตัว หรือกำลังรับประทานยาประจำ
  • ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยาอย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพราะยา Beta Blocker มีผลต่อการผ่าตัดปลูกผม
  • ไม่ควรรับประทานยา Rogaine หรือ Minoxidil ก่อนการปลูกผมอย่างน้อย 1 สัปดาห์
  • ไม่ควรย้อมผมก่อนการผ่าตัดปลูกผม หากต้องการทำให้ทำก่อนวันผ่าตัด 1 - 2 วัน
  • งดดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่ก่อนและหลังผ่าตัดอย่างน้อย 48 ชั่วโมง
  • งดดื่มชา กาแฟ ก่อนวันผ่าตัด
  • นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพออย่างน้อยวันละ 6 ชั่วโมง
  • ควรสระผมด้วย Betadine scrub หรือ Hibitane scrub ในคืนวันก่อนผ่าตัด
  • สวมเสื้อผ่าหน้าในการมาทำศัลยกรรมปลูกผม เพื่อสะดวกในการถอดเสื้อ
  • ควรพาผู้ดูแลติดตามมาด้วย เพราะหากใช้ยานอนหลับอาจทำให้ผู้ปลูกผมสะลึมสะลือไม่อาจขับรถกลับบ้านได้เอง
มีวิธีการปลูกผมแบบไหนอีกบ้าง หากไม่ทำศัลยกรรมการปลูกผม
การปลูกผมธรรมชาติเหมาะสำหรับผู้ต้องการปลูกผมแต่ไม่อยากผ่าตัดหรือศัลยกรรมปลูกผม การแก้ปัญหาผมร่วงมีหลายวิธีให้คุณเลือก อาทิเช่น การใช้ยาปลูกผม ซึ่งยาบางชนิดสามารถช่วยลดระดับฮอร์โมน DHT (Dihydrotestosterone) ต้นเหตุของการเกิดปัญหาผมร่วง และยังมีเซรั่มปลูกผมที่ใช้งานง่ายเพียงหยดลงบนหนังศีรษะ รวมถึงแชมพูสระผมที่ช่วยลดผมขาด หลุดร่วงอีกมากมาย โดยไม่ต้องปลูกผมถาวร

ผลข้างเคียงหรืออาการข้างเคียงหลังการปลูกผม
หลังจากปลูกผมถาวรอาจมีอาการผิดปกติ ซึ่งคุณควรจะสังเกตตัวเองและรีบพบแพทย์อย่างเร่งด่วน ศัลยกรรมปลูกผมแบบ FUT และการปลูกผมแบบ FUE จะมีผลข้างเคียงค่อนข้างน้อย เพราะเป็นการผ่าตัดขนาดเล็กที่ทำให้ไม่เกิดรอยแผลที่ส่งผลให้คุณเจ็บปวดมาก แต่ก็ยังมีโอกาสเกิดผลข้างเคียงได้แก่

  • เลือดออกมากกว่าผิดปกติ
  • เกิดการติดเชื้อจากบาดแผลบนหนังศีรษะ
  • หนังศีรษะเกิดการบวมช้ำ
  • พบรอยช้ำบริเวณรอบดวงตา
  • รู้สึกชา หรือไม่มีความรู้บริเวณที่ปลูกผมถาวร
  • มีอาการคันบาดแผล
  • เกิดแผลตกสะเก็ด หรือมีน้ำเหลืองบริเวณที่ปลูกผม
  • เกิดอาการอักเสบ หรือติดเชื้อที่ต่อมรูขุมขน
  • มีแผลเป็นบนหนังศีรษะจากการปลูกผม

สรุป
การปลูกผมถาวรเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมากกว่าการปลูกผมธรรมชาติ เพราะได้ผลรวดเร็วทันใจ มีให้เลือกหลายวิธีทั้งวิธีปลูกผมแบบ FUT และแบบ FUE ซึ่งเป็นการศัลยกรรมปลูกผมที่กำลังมาแรง และได้รับความนิยมมาก ใช้เวลาการผ่าตัดไม่นาน เจ็บน้อย หายเร็ว มีผลลัพธ์การปลูกที่น่าพอใจ ไม่ทิ้งรอยแผลเป็นที่น่าเกลียด ช่วยแก้ปัญหาศีรษะล้านอย่างได้ผล

210
แม่และเด็ก | Child / IUI ราคาพิเศษจาก Beyond IVF
« เมื่อ: พฤษภาคม 19, 2023, 05:03:02 PM »
iui ราคา

การแก้ปัญหาภาวะการมีบุตรยาก จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปสำหรับทุกคน ถ้าทุกคนสามารถมีโอกาสเข้าถึงการรักษาภาวะผู้มีบุตรยากด้วยวิธีการ IUI หรือการผสมเทียม ที่จะช่วยเพิ่มเปอร์เซ็นต์ในการตั้งครรภ์ ซึ่ง Beyond IVF มีโปรโมชัน IUI ราคาพิเศษที่ใครๆก็สามารถทำได้ เพื่อให้ทุกครอบครัวได้รอต้อนรับสมาชิกใหม่รับปีใหม่นี้

หลักการของ IUI

หลักการของ IUI (Intra-Uterine Insemination) คือ การคัดเชื้ออสุจิที่แข็งแรงจากตัวอย่างน้ำเชื้อที่เก็บจากฝ่ายชาย เพื่อนำไปฉีดเข้าโพรงมดลูกของฝ่ายหญิง เพิ่มโอกาสสำเร็จจากการปฏิสนธิทางธรรมชาติ 15% โดยวิธีการ IUI เป็นวิธีการผสมเทียมที่มีความใกล้เคียงกับวิธีปฏิสนธิทางธรรมชาติมากที่สุด

IUI ราคาพิเศษเพื่อทุกคนที่ประสบภาวะมีบุตรยาก

เพื่อให้ทุกคนมีโอกาสได้รับการรักษาด้วยวิธี IUI ศูนย์รักษาผู้มีบุตรยาก IVF จึงเสนอแพกเกจ IUI ราคาพิเศษ ในราคาที่ใครๆก็สามารถจับต้องได้ โดยทั้งแพกเกจจะครอบคลุมการรักษาตั้งแต่ต้นจนจบ ราคาอยู่ที่ 20,000 บาท นอกจากผู้ที่มีภาวะมีบุตรยากจะสามารถรับการรักษาด้วยราคาย่อมเยาแล้ว แต่เป็นการรักษาจากสถานพยาบาลที่มีประสบการณ์ในการรักษาเคสต่างๆมากกว่า 20 ปี และมีทั้งบุคลากร รวมไปถึงอุปกรณ์ ที่ทันสมัย

เพราะ Beyond IVF อยากให้ทุกคนที่ประสบภาวะมีบัตรยาก มีโอกาสได้ลองรับการรักษาแบบ IUI อย่างถ้วนหน้า จึงได้ตั้งโปรโมชัน IUI ราคาพิเศษ ซึ่งแม้แต่ครอบครัวที่ทุนทรัพย์ไม่มาก แต่ก็ยังสามารถมีโอกาสได้ลองใช้บริการจากศูนย์รักษาผู้มีบุตรยากที่มีทั้งประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญกว่า 20 ปี เพื่อช่วยให้ทุกคนได้อุ้มลูกของตัวเอง

เราจะได้อะไรบ้างจากแพกเกจ IUI ของ Beyond IVF

ในแพกเกจ IUI ราคา 20,000 บาทของ Beyond IVF จะครอบคลุมค่ายา ค่ารักษา รวมไปถึงค่าบริการต่างๆ ตั้งแต่เริ่มการรักษาจนจบทุกขั้นตอนในการรักษา

1. ค่ายากระตุ้นไข่แบบรับประทาน
2. ค่ายาฉีดเพื่อเร่งให้ไข่สุก
3. อัลตราซาวด์ 2 ครั้ง เพื่อคอยติดตามดูขนาดของไข่
4. เก็บน้ำเชื้อ และการคัดเลือกเซลล์อสุจิ
5. ฉีดน้ำเชื้อเข้าสู่โพรงมดลูก
6. ค่าวิชาชีพของแพทย์ตลอดกระบวนการ
7. ค่าพยาบาล และนักวิทยาศาสตร์เฉพาะทาง
8. ค่าเครื่องมือ และอุปกรณ์

โดยก่อนตัดสินใจเข้ารับการรักษา ทาง Beyond IVF เปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจได้เข้าปรึกษาแพทย์ก่อน ซึ่งไม่คิดค่าใช้จ่าย

บริการอื่นๆ ที่ไม่รวมอยู่ในแพกเกจ

แต่จะมีบริการเพิ่มเติมบางส่วนที่ไม่ได้รวมอยู่ในแพกเกจ คือ ค่าตรวจร่างกายประเมินภาวะการมีบุตรยาก ก่อนเริ่มรักษา แพทย์จำเป็นต้องทำการตรวจร่างกาย เพื่อประเมินว่าภาวะการมีบุตรยากของคนที่จะเข้ารับการรัษา เกิดจากสาเหตุอะไร ซึ่งในการบริการส่วนนี้จะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 14,000 บาท ซึ่งจะได้รับการตรวจแบบครบวงจร มั่นใจได้ว่าต้องเจอสาเหตุของภาวะมีบุตรยากอย่างแน่นอน

ขั้นตอนการทำ IUI ของ Beyond IVF

ขั้นตอนที่ 1 : การกระตุ้นไข่

การกระตุ้นไข่จะทำโดยการทานยา เพื่อเตรียมความพร้อมของไข่ก่อนทำการปฏิสนธิ ซึ่งขั้นตอนนี้ต้องทำภายในช่วง 3 วันแรกของประจำเดือน

ขั้นตอนที่ 2 : การตรวจด้วยอัลตราซาวด์

การตรวจขนาดของไข่ โดยใช้วิธีการอลัตราซาวด์ เพื่อความละเอียดในการเก็บข้อมูล

ขั้นตอนที่ 3 : การฉีดยากระตุ้นไข่ตก

แพทย์จะฉีดยากระตุ้นเพื่อให้ไข่ตกเพื่อเตรียมดำเนินการขั้นตอนต่อไป ก็คือ ฉีดน้ำเชื้อเข้าไปยังโพรงมดลูก ซึ่งต้องทำภายในเวลา 24 - 40 ชั่วโมง

ขั้นตอนที่ 4 : การเตรียมอสุจิ

เก็บน้ำเชื้อไปคัดคุณภาพน้ำเชื้อในห้องปฏิบัติการเฉพาะ เพื่อนำไปฉีดยังโพรงมดลูกต่อ

ขั้นตอนที่ 5 : การฉีดน้ำเชื้อ

การฉีดน้ำเชื้อที่คัดไว้เข้าไปยังโพรงมดลูก โดยผ่านทางสายขนาดเล็กที่มีความยาว เพื่อลดการสัมผัสของอสุจิไม่ให้โดนเชื้อต่างๆบริเวณปากมดลูกที่อาจส่งผลต่ออสุจิได้

ขั้นตอนที่ 6 : ตรวจการตั้งครรภ์

หลังจากผ่านกระบวนการ IUI ไปแล้ว 3 สัปดาห์ ถึงจะรู้ผลลัพธ์ จึงค่อยไปทำการตรวจครรภ์

ขั้นตอนการทำ iui

ทำไมต้อง IUI ที่ Beyond IVF ?

ประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญนานกว่า 20 ปี รวมไปถึงบุคลากรทางการแพทย์ นักวิทยาศาสตร์เฉพาะทาง อุปกรณ์ทันามัยพร้อมใช้งาน ไปจนถึงสถานประกอบการที่มีความสะอาด ปลอดภัย ได้มาตรฐาน ทำให้ Beond IVF ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามากมาย จึงกะรันตีได้ว่าถ้าได้มาทำ IUI ที่ Beyond IVF จะไม่ผิดหวังแน่นอน

สรุป

เมื่อโอกาสมาถึงก็ต้องคว้าไว้  หากใครที่มีภาวะมีบุตรยาก หรือคิดว่าตัวเองมีความเสี่ยงที่จะเป็นภาวะดังกล่าว ขออย่าปล่อยโอกาสให้หลุดลอยไป Beyond IVF พร้อมให้คำปรึกษา ให้บริการการรักษาด้วยการผสมเทียม IUI ราคาพิเศษ

IUI ราคาพิเศษ

211
ในยุคที่ปัจจุบันมีเทคโนโลยีวิทยาการก้าวหน้า หลายสิ่งที่เป็นไปได้ยากเริ่มที่จะเป็นไปได้ สิ่งที่คนฝันอยากจะมี อยากจะเป็น ก็เริ่มที่จะเป็นไปได้...

คุณผู้หญิงหลายคนมีความฝัน หนึ่งในฝันนั้นคงจะเป็นเรื่อง การที่จะได้เป็นแม่คน แต่ด้วยภาระหน้าที่ที่ยังไม่เอื้ออำนวยต่อการมีบุตร ทำให้ไม่สามารถตั้งครรถ์ได้ในตอนนี้ ต้องขอบคุณเทคโนโลยี “การฝากไข่” ในปัจจุบัน ที่ทำให้ความฝันของคุณผู้หญิงที่ต้องการจะมีบุตรในเวลาที่ตัวเองพร้อมนั้นเป็นจริงและสามารถวางแผนครอบครัวในอนาคตได้ตามที่ต้องการ
   
ในบทความนี้ เราจะมาไขข้อข้องใจต่างๆที่ คุณผู้หญิงหลายคนสงสัยเกี่ยวกับการฝากไข่กัน

ฝากไข่

ฝากไข่ คืออะไร ?

การฝากไข่ คือ การเก็บรักษาไข่ที่เป็นเซลล์สืบพันธุ์ของเพศหญิง โดยการ แช่แข็งเซลล์ไข่ เรียกว่า Egg freezing หรือ Oocyte cryopreservation เพื่อให้เซลล์หยุดทำงานเพราะเจออุณหภูมิที่ต่ำมากๆ และเก็บไข่ ไว้ในห้องปฏิบัติการ โดยไข่ที่ถูกแช่แข็งนี้สามารถนำออกมาละลาย และ นำไปปฏิสนธิกับอสุจิคุณพ่อที่ได้ทำการฝากเชื้ออสุจิไว้ หรือ นำไปทำกระบวนการเด็กหลอดแก้ว รวมถึงนำไปทำอิกซี่(ICSI) ได้

ขั้นตอนการฝากไข่ มีอะไรบ้าง ? มีกี่ขั้นตอน?

วิธีฝากไข่ แบ่งได้เป็น 3 ขั้นตอนโดยสามารถแบ่งได้ดังนี้

1. ขั้นตอนกระตุ้นรังไข่ - ในขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนเริ่มต้นเพื่อเตรียมตัวให้คุณผู้หญิงมีสภาพร่างกายที่พร้อมก่อนทำการฝากไข่ โดยการให้ฮอร์โมนด้วยการ ฉีดกระตุ้นรังไข่เพื่อให้ร่างกายสามารถผลิตเซลล์ไข่ออกมาในปริมาณที่เพียงพอและเหมาะสมในการเก็บรักษา โดยในขั้นตอนนี้แพทย์จะมีการเช็คร่างกายต่างๆ เพิ่มเติมเพื่อให้แน่ใจว่าร่างกายถึงเวลาที่พร้อมในการเก็บไข่

2. ขั้นตอนเก็บไข่ - ในขั้นตอนนี้ แพทย์จะอัลตราซาวน์ก่อนเพื่อหาตำแหน่งใข่ตก จากนั้นจึงใช้เครื่องมือทางการแพทย์ดูดไข่ออกมาผ่านทางช่องคลอด ถ้าหากอัลตราซาวน์แล้วไม่พบไข่ แพทย์จะอาจจะใช้การผ่าตัดช่องท้องเพื่อนำไข่ออกมา

3. ขั้นตอนการแช่ไข่ - ในขั้นตอนนี้ หลังจากแพทย์ได้เซลล์ไข่มาแล้ว จะนำเซลล์ไข่จากในตัวคุณผู้หญิงมาแช่แข็งด้วยไนโตรเจนเหลวที่มีอุณหภูมิต่ำมากถึง -195 องศาเซลเซียส ในห้องปฏิบัติการ ที่จะได้รับการดูแลโดยทีมนักวิทยาศาสตร์ เพื่อให้เซลล์ไข่หยุดการเจริญเติบโตและหยุดทำงาน

ใครที่ควรฝากไข่ ?

ในการฝากไข่ ผู้หญิงที่เข้าข่ายกลุ่มเหล่านี้ ควรที่จะฝากไข่
 
  • ผู้หญิงที่ยังไม่พร้อมตั้งครรถ์ สำหรับผู้หญิงยังมีแผนในชีวิต ยังไม่อยากให้การตั้งครรถ์มาเป็นอุปสรรคในการไล่ตามความฝัน และ ผู้หญิงที่มีอายุน้อยกว่า 35 ปี การฝากไข่จึงเป็นวิธีที่ทำให้ คุณผู้หญิงสามารถวางแผนชีวิตได้ง่ายขึ้น
  • ผู้หญิงที่ครอบครัวมีประวัติประจำเดือนหมดไว คำว่าหมดไวคือ หมดตอนอายุ 47-50 ปี เพราะหากคนในครอบครัวเรามีประวัติประจำเดือนหมดไวมาก่อน นั่นหมายความว่าตัวคุณผู้หญิงเองก็มีโอกาสที่ประจำเดือนหมดไวด้วยเช่นกัน ซึ่ง ส่งผลให้ระยะเวลาในการตั้งครรถ์ได้ของคุณผู้หญิงสั้นลง
  • ผู้หญิงที่กำลังรักษาโรคมะเร็ง เป็นที่รู้กันดี การรักษาโรคมะเร็งจำเป็นต้องใช้กระบวนการฉายแสง หรือ เคมีบำบัด ซึ่งการรักษาเหล่านี้ ส่งผลต่อระบบสืบพันธุ์ของเพศหญิงทำให้มีผลต่อปริมาณและคุณภาพเซลล์ไข่ ถ้าผู้หญิงฝากไข่ไว้จะทำให้สามารถมีบุตรได้อีกครั้งหลังได้รับการรักษาโรคมะเร็งแล้ว
  • ผู้หญิงที่ใช้วิธีเด็กหลอดแก้วไม่สำเร็จ ถ้าในกรณีนี้แพทย์จะแนะนำให้เข้ารับการฝากไข่แทน
  • ผู้หญิงที่มีปัญหาพันธุกรรมกับรังไข่ เช่น กลุ่มเทอร์เนอร์ซินโดรม (Turner Syndrome) หรือ กลุ่มอาการโครโมโซมเปราะบาง  (Fragile X Syndrome) ซึ่งกลุ่มอาการเหล่านี้ส่งผลให้รังไข่เสื่อมเร็ว การฝากไข่จึงเป็นทางออกที่สำคัญสำหรับคุณผุ้หญิงที่อยู่ในกลุ่มนี้
  • ผู้หญิงที่มีโรคที่ส่งผลต่อระบบสืบพันธุ์ ควรขอคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับการฝากไข่
  • ผู้หญิงต้องเข้าผ่าตัดรังไข่ เนื่องจากโรคที่เกิดแถวรังไข่ ควรได้รับการฝากไข่

ฝากไข่ อายุเท่าไรถึงทำได้ ?

โดยทั่วไปแล้ว อายุที่เหมาะสมในการฝากไข่คือ อายุน้อยกว่า 35 ปี เพราะยังอยู่ในช่วงวัยที่แข็งแร็งและไข่ยังมีคุณภาพที่ดีและสามารถผลิตได้ในปริมาณที่พอเหมาะ ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว จำนวนไข่หลังได้รับการฉีดยากระตุ้นไข่จะอยู่ที่ 10-20 ฟอง ขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของผู้หญิง

การฝากไข่ ราคาเท่าไร ? แพงไหม ?

หลายท่านคงมีข้อสงสัยว่า ค่าใช้จ่าย ราคาการฝากไข่ เท่าไร ทางเรามีคำตอบ...
การคิดค่าใช้จ่ายในการฝากไข่ จะถูกแบ่งเป็นสองส่วน โดยส่วนแรก จะเป็นค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการทำการฝากไข่ จะอยู่ที่ประมาณ 100,000-150,000 บาท  ส่วนที่สอง จะเป้นค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายรายปี เป็นค่าฝากไข่รายปี ประมาณ 1,500-5,000 บาท ต่อปี ขึ้นอยู่กับโรงพยาบาลและปริมาณไข่ที่ต้องการเก็บรักษา

รวม คำถาม ข้อสงสัย เกี่ยวกับการฝากไข่

ยังมีคำถามเกี่ยวกับการฝากไข่ อยู่ใช่ใหม ? ข้างล่างนี้มีคำตอบของอีกหลายคำถามที่ยังค้างคาใจทุกท่านอยู่ เชื่อว่าพออ่านแล้ว ทุกท่านคงจะได้คำตอบสำหรับคำถาม หรือ ข้อสงสัยที่ของท่านได้

  • ฝากไข่เก็บได้กี่ปี ?
สำหรับเรื่องนี้ คุณผู้หญิงอย่าได้กังวลไป คุณผู้หญิงสามารถเก็บไว้ตราบเท่าที่มีสารรักษาความเย็นเพียงพอ จากข้อมูลปัจจุบัน แม้จะนำไข่ที่แช่แข็งไว้นานเกิน 10 ปี มาใช้ ก็ยังประสบความสำเร็จด้วยดี

  • ฝากไข่เจ็บไหม ?
“ฝากไข่เจ็บไหมคะ คุณหมอ” คำถามนี้จะต้องคำถามยอดฮิตที่คุณผู้หญิงต้องคุณหมอแน่ๆ แต่สำหรับคนที่อ่านมาจนถึงตรงนี้ทางเรามีคำตอบ…
การฝากไข่นั้น เรียกว่าไม่ได้เจ็บเท่าการผ่าตัดทั่วไป หรือแม้กระทั่งตอนฉีดฮอร์โมน ฉีดยากระตุ้นไข่ ก็ไม่ได้เจ็บขนาดนั้น สำหรับบางคน การฉีดสิวอาจจะเจ็บกว่า และ ช่วงดูดไข่ออกมาเก็บเป็นขั้นตอนที่หลายคนคงคิดว่า น่าจะเจ็บที่สุด แต่จริงๆแล้ว วิสัญญีแพทย์จะให้ยาสลบเราทำให้เราไม่รู้สึกตัว  เมื่อไข่ถูกดูดมาเก็บแล้ว และ ฤทธิ์ยาสลบหมด อาจจะเป็นช่วงที่ลำบากที่สุด เพราะอาจจะมีอาการปวดท้องน้อย ปวดหลัง คล้ายปวดประจำเดือน สามารถทานยาเพื่อบรรเทาได้

  • ทันไหมที่จะฝากไข่ตอนอายุ 40
หลายคนคงมีคำถามว่า อายุที่เหมาะกับการฝากไข่ คือต่ำกว่า 35 ปี แล้วถ้าอายุ40 ปีละ ฝากได้หรือไม่ ? คำตอบคือ ฝากได้ เพียงแต่ ปริมาณที่ต้องดูดไข่ออกมา จะต้องมากขึ้น ด้วยความที่อายุได้เลยวัยที่เหมาะสมไปแล้ว ประสิทธิภาพของไข่และปริมาณที่ร่างกายสามารถผลิตไข่ได้จะลดลง ทำให้ต้องฉีดยากระตุ้นไข่เกิน 1 ครั้ง โดยทั่วไป หากอายุเกิน 40 เฉลี่ยแล้วต้องใช้ไข่จำนวน 61 ฟอง เพื่อบุตร 1 คน แต่เมื่อเก็บไข่สำเร็จแล้ว แพทย์จะแนะนำว่าให้ใช้ไข่ที่เก็บไว้ก่อนอายุ 50 ปี เพื่อเลี่ยงปัญหาโรคแทรกซ้อนจากอายุที่มากขึ้น

  • ฝากไข่ที่ไหนดีคะ ?
ไม่ต้องไปหาอ่านที่ไหนไกล สำหรับคุณผู้หญิงที่อยากจะฝากไข่แต่ไม่รู้ไปฝากที่ไหนดี ที่นี่มีคำตอบ มาดูกันเลย ว่าท่านอยู่ใกล้ที่ไหน…

-ศูนย์รักษาผู้มีบุตรยาก Beyond IVF พร้อมแล้วสำหรับผู้นำทางด้านการแพทย์เพื่อช่วยเหลือผู้มีบุตรยาก ด้วยทีมแพทย์คุณภาพ รวมถึง เทคโนโลยีระดับโลก เพื่อเป็นมาตรฐานใหม่ของการรักษาการมีบุตรยากในผู้ที่มีอายุมาก

หากสนใจรายละเอียดการฝากไข่กับ BeyondIVF สามารถดูรายละเอียดได้ที่ >> https://beyondivf.com/service/eggs-freeze-beyond-ivf-icsi-iui/

  • ศุนย์ผู้มีบุตรยากเจ้าพระยา-จินตบุตร โรงพยาบาลเจ้าพระยา เป็นหนึ่งในโรงพยาบาลเอกชนที่มีความพร้อมด้านเจริญพันธุ์โดยเฉพาะ เพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์และห้องปฏิบัติการที่ล้ำสมัย
  • รพ. จุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย สำหรับคุณผู้หญิงที่ประสงค์จะรับการ ฝากไข่ รพ. จุฬา สามารถติดต่อได้ที่ แผนกสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา เพื่อขอบริการการฝากไข่ได้เลย
  • รพ. รามาธิบดี สำหรับสำหรับคุณผู้หญิงที่ประสงค์จะรับการ ฝากไข่ รพ. รามา สามารถติดต่อได้ที่ ศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพรัตน์ ได้เลย
  • รพ. ศิริราช หนึ่งในโรงพยาบาลรัฐ ถ้าคุณผู้หญิงคิดว่า โรงพยาบาลเอกชนนั้นมีค่าใช้จ่ายสูงเกินไป เราขอแนะนำที่นี่เลย
  • รพ. บำรุงราษฎร์ หนึ่งในโรงพยาบาลที่ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพ มีศูนย์เจริญพันธุ์ โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ กว่า 20 ท่าน พร้อมให้คำแนะนำสำหรับคุณผู้หญิงทุกท่าน

การวางแผนชีวิตนั้นถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญ และ การฝากไข่นั้นถือเป็นสิ่งที่ทำให้คุณผู้หญิงสามารถวางแผนในชีวิตได้ง่ายขึ้นและความฝันที่มีบุตรนั้นเป็นจริง  แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น อยากให้ทุกท่านอย่าลืมว่า เมื่อบุตรของ เราลืมตาขึ้นมาดูโลกแล้ว การเลี้ยงดูพวกเขาให้โตขึ้นมามีชีวิตที่ดี ด้วยความรัก ก็ถือเป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน เชื่อว่าคุณแม่ทุกคนเป็นแม่ที่ดีได้แน่นอนค่ะ

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับ ความรู้เกี่ยวกับการฝากไข่ หวังว่า จะสามารถตอบคำถามที่คุณผู้หญิงหลายท่านสงสัยได้ไม่มากก็น้อยค่ะ

การฝากไข่

212
การตามหาบ้านจากแหล่งต่างๆ ให้ได้ในราคาที่ชอบ ในแหล่งที่ใช่ จึงเป็นอีกหนึ่งในการตัดสินใจที่ค่อนข้างนาน และมีเรื่องปวดหัวตามมา วันนี้เราจึงได้รอบรวมโครงการบ้านกรุงเทพที่โดนใจท่าน มีข้อมูลอะไรบ้าง ไปดูกันเถอะ

แหล่งรวมโครงการบ้านกรุงเทพ ที่ท่านสนใจ

บ้านเป็นแหล่งที่พักผ่อนความเหนื่อยล้าจากการทำงาน หากบ้านนั้นตั้งอยู่ในกรุงเทพเป็นเมืองหลวงของประเทศไทย ที่มีผู้คนมากหน้าหลายตาเข้าอยู่อาศัย ทำงาน ติดต่อธุรกิจต่างๆ จึงส่งผลให้ราคาที่พักอาศัยในแต่ละทำเลมีราคาที่สูงตามความต้องการนั้นเอง วันนี้เรามารวบรวมข้อมูลของโครงการบ้านกรุงเทพเพื่อเป็นอีกตัวเลือกในการตัดสินใจของท่านกันเถอะ

เลือกประเภทโครงการบ้านกรุงเทพ แบบไหนดี

ควรเลือกโครงการบ้านกรุงเทพ แบบไหนดี

การตัดสินใจเลือกโครงการบ้านกรุงเทพนั้น จะขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละบุคคลที่จะเลือกสรรบ้านในฝันไม่ว่าจะเป็นทำเลที่ตั้ง การเดินทาง แหล่งสรรพสินค้านั้นเอง แต่ว่าจะมีบ้านโครงการไหนบ้างที่โดนใจท่านได้บ้างนั้น

โครงการบ้านเดี่ยวในกรุงเทพ

โครงการบ้านเดี่ยวในกรุงเทพในโครงการบ้านกรุงเทพนั้น จะมีให้เลือกอย่างหลากหลายทั้งราคาที่โดนใจหรือสไตล์ตกแต่ง ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยวมือสองที่ตั้งอยู่ในเมือง บ้านหรูใจกลางเมือง ซึ่งบางโครงการอยู่ในแหล่งธุรกิจเหมาะกับผู้ที่ต้องการอาศัยในย่านยอดนิยม ส่วนบางโครงการตั้งอยู่นอกเมืองเพื่อเป็นแหล่งพักผ่อนที่เงียบสงบเหมาะกับการเรียนรู้ต่อบุตรของท่าน โดยมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ไม่เกิน 1.5 ล้านจนถึง 40 ล้าน ที่พร้อมให้ท่านได้คัดเลือกอย่างคุ้มค่าแน่นอน

โครงการทาวน์โฮมในกรุงเทพ

เลือกทาวน์โฮมในโครงการบ้านกรุงเทพ มีราคาเริ่มตั้งแต่ไม่เกิน 8 แสนจนถึงราคา ไม่เกิน 4 ล้านบาท โดยมีทั้งแบบทาวน์เฮ้าส์ชั้นเดียว สองชั้น ซึ่งสามารถเลือกห้องนอน 2 – 5 ห้องนอนได้อย่างลงตัว ซึ่งท่านสามารถเลือกบ้านในฝันได้อย่างแน่นอน

โครงการคอนโดในกรุงเทพ

การเลือกคอนโดในโครงการบ้านกรุงเทพนั้น สำหรับวัยทำงานส่วนใหญ่มักมองหากที่อยู่อาศัยที่สะดวกต่อการเดินทางด้วยรถส่วนตัว หรือบริการขนส่งสาธารณะใกล้กับรถไฟฟ้า BTS MRT ซึ่งมีทั้งคอนโดมือหนึ่ง และคอนโดมือสองให้เลือกสรรได้อย่างลงตัว ซึ่งมีราคาที่พร้อมให้เลือกตามตวามต้องการที่ตรงใจสำหรับท่านอย่างแน่นอน

พื้นที่บ้านในฝันในโครงการบ้านกรุงเทพมีที่ไหนบ้าง

ย่านศูนย์กลางธุรกิจ หรือย่าน CBD (Central Business District)

: โดยในโซนนี้จะเป็นแหล่งที่มีศักยภาพสูง ซึ่งเป็นโซนที่ราคาที่พักจะพุ่งแรงตั้งแต่ 15 – 50 ล้านบาทได้เลย เนื่องจากเป็นที่ต้องการยอดนิยมทั้งชาวไทย ชาวต่างชาติ ไม่ว่าจะด้วยการเดินทาง แหล่งทำงานหรือแหล่งประกอบธุรกิจ เขตเริ่มต้นตั้งแต่เขตสาทร บางรัก ปทุมวัน ยานนาวา บางคลองแหลม พระนคร ป้อมปราบศัตรูพ่าย และเขตสัมพันธวงศ์ เป็นต้น

ย่านชั้นในของกรุงเทพฯ

: แหล่งที่พักอาศัยจากโครงการบ้านกรุงเทพที่ได้รับความนิยมรองลงมาจากย่านธุรกิจ ซึ่งมีราคาเริ่มต้นตั้ง 2 – 10 ล้านบาทที่ราคาจะขึ้นอยู่กับตัวแบบของบ้าน การตกแต่งในแต่ละโครงการ รวมไปจนถึงการเข้าถึงการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า เขตที่อยู่ในย่านนี้ได้แก่เขตบางซื่อ จตุจักร ดุสิต พญาไท ราชเทวี ห้วยขวาง ดินแดง ลาดพร้าว วังทองหลาง บางกะปิ บึงกุ่ม และคันนายาวนั้นเอง

ย่านที่พักฝั่งธนบุรี

: ในโซนของโครงการบ้านกรุงเทพในฝั่งนี้นั้น ได้แก่ เขตธนบุรี บางกอกใหญ่ ตลิ่งชัน บางกอกน้อย ภาษีเจริญ หนองแขม คลองสาน และเขตราษฎร์บูรณะ เป็นต้น ในส่วนนี้จะเป็นย่านชุมชนเก่าที่ทำให้ท่านที่สนใจจับต้องได้ โดยมีให้เลือกคัดสรรตั้งแต่บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม ที่มีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 1 ล้านต้นจนถึง 10 บาทขึ้นไปตามแต่ลักษณะของโครงการบ้านนั้นเอง

: โซนโครงการบ้านกรุงเทพในย่านนี้ จะมีราคาที่ดินเริ่มต้นตั้งแต่ตารางวาละ 50,000 บาท หรือราคาประเมินสูงที่ 130,000 จนถึง 250,000 บาทต่อตารางวา โดยท่านสามารถเลือกบ้านในฝันที่ต้องการได้อย่างหลากหลาย ในย่านนี้จะประกอบด้วย เขตดอนเมือง หลักสี่ คลองสามวา สายไหม บางเขน และเขตหนองจอก เป็นต้น

ย่านโครงการบ้านกรุงเทพฯทางฝั่งตะวันออก

: ในส่วนของโซนโครงการบ้านกรุงเทพในย่านนี้ หากท่านมีความต้องการพักอยู่ใกล้ตัวเมืองกรุงเทพราคาบ้านจะสูงโดยตั้งแต่ประมาณไม่เกิน 4 ล้านบาทจนถึงราคาไม่เกิน 5 ล้านบาทบ้างเล็กน้อยซึ่งขึ้นอยู่กับแหล่งที่ใกล้กับความสะดวกสบายที่เข้าถึงได้ แต่หากท่านสนใจที่พักใกล้สมุทรปราการจะได้เจอราคาบ้านไม่เกิน 2 ล้านบาทได้เช่นเดียวกัน โดยเขตที่สามารถมองหาได้นั้นได้แก่ เขตมีนบุรี สะพานสูง สวนหลวง บางนา ลาดกระบัง ประเวศ สวนหลวง และเขตพระโขนง

แนะนำบ้านในฝันของโครงการบ้านกรุงเทพ ยอดความนิยมในราคาที่ใช่

บ้านมือสองสมุทรปราการ ราคา 2 ล้าน

บ้านมือสองสมุทรปราการ ราคา 2 ล้าน

ที่ตั้ง : หมู่บ้านสิรีนเฮ้าส์ บางนา (Sirinhouse Bangna) สมุทรปราการ
ราคา :  2,500,000 บาท
ประเภท : บ้านเดี่ยว  2 ชั้น มีเนื้อที่ 36 ตารางวา  กว้าง 8 เมตร พร้อมด้วย 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องโถงกลาง สามารถจอดรถได้ 1 คัน ภายในตัวบ้านแถมเครื่องปรับอากาศ 3 เครื่อง ตู้เสื้อผ้า เตียงนอน โต๊ะเครื่องแป้ง ตู้โชว์ ชั้นวางโทรทัศน์ เหล็กดัด ผ้าม่าน พร้อมด้วยกล้องวงจรปิด 4 ตัว

บ้านมือสองสมุทรปราการ ราคา 4 ล้าน

บ้านมือสองสมุทรปราการ ราคา 4 ล้าน

ที่ตั้ง : หมู่บ้านเอโทล มัลดีฟส์ บีช หนามแดง-บางพลี สมุทรปราการ
ราคา : 4,000,000 บาท
ประเภท : บ้านเดี่ยว 2 ชั้น มีเนื้อที่ 43.2 ตารางวา 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ โดยสามารถจอดรถได้ 3 คัน ประกอบด้วยห้องโถงและห้องครัว ที่ต่อเติมทั้งหลัง พร้อมทั้งมีพื้นที่สำหรับสำนักงานในการทำงานแบบ Work for home ได้อีกด้วย

บ้านมือสองสมุทรปราการ ราคา 6 ล้าน

บ้านมือสองสมุทรปราการ ราคา 6 ล้าน

ที่ตั้ง : หมู่บ้านบริทาเนีย เมกะทาวน์ บางนา (Britania MegaTown Bangna)
ราคา : ราคา 6,590,000 บาท
ประเภท : บ้านเดี่ยว 2 ชั้น มีเนื้อที่ 40.5 ตารางวา  4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ มีเนื้อที่ที่สามารถจอดรถได้ 2 คัน พร้อมทั้งแถมเครื่องปรับอากาศ 2 เครื่องภายในตัวบ้าน ซึ่งใกล้ห้างสรรพสินค้าที่สามารถเดินได้อย่างสะดวกสบาย

บ้านมือสองสมุทรปราการ ราคา 8 ล้าน

บ้านมือสองสมุทรปราการ ราคา 8 ล้าน

ที่ตั้ง : ซ. ทรัพย์บุญชัย 9 ถนน ศรีนครินทร์ บางเมือง, เมืองสมุทรปราการ, สมุทรปราการ
ราคา : 8,000,000 บาท
ประเภท : บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ในเนื้อที่ 1 งาน 1.0 ตารางวา ประกอบด้วย 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องโถง 1 ห้องครัว 1 ห้องโถงรับแขก สามารถจอดรถได้ถึง 3 คัน พร้อมทั้งแถมเฟอร์นิเจอร์ทั้งหลัง และเครื่องปรับอากาศอีก 5 เครื่อง รวมถึงใกล้กับแหล่งห้างสรรพสินค้าที่สะดวกสบายอีกด้วย

บ้านมือสองสมุทรปราการ ราคา 10 ล้าน

บ้านมือสองสมุทรปราการโดนใจ ราคา 10 ล้าน

ที่ตั้ง : บ้านเดี่ยวหลังมุม บางกอก บูเลอวาร์ด เทพารักษ์-วงแหวน สมุทรปราการ พร้อมอยู่
ราคา :  13,900,000 บาท
ราคาเช่า :  75,000 / เดือน
ประเภท : บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาด 71.0 ตารางวา มี 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ พร้อมด้วย 1 ห้องครัว 1 ห้องรับแขกท่านสามารถจอดรถได้ 2 คัน ภายในตัวบ้านจะแถมเครื่องปรับอากาศ 6 เครื่อง พร้อมกับเตียง ชุดเครื่องนอน ผ้าม่าน โคมไฟ โต๊ะรับประทานอาหาร โทรทัศน์  ตู้เย็น อีกด้วย โดยมีการเดินทางที่เชื่อมต่อถนนศรีนครินทร์ ถนนบางนา ถนนสุขุมวิท รวมถึงสนามบินสุวรรณภูมิ

สรุป

หวังว่าข้อมูลดังกล่าวจะสามารถช่วยให้ท่านได้สามารถพิจารณาตัดสินใจเลือกโครงการบ้านกรุงเทพในที่ต่างๆได้อย่างสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น หากท่านมีข้อสงสัยเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่ Line : @thebestproperty หรือ www.tb.co.th เราพร้อมที่จะไขทุกข้อสงสัยให้ท่านตลอดเวลาค่ะ


213
รับประทานอาหารบำรุงเส้นผม แก้ปัญหาผมร่วง

ปัญหาผมร่วงเป็นปัญหาที่อาจเกิดได้กับทุก ๆ คน ซึ่งมีสาเหตุหลักที่เกิดจากเส้นผมขาดสารอาหาร และวิตามินต่าง ๆ ที่ไม่เพียงพอจึงส่งผลให้เส้นผมหลุดร่วงได้ โดยในวันนี้จะมาแนะนำอาหารบำรุงผมที่มีวิตามินบำรุงผมหลายชนิด ที่มีส่วนช่วยแก้ปัญหาผมร่วงได้อย่างดี พร้อมช่วยฟื้นฟูให้ผมแข็งแรงมากขึ้น เป็นอาหารที่สามารถหาซื้อได้ไม่ยาก แถมยังมีรสชาติที่อร่อยรับประทานได้ง่าย ใครที่กำลังหาอาหารบำรุงผมอยู่สามารถติดตามในบทความนี้ได้เลย

อาหารบำรุงเส้นผมคืออะไร

การให้อาหารผม สำคัญอย่างไร

การรับประทานอาหารบำรุงผมถือเป็นสิ่งสำคัญมาก เป็นสิ่งที่ช่วยให้ผมแข็งแรงไม่หลุดร่วงได้ง่าย เพราะว่าเส้นผมนั้นต้องการสารอาหารบำรุงรากผมที่มีประโยชน์หลายชนิดเช่น วิตามิน A, B, C, ไบโอติน(Biotin), ซิงค์(Zinc), โปรตีน(Protein), โอเมกา 3(Omega-3), ธาตุเหล็ก(Iron) ซึ่งถ้าหากร่างกายขาดสารอาหารเหล่านี้ อาจส่งผลให้รากผมไม่แข็งแรง ส่งผลให้เกิดปัญหาผมร่วงตามมาได้

สารอาหารต่าง ๆ เหล่านี้นอกจากจะเป็นอาหารบำรุงผมแล้ว ยังถือว่าเป็นสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยให้สุขภาพของร่างกายดีขึ้นอีกด้วย ซึ่งอาหารที่มีสารอาหารเหล่านี้อยู่ถือว่าเป็นอาหารที่สามารถหาซื้อได้ง่าย ๆ โดยสามารถหาซื้อได้จากตลาด หรือซูเปอร์มาร์เก็ตใกล้บ้านได้เลย และเป็นอาหารที่สามารถนำมาปรุงร่วมกับอาหารชนิดอื่น ๆ เพื่อเพิ่มรสชาติให้อร่อยรับประทานได้ง่ายมากขึ้นได้ไม่ยาก

20 อาหารบำรุงผม มีอะไรบ้าง

อาหาร 20 ชนิดที่มีสารอาหารบำรุงเส้นผม

เมื่อรู้แล้วว่าอาหารบำรุงเส้นผมมีความสำคัญอย่างไร หลาย ๆ คนก็น่าจะเกิดความสงสัยแล้วว่าอาหารผมนั้น มีอะไรบ้าง ควรเลือกกินอะไรบำรุงผมดี โดยในวันนี้จะมาแนะนำ อาหารบำรุงผมมากถึง 20 ชนิด ที่มีสารอาหารต่าง ๆ มากมาย และวิตามินที่มีประโยชน์ต่อเส้นผม เพื่อเป็นตัวเลือกให้กับผู้ที่สนใจการดูแลสุขภาพผม และผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาผมร่วง หรือป้องกันปัญหาผมร่วง

1. แซลมอน

อาหารยอดฮิตที่หลาย ๆ คนชอบ ปลาแซลมอนถือว่าเป็นปลาที่มีประโยชน์ มีสารอาหารบำรุงผมมากมาย ที่ประกอบด้วย โอเมก้า 3(Omega-3), วิตามิน B12, โปรตีน(Protein) และไขมันดีที่เป็นประโยชน์ การรับประทานปลาแซลมอนจะช่วยให้เส้นผมแข็งแรงขึ้น และทำให้หนังศีรษะมีความชุ่มชื้นมากขึ้น ช่วยลดปัญหาผมร่วงได้เป็นอย่างดี

2. ไข่

อาหารสามัญที่มีติดบ้านทุกคน ไข่นั้นมีส่วนประกอบหลักคือ โปรตีน(Protein) และไบโอติน(Biotin) ที่ถือว่าเป็นอาหารบำรุงรากผมที่ดี ช่วยให้เส้นผมแข็งแรง และไม่หลุดร่วงได้ง่าย

3. อาโวคาโด

เป็นอาหารที่มีสารอาหารบำรุงผมหลายชนิด ที่ประกอบด้วยสารอาหารหลายชนิดได้แก่ วิตามิน B, วิตามิน E, วิตามิน K, ธาตุเหล็ก(Iron), ซิงค์(Zinc)  แถมอาโวคาโด ยังเป็นอาหารที่มีความพิเศษ เพราะนอกจากจะสามารถรับประทานได้แล้ว ยังสามารถนำไปหมักผมช่วยให้ผมดำดูเงางามมากขึ้นอีกด้วย ผู้ที่จะใช้อาโวคาโดหมักผม ควรลองปรึกษาแพทย์ก่อน เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดจากการแพ้

4. มันหวาน

เป็นมันที่มีรสชาติอร่อยที่มีความหวานจากธรรมชาติที่ไม่มีผลเสียต่อร่างกาย ผู้ที่เป็นเบาหวานสามารถรับประทานได้ เป็นอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายหลายอย่างเช่น บำรุงผิว, บำรุงสายตา และเป็นอาหารบำรุงผมที่มีสารอาหารที่สำคัญคือ วิตามิน A, วิตามิน C, โพแทสเซียม(Potassium)

5. ผลไม้ตระกูลเบอร์รี

เบอร์รีชนิดต่าง ๆ เช่น มัลเบอร์รี,สตรอว์เบอร์รี, บลูเบอร์รี ฯลฯ เป็นอาหารที่มีประโยชน์ ช่วยบำรุงร่างกายได้หลายอย่างเช่น บำรุงสายตา, บำรุงผิว, ช่วยระบบย่อยอาหาร, ช่วยระบบการขับถ่าย, และเป็นอาหารบำรุงผม ที่มีส่วนประกอบหลักคือ วิตามิน A, วิตามิน B, วิตามิน C, ไฟเบอร์ (Fiber)

6. หอยนางรม

อาหารทะเลที่ได้รับความนิยมสามารถกินได้สด ๆ รสชาติดี มีประโยชน์หลาย ประกอบด้วยสารอาหารหลายชนิด เช่น วิตามิน B, โอเมกา 3(Omega-3), ซิงค์(Zinc) ที่เป็นสารอาหารบำรุงเส้นผมที่สำคัญ หอยนางรมถือเป็นสัตว์ทะเล ผู้ที่แพ้อาหารทะเลไม่ควรรับประทาน

7. แคร์รอต

จัดว่าเป็นอาหารที่รับประทานได้ง่าย สามารถรับประทานได้หลายเมนู แคร์รอตนั้นประกอบด้วยสารอาหารหลายชนิดเช่น วิตามิน A, วิตามิน B, วิตามิน C, ธาตุเหล็ก(Iron), ซิงค์(Zinc) ที่เป็นสารอาหารบำรุงเส้นผม และยังมีประโยชน์อีกมาก เช่น บำรุงผิว, บำรุงกระดูก, ต้านอนุมูลอิสระ, ป้องกันโรคมะเร็ง ฯลฯ

8. อัลมอนด์

เป็นอาหารที่มีความพิเศษสามารถรับประทาน และนำมาใช้นวดผมได้ ช่วยแก้ปัญหาผมร่วงผมเสียได้ดี และยังช่วยกระตุ้นให้ผมยาวเร็วขึ้นได้อีกด้วย อัลมอนด์จึงจัดว่าเป็นหนึ่งในอาหารผม ที่ดีที่สุดชนิดหนึ่งเลย โดยมีสารอาหารที่สำคัญคือ วิตามิน E, ธาตุเหล็ก(Iron), โปรตีน(Protein) สำหรับการใช้งานนวดผม ผู้ที่มีความต้องการควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้งาน เพื่อป้องกันอันตรายกับเส้นผม ที่เกิดจากอาการแพ้ได้

9. ฟักทอง

ฟักทอง หรือเมล็ดฟักทอง ถือว่าเป็นอาหารบำรุงผมที่มีประโยชน์หลายอย่าง ทำอาหารได้หลากหลายเมนู ช่วยป้องกันไม่ให้หนังศีรษะแห้งได้เป็นอย่างดี โดยมีส่วนประกอบหลักคือ วิตามิน A, โปรตีน(Protein), ธาตุเหล็ก(Iron), ซิงค์(Zinc)

10. บรอกโคลี

เป็นผักที่มีประโยชน์มากมายต่อร่างกาย และเส้นผม สามารถป้องกันปัญหาผมร่วง ผมหงอก และผมแห้งได้ โดยมีส่วนประกอบหลักคือ วิตามิน A, วิตามิน C ที่สูงมากกว่าผักชนิดอื่น ๆ จึงถือว่าเป็นอาหารบำรุงผมที่ดี

11. ทูน่า

เป็นปลาทะเลที่มีประโยชน์ เป็นอาหารบำรุงเส้นผม เช่นเดียวกับปลาแซลมอนที่มีส่วนประกอบคือ โอเมกา 3 (Omega 3), วิตามิน B12 และไขมันดีที่เป็นประโยชน์ต่อเส้นผม

12. พริกหวาน

พริกหวาน หรือพริกหยวก เป็นพริกที่ถือว่าแทบจะไม่มีความเผ็ดเลย แถมสีสันยังน่ารับประทาน เป็นอาหารบำรุงรากผม ที่มีส่วนประกอบของวิตามิ C ที่สูงมาก มีส่วนช่วยในการบำรุง ผมร่วง ที่เกิดจากรากผมไม่แข็งแรงได้เป็นอย่างดี

13. กีวี

เป็นอาหารบำรุงผมที่ช่วยป้องกันผมร่วงได้อย่างดี กีวีนั้นมีสารอาหารที่ผมต้องการหลายอย่างเช่น วิตามิน C, วิตามิน E, ซิงค์(Zinc) และกีวียังถูกใช้ในผลิตภัณฑ์อาหารเสริมบำรุงผมหลาย ๆ ชนิดอีกด้วย โดยก่อนที่จะใช้ควรปรึกษาแพทย์ที่เชี่ยวชาญก่อน เพื่อป้องกันอาการแพ้

14. เนื้อไก่

เนื้อไก่ถือเป็นเนื้อที่มีโปรตีนสูงมาก และเป็นเนื้อที่มีราคาถูก หาซื้อได้ง่ายสามารถทำอาหารได้หลายเมนูที่เหมาะกับคนไทย ซึ่งโปรตีนนั้นมีส่วนสำคัญสำหรับเส้นผมมาก เนื้อไก่จึงถือว่าเป็นอาหารบำรุงผม ที่มีส่วนช่วยให้ผมแข็งแรงมากขึ้น

15. ถั่วแระ

เป็นถั่วที่ถือว่าเป็นอาหารบำรุงผมที่ดีชนิดหนึ่ง โดยมีส่วนประกอบสำคัญคือ โปรตีน(Protein), ธาตุเหล็ก(Iron), วิตามิน A, วิตามิน C ที่สูงมาก และเป็นถั่วที่หาซื้อได้ง่าย

16. โยเกิร์ตกรีก

เป็นโยเกิร์ตที่หลาย ๆ คนอาจจะไม่คุ้นชื่อมากนัก เป็นโยเกิร์ตที่มีส่วนผสมคล้ายกับโยเกิร์ตธรรมดา ที่ได้ดูดเอาน้ำ และเวย์ออก (เวย์คือส่วนประกอบของโปรตีน และแล็กโทส) จึงทำให้คนที่แพ้น้ำตาลแล็กโทส สามารถรับประทานได้ และยังถือว่าเป็นอาหารบำรุงเส้นผม เพราะในโยเกิร์ตกรีกมีปริมาณโปรตีนที่สูงมาก

17. ถั่วเลนทิล

ถั่วที่มีไขมันต่ำ และมีสารอาหารหลายชนิดเช่น โปรตีน(Protein), วิตามิน B, ธาตุเหล็ก(Iron) ที่สูงกว่าถั่วชนิดอื่น ๆ สองเท่า ถั่วเลนทิลจึงเป็นตัวเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการอาหารบำรุงผม และลดน้ำหนักไปด้วย

18. ถั่ววอลนัท

ถั่วที่มีประโยชน์มากมายต่อร่างกายเช่น ลดคอเลสเตอรอล, ลดความเครียด, ช่วยแก้ปัญหาการนอน, ป้องกันความจำเสื่อม ฯลฯ ซึ่งถั่ววอลนัทถือเป็นถั่วที่มีโปรตีนสูง จึงถือเป็นอาหารบำรุงผมชนิดหนึ่ง

19. ถั่วลูกไก่

เป็นถั่วที่ช่วยในการป้องกันท้องผูก ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็งลำไส้ และโรคริดสีดวงทวารได้เป็นอย่างดี และยังเป็นอาหารบำรุงเส้นผมที่ดี ถั่วลูกไก่นั้นมีสารอาหารที่สำคัญคือ วิตามิน C, โปรตีน(Protein), ไฟเบอร์(Fiber)

20. เนื้อวัว

เป็นเนื้อที่มีสารอาหารมากหลายชนิดเช่น วิตามิน B, ธาตุเหล็ก(Iron), โปรตีน(Protein) ที่สูงมาก จึงเป็นอาหารบำรุงผม และช่วยป้องกันผมร่วงได้เป็นอย่างดี

สรุป

อาหารบำรุง ผมร่วงมีหลากหลายชนิด

เพียงเท่านี้ผู้ต้องการดูแลสุขภาพเส้นผม หรือที่ประสบปัญหาผมร่วง ก็จะทราบได้ว่ามีอาหารชนิดไหนบ้างที่มีส่วนช่วยในการบำรุงเส้นผม ช่วยให้เส้นผมแข็งแรง และเงางามอีกครั้ง โดยอาหารบำรุงผมแต่ละชนิดนั้น ถือว่าเป็นอาหารที่มีราคาไม่แพง และหาซื้อได้ง่าย เหมาะกับคนทุกเพศทุกวัย แต่ก็ยังมีข้อระวังสำหรับผู้ที่แพ้อาหารบางชนิด ก่อนรับประทานควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง

214
บริษัทผลิตท่อ hdpe, โรงงาน ผลิต ท่อ pe
wwwsrpegroup.co.th/products-hdpe/

หลายคนคงเคยเกิดคำถามว่า โรงงาน ผลิต ท่อ pe คืออะไร? ผลิตท่อ pe ประเภทไหนออกมาบ้าง และท่อพลาสติกสีดำเหล่านี้สามารถนำไปใช้กับงานประเภทไหน วันนี้เราจึงได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับโรงงาน ผลิต ท่อ pe ที่ดีมาให้ทุกคนได้ทำความรู้จักกับอุตสาหกรรมโรงงาน ผลิต ท่อ pe กันมากยิ่งขึ้น ว่าโรงงานผลิตท่อมากมายนี้มีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนระบบสาธารณูปโภคของประเทศเรามากน้อยเพียงใด
ท่อ pe คือ ท่อพลาสติกพอลิเอทิลีน ที่มีความหนาแน่นสูง แข็งแรง ทนทาน และมีความยืดหยุ่น คุณสมบัติเด่น ๆ ของท่อพลาสติกพอลิเอทิลีนคงเป็นเรื่องของความทนทานต่อแสงแดดหรือแสงยูวี ความทนทานเหล่านี้สามารถยืดอายุการใช้งานของท่อ pe ให้สามารถใช้งานได้นานถึง 50 ปี ทำให้ท่อ pe เป็นทางเลือกที่สำคัญสำหรับนำมาใช้ในงานระบบงานสาธารณูปโภคกันอย่างแพร่หลาย

10 ข้อสังเกตโรงงาน ผลิต ท่อ pe ที่ดี

ผู้ผลิตท่อ hdpe
wwwsrpegroup.co.th/quality-control-system/

ท่อ pe ที่ดีจะต้องผลิตมาจากโรงงาน ผลิต ท่อ pe ที่มีคุณภาพและได้รับมาตรฐาน มอก. ซึ่งเราสามารถพิจารณาโรงงาน ผลิต ท่อ pe ที่ดีเหล่านั้นได้จากข้อสังเกต 10 ข้อ ดังนี้

  • ประสบการณ์ของโรงงานผลิตท่อpeที่อยู่ในอุตสาหกรรมมากกว่า 20 ปี ยิ่งอยู่ในแวดวงการผลิตท่อนานยิ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจต่อคุณภาพสินค้าและประสบการณ์การทำงานได้เป็นอย่างดี
  • โรงงาน ผลิต ท่อ pe ที่ดีควรได้รับการยอมรับจากภาครัฐและภาคเอกชน รวมถึงแวดวงอุตสาหกรรมผู้ผลิตท่อ hdpe/ท่อ pe
  • โรงงาน ผลิต ท่อ pe ต้องผลิตท่อตามมาตรฐานมอก.
  • โรงงาน ผลิต ท่อ pe จะต้องผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ ราคาเหมาะสม และบริการครบวงจร
  • โรงงาน ผลิต ท่อ pe จะต้องมีการพัฒนาและปรับปรุงนวัตกรรมอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างทางเลือกใหม่ๆ ให้แก่ลูกค้าภาครัฐและภาคเอกชน
  • ผู้ผลิตท่อ hdpeที่ดีมักจะทำการวิจัยเกี่ยวกับท่อด้วยความสนับสนุนจากสำนักงานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ รวมถึงสถาบันการศึกษาชั้นนำของประเทศไทย
  • โรงงาน ผลิต ท่อ pe ที่ดีจะมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านท่อที่มากประสบการณ์
  • จะต้องมีห้องปฏิบัติการแบบครบวงจรพร้อมผู้เชี่ยวชาญสำหรับการประกันคุณภาพ
  • โรงงาน ผลิต ท่อ pe ที่ดีจะผลิตนวัตกรรมใหม่ๆ ออกมาเพื่อแก้ไขปัญหาให้แก่ประเทศชาติได้เป็นอย่างดี
  • โรงงาน ผลิต ท่อ pe ที่ดีมักจะมีการให้ข้อเสนอเสริมการขายเพื่อสร้างความพึงพอใจแก่ลูกค้า รวมถึงการให้บริการให้คำปรึกษา จัดส่งสินค้าและติดตั้งที่รวดเร็ว

โรงงาน ผลิต ท่อ pe ผลิตท่อและอุปกรณ์ข้อต่ออย่างครบวงจร

โรงงานผลิตท่อpe
wwwsrpegroup.co.th/products-hdpe/

โรงงาน ผลิต ท่อ pe ส่วนใหญ่จะผลิตท่อออกมาเพื่อตอบรับความต้องการของท้องตลาดและผลิตอุปกรณ์ท่อต่างๆ เพื่อบริการลูกค้าอย่างครบวงจรและสร้างความพึงพอใจแก่ลูกค้าอย่างสูงสุด โดยโรงงาน ผลิต ท่อ pe จะผลิตท่อและอุปกรณ์อยู่ 4 ประเภทหลักๆ ได้แก่

ท่อ HDPE / ท่อ PE สำหรับระบบร้อยสายไฟฟ้า

โรงงานผลิตท่อpe จะผลิตท่อ pe สำหรับระบบร้อยสายไฟฟ้า สายเคเบิ้ล สายสัญญาณโทรศัพท์ สายไฟเบอร์ออฟติก (Fiber Optic Cable) ไม่ว่าจะเป็นงานสายไฟภาคพื้นดินหรือใต้ดินก็สามารถนำท่อ pe มาใช้ในงานระบบร้อยสายไฟฟ้าได้เช่นกัน โดยท่อ pe ระบบไฟฟ้ามักจะใช้สีคาดสีส้ม/สีขาว/สีเหลือง มีคุณสมบัติทนทานต่อแรงดัน ทนทานต่อแสงแดด ทนทานต่อแรงกดทับจากพื้นดิน ทนทานต่อปฏิกิริยาไฟฟ้า และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า 50 ปี ด้วยคุณสมบัติพิเศษเหล่านี้จึงนิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย และมักจะพบเห็นในงานของภาครัฐ เช่น การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด เป็นต้น

ท่อ HDPE / ท่อ PE สำหรับระบบน้ำ

โรงงาน ผลิต ท่อ pe สำหรับระบบน้ำ นิยมใช้ในงานการประปา เกษตรกรรมชลประทาน การลำเลียงน้ำ และน้ำดื่ม​ ซึ่งท่อ pe ในระบบน้ำมักจะใช้ผิวท่อสีดำคาดด้วยสีฟ้า ผิวเรียบมันเงา ไม่เป็นสนิม มีความสามารถทำให้ของเหลวไหลผ่านได้เป็นอย่างดี มีความเหนียว ทนทานต่อการกดทับจากพื้นดิน ทนทานต่อแสงแดด น้ำหนักเบา และมีความปลอดภัยสูงตามมาตรฐานมอก.982-2556 มาตรฐานนี้สำหรับผลิตท่อน้ำดื่มที่ใช้ส่งน้ำเพื่อการบริโภค จึงนิยมใช้ในงานวางท่อน้ำของทางภาครัฐ เช่น การประปาส่วนภูมิภาค การประปานครหลวง และกรมชลประทาน เป็นต้น

อุปกรณ์ข้อต่อท่อ PE และเครื่องเชื่อมท่อ

อุปกรณ์ข้อต่อท่อ pe ก็เป็นอุปกรณ์สำคัญสำหรับงานท่อระบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นท่อ pe ระบบร้อยสายไฟฟ้าหรือระบบน้ำ ทางโรงงาน ผลิต ท่อ peผลิตอุปกรณ์ข้อต่อเหล่านี้จากพลาสติกพอลิเอทิลีนเช่นเดียวกันกับตัวท่อและผลิตตามมาตรฐานมอก.982-2556 ซึ่งอุปกรณ์ข้อต่อแต่ละระบบจะใช้ที่คาดสีตามประเภทการใช้งาน และมีอุปกรณ์ข้อต่อหลายแบบ เช่น อุปกรณ์ข้อต่อระบบน้ำแบบสวมอัด อุปกรณ์ pe ระบบน้ำแบบเชื่อม เป็นต้น ในส่วนของเครื่องเชื่อมท่อโรงงานผลิตท่อ pe ผลิตออกมาด้วยกัน 2 แบบ ได้แก่ เครื่องเชื่อมท่อแบบเชื่อมชน และเครื่องเชื่อมท่อแบบใช้กระแสไฟฟ้า ซึ่งเครื่องเชื่อมทั้งสองมีการใช้งานที่ง่ายและมีความสามารถทำให้ผิวท่อเชื่อมต่อกันอย่างสมบูรณ์เรียบเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน ทำให้สามารถรองรับการไหลของของเหลวและรองรับแรงดันที่เกิดในท่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ท่อลอนพอลิเอทิลีนเสริมเหล็กและอุปกรณ์

ท่อลอนพอลิเอทิลีนเสริมเหล็กและอุปกรณ์

ท่อลอนพอลิเอทิลีนเสริมเหล็ก หรือที่เรียกว่า ท่อโปรไพ้พ์ (PROPIPE) เป็นท่อระบายน้ำที่ผลิตจากพลาสติกพอลิเอทิลีนเสริมด้วยแผ่นเหล็กลอน เพื่อลดแรงกระแทกจากรถบรรทุกหรือแรงกดทับจากพื้นดิน มักใช้ในงานท่อระบายน้ำหรือรวบรวมน้ำเสียใต้ดิน โดยที่โรงงานผลิตท่อpeจะผลิตท่อลอนพอลิเอทิลีเสริมเหล็กตามมาตรฐาน ASTM F2435-15 ที่มีความยืดหยุ่น ทนทานต่อสภาพต่างๆ ตามคุณสมบัติความทนทานของท่อ pe ทั่วไป และมีอายุการใช้งานยาวนานถึง 50 ปี จึงทำให้นิยมใช้ในงานท่อระบายน้ำเนื่องจากไม่ต้องรื้อถอนขึ้นมาเพื่อซ่อมแซมเหมือนท่อประเภทอื่นๆ

สรุป

ท่อ pe ที่ใครหลายๆ คนมักจะเห็นการใช้งานตามระบบร้อยสายไฟฟ้าที่มีลักษณะสีดำคาดด้วยสีส้มหรือสีต่างๆ แยกตามประเภทการใช้งาน ล้วนถูกผลิตออกมาจากโรงงาน ผลิต ท่อ peที่มีคุณภาพและผลิตตามมาตรฐานมอก. ซึ่งท่อ pe เหล่านี้มีคุณสมบัติสามารถทนทานต่อการใช้งานกลางแสงแดดจ้า ทนทานต่อการกัดกร่อนจากสารเคมี ทนทานต่อการกดทับ และที่สำคัญมีความปลอดภัยสูงป้องกันการรั่วซึมได้เป็นอย่างดี และมีอายุการใช้งานที่คงทนยาวนาน ภาครัฐและเอกชนจึงนิยมใช้ในงานระบบสาธารณูปโภคเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในประเทศ


215
ผลิตผลิตภัณฑ์จากโรงงานผลิตท่อ HDPE

ท่อโพลีเอทิลีนความหนาแน่นสูง หรือ HDPE เป็นเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการใช้งานต่างๆ เช่น การจ่ายน้ำ การจ่ายก๊าซ ท่อร้อยสายไฟฟ้า การกำจัดสิ่งปฏิกูล และอื่นๆ HDPE pipe เป็นที่ต้องการมากกว่าท่อชนิดอื่นๆ เนื่องจากมีคุณสมบัติทั้งความยืดหยุ่น มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน และมีความทนทานต่อการกัดกร่อนจากสารเคมี

ซึ่งการหาโรงงานผลิตท่อ HDPE ที่มีคุณภาพก็เป็นสิ่งที่จำเป็น เพื่อให้เจ้าของโรงงานต่างๆ สามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน นั้นเป็นเหตุผลที่ทำให้บทความนี้ เราจะมาพูดถึงประเภทของท่อ HDPE สำหรับการใช้งานด้านต่างๆ จากบริษัทผลิตท่อ hdpe ชั้นนำกันครับ

โรงงานผลิตท่อ HDPE ที่ดีควรเป็นอย่างไร และควรมีปัจจัยการผลิตอะไรบ้าง
เมื่อมองหาโรงงานผลิตท่อ HDPE สิ่งสำคัญคือต้องคำนึงถึงปัจจัยหลายอย่าง เพื่อให้แน่ใจว่าคุณได้รับผลิตภัณฑ์ที่เชื่อถือได้และมีคุณภาพสูง เพื่อให้ท่านมั่นใจได้ว่า ท่อที่ท่านซื้อมาจำใช้งานได้อย่างยาวนาน คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป โดยโรงงานผลิตท่อ HDPE ที่ดี ควรมีองค์ประกอบต่างๆ ดังนี้

ใช้วัสดุคุณภาพสูงเพื่อความทนทานและอายุการใช้งานที่ยาวนาน
เทคโนโลยีนวัตกรรมขั้นสูงและเครื่องจักรผลิตท่อที่มีประสิทธิภาพอย่างสม่ำเสมอผู้ผลิตท่อ hdpe ควรมีบุคลากรที่มีทักษะและประสบการณ์
ระบบควบคุมคุณภาพเพื่อให้แน่ใจว่า แต่ละท่อเป็นไปตามมาตรฐานของข้อกำหนดท่อ peก่อนออกจากโรงงาน

โรงงานผลิตท่อ HDPE สามารถทำท่อประเภทใดออกมาได้บ้าง
โรงงานผลิตท่อ HDPE ที่ดีควรผลิต ท่อที่ใช้งานได้หลากหลาย เช่น การจ่ายน้ำ จ่ายก๊าซ การกำจัดสิ่งปฏิกูล และอื่นๆ ในส่วนนี้ เราจะมาดูรูปแบบของท่อประเภทต่างๆ ที่บริษัทผลิตท่อ hdpe สามารถผลิตได้ ตั้งแต่ท่อลูกฟูกโพลีเอทิลีน ท่อลอนพอลิเอทิลีนเสริมเหล็ก ท่อ HDPE สำหรับระบบลำเลียงน้ำ ไปจนถึงระบบท่อร้อยสายไฟฟ้า เราจะมาดูรายละเอียดเกี่ยวกับลักษณะและการใช้งานของท่อแต่ละประเภทกันครับ

ท่อ HDPE สำหรับน้ำดื่ม

  • ท่อลอนพอลิเอทิลีน เสริมเหล็กและอุปกรณ์
ท่อลูกฟูกโพลีเอทิลีนเป็นท่อที่มีความยืดหยุ่นและน้ำหนักเบาซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานต่างๆ เช่น การระบายน้ำ ท่อระบายน้ำทิ้ง และระบบระบายน้ำ เนื่องจากผลิตจากโพลีเอทิลีนความหนาแน่นสูงและมีการออกแบบเป็นลอนที่ให้ความแข็งแรงและความยืดหยุ่น จึงทำให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน อีกทั้งตัวเหล็กจะทำหน้าที่เสริมแรง และอุปกรณ์เสริม ช่วยให้แน่ใจว่าท่อมีความทนทานต่อแรงดันสูงยังเพิ่มขึ้นไปอีก

  • อุปกรณ์ HDPE และเครื่องเชื่อมท่อ
อุปกรณ์ HDPE และเครื่องเชื่อมท่อเป็นส่วนประกอบสำคัญในกระบวนการผลิตท่อ HDPE อุปกรณ์เหล่านี้ใช้เพื่อเชื่อมท่อ HDPE เพื่อให้มั่นใจว่าการเชื่อมต่อนั้นแข็งแรงและปราศจากการรั่วไหล โรงงานผลิตท่อ HDPE ควรมีข้อต่อฟิตติ้งมีหลายขนาดและหลายรูปทรง เพื่อให้เหมาะสำหรับการใช้งานที่แตกต่างกัน

  • ท่อ HDPE สำหรับระบบน้ำ​
ท่อ HDPE สำหรับระบบน้ำใช้สำหรับขนส่งน้ำดื่ม น้ำเสีย และของเหลวจากอุตสาหกรรม ท่อเหล่านี้มีความทนทาน ทนต่อการกัดกร่อน และมีพื้นผิวด้านในที่เรียบ ซึ่งป้องกันการเกิดตะกรันและการสะสมของสิ่งสกปรก ทำให้มั่นใจได้ว่าน้ำจะไหลอย่างสม่ำเสมอ โดยทั่วไปท่อแบบนี้จะมีความยืดหยุ่น เพื่อให้ติดตั้งและซ่อมแซมได้ง่าย

  • ท่อ HDPE สำหรับระบบร้อยสายไฟฟ้า
HDPE pipe ยังใช้สำหรับระบบท่อร้อยสายไฟฟ้า โดยทำหน้าที่เป็นปลอกป้องกันการรั่วไหลของสายไฟฟ้า โดยส่วนใหญ่พบเจอได้ในงานท่อลอดใต้ดิน (HDD) ท่อเหล่านี้มีน้ำหนักเบา ทนทาน และทนทานต่อสารเคมีและรังสี UV ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานกลางแจ้งและใต้ดิน

หากกำลังมองหาโรงงานผลิตท่อ HDPE ควรหาที่ไหนดี

ที่ตั้งโรงงานผลิตท่อ HDPE Srpegroup

ในการหาโรงงานผลิตท่อ HDPE ที่น่าเชื่อถือและมีชื่อเสียง มีหลายปัจจัยที่ผู้ซื้อต้องพิจารณา สิ่งสำคัญคือต้องเลือกโรงงานที่มีประวัติคุณภาพและได้รับการรับรองมาตรฐาน หนึ่งในโรงงานดังกล่าวคือ SR PE Group ซึ่งเป็นโรงงานท่อ HDPE ที่ผลิตท่อคุณภาพสูงหลากหลายรูปแบบ

ที่ SRPEมีผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้า มีห้องปฏิบัติการทดสอบที่ทันสมัยและระบบควบคุมคุณภาพเพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์แต่ละชิ้นเป็นไปตามมาตรฐานที่เข้มงวด ไม่ว่าคุณกำลังมองหาท่อ HDPE สำหรับระบบน้ำ ระบบท่อร้อยสายไฟฟ้า หรือการใช้งานอื่นๆ บริษัท เอส.อาร์ พีอี กรุ๊ป จำกัด คือตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับการใช้งานท่อในรูปแบบต่างๆ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับท่อ PE
หากคุณสนใจที่จะหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับท่อ HDPE ท่อ PE และอุปกรณ์ต่างๆ สำหรับระบบประปา ร้อยสายไฟ หรือมีคำถามเกี่ยวกับโรงงานผลิตท่อ HDPE ก็สามารถสอบถามได้ที่ www.srpegroup.co.th หรือทาง Line Official Account @srpegroup และเบอร์โทร 034-876-185-9 ได้เลยครับ

สรุป
โรงงานผลิตท่อ HDPE เป็นโรงงานผลิตที่ผลิตท่อโพลีเอทิลีนความหนาแน่นสูงสำหรับการใช้งานด้านต่างๆ ท่อที่ดีควรขึ้นชื่อในด้านความทนทาน ความยืดหยุ่น และทนต่อการกัดกร่อน ทำให้เป็นตัวเลือกยอดนิยมในอุตสาหกรรมต่างๆ เมื่อเลือกโรงงานผลิตท่อ HDPE สิ่งสำคัญคือต้องเลือกบริษัทที่มีชื่อเสียง ที่ใช้วัสดุคุณภาพสูงและมีระบบควบคุมคุณภาพที่รัดกุม SR PE Group เป็นโรงงานผลิตท่อ HDPE ที่มีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์เหล่านี้ และเป็นผู้ผลิตท่อ HDPE คุณภาพสูงหลากหลายรูปแบบ

216
ตรวจครรภ์ที่ไหนดี

หากคุณสงสัยว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์การตรวจครรภ์เป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ ที่จะทำให้คุณได้เตรียมความพร้อมตั้งแต่เนิ่น ๆ ไปจนถึงการฝากครรภ์และวางแผนทำคลอด แล้วคุณควรจะตรวจครรภ์ได้ตอนไหน ตรวจครรภ์ มีวิธี กี่แบบอย่างไรบ้าง วิธีไหนจะง่ายและให้ผลแม่นยำที่สุดไปศึกษากันได้เลย

การตรวจครรภ์ (Pregnancy Test) คืออะไร

Pregnancy Tests หรือที่ตรวจสอบการตั้งครรภ์เป็นการใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อทดสอบการตั้งครรภ์ของตัวเองที่มีหลายแบบหาซื้อได้ง่าย ๆ ตามร้านขายยาและร้านสะดวกซื้อทั่วไป การใช้งานของที่ตรวจครรภ์คือ การตรวจหาฮอร์โมน HCG ที่ร่างกายจะสร้างขึ้นหลังจากได้รับการปฏิสนธิไม่ว่าจะเกิดจากการตั้งครรภ์ธรรมชาติหรือการทำเด็กหลอดแก้วเพื่อดูค่าว่าฮอร์โมนชนิดนี้สูงหรือไม่ในช่วง 6 วันแรกหลังจากการมีเพศสัมพันธ์และจะสูงมากขึ้นในช่วง 8-12 สัปดาห์วิธีตรวจชนิดนี้ให้ความแม่นยำมากถึง 90 % จึงเป็นวิธีที่ง่ายและแม่นยำมาก ๆ สำหรับวิธีตรวจตั้งครรภ์ ด้วยตัวเอง

สัญญาณการตั้งครรภ์ สังเกตอย่างไร

ตรวจครรภ์เมื่อสังเกตเห็นสัญญาณการตั้งครรภ์

อาการที่เราเรียกติดปากกันว่าแพ้ท้องเป็นอย่างไร ถ้าหากเราสงสัยว่าตั้งครรภ์ระยะแรกจะมีอาการแบบไหนเราควรเตรียมรับมือโดยการเช็กให้ชัวร์ว่าตั้งครรภ์จริงหรือเป็นเพียงอาการผิดปกติของร่างกายได้ด้วยวิธีการตรวจครรภ์ โดยคุณควรเริ่มสงสัยว่าจะเป็นคุณแม่ได้เมื่อคุณเริ่มมีอาการดังนี้

1. ประจำเดือนไม่มาหลังจากมีเพศสัมพันธ์หรือประจำเดือนขาด

2. ปวดหัวและคลื่นไส้เนื่องจากฮอร์โมนในร่างกายที่มีความเปลี่ยนแปลงโดยสังเกตได้หลังจากการมีเพศสัมพันธ์ไปแล้วประมาณ 1 เดือนให้หลัง

3. คัด ตึงเต้านมเหมือนช่วงที่มีประจำเดือนแต่ประจำเดือนยังไม่มาโดยเกิดจากการที่เลือดไหลไปเลี้ยงบริเวณเต้านมมากทำให้เกิดอาการคัด ตึง

4. ปัสสาวะบ่อยเนื่องจากคนที่กำลังตั้งครรภ์มดลูกจะโตขึ้นและระบบไหลเวียนเลือดดีมากขึ้น

5. ท้องผูก เนื่องจากฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงจนทำให้ระบบย่อยของร่างกายทำงานได้ไม่ปกติ ช้าลง มดลูกขยายใหญ่ขึ้นจนไปกดทับลำไส้

6. อาหาร เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย เนื่องจากร่างกายทำงานหนักขึ้นเพื่อมาสร้างกระบวนการเกิดทารกในครรภ์

7. อารมณ์แปรปรวน ซึมเศร้า โกรธง่ายเป็นผลมาจากฮอร์โมนที่ขึ้นสูงขึ้นจากการตั้งครรภ์

สำหรับบางคนอาจจะไม่มีอาการเหล่านี้เลยก็เป็นได้ดังนั้นเมื่อคุณรู้ตัวว่ามีเพศสัมพันธ์โดยที่ไม่ได้ป้องกันไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็แล้วแต่คุณก็ควรที่จะตรวจครรภ์เพื่อเช็กให้แน่ใจและจะได้เตรียมความพร้อมสำหรับการเป็นคุณแม่เพื่อวางแผนการในอนาคตให้เป็นไปได้ด้วยดี

วิธีตรวจครรภ์ด้วยที่ตรวจครรภ์แต่ละแบบเป็นอย่างไร

ที่ตรวจครรภ์กี่บาทและมีกี่แบบซึ่งส่วนมากผู้หญิงหลานคนเลือกที่จะตรวจครรภ์ด้วยตัวเองเพื่อเช็คว่าท้องไหมซึ่งมีวิธีใช้แตกต่างกันการใช้ที่ตรวจครรภ์ด้วยตัวเองคือการหาค่าฮอร์โมนชนิดหนึ่งจากการตั้งครรภ์ซึ่งมีความแม่นยำสูงโดยที่ไม่ต้องตรวจซ้ำเลย

วิธีตรวจตั้งครรภ์ด้วยตัวเอง

วิธีตรวจตั้งครรภ์ด้วยตัวเองมี 4 วิธีซึ่งหาซื้อง่ายและมีวิธีใช้แตกต่างกันไปดังนี้

1. ที่ตรวจครรภ์แบบจุ่ม (Test Strip)

ที่ตรวจครรภ์แบบจุ่ม

เป็นที่ตรวจครรภ์ที่ต้องใช้แผ่นจุ่มลงไปในปัสสาวะ ที่ได้ทำการเก็บมาแล้ว จุ่มลงไปประมาณ 3 วินาทีจากนั้นนำขึ้นมารอผลตรวจประมาณ 5 นาที ก็จะได้รู้ว่าคุณตั้งท้องหรือไม่

2. ที่ตรวจครรภ์แบบหยด (Pregnancy Test Cassette)

ที่ตรวจครรภ์แบบหยด

ที่ตรวจครรภ์แบบหยดชนิดนี้หน้าตาจะคล้ายกับที่ตรวจโควิด 19 ซึ่งเราจะได้อุปกรณ์มา 3 อย่างจากกล่องคือ ถ้วยสำหรับเก็บตัวอย่างปัสสาวะ หลอดหยดและชุดตรวจครรภ์ โดยวิธีใช้ก็คือการที่เรานำปัสสาวะใส่ถ้วยแล้วดูดปัสสาวะลงที่ตัวตรวจครรภ์ 3-4 หยดหลังจากนั้นรอประมาณ 5 นาทีก็จะได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน

3. ที่ตรวจครรภ์แบบปากกา (Pregnancy Midstream Tests)

ที่ตรวจครรภ์แบบปากกา

ที่ตรวจครรภ์ชนิดนี้จะคุ้นหน้าคุ้นตาอย่างมากในหนังหรือเวลาที่นักแสดงใช้โดยวิธีใช้คือถอดฝาที่ตรวจครรภ์ออกแล้วนำไปจุ่มตามลูกศรที่ชี้ลงเหมือนปากกาให้ปัสสาวะไหลผ่าน 30 วินาทีจากนั้นรออ่านผลอีกรอบเป็นเวลา 3-5 นาที

4. ที่ตรวจครรภ์แบบดิจิทัล (Digital Pregnancy Test)

ที่ตรวจครรภ์แบบดิจิตอล

ที่ตรวจครรภ์แบบดิจิทัลจะมีหน้าจอแสดงผลแบบดิจิทัลวิธีใช้คือให้ปัสสาวะไหลผ่านเหมือนที่ตรวจครรภ์แบบปากกาเลยเพียงแค่มีหน้าจอแสดงผลเพิ่มขึ้นมา

การตรวจตั้งครรภ์กับสถานพยาบาล

ไปตรวจการตั้งครรภ์ที่โรงพยาบาลแตกต่างกับตรวจครรภ์เองอย่างไร โดยแพทย์จะทำการตรวจจากผลเลือกเพื่อหาค่าฮอร์โมน HCG จากนั้นรอฟังผลประมาณ 1-2 ชั่วโมงซึ่งนานกว่าวิธีตรวจด้วยตนเองรอเพียงแค่ 5 นาทีเท่านั้นแต่ผลการตรวจที่สถานพยาบาลจะเชื่อถือได้และแม่นยำที่สุดนั้นเอง

ตรวจครรภ์แบบไหน? ตรวจเจอการตั้งครรภ์ได้เร็วสุด

ตรวจครรภ์แบบไหนที่จะพบว่าเราตั้งครรภ์ได้เร็วที่สุดวิธีที่จะทำให้พบได้เร็วที่สุดคือการตรวจเลือดกับทางสถานพยาบาลเพราะเป็นวิธีที่แม่นยำที่สุดแล้วไม่ต้องตรวจซ้ำหลายรอบ วิธีขอตรวจครรภ์ที่สถานพยาบาลคือเข้าไปที่คลินิกหรือโรงพยาบาลใกล้บ้านคุณจากนั้นให้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าตรวจครรภ์โดยใช้ผลเลือดจากนั้นเจ้าหน้าที่จะพาไปพบแพทย์และจัดการตรวจครรภ์ให้อย่างละเอียด

ก่อนใช้ที่ตรวจครรภ์ ควรรู้อะไรบ้าง

ก่อนใช้ที่ตรวจครรภ์เราควรรู้อะไรบ้างอย่างแรกสิ่งที่ต้องคำนึงถึงเลยก็คือวิธีเก็บรักษาชุดตรวจครรภ์ควรเก็บให้ห่างจากแสงแดดและไว้ในอุณหภูมิห้องเพราะว่าถ้าที่ตรวจครรภ์โดนความร้อนหรือความชื้นอาจทำให้ผลออกมาผิดพลาดได้ ถ้าหากฉีกซองชุดตรวจครรภ์แล้วก็ควรใช้ในทันทีไม่ปล่อยไว้นานเกิน 1 ชั่วโมงไม่งั้นผลตรวจอาจออกมาคลาดเคลื่อนได้ทำให้ต้องตรวจซ้ำรอบ 2 ซึ่งจะทำให้เสียเวลาอย่างมาก

วิธีดูผลที่ตรวจครรภ์

วิธีดูที่ตรวจครรภ์

การตรวจครรภ์ด้วยตัวเองจะใช้เวลาประมาณ 5 นาที ไม่เกินจากนี้เพราะจะทำให้ผลลัพธ์ผิดพลาดได้ซึ่งวิธีอ่านผลตรวจก็ได้ง่าย ๆ โดยที่เราสามารถรู้ได้จากขีดบริเวณหน้าตลับผลตรวจครรภ์ที่มีตัวอักษร 2 ตัวคือ ตัว C (Control Line) และ T (Test Line) และถ้าผลตรวจขึ้น 1 ขีดหรือ 2 ขีดก็จะมีความหมายดังนี้

ผลตรวจครรภ์ ขึ้น 1 ขีด

ถ้าคุณพบว่าผลตรวจครรภ์ขึ้น 1 ขีดที่ตัว C แสดงว่าไม่ตั้งครรภ์อาจต้องรอตรวจซ้ำภายหลัง 3-7 วันเพื่อความมั่นใจอีกรอบ

ผลตรวจครรภ์ ขึ้น 2 ขีด

ถ้าคุณพบว่าผลตรวจครรภ์ขึ้น 2 ขีดไม่ว่าจะเป็น 2 ขีดชัด ๆ หรือ 2 ขีดจาง ๆ ที่ตัว C และ T ก็แสดงว่าคุณน่าจะมีการตั้งครรภ์แต่ถ้าผลตรวจขึ้นแบบจางมาก ๆ ก็ขอแนะนำให้คุณตรวจซ้ำอีกรอบใน 3 วันให้หลัง

ผลตรวจครรภ์ ไม่ขึ้นขีดใดๆ

ผลตรวจไม่ขึ้นขีดที่บริเวณใด ๆ เลยแสดงว่าชุดตรวจครรภ์นี้อาจเกิดความผิดพลาดจากการผลิตหรือการใช้ที่ผิดวิธีโดยคุณอาจจะต้องซื้อที่ตรวจครรภ์มาใหม่เพื่อทำการตรวจซ้ำอีกครั้ง

ผลตรวจครรภ์ แม่นยำแค่ไหน ผลผิดพลาดได้หรือไม่

ผลตรวจครรภ์โดยที่ตรวจครรภ์มีความแม่นยำแค่ไหนและจะเกิดผลผิดพลาดได้หรือไม่ ตรวจตั้งครรภ์เร็วสุดกี่วัน โดยผลตรวจจากแต่ละยี่ห้อมีการยืนยันว่าแม่นยำ 90 % ซึ่งผลลัพธ์ที่ผิดพลาดอาจจะเกิดขึ้นจากวิธีเก็บรักษาหรือวิธีตรวจที่ผิดดังนี้

  • ตรวจเร็วเกินไปโดยการตรวจหาฮอร์โมน HCG ขอแนะนำให้ตรวจหลังจาก 6 วันที่มีเพศสัมพันธ์หรือไม่ก็ 8-12 สัปดาห์เพราะช่วงเวลานี้ค่าฮอร์โมนจะขึ้นสูงทำให้ผลลัพธ์ออกมาชัดเจนยิ่งขึ้น
  • ใช้เวลาในการตรวจครรภ์ไม่เหมือนกันโดยชุดทดสอบการตั้งครรภ์มีหลากหลายรูปแบบคุณต้องอ่านคำแนะนำวิธีการใช้ให้ดี ๆ บางชนิดอาจจะต้องรอผลนานหน่อยหรือบางชนิดเมื่อเกินเวลา 5 นาทีไปแล้วผลลัพธ์จะออกมาผิดพลาดได้
  • ปัสสาวะไม่เข้มข้นมากพอการตรวจด้วยวิธีใช้ปัสสาวะแนะนำว่าให้ตรวจหลังจากการตื่นนอนเพราะในระหว่างวันถ้าหากคุณมีการดื่มน้ำมาก ๆ ความเข้มข้นของปัสสาวะจะถูกทำให้เจือจางลงได้ส่งผลให้การตรวจคลาดเคลื่อนได้
  • มีการทานยาประจำตัวหรือยาบางประเภทเช่น ยาแก้แพ้หรือยาขับปัสสาวะที่ส่งผลให้ฮอร์โมนขึ้นสูงหรือลดลงทำให้ผลลัพธ์ออกมาผิดพลาด

ที่ตรวจครรภ์ซื้อที่ไหน ราคาเท่าไหร่

ที่ตรวจครรภ์หาซื้อได้ตามร้านขายยาและร้านสะดวกซื้อทั่วไปโดยจะมีราคาแตกต่างกันไปตามแต่ละแบบเช่น ที่ตรวจครรภ์แบบจุ่มก็จะอีกราคาหนึ่ง ที่ตรวจครรภ์แบบหยดก็จะมีราคาให้เลือกหลากหลายมากกว่าซึ่งส่วนมากมีให้เลือกตั้งแต่หลักสิบขึ้นไปถึงหลักร้อยคุณสามารถดูราคาในอินเทอร์เน็ตและซื้อออนไลน์ได้เลยราคาถือว่าไม่แตกต่างกันมาก

ตรวจครรภ์ รู้ผลในระยะเวลาเท่าไหร่

ตรวจครรภ์แล้วจะรู้ผลในระยะเวลาเท่าไรโดยการตรวจครรภ์อย่างที่ทราบกันดีว่ามีหลากหลายวิธีและให้ผลลัพธ์ความแม่นยำที่แตกต่างกันโดยผลลัพธ์อาจมีการคลาดเคลื่อนได้จากการกินน้ำ การพักผ่อนน้อย การทานยาเป็นประจำ ซึ่งระยะเวลาในการอ่านผลตรวจครรภ์มีดังนี้

  • ชุดตรวจครรภ์ตามร้านสะดวกซื้อจะทราบผลได้เลยหลังจากทำการตรวจภายใน 5-10 นาที ซึ่งถือว่าสะดวกและรวดเร็ว
  • แต่ถ้าหากคุณต้องการความแม่นยำมาก ๆ ให้ไปตรวจกับสถานพยาบาลโดยใช้ผลเลือดคุณจะรู้ผลตรวจได้ภายใน 1-2 ชั่วโมงและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะให้คำแนะนำต่อไปซึ่งเราจะได้ความรู้ ความแม่นยำจากแพทย์ด้วย
  • วิธีสุดท้ายตรวจโดยเครื่อง Ultrasound คุณจะทราบผลทันทีหลังจากที่ตรวจถ้าหากคุณท้องเพียงเท่านี้คุณก็สามารถเตรียมตัวเป็นคุณแม่มือใหม่ได้แล้ว

คำถามที่พบบ่อย

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการตรวจครรภ์ถ้าตรวจครรภ์ 1 ขีดเข้ม 1 ขีดจางจะมีโอกาสท้องไหมหรือเราควรตรวจครรภ์เวลาไหนดี มีหลากหลายคำถามมากซึ่งเราได้รวบรวมและสรุปใจความสำคัญมาให้คุณแล้วดังนี้

ที่ตรวจครรภ์ขึ้น 1 ขีดเข้ม 1 ขีดจาง มีโอกาสท้องไหม?

ถ้าหากที่ตรวจครรภ์ของคุณขึ้น 2 ขีดแต่มี 1 ขีดที่สีจาง ๆ ด้วยแสดงว่าคุณมีโอกาสตั้งครรภ์ขอแนะนำให้ทำการตรวจใหม่อีกครั้งภายใน 2-3 วันให้หลัง

ตรวจครรภ์ตอนไหนแม่นสุด ?

ตรวจครรภ์ตอนไหนแม่นยำที่สุดเราขอแนะนำให้คุณตรวจครรภ์หลังจากมีเพศสัมพันธ์ไปแล้วประมาณ 6 วันหรือในช่วง 8-12 สัปดาห์หลังจากที่คุณรู้สึกว่าประจำเดือนไม่มา

ที่ตรวจครรภ์แบบจุ่ม ชัวร์ไหม ?

ชัวร์เพราะสามารถอ่านผลได้อย่างแม่นยำ ตรวจวัดค่าฮอร์โมน HCG ได้ภายใน 5 นาทีถือว่าสะดวกรวดเร็วมาก ๆ สำครับใครที่จะใช้ที่ตรวจครรภ์นี้

สามารถตรวจครรภ์ตอนเย็นได้ไหม?

สามารถตรวจครรภ์ช่วงเวลาไหนก็ได้แต่ถ้าเป็นตอนเย็นปัสสาวะของคุณอาจจะเจือจางลงได้จากน้ำหรืออาหารที่รับประทานระหว่างช่วงเวลานั้น ๆ

ข้อสรุป

เมื่อคุณตั้งครรภ์คุณสามารถตรวจครรภ์ได้ด้วยตัวเองง่าย ๆ โดยมีที่ตรวจครรภ์ให้เลือกถึง 4 แบบแต่ละแบบก็มีทั้งราคาและวิธีใช้แตกต่างกันแต่ความแม่นยำถือว่าสูงมากใกล้เคียงกันโดยการตั้งครรภ์คุณอาจจะสังเกตได้จากการที่ประจำเดือนไม่มา หรือรู้สึกคัดเต้านมเป็นสัญญาณเตือนที่จะบ่งบอกให้รู้ถึงความผิดแปลกของร่างกายทางเราขอแนะนำให้คุณตรวจครรภ์โดยด่วน ๆ เพื่อวางแผนการใช้ชีวิตและการฝากครรภ์ได้รับการดูแลจากคุณหมอในขั้นตอนต่อ ๆ ไปถ้าหากคุณตั้งครรภ์ขึ้นมา

แต่ถ้าคุณยังไม่มั่นใจตรวจหลายรอบก็ไม่ชัวร์คุณสามารถเข้าไปตรวจเลือดที่สถานพยาบาลได้เหมือนกัน สำหรับใครที่อยากตรวจแต่ไม่รู้ว่าควรไปที่ไหนดีเราขอแนะนำศูนย์รักษาผู้มีบุตรยาก BeyondIVF ถามคำถามเกี่ยวกับเรื่องการตั้งครรภ์ได้เลยฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายมีบริการฝากไข่และตรวจครรภ์ครบจบในที่เดียว


217
บ้านเดี่ยวพัฒนาการเป็นโครงการที่นักลงทุนรายใหญ่ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะย่านพัฒนาการนี้มีข้อได้เปรียบอยู่มาก เช่น มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีโครงการพัฒนาสาธารณูปโภคที่มาจากภาครัฐ มีแผนขยายสนามบินสุวรรณภูมิ ฯลฯ แต่ก็ยังไม่วุ่นวายเหมือนใจกลางกรุงเทพ
 
นอกจากนี้ย่านพัฒนาการยังเป็นย่านที่มีการผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างชีวิตแบบคนเมืองและแบบชุมชน เพราะมีทั้งย่านที่มีความเจริญสูงอยู่ด้านหน้า เช่น ทองหล่อ เอกมัย ในขณะที่ด้านหลังติดกับชุมชนริมน้ำเก่าแก่ เช่น ประเวศ เป็นต้น

บ้านเดี่ยวพัฒนาการ ทำเลที่ดีคู่ควรต่อการลงทุน

บ้านเดี่ยวพัฒนาการ
บ้านเดี่ยวพัฒนาการ อยู่ในทำเลที่แวดล้อมไปด้วยพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ที่เหมาะเป็นแหล่งฟอกปอดของกรุงเทพฝั่งตะวันออกนี้ พื้นที่สีเขียวที่กล่าวถึง ก็คือ สวนสาธารณะสวนหลวง ร.9, ศูนย์กีฬาทางน้ำบึงหนองบอน และ โครงการผ่ากลางกรุง เป็นต้น
 
โครงการบ้านแถวพัฒนาการ มีสภาพแวดล้อมที่ดีต่อสุขภาพ และยังดีต่อจิตใจ เพราะไม่ต้องเครียดเรื่องการเดินทางในชีวิตประจำวัน เนื่องจากมีเส้นทางคมนาคมที่ได้เปิดขยายเพิ่มขึ้นมาเรื่อย ๆ ลดเวลาบนท้องถนนและเพิ่มเวลาไปกับการพักผ่อน การช้อปปิ้งในพื้นที่พัฒนาการที่มีแหล่งศูนย์การค้าให้ได้ใช้บริการ เช่น London Street เป็นต้น หรืออาจจะเป็นการเดินเที่ยว หาของอร่อยที่มีตลอดเส้นทางถนนพัฒนาการ

บ้านเดี่ยวพัฒนาการ

บ้านเดี่ยวพัฒนาการ มีข้อดีอย่างไร
ถึงแม้บ้านเดี่ยวพัฒนาการจะถูกมองว่าเป็นบ้านย่านชานเมืองก็ตาม แต่มีสภาพแวดล้อมที่ดีต่อใจ มีบรรยากาศที่ดี การเดินทางก็สะดวก แถมแวดล้อมไปด้วยแหล่งอำนวยความสะดวก จึงเหมาะสำหรับการอยู่อาศัย หรือจะลงทุนก็น่าสนใจเช่นกัน
 
จุดเด่นของย่านพัฒนาการที่ทำให้รู้สึกคุ้มค่าต่อการลงทุน มี

1.การเดินทางสะดวกสบาย
ถ้าเป็นช่วงพัฒนาการตอนต้นที่อยู่ใจกลางเมืองจะห่างจากทองหล่อแค่ 5 กิโลเมตรเท่านั้น นอกจากนั้นยังอยู่ใกล้ทางด่วนที่สามารถเข้าสู่ใจกลางเมืองได้สะดวก เช่น ย่านพระราม 9 สีลม สาทร

2.อยู่ในพื้นที่สูง หนีปัญหาน้ำท่วม
เขตพัฒนาการอยู่ในพื้นที่สูง ซึ่งฝั่งกรุงเทพตะวันออกไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมใหญ่ ตอนปลายปี 2554 ทำให้บ้านแถวพัฒนาการได้รับความนิยมมากขึ้นจากกลุ่มคนที่มีทุนทรัพย์และต้องการแยกครอบครัวออกมา

3.มีสาธาณูปโภคจากภาครัฐ ที่ช่วยให้การเดินทางง่ายขึ้น
กลุ่มโครงการบ้านพัฒนาการจะอยู่ใกล้โครงการสาธารณูปโภคขนาดใหญ่หลายโครงการที่พัฒนาโดยภาครัฐ เช่น โครงการถนนพัฒนาการ-เฉลิมพระเกียรติซึ่งเป็นถนนตัดใหม่ 6 ช่องทาง, โครงการสะพานต่างระดับพัฒนาการ-อ่อนนุช, ทางเชื่อมถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า ระยะทาง 16 กิโลเมตร เหล่านี้ทำให้การเดินทางในพื้นที่สะดวกยิ่งขึ้น

4.อยู่ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ
การมีอยู่ของสนามบินสุวรรณภูมิที่กรุงเทพฝั่งตะวันออก เพิ่มเติมจากสนามบินดอนเมืองในกรุงเทพฝั่งเหนือแล้ว ทำให้มีความต้องการโยกย้ายที่อยู่อาศัยมาที่โครงการบ้านพัฒนาการกันมากขึ้น และในอนาคตก็ยังมีแผนขยายสนามบินสุวรรณภูมิ เฟส 2 จากภาครัฐ ที่คาดว่าจะทำให้มีความต้องการที่อยู่อาศัยย่านพัฒนาการมากยิ่งขึ้น

5.ขนส่งมวลชนเข้าถึงมากขึ้น
มีการขยายโครงการรถไฟฟ้า 3 สายเข้ามาในพื้นที่ เช่น สายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี เปิดใช้ปี 2566), สายสีส้ม (ศูนย์วัฒนธรรม-บางกะปิ-มีนบุรี เปิดใช้ปี 2567) และสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง เปิดใช้ปี 2566)

6.ที่ดินมีราคาไม่สูงมาก
ย่านพัฒนาการยังมีที่ดินแปลงใหญ่ที่ต้นทุนไม่ค่อยสูงจึงสามารถพัฒนาโครงการบ้านพัฒนาการขนาดใหญ่ ๆ แล้วนำมาแบ่งเฟสการพัฒนาให้ได้หมู่บ้านพัฒนาการในหลายระดับราคา ตั้งแต่ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โอม 2-3 ล้าน จนถึงบ้านเดี่ยวพัฒนาการแบบหรูราคา 10 กว่าล้านขึ้นไป ทำให้สามารถเข้าถึงทั้งกลุ่มคนทำงานจนถึงกลุ่มไฮเอนด์

7.สิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย
ใกล้ ๆ บริเวณโครงการบ้านพัฒนาการจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันที่ใช้เวลาในการเดินทางไม่นาน เช่น โรงเรียนชื่อดัง โรงพยาบาล ศูนย์การค้าชั้นนำ สวนสาธารณะ ตลาด พร้อมร้านอาหารคาวหวานอร่อยเก่าแก่ที่เปิดมานานหลาย 10 ปี ตลอดทางแยกพัฒนาการไปถึงแยกคลองตัน ทำให้ย่านพัฒนาการเปรียบเสมือนเมืองย่อม ๆ แห่งหนึ่ง

ปัจจัยที่ต้องพิจารณาก่อนเลือกซื้อ บ้านเดี่ยวพัฒนาการ
ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกซื้อบ้านพักที่อยู่อาศัย ปัจจัยสำคัญที่ต้องนำมาพิจารณาก่อนเลือกซื้อ คือ ทำเลที่ตั้งซึ่งในที่นี้ก็คือ ทำเลพัฒนาการ จากนั้นก็จะทำการเลือกแบบบ้าน ที่เหมาะกับคนทำงานที่ต้องการแยกครอบครัวออกมา เช่น บ้านเดี่ยวพัฒนาการ
 
นอกเหนือจากการเดินทางที่สะดวกสบาย และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันที่จะได้รับจากการเป็นเจ้าของบ้านเดี่ยวย่านพัฒนาการ ปัจจัยอื่นที่ต้องคำนึงถึง คือ มองหาโครงการที่น่าเชื่อถือที่มีแบบบ้านที่ตรงใจ ตรงไลฟ์สไตล์ที่สุด ที่ทำให้รู้สึกปลอดภัยตลอดการพักอาศัยที่นี่ และที่สำคัญมากก็คือ ราคาที่คุ้มค่ากับบ้านที่ซื้อและอยู่ในงบประมาณ

ปัจจัยที่ต้องพิจารณาก่อนเลือกซื้อ บ้านเดี่ยวพัฒนาการ

การเดินทางย่านทำเลบ้านเดี่ยวพัฒนาการ
การจราจรของย่านพัฒนาการนับว่าคล่องตัวพอสมควร เพราะมีขนาดของช่องจราจรที่กว้างขวาง พร้อมแบ่งแยกทิศทางที่เชื่อมต่อกับถนนสายสำคัญได้หลายสาย เช่น ถนนพระราม 9, เพชรบุรี, รามคำแหง, ศรีนครินทร์ และสุขุมวิท 71 เป็นต้น ทำให้มีเส้นทางเข้า-ออกเมืองไปสู่ย่านต่าง ๆ ได้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น

  • เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว
: เป็นหนึ่งในวิธีการเดินทาง คือรถยนต์ส่วนตัวเพื่อเข้า-ออกเมืองจากที่พักอาศัยในกลุ่มบ้านจัดสรรพัฒนาการ

  • เดินทางด้วยสาธารณะ
: นอกจากรถยนต์ส่วนตัวแล้ว ยังสามารถใช้บริการขนส่งสาธารณะที่มีอยู่หลายแบบ เช่น
- รถไฟฟ้าบีทีเอส แอร์พอร์ต เรลลิงก์ ให้บริการเส้นทางสุวรรณภูมิ-พญาไท
- รถไฟฟ้าสายสีชมพู สายสีเหลือง และสายสีเหลือง ที่มีการขยายต่อเพิ่มเพื่อตอบโจทย์ปัญหาของรถโดยสารสาธารณะ
- รถเมล์ เช่น สาย 11 92 133 206 517 เป็นต้น
- รถตู้ ที่จุดรับส่งตรงแยกพัฒนาการฝั่ง Max Valu Supermarket
- วินมอเตอร์ไซด์ ตามศูนย์การค้า หรือสถานีรถไฟฟ้า
- รถสองแถว เป็นสองแถวสีแดง (ตลาดอ่อนนุช-ถนนพัฒนาการ) และสองแถวสีขาว (สถานีหัวหมาก-เมกะบางนา)

สิ่งอำนวยความสะดวกรอบโครงการบ้านเดี่ยวพัฒนาการ
นอกจากการเดินทางที่สะดวกสบาย ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน ที่อยู่ใกล้รอบ ๆ โครงการบ้านเดี่ยวพัฒนาการ ทำให้คนที่อาศัยในย่านนี้ไม่ต้องเดินทางไปไกล ๆ เพื่อที่จะได้ใช้บริการเหล่านี้ เช่น

  • ห้างสรรพสินค้า
: สำหรับในย่านพัฒนาการเองนั้น ก็มีห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้าชั้นนำ และคอมมูนิตี้มอลล์ไว้รองรับผู้คนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่อยู่แล้ว แต่หากต้องการเข้าไปสัมผัสกับชีวิตในเมืองก็สามารถใช้เวลาเดินทางเพียงสั้น ๆ แค่ 15-30 นาทีเท่านั้นก็จะเข้าถึงสยาม ทองหล่อ-เอกมัยได้

  • สถานศึกษา
: สำหรับครอบครัวที่มีลูก หรือวางแผนที่จะมีลูก ก็ไม่จำเป็นต้องรู้สึกกังวลหรือห่วงเพราะว่าที่ย่านพัฒนาการนี้เป็นที่ตั้งของโรงเรียนชั้นนำมากมาย เช่น โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ เป็นต้น

  • โรงพยาบาล
: มีโรงพยาบาลชั้นนำมากมายในเขตพื้นที่พัฒนาการ ที่ช่วยรักษาอาการเจ็บไข้ได้ป่วยโดยไม่ต้องเดินทางไปไกล เช่น โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์, โรงพยาบาลกรุงเทพ เป็นต้น

  • สวยสาธารณะสำหรับพักผ่อนหย่อนใจ
: ย่านพัฒนาการนี้ถูกห้อมล้อมไปด้วยธรรมชาติ เช่น สวนหลวง ร.9 ที่เป็นแหล่งหย่อนใจของชาวพัฒนาการ นอกจากนี้ยังมีบึงหนองบอน และศูนย์กีฬาทางน้ำขนาดใหญ่สำหรับคนที่รักกีฬาทางน้ำ และปั่นจักรยาน

พัฒนาการ ย่านแห่งการพัฒนา
ถนนพัฒนาการจัดเป็นถนนสายสำคัญของคนที่พักอาศัยทางฝั่งกรุงเทพตะวันออกนั้นมีระยะทาง 10.3 กิโลเมตร โดยเริ่มจากแยกคลองตันไปทางตะวันออก เข้าเขตสวนหลวง ตัดกับทางพิเศษฉลองรัช ถนนศรีนครินทร์ เขตประเวศ แล้วเข้าเขตตะวัน
ออกเฉียงใต้ ตัดกับทางแยกต่างระดับอ่อนนุช-พัฒนาการ ไปบรรจบถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9
 
จากที่กล่าวมานี้ทำให้พื้นที่ย่านพัฒนาการได้ถูกแบ่งออกเป็น 2 โซนสำคัญ ๆ คือ โซนพัฒนาการ-ศรีนครินทร์ และ โซนพัฒนาการ-อ่อนนุช และก็เป็นโซนที่ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ ๆ เช่น กลุ่มเอสซี แอสเสท, กลุ่มแสนสิริ, ฯลฯ ให้ความสนใจในการพัฒนาโครงการบ้านแถวพัฒนาการ เช่น บ้านเดี่ยว คอนโดมิเนียม กันมากขึ้น
 
และการที่มีโครงการรถไฟฟ้าขยายเข้ามาในย่านพัฒนาการถึง 3 สาย จะยิ่งช่วยดึงดูดผู้ประกอบการค้าปลีกให้เข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยเน้นเจาะกลุ่มครอบครัว เป็นการอำนวยความสะดวกให้กับคนที่พักอาศัยอยู่ในโซนนี้มากยิ่งขึ้น
 
โครงการบ้านเดี่ยวพัฒนาการ จะให้เอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนที่ใด คือบ้านพัฒนาการที่อยู่ใกล้เมืองแต่ไม่พลุกพล่าน อีกทั้งยังให้ความรู้สึกคึกคักเหมือนอยู่ในเมือง ย่านพัฒนาการยังคงเป็นทำเลที่นักลงทุนมากมายต้องการเข้ามาพัฒนาให้เป็นห้างสรรพสินค้าและคอมมูนิตี้มอลล์อีกมากมาย แม้พื้นที่จะไม่จัดว่าใหญ่นักก็ตาม

บ้านเดี่ยวพัฒนาการ พร้อมอยู่ แนะนำ 2566
โซนพัฒนาการจัดเป็นทำเลทองสำหรับที่อยู่อาศัยโดยเฉพาะกลุ่มบ้านเดี่ยวพัฒนาการระดับ Super Luxury คล้ายกับโซนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า และกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ ราคาจัดอยู่ในระดับไฮเอนด์ ประมาณ 30 กว่าล้าน ไปจนถึงหลักร้อยล้านบาท
 
เอสซี แอสเสท พร้อมแนะนำบ้านเดี่ยวแบบหรู รองรับไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่พร้อมใช้ชีวิตในบรรยากาศความเป็นส่วนตัวสูงสุด เดินทางสะดวกใกล้รถไฟฟ้าและทางด่วน โครงการบ้านเดี่ยวย่านพัฒนาการที่กล่าวถึงก็คือ

เดอะ เจนทริ พัฒนาการ 2
เป็นโครงการบ้านเดี่ยวย่านพัฒนาการที่อยู่ใกล้ใจกลางเมือง อยู่ห่างจากทองหล่อเพียง 5 กิโลเมตร หรือ 2.2 กิโลเมตรจากทางด่วนฉลองรัช ราคาเริ่มต้นที่ 45-80 ล้านบาท
 
บ้านเดี่ยวพัฒนาการ เดอะ เจนทริ พัฒนาการ 2 เป็นวิลล่าหรู บนที่ดินใหญ่ มีพื้นที่ใช้สอย 440 ตร.ม. มี 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ, 3 ที่จอดรถ, 2 ห้องนั่งเล่น, ห้องพักผ่อนชั้นบน, ห้องครัว และห้องแม่บ้าน
สิ่งอำนวยความสะดวกที่โครงการจัดหาให้ มี สโมสร สระว่ายน้ำ ฟิตเนส โคเวิร์คกิ้งสเปซ พื้นที่เสริมสร้างพัฒนาการ สวนส่วนกลาง และใช้ระบบผ่านเข้า-ออก อัตโนมัติ โดยมีเจ้าหน้าที่คอยรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมงพร้อมกล้องวงจรปิด

เดอะ เจนทริ พัฒนาการ 2

สรุป
ย่านพัฒนาการซึ่งขยายมาจากย่านศรีนครินทร์นั้น ได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง จากเมื่อเริ่มต้นจนปัจจุบันนี้ก็เป็นเวลานานกว่า 40 ปี ทำให้มีระบบคมนาคมที่มีศักยภาพสูงยิ่ง แวดล้อมไปด้วยสถานที่สำคัญ ๆ และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เลยทำให้ปัจจุบันนี้ ราคาที่ดิน และบ้านเดี่ยวพัฒนาการ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้เหมาะที่จะลงทุนซื้อเพื่ออยู่อาศัย และเป็นมรดกส่งทอดสู่ลูกหลาน
 
หากต้องการครอบครองเป็นเจ้าของบ้านแถวพัฒนาการ ขอแนะนำให้ติดต่อผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่มีชื่อเสียง และน่าเชื่อถือ เช่น SC Asset ที่เบอร์โทร 1749 ที่พร้อมจะขายบ้านพัฒนาการ ให้แก่คนที่ต้องการที่พักอาศัยย่านชานเมืองที่ไม่พลุกพล่าน สงบ แต่ถึงพร้อมซึ่งสิ่งอำนวยความสะดวกเสมือนอยู่ในเมือง

218
 เปิดประสบการณ์ชีวิตด้วยการเรียนต่อมัธยมนิวซีแลนด์

หากนึกถึงการเรียนมัธยมในต่างประเทศ ตัวเลือกต้น ๆ หนึ่งในนั้นก็คือประเทศนิวซีแลนด์ ด้วยระบบการศึกษา เป็นที่ยอมรับได้มาตรฐานสากล ติดอันดับต้น ๆ ของโลก  และยังมีภูมิประเทศที่สวยงาม เงียบสงบ ปลอดภัย ผู้คนอัธยาศัยดี เหมาะแก่การเรียน และยังมีอีกหลายเหตุผลที่ทำให้ผู้ปกครองทั้งประเทศไทยและจากหลายประเทศนิยมส่งบุตรหลานไป เรียนต่อมัธยมที่นิวซีแลนด์

ก่อนที่จะไปเจาะลึกถึงเหตุผลว่าทำไมผู้ปกครอง และตัวนักเรียนเองถึงเลือกเรียนต่อมัธยมนิวซีแลนด์ เรามาทำความรู้จักกับประเทศนิวซีแลนด์ ระบบการศึกษาที่เป็นจุดเด่น หลักสูตรดัง ๆ รวมทั้งค่าเทอมที่จะจ่าย ว่ามีรายละเอียดอย่างไร ติดตามอ่านได้จากบทความนี้กันเลย

ประเทศนิวซีแลนด์ สำหรับคนต้องการเรียนต่อมัธยมนิวซีแลนด์
ในปัจจุบันนี้การส่งบุตรหลานไปเรียนต่อมัธยมต่างประเทศ ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โรงเรียนมัธยมในนิวซีแลนด์ ซึ่งเป็นประเทศยอดฮิตของผู้ปกครอง เรามาดูกันซิว่ามีปัจจัยอะไรที่ทำให้ผู้ปกครองไว้วางใจในประเทศนิวซีแลนด์กันอย่างมากมาย และใช้เป็นข้อมูลสำหรับผู้ที่ต้องการไปเรียนต่อมัธยมนิวซีแลนด์

ก่อนอื่นขอเกริ่นเกี่ยวกับประเทศนิวซีแลนด์ ซึ่งแบ่งเป็นเกาะเหนือและเกาะใต้ เป็นประเทศที่ขึ้นชื่อในเรื่องความปลอดภัย ความเป็นมิตรของผู้คน และความน่าอยู่ของบ้านเมืองที่มีความผสมผสานระหว่างความเป็นธรรมชาติและความเป็นเมืองรวมกัน

นอกจากนี้ประเทศนิวซีแลนด์ ยังเปิดโอกาสให้นักเรียนต่างชาติเข้าศึกษาต่อได้ตั้งแต่ระดับประถมศึกษา และมัธยมศึกษาในโรงเรียนรัฐบาลได้ด้วย  ซึ่งประเทศอื่น ๆ ไม่อนุญาตให้นักเรียนต่างชาติเรียนในโรงเรียนรัฐบาล เช่น สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา เป็นต้น 

ประเทศนิวซีแลนด์ สำหรับผู้ที่ต้องการเรียนต่อมัธยมนิวซีแลนด์  ด้วยเหตุผลหลัก ๆ มากมายดังนี้

  • ระบบการศึกษาชั้นนำ โดยนำต้นแบบจากอังกฤษ ระบบการศึกษาของนิวซีแลนด์ เรียกว่า National Certificate of Educational Achievement (NCEA) ถือเป็นระบบที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก
  • หนึ่งในประเทศที่ปลอดภัยที่สุดในโลก  ประเทศนิวซีแลนด์ได้รับการยอมรับจากดัชนีสันติภาพโลก Global Peace Index ให้เป็นประเทศที่สงบสุขที่สุด เป็นอันดับ 4 ของโลก และยังเป็นประเทศแรกที่มีกฎหมายคุ้มครองนักเรียนต่างชาติ โดยมีข้อกำหนดในการให้ความดูแลความปลอดภัยและ
  • ผู้คนเป็นมิตร มีอัธยาศัยดี คนนิวซีแลนด์มีชื่อเสียงในเรื่องความเป็นมิตรและเข้าใจในความแตกต่าง ดังนั้นนักเรียนที่มาเรียนจะปรับตัวได้เร็ว ด้วยสภาพแวดล้อมที่ทุกคนพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือและเข้าใจกัน
  • ค่าเรียนสมเหตุสมผล เนื่องจากค่าครองชีพในนิวซีแลนด์ไม่สูงมากนัก ประกอบกับรัฐบาลให้การสนับสนุนเรื่องการศึกษาเป็นอย่างมาก ทำให้ค่าเรียนในนิวซีแลนด์จัดว่าสมเหตุสมผลที่สุดแห่งหนึ่ง
  • เปิดโอกาสให้เลือกเรียนวิชาตามความชอบ และความถนัด จุดเด่นสำคัญของระบบการศึกษานิวซีแลนด์คือการพัฒนา IQ และ EQ ของนักเรียนไปพร้อม ๆ กัน สนับสนุนให้เกิดไอเดียอย่างสร้างสรรค์ อิสระ ผนวกกับบทเรียนเชิงทฤษฎี และเชิงปฏิบัติ ได้อย่างลงตัว
  • ประเทศนิวซีแลนด์เป็นประเทศที่หลายหลากทางระบบการศึกษา นักเรียนสามารถเลือกโรงเรียนที่เป็นโรงเรียนหญิง โรงเรียนชาย หรือโรงเรียนสห ก็ได้ มีที่พักให้เลือกมากมายทั้ง homestay และที่พักแบบโรงเรียนประจำ

ค่าเทอมในการเรียนต่อมัธยมนิวซีแลนด์ ต้องเตรียมไว้เท่าไหร่ถึงจะพอ

ค่าเทอมในการเรียนต่อมัธยมนิวซีแลนด์

ค่าเทอมในการเรียนต่อมัธยมนิวซีแลนด์ เริ่มต้นตั้งแต่ประมาณ 13,000  - 15,000 เหรียญนิวซีแลนด์ หากเป็นโรงเรียนรัฐบาล แต่ถ้าเป็นโรงเรียนเอกชนก็จะอยู่ประมาณ 17,000 – 30,000 เหรียญนิวซีแลนด์ ทางโรงเรียนมัธยมนิวซีแลนด์จะมีหลักสูตรสอนภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียนต่างชาติ (ESOL) ให้สำหรับนักเรียนที่เรียนอ่อนภาษาอังกฤษอีกด้วย

หลักสูตรเรียนต่อมัธยมนิวซีแลนด์ มีอะไรบ้าง
สำหรับหลักสูตรเรียนต่อมัธยมนิวซีแลนด์นั้น โดยโรงเรียนส่วนใหญ่จะสอนด้วยหลักสูตร National Certificate of Educational Achievement (NCEA) เป็นหลัก แต่ก็มีโรงเรียนบางแห่งสอนด้วยหลักสูตร IGCSE/ A Level – Cambridge และหลักสูตรนานาชาติ International Baccalaureate (IB  ) เพื่อเป็นทางเลือกให้กับนักเรียน ในหัวข้อนี้จะอธิบายถึงรายละเอียดของทั้ง 3 หลักสูตร ว่าเรียนอะไรกันบ้าง เพื่อใช้เป็นเกณฑ์ในการเลือกที่จะเรียนกันต่อไป

1. หลักสูตร IGCSE/ A Level – Cambridge               
เรียนต่อมัธยมนิวซีแลนด์หลักสูตร IGCSE / A Level – Cambridge  เป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตร Cambridge Assessment International Education ซึ่งหลักสูตรนี้ได้รับการยอมรับในนานาชาติ เน้นในด้านวิชาการเฉพาะสาย เพื่อให้นักเรียนมีโอกาสเลือกเรียนในสาขาที่ตนถนัด และเตรียมศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย โดยจะแยกรายละเอียดเป็น 2 หัวข้อ เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายดังนี้

หลักสูตร IGCSE เป็นหลักสูตรการศึกษา 2 ปี โดยใช้การประเมินระดับจากข้อสอบการเขียนเป็นหลัก  เน้นการคิดวิเคราะห์ เป็นหลักสูตรที่เสริมพื้นฐานของนักเรียนได้ดีมาก สามารถเลือกได้มากกว่า 70 วิชาที่มีความแตกต่างกัน ความหลากหลายของวิชาขึ้นอยู่กับแต่ละโรงเรียน ผลคะแนนจะถูกประเมินโดยใช้เกณฑ์มาตรฐานสากลตั้งแต่เกรด A* ถึงเกรด G

A (AS) Level  เป็นหลักสูตรการศึกษา 2 ปี ที่ต่อยอดจากหลักสูตร IGCSE เนื้อหาเน้นให้รู้ลึก รู้จริง  ในเชิงตรรกะ มีวิชาเลือกเรียน 50 วิชา โดยนักเรียนเลือกเรียนประมาณ 3 – 4 วิชาเท่านั้น ตามความสนใจ จัดสอบปีละ 2 ครั้ง โดยการประเมิน ผลคะแนนจะประเมินโดยใช้เกณฑ์มาตรฐานสากลตั้งแต่เกรด A* ถึงเกรด E

2. หลักสูตร IB                             
เรียนต่อมัธยมนิวซีแลนด์หลักสูตร IB ย่อมาจาก International  Baccalaureate  เป็นหลักสูตรนานาชาติอีกหลักสูตรหนึ่งที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก หลักสูตรนี้สำหรับเด็กอายุ 3 – 19 ปี ที่โรงเรียนนานาชาติใช้กันอย่างแพร่หลาย เน้นเรื่องการเรียนในวิชาพื้นฐานที่สำคัญในทุกด้าน และมีการเรียนรู้ที่นอกเหนือจากด้านวิชาการอีกด้วย โดยแบ่งหลักสูตร IB ออกเป็น 3 ระดับการศึกษา คือ

ระดับต้น IB Primary Years Programme หรือ PYP สำหรับนักเรียนอายุประมาณ 3 – 12 ปี
ระดับกลาง IB Middle Years Programme หรือMYP สำหรับนักเรียนอายุประมาณ 12 – 16 ปี
ระดับประกาศนียบัตรนานาชาติ IB Diploma Programme หรือ IBDP สำหรับนักเรียนอายุประมาณ 16 – 19 ปี

ซึ่งเมื่อกล่าวถึงหลักสูตร IB คนส่วนใหญ่มักจะหมายถึงหลักสูตรการศึกษาระดับที่ 3 (IBDP) ซึ่งเป็นช่วงต่อของมัธยมปลายกับมหาวิทยาลัย จึงได้รับความสนใจจากนักเรียนที่มีความสนใจไปศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาที่ต่างประเทศ      

3. หลักสูตร National Certificate of Educational Achievement (NCEA)                            
เรียนต่อมัธยมนิวซีแลนด์หลักสูตร National Certificate of Educational Achievement (NCEA) เป็นหลักสูตรเฉพาะของโรงเรียนมัธยมในนิวซีแลนด์ วิชาพื้นฐานที่เรียนคือ อังกฤษ, ศิลปะ, พละ+สุขศึกษา, คณิตศาสตร์, วิทยาศาสตร์, สังคมศาสตร์ และ เทคโนโลยี นอกจากนี้ยังมีวิชาเลือกอื่น ๆ เช่น ภาษาต่างประเทศ งานช่าง  การตัดเย็บ และการทำอาหาร  เรามาดูรายละเอียดการเรียนตั้งแต่ Year 7 จนถึง Year 13 กันเลย

Year 7 และ 10 ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น Middle School  จะเรียนวิชาพื้นฐานทั้งหมด เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้ตัวเองว่าชอบวิชาไหน หรือสาขาอะไร และเลือกเรียนตามสาขานั้นในระดับที่สูงขึ้น

Year 11 (NCEA Level 1) เป็นปีที่เริ่มสอบเพื่อรับประกาศนียบัตร มีวิชาบังคับ 3 วิชา คือ อังกฤษ, คณิตศาสตร์, วิทยาศาสตร์ ส่วนวิชาอื่น ๆ เลือกเรียนตามสายวิชาที่ตนถนัด อย่างน้อย 2 วิชา และจะต้องสอบข้อสอบกลางของประเทศ เพื่อรับประกาศนียบัตรที่เรียกว่า NCEA Level 1 คือการเก็บ "เครดิต หรือ หน่วยกิต"

Year 12 (NCEA Level 2) มีวิชาบังคับเพียง 1 วิชา คือภาษาอังกฤษ และเลือกเรียนวิชาอื่น ๆ ตามสายวิชาที่เรียนใน NCEA Level 1 รวม 4 - 5 วิชา เมื่อเรียนจบ Year 12 สอบข้อสอบกลางของประเทศ NCEA Level 2 นักเรียนไทยส่วนใหญ่ เมื่อได้รับวุฒิ NCEA Level 2 สามารถนำวุฒิการศึกษามาเทียบวุฒิระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ในประเทศไทย เพื่อใช้ในการเรียนต่อโปรแกรมนานาชาติในมหาวิทยาลัยของไทยได้

Year 13 (NCEA Level 3) สำหรับนักเรียนที่ต้องการเรียนต่อมหาวิทยาลัยในนิวซีแลนด์ ต้องเลือกเรียนอย่างน้อย 3 วิชาในสายวิชาเดียวกับ NCEA Level 1 และ 2 เมื่อเรียนจบ Year 13 ต้องสอบข้อสอบกลางของประเทศ  NCEA Level 3  เพื่อใช้เป็นพื้นฐานในการเรียนต่อระดับปริญญาตรีต่อไป   

สรุป

นักเรียนที่จบจากการเรียนต่อมัธยมนิวซีแลนด์

การเรียนต่อมัธยมนิวซีแลนด์นั้นไม่ยาก เพราะโรงเรียนมัธยมในนิวซีแลนด์ มีระบบการศึกษาที่มีคุณภาพและเป็นที่ยอมรับในมาตรฐานสากล มีการเน้นให้นักเรียนพัฒนาทักษะด้านวิชาการและทักษะในการใช้ชีวิต มีความคิดสร้างสรรค์ และมีการเรียนการสอนที่เน้นการเรียนรู้แบบปฏิสัมพันธ์และการแก้ปัญหา นอกจากนี้ โรงเรียนในนิวซีแลนด์ยังเน้นให้นักเรียนพัฒนาทักษะทางสังคม เช่น การทำงานเป็นทีม การสื่อสาร และการเสริมสร้างภาวะผู้นำ

219
ประเทศอังกฤษถือเป็นประเทศอันดับต้น ๆ ที่ได้รับความนิยมและความสนใจในการไปเรียนต่ออย่างมากจากนักเรียนไทย เนื่องจากคุณภาพของระบบการศึกษาที่มีมาตรฐานระดับสูง มีหลักสูตรที่น่าสนใจให้เลือกเรียนหลากหลาย คุณภาพการสอนก็เป็นที่ได้รับการยอมรับในวงกว้าง รวมถึงสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยสำหรับนักศึกษาต่างชาติ ประเทศอังกฤษจึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะแก่การไปศึกษาต่อ อีกทั้งยังมีมหาวิทยาลัยชื่อดังระดับโลกที่ติดอันดับมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดหลายแห่งเป็นตัวยืนยันคุณภาพการศึกษาอีกด้วย การเรียนต่อปริญญาตรี อังกฤษจึงเป็นทางเลือกยอดนิยมที่นักเรียนไทยสนใจจะไปเรียนต่อในระดับปริญญาตรี

เรียนต่อปริญญาตรีอังกฤษ

เหตุผลที่คนส่วนใหญ่เรียนต่อปริญญาตรี อังกฤษ

เหตุผลที่คนส่วนใหญ่เรียนต่อปริญญาตรีอังกฤษ เนื่องจากประเทศอังกฤษมีชื่อเสียงด้านการเป็นผู้นำทางด้านการศึกษา มีชื่อเสียงทั้งด้านงานวิจัย เทคโนโลยี นวัตกรรม และความคิดสร้างสรรค์ ระบบการศึกษาของประเทศอังกฤษที่มีคุณภาพทำให้เกิดสภาพแวดล้อมที่เหมาะกับการเรียน อีกทั้งระบบการศึกษายังส่งเสริมและสนับสนุนให้มหาวิทยาลัยสามารถผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพและได้รับการยอมรับระดับสากล รวมถึงประเทศอังกฤษยังเป็นประเทศที่มีมหาวิทยาลัยติดโพลอันดับมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดหลายแห่ง เช่น Oxford และ Cambridge เป็นต้น ทั้งนี้การมาเรียนต่อปริญญาตรีอังกฤษยังมีหลักสูตรที่หลากหลายให้ผู้ที่ต้องการมาศึกษาต่อตอบโจทย์ทุกความต้องการไม่ว่าจะเป็นหลักสูตรด้านวิทยาศาสตร์ บริหารธุรกิจ วิศวกรรม ด้านการแพทย์ ด้านกฎหมาย หรือด้านอื่น ๆ อีกมากมายรวมทั้งหลักสูตรเหล่านี้ยังมีระยะเวลาการเรียนที่สั้นกว่าเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ เช่น อเมริกาและออสเตรเลีย โดยจะใช้เวลาในการเรียนต่อปริญญาตรีเพียง 3 ปีเท่านั้น จึงเป็นอีกเหตุผลที่นักเรียนเลือกมาเรียนต่อเพราะสามารถเรียนจบหลักสูตรได้เร็วกว่า ทำให้ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย

นอกจากชื่อเสียงด้านการศึกษาและหลักสูตรที่หลากหลาย ประเทศอังกฤษยังอนุญาตให้นักศึกษาต่างชาติสามารถทำงานระหว่างเรียนได้อีกด้วย โดยที่สามารถทำงานได้สูงสุด 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ในระหว่างเปิดภาคเรียน และ 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ระหว่างปิดภาคเรียน ทำให้นักศึกษาต่างชาติสามารถหารายได้และเพิ่มพูนประสบการณ์ทั้งด้านการทำงานและด้านภาษาได้อย่างดีระหว่างเรียนต่อปริญญาตรีอังกฤษ เนื่องจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาทางการและยังเป็นภาษาที่มีผู้คนใช้กันทั่วโลกทำให้ประเทศอังกฤษเป็นทางเลือกที่นิยมในการมาฝึกภาษามากที่สุด

หลักสูตร ปริญญาตรีที่อังกฤษ มีอะไรบ้าง

1. Bachelor of Arts (BA)

Bachelor of Arts (BA) หรือ หลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต (ศศ.บ.) หลักสูตรระดับปริญญาตรีโดยสาขาวิชาส่วนใหญ่จะเป็นสาขามนุษยศาสตร์ เช่น มานุษยวิทยา ประวัติศาสตร์ศิลปะ ภาษาอังกฤษ ภาษาต่างประเทศ ปรัชญา สังคมวิทยา และการสื่อสาร เป็นต้น นอกจากนี้หลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิตจะเน้นการพัฒนาผู้เรียนด้านมนุษยศาสตร์หรือศิลปะ ทักษะความรู้ต่าง ๆ เช่น การสื่อสาร การเขียน และที่อังกฤษจะใช้เวลาในการเรียนหลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิตประมาณ 3 ปี

2. Bachelor of Science (BSc)

Bachelor of Science (BSc) หรือ หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต (วท.บ.) หลักสูตรระดับปริญญาตรีโดยมีสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์หรือเทคโนโลยี เช่น วิทยาศาสตร์ทั่วไป วิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม คณิตศาสตร์ ชีววิทยา ฟิสิกส์ วิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีสารสนเทศ และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งหลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิตนี้จะเน้นในเรื่องทฤษฎีและปฏิบัติที่ลงลึกเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ ส่งเสริมทักษะการวิเคราะห์และความเข้าใจเชิงวิชาการอย่างละเอียด นอกจากนี้ปริญญาวิทยาศาสตรบัณฑิตไม่จำเป็นต้องเป็นสาขาที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเท่านั้นโดยจะแตกต่างกันไปในแต่ละมหาวิทยาลัย ในการเรียนต่อปริญญาตรีอังกฤษส่วนใหญ่จะใช้เวลาศึกษา 3-5 ปี

3. Bachelor of Education (BEd)

Bachelor of Education (BEd) หรือ หลักสูตรศึกษาศาสตรบัณฑิต (ศษ.บ.) หลักสูตรระดับปริญญาตรีโดยทั่วไปจะเรียนเพื่อประกอบวิชาชีพครู มีการสอนเกี่ยวกับการสอนเด็ก จิตวิทยาการศึกษา รวมถึงเรียนรู้ระบบการศึกษาและเทคโนโลยีด้านการเรียนการสอนต่าง ๆ ในห้องเรียน หรือจะเรียนเพื่อศึกษาปัญหาทางด้านสังคม ด้านวิชาการ เพื่อนำประโยชน์จากการเรียนไปต่อยอดในการทำงานด้านอื่น ๆ เช่น งานทางด้านสังคม ด้านการศึกษา การบริหาร งานวิจัย หรือ สำนักพิมพ์ สื่อต่าง ๆ ได้อีกด้วย  ในการเรียนต่อปริญญาตรีอังกฤษของหลักสูตรศึกษาศาสตรบัณฑิต ส่วนใหญ่จะใช้ระยะเวลาสามหรือสี่ปีขึ้นอยู่กับมหาวิทยาลัย

4. Bachelor of Engineering (BEng)

Bachelor of Engineering (BEng) หรือ หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต (วศ.บ.) หลักสูตรระดับปริญญาตรีโดยมีสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องกับทางวิศวกรรมศาสตร์ การประยุกต์วิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์มาสร้างเป็นงานออกแบบ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานงานวิศวกรรมขนาดใหญ่ เช่น วิศวกรรมไฟฟ้า วิศวกรรมการบิน วิศวกรรมสิ่งแวดล้อม วิศวกรรมโยธา วิศวกรรมเครื่องกล และอื่น ๆ เป็นต้น ในการเรียนต่อปริญญาตรีอังกฤษของหลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิตทั่วไปจะใช้เวลาในการศึกษาสามปีและสามารถเลือกฝึกงานเพิ่มอีกหนึ่งปีได้เช่นกัน

สรุป

จะเห็นได้ว่า มีเหตุผลดี ๆ มากมายที่ทำไมประเทศอังกฤษถึงเป็นตัวเลือกลำดับต้น ๆ ในการที่นักเรียนไทยเลือกไปศึกษาต่อระดับปริญญาตรีในหลักสูตรต่าง ๆ ที่สนใจ นอกจากระบบการศึกษาที่มีมาตรฐานสูงและสภาพแวดล้อมที่ดึงดูดความสนใจแล้วนั้น หลักสูตรการเรียนต่าง ๆ ยังใช้เวลาในการเรียนที่สั้น กระชับ มีคุณภาพ และจบหลักสูตรไว ดังนั้นการเลือกเรียนต่อปริญญาตรีอังกฤษจึงเป็นโอกาสที่ดีที่เมื่อจบแล้วสามารถต่อยอดไปทำงานในองค์กรระดับประเทศต่าง ๆ ในอนาคตได้อีกด้วย

220
ในปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้เลยว่าโทรศัพท์มือถือได้เข้ามามีบทบาทอย่างมากในการดำเนินชีวิตของคนยุคใหม่ หากย้อนกลับไปในสมัยยุคเริ่มแรกของการใช้โทรศัพท์มือถือ โทรศัพท์จะเป็นเพียงเครื่องมือที่ใช้ในการสื่อสารเพียงเท่านั้น แต่ในปัจจุบันโทรศัพท์มือถือสามารถเป็นได้มากกว่านั้น ด้วยการพัฒนาของเทคโนโลยีที่ก้าวกระโดดทำให้โทรศัพท์มือถือสามารถใช้งานได้อย่างหลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การถ่ายภาพ บันทึกวิดีโอ ใช้งานโซเชียลมีเดีย หรือใช้ทำงานผ่านแอปพลิเคชั่นต่างๆ   

จากโทรศัพท์มือถือธรรมดาๆ ในยุคเก่าปัจจุบันก็เปลี่ยนมาเป็นโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน ดังนั้นการที่จะมีโทรศัพท์มือถือดีๆ สักเครื่องที่มีฟังก์ชันการทำงานที่ครบครันก็อาจช่วยให้ชีวิตการทำงาน หรือการดำเนินชีวิตประจำวันของคุณสะดวกสบายมากขึ้น โดยวันนี้เราได้รวบรวมโทรศัพท์มือถือยอดฮิตที่มีฟังก์ชันการทำงานคุ้มค่าเกินราคามาให้คุณได้รู้จัก

โทรศัพท์มือถือ ยอดฮิต Galaxy S23 Ultra

ขอขอบคุณภาพจาก https:// samsung.com/th/smartphones/galaxy-s23-ultra/

รวมโทรศัพท์มือถือยอดฮิต ฟังก์ชันครบ ตอบโจทย์ทุกช่วงราคา

ถ้าหากพูดถึงโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบแอนดรอยด์ไม่มีใครไม่รู้จักโทรศัพท์มือถือยี่ห้อ Samsung แน่นอน ด้วยฟังก์ชันการทำงานของโทรศัพท์มือถือ Samsung ที่ล้ำหน้าตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ และคุณภาพของกล้องถ่ายรูปในมือถือที่ทำให้ผู้ใช้งานได้ภาพถ่ายที่สวยงาม และโดนใจ จึงทำให้โทรศัพท์มือถือ Samsung ครองใจผู้ใช้หลายคนได้ไม่ยาก จนมียอดขายเป็นอันดับต้นๆ ในกลุ่มสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบแอนดรอยด์ โดยมีรุ่นยอดฮิตดังต่อไปนี้

Samsung Galaxy S23 Ultra

โทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ล่าสุด Samsung Galaxy S23 Ultra ที่มาพร้อมกับความโดดเด่นในเรื่องของกล้องถ่ายภาพที่มีกล้องให้เลือกใช้งานถึง 5 แบบ ไม่ว่าคุณจะชอบถ่ายภาพแบบเซลฟี่ ภาพมุมกว้าง หรือถ่ายภาพในที่ที่มีแสงน้อยก็ตอบโจทย์การถ่ายภาพได้ทุกสถานการณ์ โดยตัว Galaxy S23 จะมีเอไอที่ช่วยปรับให้ภาพที่คุณถ่ายออกมาดูเหมือนช่างภาพมืออาชีพเลยทีเดียว เหมาะสำหรับคนยุคใหม่ที่ชอบโพสต์ไลฟ์สไตล์ของตัวเองลงบนโลกโซเชียลมีเดียมากๆ

นอกจากนี้ตัวหน้าจอของโทรศัพท์มือถือก็มีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่จึงช่วยให้ผู้ใช้งานรู้สึกสบายตา ถ้าหากต้องเล่นเกม หรืออ่าน E-book ผ่านโทรศัพท์มือถือ และตัวเครื่องยังมาพร้อมกับปากกา S Pen ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสะดวกมากขึ้น ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนคุณก็สามารถทำงานได้ สามารถใช้ปากกาเซ็นเอกสารผ่านมือถือได้ หรือจะใช้ปากกาในการตกแต่งภาพต่างๆ ก็ได้ ส่วนในเรื่องของแบตเตอรี่ก็มีการพัฒนาให้ทนทาน และใช้งานได้ยาวนานขึ้น

โดยตัว Galaxy S23 Ultra จะมีสีให้คุณเลือกถึง 4 สีได้แก่ สีแดง ฟ้า เขียวมะนาว และดำ รวมถึงมีหน่วยความจำให้คุณเลือกได้ตั้งแต่ 256GB, 512GB และ 1TB เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานในเรื่องของความจำที่เหมาะสม ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 43,900 บาท

Samsung Galaxy Z Flip4

โทรศัพท์มือถือดีไซน์สุดล้ำในยุคนี้คงหนีไม่พ้น Samsung Galaxy Z Flip4 สมาร์ทโฟนพับได้ให้คุณสามารถพกพาได้สะดวก ตัวเครื่องเล็กกะทัดรัดแต่พอกางออกมาก็ใช้งานได้ดีไม่ต่างจากโทรศัพท์มือถือแบบทั่วไปเลย หลายคนอาจกังวลว่าโทรศัพท์แบบพับได้จะเสียเร็วหรือเปล่า แต่บอกเลยว่า Samsung ได้คิดค้น และพัฒนามาอย่างดีแล้วให้มีความทนทานต่อการพับมากกว่า 200,000 ครั้ง และยังสามารถทนต่อการตกหล่น รวมถึงกันน้ำได้พอสมควรเลย

ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่นไม่เหมือนใครของโทรศัพท์มือถือ Galaxy Z Flip4 ทำให้โทรศัพท์รุ่นนี้เป็นรุ่นยอดฮิตของคนมีสไตล์ได้ไม่ยาก เหมาะสำหรับคนที่ชอบดีไซน์ใหม่ๆ และชอบถ่ายภาพ โดยมี 4 ให้เลือกทั้งหมด 4 สีได้แก่ สีม่วง สีพิงค์โกลด์ สีฟ้า และสีดำ นอกจากนี้ผู้ใช้สามารถเลือกความจุได้ 2 ขนาด คือ 128GB และ 256 GB ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 26,900 บาท

Samsung Galaxy A54 5G

โทรศัพท์มือถือ Samsung Galaxy A54 5G โทรศัพท์มือถือฟังก์ชันครบ ราคาคุ้มค่า น่าเป็นเจ้าของ มาพร้อมกล้องถ่ายภาพ 3 ตัว และระบบกันสั่น OIS ให้คุณได้บันทึกภาพความทรงจำสวยๆ ได้อย่างเต็มที่ พร้อมทั้งสามารถบันทึกวิดีโอแบบ 4K ได้ นอกจากนี้แบตเตอรี่ของตัวเครื่องยังมีความทนทานใช้งานได้อย่างยาวนานให้การเล่นโซเชียลของคุณไม่สะดุด

ดีไซน์ของเครื่องเบาบาง สามารถจับได้ถนัดมือ มาพร้อมกับสีสันน่ารักๆ ให้คุณได้เลือกถึง 4 สีได้แก่ สีดำ สีเขียว สีม่วง และสีขาว โดยราคาของ Galaxy A54 5G จะอยู่ที่ 13,999 บาทสำหรับหน่วยความจำ 256GB

Samsung Galaxy A14 5G

หากจะนึกถึงโทรศัพท์มือถือราคาย่อมเยา หน้าจอใหญ่ และรองรับการใช้งาน 5G คุณควรนึกถึง Samsung Galaxy A14 5G โทรศัพท์มือถือใช้งานง่ายราคาคุ้มเกินคุณภาพ ที่ถึงแม้ว่าคุณภาพของกล้องอาจไม่โดดเด่นเท่ารุ่นที่ราคาแพงๆ แต่ก็สามารถใช้งานได้ดีพอสมควร ทำให้คุณเก็บบันทึกภาพความทรงจำได้ตามที่ต้องการ โดยราคาจะอยู่ที่ 6,999 บาทมาพร้อมกับหน่วยความจำ 128 GB มี 2 สีให้เลือกคือ สีดำ และสีเงิน

Samsung Galaxy A04s

สำหรับคนที่งบน้อยเราขอแนะนำโทรศัพท์มือถือ Samsung Galaxy A04s มือถือสมาร์ทโฟนราคาประหยัดพร้อมให้คุณเป็นเจ้าของได้ง่ายๆ ด้วยราคา 4,699 บาท มาพร้อมกับหน้าจอที่ใหญ่ แต่บางเบา ความจำอยู่ที่ 64GB มีสองสีให้คุณเลือกคือ สีเขียว และสีดำ ขนาดของแบตเตอรี่อยู่ที่ 5000 mAh ใช้งานได้สะดวก ถ่ายรูปได้ง่าย เหมาะสำหรับคนที่อยากมีโทรศัพท์มือถือดีๆ สักเครื่องแต่งบน้อย

โทรศัพท์กล้องคมชัด

ขอขอบคุณภาพจาก https:// samsung.com/th/smartphones/galaxy-s23-ultra/

เปรียบเทียบโทรศัพท์แต่ละรุ่น รุ่นไหนเหมาะกับคุณ

เปรียบเทียบโทรศัพท์แต่ละรุ่น

เคล็ดลับเลือกโทรศัพท์ให้ตรงใจ ตอบโจทย์การใช้งาน

หากจะซื้อโทรศัพท์สักเครื่องควรพิจารณาจากอะไรบ้าง เพื่อให้คุณได้โทรศัพท์ที่ตรงตามความต้องการ และสามารถใช้งานได้อย่างคุ้มค่า วันนี้เรามีคำตอบว่า ก่อนจะซื้อโทรศัพท์คุณควรคำนึงถึงเรื่องดังต่อไปนี้

การนำไปใช้งาน

เพื่อให้ได้โทรศัพท์ที่เหมาะสมกับการใช้งานของคุณ สิ่งแรกที่คุณจะต้องพิจารณาเลยว่า จุดประสงค์ในการใช้งานของคุณมีอะไรบ้าง เช่น ใช้เพื่อติดต่อลูกค้า ทำงาน ขายสินค้าออนไลน์ หรือโปรโมทธุรกิจ เป็นต้น ซึ่งเมื่อคุณทราบจุดประสงค์ในการใช้งานคุณก็จะสามารถเลือกโทรศัพท์ที่มีฟังก์ชันตอบโจทย์การใช้งานของคุณได้

ยกตัวอย่างการใช้งานให้เข้าใจได้อย่างง่ายๆ เช่น หากคุณเป็นแม่ค้าออนไลน์ คุณอาจจะต้องใช้กล้องในการถ่ายภาพสินค้า การตกแต่งภาพ วิดีโอสินค้า และใช้โซเชียลในการโปรโมทสินค้า ดังนั้นโทรศัพท์มือถือ Samsung Galaxy S23 Ultra อาจเหมาะกับคุณ เพราะว่ามีฟังก์ชันการถ่ายภาพที่ครบครัน เป็นต้น

ระบบปฏิบัติการ

ระบบปฏิบัติการ หรือฟังก์ชันในการใช้งานที่หลากหลายของโทรศัพท์มือถือ ถือว่าสำคัญพอสมควรในการเลือกซื้อมือถือ โดยปัจจุบันมือถือที่คุณเลือกซื้อควรจะรองรับการใช้งานเครือข่ายอินเทอร์เน็ตแบบ 5G เพื่อให้สามารถเชื่อมต่อได้อย่างรวดเร็ว และไม่สะดุด นอกจากนี้ยังรวมถึงระบบปฏิบัติการในการถ่ายภาพ และวิดีโอด้วย ยกตัวอย่างเช่น ระบบกันสั่น ระบบปรับแสงอัตโนมัติตอนถ่ายภาพในที่มืด เป็นต้น

งบประมาณ

สิ่งสุดท้ายที่ไม่คำนึงถึงคงไม่ได้คือ เรื่องของงบประมาณในการซื้อโทรศัพท์ หากคุณมีงบจำกัดก็ให้เลือกโทรศัพท์ที่มีฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครันเหมาะสำหรับความต้องการของคุณ และอยู่ในราคาที่คุณเอื้อมถึงด้วย อย่างไรก็ตามในปัจจุบันผู้จัดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือได้พยายามทำโปรโมชั่น และส่วนลดต่างๆ มากมาย เพื่อจูงใจ คุณอาจได้โทรศัพท์ที่สเปคสูงขึ้นแต่ราคาย่อมเยาก็ได้

โทรศัพท์ที่มาพร้อมอุปกรณ์เสริม ช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ปัจจุบันมีโทรศัพท์หลายรุ่นได้ออกวางจำหน่ายอุปกรณ์เสริมต่างๆ มากมาย เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถใช้งานได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ซึ่งอุปกรณ์ที่ว่าก็ได้แก่ ปากกา แท่นชาร์จไร้สาย หูฟังไร้สาย และเคสโทรศัพท์ เป็นต้น โดยอุปกรณ์ต่างๆ เหล่านี้นอกจากมอบความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้แล้ว ยังช่วยให้การใช้งานโทรศัพท์มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ยกตัวอย่างเช่น Samsung Galaxy S23 Ultra ที่มาพร้อมกับปากกาไร้สาย ช่วยให้คุณใช้แอปพลิเคชันในโทรศัพท์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และไม่ต้องลำบากในการใช้นิ้วกด นอกจากนี้ยังสามารถใช้ปากกาไร้สายในการจดบันทึกข้อความต่างๆ ลงบนมือถือ หรือตกแต่งรูปภาพผ่านมือถือได้
นอกจากนี้ตัวแทนชาร์จไร้สาย และหูฟังไร้สาย ยังช่วยลดความยุ่งยากในการเก็บรักษาอุปกรณ์ให้คุณได้หมดห่วงในเรื่องของสายชาร์จ หรือสายหูฟังที่ชอบขาดไปเลย รวมถึงอุปกรณ์เหล่านี้ยังสามารถให้คุณมีความสะดวกสบายในการพกพาด้วย

วิธีดูแลรักษาโทรศัพท์มือถือให้ใหม่เอี่ยมอยู่เสมอ

แน่นอนอยู่แล้วว่าการจะซื้อโทรศัพท์แต่ละเครื่องราคาไม่ถูกเลย ดังนั้นนอกจากจะรู้วิธีเลือกโทรศัพท์ที่โดนใจแล้ว สิ่งต่อไปที่คุณควรจะรู้คือ วิธีดูแลรักษาโทรศัพท์ให้ใหม่เอี่ยมอยู่เสมอ และสามารถใช้งานได้ยาวนานมากขึ้น โดยวิธีการดูแลรักษาโทรศัพท์ที่คุณควรทำจะมีดังต่อไปนี้

การชาร์จแบตเตอรี่อย่างถูกวิธี

หลายคนเวลาใช้โทรศัพท์ไปสักพักมักจะประสบกับปัญหาแบตเตอรี่เสื่อม ดังนั้นการดูแลรักษาแบตเตอรี่ และชาร์จแบตเตอรี่ที่ถูกวิธีจะช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่โทรศัพท์ได้ โดยข้อควรระวังที่คุณควรจะทำเพื่อรักษาแบตเตอรี่คือ

1. ไม่ควรชาร์จแบตเตอรี่ทิ้งไว้นานๆ หรือชาร์จข้ามคืน เมื่อพบว่าชาร์จแบตเต็มแล้วแนะนำให้ดึงปลั๊กออก
2. ไม่ใช้งานโทรศัพท์ระหว่างชาร์จแบต เช่น เล่นเกม หรือเล่นโซเชียล เป็นต้น
3. ในการชาร์จแบตแต่ละครั้ง ควรชาร์จแบตให้เต็มถึงค่อยดึงปลั๊กออก การชาร์จแบตไม่เต็มบ่อยๆ และดึงมาใช้ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้แบตเสื่อมเร็วได้
4. เลือกอุปกรณ์ชาร์จที่ได้มาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็น ปลั๊ก สายชาร์ต หรือพาวเวอร์แบงค์
5. อย่าปล่อยให้แบตเตอรี่หมดจนเครื่องดับถึงชาร์จบ่อยๆ หากโทรศัพท์เตือนว่าแบตเตอรี่ใกล้หมดแล้ว แนะนำให้ชาร์จทันทีเลย

การอัปเดตซอฟต์แวร์

โทรศัพท์สมาร์ทโฟนในปัจจุบันจะมีการอัพเดทซอฟต์แวร์อยู่ตลอด ทั้งนี้ก็เพื่อให้การใช้งานแอปพลิเคชั่นต่างๆ สามารถใช้งานได้อย่างไม่ขัดข้อง ดังนั้นเมื่อมีการเตือนให้อัพเดทซอฟต์แวร์คุณก็สามารถทำได้เลย หากเมื่อมีการอัพเดทซอฟต์แวร์แล้ว คุณก็อย่าลืมอัพเดทแอปพลิเคชั่นต่างๆ เพื่อให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย

การใส่เคสโทรศัพท์ป้องกันการกระแทก

โทรศัพท์สมาร์ทโฟนในปัจจุบันถึงแม้ว่าจะถูกออกแบบมาให้ทนทานพอสมควรแล้ว แต่การตก หรือกระแทกบ่อยๆ คงไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน เพราะฉะนั้นเมื่อคุณซื้อโทรศัพท์มาใหม่อย่าลืมซื้อเคสกันกระแทก และติดฟิล์มกระจกกันหน้าจอแตกด้วยล่ะ จะได้อุ่นใจถึงแม้โทรศัพท์จะตกก็อาจจะไม่เป็นรอย หรือยังสามารถใช้งานได้อยู่

การหลีกเลี่ยงความชื้น

ความชื้นเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่คุณควรหลีกเลี่ยง เพราะว่าโทรศัพท์บางรุ่นอาจไม่สามารถกันน้ำ หรือทนความชื้นได้ ถ้าหากคุณอยากให้โทรศัพท์ใช้งานได้อย่างยาวนาน คุณควรหลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีความชื้นสูงจะดีกว่า ยกตัวอย่างเช่น ในห้องน้ำ หรือบนโต๊ะที่มีน้ำเปียกอยู่ เป็นต้น 

สรุปโทรศัพท์สมาร์ทโฟน ทำไมจึงจำเป็น? แล้วควรเลือกซื้ออย่างไร

โทรศัพท์เป็นไอเทมที่ทุกคนขาดไม่ได้ และในปัจจุบันยิ่งมีบทบาทในการดำเนินชีวิตเป็นอย่างมาก จากบทความข้างต้นคุณพอจะทราบแล้วว่าหากจะซื้อโทรศัพท์สักเครื่องจะต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง อย่างไรก็ตามถ้าหากคุณมีงบประมาณที่มากพอ เราก็ขอแนะนำให้คุณเลือกโทรศัพท์ที่มีคุณสมบัติสูงเพื่อที่จะได้ใช้งานได้อย่างเต็มที่ และมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ซึ่งโทรศัพท์มือถือ Samsung Galaxy S23 Ultra ถือว่าเป็นมือถือรุ่นใหม่ล่าสุดที่มีคุณสมบัติสูง ฟังก์ชันครบครัน และสามารถช่วยให้การทำงานในชีวิตประจำวัน และการใช้โซเชียลเน็ตเวิร์คสะดวกสบายมากขึ้น เหมาะกับคนรุ่นใหม่ที่ชอบการสื่อสารผ่านโซเชียล และทำงาน หรือธุรกิจบนโลกออนไลน์อย่างมาก หากคุณจะตัดสินใจซื้อโทรศัพท์สักเครื่องก็เลือกเครื่องที่มีเทคโนโลยีล้ำหน้าไปเลยจะได้ใช้งานได้นานๆ

221
ต่อ passport

พาสปอร์ตนั้นมีอีกชื่อว่าหนังสือเดินทาง แต่คนไทยส่วนมากนิยมใช้คำทับศัพท์กัน เพราะง่ายและสั้นต่อการจดจำ เคยสงสัยหรือไม่ว่าทำไมทุกครั้งที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศ ทุกคนต้องทำพาสปอร์ต ก็เพราะพาสปอร์ตคือหลักฐานยืนยันตัวตนของผู้เดินทางนั่นเอง

หรือจะเปรียบเทียบการทำพาสปอร์ตเหมือนกับกุญแจไขเข้าประเทศปลายทางของผู้เดินทางก็ได้ รวมถึงเป็นกุญแจกลับเข้าประเทศอีกด้วย เพราะหากไม่มีกุญแจเราก็จะไม่สามารถเข้าบ้านได้ ซึ่งแต่ละประเทศก็เปรียบเสมือนบ้านของเราและบ้านของเพื่อน นี่ก็เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้พาสปอร์ตนั้นมีความสำคัญมากนั่นเอง

หนังสือเดินทาง (Passport) คืออะไร

ทำ passport

หนังสือเดินทางหรือที่เรียกทับศัพท์จากคำว่า Passport เป็นหนังสือบันทึกประวัติการเดินทางระหว่างประเทศของผู้ถือครอง ไม่ว่าจะเป็นประเทศเพื่อนบ้านใกล้ ๆ เราก็จำเป็นต้องมีหนังสือเดินทาง และแน่นอนว่าประเทศไกล ๆ ยิ่งไม่ต้องพูดถึง

นอกจากนี้หนังสือเดินทาง (Passport) ยังใช้เพื่อยืนยันตัวตนของผู้ถือครองอีกด้วย เหมือนกับบัตรประชาชนแต่ใช้กันเป็นหลักสากล เพราะฉะนั้นเวลาไปต่างประเทศจึงจำเป็นอย่างมากที่จะทำพาสปอร์ต และควรพกติดตัวหรือเก็บไว้ในที่ที่ปลอดภัย ป้องกันการสูญหาย เพราะหากทำพาสปอร์ตหาย จะทำให้เกิดเรื่องยุ่งยาก โดยเฉพาะประเทศที่ต้องมีวีซ่าควบคู่ในการเดินทางเข้าประเทศด้วยแล้ว ถ้าทำพาสปอร์ตหายก็มีสิทธิ์ที่จะถูกส่งกลับประเทศ

ที่สำคัญพาสปอร์ตนั้นจะมีอายุแค่ 5 ปี หรือ 10 ปีเท่านั้น และหากจะเดินทางออกนอกประเทศ วันหมดอายุของพาสปอร์ตจะต้องไม่ต่ำกว่า 6 เดือนเท่านั้น ทางที่ดีควรรีบไปต่อพาสปอร์ตก่อน เพราะสามารถต่อล่วงหน้าได้ก่อนวันหมดอายุโดยไม่มีการจำกัดวัน โดยเกณฑ์นี้ถือเป็นหลักสากลเพื่อป้องกันการหลบหนี หรือป้องกันเอกสารมีปัญหานั่นเอง เพราะฉะนั้นหากใครที่กำลังจะเดินทาง อย่าลืมเช็ควันหมดอายุของพาสปอร์ต หากใกล้พาสปอร์ตใกล้หมดอายุก็ต้องรีบไปต่อพาสปอร์ตที่สถานที่ที่ท่านสะดวก

Passport มีกี่แบบกันนะ

ต่อพาสปอร์ต

หลายคนอาจคิดว่าหนังสือเดินทาง (Passport) มีแค่แบบเดียว แต่อันที่จริงแล้วหนังสือเดินทาง (Passport) มีด้วยกันถึง 5 ประเภท ซึ่งจะแบ่งตามอาชีพ แต่ก็มีบางกรณีที่จำเป็นต้องถือหนังสือเดินทางแบบชั่วคราว (temporary passport, emergency passport) เช่นกัน

หนังสือเดินทางธรรมดา

หนังสือเดินทางธรรมดา (Ordinary Passport) คือหนังสือเดินทางทั่วไปที่คนที่ไม่ได้ประกอบอาชีพเกี่ยวกับราชการเป็นคนถือ ปกติแล้วจะมีทั้งแบบอายุ 5 ปี และแบบใหม่ที่เพิ่งมีไม่นานมานี้คือแบบ 10 ปี เหมาะกับคนที่เดินทางบ่อย ๆ มากเพราะถ้าหากไม่อยากต่อพาสปอร์ตบ่อย ๆ ก็เพิ่มค่าธรรมเนียมอีกนิดหน่อยเท่านั้นเอง

สำหรับคนที่มีอายุไม่เกิน 20 ปี จำเป็นต้องมีเอกสารดังต่อไปนี้

  • บัตรประชาชนตัวจริงของผู้ถือหนังสือเดินทาง (เฉพาะผู้ที่อายุ 7 ปี ขึ้นไป แต่ไม่เกิน 20 ปี)
  • สูติบัตรฉบับจริง
  • หนังสือเดินทางฉบับเดิม (ถ้ามี)
  • หนังสือเดินทางหรือบัตรประชาชนของบิดามารดาหรือผู้ปกครองที่ยังไม่หมดอายุ
  • เอกสารยืนยันความเกี่ยวพันและหนังสือแสดงอำนาจปกครองผู้เยาว์
  • บิดามารดาหรือผู้ปกครองต้องมาแสดงตนและเซ็นยินยอมในวันที่ทำหนังสือเดินทางด้วย
  • หนังสือมอบอำนาจและหนังสือยินยอมให้ทำการเดินทางจากบิดามารดาหรือผู้ปกครอง รวมทั้งหนังสือเดินทางหรือบัตรประชาชนตัวจริงของผู้มอบอำนาจด้วย
  • หากบิดามารดาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่สามารถมาแสดงตนในวันที่ทำหนังสือเดินทาง จำเป็นต้องทำหนังสือยินยอมให้บุตรเดินทางไปต่างประเทศ (ทำที่ว่าการเขตหรืออำเภอ)
  • กรณีผู้ปกครองเสียชีวิตต้องแนบสำเนาใบมรณบัตรมาด้วย
  • หากอายุต่ำกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 20 ปี ต้องการที่จะทำหนังสือเดินทางด้วยตัวเอง ไม่จำเป็นต้องมีหนังสือมอบอำนาจ

สำหรับผู้ที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป

  • บัตรประชาชนตัวจริง
  • หนังสือเดินทางเล่มเดิม
  • กรณีหนังสือเดินทางเล่มเก่าหาย ให้นำใบแจ้งความมาด้วย

หนังสือเดินทางราชการ

หนังสือเดินทางราชการ (Official Passport) ปกหนังสือเดินทางจะเป็นสีน้ำเงิน มีอายุไม่เกิน 5 ปี และไม่สามารถใช้กับการเดินทางส่วนตัวได้ สำหรับบุคคลที่สามารถถือหนังสือเดินทางราชการได้ จำเป็นต้องเข้าเกณฑ์ตามนี้

  • เป็นข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่ถูดจัดตั้งตามหลักรัฐธรรมมนูญและสมาชิกรัฐสภา และต้องเป็นการเดินทางเพื่อไปราชการในต่างแดนเท่านั้น
  • ข้าราชการที่ไม่ได้มีตำแหน่งทางการทูต แต่ต้องไปประจำและปฏิบัติราชการที่สถานเอกอัคราชทูต สถานกงสุลไทย และคณะทูตถาวรประจำองค์การระหว่างประเทศ
  • คู่สมรสและบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายของผู้ปฏิบัติราชการก็สามารถถือหนังสือเดินทางราชการได้เช่นเดียวกัน แต่มีข้อแม้ว่าบุตรจะต้องมีอายุไม่เกิน 25 ปี
    บุคคลใดก็ตามที่ได้รับมอบหมายให้ไปปฏิบัติราชการที่ต่างประเทศ
  • บุคคลใดที่สามารถทำประโยชน์ในทางราชการหรือทางปลัดกระทรวงการต่างประเทศเห็นสมควรมอบหนังสือเดินทางราชการได้

หนังสือเดินทางทูต

หนังสือเดินทางทูต (Diplomatic Passport) ปกหนังสือเดินทางจะเป็นสีแดงสด มีอายุ 5 ปี และไม่สามารถทำการต่อพาสปอร์ตได้ ผู้มีสิทธิ์ถือหนังสือเดินทางทูตจะมีแค่บุคคลต่อไปนี้เท่านั้น

  • พระราชวงศ์และบุคคลสำคัญที่ราชเลขาธิการอนุญาตเป็นกรณีพิเศษ
  • ประธานองคมนตรี องคมนตรีและคู่สมรส
  • รัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีและคู่สมรส
  • ประธานและรองประธาน ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภา และคู่สมรสเท่านั้น
  • ประธานและรองประธานศาลฎีกา ประธานศาลอุธรณ์ ศาลรัฐธรรมนูญ และศาลปกครองสุงสุดและคู่สมรส
  • อดีตนายกรัฐมนตรี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ
  • ผู้บัญชาการทหารสูงสุดและผู้บัญชาการเหล่าทัพ
  • ข้าราชการที่มีตำแหน่งทางการทูต
  • คู่สมรสและบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายของข้าราชการที่มีตำแหน่งทางการทูตก็สามารถถือหนังสือเดินทางราชการได้เช่นเดียวกัน แต่มีข้อแม้ว่าบุตรจะต้องมีอายุไม่เกิน 25 ปี
  • บุคคลใดที่สามารถทำประโยชน์ในทางราชการ พันธกรณีระหว่างประเทศ สถานการณ์พิเศษ หรือทางปลัดกระทรวงการต่างประเทศเห็นสมควรมอบหนังสือเดินทางทูตได้

หนังสือเดินทางชั่วคราว

หนังสือเดินทางแบบชั่วคราว (temporary passport, emergency passport) หน้าปกสีเขียวหรือแบบกระดาษสีขาว ใช้สำหรับกรณีฉุกเฉินอย่างเช่น หนังสือเดินทางเล่มเดิมหายแต่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องเดินทางออกนอกประเทศ  หรือกรณีที่อยู่ต่างประเทศแล้วหนังสือเดินทางหมดอายุหรือสูญหาย มีอายุแค่ 1 ปีเท่านั้น และไม่สามารถต่อพาสปอร์ตหรือใช้ขอวีซ่าได้ เพราะหนังสือเดินทางประเภทนี้จะไม่มีบาร์โค้ดที่อ่านค่าได้ (Machine Reable Bar Code) และหากไม่มี Reable Bar Code ก็จะไม่สามารถทำการเดินทางเข้าประเทศที่ต้องขอวีซ่า ตามกฎสากลขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organisation/ICAO)

สถานที่ทำพาสปอร์ต

ต่อ passport ที่ไหน

หากอยากทำพาสปอร์ตหรือต่อพาสปอร์ต ในปัจจุบันไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพราะมีจุดบริการมากมาย รวมถึงการทำพาสปอร์ตด้วยตัวเองอย่างเครื่องทำพาสปอร์ตอีกด้วย โดยจุดบริการมีดังต่อไปนี้

กรมการกงสุล
  • เขตแจ้งวัฒนะ

สำนักงานหนังสือเดินทาง
  • ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา (ให้บริการเฉพาะหนังสือเดินทางราชการเท่านั้น)

สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว
  • ธัญญาพาร์ค บางนา-ศรีนครินทร์
  • SC Plaza สายใต้ใหม่-ตลิ่งชัน
  • Big C สุวินทวงศ์ จ.มีนบุรี
  • MRT คลองเตย
  • MBK Center เขตปทุมวัน
  • ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต จ.ธัญบุรี
  • Central Westgate จ.บางใหญ่
  • อาคาร SMEs2 จ.เชียงใหม่
  • อบจ.หลังใหม่ จ.เชียงราย
  • Central Plaza จ.พิษณุโลก
  • Big C สาขา 2 จ.นครสวรรค์
  • Central Plaza จ.อุดรธานี
  • ศาลากลางจังหวัดหลังเก่า จ.ขอนแก่น
  • ศาลากลางจังหวัด จ.อุบลราชธานี
  • Central Plaza จ.นครราชสีมา
  • อาคารลานค้าชุมชน จ.จันทบุรี
  • ห้างสหไทย การ์เด้นพลาซา จ.สุราษฎร์ธานี
  • Central Festival จ.ภูเก็ต
  • อาคารโครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้  จ.สงขลา
  • ศอ.บต. จ.ยะลา
  • Central พัทยา
  • Buriram Castle จ.บุรีรัมย์
  • Central Plaza จ.นครศรีธรรมราช
  • สำนักงานออกหนังสือผ่านแดน จ.หนองคาย
  • โรบินสัน จ.เพชรบุรี

ค่าธรรมเนียมการทำพาสปอร์ต

ทำหนังสือเดินทางราคา

สำหรับค่าธรรมเนียมการทำหนังสือเดินทางหรือค่าธรรมเนียมการต่อหนังสือเดินทางจะราคาเท่ากัน ขึ้นอยู่กับอายุการใช้งานและประเภทของการทำพาสปอร์ตหรือต่อพาสปอร์ต อาจมีค่าธรรมเนียมการส่งเล่มเล็กน้อย ในกรณีที่ไม่ได้รับเล่มเองหรือทำแบบด่วน

หนังสือเดินทางทั่วไป
  • 5 ปี ราคา 1,000 บาท (เร่งด่วน 3,000 บาท)
  • 10 ปี ราคา 1,500 บาท (เร่งด่วน 3,500 บาท)

หนังสือเดินทางราชการ
  • 1,000 บาท

หนังสือเดินทางทูต
  • ไม่มีค่าธรรมเนียม

หนังสือเดินทางชั่วคราว
  • 1,000 บาท

สรุป

ต่อหนังสือเดินทาง

การทำพาสปอร์ตหรือการต่อพาสปอร์ตนั้นไม่ได้ยาก เพียงแค่มีเอกสารครบ เตรียมค่าธรรมเนียมให้พอดี บางสาขาใช้เวลาไม่นาน ขึ้นอยู่กับคิวของผู้ขอคำร้อง รวมถึงปฏิบัติตามข้อบังคับในการทำพาสปอร์ต อย่างเช่น ห้ามใส่คอนแทคเลนส์เนื่องจากปัจจุบันจะมีการสแกนม่านตา หรือเวลาถ่ายรูปจะต้องเห็นคิ้วเป็นต้น เพียงแค่ปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด เท่านี้คุณก็สามารถมีหนังสือเดินทางเป็นของตัวเองได้แล้ว

222
บ้านเดี่ยว

บ้านเดี่ยวเป็นหนึ่งในประเภทบ้านที่ใครหลายๆ คนสนใจอยากซื้อ แต่บ้านเดี่ยวแท้จริงแล้วต้องมีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง บ้านเดี่ยวแบบไหนถึงจะดี และ บ้านเดี่ยว โครงการไหนโดดเด่นบางในปีนี้ เราได้รวบรวมทุกข้อควรรู้ไว้ให้ในบทความนี้แล้ว

บ้านเดี่ยว

บ้านเดี่ยว

บ้านเดี่ยว หรือ Single-Detached House คือบ้านที่จะต้องมีพื้นที่รอบบ้านเว้นระยะห่างไม่ต่ำกว่า 2 เมตร และต้องอยู่บนที่ดินขนาด 50 ตารางวาเป็นต้นไป จึงทำให้เป็นบ้านที่มีพื้นที่ใช้สอยและพื้นที่ส่วนตัวค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับบ้านประเภทอื่นๆ

บ้านเดี่ยว มีข้อดีอย่างไร

1. ความเป็นส่วนตัวสูง

จากความหมายของบ้านเดี่ยวทำให้บ้านเดี่ยวเป็นบ้านที่มีพื้นที่ห่างจากบ้านหลังอื่นๆ จึงมีความเป็นส่วนตัวสูงกว่าที่อยู่อาศัยประเภทอื่นนั่นเอง

2. ความปลอดภัยสูง

บ้านเดี่ยวจะมีกำแพงรายล้อมและมักอยู่ในโครงการที่มีการรักษาความปลอดภัยที่ดีเยี่ยม รวมไปถึงสามารถติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติมได้ง่าย จึงมีความปลอดภัยสูงกว่าบ้านประเภทอื่นๆ

3. พื้นที่ใช้สอยเยอะ

บ้านเดี่ยวจะมีพื้นที่ใช้สอยค่อนข้างเยอะ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่จอดรถ พื้นที่พักผ่อน หรือพื้นที่สำหรับการทำกิจกรรมกันภายในครอบครัวก็ตาม

4. เงียบสงบ

ด้วยความที่บ้านเดี่ยวมักอยู่ในโครงการที่ทำเลดี จึงมีความเงียบสงบและปราศจากเสียงรบกวนทั้งกลางวัน กลางคืน

ปัจจัยที่ต้องพิจารณาก่อนเลือกซื้อบ้านเดี่ยว

ปัจจัยที่ต้องพิจารณาก่อนเลือกซื้อบ้านเดี่ยว

ก่อนเลือกซื้อบ้านเดี่ยวก็มหลายปัจจัยที่ควรคำนึงถึงได้แก่

การเดินทางย่านทำเลบ้านเดี่ยว

บ้านเดี่ยวตั้งอยู่ในทำเลที่เดินทางสะดวกหรือไม่ การเดินทางอาจมีได้หลายวิธีประกอบไปด้วย

  • การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว
  • การเดินทางด้วยรถสาธารณะ เช่น รถเมล์ รถไฟฟ้า

สิ่งอำนวยความสะดวกรอบโครงการบ้านเดี่ยว

บ้านเดี่ยวมีสิ่งอำนวยความสะดวกรายล้อมเพียงพอหรือไม่ ประกอบไปด้วย

  • ห้างสรรพสินค้า และช้อปปิ้งมอลล์ต่างๆ
  • สถานศึกษาอย่างโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย
  • โรงพยาบาล

ราคาบ้านเดี่ยว

บ้านเดี่ยวที่คุณสนใจอยู่ในเรนจ์ราคาที่คุณกำหนดไว้หรือไม่ เป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณา ทั้งการขอสินเชื่อบ้านต่างๆ และกำลังการซื้อของเราเอง

แบบบ้านเดี่ยว

บ้านเดี่ยวมีแบบบ้านอย่างไร มีห้องหรือฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์ความต้องการของเราหรือไม่ มีดีไซน์บ้านที่สวยงามตรงตามไลฟ์สไตล์เราหรือเปล่าก็เป็นอีกปัจจัยที่จะพลาดไปไม่ได้

บริษัทหรือโครงการบ้านเดี่ยวที่น่าเชื่อถือ

โครงการบ้านเดี่ยวหรือบริษัทที่จัดทำบ้านเดี่ยวมีความน่าเชื่อถือมากแค่ไหน มีรีวิวที่ดีหรือไม่ในด้านของความรับผิดชอบภายหลังการสร้างเสร็จแล้ว ควรหาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจ

ทำเลบ้านเดี่ยว เลือกย่านไหนดี

จะเลือกทำเลบ้านเดี่ยวย่านไหนบ้างอาจต้องดูว่าย่านนั้นๆจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคตหรือไม่ เดินทางสะดวกแค่ไหน และมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบหรือเปล่า ซึ่งโดยทั่วไปแล้วหากเป็นบ้านเดี่ยวย่านต่อไปนี้จะมีครบทุกองค์ประกอบได้แก่ บ้านเดี่ยวบางนา, บ้านเดี่ยวราชพฤกษ์, บ้านเดี่ยวพระราม 5, บ้านเดี่ยวรามอินทรา, บ้านเดี่ยวรังสิต, บ้านเดี่ยวพัฒนาการ ที่เป็นย่านความเจริญสูงและยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องนั่นเอง

โครงการบ้านเดี่ยวพร้อมอยู่ แนะนำ 2566

เวนิว ไอดี มอเตอร์เวย์ – พระราม 9

บ้านเดี่ยวโครงการเวนิว ไอดี มอเตอร์เวย์ - พระราม9 ราคาเริ่มต้นที่ 10 ล้าน ด้วยดีไซน์การออกแบบสไตล์นอร์เวย์ที่เน้นการเพิ่มพื้นที่ให้คุณและคนที่คุณรักได้แชร์เรื่องราวดีๆ ไปด้วยกัน มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันไม่ว่าจะเป็นพื้นที่สำหรับการออกกำลังกาย พื้นที่เพื่อการพักผ่อน พื้นที่เสริมสร้างพัฒนาการเด็ก และพื้นที่ทำงานแบบโคเวิร์กกิ้งสเปซ

บ้านเดี่ยวโครงการนี้ตั้งอยู่ในทำเลดีใกล้มอเตอร์เวย์และพระราม 9 จึงเดินทางสะดวกมาก หรือจะเดินทางโดยแอร์พอร์ตลิงก์ก็ใช้เวลาไม่นานเช่นกัน นอกจากนี้ยังเป็นบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ 5 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ ที่มีพื้นที่พักผ่อนอย่างห้องรับแขกและห้องพักผ่อนรวมกัน 3 ห้อง จะทำอาหารหรือรับประทานอาหารก็ทำได้มีห้องแยกกันเป็นสัดส่วนอีกต่างหาก และยังมีห้องแม่บ้านเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกเพิ่มเติมอีกด้วย

แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด ราชพฤกษ์ – ปิ่นเกล้า

บ้านเดี่ยวโครงการแกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด ราชพฤกษ์ - ปิ่นเกล้า ราคาเริ่มต้นที่ 30 ล้าน ด้วยดีไซน์คฤหาสน์ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากปราสาทสุดหรูประเทศเยอรมนี ให้คุณได้ดื่มด่ำบรรยากาศความสวยงามและชื่นชมศิลปะการออกแบบสไตล์ Rococo ประกอบกับสิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วน ทั้งสระว่ายน้ำ ฟิตเนส สโมสร และสวนส่วนกลางให้คุณเลือกใช้ได้ตามไลฟ์สไตล์

บ้านเดี่ยวโครงการนี้ตั้งอยู่ในทำเลใจกลางราชพฤกษ์ จะเดินทางไปไหนก็สะดวกเพราะใกล้ถนนกาญจนาภิเษก และยังเชื่อมไปยังถนนเพชรเกษมหรือถนนบรมราชชนนีได้ง่ายๆ อีกด้วย นอกจากนี้ยังเป็นบ้านเดี่ยวสุดหรูขนาดใหญ่พิเศษ ที่สมาชิกในครอบครัวทุกคนจะได้พื้นที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ด้วย 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 5 ที่จอดรถ ที่มีพื้นที่พักผ่อนทั้งขนาดใหญ่และขนาดกลางรวมกัน 3 ห้อง รวมไปถึงยังเป็นบ้านเดี่ยวที่มีห้องแม่บ้าน 2 ห้องและห้องซักรีดอีก 1 ห้องด้วย เรียกได้ว่าตอบโจทย์การใช้งานกันแบบสุดๆ จะทำอาหารหรือรับประทานอาหารก็มีห้องแยกให้เช่นกัน

เดอะ เจนทริ พัฒนาการ 2

บ้านเดี่ยวโครงการเดอะ เจนทริ พัฒนาการ 2 ราคาเริ่มต้นที่ 45 ล้าน ด้วยความเป็นวิลล่าสุดหรูจึงออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์การใช้ชีวิตอย่างหรูหราใจกลางเมืองแบบสุดๆ มีสิ่งอำนวยความสะดวกรอบด้าน ตั้งแต่สโมสร สระว่ายน้ำ ฟิตเนส สวนสำหรับพักผ่อน พื้นที่โคเวิร์กกิ้งสเปซและพื้นที่ส่งเสริมพัฒนาการเด็ก ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์กันแบบสุดๆ

บ้านเดี่ยวโครงการนี้ตั้งอยู่ในทำเลใจกลางเมือง ห่างทองหล่อเพียง 5 กิโลเมตรเท่านั้น จึงเดินทางสะดวกและมีสิ่งอำนวยความสะดวกรายล้อมครบถ้วน นอกจากนี้ยังเป็นบ้านที่รองรับสมาชิกในครอบครัวได้เป็นอย่างดี ด้วย 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ และ 3 ที่จอดรถ ที่โดดเด่นยิ่งกว่าคือมีดับเบิ้ลลีฟวิ่งรูม แถมยังรองรับลิฟต์อีกด้วย บ้านเดี่ยวหลังนี้จึงแตกต่างจากบ้านอื่นๆ แบบเห็นได้ชัด รวมไปถึงมีห้องแม่บ้านและห้องครัวแยกต่างหาก บ้านเดี่ยวหลังนี้จะสร้างประสบการณ์การพักอาศัยที่โดดเด่นและแตกต่างให้กับคุณอย่างแน่นอน

เพฟ รังสิต-วิภาวดี

บ้านเดี่ยวโครงการเพฟ รังสิต-วิภาวดี ราคาเริ่มต้นที่ 5.99 ล้าน ออกแบบมาโดยเน้นความโมเดิร์นทันสมัยและปลอดภัยด้วยระบบรักษาความปลอดภัยทั้งภายนอกภายในอย่างครบถ้วน ให้คุณอุ่นใจตลอดการพักอาศัย รวมไปถึงมีนวัตกรรม living solutions ช่วยตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวันให้ดีกว่าเดิม มีสิ่งอำนวยความสะดวกครอบคลุมตั้งแต่ สระว่ายน้ำ ฟิตเนส สนามบาสเก็ตบอล สนามเด็กเล่น พื้นที่สร้างเสริมพัฒนาการเด็ก สวนส่วนกลาง โคเวิร์กกิ้งสเปซและสโมสร ให้คุณใช้บริการได้ตามใจชอบ

บ้านเดี่ยวโครงการนี้ตั้งอยู่ในทำเลดีใกล้ถนนรังสิต-นครนายกและถนนคลองหลวง หรือจะมุ่งตรงสู่ถนนกาญจนาภิเษกและใช้ทางด่วนฉลองรัชก็ไม่ไกลมาก เรียกได้ว่าเดินทางง่ายและสะดวกสุดๆ โดยในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีชมพูให้บริการในบริเวณใกล้เคียงอีกด้วย บ้านเดี่ยวหลังนี้สามารถตอบโจทย์ครอบครัวขนาดใหญ่ได้เป็นอย่างดีด้วย 5 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ มีส่วนพักผ่อนมากถึง 2 ส่วนและมีครัวแบบปิดให้ใช้งาน จึงมั่นใจได้ว่าสมาชิกในครอบครัวแต่ละคนจะมีพื้นที่ส่วนตัวของตัวเองและมีพื้นที่แชร์เรื่องราวดีๆ ไปด้วยกันแน่นอน

วี คอมพาวด์ บางนา-ศรีนครินทร์

บ้านเดี่ยวโครงการวี คอมพาวด์ บางนา-ศรีนครินทร์ ราคาเริ่มต้นที่ 3.29 ล้าน ออกแบบสไตล์โมเดิร์นและมีระบบรักษาความปลอดภัยสูงเช่นกัน แต่จะโดดเด่นด้วยเทคโนโลยี Smart Home ทั้งหลัง ตอบโจทย์การพักอาศัยสมัยใหม่ให้ถูกใจคุณยิ่งกว่าเดิม สิ่งอำนวยความสะดวกภายนอกก็มีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น สระว่ายน้ำระบบเกลือ ฟิตเนส สโมสร สวนพักผ่อน พื้นที่ส่งเสริมพัฒนาการ หรือจะทำงานที่โคเวิร์กกิ้งสเปซก็ทำได้

บ้านเดี่ยวโครงการนี้ตั้งอยู่ในทำเลที่มีโรงเรียน โรงพยาบาล และห้างสรรพสินค้าหลายแห่งรายล้อม ตัวอย่างเช่น เมกา บางนา, โรงเรียนสารสาสน์, โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 1 อยู่ใกล้ถนนวงแหวนกาญจนาภิเษกและใกล้ทางพิเศษบูรพาวิถีอีกด้วย การเดินทางจึงไม่เป็นปัญหาเลย นอกจากนี้ในระแวกใกล้เคียงยังมีรถไฟฟ้าสายสุขุมวิทหลายสถานี เช่น สถานี BTS บางนา, สถานี BTS แบริ่ง และ สถานี BTS สำโรงเป็นต้น โดยเป็นบ้านเดี่ยวขนาดกลาง 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ซึ่งมีห้องครัวและห้องอเนกประสงค์ให้คุณใช้งานเพิ่มเติมได้

สรุป

จะเห็นได้ว่าบ้านเดี่ยวเป็นบ้านที่ให้ความเป็นส่วนตัวสูงมีพื้นที่ใช้สอยมาก จึงเหมาะกับครอบครัวส่วนใหญ่ โดยหากคุณเลือกทำเลที่ดี เดินทางสะดวก มีสิ่งอำนวยความสะดวกรายล้อมแล้วก็สามารถอยู่อาศัยได้อย่างสบายใจ หากคุณสนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบ้านเดี่ยวโครงการต่างๆ สามารถสอบถามได้ที่ SC Asset โทร 1749 Fax : 0-2949-2227 หรือเข้าสู่เว็บไซต์ www.scasset.com ซึ่งจะมีโครงการบ้านเดี่ยวน่าสนใจแนะนำพร้อมให้คำปรึกษาคุณอย่างครบถ้วน ให้คุณได้เลือกบ้านที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณและคนที่คุณรักมากที่สุด


223
Samsung Galaxy A14 5G ที่ออกใหม่ในรอบนี้ได้รับการอัปเกรดจาก Galaxy A13 Series ที่ออกในปีที่แล้วมีดีไซน์ที่ทันสมัยขึ้นสีสวยขึ้นกว่าเดิมมากและตัว Material มีความสวยขึ้นทำให้ดูน่าใช้หยิบจับหรือถือ Samsung A14 5G ไปไหนมาไหนก็ให้ความรู้สึกว่าเท่แบบสุด ๆ หรูหราคล้ายกับตระกูล S Series ตัวท็อปของแบรนด์ SAMSUNG เลยก็ว่าได้แล้ว Samsung A14 5G สเปคพร้อมราคาจะดีแค่ไหนมาดูกันได้เลย

Samsung A14 5G ดียังไง คุ้มไหม
ขอขอบคุณภาพจาก https:// images.samsung.com/is/image/samsung/p6pim/th/feature/164337940/th-feature-galaxy-a14-5g-sm

Samsung A14 5G ราคาจะน่าโดนแค่ไหน

สำหรับ Samsung A14 5G ราคาเปิดตัวในเดือนมีนาคม 2566 อยู่ที่ 6,999 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่อยู่ในระดับกลางจับต้องได้และใช้งานได้ยาว ๆ นอกจากนี้ยังมีโปรโมชั่นราคาพิเศษสำหรับคนที่ใช้ค่ายมือถือต่าง ๆ อีกด้วยเช่น

  • สำหรับลูกค้า AIS คุณสามารถซื้อ Samsung A14 5G 128GB ในราคาพิเศษได้เริ่มต้นที่ 2,999 บาท สำหรับรายเดือนเช่นเดียวกับลูกค้าที่เปิดเบอร์ใหม่และลูกค้าย้ายค่ายเบอร์เดิม
  • สำหรับลูกค้า Truemove H คุณจะสามารถซื้อ Galaxy A14 5G ได้ในราคาเริ่มต้นเพียง 2,989 บาท และยังรับฟรี Samsung Adapter 15W สอบถามเงื่อนไขและรายละเอียดได้เลยที่ True Shop ทุกสาขา
  • แอปพลิเคชันช้อปปิ้งออนไลน์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น BaNANA สินค้าอุปกรณ์ IT, Shopee Thailand, ช้อป Lazada ออนไลน์ ก็สามารถสั่งซื้อได้เหมือนกันรับประกันสินค้าของแท้ 100% คืนเงินภายใน 7-15 วัน แล้วแต่เงื่อนไขของแต่ละแอปพลิเคชัน

Samsung A14 5G มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่น่าสนใจมากถึง 4 ฟีเจอร์

Samsung A14 5G มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่น่าสนใจมากถึง 4 ฟีเจอร์หลัก ๆ อย่างกล้องหลังก็ให้มามากถึง 3 เลนส์ หน่วยประมวลผลความเร็ว 2.2 GHz น้ำหนักเครื่องไม่มากจนเกินไปและให้แบตมาถึง 5,000 mAh รองรับชาร์จเร็ว 15W ทำให้ใครที่ซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ไปต้องไม่ผิดหวังแน่ ๆ โดยจะมีฟีเจอร์อะไรบ้างไปดูกันได้เลย

หน่วยประมวลผล

สำหรับหน่วยประมวลผลของ Samsung A14 5G จะได้ชิป Dimensity 700 ที่รองรับได้ทั้งงานหนัก ๆ เช่น เล่นเกมได้ทุกเกมดัง ๆ สุดฮิตแบบไม่กระตุกอย่าง ROV, PUBG Mobile สามารถปรับภาพกราฟิกได้เลยให้มันจุใจ แบบที่ไม่ต้องกั๊กสเปคกันอีกต่อไป

หน่วยความจำ

ความจุสมัยนี้ทางซัมซุง a14 5g เริ่มต้นกันที่ ROM 128GB ซึ่งถือว่าเพียงพอมาก ๆ สำหรับในยุคนี้ที่ใช้งานกันแบบจุก ๆ จัดหนักจัดเต็มได้เลยทั้งเรื่องโหลดเกมต่าง ๆ ถ่ายรูปถ่ายวิดีโอชัด ๆ และงานเอกสารที่ต้องเปิดมาดูไม่ต้องกลัวว่าจะเต็มอีกไปหรือถ้าอยากโหลดเพลง โหลดหนังไว้ดูก็สามารถที่จะใส่ MicroSD Card สูงสุดได้ถึง 1TB ถือว่าเหลือเฟือมาก ๆ ใช้งานได้จริงจังแบบสุด ๆ

หน้าจอแสดงผล

หน้าจอสีสดแสดงผลได้คมชัดระดับ FHD+ มาพร้อมกับจอขนาดใหญ่ถึง 6.6 นิ้วสำหรับ Samsung A14 5G ยังใช้จอแบบ PLS LCD อีกด้วยที่ให้ได้ทั้งสีสันที่คมชัด สดสวย บาดตายบาดใจ ดูอะไรก็ประทับใจไม่ต้องกังวลกันอีกต่อไปและยังรองรับรีเฟรชเรตที่ 90 Hz ทำให้เวลาทำอะไรภาพก็ลื่นไหลมากขึ้นนั่นเอง

กล้อง

Samsung A14 5G สเปคกล้องให้มาถึง 3 กล้องหลังโดยที่กล้องหลักจะให้มากถึง 50MP ปรับรูรับแสงได้ที่ f/1.8 และกล้อง Macro 2MP ปรับรูรับแสงได้ที่ f/2.4 กล้องอีกอย่างหนึ่ง Depth 2MP รูรับแสง f/2.4 กล้องหน้า 13 MP ปรับรูรับแสงได้ที่ f/2.0 ซึ่งสามารถถ่ายภาพเก็บรายละเอียดได้ดีเลยทีเดียวนอกจากนี้ยังสามารถถ่ายวิดีโอแบบสโลโมชันได้อีกด้วย

Samsung A14 5G จะสีมีกี่สี ดีไซน์โดดเด่นน่าซื้อแค่ไหน

Samsung A14 5G ดีไซน์จะเป็นอย่างไรต้องบอกว่าเป็นหนึ่งสิ่งที่ทาง Samsung ออกแบบและดีไซน์มาได้ดีมาก ๆ สำหรับรุ่นนี้เพราะค่อนข้างที่จะคล้ายกับรุ่นท็อปอย่าง GALAXY S23 SERIES เลยทีเดียวให้ความรู้สึกที่เรียบหรูทันสมัยสีมีให้เลือก 2 สีคือ สีดำ และสีเทา ซึ่งถือว่าเป็นสีที่สามารถเข้าได้กับทุกชุด ทุกเพศและทุกวัย ฝาหลังให้ความรู้สึกแพงกว่าราคาที่ออกมามาก ๆ ทำให้เป็นที่น่าจับจ้องมาก ๆ เพราะซัมซุงa14 5g ราคาอยู่ที่ 6,999 บาทเท่านั้น

Samsung A14 5G สีดำ Black

Samsung A14 5G สีดำ
ขอขอบคุณภาพจาก https:// images.samsung.com/is/image/samsung/p6pim/th/sm-a146pzkgthl/gallery/th-galaxy-a14-5g-sm-a146

Samsung A14 5G สีดำ Black เป็นสีสุดเบสิกที่สามารถเข้ากับลุคไหนก็ได้แมตช์ง่าย คลาสสิค มีสไตล์เป็นของตัวเองไม่ว่าจะแต่งตัวแนวไหนก็รอดหมด ตัดกับสีชุดที่โดนเด่นอย่างสีแดง หรือจะทาเล็บสีสันสดใสเช่น ชมพู ขาว เขียวไฮไลต์ยังไงก็เข้าได้หมดเพราะดีไซน์ที่เรียบหรูของตัวเครื่องด้วย

Samsung A14 5G สีเงิน Silver

Samsung A14 5G สีเทา
ขอขอบคุณภาพจาก https:// images.samsung.com/is/image/samsung/p6pim/th/sm-a146pzsgthl/gallery/th-galaxy-a14-5g-sm-a146

Samsung A14 5G สีเงิน Silver สีเทาเป็นสีกลาง ๆ แต่ก็สามารถเลือกใช้ได้หลายโอกาสเพราะเป็นสีสุภาพ ใช้คุยธุรกิจ คุยธุระทางการก็ได้แมตช์กับเสื้อผ้าวัยรุ่นก็เก๋ ๆ ไม่เหมือนใครไปอีกแบบวัสดุของตัวเครื่องมีความพรีเมียมทันสมัยด้วยทำให้ดูน่าใช้งานสะท้อนและเล่นแสงทุกการเคลื่อนไหวได้ดีเลยทีเดียว

Samsung A14 5G สเปคอื่น ๆ ที่น่าสนใจนอกจาก 4 ฟีเจอร์ไฮไลต์จะมีอะไรอีกบ้าง

นอกเหนือจากหน่วยความจำ สเปคกล้อง หน้าจอแสดงผลแล้วยังมีสิ่งที่น่าสนใจในรุ่น Samsung A14 5G นี้อีกมากมายไม่ว่าจะเป็นแบตอึดที่ให้ความจุมาเยอะถึง 5,000 mAh ใช้งานได้ถึง 2 วันเล่นได้เลยทั้งวัน ถ้าแบตเตอรี่ใกล้หมดก็รองรับการชาร์จไวถึง 15 W น้ำหนักตัวเครื่องที่เบาสบายเหมาะมือเพียงแค่ 205 กรัมนอกจากนี้จะมีอะไรอีกบ้างไปดูกันได้เลย

  • เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือถูกออกแบบมาให้อยู่ด้านข้างตัวเครื่องทำให้เวลาจับเครื่องก็จะปลดล็อกเองได้แบบทันใจเลยทีเดียว
  • ระบบปฏิบัติการ One UI ก็ทำออกมาได้ตอบโจทย์การใช้งานเพราะตัวเครื่องจะจดจำการเข้าถึงในชีวิตประจำวัน การตั้งนาฬิกาปลุก การเปลี่ยนเป็นโหมดนอนหลับอัตโนมัติทำให้เราสามารถควบคุมเวลานอนได้จัดตารางชีวิตขึ้นได้ง่ายมาก ๆ
  • โหมดกลางคืนสำหรับ Galaxy A14 5G ก็ทำออกมาได้ดีเพราะมีฟีเจอร์โหมดมืดลดอาการปวดตาเวลาเล่นโทรศัพท์ในที่มืดได้อีกด้วย
  • Game Launcher เพิ่มประสิทธิภาพได้ตามต้องการ Galaxy A14 และ Game Booster ที่ใช้เร่งความแรงของเครื่องให้การเล่นเกมของคุณสนุกสุดเหวี่ยงมากขึ้น
  • ใช้ความใหญ่ของหน้าจอ 6.6 นิ้วเพื่อเปิดแอปพลิเคชันแยก 2 หน้าจอดูสิ Samsung A14 5G เปิดแบบ Pop-Up ทำให้ใช้ 2 แอปพลิเคชันพร้อมกันได้ง่าย ๆ โดยไปตั้งค่าที่คุณสมบัติขั้นสูงเพื่อเปิดการใช้งานได้เลย
  • เช็กสเปคพร้อมวิเคราะห์โทรศัพท์ได้ง่าย ๆ ผ่านแอปพลิเคชัน Samsung Members ที่มาอยู่แล้วในตัวเครื่อง เราก็จะสามารถตรวจสอบได้ทุกเวลาว่าตัวเครื่องนั้นมีความผิดปกติหรือไม่นอกเหนือจากนี้ยังสามารถรับส่วนลดพิเศษต่าง ๆ ไม่ว่าจะส่วนลดของกิน ของใช้ตามห้างสรรพสินค้าซึ่งคุณสามารถดูได้เลยผ่าน Samsung Members นั่นเองเป็นอีกหนึ่งข้อดีมาก ๆ เลยสำหรับใครที่จะซื้อ Samsung A14 5G

Samsung A14 5G ใช้งานได้ดีกว่า 4G อย่างไร

Samsung A14 5G ใช้งานได้ดีกว่า 4G อย่างไรเพราะความรวดเร็วรอไม่ได้ในยุคสมัยนี้ไม่ว่าจะส่งข้อมูลและรับข้อมูลความเร็วของ 5G ถือว่าเปลี่ยนแปลงจาก 4G อย่างมากเพราะรวดเร็วกว่าตั้ง 24 เท่าทำให้เราใช้ความเร็ว 5G มาโหลดไฟล์หนังหรือเกมขนาดใหญ่ ๆ ได้อย่างง่ายดายภายในไม่กี่วินาทีเลยทีเดียวความชัดแบบ 4K และ 8K ก็ใช้โหลดได้ง่ายขึ้นมาก การเสิร์ชหาข้อมูลสำหรับใช้ทำงานหรือหาความรู้ต่าง ๆ บทอินเทอร์เน็ตก็ใช้เวลาเพียงไม่กี่อึดใจ

และ Samsung A14 5G ในระบบเครือข่าย 5G มีการตอบสนองที่ไวมาก ๆ ความเร็วไวกว่า 0.001 วินาทีเป็นการอัพเกรดเครือข่ายที่ถือว่าพัฒนาไปแบบอีกขั้นมากกว่าเครือข่าย 4G เป็นไหน ๆ นอกจากนี้เรายังสามารถใช้ 5G มาประยุกต์ใช้ประโยชน์ได้อีกหลากหลายไม่ว่าจะเป็นงานที่ต้องการใช้ความเร็วและความแม่นยำแบบสุด ๆ ให้เกิดโอกาสผิดพลาดน้อยจนถึงไม่ผิดพลาดเลยเพราะช่วยให้เครื่องมีประสิทธิภาพที่มากขึ้นและเสถียรขึ้นปัญหาระบบล่มหรือขัดข้องก็จะเกิดขึ้นได้ยาก

Samsung A14 5G เหมาะกับวัยไหนบ้าง

Samsung A14 5G เหมาะกับวัยไหนบ้างการออกแบบซัมซุง a14 5g ถือว่าเหมาะสมกับทุกวัยมาก ๆ เพราะราคาที่จับต้องได้ผู้ปกครองก็สามารถซื้อให้เด็ก ๆ ใช้เรียนรู้และเล่นได้อย่างไม่ต้องคิดมากหรือจะให้ผู้สูงอายุก็เหมาะมาก ๆ เพราะหน้าจอที่มีขนาดใหญ่ถึง 6.6 นิ้วและยังสามารถปรับระดับสี แสง ตัวอักษรให้เหมาะสมกับสายตาของผู้สูงอายุได้สีมีให้เลือก 2 สีคือ สีดำและสีเทา จึงทำให้เป็นสีเบสิคเข้าได้กับทุกเพศ ทุกสไตล์ใครที่อยากมีโทรศัพท์ดี ๆ ไว้ใช้ก็ไม่ต้องคิดอะไรมากเนื่องจากราคาไม่ถึง 7,000 บาทเลยด้วยซ้ำ
 
ในการจะเลือกซื้อสมาร์ตโฟนมือถือมาใช้เองหรือให้กับเด็ก ๆ และญาติผู้ใหญ่ ก็ต้องดูถึงความเหมาะสมความต้องการที่จะใช้งานในแต่ละวันก่อนแต่สำหรับ Samsung A14 5G ที่เน้นแบตอึดใช้เล่นได้ 2 วัน การถ่ายภาพที่น่าจดจำ สเปคกล้องความชัดก็อยู่ในระดับดีมาก ทำให้ไม่ต้องวุ่นและปวดหัวเลยว่าจะซื้อรุ่นไหนดี ระบบตัดเสียงรบกวนเวลาคุยโทรศัพท์ทาง Samsung ก็มีให้หน่วยความจำสำหรับเก็บข้อมูลก็เยอะ อีกทั้งเครื่องยังเร็วและแรงอีกไม่ซื้อไม่ได้แล้วจริง ๆ สำหรับรุ่นที่ออกใหม่ในปีนี้

Samsung A14 5G ที่ออกใหม่ดีกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่าง A13 5G อย่างไร?

Samsung A14 5G ที่ออกใหม่ดีกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่าง A13 5G อย่างไรทั้งในเรื่องของสเปคบอกเลยว่ารุ่นใหม่ออกแบบมาได้ดีกว่ารุ่นก่อนมาก ๆ เพราะในรุ่นก่อนหน้าอย่าง A13 5G นั้นให้หน่วยความจำมาเพียงแค่ 64GB ทำให้ซัมซุง A14 5G มากกว่าถึง 2 เท่านอกจากนี้ดีไซน์ยังโดดเด่นและทันสมัยมากกว่าเพราะออกแบบมาคล้ายกับรุ่นเรือธงอย่าง Samsung S23 แต่ราคาย่อมเยา

กล้องหน้าให้ความละเอียดที่ชัดมากถึง 13MP ด้วยความชัดที่มากกว่าทำให้เวลาเซลฟี่ของตัว Samsung A14 5G นั้นชัดแตกต่างกันมากเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนที่ให้ความละเอียดมาแค่ 5MP และด้วยหน่วยปฏิบัติการรุ่นใหม่ที่อัปเดตมาพร้อม Android 13 และ ONE UI 5 การันตีอัปเดตไม่ทิ้ง OS นานถึง 2 ปี ทำให้ไม่ต้องกลัวว่ารุ่นนี้จะถูกลอยแพการอัปเดตแพทช์เน้นความปลอดภัยมากกว่า ซึ่งรุ่น A13 5G ยังตามหลังอยู่หนึ่งปีเพราะออกมาก่อนนั่นเอง

สรุป Samsung A14 5G ราคาคุ้มค่าที่จะซื้อไหม

ใครที่ต้องการมือถือไปใช้งานในชีวิตประจำวันหรือซื้อให้ลูกหลานใช้เล่นเกมในราคาประหยัดเลือกซื้อ Samsung A14 5G ได้เลยเพราะนอกจากราคาดีงามจับต้องได้แล้ว สเปคที่ให้มายังลื่นไหล CPU ประมวลผลแบบ 2.2GHz เร็ว แรงสุด ๆ เหมาะกับสายถ่ายรูป ถ่ายวิวทิวทัศน์ต่าง ๆ มากเพราะหน่วยความจำให้มาถึง 128GB ถือว่าครบครันมาก ๆ ในราคา 6,999 บาท

หน้าจอชัดระดับ FHD+ ใช้ดู Youtube ได้สูงสุดถึง 1440p 60fps ดีไซน์ก็แบบใหม่ไม่เหมือนรุ่นเก่า ๆ เห็นได้ชัดถึงความใส่ใจไม่กั๊กสเปคของ Samsung ที่พัฒนาและยอมรับเสียงเรียกร้องของเหล่าสาวกได้แบบถึงใจสุด ๆ ถ้าคุณมองหาสมาร์ตโฟนอยู่ละก็ไม่ควรมองข้าม Galaxy A14 5G ไปได้เลยเอาไปใช้งานได้เต็มที่แน่นอน


224
หากกำลังมองหาสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมสเปคและฟีเจอร์ระดับตัวท็อปในราคาที่สามารถจับต้องได้ง่ายเพียงหมื่นต้น ๆ คงจะไม่พูดถึง Samsung A34 5G ไปไม่ได้ สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่จากค่าย Samsung ที่เปิดตัวด้วยงานดีไซน์แบบพรีเมียมที่มาพร้อมกล้องหลัง 3 เลนส์ นับว่าเป็นไฮไลท์เด็ดของทาง Samsung A34 5G นอกจากนี้ Samsung A34 5G ก็มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลขนาด 6.6 นิ้ว ที่มีความสามารถแสดงผลภาพคมชัด สดใส แม้จะอยู่ท่ามกลางแสงแดด และชิปตัวแรงที่รองรับการรับชมที่ลื่นไหล ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานทั่วไปหรือเล่นเกม Samsung A34 5G ก็สามารถเอาอยู่เช่นเดียวกัน และไฮไลท์ที่สำคัญของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ คือ มีมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP67 ที่มีเฉพาะในรุ่นท็อปเท่านั้นและ Samsung A34 5G ยังสามารถรองรับระบบเครือข่าย 5G ได้อีกด้วย

Samsung A34 5G
ขอขอบคุณภาพจาก https:// samsung.com/th/smartphones/galaxy-a/galaxy-a34-5g-awesome-violet-128gb-sm-a346elvcthl/

Samsung A34 5G แบตเตอรี่สุดอึด ใช้งานได้ยาว ๆ

ในส่วนแบตเตอรี่ของสมาร์ทโฟน Samsung A34 5G โดยในรุ่นนี้ทางแบรนด์ซัมซุงได้ให้แบตเตอรี่ความจุขนาด 5,000 mAh ซึ่งเป็นขนาดมาตรฐานสำหรับสมาร์ทโฟนทั่วไป ทำให้มีอายุการใช้งานที่นานมากขึ้น สามารถรองรับการใช้งานทั่วไปไม่ได้เน้นเล่นเกมหรือดูหนังมากนักแบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh ก็สามารถใช้งานอย่างต่อเนื่องได้ทั้งวัน ในขณะที่ถ้าเรามีการใช้งานที่เน้นความบันเทิงไม่ว่าจะเป็นการดูหนังเรื่องโปรด ฟังเพลง หรือการเล่นเกมก็สามารถใช้งานต่อเนื่องยาว ๆ นานถึง 21 ชั่วโมงเลยทีเดียว อีกทั้งในรุ่น A34 5G ยังรองรับระบบชาร์จไว 25W Adaptive Fast Charging ทำให้สมาร์ทโฟนรุ่นนี้ชาร์จแบตเตอรี่ได้ไวมากยิ่งขึ้นเพียงแค่เสียบสายชาร์จไม่ถึงชั่วโมงจากแบตเตอรี่ที่ใกล้หมดกลับมา 100% โดยไม่ต้องรอนานเหมือนรุ่นอื่น ๆ ที่ไม่รองรับการชาร์จไว

Samsung A34 5G กับประสิทธิภาพ 5G ที่ทรงพลัง

Samsung A34 5G สมาร์ทโฟนระดับกลางที่มีคุณสมบัติโดดเด่นในการรองรับเครือข่าย 5G สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพไม่ว่าจะเป็นการท่องโลกอินเทอร์เน็ตหรือการเล่นเกมใช้งานทั่วไป ซึ่งเราจะเริ่มเห็นได้ว่ามีผู้ผลิตหลากหลายแบรนด์เริ่มผลิตโทรศัพท์ออกมาให้สามารถรองรับเครือข่าย 5G เพิ่มมากขึ้น หลายคนอาจเกิดความสงสัยว่า 5G คืออะไร? แล้วดีกว่าเครือข่ายระบบ 4G อย่างไร?

5G คือ คลื่นสัญญาณที่กำลังเข้ามามีบทบาทต่อเรามากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่เพียงแต่เป็นสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่แรงขึ้น แต่ยังสามารถเพิ่มการเชื่อมต่อที่กำลังขยายเป็นวงกว้างอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพราะเครือข่าย 5G มีความสามารถในการเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ ได้มากถึง 200,000 - 1,000,000 เครื่องต่อตร.กม. ซึ่งทำได้มากกว่าเครือข่ายระบบ 4G ถึง 1000 เท่า แน่นอนว่าเทคโนโลยีใหม่ ๆ ย่อมดีกว่าแบบเดิมอยู่แล้ว นอกจากนี้ด้วยความเร็วของ 5G ในการรับ-ส่งข้อมูลระดับกิกะบิตต่อวินาที (Gbps) ที่มีมากกว่า 4G ถึง 20 เท่า ทำให้สามารถเล่นอินเทอร์เน็ตด้วยความเร็วที่มากขึ้น สามารถดาวน์โหลดไฟล์ขนาด 4K หรือ 8K ได้ภายในเวลาไม่กี่วินาที รองรับการใช้งานแบบเรียลไทม์มากขึ้น จึงทำให้ระบบ 5G สามารถเชื่อมต่อทั้งระบบคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน เซนเซอร์ต่าง ๆ รวมถึงระบบบ้านอัจฉริยะได้อย่างแม่นยำอีกด้วย Samsung A34 5G จึงกลายเป็นสมาร์ทโฟนอีกตัวหนึ่งที่น่าสนใจในยุคเครือข่ายระบบ 5G เช่นนี้ในราคาที่จับต้องได้เพียงหมื่นต้น ๆ เท่านั้นเอง

Samsung A34 5G กล้องคมชัด เก็บทุกช่วงเวลาที่มีความหมาย

Samsung A34 5G ที่ถูกออกแบบมาพร้อมกล้องหลัง 3 เลนส์พร้อมแฟลชแอลอีดี และกล้องหน้าอีกหนึ่งตัว นับว่าเป็นไฮไลท์ที่โดดเด่นของ Samsung A34 5G เลยก็ว่าได้ โดยเลนส์หลักของ A34 มีความละเอียด 48 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 พร้อมระบบกันสั่น OIS (Optical Image Stabilization), เลนส์ Ultra Wide มีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2, เลนส์ Macro มีความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 จุดที่น่าสนใจของเลนส์กล้องของตัว Samsung A34 5G คือรูรับแสงขนาด f/1.8 ที่ช่วยให้การถ่ายภาพในที่มืดออกมาได้อย่างดี สามารถรองรับการถ่ายวิดีโอขนาด 4K 30 เฟรมต่อวินาที ด้วยความละเอียด 3840 x 2160 พิกเซล และกล้องหน้าเซลฟี่ มีความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 ถ่ายเซลฟี่ได้ชัดทุกแสง ส่วนบันทึกวิดีโอกล้องหน้าสามารถบันทึกได้ขนาด 4K 30 เฟรมต่อวินาทีเช่นเดียวกัน ทำให้สามารถเก็บทุกช่วงเวลาที่มีความหมายของเราด้วยรูปถ่ายและวิดีโอที่มีสีสันสดใส

Samsung A34 5G มีให้เลือกหลายสีสันสดใส

Samsung A34 5G ถูกดีไซน์ออกมาให้ดูพรีเมียม หรูหรา เรียบง่าย และเพรียวบาง มีผิวสัมผัสเนื้อแบบ Glasstic เคลือบเงากระจกแบบด้าน ป้องกันการขีดข่วน และลดการเกิดคราบนิ้วมือ โดยตัวเลือกสีของรุ่น A34 5G มีสีสันสดใสเอาใจวัยรุ่นด้วยกันถึง 3 สี ดังนี้

Samsung A34 5G สีม่วง Awesome Violet

Samsung A34 5G Awesome Viole
ขอขอบคุณภาพจาก  https:// samsung.com/th/smartphones/galaxy-a/galaxy-a34-5g-awesome-violet-128gb-sm-a346elvcthl/buy/

Samsung A34 5G ที่ถูกดีไซน์แบบ Glasstic เคลือบเงากระจกสีม่วง สีม่วงสุดฮิตที่ไม่ว่าแบรนด์ไหนก็ต้องผลิตสีนี้ออกมาเพื่อดึงดูดลูกค้ากลุ่มวัยรุ่น ด้วยความที่ถูกดีไซน์ออกมาเป็นโทนสีม่วงอ่อน ๆ สีม่วงพาสเทลจึงให้ความรู้สึกที่ไม่หวานเลี่ยนจนเกินไป ไม่ว่าใคร ๆ ก็สามารถใช้ได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งสาว ๆ ที่มีลุคเป็นสายหวาน หรือสายชิคแบบสุด ๆ Samsung A34 5G Awesome Violet ก็ช่วยเสริมให้ดูเป็นตัวของตัวเองมากยิ่งขึ้น
Header Tag 3 : Samsung A34 5G สีเงิน Awesome Silver

Samsung A34 5G Awesome Silver
ขอขอบคุณภาพจาก  https:// samsung.com/th/smartphones/galaxy-a/galaxy-a34-5g-silver-128gb-sm-a346ezscthl/buy/

Samsung A34 5G Awesome Silver สีเงินที่ถูกเคลือบเงากระจกพร้อมเพิ่มลูกเล่นและความตื่นเต้นด้วยลวดลายแบบปริซึมที่มีในเฉพาะสีเงิน ทำให้เมื่อสะท้อนกับแสงต่าง ๆ ที่ตกกระทบจนเกิดสีรุ้งขึ้นอย่างโดดเด่นเห็นชัดเจน เหมาะกับคนทุกเพศทุกวัย หรือผู้ที่ชอบความเรียบหรูพรีเมียมแต่ซุกซ่อนไปด้วยสีสันสดใสไม่เหมือนใคร แสดงความเป็นตัวของตัวเองได้อย่างชัดเจน
Header Tag 3 : Samsung A34 5G สีดำ Awesome Graphite

Samsung A34 5G Awesome Graphite
ขอขอบคุณภาพจาก  https:// samsung.com/th/smartphones/galaxy-a/galaxy-a34-5g-graphite-128gb-sm-a346ezkcthl/buy/


Samsung A34 5G สีดำ Awesome Graphite หนึ่งสียอดฮิตที่ขาดไม่ได้ในสมาร์ทโฟนทุกรุ่น เพราะสีดำเป็นสีที่คลาสสิกมาก และเป็นสีที่ไม่ทำให้เบื่อง่ายโดยสีดำให้ความรู้สึกถึงความเรียบง่าย หรูหรา สมาร์ท สามารถเข้ากับบุคลิกต่าง ๆ ได้อย่างดีจึงเหมาะกับคนทุกเพศทุกวัย

Samsung A34 5G เหมาะกับใครที่สุด

Samsung A34 5G เปิดตัวมาด้วยดีไซน์ที่เรียบหรู สะอาดตา พร้อมกับฟีเจอร์สุดโดดเด่นและเต็มรูปแบบตั้งแต่เรื่องกล้องที่มีความคมชัดสูง ไม่ว่าจะถ่ายภาพเซลฟี่ ถ่ายภาพวิว หรือถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุด 4K พร้อมด้วยหน้าจอแสดงผล Super AMOLED ขนาด 6.6 นิ้ว ความละเอียด 2340x1080 พิกเซล ทำให้ Samsung A34 5G สามารถมองเห็นได้ชัดเจนแม้อยู่ท่ามกลางแสงแดดจ้า และเพิ่มการรับชมที่ลื่นไหลด้วยอัตราการรีเฟรชสูงถึง 120 Hz อีกทั้งยังเสริมแบตเตอรี่สุดอึดขนาด 5,000 mAh ด้วยฟีเจอร์ที่โดดเด่นเหล่านี้จึงน่าถูกใจทั้งสายซีรีส์ สายเซลฟี่ เหล่าเกมเมอร์ หรือใครก็ตามที่ต้องใช้งานกลางแสงแดดทั้งวัน อย่างเช่น ไรเดอร์ก็เหมาะที่จะเลือก Samsung A34 5G มาใช้งานเช่นเดียวกัน

เทียบสเปค Samsung A34 5G กับ A33 5G แตกต่างกันอย่างไร

เนื่องจาก A34 5G เป็นรุ่นที่เปิดตัวมาใหม่เมื่อเดือนมีนาคม 2023 เราจะมาลองเปรียบเทียบกับรุ่นก่อนหน้าคือตัว A33 5G ว่ามีความโดดเด่นและแตกต่างจากเดิมอย่างไรบ้าง

เริ่มจากราคาของทั้ง A34 5G และ A33 5G เปิดตัวมาด้วยราคาเท่ากัน คือ 11,999 บาท พร้อมฟีเจอร์ที่โดดเด่นที่แตกต่างกันไป คือ ตัว A33 5G มีดีไซน์ที่เรียบหรู ใช้วัสดุตัวเครื่องเป็น Corning Gorilla Glass 5 ออกสีมาให้เลือก 4 สีด้วยกัน ได้แก่ สีดำ สีขาว สีชมพู และสีฟ้า ในขณะที่ A34 5G ดีไซน์แบบ Glasstic เคลือบเงากระจก มีสีให้เลือกทั้งหมด 3 สีสันที่อินเทรนด์ ได้แก่ สีม่วง สีเงิน และสีดำ ส่วนสเปคต่าง ๆ เช่น หน้าจอแสดงผลก็มีความแตกต่างกันอยู่มากโดยที่รุ่น A33 5G มีขนาดหน้าจอ 6.4 นิ้ว พร้อมอัตราการสัมผัสจอ 90 Hz ในขณะที่ตัว A34 5G มีขนาดหน้าจอ 6.6 นิ้ว พร้อมอัตราการสัมผัสจอ 120 Hz ซึ่งมากกว่าทำให้หน้าจอมีความลื่นไหลสูงกว่ารุ่น A33 ส่วนระบบปฏิบัติการของรุ่น A33 นั่นเป็นตัว Android 12 ครอบทับ One UI 4.0 แต่ตัวรุ่น A34 เป็นระบบปฏิบัติการรุ่นล่าสุดที่ไม่ต้องทำการอัปเดตคือตัว Android 13 ครอบทับ One UI 5.1 ที่ความเร็ว 2.6 GHz อีกที่มีมาเพิ่มในตัวรุ่นนี้คือสามารถกันน้ำได้ไม่เกิน 1 เมตร 30 วินาที ซึ่งในรุ่น A33 ไม่มีคุณสมบัตินี้อยู่ในตัวเครื่อง

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Samsung A34 5G

Samsung A34 5G ลำโพงดีไหม?

ลำโพงของ Samsung A34 5G เป็นแบบคู่สเตอริโอพร้อมระบบเสียง Dolby Atmos จึงทำให้เสียงออกมากระหึ่มและสามารถแยกทิศทางของเสียงได้ชัดเจน

Samsung A34 5G แถมหัวชาร์จไหม?

ไม่แถมหัวชาร์จในกล่อง

Samsung A34 5G ทนน้ำได้กี่เมตร?

สามารถทนทานต่อน้ำลึกได้ 1 เมตร เป็นเวลา 30 นาที

สรุป Samsung A34 5G สมาร์ทโฟนสุดคุ้มค่า

จะเห็นได้ชัดเลยว่า Samsung A34 5G ที่เปิดตัวมาใหม่นี้มีฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่โดดเด่นไปกว่ารุ่นก่อน ๆ อย่างมากไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของดีไซน์ สเปคของเครื่องที่ได้รับการอัปเกรดเป็นระบบปฏิบัติการรุ่นล่าสุด หน้าจอแสดงผลที่คมชัดขึ้นแม้จะถูกใช้งานกลางแสงแดดจ้า อีกทั้งยังสามารถกันน้ำได้ไม่เกิน 1 เมตรและยังสามารถกันฝุ่นได้อีกด้วย ซึ่งจริง ๆ แล้ว Samsung A34 5G เหมาะกับการใช้งานของทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล่าพี่ ๆ ไรเดอร์หรือแม่ค้าที่มักจะทำงานเจอแดดจ้าหรือเจอฝน การหาสมาร์ทโฟนที่ตรงกับไลฟ์สไตล์การทำงานของเราในราคาเพียงหมื่นต้น ๆ Samsung A34 5G จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจและคุ้มค่ามากที่สุด

225
สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ถูกใจกว่าเดิม! Samsung A54 5G พร้อมตอบโจทย์คนยุคใหม่ด้วยสไตล์มินิมอลโมเดิร์นสดใส ให้เลือกได้มากถึง 4 แบบ อัดแน่นไปด้วยสเปคสุดคุ้มเกินตัว ถ่ายรูปสวยคมชัดในทุกสถานการณ์ รองรับการถ่ายภาพหลายรูปแบบ ให้คุณสนุกไปกับภาพถ่ายหรือวิดีโอหลากสไตล์ที่ชอบได้อย่างต่อเนื่อง ไม่มีสะดุด

Samsung A54 5G เหมาะกับคนหลายกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่น วัยเรียน วัยทำงาน หรือวัยผู้ใหญ่ จากสเปคการประมวลผลสุดเทพตอบโจทย์ทุกการใช้งานในราคาดีที่ไม่ว่าใครก็เป็นเจ้าของได้ หากคุณกำลังมองหาโทรศัพท์สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่น่าใช้งาน เราขอแนะนำให้คุณลองอ่านข้อมูลสเปคของ Samsung A54 5G ก่อนตัดสินใจ เพราะเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นที่สเปคจัดเต็ม คำนึงถึงการใช้งานในยุคปัจจุบันมาเป็นอย่างดี รับรองว่าไม่มีผิดหวัง จะใช้งานทั่วไปหรือเน้นถ่ายภาพก็ทำได้สบายๆ!

Samsung Galaxy A54 5G

ขอขอบคุณภาพจาก https:// images.samsung.com/is/image/samsung/p6pim/th/feature/164460296

Samsung A54 5G มาพร้อม 4 สีพาสเทลถูกใจสายมินิมอล

Samsung A54 5G มาพร้อมกับดีไซน์สวยสไตล์มินิมอลและสีให้เลือกมากถึง 4 สี ได้แก่ สีม่วง สีดำ สีขาว และ สีเขียว ให้คุณเลือกสีที่ชอบ ตรงกับสไตล์ที่ใช่ จะพกไปไหนก็ดูดี โดดเด่นกว่าใคร

Galaxy A54 5G สีม่วง Awesome Violet

Samsung A54 5G Violet

ขอขอบคุณภาพจาก https:// samsung.com/th/smartphones/galaxy-a/galaxy-a54-5g-awesome-violet-128gb

Samsung galaxy a54 5g สีม่วง Awesome Violet ตอบโจทย์สายหวาน ด้วยสีม่วงอ่อนโยน เหมาะกับคนที่มีภาพลักษณ์เป็นคนง่ายๆ สบายๆ ดูใจดีแต่ยังมีความเป็นผู้ใหญ่และลึกลับอยู่เล็กๆ

Galaxy A54 5G สีดำ Awesome Black

Samsung A54 5G Black

ขอขอบคุณภาพจาก https:// samsung.com/th/smartphones/galaxy-a/galaxy-a54-5g-awesome-black-128gb

Samsung galaxy a54 5g สีดำ Awesome Black ตอบโจทย์สายคูล ดูเท่ แบบเรียบหรูมีสไตล์ไปกับสีดำทั้งตัวเครื่อง ทำความสะอาดง่าย เข้าได้กับทุกลุค จะทางการ กึ่งทางการหรืองานทั่วไปก็ไม่มีปัญหา

Galaxy A54 5G สีขาว Awesome White

Samsung A54 5G White

ขอขอบคุณภาพจาก https:// samsung.com/th/smartphones/galaxy-a/galaxy-a54-5g-awesome-white-256gb

Samsung galaxy a54 5g สีขาว Awesome White ตอบโจทย์สายชิล เรียบๆ ใช้งานง่าย ดูสะอาดตา จะแต่งตัวแบบไหนก็ไม่ติด

Galaxy A54 5G สีเขียว Awesome Lime

Samsung A54 5G Lime

ขอขอบคุณภาพจาก https:// samsung.com/th/smartphones/galaxy-a/galaxy-a54-5g-green-128gb

Samsung galaxy a54 5g สีเขียว Awesome Lime ตอบโจทย์สายสดใส ด้วยสีเขียวมะนาวที่ดึงภาพลักษณ์สุดร่าเริง เห็นกี่ครั้งก็สดชื่น ดึงดูดสายตาให้คุณเฉิดฉายยิ่งกว่าใคร

Samsung A54 5G ถ่ายวิดีโอนิ่ง คุณภาพสูง ราวกับมืออาชีพ

Galaxy A54 5G ขึ้นชื่อเรื่องการถ่ายวิดีโอสวย จะถ่ายกลางวันหรือกลางคืนก็คงคุณภาพได้แบบ high quality ไม่มีติดขัด ด้วยเทคโนโลยีกันสั่นVDIS ที่ความถี่ 833Hz พร้อมกับมุม OIS 1.5องศา ทำให้การถ่ายวิดีโอของคุณไหลลื่น จับภาพคม สวยทุกช็อต นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีการจัดเฟรมและการปรับโฟกัสอัตโนมัติที่มากับตัวเครื่องเพื่อช่วยมอบประสบการณ์การถ่ายวิดีโอแบบมืออาชีพ ให้คุณสนุกในทุกการถ่ายทำ จะถ่ายวิดีโอเก็บความทรงจำหรือถ่ายวิดีโอสร้างสรรค์ผลงานก็ตอบโจทย์ได้ทุกรูปแบบ

A54 5G ให้คุณเลือกกล้องความละเอียดสูงใช้งานได้ไม่จำกัด จะกล้องหน้า กล้องหลัง ก็ถ่ายสวยได้ไม่ยาก จากการศึกษาสเปคของ Samsung A54 5G เราพบว่าสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ช่วยให้คุณเก็บทุกความทรงจำในรูปแบบวิดีโอได้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด หรือต้องการถ่ายวิดีโอรูปแบบไหน ไม่ต้องเป็นคนมือนิ่งก็มีวิดีโอสวยๆ เป็นของตัวเองได้เลยทันที

Samsung A54 5G ถ่ายภาพคมชัด ไม่ติดนอยซ์ ด้วยเทคโนโลยีกันสั่น

นอกจากถ่ายวิดีโอสวยแล้ว Galaxy A54 5G ยังถ่ายภาพนิ่งสวย คมชัดและยังมีเทคโนโลยีอื่นๆ ในตัวเครื่องให้คุณได้ลองใช้มากมายอีกด้วย เริ่มจากสเปคการถ่ายภาพของ A54 5G กันก่อน จะเห็นว่า A54 5G มีเทคโนโลยีกันสั่นที่ดี ซึ่งช่วยให้คุณถ่ายภาพได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะถ่ายในจังหวะไหนก็คมชัด หรือถ่ายตอนกลางคืนก็ช่วยลดนอยซ์ได้อีกต่างหาก แถมกล้องของ A54 5G ยังมีเซนเซอร์ความละเอียดสูง ดังนั้นคุณสามารถคาดหวังภาพคุณภาพดีได้เลย

ส่วนเทคโนโลยีในเครื่อง Samsung A54 5G ที่จะช่วยให้คุณสนุกกับการถ่ายภาพมากขึ้นก็มีหลากหลาย ทั้งการปรับโหมดกลางคืนอัตโนมัติ แก้ทุกปัญหาการถ่ายภาพขณะแสงน้อย, เทคโนโลยี Photo Remaster ปรับจุดพร่ามัวให้คมชัดและเพิ่มความละเอียดภาพให้สูงขึ้นด้วย AI, หรือเทคโนโลยี Object Eraser ให้คุณจัดการภาพได้เอง ลบทุกวัตถุที่ไม่ต้องการ ภาพสวยได้เลยไม่ต้องรอ

Samsung A54 5G แม้อยู่กลางแสงแดดก็มองจอง่ายสบายตา

หน้าจอของ A54 5G หรือที่เขาเรียกกันว่า Awesome Screen คือหน้าจอการแสดงผลยอดเยี่ยมสมชื่อ ที่แม้คุณจะอยู่ท่ามกลางแดดจ้าก็สามารถมองเห็นหน้าจอได้แบบสบายๆ ไม่มีแสงสะท้อนหรือหน้าจอเพี้ยนให้ได้เห็น ด้วยความละเอียดแบบ FHD+ และอัตรารีเฟรชสูงสุด 120 Hz ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใดก็เห็นหน้าจอคมชัด และหน้าจอแบบ Super AMOLED 24 bitให้สีสันสดใส ช่วยเซฟสายตาให้ไม่ต้องทำงานหนักจนเกินไป

นอกจากนี้ Samsung A54 5G ยังมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 6.4 นิ้ว ในดีไซน์แบบ Infinity-O ช่วยให้คุณใช้งานได้แบบสบายๆ ไม่ต้องคอยเพ่งมองจอ  จะทำงาน อ่านข้อความ เล่นเกม หรือถ่ายภาพ ก็ไม่มีปัญหา มองเห็นชัด กว้าง ครบทุกจุด ขนาดเหมาะมือ ถือไปไหนมาไหนก็ง่ายใช้งานสะดวกสุดๆ เรียกได้ว่าออกแบบมาโดยคำนึงถึงการใช้งานของคนยุคใหม่เป็นอย่างดี แต่ยังคงตอบโจทย์คนในช่วงวัยอื่นๆ ที่ต้องการหน้าจอที่มองเห็นได้ง่ายอีกด้วย

Samsung A54 5G กับหน่วยประมวลผลที่ไม่ธรรมดา

หน่วยประมวลผล (Cpu) ของ Samsung A54 5G คือความคุ้มค่าอย่างแท้จริง ด้วยหน่วยประมวลผลชิปเซ็ต CPU 8 แกน (Octra) ที่ไม่ว่าจะใช้ทำงานอะไรก็ประมวลผลได้แบบเร็วแรง ไม่มีสะดุด พร้อมให้คุณใช้งานไปถึงขีดความสามารถของสมาร์ทโฟน ตัวอย่างเช่น

  • ใช้ Samsung A54 5G ถ่ายรูปก็พร้อมประมวลผลตั้งแต่ก่อนจังหวะกดชัตเตอร์ไปจนถึงการตกแต่งภาพให้คุณได้ภาพคุณภาพสูงและประสบการณ์ถ่ายภาพที่รวดเร็วทันใจ
  • ใช้ Samsung A54 5G เล่นเกมก็ง่าย เพราะหน่วยประมวลผลพร้อมรองรับตั้งแต่เกมเบาๆ ไปจนถึงเกมหนักๆ บางกลุ่ม ให้คุณได้ภาพสวยคมชัด เล่นชิลไม่กระตุก จะยิงปืน ตีป้อม ออกผจญภัยก็หมดปัญหา
  • ใช้ Samsung A54 5G ทำงาน ค้นหาข้อมูลก็เร็วยิ่งกว่า เพราะ A54 5G รองรับเทคโนโลยี 5G และมีหน่วยประมวลผลที่ช่วยให้การทำงานของเครื่องสมาร์ทโฟนคุณไหลลื่น ส่งข้อมูลเข้าออกรวดเร็ว จะอัปโหลดหรือดาวน์โหลดก็ทำได้ในไม่กี่อึดใจ

Samsung A54 5G ราคาถูก

ขอขอบคุณภาพจาก https:// images.samsung.com/is/image/samsung/p6pim/th/feature/164460297

Samsung A54 5G ราคาที่ใช่ โดนใจทุกวัย

Samsung A54 5G ราคาเริ่มต้นที่  14,999 พร้อมโปรโมชันมากมายขึ้นอยู่กับร้านที่คุณซื้อ เช่น หากซื้อ Galaxy A54 5G ภายในวันที่ 30 เมษายน 2565 มีสิทธิรับส่วนลด Online Exclusive จากเว็บไซต์ซัมซุง ลดทันที 1,000 บาท และส่วนลดสินค้าที่เกี่ยวข้องอื่นๆ อีกมากมาย หรือหาคุณใช้สิทธิเก่าแลกใหม่ก็พร้อมรับส่วนลดเพิ่มไปอีกหรืออาจเป็น e-voucher สำหรับการสั่งซื้อในรอบถัดไป ขึ้นอยู่กับว่าคุณอยากเลือกใช้โปรโมชันใดมากกว่ากัน ด้วยราคาเริ่มต้นที่กำลังพอเหมาะกับคุณภาพสเปคที่คับแน่นจนล้นตัวเครื่อง ประกอบกับโปรโมชันมากมายให้คุณเลือกสรร รับรองว่าถ้าเลือกดีๆ ลองเปรียบเทียบจากเว็บไซต์ซัมซุงแล้วคุณจะได้โทรศัพท์เครื่องใหม่ในราคาสุดคุ้มอย่างแน่นอน

ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร วัยไหน Samsung A54 5G ก็เป็นโทรศัพท์ที่พร้อมจะตอบโจทย์การใช้งานของคุณแบบเน้นๆ ในราคาที่ใครๆ ก็เอื้อมถึงได้!

เทียบให้ชัด Samsung A54 5G ต่างจาก A53 5G อย่างไร

Samsung A54 5G และ A53 5G มีจุดที่แตกต่างกันหลายจุดในราคาที่ต่างกันเพียงประมาณ 500 บาทเท่านั้น โดย A54 5G จะมีการปรับขนาดหน้าจอให้เหมาะกับการใช้งานจับถนัดมือมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงการเชื่อมต่อไวไฟที่เหนือกว่าไปอีกขั้นหนึ่งคือสามารถเชื่อมต่อ Wifi 6 ได้ ในขณะที่รุ่น A53 จะได้เพียง Wifi 5 เท่านั้น และ A54 5G ยังมีชิปที่เหนือกว่าขึ้นไปอีกขั้นโดยการใช้ชิปตัว Exynos 1380 อีกด้วย

ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ Samsung A54 5G ยังมาพร้อมกับระบบ Voice Focus ที่ช่วยสร้างประสบการณ์ทางเสียงที่เหนือกว่า ตอบโจทย์การใช้งานได้ดียิ่งกว่าเดิม โดยความต่างอื่นๆ ที่ไม่ใช่สเปคของทั้งสองรุ่นก็คือสีที่แตกต่างกัน สำหรับรุ่น A54 5G จะมีสีให้เลือกมากถึง 4 สี ในขณะที่อีกรุ่นหนึ่งจะมีเพียง 3 สีเท่านั้น โดยมีเพียงสีดำที่ซ้ำกัน A54 5G จึงมีตัวเลือกสีมากกว่าและเป็นสีที่ดูสดใสทันสมัยกว่า จึงตอบโจทย์คนยุคใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Samsung A54 5G

บางคนอาจยังมีคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Samsung A54 5G กันอยู่ เราได้รวบรวมคำถามที่น่าสนใจและคำตอบของคำถามเหล่านั้นไว้ให้แล้ว

Samsung A54 5G กันน้ำหรือไม่?

จากสเปคสุดโหดของ Samsung A54 5G แล้วบางคนอาจจะมีคำถามเพิ่มเติมว่า แล้วการใช้งานล่ะ ทนทานมากแค่ไหน กันน้ำได้ไหม กันฝุ่นได้ดีหรือเปล่า จากการค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมของเราพบว่า Samsung A54 5G สามารถกันน้ำได้ และยังกันฝุ่นได้ดีอีกด้วย เพราะตัวเครื่อง A54 5G ได้มาตรฐาน IP67 เรียกได้ว่า จะฝุ่น น้ำ หรือฝนก็ไม่มีปัญหา ใช้งานได้ดีในทุกสภาพแวดล้อม

แบตเตอรี่ของ Samsung A54 5G ใช้งานได้นานแค่ไหน

แล้วแบตเตอรี่ละ ใช้ได้นานมั้ย Samsung A54 5G ต้องคอยชาร์จแบตหรือเปล่า? คำตอบก็คือ แบตเตอรี่ของ Samsung A54 5G อึดมาก ด้วยความจุแบตเตอรี่ 5,000mAh ทำให้คุณใช้งานได้อย่างยาวนาน ไม่ต้องคอยชาร์จแบตให้เสียเวลา

Samsung A54 5G ความจุเยอะไหม ต้องคอยลบรูปหรือเปล่า

ความจุของหน่วยความจำละ ถ้าใช้ Samsung A54 5G ถ่ายรูปถ่ายวิดีโอเยอะๆจะต้องลบไหม? คำตอบก็คือไม่ต้องกังวลเลย เพราะ Samsung A54 5G มีความจุตั้งแต่ 128 GB ไปจนถึง 256 GB ให้คุณเลือกได้ตามชอบ จะถ่ายแค่ไหนก็ไม่มีความจำเต็มแน่นอน!

สรุป Samsung A54 5G ตอบโจทย์คนยุคใหม่ในคุณภาพเกินคุ้ม

Samsung A54 5G ตอบโจทย์คนยุคใหม่ในทุกช่วงวัย ด้วยสเปคที่เหนือกว่าให้คุณถ่ายภาพ ถ่ายวิดีโอ หรือทำงานได้อย่างไร้กังวล แต่อาจจะโดดเด่นที่การถ่ายภาพและถ่ายวิดีโอเป็นพิเศษ เพราะมีเทคโนโลยีเข้าช่วยให้คุณถ่ายง่ายแต่ได้ภาพสวยในทุกๆจังหวะของชีวิต หน่วยประมวลผลและการแสดงผลหน้าจอก็เป็นเลิศ ให้คุณได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดีแบบไม่มีผิดหวัง พร้อมด้วยดีไซน์มินิมอลสีสวยแตกต่าง จะพกพาไปไหนก็ดูดี ดึงดูดสายตา ในราคาเพียงหมื่นต้นๆ นอกจากนี้หากคุณซื้อ Samsung A54 5G ในช่วงนี้ก็ยังมีโปรโมชันที่ช่วยลดราคาได้อีกมากมาย Samsung A54 5G จึงเป็นหนึ่งในตัวเลือกเบอร์ต้นๆ ของคนที่กำลังมองหาโทรศัพท์สมาร์ทโฟนเครื่องใหม่ที่ราคาดีแต่คุณภาพอัดแน่นนั่นเอง

226
มีลูกยาก

สาเหตุมีลูกยากเกิดได้จากหลายปัจจัยและเกิดได้ทั้งฝ่ายผู้ชายและฝ่ายผู้หญิง แต่ส่วนหนึ่งนั้นเกิดจากคนรุ่นใหม่ที่ต้องการมีลูกเมื่อพร้อมที่ส่งผลให้เกิดภาวะ มีลูกยาก ซึ่งหลายครอบครัวรอให้มีความมั่นคงทั้งการงานและการเงินจึงพร้อมมีบุตร แต่เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้นก็ส่งผลต่อการมีลูกยากเช่นกัน

ภาวะมีบุตรยาก

 มีลูกยาก อยากมีลูก

จากที่กล่าวในข้างต้นสาเหตุมีลูกยากเกิดได้จากหลายปัจจัย หากคู่รักใช้วิธีธรรมชาติรวมถึงนับวันตกไข่ก็ไม่ตั้งครรภ์ ควรเข้ารับตรวจกับแพทย์เพื่อหาวิธีที่เหมาะสมช่วยรักษาภาวะมีบุตรยาก เพราะในปัจจุบันทางการแพทย์มีหลายวิธีที่ช่วยให้สมหวังในการตั้งครรภ์ได้ เช่นทำเด็กหลอดแก้ว iui icsi หรือฝากไข่ช่วยให้คู่รักมีลูกเมื่อพร้อมได้

มีอะไรบ้างที่บ่งบอกว่าคุณมีลูกยาก ? ภาวะมีบุตรยากมักเกิดกับผู้ที่อายุไม่ถึง 35 ปี มีเพศสัมพันธ์สม่ำเสมอ 1-2 ครั้ง/สัปดาห์ และไม่มีการคุมกำเนิดอย่างน้อย 1 ปีแล้วไม่ตั้งครรภ์ หากคู่รักที่กำลังสงสัยว่ามีลูกยากสามารถเข้ารับการตรวจที่ศูนย์รักษาผู้มีบุตรยากใกล้บ้านท่านได้เพื่อความแน่ใจและรักษาให้ตรงสาเหตุ

สาเหตุมีลูกยาก
ปล่อยมานานไม่ท้องสักทีเกิดจากอะไร ? ภาวะมีบุตรยากไม่เพียงแต่เกี่ยวข้องกับอายุเท่านั้นปัจจัยเกี่ยวกับฝ่ายชายที่มีอสุจิที่ไม่แข็งแรง พฤติกรรมในชีวิตประจำวันเช่น ความเครียด สูบบุหรี่ ติดสารเสพติด หรือโรคบางชนิด รวมถึงสาเหตุอื่น ๆ มีรายละเอียงดังต่อไปนี้

อุ้งเชิงกรานอักเสบ
อุ้งเชิงกรานอักเสบภาวะแทรกซ้อนที่ส่งผลให้มีลูกยาก ซึ่งเกิดจากการติดเชื้อบริเวณระบบสืบพันธุ์ของเพศหญิง บริเวณมดลูก ปีกมดลูก และท่อนำไข่ และอุ้งเชิงกรานอักเสบจะมีอาการเช่น มีเลือดออกทางช่องคลอด โดยเฉพาะหลังหรือระหว่างมีเพศสัมพันธ์ ตกขาวผิดปกติ มีกลิ่นเหม็น อาจมีสีเขียวหรือสีเหลือง รู้สึกเจ็บปวดเมื่อปัสสาวะ เป็นต้น

ประจำเดือนมาไม่ปกติ
ในผู้หญิงที่ประจำเดือนมาไม่ปกติก็ส่งผลมีลูกยากเช่นกัน อาการประจำเดือนมาไม่ปกติอย่างเช่น ประจำเดือนมาถี่ผิดปกติ  มาไม่สม่ำเสมอ  น้อยผิดปกติ อาการเหล่านี้เกี่ยวกับการตกไข่หรือภาวะไข่ไม่ตกเมื่อมีอาการผิดปกติไม่มีการตกไข่เกิดขึ้นก็ไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ ทำให่เกิดภาวะมีบุตรยาก

อาการประจำเดือนมาไม่ปกติที่ส่งผลให้มีลูกยาก อาจสังเกตได้จากประจำเดือน เพราะรอบเดือนของผู้หญิงนั้นจะห่างกัน 28 วัน แต่สามารถเป็นได้ตั้งแต่ 21 ถึง 35 วัน ซึ่งสาเหตุประจำเดือนมาไม่ปกติเกิดได้จากระดับฮอร์โมน การใช้ยาบางประเภท ผลข้างเคียงจากโรคบางชนิด เป็นต้น

ภาวะรังไข่เสื่อม
หากจะตั้งท้องได้ต้องมีรังไข่ ท่อนำไข่ มดลูก และถ้าระบบไหนเสื่อมไปก็ทำให้เกิดการมีบุตรยาก อย่างภาวะรังไข่เสื่อมที่เกิดจากรังไข่หยุดทำงาน ปกติแล้วผู้หญิงจะมีภาวะรังไข่ควรจะหยุดทำงานเมื่ออายุประมาณ 45-55 ปี ถ้าหากรังไข่เสื่อมก่อนวัย ก็เป็นสาเหตุของการมีลูกยาก

ภาวะท่อนำไข่ตัน
ท่อนำไข่ก็เป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญที่จะทำให้เกิดการตั้งครรภ์ได้แต่หากภาวะท่อนำไข่ตันกะตั้งครรภ์นั้นจะเป็นเรื่องยากทันที ซึ่งภาวะท่อนำไข่ตันเกิดจากการเกิดพังผืดที่บริเวณท่อนำไข่ หรือการเกิดภาวะท่อนำไข่บวมน้ำ ทำให้ปิดกั้นท่อนำไข่จึงไม่สามารถไปผสมกับตัวอสุจิได้ทำให้เกิดภาวะมีลูกยาก

ต่อมลูกหมากอักเสบ
สำหรับผู้ชายก็เป็นเหตุให้มีลูกยากได้อย่างเช่น ต่อมลูกหมากอักเสบการติดเชื้อหรือการอักเสบบริเวณต่อมลูกหมาก สาเหตุเกิดจากเชื้อแบคทีเรียทำให้เกิดความปกติในระบบทางเดินปัสสาวะและยังทำให้สมรรถภาพทางเพศชายลดลง หากติดเชื้อในระยะยาวอาจส่งผลเกี่ยวกับการมีลูกยากอีกด้วย

อาการผู้ชายมีลูกยากที่ต่อมลูกหมากอักเสบจะมีอาการอย่างเช่นมีอาการปวดขณะถ่ายหนัก ปัสสาวะลำบาก เช่น ปวดแสบขณะปัสสาวะ ปัสสาวะออกมามีสีขุ่น ปัสสาวะไม่สุด ปัสสาวะไม่ออก ปัสสาวะกะปริบกะปรอย หรือปัสสาวะเป็นเลือด ปวดอวัยวะเพศอัณฑะรวมถึงรู้สึกไม่สบาย และมีไข้เป็นต้น

ภาวะมีลูกยากแบบไม่ทราบสาเหตุ
ภาวะมีลูกยากเกิดได้จากหลายสาเหตุนอนจากฝ่ายชาย และฝ่ายหญิงแล้ว ยังมีภาวะมีลูกยากแบบไม่ทราบสาเหตุ (Unexplained Infertility) ตรวจพบประมาณ 10% เท่านั้น ซึ่งเป็นตรวจทั้งฝ่ายชาย และฝ่ายหญิงแต่ไม่พบความผิดปกติใด ๆ

วิธีการตรวจประเมินภาวะมีบุตรยาก
วิธีการตรวจประเมินภาวะมีบุตรยากจะทำการตรวจทั้งชายและหญิง เพื่อตรวจหาความผิดปกติที่อาจทำให้เกิดภาวะมีลูกยากได้ เผื่อจะได้ทำการรักษาได้อย่างตรงจุด วิธีการตรวจประเมินภาวะมีบุตรยากจะมีอะไรบ้าง ดังนี้

ภาวะการมีบุตรยาก วิธีแก้ไขมีอะไรบ้าง

การตรวจประเมินภาวะมีบุตรยากในเพศชาย
ในเพศชายจะมีการตรวจประเมินภาวะมีบุตรยากคือการตรวจคุณภาพอสุจิ เพราะอสุจินั้นเป็นตัวสำคัญที่ทำให้เกิดการตั้งครรภ์ได้ ในส่วนของอสุจินั้นจะมีการตรวจจำนวนอสุจิ อสุจิที่มีอยู่แข็งแรงหรือไม่ และทั้งหมดนี้เป็นการตรวจประเมินภาวะมีลูกยาก

การตรวจประเมินภาวะมีบุตรยากในเพศหญิง
ส่วนของเพศหญิงจะมีการตรวจภาวะมีลูกยากคือ ตรวจ Ultrasound ผนังมดลูก หรือความผิดปกติของมดลูกและรังไข่ และการตรวจฮอร์โมน เช่น ฮอร์โมน AMH ที่บ่งบอกถึงจำนวนไข่เหลืออยู่มากน้อยเพียงใด ดังนั้นในเพศหญิงจะมีการตรวจประเมินมากกว่าผู้ชาย

แนวทางการรักษาภาวะมีบุตรยาก
มีลูกยาก อยากมีลูกทำวิธีไหนก็ไม่มีสักที ถ้าหากคุณใช้วิธีธรรมชาติแล้วไม่ตั้งท้อง ลองมาดูแนวทางการรักษาภาวะมีลูกยาก โดยแบ่งได้ 5 วิธีดังนี้

รักษาโรคที่ส่งผลให้มีลูกยาก
จากข้างต้นสาเหตุการมีลูกยากเกิดได้จากโรคหลายอย่างที่เกิดได้จากเพศชายและหญิง ถ้าหากใช้วิธีธรรมชาติอย่างน้อย 1 ปีแล้วไม่ตั้งครรภ์ควรปรึกษาแพทย์และรักษาอาการของโรคที่ส่งผลทำให้เกิดภาวะมีลูกยากเสียก่อน

IUI
IUI เป็นอีกทางเลือกสำหรับคนมีลูกยากเพศหญิงมีท่อนำไข่ไม่ตีบตัน เพศชายต้องมีอสุจิที่ตรงตามเกณฑ์ เพราะการทำ IUI คือ การคัดเชื้ออสุจิที่แข็งแรงฉีดกลับเข้าไปในโพรงมดลูกของฝ่ายหญิง ทำให้ให้เซลล์สืบพันธุ์ปฏิสนธิกันเอง

ICSI
ICSI หรือ การทำอิ๊กซี่ เป็นอีกขั้นตอนที่เพิ่มเข้ามาของการทำเด็กหลอดแก้ว ICSI เป็นขั้นตอนพิเศษที่ช่วยเพิ่มโอกาสให้สำเร็จสูงขึ้น โดย ICSI เป็นเครื่องที่ช่วยให้ไข่กับอสุจิผสมกันโดยที่ไม่ต้องรอให้อสุจิว่ายไปเอง คือการนำอสุจิที่แข็งแรงที่สุดเพียง 1 ตัวเข้าไปในเซลล์ไข่โดยตรง เหมาะกับผู้ที่มีภาวะมีบุตรยากที่ไม่ทราบสาเหตุ

IVF
อีกหนึ่งวิธีรักษาสำหรับผู้ที่มีลูกยากคือวิธี IVF เป็นการคัดเลือกเซลล์ไข่กับอสุจิ ให้มาผสมกันเองในอุปกรณ์ทดลองทางการแพทย์เพื่อให้ได้ตัวอ่อน และนำอ่อนกลับเข้าไปในโพรงมดลูก วิธีนี้อสุจิจะเลือกเข้าไปเจาะไข่เองตามธรรมชาติ

ฝากไข่
ฝากไข่เป็นวิธีของหนุ่มสาวยุคใหม่ที่ต้องการมีลูกเมื่อพร้อม เป็นการนำเซลล์ไข่ที่ผู้หญิงออกมาแช่แข็งไว้ป้องกันการเสื่อมสภาพตามอายุที่จะส่งผลให้มีลูกยากในอนาคตได้ วิธีนี้จึงเหมาะกับผู้ที่วางแผนการมีบุตรได้ด้วยตัวเอง

คำถามที่พบบ่อย
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับมีลูกยาก ที่หลายท่านอาจสงสัยอยู่ตอนนี้ เราจึงได้รวบรวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับมีลูกยาก 3 ข้อ ดังนี้

ผนังมดลูกหนา มีลูกยากจริงไหม?
ปกติผนังมดลูกที่มีความหนา 8 มิลลิเมตรขึ้นไปช่วยให้ตั้งท้องได้ช่วยในการฝังตัวอ่อนมากขึ้น แต่ถ้าเกิน 14 มิลลิเมตร ผนังมดลูกหนาจนเกินไปจะทำให้เสี่ยงมีลูกยาก

ฮอร์โมนเพศชายเยอะเป็น ปัญหาการมีลูกยาก จริงไหม?
หากเพศหญิงที่มีฮอร์โมนเพศชายเยอะเกินไป เสี่ยงทำให้มีลูกยากจริง เพราะจะทำให้เกิดความผิดปกติของการเจริญของไข่ในรังไข่ หากต้องการรู้ระดับฮอร์โมนต้องทำการปรึกษาและตรวจกับแพทย์

ภาวะมีบุตรยากถือว่าเป็นกรรมพันธ์ุหรือไม่?
ภาวะมีบุตรยากมีส่วนเกิดจากกรรมพันธุ์จริง หากครอบครัวไหนที่คนภายในครอบครัวมีลูกยากก็ส่งผลกับกรรมพันธุ์ด้วยเช่นกัน หากไม่แน่ใจควรเข้าปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อน

ข้อสรุป
ภาวะมีลูกยากเกิดได้จากหลายสาเหตุทั้งเพศชายและเพศหญิง รวมถึงภาวะมีลูกยากแบบไม่ทราบสาเหตุมีอาจเกิดขึ้นได้ แต่ภาวะมีลูกยากสามารถรักษาได้ด้วยวิธี  IUI ICSI IVF หรือฝากไข่โดยการแช่แข็งเหมาะสำหรับคู่รักที่ต้องการวางแผนมีลูกในอนาคต แต่สำหรับครอบครัวมีลูกยากหากอยากทราบถึงสาเหตุที่แน่ชัดควรเข้ารับการตรวจอยากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยตรง

227
การวางแผนทำ retargeting

ในโลกของการตลาดดิจิทัล ที่ธุรกิจต่างแสวงหาวิธีการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายด้วยวิธีการต่างๆ ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ วิธีหนึ่งที่ได้รับความนิยมและได้รับความสนใจอย่างมาก คือ การใช้วิธี ที่ชื่อว่า Retargeting แต่ว่าวิธีนี้คืออะไร และมีประโยชน์ต่อธุรกิจของคุณอย่างไรบ้าง มาหาคำตอบได้ในบทความนี้ได้เลยครับ

Retargeting คืออะไร

Retargeting คือ ส่วนหนึ่งของการทำ Marketing ประเภทหนึ่ง ทำได้โดยกำหนดเป้าหมายไปยังผู้ใช้ที่เคยมีส่วนร่วมกับเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มของเราก่อนแล้ว เทคนิคนี้ใช้คุกกี้บนเบราว์เซอร์หรือการยิงโฆษณาซ้ำๆ เพื่อติดตามพฤติกรรมของผู้ใช้และแสดงโฆษณาที่ตรงกับความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย เมื่อกลุ่มเป้าหมายเลื่อนผ่านเว็บไซต์ต่างๆ

การโฆษณาที่มีการ Retargeting หมาย ถึง ความสามารถในแสดงข้อความ หรือรูปภาพบนแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น โซเชียลมีเดีย ทาง google และเว็บไซต์ต่างๆ เป้าหมายหลักของการทำ Retargeting คือ การหาโอกาสให้ลูกค้ากลับมาแสดงความสนใจในแบรนด์สินค้าของคุณ เพื่อเพิ่มโอกาสให้ลูกค้ามามีส่วนร่วม ในการใช้บริการหรือซื้อสินค้าของเรา

ประโยชน์ของการทำ Retargeting

การอ่านข้อมูล สำหรับทำ retargeting

Retargeting คือ วิธีการหนึ่งที่มีประโยชน์ เป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับกลยุทธ์ Digital Martketing ที่หลายธุรกิจสามารถนำไปปรับใช้ได้ เพื่อเป็นการปรับปรุงยอดขาย และเพื่อให้เราเข้าใจตลาดที่เหมาะกับธุรกิจเรามากขึ้น และต่อไปนี้คือประโยชน์หลักๆ ของการทำ Retargeting ที่หลายธุรกิจทำแล้วเห็นผลได้ชัดเจน มีดังนี้

  • เพิ่ม ROI หรือเพิ่มผลตอบแทนให้เราเพิ่มขึ้น Retargeting นอกจากจะช่วยให้ธุรกิจเข้าถึงลูกค้าที่มีความสนใจในแบรนด์ของท่านแล้ว ยังเพิ่มโอกาสในการเปลี่ยนผู้ที่อาจเป็นลูกค้า ให้กลายเป็นลูกค้าที่พร้อมจ่ายเงินซื้อสินค้าของท่าน ซึ่งส่งผลให้ผลตอบแทนจากการลงทุน หรือ ROI ดีขึ้น

  • สร้างการรับรู้ถึงแบรนด์ได้ดีขึ้น Retargeting ช่วยให้แบรนด์ของคุณอยู่ในใจของผู้ใช้งานเว็บไซต์ แม้ว่าลูกค้ากลุ่มนี้จะออกจากเว็บไซต์ของคุณไปแล้วก็ตาม สิ่งนี้ช่วยสร้างการรับรู้ถึงแบรนด์ที่ดีขึ้น ซึ่งสามารถนำไปสู่การเพิ่มความภักดีต่อแบรนด์และการกลับมาซื้อซ้ำ

  • เพิ่มการมีส่วนร่วมของลูกค้า เราสามารถปรับแต่งสื่อโฆษณาให้เหมาะกับความสนใจของผู้ใช้ได้ นับว่าเป็นการ Retargeting เพื่อเพิ่มโอกาสในการมีส่วนร่วมและการโต้ตอบของลูกค้า สิ่งนี้สามารถช่วยสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า และสร้างผู้สนับสนุนแบรนด์ของท่าน

  • เพิ่มการซื้อหรือใช้บริการของลูกค้า Retargeting คือ การกำหนดเป้าหมายไปยังผู้ใช้ที่คุ้นเคยกับแบรนด์ของคุณอยู่แล้ว และเพิ่มความน่าสนใจในผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณ สิ่งนี้จะเพิ่มโอกาสในการ เปลี่ยนผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าให้กลายเป็นลูกค้าที่ยอมจ่ายเงินซื้อสินค้าของท่าน ซึ่งสิ่งนี้ส่งผลให้ธุรกิจมีรายได้เพิ่มขึ้น

Retargeting ต่างจาก Remarketing อย่างไร

กระประชุมเพื่อวางแผนทำ retargeting

Retargeting และ Remarketing เป็นสิ่งที่คล้ายกันมากๆ โดยทั้งสองอย่างนี้ มีจุดประสงค์เพื่อเป็นการทำการตลาดที่ต้องการหาลูกค้าที่มีโอกาสซื้อสินค้าของเราเหมือนกัน แต่ทั้งสองอย่างมีความแตกต่างกันอย่างไร โดยเราจะอธิบายง่ายๆ ได้ดังนี้

Retargeting คือ กระบวนการแสดงโฆษณาที่ตรงกับกลุ่มผู้ใช้ ที่เคยมีส่วนร่วมกับแบรนด์หรือเว็บไซต์ของคุณ ผ่านการเก็บข้อมูลก่อน แล้วค่อยทำโฆษณา ส่วนใหญ่มักจะทำใน Facebook Ads และ Google Ads โดยอาศัยการทำงานของคุกกี้ ตามเว็บไซต์ต่างๆ

แต่ในทางกลับกัน Remarketing หมายถึง กระบวนการเก็บข้อมูลผู้ที่สนใจ ผ่านกระบวนการต่างๆ จากนั้นก็มาทำการตลาดอีกครั้งในภายหลัง ที่เราเห็นได้บ่อย คือ การส่งอีเมลการตลาดให้ลูกค้าที่เคยซื้อสินค้าแล้ว โดยหวังว่าลูกค้าจะกลับมาซื้อผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของทางบริษัทอีกครั้ง ทั้ง Retargeting และ Remarketing มีจุดมุ่งหมายเพื่อนำผู้มีโอกาสเป็นลูกค้ากลับมายังเว็บไซต์ของคุณ แต่ทั้งสองวิธี ก็มีกระบวนการที่แตกต่างเช่นกัน

กลยุทธ์ Retargeting

การขายของออนไลน์ผ่านการทำ retargeting

Retargeting คือ วิธีการหนึ่งที่มีประสิทธิภาพในการตลาดดิจิทัลที่ช่วยให้ นักการตลาดดิจิทัลสื่อสารกับผู้คนที่แสดงความสนใจในผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณ หากนักการตลาดทุกท่านต้องทำ retargeting อย่างมีประสิทธิภาพ คุณต้องมีกลยุทธ์ทั้ง 4 ข้อดังนี้

1. เลือกเป้าหมายที่เหมาะสม

1. จัดกลุ่มตามพฤติกรรม ไม่ใช่ทุกคนที่เข้าชมเว็บไซต์ของคุณหรือโต้ตอบกับเนื้อหาของคุณเหมือนกัน การจัดกลุ่มบุคคลตามพฤติกรรมของพวกเขา คุณสามารถสร้างกลยุทธ์ เพื่อกำหนดเป้าหมาย ที่ตรงเป้าหมายมากขึ้นได้ ตัวอย่างเช่น คุณสามารถจัดกลุ่มผู้คนตามสิ่งที่พวกเขาทำบนเว็บไซต์ของคุณ หรือผู้ชมเว็บไซต์ของท่านมีส่วนร่วมกับเนื้อหาของคุณมากน้อยเพียงใด

2. จัดกลุ่มตาม pain point บางคนอาจสนใจผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณ แต่ก็มีความกังวลหรือปัญหาเฉพาะที่ขัดขวางไม่ให้พวกเขาตัดสินใจซื้อ การจัดกลุ่มผู้คนตาม pain point คุณสามารถระบุข้อกังวลเฉพาะของกลุ่มเป้าหมายในโฆษณาแบบ Retargeting ได้ และเพิ่มโอกาสในการเปลี่ยนกลุ่มคนเหล่านี้ให้กลายมาเป็นลูกค้าของคุณได้

3. จัดกลุ่มตามระดับความเข้าใจเนื้อหา ไม่ใช่ทุกคนที่ดูวิดีโอแล้วมีความรู้หรือความเข้าใจในระดับเดียวกัน การจัดกลุ่มผู้คนตามการมีส่วนร่วมกับเนื้อหา เป็นเหตุผลที่ทำให้ คุณสามารถสร้างโฆษณาที่ตรงเป้าหมายเฉพาะกลุ่มและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งตอบสนองความต้องการเฉพาะของกลุ่มลูกค้านั้นๆ

เมื่อคุณแยกเป้าหมายได้แล้ว คุณยังสามารถขยายการเข้าถึงของคุณได้ด้วยการสร้างผู้ชมที่คล้ายกันหรือผู้ชมที่กำหนดเอง ตามผู้ที่เคยโต้ตอบกับแบรนด์ของคุณได้แล้ว ด้วยกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสมและกลยุทธ์ Retargeting ที่ดี จะทำให้คุณเพิ่มโอกาสให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้

2. เข้าใจประเภทของกลุ่มเป้าหมาย

ทำความเข้าใจการเดินทางของลูกค้า หากต้องการสร้างแคมเปญที่กำหนดเป้าหมายใหม่อย่างมีประสิทธิภาพ คุณต้องเข้าใจขั้นตอนต่างๆ ของการเดินทางของลูกค้า ลูกค้าในแต่ละขั้นตอนจะมีความต้องการและความคาดหวังที่แตกต่างกัน ดังนั้นคุณต้องปรับแต่งโฆษณาที่กำหนดเป้าหมายใหม่ของคุณให้เหมาะสม

ใช้เฟรมเวิร์กที่เหมาะสม นักการตลาดใช้เฟรมเวิร์ก Funnel เพื่ออธิบายการเดินทางของลูกค้า อย่างไรก็ตาม โมเดลนี้มีข้อจำกัดอยู่ นั่นเป็นเหตุผลที่นักการตลาดจำนวนมากกำลังใช้เฟรมเวิร์กใหม่ที่เรียกว่า "ลูป" ลูปเป็นวงจรต่อเนื่องที่ไม่สิ้นสุด ซึ่งหมายความว่าแม้ว่าลูกค้าจะถึงจุดสิ้นสุดของการเดินทาง ลูกค้าใหม่จะยังคงเข้าสู่วงจรต่อไป ทำให้เกิดวงจรการเติบโตที่ไม่มีวันสิ้นสุด

เมื่อเข้าใจการเดินทางของลูกค้าที่ถูกต้อง คุณก็จะสามารถสร้างแคมเปญที่กำหนดเป้าหมายซ้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนให้กับธุรกิจของคุณ

3. มีเนื้อหาที่ตรงใจ

เมื่อการ Retargeting สามารถเข้าถึงผู้ชมที่มีสนใจในธุรกิจของคุณได้แล้ว สิ่งสำคัญคือต้องสร้างเนื้อหาที่เหมาะกับแต่ละขั้นตอน โดยจะมีวิธีการอะไรบ้าง ก็สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ดังนี้

ติดตามลูกค้าผ่านเว็บไซต์ เว็บไซต์ของคุณเปรียบเสมือนหน้าร้านที่ทุกคนสามารถเห็นได้ การใช้คุกกี้และพิกเซล สามารถแอบติดตามผู้เยี่ยมชมของเรา และใช้ข้อมูลเหล่านี้กำหนดเป้าหมายใหม่ในภายหลังได้

การมีส่วนร่วมกับวิดีโอ คุณสามารถใช้ Retargeting เพื่อกำหนดเป้าหมายผู้ที่ดูวิดีโอได้ คุณสามารถเลือกแสดงโฆษณาต่อผู้ที่ดูวิดีโอเป็นจำนวนวินาทีหรือเปอร์เซ็นต์ที่กำหนด

แบบฟอร์มการลูกค้า คุณสามารถรวบรวมข้อมูลจากผู้ที่สนใจธุรกิจหรือสินค้าของคุณ จากนั้นก็ส่งต่อไปข้อมูลต่างๆ ไปยังทีมขายของคุณเพื่อติดตามผลลัพธ์

ประสบการณ์ใช้งานบนเว็บไซต์ นี่คือฟีเจอร์การโฆษณาของ Facebook ที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับธุรกิจของคุณ คุณสามารถกำหนดเป้าหมายใหม่ต่อไปได้ หลังจากกลุ่มเป้าหมายมีการโต้ตอบบนอินสแตนซ์ของคุณ

4. นำเสนอสินค้าที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย

Retargeting คือ เทคนิคที่ใช้ในการตลาดดิจิทัลเพื่อแสดงโฆษณาที่ตรงเป้าหมายต่อผู้ที่เคยเข้าชมเว็บไซต์ มีสามช่องทางหลักๆ ได้แก่ Google, Facebook, Instagram และอีเมล

Google และโซเชียลมีเดียเป็นช่องทางที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับการทำ Retargeting เนื่องจากมีผู้ใช้งานจำนวนมากเข้าใช้งานทุกวัน เราจะแนะนำให้ธุรกิจต่างๆ เริ่มต้นด้วยเว็บไซต์ของตนเอง เนื่องจากจะช่วยให้สามารถติดตามกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองได้โดยใช้รหัสที่แตกต่างกัน ทำให้ง่ายต่อการแยกกลุ่มผู้ชม

เทคนิคการทำ Retargeting

Retargeting คือ เครื่องมือที่ทรงพลังในการตลาดดิจิทัลยุคปัจจุบัน แต่ต้องมีเทคนิคที่ผ่านวางแผนไว้อย่างดีจึงจะเห็นผล ซึ่งในขั้นตอนนี้ เราจะมาแชร์เทคนิคของการทำ Retargeting ให้เห็นผล มาดูกันว่าเราจะใช้เครื่องมือนี้มีอย่างมีประสิทธิภาพอย่างไรได้บ้าง

  • การสร้างโฆษณาที่ดึงดูดใจ กุญแจสำคัญของการทำ retargeting คือ การสร้างโฆษณาที่น่าดึงดูด ซึ่งการสร้างโฆษณาที่กระตุ้นความสนใจของผู้ใช้ทำได้โดย ใช้รูปภาพที่สะดุดตา การเขียนพาดหัวเรื่องที่น่าสนใจ และคำกระตุ้นการตัดสินใจที่ชัดเจนเพื่อกระตุ้นให้ผู้ใช้มีส่วนร่วมกับแบรนด์ของคุณ

  • ตั้งค่าความถี่ของโฆษณา ในการทำ retarget กับกลุ่มเป้าหมายเดิม เราควรตั้งค่าการแสดงโฆษณาให้กับลูกค้า ไม่น้อยและไม่บ่อยจนเกินไป เราอาจหาความถี่ของโฆษณา จากผลลัพธ์ conversion rate และ click through rate ที่เกิดขึ้น เพื่อดูการตั้งความถี่โฆษณาที่ดีที่สุด สำหรับสินค้าของท่าน

  • ตรวจสอบประสิทธิภาพ การติดตามประสิทธิภาพของแคมเปญในการทำ retargeting คือ สิ่งสำคัญเพื่อทำความเข้าใจว่า อะไรได้ผล-อะไรไม่ได้ผล และติดตาม click rate, conversion rate และเมตริกอื่นๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญของคุณเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น

  • การกำหนดกลุ่มผู้ชม การแบ่งกลุ่มผู้ชมของคุณตามพฤติกรรมและความสนใจ สามารถช่วยคุณสร้างแคมเปญที่ตรงเป้าหมายได้มากขึ้น


หาก Retargeting ผิดวิธี จะเกิดผลลัพธ์อย่างไร?

Retargeting คือ กลยุทธ์ทางการตลาดที่เห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจน แต่ถ้าดำเนินการไม่ถูกต้อง ก็อาจมีผลในเชิงลบต่อแบรนด์ของคุณได้เช่นกัน หรืออาจเป็นส่วนหนึ่งที่นำไปสู่ปัญหาต่างๆ รวมถึงผลกระทบด้านลบต่อชื่อเสียงของแบรนด์และการเสียเงินโฆษณาฟรีๆ โดยในหัวข้อนี้เราจะมาดูสาเหตุที่เป็นไปได้ หากการทำ retargeting ของท่านไม่ประสบผลสำเร็จ

  • การกำหนดเป้าหมายเดิมมากเกินไป
    การทำ Retargeting กับลูกค้ากลุ่มเดิมมากเกินไป เป็นปัญหาทั่วไปที่พบได้บ่อยมากในการทำการตลาดออนไลน์ สิ่งนี้เกิดขึ้นเมื่อผู้ใช้หรือกลุ่มลูกค้าเห็นโฆษณาของเรามากเกินไป ซึ่งนำไปสู่ความประทับใจเชิงลบต่อแบรนด์ การตั้งค่าความถี่สูงสุดเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้แน่ใจว่าผู้ใช้จะไม่ได้รับโฆษณาหรือแบรนเนอร์เดียวกัน บ่อยเกินไป

  • โฆษณาที่กำหนดเวลาไม่ดี
    เวลาเป็นสิ่งสำคัญในการแบ่งกลุ่มลูกค้า การแสดงโฆษณาผิดเวลาอาจเป็นอันตรายพอๆ กับการไม่ทำโฆษณาเลยก็ได้ ยกตัวอย่างเช่น หากผู้ใช้ทำการซื้อไปแล้ว การ Retarget ด้วยผลิตภัณฑ์เดียวกัน อาจทำให้เสียเงินโฆษณาโดยเปล่าประโยชน์ได้

  • โฆษณาไม่น่าดึงดูด
    การสร้างแบรนเนอร์แคมเปญโฆษณาที่ไม่น่าดึงดูด อาจเป็นปัญหากับ Retarget ได้ เพราะหากโฆษณาไม่ได้ปรับให้เหมาะกับความสนใจหรือพฤติกรรมของผู้ใช้ โฆษณาเหล่านั้น อาจไม่สามารถดึงดูดความสนใจของผู้ใช้ได้ สิ่งสำคัญคือต้องสร้างโฆษณาที่น่าสนใจ ซึ่งแสดงความต้องการและความสนใจของผู้ใช้โดยตรง

  • ไม่ทำโฆษณาสำหรับผู้ใช้มือถือ
    ด้วยจำนวนผู้ใช้ที่เข้าถึงอินเทอร์เน็ตผ่าน Smartphone ที่มากขึ้นเรื่อยๆ การไม่ปรับตัวให้เหมาะกับผู้ใช้มือถืออาจเป็นข้อผิดพลาดที่ร้ายแรงที่สุดในหัวข้อนี้เลยก็ได้ ในปัจจุบันแคมเปญ Retargeting ทุกตัวควรปรับให้เหมาะกับอุปกรณ์ Smartphone ได้แล้ว


เครื่องมือในการทำ Retargeting

1. Google Ads

รูปภาพหน้าต่าง Google Ads

Google Ads มีตัวเลือกการทำ Retargeting ที่มากมาย มีให้เลือกใช้งานตั้งแต่ Display remarketing, Search remarketing, Video remarketing และ Customer list remarketing ซึ่งการวัดผลของ Google Ads ก็สามารถใช้เมตริกต่างๆ เช่น อัตราการคลิกผ่าน (CTR), Conversion rate, ราคาต่อหนึ่งคลิก (CPC), Cost per Action (CPA) และผลตอบแทนจากค่าโฆษณา (ROAS) คุณยังสามารถตั้งค่าวัดค่า Conversion เพื่อติดตามผลต่างๆ เช่น การซื้อสินค้าหรือการส่งแบบฟอร์มต่างๆ ได้อีกด้วย

2. Facebook Ads

Retargeting facebook คือ เครื่องมือยอดนิยมสำหรับการทำ Marketing ผ่านโฆษณาจาก Facebook ที่มีตัวเลือกในการทำ Retargeting มากมาย มีตั้งแต่ Website custom audiences, โฆษณาแบบไดนามิก, และการทำ Retargeting ผ่าน Facebook Pixel ที่ผู้ใช้งานสามารถกำหนดแคมเปญต่างๆ ได้เอง ผ่านคุกกี้ของกลุ่มเป้าหมายที่เคยเข้าชมเว็บไซต์ต่างๆ ได้ทันที

หน้าต่างเรียนรู้การใช้ Facebook Ads

ตัวอย่างการทำ Retargeting

เรามี Case Study หนึ่ง ที่ประสบความสำเร็จจากกลยุทธ์ Retargeting ของ Amazon เกี่ยวข้องกับการใช้อีเมล เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้ากลับมาและดำเนินการซื้อให้เสร็จ

Amazon ได้กล่าวว่า มีลูกค้าจำนวนมากทิ้งสินค้าใน ‘รถเข็น’ โดยไม่ได้ดำเนินการซื้อให้เสร็จสิ้น ดังนั้นทาง Amazon จึงเริ่มส่งอีเมลส่วนบุคคลไปยังลูกค้าเหล่านี้ภายใน 24 ชั่วโมง อีเมลจะทำการแจ้งเตือนเกี่ยวกับสินค้าที่เหลืออยู่ในรถเข็น พร้อมกับเสนอสินค้าที่ลูกค้าอาจสนใจ

เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้ากลับมาซื้อสินค้าต่อให้จบ ทาง Amazon ได้เสนอส่วนลดหรือโปรโมชันแบบจำกัดเวลาไว้ในอีเมล การทำแบบนี้ ทำให้ Amazon สามารถ Retargeting ไปยังลูกค้าที่เคยทิ้งสินค้าในรถเข็นได้สำเร็จ ส่งผลให้คอนเวอร์ชั่นและรายได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก

ในการ Retargeting ขอ Amazon ในครั้งนี้ ไม่เป็นเพียงการเพิ่มยอดขายได้เท่านั้น แต่ยังช่วยให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์การช็อปปิ้งที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น ในท้ายที่สุด ก็จะช่วยเพิ่มระดับความพึงพอใจและความภักดีของลูกค้าให้มากขึ้นไปอีก

ข้อสรุป

Retargeting คือ กลยุทธ์ทางการตลาดที่มีประสิทธิภาพที่ให้ประโยชน์มากมาย เช่น การเพิ่มการรับรู้ถึงแบรนด์ การมีส่วนร่วมของผู้ชม และเพิ่ม Conversion rate แคมเปญที่ทำการ retarget ได้ดีจะสามารถส่งผลผลต่อรายได้และความภักดีของลูกค้าเพิ่มขึ้น แต่ถ้าหากทำไม่ถูกวิธีก็อาจนำไปสู่ผลลัพธ์เชิงลบตามมาได้

228
รถยนต์ | Car / Best Agencies Supercar Rental Phuket
« เมื่อ: เมษายน 05, 2023, 07:07:35 AM »
Best Agencies Supercar Rental Phuket

The most popular tourist spot where visitors may enjoy driving in a location with a spectacular view of the beaches is Phuket. Due to that,  luxury car rental is now the most in-demand service, especially for supercars. There are various supercar rental Phuket agencies that are ready to give you the greatest service and the most affordable supercar rental prices.

Why Must Supercar Rental Phuket?
Everyone is currently aware of the benefits of using supercar rental Phuket, and with its benefits, traveling to Phuket will be more fun and interesting if you rent a premium supercar.  Here are reasons why choosing a Phuket car rent is the right choice for you.

  • Multiple choices of supercars
Supercar rental Phuket will offer car rental service for you with multiple brands of luxurious supercar in which you can decide on the type of car you want depending on its brand, model, price, or features.

  • One time paid without additional fee
Every car owner knows how necessary and expensive it is to maintain their car, especially if they drive a premium car. So, renting a luxury car is one way to save costs for individuals who don't want to own one but need a car occasionally. You will be expected to pay only for the rental service without worrying about additional fee, such as, taxes or maintenance fee.

  • The finest experience with best service
Because of supercar’s remarkable aesthetics and many features made of premium quality materials, driving a luxurious car will provide you with a wonderful experience on the road. Moreover, a supercar rental Phuket process that is very simple and caring from the agencies will assist you in driving the finest and safest till the end of the trip.

Best Agencies Supercar Rental Phuket for Exclusive Cars

Best Agencies Supercar Rental Phuket for Exclusive Cars

1. Richcars Bangkok
One of the most well-known supercar rental Phuket agencies is Richcars Rental, which provides rental services for supercars from a variety of well-known brands at affordable pricing in various places around Thailand, including Bangkok, Chiangmai, and other cities. Richcars is available 24/7, without any days-off, and always puts the requirements of the customer first. Here, in order to provide you the finest driving experience possible on the road, they take into account what is best for you and will provide you with the highest quality service while you are looking for the ideal premium supercar. The renting price only starts at 7,900 and with this price you can drive a car that costs more than a million. Also, there is other plan of renting, such as, limousine service and airport transfer in which you can choose what suit you best.

Moreover, the procedure of renting a luxury vehicle is another outstanding service provided by Richcars, and it is easy and convenient for all customers. You may select the luxury car of your preference and arrange a pick-up date and place with just a copy of your driver's license. By just following these instructions, Richcars will deliver a high-end supercar to you.

Richcars guarantees that every car is a high quality car with a great variety of features and great safety systems. They carefully inspect and maintain cars to ensure that you may travel in safety, and these are why Richcars is a top-list for best agencies supercar rental Phuket.

2. Ritzcar Rental
Another well-known for best agencies supercar rental Phuket is Ritzcar Rental. Here, they provide multiple brands of premium supercar at the price start at 7,900 baht. Also, you can rent a fancy car, such as BMW, Ferrari, Porsche and else on a daily or monthly basis with the 24 hours service. You can rely on the service knowing that you'll have a pleasant ride because each luxury car is a brand-new, gently used car in great condition in which the staff always maintains the cars to keep them in top condition.

Not only the great car and service, but the process of renting is also simple. The driver's license is the one only needed for renting and then the car will be in front of your door. You can rest assured that your personal information is safe with Ritzcar and can enjoy your best driving experience to the fullest. 

3. Thai Sport Car
Thai Sport Car is a renowned luxury car rental service provider that offers luxury supercar for your own desire of self-driving or a rental with a driver.  Here, supercars are suitable for any special event, weekend, or business meeting across Thailand. For the convenience of consumers, there are also short-term and long-term rental options, as well as car delivery anywhere in Thailand.
H3 : 4. Bangkok Supercar Rental
Another agency offering luxury car rentals in Phuket is Bangkok Supercar Rental, which has been around for 15 years. Here, you may choose the car that best meets your needs , whether they are for vacation, business meetings, weddings, VIP receptions, photoshoot or advertisements. Also they have a variety of luxury supercars for rent, as well as a number of models and brands hich you can choose according to your preferences.

Summarize
In conclusion, supercar rental Phuket has increased in popularity since it offers various advantages, whether it is used for vacation, business meeting, or other errands in Phuket. Due to that, you are able to achieve all your purposes by renting supercar from supercar rental Phuket agencies while having the best driving experience in the most precious and renowned supercar.


229
บ้านเดี่ยวติวานนท์

บ้านเดี่ยวติวานนท์ ตั้งอยู่บนทำเลแห่งอนาคตที่ไม่ว่าใครก็ต่างให้ความสนใจ ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันแทบไม่ต่างจากใจกลางเมือง แต่ความวุ่นวายน้อยกว่า และเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองได้ด้วยหลายเส้นทาง อีกทั้งบ้านเดี่ยวติวานนท์ยังมีสไตล์การออกแบบที่ทันสมัย ดูโมเดิร์นสวยงาม มีพื้นที่ให้ใช้สอยมาก ความปลอดภัยสูง ทำให้ บ้านเดี่ยวติวานนท์ เหมาะกับคนรุ่นใหม่ที่อยากได้บ้านที่สวยงามทันสมัย ฟังก์ชันครบ การใช้งานเยี่ยม เหมาะกับการพักผ่อนเป็นอย่างดีแต่ยังสามารถเดินทางเข้าใจกลางเมืองเพื่อติดต่อทำธุระ ทำงาน หรือเรียนได้สบายๆ

บ้านเดี่ยวติวานนท์

บ้านเดี่ยวติวานนท์ หนึ่งในตัวเลือกแรกๆของคนรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเป็นโครงการหมู่บ้านบ้านเดี่ยวติวานนท์ที่ใดก็มีจุดร่วมกันที่ดึงดูดคนยุคใหม่ได้ดี ด้วยการออกแบบสไตล์บ้านที่ทันสมัยดูโมเดิร์น มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วน สระว่ายน้ำ ฟิตเนส โคเวิร์กกิ้งสเปซ สวนให้พักผ่อนหย่อนใจ และการรักษาความปลอดภัยที่ครบถ้วน ตั้งแต่เริ่มเข้าโครงการ ด้วยความพร้อมสรรพทั้งด้านความสวยงามและด้านประโยชน์ใช้สอย ทำให้บ้านเดี่ยวติวานนท์ครองใจใครหลายๆคนไปได้ไม่ยาก

ข้อดีของบ้านเดี่ยวติวานนท์

ข้อดีของบ้านเดี่ยวติวานนท์ หากมองถึงข้อดีภายนอกอย่างทำเลที่ตั้งแล้วล่ะก็ ด้วยทำเลแห่งอนาคตที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ความเจริญที่มาพร้อมการคมนาคมที่สะดวกสบาย มีถนนเส้นสำคัญหลายเส้นตัดผ่านพร้อมให้คุณเดินทางไปได้ทั่วถึง หรือจะเดินทางด้วยรถประจำทางก็ไม่ยาก เลือกรูปแบบที่อยากเดินทางได้ทั้งรถเมล์ รถตู้ รถไฟฟ้า ไม่ว่าจะเดินทางไปไหนก็ง่ายไม่ต้องวางแผนนาน นอกจากนี้บ้านเดี่ยวติวานนท์ยังมีความสงบสูง เหมาะแก่การพักผ่อนหลีกหนีความวุ่นวายจากเมืองหลวง ให้คุณได้ใช้เวลากับครอบครัวเพื่อพักผ่อนอย่างเต็มที่

การเดินทางย่านบ้านเดี่ยวติวานนท์

การเดินทางย่านบ้านเดี่ยวติวานนท์

บ้านเดี่ยวติวานนท์โดดเด่นอย่างมากเรื่องการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางเข้าใจกลางเมือง หรือการเดินทางออกต่างจังหวัด เพราะมีถนนหลายสายตัดผ่าน และยังเข้าถึงรถไฟฟ้าได้ง่ายอีกด้วย ดังนั้นหากเลือกซื้อบ้านเดี่ยวติวานนท์แล้วก็วางแผนการเดินทางได้ง่ายๆ ไปไหนมาไหนก็สะดวกแน่นอน แต่สำหรับการเดินทางแต่ละประเภทก็จะมีข้อดีข้อเสียต่างกันไป คุณสามารถเลือกให้เหมาะกับตัวเองได้เลย

การเดินทางด้วยรถยนต์

การเดินทางด้วยรถยนต์บริเวณรอบบ้านเดี่ยวติวานนท์สะดวกสบายมากๆ เพราะโครงการต่างๆมักตั้งอยู่บนถนนติวานนท์ที่เชื่อมถนนหลายสายและยังมีทางด่วนใกล้เคียงให้ใช้บริการด้วย ดังนั้นท่านที่มีรถยนต์ส่วนตัวสามารถเดินทางเข้ากรุงเทพ เข้าตัวเมืองนนทบุรี หรือออกต่างจังหวัดได้ง่ายๆ แต่อาจจะต้องระวังเรื่องรถติดบ้างในบางเวลา

การเดินทางโดยรถสาธารณะ

การเดินทางด้วยรถสาธารณะบริเวณรอบบ้านเดี่ยวติวานนท์ก็มีให้บริการครบถ้วนเช่นกัน จะเดินทางโดยรถเมล์ รถตู้ หรือรถสองแถวก็สามารถหาใช้บริการได้ในหลายๆจุด ดังนั้นแม้ไม่มีรถยนต์ส่วนตัวก็ไม่ต้องกังวลเรื่องการเดินทางแต่อย่างใด แต่อาจต้องเผื่อเวลาในการรอรถสาธารณะต่างๆบ้าง โดยในปัจจุบันก็มีเทคโนโลยีอย่างแอพลิเคชันต่างๆที่ทำให้คำนวณเวลารอรถได้ดีขึ้น

การเดินทางด้วยรถไฟฟ้า

การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าบริเวณรอบบ้านเดี่ยวติวานนท์เรียกได้ว่าสะดวกสบายแบบสุดๆเพราะมีรถไฟฟ้าหลายสายตัดผ่าน ทั้งรถไฟฟ้าสายสีม่วง รถไฟฟ้าสายสีชมพู ทำให้การเดินทางเข้ากรุงเทพ หรือการเดินทางในจังหวัดนนทบุรีเองประหยัดเวลาได้ดี อาจจะต้องระวังเรื่องการใช้งานในช่วงเวลาเร่งด่วนสำหรับบางคนที่ต้องการหลีกเลี่ยงคนเยอะ

ด้วยการที่บ้านเดี่ยวติวานนท์ตั้งอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะกับการเดินทางในทุกๆรูปแบบทำให้บางครั้งก็มีการเดินทางแบบผสมๆกันไป เช่นเดินทางโดยรถยนต์ไปต่อรถสาธารณะ เดินทางด้วยรถสาธารณะแล้วไปต่อรถไฟฟ้า หรือวิธีการอื่นๆอีก  ทำให้การเดินทางจากบ้านเดี่ยวนนทบุรีไปยังสถานที่ต่างๆสะดวกสบาย และยังเลือกวิธีที่ประหยัดเวลาที่สุดได้อีกด้วย

สิ่งอำนวยความสะดวกรอบบ้านเดี่ยวติวานนท์

รอบๆบ้านเดี่ยวติวานนท์มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่เอื้อให้การใช้ชีวิตประจำวันเป็นเรื่องง่ายมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ตลาด ร้านค้า ห้างสรรพสินค้า ที่คุณสามารถเลือกไปใช้บริการได้ตามใจชอบ หรือหากคุณกังวลเรื่องการรักษายามเจ็บป่วยก็มีโรงพยาบาลชั้นนำรองรับมากมาย และครอบครัวที่มีบุตรหลาน อยากให้เรียนใกล้บ้านเพื่อความสะดวกสบายก็ยังมีโรงเรียน สถาบันการศึกษามากคุณภาพหลายแห่งพร้อมให้บริการเช่นกัน

ห้างสรรพสินค้า บ้านเดี่ยวติวานนท์

บ้านเดี่ยวติวานนท์มีห้างสรรพสินค้าใกล้เคียงหลายแห่ง ตัวอย่างเช่น เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ, ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต, เดอะไนน์เซ็นเตอร์ติวานนท์ และ เซ็นทรัลรัตนาธิเบศน์ ทำให้การเดินเที่ยว ซื้อของ หรือใช้เวลาร่วมกันกับครอบครัวรับประทานอาหารที่ห้างสรรพสินค้าเป็นเรื่องง่าย ไม่ต้องเดินทางไกลและเลือกได้หลากหลาย

สถานศึกษา บ้านเดี่ยวติวานนท์

สำหรับท่านที่มีบุตรหลานและตัดสินใจอยากซื้อบ้านเดี่ยวติวานนท์ก็มีให้เลือกมากมายเช่นกัน ไมว่าจะเป็นโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยรังสิต, โรงเรียนพระหฤทัย นนทบุรี, โรงเรียนนนทบุรีพิทยาคม หรือในระดับอนุบาลก็มีหลายโรงเรียน เช่น โรงเรียนอนุบาลปาลินา-ติวานนท์, โรงเรียนอนุบาลบ้านนนท์ คุณสามารถเลือกโรงเรียนใกล้บ้านและระดับการศึกษาที่เหมาะสมทีตรงตามความต้องการได้ง่ายๆ

โรงพยาบาล บ้านเดี่ยวติวานนท์

โรงพยาบาลในบริเวณทำเลติวานนท์ที่ใกล้บ้านเดี่ยวติวานนท์ก็มีหลายแห่ง เดินทางสะดวก เช่น โรงพยาบาลนนทเวช, โรงพยาบาลปทุมเวช และ โรงพยาบาลเปาโล รังสิตเป็นต้น หรือจะเดินทางไปโรงพยาบาลอื่นๆที่อยู่ห่างออกไปบ้างก็สะดวกสบายเพราะถนนติวานนท์เชื่อมถนนหลายสาย จึงไม่ต้องกังวลเรื่องการเดินทางไปโรงพยาบาลในยามเจ็บป่วยเลย

ติวานนท์ ย่านแห่งอนาคต

บ้านเดี่ยวติวานนท์ ทำเลทองที่ใครก็อยากเป็นเจ้าของ เพราะการเติบโตทางด้านคมนาคม ไม่ว่าจะเป็นถนนหนทาง รถไฟฟ้าใต้ดิน รถไฟฟ้าบนดิน ก็เลือกใช้ได้สะดวก หรือจะขึ้นทางด่วนมุ่งตรงเข้าใจกลางเมืองก็ไม่ยาก มีห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านนั่งดื่ม และตลาดมากมายกระจายตัวทั่วทั้งพื้นที่ ไม่ว่าจะซื้อบ้านเดี่ยวติวานน์โซนไหนก็หายห่วง

การใช้ชีวิตประจำวันก็ง่ายแสนง่ายเพราะมีครบ ร้านตัดผม ร้านขายเฟอร์นิเจอร์ ร้านเสื้อผ้า ให้คุณได้ซื้อของใช้ในชีวิตประจำวันได้แบบไม่ต้องไปไหนไกล ทั้งยังมีศูนย์ราชการและอุทยานพื้นที่สีเขียวให้คุณพักผ่อนหย่อนใจ จึงเป็นทำเลทองที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยและเดินทางเข้าใจกลางกรุงได้สะดวกที่สุดแห่งหนึ่ง โดยมีแนวโน้มว่าจะพัฒนามากขึ้นไปอีกในอนาคตจากการเติบโตของการคมนาคม

บ้านเดี่ยว ติวานนท์ พร้อมอยู่ แนะนำ

เวนิว โฟลว์ ติวานนท์ – รังสิต

บ้านเดี่ยวติวานนท์โครงการเวนิว โฟลว์ ติวานนท์ – รังสิต

โครงการเวนิว โฟลว์ ติวานนท์ – รังสิต เป็นบ้านเดี่ยวติวานนท์ที่ตั้งอยู่บนทำเลที่ดีมาก เพราะติดถนนใหญ่ ใกล้ทางด่วน มีสิ่งอำนวยความสะดวกล้อมรอบครบ โดยในโครงการมีทั้งบ้านเดี่ยวติวานนท์และบ้านแฝดติวานนท์ให้คุณได้เลือกได้ตามใจชอบ มีห้องนอนตั้งแต่ 3 - 5 ห้องแล้วแต่ประเภทบ้าน เหมาะกับครอบครัวที่ต้องการพื้นที่พักผ่อนที่เหมาะสมให้กับสมาชิกในครอบครัวแต่ละคน นอกจากนี้ยังโดดเด่นด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายในโครงการ ทั้งฟิตเนส สระว่ายน้ำระบบเกลือ ห้องซาวน่า  ห้องออกกำลังกายระบบเสมือน และยังมีทางจักรยานในโครงการอีกด้วยจึงเหมาะกับสายรักสุขภาพมากๆเช่นกัน สามารถจับจองกันได้ในราคาเริ่มต้นที่ 6.9 ล้านบาท

บางกอก บูเลอวาร์ด ติวานนท์-รังสิต

บ้านเดี่ยวติวานนท์โครงการบางกอก บูเลอวาร์ด ติวานนท์-รังสิต

โครงการบางกอก บูเลอวาร์ด ติวานนท์-รังสิต เป็นบ้านเดี่ยวติวานนท์ที่เน้นความเป็นส่วนตัวและความหรูหราทันสมัยเป็นพิเศษ โดยตั้งอยู่บนถนนติวานนท์จึงเดินทางสะดวกสบาย และยังมีห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์หลายแห่งรายล้อม มีระบบรักษาความปลอดภัยดีเยี่ยม บ้านมีขนาดใหญ่รองรับสมาชิกทุกคนในครอบครัว มาพร้อมกับบรรยากาศที่ร่มรื่น มีพื้นที่ส่วนกลาง ฟิตเนส สระว่ายน้ำ Co-Working Space ให้คุณเลือกใช้บริการตามใจชอบ ในราคาเริ่มต้นที่ 11.39 ล้านบาท

สรุป

โดยสรุปแล้วบ้านเดี่ยวติวานนท์เป็นบ้านที่ออกแบบมาอย่างสวยงามทันสมัย ฟังก์ชันการใช้งานครบ ดูดีทั้งภายนอกภายใน เหมาะกับคนรุ่นใหม่ที่อยากได้บ้านที่ตอบโจทย์ในทุกๆด้าน ไม่วุ่นวายเท่าใจกลางเมืองแต่ยังสามารถเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆได้สะดวกสบาย ไม่ว่าจะใช้รถยนต์ รถไฟฟ้า หรือรถสาธารณะ โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวก ห้างสรรพสินค้า โรงเรียน โรงพยาบาลในบริเวณใกล้เคียงให้เลือกใช้บริการ รวมไปถึงมีหลายโครงการให้เลือกบ้านเดี่ยวติวานนท์ที่ถูกใจมากที่สุด


230
พัดสปริง คืออะไร

พัดสปิงเป็นสิ่งเราเห็นได้บ่อยเมื่อเราไปงานวัด เนื่องจากพื้นที่วัดเป็นที่โล่งกว้างที่มีอากาศร้อน เนื่องจากมีแสงแดดสัมผัสโดนผิวกายของเราตลอดเวลา เราจึงเห็นการแจกจ่ายพัดสปิงได้ทุกที ซึ่งส่วนหนึ่งที่ดีของพัดสปิง คือตัวพัดแบบนี้มีการออกแบบที่มีหน้ากว้างสำหรับใช้ในการพัดได้ดี รวมไปถึงเรายังสามารถมองเห็นลายสกีนได้ดีอีกด้วย

จึงทำให้ผู้แจกจ่ายพัดสปิงสามารถเพิ่ม Brand Awareness ให้กับสินค้าหรือแบรนด์ต่างๆ ได้ดีมาก ซึ่งหากคุณลูกค้าคนใดสนใจพัดพับ ไม่ว่าจะซื้อมาเพื่อพัดเวลาที่มีอากาศร้อน หรือทำเป็นของชำร่วยเพื่อแจกจ่าย ก็สามารถติดต่อกับ Premiumforu ได้เลย

รับผลิตพัดสปริงระดับพรีเมี่ยม พร้อมสกรีนโลโก้
พัดสปริงหรือที่บ้านเราเรียกกันติดปากว่าพัดพับ ออกแบบมาเพื่อความสะดวกในการพกพบ โดยพัดสปริงสามารถพกไปได้ทุกที่ เนื่องจากมีน้ำหนักเบา และ สามารถจัดเก็บได้สะดวก ส่วนใหญ่ที่เราเห็นได้ทั่วไปเลย คือ พัดสปริงมักจะมีการพิมพ์โลโก้ ซึ่งสามารถพิมพ์ลวดลายได้ไม่จำกัด พัดพับได้แบบนี้สามารถสั่งพิมพ์ได้ทั้งสองด้าน โดยตัวหมึกจะไม่ซึมไปอีกด้านนึง นับว่าเป็นการเพิ่มการรับรู้ของแบรนด์ได้ดีทีเดียว

โดยพัดสปริงสามารถสั่งทำได้ ซึ่งมีผู้ผลิตพับแบบนี้เยอะมากๆ ส่วนร้านที่ผมรู้จักก็จะเป็น Premiumforu ซึ่งเจ้าที่เขาเป็นผู้รับผลิตสินค้าต่างๆ เพื่อการตลาด สร้างการรับรู้ของแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น พัดสปริง ร่มพกพา ร่มสำหรับร้านค้า เขาก็รับผลิต ซึ่งถ้าท่านอยากได้พัดพับ ทาง Premiumforu ก็รับผลิตเช่นกัน ซึ่งเป็นพัดสปริงสามารถพับเก็บได้

ซึ่งพัดรูปแบบนี้จะออกแบบมาเพื่อการพกพา สามารถติดกระเป๋าไปได้ทุกที่ พัดสปริงจึงเป็นที่นิยมในการนำมาสกรีนโลโก้ พิมพ์โลโก้แบบไม่จำกัดสี หรือถ้าลูกต้าต้องการพิมพ์โลโก้ทั้งสองด้าน เพื่อทำเป็นสื่อส่งเสริมการตลาด ก็ดีเช่นกัน โดยพัดสปริงที่นิยมผลิตมีดังนี้

  • พัดสปริงผ้าสปันบอน
  • พัดสปริงผ้าซิลเวอร์
  • พัดสปริงผ้าดูปอง

พัดลมสปริง เป็นพัดลมชนิดหนึ่งที่ออกแบบมาให้ม้วนและพับเก็บได้ง่าย โดยโครงพัดลมใช้วัสดุลวดสปริง ผ้าถูกพันรอบๆลวดสปริงอีกที ด้านข้างของโครงและเย็บเข้าด้วยกันเพื่อสร้างรูปทรงที่เหมาะสำหรับการจัดเก็บ และเหมาะสำหรับการพกพาไปนอกบ้าน

ผ้าสำหรับพัดสปริงจะมีอยู่ด้วยกันสามชนิดผ้า ที่ผลิตได้จากโรงงาน ได้แก่ผ้าสปันบอน ผ้าดูปอง และผ้าซิลเวอร์โค้ด โดยผ้าสปันบอนด์เป็นตัวเลือกที่ใช้งานได้หลากหลาย เพราะมีหลายสี สามารถนำไปสกรีนโลโก้และข้อความได้ อย่างไรก็ตามเนื้อผ้านี้จะไม่เรียบเหมือนผ้าชนิดอื่น

ในทางกลับกัน ผ้าดูปองจะมีความนุ่มกว่า แต่มีข้อจำกัดที่ เนื้อดูปองทำได้แค่สีขาวเท่านั้น ส่วนผ้าซิลเวอร์โค้ดก็เป็นตัวเลือกที่ดี เหมือนกันเพราะให้สีที่หลากหลายและสามารถใช้สกรีนโลโก้และข้อความได้ดี

เมื่อเลือกผ้าแล้ว ลูกค้าสามารถบอกความต้องการกับโรงงานได้เลย เพื่อออกแบบโลโก้หรือข้อความที่จะแสดงบนพัดสปริงของตัวเองได้เลย

สั่งทำพัดสปริงคุณภาพที่ไหนดี
เมื่อพูดถึงพัดสปริง พอขึ้นชื่อหัวข้อนี้มา ท่านคงจะรู้อยู่แล้วว่าผมจะพูดถึงแบรนด์อะไร ก็ PremiumForU ยังไงล่ะ ที่เขาเป็นผู้ผลิตพัดสปริง พัดพับได้ พัดพับ พร้อมสกรีนโลโก้ โดยร้านนี้เขาไม่มีขั้นต่ำในการสังผลิตพัดสปริง โดยราคาการส่งทำจะขึ้นอยู่กับจำนวน และสีสันตามการสั่งผลิต

โดยท่านสามารถสั่งผลิตพัดสปริงได้ในจำนวนมากตามที่ท่านต้องการได้เลย นับว่าคุ้มค่ามากๆ หากท่านต้องการสั่งผลิตเยอะๆ เพราะราคาต่อชิ้นก็จะลดลงตามไปด้วย ถือว่าดีมากๆ หากจะสั่งผลิตพัดสปริง เพื่อแจกจ่ายในการเพิ่มความรู้จักที่มีต่อแบรนด์ของท่านได้ตลอดทั้งปี

สรุป
หากท่านเป็นคนที่ต้องการทำตลาดผ่านการแจกจ่ายสิ่งของ หรืออยากทำพัดสปริงที่มีลายเฉพาะของตัวเอง ท่านสามารถทำได้โดยการ สั่งผลิตจากโรงงานผลิตร่ม พัดสปริงโดยตรงจาก Premiumforu ได้เลยครับ ผมรับรองว่าท่านจะได้ พัดสปริงราคาถูก มีคุณภาพดีตามที่ท่านต้องการอย่างแน่นอน


231
การเรียนต่อที่ต่างประเทศเป็นความฝันของหลาย ๆ คน ฉีกกรอบการเรียนแบบเดิม ๆ ในไทย ได้ไปเปิดหูเปิดตา และหาประสบการณ์ใหม่ในต่างแดน สำหรับประเทศที่คนต่างให้ความสนใจไปศึกษาต่อส่วนมากเป็นประเทศทางทวีปยุโรป หรือทวีปอเมริกา ซึ่งจะมีประเทศอังกฤษ, ออสเตรเลีย, แคนาดา และอเมริกา

โดยบทความนี้เราจะมาดูเกี่ยวกับการเรียนต่ออเมริกา สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่เจริญก้าวหน้าในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ, ด้านอุตสาหกรรม, ด้านเทคโนโลยี และรวมไปถึงด้านการศึกษา ไม่ว่าจะเป็นระดับการศึกษาชั้นมัธยม, ปริญญาตรี หรือจะเรียนต่อปริญญาโท อเมริกาเรียกได้ว่าเป็นที่ ๆ เหมาะสมในการศึกษาต่อเป็นอย่างมาก

อเมริกานั้นมีสถาบันศึกษาระดับโลกหลายแห่ง เช่น Harvard University, Columbia University และ Stanford University มั่นใจได้เลยว่าเราจะได้รับการศึกษาในหลักสูตรที่มีคุณภาพ เปิดโอกาสในการหางานในอนาคต ซึ่งสาเหตุนี้เองที่ทำให้อเมริกาสามารถดึงดูดนักศึกษาจากต่างชาติทั่วโลกมาได้ ทำให้นักศึกษาหลายเชื้อชาติ หลายวัฒนธรรม

การเรียนต่ออเมริกา เราจะได้รับความรู้ ได้ฝึกใช้ภาษาอังกฤษอย่างเต็มที่ ได้เพื่อนต่างชาติ ศึกษาทั้งวัฒนธรรม และสำเนียงจากประเทศต่าง ๆ และที่แน่นอนจะได้รับประสบการณ์ที่ไม่สามารถหาได้ที่ประเทศไทย สำหรับใครที่สนใจอยากศึกษาต่อต่างประเทศ อยากเรียนต่อปริญญาโทอเมริกา มาดูกันว่าต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง และมีมหาวิทยาลัยไหนบ้างที่น่าสนใจ

เรียนต่อปริญญาโทอเมริกา การเรียนที่ได้ทั้งความรู้และประสบการณ์

อยากเรียนปริญญาโทอเมริกา ต้องพิจารณาอะไรบ้าง

หากตัดสินใจแล้วว่าอยากเรียนต่อปริญญาโทอเมริกา ไม่ใช่ว่าอยากเรียนก็สามารถเรียนได้ทันที ต้องมีการ
เตรียมตัวเพื่อให้พร้อม เพราะการเรียนต่อต่างประเทศต่างจากการเรียนในประเทศ ต้องมีการเดินทางข้ามประเทศ, เตรียมตั๋วเครื่องบิน, เตรียมวีซ่า, ค่าเทอม และต้องแลกเงินเพื่อใช้จ่ายระหว่างอยู่ที่ประเทศนั้น ๆ

นอกจากนี้ทางสถานศึกษาก็มีการคัดกรองนักศึกษาก่อนเข้าเรียน โดยเราจะมาดูกันว่าหากอยากเรียนต่อปริญญาโทอเมริกา ต้องเตรียมตัว และต้องพิจารณาอะไรบ้าง

1. เกรดเฉลี่ยจากปริญญาตรี และคะแนนสอบวัดผล

ในการเรียนต่อปริญญาโทอเมริกา มีหลายมหาวิทยาลัย หลายคณะให้นักศึกษาเลือกเรียน แต่ละสาขาวิชาก็จะมีเกรดเฉลี่ยขั้นต่ำที่แตกต่างกันไป โดยเกรดเฉลี่ยที่ควรพยายามรักษาไว้ควรจะอยู่ที่ 2.00 - 2.75 นอกจากเกรดเฉลี่ยแล้ว ผลสอบวัดระดับภาษาอังกฤษอย่างสอบ TOEIC ก็เป็นอีกส่วนที่จะช่วยให้
มหาวิทยาลัยพิจารณารับเราเข้าศึกษาต่อ โดยควรทำคะแนนสอบ TOEFL ให้ไม่ต่ำกว่า 80 - 100

2. สาขาและมหาวิทยาลัยที่อยากเรียน

ไม่ใช่แค่เลือกเรียนต่อปริญญาโทอเมริกา แต่การเรียนปริญญาโทก็เช่นกัน ต้องมีการเลือกสาขาวิชาที่อยากเรียนก่อน เพื่อจะได้นำความรู้ที่ได้ไปต่อยอดในอาชีพที่อยากทำ เมื่อทราบแล้วว่าอยากเรียนสาขาวิชาไหน มหาวิทยาลัยก็เป็นอีกสิ่งที่ต้องพิจารณาเลือก เพราะแต่ละมหาวิทยาลัยก็มีสาขาที่โดดเด่นแตกต่างกันไป ต้องดูว่าคุ้มค่าที่จะไปศึกษาต่อหรือเปล่า

3. ค่าใช้จ่าย

ค่าใช้เป็นปัจจัยที่สำคัญมากสำหรับการเรียนต่อ โดยเฉพาะการเรียนต่อปริญญาโทอเมริกา ซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่สูง มีทั้งค่าตั๋วเครื่องบิน และเนื่องจากสหรัฐอเมริกามีค่าครองชีพที่สูง ค่าเงินของไทยกับ USD นั้นก็มีความต่างกัน แต่ก็ถือว่าคุ้มค่าเพราะอเมริกามีสาธารณูปโภคเบื้องต้นดูแลประชาชนเป็นอย่างดี ซึ่งนี่เป็นเพียงค่าใช้จ่ายสำหรับการกินอยู่เท่านั้น

ต้องไม่ลืมว่าการเข้าศึกษาต่อจำเป็นต้องมีค่าเทอมด้วย โดยค่าใช้จ่ายสำหรับการเรียนต่อปริญญาโทอเมริกาจะอยู่ที่ประมาณ 700,000 - 900,000 บาท ต่อปี โดยค่าใช้จ่ายนี้เฉพาะค่าเทอม ค่ากินอยู่ระหว่างอยู่ที่อเมริกา ยังไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน และค่าทำวีซ่า

อยากเรียนปริญญาโทอเมริกา ต้องพิจารณาอะไรบ้าง

แนะนำมหาวิทยาลัยเรียนต่อปริญญาโทอเมริกา

ทีนี้เรามาดูกันว่ามีมหาวิทยาลัยอะไรบ้างที่น่าสนใจบ้างสำหรับการเรียนต่อปริญญาโทอเมริกา โดยรายชื่อมหาวิทยาลัยที่เราขอแนะนำ มีดังนี้

1. Harvard University

Harvard University เป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดของสหรัฐอเมริกาที่มีอายุเกือบ 400 ปี เป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงระดับโลก ตั้งอยู่ที่รัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา มีคณะต่าง ๆ มากมายให้เลือกเรียน เช่น บริหารธุรกิจ, การออกแบบ, นิติศาสตร์, ศาสนศาสตร์, แพทยศาสตร์

เรียนต่อปริญญาโทที่อเมริกา กับ Harvard University

2. Columbia University

Columbia University เป็นอีกมหาวิทยาลัยชื่อดังที่เก่าแก่ในอเมริกาเช่นกัน ตั้งอยู่ที่นครนิวยอร์ค มีชื่อเสียงในด้านงานวิจัยระดับโลก มีศิษย์เก่าที่มีชื่อเสียงมากมาย คณะที่ให้เลือกเรียนก็จะมี นิติศาสตร์, ศิลปะ วิศวกรรมศาสตร์, ศัลยศาสตร์ และสาธารณสุข

เรียนต่อปริญญาโทที่อเมริกา กับ Columbia University

ขอบคุณรูปภาพจาก https:// gentstudyabroad.com/universities-in-usa/

3. Stanford University

Stanford University เป็นสถาบันศึกษาที่โดดเด่นด้านเทคโนโลยีในอเมริกา ตั้งอยู่ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยสาขาวิชาที่โดดเด่นก็จะมีวิทยาศาสตร์การแพทย์ ฟิสิกส์ เศรษฐศาสตร์ และนอกจากนี้มหาวิทยาลัยนี้ก็มีความโดดเด่นในด้านกีฬาเช่นกัน โดยมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดเคยได้รับถ้วยรางวัล Director’s Cup ซึ่งเป็นรางวัลสำหรับมหาวิทยาลัยที่มีความโดดเด่นและประสบความสำเร็จในด้านกีฬา

เรียนต่อปริญญาโทที่อเมริกา กับ Stanford University

ขอบคุณรูปภาพจาก https:// gentstudyabroad.com/universities-in-usa/

สรุป

การเรียนต่อปริญญาโทอเมริกาให้อะไรมากกว่าที่คุณคิด ไม่ใช่เพียงแค่ใบปริญญาเท่านั้น แต่เราจะได้ความรู้จากหลักสูตรที่มีคุณภาพ ประสบการณ์การได้ฝึกใช้ภาษาอังกฤษในสถานที่จริง โอกาสผูกมิตรกับเพื่อนต่างชาติจากทั่วทุกมุมโลก ได้ท่องเที่ยวต่างประเทศไปในตัว เปิดหูเปิดตาดูความเจริญในต่างประเทศ หากมีโอกาสที่จะได้เรียนปริญญาโทที่ต่างประเทศก็ควรจะคว้าไว้

สำหรับใครที่สนใจเรียนต่ออเมริกา ไม่ว่าจะเป็นระดับไหนก็ตามสามารถติดต่อสอบถามขอข้อมูลได้ที่เว็บไซต์ของ Gent Study Abroad

232
ถ้าคุณคือคุณที่รักรถและดูแลรถของคุณให้ใหม่อยู่เสมอไม่ว่าจะล้างรถ ใช้ผ้าเช็ดถู ดูดฝุ่น  ต้องไม่พลาดใช้ผ้าเช็ดรถ ที่ไม่ทำให้เกิดริ้วรอยกับรถคันโปรดของคุณได้อย่างเช่น ผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดรถ  ผ้าเช็ดรถไฟเบอร์  ผ้าเช็ดรถนาโน ฯลฯ ผ้าเช็ดรถที่กล่าวมานี้มีคุณสมบัติที่คล้ายกันคือดูดซับน้ำได้ดี ไม่ทำให้พื้นผิวรถไม่มีริ้วรอย เราจึงรวบรวม 5 อันดับ ผ้าล้างรถและผ้าเช็ดรถในปี 2023 จะมีแบรนด์ไหนบ้างติดตามได้เลยค่ะ

ผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดรถยี่ห้อไหนดี

ผ้าเช็ดรถ สำคัญอย่างไร แล้วชนิดของผ้าเช็ดรถมีอะไรบ้างต่างกันอย่างไร

ผ้าเช็ดรถ มีความสำคัญเป็นอย่างมากกับพื้นผิวรถ เพราะเป็นผ้าที่มีคุณสมบัติพิเศษใช้สำหรับผ้าล้างรถโดยเฉพาะ ไม่เป็นขุย ไม่ทำให้เกิดริ้วรอยหรือที่เรียกว่ารอยขนแมว ดูดซับน้ำได้ดีไม่ว่าจะเช็ดกระจกหรือเช็ดรอบคันรถก็ไม่ทำให้เกิดคราบน้ำให้กวนใจ ซึ่งผ้าที่นิยมใช้เช็ดรถได้แก่ ผ้าชามัวร์ ผ้าเช็ดรถนาโน ผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดรถ มีความแตกต่างและรายละเอียดดังนี้

  • ผ้าเช็ดรถนาโน เป็นผ้าเส้นใยสังเคราะห์ขนาดเล็กจะมีคุณสมบัติพิเศษคือสามารถใช้ซีมซับน้ำได้อย่างดีเ ไม่ทำลายพื้นผิวสีรถให้เป็นรอยเพราะมีเส้นใยที่มีความละเอียดและเนื้อนุ่มกว่าเป็นพิเศษ ทำให้เช็ดคราบฝังลึกได้ดีอีกด้วย เมื่อใช้เรียบร้อยแล้วใช้เพียงน้ำสะอาดเท่านั้น ไม่ต้องใช้น้ำยาทำความสะอาด เพราะผงซักฟอกจะทำลายเนื้อผ้าให้แข็งกระด้าง เมื่อนำไปใช้จะทำให้เกิดริ้วรอยได้

  • ผ้าเช็ดรถไมโครไฟเบอร์ ผลิตจากเส้นใยสังเคราะห์ขนาดเล็กที่มีความละเอียดกว่าเส้นใยที่ได้จากธรรมชาติเหมาะสำหรับใช้เช็ดน้ำยาเคลือบรถแต่จะดูดน้ำได้ดี และผ้าเช็ดรถไมโครไฟเบอร์มีคุณสมบัติดูดซับฝุ่นละอองขนาดเล็กได้ดีเยี่ยม ซื่งผ้าเช็ดรถทั้ง 2 ชนิดมีความคล้ายกันคือไม่ทิ้งรอยขนแมว ไม่ทำลายพื้นผิวสีรถให้เป็นรอย

  • ผ้าชามัวร์ หรือเรียกได้ว่าผ้าหนังเลียงผาเป็นผ้าเช็ดรถที่มีคุณสมบัติซับน้ำได้อย่างดีและไม่ทิ้งรอยขนแมวอีกด้วย ซึ่งผ้าชามัวร์หากต้องการใช้งานต้องนำไปชุบน้ำก่อนเพราะตัวผ้าจะมีความแห้งแข็ง และวิธีทำความสะอาดหากมีคราบสกปรกสามารถใช้สบู่หรือแชมพูล้างรถทำความสะอาดได้แต่ห้ามใช้ผงซักฟอกโดยเด็ดขาด

ผ้าเช็ดรถมีกี่แบบ

5 อันดับของผ้าเช็ดรถในปี 2023 ที่น่าสนใจมีแบรนด์อะไรบ้าง
สำหรับใครที่กำลังมองหาผ้าล้างรถไม่ว่าจะเป็นผ้าเช็ดรถนาโน ผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดรถ ผ้าชามัวร์ ลองดู 5 อันดับ 5 แบรนด์ของผ้าเช็ดรถในปี 2023 จะมีแบรนด์ไหนน่าสนใจบ้าง ดังนี้

1. ผ้าเช็ดรถจาก Klean Square
มาเริ่มกันที่ผ้าเช็ดรถจากศูนย์มาตรฐานทำความสะอาดรถยนต์อย่าง Klean Square ที่ให้บริการดูแลรถทั้งล้างอัดฉีด ขีดสี เคลือบแก้ว รวมถึงจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลรถซึ่งผ้าเช็ดรถจาก Klean Square ทำจากไมโครไฟเบอร์ด้วยเส้นใยสังเคราะห์ขนาดเล็กที่มีความละเอียดกว่าเส้นใยที่ได้จากธรรมชาติ มีคุณสมบัติดูดจับฝุ่นละอองขนาดเล็กได้อย่างดีเยี่ยม จึงไม่ทำให้เมื่อเช็ดแล้วไม่เกิดรอยด่างและคราบจากฝุ่น

ผ้าเช็ดรถจาก Klean Square ลักษณะเป็นสีน้ำเงินเช็ดทำความสะอาดรีดน้ำดูดจับฝุ่นได้อย่างดีตลอดอายุการใช้งาน สามารถใช้งานได้ได้ดีทั้งภายในและภายนอก

ผ้าเช็ดรถ Klean Square

2.ผ้าเช็ดรถจาก Supreme Shine
ผ้าไมโครไฟเบอร์ ซูพรีม ชายน์ ผ้าเช็ดรถที่มีประสิทธิภาพเหนือกว่าผ้าขนหนูทั่วไป ตัวผ้าจะมีสีเหลืองใช้เช็ดคราบยาขัด คราบแว็กซ์ และน้ำยาดีเทลเลอร์ ได้อย่างดีเยี่ยมไม่ว่าจะเป็นกระจก พลาสติก และไม่ทำร้ายสีรถไม่ทิ้งทิ้งรอยขนแมว ทำความสะอาดง่ายด้วยน้ำสะอาดและแห้งได้ในอุณหภูมิต่ำ

ผ้าเช็ดรถไมโครไฟเบอร์

3.ผ้าเช็ดรถจาก GLASS COATING CLUB
ผ้าเช็ดรถจาก GLASS COATING CLUB ผ้าไมโครไฟเบอร์ สำหรับเช็ดแห้งผ้าสีฟ้าขนนุ่ม ดักจับฝุ่นได้ดีไม่ฟุ้งกระจายไม่ทิ้งคราบสกปรก ใช้เช็ดทำความสะอาดได้หลากหลายทั้งภายนอกและภายในของรถเพราะมีเส้นใยมีความหนาแน่นมากจึงสามารถทำความสะอาดได้อย่างหมดจด และผ้าเช็ดรถจาก GLASS COATING CLUB ไม่ทำให้เกิดรอยขีดข่วนกับทุกพื้นผิว

ผ้าเช็ดรถนาโนดีไหม

4.ผ้าเช็ดรถจาก GQ Smart Clean
ผ้าไมโครไฟเบอร์ผสานนวัตกรรม Silver Fiber ยับยั้งแบคทีเรียได้ 99% ผ้าเช็ดรถจาก GQ Smart Clean ใช้ง่ายไม่ทิ้งรอยใช้ได้กับทุกพื้นผิวไม่เพียงแต่เป็นผ้าเช็ดรถยนต์เท่านั้นแต่ยังใช้ได้กับหน้าจอคอมพิวเตอร์ เลนส์กล้อง เลนส์แว่น ฯลฯ และตัวผ้าจะเป็นสีแดงมาพร้อมห่วงที่ใช้สำหรับมัดเก็บผ้า

ผ้าเช็ดรถแบบไหนไม่เป็นคราบ

5.ผ้าเช็ดรถจาก Autoglym Microdry
ปิดท้ายด้วยผ้าเช็ดรถจาก Autoglym Microdry เป็นผ้าชามัวร์สังเคราะห์ไฮเทคที่มีคุณสมบัติดูดซับน้ำได้ดีพิเศษ สามารถซับน้ำได้ทั้งภายนอกและภายในรถยนต์ให้แห้งได้อย่างรวดเร็ว ยิ่งใช้บ่อยตัวผ้าชามัวร์จะยิ่งซับน้ำได้ดีมากขึ้น และวิธีรักษาผ้าเช็ดรถชามัวร์ควรเก็บไว้ในที่ร่มไม่ควรเก็บไว้บริเวณที่มีแสงแดด

ผ้าเช็ดรถที่ไม่เกิดรอย

สรุป
สุดท้ายนี้หากต้องการทำความสะอาดรถด้วยตัวเองไม่ว่าจะขัดแวกซ์ เช็ดฝุ่นละอองที่เกาะตามรถ เช็ดน้ำ เพื่อไม่ให้เกิดคราบหรือรอยขนแมวได้นั้นควรเลือกใช้ผ้าสำหรับผ้าล้างรถโดยเฉพาะ จากบทความมีให้เลือกผ้าเช็ด 3 ชนิดคือ ผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดรถ ผ้าเช็ดรถนาโน และผ้าชามัวร์ สามารถเลือกใช้ชนิดของผ้าเช็ดรถได้ตามความต้องการ

233
รถยนต์เป็นทรัพย์สินประเภทหนึ่งที่มีไว้ใช้งาน เมื่อมีรถยนต์เเล้ว จะขับเพียงอย่างเดียวไม่ได่ หน้าที่ ที่เจ้าของรถต้องทำคือ การดูเเลรักษา ล้างรถยนต์ของตัวเอง ให้อยู่ในสภาพดี และมีความสะอาดอยู่เสมอ เพื่อช่วยยืดอายุการใช้งานให้รถของเรา การซ่อมบำรุง ดูเเล อาจต้องพึ่งอู่ซ่อมรถ ผู้เชี่ยวชาญ

แต่สำหรับการล้างรถ เราสามารถไปหาบริการคาร์เเคร์ล้างรถได้ หรือเราสามารถทำได้ด้วยตัวเอง โดยบทความนี้ได้รวมวิธีล้างรถที่ถูกต้อง ต้อใช้อะไรล้างรถบ้าง มาหาคำตอบกัน

รวมวิธีล้างรถให้สะอาดเอี่ยม ทำง่ายๆได้ที่บ้าน

ควรเตรียมอุปกรณ์ล้างรถให้พร้อม

การล้างรถด้วยตัวเองให้สะอาดต้องเตรียมอุปกรณ์ล้างรถให้ครบครัน เพื่อไว้ใช้ทำความสะอาดทุกขั้นตอน ตั้งเเต่ต้นจนจบ ทีนี้เรามาดูว่าต้องเตรียมอุปกรณ์ล้างรถ อะไรบ้าง

  • น้ำยาล้างรถ
  • ฟองน้ำเนื้อละเอียด
  • ผ้าไมโครไฟเบอร์หรือผ้าชามัวร์
  • แปรงขัดล้อรถยนต์
  • สายยางฉีดน้ำ
  • ถังน้ำจำนวน 2 ใบ ไว้สำหรับใส่น้ำผสมน้ำยา และไว้สำหรับใส่น้ำเปล่า

ขั้นตอนการล้างรถเอง มีอะไรบ้าง

สำหรับคนที่อยากล้างรถด้วยตนเอง เรามีขั้นตอน ที่จะช่วยเป็นเเนวทางให้เราได้ มั่นใจได้เลยว่า รถเราจะสะอาดอย่างเเน่นอน เพราะเป็นขั้นตอนการล้างรถ คาร์เเคร์ทุกที่ล้วนก็ใช้วิธีนี้เช่นกัน โดยขั้นตอนการล้างรถที่ดี มีอยู่ด้วยกัน ดังนี้

ขั้นตอนการล้างรถ

1. ฉีดสเปรย์น้ำแรงๆ

เหมือนการอาบน้ำ เราต้องเริ่มด้วยการราดน้ำใส่ตัว สำหรับขั้นตอนเเรกของวิธีล้างรถ เราต้องเริ่มด้วยการฉีดสเปรย์น้ำเเรงๆ เพื่อชะล้างพวกคราบสิ่งสกปรกออกไปก่อน โดยให้เริ่มฉีดจากบนสุด จากนั้นค่อยฉีดไปล่างสุด เพราะหากฉีดจากล่างไปบน สิ่งสกปรกจากบนหลังคาจะไหลตามน้ำมา เเล้วต้องเสียเลาฉีดน้ำอีกรอบ

2. ใช้ผ้าที่มีความนุ่ม และสะอาดเช็ดรถจากด้านบนสุดลงมาด้านล่าง

หลังจากใช้ล้างสิ่งสกปรกด้วยการฉีกสเปรย์น้ำเเล้ว อาจมีคราบสกปรกบางส่วนที่ยังเกาะติดรถ ที่น้ำฉีดไม่ออก เช่น ขี้นก หรือคราบสกปรกอื่นๆ จึงต้องใช้ผ้าในการเช็ดรถ เพื่อให้ทำความสะอาดคราบเหล่านั้นออก เเต่อย่างไรก็ตาม ผ้าที่ใช้ต้องมีความนุ่ม เพื่อจะได้ไม่ทำรถเกิดรอย

3. ใช้น้ำยาทำความสะอาดรถควบคู่ไปด้วย

ในการทำความตัวรถ กระจก และส่วนอื่นๆ ควรใช้น้ำยาทำความสะอาดควบคู่ไปด้วย เหมือนการอาบน้ำ ซึ่งอาบเเค่น้ำเปล่า จะชะล้างสิ่งสกปรกได้ไม่หมด เราต้องใช่สบู่ด้วย ต้องใช้น้ำยาทำความสะอาด ผสมน้ำในปริมาณที่พอเหมาะ เพื่อให้ได้เป็นโฟม โดยเราจะใช้โฟมล้างรถ ให้รถสะอาดมากขึ้น

4. ล้างรถด้วยน้ำสะอาด

เมื่อใช้โฟมล้างรถ ทำความสะอาดทุกซอกทุกมุมเเล้ว ล้างรถด้วยน้ำสะอาด ล้างฟองจากน้ำยาทั้งหมด โดยเริ่มจากล้างจากบนลงล่างเช่นกัน ซึ่งควรใช้ผ้าเช็ดให้เเห้งด้วย เพื่อไม่ให้น้ำที่ล้าง เกาะเป็นคราบทิ้งไว้

5. เมื่อล้างรถเสร็จแล้ว ควรทำอย่างไรต่อ

เมื่อเราทำการล้างรถด้วยน้ำสะอาดเเล้ว ขั้นตอนสุดท้าย คือ ใช้ผ้าเช็ดให้เเห้งด้วย เพื่อไม่ให้น้ำที่ล้าง เกาะเป็นคราบทิ้งไว้ โดยผ้าที่ใช้เช็ดรถ ควรเป็น้าไมโคร หรือผ้าชามัวร์ เป็นผ้าที่มีความนุ่ม จะไม่ทำให้รถเป็นรอย หากบะเลยขั้นตอนนี้ น้ำที่ใช้ล้างรถจะเหลือเป็นคราบ ทำให้รถดูไม่สะอาดเท่าที่ควร

6. หมั่นซักและขยี้ผ้าที่ใช้ล้างรถบ่อยๆ

ควรเตรียมผ้าในปริมาณที่เหมาะสม คอยซักเเล้วขยี้้าอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เศษฝุ่น หรือสิ่งสกปรกถูกล้างออกจากผ้าก่อนไปใช้ต่อ ไม่งั้นก็เหมือนกับ เราเอาสิ่งสกปรกที่อยู่บนผ้าไปเช็ดรถต่อ

หากต้องการใช้บริการล้างรถควรมองหาที่ไหนดี

เเม้ว่าการล้างรถจะสามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยตัวเอง เเต่ยังไงก็ต้องล้างให้ถูกวิธี หรือสำหรับคนที่ไม่มีเวลาที่จะมาล้างรถ แต่ก็อยากให้รถของตัวเองดูอสะอาดสะอ้าน บริการคาร์เเคร์ล้างรถ ก็สามารถที่จะตอบโจทย์ให้คุณได้ โดยทางเราขอเเนะนำ Klan Square บริการคาร์เเคร์ล้างรถ ที่มีทั้งบุคลกรมากประสบการณ์ และอุปกรณ์ล้างรถครบครัน พร้อมให้บริการ ให้รถยนต์ของคุณสะอาด ไม่มีริ้วรอย

สนใจบริการ สามารถติดต่อได้ที่เว็บไซต์ของ KleanSquare หรือเบอร์โทร 080-2888-788

ให้รถคุณสะอาด ด้วยบริการคาร์เเคร์ล้างรถ

สรุป

รถยนต์ที่สะอาด สะท้อนภาพลักษณ์ของผู้ขับไปด้วย ดังนั้นเราจึงควรหมั่นรักษาความสะอาดรถของเราให้ดูดีอยู่ตลอดเวลา หากมีเวลาว่างๆ ก็อาจจะใช้เวลานั้นมาทำความสะอาดรถบ้างเอาอุปกรณ์ทำความสะอาดรถยนต์ มาคอยล้างสิ่งสกปรก ใช้อะไรเช็ดรถให้เงาสักหน่อย เพียงเเค่นี้รถของเราก็จะดูใหม่ตลอดเวลาเเล้ว

234
วิธีล้างห้องเครื่องรถยนต์

รถยนต์เป็นพาหนะคู่กายของใครหลายคน เราใช้รถยนต์เดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกสบาย สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งในการใช้งานรถยนต์คือ การล้างทำความสะอาด โดยการล้างทำความสะอาดภายนอก หรือที่เรียกว่า ล้างสี เป็นสิ่งที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีและทำอยู่เป็นประจำ นอกจากนี้ยังมีการล้างห้องเครื่องรถยนต์ซึ่งไม่ค่อยได้ทำหรือบางคนไม่เคยทำเลย สำหรับใครที่กำลังหาความรู้เรื่องการล้างห้องเครื่องรถยนต์ มาดูกัน!
      
ทำไมถึงต้องล้างห้องเครื่อง   

การทําความสะอาดห้องเครื่องเป็นการขจัดฝุ่น สิ่งสกปรก ช่วยทำให้ห้องเครื่องสะอาดมากขึ้น เมื่อฝุ่นหนาที่เกาะอยู่หลุดออกไปจะทำให้เครื่องยนต์ระบายความร้อนได้ดีมากยิ่งขึ้น สามารถลดปัญหาการเกิดสนิมได้และทำให้มองเห็นรอยรั่วตามส่วนต่าง ๆ เพื่อที่จะสามารถแก้ไขได้ ก่อนที่จะชำรุดไปมากกว่านี้

หากต้องการหาร้านล้างห้องเครื่อง ราคาถูกควรหาที่ไหนดี   

ร้านล้างห้องเครื่องรถยนต์ที่ได้มาตรฐาน

การล้างสีดูดฝุ่นหรือแม้กระทั่งการล้างห้องเครื่องรถยนต์นั้น หากลองศึกษาวิธีล้างห้องเครื่องดูจะพบว่าไม่ยากเกินความสามารถ แต่ต้องศึกษาให้มากและจัดหาอุปกรณ์หลายอย่าง ซึ่งใช้งบประมาณพอสมควร การมองหาร้านมืออาชีพ ราคาถูก อาจคุ้มค่ามากที่สุด ใครที่กำลังมองหาร้านล้างห้องเครื่องรถยนต์มืออาชีพและมีมาตรฐานต้อง Klean Square เท่านั้น เพราะเป็นผู้มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 30 ปี มีศูนย์บริการกว่า 30 สาขา ในศูนย์การค้าชั้นนำทุกภาคทั่วประเทศไทย ทางร้านยังมีผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดรถยนต์ผลิตจากโรงงานที่ได้รับมาตรฐาน ISO สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/kleansquare หรือ https://kleansquare.com/ ได้เลย
      
ขั้นตอนการล้างห้องเครื่องรถยนต์ ต้องทำอย่างไรบ้าง
   
การล้างเครื่องยนต์นั้นสามารถทำได้ด้วยตนเอง เพียงแต่ต้องทำความเข้าใจให้ถี่ถ้วน มีข้อควรระวังและมีอุปกรณ์ที่ต้องเตรียมหลายอย่างด้วยกัน การมีอุปกรณ์ครบครันและหากเป็นอุปกรณ์สำหรับล้างเครื่องยนต์โดยเฉพาะแล้วนั้น ยิ่งทำให้การล้างเครื่องยนต์มีความปลอดภัย สะดวกสบาย และสามารถทำความสะอาดได้อย่างหมดจดแบบมืออาชีพเลยทีเดียว

เตรียมอุปกรณ์ล้างห้องเครื่อง

อุปกรณ์ในการล้างห้องเครื่องมีความใกล้เคียงกับอุปกรณ์ในการล้างสีดูดฝุ่นและมีอุปกรณ์อื่น ๆ ที่ต้องเตรียมเพิ่มอีกสักหน่อย โดยมีดังนี้

1. น้ำยาล้างเครื่องยนต์

2. น้ำยาเคลือบเงา

3. น้ำยาไล่ความชื้น

4. เครื่องเป่าลม (Blower)

5. ฟองน้ำ

6. แปรงขัดซอกมุมหรือแปรงสีฟัน

7. กระบอกฉีดน้ำ (Foggy)

8. ถุงมือ

9. พลาสติกห่ออาหาร (Plastic Wrap)

10. ประแจขันนอต

ขั้นตอนการล้างห้องเครื่องให้ถูกวิธี

ขั้นตอนการล้างห้องเครื่อง

การล้างห้องเครื่องนอกจากจะมีอุปกรณ์ที่สำคัญแล้ว ยังมีขั้นตอนที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษ ควรปฏิบัติตามขั้นตอน ดังนี้

1. ก่อนอื่นต้องมั่นใจว่าเครื่องยนต์เย็นแล้ว จากนั้นใช้ประแจขันนอตถอดขั้วแบตเตอรี่ออก

2. ส่วนที่ไม่ควรโดนน้ำหรือส่วนที่ต้องระวังเรื่องความชื้นให้ใช้พลาสติกห่ออาหารมาห่อหุ้มไว้ เช่น ระบบไฟฟ้า กล่อง ECU เบ้าหัวเทียน ช่องดูดอากาศเข้าเครื่อง จานจ่าย เป็นต้น

3. ฉีดน้ำล้างฝุ่นและคราบสกปรกให้ทั่วห้องเครื่อง ระวังไม่ให้ถูกส่วนที่ห่อหุ้มพลาสติกไว้

4. ผสมน้ำยาล้างเครื่องยนต์กับน้ำเปล่า ควรเลือกใช้น้ำยาสำหรับล้างเครื่องยนต์โดยเฉพาะ ซึ่งสามารถใช้ล้างส่วนที่ทำมาจากวัสดุต่าง ๆ ได้แก่ พลาสติก ยาง เหล็ก อะลูมิเนียม เป็นต้น และควรเป็นน้ำยาที่ดึงคราบสกปรกได้ดี ส่วนข้อควรระวัง คือ น้ำยาที่แรงเกินไปอาจทำลายพื้นผิววัสดุได้

5. สวมถุงมือป้องกันสารเคมี ใช้ฟองน้ำชุบน้ำยาที่ผสมแล้ว เช็ดถูส่วนต่าง ๆ ที่สกปรกให้ทั่ว

6. ส่วนซอกมุมต่าง ๆ ให้ใช้กระบอกฉีดน้ำพ่นน้ำยาที่ผสมแล้วและใช้แปรงขัดถูเก็บรายละเอียดที่ฟองน้ำเข้าไม่ถึง โดยแปรงที่ใช้จะเป็นแปรงสีฟันก็ได้ หรือแปรงไนลอนที่มีหลายขนาด ซึ่งใช้สำหรับทำความสะอาดห้องเครื่องโดยเฉพาะ มีลักษณะไม่นิ่ม ไม่แข็งเกินไป ในขั้นตอนนี้ต้องอาศัยความใจเย็นเพราะในห้องเครื่องจะมีซอกมุมเยอะ

7. ฉีดน้ำล้างให้สะอาด

8. ใช้เครื่องเป่าลมเป่าไล่น้ำตามส่วนต่าง ๆ ให้แห้งสนิท และนำพลาสติกที่หุ้มไว้ออก

9. ใช้น้ำยาเคลือบเงาส่วนที่ต้องการให้เงาสวยขึ้น ได้แก่ ส่วนที่เป็นพลาสติกหรือท่อยาง หากไม่ซีเรียสเรื่องความเงางาม สามารถข้ามขั้นตอนนี้ได้

10. ใช้น้ำยาไล่ความชื้นฉีดส่วนที่ต้องระวังไม่ให้โดนน้ำและความชื้น เช่น ระบบไฟฟ้า ตัวจุดระเบิด เป็นต้น

11. ใส่ขั้วแบตเตอรี่แล้วสตาร์ทเครื่องยนต์เพื่อดูว่าสามารถสตาร์ทติดไหม หรือสตาร์ทติดแล้วเดินสะดุดหรือไม่ หากสตาร์ทไม่ติดให้ใช้น้ำยาไล่ความชื้นอีกครั้งหนึ่ง

สรุป   

การล้างห้องเครื่องรถยนต์นอกจากจะเป็นการขจัดความสกปรกแล้ว ยังช่วยทำให้เครื่องยนต์ระบายความร้อนได้ดีมากยิ่งขึ้น อีกทั้งทำให้ตรวจพบรอยรั่วตามจุดต่าง ๆ และสามารถแก้ไขได้ทันท่วงที การล้างห้องเครื่องรถยนต์สามารถทำได้ด้วยตนเอง เพียงแต่ต้องศึกษาให้ถี่ถ้วนและมีความรู้เรื่องเครื่องยนต์พอสมควร ดังนั้นการล้างห้องเครื่องให้มีประสิทธิภาพควรไปที่ร้านมากกว่า โดยต้องเลือกร้านล้างห้องเครื่องรถยนต์ราคาเหมาะสม มีมาตรฐานและทำความสะอาดได้อย่างมืออาชีพ

235
การล้างอัดฉีด คือ การทำความสะอาดสีรอบคัน รวมถึงบริเวณใต้ท้องรถ การล้างอัดฉีดเหมาะสำหรับรถที่มีคราบสกปรก คราบดินทราย ที่ติดตามบริเวณใต้ท้องรถ ล้อรถ ล้างและยากและมีปริมาณค่อนข้างมาก ต้องใช้แรงของน้ำในการอัดฉีดเพื่อให้คราบสกปรกออกไป

การล้างอัดฉีดเป็นการทำความสะอาดรถในยุคปัจจุบันที่สะดวก รวดเร็วและประหยัดเวลา ทำให้รถดูใหม่ขึ้น หลังจากที่ใช้งานรถแล้วเกิดความสกปรกขึ้น ไม่ว่าจะเป็นรถมอเตอร์ไซต์ หรือรถยนต์เองก็ตาม ในการล้างอัดฉีดไม่เพียงทำได้แค่รถเท่านั้น แต่ยังสามารถใช้ทำความสะอาดได้กับเครื่องมือต่างๆที่ต้องการทำความสะอาดได้อีกด้วย
   
การล้างอัดฉีดเพื่อความสะอาด

ล้างอัดฉีดกับล้างปกติเหมือนหรือแตกต่างกัน

รถยนต์เป็นพาหนะที่สำคัญสำหรับใช้ในการเดินทาง ซึ่งการดูแลรักษาพาหนะนั้นก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นเดียวกัน เนื่องจากเกิดการสึกกร่อน หรือชำรุดเสียหาย การเช็คสภาพรถก่อนใช้ การล้าง การบำรุงและดูแลเครื่องยนต์จึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรประมาณสำหรับผู้ใช้รถ ทั้งนี้ยังเป็นการยืดอายุการใช้งานรถให้ได้ยาวนานกว่าเดิมอีกด้วย

ในการดูแลรักษาความสะอาดของรถในปัจจุบันการล้างอัดฉีดถือเป็นวิธีการดูแลรักษาความสะอาดของรถที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในตอนนี้ เนื่องจาก สะดวก รวดเร็ว และประหยัดเวลา รวมถึงมีบริการต่างๆนอกเหนือไปจากการล้างอัดฉีด ยังมีการล้างสีดูดฝุ่นอีกด้วย ซึ่งจะเห็นได้ว่าการล้างอัดฉีดจะมีบริการตามปั๊มน้ำมันหรือปั๊มแก๊ส หรือไม่ก็จะเป็นร้านที่รับล้างอัดฉีดรถยนต์โดยเฉพาะ นั้นแสดงให้เห็นว่าการล้างรถด้วยวิธีล้างอัดฉีดเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย

จึงเกิดคำถามระหว่างการล้างอัดฉีดกับการล้างรถปกติธรรมดาทั่วไปว่ามีความแตกต่างกันหรือไม่เมื่อรถเกิดความสกปรก คนส่วนใหญ่จะใช้วิธีการล้างรถแบบปกติในการดูแลรักษาสภาพของรถ เนื่องจากการล้างรถด้วยวิธีปกติจะไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับห้องเครื่องยนต์ของรถ เพราะเนื่องจากกลัวว่าระบบน้ำจะเข้าไปทำให้ระบบไฟหรือระบบเครื่องยนต์พังและเกิดความเสียหายได้

แต่อย่างไรก็ตามในการล้างอัดฉีดรถก็ไม่ควรฉีดน้ำหรือฉีดน้ำล้างห้องเครื่องโดยเด็ดขาด เพราะการนำน้ำไปฉีดในห้องเครื่องจะทำให้ระบบไฟฟ้าพังและได้รับความเสียหายได้ เนื่องจากเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงนั้นจะเข้าไป ทำให้ระบบไฟฟ้าอาจจะรวนหรือเสียหายได้ ซึ่งทางที่ดีที่สุดคือการล้างสีดูดฝุ่นก็อาจจะเป็นวิธีการล้างที่เพียงพอ

ข้อควรรู้ในการล้างอัดฉีดรถ

ในการดูแลรักษารถเพื่อเป็นการช่วยยืดอายุการใช้งานรถออกไปให้นานยิ่งขึ้น การเรียนรู้วิธีการดูแลรถอย่างถูกต้อง การตรวจสภาพรถ การดูแลความสะอาดของตัวรถและเครื่องยนต์ การล้างอัดฉีดเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการดูแลความสะอาดของรถ ผู้ใช้รถควรรู้วิธีการล้างอัดฉีดที่ถูกต้อง และควรรู้ในการล้างอัดฉีดรถ ดังนี้

การดูแลรถด้วยการล้างอัดฉีด

1. พยายามอย่าฉีดเข้าห้องเครื่อง

ในการล้างอัดฉีดรถในปัจจุบันส่วนใหญ่รถเป็นระบบไฟฟ้า ไม่ควรฉีดเข้าห้องเครื่องหรือใช้เครื่องอัดฉีดน้ำแรงดันสูบฉีดเข้าไปที่ห้องเครื่อง จะทำให้ระบบไฟฟ้าภายในเกิดความเสียหายได้และยังทำให้ระบบไฟฟ้าภายในรถทั้งหมดรวน ดังนั้นหากจำเป็นต้องทำความสะอาดภายในตัวเครื่องควรใช้วิธีการดูดฝุ่นออกจากห้องเครื่องแทนการฉีดน้ำแรงดันเข้าไปในตัวเครื่อง

2. หลีกเลี่ยงการล้างอัดฉีดในตอนที่ห้องเครื่องยังร้อนอยู่

ข้อควรระวังในการล้างอัดฉีดหลังจากที่ใช้รถเสร็จเรียบร้อย ควรหลีกเลี่ยงการล้างอัดฉีดในตอนที่ห้องเครื่องยังร้อนอยู่หรือมีอุณหภูมิที่สูงอยู่เพราะเนื่องจากว่าเมื่อความร้อนกระทบกับน้ำเย็นแบบกะทันหัน จะทำให้เกิดเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของอุณหภูมิภายในเครื่องยนต์ ซึ่งอาจจะทำให้เกิดความเสียหายแก่เครื่องยนต์ได้

3. ห้ามทิ้งรถไว้

การนำรถไปล้างอัดฉีดเจ้าของก็ไม่ควรนิ่งนอนใจทิ้งรถไว้กับพนักงาน ควรนั่งดูการล้างรถของทางร้านในจุดที่ทางร้านบริการและสามารถมองเห็นได้ชัด เพื่อไม่ให้พนักงานเกิดความประมาทในขณะการล้าง และเจ้าของรถจะสามารถสังเกตเห็นการล้างได้ ทั้งนี้เพื่อเป็นการดูแลทรัพย์สินส่วนตัวและดูพฤติกรรมการล้างตามข้อควรปฏิบัติหรือไม่

4. ห้ามใช้น้ำที่อุณหภูมิสูงเกินไป

ในการใช้น้ำที่อุณหภูมิสูงเกินไปสำหรับการล้างอัดฉีดทำให้สีและส่วนต่างๆ ของรถที่เป็นพลาสติกนั้นเกิดความเสียหาย ทำให้สีหลุดลอกออกได้ง่าย พื้นผิวของรถเกิดความเสียหายทำให้ไม่สวยงามหรืออาจจะทำให้อายุการใช้งานของชิ้นส่วนบางอย่างสั้นลง

5. อาจเกิดความเสียหายจากแรงดัน

แรงดันน้ำที่มีความแรงสูง อาจจะทำให้เกิดความเสียหายแก่สีของรถ และอาจจะทำให้ชิ้นส่วนของรถที่ไม่แข็งแรง เกิดการบุบ ยุบตัวลง หรือแตกหักอย่างง่ายดาย ฉะนั้นในการเลือกใช้แรงที่ดันที่เหมาะสำหรับการล้างอัดฉีดจึงเป็นเรื่องที่ควรระวัง

6. ห้ามล้างในเวลากลางคืน

การล้างอัดฉีดรถในเวลากลางคืน การอัดฉีดน้ำไปตามส่วนต่างๆ นั้นอาจจะไม่ทั่วถึงทำให้ไม่สะอาดเท่าที่ควรเมื่อเช็ดหรือเป่าให้แห้ง ด้วยอากาศที่เย็นลงในช่วงเวลากลางคืน จะทำให้น้ำที่ค้างอยู่ตามซอกเหล่านี้ ระเหยออกไปไม่หมด จึงอาจจะทำให้ส่วนที่น้ำค้างอยู่ก่อให้เกิดคราบสนิมได้

สรุป

การล้างอัดฉีดให้รถสะอาดเหมือนใหม่

การล้างอัดฉีดรถในปัจจุบันถือได้ว่าได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากหลายๆปัจจัยที่เข้ามาเกี่ยวข้องทำจึงทำให้การล้างอัดฉีดรถได้รับความนิยม ทั้งนี้ควรศึกษาข้อควรปฏิบัติและข้อที่พึ่งระมัดระวังในการเลือกล้างอัดฉีดรถ เพื่อยืดระยะเวลาการใช้งานของรถให้ยาวนานมากยิ่งขึ้น

236
ราคาล้างรถ

คาร์แคร์ (Car Care) คือบริการดูแลรักษารถ ไม่ได้เป็นเพียงแค่ที่ล้างรถเท่านั้น ยังมีบริการอื่นอีกด้วย เช่น ล้างอัดฉีด ล้างสี ดูดฝุ่น เคลือบภายใน ซึ่งจะช่วยมอบความสะดวกสบายให้แก่เจ้าของรถ โดยคาร์แคร์แต่ละแห่งก็จะมีราคาล้างรถยนต์ หรือราคาบริการอื่น ๆ ที่แตกต่างกันออกไปตามคุณภาพและประสบการณ์ของผู้ให้บริการ

ดังนั้นจึงควรเลือกใช้บริการคาร์แคร์ที่มีคุณภาพและน่าเชื่อถือ เพื่อความปลอดภัยและความมั่นใจ ทั้งก่อนและหลังเข้ารับบริการล้างรถกับคาร์แคร์   

ทำไมต้องล้างรถในคาร์แคร์ ? ดีกว่าล้างเองอย่างไร

หากคุณเป็นสายประหยัด ก็สามารถล้างรถเองได้ แต่ ! ต้องเสียเวลาจัดหาอุปกรณ์ล้างรถต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นน้ำยา ผ้า สายยาง อีกทั้งจะต้องลงมือล้างรถด้วยตัวเองทั้งคัน เสียทั้งแรงเสียทั้งเวลา ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปถ้ามาล้างอัดฉีดรถยนต์ที่คาร์แคร์ ซึ่งมีเครื่องมือครบครัน สามารถล้างรถได้สะอาด รวดเร็ว แถมยังมีบริการเสริมอื่นๆ เพื่อช่วยดูแลรักษารถให้ใช้งานได้อย่างปลอดภัย

การนำรถไปล้างในคาร์แคร์อาจมีความเสี่ยงเรื่องพนักงานล้างรถไม่สะอาด หรือสิ่งของมีค่าในรถสูญหาย แต่ที่ KleanSquare ศูนย์ทำความสะอาดรถยนต์ชั้นนำ ประสบการณ์กว่า 30 ปี ที่ผู้ใช้ 500,000 รายทั่วประเทศให้ความไว้วางใจ มีอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน และทีมงานที่พร้อมให้บริการอย่างเป็นมืออาชีพ ดูแลเอาใจใส่รถของคุณทั้งภายนอกและภายใน มั่นใจได้ในความปลอดภัยของทรัพย์สินภายในรถ

ข้อควรรู้ ก่อนนำรถของคุณเข้าคาร์แคร์

ก่อนนำรถเข้าคาร์แคร์ ถึงแม้จะมีความสะดวกสบาย แต่ก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อม เพื่อลดโอกาสที่จะเกิดปัญหาตามมาในภายหลัง โดยจะต้องเตรียมตัวดังนี้

  • เก็บของมีค่าและเอกสารสำคัญออกจากตัวลด เพื่อป้องกันความเสียหายหรือสูญหาย
  • ถ่ายรูปตัวรถหลายๆ มุม เก็บไว้เป็นหลักฐานหากเกิดเหตุไม่คาดคิด
  • หากเป็นบริการที่ใช้เวลาไม่นาน ควรรออยู่ภายในบริเวณร้าน
  • หากจำเป็นต้องเคลื่อนย้ายรถควรทำด้วยตัวเอง หรือกำชับพนักงานให้ระวังเป็นพิเศษ
  • ไม่ควรเปลี่ยนร้านบ่อย ควรเลือกร้านคาร์แคร์ที่น่าเชื่อถือ และไว้ใจได้ เช่น KleanSquare ที่มีระบบรักษาความปลอดภัยทรัพย์สินภายในรถ
  • ไม่ควรทิ้งรถไว้กับร้านที่ยังไม่เคยใช้บริการมาก่อน
  • ห้ามให้ใบรับรถกับผู้อื่นเด็ดขาด เพราะอาจเป็นกลโกงของมิจฉาชีพ
  • เมื่อถึงเวลารับรถ ควรตรวจเช็คสภาพรถให้เรียบร้อยก่อนออกจากร้าน
   
   
ควรนำรถเข้าคาร์แคร์บ่อยแค่ไหน ?
 
โดยทั่วไปควรนำรถเข้าใช้บริการคาร์แคร์อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง โดยเฉพาะในช่วงที่ไม่มีเวลาทำความสะอาดรถคู่ใจด้วยตัวเอง หรือช่วงที่รถเลอะบ่อยครั้งในฤดูฝน แม้ว่าจะมีฝนตกลงมาก็ตาม แต่ไม่ได้หมายความว่าน้ำฝนที่ตกลงมาจะช่วยทำความสะอาดรถของเราได้ เพราะคราบน้ำฝนอาจจะทำให้เกิดอันตรายต่อสีของรถได้

นอกจากนี้การนำรถเข้าใช้บริการคาร์แคร์ ไม่เพียงแต่ล้างทำความสะอาดเท่านั้น ยังได้บริการดูแลรักษารถอีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นขัดสี เคลือบสี รวมถึงตรวจเช็คระบบต่างๆ เพื่อให้คุณสามารถขับขี่ได้อย่างปลอดภัยไร้กังวล   

สรุป   

การใช้บริการคาร์แคร์ล้างรถต้องเลือกร้านที่น่าเชื่อถือ มีคุณภาพ คุ้มค่าคุ้มราคา สามารถไว้วางใจได้เมื่อนำรถคู่ใจไปทำความสะอาด เพราะคาร์แคร์ไม่ได้มีเพียงแค่การล้างรถ แต่ยังมีบริการอื่นๆ ที่จะช่วยดูแลรักษา ตรวจเช็คสภาพรถให้ดูสวยงาม และใช้งานได้อย่างปลอดภัยอยู่เสมอ ดังเช่น KleanSquare ที่มีมาตรฐาน บริการครอบคลุม ทำให้ได้มากกว่าความสะอาด

นอกจากนี้ KleanSquare ยังมีบริการอื่นๆ อีก เช่น ขัดโคมไฟหน้ารถ ขัดเคลือบกระจกหน้ารถ ติดแผ่นฉนวนกันความร้อนภายในฝากระโปรงหน้ารถ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง หรือรถมอเตอร์ไซค์ก็สามารถนำมาล้างได้เช่นกัน อีกทั้งยังระบบ Membership ที่จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้ใช้บริการคาร์แคร์อีกด้วย

237
ทำประกันรถยนต์ชั้น 3 ราคาประหยัด

ถ้าพูดถึงการทำประกันเพื่อคุ้มครองในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะประกันชีวิต ประกันบ้าน ประกันการเดินทาง ประกันรถยนต์ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องพิจารณาเพราะคุ้มครองไปถึงอุบัติเหตุ ชีวิต รวมถึงคุ้มครองทรัพย์สินของผู้ทำประกันและคู่กรณีด้วย ทีนี้เมื่อพิจารณาว่าจะทำประกันรถยนต์แล้วเราควรตัดสินใจต่อว่าจะเลือกประกันรถยนต์ชั้นไหนดี ซึ่งแล้วแต่รายรับ รายจ่ายของแต่ละครอบครัว

การวางแผนคำนวณเบี้ยค่าใช้จ่ายก็ง่ายเพราะค่าประกันชั้น 3 เริ่มต้นจ่ายที่หลักพันคุ้มครองตลอดทั้งปี โดยอาจจะเลือกที่ราคาเบี้ยประกันและความคุ้มค่าเป็นหลัก ซึ่งวันนี้ SILKSPAN ขอแนะนำประกันรถยนต์ชั้น 3 ที่ทำได้ง่าย ๆ ไม่จำกัดอายุรถ โดยประกันรถยนต์ชั้น 3 คุ้มครองอะไรบ้างและประกันรถยนต์ชั้น 3 ราคาไปศึกษากันได้เลย

เลือกประกันรถยนต์ชั้น 3 แบบไหนจะเหมาะกับเรา
การเลือกทำประกันรถนั้น ควรดูก่อนว่าเหมาะกับใครและใช้รถแบบไหน ซึ่งการทำประกันรถยนต์ชั้น 3 เหมาะกับคนที่ใช้รถเก่าไม่ค่อยได้ขับออกไปข้างนอก เช่น รถยนต์มือสองหรือรถยนต์ที่ไม่เคยมีประวัติเฉี่ยวชนมาก่อนแต่อยากตัดสินใจลองทำประกันเพื่อคุ้มครองเกี่ยวกับอุบัติเหตุไม่คาดคิด เลือกคุ้มครองต่อค่าซ่อมเฉี่ยวชนเสา ต้นไม้ที่ไม่มีคู่กรณี เพื่อความสบายใจหรือเลือกทำประกันรถยนต์ชั้น 3 เพราะคุ้มครองค่ารักษาทั้งคนในรถและคู่กรณีอีกด้วยซึ่งทั้งหมดนี้อยู่ในราคาเริ่มต้นเพียงแค่หลักพันบาทเท่านั้น

ก็สามารถคุ้มครองทั้งชีวิตและทรัพย์สินของคุณได้ง่าย ๆ อีกหนึ่งข้ออย่าลืมนึกถึงตอนที่เราต้องติดต่อบริษัทประกันที่เราได้ทำประกันเอาไว้ด้วยว่าจะติดต่อยากหรือง่ายแค่ไหน เพราะเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นมาจริง ๆ สิ่งแรกที่คุณต้องนึกถึงคือติดต่อหาประกันนั้นเอง

ประกันรถยนต์ชั้น 3 ราคาเริ่มต้นเท่าไหร่ เบี้ยประกันชั้น 3 จากที่ต่าง ๆ ที่ไหนถูกกว่ากัน

รูปแบบการทำประกันรถยนต์ มีให้เลือกหลากหลายประเภท หลากหลายบริษัททำให้คุณต้องมองหารายละเอียดของการทำประกันรถยนต์แต่ละที่ให้ดี ๆ ในฐานะของผู้เลือกซื้อกรมธรรม์ก็มีสิทธิ์ที่จะเลือกประกันรถยนต์ที่หลายรูปแบบ โดยเราได้หาข้อมูลเบี้ยประจากที่ต่าง ๆ มาให้แล้วดังนี้

  • ประกันรถยนต์ชั้น 3 ของบริษัททีคิวเอ็ม จะเริ่มต้นอยู่ที่ 1,899 บาทต่อปี
  • ประกันรถยนต์จากวิริยะประกันภัยอยู่ที่ 2,500 บาทต่อปี
  • เมืองไทยประกันชีวิต เริ่มต้นที่ 1,900 บาทต่อปี
  • Rabbit Care เริ่มต้นที่ 2,500 บาทต่อปี

ซึ่งแต่ละที่ประกันรถยนต์ชั้น 3 ราคาจะแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับขนาดและประเภทของรถยนต์ ความคุ้มครองจะคุ้มครองคล้าย ๆ กันโดยเน้นไปที่ผู้โดยสารภายในรถรวมถึงบุคคลภายนอกจะไม่นับความเสียหายที่ไม่มีคู่กรณี แต่ประกันรถยนต์ชั้น 3 จะคุ้มครองตามเอกสารแนบท้ายเท่านั้น ต้องศึกษารายละเอียดกันให้ดี เช่น อุบัติเหตุส่วนบุคคล ทรัพย์สินบุคคลภายนอก เงินชดเชยต่าง ๆ ทาง SILKSPAN ราคาเบี้ยประกันจะอยู่ที่ 1,870 บาทต่อปี ซึ่งถือว่าราคาถูกกว่าหลาย ๆ บริษัทที่ได้ทำการยกตัวอย่างมา

ประกันรถยนต์ชั้น 3 ให้ความคุ้มครองมากแค่ไหน

ประกันรถยนต์ชั้น 3 จะให้ความคุ้มครองเฉพาะทรัพย์สินบุคคลภายนอกกล่าวคือ คุ้มครองเฉพาะรถของคู่กรณี เช่น เมื่อรถของเราชนกับรถของคนอื่นเราจะสามารถใช้ประกันรถยนต์ชั้น 3 ชดเชยค่าเสียหายที่เกิดขึ้นได้ แต่จะคุ้มครองรถของคนที่ทำประกัน ทำให้เราต้องระมัดระวังมากขึ้นในกรณีที่ไปชนกับ เสาไฟ ต้นไม้ หรือเกิดความเสียหายที่ไม่มีคู่กรณีในส่วนตรงนี้ก็จะไม่ได้รับความคุ้มครองนั้นเอง และยังคุ้มครองเพิ่มเติมเกี่ยวกับบุคคลในรถของเรา สามารถอ่านข้อมูลแบบละเอียดได้ที่หัวข้อดังต่อไปนี้เลย

ประกันชั้น 3 คุ้มครองรถและทรัพย์สินผู้อื่น
ประกันรถยนต์ 3 คุ้มครองเฉพาะรถและทรัพย์สินของผู้อื่นเท่านั้น โดยรวมไปถึงค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลรวมถึงค่าทุพพลภาพและเสียชีวิตของผู้คนภายนอกด้วย บริษัทประกันชดใช้ค่าสินไหมชดเชยค่าเสียหายตามจริง แต่ไม่เกิน 10 ล้านบาทต่อครั้งที่ระบุเอาไว้ในกรมธรรม์

ประกันชั้น 3 คุ้มครองชีวิตและค่ารักษาพยาบาลคนในรถ
ประกันรถยนต์ชั้น 3 คุ้มครองชีวิตและค่ารักษาพยาบาลคนในรถและบุคคลภายนอกในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุจนถึงขั้นบาดเจ็บต้องนำส่งโรงพยาบาล หรือเกิดการเสียชีวิต ทุพพลภาพถาวร เช่น สูญเสียดวงตา มือ เท้าพิการ ถ้าเราเป็นฝ่ายผิดบริษัทก็จะจ่ายชดเชยตามจำนวนเงินที่ระบุไว้ในกรมธรรม์มากที่สุดแล้วแต่ที่ระบุไว้แต่ก็จะสามารถช่วยแบ่งเบาได้อย่างหนึ่ง

นอกจากที่กล่าวมาข้อดีของการทำประกันรถยนต์ชั้น 3 ก็ต้องสอดคล้องกับการใช้งานจองเราเองด้วย ไม่จำเป็นต้องแพงเข้าว่าเพราะคุณอาจจะไม่ต้องการการคุ้มครองที่ครอบคลุมขนาดนั้น โดยเลือกตอบโจทย์การใช้งานได้ดีกว่ามาดูข้อดีต่าง ๆ ของการทำประกันรถยนต์ชั้น 3 ว่ามีอะไรบ้างดังนี้

  • ยังสามารถช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ด้วยเพราะเป็นประกันที่ถูกที่สุดในตัวเลือกหลาย ๆ อย่างทำให้จ่ายค่าเบี้ยประกันน้อยกว่าประกันชนิดอื่น ๆ
  • สามารถซื้อความคุ้มครองเพิ่มได้เพราะประกันรถยนต์ชั้น 3 มีราคาไม่สูงมาก ทำให้ตัดสินใจได้ง่าย หากเกิดเปลี่ยนใจหรือไม่พอใจประกันที่มีอยู่ ก็สามารถซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติมได้ทันที
  • เสี่ยงบนท้องถนนเกิดขึ้นได้ทุกวัน การทำประกันรถยนต์ชั้น 3 ก็ช่วยคุ้มครองได้ส่วนหนึ่ง ทำให้เมื่อเกิดความเสียหาย ประกันรถยนต์ชั้น 3 ก็จะช่วยชดเชยภาระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ได้อีกด้วย
  • ขับขี่ใช้รถยนต์ได้อย่างมั่นใจ การทำประกันไม่ว่าจะประเภทไหน ๆ ถ้าทำแล้วจะช่วยให้ผู้ทำประกันเกิดความสบายใจ ทำให้ใช้รถยนต์ของตัวเองได้เต็มที่เต็มความสามารถด้วยความอุ่นใจจากการทำประกันรถยนต์ชั้น 3 หรือประกันประเภทอื่น ๆ นั้นเอง

ประกันรถยนต์ชั้น 3 คุ้มครองคู่กรณี

ความคุ้มครองประกันรถยนต์ชั้น 3 กับ 3+ ต่างกันอย่างไร เหมาะสมกับใคร
ประกันรถยนต์ชั้น 3 คุ้มครองไม่ค่อยครอบคลุมในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุเล็กน้อยก็จะไม่ชดเชยค่าเสียหาย เช่น การชนเสา ชนกำแพงที่ไม่มีคู่กรณี แต่ก็เหมาะกับผู้ที่ไม่ค่อยได้ใช้รถหรือนาน ๆ ใช้สักครั้งหนึ่ง รถยนต์มีอายุมากกว่า 10 ปี ทำให้การทำประกันชั้นอื่นเป็นเลือกยากเพราะรถยนต์มีอายุนานแล้ว การเลือกทำประกันรถยนต์ชั้น 3 ก็จะเหมาะกับส่วนนี้และการกลัวว่าจะเกิดความเสียหายหรืออุบัติเหตุแก่ผู้อื่น

การทำประกันไว้ก็คุ้มค่ากับราคาต่อปีเพียงแค่หลักพันต้น ๆ ซึ่งประกัน ชั้น 3 กับ 3+ ต่างกันอย่างไร แตกต่างตรงที่จะชดเชยเฉพาะคู่กรณีและบุคคลภายนอกเท่านั้นซึ่งประกันรถยนต์ชั้น 3+ คุ้มครองในส่วนของรถเราด้วย ทำให้เมื่อเกิดอุบัติเหตุชนจริงแล้วเราเป็นฝ่ายผิด ทำให้เราต้องออกค่าซ่อมรถเอง แต่ค่าซ่อมรถของคู่กรณีจะได้รับความคุ้มครองโดยประกันชั้น 3 แต่ถ้าคุณได้เลือกทำประกันชั้น 3+ ไว้ก็จะคุ้มครองค่าเสียหายของรถเราด้วยตามทุนประกันที่จดเอาไว้

ความคุ้มครองประกันรถยนต์ชั้น 3 กับ 2+ ต่างกันอย่างไร เหมาะสมกับใคร
ประกันรถยนต์ชั้น 2+ เหมาะสำหรับคนที่ใช้รถเป็นประจำแต่จำเป็นต้องจอดในที่เสี่ยง เช่น หน้าบ้าน ริมถนน ทำให้เกิดความกังวลว่าจะเกิดอุบัติเหตุได้ซึ่งถ้ากรณีเกิดอุบัติเหตุก็จะได้รับความคุ้มครองจากกรณีรถสูญหาย หรือไฟไหม้ น้ำท่วม หรือบริการฉุกเฉินเคลมประกันก็จะง่ายกว่าเพราะเลือกทำประกันชั้น 2+ ซึ่งแล้วแต่บริการของแต่ละที่ที่เราเลือกซื้อ ส่วนความคุ้มครองคู่กรณีก็เหมือนกันตรงที่เมื่อเกิดอุบัติเหตุคู่กรณีก็ยังคงได้รับความคุ้มครองสำหรับความเสียหายอยู่ด้วย

แต่ถ้าเกิดอุบัติเหตุจนกลายเป็นคดีอาญา ประกันรถยนต์ชั้น 2+ มีเงินประกันไว้สำหรับผู้ขับขี่ให้คอยช่วยเหลือตามจำนวนเงินที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ เพื่อไม่ให้ผู้กระทำผิดถูกควบคุมตัวเมื่อเป็นคดีอาญาอีกด้วย แตกต่างจากประกันรถยนต์ชั้น 3 ตรงที่ไม่คุ้มครองรถของเรา ไม่มีค่าประกันตัวในกรณีเกิดเป็นคดีอาญาและไม่คุ้มครองในกรณีรถสูญหายจากการจอดไว้ข้างทาง หน้าบ้าน ริมถนนนั้นเอง

ความคุ้มครองประกันรถยนต์ชั้น 3 กับ 1 ต่างกันอย่างไร เหมาะสมกับใคร
ถ้าหากรถของคุณยังอายุไม่เกินกำหนดเพราะจะสามารถทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ได้แบบง่าย ๆ ถ้าหากเป็นรถใหม่สภาพดีเพราะการทำประกันชั้น 1 เหมาะสำหรับมือใหม่มาก ๆ ไม่สันทัดหรือเริ่มต้นในการขับรถ กลัวว่าจะเกิดอุบัติเหตุ จากการไปชนรถคนอื่นหรือไม่ก็ชนเสา ชนรั้ว ชนต้นไม้ ทำให้เราสามารถใช้ประกันชั้น 1 ให้เจ้าหน้าที่ทำการสำรวจและเคลมในจุดเกิดเหตุได้ทันทีเพื่อทำเรื่องเคลม โดยที่เราไม่ต้องไปเสียเวลา คุย หรือเจรจาให้ปวดหัวยุ่งยากกับคู่กรณีเลยและถ้าหากกลายเป็นคดีอาญาประกันชั้น 1 ยังออกค่าใช้จ่ายค่าให้ประกันตัวผู้ขับขี่ไว้เช่นกัน

ถ้าหากเกิดเหตุฉุกเฉินเกี่ยวกับรถยนต์คุณสามารถติดต่อศูนย์ช่วยเหลือได้เลยเพราะเป็นสิทธิพิเศษลูกค้า ที่ทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ไว้กับทาง SILKSPAN ตลอด 24 ชั่วโมง แตกต่างกับประกันรถยนต์ชั้น 3 อย่างมากทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคุณว่าจะเลือกให้เหมาะสมกับการใช้ของตัวเองได้มากน้อยแค่ไหน

ทำประกันรถยนต์ชั้น 3 ที่ไหนคุ้มที่สุดต้องที่ SILKSPAN

ประกันรถยนต์ชั้น 3 ที่ไหนดีถ้าหากคุณกำลังมองหา หรือมีแผนที่จะทำประกันรถชั้น 3 หรือชั้นอื่น ๆ ก็ตามคุณสามารถเลือกทำประกันออนไลน์กับ SILKSPAN ได้เลยเพราะเหมาะอย่างมากเกี่ยวกับคนที่กลัวว่าจะขับรถไปชนผู้อื่น แต่สามารถออกค่าซ่อมรถของตัวเองได้ การทำประกันรถยนต์ชั้น 3 ไว้ทำให้ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายได้ส่วนหนึ่งเมื่อเกิดอุบัติเหตุนั้นเอง เหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยได้ขับรถหรือรถเก่าแล้ว เพราะจ่ายเบี้ยเริ่มต้นเพียงหลักพันกว่าบาทเท่านั้น

และยังสามารถหาส่วนลดได้จากการแนะนำให้ต่อประกันคันที่ 2 อีกสูงสุดถึง 1,000 บาท เมื่อต่อประกันล่วงหน้าคุณก็จะได้ส่วนลดสูงสุดไปอีก 500 บาท ยังมีโปรโมชั่นประจำเดือนต่าง ๆ รอคุณอีกมากมายคุณสามารถเลือกจ่ายเบี้ยประกัน SILKSPAN ได้ง่าย ๆ 2 ช่องทางโดยการโอนเงินทุกธนาคารและที่ 7- 11 เคาน์เตอร์เซอร์วิสทุกสาขาทั่วประเทศ


238
บ้านเดี่ยวศรีนครินทร์เหมาะกับการพักผ่อน

หมู่บ้านแถวศรีนครินทร์เป็นทำเลศักยภาพฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ ที่มีการคมนาคมสะดวกเข้าออกเมืองกรุงได้หลายเส้นทางไม่ว่าจะทางด่วนหรือรถไฟฟ้า เป็นย่านธุรกิจที่มีสีสันได้รับอิทธิพลความเจริญจากย่านสุขุมวิท-อโศก  ที่มีความหลากหลาย ทั้งห้างสรรพสินค้าและสวนสาธารณะ บ้านเดี่ยวศรีนครินทร์ เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์ในราคาที่ไม่แพงเท่าใจกลางกรุง อีกทั้งยังเป็นทำเลทองที่จะถูกพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อีกมากมายในอนาคต 

บ้านเดี่ยวศรีนครินทร์
แน่นอนว่าใคร ๆ ก็ต้องการพักอาศัยในบ้านที่มีความร่มรื่น อยู่แล้วสบายมีความสุขเหมาะแก่การพักผ่อน และสามารถเดินทางสะดวกไม่เสียเวลาไปกับการเดินทาง โครงการบ้านเดี่ยวศรีนครินทร์อยู่ใกล้กับโซนอ่อนนุชสุขุมวิทและบางนา ไม่ว่าเดินทางไปเส้นไหนก็ล้วนแล้วแต่สะดวก แถมยังมีรถไฟฟ้าที่กำลังถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่องทั้งสายสีเงิน Light Rail (สายบางนา-สุวรรณภูมิ) และสายสีเหลือง (สายลาดพร้าว-สำโรง) ที่จะให้บริการเร็ว ๆ นี้ สามารถเชื่อมต่อกับ BTS สายสุขุมวิทที่ให้บริการถึงสถานีคูคต และยังใกล้ชิดธรรมชาติย่านสมุทรปราการ

ความโดนเด่นของย่านบ้านเดี่ยวศรีนครินทร์
โครงการบ้านแถวศรีนครินทร์มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย อาทิเช่น สถานศึกษา โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า และยังมีพื้นที่สีเขียวให้สูดอากาศสดชื่นได้เต็มปอด อย่างสวนสาธารณะ 3 แห่ง เช่น สวนหลวง ร.9, โครงการป่าในกรุง และศูนย์กีฬาทางน้ำบึงหนองบอนแล้ว บ้านเดี่ยวศรีนครินทร์มีความโดดเด่นอย่างไรบ้างไปดูกัน

การเดินทางรอบโครงการบ้านเดี่ยวศรีนครินทร์
  • การเดินทางด้วยรถยนต์ สะดวกทั้งทางด่วนและทางปกติ ถนนศรีนครินทร์สามารถรองรับรถยนต์ได้ประมาณมากด้วยความกว้างระดับ 6 - 8 เลน เชื่อมต่อลาซาล นอกจากจะใกล้ถนนบางนา-ตราดแล้ว ยังสามารถใช้ทางด่วนบูรพาวิถี, พระราม 9 หรือถนนรามคำแหง และถนนบางกะปิได้

  • การเดินทางโดยรถสาธารณะ มีรถให้บริการตลอดเส้นทาง ได้แก่ สาย 2, ปอ.11, 21, 23, 25, 38, 46, ปอ.48, 132, 133,ปอ.139, ปอ.145, 180, 206, 365, 558 และรถสองแถว

  • การเดินทางด้วยรถไฟฟ้า น่าชื่นใจที่นอกจากจะสามารถเดินทางต่อรถไปขึ้น BTS สายสุขุมวิทแล้วบ้านเดี่ยวศรีนครินทร์ยังสามารถเดินทางสะดวกด้วยรถไฟฟ้าสายสีเงิน Light Rail (สายบางนา-สุวรรณภูมิ) และรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (สายลาดพร้าว-สำโรง) สถานีศรีนครินทร์ 38, สถานีศรีเอี่ยม ที่กำลังจะเปิดให้บริการภายในปีนี้

สิ่งอำนวยความสะดวกรอบบ้านเดี่ยวศรีนครินทร์
  • ห้างสรรพสินค้ารอบบ้านเดี่ยวศรีนครินทร์ เป็นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่อย่าง เซ็นทรัลบางนา, เมกา บางนา, IKEA Bangna, Lotus และยังมีตลาดรถไฟที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยามกลางคืนชื่อดังที่ได้รับความนิยมจากชาวไทยและชาวต่างชาติ

  • สถานศึกษารอบบ้านเดี่ยวศรีนครินทร์ มีทั้งมหาวิทยาลัยชั้นนำอย่างมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ, มหาวิทยาลัยหัวเฉียว, มหาวิทยาลัยรามคำแหง บางนา, โรงเรียนสาธิตบางนา, โรงเรียนราชวินิตบางแก้ว และโรงเรียนประภามนตรี

  • โรงพยาบาลรอบบ้านเดี่ยวศรีนครินทร์ อาทิเช่น โรงพยาบาลบางนา 2, โรงพยาบาลสินแพทย์, โรงพยาบาลศิครินทร์ และโรงพยาบาลสมิติเวช

บ้านเดี่ยวศรีนครินทร์ ราคา
บ้านเดี่ยวศรีนครินทร์ของ SC Asset มีหลายโครงการที่น่าสนใจ เหมาะกับผู้ต้องการหาบ้านเดี่ยวที่อยู่ใกล้กรุง แวดล้อมด้วยธรรมชาติที่งดงาม ทำให้ได้บรรยากาศแห่งการพักผ่อนที่แท้จริง แล้วโครงการไหนจะถูกใจคุณบ้าง ลองดูรายการคร่าว ๆ ที่เราสรุปมาให้ดังนี้

บ้านเดี่ยวศรีนครินทร์ ราคา


บ้านเดี่ยวศรีนครินทร์ แนะนำ
SC Asset ได้ดีไซน์บ้านสุดหรูบนทำเลศักยภาพที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย และยังตั้งใจออกแบบโดยยึดความต้องการของผู้ใช้งานเป็นสำคัญ หากคุณกำลังหาบ้านเดี่ยวที่น่าอยู่ เหมาะกับทุกเพศทุกวัย ลองพิจารณาโครงการบ้านเดี่ยวศรีนครินทร์ดังต่อไปนี้

บางกอก บูเลอวาร์ด ศรีนครินทร์ – บางนา

บ้านเดี่ยวศรีนครินทร์บางกอก บูเลอวาร์ด ศรีนครินทร์ – บางนา

บ้านเดี่ยวศรีนครินทร์บางกอก บูเลอวาร์ด ศรีนครินทร์ – บางนา (Bangkok Boulevard Srinakarin-Bangna) ตั้งอยู่ที่ถนนหนามแดง, บางแก้ว, บางพลี, สมุทรปราการ เป็นบ้านเดี่ยวสุดหรู สไตล์ยุโรปที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Milton Abbas Village ขนาด 218-362 ตร.ม. ด้วยการผสมผสานที่ลงตัวของธรรมชาติแบบ Lake Luzern และสวนสไตล์สวิส ให้คุณได้ใกล้ชิดธรรมชาติ มีสิ่งอำนวยความสะดวกทั้ง Gym, สระว่ายน้ำระบบเกลือ และสวนสาธารณะ มีระบบ Home Automation ติดสัญญาณกันขโมยทุกหลัง พร้อมกล้อง CCTV และ รปภ.ดูแลตลอด 24 ชั่วโมง

บ้านเดี่ยวบางนาศรีนครินทร์อยู่ใกล้ตลาดเทพประทาน (หนามแดง), Big C และ Lotus ทางด่วน รถไฟฟ้า อยู่ใกล้คลองสำโรง และโรงพยาบาลสินแพทย์ สามารถใช้ถนนศรีนครินทร์และถนนเทพารักษ์ได้ โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 10 - 18 ล้านบาท

บางกอก บูเลอวาร์ด บางนา-กม.5
 
บ้านเดี่ยวศรีนครินทร์บางกอก บูเลอวาร์ด บางนา-กม.5


โครงการใหม่จาก SC Asset อย่างบ้านเดี่ยวศรีนครินทร์บางกอก บูเลอวาร์ด บางนา-กม.5 (Bangkok Boulevard Bangna Km.5) ตั้งอยู่ในซอยบางนา-ตราด 37, บางแก้ว, บางพลี, สมุทรปราการ เป็นบ้านโมเดิร์นล้ำสมัยสไตล์ LANAI SERIES ที่มีขนาดกว้างถึง 441 ตร.ม. ด้วยนวัตกรรม Living Solution ที่ตอบโจทย์ชีวิตยุคใหม่ที่ลงตัว โครงการมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันทั้งคลับเฮาส์ สวนส่วนกลางสถาปัตยกรรมของเกาะ Bora Bora ได้กลิ่นอาย Tropical เหมือนพักผ่อนริมชายทะเล พร้อมกล้อง CCTV และ รปภ.ดูแลตลอด 24 ชั่วโมง

เดินทางสะดวกไม่ว่าจะใช้เส้นถนนบางนา-ตราด, ถนนศรีนครินทร์, ทางด่วนบูรพาวิถี, วงแหวนรอบนอก และรถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีศรีเอี่ยม บ้านเดี่ยวศรีนครินทร์ใกล้กับห้างแมคโคร, Big C, Lotus, เมกา บางนา, โรงเรียนนานาชาติชั้นนำ และโรงพยาบาลศิครินทร์  โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 15 - 30 ล้านบาท

แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด สุขุมวิท - ศรีนครินทร์

บ้านเดี่ยวศรีนครินทร์แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด สุขุมวิท - ศรีนครินทร์

บ้านเดี่ยวศรีนครินทร์แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด สุขุมวิท - ศรีนครินทร์ (Grand Bangkok Boulevard Sukhumvit - Srinakarin) ตั้งอยู่ในซอยแบริ่ง 31/1, สำโรงเหนือ, เมือง, สมุทรปราการ เนื้อที่ 439-780 ตร.ม. เป็นบ้านสไตล์ Spanish Step, Italy พร้อมระบบ Living Solution นวัตกรรมใหม่ที่เหมาะกับชีวิตในยุคดิจิทัล ด้วยพื้นที่ที่กว้างขวางรองรับครอบครัวขนาดใหญ่ Double Master Bedroom ทำให้ทุกห้องนอนมีห้องน้ำส่วนตัว และยังเพลิดเพลินกับพื้นที่นั่งเล่นหลายจุดภายในบ้าน พร้อม Clubhouse, ห้องรับรอง, สวนส่วนกลาง, ฟิตเนส, สระว่ายน้ำ เข้าออกด้วยระบบ Smart Gate พร้อมกล้อง CCTV และ รปภ.ดูแลตลอด 24 ชั่วโมง

หมู่บ้านแถวศรีนครินทร์อยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยและสถานศึกษาชั้นนำทั้งไทยและนานาชาติ ใกล้กับศูนย์การค้าขนาดใหญ่อย่างเซ็นทรัลและเมกา บางนา เดินทางเข้าออกสะดวกทั้งทางด่วนบางนาและบูรพาวิถี รวมถึงรถไฟฟ้า 2 สาย สายสีเขียวและสายสีเหลือง เข้าออกกรุงได้สบาย ในราคาเริ่มต้นที่ 35 - 85 ล้านบาท

สรุป
 
โครงการบ้านเดี่ยวศรีนครินทร์ตั้งอยู่ในโซนที่กำลังถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่อง มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เป็นย่านธุรกิจที่ได้รับความนิยมมาก สามารถเดินทางสะดวกทั้งทางด่วนและรถไฟฟ้า โดยรถไฟฟ้าสายสีเหลืองกำลังจะเปิดให้บริการเร็ว ๆ นี้  เชื่อมต่อทางพิเศษหลากหลายเส้นทาง ถือว่าเป็นทำเลที่มีศักยภาพเป็นอย่างมาก

SC Asset เป็นแบรนด์คุณภาพที่สร้างบ้านจนได้รับรางวัล The Most Powerful Real Estate Brand ที่ครองใจผู้บริโภคจนได้รับความไว้วางใจในการบอกต่อเพื่อน ๆ ให้มาใช้บริการ มีการทำงานเป็นทีมในการดูแลบ้านเดี่ยวศรีนครินทร์ และให้บริการหลังการขายอย่างมีประสิทธิภาพ พยายามยึดความต้องการของลูกค้าเป็นสำคัญด้วยแนวคิด One Size Doesn’t Fil All ที่เหมาะสำหรับทุกคน 

239
 คลินิกรักษาสิว

สิว เป็นปัญหาผิวที่อาจรักษาหายด้วยตัวเองได้ แต่ก็มักจะไม่หายขาดและกลับมาเป็นสิวซ้ำ ๆ จนผิวบอบช้ำ เป็นรอยสิว หลุมสิว ซึ่งเป็นปัญหาผิวที่แก้ยากขึ้นไปอีกขั้น การพบแพทย์ที่คลินิกรักษาสิวจะช่วยให้คุณสามารถรักษาปัญหาผิวอย่างสิว หรือปัญหาผิวอื่น ๆ ได้อย่างตรงจุดกว่า เพราะแพทย์ที่คลินิกรักษาผิวหน้าจะสามารถหาสาเหตุของการเกิดสิว และไปแก้ปัญหาผิวที่ต้นเหตุได้นั่นเอง

ไม่ว่าจะตามโรงพยาบาลหรือตามห้างสรรพสินค้าก็มีคลินิกรักษาสิวอยู่มากมาย แต่จะไปรักษาสิวที่คลินิกไหนดี คงเป็นคำถามในใจของผู้ที่อยากจะรักษาสิวคลินิก เราจะมาแนะนำวิธีการเลือกคลินิกรักษาสิวที่ไหนดี เทคนิคการดูคลินิกรักษาสิวไม่เลี้ยงไข้ ช่วยแก้ปัญหาผิวหน้าพังให้กลับมาเรียบเนียนเช่นเดิม

ปัญหาสิว เกิดจากอะไร?
สิวเป็นปัญหาผิวที่สามารถพบได้ทุกเพศทุกวัย และมักจะพบมากในวัยรุ่นซึ่งเป็นวัยที่มีระดับฮอร์โมนพลุ่งพล่าน หลายคนอาจมีความเข้าใจเกี่ยวกับสิวผิดไป อย่างเช่น การไปคิดว่าสิวเกิดจากการล้างหน้าไม่สะอาด ดูแลผิวหน้าไม่ดี หรือเป็นคนสกปรก แต่นั่นเป็นเพียงแค่ส่วนเดียวของการเกิดปัญหาผิวอย่างสิวเท่านั้น เพราะยังมีอีกหลายปัจจัยที่ทำให้เกิดสิว แถมบางปัจจัยก็ไม่สามารถควบคุมได้ง่าย ๆ อีกด้วย

สิวเกิดจากการที่น้ำมันส่วนเกินบนใบหน้าและเกิดการอุดตันอยู่ภายในรูขุมขน หลายครั้งที่ต่อมไขมันสร้างน้ำมันออกมามากเกินไปทำให้ไม่สามารถระบายออกจากรูขุมขนได้ทัน หากภายในรูขุมขนนั้นมีเศษเซลล์ผิวที่ตายแล้วหรือสิ่งสกปรกภายนอกก็จะเกิดการรวมตัวจับกันเป็นก้อนไขมันแข็ง ๆ หรือ คอมีโดน (Comedone) ที่เป็นต้นตอของการเกิดสิวนั่นเอง

อีกทั้งหากสภาวะบนผิวหนังเกิดการเปลี่ยนแปลง ทำให้แบคทีเรียประจำถิ่นเกิดการเจริญเติบโตมากผิดปกติก็สามารถทำให้เกิดการอักเสบขึ้นมาได้

การเกิดสิวนั้นอาจไม่ได้ทำให้เกิดโรคทางกายภาพที่เป็นอันตรายร้ายแรงแต่อย่างใด แต่ก็สามารถสร้างปัญหาทางจิตใจได้ไม่น้อยเลยทีเดียว สำหรับบางคนอาจเกิดความไม่มั่นใจทุกครั้งที่เกิดสิว และยิ่งหากเป็นสิวเรื้อรัง หน้ามีรอยสิว หลุมสิว หลายคนอาจมีความกังวลมากจนไม่อยากจะไปพบปะผู้คนเลย

เชื่อว่าเมื่อมีสิวขึ้น หลายคนก็คงจะไปหายาทาสิวหรือผลิตภัณฑ์สกินแคร์ต่าง ๆ เพื่อรักษาสิว แต่เพราะสภาพผิว และสาเหตุของการเกิดสิวในแต่ละคนมีความแตกต่างกัน ทำให้หลาย ๆ คนที่ไปซื้อผลิตภัณฑ์เหล่านี้มาอาจพบว่าใช้ไม่ได้ผล เสียเงินไปเสียเปล่า

เพราะอย่างที่กล่าวไปแล้วว่าปัญหาสิวของแต่ละคนอาจเกิดจากสาเหตุที่แตกต่างกัน ดังนั้นควรให้แพทย์ผิวหนังที่มีความเชี่ยวชาญและมากประสบการณ์ที่คลินิกรักษาสิวช่วยหาต้นตอ สาเหตุของการเกิดสิวก่อนจึงจะสามารถรักษาสิวได้แบบตรงจุด รักษาสิวให้หายขาดนั่นเอง

เลือกรักษาสิวอย่างไรให้เหมาะกับชนิดสิว

คลินิกรักษาสิวที่ไหนดี

สิวมีหลายประเภท และการรักษาสิวนั้นมีหลายวิธี สิวจะหายเร็วหรือไม่ การรักษาสิวจะเป็นผลหรือเปล่าขึ้นอยู่กับคุณเลือกวิธีการรักษาให้ตรงกับชนิดสิวแค่ไหน ปกติแล้วหากเป็นสิวเล็ก ๆ ไม่รุนแรงนั้นอาจหายาจากภายนอกมาใช้งานได้ แต่หากเป็นสิวรุนแรง อักเสบเรื้อรัง ก็จำเป็นต้องให้แพทย์ที่คลินิกรักษาสิวประเมินก่อนจะเลือกวิธีรักษาสิวนั่นเอง

ปกติแล้วการรักษาสิวที่คลินิกรักษาสิวจะมีวิธีรักษาสิวอยู่หลายวิธี โดยแพทย์จะต้องทำการประเมินลักษณะของสิว ความรุนแรงของการเกิดสิวก่อนจะเลือกวิธีรักษาสิวที่เหมาะสมกับสิวที่สุด 

1. รักษาสิวด้วยการใช้ยารักษาสิว
การรักษาสิววิธีเบสิกที่สุดเลยคือการใช้ยารักษาสิว และถึงแม้ว่าจะมีการรักษาสิวด้วยวิธีอื่น ๆ แพทย์ที่คลินิกรักษาสิวก็มักจะจ่ายยารักษาสิวมาให้ใช้ควบคู่กับการรักษาแบบอื่น ๆ ด้วย

ยารักษาสิวมีหลายชนิด และสามารถรักษาสิวได้หลายประเภท ยกตัวอย่างเช่นหากเป็นสิวอักเสบก็จะได้รับยาปฏิชีวนะทั้งสำหรับรับประทานและสำหรับทาเพื่อฆ่าเชื้อสิว รวมถึงอาจได้รับยาที่ช่วยละลายหัวสิว ลดการอุดตันของหัวสิวและยาลดรอยสิวด้วย

แต่หากเป็นสิวไม่อักเสบอย่างสิวอุดตัน แพทย์ที่คลินิกรักษาสิวอาจจ่ายยารับประทานหรือยาทาที่ช่วยลดการอุดตันในรูขุมขน ลดการสร้างน้ำมันของต่อมไขมัน หรือยาที่ช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิว เป็นต้น

2. รักษาสิวด้วยการฉีดสิว
การรักษาสิวด้วยการฉีดสิวนั้นแพทย์ที่คลินิกรักษาสิวจะใช้สำหรับผู้ที่มีปัญหาสิวอักเสบ สิวหัวหนอง ตัวยาที่ใช้ฉีดสิวจะเป็นฮอร์โมนสเตียรอยด์สังเคราะห์ที่ชื่อว่าคอร์ติโซน (Cortisone) ทำให้สิวยุบไว อีกทั้งยังลดโอกาสที่จะเกิดรอยสิวหลังสิวยุบอีกด้วย

สำหรับสิวที่ไม่มีหนองแพทย์ที่คลินิกรักษาสิวก็จะใช้ยาฉีดเข้าไปที่สิวโดยตรง แต่หากเป็นสิวที่มีหนองแพทย์อาจทำการเจาะเอาหนองออกก่อนที่จะฉีดสิวต่อไป

การฉีดสิวนั้นจำเป็นจะต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพราะหากฉีดไม่ถูกวิธีอาจทำให้ผิวยุบตัว หรือเป็นรอยด่างขึ้นได้

3. รักษาสิวด้วยการกดสิว
การรักษาสิวด้วยการกดสิวนั้นเป็นวิธีการรักษาสิวประเภทสิวที่ไม่มีการอักเสบอย่างสิวหัวดำ โดยการกดสิวจะช่วยให้สิ่งที่อุดตันอยู่ในรูขุมขนหลุดออกมาได้เลยทันที เพื่อลดโอกาสที่จะเกิดรูขุมขนกว้างและหลุมสิวในอนาคต

แต่อย่างไรก็ตามสำหรับการกดสิวนั้นเป็นหัตถการที่ดูเหมือนจะไม่ต้องเข้าคลินิกรักษาสิวก็ได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วการกดสิวนั้นควรทำโดยผู้เชี่ยวชาญ เนื่องจากหากกดสิวไม่ถูกวิธีหรือมีความสะอาดไม่มากพออาจทำให้เกิดการติดเชื้อ หรือเกิดการลุกลามของสิว ยิ่งทำให้สิวขึ้นเยอะกว่าเดิม และอาจเกิดแผลเป็นขึ้นได้

4. รักษาสิวด้วยการใช้เลเซอร์สิว
การรักษาสิวด้วยการใช้เลเซอร์สิวเป็นหัตถการที่นิยมมากในปัจจุบัน และเป็นวิธีที่ใช้รักษาสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุดในขณะนี้ โดยการใช้เลเซอร์สิวนั้นช่วยให้สิวหายไวและยังมีความปลอดภัยสูงอีกด้วย

ในปัจจุบันตามคลินิกรักษาสิวจะมีเลเซอร์สิวอยู่หลายชนิด เช่น เลเซอร์ฆ่าเชื้อสิว เลเซอร์ลดรอยสิว เลเซอร์ลดการผลิตน้ำมันของต่อมไขมัน เลเซอร์ฟื้นฟูผิว เป็นต้น โดยแพทย์จะเลือกการใช้เลเซอร์สิวตัวไหนขึ้นอยู่กับลักษณะของสิวที่ต้องการรักษา

สิวหายเองได้ไหม
หากคุณเป็นสิวแบบไม่รุนแรง มีจำนวนไม่มาก ก็สามารถปล่อยไว้ให้สิวหายเองได้ หรืออาจเร่งให้สิวหายเร็วขึ้นได้ด้วยตัวเองอย่างการใช้ยาแต้มสิว และในระหว่างที่เป็นสิวอาจพยายามดูแลผิวโดยการไม่ไปรบกวนผิวบริเวณที่เป็นสิวอย่างเช่น การสครับผิวหรือการแต่งหน้า

แต่อย่างไรก็ตาม มีสิวบางประเภทเท่านั้นที่สามารถปล่อยไว้ให้หายเองได้ แต่ก็มักอาจทิ้งร่องรอยหลังจากที่สิวหายซึ่งเป็นปัญหาที่แก้ยากกว่าเดิมอีกด้วย โดยสิวที่ไม่ควรปล่อยให้หายเองมีดังนี้

  • สิวหัวดำ หรือสิวหัวเปิด สิวประเภทนี้มีความรุนแรงน้อยที่สุดเพราะไม่มีการอักเสบ แต่อย่างไรก็ตามการปล่อยให้สิวหัวดำหลุดไปเองนั้นอาจเป็นเรื่องยาก และถึงแม้ว่าจะสามารถหลุดออกไปแล้วก็มักจะทิ้งปัญหาหลุมสิว รูขุมขนกว้างจากการที่มีสิวหัวดำอุดตันในรูขุมขนเป็นเวลานานนั่นเอง อีกทั้งสิวหัวดำนี้ก็มีโอกาสพัฒนาไปเป็นสิวอักเสบได้เช่นกัน

  • สิวอักเสบทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นสิวอักเสบธรรมดา สิวอักเสบหัวหนอง สิวหัวช้าง เพราะสิวพวกนี้เกิดจากการอักเสบของรูขุมขน ก่อให้ผิวหนังและรูขุมขนเกิดความเสียหาย ถึงแม้ว่าการอักเสบจะสิ้นสุดลง ก็อาจทิ้งร่องรอยเอาไว้เช่น รอยแดง รอยดำ หลุมสิว ที่รักษายากกว่าการรักษาสิวเสียอีก

หากคุณเป็นหนึ่งในผู้ที่กำลังเป็นสิวและไม่อยากจะมีปัญหาหลังสิวหายตามมา ควรจะเข้ารับการรักษากับแพทย์ที่คลินิกรักษาสิวจะดีที่สุด เพราะแพทย์จะสามารถตรวจสภาพผิวและทราบปัญหาของการเกิดสิวของคุณ และวางแผนการรักษาที่เหมาะกับตัวคุณเองอีกด้วย

รักษาสิวด้วยตัวเอง VS รักษาที่คลินิกรักษาสิว
หลายคนอาจมีความลังเลว่าจะรักษาสิวด้วยตัวเองหรือจะไปรักษาสิวที่คลินิกรักษาสิวดี เราได้เปรียบเทียบข้อดีของแต่ละแบบไว้ให้แล้ว

รักษาสิวที่คลินิกรักษาสิว
  • มีแพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญที่สามารถประเมินสภาพปัญหาสิวและปัญหาผิวอื่น ๆ ได้อย่างละเอียด
  • สามารถรักษาสิวได้อย่างตรงจุด ถูกประเภทสิว
  • ใช้เวลารักษาไม่นาน สิวหายไว ลดโอกาสการเกิดรอยสิว

รักษาสิวด้วยตัวเอง
  • ไม่ต้องเดินทางไปคลินิกรักษาสิวหรือโรงพยาบาล
  • ค่าใช้จ่ายต่ำ

แต่อย่างไรก็ตามการรักษาสิวด้วยตัวเองนั้นมีขีดจำกัดค่อนข้างมาก เพราะสิวหลาย ๆ ประเภทก็ไม่สามารถรักษาให้หายเองได้ จำเป็นต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ที่คลินิกรักษาสิวเท่านั้น

7 เคล็ดลับ เลือกคลินิกรักษาสิวที่ไหนดี
หลายคนที่สนใจจะรักษาสิวที่คลินิกรักษาสิว แต่ไม่รู้ว่ารักษาสิวที่คลินิกไหนดี เราขอแนะนำ 7 เคล็ดลับในการเลือกคลินิกรักษาสิวที่ดี ดังนี้

1. คลินิกรักษาสิวที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง

คลินิกสิว

เป็นปกติอยู่แล้วที่ไม่ว่าใครก็ต้องมองหาคนเก่ง ๆ มาช่วยแก้ปัญหาของตนเอง เวลาเราจะเลือกคลินิกรักษาสิวก็เช่นกัน สิ่งที่หลายคนต้องมองก่อนเลยคือแพทย์ที่อยู่ประจำคลินิกรักษาสิวนั้นมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านหรือไม่ เพราะไม่ใช่แพทย์ทุกคนจะสามารถรักษาได้เหมือนกันหมด

2. คลินิกที่ราคารักษาสิวสมเหตุสมผล

รักษาสิวคลินิก

ใคร ๆ ก็ชอบของถูก แต่อย่าลืมว่าทุกสิ่งอย่างย่อมมีค่าใช้จ่าย หากเห็นแก่ของถูกเกินไปอาจต้องแลกมมากับความเสี่ยงหลาย ๆ อย่างไม่ว่าจะในเรื่องบริการหรือคุณภาพก็ตาม แต่ใช่ว่าคลินิกรักษาสิวที่มีอัตราค่ารักษาแพงจะดีเสมอไป ดังนั้นควรลองพิจารณาจากความสมเหตุสมผลของราคาก่อนเดินเข้าคลินิกรักษาสิวนั้น ๆ ก่อนจะดีกว่า

3. คลินิกรักษาสิวที่มีอุปกรณ์รักษาสิวครบครัน

คลินิกรักษาผิวหน้า

เพราะปัญหาสิวอาจไม่จบเพียงแค่การใช้ยาหรือเครื่องมือใดเครื่องมือหนึ่งเท่านั้น หากทางคลินิกรักษาสิวนั้น ๆ มีความพร้อมเรื่องอุปกรณ์รักษาสิวก็จะทำให้สามารถรักษาสิวของคุณได้อย่างต่อเนื่อง

4. คลินิกรักษาสิวที่มีเทคโนโลยีทันสมัย

คลินิกลดรอยสิว

ในยุคที่เทคโนโลยีมีความล้ำหน้าอย่างก้าวกระโดด ยิ่งมีเทคโนโลยีใหม่ ๆ พร้อมกับรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ก็จะยิ่งช่วยให้ผลการรักษาสิวที่คลินิกรักษาสิวมีประสิทธิภาพมากขึ้น

5. คลินิกรักษาสิวที่ให้บริการดี แนะนำคอร์สอย่างตรงไปตรงมา

คลินิกรักษาสิวหายขาด

แน่นอนว่าคลินิกรักษาสิวก็เป็นสถานบริการที่เป็นธุรกิจอย่างหนึ่ง จึงเป็นเรื่องปกติที่เจ้าหน้าที่จะมีการแนะนำคอร์สรักษาสิว รวมถึงคอร์สอื่น ๆ แก่เรา แถมในบางครั้งก็แนะนำคอร์สเกินความจำเป็นอีกด้วย

แต่อย่างไรก็ตามสำหรับเราที่เป็นผู้ใช้บริการก็คงไม่อยากจะโดนตื้อขายคอร์สสักเท่าไหร่นัก ก็อาจมองหาคลินิกรักษาสิวที่แนะนำคอร์สอย่างตรงไปตรงมา แนะนำเฉพาะเท่าที่จำเป็นและไม่สร้างความอึดอัดให้กับผู้เข้ารับบริการ

6. คลินิกรักษาสิวที่เปิดกิจการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

รักษาสิวคลินิกไหนดี

สมัยนี้ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็มักจะเจอคลินิกรักษาสิว คลินิกกดสิวอยู่เกลื่อนกลาด แต่เชื่อหรือไม่ว่ามีคลินิกหลาย ๆ แห่งที่เปิดอย่าางไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ดังนั้นก่อนจะเข้าไปรักษาสิวที่คลินิกรักษาสิวใด ๆ ควรจะพิจารณาถึงความน่าเชื่อถือของคลินิกเสียก่อน

เพื่อความปลอดภัยสามารถเช็กรายชื่อแพทย์ที่มีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมได้ที่นี่เลย

7. คลินิกรักษาสิวที่มีรีวิวจากผู้รับการรักษาจริง

รีวิวคลินิกรักษาสิว

เพื่อให้คุณมั่นใจได้ระดับหนึ่งว่าคลินิกรักษาสิวที่จะไปใช้บริการจะสามารถให้ผลลัพธ์อย่างที่ต้องการที่สุด คุณสามารถดูรีวิวการรักษาสิวที่คลินิกรักษาสิวได้หลาย ๆ ช่องทาง ไม่ว่าจะการเสิร์ซ google หรือการดูจาก youtube ก็ได้ทั้งนั้น

เอ็มวีต้าคลินิก คลินิกรักษาสิว หายขาด ไม่เลี้ยงไข้
คลินิกรักษาสิวที่ไหนดี ? อยากรักษาสิวกับแพทย์ผิวหนังเฉพาะด้าน ช่วยกู้หน้าพังให้กลับมาหน้าใสด้วยบริการและการรักษาที่น่าประทับใจ เอ็มวีต้าคลินิก คลินิกรักษาสิวไม่เลี้ยงไข้ รักษาปัญหาสิวของคุณจากต้นเหตุ ช่วยให้สิวหายไม่กลับมาเป็นซ้ำ โดยทางเอ็มวีต้าคลินิกเรามีแนวทางการรักษาสิวดังนี้

  • วิธีการรักษาสิวที่ทางเอ็มวีต้าคลินิกนำมาใช้รักษาคนไข้เป็นวิธีที่ได้รับรองและมีงานวิจัยรองรับมาแล้วว่าสามารถใช้รักษาสิวได้จริงและปลอดภัย
  • ทุกขั้นตอนในการรักษาสิวที่เอ็มวีต้าคลินิกเราเน้นถึงความอ่อนโยน ไม่ทำร้ายผิว และมุ่งเน้นการฟื้นฟูผิวให้กลับมาแข็งแรงดูสุขภาพผิวดีอีกครั้ง
  • แพทย์ที่คลินิกรักษาสิวเอ็มวีต้าคลินิกจะให้คำแนะนำหลังเข้ารับบริการและการรักษา เพื่อให้คนไข้ไม่กลับมาเป็นสิวหนัก ๆ ซ้ำเช่นเดิมอีก

แนวคิดการรักษาสิวของ เอ็มวีต้าคลินิก

แนวคิดการรักษาสิวของ เอ็มวีต้าคลินิก

1.ลดการขับน้ำมันของต่อมน้ำมัน ด้วยสูตรตัวยาที่ผ่านงานวิจัยรับรองผลที่ทาง เอ็มวีต้าคลินิก เลือกใช้ จะทำให้ผิวขับน้ำมันน้อยลงอย่างชัดเจน ภายใน 4 สัปดาห์

2.ลดการอุดตันของรูขุมขน ด้วยตัวยาประสิทธิภาพสูงของ เอ็มวีต้าคลินิก และร่วมกับเทคนิคพิเศษของการกดสิวโดยผู้เชี่ยวชาญที่ละเอียดเป็นพิเศษไม่เหมือนที่อื่น สิวอุดตันจะลดลงตั้งแต่ครั้งแรกของการรักษาและจะดียิ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว

3.ลดจำนวนแบคทีเรียที่ผิวและในรูขุมขน ด้วยตัวยาและวิธีการฆ่าเชื้อสิวด้วยการฉายแสง ที่ได้ผลดีและผ่านงานวิจัยในผลลัพธ์ สามารถลดจำนวนเชื้อแบคทีเรียลงได้ สิวจึงเริ่มดีขึ้นตั้งแต่ครั้งแรก

4.ลดและป้องกันการอักเสบของสิว จากทั้งตัวยา การฉายแสง การฉีดสิว และการทำ Acne Spark เทคนิคเฉพาะของ เอ็มวีต้าคลินิก ให้สิวยุบลงภายใน 24 ชม หลังทรีตเม้นท์

คำถามที่พบบ่อย

รักษาสิวกับคลินิกรักษาสิวดีไหม
เพราะสิวสามารถเกิดได้จากหลาย ๆ สาเหตุ เพื่อให้สามารถรักษาสิวได้ตรงกับต้นเหตุที่สุดจึงควรเข้ารักษาสิวกับแพทย์ที่คลินิกรักษาสิวจะให้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจมากกว่า

การล้างหน้าบ่อยๆ ช่วยลดสิวจริงไหม
การล้างหน้าเป็นเพียงการทำความสะอาด ชำระล้างสิ่งสกปรกส่วนเกินที่อยู่บนผิวหน้าเท่านั้น การล้างหน้าบ่อย ๆ นั้นอาจช่วยให้สิวลดลงกรณีที่เป็นสิวจากมีสิ่งสกปรกบนหน้า แต่จะไม่ช่วยลดสิวหากเป็นสิวชนิดอื่นที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสิ่งสกปรก เช่น สิวฮอร์โมน

อีกทั้งการล้างหน้าบ่อย ๆ ยังทำให้ใบหน้าสูญเสียความชุ่มชื้นจากการที่ไขมันบนหน้าที่ทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันผิวได้หลุดไปอีกด้วย เมื่อผิวเสียความสมดุลก็จะยิ่งทำให้ร่างกายสร้างน้ำมันส่วนเกินและทำให้เกิดสิวง่ายขึ้นอีกด้วย

เพราะสกปรก จึงเป็นสิวใช่หรือไม่
หลายคนชอบพูดกันว่าเพราะล้างหน้าไม่สะอาด หน้าสกปรกจึงเกิดสิว แต่ในความเป็นจริงนั้นการเกิดสิวจากการที่หน้าไม่สะอาดเป็นเพียงแค่ส่วนเดียวเท่านั้น ยังมีอีกหลาย ๆ สาเหตุที่ทำให้เกิดสิวไม่ว่าจะเป็นจากฮอร์โมน การใช้เครื่องสำอาง การที่มีผิวอ่อนแอ ก็สามารถทำให้เกิดปัญหาสิวได้ทั้งนั้น

ข้อสรุป
สิวเป็นปัญหาผิวที่เป็นของคู่กายคู่ใจเกือบทุกคน หากใครลองรักษาสิวด้วยตนเองแล้วไม่หายขาดสักทีแนะนำให้เข้ารับการรักษาที่คลินิกรักษาสิว เพราะที่คลินิกรักษาสิวจะมีแพทย์ผิวหนังเฉพาะด้านที่มีความชำนาญ สามารถวิเคราะห์ปัญหาผิวและหาสาเหตุของการเกิดสิวได้ ทำให้สามารถรักษาสิวได้อย่างตรงจุด สิวหายเร็วและไม่กลับมาเป็นหนักซ้ำ ๆ อีก


240
Sale Page TikTok กลยุทธ์การตลาดออนไลน์

ในปัจจุบันเราปฏิเสธไม่ได้ว่า ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างก้าวกระโดด ทำให้การใช้ชีวิตของคนในสังคมเปลี่ยนแปลงไปด้วย ซึ่งนอกจากปัจจัยด้านเทคโนโลยีแล้ว สถานการณ์ต่าง ๆ เองก็เป็นปัจจัยที่ทำให้พฤติกรรมของคนในสังคมเปลี่ยนไป ตัวอย่างเช่นโรคระบาดโควิด-19 ที่ทำให้การเดินทางไม่ว่าจะภายในประเทศ หรือต่างประเทศ ล้วนมีผลกระทบทั้งสิ้น แม้เดินออกจากบ้านก็มีโอกาสเสี่ยงที่จะติดเชื้อได้อย่างง่ายดาย

เนื่องจากโรคระบาดโควิด-19 นี้เอง ทำให้แต่เดิมที่ผู้คนส่วนใหญ่จะเดินทางไปที่ต่าง ๆ เพื่อเลือกดูสินค้าด้วยตนเอง เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้าที่ตัวเองต้องการนั้นมีคุณสมบัติอะไร คุณภาพดีมั้ย เหมาะสมกับราคาหรือไม่ หลังจากมีการระบาดแล้ว ทุกคนต่างอยู่บ้าน งดการเดินทางที่ไม่จำเป็น ดังนั้นการซื้อขายสินค้าผ่านทางช่องทางออนไลน์ถือเป็นคำตอบที่ดีที่สุดในเวลานี้

ด้วยเหตุนี้เอง การเติบโตของตลาดออนไลน์จากเดิมที่มีการเพิ่มขึ้นอย่างช้า มาเป็นแบบก้าวกระโดด ผู้ที่ขายสินค้าหน้าร้านก็จำเป็นที่จะต้องปรับตัวมาขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อความอยู่รอดของธุรกิจ แต่ด้วยทุกคนหันมาทำการขายสินค้าออนไลน์กันมากขึ้น ทำให้มีการแข่งขันที่สูงตามมาด้วย การจะอยู่รอดได้นั้นจำเป็นที่จะต้องมีเป็นจุดสนใจให้เด่นชัดกว่าผู้ขายรายอื่น ๆ

ด้วยการแข่งขันที่สูงขึ้นมาก การขายสินค้าจึงควรที่จะมีการติดต่อหลากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นแอปพลิเคชั่นขายสินค้า เพจ Facebook รวมไปถึงการสร้างเว็บไซต์ของตัวเองโดยตรง แต่ถ้าพูดถึงสื่อโซเชียลมิเดียที่กำลังนิยมมากที่สุดในตอนนี้นั้นก็คือแอปพลิเคชั่น TikTok ซึ่งเราสามารถสร้างSale Page TikTok พื่อใช้ในการเพิ่มยอดขายได้อีกด้วย

หลายคนอาจจะยังมีคำถามว่า Sale Page TikTok คืออะไร สามารถช่วยเพิ่มยอดขายสินค้าได้อย่างไร แล้วถ้าอยากทดลองใช้เซลเพจจะต้องทำอย่างไรบ้าง มีผู้ให้บริการชั้นนำที่น่าใช้บริการหรือไม่ บทความนี้เราจะมาคลายข้อสงสัยกัน ไปเริ่มกันเลย

Sale Page TikTok คืออะไร

Sale Page TikTok คือเครื่องมือ หรือกลยุทธ์ทางการตลาดรูปแบบหนึ่ง โดยเป็นการรวบรวมข้อมูลสินค้าที่เราต้องการจะขายชิ้นใดชิ้นหนึ่ง หรือสินค้ากลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง มาแสดงรายละเอียดทั้งหมดอยู่ภายในหน้าเว็บเพียงหน้าเดียว ไม่ว่าจะเป็นรายละเอียดสินค้า คู่มือการใช้งาน โปรโมชั่น ไปจนถึงคำสั่งซื้อขายสินค้า ทุกอย่างจบในหน้าเดียว ง่ายต่อการใช้ง่าย สร้างความสะดวกสบายให้ลูกค้า จึงมีโอกาสที่จะสามารถปิดการค้าได้อย่างง่ายดาย และรวดเร็ว

ข้อดีของการทำ Sale Page TikTok

ข้อดีของการใช้ Sale Pagge TikTok

จากที่กล่าวมาข้างต้นว่า Sale Page TikTok เป็นเครื่องมือ หรือกลยุทธ์รูปแบบหนึ่ง ที่กำลังเป็นที่พูดถึงสำหรับผู้ค้าออนไลน์เป็นอย่างมาก เพื่อให้สามารถอยู่รอดในการแข่งขันที่สูง ผู้ค้าออนไลน์จึงต้องค้นหาวิธีใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าได้เพิ่มมากขึ้น

สิ่งที่ทำให้เซลเพจเป็นที่ผู้คนให้ความสนใจคือข้อดีของมัน นั้นคือ

ลงทุนต่ำ พร้อมมีระบบหลังบ้าน

การเริ่มทำ Sale Page TikTok นั้นสามารถทำได้ด้วยตนเอง แต่คุณจำเป็นต้องมีพื้นฐานในการเขียนเว็บ ทั้งยังรวมไปถึงระบบหลังบ้าน ที่คอยจัดการเกี่ยวกับการจัดซื้ออย่างเป็นระบบ ซึ่งมีความซับซ้อนในระดับหนึ่งเลยทีเดียว

แต่ในปัจจุบันได้มีผู้ให้บริการสร้างเซลเพจเกิดขึ้นมากมาย โดยผู้ให้บริการเหล่านั้นจะให้ผู้ที่สนใจมาทดลองใช้ระบบ Sale Page ของตนเอง ถ้าทดลองใช้งานแล้วสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการขายสินค้าได้จริง ทางลูกค้าสามารถสมัครใช้งานบริการอื่น ๆ เพิ่มเติมได้อีกด้วย ซึ่งค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการจ้างคนมาสร้างเว็บไซต์ ดูแลเซิร์ฟเวอร์ที่ตนเองไม่มีความเข้าใจอีกด้วย   

แสดงรายละเอียดสินค้าครบถ้วน ตัดสินใจง่าย

ด้วยคุณสมบัติของเซลเพจคือการแสดงข้อมูลทุก ๆ อย่างลงไปทั้งหมดภายในหน้าเดียว ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลรายละเอียดสินค้า สรรพคุณ โปรโมชั่น ราคา ช่องทางติดต่อ ไปจนถึงรับการชำระค่าบริการอยู่ในหน้าเดียว ซึ่งทำให้สะดวกสบายให้กับผู้ซื้อ ที่เมื่อตัดสินใจได้แล้ว ก็สามารถสั่งสินค้าและชำระเงินได้ทันที ยิ่งการชำระค่าบริการสะดวกมากเท่าไหร่ โอกาสปิดการขายก็มากขึ้นเท่านั้น

ปรับแต่งหน้า Sale Page ได้ตามต้องการ

นอกจากความสะดวกสบายของผู้ใช้บริการแล้ว ด้านผู้ให้บริการเองก็สามารถแก้ไข ปรับแต่งหน้า Sale Page ได้อย่างง่ายดาย ด้วยความที่ว่า Sale Page TikTok นั้นมีหน้าเว็บเพียงหน้าเดียว เพียงแต่ทำการลิงค์ข้อมูลต่าง ๆ ตามหัวข้อที่กำหนดไว้ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกดูเนื้อหาที่ตนสนใจได้ง่ายยิ่งขึ้นอีกด้วย

นำ Sale Page TikTok ไปต่อยอดสร้างยอดขาย

การนำ Sale Page TikTok มาช่วยในการขายสินค้าหรือบริการนั้น ช่วยให้สินค้าและบริการเหล่านั้นดูน่าสนใจ ซึ่งเป็นการสร้างจุดเด่นให้กับสินค้าบริการของลูกค้าให้เด่นกว่าเจ้าอื่น ๆ นอกจากนี้ถ้าผู้จำหน่ายสินค้าบริการ ใช้บริการของผู้ให้บริการสร้างเซลเพจชั้นนำ มักจะมีบริการช่วยโปรโมทให้สินค้าบริการชิ้นนั้นให้ผู้คนมองเห็นสินค้าได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย

เคล็ดลับทำ Sale Page TikTok ให้ดีและแตกต่าง

เนื่องจากในปัจจุบันที่มีการแข่งขันกันของตลาดออนไลน์นั้นสูงมาก ดังนั้นการที่จะสร้าง Sale Page TikTok ให้มีประสิทธิภาพ และใช้งานได้จริงนั้น ผู้ขายสินค้าบริการจำเป็นจะต้องวางแผน วางเป้าหมายให้ชัดเจน โดยสามารถวิเคราะห์ได้ดังต่อไปนี้

กำหนดกลุ่มเป้าหมาย

กลุ่มเป้าหมายถือเป็นหัวใจหลักเลยก็ว่าได้ การที่เราจะสร้างสินค้าบริการขึ้นมาหนึ่งอย่างนั้น เราจำเป็นที่จะต้องคำนึงว่า สิ่งที่เราทำขึ้นมานั้นสามารถช่วยแก้ปัญหาอะไรให้กับผู้ให้บริการได้บ้าง จากนั้นจึงจะสามารถระบุกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้อย่างตรงจุด

ตัวอย่างเช่น เสื้อผ้าแฟชั่นสำหรับผู้หญิงวัยทำงาน โดยกำหนดกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้หญิงวัยทำงานตั้งแต่ 25-30 ปี หรือจะแตกต่างกันไปตามลักษณะของลายเสื้อผ้าให้สมกับวัยผู้สวมใส่ สามารถช่วยแก้ปัญหาด้านความไม่มั่นใจให้กับตัวเอง สร้างความน่าเชื่อถือในสายตาของผู้อื่นเป็นต้น

ใช้ถ้อยคำให้น่าสนใจ

การเลือกใช้คำเองก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ให้สินค้าบริการมีความน่าสนใจมากขึ้น เพราะในปัจจุบันพฤติกรรมการเสพสื่อของผู้บริโภคนั้นไม่ต้องอ่านอะไรเวิ่นเว้อ ยืดยาว แต่ต้องการความกระชับ เข้าใจง่าย ดังนั้นการเลือกคำที่เหมาะสม ครอบคลุม จึงเหมาะกับ Sale Page TikTok อย่างมาก

หน้า Sale Page เข้าใจง่าย ใช้งานสะดวก

ด้วยการที่เซลเพจมีหน้าเว็บเพียงหน้าเดียว จึงง่ายต่อการอ่าน และหาข้อมูลที่ต้องการเป็นอย่างยิ่ง ถ้ามีการแบ่งหมวดหมู่หัวข้อด้วยแล้ว การใช้งาน Sale Page ยังยิ่งมีประสิทธิภาพเพิ่มยิ่งขึ้นไปอีก ซึ่งง่ายกับผู้ใช้บริการ และผู้ให้บริการ

ใช้งานได้กับทุกอุปกรณ์

สืบเนื่องจากเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้น รูปแบบการใช้งานของ Sale Page TikTok จึงต้องปรับเปลี่ยนไปตามการใช้งานของผู้บริโภค คือสามารถรองรับการใช้งานโดยการเข้าผ่านทางคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือทั้งระบบ Android IOS และ Windows อีกด้วย โดยทางเว็บจะทำการปรับเปลี่ยนตัวเองตามความเหมาะสมของอุปกรณ์นั้น ๆ ซึ่งถ้าเราเขียนเว็บด้วยตนเอง อาจจะไม่สามารถทำได้อย่างครอบคลุมทุกอุปกรณ์

บริการรับทำ Sale Page TikTok สร้างความน่าสนใจในการซื้อ

Sale Page TikTok ช่วยเพิ่มความสนใจให้แก่ผู้ใช้บริการ

เนื่องจากการแข่งขันทางออนไลน์เพิ่มสูงขึ้น จึงมีผู้ให้บริการ Sale Page TikTok เกิดขึ้นมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งจุดแตกต่างกันเล็กน้อย ซึ่งมีค่าบริการแตกต่างกันไปตามแพ็คเกจที่ผู้ให้บริการจัดทำขึ้น ผู้มราสนใจจำเป็นจะต้องศึกษาข้อมูลให้รอบคอบเสียก่อนว่า สินค้าของคุณคืออะไร กลุ่มเป้าหมายเป็นใคร สามารถแก้ไขปัญหาอะไรให้กับผู้บริโภคได้บ้าง ก่อนจะมาดูว่าภายในเซลเพจที่ต้องการควรมีข้อมูลอะไรบ้าง จากนั้นค่อยหาผู้ให้บริการเซลเพจต่อไป

สำหรับใครที่กำลังมองหาผู้ให้บริการสร้าง Sale Page TikTok แต่ยังไม่สามารถตัดสินใจเลือกได้ เราขอแนะนำ Fastcommerz ผู้ให้บริการสร้างเซลเพจชั้นนำ โดยมีผู้เชี่ยวชาญในการทำ Sale Page โดยเฉพาะ พร้อมกับประสบการณ์ในการสร้าง Sale Page ให้กับสินค้าชั้นนำมากมาย ทั้งยังมีระบบหลังบ้านที่ใช้งานได้ง่าย เหมาะสำหรับทุก ๆ คน

สรุป

Sale Page TikTok เป็นเครื่องมือ กลยุทธ์รูปแบบหนึ่งสำหรับผู้ขายสินค้าบริการทางออนไลน์ มีลักษณะเป็นเว็บไซต์หน้าเดียว ซึ่งภายในประกอบไปด้วยข้อมูลต่าง ๆ อาทิเช่น รายละเอียดสินค้า รีวิวสินค้า ราคาสินค้า โปรโมชั่นสินค้า ช่องทางติดต่อ รวมไปถึงบริการชำระเงินอีกด้วย

สำหรับผู้ใดที่สนใจอยากทดลองใช้งาน Sale Page TikTok เราขอแนะนำ Fastcommerz ผู้ให้บริการชั้นนำ โดยผู้มีความเชี่ยวชาญด้านเซลเพจ ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้สนใจได้ทดลองใช้งานได้ฟรี ท่านใดที่ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อที่เบอร์โทรศัพท์ 084-509-5545, 061-924-7449 อีเมล: fastcommerz@gmail.com

241
ประกันรถยนต์ชั้น 2+

ประกันรถยนต์ชั้น 2+ ความคุ้มครองสูงในราคาที่จับต้องได้ หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ประกันรถยนต์ชั้น 2+ เป็นที่นิยมก็เพราะความคุ้มครองที่ครอบคลุมเหตุสำคัญต่างๆที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้อย่างครบถ้วน และมีราคาไม่สูงมากจนเกินไป นอกจากนี้หากคุณเลือกทำประกันรถยนต์ชั้น 2+ โดยเปรียบเทียบเลือกบริษัทที่คุ้มค่าที่สุดแล้วก็จะยิ่งประหยัดเงินไปได้อีก การทำประกันรถยนต์ชั้น 2+ สามารถจ่ายเบี้ยทั้งหมดตั้งแต่แรกหรือผ่อน 0%ก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่าคุณทำกับที่ไหนและที่นั้นๆมีบริการอะไรบ้าง ซึ่งในบางที่ก็อาจมีส่วนลดพิเศษสำหรับประกันรถยนต์ชั้น 2+ ไปได้อีก ดังนั้นหากคุณยังลังเลไม่แน่ใจว่าจะทำประกันรถยนต์ชั้นไหนดี ทำประกันรถยนต์ชั้น 2+ดีไหม ในวันนี้เรารวบรวมข้อมูลสำคัญที่ควรรู้และแนะนำบริการช่วยเหลือให้คุณเปรียบเทียบเลือกประกันรถยนต์ชั้น 2+ ที่ดีที่สุดให้คุณแล้ว

ประกันรถยนต์ชั้น 2+ คุ้มครองอะไรบ้าง ครอบคลุมแค่ไหน

ประกันรถยนต์ชั้น 2+ คุ้มครองอะไรบ้าง เป็นหนึ่งในคำถามสำคัญที่หลายๆคนต้องการคำตอบ ประกันรถยนต์ชั้น 2 พลัส หรือประกันรถชั้น 2 บวกนี้ให้ความคุ้มครองครอบคลุม 4 ประเภทเช่นเดียวกับประกันรถยนต์ชั้นอื่นๆ แต่จะมีความแตกต่างในรายละเอียดปลีกย่อย โดยเราจะอธิบายก่อนว่าประกันรถยนต์ชั้น 2+ นี้ให้ความคุ้มครองอะไรบ้าง เพื่อให้เห็นภาพตรงกันว่าประกันรถยนต์ชั้น 2+ มีขอบเขตความคุ้มครองมากน้อยแค่ไหนและให้ความคุ้มครองในกรณีใดบ้าง ซึ่งจะแบ่งออกได้เป็น 4 ประเภทใหญ่ๆคือ

  • ความคุ้มครองของประกันรถยนต์ชั้น 2+ ที่มีต่อตัวรถยนต์
  • ความคุ้มครองของประกันรถยนต์ชั้น 2+ จากเหตุภัยธรรมชาติ
  • ความคุ้มครองของประกันรถยนต์ชั้น 2+ ที่มีต่อตัวบุคคล
  • ความคุ้มครองของประกันรถยนต์ชั้น 2+ ตามเอกสารแนบท้าย

แต่สำหรับท่านที่อยากทราบจุดแตกต่างระหว่างประกันรถยนต์ชั้น 2+ และประกันชั้นอื่นๆสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ในหัวข้อถัดๆไป

ประกันรถยนต์ชั้น2+ ให้ความคุ้มครองต่อตัวรถยนต์

ประกันรถยนต์ชั้น 2+ คุ้มครองตัวรถยนต์ได้ครอบคลุมมากคือให้ความคุ้มครองทั้งกับตัวรถ กระจกรถยนต์ และอุปกรณ์ตกแต่งรถต่างๆ เพียงแค่ระบุให้ละเอียดตอนที่คุณเริ่มทำประกันรถยนต์ชั้น 2+ เท่านั้น โดยความคุ้มครองต่อตัวรถนี้ให้ความคุ้มครองแทบจะทุกกรณี ไม่ว่าจะเป็นการเกิดอุบัติเหตุต่างๆ การมีหรือไม่มีคู่กรณี การถูกโจรกรรมหรืออุบัติเหตุที่ทำให้กระจกรถเสียหาย แต่จะมีเพียงกรณีเดียวเท่านั้นที่ประกันรถยนต์ชั้น 2+ไม่ให้ความคุ้มครองคือกรณีรถชนรถที่ไม่มีคู่กรณี ซึ่งคุณสามารถแก้ปัญหานี้ได้ง่ายๆโดยการติดตั้งกล้องไว้ที่รถของคุณเพื่อจับภาพขณะเกิดอุบัติเหตุจะทำให้คุณมั่นใจได้ว่าคุณจะมีหลักฐานสำหรับตามตัวคู่กรณีได้ในภายหลัง

ประกันรถยนต์ชั้น2+ ให้ความคุ้มครองเมื่อเสียหายหรือเจออุบัติภัย ภัยธรรมชาติ

ประกันรถยนต์ชั้น 2+ คุ้มครองจากภัยธรรมชาติต่างๆ ซึ่งเป็นเหตุที่ไม่อาจคาดเดาได้ ไม่ว่าจะเป็นภัยธรรมชาติจากทางบก ทางทะเล หรือจากท้องฟ้า ก็ครอบคลุมทั้งสิ้น ซึ่งการคุ้มครองประเภทนี้นอกจากคุ้มครองเหตุโดยตรงจากภัยธรรมชาติเช่นน้ำท่วมตัวรถจนพังเสียหายแล้ว ยังครอบคลุมไปถึงผลกระทบจากภัยธรรมชาติด้วยเช่นการถูกต้นไม้ใหญ่ล้มทับจากพายุ ซึ่งทางบริษัทประกันภัยที่คุณทำประกันรถยนต์ชั้น 2+ ด้วยจะให้ความคุ้มครองโดยการรับผิดชอบค่าซ่อมแซมให้กลับคืนสภาพดังเดิม แต่หากความเสียหายมากเกินไปทางบริษัทจะต้องคืนเงินประกันให้ตามที่ระบุไว้ตอนคุณเริ่มทำกรมธรรม์ประกันรถยนต์ชั้น 2+ นั่นเอง

ประกันรถยนต์ชั้น2+ ให้ความคุ้มครองชีวิตและทรัพย์สินของบุคคลภายนอก

ประกันรถยนต์ชั้น 2+ คุ้มครองบุคคลทั้งภายในและภายนอก นั่นคือคุ้มครองทั้งตัวคุณและคู่กรณี ไม่ว่าจะเป็นบาดเจ็บเล็กน้อย เข้าโรงพยาบาล ทุพพลภาพ หรือเสียชีวิต ตลอดจนทรัพย์สินของมีค่าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์ ร้านค้า บ้านเรือน ซึ่งทางบริษัทประกันจะให้ความคุ้มครองคุณตามค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจริง ทั้งนี้ความคุ้มครองรูปแบบนี้จะให้ค่าสินไหมไม่เกินวงเงินที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ตอนคุณทำสัญญาประกันรถยนต์ชั้น 2+ เช่น 10 ล้านบาท เป็นต้น ซึ่งเรียกได้ว่าประกันรถยนต์ชั้น 2+ ครอบคลุมในกรณีนี้อย่างครบถ้วนไม่ว่าจะเกิดเหตุแบบไหนก็ตาม ให้คุณอุ่นใจได้ทันทีหลังทำประกัน ด้วยวงเงินประกันและความคุ้มครองที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับประกันรถยนต์ชั้นอื่นๆ ทำให้คุณและคู่กรณีปลอดภัยอุ่นใจได้ตลอดความคุ้มครอง

ประกันรถยนต์ชั้น2+ ให้ความคุ้มครองตามเอกสารแนบท้าย

ประกันรถยนต์ชั้น 2+ คุ้มครองคุณเพิ่มเติมตามเอกสารแนบท้าย จะคุ้มครองคุณในค่ารักษาพยาบาลหรือค่าใช้จ่ายอื่นๆที่เกี่ยวข้องเมื่อเกิดอุบัติเหตุที่ต้องส่งผู้บาดเจ็บไปยังโรงพยาบาล นอกจากนี้ยังคุ้มครองคุณและผู้โดยสารในรถของคุณอย่างครอบคลุมทั้งการบาดเจ็บ สูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพ ตลอดจนเสียชีวิตอีกด้วย หรือหากคู่กรณีของคุณเป็นฝ่ายบาดเจ็บ ประกันรถยนต์ชั้น 2+ ยังครอบคลุมการประกันตัวไม่ให้คุณต้องถูกควบคุมตัวอีกด้วย

ประกันรถยนต์ชั้น 2+ เคลมกระจกรถได้ไหม มีเงื่อนไขหรือเปล่า

ประกันรถยนต์ชั้น 2+ สามารถเคลมกระจกรถยนต์ได้ เพราะรวมอยู่ในความคุ้มครองต่อตัวรถยนต์แล้ว แต่จะมีเงื่อนไขคือต้องเป็นอุบัติเหตุรถชนรถที่มีคู่กรณีเท่านั้น ซึ่งตรงกันกับการให้ความคุ้มครองกรณีรถชนรถของประกันรถยนต์ชั้น2+ที่ต้องมีคู่กรณีนั่นเอง ซึ่งแก้ไขได้ด้วยวิธีการเดิมคือการติดกล้องที่รถเพื่อตามตัวคู่กรณีได้ในภายหลัง นอกจากนี้บางคนอาจสงสัยว่า แล้วถ้าโดนปาหินใส่กระจกรถ หรือถ้าโดนทุบกระจกรถจะสามารถเคลมได้ไหม ในกรณีนี้ต้องขอตอบว่าไม่สามารถเคลมได้ เพราะไม่ได้รวมอยู่ในความคุ้มครองของกรณีรถชนรถนั่นเอง แม้ว่าจะเป็นสถานการณ์ที่หลีกเลี่ยงได้ยากและไม่ทราบว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ แต่ก็เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก ดังนั้นหากคุณมีโอกาสไปในสถานที่เสี่ยงจะเกิดเหตุการณ์เหล่านั้นน้อยก็ไม่น่ากังวล

เอกสารทำประกันรถยนต์ชั้น 2+

ทำประกันรถยนต์ชั้น 2+ ต้องใช้เอกสารกี่ชิ้นอะไรบ้าง

การทำประกันรถยนต์ชั้น 2+ ต้องใช้เอกสารทั้งหมด 2 ชิ้นได้แก่

  • สำเนาทะเบียนรถ
  • สำเนาบัตรประชาชน(ในกรณีที่คุณเป็นคนไทย) หรือ สำเนาพาสปอร์ต(ในกรณีที่คุณเป็นคนต่างชาติ)

แต่อาจใช้เอกสารเพิ่มเติมได้แล้วแต่กรณีไป เช่น

  • สำเนาใบขับขี่ ในกรณีที่คุณมีการระบุผู้ขับขี่ในกรมธรรม์สำหรับประกันรถยนต์ชั้น 2+ ก็จะต้องใช้สำเนาใบขับขี่ของผู้ที่คุณต้องการจะระบุชื่อลงในกรมธรรม์ด้วย
  • สำเนากรมธรรม์ประกันรถยนต์ ในกรณีที่คุณมีสัญญาฉบับเก่าและต้องการต่อประกันรถยนต์ชั้น 2+ คุณต้องนำสำเนาของสัญญานั้นมาด้วย

เรียกได้ว่าการเตรียมเอกสารสำหรับการทำประกันรถยนต์ชั้น 2+ นั้นง่ายมากๆและใช้เอกสารเพียงไม่กี่ชิ้นเท่านั้น ซึ่งหากคุณทำประกันรถยนต์ชั้น 2+ ออนไลน์ก็จะยิ่งง่ายมากขึ้นไปอีกเพราะคุณสามารถจ่ายค่าเบี้ยประกันและปรึกษาเลือกซื้อประกันรถยนต์ชั้น 2+ ที่ดีที่สุดได้ในเวลาไม่นาน

ประกันรถยนต์ชั้น 2+ โดดเด่นตรงไหนทำไมจึงต่างจากประกันชั้นอื่นๆ

ประกันชั้น 2+ เทียบกับประกันชั้น 1

ประกันรถยนต์ชั้น 2+ เมื่อเปรียบเทียบกับประกันรถยนต์ชั้น 1 แล้วก็จะพบว่ามีความคุ้มครองบางอย่างที่ประกันชั้น 2+ ไม่มี เนื่องจากประกันรถยนต์ชั้น 2+ ราคาถูกกว่า ดังนั้นจึงไม่ได้ครอบคลุมถึงบางกรณีนั่นเอง ได้แก่ การคุ้มครองกรณีรถชนรถที่ประกันรถยนต์ชั้น 2+ จะต้องมีคู่กรณีเท่านั้น ในขณะที่ประกันอีกชั้นจะคุ้มครองทุกกรณีแม้ว่าไม่มีคู่กรณีก็ตาม แต่การมีคู่กรณีสามารถป้องกันได้โดยการติดกล้องหน้ารถหรือกล้องหลังรถซึ่งมีราคาไม่แพงเลย จึงทำให้ประกันรถยนต์ชั้น 2+ ยังเป็นต่อในด้านของความคุ้มครองที่สูงและมีราคาที่เข้าถึงได้ง่ายกว่า ซึ่งหากคุณมองว่าการติดกล้องไม่เป็นปัญหาการทำประกันรถยนต์ชั้น 2+ ที่ให้ความคุ้มครองใกล้เคียงกับประกันชั้น 1 มากๆในราคาที่ถูกกว่าก็ตอบโจทย์คุณได้เป็นอย่างดี และประกันรถยนต์ชั้น 2+ จะมีทุนประกันที่ต่ำกว่าประกันรถยนต์ชั้น 1 ในกรณีของความคุ้มครองต่อตัวรถยนต์

ประกันชั้น 2+ เทียบกับประกันชั้น 3+

ประกันรถยนต์ชั้น 2+ เมื่อเทียบกับประกันรถยนต์ชั้น 3+ แล้วจะพบว่ามีความคุ้มครองที่ครอบคลุมมากกว่า นั้นคือประกันรถยนต์ชั้น 2+ จะให้ความคุ้มครองรวมไปถึงกรณีน้ำท่วม รถหาย หรือไฟไหม้ด้วย แต่ประกันรถชั้น 3+จะไม่มีความคุ้มครองในส่วนนี้ ซึ่งเป็นความคุ้มครองที่สำคัญเพราะเราไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นตอนไหนแม้ว่าจะไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นก็ตาม หากคุณต้องการความคุ้มครองที่ครอบคลุมเพื่อให้มั่นใจอยู่เสมอแม้เกิดเหตุไม่คาดฝันก็สามารถตัดสินใจเลือกประกันรถยนต์ชั้น 2+ ได้เลย แต่หากคุณไม่ต้องการความคุ้มครองตรงส่วนนี้อาจลองมองประกันรถชั้นอื่นๆ อย่างเช่น ประกันรถยนต์ชั้น 3 ที่มีค่าเบี้ยประกันถูกที่สุดเป็นตัวเลือกได้

ทำประกันรถยนต์ชั้น 2+ กับ SILKSPAN เพื่อให้คุณได้ประกันรถยนต์ชั้น 2+ ที่คุ้มค่าที่สุด

หากคุณตัดสินใจแล้วว่าอยากทำประกันรถยนต์ชั้น 2+ หรือกำลังอยู่ในระหว่างการชั่งใจอยากเปรียบเทียบกับประกันชั้นอื่น เราขอแนะนำ SILKSPAN ตัวช่วยเรื่องประกันออนไลน์ ให้การทำประกันรถยนต์ของคุณง่ายและคุ้มค่ายิ่งกว่า ด้วยการเปรียบเทียบประกันรถยนต์ได้มากกว่า 20 บริษัทชั้นนำและการให้คำแนะนำของมืออาชีพ จะช่วยให้คุณได้ประกันรถยนต์ชั้น 2+ ที่ถูกใจ หรือหาประกันรถยนต์ที่เหมาะสมกับคุณได้ในราคาที่คุ้มค่าที่สุด พร้อมทำประกันรถยนต์ชั้น 2+ ออนไลน์ได้ง่ายๆเพียงเข้าสู่เว็บไซต์ของ SILKSPAN หรือติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ LINE: @SILKSPAN หรือโทร 02-3925500 เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

นอกจากคุณจะสามารถเลือกประกันรถยนต์ชั้น 2+ จากหลากหลายบริษัทแล้ว SILKSPAN ยังมีโปรโมชันส่วนลดมากมายสำหรับการทำประกันรถยนต์ชั้น 2+ ตลอดจนคุณสามารถผ่อน 0% ได้นานถึง 10 เดือนได้ทั้งใช้บัตรเครดิตและใช้เงินสด ดังนั้นเมื่อตัดสินใจได้แล้วคุณสามารถเริ่มรับความคุ้มครองได้ทันทีด้วยช่องทางการจ่ายเงินออนไลน์ที่มีให้เลือกหลากหลาย รวมไปถึงบริการพิเศษหลังการทำประกันอีกมากมาย

242
ทำประกันออนไลน์

ในปัจจุบัน การทำประกันเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวกว่าที่คิดมาก เพราะอาจจะเกิดเหตุไม่คาดคิดได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเกิดกับร่างกาย รถยนต์ หรือทรัพย์สินของเรา ดังนั้น หลาย ๆ คนจึงเลือกที่จะทำประกันภัยไว้ แต่การที่จะซื้อประกันก็ต้องคอยติดต่อตัวแทน และอาจจะไม่ได้รับประกันแบบที่เราตั้งใจไว้ก็เป็นได้

ดังนั้น ประกันออนไลน์จึงเข้ามามีบทบาทมากยิ่งขึ้น เพราะประกันออนไลน์นั้น มีความสะดวก รวดเร็วสามารถเปรียบเทียบรายละเอียดแผนประกัน พร้อมทั้งคำนวณเบี้ยประกันได้อย่างชัดเจน และที่สำคัญ เราสามารถทำประกันออนไลน์ได้อย่างอิสระและทำจากที่ใดก็ได้ เพื่อให้เริ่มต้นความคุ้มครองได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ซื้อประกันออนไลน์ได้ง่าย ๆ และปลอดภัยได้อย่างสบายใจ

การซื้อประกันออนไลน์ ก็คือ การทำธุรกรรมการซื้อประกันผ่านระบบออนไลน์ของบริษัทประกัน หรือ โบรกเกอร์ จากแต่เดิมที่เราจะต้องซื้อประกันผ่านตัวแทน ก็ได้เปลี่ยนมาซื้อผ่านเว็บไซต์ด้วยตนเอง

สำหรับประกันออนไลน์นั้น ทำให้เราสามารถเปรียบเทียบรายละเอียดความคุ้มครองของแต่ละแผนประกันต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจนและอิสระ โดยทางเว็บไซต์จะมีโปรแกรมช่วยเปรียบเทียบและสอบถามความต้องการ รวมถึงช่วยคำนวณการจ่ายเบี้ยประกัน ทำให้เราสามารถแผนประกันได้อย่างเหมาะสม และสามารถเลือกช่องทางการชำระเบี้ยได้ ไม่ว่าจะเป็นการชำระผ่านบัตรเครดิต หรือโอนเงินผ่านธนาคาร นั่นจึงทำให้เราสามารถซื้อประกันออนไลน์ได้ทุกที่ทุกเวลา

โดยเฉพาะการซื้อประกัน online ผ่าน SILKSPAN ที่จะทำให้คุณได้รับโปรโมชั่นและส่วนลดต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการผ่อน 0% นาน 10 เดือน แม้จะไม่มีบัตรเครดิตก็สามารถผ่อนได้ ส่วนลดสูงสุด 500 บาท พร้อมทั้งยังได้รับความคุ้มครองทันทีที่ซื้อ

ประกันออนไลน์สำหรับรถยนต์ เพื่อนร่วมทางคู่ใจของคุณ

ทาง SILKSPAN มีบริการเปรียบเทียบรายละเอียดและเบี้ยประกันรถให้คุณได้เลือกซื้อประกันออนไลน์ จากบริษัทประกันรถยนต์ชั้นนำของประเทศ จึงทำให้คุณสามารถมั่นใจได้ว่า หากเกิดอะไรขึ้น เราสามารถเข้าถึงที่เกิดเหตุได้ไว มีบริการที่เคลมง่าย งานซ่อมที่คุณภาพดี และสามารถติดต่อได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยประกันรถยนต์ของ SILKSPAN มีทั้งหมด 4 ประเภท ได้แก่

ประกันรถยนต์ชั้น 1 ออนไลน์

สำหรับประกันออนไลน์ของ SILKSPAN หากคุณเลือกทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ออนไลน์ จะให้ความคุ้มครองรถในทุกกรณี ไม่ว่า รถคุณจะเป็นฝ่ายผิดหรือฝ่ายถูก เช่น ความคุ้มครองรถชนรถ ชนรั้ว กำแพง คุ้มครองรถหาย ไฟไหม้ น้ำท่วม เป็นต้น สำหรับประกันชั้น 1 ก็จะให้ความคุ้มครองทั้งสิ้น

โดยปกติประกันออนไลน์รถยนต์ชั้น 1 จะมีแค่บางบริษัทประกันที่แถมบริการช่วยเหลือฉุกเฉินให้เป็นบริการพิเศษ ซึ่งทาง SILKSPAN จะมีบริการของ Inter Partner Assistance เป็นบริการที่ให้กับลูกค้าของ SILKSPAN เท่านั้น โดยบริษัทเป็นคนออกค่าใช้จ่ายให้ลูกค้าเพิ่มเติมเอง ถือว่าเป็นโปรโมชั่นบริการพิเศษเฉพาะลูกค้าของเราเท่านั้น

ประกันรถยนต์ชั้น 2+ ออนไลน์

ส่วนการทำประกันรถยนต์ชั้น 2+ จะมีความคุ้มครองในกรณีที่รถชนรถและมีคู่กรณีเท่านั้น รวมถึงทรัพย์สินและบุคคลภายนอกที่ได้รับความเสียหาย และในกรณีที่รถหาย หรือไฟไหม้ จะมีทุนประกันคุ้มครองอยู่ระหว่าง 100,000 – 500,000 บาท ซึ่งขึ้นอยู่กับทุนที่คุณเลือกตอนทำประกันออนไลน์รถยนต์นั่นเอง

ประกันรถยนต์ชั้น 3+ ออนไลน์

ประกันรถยนต์ชั้น 3+ จะให้ความคุ้มครองในกรณีที่รถชนรถและมีคู่กรณีเท่านั้น ไม่นับรวมการขับไปชนเสา สัตว์ ต้นไม้ หรือความเสียหายที่เป็นรอยขีดข่วนที่ไม่มีคู่กรณี และจะให้ความคุ้มครองทั้งชีวิตและทรัพย์สินของรถเราและรถคู่กรณี

โดยการทำประกันออนไลน์รถยนต์ชั้น 3+ นี้ เหมาะสำหรับรถยนต์ที่อายุเกิน 5 ปี และคุณไม่ค่อยได้ขับไปไหน หรือขับรถอย่างระมัดระวัง ทำให้โอกาสเกิดอุบัติเหตุมีน้อย และที่สำคัญ ประกันออนไลน์รถยนต์ประเภทนี้ มีเบี้ยประกันเริ่มประมาณ 5,000 กว่าบาทเท่านั้นเอง

ประกันรถยนต์ชั้น 3 ออนไลน์

และประกันออนไลน์แบบสุดท้าย คือ ประกันรถยนต์ชั้น 3 โดยจะให้ความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นกับทรัพย์สินบุคคลภายนอกเท่านั้น ไม่นับรวมความเสียหายที่เกิดกับตัวรถคันที่ทำประกัน เช่น ชนเสา สัตว์ ต้นไม้ หรือความเสียหายที่เป็นรอยขีดข่วนที่ไม่มีคู่กรณี พร้อมทั้งยังคุ้มครองชีวิตและค่ารักษาพยาบาลของบุคคลในรถเราและคู่กรณี

ทำประกันออนไลน์สำหรับสุขภาพที่ดีของคุณ

ประกัน online

นอกจากประกันรถยนต์แล้ว SILKSPAN ยังมีบริการประกัน online สำหรับสุขภาพอีกด้วย เพื่อเพิ่มความอุ่นใจสำหรับความเจ็บป่วยที่อาจจะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา โดยประกันออนไลน์สุขภาพนี้ มีให้เลือกหลากหลายแผน เพื่อให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่

โดยทาง SILKSPAN จะช่วยอำนวยความสะดวก ช่วยเปรียบเทียบรายละเอียดและบริการการเช็กเบี้ยประกันออนไลน์สุขภาพ ไม่ว่าจะเป็น ประกันสุขภาพราคาถูก ประกันออฟฟิศซินโดรม ประกันสุขภาพโรคร้ายแรง และประกันสุขภาพ+อุบัติเหตุ เพื่อให้คุณได้ประกันสุขภาพที่ให้ความคุ้มครองอย่างที่คุณต้องการและมีความเหมาะสมกับตัวคุณมากที่สุด

และที่สำคัญ SILKSPAN มีพนักงานมากกว่า 700 คน ที่พร้อมให้บริการและช่วยตอบข้อสงสัย หากคุณต้องการคำปรึกษาเรื่องประกันออนไลน์สุขภาพ โดยเราพร้อมที่จะดูแลด้วยความใส่ใจ เพื่อให้คุณได้รับประกันออนไลน์สุขภาพที่ใช่ที่สุดสำหรับคุณ

ซื้อประกันออนไลน์ชีวิต เพื่อคุ้มครองคุณจากโรคร้าย

อีกประกันชีวิตอีกแบบหนึ่งที่มีความสำคัญไม่แพ้กัน นั่นคือ การทำประกันออนไลน์ชีวิต โดยทาง SILKSPAN มีบริการการทำประกันมะเร็ง Cancer Plus ซึ่งแผนประกันนี้ จะให้ความคุ้มครองและรายละเอียดต่าง ๆ คือ

  • ให้ความคุ้มครองในกรณีทุกโรคมะเร็ง โดยจะให้ความคุ้มครองสูงสุด 1 ล้านบาท และจ่ายค่ารักษาเคมีบำบัด และรังสีบำบัดตามจริง สูงสุด 4 แสนบาท (ยกเว้น มะเร็งในผู้ป่วย HIV และ เนื้องอกก่อนเป็นมะเร็ง)
  • ให้ความคุ้มครองชีวิตนาน 10 ปี ซึ่งถ้าหากคุณเสียชีวิตจากโรคมะเร็ง หรืออุบัติเหตุ หรืออาการเจ็บป่วย ก็จะได้รับเงินคุ้มครองชีวิต 1 ล้านบาท
  • มีเงินชดเชยรายวัน สำหรับกรณีที่คุณเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาล ไม่ว่าจะเป็นเพราะอาการเจ็บป่วย หรือเกิดอุบัติเหตุใด ๆ ก็จะได้รับเงินชดเชย 1,000 บาทต่อวัน จากแผนประกันออนไลน์นี้

ประกันออนไลน์อุบัติเหตุ Happy Me Happy Family

อุบัติเหตุเป็นสิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ดังนั้น เราจึงควรจะต้องมีประกันอุบัติเหตุไว้เสมอ เพื่อรองรับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด จะได้มีเงินสำรองยามฉุกเฉิน ไม่ทิ้งภาระให้แก่คนข้างหลัง อีกทั้งเบี้ยประกันออนไลน์อุบัติเหตุก็มีราคาไม่สูง จ่ายค่าเบี้ยแค่หลักร้อย แต่ได้ความคุ้มครองถึงหลักแสน และที่สำคัญคือ ทำง่าย ไม่ต้องตรวจสุขภาพ ไม่ต้องตอบคำถามสุขภาพ ไม่มีระยะรอคอย และให้ความคุ้มครองทันที 24 ชม. ทั่วโลก

โดยทาง SILKSPAN ได้จัดทำประกันอุบัติเหตุ Happy Me Happy Family ที่ไม่ต้องตรวจสุขภาพ ให้ความคุ้มครองได้ถึงอายุ 65 ปี โดยที่เบี้ยประกันไม่ปรับตามอายุ ให้เงินชดเชยรายได้ครอบครัวสูงสุด 12 เดือน และให้ความคุ้มครอง 24 ชั่วโมงทั่วโลก ซึ่งแบ่งออกเป็นแผน 1 แผน 2 และแผน 3 เพื่อให้คุณสามารถเลือกความคุ้มครองและเลือกจ่ายเบี้ยประกันออนไลน์ได้ตามความต้องการ ซึ่งมีค่าเบี้ยประกันเริ่มต้นที่ 6 บาทต่อวัน

ซื้อประกันออนไลน์สำหรับบ้านพัก พร้อมบริการฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง

อีกหนึ่งประกันออนไลน์ที่น่าสนใจของ SILKSPAN คือ ประกันบ้านออนไลน์ ด้วยบ้านเป็นที่พักอาศัย เป็นสถานที่พักผ่อนของทุกคน ดังนั้น เราจึงควรให้ความสำคัญและทำประกันภัยให้ความคุ้มครองด้วยเช่นกัน โดยประกันบ้านของ SILKSPAN จะให้ความคุ้มครอง ดังต่อไปนี้

  • อัคคีภัย / ฟ้าผ่า ซึ่งมีสาเหตุมาจากไฟไหม้ ฟ้าผ่า และภัยจากน้ำ (ไม่รวมน้ำท่วม) เป็นเงินสูงสุด 3 ล้านบาท
  • น้ำท่วม / ภัยธรรมชาติ ซึ่งมาจากภัยธรรมชาติ ได้แก่ น้ำท่วม ลมพายุ ลูกเห็บและแผ่นดินไหว รวมกันไม่เกิน 3 แสนบาท
  • เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน โดยให้ความคุ้มครองความเสียหายต่อเครื่องใช้ไฟฟ้า สูงสุดไม่เกิน 6 หมื่นบาท
  • การโจรกรรม หรือความสูญเสีย หรือความเสียหายต่อทรัพย์สินอันเกิดจากการชิงทรัพย์ สูงสุดไม่เกิน 3 แสนบาท ภายใต้เงื่อนไขของบริษัท

นอกจากนี้ SILKSPAN ยังมีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับการซื้อประกัน online ของบ้านอีกด้วย ได้แก่

  • ระบบประปา
  • ระบบไฟฟ้า
  • ระบบปรับอากาศ
  • กุญแจที่พักสูญหาย รวมถึงกรณีสะเดาะกุญแจ หากลูกค้าอนุญาต (รับกุญแจสำรองภายในระยะทาง 20 กิโลเมตร)
  • เครื่องใช้ไฟฟ้า โดยเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน
  • กำจัดสัตว์ดุร้ายที่ไม่พึงประสงค์

มีประกันออนไลน์สำหรับการเดินทางไว้ ให้อุ่นใจในทุกทริปเที่ยว

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่รักการท่องเที่ยว ดังนั้น การทำประกันการเดินทางจึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยทีเดียว โดยทาง SILKSPAN ได้มีการจัดทำประกันออนไลน์การเดินทางร่วมกับบริษัท เอ็ม เอส ไอ จี ประกันภัย โดยให้ความคุ้มครองครอบคลุมในการเดินทางต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุ การเจ็บป่วย กระเป๋าเดินทาง ความล่าช้าของเครื่องบิน ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก เป็นต้น

ทั้งนี้ ความคุ้มครองก็ขึ้นอยู่กับแผนประกันออนไลน์ที่คุณเลือก ด้วยเบี้ยประกันที่เริ่มต้นเพียง 190 บาท แต่ให้ความคุ้มครองสูงถึง 1.5 ล้าน พร้อมทั้งบริการฉุกเฉินทั่วโลกตลอด 24 ชั่วโมงรวมถึงการประสานงานความช่วยเหลือทางการแพทย์ การเคลื่อนย้ายรักษาพยาบาลฉุกเฉิน และกลับประเทศโดย MSIG Assist 24 ชั่วโมง

โดยแผนประกันออนไลน์ของ SILKSPAN มีให้คุณเลือกทั้งในแบบรายเที่ยวและรายปี เพื่อให้คุณสามารถไปท่องเที่ยว ติดต่อธุรกิจประชุมสัมมนา หรือศึกษาต่อในระยะสั้นที่ต่างประเทศได้อย่างสบายใจและหายห่วง

บริการสินเชื่อออนไลน์ บัตรเครดิต และบัตรกดเงินสดสำหรับผู้ที่ต้องการเงินด่วน

ทำประกันออนไลน์

และนอกเหนือจากประกันออนไลน์แล้ว ทาง SILKSPAN ยังมีบริการสินเชื่อออนไลน์ ทั้งสำหรับรถยนต์และส่วนบุคคล บัตรเครดิต และบัตรกดเงินสด เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่ต้องการใช้เงินด่วนอีกด้วย โดยเราได้ร่วมมือกับพันธมิตรทางการเงินมากมาย เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้การใช้เงินของคุณเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็วที่สุด

สินเชื่อรถยนต์ออนไลน์

นอกจากการซื้อประกัน online สำหรับรถยนต์แล้ว คุณยังสามารถใช้บริการสินเชื่อรถยนต์ออนไลน์กับ SILKSPAN ได้ด้วย สำหรับการรีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมด จะทำได้ให้วงเงินสูง มีการอนุมัติง่าย ไม่ต้องรอนาน ระยะเวลาผ่อนสูงถึง 60 งวด ดอกถูก ไม่ต้องใช้บุคคลอื่นมาค้ำประกัน และที่สำคัญ ไม่ต้องโอนเล่มทะเบียน

สินเชื่อส่วนบุคคลออนไลน์

สำหรับสินเชื่อส่วนบุคคลออนไลน์ ทาง SILKSPAN ได้ร่วมกับสินเชื่อบุคคลซิตี้ ซึ่งคุณจะได้รับอัตราดอกเบี้ยรวมค่าธรรมเนียมการใช้วงเงิน ต่ำสุดเพียง 7.99% ต่อปี เป็นอัตราดอกเบี้ยพิเศษแบบลดต้นลดดอก สามารถรับวงเงินสูงสุด 5 เท่าของรายได้ หรือ 2 ล้านบาท แถมยังมีระยะเวลาผ่อนชำระนานถึง 12 – 60 เดือน และที่สำคัญ คือ ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ หรือผู้ค้ำประกัน
 
บัตรเครดิต

หากคุณมีประกันออนไลน์แล้ว และอยากจะมีบัตรเครดิตสักใบ SILKSPAN มีบริการให้เปรียบเทียบสิทธิพิเศษของบัตรเครดิตแต่ละธนาคาร เพื่อให้คุณได้เลือกบัตรเครดิตที่เหมาะกับตัวคุณมากที่สุด และสมัครบัตรเครดิตออนไลน์ได้อย่างสะดวก และรวดเร็ว

โดยสถาบันการเงินชั้นนำที่ทาง SILKSPAN มีบริการให้คุณสามารถสมัครได้ทันที คือ Citi Bank, KTC และ UOB โดยมีรายละเอียดข้อมูลบัตรและเงื่อนไขการสมัครอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น เครดิตเงินคืน ส่วนลดสูงสุด เงื่อนไขรายได้ขั้นต่ำต่อเดือน เรียกได้ว่า SILKSPAN ที่เดียวก็จะทำให้การสมัครบัตรเครดิตเป็นเรื่องง่ายไปเลย

บัตรกดเงินสด

นอกจากบัตรเครดิตแล้ว SILKSPAN ยังมีบริการให้สมัครบัตรกดเงินสด เพื่อให้คุณพร้อมเสมอกับทุกสถานการณ์ทางการเงิน โดยที่ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมจากการกดเงิน โดยเรามีบัตรกดเงินสดจาก Citi Bank และ KTC มาให้คุณได้ศึกษาและเปรียบเทียบว่า ไลฟ์สไตล์การใช้เงินของคุณนั้น เหมาะสมกับบัตรใดมากกว่ากัน

โดยเราจะระบุรายได้ขั้นต่ำซึ่งเป็นเงื่อนไขของการสมัคร พร้อมบอกจุดเด่นของบัตรกดเงินสดแต่ละใบ เช่น ยอดชำระขั้นต่ำ ไม่มีค่าธรรมเนียมการกดเงินสด การแบ่งจ่ายนานสูงสุด 12 เดือน พร้อมโปรโมชั่นดี ๆ อย่างชำระดอกเบี้ย 0% หรือรับของสมนาคุณอย่างกระเป๋าเดินทาง เป็นต้น

ทำประกันออนไลน์กับ SILKSPAN ดีอย่างไร

จะเห็นได้ว่า SILKSPAN มีการให้บริการอย่างครอบคลุม โดยเฉพาะการทำประกันออนไลน์ ทั้งประกันภัยรถยนต์ ประกันสุขภาพ ประกันชีวิต ประกันอุบัติเหตุ ประกันบ้าน และประกันการเดินทาง เรียกได้ว่า เป็นการประกันภัยให้แก่ร่างกายและทรัพย์สินของเราในทุกกรณี

เปรียบเทียบได้

หากเราซื้อประกันออนไลน์กับ SILKSPAN จะสามารถเลือกซื้อประกันออนไลน์ได้อย่างเหมาะสม เพราะ SILKSPAN มีระบบให้เราสามารถเปรียบเทียบแผนประกันของบริษัทประกันต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย และสามารถเปรียบเทียบรายละเอียดได้อย่างชัดเจน

มั่นใจได้

SILKSPAN ให้บริการด้วยประสบการณ์ที่มากกว่า 23 ปี พร้อมกับจำนวนลูกค้าที่มากกว่า 4 ล้านคนครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วประเทศ ช่วยให้ลูกค้าประหยัดเงินในการซื้อประกันออนไลน์ไปมากกว่า 1,300 ล้านบาท และมีพนักงานที่พร้อมให้บริการคำแนะนำและคำปรึกษามากกว่า 700 คน ดังนั้น เราจึงสามารถมั่นใจได้ว่า หากซื้อประกัน online กับ SILKSPAN เราจะได้รับการดูแลและความคุ้มครองที่ดีอย่างแน่นอน

ประหยัดกว่า 30%

หากซื้อประกันออนไลน์จาก SILKSPAN ซึ่งพร้อมด้วยโปรโมชั่นและส่วนลดต่าง ๆ จากสถาบันการเงินอีกมากมาย ก็จะช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าของคุณได้อย่างมาก รวมถึงบริการเสริมอื่น ๆ ที่คุณจะได้รับเพิ่มเติมเป็นพิเศษจาก SILKSPAN อีกด้วย

ผ่อน 0% ไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

สำหรับช่องทางการชำระเบี้ยประกัน ไม่ว่าจะเป็นประกันออนไลน์แบบใดก็ตาม ทั้งรถยนต์ สุขภาพ การเดินทาง คุณก็สามารถเลือกชำระเต็มจำนวน หรือเลือกผ่อนชำระ 0% นาน 10 เดือน โดยสามารถใช้ได้ทั้งบัตรเครดิตและเงินสดทุกธนาคาร

บริการเสริมพิเศษ

แม้ว่า ประกันออนไลน์ของบางบริษัทประกันจะมีบริการเสริมให้ แต่สำหรับลูกค้าประกันรถยนต์ของ SILKSPAN เรามีบริการรถเสริมฟรีให้ใช้ในระหว่างซ่อม หรือเบิกค่าเดินทาง 1,000 บาท พร้อมทั้งบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชม. จาก Inter Partner Assistance

243
ทำประกันภัยรถยนต์

การทำประกันภัยรถยนต์เป็นสิ่งจำเป็นไม่ว่าจะทำประกันภัยชั้นใดก็ตาม สิ่งสำคัญที่ควรจะต้องคำนึงถึงก็คือการขับขี่รถด้วยความไม่ประมาท และมีความระมัดระวังมีสติรู้ตัวอยู่เสมอ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยของตนเองและคนที่คุณรัก ทั้งนี้ความรู้ด้านประกันรถยนต์ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญที่จะช่วยให้คุณสบายใจได้ว่าได้เลือกแบบประกันที่ตอบโจทย์ความต้องการ 

การซื้อประกันรถยนต์มีปัจจัยหลายอย่างที่คุณต้องพิจารณาอย่างมากว่าจะเลือกบริษัทไหนดี เพื่อให้การทำประกันรถยนต์มีความถูกต้องเหมาะสม ไม่ก่อให้เกิดปัญหาในระยะยาว แล้วบริษัทไหนที่จะช่วยให้คุณมีความสบายใจในการทำประกันรถ คอลัมน์นี้มีคำตอบ

ประกันรถยนต์สำคัญอย่างไร ทำไมผู้ใช้รถจึงควรทำประกันรถยนต์

ประกันรถยนต์คือปัจจัยที่มีความจำเป็นที่สุดเมื่อคุณซื้อรถยนต์ เพราะทุกครั้งที่คุณใช้รถใช้ถนน ยากที่จะคาดเดาได้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันจะเกิดขึ้นหรือไม่ การลดปัญหาที่เกิดจากอุบัติเหตุที่นำมาสู่ความสูญเสียทั้งผู้คนและทรัพย์สิน ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายผิดหรือฝ่ายถูก การทำประกันภัยรถยนต์จะช่วยแบ่งเบาภาระให้คุ้มครองค่าเสียหายที่เกิดขึ้นได้ไม่มากก็น้อย

การทำประกันรถยนต์แบบสมัคร นอกจากจะช่วยให้แบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นจากการเกิดอุบัติเหตุแล้ว ยังมีประโยชน์ในการคุ้มครองการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทั้งผู้เอาประกัน และบุคคลภายนอก การรับผิดชอบค่าเสียหายที่เกิดแก่ทรัพย์สินของบุคคลภายนอก และความเสียหายที่เกิดต่อตัวรถยนต์ รวมถึงอุปกรณ์และเครื่องตกแต่ง ที่ติดอยู่กับตัวรถ นอกจากนี้ยังครอบคลุมถึงกรณีถูกลักทรัพย์ ชิงทรัพย์ ตลอดจนภัยธรรมชาติต่าง ๆ อีกด้วย

เช็กราคาเบี้ยประกันรถยนต์ก่อนทำประกันคุ้มกว่าใครแน่นอน

กว่าจะได้บริษัทประกันรถยนต์ที่ถูกใจ คุณต้องใช้เวลามากแค่ไหนในการค้นหาข้อมูล การค้นหาราคาเบี้ยประกันที่ถูกที่สุด และเหมาะสมกับรถยนต์ของคุณ ต้องพิจารณาปัจจัยหลายอย่าง ทั้งความคุ้มครอง ทั้งเบี้ยประกัน ควรเลือกซื้อประกันจากบริษัทไหนดี เพื่อให้ได้บริษัทประกันที่ตรงกับความต้องการ การมองหาแพลตฟอร์มดี ๆ จะช่วยค้นหาข้อมูลด้านการประกันรถยนต์ที่มีประสิทธิภาพ ช่วยทำให้คุณประหยัดเวลา และงบประมาณในการค้นหาบริษัทประกัน 

และตัวช่วยที่จะทำให้คุณเข้าถึงข้อมูลสำคัญด้านการทำประกันรถยนต์ก็คือ SILKSPAN บริษัทผู้มากประสบการณ์ด้านการทำประกันรถยนต์ออนไลน์ ที่มีบริการเปรียบเทียบราคาประกันรถจาก 20 บริษัทชั้นนำด้านประกันรถยนต์ อาทิเช่น บริษัทกรุงเทพประกันภัย บริษัทวิริยะประกันภัย ทิพยประกันภัย เป็นต้น คุณสามารถเช็กราคาเบี้ยประกันรถยนต์ที่ถูกใจในราคาสุดคุ้มได้ภายในคลิกเดียว

ประกันรถยนต์มีกี่ประเภท เลือกอย่างไรให้เหมาะกับรถที่ใช้งาน

ประกันรถยนต์แบบไหนที่จะเหมาะกับรถยนต์ของคุณ ก่อนอื่นคุณควรทราบก่อนว่ารถยนต์ของคุณนั้นใช้งานมายาวนานขนาดไหน มีลักษณะการใช้งานสมบุกสมบันมากน้อยเพียงไร เพื่อพิจารณาเลือกแบบประกันที่เหมาะสมกับรถยนต์ของคุณ และเกิดความคุ้มครองที่คุ้มค่ามากที่สุด ซึ่งประกันภัยรถยนต์มีทั้งหมด 4 แบบ โดยให้คุ้มครองดังต่อไปนี้

ประกันรถยนต์ชั้น 1

ประกันรถยนต์ชั้น 1 เป็นประกันรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมมากที่สุด ไม่ว่าจะความเสียหายที่เกิดขึ้นจากตัวรถยนต์ของผู้เอาประกัน ไม่ว่าจะรถชน ไฟไหม้ น้ำท่วม ภัยทางธรรมชาติ เช่น พายุ แผ่นดินไหว ดินโคลนถล่ม ตลอดจนสูญหายจากการถูกโจรกรรม และครอบคลุมความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ชีวิต ร่างกายและทรัพย์สินของบุคคลภายนอก รวมทั้งผู้โดยสารที่อยู่ภายในรถ เหมาะสำหรับรถใหม่ที่มีอายุไม่เกิน 5 ปี หรือผู้ขับขี่มือใหม่ที่ยังไม่ค่อยชำนาญ

ประกันรถยนต์ชั้น 2+

ประกันรถยนต์ชั้น 2+ ให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมเหมือนประกันภัยชั้น 1 โดยคุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถ คุ้มครองรถยนต์สูญหาย ไฟไหม้ หรือภัยธรรมชาติ  ตลอดจนน้ำท่วม และคุ้มครองชีวิตและทรัพย์สินบุคคลภายนอก เพียงแต่ไม่คุ้มครองความเสียหายโดยทั่วไปหากไม่ได้เกิดขึ้นจากสาเหตุการชนกับยานพาหนะทางบก หรือจะคุ้มครองกรณีรถชนรถเท่านั้น เหมาะกับผู้ที่ไม่มีที่จอดรถ หรือต้องจอดรถนอกบ้าน หรือพื้นที่สาธารณะที่มีความเสี่ยงต่อการถูกเฉี่ยวชน

ประกันรถยนต์ชั้น 2

เป็นประกันรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองชีวิตของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร รวมถึงคุ้มครองค่าซ่อมรถยนต์และทรัพย์สินของคู่กรณี และคุ้มครองชีวิตและค่ารักษาพยาบาลของบุคคลภายนอก โดยให้ความคุ้มครองในกรณีรถยนต์สูญหาย ไฟไหม้ หรือน้ำท่วมด้วย ตัวอย่างเช่น หากรถชนกับนาย A จะคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลและค่าซ่อมรถให้นาย A แต่จะไม่ซ่อมรถให้ผู้เอาประกัน เหมาะสำหรับผู้ที่มีความชำนาญในการขับขี่ หรือสามารถซ่อมรถด้วยตนเองได้
 
ประกันรถยนต์ชั้น 3+

ประกันรถยนต์ชั้น 3+ เป็นประกันที่คล้ายคลึงกับประกันชั้น 1 แต่จะให้ความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อทรัพย์สินบุคคลภายนอกและคุ้มครองรถยนต์ของผู้เอาประกันภัย จากอุบัติเหตุเฉี่ยวชนโดยไม่คาดคิด ในกรณีแบบรถชนรถเท่านั้น โดยไม่คุ้มครองกรณีรถยนต์สูญหาย ไฟไหม้ เป็นทางเลือกของผู้ต้องการประหยัดงบประมาณโดยเลือกแบบประกันที่มีความคุ้มครองรองลงมา ซึ่งมีราคาที่ถูกกว่า เหมาะสำหรับกับรถเก่าที่มีอายุ 7 ปีขึ้นไป และเป็นรถยนต์ที่มีการใช้งานอยู่เป็นประจำ

ประกันรถยนต์ชั้น 3

ประกันรถยนต์ชั้น 3 เป็นประกันรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อชีวิตและร่างกายของคู่กรณี รวมถึงทรัพย์สินของบุคคลภายนอกหรือคู่กรณีที่ได้รับความเสียหาย โดยไม่ครอบคลุมกรณีรถยนต์สูญหาย ไฟไหม้ หรืออุบัติภัยทางธรรมชาติอื่น ๆ เช่น คุ้มครองค่าซ่อมรถให้คู่กรณีเพื่อชดเชยค่าเสียหาย แต่ไม่สามารถเคลมค่าซ่อมรถให้รถของตนเองได้ เป็นแบบประกันที่มีเบี้ยประกันราคาถูกที่สุด เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ค่อยได้ใช้รถในชีวิตประจำวัน 

ต่อประกันรถยนต์

ต่ออายุประกันรถยนต์ต้องทำอย่างไร มีเคล็ดลับอะไรบ้าง

โดยปกติแล้วบริษัทประกันรถยนต์จะแจ้งเตือนให้คุณทราบล่วงหน้าว่าใกล้จะครบกำหนดการต่อประกันรถยนต์ รวมถึงนำเสนอโปรโมชันให้คุณเลือกแบบประกันที่ให้ความคุ้มครองที่คุ้มค่ามากที่สุด ทางที่ดีคุณควรต่ออายุประกันภัยรถยนต์ภายในระยะเวลา 3 - 6 เดือน ก่อนที่สัญญาประกันจะสิ้นสุดลง ขั้นตอนการต่ออายุประกันรถและวิธีหรือเคล็ดลับในการต่อประกันมีรายละเอียดดังนี้

ขั้นตอนการต่อประกันรถยนต์มีดังต่อไปนี้

  • ติดต่อบริษัทประกันรถยนต์ที่คุณเลือกไว้ หรือมองหาโบรกเกอร์ที่คุณสนใจ ตลอดจนค้นหาข้อมูลการต่อประกันรถยนต์ออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ เพื่อเลือกแบบประกันที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณ
  • แจ้งรายละเอียดข้อมูลของรถยนต์ของคุณพร้อมทั้งยื่นเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้บริษัทประกันตรวจสอบเอกสารและยื่นต่ออายุประกันภัยรถยนต์ต่อไป
  • ชำระเงินค่าเบี้ยประกันรถยนต์ตามที่ได้ทำสัญญาเอาไว้
  • รับเล่มเอกสารสัญญากรมธรรม์ ตรวจสอบความถูกต้องให้เรียบร้อยเป็นอันต่อประกันสำเร็จ

ต่ออายุประกันภัยรถยนต์ล่วงหน้ามีประโยชน์มากมาย ดังนี้

  • ประกันรถยนต์ได้รับความคุ้มครองอย่างต่อเนื่อง
  • สามารถวางแผนการเงินล่วงหน้าเพื่อชำระเบี้ยประกัน
  • มีเวลาในการพิจารณาเลือกบริษัทประกันที่ให้ความคุ้มครองที่คุ้มค่ามากที่สุด
  • สามารถต่อภาษีรถยนต์ล่วงหน้าได้
  • สามารถวางแผนตารางเวลาเพื่อต่อประกันรถยนต์โดยไม่ทำให้ยุ่งยากในการเดินทางในเวลาเร่งด่วน

ไขทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับประกันรถยนต์

ประกันรถยนต์เป็นสิ่งจำเป็นที่รถทุกคันควรจะมี และเพื่อความปลอดภัยให้ความคุ้มครองใช้งานได้ต่อเนื่อง คุณจึงควรไม่พลาดที่จะชำระเบี้ยประกันรถยนต์ให้ตรงตามเวลา และต่อประกันล่วงหน้าอย่างน้อย 1 เดือน เพื่อรักษาสิทธิประโยชน์ในการทำประกันเอาไว้ โดยคำถามข้อสงสัยที่ควรรู้มีดังนี้

ทำประกันรถยนต์ต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง

สำเนาบัตรประชาชนของเจ้าของรถหรือผู้ถือครองรถคันดังกล่าว, สำเนาใบขับขี่ของผู้อำดำเนินการต่อประกันภัยรถยนต์,สำเนาหนังสือการจดทะเบียนรถยนต์ และสำเนากรมธรรม์ประกันรถยนต์ฉบับปัจจุบันที่กำลังจะหมดอายุ หรือใบเตือนการต่ออายุที่ได้จากบริษัทประกันภัย

ประกันรถยนต์สามารถทำออนไลน์ได้ไหม

คุณสามารถทำประกันรถยนต์ออนไลน์ได้ผ่านแผลตฟอร์มยอดนิยม เช่น SILKSPAN ที่ให้บริการเรื่องประกันออนไลน์ โดยกรอกข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับตัวรถยนต์บนเว็บไซต์และตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้องพร้อมแนบเอกสารเพิ่มเติม เพียงเท่านี้คุณก็สามารถทำประกันรถยนต์ผ่านระบบออนไลน์ได้อย่างรวดเร็ว และยังได้รับความคุ้มครองในทันที

ต้องชำระเงินค่าต่อประกันอย่างไร

การชำระเงินค่าต่อประกันรถยนต์สามารถทำได้ง่าย สะดวกและรวดเร็ว เพียงคุณมีโทรศัพท์มือถือเพียงเครื่องเดียว ก็สามารถจ่ายผ่านโทรศัพท์ได้ หรือใช้อินเทอร์เน็ตเข้าเว็บไซต์เพื่อชำระเงินผ่านการตัดบัตรเครดิต ทั้งนี้ยังสามารถชำระเงินผ่านช่องทางอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับความสะดวกของผู้เอาประกัน และนโยบายของบริษัทประกันภัย

ต่อประกันรถยนต์แล้วอยากยกเลิกต้องทำอย่างไร

คุณสามารถยกเลิกการประกันรถยนต์ได้ โดยได้รับเงินคืนเต็มจำนวนหากกรมธรรม์นั้นยังไม่มีผลคุ้มครอง และยังไม่เกิดอุบัติเหตุใด ๆ ที่คุณจะต้องเคลมประกัน โดยจะคืนเงินในช่องทางเดียวกับที่จ่ายค่าเบี้ยประกัน หากคุณชำระด้วยบัตรเครดิต ก็จะคืนเงินกลับไปยังบัตรเครดิต ทั้งนี้มีค่าธรรมเนียมในการยกเลิก 

ต่อประกันรถยนต์ล่วงหน้า 3 เดือน กับ 1 เดือนแตกต่างกันอย่างไร

ต่อประกันรถยนต์ล่วงหน้า 3 เดือน เป็นช่วงเวลาที่กำลังดี ลดความเสี่ยงที่จะลืม และยังมีเวลาในการตัดสินใจเลือกบริษัทประกันภัย ที่ให้ความคุ้มครองที่ตอบโจทย์ความต้องการ บริษัทบางแห่งอาจนำเสนอสิทธิพิเศษในการผ่อนชำระ 0% 3 งวด ส่วนการต่อประกันล่วงหน้า 1 เดือน เป็นช่วงเวลาที่ทุกคนให้ความนิยมมากที่สุด ส่วนใหญ่จะหาข้อมูลเพื่อพิจารณาบริษัทประกันช่วงใกล้จะหมดประกัน  แต่อาจจะทำให้เสียเวลาในการหาข้อมูลหากคุณไม่มีบริษัทในดวงใจ

สรุปทำประกันรถยนต์สำคัญอย่างไร เลือกอย่างไรให้เหมาะสม

ประกันภัยรถยนต์มีหลากหลายรูปแบบ การเลือกประกันรถยนต์แต่ละครั้ง ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการในการตัดสินใจเลือกแบบประกันให้เหมาะกับตนเอง เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองที่คุ้มค่าคุณควรพิจารณาความคุ้มครองตามลักษณะการใช้งานของรถยนต์ให้ตอบโจทย์ความต้องการ การมองหาแพลตฟอร์มที่ช่วยค้นหาข้อมูลด้านการประกันรถยนต์ที่มีประสิทธิภาพ จะช่วยทำให้คุณประหยัดเวลา และงบประมาณในการค้นหาบริษัทประกันรถยนต์ได้

SILKSPAN คือผู้เชี่ยวชาญด้านการเปรียบเทียบข้อมูลบริษัทประกันรถยนต์ นำเสนอราคาและความคุ้มครองที่คุ้มค่า สะดวก รวดเร็ว มีความน่าเชื่อถือ ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามาแล้วกว่า 2 ล้านราย คุณสามารถซื้อประกันรถยนต์ผ่านระบบออนไลน์ ที่มีบริการแจ้งเตือนต่ออายุประกันรถยนต์ พร้อมรับสิทธิพิเศษผ่อน 0% นาน 10 เดือน และรับส่วนลด 500 บาทเมื่อต่อประกันล่วงหน้า ไม่มีบัตรเครดิตก็ผ่อนได้ พร้อมให้คำปรึกษาฟรี สนใจติดต่อได้ที่ โทร. 02 392 5500, LINE : @SILKSPAN หรือเว็บไซต์ SILKSPAN

"สบายใจได้ ไม่ต้องเป็นห่วงอีกต่อไปว่าจะลืมต่อประกัน" SILKSPAN ขอแนะนำบริการแจ้งเตือนต่อประกันรถยนต์ผ่าน LINE ไม่มีสายโทรกวนใจ ไม่มีค่าใช้จ่าย สมัครเลยที่นี่ https : // www. silkspan.com/online/insurance-alert

244
บ้านเดี่ยวพระราม 9 รวมทุกโครงการบ้านพระราม 9 เด่นๆประจำปี

บ้านเดี่ยวพระราม 9 หนึ่งในบ้านยอดนิยมของคนรุ่นใหม่ ด้วยทำเลที่ตั้งย่านพระราม 9 ที่ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วนตั้งแต่ห้างสรรพสินค้า สถานศึกษาตลอดจนโรงพยาบาลคุณภาพเยี่ยมมากมาย นอกจากนี้ยังรายล้อมไปด้วยบริษัทชั้นนำหลายแห่ง เหมาะสำหรับคนในหลากหลายช่วงวัยไม่ว่าจะเป็นวัยเรียนหรือวัยทำงาน ด้วยความที่ตั้งอยู่ใจกลางแหล่งเศรษฐกิจสำคัญทำให้ย่านพระราม 9 นี้เป็นย่านที่ครึกครื้นตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน มีสถานบันเทิงและสถานที่สำหรับพักผ่อนหย่อนใจมากมาย รวมไปถึงการเดินทางที่สะดวกไม่ว่าจะด้วยรถยนต์ส่วนตัว รถสาธารณะหรือรถไฟฟ้า

บ้านเดี่ยวพระราม 9

บ้านเดี่ยวพระราม 9 พร้อมตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ด้วยโครงการที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วนทั้งภายในและภายนอกตัวบ้าน ด้วยการออกแบบสไตล์โมเดิร์นเหมาะกับคนรุ่นใหม่ทั้งด้านความสวยงามและการพักผ่อนหย่อนใจ และทำเลที่ตั้งของบ้านเดี่ยวพระราม 9 ที่อยู่ใจกลางแหล่งเศรษฐกิจทำให้คุณสามารถเดินทางท่องเที่ยวหรือไปทำงานก็ง่ายยิ่งกว่าทำเลไหนๆ เพราะรายล้อมไปด้วยสถานที่ให้ความบันเทิงและบริษัทชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ ไม่ต้องเสียเวลาไปกับการเดินทาง ช่วยให้คุณได้ใช้เวลาทำกิจกรรมอื่นๆที่สนใจตามไลฟ์สไตล์ของคุณเอง และได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ในพื้นที่ใจกลางเมือง

ความโดนเด่นของย่านบ้านเดี่ยวพระราม 9

บ้านเดี่ยวพระราม 9 มีจุดเด่นหลายด้านที่ทำให้คนรุ่นใหม่ชื่นชอบ นอกเหนือจากสไตล์บ้านที่สวยงามและเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนในปัจจุบันแล้ว บ้านเดี่ยวพระราม 9 ยังมีปัจจัยด้านทำเลที่ดีเยี่ยมในหลายๆด้านอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางหรือสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆบริเวณโดยรอบ

การเดินทางรอบโครงการบ้านเดี่ยวพระราม 9

การเดินทางรอบโครงการบ้านเดี่ยวพระราม 9 นั้นสะดวกมาก ไม่ว่าคุณจะเป็นคนที่ชอบเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว หรือชอบโดยทางด้วยรถโดยสารสาธารณะก็เดินทางได้ง่าย เพราะบริเวณโดยรอบมีถนนเส้นสำคัญหลายสายเชื่อมถึงกับถนนเส้นหลักอย่างถนนพระราม9 และยังมีทางพิเศษอีกหลายเส้นทางให้คุณได้เลือกใช้ นอกจากนี้บ้านเดี่ยวพระราม 9 ยังตั้งอยู่ในทำเลที่ขนส่งสาธารณะหลายรูปแบบเข้าถึงทั้งรถสาธารณะต่างๆตลอดจนรถไฟฟ้า

  • การเดินทางด้วยรถยนต์: ถนนสายพระราม9 เชื่อมต่อถนนหลายสาย เช่น ถนนรัชดาภิเษก ถนนวัฒนธรรม ทำให้การเดินทางจากบ้านเดี่ยวพระราม 9 ไปยังสถานที่ต่างๆทำได้ง่ายมาก รวมไปถึงมีทางด่วนพิเศษเส้นสำคัญถึง 2 สายใกล้เคียงเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกอีกด้วย
  • การเดินทางโดยรถสาธารณะ: บ้านเดี่ยวพระราม 9 โดยมากตั้งอยู่ในโครงการบ้านเดี่ยวพระราม 9 ที่มีรถสาธารณะหลายสายขับผ่าน ตัวอย่างเช่น รถเมล์สาย 73, 168, 555 และยังมีรถตู้หรือรถสองแถวอื่นๆอีกตามเส้นทาง ดังนั้นการเดินทางโดยรถสาธารณะจากบ้านเดี่ยวพระราม 9 จึงไม่ต้องกังวลเลย
  • การเดินทางด้วยรถไฟฟ้า: การเดินทางจากบ้านเดี่ยวพระราม 9 ไปสถานที่อื่นๆด้วยรถไฟฟ้าสามารถทำได้หลายรูปแบบ คือการใช้รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สายสีน้ำเงินหรือรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สายสีแดงอ่อน โดยมีหลายสถานีที่ใกล้เคียง ทั้งนี้คุณอาจเลือกดูจากทำเลบ้านเดี่ยวพระราม 9 ของคุณก่อนว่าใกล้สถานีไหนมากกว่าเพื่อความสะดวกในการเดินทาง

สิ่งอำนวยความสะดวกรอบบ้านเดี่ยวพระราม 9
 
สิ่งอำนวยความสะดวกรอบบ้านเดี่ยวพระราม 9 มีหลากหลายมากและครอบคลุมทุกความต้องการตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต เพราะรายล้อมไปด้วยห้างสรรพสินค้าชั้นนำมามาย นอกจากนี้บ้านเดี่ยวพระราม 9 ยังมีโรงเรียนและโรงพยาบาลใกล้เคียงที่เดินทางไปได้สะดวกและใช้เวลาน้อย อีกทั้งยังมีสถานบันเทิงหรือพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมต่างๆให้คุณเลือกได้เองอีกมากมาย จึงทำให้บ้านเดี่ยวพระราม 9 เป็นอีกหนึ่งบ้านที่ตอบโจทย์ด้านสิ่งอำนวยความสะดวกได้ดีมากที่สุดแห่งหนึ่ง

  • ห้างสรรพสินค้ารอบบ้านเดี่ยวพระราม 9 : บริเวณรอบบ้านเดี่ยวพระราม 9 มีห้างสรรพสินค้าและคอมมูนิตี้มอลล์ชั้นนำหลายแห่ง ตัวอย่างเช่น เซ็นทรัลพระราม 9, เอสพลานาด หรือห้างฟอร์จูนเป็นต้น และยังมีตลาดกลางคืนหลายแห่งให้เลือกไปเดินจับจ่ายซื้อของกันได้อย่างเต็มที่ เรียกได้ว่าครึกครื้นอยู่เสมอทั้งช่วงกลางวันและกลางคืน
  • สถานศึกษารอบบ้านเดี่ยวพระราม 9 : บ้านเดี่ยวพระราม 9 ตั้งอยู่ในบริเวณที่มีสถานศึกษาชื่อดังหลายแห่งทั้งโรงเรียนและมหาวิทยาลัย ตัวอย่างเช่น โรงเรียนเตรียมอุดมน้อมเกล้า, โรงเรียนบดินทร์เดชา และ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ และยังเดินทางเข้าสู่โรงเรียนและมหาลัยชื่อดังอื่นๆใจกลางกรงเทพได้ง่ายมาก จึงเหมาะสำหรับตั้งแต่ช่วงวัยเด็กไปจนถึงก่อนวัยทำงาน สำหรับผู้ปกครองที่ต้องการตั้งถิ่นฐานสำหรับบุตรหลาน บ้านเดี่ยวพระราม 9 ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ตอบโจทย์ได้อย่างครบถ้วน
  • โรงพยาบาลรอบบ้านเดี่ยวพระราม 9 : รอบๆบ้านเดี่ยวพระราม 9 มีโรงพยาบาลชั้นนำพร้อมให้บริการมามาย เช่น โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ หรือ โรงพยาบาลพระราม 9 เป็นต้น ดังนั้น คุณไม่ต้องกังวลเรื่องสุขภาพและการไปรักษาที่โรงพยาบาลเลยเมื่อเลือกซื้อบ้านเดี่ยวพระราม 9 เพราะเดินทางง่าย สะดวก และใกล้บ้านเป็นที่สุด

บ้านเดี่ยวพระราม 9 ราคา

บ้านเดี่ยวพระราม 9 มีหลายราคาให้คุณเลือก โดยจะแตกต่างกันไปตามทำเลที่ตั้งของบ้านเดี่ยวพระราม 9 ในโครงการนั้นๆ ลักษณะและขนาดของบ้าน ซึ่งบ้านเดี่ยวพระราม 9 ในแต่ละโครงการก็จะมีจุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์น่าสนใจแตกต่างกันไป เหมาะกับไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกัน ดังนั้นคุณสามารถเลือกบ้านเดี่ยวพระราม 9 ที่เหมาะกับคุณมากที่สุดได้เลย โดยเราขอยกตัวอย่างโครงการบ้านพระราม 9 ยอดนิยม 2 โครงการนี้

บ้านเดี่ยวพระราม 9 ราคา

บ้านเดี่ยวพระราม 9 แนะนำ

เวนิว ไอดี มอเตอร์เวย์ - พระราม 9

บ้านเดี่ยวพระราม 9 ในโครงการเวนิว ไอดี มอเตอร์เวย์ - พระราม 9 บ้านแห่งความสุขที่ออกแบบโดยคำนึงถึงทุกประสบการณ์การใช้งานภายในตัวบ้าน โดยได้แรงบันดาลใจมาจากการออกแบบในประเทศนอร์เวย์ มีพื้นที่สาธารณะให้ใชงานมากมาย และมีพื้นที่สีเขียวที่ร่มรื่นน่าอยู่อาศัย บ้านเดี่ยวพระราม 9 ในโครงการนี้ตั้งอยู่ติดถนนเส้นหลักและมอเตอร์เวย์จึงเดินทางสะดวก ด้วยขนาดบ้านที่เหมาะกับครอบครัวทั้งขนาดกลางและขนาดใหญ่ทำให้บ้านเดี่ยวพระราม 9 โครงการนี้เป็นที่นิยมอย่างมากในราคาเริ่มต้นเพียง 10 ล้านบาท

แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด อีสต์ พระราม 9

บ้านเดี่ยวพระราม 9 ในโครงการแกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด อีสต์ พระราม 9 บ้านแห่งการพักผ่อนอย่างสุนทรีย์ ออกแบบโดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากสถาปัตยกรรมโรมันและคำนึงถึงการใช้งานในทุกพื้นที่ให้เหมาะแก่การพักผ่อนมากที่สุด ด้วยโครงสร้างบ้านหรู 3 ชั้น ทำให้เหมาะมากสำหรับครอบครัวขนาดใหญ่ที่ต้องการประสบการณ์การพักผ่อนที่หาไม่ได้ที่ไหน ในราคาเริ่มต้นที่ 60 ล้านบาท

สรุป

สรุปแล้วบ้านเดี่ยวพระราม 9 เป็นบ้านในฝันของคนรุ่นใหม่หลายๆคนก็เพราะทำเลที่ตั้งที่อยู่ใจกลางพื้นที่เข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆได้ง่าย และยังใกล้ชิดสถานบันเทิงหรือสถานที่ทำกิจกรรมอื่นๆอีก นอกจากนี้ยังอยู่ใกล้บริษัทชั้นนำมากมายจึงเหมาะมากสำหรับคนวัยทำงานที่ต้องการเดินทางไปทำงานได้สะดวกแต่ยังมีที่พักผ่อนหย่อนใจที่สบาย บ้านเดี่ยวพระราม 9 ยังแวดล้อมไปด้วยสถานศึกษาชื่อดังหลายแห่ง จึงเหมาะสำหรับครอบครัวที่มีบุตรหลานหรือบ้านที่กำลังวางแผนจะมีบุตรในอนาคต

นอกจากนี้บ้านเดี่ยวพระราม 9 ยังเดินทางสะดวกในทุกรูปแบบทั้งรถยนต์ส่วนตัว รถสาธารณะหรือรถไฟฟ้า ทำให้ไม่ว่าจะเข้าเมืองหรือออกต่างจังหวัดก็ทำได้ไม่ยาก สำหรับคนรุ่นใหม่ที่ต้องการประหยัดเวลาในการเดินทางเพื่อทำกิจกรรมอื่นๆในชีวิตแล้วจึงเป็นหนึ่งในบ้านที่ตอบโจทย์ได้ดีมาก ทั้งนี้บ้านเดี่ยวพระราม 9 มีหลายโครงการให้คุณเลือกซึ่งแตกต่างกันไปตามไลฟ์สไตล์และราคา แต่คุณสามารถหาบ้านเดี่ยวพระราม 9 ในโครงการดีทำเลเด่นได้ไม่ยาก

245
คุณแม่ที่ได้รับการฝากครรภ์

คุณแม่มือใหม่หลายคนคงจะสงสัยว่าทำไมต้องฝากครรภ์ในทันทีที่รู้ว่าตั้งครรภ์ และคำถามต่าง ๆ ที่จะตามมาก็คือ ฝากครรภ์ที่ไหนดี โรงพยาบาลรัฐหรือเอกชน มีประโยชน์อย่างไร ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง ครั้งแรกหมอตรวจอะไร ไปฝากครรภ์ถามอะไรคุณหมอได้บ้าง และอีกนานาสารพันที่อยู่ในหัวของว่าที่คุณพ่อและคุณแม่มือใหม่ เราไปหาคำตอบกันเลย

ฝากครรภ์ คืออะไร

ฝากครรภ์ (Prenatal care) คือ การดูแลการตั้งครรภ์ของแม่และทารกในครรภ์ ทั้งทางด้านร่างกาย อารมณ์ และสังคม ตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์จนถึงก่อนคลอด เพื่อเฝ้าระวังติดตามความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นขณะตั้งครรภ์ รวมทั้งให้ความรู้และคำแนะนำเกี่ยวกับการปฏิบัติตนขณะตั้งครรภ์ โดยแพทย์จะตรวจติดตามเกี่ยวกับสุขภาพของแม่และทารกตลอดการตั้งครรภ์

ฝากครรภ์พิเศษ คืออะไร

เมื่อรู้ว่าตั้งครรภ์แม่ควรรีบไปฝากครรภ์ให้เร็วที่สุด เพราะการฝากครรภ์จะทำให้แม่ และทารกในครรภ์ปลอดภัยมากขึ้น เราพอจะทราบกันแล้วว่าการฝากครรภ์นั้นมีด้วยกัน 2 แบบคือฝากครรภ์ทั่วไป และฝากครรภ์พิเศษ ในหัวข้อนี้เราจะมาพูดถึงการฝากครรภ์พิเศษว่าคืออะไร ไปดูกันเลย

ฝากครรภ์พิเศษ คือคุณแม่สามารถเลือกแพทย์ได้ด้วยตัวเองฝากครรภ์ไว้กับแพทย์ท่านนั้นๆ ตลอดไปจนถึงการทำคลอดด้วย ซึ่งมักเป็นการฝากครรภ์ในโรงพยาบาลเอกชน หรือคลินิกฝากครรภ์ โดยคุณแม่ตั้งครรภ์ต้องการระบุแพทย์เจ้าของไข้ที่แน่นอน เพราะฉะนั้นการฝากครรภ์ในโรงพยาบาลเอกชนจึงเป็นการฝากครรภ์แบบพิเศษโดยอัตโนมัติ เหมือนกับมีสูตินรีแพทย์ประจำตัวคอยดูแลครรภ์ไปจนถึงคลอดเลย
 
ส่วนการฝากครรภ์ธรรมดา เป็นการฝากครรภ์ที่พบแพทย์ทั่วไป และพยาบาลดูแลคุณแม่เท่านั้น การมาตรวจแต่ละครั้งอาจเป็นแพทย์เวร หรืออาจจะพบแพทย์คนเดิมหรือไม่ก็เป็นได้ รวมถึงขณะคลอดด้วยเช่นกัน

ประโยชน์ของการฝากครรภ์

แพทย์ที่รับฝากครภ์กำลังตรวจสุขภาพ

เมื่อทราบข่าวดีว่าตนเองกำลังตั้งครรภ์แล้ว ภารกิจต่อไปที่จำเป็นต้องทำของทั้งคุณพ่อและคุณแม่ ก็คือการไปฝากครรภ์กับสูตินรีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อความปลอดภัยของคุณแม่และหัวใจดวงน้อย ๆ ในครรภ์ ในหัวข้อนี้ เรามาดูประโยชน์ของการฝากครรภ์ ที่ทั้งคุณแม่และทารกจะได้รับ มาฝาก ดังต่อไปนี้คือ
 
เพื่อส่งเสริมสุขภาพร่างกายและจิตใจ 

เพื่อหวังให้คุณแม่มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงทั้งทางกายและทางใจ แพทย์จะให้คำแนะนำเกี่ยวกับข้อควรปฏิบัติในระหว่างการตั้งครรภ์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหารการกิน การออกกำลังกาย การปฏิบัติตน และอื่น ๆ ที่อาจจะเป็นปัญหาในระหว่างตั้งครรภ์ และควรให้คนในครอบครัวรับทราบด้วย

เพื่อตรวจสอบดูว่าการตั้งครรภ์ปกติหรือไม่ 

แพทย์จะช่วยวินิจฉัยเกี่ยวกับโรคบางอย่างที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างตั้งครรภ์ ที่จะเป็นอันตรายต่อคุณแม่และทารกในครรภ์ได้ เช่น ครรภ์เป็นพิษ  ซิฟิลิส  และติดเชื้อเอดส์  เบาหวานขณะตั้งครรภ์  โรคโลหิตจาง รกเกาะต่ำ ทารกโตช้าในครรภ์ น้ำคร่ำน้อย ฯลฯ ถ้าผิดปกติจะได้ป้องกันแก้ไขได้ทันท่วงที

ช่วยป้องกันอันตรายกับทารกในครรภ์ 

การฝากครรภ์ช่วยลดอัตราการแท้งบุตร การคลอดลูกก่อนกำหนด ลูกเสียชีวิตในท้อง หรือคลอดลูกแล้วเสียชีวิตได้มาก และยังช่วยป้องกันการอักเสบติดเชื้อในตัวทารกได้อีกด้วย

ช่วยป้องกันหรือลดอาการแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นในระหว่างการตั้งครรภ์

เพื่อให้การตั้งครรภ์เป็นปกติและคลอดลูกได้ตามปกติมากที่สุด ถ้าหากมีโรคแทรกซ้อนแพทย์จะช่วยให้เกิดอันตรายน้อยที่สุด ติดเชื้อน้อยที่สุด หรือเสียเลือดน้อยที่สุด เป็นต้น

ช่วยดูแลทารกในครรภ์ 

ทำให้ทารกในครรภ์เติบโตสมบูรณ์ แข็งแรง และมีน้ำหนักตัวที่เหมาะสม

รับวัคซีนและยาบำรุงเป็นประจำ

ช่วยดูแลคุณแม่และทารกในครรภ์ให้ได้รับวัคซีนและยาบำรุงที่จำเป็นต่อพัฒนาการของทารกในแต่ละช่วงเดือน

เมื่อทราบถึงประโยชน์อย่างนี้แล้ว หากรู้ว่าตนเองเริ่มตั้งครรภ์ ควรรีบมาฝากครรภ์กันเถอะ

ควรฝากครรภ์ครั้งแรกตอนไหน อายุครรภ์กี่เดือน

การฝากครรภ์ครั้งแรกควรทำ “ทันที” ที่รู้ว่าตนเองกำลังตั้งครรภ์ โดยไม่จำเป็นต้องรอให้ครบ 1- 2 เดือน เพื่อความปลอดภัยของคุณแม่และทารกในครรภ์  เพราะตลอดช่วงเวลาที่ตั้งครรภ์คือช่วงที่สำคัญมาก หากฝากครรภ์ได้เร็วเท่าไร ก็จะได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมจากแพทย์ได้เร็วขึ้นเท่านั้น

นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยในกระบวนการตั้งครรภ์ได้อีกด้วย เพราะในการฝากครรภ์ครั้งแรก แพทย์จะทำการตรวจยืนยันการตั้งครรภ์ และคัดกรองความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ ทำให้คุณแม่ได้ดูแลตัวเองและทารกในครรภ์ให้แข็งแรงสุขภาพดีที่สุด

การเตรียมตัวฝากครรภ์ครั้งแรก

สำหรับคุณแม่ป้ายแดงที่กำลังจะมีลูกน้อยคนแรก อาจจะมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการเตรียมตัวการฝากครรภ์ครั้งแรก ต้องเตรียมตัวอย่างไร  มาดูคำตอบกันเลยก่อนไปฝากครรภ์ คุณแม่ต้องเตรียมตัวเองและสิ่งต่อไปนี้ให้พร้อม

  • เตรียมข้อมูลประวัติส่วนตัวของคุณแม่ด้านสุขภาพ ประวัติการเจ็บป่วย โรคประจำตัว อาการแพ้ท้อง การฉีดวัคซีน การใช้ยา การแพ้ยา อุบัติเหตุที่เคยได้รับ การผ่าตัด และประวัติความเสี่ยงต่อโรคทางพันธุกรรมเป็นต้น
  • เขียนคำถามหรือข้อสงสัยที่คุณแม่ต้องการทราบ และถามแพทย์ให้เข้าใจอย่างละเอียด เช่น อาหารการกิน การออกกำลังกาย ยาที่รับประทานเป็นประจำมีผลต่อทารกหรือไม่ สิ่งควรระวังและหลีกเลี่ยง และต้องดูแลตัวเองอย่างไร เป็นต้น

เอกสารฝากครรภ์ มีอะไรบ้าง

สำหรับการไปฝากครรภ์ครั้งแรกนั้น คุณแม่จำเป็นต้องเตรียมเอกสารดังต่อไปนี้ติดตัวไปด้วย

  • บัตรประชาชนของคุณแม่ เพื่อทำประวัติการฝากครรภ์ที่โรงพยาบาล และมีของคุณพ่อติดไปด้วยก็จะดี
  • ข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพของคุณแม่ เช่นประวัติการเจ็บป่วยและการรักษา การแพ้ยา การคลอดบุตร และข้อมูลโรคประจำตัว
  • ข้อมูลการมีรอบเดือนครั้งสุดท้าย โดยนับจากวันแรกของการมีประจำเดือนครั้งสุดท้าย

ขั้นตอนการฝากครรภ์

แพทย์กำลังให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการฝากครรภ์

สำหรับขั้นตอนการฝากครรภ์จะไม่มีขั้นตอนที่ยุ่งยากมากนัก โดยแพทย์จะทำการซักประวัติและทำการตรวจเพิ่มเติม ในหัวข้อนี้จะนำขั้นตอนการฝากครรภ์ มาอธิบายให้คุณแม่มือใหม่ได้เข้าใจไปพร้อม ๆ กัน มีรายละเอียด ดังนี้
 
แพทย์จะทำการซักประวัติผู้ป่วยอย่างละเอียด

เกี่ยวกับวันที่มีประจำเดือนครั้งล่าสุด รอบเดือนมาสม่ำเสมอหรือไม่ การใช้ยาหรืออาหารเสริม การแพ้ยา โรคประจำตัว ประวัติการป่วยของสมาชิกภายในครอบครัว โรคทางอายุรกรรม เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน ความดันโลหิต รวมถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น ดื่มแอลกอฮอล์หรือสูบบุหรี่หรือไม่

ตรวจร่างกาย แพทย์จะทำการตรวจร่างกายคุณแม่อย่างละเอียด

ตรวจวัดสัญญาณชีพจร วัดความดันโลหิตดูการบวมตามร่างกาย ตรวจปริมาณน้ำตาล และโปรตีนในปัสสาวะ เพื่อเช็กปัญหาด้านสุขภาพ รวมถึงอาจมีการตรวจภายในตามข้อบ่งชี้

ตรวจเลือด ในการเข้ารับการฝากครรภ์ครั้งแรก

แพทย์จะตรวจเลือดเพื่อคัดกรองโรคและประเมินความเสี่ยงโรคที่อาจมีผลต่อทารกในครรภ์ เช่น ภาวะโลหิตจาง โรคธาลัสซีเมีย โรคติดเชื้อต่าง ๆ ภูมิคุ้มกันของคุณแม่และกรุ๊ปเลือด หรืออาจจะมีการตรวจเลือดคุณพ่อด้วยก็ได้

ฝากครรภ์ครั้งแรก ตรวจอะไรบ้าง

เมื่อไปฝากครรภ์ครั้งแรก คุณแม่จะต้องได้รับการตรวจร่างกาย และตรวจครรภ์อย่างละเอียด เพื่อแพทย์สามารถวินิจฉัยสุขภาพของคุณแม่ได้ ดังนี้

  • ชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูงจะมีการวัดส่วนสูง ซึ่งเป็นการบอกคร่าว  ๆ ถึงขนาดเชิงกราน ถ้าคุณม่ตัวเล็ก อาจทำให้คลอดเองได้ยาก และคุณแม่ต้องชั่งน้ำหนักทุกครั้ง เพื่อเปรียบเทียบพัฒนาการดูน้ำหนักเพิ่มตามเกณฑ์หรือไม่
  • วัดความดันโลหิต  เกณฑ์ปกติคือจะราว 120/70 มิลลิเมตรปรอท แต่หากวัดค่าได้เกิน 140/90มิลลิเมตรปรอท จะถือว่ามีภาวะความดันโลหิตสูง คุณแม่เสี่ยงต่ออาการครรภ์เป็นพิษได้
  • ตรวจปัสสาวะ เพื่อตรวจดูว่ามีน้ำตาลในปัสสาวะหรือไม่  เพื่อให้แน่ใจว่าคุณแม่ไม่เป็นโรคเบาหวานแทรกซ้อนขณะตั้งครรภ์ และดูว่ามีโปรตีนมั้ย  ถ้ามีไตอาจทำงานผิดปกติได้ มีอาการครรภ์เป็นพิษ หรือการอักเสบในระบบทางเดินปัสสาวะ
  • ตรวจเลือด เพื่อตรวจดูความเข้มข้นของเลือด ส่วนประกอบของเลือด กรุ๊ปเลือด  โรคเลือดธาลัสซีเมีย และตรวจหาโรคติดเชื้ออื่น ๆ
    เช่น หัดเยอรมัน ซิฟิลิส ไวรัสตับอักเสบ และเอดส์ เป็นต้น
  • ตรวจทางหน้าท้องหรือที่เรียกว่าอัลตราซาวด์ เพื่อดูท่าของมารกว่าอยู่ในท่าไหน ประมาณจนาดและน้ำหนักของทารกในครรภ์ เพื่อตรวจให้แน่ใจว่าท่าของทารกไม่เป็นอันตรายต่อทารกเองและตัวคุณแม่
  • ตรวจร่างกายทั่วไป เช่น การตรวจฟังการเต้นของหัวใจ การทำงานของปอด ตรวจฟัน และตรวจเต้านม  เป็นต้น

ฝากครรภ์กี่ครั้ง

แพทย์กำลังนัดตรวจครรภ์หลังจากฝากครรภ์ครั้งแรก

เมื่อทำการฝากครรภ์เรียบร้อยแล้ว แพทย์จะนัดให้มาตรวจครรภ์ โดยแบ่งเป็น 3  ไตรมาส และมีการตรวจที่แตกต่างกันออกไป ดังต่อไปนี้

ไตรมาสแรก (เริ่มตั้งครรภ์ถึง 14 สัปดาห์)

แพทย์จะนัดตรวจทุก 1 เดือน เพื่อตรวจปัสสาวะหรือเลือด เพื่อคัดกรองความผิดปกติทางพันธุกรรม หรือตรวจเลือดวัดสารเตมีบ่งชี้ทารกดาวน์ซิมโดรมและตรวจอัลตราซาวด์ เพื่อกำหนดอายุครรภ์ และคัดกรองความผิดปกติของทารกเบื้องต้น

ไตรมาสที่ 2 (อายุครรภ์ 15-28 สัปดาห์)

แพทย์จะนัดตรวจทุก 1 เดือน เพื่อตรวจเลือด คัดกรองโรคเบาหวานในรายที่มีความเสี่ยงสูง เจาะน้ำคร่ำเพื่อตรวจโครโมโซม  และตรวจอัลตราซาวด์ เพื่อกำหนดเพศ ติดตามพัฒนาการของทารกในครรภ์ และกำหนดตำแหน่งของรกช่วยวินิจฉัยโรครกเกาะต่ำ

ไตรมาสที่ 3 (อายุครรภ์ 29-42 สัปดาห์)

แพทย์จะนัดตรวจทุก 2 สัปดาห์ เพื่อสอนนับลูกดิ้น ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่และบาดทะยัก ตรวจเลือด คัดกรองการติดเชื้อแบคทีเรียสเตรปโตคอคคัสในช่องคลอดหรือกระเพาะปัสสาวะ และตรวจอัลตราซาวด์ เพื่อคำนวณน้ำหนักตัวและสุขภาพของทารกในครรภ์

สมุดฝากครรภ์

สมุดฝากครรภ์ คือสมุดบันทึกสุขภาพแม่และเด็ก  ผู้ตั้งครรภ์ทุกคนจะได้รับสมุดฝากครรภ์ประจำตัว ครั้งแรกที่มาฝากครรภ์คุณหมอผู้ดูแลจะทำการซักประวัติ และตรวจร่างกายของคุณแม่อย่างละเอียด โดยผลการตรวจทุกครั้งจะถูกบันทึกลงในสมุดฝากครรภ์

คุณแม่ควรเก็บสมุดฝากครรภ์ให้ดีและพกติดตัวไปด้วยเสมอ เมื่อต้องเดินทางไกล ๆ หากเกิดภาวะฉุกเฉินจนต้องเข้าโรงพยาบาล คุณหมอจะได้ดูแลรักษาคุณแม่ได้ถูกต้อง ตามข้อมูลที่บันทึกไว้ในสมุด

สมุดฝากครรภ์ จะช่วยให้คุณหมอรู้ข้อมูลของคุณแม่และทารกในครรภ์ สามารถนำมาประกอบการประเมินในแต่ละครั้ง ทำให้ดูแลรักษาได้อย่างถูกต้องนั่นเอง

ฝากครรภ์ที่ไหนดี

เรื่องของการฝากครรภ์สำหรับคุณแม่มือใหม่ คำถามแรกคือไปฝากครรภ์ที่ไหนดีนะ ซึ่งหลักเกณฑ์ในการเลือกสถานที่ไม่ได้กำหนดแน่นอน แต่สามารถพิจารณาตามความเหมาะสม และความสะดวก ได้ดังนี้

  • เลือกสถานที่ใกล้และสะดวกที่สุด อาจจะเป็นโรงพยาบาลที่ใกล้บ้าน หรือใกล้ที่ทำงาน เพราะถ้าหากมีเหตุการณ์ฉุกเฉินเกิดขึ้น จะได้เดินทางไปโรงพยาบาลได้สะดวกและรวดเร็วที่สุด
  • ฝากครรภ์กับสูตินรีแพทย์เฉพาะทาง ที่คุณแม่ไว้ใจ โดยพิจารณาจากประสบการณ์ และประวัติการทำงาน
  • โรงพยาบาลรัฐหรือโรงพยาบาลเอกชน เลือกตามงบประมาณและความสะดวกสบายที่คุณแม่ต้องการได้รับ

หลายคนอาจจะมีคำถามว่า การฝากครรภ์ที่โรงพยาบาล กับที่คลินิก มีความแตกต่างกันอย่างไร การฝากที่คลินิกจะเป็นการฝากพิเศษกับแพทย์ จะช่วยเรื่องความสะดวก รวดเร็ว เวลาคลอดแพทย์จะดูแลเป็นพิเศษ การฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลก็ดูแลเหมือนกัน ขณะคลอดก็จะมีแพทย์เวรเป็นผู้ดูแล แต่ถ้าเป็นการฝากครรภ์พิเศษมักหมายถึงต้องการให้แพทย์ที่เราฝากครรภ์พิเศษเป็นผู้ดูแลทำคลอดให้ ก็ได้เหมือนกัน

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการฝากครรภ์

สำหรับท่านที่กำลังศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับการฝากครรภ์ มักจะมีคำถามที่สงสัยกันบ่อย ๆ ดังต่อไปนี้

ฝากครรภ์ช้าสุดกี่เดือน

เมื่อรู้ว่าตั้งครรภ์ควรเข้ารับการฝากครรภ์ครั้งแรกในช่วงที่อายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ หลังจากนั้นแพทย์จะนัดตรวจครั้งต่อไป โดยแต่ละครั้งจะมีระยะห่างประมาณ 6-8 สัปดาห์ เพื่อตรวจสุขภาพอย่างต่อเนื่อง

ฝากครรภ์คลินิก คลอดโรงพยาบาลได้ไหม

คำตอบคือทำได้ แต่คุณแม่จะต้องนำสมุดบันทึกสุขภาพของแม่และเด็กรวมถึงผลตรวจจากคลินิกไปด้วย เพื่อที่แพทย์จะได้ทราบข้อมูลสุขภาพของแม่และทารกในระหว่างการตั้งครรภ์ สามารถวางแผนแนวทางการดูแลและคลอดบุตรได้อย่างเหมาะสม

ไม่ได้ฝากครรภ์ คลอดได้ไหม

สามารถทำได้ แต่ไม่แนะนำ เพราะการฝากครรภ์ มีความสำคัญในการตั้งครรภ์อันยาวนานถึง 9 เดือน หากไปคลอด โดยที่ไม่เคยได้ตรวจครรภ์เลยสักครั้ง ก็ถือว่ามีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ทั้งกับตัวคุณแม่เอง และทารกในครรภ์ด้วย

ข้อสรุป

คู่สามีภรรยาที่ได้รับการฝากครรภ์แล้ว

การฝากครรภ์ ถือเป็นเรื่องสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่ทั้งมือใหม่และมือเก่าจำเป็นต้องให้ความสำคัญ เพราะกระบวนการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกสถานที่ฝากครรภ์ แพทย์คนดูแล และการบริการครบทั้งกระบวนการ เพื่อนำไปสู่การตั้งครรภ์ที่ราบรื่น รวมทั้งช่วยสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีระหว่างการตั้งครรภ์ของคุณแม่และความปลอดภัยของลูกน้อย

246
Google Trend ดียังไง

การที่โลกของเราตอนนี้เป็นโลกยุคดิจิทัล ทำให้เราสามารถหาข้อมูลต่าง ๆ ได้มากมายจากสื่อหลาย ๆ ประเภทแล้วถ้าข้อมูลไหนเป็นประเด็นร้อน ยอดฮิตตอนนี้ละ เราจะรู้ได้อย่างไร แล้วเราจะสามารถใช้ประโยชน์จากเทรนด์ที่กำลังมาแรงได้อย่างไร วันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับ google trend เครื่องมือฟรีบนเว็บไซต์ google ที่จะทำให้คุณได้รู้จักกับประเด็นที่กำลังมาแรง จากทั่วทุกมุมโลก

แล้ว google trend มีประโยชน์อย่างไร อีกทั้งถ้าคุณได้รู้จักแล้วสามารถต่อยอดไปทำธุรกิจต่าง ๆ จากข้อมูลเทรนด์ที่กำลังฮิตซึ่งอาจจะเป็นเทรนด์ยอดฮิตตลอดปี หรือ ตลอดหลายเดือน ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถแจ้งเกิดได้เลยก็เป็นได้

Google Trend คืออะไร

google trend คือ เครื่องมือชนิดหนึ่งของ google ที่จะทำให้คุณได้รู้จักกับเทรนด์ของโลก ประเด็นต่าง ๆ ที่กำลังพูดถึง ซึ่งสามารถดูได้ทั้งคีย์เวิร์ดและหัวข้อหลัก โดยจะวิเคราะห์ข้อมูลคำค้นหา มาแสดงผลเป็นกราฟ คุณจะสามารถรู้ถึงความนิยมต่าง ๆ ของผู้คน ณ เวลานั้น หรือเทรนด์ระดับโลกเลยก็ว่าได้ สามารถนำมาเปรียบเทียบ แบ่งประเภท กำหนดช่วงเวลาต่าง ๆ ได้อีกด้วยนะ

ซึ่งถ้าคุณสามารถรู้ข้อมูลคีย์เวิร์ด ได้จาก google trend ขนาดนี้แล้วละก็ คุณจะสามารถนำไปต่อย่อเพื่อประโยชน์ทางธุรกิจ คิดคอนเทนต์ หาไอเดียต่าง ๆ เลือกทำเลที่ตั้งร้าน มองหาของที่กำลังเป็นที่นิยมมาขาย ได้เพื่อโอกาสเติบโตในธุรกิจของคุณ เราได้รวบรวมฟีเจอร์ที่น่าสนใจมาให้คุณแล้วด้านล่างบทความนี้เลย

Google Trend ดีต่อการทำการตลาดอย่างไร

google trend วางแผนธุรกิจ

google trends มีประโยชน์อย่างไรกับการตลาด คุณจะสามารถมองหาสิ่งใหม่ ๆ เทรนด์ ต่าง ๆ มากมายของโลก เจ้าของร้านค้า นักการตลาด ยูทูบเบอร์ต่าง ๆ จะสามารถหาประโยชน์จาก google trends ได้ง่าย ๆ หยิบยกคอนเทนต์ คำคนที่ค้นหามากที่สุดในช่วงเวลานั้นมาเก็บไว้เป็นไอเดีย วางแผนต่าง ๆ ได้แบบ Realtime Content เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์ในอนาคต โดยแบ่งให้เข้าใจได้ง่ายเป็น 2 หัวข้อดังนี้

  • เพื่อวางแผนกลยุทธ์ในการยิงแอด คุณจะสามารถวิเคราะห์ทางหาหนทาง การเจาะตลาดบนสื่อ เทรนด์ กระแสโซเชียล ออนไลน์ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น เพื่อพัฒนาธุรกิจของคุณด้วยกลยุทธ์โฆษณา
  • วางแผนการทำ SEO และ Content Marketing กูเกิ้นเทรน จะสามารถทำให้คุณค้นหาคีย์เวิร์ดต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น สามารถทำให้คุณขายคอนเทนต์ และสร้างภาพลักษณ์นำความนิยมดี ๆ มาวิเคราะห์ผลทำการตลาดได้มากยิ่งขึ้น

Google Trend มีประโยชน์ต่อธุรกิจอย่างไรบ้าง ?

google trend มีประโยชน์กับธุรกิจอย่างไรบ้าง จุดเด่นของ trend google search จะช่วยตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่จำเป็นต้องการคำค้นหาเพื่อต่อยอดธุรกิจในโอกาสต่าง ๆ โดยพึ่งพา Realtime Content ที่เป็นเทรนด์ดัง ติดกระแส มาแรง อันดับ 1 ของประเทศและต่างประเทศ ประโยชน์ที่จะมีต่อธุรกิจของคุณด้วย การใช้ google trend มีดังนี้

  • เช็กความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย
  • นำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ เพื่อวางกลยุทธ์ SME และ SEO
  • สร้าง Content ที่มีคุณภาพ และ ตรงความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย
  • เช็กความนิยมของสินค้าและบริการในช่วงเวลานั้นๆ
  • เปรียบเทียบคู่แข่งธุรกิจประเภทเดียวกัน ในเชิงการรับรู้ Brand
  • ใช้เพื่อหาโอกาสทางการตลาด

10 ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ ของ Google Trend

มาดู 10 ฟีเจอร์น่าสนใจของ google trend ที่สามารถดูได้ง่ายไม่ซับซ้อน ว่าจะมีอะไรบ้าง และสามารถใช้ไปในแนวทางไหนได้บ้าง

google trend หาโลเคชั่น

1. ค้นหา Niche Marketing

google trend หาของมาขาย

เราจะสามารถค้นหา Niche Marketing หรือ การตลาดเฉพาะกลุ่มที่สนใจได้ง่าย ๆ เมื่อคุณใช้ google trend ที่เป็นเครื่องค้นหาคำเฉพาะกลุ่มได้ ตั้งแต่ปี 2004 - ปีปัจจุบัน เราจะสามารถดูแนวโน้มการเติบโตการตลาดใยสิ่งที่เราสนใจได้อย่างชัดเจนเพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาธุรกิจของคุณให้ประสบความสำเร็จ

2. ใช้ Google trend หาของมาขาย

วางแผนด้วย google trend

วิธีใช้ google trend หาของมาขายโดยที่คุณจะสามารถสร้างร้านค้าของคุณให้เจาะตลาดกลุ่มคนที่สนใจในหัวข้อนั้น ๆ ด้วย google trend เช่น มาสคาร่าปัดคิ้ว สำหรับคนคิ้วบางโดยเฉพาะ ซึ่งคุณจะสามารถต่อยอดไปขาย แปรงปัดคิ้ว ดินสอเขียนคิ้ว กรรไกรสำหรับเล็มขนคิ้ว ที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ ได้

3. วางแผน Research Keyword

google trend ดูความต้องการลูกค้า

คุณสามารถใช้ google trend เพื่อดูคำค้นหาที่เกี่ยวข้องหรือหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ เพื่อนำไปวางแผนออกแบบ และพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมเกี่ยวข้องกับคำค้นหาได้

4. ดูแนวโน้มความต้องการตามฤดูกาล

ผลิตคอนเทนต์โดย google trend

แนวโน้มความต้องการของลูกค้าสามารถดูได้ด้วย google trend เจาะจงลูกค้าในช่วงเวลานั้น ๆ ได้เราจะสามารถวางแผนความต้องการออกแบบผลิตภัณฑ์ตามฤดูกาล ไม่ว่าจะเป็นฤดูร้อน คนต้องการไปเที่ยวที่ไหน ชุดแบบไหนในฤดูหนาว ฤดูฝนคนจะค้นหาสิ่งไหนมากที่สุด

5. ผลิตคอนเทนต์ที่สดใหม่ ไม่ซ้ำกับคู่แข่ง

คอนเทนต์ที่สอดคล้องด้วย google trend

เมื่อเราวางแผนและดูแนวโน้มต่าง ๆ เสร็จเรียบร้อยด้วย google trend แล้วเราก็จะได้คอนเทนต์ใหม่ ๆ ที่ไม่ซ้ำกับคู่แข่ง เป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้อย่างมากอาจจะเป็นสตอรี่ความเป็นมา หรือเบื้องหลังธุรกิจเพื่อให้ลูกค้าเข้าใจธุรกิจนั้น ๆ ของเรามากยิ่งขึ้น

6. สร้างคอนเทนต์ ที่สอดคล้องกับเทรนด์ในปัจจุบัน

ค้นหาข้อมูลที่น่าสนใจด้วย google trend

ถ้าคุณเห็นหน้าแรกของ google trend จะเห็นเทรนด์ที่เป็นกระแสอยู่ในช่วงนี้ คุณจะสามารถดูและคนหาได้แบบเรียลไทม์เพื่อมาสร้างคอนเทนต์เป็นแนวคิดใหม่ ๆ ให้กับธุรกิจของคุณได้

7. ค้นหา Keyword ที่กำลังเป็นที่สนใจของเฉพาะภูมิภาคนั้นๆ

google trend ดูคู่แข่งทางการตลาด

ค้นหาหัวข้อที่น่าสนใจจาก google trend และเราจะสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายต่าง ๆ เพื่อเจาะตลาดในภูมิภาคนั้น ๆ

8. เปรียบเทียบคู่แข่งในธุรกิจเดียวกัน

ดูความต้องการได้ด้วย google trend

ใช้ google trend ตรวจสอบคู่แข่งเพื่อดูว่าทำงานแนวทางเดียวกันหรือแตกต่างกันอย่างไรกับธุรกิจของคุณ เพื่อวิเคราะห์ปรับปรุงในจุดเด่น จุดด้อย ของคู่แข่งมาปรับใช้ในธุรกิจของเรา

9. ค้นหาแนวโน้มความต้องการ บน Youtube

ค้นหาวันเวลาด้วย google trend โฆษณาในคืนวันศุกร์

เราจะสังเกตคำว่า 1 ในมาแรงได้จาก Youtube คุณก็สามารถนำข้อมูลในส่วนนี้ไปค้นหาได้ด้วย google trend เพื่อหาข้อมูลที่กำลังได้รับความสนใจอย่างรวดเร็วและนำไปปรับใช้กับธุรกิจเพื่อเป็นประโยชน์ในอนาคต

10. กำหนดช่วงเวลาที่ดีที่สุด สำหรับยิงแอด

ถ้าคุณใช้ google trend ค้นหาช่วงเวลา วัน ฤดูกาล เทศกาลต่าง ๆ ได้ดีละก็คุณจะสามารถใช้เพื่อวางแผนกำหนดช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการประชาสัมพันธ์ได้ เช่นวันที่ 2 เดือน 2 หลัง 5 โมงเย็นเป็นต้นไป เพราะคนเลิกงานหาอะไรดูหลังกลับจากที่ทำงาน

Google Trend กับการทำ SEO

google trend กับ SEO

เนื่องจาก google trend เป็นเครื่องมือฟรีนักการตลาดจึงทำมาใช้เพื่อค้นหาแนวทาง คอนเทนต์ ต่าง ๆ เพื่อนำไปสู่การเขียน หาคีย์เวิร์ดแบบเรียลไทม์ โดยวิธีการจะมีอย่างไรบ้างไปดูกันได้เลย

1. วางแผน Keyword สำหรับทำ SEO

หา topics ต่าง ๆ ด้วย google trend เพื่อวางแผนทำคีย์เวิร์ด สามารถทำคอนเทนต์ที่แตกต่างไม่เหมือนใครได้ และสามารถวางแผนไปถึงการสร้างภาพลักษณ์ของธุรกิจเพื่อให้ได้รับความนิยมบนโลกออนไลน์

2. หา Keyword หรือ หัวข้อ ที่เกี่ยวข้อง

เมื่อนัก SEO สามารถหาคีย์เวิร์ด ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจได้แล้ว ยังสามารถวางแผนเพื่อไปทำการโฆษณา ตีตลาดเฉพาะกลุ่มได้จากหัวข้อที่เกี่ยวข้องอีกด้วย

3. หาไอเดียเพื่อผลิตคอนเทนต์

หาไอเดีย แนวคิด ความนิยมเพื่อทำคอนเทนต์ได้แล้วยังสามารถหาทำเลที่ตั้ง ยอดฮิตที่ผู้คนต่างเดินทางผ่านได้อีกด้วย เป็นประโยชน์ให้กับธุรกิจที่กำลังเริ่มต้นใหม่ ๆ ได้ดีเลย

4. ช่วยหา Backlink ที่มีคุณภาพ

นัก SEO สามารถหาเทคนิคและวิธีการทำ Backlink เพื่อให้มีเนื้อหาสร้างสรรค์ได้ด้วย google trend นัก SEO จะผลิตสื่อที่มีคุณภาพได้อย่างแม่นยำและเจาะจงเนื้อหาส่วนต่าง ๆ ได้ด้วยนะ

ข้อสรุป Google Trend

google trend มีประโยชน์อย่างมากทั้งในเชิงธุรกิจ และอุตสาหกรรมออนไลน์ทั้งยูทูบเบอร์ ผู้ผลิตสื่อ คนทำบทความ ก็สามารถใช้ประโยชน์จาก google trend ได้ทั้งนั้นแน่นอนว่า ผู้คนทั่วไปก็สามารถใช้งานได้ด้วยเพราะง่ายอีกทั้งยังฟรี เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยากเริ่มต้นธุรกิจใหม่ ๆ ให้เกิดตามเทรนด์และเป็นกระแส ความนิยม แบบเรียลไทม์ เจาะจงเฉพาะกลุ่มก็ได้ วางแผนประชาสัมพันธ์ก็ดี ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่น่าสนใจมาก ๆ เลยนะ

247
คำว่า Good ads คืออะไรสำหรับเหล่าผู้ที่ทำธุรกิจออนไลน์อาจจะต้องเคยได้ยินมาบางกับคำว่าการโฆษณาบนแพลตฟอร์มต่างๆทางด้านออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นจาก Facebook หรือ twitter ก็ถือว่าเป็นการโฆษณาแบบนึงแต่สำหรับ Google Ads คืออะไรละจะเหมือนกับการโฆษณาบนแพลต์ฟอร์มอื่นๆหรือเปล่า

สำหรับในบทความนี้จะขอทำการกล่าวเกี่ยวกับการทำโฆษณาบนตัว Google Ads และจะมีการอธิบายเกี่ยวกับตัว Google Ads และ google adwords คืออะไรแล้วมีประโยชน์ยังไง

Google Ads

Google Ads คืออะไร

สำหรับตัว Google Ads นั้นมีอีกชื่อที่เรียกว่า Google Adwords แต่ว่าเจ้าตัว Google ads คืออะไรละ สำหรับหัวข้อนี้เราจะทำการอธิบายเกี่ยวกับเจ้าตัว Google Ads หรือตัว Google Adwords คืออะไร

สำหรับตัว Google Ads คือตัวที่ใช้ในการโฆษณาออนไลน์บนเครือข่ายของตัว Google เองและผู้ที่ได้ทำการเปิดให้บริการก็คือตัวเจ้า Google เองนี้ละ ด้วยความที่เจ้าตัว Google นั้นเป็นตัว Search Engine อันดับหนึ่งของโลกเลยก็ว่าได้ ที่ได้มีคนไทยมากกว่า 99 เปอร์เซ็นต์ได้ทำการเข้าใช้เพื่อหาข้อมูลต่างๆ

โดยการให้ค่าบริการนั้นจะเป็นการที่เมื่อมีคนคลิกเข้าไปที่โฆษณากี่ครั้งก็จะให้ค่าบริการตามการที่มีคนกดคลิกเข้าไปนั้นเอง และตัวระบบของทาง Google Ads นั้นยังสามารถทำการระบุกลุ่มเป้าหมายที่คุณต้องการให้เห็นโฆษณาได้อีกด้วย

Google Ads มีรูปแบบไหนบ้าง

สำหรับรูปแบบทางด้านของการทำงานของ Google Ads คือ การทำงานโดยภายใต้การจ่ายค่าบริการต่อจำนวนการคลิก PPT โดยที่นักการตลาดหลายท่านได้ทำการเจาะจงกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการจะให้เห็นโฆษณานั้นๆ โดยจะแบบรูปแบบได้ดังนี้

Cost-per-click (CPC)

Cost per click คือการคิดราคาแบบการกดคลิกเข้าไปดูโฆษณาต่อครั้ง โดยเมื่อผู้ใช้ได้ทำการคลิกไปที่โฆษณาของคุณระบบก็จะทำการคำนวณในการให้ค่าบริการที่มีการกดเข้าไปที่โฆษณานั้น

Cost-per-mille (CPM)

Cost per mille คือ ราคาต้นทุนต่อการแสดงของผลลัพธ์พันครั้ง โดยที่ google จะทำการจ่ายค่าการให้บริการต่อการแสดงโฆษณาบน Google Ads 1,000 ครั้ง

Cost-per-engagement (CPE)

Cost per engagement คือการที่จำนวนเงินที่คุณได้เมื่อมีผู้ใช้ได้ทำการบางอย่างกับโฆษณาของคุณ โดยการสมัครสมาชิก หรือการดูคลิปวิดีโอของโฆษณานั้นเอง

Google Ads ช่วยอะไรธุรกิจได้บ้าง

สำหรับคำถามที่ว่า Google Ads คือตัวที่จะช่วยในทางด้านธุรกิจออนไลน์ได้ยังไง เพราะด้วยความที่ตัว Google Ads นั้นจะทำให้ธุรกิจทางด้านออนไลน์ของคุณสามารถเติบโตบนทางออนไลน์ได้เร็วขึ้น โดยวิธีการที่คุณจะต้องทำการระบุยอดที่คุณอยากได้
 
และทำให้ผู้คนบนสังคมออนไลน์รู้จักเกี่ยวกับแบรนด์ของคุณมากขึ้น โดยการโปรโมทธุรกิจหรือสินค้าใหม่ของคุณทางออนไลน์ต่างๆ หรือบนแพลตฟอร์มที่เหมาะสมในการโฆษณาที่มีคนใช้งานกันมากๆ เพราะงั้นตัว Google Ads ถึงเป็นอีกตัวนึงที่ช่วยในการทำธุรกิจของคุณให้มีคนรู้จักมากขึ้นและทำให้ยอดขายของคุณเพิ่มขึ้นด้วย

Google Ads Campaign ทำอะไรได้บ้าง

สำหรับตัว Google Ads คือแพลตฟอร์มที่นักธุรกิจบนออนไลน์มักจะรู้จักกัน และก็ต้องมีความแตกต่างกันของธุรกิจ ทำให้มีรูปแบบของการตลาดในการทำโฆษณาต่างๆมากมายหลากหลายประเภท แต่ละประเภทก็จะมีความแตกต่างกันไปของแต่ละประเภทของธุรกิจ ก็จะได้แก่

  • Sales
    - การขายโดยการเพิ่มยอดขาย ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มยอดขายบนแอพพลิเคชันต่างๆในโทรศัพท์มือถือ หรือ ทางร้านค้าออนไลน์
  • Leads
    - ส่วนLeads ก็คือการเพิ่มจำนวนของลูกค้าและเป็นการเพิ่มโอกาสในการขายมากขึ้น ในการที่จะดึงดูดลูกค้าเข้ามามากขึ้น นั้นจะทำโดยการที่ให้ลูกค้ามีส่วนร่วมกับโฆษณานั้นเอง
  • Website Traffic
    - Website Traffic นั้นคือการเพิ่มจำนวนของผู้เข้าชมที่มาเข้าชมเว็บโฆษณาด้วยกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการจะเห็นโฆษณาตัวนั้น
  • Product & Brand Consideration
    - Product & Brand Consideration นั้นคือการช่วยให้ผู้คนได้เห็นสินค้าและแบรนด์สินค้าของคุณมากขึ้นและแวดวงในสังคมออนไลน์ก็จะช่วยให้ผู้คนตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
  • Brand Awareness & Reach
    - สำหรับตัว Brand Awareness & Reach นั้นจะเป็นตัวที่จะช่วยให้เพิ่มการมองเห็นของสินค้าหรือแบรนด์ของคุณมากขึ้นและรู้จักกันมากขึ้น
  • App Promotion
    - ในส่วนของตัว App Promotion นั้นจะเป็นการเพิ่มโอกาสการมองเห็นโดยผ่านทางแอพพลิเคชั่นและทำการดาวน์โหลดหรือทำการติดตั้งแอพมากขึ้น
  • Create Campaign Without A Goal’s Guidance
    - สำหรับตัว Create Campaign Without A Goal’s Guidance นั้นจะเป็นการสร้างแคมเปญได้ด้วยตัวเองด้วยการที่คุณสามารถกำหนดได้เองทุกขั้นตอน และยังสามารถให้คุณได้โฆษณาได้อย่างอิสระอีกด้วย

ประเภทโฆษณาของ Google Ads
สำหรับตัว Google Ads คือประเภทของโฆษณาที่มีแคมเปญต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Google Search Campaign, Google Display Campaign, Google Shopping Campaign, Video campaign (Youtube),App campaign และแต่ละตัวก็จะมีความแตกต่างกันดังนี้

1. Google Search Campaign

สำหรับตัว Google Search Campaign นั้นเป็นตัวที่โฆษณาแบบข้อความ โดยการโฆษณาแบบคำหลักสำคัญ เช่น โฆษณาคอมพิวเตอร์

Google Search Campaign

2. Google Display Campaign

Google Display Campaign คือเครือข่าย DisplayบนGoogle ที่มีการใช้ประโยชน์จากเครือข่ายที่เป็นพันธมิตรกับทางเว็บไซต์จำนวนมากของ Google เพื่อทำการโฆษณาบนเว็บไซต์ต่างๆ

Google Display Campaign

3. Google Shopping Campaign
แคมเปญสำหรับช็อปปิ้งนั้นจะช่วยให้คุณสามารถทำ การโปรโมทผลิตภัณฑ์ของคุณได้ในรูปแบบของรูปภาพได้มากขึ้น โดยที่โฆษณาจะทำการปรากฏในแบบรูปภาพ

Google Shopping Campaign

4. Video campaign (Youtube)

สำหรับโฆษณาในรูปแบบวิดีโอนั้นจะเป็นการโฆษณาแบบวิดีโอผ่านทาง Youtube จะเหมาะกับธุรกิจที่ต้องการโปรโมทในรูปแบบของวิดีโอ

Video campaign

5. App campaign

App Campaign นั้นจะเป็นแคมเปญที่จะคล้ายๆกับการโฆษณาวิดีโอ โฆษณาแอพรวมทั้งเครือข่ายของดิสเพลย์ โดยการที่คุณสามารถใช้แคมเปญที่สามารถกำหนดเป้าหมายได้

App campaign

ข้อดี ข้อเสีย ของ Google Ads

สำหรับข้อดีและข้อเสียของ google Ads คือการที่ตัวในการโฆษณานั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสียและมีทั้งที่เกิดผลประโยชน์หรือไม่เกิดผลประโยชน์กับทางธุรกิจออนไลน์เอง

ข้อดีของ Google Ads

ข้อดีของ google ads คือ ระยะเวลาที่คุณดำเนินการที่จะทำโฆษณาออนไลน์นั้น จะไม่ใช้เวลานานไม่ถึงกี่นาที และยังสามารถทำการเลือกคำที่เราต้องการที่มีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณได้ไม่จำกัด และสามารถทำการกำหนดตำแหน่งในการที่เราจะต้องการโฆษณาได้อีกด้วย

ข้อเสียของ Google Ads

สำหรับข้อเสียของ Google Ads คือการที่มีคู่แข่งมากเกินไป และตัวราคาของคีย์เวิร์ดเองนั้นก็ไม่ได้มีความแน่นอน เพราะด้วยความที่มีการแข่งขันที่สูง และยังต้องเสียค่าบริการให้กับทาง Google ทุกครั้งที่มีการกดคลิกเข้าไปด้วย

วิธีการโฆษณาผ่าน Google Ads ฉบับมือใหม่

วิธีการโฆษณาของฉบับมือใหม่ผ่าน Google Ads คือ การที่คุณมี Google ID อยู่แล้วนั้นจะไม่ต้องทำการสมัครไอดีใหม่สามารถทำการข้ามขั้นตอนการสมัครไปได้เลย คุณสามารถทำการเข้าไปที่บัญชีของ Google ของคุณแล้วจะมีคำว่าโฆษณาบนแพลตฟอร์มสามารถกดเข้าไปแล้วใส่ข้อมูลธุรกิจหรือสินค้าของคุณลงไปได้เลย

ทำการสมัคร Google ID เพื่อใช้โฆษณาผ่าน Google Ads

ตัวอย่างเครื่องมือที่เกี่ยวข้องกับ Google Ads

สำหรับตัวอย่างของเครื่องมือที่เป็นพาร์ทเนอร์กับ Google Ads คือการที่ตัว Google นั้นได้มีความเกี่ยวข้องกับ Google Ads ในทางด้านการโฆษณาผ่านทาง Google ไม่ว่าจะเป็นการโฆษณาผ่านทางวีดิโออย่าง Youtube หรือการเป็นพาร์ทเนอร์กับทางเว็บไซต์ต่างๆเพื่อที่จะให้ Google Ads สามารถทำการลงโฆษณาของคุณได้ หรืออย่าง google kw planner เครื่องมือที่ทำการผูกมากับตัวบัญชีของ Google เอง

Google Keyword Planner

ตัว google keyword planner เองนั้นคือตัวที่มีการผูกมากับตัวไอดีของ google เองโดยที่มีหน้าที่สำคัญอยู่ 2 อย่างคือ 1.เป็นเครื่องมือที่เราสามารถใช้คีย์เวิร์ดของคำในการค้นหาได้ 2.การค้นหาคำที่เราไม่เคยค้นหาและการนับความถี่ของคำในการค้นหา

google keyword planner

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Google Ads

สำหรับคำถามที่คนส่วนใหญ่ที่เริ่มใช้ Google Ads คือคำถามที่คนมักจะถามกันก็จะมี คำถามที่ว่าการใช้ google ads นั้นมีราคาที่เท่าไหร่ และตัว google adsense นั้นมีความแตกต่างกับตัว google adwords อย่างไร ในบทความนี้เราได้รวบรวมคำถามมาให้ทุกท่านแล้ว

Google Ads ราคาเท่าไหร่?

การโฆษณาบนออนไลน์อย่าง Google Ads คือการที่มีราคาต่างๆมากมายเริ่มตั้งแต่ 300 บาทต่อวันและราคา 1000 อัพต่อเดือนหรือต่ออาทิตย์อยู่ที่ว่าคุณจะตั้งงบประมาณในการโฆษณาเท่าไร

Google Adsense คืออะไร ต่างจาก Google Adwords อย่างไร?

ตัว Google Adsense นั้นเป็นเหมือนกับการโฆษณาบนแพลตฟอร์ม ถ้าคุณเป็นคนที่ลงโฆษณาหรือเป็นเจ้าของเว็บไซต์การที่ต้องการคนมาดูโฆษณาผ่านทางวิดีโอเยอะจะเป็นการโฆษณาแบบ Google Adsense จะมีความแตกต่างกับ Google Adwords ที่จะเป็นการโฆษณาผ่านทางข้อความหรือการค้นหาของ Google

ข้อสรุป

การโฆษณาบน Google Ads คืออะไรที่สามารถตอบสนองกับธุรกิจหรือแบรนด์ที่ต้องการจะให้คนมาเห็นธุรกิจหรือสินค้าต่างๆ บนทางออนไลน์เยอะๆ และยังถือว่าเป็นโปรแกรมที่มีความใช้ได้ง่ายและสะดวกสบายและยังเพิ่มยอดในการที่คนจะมารู้จักเกี่ยวกับสินค้าหรือธุรกิจของคุณได้ดีอีกด้วย

248
ต้อหิน

ต้อหินเป็นกลุ่มโรคทางตาที่เกิดจากการเสื่อมของขั้วประสาทตา ส่งผลให้เกิดการสูญเสียลานสายตาและการมองเห็น โรคต้อหินเป็นสาเหตุสำคัญของภาวะตาบอดถาวรในประชากรทั่วโลก พบได้ทั้งเพศชายและเพศหญิง ในบทความนี้จะมาให้ความกระจ่างเกี่ยวกับโรคต้อหิน เกิดจากอะไร ใครมีภาวะเสี่ยงที่จะเกิดโรค และเกิดแล้วต้องรักษาอย่างไร  มาดูรายละเอียดกันเลย

ต้อหิน

ต้อหิน (Glaucoma) คือ โรคที่ลูกตามีภาวะความดันลูกตาสูงขึ้นจนทำให้ขั้วประสาทตามีการเสื่อมสภาพจนไปทำลายเส้นประสาทตา ซึ่งขั้วประสาทตานั้นเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นประสาทตาที่ทำการรับและส่งภาพไปสมองเพื่อไปแปลผล การที่เส้นประสาทตาถูกทำลายก็จะส่งผลทำให้การมองเห็นแย่ลงจนถึงขั้นมองอะไรไม่เห็นอย่างถาวร

ต้อหินเกิดจากอะไร

ต้อหิน อาการ

ต้อหิน หรือ Glaucoma เกิดจากความเสื่อมของเส้นประสาทตา หรือประสาทตาถูกทำลาย มีปัจจัยเสี่ยงหลัก ๆ มาจากการที่ความดันลูกตาสูงเกิดการกดทับขั้วประสาทตา จนทำลายประสาทตา หรืออาจเกิดจากโรคบางชนิด เช่นโรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง คนในครอบครัวมีประวัติเป็นโรคต้อหิน และเคยมีอุบัติเหตุเกี่ยวกับดวงตา เป็นต้น หากปล่อยไว้ไม่รักษา อาจทำให้สูญเสียการมองเห็นในที่สุด
 
1. ต้อหินปฐมภูมิ

ต้อหินปฐมภูมิ (Primary glaucoma) แยกเป็น 2 ชนิดใหญ่ ๆ คือ     
         
1. ต้อหิน มุมเปิด (Primary open-angle glaucoma) เป็นต้อหินที่พบบ่อย แบ่งเป็น 2  ประเภท คือ ความดันตาสูง และ ความดันตาปกติ ทั้ง 2 ประเภท จะไม่มีอาการปวดตา หรือตาแดง ผู้ป่วยเองมักจะไม่ทราบว่าเป็นต้อหิน แต่สายตาจะค่อย ๆ มัวลง หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที จะทำให้ตาบอดได้ แต่หากได้รับการรักษาถูกวิธีและรวดเร็วก็จะรักษาสายตาไว้ได้

2. ต้อหิน มุมปิด (Primary angle-closure glaucoma) แบ่งเป็น 2 ชนิด คือ

  • ต้อหินชนิดเฉียบพลัน เกิดจากความดันลูกตาสูงโดยทันที ทำให้ตามัวลงอย่างรวดเร็ว มีอาการปวดตาอย่างรุนแรง ตาแดง ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน อาการนี้จะไม่หายจากการรับประทานยาแก้ปวด ต้องรักษาให้ทันท่วงที ถ้ารักษาช้าจะทำให้ตาบอดได้เร็วขึ้น
  • ต้อหินชนิดเรื้อรัง เกิดจากความดันลูกตาที่ขึ้นช้า ๆ มีอาการปวดตา ปวดศีรษะเล็กน้อยหรืออาจจะไม่ปวดเลย แต่ตาจะค่อย ๆ มองเห็นแคบหรือมัวลงทีละน้อย อาจจะไม่รู้สึกถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น และปล่อยไว้จนประสาทตาเสียไปมาก ค่อยมาพบแพทย์ อาจสายเกินไปที่จะรักษาให้ตากลับมาเห็นได้ดีเหมือนเดิม

2. ต้อหินทุติยภูมิ

ต้อหินทุติยภูมิ (secondary glaucoma) ต้อหินกลุ่มนี้เกิดขึ้นโดยมีสาเหตุจากโรคทางตาอื่น ๆ หรือโรคทางร่างกาย เช่น จากต้อกระจกที่เป็นมาก ม่านตาอักเสบ อุบัติเหตุเกี่ยวกับดวงตา การอักเสบในลูกตา เนื้องอกในตา หรือเบาหวานขึ้นจอตา  เส้นเลือดที่จอประสาทตาอุดตัน หรือหลังการผ่าตัดโรคตาบางอย่าง รวมถึงการใช้ยาหยอดตาพวกสเตียรอยด์เป็นเวลานาน
 
3. ต้อหินโดยกำเนิด

ต้อหินแต่กำเนิด (congenital glaucoma) เป็นต้อหินที่พบในเด็กแรกเกิดจนถึงอายุ 3 ขวบ สาเหตุอาจถ่ายทอดทางพันธุกรรม หรือเกิดจากสาเหตุอื่น เช่น มารดาเป็นหัดเยอรมันระหว่างตั้งครรภ์ อาการของต้อหินชนิดนี้คือเด็กจะมีน้ำตาไหล สู้แสงไม่ค่อยได้ ไม่ยอมลืมตา หรือ กระจกตาดำขาวขุ่น พบได้น้อยแต่อาการมักค่อนข้างรุนแรงและควบคุมโรคได้ยาก หากไม่ได้รับการรักษาตั้งแต่ระยะแรก มักจะตาบอดในที่สุด

ต้อหิน อาการเป็นอย่างไร

โรคต้อหินส่วนใหญ่แล้ว ในระยะเริ่มต้น ผู้ป่วยต้อหิน อาการยังไม่ผิดปกติ  หากมีอาการตามัวหรือการมองเห็นแคบลง แสดงว่าโรคอยู่ในระยะรุนแรงแล้ว การดำเนินของโรคจากเริ่มเป็น จนถึงการสูญเสียการมองเห็น ใช้เวลานานเป็นปี ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ต้อหินที่เกิดจากความเสื่อม ซึ่งไม่มีอาการใด ๆ จนกระทั่งสูญเสียการมองเห็น

ส่วนอาการของโรคต้อหิน เฉียบพลัน ผู้ป่วยจะมีอาการดังนี้

  • อาการปวดตาอย่างรุนแรงและเฉียบพลัน
  • มองดวงไฟจะเห็นแสงสีรุ้งรอบดวงไฟ
  • ตาแดง น้ำตาไหล สู้แสงไม่ได้ ตามัว
  • คลื่นไส้อาเจียน
  • ปวดศีรษะ
  • ความดันตาเพิ่มขึ้นอย่างทันทีทันใด

ผู้ที่เสี่ยงเป็นต้อหิน

โรคต้อหิน

ในที่จริงแล้วโรคต้อหินเป็นโรคที่เกิดได้ทุกเพศทุกวัย โดยมักจะเกิดขึ้นกับผู้สูงอายุเนื่องจากอวัยวะส่วนต่าง ๆ ตามร่างกายรวมถึงเส้นประสาทตาของผู้สูงอายุเกิดการเสื่อมสภาพลง นอกจากนี้ผู้ที่มีสมาชิกในครอบครัวมีประวัติการเป็นต้อหิน หรือผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ไมเกรน ไทรอยด์ เป็นต้น

ต้อหินอันตรายไหม

โรคต้อหินเป็นโรคตาที่พบได้บ่อยไม่เป็นโรคที่อันตรายมากหากทำการรักษาตั้งแต่เริ่มมีอาการ หรือตรวจพบในระยะแรก ๆ แต่จะอันตรายอย่างมากถึงขั้นตาบอดสนิท ถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธี หรือเป็นต้อหิน รักษาไม่สม่ำเสมอ จะทำให้ลานสายตาหรือความกว้างของการมองเห็นแคบเข้า จนกระทั่งตาบอดในที่สุด ไม่ช้าก็เร็ว ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรคในแต่ละบุคคลจะแก้ไขให้กลับคืนมาได้ และในปัจจุบันนี้ยังไม่สามารถรักษาต้อหิน หายขาดได้

รักษาต้อหินหายขาดไหม

เนื่องจากโรคต้อหินเป็นโรคที่เกิดจากการทำลายเส้นประสาทตาอย่างถาวร ยังไม่มีวิธีการใด ๆ ที่จะรักษาต้อหิน หายขาดได้ แต่สามารถป้องกันและควบคุมการสูญเสียการมองเห็นได้  ซึ่งในปัจจุบันการรักษาจะเป็นการประคับประคองเพื่อไม่ให้ประสาทตาถูกทำลายมากขึ้น และเพื่อยืดการมองเห็นที่มีอยู่ให้นานที่สุด โดยการใช้ยาหยอดตา ต้อหินก็อาจจะทุเลาลง

วิธีตรวจวินิจฉัยต้อหิน

ยาหยอดตา ต้อหิน

ในเริ่มแรกจะทำการตรวจวินิจฉัยโรคต้อหินโดยซักประวัติทางการแพทย์ และทำการตรวจสุขภาพตาอย่างละเอียด จากนั้นจะทำการตรวจ ดังนี้

1. การตรวจวัดความดันลูกตา

แพทย์จะนำยาชาหยอดที่ดวงตา แล้วนำเครื่องโทโนมิเตอร์วัดความดันลูกตา ซึ่งความดันลูกตาปกติมีค่า 12-20 มิลลิเมตรปรอท แต่ในกรณีที่มีค่าความดันลูกตา 21 มิลลิเมตรปรอทขึ้นไปถือว่ามีความดันลูกตาผิดปกติ

2. ตรวจประสาทตาและจอรับภาพ

แพทย์จะนำเครื่องตรวจนัยน์ตาออพธัลโมสโคปส่องภายในลูกตา ซึ่งจะเห็นรูปร่าง สีของจอประสาทตาทำให้สามารถวินิจฉัยความเสียหายหรือความเสื่อมของจอประสาทตาได้ 

3. ตรวจประสิทธิภาพของลานสายตา

แพทย์จะนำเครื่องตรวจวัดลานสายตาการฉายแสงเป็นจุดตามตำแหน่งต่าง ๆ ซึ่งตัวเครื่องตรวจวัดลานสายตาจะทำการดูการเคลื่อนไหวของตา วิเคราะห์ข้อมูลภายในเครื่อง ซึ่งผลการตรวจจะสามารถวินิจฉัยการเกิดต้อหินได้อย่างแม่นยำ

4. ตรวจความหนาของกระจกตา

แพทย์จะนำเครื่อง Corneal Pachymetry มาวัดความหนาของกระจกตา เพราะความหนาของกระจกตามีผลต่อการวัดความดันกระจกตา ซึ่งเมื่อวัดแล้วจะช่วยตีค่าความดันตาได้อย่างแม่นยำ

5. ตรวจช่องทางการไหลของน้ำหล่อเลี้ยงในลูกตา
 
แพทย์จะนำเครื่อง Gonioscopy ตรวจดูมุมระบายของเหลวของตาและพื้นที่ส่วนที่ทำหน้าที่ระบายของเหลวจากดวงตา เพื่อทำการวินิจฉัยว่าดวงตามีต้อลักษณะมุมปิดหรือมุมเปิด

วิธีรักษาโรคต้อหิน

ต้อหิน รักษา

ต้อหิน รักษาด้วยหลักการง่าย ๆ  แค่ลดความดันลูกตาให้ได้ และไม่ปฏิบัติตัวที่ทำให้เสี่ยงต่อการขาดเลือดไปเลี้ยงที่เส้นประสาทตา  ก็สามารถป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยเสียการมองเห็นได้ แต่ถ้าเกิดโรคต้อหินขึ้นมาจริง ๆ  จะต้องรักษาอย่างไร มีวิธีการรักษาแบบไหน ทำการรักษาต้อหินแล้ว จะหายขาดไหม หัวข้อนี้มีคำตอบ 

การใช้ยาหยอดตา

โรคต้อหิน รักษาโดยการใช้ยา เป็นการรักษาเบื้องต้นที่ดีที่สุด สำหรับผู้ที่เป็นต้อหินระยะเริ่มแรกที่ความดันลูกตายังไม่สูงมาก มีความสะดวก ปลอดภัย ผู้ป่วยต้องใช้ยาหยอดตา ต้อหินอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ

ควรแจ้งแพทย์ถึงโรคประจำตัวของผู้ป่วย โดยเฉพาะโรคหอบหืด เพราะยาบางตัวอาจทำให้โรคแย่ลงได้ นอกจากนี้หากเกิดภาวะที่สงสัยจะเป็นภาวะแทรกซ้อนจากยา ควรแจ้งแพทย์ให้ทราบเพื่อจะได้ปรับยา และหยอดยา ได้อย่างปลอดภัย

การใช้แสงเลเซอร์

โรคต้อหิน รักษาโดยการใช้แสงเลเซอร์ เป็นแนวทางการรักษาต้อหินที่ใช้ในกรณีที่ไม่สามารถรักษาได้ด้วยยาหยอดตา ด้วยการใช้แสงเลเซอร์เจาะรูที่ม่านตาเพื่อช่วยทำให้มุมม่านตาระบายน้ำออกจากลูกตาได้ดีขึ้น ทำให้ความดันตาลดลง และในผู้ป่วยที่มีมุมตาแคบ เพื่อเปิดมุมตาให้กว้างขึ้น

การผ่าตัด

โรคต้อหิน รักษาโดยการผ่าตัด  เน้นการทำช่องระบายน้ำภายในลูกตา เพื่อช่วยลดความดันในตา มักใช้ในกรณีที่ไม่สามารถควบคุมความดันตาได้ด้วยยาหยอดตา หรือเลเซอร์ได้ การผ่าตัดรักษาต้อหินมีหลายวิธี เช่น  การผ่าตัด Trabeculectomy การผ่าตัดใส่อุปกรณ์ระบายน้ำสำหรับต้อหิน (Glaucoma  drainage devices) การผ่าตัดสามารถใช้ในการรักษาต้อหินได้ แต่ไม่สามารถนำการมองเห็นที่เสียไปแล้วกลับมาได้  มักจะเลือกเป็นวิธีสุดท้าย

ซึ่งทั้ง 3 วิธีเป็นการรักษาต้อหิน ที่มีจุดประสงค์เพื่อป้องกันการสูญเสียลานสายตาและการมองเห็น โดยลดความดันตาลงมาในระดับที่ปลอดภัยไม่ทำลายขั้วประสาทตา ซึ่งการรักษาอาจต้องใช้หลายวิธีร่วมกัน ทั้งนี้ผู้ป่วยจึงต้องมารับการตรวจวัดความดันตาและตรวจลานตาเป็นระยะ แต่ทั้งนี้ ก็ยังไม่มีวิธีที่จะรักษาต้อหิน หายขาดได้

ภาวะแทรกซ้อนจากโรคต้อหิน

ภาวะแทรกซ้อนของโรคต้อหินที่ไม่ได้รับการรักษาหรือรักษาได้ไม่ดีพออาจทำให้อาการแย่ลงจนสูญเสียการมองเห็นได้ในที่สุด อย่างไรก็ตาม แม้ผู้ป่วยโรคต้อหินจะได้รับการรักษาแล้ว แต่ก็อาจเสี่ยงต่ออาการตาบอดได้เช่นกัน โดย 15 เปอร์เซ็นต์ของผู้ที่ได้รับการรักษามีโอกาสสูญเสียการมองเห็นอย่างน้อยที่ดวงตา 1 ข้างภายในเวลา 20 ปี 

นอกจากนี้การรักษาต้อหินด้วยการผ่าตัด พบภาวะแทรกซ้อนได้เช่นกัน อาจมีอาการเลือดออกในตาหรือเกิดการติดเชื้อในดวงตาได้ หรือแม้แต่การใช้ยาหยอดตาที่ซื้อมาใช้เองโดยไม่ปรึกษาแพทย์ก็อาจทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับดวงตาได้เช่นกัน ดังนั้น ผู้ป่วยจึงไม่ควรซื้อยามาใช้เอง แต่ควรปรึกษาแพทย์และใช้ยาตามที่แพทย์สั่งเท่านั้น

วิธีป้องกันโรคต้อหิน

เนื่องจากโรคต้อหินเป็นโรคที่เกิดจากการเสื่อมสภาพของร่างกายตามอายุ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่สามารถป้องกันอาการของโรคไม่ให้มีความรุนแรงได้ ดังนี้

  • เมื่ออายุ 40 ปีขึ้นไป เข้ารับการตรวจตาทุก 2 ปี และอายุ 50 ปีขึ้นไปควรเข้ารับการตรวจตาเป็นประจำทุกปี แม้ว่าดวงตาจะไม่มีความผิดปกติใด ๆ
  • เมื่อร่างกายมีอาการตามัว ตาแดง เห็นรัศมีรอบดวงไฟ ไม่ควรซื้อยาหยอดตามาหยอดเอง แต่ให้รีบพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัย
  • หลีกเลี่ยงการใช้ยาสเตรียลอยด์เป็นระยะเวลานาน
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ หลีกเลี่ยงการทานเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน เพราะคาเฟอีนจะทำให้ความดันตาเพิ่ม

ข้อสรุป

โรคต้อหินเป็นโรคที่เกิดจากเส้นประสาทตาเกิดการเสื่อมสภาพหรือถูกทำลายจนส่งผลต่อการมองเห็น ซึ่งการเสื่อมสภาพของอวัยวะในร่างกายไม่ใช่สิ่งที่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ต้อหินด้วยก็เช่นกัน แม้ว่าจะไม่สามารถรักษาให้หายได้ แต่ก็สามารถเข้ารับการรักษาเพื่อควบคุมอาการของโรคก็จะทำให้ดวงตาสูญเสียการมองเห็นเร็วขึ้น ดังนั้นจึงแนะนำให้เข้ารับการรักษาโรคต้อหินเพื่อช่วยชะลออาการของโรคและทำให้ดวงตามีการมองเห็นยาวนานขึ้น


249
สายตาเอียง

ถ้าพูดถึงปัญหาเรื่องสายตาหลายคนน่าจะนึกถึง สายตาสั้นและสายตายาว แต่จริง ๆ แล้วยังมีคำว่า สายตาเอียง อีกคำที่ได้ยินกันบ่อย ๆ โดยมักพบอาการสายตาเอียงร่วมกับสายตาสั้น สายตายาว หรืออาการสายตาผู้สูงอายุเสมอ แล้วสายตาเอียงเกิดจากอะไร เป็นปัญหาที่เราต้องกังวลหรือไม่ บทความนี้มีคำตอบ

สายตาเอียง
 
สายตาเอียง (Astigmatism) คือ ภาวะการมองเห็นที่ผิดปกติ โดยกระจกตาจะไม่เรียบสม่ำเสมอ หรือผิดปกติไป ทำให้แสงที่กระจกตารวมไปไม่กระทบกับจอประสาทตาเป็นจุดเดียว แต่แสงจะกระจายไปจุดต่าง ๆ ตามความโค้งของผิวกระจกตาที่ผิดปกติ ส่งผลให้ภาพที่เห็นเบลอ หรือบิดเบี้ยว หรือซ้อนกัน ไม่ว่าจะมองจากระยะใกล้หรือไกลก็ตาม ส่วนใหญ่อาการสายตาเอียงมักเกิดร่วมกับผู้ที่มีปัญหาสายตาสั้น หรือสายตายาว

สายตาเอียง อาการเป็นอย่างไร

สายตาเอียงคือ การที่เลนส์กระจกตามีรูปร่างผิดปกติคือความโค้งในแต่ละแนวของกระจกตาไม่เท่ากัน ทำให้การรับแสงที่รูม่านตาไม่รวมเป็นจุดเดียว แต่มันกลับแยกเป็นแต่ละแนว ๆ ทำให้มองแล้วเบลอและเมื่อใช้สายตามาก ๆ จะปวดตาและมึนหัว โดยมีสายตาเอียง 2 แบบคือ

1. สายตาเอียงแบบสม่ำเสมอ พบได้ในอาการตเอียงทั่ว ๆ ไป ใส่แว่นที่ใช้เลนส์ทรงกระบอกก็หาย
2. สายตาเอียงแบบไม่สม่ำเสมอ ซึ่งมักเกิดกับผู้ซึ่งมีแผลที่กระจกตา ต้องใส่คอนแทคเลนส์สายตาเอียงหรือเลสิกสายตาเอียง

อาการสายตาเอียงร่วมกับภาวะสายตาแบบอื่น

  • สายตาเอียงพร้อมสายตาสั้น คือ แนวของกระจกตาหลักหนึ่งหรือทั้งสองแนวผิดปกติพร้อมทั้งมีภาวะสายตาสั้น
  • สายตาเอียงพร้อมสายตายาว คือ แนวของกระจกตาหลักหนึ่งหรือทั้งสองแนวผิดปกติพร้อมทั้งมีภาวะสายตายาว
  • สายตาเอียงแบบผสม คือ แนวของกระจกตาหนึ่งเส้นทั้งมีภาวะสายตาสั้น และอีกหนึ่งเส้นมีภาวะสายตายาว

สายตาเอียงเกิดจากอะไร

ดังที่ได้กล่าวไปว่าอาการสายตาเอียงเกิดจากกระจกตามีความโค้งที่ไม่เท่ากัน ผิวกระจกตาไม่สม่ำเสมอ จึงทำให้แสงที่ผ่านจากกระจกตาที่ผิดปกติ ไม่สามารถรวมแสงเป็นจุดเดียวได้ และสาเหตุของสายตาเอียงอาจเกิดได้โดยไม่ทราบสาเหตุ หรือจากพันธุกรรม โดยส่วนมากผู้คนมักจะมีสายตาเอียง แต่อยู่ในระดับที่ไม่มากจนกระทบถึงชีวิตประจำวัน
   
สายตาเอียง เกิดจาก

ปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดสายตาเอียง

สายตาเอียงอาจเกิดได้จากความผิดปกติของกระจกตาแต่กำเนิดก็ได้ เกิดจากแผลเป็นที่กระจกตาก็ได้ และเกิดจากพฤติกรรมการใช้สายตาแบบผิด ๆ เช่น การใช้สายตาในที่มืดบ่อย ๆ หรือ การเพ่งสายตากับกิจกรรมบางอย่างนาน ๆ ก็ได้เช่นกัน

วิธีทดสอบสายตาเอียง

ทดสอบสายตาเอียง

วิธีทดสอบสายตาเอียง นั้นสามารถทำได้ 2 วิธี ทั้งการทดลองด้วยตนเองและการไปทดลองกับจักษุแพทย์ แต่ละวิธีจะเป็นอย่างไรบ้างไปดูกัน

วิธีทดสอบสายตาเอียงเบื้องต้น

หากคุณสงสัยว่าตัวเอง สายตาเอียง หรือไม่ ง่าย ๆ เพียงแค่คุณตอบคำถาม 4 ข้อนี้กับตัวเองคือ

1. หรี่ตาหรือเอียงคอเพื่อให้มองชัดขึ้น หรือไม่ ?
2. มึนหัวง่ายเมื่อใช้สายตานาน ๆ หรือไม่ ?
3. มองภาพเบลอและภาพที่เคลื่อนไหวเร็ว ๆ ได้ไม่ชัด หรือไม่ ?
4. มองเห็นตัวหนังสือบางตัวชัด บางตัวไม่ชัด หรือไม่ ?

ถ้าคำตอบเป็น ใช่ สัก 1 ข้อ คุณก็มีโอกาสสายตาเอียงแล้ว

วิธีตรวจวินิจฉัยสายตาเอียงโดยจักษุแพทย์

วิธีที่ง่ายที่สุดในการทดสอบสายตาเอียง คือไปพบจักษุแพทย์ หรือ ผู้เชี่ยวชาญด้านสายตาทั้งที่โรงพยาบาลและร้านจำหน่ายแว่นตา ซึ่งจักษุแพทย์จะมีเครื่องมือวัดค่าสายตาที่แม่นยำชัดเจนและสามารถให้คำปรึกษากับคุณได้เป็ยอย่างดี

วิธีรักษาสายตาเอียง

สายตาเอียงรักษาอย่างไรนั้นสำหรับผู้ที่มีค่าสายตาเอียงไม่มาก และไม่กระทบถึงการใช้ชีวิตประจำวันอาจไม่จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาใด ๆ แต่อย่างไรก็ตามหากอาการสายตาเอียงมากขึ้น และเริ่มมีอาการที่ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ควรเข้ารับการรักษาเพื่อให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น สามารถรักษาสายตาเอียงได้ทั้งแบบชั่วคราว หรือแบบถาวรได้ดังนี้

คอนแทคเลนส์สายตาเอียง

1. ใส่แว่นสายตาเอียง

แว่นสายตาเอียงจะใช้เลนส์ทรงกระบอก สำหรับผู้ที่สายตาเอียงในระดับปกติ แนะนำการใส่แว่นสายตาสำหรับสายตาเอียง เนื่องจากเป็นวิธีที่ง่ายและปลอดภัยที่สุด แว่นสายตาเอียงจะเป็นการสวมใส่แค่ภายนอก ไม่มีส่วนใดเข้าสัมผัสกับดวงตาโดยตรง

เลนส์สำหรับผู้ที่สายตาเอียงจะต้องเข้าพบจักษุแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจระดับของสายตาเอียง และตัดเลนส์ที่มีค่าสายตาเอียงที่เหมาะสม เพื่อให้เลนส์สามารถรวมแสงเข้าได้อย่างเหมาะสม แสงจะต้องหักเหไปรวมที่จุดจอประสาทตาอย่างพอดีเพื่อให้เห็นภาพได้ชัดเจน

สายตาเอียงเท่าไหร่ควรตัดแว่น?

แล้วถ้าถามว่า สายตาเอียงเท่าไหร่ควรตัดแว่น ? ตอบได้เลยว่า ไม่มีค่าแน่นอนที่กำหนด แต่แนะนำว่าควรตัดแว่นเมื่ออาการสายตาเอียงเริ่มทำให้การใช้ชีวิตมีปัญหา เช่น มองไม่ชัด หรือ ปวดตาปวดหัวเวลาใช้สายตานาน ๆ

2. ใส่คอนแทคเลนส์สายตาเอียง

ผู้ที่ไม่สะดวกใส่แว่นสายตา คอนแทคเลนส์สำหรับสายตาเอียงก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการช่วยการมองเห็นให้ดีขึ้น และการใส่คอนแทคเลนส์จะเป็นการใส่เลนส์เข้าที่ดวงตา จึงทำให้การมองเห็นชัด และมีมุมการมองที่กว้างกว่าการใส่แว่นสายตา

คอนแทคเลนส์สำหรับสายตาเอียงนั้นไม่สามารถใช้คอนแทคเลนส์ปกติทั่วไปได้ อาจต้องปรึกษาจักษุแพทย์เพื่อเลือกใช้คอนแทคเลนส์ชนิดพิเศษ แต่อย่างไรก็ตามหากผู้ใช้คอนแทคเลนส์ไม่รักษาความสะอาด หรือใส่ติดต่อกันเป็นเวลานานอาจก่อให้เกิดการติดเชื้อ หรือบาดแผลที่ดวงตาได้

3. ผ่าตัดรักษาสายตาเอียง

สุดท้ายคือวิธีผ่าตัดหรือก็คือการเลสิกสายตาเอียง นั้นเอง โดยวิธีการผ่าตัดสายตาเอียง อธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ คือ แพทย์จะแยกชั้นกระจกตาแล้วก็ใช้เลเซอร์ยิงไปที่เนื้อกระจกตาเพื่อเปลี่ยนความโค้งของกระจกตาแล้วปิดกระจกตาเข้าที่เดิม โดยการรักษาแบบนี้จะทำให้สายตาเอียงนั้นหายได้แบบถาวร

ข้อสรุป

สายตาเอียงเกิดจากกระจกตาไม่สม่ำเสมอ ความโค้งไม่เท่ากัน ทำให้แสงไม่สามารถรวมเข้าที่จอประสาทตาเป็นจุดเดียว เป็นภาวะที่มองภาพระยะใกล้และระยะไกลไม่ชัด ภาพที่เห็นจะเบลอ หรือภาพซ้อน ในเวลากลางคืนจะเห็นแสงกระจาย สาเหตุของสายตาเอียงมีทั้งแบบไม่ทราบสาเหตุ จากพันธุกรรม หรือปัจจัยอื่น ๆ ที่ทำให้กระจกตาไม่สม่ำเสมอ

เพื่อให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น ควรเข้าพบจักษุแพทย์เพื่อรักษาสายตาสั้น โดยสามารถเลือกการรักษาที่เหมาะสมกับตนได้ ไม่ว่าจะเป็นการใส่แว่นสายตา คอนแทคเลนส์ หรือเลือกการผ่าตัดเพื่อให้ค่าสายตากลับมาปกติก็ได้เช่นกัน


250
ช่างซ่อมหลังคา มืออาชีพในการแก้ปัญหาบ้าน ๆ ที่ไม่ง่ายอย่างที่คิดปัญหาหลังคารั่วซึมเป็นปัญหาที่ยากแก่การตรวจสอบด้วยตนเอง สำหรับเจ้าของบ้านที่ขาดทักษะ และประสบการณ์ แต่การหาช่างซ่อมหลังคาบ้านจะช่วยจบปัญหาได้ โดยหลังคาถูกจะซ่อมแซมได้อย่างมีคุณภาพ และเจ้าของบ้านไม่ต้องเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุขณะซ่อม
 
โดยเฉพาะอาคารบ้านเรือนที่ผ่านการใช้งานมาเป็นระยะเวลานาน ปัญหาที่ตามมาก็คือ หลังคาเป็นสนิม ผุกร่อน แตกร้าว มีรอยรั่ว จึงจำเป็นที่จะต้องได้รับการดูแลซ่อมแซมและปรับปรุงหลังคาอย่างเป็นระบบ และตรงจุด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายภายในตัวอาคาร รวมถึงทรัพย์สินที่อยู่ภายในด้วย
 
บริการช่างซ่อมหลังคานั้น เหมาะสำหรับลูกค้าที่ต้องการความมั่นใจในการแก้ปัญหาเกี่ยวกับความหมดสภาพของหลังคาเก่า หลังคารั่วซึม ได้อย่างทันท่วงที ตรงจุด ไม่เกิดปัญหาซ้ำซ้อน และงบไม่บานปลาย ทำให้การรับซ่อมหลังคาแลดูน่าเชื่อถือ

ช่างซ่อมหลังคา มืออาชีพในการแก้ปัญหาบ้าน ๆ ที่ไม่ง่ายอย่างทีคิด

ช่างซ่อมหลังคา เลือกอย่างไร
ปัญหาหลังคารั่วซึมเป็นปัญหาบ้านที่น่าปวดหัว กวนใจผู้อยู่อาศัยอย่างมาก เพราะหลังคาเป็นส่วนสำคัญของบ้าน ใช้กันแดดกันฝน ซึ่งปกติทั่วไปแล้วคนส่วนใหญ่ไม่ค่อยจะมีความรู้ความสามารถในการซ่อมแซมบ้านเอง ดังนั้นจำเป็นต้องใช้มืออาชีพที่มีประสบการณ์เฉพาะมาจัดการให้
 
ดังนั้นคุณสมบัติของช่างซ่อมหลังคารั่วที่ควรเลือกใช้บริการ ต้องมีลักษณะดังนี้

1.มีความชำนาญ
ช่างซ่อมหลังคาควรมีความชำนาญ เข้าใจปัญหาและสาเหตุได้จากการสำรวจหน้างาน สามารถแนะนำวิธีการซ่อมรวมถึงวัสดุที่เหมาะสมกับปัญหารั่วซึม และสามารถลงมือปฏิบัติได้จริง เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาในระยะยาว
 
ช่างซ่อมหลังคารั่วที่เป็นมืออาชีพจะมีแผนงานที่ชัดเจนช่วยให้เจ้าของบ้านได้ตรวจเช็คความคืบหน้าของงาน และวางแผนการใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ อีกทั้งควรมีอุปกรณ์เสริมความปลอดภัยครบถ้วน ที่ช่วยแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2.ราคายุติธรรม
ค่าซ่อมแซมหลังคาบ้านรั่วซึมอาจบานปลายได้ หากเลือกใช้ช่างที่ไม่ใช่มืออาชีพ หรือไม่มีประสบการณ์เพียงพอที่จะแก้ไขปัญหาหลังคารั่วได้ภายในการซ่อมแซมเพียงครั้งเดียว
 
ช่างซ่อมหลังคารั่วต้องรู้จักคำนวณวัสดุได้แม่นยำ ช่วยควบคุมงบประมาณ และใช้เวลาในการซ่อมแซมไม่นานเกินไป ถึงแม้ว่าช่างซ่อมหลังคาแต่ละคนจะมีวิธีการที่แตกต่างกันในการซ่อมแซมหลังคา แต่ทั้งนี้ต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานที่ว่าราคาต้องเหมาะสม ไม่แพงกว่าคนอื่น ๆ

3.ทำหลังคาได้หลากหลาย
ปัจจุบันได้มีการพัฒนารูปแบบสไตล์หลังคาออกมาอย่างมากมาย และวัสดุที่ใช้ก็มีหลากหลาย ดังนั้นช่างซ่อมหลังคาที่เป็นมืออาชีพควรที่จะต้องมีความรู้เกี่ยวกับหลังคาในหลาย ๆ รูปแบบที่มีความแตกต่างกันไป ควรมีความสามารถในการใช้ได้สารพัดวัสดุเพื่อซ่อมแซมหลังคาให้ลูกค้าได้หลาย ๆ ประเภท ซึ่งจัดว่าเป็นอีกคุณสมบัติที่ช่างซ่อมหลังคามืออาชีพพึงมี

ช่างซ่อมหลังคา เลือกอย่างไร

จ้างช่างซ่อมหลังคา ดีกว่าลงมือซ่อมเอง
ปัญหาที่เกี่ยวกับหลังคารั่วซึมนับเป็นปัญหาที่ใหญ่โดยเฉพาะถ้าเกิดขึ้นในช่วงฤดูฝน เพราะมันจะส่งผลเสียต่อตัวอาคาร เช่น ความชื้นสะสม และยังสร้างความลำบากให้แก่ผู้อยู่อาศัย อย่าง น้ำรั่วจากเพดาน ดังนั้นการเรียกใช้บริการช่างซ่อมหลังคาจึงเป็นทางออกในการแก้ไขปัญหาอย่างชาญฉลาด ทั้งยังเป็นการป้องกันไม่ให้ผลเสียที่กล่าวมานั้นลุกลามบานปลาย
 
ช่างซ่อมหลังคาที่มีประสบการณ์นั้นย่อมมีความสามารถในการตรวจหาสาเหตุของปัญหาว่าเกิดจากอะไรบ้าง เพื่อทำการแก้ไขปัญหาให้ตรงจุด สำหรับสาเหตุที่อาจก่อให้เกิดการรั่วซึมบนหลังคานั้น เป็นไปได้ดังต่อไปนี้

  • ขาดการดูแลรักษาที่ดี
  • หลังคาและอุปกรณ์เสื่อมสภาพตามอายุการใช้งาน
  • โครงสร้างหลังคาติดตั้งแบบไม่ได้มาตรฐาน
  • รางน้ำบนหลังคาบ้านอุดตันจากเศษใบไม้ กิ่งไม้ ฯลฯ
  • ใช้บริการช่างซ่อมหลังคาที่ไม่มีคุณภาพ ไม่ได้มาตรฐานพอจึงทำให้เกิดความเสียหายกับกระเบื้องหลังคา

การจ้างบริษัทช่างซ่อมหลังคาบ้าน และใช้บริการช่างหลังคาบ้านย่อมดีกว่าซ่อมเอง เพราะการซ่อมหลังคารั่วไม่ใช่เรื่องง่าย และเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุตกจากที่สูง ถ้าขาดทักษะ และมีอุปกรณ์ไม่พร้อม จะทำให้การซ่อมหลังคารั่วไม่ได้มารตฐานอย่างที่ควรจะเป็น

จ้างช่างซ่อมหลังคา ดีกว่าลงมือซ่อมเอง

ช่างซ่อมหลังคามีบริการกี่แบบ
การบริการช่างซ่อมหลังคาที่เกี่ยวกับปัญหาหลังคารั่วซึมนั้นมีหลายแบบให้ลูกค้าสามารถเลือกใช้ตามความเหมาะสมได้ บริการช่างซ่อมหลังคาจะสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้

ช่างซ่อมบำรุงหลังคาทั่วไป
  • จะให้บริการตรวจเช็คสภาพและซ่อมหลังคาทั่วไป เมื่อพบปัญหาก็จะซ่อมบำรุงด้วยวัสดุอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐานมีคุณภาพไว้สำหรับการเคลือบหลังคา เพื่อยืดอายุการใช้งานให้ยาวนาน คงทน ซึ่งจะแตกต่างจากการซ่อมด้วยการโปะปูนด้วยตนเอง

ช่างตรวจสอบหลังคารั่ว
  • ช่างมีประสบการณ์ในการตรวจสอบหาจุดรั่วของหลังคา ทำการวิเคราะห์ หาสาเหตุจากทั้งบนหลังคา และภายในอาคาร เพื่อจะได้แก้ไขปัญหาตรงจุด ประหยัดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม ปัจจุบันนี้มีการใช้เครื่องมือ เช่น โดรน เพื่อช่วยสำรวจปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างทั่วถึง เห็นภาพในทุก ๆ มุมอับที่อยู่ในระดับสูง

ช่างซ่อมฉุกเฉินหลังคา
  • เป็นบริการซ่อมหลังคาที่เปิดให้จองออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง มีทีมช่างที่มากประสบการณ์คอยให้คำแนะนำ และตอบทุก ๆ ปัญหาที่เกี่ยวกับหลังคารั่วซึม
  • ปัญหาการรั่วซึมที่เกิดขึ้นโดยเจ้าของบ้านไม่ทันรู้ตัวนั้นสร้างความกังวลเป็นอย่างมาก จึงทำให้เกิดการเรียกใช้บริการช่างซ่อมหลังคาฉุกเฉินภายใน 24 ชั่วโมง ที่จะทำการซ่อมแซมให้กับลูกค้าทันทีหลังจากที่ได้ประเมินหน้างานแล้ว

 ช่างซ่อมหลังคา มีบริการกี่แบบ

สรุป
หนึ่งในปัญหาใหญ่ ๆ ของทุกครัวเรือน ก็คือ บ้านที่อยู่อาศัยมีสภาพทรุดโทรมลงตามกาลเวลา และความเสียหายที่เรามองว่าเล็กน้อย อาจลุกลามมากขึ้น ซึ่งปัญหาหลังคารั่วซึม ก็เป็นหนึ่งในปัญหาเกี่ยวกับบ้านที่ควรทำการแก้ไขทันที ซึ่งจากที่กล่าวไว้ข้างต้น การซ่อมแซมหลังคารั่วซึม ควรทำโดยช่างซ่อมหลังคาที่มีความชำนาญเฉพาะทาง เพื่อจะได้ซ่อมแซมถูกจุด ไม่ต้องซ่อมหลายครั้ง
 
ดังนั้นก่อนจะหาช่างซ่อมหลังคา เราควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับคุณสมบัติของช่างซ่อมหลังคา ประเภทของช่างซ่อมที่เลือกใช้บริการได้ และเลือกประเภทของช่างที่สามารถแก้ไขปัญหาของเราได้ เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาหลังคารั่วซึมในระยะยาว

หน้า: 1 2 3 4 [5] 6 7 8 9