ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - พรสัก ส่องแสง

หน้า: 1 2 3 4 5 [6] 7 8 9
251
ช่างซ่อมหลังคา มืออาชีพในการแก้ปัญหาบ้าน ๆ ที่ไม่ง่ายอย่างที่คิดปัญหาหลังคารั่วซึมเป็นปัญหาที่ยากแก่การตรวจสอบด้วยตนเอง สำหรับเจ้าของบ้านที่ขาดทักษะ และประสบการณ์ แต่การหาช่างซ่อมหลังคาบ้านจะช่วยจบปัญหาได้ โดยหลังคาถูกจะซ่อมแซมได้อย่างมีคุณภาพ และเจ้าของบ้านไม่ต้องเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุขณะซ่อม
 
โดยเฉพาะอาคารบ้านเรือนที่ผ่านการใช้งานมาเป็นระยะเวลานาน ปัญหาที่ตามมาก็คือ หลังคาเป็นสนิม ผุกร่อน แตกร้าว มีรอยรั่ว จึงจำเป็นที่จะต้องได้รับการดูแลซ่อมแซมและปรับปรุงหลังคาอย่างเป็นระบบ และตรงจุด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายภายในตัวอาคาร รวมถึงทรัพย์สินที่อยู่ภายในด้วย
 
บริการช่างซ่อมหลังคานั้น เหมาะสำหรับลูกค้าที่ต้องการความมั่นใจในการแก้ปัญหาเกี่ยวกับความหมดสภาพของหลังคาเก่า หลังคารั่วซึม ได้อย่างทันท่วงที ตรงจุด ไม่เกิดปัญหาซ้ำซ้อน และงบไม่บานปลาย ทำให้การรับซ่อมหลังคาแลดูน่าเชื่อถือ

ช่างซ่อมหลังคา มืออาชีพในการแก้ปัญหาบ้าน ๆ ที่ไม่ง่ายอย่างทีคิด

ช่างซ่อมหลังคา เลือกอย่างไร
ปัญหาหลังคารั่วซึมเป็นปัญหาบ้านที่น่าปวดหัว กวนใจผู้อยู่อาศัยอย่างมาก เพราะหลังคาเป็นส่วนสำคัญของบ้าน ใช้กันแดดกันฝน ซึ่งปกติทั่วไปแล้วคนส่วนใหญ่ไม่ค่อยจะมีความรู้ความสามารถในการซ่อมแซมบ้านเอง ดังนั้นจำเป็นต้องใช้มืออาชีพที่มีประสบการณ์เฉพาะมาจัดการให้
 
ดังนั้นคุณสมบัติของช่างซ่อมหลังคารั่วที่ควรเลือกใช้บริการ ต้องมีลักษณะดังนี้

1.มีความชำนาญ
ช่างซ่อมหลังคาควรมีความชำนาญ เข้าใจปัญหาและสาเหตุได้จากการสำรวจหน้างาน สามารถแนะนำวิธีการซ่อมรวมถึงวัสดุที่เหมาะสมกับปัญหารั่วซึม และสามารถลงมือปฏิบัติได้จริง เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาในระยะยาว
 
ช่างซ่อมหลังคารั่วที่เป็นมืออาชีพจะมีแผนงานที่ชัดเจนช่วยให้เจ้าของบ้านได้ตรวจเช็คความคืบหน้าของงาน และวางแผนการใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ อีกทั้งควรมีอุปกรณ์เสริมความปลอดภัยครบถ้วน ที่ช่วยแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2.ราคายุติธรรม
ค่าซ่อมแซมหลังคาบ้านรั่วซึมอาจบานปลายได้ หากเลือกใช้ช่างที่ไม่ใช่มืออาชีพ หรือไม่มีประสบการณ์เพียงพอที่จะแก้ไขปัญหาหลังคารั่วได้ภายในการซ่อมแซมเพียงครั้งเดียว
 
ช่างซ่อมหลังคารั่วต้องรู้จักคำนวณวัสดุได้แม่นยำ ช่วยควบคุมงบประมาณ และใช้เวลาในการซ่อมแซมไม่นานเกินไป ถึงแม้ว่าช่างซ่อมหลังคาแต่ละคนจะมีวิธีการที่แตกต่างกันในการซ่อมแซมหลังคา แต่ทั้งนี้ต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานที่ว่าราคาต้องเหมาะสม ไม่แพงกว่าคนอื่น ๆ

3.ทำหลังคาได้หลากหลาย
ปัจจุบันได้มีการพัฒนารูปแบบสไตล์หลังคาออกมาอย่างมากมาย และวัสดุที่ใช้ก็มีหลากหลาย ดังนั้นช่างซ่อมหลังคาที่เป็นมืออาชีพควรที่จะต้องมีความรู้เกี่ยวกับหลังคาในหลาย ๆ รูปแบบที่มีความแตกต่างกันไป ควรมีความสามารถในการใช้ได้สารพัดวัสดุเพื่อซ่อมแซมหลังคาให้ลูกค้าได้หลาย ๆ ประเภท ซึ่งจัดว่าเป็นอีกคุณสมบัติที่ช่างซ่อมหลังคามืออาชีพพึงมี

ช่างซ่อมหลังคา เลือกอย่างไร

จ้างช่างซ่อมหลังคา ดีกว่าลงมือซ่อมเอง
ปัญหาที่เกี่ยวกับหลังคารั่วซึมนับเป็นปัญหาที่ใหญ่โดยเฉพาะถ้าเกิดขึ้นในช่วงฤดูฝน เพราะมันจะส่งผลเสียต่อตัวอาคาร เช่น ความชื้นสะสม และยังสร้างความลำบากให้แก่ผู้อยู่อาศัย อย่าง น้ำรั่วจากเพดาน ดังนั้นการเรียกใช้บริการช่างซ่อมหลังคาจึงเป็นทางออกในการแก้ไขปัญหาอย่างชาญฉลาด ทั้งยังเป็นการป้องกันไม่ให้ผลเสียที่กล่าวมานั้นลุกลามบานปลาย
 
ช่างซ่อมหลังคาที่มีประสบการณ์นั้นย่อมมีความสามารถในการตรวจหาสาเหตุของปัญหาว่าเกิดจากอะไรบ้าง เพื่อทำการแก้ไขปัญหาให้ตรงจุด สำหรับสาเหตุที่อาจก่อให้เกิดการรั่วซึมบนหลังคานั้น เป็นไปได้ดังต่อไปนี้

  • ขาดการดูแลรักษาที่ดี
  • หลังคาและอุปกรณ์เสื่อมสภาพตามอายุการใช้งาน
  • โครงสร้างหลังคาติดตั้งแบบไม่ได้มาตรฐาน
  • รางน้ำบนหลังคาบ้านอุดตันจากเศษใบไม้ กิ่งไม้ ฯลฯ
  • ใช้บริการช่างซ่อมหลังคาที่ไม่มีคุณภาพ ไม่ได้มาตรฐานพอจึงทำให้เกิดความเสียหายกับกระเบื้องหลังคา

การจ้างบริษัทช่างซ่อมหลังคาบ้าน และใช้บริการช่างหลังคาบ้านย่อมดีกว่าซ่อมเอง เพราะการซ่อมหลังคารั่วไม่ใช่เรื่องง่าย และเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุตกจากที่สูง ถ้าขาดทักษะ และมีอุปกรณ์ไม่พร้อม จะทำให้การซ่อมหลังคารั่วไม่ได้มารตฐานอย่างที่ควรจะเป็น

จ้างช่างซ่อมหลังคา ดีกว่าลงมือซ่อมเอง

ช่างซ่อมหลังคามีบริการกี่แบบ
การบริการช่างซ่อมหลังคาที่เกี่ยวกับปัญหาหลังคารั่วซึมนั้นมีหลายแบบให้ลูกค้าสามารถเลือกใช้ตามความเหมาะสมได้ บริการช่างซ่อมหลังคาจะสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้

ช่างซ่อมบำรุงหลังคาทั่วไป
  • จะให้บริการตรวจเช็คสภาพและซ่อมหลังคาทั่วไป เมื่อพบปัญหาก็จะซ่อมบำรุงด้วยวัสดุอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐานมีคุณภาพไว้สำหรับการเคลือบหลังคา เพื่อยืดอายุการใช้งานให้ยาวนาน คงทน ซึ่งจะแตกต่างจากการซ่อมด้วยการโปะปูนด้วยตนเอง

ช่างตรวจสอบหลังคารั่ว
  • ช่างมีประสบการณ์ในการตรวจสอบหาจุดรั่วของหลังคา ทำการวิเคราะห์ หาสาเหตุจากทั้งบนหลังคา และภายในอาคาร เพื่อจะได้แก้ไขปัญหาตรงจุด ประหยัดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม ปัจจุบันนี้มีการใช้เครื่องมือ เช่น โดรน เพื่อช่วยสำรวจปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างทั่วถึง เห็นภาพในทุก ๆ มุมอับที่อยู่ในระดับสูง

ช่างซ่อมฉุกเฉินหลังคา
  • เป็นบริการซ่อมหลังคาที่เปิดให้จองออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง มีทีมช่างที่มากประสบการณ์คอยให้คำแนะนำ และตอบทุก ๆ ปัญหาที่เกี่ยวกับหลังคารั่วซึม
  • ปัญหาการรั่วซึมที่เกิดขึ้นโดยเจ้าของบ้านไม่ทันรู้ตัวนั้นสร้างความกังวลเป็นอย่างมาก จึงทำให้เกิดการเรียกใช้บริการช่างซ่อมหลังคาฉุกเฉินภายใน 24 ชั่วโมง ที่จะทำการซ่อมแซมให้กับลูกค้าทันทีหลังจากที่ได้ประเมินหน้างานแล้ว

 ช่างซ่อมหลังคา มีบริการกี่แบบ

สรุป
หนึ่งในปัญหาใหญ่ ๆ ของทุกครัวเรือน ก็คือ บ้านที่อยู่อาศัยมีสภาพทรุดโทรมลงตามกาลเวลา และความเสียหายที่เรามองว่าเล็กน้อย อาจลุกลามมากขึ้น ซึ่งปัญหาหลังคารั่วซึม ก็เป็นหนึ่งในปัญหาเกี่ยวกับบ้านที่ควรทำการแก้ไขทันที ซึ่งจากที่กล่าวไว้ข้างต้น การซ่อมแซมหลังคารั่วซึม ควรทำโดยช่างซ่อมหลังคาที่มีความชำนาญเฉพาะทาง เพื่อจะได้ซ่อมแซมถูกจุด ไม่ต้องซ่อมหลายครั้ง
 
ดังนั้นก่อนจะหาช่างซ่อมหลังคา เราควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับคุณสมบัติของช่างซ่อมหลังคา ประเภทของช่างซ่อมที่เลือกใช้บริการได้ และเลือกประเภทของช่างที่สามารถแก้ไขปัญหาของเราได้ เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาหลังคารั่วซึมในระยะยาว

252
ปัญหาหนังศีรษะลอก

ปัญหาหนังศีรษะลอก เป็นภาวะที่หนังศีรษะระคายเคือง มีอาการหนังหัวลอกขุยหรือหลุดลอกออกมาเป็นแผ่น คล้ายรังแค บางครั้งอาจมีอาการคันร่วมด้วย ซึ่งอาจเกิดจากหนังศีรษะแห้งกว่าปกติ หรือน้ำมันบนหนังศีรษะน้อยเกินไป จนหนังศีรษะแห้งลอกจากการขาดความชุ่มชื้น เนื่องจากการสระผมบ่อยเกินไป การแพ้ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเส้นผม สภาพอากาศหนาวเย็น เป็นต้น อย่างไรก็ตาม มีวิธีแก้หนังหัวลอก และการดูแลรักษาที่ถูกวิธี อาจช่วยป้องกันหรือลดปัญหาหนังศีรษะลอกได้

หนังศีรษะลอกกับรังแค ต่างกันไหม

หนังศีรษะลอกกับรังแค

บางคนอาจจะสงสัยว่าหนังศีรษะลอกและรังแคเหมือนกันหรือต่างกันอย่างไร ในหัวข้อนี้เรามาดูกันว่ารังแค กับ หนังศีรษะลอกต่างกันอย่างไร มาไขข้อข้องใจกันเถอะ

หนังศีรษะลอกแห้ง

หนังศีรษะลอกแห้ง เกิดจากหนังศีรษะขาดความชุ่มชื้น ไม่สามารถสร้างความมันเพื่อมาปกคลุมเส้นผมได้อย่างเพียงพอ ทำให้หนังศีรษะลอกเป็นแผ่นหรือเป็นขุย เซลล์ผิวบนหนังศีรษะเกิดการระคายเคืองและหลุดลอกออกมาเป็นแผ่นเล็ก ๆ มีสีขาวกว่ารังแค

รังแค

รังแคเกิดจากหนังศีรษะมีความมันมากเกินไป จนน้ำมันส่วนเกินกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวบริเวณหนังศีรษะให้ออกมาเร็วและมากกว่าปกติ จึงสร้างเซลล์ผิวหนังที่หนังศีรษะและหลุดออกมาเป็นสะเก็ดผิวหนังจะเป็นแผ่นใหญ่ หนาและดูมันกว่าหนังศีรษะลอก ส่วนสีของรังแคจะเป็นสีขาวหรือสีเหลือง
ส่วนอาการคันหนังศีรษะทั้งรังแคหนังศีรษะลอกอาจจะมีคล้ายกัน แต่ถ้าเป็นรังแค หนังศีรษะจะเป็นขุยแดง ๆ และมีความมันกว่าปกติ

สาเหตุของหนังศีรษะลอก

หนังศีรษะลอกเกิดจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น สระผมบ่อยเกินไป, อายุที่มากขึ้น, ภาวะขาดอาหาร, อยู่ในสภาพอากาศที่มีความชื้นต่ำ อากาศหนาวจัดหรือร้อนจัด และการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่รุนแรงต่อหนังศีรษะ นอกจากนี้หนังศีรษะลอกอาจเกิดได้จากโรคผิวหนังที่เป็นสาเหตุหลักทำให้หนังศีรษะลอกได้ มี 4 โรค ดังนี้

หนังศีรษะลอกจากโรคผื่นภูมิแพ้ที่หนังศีรษะ

สาเหตุ

สาเหตุของโรคผื่นภูมิแพ้ที่หนังศีรษะ โดยโรคผื่นภูมิแพ้ที่หนังศีรษะ (Seborrheic Dermatitis) หรือเซ็บเดิร์มเกิดได้จากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นโรคภายในร่างกาย สภาพอากาศภายนอกหรือผลข้างเคียงจากยาบางชนิด โดยสามารถสรุปสาเหตุที่อาจก่อให้เกิดโรคผื่นภูมิแพ้ที่หนังศีรษะทำให้ผิวหนังเกิดการอักเสบได้ดังต่อไปนี้

  • เกิดจากการกระตุ้นโดยเชื้อรามาลาสซีเซีย (Malassezia) ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตที่ปกติอาศัยอยู่บนผิวหนัง เป็นสาเหตุที่เป็นไปได้ของโรคเซ็บเดิร์ม
  • ภาวะทางระบบประสาทและจิตเวช เช่น โรคพาร์กินสันและภาวะซึมเศร้า
  • ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ จะพบได้ในผู้ป่วยที่รับการปลูกถ่ายอวัยวะและผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ตับอ่อนอักเสบจากแอลกอฮอล์และมะเร็งบางชนิด เป็นต้น
  • ความเครียด พักผ่อนไม่พอ และการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนหรือการเจ็บป่วย
  • ได้รับสารซักฟอกที่รุนแรง สารเคมี และสบู่
  • ยาบางชนิด เช่น psoralen interferon และ lithium
  • การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศอย่างรวดเร็ว
  • โลชั่นชนิดที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์
  • ภูมิต้านทานผิดปกติ
  • พันธุกรรม

อาการ

อาการของโรคผื่นภูมิแพ้ที่หนังศีรษะ

  • ผิวหนังตกสะเก็ดเป็นรังแคบนหนังศีรษะ หรือบริเวณที่มีเส้นผม คิ้ว หรือหนวดเครา
  • ผิวมันเป็นแผ่น ปกคลุมด้วยสะเก็ดสีขาวหรือเหลือง และมีสะเก็ดแข็งบนหนังศีรษะ ใบหู ใบหน้า หน้าอก รักแร้ ถุงอัณฑะ หรือตามร่างกายส่วนอื่น ๆ
  • มีอาการปวด คัน แดง ผิวหนังลอกเป็นขุยสีขาวหรือสีเหลือง ผิวมัน
  • เปลือกตาอักเสบ มีอาการแดงหรือมีสะเก็ดแข็งติด
  • อาจมีอาการผมร่วงเกิดขึ้นร่วมด้วย
  • อาการอาจรุนแรงมากขึ้นหากมีความเครียดและมักจะเกิดรุนแรงในฤดูหนาวและฤดูร้อน

วิธีรักษา

โรคผื่นภูมิแพ้ที่หนังศีรษะ เป็นโรคที่เกิดขึ้นและอาจหายเองได้ แต่ในบางคนก็มีอาการต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม หากเป็นโรคผื่นภูมิแพ้ที่หนังศีรษะ และตัวโรคยังไม่ส่งผลเสียต่อการดำเนินชีวิต สามารถดูแลได้ด้วยตนเอง โดยมีวิธีดังต่อไปนี้

  • ดูแลผิวพรรณ ผิวหนังของตนเองด้วยแชมพูขจัดรังแค โลชั่น โดยแชมพูมีส่วนประกอบเป็น กรดซาลิไซลิก (Salicylic acid) คีโตโคนาโซล (Ketoconazole) เซเลเนียม ซัลไฟด์ (Selenium Sulfide) ซิงก์ ไพริไธออน (Zinc Pyrithione) โคล ทาร์ (Coal tar) โดยหากแชมพูมีประสิทธิภาพลดลง ให้เปลี่ยนไปใช้ยี่ห้ออื่นสลับกันไป ส่วนผิวบริเวณอื่น สามารถบรรเทาด้วยการหาซื้อผลิตภัณฑ์ต้านเชื้อราหรือโลชั่นคอร์ติโคสเตียรอยด์
  • รักษาความสะอาดบริเวณที่เป็นอยู่เสมอ โดยการล้างด้วยสบู่และน้ำเปล่า ไม่สระผมด้วยน้ำที่ร้อนหรือเย็นกว่าปกติ
  • ล้างทำความสะอาดร่างกายและหนังศีรษะเป็นประจำ
  • หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เพราะอาจทำให้เป็นมากขึ้น
  • โกนหนวดเคราให้หมด เนื่องจากหนวดและเคราจะยิ่งทำให้ผิวหนังบริเวณที่เป็นโรคผื่นภูมิแพ้ที่หนังศีรษะแย่ลงได้
  • สวมใส่เสื้อผ้าเนื้อเรียบลื่น เพื่อป้องกันการระคายเคือง
  • ออกไปรับแสงแดดภายนอก แสงแดดจะช่วยหยุดการเจริญเติบโตของเชื้อราที่เป็นสาเหตุของการอักเสบ แต่ควรทาครีมกันแดดเพื่อป้องกันรังสียูวีด้วย
  • เลี่ยงการขีดข่วนหรือเกาที่จะทำให้เกิดการระคายเคืองและติดเชื้อตามมาได้ หากคันให้ใช้ครีมไฮโดรคอร์ติโซนหรือคาลาไมน์ช่วยระงับอาการชั่วคราว
  • ทำความสะอาดบริเวณเปลือกตาเบา ๆ หากเปลือกตามีลักษณะแดงหรือมีสะเก็ด โดยล้างด้วยแชมพูเด็กแล้วเช็ดสะเก็ดออกด้วยแผ่นสำลี
  • ขจัดความเครียดและนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ทานอาหารบำรุงผม เลี่ยงอาหารที่ทำให้ต่อมไขมันสร้างน้ำมันมากเกินไป
  • ลดการระคายเคืองบริเวณผิวที่เป็นโรค สระผมเบา ๆ ห้ามเกา แกะ ใช้ผ้าซับเบา ๆ การทายา ให้แตะเบา ๆ แทน
  • หากโรคผื่นภูมิแพ้ที่หนังศีรษะ ทำให้การดำเนินชีวิตลำบาก และเกิดความวิตกกังวล ควรปรึกษาแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษา

หนังศีรษะลอกจากเชื้อราหรือโรคกลากบนหนังศีรษะ

หนังศีรษะลอกจากเชื้อราหรือโรคกลากบนหนังศีรษะ

สาเหตุ

โดยสาเหตุของหนังศีรษะลอกจากเชื้อราหรือโรคกลากบนหนังศีรษะ ซึ่งเกิดจากเชื้อ Tricophyton และ Microsporum พบมากในเด็กมากกว่าผู้ใหญ่ ผู้ที่สุขนิสัยไม่สะอาด หรือสุขภาพไม่ดี จะติดเชื้อราได้ง่าย โดยการระบาดมักจะเกิดเป็นบริเวณที่มีการอยู่ร่วมกัน เช่น พระหรือแม่ชีที่วัด เนื่องจากการใช้ใบมีดโกนผม หรือการใช้หวีร่วมกัน เด็กนักเรียนที่อยู่ในศูนย์เด็ก ซึ่งมีการสัมผัสและเล่นด้วยกันอย่างใกล้ชิด

อาการ

โดยอาการของหนังศีรษะลอกจากเชื้อราหรือโรคกลากบนหนังศีรษะที่พบบ่อย ได้แก่

  • ผมร่วงเป็นหย่อมๆ ที่ศีรษะ
  • ผมและหนังศีรษะตกสะเก็ด และมีรังแค
  • หนังศีรษะมีการอักเสบ จนอาจเกิดเป็นหนอง ซึ่งเมื่อรวมกันเป็นก้อนเรียกชันตุ (Kerion)
  • อาจจะมีเพียงรังแคเล็กน้อยเท่านั้น แต่เป็นพาหะนำโรคกลากไปสู่คนใกล้ชิด
  • ผมหักกลางและเห็นมีจุดดำ ๆ

วิธีรักษา

หากเป็นเชื้อราบนหนังศีรษะ วิธีที่ดีที่สุดควรไปปรึกษาแพทย์เพื่อหาทางรักษา เนื่องจากสาเหตุของการเกิด และความรุนแรงอาจจะแตกต่างกัน ควรรีบพบแพทย์ตั้งแต่รู้ตัวว่าเป็นโดยแพทย์จะทำการวินิจฉัยถึงชนิดของเชื้อรา สาเหตุ และทำการรักษาตามลำดับขั้นตอน เพื่อกำจัดต้นตอของโรคตั้งแต่การให้ยาสระผม รับประทานยา ใช้ทายาเพื่อรักษาเชื้อราบนหนังศีรษะ

หากหนังศีรษะมีการอักเสบร่วมด้วย เนื่องจากภูมิคุ้มกันในร่างกายตอบสนองกับเชื้อรามากเกินไป แพทย์จะใช้ยาแก้อักเสบ และยากดภูมิในการรักษาร่วมกับยาฆ่าเชื้อรา นอกจากนี้หากไม่รุนแรงก็สามารถดูแลรักษาด้วยวิธีง่าย ๆ ดังนี้

  • การรักษาความสะอาด เลี่ยงการใช้หมอนร่วมกับคนอื่น หมั่นเปลี่ยนปลอกหมอนและผ้าเช็ดตัวบ่อย ๆ ทำความสะอาดแปรงและหวีที่ใช้อย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้เกิดเชื้อราซ้ำบนหนังศีรษะ
  • การรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุและวิตามิน ช่วยรักษาเชื้อราบนหนังศีรษะ เช่น กรดโฟลิก วิตามินบีรวม และวิตามินอี ซึ่งได้แก่ ผักใบเขียว ถั่วชนิดต่าง ๆ ธัญพืช และเนื้อสัตว์
  • การหมักผมสามารถช่วยรักษาเชื้อราบนหนังศีรษะได้ เช่น หมักผมด้วยมะกรูด หรือมะละกอ ก็สามารถช่วยลดอาการคันและลดเชื้อราบนหนังศีรษะได้

หนังศีรษะลอกจากโรคผื่นแพ้สัมผัส

แพ้ยาสระผมทำให้หนังศีรษะลอก

สาเหตุ

โดยหนังศีรษะลอกจากโรคผื่นแพ้สัมผัสนั้นเกิดขึ้นไม่บ่อย ส่วนมากจะเกิดบริเวณอื่นของร่างกายมากกว่า เนื่องจากหนังศีรษะคนเราค่อนข้างเกิดผื่นแพ้สัมผัสได้ยาก ซึ่งสาเหตุเกิดจากการมีประวัติสัมผัสสารที่อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ เช่น แพ้ยาย้อมผมหนังศีรษะลอก และแพ้ยาสระผมหนังหัวลอก เป็นต้น

อาการ

โดยอาการของหนังศีรษะลอกจากโรคผื่นแพ้สัมผัส จะขึ้นอยู่กับระยะของโรคที่เป็น ได้แก่

  • ระยะเฉียบพลัน จะมีลักษณะเป็นผื่นแดง คัน ผิวหนังศีรษะบวมแดง และมีตุ่มน้ำใส ขึ้นบริเวณผิวหนังศีรษะที่สัมผัสกับสารที่แพ้
  • ระยะกึ่งเฉียบพลัน ระยะนี้ตุ่มน้ำใส จะเริ่มแตกออก แห้ง และเห็นเป็นสะเก็ดน้ำเหลือง ที่บริเวณผิวหนังศีรษะ
  • ระยะเรื้อรัง ผื่นจะมีลักษณะหนาตัวขึ้น แห้ง คัน และหนังศีรษะลอกตกสะเก็ดได้

วิธีรักษา

โดยวิธีรักษาหนังศีรษะลอกจากโรคผื่นแพ้สัมผัส ทำได้คร่าว ๆ เช่น

  • ใช้ยาทาผื่นที่ผิวหนังศีรษะ เพื่อลดการอักเสบ เช่น ยาทากลุ่มสเตียรอยด์ และยาทาลดการอักเสบกลุ่มอื่น ๆ รวมถึงให้ทานยาแก้แพ้ เพื่อช่วยลดอาการคันจากผื่น
  • หลีกเลี่ยงสารที่ก่อให้เกิดผื่นแพ้สัมผัส และสารที่ก่อการระคายเคืองผิวหนังศีรษะ

หนังศีรษะลอกจากโรคสะเก็ดเงิน

สาเหตุ

โดยสาเหตุของหนังศีรษะลอกจากโรคสะเก็ดเงิน อาจเกิดจากความผิดปกติของภูมิคุ้มกัน ทำให้การแบ่งตัวของเซลล์ผิวหนังเร็วกว่าปกติ การเจริญเติบโตและพัฒนาการของผิวหนังจึงไม่สมบูรณ์ รวมถึงการกระตุ้นโดยสิ่งแวดล้อม เช่น เป็นไข้หวัด ความเครียด พักผ่อนไม่เพียงพอ เป็นต้น

อาการ

หนังศีรษะลอกจากโรคสะเก็ดเงิน อาจจะมีคนสงสัยว่าเราจะสังเกตได้อย่างไร บอกได้เลยว่าไม่สังเกตอาการได้ไม่ยาก ในตอนแรกที่อาการไม่รุนแรงอาจจะมีแค่หนังศีรษะลอกเป็นสะเก็ดเพียงเล็กน้อย แต่ถ้าหากมีอาการรุนแรงจะสังเกตได้ว่ามีอาการ ดังต่อไปนี้

  • หนังศีรษะและบริเวณผิวใกล้เคียงเช่นหน้าผาก ท้ายทอย ไปถึงหลังใบหู มีผื่นแดงขึ้นเป็นปื้นหนา ขอบเขตชัด
  • หนังศีรษะมีผื่นแดงลอก และตกสะเก็ด ลักษณะคล้ายรังแค แต่สีมันวาว
  • ถ้าเป็นมากหนังศีรษะแห้งจะมีอาการแสบบนหนังศีรษะได้
  • จะรู้สึกคัน ทำให้ต้องเกาหนังศีรษะบริเวณนั้นบ่อย ๆ จะทำให้ผิวหนังเกิดความเสียหายมีอาการหนังศีรษะลอกผมร่วงตามมาและหากเกาแรงมากไปอาจทำให้เป็นแผลและเกิดการติดเชื้อได้

วิธีรักษา

เมื่อรู้สาเหตุและอาการของโรคแล้วขั้นตอนต่อไปเป็นวิธีรักษาเพื่อบรรเทาอาการและช่วยลดความรุนแรงของโรคได้ดังนี้

การรักษาโรคสะเก็ดเงิน ผู้ป่วยจะเป็นต้องไปพบแพทย์ เพื่อตรวจอาการของโรค และสาเหตุที่ทำให้โรคสะเก็ดเงินถูกกระตุ้นขึ้นมา บางครั้งอาจจะเป็นเพียงความเครียดก็จริง แต่บางครั้งก็อาจจะเป็นโรคร้ายแรงถึงชีวิตอย่างโรคมะเร็งได้

ส่วนการรักษาหนังศีรษะลอกเป็นสะเก็ดนั้น แพทย์จะให้ใช้ยาเฉพาะที่ ในรูปแบบของยาครีม โลชั่น น้ำมัน ขึ้ผึ้ง หรือแชมพูน้ำมันดิน (Tar shampoo) 2 – 3 ครั้งต่อสัปดาห์ และถ้าเป็นหนัก ไม่ตอบสนองต่อการรักษา อาจใช้วิธี ดังต่อไปนี้

  • การฉายแสง
  • การฉีดสเตียรอยด์
  • การรับประทานยาอ่อน ๆ เช่นยาคอร์ตฌคสเตียรอยด์ หรือยาเมโธเทรกเซก

สรุปเรื่องหนังศีรษะลอก

รักษาหนังศีรษะลอกโดยการทายา

โดยอาการหนังศีรษะลอก เป็นอาการที่มักเกิดจากโรคต่าง ๆ ซึ่งถึงแม้อาการหนังศีรษะลอกจะไม่ใช่อาการที่ร้ายแรงอะไร แต่ก็ไม่ควรนิ่งนอนใจ เพราะโรคที่มากับหนังศีรษะลอก อาจจะก่อให้เกิดการอักเสบจนทำให้ผมร่วงถาวรได้

ดังนั้นเมื่อมีอาการหนังศีรษะลอก ต้องสังเกตตัวเองว่ามีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วยไหม หากเป็นแค่รังแคก็สามารถรักษาได้ด้วยตนเองที่บ้าน แต่ถ้ามีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย อย่างเช่นคันมาก หนังศีรษะแดง มีอาการบวม เป็นผื่น ก็ควรเข้าพบแพทย์ ก่อนที่จะเสียเส้นผมไปอย่างถาวร

253
รีไฟแนนซ์บัตรเครดิต 2566

ก้าวเข้าสู่ปี พ.ศ. 2566 พุทธศักราชใหม่ มาดูกันว่าการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตคืออะไร มีประโยชน์อย่างไร ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง ต้องคุณสมบัติแบบใด รวมไปถึงมีขั้นตอนยังไงบ้าง ในบทความนี้ได้รวบรวมข้อมูลไว้ทั้งหมดแล้วอีกทั้งยังมีทริคเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่จะช่วยให้หาการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตที่เหมาะสมกับคุณอีกด้วย ตามมาอ่านกันได้เลย

รีไฟแนนซ์บัตรเครดิต คือ
การใช้บัตรเครดิตที่ดีคือการจัดการสภาพการใช้จ่ายของตนเองได้เป็นอย่างดี ซึ่งทั้งนี้รีไฟแนนซ์บัตรเครดิตก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้หลายคนสามารถจัดการหนี้สินและรวมมาอยู่เป็นหนี้ก้อนเดียวได้ ทั้งนี้จะช่วยให้การเงินมีสภาพคล่องขึ้นอีกด้วย

การรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต คือ การรวมหนี้สินที่เกิดจากการใช้บัตรเครดิตทั้งหมดไว้ในที่เดียว โดยคุณสามารถขอสินเชื่อจากธนาคารเดิมหรือธนาคารใหม่ก็ได้ ซึ่งจะช่วยให้คุณมีการจัดการหนี้สินที่ง่ายมากยิ่งขึ้น คือ สามารถผ่อนจ่ายรายเดือนได้แบบสบาย ๆ แต่มีระยะเวลาการผ่อนจ่ายที่ที่ยาวนานขึ้น

รีไฟแนนซ์บัตรเครดิต มีประโยชน์อย่างไรบ้าง
หลายคนที่มีบัตรเครดิตจำนวนหลาย ๆ ใบ แล้วมีการใช้จ่ายจำนวนมาก คงมีความกังวลเรื่องการชำระหนี้สินของบัตรแต่ละใบ เพราะหลายคนอาจจะหลงลืมการชำระยอดหนี้สินของแต่ละบัตรได้ เนื่องจากหนี้สินถูกกระจัดกระจายไปอยู่ในหลาย ๆ บัตร เพราะฉะนั้นรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตดีไหม แล้วการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตจะช่วยให้คุณมีการจัดการทางการเงินได้จริงหรือไม่ ในหัวข้อนี้ได้ทำการลิสไว้ให้แล้ว

การรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตสามารถชำระหนี้สินจากบัตรเครดิตด้วยจำนวนเงินที่ไม่มากจนเกินไปและไม่กระทบกับการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
การรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตช่วยให้รวมหนี้สินจากหลายบัตรเครดิตไว้ในที่เดียว ซึ่งส่งผลให้สะดวกต่อการชำระจ่ายมากยิ่งขึ้น อีกทั้งไม่ต้องเสียเวลาจำวันครบกำหนดหนี้บัตรเครดิตหลาย ๆ ใบอีกด้วย

การรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตสามารถชำระหนี้บัตรเครดิตได้เร็วมากยิ่งขึ้น เนื่องจากหากรวมหนี้ไว้ในก้อนเดียวแล้ว ถ้ามีเงินก้อนมาชำระหนี้สิน เงินต้นและดอกเบี้ยจะลดไปตามกัน หรือที่เราเรียกกันว่า “การลดต้นลดดอก” ซึ่งใครที่มีกำลังพอในการหาเงินมาชำระหนี้มากเท่าไหร่ก็จะทำให้หนี้สินหายไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน

การรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตทำให้ได้อัตราดอกเบี้ยที่ถูกลงกว่าเดิม เนื่องจากดอกเบี้ยบัตรเครดิตจะอยู่ที่ประมาณ 15% - 28% ต่อปี ซึ่งขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละบัตร หากมีการรวมหนี้ไว้ในที่เดียวจะทำให้ธนาคารให้อัตราดอกเบี้ยที่ถูกลง ทั้งนี้แต่ละธนาคารก็จะมีอัตราดอกเบี้ยที่แตกต่างกันออกไป แต่มั่นใจได้ว่าจะได้ผ่อนจ่ายหนี้บัตรเครดิตที่ถูกกว่าการจ่ายหนี้บัตรเครดิตแบบปกติแน่นอนหากลองคำนวณดูแล้ว

เอกสารสำหรับรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต

เอกสารสำหรับรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต

ในบรรดามนุษย์เงินเดือนและเจ้าของธุรกิจทั้งหลาย ต่างคนต่างมีการใช้บัตรเครดิตกันทั้งนั้น ซึ่งแน่นอนว่าก็มีอีกหลายคนที่ประสบปัญหาการจัดการหนี้สินจากการใช้บัตรเครดิต ซึ่งบางคนอาจจะใช้เกินตัวจนทำให้เกิดภาระหนี้สิน หรืออาจใช้บัตรเครดิตในสถานการณ์ที่จำเป็นต้องใช้ก็ตามแต่ ทั้งนี้ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตก็เป็นหนทางช่วยให้บรรเทาภาระการจ่ายหนี้สินจากบัตรเครดิตได้ สำหรับใครที่ต้องการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตต้องเตรียมเอกสาร ดังนี้

1.สำเนาบัตรประชาชน ถือว่าเป็นเอกสารส่วนบุคคลที่ใช้สำหรับการทำธุรกรรมทางการเงินต่าง ๆ รวมถึงใช้รีไฟแนนซ์บัตรเครดิตด้วย เพราะทางธนาคารสามารถตรวจสอบตัวตนของคุณผ่านสำเนาบัตรประชาชนที่ได้ให้กับทางธนาคารไว้

2.สำเนาบัตรข้าราชการ เป็นหนึ่งเอกสารสำหรับผู้ที่มีอาชีพเกี่ยวกับข้าราชการ เป็นการแสดงถึงความมั่นคงของรายได้ว่าคุณจะมีรายได้เพื่อจะชำระหนี้บัตรเครดิตได้อย่างสม่ำเสมอในทุก ๆ เดือน

3.สำเนาทะเบียนบ้าน เป็นเอกสารที่แสดงถึงที่อยู่อาศัยที่ชัดเจนของคุณ ซึ่งทางธนาคารสามารถส่งเอกสารต่าง ๆ ไปให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นเอกสารในการชำระหนี้บัตรเครดิตหรือเอกสารที่เกี่ยวข้องกับบัตรเครดิต เป็นต้น

4.สลิปเงินเดือนที่เป็นต้นฉบับ หรือหนังสือรับรองเงินเดือน ซึ่งปกติแล้วทางธนาคารจะขอตั้งแต่ 2 เดือนย้อนหลังเป็นต้นไป ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละธนาคารด้วยว่าจะให้ผู้ขอสินเชื่อยื่นสลิปหรือหนังสือรับรองเงินเดือน 2 เดือน, 3 เดือน, หรือ 6 เดือน โดยจะพิจารณาเป็นรายบุคคลไป ในกรณีที่เป็นนิติบุคคลต้องยื่นสำเนาหนังสือรับรองจดทะเบียนหรือสำเนาทะเบียนการค้า และสำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น

5.สำเนาสมุดเงินฝากที่เป็นหน้าแรกอันระบุชื่อผู้ขอสินเชื่อ และในกรณีที่เป็นนิติบุคคลจะต้องยื่นสำเนาบัญชีธนาคารที่ใช้สำหรับหมุนเวียนธุรกิจย้อนหลัง 6 เดือน หรือสำเนาที่เป็นงบการเงินปัจจุบัน หรือสำเนาภาษีเงินได้ (ภ.พ.30) เพื่อแสดงความเคลื่อนไหวของบัญชี อีกทั้งยังเป็นบัญชีที่ให้ธนาคารโอนเงินเข้าเมื่อผ่านการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต

6.เอกสารแสดงภาระหนี้ของธนาคารอื่น ๆ เพื่อที่ทางธนาคารจะใช้ประกอบกับการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อเพื่อรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต รวมไปถึงจะได้ประเมินภาระหนี้สินที่ทางผู้ขอสินเชื่อต้องจ่ายให้ทางธนาคารในแต่ละเดือน

คุณสมบัติของคนที่ต้องการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต

คุณสมบัติผู้ที่ต้องการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต

คนที่มีบัตรเครดิตจำนวนมาก หากใช้อย่างมีวินัยก็ถือว่ามีประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นได้รับแต้มคะแนนสะสมที่สามารถแลกเป็นเครดิตเงินคืนได้ แลกไมล์สำหรับการเดินทางโดยเครื่องบิน หรือได้รับสิทธิพิเศษต่าง ๆ มากมาย แต่ในทางกลับกันก็มีคนใช้บัตรเครดิตเกินตัวเช่นกันจนทำให้เกิดหนี้สินมากมาย เพราะฉะนั้นสิ่งที่จะช่วยคลี่คลายปัญหานี้ได้ คือ การรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต

ซึ่งการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตเหมาะสำหรับคนกำลังประสบปัญหาภาระหนี้สินจากบัตรเครดิตหลาย ๆ ใบ โดยผู้ที่ต้องการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตจะต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้

1.ต้องไม่ติดเครดิตบูโร ที่เป็นข้อมูลบัญชีสินเชื่อทุกประเภทรวมไปถึงประวัติการชำระสินเชื่อทุกประเภทของทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล
2.ไม่มีประวัติการค้างชำระหนี้สิน หรือจ่ายหนี้สินไม่ตรงตามเวลา
3.ต้องมีแหล่งรายได้ประจำและสม่ำเสมอในทุก ๆ เดือน
4.มีวินัยในการชำระหนี้สินรายเดือนกับทางธนาคารผู้ให้สินเชื่อ

ขั้นตอนการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต
สำหรับใครที่เป็นหนี้บัตรเครดิตอยู่หรือสังเกตตนเองแล้วพบว่ามีแนวโน้มที่จะเป็นหนี้บัตรเครดิตในอนาคต ควรมาศึกษาขั้นตอนการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตก่อนเพื่อที่จะได้วางแผนการเงินและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ของตนเองโดยสามารถผ่อนจ่ายรายเดือนได้แบบสบาย ๆ ด้วยระยะเวลาที่เหมาะสมกับการชำระหนี้ ซึ่งขั้นตอนการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตทั้งหมดมีดังนี้

1.รวบรวมหนี้บัตรเครดิตทั้งหมดที่คุณมีอยู่ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิตแบบใด หรือของธนาคารไหน ต้องรวบยอดมาทั้งหมดอย่างละเอียด เพื่อจะได้ทราบหนี้สินจำนวนจริงและวางแผนการชำระหนี้ในลำดับต่อไป
2.เช็กความสามารถในการชำระหนี้บัตรเครดิตที่คุณสามารถจ่ายขั้นต่ำได้ในแต่ละเดือน โดยไม่กระทบกับค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน
3.ติดต่อและเจรจากับธนาคารเดิมที่ทำบัตรเครดิตหรืออาจจะขอคำปรึกษาและความช่วยเหลือในการปิดบัตรเครดิตเดิม เพื่อจะได้รวบรวมหนี้ไว้ในก้อนเดียว อีกทั้งจะได้สะดวกสำหรับการชำระหนี้ด้วย
4.ลองยื่นรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตกับหลาย ๆ ธนาคารเพื่อหาตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต หรือเข้าไปที่ https://www.refinn.com/refinancecreditcard เพื่อกรอกข้อมูลของคุณเพื่อให้เว็บไซต์ทำการค้นหาโปรโมชั่นรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตที่เหมาะกับคุณ
5.เลือกธนาคารที่ให้การรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต โดยคำนึงถึงความเหมาะสมของดอกเบี้ยและการชำระหนี้บัตรเครดิตในแต่ละเดือน

สรุปเกี่ยวกับรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต

การรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต

หลายคนคงมีคำถามว่าแล้วรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต ธนาคารไหนดี 2566 ทั้งนี้คุณสามารถเลือกรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตกับธนาคารใดก็ได้ สิ่งที่คุณต้องทำคือการศึกษาหาข้อมูลและเลือกธนาคารที่ให้ข้อเสนอที่ดีที่สุด ซึ่งส่วนที่สำคัญที่สุดหลังจากนั้น คือ ต้องมีวินัยในการชำระจ่ายหนี้บัตรเครดิตในแต่ละเดือน ไม่ควรชำระเกินกำหนดที่ทางธนาคารตั้งไว้ อีกทั้งหากสามารถหาเงินก้อนมาได้ก็ควรจะรีบปิดหนี้จากบัตรเครดิตทันที เนื่องจากเป็นหนี้สินที่มีดอกเบี้ย


254
คุณรู้สึกเบื่อกับการรู้สึกว่ากำลังขาดความมั่นใจในความเป็นชายอยู่หรือเปล่า ถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนแปลงให้คุณเป็นคนใหม่แล้ว ยาเพิ่มสมรรถภาพเพศชายร้านขายยาเป็นวิธีแก้ปัญหายอดนิยมและสะดวกสำหรับผู้ชายหลายคนที่ต้องการปรับปรุงประสบการณ์ทางเพศมีจำหน่ายที่ร้านขายยาใกล้บ้าน

ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมผู้ชายเหล่านี้จะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่ง เพิ่มสมรรถภาพทางเพศ และเพิ่มฮอร์โมนเพศชายได้ ซึ่งในบทความนี้เราจะมาสำรวจโลกของการใช้ยาเสริมสมรรถภาพเพศชายร้านขายยากันว่า ยาเหล่านี้มีวิธีการทำงานอย่างไรบ้าง สิ่งที่เราต้องพิจารณาเมื่อเลือกซื้ออาหารเสริมชายที่เหมาะสมสำหรับคุณ

ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะเป็นคนที่ต้องการทำให้คู่ของคุณประทับใจหรือเพียงแค่ต้องการเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์ทางเพศที่ดีขึ้น ก็ถึงเวลาเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับยาเพิ่มสมรรถภาพเพศชายร้านขายยาแล้ว โดยสามารถอ่านต่อที่ด้านล่างได้เลย

ผู้ชายกำลังค้นคว้ายาเพิ่มสมรรถภาพเพศชายร้านขายยา

ผู้ที่เหมาะสำหรับการใช้ยาเพิ่มสมรรถภาพเพศชายร้านขายยา

อาหารเสริมผู้ชายเป็นทางออกยอดนิยมสำหรับผู้ชายที่นกเขาไม่ขัน และกำลังมีปัญหาเสื่อมสมรรถภาพแต่ใครล่ะที่เหมาะกับผลิตภัณฑ์เหล่านี้ โดยทั่วไปแล้วยาเพิ่มสมรรถภาพเพศชายในร้านขายยาเหมาะสำหรับผู้ชายที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพทางเพศหรือปรับปรุงประสบการณ์ทางเพศโดยรวม

ซึ่งอาจรวมถึงผู้ชายที่ต้องการเพิ่มขนาด เพิ่มความแข็งแกร่ง เพิ่มสมรรถภาพทางเพศในกิจกรรมร่วมรัก อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องรู้ไว้เสมอว่ายาเสริมสมรรถภาพเพศชายร้านขายยาถึงแม้จะได้ผล แต่ก็ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่เหมาะสำหรับทุกคน และผลลัพธ์จากการใช้ยาของแต่ละคนอาจแตกต่างกันออกไป

วิธีการเลือกยาเพิ่มสมรรถภาพเพศชายร้านขายยา

เลือกใช้ยาเพิ่มสมรรถภาพเพศชายร้านขายยาจากผู้สูงอายุ

เมื่อพูดถึงการปรับปรุงประสิทธิภาพทางร่างกายและประสบการณ์ทางเพศ สิ่งสำคัญคือต้องเลือกยาเพิ่มสมรรถภาพเพศชายร้านขายยาที่เหมาะกับสภาพร่างกายของเรา ด้วยตัวเลือกมากมายในท้องตลาดอาจเป็นเรื่องยากที่จะรู้ว่าว่าผลิตภัณฑ์ไหนเหมาะกับเรามากที่สุด

สิ่งสำคัญคือต้องคิดถึงความต้องการและเป้าหมายของแต่ละคน รวมถึงปัจจัยอื่นๆ อาทิ ส่วนผสม ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น และประสิทธิภาพในการฟื้นฟูร่างกายโดยรวม โดยในส่วนนี้เราได้แนะนำยาเพิ่มสมรรถภาพเพศชายร้านขายยาที่ด้านล่างนี้แล้ว โดยเราจะแนะนำอ้างอิงการส่วนผสม และข้อดีของอาหารเสริมชายแต่ละตัว ถ้าอยากรู้กันแล้วว่ายาเพิ่มสมรรถภาพเพศชายร้านขายยาทั่วไปมีอะไรบ้างก็มาเพิ่มที่ด้านล่างนี้ได้เลยครับ

5 ยาเพิ่มสมรรถภาพเพศชายร้านขายยาที่เราแนะนำ

ผู้ชายทานยาเพิ่มสมรรถภาพเพศชายร้านขายยา

สมรรถภาพทางเพศเป็นเรื่องใหญ่ในความมั่นใจในความเป็นชาย และผู้ชายหลายคนต้องต่อสู้กับปัญหาต่างๆ เช่น การหย่อนสมรรถภาพทางเพศ นกเขาไม่ขัน น้องชายไม่สู้ และความอดทนทางเพศต่ำ โชคดีที่มีตัวเลือกมากมายที่จะช่วยให้ผู้ชายเอาชนะปัญหาเหล่านี้และปรับปรุงสมรรถภาพทางเพศได้

ยาเพิ่มสมรรถภาพเพศชายร้านขายยาเป็นหนึ่งในวิธีหนึ่งที่ได้รับความนิยมและแก้ไขปัญหานี้ได้มากที่สุด และสามารถช่วยให้ขนาดของน้องชายแข็งตัวได้ดีขึ้น เพิ่มความแข็งแกร่ง และเพิ่มสมรรถภาพเพศชายธรรมชาติ ในหัวข้อนี้เราจะมาแนะนำเสริมสมรรถภาพทางเพศ 5 อันดับยาเพิ่มสมรรถภาพชายร้านขายยาที่เราแนะนำ เพื่อให้คุณสามารถหาผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยและเหมาะกับคุณได้
      
1. Code For Men ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารถังเช่าสกัดเข้มข้น

ปลดปล่อยความเป็นชายในตัวคุณด้วย Code For Men อาหารเสริมผู้ชายที่เป็นยาเพิ่มสมรรถภาพเพศชายร้านขายยา ยาชูกำลังอันทรงพลังนี้เต็มไปด้วย ถั่งเฉ้าสกัดเข้มข้น (Cordycep Extract) แอล-อาร์จินิน (L-Arginine) สารสกัดจากโสม (Ginseng Extract)  สารสกัดจากหอยนางรม (Oyster Meat Extract) และส่วนผสมจากธรรมชาติอื่น ๆ ที่ทราบกันดีว่าช่วยเพิ่มสมรรถภาพเพศชายธรรมชาติ เพิ่มปริมาณและคุณภาพของอสุจิ เพิ่มสมรรถภาพทางเพศ และอื่น ๆ อีกมากมาย

บอกลาการใช้ยาที่ซับซ้อนไปได้เลยเพราะ Code For Men มีจำหน่ายในรูปแบบแคปซูลที่รับประทานง่าย แต่คุณประโยชน์ไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น เราสามารถเลือกจากสองสูตรที่เหมาะกับความต้องการของคุณมากที่สุด

X2 ออกแบบมาสำหรับผู้ที่มองหาการเสริมก่อนกิจกรรมทางเพศ โดยเห็นผลจากขนาดอวัยวะเพศที่เพิ่มขึ้นและมีความแข็งที่ยาวนานขึ้น ส่วน X6 เป็นสูตรที่ทานได้เป็นประจำวันละ 1 เม็ด ทำหน้าที่เป็นอาหารเสริมบำรุงร่างกายโดยรวมรับประทานง่าย ๆ เหมือนวิตามินเพื่อเสริมสร้างสุขภาพโดยรวมของคุณ

2. omg emperor

ปลดปล่อยศักยภาพของคุณอย่างเต็มที่กับ OMG Emperor ยาเพิ่มสมรรถภาพเพศชายร้านขายยาที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ชายอายุ 30 ขึ้นไป ไม่ว่าคุณจะทำงานหนัก เข้ายิม ตัวยานี้จะให้พลังงาน ความอึด ถึก ทน และเพิ่มโฟกัสในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โดยส่วนผสมจะเป็นโสมเกาหลี ซิงค์ ตังถั่งเช่า หอยนางรม ใบแปะก๊วยเพิ่มส่วนผสม ขมิ้นชัน เปลือกสน มะเขือเทศ แคลเซียม วิตามินและแร่ธาตุ และ แอล-อาร์จินีน ซึ่งส่วนผสมเหล่านี้จะเป็นได้ทั่วไป มีผลทำให้มีพลังงานมากขึ้นในใช้ชีวิตประจำวัน กระตุ้นการไหลเวียนเลือด ถ้าอยากลอง OMG Emperor ก็สามารถหาซื้อได้เลย เนื่องจากเป็นยาเพิ่มสมรรถภาพเพศชายร้านขายยา
   
3. ปู่เซินเจียวหนัง   

ยาเพิ่มสมรรถภาพเพศชายร้านขายยารุ่นเก๋ากับ ปู่เซินเจียวหนัง อาหารเสริมเพิ่มสมรรถภาพเพศชายระดับพรีเมียมนี้ใช้พลังของสมุนไพรจีน เช่น ตังถั่งเฉ้า เขากวางอ่อน โหงวบี่จี้ อิมเอียงคัก และ เนกกุ่ย เพื่อเพิ่มสมรรถภาพทางเพศของคุณและนำความตื่นเต้นกลับมาในห้องนอนและคู่รักของคุณ เพลิดเพลินกับของอาหารเสริมนี้ที่เป็นยาประจำวันในรูปแบบแคปซูลรับประทานง่าย

4. Viagra

อย่าให้อาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศมาขัดขวางประสบการณ์ที่ดีในห้องนอน ยานี้จำเป็นต้องมีใบสั่งแพทย์เพื่อความปลอดภัย เป็นที่รู้จักกันดีอย่างตัวยา Viagra ที่ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อรักษาอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศทั่วไป และช่วยให้คุณถึงจุดสุดยอดและรักษาการแข็งตัวของอวัยวะเพศระหว่างกิจกรรมทางเพศ

เมื่อทานไวอากร้าคุณจะได้รับความมั่นใจเพิ่มขึ้น เนื่องจากไวอากร้าจะกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดไปยังน้องชาย ช่วยให้คุณตื่นตัวและควบคุมความแข็งตรงส่วนนั้นได้นานขึ้น บอกลาเซ็กส์ที่น่าหงุดหงิดและน่าอาย และสวัสดีกับประสบการณ์ทางเพศที่น่าพึงพอใจด้วยอาหารเสริมเพิ่มสมรรถภาพชายไวอากร้า

5. munz

ยาเพิ่มสมรรถภาพเพศชายร้านขายยา Munz บอกลาความอ่อนปวกเปียกและสวัสดีกับเซ็กส์ที่น่าเหลือเชื่อด้วยสูตรด้วยส่วนผสมที่ทรงประสิทธิภาพ เช่น นาโนซิงค์ที่สกัดจากสาหร่ายทะเล Munz ช่วยละลายลิ่มเลือดและกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว

พบกับผลลัพธ์สุดเร้าใจในห้องนอน เมื่อ Munz ปรับปรุงสมรรถภาพทางเพศของคุณก่อนกิจกรรมหลัก อย่าตัดสินอะไรที่น้อยกว่าสิ่งที่ดีที่สุด อัปเกรดเกมของคุณด้วยยาเพิ่มสมรรถภาพเพศชายร้านขายยา   Munz สุดยอดนาเพื่อประสิทธิภาพทางเพศ
   
สรุป

ยาเพิ่มสมรรถภาพเพศชายร้านขายยาอาจเป็นทางออกที่เป็นประโยชน์สำหรับผู้ชายที่กำลังประสบปัญหาสมรรถภาพทางเพศ ก่อนทานควรอ่านผลค้างเขียงทุกครั้งและใช้อาหารเสริมผู้ชายด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากอาจมีผลข้างเคียงและตอบสนองกับตัวยาอื่นได้

เราแนะนำขอแนะนำให้คุยกับแพทย์หรือเภสัชก่อนเริ่มใช้อาหารเสริมชายประเภทนี้ ทำตามคำแนะนำการใช้ยาเพิ่มสมรรถภาพเพศชายร้านขายยาก็เป็นวิธีหนึ่งที่ปลอดภัยในการเพิ่มสมรรถภาพทางเพศและฟื้นฟูสุขภาพของคุณได้ดีที่เดียว

255
    เลเซอร์รอยสิว

    ปัญหาที่กวนใจหลังจากที่สิวหายแล้วก็มักจะเป็นรอยดำหรือรอยแดงที่หลงเหลืออยู่ ทำให้ผิวหน้ามีสีไม่สม่ำเสมอ สร้างความกังวล ทำให้หลายคนหมดความมั่นใจได้ แต่ปัจจุบันนั้นมีเทคโนโลยีที่ช่วยให้กำจัดรอยดำรอยแดงเหล่านั้นได้ง่ายขึ้นอย่าง “เลเซอร์รอยสิว” ที่สามารถรักษาปัญหาได้อย่างครอบคลุมและเห็นผลชัดเจน

    บางคนอาจสนใจเกี่ยวกับเลเซอร์รอยสิวแต่ยังไม่รู้ข้อมูลต่างๆ ในบทความนี้ได้รวบรวมเอาสิ่งน่ารู้ที่สามารถไขข้อข้องใจเรื่องเลเซอร์ลดรอยสิว ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน ประเภท หรือคำถามยอดฮิตอย่างเลเซอร์รอยสิวราคาเท่าไหร่ มาไว้ที่นี่แล้ว

    เลเซอร์รอยสิว (Acne Mask Laser) คืออะไร?

    เลเซอร์รอยสิว คือการใช้คลื่นพลังงานเลเซอร์ยิงลงบนผิวบริเวณที่ต้องการรักษา ถือว่าเป็นการเลเซอร์รอยดำ และ เลเซอร์รอยแดง ทำให้ผิวมีสีสม่ำเสมอกันมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีการใช้พลังงานเลเซอร์หลายชนิดในการทำหัตถการเลเซอร์สิว

    หลักการทำงานของเลเซอร์รอยสิวคือยิงคลื่นพลังงานที่มีความยาวคลื่นตรงกับปัญหาที่ต้องการรักษาและกระตุ้นให้เกิดการผลัดเซลล์ผิวใหม่ ช่วยให้ผิวบริเวณที่ทำกระจ่างใสขึ้น และเลเซอร์ลบรอยสิวสามารถทำได้ทั้งบริเวณใบหน้า รวมถึงเลเซอร์รอยสิวที่หลังได้อีกด้วย

    สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเลเซอร์รอยสิวที่นี่ : เลเซอร์รอยสิว

    เลเซอร์รอยสิวรักษาอะไรได้บ้าง

    เลเซอร์รอยสิวรักษาอะไรได้

    1. รอยดำ

    รอยดำ หรือ Postinflamatory Hyperpigmentation (PIH) คือรอยสีน้ำตาลที่เกิดขึ้นหลังสิวอักเสบยุบลง มักเกิดเมื่อแกะสิว ทำให้ผิวหน้าถลอก จากนั้นจึงเกิดเป็นรอยดำ หรืออาจเกิดขึ้นได้เมื่อเกิดรอยแดงหลังสิวหาย แต่ปล่อยเอาไว้ไม่รักษาอย่างถูกวิธีก็กลายเป็นรอยดำได้ สามารถรักษาโดยการใช้เลเซอร์รอยดํา

    2. รอยแดง

    รอยแดง หรือ Postinflamatory Erythema (PIE) คือรอยสีแดงที่เกิดขึ้นหลังจากเป็นสิวอักเสบ มักเกิดขึ้นบ่อยกว่ารอยดำ โดยเกิดจากความแดงของการอักเสบจากสิว หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่แกะก็จะคงความแดงนั้น ไม่เปลี่ยนเป็นรอยดำ สามารถรักษาด้วยเลเซอร์รอยแดงได้

    3. ริ้วรอยตื้น

    นอกจากเลเซอร์รอยสิวจะสามารถรักษารอยดำรอยแดงแล้ว เลเซอร์บางชนิดยังสามารถช่วยทำให้ริ้วรอยตื้นๆ ดูบางลง รูขุมขนกระชับขึ้น รวมถึงทำให้บริเวณที่ทำดูกระจ่างใสและเรียบเนียนมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

    ประเภทของเลเซอร์รอยสิว

    เลเซอร์รอยสิวสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ดังนี้

    Ablative Laser

    เลเซอร์ชนิด Ablative คือเลเซอร์ที่ทำให้ผิวลอก ซึ่งจะกระตุ้นทำให้ผิวเกิดการผลัดเซลล์ เห็นผลได้ชัดเจนเรื่องการรักษารอยสิว แต่อาจต้องใช้เวลาพักฟื้นหลังจากทำหัตถการ ตัวอย่างของเลเซอร์ประเภทนี้มีเช่น Erbium:YAG Laser และ CO2 Laser เป็นต้น

    Non-Ablative Laser

    เลเซอร์ชนิด Non-Ablative คือเลเซอร์ที่ไม่ทำให้ผิวลอกหรือเป็นแผล แต่เป็นการส่งพลังงานเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิวหนัง อาจเห็นผลเรื่องการรักษารอยช้ากว่า Ablative Laser โดยตัวอย่างของเลเซอร์ชนิดนี้มีเช่น Nd:YAG Laser และ Alexandrite Laser เป็นต้น

    ชนิดของเครื่องเลเซอร์รอยสิวมีอะไรบ้าง?

    ชนิดของเครื่องเลเซอร์รอยสิว

    1. V-Beam Laser

    V-Beam Laser หรือ Pulsed Dye Laser (PDL) เป็นเลเซอร์รอยสิวที่ใช้ความยาวคลื่นในช่วงแสงสีเหลืองที่ 595 นาโนเมตร เพื่อดูดซับสีของฮีโมโกลบิน ส่งผลให้เกิดการจัดเรียงตัวใหม่ของเส้นเลือดใต้ผิว ช่วยลดปัญหารอยเส้นเลือดฝอย รอยแดงจากสิว

    2. Dual Yellow Laser

    เลเซอร์รอยสิวชนิดนี้คือการผสานพลังงานระหว่างคลื่นช่วงแสงสีเขียว 511 นาโนเมตรที่ใช้รักษารอยดำและคลื่นช่วงแสงสีเหลือง 578 นาโนเมตรที่ใช้รักษาเกี่ยวกับเส้นเลือดและรอยแดง ทำให้ Dual Yellow Laser สามารถรักษาได้ทั้งรอยดำและรอยแดงในเครื่องเดียว แต่มีข้อด้อยคือพลังงานไม่สูง อาจทำให้ต้องใช้เวลานานในการรักษาต่อครั้ง

    3. Long Pulsed Nd:YAG laser

    ถึงมักจะนิยมใช้ในหัตถการกำจัดขนมากกว่า แต่ Long Pulsed Nd:YAG laser ยังสามารถใช้ในการเลเซอร์รอยสิวได้อีกด้วย ซึ่งจุดเด่นของชนิดนี้คือมีความยาวคลื่นสูงอยู่ที่ 1,064 นาโนเมตร ทำให้สามารถรักษารอยในผิวหนังชั้นลึกได้ รวมถึงประยุกต์ใช้ในการรักษาปัญหาเกี่ยวกับหลอดเลือดเช่น เส้นเลือดขอด เป็นต้น

    4. Q Switched Nd:YAG Laser

    หลายคนอาจสับสนกับ Long Pulsed Nd:YAG laser เพราะมีชื่อที่ใกล้เคียงกัน แต่ Q Switched Nd:YAG Laser นั้นถูกใช้ในหัตถการที่รักษาปัญหาเม็ดสีโดยเฉพาะ จุดเด่นของเลเซอร์รอยสิวตัวนี้คือรักษารอยดำได้เป็นอย่างดี ส่งพลังงานลงใต้ชั้นผิวได้อย่างล้ำลึก สามารถประยุกต์ใช้ในการลบรอยสักได้อีกด้วย

    5. Picosecond Laser

    ถือเป็นนวัตกรรมเลเซอร์รอยสิวที่ใหม่และเป็นที่นิยมมากในขณะนี้ เป็นการปล่อยคลื่นพลังงานระดับ 1 ต่อล้านวินาที ทำให้ช่วยลดผลข้างเคียงจากความร้อน ความร้อนไม่สะสมใต้ชั้นผิว แต่ค่าใช้จ่ายในการทำเลเซอร์ชนิดนี้ยังถือว่าสูงอยู่เนื่องจากเป็นนวัตกรรมใหม่

    6. Fraxel dual laser/ Fraxel restore laser

    เลเซอร์รอยสิว 2 ชนิดนี้ถือว่าได้รับการยอมรับระดับสากลในหมวดเลเซอร์รอยสิวชนิดไม่ทำให้ผิวลอก ช่วยทำให้รอยดำจางลง เห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน แต่ค่าใช้จ่ายในการใช้เลเซอร์ชนิดนี้รักษารอยสิวก็ถือว่าสูง และต้องใช้แพทย์ที่มีความชำนาญมาก

    ใครเหมาะกับเลเซอร์รอยสิว

    ใครเหมาะสำหรับเลเซอร์รอยสิว

    ผู้ที่เหมาะกับการทำเลเซอร์รอยสิวคือผู้ที่ประสบกับปัญหาเหล่านี้

    • ผู้ที่มีปัญหารอยดำ รอยแดงจากสิว
    • ผู้ที่มีริ้วรอยตื้น รูขุมขนกว้าง
    • ผู้ที่ต้องการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ให้ผิวเรียบเนียนยิ่งขึ้น
    • ผิวที่ผิวหน้าหมองคล้ำ ต้องการให้กระจ่างใส

    ทั้งนี้ หากเป็นผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือต้องรับประทานยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือดควรแจ้งแพทย์ก่อนการทำหัตถการทุกครั้ง เพื่อป้องกันการเกิดผลข้างเคียงจากการทำเลเซอร์สิว

    ข้อดี - ข้อเสียของเลเซอร์รอยสิว

    ข้อดีของการทำเลเซอร์รอยสิวคือสามารถช่วยให้การรักษารอยดำและรอยแดงจากสิวใช้เวลาน้อยลง เห็นผลชัดเจน สามารถรักษาปัญหาได้อย่างครอบคลุมเนื่องจากมีเลเซอร์ให้เลือกหลายประเภท ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี เหมาะสมกับสภาพผิวของแต่ละบุคคล

    ข้อเสียของการทำเลเซอร์ลดรอยสิวคือมีเลเซอร์บางประเภทที่หลังทำต้องใช้เวลาในการพักฟื้น รวมถึงอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงเบื้องต้นคืออาการบวมแดง ผิวลอก หรือสีผิวเข้มขึ้นหลังการทำเลเซอร์ และเลเซอร์บางชนิดก็มีราคาสูง

    เลเซอร์รอยสิวทำกี่ครั้งเห็นผล?

    ระยะและจำนวนครั้งที่จะเห็นผลจากการทำเลเซอร์รอยสิวนั้นขึ้นอยู่กับความหนักเบาของปัญหา ประเภทของเลเซอร์ที่ใช้ และสภาพผิวของแต่ละบุคคล ซึ่งบางคนสามารถเห็นผลแตกต่างได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ แต่โดยเฉลี่ยแล้วควรทำประมาณ 5-6 ครั้งขึ้นไปถึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ตรงตามความคาดหวัง ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการตัดสินใจทำ

    เลเซอร์รอยสิวราคาเท่าไหร่? ที่ไหนดี?

    ราคาเลเซอร์รอยสิว

    คำถามที่ทุกคนสงสัยมากเป็นอันดับต้นคือราคาเลเซอร์รอยสิวหรือเลเซอร์รอยดําราคาเท่าไหร่? ซึ่งราคาของการทำเลเซอร์รอยสิวนั้นขึ้นอยู่กับประเภทของเลเซอร์ที่ใช้ โดยคอร์สหนึ่งจะอยู่ที่ประมาณ 13,000 - 20,000 บาท แต่หากต้องการราคาที่ย่อมเยากว่านั้นอาจมีตัวเลือกเป็น IPL รอยสิวลดลงและช่วยให้ผิวกระจ่างใสเช่นกัน

    ส่วนเลเซอร์รอยสิวที่ไหนดี? เราควรพิจารณาการเลือกสถานที่ทำเลเซอร์ลบรอยสิวจาก 6 ข้อต่อไปนี้

    1. เลือกสถานพยาบาลหรือคลินิกที่ได้รับการอนุญาตอย่างถูกต้องและมีใบรับรอง
    2. มีความสะอาด ปลอดภัย อุปกรณ์ครบครันและได้มาตรฐาน
    3. แพทย์มีความชำนาญ เชี่ยวชาญในการทำหัตถการ
    4. มีรีวิวที่น่าเชื่อถือ ไว้ใจได้
    5. มีช่องทางติดต่อชัดเจน เพื่อความสะดวกในการสอบถาม
    6. เดินทางง่าย ที่ตั้งสามารถเดินทางไปได้สะดวก[/li][/list]

    ข้อสรุป

    เลเซอร์รอยสิวเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยในการรักษารอยดำและรอยแดงจากสิว ช่วยย่นระยะเวลาในการผลัดเซลล์ผิว ทำให้รอยหรือจุดด่างดำจางลงในเวลาไม่นาน ในปัจจุบันมีเลเซอร์รอยสิวหลากหลายชนิดทำให้สามารถเลือกเลเซอร์ที่เหมาะสมกับปัญหาและผิวของตนเองได้มากยิ่งขึ้น โดยหัตถการชนิดนี้ต้องใช้ความชำนาญของแพทย์เพื่อที่จะได้เกิดผลข้างเคียงน้อยที่สุด เพราะฉะนั้น ผู้ที่สนใจทำเลเซอร์รอยสิวควรเลือกสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานและมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อความปลอดภัยและให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ตนเองคาดหวัง

    ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก https://www.prachachat.net/public-relations/news-1228224


    256
    การจองเลขทะเบียนรถออนไลน์ดีอย่างไร

    เชื่อว่าหลาย ๆ คนที่ซื้อรถใหม่มือหนึ่งหรือมือสอง ต่างคงต้องอยากได้ป้ายทะเบียนรถยนต์เลขในดวงใจ เพื่อเสริมสิริมงคลให้ตัวรถกันมากขึ้น แต่การจะไปจองเลขทะเบียนในแต่ละครั้งนั้นก็ยากเหลือเกิน ไม่ว่าจะการต้องตื่นเช้าเพื่อไปกรมขนส่งทางบกเพื่อจับบัตรคิว หรือ การที่เลขในดวงใจของคุณนั้นถูกแย่งชิงไป การมาของบริการจองเลขทะเบียนรถยนต์ออนไลน์จึงได้เข้ามาอำนวยความสะดวกให้ชีวิตประจำวันของเรามากขึ้น ซึ่งในบทความนี้เราจะมาแนะนำการจองทะเบียนออนไลน์ให้คุณได้รู้จักกับระบบนี้มากขึ้น

    การจองเลขทะเบียน คืออะไร สะดวกอย่างไรในปัจจุบัน

    การจองเลขทะเบียนออนไลน์ คือ การจองป้ายทะเบียนรถผ่านระบบอินเทอร์เน็ตที่สามารถจองทะเบียนรถยนต์ได้หลากหลายชนิด อาทิเช่น รถเก๋ง รถตู้ หรือรถกระบะต่าง ๆ โดยการจองจะถูกใช้ในกรณีจองทะเบียนรถคันใหม่เท่านั้น ซึ่งนับว่าเป็นวิธีที่เหมาะสมกับสมัยปัจจุบันอย่างมาก เพราะช่วยให้การจองเลขทะเบียนออนไลน์สะดวกกว่าโดยที่ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปกรมขนส่งทางบกเพื่อจับบัตรคิวที่อาจใช้เวลาค่อนข้างนานพอสมควร อีกทั้งยังมีความเสี่ยงกับสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้ออย่างโควิด 19 อีกด้วย

    วิธีจองเลขทะเบียนกับขั้นตอนการจองง่าย ๆ

    ขั้นตอนการจองเลขทะเบียนรถ

    1. เข้าไปที่เว็บไซต์ https://reserve.dlt.go.th/reserve เพื่อเริ่มยื่นคำร้องขอเลขทะเบียนกับกรมขนส่งทางบก โดยจะทำการได้ตั้งแต่ 10.00 - 16.00 น. เป็นต้นไป

    จองทะเบียนรถยนต์ออนไลน์ผ่านเว็บไซต์

    2. อ่านรายละเอียดและศึกษาการจองทะเบียนรถยนต์ให้เรียบร้อย หลังจากนั้นให้คลิกปุ่ม "ยอมรับหลักเกณฑ์"

    หลักเกณฑ์การจองทะเบียนรถออนไลน์

    3. กรอกข้อมูลส่วนตัว ชื่อและนามสกุล เลขประจำตัวประชาชน และเลขทะเบียนรถที่ต้องการจอง (ไม่สามารถเลือกหมวดอักษรได้) รวมถึงรายละเอียดอื่น ๆ ให้เรียบร้อย โดยสามารถเลือกได้ดังนี้ รถเก๋ง รถตู้ หรือรถกระบะต่าง ๆ

    กรอกข้อมูลจองเลขทะเบียนรถยนต์ออนไลน์

    4. ติดตามตารางกำหนดการจองทะเบียนออนไลน์ ได้ที่แถบเมนู "ตารางเปิดรับจองเลข และ หลักเกณฑ์การจองเลข" เพื่อเช็กว่าปัจจุบันมีการจดทะเบียนถึงเลขใด

    การจองทะเบียนออนไลน์

    5. ตรวจสอบผลการขอเลขทะเบียนรถได้ที่เว็บไซต์เดิม โดยคลิกเลือก "ตรวจสอบผลการจอง" และใส่เลขบัตรประจำตัวประชาชน/ทะเบียนการค้าหนังสือเดินทาง เพื่อติดตามความคืบหน้าของการจองเลขทะเบียนรถ

    หลักสำคัญในการจองเลขทะเบียนออนไลน์เพื่อให้ได้เลขในดวงใจ

    ทำความเข้าใจหลักสำคัญในการจองทะเบียนรถยนต์ออนไลน์ก่อน จึงจะเตรียมตัวได้อย่างถูกต้อง มีดังนี้


    1. ข้อมูลรถต้องมีความถูกต้องสมบูรณ์ ดังนี้

    • กรณีรถใหม่ คุณต้องได้รับรถยนต์แล้วและข้อมูลรถต้องถูกส่งให้กับกรมการขนส่งทางบกแล้วเท่านั้น
    • กรณีรถจดทะเบียนแล้ว ต้องเป็นรถที่จดทะเบียนกรุงเทพมหานครหรือแจ้งความประสงค์ขอย้ายรถมากรุงเทพมหานครและมีสถานะปกติ

    2. ชื่อผู้จองต้องเป็นเจ้าของรถและต้องจดทะเบียนด้วยชื่อที่ใช้จองเท่านั้น ไม่สามารถยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงได้

    3. คุณสามารถกรอกหมายเลขทะเบียนรถ ครั้งละ 1 เลข โดยต้องเป็นเลขที่เปิดให้จองตามตารางจองทะเบียนรถและสามารถกรอกหมายเลขทะเบียนรถใหม่ได้ จนกว่าจะสามารถจองได้สำเร็จ

    • กรณีมีรถมากกว่า 1 คัน และต้องการจองมากกว่า 1 เลข คุณจะต้องนำหลักฐานมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่เพื่อปลดล็อกให้จองหมายเลขเพิ่มเติม โดยใช้หลักฐาน ได้แก่ ผลการจองหมายเลขทะเบียนรถคันที่ 1, สำเนาเล่มทะเบียนรถคันที่ 1, สำเนาเล่มทะเบียนรถคันเพิ่มเติม, สำเนาบัตรประชาชนและหนังสือมอบอำนาจ (หากเป็นผู้ดำเนินการแทน

    4. เมื่อจองสำเร็จแล้วต้องจดทะเบียนภายในวันที่กรมการขนส่งกำหนด (ประมาณ 15 วัน)

    5. เมื่อจองป้ายทะเบียนรถได้แล้ว จะสามารถจองได้อีกครั้งหลังจาก 3 เดือน กรมการขนส่งทางบกอาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลการจอง โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

    6. ระบบจะเปิดให้จองแบบวันต่อวัน ในช่วงเวลา 10:00 น. - 16:00 น. ของวันที่กำหนดไว้ในตารางจองทะเบียนรถ

    7. อมูลที่กรอกต้องเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง โดยในหน้าเว็บไซต์จะบังคับให้กรอกตามรูปแบบที่กำหนดและมีการแจ้งเตือนหากกรอกข้อมูลไม่เป็นไปตามรูปแบบที่กำหนด เช่น หมายเลขบัตรประชาชนให้พิมพ์ติดกัน เป็นต้น

    การเตรียมตัวก่อนเริ่มจองเลขทะเบียนรถออนไลน์ ต้องเริ่มต้นอย่างไร?

    เตรียมตัวก่อนการจองเลขทะเบียนรถ

    การเตรียมพร้อมมาดีย่อมทำให้คุณได้เริ่มจองทะเบียนรถยนต์ออนไลน์ก่อนใคร และนี่คือข้อมูลและเอกสารที่ใช้ในการจองป้ายทะเบียนรถยนต์ มีดังนี้

    • ทำความเข้าใจหลักเกณฑ์การจองป้ายทะเบียนรถออนไลน์ของกรมการขนส่งทางบก
    • ตรวจสอบตารางกำหนดการจองหรือตารางจองทะเบียนรถที่กรมการขนส่งทางบกอัปเดตเป็นรายสัปดาห์ ได้ที่ https://reserve.dlt.go.th/reserve/schedule/number.pdf ประกอบด้วยข้อมูลสำคัญ ได้แก่ วันที่เปิดจอง หมวดอักษร หมวดตัวเลข ข้อมูลนี้สำคัญมาก ทำให้เราทราบว่า เราต้องทำการจองวันไหนจึงจะได้เลขที่ต้องการ
    • เตรียมหมายเลขที่ต้องการรวมทั้งหมายเลขสำรองอย่างน้อย 10 เลข โดยอาจจะเรียงลำดับเลขที่ชอบมากไปหาน้อย
    • เตรียมข้อมูลที่ใช้กรอกในเว็บไซต์จองป้ายทะเบียนรถยนต์ออนไลน์ ได้แก่ คำนำหน้า ชื่อ สกุล เลขประจำตัวประชาชน เลขตัวถังรถ ยี่ห้อรถ เบอร์โทรศัพท์และเลขทะเบียนที่ต้องการจอง
    • เตรียมอุปกรณ์ในการเข้าถึงเว็บไซต์การจองทะเบียนรถยนต์ออนไลน์ Smartphone หรือ Tablet
    • ใช้ผู้ช่วยในการจองทะเบียนรถยนต์ออนไลน์ที่เป็นมืออาชีพ รอบรู้และมีประสบการณ์ เช่น Fasttabien

    สรุป

    จะเห็นได้ว่าขั้นตอนการจองป้ายทะเบียนรถยนต์ออนไลน์ มีขั้นตอนที่ไม่ซับซ้อน หากว่าคุณเตรียมตัวมาอย่างดีก็จะช่วยให้คุณจองทะเบียนรถ กรมขนส่งได้ไวยิ่งขึ้น แต่น่าเสียดายที่บริการนี้มีเพียงแค่การจองทะเบียนรถ กทมเท่านั้น ซึ่งสำหรับใครที่อยู่ในต่างจังหวัดอาจต้องอดใจกันสักหน่อย


    257
    ระบบจองทะเบียนรถยนต์ออนไลน์

    หลาย ๆ คนกำลังประสบปัญหาเกี่ยวกับการเตรียมทั้งตัวทั้งใจในการตื่นตั้งแต่เช้าในการไปกรมการขนส่งทางบกเพื่อจับบัตรคิวในการจองทะเบียนรถยนต์ เนื่องจากความสำคัญของเลขทะเบียนนอกจากจะเป็นเรื่องของการยืนยันตัวตนแล้วยังมีเรื่องของเลขสวยทะเบียนมงคลมาเกี่ยวข้องอีกด้วย

    การเตรียมตัวล่วงหน้าจะช่วยให้สามารถจับจองเลขทะเบียนที่ชอบได้สะดวกยิ่งขึ้น ซึ่งการมาของระบบจองทะเบียนออนไลน์จะมาช่วยให้ปัญหาเหล่านี้หมดไป แล้วระบบที่ว่านั้นคืออะไร? และวิธีการจองเลขทะเบียนรถอย่างไร ในบทความนี้เราจะพาไปหาคำตอบไปพร้อม ๆ กัน

    การจองทะเบียนรถยนต์ คืออะไร? สะดวกสบายจริงไหม?

    การจองทะเบียนรถยนต์ออนไลน์คืออะไร

    การจองเลขทะเบียนออนไลน์ คือ การจองทะเบียนรถผ่านระบบอินเทอร์เน็ตสำหรับรถเก๋ง รถตู้ หรือรถกระบะ ซึ่งนับว่าเป็นวิธีที่ทันสมัยอย่างมาก เพราะช่วยให้การจองทะเบียนสะดวกกว่ายุคก่อน ๆ อีกทั้งยังเหมาะสำหรับผู้ไม่สะดวกจองด้วยตัวเองทางขนส่งหรือปัจจุบันสถานการณืโควิดที่ยังมีการระบาดอยู่ ทำให้การจองทะเบียนรถยนต์ผ่านขนส่งดำเนินการได้ช้าลง

    จึงได้เกิดเว็บไซต์บริการจองเลขทะเบียนพร้อมดำเนินการเอกสารออนไลน์ขึ้น เพื่อให้การดำเนินการเอกสารจองสำเร็จ ส่วนของวิธีการจองป้ายทะเบียนนั้นสะดวก รวดเร็ว ไม่ยากจนเกินไป อีกทั้งช่วยอำนวยความสะดวกการจองป้ายเลขทะเบียนที่ถูกใจ โดยที่คณไม่ต้องเดินทางไปกรมการขนส่งทางบกตั้งแต่เช้าเพื่อจับบัตรคิวให้เสียเวลา

    วิธีการจองทะเบียนรถยนต์ออนไลน์

    วิธีการจองเลขป้ายทะเบียนออนไลน์ก็ไม่ได้มีความยุ่งยากซับซ้อน โดยท่านสามารถทำตามขั้นตอนได้ดังนี้

    1. การจองทะเบียนออนไลน์ สามารถทำได้โดยการเข้าผ่าน https://reserve.dlt.go.th/reserve/ และกด จองเลขทะเบียนรถยนต์ โดยจะจองได้ตั้งแต่เวลา 10.00-16.00

    จองทะเบียนรถยนต์ออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์

    2. ศึกษาและทำความเข้าใจ หลักเกณฑ์การจองทะเบียนรถยนต์ออนไลน์ จากนั้นคลิกที่ ‘ยอมรับหลักเกณฑ์’ เพื่อเป็นการยืนยันว่าเราได้อ่านและทำความเข้าใจหลักเกณฑ์เหล่านี้เรียบร้อยแล้ว

    หลักเกณฑ์การจองทะเบียนรถออนไลน์

    3. เราสามารถตรวจสอบ ตารางเปิดรับจองเลขและหลักเกณฑ์การจองได้ด้วย โดยในตารางจะมีการแสดงเป็น หมวดตัวอักษร และ เลขที่เปิดจอง พร้อมวันที่ต้องจดทะเบียน  โดยจะแบ่งทั้งหมวด รถเก๋ง รถตู้ รถกระบะต่าง ๆ

    ตารางกำหนดการจองเลขทะเบียนออนไลน์

    4. หลังจากที่เรากด ‘ยอมรับหลักเกณฑ์’ แล้วระบบจะนำเข้ามาสู่ หน้าจอจองทะเบียนรถยนต์ออนไลน์ โดยเราต้องเลือกประเภทรถที่เราจะจองทะเบียน โดยเลือกได้ดังนี้ รถเก๋ง, รถตู้, รถกระบะ

    การจองทะเบียนออนไลน์

    5. กรอกข้อมูลต่าง ๆ ให้ครบถ้วน เพื่อใช้การจองทะเบียนรถยนต์ โดยเราต้องกรอกดังนี้

    • หมายเลขบัตรประชาชนเจ้าของรถ หรือจะใช้ทะเบียนการค้าและหนังสือเดินทางได้เช่นกัน
    • คำหน้าชื่อ ตามด้วยชื่อและนามสกุล แต่ถ้าหากเป็นชื่อนิติบุคคลสามารถใส่ชื่อได้เลย ไม่จำเป็นต้องกรอกนามสกุลในส่วนนี้ โดยชื่อผู้จองจะต้องเป็นชื่อเจ้าของรถเท่านั้น
    • เลขคัสซีหรือเลขตัวถังรถ ซึ่งจะต้องกรอกเป็นตัวหนังสือภาษาอังกฤษพิมพ์เล็กเท่านั้น
    • ยี่ห้อรถยนต์ตามเล่มหรือใบจองที่มี
    • เบอร์โทรศัพท์ส่วนตัวที่ติดต่อได้
    • คลิกเลือก “เลขทะเบียนที่ต้องการจอง” ซึ่งปกติแล้วจะไม่สามารถเลือกหมวดตัวอักษรได้ แต่จะเลือกได้เฉพาะหมายเลขไม่เกิน 4 หลัก ซึ่งการจองแต่ละครั้งจะเปิดให้จองเพียงครั้งละ 1 เลข และถ้าหากไม่สามารถจองได้ก็สามารถใส่ตัวเลขใหม่ได้จนกว่าจะจองได้
    • หลังจากที่ทำการจองเลขทะเบียนได้แล้วจะต้องนำรถมาจดทะเบียนภายในเวลาทำการ โดยไม่เกิน 15 วันหลังจากที่จองเลขทะเบียนได้แล้ว ซึ่งถ้าไม่มาตามกำหนดการสิทธิของเลขทะเบียนนั้นจะตกไปเป็นของผู้อื่นแทน
    • ถ้าหากมีความต้องการจองเลขทะเบียนสำหรับรถคันใหม่ต้องรอ 90 วันเพื่อจองเลขทะเบียนได้ใหม่ แต่ถ้าต้องการจองเลขทะเบียนมากกว่า 1 คันภายในครั้งเดียวจะต้องนำหลักฐานและเอกสารไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่ ดังนี้

    1. สำเนาสำหรับผลการจองหมายเลขทะเบียนรถยนต์คันที่ 1
    2. สำเนาเอกสารหลักฐานของรถคันที่ 1 (เล่มทะเบียนรถ) และคันที่ 2 (ใช้ในกรณีรถป้ายแดงหรือเล่มทะเบียนในกรณีรถป้ายขาว)
    3. สำเนาบัตรประชาชนหรือในกรณีที่เป็นนิติบุคคลจะต้องใช้เลขทะเบียนบริษัท
    4. หนังสือมอบอำนาจในกรณีที่เป็นตัวแทนมาดำเนินการแทนเจ้าของรถ

    กรอกข้อมูลจองเลขทะเบียนรถยนต์ออนไลน์

    สรุป

    จะเห็นได้ว่าระบบจองทะเบียนรถยนต์ออนไลน์ นับว่าเป็นการจองป้ายทะเบียนรถยนต์ที่สะดวกสบายอย่างมาก เนื่องจากไม่ต้องเดินทางไปจองทะเบียนรถ กรมขนส่ง จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาหรือไม่สามารถดำเนินการผ่านกรมขนส่ง แต่ต้องไม่ลืมว่าการจองผ่านระบบออนไลน์ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขและสามารถทำได้เฉพาะจองทะเบียนรถ กทม ถ้าคุณจัดการย้ายทะเบียนรถมาเป็นกรุงเทพมหานครเรียบร้อยแล้ว คุณก็สามารถทำเรื่องจองทะเบียนรถอย่างถูกต้องได้เลย

    258
    ยาไมเกรนตัวไหนดี

    อาการปวดหัวย่อมเคยเกิดขึ้นกับคนทุกคน แต่เราจะทราบได้อย่างไรว่า อาการที่เกิดขึ้นเป็นอาการปวดหัวทั่วไปหรือเป็นอาการปวดหัวไมเกรนกันแน่ แล้วการปวดหัวระดับใด จำเป็นต้องใช้ยาแก้ปวดไมเกรนบ้าง หากเป็นไมเกรนจะรับประทานยาไมเกรนตัวไหนดี ยาไมเกรนมีอะไรบ้าง จะมีผลข้างเคียงอย่างไรบ้าง ซึ่งอาจเป็นเราหรือคนรอบข้างกำลังเจอกับการปวดหัวไมเกรนอยู่ ดังนั้นอาการเหล่านี้เป็นเรื่องไม่ไกลตัว และถ้าเป็นแล้วต้องกระทบชีวิตประจำวันอย่างแน่นอน จึงไม่เสียหายเลยที่จะศึกษาหาความรู้เรื่องเหล่านี้

    ไมเกรนคืออะไร มีอาการอย่างไร มีความแตกต่างจากอาการปวดหัวทั่วไปอย่างไรบ้าง

    รักษาอาการปวดหัวด้วยยาไมเกรน

    ไมเกรน (Migraine) เป็นโรคทางระบบประสาท (Neurological disease) ที่มีอาการปวดหัวรุนแรงมากกว่าการปวดหัวแบบปกติ ซึ่งสามารถพบได้บ่อยและมีลักษณะอาการหลายอย่าง แต่อาการที่พบมากและเป็นจุดเด่นเฉพาะไมเกรน คืออาการปวดศีรษะแบบปวดตุบ ๆ ตรงหน้าผากด้านข้างหรือรอบดวงตา มักเป็นด้านใดด้านหนึ่งของศีรษะ เมื่อเริ่มปวดหัวแล้ว อาการจะแย่ลง หากมีการเคลื่อนไหวร่างกาย เจอแสงจ้า ได้ยินเสียงดัง จะยิ่งทำให้ปวดมากขึ้นเรื่อย ๆ จึงเป็นที่มาของอาการกลัวแสง (Photophobia) กลัวเสียง (Phonophobia) คลื่นไส้ (Nausea) อาเจียน (Vomit) อาการของโรคอาจมีระยะเวลาอย่างน้อย 4 ชั่วโมงไปจนถึงหลายวันทำให้หลาย ๆ คนจึงต้องหายาไมเกรนเพื่อบรรเทาอาการปวดหัวให้ดีขึ้น หากดูจากสถิติการเกิดแล้วไมเกรนมักเกิดกับเพศหญิงมากกว่าเพศชาย โดยจะเกิดในวัยรุ่นและวัยหมดประจำเดือน

    ปัจจัยกระตุ้นไมเกรน
    ปัจจัยกระตุ้นไมเกรนที่ทำให้ผู้ป่วยต้องกินยาไมเกรน ได้แก่
    • ฮอร์โมน
    • ความเครียด
    • การนอนหลับน้อยเกินไป/มากเกินไป
    • อากาศเปลี่ยน
    • แพ้อาหาร
    • เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
    • รับประทานอาหารไม่ตรงเวลา
    • ผงชูรส
    • สารถนอมอาหาร
    • อากาศร้อน
    • อากาศเย็น
    • กลิ่นรุนแรง
    • กลิ่นน้ำหอม
    • ควันบุหรี่
    • แสงจ้า
    • เสียงดัง
    • มีประจำเดือน
    • ตั้งครรภ์
    • การคุมกำเนิด
    • คาเฟอีน
    • ยาขยายหลอดเลือด
    • การออกกำลังกายที่รุนแรง
    • ยาสูบ
    • บุหรี่
    • การขาดน้ำ

    อาการไมเกรนมีอะไรบ้าง
    อาการปวดหัวเป็นไปตามหลักเกณฑ์วินิจฉัยจาก American Headache Society (AHS) ว่าเข้าข่ายเป็นไมเกรนและควรรับประทานยาไมเกรน มีดังนี้
    1. มีอาการปวดหัวอย่างน้อย 5 ครั้งขึ้นไป
    2. ระยะเวลาการปวด 4-72 ชั่วโมง
    3. มีลักษณะอย่างน้อย 2 ใน 4 ประการ จากอาการ ได้แก่ ปวดหัวข้างเดียว, ปวดหัวแบบตุบ ๆ เป็นจังหวะ, ระดับความปวดปานกลางถึงรุนแรง, มีความรุนแรงขึ้นเมื่อเคลื่อนไหวร่างกายหรือทำกิจกรรม
    4. มีลักษณะอย่างน้อย 1 อย่างจากอาการเหล่านี้ อันได้แก่ คลื่นไส้ อาเจียน แพ้แสง แพ้เสียง

    ระยะของการปวดหัวไมเกรนเป็นออกเป็น 4 ระยะ ดังนี้
    1. ก่อนอาการกำเริบ (Prodrome) : 24-48 ชั่วโมงก่อนการปวดหัว อาจมีอาการหาว อารมณ์แปรปรวน มีความอยากอาหารมากขึ้น
    2. อาการนำ (Aura) : ระยะนี้อาจเกิดขึ้น 5-60 นาที คนส่วนใหญ่มักจะไม่เจอกับระยะนี้ บางคนอาจมีอาการนำพร้อมกับปวดหัวไปด้วยกัน
    3. กลับเข้าสู่ภาวะปกติ (Postdrome) : เป็นอาการหลังจากปวดหัว จะรู้สึกเหนื่อยล้าหรือหมดแรง อาจดำเนินต่อไป 1-2 วัน เรียกว่า อาการเมาค้างและผู้ที่เป็นไมเกรนจะมีอาการนี้ถึงร้อยละ 80

    ปรึกษาการใช้ยาไมเกรนกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อการรักษาอย่างมีประสิทธิภาพ หลีกเลี่ยงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น

    ปรึกษาแพทย์เรื่องการใช้ยาไมเกรน

    การรักษาไมเกรนส่วนมากเป็นการใช้ยาร่วมกับการหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้อาการกำเริบ สามารถแบ่งกลุ่มยาไมเกรนออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ ยาแก้ปวดไมเกรนและยาป้องกันไมเกรน

    1. ยาไมเกรนหรือยาแก้ปวดไมเกรน คือ ยาที่ใช้เมื่อมีอาการปวดหัว ซึ่งนิยมเป็นอย่างมากสำหรับยาแก้ปวดหัวไมเกรน ได้แก่ ยากลุ่มทริปแทน (Triptan) และเออโกทามีน (Ergotamine) มีผลให้ลดการขยายตัวของหลอดเลือดในสมอง มักมีส่วนผสมของคาเฟอีน (Caffeine) ช่วยในการแก้ปวดหัวด้วยเช่นกัน ตัวอย่างเช่น ยา cafergot หรือ ยา tofago หรือ ยา avamigran แต่เนื่องจากมีผลต่อหลอดเลือด จึงมีข้อควรระวังเป็นอย่างมาก เช่น ไม่ควรใช้ร่วมกับยาต้านไวรัสเอชไอวี ยากลุ่มฆ่าเชื้อรา ยาฆ่าเชื้อ ยาลดความดัน ยาต้านอาหารซึมเศร้า เป็นต้น อีกทั้งยากลุ่มนี้ยังมีผลข้างเคียง เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ใจสั่น ชาปลายมือปลายเท้า เป็นต้น

    2. ยาป้องกันไมเกรน คือ ยาไมเกรนที่สามารถใช้ป้องกันอาการปวดศีรษะจากไมเกรนได้ ได้แก่ กลุ่มยาต้านซึมเศร้า กลุ่มยาลดความดันและกลุ่มยากันชัก เป็นต้น สามารถรับประทานเพื่อลดความถี่และความรุนแรงของอาการปวดหัวได้ มักใช้สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงและเป็นบ่อยมากกว่า 1 ครั้งใน 1 สัปดาห์ ยากลุ่มนี้ก็มีผลข้างเคียงมากและต้องอยู่ภายใต้ความดูแลของแพทย์เช่นกัน

    ในผู้ป่วยไมเกรนเรื้อรังนั้นมักจะใช้ยาลดปวดไมเกรนบ่อยครั้ง ซึ่งก่อให้เกิดการติดยาแก้ปวดหรือดื้อยาได้ จึงต้องรับประทานยาใช้ปริมาณที่เพิ่มขึ้นและบ่อยขึ้น เมื่อรับประทานเป็นระยะเวลานานติดต่อกันจึงมีโอกาสสูงที่จะเกิดผลข้างเคียงจากยาแก้ปวดไมเกรน โดยอาการไม่พึงประสงค์ของยาแก้ปวด ได้แก่ ทำให้ตับอักเสบ กระเพาะเป็นแผล กระเพาะทะลุ อาการปวดหัวรุนแรงมากขึ้น อ่อนเพลีย หงุดหงิด ไม่มีสมาธิ ใจสั่น หากต้องรักษาการติดยาแก้ปวดด้วยการหยุดยา อาจใช้ยากลุ่มที่ใช้ป้องกันไมเกรนในข้างต้น

    ดังนั้นการพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อกำกับดูแลการใช้ยาไมเกรนนั้น จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากแพทย์สามารถใช้ความรู้และประสบการณ์ในการวินิจฉัยว่า การกินยานั้นตรงกับโรคหรือไม่ หรือ ยาที่กินอยู่นั้นได้ผลหรือไม่ การซื้อยาไมเกรนมารับประทานเอง นอกจากอาจรักษาไม่หายแล้ว เมื่อติดยาแก้ปวดหัวไมเกรนก็ทำให้เกิดอาการป่วยใหม่เพิ่มขึ้นอีก

    สรุป
    ไมเกรนเป็นอาการปวดหัวที่รุนแรงมากกว่าอาการปวดหัวทั่วไป สามารถพบอาการนี้ได้บ่อย อาจมีสาเหตุมาจากปัจจัยกระตุ้นได้หลายอย่าง ผู้ป่วยต้องสังเกตปัจจัยกระตุ้นเพื่อหาทางหลีกเลี่ยงอาการปวดหัวไมเกรน ทั้งนี้ไมเกรนเป็นโรคที่ไม่หายขาด ต้องมีการใช้ยาไมเกรนเพื่อรักษาและบรรเทาความเจ็บปวด และเนื่องจากยาแก้ปวดไมเกรนนั้นมีผลข้างเคียงมาก จึงควรพบแพทย์เพื่อรักษาอย่างจริงจัง ใช้ยาให้เหมาะสม หลีกเลี่ยงการติดยาหรือดื้อยาและเพื่อให้เกิดผลข้างเคียงน้อยที่สุด

    259
    โบท็อกไมเกรน

    หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังเจอปัญหาอาการปวดหัวเพราะไมเกรนอย่างต่อเนื่อง รักษาอย่างไรก็ไม่หาย เราขอแนะนำอีกหนึ่งทางเลือก นั่นคือ การฉีดโบท็อกรักษาไมเกรน แล้วโบท็อกไมเกรนคืออะไร มีวิธีการฉีดอย่างไร มีความปลอดภัยหรือมีผลข้างเคียงที่จะตามมาหรือไม่ วันนี้ เรารวบรวมข้อมูลและสถานพยาบาลดี ๆ มาแนะนำให้คุณแล้ว

    ฉีดโบท็อกไมเกรนแล้ว มีผลข้างเคียงอย่างไรบ้าง
    สำหรับการฉีดโบท็อกไมเกรนจะมีผลข้างเคียงค่อนข้างน้อย และมีความปลอดภัยสูง เพราะ Botulinum toxin ไมเกรน ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกาและองค์การอาหารและยาของไทย ทำให้มั่นใจได้ว่าจะไม่ส่งผลอันตรายต่อร่างกาย แต่ในบางรายก็อาจจะเกิดผลข้างเคียงเล็กน้อย เช่น
    • อาการบวมแดง มีจุดรอยช้ำหรือรอยนูนจากเข็ม อาการจะหายไปใน 1-2 วัน
    • อาการบวมแดงอันเกิดจากการแพ้ เจ็บบริเวณที่ฉีด หรือการติดเชื้อ
    • ผลข้างเคียงลักษณะแบบชั่วคราว เช่น หนังตาตก รูปหน้าเบี้ยว เป็นต้น

    แต่กรณีดังกล่าว ก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อย ถ้าหากใช้โบท็อกไมเกรนที่เป็นของแท้ ฉีดถูกตำแหน่ง และรับการรักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ ก็สามารถมั่นใจได้ว่า ปลอดภัยและลดโอกาสที่จะเกิดผลข้างเคียงเหล่านี้ได้

    เราควรเลือกฉีดโบท็อกไมเกรนที่ไหนดี

    โรงงานผลิตครีมทาผิว

    เมื่อคุณตัดสินใจที่จะฉีดโบท็อกไมเกรนแล้ว คำถามถัดมา คือ รักษาไมเกรนที่ไหนดี เราได้สรุปแนวทางการเลือกไว้ ดังนี้
    1.สถานพยาบาลต้องได้มาตรฐาน มีความน่าเชื่อถือบนโลกออนไลน์ ภายในสถานพยาบาลมีความสะอาด ครบครันด้วยอุปกรณ์ทางการแพทย์ บรรยากาศรอบ ๆ มีความปลอดภัย และที่สำคัญ จะต้องสามารถเดินทางได้สะดวก
    2.แพทย์จะต้องมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เพราะการฉีดโบท็อกไมเกรน เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน และเฉพาะจุด ดังนั้น แพทย์จึงต้องมีความเชี่ยวชาญและแม่นยำในการรักษา
    3.ใช้ผลิตภัณฑ์โบท็อกที่เป็นของแท้เท่านั้น เพื่อความปลอดภัยของผู้เข้ารับการรักษา

    โดยเราขอแนะนำ BTX Migraine Center ซึ่งเป็นศูนย์รักษาไมเกรนโดยแพทย์เฉพาะทาง ที่รักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางระบบสมอง ช่วยรักษาไมเกรนเรื้อรัง อาการออฟฟิศซินโดรม ลดอาการปวดและการใช้ยารับประทานได้กว่า 90%

    ซึ่งทาง BTX Migraine Center ให้บริการอย่างรอบด้าน ทั้งตรวจไมเกรน รักษาไมเกรน โบท็อกไมเกรน และโบท็อกออฟฟิศซินโดรม โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านโบท็อกไมเกรน ราคาที่สมเหตุสมผล และการันตีด้วยรีวิวของผู้ที่เข้ารับการรักษาจริง ว่ามีอาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

    แล้วโบท็อกไมเกรน คืออะไร?

     โบท็อกไมเกรน คืออะไร

    ก่อนอื่น เราต้องมาทำความรู้จักเกี่ยวกับโรคไมเกรนกันก่อน ไมเกรนเป็นอาการปวดศีรษะที่พบได้บ่อย ซึ่งสามารถพบได้ในคนทุกเพศทุกวัย โดยจะพบมากในเพศหญิง โดยเฉพาะช่วงอายุ 25 – 55 ปี และเมื่อเข้ารับการตรวจไมเกรน ก็มักได้รับการวินิจฉัยที่ผิดพลาด

    ไมเกรนจะมีอาการคล้ายปวดหัวทั่ว ๆ ไป มีลักษณะเหมือนมีอะไรมาบีบ หรือว่ามากดมารัดบริเวณรอบ ๆ เบ้าตา ขมับ 2 ข้างไปจนถึงท้ายทอย โดยบางรายก็จะมีอาการคลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วย ไม่อยากเห็นแสงจ้า และไม่อยากได้ยินเสียงดัง ส่วนบางคนอาจมีอาการปวดบ่อยครั้งขึ้น รุนแรงขึ้น และยาวนานขึ้น จนกลายเป็นอาการ “ปวดหัวเรื้อรัง” ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น นอนไม่หลับ ขับรถหรือทำงานไม่ได้ เป็นต้น

    แต่บางครั้งอาการปวดหัวที่เกิดขึ้น อาจจะไม่ใช่อาการไมเกรน แต่อาจเป็นอาการปวดหัวจากโรคอื่น เช่น มีเนื้องอกซ่อนอยู่ มีเลือดออกในสมอง ซึ่งไม่ว่าจะเป็นเพราะสิ่งใด การปล่อยไว้ก็อาจส่งผลอันตรายได้ หรือหากได้รับการรักษาที่ไม่ถูกต้อง การซื้อยาทานเองบ่อย ๆ ก็อาจจะทำให้เกิดภาวะปวดหัวจากการใช้ยาแทน ซึ่งจะมีความรุนแรงมากกว่าและรักษาได้ยากกว่า

    โดยไมเกรนนี้ เกิดจากระบบรับความรู้สึกเจ็บปวดบริเวณใบหน้ามีความไวมากกว่าปกติ เมื่อเจอสิ่งกระตุ้น ก็จะทำให้ปวดหัวขึ้นมาได้ ทำให้สมองไวต่อสิ่งกระตุ้นมากกว่าปกติ รวมถึงเกิดจากการอักเสบของเส้นเลือด สมอง และเส้นประสาท ซึ่งมีการสันนิษฐานว่าอาจจะเกิดจากความผิดปกติทางพันธุกรรมหรือยีนก็เป็นได้

    สิ่งที่เป็นการกระตุ้นให้เกิดไมเกรนมีมากมายหลายประเภท เช่น
    • การพักผ่อนน้อย
    • ความเครียดทุกชนิด เช่น งานที่รีบเร่ง หรือต้องใช้สมาธิ ก็จะเป็นตัวกระตุ้นทำให้เกิดอาการปวดหัวจากความเครียดได้
    • แสงสว่างจ้า การจ้องจอคอมพิวเตอร์นาน ๆ หรือแสงข้างนอกจ้า ๆ
    • อากาศที่ร้อนจัด หรือเย็นจัด ก็สามารถกระตุ้นไมเกรนได้
    • กลิ่นบางอย่าง เช่น ควันบุหรี่ ควันรถยนต์ กลิ่นน้ำหอมแรง ๆ
    • อาหารบางอย่าง เช่น ชา กาแฟ ชีส ช็อกโกแลต อาหารที่มีผงชูรส
    • ผู้หญิงช่วงที่มีประจำเดือน

    ส่วนอาการของไมเกรนที่สามารถสังเกตได้หลัก ๆ คือ
    • ปวดหัวนาน 4 - 72 ชั่วโมง (ไม่ได้รับยา)
    • ปวดหัวข้างเดียว คือ ปวดหัวข้างซ้าย หรือ ปวดหัวข้างขวา (พบการปวด 2 ข้างประมาณ 40-50%)
    • มีอาการปวดตุบ ๆ เหมือนเส้นเลือดเต้น หรือปวดแบบหนัก ๆ บีบ ๆ
    • ปวดหัวรุนแรงปานกลางถึงรุนแรงมาก
    • ปวดมากขึ้น เมื่อมีการเคลื่อนไหวศีรษะหรือร่างกาย
    • มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน หรือไวกับแสง/เสียง
    • บางรายอาจมีอาการนำมาก่อนการปวดศีรษะ

    สำหรับการรักษาไมเกรน ก็มีทางเลือกให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการใช้ยา การไม่ใช้ยา หรือการใช้วิธีป้องกัน ดังนี้
    • การรักษาแบบใช้ยา โดยใช้ยาแก้ปวดไมเกรน ประเภทยากลุ่มอาการชัก ยาต้านซึมเศร้า ยายับยั้งตัวจับแคลเซียม ยายับยั้งตัวรับเบต้า เป็นต้น ต้องรับประทานยาทุกวันติดต่อกันประมาณ 6 เดือน ถึง 1 ปี โดยยาจะเริ่มออกฤทธิ์หลังจากรับประทานประมาณ 2 สัปดาห์ ช่วยลดความรุนแรงของอาการไมเกรน ลดความถี่ ทำให้ยาแก้ปวดออกฤทธิ์ได้ดีขึ้น
    • การรักษาแบบไม่ใช้ยา  เช่น การทำกายภาพบำบัด การฝังเข็มไมเกรน การกระตุ้นด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า การบำบัดโดยการปรับพฤติกรรมและความคิด การฝึกการผ่อนคลาย ไบโอฟีดแบค (Biofeedback) และหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น
    • การป้องกันไมเกรน โดยการใช้วิตามินและเกลือแร่ อย่างแมกนีเซียม (Magnesium) วิตามินบี 2 (Riboflavin) โคเอนไซม์คิวเทน (Coenzyme Q10) ค็อกเทลรักษาอาการปวดศีรษะ (Headache Cocktail) เป็นต้น

    แต่ในปัจจุบัน มีวิธีการรักษาไมเกรนมีตัวเลือกมากขึ้น คือ การฉีดโบท็อกรักษาไมเกรน แม้ว่า หลาย ๆ คนจะคุ้นเคยกับการฉีดโบท็อกเพื่อเสริมความงาม ลดริ้วรอย แต่อีกหนึ่งประโยชน์ของโบท็อกก็คือ ช่วยรักษาอาการไมเกรนได้

    ด้วยอาการปวดหัวจากไมเกรนเกิดจากการตึงตัวของกล้ามเนื้อบริเวณบ่าและคอ ทำให้รบกวนระบบการไหลเวียนเลือดที่ไปเลี้ยงสมอง เกิดอาการตึงและปวด และตามมาด้วยอาการของเลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ เห็นแสงระยิบระยับ เวียนหัว และคลื่นไส้อาเจียน

    โดยโบท็อกจะเข้ายับยั้งสารอะเซทธิลโคลีน (Acethyl Choline) ที่ถูกปล่อยออกมาจับกับตัวรับที่อยู่ในกล้ามเนื้อเส้นประสาท ทำให้เกิดการสั่งการให้กล้ามเนื้อหดตัว ซึ่งโบท็อกจะยับยั้งไม่ให้เกิดการส่งสารสื่อประสาท กล้ามเนื้อจึงไม่หดตัวนั่นเอง และนอกจากนี้ ยังยับยั้งสารสื่อประสาทที่ทำให้เกิดการอักเสบได้ ทำให้รู้สึกเจ็บปวดลดลงได้ และช่วยให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงสมองได้ดีขึ้น เป็นการรักษาอาการปวดไมเกรนที่ต้นเหตุ

    ซึ่งการฉีดโบท็อกรักษาไมเกรนนี้ เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นไมเกรนเรื้อรัง (Chronic Migraine) คือ ปวดหัวอย่างน้อย 15 วันต่อเดือน หรือผู้ที่มีอาการปวดหัวรุนแรง ปวดหัวบ่อย ปวดหัวโดยที่รับประทานยาแก้ปวดไม่หาย ปวดหัวจากการใช้ยาแก้ปวดมากเกินไป

    ดังนั้น การฉีดโบท็อกไมเกรน จึงช่วยลดความรุนแรงและความถี่ของอาการปวดหัว อีกทั้งยาที่ฉีดก็มีความปลอดภัยสูง โดยจะต้องฉีดในทุก ๆ 3 เดือน และมีตำแหน่งการฉีดเฉพาะ เราจึงจำเป็นต้องได้รับการฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการอบรมการฉีด เพื่อลดอาการไมเกรนโดยเฉพาะ ไม่เช่นนั้นก็อาจไม่ได้ผล

    วิธีในการฉีดโบท็อกรักษาไมเกรนเป็นอย่างไร

    วิธีในการฉีดโบท็อกไมเกรน

    อย่างที่เราทราบแล้วว่า เราสามารถฉีดโบท็อกรักษาไมเกรนได้ โดยโบท็อกที่เลือกใช้จะเป็นโบท็อกชนิดเดียวกันกับที่ใช้ในด้านความงาม เพียงแต่ในการรักษาไมเกรน แพทย์จะฉีดโบท็อกที่ใบหน้าระหว่างคิ้ว หน้าผาก ท้ายทอย ต้นคอ และบ่า จำนวน 31 จุด ซึ่งเป็นตำแหน่งที่เหมาะสม

    โดยการฉีดโบท็อกช่วยไมเกรนนี้ เป็นวิธีที่ปลอดภัย จากการวิจัยพบว่า สามารถลดอาการปวดลงได้ 60 – 70% มีผลอยู่ได้ประมาณ 3 เดือน โดยยาจะไม่ออกฤทธิ์ทันที แต่ต้องใช้เวลา 3 – 4 วัน และจะออกฤทธิ์สูงสุดในสัปดาห์ที่ 2 จะอยู่ได้ 2 – 3 เดือน แล้วค่อย ๆ หมดฤทธิ์ลง

    สรุป
    การฉีดโบท็อกไมเกรนเป็นทางเลือกหนึ่งในการรักษาโรคไมเกรนที่หลายคนกำลังประสบปัญหานี้ เพราะไมเกรนส่งผลต่อการดำเนินชีวิตอย่างมาก โดยทาง BTX Migraine Center ก็พร้อมให้บริการ ซึ่งเราสามารถแอดไลน์ เพื่อขอคำปรึกษาและนัดวันเข้ารับการรักษาได้อย่างสะดวก


    260
    รักษาไมเกรน

    โรคไมเกรนเป็นอาการปวดหัวที่รบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน หลายคนมักจะมีคำถามว่า ไมเกรนรักษาหายไหม ทำอย่างไรจึงจะแก้ไมเกรนได้บ้าง วันนี้ เราจึงรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับไมเกรนมาฝากกัน เพื่อให้เราสามารถตรวจเช็กตัวเองและเริ่มรักษาไมเกรนได้อย่างทันท่วงที

    เราจะป้องกันเพื่อรักษาไมเกรนได้อย่างไร

    เราจะป้องกันเพื่อรักษาไมเกรน

    เราสามารถป้องกันอาการปวดศีรษะและรักษาไมเกรนได้ด้วยตนเองได้ ด้วยเคล็ดลับง่ายๆ ดังนี้

    1. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่านอนดึก และนอนพักในที่มืดและเงียบสงบ
    2. หลีกเลี่ยงปัจจัยที่สามารถกระตุ้นให้เกิดการปวดศีรษะไมเกรน
    3. ลดอาการเครียด ด้วยการทำกิจกรรมที่ช่วยให้ผ่อนคลายสมอง เช่น ฟังเพลงและ ทำกิจกรรมที่ชอบ
    4. หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ที่มีแสงสว่างจ้าจนแสบตาเป็นเวลานานๆ
    5. หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ที่มีเสียงอึกทึกครึกโครม
    6. ลดทานอาหารประเภทที่อาจทำให้อาการปวดศีรษะจากไมเกรนกำเริบ เช่น เนย ช็อกโกแลต ถั่ว อาหารหมักดอง เป็นต้น เพราะถือเป็นอาหารที่กระตุ้นไมเกรน
    7. ลดการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เช่น ไวน์ เบียร์ เหล้า แชมเปญ
    8. อย่าปล่อยให้ตัวเองหิวจัด หรืออดอาหารมากจนเกินไป
    9. ประคบเย็นบริเวณศีรษะช่วงมีอาการปวดไมเกรน
    10. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ก็สามารถช่วยรักษาไมเกรนได้

    สามารถรักษาไมเกรนเบื้องต้นอย่างไรได้บ้าง

    รักษาไมเกรนเบื้องต้น

    เรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับอาการโรคไมเกรน ว่ามีอาการอย่างไรบ้างที่บ่งบอกได้ว่าเรากำลังจะเป็นหรือเราเป็นโรคไมเกรนแล้วหรือยัง แล้วจะสามารถรักษาไมเกรนได้อย่างไรบ้าง

    1. อาการไมเกรนเป็นอย่างไร

    โรคไมเกรน (Migraine headache)  เป็นโรคที่พบได้บ่อยในวัยเรียน วัยทำงาน และคนทั่วไปที่มีภาวะความเครียด โดยมีอาการปวดศีรษะลักษณะการปวดแบบตุ๊บ ๆ เป็นจังหวะ มักจะเกิดข้างเดียวของศีรษะหรือเป็นทั้งสองข้างได้ อาการปวดไมเกรนในช่วงแรกจะไม่รุนแรง และจะค่อย ๆ เพิ่มความรุนแรงขึ้น ในบางรายไม่สามารถลดอาการปวดศีรษะด้วยยาแก้ปวดธรรมดาได้ จำเป็นต้องทานยาแก้ปวดที่มีฤทธิ์แรง หรือยาที่ลดอาการปวดศีรษะจากไมเกรนโดยเฉพาะ

    ผู้ที่เป็นไมเกรน สังเกตลักษณะอาการปวดหัวได้ง่าย ๆ ดังนี้ คือ

    • มักปวดหัวตุ๊บ ๆ บริเวณขมับ อาจปวดร้าวมาที่กระบอกตา (ไมเกรนขึ้นตา) หรือท้ายทอย (ปวดหัวท้ายทอย) และปวดหัวข้างเดียวหรือบางรายอาจปวดหัวทั้งสองข้าง ปวดเป็นระยะ ๆ แต่มีบางคราวที่ปวดแบบตื้อ ๆ สลับข้าง
    • อาการนำจะเป็นอาการทางสายตา โดยจะมีอาการนำมาก่อนปวดศีรษะราว 10-20 นาที เช่น เห็นแสงเป็นเส้น ๆ ระยิบระยับ แสงจ้าสะท้อน หรือเห็นภาพบิดเบี้ยวนำมาก่อน
    • ส่วนมากจะปวดรุนแรงปานกลางถึงรุนแรงมาก โดยจะค่อย ๆ ปวดมากขึ้นทีละน้อยจนกระทั่งปวดรุนแรงเต็มที่แล้วค่อย ๆ บรรเทาอาการปวดลงจนหาย
    • ขณะที่ปวดหัวมักมีอาการคลื่นไส้ หรืออาเจียนร่วมด้วย
    • มีอาการแพ้แสงและแพ้เสียง

    2. ทำความรู้จักโรคไมเกรน

    เรามาทำความรู้จักกับโรคไมเกรนกันเถอะ เริ่มจากไมเกรนเกิดจากสาเหตุ และมีวิธีการวินิจฉัยแบบไหนได้บ้าง

    ไมเกรน เกิดจากความผิดปกติชั่วคราวของระดับสารเคมีในสมอง ทำให้ก้านสมองถูกกระตุ้น หลอดเลือดในเยื่อหุ้มสมองมีการบีบและคลายตัวมากกว่าปกติ ทำให้เกิดอาการปวดหัว หรือมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน จากก้านสมองที่ถูกกระตุ้นได้

    สาเหตุของไมเกรน

    ไมเกรนเป็นโรคที่เกิดจากการอักเสบของเส้นเลือด และเส้นประสาทรอบ ๆ สมอง หรือเกิดจากความผิดปกติของระดับสารเคมี หรือการนำกระแสไฟฟ้าในสมอง ส่งผลให้หลอดเลือดสมองทำงานผิดปกติไปชั่วขณะ โดยเฉพาะหลอดเลือดขยายตัว จนทำให้เกิดอาการต่าง ๆ ของไมเกรนขึ้น โรคไมเกรนบางชนิดยังสามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ ผู้ป่วยอาจมีประวัติบุคคลในครอบครัวเป็นโรคไมเกรนด้วยเหมือนกัน

    การวินิจฉัยโรคไมเกรน

    ไมเกรนเป็นโรคที่วินิจฉัยได้ หากผู้ป่วยเป็นไมเกรนหรือมีประวัติของคนในครอบครัวที่เป็นไมเกรน แพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านประสาทวิทยาจะทำตรวจไมเกรน ด้วยการซักประวัติ อาการที่เกิดและทำการตรวจร่างกายโดยละเอียด และตรวจเกี่ยวกับระบบประสาท ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเพียงเท่านี้ แพทย์ก็สามารถวินิจฉัยโรคไมเกรนได้

    แนวทางรักษาโรคไมเกรน

    เราสามารถแก้ไมเกรนได้ด้วยแนวทางการรักษาที่แยกออกเป็น 2 วิธี คือ

    1. การรักษาไมเกรนแบบไม่ใช้ยา ได้แก่ การประคบเย็น การนวด กดจุด การนอนพัก การนั่งสมาธิ หรือ การคลายเครียดด้วยวิธีต่าง ๆ อาจช่วยให้บรรเทาอาการปวดได้ สิ่งที่สำคัญ คือ หลีกเลี่ยงปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดอาการปวดไมเกรน หมั่นออกกำลังกายสม่ำเสมอ ดูแลสุขภาพจิตใจ รักษาระดับอารมณ์ให้คงที่แจ่มใส และรู้จักการผ่อนคลายความตึงเครียดก็เป็นการรักษาที่สำคัญ ซึ่งถือเป็นวิธีแก้ปวดหัวไมเกรนเบื้องต้น

    รวมถึงกระบวนการรักษาแบบอื่น ๆ ที่ไม่ใช้ยาอย่างโบท็อกไมเกรน ฝังเข็มไมเกรน การทำกายภาพบำบัดเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อรอบศีรษะและคอ

    2. การรักษาไมเกรนแบบใช้ยา โดยใช้ยาแก้ปวดไมเกรน เช่น

    • ยาบรรเทาอาการปวดกรณีอาการไม่รุนแรง ผู้มีอาการสามารถใช้แอสไพริน ไอบูโพรเฟน พาราเซตามอล หรือยาแก้ปวดอื่นๆ ช่วยลดอาการปวดไมเกรนได้
    • ยาบรรเทาอาการปวดสำหรับอาการปวดที่รุนแรงขึ้น ซึ่งเป็นยาแก้ปวดสำหรับผู้มีอาการปวดไมเกรนโดยเฉพาะ ได้แก่ ยาเออร์กอต (Ergots)
    • ยาสำหรับบรรเทาอาการปวดไมเกรน และอาการอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น อาการคลื่นไส้ อาการไวต่อแสงและเสียง ยาประเภทนี้เป็นที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย เพราะสามารถบรรเทาอาการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้แก่ ยากลุ่มทริปแทน (Triptans) มีทั้งประเภทยาเม็ด ยาพ่น และยาฉีด เช่น ยาซูมาทริปแทน ยาริซาทริปแทน ยาอีลีทริปแทน เป็นต้น

    สรุป

    รัสรุปรักษาไมเกรน

    ทั้งนี้ในปัจจุบัน ยังไม่มีวิธีการรักษาไมเกรนให้หายขาด ควรสังเกตตัวเองอยู่เสมอว่ามีอาการไวต่อสิ่งใดที่ทำให้เกิดอาการปวดศีรษะได้บ้าง และควรเลี่ยงปัจจัยนั้น ๆ แต่ถ้าหากมีความจำเป็นต้องรักษาเพื่อไม่ให้กระทบกับชีวิตประจำวัน ก็ควรเข้ารับคำปรึกษาและรับการรักษาอย่างต่อเนื่องที่ศูนย์รักษาไมเกรนโดยแพทย์เฉพาะทางอย่าง BTX Migraine Center โดยติดต่อผ่านแอดไลน์ หรือเบอร์โทร 090-970-0447


    261
    ฝ้าอะคูสติก gyproc

    การติดตั้งฝ้าเพดานในปัจจุบัน จะมีการเลือกใช้วัสดุมากมาย โดยที่ผู้เลือกจะเลือกวัสดุตามความเหมาะสมกับสถานที่ ฝ้าอะคูสติก gyproc ก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งของแผ่นฝ้า ที่มีไว้ติดตั้งเพื่อดูดซับเสียง อีกทั้งยังมีการเสริมความทนทานอีกในหลาย ๆ ด้าน ซึ่งบทความนี้ เราจะมาเจาะลึก ฝ้าอะคูสติก gyproc ว่าเป็นแผ่นฝ้าที่มีคุณสมบัติอย่างไร เหมาะสำหรับบ้านและอาคารแบบไหนที่สุด

    ฝ้าอะคูสติก คืออะไร

    ฝ้าอะคูสติก มีการเรียกกันหลายชื่อ ไม่ว่าจะเป็น อะคูสติกบอร์ด (Acoustic Board) หรือแผ่นฝ้าอะคูสติก ซึ่งฝ้าอะคูสติก gyproc มีคุณสมบัติหลักในการดูดซับเสียง โดยตัวแผ่นจะเป็นแกนกลางป้องกันไม่ให้เสียงออกไปภายนอก และสะท้อนเสียงจากภายนอกไม่ให้เข้ามาภายใน ซึ่งฝ้าอะคูสติก gyproc มีให้เลือกหลายแบบ หลายขนาด และหลายลวดลาย มีคุณสมบัติทนทาน กันความชื้นได้ดี อีกทั้งยังเหมาะกับงานดีไซน์ออกแบบภายใน ทำให้ตัวห้องยังคงมีความเรียบร้อย ไม่รกตา

    แผ่นฝ้าอะคูสติก gyproc จะเน้นการติดตั้งกับโครงคร่าว แผ่นอะคูสติกบอร์ดสามารถติดตั้งได้รวดเร็วและง่าย การใช้งานจะต้องติดตั้งให้ทั่วทั้งบริเวณห้อง เพราะการใช้งานแผ่นฝ้าอะคูสติก gyproc มีไว้เพื่อการเก็บเสียง การติดตั้งไม่เต็มพื้นที่ จะทำให้ไม่คุ้มค่า เพราะพื้นที่จะยังมีเสียงเล็ดลอดได้อยู่ ดังนั้นการคำนวณพื้นที่เพื่อติดตั้งฝ้าอะคูสติกจึงสำคัญ

    ฝ้าอะคูสติก gyproc คุณสมบัติ

    ฝ้าอะคูสติก gyproc คุณสมบัติ

    ขอบคุณรูปภาพจาก’/ gypstore.co.th/’

    ฝ้าอะคูสติก gyproc แม้จะมีคุณสมบัติหลักเป็นการซับเสียง แต่ตัวแผ่นเองก็ยังต้องมีคุณสมบัติเสริม เพื่อให้ครอบคลุมการใช้งานในฝ้าเดียว โดยเราได้แบ่งคุณสมบัติทั้งหมดของ แผ่นอะคูสติกบอร์ดดังนี้

    • แผ่นฝ้าอะคูสติก gyproc สามารถป้องกันการได้ยินเสียงจากภายนอก และเก็บเสียงภายใน
    • ทำให้พื้นที่มีความส่วนตัวมากขึ้นในการใช้ฝ้าอะคูสติก
    • กันไฟ ไม่ทำให้เกิดควันพิษ ป้องกันการลุกลามของเปลวไฟ
    • มีน้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายสะดวก
    • มีหลายลวดลาย หลายขนาด เหมาะกับทุกความต้องการด้านดีไซน์
    • แผ่นฝ้าอะคูสติก gyproc ออกแบบมาให้ติดตั้งง่าย และรวดเร็ว
    • มีความทนชื้นได้ดี ไม่เสื่อมสภาพง่าย
    • เพิ่มความสว่างให้ตัวห้อง ทำให้ห้องดูเรียบร้อยสะอาดตา
    • คุณสมบัติมากมาย แต่ราคาไม่แพง

    วิธีใช้ฝ้าอะคูสติก gyproc

    แผ่นฝ้าอะคูสติกมีวิธีใช้งานที่ไม่ซับซ้อน เริ่มจากการเลือกขนาดเพื่อสอดรับความต้องการตามพื้นที่ติดตั้ง และเลือกลวดลายที่ต้องการ ซึ่งฝ้าอะคูสติก จะมีลวดลายเพื่อกระทบคลื่นเสียง ทำให้ตัวฝ้าอะคูสติก gyproc มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยการติดตั้งจะแบ่งออกเป็นแบบฝ้าทีบาร์ ที่เน้นทำในสำนักงาน, ห้องดนตรี, โรงงาน หรือห้องน้ำ และพื้นที่ที่มีระบบภายในมากมายเช่นสายไฟ สายเคเบิล เพื่อจะได้สร้างช่องเซอร์วิสเข้าไปซ่อมแซมได้ง่าย รวมไปถึงฝ้าฉาบเรียบที่เป็นขอบลาด ติดตั้งง่ายด้วยกาวและแม็ก เน้นความเรียบเนียนเรียบร้อย มักจะใช้ในพื้นที่ตกแต่ง เช่นที่พักอาศัย โรงแรม, บ้านเรือน หรือคาเฟ่ เป็นต้น

    ฝ้าอะคูสติก gyproc ราคา

    ฝ้าอะคูสติก gyproc มีราคาเริ่มต้น 140 ไปจนถึง 1,125 บาท ขึ้นอยู่กับแนวทางการใช้งานหรือปัจจัยต่อการเลือกติดตั้ง มีทั้งแผ่นอะคูสติกขอบลาด 2 ด้าน, ขอบลาด 4 ด้าน, แผ่นอะคูสติกขอบบังใบ และแผ่นอะคูสติกของตรง โดยจำแนกแผ่นฝ้าอะคูสติก gyproc ทั้งชนิดและราคาดังนี้

    • ฝ้าอะคูสติก gyproc ราคาเริ่มต้นที่ 140 บาท ขอบบังใบขนาด 59.5 x 59.5
    • ฝ้าอะคูสติก gyproc ราคาเริ่มต้นที่ 180 บาท ยิปโทน ลายพ้อยท์ 11 ขอบตรง 59.5×59.5 ซม.
    • ฝ้าอะคูสติก gyproc ราคาเริ่มต้นที่ 200 บาท ขอบตรงขนาด 59.5 x 119.5
    • ฝ้าอะคูสติก gyproc ราคาเริ่มต้นที่ 230 บาท ยิปโทน ลายพ้อยท์ 11 ขอบบังใบ 59.5×59.5ซม.
    • ฝ้าอะคูสติก gyproc ราคาเริ่มต้นที่ 280 บาท ขอบบังใบขนาด 59.5×119.5
    • ยิปโทน บิ๊ก ลายควอตโตร 41 ขอบลาด2ด้าน 120×240 ซม. ราคาเริ่มต้นก็จะอยู่ที่ 1,030 บาท
    • ยิปโทน บิ๊ก ลายควอตโตร 41 ขอบลาด4ด้าน 120×240 ซม. ราคาเริ่มต้นก็จะอยู่ที่ 1,125 บาท

    ตัวอย่างฝ้าอะคูสติก gyproc

    ตัวอย่างฝ้าอะคูสติก gyproc

    แผ่นฝ้าอะคูสติก gyproc จะมีการจำแนกเพื่อความเหมาะสมตามการใช้งานเช่น

    แผ่นฝ้าอะคูสติกขอบลาด ที่ทำให้ฝ้ามีความเรียบเนียนเสมอเป็นเนื้อเดียวกัน เน้นเก็บความเรียบร้อย เหมาะกับบ้านหรือที่พักอาศัย ที่ต้องการความเรียบเนียนหรือพื้นที่ขนาดใหญ่ แต่แผ่นฝ้าอะคูสติกขอบลาด อาจไม่เหมาะสำหรับพื้นที่เล็ก ๆ เท่าใดนัก

    แผ่นฝ้าอะคูสติกขอบตรง จะเน้นต่อให้เป็นบล็อก เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่แคบได้ หรือกว้างก็ได้เช่นเดียวกัน เช่นพวกห้องน้ำ หรือห้องใช้สอยเป็นหลัก ที่ไม่ได้เน้นความสวยงาม

    ตัวอย่างคุณสมบัติของสินค้า

    ยิปโทน ควอตโตร 20 ขอบตรง 59.5×59.5ซม. ทำจากแผ่นยิปซัมคุณภาพสูง เด่นเรื่องความทนทาน หลังแผ่นติดตั้งเยื่อดูดซับเสียงสะท้อน ทำให้มีประสิทธิภาพด้านซับเสียงได้ดีมากขึ้น

    เซโลเท็ก ขอบบังใบ 59.5×59.5ซม. ผลิตจาก Mineral Fiber คุณสมบัติเสริมคือการเพิ่มแสงให้กับตัวห้อง ทำให้ห้องสว่าง ทนร้อน ทนเปลวไฟได้อย่างดี

    สรุปเรื่องฝ้าอะคูสติก gyproc

    โดยสรุปแล้ว ฝ้าอะคูสติก gyproc คือสิ่งจำเป็นที่เพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับบ้าน และสถานประกอบการเป็นอย่างมาก อีกทั้งการติดตั้งก็ไม่ได้ทำให้งานดีไซน์ หรือการตกแต่งไม่น่าดู เพราะแผ่นฝ้าอะคูสติก มีทั้งลวดลายที่สวยงาม รวมไปถึงฝ้าที่เน้นความเรียบเนียน ฝ้าอะคูสติก gyproc จึงถือเป็นสิ่งจำเป็นสิ่งหนึ่งในงานก่อสร้างที่เราไม่ควรข้าม


    262
    5 น้ำยาเคลือบแถวคุณภาพสูง

    หากคุณเป็นผู้รักรถ คุณต้องเคยได้ยิน หรือเคยใช้บริการ “รถเคลือบแก้ว” อย่างแน่นอน ซึ่งการเคลือบแก้วรถยนต์ สามารถช่วยปกป้องรถจากการเกิดรอย หรือป้องกันฝุ่น ป้องกันสีรถจากแสง UV และสิ่งสำคัญอีกอย่างนั้นก็คือ ยี่ห้อของน้ำยาเคลือบแก้ว จะส่งผลให้คุณภาพของการเคลือบให้ดียิ่งขึ้น ยิ่งเป็นน้ำยาที่คุณภาพสูง ก็ยิ่งจะทำให้การปกป้องมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยวันนี้จะมาแนะนำว่า การเคลือบแก้วดียังไง และน้ำยาเคลือบรถ 5 ยี่ห้อคุณสูง ให้กับคุณได้เลือกซื้อ

    ความสำคัญของการเคลือบแก้วรถยนต์ เพราะอะไรถึงควรเลือกใช้น้ำยาเคลือบแก้ว ที่คุณภาพดี

    ความสำคัญของการเคลือบแก้วรถยนต์

    หลาย ๆ คนที่เคยได้ยินการเคลือบแก้วรถยนต์ แต่ยังไม่เคยใช้บริการ หรือไม่เคยทำมาก่อน อาจจะยังลังเลว่า ควรทำการเคลือบแก้วรถยนต์ดีไหม มีข้อดีอย่างไรบ้าง สามารถทำได้ด้วยตัวเองไหม และที่สำคัญน้ำยาเคลือบแก้ว ที่คุณภาพดีต้องเลือกอย่างไร ราคาเริ่มต้นที่เท่าไหร่ โดยวันนี้จะมาบอกถึงข้อดีต่าง ๆ ของการทำรถเคลือบแก้ว และวิธีการเลือกน้ำยาที่ดีให้กับคุณได้ตัดสินใจ ดังนี้

    • ปกป้องสีภายในของรถได้ดี ป้องกันแสง UV ที่จะทำร้ายสีรถ ไม่ให้สีรถเสื่อมสภาพได้ไว
    • ป้องกันรอยขีดข่วน จากสิ่งต่าง ๆ ภายนอกที่จะทำร้ายตัวรถได้
    • ป้องกันคราบสกปรก ฝุ่นผง เกาะตามตัวรถได้
    • ช่วยให้ทำความสะอาด เช็ด ล้าง รถได้ง่ายยิ่งขึ้น
    • ทำให้รถเงางาม ดูใหม่ตลอดเวลา

    โดยการเคลือบแก้วนั้นคุณสามารถเลือกที่จะใช้บริการจากคาร์แคร์ หรือเคลือบด้วยตัวเองก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยบริการที่คาร์แคร์จะมีค่าบริการเคลือบแก้วรถยนต์อยู่ที่ 5,500 บาทเป็นต้นไปโดยจะขึ้นอยู่กับขนาดของรถยนต์ และถ้าหากคุณเลือกที่จะทำเองก็สามารถทำได้โดยมีขั้นตอนต่าง ๆ ดังนี้

    • ก่อนจะทำการเคลือบแก้ว ต้องล้างรถให้สะอาด เพื่อขจัดคราบสกปรกทั้งหมด ก่อนที่จะลงน้ำยาเคลือบแก้ว
    • เช็ดรถให้แห้งด้วยผ้าสะอาด หรือแอลกอฮอล์ที่มีความเข้มข้น 15% ทั้งคันเพื่อทำให้รถสะอาด
    • เทน้ำยาเคลือบแก้ว บนฟองน้ำที่ใช้สำหรับน้ำยา โดยการเคลือบควรทำทีละส่วน เริ่มจากเช็ดเป็นแนวนอนก่อนแล้วค่อยทำเป็นแนวตั้ง ใช้เวลาประมาณ 5 นาที น้ำยาเคลือบก็ติดกับตัวรถ
    • ถ้าหากยังมีน้ำยาเคลือบหลงเหลืออยู่บนตัวรถ สามารถใช้ผ้าสะอาดเช็ดไปเรื่อย ๆ จนให้น้ำยาจางหายไป โดยการเช็ดนั้นควรเช็ดให้ไปในทางทิศทางเดียวกัน

    จะเห็นได้ว่าการเคลือบแก้วรถยนต์สามารถทำด้วยตัวเองได้ ช่วยรักษาสภาพสีภายนอกรถยนต์ได้เป็นอย่างดี โดยความทนทานของสารที่เคลือบนั้นจะขึ้นอยู่กับยี่ห้อของน้ำยาเคลือบแก้ว ว่ามีส่วนผสมอะไรบ้าง ที่จะช่วยเสริมการป้องกันให้ดียิ่งขึ้น โดยราคานั้นจะเริ่มต้นที่ 990 บาทเป็นต้นไป โดยคุณสมบัติของน้ำยาที่ดีนั้นจะมีดังนี้

    • มีส่วนผสมของสารที่ช่วยป้องกันแสง UV ได้ดี
    • ส่วนผสมของน้ำยาต้องไม่กัดกร่อนสีรถ
    • ยี่ห้อมีความน่าเชื่อถือ ไม่ควรเลือกยี่ห้อที่ไม่มีหน้าร้านค้าที่ชัดเจน

    รวมยี่ห้อน้ำยาเคลือบแก้ว ที่มีคุณภาพ ที่น่าสนใจ

    ในเมื่อคุณ เห็นแล้วว่าการเคลือบแก้วรถยนต์ นั้นมีความสำคัญขนาดไหน และการเลือกน้ำยาเคลือบแก้วก็ควรเลือกที่มีส่วนผสมที่ไม่เป็นอันตรายต่อสีรถ และยี่ห้อก็ควรเลือกยี่ห้อที่มีหน้าร้านที่ชัดเจน และน้ำยาเคลือบแก้วยี่ห้อไหนดี ควรเลือกยี่ห้อไหน ยี่ห้อไหนบ้างที่มีคุณภาพ โดยจะแนะนำ 5 ยี่ห้อที่น่าใช้ และราคาเริ่มต้น ให้กับคุณได้เลือกซื้อ ดังนี้

    1. น้ำยาเคลือบแก้วรถยนต์ยี่ห้อ Klean Square

    น้ำยาเคลือบแก้วรถยนต์ Klean Square

    ขอบคุณรูปจาก https: //shopee.co.th/kleansquareonline/19855567207

    น้ำยาเคลือบแก้วรถยนต์ ยี่ห้อ Klean Square ราคาเริ่มต้นที่ 990 บาท น้ำยาจะมีส่วนผสมของ เทฟลอนคุณภาพสูง และเกลซแวกซ์ ที่มีคุณสมบัติป้องกันแสงแดด แสง UV ได้ดี ช่วยทำให้รถเงางาม ดูใหม่ตลอดเวลา สัมผัสเรียบลื่น ง่ายต่อการทำความสะอาด ป้องกันรอยขีดข่วนได้ดี 1 ขวด สามารถใช้ได้ 10-15 ครั้ง ขึ้นอยู่กับขนาดของรถที่ใช้งาน

    2. น้ำยาเคลือบแก้วรถยนต์ยี่ห้อ Rockz Graphene รุ่น V1 Basic

    น้ำยาเคลือบแก้วรถยนต์ Rockz Graphene รุ่น V1 Basic

    ขอบคุณรูปจาก https: //kleansquare.com/blog/best-car-wax/

    น้ำยาเคลือบแก้วรถยนต์ ยี่ห้อ Rockz Graphene ราคาเริ่มต้นที่ 1,090 บาท น้ำยาเคลือบที่มีความแข็งระดับ 10H+ จาก USA ช่วยป้องกันรถจากรอยขีดข่วน และป้องกันแสง UV ได้ดี

    3. น้ำยาเคลือบแก้วรถยนต์ยี่ห้อ 3M Paint Coating Protection

    น้ำยาเคลือบแก้วรถยนต์ 3M Paint Coating Protection

    ขอบคุณรูปจาก https: //kleansquare.com/blog/best-car-wax/

    น้ำยาเคลือบแก้วรถยนต์ ยี่ห้อ 3M Paint Coating Protection ราคาเริ่มต้นที่ 7,990 บาท เป็นน้ำยาที่มีส่วนผสมของ SiO2 ช่วยป้องกันสีรถจากแสงแดด และแสง UV ได้ดี ช่วยให้รถเงางาม ป้องกันฝุ่นเกาะสีรถ ได้ดี

    4. น้ำยาเคลือบแก้วรถยนต์ยี่ห้อ Gtechniq Crystal Serum Ultra
     
    น้ำยาเคลือบแก้วรถยนต์ Gtechniq Crystal Serum Ultra

    ขอบคุณรูปจาก https: //kleansquare.com/blog/best-car-wax/

    น้ำยาเคลือบแก้วรถยนต์ ยี่ห้อ Gtechniq Crystal Serum Ultra ราคาเริ่มต้นที่ 2,200 บาท ยี่ห้อนำเข้าจากประเทศอังกฤษ ช่วยป้องกันคราบสิ่งสกปรก คราบฝุ่นที่เกาะตามตัวสีรถได้ดี ช่วยเพิ่มความเงางาม

    5. น้ำยาเคลือบแก้วรถยนต์ยี่ห้อ MR-FiX CERAMIC COATING 9H

    น้ำยาเคลือบแก้วรถยนต์ MR-FiX CERAMIC COATING 9H

    ขอบคุณรูปจาก https: //kleansquare.com/blog/best-car-wax/

    น้ำยาเคลือบแก้วรถยนต์ ยี่ห้อ MR-FiX CERAMIC COATING 9H ราคาเริ่มต้นที่ 1,000 บาท น้ำยาเคลือบแก้วที่มีความแข็งระดับ 9H ช่วยป้องกันรอยขี่ข่วน และช่วยให้สีรถดูเงางามขึ้น ป้องกันแสงแดด ได้ดี

    สรุป

    การเคลือบแก้วรถยนต์ ดีอย่างไร

    เห็นได้ชัดเลยว่า การเคลือบแก้วสีรถยนต์ สามารถช่วยรักษาสภาพรถของคุณ ยืดอายุสีรถของคุณ ให้สวยเงางามไปได้นานมากขึ้น ช่วยป้องกันการเกิดรอยขีดข่วนต่าง ๆ ป้องกันคราบ และสิ่งสกปรกได้ดี และน้ำยาเคลือบแก้ว ก็เป็นส่วนหลักในการช่วยป้องกันตัวรถได้ โดยน้ำยาเคลือบแก้วราคาเริ่มต้นที่ 990 บาทเท่านั้น คุณสามารถเลือกที่จะทำด้วยตัวเองได้ที่บ้าน หรือถ้าคุณไม่สะดวกก็สามารถที่จะใช้บริการจากทางคาร์แคร์ได้เช่นกัน


    263
    ทำไมต้องล้างห้องเครื่องยนต์

    รถยนต์คันเก่งถึงภายนอกตัวรถจะทำการล้างจนสะอาด ขัดแวกซ์จนเงาวับ ไร้รอยขนแมวดูแล้วชื่นใจ แต่ภายในยังมีฝุ่นเกาะก็กระไรอยู่ เพราะนอกจากการล้างห้องเครื่องยนต์นอกจากจะทำให้รถของเราสะอาดไร้ที่ติแล้ว ครอบดินโคลน ฝุ่น น้ำมันต่าง ๆ ที่เกาะตัวเครื่องยนต์อยู่ก็จะไม่มากวนใจ ช่วยให้เครื่องยนต์ระบายความร้อนได้ดีขึ้น การสังเกตเห็นความผิดปกติภายในเครื่องยนต์ก็ง่ายขึ้น แล้ววิธีล้างเครื่องรถยนต์ที่ว่านี้มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง ยุ่งยากหรือไม่ ทำเองได้ไหม หรือจะไปพึ่งคาร์แคร์ที่ไหนดี ในบทความนี้ขนข้อมูลมาให้ครบ

    ต้องการล้างห้องเครื่องราคาถูกใช้บริการที่ไหนดี

    ล้างห้องเครื่องที่ไหนดี

    การล้างห้องเครื่องรถยนต์ให้สะอาดเอี่ยมอ่องมีขั้นตอนหลายขั้นตอน ที่ถ้าหากละเลยความใส่ใจถึงรายละเอียดต่าง ๆ ก็อาจทำให้รถยนต์ของเราเกิดความเสียหายได้ ถ้าไม่อยากล้างห้องเครื่องด้วยตัวเอง ก็สามารถหาร้านล้างห้องเครื่องรถยนต์ได้ในราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อย เช่น บริการล้างเครื่องยนต์จาก Klean Square ที่มีประสบการณ์อย่างยาวนานด้านการล้างรถยนต์กว่า 30 ปี เอาอยู่ทุกปัญหา ดูแลได้ตรงจุด ใช้ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลรถยนต์ร่วมกับ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดห้องเครื่องยนต์โดยเฉพาะถึง 5 ตัว และหนึ่งในนั้นคือ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดห้องเครื่องยนต์โดยเฉพาะอย่าง Klean Engine ที่ได้มาตรฐาน ISO มี มอก. และ อย. จึงสามารถมั่นใจได้ว่าจากห้องเครื่องที่ฝุ่นเกาะ ตัวกรองอากาศตัน คราบน้ำมันที่เปื้อนจะหายไป ได้สภาพห้องเครื่องราวกับเพิ่งรถยนต์ป้ายแดงในราคาประหยัดแน่นอน

    ทำไมถึงต้องล้างห้องเครื่อง

    เพราะเมื่อเราใช้รถยนต์ไปสักระยะหนึ่ง ห้องเครื่องยนต์จะมีคราบสกปรกที่เกิดจากน้ำมันเครื่อง เขม่าดำจากไอเสีย น้ำมันเกียร์ น้ำมันเบรก หรือน้ำมันหล่อลื่นที่อาจเกิดการรั่วซึมจากการใช้งานได้ ในขั้นตอนการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันก็สามารถทำให้เกิดคราบเขม่า และฝุ่นทิ้งไว้ในห้องเครื่องยนต์ เมื่อมีความสกปรกเกิดขึ้นก็อาจทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้ไม่เต็มที่เนื่องจากตัวกรองอากาศเกิดการอุดตัน

    ไม่เพียงเท่านั้น การไม่ทำความสะอาดห้องเครื่องยังทำให้สัตว์ต่าง ๆ เช่น สัตว์เลื้อยคลาน งู หนู สามารถเข้ามาอยู่อาศัย และทำให้สายพาน สายไฟ หรือส่วนอื่นในเครื่องยนต์เกิดความเสียหายได้ดังนั้นการล้างห้องเครื่องนอกจากจะป้องกันปัญหาข้างต้นที่กล่าวได้แล้ว ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของปลอกยาง สายไฟ สายพาน พัดลมในห้องเครื่องยนต์ และเมื่อมีห้องเครื่องยนต์ที่สะอาดแล้ว ก็จะทำให้เราสังเกตอาการชำรุดของอุปกรณ์ภายในรถของเราได้ง่ายขึ้นอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตามการล้างห้องเครื่องไม่ควรที่จะทำบ่อยจนเกิดไป เพราะอาจทำให้ท่อยางแตก หรือมีสนิมขึ้นในส่วนที่เป็นเหล็กได้ นับเป็นอีกข้อควรระวังที่คนรักรถไม่ควรละเลย

    ขั้นตอนการล้างห้องเครื่องรถยนต์ต้องทำอย่างไร

    การล้างห้องเครื่องเป็นสิ่งที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะมีขั้นตอนหลายอย่าง มีอุปกรณ์และผลิตภัณฑ์ที่ใช้สำหรับการล้างห้องเครื่องโดยเฉพาะ หากเกิดการผิดพลาดก็อาจทำให้รถยนต์เราเครื่องรวนไปได้เลย ถ้าหากคุณต้องการที่จะล้างห้องเครื่องเองแล้ว เรามีขั้นตอนอย่างละเอียดมาฝากกัน

    1.ก่อนจะทำการล้างห้องเครื่องยนต์ควรล้างสวมถุงมือป้องกันของมีคม และป้องกันน้ำยาล้างห้องเครื่องทำอันตรายกับผิวหนังเรา
    2.ถอดขั้วแบตเตอรี่ออก และรอจนเครื่องยนต์หายร้อน จากนั้นใช้ฟิล์มถนอมอาหารคลุมส่วนที่ไม่สามารถสัมผัสน้ำ หรือความชื้นได้
    3.ราดน้ำบริเวณภายในห้องเครื่องด้วยแรงน้ำที่ไม่มากจนเกินไป
    4.ผสมน้ำยาที่ทำมาเพื่อล้างห้องเครื่องโดยเฉพาะในอัตราส่วนตามที่ผลิตภัณฑ์กำหนด ค่อย ๆ ใช้ฟองน้ำ หรือแปรงทำความสะอาดส่วนที่สกปรกออก ส่วนที่ไม่สามารถใช้ฟองน้ำถูได้ สามารถใช้น้ำยาใส่ในกระบอกฉีดน้ำช่วยทำความสะอาดอีกแรงได้
    5.หลังจากทำความสะอาดจนคราบสกปรกออกจนหมดแล้ว ค่อย ๆ ล้างน้ำยาล้างห้องเครื่องออก อาจใช้ผ้าชุบน้ำล้าง หรือฉีดน้ำออก ไม่ควรใช้น้ำหนักมือมาก
    6.ใช้เครื่องเป่าลมเป่าให้ทุกส่วนแห้ง และไม่มีความชื้นออกมากที่สุด ในขั้นตอนนี้เมื่อเอาฟิล์มที่คลุมไว้ออกหมดแล้วสามารถใช้เครื่องเป่าลมอีกรอบเพื่อให้แห้งมากยิ่งขึ้นได้
    7.ฉีดน้ำยาไล่ความชื้นส่วนที่เป็นวงจรไฟฟ้า และระบบจุดระเบิดเครื่องยนต์ จากนั้นค่อยลงน้ำยาเคลือบเงาบริเวณท่อ ยาง หรือพลาสติก เพื่อให้คงทนเงางาม
    8.สตาร์เครื่องยนต์เพื่อตรวจสอบระบบการทำงานภายในรถก่อนใช้งาน
                                           
    ขั้นตอนการล้างห้องเครื่อง

    สรุป

    การล้างห้องเครื่องรถยนต์นอกจากจะทำให้รถยนต์เราสะอาดหมดจด น่ามองแล้ว ยังเป็นการดูแลรักษารถยนต์ที่เรารักให้คงสภาพยาวนานมากขึ้น แต่เพราะเครื่องยนต์เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้รถของเราใช้งานได้เป็นปกติ การล้างห้องเครื่องจึงจำเป็นต้องได้รับการใส่ใจในทุกขั้นตอน Klean Square เป็นศูนย์ดูแลรถยนต์อีกแห่งที่มีความน่าเชื่อถือ มีประสบการณ์ ความชำนาญ และใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้คุณภาพ เพราะไม่ใช่แค่ล้างรถที่ไหนก็ได้ แต่ต้องมีมาตรฐานได้รับการยอมรับ สามารถมั่นใจได้ว่ารถยนต์ของคุณจะสะอาดเหมือนใหม่ พร้อมบริการที่น่าประทับใจ ราคาประหยัด ช่องทางการติดต่อสอบถามได้ที่ ไลน์ @Kleansquare โทรสอบถามได้ที่เบอร์ 080-2888-788 หรือเข้าชมบริการอื่น ๆ ได้ที่เว็บไซต์  h ttp s://kleansquare.com/

    264
    ฝากครรภ์ที่ไหนดี


    คุณพ่อ คุณแม่ คู่รักมือใหม่ท่านไหนที่กำลังมองหาที่ฝากท้องที่ไหนดี ฝากครรภ์คลีนิคไหนดี หรือไม่รู้ว่าจะต้องเลือกคลินิกหรือโรงพยาบาลดี ถึงจะได้รับการดูแลที่เหมาะสมและยังต้องคอยกังวลเรื่องขั้นตอน ความปลอดภัย วางแผนเรื่องค่าใช้จ่าย สะดวกในเรื่องของการเดินทางเพราะคนท้องย่อมเป็นกังวลในทุก ๆ เรื่องอยู่แล้ว

    แต่ถ้าเรารู้จักวิธีการเลือกคลินิกหรือสถานพยาบาลที่เหมาะสมคุณก็จะไม่ต้องเป็นกังวลอีกต่อไปสำหรับท่านไหนที่กำลังคิดถึงเรื่องฝากครรภ์ ที่ไหนดี วันนี้เราขอแนะนำให้วิธีการเลือกคลินิกฝาากครรภ์ ฝากครรภ์ หมอไหนดี

    การฝากครรภ์ คืออะไร? ทำไมต้องฝากครรภ์

    ฝากครรภ์ที่ไหนดีและทำไมถึงต้องฝากครรภ์ เพราะการฝากครรภ์คือ การไปพบสูตินรีแพทย์ เพื่อเช็กเกี่ยวกับทารกที่อยู่ในครรภ์ตลอดทุกระยะ เพื่อไม่ให้เกิดสภาวะฉุกเฉินหรือลดความกังวลเกี่ยวกับคุณแม่มือใหม่ ได้รับคำปรึกษาและคำแนะนำที่ปลอดภัยเชื่อถือได้จากผู้เชี่ยวชาญ

    ถ้าไม่ฝากครรภ์ก็อาจจะไม่ทราบถึงสภาวะของทารกในครรภ์ว่าแข็งแรงดีหรือเกิดความผิดปกติ ถ้าเรารู้จักฝากครรภ์ไว้ก่อนก็จะสามารถป้องกันและหลีกเลี่ยงความผิดปกติที่อาจจะเกิดขึ้นได้ เป็นปัญหาที่สามารถแก้ไขได้ทันถ้าเราไปฝากครรภ์ตั้งแต่เนิ่น ๆ

    ควรฝากครรภ์ตอนท้องกี่เดือน

    ควรฝากครรภ์ตอนท้องกี่เดือน เมื่อไรก็ตามที่คุณทราบว่ากำลังตั้งครรภ์ให้คุณรีบไปฝากครรภ์ให้เร็วที่สุด เพื่อรับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หรือประมาณ 12 สัปดาห์แรกที่ตั้งครรภ์ เพื่อเลี่ยงโอกาสที่เด็กทารกในครรภ์จะเกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ขอให้อยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดและเราควรจะฝากครรภ์ที่ไหนดีบทความนี้มีคำตอบให้แก่คุณในด้านล่างนี้เลย

    ขั้นตอนการฝากครรภ์ครั้งแรก ทำอย่างไรบ้าง

    ส่วนขั้นตอนในการฝากครรภ์ครั้งแรกจะมีอะไรบ้างนั้นอย่างแรกแพทย์จะสอบถามข้อมูลเบื้องต้นของคุณแม่เช่น ประวัติการแพ้ยา โรคประจำตัว ประจำเดือนมาครั้งสุดท้ายเมื่อไร เพื่อตรวจสอบและวินิจฉัยโรคในระหว่างตั้งครรภ์ทำให้ทารกในครรภ์โตขึ้นมาอย่างสมบูรณ์ แข็งแรง และก็จะเริ่มทำการตรวจร่างกายในขั้นตอนต่อไป

    ฝากครรภ์ครั้งแรก ตรวจอะไรบ้าง

    ฝากครรภ์ที่ไหนดีสำหรับครั้งแรก

    ในครั้งแรกหลังจากการซักประวัติอย่างละเอียดแล้วทีมแพทย์จะมีการตรวจร่างกายของคุณแม่เช่นวิธี Ultrasound เป็นคลื่นเสียงความถี่สูงใช้ในการวินิจฉัยโรคและตรวจสุขภาพของทารกในครรภ์อีกทั้งยังมีขึ้นตอนอื่น ๆ อีกดังนี้

    • ชั่งน้ำหนักและส่วนสูง ของคุณแม่เพื่อดูว่าน้ำหนักเพิ่มขึ้นหรือลดลงมากน้อยเพียงใด และความสูงมีผลต่ออุ้งเชิงกรานที่อาจจะต้องแจ้งคุณแม่ให้ทราบว่าจะต้องผ่าคลอดหรือคลอดธรรมชาติในอนาคต
    • วัดความดันเลือด เพราะความดันเลือดที่สูงอาจวินิจฉัยได้ว่าอาจจะครรภ์เป็นพิษหรือเป็นเพียงในบางครั้งแนะนำให้ค่อย ๆ ไปตรวจบ่อย ๆ เพื่อแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคตดีกว่านะ
    • ตรวจปัสสาวะ เพื่อวัดระดับน้ำตาลในปัสสาวะถ้าคุณแม่มีน้ำตาลในปัสสาวะสูงอาจเสี่ยงต่อการเป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์ได้จะได้รู้ก่อนและเตรียมตัวรับมือให้ทันเพื่อความปลอดภัยของทั้งคุณแม่และทารกในครรภ์
    • ตรวจเลือดและตรวจภายใน เพื่อหาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ต่าง ๆ หรือระดับความเข้มข้นของเลือดที่อาจส่งผลให้เกิดภาวะตับอักเสบ บี แพทย์จะได้เตรียมวัคซีนป้องกันทันทีที่ลูกน้อยของคุณแม่คลอดออกมา

    ขั้นตอนการฝากครรภ์

    ขั้นตอนการฝากครรภ์ฝากครรภ์ที่ไหนดีถึงจะดีต่อลูกน้อย ขั้นตอนการ  Ultrasound จะทำให้รู้กำหนดวันคลอดล่วงหน้าของเด็กทารกในครรภ์ได้และเป็นการตรวจดูมดลูกไปในตัว ช่วยลดปัญหาพิการของเด็กทารกตั้งแต่กำเนิด นอกจากนี้คุณพ่อ คุณแม่จะไม่ต้องกังวลเรื่องเพศของลูกตัวน้อย Ultrasound สามารถบอกเพศของเด็กทารกได้ในส่วนของเอกสารในการฝากครรภ์ครั้งแรกหรือครั้งต่อ ๆ ไปก็จะมีดังนี้

    1. บัตรประชาชน สำหรับทำประวัติที่คลินิก
    2. เอกสารการเจ็บป่วยโรคประจำตัว
    3. สมุดฝากครรภ์ ที่ทางคลินิกให้มาต้องพกไปด้วยทุกครั้ง เพื่อให้แพทย์บันทึกข้อมูลและลงวันนัดในการฝากครรภ์ครั้งต่อไป

    แต่ถ้าเราไม่ไปพบแพทย์ตามนัดละหรือติดปัญหาจะต้องทำอย่างไรโดยเริ่มต้นขอให้รีบแจ้งกับทางคลินิกว่าไม่สามารถไปตรวจตามนัดได้และต้องรีบไปพบแพทย์ทันทีที่ว่าง เนื่องจากการนัดแต่ละครั้งแพทย์ได้กำหนดช่วงเวลาที่เหมาะสมในการตรวจครรภ์เอาไว้แล้ว ถ้าละเลยก็อาจจะเกิดความผิดปกติหรือปัญหาหลาย ๆ อย่างได้

    ฝากครรภ์ ราคาเท่าไหร่

    ฝากครรภ์ ราคาเท่าไหร่ ? ราคาจะเริ่มต้นเท่าไหร่การฝากครรภ์สามารถทำได้เลยตั้งแต่ที่รู้ตัวว่าท้อง เพื่อให้แพทย์ได้ดูแลจ่ายยาวิตามินแนะนำวิธีดูแลสุขภาพของคุณแม่และทารก เพื่อให้สามารถคลอดได้อย่างปลอดภัย ทารกแข็งแรง ไม่มีโรคแทรกซ้อน ในส่วนราคาของการฝากครรภ์ครั้งแรกจะเริ่มต้นที่

    ฝากครรภ์ครั้งแรกกี่บาท

    จะเริ่มต้นอยู่ที่ 1,500 บาท - 5,000 บาทแล้วแต่คุณเลือกว่าจะฝากครรภ์ที่ไหนดี อาจถูกกว่านี้เมื่อมีแพ็กเกจการฝากครรภ์เนื่องจากต้องคอยไปตรวจครรภ์อย่างสม่ำเสมอและบ่อยครั้ง

    ฝากครรภ์ที่ไหนดีและวิธีเลือกคลินิก

    ฝากครรภ์ที่ไหนดีและวิธีเลือกคลินิก

    ฝากครรภ์ที่ไหนดีและวิธีเลือกคลินิกความสำคัญของการเลือกคลินิกฝากครรภ์ คุณแม่จะไม่ได้ต้องเป็นกังวลและไว้ใจในบริการของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โดยเราจะมีวิธีเลือกคลินิกฝากครรภ์อย่างไรบ้างมี 5 วิธีเพื่อให้คุณมั่นใจ ว่าจะปลอดภัยต่อลูกน้อยและได้รับการบริการที่ดีดังต่อไปนี้

    1. เลือกสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน

    ฝากครรภ์ที่ไหนดีสถานพยาบาลแบบไหนจะได้มาตรฐาน

    ฝากครรภ์ที่ไหนดีสถานพยาบาลแบบไหนจะได้มาตรฐานโดยดูจากหลาย ๆ ปัจจัยเน้นความสะอาดและปลอดภัยเป็นหลัก อุปกรณ์ที่ทันสมัย รวมถึงเลขใบอนุญาตการจดทะเบียนดังนี้

    • มีเลขใบอนุญาตจดทะเบียนสถานพยาบาล ทุกสถานพยาบาลจะต้องมีใบอนุญาตให้ถูกต้องตามกฎหมาย
    • สถานพยาบาลสะอาด ปลอดภัย เข็มเจาะเลือด อุปกรณ์ตรวจภายในต่าง ๆ ต้องมีความสะอาดถึงจะปลอดภัยต่อตัวคุณแม่และลูกน้อย
    • อุปกรณ์ครบครัน ทันสมัย เทคโนโลยีของเครื่อง Ultrasound ที่ทันสมัยเพื่อตรวจสอบทารกในครรภ์ ปัญหามดลูกและความผิดปกติต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้อง

    2. เลือกสถานพยาบาลที่ใกล้บ้าน เดินทางสะดวก

    ฝากครรภ์ที่ไหนดีต้องใกล้บ้านเดินทางสะดวก

    ฝากครรภ์ที่ไหนดีต้องใกล้บ้านเดินทางสะดวกเพราะต้องมีการไปพบแพทย์หลายครั้งในทุก ๆ เดือนและถ้ายิ่งใกล้คลอดแพทย์จะนัดคุณแม่มาตรวจทุก ๆ 2 อาทิตย์เลยทีเดียว การเดินทางจึงสำคัญถ้าใกล้บ้านเวลาเกิดเหตุฉุกเฉินก็จะได้ไปถึงมือแพทย์แบบทันท่วงทีด้วยนะ

    3. สูตินรีแพทย์เชี่ยวชาญเฉพาะทาง

    ฝากครรภ์ที่ไหนดีที่จะมีมาตรฐาน


    ฝากครรภ์ที่ไหนดีสูตินรีเวชจะเก่งและมีความเชี่ยวชาญ การฝากครรภ์ การคลอด ฝากครรภ์หมอไหนดี ต้องเลือกสูตินารีแพทย์ที่มีทักษะและประสบการณ์สูง ดูแลครรภ์ให้คุณแม่รวมถึงตรวจประเมินความเสี่ยง วินิจฉัยโรคที่อาจเกิดขึ้นได้แบบถูกต้องละเอียด แม่นยำ

    4. พิจารณาค่าใช้จ่ายในการฝากครรภ์

    ฝากครรภ์ที่ไหนดีต้องพิจารณาค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง

    ฝากครรภ์ที่ไหนดีต้องพิจารณาค่าใช้จ่ายอะไรบ้างโดยทั่วไป ค่าใช้จ่ายของทางโรงพยาบาลรัฐและคลินิกหรือโรงพยาบาลเอกชนจะมีความแตกต่างกันอยู่มากโดยขอให้คุณแม่เลือกตามความเหมาะสมซึ่งราคาจะแตกต่างกันเท่าไหร่ไปดูกันเลย

    • ราคาฝากครรภ์กับโรงพยาบาลรัฐ ค่าฝากครรภ์ครั้งแรกประมาณ 1,500 บาท ค่ายาอีกประมาณ 1,000 บาท ค่า Ultrasound ประมาณ 500 บาท ค่าวัคซีน ประมาณ 200 บาท ยังไม่รวมค่าทำคลอดและการผ่าคลอดซึ่งแตกต่างกับทางคลินิกหรือโรงพยาบาลเอกชนที่มีการรวมเป็นแพ็กเกจไว้แล้วดังนี้

    • ราคาฝากครรภ์คลินิกหรือโรงพยาบาลเอกชน ส่วนมากจะเป็นแพ็กเกจเหมาจ่าย โดยครอบคลุมการตรวจต่าง ๆ แบ่งชำระเป็นงวด ๆ ราคาแพ็กเกจจะอยู่ที่ประมาณ 30,000-50,000 บาท ในกรณีคลอดธรรมชาติ ราคาแพ็กเกจจะอยู่ที่ประมาณ 45,000-100,000 บาท ในกรณีผ่าคลอด

    ราคาข้างต้นเป็นราคาโดยคาดการณ์เท่านั้นยังไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ ในส่วนของกรณีที่คุณแม่มีภาวะความผิดปกติต่าง ๆ อีกด้วย

    5. สถานพยาบาลที่มีการบริการที่ดี

    ฝากครรภ์ที่ไหนดีและมีบริการดี ๆ


    ฝากครรภ์ที่ไหนดีและมีบริการที่ดี ถ้าคุณแม่ฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลรัฐอาจจะต้องเสียเวลานานในการดำเนินการและต้องเสี่ยงพบเจอผู้คนจำนวนมาก แต่ถ้าเป็นคลินิกและโรงพยาบาลเอกชนก็จะใช้เวลาไม่นาน และเวลาที่ไปตรวจครรภ์ ทีมแพทย์ก็จะคอยดูแลคุณแม่อยู่ทุกครั้งแต่ราคาก็จะค่อนข้างสูงแตกต่างจากโรงพยาบาลรัฐโดยขอให้เลือกตามความเหมาะสมและความสะดวกของครอบครัว

    ข้อสรุป

    ฝากครรภ์ที่ไหนดีถึงจะได้ทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์คอยดูแล ตลอดการตั้งครรภ์และไม่ต้องต่อคิวนาน รวมไปถึงบริการในเรื่องการทำคลอดบุตรด้วยก็ต้องที่ Beyond IVF เลยเพราะคุณแม่ในแต่ละเคสต้องการความดูแลที่แตกต่างกันไป

    ซึ่งที่ Beyond IVF มีประสบการณ์มากกว่า 20 ปีทำให้มีความชำนาญในเรื่องการวินิจฉัย ตรวจครรภ์รวมไปถึงผ่าคลอด ซึ่งคุณแม่หรือคุณพ่อสามารถปรึกษาเบื้องต้นกับทาง Beyond IVF ได้เลยเราพร้อมจะดูแลคุณ เพื่อให้คุณแม่มีความสบายใจมากขึ้นและดูแลลูกน้อยอย่างปลอดภัยตลอดตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์


    265
    อยากเคลียร์บ้านสกปรกให้เหมือนใหม่ก็ต้อง Big Cleaning เลย

    บ้านหรือที่อยู่อาศัยเป็นสถานที่ที่เราต้องใช้ในการพักผ่อนซะส่วนใหญ่ ดังนั้นจึงควรที่จะทำให้บ้านสะอาดอยู่เสมอ เพราะหากบ้านสกปรกหรือรกรุงรังมาก ๆ เข้า นอกจากจะชักนำแมลงหรือสัตว์ต่าง ๆ เข้ามาอยู่ด้วยแล้ว ยังส่งผลต่อสุขภาพของผู้ที่อาศัยอยู่ไม่น้อยเลย ไม่ว่าจะเป็นโรคภูมิแพ้ ผื่นคัน รวมไปถึงอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้จากความรกและสกปรก

    ซึ่งความสกปรกเหล่านี้มักจะเกิดขึ้นได้จากหลายเหตุผล ทั้งการรวมกลุ่มปาร์ตี้กินเลี้ยงกับเพื่อน ๆ ความสกปรกที่เกิดหลังจากเสร็จสิ้นงานก่อสร้างต่อเติม หรือเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดต่าง ๆ เช่น น้ำท่วม เพราะเมื่อน้ำลดลงบ้านก็จะเต็มไปด้วยคราบสกปรกและข้าวของที่เละเทะไปหมด โดยเมื่อเกิดสิ่งเหล่านี้ขึ้น ก็จำเป็นที่จะต้อง Big Cleaning บ้านกันเลยทีเดียว

    แค่คิดว่าจะต้องมีการทำความสะอาดใหญ่ ก็เล่นเอาเหนื่อยล่วงหน้ากันแล้วใช่ไหมล่ะคะ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องกังวลไป เนื่องจากในปัจจุบันนี้มีบริการบิ๊กคลีนนิ่งแล้วนั่นเอง แต่สำหรับบางคนก็อาจยังคงงงอยู่ใช่ไหมว่า Big Cleaning คืออะไร ทำไมใครหลาย ๆ คนถึงอยากพึ่งพาบริการ Big Cleaning ถ้าหากอยากรู้ต้องอ่านในบทความต่อไปนี้เลย!

    ทำความสะอาดแบบ Big Cleaning คืออะไร

    ทำความสะอาดแบบ Big Cleaning คืออะไร

    Big Cleaning แปลว่าการทำความสะอาดใหญ่ ซึ่งก็คือการทำความสะอาดสถานที่ต่าง ๆ เช่น บ้าน อาคาร ร้านอาหาร ร้านค้า หรือออฟฟิศ โดย Big Cleaning จะเป็นการทำความสะอาดครั้งใหญ่ประจำปี ประจำเดือน รวมไปถึงการทำความสะอาดใหญ่หลังจัดงานหรือกิจกรรมต่าง ๆ

    โดยการ Big Cleaning นี้ก็เพื่อให้บริเวณหรือสถานที่นั้นสะอาด เรียบร้อยเป็นระเบียบ ดูน่าอยู่ และป้องกันไม่ให้เกิดความเจ็บป่วยขึ้น ซึ่งถ้าหากบ้านไหนมีเชื้อสายจีนก็อาจจะคุ้นเคยกันดีกับการ Big Cleaning บ้านก่อนวันตรุษจีน เพื่อความเป็นมงคลต้อนรับปีใหม่ในทุกปี

    บริการ Big Cleaning ทำอะไรบ้าง

    บริการ Big Cleaning ทำอะไรบ้าง

    สำหรับบริการ Big Cleaning นั้นจะเป็นการทำความสะอาดใหญ่โดยทีมแม่บ้านมืออาชีพที่มีความชำนาญและผ่านการอบรมความรู้มาเป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังต้องผ่านการตรวจประวัติอาชญากรรม เพื่อให้ผู้ใช้บริการรู้สึกสบายใจและไว้วางใจกับการบริการ

    โดยบริการ Big Cleaning จะทำความสะอาดครอบคลุมตั้งแต่การทำความสะอาดพื้นบ้าน , ทำความสะอาดประตูหน้าต่าง , ทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้า , เปลี่ยนผ้าปูที่นอน , เก็บถุงขยะ , ล้างจาน , ทำความสะอาดเตาแก๊ส , ทำความสะอาดห้องครัวและจัดวางเครื่องใช้ในครัวให้เป็นระเบียบ , ทำความสะอาดเครื่องดูดควัน และทำความสะอาดห้องน้ำและตู้กระจกอาบน้ำ

    นอกจากนี้ยังทำความสะอาดระเบียง , จัดการหยากไย่ตามเพดานหรือผนัง , ทำความสะอาดตู้หรือชั้นเก็บของ , ทำความสะอาดซอกมุมที่เข้าถึงได้ยากต่าง ๆ , เช็ดทำความสะอาดภายในตู้เย็น , ทำความสะอาดมุ้งลวดและเหล็กดัด , ทำความสะอาดรางประตูหน้าต่าง , ขจัดคราบฝังแน่นทั้งพื้นห้องน้ำและพื้นบ้านพร้อมกับลงน้ำยาฆ่าเชื้อ

    ที่พักแบบไหน ควรใช้บริการทำความสะอาดใหญ่

    ไม่ว่าจะเป็นที่พักหรืออาคารรูปแบบใดก็สามารถใช้บริการ Big Cleaning ได้ทั้งสิ้น แต่โดยส่วนมากแล้วมักจะนิยมใช้บริการ Big Cleaning กับบ้านเปล่าที่เพิ่งย้ายเข้าหรือเพิ่งมีการย้ายออก บ้านหรือที่พักที่เพิ่งก่อสร้าง รีโนเวท หรือต่อเติมเสร็จสิ้น และบ้านที่มีการอยู่อาศัยเป็นประจำ

    ความแตกต่างระหว่างบริการแม่บ้านและ Big Cleaning

    ความแตกต่างระหว่างบริการแม่บ้านและ Big Cleaning

    บริการ Big Cleaning และบริการแม่บ้าน ถ้าหากว่ามองเพียงเผิน ๆ อาจดูเหมือนกัน แต่ความจริงแล้วไม่ใช่เลย บริการแม่บ้านและบริการ Big Cleaning นั้นแตกต่างกันอย่างมากเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของคุณภาพ ความเชี่ยวชาญ รวมไปถึงการทำความสะอาดที่ทั่วถึงต่างกัน

    โดยบริการแม่บ้านนั้นจะเป็นการทำความสะอาดทั่ว ๆ ไป เช่น ทำความสะอาดพื้นบ้าน ล้างจาน ล้างห้องน้ำ ทิ้งขยะ และปัดฝุ่นในบางส่วนเท่านั้น

    ส่วนบริการ Big Cleaning นั้นจะเป็นการทำความสะอาดใหญ่สมชื่อเรียกเลย เพราะนอกจากจะทำความสะอาดได้อย่างเชี่ยวชาญแล้ว ยังทำความสะอาดบ้านของคุณได้ทุกซอกทุกมุม ตั้งแต่บริเวณที่สามารถมองเห็นได้ชัดอย่างพื้น หน้าต่าง เพดาน เฟอร์นิเจอร์ ไปจนถึงจุดอับที่เข้าถึงหรือจัดการได้ยากอย่างรางหน้าต่าง คราบฝังแน่นที่พื้น มุ้งลวด หรือเครื่องดูดควัน เป็นต้น

    ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ผลลัพธ์หลังจากใช้บริการแม่บ้านและบริการ Big Cleaning มีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดเลยทีเดียว

    สรุป

    เมื่อบ้านสกปรกเกินกว่าที่จะทำความสะอาดด้วยตัวเองไหว บริการ Big Cleaning จึงเหมาะอย่างมากที่จะลองเรียกใช้บริการดูสักครั้ง เพราะนอกจากจะช่วยให้บ้านกลับมาสะอาดดูดีเหมือนกับบ้านใหม่แล้ว ยังสะดวกสบาย ไม่จำเป็นต้องเหนื่อยทำความสะอาดบ้านเอง นอกจากนี้ยังช่วยประหยัดเวลาของคุณได้มากทีเดียว

    บริการ Big Cleaning จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องทำงานหนักจนไม่มีเวลาหรือมีแรงเหลือในการทำความสะอาดบ้านครั้งใหญ่ ผู้ที่ต้องการให้บ้านกลับมาสะอาดภายในเวลาอันรวดเร็ว ผู้ที่มีปัญหาทางด้านสุขภาพหรือมีปัญหาด้านร่างกาย หรือผู้ที่ไม่อยากทำความสะอาดบ้านทั้งหลังเอง

    หลังจากที่อ่านมาจนถึงตรงนี้ถ้าหากคุณกำลังคิดว่าบริการ Big Cleaning นั้นน่าสนใจ และเหมาะกับไลฟ์สไตล์หรือการใช้ชีวิตของคุณล่ะก็ ลองเรียกใช้บริการ Big Cleaning ดูสักครั้ง ไม่แน่ว่าบริการ Big Cleaning อาจตอบโจทย์และตรงใจคุณมากกว่าที่คิดก็ได้


    266
    ประกันรถยนต์ชั้น 3+

    ประกันรถยนต์ชั้น 3+ ประกันรถยนต์ที่พร้อมให้ความคุ้มครองรถของคุณ และดูแลรถของคุณ แม้แต่ร่างกายของผู้เอาประกันหรือบุคคลภายนอกที่ได้รับความเสียหาย ที่เกิดจากรถของผู้ทำประกันชั้น 3+ การทำประกันรถยนต์ชั้น 3+ นั้นถือว่าเป็นความคุ้มครองต่อทรัพย์สินและตัวผู้ทำประกันเอง แต่จะไม่รวมความเสียหายต่อตัวรถที่ไม่มีคู่กรณี

    สำหรับใครที่มีความสนใจเกี่ยวกับประกันรถยนต์ และเกิดความสนใจเกี่ยวกับประกันรถยนต์ชั้น 3+ และต้องการข้อมูลความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันรถยนต์ชั้น 3+ ในบทความนี้เราได้ทำการรวบรวมข้อมูลที่อาจจะมีประโยชน์ต่อคุณผู้อ่านทุกท่าน ที่เกี่ยวกับประกันรถยนต์ชั้น 3+

    ประกันรถยนต์ชั้น 3+ คืออะไร คุ้มครองอะไรบ้าง

    ประกันรถยนต์ชั้น 3+ เป็นประกันรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองรถยนต์ของคุณที่เกิดจากความเสียหายต่อคู่กรณี แต่ประกันรถยนต์ชั้น 3+ จะไม่สามารถคุ้มครองต่อรถที่เกิดความเสียหายกับสิ่งของ เช่น เสา กำแพง  ต้นไม้ หรือแม้แต่รอยขีดข่วนที่เกิดขึ้นกับตัวรถที่ไม่มีคู่กรณีของผู้ทำประกันรถยนต์ชั้น 3+ แต่จะให้ความคุ้มครองก็ต่อเมื่อรถเกิดเหตุการณ์ การชนกับรถของผู้อื่นเท่านั้น

    ในความคุ้มครองของประกันรถยนต์ชั้น 3+ ที่มีต่อตัวรถยนต์นั้นมีความคุ้มครองอะไรบ้าง และตัวประกันรถยนต์ชั้น 3+ นั้นได้มีความคุ้มครองต่อชีวิตและทรัพย์สินต่อผู้ทำประกันหรือความคุ้มครองกับบุคคลภายนอกหรือไหม และยังมีความคุ้มครองอื่นๆอีกไหม

    ความคุ้มครองของประกันชั้น 3+ ต่อตัวรถยนต์

    ประกันรถยนต์ชั้น 3+ ความคุ้มครองที่มีต่อตัวรถยนต์ที่เกิดจากความเสียหาย ที่เกิดจากตัวรถยนต์หรือที่เกิดจากตัวรถของคู่กรณี เมื่อตัวรถของคุณหรือตัวรถของผู้ทำประกันเกิดความเสียหาย ทางประกันจะทำการจ่ายค่าความคุ้มครองรถยนต์ให้กับผู้ทำประกันรถยนต์ชั้น 3+ โดยค่าความคุ้มครองนั้นจะอยู่ที่ว่าผู้ทำประกันตกลงจ่ายค่าประกันรถยนต์ที่เท่าไรตามหนังสือสัญญาของผู้ทำประกันรถยนต์

    ความคุ้มครองของประกันชั้น 3+ ต่อชีวิตและทรัพย์สินของบุคคลภายนอก

    ประกันรถยนต์ชั้น 3+ ให้ความคุ้มครองต่อชีวิตและต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก โดยเงื่อนไขในความคุ้มครองต่อชีวิตของผู้ทำประกันหรือต่อบุคคลภายนอกนั้น ต้องเกิดจากการที่รถยนต์ของผู้ทำประกันชนเข้ากับคู่กรณีแล้วคู่กรณีเกิดการบาดเจ็บหรือเกิดการเสียชีวิต ประกันจะทำการจ่ายค่าชดเชยให้กับผู้เสียหาย

    หรือถ้าเกิดรถยนต์ของผู้ทำประกันได้ทำการชนกับรถของคู่กรณีแล้วทางผู้ทำประกันเป็นฝ่ายผิดแล้วรถของคู่กรณีเกิดความเสียหายทางประกันจะจ่ายค่าชดเชยให้กับผู้เสียหายตามจำนวนที่ผู้ทำประกันได้ทำการเซ็นสัญญาตามข้อตกลงในหนังสือสัญญาของผู้ทำประกัน

    ความคุ้มครองของประกันชั้น 3+ ต่อผู้ทุพพลภาพ

    สำหรับตัวประกันรถยนต์ชั้น 3+ นั้นได้ให้ความคุ้มครองเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ผู้ทำประกันได้ทำการขับรถยนต์แล้วเกิดการชนกับรถของคู่กรณีแล้วทางคู่กรณีเกิดบาดเจ็บจนเป็นผู้ทุพพลภาพ ทางประกันจะทำการจ่ายค่าชดเชยให้และถ้า ตัวของผู้ทำประกันเองเกิดการบาดเจ็บหรือบาดเจ็บจนเป็นผู้ทุพพลภาพทางประกันก็จะทำการจ่ายค่าชดเชยให้เช่นกัน ค่าชดเชยที่ได้จะได้ตามที่ระบุไว้ในหนังสือของผู้เซ็นสัญญาทำประกัน

    ประกันรถยนต์ชั้น 3+ แตกต่างกับประกันรถยนต์ชั้นอื่น ๆ อย่างไร

    ตัวประกันรถยนต์ชั้น 3+ มีความแตกต่างกับตัวประกันรถยนต์ชั้นอื่นๆ ในด้านความคุ้มครองหรือแม้แต่ค่าชดเชยที่ทางประกันได้ทำการจ่ายให้ แต่ในประกันรถยนต์ชั้นอื่นๆนั้นจะอยู่ที่ความต้องการของผู้ทำประกันว่าต้องการความคุ้มครองแบบไหนถึงจะเหมาะสมและถูกใจผู้เอาประกัน ประกันรถยนต์ของแต่ละชั้นจะมีความคุ้มครองที่ไม่เหมือนกัน และเงื่อนไขของประกันเองก็มีความแตกต่างกันไป ยิ่งถ้ารถที่มีการใช้งาน 5-10 ปี ประกันรถบางตัวก็อาจจะไม่เหมาะ

    แต่อาจจะเหมาะกับประกันอีกตัวมากกว่าทางผู้ทำประกันจะต้องทำการศึกษาและขอคำแนะนำจากผู้ขายประกันว่าประกันตัวไหนถึงจะมีความเหมาะสมต่อตัวผู้ทำประกันและต่อตัวรถยนต์ของผู้ทำประกันเอง เช่น ถ้าเกิดเงื่อนไขที่รถของผู้ทำประกันมีอายุการใช้งานที่นานอย่างรถที่มีอายุ 5-10 ปีขึ้นไป และมีการใช้งานรถอย่างระมัดระวังรถหรือรถที่ไม่ค่อยได้ใช้งาน รถของคุณก็จะเหมาะกับตัวประกันรถยนต์ชั้น 3+ ด้วยความที่ตัวประกันมีราคาที่ถูกทำให้คุณสามารถประหยัดขึ้นได้

    และในส่วนของหัวข้อนี้จะเป็นการแนะนำเกี่ยวกับประกันรถยนต์ชั้นอื่นๆโดยเปรียบเทียบกับประกันรถยนต์ชั้น 3+ โดยจะมีตั้งแต่ชั้น 1 จนถึง ชั้น3 ว่าประกันรถยนต์ของแต่ละตัวมีความแตกต่างกันอย่างไร และตัวประกันรถยนต์ของแต่ละชั้นเหมาะกับแบบไหนและดียังไงต่อตัวผู้ทำประกันรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นความแตกต่างในด้านของความคุ้มครองหรือแม้แต่ได้ด้านของการจ่ายค่าชดเชยความเสียหาย โดยจะบอกเกี่ยวกับข้อมูลของประกันรถยนต์แต่ละชั้นให้ทุกท่านได้อ่านกัน

    ประกันชั้น 3+ เทียบกับประกันชั้น 1

    ประกันรถยนต์ชั้น 1 จะมีความแตกต่างกับประกันรถยนต์ชั้น 3+ ความแตกต่างของสองตัวประกันนี้ ตัวประกันรถยนต์ชั้น 1 นั้นจะเหมาะกับรถที่มีการใช้เป็นประจำและผู้ทำประกันต้องการที่จะให้มีความคุ้มครองที่สูงสุด หรือเหมาะกับรถป้ายแดงที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุได้บ่อย เป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองกับผู้ทำประกันเมื่อเกิดเหตุจะทำการคุ้มครองทั้งแบบมีคู่กรณีและไม่มีคู่กรณี จะไม่เหมือนกับตัวประกันรถยนต์ชั้น 3+ ที่คุ้มครองได้ก็ต่อเมื่อต้องมีคู่กรณีเท่านั้น

    ประกันชั้น 3+ เทียบกับประกันชั้น 2+

    ประกันรถยนต์ชั้น 2+ จะมีความแตกต่างกับประกันรถยนต์ชั้น 3+ อยู่ที่ถ้ารถของคุณมีการใช้งานมาแล้วอย่างน้อย 5 ปี และผู้ทำประกันมีการขับรถด้วยความระมัดระวัง หรือมีความชำนาญในการขับรถแล้ว ทำให้โอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุนั้นมีน้อย ตัวประกันรถยนต์ชั้น 2+ จะทำการคุ้มครองก็ต่อเมื่อ รถชน รถหาย ไฟไหม้

    หรือแม้แต่รถของคุณที่เกิดจากการโจรกรรมแล้วเกิดกระจกแตกประกันก็จะให้ความคุ้มครองด้วย ทุนของความคุ้มครองอยู่ที่ 100,000 - 500,000 ขึ้นกับทุนของผู้เอาประกัน จะไม่เหมือนกับประกันรถยนต์ชั้น 3+ ที่จะให้ความคุ้มครองได้ก็ต่อเมื่อต้องเกิดกับคู่กรณีเท่านั้น

    ประกันชั้น 3+ เทียบกับประกันชั้น 3

    ความแตกต่างของประกันรถยนต์ชั้น 3 กับประกันรถยนต์ชั้น 3+ นั้น ในตัวของประกันรถยนต์ชั้น 3 จะให้ความคุ้มครองเฉพาะรถของคู่กรณีและบุคคลภายนอกเท่านั้น แต่ตัวของประกันรถยนต์ชั้น 3+ จะให้ความคุ้มครองในด้านค่าซ่อมรถของตัวผู้ทำประกันถ้าเกิดในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุแล้วรถของผู้ทำประกันเสียหาย ก็จะทำการคุ้มครองรถของผู้ทำประกันด้วย จะไม่เหมือนกับประกันรถยนต์ชั้น 3 ที่จะทำการคุ้มครองแค่ตัวผู้เสียหายหรือบุคคลภายนอกเท่านั้น

    เปรียบเทียบประกันชั้น3+

    ประกันรถยนต์ชั้น 3+ เคลมได้ในกรณีไหน

    สำหรับการเคลมประกันรถยนต์ชั้น 3+ นั้นคุณจะสามารถเคลมประกันในกรณีที่ต้องมีคู่กรณีหรือเกิดอุบัติเหตุแล้วคุณกรณีเกิดการบาดเจ็บ ถึงจะเริ่มทำการยื่นเรื่องของเคลมได้ แต่ถ้าเกิดอุบัติเหตุที่เกิดจากสิ่งของ หรือสิ่งที่ไม่มีชีวิต ก็จะเคลมไม่ได้ แต่ถ้าเกิดอุบัติเหตุที่เกิดจากผู้ทำประกันทำการหักหลบ สุนัข หรือ แมว แล้วเกิดอุบัติเหตุทางประกันก็จะไม่รับเคลมเช่นกัน

    กรณีเกิดอุบัติเหตุ

    ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุทางท้องถนนที่เกิดจากการรถชนหรือในกรณีที่มีคู่กรณีทางประกันรถยนต์ชั้น 3+ จะสามารถทำการเคลมได้ เมื่อเกิดเหตุในกรณีที่มีการชนกันขึ้นให้ทำการรีบติดต่อบริษัทประกันเพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้ทำการสำรวจที่เกิดเหตุและทำการส่งเรื่องเคลมให้กับทางบริษัท แต่ถ้าเกิดว่าในกรณีที่ผู้ทำประกันเป็นฝ่ายผิด สามารถเคลมประกันได้ปกติตามเงื่อนไขที่ตกลงไว้ในสัญญา แต่ถ้าถึงขั้นคดีอาญาประกันรถยนต์ จะไม่สามารถทำการคุ้มครองผู้ทำประกันได้ 

    กรณีรถยนต์เสียหาย

    ในกรณีที่รถของคุณเกิดความเสียหายที่ทำให้รถไม่สามารถสตาร์ทได้ หรือในรถของผู้ทำประกันเกิดมีปัญหา เช่นยางแตกหรือในกรณีที่ถูกโจรกรรมแล้วรถเกิดการเสียหาย ประกันจะไม่สามารถเคลมได้ หรือเกิดจากกรณีที่รถของผู้เอาประกันชนเข้ากับต้นไม้ หรือรถของผู้เอาประกัน เกิดไฟไหม้ จมน้ำ หรือสูญหาย ทางประกันก็จะไม่สามารถทำการเคลมได้เช่นกัน

    ประกันรถยนต์ชั้น 3+ เอกสารที่ต้องเตรียมก่อนการทำประกัน

    ในการเตรียมเอกสารที่คุณจะต้องทำการยื่นขอทำประกันรถยนต์ชั้น 3+ นั้นสิ่งที่คุณจะต้องเตรียมก็มี สำเนาบัตรประชาชนของผู้ทำประกันหรือหนังสือเดินทางต่างประเทศ สำเนาใบขับขี่ของผู้เอาประกัน สำเนาหนังสือการจดทะเบียนรถยนต์ที่ต้องการทำประกันรถยนต์ชั้น 3+ เมื่อทำการเซ็นสัญญาในการทำประกันรถยนต์ทุกครั้งคุณจะต้องอ่านเงื่อนไขในความคุ้มครองต่อตัวผู้ทำประกันให้ละเอียดเพื่อที่จะไม่ทำให้ผู้ทำประกันไม่เกิดความเสียหายต่อการเซ็นสัญญานั้นเอง

    เงื่อนไขในการทำ ประกันรถยนต์ชั้น 3+ มีอะไรบ้าง

    ในการทำประกันรถยนต์ชั้น 3+ นั้นจะให้ความคุ้มครองกับผู้ทำประกันและตัวคู่กรณี รวมไปถึงทรัพย์สินของผู้ทำประกันและคู่กรณี รวมถึงบุคคลภายนอก แต่ว่าจะคุ้มครองก็ต่อเมื่อต้องมีคู่กรณีเท่านั้น จะไม่สามารถคุ้มครองในกรณีที่รถหาย ไฟไหม้ หรือที่เกิดอุบัติเหตุจากสิ่งของได้ โดยความคุ้มครองจะอยู่ที่ 100,000 - 500,000 บาท ทุนประกันจะมากหรือน้อยอยู่ที่ผู้ทำประกันเป็นผู้เลือกทำ

    ประกันรถยนต์ชั้น 3+ ควรทำกับที่ไหนดี

    ทำประกันรถยนต์ชั้น 3+ กับบริษัท SILKSPAN ที่พร้อมให้ความดูแล และพร้อมใส่ใจต่อลูกค้าที่มีความสนใจอยากจะทำประกันยนต์ไม่ว่าจะเป็นประกันรถยนต์ชั้น 1 หรือ ประกันรถยนต์ชั้น 3 ก็มีพร้อมให้ตามความต้องการของคุณ และยังมีโปรโมชั่นอีกมากมายที่น่าสนใจ อย่างโปรโมชั่น ผ่าน 0% นาน 10 เดือน ไม่ว่าจะจ่ายแบบไหนก็ได้ และยังมีบริการที่พร้อมช่วยเหลือคุณตลอด 24 ชั่วโมง แล้วก็ยังมีโปรโมชั่นส่วนลดในการแนะนำอีกด้วย

    สำหรับใครที่สนใจแล้วเกิดอยากทำประกันรถยนต์หรือทำประกันออนไลน์อื่นๆ กับทาง SILKSPAN ง่ายๆเลยเพียงแค่คุณทำการติดต่อไปที่เบอร์โทร 02- 392-5500 หรือ ติดต่อไลน์ไปที่ @SILKSPAN หรือติดต่อได้ที่หน้าเว็บไซต์ SILKSPAN ทาง SILKSPAN พร้อมที่จะให้บริการคุณเสมอในด้านประกัน

    "สบายใจได้ ไม่ต้องเป็นห่วงอีกต่อไปว่าจะลืมต่อประกัน" SILKSPAN ขอแนะนำบริการแจ้งเตือนต่อประกันรถยนต์ผ่าน LINE ไม่มีสายโทรกวนใจ ไม่มีค่าใช้จ่าย สมัครเลยที่นี่ www. silkspan.com/online/insurance-alert

    267
    ทำประกันรถยนต์ชั้น 1 สุดคุ้ม

    คุ้มครองรถของคุณด้วยประกันรถยนต์ชั้น 1 ของ SILKSPAN ที่มาพร้อมกับโปรโมชั่นดี ๆ ราคาไม่แพง รถชน ไฟไหม้ รถหาย ฝ่ายผิดหรือฝ่ายถูก ก็คุ้มครองหมดกับรถที่ทำประกัน มั่นใจได้เลยว่าทำประกันรถยนต์ชั้น 1 แล้วจะปลอดภัยสุด ๆ เคลมง่าย จ่ายเบี้ยเริ่มต้นแค่ 750 ต่อเดือน และยังผ่อนฟรี 0% นาน 10 เดือนอีกด้วย

    คุณจะเห็นได้ว่าการทำประกันรถยนต์ชั้น 1 มีประโยชน์มาก ๆ กับความปลอดภัยเพื่อคุ้มครองความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตเพราะอุบัติเหตุตามท้องถนนเป็นสิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดทั้ง ๆ ที่บางคนขับรถตามกฎจราจรทุกอย่างก็ยังเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้เพียงเพราะโชคร้ายแต่ไม่ต้องห่วงถ้าคุณทำประกันรถยนต์ชั้น1 กับทาง SILKSPAN เคลมง่ายสบายใจหมดห่วงเรื่องอุบัติเหตุ

    ประกันรถยนต์ชั้น 1 ทำไมถึงต้องทำ มีความจำเป็นจริง ๆ ไหม
    ประกันรถยนต์ชั้น 1 ไม่เพียงช่วยให้คุณสบายใจหมดเรื่องอุบัติเหตุเพียงอย่างเดียว ยังสามารถช่วยเหลือเกี่ยวกับเหตุการณ์ฉุกเฉินต่าง ๆ ได้เช่น น้ำมันหมดกลางทาง ยางแตก รถสตาร์ตไม่ติด ก็สามารถโทรเรียกใช้บริการกับทาง SILKSPAN ได้เลย 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนเราก็พร้อมดูแลคุณซึ่งถือว่าเป็นข้อดีของการทำประกันชั้น 1 เป็นสิทธิพิเศษดี ๆ ของทาง SILKSPAN ที่มอบให้

    ประกันชั้น 1 มีความจำเป็นจริง ๆ ไหมสำหรับท่านใดที่ต้องการเรื่องความอุ่นใจแล้วละก็การทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ถือว่ามีความจำเป็นอย่างมากเพราะถ้าหากคุณมั่นใจว่าขับขี่รถยนต์อย่างปลอดภัยแต่ถ้าเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดอย่างไฟไหม้ และภัยธรรมชาติต่าง ๆ  การทำประกันรถยนต์ชั้น1 ก็จะช่วยคุณในส่วนนี้ได้

    เช็คเบี้ยประกันรถยนต์ชั้น 1 ได้ที่ SILKSPAN
    การทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ในปัจจุบันมีบริษัทแข่งกันหลากหลายบริษัทซึ่งราคาก็อาจจะแตกต่างกันไปตามรุ่นของรถยนต์ ปีที่ออก จะดีกว่าไหมถ้าเราสามารถเช็คเบี้ยประกันรถยนต์ชั้น 1 ได้เลยแบบไม่ต้องเสียเวลากันทั้ง 2 ฝ่าย

    หน้าเว็บไซต์ของ SILKSPAN ท่านจะสามารถเช็คเบี้ยประกันรถยนต์ชั้น 1 ได้เลยทั้งของบริษัทต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น วิริยะประกันภัย ทิพยประกันภัย แอกซ่าประกันภัยรวมแล้ว 20 บริษัทโดยคุณสามารถตรวจสอบเบี้ยได้ง่าย ๆ เพียงแค่กรอกข้อมูลรถต่าง ๆ และเบอร์โทรศัพท์ของคุณก็จะสามารถเช็คเบี้ยประกันรถยนต์ชั้น 1 ได้แล้ว

    ประกันรถยนต์ชั้น 1 คุ้มครองรถยนต์ของคุณอย่างไรบ้าง
    ความคุ้มครองของประกันรถยนต์ชั้น 1 จะช่วยแบ่งเบาค่าเสียหายตามที่กำหนดไว้ในทุนประกันโดยประกันรถยนต์ชั้น 1 จะให้ความคุ้มครองทั้งหมดทั้งต่อตัวรถยนต์ คุ้มครองชีวิตของคนภายในรถ รวมถึงบุคคลภายนอกที่ได้รับอุบัติเหตุและมีความเสียหายด้วย โดยจะแบ่งความคุ้มครอง 5 อย่างได้แก่

    ความคุ้มครองต่อตัวรถยนต์
    ประกันรถยนต์ชั้น 1 คุ้มครองต่อรถยนต์ทุกกรณีไม่ว่าจะเกิดอุบัติเหตุตามท้องถนนเสียหายจากการชน โดนขโมย เป็นฝ่ายผิดหรือฝ่ายถูกก็ได้รับความคุ้มครองไปเต็ม ๆ ประกันรถชั้น 1 ยังให้ความคุ้มครองถึงอุปกรณ์แต่งรถของท่านที่ระบุไว้ในประกันด้วย และยังให้ความคุ้มครองแก่กระจกรถยนต์ของท่านจากการโดนทุบ โจรกรรม ก่อเหตุทะเลาะวิวาท จะมีการเคลมให้รถของท่านกลับมาอยู่ในสภาพเดิมแบบเร็วที่สุด

    ความคุ้มครองต่อความเสียหายหรือเจออุบัติภัย ภัยธรรมชาติ
    แน่นอนว่าการทำประกันรถยนต์ชั้น 1 นั้นคุ้มครองกรณีต่อความเสียหายหรือเจออุบัติภัยและภัยธรรมชาติอีกด้วยเช่น ลูกเห็บตกใส่ แผ่นดินไหว น้ำป่าไหลหลาก ไฟไหม้ น้ำท่วมจากเหตุการณ์ธรรมชาติ ล้วนเป็นความเสี่ยงที่ไม่คาดคิด บริษัท SILKSPAN ของเราจะรับผิดชอบต่อค่าซ่อมแซมความเสียหายต่อผู้ทำประกันรถชั้น 1 แต่ถ้ารถเสียหายทั้งคัน บริษัท SILKSPAN จะคืนทุนประกันให้แก่ท่านตามวงเงินทั้งหมดที่ระบุไว้ในกรมธรรม์

    ความคุ้มครองต่อชีวิตและทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
    ประกันรถยนต์ชั้น 1 จะให้ความคุ้มครองต่อชีวิตและทรัพย์สินของบุคคลภายนอกอีกด้วย เช่น ร่างกายของคู่กรณี สิ่งของบนท้องถนนเช่น ร้านค้า เสาไฟฟ้า ตอม่อ ที่ได้เกิดความเสียหายจากอุบัติเหตุของรถที่ทำประกันรถชั้น 1 ไว้ โดยบริษัท SILKSPAN จะรับผิดชอบด้วยการจ่ายค่าสินไหมทดแทนตามจริง และไม่เกินวงเงินที่ระบุไว้สูงสุด 10 ล้านบาท

    ความคุ้มครองตามเอกสารแนบท้าย
    อีกทั้งประกันรถยนต์ชั้น 1 จะให้ความคุ้มครองตามเอกสารเพิ่มเติมเกี่ยวกับอุบัติเหตุที่ต้องนำตัวส่งโรงพยาบาล ประกันรถชั้น 1 จะครอบคลุมทั้งค่าใช้จ่ายในรักษาพยาบาล รวมถึงค่าบริการบุคลากรแพทย์ และของผู้โดยสารภายในรถที่ทำประกันรถชั้น 1 ไว้ แต่ถ้าเราเป็นฝ่ายผิดจนก่อให้เกิดเป็นคดีอาญา ประกันรถยนต์ชั้น 1 จะมีเงินประกันตัวไว้คอยช่วยเหลือให้แก่ผู้ขับขี่ตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์อีกด้วย

    บริการเสริมพิเศษติดต่อได้ตลอด 24 ชั่วโมง
    ลูกค้า SILKSPAN รับสิทธิพิเศษสำหรับผู้ที่ทำประกันรถยนต์ชั้น 1 บริการรถให้เบิกค่าเดินทางระหว่างซ่อม และบริการช่วยเหลือเหตุการณ์ฉุกเฉินไม่ว่าจะรถยางแตก รถเสีย รถสตาร์ตไม่ติด ติดต่อได้ตลอด 24 ชั่วโมง

    ประกันรถยนต์ชั้น 1 ดีกว่าประกันรถยนต์ชั้นอื่น ๆ ยังไง

    ประกันรถยนต์ชั้น 1 เทียบกับประกันชั้นอื่น

    ตามหลักของการทำประกันรถยนต์ชั้น 1 หรือชั้นอื่น ๆ ก็ตามแต่คือการที่ผู้ถือกรมธรรม์เลือกและสมัครใจในการทำประกันรถยนต์ ที่จะให้ค่าชดเชยหรือสินไหมทดแทนจากการเกิดอุบัติเหตุต่าง ๆ เหมาะสมคนที่ต้องการความคุ้มครองแบบครอบคลุมเน้นความสบายใจแก่รถยนต์ของท่านที่ใช้ในชีวิต

    ประกันชั้น1 มีราคาสูงกว่าราคาประกันอื่น ๆ  แต่ก็มีผลประโยชน์ครอบคลุมรอบด้านซึ่งแตกต่างจากประกันชั้น 2 หรือชั้นอื่น ๆ เพราะไม่เพียงแต่คุ้มครองบุคคลภายในรถเท่านั้น บางทีเราอาจต้องคุ้มครองไปถึงคู่กรณีที่เป็นคนภายนอก และทรัพย์สินของบุคคลที่อาจโดนลูกหลงไปด้วยจากอุบัติเหตุเช่น ร้านค้า ที่ตั้งอยู่บริเวณนั้น ถ้าเทียบความคุ้มค่าจากการทำประกันชั้น 1 กับประกันอื่น ๆ จะมีข้อแตกต่างดังนี้

    เทียบประกันชั้น 1 กับประกันชั้น 2+
    ประกันรถยนต์ชั้น 2+ จะให้ความคุ้มครองแก่อุบัติเหตุรถชนกันเท่านั้น ไม่รวมไปถึงการโจรกรรม และภัยพิบัติทางธรรมชาติต่าง ๆ จะเห็นได้ว่าประกันรถยนต์ชั้น 1 ดีกว่ามากเพราะคุ้มครองทั้งหมด ทุกเหตุการณ์

    เทียบประกันชั้น 1 กับประกันชั้น 2
    ประกันรถยนต์ชั้น 1 นั้นก่อให้เกิดประโยชน์ดีกว่าประกันชั้น 2 เพราะประกันชั้น 2 ไม่สามารถคุ้มครองรถชนที่ไม่มีคู่กรณีได้และค่าซ่อมรถเหมือนประกันรถชั้น 1 อีกทั้งยังมีข้อยกเว้นอื่น ๆ อีกที่แตกต่างกันไป

    เทียบประกันชั้น 1 กับประกันชั้น 3+
    ประกันรถยนต์ชั้น 3+ คุ้มครองรถที่มีคู่กรณีเท่านั้น ไม่รวมการโจรกรรม และภัยพิบัติทางธรรมชาติ ให้ความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นกับบุคคลภายนอก ไม่เท่าประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่ให้ความคุ้มครองมากถึง 10 ล้านบาทต่อครั้ง

    เทียบประกันชั้น 1 กับประกันชั้น 3
    ประกันรถยนต์ชั้น 1 เห็นได้ว่าสามารถคุ้มครองทั้งหมดรอบด้านแต่ตัวประกันรถยนต์ชั้น 3 จะให้ความคุ้มครองต่อทรัพย์สินบุคคลภายนอกเท่านั้น ส่วนรถของผู้ทำประกันและค่ารักษาพยาบาลที่อาจเกิดขึ้นจะต้องดำเนินการออกค่าใช้จ่ายเอง

    ประกันรถยนต์ชั้น 1 สามารถเคลมที่ไหนได้บ้าง
    ลูกค้าที่ทำประกันรถยนต์ชั้น 1 จะสามารถเคลมประกันได้ที่ไหนบ้างโดยหลัก ๆ ท่านจะสามารถติดต่อเบอร์ที่ระบุไว้ในเอกสารกรมธรรม์ได้เลยเพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้ามาสำรวจทำเรื่องเคลมและไม่ต้องไปเสียเวลาเจรจากับคู่กรณีด้วยตัวเองซึ่งจะแบ่งเป็น 2 กรณีดังนี้

    กรณีเกิดอุบัติเหตุ
    กรณีเกิดอุบัติเหตุ ขอให้รีบแจ้งติดต่อเจ้าหน้าที่โดยทันที เจ้าหน้าที่จะรีบเข้ามาทำเรื่องต่าง ๆ มากมายที่ระบุไว้ในเอกสารกรมธรรม์ทั้งมีคู่กรณีหรือไม่ก็แล้วแต่ ถ้าคุณเป็นฝ่ายผิดประกันรถยนต์ชั้น 1 ก็พร้อมออกค่าใช้จ่ายค่าให้ประกันตัวผู้ขับขี่อีกด้วย

    กรณีเกิดเหตุฉุกเฉินเกี่ยวกับรถยนต์
    กรณีเกิดเหตุฉุกเฉินเกี่ยวกับรถยนต์ในทุก ๆ ด้านไม่ว่าจะ รถเสีย รถสตาร์ตไม่ติด น้ำมันหมดกลางทาง ยางแตก แน่นอนว่าท่านสามารถเรียกใช้บริการของทางเราได้เลยตลอด 24 ชั่วโมง จาก Inter Partner Assistance เพราะเป็นสิทธิพิเศษที่ลูกค้าที่ทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ไว้อยู่แล้วไม่ต้องเกรงใจ ไม่ต้องกังวลปัญหาฉุกเฉินอีกต่อไป

    ประกันรถยนต์ชั้น 1 กับ SILKSPAN มีส่วนลดต่าง ๆ มากมาย
    ประกันรถยนต์ชั้น 1 กับ SILKSPAN ประกันออนไลน์ที่สามารถรู้ราคาทันที นอกจากนี้ยังผ่อน 0% นานถึง 10 เดือนอีกด้วย บริการตลอด 24 ชั่วโมงสำหรับลูกค้าที่ทำประกันไม่ว่าจะฉุกเฉินปัญหายิบย่อยต่าง ๆ เราสามารถช่วยคุณได้หมด อีกทั้งยังมีส่วนลดต่าง ๆ มากมายเช่น

    1.ต่อประกันรถล่วงหน้ารับไปเลยส่วนลดสูงสุด 500 บาท
    2.ไม่มีเคลมภายในระยะประกันรับไปเลยส่วนลด 500-1,000 บาท
    3.แนะนำต่อประกันคันที่ 2 ได้ส่วนลดไปเลยสูงสุด 1,000 บาท
    4.ส่วนลดประจำเดือน เพียงคุณติดตามช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ
    5.เบิกค่าเดินทางระหว่างส่งซ่อมรถได้สูงสุดถึง 1,000 บาท
    6.ส่วนลดประกันรถยนต์ 500 บาทถ้าคุณรับชม SILKSPAN LIVE หรือโทรมาก็รับไปเลยส่วนลด 1000 บาททุกวันพุทธ 21.00 น. ทางช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ

    นอกจากประกันรถยนต์ชั้น 1 แล้วทาง SILKSPAN  ก็ยังมีประกันสุขภาพ ประกันโควิด 19 สินเชื่อต่าง ๆ คุณสามารถติดต่อได้ทางช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น facebook line เบอร์โทร หรือทางเว็บไซต์ SILKSPAN ได้เลย

    "สบายใจได้ ไม่ต้องเป็นห่วงอีกต่อไปว่าจะลืมต่อประกัน" SILKSPAN ขอแนะนำบริการแจ้งเตือนต่อประกันรถยนต์ผ่าน LINE ไม่มีสายโทรกวนใจ ไม่มีค่าใช้จ่าย สมัครเลยที่นี่ h ttps: //www.silkspan.com/online/insurance-alert

    268
    รถยนต์นับเป็นอีกปัจจัยที่สำคัญมากในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะครอบครัวที่มีแหล่งพำนักอาศัยในหมู่บ้านที่ทำให้ต้องเดินทางไกลไปศึกษา หรือทำงาน ดังนั้นการมีรถยนต์ไว้ใช้ในการเดินทางย่อมจะสะดวกสบายและช่วยประหยัดเวลามากขึ้น แต่เพราะรถยนต์นั้นมีราคาแพง การดูแลรักษาสภาพของรถยนต์ให้ดีนั้น จึงเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะการรักษารถยนต์ให้่มีสภาพดี ทำการดูแลอยู่เสมอ จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมรถได้
     
    การดูแลสีรถยนต์ก็เป็นอีกขั้นตอนที่จะช่วยให้รถยนต์แลดูใหม่อยู่เสมอ วิธีดูแลก็สามารถทำด้วยตัวเองได้ง่าย ๆ เพียงแค่หลังจากใช้รถยนต์ ก็ควรที่จะทำความสะอาดขจัดคราบฝุ่นออกให้หมดด้วยการใช้น้ำยาเช็ดรถ น้ำยาขัดสีรถ

    และตบท้ายด้วยการใช้น้ำยาเคลือบเงารถยนต์ หรือน้ำยาเช็ดรถอีกครั้ง เพื่อให้รถของเรากลับมาเงางามเหมือนใหม่ โดยเรามาทำความรู้จัก “น้ำยาขัดสีรถ” ว่ามีคุณสมบัติอะไร ใช้งานอย่างไร เพื่อจะได้เลือกใช้ได้ถูกกับสภาพสีผิวรถยนต์ของเรา 

    น้ำยาขัดสีรถ ตัวช่วยดูแลรถยนต์ให้ดูดี ในราคาที่ย่อมเยาว์

    น้ำยาขัดสีรถ คืออะไร มีประโยชน์อะไรบ้าง

    เพื่อที่จะได้ทำให้รถยนต์ของเราดูดีเหมือนใหม่อยู่เสมอ เราก็ต้องหาผู้ช่วยตัวท็อปสำหรับงานนี้ ซึ่งก็คือน้ำยาขัดสีรถนั่นเอง ซึ่งก่อนใช้งานเราควรที่จะรู้จักถึงสรรพคุณ คุณสมบัติของน้ำยาขัดสีรถ หรือ น้ำยาขัดเงารถยนต์ก่อน โดยน้ำยาขัดสีรถเป็นน้ำยาที่ช่วยขจัดคราบสิ่งสกปรกบนพื้นผิวรถยนต์ ช่วยขัดสีรถให้ดูเงางาม แลดูใหม่อยู่เสมอ
     
    ประโยชน์ของน้ำยาขัดสีรถนั้น คือ ช่วยการขัดสีรถบนผิวหน้าของสีหรือแลคเกอร์รถยนต์ ให้เกิดความเรียบเนียนและเงางาม โดยที่น้ำยาขัดสีรถนั้นมีทั้งแบบ “ขัดหยาบ” และ “ขัดละเอียด” แต่ละแบบก็เหมาะสมกับสภาพรถคนละแบบ เช่น ถ้าเป็นรอยลึกก็ควรใช้น้ำยาขัดสีรถแบบหยาบก่อนแล้วจึงตามด้วยน้ำยาขัดสีรถแบบละเอียด
     
    แต่ถ้าในกรณีที่เป็นรอยเล็ก ๆ ประมาณ รอยแมวข่วน ก็แค่ใช้น้ำยาขัดสีรถก็สามารถช่วยได้ ไม่จำเป็นต้องเสียเงินแพง ๆ เพื่อทำสีรถใหม่ ซึ่งการใช้น้ำยาขัดสีรถนั้นนี้จะช่วยประหยัดได้มาก ถูกกว่าค่าใช้จ่ายในการทำสีรถใหม่แน่นอน

    น้ำยาขัดสีรถ คืออะไร มีประโยชน์อะไรบ้าง

    การใช้น้ำยาขัดสีรถด้วยตัวเองสามารถทำอย่างไรได้บ้าง

    วิธีการใช้งานน้ำยาขัดสีรถยนต์ด้วยตัวเองนั้น ทำได้ง่าย ๆ ดังนี้

    1. ก่อนอื่นให้นำรถที่ต้องการจะขัดสีมาทำความสะอาดล้างฝุ่นละออง สิ่งสกปรกทั้งหลายที่ติดอยู่กับพื้นผิวรถออกให้หมดเสียก่อน

    2. จากนั้นนำครีม หรือ น้ำยาขัดสีรถมาทาที่พื้นผิวของรถ แล้วขัดถูเป็นวงกลมด้วยฟองน้ำสำหรับขัดสีรถ แต่การขัดควรแบ่งออกเป็นส่วน ๆ

    3. เมื่อยาขัดสีรถแห้งแล้ว ก็ให้ใช้ผ้าสะอาดเช็ดคราบออก แล้วก็อาจจะตามด้วยการใช้น้ำยาเคลือบสีรถเพื่อป้องกันการเกิดริ้วรอยใหม่ และทำให้สีรถยนต์จะดูเงางามในเวลาเดียวกัน

    น้ำยาขัดสีรถยี่ห้อไหนดี

    น้ำยาขัดสีรถทุกยี่ห้อมีข้อดีข้อจำกัดแตกต่างกันไป ราคาก็หลากหลาย จึงขึ้นกับผู้ใช้ว่าเลือกแบบไหนราคาเท่าไรให้กับรถยนต์ของตนเอง ในที่นี้เราจะขอแนะนำ น้ำยาขัดสีรถ ที่ดีมาก ๆ ราคาก็ไม่แพงให้กับคนที่รักรถทุกคนได้ลองพิจารณา

    1. KleanSquare

    น้ำยาขัดสีเคลือบเงารถยนต์ Square Sealant จาก KleanSquare เป็นผลิตภัณฑ์อีกหนึ่งตัวที่อยากจะมาแนะนำให้รู้จัก เพราะสามารถช่วยป้องกันรังสี UV ที่มาจากแสงแดด โดยเฉพาะเมืองไทยเป็นเมืองร้อน ที่มีแดดแรงอยู่เกือบทุกวัน ทำร้ายสีรถของคุณ น้ำยาขัดสีเคลือบเงายี่ห้อนี้มีสูตรเฉพาะ ที่มีส่วนผสมของ
    เทฟลอนคุณภาพสูง + เกลซแวกซ์ ที่ทำให้รถมีสภาพใหม่ และเรียบลื่นอยู่เสมอ

    ราคา 499 บาท ต่อขนาด 500 กรัม

    น้ำยาขัดสีรถ ยี่ห้อง Klean Square

    2. CANA

    น้ำยาขัดสีรถ CANA มีลักษณะเป็นครีม ใช้ขัดสีรถที่ซีดหมอง มีคราบไคล คราบยางมะตอย คราบกาวสติ๊กเกอร์ รอยขนแมว สำหรับวิธีขัดนั้นใช้ได้ทั้งแบบเครื่องขัดสีและแบบขัดด้วยมือ ใช้ได้กับทั้งรถใหม่และรถเก่า และเพื่อที่จะได้รถที่เงางามขอแนะนำให้ลงครีมขัดสีก่อนที่จะเคลือบเงาตามหลัง

    ราคา 50-70 บาท ต่อขนาด 200 กรัม

    3. Dinco DTWO

    น้ำยาขัดสีรถ Dinco DTWO มีลักษณะเป็นครีม และไม่มีส่วนผสมของซิลิโคน (Silicone) ใช้ลบรอยกระดาษทราย รอยขนแมว รอยละอองสี รอยขีดข่วนต่าง ๆ คราบยางมะตอย และลดการเกาะของน้ำและฝุ่นได้ดี สามารถขัดสีผิวรถยนต์ให้เรียบเนียนได้ แถมยังใช้ขัดไฟหน้ารถที่เหลือง ขัดสนิมโครเมียม ขัดโลหะต่าง ๆ ให้กลับมาเงาใสเหมือนเดิม

    ราคา 200-220 บาท ต่อขนาด 500 กรัม

    4. 3D AAT 501

    น้ำยาขัดสีรถ 3D AAT 501 เป็นน้ำยาขัดสีรถที่นำเข้าจากอเมริกา ที่ใช้เทคโนโลยีของเม็ดขัดสีที่เล็กที่สุดในโลก AAT Nono Abrasive ทำให้ไม่มีเม็ดฝุ่นขณะขัด และไม่ทิ้งคราบต่าง ๆ ทั้งยังช่วยลบรอยขนแมว รอยขีดข่วน รอยลึกของสีได้ตัวน้ำยามีกลิ่นหอม ไม่ฉุน และไม่มีกลิ่นเคมีหรือสารระเหยที่เป็นอันตราย และยังผ่านมาตรฐาน VOC

    ราคา 1,500-1,600 บาท ต่อขนาด 950 มล.

    5. M Scratch Remover

    น้ำยาขัดสีรถ 3M Scratch Remover เป็นน้ำยาที่เหมาะมากกับรอยรถและคราบสกปรกที่ฝังแน่น ในน้ำยาขัดสีรถ มีเม็ดขัดขนาดกลาง  ช่วยให้ลบรอยข่วน รอยขนแมวได้อย่างดี สามารถขัดได้ทั้งมือและเครื่องขัด  แต่ข้อห้ามก็คือ ไม่ควรขัดกลางแดด หรือขณะที่พื้นผิวสีรถยนต์ร้อน

    ราคา 350-360 บาท ต่อขนาด 236 กรัม

    สรุป

    สำหรับคนที่มีรถยนต์ไว้ขับขี่ ขอแนะนำให้มีน้ำยาขัดเคลือบสีรถไว้ติดบ้านไว้ใช้ เพื่อดูแลสภาพสีรถให้ดูดีและเงางามตลอด เวลาหลังจากเสร็จใช้งานแล้ว นอกจากนี้ยังเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมสีรถซึ่งค่อนข้างแพงโดยไม่จำเป็นส่วนจะใช้ยี่ห้อไหนก็แล้วจแต่งบประมาณ และความสะดวกในการซื้อหามาใช้

    269
    เคลือบแก้วรถยนต์เสริมเกราะให้รถสวยสดใสไร้รอยขีดข่วน

    เมื่อรถยนต์ของคุณประสบกับปัญหารอยขนแมว รอยขีดข่วน หรือสีสีดจางไม่สดใส จนทำให้คุณต้องเสียเวลา และเสียเงินในการทำสีใหม่ ที่ไม่รู้ว่าเมื่อไรต้องเสียเงินเปลี่ยนสีอีกครั้ง อย่าทำให้ชีวิตต้องยุ่งยาก มาเคลือบแก้วให้กับรถของคุณกันดีกว่า

    การเคลือบแก้วรถยนต์คือการเสริมเกราะชั้นที่สองทำให้รถของคุณมีความแข็งแกร่งมากขึ้น ช่วยปกป้องรถของคุณล่วงหน้าจากแสงแดด และการขูดขีด ทำความสะอาดง่าย ลดการจับตัวของฝุ่น ทำให้สีสันของรถดูเงางาม ใหม่อยู่เสมอ

    รถยนต์คือทรัพย์สินที่รัก ที่คุณจะต้องทะนุถนอมเป็นพิเศษ หากมีริ้วรอยเกิดขึ้น มองเห็นได้ง่าย ทำให้รถยนต์ไม่สวยงาม หรือมีคราบสกปรกฝังลึก จนยากเกินจะแก้ไข คุณจึงควรเคลือบแก้วรถยนต์ เพื่อช่วยทำให้รถของคุณให้มีความหนาและแข็งแรง ป้องกันปัญหาดังกล่าว

    เคลือบแก้วคืออะไร จำเป็นแค่ไหนต่อรถของคุณ

    การเคลือบแก้ว (Glass Coating) คือ การเคลือบเพิ่มชั้นสีของรถยนต์เหมือนกระจกใสให้หนาขึ้นและมีความแข็งแรงมากขึ้น โดยมีขนาดตั้งแต่ 1 - 9 H ด้วย Silicon Dioxide (SiO2) หรือ ซิลิกา ซึ่งซิลิกาคือส่วนผสมของการผลิตแก้วนั้นเอง ซิลิกาอาจทำปฏิกริยากับสารเคมีบางชนิด แต่ไม่ทำปฏิกริยากับสีของรถซึ่งจะมีการเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา หากถามว่าเคลือบแก้วจําเป็นไหม เพราะน้ํายาเคลือบแก้วราคาแพงกว่าการเคลือบแบบอื่น เราบอกได้เลยว่าจำเป็นอย่างยิ่งต่อรถที่คุณรัก

    การเคลือบแก้วรถยนต์ดีไหม มีข้อดีด้านใดบ้าง?

    ข้อดีของการเคลือบแก้ว

    การเคลือบแก้วรถยนต์ดีไหม เคลือบแก้วดียังไง สามารถช่วยอะไรได้บ้าง เหมาะสมไหมที่คุณจะเปลี่ยนใจมาเคลือบแก้ว คำถามเหล่านี้ เรามีคำตอบ เพราะนอกจากช่วยปกป้องริ้วรอยแล้ว ข้อดีของการเคลือบแก้วรถยนต์ยังมีอีกหลายประการ ดังนี้

    1. ทำความสะอาดได้ง่าย

    การเคลือบแก้วรถยนต์ ด้วยวัสดุชั้นดีที่ให้ในการทำแก้วอย่างซิลิกา ทำให้คุณมั่นใจได้ว่ารถของคุณจะลื่น เนียน ทำความสะอาดง่าย แค่ฉีดน้ำก็ทำให้สิ่งสกปรกถูกล้างออกไป ต้องลองสัมผัสแล้วคุณจะเข้าใจ

    2. ป้องกันแสง UV ได้ดี

    วิธีเคลือบแก้วช่วยทำให้รถของคุณหนาขึ้น แข็งแรงขึ้น และยังเป็นเกราะช่วยป้องกันแสงแดด หรือ รังสี UV จากดวงอาทิตย์ ที่ส่งผลเสียต่อรถยนต์ของคุณได้อีกด้วย หมดปัญหาเรื่องสีซีด สีจาง จากแสงแดด

    3. เคลือบแก้วสามารถคงอยู่ได้นาน

    รถยนต์ที่ได้รับการเคลือบแก้วจะได้เปรียบเรื่องความทนทานของชั้นผิวเคลือบที่อยู่ได้นานมากกว่าการเคลือบแว๊กซ์ปกติ 1 - 3 ปี ขึ้นอยู่กับน้ำยาเคลือบแก้ว และคุณภาพของศูนย์บริการแต่ละแห่ง

    4. ทำสีของตัวรถดูใหม่เสมอ

    ด้วยสารซิลิกาที่ทำให้การเคลือบแก้วรถยนต์เปรียบเสมือนการเคลือบกระจกเกิดความเงางาม ช่วยให้สีของรถดูสวยสดใส ใหม่อยู่เสมอ และดูสะอาดกว่ารถปกติที่ไม่ได้เคลือบแก้ว

    5. ป้องกันจากเปื้อนจากคราบต่างๆ

    รถยนต์ที่ใช้งานมาก คราบรอยเปื้อนจากคราบสกปรกต่าง ๆ ทำให้รถยนต์ดูไม่สะอาด การเคลือบแก้วรถยนต์จะทำให้คราบรอยเปื้อนไม่ฝังลึกที่ตัวรถยนต์

    6. สามารถลดรอยขีดข่วนได้ดี

    การเคลือบแก้วรถยนต์มีคุณสมบัติการลื่นต่อน้ำยาวนานกว่า ส่งผลให้ลดโอกาสการเกิดรอยที่ขจัดได้ยาก เช่น คราบสกปรก รอยขนแมว รอยขีดข่วน และยังช่วยลดปัญหาการถูกขูดหรือการถูกกระแทกจนเป็นสาเหตุให้รถยนต์มีริ้วรอยไม่สวยงาม

    7. ดีต่อรถที่เป็นรอยง่าย

    รถยนต์ที่มีสีขาว หรือสีอ่อนต่าง ๆ เป็นรถที่เกิดรอยได้ง่าย มองเห็นได้ชัดเจน เพื่อปกป้องรถยนต์จากรอยขีดข่วนต่าง ๆ  จึงควรให้รถเคลือบแก้วป้องกันไว้

    ปัจจัยในการเลือกร้านเคลือบแก้วที่ดี

    ปัจจับเลือกร้านเคลือบแก้วที่ไหนดี

    การเลือกร้านเคลือบแก้วมีความสำคัญมาก เพราะรถเคลือบแก้วจะอยู่กับคุณเร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับคุณภาพของผู้ให้บริการ ปัจจัยช่วยทำให้คุณเลือกร้านที่ดีมีประสิทธิภาพ มีดังนี้

    1. มีเครดิต มีคุณภาพ และมีความน่าเชื่อถือ
    2. มีความคุ้มค่าด้านราคา และคุณภาพ ส่วนผสมน้ํายาเคลือบแก้วราคาเหมาะสมกับผลงาน
    3. ให้ความคุ้มครองหลังการบริการ สามารถติดต่อได้
    4. สืบค้นข้อมูลจากผู้เคยใช้บริการ หรืออ่านรีวิว เพื่อมั่นใจว่าคุณจะได้รับบริการที่ดี

    สรุป

    เคลือบแก้วรถยนต์เสริมความแข็งแรงไร้ริ้วรอย

    การเคลือบแก้วสีรถยนต์มีประโยชน์หลายประการ ที่สามารถทำให้คุณมั่นใจได้ว่ารถของคุณจะได้รับการปกป้อง มีความแข็งแรงมากขึ้น เพราะหากปล่อยให้รถมีรอยขีดข่วนอาจไม่ส่งผลดี จนทำให้คุณต้องเสียค่าใช้จ่ายที่มากกว่าการเคลือบแก้วเสียอีก ทั้งนี้คุณควรเลือกใช้บริการช่างที่มีประสบการณ์เคลือบแก้วรถยนต์ เพื่อรักษาสภาพรถยนต์ของคุณให้นานที่สุด

    270
    บริการเช่าเบนซ์เป็นบริการที่สะดวกสบายเป็นอย่างมาก สำหรับคนที่ชื่นชอบ หรือมีรถเบนซ์อยู่แล้ว เพราะไม่ว่าคุณจะต้องการเช่าเบนซ์เพื่อทดลองขับ อยากเช่ารถสปอร์ตในวันสุดพิเศษ หรือไม่ว่ารถเบนซ์คู่ใจต้องซ่อมกะทันหัน ไม่ว่าจะโมเม้นท์ไหนบริการเช่ารถเบนซ์รายวันตอบโจทย์ของคุณได้อย่างแน่นอน

    เราจึงรวบรวมข้อมูลของบริการเช่ารถเบนซ์รายวันที่คุณต้องรู้ หลายคนคงมีข้อสงสัยว่ารถเบนซ์มีหลายรุ่นจะแยกคลาสยังไงแต่ละคลาสต่างกันอย่างไร? อยากเช่าเบนซ์สักคันราคาเท่าไหร่? แล้วต้องใช้บริการเช่ารถเบนซ์รายที่ไหนดีจึงจะน่าเชื่อถือ ติดตามได้ในบทความนี้ได้เลย   

    เช่ารถ benz ราคาเท่าไหร่

    สิ่งที่ควรรู้ก่อนเช่ารถเบนซ์ มีอะไรบ้าง      
    สำหรับใครที่กำลังจะเช่ารถ benz คุณอาจจะยังไม่ทราบเกี่ยวกับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ มีคลาสอะไรบ้าง? รหัสหลังตัวเลขบ่งบอกถึงอะไร? รถเบนซ์บางรุ่นทำไมถึงมีตัวเลขแค่ 2 หลัก แล้วตัวเลข 3 หลักคืออะไร? ก่อนเช่ารถ benz คุณควรรู้ข้อมูลเหล่านี้ก่อน ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้
       
    1. รถเมอร์เซเดส-เบนซ์ มีคลาสอะไรบ้าง
    ก่อนจะเช่ารถเบนซ์รายวันคุณควรรู้ก่อนว่ารถ benz มีคลาสอะไรบ้าง โดยการแบ่งคลาสของเบนซ์นั้นจะแยกได้จากตัวอักษร แล้วตามด้วยตัวเลข 3 หลัก ตั้งแต่เล็ก ไปถึงใหญ่ แต่ละคลาสมีรายละเอียด ดังนี้

    • A-Class หากคุณเช่ารถเบนซ์ตัวอักษร A ซึ่งเป็นรถขนาดเล็ก ที่อยู่ในช่วงของรถ Sub-Compact Car เหมาะกับการใช้งานในเมือง แต่สามารถใช้งานได้หลากหลาย
    • B-Class เป็นรถขนาดเล็ก ที่เหมือนกับ A Class แต่หากเช่ารถเบนซ์อักษร B ได้มีการขยายสัดส่วนด้านบนให้สูงขึ้น เหมือนลักษณะของรถ MPV เหมือนทรงกล่อง ที่สามารถใช้งานได้หลากหลายมากขึ้น และพื้นที่กว้างขวาง
    • C-Class หรือ Compact Class เป็นรถขนาดปานกลาง อยู่ในช่วงของ Compact Car ที่มีขนาดกำลังดี ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป ถ้าไปอยู่ในรถประเภทอื่น ๆ จะมีรุ่น GLC หรือ รถสปอร์ต Roadster อย่าง SLC ซึ่ง C Class ก็จะเป็นรถที่มีขนาดเดียวกับ BMW 3 Series หรือ Audi A4
    • E-Class เป็นรถขนาดกลางค่อนข้างใหญ่ ไปทาง Mid-Size Car เช่ารถเบนซ์เหมาะสำหรับครอบครัว หรือผู้บริหาร ที่สามารถนั่งเบาะหลังได้อย่างสบาย ช่วงล่างนุ่มนวลขึ้น ภูมิฐาน อุปกรณ์พื้นฐานครบครัน และภายในที่กว้างขวาง เลือกใช้วัสดุที่พิถีพิถัน การเก็บเสียงเงียบสบาย

    เช่ารถเบนซ์ใช้เอกสารอะไรบ้าง

    • S-Class เป็นรถที่มีขนาดใหญ่สุด แพงที่สุด หากคุณเช่ารถเบนซ์ S-Class จะให้ความสบายเหนือระดับ รวมทั้งระบบความปลอดภัยรอบคัน อย่างเช่น Mercedes-Benz S 560 e AMG และรุ่นใหม่ล่าสุด S 580 e AMG W223 ปี 2023 ที่คุณสามารถ เช่ารถเบนซ์ S Class ขับแบบนุ่มนวล เงียบสนิท แต่แรงสุด ๆ
    • SL ซึ่งหมายถึงรถ Roadster หรือ Cabriolet เหมือนเบนซ์สปอร์ต เปิดประทุน SLC 300 AMG นั่นเอง โดย SL ต่อท้ายด้วย C จึงหมายถึง รถสปอร์ตเปิดประทุนขนาดกระทัดรัดที่มีน้ำหนักเบานั่นเอง
    • CL เป็นคลาสใหม่ของรถซีดาน อย่างเช่น CLA 35 หรือ CLS 300 d AMG รวมทั้ง CLS 53 AMG จะหมายถึงรถที่เป็นซีดาน แต่มีหลังคาลาด ให้อารมณ์สปอร์ตเหมือนรถ Coupe นั่นเอง CLA จึงเป็นรถ Coupe Sedan ขนาดค่อนข้างกะทัดรัด ในขณะที่ CLS จะมีขนาดใหญ่

    2. รหัสหลังตัวเลขบ่งบอกถึงอะไร?
    หลายคนที่จะเช่ารถเบนซ์แต่ยังสงสัยว่ารหัสหลังตัวเลขบ่งบอกอะไร รหัสหลังตัวเลขถึงบ่งบอกถึงระบบเครื่องยนต์ และสมรรถนะ รหัสด้านท้ายรถเพื่อบอกว่ารถคันนั้นเป็นรุ่นอะไร โดย 1 ตัวอักษร และตามด้วยตัวเลข 3 หลัก   

    3. รถเบนซ์บางรุ่นทำไมถึงมีตัวเลขแค่ 2 หลัก
    ได้ทราบกันแล้วนะคะว่ารถ benz ตัวเลข 3 หลักคืออะไร แต่รถเบนซ์บางรุ่นยังมีตัวเลขแค่ 2 หลัก ทั้งนี้ไม่ว่ารหัสสองหรือสามหลัก ก็คือรหัสที่ใช่บ่งบอกถึงความแรงของเครื่องเหมือนกัน แต่ที่แตกต่างที่คนเช่ารถเบนซ์ต้องรู้คือ รหัส 2 หลัก จะเป็นรถที่ผลิตออกจากโรงงาน AMG ซึ่งเป็นรถ AMG ที่แรงมาก   

    4. ตัวเลข 3 หลักคืออะไร?
    มาดูรหัสตัวเลข 3 หลักกันบ้างว่าคืออะไร ตัวเลข 3 หลักคือ ความสามารถและสมรรถนะเทียบเท่ารถที่มีขนาดความจุเครื่องยนต์นั้น ๆ โดยจะมีตัวอักษรภาษาอังกฤษตามด้วยตัวเลข 3 หลัก (เมื่อก่อนตัวเลขสามหลัก จะหมายถึงปริมาตรความจุกระบอกสูบของเครื่องยนต์ตรงตัวเลย แต่ปัจจุบันคือความแรงของรถรุ่นนั้น)            

    เช่ารถเบนซ์จาก Richcars ราคาเริ่มต้นเท่าไหร่         
    รถเบนซ์มีหลายรุ่น มีให้เลือกตามสไตล์ของคนขับไม่ว่าคุณจะสไตล์ไหนก็สามารถเลือกเช่ารถ benz ขับได้ตามความต้องการ แล้วหากจะเช่ารถเบนซ์ราคาจะเริ่มที่เท่าไหร่ เช่ารถเบนซ์รายวันเช่าขับเองราคาเริ่มต้น 7,900 บาท ใครที่กำลังจะเช่ารถสปอร์ต Mercedes-Benz เป็นอีกทางเลือกที่มีหลายรุ่นหลายความแรงให้เลือกใช้   

          
    หากต้องการเช่ารถเบนซ์ควรมองหาที่ไหนดี      
    หากคุณต้องการเช่ารถเบนซ์อย่างแรกที่ควรเลือกใช้บริการนั่นคือ ร้านเช่าที่มีมาตรฐาน เช่น ที่ Richcar มีบริการเช่ารถเบนซ์รายวัน เช่ารถสปอร์ต ทั้งรายวันและเช่ารถหรูรายเดือน สามารถรับรถที่ไหนก็ได้ และไม่จำกัดระยะทาง มีรถให้คุณได้เลือกหลากหลายรุ่น มีการดูแลสภาพรถทั้งภายนอกและภายในให้ใหม่และสะอาดอยู่เสมอ และด้วยประสบการณ์มากกว่า 6 ปี คุณจึงเช่าเบนซ์ เช่ารถสปอร์ต  ได้อย่างมั่นใจ

    เช่ารถเบนซ์รายวันที่ไหนดี

    ต้องใช้เอกสารอะไรบ้างในการเช่ารถเบนซ์กับ Richcars      
    เช่ารถเบนซ์รายวันจะต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง หลายคนคงคิดว่าเช่ารถ benz   ต้องใช้เอกสารหลายอย่างแน่  ๆ เพราะเช่ารถ benz เป็นรถหรูราคาแพง แต่หากคุณต้องการเช่ารถเบนซ์ใช้เพียงแค่ใบขับขี่เท่านั้น ไม่ต้องใช้บัตรประชาชน หรือเอกสารอื่น ๆ เพิ่มเติม             

    สรุป         
    เป็นยังไงบ้างคะชอบและสนใจรถเบนซ์รุ่นไหนกันไว้บ้าง เช่ารถเบนซ์เป็นรถหรูที่สวยและตอบโจทย์ทุกการขับขี่ของคุณแน่นอน และเราได้ทราบถึงคลาสและเลข 2 หลักและ 3 หลักของ Mercedes-Benz ไปแล้วใครชอบรุ่นไหนแรงม้าเท่าไหร่ สามารถเช่ารถเบนซ์รายวันขับกันได้เลย

    271
    Samsung S23 Ultra ราคา
    ขอขอบคุณรูปภาพจาก h ttps: //www.iphonemod.net/samsung-galaxy-s23-spec.html

    หลังจากที่มีข่าวออกมามากมายเกี่ยวกับ Samsung Galaxy S23 Ultra ทั้งรุ่น สี และสเปกเครื่อง ก่อนที่จะเปิดตัวในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 นี้ แต่ S23 Ultra ราคาเท่าไหร่ มีรายละเอียดราคาของแต่ละรุ่นต่างกันอย่างไรบ้าง ซื้อ Samsung S23 Ultra ที่ไหนคุ้มสุด และราคาเครื่องเปล่าจะมีราคาเท่าไหร่ เรามาดูรายละเอียดกันค่ะ แต่หมายเหตุไว้เล็กน้อยว่า S23 Ultra ราคาที่เป็นทางการยังไม่เปิดเผย ดังนั้น นี่เป็นเพียงการคาดการณ์ราคาเท่านั้นนะคะ


    S23 ultra คาดการณ์ราคาเท่าไหร่บ้างในแต่ละรุ่น

    หลายๆ ช่องทางข่าว และกระแสต่างๆ ก็มีการประมาณราคาของ Samsung S23 Ultra ออกมาเรียบร้อยแล้ว แต่อาจจะมีการประมาณราคาออกมาคลาดเคลื่อนจากกันบ้างเล็กน้อย เนื่องจากยังไม่มีการเปิดตัวราคาอย่างเป็นทางการ ซึ่งการคาดการณ์ S23 Ultra ราคาล่าสุดในแต่ละรุ่นจะมีราคาโดยประมาณอยู่ที่เท่าไหร่ แต่ละรุ่นราคาห่างกันมากไหม เทียบกับตอนเปิดตัว Galaxy S Series รุ่นเก่าแล้วต่างกันอย่างไรบ้าง ดูแล้วน่าซื้อหรือไม่นั้น เราได้รวบรวมราคาที่คาดการณ์เอาไว้ว่าจะมีราคาเท่าไหร่บ้างมาให้ดูกันค่ะ

    Samsung Galaxy S23 Ultra (8GB/256GB)
    รุ่นนี้จะคาดการณ์ราคาโดยประมาณอยู่ที่ 1,199 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ ประมาณ 43,900 บาท

    Samsung Galaxy S23 Ultra (12GB/512GB)
    รุ่นนี้จะคาดการณ์ราคาโดยประมาณอยู่ที่ 1,299 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ ประมาณ 49,900 บาท

    Samsung Galaxy S23 Ultra (12GB/1TB)
    รุ่นนี้จะคาดการณ์ราคาโดยประมาณอยู่ที่ 1,619 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ ประมาณ 59,900 บาท


    เทียบให้ชัด S23 ultra ราคาที่จะเปิดตัวเทียบกับ Galaxy S Series รุ่นเก่า ราคาต่างกันไหม

    ราคาซัมซุง S23 Ultra

    ขอขอบคุณรูปภาพจาก h ttps: //www.tech-hangout.com/samsung-galaxy-s23-ultra-officially-announced/

    หลังจากที่ดูราคาเปิดตัวที่คาดการณ์ไว้แล้วของ S23 Ultra นั้น หากเทียบกับตอนเปิดตัว Galaxy S รุ่นเก่าแล้ว มีรายละเอียดราคาอยู่ดังนี้ค่ะ
    - Galaxy S20 Ultra ราคาเปิดตัวไทย เริ่มที่ 39,900 บาท
    - Galaxy S21 Ultra ราคาเปิดตัวไทย เริ่มที่ 39,900 บาท
    - Galaxy S22 Ultra ราคาเปิดตัวไทย เริ่มที่ 39,900 บาท
    - Galaxy S23 Ultra ราคาเปิดตัวไทย เริ่มที่ 43,900 บาท

    Galaxy S23 Ultra ราคาจะสูงกว่ารุ่นอื่นๆ ตอนเพิ่งเปิดตัวพอสมควรราวๆ 4 พันถึง 5 พันบาท แต่ก็เริ่มต้นด้วยความจุที่มากกว่าเดิมถึง 2 เท่าเช่นกัน โดยรุ่นเดิมจะเริ่มต้นที่ 128 gb ในขณะที่ Samsung Galaxy S23 Ultra จะเริ่มต้นที่ 256 gb ค่ะ ทั้งนี้ นี่คือราคาที่คาดการณ์เอาไว้เท่านั้น หลังประกาศเปิดเผยราคาอย่างเป็นทางการอาจมีการคลาดเคลื่อนได้ค่ะ


    สรุป Samsung S23 ultra ราคาน่าซื้อไหม?
    Samsung S23 ultra ราคาเปิดตัวที่มีการคาดการณ์ออกมา นับได้ว่าสูงขึ้นมากกว่ารุ่นก่อนๆ พอสมควร แต่ก็เริ่มต้นด้วยความจุที่มากกว่าถึงสองเท่า จากเริ่มต้นที่ 128 gb เป็น 256 gb และมาพร้อมกับสเปกเครื่องที่จัดได้ว่าแรงพอตัว โดยเฉพาะคนที่ชื่นชอบการถ่ายรูป เรียกได้ว่า Samsung S23 Ultra ถือเป็นตัวเลือกหนึ่งที่ดีค่ะ เพราะกล้องจัดได้ว่ามีคุณภาพสูง และยังเน้นในเรื่องของการถ่ายวิดีโอได้ชัดมากๆ หากจะถามว่าคุณภาพสูงขนาดไหน ก็ตอบได้ว่าซัมซุงบอกมาเองเลยค่ะว่าถ่ายได้ในระดับที่สามารถใช้ถ่ายทำภาพยนตร์ได้เลย

    ทั้งนี้ สำหรับใครที่สนใจ สามารถพรีออเดอร์ Samsung S23 ultra ได้ที่เว็บเพจของซัมซุงโดยตรง ซึ่งคุณสามารถใช้สิทธิ์เครื่องเก่าแลกใหม่ได้ โดยจะได้รับส่วนลดทันที 5,000 บาท

    หรือสำหรับลูกค้าที่ใช้โค้ด The New Galaxy สามารถรับสิทธิ์ช้อปดีมีคืนได้ เพียง 2,200 ท่านแรกเท่านั้น และสามารถใช้อีกสิทธิ์ได้ที่ Thailand Mobile Expo ซึ่งจะเริ่มในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2566 นี้ค่ะ

    272
    ประกันเดินทางต่างประเทศ (Travel Insurance)

    ปัจจุบัน นักท่องเที่ยวนิยมที่จะเดินทางไปต่างประเทศมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งมีเหตุผลในการเดินทางแต่ละครั้งที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะไปต่างประเทศเพื่อการท่องเที่ยว เพื่อการศึกษาต่อ เพื่อการเจรจาทางธุรกิจ ทั้งการเดินทางในรูปแบบหมู่คณะ แบบครอบครัว คู่รัก กลุ่มนักท่องเที่ยวก็ตาม ไอเทมใหม่ที่กำลังนิยมพกไว้ติดตัวของผู้เดินทางรุ่นใหม่คือ การทำประกันเดินทางต่างประเทศ (Travel Insurance) และเหตุใดประกันเดินทางจึงได้รับความนิยมมากขึ้น บทความนี้ มีคำตอบ 

    ประกันเดินทางต่างประเทศคือ

    ประกันเดินทางต่างประเทศ คือ แผนเอาประกันเดินทางที่ผู้ซื้อประกันเลือกซื้อแผนประกันกับบริษัทใดบริษัทหนึ่ง และเลือกแผนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการเดินทางในครั้งนั้น โดยแต่ละแผนประกันการเดินทางจะออกแบบมาเพื่อครอบคลุมค่าใช้จ่ายในเรื่องต่าง ๆ สำหรับการใช้ชีวิตในต่างแดน เช่น แผนรายครั้ง และแผนรายปี

    เพราะการเดินทางไปต่างประเทศ แต่ละครั้งมีความเสี่ยง ทั้งในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับด้านการเดินทางและด้านการใช้ชีวิตประจำวัน โอกาสเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน และจะต้องมีค่าใช้จ่าย ทั้งด้านอุบัติเหตุ และด้านสุขภาพ ดังนั้น การเดินทางไปต่างประเทศ จึงมีไอเทมที่ควรพกไว้ให้อุ่นใจคือ  ประกันเดินทางต่างประเทศ  หากถึงคราวที่ต้องเข้ารักษาพยาบาลต่างประเทศขึ้นมา แน่นอนว่าค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น จะมีราคาสูงอย่างแน่นอน ดังนั้น เพื่อลดความเสี่ยงในด้านค่าใช้จ่าย ประกันการเดินทางต่างประเทศจึงถือเป็นไอเทมที่ผู้เดินทางขาดไม่ได้

    ควรซื้อประกันเดินทางไหม

    ควรซื้อประกันเดินทางไหม

    การเดินทางไปต่างประเทศแต่ละครั้ง แน่นอนว่า ผู้เดินทางจะต้องวางแผนการเดินทางในหลาย ๆ เรื่อง
    ในหลายครั้งผู้เดินทางมักมองข้างประกันเดินทางต่างประเทศ อาจเป็นเพราะค่าใช้จ่ายสำหรับเดินทาง
    ในเรื่องอื่น ๆ ก็สูงมากแล้วก็ตาม หรืออาจมีหลายสิ่งที่ผู้เดินทางให้ความสำคัญจนลืมนึกถึงประกันการเดินทางแต่ประกันเดินทางต่างประเทศ เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ขาดไม่ได้ เพราะหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ประกันเดินทางจะกลายเป็นเพื่อนคู่ใจเมื่อยามคับขันได้เป็นอย่างดี
    แผนการคุ้มครอง

    • ค่ารักษาพยาบาล ที่เกิดจากอุบัติเหตุและเจ็บป่วย
    • ค่าเคลื่อนย้ายเพื่อเข้ารับการรักษาพยาบาลในเหตุฉุกเฉิน หรือการเคลื่อนย้ายกลับประเทศ
    • คุ้มครองกรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ รวมถึงคุ้มครองค่าส่งศพกลับประเทศ
    • ค่าใช้จ่ายในการยกเลิกหรือเลื่อนการเดินทาง
    • คุ้มครองเที่ยวบินล่าช้า
    • คุ้มครองความเสียหายของกระเป๋าเดินทาง หรือทรัพย์สินส่วนตัว หรือกระเป๋าล่าช้า

    เมื่อเดินทางไปต่างประเทศ และเกิดเหตุการณ์คับขัน ผู้เดินทาง อาจเกิดข้อขัดข้องนานับประการ เช่น ปัญหาด้านการติดต่อสื่อสาร การขอความช่วยเหลือ ปัญหาความคุ้มเคยกับสถานที่ ผู้คนในต่างประเทศ นอกจากเรื่องปัญหาข้างต้น ปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายที่ตามมาอาจส่งผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ตามมาอีกด้วย

    แต่หากผู้เดินทางได้ซื้อประกันเดินทางต่างประเทศ พกไว้ให้อุ่นใจ คลายกังวล ทุกการเกิดอุบัติเหตุหรือการเจ็บป่วย เมื่อต้องเข้ารับการรักษา นั้น แผนประกันการเดินทางครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งรักษาพยาบาล ค่าห้อง ค่ายา ค่าชดเชยรายวันเมื่อต้องรักษาตัวในต่างประเทศ นอกเหนือจากเรื่องการเกิดอุบัติเหตุและการเจ็บป่วย ประกันเดินทางต่างประเทศ ยังมีค่าชดเชยในส่วนอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เช่น

    • ความล่าช้าของเที่ยวบิน เที่ยวบินถูกยกเลิก
    • การพลาดเที่ยวบิน
    • ความเสียหายของเอกสารเดินทาง
    • ความสูญหายของทรัพย์สินเงินส่วนตัว
    • ความล่าช้าของสัมภาระ
    • เที่ยวบินถูกยกเลิก

    ดังนั้น จึงสรุปได้ว่าการทำประกันการเดินทางต่างประเทศ เป็นสิ่งสำคัญที่สุดของผู้เดินทาง ไอเทมที่ขาดไม่ได้ เหมือนเพื่อนแท้ยามฉุกเฉินในต่างประเทศของผู้เดินทาง ตัวช่วยให้คลายความกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายได้อย่างสารพัด นอกจากนี้ ประกันเดินทางในบางประเทศ เช่น ประเทศในโซนยุโรป ที่ต้องใช้วีซ่าเชงเก้น (Shengen Visa) ผู้เดินทางจะต้องมีประกันเดินทางที่มีวงเงินความคุ้มครอง ไม่ต้องกว่า 1.50 MB จึงจะเดินทางเข้าประเทศได้อีกด้วย

    ประกันเดินทางมีกี่ประเภท

    ปัจจุบันแผนประกันเดินทาง แต่ละบริษัทได้วางแผนความคุ้มครองให้ผู้ซื้อสามารถเลือกซื้อได้หลากหลายรูปแบบ โดยให้เลือกที่เหมาะสมกับระยะเวลาในการเดินทางแต่ละครั้ง รวมถึงจำนวนคนที่เดินทาง ทั้งแบบหมู่คณะ และแบบเดินทางคนเดียว   

    ประกันสุขภาพ

    ประกันการเดินทางต่างประเทศ ด้านประกันสุขภาพ เป็นแผนความคุ้มครองที่เน้นในเรื่องของการรักษาพยาบาลจากการเจ็บป่วย รวมถึงค่ารักษาพยาบาลที่เกิดจากอุบัติเหตุ ไม่รวมถึงความคุ้มครองด้านการรักษาโรคประจำตัว ซึ่งจะคุ้มครองเฉพาะกรณีที่ผู้เดินทางเกิดอุบัติเหตุ บาดเจ็บ หรือเจ็บป่วย ในช่วงระยะเวลาที่เดินทาง ทั้งนี้ ครอบคลุมค่าใช้จ่ายกรณีเสียชีวิต การเคลื่อนย้ายศพกลับประเทศไทย

    ประกัน Trip Cancellation (หากมีเหตุจำเป็นต้องยกเลิกทริป ของคุณที่ยังเที่ยวไม่เสร็จประกันจะช่วยจ่ายชดเชยส่วนนึง)

    ประกันเดินทางต่างประเทศ แบบประกัน Trip Cancellation (หากมีเหตุจำเป็นต้องยกเลิกทริป ของคุณที่ยังเที่ยวไม่เสร็จประกันจะช่วยจ่ายชดเชยส่วนนึง) เมื่อมีเหตุจำเป็นให้ผู้เดินทางไม่สามารถเดินทางตามกำหนดได้ เช่น เกิดอุบัติเหตุก่อนการเดินทาง และต้องเข้ารับการรักษาตัว หรือเกิดอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วยระหว่างการท่องเที่ยวและทำให้เดินทางกลับประเทศไม่ได้ ในส่วนนี้  ประกัน Trip Cancellation ก็สามารถที่จะแบ่งเบาความเสี่ยงในภาระค่าใช้จ่ายทั้งค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าจองที่พัก ต่าง ๆ ได้ตามแผนประกันที่เลือกซื้อไว้

    ประกัน Personal item Loss (ของส่วนตัวสูญหาย)

    ประกันเดินทางต่างประเทศ ประกัน Personal item Loss (ของส่วนตัวสูญหาย) มีไว้ในยามฉุกเฉินกรณีที่ผู้เดินทางถูกขโมยทรัพย์สิน กระเป๋าเงิน กระเป๋าเอกสารสูญหาย ระหว่างที่อยู่ต่างประเทศ หรือสูญหายอันเนื่องมาจากสายการบินเคลื่อนย้ายกระเป่า หรือทรัพย์สินของผู้เอาประกัน กรณีเช่นนี้ จะสามารถเรียกร้องค่าสินไหมได้ แต่ในกรณีที่เกิดจากความประมาทของผู้เอาประกัน จะไม่ให้ความคุ้มครอง ทั้งนี้ ผู้เอาประกันจะต้องศึกษาเงื่อนไขการเบิกเคลมต่างๆ โดยละเอียด 

    ประกันชีวิต (เช่นอุบัติเหตุเสียชีวิต , เครื่องบินตก , อุบัติเหตุจาก Public Transport)

    ประกันเดินทางต่างประเทศ การเอาประกันชีวิต จากกรณีอุบัติเหตุเสียชีวิต เครื่องบินตก หรืออุบัติเหตุจาก Public Transport หากทำประกันชีวิตไว้กับบริษัทประกัน ผู้เดินทาง สามารถเรียกร้องค่าสินไหมในส่วนนี้ได้ตามแผนประกันที่ซื้อความคุ้มครองไว้ และในส่วนของสายการบิน ที่จะมีการรับผิดชอบ กรณีเครื่องบินตก เรียกร้องค่าสินไหม เป็นค่าสินไหมทดแทน ค่าปลงศพ ได้ด้วยเช่นกัน 

    ประกันเดินทางต่างประเทศที่ไหนดี

    ประกันเดินทางต่างประเทศที่ไหนดี

    การเลือซื้อประกันเดินทางต่างประเทศ พกไว้ติดตัวให้อุ่นใจ เพื่อนแท้ในยามฉุกเฉินในต่างแดน ขอแนะนำให้ผู้เดินทางเลือกซื้อจากปัจจัยด้านต่าง ๆ ดังนี้

    • ค่าเบี้ยประกันมีราคาที่เหมาะสมกับแผนความคุ้มครองที่จะได้รับ
    • ช่องทางการติดต่อกับบริษัทประกัน ต้องมีช่องทางให้ติดต่อหลากหลายรูปแบบ และต้องสามารถติดต่อง่าย เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
    • ขั้นตอนการติดต่อเรียกร้องค่าสินไหมง่าย กระชับ ไม่ซับซ้อน
    • การให้บริการ มีความรวดเร็วทุกขั้นตอน


    ทุกการเดินทางไปต่างประเทศ หากได้รับการบริการที่ดีจากประกัน เช่น บริการรวดเร็ว เคลมไว เพื่อช่วยเหลือผู้เดินทางให้มีความสะดวกสบาย และรู้สึกประทับใจตลอดระยะเวลาการเดินทาง  การประกันเดินทางต่างประเทศ จะกลายเป็นเพื่อนแท้ในยามฉุกเฉินของผู้เดินทาง 

    273
    ประกันสุขภาพเป็นสิ่งจำเป็น มีความสำคัญช่วยให้อุ่นใจยามเจ็บไข้ได้ป่วย

    การดำเนินชีวิตในปัจจุบันเป็นเรื่องยากลำบากในการดูแลและรักษาสุขภาพ ทั้งมลภาวะเป็นพิษ ทั้งฝุ่น PM 2.5 การนอนดึก ไม่มีเวลาออกกำลังกาย และรับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ ล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บได้ประกันสุขภาพจึงมีความสำคัญต่อชีวิตเพื่อคุ้มครองทุกคนในครอบครัวให้มีแผนรองรับกับค่ารักษาพยาบาลที่จะเกิดขึ้น

    ประกันสุขภาพ (Health insurance) ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลทั้งผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก รวมถึงโรคร้ายแรงอย่างโรคมะเร็ง สาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งของประชากรไทย ทำให้มั่นใจได้ว่าจะไม่มีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่อาจจะเกิดขึ้นจากการเจ็บป่วยหรือบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ รวมถึงโรคร้ายแรงต่าง ๆ

    สำหรับผู้ที่กำลังมองหาประกันสุขภาพเพื่อเป็นแผนสำรองกรณีเกิดเหตุที่ไม่คาดฝันกับร่างกายของตนเองและครอบครัว ควรเริ่มต้นจากพิจารณาสุขภาพของตนเองและบุคคลในครอบครัวว่ามีความเสี่ยงด้านใด เพื่อวางแผนให้เหมาะสมกับการเลือกซื้อประกันสุขภาพ แล้วการประกันสุขภาพจำเป็นจริงไหม ควรซื้อไหมบทความนี้มีคำตอบ

    ประกันสุขภาพคืออะไร คุ้มครองอะไรบ้าง

    ประกันสุขภาพ (Health insurance) คือ การประกันภัยที่บริษัทประกันภัยตกลงจะชดใช้ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น จากการรักษาพยาบาลให้แก่ผู้เอาประกัน ทั้งการรักษาพยาบาลที่เกิดขึ้นจากความเจ็บป่วย โรคภัยไข้เจ็บ หรือเกิดจากการได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลทั้งผู้ป่วยใน และผู้ป่วยนอก ค่าห้อง ค่ายา ค่ารักษาพยาบาล รวมถึงค่ารักษาโรคมะเร็ง และโรคร้ายแรงต่าง ๆ พร้อมรับสิทธินำไปลดหย่อนภาษีได้

    ทำไมควรซื้อประกันประกันสุขภาพ มีความสำคัญอย่างไร

    การประกันสุขภาพช่วยจัดการปัญหาค่ารักษาพยาบาลโดยไม่ต้องสำรองจ่าย

    การซื้อประกันสุขภาพมีความสำคัญมาก เพราะเป็นการวางแผนการเงินในการรักษาสุขภาพล่วงหน้า คุ้มครองความเสี่ยงของสุขภาพร่างกายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต สามารถช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลหากเจ็บป่วยหรือได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน อีกทั้งยังมีสถานพยาบาลหลายแห่งมีบริการเบิกตรงโดยไม่ต้องสำรองจ่ายไปก่อน ประกันสุขภาพเหมาจ่ายทำให้หมดกังวลกับปัญหาด้านการหาเงินค่ารักษาพยาบาล
     
    ประกันสุขภาพส่วนบุคคลและประกันสุขภาพกลุ่ม แตกต่างกันอย่างไร

    สวัสดิการประกันสุขภาพที่คุณได้รับมีความคุ้มครองเพียงพอหรือไม่ การเลือกประกันสุขภาพที่มีความคุ้มครองเหมาะสมเพียงพอต่อความต้องการจะช่วยปกป้องจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันหรือการเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรงที่มีค่ารักษาพยาบาลค่อนข้างสูงได้ หากคุณคำนวณสุขภาพร่างกายแล้วคิดว่าประกันสุขภาพไม่คุ้มครองการรักษาที่มีอยู่ การเลือกซื้อประกันสุขภาพเพิ่มเติมก็เป็นสิ่งที่มีความจำเป็น โดยประกันสุขภาพที่สำคัญมีดังนี้

    ประกันสุขภาพส่วนบุคคล

    การประกันสุขภาพส่วนบุคคล จะคุ้มครองเมื่อผู้เอาประกันภัยต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจากการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ หรือเจ็บป่วย (ค่าห้อง, ค่าบริการ, ค่ารักษากรณีฉุกเฉิน) ค่าผ่าตัด ค่าแพทย์ ค่ารักษาผู้ป่วยนอก ค่าคลอดบุตร ค่ารักษาฟัน และเงินชดเชยที่ต้องอยู่โรงพยาบาล

    ประกันสุขภาพกลุ่ม

    คือการประกันสุขภาพบุคคลตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป อัตราเบี้ยประกันค่อนข้างต่ำ โดยให้ความคุ้มครองเหมือนกันประกันสุขภาพส่วนบุคคล ที่ให้ความคุ้มครองเมื่อผู้เอาประกันภัยต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจากการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ หรือเจ็บป่วย นิยมใช้ในองค์ขนาดใหญ่ที่ผู้ว่าจ้างซื้อประกันสุขภาพกลุ่มให้กับลูกจ้าง

    ประกันสุขภาพแบ่งเป็นกี่แบบ คุ้มครองด้านไหนบ้าง

    การประกันสุขภาพมีความสำคัญในชีวิต เพราะโดยธรรมชาติแล้วร่างกายคนเรามีการเสื่อมลงในทุกปี ยิ่งอายุมากขึ้น ยิ่งก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพ หรืออาจเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดทำให้ต้องเสียค่ารักษาพยาบาล ประกันสุขภาพเหมาจ่ายเป็นการป้องกันภาวะค่าใช้จ่ายในการรักษาสุขภาพที่อาจจะบานปลาย จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีประกันสุขภาพไว้ โดยประกันสุขภาพแบ่งออกเป็น 4 แบบ ดังนี้

    ประกันสุขภาพผู้ป่วยนอก

    ประกันสุขภาพผู้ป่วยนอก หรือ opdคือ ประกันสุขภาพที่คล้ายกับการไปหาหมอที่คลินิก เหมาะสำหรับผู้เจ็บป่วยบ่อย เป็นหวัด แพ้อากาศ เป็นไข้ ที่อาการไม่ร้ายแรง ซึ่งจะชดเชยค่ารักษากรณีเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุฉุกเฉินที่รักษาภายใน 1 วัน สูงสุดไม่เกิน 30 ครั้งต่อปี

    ประกันโรคร้ายแรง

    ประกันสุขภาพโรคร้ายแรง คือประกันสุขภาพที่เหมาะสำหรับผู้ต้องการความคุ้มครองโรคร้ายแรงต่าง ๆ เช่น โรคมะเร็ง โรงหลอดเลือดสมอง โรคไตวายเรื้อรัง โรคตับวาย เป็นต้น ประกันชนิดนี้ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลโรคร้ายแรงที่มีราคาสูงได้

    ประกันชดเชยรายได้

    การประกันชดเชยรายได้ คือ แผนประกันสุขภาพหนึ่งที่เป็นหลักในการประกันสุขภาพเมื่อต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลแบบค้างคืนหรือผู้ป่วยใน บริษัทประกันภัยจะจ่ายค่าสินไหมรายวันเพื่อชดเชยรายได้ที่เสียไป

    ประกันสุขภาพผู้ป่วยใน

    ประกันสุขภาพผู้ป่วยใน หรือ ipdคือ ประกันสุขภาพที่คุ้มครองกรณีเจ็บป่วยจนต้องนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล โดยที่แพทย์ไม่สามารถให้กลับไปรักษาตัวที่บ้านได้ เช่น ผ่าตัด ให้น้ำเกลือ เป็นต้น โดยมีค่ารักษา ค่าห้อง ค่ายา และค่าผ่าตัด

    สรุป

    การประกันสุขภาพเพื่อการตัดสินใจในการรักษาอย่างมีประสิทธิภาพ

    การมีประกันสุขภาพดี ๆ สักเล่ม จะช่วยวางแผนการเงินกรณีเกิดการเจ็บป่วยหรือบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ รวมถึงโรคร้ายแรงต่าง ๆ ไม่ทำให้ต้องกังวลกับภาระค่ารักษาพยาบาลที่นับวันมีแต่สูงขึ้น การประกันสุขภาพมีความจำเป็นอย่างมาก เพราะหากเกิดเรื่องที่ไม่คาดคิด การตัดสินใจที่ล่าช้าอาจส่งผลให้รักษาไม่ทันการ และค่ารักษาพยาบาลอาจมีราคาสูง มากกว่าค่าเบี้ยประกัน 

    274
    ไมเกรนเป็นอาการปวดศีรษะชนิดหนึ่งที่อาจทำให้เกิดอาการปวดอย่างรุนแรง คลื่นไส้ และไวต่อแสงและเสียง วิธีการตรวจโรคไมเกรนแพทย์จะสอบถามเกี่ยวกับอาการของผู้ป่วยและประวัติทางการแพทย์ และทำการตรวจร่างกาย พวกเขาอาจใช้การทดสอบภาพเช่น MRI เพื่อแยกสาเหตุที่เป็นไปได้อื่น ๆ ของอาการปวดหัว

    แพทย์อาจใช้เกณฑ์การวินิจฉัยร่วมด้วยสำหรับการตรวจไมเกรนเพื่อวินิจฉัย โดยทั่วไปอาการของผู้ป่วยร่วมกับผลการตรวจและการทดสอบต่างๆ จะใช้ร่วมกันในการวินิจฉัยโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาท สิ่งสำคัญคือการ ตรวจไมเกรน ที่ถูกต้องสามารถช่วยในการค้นหาแผนการรักษาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับผู้ป่วยได้

    อาการปวดหัวไมเกรน

    อาการสัญญาณเตือนไมเกรน

    ไมเกรนเป็นโรคทางระบบประสาททั่วไปที่ทำให้เกิดอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง คลื่นไส้ และไวต่อแสงและเสียง อาการอื่นๆ ได้แก่ อาเจียน อ่อนเพลีย ไม่มีสมาธิ ซึมเศร้า และปวดคอ เกิดจากปัจจัยต่างๆ เช่น ความเครียด อาหารบางชนิด รูปแบบการนอนหลับที่เปลี่ยนไป และการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน

    ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพสามารถช่วยในการวินิจฉัยที่ถูกต้องและพัฒนาแผนการรักษาที่เหมาะสม วิธีตรวจไมเกรนเพื่อตรวจสอบอาการตัวตัวเองคือการจดบันทึกเวลาและตำแหน่งปวดไมเกรนสามารถช่วยให้เข้าใจถึงตัวกระตุ้น อาการ และความรุนแรงของไมเกรนได้ หากคุณกำลังมีอาการปวดหัวซ้ำๆ พร้อมกับอาการเหล่านี้ สิ่งสำคัญคือต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ

    วิธีตรวจไมเกรนเบื้องต้น

    วิธีตรวจหาไมเกรนที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดวิธีหนึ่งคือการจดบันทึกอาการปวดหัวของคุณ ซึ่งจะช่วยระบุตัวกระตุ้นหรือรูปแบบในอาการปวดหัวแบบต่างๆได้ จากนั้นลองใช้ลองเช็กอาการตามลิสด้านล่างหากคุณตรวจไมเกรนแล้วมีอาการเหล่านี้ คุณควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับระบบประสาทเพื่อทำการตรวจอย่างละเอียดต่อไป

    • อาการปวดหัวแบบกำเริบไมเกรนมีลักษณะอาการกำเริบของอาการปวดศีรษะระดับปานกลางถึงรุนแรง โดยมักจะปวดศีรษะข้างใดข้างหนึ่ง
    • อาการคลื่นไส้ อาเจียน และไวต่อแสงและเสียงอาการเหล่านี้มักมาพร้อมกับไมเกรน
    • อาการไวต่อแสงเป็นเรื่องปกติในไมเกรน ทำให้ผู้ป่วยหลีกเลี่ยงแสงจ้าและมองหาสภาพแวดล้อมที่มีแสงสลัวในระหว่างที่ไมเกรนกำเริบ
    • อาการไวต่อเสียงยังเป็นอาการทั่วไปของไมเกรน ทำให้ผู้ป่วยหลีกเลี่ยงเสียงดังหรือหาสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบระหว่างการโจมตี
    • มีความเหนื่อยล้า ขาดสมาธิ และภาวะซึมเศร้า
    • ปวดคอ วิงเวียน หรือรู้สึกหมุนบางคนอาจมีอาการเหล่านี้ในระหว่างที่มีอาการไมเกรน
    • มีตัวกระตุ้นทั่วไปบางอย่าง ได้แก่ ความเครียด อาหารบางชนิด รูปแบบการนอนที่เปลี่ยนไป และการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน

    สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่าไม่ใช่ทุกคนที่มีอาการเดียวกันทั้งหมด และอาการปวดหัวอาจแตกต่างกันไปในแต่ละช่วง การตรวจไมเกรนที่ถูกต้องสามารถช่วยในการค้นหาแผนการรักษาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับผู้ป่วยได้ ดังนั้น สิ่งสำคัญคือต้องปรึกษากับแพทย์หากคุณมีอาการปวดหัวซ้ำๆ ร่วมกับอาการข้างต้น

    รูปภาพการตรวจไมเกรนกับแพทย์

    การรักษาไมเกรน

    เมื่อคุณรู้วิธีตรวจไมเกรนเรียบร้อยแล้ว ถัดมาหัวข้อนี้จะเป็นการรักษาอาการไมเกรนต่างๆ เช่น ปวดหัว ปวดหัวจากความเครียด ปวดหัวข้างเดียว ไมเกรนขึ้นตา อันเป็นผลมาจาก ออฟฟิศซินโดรม หรืออาการปวดหัวมีความไวต่อแสงและเสียง ซึ่งเป็นวิธีการรักษาไมเกรนเบื้องต้นที่สามารถบรรเทาอาการปวดหัวเบื้องต้นได้ ไปจนถึงการรักษาจากแพทย์เฉพาะทาง โดยเราจะแนะนำได้ดังนี้

    การรักษาไมเกรนในขั้นต้น

    เมื่อมีอาการปวดหัวคุณสามารถลองใช้เทคนิคการผ่อนคลายบางอย่าง เช่น การหายใจลึกๆ การทำสมาธิ หรือโยคะ เรียนรู้วิธีนวดแก้ปวดไมเกรน เพื่อช่วยลดความเครียดและความตึงของศีรษะได้ นอกจากนี้การรักษาตารางเวลาการนอนหลับให้สม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น ดื่มน้ำให้เพียงพอ และการใช้ยาแก้ปวดที่จำหน่ายหน้าเคาน์เตอร์ร้านขายยายังสามารถช่วยจัดการกับไมเกรนได้

    อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญคือต้องทราบว่าเคล็ดลับการจัดการบ้านเหล่านี้ไม่ได้มีไว้เพื่อทดแทนการรักษาทางการแพทย์โดยมืออาชีพ หากอาการของคุณยังคงอยู่หรือแย่ลง สิ่งสำคัญคือต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเพื่อรับการประเมินและรับการรักษาต่อไป

    การรักษาไมเกรนทางการแพทย์

    ในปัจจุบันผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์รักษาไมเกรนมีการใช้เทคนิคที่หลากหลายในการรักษาอาการต่างๆ โดยทั่วไปจะเริ่มต้นโดยการตรวจไมเกรนเสียก่อนว่าผู้ป่วยมีอาการอย่างไรและสาเหตุอาการมีอะไรบ้าง จากนั้นแพทย์จะทำการรักษาตามอาการเหล่านั้นเพื่อให้ได้ผลกับผู้ป่วยมากที่สุด

        1. ยารักษาไมเกรน

    ยาแก้ปวดไมเกรนเป็นการรักษาทางการแพทย์ ที่จะช่วยลดอาการปวดไมเกรนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเราสามารถแบ่งยารักษาไมเกรนออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ยาบรรทาอาการปวดแบบไม่รุนแรง และ ยาบรรเทาอาการปวดแบบรุนแรง การซื้อยารักษาเองควรที่จะปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อได้รับยาที่เหมาะสมและปลอดภัยมากที่สุด

        2. ฉีดยาแก้ไมเกรน

    การฉีดยารักษาไมเกรนเพื่อยับยั้งสาร CGRP เป็นทางเลือกทางการแพทย์ที่ได้รับความนิยม โดยจะมีการฉีดยารักษาให้ตามคำวินิจฉัยของแพทย์เฉพาะทาง ที่จะมีลักษณะของการฉีดยาที่แตกต่างกันออกไป โดยหลักๆ แล้วเพื่อระงับการทำงานของ CGRP ซึ่งเป็นสารนิวโรเปปไทชนิดหนึ่งภายในร่างกายที่ทำให้หลอดเลือดภายในสมองเกิดการขยายตัว ส่งผลให้กระตุ้นการปวดหัวไมเกรน

        3. ฝังเข็มรักษาไมเกรน

    การฝังเข็มรักษาไมเกรน จะเป็นการรักษาทางศาสตร์จีน รักษาไมเกรนโดยการปรับสมดุลของระบบไหลเวียนเลือดที่แพทย์แผนจีนเชื่อว่าการฝังเข็มไปยังบริเวณต่างๆ ของร่างกายช่วยลดอาการปวดไมเกรนได้ดี

        4. โบท็อกไมเกรน

    เป็นการรักษาอาการปวดชนิดหนึ่งคือ ฉีดโบท็อกไมเกรน ซึ่งเป็นโบท็อกแบบที่เราใช้เสริมความงามชนิด Botulinum toxin โดยจะช่วยลดอาการปวดหัวได้เป็นอย่างดี และรักษาไมเกรนได้ผลจริง


    หากต้องการตรวจไมเกรนควรไปที่ไหนดี

    หากคุณมีต้องการตรวจไมเกรนและกำลังมองหาข้อมูลและแหล่งข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการจัดการกับอาการต่างๆของคุณ เราขอแนะนำศูนย์รักษาไมเกรนที่เว็บไซต์ https://www.migrainethailand.com/ เว็บไซต์นี้นำเสนอข้อมูลมากมายเกี่ยวกับไมเกรน รวมถึงสาเหตุ อาการ และทางเลือกในการรักษาจากบุคลากรทางการแพทย์ที่เชี่ยวชาญในการรักษาโรคไมเกรน

    นอกจากนี้ เว็บไซต์ยังมีข้อมูลเกี่ยวกับศูนย์รักษาไมเกรนแบบต่างๆ เพื่อให้คุณทราบและรักษาอาการเบื้องต้นได้เลย หรือหากคุณต้องการรักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแบบทันทีสามารถติดต่อเพื่อเติมได้ที่ Line:Aya Clinic เบอร์โทร 090-970-0447

    สรุป

    ไมเกรนเป็นโรคทางระบบประสาททั่วไปที่อาจทำให้เกิดอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง คลื่นไส้ และไวต่อแสงและเสียง การตรวจไมเกรนทำได้โดยการจดบันทึกอาการปวดหัวและปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับการวินิจฉัยและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมแต่ละเฉพาะบุคคล

    275
    หากฉีกโบท็อกไมเกรนสามารถรักษาโรคอาการปวดหัวได้จริงไหม

    ทุกวันนี้มีเรื่องให้ปวดหัวได้ทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นมาจากเรื่องการงาน ครอบครัวหรือแม้แต่สภาพแวดล้อมต่างๆ ส่งผลกระทบต่อจิตใจคุณได้ตลอดเวลา หากคุณเริ่มปวดหัวตุบๆ ตลอดเวลา รับประทานยาแก้ปวดไมเกรนก็แล้ว นอนพักผ่อนก็แล้ว ฝังเข็มไมเกรนแต่อาการปวดก็ยังไม่ดีขึ้น คุณอาจจะกำลังปวดหัวจากโรคไมเกรน

    ด้วยเทคโนโลยีสมัยนี้ได้มีนวัตกรรรมการรักษาอาการปวดหัวเรื่องรังได้ด้วยโบท็อกไมเกรน สำหรับใครที่สนใจอยากรักษาด้วยฉีดโบท็อกรักษาไมเกรน บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับโบท็อกไมเกรนให้มากขึ้น

    การโบท็อกไมเกรน คืออะไร

    หลายคนอาจจะคิดว่าการฉีดโบท็อกสามารถใช้ได้แค่ในวงการความงามเท่านั้น แต่ทุกวันนี้เราได้มีเทคโนโลยีมากมายทำให้โบท็อกนำมาใช้รักษาโรคอื่นๆ ได้ ซึ่งสำหรับใครที่มักมีอาการปวดหัวจากความเครียด หรือมีอาการปวดหัวบ่อยๆ โบท็อกไมเกรนสามารถช่วยลดอาการปวดให้กับคุณได้
     
    ฉีดโบท็อกรักษาไมเกรน มีวิธีอย่างไรบ้าง

    ถึงแม้ว่าการฉีดโบท็อกรักษาไมเกรนเป็นการนำโบท็อกที่ใช้ในความสวยความงาม แต่จะต่างกันตรงที่คุณหมอจะนำมาฉีดเพื่อรักษาผู้ที่มีอาการปวดไมเกรน เพราะในตัวยาจะเป็น Botulinum toxin ที่ใช้ในการรักษาไมเกรนโดยเฉพาะ

    ซึ่งนอกจากจะใช้รักษาอาการปวดหัวเรื้อรังได้แล้วโบท็อกไมเกรนยังสามารถรักษาอาการผิดปกติของกล้ามเนื้อแข็งและเกร็ง อีกทั้งยังสามารถใช้รักษาผู้ที่มีอาการออฟฟิศซินโดรมได้อีกด้วย ซึ่งคุณควรฉีดในปริมาณ 100 ยูนิต หรือใช้ในปริมาณที่แพทย์แนะนำเท่านั้น

    หลังจากโบท็อกไมเกรนมีผลข้างเคียงอย่างไร

    เมื่อคุณได้รับการรักษาด้วยการฉีดโบท็อกไมเกรนแล้ว คุณอาจจะมีอาการข้างเคียงได้โดยจะขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละบุคคล โดยอาการแพ้ Botulinum toxin ไมเกรนจะมีอาการแพ้ ได้แก่ อาการปวด คันในบริเวณที่ฉีด นอกจากนี้อาจจะมีบวมช้ำเกิดขึ้นได้หรือบางคนอาจจะมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง

    หลังจากโบท็อกไมเกรนอาจมีอาการผื่นคัน

    แต่อาการเหล่าสามารถหากได้เองและมีโอกาสเกิดขึ้นน้อยมาก ถ้าหากผ่านไปหลายสัปดาห์แล้วอาการแพ้ของคุณยังไม่ดีขึ้นเราแนะนำให้คุณควรรีบไปพบแพทย์

    หลังจากฉีดโบท็อกไมเกรนควรดูแลตัวเองแบบไหน

    การฉีดโบท็อกไมเกรนเสร็จถึงแม้ว่าคุณจะสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่ก็ยังต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ โดยหลังจากฉีดโบท็อกไมเกรนคุณจะต้องปฏิบัติตามดังต่อไปนี้

    • รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
    • ลดการดื่มเครื่องดื่มพวกชา กาแฟ เนื่องจากในเครื่องดื่มเหล่านี้มีคาเฟอีน ซึ่งสามารถกระตุ้นให้เกิดอาการปวดศีรษะได้
    • คุณควรแบ่งเวลานอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อที่จะได้ฝึกนิสัยการนอนให้เป็นเวลามากขึ้น
    • พยายามลดความเครียดและหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่จะกระตุ้นให้เกิดความเครียด
    • หลีกเลี่ยงในสถานที่ที่มีเสียงดังและที่มีแสงจ้ามากเกินไป เพราะสภาพแวดล้อมเหล่านี้สามารถกระตุ้นการให้เกิดอาการปวดศีรษะได้

    อีกหนึ่งกิจกรรมที่คุณควรปฏิบัติหลังจากฉีดโบท็อกไมเกรนคือ คุณควรออกกำลังอย่างเป็นประจำ เพราะการออกกำลังกายจะทำให้เลือกสูบฉีดแล้วเมื่อเลือดสูบฉีดมากๆ ก็จะส่งผลไปเลี้ยงสมองได้ดี

    นอกจากนี้การออกกำลังกายยังเป็นอีกหนึ่งวิธีการป้องกันโรคสมองเสื่อม หรือโรคอัลไซเมอร์ได้อีกด้วย อีกทั้งยังช่วยเพิ่มสมาธิในการทำงานและการทำกิจกรมต่างๆ

    หลังจากฉีดโบท็อกไมเกรนคุณควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

    ควรฉีดโบท็อกไมเกรนที่ไหนดี

    สำหรับใครที่ต้องการรักษาอาการปวดหัวเรื้อรังด้วยโบท็อกไมเกรน แต่ยังไม่ทราบว่าเราจะมีวิธีการเลือกฉีดโบท็อกไมเกรนกับคลินิกที่ไหนดี หรือจะเดินทางไปรักษาไมเกรนที่ไหนดี โดยเราก็มีแนวทางให้คุณดังต่อไปนี้

    คลินิกที่ให้บริการจะต้องมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง มีความน่าเชื่อถือ เครื่องมือมีความสะอาดปลอดภัย ทันสมัยได้รับมาตรฐาน นอกจากนี้สถานที่ที่คลินิกที่คุณไปรักษานั้นจะต้องเดินทางไปได้อย่างสะดวก เพราะถ้าคุณเกิดอาการข้างเคียงตามมาภายหลังจะได้เดินทางไปพบแพทย์ได้ทันเวลา

    ซึ่งคลินิกที่เราอยากจะมาแนะนำคุณเดินทางไปรักษาไมเกรนคือ BTX Migraine Center เป็นคลินิกที่ให้บริการฉีดโบท็อกไมเกรนอย่างมีมาตรฐานสากล มีความสะอาดและทันสมัย อีกทั้งคุณยังสามารถเดินทางมาพบแพทย์ของเราได้สะดวก เพราะคุณสามารถเดินทางมาโดยการขึ้น MRT จากนั้นลงที่สถานีพหลโยธิน และเดินเท้าต่อเพียง 5 นาที คุณก็จะถึงคลินิกของเรา

    สรุป

    การปวดหัวไมเกรนนั้นสามารถเกิดได้กับทุกคน สำหรับใครที่พยายามรักษาการปวดหัวไมเกรนด้วยวิธีการรับประทานยาแก้ปวดแล้วอาการยังไม่บรรเทา แต่การฉีดโบท็อกไมเกรนสามารถบรรเทาอาการปวดหัวของคุณได้ดีขึ้นอย่างแน่นอน

    โดยคุณสามารถเดินทางมาฉีดโบท็อกไมเกรนได้กับ BTX Migraine Center ศูนย์รักษาไมเกรนเรามีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์ อุปกรณ์พร้อมครอบครัว และใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย หากคุณสนใจต้องการใช้บริการฉีดโบท็อกไมเกรน หรือหากมีคำถามสงสัยเกี่ยวกับการฉีดโบท็อกไมเกรน โดยคุณสามารถติดต่อมาได้ที่ Line: @ayaclinic


    276
    บ้านเดี่ยวพระราม 5

    ย่านพระราม 5 เป็นจุดศูนย์กลางของความสะดวกสบาย ปัจจุบันมีห้างสรรพสินค้า สถานศึกษา โรงพยาบาล รวมถึงการคมนาคมที่เข้าถึงทุกช่องทาง ถนนสายหลักเชื่อมต่อเข้าเมือง จากย่านพระราม 5 สู่ย่านอื่น ๆ อย่างสะดวกสบาย จุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีม่วง สายสีน้ำเงิน ตอบโจทย์วิถีชีวิต และรสนิยมร่วมสมัยของคนเมืองรุ่นใหม่ ทำให้ย่านพระราม 5 มีโครงการบ้านเดี่ยวใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากมายต่อเนื่อง บ้านเดี่ยวพระราม 5จึงได้รับความนิยมสำหรับคนที่กำลังวางแผนซื้อ โครงการบ้านพระราม 5 มากขึ้นเรื่อย ๆ

    บ้านเดี่ยวพระราม 5

    บ้านเดี่ยวพระราม 5 ตั้งอยู่ใกล้ถนนสายหลัก ถนนนครอินทร์ ถนนราชพฤกษ์ และถนนรัตนาธิเบศร์ การเดินทางสะดวกสบายทุกเส้นทาง ทั้งทางรถยนต์ส่วนตัว รถโดยสารสาธารณะ และรถไฟฟ้า สิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการ เช่น สโมสร คลับเฮาส์ สระว่ายน้ำระบบเกลือ ฟิสเนส Co-Working Space ระบบความปลอดภัย กล้อง CCTV เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย

    อีกทั้ง ห้างสรรพสินค้า สถานศึกษา โรงพยาบาล ที่ตั้งอยู่ในโซนพระราม 5 เติมเต็มวิถีชีวิตของผู้พักอาศัยในบริเวณนี้ จึงทำให้ย่านพระราม 5 หมู่บ้านแถวพระราม 5 โครงการบ้านเดี่ยวพระราม 5 ได้รับความนิยมจากคนที่กำลังหาซื้อบ้านอย่างต่อเนื่อง

    ข้อดีของโครงการบ้านเดี่ยวพระราม 5

    บ้านเดี่ยวพระราม 5 พร้อมอยู่

    โครงการบ้านเดี่ยวพระราม 5 ทำเลดี ศูนย์รวมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันที่ออกแบบ ตามไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ทั้งการเดินทางที่สะดวกสบาย ถนนนครอินทร์ ถนนราชพฤกษ์ เชื่อมต่อไปถนนสายอื่นง่าย ทำเลติดห้างสรรพสินค้ามากมาย ใกล้สถานศึกษา และโรงพยาบาล เรียกได้ว่าครบครัน

    นอกจากนี้ บ้านเดี่ยวพระราม 5 โครงการใหม่ มีการออกแบบและแรงบันดาลใจในการสร้างโครงการ
    แรงบันดาลใจสู่สถาปัตยกรรมอันงดงาม กลายเป็นบ้านที่สง่างามมีเอกลักษณ์ เพราะความสุข เริ่มต้นจากที่บ้าน

    การเดินทางย่านบ้านเดี่ยว พระราม 5

    บ้านเดี่ยวพระราม 5 เดินทางเข้าถึงง่าย เพราะอยู่ใกล้ถนนสายหลัก เช่น ถนนบางศรีเมือง ถนนนครอินทร์ ถนนราชพฤกษ์ ซึ่งเป็นทำเลที่จัดว่าเป็นศูนย์กลางการคมนาคมเส้นหลัก จึงสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเลือกใช้วิธีการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว เดินทางด้วยรถสาธารณะ หรือเดินทางด้วยรถไฟฟ้าก็สามารถเดินทางเชื่อมต่อไปยังเมืองต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกสบาย

    การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว

    วิธีการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวในย่านพระราม 5 ซึ่งเป็นโซนที่มีการคมนาคมสะดวกสบาย บ้านเดี่ยวพระราม 5 ตั้งอยู่ติดกับถนนสายหลัก ๆ เช่น ถนนนครอินทร์ ถนนราชพฤกษ์ ถนนบางศรีเมือง ทำให้การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวมีความสะดวกที่จะเชื่อมต่อไปยังถนนสายหลักย่านอื่น ๆ อย่างง่ายดาย
     
    การเดินทางโดยรถสาธารณะ

    การเดินทางสู่ย่านพระราม 5 โดยรถสาธารณะ เช่น รถเมล์ รถตู้ รถสองแถว
    รถเมล์ ได้แก่ สาย 64 127 134 210 และ 516
    รถตู้ ได้แก่ รถตู้จากเซ็นทรัลปิ่นเกล้าผ่านราชพฤกษ์เข้าสู่นครอินทร์-พระราม 5-แคราย
    รถสองแถว ได้แก่ รถสองแถว 1024ข รถสองแถว 6162

    การเดินทางด้วยรถไฟฟ้า

    ปัจจุบันรถไฟฟ้าที่เข้าถึงย่านพระราม 5 ประกอบด้วยรถไฟฟ้าสายสีม่วงและสายสีน้ำเงิน รถไฟฟ้าสายสีม่วง ได้แก่ สถานีแยกติวานนท์ สถานีบางพลู  และรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ได้แก่ สถานีบางอ้อ สถานีสิรินธร สถานีบางยี่ขัน

    สิ่งอำนวยความสะดวกย่านบ้านเดี่ยว พระราม 5

    ย่านพระราม 5 ได้ชื่อว่าเป็นทำเลศักยภาพทางการคมนาคม และมีชื่อเสียงด้านการตั้งที่อยู่อาศัยมานานกว่า 50 ปี ผู้คนนิยมวางแผนซื้อ บ้านเดี่ยวพระราม 5 เพราะเป็นอันดับหนึ่งเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของวิถีคนเมืองรุ่นใหม่

    ห้างสรรพสินค้า ย่านบ้านเดี่ยว พระราม 5

    ห้างสรรพสินค้า เช่น เทสโก้ โลตัส นครอินทร์ เดอะวอล์คราชพฤกษ์ เดอะ คริสตัล เอสบี (ราชพฤกษ์) โฮมเวิร์ค ราชพฤกษ์ เดอะเซอร์เคิล ราชพฤกษ์ เซ็นทรัลพลาซ่า ปิ่นเกล้า แม็คโคร นครอินทร์

    สถานศึกษา ย่านบ้านเดี่ยว พระราม 5

    สถานศึกษา ตั้งแต่ระดับก่อนอนุบาล จนถึงระดับอุดมศึกษา เช่น มหาวิทยาลัยราชพฤกษ์โรงเรียนเด่นหล้า พระราม5 โรงเรียนอนุบาลนานาชาติมังกรน้อย โรงเรียนเซนต์คาเบรียล

    โรงพยาบาล ย่านบ้านเดี่ยว พระราม 5

    โรงพยาบาล เช่น โรงพยาบาลบางกรวย โรงพยาบาลหู ตา คอ จมูก โรงพยาบาลเกษมราช ประชาชื่น โรงพยาบาลธนบุรี 2 โรงพยาบาลนนทเวช โรงพยาบาลยันฮี โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาล บางกรวย 2 (ปี 2562)

    บ้านเดี่ยวพระราม 5 ราคาเท่าไหร่

    บ้านเดี่ยวพระราม 5 ราคาเท่าไหร่

    พระราม 5 ย่านศักยภาพ ตอบโจทย์การใช้ชีวิต

    พระราม 5 ย่านศักยภาพ ตอบโจทย์การใช้ชีวิตคนเมืองรุ่นใหม่ เพราะย่านพระราม 5 มีความเจริญรุ่งเรืองและเป็นย่านที่โครงการบ้านและที่ดินเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ มาเปิดตัวโครงการใหม่จำนวนมาก ผลกระทบที่ตามมาคือห้างสรรพสินค้า สถานศึกษา โรงพยาบาล มาเปิดตัวตามแหล่งที่อยู่อาศัย ทำให้โซนพระราม 5 กลายเป็นย่านที่มีความเจริญและขยายตัว อย่างรวดเร็ว ในอนาคตที่ดิน และอสังหาริมทรัพย์ จะมีราคาสูงขึ้น หากท่านใดกำลังสนใจบ้านเดี่ยวพระราม 5 อย่าพลาดโอกาสดี ๆ ตั้งแต่วันนี้ เพราะถือว่าเป็นโซนที่เหมาะสมที่จะรีบจับจองที่อยู่อาศัย

    แนะนำโครงการบ้านเดี่ยว พระราม 5 พร้อมอยู่

    แนะนำโครงการบ้านเดี่ยวพระราม 5 พร้อมอยู่ โครงการใหม่จาก SC ASSET 3 โครงการ

    เวนิว โฟลว์ พระราม 5

    โครงการเวนิว โฟลว์ พระราม 5 ตั้งอยู่บนถนนบางศรีเมือง เชื่อมต่อกับถนนนครอินทร์ ถนนราชพฤกษ์ ถนนพระราม 5 ได้รับแรงบันดาลใจในวิถีการอยู่อาศัยแบบบ้านสวนริมน้ำ สู่สถาปัตยกรรมร่วมสมัย บนทำเลดีอย่างมีเอกลักษณ์ ใกล้ทางด่วนศรีรัชฯ สายจตุจักร - บางซื่อ
    สิ่งอำนวยความสะดวก เช่น คลับเฮ้าส์ สระว่ายน้ำระบบเกลือ ฟิสเนส และ Co-Working Space

    ด้านความปลอดภัย มีระบบรักษาความปลอดภัยแบบ Double Security ควบคุมการเข้า-ออก โครงการด้วยระบบ Easy Pass พร้อมกล้อง CCTV ทั่วโครงการ มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง

    ตัวโครงการ ใกล้ห้างสรรพสินค้า Makro Home Pro ราชพฤกษ์ The Walk ราชพฤกษ์ โครงการเวนิว โฟลว์ พระราม 5

    บางกอก บูเลอวาร์ด พระราม 5

    บางกอก บูเลอวาร์ด พระราม 5 ตั้งอยู่ ถนนอัจฉริยะประสิทธิ์ ตำบลมหาสวัสดิ์ เชื่อมต่อกับถนนนครอินทร์ บ้านเดี่ยวที่สะท้อนอัตลักษณ์การอยู่อาศัย ด้วยเอกลักษณ์ความสง่างาม ผสานลวดลายแห่ง Brookfield Place, New York ออกแบบให้เพดานห้องนอนสูงกว่า 4 เมตร รสนิยมร่วมสมัย มี Clubhouse หรู สระว่ายน้ำระบบเกลือ Fitness Kis’room และ Working Space ใกล้วงเวียนพระราม 5 และทางด่วนศรีรัชฯ เดินทางสะดวกสบาย

    แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด ราชพฤกษ์ – พระราม 5

    คฤหาสน์หรูโครงการใหม่จาก sc asset แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด ราชพฤกษ์ – พระราม 5 ได้รับแรงบันดาลใจจาก Linderholf Palace and Park ประเทศเยอรมันนี ผสานกับการออกแบบในสไตล์ Rococo ศิลปะชิ้นเอก ที่มีความสำคัญในประวัติศาสตร์ศิลปะตะวันตก จากพระราชวัง ตั้งอยู่ถนนราชพฤกษ์ มีความเป็นส่วนตัว เอกสิทธิ์เพียง 63 ครอบครัว บนที่ดินกว่า 100 ตารางวา 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 5 ที่จอดรถ

    สรุป

    บ้านเดี่ยวพระราม 5  3 โครงการใหม่จาก SC ASSET พร้อมอยู่ แรงบันดาลใจในการสร้างแต่ละโครงการ เราตั้งใจที่จะออกแบบสถาปัตยกรรมอย่างพิถีพิถัน เพื่อเติมเต็มพลังชีวิตของผู้พักอาศัยอย่างแท้จริง ให้บ้านกลายเป็นสถาปัตยกรรม ความหรูหรา เพลิดเพลินใจ เพราะบ้านคือ ศูนย์รวมความสุขของ คนในครอบครัว ที่พักอาศัยเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ จุดเริ่มต้นวันใหม่ของชีวิต ให้ความสุขเริ่มต้นจากที่บ้าน


    277
    รอยแผลเป็นจากสิว

    ปัญหาแผลเป็นจากสิวไม่ใช่เรื่องเล็กที่ผู้กำลังเป็นอยู่ควรมองข้าม เพราะหากละเลยปล่อยแผลเป็นไว้ อาจทำให้รอยหลุมสิวเกิดการระคายเคืองจนเป็นรอยดำ รอยแดง ที่ทำลายชั้นผิวหนังเป็นหลุมสิว หรือสิวคีลอยด์ได้ในภายหลัง หากจะรักษาสิวด้วยตัวเอง การลดรอยแดง รอยดําจากสิวกี่วันหาย แล้วรักษาแผลเป็นจากสิวมีกี่วิธีรักษา บทความนี้จะมาให้หลักการการรักษาหลุมสิว สิวคีลอยด์ รอยแผลเป็นจากสิวเบื้องต้น มาเป็นความรู้เสริมกัน

    รอยแผลเป็นจากสิว (Acne Scar)

    รอยแผลเป็นจากสิว (Acne Scar) คือ แผลถลอกจากสิวที่เกิดอาการอักเสบรุนแรง ที่ไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง เช่น การแกะ แคะ การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสมกับสภาพผิว หรือการเสียดสีบริเวณสิวอักเสบ  ทำให้พื้นผิวรอบๆ ตัวสิวเป็นแผลสิวอักเสบขนาดใหญ่ รูขุมขนกว้าง แม้หัวสิวจะหลุดออกไปแล้วแต่ยังคงทิ้งรอยแดง รอยดำ ไว้อยู่ ส่งผลให้บริเวณตรงแผลสิวทิ้งรอยไว้ หากปล่อยอาการนี้ไว้อาจทำให้แผลเป็นจากสิวติดถาวรตลอดไป

    สาเหตุที่ทำให้เกิดรอยแผลเป็นจากสิว

    แผลสิวอักเสบ

    ต้นเหตุที่ทำให้เกิดรอยแผลเป็นจากสิว เกิดได้จากระบบต่อมไขมันใต้ผิวหนังได้ผลิตน้ำมันมากเกินความจำเป็น ส่งผลให้ตัวน้ำมันอุดตันในรูขุมขน ทำให้ลักษณะผิวมีตุ่มแดงๆ นูนขึ้นมา แต่หากมีคราบเชื้อรา แบคมีเรีย หรือสิ่งสกปรกอื่นๆ ในรูขุมขน อาจทำให้สิวเกิดการอักเสบเป็นหนอง หากสิวที่ดึงออกไม่ได้รับการรักษาที่ถูกวิธี พื้นผิวจะทิ้งรอยแผลเป็นจากสิว ลักษณะสีผิวบางเคสเป็นรอยแดงเหมือนผื่น เกิดอาการระคายเคืองต่อผิว เนื้อเยื่อที่ถูกทำลายอาจเกิดกระบวนการสร้างเม็ดสีผิวผิดปกติจนเป็นรอยดําจากสิวได้ในระยะเวลาต่อมา

    รอยแผลเป็นจากสิวมีกี่ประเภท

    ประเภทแผลสิวอักเสบ

    โดยทั่วไป รอยแผลเป็นจากสิวเกิดขึ้นเป็น 3 ประเภทสิว ดังนี้

    1. รอยดำ-รอยแดงจากสิว (Post-Inflammatory Hyperpigmentation)

    • รอยดำจากสิว เกิดขึ้นจากกระบวนการสร้างเนื้อเยื่อฟื้นฟูรอยแผลเป็นไม่สมบูรณ์ เพราะการเป็นแผลสิวทำให้เกิดปฎิกิริยาผลิตเม็ดสีที่ไม่สม่ำเสมอ  ทำให้รอยแผลเป็นจากสิวเป็นจุดด่างดำ
    • รอยแดงจากสิว เกิดขึ้นจากหลอดเลือดแดงถูกเบียดเบียนจากสิวอักเสบใต้ผิวหนัง ทำให้เส้นเลือดบวมปูดเป็นรอยแดงทิ้งไว้บนผิว ทำให้ผิวหนังอักเสบ ถึงแม้สิวจะถูกนำออกแล้ว แต่รอยแดงยังทิ้งอยู่
    2. รอยหลุมสิว (Atrophic Scars)

    • หลุมสิวแบบรูเจาะ (Ice pick) ลักษณะรอยแผลเป็นสิวคล้ายน้ำแข็งเจาะ เป็นรูแคบแต่หลุมมีความลึกถึงผิวหนังชั้นแท้ มักอยู่รวมเป็นกลุ่มๆ พบในบริเวณช่วงจมูก แก้ม โดยส่วนใหญ่
    • หลุมสิวแบบบล็อก (Boxcar) ลักษณะรอยแผลเป็นสิวคล้ายหลุมโดนลบทับ ขนาดหลุมมีฐานความกว้างแต่ตื้นกว่าสิวแบบรูเจาะ แต่บางคนอาจเป็นรูลึกใต้ชั้นผิวหนัง มีพังผืดในชั้นใต้ผิวหนังมาก ทำให้บริเวณที่รอยหลุมมีความแข็งและหนามาก มักพบบริเวณช่วงแก้มกับขมับ
    • หลุมสิวแบบคลื่น (Rolling) ลักษณะรอยแผลเป็นสิวเป็นหลุมที่มีความกว้าง แต่หลุมตื้นโค้งเอียงเป็นก้นกระทะ มองตาเปล่าจะเห็นหลุมสิวไม่ค่อยชัดเจน หากทำให้บริเวณรอยเป็นสิวชนิดนี้ให้ตึง จะทำให้ผิวดูเรียบเนียน เป็นสิวที่รักษาง่ายที่สุดในบรรดา 3 รอยหลุมสิวทั้งหมด

    3. รอยแผลเป็นนูนและคีลอยด์จากสิว (Hypertrophic and Keloid Scars)

    รอยแผลเป็นจากสิวคีลอยด์ (Keloid Scars) ลักษณะผิวจะนูนปูดบวมเป็นตุ่มแดงอักเสบ พบในบริเวณแก้ม จมูก คาง ใต้คาง กรอบหน้า คอ และช่วงหน้าอก

    รอยแผลเป็นจากสิวเกิดจากสิวแบบใด

    ชนิดรอยแผลเป็นจากสิว

    ชนิดสิว 7 ประเภทที่ก่อให้เกิดรอยแผลเป็นจากสิวค้างหลงเหลือไว้บนใบหน้า มีดังนี้

    • สิวผด (mallorca Acne) เกิดจากการสัมผัสกับฝุ่น สภาพอากาศที่ร้อน ทำให้ผิวหนังระคายเคืองเป็นสิวเห่อในลักษณะผื่นแดง
    • สิวอุดตัน (Comedones) เกิดจากการผลัดเซลล์ผิวไม่หมด ทำให้เนื้อเยื่อที่ตกค้างมีสิ่งแปลกปลอมเข้ามาอุดตันในรูขุมขน เป็นก้อนสิวอุดตันขึ้นมา
    • สิวอักเสบ (Inflammatory Acne) เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย C.acnes กระตุ้นผิวหนังให้เกิดอาการระคายเคือง
    • สิวหัวหนอง (Pustules) เกิดจากรอยแผลเป็นสิวติดเชื้อในชั้นผิวหนัง ทำให้สิวติดเชื้อแล้วเป็รหนองในเวลาต่อมา
    • สิวหัวช้าง (Severe Nodular acne) เกิดจากการอักเสบบนผิวหนังชั้นกำพร้าและผิวหนังชั้นหนังแท้ ได้สัมผัสสิ่งแปลกปลอมอย่างเชื้อโรคกเข้าสู่ผิวหนัง ระตุ้นต่อระบบภูมิคุ้มกัน สร้างความระคายเคืองให้ผิวหนังปวดบวม
    • สิวหัวดำ (Blackhead) เกิดจากเซลล์คอร์นีโอไซต์(Corneocyte) และซีบัม(Sebum) ถูกผลิตในรูขุมขนเยอะเกินไป จนขยายกว้างขึ้นเป็นจุดดำ
    • สิวหัวขาว (whitehead) เกิดจากเชื้อแบคทีเรียสะสมอยู่ในรูขุมขนกับน้ำมัน จนกลายเป็นสิวหัวขาลักษณะเป็นไตเม็ดเล็กๆ


    วิธีรักษารอยแผลเป็นจากสิว

    1. วิธีรักษารอยแดง-รอยดำจากสิว

    สามารถใช้ยาลบเลือนรอยสิวเฉพาะจุดในการฟื้นฟูสภาพพื้นผิวให้กลับมาเรียบเนียน หรือใช้การรักษาด้วยเลเซอร์ลบรอยแผลเป็นจากสิวเพื่อลบรอยถลอกให้จางลง รวมไปถึงการบำรุงผิวด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์มาร์กหน้า สครับหน้า ทานอาหารเสริม ที่เหมาะสมกับสภาพผิวของตัวเอง

    2. วิธีรักษาหลุมสิว

    สามารถใช้ยากลุ่มเรตินอยด์ที่มีกรดวิตามิน A สูงในการผลัดเซลล์ผิวใหม่ หรือการศัลยกรรมด้วย ผ่าตัดพังผืดสำหรับผู้ที่เป็นหลุมสิวมานาน หรือ การทำเลเซอร์เร่งด่วนเพื่อทำให้รอยแผลเป็นจากสิวลดลง
     
    3. วิธีรักษารอยแผลเป็นนูนและคีลอยด์จากสิว

    สามารถใช้ยากลุ่มสเตียรอยด์ หรือ ยาที่มีส่วนผสมของวิตามิน A สำหรับกรณีคีลอยด์จากสิวมีขนาดเล็ก แต่หากเป็นแผลคีลอยด์ขนาดใหญ่ให้ใช้แผ่นซิลิโคนเจลปิดบริเวณแผลเป็นจากสิว เพื่อลดการขยายตัวของแผล

    วิธีรักษารอยดำ รอยแดงจากสิว

    รอยแดง รอยดำจากสิว

    1. การใช้ยาทารอยสิว

    การเลือกยาทาบรรเทา เช่น ครีม หรือ เซรั่มลดรอยแผลเป็นจากสิว ควรมี 4 ส่วนผสมหลักๆ ดังนี้
    • กรดวิตามิน A ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวตายหลุดออกไป กระตุ้นเนื้อเยื่อสร้างผิวหนังใหม่
    • วิตามิน C ช่วยลดรอยดำ รอยแดงจากสิวให้กระจ่างใส ลดเม็ดสีที่เจริญเติบโตผิดปกติ และสลายสารเมลานิน
    • เทรติโนอิน ช่วยลดผิวที่อักเสบพร้อมยับยั้งการเติบโตเม็ดสีที่ผลิตสีผิดปกติขึ้นมา
    • อาร์บูติน ยับยั้งสารต้านอนูมูลอิสระที่ก่อให้เกิดอาการอักเสบต่อผิวหนัง
    2. การรักษาด้วยเลเซอร์

    ลดรอยแผลเป็นจากสิวด้วยการทำเลเซอร์ เป็นการกำจัดปัญหาผิวหน้าเร่งด่วน ไม่ว่าจะเป็นรอยดำ รอยแดง ก็สามารถสลายจุดด่างดำ เพิ่มความสดใสของใบหน้ากลับมาอีกครั้ง กระตุ้นเซลล์ผิวให้เกิดกระบวนการซ่อมแซมเนื้อเยื่อใหม่ ใช้ระยะเวลาการรักษาที่เร็ว ฟื้นตัวไม่นาน เห็นผลลัพธ์รักษารอยแผลเป็นจากสิวใน 1 เดือน

    วิธีรักษารอยหลุมสิว

    หลุมสิว

    1. การรักษาหลุมสิวด้วยการทายา

    การทายารักษาหลุมสิว ควรใช้ยาประเภทเรตินอยด์ที่มีส่วนประกอบกรดวิตามิน A มีฤทธิ์ปรับโครงสร้างชั้นผิวหนังกำพร้าให้เนียนใส พร้อมผลัดเซลล์ผิวที่ตายเพื่อทำให้หลุมสิวตื้นขึ้น

    2. การฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว

    การฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนชั้นใต้ผิวหนังมาเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหนังชั้นบน ลดความแห้งกร้านแก่สภาพผิวหนัง กระตุ้นให้ผิวเกิดโครงสร้างซ่อมแซมเนื้อเยื่อหลังเกิดรอยแผลเป็นจากสิวทันที

    3. การใช้เลเซอร์รักษาหลุมสิว

    เลเซอร์รักษาหลุมสิว จะช่วยให้ผิวหนังที่ยุบตัวลงกลับมาตื้นเท่าๆ กับผิวชั้นเดียวกัน พร้อมกระตุ้นคอลลาเจนชั้นใต้ผิวหนังให้มีโครงสร้างชั้นผิวหนังให้แข็งแรง ผิวกระชับลดรูขุมขนกว้าง

    4. การผ่าตัดหลุมสิว

    การผ่าตัดหลุมสิว เป็นการศัลยกรรมเพื่อให้หลุมสิวที่กว้างและลุกไปยังชั้นใต้ผิวหนังกลับมาตื้นในระดับชั้นเดียวกัน เห็นผลชัดเจนหลังทำแน่นอน

    วิธีรักษารอยแผลเป็นนูนและคีลอยด์จากสิว

    คีลอยด์จากสิว

    1. การรักษาด้วยการจี้เย็น

    การจี้เย็นรักษารอยแผลเป็นจากสิวคีลอยด์ ช่วยสลายเนื้อเยื่อที่ปูดบวมเป็นตุ่มน้ำพองให้หดตัวลง แล้วเป็นก้อนแห้งจนตกสะเก็ด ใช้ระยะเวลาค่อนข้างนาน เพราะต้องรอคีลอยด์จี้ตกเป็นสะเก็ตประมาณ 3 - 4 สัปดาห์

    2. การฉีดยาสเตียลอยด์รักษาคีลอยด์

    การฉีดยาสเตียลอยด์เข้ารอยแผลเป็นสิวคีลอยด์โดยตรง จะช่วยลดอาการอักเสบของผิวหนัง ให้ตุ่มพองยุบตัวแล้วฝ่อเล็กลง ตุ่มจะนุ่มลงไม่เกิดอาการคัน ระคายเคืองหลังทำ

    3. การใช้เลเซอร์รักษาแผลคีลอยด์

    การใช้เลเซอร์รักษารอยแผลเป็นสิวคีลอยด์ เป็นการจี้ไฟรักษาเพื่อลดความแข็งของตุ่มพอง ให้นิ่มตัวลง ตัวคีลอยด์จะค่อยๆ หดตัว ผิวเรียบเนียนขึ้น

    4. การผ่าตัดนำแผลคีลอยด์ออก

    การผ่าตัดนำรอยแผลเป็นสิวคีลอยด์ออก จะทำได้ในกรณีที่ แผลคีลอยด์ของคนไข้มีขนาดใหญ่และบวมนูนออกมา ทางแพทย์จะผ่าตัดนำก้อนเนื้อออกแล้วเย็บแผลปิดทันที

    แนวทางดูแลตัวเองเมื่อมีรอยแผลเป็นจากสิว

    วิธีรักษารอยแผลเป็นจากสิวแบบธรรมชาติ มีข้อปฏิบัติดังนี้

    สิ่งที่ควรปฏิบัติ

    • หากสิวที่หลงเหลือกลายเป็นแผล ให้รีบทำการรักษาทันที
    • ทาผลิตภัณฑ์กันแดดเพื่อป้องกันไม่ให้ผิวสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง
    • ปรึกษาการเลือกใช้ยารักษารอยแผลเป็นจากสิวกับแพทย์ เพื่อให้ยาสามารถลดเลือนรอยสิวได้มากที่สุด
    • ทานอาหารครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะการทานผักและผลไม้ที่มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ที่สร้างความระคายเคืองต่อผิว
    สิ่งที่ห้ามปฏิบัติ

    • ไม่แกะ เกา บีบ บริเวณที่มีรอยแผลเป็นจากสิว เพราะอาจทำให้สิวอักเสบมากกว่าเดิม
    • ไม่ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงหน้าประเภท สครับ มาร์ก เพราะอาจสร้างความระคายเคืองแก่ผิวหนัง
    • งดทานอาหารที่มีไขมันสูง เพราะอาจกระตุ้นการอุดตันกับอักเสบของสิว
    • ไม่อยู่พื้นที่กลางแจ้งและมีแดด เพราะรังสีแสงยูวีอาจยับยั้งการซ่อมแซมผิวหนังให้หายช้าลง
    วิธีป้องกันไม่ให้เกิดรอยแผลเป็นจากสิว

    รักษาแผลเป็นจากสิว

    4 วิธีป้องกันไม่ให้เกิดรอยแผลเป็นจากสิว มีดังนี้

    • ใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อสภาพผิวหนังตัวเอง
    • ไม่แกะ บีบ เกา สิวบนใบหน้าด้วยตัวเอง
    • ทาครีมกันแดดก่อนออกไปข้างนอกทุกครั้ง
    • ปฏิบัติตามคำแนะนำแพทย์ที่รักษาอย่างเคร่งครัด

    ข้อสรุป

    สรุปแล้วแผลจากสิวกี่วันหายล่ะ? จะเห็นได้ว่าวิธีแก้รอยแผลเป็นจากสิว มีหลากหลายวิธีรักษาให้คนไข้ศึกษาเป็นความรู้แล้วเป็นตัวเลือกประกอบตัดสินใจในการปรึกษาแพทย์ในภายหลัง บทความนี้ขอเป็นกำลังใจให้คุณค้นหาวิธีรักษารอยแผลเป็นจากสิวที่เหมาะสมที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุด รวมไปถึงการรักษารอยสิวด้วยตนเองหลังผ่าตัดเสร็จเรียบร้อยเช่นกัน


    278
    กลยุทธ์การตลาดนั้นมีอยู่ด้วยกันหลายแบบ เช่นเดียวกับการทำการตลาดออนไลน์ การตลาดออนไลน์ก็มีเทคนิคหลายอย่างที่จะช่วยทำให้ธุรกิจของเราเป็นที่รู้จักมากขึ้น เพิ่มลูกค้า สร้างมูลค่าแบรนด์ของเรา ไปจนถึงการสร้างยอดขายให้ได้มากขึ้น ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ CTA

    CTA ย่อมาจาก Call to action แม้ว่าหลาย ๆ คนอาจจะเคยได้ยินคำว่า CTA มาก่อน แต่อาจจะยังไม่คุ้นเคยกับมันมากนัก การใช้งานก็อาจจะใช้ได้ไม่คล่อง ดังนั้นลองมาทำการหาคำตอบจากบทความนี้กันว่า CTA หรือ Call to action มันคืออะไร สำคัญอย่างไร มีกี่ประเภท และจะใช้งานอย่างไรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

    เรียกความสนใจจากผู้ชมด้วย CTA คำสั้น ๆ ง่าย ๆ ได้อิมแพค


    CTA คืออะไร
    CTA หรือ Call to action เป็นปุ่มที่มีลักษณะเป็นแบนเนอร์ ซึ่งจะช่วยดึงดูดให้คนที่เห็นคอนเทนต์ของเรา ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ ประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ ที่อยู่บนช่องทางออนไลน์ เข้ามาคลิกปุ่มที่ตั้งไว้ ตรงตามคำของมันคือ เรียก (Call) ให้คนมาทำ (Action) ในสิ่งที่เรากำหนดไว้

    การทำคอนเทนต์ด้วยการใช้รูปภาพในการสื่อสาร อาจจะทำได้เพียงแค่ทำให้คนรับรู้สาส์นที่เราอยากจะสื่อเพียงเท่านั้น แต่เพื่อให้ผลลัพธ์เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น จึงต้องมีการใส่ CTA ลงไป ยกตัวอย่างเช่น ปุ่มเพื่อกดเข้าไปเพื่อทำการสั่งซื้อสินค้า ปุ่มเพื่อให้ทักเข้า inbox เพื่อสอบถามรายละเอียดสินค้า ปุ่มเพื่อกรอกลงทะเบียน อาจจะใช้สำหรับสมัคร หรือใช้เก็บข้อมูลผู้เข้าชม เพื่อติดต่อในภายหลังก็ได้

    จะเห็นได้ว่า Action แต่ละอย่าง จะเป็นผลลัพธ์ที่จับต้องได้ ไม่ว่าจะเป็น ได้ยอดขายเพิ่ม ลูกค้าเข้ามา
    สอบถามเรื่องสินค้า ลูกค้าเข้ามาร่วมกิจกรรมแคมเปญต่าง ๆ หรือเก็บข้อมูลของลูกค้า เพื่อนำข้อมูลเหล่านั้นไปใช้ในการวางกลยุทธ์ตลาดครั้งถัด ๆ ไป

    โดยการใส่ CTA นั้น จะมีหลักการคือ ใช้คำที่ไม่ยืดยาว สั้น ๆ ได้ใจความ ทำให้คนอยากคลิกเข้าไป กระตุ้นให้ผู้ชม Action ในสิ่งที่จะเป็นผลดีกับธุรกิจของเรา โดยสามารถสรุปหลัการได้สั้น ๆ ดังนี้ CTA ต้องบอกว่า กดเพื่ออะไร คำที่ใช้บอกต้องกระชับ ปุ่ม CTA ต้องสะดุดตาเห็นได้ง่าย และปุ่ม CTA ต้องมีความดึงดูดอยากให้คนคลิกเข้ามา


    CTA มีกี่ประเภท
    เพื่อให้สามารถใช้ CTA ได้อย่างเหมาะสม ถูกวิธี เราจึงควรทราบก่อนว่า CTA นั้นมีอยู่กี่ประเภท เพื่อจะได้เลือกใช้ถูกต้อง โดย CTA นั้นแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้

    CTA มีกี่ประเภท

    Link CTA
    CTA ประเภท Link นั้น จะมีลักษณะเป็นประโยค หรือคำ ที่มีตัวอักษรเป็นสีฟ้า มีเส้นใต้ขีด หรือเป็นลักษณะของชื่อเว็บไซต์ที่มี http นำหน้า เป็น CTA ที่ทำได้ง่าย อาจจะมีอยู่ในบทความ หรืออยู่ใน caption หรือ comment ของโพสต์บน Social Media โดย Link CTA จะแบ่งออกได้อีกเป็น 2 แบบ คือ
    -Internal Link : เป็น Link CTA ที่ทำการเชื่อมต่อกับหน้าอื่น ๆ แต่ต้องอยู่ในเว็บไซต์เดียวกัน
    -External Link : เป็น Link CTA ที่ทำการเชื่อมต่อกับเว็บไซต์อื่น ๆ

    Link CTA เป็น CTA ที่มีเป้าหมายให้คนเข้าไปยังเว็บไซต์ที่เรากำหนดไว้ ยกตัวอย่างเช่น ลูกค้ากำลัง
    อ่านบทความเรื่อง ครีมบำรุงหน้า เราอาจจะใส่ Link CTA ไปยังหน้าเว็บไซต์ที่โชว์โปรโมชัน ครีมบำรุงหน้า เพื่อเพิ่มโอกาสสร้างยอดขายได้

    Button CTA
    CTA ประเภท Button หรือ CTA แบบปุ่มกดนั้น เป็นปุ่มกด Clickbait ที่จะดึงดูดความสนใจผู้เข้าชม ให้เข้ามาคลิก CTA Button ของเรา ซึ่งเป้าหมายของปุ่มกดนั้น ก็ขึ้นอยู่กับเราได้เลย ไม่ว่าจะเป็น

    -Shop Now : ชวนให้คนคลิกเข้ามาสั่งซื้อสินค้า
    -Get Offer : ชวนให้คนคลิกเข้ามารับสิทธิ์พิเศษต่าง ๆ
    -Join Campaign : ชวนให้คลิกเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ที่เราจัดไว้
    -Register : ชวนให้คนคลิกเข้ามาลงทะเบียน
    -Watch More, See More : ชวนให้คนคลิกเข้าไปดูวีดีโอ หรือภาพอื่น ๆ ต่อ

    ซึ่งที่กล่าวมานี้เป็นเพียงแค่ตัวอย่างส่วนหนึ่ง CTA Button สามารถออกแบบได้อย่างอิสระ โดยการทำวาง CTA Button ต้องวางในจุดที่เด่น คนมองเห็นได้ง่าย เพื่อดึงดูดให้คนเข้ามาคลิกมากที่สุด

    Banner CTA
    CTA ประเภท Banner เป็น CTA แบบปุ่มกดเช่นกัน แต่จากปุ่มที่มีรูปแบบเรียบง่าย จะถูกเปลี่ยนเป็นภาพ
    กราฟฟิคที่มีการออกแบบอย่างสวยงาม เป็น CTA ที่ไม่ได้ใช้เพียงแค่ประโยคสั้น ๆ ดึงดูดคนให้คลิก แต่มีองค์ประกอบอื่น ๆ เพิ่มได้ เช่น รูปภาพผลิตภัณฑ์ โดย CTA Banner จะมักถูกนำไปวางบนเว็บไซต์


    CTA สำคัญยังไง ทำให้ผู้ซื้อสามารถตัดสินใจซื้อได้หรือไม่
    ปุ่ม CTA นั้นสามารถช่วยกำหนดทิศทางของ Action ให้กับผู้ชมที่คลิกเข้ามา

    หากเรามีผลิตภัณฑ์ที่มีสรรพคุณเป็นเลิศ มีอรรถประโยชน์ที่ตอบโจทย์กลุ่มคนที่คลิกเข้ามาได้ การนำเสนอจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ก็จะทำให้เราสามารถขายสินค้าได้ง่ายขึ้น แต่ถ้าอยากเพิ่มยอดขาย ก็ใส่ CTA ไปยังหน้าการสั่งซื้อ ถ้าแอดมินของเราขายเก่ง ให้ผู้สนใจ inbox เข้ามา เพื่อทำการชักจูงให้มาซื้อของกับเรา หรือถ้าเป็นสินค้าใหญ่ ๆ อย่างอสังหาริมทรัพย์ ก็ใส่ CTA ให้คนคลิก กรอกข้อมูล เพื่อติดต่อกลับ ช่วยให้เราสามารถคัดลูกค้าที่มีศักยภาพมากพอ ที่ควรค่าแก่การเข้าไปติดต่อ 

    หากเรารู้ว่า Action แบบไหน จะส่งผลดีให้กับธุรกิจของเรา และเราสามารถใส่ CTA นำไปสู่ Action ที่
    เหมาะสม ก็สามารถการันตีได้เลยว่า มันจะช่วยให้ผู้ซื้อตัดสินใจซื้อสินค้า บริการ กับเราได้ง่ายยิ่งขึ้น

    CTA ทำให้ผู้ซื้อสามารถตัดสินใจซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น


    การทำให้ CTA ตรงตามวัตถุประสงค์ การขายออนไลน์
    ตามที่กล่าวไว้ข้างต้น หากเราสามารถกำหนดทิศทางของ Action ที่เหมาะสม และหาวิธีนำให้คนคลิกเข้ามา CTA ของเรา จะสามารถสร้างผลลัพธ์ที่ดีให้กับธุรกิจได้ โดยเฉพาะการตลาดออนไลน์ และการขายออนไลน์ โดยเราจะมาแนะนำทริคที่จะทำให้การทำ CTA ของเรามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ดังนี้

    1.คำที่ใช้กับ CTA มีความชัดเจน อ่านแล้วเข้าใจได้ทันที
    การเลือกประโยค หรือคำที่ใช้บ่งบอก Action ที่ทำการเชื่อมต่อกับ CTA ต้องมีความกะทัดรัด ชัดเจน อ่านแล้วเข้าใจได้ทันที ว่าหากคลิก CTA นี้แล้ว จะเจอกับอะไร

    2.ปุ่ม CTA มีความดึงดูดให้คนอยากคลิก
    เพราะ Action ที่ติดตั้งไว้ จะสร้างผลลัพธ์ที่ดีให้แผนการตลาดของเรา ดังนั้นเราต้องหาวิธีทำให้คนอยากคลิก CTA ของเรา ไม่ว่าจะด้วยคำที่ทำให้คนรู้ว่าประโยชน์ที่จะได้จากคลิก CTA นี้คืออะไร หรือออกแบบกราฟฟิค ใช้รูปภาพที่ทำให้คนอยากคลิก CTA

    3.จุดที่วาง CTA มองเห็นได้ง่าย
    จุดที่ทำการวาง CTA ก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน เราต้องวางในตำแหน่งที่มองเห็นได้ง่าย เพราะหากคนมองไม่เห็น CTA การที่คนจะคลิกเข้า CTA ก็จะยิ่งน้อยลงไปอีก

    4.CTA ทำให้คอนเทนต์ของเราดูมีลูกเล่นมากขึ้น
    คอนเทนต์ต่าง ๆ ในอินเตอร์เน็ตอาจจะทำได้แค่รับชมเท่านั้น แต่การใส่ CTA จะทำให้ผู้ชมสามารถมีส่วนร่วมกับคอนเทนต์ของเราได้ โดยผู้ชมจะได้ทำ Action ที่เรากำหนดไว้

    5.ลองทำ A/B Testing ให้ CTA ก่อนเริ่มการเผยแพร่
    ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบ CTA จุดที่วาง CTA คำที่ใช้ระบุ CTA ทุกอย่างมีผลต่อจำนวนการคลิก CTA ดังนั้นการทำ A/B Testing เพื่อหา CTA แบบที่ดีที่สุด ก่อนจะเริ่มทำการเผยแพร่ จึงเป็นสิ่งที่ควรทำ

     เทคนิคการทำ CTA


    สรุป
    การทำการตลาดออนไลน์ เป็นช่องทางในการทำโปรโมท ทำการขาย ที่คนให้ความนิยมอย่างมาก ใคร ๆ ก็สามารถเข้าถึงการตลาดออนไลน์ได้มากขึ้น ทำให้มีคู่แข่งในตลาดเป็นจำนวนมากเล่นกัน ดังนั้นการหากลยุทธ์การตลาดใหม่ ๆ ใช้กลยุทธ์ที่หลากหลาย จะช่วยให้เราสามารถสร้างข้อได้เปรียบที่เหนือกว่าคู่แข่ง

    การใช้ CTA ก็เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ ที่เราสามารถนำมาใช้ได้ ซึ่งจากที่กล่าวไว้ข้างต้น หากเราสามารถทำความเข้าใจเกี่ยวกับ CTA ทั้งคุณสมบัติ วิธีการใช้งาน และความแตกต่างของ CTA ทั้งหมด เราจะสามารถใช้ CTA ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้คอนเทนต์ของเราน่าสนใจมากขึ้น ชักนำให้คนมี Action ที่ส่งผลดีต่อธุรกิจของเรา

    สำหรับผู้ที่สนใจอยากลองทำการตลาดออนไลน์ แต่ยังไม่รู้จะเริ่มทางไหน ให้ลองปรึกษาผู้เชี่ยวชาญอย่าง Fastcommerz  ที่มีทั้งบริการให้คำปรึกษาทุก ๆ เรื่องเกี่ยวกับการตลาดออนไลน์ รวมทั้ง CTA และยังมีบริการรับออกแบบ Sale Page ไปจนถึงบริการรับยิงแอด สนใจสามารถติดต่อได้ที่เว็บไซต์ของ Fastcommerz หรือ 084 509 5545


    279
    อินเทอร์เน็ตโรงเรียน

    ในปัจจุบันระบบเครือข่ายมีบทบาทและความสำคัญเพิ่มมากขึ้นซึ่งเกิดจากความต้องการ ความจำเป็นในการติดต่อสื่อสาร การแสวงหาความรู้ให้ทันตลอดเวลา มีการวางแผนการเรียนการสอน อินเทอร์เน็ตโรงเรียนจึงมีความสำคัญเป็นอย่างมากในยุคปัจจุบันนี้ จึงต้องมีการติดตั้งอินเทอร์เน็ตที่มีความละเอียดสูงเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาในการใช้งาน

    ซึ่งบทความนี้จะมาพูดถึงอินเทอร์เน็ตโรงเรียนมีความสำคัญและจำเป็นอย่างไร เพื่อนำอินเทอร์เน็ตมาใช้ในการพัฒนาการศึกษา เนื่องจากการสอนปัจจุบันมักจะอยู่บนออนไลน์เป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นการออกแบบระบบอินเทอร์เน็ตจึงต้องได้รับการออกแบบเฉพาะเพื่อให้สอดคล้องกับการใช้งาน

    อินเทอร์เน็ตโรงเรียน คือ ต่างกับเน็ตบ้านไหม

    ระบบอินเทอร์เน็ตโรงเรียน มีคุณสมบัติและประโยชน์มากกว่าเน็ตบ้านและมีราคาที่ย่อมสูงกว่าเน็ตบ้านทั่วไป สื่อการสอนที่จำเป็นต่อการสอนที่ออกแบบเฉพาะ เช่น สื่อการสอน การส่งงาน และแยกประเภทการใช้งานระหว่างครูและนักเรียน  วางระบบภายในอาคารมีการจำกัดการใช้งานเฉพาะสถานศึกษามีการติดตั้งระบบ Bandwidth

    โดยที่ไม่ต้องไปแชร์กับองค์กรอื่นหรือบุคคลภายนอก มีความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูลสูง การใช้งานอินเทอร์เน็ตโรงเรียนจะต้องมีข้อจำกัดการเข้าใช้งานในระบบต่างๆเพื่อป้องกันการเสพสื่อต่างๆที่ไม่เหมาะสม อินเทอร์เน็ตโรงเรียนจะมีการจัดระบบหลังบ้านในการใช้งานเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา

    อินเทอร์เน็ตโรงเรียนกับเน็ตบ้าน ซึ่งถูกกดราคาให้มีราคาที่ถูกโดยการเพิ่มความเร็วในการดาวน์โหลดแต่จะลดความเร็วในการอัปโหลด การใช้งานแบบนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ดูวิดีโอและเล่นอินเทอร์เน็ตหรือดูเว็บไซต์ปกติ แต่ถ้ามีการใช้งานที่ส่งไฟล์งานขนาดใหญ่รวมไปถึงการสำรองข้อมูลขนาดใหญ่ ความเร็วในการอัปโหลดจะมีผลค่อนข้างมาก

    สำหรับอินเทอร์เน็ตโรงเรียนจะให้ความเร็วในการดาวน์โหลดและอัปโหลด ความเร็วจะเท่ากับอินเทอร์เน็ตบ้าน โดยจะใส่ความเร็วแยกกัน เช่น ความเร็วในการดาวน์โหลด 1 Gbps และความเร็วในการอัพโหลดที่ 200 Mbps

    แต่ในปัจจุบันในประเทศไทยเริ่มปรับให้การดาวน์โหลดและอัปโหลดมีความเร็วเท่ากันแล้ว แต่อินเทอร์เน็ตโรงเรียนก็ยังมีความแตกต่างจากอินเทอร์เน็ตบ้านอยู่ สิ่งที่ต่างกัน คือ ในกรณีถ้าเกิดปัญหาในการใช้งานอินเทอร์เน็ต อินเทอร์เน็ตโรงเรียนจะต้องรีบแก้ไขให้เร็วที่สุดหรือซ่อมภายใน 4 ชั่วโมง

    แต่อินเทอร์เน็ตบ้านอาจจะต้องใช้เวลาเป็นวันในการรอช่างมาซ่อมแซมแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น และสำหรับอินเทอร์เน็ตบ้านการอัปโหลดจะค่อนข้างช้าในขณะที่มีการใช้งานพร้อมๆกัน ผลลัพธ์ที่ได้คือ ความเร็วของอินเทอร์เน็ตในการใช้งานลดลง ไม่ค่อยเสถียร และอินเทอร์เน็ตบ้านไม่มีระบบจัดการข้อมูลที่ดีทำให้การค้นหาเสพสื่อต่างๆข้อมูลบางอย่างที่ไม่เหมาะสมกับเยาวชนซึ่งทำให้ควบคุมได้ยาก
    อินเทอร์เน็ตโรงเรียน จำเป็นแค่ไหน

    อินเทอร์เน็ตโรงเรียนจำเป็นแค่ไหน

    ในยุคสมัยแห่งการเรียนรู้และการเข้าถึงข้อมูลทำไมควรที่จะติดตั้งอินเทอร์เน็ตโรงเรียน เนื่องจากในยุคปัจจุบันนี้สื่อการเรียนการสอนได้มีการเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างมาก อินเทอร์เน็ตโรงเรียนจึงมีความสำคัญต่อบุคลากรภายในโรงเรียนและนักเรียน เพราะสื่อการสอนในปัจจุบันอยู่บนออนไลน์ซะส่วนใหญ่

    อินเทอร์เน็ตโรงเรียนที่ดีจะช่วยให้เด็กเข้าถึงข้อมูล และสื่อการเรียนการสอนที่ทันสมัยมากขึ้น และในขณะที่ครูก็จะมีแหล่งการเรียนรู้สิ่งใหม่ต่างๆเพิ่มเติม กว้างขึ้นเพื่อสร้างสื่อการเรียนการสอนที่เหมาะสมกับนักเรียน ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบันที่นักเรียนสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง ซึ่งหากบางโรงเรียนขาดความพร้อมด้านระบบอินเทอร์เน็ตก็อาจจะทำให้การเรียนการสอนสู้โรงเรียนอื่นที่มีความพร้อมมากกว่าไม่ได้

    และบางครั้งอินเทอร์เน็ตโรงเรียนก็สามารถหาความรู้เพิ่มเติมได้มากกว่าความรู้ภายในห้องเรียน เพราะความรู้ในห้องเรียนมีการจำกัดในเรื่องของเวลาในการเรียนการสอน ซึ่งนักเรียนสามารถหาความรู้เพิ่มเติมได้นอกเหนือจากเวลาเรียนทำให้นักเรียนมีความรู้เพิ่มเติมมากขึ้นจากสิ่งที่ตนเองสนใจและนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน

    ซึ่งในปัจจุบันนี้โรงเรียนหลากหลายสถาบันได้มีการใช้อินเทอร์เน็ตเป็นสื่อกลางในการเรียนการสอน รวมทั้งให้การบ้าน หรือส่งการบ้านและตรวจการบ้าน แม้กระทั้งการทำงานกลุ่มของนักเรียน การปรึกษากับครูและเพื่อนนักเรียนด้วยกัน หรือการติดต่อสื่อสารทางไกลทั้งในประเทศและนอกประเทศ

    ประโยชน์ของอินเทอร์เน็ตโรงเรียน

    หากจะถามถึงประโยชน์ของอินเทอร์เน็ตโรงเรียน อินเทอร์เน็ตสามารถให้ผู้เรียนทำการติดต่อกับผู้คนทั่วโลกได้อย่างรวดเร็วและรวมถึงการสืบค้นหรือเผยแพร่ข้อมูลสารสนเทศจากทั่วโลก อินเทอร์เน็ตได้กลายเป็นสื่อการศึกษาของโลกยุคใหม่เป็นการส่งเสริมความรู้ให้กับผู้เรียน

    ที่ได้มีการติดต่อสื่อสาร การสืบค้นข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล การแก้ปัญหาโดยการนำเครือข่ายอินเทอร์เน็ตมาใช้หรือเชื่อมโยงกับการเรียนการสอนในวิชาต่างๆ

    อินเทอร์เน็ตเมื่อนำมาใช้ในการพัฒนาด้านการศึกษาก็จะทำให้เกิดประโยชน์และสร้างความเท่าเทียมกันในด้านการศึกษามากขึ้น และนอกจากนี้ยังให้ความสะดวก ประหยัดเวลา และยังสามารถเข้าถึงแหล่งความรู้ที่หลากหลาย พัฒนาการสื่อสารได้อย่างรวดเร็ว สะดวก แม่นยำและง่ายต่อการสื่อสารระหว่างครูกับครู หรือครูกับผู้ปกครอง และครูกับนักเรียน แม้แต่นักเรียนกับนักเรียนเอง

    แม้กระทั่งการจัดระบบการเรียนรู้ต่างๆภายในโรงเรียนให้สะดวกในการทำงานมากขึ้น เนื่องจากอินเทอร์เน็ตโรงเรียนมีตัวระบบคัดกรองข้อมูลให้มีความปลอดภัย

    ดังนั้น การเรียน การสื่อสารในยุคสมัยนี้ อินเทอร์เน็ตโรงเรียนจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากเพราะเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในการเรียนการสอนมากขึ้น และยังช่วยขยายขอบเขตของห้องเรียนออกไปให้กว้างขึ้น เพราะผู้เรียนสามารถใช้เครือข่ายในการสำรวจค้นหาข้อมูลและปัญหาข้อสงสัยต่างๆที่ผู้เรียนมีความสนใจและเครือข่ายยังเป็นตัวเชื่อมให้ผู้เรียนเข้าถึงผู้ที่ให้คำปรึกษาหรือผู้เชี่ยวชาญได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น

    ประโยชน์ต่อนักเรียน

    อินเทอร์เน็ตโรงเรียนที่มีประโยชน์ต่อนักเรียน ทำให้ผู้เรียนได้รับความรู้ใหม่ได้เร็วและกว้างขึ้น ทำให้ลดเวลาในการจดคำบรรยายในห้องเรียน และรู้ทันเหตุการณ์ในโลกปัจจุบันได้มากขึ้น และยังสามารถเพิ่มทักษะของตัวผู้เรียน ทั้งยังเพิ่มประสบการณ์ให้แก่ตัวผู้เรียนได้อีกด้วย แม้แต่เรื่องการศึกษาวัฒนธรรมต่างๆ

    ส่งผลให้นักเรียนมีการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม และแลกเปลี่ยนความคิดเห็น อินเทอร์เน็ตยังทำให้นักเรียนเข้าถึงข้อมูลที่ทันสมัยเมื่อเปรียบเทียบกับการเรียนในห้องเรียนแบบเดิม และยังสร้างแรงจูงใจในการศึกษาหรือค้นคว้าหาข้อมูลหรือความรู้เพิ่มเติมได้มากขึ้น

    ประโยชน์ต่อผู้สอน

    อินเทอร์เน็ตโรงเรียนที่มีประโยชน์ต่อผู้สอน ทำให้ผู้สอนเข้าถึงระบบการวางแผนการเรียนการสอนและศึกษาข้อมูลทางการสอนได้หลากหลายมากขึ้น การทำแบบประเมิน การพัฒนาตนเอง พัฒนาหลักสูตร  สามารถนำสิ่งที่ศึกษาจากอินเทอร์เน็ตมาสอนนักเรียนหรือปรับปรุงแก้ไข โดยศึกษาข้อมูลจากการใช้เอกสารงานวิจัยต่างๆ ทางอินเทอร์เน็ต

    นอกจากการสอนแบบเดิมแล้วผู้สอนยังได้รับความรู้เพิ่มเติมเป็นประโยชน์ต่อผู้สอนและนักเรียนได้อีกด้วย อีกทั้งการใช้สื่อการสอนทางอินเทอร์เน็ตเป็นการประหยัดงบประมาณ ลดการใช้กระดาษและมีข้อมูลที่แม่นยำ มีความรวดเร็วกว่า มีประสิทธิภาพมากกว่าการจัดเก็บข้อมูลแบบเดิม ทำให้สะดวกทั้งผู้สอนและนักเรียน

    อินเทอร์เน็ตโรงเรียนที่ควรมีบริการใดบ้าง

    อินเทอร์เน็ตโรงเรียนที่ควรจะมีการบริการต่างๆเกี่ยวกับระบบของอินเทอร์เน็ตในด้านใดบ้างนั้น ถือว่าการที่อินเทอร์เน็ตนั้นได้มีการเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ทำให้การบริการทางด้านต่างๆของอินเทอร์เน็ตมีมากขึ้น และหลากหลายขึ้นจะยกตัวอย่างได้แก่

    SMS-RFID

    สำหรับอินเทอร์เน็ตโรงเรียน เป็นการเชื่อมต่อกับบุคลากร นักเรียน และผู้ปกครองผ่านช่องทาง SMS และ Application ทำให้สะดวกในการติดต่อสื่อสารระหว่าง ครู นักเรียน และผู้ปกครอง สามารถประหยัดเวลาการทำงานของเจ้าหน้าที่ ครู ในการควบคุมนักเรียนในการเข้า-ออกโรงเรียน

    ทำให้นักเรียนมีระเบียบ วินัย ตรงต่อเวลา ทำให้ผู้ปกครองหายห่วงเรื่องลูกหลาน เพราะมีระบบรักษาความปลอดภัยแจ้งเตือนไปยังอุปกรณ์สื่อสารของทางผู้ปกครอง

    Netlog

    อินเทอร์เน็ตโรงเรียนที่ดีและมีประสิทธิภาพ คือการจำกัดการเข้าใช้ ในกรณีที่มีการเข้าใช้งานเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสม ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 และแก้ไขเพิ่มเติมตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่2)พ.ศ.2560

    ซึ่งในโรงเรียนจะต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของเด็กนักเรียนไม่ว่าจะเป็นการควบคุมข้อมูลของบุคลากร นักเรียน และข้อมูลต่างๆที่สำคัญของโรงเรียน รวมทั้งข้อมูลสื่อการสอน หรือประวัติของนักเรียนซึ่งเป็นข้อมูลที่ไม่ควรเปิดเผย
     
    Maintenanced

    การทำงานที่มีประสิทธิภาพของอินเทอร์เน็ตถือเป็นสิ่งสำคัญ ต้องมีผู้เชี่ยวชาญดูแล ตรวจสอบการทำงานการเชื่อมต่อและการทำงานของระบบ รักษาอุปกรณ์ในเครือข่ายโรงเรียน ให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะการใช้งานอินเทอร์เน็ตโรงเรียนเพื่อไม่ให้การเรียนการสอนติดขัด เช่น ถ้าเกิดปัญหาในการใช้งาน สัญญาณอินเทอร์เน็ตขัดข้อง หากพบว่ามีความเสียหายจะต้องรีบทำการแก้ไขโดยทันที

    ICT Solution

    ให้บริการโซลูชันให้คำปรึกษาเกี่ยวกับ ICT กับสถาบันการศึกษารวมถึงนำเสนอโซลูชัน ออกแบบระบบ ติดตั้งและทดสอบตามสถานการณ์จริง เช่น ประเมินสถานที่ว่าควรใช้อินเทอร์เน็ตโรงเรียนสัญญาณแรงขนาดไหน กระจายตัวสัญญาณเท่าไหร่ หลังจากนั้นต่อด้วยการทดสอบและติดตั้งระบบ

    โดยส่วนใหญ่ปัญหาอินเทอร์เน็ตโรงเรียนซึ่งในส่วนนี้ก็จะเข้ามาแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือติดตั้งระบบตามที่สถานศึกษาต้องการเพื่อให้สามารถติดต่อสื่อสารกันได้ดียิ่งขึ้น

    สรุปเรื่องอินเทอร์เน็ตโรงเรียน

    อินเทอร์เน็ตสำหรับโรงเรียน

    จะเห็นได้เลยว่า อินเทอร์เน็ตโรงเรียนเป็นการใช้อินเทอร์เน็ตที่มีความเร็วสูงและทำงานร่วมกับระบบต่างๆเพื่อความปลอดภัยในด้านข้อมูลต่างๆ การบริหารจัดการข้อมูลอย่างเป็นรูปแบบ ทำให้บุคลากร ครู หรือนักเรียนใช้งานอินเทอร์เน็ตได้อย่างปลอดภัย เพราะมีผู้เชี่ยวชาญคอยวิเคราะห์ข้อมูลความผิดปกติจึงมั่นใจได้ว่าอินเทอร์เน็ตโรงเรียนมีความปลอดภัยสูง

    และนอกเหนือจากนี้ยังเป็นการเพิ่มความรู้ เพิ่มทักษะ ประสบการณ์ให้กับทั้งผู้สอนและนักเรียน การใช้งานอินเทอร์เน็ตในโรงเรียนจะเน้นในเรื่องการหาข้อมูลทางการศึกษาเพื่อได้สะดวกและรวดเร็ว อย่างไรก็ตามบทบาทและรูปแบบที่ปรับเปลี่ยนไปนี้จะต้องมีการเตรียมการวางแผนที่ดีควบคู่ไปด้วย


    280
    คูนย์จำหน่าย ท่อ hdpe มีมาตรฐาน

    ศูนย์ จำหน่าย ท่อ hdpe ท่อที่ใช้สำหรับ งานเกี่ยวกับระบบน้ำและการร้อยสายไฟ นั้นศูนย์ผลิตนั้นจะต้องมีคุณภาพมาตรฐานในการผลิตท่อที่ดี ต้องมีการควบคุมคุณภาพสินค้า เพราะว่าการใช้งานท่อประเภทนี้นั้นจะต้องใช้ได้นาน ๆ ต้องไม่มีสารผิดปนเปื้อน และราคาที่เหมาะสม และการบริการหลังการขายที่ดี มีอุปกรณ์ต่าง ๆ ของท่อ hdpe ที่ครบถ้วน สำหรับลูกค้าที่มองหาร้าน ขาย ท่อ hdpe ที่ดีมีมาตรฐานนั้น ต้องดูอย่างไรบ้าง

    โดยมาตรฐานต่าง ๆ จะเริ่มไปตั้งแต่การตรวจสอบโรงงานการผลิต การจัดเก็บสินค้า การขนส่งสินค้า รวมไปถึงการทดสอบสินค้าซึ่งต้องสามารถแสดงให้ลูกค้าที่มาใช้บริการมั่นใจทั้งเรื่องการผลิตและการทดสอบ เพื่อป้องกันการเกิดสินค้าชำรุดเสียหาย 


    ศูนย์บริการจำหน่าย ท่อ hdpe คืออะไร มีความสำคัญอย่างไร 

    ศูยน์บริการจำหน่าย ท่อ hdpe คืออะไร

    ถ้าหากว่าใครกำลังทำงานโครงการติดตั้งเกี่ยวกับระบบน้ำประปา หรือน้ำดิบละก็ ท่อที่คุณจะเลือกใช้นั้นย่อมมีท่อ hdpe เป็นตัวเลือกอย่างแน่นอน เนื่องจากความแข็งแรงทนทานของท่อที่ทนต่อแรงกดทับ แรงดันต่าง ๆ ได้อย่างดี แถมใช้งานได้ยาวนานถึง 50 ปี เพราะฉะนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการมองหาศูนย์รวมในการผลิตและจำหน่าย ท่อ hdpe ที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน มีอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ครบครัน การจัดส่งที่ดี รวมถึงบริการหลังการขายของร้าน การเลือกศูนย์ที่ผลิตจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก ๆ ในการที่คุณจะหาร้าน ขาย ท่อ hdpe สำหรับงานที่วัดประสิทธิภาพของผลงานเป็นหลัก

    เนื่องด้วยว่าท่อ hdpe นั้นจะเป็นท่อพลาสติกที่มีความหนาแน่นสูงแข็งแรง ป้องกันการปนเปื้อนของสารเคมีภายนอกได้ ตัวพลาสติกที่ผลิตท่อนั้นก็ไม่มีสารเคมีที่เป็นอันตราย ตัวท่อมีผิวที่เรียบและมันทำให้การไหลผ่านของเหลวไหลผ่านได้เป็นอย่างดี

    โดยท่อ hdpe จะนิยมใช้ในงานประเภทที่ต้องโอนถ่ายน้ำเป็นจำนวนมากเช่น น้ำประปา, การดูดถ่ายน้ำทิ้งของการอุตสาหกรรมขนาดใหญ่, และยังมีการใช้งานในครัวเรือนอีกด้วย เพราะเหตุนี้ ท่อ hdpe จำเป็นจะต้องมีความแข็งแรง สะอาด ป้องกันสารเคมีต่าง ๆ เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้ด้วย จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก
       
    ศูนย์บริการจำหน่าย ท่อ hdpe ที่ดีเป็นอย่างไร

    ศูยน์จำหน่าย ท่อ hdpe ที่ดีเป็นอย่างไร
    สิ่งสำคัญของผู้ให้บริการจำหน่าย ท่อ hdpe ที่ดีควรจะมีนั้นก็ต้องเป็นเรื่อง การผ่านการรับรองคุณภาพสินค้า ว่าได้มาตรฐานได้รับการตรวจสอบจากหน่วยงานที่ได้รับความเชื่อถือ เข้ามาตรวจสอบหรือใช้บริการจากทางผู้ผลิต และมีความเป็นผู้นำนวัตกรรมใหม่ ๆ เสมอ เพื่อที่จะได้ให้ผู้ใช้บริการมั่นใจในมาตรฐาน

    1. ผ่านการรับรองคุณภาพสินค้า
    โดยสามารถดูว่า ผู้ให้บริการนั้นผ่านมาตรฐานใด ๆ มาบางเช่น ISO9001:2015 การควบคุมมาตรฐานคุณภาพของโรงงาน รวมถึง ISO/IEC 17025 ซึ่งเป็นมาตรฐานห้องแล็บที่ชี้วัดสรรมถภาพและประสิทธิภาพของสินค้าโรงงานว่าดี มีคุณภาพมากพอหรือไม่ ซึ่งหากศูนย์บริการจำหน่าย ท่อ hdpe นั้นได้รับการตรวจผ่านแล้วก็ถือว่ามีความน่าเชื่อถือมาก โดยที่คุณสามารถมั่นใจได้เลยว่าคุณภาพของการผลิตท่อ hdpe และอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้ในการติดตั้ง มีคุณภาพตามมาตรฐานที่กำหนดอย่างแน่นอน ซึ่งวิธีการตรวจสอบนั้นจะเริ่มตั้งแต่

    • ระบบคุณภาพของโรงงาน และเครื่องมือที่ใช้ในการผลิตที่ต้องมีมาตรฐาน
    • การจัดการบริหารงานหาร การวางแผนและปฏิบัติงานมีขั้นตอนที่ถูกต้อง
    • ความสามารถของบุคลากรมีความชำนาญ สำหรับการทดสอบสินค้า และการผลิตสินค้า
    • มีระบบการจัดเก็บสินค้าที่ดีปลอดภัยต่อสินค้า การขนส่ง และบริการหลังการขายให้แก่ลูกค้า
    • ข้อมูลต่าง ๆ ทางด้านวิชาการ การเก็บสถิติ ที่ถูกต้อง รวมถึงเอกสารต่าง ๆ ของทั้งบริษัทและของทางลูกค้า มีการจัดเก็บที่ดีเป็นระบบ

    โดยคุณภาพของท่อ hdpe นั้นจะต้องผลิตจากพลาสติกชนิด  High Density Polyethylene ที่ได้รับมาตรฐาน มอก.2559-2554 มาแล้วโดยผู้ผลิตวัตถุดิบ และทางผู้ผลิตต้องสามารถแสดงหลักฐานของเม็ดพลาสติก หรือที่เรียกว่าใบ COA (Certificate of Analysis)ที่ใช้ผลิตนั้นได้รับการตรวจสอบมาตรฐานมาแล้วอีกด้วย และขนาดของท่อต้องเป็นไปตามมาตรฐาน มอก. 982-2556 โดยกระทรวงอุตสาหกรรม หรือเทียบเท่าซึ่งเป็นขนาดมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับ

    2. เป็นผู้นำนวัตกรรม​
    เมื่อสินค้าสามารถผ่านการรับรองคุณภาพแล้ว แน่นอนต้องเป็นเรื่องนวัตกรรมใหม่ ๆ อย่างนวัตกรรมการผลิตที่ต้องดีกว่าที่อื่น ต้องมีห้องแล็บทดสอบคุณภาพของสินค้าที่ทันสมัยใหม่ ผู้ให้จำหน่าย ท่อ hdpe ต้องมีกระบวนการทดสอบอย่างละเอียด (QCS) ก่อนที่จะส่งสินค้าให้แก้ลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าจะมั่นใจได้ว่าได้รับสินค้าที่ไม่มีความเสียหายแน่นอน

    การทดสอบ QCS คืออะไร คือการตรวจสอบคุณภาพ ย่อมาจาก Quality Control System โดยจะมีขั้นตอนการตรวจสอบเป็นขั้นตอนต่าง ๆ เพื่อตรวจเช็กสินค้าที่ผลิตของมาว่าผ่านมาตรฐานต่าง ๆ หรือไม่ โดยจะมีกระบวนการตรวจสอบดังนี้

    1.อัตราการหลอมไหลของเม็ดพลาสติก MFR (Melt Flow Rate)
    2.การวัดทดสอบเสถียรภาพทางความร้อน OIT (Oxidation Induction Time Test)
    3.การทดสอบแรงดึง The Tensile Test
    4.ทดสอบแรงกดทับ The Compression Test
    5.ทดสอบแรงดัน Hydro Static Test

    โดยเท่านี้ก็ทำให้คุณมั่นใจแล้วศูนย์บริการจำหน่าย ท่อ hdpe นั้นได้มาตรฐานในทุก ๆ ชิ้นโดยเริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการผลิตจนไปถึงขั้นตอนการทดสอบสินค้าก่อนที่จะทำการขนส่งให้กับคุณ ดังนั้นก่อนที่จะซื้อจากร้าน ขาย ท่อ pe หรือท่อ hdpe ต้องดูว่าทางร้านหรือโรงงานได้รับการตรวจเช็กมาตรฐานหรือไม่

    สรุป

    ข้อสรุปศูนย์จำหน่าย ท่อ hdpe

    เพียงเท่านี้คุณก็จะรู้ว่า ศูนย์บริการจำหน่าย ท่อ hdpe ที่ดีนั้นเป็นอย่างไร วิธีการตรวจสอบรวมถึงการทดสอบของผู้ผลิตนั้นมีขั้นตอนอย่างไร สินค้าทุกชิ้นจะได้ไม่มีความเสียหายในภายหลัง ซึ่งจะเป็นข้อดีของทั้งผู้ขายท่อhdpe และลูกค้าที่ซื้อไปเพราะจะช่วยให้การดำเนินงานติดตั้งของทางลูกค้าเป็นไปได้ด้วยดีไม่มีปัญหาสินค้าชำรุดหรือเสียหายได้


    281
    ท่อ pe คาดส้ม

    ท่อ pe คาดส้ม มีหลายรูปแบบจำแนกมาจากท่อพีอี คือ ท่อที่ผลิตเพื่อวิศวกรรมอุตสาหกรรมเพื่อนำมาเป็นท่อส่งน้ำ เนื้อพลาสติกมีความแน่นหนาผิวลื่นเป็นมันทำให้น้ำที่ส่งไปในท่อไหลได้สะดวก ที่สำคัญทนทานต่อแรงดันน้ำไม่แตกหักง่าย มีหลายขนาด ขนาดท่อ pe ที่มีขนาดเล็กสามารถม้วนเก็บได้ และขนาดยังเบากว่าท่อ pvc ด้วย

    วิธีเลือก ท่อน้ำ pe นั้นต้องดูที่ไม่เป็นสนิมมีมาตรฐาน มอก. (มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม)รองรับได้มาตรฐานสากล วันนี้เราจะมาแนะนำว่า มีกี่รูปแบบ แบบไหนบ้าง แถบสีบนท่อมีความหมายว่าอย่างไร เพื่อให้คุณได้เลือกใช้อย่างถูกต้องเหมาะสมกับงานไม่ว่าจะเป็นงานไฟฟ้า หรือ งานประปา

    ท่อ HDPE ท่อ PE คาดส้ม คืออะไร มีกี่รูปแบบ

    ท่อ hdpe ท่อ pe คาดส้ม

    ท่อ HDPE (High Density Polyethylene) วิธีจำแนกจะสามารถแยกแบ่งประเภทได้ง่าย ๆ จากแถบสีที่กำหนดเอาไว้ แต่ไม่ได้ระบุเอาไว้ว่าท่อนั้นจะได้รับมาตรฐาน มอก. จริงหรือเปล่าโดยท่อน้ำ pe ส่วนใหญ่จะใช้ในการเกษตร เพราะมีหลายขนาดให้เลือกและทนทาน ขนส่งง่าย อีกทั้งยังทนทานต่อสภาพอากาศ คงทนต่อแสงแดดไม่กรอบ หลุดร่อนง่าย มั่นคงต่อแรงกดทับไม่เสียหายง่าย

    ท่อพีอีนั้นมีอายุการใช้งานที่ยืนยาวถึง 50 ปี ตามที่กำหนดไว้มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม 982-2556 วันนี้มาทำความเข้าใจความหมายของแถบสีบนท่อพีอีที่ใช้กันในภาครัฐและเอกชน (Public  and Private) แบ่งออกเป็น 3 ประเภทท่อ pe คาดส้ม ท่อ pe คาดฟ้า ท่อ pe ดำล้วน มีคุณสมบัติกับวิธีใช้งานดังนี้

    1. ท่อ HDPE คาดแถบสีส้ม

    เป็นท่อสำหรับสายไฟ ทนแรงดันไฟต่ำและสูงได้เหมาะแก่งานร้อยสายไฟ งานเดินท่อใต้ดิน ร้อยสายสื่อสารเสาไฟฟ้า โดยขนาดที่นิยมใช้จะเป็นท่อ pe คาดส้มขนาด PN4 และ PN10

    2. ท่อ HDPE คาดแถบสีฟ้า

    เป็นท่อสำหรับระบบประปาใช้ลำเลียงน้ำ การเกษตรกรรม น้ำดื่มเพื่อการอุปโภคและบริโภค โดยท่อน้ำ pe จะไม่เป็นสนิม มีความทนทานต่อการกระแทก และคงทนต่อการกัดกร่อนสารเคมีต่าง ๆ น้ำหนักเบากว่าท่อชนิดอื่น ๆ มีหลายขนาดท่อ pe ขนาดตั้งแต่ 1 นิ้ว ไปจนถึง 48 นิ้ว บอกเลยว่าขนาดใหญ่มาก ๆ

    3. ท่อ HDPE ไม่คาดแถบสี

    ท่อ HDPE ไม่คาดแถบสีหรือท่อพีอีดำล้วนไม่แตกต่างจากท่อ pe คาดส้มหรือท่อ pe คาดฟ้าแต่อย่างใด ใช้งานส่วนใหญ่ในภาคเอกชน ใช้งานได้ทุกช่องทางยกเว้นลำเลียงแก๊สเชื้อเพลิงต่าง ๆ ไม่ได้ระบุแถบสีมีประโยชน์ในเรื่องของการช่วยประหยัดเวลาการผลิตเพราะไม่ต้องเข้าเครื่องสแกน สร้างแถบสี ผิวท่อและขนาดท่อhdpe จะมีสีดำเงาขนาดผลิตตามมาตรฐานมอก. ใช้ได้ทั้งลำเลียงน้ำและสายไฟสื่อสารเป็นต้น

    หาซื้อท่อ pe คาดส้มที่ไหนดีถึงจะได้คุณภาพและมาตรฐาน

    หาซื้อท่อ pe คาดส้ม

    ท่อ pe คาดส้ม ของเรานั้นผลิตมาจากเม็ดพลาสติก HDPE ที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐาน TIS2559-2554 (PE80,PE100) ใช้สำหรับร้อยสายไฟฟ้าและสายสัญญาณ, HDD โดยเฉพาะขนาดท่อ pe ผลิตได้ตั้งแต่ Dia ø20 mm. – ø1200 mm.​ รับผลิตท่อพีอีได้ทั้งคาดสีส้ม/ขาว/เหลือง ลักษณะมันเงา แบ่งตามประเภทการใช้งาน คุณสมบัติทนทานต่อแรงดัน แสง UV และสภาพอากาศอายุการใช้งานยาวนาน 50 ปี

    โดยท่อ pe คาดส้มของบริษัทเอส.อาร์ พีอี กรุ๊ป จำกัด ของเรานั้น เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตท่อและอุปกรณ์ HDPE ภายใต้เครื่องหมายการค้า “SR” สามารถใช้ได้ทั้งงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคหรือกฟภ. การประปาส่วนภูมิภาคหรือกปภ. การไฟฟ้าและการประปานครหลวง ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจรวมถึงท่อลอนพีอีเสริมเหล็กต่าง ๆ และอุปกรณ์ HDPE ระบบน้ำแบบสวมอัด อุปกรณ์ HDPE ระบบน้ำแบบเชื่อมซึ่งใช้ควบคู่กับท่อระบบลำเลียงน้ำ ถังเก็บน้ำ pe เสริมเหล็กเป็นต้น

    ท่อ HDPE ที่มีคุณภาพและมาตรฐานจะมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้

    คุณสามารถมั่นใจได้ว่าท่อ pe คาดส้มและท่อพีอีสีต่าง ๆ ที่ได้รับมาตรฐาน ใช้ในการติดตั้งไม่ว่าจะเป็นในส่วนของระบบไฟฟ้าหรือการประปา จะมีคุณสมบัติที่โดนเด่นแตกต่างจากท่อชนิดอื่น ๆ ดังนี้

    • อายุการใช้งานยาวนานถึง 50 ปี
    • น้ำหนักเบา ทนทานกว่าท่อชนิดอื่น ๆ
    • เชื่อมต่อง่าย ไม่รั่วซึม ไม่แตกหัก ยืดหยุ่นสูงไม่ตายตัว
    • เหมาะแก่การใช้เป็นท่อน้ำดื่มเพราะไม่มีสารพิษตกค้าง ไม่เป็นสนิม
    • ง่ายต่อการเชื่อมและก่อสร้าง เพราะเคลื่อนย้าย ขนส่งได้ง่าย
    • ติดตั้งง่ายเพราะไม่ต้องใช้กาวต่อท่อ และคดงอม้วนรูปทรงได้ตามลักษณะของอาคาร เสาไฟฟ้า ระบบภายในต่าง ๆ
    • ทนแรงดันได้สูง จึงนิยมใช้มากกว่าท่อชนิดอื่น ๆ

    สรุป

    สรุปท่อ pe คาดส้ม

    ท่อ HDPE นั้นสามารถผลิตได้หลายสีซึ่งมีวิธีการใช้งานที่แตกต่าง เหมาะกับงานประเภทต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นท่อร้อยสายไฟ hdpe หรือที่เรียกว่าท่อ pe คาดส้มซึ่งเหมาะกับงานระบบสายไฟ ท่อ HDPE คาดแถบสีฟ้า ใช้ในงานด้านระบบประปา ระบบน้ำอุปโภคบริโภคขนาดท่อ pe ประปาก็มีให้เลือกหลากหลายใช้ทนความดันน้ำที่แตกต่างกัน

    แม้ว่าจะมีราคาท่อ HDPE ส่วนมากจะมีราคาที่สูงกว่าท่อชนิดอื่นๆ แต่คุณสมบัติและ ความชอบโดยรวมนั้นคุ้มค่ากับราคาที่ต้องเสียไป เพื่อให้งานที่มีคุณภาพ คงทนเป็นที่นิยมมากในอุตสาหกรรมต่าง ๆ คุณสามารถหันมาเลือกใช้ท่อ HDPE ในการทำงานก่อสร้างเหมาะกับผู้รับเหมาและ บุคคลทั่วไป ก่อนการเลือกใช้งานนั้นคุณยังสามารถขอความรู้ หรือศึกษาเพิ่มเติมกับพนักงานขาย วิศวกร ที่มีความชำนาญเพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติ  และวัตถุประสงค์ก่อนการเลือกใช้งานได้อีกด้วย

    282
    รูปปก

    หากคุณกำลังสนใจในการมองหา ร่มพับ2ตอน ร่มพับ 3 ตอน และรูปแบบอื่นๆ  เพื่อใช้งานทั้งการตกแต่งสถานที่หรือเพื่อช่วยเพิ่มจุดเด่นของสินค้า ของนำเสนอ ร่มพับได้ แบบพรีเมียมสำหรับคุณ ราคาส่งตรงหน้าโรงงานตั้งแต่ชิ้นแรก ร่มที่มีรูปแบบต่างๆ หลากหลายสไตล์ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างครบวงจรในการผลิตร่มพับได้ ทั้งยังมีความแปลกใหม่ สวยงาม แสดงถึงเอกลักษณ์ของแบรนด์ได้ ไม่เหมือนใคร

    ที่สำคัญเป็นโรงงานผลิตร่มที่ได้มาตราฐาน  มีความทนทานสูง ราคาสุดประหยัด แต่ได้คุณภาพดีเยี่ยม มีการตรวจสอบคุณภาพทุกขึ้นตอนในการผลิต  จึงได้ร่มพับที่ แข็งแรง ทนทาน ต่อการใช้งานที่สำคัญ ยังรับสกรีน และออกแบบ(Artwork) พร้อมตามความต้องการ

    ร่มพับคืออะไร

    ร่มพับ หรือ ร่มสำหรับพกพา เป็นประเภทร่มที่เล็กที่สุดจะแบ่งออกเป็น ร่มพับ 2 ตอน ร่มพับ 3 ตอน และร่มพับ 5 ตอน โดยให้ความหมายง่าย ๆ คือ ยิ่งจำนวนตอนมากเท่าไร เวลาพับเก็บก็จะยิ่งเล็กลง แต่ถ้ากางออกมาจะมีขนาดแตกต่างจากร่ม 16 ก้านไม่มากนัก

    ร่มพับเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย  เพราะร่มพับเป็นร่มที่มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา พกพาง่าย สามารถพับเก็บได้  พับเก็บได้สะดวก จึงไม่มีปัญหาเกี่ยวกับเนื้อที่จัดเก็บ เหมาะสำหรับการพกพา ไม่ว่าจะเป็น วัยเด็ก วัยเรียน วัยทำงาน และทุกเพศทุกวัย ที่ใช้ร่มพับเพื่อการป้องกันจากแสงแดดและน้ำฝน

    ร่มพับ ถือว่าเป็นร่มที่คุณสมบัติประโยชน์มากมาย สามารถใช้กันแสง UV จากแดด และกันฝนได้เป็นอย่างดีและสามารถใช้เป็นของที่ระลึกในงานต่างๆ เช่น งานบวช งานแต่งงาน ของขวัญ หรือแม้แต่งานฌาปนกิจ

    ร่มพับ 2 ตอน : เป็นร่มพับที่พบเห็นบ่อยมากที่สุด เพราะมีขนาดเล็กและหาซื้อได้ง่าย แต่จะแตกต่างกันด้วยสีสันต่างๆ และผ้าวัสดุในการผลิต

    ร่มพับ 3 ตอน : ไม่มีความต่างจากร่มพับ 2 ตอนไม่มาก โดยจะแตกต่างกันที่แกนที่จะมีลักษณะ  3 พับ แต่เมื่อพับลงแล้วจะมีขนาดใกล้เคียงกันและวัสดุที่ใช้

    ร่มพับ 5 ตอน : เป็นร่มที่มีขนาดเล็กที่สุดเพราะมีข้อต่อในการพับมากกว่ารุ่นอื่นๆ เมื่อพับเก็บแล้วยังมีน้ำหนักเบากว่าร่มพับแบบอื่นๆ

    การดูแลร่มพับแบบถูกวิธี

    • นำน้ำส้มสายชูผสมน้ำสะอาด เช็ดทำความสะอาดร่มพับเมื่อเกิดคราบไม่พึงประสงค์
    • เมื่อร่มขึ้นราผสมน้ำส้มสายชูกับแอลกอฮอล์เช็ดทำความสะอาดในจุดที่ราขึ้น
    • ใช้สเปรย์เคลือบสารกันน้ำฉีดที่ผ้าของตัวร่มก็ช่วยรักษาสภาพร่มได้เช่นกัน
    • หลังจากการใช้งานร่มเสร็จ ให้ทำการเช็ดร่มหรือตากลมให้แห้ง
    • กางร่มพับ และตากแดดประมาณ 1ชั่วโมง ช่วยลดการเกิดเชื้อรา
    • เก็บร่มให้ไกลจากความชื้นเพราะอาจจะเกิดเชื่อรา
    • ห้ามวางสิ่งของที่มีน้ำหนักมากทับบนร่มพับอาจจะเกิดความเสียหายได้

    ทำไมถึงต้องซื้อร่มพับ

    ทำไมถึงต้องซื้อร่มพับ

    • ประเภทและลักษณะของร่มมีด้วยกันหลายแบบ ร่มพับ 2 ตอน และ ร่มพับ 3 ตอน
    • คุณสมบัติความคงทนของวัสดุอุปกรณ์ในการผลิตในการผลิต
    • ลักษณะการนำไปใช้งานของแต่ละบุคคล เช่น การนำร่มพับ 2 ตอน และ ร่มพับ 3 ตอน ใช้เป็นของที่ที่ระลึกหรือแจกในงานเลี้ยงต่างๆ
    • ร่มพับสามารถกันได้ทั้งแสงแดด กันแสง UV และกันน้ำฝนได้เป็นอย่างดี
    • ขนาดพกพากะทัดรัด น้ำหนักเบา พกพาได้สะดวก
    • การออกแบบลวดลายและการสกรีนเพื่อเพิ่มความสวยงามของร่มพับ
    • สีสันสรรค์ผ้าใบร่มและวัสดุในการประกอบตัวร่ม
    • คุณภาพและมาตรฐานของโรงงานในการผลิตร่มพับ
    • ราคาร่มพับเหมาะสมกับตัวสินค้า

    สรุป

    ร่มพับ  จะแบ่งออกเป็น ร่มพับ 2 ตอน ร่มพับ 3 ตอน และ ร่มพับ 5 ตอน ซึ่งแต่ละแบบจะมีคุณลักษณะที่แตกต่างกันไปดังนั้น การเลือกซื้อร่มพับควรคำนึงถึงลักษณะการใช้งานความคล่องตัวในการใช้งานวัสดุ ความแข็งแรง คงทน อุปกรณ์ในการผลิตร่มพับ และควรเลือกโรงงานที่ได้มาตรฐานซึ่งพวกนี้จะเป็นการกำหนดคุณภาพของร่มพับ


    283
    วิธีการจองทะเบียนรถออนไลน์

    การจองเลขทะเบียนรถไม่จำเป็นต้องไปจองที่กรมการขนส่งทางบกเพียงอย่างเดียว ซึ่งการไปดำเนินการที่กรมการขนส่งทางบกอาจมีขั้นตอนที่ยุ่งยาก อาจทำให้เสียเวลาสำหรับบางคน ทำให้มีบริการรับจองทะเบียนรถเกิดขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกสบายให้กับเจ้าของรถ แต่รู้ไหมว่าถ้ามองข้ามรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการจองทะเบียนออนไลน์ไป คุณอาจพลาดโอกาสในการเป็นเจ้าของป้ายทะเบียนรถได้เลย เพราะใคร ๆ ต่างก็อยากจองเลขทะเบียนรถออนไลน์ที่ตัวเองชื่นชอบ และหากใครสนใจที่อยากจะจองเองในระบบออนไลน์ ในบทความนี้จะมาไขข้อสงสัยให้คุณได้รู้กัน   

       
    มาทำความรู้จักกับการจองทะเบียนรถออนไลน์ คืออะไร?
    การจองทะเบียนรถออนไลน์คือ การจองทะเบียนรถยนต์โดยผ่านระบบออนไลน์ โดยคุณสามารถจองป้ายทะเบียนได้ทั้งรถยนต์ รถเก๋ง รถตู้ และรถกระบะ ซึ่งนับว่าเป็นวิธีที่เหมาะสมกับสมัยปัจจุบันอย่างมาก เพราะช่วยให้การจองเลขทะเบียนออนไลน์สะดวกกว่าโดยที่ไม่จำเป็นต้องเตรียมทั้งตัวและใจ สำหรับการเตรียมตัวไปที่กรมการขนส่งทางบกตั้งแต่เช้าเพื่อจับบัตรคิว และการเตรียมใจกับเลขทะเบียนรถที่อยากจองอาจถูกคนอื่นแย่งชิงไป แต่เดี๋ยวนี้ไม่ต้องลำบากขนาดนั้น เพราะคุณสามารถจองป้ายทะเบียนรถออนไลน์ได้เลยทันที   

       

    การเตรียมตัวก่อนเริ่มจองทะเบียนรถออนไลน์ ต้องเตรียมตัวยังไง?

    เตรียมตัวก่อนเริ่มจองทะเบียนรถออนไลน์

    การเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเริ่มจองทะเบียนรถยนต์ออนไลน์ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่จะทำให้คุณมีโอกาสได้เลขทะเบียนรถของคุณไวขึ้น หากคุณมองข้ามเรื่องนี้ไปก็มีโอกาสไม่ได้เลขทะเบียนรถตามที่คาดหวังเอาไว้ ซึ่งนี่คือข้อมูลและเอกสารที่ใช้ในการจองป้ายทะเบียนรถยนต์ ดังนี้

    1.ทำความเข้าใจหลักเกณฑ์การจองทะเบียนรถยนต์ออนไลน์ของกรมการขนส่งทางบก

    2.ตรวจสอบตารางกำหนดการจองหรือตารางจองทะเบียนรถที่กรมการขนส่งทางบกอัปเดตเป็นรายสัปดาห์ ได้ที่ https://reserve.dlt.go.th/reserve/schedule/number.pdf ประกอบด้วยข้อมูลสำคัญ ได้แก่ วันที่เปิดจอง หมวดอักษร หมวดตัวเลข ข้อมูลนี้สำคัญมาก ทำให้เราทราบว่า เราต้องทำการจองวันไหนจึงจะได้เลขที่ต้องการ

    3.เตรียมหมายเลขที่ต้องการรวมทั้งหมายเลขสำรองอย่างน้อย 10 เลข โดยอาจจะเรียงลำดับเลขที่ชอบมากไปหาน้อย

    4.เตรียมข้อมูลที่ใช้กรอกในเว็บไซต์จองป้ายทะเบียนรถออนไลน์ ได้แก่ คำนำหน้า ชื่อ สกุล เลขประจำตัวประชาชน เลขตัวถังรถ ยี่ห้อรถ เบอร์โทรศัพท์และเลขทะเบียนที่ต้องการจอง

    5.เตรียมอุปกรณ์ในการเข้าถึงเว็บไซต์การจองทะเบียนรถยนต์ออนไลน์ Smartphone หรือ Tablet

    6.ใช้ผู้ช่วยในการจองทะเบียนรถยนต์ออนไลน์ที่เป็นมืออาชีพ รอบรู้และมีประสบการณ์ เช่น Fasttabien

    การจองทะเบียนรถไม่จำเป็นต้องไปจองที่กรมการขนส่งทางบกเพียงอย่างเดียว เพียงแค่คุณต้องทบทวนข้อมูลที่กรอกลงไปในขั้นตอนการสมัครให้ถูกต้อง อ่านตรวจทานข้อมูลที่กรอกไปให้ดีเสียก่อนเพื่อไม่ให้มีความผิดพลาด และหากคุณกรอกข้อมูลใดไม่ครบตามหลักเกณฑ์การจองทะเบียนรถก็ถือตกเป็นโมฆะ
       
    วิธีการจองทะเบียนรถออนไลน์ด้วยตัวเอง
    วิธีการจองทะเบียนออนไลน์ ไม่ได้มีความยุ่งยากซับซ้อน หากคุณเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี เริ่มเลยตามขั้นตอน ดังนี้

    1.ไปที่เว็บไซต์สำหรับจองทะเบียนรถยนต์ของกรมการขนส่งทางบก https://reserve.dlt.go.th/reserve/

    2.อ่านหลักเกณฑ์การจองเลขทะเบียนรถผ่านอินเทอร์เน็ตให้เข้าใจ แล้วกดปุ่มยอมรับหลักเกณฑ์

    ยอมรับหลักเกณฑ์จองทะเบียนรถออนไลน์

    3.หากอยู่ในช่วงเวลาที่เปิดให้จองจะปรากฏหน้าต่างให้เลือกประเภทของรถ ได้แก่ รถกระบะ 4 ประตู รถเก๋ง รถตู้และรถกระบะ พร้อมกับหมวดอักษรหมวดตัวเลข

    4.เมื่อเลือกประเภทรถแล้ว จะปรากฏหน้าต่างให้กรอกข้อมูล ได้แก่ คำนำหน้า ชื่อ นามสกุล เลขประจำตัวประชาชน เลขตัวถังรถ ยี่ห้อรถ เบอร์โทรศัพท์ เลขทะเบียนที่ต้องการจอง เพื่อความรวดเร็วในการกรอกข้อมูลจึงควรเตรียมข้อมูลเหล่ามาล่วงหน้าก่อนที่จะเปิดจอง

    5.เมื่อกรอกข้อมูลเสร็จให้ตรวจสอบความเรียบร้อยและกดปุ่มจองเลข จะปรากฏหน้าต่างเพื่อยืนยันอีกครั้ง

    6.ตรวจสอบผลการจองได้ที่เมนูด้านซ้าย โดยการกรอกหมายเลขบัตรประชาชนก็สามารถตรวจสอบผลการจองได้แล้ว สามารถค้นหาได้เฉพาะข้อมูลที่ไม่เกิน 120 วัน

    นอกจากต้องเตรียมข้อมูลส่วนตัวเพื่อใช้กรอกสมัครในเว็บแล้วรถยนต์ที่คุณจะใช้ในการจองทะเบียนรถยนต์ก็ต้องเตรียมให้พร้อมด้วยเช่นกัน โดยกฎเกณฑ์แต่ละแบบจะมีดังนี้

    • รถใหม่ หรือรถป้ายแดง
    คุณจะต้องได้รับข้อมูลของรถจากกรมการขนส่งทางบกและได้รับรถยนต์เรียบร้อยแล้ว ถึงจะสามารถดำเนินการการจองทะเบียนรถได้

    • รถป้ายขาวและรถป้ายประมูล
    สำหรับในกรณีที่เป็นรถป้ายขาวและรถป้ายประมูล รถของคุณจะต้องผ่านการจดทะเบียนกรุงเทพมหานคร หากรถของคุณยังไม่ได้จดทะเบียนกรุงเทพให้คุณทำเรื่องขอย้ายรถมากรุงเทพมหานครให้เรียบร้อย นอกจากนี้สถานะของรถคุณจะต้องเป็นปกติไม่ขาดการต่อภาษีรถยนต์อีกด้วย

    • ในกรณีมีรถมากกว่า 1 คัน
    สำหรับใครที่มีรถมากกว่า 1 คันหากคุณต้องการจองทะเบียนรถมากกว่า 1 หมายเลข คุณจะต้องนำหลักฐานมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่เสียก่อน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการปลดล็อคให้สามารถรจองทะเบียนรถอีกหมายเลขหนึ่งได้   

          
    หลักสำคัญในการจองทะเบียนรถออนไลน์ว่าต้องมีอะไรบ้าง
    ทำความเข้าใจหลักสำคัญในการจองทะเบียนรถยนต์ออนไลน์ก่อน จึงจะเตรียมตัวได้อย่างถูกต้อง มีดังนี้

    1.ข้อมูลรถต้องมีความถูกต้องสมบูรณ์ ดังนี้
    • กรณีรถใหม่ คุณต้องได้รับรถยนต์แล้วและข้อมูลรถต้องถูกส่งให้กับกรมการขนส่งทางบกแล้วเท่านั้น
    • กรณีรถจดทะเบียนแล้ว ต้องเป็นรถที่จดทะเบียนกรุงเทพมหานครหรือแจ้งความประสงค์ขอย้ายรถมากรุงเทพมหานครและมีสถานะปกติ

    2.ชื่อผู้จองต้องเป็นเจ้าของรถและต้องจดทะเบียนด้วยชื่อที่จองเท่านั้น ไม่สามารถยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงได้

    3.คุณสามารถกรอกหมายเลขทะเบียนรถ ครั้งละ 1 เลข โดยต้องเป็นเลขที่เปิดให้จองตามตารางจองทะเบียนรถและสามารถกรอกหมายเลขทะเบียนรถใหม่ได้ จนกว่าจะสามารถจองได้สำเร็จ

    • กรณีมีรถมากกว่า 1 คัน และต้องการจองมากกว่า 1 เลข คุณจะต้องนำหลักฐานมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่เพื่อปลดล็อกให้จองหมายเลขเพิ่มเติม โดยใช้หลักฐาน ได้แก่ ผลการจองหมายเลขทะเบียนรถคันที่ 1, สำเนาเล่มทะเบียนรถคันที่ 1, สำเนาเล่มทะเบียนรถคันเพิ่มเติม, สำเนาบัตรประชาชนและหนังสือมอบอำนาจ (หากเป็นผู้ดำเนินการแทน)

    4.เมื่อจองสำเร็จแล้วต้องจดทะเบียนภายในวันที่กรมการขนส่งกำหนด (ประมาณ 15 วัน)

    5.เมื่อจองป้ายทะเบียนรถได้แล้ว จะสามารถจองได้อีกครั้งหลังจาก 3 เดือน กรมการขนส่งทางบกอาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลการจอง โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

    6.ระบบจะเปิดให้จองแบบวันต่อวัน ในช่วงเวลา 10:00 น. - 16:00 น. ของวันที่กำหนดไว้ในตารางจองทะเบียนรถ

    7.ข้อมูลที่กรอกต้องเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง โดยในหน้าเว็บไซต์จะบังคับให้กรอกตามรูปแบบที่กำหนดและมีการแจ้งเตือนหากกรอกข้อมูลไม่เป็นไปตามรูปแบบที่กำหนด เช่น หมายเลขบัตรประชาชนให้พิมพ์ติดกัน เป็นต้น
       
    สรุป   
    จะเห็นได้ว่าการจองป้ายทะเบียนรถยนต์ออนไลน์นั้น มีขั้นตอนที่ละเอียดอย่างมาก อาทิเช่น เลขบัตรประชาชนต้องติดกัน ต้องกรอกข้อมูลในการจองทะเบียนรถ กรมขนส่งให้ถูกต้อง ถ้าไม่ถูกต้องจะถือว่าเป็นโมฆะ หากคุณทำพลาดไปแม้แต่นิดเดียวอาจทำให้คุณไม่สามารถจองทะเบียนรถ กทมที่คุณต้องการได้เลย

    284
    เช่ารถเบนซ์

    เนื่องจากรถเบนซ์เป็นรถที่มีความนิยมสูงแต่ราคาแพง ทำให้คนบางประเภทไม่อาจเอื้อมถึงรถอันแสนนิยมนี้ได้หรือบางคนอาจจะมีความจำเป็นใช้รถเบนซ์ในระยะเวลาสั้น จึงมีศูนย์เช่ารถเบนซ์เกิดขึ้น โดยคนส่วนใหญ่นิยมเช่ารถเบนซ์เพื่อเช่าขับท่องเที่ยว, เช่าเพื่อออกงานให้ดูน่าเชื่อถือ รวมไปถึงมีการเช่ารถเบนซ์รายวันถ่ายละครอีกด้วย จะเห็นได้ว่ารถเบนซ์เป็นที่น่าสนใจและนิยมในทุกวงการจริงๆ ครับ

    สิ่งที่ควรรู้ก่อนเช่ารถเบนซ์มีอะไรบ้าง

    ในการเช่าเบนซ์นั้น เราควรรู้ข้อมูลพื้นฐานในการเช่าเบื้องต้นเสียก่อน โดยจะมี 4 ข้อที่ควรรู้เกี่ยวกับการเช่ารถเบนซ์ ดังนี้ กรณีการเกิดอุบัติเหตุ กฎของแต่ละศูนย์เช่ามักแตกต่างกัน หากคุณเช่ารถแล้วเกิดอุบัติเหตุ บางศูนย์จะให้ผู้เช่าออกค่าเสียหายเอง หรือบางศูนย์อาจจะมีประกันรถยนต์แต่ละคันอยู่แล้ว, บริษัทเช่ารถ Benz ด้วยความที่เป็นรถยนต์หรูราคาแพง ควรเลือกศูนย์รถที่สามารถเชื่อถือได้และมีความพร้อมในการบริการลูกค้าเป็นหลัก, เอกสารที่ต้องใช้ในการเช่ารถเบนซ์เพราะรถยนต์หรูคันนี้เป็นรถยนต์ราคาแพง

    ทางศูนย์รถจะมีการขอเอกสารรายรับของเงินเดือน รวมไปถึงข้อมูลของบัตรเครดิตด้วย เพื่อเป็นที่แน่ใจว่าคุณจะไม่โกง และข้อสุดท้ายคือการตรวจสอบราคาเช่ารถหรู ซึ่งแตกต่างกันไปตามคลาสของรถ ทั้งนี้ควรตรวจสอบและหาข้อมูลมาให้ดีก่อนครับ เพื่อความแน่ใจ

    1. รถเมอร์เซเดส-เบนซ์ มีคลาสอะไรบ้าง

    จะเช่ารถหรูทั้งที ก็ต้องเลือกคลาสที่เหมาะกับการใช้งานและไลฟ์สไตล์ของเราด้วย สำหรับเมอร์เซเดนซ์-เบนซ์ จะแบ่งเป็นทั้งหมด 7 คลาส แต่ละคลาสคืออะไรบ้าง เรามาทำความรู้จักไปพร้อมๆ กันเลยครับ

    1. A-Class สำหรับคลาสนี้จะเป็นรถขนาดเล็กกระทัดรัด ตัวรถไม่ใหญ่มาก เน้นการใช้ขับในตัวเมืองเป็นหลัก ไม่นิยมใช้ขับในต่างจังหวัด

    2. B-Class รถคลาสนี้จะเป็นรถขนาดเล็กเช่นเดียวกับ A-Class แต่จะมีขนาดใหญ่และกว้างกว่า A-Class เล็กน้อย โดย B-Class สดส่วนของหลังคารถจะใหญ่ขึ้นและสูงขึ้น ใช้งานหลากหลายได้มากขึ้น

    3. C-Class หรือที่รู้จักในชื่อ Compact Class จะมีขนาดรถที่ปานกลาง ใช้งานได้พอดี ตัวรถไม่ใหญ่หรือไม่เล็กจนเกินไป

    4. E-Class เป็นรถขนาดใหญ่ที่เหมาะสำหรับการใช้งานของครอบครัวหรือบุคคลระดับสูง มีที่นั่งที่กว้างขวางสามารถนั่งได้อย่างสบาย อีกทั้งยังเป็นรถที่เก็บเสียงได้ดีอีกด้วย

    5. S-Class เป็นรถคลาสที่มีขนาดใหญ่มากที่สุด ราคาแพงมากที่สุด เพราะให้สะดวกสบายในการนั่ง แถมยังเพิ่มความปลอดภัยอย่างเต็มพิกัด เพราะรถคันนี้มีระบบความปลอดภัยรอบคันรถที่จะทำให้คุณไม่กังวลช่วงเวลาเดินทางอย่างแน่นอน

    6. SL หรือรถในกลุ่ม Cabriolet เป็นรถที่นิยมมากในกลุ่มวัยรุ่นที่ชอบรถสปอร์ตเปิดประทุน สำหรับคลาสนี้เป็นรถเปิดประทุนที่สวยงาม, มีขนาดกระทัดรัด และน้ำหนักเบา

    7. CL เป็นรถคลาสใหม่ที่มีหลังคาลาดคล้ายรถสปอร์ต มีขนาดกระทัดรัดและสวยงามเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก

    2. รหัสหลังตัวเลขบ่งบอกถึงอะไร?

    เรื่องนี้ก็ไม่ควรมองข้ามหากจะเช่ารถเบนซ์
    นอกจากคลาสเบนซ์ที่ได้กล่าวถึงไปแล้ว หลายๆ คนอาจจะยังไม่รู้จักตัวเลขที่ต่อท้ายคลาสว่าหมายถึงอะไร สำหรับตัวเลขนั้นหมายถึงความสามารถและสมรรถนะความจุของเครื่องยนต์นั่นเองครับ เมื่อก่อนเราอาจจะเข้าใจตัวเลขพวกนี้ว่าปริมาณความจุกระบอกเครื่องยนต์ แต่ในปัจจุบันก็คือความแรงนั่นเอง

    3. รถเบนซ์บางรุ่นทำไมถึงมีตัวเลขแค่ 2 หลัก

    สำหรับรถเบนซ์ที่มีตัวเลข 2 หลักก็เป็นรหัสความแรงของเครื่องยนต์เหมือนกับ 3 หลักเช่นกัน แต่จะเป็นรถที่มาจากโรงงาน AMG ที่มีความแรงมากทั้งระบบเครื่องยนต์,เกียร์, ท่อ, ช่วงล่าง, เสียง รวมไปถึงการตกแต่งรถอีกด้วยครับ เพราะฉะนั้นแล้วเลขที่มี 2 หลักจึงค่อนข้างมีความแรงมากกว่า 3 หลัก

    4. ตัวเลข 3 หลักคืออะไร?

    ตัวเลข 3 หลักบ่งบอกถึงความแรงของเครื่องยนต์ โดยรุ่นที่มีเลขมากกว่าจะมีกำลังในการขัลเคลื่อนมากกว่า เช่น E200 กับ E250 ทั้ง 2 รุ่นนี้รูปลักษณ์ภายนอกเหมือนกัน เพียงแต่ความแรงและกำลังของเครื่องจะแตกต่างกัน โดยที่ E250 จะมีความแรงมากกว่า E200 อย่างไรก็ตามทั้ง 2 รุ่นใช้เครื่องยนต์ชนิดเดียวกัน แต่การปรับจูนของเครื่องยนต์นั้นแตกต่างกัน เหตุผลก็เพื่อซอยรุ่นและทำให้ผู้ซื้อเข้าใจได้ในทันทีว่ารุ่นไหนมีความแรงมากกว่ากัน

    เช่ารถเบนซ์จาก Richcars ราคาเริ่มต้นเท่าไหร่
       
    โดยทั่วไปแล้ว ราคาเช่ารถหรูจะอยู่ที่ราวๆ 10,000 ไปจนถึง 100,000 บาทเลย ซึ่งถือว่าราคาค่อนข้างสูงเป็นอย่างมาก ทาง Richcar เข้าใจปัญหาสำหรับผู้ที่มีงบจำกัด ทางเราจึงมอบราคาเช่ารถเบนซ์รายวันที่ดีที่สุด โดยราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 7,900 บาทเท่านั้น
    ด้วยงบเพียงหลักพันก็สามารถนำรถหรูราคาหลักล้านออกไปขับโชว์เพื่อนหรือจะใช้ในทางธุรกิจได้เลย

    หากต้องการเช่ารถเบนซ์ควรมองหาที่ไหนดี
       
    หากคุณกำลังต้องการเช่ารถเบนซ์ Richcars เป็นอีกหนึ่งศูนย์บริการให้เช่ารถหรูที่เป็นมากกว่านั้น คุณจะได้รับการบริการที่ดีที่สุดเพราะทาง Richcars ได้พัฒนาการบริการให้เช่ารถหรูอยู่ตลอดเวลา ครบครัน มีให้คุณเลือกสรรทุกประเภท อีกทั้งยังตอบโจทย์การใช้งานหลายอย่างตามที่ใจคุณต้องการ เพราะรถก็เปรียบเสมือนหน้าตาของเรา ทำให้ดูมีระดับน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น Richcars จึงขอเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยยกระดับคุณครับ

    ต้องใช้เอกสารอะไรบ้างในการเช่ารถเบนซ์กับ Richcars
       
    สำหรับการเช่ารถเบนซ์กับ Richcars สิ่งที่คุณต้องเตรียมและต้องรู้ มีดังนี้

    • ใช้แค่ใบขับขี่เท่านั้น ไม่ต้องใช้บัตรประจำตัวประชาชนหรือเอกสารอื่นๆ
    • คุณสามารถรับรถที่ไหนก็ได้ ไม่จำกัดระยะทาง

    สรุป


    เช่ารถเบนซ์

    การเลือกเช่ารถเบนซ์ เป็นอีกหนึ่งทางในการทำให้คุณได้ขับรถยนต์แบรนด์หรูโดยที่ไม่ต้องเสียเงินซื้อเอง หากคุณกำลังมีงานสังคมที่ต้องเจอผู้คนมากมายหรือพบปะผู้คนในแวดวงธุรกิจ การใช้รถยนต์หรูหรา อย่างเช่น รถเบนซ์ ก็ยิ่งช่วยทำให้คุณมีภาพลักษณ์ที่น่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น เพิ่มโอกาสดีๆ ในการพบปะผู้คนและอาจช่วยต่อยอดในเรื่องของทางธุรกิจได้อีกด้วย

    เพราะฉะนั้นแล้วหากคุณสนใจที่จะเช่ารถเบนซ์หรืออยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเช่ารถเบนซ์ อย่ารีรอช้าที่จะติดต่อ Richcars เลยครับ พวกเรายินดีพร้อมให้บริการและมอบประสบการณ์อันสุดพิเศษให้คุณอยู่

    285
    เลเซอร์หลุมสิว ราคา

    เคยไหม? เป็นสิวทีไร อยากให้หายเร็วๆ เลยไปบีบ ไปแกะจนหนำใจสุดท้ายพอหาย ดันได้ของแถมเป็นหลุมสิว ที่เป็นเหมือนหลุมขรุขระบนใบหน้า ไม่ว่าจะส่องกระจก จะไปไหนมาไหนก็เซ็ง ไม่อยากเจอใคร หมดความมั่นใจทุกทีจนอยากจะเลเซอร์หลุมสิวให้มันจบๆ เพราะหลุมสิวใครเป็น ใครก็ไม่แฮปปี้ วันนี้เลยจะมาชวนอ่านเกี่ยวกับ “เลเซอร์หลุมสิว” ที่น่ารู้ที่คนมีหลุมสิวต้องกดว้าว จะมีอะไรบ้างมาดูกันเลย

    ทำความรู้จัก หลุมสิว

    ก่อนที่จะไปทำความรู้กับเลเซอร์หลุมสิวนั้น เรามารู้จักเกี่ยวกับหลุมสิวกันก่อนว่าคืออะไร ทำไมหลายๆ คนที่มีปัญหาเกี่ยวกับหลุมสิวต้องการให้ผิวดูดี ดูตื้นขึ้นกัน

    หลุมสิวเกิดจากอะไร

    หลุมสิว หรือในชื่อภาษาอังกฤษ Atrophic Scars คือแผลเป็นจากสิวที่มีลักษณะเป็นหลุมเล็กทั้งขนาดตื้นๆ ไปจนถึงมีความลึกอย่างเห็นได้ชัดที่ผิว ดูมีความขรุขระ แลดูไม่เรียบเนียนเมื่อเทียบกับผิวปกติทั่วไป ซึ่งหลุมสิวมีสาเหตุมาจากการแกะ บีบ กดสิว อย่างไม่ถูกวิธี ทำลึกจนเกินไป เมื่อเกิดแผลทำให้ผิวหนังและเนื้อเยื่อซ่อมแซมได้อย่างไม่เพียงพอ เมื่อสิวหายแล้วจึงทิ้งร่องรอยของหลุมสิวไว้ ส่วนใหญ่แล้วหลุมสิวมักเกิดจากสิวหัวช้างเม็ดใหญ่ หรือสิวอักเสบที่รุนแรง เป็นต้น

    หลุมสิวมีกี่ประเภท

    สำหรับประเภทของหลุมสิวแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้

    • Rolling Scar : เป็นหลุมสิวที่มีความรุนแรงต่ำที่สุด รักษาง่ายเนื่องจากมีลักษณะไม่ลึก เป็นเพียงหลุมตื้นๆ บนผิวส่วนบน
    • Box Scar : เป็นหลุมสิวที่รุนแรงปานกลาง มีลักษณะเป็นบ่อ คล้ายกล่องสี่เหลี่ยม ซึ่งจะเห็นขอบของหลุมสิวชัดเจน มีทั้งแบบลึกและแบบตื้น
    • Ice Pick Scar : เป็นหลุมสิวที่มีความรุนแรงที่สุด มีลักษณะเป็นหลุมแนวลึก เกิดจากการบีบสิวที่กินเนื้อผิวไปลึก ซึ่งหลุมสิวชนิดนี้จะรักษาได้ยากเนื่องจากความลึกที่เกิดขึ้นของผิว

    วิธีรักษาหลุมสิวมีอะไรบ้าง

    วิธีการรักษาหลุมสิวมีหลากหลายวิธี ขึ้นอยู่กับความต้องการ ความสะดวกและงบประมาณที่มีของแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็นการใช้ผลิตภัณฑ์กลุ่มกรดวิตามินเอ, การใช้กรดลอกผิว, การตัดผังพืด, กรอผิวด้วยเกล็ดอัญมณี, การผ่าตัด, การเติมเต็มผิวด้วยฟิลเลอร์, การใช้คลื่นวิทยุ รวมไปถึงการเลเซอร์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน

    เลเซอร์หลุมสิว คืออะไร รักษาหลุมสิวได้อย่างไร

    Ematrix ราคา

    เลเซอร์หลุมสิวคือการรักษาหลุมสิวรูปแบบหนึ่งที่จะใช้การปล่อยพลังงานเข้าสู่ผิวหนังบริเวณที่มีปัญหาหลุมสิว ซึ่งการเลเซอร์หลุมสิวเป็นวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพ เห็นประสิทธิภาพได้อย่างชัดเจนถึงการเปลี่ยนแปลงก่อนและหลังทำ โดยการเลเซอร์หลุมสิวจะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้กับผิว ช่วยให้บริเวณที่เกิดหลุมสิวมีความตื้นขึ้น ดูเรียบเนียนกว่าเก่า

    การทำเลเซอร์หลุมสิวเพื่อผลลัพธ์ที่มีดี เห็นประสิทธิภาพจากการทำอย่างชัดเจนควรทำ 4-6 ครั้ง และเว้นระยะห่างในการทำ 2-3 สัปดาห์ และหลังทำควรบำรุงผิวด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์อย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ผิวมีความชุ่มชื้นอยู่เสมอ เพราะหลังทำเลเซอร์ทุกชนิดรวมไปถึงเลเซอร์หลุมสิวอาจทำให้บางคนมีอาการผิวแห้ง ผิวลอกได้ ที่สำคัญควรหลีกเลี่ยงแสงแดด งดทำกิจกรรมในที่แจ้งโดยไม่จำเป็น

    นวัตกรรมเลเซอร์หลุมสิว

    Laser หลุมสิว

    ปัจจุบันนวัตกรรมการเลเซอร์หลุมสิวมีการพัฒนามากขึ้น ทำให้การเลเซอร์หลุมสิวมีหลากหลายรูปแบบ หลากหลายประเภท วันนี้จะพาไปดูกันว่าเลเซอร์หลุมสิวมีกี่แบบ แต่ละแบบ แต่ละประเภทมีจุดเด่นต่างกันอย่างไร เหมาะสำหรับการรักษาหลุมสิวแบบไหนกันบ้าง ดังนี้

    1. เลเซอร์หลุมสิว Fractora

    การทำเลเซอร์แบบ Fractora หลุมสิวนั้นเป็นเลเซอร์ที่มีการปล่อยความร้อนแบบพลังงานคลื่นวิทยุที่จะทำการปล่อยพลังงานส่งไปยังชั้นผิวหนังแท้เพื่อรักษาหลุมสิว มีการพัฒนานวัตกรรมจากเครื่อง Fractional RF

    โดยจุดเด่นของเลเซอร์ชนิดนี้คือจะเห็นผลเร็ว ผิวเรียบเนียน อ่อนเยาว์ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยลดริ้วรอยเหี่ยวย่น และยังลดรอยแผลจากสิวได้เป็นอย่างดี ยิ่งไปกว่านั้นเลเซอร์หลุมสิว Fractora เหมาะสำหรับหลุมสิวทุกรูปแบบ

    2. เลเซอร์หลุมสิว Ematrix

    เลเซอร์ Ematrix เป็นคลื่นวิทยุในกลุ่มเครื่อง Fractional Laser จะให้พลังงานที่ลงลึกและเป็นวงกว้าง โดยการทำงานของเลเซอร์ Ematrix รักษาหลุมสิวนั้นจะปล่อยพลังงานความร้อนจากคลื่นวิทยุความถี่สูง เข้าไปกระตุ้นทำให้เกิดการสร้างคอลลาเจนบนผิวหน้า ทำให้ผิวหน้ากระชับ เรียบเนียน รอยดำรอยแดงดูจางลง ลดการทำงานของต่อมไขมัน รักษาหลุมสิวได้อย่างเห็นผล จุดเด่นของ Ematrix เลเซอร์คือทำให้เกิดแผลเล็กกว่าใช้เลเซอร์ตัวอื่นๆ เหมาะสำหรับหลุมสิวทุกรูปแบบ

    3. เลเซอร์หลุมสิว Fraxel

    เลเซอร์หลุมสิว Fraxel เป็นการใช้คลื่นแสงอนุภาคขนาดเล็กนับล้านจุดยิงลงสู่ผิวในระดับลึกเพื่อไปกระตุ้นเซลล์ผิวชั้นในให้ทำลายเซลล์ผิวที่อ่อนแอ และสร้างเซลล์ผิวขึ้นมาทดแทน นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว เหมาะสำหรับหลุมสิวมีความลึก ช่วยทำให้หลุมสิวมีความตื้นขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวเรียบเนียน ลดริ้วรอย โดยไม่ไปทำลายเซลล์ผิวข้างเคียง

    4. เลเซอร์หลุมสิว Fine Scan

    เลเซอร์หลุมสิว Fine Scan เป็นการทําเลเซอร์หลุมสิวโดยเครื่องเลเซอร์ในกลุ่ม Fractional Laser ซึ่งการรักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์ Fine Scan จะเป็นการปล่อยพลังงานแสงเลเซอร์เป็นจุดเล็กๆ ลงไปที่ผิวหนัง จุดเด่นของเลเซอร์ชนิดนี้คือหลังทำเลเซอร์จะไม่เกิดแผล ไม่ตกสะเก็ด หรือหากมีก็จะมีน้อย เหมาะสำหรับหลุมสิวทั้งแบบตื้น แบบลึก รวมไปถึงผู้ที่ปัญหาผิวรูขุมขนกว้าง ผิวแตกลายก็สามารถใช้เลเซอร์ชนิดนี้ได้เหมือนกัน

    5. เลเซอร์หลุมสิว Pico Laser

    Pico Laser เป็นเลเซอร์ที่กำลังมาแรงในตอนนี้ เพราะใครๆ ที่ถ้ามีหลุมสิวก็จะมีคนบอกว่าลองไปทำ Pico หลุมสิวดู ซึ่ง Pico Laser เป็นเลเซอร์ที่สามารถรักษาหลุมสิวได้เช่นเดียวกัน โดยจะปล่อยพลังงานเข้าสู่ผิวหนังอย่างรวดเร็วให้เม็ดสีเกิดการแตกตัว กระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวหนัง จึงครอบคลุมมาถึงการทำรักษาหลุมสิวด้วย

    เลเซอร์หลุมสิว Pico Laser เหมาะสำหรับหลุมสิวทุกรูปแบบ จึงทำให้เห็นผลลัพธ์ชัดเจน และเห็นเร็ว แต่ระหว่างการทำอาจจะรู้สึกเจ็บ และผิวจะมีความแดง ช้ำ ตกสะเก็ดหลังทำ ซึ่งสามารถหายได้เองไม่ต้องกังวลในส่วนนี้

    ข้อดีและข้อเสียของการทำเลเซอร์หลุมสิว

    ชวนดูข้อดี-ข้อเสียของการทำเลเซอร์หลุมสิวว่ามีอะไรบ้าง ดังนี้

    ข้อดีของการทำเลเซอร์หลุมสิว

    • บริเวณที่มีการทำเลเซอร์หลุมสิวมีความเรียบเนียนขึ้น หลุมสิวดูตื้น เกิดการกระตุ้นคอลลาเจน
    • ช่วยลดรอยดำจากสิวให้จางลง
    • ช่วยลดรอยแผลเป็นจากสิว
    • เพิ่มความมั่นใจให้กลับมาอีกครั้ง

    ข้อเสียของการทำเลเซอร์หลุมสิว

    • ราคาค่อนข้างสูง
    • ต้องเลเซอร์หลุมสิวหลายครั้งเพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่เปลี่ยนแปลง
    • ผิวไวต่อแดดง่ายมากขึ้น
    • หลังจากหยุดทำ บริเวณใบหน้าอาจมีโอกาสกลับมาคล้ำได้เหมือนเดิม

    เลเซอร์หลุมสิวที่ไหนดี

    ราคาเลเซอร์หลุมสิว

    ใครที่กำลังมองหาที่เลเซอร์รักษาหลุมสิว ยังคิดไม่ออกว่าจะเลเซอร์หลุมสิว ที่ไหนดี? เรานำทริคและหลักในการเลือกสถานที่เลเซอร์หลุมสิวมาฝาก

    การเลือกคลินิกเลเซอร์หลุมสิวควรคำนึงถึงความปลอดภัยและผลลัพธ์หลังการเข้ารับบริการเป็นอันดับแรก ดังนั้นควรเลือกเลเซอร์หลุมสิวกับแพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น แพทย์จริงต้องสามารถตรวจสอบหมอที่ทำหัตถการให้เราได้ว่าเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจริงผ่านเว็บไซต์ของแพทยสภา คลินิกต้องสะอาด มีมาตรฐาน ปลอดภัย ได้รับใบอนุญาตในการเปิดคลินิก  และมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย อุปกรณ์ครบครันมีการอัปเดตตลอด 

    นอกจากนั้นยังมีเรื่องอื่นๆ ที่ต้องคำนึงถึงเช่น การเดินทาง เดินทางสะดวกหรือไม่ หากคลินิกเดินทางสะดวกเมื่อไปเข้ารับการรักษา บริการจะเป็นผลดีในการติดตามผลการรักษาของคนไข้ ยิ่งไปกว่านั้นหากมีรีวิวที่่น่าเชื่อถือ รีวิวโดยผู้เข้ารับบริการจริงๆ เพื่อเป็นการยืนยันว่าคลินิกที่เราจะไปเลเซอร์หลุมสิวมีฝีมือ ประสบการณ์จริงๆ

    ข้อสรุปเกี่ยวกับเลเซอร์หลุมสิว

    หลุมสิวเป็นปัญหาที่สร้างความไม่มั่นใจให้กับคนที่เป็น ซึ่งการเลเซอร์หลุมสิวถือเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมที่ตอบโจทย์คนมีหลุมสิวได้อย่างตรงจุด แต่การเลเซอร์หลุมสิวควรทำ 4-6 ครั้งเพื่อผลลัพธ์ที่ดี และควรเลือกคลินิกในการเลเซอร์หลุมสิวที่มีความเชี่ยวชาญ มีใบอนุญาต ทำหัตถการโดยแพทย์เฉพาะทางที่สามารถตรวจสอบง่าย คลินิกเดินทางสะดวก เพียงเท่านี้หลุมสิวที่เคยกวนใจก็จะค่อยๆ หายไปจนหน้าเนียนเรียบถูกใจ ไม่กังวลอีกต่อไป

    286
    รูปภาพแสดงถึงของบริการต่างๆของเน็ตองค์กร

    อินเทอร์เน็ตเป็นเครือข่ายทั่วโลกของคอมพิวเตอร์และเซิร์ฟเวอร์ที่เชื่อมต่อซึ่งสื่อสารระหว่างกันโดยใช้โปรโตคอลมาตรฐาน ช่วยให้บุคคลและองค์กร รวมถึงบริษัทต่างๆ สามารถแบ่งปันข้อมูล สื่อสาร และเข้าถึงทรัพยากรและบริการที่หลากหลาย อินเทอร์เน็ตองค์กรได้เปลี่ยนวิธีการทำงานของบริษัท เรียนรู้ และสื่อสาร ทำให้เป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับธุรกิจทุกขนาด

    เน็ตองค์กรช่วยให้บริษัทต่างๆ เข้าถึงผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตทั่วโลก ช่วยทำงานร่วมกับทีมผ่านระยะไกล และเข้าถึงข้อมูลและทรัพยากรมากมายเพื่อปรับปรุงการดำเนินงานและตัดสินใจอย่างชาญฉลาด อินเทอร์เน็ตยังเปิดใช้งานอีคอมเมิร์ซ ทำให้บริษัทต่างๆ สามารถขายผลิตภัณฑ์และบริการของตนทางออนไลน์ได้ และยังให้การเข้าถึงเครื่องมือและแพลตฟอร์มที่หลากหลายซึ่งสามารถใช้เพื่อเพิ่มผลผลิตและลดความซับซ้อนของการดำเนินงานภายในบริษัท


    ใครควรใช้เน็ตองค์กร
    เน็ตองค์กรมีเป้าหมายเพื่อให้บริการธุรกิจและองค์กรเป็นหลัก ซึ่งรวมถึงธุรกิจขนาดเล็ก บริษัทขนาดใหญ่ หน่วยงานราชการ และองค์กรไม่แสวงหากำไร หน่วยงานเหล่านี้ใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อวัตถุประสงค์ที่หลากหลาย เช่น การสื่อสาร การวิจัย อีคอมเมิร์ซ และการจัดการข้อมูล

    อินเทอร์เน็ตองค์กรมักมีคุณสมบัติต่างๆ เช่น การรักษาความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น แบนด์วิธเฉพาะ และการกำหนดค่าแบบกำหนดเองเพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะขององค์กรต่างๆ บริการเหล่านี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ธุรกิจมีความรวดเร็ว เชื่อถือได้ และความปลอดภัยที่จำเป็นต่อการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพที่ออกแบบมาเพื่อการเข้าใช้ที่พร้อมกันมากๆของบุคคลภายในองกร์ต่างๆ

    การทำงานร่วมกันกับเน็ตองค์กร


    เน็ตองค์กร ทำงานอย่างไร
    อินเทอร์เน็ตองค์กรทำงานโดยให้บริการสำหรับธุรกิจและองค์กรเข้าถึงอินเทอร์เน็ตโดยเฉพาะ โดยมักผ่านสายเช่าหรือการเชื่อมต่อเฉพาะอื่นๆ ซึ่งหมายความว่าองค์กรมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตโดยตรงและเฉพาะเจาะจงแต่ละสถานที่ เพื่อแทนที่จะแชร์การเชื่อมต่อร่วมกับผู้ใช้งานทั่วไป สิ่งนี้สามารถให้เกิดประโยชน์หลายประการจึงทำให้เน็ตองค์กรแตกต่างจากการใช้งานทั่วไป เช่น มีเพิ่มความเร็วที่เพิ่มขึ้น ความน่าเชื่อถือ และความปลอดภัยของข้อมูล

    โดยทั่วไปอินเทอร์เน็ตองค์กรจะมีคุณสมบัติต่างๆ เช่น

    1.แบนด์วิธที่เพิ่มขึ้นธุรกิจต่างๆ มักจะต้องการแบนด์วิธมากกว่าที่มีในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตทั่วไป ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตขององค์กรมักจะเสนอการเชื่อมต่อความเร็วสูงที่สามารถรองรับข้อมูลจำนวนได้มากกว่า

    2.การรักษาความปลอดภัยขอข้อมูลที่เพิ่มขึ้น เน็ตองค์กรมักจะมีมาตรการรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติม เช่น ไฟร์วอลล์, VPN และการตรวจจับการบุกรุกเพื่อป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์

    3.การกำหนดค่าแบบกำหนดเอง ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตขององค์กรสามารถทำงานร่วมกับธุรกิจต่างๆ เพื่อสร้างการกำหนดค่าแบบกำหนดเองที่ตรงกับความต้องการเฉพาะขององค์กรนั้น   ๆได้

    4.การสนับสนุนด้านเทคนิค โดยทั่วไปแล้วผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตขององค์กรจะให้การสนับสนุนด้านเทคนิคเพื่อช่วยธุรกิจในการแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว


    เน็ตองค์กรและเน็ตบ้าน ต่างกันไหม
    เน็ตองค์กรและอินเทอร์เน็ตทั่วไปเป็นทั้งสองวิธีในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้เหมือนกัน แต่จะมีความแตกต่างที่สำคัญบางประการที่ทำให้เน็ตองค์กรมีความปลอดภัย มีความเร็วที่มากกว่าและอื่นๆ สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ด้านล่างนี้

    1.ความเร็วในการใช้งานอินเทอร์เน็ต
    โดยทั่วไปเน็ตองค์กรเป็นการเชื่อมต่อเฉพาะ หมายความว่าองค์กรมีการเชื่อมต่อโดยตรงและเฉพาะกับอินเทอร์เน็ต แตกต่างจากเน็ตบ้านที่ที่จะแบ่งปันข้อมูลการเชื่อมต่อกับผู้ใช้รายอื่นๆ สิ่งนี้สามารถให้ประโยชน์หลายประการ รวมไปถึงแบนด์วิดท์(Bandwidth)ของอินเทอร์เน็ตองค์กรจะมีแบนด์วิดท์สูงกว่าอินเทอร์เน็ตทั่วไป ทำให้ธุรกิจสามารถถ่ายโอนข้อมูลได้มากขึ้นด้วยความเร็วที่เร็วขึ้น

    2.การรับส่งข้อมูลทั้งในและต่างประเทศได้ดี
    ชื่อมต่อตรงทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทำให้ใช้งานอินเทอร์เน็ตได้เต็มประสิทธิภาพผ่าน NT IIG, Thailand IX และ IX ชั้นนำ เหมาะสำหรับกลุ่มภาครัฐที่ต้องติดต่อประสานงานกับต่างประเทศ เช่น สถานทูต หน่วยตรวจคนเข้าเมือง ท่าเรือ ศุลกากร เป็นต้น และมีโครงข่ายครอบคลุมทั่วประเทศเข้าถึงทุกพื้นที่

    3.บริการหลังการขาย
    เน็ตองค์กรมีการสนับสนุนด้านเทคนิคโดยทั่วไปแล้วผู้ให้บริการเน็ตองค์กรจะให้การสนับสนุนด้านเทคนิคต่างๆหลังการขายที่รวดเร็วตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อช่วยให้ธุรกิจในการแก้ไขปัญหาใดๆ ที่อาจเกิดขึ้น

    4.การปรับแต่งความเร็วที่ต้องการ
    ผู้ให้บริการเน็ตองค์กรสามารถทำงานร่วมกับธุรกิจต่างๆ เพื่อสร้างการกำหนดค่าแบบกำหนดเองที่ตรงกับความต้องการเฉพาะขององค์กรได้ รวมไปถึงระบบที่สามารถวิเคราะห์การใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพด้วยระบบ MRTG (Multi Router Traffic Grapher) Monitoring ดูรายงานกราฟสรุปการใช้งานได้แบบรายวัน รายเดือน และรายปี ในขณะที่อินเทอร์เน็ตทั่วไปไม่สามารถทำได้

    5.บริการส่วนเสริมเพิ่มเติม
    ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตองค์กรมักมีบริการเพิ่มเติม เช่น การออกแบบและการจัดการเครือข่าย บริการคลาวด์ และการกู้คืนข้อมูลที่เกิดการเสียหาย เพื่อช่วยให้ธุรกิจเชื่อมต่อและปกป้องข้อมูลสำคัญของตนได้

    สรุปหัวข้อนี้คือ เน็ตองค์กรได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของธุรกิจและองค์กรโดยเฉพาะ ในขณะที่อินเทอร์เน็ตทั่วไปได้รับการออกแบบมาสำหรับการใช้งานแบบส่วนตัวและในที่พักอาศัย อินเทอร์เน็ตองค์กรให้ความเร็ว ความปลอดภัย ความน่าเชื่อถือ และการสนับสนุนทางเทคนิคเฉพาะได้มากกว่าอินเทอร์เน็ตทั่วไป

    รูปภาพการทำงานร่วมกับเน็ตองค์กร


    เน็ตองค์กรดีอย่างไร
    ปัญหาหลักๆของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตทั่วไปและหลายบริษัทเจอคือ ปัญหาอินเทอร์เน็ตช้า อินเทอร์เน็ตไม่เสถียรโดยเฉพาะในช่วงเวลาที่มีพนักงานใช้งานพร้อมกันเป็นจำนวนมาก หรือสัญญาณ Wi-Fi ไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ใช้งาน รวมถึงข้อมูลมีการรั่วไหลของข้อมูล

    โดยวิธีเหล่านี้องค์กรสามารถแก้ไขปัญหาได้โดยฟีเจอร์ต่างๆที่เน็ตองค์กรให้บริการ รวมไปถึงมีบริการเสริมสำหรับธุรกิจ ที่เลือกใช้ได้อย่างอิสระอย่างเช่น Business Voice, Cloud Service และ SMS Bulk ที่ผู้ใช้บริการกับเน็ตองค์กรสามารถเลือกใช้ได้ บริการหลังการขาย โดยทั่วไปเน็ตองค์กรจะมีระบบ Monitoring และ After Sale Support มีเป็นบริการซ่อมแซมหากมีข้อผิดพลาดในการใช้งาน 24 ชั่วโมง

    1. ใช้ช่องทางเฉพาะในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
    Prioritise Internet Bandwidth มีช่องทางเฉพาะในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแยกจากอินเทอร์เน็ตที่ใช้ตามบ้านทั่วไป โดยจัดระดับความสำคัญเอาไว้ที่ระดับที่สูงในโครงข่าย รวมถึงมีสัดส่วนการแชร์ที่ดีกว่า

    2. Wi-Fi เสถียรกว่า
    เน็ตองค์กรมีอุปกรณ์เราเตอร์ที่สามารถกระจายสัญญาณคุณภาพสูงที่ผ่านการทดสอบตามมาตรฐาน และมีคุณสมบัติที่เหมาะสมกับการใช้งานของแต่ละองค์กรธุรกิจ เพื่อรองรับการใช้งานจำนวนมากและมีความเสถียรในการใช้งาน

    3. Static IP Address
    อินเทอร์เน็ตองค์กรมีการให้ Static IP Address กับลูกค้า เพื่อนำไปกรอกที่นำไปใส่ให้กับ File Server หรือ Mail Server และมีความปลอดภัยในการจัดการกับ Cyberattacks สามารถตรวจสอบได้ว่าใครเป็นเจ้าของ

    4. ความปลอดภัยมากกว่า
    มีระบบความปลอดภัยหลายชั้น โดยมีการวางระบบคัดกรอง  และป้องกัน การคุกคามทางไซเบอร์จากช่องทางต่าง ๆ ซึ่งจะมีการปรับให้ทันสมัยอยู่ตลอดเวลา เพิ่มความปลอดภัยในการใช้ระบบสื่อสารโทรคมนาคมขององค์กรธุรกิจมากยิ่งขึ้น

    5. Upload Speed มากกว่า
    เน็ตองค์กรจะให้ค่า Download และ Upload speed เช่น 1000/1000 Mbps เท่ากันที่เหมาะสำหรับองค์กรต่างๆที่ต้องการ Backup ไฟล์ต่างๆที่สำคัญ แตกต่างจากเน็ตทั่วไปที่จะมีความเร็วในการ Download และ Upload แยกกัน


    บริการอื่นๆที่ควรมีพร้อมกับเน็ตองค์กร

    บริการหลังการขายของเน็ตองต์กร

    ผู้ให้บริการเน็ตองค์กรมักเสนอบริการเพิ่มเติมนอกเหนือจากการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบทั่วไปเพื่อช่วยให้ธุรกิจเชื่อมต่อและปกป้องข้อมูลสำคัญของแต่ละองค์กรได้ บริการเหล่านี้รวมถึงการออกแบบและการจัดการเครือข่าย บริการคลาวด์ และโซลูชันการกู้คืนระบบ

    บริการออกแบบและจัดการเครือข่ายสามารถช่วยธุรกิจวางแผนและปรับใช้โครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายที่และปลอดภัยซึ่งตรงตามความต้องการเฉพาะของผู้ประกอบการ ซึ่งอาจรวมถึงการออกแบบเครือข่าย การเลือกและกำหนดค่าฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ตลอดจนการตรวจสอบและบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่อง

    Business Voice
    Business Voice หรือที่เรียกว่า Voice over Internet Protocol (VoIP) เป็นบริการที่นำเสนอโดยผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตขององค์กรบางราย ซึ่งช่วยให้ธุรกิจสามารถโทรออกและรับสายโดยใช้การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแทนการใช้สายโทรศัพท์แบบเดิม ด้วย Business Voice ธุรกิจสามารถมีสายโทรศัพท์และส่วนขยายหลายสาย การกำหนดเส้นทางการโทรและการโอนสาย ข้อความเสียง และคุณลักษณะขั้นสูงอื่นๆ ที่โดยทั่วไปจะเกี่ยวข้องกับระบบโทรศัพท์แบบดั้งเดิม

    Business Voice เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพและคุ้มค่าในการจัดการการสื่อสารทางธุรกิจ เนื่องจากสามารถลดหรือขจัดความจำเป็นในการใช้สายโทรศัพท์แบบเดิม และค่าโทรมักจะถูกกว่าบริการโทรศัพท์แบบดั้งเดิม นอกจากนี้ยังช่วยให้ธุรกิจสามารถตั้งค่าหมายเลขโทรศัพท์เสมือน ซึ่งจะทำให้ธุรกิจดูเป็นมืออาชีพและเป็นคนท้องถิ่นมากขึ้นสำหรับลูกค้า

    Cloud Service
    บริการคลาวด์เป็นส่วนหนึ่งของเน็ตองค์กรทำหน้าที่ในการส่งมอบทรัพยากรข้อมูลต่างๆ เช่น ประมวลผล เก็บข้อมูล ซอฟต์แวร์ และบริการอื่นๆ ทางอินเทอร์เน็ต บริการเหล่านี้ให้บริการโดยผู้ให้บริการระบบคลาวด์ โดยทั่วไปจะเข้าถึงได้ทางอินเทอร์เน็ตโดยใช้เว็บเบราว์เซอร์หรือซอฟต์แวร์ต่างๆ

    บริการ Cloud เป็นการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตด้วยโครงข่ายไฟเบอร์ออฟติกครอบคลุมทั่วประเทศด้วยช่องสัญญาณ Bandwidth ขนาดใหญ่ตอบสนองทุก Application และการใช้งานจากทั่วโลกทั้งในระดับ Infrastructure, Platform และ Software รองรับกับการประมวลผลที่รวดเร็วและทันต่อเหตุการณ์ในการแข่งขัน

    SMS Bulk
    บริการส่ง SMS ข้อมูลข่าวสารจำนวนมากตรงถึงลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ สะดวกสบายผ่านการใช้งานบนระบบ Web Portal


    สรุปเรื่องเน็ตองค์กร
    เน็ตองค์กรเป็นทางเลือกอินเทอร์เน็ตเฉพาะที่ออกแบบมาสำหรับธุรกิจและองค์กรต่างๆ ให้แบนด์วิธที่สูงขึ้น ความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น และการกำหนดค่าแบบกำหนดเองเพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะขององค์กร ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตขององค์กรยังนำเสนอบริการเพิ่มเติม เช่น การออกแบบและจัดการเครือข่าย บริการคลาวด์ และการกู้คืนความเสียหาย

    เพื่อให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปอย่างราบรื่นและต่อเนื่อง ธุรกิจที่ต้องการการเข้าถึงระยะไกล อีคอมเมิร์ซ เซิร์ฟเวอร์อีเมล การโฮสต์เว็บไซต์ และการรักษาความปลอดภัยที่ได้รับการปรับปรุงจะได้รับประโยชน์อย่างมากจากการใช้เน็ตองค์กร


    287
    เพิ่มความคล่องทางการเงินด้วยสินเชื่อส่วนบุคคล

    คนที่กำลังประสบปัญหาทางการเงินหรือหมุนเงินไม่ทัน การทำสินเชื่อส่วนบุคคลสามารถช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ เพียงแต่ว่าต้องศึกษาข้อมูลของการทำสินเชื่อส่วนบุคคลให้ละเอียดก่อนตัดสินใจทำ ซึ่งผู้ให้บริการทำสินเชื่อส่วนบุคคลแต่ละที่จะมีสิทธิประโยชน์ที่แตกต่างกันออกไป เพราะฉะนั้นในบทความนี้จึงได้รวบรวมความหมาย ประโยชน์ คุณสมบัติของผู้ที่ต้องการทำสินเชื่อส่วนบุคคล รวมไปถึงธนาคารที่ให้บริการทำสินเชื่อส่วนบุคคลด้วย มาดูกันเลย

    สินเชื่อส่วนบุคคล คือ

    สินเชื่อส่วนบุคคล คือ การกู้ยืมเงินด้วยตนเองที่ไม่ต้องมีหลักค้ำประกัน ไม่ว่าจะเป็นเอกสาร บุคคลหรือทรัพย์สินก็ไม่ต้องใช้ในการขอสินเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งธนาคารจะเป็นผู้อนุมัติวงเงินให้ผู้ขอสินเชื่อนำไปใช้จ่ายส่วนตัว ทั้งนี้สามารถจ่ายเงินคืนแบบเป็นก้อนหรือจะแบ่งชำระจ่ายเป็นงวด ๆ กับทางธนาคารที่เป็นผู้ให้สินเชื่อก็ทำได้เช่นกัน

    สินเชื่อส่วนบุคคล ช่วยอะไรได้บ้าง

    ประโยชน์ของสินเชื่อส่วนบุคคล

    หลาย ๆ คนที่ยังไม่ทราบว่าสินเชื่อส่วนบุคคลสามารถช่วยประโยชน์อะไรคุณได้บ้าง? ขอตอบเลยว่า มีไว้ ก็ไม่เสียหายอะไร ยิ่งในปัจจุบันมีความเสี่ยงมากมายเกิดขึ้นจำนวนมาก เช่น ภัยธรรมชาติ อุบัติเหตุ โรคระบาดรวมไปถึงความเสี่ยงในการใช้ชีวิตที่มีค่าครองชีพที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ สินค้าและบริการก็ราคาสูงเช่นกัน ซึ่งความเสี่ยงเหล่านี้อาจจะเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้หมุนเงินไม่ทันได้ ดังนั้นแล้วการมีสินเชื่อส่วนบุคคลในช่วงโควิดหรือช่วงเวลาใดก็ตามก็อาจจะเป็นแหล่งเงินก้อนที่สามารถช่วยเหลือคุณได้ในอนาคต

    1. ช่วยค่ารักษาพยาบาล

    เรื่องปกติสำหรับมนุษย์เราที่ทุกคนต้องเจอ คือ ความเจ็บป่วย บางคนอาจจะมีการจัดการเรื่องค่ารักษาพยาบาลไว้แล้วด้วยการทำประกัน ซึ่งการทำประกันบางอย่างอาจจะไม่ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด แปลว่าอาจจะต้องจ่ายเงินเพิ่มเติมในส่วนนั้น โดยการทำสินเชื่อส่วนบุคคลจะสามารถช่วยเหลือคุณในเรื่องค่ารักษาพยาบาลได้

    2. ช่วยค่าเทอม

    นอกจากเรื่องค่าใช้จ่ายของตนเองที่ต้องรับผิดชอบแล้ว ใครที่มีลูก หลาน หรือแม้กระทั่งสัตว์เลี้ยงอาจมีค่าใช้จ่ายในเรื่องของค่าเทอม ซึ่งต้องบอกว่าค่าเทอมในสมัยนี้ค่อนข้างจะมีราคาสูง ยิ่งถ้าเรียนในโรงเรียนอินเตอร์หรือนานาชาติแล้ว ค่าเทอมก็จะสูงมาก สำหรับใครที่ต้องจ่ายค่าเทอมและมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ต้องรับผิดชอบไปพร้อมกันจนทำให้หมุนเงินไม่ทัน สามารถขอสินเชื่อส่วนบุคคลเพื่อนำมาจ่ายก่อนได้

    3. นำเงินมาใช้ลงทุน

    ใครที่กำลังจะทำธุรกิจ ต้องการเงินลงทุนเป็นก้อน การขอสินเชื่อส่วนบุคคลเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์มาก เพราะสามารถผ่อนชำระได้ คุณจะสามารถนำเงินที่ได้ไปใช้จ่ายเพื่อให้ธุรกิจดำเนินได้อย่างราบรื่น รวมไปถึงยังเป็นแหล่งเงินสำรองที่สามารถนำมาใช้เมื่อไหร่ก็ได้อีกด้วย

    4. นำเงินมาใช้หนี้นอกระบบ

    มีความเชื่อหนึ่งที่ว่า “การไม่มีหนี้ คือ สิ่งที่ดีที่สุด” แต่ในความเป็นจริงน้อยคนนักที่จะสามารถทำได้ เพราะทุกคนล้วนมีสิ่งที่อยากได้อันส่งผลให้เกิดการก่อหนี้ ยิ่งไปกว่านั้นหลายคนเป็นหนี้นอกระบบที่เป็นความเสียเปรียบหลายอย่างทั้งเรื่องดอกเบี้ย ร่างกายและจิตใจ ดังนั้นการขอสินเชื่อส่วนบุคคลมาปิดหนี้นอกระบบให้เร็วที่สุดเป็นสิ่งที่ควรทำเป็นอันดับแรก ๆ

    จะขอสินเชื่อส่วนบุคคล ต้องมีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง

    มาดูกันว่าหากคุณต้องการขอสินเชื่อส่วนบุคคล ต้องมีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง ? สามารถเช็กเงื่อนไขตามหัวข้อ ดังต่อไปนี้ได้เลย

    • ต้องมีอายุ 20 หรือ 22 ปี ขึ้นไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับธนาคารที่ทำการขอสินเชื่อด้วย สำหรับสาเหตุที่ธนาคารจะให้สินเชื่อส่วนบุคคลกับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 20 ปีเป็นต้นไป เนื่องจากเป็นอายุที่พ้นจากสภาพผู้เยาว์และบรรลุนิติภาวะได้ตามกฎหมาย
    • มีอาชีพและรายได้ที่แน่นอน สำหรับผู้ที่ทำงานประจำ มีเงินเดือนหรือมีรายได้เข้าอย่างสม่ำเสมอ โดยส่วนใหญ่แล้วธนาคารจะให้สินเชื่อส่วนบุคคล เพราะสามารถทราบแหล่งที่มาของรายได้ที่แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ พนักงานบริษัท ลูกจ้างที่มีเงินเดือนประจำ เป็นต้น ในส่วนของผู้ที่ทำอาชีพอิสระทางธนาคารก็จะปล่อยสินเชื่อให้เช่นกัน เพียงแต่จะขอเอกสารและข้อมูลเพิ่มเติมมากกว่าผู้ที่มีรายได้ประจำนิดหน่อย
    • ภาระหนี้สินต้องไม่เกิน 30% ของรายได้ในแต่ละเดือน เนื่องจากหากมีหนี้สินที่จะต้องจ่ายจำนวนมากอาจจะส่งผลกระทบต่อการผ่อนชำระสินเชื่อส่วนบุคคลได้
    • มีเครดิตทางการเงินที่ดี หมายความว่า “ต้องไม่ติดเครดิตบูโร” เนื่องจากเครดิตบูโรเป็นสิ่งที่แสดงถึงประวัติการชำระเงินหนี้สินของตัวผู้ขอสินเชื่อในเรื่องการชำระให้ตรงเวลา หรือการไม่ค้างชำระจ่าย ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะบ่งบอกถึงศักยภาพทางการเงินที่ทางธนาคารจะนำมาพิจารณาเป็นพิเศษ
    • อายุการทำงานหรืออายุของกิจการที่ทำ เป็นสิ่งที่แสดงถึงความมั่นคงทางรายได้ว่า คุณจะได้รับเงินอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ ซึ่งส่งผลให้สามารถชำระเงินในแต่ละงวดได้

    สำหรับใครที่ขอสินเชื่อส่วนบุคคลที่มีอาชีพอิสระหรือเป็นผู้ที่ขอสินเชื่อส่วนบุคคลแบบไม่มีสลิปเงินเดือน ก็สามารถขอสินเชื่อได้เช่นกัน เพียงแค่มีคุณสมบัติเบื้องต้นตามที่กล่าวไป แต่ทางธนาคารอาจจะขอเอกสารหรือรายละเอียดเพิ่มเติมเพื่อนำมาพิจารณาในการให้สินเชื่อ

    สินเชื่อส่วนบุคคลธนาคารไหนดี

    หลายคนคงมีคำถามว่า แล้วสินเชื่อส่วนบุคคล ธนาคารไหนดีสุด? ต้องขอบตอบว่า สินเชื่อของแต่ละธนาคารอัตราดอกเบี้ยและรายละเอียดที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งเป็นหน้าที่ของตัวเราต้องทำการเปรียบเทียบและหาสินเชื่อที่เหมาะกับตัวเรามากที่สุด ซึ่งได้รวบรวมมาไว้ให้แล้ว มาดูกัน

    1. สินเชื่อส่วนบุคคล ธนาคารกรุงไทย

    สินเชื่อส่วนบุคคล ธนาคารกรุงไทย

    ใครที่มองหาสินเชื่อส่วนบุคคล กรุงไทย ต้องบอกเลยว่าทางธนาคารมี 4 สินเชื่อที่เป็นสินเชื่อยอดนิยมที่หลาย ๆ คนเลือกใช้บริการ มีดังนี้

    • สินเชื่อกรุงไทยใจป้ำ ที่สามารถผ่อนชำระเพียงหมื่นละ 10 บาทต่อวันเท่านั้น
    • สินเชื่อกรุงไทยเปย์เดะ ที่มีดอกเบี้ยต่ำ โดยมีอัตราดอกเบี้ยที่หมื่นละ 8 บาทต่อวัน
    • สินเชื่อกรุงไทย Smart Money  เป็นสินเชื่อที่ถึงแม้ไม่มีบัญชีเงินเดือนของธนาคารกรุงไทยก็ทำได้ แต่ต้องมีรายได้ 30,000 บาทขึ้นไป
    • สินเชื่อเอนกประสงค์ 5 Plus เป็นสินเชื่อที่มีวงเงินสูงถึง 5 เท่าของรายได้และสูงสุดถึง 1 ล้านบาท

    2. สินเชื่อส่วนบุคคล ธนาคารไทยพาณิชย์

    สินเชื่อส่วนบุคคล ธนาคารไทยพาณิชย์

    สำหรับธนาคารสีม่วงอย่างไทยพาณิชย์ก็มีสินเชื่อส่วนบุคคล  Speedy Loan ที่สามารถขอวงเงินสูงสุดไม่เกิน 5 เท่าของรายได้เฉลี่ยต่อเดือน และจำนวนเงินต้องไม่เกิน 2,000,000 บาท สามารถผ่อนชำระรายเดือนขั้นต่ำ 12 เดือน และแบ่งผ่อนชำระได้นานสุดไม่เกิน 72 เดือนเลยทีเดียว

    3. สินเชื่อส่วนบุคคล ธนาคารกรุงศรี

    สินเชื่อส่วนบุคคล ธนาคารกรุงศรี

    สินเชื่อส่วนบุคคล กรุงศรี สามารถขอสินเชื่อวงเงินสูงสุด คือ 5 เท่าของรายได้แต่ทั้งนี้ต้องไม่เกินวงเงิน 2,000,000, บาท โดยที่ไม่ต้องมีใครค้ำประกันให้ อีกทั้งยังสามารถเลือกผ่อนกับธนาคารได้ตั้งแต่ 12-60 เดือน ตามความสะดวกของผู้ขอสินเชื่อ

    4. สินเชื่อส่วนบุคคล ธนาคารกรุงเทพ

    สินเชื่อส่วนบุคคล ธนาคารกรุงเทพ

    สินเชื่อส่วนบุคคล กรุงเทพ เป็นสินเชื่อจากธนาคารกรุงเทพหรือเราคุ้นเคยกันดีในชื่อว่า “ธนาคารบัวหลวง” โดยมีสินเชื่อที่ไม่ใช้คนค้ำประกันให้ มี 2 แบบ คือ

    • สินเชื่อบัวหลวงสุขใจ เป็นสินเชื่อที่ให้วงเงินกับผู้ขอสูงสุดถึง 5 เท่าของรายได้ โดยผู้ขอสินเชื่อสามารถแบ่งผ่อนชำระเงินเป็นงวด ๆ กับทางธนาคารนานสูงสุด 60 เดือน
    • สินเชื่อบัวหลวงอุ่นใจ เป็นสินเชื่อส่วนบุคคลที่มีวงเงินให้สูงถึง 3 เท่าของรายได้ โดยผู้ขอสินเชื่อสามารถกดมาใช้ได้ทันทีผ่านบัตรบีเฟิสต์ สมาร์ทของธนาคารกรุงเทพ

    5. สินเชื่อส่วนบุคคล ธนาคารกสิกร

    สินเชื่อส่วนบุคคล ธนาคารกสิกร

    สินเชื่อส่วนบุคคล กสิกร เป็นอีกหนึ่งธนาคารที่มีสินเชื่อให้เลือก 4 แบบด้วยกัน ซึ่งผู้ขอสินเชื่อสามารถเลือกขอได้ให้เหมาะกับตนเองได้ มีดังนี้

    • สินเชื่อเงินด่วน Xpress Loan เป็นสินเชื่อที่อนุมัติไวใช้เวลาเพียง 15 นาทีเท่านั้น ดอกเบี้ยต่ำ 17% ต่อปี
    • บัตรเงินด่วน Xpress Cash ที่ตอบโจทย์ผู้มีรายได้ 7,500 บาทขึ้นไป สามารถนำไปผ่อนสินค้า 0% ได้นานถึง 36 เดือน
    • K PAY LATER ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง โดยทางธนาคารจะให้วงเงินกู้สูงถึง 20,000 บาท สามารถกดสมัครผ่านแอป K PLUS ได้เลย ใช้เวลาไม่นานก็จะได้รับเงินแน่นอน
    • Dolfin Money by KBank สามารถสมัครสินเชื่อ Dolfin Money โดยแอป K PLUS หรือแอป Dolfin ของ KBank ซึ่งเป็นเงินด่วนสามารถนำไปใช้ในกรณีฉุกเฉินได้

    6. สินเชื่อบุคคล ธนาคาร CIMB Thai

    สินเชื่อส่วนบุคคล ธนาคาร CIMB Thai

    สินเชื่อส่วนบุคคล CIMB เป็นสินเชื่อจากธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ซึ่งมีถึง 3 แบบให้เลือกด้วยกัน มีรายละเอียดคร่าว ๆ ดังนี้

    • สินเชื่อบุคคลเพอร์ซันนัลแคช ที่สามารถเลือกผ่อนได้นานเริ่มต้น 12-60 เดือนเลยทีเดียว อีกทั้งยังไม่ต้องใช้หลักทรัพย์หรือคนค้ำประกันอีกด้วย
    • สินเชื่อบุคคลเอ็กซ์ตร้าแคช ที่ขั้นตอนการสมัครง่าย ไม่ยุ่งยาก สามารถถอนเงินมาใช้ผ่านแอป CIMB THAI Digital Banking ได้เลย
    • สินเชื่อส่วนบุคคล แคชลิงค์ เป็นวงเงินที่ทางธนาคารให้สำหรับผู้ที่มีเงินฝากของธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย เท่านั้น เพื่อที่จะสามารถนำไปใช้ในยามฉุกเฉินได้

    7. สินเชื่อบุคคล ธนาคารออมสิน

    สินเชื่อส่วนบุคคล ธนาคารออมสิน

    สินเชื่อส่วนบุคคล ออมสิน ธนาคารสีชมพูขวัญใจหลาย ๆ คน ที่ให้วงเงินกับผู้ขอสินเชื่อ 5 เท่าของรายได้ ซึ่งทั้งนี้ต้องไม่เกิน 500,000 บาท อีกทั้งยังไม่ต้องมีการค้ำประกันใด ๆ อีกด้วย

    สินเชื่อส่วนบุคคล แบบไหนอนุมัติง่ายที่สุด

    สินเชื่อส่วนบุคคลที่อนุมัติง่าย

    จริง ๆ แล้ว หากกำลังมองสินเชื่อส่วนบุคคล อนุมัติง่ายที่สุด ต้องขอบอกว่า แต่ละธนาคารสามารถอนุมัติสินเชื่อได้แบบทันที ด้วยสมัยนี้การใช้จ่าย เบิก ถอน เงินต่าง ๆ สามารถทำได้แบบออนไลน์หมด การอนุมัติวงเงินให้สามารถทำได้โดยใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น เพียงแต่ตัวคุณเอกต้องเตรียมเอกสารให้พร้อม แค่นี้ก็จะได้รับเงินแบบรวดเร็วทันใจแล้ว

    สำหรับวิธีการเลือกสินเชื่อส่วนบุคคล อนุมัติง่ายนั้น อันดับแรกต้องหาสินเชื่อจากหลาย ๆ ที่ก่อน แล้วลองเปรียบเทียบดูว่าสินเชื่อแบบไหนเหมาะกับเรามากที่สุด รวมไปถึงการคำนวณอัตราดอกเบี้ย และการชำระจ่ายเป็นงวด ๆ ที่จะไม่หนักเกินไปสำหรับตัวเราเองด้วย และถ้าหากใครต้องการเปรียบเทียบหรือหาแหล่งข้อมูลที่รวบรวมสินเชื่อส่วนบุคคลของหลาย ๆ ที่ไว้ในที่เดียวแล้วละก็ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของ Refinn

    สรุปเกี่ยวกับสินเชื่อส่วนบุคคล

    สินเชื่อส่วนบุคคลเป็นสิ่งที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเงินก้อนเพื่อนำไปใช้จ่ายก่อน แล้วค่อยผ่อนจ่ายเป็นงวด ๆ ทีหลังกับทางธนาคาร ซึ่งธนาคารแต่ละที่จะมีอัตราดอกเบี้ยการผ่อนชำระจ่ายแต่ละเดือนที่ต่างกันออกไป ทั้งนี้การนำเงินที่ได้จากสินเชื่อส่วนบุคคลมาใช้ควรวางแผนการชำระจ่ายให้ดีก่อนทั้งด้านการนำไปใช้และการชำระจ่ายรายเดือน มิฉะนั้นแล้วอาจก่อให้เกิดหนี้สะสมจำนวนมากโดยที่เราไม่รู้ตัวได้


    288
    คนอังกฤษ เรียนต่ออังกฤษ เมืองในอังกฤษ

    การเรียนต่อต่างประเทศอาจเป็นความฝันของใครหลายคน ซึ่งปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการเรียนต่อต่างประเทศอาจสร้างโอกาสมากมายให้กับคุณในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของหน้าที่การงาน การเลื่อนตำแหน่ง หรือโอกาสในการทำงานกับบริษัทใหญ่ เป็นต้น ดังนั้นประเทศที่น่าสนใจในการศึกษาต่อคงหนี้ไม่พ้นประเทศอังกฤษอย่างแน่นอน แถมคนอังกฤษยังเป็นเจ้าของสำเนียงภาษาอังกฤษที่มีเสน่ห์มากๆ จึงทำให้นักเรียนไทยหลายคนสนใจอยากเรียนต่ออังกฤษเพิ่มขึ้นทุกปี

    หากจะพูดถึงว่าทำไมมีนักเรียนไทยตัดสินใจเรียนต่ออังกฤษเยอะ ก็คงเป็นเพราะว่าประเทศอังกฤษค่อนข้างมีความปลอดภัยสำหรับนักศึกษาต่างชาติ และคนอังกฤษเองก็เข้าใจเรื่องความหลากหลายทางเชื้อชาติในสังคมมากขึ้นกว่าแต่ก่อน นอกจากนี้มีเมืองในอังกฤษหลายเมืองที่เหมาะกับการศึกษา และค่าครองชีพไม่แพง สำหรับใครที่สนใจอยากเรียนต่ออังกฤษ แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง วันนี้พี่ๆ Gentstudy มีข้อมูลคร่าวๆ สำหรับการเรียนต่ออังกฤษทุกรูปแบบมาให้น้องๆ อ่านกัน


    การเรียนต่อที่อังกฤษ คนนิยมเรียนอะไรบ้าง
    แน่นอนว่าประเทศอังกฤษมีชื่อเสียงอย่างมากในเรื่องของการศึกษา ซึ่งมหาลัยในอังกฤษหลายแห่งก็ติดอันดับมหาลัยที่มีคุณภาพด้านการศึกษาในลำดับต้นๆ ของโลก ซึ่งใครหลายคนที่เลือกเรียนต่ออังกฤษก็อาจจะมีจุดมุ่งหมายในการเรียนต่อที่ต่างกัน วันนี้เรามาดูกันว่านักเรียนไทยนิยมไปเรียนอะไรกันบ้างที่ประเทศอังกฤษ


    1.เรียนภาษาที่อังกฤษ
    เนื่องด้วยประเทศอังกฤษถือว่าเป็นต้นกำเนิดของภาษาอังกฤษ และมีสำเนียงภาษาอังกฤษที่เป็นเอกลักษณ์ จึงทำให้ในแต่ละปีมีนักเรียนไทยหลายคนตัดสินใจไปเรียนภาษาอังกฤษกับประเทศเจ้าของสำเนียงภาษาอังกฤษโดยเฉพาะ โดยการเรียนภาษาอังกฤษที่ประเทศอังกฤษนั้น ก็จะมีตั้งแต่คอร์สระยะสั้นแบบ 2 เดือน ไปจนถึงระยะยาวแบบ 6 เดือน

    ซึ่งการเรียนภาษาที่ประเทศอังกฤษอาจทำให้ทักษะในเรื่องการฟัง และการพูดของน้องๆ พัฒนาได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น สถาบันสอนภาษาคุณภาพที่ประเทศอังกฤษ ได้แก่ CES Wimbledon และ Stafford House เป็นต้น


    2.เรียนมัธยมที่ประเทศอังกฤษ

    คนอังกฤษ เรียนต่ออังกฤษ เมืองในอังกฤษที่น่าเรียนต่อ

    สำหรับพ่อแม่คนไหนที่วางแผนอยากให้ลูกเรียนต่อปริญญาตรีกับมหาลัยในอังกฤษ คุณอาจจะเลือกส่งน้องๆ ไปเรียนต่ออังกฤษตั้งแต่ระดับมัธยมเลยก็ได้ เพื่อให้กับน้องได้มีเวลาปรับตัวทั้งในเรื่องของภาษา ระบบการศึกษา และชีวิตความเป็นอยู่ ซึ่งหากน้องๆ จบมัธยมที่ประเทศอังกฤษ โอกาสในการเรียนต่อปริญญาตรีที่อังกฤษก็จะง่ายมากขึ้น

    สำหรับนักเรียนต่างชาติ หรือนักเรียนไทย การเรียนต่อมัธยมในอังกฤษจะสามารถเข้าเรียนได้เฉพาะโรงเรียนประจำ หรือโรงเรียนเอกชนเท่านั้น ซึ่งโรงเรียนที่รับนักเรียนไทยเข้าศึกษาต่อระดับมัธยมได้แก่ Berkhamsted School และ Bosworth Independent College เป็นต้น ซึ่งโรงเรียนเหล่านี้จะมีการดูแลนักเรียนต่างชาติเป็นอย่างดี โดยที่ทางผู้ปกครองจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง

    แต่อย่างไรก็ตามการเรียนมัธยมที่ประเทศอังกฤษก็มีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง เพราะว่านอกจากค่าที่พัก และค่าเล่าเรียนแล้ว ผู้ปกครอง หรือทางเอเจนซี่จำเป็นจะต้องจัดหา Guardian (ผู้ที่เปรียบเสมือนผู้ปกครองนักเรียนในประเทศอังกฤษ) ตามที่โรงเรียนในอังกฤษต้องการด้วย


    3.เรียนปริญญาตรีที่ประเทศอังกฤษ
    สำหรับน้องๆ คนไหนที่สนใจอยากเรียนต่อปริญญาตรีที่ประเทศอังกฤษจะต้องรู้ว่าการเรียนต่อปริญญาตรีในประเทศอังกฤษจะต้องยื่นคะแนนแบบ A-level หรือไม่ก็แบบ UCAS ซึ่งระบบการยื่นคะแนนแบบนี้จะมีในโรงเรียนที่เป็น International School ซึ่งหากน้อง คนไหนจบมัธยมจากโรงเรียนทั่วไปจะต้องทำการเรียน Foundation ก่อน 1 ปี จึงจะสามารถเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีที่ประเทศอังกฤษได้

    แต่ไม่ต้องเป็นกังวลไปว่าจะใช้เวลาเรียนนานกว่าเพื่อนคนอื่นที่เรียนที่ไทย เพราะว่าในประเทศอังกฤษหลักสูตรปริญญาตรีจะใช้เวลาเรียนทั้งหมด 3 ปี หากรวมการเรียน Foundation ไปด้วยก็จะเป็นการเรียนทั้งหมด 4 ปีเท่าที่ประเทศไทยเลย ซึ่งมหาลัยระดับปริญญาตรีก็ได้แก่ Aston University, Bellerbys College Brighton เป็นต้น


    4.เรียนปริญญาโทที่ประเทศอังกฤษ
    การเรียนต่อปริญญาโทที่ประเทศอังกฤษเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ได้รับความนิยมจากนักเรียนไทยเช่นกัน เพราะว่าการเรียนปริญญาโทที่ประเทศอังกฤษนั้นใช้เวลาเรียนเพียงแค่ 1 ปี ซึ่งนอกจากจะประหยัดเวลา แล้วยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ด้วย จึงทำให้ใครหลายคนที่ฝันอยากเรียนต่อต่างประเทศเลือกประเทศอังกฤษเป็นจุดหมายปลายทางในการเรียนต่อ 

    หากใครเลือกเรียนต่อโทที่ประเทศอังกฤษก็จะต้องยื่นผลการสอบภาษาอังกฤษอย่าง IELTS แน่นอน ซึ่งมหาลัยส่วนใหญ่ในอังกฤษจะรับผล IELTS อยู่ที่ประมาณ 6.5 ซึ่งผล IELTS ที่สามารถเข้าศึกษาต่อได้จะขึ้นอยู่กับคณะ และมหาลัยที่น้องๆ เลือก ซึ่งมหาลัยที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยากเรียนต่ออังกฤษก็ได้แก่ Birkbeck, University of London เป็นต้น


    ค่าใช้จ่ายสำหรับการเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษ

     เรียนต่ออังกฤษ กับคนอังกฤษ

    ค่าใช้จ่ายในการเรียนต่ออังกฤษนั้นก็จะแตกต่างกันไปตามโปรแกรมที่น้องๆ เลือกเรียน ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายคร่าวๆ ในแต่ละโปรแกรมดังต่อไปนี้

    • เรียนภาษาที่อังกฤษ
    -ค่าเรียน ค่ากินอยู่ และค่าที่พัก หากเรียน 2 เดือนจะตกอยู่ที่ประมาณ 2 แสนบาท แต่หากเรียน 4 เดือนจะอยู่ที่ประมาณ 3 แสน 5 หมื่นบาท และหากเรียน 6 เดือนจะอยู่ที่ประมาณ 5 แสนบาท

    • เรียนมัธยมที่อังกฤษ

    -ค่าเรียน และค่าที่พัก จะอยู่ที่ประมาณ 9,000 – 13,000 ปอนด์ต่อเทอม ซึ่งโรงเรียนมัธยมในอังกฤษจะมีการเรียนการสองทั้งหมด 3 เทอม ทำให้ค่าใช้จ่ายต่อปีจะตกอยู่ที่ประมาณ 27,000 – 39,000 ปอนด์ต่อปี

    -ซึ่งจะรวมค่าใช้จ่ายในเรื่องของค่าเรียน ค่าที่พัก และค่าอาหารทุกมื้อ หากพักแบบ Host Family จะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 50 ปอนด์ต่อคืน

    -ค่า Guardian Fee จะอยู่ที่ประมาณ 1,500 – 2,000 ปอนด์ต่อปี

    • เรียนปริญญาตรีที่อังกฤษ

    -ค่าเรียน จะอยู่ที่ประมาณ 15,000 – 30,000 ปอนด์ต่อปี ขึ้นอยู่กับมหาลัย และหลักสูตรที่น้องๆ เลือก

    -ค่าที่พัก จะขึ้นอยู่กับประเภทที่พักหากเป็นหอพักจะตกอยู่ที่ประมาณ 100 - 200 ปอนด์ต่อสัปดาห์ แต่ถ้าหากเช่าบ้าน หรืออพาร์ทเม้นจะอยู่ที่ประมาณ 700 – 1500 ปอนด์ต่อเดือนไมรวมค่าน้ำ ค่าไฟ

    -ค่ากิน และอื่นๆ จะอยู่ที่ประมาณ 1,000 ปอนด์ขึ้นอยู่กับการใช้ชีวิตของนักเรียนแต่ละคน หากทำอาหารทางเองจะช่วยประหยัดได้มาก

    • เรียนต่อปริญญาโทที่อังกฤษ

    -ค่าเรียน จะอยู่ที่ประมาณ 15,000 – 30,000 ปอนด์ต่อหลักสูตร ขึ้นอยู่กับมหาลัย ละค่าครองชีพเมืองในอังกฤษที่น้องๆ เลือก ส่วนในเรื่องค่าที่พัก และค่ากินอยู่ก็จะเหมือนกับนักเรียนที่เรียนปริญญาตรี


    อยากเรียนต่อที่อังกฤษควรเตรียมตัวอย่างไร
    หากน้องๆ เลือกไปเรียนภาษาอังกฤษอาจจะไม่ต้องเตรียมตัวอะไรมาก แต่ถ้าจะเรียนต่อในระดับมัธยม หรือปริญญาตรี และโท สิ่งที่น้องๆ ต้องเตรียมตัวได้แก่

    • ภาษาอังกฤษ ฝึกภาษาอังกฤษของน้องๆ ให้พร้อม และทำการสอบ IELTS ไว้ หากมหาลัยที่น้องสนใจเปิดรับสมัครจะได้ยื่นผลคะแนนภาษาอังกฤษได้เลย
    • ผลการเรียน มั่นรักษาผลการเรียนให้อยู่ในเกณฑ์ที่ดีไว้ เพื่อที่จะได้มีตัวเลือกในเรื่องของมหาลัย และหลักสูตรเพิ่มขึ้น
    • ฝึกเขียน SOP เพื่อให้ SOP ของน้องดึงดูดมหาลัย และได้รับการตอบรับจากมหาลัยที่น้องๆ ต้องการ


    เอกสารที่จำเป็นในการเรียนต่อประเทศอังกฤษมีอะไรบ้าง
    เอกสารสำคัญที่ใช้ในการเรียนต่ออังกฤษได้แก่

    • ผลทดสอบภาษาอังกฤษ (IELTS)
    • ผลการเรียน หรือทรานสคริปต์
    • ใบตอบรับการเข้าศึกษาจากสถาบันสอนภาษา โรงเรียน หรือมหาลัย
    • SOP (Statement of Proposal) สำหรับนักเรียนที่จะศึกษาต่ออังกฤษในระดับปริญญา
    • Recommend Letters สำหรับนักเรียนที่จะศึกษาต่ออังกฤษในระดับปริญญา


    สรุป
    น้องๆ คนไหนที่เริ่มเข้าใจแล้วว่าตัวเองอยากเรียนต่ออังกฤษแบบไหน อย่ารอช้าให้พี่ๆ ทาง Gentstudy ช่วยแนะนำน้องๆ ได้ เพื่อช่วยให้ความฝันในการเรียนต่ออังกฤษของน้องๆ เป็นจริง พวกพี่พร้อมให้คำปรึกษา และช่วยเหลือไม่ว่าจะเป็น เรื่องของการยื่นสมัครเรียน หาที่พัก หรือทำวีซ่า โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ เพื่อให้น้องๆ ได้สบายใจว่าการไปเรียนต่ออังกฤษไม่ใช่เรื่องยาก 


    289
    ลองโควิด Long COVID เป็นแล้วดูแลอย่างไร

    หากคุณเป็นหนึ่งคนที่เคยป่วยเพราะติดเชื้อโควิด-19 คุณเคยสังเกตมั้ยว่าสภาพร่างกายหลังจากหายป่วยนั้นต่างไปจากเดิมมากน้อยแค่ไหน การฟื้นฟูร่างกายในแต่ละคนนั้นย่อมแตกต่างกันออกไป บางคนอาจจะกลับมาปกติแต่ยังรู้สึกได้ถึงภาวะของสุขภาพที่ไม่แข็งแรงดังเดิมต่อเนื่องเป็นระยะยาว อาการเหล่านี้เองคือผลกระทบจากการติดเชื้อโควิด หรือที่เรียกว่าลองโควิด ‘Long COVID’

    ซึ่งหากคุณหายจากการติดเชื้อโควิด-19 แล้วแต่ยังมีอาการผิดปกติอย่างหายโควิดแล้วเหนื่อยง่ายหรือ หายโควิดแล้วยังไอแสดงว่าเข้าข่ายอาการลองโควิด โดยในบทความนี้จะพาคุณมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับอาการ long covid คืออะไร อาการลองโควิดรักษายังไง อาการลองโควิดมีอะไรบ้าง และอาการลองโควิดกี่วันหาย รวมถึงแนวทางปฏิบัติและวิธีการรักษาตนเองอย่างถูกวิธี


    ลองโควิด (Long COVID)
    อาการลองโควิด (Long COVID) หรือโพสต์โควิด (Post-COVID 19 Condition) เป็นภาวะจิตใจและอาการทางร่างกายที่หลงเหลืออยู่หลังจากหายติดเชื้อซึ่งเกิดขึ้นกับผู้ป่วยโควิด-19 ผลกระทบที่เกิดขึ้นสามารถพบได้ทั่วร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นระบบหายใจ ระบบประสาท ระบบทางเดินอาหาร รวมไปถึงหัวใจและหลอดเลือด โดยอาการอาจจะเหมือนหรือแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล

    ภาวะลองโควิดอาการส่วนใหญ่มักเกิดหลังจากการติดเชื้อโควิด-19 ช่วง 4-12 สัปดาห์ขึ้นไป มีการอ้างอิงจากสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติอังกฤษว่ามักพบผู้ป่วยอายุระหว่าง 35-69 ปี และจากการวิจัยหลายฉบับได้ระบุไว้ว่าอาการที่พบโดยส่วนมากผู้ป่วยมักรู้สึกอ่อนเพลีย ปวดหัว ปวดตามตัว มีผมร่วงและหายใจไม่อิ่ม คุณสามารถศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับ Long COVID ได้เพิ่มเติมจากบทความ ลองโควิด คลิกได้เลย


    สาเหตุของลองโควิด
    สาเหตุของอาการลองโควิด (Long COVID) นั้นยังมีข้อสรุปที่ไม่ชัดเจน แต่มีข้อสันนิษฐานถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นได้ต่อร่างกายของผู้ป่วย ซึ่งผู้ที่หายจากการติดเชื้อโควิด-19 แล้วควรหมั่นประเมินอาการตนเองอยู่เสมอ เพื่อรับการรักษาและดูแลร่างกายได้อย่างถูกต้องเหมาะสมหากพบอาการผิดปกติ

    โดยเชื้อโควิด-19 สามารถทิ้งร่องรอยความเสียหายแก่อวัยวะส่วนต่าง ๆ ในร่างกายให้ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ อย่างการทำงานที่ผิดปกติของปอด เช่น หายใจถี่ หายใจไม่อิ่ม หรือเหนื่อยหอบง่าย ตลอดจนการทำงานที่ผิดปกติไปในด้านภูมิคุ้มกันหลังจากหายโควิด-19 รวมไปถึงการหลงเหลือชิ้นส่วนของไวรัสในร่างกาย ซึ่งอาจไปกระตุ้นภูมิให้ต่อต้านจนเกิดอาการป่วยขึ้นได้ง่าย


    กลุ่มเสี่ยงภาวะลองโควิด

     กลุ่มเสี่ยงภาวะลองโควิด

    กลุ่มบุคคลที่เสี่ยงต่อภาวะลองโควิด (Long COVID) ได้แก่

    • ผู้ป่วยที่เคยติดเชื้อโควิด-19 และมีภาวะปอดอักเสบรุนแรง เสี่ยงต่ออาการลองโควิดได้มากกว่ากลุ่มที่ติดเชื้อแล้วไม่มีอาการ
    • ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว
    • ผู้ป่วยที่มีภาวะอ้วน
    • ผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันต่ำ
    • ผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป
    • เพศหญิงมีความเสี่ยงภาวะ Long COVID มากกว่าเพศชาย


    อาการลองโควิด มีอะไรบ้าง
    จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก (WHO) อธิบายว่าภาวะลองโควิด คือ อาการหลังติดโควิดนั้นเป็นไปได้หลากหลายแบบด้วยกัน ซึ่งอาจจะคล้ายกับช่วงที่ยังติดเชื้อโควิด-19 หรืออาการอื่นที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกันเลย โดยสามารถแบ่งกลุ่มอาการออกได้เป็น 3 กลุ่มด้วยกัน ได้แก่

    1. อาการลองโควิดที่พบได้ทั่วไป
    อาการลองโควิดที่พบได้ทั่วไปจากผู้ป่วยคือมีอาการเหนื่อยล้า หายใจไม่อิ่ม ไอ มีการปวดตามกล้ามเนื้อ การรับรู้กลิ่นและรสเปลี่ยนไป รวมไปถึงอาการท้องร่วง นอกจากนี้แล้วยังอาจมีอาการที่ไม่สัมพันธ์กับเชื้อโควิด-19 ร่วมด้วย ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้จากการควบคุมของการหลั่งสารในระบบภูมิคุ้มกันที่ผิดไป อย่างเช่น อาการผมร่วง เป็นผื่นคัน ต่อมน้ำเหลืองโต ความจำสั้นและสมาธิสั้น

    อาการลองโควิดที่พบได้ทั่วไป

    2. ภาวะแทรกซ้อนจากการติดเชื้อโควิด
    ภาวะแทรกซ้อนทางร่างกายที่เกิดขึ้นได้จากการติดเชื้อโควิด ได้แก่ ภาวะลิ่มเลือดอุดตัน ระบบหัวใจและหลอดเลือด ไตวายหรือตับอักเสบแบบเฉียบพลัน  ภาวะแทรกซ้อนทางระบบประสาท ภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด ซึ่งกลุ่มอาการเหล่านี้ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด

    ภาวะแทรกซ้อนจากการติดเชื้อโควิด

    3. ผลข้างเคียงจากการรักษาโควิด
    ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้จากการรักษาโควิดมีทั้งผลข้างเคียงจากการนอนรักษาที่โรงพยาบาลเป็นระยะเวลานานอย่างอาการจิตตก ซึมเศร้า แขนขาไม่มีแรง ในบางรายอาจส่งผลกระทบถึงวิธีการคิดและการพูด นอกจากนี้ยังผลข้างเคียงจากการใช้ยารักษาโควิดที่มักเกิดขึ้นในระยะสั้นระหว่างรักษาจากยากลุ่มสเตียรอยด์ หรือหลังผู้ป่วยกลับบ้านแล้วอย่างอาการแสบกระเพาะ กรดไหลย้อน

    ผลข้างเคียงจากการรักษาโควิด


    การดูแลตัวเองป้องกันภาวะลองโควิด
    การดูแลตัวเองหลังติดเชื้อโควิดเพื่อป้องกันภาวะลองโควิด (Long COVID) มีอยู่หลายวิธีด้วยกัน เริ่มจากการเข้ารับการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันการรับเชื้อแต่เนิ่น ๆ โดยในกรณีที่มีโรคประจำตัวหรือน้ำหนักเกิน คุณอาจจะต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์และดูแลตนเองอย่างเคร่งครัด รับประทานอาหารให้ได้สารอาหารที่ครบและออกกำลังกายอย่างเหมาะสม ดูแลรักษาสภาวะจิตใจให้แจ่มใส ไม่เครียดหรือวิตกกังวลจนเกินไป

    หมั่นล้างมือบ่อย ๆ สวมใส่หน้ากากให้คลุมบริเวณปากและจมูกอย่างมิดชิดรวมทั้งรักษาระยะห่าง อยู่ให้ไกลจากผู้อื่นประมาณ 1.5-2 เมตร หลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่แออัดอากาศถ่ายเทไม่สะดวก และหากคุณได้รับเชื้อโควิด-19 ให้ติดต่อสถานพยาบาลใกล้เคียงให้ทราบเพื่อรับการรักษาอย่างเหมาะสมโดยเร็ว


    เป็นลองโควิดกินอะไร
    อาการลองโควิดคือภาวะที่ทำให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้ไม่ดีเท่ากับตอนก่อนป่วย ดังนั้นในช่วงที่พักฟื้นฟูร่างกายจากสภาวะลองโควิดควรกินหรือปฏิบัติตัวอย่างไรบ้าง

    เป็นลองโควิดกินอะไร

    1. ทานอาหารที่ช่วยฟื้นฟูและบำรุง
    การทานอาหารที่ดีมีประโยชน์เพื่อช่วยฟื้นร่างกายในสัดส่วนที่เหมาะสม เป็นวิธีการบำรุงซ่อมแซมและเสริมสร้างเซลล์ต่าง ๆ ให้แข็งแรง โดยควรเน้นไปที่อาหารประเภทโปรตีน เช่น เนื้อสัตว์ ไข่ ปลา และถั่วชนิดต่าง ๆ อาหารประเภทข้าวหรือแป้งไม่ขัดสีสามารถช่วยลดการอักเสบ และควรทานผักผลไม้เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน

    2. ออกกำลังกายที่ไม่หนัก
    การออกกำลังกายถึงแม้จะมีผลดีต่อร่างกายแต่การออกกำลังกายที่หนักมากเกินไปอาจไม่เหมาะกับผู้ป่วยที่เพิ่งหายจากการติดเชื้อโควิด-19 เพราะอาจทำให้อาการแย่ลงได้ในบางราย ผู้ป่วยที่เพิ่งหายจากโควิดหรืออยู่ในภาวะ Long COVID ควรออกกำลังกายเบา ๆ อย่างเหมาะสมอย่างการเคลื่อนไหวช้า ๆ เพื่อฟื้นฟูร่างกายให้กลับมามีประสิทธิภาพดังเดิมได้

    3. ปรึกษาแพทย์เพิ่มเติม
    หากคุณเป็นผู้ป่วยภาวะลองโควิด ในช่วงพักฟื้นรักษาตัวที่บ้านซึ่งต้องเน้นดูแลร่างกายอย่างการทานอาหารที่มีประโยชน์ควบคู่กับการออกกำลังกายอย่างเหมาะสมแล้ว การปรึกษาแพทย์เพิ่มเติมเมื่อพบอาการผิดปกติทางร่างกายหรือสอบถามข้อมูลที่ไม่มั่นใจเกี่ยวกับภาวะทางร่างกายหรือจิตใจเป็นแนวทางที่ควรปฏิบัติ เพื่อให้การรักษาลองโควิดนั้นสอดคล้องกับสภาวะร่างกายและเป็นไปอย่างเหมาะสม


    ฉีดวัคซีนลดความเสี่ยงลองโควิดได้ไหม
    การฉีดวัคซีนก่อนได้รับเชื้อโควิด-19 เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสที่จะก่อให้เกิดภาวะอาการลองโควิดในภายหลัง นอกจากนี้ยังมีรายงานที่น่าสนใจเกี่ยวกับการได้รับการฉีดวัคซีนสำหรับผู้ป่วยที่มีปัญหา Long COVID ว่ามีอาการดีขึ้น ซึ่งคาดการณ์ว่าวัคซีนช่วยไปกระตุ้นให้ภูมิคุ้มกันให้กลับมาทำงานได้ปกติ แต่ในส่วนนี้ก็ยังเป็นสาเหตุที่ไม่แน่ชัด

     ฉีดวัคซีนลดความเสี่ยงลองโควิดได้ไหม


    ตรวจสุขภาพประจำปี ป้องกันลองโควิด
    การตรวจสุขภาพประจำถือเป็นเรื่องที่สำคัญและควรทำเพื่อตรวจเช็คร่างกายแต่เนิ่น ๆ ซึ่งหากเกิดอาการผิดปกติใด ๆ เกิดขึ้นจะได้เข้ารับการรักษาอย่างถูกต้องและรวดเร็ว ซึ่งการรักษาร่างกายตั้งแต่ช่วงเริ่มแรกนั้นจะทำให้ร่างกายฟื้นฟูได้เร็วและมีโอกาสกลับมาเป็นปกติได้เหมือนเดิมมากกว่า แนะนำให้คุณตรวจสุขภาพด้วยโปรแกรมตรวจภาวะลองโควิดตามโรงพยาบาลต่าง ๆ เพื่อป้องกันและรักษาอาการ Long COVID ให้หายได้เร็วยิ่งขึ้น


    ข้อสรุป
    ลองโควิด (Long COVID) เป็นภาวะจิตใจและอาการทางร่างกายที่หลงเหลืออยู่หลังจากหายติดเชื้อซึ่งเกิดขึ้นกับผู้ป่วยโควิด-19 ส่งผลให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้ไม่ดีเท่ากับตอนก่อนป่วยซึ่งอาจจะส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ในบางรายอาจมีผลกระทบทางอ้อมต่อความกังวลและความเครียดสะสมที่ตามมา ดังนั้นการทำความเข้าใจอาการลองโควิดรวมถึงแนวทางปฏิบัติในการดูแลรักษาอาการอย่างถูกวิธีจะช่วยให้คุณรู้ทันความผิดปกติและดูแลร่างกายได้อย่างเหมาะสม


    290
    ผ่าต้อกระจกด้วยการยิงสลายต้อ

    ต้อกระจกสามารถเกิดได้กับทุกคนเมื่อมีอายุมากขึ้นเช่นเดียวกับผมหงอก บางคนอาจไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่าการมองเห็นของตัวเองนั้นมีระดับความชัดลงลดไปเรื่อย ๆ เมื่อถึงระดับที่รบกวนการมองเห็นจึงรู้ตัวว่าต้องเข้ารับการรักษาจากแพทย์ แล้วเมื่อไหร่เราจึงควรผ่าตัดต้อกระจก ลองมาดูกัน


    ผ่าตัดต้อกระจก
    การผ่าตัดต้อกระจกเป็นการรักษาที่เหมาะกับโรคต้อกระจกในระยะที่มีอาการหนักจนกระทบการมองเห็นเป็นอย่างมาก เป็นการรักษาที่เลนส์ตา ไม่ใช่กระจกตาเหมือนกับการทำเลสิค แต่สามารถแก้ไขความผิดปกติของสายตาสั้น ยาว เอียงได้เช่นกัน ทั้งนี้ต้องวิเคราะห์สาเหตุของโรคให้ดีก่อนรักษา

    หากผู้ใดสนใจ สามารถอ่านบทความ ผ่าตัดต้อกระจก เพื่อจะได้ทราบว่าการผ่าตัดต้อกระจกนั้นอันตรายน้อยและไม่น่ากลัวแบบที่คิด


    รู้จักโรคต้อกระจก

    ผ่าตัดต้อกระจกในผู้สูงอายุ

    โรคต้อกระจก คือ โรคที่เกิดขึ้นกับดวงตาในส่วนของเลนส์ตา เป็นการเปลี่ยนแปลงของเลนส์ตา ไม่ว่าจะเป็นความโค้งหรือความหนาของเลนส์ ไฟเบอร์ที่ห่อหุ้มเลนส์พอกหนาขึ้นทำให้เกิดความขุ่นมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยรูปแบบของการขุ่นนั้นมีหลายรูปแบบด้วยกัน ส่งผลต่อการหักเหของแสงภายในลูกตาหรือแสงผ่านเข้าไปได้น้อยลง ทำให้เกิดปัญหาในการมองเห็น เช่น ตามัว เห็นภาพซ้อน เห็นหมอกบัง เป็นต้น โดยเลนส์ตาของมนุษย์เราจะเสื่อมไปตามอายุที่มากขึ้น หรือการใช้สายตามาก จ้องมองแสงยูวีมากเกินไป กรรมพันธุ์ โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง การทานยากลุ่มสเตียรอยด์ก็สามารถทำให้เป็นโรคต้อกระจกได้

    อาการของต้อกระจกจะค่อยเป็นค่อยไป ผู้ป่วยมักจะไม่รู้ตัว เบื้องต้นมักจะเป็นตอนที่แสงน้อยหรือตอนกลางคืน มักเป็นทั้งสองข้างเท่า ๆ กัน ในบางกรณีอาจจะเป็นมากแค่ข้างเดียว หากเป็นมากขึ้นจะมีอาการทั้งวันจนถึงมีอาการหนักขึ้นจนเลนส์ตาขุ่นทั้งหมด หรือเรียกว่า “ต้อสุก” และต้องเข้ารับการผ่าตัดต้อกระจกต่อไป


    ทำไมต้องผ่าตัดต้อกระจก
    ต้อกระจกมีอาการน้อยในระยะแรก ยังไม่กระทบต่อการมองเห็น อาจเกิดการเปลี่ยนของเลนส์ตาเล็กน้อย หากเลนส์ตามีความโค้งหรือความนูนที่เปลี่ยนไป สามารถใช้แว่นสายตาเพื่อแก้ไขการมองเห็นที่ผิดปกติได้ จึงไม่จำเป็นต้องผ่าตัด

    แต่ถ้าหากต้อกระจกมีอาการหนักมากจนใส่แว่นสายตาก็ยังมองไม่เห็น หรือเลนส์มีความขุ่นมากจนต้อสุกจึงจำเป็นที่จะต้องผ่าตัดต้อกระจกนำเลนส์ตาที่ขุ่นออกและใส่เลนส์ใหม่เข้าไป ซึ่งเป็นการผ่าตัดที่มีแผลขนาดเล็ก มีความอันตรายน้อยและยังช่วยให้มองเห็นได้ดีเหมือนเดิม อีกทั้งยังเป็นการแก้ไขความผิดปกติของสายตาสั้น ยาว เอียง ได้อีกด้วย


    วิธีผ่าตัดต้อกระจก

    วิธีการผ่าตัดต้อกระจกในปัจจุบัน

    ปัจจุบันการผ่าตัดต้อกระจกมีทั้งหมด 2 วิธี ได้แก่ การผ่าตัดต้อกระจกแบบเก่าและการผ่าตัดต้อกระจกแบบใหม่ ซึ่งมีข้อแตกต่างกัน ดังนี้

    การผ่าตัดต้อกระจกแบบเก่า
    การผ่าตัดต้อกระจกแบบเก่า เป็นการผ่าตัดเปิดแผลกว้าง (Extracapsular Cataract Extraction) มีการผ่าเป็นวงกว้างประมาณ 12-13 มิลลิเมตร แล้วนำต้อกระจกหรือเลนส์ที่ขุ่นออกมา จากนั้นใส่เลนส์ตาเทียมเข้าไปแทนที่และเย็บปิดแผล เนื่องจากเป็นการผ่าตัดและมีการเย็บแผลจึงมีระยะเวลาพักฟื้นประมาณ 4-6 สัปดาห์ เหมาะสำหรับต้อสุกจนแข็งทั้งเลนส์และไม่สามารถยิงสลายได้จึงใช้วิธีผ่าตัดแบบเก่า

    การผ่าตัดต้อกระจกแบบใหม่
    การผ่าตัดต้อกระจกแบบใหม่ หรือการผ่าตัดด้วยการสลายต้อกระจก (Phacoemulsification) เป็นการใช้คลื่นความถี่สูง เรียกว่า “คลื่นอัลตราซาวด์” ยิงเลนส์ที่ขุ่นแข็งให้สลายและใช้เครื่องมือดูดออก จากนั้นจึงใส่เลนส์ตาเทียมเข้าไปแทนที่

    ไม่ต้องมีการเย็บปิดแผลเพราะความกว้างของแผลประมาณ 3 มิลลิเมตร ซึ่งมีขนาดเล็กมาก ใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 2-3 วัน จึงจะสามารถมองเห็นได้ชัดเจน วิธีการยิงสลายต้อเหมาะสำหรับ ต้อกระจกที่ยังไม่สุกมาก ไม่แข็งมากจนเกินไป ซึ่งเป็นที่นิยมในปัจจุบันมาก


    เตรียมตัวก่อนผ่าตัดต้อกระจก
    ก่อนเข้ารับการผ่าตัดต้อกระจกจะมีการตรวจประเมินจากแพทย์ ได้แก่ การตรวจวัดค่าสายตาเพื่อให้ได้ค่าที่ถูกต้องมากที่สุด มีการวัดความโค้งกระจกตาและความยาวลูกตาก่อนขยายม่านตาเพื่อนำไปเลือกเลนส์ตาเทียมที่เข้ากันได้

    นอกจากตรวจวัดค่าสายตาแบบละเอียดแล้ว ยังตรวจดูอาการและลักษณะต้อกระจก การขยายของม่านตา จอประสาทตา โรคประจำตัวและยาที่ใช้ประจำอีกด้วย เนื่องจากยาบางประเภทมีผลกับการผ่าตัด


    ขั้นตอนการผ่าตัดต้อกระจก

    ขั้นตอนการผ่าตัดต้อกระจก

    การผ่าตัดต้อกระจกจะมีการใช้ยาชาทั้งแบบหยอดและแบบฉีด มีขั้นตอนหลัก ดังนี้

    1.ผ่าเปิดแผลที่ดวงตา
    2.นำเลนส์ตาที่ขุ่นออก เหลือถุงหุ้มเลนส์ไว้
    3.นำเลนส์ตาเทียมใส่เข้าไปแทนที่เลนส์ขุ่น

    หากเป็นการผ่าตัดแบบเก่าจะมีการเปิดแผลกว้างกว่าเพื่อผ่าเอาเลนส์ขุ่นออก แต่หากเป็นการผ่าตัดแบบใหม่จะมีการใช้คลื่นอัลตราซาวด์ยิงสลาย จากนั้นใช้เครื่องดูดเลนส์ตาส่วนที่เหลือออกมา หลังจากกระบวนการใส่เลนส์ตาเทียมเข้าไปแล้ว การผ่าตัดที่แผลกว้างจะมีการเย็บปิด ส่วนการผ่าตัดที่แผลเล็กจะไม่มีการเย็บปิด


    การดูแลหลังผ่าตัดต้อกระจก

    การดูแลหลังผ่าตัดต้อกระจก

    ผู้ที่ผ่าตัดต้อกระจกควรปฏิบัติตามที่แพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัด และควรทำตามวิธีดูแลตัวเองเบื้องต้น ดังนี้

    • นอนพักผ่อนให้มากในวันแรก ใช้หมอนสูง ไม่นอนตะแคงด้านที่ผ่าตัด
    • สวมที่ครอบตาก่อนนอน เพื่อป้องกันการขยี้ตา
    • สวมแว่นกันแดดในตอนกลางวัน
    • ห้ามน้ำเข้าดวงตาโดยเด็ดขาด
    • งดออกกำลังกาย ยกของหนัก และไม่ก้มต่ำ

    ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังผ่าตัดต้อกระจก
    หลายคนอาจสงสัยว่าผ่าตัดต้อกระจก อันตรายไหม จริงๆ แล้วอันตรายน้อยมากและมีผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ ดังนี้

    • อาการเจ็บ บวมแดง ​​อาการ ติดเชื้อหลังผ่าตัด ต้อกระจก แม้พบได้น้อย แต่อันตรายมาก ดังนั้นจึงต้องรักษาความสะอาดให้ดี หยอดยาและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์เป็นประจำทุกวัน
    • ภาวะจุดรับภาพบวม อาจเกิดหลังจากการผ่าตัด 1-2 สัปดาห์ และสามารถหายได้เองประมาณ 6 เดือน ลักษณะอาการคือ ตามัว ภาพเบี้ยว เป็นอาการที่พบบ่อยหลังการผ่าตัดต้อกระจก
    • เมื่อผ่าตัดต้อกระจกไปนานหลายปี ถุงหุ้มเลนส์อาจขุ่นได้ เนื่องจากในการผ่าตัดต้อกระจกไม่ได้นำถุงหุ้มเลนส์ออก แต่จะใช้เป็นตัวพยุงเลนส์ตาเทียมอันใหม่ที่ใส่เข้าไป เมื่อถุงหุ้มเลนส์ขุ่น ความชัดในการมองเห็นจะลดลง ภาพขุ่นมัวลง สามารถรักษาได้โดยการใช้เลเซอร์ยิง (Yag Laser) วิธีนี้ใช้เวลาเพียงเล็กน้อย ก็จะสามารถมองเห็นได้ชัดเจนเหมือนปกติ

    ผ่าตัดต้อกระจก ต้องพักฟื้นกี่วัน
    การผ่าตัดเปิดแผลกว้าง มีระยะเวลาพักฟื้นประมาณ 4-6 สัปดาห์ ส่วนการผ่าตัดต้อกระจกด้วยการสลายต้อกระจก แผลมีขนาดเล็กมากจะใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 2-3 วัน


    ผ่าตัดต้อกระจก ราคาเท่าไหร่
    ผ่าตัดต้อกระจก ราคาโดยประมาณ 40,000 - 90,000 บาท ขึ้นอยู่กับสถานพยาบาลที่รับการรักษา อีกทั้งยังมีแพ็คเกจให้เลือกหลายอย่าง ซึ่งต้องประเมินจากลักษณะอาการของโรค ทางเลือกการรักษาและชนิดของเลนส์ตาเทียมด้วย

    ผ่าตัดต้อกระจก สามารถเบิกได้ไหม
    ค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดต้อกระจก สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ ไม่ว่าจะเป็นบัตรประกันสุขภาพถ้วนหน้า (บัตรทอง) ประกันสังคม และสิทธิ์ข้าราชการ ในอัตราตามเกณฑ์ที่กำหนด


    ข้อสรุป
    การผ่าตัดต้อกระจกเป็นการรักษาที่อันตรายน้อยและมีประสิทธิภาพสูง ปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่ใช้คลื่นอัลตราซาวด์ยิงสลายต้อและใส่เลนส์ตาเทียมเข้าไปแทนที่ ไม่ต้องเย็บปิดแผล ใช้เวลาพักฟื้นน้อย และทำให้มองเห็นได้ชัดเจนเหมือนเดิม สามารถใช้ได้ทั้งสิทธิ์บัตรทอง ประกันสังคมและข้าราชการในการเบิกได้ รวมไปถึงมีสถานพยาบาลและแพ็คเกจราคาให้เลือกมากมายด้วย


    291
    อัลตร้าซาวน์ 4 มิติ

    สำหรับการเตรียมตัวเป็นคุณแม่มือใหม่ที่กำลังตั้งครรภ์ลูกน้อย โดยส่วนใหญ่นั้นก็จะต้องทำการตรวจครรภ์กันอยู่แล้ว แต่จะตรวจวิธีไหนนั้นก็อยู่ที่ว่าจะเลือกตรวจแบบไหน และด้วยในปัจจุบันมีเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่เรียกว่า อัลตร้าซาวน์ 4 มิติ ที่จะช่วยให้มองเห็นลูกน้อยที่อยู่ในครรภ์ได้อย่างชัดเจนมากขึ้นกว่าการอัลตราซาวน์แบบเดิม เพื่อให้เห็นลูกน้อยชัดเจนมากขึ้น

    การอัลตร้าซาวด์ 4 มิติ (4D Ultrasound)

    อัลตร้าซาวน์ 4 มิติ คือ เทคโนโลยีที่ใช้ในการตรวจครรภ์ ใช้คลื่นเสียงความถี่สูง เรียกว่า คลื่นอัลตร้าซาวด์ โดยใช้ภาพนิ่งหลายภาพมาเรียงต่อกันเป็นให้เป็นภาพเคลื่อนไหวให้เหมือนจริง และยังภาพที่แสดงออกมายังเป็นแบบภาพ ณ เวลานั้นอีกด้วย ที่จะช่วยให้เห็นพฤติกรรมต่าง ๆ ของทารกในครรภ์มากขึ้น ชัดเจนมากกว่า แบบอัลตร้าซาวน์ 3 มิติ

    หลักการทำงานของอัลตร้าซาวด์ 4 มิติ

    เครื่องอัลตร้าซาวน์

    เครื่องอัลตร้าซาวน์ 4 มิตินั้นจะใช้การทำงานคล้ายกับการ อัลตร้าซาวน์ 3 มิติ แต่จะมีความสามารถที่มากว่าก็คือ รูป อัลตร้าซาวน์ 4 มิติ นั้นจะชัดเจนมากกว่าจะเห็น รูปร่างหน้าตาของทารกได้อย่างชัดเจน และการทำงานนั้นจะเป็นการนำรูปหลาย ๆ รูปมาต่อกัน ทำให้สามารถดูภาพเคลื่อนไหว ณ เวลาจริงที่เกิดขึ้นในตอนนั้นได้อีกด้วย

    เปรียบเทียบอัลตร้าซาวด์ 4 มิติกับอัลตร้าซาวด์แบบอื่น

    การอัลตร้าซาวน์แต่ละแบบนั้น ก็จะต่างกันออกไปโดยที่ แต่ละอย่างจะมีข้อดีต่างกันออกไป เช่น การอัลตร้าซาวน์ 2 มิติ นั้นจะสามารถตรวจทารกในครรภ์ได้ไวกว่าแบบ การอัลตร้าซาวน์ 4 มิติ แต่ภาพที่ได้จะเป็นคนละแบบ ซึ่งอาจจะเหมาะกับคุณแม่ที่ต้องการที่จะรู้เพศของลูกน้อยไว ๆ  โดยจะอธิบายโดยละเอียดดังนี้

    การอัลตร้าซาวด์แบบ 2 มิติ

    การอัลตร้าซาวน์ 2 มิติ จะเป็นการตรวจแนวราบที่จะแสดงให้เห็นตำแหน่งของทารกที่อยู่ในครรภ์ การเต้นของหัวใจ จะสามารถระบุเพศของทารกได้ ซึ่งจะเป็นภาพขาว-ดำ เท่านั้น

    การอัลตร้าซาวด์แบบ 3 มิติ

    ต่อมาเป็นการอัลตร้าซาวน์ 3 มิติ จะทำการส่งคลื่นเสียงที่มีหลายระบาบที่มากกว่าพร้อมกันในเวลาเดียวกัน จะช่วยให้เห็นหน้าของทารกได้ชัดเจนมากขึ้น

    การอัลตร้าซาวด์แบบ 4 มิติ

    และสุดท้ายกับการอัลตร้าซาวน์ 4 มิติ จะมีระบบการประมวลผลของภาพที่ดีมากกว่าจะเป็นการนำภาพ 3 มิติ หลาย ๆ ภาพมาต่อกันจนทำให้ภาพที่แสดงออกมาเกิดเป็นภาพเคลื่อนไหวได้ และจะเห็นได้เลยว่าการแสดงท่าทางต่าง ๆ ของทารกนั้นจะเป็นการแสดง ณ เวลาจริง ในขณะนั้น

    ข้อดีของการอัลตร้าซาวด์ 4 มิติ

    จุดเด่นหลัก ๆ ของการอัลตร้าซาวน์ 4 มิติ ที่ว่าภาพที่ออกมานั้นจะชัดเจนมากกว่า สามารถมองเป็นภาพเคลื่อนไหวได้ ทำให้เห็นอวัยวะของทารกได้ชัดเจน ได้เห็นการเจริญเติบโตของทารก โดยสามารถทำการอัลตร้าซาวน์ 4 มิติ กี่เดือนถึงจะดีจะมีรายละเอียดดังนี้

    การอัลตร้าซาวด์ 4 มิติ ควรทำตอนกี่เดือน

    อัลตร้าซาวน์ 4 มิติ กี่เดือนถึงจะเห็นผลชัดเจนที่สุด โดยเวลาที่เหมาะสมควรจะเป็นเวลาที่อายุครรภ์นั้นไม่น้อยกว่า 27-32 สัปดาห์ หรือว่า 6-7เดือน เพราะถ้าอายุครรภ์ยังน้อยจะส่งผลให้การตรวจอาจจะทำให้มองเห็นหน้าตาของทารกได้ไม่ชัดเจน

    อัลตร้าซาวด์ 4 มิติ บอกอะไรได้บ้าง

    อัลตร้าซาวน์ 4 มิติ ตรวจอะไรได้บ้าง

    อย่างที่เห็นว่าการอัลตร้าซาวน์ 4 มิติ แตกต่างจากแบบอื่น ๆ อย่างไรแล้ว ในส่วนนี้จะเป็นข้อดีหลัก ๆ จะมีดังต่อไปนี้

    • ตำแหน่งของทารก สายสะดือ ปริมาณน้ำคร่ำที่อยู่ในท้อง
    • สามารถมองเห็นเพศของทารก อวัยวะทุกส่วนทั้งบนใบหน้าและร่างกายอย่างครบถ้วน
    • มองเห็นพัฒนาการเจริญเติบโตของอวัยวะต่าง ๆ ของทารกได้
    • มองเห็นการทำงานระบบหัวใจของทารกและการไหลเวียนเลือด ว่ามีการทำงานผิดปกติหรือไม่
    • เห็นพฤติกรรมการกระทำของทารก ที่อาจจะทำให้พ่อและแม่เห็นความน่ารักของลูกน้อย

    การเตรียมตัวก่อนอัลตร้าซาวด์ 4 มิติ

    ก่อนที่คุณแม่จะไปทำการตรวจอัลตร้าซาวน์ 4 มิติ นั้นจะต้องมีการเตรียมตัวอย่างไรบ้าง เพื่อไม่ให้ผลตรวจคลาดเคลื่อนและเป็นอันตรายต่อร่างกายของทั้งคุณแม่และลูกน้อย

    1. การพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อสุขภาพของคุณแม่ที่แข็งแรงลูกน้อยในครรภ์ก็จะแข็งแรงตามไปด้วย

    2. การดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ 1-2 ลิตรต่อวัน โดยถ้าหากจะเตรียมตัวก่อนไปตรวจแล้วควรทำต่อเนื่องล่วงหน้าก่อน 1 อาทิตย์

    3. การรับประทานอาหารก่อนมาตรวจ สามารถรับประทานได้ตามปกติแต่ไม่ควรเยอะเกินไปเพราะอาจจะส่งผลกับการเคลื่อนไหวของลูกในท้องได้

    4. ทำธุระส่วนตัว เข้าห้องน้ำปัสสาวะก่อนทำการตรวจ เพื่อป้องกันการตรวจขาดตอน

    อัลตร้าซาวด์ 4 มิติ มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง

    ขั้นตอนการตรวจเครื่องอัลตร้าซาวน์ 4 มิติ

    การอัลตร้าซาวน์ 4 มิติ โดยปกติจะใช้เวลาในการตรวจที่ 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง โดยจะมี 4 ขั้นตอนดังนี้

    1. เริ่มจากการที่ตัวคุณแม่นอนบนเตียง และจะทำการทำความสะอาดหน้าท้องให้สะอาด

    2. ทาเจลที่ช่วยในการอัลตร้าซาวน์บนหน้าท้องของคุณแม่บริเวณที่ตรวจ คุณหมอจะใช้หัวตรวจแนบชิดติดกับหน้าท้อง แล้วจะค่อย ๆ เลื่อนเพื่อดูทุก ๆ ส่วนของลูกที่อยู่ในท้องแบบช้า ๆ

    3. ระหว่างที่คุณหมอทำการตรวจอยู่ คุณแม่จะสามารถเห็นรูปภาพของลูกน้อยที่ขึ้นมาบนหน้าจอมอนิเตอร์ได้ตลอดเวลาที่ทำการตรวจ

    4. และเมื่อคุณหมอได้ตรวจทุก ๆ อย่างแล้วก็จะมีการสรุปผลต่าง ๆ และมีการให้คำแนะนำคุณแม่ในเรื่องต่าง ๆ ระหว่างการตรวจด้วย

    ปัจจัยที่ส่งผลต่อความชัดของรูปภาพอัลตร้าซาวด์ 4 มิติ

    1. ทักษะ/ความชำนาญของแพทย์ หมายถึงหมอที่เป็นผู้ตรวจว่ามีความชำนาญมีประสบการณ์มากเพียงใดทำตามขั้นตอนต่าง ๆ รวมถึงการใช้งานอุปกรณ์ได้ดีหรือไม่ รวมถึงวิธีการหาทารกว่าอยู่ตรงไหน ถ้าหากเป็นหมอที่มีประสบการณ์มากก็จะสามารถทำได้อย่างดี

    2. คุณภาพของเครื่องอัลตร้าซาวน์ 4 มิติ ว่าเป็นเครื่องรุ่นใหม่หรือรุ่นเก่า เพราะถ้าหากเป็นรุ่นเก่า นั้นอาจจะส่งผลให้การปล่อยคลื่นเสียงที่ใช้ในการตรวจหาทารกทำงานได้ไม่เต็มที่เมื่อคลื่นเสียงส่งกลับมาอาจจะทำให้ภาพที่ได้ไม่ชัดเท่าที่ควร

    3. ปัจจัยภายในครรภ์ของคุณแม่ ถ้าหากในท้องมีปริมาณน้ำคร่ำ รก สายสะดือ ความหนาของผนังหน้าท้องที่อาจจะส่งผลให้คลื่นเสียงเข้าไปถึงทารกได้น้อยก็จะส่งผลให้ภาพที่ออกมาไม่ชัดได้เช่นกัน

    4. การขยับตัวของทารกในครรภ์ เนื่องด้วยเป็นการตรวจแบบเวลาจริงถ้าหากทารกดิ้นมากไป หรือว่าการที่ทารกทำท่าทางที่ไม่เป็นใจในการถ่ายเช่นการ เอามือมาปิดหน้า ขดตัว หรือเอาหน้าไปซุกในจุดที่คลื่นเสียงส่งไปไม่ถึง ก็จะส่งผลต่อการฉายภาพออกมาได้

    อัลตร้าซาวด์ 4 มิติ ราคาเท่าไหร่

    สำหรับค่าใช้จ่ายของการตรวจอัลตร้าซาวน์ 4 มิติ ราคาจะเริ่มต้นตั้งแต่ 3,150 - 23,000 บาทเป็นต้นไป ทั้งนี้ราคาและสิ่งที่ได้รับอาจจะต่างกันไปในแต่ละโรงพยาบาลว่ามีบริการแบบไหน ขึ้นอยู่กับความสะดวกของแต่ละครอบครัว

    คำถามที่พบบ่อย

    อัลตร้าซาวด์ 4 มิติ อันตรายไหม

    โดยปกติแล้วการตรวจอัลตร้าซาวน์ 4 มิตินั้น จะไม่มีอันตรายต่อทารกในครรภ์ถ้าหากตรวจในช่วงเวลาที่เหมาะสมและไม่บ่อยจนเกินไป แต่อาจจะมีผลข้างเคียงอื่น ๆ ที่เกิดกับคุณแม่เช่น การแพ้เจล แพ้น้ำยาต่าง ๆ อาจจะต้องปรึกษาคุณหมอก่อนทำการตรวจ

    อัลตร้าซาวด์ 4 มิติ ที่ไหนดี

    สามารถตรวจได้ทั้งโรงพยาบาลของ รัฐบาลและเอกชนหรือคลินิกที่รับการตรวจอัลตร้าซาวน์ 4 มิติโดยเฉพาะ ที่มีบริการการตรวจได้เลยเช่น โรงพยาบาลขอนแก่น ราม, โรงพยาบาลนนทเวช, เป็นต้น

    ข้อสรุป

    จะเห็นได้ว่าการตรวจอัลตร้าซาวน์ 4 มิตินั้นดีอย่างไร มีขั้นตอนการทำแบบไหนบ้างเพียงเท่านี้คุณแม่ที่อยากจะเห็นหน้าของลูกน้อยตั้งแต่อยู่ในท้องก็สามารถมองหาสถานที่ตรวจได้เลย และสำหรับผู้ที่มีปัญหาผู้มีบุตรยาก


    292
    วิธีทำให้ผู้ชายแข็งเต็มที่

    นกเขาไม่ขัน อวัยวะเพศไม่แข็ง นับว่าเป็นปัญหาใหญ่มากสำหรับคุณผู้ชาย เพราะการทำกิจกรรมร่วมเพศการแข็งตัวของอวัยวะเพศชายเป็นจุดสำคัญมาก การที่นกเขาไม่ขัน อวัยวะเพศไม่แข็งตัวนั่นทำให้การร่วมเพศไม่สามารถทำได้ หมดความมั่นใจไปซะอย่างนั้น แถมหลายครั้งการที่ผู้ชายไม่แข็ง อาจนำมาสู่ปัญหาความสัมพันธ์กับคู่รักได้ไม่น้อยเลย

    การที่อวัยวะเพศไม่แข็งตัวอาจเป็นตัวบ่งบอกว่าคุณมีปัญหาทางจิตใจ หรืออาจมีปัญหาเสื่อมสมรรถภาพทางเพศเข้าแล้ว จะมีวิธีทำให้ผู้ชายแข็งอย่างไรบ้าง ในบทความนี้จะมาบอกเคล็ด(ไม่)ลับ วิธีทำให้ผู้ชายแข็ง เพิ่มสมรรถภาพเพศชายธรรมชาติ 5 วิธีด้วยกัน ไปดูกันเลย!

    กลไกในการแข็งตัวและวิธีทำให้ผู้ชายแข็ง

    การแข็งตัวขององคชาต

    การแข็งตัวขององคชาตเป็นปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นกับสัตว์เพศผู้หลายสปีชีส์รวมถึงมนุษย์เพศชาย โดยการแข็งตัวนั้นไม่ได้เกิดขึ้นเพราะอารมณ์ทางเพศอย่างเดียว เพราะการแข็งตัวนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ตลอด บางครั้งก็เกิดขึ้นเองโดยที่ไม่สามารถควบคุมได้

    การแข็งตัวขององคชาตเกิดจากการที่มีการไหลเวียนของเลือดเข้าไปสู่หลอดเลือดในองคชาต และเนื้อเยื่อในองคชาตจะมีความคล้ายฟองน้ำ เมื่อเลือดไหลเวียนเข้ามาก็จะทำให้เกิดการดูดซับและขยายตัวขึ้น ในขณะเดียวกันการขยายตัวนี้ก็จะไปกดเส้นเลือดดำ ทำให้เลือดไหลออกจากบริเวณองคชาตได้น้อยลง จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้องคชาตแข็งตัวนั่นเองจึงต้องหาวิธีทำให้ผู้ชายแข็งเพื่อแก้ไขจุดนี้

    แต่กลไกการทำให้องคชาตแข็งตัวนั่นมีหลายอย่างและค่อนข้างซับซ้อน เกิดขึ้นจากการถูกกระตุ้นจากสิ่งเร้าก็ได้ หรือเกิดขึ้นเองโดยที่ไม่มีสิ่งเร้าก็ได้เช่นกัน โดยระบบประสาทพาราซิมพาเทติกจะสั่งการให้เกิดการหลั่งสารเคมีในสมองที่ทำให้เกิดการไหลเวียนเลือดเข้าสู่องคชาตทำให้เกิดการแข็งตัวขึ้นนั่นเอง

    อย่างไรก็ตามเพราะกลไกการทำให้องคชาตแข็งตัวเกิดขึ้นได้ทั้งภายใต้อำนาตจิตใจและนอกอำนาจจิตใจ ไม่ว่าจะมีสิ่งเร้าหรือไม่มีสิ่งเร้าก็สามารถทำให้องคชาตแข็งตัวได้ ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จู่ ๆ องคชาตจะแข็งตัวขึ้นมาเฉย ๆ ซะอย่างนั้น

    และเพราะเหตุผลนี้เองที่การเสื่อมสมรรถภาพทางเพศหรือน้องชายไม่แข็งตัวจึงสามารถเกิดขึ้นทั้งจากปัญหาทางจิตใจหรือปัญหาทางร่างกายก็ได้ ดังนั้นหากคุณเริ่มมีปัญหาเหล่านี้อย่านิ่งนอนใจ ควรจะเข้าปรึกษากับแพทย์เฉพาะทางเพื่อจะได้หาสาเหตุและแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด

    แต่สำหรับใครที่อยากจะลองเพิ่มสมรรถภาพเพศชายธรรมชาติยังไม่อยากไปหาหมอ เราขอแนะนำ 5 วิธีทำให้ผู้ชายแข็ง สามารถลองปฏิบัติตามนี้ก่อนได้ ถ้าปัญหาขกเขาไม่ขันไม่ได้รุนแรงมาก เพียงวิธีเหล่านี้ก็สามารถกู้น้องชายให้คุณกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิมได้!

    5 วิธีทำให้อวัยวเพศชายแข็งเต็มที่ แก้ปัญหาน้องชายไม่สู้เวลาออกศึก

    5 วิธีทำให้ผู้ชายแข็ง

    เป็นปกติที่อยู่ ๆ จะเกิดปัญหานกเขาไม่ขัน เพราะหากสภาพร่างกายหรือสภาพจิตใจไม่พร้อมก็อาจทำให้กลไกการแข็งตัวขององคชาตรวนได้ เรามีวิธีทำให้ผู้ชายแข็งบอกลานกเขาไม่ขัน ช่วยให้น้องชายกลับมาแข็งแรงได้อย่างเดิมกัน

    1. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

    วิธีทําให้อวัยเพศชายแข็งเต็มที่ที่ทำได้ง่ายที่สุดคือการนอนหลับให้เพียงพอ นอนให้ได้อย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงเพราะการนอนหลับพักผ่อนเป็นการฟื้นฟู ซ่อมแซมร่างกายโดยธรรมชาติ

    เมื่อพักผ่อนเต็มที่ก็จะทำให้ระบบทุกส่วนในร่างกายกลับมาทำงานได้ดีขึ้น รวมถึงระบบประสาทและสมอง ที่จะช่วยให้การหลั่งฮอร์โมนเพศดีขึ้น และทำให้การตอบสนองต่อสิ่งเร้าขณะร่วมเพศไว เกิดการแข็งตัวขึ้นได้เต็มที่
       
    2. ออกกำลังกาย

    การออกกำลังกายที่เหมาะสมและสม่ำเสมอเป็นอีกวิธีทำให้ผู้ชายแข็งอย่างสุขภาพดี ฟิต เมื่อร่างกายแข็งแรง ก็จะทำให้ระบบภายในร่างกายทำงานดีขึ้นด้วย โดยเฉพาะหากอยากให้น้องชายแข็งแรงควรเน้นการออกกำลังกายบริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานจะให้ผลดีที่สุด

    3. นวดอวัยวะเพศชายกระตุ้นระบบการไหลเวียนของเลือด

    ความแข็งแรงขององคชาตก็ขึ้นอยู่กับการไหลเวียนระบบโลหิตและกล้ามเนื้อ ดังนั้นวิธีนวดอวัยวะเพศชายก็เป็นวิธีทำให้ผู้ชายแข็งอย่างเต็มที่เมื่อออกศึก เพราะเมื่อระบบไหลเวียนโลหิตดี เวลาเลือดจะไหลเวียนเข้าไปในองคชาตก็จะสามารถไหลเวียนเข้าได้ดีและแข็งตัวได้นาน

    นอกจากนี้การนวดอวัยวะเพศชายจะช่วยให้แข็งตัวได้ดี อึด ทนมากขึ้นแล้วยังช่วยลดโอกาสเกิดโรคมะเร็งต่อมลูกหมากได้ด้วย

    4. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์

    วิธีทำให้ผู้ชายแข็งแบบเบสิคเลยก็คือการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพราะในอาหารบางชนิดก็มีสารสำคัญบํารุงสมรรถภาพเพศชาย ช่วยให้น้องชายแข็งแรง พร้อมรับมือกับทุกศึกเลย

    5. กินอาหารเสริม วิตามินเสริมที่มีคุณภาพ

    บางครั้งการจะรับประทานอาหารก็อาจได้รับสารอาหารบำรุงสมรรถภาพเพศชายได้ไม่ครบถ้วน ดังนั้นคัวช่วยสำคัญที่จะให้เราได้รับสารอาหารครบถ้วน นั่นก็คือการรับประทานอาหารเสริมผู้ชาย ผลิตภัณฑ์เสริมสมรรถภาพชาย หรือวิตามินเพิ่มสมรรถภาพเพศชายนั่นเอง และที่สำคัญควรเลือกซื้อผลิตภัณฑืที่มีคุณภาพด้วย

    เราขอแนะนำผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพศชาย Code for men ที่มีสารสกัดถังเฉ้าเข้มข้น กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต เพิ่มความเป็นชายได้มากขึ้น อีกทั้งยังมีสารสำคัญอื่น ๆ ไม่ว่าจะแอลอาร์จีนิน สารสกัดจากโสม หอยนางรม เห็ดหลินจือ กระชายดำ ที่เป็นประโยชน์ต่อคุณผู้ชายอย่างมากอัดรวมอยู่ในแคปซูล

    สรุป

    ปัญหานกเขาไม่ขัน องคชาตไม่แข็งตัวสามารถเกิดได้ทั้งจากความไม่พร้อมของร่างกายและจิตใจ รวมไปถึงปัญหาใหญ่อย่างการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ซึ่งปัญหานี้มักทำให้คุณผู้ชายหมดความมั่นใจ รวมถึงอาจทำให้ความสัมพันธ์กับคู่รักมีปัญหาได้ง่าย

    ดังนั้นไม่ควรปล่อยปัญหาทิ้งไว้แล้วลองปฏิบัติตามวิธีทำให้ผู้ชายแข็งเต็มที่ที่เราแนะนำไปข้างต้นซึ่งเป็นวิธีเพิ่มสมรรถภาพเพศชายธรรมชาติ ให้น้องชายของคุณกลัมาแข็งแรง พร้อมออกศึกได้อีกครั้ง

    293
    ป้ายเลขทะเบียนรถเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่รถทุกคันต้องมี ป้ายเลขทะเบียนรถก็เปรียบเสมือนบัตรประชาชนของรถคันนั้น มันใช้ในการเเสดงสถานะ และเเสดงข้อมูลของรถคันนั้น ซึ่งกฎหมายได้มีการบังคับไว้ว่าเราจำเป็นต้องมีป้ายเลขทะเบียนติดรถไว้ตลอดเวลา โดยต้องติดป้ายเลขทะเบียนที่หน้ารถ 1 แผ่น และที่หลังรถอีก 1 แผ่น

    ซึ่งตัวเลข และตัวอักษรที่โชว์บนป้ายเลขทะเบียนรถ ก็จะมีเเตกต่างกันไป ซึ่งการจะได้เลขทะเบียนรถนั้น เราจำเป็นต้องทำการจองเลขทะเบียนรถก่อน ซึ่งตามปกติเเ้ลว เราจะต้องไปทำเรื่องจองเลขทะเบียนรถกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งการจองทะเบียนรถ กรมขนส่งตามพื้นที่ต่าง ๆ จะเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบ

    เลขมงคลนำโชค เป็นความเชื่ออย่างหนึ่งที่คนไทยเชื่อกัน ไม่ว่าจะเป็นการเลือกเบอร์โทรศัพท์มือถือ หรือเบอร์ประจำตัวต่าง ๆ ที่สามารถเลือกได้ เลขทะเบียนรถก็เช่นกัน ใคร ๆ ต่างก็อยากได้เลขทะเบียนรถสวย ๆ หรือเลขเป็นมงคลกันทั้งนั้น ดังนั้นจึงต้องมีขั้นตอนการจองเลขทะเบียนรถ เพื่อให้เจ้าของรถได้เลขทะเบียนตามที่ตนต้องการมากที่สุด

    เเต่ในปัจจุบัน การทำธุรกรรมต่าง ๆ ของหน่วยงานรัฐ ไปจนถึงเอกชน มีการพัฒนาให้สามารถทำทุกอย่างผ่านออนไลน์ได้ การจองทะเบียนรถยนต์ออนไลน์ก็เช่นกัน เราสามารถจองเลขทะเบียนรถจากที่บ้านได้ โดยไม่จำเป็นต้องไปถึงกรมขนส่งเเล้ว โดยเราจะมาดูกันว่า การจองเลขทะเบียนรถมีความสำคัญอย่างไร ทำอย่างไร และการจองเลขทะเบียนรถยนต์ออนไลน์ มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง

    วิธีจองเลขทะเบียนรถ จองออนไลน์ ทำง่าย ๆ ได้ที่บ้าน

    การจองเลขทะเบียนรถ คืออะไร

    เมื่ออายุถึงเกณฑ์ประชาชนทุกคนก็ต้องทำบัตรประชาชน เพื่อให้สามารถเเสดงเลขบัตรประชาชนของเราได้ การมีรถก็เช่นกัน เมื่อเราทำการซื้อรถยนต์มา เราก็ต้องมีเลขทะเบียนให้กับรถคันนั้น โดยจะเเสดงออกมาในรูปเเบบของสมุดคู่มือจดทะเบียนรถ และป้ายทะเบียนรถ

    ซึ่งจะเเตกต่างกันเล็กน้อย เลขประจำประชาชน เราไม่สามารถเลือกได้ เเต่เลขทะเบียนรถ เราสามารถเลือกได้ โดยทางกรมขนส่งจะทำการออกตัวเลขทะเบียนรถต่าง ๆ ออกมา เพื่อให้ผู้ขับขี่ได้เข้าไปทำการจับจองกัน ซึ่งป้ายเลขทะเบียนรถ ไม่ใช่เป็นเเค่ป้ายที่บอก้ลขทะเบียนรถเท่านั้น เเต่เป็นการบอกสถานะของรถคันนั้นด้วย ว่าเป็นรถประเภทไหน ซึ่งปัจจุบันมีป้ายทะเบียนรถอยู่ด้วยกัน 13 ประเภท ดังนี้

    • ป้ายสีขาว ตัวอักษรสีดำ : รถยนต์ส่วนบุคคล ไม่เกิน 7 ที่นั่ง
    • ป้ายสีขาว ตัวอักษรสีเขียว : รถกระบะ หรือรถบรรทุก ที่ใช้สำหรับบรรทุกสิ่งของ
    • ป้ายสีขาว ตัวอักษรสีน้ำเงิน : รถยนต์ส่วนบุคคลมากกว่า 7 ที่นั่ง เช่น รถตู้
    • ป้ายทะเบียนที่มีพื้นหลังเป็นลายกราฟฟิค : ป้ายตัวเลขพิเศษ ที่ได้จากการประมูล
    • ป้ายสีแดง : ป้ายทะเบียนชั่วคราว เป็นป้ายสำหรับรถที่พึ่งออกใหม่
    • ป้ายสีเหลือง ตัวอักษรสีดำ : รถยนต์รับจ้าง ไม่เกิน 7 ที่นั่ง เช่น รถเเท็กซี่ วินมอเตอร์ไซค์
    • ป้ายสีเหลือง ตัวอักษรสีเขียว : รถตุ๊ก ๆ หรือรถสามล้อ
    • ป้ายสีเหลือง ตัวอักษรสีแดง : รถยนต์รับจ้าง ต่างจังหวัด
    • ป้ายสีเหลือง ตัวอักษรสีน้ำเงิน : รถยนต์เล็ก 4 ล้อรับจ้าง เช่น รถกระป๊อ
    • ป้ายสีเขียว ตัวอักษรสีดำ หรือสีขาว : รถบริการสำหรับท่องเที่ยว หรือรถเช่า
    • ป้ายสีส้ม ตัวอักษรสีดำ : รถสำหรับใช้ทางการเกษตร เช่น รถเเทรกเตอร์
    • ป้ายสีขาว (ไม่สะท้อนแสง) ตัวหนังสือสีดำ
    • ป้ายสีฟ้า (ไม่สะท้อนแสง) ตัวหนังสือสีขาว

    (ป้ายทะเบียนเเบบที่ 13 และ 14 เป็นป้ายทะเบียนพิเศษ ของเจ้าหน้าที่การฑูตจากต่างประเทศ)

    จะเห็นได้ว่า ป้ายทะเบียนรถ จะบ่งบอกสถานะให้รถคันนั้น ๆ ดังนั้นหากเราทำการถอยรถมาสักคัน การมีเลขทะเบียน และการติดป้ายเลขทะเบียนรถยนต์จึงเป็นสิ่งที่ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติตาม มิฉะนั้นจะถือว่าเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย

    โดยปกติเเล้ว หากเราทำการซื้อรถเเล้ว โชว์รูมที่ขายรถให้เราจะเป็นผู้ที่ทำการเตรียมเลขทะเบียนรถยนต์ไว้ให้ แต่ถ้าหากเราอยากได้เลขที่ต้องการ เราต้องเข้าไปทำการจองเลขทะเบียนรถยนต์ให้เเล้วเสร็จก่อน จากนั้นเเจ้งทางโชว์รูม ไว้ให้เลขทะเบียนที่เราไปทำการจองไว้ ถ้าหากล่าช้าจนโชว์รูมทำการจองเลขทะเบียนให้เรียบร้อยเเล้ว จะไม่สามารถเปลี่ยนเลขทะเบียนรถยนต์ได้

    ขั้นตอนต่อไป เมื่อได้จองเลขทะเบียนที่ต้องการแล้ว เราต้องทำการจดทะเบียนรถยนต์ภายใน 15 วัน คิดจากวันทำการ เพื่อนำไปยื่นขอจองป้ายทะเบียน เพื่อมาใช้ติดกับรถยนต์ต่อไป โดยการยื่นขอป้ายทะเบียน ต้องมีการยื่นเอกสารต่าง ๆ ได้เเก่ เอกสารเเสดงสภาพรถ หมายเลยตัวถังรถ และเอกสารอื่น ๆ ซึ่งใช้เวลาในการดำเนินขั้นตอนนี้ 7 วัน

    การจองเลขทะเบียนรถ คืออะไร

    วิธีการจองเลขทะเบียนรถ ที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง

    ในการจองทะเบียนรถยนต์ เราทำเพื่อให้ได้ตัวเลขทะเบียนที่เราต้องการ โดยตามที่กล่าวไว้ข้างต้น ว่าเราสามารถทำการจองทะเบียนออนไลน์ได้ง่าย ๆ ที่บ้าน โดยไม่ต้องเดินทางที่กรมขนส่ง ซึ่งจะมีขั้นตอนอยู่ด้วยดัน ดังนี้

    • เข้าเว็บไซต์ http://www.tabienrod.com หรือ https://reserve.dlt.go.th/reserve เพื่อเข้าไปทำการจองทะเบียนรถ
    • หลังจากคลิกเพื่อเริ่มต้นลงทะเบียนแล้ว อ่านข้อกำหนดทุกอย่างให้ละเอียด คลิกรับทราบ ข้อกำหนด เเล้วดำเนินการต่อ
    • กรอกข้อมูลสำคัญ เพื่อใช้ในการจองทะเบียนรถ จานั้นทำการเลือกเลขทะเบียนรถที่ต้องการ โดยเราสามารถเลือกได้เฉพาะ ตัวเลข 4 ตัวเท่านั้น ในส่วนของตัวอักษรไม่สามารถเลือกไม่ได้

    ส่วนใหญ่แล้วรถยนต์ทุกคันที่บริษัทจำหน่ายให้แก่ลูกค้านั้นจะมีป้ายทะเบียนรถที่ออกโดยกรมการขนส่งทางบนติดมาด้วย ถ้าเจ้าของรถต้องการเลือกเลขทะเบียนรถเอง ก็ให้บริษัททำการเปลี่ยนแปลงเลขทะเบียนรถให้ หรือ จะขอเลขทะเบียนเองก็ได้
     
    หากต้องทำการขอเลขทะเบียนรถเอง ก็สามารถทำการจองเลขทะเบียนรถออนไลน์ได้เลย เป็นการจองผ่านระบบอินเตอร์เน็ตจนเสร็จสมบูรณ์ โดยไม่ต้องไปทำที่กรมขนส่งทางบกด้วยตนเอง ดังนี้

    • เริ่มเข้าอินเตอร์เน็ต แล้วเลือกเข้าได้ทั้งสองเว็บดังนี้
      - เข้าเว็บไซต์ http://www.tabienrod.com แล้วคลิกที่ “ จองทะเบียนรถ ” หรือ
      - เข้าเว็บไซต์ https://reserve.dlt.go.th/reserve แล้วเลือก “ เข้าระบบจองเลขทะเบียน “
    • หลังเข้าระบบแล้วให้อ่านกฎเกณฑ์ ข้อกำหนด การเปลี่ยนแปลง ถ้าโอเคก็กดยอมรับ เพื่อเข้าสู่การจองทะเบียนรถ
    • กรอกข้อมูลเพื่อใช้ในการจองทะเบียนรถ ข้อมูลต้องแม่นยำและถูกต้อง ส่วนเลขทะเบียนรถที่ต้องการสามารถเลือกได้เฉพาะ 4 ตัวเลขเท่านั้น ตัวอักษรเลือกไม่ได้

    ซึ่งถ้าเป็นเลขทะเบียนทั่วไป ก็จะเสร็จสิ้นเพียงเท่านี้ รอทำการชำระเงินต่อไป เเต่ถ้าเป็นเลขทะเบียนพิเศษ หรือเลขสวย ๆ ก็จะมีค่าใช้จ่ายในการประมูล ซึ่งผู้ที่สามารถจ่ายได้มากกว่า ก็จะได้เลขทะเบียนนั้นไป

    อย่างไรก็ตามเรามีทริคเล็ก ๆ น้อย สำหรับคนที่ต้องการจองเลขทะเบียน ดังนี้

    • เตรียมหมายเลขทะเบียนที่คุณชอบ ไว้หลาย ๆ เบอร์ เพราะเนื่องจากระบบทำการเปิดให้จองพร้อมกันทั่วประเทศ เลขทะเบียนที่เรามองไว้ อาจโดนตัดหน้าก่อนได้ ดังนั้นควรมีหมายเลขสำรองอย่างน้อย ๆ 10 หมายเลข
    • เตรียมอินเตอร์เน็ตให้เเรงเข้าไว้ เพราะถึงเเม้จะทำการคลิกจองพร้อมกัน คนที่ได้ จะเป็นคนที่มีสัญญาณอินเตอร์เน็ตเร็วกว่าเตรียมระบบอินเตอร์เน็ตที่แรงและเร็วให้พร้อม เพราะหากสัญญาณอินเตอร์เน็ตคุณช้าไปเพียงเสี้ยววินาทีอาจทำให้คุณพลาดจากหมายเลขที่คุณชอบได้
    • และอีกตัวช่วย คือ บริการจาก FastTabien ที่จะช่วยให้คุณสามารถจองเลขทะเบียนออนไลน์ และได้หมายเลขทะเบียนที่คุณต้องการ ไดง่าย ๆ

    สรุป

    ในเมื่อใคร ๆ ก็อยากได้เลขทะเบียนสวย ๆ ไว้ติดคู่กับรถของตัวเอง เเต่เลขทะเบียนนั้น จะมีอยู่เเค่เเบบเดียว ดังนั้นเป็นเรื่องของใครเร็วใครได้ ดังนั้นการเตรียมตัวให้พร้อมก่อนการจองจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก ก่อนที่จะเข้าไปทำการจองเลขทะเบียนออนไลน์ ก็อย่าลืมศึกษาขั้นตอนวิธีการจอง เพื่อจะได้ไม่ล่าช้าตอนลงมือปฏิบัติจริง

    ความสำคัญของการมีป้ายเลขทะเบียนรถ เผื่อกรณีฉุกเฉินต่าง ๆ

    294
    การใช้งานท่อ HDPE สำหรับลำเลียงน้ำประปา

    การใช้งานท่อ HDPE ปัจจุบันมีการแพร่หลายในหมู่เกษตรกร ลำเลียงประปาน้ำดื่ม รวมไปถึงใช้งานตามโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ทว่าการใช้งานท่อดังกล่าว คนทั่วไปยังรู้จักไม่มากนัก วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักท่อ hdpe ขนาดต่าง ๆ ว่ามีการใช้งานอย่างไร ควรเลือกซื้อแบบไหนให้ตรงกับความต้องการของการใช้งาน


    ท่อ HDPE คืออะไร
    ท่อ HDPE คืออะไร ท่อ HDPE ย่อมาจากคำว่า High Density Polyethylene พลาสติกพอลิเอทิลีนชนิดความหนาแน่นสูง คนทั่วไปมักจะรู้จักท่อ pe ว่า “ท่อดำ” เพราะหน้าตาโดดเด่นที่สีดำล้วน หรือบางทีก็จะเห็นสีดำแถบเส้นสีฟ้า หรือแถบเส้นสีส้ม  และมีลักษณะท่อที โค้ง ดัดงอได้ตั้งแต่ 50-200 เมตร เมื่อเวลาคลี่ท่อม้วนออกมาที่หน้างานแล้ว ก็จะคดเคี้ยวได้ตามตัวอาคาร เชื่อมต่อง่ายไม่มีรั่วซึม ทนต่อสภาพแดด รังสียูวี

    รวมไปถึงคุณสมบัติเชิงเทคนิคที่รับแรงกระแทกได้ดี ราคาท่อ hdpe ไม่เป็นสนิมง่ายอีกทั้งไม่ทิ้งสารตกค้างที่ก่อให้เกิดมะเร็ง มีหลายประเภทตามการใช้งาน ส่วนใหญ่ที่นิยมใช้บ่อย ๆ คือสำหรับท่อน้ำดื่ม รับรองตามมาตรฐานมอก.982-2556 โดยกระทรวงอุตสาหกรรม


    สามารถติดตั้งอุปกรณ์ท่อ HDPE ได้กี่แบบ?
    หากคุณตัดสินใจเลือกใช้ท่อ HDPE ติดตั้งไว้ตามอาคาร วางเป็นท่อระบบน้ำดื่ม แม้กระทั่งวางเป็นท่อกระจายน้ำเพื่อการเกษตร  สิ่งที่ควรรู้เป็นอันดับแรกคือ ชั้นคุณภาพท่อ (PE) และ ชั้นรับแรงดัน (PN) ซึ่งเป็นตัวแปรหลักในการตัดสินใจจากจุดประสงค์การใช้งานของหน้างาน

    ในขณะเดียวกัน ขนาดท่อ pe ที่มีความหลากหลาย ขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำว่าใช้มากน้อยแค่ไหน ยิ่งปริมาณเยอะ แรงดันจากปั๊มน้ำสูง ยิ่งต้องใช้ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางท่อที่กว้าง และชั้นรับแรงดันที่สูงไม่ต่ำกว่า 10 บาร์ ต้องสังเกตว่าเจ้าของโครงการออกแบบท่อให้เหมาะกับงานแบบใด

    ต่อมาคือ ราคา ท่อ hdpe แต่ละขนาดที่ช่วงราคาแตกต่างกัน ชั้นคุณภาพ PE100 ราคาจะถูกกว่า ในขณะที่ PE80 จะแพงกว่าด้วยความหนาของผนังท่อที่หนากว่า PE100 เช่นเดียวกันกับอุปกรณ์ท่อ hdpe ที่ราคาต่างกันขึ้นอยู่กับประเภทการต่อท่อ ตามรายละเอียดดังนี้

    1. ข้อต่อท่อ HDPE แบบสวมล็อค

    ข้อต่อท่อแบบสวมล็อค

    หรือรู้จักในชื่อ ข้อต่อท่อ HDPE แบบสวมอัด ใช้สำหรับเป็นท่อน้ำดื่ม ท่อเกษตรโดยเฉพาะ ผลิตจากเม็ดพลาสติก HDPE ชนิดหนาแน่นสูง รับแรงดันน้ำได้มากถึง 10 บาร์ หรือถ้าเป็นแบบ made to order สำหรับระบบประปา ใช้ได้ถึง PN16 เลยทีเดียว

    โดยวิธีการใช้งานเริ่มจากทำการคลายฝาข้อต่อ จากนั้นวัดระยะท่อวัดจากเส้นความลึกบนแล้วทำเครื่องหมาย เมื่อได้ความยาวตามต้องการให้สวมท่อ สุดท้ายขันฝาให้สุดป้องกันการหลุดจากแรงดันน้ำ หรือวิธีที่รัดขั้นตอนที่ชาวสวนมักทำบ่อยๆ ก็คือการสวมเข้ากับท่อและบิดโดยมือ

    โดยรวมแล้วข้อต่อแบบ Compression เป็นการใช้งานที่สะดวก รวดเร็วที่สุด ประหยัดเวลาในการทำงาน ตามมาด้วยการลดต้นทุนในส่วนที่ไม่จำเป็น สำหรับราคาขนาดท่อ hdpe ประปา ทั้ง PE80 และ PE100 ทางโรงงาน sr pe group ขายราคามิตรภาพ รับรองความคุ้มค่าของผู้บริโภค ท่อ HDPE ได้ 100%

    2. ข้อต่อท่อ HDPE แบบเชื่อม

    ข้อต่อท่อ HDPE แบบเชื่อม

    ข้อต่อท่อที่ใช้ความร้อนในการเชื่อมกัน รอยเชื่อมถูกหลอมละลายให้เป็นเนื้อเดียวกัน ใช้อุณหภูมิที่ 205-220 องศา ตามข้อกำหนดของ DVS 2203 หรือมาตรฐานการเชื่อมท่อ hdpe โดยใช้แอลกอฮอล์ชุบสำลีทำความสะอาดแนวท่อ หากเชื่อมแล้วต้องเยื้องศูนย์ไม่เกิน 10% ของความหนา นอกจากนี้ยังต้องใช้เครื่องปั่นไฟให้เหมาะสมกับงานเชื่อมด้วย

    มั่นใจได้ว่ารอยเชื่อมของข้อต่อมีความแข็งแรงมากกว่าตัวท่อ เหมาะสำหรับงานโครงการ อุตสาหกรรมท่อขนาดใหญ่ สำหรับราคาท่อ hdpe ข้อต่อเชื่อมแบบงอ บริษัทของเราขายในราคาเป็นมิตร มั่นใจได้ว่านอกจากได้รับสินค้าคุณภาพแล้ว ราคาเป็นมิตรกับผู้ใช้งานแน่นอน


    หากต้องการสั่งซื้อท่อ HDPE ควรหาซื้อที่ไหน (แต่งได้เลยครับ)

    หากสนใจท่อ HDPE แต่ไม่รู้ว่าจะสั่งซื้อท่อกับใคร ทางเราขอแนะนำ SRPE GROUP โรงงานผลิตและจำหน่ายท่อและอุปกรณ์ต่าง ๆ มีให้เลือกขนาดท่อ hdpe  ที่หลากหลายในกำลังการผลิตที่ค่อนข้างสูงเป็นเวลากว่า 20 ปี ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า  ตามมาตรฐานสินค้า
    มอก.982-2556   ได้รับความไว้วางใจจากภาครัฐและเอกชนทั้งในประเทศ และต่างประเทศ เป็นผู้ผลิตแนวหน้าในประเทศที่มุ่งมั่นกับการขับเคลื่อนระบบสาธารณูปโภคให้มีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการน้ำให้ดียิ่งขึ้น

    ปัจจุบันบริษัทของเรามุ่งเน้นการพัฒนารวมทั้งวิจัยผลิตภัณฑ์นวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ด้วยการสนับสนุนจากสำนักงานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ และหน่วยงานอื่น ๆ อีกมากมาย
    หากท่านไหนสนใจ โปรดติดต่อสอบถามราคาท่อ hdpe หรือสั่งซื้อสินค้าอื่นของบริษัท ได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 034-876-185 Facebook Fanpage : srpegroup หรือ Line: @srpegroup (หรือคลิ๊ก https://page.line.me/fho2194u)


    สรุป
    ท่อ HDPE เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในการติดตั้งระบบส่งน้ำในงานอุตสาหกรรม และ ระบบร้อยสายไฟเพื่อการโทรคมนาคมและงานสื่อสาร ด้วยจุดเด่นหลาย ๆ ข้อที่ทำให้ ท่อ pe เป็นทางเลือกเบอร์หนึ่ง เทียบกับท่อประเภทอื่น มีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมสูง ไม่ก่อให้เกิดสารเคมีตกค้างในระบบประปา รับรองเลยว่าสามารถวางใจเรื่องความปลอดภัยได้ ส่วนถ้าใครที่สนใจท่อ HDPE อยู่แล้วก็สามารถเลือกและจับจองท่อ HDPE ที่เหมาะสมกับงานของผู้ใช้งานได้เลย


    295
    ขายท่อ pe ขายท่อ hdpe

    ปัจจุบัน ท่อ PE หรือ HDPE มีความนิยมในการใช้งานอย่างมากมาย เพราะด้วยความที่เป็นวัสดุที่มีความยืดหยุ่นสูง นำไปใช้ได้หลากหลายความต้องการ มีอายุการใช้งานที่นาน แน่นอนว่า การหาร้านขายท่อ PE ที่ดีมีคุณภาพนั้น ถ้าเข้าใจหลักเกณฑ์ ก็หาได้ไม่ยาก

    แต่การติดตั้งท่อ PE บ่อยครั้งที่หลายคนมักไม่ใส่ใจในตัวผลิตภัณฑ์ จนนำไปสู่การเสียหายชำรุด หรือเกิดการทรุดโทรมหลังติดตั้งอย่างรวดเร็ว สาเหตุหลักๆ คือการเลือกซื้อท่อจากผู้ขายท่อ PE ที่ไม่ได้มาตรฐาน โดยเราจะมาแนะนำ วิธีการเลือกซื้อท่อ PE หรือ HDPE ว่าควรซื้อกับร้านขายท่อ HDPE และโรงงานผลิตที่ถูกต้องยังไง


    ศูนย์บริการท่อ PE คืออะไร มีมาตรฐานอย่างไร?

    ขายท่อ pe ขายท่อ hdpe

    ศูนย์บริการขายท่อ PE คือร้านที่มีบริการขายท่อ HDPE ที่มีความครบวงจร ที่มีตั้งแต่การให้คำปรึกษาการใช้งานผลิตภัณฑ์ การสั่งซื้อสินค้า จนไปถึงการขนส่งสินค้าไปถึงที่หมาย ซึ่งแน่นอนว่า ร้านขายท่อ PE ที่ดีนั้น มีเหตุผลและหลายปัจจัยมากมาย แต่ก่อนที่เราจะหาร้านขายที่ดีได้ ต้องเล่าถึงร้านที่ได้มาตรฐานก่อน โดยมาตรฐานแล้วสิ่งที่ร้านขายท่อ PE ต้องมีคือ

    มีสินค้าและอุปกรณ์ครบครัน
    ร้านขายท่อ PE จะต้องเป็นแหล่งที่รวบรวมท่อ HDPE ที่สอดคล้องกับความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าได้ เพราะการขายท่อ PE มีการใช้งานได้หลายกรณี ไม่ว่าจะเป็นงานการไฟฟ้า หรือเกษตรกรรม ดังนั้น จำนวนของท่อ PE ต้องมีมากพอ และอุปกรณ์เสริมที่ลูกค้าต้องการ เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียเวลาหาซื้ออุปกรณ์จากร้านอื่น

    มีบริการจัดส่ง
    มีบริการจัดส่งที่รวดเร็ว เพื่อตอบรับกับลูกค้าที่ต้องการใช้งานสินค้าให้เร็วที่สุด และสามารถติดตามสินค้าได้อย่างง่ายดาย

    มีช่องทางการสั่งซื้อที่หลากหลาย
    นอกจากจะมีหน้าร้านที่จดทะเบียนอย่างถูกต้องแล้ว ร้านขายท่อ PE ควรจะมีช่องทางการติดต่อสั่งซื้อที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเบอร์โทรศัพท์ แพลตฟอร์มจาก Social media หรือจะเป็นเว็บไซต์ ซึ่งการมีช่องทางเหล่านี้ ไม่ใช่มีไว้เพื่อขายท่อ PE อย่างเดียว แต่ต้องมีไว้เพื่อติดต่อสอบถามถึงปัญหาการใช้ด้วย


    ผู้ให้บริการขายท่อ PE ที่ดีมีคุณภาพเป็นอย่างไร
    แม้เราได้กล่าวถึงร้านขายท่อ PE ที่มีมาตรฐานไปแล้ว แต่สิ่งที่จะทำให้เราสามารถเลือกใช้บริการผลิตภัณฑ์ท่อ HDPE ได้ดีที่สุด คือคุณภาพและการรับรองมาตรฐานระดับสากล บริษัท เอส.อาร์พีอีกรุ๊ป จำกัด ที่มีบริการแบบ One Stop Service มีความเชี่ยวชาญในการผลิตท่อ HDPE และเป็นแบรนด์ที่น่าเชื่อถือในตลาดขายท่อ PE ทั้งในระบบประปา และระบบไฟฟ้า เป็นโรงงานที่ผลิตท่อที่ได้มาตรฐาน มอก.การันตีด้วยลูกค้ากว่า 2500 ราย และประสบการณ์กว่า 20 ปี และนี่คือสิ่งที่ทำให้เราแตกต่าง

    1. มีการรับรองรับรองคุณภาพสินค้า
    การผลิตท่อ PE เพื่อนำไปจำหน่ายของเรา มีการตรวจสอบ QCS ประเมินคุณภาพสินค้าเพื่อนำไปขาย โดยมีการรับรองคุณภาพสินค้า ตรวจเช็กว่าผลิตภัณฑ์ตรงกับเกณฑ์คุณภาพ ภายใต้มาตรฐาน TIS2559-2554 หรือไม่ อีกทั้งโรงงานและกระบวนการผลิตทั้งหมดยังได้มาตรฐาน ISO และ มอก. เพื่อที่ทำให้ร้านขายท่อ PE ได้รับสินค้าที่มีคุณภาพอย่างแท้จริง

    2. เป็นผู้นำนวัตกรรม
    แน่นอนว่าการขายท่อ PE ลูกค้าอาจจะมีข้อสงสัย ถึงความแตกต่างของท่อ HDPE ต่างๆ โดยผลิตภัณฑ์ของเรา มีการวิจัยและไม่หยุดพัฒนาพลาสติกที่ใช้ผลิตท่อ HDPE เพื่อที่จะสามารถตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย และขอบเขตงานที่เล็กหรือใหญ่ โดยเรามีส่วนช่วยในระบบสาธารณูปโภค ร่วมงานและช่วยแก้ปัญหากับภาครัฐและเอกชนมากมาย เพื่อที่จะพัฒนาอุตสาหกรรมต่อไป


    สรุป
    อย่างไรก็ดี ร้านขายท่อ PE หรือ HDPE ที่ดีที่สุด คือร้านที่มีบริการแบบครบวงจร หรือ One Stop Service ที่มีทั้งบริการให้คำปรึกษา ช่วยเลือกผลิตภัณฑ์และจำนวนให้เข้ากับสภาพงานที่ใช้ และมีบริการจัดส่งติดตั้งที่รวดเร็ว สามารถตรวจเช็กได้ อีกทั้งผลิตภัณฑ์ที่ร้านขายท่อ PE ควรจะมี คือผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน มีการรับประกันคุณภาพสินค้า ผลิตจากโรงงานผลิตที่ได้มาตรฐานชัดเจน และตรวจสอบได้ เพียงเท่านี้ เราจะได้ท่อ HDPE ที่ดีที่สุด มาติดตั้งได้อย่างสบายใจ


    296
    โครงซีลายตราช้างราคาเท่าไหร่

    โครงซีลายน์โครงฝ้าเพดาน ฝ้าเพดานสำหรับฉาบเรียบที่นิยมใช้อย่างแพร่หลาย เพราะโครงซีลายน์มีน้ำหนักเบา แต่ความแข็งแรงกว่าโครงแบบอื่น และไม่เกิดสนิมง่าย บทความนี้จึงได้รวบรวมเรื่องโครงซีลายน์ที่คุณอาจจะยังไม่รู้จะมีเรื่องอะไรบ้างนั้นสามารถติดตามได้เลยค่ะ


    โครงซีลายน์ คือ
    โครงซีลายน์ คือ โครงสร้างสำหรับที่พักอาศัย โครงคร่าวซีลายน์เป็นวัสดุที่ทำมาจากเหล็กคุณภาพดี ชุบสังกะสี ใช้ทำร่วมกับยิปซั่มบอร์ดเพื่อทำโครงฝ้าเพดาน ทำฝ้าฉาบเรียบ เหมาะสำหรับตกแต่งภายใน คุณสมัติของโครงซีลายน์ที่ทำมาจากเหล็กนั้นจึงมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน พร้อมทั้งป้องกันปลวก มอด แมลงต่าง ๆ ตัวปัญหาที่จะทำให้ที่พักอาศัยของคุณผุพังก่อนเวลา


    จุดเด่นโครงซีลายน์
    โครงซีลายน์เป็นโครงคร่าวที่ได้รับมาตรฐานของฝ้าเพดานฉาบเรียบภายในอาคาร มีคุณสมบัติและจุดเด่นหลายประการ ดังนี้

    โครงซีลายน์รับน้ำหนักได้เท่าไหร่

    • โครงซีลายตราช้างราคาประหยัด แต่มีมาตฐานทั้งด้านความปลอดภัยและความสวยงาม
    • โครงซีลายน์มีความแข็งแรง ด้วยเทคนิคการผลิตและออกแบบพิเศษ จึงช่วยเพิ่มในเรื่องความแข็งแรง
    • มีความปลอดภัย โครงฝ้าฉาบเรียบโปรลายน์ได้รับการออกแบบและทดสอบ โดยคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก
    • น้ำหนักเบา โครงซีลายน์มีน้ำหนักเบากว่าโครงไม้ 2 เท่า และให้ความแข็งแรงกว่า และไม่มีการบิดงอ
    • มีความทนทาน โครงซีลายน์ทำมาจากเหล็กชุบด้วยสังกะสี จึงทำให้เกิดสนิมได้ยาก และเหมาะกับสภาพความชื้นสูงในประเทศไทย


    ปัจจัยที่สำคัญต่อการรับน้ำหนักของฝ้าเพดาน
    ปัจจัยที่สำคัญต่อการรับน้ำหนักของฝ้าเพดานขึ้นอยู่กับโครงและอุปกรณ์ หากโครงมีความแข็งแรงก็จะรับน้ำหนักของฝ้าเพดานได้อย่างแข็งแรงและปลอดภัย และปัจจัยอื่น ๆ ที่สำคัญต่อการรับน้ำหนักของฝ้าเพดานได้แก่ ระยะการติดตั้งชุดแขวน จำนวนสกรูที่ยึดฝ้าเพดานเข้ากับโครง ระยะห่างของสกรูยึดแผ่น เพราะฉะนั้นโครงซีลายน์ที่ทำจากเหล็กคุณภาพดีจึงเหมาะกับการทำโครงเพดานเพราะรับน้ำหนักของฝ้าได้เป็นอย่างดี


    โครงซีลายน์ต้องหนาเท่าไรจึงรับน้ำหนักคนได้
    จากที่กล่าวข้างต้นปัจจัยที่สำคัญต่อการรับน้ำหนักคือโครง หากต้องการขึ้นไปบนฝ้าเพดาน จำเป็นต้องออกแบบโครงสร้างแบบเฉพาะเพื่อรับน้ำหนักคนได้ แต่หากจะรับน้ำหนักของคนได้โครงซีลายน์อย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ ขนาดหน้าตัดของโครงรวมทั้งอุปกรณ์แขวนทั้งหมดจำเป็นต้องเปลี่ยนด้วย

    การติดตั้งโครงซีลายน์

    โครงซีลายน์ติดตั้งยังไง

    วิธีติดตั้งโครงซีลายน์ สามารถทำได้ 7 ขั้นตอน ดังนี้

    1.กำหนดระดับฝ้ารอบห้องที่ต้องการติดฝ้า แล้วติดโครงริมโปร ตามระดับ

    2.ประกอบชุดปรับระดับท่อนล่างกับลวดแขวงก่อน บนที่เหมาะกับระยะเหนือฝ้า และปรับให้ทุกตัวยาวเท่ากัน ก่อนนำขึ้นไปแขวน ในขั้นตอนนี้จะมีส่วนที่ระวังคือ ควรเลือกให้ข้อล็อกโครงและลวดแขวนท่อนบนที่มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 4 มม.เท่ากัน

    3.ยึดปลายลวดแขวนไว้กับท้องพื้นคอนกรีต หรือโครงสร้างหลักของอาคาร ด้วยพุกเหล็กและฉากยึดท้องพื้นให้แน่นเป็นตาราง 1.00 x 1.20 ม. หรือ 1.20 x 1.20 ม.

    4.ล็อกโครงโปรซีลายน์ แนวตั้งเข้ากับขอของชุดปรับระดับที่หันสลับด้านกัน เมื่อต้องต่อโครง ให้ใช้ตัวต่อพิเศษ หรือ ตัวต่อแบบ เอช โดยไม้ให้รอยต่อ ของโครงแถวติดกันอยู่ตรงกัน แล้วปรับให้ถูกต้องอย่างละเอียดอีกครั้ง

    5.ล็อกโครงพลัสซีลายน์ แนวนอนเข้าด้านล่างโครง แนวตั้งด้วยคลิปล็อกโปรให้โครงนอนแต่ละแถวห่างกัน 40 ซม. แล้วเช็คระดับอีกครั้งด้วยเอ็น และระดับน้ำหรือเลเซอร์

    6.ติดแผ่นยิปซัม ขอบลาด เข้ากับโครงแนวนอน ด้วยสกรูยิปซัมขนาด 25 มม. โดยสกรูทุกระยะ 20 ซม. ที่บริเวณของขอบแผ่น และ 30 ซม. ที่บริเวณกลางแผ่น

    7.ฉาบรอยต่อของแผ่นทุกด้านด้วยปูนฉาบรอยต่อ และผ้าเทป


    โครงซีลายน์ ราคา
    โครงซีลายน์ตราช้างราคาประหยัด มีให้เลือกหลายแบบและรุ่น โครงซีลายน์ราคาจะขึ้นอยู่กับยี่ห้อ ขนาด และวัสดุ สามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสมของการใช้งาน ราคาของโครงซีลาย ดังนี้

    1.ขนาด: มีทั้งแบบหนาและแบบบาง
    2.ยี่ห้อ: ตราช้าง (SCG), SCL, Gyproc
    3.วัสดุ: เหล็กรีดเย็น, เหล็กเคลือบกัลวาไนซ์, เหล็กกล้า


    สรุปเรื่องโครงซีลายน์
    ไม่ว่าจะสร้างบ้านที่อยู่อาศัยหรืออาคารต่าง ๆ นอกจากเรื่องความสวยงามแล้ว ในส่วนของความแข็งแรงนับว่าเป็นสำคัญเป็นอย่างมาก ซึ่งความของแรงขึ้นอยู่กับโครงสร้างของสิ่งปลูกสร้างนั้น ๆ โครงสร้างเพดานที่มีคุณภาพ และแข็งแรงทนทาน โครงซีลายน์จึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ช่างส่วนใหญ่เลือกใช้


    297
    ในปัจจุบัน การก่อสร้างหรือต่อเติม อาคารบ้านเรือนนั้น มีวัสดุให้เลือกใช้ได้มากมายหลายประเภท ซึ่งสามารถแยกได้ ตามประเภทการใช้งานของผู้ใช้ สมาร์ทบอร์ดนั้น คือหนึ่งในไอเทมที่เหมาะสำหรับสาย ซื้อครั้งเดียวจบเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีคุณสมบัติพิเศษหลากหลาย คุณสมบัติที่เหมาะสำหรับใช้ในระยะยาว ซื้อครั้งเดียวแทบไม่ต้องเปลี่ยนเลย

    โดยสมาร์ทบอร์ด จัดเป็น หนึ่งในกลุ่มของ ผนังเบา ที่ขึ้นชื่อเรื่องการติดตั้งที่ง่าย มีน้ำหนักน้อยกว่า ราคาถูก มีความยืนหยุ่นสูง ทำให้ผู้ใช้งาน มีความสนใจที่จะใช้งานวัสดุกลุ่มผนังเบาเป็นจำนวนมาก โดยสมาร์ทบอร์ดมีจุดเด่นที่เหมาะสำหรับสายเน้นใช้งานระยะยาวเป็นอย่างมาก

    ติดตั้งสมาร์ทบอร์ด

    สมาร์ทบอร์ด คืออะไร

    สมาร์ทบอร์ด คือ แผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์ ที่เกิดจากการผสมของ ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ ทรายซิลิก้า เส้นใยเซลลูโลสชนิดพิเศษ เข้าด้วยกัน ผ่านกระบวนการอบไอน้ำที่อุณหภูมิและแรงดันสูง ทำให้แผ่นสมาร์ทบอร์ด มีความแข็งแรงทนทานพร้อมกับมีความยืดหยุ่นในเวลาเดียวกัน อีกทั้งยังมีความปลอดภัยสูงเนื่องจากไม่มีส่วนผสมของใยหิน

    คุณสมบัติต่างๆของสมาร์ทบอร์ดนั้น เหมาะสมสำหรับใช้งานทั้งภายในและภายนอก เนื่องจากมีความโดดเด่นในด้านของความแข็งแรงทนทานสูง สามารถรับแรงกระแทกได้ดี สามารถกันน้ำได้ อีกทั้งปลวกยังไม่กินบอร์ดชนิดนี้ แผ่นสมาร์ทบอร์ดจึงมักถูกนำไปใช้ในงานฝ้าเพดาน, ฝ้าหนัง หรือสามารถใช้ในงานพื้นก็ได้

    ผนังเบา คือ

    ผนังเบา คือ วัสดุที่ใช้สำหรับการทำผนัง แทนที่การใช้วิธีก่ออิฐ ซึ่งก็คือการใช้วัสดุที่มีน้ำหนักเบามาติดตั้งกับโครงคร่าว จากนั้นทำการตกแต่งเพิ่มเติมเพื่อความสวยงาม ผนังเบานั้น มีมากมายหลายชนิด โดยสามารถเลือกใช้ได้จาก วัสดุ คุณสมบัติ หรือพื้นผิวสัมผัส

    โดยทั่วไปนิยมใช้ในการกั้นห้อง เนื่องจากสามารถติดตั้งได้ง่าย วัสดุมีน้ำหนักเบา มีคุณสมบัติแบ่งตามประเภทการใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ป้องกันไฟลุกลามได้ สามารถกันน้ำรั่วซึมได้ สามารถป้องกันเสียงได้ จึงถูกนำไปกั้นห้องต่างๆ เช่น ห้องนอน ห้องทำงาน ห้องครัว ห้องน้ำ หรือสามารถ ใช้ทำผนังสำหรับทางหนีไฟได้อีกด้วย

    หากทำการเลือกใช้ให้ถูกต้อง เราจะสามารถเพิ่มความสวยงามให้กับบ้านของเราได้โดยประหยัดงบประมาณลงจากการใช้การก่ออิฐได้ เนื่องจากราคาและจำนวนของวัสดุที่ใช้ในแต่ละครั้งนั้นมีน้อย ติดตั้งง่าย โดยมีหลากหลายประเภท ดังนี้
    • สมาร์ทบอร์ด มีความแข็งแรงทนทาน เนื้อเหนียว มีความยืดหยุ่นสามารถดัดให้โค้งงอได้ สามารถก้อนเสียงและป้องกันความร้อนได้ดี
    • แผ่นยิปซั่ม มีความแข็งแรงทนทาน อีกทั้งยังสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้หลังจากเคยใช้งานไปแล้ว น้ำหนักเบา ราคาถูก พื้นผิวมีความสวยงาม ไม่ต้องแต่งเติมจากเดิมมากนัก
    • ซีเมนบอร์ด มีความแข็งแรงทนทานสูงมาก เนื่องจากเป็นการผสานกันระหว่าง ปูนซีเมนต์กับไม้เข้าด้วยกัน มีความสวยงาม สามารถทนได้ต่อทุกสภาพอากาศ ใช้ได้ทั้งภายในและภายนอก กันปลวกได้
    • แผ่นไม้สังเคราะห์ ผลิตจากวัสดุพอลิเมอร์พลาสติกผสมกับขี้เลื่อย ใยไม้ รวมไปถึงผมไม้ จากนั้นนำไปอัดออกมาเป็นแผ่น ถึงแม้จะประกอบด้วยส่วนประกอบของไม้ แต่แผ่นไม้สังเคราะห์นั้นสามารถกันปลวกได้ อีกทั้งยังสามารถป้องกันความชื้นได้ดีอีกด้วย
    • ไม้อัดยาง เป็นวัสดุที่ทำจากไม้แผ่นบางมาอัดกาวเป็นชั้น จึงทำให้ลวดลายเป็นลวดลายของไม้จริง สามารถนำมาใช้ใหม่ได้ง่าย มีความสวยงามตามธรรมชาติ ซ่อมแซมง่าย

    ผนังเบาสมาร์ทบอร์ด

    ข้อได้เปรียบของสมาร์ทบอร์ด

    โดยข้อได้เปรียบ ของสมาร์ทบอร์ดที่เห็นได้ชัดเจน นั้นก็คือ
    • สามารถรองรับแรงกระแทกได้ดี
    • กันน้ำได้
    • กันแดดได้
    • ปลวกไม่กิน
    • เนื้อเหนียว ดัดโค้งได้ มีความยืดหยุ่นสูง

    ประเภทของสมาร์ทบอร์ด

    แม้ว่าสมาร์ทบอร์ดจะเป็นหนึ่งในกลุ่มของผนังเบา แต่สมาร์ทบอร์ด ยังสามารถแบ่งประเภทออก เพื่อให้เหมาะสมสำหรับการใช้งานเฉพาะจุด เนื่องจากสมาร์ทบอร์ดนั้นสามารถใช้งานได้หลากหลายจุด ไม่ว่าจะเป็น ฝ้าภายใน,ฝ้าชายคา,ฝ้าระเบียง,ผนังภายใน,ผนังภายนอก,ผนังตกแต่ง,รวมไปถึงพื้นก็สามารถใช้สมาร์ทบอร์ดได้ โดยสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทได้แก่

    1. สมาร์ทบอร์ดแบบเซาะร่อง

    สมาร์ทบอร์ดแบบเซาะร่อง นั้น มีลักษณะตามชื่อของมัน นั้นคือ ตัววัสดุนั้นจะมีการเซาะร่องไว้ เพื่อเพิ่มความสวยงามให้กับตัววัสดุ ทำให้ไม่ดูเรียบหรือธรรมดาจนเกินไป การเซาะร่อง นอกจากเพื่อเพิ่มความสวยงามแล้ว ยังช่วยในการจำกัดความเสียหายที่อาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ เช่นการขยายหรือหดตัวของอาคารในบางส่วน ทำให้เกิดความเสียหายต่อตัวบอร์ด ก็จะเกิดขึ้นในช่วงที่มีการเซาะร่องเอาไว้แล้วเท่านั้น

    2. สมาร์ทบอร์ดแบบขอบเรียบ

    สมาร์ทบอร์ดแบบขอบเรียบ หรือเราสามารถเรียกว่า สมาร์ทบอร์ดธรรมดาก็ได้ โดยประเภทนี้คือประเภทปรกติ ที่ไม่ได้มีลูกเล่นอะไรเสริมเข้ามา ทั้งนี้สมาร์ทบอร์ดชนิดนี้ก็มีขนาดและความหนาให้เลือกใช้ได้มากมายตามความต้องการ

    สมาร์ทบอร์ด ราคาเท่าไร

    สมาร์ทบอร์ดไม่ว่าจะเป็นแบบขอบเรียบหรือแบบเซ่ะร่อง ต่างมีหลากหลายขนาดให้เลือกใช้งาน ซึ่งแต่ละขนาดก็มีราคาที่แตกต่างการ โดยเริ่มต้นตั้งแต่ 145 จนถึง 830 บาท โดยเป็นราคา ต่อ ขนาด 1.2x2.4 เมตร 1 แผ่น นั้นเอง

    ราคาสมาร์ทบอร์ดแบบขอบเรียบได้แก่
    • สมาร์ทบอร์ดขอบเรียบขนาด 4 มม. ราคา 145 บาท ต่อขนาด 1.2x2.4 เมตร จำนวน 1 แผ่น
    • สมาร์ทบอร์ดขอบเรียบขนาด 6 มม. ราคา 225 บาท ต่อขนาด 1.2x2.4 เมตร จำนวน 1 แผ่น
    • สมาร์ทบอร์ดขอบเรียบขนาด 8 มม. ราคา 315 บาท ต่อขนาด 1.2x2.4 เมตร จำนวน 1 แผ่น
    • สมาร์ทบอร์ดขอบเรียบขนาด 10 มม. ราคา 475 บาท ต่อขนาด 1.2x2.4 เมตร จำนวน 1 แผ่น
    • สมาร์ทบอร์ดขอบเรียบขนาด 12 มม. ราคา 585 บาท ต่อขนาด 1.2x2.4 เมตร จำนวน 1 แผ่น
    • สมาร์ทบอร์ดขอบเรียบขนาด 15 มม. ราคา 605 บาท ต่อขนาด 1.2x2.4 เมตร จำนวน 1 แผ่น
    • สมาร์ทบอร์ดขอบเรียบขนาด 18 มม. ราคา 728 บาท ต่อขนาด 1.2x2.4 เมตร จำนวน 1 แผ่น
    • สมาร์ทบอร์ดขอบเรียบขนาด 20 มม. ราคา 830 บาท ต่อขนาด 1.2x2.4 เมตร จำนวน 1 แผ่น

    ราคาสมาร์ทบอร์ดแบบเซาะร่องได้แก่
    • สมาร์ทบอร์ดเซาะร่อง 3 นิ้ว ราคาประมาณ 50 บาทต่อหน่วยตารางเมตร
    • สมาร์ทบอร์ดเซาะร่อง 4 นิ้ว ราคาประมาณ 500 บาทต่อหน่วยตารางเมตร
    • สมาร์ทบอร์ดเซาะร่อง 6 นิ้ว ราคาประมาณ 500 บาทต่อหน่วยตารางเมตร

    การคำนวนตารางเมตร
    • หน่วย เซนติเมตร คือ ด้านคูณด้าน หารด้วย 10,000 เช่น 120x240 ซม. = 2.88 ตารางเมตร
    • หน่วย เมตร คือ ด้านคูณด้าน เช่น 1.2x2.4 ม. = 2.88 ตารางเมตร

    สรุปเรื่องสมาร์ทบอร์ด

    สมาร์ทบอร์ด สามารถกล่าวได้ว่า มีความแข็งแรงทนทานสูงมากเมื่อเทียบกับวัสดุผนังเบาชนิดอื่น อีกทั้งยังใช้งานได้หลายสถานที่เพราะคุณสมบัติกันน้ำและปลวกยังไม่กินอีกด้วย สามารถใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งการติดตั้ง

    สมาร์ทบอร์ดราคา

    298
    ยาแก้ปวดท้องเมนส์

    แน่นอนว่าสาวๆ ทุกคนต้องเคยเจอปัญหาปวดท้องเมนส์ ปวดประจำเดือนจน บางคนอาจจะนานๆ ทีปวด แต่บางคนก็ปวดเป็นประจำจนทำให้เกิดอาการเบื่อหน่าย หงุดหงิด และบางคนอาจจะปวดท้องประจำเดือนรุนแรงจนไม่สามารถขยับตัวได้ วันนี้เราจะมาแนะนำ 5 อันดับ ยาแก้ปวดท้องเมนส์ ตัวช่วยในชั่วโมงเร่งด่วนสำหรับสาวๆ โดยเฉพาะ

    สำหรับใครที่มักจะมีอาการปวดท้องเมนส์บ่อยๆ การทานยาแก้ปวดท้องประจำเดือนเป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจและได้ผลดี แต่บางคนรู้จักยาแก้เจ็บท้องประจำเดือนยี่ห้อเดียว ซึ่งทานแล้วอาจจะไม่หาย บทความนี้จะพาสาวๆ ไปทำความรู้จักกับยาแก้ปวดท้องเมนส์ที่จะช่วยบรรเทาอาการปวดท้องเมนส์ให้ดีขึ้น

    ยาแก้ปวดท้องเมนส์

    ยาแก้ปวดประจำเดือน

    ยาแก้ปวดท้องเมนส์ส่วนใหญ่มักจะถูกจัดอยู่ในกลุ่มยาแก้อักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ หรือที่หลายคนเรียกว่า ยากลุ่มเอ็นเสด (NSAIDs) สามารถออกฤทธิ์ลดการอักเสบและยับยั้งการผลิตสารโพรสตาแกลนดินที่กระตุ้นการหดเกร็งตัวของมดลูก ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปวดท้องประจำเดือน

    นอกจากยากลุ่มเอ็นเสด แล้วยังมียาแก้ปวดอื่นๆ ที่สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดท้องประจำเดือนได้ เช่น ยาสามัญประจำบ้านอย่างยาพาราเซตามอล ทั้งนี้ถ้าสาวๆ ลองกินยาแก้ปวดท้องเมนส์ชนิดใดชนิดหนึ่งแล้วอาการไม่ดีขึ้น ควรเปลี่ยนยาที่ทานเพราะยาแต่ละตัวก็ออกฤทธิ์แตกต่างกันออกไป

    ปวดประจำเดือน อาการเป็นอย่างไร

    อาการปวดประจำเดือน

    บางครั้งสาวๆ อาจจะเกิดความสับสนระหว่างอาการปวดท้องเมนส์ ปวดท้องกระเพาะ หรือ ปวดท้องเข้าห้องน้ำ ซึ่งจริงๆ แล้วอาการทั้งหมดค่อนข้างที่จะแตกต่างกัน โดยส่วนใหญ่อาการปวดท้องเมนส์มักจะมีอาการ ต่อไปนี้

    • ปวดบริเวณท้องน้อย หรือ บริเวณอุ้งเชิงกราน ระหว่างที่มีประจำเดือน
    • อาการปวดท้องเมนส์มักจะมีระยะเวลาประมาณ 1-3 วัน
    • สาวๆ บางคนอาจจะปวดท้องและลุกลามไปยังบริเวณอื่น เช่น ปวดหลัง ปวดเอว ปวดขา และสะโพกได้
    • อาการปวดท้องเมนส์อาจจะมาพร้อมกับอาการไข้ต่ำๆ หรือ ครั่นเนื้อครั่นตัวร่วมด้วย

    ทั้งนี้ถ้าหากสาวๆ มีอาการปวดท้องเมนส์จนกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันก็สามารถรับประทานยาแก้ปวดท้องเมนส์เพื่อบรรเทาอาการได้

    ยาแก้ปวดท้องเมนส์ อันตรายไหม

    บางคนอาจจะกังวลว่าทานยาแก้ปวดท้องเมนส์ทุกเดือนอันตรายไหม ? จริงๆ แล้วสามารถทานได้ โดยแนะนำให้รับประทานยาแก้ปวดท้องเมนส์ให้ถูกวิธีตามที่ฉลากข้างกล่อง แพทย์ หรือ เภสัชกรแนะนำ เพื่อความปลอดภัยของร่างกาย และไม่ควรทานยาแก้ปวดท้องเมนส์เกิน 3 ครั้งต่อวัน

    ในกรณีที่ทานยาแก้ปวดท้องเมนส์ในปริมาณที่ไม่เหมาะสม อาจจะส่งผลเสียได้ เช่น ปวดศีรษะ อารมณ์แปรปรวน หรือเป็นแผลในกระเพาะอาหาร

    ยาแก้ปวดท้องเมนส์ ออกฤทธิ์อย่างไร

    ยาแก้ปวดท้องเมนส์ส่วนใหญ่ที่อยู่ในกลุ่มยาแก้อักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์มักจะออกฤทธิ์ยับยั้งการอักเสบ หรือ สารโพรสตาแกลนดิน (Prostagladin) เพื่อลดการบีบบริเวณมดลูก เพื่อช่วยให้อาการปวดท้องเมนส์ดีขึ้นหลังจากรับประทานยา

    5 อันดับ ยาแก้ปวดท้องเมนส์ ยอดนิยม

    สาวๆ หลายคนอาจจะรู้จักยาแก้ปวดท้องเมนส์เพียงยี่ห้อเดียว ได้แก่ พอนสแตน แต่จริงๆ แล้วในปัจจุบันมียาแก้ปวดท้องเมนส์หลายยี่ห้อที่สามารถช่วยบรรเทาอาการได้ดี โดยวันนี้เราได้รวบรวมเอา 5 อันดับ ยาแก้ปวดท้องเมนส์ ยอดนิยมมาให้กับสาวๆ ดังนี้

    1. พอนสแตน (Ponstan)

    ยาแก้ปวดท้องเมนส์สีเหลือง พอนสแตน

    พอนสแตนเป็นยาแก้ปวดท้องประจำเดือนเม็ดสีเหลืองที่สาวๆ ทุกคนน่าจะรู้จักหรือเคยได้ยินชื่อยี่ห้อกันมาบ้าง โดยพอนสแตนจะออกฤทธิ์ช่วยบรรเทาอาการปวดหลังจากที่รับประทานยาไปแล้ว 30-60 นาที ซึ่งตัวยาออกฤทธิ์ได้นานถึง 6 ชั่วโมง ไม่แนะนำให้ทานตอนท้องว่างเพราะอาจจะกัดกระเพาะได้

    2. โกเฟน (Gofen)

    โกเฟน 400

    โกเฟนเป็นยาแก้ปวดท้องเมนส์อีกหนึ่งยี่ห้อที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กับพอนสเตน โดยถูกจัดอยู่ในกลุ่มยาเอ็นเสดเหมือนกัน ช่วยบรรเทาอาการปวดท้องเมนส์ได้ดี โดยที่การออกฤทธิ์และคุณสมบัติต่างๆ คล้ายคลึงกับพอนสเตนเลยทีเดียว เรียกว่าใช้แทนกันได้

    3. นูโรเฟน (Nurofen)

    นูโรเฟน

    นูโรเนฟเป็นยาแก้ปวดท้องเมนส์ หรือที่หลายคนเรียกว่า ยาแก้ปวดท้องเมนส์สีชมพู ที่สามารถบรรเทาอาการปวดท้องได้ดี แต่ไม่แนะนำสำหรับผู้ที่เป็นโรคกระเพาะ เพราะตัวยามีฤทธิ์ที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อกระเพาะค่อนข้างสูง ในกรณีที่รับประทานยานูโรเฟนจำเป็นต้องทานหลังจากทานอาหารเสร็จทันที ห้ามทานตอนท้องว่างเด็ดขาด

    4. นาพรอกเซน (Naproxen)

    นาพรอกเซน

    นาพรอกเซนเป็นยาแก้ปวดท้องเมนส์ที่เหมาะสำหรับสาวๆ ที่มีอาการปวดท้องเมนส์แบบเฉียบพลัน เนื่องจากตัวยาใช้เวลาออกฤทธิ์ไม่นาน ทั้งนี้นาพรอกเซนไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า โรคหอบหืด และ โรคหัวใจ ถ้าหากต้องการใช้ยาแนะนำให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อน

    5. นอสเมน (Nosmen)

    ยาแก้ปวดท้องเมนส์นอสเมน

    ยาแก้ปวดท้องเมนส์นอสเมน เป็นยาแก้ปวดท้องเมนส์ที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน เนื่องจากใช้ระยะเวลาออกฤทธิ์ไม่นาน และ ตัวยาสามารถออกฤทธิ์ได้ยาวนานถึง 24 ชั่วโมง ทำให้สาวๆ ไม่จำเป็นต้องรับประทานยาบ่อยๆ นอกจากนี้ตัวยาแก้ปวดท้องเมนส์นอสเมนยังสามารถรับประทานตอนไหนก็ได้ เพราะไม่มีฤทธิ์กัดกระเพาะอาหารนั้นเอง

    เปรียบเทียบ 5 อันดับ ยาแก้ปวดท้องเมนส์

    ยาแก้ปวดท้องเมนส์แต่ละยี่ห้อแตกต่างกันยังไง แล้วยาแก้ปวดท้องเมนส์ยี่ห้อไหนเหมาะกับเรา ?
    • พอนสแตน (Ponstan) แก้ปวดท้องได้ดี หนึ่งแผงมีทั้งหมด 10 เม็ด ราคาประมาณ 50 บาทต่อแผง
    • โกเฟน (Gofen) แก้ปวดท้องได้ดี หนึ่งแผงมีทั้งหมด 10 เม็ด ราคาประมาณ 125 บาทต่อกล่อง
    • นูโรเฟน (Nurofen) แก้ปวดท้องได้ดี หนึ่งแผงมีทั้งหมด 24 เม็ด ราคาประมาณ 290 บาทต่อกล่อง
    • นาพรอกเซน (Naproxen) แก้ปวดท้องได้ดี หนึ่งแผงมีทั้งหมด 28 เม็ด ราคาประมาณ 650 บาทต่อกล่อง
    • นอสเมน (Nosmem) แก้ปวดท้องได้ดี ออกฤทธิ์แก้ปวดนาน 24 ชั่วโมง หนึ่งแผงมีทั้งหมด 5 เม็ด ราคาประมาณ 170 บาทต่อกล่อง

    วิธีใช้ยาแก้ปวดท้องเมนส์อย่างปลอดภัย

    สำหรับสาวๆ ที่ปวดท้องเมนส์และต้องทานยาแก้ปวดท้องเมนส์เพื่อบรรเทาอาการปวด แนะนำให้ทานยาแก้ปวดท้องเมนส์ตามที่ฉลากข้างกล่อง หรือ ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ หรือ เภสัชกร อย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง

    กินยาแก้ปวดท้องเมนส์มีผลข้างเคียงไหม

    ยาแก้ปวดท้องเมนส์กินยังไง เมื่อไหร่

    ในกรณีที่ทานยาแก้ปวดท้องเมนส์ติดต่อกันเป็นระยะเวลานานอาจจะทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น ปวดศีรษะ วิงเวียน อาหารไม่ย่อม โลหิตจาง ท้องผูก หรือผิวหนังบวมได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณที่ทานและร่างกายของแต่ละคนด้วย

    ยาคุมกำเนิดช่วยแก้ปวดท้องเมนส์ได้ไหม

    ยาคุมกำเนิดนอกจากจะสามารถช่วยลดโอกาสการตั้งครรภ์ได้แล้ว ยาคุมกำเนิดบางยี่ห้อสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดท้องเมนส์ได้ และยังสามารถช่วยลดอาการก่อนเป็นประจำเดือน เช่น อ่อนไหว หงุดหงิดง่าย ซึมเศร้า วิตกกังวล และอื่นๆ ได้อีกด้วย

    ทางเลือกวิธีแก้ปวดประจำเดือนไม่ใช้ยา

    นอกจากการรับประทานยาปวดท้องเมนส์แล้ว ยังมีวิธีแก้เจ็บท้องประจำเดือนธรรมชาติที่ได้ผลได้ดี ในกรณีที่ปวดท้องไม่รุนแรง ได้แก่

    1. ประคบร้อนแก้ปวดท้องเมนส์

    สำหรับสาวๆ ที่มีอาการปวดท้องเมนส์ไม่รุนแรง ปวดหน่วงๆ บริเวณอุ้มเชิงกราน หรือ ปวดบริเวณท้องน้อย สามารถนำถุงน้ำร้อนมาประคบบริเวณที่ปวดเพื่อช่วยให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นๆ เกิดการคลายตัวลง ซึ่งสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดลงได้ดี

    2. นวดเบาๆ บริเวณท้องน้อย

    เมื่อสาวๆ เกิดอาการปวดท้องเมนส์ ปวดหน่วงๆ แต่ไม่มียาแก้ปวดท้องเมนส์ หรือ อุปกรณ์สำหรับประคบร้อน การนวดเบาๆ บริเวณท้องน้อยเป็นอีกหนึ่งวิธีรักษาอาการปวดท้องเมนส์สามารถบรรเทาอาการปวดท้องเมนส์ได้เช่นเดียวกัน โดยแนะนำให้นวดบริเวณท้องน้อยวนเป็นวงกลมเพื่อให้กล้ามเนื้อคลายตัวลง

    3. ดื่มเครื่องดื่มอุ่นๆ ลดอาการปวดท้องเมนส์

    การจิบน้ำอุ่นตลอดทั้งวันเป็นหนึ่งวิธีแก้ปวดประจำเดือนสามารถช่วยลดอาการปวดท้องเมนส์ได้ เนื่องจากน้ำดื่มที่ดื่มเข้าไปจะไปช่วยให้กล้ามเนื้อบริเวณมดลูกคลายตัว และ ลดอาการหดเกร็งลง ซึ่งส่งผลให้อาการปวดท้องเมนส์ดีขึ้น

    FAQs ยาแก้ปวดท้องเมนส์

    ยาแก้ปวดท้องเมนส์ กินตอนไหน

    สำหรับผู้ที่มีประจำเดือนมาสม่ำเสมอและมีอาการปวดท้องเมนส์ทุกเดือน สามารถทานยาแก้ปวดท้องเมนส์ก่อนที่ประจำเดือนจะมา 1-2 วันได้ การทำแบบนี้จะช่วยให้ยาออกฤทธิ์และระงับการปวดได้ดีที่สุด แต่ถ้าหากสาวๆ ประจำเดือนมาไม่ตรง มีคลาดเคลื่อนบ้าง สามารถทานยาแก้ปวดท้องเมนส์ได้ทันทีที่มีอาการ

    ปวดท้องเมนส์ กินยาพาราได้ไหม

    สำหรับสาวๆ ที่มีอาการปวดท้องเมนสืเดือนและไม่สามารถหายาแก้ปวดท้องเมนส์ได้ ยาสามัญประจำบ้านอย่างพาราเซตามอนเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดท้องเมนส์ได้เช่นเดียวกัน

    ข้อสรุป

    สำหรับสาวๆ ที่มักมีอาการปวดท้องเมนส์เป็นประจำ การรับประทานยาแก้ปวดท้องเมนส์เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเพราะสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดได้ทันที และ ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย ถ้าหากรับประทานและปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกร


    299
    การตั้งครรภ์

    ในช่วงระยะเวลาตั้งครรภ์ คุณสุภาพสตรีจะไม่มีเลือดประจำเดือนออกมาในช่วงระยะเวลานั้น เนื่องจากหลังจากที่ไข่ได้ปฏิสนธิกับตัวอสุจิแล้ว จะทำให้เกิดเป็นตัวอ่อนขึ้นมานั่นเองครับ แต่ก่อนที่เลือดประจำเดือนจะหายไปในเดือนสุดท้าย หรือการเริ่มต้นระยะเวลาตั้งครรภ์ จะมีเลือดล้างหน้าเด็กไหลออกมาจากช่องคลอดแทน

    เลือดล้างหน้าเด็กคืออะไร เหมือนประจำเดือนไหม สีของเลือดล้างหน้าเด็กเป็นอย่างไร คำถามที่คุณแม่มือใหม่หลายคนยังสงสัย นอกจากเลือดประจำเดือนที่เราคุ้นเคยและรู้จักกันอยู่แล้ว ก็ยังมีเลือดอีกชนิดหนึ่งมีชื่อเรียกว่าเลือดล้างหน้าเด็ก ซึ่งเลือดล้างหน้าเด็กคืออะไร ลักษณะ สี เป็นอย่างไร มีความอันตรายไหม เราไปรับความรู้พร้อมๆ กันเลย

    เลือดล้างหน้าเด็ก (Implantation Bleed)

    เลือดล้างหน้าเด็กมาตอนไหน

    เลือดล้างหน้าเด็กเป็นเลือดที่ไหลออกมาจากช่องคลอด แต่ไม่ใช่ประจำเดือน มักเกิดกับผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ในช่วงระยะแรก เลือดล้างหน้าเด็กมักมาในระยะเวลา 10-14 วันหลังจากที่มีการปฏิสนธิระหว่างไข่ และตัวอสุจิ

    ซึ่งเลือดล้างหน้าเด็กนั้นจะเป็นเลือดที่เกิดมาจากไข่ผ่านการผสมกับสเปิร์มแล้วเท่านั้น บางคนอาจจะเข้าใจผิดระหว่างเลือดล้างหน้าเด็ก และประจำเดือน ซึ่งความจริงแล้วลักษณะ, ผิวสัมผัส และสีเลือดจะแตกต่างกันออกไป

    อาการของเลือดล้างหน้าเด็ก

    ผู้หญิงบางคนเมื่อตั้งครรภ์แล้วอาจจะมีเลือดล้างหน้าเด็ก ซึ่งเลือดดังกล่าวจะไหลออกมาจากทางช่องคลอดเป็นระยะเวลาประมาณ 1-2 วัน และอาจจะมีอาการแทรกซ้อนอย่างอื่นร่วมด้วย ยกตัวอย่าง เช่น ปวดศีรษะ, อารมณ์แปรปรวน, คลื่นไส้, คัดเต้านม รวมไปถึงอาการปวดหลัง อย่างไรก็ตามถ้าปวดเพียงแค่เล็กน้อยก็ไม่จำเป็นต้องไปโรงพยาบาล เพราะเบื้องต้นจะมีอาการปวดเล็กน้อยเป็นปกติ หรือถ้ามีอาการปวดท้องผิดปกติก็ไม่ควรนิ่งนอนใจ ควรเข้ารับการตรวจจากแพทย์โดยไวที่สุด

    ปัจจัยอื่นที่อาจทำให้เลือดออกทางช่องคลอด

    เพศสัมพันธ์ ปัจจัยทำให้เลือดออกทางช่องคลอด

    การที่เลือดออกจากทางช่องคลอด ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นเลือดประจำเดือน หรือเลือดล้างหน้าเด็กเพียงเท่านั้น อาจจะมีปัจจัยอื่นมาเกี่ยวข้องด้วย จะมีปัจจัยอะไรบ้าง มาอ่านไปพร้อมๆ กันเลย

    1. การมีเพศสัมพันธ์

    เลือดออกหลังจากการมีเพศสัมพันธ์ เกิดได้จากความไม่พร้อมในการมีเพศสัมพันธ์, มีเลือดประจำเดือนตกค้างระหว่างมีเพศสัมพันธ์, ฮอร์โมนร่างกายผิดปกติ, ติดเชื้อในช่องคลอด, ปากมดลูกอักเสบ, เยื่อมดลูกเจริญผิดที่, เส้นเลือดในช่องคลอดฉีกขาด รวมไปถึงมะเร็งปากมดลูกเลยครับ เพราะฉะนั้นแล้ว หากเราเห็นความผิดปกติทางร่างกายตัวเอง ควรปรึกษาแพทย์โดยไวที่สุด

    2.การคุมกำเนิดบางประเภท

    การมีเลือดออกหลังจากรับประทานยาคุมกำเนิดนั้น เกิดได้จากสุภาพสตรีที่เพิ่งเริ่มต้นรับประทานยาคุมกำเนิด เป็นปัญหาข้างเคียงที่เกิดจากยาอยู่แล้วครับ ซึ่งหลังจากกินครบ 3 เดือน อาการเลือดออกทางช่องคลอดจะดีขึ้นเอง อย่างไรก็ตามหากรู้สึกปวดท้อง ให้ปรึกษาแพทย์ด่วนที่สุด

    3. ผลข้างเคียงจากโรคอื่น

    ผลข้างเคียงจากโรค อาจเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ลือดออกทางช่องคลอด ซึ่งโรคที่กำลังกล่าวถึงนั้น คือโรคมะเร็งครับ ทั้งมะเร็งปากมดลูก, มะเร็งช่องคลอด, มะเร็งมดลูก และมะเร็งไข่ โดยโรคมะเร็งต่างๆ จะส่งผลทำให้เกิดเลือดออกจากทางช่องคลอดได้เช่นกัน

    4. การติดเชื้อบริเวณอุ้งเชิงกราน

    ภาวะอุ้งเชิงกรานอักเสบเกิดจากภาวะอาการอักเสบของอวัยวะสืบพันธุ์ ส่วนใหญ่เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์แบบไม่สวมใส่ถุงยางอนามัย ซึ่งจะมีอาการเลือดออก และปวดท้องตลอดเวลา เพราะฉะนั้นก่อนมีเพศสัมพันธ์ เราควรใส่ถุงยางอนามัยเพื่อความปลอดภัยจากโรคติดต่อ

    5. การตั้งครรภ์นอกมดลูก

    การตั้งครร์นอกมดลูก เป็นอีกสาเหตุนึงที่ทำให้เลือดออกจากทางช่องคลอด ซึ่งการตั้งครรภ์นอกมดลูกจะมีเลือดออกมากะปริบกะปรอย เนื่องด้วยสาเหตุจากตัวอ่อนไม่สามารถเจริญเติบโตได้ จึงทำให้แตกตัว และเลือดไหลออกมานั่นเอง

    6. การแท้งลูก

    ปัจจัยสุดท้ายของอาการเลือดออกจากช่องคลอด คืออาการแท้งครับ ซึ่งเลือดจะไหลออกมาจากทางช่องคลอดเป็นสีแดงสดปริมาณเล็กน้อยในช่วงแรก แต่อาการจะเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ ครับ ทั้งนี้ต้องรีบไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุด เพราะอาจจะเป็นอันตรายต่อคุณสุภาพสตรีได้

    เปรียบเทียบเลือดล้างหน้าเด็ก Vs ประจำเดือน

    สีของเลือด

    สีของประจำเดือนนั้น จะมีตั้งแต่สีแดงคล้ำ, สีแดงสด, สีน้ำตาลอ่อน, สีน้ำตาลเข้ม รวมไปถึงสีดำซึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดแต่ละสีจะมีหลายปัจจัยแตกต่างกันออกไป เช่น อาหารการกิน รวมไปถึงความเครียดในชีวิตประจำวันด้วยครับ ส่วนสีของเลือดล้างหน้าเด็กจะมีตั้งแต่สีชมพูอ่อน, สีน้ำตาลเข้ม และสีสนิม แล้วแต่สภาวะร่างกายของแต่ละคน

    ลักษณะของเลือด

    ลักษณะของประจำเดือนจะไม่มีลิ่มเลือด หรือชิ้นเนื้อปนออกมากับประจำเดือน ส่วนใหญ่มักเป็นของเหลวเหมือนน้ำ แต่เลือดล้างหน้าเด็กจะมีลักษณะเป็นเลือด หรือลิ่มเลือด จะเห็นได้ชัดว่าลักษณะของเลือดทั้ง 2 อย่างนี้ค่อนข้างที่จะแตกต่างกันเลยทีเดียว

    ระยะเวลาที่เลือดออก

    โดยเฉลี่ยแล้วประจำเดือนจะมาไม่เกิน 7 วันต่อเดือน ส่วนเลือดล้างหน้าเด็กจะมีเลือดไหลออกมาประมาณ 1-2 วัน

    เลือดล้างหน้าเด็ก ตรวจครรภ์เจอไหม

    ตรวจครรภ์หาเลือดล้างหน้าเด็ก

    หลังจากคุณสุภาพสตรีพบว่าตัวเองมีเลือดล้างหน้าเด็ก จะสามารถตรวจพบครรภ์ในระยะเวลา 1 อาทิตย์หลังจากนั้นครับ หรือว่าอยากทราบอย่างแน่ชัดว่าตัวเองตั้งครรภ์หรือไม่ ควรปรึกษากับโรงพยาบาลเพื่อให้คุณหมอตรวจครรภ์โดยตรงได้เช่นกัน

    เลือดล้างหน้าเด็ก อันตรายไหม

    เลือดล้างหน้าเด็ก เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามกลไกลธรรมชาติของร่างกาย และเป็นเลือดที่ไม่เป็นอันตรายต่อคุณสุภาพสตรี และลูกในท้องอย่างแน่นอนครับ สิ่งที่ควรทำอยู่เสมอหลังรู้ว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์ คือรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ตามหลักโภชนาการ เพื่อที่จะได้แข็งแรงทั้งคุณแม่ และลูกในท้อง

    คำถามที่พบบ่อย

    เลือดล้างหน้าเด็ก มาตอนท้องกี่เดือน

    เลือดล้างหน้าเด็กจะมาหลังจากไข่ถูกผสมกับเชื้ออสุจิประมาณ 7-9 วัน ซึ่งเป็นระยะเวลาก่อนประจำเดือนจะมารอบถัดไปประมาณ 7 วัน

    เลือดล้างหน้าเด็ก มาเยอะสุดกี่วัน

    โดยปกติแล้ว เลือดล้างหน้าเด็กจะมีแค่ 1-2 วันเท่านั้น

    ข้อสรุป

    เลือดล้างหน้าเด็ก เป็นเลือดที่บ่งบอกว่าเรากำลังตั้งครรภ์อยู่  ไม่ใช่ประจำเดือนและ ไม่มีอันตรายต่อคุณสุภาพสตรีและลูกในครรภ์ การเกิดเลือดล้างหน้าเด็ก เกิดจากหลายสาเหตุ เช่น การมีเพศสัมพันธ์ การคุมกำเนิดบางประเภท การแท้งลูก เป็นต้น โดยปกติแล้วเลือดล้างหน้าเด็กจะมาแค่ 1-2 วันเท่านั้น

    วิธีสังเกตอย่างง่ายว่าเลือดที่ไหลออกจากช่องคลอดนั้นเป็นเลือดล้างหน้าเด็กหรือเลือดประจำเดือนก็คือสังเกตจากลิ่มเลือด หากเป็นประจำเดือนจะไม่มีลิ่มเลือด แต่เลือดล้างหน้าเด็กจะมี อย่างไรก็ตามไม่ใช่ทุกคนที่จะมีเลือดล้างหน้าเด็ก หากไม่แน่ใจว่ากำลังตั้งครรภ์หรือไม่ หรือมีอาการปวดท้องผิดปกติ ควรพบแพทย์โดยเร็วที่สุด เพื่อสุขภาพของตัวคุณเอง และลูกในครรภ์


    300
    เคลือบสีรถการดูแลรถที่ไม่ควรมองข้าม

    การเคลือบสีรถ หลายคนสงสัยว่ามีความจำเป็นหรือไม่ บ่อยครั้งที่ไปคาร์แคร์และมักจะได้รับข้อเสนอเกี่ยวกับการขัดเคลือบสี เคลือบสีรถ ซึ่งเมื่อเห็นราคาแล้วทำให้ไม่อยากทำเลยทีเดียว การเคลือบสีรถถือเป็น การดูแลรักษาสภาพสีของรถอย่างหนึ่ง

    คุณจะเห็นได้จากรถที่มีความเงางาม สีสดใสตลอดเวลาดั่งรถเคลือบแก้ว จริงๆแล้วรถเหล่านั้นทำการเคลือบแก้วสีรถ เพื่อให้รถดูใหม่อยู่เสมอ เป็นที่รู้กันของคนรักรถที่จะทำสิ่งเหล่านี้ จึงไม่ควรมองข้าม มาทำความรู้จักความสำคัญและรูปแบบการเคลือบสีรถประกอบการตัดสินใจ

    ข้อดีและความสำคัญของการเคลือบสีรถ

    เคลือบแก้วรถยนต์คงความเงางาม สีรถสดใหม่เสมอ

    เคลือบสีรถ คือ การล้างขัดสีลงแว๊กซ์หรือน้ำยาพิเศษเคลือบสีรถยนต์ เสมือนการสร้างเกราะป้องกันให้รถ ป้องกันสิ่งสกปรก ป้องกันสีจากความร้อน สามารถทำความสะอาดรอยเล็กน้อยที่เกิดขึ้นได้ ทำให้รถคุณดูเงางาม สีสดเหมือนใหม่อยู่เสมอ

    การเคลือบสีรถยนต์ ไม่เพียงทำให้รถเงางามเพียงอย่างเดียว ยังมีข้อดีที่สำคัญเกี่ยวกับการเคลือบสีรถ อย่างเช่น

    • ป้องกันคราบสิ่งสกปรกต่างๆ การเคลือบสีรถเปรียบเสมือนเกราะป้องกัน ลดการยึดติดของสิ่งสกปรก คราบน้ำ คราบโคน รอยขีดข่วนเล็กๆน้อยๆ สามารถเช็ดทำความสะอาดออกได้ง่าย โดยไม่ต้องล้าง
    • เพิ่มความเงางามและคงสภาพสีให้สดใสเหมือนใหม่ตลอดเวลา ซึ่งรูปแบบวิธีที่มีประสิทธิภาพในการเคลือบรถยิ่งสูง จะยิ่งทำให้รถของคุณดูเงางาม สีสวยสดใสมากยิ่งขึ้นเท่านั้น รถสวยถือเป็นเสน่ห์ที่จะเสริมเจ้าของรถอีกด้วย
    • ยืดอายุของสีตัวถังรถให้ยาวนานมากขึ้น การใช้งานรถเป็นประจำ ทั้งคราบเปื้อน ไอน้ำ อุณหภูมิแสงแดด ส่งผลให้สีรถของคุณซีดจืดจางหลุดหล่อนได้ การเคลือบสีรถ ช่วยยืดอายุและลดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น

    การเคลือบสีรถมีรูปแบบวิธีอะไรบ้าง

    เกราะป้องกันรถยนต์คุณภาพดีเคลือบแก้ว

    ปัจจุบันเคลือบสีรถยนต์มีหลายรูปแบบวิธี ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทำให้การล้างรถเคลือบสีมีขั้นตอนที่ซับซ้อนและให้ผลลัพธ์ที่ต่างกัน โดยรูปแบบวิธีที่เป็นพบมี 4 รูปแบบวิธีด้วยกัน ดังนี้

    1. การเคลือบโดยใช้ซิลิโคน

    การเคลือบสีรถโดยใช้ซิลิโคนเป็นนวัตกรรมที่นำวัสดุลักษณะซิลิโคนคล้ายยางเคลือบรถ ป้องกันรอยขีดข่วนเล็กๆและป้องกันการซีดจางของสีรถได้ มีอายุการใช้งานนานนับปี ช่วยให้คุณลดค่าใช้จ่ายและถนอมรถของคุณ คุ้มค่าแน่นอน

    2. การเคลือบสีรถแบบธรรมดา

    การเคลือบสีรถยนต์แบบธรรมดา เป็นการล้างรถเคลือบสีที่เป็นมาตรฐานสามารถทำเองได้ทั่วไปโดยการลงครีมแว๊กซ์หรือน้ำยาพิเศษเคลือบรถ เป็นรูปแบบวิธีที่ถูกสุดในคาร์แคร์ ซึ่งอยู่ในกระบวนการล้างรถทั่วไป ทั้งนี้อายุการใช้งานชั่วคราว ประมาณ 1-2 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับครีมหรือน้ำยาที่ใช้ขัดเคลือบสี

    3. การเคลือบสีรถแบบน้ำ

    การเคลือบสีรถแบบน้ำเป็นการใช้ โพลิเมอร์ซีลแลนท์ เปรียบเสมือนการเคลือบฟิล์มบาง ๆ ไปทั่วรถ เพื่อรักษาสีรถยนต์ไม่เน้นความเงางาม วิธีนี้จะทำให้สีของรถยังคงความสดใหม่อยู่เสมอ เหมาะกับรถที่ใช้งานประจำ มีอายุการใช้งานยาวนานประมาณ 1-2 เดือน

    4. การเคลือบแก้วรถยนต์

    การเคลือบแก้วรถยนต์เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพสูง หากถามว่าเคลือบแก้วรถดีไหม ตอบได้เลยว่าดีที่สุดในการเลือกเคลือบสีรถ เนื่องจากเป็นเกราะป้องกันการเปรอะเปื้อนได้ดีมาก ไม่ว่าจะคราบน้ำ โคนหรือยางมะตอย สามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย ไม่เกาะฝังแน่นกับตัวรถ

    อายุการใช้งานยาวนาน 3-5 ปี แต่ค่าใช้จ่ายที่สูงมากเช่นกัน การเคลือบแก้วรถยนต์นิยมมากในหมู่เจ้าของรถซูเปอร์คาร์

    สรุป

    การล้างรถเคลือบสีราคาและคุณภาพแตกต่างกันไปตามรูปแบบวิธี ยิ่งคุณภาพดี ราคาสูง ประสิทธิภาพยิ่งสูงตามไปด้วย ซึ่งการเคลือบรถนั้น ถือว่ามีความสำคัญและข้อดีเป็นการดูแลรักษาสีของรถให้ยังคงสภาพสดใหม่ เงางามอยู่เสมอเปรียบเสมือนขับรถใหม่ตลอดเวลา เพิ่มเสน่ห์และเสริมบุคลิกให้เจ้าของรถดูดียิ่งขึ้น

    นอกจากนี้ยังช่วยเป็นเกราะป้องกันสิ่งสกปรกและยืดอายุการใช้งานรถยนต์และสีรถได้ดี ทั้งยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษารถในระยะยาวอีกด้วย คนรักรถไม่ควรมองข้ามการบริการเคลือบสีรถยนต์


    หน้า: 1 2 3 4 5 [6] 7 8 9