ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - พรสัก ส่องแสง

หน้า: 1 [2] 3 4 5 6 7 ... 9
51
โรงงานผลิตสบู่

ปัจจุบันแนวโน้มของเทรนด์เครื่องสำอางและการดูแลความงาม ยังคงเป็นที่นิยมอย่างต่อเนื่องและคาดว่ายังเติบโตในอนาคต โดยบริการหนึ่งที่คนยังให้ความสนใจในการเป็นเจ้าของแบรนด์นั่นก็คือ โรงงานผลิตสบู่ โดยการรับผลิตสบู่จะมีต้นทุนที่ไม่สูงมากนักและเป็นสินค้าที่มีความจำเป็นในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการล้างหน้า อาบน้ำเพื่อทำความสะอาดสิ่งสกปรกระหว่างวันรวมถึงใช้ล้างเครื่องสำอาง โดยในบทความนี้จะพาไปดูสูตรการสูตรของโรงงานผลิตสบู่ที่ได้รับความนิยมอยู่ในปัจจุบันและพาไปดูและพาไปดู วิธีการเลือกโรงงานผลิตสบู่ให้ได้มาตรฐานและมีคุณภาพเพื่อความปลอดภัยต่อผู้บริโภค

สูตรสบู่แนะนำ ก่อนสั่งผลิตกับโรงงานผลิตสบู่
โดยสารสกัดที่ใช้ในการผลิตสบู่มีมากมายในท้องตลาดโดยโรงงานผลิตสบู่มักจะมีสูตรการรับผลิตสบู่ที่ได้รับความนิยมและเห็นผล อยู่มากมายในท้องตลาด แต่ก็ยังมีสูตรที่มาแรงตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ประกอบด้วยสูตร ดังนี้

1. หัวไชเท้าฝรั่ง (Radish)
สูตรหัวไช้เท้าฝรั่ง โดยโรงงานผลิตสบู่มีการคิดค้นสบู่เพื่อใช้ในการลดเลือนจุดด่างดำ ทำให้หน้าขาวกระจ่างใส จะใช้สูตรที่มีส่วนผสมหัวไชเท้าฝรั่งหรือ radish เข้ามาเพราะเป็นส่วนผสมที่มีส่วนช่วยในการลดจุดด่างดำ ทำให้ผิวเนียนนุ่มรวมถึงยังมียังมีน้ำมันรำข้าวที่อุดมไปด้วยสารสกัดจากวิตามินอี ทำให้ผิวเนียนนุ่มและขาวกระจ่างใสน่าสัมผัส

2. แครอท (Carrot)
แล้วต่อสูตรที่นิยมในการทำแบรนด์สบู่สูตรที่ 2 คือสบู่สูตรแครอท โดยสบู่สูตรแครอทมักจะจะใช้ในการทำความสะอาดผิวกาย สบู่แครอทที่มีส่วนผสมของแครอทจะอุดมไปด้วยสารอาหารสำหรับผิวทำให้ผิวช่วยดูแลผิวอย่างอ่อนโยนและมีสารสกัดและยังมีสารสกัดจากฟักข้าวที่เติมความชุ่มชื้นให้ผิว ทำให้ผิวกระจ่างใส เนียนนุ่มและไม่ป้องกันผิวแห้งกร้าน

3. เมือกหอยทาก
สบู่สูตรต่อมาของโรงงานผลิตสบู่ นั่นก็คือ สบู่สูตรเมือกหอยทาก เป็นสบู่ที่อุดมไปด้วยคุณค่าจากเมือกหอยทาก โดยเมื่อหอยทากมีคุณสมบัติในการบำรุงอย่างล้ำลึก มีส่วนช่วยในการป้องกัน บรรเทาความรุนแรงของสิว รักษาฝ้ากระความหมองคล้ำ ช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใสได้ดูสุขภาพดี อีกทั้งยังมีส่วนคุณสมบัติในการช่วยกระตุ้นการเสริมสร้างคอลลาเจนให้แก่ผิว ป้องกันการเกิดริ้วรอยก่อนวัย

4. สารสกัดจากภูเขาไฟฟูจิ
และสบู่สุดสุดท้ายของบริษัททำสบู่ในท้องตลาด สบู่สูตรภูเขาไฟฟูจิ โดยคุณสมบัติของสบู่ชนิดนี้คือ เต็มไปด้วยแร่ธาตุ ที่มีคุณสมบัติในการบำรุงผิวมีสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง และมีส่วนช่วยในการยับยั้งสิวอักเสบ ดูดซับความมัน ป้องกันการเกิดสิวอุดตัน

โรงงานผลิตสบู่ จุดเริ่มต้นของความสำเร็จในการทำธุรกิจ
โดยวิธีการเลือกโรงงานผลิตสบู่มีวิธีการมากมาย เพื่อป้องกันการปนเปื้อนของสินค้า และให้ได้บริการสินค้าที่มีคุณภาพ สร้างความปลอดภัยแก่ผู้บริโภค และสร้างความสะดวกสบายให้แก่เจ้าของแบรนด์โดยจะมีปัจจัยประกอบกันด้วยกัน ดังนี้

  • เลือกโรงงานที่มีบริการครบวงจร โดยมีการวางแผนตั้งแต่เลือกกลุ่มเป้าหมาย การคิดสูตรสินค้า การออกแบบผลิตภัณฑ์ รวมไปถึงการจัดจำหน่ายสินค้าและการทำการตลาดให้แก่เจ้าของแบรนด์
  • เลือกโรงงานที่ผลิตสินค้ารวดเร็ว มีการผลิตสินค้าที่ตรงตามมาตรฐาน สามารถผลิตสินค้าได้ตรงตามระยะเวลาที่ตกลงกันไว้ในใบสัญญาซื้อ
  • เลือกโรงงานที่ได้รับการรอรับรองมาตรฐาน ในการเลือกโรงงานผลิตสบู่ควรเลือกโรงงานที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจาก haccp หรือมาตรฐานต่าง ๆ เพื่อเป็นเครื่องหมายการันตี ถึงการตรวจสอบมาตรฐานของโรงงาน และเป็นตัวบ่งบอกว่าผลิตภัณฑ์จะไม่สร้างอันตรายต่อผู้บริโภค
  • ควรเลือกโรงงานที่มีเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมที่ตรงตามมาตรฐานสากล มีการใช้เครื่องจักรที่ได้มาตรฐานไม่ก่อให้เกิดการปนเปื้อนและสามารถผลิตได้ตรงตามสูตร ทำให้คุณภาพของสินค้าออกมาตรงกับมาตรฐาน

ทิศทางการเติบโตของธุรกิจสบู่ชำระผิวกายยังน่าลงทุนไหม?

 สั่งผลิตสบู่

ทิศทางของการเติบโตของการใช้บริการโรงงานรับผลิตสบู่ เพื่อเป็นเจ้าของแบรนด์ยังมีความน่าสนใจในยุคปัจจุบัน เนื่องจากมีความเติบโตในด้านของอุตสาหกรรมความงามและการใส่ใจดูแลตัวเองมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะผู้หญิงหรือผู้ชายและยังมีแนวโน้มมากขึ้นในกลุ่มวัยรุ่นไปจนถึงผู้สูงอายุที่หันมาใส่ใจดูแลตัวเอง เพื่อให้มีบุคลิกภาพรวมถึงหน้าตาที่ดูดี การมีสูตรที่พัฒนาขึ้นยังมีความตอบโจทย์กับผู้บริโภคไม่ว่าจะเป็นทั้งสบู่สำหรับชำระล้างร่างกาย สบู่สำหรับชำระล้างผิวหน้าเพื่อบำรุงผิวพรรณทั้งตัวให้ดูดี

ความคุ้มค่าในการลงทุนกับโรงงานผลิตสบู่ที่มีมาตรฐาน

สั่งผลิตสบู่

โดยความคุ้มค่าในการลงทุนกับโรงงานผลิตสบู่ที่มีสูตรมาตรฐาน โดยโรงงานผลิตสบู่มีต้นทุนการผลิตแต่ละสูตรที่ค่อนข้างต่ำโดยถ้าเป็น

-สบู่สูตรมาตรฐาน โรงงานผลิตสบู่ oem จะเริ่มต้นสูตรอยู่ที่ 1,000 ก้อนปริมาณ 50 กรัมจะตกราคาก้อนละ 32 บาทในขณะที่ 5,000 ก้อนปริมาณ 50 กรัมตกก้อนละ 26 บาทและหมื่นก้อนปริมาณ 50 กรัมจะตกที่ก้อนละ 22 บาท
แต่ถ้าเจ้าของแบรนด์มีการมีความต้องการที่จะผลิตแบรนด์สบู่ที่มีมาตรฐานมากกว่าคู่แข่งในตลาดและมีการใช้ส่วนผสมที่พิเศษมากกว่าเจ้าอื่น ๆ เพื่อสร้างความแตกต่างให้แก่ผลิตภัณฑ์สินค้าสบู่
-โดยโรงงานรับผลิตสบู่สูตรพิเศษ ราคาเริ่มต้นผลิตที่ 1,000 ก้อนปริมาณ 50 กรัมจะราคาอยู่ที่ 45 บาทในขณะที่ 5,000 ก้อนปริมาณ 50 กรัมราคา 37 บาทและ 10,000 ก้อนปริมาณ 50 กรัมจะได้ราคา 32 บาท

ซึ่งจะเห็นได้ว่าต้นทุนการผลิตของโรงงาน โรงงานสบู่มีราคาที่ค่อนข้างต่ำและยังสามารถสร้างสามารถนำไปขายได้ราคา ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับการทำการตลาด และส่วนผสมที่ใช้ในการผลิตสบู่ รวมถึงบรรจุภัณฑ์ที่ดึงดูดจะเพิ่มมูลค่าให้แก่สบู่ของแต่ละแบรนด์ได้

52
คอร์ส IELTS

การเริ่มเรียนคอร์ส IELTS ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง เพื่อเปิดประตูสู่โอกาสอันไม่มีที่สิ้นสุด ไม่ว่าคุณจะเป็นนักเรียนที่ต้องการศึกษาต่อในต่างประเทศ หรือจะเป็นการแสวงหาความก้าวหน้าในอาชีพ หรือเป็นบุคคลที่มุ่งหวังที่จะพัฒนาความสามารถทางภาษา คอร์ส IELTS ถือเป็นกุญแจสำคัญในการบรรลุเป้าหมายของคุณ

IELTS คืออะไร นำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างไร

IELTS หรือระบบทดสอบภาษาอังกฤษนานาชาติ เป็นแบบทดสอบความสามารถทางภาษาอังกฤษที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก โดยจะประเมินทักษะทางภาษาของบุคคลที่จะใช้ในการเรียน ทำงาน หรือย้ายถิ่นฐานไปยังประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษ แบบทดสอบนี้ออกแบบมาเพื่อวัดความสามารถด้านทักษะทางภาษาที่สำคัญ 4 ประการ ได้แก่ การฟัง การอ่าน การเขียน และการพูด จึงทำให้เกิดคอร์ส IELTS ขึ้นมา

คอร์สติว IELTS มีประโยชน์อะไรบ้าง

คอร์สเรียน ielts

การลงทะเบียนเรียนคอร์ส IELTS นั้นมีประโยชน์มากมายที่นอกเหนือไปจากการผ่านการทดสอบ เรามาดูข้อดีทั้งหมดกัน ได้แก่

1. การเตรียมการทดสอบที่ครอบคลุมเนื้อหาที่ควรรู้

  • การเรียนรู้แบบมุ่งเน้น โดยคอร์สเรียน ielts จะให้คำแนะนำเกี่ยวกับเป้าหมายในแต่ละส่วนของการสอบ เพื่อให้มั่นใจว่ามีผู้เรียนจะมีความเข้าใจที่ครอบคลุม เกี่ยวกับรูปแบบการสอบต่าง ๆ
  • แบบฝึกหัด การทำแบบฝึกหัดเป็นประจำ จะช่วยจำลองสภาพแวดล้อมการสอบ ช่วยให้ผู้เรียนคุ้นเคยกับโครงสร้างข้อสอบ เพื่อให้ชินกับช่วงเวลาของการสอบ

2. คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ

  • ผู้สอนที่มีประสบการณ์ คอร์สไอเอล มักสอนโดยผู้สอนที่มีประสบการณ์ซึ่งมีความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับการสอบ ทำให้วิธีการสอนนั้นมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
  • คำติชม คำติชมเกี่ยวกับการทำแบบฝึกหัด จะช่วยให้ผู้เรียนรู้ถึงจุดแข็งและจุดอ่อนของตนเอง ช่วยให้สามารถปรับปรุงให้ได้ตามเป้าหมาย

3. การเพิ่มประสิทธิภาพทักษะ

  • การปรับปรุงทักษะทางภาษา ติวสอบ ielts จะมุ่งเน้นไปที่การเสริมสร้างทักษะทางภาษา รวมถึงคำศัพท์ ไวยากรณ์ต่าง ๆ การออกเสียง ซึ่งมีประโยชน์มากกว่าการสอบ
  • ความมั่นใจในการพูด มีการเอาใจใส่เป็นพิเศษเพื่อพัฒนาทักษะการพูด ช่วยเพิ่มความมั่นใจสำหรับการทดสอบการพูดแบบเห็นหน้ากัน

4. กลยุทธ์การทดสอบ

  • การบริหารเวลา คอร์สติว ielts จะช่วยให้ผู้เรียนมีกลยุทธ์การบริหารเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจำเป็นสำหรับการทำแบบทดสอบทุกส่วน ให้เสร็จสิ้นภายในเวลาที่จัดสรรไว้
  • เทคนิคการสอบ การเรียนรู้เทคนิค รวมถึงกลยุทธ์การสอบเฉพาะ ช่วยเพิ่มโอกาสในการได้คะแนนสูงขึ้น

การเตรียมตัวสอบ IELTS? ต้องทำอะไรบ้าง

เตรียมตัวสอบ ielts ไม่มี พื้นฐานนั้น จะต้องใช้แนวทางเชิงกลยุทธ์และความพยายามอย่างทุ่มเท คำแนะนำทีละขั้นตอนเกี่ยวกับสิ่งที่คุณต้องทำเพื่อให้ประสบความสำเร็จหลังจากสมัครสอบไอเอล ดังนี้

1. ทำความเข้าใจเกี่ยวกับการสอบ

  • ทำความคุ้นเคยกับรูปแบบการสอบ การรู้โครงสร้างของการทดสอบจะช่วยให้คุณจัดสรรเวลาได้อย่างเหมาะสมในระหว่างการสอบ
  • ระบุประเภทการทดสอบ เนื่องจากพิจารณาว่าคุณกำลังสอบ IELTS อยู่ ซึ่งแตกต่างจากการสอบแบบอื่น ๆ เพราะแต่ละหลักสูตรมีรูปแบบคำถาม คำตอบที่แตกต่างกัน

2. การตั้งเป้าหมายที่สามารถทำได้จริง

  • ประเมินความสามารถปัจจุบันของคุณ ลองทำแบบฝึกหัด เพื่อวัดระดับความสามารถปัจจุบันของคุณ พร้อมกับตั้งเป้าหมายการปรับปรุงที่สามารถทำได้จริง
  • คะแนนเป้าหมาย ศึกษาคะแนนเป้าหมายของสถาบันหรือองค์กรที่คุณต้องการยื่นให้ดี เพื่อวางแผนการทำการสอบให้ผ่านตามเป้าหมาย

3. การลงทะเบียนเรียนคอร์ส IELTS

  • ค้นคว้า ก่อนเลือกคอร์ส IELTS ที่มีชื่อเสียง ตรวจสอบหลักสูตรที่มีผู้สอนที่มีประสบการณ์ บทวิจารณ์เชิงบวก มาพร้อมกับหลักสูตรที่ครอบคลุม
  • มุ่งมั่นในการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ การฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอเป็นอีกกุญแจสำคัญในการปรับปรุงตนเอง อุทิศเวลาในการศึกษา พร้อมทั้งฝึกฝนทักษะด้านภาษาเป็นประจำ

4. การเรียนผ่านสื่อการสอน

  • การอ่านหนังสือ ปูพื้นฐานเนื้อหาทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับการสอบ การอ่านทบทวนซ้ำ ๆ จะเพิ่มความเข้าใจให้กับผู้เรียนมากยิ่งขึ้น
  • ข้อสอบของ IELTS ที่เคยออกสอบมาก่อน เพื่อใช้ข้อสอบเหล่านี้ เพื่อฝึกซ้อมเกี่ยวกับ IELTS จากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้
  • แพลตฟอร์มฝึกหัดออนไลน์ สำรวจแพลตฟอร์มออนไลน์ที่นำเสนอแบบฝึกหัดเพิ่มเติม คำถามตัวอย่าง ไปจนถึงแบบฝึกหัดเชิงโต้ตอบ

5. เสริมสร้างทักษะการพูด

  • มีส่วนร่วมในการสนทนา ฝึกพูดภาษาอังกฤษเป็นประจำกับเจ้าของภาษาหรือคู่แลกเปลี่ยนภาษา
  • การประเมินตัวเอง การบันทึกคำตอบของคุณช่วยให้สามารถประเมินตนเอง เพื่อนำไปปรับปรุงการออกเสียงให้มีความคล่องยิ่งขึ้น

6. การเตรียมตัววันสอบ

  • การสอบจำลอง ดำเนินการสอบจำลองภายใต้เงื่อนไขต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสภาพแวดล้อม หรือจะเป็นเวลาในการสอบที่คล้ายกับการสอบจริงให้มากที่สุด ให้เกิดความเคยชิน
  • กลยุทธ์การบริหารเวลา มีการพัฒนาแผนการบริหารเวลาให้มีประสิทธิภาพสำหรับการสอบแต่ละส่วนอย่างเหมาะสม ถ้าผู้เรียนชำนาญด้านใดมากที่สุด ก็ให้ทำส่วนนั้นก่อน

สรุปคอร์ส IELTS สำคัญอย่างไร

ติวสอบ ielts

คอร์ส IELTS มีบทบาทสำคัญในการประสบความสำเร็จในชีวิต การสอบ IELTS เป็นการปลดล็อกสู่โอกาสใหม่ ๆ จากการจัดเตรียมการทดสอบที่ครอบคลุม มาพร้อมกับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ ไปจนถึงการเพิ่มทักษะทางภาษา ทั้งยังการปลูกฝังความมั่นใจ ประโยชน์ของการลงทะเบียนเรียนหลักสูตร IELTS มีมากกว่าแค่การสอบ

53
การทำ SEO

ในยุคดิจิทัลที่เว็บไซต์เปรียบเสมือนบ้านหรือร้านค้าที่เปิดโอกาสให้ผู้คนทั่วโลกสามารถเข้าถึงธุรกิจ แบรนด์ หรือข้อมูลของเราได้ ท่ามกลางเว็บไซต์มากมายในกลุ่มธุรกิจเดียวกันสิ่งที่จะทำให้เว็บไซต์ของเราโดดเด่นจากแบรนด์อื่น ๆ ได้นั่นคือการทำ SEO (Search Engine Optimization) ให้กับเว็บไซต์นั่นเอง

บทความนี้เปรียบเสมือนเข็มทิศที่จะนำพาคุณไปรู้จักกับการทำ SEO ตั้งแต่การทำความเข้าใจว่า SEO คืออะไร มีความสำคัญอย่างไรบ้าง พร้อมเทคนิคในการทำ SEO ให้ติดในหน้าแรกของ Google เพื่อดึงดูดผู้ใช้งานและนำพาธุรกิจไปสู่ความสำเร็จบนโลกออนไลน์

SEO คืออะไร

SEO หรือ Search Engine Optimization คือ กลยุทธ์ในการปรับแต่งหน้าเว็บไซต์และเนื้อหาให้สอดคล้องกับอัลกอริทึมของ Search Engine อย่าง Google ซึ่งการทำให้ Search Engine เข้าใจเนื้อหาของเว็บไซต์ได้ง่ายยิ่งขึ้น จะส่งผลให้อัลกอริทึมมองว่าเนื้อหาบนหน้าเว็บไซต์นั้นมีคุณภาพและทำให้มีอันดับเว็บไซต์ที่ดียิ่งขึ้นบนหน้าผลการค้นหา (SERPs)

โดยหลักการทำงานของ Search Engine ของ Google จะใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่เรียกว่า "Spider" หรือ "Crawler" ในการดัชนีเว็บไซต์จากทั่วโลก ซึ่ง Spider จะรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเนื้อหา โครงสร้างเว็บไซต์ และความเกี่ยวข้องของเว็บไซต์ โดยข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำไปใช้ในการจัดอันดับเว็บไซต์บนหน้าผลการค้นหา

การทำ SEO สำคัญอย่างไร

การทำ SEO นอกจากจะทำให้เว็บไซต์ของเราสามารถติดอันดับดี ๆ ในหน้าผลลัพธ์การค้นหาแล้ว ยังมีส่วนช่วยให้คุณภาพเว็บไซต์ในด้านอื่น ๆ ดีขึ้นอีกด้วย โดยผลลัพธ์จากการทำ SEO จะให้ผลดีดังนี้

เพิ่ม Traffic ให้กับเว็ปไซต์

โดยปกติแล้วเวลาที่เรารู้สึกสนใจสินค้าหรือบริการบางอย่าง เราจะเริ่มหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการนั้น ๆ บน Search Engine อย่าง Google ซึ่งการทำ SEO จะช่วยดึงดูดผู้ใช้งานที่สนใจเนื้อหาของสินค้าหรือบริการของธุรกิจเรา เป็นการเพิ่ม Traffic ให้กับเว็บไซต์และสามารถเก็บข้อมูลผู้ใช้งานบนหน้าเว็บไซต์เพื่อสร้างกลยุทธ์ทางการตลาดเพิ่มเติมได้อีก

สร้าง Brand Awareness

อีกหนึ่งสิ่งที่จะได้จากการทำ SEO โดยเฉพาะการทำ SEO จนเว็บไซต์ติดอันดับแรก ๆ ของหน้าผลลัพธ์การค้นหาคือการสร้าง Brand Awareness ให้ได้เป็นที่รู้จักโดยเฉพาะการติดใน Feature Snippet หรือการติดอันดับ 0 ที่จะยิ่งช่วยให้เนื้อหาของเว็บไซต์เราถูกมองเห็นได้ง่ายยิ่งขึ้น แถมยังเพิ่มโอกาสที่จะมี Traffic เข้ามายังเว็บไซต์เพิ่มเติมอีกด้วย ซึ่งยิ่งมีหน้าเว็บไซต์ที่ติดในอันดับแรก ๆ ในหลาย ๆ คีย์เวิร์ดจะยิ่งเป็นการเพิ่มการจดจำแบรนด์และการสร้างภาพลักษณ์ที่ให้กับธุรกิจ

เพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจ

สำหรับการทำ SEO ให้เว็บไซต์มีคุณภาพที่ดีนั้น จะต้องมีการปรับปรุงโครงสร้างของเว็บไซต์รวมไปถึงการผลิตบทความที่มีคุณภาพและมีเนื้อหาที่เป็นประโยชน์กับผู้อ่านอยู่แล้ว ซึ่งการทำ SEO โดยการเขียนเนื้อหาบทความที่มีประโยชน์ดูน่าเชื่อถือจะเป็นการเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจว่ามีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับธุรกิจนั้นจริง ๆ ซึ่งจะเพิ่มโอกาสในการปิดการขายหรือการเกิด Conversion บนเว็บไซต์ของเราได้มากยิ่งขึ้น

เทคนิคการทำ SEO มีขั้นตอนอย่างไร

หลังจากที่ได้ทราบถึงความสำคัญของการทำ SEO กันไปแล้ว ถัดมาเราจะมาเจาะลึกรายละเอียดของการทำ SEO ให้มากยิ่งขึ้นกัน โดยเทคนิคในการทำ SEO จะถูกแบ่งออกเป็น 5 ขั้นตอนดังนี้

1. การทำ Keyword Research

ในขั้นตอนแรกของการทำ SEO เลยคือการหา Keyword ที่เหมาะสมกับเว็บไซต์หรือการทำ Keyword Research โดยจะเป็นการวิเคราะห์และค้นหา Keyword ที่ผู้ใช้งานนิยมค้นหาบน Google ซึ่งเป้าหมายคือการเลือก Keyword ที่มี Search Volume สูงและมีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจ แบรนด์หรือเว็บไซต์ของเรา

ประโยชน์ของการทำ Keyword Research จะมีดังนี้

• เพิ่มโอกาสในการเข้าผู้ใช้งานที่มีความสนใจในสินค้าหรือบริการที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของเรา
• ช่วยเพิ่ม Brand Awareness
• ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการทำ SEO ของเว็บไซต์
• เพิ่มโอกาสในการปิดการขาย
• เพิ่ม Traffic ในการเข้าชมเว็บไซต์

2. วาง Website Structure

ขั้นตอนถัดมาของการทำ SEO จะเป็นการวาง Website Structure ซึ่งจะเปรียบเสมือนผังที่แสดงลำดับชั้นและความสัมพันธ์ของหน้าเว็บต่าง ๆ บนเว็บไซต์ ถ้าหากมีโครงสร้างของเว็บไซต์ที่ดีก็จะช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าใจเว็บไซต์ สามารถค้นหาข้อมูลได้ง่าย และยังช่วยให้ Search Engine เข้าใจเนื้อหาบนเว็บไซต์อีกด้วย

โดยหลักการวาง Website Structure ในการทำ SEO จะมีดังนี้

• เรียบง่าย: โครงสร้างควรมีความเรียบง่าย เข้าใจได้ง่าย ไม่ซับซ้อน
• มีลำดับชั้น: หน้าเว็บควรจัดเรียงตามลำดับชั้นและมีการแสดงความสัมพันธ์ของเนื้อหา
• ใช้งานง่าย: ผู้ใช้งานควรค้นหาเนื้อหาหรือข้อมูลต่าง ๆ ที่ต้องการบนเว็บไซต์ได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องคลิกหลายครั้ง
• เหมาะกับ Search Engine: โครงสร้างเว็บไซต์ควรถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้ Search Engine เข้าใจเนื้อหาบนเว็บไซต์ได้ดียิ่งขึ้น

3. การทำ On-Page SEO

อีกหนึ่งขั้นตอนที่สำคัญเป็นอย่างมากในการทำ SEO นั่นคือการทำ On-Page SEO ซึ่งจะเป็นการปรับแต่งองค์ประกอบต่าง ๆ บนหน้าเว็บไซต์ เพื่อให้ Search Engine เข้าใจเนื้อหาของเว็บไซต์และสามารถจัดอันดับบนหน้าผลลัพธ์การค้นหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โดยเทคนิคการการทำ On-Page SEO จะมีดังนี้

• การเลือก Keyword ที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ
• ปรับแต่ง Title และ Meta Description
• เขียนเนื้อหาที่มีคุณภาพสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานได้
• มีการใส่ Internal link, Alt Text และ Head Tag
• มีการปรับปรุงประสิทธิภาพของ Website Speed

4. การทำ Off-Page SEO

นอกจากการทำ On-Page SEO แล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่ควรทำควบคู่กันเพื่อประสิทธิภาพในการทำ SEO ที่ดียิ่งขึ้นนั่นคือการทำ Off-Pageg SEO ซึ่งจะเป็นกลยุทธ์การทำ SEO ที่เน้นการสร้าง Backlinks จากเว็บไซต์อื่นมายังเว็บไซต์ของเรา เปรียบเสมือนการให้เครดิตกับเว็บไซต์เราให้ดูมีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น

โดยเทคนิคการทำ Off-Page SEO จะมีดังนี้

• Guest Blogging: เขียนบทความและเผยแพร่ในเว็บไซต์อื่น โดยจะมีการใส่ External link เพื่อเชื่อมมายัง On-Page
• Infographic: สร้าง Infographic และเผยแพร่บนเว็บไซต์อื่น และมีการลิงก์กลับมายังหน้า On-Page
• Broken Link Building: ค้นหา Broken Link บนเว็บไซต์อื่น และติดต่อเพื่อขอแลก Backlink

5. การทำ Technical SEO

ขั้นตอนสุดท้ายของการทำ SEO คือการทำ Technical SEO โดยจะเป็นการปรับแต่งโครงสร้างพื้นฐานของเว็บไซต์ให้ Search Engine สามารถเข้าใจเนื้อหาของเว็บไซต์ ค้นหา จัดอันดับ และแสดงผลบนหน้าผลลัพธ์การค้นหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โดยเทคนิคการทำ Technical SEO จะมีดังนี้

• ตรวจสอบความเร็วในการโหลดเว็บไซต์และปรับแต่งให้มีประสิทธิภาพ
• ตรวจสอบว่าหน้าเว็บไซต์มีการทำ Responsive เป็น Mobile-Friendly
• ส่ง Sitemap ไปยัง Search Engine
• ใช้ Robots.txt
• ใช้ Canonical URL
• มีการ Optimize รูปภาพ

สรุปการทำ SEO ให้ติดหน้าแรก Google

สำหรับการทำ SEO นั้นเปรียบเสมือนการลงมือปลูกต้นไม้ ตั้งแต่การเพาะเมล็ด เลี้ยงต้นกล้า ต้องคอยใส่ปุ๋ย พรวนดิน คอยดูแลจนกระทั่งต้นไม้เติบโตและสามารถให้ผลผลิตได้ ซึ่งการทำ SEO เป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลาในช่วงแรกเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป

โดยการทำ SEO ในสมัยนี้ได้มีบริษัทรับทำ SEO มากมายที่ให้บริการจ้างทำ SEO คอยดูแลเว็บไซต์ของธุรกิจตั้งแต่การวาง Website Structure รวมไปถึงการทำ Research Keyword สำหรับทำ On-page และ Off-page SEO ที่ทางแบรนด์ไม่จำเป็นต้องมีความรู้ในด้าน SEO ก็สามารถทำ SEO ให้กับแบรนด์ของตัวเองได้ ซึ่ง Agency SEO จะคอยให้คำแนะนำการปรับปรุงเว็บไซต์ตั้งแต่การวาง Structure ไปจนถึงการผลิตบทความที่มีคุณภาพ เพื่อให้สอดคล้องกับ Search Engine และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้งาน


54
Marketing Automation

ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในการใช้ชีวิตประจำวัน การตลาดอัตโนมัติ (Marketing Automation) กลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพผลลัพธ์ทางการตลาด ช่วยให้นักการตลาดสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพประหยัดเวลา และช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น

ในบทความนี้จะพาไปทำความรู้จักเพิ่มเติมกันว่า Marketing Automation คืออะไร? มีขั้นตอนการทำงานอย่างไรบ้าง มีวิธีในการดูอย่างไรว่าธุรกิจของเราเหมาะกับ Marketing Automation หรือไม่ พร้อมตัวอย่างการนำ Marketing Automation ไปใช้งานจริงในการทำธุรกิจ

ทำความรู้จัก Marketing Automation หนึ่งในตัวเลือกของธุรกิจยุคใหม่ที่น่าจับตามอง

การตลาดอัตโนมัติ หรือ Marketing Automation คือ การใช้ซอฟต์แวร์หรือเครื่องมือต่าง ๆ ในการลดการทำงานแบบแมนนวลลงและแทนที่ด้วยระบบการทำงานแบบอัตโนมัติ ซึ่งการใช้งานเทคโนโลยีในการทำงานแทนมนุษย์ช่วยลดข้อผิดพลาดที่เกิดจาก Human Error ได้เป็นอย่างดี แถมยังช่วยประหยัดเวลาในการทำงานที่มีรูปแบบการทำงานซ้ำ ๆ อีกด้วย

โดยในธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีการทำงานเป็นระบบอย่างชัดเจนจะมีการวาง Marketing Automation ในส่วนต่าง ๆ เพื่อใช้ในการเก็บข้อมูล การโพสต์สื่อบนช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ หรือการส่งอีเมลที่มีจำนวนมหาศาล เป็นต้น ซึ่งงานเหล่านี้ถ้าหากต้องใช้บุคลากรในการทำงานจะต้องใช้แรงงานและงบประมาณที่ค่อนข้างสูงในการจัดการ

จะรู้ได้อย่างไรว่าธุรกิจของเราเหมาะกับ Marketing Automation หรือไม่?

สำหรับการใช้งาน Marketing Automation ในธุรกิจหรือองค์กรนั้น ถึงแม้ว่าจะมีประโยชน์ในหลายด้านแต่การใช้ Marketing Automation จะเหมาะกับธุรกิจที่เริ่มมีกระบวนการทำงานที่ชัดเจน มีฐานลูกค้าในระดับหนึ่ง ที่อยากจะประหยัดเวลาจากการทำงานที่มีกระบวนการซ้ำ ๆ และใช้บุคลากรในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

ถึงแม้ว่าการใช้ Marketing Automation จะสามารถช่วยประหยัดเวลาและลดการทำงานลงได้ แต่ก็จะมีค่าใช้จ่ายจากการใช้เครื่องมือต่าง ๆ เพิ่มเติมขึ้นมาเช่นกัน ดังนั้นหากเป็นธุรกิจที่ยังมีฐานลูกค้าไม่มากหรือมีปริมาณ Traffic น้อยอยู่ การเลือกใช้ Marketing Automation อาจจะยังไม่ตอบโจทย์สักเท่าไรนักเพราะค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียนั้นยังไม่คุ้มค่ากับการลงทุนกับเครื่องมือเหล่านี้

ขั้นตอนการทำงานของ Marketing Automation

การเลือกใช้เครื่องมือ Marketing Automation จะมีขั้นตอนในการตั้งค่าและการวางกระบวนการการทำงานที่คล้ายคลึงกันในแต่ละชนิดของเครื่องมือ โดยขั้นตอนการทำงานของ Marketing Automation จะมีขั้นตอนในการทำงานหลัก ๆ ดังนี้

  • กำหนดเป้าหมาย: ระบุเป้าหมายทางการตลาดให้ชัดเจนเช่น การเพิ่มยอดขาย เพิ่ม Traffic หรือการสร้างแบรนด์
  • ระบุกลุ่มเป้าหมาย: เข้าใจกลุ่มเป้าหมาย พฤติกรรม ความต้องการ และความสนใจของลูกค้า
  • การเลือกเครื่องมือ: เลือกใช้เครื่องมือ Marketing Automation ที่เหมาะสมกับธุรกิจและงบประมาณ โดยต้องตอบโจทย์กับเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้
  • เก็บข้อมูล: เมื่อเลือกเครื่องมือในการใช้งานเรียบร้อยแล้ว ถัดมาจะเป็นการเลือกเก็บข้อมูลที่ต้องการเช่น ข้อมูลติดต่อ พฤติกรรมการซื้อ หรือความสนใจของลูกค้า เป็นต้น
  • แบ่งกลุ่มลูกค้า: ตามเกณฑ์ต่าง ๆ เช่น พฤติกรรม ความสนใจ ข้อมูลประชากร
  • ออกแบบกระบวนการทำงาน: ออกแบบ Workflow สำหรับลูกค้าในแต่ละกลุ่ม และเริ่มดำเนินการ Automation
  • วิเคราะห์ผลลัพธ์: นำผลลัพธ์ที่ได้มาวิเคราะห์และวัดผลแคมเปญ
  • ปรับปรุงกลยุทธ์: ปรับปรุงแผน Marketing Automation ตามผลลัพธ์ที่ได้

ตัวอย่างการนำ Marketing Automation ไปใช้งานในธุรกิจ

roi marketing automation

หลังจากที่ได้ทราบการทำงานของเครื่องมือ Marketing Automation กันไปแล้ว ถัดมาเราจะมาดูตัวอย่างการใช้งานกันบ้างว่า Marketing Automation สามารถนำไปใช้งานยังไงได้บ้าง

1. ส่งข้อเสนอให้กลุ่มลูกค้าที่เป็นเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

การทำ Email Marketing อย่างการส่ง Welcome Email เพื่อเป็นการสร้างความประทับใจแรกให้กับลูกค้าใหม่ ก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่การทำ Marketing Automation สามารถเข้ามาช่วยจัดการส่ง Email แบบอัตโนมัติได้ในทันที

2. ทำระบบ Scroing เพื่อจัดหมวดหมู่ลูกค้าที่ใช้บริการธุรกิจ

การทำระบบ Scroing เป็นวิธีที่จะช่วยให้ธุรกิจสามารถแบ่งหมวดหมู่ของลูกค้าได้ เพื่อการบริการและนำเสนอบริการหรือสินค้าได้อย่างถูกจุดกับกลุ่มลูกค้าในแต่ละหมวดหมู่ ซึ่งการนำระบบ Automate มาใช้คือวิธีที่จะช่วยให้การจัดการหมวดหมู่ลูกค้าสามารถทำได้อย่างเป็นระบบ

3. ส่งอีเมลหรือโฆษณาให้ลูกค้าเพื่อเพิ่มโอกาสในการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์

อีกหนึ่งวิธีที่เป็นที่นิยมในการใช้ระบบ Automatic คือการส่งอีเมลหรือโฆษณาให้แก่ลูกค้าเพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้าง Conversion หรือการปิดการขายได้มากยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างกลยุทธ์ในธุรกิจ E-commerce Marketing คือการส่งคูปองส่วนลดหรือโปรโมชันพิเศษไปทางอีเมล เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้ามีความสนใจอยากซื้อสินค้าหรือบริการมากยิ่งขึ้น

4. การเก็บข้อมูลสำหรับธุรกิจแบบ B2B

สำหรับธุรกิจแบบ B2B แล้ว การทำ Automation Marketing (B2B) จะมีขั้นตอนที่แตกต่างจากธุรกิจแบบ B2C โดยจะมีการใช้เครื่องมือ Marketing Automation ในการเก็บข้อมูลผู้เข้าชมเว็บไซต์เพื่อติดต่อกลับหรือส่งข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นให้เกิด Conversion หลังจากนั้นอาจจะมีการทำ Account-Based Marketing เพิ่มเติมโดยระบบจะส่งข้อความที่มีเนื้อหาแบบ Personalize ให้กับลูกค้าแต่ละราย ซึ่งเป็นการให้ข้อมูลเพื่อกระตุ้นให้เกิดการ Conversion แบบเฉพาะเจาะจงตามพฤติกรรมการบริโภคของลูกค้าแต่ละรายที่มีความแตกต่างกัน

Human VS. Automation อะไรส่งผลดีต่อธุรกิจมากกว่ากัน?

automation marketing b2b

หากเปรียบเทียบระหว่างการทำงานโดยมนุษย์กับการใช้เครื่องมือ Marketing Automation แล้ว ในการทำงานแต่ละแบบก็จะมีข้อดีแตกต่างกันออกไปดังนี้

ข้อดีของการทำงานโดยมนุษย์

  • มีความคิดสร้างสรรค์ สามารถคิดนอกกรอบ หาวิธีในการแก้ไขปัญหาใหม่ ๆ ได้
  • มีการสื่อสารที่ดี มีความเข้าใจอารมณ์ความรู้สึก และภาษากายของผู้อื่น
  • มนุษย์สามารถตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดโดยพิจารณาจากสถานการณ์และข้อมูลที่มี

ข้อดีของการทำงานโดยใช้เครื่องมือ Marketing Automation

  • สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
  • ช่วยลดภาระการทำงานที่ซ้ำซ้อน ประหยัดค่าใช้จ่ายและช่วยลดต้นทุนในการผลิตได้
  • การใช้ระบบ Automation สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความสม่ำเสมอ โดยไม่ต้องหยุดพัก

ทั้งการทำงานโดยมนุษย์และการใช้เครื่องมือ Marketing Automation ต่างก็มีข้อดีที่แตกต่างกัน ซึ่งทำให้การใช้การทำงานอย่างใดอย่างหนึ่งเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอต่อความสำเร็จของธุรกิจ ดังนั้นกลยุทธ์ที่ดีที่สุดคือการเลือกใช้งานทั้งมนุษย์และเครื่องมือ Marketing Automation ร่วมกัน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุด

สรุปการใช้งาน Marketing Automation

Marketing Automation หรือการตลาดแบบอัตโนมัติคือ การใช้เทคโนโลยีหรือโปรแกรมต่าง ๆ ที่เป็นเครื่องมือทางการตลาดเข้ามาช่วยเพิ่มให้การทำงานสามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งการใช้ Marketing Automation ยังสามารถช่วยลดภาระการทำงานซ้ำซ้อนหรือช่วยในการทำงานขนาดใหญ่ที่มีรูปแบบชัดเจนได้ ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลาอีกทั้งยังทำให้ลดการใช้ทรัพยากรบุคคลในบางกระบวนการได้อีกด้วย

โดยการใช้ Marketing Automation จะเข้ามามีส่วนช่วยในการวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้า ทำความเข้าใจความต้องการของลูกค้า และยังสามารถช่วยเหลือการทำงานทางด้านการตลาดอื่น ๆ ที่หลากหลายได้อีกไม่ว่าจะเป็นการส่งอีเมล การสร้างแคมเปญ หรือการจัดการบนโซเชียลมีเดียตามช่องทางต่าง ๆ ซึ่งการใช้ระบบ Automation ร่วมงานกับการทำงานของมนุษย์จะยิ่งช่วยลดโอกาสการเกิดข้อผิดพลาด และทำให้การทำงานสามารถดำเนินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

55
รับปิดโพรงใต้บ้าน

ขอบคุณภาพจาก https:// www .q-chang.com/landscape/void-filling

บ้านเป็นทรัพย์สินมีค่าที่สุดของหลายๆ คน เมื่ออยู่ไปนาน ๆ จะมีปัญหากวนใจมักพบได้บ่อยคือบ้านทรุด รอยร้าว พื้นเอียง ปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ หนึ่งในนั้นคือโพรงใต้บ้าน ซึ่งโพรงใต้บ้านเปรียบเสมือน "ระเบิดเวลา"  อาจส่งผลร้ายแรงต่อโครงสร้างบ้าน แก้ปัญหาได้ด้วยบริการรับปิดโพรงใต้บ้านเพื่อเสริมความแข็งแรงของบ้าน หรือปิดโพรงรอบบ้าน เพื่อให้บ้านกลับมาแข็งแรง ปลอดภัย สวยงาม น่าอยู่ยิ่งขึ้นกว่าเดิม

บทความนี้ จะมาทำความรู้จักกับการปิดโพรงใต้บ้านคืออะไร สาเหตุเกิดโพรงใต้บ้านเกิดจากอะไร มีวิธีแก้ไขอย่างไร ขั้นตอนการทำงาน ข้อดีและประโยชน์ของรับปิดโพรงใต้บ้าน รวมถึงปิดโพรงใต้บ้าน ราคาเริ่มต้นเท่าไร อย่าปล่อยให้บ้านเกิดปัญหาบานปลาย รีบแก้ไขด้วยวิธีที่ถูกต้องกันเลย

ทำความรู้จักการรับปิดโพรงใต้บ้าน 

การรับปิดโพรงใต้บ้าน หมายถึงบริการซ่อมแซมแก้ไขโพรงหรือช่องโหว่ที่เกิดขึ้นใต้พื้นบ้าน ซึ่งอาจเกิดจากสาเหตุ เช่น ดินทรุด น้ำท่วม การกัดเซาะของน้ำใต้ดิน หรือสัตว์ต่างๆ ขุดรูใต้บ้านจนเกิดโพรง
หากปล่อยทิ้งไว้อาจส่งผลเสียหลายอย่าง เช่นโครงสร้างบ้านเสียหาย เกิดปัญหาบ้านทรุด ร้าว แตก พังทลาย ปัญหาน้ำท่วมขัง หรือสัตว์เข้ามาอาศัย เพื่อลดหรือป้องกันความเสี่ยง ใช้บริการปิดโพรงรอบบ้าน โดยใช้วัสดุต่างๆ ปิดโพรงใต้บ้าน

สาเหตุของการเกิดโพรงใต้บ้าน 

ปิดโพรงใต้บ้าน

ขอบคุณภาพจาก https:// www .q-chang.com/landscape/void-filling

สาเหตุของเกิดโพรงใต้บ้าน มีสาเหตุหลัก ๆ ของโพรงใต้บ้านเกิดจากดินทรุดตัว ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็น 3 กรณีหลัก ดังนี้

1. ดินทรุดตัวตามธรรมชาติ
• ลักษณะของดิน: ดินในพื้นที่นั้นเป็นดินอ่อน เช่น ดินเหนียวอ่อน ดินทราย ดินถม ซึ่งดินเหล่านี้มีความเสี่ยงสูงจะทรุดตัวได้
• การเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำใต้ดิน: การใช้น้ำบาดาลอย่างมาก ส่งผลต่อระดับน้ำใต้ดินที่ลดลง ทำให้ดินสูญเสียความชื้นเกิดการยุบตัว
• แรงสั่นสะเทือนจากการจราจร ก่อสร้าง หรือจากเครื่องจักร ต่าง ๆ ส่งผลต่อโครงสร้างของดิน
• ภัยธรรมชาติ: เช่น แผ่นดินไหว น้ำท่วม ส่งผลต่อโครงสร้างของดิน

2. ดินทรุดตัวจากถมที่
• ถมดินไม่แน่นพอ: ก่อนก่อสร้างบ้าน ควรถมดินและทิ้งระยะเวลาให้นานพอ ประมาณ 2-3 ปี เพื่อให้ดินเกิดการเซ็ตตัว
• ถมดินด้วยวัสดุไม่เหมาะสม: วัสดุที่ใช้ถมดินควรมีความหนาแน่น สามารถรับน้ำหนักได้ดี

3. สาเหตุอื่น ๆ
• เกิดกัดเซาะของน้ำ: น้ำฝนหรือน้ำจากท่อประปารั่วไหล ซึมลงใต้ดิน ส่งผลให้ดินถูกกัดเซาะ ทำให้เกิดโพรง
• ปลวก: ปลวกสามารถกัดกินเนื้อไม้ใต้บ้าน ทำให้โครงสร้างของบ้านเสียหาย เกิดโพรงใต้บ้าน
• ก่อสร้างไม่ถูกต้อง: ออกแบบฐานรากไม่เหมาะสม ใช้วัสดุก่อสร้างไม่ได้มาตรฐาน ส่งผลต่อโครงสร้างของบ้าน ทำให้เกิดโพรงใต้บ้านได้

เกิดโพรงใต้บ้านเป็นปัญหาสามารถส่งผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม รวมถึงใช้ชีวิตประจำวันได้ ดังนั้นเมื่อเกิดปัญหาควรรีบแก้ไข โดยใช้บริการรับปิดโพรงใต้บ้าน เพื่อลดความเสี่ยงอาจจะทำให้เกิดบ้านทรุด

แก้ปัญหาบ้านทรุดได้ด้วยบริการรับปิดโพรงใต้บ้าน

รับปิดโพรงใต้บ้าน ราคา

ขอบคุณภาพจาก https:// www .q-chang.com/landscape/void-filling

แก้ปัญหาบ้านทรุดได้ด้วยบริการรับปิดโพรงใต้บ้าน มีข้อดี และประโยชน์ที่ได้รับมากมาย ดังต่อไปนี้

ข้อดีของบริการรับปิดโพรงใต้บ้าน

• แก้ปัญหาโพรงใต้บ้าน: ปิดโพรงใต้บ้าน ป้องกันดินทรุดตัวเพิ่มเติม
• เสริมความแข็งแรงให้บ้าน: เพิ่มความมั่นคงให้โครงสร้าง รองรับน้ำหนักของบ้าน กระจายแรงกด
• ป้องกันปัญหาโครงสร้าง: ลดโอกาสเกิดรอยร้าว ผนังเอียง พื้นทรุดเอียง ยืดอายุใช้งานของบ้าน
• เพิ่มพื้นที่ใช้สอย: เปลี่ยนพื้นที่ใต้บ้านให้เป็นพื้นที่ใช้งาน
• สวยงาม เรียบร้อย: ปิดโพรงใต้บ้าน เพิ่มความสวยงามให้กับบ้าน ทำให้น่าอยู่อาศัย
• ปลอดภัย: ป้องกันสัตว์เลื้อยคลาน สัตว์มีพิษ เข้ามาอาศัย ป้องกันการทรุดตัวของพื้น ลดความเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ ปิดโพรงใต้บ้านจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้อยู่อาศัย
• สะดวก รวดเร็ว: ไม่ต้องเสียเวลาหาช่าง วัสดุ อุปกรณ์ ง่าย ไม่ยุ่งยาก ใช้เวลาน้อย ไม่รบกวนการอยู่อาศัย
• มั่นใจในผลงาน: บริการโดยทีมช่างมืออาชีพ มากประสบการณ์
• ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย: แก้ปัญหาได้ตรงจุด ป้องกันปัญหาใหญ่ในอนาคต ประหยัดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม จบปัญหาในขั้นตอนเดียว

ประโยชน์ของปิดโพรงใต้บ้าน ได้แก่

• ป้องกันปัญหาน้ำขัง: โพรงใต้บ้านเป็นจุดอ่อนน้ำสามารถไหลเข้าท่วมได้ง่าย ปิดโพรงใต้บ้านจะช่วยป้องกันปัญหาน้ำขังใต้บ้าน ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาน้ำรั่ว ซึม ผนังบ้านเปียก และราขึ้น
• ป้องกันปัญหาสุขภาพ: โพรงใต้บ้านเป็นแหล่งสะสมของขยะ ฝุ่นละออง และความชื้น ซึ่งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของเชื้อโรคและแมลงต่างๆ ปิดโพรงใต้บ้านจะช่วยป้องกันปัญหาสุขภาพ เช่น โรคภูมิแพ้ โรคระบบทางเดินหายใจ หรือโรคผิวหนัง
• เพิ่มมูลค่าบ้าน: ปิดโพรงใต้บ้านช่วยแก้ปัญหาโครงสร้างบ้านที่เสียหาย ป้องกันปัญหาน้ำท่วมขัง เพิ่มพื้นที่ใช้สอย ส่งผลให้มูลค่าบ้านเพิ่มขึ้น

สรุป บริการรับปิดโพรงใต้บ้าน เป็นทางเลือกสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย  แก้ปัญหาบ้านทรุดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

บริการรับปิดโพรงใต้บ้าน มีขั้นตอนการทำงานอย่างไร

ขั้นตอนการทำงานของบริการรับปิดโพรงใต้บ้าน สรุปขั้นตอนได้ดังนี้

1.สำรวจพื้นที่

ทีมงานจะเข้าสำรวจพื้นที่หน้างาน เพื่อตรวจสอบความหนาแน่นของชั้นดิน วัดขนาดโพรง และเช็กท่อน้ำบริเวณโดยรอบก่อนปิดโพรงใต้บ้าน ถ่ายภาพ หรือถ่ายวิดีโอ เพื่อเก็บข้อมูลและประเมินงาน แจ้งรายละเอียดงาน ระยะเวลา งบประมาณ แก่ลูกค้า

2.เตรียมพื้นที่

ปูผ้าใบเพื่อป้องกันผนังและสนามหญ้าจากสิ่งสกปรก ขุดดินรอบตัวบ้านขนาด 30 - 50 เซนติเมตร เพื่อเตรียมการก่อนวางแผ่นวัสดุ โดยปรับแต่งพื้นผิวดินให้มีความเรียบก่อนติดตั้ง

3.ติดตั้งวัสดุปิดโพรง

เลือกวัสดุให้เหมาะสมกับสภาพพื้นดินและความต้องการของลูกค้า เช่น แผ่นสมาร์ทบอร์ด,แผ่น PVC Celuka, วัสดุ Fill Good หลังจากนั้นตัดบากแผ่นวัสดุให้เหมาะสมกับการติดตั้ง โดยวางแผ่นวัสดุลงในโพรง ปรับให้แนบสนิทกลบดินที่ขุดและบดอัดแผ่นหลังติดตั้ง

4.เก็บงาน

ทำความสะอาดพื้นที่และเก็บเศษวัสดุให้เรียบร้อย โดยตรวจสอบความเรียบร้อยของงานอีกครั้ง

ข้อสำคัญขั้นตอนการทำงานอาจแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับบริษัทผู้ให้บริการ วัสดุที่ใช้ รวมถึงความรุนแรงของปัญหา ดังนั้นควรเลือกบริษัทได้มาตรฐาน มีทีมช่างผู้ชำนาญ ใช้วัสดุคุณภาพสูง เสนอรับปิดโพรงใต้บ้าน ราคาสมเหตุสมผล มีรับประกันผลงาน

ก่อนใช้บริการรับปิดโพรงใต้บ้าน ลูกค้าควรสอบถามข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับบริการ วัสดุที่ใช้ ระยะเวลา งบประมาณ และรับประกันผลงาน ก่อนตัดสินใจเลือก

สรุปเกี่ยวกับรับปิดโพรงใต้บ้าน

ปิดโพรงใต้บ้านเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อแก้ปัญหาการทรุดตัวของดิน ป้องกันสัตว์ร้าย และเพิ่มความปลอดภัย โดยมีวิธีปิดโพรงหลายแบบ วิธีดีที่สุดขึ้นอยู่กับขนาดของโพรง สาเหตุของการทรุดตัว และงบประมาณ แนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เลือกบริษัทรับปิดโพรงใต้บ้านมีประสบการณ์ น่าเชื่อถือ เพื่อประเมินปัญหาและเลือกวิธีแก้ไขให้เหมาะสมที่สุด รวมทั้งปิดโพรงใต้บ้านจะช่วยปรับภูมิทัศน์รอบบ้านให้ดูสวยงาม เพิ่มมูลค่าบ้านได้อีกด้วย


56
โซฟา

โซฟา(Sofa) เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่สามารถพบเห็นได้มากมายตามบ้านและคอนโดต่าง ๆ โดยทั่วไปแล้วโซฟามักจะถูกตั้งไว้ในห้องนั่งเล่น แต่ก็มีโซฟาปรับนอนที่สามารถใช้นอนได้ด้วยเช่นกัน ในปัจจุบันมีโซฟาหลายแบบทั้งโซฟาเบด โซฟาชุด และยี่ห้อโซฟาให้เลือกซื้อมากมาย แต่ก่อนจะเลือกซื้อโซฟา ยี่ห้อไหนดี มาดูกันก่อนว่าทำไมปัจจุบันถึงมีผู้นิยมซื้อโซฟามาใช้งานกันมากมาย

ทำไมถึงควรซื้อโซฟาไว้ใช้งาน?

อย่างที่ทราบกันอยู่แล้วว่าโซฟาสามารถนำมานั่งเล่น นั่งทำงานคู่กับโต๊ะทำงาน หรือจะใช้นอนก็ได้ ซึ่งอาจจะมีผู้เห็นต่างว่าถ้าจะนั่งก็ซื้อเก้าอี้ หรือถ้าจะนอนก็ซื้อเตียงนอนหรือฟูกแทน ไม่จำเป็นต้องซื้อโซฟาที่มีขนาดใหญ่กินพื้นที่ห้องและมีราคาค่อนข้างสูงก็ได้

แต่ที่จริงแล้วเฟอร์นิเจอร์โซฟาก็มีเสน่ห์ที่ทำให้ใครหลาย ๆ คนหลงใหลและซื้อโซฟาตั้งไว้ในบ้านหรือห้อง เช่น โซฟามีรูปทรงสวยงาม สามารถเลือกประเภทโซฟาที่ถูกใจแล้วจัดให้เข้ากับห้องได้ ไม่ได้ทำให้รู้สึกเกะกะรกห้องแต่อย่างใด หรือจะนำโซฟามานั่งพร้อมกันหลายคนได้สบายโดยไม่ต้องเตรียมเก้าอี้หรือเบาะรองนั่งที่พอนั่งนาน ๆ แล้วจะรู้สึกเมื่อยตัวได้เช่นกัน

อีกทั้งในปัจจุบันเองก็มีโซฟา bedหรือโซฟาปรับนอนที่เป็นได้ทั้งเก้าอี้และเตียงนอนที่ช่วยประหยัดพื้นที่ และประหยัดเงินซื้อเตียง จึงไม่แปลกใจว่าทำไมถึงควรซื้อโซฟาไว้ในห้องสักตัว ดังนั้นก่อนที่จะดูว่าเลือกโซฟา ยี่ห้อไหนดีในที่นี้มาดูประเภทโซฟาและจุดเด่นของแต่ละประเภทคร่าว ๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น ดังนี้

• โซฟาทรง I
เป็นโซฟารูปทรงตัว I มีขนาดไม่ใหญ่มาก สามารถนั่งได้ 2-3 คน จึงมีราคาโซฟาค่อนข้างถูก เหมาะกับการตั้งภายในห้องที่มีขนาดพื้นที่จำกัด

• โซฟาชุด
เป็นโซฟาที่เหมาะกับครอบครัวขนาดใหญ่เพราะใน 1 เซตจะประกอบด้วยโซฟาและเก้าอี้หลายตัว เช่น โซฟา 3 ตัวและเก้าอี้ 1 ตัว หรือโซฟา 3 ตัวและเก้าอี้ 2 ตัว เป็นต้น

• โซฟาเบด
เป็นโซฟาที่ในช่วงเวลาปกติจะใช้นั่งเล่น แต่ถ้าต้องการหลับก็สามารถปรับเบาะที่ตั้งตรงให้ขนานกับพื้นพร้อมนอนได้สบาย ซึ่งจะช่วยประหยัดพื้นที่ภายในห้องได้เป็นอย่างดี

• โซฟาเข้ามุม
สามารถจัดให้เข้ากับมุมห้องได้ง่าย ทำให้จัดสรรออกแบบพื้นที่ในห้องสะดวก แต่เนื่องจากส่วนมากมีขนาด 2-3 เมตรขึ้นไป ก่อนเลือกซื้อโซฟาจึงควรพิจารณาถึงขนาดห้องด้วย

• โซฟาพักผ่อน
เป็นโซฟาที่ถูกออกแบบโดยเน้นสรีระร่างกายมนุษย์ มีสัมผัสการนั่งที่นุ่มสบาย ทำให้เวลานั่งโซฟาแล้วรู้สึกสบาย ไม่ปวดเมื่อยตามตัว

5 อันดับโซฟา ยี่ห้อไหนดีที่ได้รับความนิยม

โซฟายี่ห้อไหนดี

1. IKEA

หากพูดถึงแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามต่อเนื่องในปัจจุบัน ซึ่งตัว IKEA แบรนด์เฟอร์นิเจอร์จากสวีเดนก็มีโซฟาให้เลือกซื้อหลายประเภทให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นโซฟาทรง I โซฟาปรับนอน และโซฟาอื่น ๆ ในราคาไม่แพงมาก

สำหรับผู้ที่กำลังมองหาโซฟา ยี่ห้อไหนดีที่ราคาไม่แพง โซฟา 2 ที่นั่ง GLOSTAD(กลูสตอด) ก็เป็นหนึ่งในโซฟาราคาถูกที่น่าเลือกซื้อ โดยจะมีราคาอยู่ที่ 2,990 บาท มีดีไซน์เรียบสวย น้ำหนักเบา สามารถเคลื่อนย้าย ปรับเปลี่ยนที่ตั้งตามใจชอบได้สบาย

2. SB Furniture

เมื่อกำลังเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์โซฟา เชื่อว่าหลาย ๆ คนก็มีแบรนด์ในใจอย่าง SB Furniture แบรนด์เฟอร์นิเจอร์สัญชาติไทยเป็นหนึ่งในตัวเลือก โดยทางแบรนด์ได้ออกแบบผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ มากมาย โดยเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ รวมถึงโซฟามีดีไซน์สวยงามน่าซื้อ และมีความแข็งแรงทนทานใช้งานได้นาน

ทางแบรนด์มีโซฟาหลายรูปแบบมานำเสนอ ทั้งโซฟาเบด โซฟาเข้ามุม โซฟาสั่งทำการันตีคุณภาพสูง และอื่น ๆ อีกมากมาย โดยโซฟาที่น่าสนใจของยี่ห้อนี้มีหลายรุ่น แต่ถ้าสนใจโซฟาเบด โซฟารุ่น Minda เป็นรุ่นที่ผลิตจากวัสดุที่มีคุณภาพชั้นสูงที่สามารถรองรับสรีระร่างกายได้ดี และสามารถปรับระดับโซฟาได้ในราคาลดที่ 6,900 บาท

3. INDEX LIVING MALL

หนึ่งในเฟอร์นิเจอร์แบรนด์จากประเทศไทยที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลย คือ INDEX LIVING MALL ซึ่งมีการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ และโซฟาอย่างพิถีพิถันหลายแบบเพื่อตอบรับความต้องการซื้อของทุกคน อย่างโซฟาทางแบรนด์ก็ออกแบบมาหลายประเภท เช่น โซฟาทรงตัว I โซฟาเบด ชุดโซฟา โซฟาแบบสั่งทำ เป็นต้น

สำหรับผู้ที่อยากซื้อโซฟาปรับนอนสักตัว แต่ก็ลังเลว่าไม่รู้จะซื้อโซฟา ยี่ห้อไหนดี และซื้อรุ่นไหนดี ถ้าสนใจซื้อโซฟาแบรนด์นี้ก็จะแนะนำโซฟาเบดรุ่นสตีเฟ่น โดยรุ่นนี้ราคาจะอยู่ที่ 10,990 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ไม่แรงแต่คุ้มค่ากับการซื้อมาก เพราะโซฟาสามารถพับเก็บของได้จึงช่วยประหยัดพื้นที่ภายในห้องได้ดี ตัวเบาะโซฟาเองก็มีความนุ่มและยืดหยุ่นได้ดีด้วย

4. Solomon

ถ้าพูดถึงแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ Solomon หลาย ๆ คนก็มักจะนึกถึงที่นอนเป็นอย่างแรก แต่จริงๆแล้วทางแบรนด์เองก็มีวางจำหน่ายโซฟาด้วยเช่นกัน และแน่นอนว่าสินค้าจากทางแบรนด์นี้เองก็เต็มเปี่ยมด้วยคุณภาพไม่แพ้แบรนด์อื่น ๆ เลย

กรณีที่สนใจซื้อโซฟาจากทางแบรนด์ โซฟาเบดหนังรุ่น Extra Cushy ที่ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง มีลักษณะผิวโซฟามันวาว ทำให้โซฟาดูใหม่อยู่เสมอแม้ว่าจะผ่านการใช้งานมานาน และยังเหมาะกับการตั้งในห้องที่มีขนาดไม่ใหญ่เพราะโซฟาสามารถพับเก็บได้ โดยมีราคา 15,200 บาทเท่านั้น

5. KONCEPT FURNITURE

เมื่อพูดถึงโซฟาอีกแบรนด์หนึ่งที่เป็นที่รู้จัก KONCEPT FURNITURE ก็คงอยู่ในลิสต์ของหลาย ๆ คน เพราะเป็นแบรนด์ลูกของ SB Furniture ซึ่งโซฟาราคาถูกกว่า แต่คุณภาพและการใช้งานนั้นเรียกได้ว่าสมกับราคามาก

สำหรับผู้ที่สนใจโซฟาราคาดี ๆ ที่มีทรงเรียบ ๆ แต่ดูดีมีสไตล์ สามารถตกแต่งเข้ากับห้องได้ทุกรูปแบบ โซฟา 2 ที่นั่ง Gibbon(กิบบอน) ก็เป็นหนึ่งในรุ่นที่น่าสนใจ เพราะนอกจากจะผลิตจากวัสดุที่มีความแข็งแรงทนทานสูงแล้ว และยังมีช่องว่างสำหรับใส่หนังสือและของอื่น ๆ ให้สามารถใส่ไว้ในยามนั่งเล่นพักผ่อนได้

โซฟามีประโยชน์อย่างไร

หากหลังจากอ่านรีวิวเลือกโซฟา ยี่ห้อไหนดีแล้ว แต่ยังคงลังเลอยู่ว่าควรซื้อโซฟาดีไหม? ในที่นี้มาดูกันว่าโซฟามีประโยชน์หรือข้อดีอย่างไร ทำไมถึงควรซื้อ

• ใช้นั่งพักผ่อนหย่อนคลายในเวลาที่รู้สึกเหนื่อยล้าได้
• สามารถเอนหลังนอนงีบหลับในระหว่างวันได้สบายร่างกาย และยังมีโซฟาปรับนอนที่สามารถปรับโซฟาให้เป็นเตียงนอนได้ด้วย
• โซฟาส่วนมากมีลักษณะเนื้อนิ่มเข้ากับสรีระร่างกาย ทำให้เวลานั่งไม่รู้สึกเมื่อยเนื้อเมื่อยตัว
• โซฟามีขนาดกว้าง สามารถนั่งได้พร้อมกันหลายคน ไม่ว่าจะนั่งคนเดียว นั่งกับเพื่อน นั่งกับแฟน หรือนั่งกับครอบครัว
• ถึงแม้ว่าจะเป็นชุดโซฟาราคาถูก แต่โซฟาก็เป็นหนึ่งในเฟอร์นิเจอร์ที่ช่วยตกแต่งให้บรรยากาศห้องดูอบอุ่น สวยงาม น่าอยู่อาศัย

สรุป

สำหรับผู้ที่กำลังพิจารณาซื้อโซฟา ยี่ห้อไหนดี  จะต้องพิจารณาถึงปัจจัยต่าง ๆ เช่น ขนาดห้องที่ส่งผลต่อขนาดและประเภทของโซฟาที่ควรซื้อ เช็กเนื้อสัมผัสโซฟาที่ชอบ หรืออาจจะมองหาโปรโมชั่นโซฟาลดราคาก่อนซื้อ เพื่อซื้อโซฟาที่ชอบในราคาที่ถูกใจที่สุด

57
อายไลเนอร์ยี่ห้อไหนดี กันน้ำ ไม่แพนด้า

ดินสอเขียนขอบตาหรือ Eyeline ถือว่าเป็นไอเทมอย่างหนึ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับการแต่งหน้าของสาว ๆ ช่วยให้ดวงตากลมโตสวย มีเสน่ห์ แต่ปัญหาของคนหนังตามันกับอายไลเนอร์ส่วนใหญ่จะชอบหลุดไหลเยิ้มเป็นแพนด้าระหว่างวัน โดยบทความนี้จะมาแนะนำทุกคนให้รู้จัก 5 อายไลเนอร์ยี่ห้อไหนดี เขียนง่าย ไม่หลุดระหว่างวันและสมราคาไปดูกันเลย

ทำความรู้จักอายไลเนอร์กันน้ำ

อายไลเนอร์กันน้ำกันเหงื่อ คืออะไร

สำหรับมือใหม่ที่มองหาอายไลเนอร์ยี่ห้อไหนดีควรมาทำความรู้จักอายไลเนอร์แต่ละแบบกันก่อนว่าควรเลือกใช้ยังไง แต่ละชนิดความเขียนยาก - ง่ายเหมือนกันไหม Eyeliner คือเครื่องสำอางใช้เป็นที่กรีดตาให้ขอบตาสวยคมช่วยสร้างลุคการแต่งหน้าใหม่ ๆ เปลี่ยนรูปตาให้ดูกลมโต ตาคม ตาหวาน Cat Eye Foxy eyes ในแบบฉบับของแต่ละคน อีกทั้งอายไลเนอร์บางแบรนด์ยังมีหลายสีเช่น สีแดง, สีขาว, สีทองและสีดำ ใช้แต่งตาเป็นแฟชั่นตามเทศกาลฮาโลวีน, คริสต์มาส, อีเว้นต์ต่าง ๆ ได้ด้วยสำหรับมือใหม่ที่ไม่รู้ว่าอายไลเนอร์มีกี่แบบ แตกต่างกันอย่างไรไปทำความรู้จักอายไลเนอร์ทั้ง 3 แบบ ได้แก่

1. ดินสอเขียนขอบตา เป็นอายไลเนอร์เนื้อนิ่มเขียนง่าย จับถนัดมือคล้ายเวลาเขียนดินสอเวลาวาดรูป แต่เส้นที่ได้จะดูหนาไม่คมสวยเท่าแบบเจลหรือแบบน้ำและไม่เหมาะสำหรับคนผิวมันเพราะไม่ค่อยติดทนมาก เสี่ยงหน้าไหลเยิ้มระหว่างวัน เหมาะสำหรับมือใหม่ที่ต้องการฝึกเขียนขอบตา ฝึกเบลนด์สีไล่ระดับให้ทั้งสองข้างดูเท่ากัน

2. อายไลเนอร์แบบเมจิก มีทั้งแบบแท่งและแบบพู่กันจิ้มจุ่ม เส้นที่ได้จะสวยคมมากกว่าดินสอเขียนขอบตา มีให้เลือกหลายสี ใช้ง่าย คล่องมือเส้นสวยเป็นธรรมชาติเหมือนวาดขอบตาด้วยปากกาเลย จึงเป็นอีกรุ่นหนึ่งที่คนนิยมใช้แต่งหน้าลุคสายฝอ ลุคสายเกา แต่สีอาจจะไม่ดำสนิทเท่าแบบเจล

3. อายไลเนอร์กันน้ำแบบเจล ลักษณะเป็นแท่งเหมือนปากกาเพียงแต่เนื้อเจลจะแน่นสีดำสนิท กรีดตาง่าย มีขนาดหัวให้เลือกเส้นเล็ก ใหญ่หลากหลายแบรนด์เหมาะสำหรับสายฝอ สายปาร์ตี้ที่ต้องการความเฉี่ยวคม แต่ก็มีข้อเสียตรงที่คนข้างแห้งไวนั่นเอง

ดังนั้นอายไลเนอร์จึงกลายเป็นไอเทมชิ้นสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับการแต่งหน้า เพียงแค่มีอายไลเนอร์ลุคแต่งหน้าของคุณก็จะดูมืออาชีพขึ้นมาทันที สำหรับใครที่กำลังมองหาและเลือกซื้ออายไลเนอร์ยี่ห้อไหนดี เป็นตัวช่วยเสริมลุคให้โดดเด่นไม่เหมือนใคร แถมยังราคาเบา ๆ น่าคบหาไปดูในหัวข้อถัดไปกันเลย

แนะนำ 5 อายไลเนอร์ยี่ห้อไหนดีที่สาว ๆ หนังตามันต้องรู้

อายไลเนอร์กับดินสอเขียนขอบตา

เลือกอายไลเนอร์ยี่ห้อไหนดีติดทน กันน้ำ กันเหงื่อ ไม่เสี่ยงเป็นแพนด้าและยังเหมาะกับตัวเอง การเลือกอายไลเนอร์นั้นมีหลายอย่างไม่ใช่มองแค่ราคา ยังต้องเลือกจากเนื้อสัมผัส สี ความติดทนเขียนง่ายไม่ซับซ้อนด้วย เพื่อที่จะให้คุณเจออายไลเนอร์ไม่แพนด้าไหลหลุดระหว่างวัน เราได้รวบรวม 5 อายไลเนอร์สุดปังแถมยังหาซื้อง่ายเป็นอายไลเนอร์วัตสันยอดนิยมอีกด้วย

1. Browit HighTechnique Duo Eyeliner

Browit by Nongchat อายไลเนอร์กันน้ำมี 2 หัวในแท่งเดียวทั้งขอบตาบน ขอบตาล่างเนื้อนุ่ม สูตรกันน้ำ เป็นหนึ่งในรุ่นยอดฮิตหัวแรกคือปากกาเมจิกปลายเรียวแหลม กรีดแล้วเส้นเล็ก สีชัด ส่วนอีกด้านเป็นดินสอสีน้ำตาลไว้เขียนขอบตาล่าง เหมาะสำหรับมือใหม่และคนที่เขียนขอบตาทุกวัน หาซื้อง่ายตามห้างสรรพสินค้า ออนไลน์ชอปปิงด้วยราคาเริ่มต้นที่ 149 บาท ปริมาณ 0.45 มล.+ 0.08 กรัม มี 3 สีให้เลือกได้แก่ Black, Soft Brown, Taupe Brown

2. Merrezca Super Black & Long-Lasting Eyeliner

อายไลเนอร์หัวเมจิกจากแบรนด์ Merrezca เนื้อสัมผัสนุ่มลื่นไม่สะดุด เวลากรีดขอบตาจะได้เส้นสวยคม ไม่ระคายเคืองเปลือกตา แท่งเป็นปากกาจับถนัดมือสุด ๆ เหมาะสำหรับคนผิวมันเพราะสูตร Long-Lasting Eyeliner กันน้ำกันเหงื่อ ขนาด 0.8 กรัม ราคาเริ่มต้นที่ 99 บาทเท่านั้น

3. Sis2Sis Super Sharp Eye Liner

Sis2Sis สูตรกันน้ำมาพร้อมสีดำสนิทไม่หลุดลอกระหว่างวัน ถือว่าเป็นอายไลเนอร์ไม่แพนด้ารุ่นฮิต ของมือใหม่เลยก็ว่าได้เพราะเป็นเนื้อด้าน Matte หัวคอตตอนขนาดเล็กทำให้เขียนง่าย มีทั้งแบบปากกาและแบบซองเล็กให้ทดลองใช้ด้วย ราคาเริ่มต้นที่ 0.8 กรัม 199 บาทและแบบซอง 0.5 กรัม 49 บาท

4. Mee Brightly Sharp Eyeliner

อายไลเนอร์กันน้ำกันเหงื่อจาก Mee cosmetics สูตรใหม่เขียนง่าย มาในรูปแบบแท่งลิควิด เขย่าก่อนใช้เพื่อให้สีเข้มชัด เขียนลื่นและแห้งไว เหมาะสำหรับมือใหม่เริ่มต้นแต่งหน้า แต่งตาแบบสุด ๆ ด้วยความติดทนทั้งวัน มีรีวิวจากผู้ใช้จริงเป็นอายไลเนอร์อีกตัวหนึ่งที่ใคร ๆ ต่างก็แนะนำ มาในราคาเริ่มต้นที่ 139 บาทกับปริมาณสุดคุ้ม 7 กรัม

5. Beauti Cute Eyeliner Big Eye & Hilighter

อายไลเนอร์ติดทนยาวนาน 12 ชั่วโมง Beauti Cute Eyeliner มาพร้อม 2 หัวแบบ 2in1 หัวแรกใช้เขียนขอบตาเป็นอายไลเนอร์สีดำ เนื้อฟิล์ม กันน้ำ กันเหงื่อและอีกหัวไว้สำหรับ Hilighter หัวตาสีโรสโกลด์แปรงฟองน้ำ ใช้เพิ่มเสน่ห์ดวงตาดูกลมโตโดดเด่นหรือเป็นอายแชโดว์เปลือกตาได้ด้วย หลายเทคนิคในแท่งเดียว ราคาเริ่มต้นที่ 139 บาท

สรุป

การเลือกอายไลเนอร์ยี่ห้อไหนดีเป็นจุดเริ่มต้นดี ๆ สำหรับสาว ๆ ที่ต้องการความสวยเป๊ะ ตากลมโต เสริมลุคให้คุณดูดีขึ้นแบบทันที ไม่ว่าจะลุคสาวหวานหรือสายฝอ สายแฟชั่นก็โดดเด่นไม่เหมือนใคร แต่ก็ต้องระวังสำหรับคนที่หนังตามัน ควรเลือกอายไลเนอร์กันน้ำเพื่อเพิ่มความมั่นใจไม่แพนด้าระหว่างวัน

58
ผลิตครีมกันแดด

ใครที่กำลังอยากทำแบรนด์ครีมกันแดดเป็นของตัวเอง หรือคนที่อยากเริ่มทำธุรกิจประเภทครีมกันแดดแน่นอนจะต้องกำลังมองหาโรงงานผลิตครีมกันแดดอย่างแน่นอน ซึ่งในปัจจุบันมีโรงงานผลิตครีมกันแดดที่ครบวงจรทั้งแบบ OEM และ ODM ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของเจ้าของแบรนด์ โดยมีสูตรครีมกันแดดที่หลากหลาย มีผู้เชี่ยวชาญและทีมงานที่พร้อมให้คำปรึกษาตั้งแต่การวางแผน การคิดค้นพัฒนาสูตร การขึ้นทะเบียนรับรอง จนสามารถออกวางจำหน่ายสู่ท้องตลาด โดยการจะผลิตครีมกันแดดออกมานั้นเจ้าของแบรนด์จะต้องรู้อะไรบ้าง ลองมาอ่านในบทความนี้เลย

ผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดคืออะไร

ครีมกันแดด (Sunscreen) คือ ผลิตภัณฑ์สำหรับใช้กับผิวหนัง สามารถปกป้องผิวจากการทำร้ายของแสงแดด และรังสี UV (Ultraviolet) เป็นสาเหตุหนึ่งที่ก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนัง และสร้างเม็ดสีทำให้ผิวคล้ำเสีย การทาโลชั่นกันแดดจึงเป็นวิธีหนึ่งที่สามารถป้องกันการเกิดได้ระดับหนึ่งเพราะสามารถดูดซับและสะท้อนรังสี UV ไม่ให้มาทำร้ายชั้นผิวหนังด้านในได้ โดยผู้เชี่ยวชาญในโรงงานผลิตครีมกันแดดต่างคิดค้นและพัฒนาสูตรเพื่อให้เหมาะกับปัญหาผิวเพื่อให้ตอบโจทย์กับกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย

การเป็นเจ้าของแบรนด์ครีมกันแดดมีข้อดีอย่างไร

อย่างที่รู้กันดีว่าการเป็นเจ้าของแบรนด์นั้นไม่ใช่เรื่องยาก โรงงานผลิตครีมกันแดด สามารถรับผลิตครีมกันแดดที่ตอบโจทย์การใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ แต่การเป็นเจ้าของแบรนด์ครีมกันแดดนั้นให้อะไรกับเราได้บ้างและมีข้อดีอะไรบ้าง

  • เป็นอาชีพที่อิสระ การเป็นเจ้าของธุรกิจหรือเจ้าของแบรนด์ครีมกันแดดสามารถเลือกเวลาการทำงานได้อิสระ สามารถนั่งทำงานที่ไหนก็ได้ตามที่สะดวก โดยจะต้องจัดสรรเวลาและมีวินัยในการทำงาน
  • มีรายได้จากการขายสินค้า หากตั้งใจผลิตครีมกันแดดที่มีคุณภาพและสามารถสร้างยอดขายแต่ละเดือนได้ดี จะทำให้ได้กำไรจากการทําครีมกันแดดแบรนด์ตัวเอง ซึ่งเจ้าของแบรนด์จะต้องมีการโปรโมทสินค้า ทำการโฆษณาสินค้าให้เป็นที่รู้จักเพื่อสร้างยอดขาย
  • สามารถต่อยอดธุรกิจ การทำแบรนด์เครื่องสำอางไม่ใช่เพียงแต่ครีมกันแดด หากยอดขายสินค้าดีขั้น เจ้าของแบรนด์สามารถสั่งผลิตสินค้าเครื่องสำอางประเภทอื่นๆ ภายใต้ชื่อแบรนด์ของตัวเองได้
  • สร้างรายได้ให้กับผู้อื่น การทำธุรกิจหากมีการเติบโต เจ้าของแบรนด์สามารถจ้างคนงานเพิ่มในตำแหน่งต่างๆ เช่น ฝ่ายขาย ฝ่ายการตลาด ฝ่ายบัญชี เป็นต้น เพื่อทำให้ธุรกิจมีความมั่นคง และเป็นการสร้างงานให้กับผู้อื่น ลดความเหนื่อยล้าจากการทำงานหลายๆอย่าง เพื่อสามารถมีเวลาในการคิดต่อยอดการสร้างแบรนด์ครีมและพัฒนาธุรกิจของตัวเอง
  • สามารถช่วยเหลือผู้อื่น การผลิตแบรนด์ครีมกันแดดที่มีคุณภาพ ปลอดภัยต่อผู้บริโภคเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้งาน ช่วยแก้ปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ หรือแม้แต่การปกป้องผิวจากแสงแดด ซึ่งเป็นการช่วยเหลือผู้อื่น และส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ดี
  • สามารถสร้างชื่อเสียงและมีความภาคภูมิใจ การสร้างแบรนด์ครีมกันแดด หากเป็นที่รู้จักและทำยอดขายได้ดี ถือว่าการทำธุรกิจประสบความสำเร็จ สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนที่อยากประสบความสำเร็จในธุรกิจ และเจ้าของแบรนด์มีแรงขับเคลื่อนที่จะพัฒนาธุรกิจให้เติบโตขึ้นต่อไป
  • สร้างความมั่นคงให้กับครอบครัว การสร้างแบรนด์ครีมกันแดด เป็นมรดกอย่างหนึ่งที่สามารถส่งต่อให้กับลูกหลานในอนาคต เป็นธุรกิจที่สร้างรายได้และความมั่นคงให้กับครอบครัวได้

สูตรครีมกันแดดที่เจ้าของแบรนด์นิยมสั่งผลิตกับโรงงานผลิตครีมกันแดด 

สูตรครีมกันแดด

การสั่งผลิตครีมกันแดด ที่เจ้าของแบรนด์นิยมสั่งผลิตกับโรงงานผลิตครีมกันแดด มีสูตรอะไรบ้างมาดูกันเลย

1. Sunscreen Cream (Soft Beige) SPF 50 PA+++

เป็นครีมกันแดดสูตรเนื้อครีม ที่มีความนุ่มลื่น โดยเนื้อครีมมีความบางเบา นุ่มละเอียด ไม่ระคายเคืองต่อผิวหนัง โดยโรงงานจะผลิตครีมกันแดดสูตรนี้เพื่อสามารถปกป้องจากรังสี UVA และ UVB สามารถลงครีมกันแดดสูตรนี้แทนการใช้รองพื้นได้

2. Silky Smooth Foundation Sunscreen SPF 50 PA+++

โดยโรงงานผลิตครีมกันแดดสูตรนี้เพื่อใช้แทนครีมรองพื้น โดยครีมกันแดดจะผสมเนื้อรองพื้น แต่ยังให้ความบางเบา และใส่สารสกัด Silk Protein ที่ให้ความเรียบเนียนเป็นธรรมชาติ ช่วยป้องกันผิวจากรังสี UVA และ UVB สาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดการหมองคล้ำ และครีมกันแดดสูตรนี้ช่วยชะลอริ้วรอยของใบหน้า ทำให้ผิวแข็งแรงมากขึ้น

3. Milky Sunscreen Lotion SPF 50 PA+++

เป็นโลชั่นกันแดดเนื้อน้ำนม ที่ให้ความรู้สึกนุ่ม เนื้อครีมมีความเบาบางเหมือนน้ำนม โรงงานผลิตครีมกันแดดสูตรนี้เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ชอบความบางเบาสบายผิว ไม่มีน้ำมัน อ่อนโยนต่อผิวเหมาะกับคนที่ผิวแพ้ง่าย สามารถลดผิวหมองคล้ำและป้องกันรังสีUVA และ UVB ที่จะมาทำร้ายผิว

4. Anti-pollution Sunscreen SPF 50 PA+++

ครีมกันแดดที่มีความบางเบา ทำให้ผิวหน้านุ่มลื่น โรงงานผลิตครีมกันแดดสูตรนี้ออกมาเพื่อให้ความรู้สึกบางเบา ไม่หนักหน้า ทำให้สามารถป้องกันรังสี UVA และ UVB ที่จะมาทำร้ายผิว และทางโรงงานผลิตครีมกันแดดได้เพิ่มสารสกัดที่เป็นธรรมชาติเพื่อแก้ปัญหาผิวจากการเจอมลภาวะต่างๆที่ก่อให้เกิดผิวหมองคล้ำ

5. Matte Fluid SPF 30 PA+++

ครีมกันแดดผสมรองพื้น เนื้อบางเบา ไม่เป็นคราบ ไม่เป็นขุย เกลี่ยง่าย ซึมเข้าสู่ผิวได้เร็ว โรงงานผลิตครีมกันแดดสูตรนี้สำหรับคนเป็นสิวง่าย เพราะไม่ก่อให้เกิดการอุดตันรูขุมขน และช่วยควบคุมความมันบนใบหน้า อีกทั้งยังช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดและรังสี UV ปรับให้ผิวดูขาวเรียบเนียนเป็นธรรมชาติ

Pure Derima โรงงานผลิตครีมกันแดด มาตรฐานครบวงจร

โรงงานผลิตครีมกันแดดที่ดีมีมาตรฐานในการรับผลิตครีมกันแดด จะต้องมีผู้เชี่ยวชาญที่มากประสบการณ์ในการผลิตครีมกันแดดสูตรต่างๆ ดังที่กล่าวข้างต้น และจะต้องมีทีมงานคุณภาพที่พร้อมให้คำปรึกษาตั้งแต่การเริ่มวางแผนธุรกิจ โดยให้บริการและดูแลในเรื่องต่างๆดังนี้

  • บริการรับวิจัย คิดค้น และพัฒนาสูตร ทางโรงงานผลิตครีมกันแดด จะมีนักวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง เป็นผู้เชี่ยวชาญในการดูแลคิดค้นและพัฒนาต่อยอดสูตรต่างๆ โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย
  • บริการออกแบบโลโก้ บรรจุภัณฑ์ และฉลากสินค้า โรงงานผลิตครีมกันแดดจะมีทีมงานที่พร้อมให้บริการออกแบบและแก้ไขเพื่อให้ตรงตามความต้องการของเจ้าของแบรนด์
  • บริการจดแจ้งขึ้นทะเบียน อย. และ เอกสารรับรอง โดยทางโรงงานผลิตครีมกันแดดจะส่งตัวอย่างผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดเพื่อขอขึ้นทะเบียนรับรองให้ถูกต้องตามกฎหมาย
  • บริการให้คำปรึกษาวางแผนจากนักการตลาด เป็นบริการที่ทางโรงงานผลิตครีมกันแดด จะส่งทีมงานเข้าไปช่วยเจ้าของแบรนด์ในการโปรโมท และโฆษณาสินค้าให้ได้เป็นที่รู้จัก
  • บริการขึ้นทะเบียนสเปรย์น้ำแร่และสเปรย์สูตรต่างๆ โรงงานผลิตครีมกันแดด มีบริการรับผลิตครีมกันแดด และสเปรย์น้ำแร่สูตรต่างๆ โดยจะมีการขอขึ้นทะเบียนรับรองให้ถูกต้องตามกฎหมาย

สรุปการผลิตครีมกับแดดกับโรงงานรับผลิต

อยากที่รู้กันดีว่าแดดประเทศไทยนั้นแรงแค่ไหน ซึ่งจำเป็นอย่างมากที่จะต้องทาครีมกันแดด ในปัจจุบันโรงงานผลิตครีมกันแดด ได้ผลิตครีมกันแดดออกมาหลากหลายสูตรเพื่อรองรับกับกลุ่มลูกค้าประเภทต่างๆการผลิตครีมกันแดดออกมาขายนั้นไม่ใช่เรื่องยาก โดยเจ้าของแบรนด์สามารถเลือกใช้บริการกับโรงงานผลิตครีมกันแดด ที่มีบริการคิดค้นวิจัยและพัฒนาสูตร โดยผู้เชี่ยวชาญ มีทีมงานออกแบบโลโก้ บรรจุภัณฑ์ ทีมงานที่ช่วยวางแผนการตลาดและขอขึ้นทะเบียนอย่างถูกกฎหมายที่พร้อมให้บริการ ทำให้สะดวกสบายเหมาะกับเจ้าของแบรนด์ยุคใหม่

59
โรงงานผลิตครีมกันแดด

ปัญหาผลกระทบจากความร้อนของแสงแดดในปัจจุบันที่เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ก่อให้เกิดผลเสียต่อสภาพผิวของพวกเราในขณะนี้ การแก้ปัญหาจากแสงแดดโดยส่วนใหญ่จึงเป็นหลบหลีกภายในอาคารที่พัก แต่บางท่านที่ต้องออกกิจกรรมกลางแจ้งเป็นประจำ การใช้ครีมกันแดดที่มีประสิทธิภาพ จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่หลายๆท่านต่างให้ความต้องการมากขึ้น

รวมไปถึงบางท่านที่อยากทำแบรนด์ครีมกันแดด ซึ่งได้มองเห็นถึงเส้นทางต่อยอดทางธุรกิจ เพื่อทำให้เกิดรายได้จากแบรนด์ครีมกันแดดโดยท่านสามารถคิดค้นสูตรครีมกันแดดของตนเอง เพื่อผลิตสินค้าที่มีคุณภาพภายใต้แบรนด์ของท่าน การมองหาโรงงานผลิตครีมกันแดดที่น่าเชื่อถือ พร้อมได้มาตรฐานผ่านการยอมรับ และรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงเป็นสิ่งสำคัญอีกด้วย แต่การจะเลือกโรงงานผลิตครีมกันแดดที่ตรงใจ จะต้องมีขั้นตอนอะไรบ้าง เรามาศึกษาไปพร้อมกันเถอะ

เพราะอะไรหลายท่านถึงเลือกเป็นเจ้าของแบรนด์ครีมกันแดด ? 

แน่นอนว่าการเป็นเจ้าของแบรนด์ครีมกันแดด หรือแม้แต่เจ้าของแบรนด์สินค้าประเภทอื่นๆก็ตาม มักมีผลดีมากกว่าผลเสียในการประกอบธุรกิจภายใต้การทำงานของท่าน ซึ่งจะมีข้อดีต่างๆ ดังนี้

  • มีเวลาวางแผนบริการงาน : การสร้างแบรนด์ครีมกันแดด ท่านสามารถมีอำนาจในการเข้าจัดการสินค้า สามารถกำหนดทิศทางการดำเนินงานด้านการตลาดได้อย่างตามความต้องการ หรือแผนงานได้วางไว้ให้ตรงตามเป้าหมาย ทั้งยังสามารถจัดการช่องทางการขายได้หลายแหล่ง ทั้งในออนไลน์และร้านค้าทั่วไปได้
  • สามารถกำหนดคุณสมบัติเฉพาะของครีมกันแดด : ท่านสามารถคิดค้นสูตรเฉพาะที่ท่านต้องการ รวมถึงในกรณีที่ต้องการเพิ่มวัตถุดิบที่ต้องการได้ โดยท่านสามารถเลือกโรงงานผลิตครีมกันแดดที่น่าเชื่อถือ พร้อมด้วยมีบริการในการให้คำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญในการพัฒนาสูตรครีมกันแดดได้อีกด้วย
  • การจดกรรมสิทธิ์ในสินค้าครีมกันแดดที่ท่านได้คิดค้นสูตรด้วยตนเองได้ : ไม่ว่าจะเป็นโลโก้แบรนด์ครีมกันแดด /ขนาดบรรจุภัณฑ์ / วัตถุดิบที่ผสมในครีมกันแดด และสูตรที่ท่านคิดค้นขึ้นมา

แต่อย่างไรก็ตามการสร้างแบรนด์ก็มักมีปัจจัยเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นการนำงบประมาณที่ลงทุนมาใช้ การวางแผนการตลาดที่ครอบคลุมในทุกเหตุการณ์ ขั้นตอนการวางแผน กระบวนการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ ท่านควรเลือกโรงงานผลิตครีมกันแดดที่สามารถมีบริการในรูปแบบ One stop service ด้วยบริการให้ครบปรึกษา การวิจัย / พัฒนาผลิตภัณฑ์ การออกเอกสารเลขจดแจ้งจากอย. ซึ่งสิ่งเหล่าจะช่วยลดระยะเวลาในการดำเนินงานอื่นๆได้อีกด้วย

ตัวอย่างสูตรครีมกันแดดที่นิยมสั่งผลิตกับโรงงานผลิตครีมกันแดด เป็นอย่างไรบ้าง

สูตรครีมกันแดด

การเลือกผลิตครีมกันแดดจากโรงงานผลิตครีมกันแดดที่ผ่านการยอมรับ มักจะมีสูตรครีมกันแดดที่ได้พัฒนาสูตร โดยได้รับความร่วมมือจากนักเคมี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางในการวิจัยผลลัพธ์ที่เหมาะกับทุกสภาพผิว ซึ่งแต่ละโรงงานจะมีสูตรครีมกันแดดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ จะขอยกตัวอย่างสูตรครีมกันแดดจาก Pure Derima โดยรายละเอียดครีมกันแดด ดังต่อไปนี้

1.Sunscreen Cream (Soft Beige) SPF 50 PA+++
ครีมกันแดดรูปแบบนี้จะเน้นไปที่การปกป้องสภาพผิวจากรังสี UVA – UVB  โดยมีเนื้อครีมนุ่ม บางเบา สามารถทาแทนครีมรองพื้นก่อนเริ่มแต่งหน้าได้

2. Silky Smooth Foundation Sunscreen SPF 50 PA+++
จะเป็นครีมกันแดดที่เป็นสูตรผสมรองพื้น ผสมผสาน  Silk Protein โดยมีคุณค่าให้สภาพผิวเรียบเนียน ช่วยปกป้องผิว ลดความหมองคล้ำจากแดด ทั้งยังสามารถทาแทนครีมรองพื้นได้อีกด้วย

3. Milky Sunscreen Lotion SPF 50 PA+++
ในสูตรนี้จะเป็นโลชั่นกันแดดเนื้อน้ำนมที่มีคุณสมบัติที่เหมาะกับผู้มีสภาพผิวแพ้ง่าย สัมผัสอ่อนโยน บางเบา ปกป้องผิวจากความหมองคล้ำ

4. Anti-pollution Sunscreen SPF 50 PA+++
ในสูตรของครีมกันแดดจะประกอบด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ ที่ช่วยป้องกันผิวจากสภาพอากาศประจำวัน รวมถึงปกป้องจากรังสี UVA – UVB เนื้อครีมจึงมีความบางเบานั้นเอง

5. Matte Fluid SPF 30 PA+++
ครีมกันแดดในสูตรรูปแบบนี้จะเป็นครีมที่ผสมรองพื้น สามารถช่วยให้สภาพผิวดูเรียบเนียน ปกป้องผิวจากรังสี โดยมีเนื้อสัมผัสบางเบา ไม่ทิ้งคราบก่อนแต่งหน้า ไม่อุดตันรูขุมขน และช่วยควบคุมความมันระหว่างวันได้อีกด้วย

การเตรียมตัวสำหรับเจ้าของแบรนด์ครีมกันแดดในด้านการลงทุน ควรทำอย่างไร ?

แน่นอนว่าการลงทุนสร้างแบรนด์ครีมกันแดดของตนเองนั้น ท่านควรคำนึกถึงปัจจัยหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นการทำการตลาด โฆษณา การขนส่ง เป็นต้น รวมถึงการลงทุนกับโรงงานผลิตครีมกันแดดที่มีคุณภาพที่ช่วยให้ท่านสองเห็นถึงภาพรวมการลงทุน และท่านควรมีเงินทุนสำรองในการใช้จ่ายที่อาจเป็นเหตุสุดวิสัย อย่างน้อยประมาณ 30,000 บาทขึ้นไป เนื่องจากปัจจัยจากสิ่งต่างๆอาจจะเป็นตัวแปรในการใช้จ่ายได้นั้นเอง

ขั้นตอนในการผลิตครีมกันแดด มีอะไรบ้าง
เมื่อท่านได้เลือกโรงงานผลิตครีมกันแดดที่ต้องการ ขั้นตอนในการเตรียมการผลิตครีมกันแดดจะมีด้วยกันดังนี้

  • เลือกสูตรที่ต้องการผลิต : ท่านสามารถเลือกสูตรครีมกันแดดของตนเองด้วยการคิดค้นขึ้นมาเอง หรือสามารถเลือกสูตรครีมกันแดดจากรูปแบบมาตรฐานของโรงงานที่ผ่านกระบวนการพัฒนา วิจัยได้อย่างมีคุณภาพ
  • รับใบเสนอราคา และชำระมัดจำ : เมื่อได้สูตรครีมกันแดดที่ต้องการ โรงงานครีมกันแดดจะนำตัวอย่างสูตรที่ท่านเลือกมาให้พิจารณาจนกว่าจะได้สูตรตามที่ต้องการ จนไปสู่ขั้นตอนการวางมัดจำ และการบริการจดแจ้งเลทะเบียนอย.
  • ออกแบบ และวางแผนผลิตภัณฑ์ของคุณ : ขั้นตอนจะเข้าสู่ระยะเวลาหลังจากการชำระค่ามัดจำ ซึ่งจะเป็นการออกแบบบรรจุภัณฑ์ โลโก้ ขนาดของผลิตภัณฑ์ ให้ถูกต้องตามความต้องการ
  • เริ่มกระบวนการผลิต : เมื่อท่านได้ตกลงคุณสมบัติภายนอกของบรรจุภัณฑ์ของครีมกันแดด ทางโรงงานจึงเข้าสู่กระบวนการผลิตครีมกันแดด
  • ชำระค่ามัดจำส่วนที่เหลือ และผลิตสินค้าส่งให้ : ท่านสามารถชำระค่าใช้จ่ายในส่วนที่เหลือ และรอรับผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดของท่านตามที่อยู่ที่ได้ระบุในสัญญา

Pure Derima โรงงานผลิตครีมกันแดด มาตรฐานครบวงจร

ขอแนะนำโรงงานผลิตครีมกันแดด

Pure Derima Laboratories โรงงานผลิตรับผลิตครีมกันแดด มาตรฐานระดับสากล ด้วยบริการครบวงจร One stop service โดยมีบริการที่ครอบคลุมในการรับวิจัย – คิดค้น – ช่วยพัฒนาสูตรครีมกันแดด หรือสินค้าประเภทอื่นๆ ดังเช่น บริการขึ้นทะเบียนสเปรย์น้ำแร่ และสเปรย์สูตรต่างๆ พร้อมทั้งช่วยในการออกแบบโลโก้ ฉลากสินค้า บรรจุภัณฑ์ที่ตรงใจท่าน มีบริการจดแจ้งขึ้นทะเบียน อย. รวมถึงเอกสารรับรอง บริการช่วยให้คำปรึกษาทั้งด้านการตลาดจากนักจัดการการตลาดที่มากประสบการณ์

Pure Derima Laboratories มีวิธีการดำเนินธุรกิจในรูปแบบ ODM หรือ OEM ซึ่งพร้อมตอบสนองต่อความต้องการของท่าน รวมทั้งทีมงาน - ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางในด้านต่างๆ ที่พร้อมจะช่วยคิดค้นวิจัย ผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดของท่านให้เหมาะสมกับการดำเนินธุรกิจของท่านจนก้าวหน้าขึ้นไปอีกขั้น หากท่านมีความสนใจท่านสามารถติดต่อสอบข้อมูลเบื้องต้นโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายได้ที่เบอร์ 02-285-4266 หรือ www.pdl.co.th

60
ถึงแม้บ้านประชาชื่นจะอยู่บนทำเลนอกตัวเมือง ก็ยังนับว่าอยู่ย่านโซนกรุงเทพตะวันตกที่มีความเจริญไม่แตกต่างจากในเมือง มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน แต่ก็ไม่รู้สึกแออัดเพราะเป็นทำเลที่ยังมีพื้นที่ว่างอยู่มาก มีความเงียบสงบ และเป็นธรรมชาติ จึงเหมาะแก่การพักผ่อนในวันที่รู้สึกเหนื่อยล้าจากการทำงาน การเรียน
 
ปัจจุบันบ้านย่านประชาชื่นได้กลายเป็นทำเลทอง ทำเลศักยภาพเพราะเป็นศูนย์กลางของสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ  และยังเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายขนส่งมวลชนในประเทศ ระหว่างประเทศ เช่น กรุงเทพ-ลาว-จีน ฯลฯ โดยบทความนี้เราจะมาดูกันว่าบ้านประชาชื่นมีจุดเด่น และน่าสนใจอย่างไรบ้าง

มองหาบ้านใหม่ มองหาบ้านประชาชื่น

โครงการบ้านประชาชื่นบ้านแห่งคุณภาพ
ย่านประชาชื่นเป็นย่านที่เหมาะแก่การใช้ชีวิตของคนทุกไลฟ์สไตล์ การเดินทางเข้า-ออกเมืองก็สะดวก มีเนื้อที่กว้างขวางเหมาะสำหรับการพักผ่อนที่ให้ความเป็นส่วนตัวพร้อมกัน และยังพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอยู่ใกล้ ๆ รอบด้าน
 
เหตุนี้จึงทำให้มีคนสนใจอยากย้ายเข้ามาอยู่บ้านประชาชื่นมากขึ้น จนเกิดมีโครงการบ้านประชาชื่น บ้านเดี่ยวประชาชื่น งามวงศ์วาน จากโครงการอสังหาริมทรัพย์ดัง ๆ ที่น่าเชื่อถือช่วยกันพัฒนาบ้านพักอาศัยหลากหลายรูปแบบ ที่สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคในทุก ๆ ด้าน 

บ้านประชาชื่นมีข้อดีอย่างไร ? ที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่
การที่คนเริ่มนิยมหันมาสนใจหาซื้อบ้านประชาชื่นจากโครงการบ้านแถวประชาชื่นกันมากขึ้นก็เพราะเล็งเห็นถึงข้อดีต่าง ๆ ที่จะได้รับ ทั้งยังสามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้ที่จะเข้าอยู่อาศัยได้ด้วย
 
ข้อดีที่จะได้รับจากการมีบ้านแถวประชาชื่น คือ

  • ส่วนใหญ่บ้านในหมู่บ้านแถวประชาชื่น หรือโครงการบ้านแถวประชาชื่น จะตั้งอยู่บนทำเลที่ไม่ห่างจากใจกลางเมืองที่เจริญมาก ทั้งยังมีถนน ทางด่วนที่ตัดผ่านย่านประชาชื่นทำให้เดินทางเข้า-ออกสะดวก บวกกับมีขนส่งสาธารณะที่คอยบริการอย่างทั่วถึง
  • แถวประชาชื่นยังมีพื้นที่กว้างขวางสำหรับปลูกบ้านใหม่ได้อีกมาก ทำให้โครงการบ้านเดี่ยวประชาชื่นส่วนใหญ่จะปลูกบ้านที่มีเนื้อที่กว้างขวางไว้ขายลูกค้า ผู้ที่อยู่อาศัยย่านนี้จึงไม่รู้สึกถึงความแออัดเหมือนอยู่ในใจกลางเมือง
  • ถึงแม้จะเป็นบ้านเดี่ยวรูปแบบทันสมัย ในพื้นที่ขนาดเดียวกัน แต่หากเป็นบ้านประชาชื่น ราคาย่อมไม่สูงเท่ากับบ้านที่ปลูกในเมือง
  • สามารถหลีกหนีจากความแออัดของการอาศัยอยู่ในตัวเมืองด้วยการย้ายมาอยู่บ้านเดี่ยว งามวงศ์วาน ประชาชื่น แต่ยังสามารถใช้ชีวิตประจำวันในการทำงาน การเรียน ได้เหมือนเดิมอย่างสบายใจ

บ้านเดี่ยวประชาชื่น ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่

บ้านประชาชื่นเหมาะกับใครบ้าง ตอบโจทย์ด้านใดบ้าง
บ้านประชาชื่นนั้นเหมาะแก่การใช้ชีวิตของคนทุกไลฟ์สไตล์ เนื่องจากย่านประชาชื่นที่อยู่มาทางโซนกรุงเทพตะวันตกนั้น เป็นย่านที่อยู่ใกล้ใจกลางเมือง ความเจริญทางด้านต่าง ๆ ได้ตามเข้ามาพร้อมกับการขยายเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีต่าง ๆ  ทำให้การเดินทางสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเข้า-ออกเมือง หรือไปต่างประเทศเพื่อไปทำงาน ศึกษาเล่าเรียน เป็นต้น
 
ซึ่งเราสามารถจำแนกกลุ่มคนที่เหมาะจะเข้ามาอาศัยอยู่ในโครงการบ้านประชาชื่นออกเป็นดังต่อไปนี้

1.คนที่ต้องการพักอาศัยในทำเลที่ใกล้ทั้งทางด่วนและรถไฟฟ้า เพื่อสะดวกต่อการเดินทางเข้า-ออกเมือง
2.คนที่ต้องการบ้านที่อยู่ในย่านเจริญใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกจำนวนมาก ไม่ทำให้รู้สึกแออัด และมีพื้นที่ส่วนกลางแบบจัดเต็มที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์
คนรุ่นใหม่ที่รักสุขภาพ ชอบออกกำลังกาย เป็นต้น
3.คนที่ต้องการขยายครอบครัวไปอยู่ในบ้านเดี่ยวบนทำเลที่ราคาไม่แพงเท่าบ้านเดี่ยวย่านใจกลางเมืองกรุงเทพ
4.คนที่ต้องการอยู่บ้านที่มีรูปแบบทันสมัย มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางพอสำหรับทำกิจกรรมร่วมกับสมาชิกในครอบครัว

บ้านประชาชื่น แนะนำให้รู้จักโครงการที่เหมาะพักอาศัย
คนที่เหน็ดเหนื่อยอ่อนล้าจากการใช้ชีวิตในการทำงานและการเดินทางอยู่ทุกวัน เราขอแนะนำบ้านประชาชื่นจากโครงการบ้านเดี่ยวประชาชื่น บางกอก บูเลอวาร์ด ซิกเนเจอร์ ประชาชื่น (Bangkok Boulevard Signature Prachachuen) ของ SC ASSET

บ้านเดี่ยวประชาชื่น บางกอก บูเลอวาร์ด ซิกเนเจอร์ ประชาชื่น
โครงการบ้านเดี่ยวประชาชื่นจะประกอบไปด้วยคฤหาสน์หรู สไตล์โมเดิร์น โรแมนติก 46 ยูนิต ที่พร้อมส่งมอบให้กับครอบครัวที่ต้องการใช้ชีวิตส่วนตัวร่วมกับสมาชิกในการพักผ่อนในสถานที่ธรรมชาติที่เหมาะแก่การพักผ่อน
 
บ้านประชาชื่นในโครงการนี้จะตั้งอยู่ที่ ซอยสามัคคี 35/1 ถ.สามัคคี ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี 11120 ซึ่งใกล้กับแหล่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ  เช่น เซ็นทรัล, บิ๊กซี, โฮมโปร, ตลาดงามวงศ์วาน, ร.ร.เซ็นฟรัง, ม.ธุรกิจบัณฑิตย์, เวิลด์เมดิคอล, โรงพยาบาลนนทเวช, ศูนย์ราชการนนทบุรี เป็นต้น
 
การเดินทางเข้าออกเมืองก็สะดวก รวดเร็ว ด้วยรถไฟฟ้าสายสีชมพู สายสีแดง สายสีม่วง, รถส่วนบุคคลไปทางถนนประชาชื่นถนนงามวงศ์วาน ถนนแจ้งวัฒนะ ทางด่วนศรีรัชฯ ทางยกระดับอุตรภิมุข, รถขนส่งสาธารณะอื่น ๆ เป็นต้น
 
โครงการบ้านประชาชื่นนี้ มีราคาเริ่มต้นที่ 15 – 25 ล้านขึ้นกับเนื้อที่ใช้สอย และแบบบ้านที่มี 3 รูปแบบให้เลือก คือ

  • แบบ KRUMLOV มีพื้นที่ใช้สอย 365 ตร.ม. มี 4 ห้องนอน/ห้องน้ำ, 2 ห้องรับแขก, 1 ห้องพักผ่อนชั้นบน, 1 ห้องรับประทานอาหาร, 1 ห้องครัว, 1 ห้องแม่บ้าน พร้อมที่จอดรถ 3 คัน
  • แบบ VLTAVA มีพื้นที่ใช้สอย 289 ตร.ม. มี 4 ห้องนอน/ห้องน้ำ, 2 ห้องรับแขก, 1 ห้องพักผ่อนชั้นบน, 1 ห้องรับประทานอาหาร, 1 ห้องครัว, 1 ห้องแม่บ้าน พร้อมที่จอดรถ 2 คัน
  • แบบ BLANSKO มีพื้นที่ใช้สอย 254 ตร.ม. มี 3 ห้องนอน, 4 ห้องน้ำ, 2 ห้องรับแขก, 1 ห้องพักผ่อนชั้นบน, 1 ห้องรับประทานอาหาร, 1 ห้องครัว, 1 ห้องแม่บ้าน พร้อมที่จอดรถ 2 คัน

โครงการบ้านเดี่ยวประชาชื่น บางกอก บูเลอวาร์ด ซิกเนเจอร์ ได้มีจัดทำบริการส่วนกลางไว้คอยอำนวยความสะดวก เช่น สวนส่วนกลาง, สนามเด็กเล่น, สโมสร, สระว่ายน้ำ, โคเวิร์คกิ้งสเปซ, พื้นที่เสริมสร้างพัฒนาการ, ฟิตเนส, พร้อมระบบรักษาความปลอดภัย 3 ระดับตลอด 24 ชั่วโมงด้วยกล้องวงจรปิด และสะดวกในการเข้า-ออกด้วยระบบอัตโนมัติ เป็นต้น

บ้านเดี่ยวประชาชื่น บางกอก บูเลอวาร์ด ซิกเนเจอร์ ประชาชื่น

ขอบคุณรูปภาพจาก h ttps://www.scasset.com/th/house/bangkok-boulevard-signature-prachachuen /

สรุปเกี่ยวกับบ้านประชาชื่น
บ้านประชาชื่นจัดว่าอยู่บนทำเลศักยภาพที่เป็นหนึ่งในย่านที่น่าอยู่สบาย เดินทางก็สะดวกอีกหนึ่งย่าน และเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างกรุงเทพ - นนทบุรี จนมีการพัฒนาเจริญเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกด้าน เช่น คมนาคม คอมมูนิตี้มอลล์ แหล่งงานต่าง ๆ แต่ยังคงสภาพแวดล้อมที่ดีเหมาะแก่การพักอาศัย ดังนั้นการซื้อบ้านย่านประชาชื่นเพื่ออยู่อาศัยหรือเพื่อการลงทุนก็เป็นการตัดสินใจเพื่ออนาคตที่ดีและน่าสนใจมาก

61
การเงิน | Finance / โอนเงินผิดบัญชี แก้ไขยังไงดี
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 15, 2024, 03:22:12 PM »
โอนเงินผิดบัญชีควรทำไงดี

เทคโนโลยีระบบการชำระเงินที่ทันสมัยทำให้การจ่ายหรือโอนเงินกลายเป็นเรื่องง่ายแค่ปลายนิ้วสัมผัส แต่ผู้ใช้บริการก็ต้องระมัดระวังในการใช้งานเช่นกัน การทำธุรกรรมการโอนเงินผิดบัญชี สามารถเกิดขึ้นได้บ่อย เช่น กรอกตัวเลขผิด กรอกตัวเลขสลับกัน) หรือเกิดจากใส่เลขผิดบัญชีระหว่างการโอนเงินทั้งผ่านเลขที่บัญชีกับโอนเงินผ่านพร้อมเพย์ ทั้งหมดนี้เกิดจากความเร่งรีบในการทำรายการจนขาดความรอบคอบตรวจสอบเลขบัญชีก่อนที่จะโอนไป ซึ่งทางเราโอนเงินผิดไปแล้วจะค่อนข้างยากที่จะได้เงินกลับคืนมา ต้องทำเรื่องต่างๆกับทางธนาคารรวมไปถึงการดำเนินการขอคืนเงินตามกฏหมาย

ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า เมื่อเกิดการโอนเงินผิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการโอนที่ธนาคารสาขาต่างๆ หรือทางตู้ ATM หรือทาง mobile banking ทางธนาคารจะไม่สามารถดึงเงินกลับคืนมาให้กับทางเจ้าของเงินที่โอนไปได้ แต่ธนาคารจะเป็นตัวกลางช่วยประสานงานของคืนเงินให้เท่านั้น โดยอ้างอิงข้อมูลจากศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท) เกี่ยวกับการโอนเงินผิด ให้เจ้าของบัญชีที่โอนเงินผิด

นำเอกสารไปติดต่อกับทางสถานีตำรวจ
เมื่อคุณทำการโอนเงินผิดบัญชีคุณจะต้องทำการตามระบบขั้นตอนต่าง ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้มีผู้ประสงค์ที่จะต้องการแอบอ้างบัญชีของตัวคุณเอง โดยวิธีการจะมีเหล่านี้

1.1 เอกสารที่ต้องยื่น เช่น สลิปการโอน/ใบบันทึกรายการ หรือภาพถ่ายแจ้งผลการโอนเงิน
1.2 สำเนาบัตรประชาชน (เจ้าของบัตรเซ็นสำเนาถูกต้อง)ให้ขีดฆ่า/ปิดทับ สำเนาเอกสาร บริเวณข้อมูล Group เลือด หรือศาสนา

แจ้งความหลังการ โอนเงินผิด

เตรียมเอกสารก่อนการแจ้งความ
แจ้งเจ้าหน้าเพื่อทำการแจ้งเกี่ยวกับการโอนเงินผิดบัญชีที่ประจำสถานีตำรวจเพื่อขอออก ใบแจ้งความ/บักทึกประจำวันที่ระบุเหตุการณ์ โดยระบุข้อมูลในเอกสารดังนี้

2.1 ชื่อธนาคารที่ทำรายการ ทั้งฝั่งต้นทางและปลายทาง
2.2 วันที่และเวลาที่ทำรายการ
2.3 จำนวนเงินที่โอน
2.4 ช่องทางการโอนเงิน เช่น เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ (ATM/CDM/VTM),Mobile Banking,Internet Banking
2.5 ชื่อบัญชี และ เลขที่บัญชี ของผู้ทำรายการโอน (บัญชีต้นทาง)
2.6 ชื่อบัญชี และ เลขที่บัญชี ของผู้ที่ได้รับเงินผิด (บัญชีปลายทางที่โอนผิด)
2.7 ชื่อบัญชี และ เลขที่บัญชี / หมายเลขพร้อมเพย์ ของปลายทางที่ต้องการโอนที่ถูกต้อง

นำส่งเอกสารให้แก่ธนาคาร
นำส่งหลักฐานตาม ข้อ 1 และ 2 ให้แก่ธนาคารที่ใช้ในการโอนเงินผิดบัญชี โดยส่งทาง Email ของธนาคารนั้นๆและระบุ subject ของอีเมลด้วย “ชื่อ-นามสกุล เบอร์ติดต่อที่สะดวกของผู้ส่งเอกสาร” โดยหลังจากที่ธนาคารได้รับเอกสารแล้ว จะมี SMS แจ้งกลับให้ทราบ หากพบว่าเอกสารไม่ครบถ้วน ธนาคารจะติดต่อกลับภายใน 1 วันเพื่อขอเอกสารเพิ่มเติม

จัดเตรียมเอกสารเมื่อแจ้งความ<br />โอนตังผิดบัญชี

หลังจากที่ธนาคารได้รับข้อมูลแล้วควรทำไง
เมื่อธนาคารได้รับข้อมูลครบถ้วนแล้ว ธนาคารจะช่วยทำการประสานงานกับปลายทางที่เป็นผู้รับโอนเงินผิดหรือเมื่อธนาคารปลายทางที่มีการโอนเงินผิดบัญชีต่างธนาคาร ได้ทำการตรวจสอบแล้วว่า บัญชีของคุณได้รับการโอนเงินผิดจริง

ทางธนาคารจะทำการแนะนำให้คุณทำตามวิธีต่าง ๆ เพื่อให้คุณสามารถได้รับเงินคืน หรือป้องกันเงินในบัญชีธนาคารของคุณ เมื่อมีการถูกถอนออกมาโดยที่เจ้าของบัญชีไม่ได้เป็นผู้ถอนเอง โดยมีวิธีเหล่านี้

ธนาคารแจ้งผลการดำเนินการ
เมื่อคุณทำการตามขั้นตอนต่าง ๆ แล้วนั้น ทางธนาคารจะทำการแจ้งผลของการดำเนินการให้ท่านทราบผ่านทางโทรศัพท์ หรือผ่านทางอีเมลที่คุณได้ทำการลงทะเบียนไว้กับทางธนาคารเอง โดยทางธนาคารจะทำการแจ้งมาดังนี้

5.1 กรณีผู้รับโอนยินยอมคืนเงิน : ธนาคารจะโอนเงินคืนเข้าบัญชีผู้โอนให้
5.2 กรณีผู้รับโอนไม่ยินยอมคืนเงิน/ไม่สามารถติดต่อได้ : ผู้โอนสามารถแจ้งความ ณ สถานีตำรวจ ขอออกเอกสารตราครุฑที่เรียกว่า “หมายเรียกพยานเอกสาร / พยานวัตถุ”เพื่อออกคำสั่งทางกฏหมายให้ธนาคารของผู้รับโอนเงินดำเนินการอายัดบัญชี หรือให้เปิดเผยข้อมูลบัญชีปลายทางให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อดำเนินการทางกฏหมายต่อไป

วิธีป้องกันการโอนเงินผิดบัญชีที่ดีที่สุดก็คือก่อนกดยืนยันการโอน ต้องตรวจสอบหมายเลข/หมายเลขพร้อมเพย์ ชื่อบัญชี ชื่อธนาคาร และจำนวนเงินที่ต้องการโอนให้ถูกต้องทุกครั้ง ก่อนกดยืนยันรายการ ควรจะมีสติและตรวจสอบให้เรียบร้อยก่อนโอน จะเป็นการป้องกันที่ดีที่สุด

โอนเงินผิดบัญชี แต่แอปสามารถช่วยคุณได้
ในยุคที่เทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญและมีส่วนช่วยในการบริหารการเงิน เราขอแนะนำแอปพลิเคชัน "MAKE by KBank" แอปเก็บเงินที่จะทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยที่ดีที่สุดสำหรับการโอนเงินเพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดต่างๆเช่น โอนเงินผิดบัญชี

MAKE by KBank เป็นแอปพลิเคชันที่ได้รับการพัฒนาโดยธนาคารกสิกรไทยที่มาพร้อมกับฟีเจอร์สุดล้ำที่จะช่วยให้คุณสามารถเก็บเงินและติดตามรายจ่ายของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้คุณประหยัดเงินและเข้าใกล้ความฝันในการมีบ้านได้เร็วยิ่งขึ้น

ฟีเจอร์สุดโดดเด่นจาก MAKE by KBank ที่เราอยากจะนำเสนอซึ่งจะช่วยให้การโอนเงินไปยังบัญชีที่ถูกต้องนั้นง่ายยิ่งขึ้น ได้แก่

แอปเก็บเงิน MAKE by KBank ทางออกสำหรับการบริหารเงิน

แอปเก็บเงิน MAKE by KBank ตัวช่วยจัดการเงินง่าย ๆ ในสไตล์ของเราวัยรุ่น หรือวัยที่อยากเลือกได้ อยากให้การจัดการเงินง่าย ไม่ซับซ้อน ด้วยฟีเจอร์หลักอย่าง Cloud Pocket และ Expense Summary สามารถอ่านบทความเกี่ยวกับ Cloud Pocket ได้ ที่นี่

นอกจากการจัดการเงินแล้ว MAKE ยังเป็น เป็นแอป Mobile Banking ของธนาคารกสิกร ที่เน้นการทำธุรกรรมออนไลน์ ตอบโจทย์ยุค New Normal ที่พวกเราต้องเชื่อมโยงกันผ่านเทคโนโลยี แถมมีดอกเบี้ยให้ด้วยถึง 1.5% ต่อปี สูงสุด 300,000 บาท ดอกเบี้ย 1.5% ถือว่าสูงมากในตลาดเลยทีเดียว ! แถมการใช้งาน MAKE by KBank ก็ไม่มีค่าธรรมเนียมด้วย และระบบต่างๆของตัวแอพพิเคชั่นเองก็มีดังนี้

  • Cloud Pocket
  • Expense Summary

Cloud Pocket : feature นี้จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างกระเป๋าย่อยได้หลายๆกระเป๋าในหนึ่งบัญชี เช่น กระเป๋าสำหรับเก็บเงินซื้อบ้าน,กระเป๋าสำหรับออมเงิน,กระเป๋าสำหรับผ่อนรถ,กระเป๋าสำหรับทุนการศึกษาของบุตร เป็นต้น feature นี้จะทำให้เราจัดสรรเงินได้เป็นอย่างดี ดังนั้น คุณจะสามารถเก็บเงินสำหรับซื้อบ้านได้โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเงินส่วนอื่นๆจะถูกนำไปใช้ เนื่องจากเราเตรียมแยกเงินไว้เรียบร้อยแล้ว จึงไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีเงินรองรับกับเหตุต่างๆที่เกิดขึ้น

Expense Summary: อีกหนึ่ง feature ที่โดดเด่น ของ MAKE by KBank ที่จะช่วยสรุปรายจ่ายของเราในแต่ละเดือนแยกออกมาเป็นหมวดหมู่อย่างละเอียด โดยจะแยกเป็น 6 หมวด เช่น ค่าอาหาร,ค่าชอปปิง,ค่าเดินทาง,ค่าบันเทิง,ค่าชำระบิลและค่าใช้จ่ายอื่นๆ นอกจากนี้ feature นี้ยังช่วยสรุปยอดรายจ่ายในแต่ละเดือนให้อีกด้วย เราสามารถที่จะรู้การใช้เงินของเราได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะทำให้เราสามารถตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นและนำเงินที่เหลือมาเก็บไว้ใช้จ่ายอื่นๆได้อีก

การโอนเงินผิดบัญชี สามารถเกิดขึ้นได้เสมอ
ในการโอนเงินผิดบัญชีนั้นมาสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาไหนแต่คุณไม่ต้องกลัวไปเพราะการโอนเงินผิดนั้นใครๆก็เกิดขึ้นได้ แต่ด้วยแอพ MAKE by KBank แอพที่จะช่วยให้คุณในการโอนเงินผิดบัญชีต่างธนาคารน้อยลงและยังช่วยในการตามเงินของคุณให้ได้อีกด้วย ซึ่งเป็น app ที่มี feature ที่รองรับ lifestyle การใช้จ่ายเงินไม่ว่าจะเป็นการลงทุนหุ้น,เรียกเก็บเงินคนที่ยืมไปได้ง่ายๆ(Money Request),โอนเงินแบบไร้สัมผัสด้วย

62
การเงิน | Finance / โอนเงินผิดบัญชี แก้ไขยังไงดี
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 15, 2024, 03:16:10 PM »
โอนเงินผิดบัญชีควรทำไงดี

เทคโนโลยีระบบการชำระเงินที่ทันสมัยทำให้การจ่ายหรือโอนเงินกลายเป็นเรื่องง่ายแค่ปลายนิ้วสัมผัส แต่ผู้ใช้บริการก็ต้องระมัดระวังในการใช้งานเช่นกัน การทำธุรกรรมการโอนเงินผิดบัญชี สามารถเกิดขึ้นได้บ่อย เช่น กรอกตัวเลขผิด กรอกตัวเลขสลับกัน) หรือเกิดจากใส่เลขผิดบัญชีระหว่างการโอนเงินทั้งผ่านเลขที่บัญชีกับโอนเงินผ่านพร้อมเพย์  ทั้งหมดนี้เกิดจากความเร่งรีบในการทำรายการจนขาดความรอบคอบตรวจสอบเลขบัญชีก่อนที่จะโอนไป ซึ่งทางเราโอนเงินผิดไปแล้วจะค่อนข้างยากที่จะได้เงินกลับคืนมา ต้องทำเรื่องต่างๆกับทางธนาคารรวมไปถึงการดำเนินการขอคืนเงินตามกฏหมาย

ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า เมื่อเกิดการโอนเงินผิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการโอนที่ธนาคารสาขาต่างๆ หรือทางตู้ ATM หรือทาง mobile banking ทางธนาคารจะไม่สามารถดึงเงินกลับคืนมาให้กับทางเจ้าของเงินที่โอนไปได้ แต่ธนาคารจะเป็นตัวกลางช่วยประสานงานของคืนเงินให้เท่านั้น โดยอ้างอิงข้อมูลจากศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท) เกี่ยวกับการโอนเงินผิดบัญชีให้เจ้าของบัญชีที่โอนเงินผิด

นำเอกสารไปติดต่อกับทางสถานีตำรวจ
เมื่อคุณทำการโอนเงินผิดบัญชีคุณจะต้องทำการตามระบบขั้นตอนต่าง ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้มีผู้ประสงค์ที่จะต้องการแอบอ้างบัญชีของตัวคุณเอง โดยวิธีการจะมีเหล่านี้

           1.1 เอกสารที่ต้องยื่น เช่น สลิปการโอน/ใบบันทึกรายการ หรือภาพถ่ายแจ้งผลการโอนเงิน
           1.2 สำเนาบัตรประชาชน (เจ้าของบัตรเซ็นสำเนาถูกต้อง)ให้ขีดฆ่า/ปิดทับ สำเนาเอกสาร บริเวณข้อมูล Group เลือด หรือศาสนา

แจ้งความหลังการ โอนเงินผิด

เตรียมเอกสารก่อนการแจ้งความ
แจ้งเจ้าหน้าเพื่อทำการแจ้งเกี่ยวกับการโอนเงินผิดบัญชีที่ประจำสถานีตำรวจเพื่อขอออก ใบแจ้งความ/บักทึกประจำวันที่ระบุเหตุการณ์ โดยระบุข้อมูลในเอกสารดังนี้

           2.1 ชื่อธนาคารที่ทำรายการ ทั้งฝั่งต้นทางและปลายทาง
           2.2 วันที่และเวลาที่ทำรายการ
           2.3 จำนวนเงินที่โอน
           2.4 ช่องทางการโอนเงิน เช่น เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ (ATM/CDM/VTM),Mobile Banking,Internet Banking
           2.5 ชื่อบัญชี และ เลขที่บัญชี ของผู้ทำรายการโอน (บัญชีต้นทาง)
           2.6 ชื่อบัญชี และ เลขที่บัญชี ของผู้ที่ได้รับเงินผิด (บัญชีปลายทางที่โอนผิด)
           2.7 ชื่อบัญชี และ เลขที่บัญชี / หมายเลขพร้อมเพย์ ของปลายทางที่ต้องการโอนที่ถูกต้อง

นำส่งเอกสารให้แก่ธนาคาร
นำส่งหลักฐานตาม ข้อ 1 และ 2 ให้แก่ธนาคารที่ใช้ในการโอนเงินผิดบัญชี โดยส่งทาง Email ของธนาคารนั้นๆและระบุ subject ของอีเมลด้วย “ชื่อ-นามสกุล เบอร์ติดต่อที่สะดวกของผู้ส่งเอกสาร” โดยหลังจากที่ธนาคารได้รับเอกสารแล้ว จะมี SMS แจ้งกลับให้ทราบ หากพบว่าเอกสารไม่ครบถ้วน ธนาคารจะติดต่อกลับภายใน 1 วันเพื่อขอเอกสารเพิ่มเติม

จัดเตรียมเอกสารเมื่อแจ้งความ<br />โอนตังผิดบัญชี

หลังจากที่ธนาคารได้รับข้อมูลแล้วควรทำไง
เมื่อธนาคารได้รับข้อมูลครบถ้วนแล้ว ธนาคารจะช่วยทำการประสานงานกับปลายทางที่เป็นผู้รับโอนเงินผิดหรือเมื่อธนาคารปลายทางที่มีการโอนเงินผิดบัญชีต่างธนาคาร ได้ทำการตรวจสอบแล้วว่า บัญชีของคุณได้รับการโอนเงินผิดจริง

ทางธนาคารจะทำการแนะนำให้คุณทำตามวิธีต่าง ๆ เพื่อให้คุณสามารถได้รับเงินคืน หรือป้องกันเงินในบัญชีธนาคารของคุณ เมื่อมีการถูกถอนออกมาโดยที่เจ้าของบัญชีไม่ได้เป็นผู้ถอนเอง โดยมีวิธีเหล่านี้

ธนาคารแจ้งผลการดำเนินการ
เมื่อคุณทำการตามขั้นตอนต่าง ๆ แล้วนั้น ทางธนาคารจะทำการแจ้งผลของการดำเนินการให้ท่านทราบผ่านทางโทรศัพท์ หรือผ่านทางอีเมลที่คุณได้ทำการลงทะเบียนไว้กับทางธนาคารเอง โดยทางธนาคารจะทำการแจ้งมาดังนี้

        5.1 กรณีผู้รับโอนยินยอมคืนเงิน : ธนาคารจะโอนเงินคืนเข้าบัญชีผู้โอนให้
        5.2 กรณีผู้รับโอนไม่ยินยอมคืนเงิน/ไม่สามารถติดต่อได้ : ผู้โอนสามารถแจ้งความ ณ สถานีตำรวจ ขอออกเอกสารตราครุฑที่เรียกว่า “หมายเรียกพยานเอกสาร / พยานวัตถุ”เพื่อออกคำสั่งทางกฏหมายให้ธนาคารของผู้รับโอนเงินดำเนินการอายัดบัญชี หรือให้เปิดเผยข้อมูลบัญชีปลายทางให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อดำเนินการทางกฏหมายต่อไป

วิธีป้องกันการโอนเงินผิดบัญชีที่ดีที่สุดก็คือก่อนกดยืนยันการโอน ต้องตรวจสอบหมายเลข/หมายเลขพร้อมเพย์ ชื่อบัญชี ชื่อธนาคาร และจำนวนเงินที่ต้องการโอนให้ถูกต้องทุกครั้ง ก่อนกดยืนยันรายการ ควรจะมีสติและตรวจสอบให้เรียบร้อยก่อนโอน จะเป็นการป้องกันที่ดีที่สุด

โอนเงินผิดบัญชี แต่แอปสามารถช่วยคุณได้
ในยุคที่เทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญและมีส่วนช่วยในการบริหารการเงิน เราขอแนะนำแอปพลิเคชัน "MAKE by KBank" แอปเก็บเงินที่จะทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยที่ดีที่สุดสำหรับการโอนเงินเพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดต่างๆเช่น โอนเงินผิดบัญชี

MAKE by KBank เป็นแอปพลิเคชันที่ได้รับการพัฒนาโดยธนาคารกสิกรไทยที่มาพร้อมกับฟีเจอร์สุดล้ำที่จะช่วยให้คุณสามารถเก็บเงินและติดตามรายจ่ายของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้คุณประหยัดเงินและเข้าใกล้ความฝันในการมีบ้านได้เร็วยิ่งขึ้น

ฟีเจอร์สุดโดดเด่นจาก MAKE by KBank ที่เราอยากจะนำเสนอซึ่งจะช่วยให้การโอนเงินไปยังบัญชีที่ถูกต้องนั้นง่ายยิ่งขึ้น ได้แก่

แอปเก็บเงิน MAKE by KBank ทางออกสำหรับการบริหารเงิน

แอปเก็บเงิน MAKE by KBank ตัวช่วยจัดการเงินง่าย ๆ ในสไตล์ของเราวัยรุ่น หรือวัยที่อยากเลือกได้ อยากให้การจัดการเงินง่าย ไม่ซับซ้อน ด้วยฟีเจอร์หลักอย่าง Cloud Pocket และ Expense Summary สามารถอ่านบทความเกี่ยวกับ Cloud Pocket ได้ ที่นี่

นอกจากการจัดการเงินแล้ว MAKE ยังเป็น เป็นแอป Mobile Banking ของธนาคารกสิกร ที่เน้นการทำธุรกรรมออนไลน์ ตอบโจทย์ยุค New Normal ที่พวกเราต้องเชื่อมโยงกันผ่านเทคโนโลยี แถมมีดอกเบี้ยให้ด้วยถึง 1.5% ต่อปี สูงสุด 300,000 บาท ดอกเบี้ย 1.5% ถือว่าสูงมากในตลาดเลยทีเดียว ! แถมการใช้งาน MAKE by KBank ก็ไม่มีค่าธรรมเนียมด้วย และระบบต่างๆของตัวแอพพิเคชั่นเองก็มีดังนี้

  • Cloud Pocket
  • Expense Summary

Cloud Pocket : feature นี้จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างกระเป๋าย่อยได้หลายๆกระเป๋าในหนึ่งบัญชี เช่น กระเป๋าสำหรับเก็บเงินซื้อบ้าน,กระเป๋าสำหรับออมเงิน,กระเป๋าสำหรับผ่อนรถ,กระเป๋าสำหรับทุนการศึกษาของบุตร เป็นต้น feature นี้จะทำให้เราจัดสรรเงินได้เป็นอย่างดี ดังนั้น คุณจะสามารถเก็บเงินสำหรับซื้อบ้านได้โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเงินส่วนอื่นๆจะถูกนำไปใช้ เนื่องจากเราเตรียมแยกเงินไว้เรียบร้อยแล้ว จึงไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีเงินรองรับกับเหตุต่างๆที่เกิดขึ้น

Expense Summary: อีกหนึ่ง feature ที่โดดเด่น ของ MAKE by KBank ที่จะช่วยสรุปรายจ่ายของเราในแต่ละเดือนแยกออกมาเป็นหมวดหมู่อย่างละเอียด โดยจะแยกเป็น 6 หมวด เช่น ค่าอาหาร,ค่าชอปปิง,ค่าเดินทาง,ค่าบันเทิง,ค่าชำระบิลและค่าใช้จ่ายอื่นๆ นอกจากนี้ feature นี้ยังช่วยสรุปยอดรายจ่ายในแต่ละเดือนให้อีกด้วย เราสามารถที่จะรู้การใช้เงินของเราได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะทำให้เราสามารถตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นและนำเงินที่เหลือมาเก็บไว้ใช้จ่ายอื่นๆได้อีก

การโอนเงินผิดบัญชี สามารถเกิดขึ้นได้เสมอ
ในการโอนเงินผิดบัญชีนั้นมาสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาไหนแต่คุณไม่ต้องกลัวไปเพราะการโอนเงินผิดนั้นใครๆก็เกิดขึ้นได้ แต่ด้วยแอพ MAKE by KBank แอพที่จะช่วยให้คุณในการโอนเงินผิดบัญชีต่างธนาคารน้อยลงและยังช่วยในการตามเงินของคุณให้ได้อีกด้วย ซึ่งเป็น app ที่มี feature ที่รองรับ lifestyle การใช้จ่ายเงินไม่ว่าจะเป็นการลงทุนหุ้น,เรียกเก็บเงินคนที่ยืมไปได้ง่ายๆ(Money Request),โอนเงินแบบไร้สัมผัสด้วย Poppay

63
โรงงานผลิตสเปรย์น้ำแร่

สำหรับเครื่องสำอาง หรือการรับผลิตสเปรย์น้ำแร่ในตลาด ถือว่าเป็นไอเทมที่ทำรายได้ดีมาก แต่กระบวนการผลิตก็ต้องสำคัญ โดยโรงงานผลิตสเปรย์น้ำแร่คือปัจจัยหลัก เพราะความสะอาด ปลอดภัย และมีมาตรฐาน พร้อมเครื่องจักรทันสมัย ซึ่งเราจะมาดูว่า สเปรย์น้ำแร่ ส่วนผสมยอดนิยมมีอะไรบ้าง เพื่อประกอบการตัดสินใจว่าเราจะสร้างแบรนด์อย่างไรดี แล้วจะทำการตลาดด้านไหน ในรายละเอียดส่งตรงจากโรงงานผลิตสเปรย์น้ำแร่

ทำความรู้จักกับผลิตภัณฑ์สเปรย์น้ำแร่
สเปรย์น้ำแร่เป็นผลิตภัณฑ์ในหมวดเครื่องสำอาง ที่มีความนิยมใช้ในผู้หญิง ด้วยสรรพคุณเน้นการบำรุง และเพิ่มความชุ่มชื้น โดยนิยมฉีดสเปรย์น้ำแร่บริสุทธิ์ ก่อนหรือหลังการเมคอัพ ด้วยความที่หลักของตัวน้ำแร่ คือสรรพคุณต่าง ๆ จากวิตามินในน้ำแร่เพื่อบำรุงผิว และในตลาดสเปรย์น้ำแร่ เพิ่มความชุ่มชื้น ต่างก็มีความโดดเด่นตามสารสกัด โดยโรงงานผลิตสเปรย์น้ำแร่บริสุทธิ์จะเป็นส่วนสำคัญ ทั้งขั้นตอนการผลิต และคิดค้นส่วนผสม

5 สารสกัดยอดนิยม แนะนำจากโรงงานผลิตสเปรย์น้ำแร่

ทำแบรนด์สเปรย์น้ำแร่

1. Hyaluronic Acid
สเปรย์น้ำแร่สูตร Hyaluronic Acid จะเป็นสูตรยอดฮิต เพราะ Hya ผสมกับตัวน้ำแร่ เหมือนเป็นตัวแทนของความธรรมชาติ เพราะตัวน้ำแร่ ก็เหมือนเป็นแร่ธาตุจากธรรมชาติ และ Hyaluronic เหมือนเป็นสารธรรมชาติที่อยู่ในผิว โรงงานผลิตสเปรย์น้ำแร่จึงนิยมใส่ตัว Hyaluronic Acid ที่มีสรรพคุณในการให้ผิวอิ่มน้ำ เพิ่มความชุ่นชื้นในชั้นผิว ช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์ ไม่แห้ง ลดการเกิดริ้วรอยก่อนวัย อยู่ในหมวด สเปรย์น้ำแร่ เพิ่มความชุ่มชื้น

2. Aloe Vera
เป็นอีกสารสกัดที่เน้นให้ผิวเกิดความชุ่มชื้นด้วย Aloe vera จากว่านหางจระเข้ โรงงานผลิตสเปรย์น้ำแร่ แนะนำว่าน่าใช้ตรงที่ ตัว Aloe vera เป็นสารสกัดที่ได้รับความนิยมและมีมาอย่างยาวนาน และดูมีความเป็นออร์แกนิกสูง อีกทั้งคุณสมบัติของว่านหางจระเข้ มีทั้งการให้ความชุ่มชื้น และมีสารต้านอนุมูลอิสระ เป็นอีกสารสกัดที่นิยมในโรงงานผลิตสเปรย์น้ำแร่ OEM สามารถตีตลาดได้ง่าย เพราะเป็นพืชที่บ้านเรารู้จักและคุ้นเคยกับสรรพคุณอย่างดี

3. Vitamin
เป็นที่รู้กันว่า น้ำแร่จะมีทั้งแร่ธาตุ และวิตามิน โรงงานผลิตสเปรย์น้ำแร่จึงจะมีการนำ Vitamin ต่าง ๆ มาเพิ่มคุณสมบัติกับตัวสเปรย์น้ำแร่ ช่วยให้คุณภาพ และการทำงานของสเปรย์กับผิว ได้ประสิทธิภาพมากขึ้น สเปรย์น้ำแร่ ส่วนผสมจากวิตามิน จะอยู่ในหมวดของสเปรย์น้ำแร่บำรุงผิว สเปรย์น้ำแร่ฉีดก่อนนอน หรือฉีดกลางวันสำหรับคนแต่งหน้าก็ได้ เหมาะสำหรับนำสเปรย์น้ำแร่ไปทำการตลาดกับวัยรุ่น วัยทำงานเป็นอย่างดี

4. Zinc
Zinc เป็นสารที่ผลิตในสเปรย์น้ำแร่ โดยไม่ได้เน้น สเปรย์น้ำแร่ เพิ่มความชุ่มชื้น แต่จะเป็นเน้นความสะอาด ทำลายแบคทีเรียและสิ่งสกปรกบนใบหน้า เป็นสเปรย์น้ำแร่ที่นิยมฉีดก่อนลงเครื่องสำอาง เพราะในตัวของ Zinc มีคุณสมบัติในการชะล้างแบคทีเรีย มีฤทธิ์ต้านการอักเสบบนผิวหน้า โรงงานผลิตสเปรย์น้ำแร่ นับว่าตัว Zinc จะเน้นการฟื้นฟูผิว และมีความนิยมในการรับผลิตสเปรย์น้ำแร่เช่นกัน เพราะความเป็นส่วนผสมหลักที่ลงตัว

5. Selenium
Selenium ที่ได้รับความนิยมในการทำ เครื่องสำอางสร้างแบรนด์ครบวงจร โดย Selenium มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ให้ผิวมีความยืดหยุ่น เหมาะสำหรับการเป็นส่วนผสมในสเปรย์น้ำแร่ ที่ช่วยให้เสริมคุณสมบัติที่มีอยู่แล้วในสเปรย์ ให้ส่งผลลัพธ์ชัดเจนขึ้น แน่นอนว่าสเปรย์น้ำแร่ ส่วนผสมจะสามารถผสมได้มากกว่า 1 แล้วแต่การคัดสรรจากผู้เชี่ยวชาญ โดยผ่านจากโรงงานผลิตสเปรย์น้ำแร่ที่จะมีทั้ง แล็บวิจัย และโรงงานผลิตสเปรย์

สำรวจรูปแบบผลิตภัณฑ์สเปรย์น้ำแร่ ก่อนเริ่มทำแบรนด์
สเปรย์นำแร่ที่มีการสั่งผลิตจากโรงงานผลิตสเปรย์น้ำแร่ จะแบ่งออกเป็นสองประเภท นั่นก็คือ สเปรย์น้ำแร่แบบอัดแก๊ส และสเปรย์น้ำแร่แบบหัวปั๊ม ตามลักษณะการใช้งาน

1. สเปรย์น้ำแร่แบบอัดแก๊ส
สเปรย์น้ำแร่แบบอัดแก๊ส จะเน้นการกระจายตัวของละอองที่ละเอียดอ่อนกว่าแบบหัวปั๊ม ประสิทธิผลของสเปรย์น้ำแร่ประเภทอัดแก๊สจึงเหมาะกับการนำไปใช้ฉีดลงบนใบหน้าให้ติดทน จากการลงเมคอัพเครื่องสำอาง แน่นอนว่า โรงงานผลิตสเปรย์น้ำแร่ จะเพิ่มสวนผสมประกอบที่สเปรย์อัดแก๊ส ด้านการบำรุงผิวเพิ่มลงไปด้วย โดยองค์ประกอบของสเปรย์น้ำแร่อัดแก๊ส ตัวละอองจะมีขนาดเล็ก และซึมลงผิวได้ดี เป็นเหตุผลที่สเปรย์เหมาะกับงานเมคอัพ

2. สเปรย์น้ำแร่แบบหัวปั๊ม
ควรฉีดสเปรย์น้ำแร่ตอนไหน โดยเฉพาะสเปรย์นำแร่หัวปั๊ม แน่นอนว่าหัวปั๊มจะเหมาะกับการใช้งานที่หลากหลาย สามารถผลิตเน้นทำความสะอาด หรือบำรุงผิวก็ได้ เหมือนเป็นสเปรย์น้ำแร่ทั่วไปที่ทุกคนรู้จักกันดี เพราะใช้งานได้หลากหลาย และคนทั่วไปนิยมใช้ทั้งชายและหญิง ซึ่งโรงงานผลิตสเปรย์น้ำแร่ OEM สามารถออกแบบตัวผลิตภัณฑ์ตามที่เจ้าของแบรนด์ต้องการได้ สะดวกต่อการนำไปทำการตลาด

Pure Derima Laboratories โรงงานผลิตสเปรย์น้ำแร่คุณภาพสูง มาตรฐาน GMP มีอย.รองรับ

โรงงานผลิตสเปรย์น้ำแร่ OEM

ที่ Pure Derima Laboratories คือโรงงานผลิตเครื่องสำอาง OEM ที่การันตีด้วยมาตรฐาน GMP และ ISO ได้รับการรับรองจาก อย.ไทย ผลิตภัณฑ์ที่ผ่านโรงงานผลิตสเปรย์น้ำแร่จากที่นี้ ได้รับการจดแจ้งจากอย.ทั้งสิ้น นอกจากนี้ PDL ยังมีแล็บทดลองสูตรของเครื่องสำอาง พร้อมการผลิตแบบครบวงจร ตั้งแต่การเข้ารับคำปรึกษาอย่างเป็นกันเอง จนไปถึงขั้นตอนผลิต และส่งผลิตภัณฑ์ถึงมือเจ้าของธุรกิจ พร้อมให้จำหน่ายสินค้าได้ทันที

ทำแบรนด์สเปรย์น้ำแร่ ควรเตรียมการสำหรับการผลิตไว้เท่าไหร่
โรงงานผลิตสเปรย์น้ำแร่ สำหรับการเตรียมตัวในการสร้างแบรนด์ครบวงจร ในโรงงานรูปแบบ One Stop Service ราคาเบื้องต้นจะอยู่ที่ 65,000 บาท โดยแบ่งเป็นค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับสูตรการผลิต ที่มีสูตรมาตรฐาน และสูตรสำหรับการพัฒนา ครอบคลุมค่าจดแจ้งผลิตภัณฑ์ด้วย แน่นอนว่าราคาจะมากน้อย ลดหย่อนตามโรงงานผลิตสเปรย์น้ำแร่ และการพัฒนาสูตร สำคัญคือการเลือกผลิตกับโรงงานที่ได้มาตรฐานจริง เพื่อไม่ให้มีปัญหาตามมา


64
รับผลิตสเปรย์แอลกอฮอล์

ในปัจจุบันยังคงมีโรคระบาดต่าง ๆ เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา สิ่งที่จะคอยช่วยให้คุณห่างไกลจากโรคระบาดได้นั้นก็คือ สเปรย์แอลกอฮอล์ ทำให้ผู้ที่สนใจลงทุนทำแบรนด์ของตนเอง มองหาโรงงานรับผลิตสเปรย์แอลกอฮอล์ จยครบที่เดียว ทำได้ทุกรูปแบบ ทั้งบรรจุภัณฑ์ ดีไซน์ ให้กับผู้ประกอบการที่มีความสนใจอยากมีแบรนด์เป็นของตนเอง มาดูกันว่ารับผลิตสเปรย์แอลกอฮอล์ รับสร้างแบรนด์เจลแอลกอฮอล์ ที่ไหนดี เหมาะกับผู้ประกอบการที่กำลังอยากเริ่มต้นธุรกิจได้อย่างมืออาชีพ

ปัจจุบันการจัดจำหน่ายแอลกอฮอล์สเปรย์ยังทำกำไรอยู่ไหม?
ในช่วงก่อนการระบาดของโรคโควิด-19 แอลกอฮอล์สเปรย์ได้รับความนิยมอย่างสูง เนื่องจากผู้คนตระหนักถึงประโยชน์ของแอลกอฮอล์ในการฆ่าเชื้อโรค อย่างไรก็ตาม หลังจากการระบาดของโรคโควิด-19 ความต้องการแอลกอฮอล์สเปรย์ก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก เนื่องจากผู้คนต่างต้องการป้องกันตัวเองจากการติดเชื้อโรค

ดังนั้นแล้วแนวโน้มของการจัดจำหน่ายแอลกอฮอล์สเปรย์นั้น ยังสามารถทำกำไรได้อยู่ในปัจจุบัน ผู้ที่สนใจทำธุรกิจนี้ควรพัฒนาผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์สเปรย์ที่มีคุณภาพและตรงกับความต้องการของผู้บริโภค และเลือกโรงงานรับผลิตสเปรย์แอลกอฮอล์ที่รมีมาตรฐานการผลิตที่เข้มงวด เพื่อให้มั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ที่ผลิตออกมานั้นปลอดภัยต่อผู้บริโภค

ทำไมต้องใช้แอลกอฮอล์ Pharmaceutical Grade?
ทางบริษัทของเรารับผลิตสเปรย์แอลกอฮอล์ Pharmaceutical Grade ที่มักจะนิยมใช้ทางการแพทย์ และยารักษาโรค แอลกอฮอล์ Pharmaceutical Grade มีความบริสุทธิ์ 95 % ถึง 99.9 % โดยโรงงานรับผลิตแอลกอฮอล์นั้นต้องมีกระบวนการผลิตแอลกอฮอล์โดยไม่ใส่สารขม และไม่มีการแต่งเติมสีฟ้าเข้าไปที่แอลกอฮอล์

เพราะทางบริษัทของเราได้นำแอลกอฮอล์ที่มาจากกากน้ำตาลบริสุทธิ์ทั้งสิ้น หากเปรียบเทียบกับแอลกอฮอล์ที่ขายทั่วไปจะใช้แอลกอฮอล์สังเคราะห์ทำให้มีกลิ่นฉุน รู้สึกเหนียวหนืดเมื่อสัมผัส และต้องใส่น้ำหอมเข้าไปเพื่อกลบกลิ่นของแอลกอฮอล์ที่มาจากสังเราะห์ บริษัทของเราจึงไม่เลือกใช้ให้กับลูกค้า หรือผู้ประกอบการ บริษัทของเราสั่งผลิตสเปรย์แอลกอฮอล์ที่มีแต่คุณภาพที่ดี และมีความปลอดภัย สามารถทำให้ผู้ประกอบได้รับสินค้าที่มีคุณภาพได้

โรงงานผลิตสเปรย์แอลกอฮอล์ที่ไหนดี?

ผลิตแอลกอฮอล์เกรด Pharmaceutical Grade
เมื่อผู้ประกอบการที่มีความต้องการอยากทำธุรกิจสเปรย์แอลกอฮอล์ ควรเริ่มต้นจากการหาโรงงานที่รับผลิตสเปรย์แอลกอฮอล์ที่ได้รับรองมาตรฐานการผลิตแอลกอฮอล์ล้างมือ GMP จากกระทรวงสาธารณสุข เพื่อความปลอดภัย และได้รับสินค้าที่มีคุณภาพ ด้วยวัตถุดิบในการผลิตของโรงงานรับผลิตเจลแอลกอฮอล์ หรือสเปรย์แอลกอฮอล์ก็ตามเป็นสิ่งที่สำคัญ แอลกอฮอล์เกรด Pharmaceutical Grade ต้องมีความบริสุทธิ์ 95% ขึ้นไป ไม่มีกลิ่นฉุน ไม่มีรสชาติขม และไม่ใส่สี ขอแนะนำบริษัท เดอร์มา อินโนเวชั่น จำกัด รับผลิตสเปรย์แอลกอฮอล์ผลิตแอลกอฮอล์ด้วยวัตถุดิบจากธรรมชาติด้วยน้ำตาลบริสุทธิ์ แอลกอฮอล์ที่ถูกผลิตจึงเป็นสินค้าที่ปลอดภัย และมีคุณภาพสูง

ONE STOP SERVICE พร้อมให้คำแนะนำกับผู้ลงทุน
การบริการแบบเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว โรงงานที่รับผลิตสเปรย์แอลกอฮอล์ จะต้องอำนวยความสะดวกให้กับนักลงทุน ตั้งแต่ให้คำแนะนำการเริ่มต้นลงทุนไปจนถึงการจัดหาโดยรวบรวมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนไว้ในที่เดียว เพื่อให้ผู้ที่าใจลงทุนสามารถติดต่อและรับบริการต่างๆ ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว

มีทีมงานผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลการผลิต
โรงงานรับผลิตแอลกอฮอล์ล้างมือที่ดี คือการมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลการผลิตนั้น มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและปลอดภัย เนื่องจากทีมงานผู้เชี่ยวชาญจะมีความรู้และประสบการณ์ในการปฏิบัติงานผลิตที่ถูกต้องและเหมาะสม

รีวิวดี มีประสบการณ์ยาวนาน
อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการเลือกโรงงานรับผลิตสเปรย์แอลกอฮอล์นั้น ต้องมีรีวิวจากลูกค้ามีความพึงพอใจกับผลิตภัณฑ์และบริการของโรงงาน โดยสามารถพิจารณาได้จากคะแนนรีวิวและความคิดเห็นของลูกค้า โรงงานรับผลิตสเปรย์แอลกอฮอล์ที่มีรีวิวดีและมีประสบการณ์ยาวนาน ย่อมมีโอกาสผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและปลอดภัยแก่ผู้บริโภคได้มากกว่าโรงงานที่เพิ่งเริ่มดำเนินการหรือมีผลงานที่ผ่านมาไม่ดี

ทำไมถึงควรผลิตสเปรย์แอลกอฮอล์แบบการ์ด?

สั่งผลิตเจลล้างมือ

สเปรย์แอลกอฮอล์แบบการ์ดถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้บริโภคได้ใช้งานได้สะดวกสบาย ซึ่งเหมาะกับการใช้ชีวิตประจำวัน ใช้ฉีดพ่นเพื่อฆ่าเชื้อโรคตรงบริเวณมือ หรือสิ่งของต่าง ๆด้วยรูปแบบของบรรจุภัณฑ์สเปรย์แอลกอฮอล์แบบการ์ด มีขนาดที่เล็ก บางจึงเป็นที่นิยมกับผู้บริโภค และโรงงานที่รับผลิตสเปรย์แอลกอฮอล์ ข้อดีของสเปรย์แอลกอฮอล์แบบการ์ด มีดังนี้

  • พกพาได้สะดวก สเปรย์แอลกอฮอล์แบบการ์ดมีขนาดที่เล็ก น้ำหนักเบา ทำให้พกพาติดตัวได้สะดวกสบายไปได้ทุกที่ เช่น ไปเรียน ไปที่ทำงาน และไปสถานที่ต่าง ๆ
  • ใช้งานได้ง่าย และใช้งานได้ในทันที สเปรย์แอลกอฮอล์แบบการ์ดมีหัวฉีดอยู่ในตัว ทำให้สามารถฉีดพ่นใช้มือ และสิ่งของ เพื่อฆ่าเชื้อโรคได้ในทันที
  • ฆ่าเชื้อโรค สเปรย์แอลกอฮอล์แบบการ์ดมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ 70% ขึ้นไป ซึ่งสามารถฆ่าเชื้อโรค ไวรัส แบคทีเรีย และเชื้อราได้
  • ราคาย่อมเยา สเปรย์แอลกอฮอล์แบบการ์ดมีราคาที่ค่อนข้างถูกกว่าผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อโรคชนิดอื่น ๆ และสามารถหาซื้อได้ง่ายตามร้านค้าทั่วไป หรือร้านขายยา

มีหลายบริษัทที่รับผลิตสเปรย์แอลกอฮอล์แบบการ์ด และรับผลิตเจลแอลกอฮอล์แบบอื่น ๆ อีกมากมาย หากผู้ประกอบการมีความสนใจสินค้าสเปรย์แอลกอฮอล์แบบการ์ด เพื่อประกอบกิจการธุรกิจ หรือเพื่อให้เป็นของที่ระลึกตามงานต่าง ๆ ควรเลือกโรงงานที่มีประสบการณ์ มีมาตรฐานการผลิต มีความยืดหยุ่นในการผลิตเพื่อให้สามารถผลิตสินค้าต้องตามความต้องการของคุณ

65
เครื่องวัดสภาพอากาศ

เครื่องวัดสภาพอากาศเป็นเครื่องมือเซนเซอร์ที่ใช้ในการตรวจวัดสภาพบรรยากาศ โดยทั่วไปจะใช้วัดค่าสภาพแวดล้อมโดยรอบ ได้แก่ แสง อุณหภูมิ ความชื้นสัมพันธ์ ฝน และลม โดยเครื่องวัดสภาพอากาศสามารถทำหน้าที่ในเป็นเทอร์โมมิเตอร์ เครื่องวัดระดับเสียง ไฮโกรมิเตอร์ เครื่องวัดความเร็วลม และบารอมิเตอร์ สามารถพบเห็นการใช้งานอุปกรณ์วัดสภาพอากาศเหล่านี้ได้ในกรมอุตุนิยมวิทยา

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เครื่องวัดสภาพอากาศเป็นที่นิยมแพร่หลายมากขึ้น เพราะมีความสามารถในการบ่งชี้ถึงคุณภาพอากาศและระดับมลภาวะรอบตัวได้ สิ่งนี้เหมาะกับใครก็ตามที่ทำงานหรือชอบทำกิจกรรมที่จำเป็นจะต้องรู้ข้อมูลสภาพอากาศอย่างแม่นยำ อาทิ ชาวสวน ชาวนา กะลาสีเรือ นักเดินป่า ช่างไม้
แม้แต่ภายในบ้านก็สามารถมีเครื่องวัดสภาพอากาศได้ เพราะการมีอุปกรณ์ตรวจวัดสภาพอากาศในบ้านช่วยให้คุณวิเคราะห์คุณภาพของบรรยากาศที่บ้านได้อย่างง่ายดาย สามารถควบคุมสภาพแวดล้อมโดยรอบบ้านได้ อีกทั้งยังช่วยคาดการณ์สภาพแวดล้อมภายนอก ตลอดจนอันตรายที่อาจจะเกิดจากสภาพอากาศได้อีกด้วย

รู้จักเครื่องวัดสภาพอากาศคืออะไร?

เครื่องมือวัดสภาพอากาศคืออะไร?

เชื่อว่าหลายคนให้ความสำคัญกับสภาพอากาศเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะทุกวันนี้ที่เราต้องเผชิญกับภาวะอากาศเปลี่ยนแปลงและมลพิษรอบตัว เครื่องวัดสภาพอากาศเป็นตัวช่วยหนึ่งที่จะทำให้เราทราบถึงสภาพอากาศโดยรอบและสามารถวางแผนการทำงานและการใช้ชีวิตได้สะดวกมากขึ้น

เครื่องตรวจวัดสภาพอากาศเป็นอุปกรณ์ขนาดเล็กที่ติดตั้งเครื่องมือเพื่อให้สามารถแยกแยะสภาพอากาศโดยรอบได้ อุปกรณ์นี้สามารถให้ข้อมูลกับผู้ใช้งานเกี่ยวกับสภาพอากาศรอบตัวด้วยการใช้เซนเซอร์และเครื่องวัดอุณหภูมิ

ตัววัดสภาพอากาศมีหลายประเภทที่นิยมใช้ เช่น เทอร์โมมิเตอร์สำหรับวัดอุณหภูมิ บารอมิเตอร์สำหรับวัดความกดอากาศ ไซโครมิเตอร์และไฮโกรมิเตอร์ใช้เพื่อวัดความชื้นอากาศ โดยแต่ละประเภทนั้นจะใช้งานแตกต่างกันออกไป และไม่เพียงแค่นำมาใช้กับการพยากรณ์อากาศเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการควบคุมคุณภาพและตรวจจับความร้อนในโรงงานผลิตด้วยเช่นกัน

ประโยชน์ของเครื่องวัดสภาพอากาศ
อุปกรณ์วัดสภาพอากาศได้รับความนิยมมากขึ้นเพราะเครื่องวัดสภาพอากาศช่วยเอื้ออำนวยความสะดวกและมีประโยชน์อย่างมาก ผู้คนให้ความสำคัญกับการวางแผนการใช้ชีวิตและห่วงใยในสุขภาพกันมากขึ้น

สถานีตรวจวัดอากาศขนาดย่อมนี้สามารถบอกสภาพอากาศ ทำให้เราสามารถวางแผนก่อนออกจากบ้านได้ เช่น ในบริเวณบ้านมีแนวโน้มที่ฝนจะตกแค่ไหน คุณสามารถคาดเดาได้ว่าวันไหนที่ควรจะพกร่มหรือเสื้อกันฝนออกจากบ้าน หรือหากคุณกำลังวางแผนที่จะจัดปาร์ตี้ที่สวนรอบบ้าน เครื่องวัดสภาพอากาศก็สามารถเป็นตัวช่วยให้กับคุณในการตัดสินใจและทราบได้ว่าวันนั้นอากาศจะดีหรือไม่

ไม่ว่าจะแดดร้อน ฝนตก ลมหนาว การมีเครื่องวัดสภาพอากาศไว้ในบ้านจะช่วยให้คุณสามารถรับมือและเตรียมพร้อมการเดินทางได้ทุกสภาพอากาศได้ดียิ่งขึ้น

นอกจากนี้ เครื่องวัดสภาพอากาศยังมีบทบาทสำคัญในภาคอุตสาหกรรมการผลิตต่าง ๆ เพราะในขั้นตอนการผลิตสินค้าบางประเภทจำเป็นที่จะต้องมีการควบคุมอุณหภูมิ ความชื้น และความเร็วลมอยู่เสมอ เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้ามีคุณภาพตามมาตรฐานที่กำหนดไว้

รู้จักกับเครื่องวัดสภาพอากาศประเภทต่าง ๆ
ได้ทราบถึงประโยชน์และการทำงานของตัววัดสภาพอากาศกันไปแล้ว ลองมารู้จักกับเครื่องวัดสภาพอากาศประเภทต่าง ๆ กันบ้างว่างมีอะไรบ้าง

เครื่องวัดความชื้น
เครื่องวัดความชื้น หรือ บารอมิเตอร์ เป็นเครื่องมือที่สำคัญอย่างยิ่งในการวัดหาปริมาณไอน้ำที่มีอยู่ในอากาศ นำไปใช้งานได้ในหลายอุตสาหกรรม อาทิ โรงงานผลิตกระดาษ งานก่อสร้างอาคาร ปศุสัตว์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมเภสัชกรรมที่ต้องมีการควบคุมความชื้นในอากาศให้อยู่ในปริมาณที่กำหนด เพราะผลิตภัณฑ์ยาไวต่อความชื้นสูง

เครื่องวัดฝุ่น
เครื่องวัดฝุ่นมีหลากหลายประเภทไม่ว่าจะเป็นแบบอินฟราเรด แสงเลเซอร์ กราวิเมตริก ระบบเบต้าเร ฯลฯ โดยแต่ละประเภทก็จะมีหลักการทำงานที่แตกต่างกันออกไป เครื่องตรวจสอบสภาพอากาศมีความสำคัญมากในเรื่องของการควบคุมมลพิษในอากาศ ควรศึกษาวิธีการใช้งานของแต่ละประเภทเพื่อเลือกใช้ได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมกับหน้างาน

เครื่องวัดความร้อน
เครื่องวัดความร้อน หรือ เทอโมมิเตอร์ มีทั้งแบบโพรบ อินฟราเรด เทอร์โมคับเปิล ทำหน้าที่ในการวัดอุณหภูมิความร้อนจากการแผ่รังสีของวัตถุ สามารถใช้งานได้หลากหลาย เช่น การวัดอุณหภูมิร่างกายมนุษย์ น้ำ อาหาร โดยการเลือกใช้เครื่องมือวัดสภาพอากาศแต่ละประเภทจะต้องขึ้นอยู่กับลักษณะวัตถุที่ต้องการวัดความร้อนด้วย

เครื่องวัดฝน
เป็นเครื่องมือที่กรมอุตุนิยมวิทยานิยมใช้ในการวัดประมาณน้ำฝนในพื้นที่ มีความสำคัญในการช่วยวิเคราะห์ฝนและพยากรณ์อากาศ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการประเมินความเสี่ยงของการเกิดอุทกภัย ตลอดจนช่วยวางแผนจัดการระบบชลประทานสำหรับภาคการเกษตร

ตัวอย่างการนำเครื่องวัดสภาพอากาศไปใช้งานจริง

ประโยชน์ของเครื่องวัดสภาพอากาศ

การทำงานของเครื่องวัดสภาพอากาศมีประโยชน์ทั้งในแง่ของอุตสาหกรรม การแพทย์ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตุนิยมวิทยา ทุกวันนี้ที่เราได้เห็นการรายงานข่าวเกี่ยวกับสภาพอากาศและแนวโน้มการเกิดภัยพิบัติต่าง ๆ ล้วนเกี่ยวข้องกับนำเครื่องวัดสภาพอากาศไปประยุกต์ใช้

จากรายงานสภาพความกดอากาศของประเทศไทยช่วงก่อนวันปีใหม่ 2024 คุณอาจจะรู้สึกได้ถึงลมเย็นและอุณหภูมิที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด นั่นเป็นเพราะเครื่องวัดสภาพอากาศตรวจจับได้ว่ามวลอากาศเย็นกำลังเคลื่อนตัวปกคลุมประเทศไทย ทำให้มีอากาศหนาวเย็นและลมแรงในบางจุด

กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศแจ้งการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศเพื่อให้ประชาชนรักษาสุขภาพ รวมถึงแจ้งเตือนให้ประชาชนเฝ้าระวังการเกิดอัคคีภัย เนื่องจากเครื่องวัดสภาพอากาศบ่งชี้ให้เห็นว่าสภาพอากาศมีลักษณะแห้งและลมแรงกว่าปกติ

สรุปเครื่องวัดสภาพอากาศ
เครื่องวัดสภาพอากาศสามารถช่วยในการคาดเดาสภาพอากาศโดยรอบพื้นที่ได้อย่างแม่นยำ เหมาะกับทั้งใช้งานในครัวเรือน อุตสาหกรรม และกรมอุตุนิยมวิทยา คุณสามารถที่จะวางแผนการเดินทางและเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศได้ก่อนใครหากมีสถานีตรวจวัดอากาศไว้ที่บ้านคุณเอง

ส่วนในภาคการผลิตและอุตสาหกรรม อุปกรณ์วัดสภาพอากาศยิ่งมีความสำคัญโดยเฉพาะในขั้นตอนการควบคุมคุณภาพการผลิตของสินค้าให้อยู่ในอุณหภูมิที่กำหนดไว้ และยังสามารถแจ้งเตือนอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากความร้อนในขั้นตอนการผลิต

นอกจากนี้ เครื่องวัดสภาพอากาศยังเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการคาดพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา ทำให้สามารถทราบถึงการเปลี่ยนแปลงของลมอากาศ อุณหภูมิ ความชื้น และความฝุ่นละออง ซึ่งนับว่ามีประโยชน์ต่อการแจ้งเตือนให้ประชาชนรับทราบและเตรียมพร้อมรับกับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างทันท่วงที

66
หางานเชียงใหม่

สำหรับนักศึกษาจบใหม่ หรือผู้ที่ต้องการหางานแต่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นหาจากที่ไหนดี ที่รวมตำแหน่งงานและบริษัทชั้นนำไว้ในที่เดียว โดยเฉพาะการหางานเชียงใหม่ที่เป็นจังหวัดที่เรียกว่ามีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย ทั้งบริษัท โรงแรมต่าง ๆ นอกจากนักศึกษาจบใหม่ หรือผู้ว่างงานที่กำลังมองหางานแล้ว นักศึกษาฝึกงานที่ต้องการฝึกงานที่เชียงใหม่ก็สามารถหาได้จากเว็บไซต์หางานได้เช่นเดียวกัน ซึ่งวันนี้เราจะมาแนะนำเว็บไซต์ที่รวมบริษัทชั้นนำที่เปิดรับสมัครงานเชียงใหม่  และตำแหน่งงานว่างทุกตำแหน่ง พร้อมบอกวิธีการเตรียมตัวก่อนที่คุณจะเริ่มหางานเชียงใหม่

สำหรับบทความนี้จะเป็นประโยชน์อย่างมากกับผู้ที่ต้องการหางานเชียงใหม่ไม่ว่าจะเป็นนักศึกษาจบใหม่ที่ยังไม่มีประสบการณ์ หรือผู้ที่ต้องการหาตำแหน่งงานที่มีคุณภาพมากขึ้น

การหางานเชียงใหม่ควรเริ่มหาอย่างไรดี

การหางานเชียงใหม่ควรเริ่มหาอย่างไรดี

ปัจจุบันการหางานนั้นง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการหางานเชียงใหม่ หางานกรุงเทพหรือการหาตำแหน่งงานว่างเชียงใหม่ เรียกได้ว่าสามารถเข้าไปตรวจสอบคุณสมบัติของตัวเองว่าเข้ากับบริษัทไหนได้บ้าง โดยที่คุณไม่ต้องเดินทางไปสมัครถึงที่บริษัทประหยัดค่าเดินทาง และยังไม่เสียเวลาอีกด้วย ด้วยการหางานเชียงใหม่หรือจังหวัดอื่น ๆ ในประเทศไทยบนเว็บไซต์ที่ได้รวมบริษัทชั้นนำ และตำแหน่งงานว่าง ให้คุณได้เลือกมากมาย อีกทั้งคุณสามารถที่จะตรวจสอบคุณสมบัติที่ทางบริษัทต้องการได้ เพียงแค่สมัครสมาชิกของทางเว็บไซต์ วาง Resume เอกสารต่าง ๆ หรือกรอกข้อมูลทางออนไลน์ และสอบสัมภาษณ์ หากคุณผ่านเกณฑ์ที่บริษัทต้องการ เพียงเท่านี้คุณก็สามารถที่จะเริ่มทำงานใหม่ได้อย่างง่ายดาย

การหางานเชียงใหม่คุณยังสามารถเลือกได้อีกว่าต้องการงานประเภทอะไร เช่น งานโรงแรม งานบริษัท บัญชี ฝ่ายขาย และอื่น ๆ อีกมากมาย สามารถเลือกสถานที่ทำงานใกล้กับที่พักของคุณได้ด้วยฟีเจอร์ภายในเว็บไซต์อีกทั้งยังเลือกประเภทของงาน สถานที่ เงินเดือนที่ต้องการ คุณสมบัติ และอื่น ๆ หากคุณยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นหางานจากที่ไหนดี เราก็แนะนำให้คุณเริ่มจากเว็บไซต์หางานที่สามารถเชื่อถือได้ ซึ่งนอกจากการหางานเชียงใหม่แล้ว ก็ยังมีจังหวัดอื่น ๆ ที่คุณสามารถค้นหาได้อีกด้วย

ข้อควรรู้ที่คุณควรทราบก่อนเริ่มหางานเชียงใหม่ มีอะไรบ้าง

ข้อควรรู้ที่คุณควรทราบก่อนเริ่มหางานเชียงใหม่ มีอะไรบ้าง

สิ่งที่คุณควรรู้ก่อนเริ่มหางาน ไม่ว่าจะเป็นการหางานเชียงใหม่ หรือที่จังหวัดไหนก็แล้วแต่ คุณควรที่ต้องเตรียมพร้อมให้ดีทั้งเอกสาร รวมไปถึงการสัมภาษณ์งานเพื่อเตรียมเข้าสู่การทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งวันนี้เราได้รวมข้อควรรู้ก่อนที่คุณจะเริ่มหางาน มีดังต่อไปนี้

  • ก่อนเริ่มหางานเชียงใหม่ หรือที่ไหน ๆ ให้คุณเริ่มจากการเตรียมเอกสารให้ครบถ้วน ที่ทางบริษัทต้องการ ไม่ว่าจะเป็นเอกสาร Resume, ประวัติการศึกษา, สำเนาบัตรประชาชน หรือประวัติการทำงาน(หากมี)
  • ในการหางานเชียงใหม่ หรือในจังหวัดอื่น ๆ ในประเทศไทย คุณสามารถเริ่มหาจากเว็บไซต์ที่รวมบริษัทชั้นนำ และตำแหน่งงานว่างต่าง ๆ ได้ เพื่อความสะดวก และรวดเร็ว สามารถเลือกได้ตามคุณสมบัติของคุณ เงินเดือน หน้าที่ความรับผิดชอบ เพื่อให้ได้งานที่ตรงใจคุณมากที่สุด
  • เมื่อคุณส่งเอกสารต่าง ๆ ให้กับทางบริษัทแล้ว สิ่งที่คุณต้องเตรียมอีกอย่างก็คือ การสอบสัมภาษณ์ ซึ่งหากเอกสารหรือคุณสมบัติของคุณผ่านเกณฑ์ ทางบริษัทก็จะนัดสัมภาษณ์งานกับคุณ คุณจำเป็นต้องเตรียมตัวตอบคำถาม เพื่อให้เป็นไปอย่างราบรื่น และดูเป็นมือโปรมากที่สุด
  • การทำเอกสารหรือ Resume เพื่อใช้การหางานในเชียงใหม่ หรือในจังหวัดอื่น ๆ คุณควรที่จะต้องทำ Resume ให้ดึงดูดผู้ประกอบการมากที่สุด แสดงความสามารถ และศักยภาพที่คุณมีลงไปใน Resume แต่ก็ต้องตรงกับสายงานที่คุณสมัครด้วย ไม่ให้ดูเยอะหรือน้อยจนเกินไป คุณสามารถศึกษาการเขียน Resume ได้จากเว็บไซต์ต่าง ๆ ซึ่งมีอยู่เยอะมากและสามารถใช้งานได้จริง

เว็บหางานเชียงใหม่ที่น่าสนใจในปัจจุบัน มีเว็บไหนบ้าง

เว็บหางานเชียงใหม่ที่น่าสนใจในปัจจุบัน มีเว็บไหนบ้าง

การหางานผ่านเว็บไซต์ไม่ว่าจะเป็นหางานเชียงใหม่ ฝึกงานเชียงใหม่ หางานกรุงเทพ ที่ได้รวมบริษัทชั้นนำ โรงงาน โรงแรมต่าง ๆ เอาไว้ในที่เดียว ซึ่งมีหลายเว็บไซต์ด้วยกัน วันนี้เราได้ลิสต์เว็บไซต์หางานที่น่าเชื่อถือ มีตำแหน่งงานว่างหลายตำแหน่ง เงินเดือนสูงตามคุณสมบัติของคุณ สมัครง่าย สะดวก ซึ่งมีดังต่อไปนี้

1. JobFinFin

เว็บไซต์ JobFinFin เป็นเว็บไซต์ที่ทำให้การหางานทุกงานเป็นเรื่องง่าย ไม่ว่าจะเป็นการหางานเชียงใหม่ ทุกรูปแบบทั้ง งานประจำ งานสัญญาจ้าง งานพาร์ทไทม์ ฟรีแลนซ์ นักศึกษาฝึกงาน พร้อมฟังก์ชันการหางานตามสายอาชีพ และคุณสมบัติของผู้สมัคร เลือกพื้นที่ เงินเดือน ประสบการณ์ต่าง ๆ  ตัวอย่างสายงาน เช่น หางานธุรการ ประสานงาน หางานHR สรรหาบุคคล หางานขาย หางานการตลาด หางานบัญชี การเงิน ไอที วิศวกร และอื่น ๆ อีกมากมาย ตอบโจทย์ทั้งนักศึกษาฝึกงาน นักศึกษาจบใหม่ และผู้ที่กำลังมองหางานใหม่

JobFinFin รวมสายอาชีพทุกสายงานมีโอกาสได้งานมากถึง 85% พร้อมตำแหน่งงานที่ได้คุณภาพครบทุกสายงาน เพียงแค่ค้นหางานตามคุณสมบัติของคุณ สมัครสมาชิก และ ฝาก Resume กับ JobFinFin เพียงเท่านี้ก็รอสัมภาษณ์งานกับทางบริษัทได้เลย นอกจากนี้คุณยังสามารถเลือกดูการอัปเดตงานต่าง ๆ ในแต่ละวันได้ เช่น งานเชียงใหม่ล่าสุด งานยอดนิยม งานด่วน หรืองานสำหรับนักศึกษาจบใหม่ เป็นต้น

2.  JobThai

JobThai เว็บไซต์สมัครงงานสำหรับคนไทยที่ไว้ใช้หางาน ทั้งหางานกรุงเทพ หางานเชียงใหม่ หางานภูเก็ต หรือจังหวัดอื่น ๆ ที่คุณต้องการ สามารถเลือกตำแหน่งงานที่คุณต้องการหรือตามคุณสมบัติของคุณ เลือกดูเงินเดือน สถานที่ทำงาน ประเทศของงานได้ สมัครง่ายเพียงแค่ สมัครสมาชิก ส่งเอกสาร และรอสัมภาษณ์งานผ่านออนไลน์หรือออฟไลน์ตามที่บริษัทแต่ละที่กำหนด
 
3. Jobbkk

JOBBKK เว็บไซต์สมัครงานออนไลน์ทั่วประเทศไทยไม่ว่าจะเป็นหางานกรุงเทพ หางานเชียงใหม่หรือในจังหวัดของคุณ เป็นเว็บไซต์ที่รวบรวมตำแหน่งงานคุณภาพจากบริษัทชั้นนำทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศไทย ตำแหน่งงานว่าง ตำแหน่งงานด่วนจากบริษัทชั้นนำ ให้คุณสามารถหางานและสมัครงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง ปลอดภัยและเชื่อถือได้ 100%

4. JobTH.com

JobTH.com เว็บไซต์ที่เหมาะกับทั้งคนหางาน และผู้ประกอบการต่าง ๆ มีสายงานทุกประเภทจากบริษัทชั้นนำ เลือกจังหวัด และอำเภอได้ตามที่คุณต้องการ เช่น คุณต้องการหางานเชียงใหม่ ในตัวอำเภอเมือง ก็สามารถหาได้ผ่านเว็บไซต์ ให้คุณได้เลือกตำแหน่งงานตามคุณสมบัติหรือการศึกษาของคุณ มีทั้งงานด่วน งาน Part time งานข้าราชการ เป็นต้น ทั้งนี้ผู้ประกอบการยังสามารถเข้ามาหาพนักงานที่ตรงตามคุณสมบัติที่ตั้งไว้ได้อีกด้วย เรียกได้ว่าง่ายต่อผู้หางาน และผู้ประกอบการเลยทีเดียว


สรุป

การหางานที่สะดวกและง่ายสามารถหาได้จากทั่วประเทศไทยไม่ว่าจะเป็น หางานเชียงใหม่ หางานกรุงเทพ หรือจังหวัดอื่น ๆ คุณสามารถหาได้ผ่านเว็บไซต์ที่ได้รวมตำแหน่งงานว่างที่มีคุณภาพจากบริษัทชั้นนำ ให้คุณได้เลือกสมัครเพียงส่ง Resume และรอสัมภาษณ์งาน หากผ่านเกณฑ์คุณก็รอเริ่มทำงานใหม่ได้เลย

67
พลังงาน | Energy / เครื่องวัดคุณภาพน้ำ
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 06, 2024, 06:45:37 PM »
    เครื่องวัดคุณภาพน้ำ

    เครื่องวัดคุณภาพน้ำคือ อุปกรณ์ที่ใช้ตรวจสอบคุณสมบัติด้านต่าง ๆ ของของเหลว เพื่อให้ทราบถึงสิ่งเจือปนที่อยู่ภายในของเหลวหรือเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของน้ำ ซึ่งเครื่องวัดคุณภาพน้ำนั้นสามารถแบ่งออกได้หลายประเภทตามลักษณะการใช้งานและจุดประสงค์ในการใช้เครื่องมือเพื่อทำการทดลองของเหลว

    ในบทความนี้จะมาทำความเข้าใจว่าเครื่องวัดคุณภาพน้ำทำหน้าที่อะไร? มีขั้นตอนการทำงานอย่างไรบ้าง รวมไปถึงการแนะนำข้อควรพิจารณาในการเลือกซื้อเครื่องวัดคุณภาพน้ำว่าต้องพิจารณาคุณสมบัติอะไรบ้าง

    เครื่องวัดคุณภาพน้ำ (Water Quality Mornitoring) ทำหน้าที่อะไร?

    เครื่องวัดคุณภาพน้ำคือเครื่องมือที่ใช้ในการวัดคุณสมบัติทางเคมี กายภาพ และชีวภาพของน้ำ ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้จะมีลักษณะเฉพาะและมีความพิเศษในการตรวจสอบแตกต่างกันออกไป โดยคุณสมบัติที่มักตรวจวัดคุณภาพของน้ำจะมีดังต่อไปนี้

    • ค่า pH : วัดค่าความเป็นกรด-เบสของน้ำ
    • การนำไฟฟ้า : วัดความสามารถของน้ำในการนำกระแสไฟฟ้า
    • อุณหภูมิ : วัดอุณหภูมิของน้ำ
    • ออกซิเจนละลายน้ำ : วัดปริมาณออกซิเจนที่ละลายในน้ำ
    • ความขุ่น : วัดปริมาณของอนุภาคแขวนลอยที่อยู่ในน้ำ
    • คลอรีน : วัดปริมาณคลอรีนในน้ำ
    • โลหะหนัก : วัดปริมาณโลหะหนักในน้ำ เช่น ตะกั่ว ปรอท และแคดเมียม เป็นต้น

    ขั้นตอนการทำงานของเครื่องวัดคุณภาพน้ำ

    หลังจากที่ได้ทราบเกี่ยวกับหน้าที่ของเครื่องวัดคุณภาพน้ำกันไปแล้ว ถัดมาเราจะมาทำความเข้าใจขั้นตอนการทำงานของเครื่องตรวจคุณภาพน้ำกันว่ามีขั้นตอนอะไรบ้าง ซึ่งในรายละเอียดเชิงลึกแล้วเครื่องวัดคุณภาพน้ำแต่ละประเภทจะมีขั้นตอนการใช้งานที่แตกต่างกันออกไปตามประเภทของเครื่องมือ โดยในบทความนี้จะเป็นการอธิบายภาพรวมของการใช้เครื่องมือวัดคุณภาพน้ำที่ครอบคลุมกับการใช้เครื่องมือทุกประเภทซึ่งจะมีขั้นตอนดังนี้

    1. การเตรียมตัวอย่างน้ำ

    ในขั้นตอนแรกของการใช้เครื่องวัดคุณภาพน้ำจะเป็นการเก็บตัวอย่างน้ำในภาชนะที่แห้งและสะอาด ซึ่งต้องทำการกรองตัวอย่างน้ำเพื่อขจัดตะกอนในเบื้องต้นก่อน และทำการปรับอุณหภูมิของน้ำตัวอย่างให้ใกล้เคียงกับอุณหภูมิห้อง

    2. การสอบเทียบเครื่องมือ

    ขั้นตอนถัดมาเมื่อเตรียมน้ำตัวอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะเป็นขั้นตอนการสอบเทียบเครื่องวัดคุณภาพน้ำกับสารละลายมาตรฐาน เพื่อให้แน่ใจว่าเครื่องวัดอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน

    3. การวัดค่า

    ในขั้นตอนนี้จะเป็นขั้นตอนการวัดค่า โดยจะนำเครื่องวัดคุณภาพน้ำจุ่มลงในน้ำตัวอย่าง หลังจากนั้นรอให้ค่าบนหน้าจอคงที่และทำการบันทึกค่า

    4. การทำความสะอาด

    หลังจากที่มีการใช้งานเครื่องวัดคุณภาพน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะต้องทำความสะอาดด้วยการนำน้ำกลั่นล้างที่หัววัดและทำการเช็ดตรงหัววัดให้แห้ง หลังจากนั้นให้จัดเก็บเครื่องวัดคุณภาพน้ำในที่แห้งและปลอดภัย เพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพของเครื่องมือ[/li][/list]

    ตัวอย่างการใช้เครื่องวัดคุณภาพน้ำ TDS

    • เปิดเครื่องมือวัดค่า TDS
    • จุ่มหัววัดลงในน้ำตัวอย่าง
    • รอให้ค่าบนหน้าจอคงที่
    • อ่านค่าและบันทึกผล

    ประโยชน์ของเครื่องวัดคุณภาพน้ำ

    ประโยชน์ของเครื่องวัดคุณภาพน้ำ

    เมื่อพูดถึงประโยชน์ของเครื่องวัดคุณภาพน้ำหลายคนอาจจะมองไปที่หน้าที่ในการตรวจวัดคุณภาพน้ำเพียงอย่างเดียว แต่แท้จริงแล้วเครื่องวัดคุณภาพน้ำยังสามารถใช้ประโยชน์ในด้านอื่น ๆ ได้อีกเช่น

    • ควบคุมคุณภาพน้ำในกระบวนการผลิต
    ช่วยควบคุมคุณภาพน้ำในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น อาหาร ยา และสารเคมี ที่ต้องตรวจสอบคุณภาพของน้ำว่าตรงตามมาตรฐานที่ได้กำหนดไว้หรือไม่

    • ตรวจสอบมลพิษทางน้ำ
    เครื่องวัดคุณภาพน้ำจะช่วยตรวจสอบสารปนเปื้นต่าง ๆ ภายในน้ำอย่าง สารเคมีหรือโลหะหนักที่ปะปนอยู่ในน้ำ

    • ด้านการศึกษาและวิจัย
    การใช้งานเครื่องวัดคุณภาพน้ำถือเป็นเครื่องมือสำคัญในห้องทดลองและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับน้ำอย่าง การศึกษาแหล่งธรรมชาติหรือผลกระทบจากมลพิษทางน้ำ เป็นต้น

    • ปกป้องสิ่งแวดล้อม
    แม้ว่าจะไม่ใช่ประโยชน์ทางตรง แต่การใช้งานเครื่องวัดคุณภาพน้ำในการตรวจสอบน้ำจากการบำบัดหรือของเสียจากอุตสาหกรรม ก่อนนำปล่อยสู่แหล่งน้ำทางธรรมชาติจะช่วยป้องกันการรบกวนสภาพล้อมตามธรรมชาติ และช่วยปกป้องให้สิ่งแวดล้อมมีความยั่งยืนมากยิ่งขึ้น

    ปัจจัยในการเลือกซื้อเครื่องวัดคุณภาพน้ำ

    หลังจากที่ได้ทราบวิธีการใช้งานและประโยชน์ของเครื่องวัดคุณภาพน้ำกันไปแล้ว หลายคนอาจเกิดสนใจที่จะลองซื้อเครื่องวัดคุณภาพน้ำมาใช้งานดู แต่ก็คงมีคำถามว่าแล้วเราควรพิจารณาในการเลือกซื้ออุปกรณ์วัดคุณภาพน้ำยังไงบ้าง โดยปัจจัยที่ควรพิจารณาในการเลือกซื้อเครื่องวัดคุณภาพน้ำจะมีดังนี้

    • ช่วงการวัด : เครื่องวัดคุณภาพน้ำจะต้องมีช่วงการวัดที่เหมาะสมกับตัวอย่างที่เราต้องการตรวจสอบ
    • ความแม่นยำ : การเลือกใช้เครื่องวัดคุณภาพน้ำที่มีความแม่นยำสูงจะช่วยให้เรามั่นใจในผลลัพธ์จากการทดสอบได้ว่ามีประสิทธิภาพน่าเชื่อถือ
    • การสอบเทียบ : สำหรับการเลือกใช้เครื่องวัดคุณภาพน้ำที่ทำการสอบเทียบง่าย จะทำให้ผลลัพธ์มีความน่าเชื่อถือ
    • ความทนทาน : การเลือกใช้เครื่องวัดคุณภาพน้ำที่มีความทนทานจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาวจากการซ่อมบำรุงเครื่องมือได้

    ประเภทของเครื่องมือวัดคุณภาพน้ำ

    จากที่ได้มีการพูดถึงไปในบทความข้างต้นว่าเครื่องมือวัดคุณภาพน้ำนั้นสามารถแบ่งออกได้หลายประเภทตามการใช้งานของเครื่องมือ โดยในบทความนี้จะแนะนำเครื่องมือวัดคุณภาพน้ำที่เป็นที่นิยมดังนี้

    • เครื่องวัดคุณภาพน้ำ TDS : ใช้วัดปริมาณของแข็งที่เจือปนใน้ำ
    • เครื่องมือวัดค่า BOD : ใช้วัดค่าความต้องการออกซิเจนทางชีวเคมี ซึ่งเป็นปริมาณออกซิเจนที่จุลินทรีย์ใช้ในการย่อยสลายสารอินทรีย์ในน้ำ
    • เครื่องวัดค่า DO ในน้ำ : ใช้วัดค่าระดับออกซิเจนที่ละลายในน้ำ
    • เครื่องตรวจค่า pH ในน้ำหรือเครื่องวัดความกระด่าง : ใช้วัดค่าความเป็นกรด-เบสของน้ำ

    สรุปภาพรวมของเครื่องวัดคุณภาพน้ำ

    การเลือกใช้เครื่องมือวัดคุณภาพน้ำนอกจากจะช่วยทำให้รู้คุณสมบัติทางกายภาพ ทางเคมี และทางชีวภาพของน้ำแล้ว ยังช่วยให้เราทราบความบริสุทธิ์และความปลอดภัยของน้ำก่อนนำมาใช้งานในด้านต่าง ๆ อีกด้วย ซึ่งการเลือกใช้เครื่องมือวัดคุณภาพน้ำจะถูกแบ่งออกได้หลายประเภทตามลักษณะการใช้งานที่เฉพาะด้าน ดังนั้นการเลือกใช้เครื่องตรวจวัดคุณภาพน้ำที่เหมาะสมและมีคุณภาพจะช่วยให้ผลลัพธ์จากการทดสอบมีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น

    68
    ติว TOEIC

    ในปัจจุบันมีผู้ใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารได้มากขึ้น ทำให้ตามโรงเรียน มหาลัย หรือบริษัทเริ่มนำผลสอบวัดทักษะภาษาอังกฤษมาใช้เป็นเกณฑ์ในการรับสมัครมากขึ้น และ TOEIC ก็เป็นหนึ่งในการสอบที่นิยมใช้เช่นกัน จึงทำให้มีสถาบันเปิดรับติว TOEICเพิ่มขึ้นมากมาย

    การติว TOEIC นอกจากจะช่วยให้ผู้เรียนทำข้อสอบ TOEIC ได้คะแนนดี ๆ เพื่อใช้ยื่นสมัครเรียนหรือทำงานบริษัทต่าง ๆ ได้แล้ว ยังมีส่วนช่วยผู้ที่ต้องการเรียนอังกฤษแต่มีพื้นฐานภาษาอังกฤษไม่แข็งแรงสามารถสื่อสารและใช้งานภาษาอังกฤษในสถานการณ์จริงได้อย่างมั่นใจด้วย

    การสอบ TOEIC คืออะไร ทำไมถึงมีคนเรียนติว TOEIC เยอะ

    การสอบ TOEIC (Test of English for International Communication) คือ การสอบวัดระดับทักษะภาษาอังกฤษระดับสากลสำหรับผู้ที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักในการสื่อสาร โดยมีจุดประสงค์เพื่อนำผลสอบไปใช้ในการสมัครเรียนต่อหรือสมัครงานตามบริษัทต่าง ๆ ที่มีการใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก

    จากการที่มีผู้ใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารมากขึ้น จะเห็นว่าในปัจจุบันมหาลัยหรือบริษัทต่าง ๆ เริ่มนำผลสอบ TOEIC มาใช้เป็นเกณฑ์เปิดรับสมัครมากขึ้น แต่เมื่อขึ้นชื่อว่าการสอบ หลาย ๆ คนก็อาจรู้สึกกังวลขึ้นมาว่าจะทำคะแนนไม่ดี เพราะพื้นฐานไม่แน่นหรือไม่คุ้นชินกับการทำข้อสอบ การติว TOEIC จึงเป็นหนึ่งในคอร์สเรียนที่มีผู้สนใจลงเรียนจำนวนมาก

    หมายเหตุ
    • ค่าสมัครสอบ TOEIC ครั้งละ 1,800 บาท ผลสอบ TOEIC จะมีอายุ 2 ปี
    • ศูนย์สอบมี 2 ที่ คือ กรุงเทพและเชียงใหม่ เปิดสอบทุกวันจันทร์-เสาร์ เวลา 9.00-12.00 และ 13.00-16.00

    ใครบ้างที่ควรเข้ารับการติว TOEIC

    การติว TOEIC เหมาะกับผู้เรียนทุกกลุ่ม ดังนี้

    • ผู้ที่ไม่มีพื้นฐานภาษางอังกฤษหรือรู้สึกว่าพื้นฐานภาษาอังกฤษไม่แน่น แต่ต้องการปูพื้นฐานภาษาอังกฤษให้แน่น
    • ผู้ที่ต้องการเรียน TOEIC เพื่อไปสอบและนำคะแนนสมัครเรียนต่อโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยหลักสูตรอินเตอร์
    • ผู้ที่ต้องการใช้ผลสอบ TOEIC ในการสมัครสอบหรือชิงทุนเรียนต่อต่างประเทศ
    • ผู้ที่ต้องการใช้ผลสอบ TOEIC ในการสมัครทำงานตามบริษัทต่าง ๆ

    ติว TOEIC เน้นพัฒนาทักษะอะไร

    เนื่องจากการสอบ TOEIC จะแบ่งเป็น 2 พาร์ทหลัก ๆ คือ การอ่าน(Reading) และการฟัง(Listening) รวมทั้งหมด 200 ข้อ คิดเป็นคะแนนรวม 990 คะแนน โดยพาร์ทการอ่าน 495 คะแนนและพาร์ทการฟัง 495 คะแนน จึงจำเป็นต้องมีพื้นฐานทั้งทักษะการฟังและการอ่านเพื่อทำข้อสอบ TOEIC ให้ได้คะแนนดี

    ดังนั้นคอร์สเรียน TOEIC ส่วนใหญ่จะเน้นติวทักษะการอ่านและทักษะการฟังเพื่อให้ผู้เรียนมีความคุ้นชิน และสามารถทำข้อสอบได้คะแนนสูง ในที่นี้ก็มาดูกันว่าแต่ละพาร์ทจะมีรูปแบบข้อสอบแบบไหนที่ต้องฝึกฝนติว TOEIC เพิ่มบ้าง

    Grammar & Reading

    การติวสอบ TOEIC พาร์ทการอ่าน(Reading) จะเป็นการสอนภาษาอังกฤษพื้นฐาน เช่น แกรมม่า คำศัพท์เพื่อให้ผู้เรียนสามารถทำข้อสอบได้ โดยการสอบ TOEIC พาร์ทการอ่านจะมีจำนวนข้อสอบรวมทั้งหมด 100 ข้อ ให้เวลาสอบรวม 75 นาที โดยการอ่านถูกแบ่งออกเป็น 3 พาร์ทด้วยกัน คือ พาร์ท 5-7 ดังนี้

    • Part 5(Incomplete Sentences) 30 ข้อ = เน้นคำศัพท์และแกรมม่า
    • Part 6(Text Completion) 16 ข้อ = เน้นศัพท์ แกรมม่า การเรียงรูปประโยค
    • Part 7(Reading Comprehension) 54 ข้อ = เน้นการอ่านทำความเข้าใจบทความ ซึ่งในข้อสอบจะมีหลายรูปแบบ เช่น E-mail จดหมาย แชท ประกาศ และอื่น ๆ


    Listening

    การติว TOEIC พาร์ทการฟัง(Listening) จะเป็นการฝึกให้ผู้เรียนสามารถฟังจับใจความและทำความเข้าใจประโยคที่สื่อสารได้อย่างถูกต้อง พาร์ทการฟังจะมีจำนวนข้อสอบรวมทั้งหมด 100 ข้อ ให้เวลาสอบรวม 45 นาที โดยการฟังถูกแบ่งออกเป็น 4 พาร์ทด้วยกัน คือ พาร์ท 1-4 ดังนี้

    • Part 1(Photographs) 6 ข้อ = เลือกคำตอบที่ตรงกับรูปภาพมากที่สุด
    • Part 2(Question&Respose) 25 ข้อ = คำถามถามตอบ เลือกตอบข้อที่ตรงกับคำถามที่สุด
    • Part 3(Conversations) 39 ข้อ = บทสนทนาสองคน ถาม 3 คำถาม
    • Part 4(Short talks) 30 ข้อ = บทพูดสั้น ๆ มีผู้พูดคนเดียว ถาม 3 คำถาม

    เลือกสถาบันติว TOEIC อย่างไรดี

    เรียน TOEIC ที่ไหนดี

    สำหรับผู้ที่กำลังมองหาที่เรียน TOEIC ที่ไหนดี? สามารถพิจารณาคุณสมบัติของสถาบันที่เปิดรับติว TOEIC ดังนี้

    • สถาบันติว TOEIC จะต้องแจกแจงรายละเอียดว่าในคอร์สที่ลงเรียนมีการสอนและติวทักษะอะไรบ้างอย่างละเอียด
    • การลงคอร์สติว TOEIC ควรเรียนกับครูผู้ที่มีประสบการณ์สอนเชี่ยวชาญและเคยเข้ารับการสอบ TOEIC เพื่อที่ครูจะได้ถ่ายทอดเทคนิคการทำข้อสอบให้กับผู้เรียนได้อย่างเต็มที่
    • ตรวจสอบค่าใช้จ่ายในการลงเรียนคอร์สภาษาอังกฤษว่าอยู่ในช่วงงบประมาณที่ต้องการหรือไม่
    • อ่านรีวิวจากผู้เข้าลงเรียนโทอิคจริงว่าการเรียนการสอนของทางสถาบันเป็นอย่างไรบ้าง เพื่อเลือกลงคอร์สเรียนในสถาบันที่ต้องการ

    คำถามที่หลายคนมักสงสัยเกี่ยวกับการติว TOEIC

    ติว TOEIC ราคาเท่าไหร่?

    ราคาคอร์สติว TOEIC จะเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 3,000-15,000 บาทขึ้นไป โดยราคาคอร์สติวข้อสอบ TOEIC ของแต่ละสถาบันจะขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น จำนวนชั่วโมงที่ลงเรียน จำนวนผู้เข้าเรียน เอกสารการสอน ครูผู้สอนที่มีประสบการณ์ และอื่น ๆ

    ลงเรียนติว TOEIC ช่วยเพิ่มคะแนนจริงไหม?

    การลงคอร์สเรียน TOEIC เป็นการเรียนกับคุณครูผู้ที่มีประสบการณ์การสอนเชี่ยวชาญโดยเฉพาะ ซึ่งทางครูจะช่วยชี้แนะจุดที่ผู้เรียนควรเน้นฝึกฝนเพิ่มเติม และการติว TOEIC มักจะมีการจำลองการสอบเสมือนจริง ทำให้ผู้เรียนคุ้นชินกับการทำข้อสอบและสามารถทำข้อสอบได้คะแนนดีตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้

    สรุปติว TOEIC เรียนเพื่อเตรียมตัวพร้อมทำคะแนน

    การติว TOEIC ช่วยเสริมสร้างและพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของผู้เรียนกลุ่มต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น นักเรียน นักศึกษา ผู้ที่มีแพลนเรียนต่อต่างประเทศ หรือว่ากำลังเตรียมตัวสมัครงานให้พื้นฐานแน่นมากขึ้น ในระหว่างที่เรียนติวสอบ TOEIC ก็จะเน้นฝึกทั้งพาร์ท Reading และ Listening ด้วยการสอนอังกฤษพื้นฐานด้วยการติวแกรมม่า คำศัพท์ และการจำลองทำข้อสอบจริง

    อีกทั้งในคอร์สติว TOEIC ยังสอนเคล็ดลับการทำข้อสอบ TOEIC จึงทำให้แม้แต่ผู้ที่อยากเก่งภาษาอังกฤษแต่ไม่มีพื้นฐานเลยก็สามารถสอบได้คะแนนดี ทั้งยังมีความรู้ภาษาอังกฤษติดตัวสามารถนำมาใช้ในการเรียน การสอบ หรือการทำงานได้อย่างมั่นใจ

    อย่างไรก็ตามแม้ว่าการติว TOEIC จะช่วยให้ผู้เรียนสามารถทำข้อสอบได้คะแนนดีตามที่ตั้งไว้จริง แต่ผู้เรียนควรหมั่นทบทวนบทเรียนภาษาอังกฤษด้วยตนเองเพิ่มเติมในช่วงเวลายามว่าง เพื่อให้ผลลัพธ์จากการเรียนโทอิคช่วยส่งเสริมและพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษให้สามารถใช้สื่อสารได้อย่างชำนาญในระยะยาว

    69
    ยื่นภาษี

    สำหรับคนรุ่นใหม่ที่เพิ่งเริ่มทำงาน เมื่อทำงานได้ครบปีแล้ว ก็จำเป็นจะต้องยื่นภาษี 2567 เพราะการยื่นภาษีอย่างถูกต้องและครบถ้วนจะช่วยให้เราได้รับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ของภาครัฐ เช่น การขอคืนภาษี การลดหย่อนภาษี สิทธิประโยชน์ทางการศึกษา สิทธิประโยชน์ทางสาธารณสุข เป็นต้น โดยจะต้องยื่นภาษีออนไลน์2566 ภายในวันที่ 31 มีนาคม ของทุกปี

    แล้วการยื่นภาษีคืออะไร ทำไมเราจะต้องยื่นภาษี 2567 จะทราบได้อย่างไรว่า เราจะต้องยื่นแบบฟอร์มใด แบบฟอร์มภงด91คืออะไร แล้วแบบภ.ง.ด. 90 และ ภ.ง.ด. 31 แตกต่างกันอย่างไร เราจะคำนวณภาษีเงินได้อย่างไร จำเป็นต้องชำระภาษีเพิ่มหรือได้ภาษีคืน บทความนี้ มีคำตอบ

    ยื่นภาษีคืออะไร ทำไมเราต้องยื่น?
    การยื่นภาษี คือ การยื่นแบบแสดงรายการภาษี เพื่อแจ้งรายละเอียดเงินได้และค่าลดหย่อนของเราให้กรมสรรพากรทราบ โดยภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา คือ ภาษีที่จัดเก็บจากบุคคลธรรมดาทั่วไป หรือจากหน่วยภาษีที่มีลักษณะพิเศษ ตามที่กฎหมายกําหนด และมีรายได้เกิดขึ้นตามเกณฑ์ที่กําหนด ซึ่งโดยปกติ จะยื่นแบบภาษีเพื่อจัดเก็บเป็นรายปี รายได้ที่ได้รับในปีใด ๆ ผู้มีรายได้มีหน้าที่ต้องนำไปแสดงรายการตนเอง ตามแบบแสดงรายการภาษีที่กำหนด ภายในเดือนมกราคม ถึงมีนาคมของปีถัดไป

    แล้วทำไมเราต้องยื่นภาษี? เพราะภาษีเป็นรายได้ของภาครัฐ ซึ่งนำไปใช้จ่ายในกิจการสาธารณะ เช่น การก่อสร้างถนน โรงพยาบาล โรงเรียน การรักษาพยาบาล เป็นต้น ภาษีจึงเป็นหน้าที่พลเมืองอย่างหนึ่งที่จะต้องปฏิบัติตาม โดยมีระยะเวลาในการยื่นภาษีบุคคลธรรมดาประจำปี 2566 คือ ระหว่างวันที่ 1 มกราคม ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2567 หรืออาจเรียกว่า ยื่นภาษี 2567

    การยื่นภาษีสามารถทำได้ 2 ช่องทาง คือ ยื่นภาษีด้วยตนเอง ณ สำนักงานสรรพากรพื้นที่ และการยื่นภาษีออนไลน์ผ่านอินเทอร์เน็ต หากไม่ยื่นภาษีภายในกำหนด จะมีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท และหากพ้นกำหนดเกิน 1 ปี โทษปรับจะเพิ่มเป็นไม่เกิน 10,000 บาท โดยการยื่นภาษีเป็นหน้าที่พลเมืองที่ทุกคนควรปฏิบัติเป็นประจำทุกปี

    ใครบ้างที่ต้องยื่นภาษี?

    ยื่นภาษี 2567

    โดยทั่วไปแล้ว ผู้ที่มีหน้าที่ยื่นภาษี คือ ผู้ที่มีเงินได้ในระหว่างปีภาษีนั้น ๆ ซึ่งจะต้องยื่นแบบภาษี เมื่อมีเงินได้ถึงเกณฑ์ขั้นต่ำตามกฎหมายกำหนด แม้ว่า เมื่อคำนวณภาษีออกมาแล้ว จะต้องชำระภาษีเพิ่มเติมหรือไม่ก็ตาม แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ดังต่อไปนี้

    1.บุคคลธรรมดาที่มีรายได้เกินเกณฑ์ที่กำหนด จะต้องยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยเกณฑ์ขั้นต่ำในการยื่นภาษีบุคคลธรรมดา แบ่งตามสถานะโสดและสมรส ดังนี้

    • คนโสดที่มีรายได้เป็นเงินเดือนตั้งแต่ 10,000 บาท ต่อเดือน (ภงด91) หรือ 120,000 บาท ต่อปี รวมถึงคนโสดที่มีรายได้ประเภทอื่นที่ไม่ใช่เงินเดือน (ภงด90) ตั้งแต่ 5,000 บาท ต่อเดือน หรือ 60,000 บาท ต่อปี
    • คู่สมรสที่มีรายได้รวมกันตั้งแต่ 20,000 บาท ต่อเดือน (ภงด94) หรือ 240,000 บาท ต่อปี
    2.ห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคลที่มีรายได้รวมแล้วเกินปีละ 60,000 บาท มีหน้าที่ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ประจำปี
    3.นิติบุคคลทุกประเภทที่มีรายได้รวมแล้วเกินปีละ 60,000 บาท มีหน้าที่ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ประจำปี

    นอกจากนี้ สำหรับผู้มีรายได้ไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนด ก็ยังมีหน้าที่ต้องยื่นภาษี เช่น

    • ผู้มีรายได้จากเงินได้ประเภทอื่นที่ไม่ใช่เงินเดือน เช่น เงินได้จากการเช่าทรัพย์สิน เงินได้จากการประกอบอาชีพอิสระ เป็นต้น
    • ผู้มีรายได้จากต่างประเทศ
    • ผู้มีรายได้จากเงินได้ที่ได้รับยกเว้นภาษี แต่มีเงินได้ประเภทอื่นที่ต้องนำมาคำนวณภาษี

    วิธีการคำนวณภาษีเงินได้
    ก่อนจะยื่นภาษีจำเป็นต้องเข้าใจวิธีการคำนวณภาษีเงินได้เสียก่อน โดยวิธีการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แบ่งออกเป็น 2 ขั้นตอน ดังนี้

    ขั้นตอนที่ 1 คำนวณหาเงินได้สุทธิ
    โดยเงินได้สุทธิ คือ เงินได้หลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อน โดยคำนวณจากสูตรยื่นภาษี ดังนี้

    เงินได้สุทธิ = เงินได้รวม - ค่าใช้จ่าย - ค่าลดหย่อน
    ซึ่งอธิบายความหมาย คือ

    • เงินได้รวม คือ เงินได้ทั้งหมดที่ได้รับในปีภาษีนั้น ๆ โดยแบ่งออกเป็นประเภทต่าง ๆ ดังนี้
    1.เงินได้จากการจ้างงาน (เงินเดือน ค่าจ้าง เบี้ยเลี้ยง ค่าตอบแทน ฯลฯ)
    2.เงินได้จากทรัพย์สิน (ดอกเบี้ย เงินปันผล เงินได้จากการเช่า ฯลฯ)
    3.เงินได้จากธุรกิจ (กำไรสุทธิจากกิจการ)
    4.เงินได้อื่น ๆ (เงินได้จากการประกอบอาชีพอิสระ เงินได้จากการเล่นเกม ฯลฯ)

    • ค่าใช้จ่าย คือ ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการหารายได้ โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้
    1.ค่าใช้จ่ายที่กฎหมายกำหนดให้นำมาหักได้ (ค่าใช้จ่ายตามมาตรา 65 แห่งประมวลรัษฎากร) เช่น ค่าเบี้ยประกันชีวิต ค่ารักษาพยาบาล ค่าเดินทาง ค่าการศึกษา เป็นต้น
    2.ค่าใช้จ่ายที่กฎหมายกำหนดให้นำมาหักได้เฉพาะกรณี (ค่าใช้จ่ายตามมาตรา 66 แห่งประมวลรัษฎากร) เช่น ค่าลิขสิทธิ์ ค่าธรรมเนียม ค่าเช่า ค่าซ่อมแซม ค่าประกันภัย ค่าน้ำมัน ค่าอาหาร เป็นต้น

    • ค่าลดหย่อน คือ ค่าใช้จ่ายที่กฎหมายกำหนดให้นำมาหักออกจากเงินได้ก่อนคำนวณภาษี โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้
    1.ค่าลดหย่อนทั่วไป (ค่าลดหย่อนตามมาตรา 40 แห่งประมวลรัษฎากร) เช่น ค่าลดหย่อนค่าจ้าง ค่าเบี้ยประกันชีวิต ค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตร เป็นต้น
    2.ค่าลดหย่อนเฉพาะบุคคล (ค่าลดหย่อนตามมาตรา 43 แห่งประมวลรัษฎากร) เช่น ค่าลดหย่อนค่าซื้อสินค้าและบริการ ค่าซื้อสินค้าและบริการส่งเสริมอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม ค่าซื้อสินค้าและบริการเพื่อการศึกษา เป็นต้น

    ขั้นตอนที่ 2 คำนวณหาภาษีที่ต้องชำระ ก่อนยื่นภาษี
    ภาษีที่ต้องชำระ คือ ภาษีที่คำนวณจากเงินได้สุทธิ โดยคำนวณจากสูตรยื่นภาษีดังนี้
    ภาษีที่ต้องชำระ = เงินได้สุทธิ x อัตราภาษี

    โดยอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แบ่งออกเป็น 5 ขั้น ดังนี้
    • เงินได้สุทธิ ไม่เกิน 150,000 บาท อัตราภาษี 0%
    • เงินได้สุทธิ 150,001 - 300,000 บาท อัตราภาษี 5%
    • เงินได้สุทธิ 300,001 - 500,000 บาท อัตราภาษี 10%
    • เงินได้สุทธิ 500,001 - 750,000 บาท อัตราภาษี 15%
    • เงินได้สุทธิ 750,001 บาทขึ้นไป อัตราภาษี 20%

    ยกตัวอย่างการคำนวณภาษีเงินได้ เพื่อนำไปใช้ในการยื่นภาษี เช่น นาย A มีรายได้รวมในปีภาษี 2566 เป็นเงิน 500,000 บาท โดยหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนแล้ว เหลือเงินได้สุทธิ 400,000 บาท ดังนั้น ภาษีที่ต้องชำระของนาย A คือ ภาษีที่ต้องชำระ = 400,000 x 10% = 40,000 บาท หรือนาย B เหลือเงินได้สุทธิ 50,000 บาท ดังนั้น ภาษีที่ต้องชำระของนาย B คือ ภาษีที่ต้องชำระ = 50,000 x 0% = 0 บาท นั่นหมายความว่า นาย B ไม่ต้องชำระภาษี หากแต่ยังต้องยื่นภาษี 2567 ตามกำหนด

    ทั้งนี้ ตัวอย่างข้างต้นเป็นเพียงตัวอย่างการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยอัตราภาษีและค่าลดหย่อนอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามประกาศของกรมสรรพากร

    ยื่นภาษีแบบภ.ง.ด. 90 และ ภ.ง.ด. 31 แตกต่างกันอย่างไร?

    ประเภทของการยื่นภาษี

    การยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา มี 2 แบบหลัก ๆ คือ แบบ ภ.ง.ด. 90 และแบบ ภ.ง.ด. 31 ซึ่งมีความแตกต่างกัน ดังนี้

    • แบบ ภ.ง.ด. 90 โดย ภงด90คือ การยื่นโดยบุคคลธรรมดาที่มีรายได้จากเงินเดือน ค่าจ้าง เบี้ยเลี้ยง ค่าตอบแทน ฯลฯ โดยรายได้รวมตั้งแต่ 120,000 บาท (คนโสด) หรือ 220,000 บาท (คู่สมรส) ซึ่งมีกำหนดยื่นภายในวันที่ 31 มีนาคม ของทุกปี และสามารถขอคืนภาษีได้
    • แบบ ภ.ง.ด. 31 เป็นการยื่นโดยบุคคลธรรมดาที่มีรายได้จากเงินได้ประเภทอื่นที่ไม่ใช่เงินเดือน เช่น เงินได้จากการเช่าทรัพย์สิน เงินได้จากการประกอบอาชีพอิสระ ฯลฯ โดยรายได้รวมตั้งแต่ 60,000 บาท ซึ่งกำหนดยื่นภายในวันที่ 31 มีนาคม ของทุกปี แต่ไม่สามารถขอคืนภาษีได้

    หากดำเนินการยื่นภาษีไม่ทันจะต้องทำอย่างไร?
    ในการยื่นภาษี 2567 ตามความเข้าใจคือ การยื่นภาษีของปี 2566 จะต้องยื่นภาษีบุคคลภายในวันที่ 1 มกราคม 2567 - 31 มีนาคม 2567 แต่ทั้งนี้ หากยื่นภาษีไม่ทันภายในเวลาดังกล่าว สามารถยื่นภาษีย้อนหลังได้ โดยต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภ.ง.ด. 90 หรือ ภ.ง.ด. 31 แล้วแต่กรณี พร้อมชำระเงินภาษีและเงินเพิ่ม โดยคำนวณจากอัตราร้อยละ 1.5 ต่อเดือนของเงินภาษีที่ต้องชำระ นับแต่วันพ้นกำหนดเวลาการยื่นภาษีจนถึงวันชำระภาษี

    นอกจากนี้ หากมีเงินภาษีที่ต้องชำระคืน ก็ยังสามารถยื่นภาษีย้อนหลังได้ โดยต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภ.ง.ด. 90 หรือ ภ.ง.ด. 31 แล้วแต่กรณี พร้อมขอคืนเงินภาษี ทั้งนี้ ควรยื่นภาษีภายในกำหนด เพื่อหลีกเลี่ยงโทษปรับและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้น

    ข้อมูลสรุปเกี่ยวกับยื่นภาษี 2567
    การยื่นภาษี คือ การยื่นแบบแสดงรายการภาษี เพื่อแจ้งรายละเอียดเงินได้และค่าลดหย่อนของเราให้กรมสรรพากรทราบ โดยจะต้องยื่นภาษีภายในเดือนมกราคม ถึงมีนาคมของปีถัดไป สำหรับการยื่นภาษี 2567 คือ การยื่นภาษีบุคคลธรรมดา2566 ว่ามีเงินได้และค่าลดหย่อนเท่าใด โดยเราสามารถคำนวณภาษีเงินได้ด้วยตนเอง แล้วยื่นแบบให้ถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นแบบฟอร์มภงด91, ภงด90, ภงด50, ภงด53 หรือ ภ.ง.ด. 31

    สำหรับผู้ต้องยื่นภาษีที่มีเงินได้เกินเกณฑ์ที่กำหนด อาจจะต้องชำระภาษีกับกรมสรรพากร หากไม่ชำระภายในกำหนดเวลา ก็อาจจะต้องชำระเงินเพิ่มได้ ดังนั้น เพื่อให้สามารถยื่นภาษีออนไลน์2566 และชำระภาษีได้อย่างราบรื่น ก็อาจเลือกใช้บริการบัตรกดเงินสดของ KTC ได้ ทุกคนสามารถสมัครง่าย อนุมัติไว ได้เงินก้อนมาใช้จ่าย แก้ทุกปัญหาทางการเงินในกรณีต้องการใช้เงินเร่งด่วน

    70
    เครื่องมือวัดระดับ

    เมื่อมีเหตุให้ต้องหาซื้อเครื่องมือวัดระดับนั้น สิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึงก็คือการใช้งานว่าเหมาะที่จะใช้กับเครื่องวัดระดับชนิดใด และแน่นอนต้องรวมถึงมาตรฐานการวัดว่ามีความน่าเชื่อถือ (Reliability), ความไว (Sensitivity), ความถูกต้อง (Accuracy) และความเที่ยงตรง (Precision) มากน้อยเพียงใด
     
    ในบทความนี้นี้เราจะมาแนะนำเกี่ยวกับเครื่องมือวัดระดับ ว่าอุปกรณ์ชิ้นนี้คืออะไร มีประเภทอะไรบ้าง มีวิธีการทำงาน และข้อจำกัดอย่างไร

    รู้จักกับเครื่องมือวัดระดับคืออะไร ?

    ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับคำว่า “เครื่องมือวัดระดับ” (Level Sensor / Level Switch) คือ เครื่องมือที่ใช้วัดระดับของวัตถุดิบที่เป็นได้ทั้งของเหลว และของแข็งที่มีการบรรจุไว้ในภาชนะ หรืออยู่ตามแหล่งน้ำธรรมชาติ แล้วจึงนำค่าที่ได้รับการแปลงสัญญาณตามมาตรฐานไปใช้ในกระบวนการการควบคุมการผลิตต่อไป
     
    เครื่องมือที่ใช้วัดระดับมีหลากหลายขึ้นกับวัตถุประสงค์ในการวัด วิธีการ และระดับเลเวลความแม่นยำ แต่ทั้งนี้ต้องสามารถตรวจสอบได้ ซึ่งค่าที่อุปกรณ์ตรวจวัดปริมาณทางฟิสิกส์ต่าง ๆ สามารถวัดได้ก็จะมี การวัดอุณหภูมิ, ความชื้น แสง, เสียง และความดัน เป็นต้น
     
    ซึ่งเครื่องมือวัดระดับที่มีคุณภาพ มาตรฐานสูงนั้นต้องให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำ เชื่อถือได้ และให้ค่าวัดตรงกันทุกครั้งที่ทำการวัด

    เครื่องมือวัดระดับ คืออะไร

    หลักการทำงานของเครื่องมือวัดระดับ

    หลักการทำงานของเครื่องมือวัดระดับ (Level Transmitter) แต่ละชนิดก็จะมีความแตกต่างกันไป ยกตัวอย่างเช่น

    • เครื่องมือวัดระดับ Ultrasonic Level Transmitter ชนิดอัลตราโซนิกส์ แบบคลื่นความถี่เหนือเสียงนั้น จะมีการติดตั้งไว้บนภาชนะบรรจุ เช่น ถัง ที่ความถี่ประมาณ 70-200 kHz แล้วใช้หลักความเร็วในการเคลื่อนที่ของคลื่น Ultrasonic มาเทียบกับระยะทาง แล้วคำนวณออกมาเป็นค่าระดับ
    • เครื่องมือวัดระดับ Pressure Transmitter ที่ใช้วัดแรงของเหลวที่กดลงตรงจุดที่วัดความดันที่มีผลต่อความสูง แล้วนำมาคำนวณเป็นค่าระดับได้ โดยต้องระวังว่า จะมีความแตกต่างด้านคำนวณระหว่างที่ถังเปิดและถังปิด
    • เครื่องมือวัดระดับ Displacer Level Transmitter มีการทำงานที่คล้ายกับลูกลอยที่ขึ้นลงตามระดับของเหลว เพียงแต่มีการกำหนดค่าถ่วงจำเพาะจึงจำกัดให้ระยะเคลื่อนที่ไม่สูงเท่าระดับจริง นำมาต่อเข้ากับ transmitter ก่อนที่จะทำการคำนวณระดับแล้วแสดงผลไปยัง controller
    แต่เครื่องส่งสัญญาณของเครื่องมือวัดระดับจะวัดระดับด้วยหนึ่งในวิธีการดังต่อไปนี้ คือ

    • น้ำหนักของของเหลว
    • หัวความดันของของเหลว
    • ตำแหน่งของของเหลวในภาชนะ

    แนะนำเครื่องมือวัดระดับของเหลวที่สามารถเลือกใช้ให้เหมาะกับอุตสาหกรรมต่าง ๆ

    เครื่องมือวัดระดับนั้นมีหลากหลาย และมีไว้เพื่อวัดระดับอย่างต่อเนื่อง เราพอจะจำแนกตามประเภทการส่งสัญญาณได้ ดังต่อไปนี้

    เครื่องวัดระดับของเหลว (Liquid Level Transmitters)

    เครื่องมือวัดระดับประเภทนี้ ใช้วัดความดันส่วนหัวของของเหลว

    เครื่องวัดระดับอัลตราโซนิก (Ultrasonic Level Transmitters)
     
    ใช้พัลส์อัลตราโซนิกกระทบพื้นผิวของของเหลวและสะท้อนกลับ เพื่อให้เซนเซอร์คำนวณระดับการเติม

    เครื่องวัดระดับความจุ (Capacitance Level Transmitters)

    ใช้อิเล็กโทรดหุ้มฉนวนทำหน้าที่วัดความเปลี่ยนแปลงของความจุของของเหลว

    เครื่องวัดระดับแบบไฮโดรสแตติก (Hydrostatic Level Transmitters)

    วัดระดับของเหลวด้วยการใช้ความดันของของเหลวภายในภาชนะมาประมวลผล

    เครื่องวัดระดับแบบเรดาร์ (Radar Fill Level Transmitters)

    อาศัยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าติดตั้งด้านบนของภาชนะที่เต็มไปด้วยของเหลว ได้รับสัญญาณสะท้อนที่ส่งไปวิเคราะห์ระดับในปัจจุบัน

    เครื่องวัดระดับแบบใช้ลำแสง (Optical Type Level Sensor)

    ใช้ลำแสงที่เกิดการหักเหเมื่อเซนเซอร์สัมผัสกับของเหลว และให้ผลลัพธ์เป็น NPN หรือ PNP อุปกรณ์ชิ้นนี้ต้องการพื้นที่ติดตั้งน้อย และเหมาะใช้เตือนการรั่ว

    เครื่องวัดระดับแบบใช้ความดัน (Pneumatic Level Sensor)

    ใช้ความดันของของเหลวมาประมวลผมเพื่อเตือนหรือควบคุมระดับของเหลว มีอยู่ 2 ชนิด คือ แบบสวิตซ์ และ แบบส่งสัญญาณ 4-20 mA เป็นต้น

    เครื่องมือวัดระดับแบบต่าง ๆ

    ตัวอย่างการนำเครื่องวัดระดับไปใช้ในงานอุตสาหกรรม

    หนึ่งในเครื่องมือวัดระดับที่เราสามารถนำไปใช้ในงานอุตสาหกรรมคือเครื่องวัดระดับน้ำที่นำมาใช้วัดความลาดเอียงของพื้นผิว เพื่อหาค่าความลาดเอียงของ 2 จุดในระยะ 1 เมตรว่ามีความสูงต่างกันกี่มิลลิเมตร
     
    ถ้าหากความไวในการวัด (Sensitivity) คือ Grade A : 0.02 mm/1m ดังนั้นหากฟองอากาศในเครื่องวัดระดับน้ำเคลื่อนจากตรงกลางไปทางซ้าย 3 ขีด ก็แสดงให้เห็นว่าด้านซ้ายสูงกว่าด้านขวา 0.02 x 3 = 0.06 mm ในระยะ 1m หากขาของเครื่องจักรห่างกัน 1.5 m จะให้ความสูงของขาทั้ง 2 ข้างต่างกัน 0.06 x1.5 = 0.09 mm นั่นเอง
     
    การหาค่าความเอียงก็เพื่อความสะดวกในการปรับความสูงของขาตั้งเครื่องจักรเพราะองศาในการติดตั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ ในเครื่องจักรที่มีใช้ร่วมกันหลายเครื่องจะกระทบกับการควบคุมการทำงานซึ่งมีผลต่อความแข็งแรงและคุณภาพการผลิตเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐาน

    ข้อจำกัดของเครื่องมือวัดระดับ

    เพื่อที่จะได้เครื่องมือวัดระดับที่ให้ค่าวัดที่แม่นยำสูงมาก การใช้งานก็ต้องเป็นไปด้วยความระมัดระวังอย่างสูงเช่นกัน ดังนั้นควรเตรียมเครื่องตรวจวัดระดับน้ำก่อนใช้งานทุกครั้งดังนี้

    • ต้องปรับสอบเทียบ (Calibration) ตามกำหนดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ได้ค่าวัดที่ถูกต้องแม่นยำเสมอ
    • ควรทำความสะอาดพื้นผิวที่จะทำการวัดให้สะอาดก่อนทุกครั้ง
    • ต้องมีความเข้าใจในเครื่องตรวจวัดระดับน้ำ ชนิด หลักการทำงาน เพื่อที่จะได้ใช้งานตรงวัตถุประสงค์ เพื่อผลลัพธ์ที่แม่นยำและน่าเชื่อถือ
    สรุปเครื่องมือวัดระดับ

    เครื่องมือวัดระดับ level measurement เป็นหนึ่งในเครื่องมือวัดอุตสาหกรรมที่ใช้วัดค่าทางวิทยาศาสตร์เหมือนกับเครื่องมือวัดทั่วไป เพียงแต่สามารถนำมาติดตั้งในสภาพแวดล้อม เช่น โรงงานอุตสาหกรรมเพื่อให้รู้ค่าต่าง ๆ เพื่อประโยชน์ในการควบคุมการผลิตทางด้านปริมาณของวัตถุดิบ เป็นต้น
     
    นอกเหนือจากที่กล่าวมาแล้วข้างต้นยังมีเครื่องมือวัดระดับในรูปแบบสวิตซ์ใบพัด และสวิตซ์ลูกลอยที่สามารถใช้ในการวัดความสูงของภาชนะที่ใช้เก็บวัตถุดิบต่าง ๆ โดยระดับปริมาณวัตถุดิบก็จะมีการบันทึกเก็บไว้ด้วย ซึ่งข้อมูลเหล่านี้มีประโยชน์ต่อผู้ใช้งานที่ต้องควบคุมวัตถุดิบในการผลิต สรุปได้ว่าเครื่องมือวัดระดับสามารถสร้างประโยชน์ให้กับภาคอุตสาหกรรมได้เป็นอย่างดี

    71
    หางานกรุงเทพ

    การหางานกรุงเทพซึ่งเป็นแหล่งหางานที่มีทั้งความท้าทายและน่าตื่นเต้นที่ทุกคนต้องเผชิญหน้าทั้งในวัยทำงาน นักศึกษาฝึกงาน เด็กจบใหม่รวมไปถึงกลุ่มมนุษย์เงินเดือนที่ต้องการความก้าวหน้า ตำแหน่งงานที่สูงขึ้นที่มาพร้อมกับเงินเดือนที่มากกว่าเดิม สำหรับผู้ที่ต้องการสร้างฐานรากอาชีพโดยการหางานกรุงเทพมหานครซึ่งมีเคล็ดลับที่นำมาแชร์เพื่อเพิ่มโอกาสได้งานที่น่าสนใจ เป็นงานจากองค์กรที่มีความน่าเชื่อถือและมั่นใจได้ว่าจะไม่โดนมิจฉาชีพหลอกให้โอนเงิน วางเงินมัดจำหรือเรียกเก็บเงินค้ำประกันการทำงาน

    การหางานกรุงเทพ ผ่านเว็บหางานทั้งสะดวก รวดเร็ว

    หางานกรุงเทพ

    การเริ่มต้นในการค้นหางานกรุงเทพมหานครที่มีโอกาสดี ๆ ทั้งตำแหน่งงานและเงินเดือนสูงได้ตามต้องการนั้น มีขั้นตอนแรกที่สำคัญคือการเลือกหางานกรุงเทพที่มาจากเว็บไซต์หางาน กทม.ที่เชื่อถือได้ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่มีการอัปเดตอย่างรวดเร็ว และป้องกันความเสี่ยงในเรื่องของข้อมูลส่วนบุคคลของกลุ่มคนที่สมัครงานกรุงเทพที่อาจถูกนำไปใช้โดยไม่เหมาะสมได้ ในกรณีที่มีการส่งข้อมูลสมัครงานไป ซึ่งในปัจจุบันนี้ก็มีมิจฉาชีพที่ซ่อนตัวและผสมเข้ากับเว็บไซต์หางานมากขึ้น ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่ไม่มีการยืนยันตัวตนของผู้ว่าจ้างหรือองค์กรทำให้ใคร ๆ ก็สามารถโพสต์รับสมัครงานกรุงเทพได้ การเลือกใช้บริการเว็บไซต์สำหรับผู้สมัครงาน กทม. จึงมีความสำคัญเป็นอย่างแรกที่ต้องพิจารณาเพื่อให้มั่นใจว่าจะได้รับจ้างงานจากองค์กรที่มีความน่าเชื่อถือ

    ข้อควรรู้ก่อนเริ่มหางานกรุงเทพเพื่อที่ตรงใจ องค์กรก้าวหน้าและมั่นคง

    หางานกรุงเทพ

    1. สมัครงาน กทม. ที่ตรงกับคุณสมบัติของตนเอง ทั้งทักษะและความสามารถพิเศษซึ่งควรเลือกอาชีพหรือหางานในกรุงเทพที่ตนเองสามารถจะทำประโยชน์ให้กับองค์กรได้ นอกจากนี้คำนึงถึงการทำงานที่ต้องมีความมั่นคงในระยะยาว

    • ต้องการทำงานกับหน่วยงานใด (รัฐบาล เอกชน รัฐวิสาหกิจ) ขนาดอะไร (ใหญ่ กลาง เล็ก
    • เป็นองค์กรใหม่หรือดำเนินกิจการมานานแล้ว มีความก้าวหน้าเป็นอย่างไร
    • หางานกรุงเทพยังต้องคำนึงถึงสถานที่ตั้งและการเดินทาง

    2. องค์กรหรือหน่วยงานที่เปิดรับสมัครงานกรุงเทพ มีความพร้อมมากเพียงใดกับการสร้างคุณภาพชีวิตให้กับคนกำลังจะสมัครงานมีความมั่นคงหรือไม่ มีแนวโน้มเป็นอย่างไร

    • สวัสดิการและรายได้ รวมถึงความก้าวหน้า
    • สิ่งแวดล้อมในการทำงาน บรรยากาศของการทำงาน
    • ค่านิยมและเป้าหมายในการทำงาน

    เว็บหางานกรุงเทพที่น่าสนใจ

    หางานกรุงเทพ

    การเลือกใช้บริการเว็บไซต์ที่มีความน่าเชื่อถือ สำหรับการหางานกรุงเทพถือว่าประสบความสำเร็จไปแล้วครึ่งทาง เพราะทางเว็บพร้อมที่จะให้การช่วยเหลือกับการอัปเดตตำแหน่งงานจากบริษัทหรือองค์กรที่มีความมั่นคงและเชื่อถือได้ ทำให้คนที่หางานในกรุงเทพได้รับการโปรโมตและเข้าถึงกลุ่มบริษัทกับตำแหน่งงานที่สมัครได้ง่ายขึ้น

    1. JobFinFin

    เป็นเว็บหางานกรุงเทพที่อัปเดตข้อมูลตำแหน่งต่าง ๆ ไว้ให้กับกลุ่มคนที่กำลังหางานในกรุงเทพพร้อมแนะนำเทคนิคมากมายในการสัมภาษณ์ให้ผ่านได้แบบฉุย ภายในเว็บยังมีการแบ่งกลุ่มตำแหน่งในแต่ละสายงานไว้อย่างชัดเจน เพื่อให้คนที่หางานกรุงเทพมหานครได้เข้ามาใช้งานได้สะดวก เป็นเว็บไซต์ที่เหมาะสำหรับคนหางานทุกกลุ่มทุกอาชีพที่มีมากกว่า 800,000 รายขึ้นไป ทางเว็บยังมีการโปรโมตและแนะนำเพื่อให้บริษัทหรือองค์กรเข้าถึงโปรไฟล์ของผู้สมัครได้ง่าย

    2. Jobbkk

    เว็บหางานที่ดีที่สุดเว็บหนึ่งที่ขอนำเสนอ มีงานให้เลือกทั่วประเทศไม่เฉพาะแค่การหางานกรุงเทพ เป็นเว็บที่เปิดให้บริการมานานกว่า 15 ปีซึ่งมีบริษัทชั้นนำเป็นสมาชิกและมีตำแหน่งงานมากกว่า 100,000 งานโดยผู้สมัครงาน กทม. สามารถสร้าง resume และใบสมัครงานได้เองง่าย ๆ ด้วยระบบ multi-resume ซึ่งทำให้ไม่ต้องกรอกข้อมูลจำนวนมาก และยังรองรับไฟล์ที่ส่งได้สูงสุดถึง 100 MB

    3. JobTH

    เป็นอีกเว็บหางานกรุงเทพที่มีผู้ใช้บริการมากกว่า 8,000 รายทั้งคนที่หางาน กทม. และองค์กรหรือบริษัทที่เปิดรับสมัครงานกรุงเทพมหานครทั้งงานราชการ งานรัฐวิสาหกิจ และงานเอกชนมากมาย ซึ่งการกรอกข้อมูลการสมัครงานยังสามารถเข้าไปตรวจสอบหรือแก้ไขได้ตลอดเวลา รวมทั้งทางเว็บไซต์ยังมีระบบเตือนผ่านทาง SMS ให้แบบฟรีกับการนัดสัมภาษณ์งาน ทั้งระบบการให้บริการหางานในกรุงเทพกับทางเว็บไซต์ยังไม่มีการเรียกเก็บค่าสมาชิก
     
    4. Jobthai

    เป็นเว็บที่เปิดให้บริการมามากกว่า 20 ปีเพื่อเป็นสื่อกลางให้กับคนที่กำลังหางานกรุงเทพและบริษัทหรือองค์กรที่เปิดรับสมัครงานกรุงเทพซึ่งมีการแบ่งประเภทของงาน กทม.ไว้ได้อย่างละเอียด ที่สามารถเข้ามาใช้บริการได้แบบฟรี โดยการเข้ามาใช้งานทางเว็บพร้อมทีมงานจะมีการแนะนำการเขียนประวัติเพื่อใช้สำหรับยื่นสมัครงานได้ซึ่งยิ่งมีความสะดวกและรวดเร็วมากขึ้นด้วย ในการส่งใบสมัครออนไลน์กับทางเว็บ

    สรุป

    สำหรับการหางานกรุงเทพผ่านเว็บหางาน กทม.จะได้รับทั้งความสะดวก รวดเร็ว และมีระบบต่าง ๆ ที่คอยช่วยเหลือตั้งแต่สามารถเลือกบริษัทที่มีความมั่นคง การเขียนประวัติการสมัครงานกรุงเทพมหานครที่มีการแนะนำจากทีมงานของเว็บ และช่วยโปรโมตให้ตรงกับตำแหน่งงาน กทม.ของบริษัทต่าง ๆ ได้เห็นและนำไปพิจารณา


    72
    ฟิล์มกรองแสงอาคาร

    ฟิล์มกรองแสงไม่ได้จำเป็นสำหรับรถยนต์เท่านั้นแต่การติดฟิล์มกระจกบ้านก็มีความสำคัญหลายประการด้วยเช่นกัน ซึ่งฟิล์มกระจกบ้านก็มีให้เลือกหลายแบบ และมีความเข้มที่ต่างกันอย่างเช่น 40 60 80 ทำให้สามารถเลือกใช้งานความทึบได้ตามความต้องการ รวมถึงฟิล์มติดกระจกมีลวดลายสวยงามให้เลือกหลากหลายแบบสามารถใช้ลดความร้อนและแต่งบ้านได้เช่นกัน

    หากพูดถึงการติดฟิล์มกระจกบ้านแล้วสามารถติดได้ด้วยตัวเองหรือจ้างช่างมืออาชีพมาติดฟิล์มกระจกได้ที่บ้านซึ่งทั้ง 2 แบบก็มีข้อแตกต่างกันออกไป ซึ่งสามารถหาคำตอบได้ในบทความนี้รวมถึงเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับวิธีติดฟิล์มกระจกบ้านรวมไว้ให้คุณแล้ว

    การติดฟิล์มกระจกบ้าน ช่วยแก้ปัญหาอะไร

    สำหรับบ้านหรืออาคารไหนที่กำลังประสบปัญหาต่อไป สามารถแก้ปัญหาได้โดยการติดฟิล์มกระจกบ้านหรือติดฟิล์มอาคารโดยเลือกความเข้มของฟิล์มได้แก่ 40 60 80 เป็นต้น แล้วปัญหาที่ควรแก้ไขด้วยการใช้ฟิล์มติดกระจกมีอะไรบ้างดังต่อไปนี้

    • ปัญหาบ้านร้อน ภายในบ้านหรืออาคารสำนักงานที่มีหน้าต่างรับแสงแดดตลอดทั้งวัน ส่งผลให้ภายในบ้านอากาศร้อน ปัญหานี้สามารถแก้ได้ด้วยการฟิล์มกรองแสงอาคารเพื่อป้องกันรังสีอินฟราเรดสาเหตุของการทำให้ภายในบ้านร้อน เมื่อรังสีความร้อนจากดวงอาทิตย์ส่องเข้ามาภายในได้น้อยลงจะช่วยลดความร้อนภายในบ้านได้มากเลยทีเดียว
    • ปัญหากระจกบ้านมีรอยขีดข่วน แน่นอนว่ากระจกบ้านหรือกระจกสำนักงานเป็นกระจกประเภทใสที่สามารถมองเห็นรอยขีดข่วน ได้อย่างชัดเจนซึ่งหากทำการติดฟิล์มกระจกบ้าน การเคลือบสารกันรอยขีดข่วนก็เป็นการป้องกันการเกิดรอยบนกระจกได้
    • ปัญหาอุบัติเหตุจากกระจกแตก กระจกถือได้ว่าแตกได้ง่ายมากหากมีวัตถุไปกระทบหรือกระจกเครียดที่สามารถแตกเองได้ ซึ่งการติดฟิล์มกระจกบ้านช่วยลดอุบัติเหตุจากเศษกระจกแตกได้ เนื่องจากในฟิล์มกระจกมีส่วนที่เป็นกาว หากกระจกแตกตัวฟิล์มกาวจะเกาะยึดกระจกที่แตกไว้ไม่ให้กระจาย
    • ปัญหากระจกบ้านใสไม่เป็นส่วนตัว สำหรับบ้านหรือตัวอาคารที่มีกระจกใสรอบบ้านแต่ต้องการความเป็นส่วนตัวและต้องการเปิดรับแสงจากภายนอก สามารถติดฟิล์มกระจกบ้านที่มีความเข้มสูงช่วยให้ไม่สามารถมองเห็นภายในบ้านได้ แต่ภายในบ้านสามารถมองไปข้างนอกได้
    • ปัญหาห้องมืดต้องการติดฟิล์มป้องกันรังสี UV ปัญหาภายในบ้านมืดสามารถแก้ปัญหาได้โดยการติดผ้าม่าน แต่การติดผ้าม่านนั้นไม่สามารถป้องกันรังสี UV ได้ ในที่นี้แก้ปัญหาได้ด้วยการติดฟิล์มกระจกบ้านช่วยป้องกันรังสียูวีได้ถึง 99%
    ข้อดีของการติดฟิล์มกระจกบ้าน

    วิธีติดฟิล์มบ้านหรือฟิล์มกรองแสงอาคารช่วยแก้ปัญหาได้หลายอย่างเลยทีเดียวและทราบหรือไม่ว่ายังมีข้อดีในการช่วยประหยัดไฟบ้าน ที่เกิดได้จากการติดฟิล์มกระจกบ้านช่วยลดความร้อนภายในบ้าน ส่งผลให้ลดการทำงานของเครื่องปรับอากาศทำให้ประหยัดไฟนั่นเอง รวมถึงการติดฟิล์มบ้านช่วยป้องกันรังสีอินฟราเรดไม่ให้ส่องถึงภายในบ้านเป็นข้อดีในการช่วยปกป้องเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านได้อีกด้วย

    ข้อควรระวังก่อนติดฟิล์มกระจกบ้าน

    ก่อนจะลงมือติดฟิล์มกระจกบ้านต้องทราบถึงข้อควรระวังที่หากติดพลาด ทำให้ต้องเสียทั้งเงินเสียทั้งเวลาเลยก็ว่าได้ ซึ่งก่อนติดฟิล์มกระจกบ้านควรทราบถึงประเภทของฟิล์มติดกระจกที่มี 4 ประเภทได้แก่ ฟิล์มติดกระจกแบบใส แบบดำ ฟิล์มเซรามิก ฟิล์มปรอท และมีความเข้มที่แตกต่างกันควรเลือกให้เหมาะกับการใช้งาน ดังนั้นหากคุณไม่ทราบเกี่ยวกับเรื่องประเภทของฟิล์มอาจทำให้ติดผิดจนต้องทิ้งทั้งหมด

    วิธีติดฟิล์มกระจกบ้านต้องทำอย่างไร

    วิธีติดฟิล์มกระจกบ้าน หรือฟิล์มกรองแสงอาคารอย่างมืออาชีพให้เรียบเนียนไม่เกิดฟองอากาศ มีเทคนิคที่ต้องเตรียมอุปกรณ์และขั้นตอนในการติดฟิล์มกระจกดังต่อไปนี้

    รับติดฟิล์มอาคาร

    1. เตรียมอุปกรณ์ติดฟิล์มกระจกบ้าน

    หากคุณไม่ต้องการใช้บริการรับติดฟิล์มบ้านแต่ต้องการติดฟิล์มด้วยตัวเอง จำเป็นต้องเตรียมอุปกรณ์ในการติดกระจกบ้านได้แก่มีดคัตเตอร์ ฟิล์มกรองแสง เกรียงรีด น้ำยาติดฟิล์ม ยางรีดน้ำ เป็นต้น เมื่อเตรียมอุปกรณ์ครบแล้วให้ทำความสะอาดบริเวณที่ต้องการติดฟิล์มกระจก

    2. ลงมือติดฟิล์มกระจกบ้านให้เรียบเนียน

    นำน้ำยาติดฟิล์มฉีดบนกระจกที่ทำความสะอาดเรียบร้อยแล้วและทำการติดฟิล์มทับลงไป และปรับตำแหน่งตามต้องการ ต่อมาใช้เกรียงรีดไล่ฟองอากาศออกจากฟิล์มให้หมด แล้วใช้คัตเตอร์ตัดฟิล์มส่วนเกินออกจากกระจกอย่างระมัดระวัง หากมีฟองอากาศเล็ก ๆ ไม่ต้องกังวล ฟองอากาศจะค่อย ๆ หายไปเอง

    3. วิธีดูแลหลังติดฟิล์มกระจกบ้าน

    หลังจากติดฟิล์มกระจกบ้านเรียบร้อยแล้วห้ามใช้น้ำน้ำยาเช็ดกระจกที่มีส่วนผสมของแอมโมเนียในการทำความสะอาดกระจก ควรงดเช็ดความสะอาดกระจกหลังติดตั้งประมาณหนึ่งอาทิตย์ แต่หากมีสิ่งสกปรกสามารถใช้ผ้าที่ไม่หยาบเช็ดทำความสะอาดกระจกได้

    ติดฟิล์มกระจกบ้านเอง VS จ้างช่างมืออาชีพ

    ในการติดตั้งฟิล์มกระจกบ้านสามารถทำได้ด้วยตัวเองและจ้างช่างมืออาชีพแต่ทั้ง 2 วิธีก็มีความแตกต่างกันคือ การติดฟิล์มกระจกบ้านเองช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายแต่มีข้อเสียคืออาจเกิดปัญหาตามจากการติดฟิล์มกระจกได้ แต่หากจ้างช่างมืออาชีพที่มีประสบการณ์ในการติดตั้งฟิล์มกระจกบ้านสร้างความสะดวกรวดเร็วได้งานติดกระจกอย่างมืออาชีพ ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับปัญหาที่จะตามมาภายหลัง รวมถึงบริษัทรับติดฟิล์มอาคารมีฟิล์มให้เลือกหลากหลายแบบ พร้อมให้คำแนะนำโดยช่างที่มีประสบการณ์และงบในการติดตั้งไม่บานปลายอีกด้วย

    ติดฟิล์มกระจกบ้านดีกว่าติดม่านอย่างไร

    การติดฟิล์มกระจกบ้านช่วยป้องกันรังสี UV และรังสีอินฟราเรดต้นเหตุที่ทำให้บ้านร้อนและทำร้ายผิวรวมถึงเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านด้วย ทำให้การติดฟิล์มกระจกบ้านช่วยป้องกันรังสีได้มากกว่าและมีข้อดีในการลดแสงจ้าเข้ามาภายในบ้าน แต่หากติดม่านทึบไม่สามารถช่วยลดให้บ้านเย็นและแสงแดดยังทำให้ผ้าม่านเสื่อมสภาพเร็วขึ้นอีกด้วย สุดท้ายนี้หากต้องการใช้บริการ รับติดฟิล์มบ้านควรเลือกช่างที่มีประสบการณ์ติดตั้งอย่างยาวนานและมีฟิล์มกระจกบ้างให้เลือกหลายรูปแบบ


    73
    ท่อ HDPE ประปา

    น้ำประปาถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ขาดไม่ได้ ดังนั้น ระบบการขนส่งน้ำประปาจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะการเลือกใช้ท่อ HDPE ประปา ซึ่งเป็นท่อพลาสติกที่มีความแข็งแรง ทนทานต่อทุกสภาพแวดล้อม มีความยืดหยุ่นสูง น้ำหนักเบา ขนย้ายง่าย จึงทำให้ท่อน้ำ PE ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก

    ท่อ HDPE ประปา คือ อะไร?

    ท่อน้ำ PE

    ท่อประปา HDPE ย่อมาจาก High-Density Polyethylene Pipe ซึ่งเป็นท่อที่ผลิตจากวัสดุพลาสติกชนิดหนึ่งที่เรียกว่าโพลีเอทิลีน (Polyethylene) มีคุณสมบัติโดดเด่นหลายประการ ทั้งมีความหนาแน่นสูง (High-Density) จึงได้ชื่อเรียกว่า ท่อ HDPE ประปา แล้วด้วยความหนาแน่นสูงนี้ ส่งผลให้ท่อมีความแข็งแรงและทนทานต่อปัจจัยภายนอกต่าง ๆ นอกจากนี้ ยังมีความยืดหยุ่นดี ใช้งานได้ในทุกสภาพแวดล้อม ทนทานต่อสิ่งต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสารเคมี แสงแดด น้ำทะเล การกัดกร่อนของดินและเชื้อโรคในดิน

    ท่อนี้นิยมนำมาใช้ในระบบท่อประปา จึงเรียกว่า ท่อ PE ประปา หรือท่อ HDPE ประปา เพราะนอกเหนือจากคุณสมบัติเด่น ๆ ดังกล่าวแล้ว ท่อประปา PE ยังมีน้ำหนักเบา ทำให้ขนส่งสะดวก ติดตั้งได้ง่าย ทนทานต่อการกัดกร่อนของสารเคมีต่าง ๆ ถูกทำลายหรือแตกหักได้ยาก มีอายุการใช้งานยาวนาน หากมีการต่อท่อ HDPE ดี จะสามารถกันน้ำได้เป็นอย่างดี ขนส่งน้ำประปาได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้น ท่อ HDPE ประปาจึงได้รับความนิยมในการก่อสร้างระบบประปาใหม่หรือใช้ซ่อมแซมในระบบปัจจุบัน

    คุณสมบัติของท่อ HDPE ประปา มีอะไรบ้าง?

    การต่อท่อ HDPE

    อย่างที่ทราบดีว่า ท่อ HDPE ประปามีลักษณะเป็นท่อน้ำสีดำ แล้วมีคุณสมบัติโดดเด่นหลายประการ โดยสามารถอธิบายรายละเอียดได้ ดังนี้

    ความแข็งแรงและทนทาน

    ท่อ HDPE ประปามีคุณสมบัติเรื่องความแข็งแรงและทนทานทางกายภาพสูง โดยสามารถแบ่งออกเป็น 2 ด้าน คือ

    • ความทนทานต่อแรงดัน ด้วยท่อประปา HDPE สามารถทนทานต่อแรงดันน้ำได้เป็นอย่างดี จึงเหมาะสำหรับใช้เป็นท่อน้ำ PE รับส่งน้ำผ่านท่อไปยังสถานที่ต่าง ๆ
    • ความทนทานต่อแรงกระแทก เมื่อท่อ HDPE ประปาสามารถทนต่อแรงกระแทกได้ดี ทำให้ท่อสามารถรับแรงกระแทกที่เกิดขึ้นจากปัจจัยต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นระหว่างขนส่งท่อประปา PE ไปติดตั้ง หรือระหว่างส่งน้ำประปา หรือมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น หรือเกิดจากแรงกระแทกในการใช้งานก็ตาม
    ดังนั้น คุณสมบัติแรกของท่อ HDPE ประปา คือ ความแข็งแรงและทนทานทางกายภาพ ซึ่งสามารถรับแรงดันและแรงกระแทกจากภายในและภายนอกได้เป็นอย่างดี มีความหนาแน่นสูง  ยืดหยุ่นได้เป็นอย่างดี ทำให้รับแรงกระแทกได้ โดยไม่เกิดการแตกหักเสียหาย

    ทนทานต่อสภาพแวดล้อม

    อีกคุณสมบัติของท่อ PE ประปา คือ ความทนทานต่อสภาพแวดล้อมต่าง ๆ เช่น

    • ทนทานต่อสารเคมี ด้วยท่อ HDPE ประปามีความทนทานต่อสารเคมี ไม่ปล่อยให้สารพิษหรือสารเคมีอันตรายรั่วซึมผ่านท่อเข้าไปทำปฏิกิริยากับน้ำประปาภายในท่อ ทำให้น้ำประปามีความปลอดภัย
    • ทนทานต่อแสงแดด เพราะบางครั้ง มีการต่อท่อ HDPE ในบริเวณกลางแจ้ง ดังนั้น ท่อน้ำ HDPE จึงต้องมีคุณสมบัติในการทนทานต่อการทำลายจากรังสีแสงแดด UV เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน ใช้งานได้ทุกพื้นที่
    • ทนทานต่อการกัดกร่อน เนื่องจากบางสถานที่ที่ใช้การต่อท่อ HDPE อาจจะมีสภาพแวดล้อมที่เป็นกรด หรือดินสามารถกัดกร่อนท่อได้ ดังนั้น ท่อ HDPE ประปาจึงควรทนทานต่อการกัดกร่อนของเชื้อโรคและดินต่าง ๆ
    คุณสมบัติการทนทานต่อสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสารเคมี แสงแดด หรือการกัดกร่อน สาเหตุเหล่านี้ ล้วนต่อผลต่อคุณภาพของน้ำประปาภายในท่อ PE ประปาทั้งสิ้น เพราะหากต้องการให้น้ำประปาสะอาด ปลอดภัยจนถึงมือผู้รับน้ำ ท่อ HDPE ประปาจึงควรเป็นกลาง ไม่ทำปฏิกิริยากับปัจจัยภายนอกใด ๆ ทั้งสิ้น เพื่อรักษาคุณสมบัติ ความสะอาด และความปลอดภัยของน้ำประปาไว้อย่างครบถ้วน

    การต่อท่อ HDPE ง่ายและรวดเร็ว

    ท่อ HDPE ประปาสามารถเชื่อมต่อได้ด้วยวิธีการง่าย ๆ สามารถติดตั้งได้อย่างรวดเร็ว มีมาตรฐาน ปลอดภัย ไม่มีรอยรั่วซึมหรือชำรุด เพราะหากมีการต่อท่อ HDPE ที่ดี ก็จะช่วยให้สามารถใช้งานท่อ PE ประปาได้อย่างยาวนานมากยิ่งขึ้น ลดปัญหาการซ่อมแซมในอนาคตได้

    ดังนั้น จะเห็นได้ว่า ท่อ HDPE ประปามีคุณสมบัติโดดเด่นอยู่ 3 ประการ คือ ความแข็งแรงทนทานทางกายภาพ สามารถรับแรงดันและแรงกระแทกได้ดี มีความยืดหยุ่นสูง ทนทานต่อสารเคมี แสงแดด และการกัดกร่อนจากดินได้ อีกทั้งยังเอื้อให้การต่อท่อ HDPE ติดตั้งได้ง่าย สะดวก โดยนอกจากนี้ ยังมีน้ำหนักเบา สามารถขนย้ายได้สะดวก ใช้งานได้นาน ปลอดภัยตลอดการขนส่งน้ำประปา เพราะสารเคมีหรือปัจจัยภายนอกต่าง ๆ ไม่สามารถรั่วซึมผ่านท่อ PE ประปาเข้ามาได้

    สรุป

    ท่อ HDPE ประปาเป็นท่อพลาสติกประเภทโพลีเอทิลีน มีคุณสมบัติแข็งแรง ทนทานต่อสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นแรงดันน้ำ แรงกระแทก แสงแดด สารเคมี หรือการกัดกร่อนของดิน มีความหนาแน่นสูง ยืดหยุ่นได้ดี น้ำหนักเบา อีกทั้งการต่อท่อ HDPE ก็สามารถติดตั้งได้ง่าย ทำให้ท่อน้ำ PE หรือท่อประปา PE ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก หลายโครงการหรืออุตสาหกรรมเลือกใช้ท่อ HDPE ประปาในการวางระบบประปาใหม่ รวมถึงใช้ในการซ่อมแซมระบบประปาเก่าอีกด้วย

    74
    ติดตั้งโซล่าเซลล์สำคัญอย่างไร ?

    ในปัจจุบันในยุคที่ค่าไฟมีแนวโน้มที่จะปรับตัวสูงขึ้น เชื่อได้ว่าหลาย ๆ คนกำลังมองหาวิธีที่จะช่วยลดค่าไฟกันอย่างแน่นอน ซึ่งหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายที่หลายคนน่าจะต้องเคยได้ยินอย่างแน่นอนนั้นก็คือ การติดตั้งโซล่าเซลล์สำหรับการใช้งานไฟฟ้าภายในบ้าน เป็นหนึ่งในวิธีที่มีผลลัพธ์ที่มีความคุ้มค่าในระยะยาวสำหรับผู้ที่ต้องการลดค่าใช้จ่ายค่าไฟได้เป็นอย่างดี โดยในวันนี้ในบทความนี้จะมาแนะนำการติดตั้งโซล่าเซลล์อย่างถูกวิธี เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน พร้อมประมาณราคาการติดตั้งโซล่าเซลล์ ราคาเริ่มต้นที่เท่าไหร่ ให้กับผู้ที่มีความสนใจทุกคนได้ทราบ

    แนะนำการติดตั้งโซล่าเซลล์ (Solar Cell)

    ติดตั้งโซล่าเซลล์ดีอย่างไร ?

    ก่อนที่จะเริ่มทำการติดตั้งโซล่าเซลล์ เบื้องต้นนั้นผู้ที่ต้องการติดโซล่าเซลล์ควรทำความรู้จักเบื้องต้นกับโซล่าเซลล์ก่อนว่าคืออะไร รู้จักกับข้อดีของโซล่าเซลล์มีนั้นข้อดีแบบไหน เพื่อที่จะได้เป็นตัวช่วยในการตัดสินใจก่อนที่จะเริ่มติดโซล่าเซลล์บ้านของตนเอง

    ติดตั้งโซล่าเซลล์ คืออะไร
    การติดตั้งโซล่าเซลล์ คือการติดชุดอุปกรณ์ต่าง ๆ ของระบบโซล่าเซลล์ไปยังจุดที่เจ้าของบ้านต้องการ โดยจะสามารถติดได้ทั้งบนหลังคาบ้าน หรือติดตั้งแผงโซล่าเซลล์บนดาดฟ้าของตัวบ้าน โดยจะขึ้นอยู่ว่าจุดไหนที่มีความเหมาะสมมากที่สุดที่จะโดนแสงแดดในตอนกลางวัน

    ข้อดีของการติดตั้งโซล่าเซลล์
    • การติดโซล่าเซลล์สามารถช่วยลดปัญหาโลกร้อนได้ เพราะเป็นพลังงานสะอาดไม่ก่อให้เกิดมลภาวะเป็นพิษต่อธรรมชาติ
    • เป็นเทคโนโลยีที่มีระบบความปลอดภัยที่สูงต่อผู้ที่พักอาศัยในบ้าน และระบบไฟฟ้า
    • การติดตั้งโซล่าเซลล์ช่วยลดค่าไฟฟ้าในแต่ละเดือนได้มากถึง 30-70 %
    • มีอายุในการใช้งานที่ยาวนานมากถึง 25 ปี มีการบำรุงรักษาระบบที่ไม่มาก
    • การติดตั้งโซล่าเซลล์เป็นการลงทุนในระยะยาว ใช้เวลาในการคืนทุนไม่นาน ถือเป็นระบบที่มีความคุ้มค่า
    • พลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานที่ไม่มีวันหมด เหมาะกับประเทศไทยเพราะเป็นประเทศเขตร้อน
    • ช่วยให้บ้านเย็นขึ้นได้ เนื่องจากการติดตั้งโซล่าเซลล์ส่วนมากจะติดตั้งบนหลังคาที่มีชื่อเรียกว่า โซล่ารูฟท็อป หรือหลังคาโซล่าเซลล์

    บริการติดตั้งโซล่าเซลล์ มีรูปแบบไหนบ้าง

    ติดตั้งโซล่าเซลล์มีบริการใดบ้าง ?

    เมื่อรู้จักกันแล้วว่าการติดตั้งโซล่าเซลล์คืออะไร ข้อดีของการติดโซล่าเซลล์มีข้อดีแบบไหน ในหัวข้อนี้ก็จะบอกถึงบริการติดตั้ง Solar Cell ว่ามีการให้บริการอย่างไรบ้างที่จะได้รับจากผู้ที่ให้บริการรับติดโซล่าเซลล์ใช้ในบ้าน โดยจะมีรายละเอียดการให้บริการทั้งหมดดังนี้

    ออกแบบและติดตั้งโซล่าเซลล์
    ทางผู้ให้บริการติดตั้งโซล่าเซลล์ จะให้คำแนะนำ และคำปรึกษาต่าง ๆ เพื่อช่วยวางแผนการติดตั้งว่าจะเป็นการติดตั้งในรูปแบบใด ติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ไว้ในจุดใน รวมถึงช่วยทำเอกสารการอนุญาตติดโซล่าเซลล์ให้กับทางภาครัฐให้เป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

    ตรวจสอบและทำความสะอาด แผงโซลาร์เซลล์
    นอกจากการให้บริการติดตั้งโซล่าเซลล์แล้ว ทางผู้ให้บริการส่วนใหญ่ยังมีบริการรับตรวจสอบความสมบูรณ์ของระบบโซล่าเซลล์ รับทำความสะอาดแผงโซล่าเซลล์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตกระแสไฟฟ้า สำหรับระบบโซล่าเซลล์ที่ติดตั้งมาเป็นระยะเวลานาน และเพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน

    ราคาติดตั้งโซล่าเซลล์
    การติดตั้งโซล่าเซลล์โดยปกติแล้วจะมีราคาติดตั้งโซล่าเซลล์เริ่มต้นที่ 165,000 - 390,000 บาท ซึ่งจะมีความแตกต่างกันขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละบ้านที่ไม่เท่ากัน ซึ่งถ้าต้องการรายละเอียดต่าง ๆ เพิ่มเติม ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากผู้ให้บริการติดตั้งโซล่าเซลล์จากทาง Q-Chang ได้เลย โดยจะมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้คำแนะนำ พร้อมให้คำปรึกษาเกี่ยวกับด้านการติดโซล่าเซลล์อย่างมืออาชีพ

    ขั้นตอนการติดตั้งโซล่าเซลล์

    การติดตั้งโซล่าเซลล์มีขั้นตอนอย่างไร ?

    ขั้นตอนการติดตั้งโซล่าเซลล์หากใช้บริการจากทางผู้ให้บริการติดตั้งมืออาชีพ จะมีขั้นตอนในการดำเนินงานต่าง ๆ ดังนี้

    1.ผู้ที่สนใจเข้ารับคำปรึกษาเพื่อบอกถึงระบบโซล่าเซลล์ที่ต้องการ รวมถึงงบประมาณกับทีมงาน
    2.ทางทีมงานรับติดตั้งโซล่าเซลล์จะนำรายละเอียดต่าง ๆ พร้อมเสนอราคาติดตั้งโซล่าเซลล์ตามงบประมาณของผู้ที่สนใจได้เลือกหลากหลายแพ็กเกจ
    3.เมื่อเลือกแพ็กเกจที่ตรงกับความต้องการได้แล้ว ทางทีมงานจะส่งใบเสนอราคา พร้อมกับต้องชำระราคาค่าติดตั้งโซล่าเซลล์ล่วงหน้า 40 % พร้อมนัดหมายในการสำรวจพื้นที่
    4.ทีมงานเข้าไปตรวจสอบพื้นที่การติดตั้งแผงโซล่าเซลล์
    5.ทางทีมงานจะเป็นผู้ทำเรื่องขอใบอนุญาตการติดโซล่าเซลล์กับหน่วยงานภาครัฐ
    6.ชำระค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เหลือ 60 %
    7.ทางทีมงานติดตั้งโซล่าเซลล์จะเริ่มดำเนินการติดตั้งตามแผนที่ได้วางเอาไว้ เมื่อติดตั้งเสร็จแล้วทางทีมงานจะส่งมอบงาน พร้อมอธิบายระบบโซล่าเซลล์ที่ติดตั้ง พร้อมสอนวิธีการใช้งาน การแก้ไขปัญหาต่าง ๆ อย่างละเอียด

    ติดตั้งโซล่าเซลล์คุ้มค่าขนาดไหน ?
    การติดตั้งโซล่าเซลล์ถือเป็นการลงทุนที่มีความคุ้มค่า สำหรับผู้ที่ต้องการลดค่าใช้จ่ายค่าไฟในระยะยาว โดยการติดโซล่าเซลล์ในปัจจุบันถือเป็นระบบที่มีความปลอดภัย มีความเสถียรสูง และมีความเหมาะสมกับสภาพอากาศของประเทศไทยอย่างมาก สุดท้ายนี้หากผู้ใดสนใจอยากติดตั้งโซล่าเซลล์ที่ต้องการการติดตั้งระบบที่มีความปลอดภัย ขอแนะนำให้ปรึกษากับผู้ให้บริการรับติดโซล่าเซลล์มืออาชีพโดยตรง

    75
    พิธีหมั้น

    ความรักเป็นเรื่องราวดี ๆ สำหรับคน 2 คน หากทั้งสองตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันแล้ว ก็จำเป็นต้องจัดงานพิธีหมั้น ซึ่งพิธีหมั้นในปัจจุบัน มีรายละเอียด รายการของพิธีหมั้น และขั้นตอนการจัดพิธีหมั้นค่อนข้างเยอะ จำเป็นต้องมีการวางแผนเตรียมการล่วงหน้า เพื่อให้สามารถจัดพิธีสวมแหวนหมั้นได้อย่างราบรื่น ไม่มีสะดุด โดยบทความนี้ จะช่วยอธิบายเกี่ยวกับพิธีหมั้นอย่างละเอียด เพื่อให้ว่าที่เจ้าบ่าวและเจ้าสาวเตรียมตัวได้อย่างเหมาะสม

    ความสำคัญของพิธีหมั้นในไทย

    ควมสำคัญของพิธีหมั้น

    พิธีหมั้นเป็นประเพณีไทยที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน มีความสำคัญต่อคู่รักและครอบครัวทั้งสองฝ่าย โดยพิธีหมั้นผูกข้อมือจะจัดขึ้นเพื่อประกาศให้โลกรับรู้ถึงความสัมพันธ์ของคู่รักอย่างเป็นทางการ เป็นการผูกพันระหว่างครอบครัวทั้งสองฝ่าย และเป็นการแสดงความตกลงที่จะแต่งงานกันในอนาคต

    ในอดีต ก่อนจัดพิธีแต่งงานจะให้จัดพิธีหมั้นไว้ก่อน โดยฝ่ายชายจะยกขบวนขันหมากมาสู่ขอฝ่ายหญิงที่บ้านฝ่ายหญิง มีการเจรจาสู่ขอระหว่างผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย และฝ่ายชายจะมอบสินสอดทองหมั้นให้กับฝ่ายหญิง ในปัจจุบัน พิธีหมั้นและพิธีแต่งงานมักจะจัดขึ้นในวันเดียวกันเพื่อความสะดวก อีกทั้งยังนิยมจัดงานหมั้นแบบเรียบง่าย

    รายการของสำคัญที่มักใช้ในพิธีหมั้น
    โดยในการจัดพิธีหมั้นจำเป็นเตรียมของพิธีหมั้นให้พร้อม ทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิง เพื่อให้งานพิธีหมั้นสามารถดำเนินไปได้อย่างราบรื่น ดังนั้น เจ้าของงานพิธีหมั้นจะต้องเตรียมของในแต่ละฝ่าย ดังนี้

    ฝ่ายชาย
    ของพิธีหมั้นสำหรับฝ่ายชาย จะต้องเตรียมในงานพิธีหมั้น ดังต่อไปนี้

    • ขันหมากงานหมั้น ประกอบด้วยพานขันหมาก 9 พาน ซึ่งประกอบด้วย
    1.พานขันหมากเอก (พานขันหมากใหญ่) ประกอบด้วย สิ่งของที่จำเป็นต่อการดำเนินชีวิต เช่น ข้าวสาร เกลือ น้ำตาล น้ำอบ เป็นต้น
    2.พานขันหมากโท (พานขันหมากรอง) ประกอบด้วย สิ่งของที่เป็นสัญลักษณ์แห่งความสุข เช่น ทองคำ เงิน ไข่ไก่ เป็นต้น
    3.พานขันหมากบ่าวขันหมาก (พานขันหมากเล็ก) ประกอบด้วย สิ่งของที่เป็นสัญลักษณ์แห่งความรัก เช่น ดอกไม้ ธูปเทียน เป็นต้น

    • สินสอดทองหมั้น ประกอบด้วย เงินสด ทองคำ เครื่องประดับ เป็นต้น
    • แหวนหมั้น มอบให้กับฝ่ายหญิงเป็นสัญลักษณ์ของการจับจอง
    • ชุดไทยหรือชุดสูท สวมใส่ในพิธีหมั้น

    ฝ่ายหญิง
    ส่วนของพิธีหมั้นสำหรับฝ่ายหญิง มีดังนี้

    • ชุดไทย สวมใส่ในพิธีหมั้น
    • เครื่องประดับ เช่น สร้อยคอ ต่างหู แหวน เป็นต้น
    • สินสอดทองหมั้น ประกอบด้วย เงินสด ทองคำ เครื่องประดับ เป็นต้น
    • แหวนหมั้น มอบให้กับฝ่ายชายเป็นสัญลักษณ์ของการจับจอง

    นอกจากนี้ ยังมีของพิธีหมั้นอื่น ๆ ที่อาจใช้ในพิธีหมั้น เช่น

    • ขันหมากเอกฝ่ายหญิง ประกอบด้วย สิ่งของที่จำเป็นต่อการดำเนินชีวิต เช่น ข้าวสาร เกลือ น้ำตาล น้ำอบ เป็นต้น
    • ขันหมากโทฝ่ายหญิง ประกอบด้วย สิ่งของที่เป็นสัญลักษณ์แห่งความสุข เช่น ทองคำ เงิน ไข่ไก่ เป็นต้น
    • ขันหมากบ่าวขันหมากฝ่ายหญิง ประกอบด้วย สิ่งของที่เป็นสัญลักษณ์แห่งความรัก เช่น ดอกไม้ ธูปเทียน เป็นต้น
    • เครื่องแต่งกายของผู้ใหญ่ สวมใส่ในพิธีหมั้นเล็ก ๆ
    • ของขวัญในพิธีหมั้นแบบง่าย ๆ จากญาติผู้ใหญ่และแขกที่มาร่วมงาน

    ลำดับขั้นตอนของพิธีหมั้น

    ขั้นตอนของพิธีหมั้น

    สำหรับผู้ที่ต้องการจัดพิธีหมั้นเพียงอย่างเดียว นอกจากรายการของพิธีหมั้นที่จะต้องจัดเตรียมแล้ว ยังต้องเข้าใจแต่ละขั้นตอนของพิธีก่อน แม้ว่าจะเป็นการจัดงานหมั้นแบบเรียบง่าย หรือเป็นการจัดพิธีหมั้นแบบอีสาน โดยทั่วไป ก็จะมีขั้นตอน ดังนี้

    1.พิธีสงฆ์ ซึ่งคู่บ่าวสาวจะร่วมกันจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย กล่าวอาราธนาศีล 5 รับศีล 5 สวดมนต์ และตักบาตร จากนั้นจะเป็นการถวายดอกไม้ธูปเทียน และเครื่องปัจจัยไทยธรรม พร้อมทั้งรับน้ำมนต์จากพระสงฆ์ เพื่อเพิ่มความเป็นสิริมงคล
    2.พิธีสู่ขอ โดยเถ้าแก่ฝ่ายชายจะเจรจาสู่ขอฝ่ายหญิงกับพ่อแม่หรือญาติผู้ใหญ่ของฝ่ายหญิง โดยฝ่ายชายจะแจ้งว่าได้นำสินสอดทองหมั้นอะไร จำนวนเท่าไหร่มาบ้าง พ่อแม่หรือญาติผู้ใหญ่ของฝ่ายหญิงจะพิจารณาสินสอดทองหมั้นและตอบตกลงหรือปฏิเสธ
    3.พิธีมอบสินสอดทองหมั้น ฝ่ายชายจะมอบสินสอดทองหมั้นให้กับพ่อแม่หรือญาติผู้ใหญ่ของฝ่ายหญิง สินสอดทองหมั้นจะประกอบด้วยเงินสด ทองคำ เครื่องประดับ เป็นต้น
    4.พิธีสวมแหวนหมั้น ฝ่ายชายจะสวมแหวนหมั้นให้กับฝ่ายหญิง แหวนหมั้นเป็นสัญลักษณ์ของการจับจองและแสดงถึงความรักของคู่รัก
    5.พิธีรับไหว้ คู่บ่าวสาวจะรับไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย โดยฝ่ายชายจะกราบพ่อแม่และญาติผู้ใหญ่ของฝ่ายหญิง ส่วนฝ่ายหญิงจะกราบพ่อแม่และญาติผู้ใหญ่ของฝ่ายชาย
    6.พิธีเลี้ยงฉลอง คู่บ่าวสาวจะเลี้ยงฉลองให้กับแขกที่มาร่วมงาน เป็นการแสดงความยินดีกับคู่รักที่กำลังจะเริ่มต้นชีวิตคู่ใหม่

    โดยลำดับขั้นตอนของพิธีหมั้นอาจมีการปรับเปลี่ยนได้ตามประเพณีของแต่ละท้องถิ่นหรือของแต่ละครอบครัว หรืออาจจะมีการจัดพิธีหมั้นแบบฝรั่ง หรือปรับให้มีแต่งานหมั้นเช้าเพียงอย่างเดียว แต่ในปัจจุบัน พิธีหมั้นและพิธีแต่งงานนิยมจัดขึ้นในวันเดียวกัน เพื่อความสะดวก ปรับลำดับขั้นตอนของพิธีหมั้นให้ผนวกรวมกับพิธีแต่งงานบางส่วน เช่น พิธีสู่ขออาจมีการรวมเข้ากับขบวนแห่ขันหมาก เป็นต้น

    สรุปเกี่ยวกับพิธีหมั้น
    การจัดพิธีหมั้นเป็นประเพณีไทย ซึ่งประกาศให้ทุกคนรับรู้ถึงความสัมพันธ์ของคู่รักอย่างเป็นทางการ โดยมีรายละเอียด รายการของพิธีหมั้น ฤกษ์แต่งงานพิธีหมั้น และขั้นตอนการจัดพิธีหมั้นค่อนข้างเยอะ จึงจำเป็นต้องมีการวางแผนเตรียมการล่วงหน้า เพื่อให้เป็นการจัดพิธีหมั้นเล็ก ๆ แต่ก็ครบถ้วนสมบูรณ์ตามขั้นตอนประเพณีไทย

    76
    ดนตรีคลาสสิค

    ดนตรีเป็นสื่อความบันเทิงประเภทหนึ่งที่ช่วยให้ผู้ฟังเกิดความรู้สึกผ่อนคลาย ตลอดจนนำมาศึกษาหรือประกอบเป็นอาชีพ ซึ่งดนตรีก็มีหลายแนวหลายประเภท แต่ดนตรีคลาสสิคถือว่าเป็นแนวเพลงที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 จนได้รับการยอมรับให้เป็นดนตรีชั้นสูงประเภทหนึ่ง เพราะมีอิทธิพลส่งผลต่อศิลปะในวงกว้างไปทั่วโลก

    ดนตรีคลาสสิก คืออะไร
    ดนตรีคลาสสิก (Classical music) คือ แนวเพลงดนตรีที่เป็นศิลปะของประเทศทางฝั่งตะวันตก นิยมใช้เครื่องดนตรีชนิดเครื่องสาย เมื่อเล่นกันเป็นกลุ่มจะเรียกว่า วงออร์เคสตรา ซึ่งมีการเล่นดนตรีร่วมกันระหว่างเครื่องดนตรีประเภทต่าง ๆ เพิ่มขึ้น

    ดนตรีคลาสสิคเป็นแนวดนตรีที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในช่วงศตวรรษที่ 18 - 19 โดยคำว่า คลาสสิก หมายถึง รูปแบบดนตรีที่พัฒนามาจากโครงสร้างการประพันธ์ดนตรีในยุคคลาสสิก โดยดนตรีคลาสสิคมีลักษณะการใช้โน้ตที่ซับซ้อน ประกอบกับท่วงทำนองที่หลากหลาย ด้วยการใช้ดนตรีคาสิกประเภทต่าง ๆ เช่น ไวโอลิน, เชลโล, คลาริเนต และทรัมเป็ต

    ดนตรีคลาสสิกมีรากฐานในประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน มีการพัฒนาอย่างเป็นระบบมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 9 - 20 จึงถือได้ว่า แนวเพลง คลาสสิคเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ทางดนตรีที่ได้รับการยอมรับ ส่งผลต่อการสร้างสรรค์ทางวรรณกรรมและศิลปวัฒนธรรมทั่วโลก จะเห็นได้จากศิลปะในโบสถ์ พิพิธภัณฑ์ การแสดงคอนเสิร์ต ตลอดจนการศึกษาต่าง ๆ

    ประวัติของดนตรีคลาสสิค

    ดนตรีคลาสสิก

    ดนตรีคลาสสิกมีประวัติความเป็นมาอย่างยาวนาน นับตั้งแต่ศตวรรษที่ 9 - 20 จึงเกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยประวัติ ดนตรีคลาสสิคได้เริ่มต้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 9 โดยมีการใช้คอราล, ไนบล์ และออร์แกน เป็นเครื่องดนตรีหลัก

    จนดนตรีคลาสสิคได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในศตวรรษที่ 18 - 19 ซึ่งยังมีการแต่งเพลงแบบบาร็อกโก่อยู่ แต่มีความละมุน สดใสในแนวเพลงมากกว่า จนกระทั่งมีการพัฒนาถึงจุดสูงสุดทางด้านการประพันธ์เพลง โดยประพันธ์เพลงให้เครื่องดนตรี ยุคคลาสสิกอย่างออร์แกน เปียโน และไวโอลิน มากขึ้น

    ดนตรี ยุคคลาสสิกเป็นยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงทางดนตรีมากที่สุด เพราะมีการกำหนดกฎเกณฑ์ รูปแบบ และหลักการในการเล่นดนตรีอย่างชัดเจน ซึ่งศูนย์กลางของดนตรีคลาสสิกอยู่ที่กรุงเวียนนา และเมืองมานไฮม์ของประเทศออสเตรีย

    เครื่องดนตรีคลาสสิคประเภทต่าง ๆ

    เครื่องดนตรี ยุคคลาสสิก

    หลายคนอาจจะสงสัยว่า “เครื่องดนตรีคลาสสิค มีอะไรบ้าง” ด้วยดนตรีคลาสสิกมีการใช้เครื่องดนตรีหลากหลายประเภท เพื่อให้สร้างผลงานที่สมบูรณ์ ครบทุกโทนเสียง ดังนั้น เครื่องดนตรี ยุคคลาสสิกแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่

    1.เครื่องดนตรี ยุคคลาสสิกประเภทเครื่องสาย (String) เช่น
    • ไวโอลิน (Violin) เป็นเครื่องดนตรีสายที่มีลักษณะทรงยาวและบาง
    • เชลโล (Cello) เครื่องดนตรีสายที่มีลักษณะใกล้เคียงกับไวโอลิน แต่มีขนาดใหญ่กว่า และเล่นโดยวางไว้บนพื้น
    • ฮาร์พ (Harp) เครื่องดนตรีสายที่ทำให้เกิดเสียงต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับการกดแต่ละเส้น
    • เปียโน (Piano) เครื่องดนตรีสาย มีแป้น มีโน๊ตเสียงที่สามารถเปลี่ยนระดับความดังได้

    2.เครื่องดนตรี ยุคคลาสสิกประเภทเครื่องเป่าลมไม้ (Woodwind) เช่น
    • คลาริเนต (Clarinet) เป็นเครื่องดนตรีเป่าลมทำจากไม้หรือพลาสติก มีท่อในรูปทรงกรวยและใช้ฝาปิดที่จะปรับสูงต่ำของเสียง
    • ฟลูท (Flute) เครื่องดนตรีเป่าลมทำจากทองแดงหรือเหล็ก มีรูเดียว
    • โอโบ (Oboe) เครื่องดนตรีเป่าลมทำจากไม้ที่มีท่อแบน และมีลิ้นในช่อง ทำให้เสียงที่มีลักษณะเฉพาะ
    • ปิคโคโล (Piccolo) เครื่องดนตรีเป่าลมมีขนาดเล็กและเสียงสูง

    3.เครื่องดนตรี ยุคคลาสสิกประเภทเครื่องเป่าทองเหลือง (Brass) เช่น
    • ทรัมเป็ต (Trumpet) เป็นเครื่องดนตรีเป่าทำจากทองแดงหรือเหล็ก
    • เฟรนช์ฮอร์น (French Horn) เครื่องดนตรีเป่ามีรูปร่างโค้ง ใช้เล่นเพื่อเพิ่มความสมบูรณ์ของเสียงในวง
    • ทรอมโบน (Trombone) เป็นเครื่องเป่าที่มีท่อตรงยาว มีลิ้นที่ใช้เปลี่ยนเสียง
    • คอร์เนต (Cornet) เป็นเครื่องเป่าที่คล้ายกับทรัมเป็ตแต่มีลักษณะท่อที่มีรูปทรงกรวยแตกต่างกัน
    • ทูบา (Tuba) เป็นเครื่องเป่าที่มีท่อขนาดใหญ่ ให้โทนเสียงเป็นเอกลักษณ์ หนักหน่วง

    4.เครื่องดนตรี ยุคคลาสสิกประเภทเครื่องกระทบ (Percussion) เช่น
    • กลองทิมปานี (Timpani) กลองที่มีขนาดใหญ่เป็นทรงโค้งสามารถปรับเสียงสูง-ต่ำ ทำให้ได้เสียงที่แตกต่างกัน
    • ฉาบ (Xylophone) เป็นเครื่องดนตรีที่ทำให้เกิดเสียงโดยการกระทบกัน
    • กลองใหญ่ (Drum Kit) ประกอบด้วยกลองต่าง ๆ รวมอยู่ในชุดเดียว
    • ไทรแองเกิล (Triangle) เป็นเครื่องดนตรีที่ทำจากเหล็กทรงสามเหลี่ยม มีด้ามใช้ตี
    • ไวบราโฟน (Vibraphone) เป็นเครื่องดนตรีที่มีแถบไม้ที่เรียงต่อกัน มีแผ่นโลหะใต้แถบไม้ ทำให้เกิดเสียง   

    ประเภทแนวเพลงคลาสสิค
    ด้วยประวัติ ดนตรีคลาสสิคมีมาอย่างยาวนาน ทำให้ดนตรีคลาสสิกแบ่งออกเป็นหลากหลายแนวเพลง ซึ่งสามารถสรุปแนวเพลง คลาสสิคได้ 4 ประเภท คือ

    1. ซิมโฟนี (Symphony)
    แนวเพลง คลาสสิคแรก คือ ซิมโฟนี เป็นการประพันธ์ที่มีโครงสร้าง 4 ท่อน (movements) ซึ่งแต่ละท่อนมีลักษณะแตกต่างกัน โดยจะมีความเร็วในแต่ละท่อนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ประกอบกับมีเนื้อหาซ่อนอยู่ภายใต้เสียงเพลง วงดนตรี คลาสสิคอย่างเช่นวงออร์เคสตรา

    2. โอเวอร์เจอร์ (Overture)
    แนวเพลง คลาสสิคอย่างโอเวอร์เจอร์ (Overture) นิยมเป็นการเล่นโหมโรงในคอนเสิร์ต หรือโอเปร่า หรือละครเพลง ก่อนจะเข้าสู่การแสดงหลัก นิยมใช้เนื้อเพลงหรือแนวเพลงที่เป็นที่รู้จัก

    3. คอนแชร์โต (Concerto)
    ดนตรีคลาสสิกแบบคอนแชร์โต นิยมมี 3 ท่อน คือ เร็ว-ช้า-เร็ว เป็นการเล่นประชันกัน ระหว่างเครื่องดนตรีหรือวงดนตรี คลาสสิคอย่างเช่นวงออร์เคสตรา เพื่อประชันเสียงและลีลาดนตรี

    4. โซนาตโต (Sonata)
    ดนตรีคลาสสิคโซนาตโต (Sonata) เป็นการประพันธ์เพลงสำหรับนักดนตรีเดี่ยว กล่าวคือ สำหรับการเล่นเครื่องดนตรีประเภทเดียว โดยไม่ต้องมีเครื่องดนตรีอื่นประกอบ อย่างเช่นเปียโน แต่ถ้าหากเล่นดนตรีประเภทอื่นชิ้นเดียว ก็อาจจะมีเปียโนประกอบด้วย

    สรุป
    ดนตรีคลาสสิกเป็นแนวเพลงที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในศตวรรษที่ 18 - 19 มีประวัติ ดนตรีคลาสสิคมาอย่างยาวนาน ทำให้ได้รับความยอมรับจากหลาย ๆ วงการ รวมถึงส่งผลต่อศิลปะทั่วโลก ดั่งปรากฏในโบสถ์หรือพิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ


    77
    เครื่องวัดฝุ่น

    จากสถานการณ์ของประเทศไทยในปัจจุบันที่หลายพื้นต่างมีปัญหาทางสภาพอากาศ โดยเฉพาะในเรื่องของฝุ่นในอากาศ ไม่ว่าจะเป็นฝุ่น PM 2.5 หรือจะเป็นฝุ่นมลพิษจากการเผาไหม้ต่าง ๆ ก็ตาม ทำให้เครื่องวัดฝุ่นกลายมาเป็นอุปกรณ์ที่มีความจำเป็นในการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่

    โดยในบทความนี้จะมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับเครื่องวัดฝุ่นกันว่า เครื่องวัดฝุ่นคืออะไร? ข้อจำกัดเครื่องตรวจวัดฝุ่นมีอะไรบ้าง พร้อมแนะนำประเภทของเครื่องวัดฝุ่นละอองในอากาศ

    เครื่องวัดฝุ่น (Dust Monitors) คืออะไร? มีกี่แบบ?

    เครื่องวัดฝุ่น หรือ Dust Monitors คือ อุปกรณ์ในการตรวจวัดปริมาณฝุ่นละอองในอากาศ โดยใช้วิธีการทางไฟฟ้าในการตรวจวัดฝุ่นละอองในอากาศที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางเล็กกว่า 2.5 ไมครอน และ 10 ไมครอน โดยเครื่องวัดปริมาณฝุ่นจะมีแยกประเภทชัดเจนว่าเป็นเครื่องวัดฝุ่น PM 2.5 หรือเครื่องวัดฝุ่น PM 10 ดังนั้นก่อนการเลือกซื้อเครื่องวัดฝุ่นจะต้องทราบก่อนว่าจะนำไปใช้กับฝุ่นละอองหรืองานแบบไหน เพื่อจะได้เลือกใช้เครื่องมือได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพ

    เครื่องวัดฝุ่นมีความสำคัญอย่างไร? มีประโยชน์อย่างไรบ้าง

    หลังจากที่ได้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับเครื่องวัดฝุ่นกันไปแล้ว ถัดมาเราจะมาดูกันว่าเครื่องมือวัดฝุ่นมีประโยชน์และสามารถช่วยแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง

    • ช่วยตรวจสอบคุณภาพอากาศภายในอาคาร (IAQ) ในห้องสะอาด (Clean Room) หรือในสถานที่ปิด
    • ใช้ในการตรวจวัดค่ามลพิษทางอากาศจากของเสียที่เกิดขึ้นจากโรงงานก่อนมีการบำบัดและปล่อยสู่ธรรมชาติ
    • ใช้ตรวจวัดเพื่อควบคุมความเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจได้
    • ใช้ในการติดตามสถานการณ์ของฝุ่นละอองในพื้นที่ต่าง ๆ ได้เช่น การตรวจค่าฝุ่น PM 2.5 ในแต่ละวันเป็นต้น
    • การใช้งานในหน่วยงานต่าง ๆ ที่มีหน้าที่แก้ไข ดูแล และควบคุม ปริมาณมลพิษทางอากาศในพื้นที่

    เครื่องวัดฝุ่นมีข้อจำกัดอย่างไร?

    • ความแม่นยำ เครื่องวัดฝุ่นจะมีความแม่นยำที่แตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับประเภทและคุณภาพของตัววัดค่าฝุ่น โดยทั่วไปแล้วเครื่องวัดฝุ่นแบบพกพามีความแม่นยำน้อยกว่าเครื่องวัดฝุ่นแบบตั้งโต๊ะ
    • ช่วงการวัด เครื่องวัดฝุ่นแต่ละเครื่องมีช่วงการวัดที่แตกต่างกัน โดยทั่วไปแล้วเครื่องวัดฝุ่นแบบพกพาสามารถวัดปริมาณฝุ่นละอองได้ตั้งแต่ระดับต่ำถึงระดับปานกลางเท่านั้น
    • ความไวต่อความชื้น เครื่องวัดฝุ่นบางรุ่นมีความไวต่อความชื้น ซึ่งสามารถส่งผลให้เกิดความคลาดเคลื่อนจากการวัดค่าได้
    • ความไวต่ออุณหภูมิ เครื่องวัดฝุ่นบางรุ่นมีความไวต่ออุณหภูมิ ส่งผลให้ค่าที่วัดได้อาจมีความคลาดเคลื่อน
    • ความไวต่อปัจจัยแวดล้อมอื่น ๆ เครื่องวัดฝุ่นบางรุ่นมีความไวต่อปัจจัยแวดล้อมอื่น ๆ ที่อาจส่งผลให้ค่าที่วัดได้มีความคลาดเคลื่อนเช่น ลม ฝน แสงแดด เป็นต้น

    ประเภทของเครื่องวัดฝุ่นมีอะไรบ้าง?

    ประเภทของเครื่องวัดฝุ่นจะถูกแบ่งประเภทออกตามลักษณะการใช้งาน โดยเครื่องมือวัดคุณภาพอากาศจะสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ ๆ ดังนี้

    • เครื่องวัดฝุ่นสำหรับใช้งานในบ้าน

    ประเภทของเครื่องวัดฝุ่น

    เครื่องวัดฝุ่นในห้องหรือตามจุดต่าง ๆ ภายในตัวบ้าน จะมีฟังก์ชันการทำงานที่สามารถเชื่อมการทำงานกับแอปพลิเคชันได้ โดยจะมีความแม่นยำและราคาที่ค่อนข้างสูงกว่าเครื่องวัดฝุ่นแบบพกพา

    • เครื่องวัดฝุ่นสำหรับใช้งานในโรงงาน

    เครื่องวัดฝุ่นสำหรับโรงงาน

    เครื่องวัดฝุ่นในโรงงานจะมีความแม่นยำในการวัดฝุ่นละอองสูงมาก แต่จะมีราคาที่ค่อนข้างสูงตามเช่นกัน มักใช้ในการวิจัย ควบคุม หรือตรวจวัดคุณภาพอากาศให้เป็นไปตามข้อกำหนด เพื่อความปลอดภัยและป้องกันการเกิดอันตรายต่อสุขภาพ

    • เครื่องวัดฝุ่นแบบพกพา

    เครื่องวัดฝุ่นแบบพกพา

    เครื่องวัดฝุ่นแบบพกพาหรือเครื่องวัดฝุ่น PM 2.5 มีจุดเด่นคือมีขนาดเล็กพกพาสะดวก และเป็นที่นิยมอย่างมากในช่วงที่มีปริมาณฝุ่น PM 2.5 หนาแน่นในตรวจวัดฝุ่นละอองในอากาศเพื่อใช้ประเมินความเป็นอันตรายต่อสุขภาพในการใช้ชีวิตประจำวัน

    คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเครื่องวัดฝุ่น

    AQI คืออะไร เครื่องวัดฝุ่นช่วยได้อย่างไร?

    AQI (Air Quality Index) คือ ดัชนีคุณภาพอากาศที่จะแสดงระดับของคุณภาพอากาศที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยจะใช้งานร่วมกับเครื่องวัดฝุ่นในการวัดค่าฝุ่นละอองในอากาศและนำมาเปรียบเทียบกับค่า AQI

    เครื่องวัดฝุ่นช่วยเรื่อง PM2.5 หรือไม่?

    เนื่องจากเครื่องวัดฝุ่นเป็นเพียงอุปกรณ์ในการตรวจวัดค่าฝุ่นละอองในอากาศ จึงไม่สามารถแก้ไขปัญหาเรื่อง PM 2.5 ได้โดยตรง แต่สามารถช่วยให้เราทราบว่าพื้นที่บริเวณไหนที่มีปัญหาเรื่อง PM 2.5 และสามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด

    สรุปเกี่ยวกับเครื่องวัดฝุ่น

    การเลือกใช้งานเครื่องวัดฝุ่นละอองในอากาศควรเลือกใช้เครื่องวัดฝุ่นให้เหมาะสมกับสถานการณ์และสถานที่ที่ทำการตรวจวัด เพื่อให้การวัดคุณภาพมีความแม่นยำและมีประสิทธิภาพมากที่สุด หากเป็นการเลือกใช้งานเครื่องวัดฝุ่นสำหรับการวัด PM 2.5 ก็ควรเลือกเครื่องวัดฝุ่นที่ใช้งานสำหรับการวัดฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอนโดยเฉพาะ ซึ่งสำหรับการใช้งานโดยทั่วไปแล้วการเลือกใช้งานเครื่องวัดฝุ่นแบบพกพาในการตรวจวัดค่า PM 2.5 ก็เพียงพอต่อการทราบระดับความอันตรายของสภาพอากาศในพื้นที่ที่มีผลกระทบต่อสุขภาพแล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องวัดฝุ่นที่มีความแม่นยำสูงที่ใช้ในระดับโรงงานหรือห้องวิจัยในการตรวจวัดคุณภาพอากาศ

    78
    เครื่องวัดความชื้น

    ในปัจจุบันเครื่องวัดความชื้นนั้นสำคัญต่อการทำธุรกิจที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรม, ห้องปฏิบัติการ, ห้องเก็บข้อมูล, ห้องควบคุมสภาพแวดล้อม และห้องเก็บสินค้าและวัสดุ หรือที่อยู่อาศัย สิ่งที่สำคัญต่อเรื่องพวกนี้คือความชื้นหากมีความชื้นสูงเกินไปก็จะทำให้สินค้าและบริการเกิดความเสียหายได้ รวมถึงอาจทำให้แบคทีเรียและไวรัสเจริญเติบโตจนส่งผลต่อสุขภาพได้

    จากปัญหาที่กล่าวมา หากสามารถที่จะรู้ปริมาณความชื้นว่ามีเท่าใดก็จะสามารถหาวิธีป้องกันและแก้ปัญหาได้ จึงมีการคิดค้นเครื่องวัดความชื้นขึ้นมา เพื่อหาค่าความชื้นนั่นเอง ในบทความนี้จะให้ความรู้เกี่ยวกับเครื่องวัดความชื้นว่ามีความสำคัญอย่างไร มีความสำคัญอย่างไร มีประเภทอะไรบ้าง เป็นต้น

    Moisture Meter หรือเครื่องวัดความชื้นคืออะไร?
    Moisture meter หรือเครื่องวัดความชื้นคืออุปกรณ์ที่ใช้วัดระดับความชื้นในสิ่งของต่าง ๆ อาทิเช่น ไม้, ปูน, กระดาษ, หิน, หรือวัสดุอื่น ๆ ที่มีความสำคัญสำหรับควบคุมความชื้น เช่น ในงานก่อสร้าง, การผลิต หรือการบำรุงรักษา

    การวัดความชื้นเป็นสิ่งสำคัญเพราะมีผลต่อคุณภาพของวัสดุ และอาจมีผลกระทบต่อโครงสร้างหรือผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้น เช่น ความชื้นสูงมักทำให้ไม้ขยายหรือหดได้, สามารถทำให้เกิดการกัดเซาะ หรือการเกิดเชื้อรา เป็นต้น

    Moisture meter ทำงานโดยการใช้เซนเซอร์ที่ตรวจจับปริมาณน้ำในวัสดุ และแสดงผลลัพธ์ในรูปแบบของค่าเปอร์เซ็นต์ความชื้น. การใช้ moisture meter ช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับการบำรุงรักษาหรือการใช้งานวัสดุในทางที่เหมาะสมต่อความชื้นที่มีอยู่ในสภาพแวดล้อม

    เครื่องวัดความชื้นมีความสำคัญอย่างไร?
    เครื่องวัดความชื้นมีความสำคัญมากในหลายอุตสาหกรรม เช่น

    • อุตสาหกรรมก่อสร้าง โดยใช้เครื่องวัดความชื้นเพื่อตรวจสอบความชื้นของวัสดุก่อสร้าง เช่น คอนกรีต ไม้ อิฐ และวัสดุฉนวน ความชื้นในวัสดุก่อสร้างสามารถส่งผลต่อความแข็งแรง ความทนทาน และอายุการใช้งานของวัสดุ
    • อุตสาหกรรมไม้ โดยใช้เครื่องวัดความชื้นเพื่อตรวจสอบความชื้นของไม้เพื่อกำหนดคุณภาพของไม้ ไม้ที่มีความชื้นสูงจะเปราะและแตกหักได้ง่าย ไม้ที่มีความชื้นต่ำจะแห้งและเปราะบาง
    • อุตสาหกรรมอาหาร โดยใช้เครื่องวัดความชื้นเพื่อตรวจสอบความชื้นของอาหารเพื่อควบคุมคุณภาพของอาหาร อาหารที่มีความชื้นสูงจะเน่าเสียได้ง่าย อาหารที่มีความชื้นต่ำจะแข็งและแห้ง
    • อุตสาหกรรมยา โดยใช้เครื่องวัดความชื้นเพื่อตรวจสอบความชื้นของยาเพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วย ยาที่มีความชื้นสูงอาจเสื่อมสภาพหรือปนเปื้อนเชื้อโรคได้
    • อุตสาหกรรมเกษตร โดยใช้เครื่องวัดความชื้นเพื่อตรวจสอบความชื้นของดิน หากความชื้นของดินต่ำเกินไปอาจทำให้พืชเหี่ยวเฉาและตายได้ ความชื้นของดินสูงเกินไปอาจทำให้รากพืชเน่าและตายได้

    ประเภทของเครื่องวัดความชื้น

    ประเภทของเครื่องวัดความชื้น

    ประเภทของเครื่องวัดความชื้นสามารถแบ่งตามการใช้งานในด้านต่าง ๆ ได้ดังนี้

    เครื่องมือวัดความชื้นไม้

    การวัดความชื้นในไม้เป็นสิ่งสำคัญในหลายสถานการณ์ เช่น ในงานทำไม้ช่าง, การปรับปรุงบ้าน หรือการผลิตผลิตภัณฑ์ไม้ มี 2 ประเภทย่อย ๆ ได้แก่

    • Pin-type Moisture Meter for Wood (เครื่องวัดความชื้นประเภทมีขาสำหรับไม้) เป็นเครื่องวัดความชื้นที่มีขาหรือเสาที่แทรกเข้าไปในไม้ ซึ่งสามารถแทรกลงในไม้เพื่อวัดความชื้นในลำดับต่าง ๆ บางรุ่นยังมีความสามารถสำหรับวัดความหนาแน่นของไม้อีกด้วย
    • Pinless Moisture Meter for Wood (เครื่องวัดความชื้นประเภทไร้ขาสำหรับไม้) เป็นประเภทไม่ต้องใช้ขาหรือเสาที่ต้องแทรกเข้าไปในไม้ มักใช้การส่งสัญญาณไร้สายหรือคลื่นไมโครเวฟเพื่อวัดความชื้นในพื้นผิวของไม้ เหมาะสำหรับการวัดความชื้นในพื้นผิวไม้โดยไม่ทำลาย

    เครื่องตรวจความชื้นสำหรับอาหาร
    เครื่องมือวัดความชื้นอาหารเป็นอุปกรณ์ที่ใช้เพื่อวัดระดับความชื้นในอาหาร เพื่อประโยชน์สำหรับควบคุมคุณภาพ, ความปลอดภัย และความอร่อยของอาหาร
     
    เครื่องมือวัดค่าความชื้นในอากาศ
    เครื่องมือวัดค่าความชื้นในอากาศหรือ Hygrometer (ไฮกรอมิเตอร์) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้วัดและบอกปริมาณความชื้นในอากาศ เพื่อควบคุมสภาพแวดล้อม, การเจริญเติบโตของจุลินทรีย์, เพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องทำความร้อนหรือเครื่องปรับอากาศ และความปลอดภัยของวัสดุก่อสร้าง

    เครื่องมือวัดความชื้นสำหรับดิน
    เครื่องมือวัดความชื้นสำหรับดินเป็นอุปกรณ์ที่ใช้วัดระดับความชื้นในดิน เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับสภาพการเจริญเติบโตของพืช, การบำรุงรักษาดิน หรือการวิเคราะห์ดินสำหรับเตรียมการปลูกพืชหรือในงานที่เกี่ยวข้องกับดิน

    เครื่องวัดความชื้นผนังคอนกรีต
    เครื่องมือวัดความชื้นผนังคอนกรีต (Concrete Moisture Meter) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับวัดระดับความชื้นในผนังหรือพื้นที่ที่ติดตั้งวัสดุคอนกรีต การวัดความชื้นในคอนกรีตเป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันปัญหาที่เกิดจากความชื้น เช่น การสะสมของแร่เกลือที่สามารถทำให้เกิดความเสียหายต่อวัสดุหรือโครงสร้าง

    เลือกซื้อเครื่องวัดความชื้นยังไง?
    การเลือกซื้อเครื่องวัดความชื้นคือกระบวนการที่ค่อนข้างสำคัญเนื่องจากต้องการเครื่องมือที่มีความแม่นยำสำหรับวัดและเข้าใจความต้องการสำหรับใช้งาน ควรพิจารณาเรื่อง

    • ประเภทของวัสดุที่ต้องการวัด เพราะเครื่องวัดความชื้นมีหลายประเภท ขึ้นอยู่กับหลักการสำหรับวัดความชื้นของวัสดุ การเลือกประเภทของเครื่องวัดความชื้นที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับประเภทของวัสดุที่ต้องการวัด
    • ระดับความแม่นยำที่ต้องการ เพราะเครื่องวัดความชื้นมีความแม่นยำแตกต่างกันไป การเลือกระดับความแม่นยำที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับความสำคัญของการวัด
    • งบประมาณ เพราะเครื่องวัดความชื้นมีราคาแตกต่างกันไป การเลือกเครื่องวัดความชื้นที่มีราคาที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับงบประมาณที่มีอยู่
    • คุณสมบัติอื่น ๆ เช่น ความสามารถสำหรับวัดอุณหภูมิ ความสามารถสำหรับบันทึกข้อมูล และความสามารถสำหรับเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ การเลือกคุณสมบัติอื่น ๆ ที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับความต้องการใช้งาน

    เปรียบเทียบความชื้นประเภทต่าง ๆ
    ความชื้นมีหลายประเภทและมีการวัดและแสดงผลต่างกันตามลักษณะของสิ่งวัด หรือเซนเซอร์ที่ใช้ ซึ่งจะใช้เครื่องวัดความชื้นแตกต่างกัน เช่น

    • ความชื้นสัมพัทธ์ (Relative Humidity - RH): คือ ปริมาณความชื้นที่ปรากฏในอากาศเปรียบเทียบกับปริมาณความชื้นสูงสุดที่สามารถรับได้ในอุณหภูมิที่กำหนด มักแสดงเป็นเปอร์เซ็นต์
    • ความชื้นในดิน (Soil Moisture): วัดปริมาณน้ำที่อยู่ในดิน, สำคัญในการเกษตรและการบำรุงรักษาพืช
    • ความชื้นในอากาศ (Air Moisture): ปริมาณน้ำที่อยู่ในอากาศ มักวัดด้วยเครื่องวัดความชื้นอากาศหรือไฮกรอมิเตอร์
    • ความชื้นในวัสดุ (Material Moisture): วัดปริมาณน้ำในวัสดุเช่น ไม้, ฟิล์มพลาสติก หรือวัสดุก่อสร้าง
    • ความชื้นในอาหาร (Food Moisture): วัดความชื้นในอาหาร เพื่อควบคุมคุณภาพ และความปลอดภัย ๆ
    • ความชื้นในโครงสร้าง (Structural Moisture): วัดความชื้นในโครงสร้าง เช่น คอนกรีต, ไม้ หรือสิ่งก่อสร้างอื่น ๆ
    • ความชื้นในอากาศแบบละอองน้ำ (Vapor Moisture): คือน้ำแบบละอองน้ำในอากาศ

    สรุปเรื่องเครื่องวัดความชื้น
    เครื่องวัดความชื้นเป็นเครื่องมือที่ใช้สำหรับวัดความชื้นของวัสดุต่างๆ เช่น ไม้ คอนกรีต อาหาร และยา เครื่องวัดความชื้นมีหลายประเภท ขึ้นอยู่กับหลักการสำหรับวัดความชื้นของวัสดุ การเลือกเครื่องวัดความชื้นที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น ประเภทของวัสดุที่ต้องการวัด ระดับความแม่นยำที่ต้องการ และงบประมาณที่มีอยู่

    79
    PLC

    ในปัจจุบันในระบบควบคุมต่าง ๆ ภายในระบบอุตสาหกรรมที่ซับซ้อน มักจะถูกควบคุมด้วยระบบอัตโนมัติ PLC คือสิ่งมหัศจรรย์ทางเทคโนโลยี ที่ปฏิวัติวิธีการควบคุมเครื่องจักร รวมถึงกระบวนการต่าง ๆ ซึ่งอุปกรณ์ดิจิทัลเฉพาะทางเหล่านี้ ได้กลายเป็นหัวใจหลักของอุตสาหกรรม ด้วยการจัดการงานที่ซับซ้อนด้วยความแม่นยำ อย่างมีประสิทธิภาพ

    ความสำคัญของ PLC มีมากกว่าคุณสมบัติทางเทคนิค สิ่งเหล่านี้แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงพื้นฐานในกระบวนควบคุมแบบระบบอัตโนมัติ เพื่อที่เราจะรู้จักกับ PLC มากยิ่งขึ้น ไม่เพียงแต่ฟังก์ชันหลักเท่านั้น แต่ยังรวมถึงบทบาทสำคัญของ PLC ในการขับเคลื่อนความเป็นเลิศในการปฏิบัติงาน เพิ่มผลผลิต และมีส่วนช่วยให้การดำเนินการกระบวนการทางอุตสาหกรรมที่ซับซ้อนเป็นไปอย่างราบรื่น

    การทำความเข้าใจว่า PLC คืออะไร กลายเป็นส่วนสำคัญในการดำเนินงานของอุตสาหกรรมได้อย่างไร พร้อมแสดงให้เห็นเรื่องราวของวิวัฒนาการทางเทคโนโลยี การแสวงหาประสิทธิภาพอย่างไม่หยุดยั้งในยุคการผลิตสมัยใหม่

    PLC (Programmable Logic Controller) คืออะไร? ความสำคัญอย่างไร

    PLC คือ

    PLC ย่อมาจาก Programmable Logic Controller หรือกล่าวได้ว่า PLC คือ โปรแกรมคอมพิวเตอร์เฉพาะ ที่ถูกออกแบบมาสำหรับระบบ Automationทางอุตสาหกรรม ลักษณะที่ง่ายต่อการตั้งค่าโปรแกรม รวมถึงทำให้ผู้ใช้สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันต่าง ๆ ตามกระบวนการที่เฉพาะเจาะจง ในปัจจุบันมีการนำ PLC มาใช้อย่างกว้างขวางในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เพื่อทำให้กระบวนการต่าง ๆ ที่ต้องการความแม่นยำ การนำระบบอัตโนมัติมาใช้ถือเป็นความคิดที่ดี

    ประเภทของ PLC

    หลังจากที่เราทราบแล้วว่า PLC คืออุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่คอยทำหน้าที่ในการควบคุมระบบต่าง ๆ ภายในอุตสาหกรรมแล้ว ต่อไปเราจะมาทำความรู้จักกับประเภทของ PLC ที่มีอยู่ด้วยกันอยู่หลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภท ต่างได้รับการออกแบบให้เหมาะกับการใช้งานแบบเฉพาะ ตรงตามข้อกำหนดทางอุตสาหกรรม การทำความเข้าใจ PLC ประเภทต่าง ๆ เป็นสิ่งสำคัญในการเลือก PLC ที่เหมาะสมที่สุดในแต่ละการใช้งาน

    Fixed PLC

    PLC เหล่านี้มีการกำหนดค่าอินพุตและเอาต์พุตคงที่ ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานที่มีข้อกำหนดการควบคุมที่มั่นคงและชัดเจน มีความคุ้มค่าและง่ายต่อการนำไปใช้

    Modular PLC

    PLC แบบแยกส่วน ช่วยให้ผู้ใช้ปรับเปลี่ยนค่าอินพุตและเอาต์พุตได้ตามต้องการ ทำให้มีความยืดหยุ่นสูงกว่า เหมาะสำหรับอุตสาหกรรมที่มีกระบวนที่ยังคงมีการพัฒนาต่อยอด

    Rack-Mounted PLC

    PLC แบบติดตั้งบนชั้นวาง ประกอบด้วยชั้นวางหรือแชสซีที่รองรับโมดูลต่าง ๆ สำหรับการเชื่อมต่ออินพุต-เอาต์พุตนั้น มีการออกแบบที่ช่วยให้สามารถปรับแต่งได้ง่าย ทำให้มีความหลากหลายสำหรับการตั้งค่าทางอุตสาหกรรมที่แตกต่างกัน

    Compact PLC

    PLC ขนาดกะทัดรัด มีลักษณะเด่นด้วยขนาดที่เล็ก เหมาะสำหรับการใช้งานที่มีพื้นที่จำกัด

    Nano PLC

    Nano PLC มีขนาดเล็กที่สุด ออกแบบมาเพื่อการใช้งานในการควบคุมที่มีขนาดเล็ก ทำให้ประหยัดพื้นที่ ทำให้เหมาะสำหรับการดำเนินงานขนาดเล็ก

    Programmable Automation Controller (PAC)

    PAC เป็นการรวมรวม PLC เข้าด้วยกัน ทั้งยังมีความสามารถเพิ่มเติมอย่าง การเก็บข้อมูล การควบคุมการเคลื่อนไหว ไปจนถึงการคำนวณขั้นสูง เหมาะอย่างยิ่งสำหรับระบบอัตโนมัติที่มีความซับซ้อน

    PLC ต้องประกอบด้วยอะไรบ้าง? แต่ละอย่างทำหน้าที่อย่างไร

    PLC คือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่คอยทำหน้าที่ในการควบคุม ประกอบด้วยชิ้นส่วนดังนี้

    • หน่วยประมวลผลกลาง (CPU) สมองของ PLC รับผิดชอบในการดำเนินการควบคุม ประสานงานกับส่วนต่าง ๆ
    • โมดูลขาเข้า รวบรวมข้อมูลจากภาคสนาม โดยแปลงสัญญาณภายนอกเป็นรูปแบบที่ CPU สามารถประมวลผลได้
    • โมดูลขาออก เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ภายนอก แปลสัญญาณที่สร้างโดย CPU ออกไป เช่น การเปิดใช้งานมอเตอร์หรือวาล์ว
    • หน่วยความจำ จัดเก็บโปรแกรมควบคุม กับข้อมูลชั่วคราวระหว่างการทำงาน ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการดำเนินการในการประมวลผลควบคุม
    • พาวเวอร์ซัพพลาย จ่ายพลังงานไฟฟ้าที่จำเป็น โดยแปลงแหล่งพลังงานภายนอกให้เป็นแรงดันไฟฟ้าที่ PLC ต้องการ
    • พอร์ตการสื่อสาร ช่วยให้สามารถโต้ตอบกับอุปกรณ์อื่น ๆ อำนวยความสะดวกในการแลกเปลี่ยนข้อมูล การประสานงานภายในอุตสาหกรรม

    programmable logic controller

    ขอบคุณภาพจาก https: // pico .co.th/th/product/guardplc-opc-server-software/

    GuardPLC OPC Server Software

    GuardPLC OPC Server Software เป็นส่วนหนึ่งของ PLC คือ ซอฟต์แวร์เซิร์ฟเวอร์ OPC ช่วยให้ PC ที่ใช้ Windows® สามารถอ่านและเขียนข้อมูลไปยังตัวควบคุม GuardPLC ทั่วทั้งเครือข่ายของ GuardPLC ได้ โดดเด่นด้วยคุณสมบัติที่สามารถใช้งานกับคอนโทรลเลอร์ GuardPLC™ ได้ทั้งหมด

    โครงสร้างของ PLC

    ขอบคุณภาพจาก https: // pico .co.th/th/product/guardplc-1600-safety-controllers/

    GuardPLC 1600 Safety Controllers

    GuardPLC 1600 Safety Controllers เป็นอีกหนึ่ง PLC คือ ระบบที่มีความปลอดภัยเร็วสุดในอุตสาหกรรม ทำงานด้วยระยะเวลา 10 มิลลิวินาที จึงสามารถมั่นใจในความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือของระบบได้
    ระบบควบคุม Bulletin 1753 GuardPLC™ 1800 โดยสื่อสารผ่าน GuardPLC™ Ethernet และผ่าน EtherNet/IP™

    ประโยชน์ของ PLC คืออะไร?

    เพื่อให้คุณสามารถนำ PLC สามารถไปใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ จึงเป็นที่จะต้องรู้ก่อนว่า PLC คืออะไรบ้าง

    • ความแม่นยำ PLC มีความเป็นเลิศในการควบคุมกระบวนการทางอุตสาหกรรมที่แม่นยำ ทำให้มั่นใจว่างานที่ได้จะมีประสิทธิภาพสม่ำเสมอ
    • ความน่าเชื่อถือและเสถียรภาพ PLC เป็นที่รู้จักในด้านการทำงานที่ซับซ้อน ด้วยการตั้งค่าที่แม่นยำ ทำให้ผลิตภัณฑ์ที่ออกมานั้นตรงกับที่ตั้งค่าไว้
    • เวลาตอบสนองที่รวดเร็ว การตอบสนองที่รวดเร็วถือเป็นอีกจุดเด่นของ PCL ทำให้สามารถแก้ปัญหาได้อย่างทันท่วงที ช่วยลดความล่าช้า และความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
    • ความง่ายในการแก้ไขปัญหา ด้วยการทำงานของ PCL ที่แยกออกเป็นส่วนย่อย ๆ ช่วยให้แก้ไขปัญหาได้ง่าย ลดการหยุดทำงาน ทั้งค่าบำรุงรักษาลงได้
    • ความยืดหยุ่นในการเขียนโปรแกรม PLC นั้นรองรับการเขียนโปรแกรมหลากหลายภาษา ถือว่ามีความยืดหยุ่นสำหรับวิศวกร ในการสร้างระบบควบคุมขึ้นมา ซึ่งจำเป็นสำหรับการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น
    • ประหยัดต้นทุน PLC มีส่วนช่วยในการประหยัดต้นทุน โดยการปรับการใช้พลังงานให้เหมาะสม ลดเวลาหยุดทำงานที่ไม่จำเป็น ทั้งยังทำให้กระบวนการผลิตคล่องตัวขึ้น
    • ความสามารถในการบูรณาการ PLC สามารถทำงานร่วมกับระบบควบคุมอื่น ๆ และซอฟต์แวร์ระดับองค์กรได้อย่างราบรื่น ส่งเสริมการสื่อสาร แลกเปลี่ยนข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    • ความสามารถในการปรับขนาด ระบบ PLC สามารถปรับขนาดได้ รองรับการเปลี่ยนแปลงขนาดการผลิตหรือข้อกำหนดเดิมได้ ทำให้มั่นใจได้ว่าระบบควบคุมจะเติบโตไปพร้อมกับความต้องการของอุตสาหกรรม
    • อินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย อินเทอร์เฟซการเขียนโปรแกรม PLC ได้รับการออกแบบให้ใช้งานง่าย ช่วยให้สามารถจัดการระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

    สรุป PLC คือสิ่งจำเป็นของอุตสาหกรรม

    PLC คือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่คอยทำหน้าที่ในการควบคุม และตรวจสอบกระบวนการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นกระบวนการผลิต กระบวนการทดสอบ กระบวนการประกอบ หรือจะเป็นกระบวนการบรรจุภายในอุตสาหกรรม เป็นต้น ซึ่งระบบ PLC นี้จะช่วยในการควบคุมให้กระบวนการต่าง ๆ ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ตามที่กำหนดไว้โดยอัตโนมัติ

    80
    ใกล้เปิดตัวเข้าไปทุกทีกับการเปิดตัวอย่างสมาร์ตโฟนรุ่นเรือธงจากแบรนด์อันดับโลกอย่าง Samsung Galaxy  S24 ที่จะมีด้วยกันทั้งหมด 3 รุ่นย่อยคือ S24 S24+ และรุ่นสุดพรีเมียมอย่าง S24 Ultra ทำให้มีข้อมูลต่าง ๆ มากมายมาให้แฟนๆและผู้ที่สนใจวิเคราะห์และมองหาอุปกรณ์เสริม เช่น หูฟัง เคส S24 Ultra และรุ่นอื่นๆ กันโดยข้อมูลนั้นมาทั้งจากสำนักข่าวต่างประเทศ และสำนักข่าวชื่อดังทั้งนี้ข้อมูลต่าง ๆ ที่ผู้เขียนนำมาเสนอนั้นเป็นเพียงการคาดการณ์จากแหล่งข่าวต่าง ๆ เท่านั้นอาจมีการคลาดเคลื่อนของข้อมูลหลังการเปิดตัวได้

    Samsung S24 Ultra นั้นมีสเปคที่แรงและทรงพลังอย่างมากหากเทียบกับรุ่นอื่น ๆ ทำให้คาดว่าจะใช้งานได้ครบรสกัน ด้วยตัวอย่างสเปคชิปประมวลผล Snapdraon 8 Gen 3 for galaxy ที่ติดท็อปความเร็ว RAM 12GB ที่ทำให้ใช้งานมัลติทาสก์ได้อย่างเหนือชั้นความจุที่คิดว่าจะมีให้เลือก 3 ขนาดคือ 256GB, 512GB และ 1TB ที่ทำให้เก็บข้อมูลได้มากมาย และหน้าจอ Dynamic AMOLED 2x ขนาด 6.8 นิ้ว refresh rate  120Hz ลื่นไม่มีสะดุดและไฮไลท์ของ S24 Ultra นั่นคือ S24 จะใช้วัสดุไทเทเนียมที่มีความสวยงามและทนทานกว่า ทำให้เหล่าที่ชื่นชอบการใส่เคสนั้น อาจเลือกเคส S24 Ultra ที่โชว์ตัวเครื่องเพื่อโชว์ความสวยงามของวัสดุไทเทเนียมได้อีกด้วย

    เคส S24 Ultra และอุปกรณ์เสริม

    ขอบคุณภาพจาก https:// www .techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/samsung-galaxy-s24-ultra

    ทำไมควรซื้ออุปกรณ์เสริมที่จำเป็นและเคส S24 Ultra

    ด้วยสเปคของ S24 Ultra นั้นที่ทรงพลัง และตัวเครื่องที่สวยงาม ทำให้ผู้เขียนคิดว่ามีหลายคนสนใจที่จะจับจองเป็นเจ้าของกันไม่น้อย ซึ่งแน่นอนการมีโทรศัพท์สักเครื่องไม่เพียงมีแต่ตัวเครื่องเท่านั้นยังมีอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ เพื่อช่วยให้ใช้งาน S24 Ultra ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นหรือช่วยเสริมให้ตัวเครื่องดูสวยงามขึ้นอย่างเคส S24 Ultraที่มีสี รูปทรงและรูปแบบมากมายให้เลือก และหากรูปทรงและตำแหน่งปุ่มต่าง ๆ นั้นไม่ต่างจาก S23 Ultra มากนั้นคาดว่าจะสามารถใช้เคสร่วมกันระหว่าง S23 Ultra และ เคส S24 Ultra ได้

    นอกจากเคสแล้วยังมี S24 Ultra accessories อื่น ๆเช่น ใครสายจดหรือบันทึกปากกา S Pen รุ่นใหม่เป็นปากกามากความสามารถจาก Samsung ที่คาดว่าจะมาพร้อมกับ S24 Ultra โดยรองรับการใช้งานได้อย่างครบถ้วนซึ่งทาง S24 Ultra ลำโพงภายในตัวเครื่องของ S24 Ultra ที่กระหึ่มทรงพลัง เล่นเกม ดูหนัง ฟังเพลงได้ครบรส แต่หากใครสนใจที่จะใช้หูฟังทาง Samsung ก็มีหูฟังหลายรุ่นเพื่อให้เหมาะกับการใช้งานต่าง ๆกับ S24 Ultra หน้าจอที่สวยงามด้วยเทคโนโลยีจาก Samsung และใช้กระจกระดับ Gorilla Glas Victus+ กระจกที่ขึ้นชื่อเรื่องการทนทานต่อรอยขีดข่วนและแรงกระแทก แต่หากใครยังกังวลก็สามารถซื้อฟิล์มหรือกระจกติดหน้าจออีกทีเพื่อความสบายใจได้ ทั้งนี้ S24 Ultra  accessories ต่าง ๆมีไว้เพื่อให้ใช้งาน S24 Ultra ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นนั่นเอง

    คาดการณ์เคส S24 Ultra และอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ

    เคส Samsung S24 Ultra

    ขอบคุณภาพจาก https:// www .mobilefun.co.uk/blog/2024/01/official-samsung-s24-series-accessories-leaked/

    เคสสำหรับ S24 Ultra

    เคส S24 Ultra นั้นมีให้เลือกมากมายไม่ว่าจะเป็น TPU กันกระแทก เคสหนัง เคสS24 Ultra แบบมีฝาเปิด เคสที่มีขาตั้งด้านหลังไว้ประคองโทรศัพท์เพื่อให้ตั้งดูได้ โดยมาเริ่มกันที่

    • เคสใสจาก FenixSheild รุ่น Air Slim Jacket

    เคส S24 Ultra วัสดุที่ TPU ใสป้องกันรอยขีดข่วนจากภายนอกและได้โชว์ตัวเครื่องที่เป็นวัสดุไทเทเนียมสุดพรีเมียมได้อย่างเต็มที่

    • เคส S24 Ultra ใสลายกากเพชรจาก FenixShield

    สำหรับใครที่คิดว่าเคส S24 Ultra ใสไม่มีลดลายดูจืดจากไปสักนิดนึงรุ่นนี้มีลายกากเพชรระยิบระยับเพิ่มความโดดเด่นให้กับตัวเคส S24 Ultra และตัวเครื่องให้ดูสวยงามไปอีกรูปแบบหนึ่ง

    • เคส S24 Ultra Fusion-x

    สำหรับใครที่กังวลหรือมีพฤติกรรมที่มักทำมือถือตกบ่อยครั้งคงอยากได้เคสที่สามารถลดความเสียหายจากการหล่นได้ โดยเคส S24 Ultra Fusion-X นี้เป็นเคสกันกระแทกด้วยคอนเซปต์ Unique X-concept hybrid case high-level protection and performance for daily use เป็นเคส S24 Ultra ที่มีความแข็งแรงปกป้องมือถือรอบด้านออกแบบมาเพื่อลดแรงกระแทกและป้องกันโทรศัพท์ เคสที่ออกแบบมานั้นไม่หนาจนเกินไปเพื่อความสะดวกในการพกพาใช้ชีวิตประจำวัน ด้วยวัสดุที่ผสมด้วย PC และ TPU ที่มีความแข็งแรงแต่ยืดหยุ่นได้ดี

    • Olixar Black Eco-Leather Wallet Stand Case

    สำหรับใครที่ชอบเครื่องหนังหรือต้องการให้เคสโทรศัพท์ดูมีความพรีเมียมด้วย เคส S24 Ultra แบบมีฝาพับแม่เหล็กรุ่นนี้วัสดุทำมาจาก หนัง Eco-Leather ที่เป็นที่นิยมกันในปัจจุบันให้ความรู้สึกพรีเมียมของหนังหลังฝาปิดนั้นจะมีช่องใส่บัตรเพื่อเก็บบัตรที่ใช้ประจำอีกที่ตัวเคสยังออกแบบมาให้สามารถตั้งแนวนอนได้เพื่อการใช้งานอีกรูปแบบหนึ่ง ใครสนใจเคสหนัง S24 Ultra เคสรุ่นนี้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีเลย

    หูฟังที่เหมาะกับ S24 Ultra

    S24 Ultra นั้นสามารถใช้งานได้อย่างครบเครื่องด้วยขุมพลังสเปคที่เร็วและแรงหากใครสายบันเทิงหรือชอบฟังเพลงนั้นการมีหูฟังที่ดีเพื่อใช้งานคู่กับ S24 Ultra ทาง Samsung มีหูฟัง True wireless หลายรุ่นที่เหมาะสำหรับเป็นหูฟังS24 Ultra โดยผู้เขียนได้นำรุ่นหูฟังที่น่าสนใจจาก Samsung มาให้ดูกันโดยมาเริ่มกันที่

    • Samsung Galaxy Buds Live - ด้วยดีไซน์เพื่อสรีระหูโดยเฉพาะทำให้สวมใส่ได้ตลอดทั้งวัน มีระบบตัดเสียงรบกวนภายนอก เสียงครบย่านได้มาตรฐานจาก AKG
    • Samsung Galaxy Buds FE - สวมสบายตามสรีราศาสตร์ ใส่สบายไม่เจ็บหู เบสที่อัพเกรดขึ้นระบบ noise cancelling ที่ทรงพลังลิ้มรสความบันเทิงได้ดีเยี่ยม
    • Samsung Galaxy Buds2 - เพื่อความสมดุลให้แก่เสียงมากกว่ารุ่นก่อน ระบบ ANC ที่ยอดเยี่ยม เพื่อเพิ่มอรรถรสได้มากขึ้น ตัวหูฟังที่มีน้ำหนักเบาอย่างมากทำให้รู้สึกสบายหูสามารถใส่ได้ทั้งวัน
    • Samsung Galaxy Buds2 Pro - โปรขึ้นไปอีกขั้นด้วยเสียงระดับ Hi-Fi 24 bit ที่ทำให้คุณดื่มด่ำไปกับเสียงเพลงและอรรถรสได้อย่างสูงสุด ระบบ 360 Audio ที่สามารถรับฟังได้อย่างกับอยู่ในเหตุการณ์จริง ระบบ ANC ที่ทำให้คุณโฟกัสไปกับความบันเทิงของคุณได้

    หัวชาร์จสำหรับ S24 Ultra

    S24 Ultra นั้นสำหรับสเปคการชาร์จด้วยชาร์จไว 45W และรองรับ wireless Charging ทำให้ไม่ต้องเพียงยึดติดเพียงแต่สายชาร์จเท่านั้น ซึ่ง S24 Ultra นั้นจะเป็นสายชาร์จแบบ Type-C ที่รองรับการส่งข้อมูลสูงและชาร์จไว สำหรับอแดปเตอร์ S24 Ultra นั้นสามารถเลือกอแดปเตอร์ที่ให้กำลังไฟได้มากถึง 45W เพื่อให้รองรับการชาร์จไวของ S24 Ultra อีกทั้งยังสามารถหาแท่นชาร์จไร้สายเพื่อการใช้งาน Wireless Charging อีกด้วย

    ปากกา S Pen สำหรับ S24 Ultra โดยเฉพาะ

    ปากกา S Pen ที่มาพร้อมกับ S24 Ultra นั้นจะเป็นรุ่นใหม่ที่เปิดตัวพร้อมกันโดยทางหน่วยงาน FCC ได้เปิดเผยข้อมูลและผ่านการตรวจสอบปากกา S Pen รุ่นใหม่แล้วโดยจะมีลักษณะที่คล้ายคลึงกับ S Pen จาก S23 Ultra แต่จะมีคนละสี หางปากกาที่สามารถก็สั่งงานได้ มีการระบุรองรับคลื่น Bluetooth LE แต่ยังไม่มีการเปิดเผยที่แน่ชัดเกี่ยวกับมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น แต่ผู้เขียนคาดการณ์ว่าอาจมี IP68 เช่นเดียวกับ S Pen ของ S23 Ultra ซึ่ง S Pen เป็น S24 Ultra accessories ที่ขาดไม่ได้นั่นเอง

    ฟิล์มติดหน้าจอ S24 Ultra

    ฟิล์มติดหน้าสำหรับ S24 Ultra นั้นเรียกได้ว่าเป็นอุปกรณ์เสริม s24 Ultra ที่ไม่ว่าจะโทรศัพท์รุ่นไหนก็ขาดไม่ได้มีหลากหลายชนิดให้เลือกไม่ว่าจะเป็นฟิล์มใสปกติ ฟิล์มเพื่อความส่วนตัวที่จะสะท้อนแสงรอบข้างทำให้คนที่อยู่ข้างๆนั้นไม่สามารถดูหน้าจอโทรศัพท์เราได้ ฟิล์มกระจกที่มีความแข็งแรงสวยงาม ป้องกันรอยขีดข่วนบนหน้าจอและมีความแข็งแรงอย่างมากสามารถทนต่อแรงกระแทกปกป้องหน้าจอได้อย่างสบายใจหรือหากใครที่ไม่ชอบฟิล์มที่มีความแข็งฟิล์มแบบไฮโดรเจลที่มีความสวยงามและมีข้อดีที่มีความบางแนบกับโทรศัพท์อีกทั้งยังสามารถรักษารอยขีดข่วนเล็ก ๆ ได้ หากใครสนใจฟิล์มชนิดต่าง ๆ สามารถหาซื้อได้ตามแบรนด์ฟิล์มชั้นนำต่าง ๆ ได้

    สรุปเคส Samsung S24 Ultra อุปกรณ์เสริมเพิ่มการใช้งาน

    S24 Ultra ที่กำลังจะเปิดตัวเร็ว ๆ นี้นั้นมีสเปคที่สมกับเป็นรุ่นเรือธงด้วยความเร็วความแรงและความจุที่ครบเครื่องทำให้มีผู้คนสนใจในของ S24 Ultra อย่างมาก ทำให้มีอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ มากมายออกมารองรับความต้องการของผู้ที่ต้องการถือครอง S24 Ultra อย่างเคส S24 Ultra ที่มีให้เลือกมากมายไม่ว่าจะเป็นเคสใส เคสหนัง s24 Ultra เคสกันกระแทกสำหรับผู้ที่มีกิจกรรมชอบลุย หูฟังที่เหมาะสมสำหรับ S24 Ultra หลายรุ่นจากทาง Samsung ที่ทำให้เพลิดเพลินไปกับมือถือคุณได้อีกขั้น การองรับชาร์จไวของ S24 Ultra ที่ทำให้หลายคนมองหาหัวชาร์จที่สามารถชาร์จไวได้ และฟิล์มหน้าจอเพื่อป้องกันและถนอมหน้าจอสุดสวยของ S24 Ultra หากใครสนใจที่จับจองเป็นเจ้าของสมาร์ตโฟนรุ่นนี้ก็รอการเปิดตัวได้เลย


    81
    Smart Watch
    ขอบคุณรูปจาก: h ttps:/ /www.samsung.com/th/watches/galaxy-watch/galaxy-watch6-40mm-gold-bluetooth-sm-r930nzeaasa/

    นาฬิกาข้อมือสมาร์ทวอทช์ได้ถูกพัฒนากันมาอย่างยาวนานมีรุ่นใหม่ ๆ ออกวางขายในแต่ละปี พร้อมเปิดประสบการณ์พบฟังก์ชันดี ๆ ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายต่อใช้ชีวิต Smart Watch เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ชนิดหนึ่งที่เป็นมากกว่านาฬิกาข้อมือปกติ ไม่ได้ใช้บอกเวลาเพียงยังเดียว Smart Watch ยังสามารถใช้โทรออก, ตอบข้อความ, ดูแลสุขภาพ, ไว้ฟังเพลงได้ ทำให้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากนอกจากนี้ ยังใช้เพื่อเสริมภาพลักษณ์ให้ดูเท่ ดูดีเป็นแฟชั่นได้ด้วย สำหรับบทความนี้เรามาดู Smart Watch 2024 กันว่าในแต่ละรุ่นจะมีประโยชน์อะไรบ้างและฟีเจอร์น่าสนใจแค่ไหน

    Smart Watch เกิดขึ้นมาได้อย่างไร

    ด้วยความที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทต่อการใช้ชีวิตเป็นอย่างมาก Smart Watch จึงได้รับการพัฒนาจากนาฬิกาข้อมือบอกเวลาธรรมดาสู่นาฬิกาข้อมือดิจิตอลอัจฉริยะใช้โทรออก, ฟังเพลง, ดูเวลาในการนอน, เก็บข้อมูลการออกกำลังกาย, บอกแผนที่, เป็นกล้องถ่ายรูปขนาดเล็ก, วัดการเต้นของหัวใจและใช้ Smart Watch วัดความดันได้ซึ่ง Smart Watch มีการออกแบบรุ่นใหม่ ๆ พร้อมกับเพิ่มฟังก์ชันให้ตอบโจทย์การใช้งานในทุกปี

    โดยสมาร์ทวอทช์ทำงานร่วมกับเครือข่ายบลูทูธเชื่อมต่อสมาร์ตโฟน หูฟังแบบไร้สายได้ทั้งในแบบ Android และ iOS จึงได้รับความนิยมอย่างมากในผู้ที่สนใจเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพราะนอกจากช่วยเรื่องความสะดวกด้านต่าง ๆ ของการออกกำลังกาย ยังมีฟังก์ชันการใช้งานหลากหลายใช้เป็นแฟชั่นเสริมภาพลักษณ์ได้อีกด้วย

    ประโยชน์ของ Smart Watch ทำไมถึงเป็นที่ต้องการของใครหลายคน

    Smart Watch เมื่อเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟนการแจ้งเตือนในมือถือทั้งข้อความ, สายเรียกเข้า, อีเมลก็จะถูกแจ้งเตือนมายังนาฬิกาสมาร์ทวอทช์ของผู้ใช้ด้วย จึงทำให้กลุ่มคนที่ชื่นชอบออกกำลังกายหรือมือไม่ว่างจับโทรศัพท์สามารถใช้งานต่าง ๆ บน Smart Watch แทนได้ช่วยให้ชีวิตสบายมากขึ้นและยังมีประโยชน์ใช้สอยอีกหลายด้านเช่น

    • เชื่อมต่อกับมือถือใช้งานฟังก์ชันต่าง ๆ บน Smart Watch แทนเช่น การแจ้งเตือนจากอีเมล
    • Smart Watch โทรได้นอกจากนี้ยังใช้เป็นรีโมทควบคุมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ได้ด้วย
    • สมาร์ทวอทช์ช่วยเก็บข้อมูลการเคลื่อนไหวและช่วยคำนวณพลังงานเกี่ยวกับการออกกำลังกาย
    • ใช้ Smart Watch วัดความดัน, อัตราการเต้นของหัวใจ, เวลาหลับพักผ่อนช่วยดูแลสุขภาพของคุณ
    • ดูเวลา, แผนที่, เข็มทิศและตั้งนาฬิกาปลุกแทนการใช้โทรศัพท์มือถือ
    • ด้วยการออกแบบที่เน้นสวยงาม สีสันน่ารัก สดใสสไตล์วัยรุ่นจึงทำให้เป็นที่นิยมด้านแฟชั่น

    แนะนำ Smart Watch ในปี 2024 รุ่นไหนน่าสนใจบ้าง
    Smart Watch 2024 มีรุ่นไหนน่าสนใจบ้างถ้าพูดถึงสมาร์ทวอทช์คงหนีไม่พ้นแบรนด์ใหญ่ระดับโลกอย่าง Samsung ที่ออก Galaxy Watch มาทุกปีมากถึง 6 รุ่น แต่วันนี้เราจะมาแนะนำ 4 รุ่นใหม่ในปี 2024 พร้อมรายละเอียดและราคา Smart Watch กันเลย

    Galaxy Watch5

    Smart Watch Galaxy Watch5
    ขอบคุณรูปจาก: h ttps:/ /www.samsung.com/th/watches/galaxy-watch/galaxy-watch6-40mm-gold-bluetooth-sm-r930nzeaasa/

    Smart Watch Samsung Galaxy Watch5 ใช้ระบบปฏิบัติการ Wear OS 3.5 หน้าจอระบบสัมผัส Super AMOLED กว้าง 1.2 - 1.4 นิ้ว วัสดุเป็นอะลูมิเนียมสายนาฬิกาแบบ Sport Band ทำให้เห็นความสวยงามทนเหงื่อเวลาออกกำลังกายมีสีให้เลือกหลายสีเช่น Blue, Pink, Black, Silver, Gold, Graphite เป็นต้น สามารถนับก้าว, ดูเวลาในการนอน, เช็กลิสต์กิจกรรมที่ต้องทำในแต่ละวัน, คำนวณแคลอรี, รับสายโทรเข้า, ตอบข้อความ, กันน้ำได้ชั่วคราวรวมไปถึงนับประจำเดือน ราคาเปิดตัวเริ่มต้นที่ 8,490  - 12,490 บาท มีให้เลือกด้วยกันถึง 4 รุ่น

    Galaxy Watch5 Pro

    Smart Watch Galaxy Watch5 Pro
    ขอบคุณรูปจาก: h ttps:/ /www.samsung.com/th/watches/galaxy-watch/galaxy-watch6-40mm-gold-bluetooth-sm-r930nzeaasa/

    Smart Watch Samsung Galaxy Watch5 Pro ใช้ระบบปฏิบัติการ Wear OS 3.5 หน้าจอระบบสัมผัสเช่นเดียวกับ Galaxy Watch5 กว้าง 1.4 นิ้ว แต่วัสดุเป็นไทเทเนียมทำให้ดูหรูหราขึ้นไปอีกหนึ่งระดับ สีมีให้เลือก 3 สี Black, Gray และ Titanium Gray สามารถตรวจวัดแสง, อัตราการเต้นของหัวใจ, ความดันในอากาศ, คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า, วัดค่าออกซิเจนในเลือดรวมไปถึงชำระเงินผ่านสมาร์ทวอทช์ได้ ราคาเปิดตัวเริ่มต้นที่ 12,900 - 16,900 บาท มีให้เลือกด้วยกันถึง 2 รุ่น

    Galaxy Watch6 Classic

    Smart Watch Galaxy Watch6 Classic
    ขอบคุณรูปจาก: h ttps:/ /www.samsung.com/th/watches/galaxy-watch/galaxy-watch6-40mm-gold-bluetooth-sm-r930nzeaasa/

    Smart Watch Samsung Galaxy Watch6 Classic ใช้ระบบปฏิบัติการ Wear OS 4 หน้าจอสัมผัส Super AMOLED กว้าง 1.3 - 1.5 นิ้ว วัสดุสเตนเลสสตีลเพิ่มความเท่คลาสสิก มีสีให้เลือก 2 สี Black และ Silver สามารถรับสายโทรเข้า, ส่งข้อความตอบกลับได้, โทรฉุกเฉินจากเบอร์ที่บันทึกไว้, ดูแผนที่, ชำระเงินผ่านสมาร์ทวอทช์, ดูตารางนัดหมาย, ตรวจวัดความดัน, ค่าออกซิเจนรวมไปถึงวางแผนออกกำลังกาย ราคาเปิดตัวเริ่มต้นที่ 12,400 - 15,400 บาท มีให้เลือกด้วยกันถึง 4 รุ่น

    Galaxy Watch6

    Smart Watch  Galaxy Watch6
    ขอบคุณรูปจาก: h ttps:/ /www.samsung.com/th/watches/galaxy-watch/galaxy-watch6-40mm-gold-bluetooth-sm-r930nzeaasa/

    Smart Watch Samsung Galaxy Watch6 ใช้ระบบปฏิบัติการ Wear OS 4 หน้าจอเหมือนกันกับรุ่น Watch6 Classic ใช้ระบบปฏิบัติการ Wear OS 4 แต่วัสดุเป็น Armor เพิ่มความแข็งแรงทนทานในการใส่เช่น ออกกำลังกาย, ลุยป่า, พายเรือ, เต้นและว่ายน้ำ มีสีให้เลือก 3 สี Gold, Black, Silver สามารถตรวจวัดแสง, วัดค่าความดัน, ดูเวลาในการนอนหลับ, วางแผนการเดินทาง ออกกำลังกาย, คำนวณระยะทาง, ชำระเงิน, ค้นหามือถือของตนเองได้ ราคาเปิดตัวเริ่มต้นที่ 8,400 - 10,400 บาท มีให้เลือกด้วยกันถึง 2 รุ่น

    ฟีเจอร์เด่นบน Smart Watch มีอะไรบ้าง
    Smart Watch มีฟีเจอร์ที่เด่นตอบโจทย์ในส่วนของการใช้งาน สมาร์ทวอทช์นั้นสามารถใช้ประโยชน์ได้หลายอย่างทั้งในเรื่องของสุขภาพและการใช้รับสายโทรศัพท์  จึงทำให้ไม่ต้องจับหรือยกโทรศัพท์ขึ้นมาดูการแจ้งเตือนเลย ไปรายละเอียดฟีเจอร์ของสมาร์ทวอทช์กันว่าจะโดดเด่นในด้านไหนบ้าง

    วัด Oxygen บน Smart Watch
    ระบบเซนเซอร์ตรวจวัด Oxygen บน Smart Watch ทำให้คุณรู้ถึงระดับออกซิเจนตลอดเวลาและวางแผนการดูแลสุขภาพในขั้นต้น โดยปกติคนเราจะมีระดับออกซิเจนในเลือดอยู่ระหว่าง 95 - 100% ถ้าระดับออกซิเจนต่ำกว่า 95% แสดงว่าได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ ถ้าเกิดระดับออกซิเจนต่ำกว่า 90% คุณอาจจะต้องรีบไปปรึกษาแพทย์เพราะอาจเกี่ยวข้องกับภาวะขาดออกซิเจนหรือระบบทางเดินหายใจได้

    ใช้ Smart Watch วัดคุณภาพการนอน
    คุณสามารถติดตามผลการนอนหลับจากสมาร์ทวอทช์ได้ หลายคนเวลานอนหลับและตื่นนอนอาจรู้สึกได้ว่านอนหลับไม่เพียงพอซึ่ง Smart Watch จะบอกเวลานอนหลับลึก, นอนหลับฝัน, นอนหลับกึ่งหลับกึ่งตื่น, นอนหลับเคลิ้ม แบ่งเป็น 4 ช่วงระยะจึงสามารถใช้สมาร์ทวอทช์วางแผนการพักผ่อนเพื่อให้ประสิทธิภาพในการนอนหลับดีขึ้นนั่นเอง

    ใช้ Smart Watch เพื่อการรับสายโทรศัพท์
    Smart Watch รับสายแทนโทรศัพท์มีข้อดีคือไม่ต้องคอยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับสายและนอกจากรับสายยังสามารถตอบกลับข้อความ เป็นรีโมทควบคุมอุปกรณ์ต่าง ๆ ในกรณีมือไม่ว่างรับจากสายโทรด่วนหรือในขณะที่ออกกำลังกายได้ด้วย

    ใช้ Smart Watch เพื่อวัด Fat Mass
    Smart Watch ตรวจมวลร่างกายเพื่อวัด Fat Mass ช่วยให้คุณวางแผนสุขภาพในการออกกำลังกายให้ได้ผล ดูสัดส่วนร่างกาย จำนวนแคลลอรีที่เผาผลาญได้ในแต่ละวันและติดตามผลลัพธ์จากการออกกำลังกายได้ตลอด

    ใช้วัดอัตราส่วนน้ำในร่างกาย
    สมาร์ทวอทช์ใช้วัดอัตราส่วนน้ำในร่างกายเพื่อบอกให้รู้ว่าร่างกายขาดน้ำมากน้อยเพียงใดหรือใช้เตือนให้ดื่มเมื่อร่างกายต้องการ ซึ่งเหมาะมากกับคนที่ชอบลืมดื่มน้ำระหว่างวัน

    แนวทางการเลือกซื้อ Smart Watch ดูจากอะไรเป็นอันดับแรก

    ซื้อ Smart Watch จากอะไร
    ขอบคุณรูปจาก: h ttps:/ /www.samsung.com/th/watches/galaxy-watch/galaxy-watch6-40mm-gold-bluetooth-sm-r930nzeaasa/

    การใช้งานของ Smart Watch จะเห็นได้ว่าเป็นทางเลือกสำหรับสายสุขภาพเช่น ใส่เล่นกีฬา, ว่ายน้ำ, ใช้ตอบข้อความ, รับสาย, ควบคุมเพลงแทนการกดโทรศัพท์เป็นต้น สำหรับใครที่กำลังมองหาสมาร์ทวอทช์ที่เข้ากับสไตล์ เป็นอุปกรณ์ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตควรดูจากอะไรบ้าง

    ซื้อ Smart Watch จากเป้าหมายการใช้งาน
    ซื้อ Smart Watch จากเป้าหมายการใช้งานเป็นอันดับแรกว่าเราซื้อมาใช้เพื่ออะไร เช่น ออกกำลังกาย ต้องการดูปัญหาสุขภาพ ติดตามผลการนอนหลับและฟังก์ชันของสมาร์ทวอทช์ตอบโจทย์หรือไม่

    ซื้อ Smart Watch จากปริมาณแบตเตอรี่
    ดูจากปริมาณแบตเตอรี่ โดยคุณอาจตรวจสอบสเปคของ Smart Watch ก่อนตัดสินใจว่าถ้าไม่ได้ชาร์จแบตจะใช้เก็บข้อมูลได้กี่วันและการใช้กับแอปพลิเคชันต่าง ๆ เพิ่มเติม

    ซื้อ Smart Watch จากวัสดุที่ใช้
    วัสดุเป็นอีกเรื่องที่ต้องควรให้ความสำคัญเช่น Smart Watch ทำจากสเตนเลสทนน้ำแข็งแรงเกิดอุบัติเหตุตกกระแทกก็ไม่แตกเสียหายและดีไซน์สวยงามจากการเลือกวัสดุสามารถใช้เป็นแฟชั่นใส่ในชีวิตประจำวันได้นอกจากการออกกำลังกาย

    ซื้อ Smart Watch จากแบรนด์
    แบรนด์เป็นเรื่องของความน่าเชื่อถือและบริการประกันหลังการขาย โดยสมาร์ทวอทช์ Samsung มีข้อมูลการเคลมประกันภายในระยะเวลา 12 เดือน รับประกันทั้งค่าอะไหล่ ค่าช่างหรืออาจมีโปรโมชั่นเสริม Samsung Care+ ที่รับประกันครอบคลุมทุกรูปแบบอาจจะต้องศึกษาอีกรอบเพื่อความมั่นใจในการตัดสินใจซื้อ

    ซื้อ Smart Watch จากขนาด
    ขนาดหน้าจอของสมาร์ทวอทช์ ก็มีหลายรูปแบบทั้งแบบหน้าจอสัมผัสวงกลม วงรีหรือสี่เหลี่ยม มีความกว้างไม่เท่ากันในแต่ละรุ่นตั้งแต่ 1.2 - 1.5 นิ้ว เพื่อไว้ใช้ดูข้อความ ดูแผนที่ได้เต็มขนาดมากขึ้นซึ่งราคาจะแตกต่างกันไปตามแต่ละแบบ

    สาย Smart Watch มีให้เลือกหลายแบบควรใช้แบบไหนดี
    สายนาฬิกา Smart Watch มีหลายแบบทั้งแบบสเตนเลส หนัง ซิลิโคน สำหรับใครที่เป็นสายออกกำลังกายคงต้องเลือกแบบที่กันน้ำได้ ซึ่งส่วนใหญ่ทำจากซิลิโคนทำให้สามารถใส่ว่ายน้ำออกกำลังกายหนัก ๆ ได้แต่ถ้าคุณต้องการเลือกสายชนิดอื่น โดยดูจากความเหมาะสมกับความต้องการเป็นหลักควรเลือกแบบไหนดีและมีหลายแบบด้วยกัน คือ

    • สาย Smart Watch แบบสเตนเลสข้อดีคือ เพิ่มความหรูหราให้กับตัว Smart Watch อีกระดับเหมาะกับผู้บริหาร งานที่ต้องพบปะผู้คนโดยเน้นความสุขุม รอบคอบเป็นหลักสายแบบสเตนเลสจะตอบโจทย์คนเหล่านี้มาก แต่จะมีข้อเสียตรงขนาดและน้ำหนักค่อนข้างมาก อาจทำให้ไม่สะดวกต่อการขยับข้อมือบางส่วนได้
    • สาย Smart Watch แบบหนังข้อดีคือ สวย ทนทาน ใส่ได้ทุกสไตล์เหมาะสมกับทุกวัยสามารถเลือกสี ลายให้เข้ากับสมาร์ทวอทช์ของคุณได้ แต่มีข้อเสียตรงที่ใช้ไปนาน ๆ จะมีกลิ่นอับชื้น กลิ่นหนังไม่เหมาะต่อการใส่ว่ายน้ำ โดนฝนบ่อย ๆ
    • สาย Smart Watch แบบซิลิโคนข้อดีคือ แข็งแรงทนทานไม่ฉีกขาดง่าย กันน้ำเหมาะสำหรับสายออกกำลังกายทั้งเริ่มต้นไปจนถึงหนัก เช่น ว่ายน้ำ, โยคะ, วิ่ง, อุปกรณ์ยกน้ำหนักใช้ต่อเนื่องได้เป็นระยะเวลานานและน้ำหนักเบา อาจมีข้อเสียตรงใส่ใช้งานได้ไม่หลากหลายโอกาส ตอบโจทย์กลุ่มคนชอบออกกำลังกายเป็นต้น

    ข้อเสียของ Smart Watch มีอะไรบ้าง
    ข้อเสียของ Smart Watch มีอะไรบ้างนอกจากข้อดีและประโยชน์ในด้านการใช้งานต่าง ๆ แล้วตัวสมาร์ทวอทช์ยังมีข้อจำกัดในการใช้งานบางส่วนนั่นก็คือ

    • แจ้งเตือนบ่อยเกินไป แจ้งเตือนในส่วนที่ไม่ได้ต้องการอาจมีเสียง สั่นตลอดเวลาทำให้รบกวนผู้สวมใส่ได้
    • ขนาดหน้าจอมีขนาดเล็ก อาจมองเห็นข้อความบางส่วนได้ไม่เต็มเวลาแจ้งเตือนหรือใช้งานค่อนข้างยากสำหรับผู้สูงอายุ
    • Smart Watch เนื่องจากต้องใส่ที่ข้อมือตลอดเวลา อาจเกิดเหตุการณ์แบตหมดขณะนอนหลับได้ ทำให้ต้องคอยถอดออกมาชาร์จแบตอยู่เสมอ สำหรับใครที่ต้องการดูข้อมูลสุขภาพการนอนหลับ

    คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Smart Watch 2024

    Smart Watch แบตเสื่อมได้หรือไม่?
    Smart Watch สามารถแบตเสื่อมได้แต่เราสามารถยืดอายุการใช้งานของสมาร์ทวอทช์ได้ เช่น ปิดการแจ้งเตือนบางส่วนที่ไม่ต้องการออก ลดแสงสว่างเวลาใช้งานอยู่ในห้องมีแสงสว่างเพียงพอ เปิดโหมดประหยัดพลังงาน ถอนการติดตั้งแอปพลิเคชันเบื้องหลังที่ไม่ได้ใช้งานออก เพียงเท่านี้ก็จะยืดอายุสมาร์ทวอทช์ให้ใช้งานได้ยาวนานขึ้นแล้ว

    Smart Watch เก็บข้อมูลได้นานแค่ไหน?
    เนื่องจาก Smart Watch เป็นนาฬิกาข้อมือใช้ใส่ติดตัวอยู่ตลอดเวลาเพราะต้องเก็บข้อมูลการเดิน รอบเดือน ระยะทางและอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งทำให้ต้องเลือกซื้อ Smart Watch ที่มีพื้นที่ความจุข้อมูลได้เยอะโดยเริ่มต้นอยู่ที่ 16 - 32 GB ขึ้นไปจึงเพียงพอต่อการใช้งาน

    จะทำอย่างไรถ้าเชื่อมต่อ Smart Watch ไม่ติด?
    เบื้องต้นแนะนำให้ลองปิด เปิดใหม่ดูอีกทีหรือควรตรวจสอบว่าคลื่น Bluetooth ตรงกันเพราะอาจมีสมาร์ตโฟนบางรุ่นที่ไม่สามารถเชื่อมต่อกับ Smart ได้ควรเช็กสเปคให้ดีก่อนทำการเลือกซื้อ

    สรุปรวมฟีเจอร์น่าใช้ Smart Watch
    นาฬิกาข้อมืออัจฉริยะ Smart Watch นอกจากบอกเวลายังมีฟีเจอร์น่าใช้มากมาย ตอบโจทย์ทั้งสายสุขภาพ สายออฟฟิศ เพิ่มความสะดวกสบายต่อการวางแผนใช้ชีวิตได้แก่ เก็บข้อมูลต่าง ๆ บันทึกกิจกรรมที่ต้องทำในแต่ละวัน รับสายโดยไม่ต้องแตะโทรศัพท์ เวลาฉุกเฉินหรืออันตรายสามารถโทรออกได้ ควรเลือกซื้อให้ตรงจุดประสงค์การใช้งาน โดยสมาร์ทวอทช์มีข้อดีและข้อเสียบางอย่างเช่น สายสมาร์ทวอทช์ต้องเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ปัญหาแบตหมดกลางคันขณะนอนหลับ

    82
      ไบโพลาร์ อารมณ์สองขั้ว
     

    ภาวะความเครียดที่เกิดขึ้นจากการใช้ชีวิตในประจำวันเป็นตัวกระตุ้นที่ทำให้ผลกระทบแก่ร่างกาย และก่อให้เกิดโรคภัยต่าง ๆ เช่น ไบโพลาร์ ผู้ป่วยที่กำลังต้องเผชิญกับโรคไบโพล่า มักจะพบว่ามีความผิดปกติทางด้านอารมณ์สองแบบเปลี่ยนแปลงสลับไปมา หรือมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ลักษณะทางด้านอารมณ์ของผู้ป่วยไบโพลาร์ คืออารมณ์ดีแบบสุดขั้ว หรือ อารมณ์ซึมเศร้า ส่งผลกระทบอย่างมากกับผู้ป่วย และคนรอบข้าง

    จากสถิติพบว่าผู้ป่วยที่เป็นไบโพลาร์ หรือ โรคอารมณ์แปรปรวนสองขั้ว มีอยู่ 60 ล้านคนในทั่วโลก และในประเทศไทยพบว่ามีผู้ป่วยอยู่ที่ 5 แสนรายได้เข้ารับการรักษาไบโพล่าแค่เพียง 2 หมื่นกว่ารายเท่านั้น จากผลสำรวจกรมสุขภาพจิต

    ในบทความนี้ทางเราได้รวบรวมข้อมูลที่มีความเกี่ยวข้องกับไบโพลาร์ หรือ โรคอารมณ์สองขั้ว รวมถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น อาการของผู้ป่วยไบโพลาร์ และวิธีดูแลรักษาผู้ป่วย

    สาระน่ารู้ โรคไบโพลาร์ คืออะไร?
    ไบโพลาร์ หรือ โรคอารมณ์สองขั้ว คือโรคทางจิตเวชประเภทหนึ่ง ซึ่งผู้ป่วยที่เป็นโรคไบโพล่าร์มักจะมีความผิดปกติทางด้านอารมณ์เป็นหลัก ลักษณะของอารมณ์ที่แสดงออกมาจะแบ่งออกเป็น 2 อารมณ์ เช่นภาวะแมเนีย (Mania) คืออารมณ์ดี คึกคัก สนุกสนาน และอารมณ์ซึมเศร้า (Depress) คือ ซึมเศร้า เสียใจ ร้องไห้ เกิดจากความผิดปกติของสารเคมีในสมอง หรืออาจเกิดจากพันธุกรรม และสาเหตุอื่น ๆ เช่นความเครียด  ผู้ป่วยไบโพลาร์ จะแสดงพฤติกรรมและอารมณ์ขั้วตรงข้ามของตนเองสลับไปมา ไม่สามารถควบคุมตนเองได้

    ผู้ป่วยโรคไบโพล่าร์จะแสดงพฤติกรรมและอาการที่เปลี่ยนแปลงสลับไปมาเกือบทั้งวัน หรืออาจจะติดต่อกันเป็นสัปดาห์ ซึ่งจะส่งผมกระทบทางด้านจิตใจ อารมณ์ พฤติกรรม และร่างกาย ทำให้ผู้ป่วยมีร่างกายที่อ่อนเพลีย ไม่มีแรง ควรรีบพบแพทย์ด้านจิตเวช เพื่อหาวิธีรักษาโรคไบโพล่าได้อย่างถูกวิธี และหายจากโรคนี้

    สาเหตุของไบโพลาร์
    สาเหตุของไบโพลาร์ไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่าเกิดจากสาเหตุใดสาเหตุหนึ่ง แต่สาเหตุทำให้ผู้ป่วยเป็นไบโพล่า มักจะเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุรวม ๆ กัน โดยสาเหตุหลักที่ทำให้ผู้ป่วยเป็นไบโพลาร์ มีดังนี้

    • เกิดจากความผิดปกติของสารเคมีในสมอง ในส่วนของระบบสื่อสารเกิดความไม่สมดุล เช่น  สารเซโรโทนิน (Serotonin) สารโดพามีน (Dopamine) และสารนอร์อารีนาลิน (Noradrenaline) ซึ่งสารสื่อประสาทเหล่านี้มีหน้าที่ควบคุมอารมณ์ ความคิด และพฤติกรรม
    • พันธุกรรม พบว่าถ้าหากคนในครอบครอบไม่ว่าจะเป็น พ่อ หรือ แม่เคยมีประวัติเป็นโรคไบโพล่า มีความสุ่มเสี่ยงที่ลูกจะเป็นไบโพลาร์มากกว่าคนที่ไม่เคยมีประวัติเป็นโรคนี้
    • ปัจจัยทางด้านสิ่งแวดล้อม เช่น ความเครียด อุบัติเหตุที่ได้รับอาการบาดเจ็บตรงบริเวณศีรษะ ใช้สารเสพติด ความสูญเสีย และการนอนหลับที่ไม่เพียงพอ สิ่งเหล่านี้เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดไบโพลาร์หรือทำให้อาการของโรคอาจรุนแรงขึ้นได้

    อาการที่เกิดขึ้นของไบโพลาร์

      ไบโพลาร์ อาการ
     

    ช่วงซึมเศร้า (Depressive Episode)
    ช่วงซึมเศร้า (Depressive Episode) เป็นส่วนหนึ่งของภาวะซึมเศร้าที่ผู้ป่วยไบโพลาร์จะมีลักษณะทางด้านอารมณ์เศร้าที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง ความรุนแรงของช่วงซึมเศร้า จะส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันกับผู้ป่วยเป็นอย่างมาก ช่วงซึมเศร้าอาจเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว หรือเกิดขึ้นซ้ำ ๆ ก็ได้ ระยะเวลาของช่วงซึมเศร้าอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล โดยเฉลี่ยแล้วมักประมาณ 2 สัปดาห์ หรือ 6 - 8 เดือน และในบางรายอาจจะเป็นปี

    ลักษณะอาการของผู้ป่วยไบโพลาร์ ในช่วงซึมเศร้า (Depressive Episode) มีดังนี้

    • ผู้ป่วยจะมีอารมณ์ซึมเศร้า รู้สึกหดหู่ ชอบเก็บตัวอยู่ตัวคนเดียว ไม่อยากพูดคุยกับคนอื่น เมื่อมีสิ่งที่ทำให้กระทบจิตใจก็จะทำให้เสียใจ และร้องไห้ได้ง่าย
    • ไม่มีสมาธิ จิตใจไม่อยู่กับตัว ส่วนใหญ่ผู้ป่วยไบโพลาร์ในช่วงซึมเศร้า การตัดสินใจของผู้ป่วยจะลดลง ทำให้ตัดสินใจได้ช้า ลังเลในการตัดสินใจ ไม่มีสมาธิ ไม่สามารถจดจ่อกับสิ่งได้สิ่งหนึ่งได้นาน
    • มองโลกในแง่ลบอยู่เสมอ มีความวิตกกังวลกับสิ่งที่อยู่รอบข้างตัวเอง และประเมินคุณค่าของตัวเองต่ำ รู้สึกว่าชีวิตตนเองไม่มีคุณค่า
      ผู้ป่วยไบโพลาร์ในช่วงซึมเศร้าหากพบว่าตัวเอง หรือมีคนรอบตัวมีอาการที่กล่าวมาข้างต้น ควรรีบพบแพทย์ในทันที โดยผู้ป่วยอาจจะต้องประทานยารักษาโรคไบโพล่า ตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด

    ช่วงคึกคักระยะสั้น (Hypomania Episode)
    ช่วงคึกคักระยะสั้น (Hypomania Episode) เป็นช่วงที่ผู้ป่วยโรคไบโพลาร์มีอาการอารมณ์ดีผิดปกติ เช่น  กระวนกระวาย พูดมาก คิดเร็ว นอนน้อย ขาดสมาธิ ตัดสินใจเร็วโดยไม่คำนึงถึงผลเสีย และมีอารมณ์ที่ก้าวร้าวเปลี่ยนสลับไปมา ซึ่งจะแตกต่างจากช่วงซึมเศร้าโดยสิ้นเชิง ผู้ป่วยไบโพลาร์จะมีอาการช่วงคึกคักระยะสั้นติดต่อกันประมาณ 4 วัน

    ลักษณะอาการของผู้ป่วยไบโพลาร์ช่วงคึกคักระยะสั้น (Hypomania Episode) มีดังนี้

    • อารมณ์ดีผิดปกติ รู้สึกมีความสุข กระปรี้กระเปร่า ตื่นตัว กระตือรือร้นอยู่ตลอดเวลา
    • ผู้ป่วยที่เป็นไบโพลาร์จะไม่สามารถอยู่นิ่ง ๆ ได้ ต้องเคลื่อนไหวตัวเองอยู่ตลอดเวลา และกระวนกระวาย
    • ชอบพูดคุยกับคนอื่น พูดไม่หยุด หากห้ามอาจจะทำให้ผู้ป่วยรู้สึกเศร้าได้ในทันที
    • ตัดสินใจเร็ว ชอบคิดเร็วแล้วลงมือทำทันที จะไม่คิดก่อนทำจึงไม่มีความรอบคอบในการตัดสินใจ
    • ไม่มีสมาธิ ผู้ป่วยไบโพลาร์จะไม่สามารถจ่อจอกับสิ่งใดได้เลย จะวอกแวกอยู่ตลอดเวลา

    ช่วงคึกคักระยะยาว (Mania Episode)
    ช่วงคึกคักระยะยาว (Mania Episode) เป็นช่วงที่ผู้ป่วยไบโพลาร์จะมีอารมณ์ที่ผิดปกติ โดยมีช่วงซึมเศร้าสลับเปลี่ยนกับช่วงที่อารมณ์ดี หรือ คึกคักมากกว่าปกติ ระยะเวลาของอาการช่วงคึกคักระยะยาวจะพบได้ติดต่อกันอย่างน้อย 1 สัปดาห์ ซึ่งส่งผลกระทบให้กับผู้ป่วยในการใช้ชีวิตประจำวัน และกับคนรอบข้าง

    ลักษณะของอาการผู้ป่วยไบโพลาร์ช่วงคึกคักระยะยาว (Mania Episode) มีดังนี้

    • อารมณ์เปลี่ยนแปลงสลับไปมา ผู้ป่วยไบโพลาร์จะมีอารมณ์ร่าเริง ดูมีความสุข คนรอบตัวมักจะสังเกตเห็นได้ว่าอารมณ์ของผู้ป่วยเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมจนผิดแปลกไปจากเดิม ผู้ป่วยจะมีอาการติดต่อกันทุกวันอย่างน้อย 1 สัปดาห์
    • ปัญหาการเรื่องของการพักผ่อน ผู้ป่วยจะนอนพักผ่อนได้น้อยลง หรือผู้ป่วยบางรายอาจจะนอนหลับได้แค่ 3 - 4 ชม.เพราะรู้สึกว่าตัวเองนอนเต็มอิ่มแล้ว
    • มีความมั่นใจในตัวเองเพิ่มมากขึ้น ผู้ป่วยไบโพลาร์จะรู้สึกว่าตัวเองมีความสามารถ มั่นใจตัวเอง ด้วยกระบวนการทางความคิดของผู้ป่วยมีความผิดปกติอาจจะทำให้ผู้ป่วยคิดว่าตัวเองเป็นคนสำคัญ และบางรายคิดว่าตัวเองมีพลังพิเศษ

    จะรักษาไบโพลาร์ที่ไหนดี?

      ยารักษาโรคไบโพลาร์
     

    ผู้ป่วยมีความผิดปกติทางด้านอารมณ์และพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงแบบขั้วตรงข้ามของตนเองที่เกิดจากสารเคมีในสมองระบบสื่อสารผิดปกติ ซึ่งผู้ป่วยไม่สามารถหายได้เอง จำเป็นที่ต้องกินยารักษาไบโพล่า เพื่อให้อาการของผู้ป่วยดีขึ้น โรคไบโพลาร์รักษาที่ไหนดี ควรรักษาที่โรงพยาบาลที่มีแผนกด้านจิตเวช และแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านจิตเวช เพราะเนื่องจากไบโพลาร์เป็นโรคที่เกี่ยวกับจิตเวช ทางแพทย์ที่คอยดูแลรักษาผู้ป่วยจะเข้าใจผู้ป่วยที่เป็นไบโพลาร์ได้อย่างดี และสามารถหาดูแลวิธีที่รักษาให้ผู้ป่วยหายจากอาการป่วยได้

    วิธีดูแลคนใกล้ชิดที่เป็นไบโพลาร์
    ก่อนจะรู้วิธีดูแลคนใกล้ชิดที่เป็นไบโพลาร์ ครอบครัว หรือคนรอบตัวที่ใกล้ชิดผู้ป่วยจำเป็นต้องมีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับโรคและวิธีการรักษาให้ดีเสียก่อน ถึงจะสามารถรู้ว่าควรปฏิบัติตัว ดูแลผู้ป่วยอย่างไร เพื่อที่ผู้ป่วยจะได้มีอาการดีขึ้นและค่อย ๆ หายจากโรคอารมณ์สองขั้วนี้ สำหรับวิธีดูแลคนใกล้ชิดที่เป็นไบโพลาร์ จะทำอย่างไรได้บ้าง มาดูกัน

    • ผู้ดูแลหรือคนใกล้ชิดควรสนับสนุนให้ผู้ป่วยเข้ารับการรักษาทั้งจากจิตแพทย์และนักจิตบำบัดอย่างสม่ำเสมอ และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
    • หมั่นเช็กเวลาที่ผู้ป่วยทานยาว่า ทานยาแต่ละวันครบไหม ห้ามให้ผู้ป่วยหยุดยาเอง
    • ให้ความรักและความกำลังใจเป็นพิเศษ ผู้ดูแลควรให้กำลังใจและการสนับสนุนผู้ป่วยอยู่เสมอ คอยอยู่เคียงข้างและช่วยเหลือผู้ป่วยในทุก ๆ เรื่อง
    • ผู้ดูแลควรเข้าใจว่าพฤติกรรมเหล่านี้เป็นผลมาจากอาการของโรคไบโพล่า ไม่ใช่นิสัยที่ไม่ดีของผู้ป่วย ควรพูดคุยกับผู้ป่วยอย่างใจเย็นและอดทน

    วิธีการดูแลตนเองสำหรับผู้ป่วยไบโพลาร์
    การดูแลตนเองสำหรับผู้ป่วยไบโพลาร์นั้น มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการรักษาและควบคุมอาการของโรค ผู้ป่วยสามารถดูแลตนเองได้ ดังนี้

    • เข้ารับการรักษาอย่างสม่ำเสมอ มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการรักษาอาการและป้องกันอาการโรคไบโพลาร์กำเริบ
    • ดูแลสุขภาพทั่วไปให้ดี เช่น ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ รับประทานอาหารครบห้าหมู่ หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่
    • เรียนรู้ที่จะจัดการอารมณ์แปรปรวนของตนเอง นำคำแนะนำของนักจิตบำบัดหรือจิตแพทย์มาใช้เป็นแนวทางในการเปลี่ยนความคิด และเข้าใจอาการป่วยของตนเองเพื่อรับมืออาการที่เกิดขึ้นได้
    • หลีกเลี่ยงปัจจัยที่อาจกระตุ้นให้อาการกำเริบ เช่น ความเครียดจากเรื่องต่าง ๆ และการนอนหลับไม่เพียงพอ
    • ขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น ผู้ป่วยไบโพลาร์อาจประสบปัญหาในการใช้ชีวิต เช่น ปัญหาในการทำงาน การเรียนจึงควรขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นที่ใกล้ชิด

    ไบโพลาร์ โรคทางใจรักษาได้
    ปัจจุบันเรายังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดโรคไบโพลาร์ ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าเกิดจากหลายสาเหตุ ทั้งปัจจัยทางพันธุกรรม ความไม่สมดุลของสารสื่อประสาท และปัจจัยทางสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ และไม่ว่าจะเป็นปัจจัยใดก็ตามผู้ป่วยควรที่จะเข้ารับการรักษาเมื่อรู้ว่าตนเองมีอาการของโรคไบโพลาร์ การรักษาอย่างทันท่วงทีจะช่วยป้องกันไม่ให้อาการรุนแรงและส่งผลเสียต่อสุขภาพและการดำเนินชีวิต



    83
    บ้านเดี่ยวศาลายา

    ขอบคุณรูปภาพจาก SC Asset.com

    คุณเป็นหนึ่งคนที่เบื่อความแออัดจากตึกสูงบดบังทัศนียภาพหรือการจราจรติดขัดยากจะขยับตัวในเขตเมืองกรุงเทพฯชั้นในหรือเปล่า? ถ้าใช่ บ้านเดี่ยวศาลายาคือโครงการบ้านน่าอยู่ย่านชานเมืองที่ตอบโจทย์สำหรับคุณ ท่ามกลางความสงบร่มรื่นผสมผสานการเติบโตในด้านการค้าและเศรษฐกิจ บ้านเดี่ยวศาลายารายล้อมไปด้วยถนนเส้นทางหลากหลายสาย ง่ายต่อการเดินทาง ทั้งยังพรั่งพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทำให้บ้านเดี่ยวศาลายาเป็นโครงการบ้านเดี่ยวที่น่าจับตามองและน่าจับจองอย่างมากในเวลานี้

    โครงการบ้านเดี่ยวศาลายา สัมผัสวิถีชีวิตเรียบง่ายบนทำเลทอง

    โครงการบ้านแถวศาลายาฟังครั้งแรกอาจจะดูเป็นบ้านเดี่ยวที่อยู่ในทำเลห่างไกล แต่ในความเป็นจริงแล้วย่านบ้านเดี่ยวศาลายามีการเติบโตและพัฒนาอยู่เสมอ เป็นทำเลทองที่มีโครงการบ้านเดี่ยว คอนโดมิเนียม โปรเจกต์ต่าง ๆ มากมายเข้ามาลงทุน บ้านเดี่ยวศาลายายังแวดล้อมด้วยสถานที่สำคัญเป็นเอกลักษณ์พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ให้คุณใช้ชีวิตสงบเรียบง่ายได้อย่างมีสไตล์ นับว่าเป็นทำเลทองที่รองรับการขยับขยายอย่างต่อเนื่องของชุมชนและเติมเต็มการอยู่อาศัยได้อย่างสมบูรณ์

    บ้านเดี่ยวศาลายาเหมาะกับใครและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์แบบไหน

    บ้านเดี่ยวศาลายามีแบบโครงการตลอดจนสไตล์บ้านที่หลากหลายพร้อมรองรับผู้อยู่อาศัยทุกไลฟ์สไตล์ไม่ว่าจะอยู่เดี่ยวคนเดียว เลือกพักอาศัยเป็นคู่ มีครอบครัวขนาดเล็กหรือต้องการพื้นที่สำหรับครอบครัวขนาดใหญ่ โครงการบ้านใหม่ศาลายาตอบโจทย์ได้ทุกรูปแบบ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการความสงบเรียบง่าย ไม่แออัดวุ่นวาย ได้ใช้ชีวิตอยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ แต่ยังคงความสะดวกสบายรอบด้านทั้งการเดินทางและสิ่งอำนวยความสะดวก มีความทันสมัย และอยู่ไม่ไกลมากนักจากตัวเมือง

    บ้านเดี่ยวศาลายา มนต์เสน่ห์บ้านเดี่ยวที่น่าจับจองในย่านน่าอยู่

    บ้านเดี่ยวศาลายามีสิ่งแวดล้อมเหมาะสมกับการอยู่พักอาศัยทั้งบ้านเดี่ยวและครอบครัวใหญ่ ไม่ว่าจะความร่มรื่นใกล้ชิดธรรมชาติ ผู้คนไม่แออัด ราคาที่อยู่อาศัยอยู่ในโซนเป็นราคาจับต้องได้ไม่สูงเท่ากับบ้านเดี่ยวในย่านอื่นแต่ได้ปัจจัยสาธารณูปโภคในการใช้ชีวิตครบครัน จะเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวหรือขนส่งสาธารณะก็คล่องตัวไปได้หลายเส้นทาง อีกทั้งทำเลบ้านเดี่ยวแถวศาลายายังมีแผนขยายเส้นทางรถไฟฟ้าในอนาคตเพื่อให้การเดินทางในพื้นที่นั้นสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เรียกว่าเป็นเวลาดีน่ารีบจับจองสำหรับบ้านเดี่ยวศาลายา

    บ้านเดี่ยวศาลายา แนะนำโครงการบ้านดี่ยวหลังใหญ่ที่น่าสนใจ

    โครงการบ้านเดี่ยวหลังใหญ่มีให้เลือกมากมายอยู่ทั่วกรุงเทพฯ แต่จะมีโครงการใดบ้างตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวายในเมืองแต่ยังคงความทันสมัยในการใช้ชีวิตได้อย่างลงตัว เรามีบ้านเดี่ยวศาลายาโครงการใหม่ที่น่าสนใจอย่างบ้านเดี่ยวศาลายา Venue ID ปิ่นเกล้า ศาลายา จาก SC Asset มาแนะนำ

    บ้านเดี่ยวศาลายา เวนิว ไอดี ปิ่นเกล้า-ศาลายา

    บ้านเดี่ยวศาลายาโครงการใหม่

    ขอบคุณรูปภาพจาก SC Asset.com

    บ้านเดี่ยวศาลายา เวนิว ไอดี ปิ่นเกล้า-ศาลายา (Venue ID Pinklao-Salaya) บ้านเดี่ยวหลังใหญ่ที่ให้กลิ่นอายของความเรียบง่ายเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ ผสมผสานกับเทคโนโลยีในตัวบ้านได้อย่างลงตัว โดยโครงการบ้านเดี่ยวศาลายา Venue ID ได้แรงบันดาลใจมาจากหมู่บ้านชิราคาวาโกะ (Shirakawa-Go) หมู่บ้านมรดกโลกอายุกว่า 250 ปีของญี่ปุ่น บ้านทุกหลังมีระบบสัญญาณกันขโมยพร้อมดูแลคุณตลอด 24 ชั่วโมง ตัวโครงการมีพื้นที่รับรองสำหรับทำกิจกรรมอย่างคลับเฮ้าส์ทั้งแบบในร่มและกลางแจ้ง สวนส่วนกลางขนาดใหญ่ พื้นที่เสริมสร้างพัฒนาการเด็ก และ Co-working space

    โดยตัวโครงการบ้านจัดสรร ศาลายา Venue ID มีแปลนบ้านให้ผู้ต้องการอยู่อาศัยเลือก 4 แบบด้วยกัน

    • แบบ TSUBAKI   ขนาด 5 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ และ 3 ที่จอดรถ บนพื้นที่ใช้สอย 296 ตารางเมตร
    • แบบ KAWAZU   ขนาด 5 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และ 2 ที่จอดรถ บนพื้นที่ใช้สอย 242 ตารางเมตร
    • แบบ YURI   ขนาด 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และ 2 ที่จอดรถ บนพื้นที่ใช้สอย 190 ตารางเมตร
    • แบบ HAGI   ขนาด 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และ 2 ที่จอดรถ บนพื้นที่ใช้สอย 190 ตารางเมตร

    Venue ID โดย SC Asset ปิ่นเกล้า ศาลายา ตั้งอยู่บนถนนสำเร็จพัฒนา ทำเลทองเชื่อมต่อกับถนนเส้นหลักอย่างกาญจนาภิเษก, ถนนบรมราชชนนี, ถนนพุทฑมณฑลสาย 3 และสาย 4, วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครฝั่งตะวันตก นอกจากนี้แล้วยังใกล้กับทางคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนี, ทางด่วนพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอก ตลอดจนระบบขนส่งสาธารณะอย่างรถไฟฟ้าสายสีแดง สถานีตลิ่งชัน

    นอกจากนี้แล้ว บ้านเดี่ยวศาลายา Venue ID ยังรายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้าอย่างแมคโคร ศาลายา, เดอะ พาซิโอ พาร์ค, โรงพยาบาลศาลายา, โรงพยาบาลพุทธมณฑล, โรงเรียนเทพศิรินทร์ นนทบุรี หรือมหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตศาลายา เรียกได้ว่าครบครันทุกความต้องการสำหรับที่พักอาศัยคุณภาพ Venue ID ศาลายา พร้อมให้คุณใช้ชีวิตเรียบง่าย สะดวกสบาย กับบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ใกล้ชิดธรรมชาติในราคาเริ่มต้นเพียง 6.29 ล้านบาท

    สรุปเกี่ยวกับโครงการแนะนำบ้านเดี่ยวศาลายา

    ทำเลบ้านเดี่ยวศาลายามีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องควบคู่ไปกับวิถีชีวิตร่มรื่นใกล้ชิดธรรมชาติ พื้นที่โดยรอบมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน การจราจรเดินทางง่ายกว่าในตัวเมือง พร้อมด้วยโครงการขยับขยายอีกมากมายที่จะส่งผลให้ที่ดินรวมถึงอสังหาริมทรัพย์บ้านแถวศาลายามีราคาเพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน หากใครที่กำลังมองหาบ้านเดี่ยว ปิ่นเกล้า ศาลายาอย่าง SC Asset ศาลายาสักหลังเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีในอนาคต รีบจับจองกันได้เลยตั้งแต่วันนี้

    84
    สินเชื่อรถแลกเงิน

    ในปัจจุบันการกู้สินเชื่อได้เข้ามามีบทบาทสำคัญต่อผู้คนเป็นอย่างยิ่ง เพราะสินเชื่อจะช่วยทำให้คนที่ขาดสภาพคล่องทางการเงินแต่ต้องการใช้เงินมาลงทุนในธุรกิจส่วนตัว หรือชำระหนี้สินต่าง ๆ สามารถมีเงินก้อนไปใช้ตามที่ต้องการ ซึ่งการขอสินเชื่อก็มีหลากหลายรูปแบบ ซึ่งหนึ่งในสินเชื่อที่่ได้เงินไว และเป็นที่นิยมคือ สินเชื่อรถแลกเงิน เป็นสินเชื่อที่ทำมาเพื่อตอบโจทย์คนมีรถที่อยากใช้เงินก้อนกะทันหัน ในบทความนี้เราจะพาทุกคนมาไขข้อสงสัย ว่าการขอสินเชื่อรถแลกเงินนั้นต้องทำอย่างไร เหมาะกับใครบ้าง

    สินเชื่อรถแลกเงินคืออะไร

    สินเชื่อรถแลกเงิน หรือที่เรียกอีกอย่างว่า สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ คือหนึ่งในประเภทการขอสินเชื่อโดยจะมีการใช้รถยนต์ 4 ล้อ, รถกระบะ หรือรถมอเตอร์ไซค์ที่ทำการผ่อนหมดแล้วและต้องเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ครอบครอง มาใช้เป็นหลักค้ำประกันในการขอกู้สินเชื่อ โดยเจ้าของรถจะต้องนำเล่มทะเบียนรถมาเป็นหลักค้ำประกันเพื่อแลกกับเงินสด ซึ่งเจ้าของรถจะยังสามารถใช้รถได้ปกติและไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน ส่วนวงเงินของสินเชื่อนั้น จะได้มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ รุ่น ประเภท และปีที่ผลิตของรถที่นำมาขอสินเชื่อ

    สินเชื่อรถแลกเงินเหมาะกับใคร

    เนื่องจากแต่ละคนต่างมีภาระหนี้สินหรือความคล่องตัวทางการเงินไม่เหมือนกัน ดังนั้นสินเชื่อรถแลกเงินจึงเป็นตัวช่วยให้การให้คนที่มีปัญหาด้านการเงิน โดยสินเชื่อรถแลกเงินเหมาะกับใครบ้าง มีดังนี้

    1.คนที่ต้องการเงินด่วน คือคนที่มีภาระค่าใช้จ่ายที่เข้ามาอย่างกะทันหัน และไม่สามารถนำเงินเก็บที่มีอยู่มาใช้ได้ ดังนั้นการขอสินเชื่อรถแลกเงินจึงเป็นทางเลือกที่จะช่วยให้เจ้าของรถสามารถได้รับเงินก้อนมาทำการใช้จ่ายภาระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ก่อนได้

    2. คนที่ทำการผ่อนชำระรถยนต์หมดแล้ว อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าการขอสินเชื่อรถแลกเงินนั้น ผู้กู้จะต้องนำเล่มทะเบียนรถมาค้ำประกัน ดังนั้นจึงเหมาะแก่คนที่ผ่อนชำระรถยนต์หมดแล้ว และต้องไม่มีภาระการชำระหนี้รถยนต์จึงจะสามารถขอกู้สินเชื่อได้

    3. คนที่ประกอบอาชีพอิสระ สำหรับคนที่ทำอาชีพอิสระหรือธุรกิจส่วนตัว บางครั้งอาจต้องการเงินเพื่อไปใช้ลงทุน หรือนำมาชำระหนี้สินต่าง ๆ ซึ่งการขอสินเชื่อรถแลกเงินนั้น ก็ถือว่าเป็นตัวช่วยให้คนที่ไม่มีรายได้ประจำ ให้สามารถได้เงินก้อนไปลงทุนหรือชำระหนี้ ได้ในเวลาอันรวดเร็ว

    สมัครสินเชื่อรถแลกเงิน ต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง

    สำหรับคนที่ต้องการสมัครสินเชื่อรถแลกเงิน จะต้องมีคุณสมบัติเบื้องต้นดังนี้

    • เป็นคนที่มีสัญชาติไทย
    • เป็นยุคคลธรรมดา มีอายุ 20 ปีบริบูรณ์และจะต้องไม่เกิน 65 ปี
    • มีอาชีพ และรายได้ที่ชัดเจน และสามารถตรวจสอบได้ เช่น มีหลักฐานการรับเงินเดือน หรือหนังสือหักภาษี ณ ที่จ่าย
    • มีรายได้ขั้นต่ำ 7,500 บาท/เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของแต่ละธนาคาร
    • เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รถยนต์ตามที่ระบุบนเล่มทะเบียน หรือเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์โดยที่ปลอดชำระหนี้

    ขั้นตอนการสมัครสินเชื่อรถแลกเงิน

    ขั้นตอนการสมัครสินเชื่อรถแลกเงิน

    ในส่วนของขั้นตอนการขอสินเชื่อรถแลกเงิน มีขั้นตอนหลัก ๆ ดังนี้

    1.เตรียมเอกสารต่าง ๆ ที่ต้องใช้ในการขอสินเชื่อ โดยมีเอกสารที่ต้องเตรียม ดังนี้

    • สำเนาบัตรประชาชนของผู้กู้
    • สำเนาทะเบียนบ้านของผู้กู้
    • เล่มทะเบียนรถตัวจริง
    • หลักฐานการมีรายได้ เช่น สลิปเงินเดือนของพนักงานประจำ
    • สำเนาบัญชีธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน  (สำหรับคนประกอบธุรกิจส่วนตัว/อาชีพอิสระ)
    • หนังสือรับรองบริษัท, สำเนาทะเบียนการค้า ใบประกอบวิชาชีพ (สำหรับคนประกอบธุรกิจส่วนตัว/อาชีพอิสระ)
    • หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย 50 ทวิ หรือ ภงด.90/91 ปีล่าสุด  (สำหรับคนประกอบธุรกิจส่วนตัว/อาชีพอิสระ)
    • สำเนาสมุดหน้าแรกบัญชีธนาคาร สำหรับโอนเงินเข้า
    • กรมธรรม์ต่าง ๆ ของรถยนต์ที่ผู้กู้ได้ทำไว้ เช่น ประกันรถยนต์ เป็นต้น (ถ้ามี)

    2.ติดต่อกับสถาบันการเงินที่ต้องการทำเรื่องขอสินเชื่อ

    3.กรอกเอกสารเพื่อขอยื่นเรื่องขอสินเชื่อรถแลกเงิน โดยผู้กู้ควรอ่านและตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้องเรียบร้อย เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาในภายหลัง

    4.หลังจากกรอกเอกสาร และยื่นเอกสารเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ให้รอฟังผลการอนุมัติการขอสินเชื่อ ซึ่งโดยปกติแล้วจะใช้ระยะเวลาประมาณ 1-3 วัน จะทราบผล จากนั้นเงินจะถูกโอนเข้าบัญชีของผู้กู้

    สินเชื่อรถแลกเงินยังไงให้ได้รับวงเงินสูง

    สำหรับใครที่ต้องการขอสินเชื่อรถแลกเงินให้ได้วงเงินที่สูง จะต้องพิจารณา และเปรียบเทียบโปรโมชันของแต่ละสถาบันการเงิน โดยสิ่งที่ผู้กู้ควรรู้มีดังนี้

    1.คำนวณวงเงินที่ต้องการ

    ก่อนที่จะทำการขอสินเชื่อรถแลกเงิน ผู้กู้จะต้องพิจารณาก่อนว่าวงเงินที่ต้องการจะกู้นั้นมีจำนวนเท่าไหร่ เนื่องจากการขอสินเชื่อรถแลกเงินนั้นจะมีดอกเบี้ยที่ค่อนข้างถูก แต่มีระยะเวลาการผ่อนที่ค่อนข้างนาน ดังนั้นการรู้จำนวนเงินที่แน่ชัดจะช่วยให้ผู้กู้สามารถจัดการผ่อนชำระหนี้ได้สะดวก แม่นยำ และยังช่วยลดภาระหนี้ที่ไม่จำเป็นได้อีกด้วย

    2.เปรียบเทียบสินเชื่อแต่ละเจ้า

    สำหรับการเลือกสินเชื่อรถแลกเงินที่ไหนดีนั้น ผู้กู้ควรพิจารณาคือโปรโมชันของแต่ละธนาคารที่จะแตกต่างกันออกไป สิ่งที่ผู้กู้ควรนำมาเปรียบเทียบได้แก่

    • วงเงินอนุมัติ โดยแต่ละธนาคารจะให้วงเงินที่ต่างกัน เริ่มตั้งแต่ 100% ไปจนถึง 150% ของราคาประเมิน
    • ดอกเบี้ย แต่ละธนาคารจะมีอัตราดอกเบี้ยที่ต่างกันไป ผู้กู้ควรคำนวณอัตราดอกเบี้ยที่ตนเองมีกำลังที่จะสามารถผ่อนไหว โดยจะมีตั้งแต่อัตราดอกเบี้ย 0.27% - 0.98% ต่อเดือน
    • ระยะเวลาการผ่อน ซึ่งแต่ละธนาคารจะมีการกำหนดระยะเวลาการผ่อนชำระที่แตกต่างกันไป ยิ่งระยะเวลาการผ่อนนาน ก็จะทำให้ผู้กู้ชำระหนี้ต่อเดือนถูกลง โดยจะมีระยะเวลาผ่อนตั้งแต่ 72 - 84 เดือน

    3.ยี่ห้อและปีผลิตรถมีผลต่อวงเงิน

    รถคือส่วนสำคัญที่จะกำหนดว่าผู้กู้จะได้วงเงินสูงมากน้อยแค่ไหน โดยธนาคารจะพิจารณาจากยี่ห้อ ปีที่ผลิต และสภาพของรถ ยิ่งหากรถที่นำมากู้นั้นเป็นยี่ห้อที่มีชื่อเสียง และปีที่ผลิตไม่นานนี้ ก็จะทำให้มีโอกาสได้วงเงินกู้ที่สูงตามไปด้วย ซึ่งทั่วไปแล้วธนาคารจะกำหนดให้รถที่สามารถทำสินเชื่อรถแลกเงินได้จะต้องมีอายุไม่เกิน 15 ปี

    สินเชื่อรถแลกเงิน ใช้เวลาในการอนุมัติกี่วัน

    หลายคนอาจมีข้อสงสัยว่า สินเชื่อรถแลกเงินนั้นใช้เวลาในการอนุมัติกี่วัน อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าหากผู้กู้เตรียมเอกสารสำหรับดำเนินการมาครบ ถูกต้อง ผู้กู้ก็จะได้รับผลการอนุมัติภายใน 1 -3 วัน ในกรณีที่เป็นการกู้แบบไม่โอนเล่ม หากเป็นการกู้สินเชื่อแบบโอนเล่มจะใช้ระยะเวลาอยู่ที่ 7 - 10 วัน

    ขอสินเชื่อรถแลกเงินผ่าน Refinn ดีอย่างไร

    หากใครที่กำลังมองหาตัวช่วยสำหรับเปรียบเทียบและเลือกว่าจะขอสินเชื่อรถแลกเงินที่ไหนดี Refinn คือตัวช่วยที่พร้อมให้การขอสินเชื่อของคุณสะดวก และได้วงเงินที่ตอบโจทย์ที่สุด โดยข้อดีของการขอสินเชื่อรถแลกเงินผ่าน Refinn มีดังนี้

    1.ทราบวงเงินและอัตราดอกเบี้ยที่ถูกที่สุด

    โดยบริการของ Refinn นั้น จะทำหน้าที่ช่วยเปรียบเทียบโปรโมชันขอสินเชื่อรถแลกเงิน ที่เหมาะกับคุณมากที่สุด เพียงแค่กรอกข้อมูลของรถที่ต้องการกู้บนเว็บไซต์ จากนั้นระบบจะทำการขึ้นหน้าโปรโมชันของแต่ละธนาคารพร้อมแสดงหน้า อัตราดอกเบี้ย วงเงิน และระยะเวลาการผ่อน ให้คุณเลือกตามความเหมาะสม

    2.ประหยัดแรง ประหยัดเวลา

    การใช้บริการกับ Refinn นั้น นอกจากจะช่วยเลือกโปรโมชันที่เหมาะสมที่สุดแล้ว ยังช่วยให้คุณประหยัดเวลา ประหยัดแรง ในการดำเนินการอีกด้วย โดยคุณไม่ต้องเสียเวลาทำการเปรียบเทียบโปรโมชันแต่ละธนาคารด้วยตนเอง แถมยังสามารถดำเนินการผ่านรูปแบบออนไลน์ ที่ทำได้ทุกที่ทุกเวลา เพียงมีอินเทอร์เน็ต

    3.ติดตามผลอนุมัติแบบออนไลน์

    นอกจากเปรียบเทียบโปรชันกับ Refinn แล้ว ผู้กู้ยังสามารถทำการขอสินเชื่อรถแลกเงินผ่าน Refinn ได้ด้วยเช่นกัน โดยมีเพียง 4 ขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้

    • เลือกโปรโมชันผ่าน Refinn
    • สมัครใช้บริการออนไลน์กับ Refinn โดยสมัครฟรี
    • นัดตรวจเอกสารและสภาพรถ
    • ทราบผลพิจารณาสินเชื่อ

    4.ใช้บริการฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย

    การใช้บริการขอสินเชื่อรถแลกเงินกับ Refinn นั้น ผู้กู้สามารถดำเนินงานได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ตั้งแต่ขั้นตอนแรก ไปจนถึงการทราบผลอนุมัติสินเชื่อ

    85
    ท่อ hdpe ท่อประปามีอะไรบ้าง

    ท่อพีอีในท้องตลาดมีหลายสี หลายประเภทจนทำให้ใครหลายคนอาจสงสัยว่าท่อ pe แต่ละแบบเหมาะกับงานประเภทไหนใช้ทำอะไร มีคุณสมบัติและส่วนประกอบแบบไหน ในบทความจะพาทุกคนไปทำความรู้จักประเภทของท่อ hdpe ประปา, ท่อร้อยสายไฟที่ใช้งานด้านครัวเรือน อุตสาหกรรมต่าง ๆ ไปดูกันเลย

    ท่อ PE คืออะไร
    ทำความรู้จักท่อ pe

    ท่อ hdpe คือ ท่อพลาสติกที่มีความหนาแน่นสูง เนื้อเหนียวทนทานต่อการกัดกร่อน สารเคมี แรงกระแทก ทนแสงยูวีและสภาพอากาศแปรปรวน มีคุณสมบัติโดดเด่นไม่เป็นสนิม น้ำหนักเบาเมื่อใช้ท่อ pe ตรงประเภทจะทำให้ยืดอายุการใช้งานได้อย่างยาวนาน เพื่อความสะดวกของการใช้งานที่แตกต่างกันลักษณะท่อ hdpe จึงแยกประเภทจากสัญลักษณ์ดังนี้

    1.ท่อ hdpe คาดส้มถูกผลิตขึ้นให้มีคุณสมบัติทางเคมีรับแรงดันไฟฟ้าได้ถึง 500 KV ทนไฟ มีความยืดหยุ่นสูงจึงไม่ต้องตัดแต่งสามารถท่อติดตั้งได้อย่างรวดเร็วใช้ประโยชน์ได้ดีในด้านสายไฟทั้งที่โล่งแจ้ง, บนฝ้าอาคาร, สายไฟใต้ดินและสายเคเบิล

    2.ท่อ hdpe คาดฟ้าถูกผลิตจากพลาสติกเชิงวิศวกรรมผิวสัมผัสภายในมันลื่น เมื่อนำมาใช้ประโยชน์เป็นท่อน้ำจะทำให้อัตราการไหลเวียนของน้ำดีขึ้น เหมาะสำหรับการสร้างท่อน้ำดื่ม, ชลประทาน, เกษตรกรรม เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับน้ำที่สะอาดและยังทำเป็นท่อน้ำทิ้งได้ด้วยเพราะขนาดท่อ hdpe สามารถโค้งงอได้

    ท่อ PE มีคุณสมบัติที่โดดเด่นอย่างไรและเหมาะกับงานด้านไหนบ้าง
    ท่อพีอีมีคุณสมบัติหลายอย่างเช่น ไม่เปราะหักง่าย อายุการใช้งานยาวนานมากกว่า 50 ปี ท่อต่อแสง UV น้ำหนักเบา โค้งงอได้ ติดตั้งง่าย พื้นผิวลื่นเรียบ ทนแรงกระแทกจากการฝังใต้ดินหรือดินทรุดตัวจึงประหยัดค่าบำรุงรักษา ทำให้ท่อ PE ถูกใช้ประโยชน์เป็นท่อประปาและท่อสายไฟติดตั้งในงานหลาย ๆ ด้านได้แก่

    • ท่อ hdpe ประปามาตรฐานสำหรับน้ำดื่มท่อ pe ผลิตจากพลาสติกเกรด ISO/DIS 9080 ได้รับการทดสอบจากสถาบันชั้นนำรับแรงดันน้ำได้สูงถึง 12.5 บาร์ และมีอายุการใช้งานมากกว่า 50 ปีทำให้ไม่ต้องซ่อมบำรุงบ่อยจึงหมดปัญหาร่วมซึม ปัญหาการรื้อถอนท่อไปได้อีกยาวนาน
    • ท่อน้ำ pe สำหรับภาคเกษตรกรรมเป็นท่อน้ำที่มีคุณสมบัติทนต่อการกัดกร่อน ปราศจากสารโรคและโลหะหนักต่าง ๆ ผ่านการรับรองการสุขาภิบาลทำให้สุขอนามัยของผู้บริโภคดีขึ้น หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสิ่งปฏิกูล น้ำเน่าเสีย
    • ท่อ hdpe สำหรับส่ง Natural Gas (แก๊สธรรมชาติ) ด้วยความยืดหยุ่น ทนต่อแรงกระแทกสูงของท่อ pe ทำให้เหมาะกับงานกระจายแก๊สธรรมชาติ ลดการรบกวนสภาพอากาศแก่ประชาชนและสภาพแวดล้อมบริเวณนั้นได้
    • ท่อพีอีสำหรับท่อน้ำทิ้งเป็นท่อพลาสติกประเภทพอลิเอทิลีน ทนต่อสารเคมี มีความเหนียวสูง ป้องกันรอยขีดข่วนทำให้ไม่แตกรั่วง่ายและไม่เป็นสนิม จึงถูกใช้งานโดยเทศบาลประจำโครงการต่าง ๆ เพื่อเปลี่ยนแปลงการระบายน้ำทิ้งของเสียตามครัวเรือน, การเกษตร, ชลประทาน, อุตสาหกรรมให้ดีต่อสภาพแวดล้อมยิ่งขึ้นกว่าเดิม
    • ท่อ pe คาดส้มสำหรับร้อยสายไฟ, สายเคเบิล, สายโทรศัพท์ต่าง ๆ ผลิตจากวัสดุชั้นดี มีคุณสมบัติทางฟิสิกส์และเคมีเป็นฉนวนไฟฟ้าป้องกันการเกิดกระแสไฟรั่ว ผิวด้านนอกมีความปลอดภัยต่อการซ่อมบำรุงท่อ ทนต่อกรด-ด่างทำให้เหมาะกับงานนำสายไฟฟ้าทั้งบนดิน ใต้ดินได้

    ท่อ PE ทำมาจากอะไร มีส่วนประกอบที่ต่างจากท่อชนิดอื่นอย่างไร
    ท่อ pe ทำมาจากอะไร

    ท่อพีอีทำมาจากพอลิเอทิลีน Polyethylene หรือเรียกย่อว่าท่อ pe ผลิตจากขั้นตอนทางเคมีมีความหนาแน่นถึง 950 Kg/m3 เป็นฉนวนไฟฟ้า ทนแรงกระแทกและสามารถดัดแปลงเป็นวัสดุป้องกันสภาวะกรด ท่อ hdpe ยังใช้เป็นท่อประปาเนื่องจากทนน้ำ ทนแสงแดดสะดวกต่อการติดตั้งหลายด้านเช่น ใต้ดิน, ภายในอาคาร, โรงงานอุตสาหกรรม, พื้นที่โล่งแจ้งเป็นต้น

    โดยท่อ hdpe ประปาเป็นทางเลือกใหม่สำหรับการส่งน้ำเนื่องจากคุณสมบัติที่เหมาะกับการใช้งาน ผิวท่อมีความมันเรียบ อีกทั้งท่อ pe ยังมีอายุการใช้งานยาวนาน ผ่านกระบวนการทดสอบได้มาตรฐานผลิตภัณฑ์ มอก.982-2556 การเลือกซื้อท่อ pe สามารถดูได้ที่เครื่องหมายการค้าบริษัทที่ได้รับมาตรฐาน (มอก.) มั่นใจของแท้ได้เลย

    สรุป
    ใช้ท่อ hdpe คาดส้มเป็นตัวห่อหุ้มสายไฟจะช่วยป้องกันไม่ให้สายเคเบิล สายโทรศัพท์เสียหายจากการไปสัมผัสกับวัสดุต่าง ๆ และยังป้องกันการเกิดไฟรั่ว สายไฟชำรุด การเกิดสะเก็ดประกายไฟได้ด้วย อีกทั้งยังสามารถใช้ท่อ pe คาดฟ้าในงานประปาเพื่อใช้ลำเลียงน้ำด้านการเกษตร ชลประทาน น้ำดื่มเนื่องจากทนทานต่อสภาพอากาศ สารเคมี ซึ่งการมีแถบคาดสีถูกกำหนดเอาไว้เพื่อแบ่งประเภทให้นำไปใช้ได้ถูกด้านเท่านั้น

    86
    แท็บเล็ต

    ขอบคุณรุปภาพจาก samsung.com

    แท็บเล็ตคืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ได้รับความนิยมไม่น้อยไปกว่าสมาร์ตโฟนหรือคอมพิวเตอร์ ด้วยหน้าจอขนาดใหญ่กว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ทำให้ผู้ใช้มองเห็นในมุมที่กว้างกว่า แถมฟังก์ชันยังครบครันเทียบเท่ากับโน้ตบุ๊ค อีกทั้งน้ำหนักตัวเครื่องยังเบาสบาย พกพาไปไหนก็ง่ายและสะดวก แต่แท็บเล็ตในปัจจุบันนั้นมีหลายรุ่นด้วยกัน ซึ่งแต่ละรุ่นก็มีความพิเศษและรูปลักษณ์ที่ต่างกันออกไปจนอาจทำให้ผู้ที่กำลังมองหาแท็บเล็ตดี ๆ สักเครื่องไม่แน่ใจว่าควรเลือกซื้อรุ่นไหนดี ดูจากสเปคเพียงอย่างเดียวมั้ย หรือแค่ราคาแท็บเล็ตเหมาะสมก็เพียงพอ เรามีข้อมูลที่น่าสนใจมาฝากกัน

    พิจารณาเลือกจากขนาดหน้าจอแท็บเล็ต

    เลือกแท็บเล็ตจากขนาดหน้าจอ

    ขอบคุณรูปภาพจาก samsung.com

    ขนาดหน้าจอแท็บเล็ตในท้องตลาดมีตั้งแต่ขนาด 7-8 นิ้ว เหมาะสำหรับคนที่ชอบถือทำงานนาน ๆ หรือหยิบมาใช้งานเมื่อไหร่ก็ง่าย เพราะมีน้ำหนักเบาทั้งยังพกพาได้สะดวก ไปจนถึงขนาดหน้าจอ 9-12 นิ้วที่จะช่วยเพิ่มพื้นที่สำหรับงานวาด งานตัดต่อที่ต้องการรายละเอียดสูง เห็นภาพได้ชัด งานเอกสารจดข้อมูลเลคเชอร์ต่าง ๆ หรือเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นอย่างเช่นเม้าส์หรือคีย์บอร์ดเพื่อให้การใช้งานนั้นสะดวกมากยิ่งขึ้น

    นอกจากนี้แล้วแท็บเล็ตหน้าจอขนาดใหญ่ยังให้อรรถรสแก่ผู้ใช้งานได้เต็มตามากกว่า ไม่ว่าจะเล่นเกม ดูหนัง หรือดูซีรีส์เรื่องโปรด ซึ่งความจุแบตเตอรี่และความชัดหน้าจอขึ้นอยู่กับขนาดของตัวเครื่องด้วยเช่นกัน ซึ่งหากคุณต้องใช้งานบ่อยหรือยาวนาน แท็บเล็ตขนาดใหญ่จะเหมาะกับไลฟ์สไตล์มากที่สุด

    พิจารณาเลือกจากระบบปฏิบัติการณ์ของแท็บเล็ต

    ระบบปฏิบัติการเป็นอีกหนึ่งจุดสำคัญที่ควรพิจารณาก่อนเลือกซื้อแท็บเล็ตดี ๆ สักเครื่องมาใช้งาน เพราะถึงแม้ว่าประสิทธิภาพในการทำงานของตัวเครื่องจะอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกัน แต่ฟังก์ชันโดดเด่นหรือลูกเล่นของแต่ละระบบนั้นเรียกได้ว่าค่อนข้างต่างกันพอสมควร โดยระบบปฏิบัติการหลักในปัจจุบันมีอยู่ 3 ระบบด้วยกัน ได้แก่ Android, iOS และ Windows

    ระบบปฏิบัติการ Android มีความพิเศษตรงเป็นระบบปฏิบัติการที่หลายค่ายเลือกใช้ทำให้เกิดการแข่งขันสูงในการผลิตและพัฒนาคุณภาพของแท็บเล็ตให้ตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้มากที่สุด แท็บเล็ตระบบปฏิบัติการ Android มีราคาที่จับต้องได้ทั้งยังใช้งานง่ายได้กับหลากหลายอุปกรณ์

    ระบบปฏิบัติการ iOS มีชื่อเรียกเฉพาะว่า iPad ตัวเครื่องโดดเด่นทั้งในด้านการประมวลผลที่รวดเร็วและมีความเสถียรสูง ให้เฉดสีที่ละเอียดเหมาะอย่างมากกับงานด้านศิลปะ แต่ราคาจะค่อนข้างสูง อีกทั้งแอปพลิเคชันที่ช่วยเสริมการใช้งานส่วนใหญ่จำกัดเพียงแค่สำหรับอุปกรณ์ของ Apple เท่านั้น

    สำหรับระบบปฏิบัติการ Windows น่าจะถูกใจสายงานด้านเอกสารต่าง ๆ เพราะเป็นระบบที่เสถียรที่สุดในการใช้งานโปรแกรมของ Adobe กับ Microsoft ตัวเครื่องเชื่อมต่อได้หลากหลายอุปกรณ์ มีประสิทธิภาพเทียบเท่าแท็บเล็ตระบบปฏิบัติการอื่น

    พิจารณาเลือกซื้อแท็บเล็ตจากช่วงราคาที่เหมาะสม

    นอกจากเรื่องของขนาดหน้าจอ ระบบปฏิบัติการตลอดจนสเปคและฟีดเจอร์ต่าง ๆ สิ่งสำคัญอีกข้อหนึ่งซึ่งควรพิจารณาในการเลือกซื้อแท็บเล็ตคือการซื้อเครื่องในราคาเหมาะสมกับคุณภาพการใช้งาน โดยการเปรียบเทียบข้อมูลคุณสมบัติของตัวเครื่องจากหลาย ๆ รุ่นและหลายแบรนด์ให้ชัดเจนก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อให้ได้แท็บเล็ตประสิทธิภาพดี คุ้มค่า ราคาเหมาะสมมาใช้งาน ไม่ต้องเสียเงินก้อนหนึ่งโดยใช่เหตุกับแท็บเล็ตที่คุณภาพสวนทางกับราคา

    พิจารณาเลือกซื้อแท็บเล็ตจากรูปแบบการใช้งาน

    สำหรับสายดูภาพยนตร์ ซีรี่ย์ หรือคลิปต่าง ๆ

    แท็บเล็ตที่ดีคือแท็บเล็ตที่ตอบโจทย์การใช้งานสำหรับคุณ อย่างถ้าคุณเป็นสายบันเทิง ชอบดูภาพยนต์ ซีรีย์ หรือเป็นคอเกม แท็บเล็ตที่มีอัตรารีเฟรชหน้าจอสูงจะช่วยให้ภาพลื่นไหลไม่มีสะดุด นอกจากนี้แล้วหน้าจอที่มีตัวกรองแสงสีฟ้าจะช่วยถนอมสายตาของผู้ใช้งาน ช่วยให้คุณใช้เวลาเพลิดเพลินหน้าจอได้ยาวนานยิ่งขึ้น

    สำหรับสายตัดต่อวิดีโอ หรือทำงานกราฟฟิกต่าง ๆ

    แน่นอนว่าแท็บเล็ตแต่ละรุ่นย่อมมีจุดเด่นต่างกันออกไป แต่ฟังก์ชันที่ขาดไม่ได้สำหรับสายทำงานกราฟิกคือ หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) ที่จะช่วยให้การทำงานนั้นลื่นไหล ควบคู่ไปกับหน่วยประมวลผล (CPU) ที่เร็ว มีหน่วยความจำหลัก (Ram) เยอะ ช่วยในการรันข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงหน่วยความจำตัวเครื่อง (Rom) เพื่อการจัดเก็บและรองรับข้อมูลขนาดใหญ่

    สำหรับสายธุรกิจ หรือสายทำงานประจำ

    ใครที่เป็นสายเรียน สายทำงาน เน้นจดเลคเชอร์ พิมพ์งานเอกสาร หรือต้องพรีเซนท์งานบ่อย ๆ หน้าจอขนาดใหญ่จะช่วยขยายพื้นที่ในการจดบันทึกให้เป็นระเบียบมากยิ่งขึ้น ฟังก์ชันการใช้งานแบบ Multitasking ที่เปิดใช้งานหลายหน้าจอในเวลาเดียวกันก็ทำได้สบาย นอกจากนี้แล้วฟีดเจอร์ที่ให้สัมผัสราวกับเขียนบนกระดาษจริงจะช่วยเพิ่มมิติให้การทำงานผ่านแท็บเล็ตนั้นสนุกและไม่น่าเบื่อ

    แท็บเล็ตประจำปี 2024 รุ่นไหนดี?

    แท็บเล็ต 2023 รุ่นไหนดีเตรียมมาแรงรับต้นปี 2024 เรามาเริ่มกันที่ MatePad 11 PaperMatte Edition จาก HUAWEI ที่โดนเด่นด้วยสัมผัสผิวหน้าจอแบบด้าน ดีไซน์หรูหรา แบตจุได้เยอะ มีระบบชาร์จเร็ว มาพร้อมอุปกรณ์เสริมครบครันในราคาหมื่นปลาย หรือใครที่ชอบดูหนังฟังเพลง คุณต้องไม่พลาดแท็บเล็ต Xiaomi Pad 6 ที่จัดเต็มด้วยลำโพง 4 ตัวให้เสียงกระหึ่มสะใจกับสเปคลื่น ๆ ในราคาหมื่นต้น

    สำหรับใครที่กำลังมองหาซัมซุงแท็บเล็ตสเปคแรง ประมวลผลได้เฉียบ แท็บเล็ตมีปากกาไม่ต้องซื้ออุปกรณ์จำเป็นเพิ่มให้วุ่นวาย แท็บเล็ต Samsung Galaxy Tab S9 FE คือตัวเลือกที่ตอบโจทย์ แท็บเล็ตซัมซุงรุ่นนี้มีดีไซน์สีสันโดดเด่น หน้าจอแสดงผลละเอียดคมชัด ทำงานได้รวดเร็ว มาพร้อมกับตัวกรองแสงสีฟ้า แบตเตอรี่ทนทานใช้งานได้ยาวนาน และเป็นแท็บเล็ตแรกของแบรนด์ที่สามารถกันน้ำกันฝุ่น จัดว่าครบเครื่องสุด ๆ ให้คุณเป็นเจ้าของได้าเบาสบายกับราคาแท็บเล็ตซัมซุงไม่เกินสองหมื่นบาท

    คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการซื้อแท็บเล็ต

    แท็บเล็ตใช้งานได้กี่ปี?

    จริงอยู่ว่าอุปกรณ์ไอทีเหล่านี้ย่อมมีอายุเสื่อมไปตามการเวลา ไม่ได้อยู่คงทนถาวร โดยอายุการใช้งานเฉลี่ยของแท็บเล็ตส่วนใหญ่แล้วอยู่ที่ประมาณ 5 ปีด้วยกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการดูแลของผู้ใช้งานด้วยว่าจะทำให้อายุของอุปกรณ์นั้นสั้นหรือยาวนานกว่าค่าอายุเฉลี่ย ใช้งานถูกวิธีไหม ชาร์จกับอุปกรณ์เสริมไม่ได้มาตรฐานหรือเปล่า เคยกระแทกตัวเครื่องกับของแข็ง ของมีคม หรือเคยทำตกหล่นหรือไม่ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลกระทบต่ออายุการใช้งานแท็บเล็ตทั้งสิ้น

    ราคาของแท็บเล็ตไม่ควรเกินเท่าไหร่?

    ราคาแท็บเล็ตโดยปกติแล้วจะอยู่ที่ราวหมื่นกลาง ๆ ถึงเกือบสามหมื่นบาทซึ่งถือเป็นโซนราคาที่จับต้องได้ไม่สูงจนเกินไป แต่ถ้าถามว่าราคาแท็บเล็ตไม่ควรสูงเกินเท่าไหร่อาจจะต้องพิจารณาถึงสเปค รูปแบบการใช้งานรวมถึงฟีดเจอร์ในแต่ละรุ่นเป็นองค์ประกอบ อย่างแท็บเล็ตตัวท็อปราคาห้าหมื่นกว่ามาพร้อมฟังก์ชันจัดเต็มที่คุณเองก็อาจใช้ได้ไม่ครบ กรณีนี้แน่นอนว่าราคาสูงเกินไปต่อความต้องการ เคล็ดลับง่าย ๆ จึงมีเพียงแค่เลือกซื้อแท็บเล็ตคุณภาพในราคาสอดคล้องกับการใช้งานของคุณ

    แท็บเล็ตสามารถใช้แทนโน้ตบุ๊กได้หรือไม่?

    แท็บเล็ตมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนมีความใกล้เคียงกับโน้ตบุ๊กและสามารถใช้งานพื้นฐานมากมาย ได้เหมือนกับโน้ตบุ๊กในปัจจุบัน ไม่ว่าจะงานด้านเอกสาร การพรีเซนท์นำเสนอ วาดภาพออกแบบ ตัดต่อวิดีโอ ไปจนถึงแอปพลิเคชันความบันเทิงต่าง ๆ ตัวเครื่องแท็บเล็ตก็ทำได้ดีครอบคลุมทุกการใช้งาน นอกจากนี้แล้วยังมีน้ำหนักเบาเหมาะแก่การพกพา เรียกว่าจบครบทุกอย่างไม่ต้องง้อโน้ตบุ๊คเลยทีเดียว

    สรุปแท็บเล็ตน่าใช้

    แท็บเล็ตน่าใช้ปี 2024

    ขอบคุณรูปภาพจาก samsung.com

    เป็นยังไงกันบ้างสำหรับข้อมูลที่เรานำมาฝาก ทั้งหมดนี้เองคือแนวทางในการเลือกซื้อแท็บเล็ตอย่างไรให้ได้แบบที่โดนใจ เหมาะกับการใช้งาน คุณสามารถนำวิธีการเหล่านี้ไปปรับใช้ในการเลือกซื้อแท็บเล็ตรวมถึงอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ จากร้านแท็บเล็ตได้ อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญคืออย่าลืมคำนึงถึงงบประมาณรวมถึงความจำเป็นในการใช้งาน เพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้ตัวเครื่องแท็บเล็ตราคาถูกประสิทธิภาพดีเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ ตอบโจทย์เต็มที่ทุกความต้องการในราคาแสนคุ้มค่า ซื้อมาแล้วไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน

    87
    ในยุคแห่งโลกดิจิทัล ที่โซเชียลเข้ามามีบทบาทเป็นอย่างมากในชีวิตประจำวันของ กิจกรรมแต่ละอย่างที่ต้องทำในแต่ละวันนั้น ล้วนดำเนินผ่านไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งเทคโนโลยีของปัจจุบันได้มีการออกแบบ พัฒนาสิ่งต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกสบายให้กับเรา

    หูฟังบลูทูธ ถือว่าเป็นอุปกรณ์ชิ้นหนึ่งที่สำคัญ สำหรับชีวิตประจำวันของใครหลายๆ คน อย่างผู้ที่ชื่นชอบในเสียงดนตรี ฟังเพลง หรือจะเป็นเล่นเกม แทบปฏิเสธไม่ได้เลยว่า หูฟังไร้สาย ได้เข้ามามีบทบาทเป็นอย่างมาก และได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย

    ในบทความนี้เราจะมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับความเป็นมาของหูฟังไร้สาย ราคาไม่แพง คุณภาพเสียงยอดเยี่ยม และเหมาะสมกับการใช้งานของคุณ

    หูฟังบลูทูธ

    ขอบคุณรูปจาก: https:// www. samsung.com/th/audio-sound/

    ประวัติหูฟังบลูทูธไร้สาย มีความเป็นมาอย่างไร

    หูฟัง ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองผู้คนที่ชื่นชอบในการฟังเพลง เป็นที่นิยมของผู้คนจำนวนมาก เนื่องจากมีลักษณะที่เล็กและเบา แต่หูฟังไร้สายในขณะนั้นยังไม่ได้รับความนิยม เนื่องจากคุณภาพเสียงที่ได้นั้นยังไม่อาจเทียบเท่าหูฟังแบบมีสาย และ ความเสถียรในการเชื่อมต่อยังไม่ดีมากพอ

    จนกระทั่งไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ หูฟังบลูทูธไร้สาย มีพัฒนามาเพื่อตอบโจทย์ผู้ที่ชื่นชอบการใช้หูฟัง โดยมีการปรับปรุงคุณภาพเสียง สัญญาณ ในการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ ให้มีความเสถียรมากยิ่งขึ้น จึงกลายมาเป็นที่นิยมของผู้ที่ใช้อุปกรณ์อย่างสมาร์ตโฟนในปัจจุบัน

    ทาง Samsung เองนั้นก็ได้มีการออกแบบ คิดค้น และพัฒนาหูฟังไร้สายที่เรียกว่า Earbuds ให้ตอบโจทย์กับผู้ใช้งาน มีหลากหลายรุ่นย่อยให้เลือกซื้อ เลือกใช้งาน ทุกคนอาจจะสงสัยว่า หูฟังบลูทูธไร้สายเลือกอย่างไรดี ให้เหมาะกับตนเอง ทางเรามีคำแนะนำและข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับหูฟังไร้สาย

    จุดเด่นของหูฟังบลูทูธไร้สายกับเหตุผลดีๆ ที่ควรเลือกใช้

    หูฟังบลูทูธไร้สายถูกออกแบบมาเพื่อลดขั้นตอน และเพิ่มความสะดวกสบายในกับผู้ใช้งาน ข้อดีและเหตุผลที่ควรเลือกใช้ มีดังนี้

    • หูฟังบลูทูธนั้น สามารถที่จะเชื่อมต่อได้กับหลากหลายอุปกรณ์ อย่างเช่น สมาร์ตโฟน แท็ปเลต หรือจะเป็นสมาร์ตทีวี หากอุปกรณ์ที่ต้องการเชื่อมต่อนั้นมีบลูทูธในตัว ก็สามารถที่จะเชื่อมต่อได้อย่างสะดวก ง่ายต่อการใช้งาน

    • สั่งการ ควบคุมอุปกรณ์ได้อย่างง่ายดาย หากต้องการจะเปลี่ยนเพลง สามารถที่จะสั่งการได้จากตัวหูฟังโดยตรง โดยไม่ต้องหยิบสมาร์ตโฟนออกมา

    • ขนาดเล็ก กะทัดรัด พกพาสะดวก หลายคนคงอาจเคยมีปัญหากับหูฟังแบบมีสาย ที่เวลาสายของหูฟังพันกันนั้น สร้างความยุ่งยากต่อการแกะออกมาเพื่อใช้งาน แต่ปัญหานี้จะไม่เกิดขึ้นกับหูฟังบลูทูธอย่างแน่นอน

    ซื้อหูฟังบลูทูธไร้สายรุ่นไหนดี เลือกอย่างไรเพื่อตอบโจทย์การใช้งาน

    สำหรับผู้ที่กำลังตั้งคำถามว่า แล้วจะเลือกหูฟังบลูทูธไร้สายอย่างไรดี เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งาน ไลฟ์สไตล์ของตนเอง ขอแนะนำหูฟังบลูทูธจากทาง Samsung มีดังนี้

    Galaxy Buds Pro

    หูฟังบลูทูธ Galaxy Buds Pro

    ขอบคุณรูปจาก: https:// www. samsung.com/th/audio-sound/all-audio-sound/

    ถือเป็นหูฟังบลูทูธรุ่นแรกๆ ของ Samsung ที่มีความครบเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพเสียงที่ให้มารอบทิศทาง เสียงที่ได้มีความหนักแน่น สมจริง ด้วยระดับคุณภาพเสียงสตูดิโอ มาพร้อมกับฟังก์ชันตัดเสียงรบกวนภายนอก และคุณสมบัติกันน้ำสาดกระเซ็นด้วย IPX7

    Galaxy Buds2 Pro

    หูฟังบลูทูธ Galaxy Buds2 Pro

    ขอบคุณรูปจาก: https:// www. samsung.com/th/audio-sound/all-audio-sound/

    สำหรับรุ่นนี้ ได้ออกแบบตัวหูฟังเพื่อให้เข้ากับสรีระของหู ให้ดียิ่งขึ้น สามารถสวมใส่ได้อย่างกระชับ ไม่หลุดออกได้ง่าย ดื่มด่ำกับคุณภาพเสียง Hi-Fi 24 บิต ที่จะช่วยให้คุณเปิดประสบการณ์รูปแบบใหม่ในการฟังเพลง ตัดเสียงรบกวนจากภายนอกได้ดียิ่งขึ้น พร้อมกับมาตรฐาน IPX7 ที่ช่วยกันน้ำ กันเหงื่อ

    Galaxy Buds Live

    หูฟังบลูทูธสำหรับฟังเพลง

    ขอบคุณรูปจาก: https:// www. samsung.com/th/audio-sound/all-audio-sound/

    หูฟังบลูทูธไร้สายรุ่นระดับเริ่มต้น ที่มีราคาไม่แพง ด้วยการดีไซน์ออกแบบมาอย่างลงตัวและเป็นเอกลักษณ์ ปรับตัวหูฟังให้เข้ากับสรีระ มีความกระชับ คุณภาพเสียงดี คมชัด ลุ่มลึกและมีการตัดเสียงรบกวนจากภายนอกได้เป็นอย่างดี

    Galaxy Buds2

    หูฟังบลูทูธ Galaxy Buds Live

    ขอบคุณรูปจาก: https:// www. samsung.com/th/audio-sound/all-audio-sound/

    สำหรับ Galaxy Buds2 เป็นรุ่นที่ถูกออกแบบมาให้มีการใช้งานได้อย่างยาวนาน ด้วยความจุแบตเตอรี่ที่อึดและทน พร้อมการเสียงที่มีคุณภาพยอดเยี่ยมไม่แพ้หูฟังบลูทูธรุ่นอื่น รักษาสมดุลของเสียงได้ดี มีความเสถียรในการเชื่อมต่อ และระบบตัดเสียงภายนอกด้วย ANC

    Galaxy Buds FE

    หูฟังบลูทูธ Galaxy Buds FE

    https:// www. samsung.com/th/audio-sound/galaxy-buds/galaxy-buds-fe-graphite-sm-r400nzaaasa/

    จุดเด่นของ Galaxy Buds FE มาพร้อมกับแบตเตอรี่ที่แสนจะอึดทน ซึ่งการชาร์จไฟเพียงหนึ่งครั้ง สามารถใช้งานได้อย่างยาวนานถึง 30 ชั่วโมง ด้วยดีไซน์ขนาดกะทัดรัดล็อคเข้ากับหูอย่างพอดีอย่างกระชับ สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ของคุณได้อย่างรวดเร็ว ด้วยระบบ ANC ของหูฟังไร้สายที่จะช่วยตัดเสียงรบกวนออกไป ควบคุมการทำงานด้วยระบบเพียงปลายนิ้วสัมผัส มอบเสียงเพลงที่เน้นเบสเป็นหลัก หรือปรับโทนเสียงในแบบที่คุณต้องการได้ เพื่อเร้าถึงอารมณ์ในการฟังเพลง เฉดสีที่เรียบง่ายทั้งสองสี เข้ากับสไตล์การแต่งตัวทุกชุด

    หูฟังบลูทูธไร้สายมีกี่แบบ แต่ละแบบแตกต่างกันอย่างไรบ้าง?

    หูฟังบลูทูธมีแบบไหนบ้าง

    ขอบคุณรูปจาก: https:// www. samsung.com/th/audio-sound/galaxy-buds/galaxy-buds2-olive-sm-r177nzgaasa/

    รูปแบบของหูฟังบลูทูธไร้สายในปัจจุบัน มีหลากหลายรูปแบบให้เลือกใช้งานทั้ง ดีไซน์ ลักษณะภายนอกและจุดประสงค์ในการใช้งานที่แตกต่างกัน

    หูฟังบลูทูธไร้สายแบบคาดหัว

    หูฟังไร้สายประเภทนี้จะมีลักษณะค่อนข้างใหญ่ สวมใส่โดยการนำหูฟังคาดไว้ที่หัว ครอบที่หูทั้งสองข้าง นิยมใช้ในการทำงานหรือจะเป็นฟังเพลง เล่นเกม เพื่อให้ได้อรรถรสในการฟัง

    หูฟังบลูทูธไร้สายแบบ Earbuds

    ลักษณะจะเป็นหูฟังไร้สาย ที่มีตัวหูฟังทั้งสองข้างแยกออกจากกัน สวมใส่ที่หูโดยปรับให้เข้ากับสรีระ ล็อกกับรูหู สามารถนำข้างใดข้างหนึ่งเพื่อออกมาใช้งานได้ มีขนาดเล็กกะทัดรัด

    หูฟังบลูทูธไร้สายแบบ In Ear

    เช่นเดียวกันกับหูฟังบลูทูธไร้สายแบบ Earbuds แต่การสวมใส่จะแตกต่างกัน โดยตัว In Ear นี้จะมีจุกยางที่ใช้สำหรับใส่เข้าไปในหู ซึ่งสามารถตัดเสียงรบกวนภายนอกได้เป็นอย่างดี

    หูฟังบลูทูธทไร้สาย Ear Clip

    ตัวหูฟังจะถูกออกแบบมาคล้ายกับตะขอเกี่ยวเพื่อยึดติดกับหู ไม่หลุดออกได้ง่ายขณะใช้งาน เหมาะสำหรับกิจกรรมผาดโผนอย่างการเล่นกีฬา

    หูฟังบลูทูธทไร้สาย Bone Conduction Headphones

    สวมใส่โดยการคาดที่หัว มีขนาดที่ปานกลาง น้ำหนักเบา จะใช้การสั่นเพื่อส่งคลื่นเสียงผ่านกระดูก คุณภาพเสียงที่ได้อาจไม่เทียบเท่าหูฟังไร้สายทั่วไป

    หูฟังบลูทูธแบบไหนเหมาะกับไลฟ์ไสตล์แบบไหน

    ผู้ที่กำลังเลือกซื้อ มองหาหูฟังบลูทูธไร้สายราคาไม่แพง เพื่อให้ตอบโจทย์ในการใช้งานของตนเอง เลือกอย่างไรให้ตรงใจ เข้ากับกิจกรรม ไลฟ์สไตล์ของเรา

    • หูฟังบลูทูธสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกาย ควรเลือกหูฟังที่มีความกระชับต่อหู ไม่หลุดได้ง่าย เพื่อทำให้รู้สึกสวมใส่สบายขณะที่ทำกิจกรรม มีการกันน้ำกันเหงื่อ อย่างหูฟังแบบ Ear clip หรือหูฟัง Bone Conduction Headphones

    • หูฟังบลูทูธสำหรับกลุ่ม Audiophile สำหรับผู้ที่ชื่นชอบในเสียงดนตรี รักการฟังเพลง จะต้องเป็นหูฟังที่ให้คุณภาพเสียงที่ก้องกังวาน เบสหนัก มีความชัดเจนในท่วงทำนอง

    • หูฟังบลูทูธสำหรับวัยทำงานที่ต้องติดต่อสื่อสารตลอดเวลา เน้นที่การพกพาง่าย มีขนาดเล็กและเบา สวมใส่ได้อย่างสะดวก ควรเลือกใช้เป็นหูฟังแบบ Ear buds หรือ In ear ที่สามารถควบคุมสั่งการได้โดยไม่ต้องหยิบจับสมาร์ตโฟน

    • หูฟังบลูทูธสำหรับสายเล่นเกม ผู้ที่มองหาหูฟังไว้ใช้สำหรับเล่นเกมโดยเฉพาะ แนะนำเป็นหูฟังแบบครอบหู หรือ In Ears ที่จะทำให้รู้สึกสบายเมื่อสวมใส่ ระบบเสียงรอบทิศทางที่มีความแม่นยำ

    วิธีเชื่อมต่อหูฟังบลูทูธไร้สาย มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง?

    ในการใช้งานเชื่อมต่อหูฟังบลูทูธไร้สาย มีวิธีการง่ายๆ ดังนี้

    1. เข้าไปที่การตั้งค่าของสมาร์ตโฟนหัวข้อ บลูทูธ
    2. เลือกเป็น เปิด ใช้งานบลูทูธ
    3. นำหูฟังไร้สายออกมาจากเคสแล้วสวมใส่ที่หูฟังสองข้าง
    4. เลือกอุปกรณ์ หูฟังบลูทูธที่ต้องการเชื่อมต่อบลูทูธบนสมาร์ตโฟนของคุณ

    ใช้หูฟังบลูทูธไร้สายอย่างไรปลอดภัยต่อหู สิ่งที่ควรรู้ก่อนเลือกใช้หูฟังไร้สาย

    ในการเลือกใช้หูฟังบลูทูธไร้สายให้ปลอดภัยต่อหู ควรเลือกจากคุณภาพของแบรนด์ ที่มีมาตรฐานรองรับ สามารถเชื่อถือได้ โดยดูจากรีวิวต่างๆ และวิธีการใช้งานหูฟังไร้สายเบื้องต้น

    ทำความสะอาดหูฟังบ่อยๆ

    เนื่องจากหูฟังไร้สายส่วนใหญ่ถูกออกแบบมาให้สวมใส่เข้าไปในรูหู โดยเฉพาะหูฟังแบบ In Ear ควรที่จะทำความสะอาดจุกยางของหูฟัง เพื่อไม่ให้มีสิ่งสกปรกอุดตันอยู่ภายในรูหูฟัง

    ไม่ฟังเสียงดังเกินไป

    ควรปรับระดับเสียงของหูฟังให้มีความเหมาะสม เป็นกลาง หากปรับเสียงที่ดังเกินไปอาจทำให้เกิดอาการหูอื้อ หรือไม่ได้ยินชั่วขณะ

    ไม่ใส่หูฟังติดต่อกันเป็นเวลานานเกินไป

    ระยะเวลาการใส่หูฟังนั้น ไม่ควรใส่หูฟังนานเกินกว่า 2 ชั่วโมง เนื่องจากจะทำให้เกิดอาการปวดหูตามมา หรือเกิดอาการหูตึงชั่วขณะ

    ใส่หูฟังที่มีระบบ ANC

    เพื่อคุณภาพการฟังที่ดี และมีประสิทธิภาพ ควรเลือกหูฟังไร้สายที่มีระบบ ANC ที่จะช่วยในการตัดเสียงจากสภาพแวดล้อมได้เป็นอย่างดี ไม่มีเสียงรบกวนเข้ามาให้รู้สึกรำคาญใจ

    หมั่นตรวจสอบระดับการได้ยินของตัวเองเสมอ ๆ

    หลังจากที่ใช้งานหูฟังเป็นระยะเวลานาน ควรมีการตรวจสอบการได้ยินของหูทั้งสองข้างซ้าย-ขวา อยู่เสมอ ว่าการรับรู้เสียงจากภายนอกได้อย่างปกติ เพื่อไม่ให้มีปัญหาเกี่ยวกับการได้ยินตามมาในภายหลัง

    คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการใช้งานหูฟังบลูทูธไร้สาย มีอะไรบ้าง

    เมื่อได้ลองเริ่มต้นใช้งานหูฟังบลูทูธไร้สายไปแล้ว หลายคนอาจจะมีข้อสงสัยเกี่ยวกับหูฟัง คำถามที่พบบ่อยในการใช้งาน

    หูฟังไร้สายบลูทูธอันตรายหรือไม่

    องค์กรอนามัยโลกระบุว่าสัญญาณคลื่นความถี่ กำลังส่งต้องไม่เกิน 2 วัตต์ ในการส่งสัญญาณของหูฟังบลูทูธใช้คลื่นความถี่เพียงแค่ 2 มิลิวัตต์เท่านั้น จึงไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายแต่อย่างใด

    ระยะการส่งสัญญาณของหูฟังบลูทูธไร้สายได้ไกลแค่ไหน

    ระยะการส่งสัญญาณหูฟังบลูทูธจะอยู่ในช่วง 8-10 เมตร ซึ่งถือว่ามีระยะที่ไม่ใกล้ไม่ไกลมากจนเกินไป หากมีสิ่งกีดขวางด้านหน้า อาจทำให้การส่งสัญญาณไม่เสถียรบ้างเพียงเล็กน้อย

    สรุปเกี่ยวกับหูฟังบลูทูธ

    ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานหูฟังบลูทูธไร้สายหรือหูฟังรูปแบบใดก็ตาม สิ่งที่สำคัญคือการเลือกใช้ ควรเลือกเป็นแบรนด์ที่ดี มีคุณภาพ ฟังก์ชันการใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน เชื่อมต่อได้อย่างเสถียรไม่ติดขัด มาพร้อมกับมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในสากล ช่วยอำนวยความสะดวกสบาย ประหยัดเวลา ลดขั้นตอนการใช้งาน


    88
    พัดลมตั้งโต๊ะ

    ประเทศไทยเป็นประเทศเมืองร้อน จึงมีอากาศอบอ้าวตลอดเวลา ทำให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อสร้างความเย็นมียอดจำหน่ายสูงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพัดลมตั้งโต๊ะ ซึ่งถือว่าเป็นอุปกรณ์ช่วยสร้างความเย็นที่มีขนาดเล็กกะทัดรัด น้ำหนักเบา พกพาสะดวก อีกทั้งราคา พัดลมตั้งโต๊ะก็ไม่แพง ทำให้พัดตั้งโต๊ะได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง โดยบทความนี้ จะรีวิว พัดลมตั้งโต๊ะ 5 อันดับที่น่าสนใจ เพื่อเป็นทางเลือกก่อนตัดสินใจซื้อ

    พัดลมตั้งโต๊ะ คืออะไร?

    พัดตั้งโต๊ะ

    พัดลมตั้งโต๊ะ เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อใช้สร้างการหมุนเวียนของอากาศในห้องหรือบริเวณที่มีพื้นที่จำกัด ให้เกิดความเย็นสบาย โดยทั่วไปแล้ว พัดลมตั้งโต๊ะจะมีหลากหลายขนาดให้เลือกซื้อ ตั้งแต่พัดตั้งโต๊ะขนาดเล็ก จนถึงขนาดใหญ่ สามารถใช้งานได้ทั้งที่บ้านหรือที่ทำงาน

    พัดลมตั้งโต๊ะมักมีใบพัดหลายใบติดกับโครงขาตั้ง  สามารถปรับระดับความสูงของตัวพัดลมได้ตามต้องการ มีรูปแบบดีไซน์หลากหลาย เหมาะกับทุกความต้องการของตลาด บางรุ่นยังมีฟังก์ชั่นเสริม เช่นการปรับความเย็น การหมุนหรือไม่หมุน การควบคุมความเร็วในการหมุนของพัดลม เป็นต้น ซึ่งฟังก์ชั่นเหล่านี้ก็จะมีผลต่อราคา พัดลมตั้งโต๊ะ

    สรุป คือ พัดลมตั้งโต๊ะเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งช่วยลดอุณหภูมิความร้อนภายในห้อง ช่วยให้อากาศถ่ายเทได้ดีขึ้น เพิ่มความสะดวกสบายในการทำงานหรือพักผ่อนภายในห้อง ซึ่งต้องการการหมุนเวียนของอากาศ

    วิธีการเลือกพัดลมตั้งโต๊ะให้เหมาะกับตนเอง

    ด้วยพัดลมตั้งโต๊ะในปัจจุบัน มีหลากหลายแบบ หลากหลายดีไซน์ จึงต้องเลือกซื้อให้เหมาะกับความต้องการ เพื่อให้เกิดประโยชน์ในการใช้งานให้มากที่สุด ดังนี้

    • ขนาดของห้อง ด้วยพัดลมตั้งโต๊ะมีขนาดหลากหลาย ดังนั้น จึงควรเลือกขนาดพัดตั้งโต๊ะที่เหมาะสมกับขนาดของห้อง เพื่อให้หมุนเวียนอากาศภายในได้อย่างเหมาะสม ดังนั้น หากห้องมีขนาดใหญ่ ก็ควรเลือกพัดลมตั้งโต๊ะขนาดใหญ่ด้วยเช่นกัน
    • พัดลมตั้งโต๊ะบางรุ่นมีฟังก์ชั่นการปรับความเย็น หรือมีระบบพ่นน้ำเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการลดความร้อน ดังนั้น หากต้องการให้พัดตั้งโต๊ะสามารถทำความเย็นได้ตามต้องการ ก็ควรจะพิจารณาพัดลมที่มีฟังก์ชั่นเหล่านี้เป็นพิเศษ
    • อีกคุณสมบัติของพัดลมตั้งโต๊ะที่ดี คือ การทำงานที่เงียบ โดยเฉพาะหากต้องการใช้งานภายในห้องทำงานหรือห้องนอน จึงควรเน้นคุณสมบัคิความเงียบ
    • ฟีเจอร์เสริมของพัดลมตั้งโต๊ะบางรุ่น เช่น การควบคุมระดับความเร็ว การตั้งเวลาปิด-เปิดอัตโนมัติ เป็นต้น
    • มาตรฐานความปลอดภัยของพัดตั้งโต๊ะก็ถือว่า เป็นปัจจัยสำคัญ เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย ไร้กังวล โดยเฉพาะการใช้ในห้องนอน ซึ่งเป็นเวลากลางคืน หากเกิดอุบัติเหตุขึ้น ก็อาจจะทำให้ไม่ทันสังเกตได้
    • ราคา พัดลมตั้งโต๊ะก็ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ โดยพิจารณาจากงบประมาณที่มี เพื่อให้เลือกซื้อพัดตั้งโต๊ะได้อย่างเหมาะสม ทั้งคุณภาพดีและพอดีกับงบที่มี เพื่อให้ได้พัดลมตั้งโต๊ะ ราคาถูก
    • ศึกษาและเปรียบเทียบข้อมูลรีวิว พัดลมตั้งโต๊ะ จากผู้ใช้งานที่มีประสบการณ์จริง เพื่อทราบข้อดี-ข้อเสียและประสิทธิภาพของรุ่นพัดลมตั้งโต๊ะที่สนใจ

    5 อันดับพัดลมตั้งโต๊ะน่าสนใจ เลือกยี่ห้อไหนดี

    ราคา พัดลมตั้งโต๊ะ

    พัดลมตั้งโต๊ะมีการผลิตจากหลายยี่ห้อ ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็มีราคา พัดลมตั้งโต๊ะที่แตกต่างกัน โดยจะขอรีวิว พัดลมตั้งโต๊ะ 5 อันดับที่น่าสนใจ ดังนี้

    1. HATARI พัดลมตั้งโต๊ะ รุ่น HB-S16M4

    พัดลมตั้งโต๊ะ HATARI รุ่น HB-S16M4 เป็นพัดลมปรับระดับ 16 นิ้ว สามารถปรับแรงลมได้ 3 ระดับ อีกทั้งยังปรับระดับความสูงได้ 5 ระดับ หรือปรับให้พัดตั้งโต๊ะส่ายซ้าย-ขวาได้ นอกจากนี้ ยังมีระบบตัดไฟอัตโนมัติ โดยเป็นพัดลมตั้งโต๊ะ ราคา 1,990.00 บาท

    2. JISULIFE พัดลมตั้งโต๊ะ รุ่น FA13P Extend Rotate Desk Fan

    พัดลมตั้งโต๊ะ JISULIFE รุ่น FA13P Extend Rotate Desk Fan สามารถปรับความแรงลมได้สูงถึง 5 ระดับ พัดได้ไกลถึง 8 เมตร นอกจากนี้ ยังสามารถตั้งเวลา 1 /2 /4 ชั่วโมงได้ โดยสามารถใช้งานได้นานถึง 5 - 28 ชั่วโมง (ตามระดับความแรงลมที่ใช้) โดยเป็นพัดลมตั้งโต๊ะ ราคา 999.00 บาท

    3. LUCKY MISU พัดลมตั้งโต๊ะ 18 นิ้ว

    พัดลมตั้งโต๊ะ LUCKY MISU ขนาด 18 นิ้ว สูง 85 เซนติเมตร สามารถปรับความแรงได้ 3 ระดับ ปรับก้มเงย-ส่ายได้ โดยมีฐานกะทัดรัด น้ำหนักเบา ขนย้ายสะดวก เหมาะสำหรับผู้มีพื้นที่จำกัด โดยเป็นพัดลมตั้งโต๊ะ ราคา 999.00 บาท จากราคาเดิม 1,599.00 บาท

    4. Xiaomi Rechargeable Mini Fan

    พัดลมตั้งโต๊ะ Xiaomi Rechargeable Mini Fan เป็นพัดลมไร้สายแบบพกพา สามารถปรับความแรงของลมได้สูงถึง 4 ระดับ ทำงานเงียบ ไม่ส่งเสียงรบกวน ปรับส่ายหรือเงยได้ถึง 90 องศา โดยเป็นพัดลมตั้งโต๊ะ ราคา 771.00 บาท จากราคาเดิม 1,299.00 บาท

    5. AIKO พัดลมตั้งโต๊ะ รุ่น AVF006

    พัดลมตั้งโต๊ะ AIKO รุ่น AVF006 เป็นพัดตั้งโต๊ะใบพัดอะลูมิเนียม 6 นิ้ว สามารถปรับก้มเงยได้ พร้อมรับประกัน 7 วัน หลังจากได้รับสินค้า ใช้งานง่าย มีความปลอดภัย โดยเป็นพัดลมตั้งโต๊ะ ราคาถูก 659.00 บาท จากราคาเดิม 944.00 บาท

    สรุป

    พัดลมตั้งโต๊ะ เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ลดอุณหภูมิภายในห้อง สร้างลมเย็นสบาย หมุนเวียนอากาศ โดยมีหลากหลายราคา พัดลมตั้งโต๊ะจึงต้องเลือกซื้อให้เหมาะสมกับตนเอง ก่อนเลือกซื้อควรจะศึกษาข้อมูล เปรียบเทียบราคา เพื่อให้ได้พัดลมตั้งโต๊ะ ราคาถูก

    ขอบคุณบทความดีๆจาก https://www.clickzy.com/


    89
    โรงงาน OEM

    สำหรับคนที่อยากสร้างแบรนด์สินค้าออกมา การเลือกผลิต OEMกับโรงงานในปัจจุบันมีการแข่งทางการตลาดมีสูงมาก โรงงาน OEM ในตลาดหลายเจ้าที่สามารถรับผลิตสินค้าประเภทเครื่องสำอาง ครีม แบบ OEM, ODM, OBM ดังนั้นการที่จะผลิตภัณฑ์สินค้าออกมาสักตัว จึงต้องหาโรงงานที่ได้มาตรฐาน แล้วโรงงานแบบไหนถึงจะตอบโจทย์คนที่กำลังคิดอยากจะเป็นเจ้าของแบรนด์สินค้าเครื่องสำอาง

    OEM คืออะไร
    OEM ย่อมาจาก Original Equipment Manufacturer โดยการผลิต OEM จะเป็นการผลิตโดยโรงงานที่รับทำแบรนด์ผลิตสินค้าเครื่องสำอางอย่างครบวงจร แบบ One-Stop Service ที่ให้บริการตั้งแต่การให้คำปรึกษาสินค้า การออกแบบสูตรตามความต้องการ การออกแบบโลโก้ การวางแผนการตลาด หรือแม้แต่การบรรจุภัณฑ์สินค้า โรงงานผลิตแบบ OEM จะมีทีมงานดูแลและให้คำปรึกษาตลอดการให้บริการจนถึงพร้อมวางจำหน่าย

    ข้อดีของโรงงานประเภท OEM

    • การผลิตแบบ OEM สามารถประหยัดงบและต้นทุนในการทำแบรนด์ เนื่องจากการผลิตสินค้า OEM ต้นทุนการผลิตสินค้าราคาไม่สูงมาก สามารถมีกำไรจากการขายได้มาก
    • โรงงานที่รับจ้างผลิต OEM จะมีสูตรแบบครบวงจร เราสามารถเลือกสูตรให้เหมาะกับผลิตภัณฑ์ที่ต้องการผลิตออกมา
    • โรงงานผลิตแบบ OEM Manufacturing สามารถมีกำลังผลิตครั้งละมากๆ และมีเครื่องจักรทำให้ลดเรื่องของแรงงานคนลงได้
    • โรงงาน OEM เครื่องสำอาง มีทีมงานการตลาด มีนักออกแบบ และทีมผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องสำอางที่พร้อมให้คำปรึกษาและดูแลอย่างครบวงจรตลอดการผลิตแบรนด์
    • การเลือกผลิตแบบ OEM สามารถเปลี่ยนหรือเลือกฐานผลิตใหม่ได้ หากเจอโรงงานที่ผลิต OEM ที่ราคาต้นทุนต่ำกว่า
    • ลดความเสี่ยงที่จะขาดทุนเพราะการผลิต OEM เจ้าของแบรนด์ไม่ได้เป็นเจ้าของโรงงานโดยตรง แต่เป็นการจ้างโรงงานผลิต ไม่ต้องสร้างโรงงานขึ้นมาเพื่อผลิตสินค้าเอง

    ข้อเสียของโรงงานประเภท OEM

    • สูตรจากทางโรงงาน OEM เครื่องสำอาง มีให้จะเป็นสูตรที่คล้ายๆกันในท้องตลาด คุณภาพสินค้าอาจจะไม่โดดเด่น เป็นเอกลักษณ์เฉพาะแบรนด์ เนื่องจากส่วนผสมที่ใช้ในสูตรแทบจะไม่มีความแตกต่างกันกับแบรนด์ในท้องตลาด
    • การผลิตแบบ OEM มีความเป็นไปได้สูงมากในการลอกเลียนแบบสินค้า ทั้งการตลาด ส่วนผสม สรรพคุณ แม้แต่โลโก้อาจจะมีความคล้ายกันกับแบรนด์อื่น
    • เนื่องจากการผลิตแบบ OEM ต้นทุนการผลิตไม่สูงมากนัก บางโรงงานรับจ้างผลิต OEM อาจจะใช้สูตรหรือส่วนผสมที่ต่ำกว่ามาตรฐาน เพื่อลดต้นทุนการผลิต ดังนั้นเจ้าของแบรนด์ควรศึกษาและเลือกโรงงานที่มีคุณภาพน่าเชื่อถือ ปลอดภัย และมีการรับรองที่ถูกต้อง

    ODM คืออะไร

    รับทำแบรนด์

    การผลิตสินค้าแบบ ODM (Original Design Manufactuere) คือ การผลิตสินค้าการครอบคลุมการให้บริการคล้ายกับการรับผลิต OEM โดยดูแลตั้งแต่ให้คำปรึกษาและออกแบบวางแผนการทำแบรนด์ ซึ่งความแตกต่างของการผลิตแบบ OEM กับ ODM คือ การผลิตแบบ ODM สามารถพัฒนาสูตรสินค้า สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบ หรือสูตรตามที่ต้องการได้ โดยมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาและพัฒนาสูตรให้เหมาะสมกับแบรนด์

    ข้อดีของโรงงานประเภท ODM

    • การผลิต OEM ต่างจาก ODM คือ สามารถคิดค้นและปรับปรุงสูตรเพื่อให้ได้สินค้าที่ออกมาตรงกับความต้องการ
    • มีผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษา และมีทีมงานการตลาดทำการโปรโมทสินค้า หรือแม้แต่นักออกแบบที่จะออกแบบสินค้าให้มีความโดดเด่น โดยดูแลทุกขึ้นตอน เหมือนกับการผลิตแบบ OEM
    • รับทำแบรนด์สินค้าที่ผลิตออกมามีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่เหมือนสินค้าประเภทเดียวกันในท้องตลาด
    • ลดปัญหาด้านความเสี่ยงในการลงทุนสร้างโรงงานเอง เพราะไม่ต้องเป็นเจ้าของโรงงานเอง
    • สินค้าที่ผลิตออกมาแล้วพร้อมจำหน่าย ลดปัญหาการจ้างแรงงานคน และลดต้นทุนสินค้า เช่นเดียวกับผลิตแบบ OEM
    • สามารถกำหนด และควบคุมในการผลิตให้อยู่ในงบประมาณที่ต้องการได้

    ข้อเสียของโรงงานประเภท ODM

    • ในการผลิตแบบ ODM มีราคาที่สูงกว่าการผลิตแบบ OEM เพราะรายละเอียดของการคิดค้นพัฒนา และปรับปรุงสูตร เพื่อให้ได้สินค้าออกมาตรงความต้องการของลูกค้ามากที่สุด
    • การผลิตแบบ ODM สารสกัดบางตัวต้องนำเข้ามาจากต่างประเทศทำให้มีต้นทุนในการผลิตที่ค่อนข้างสูงกว่าการผลิตแบบ OEM

    OBM คืออะไร
    Original Brand Manufacturer หรือที่เรียกสั้นๆว่า OBM คือ การรับทำแบรนด์สินค้าโดยเจ้าของแบรนด์เป็นเจ้าของโรงงานการผลิตเองโดยตรง จะผลิตสินค้าออกมาภายใต้ชื่อแบรนด์ เจ้าของแบรนด์จะต้องหาทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ทีมงานการตลาด และนักออกแบบเอง เป็นการผลิตแบรนด์แบบมั่นคง และเติบโต โดยการผลิตแบบ OBM จะคิดค้น พัฒนา และปรับปรุงสูตรโดยทีมผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องสำอาง ที่สามารถควบคุมและตรวจสอบการผลิตร่วมกับเจ้าของแบรนด์ โรงงานผลิตแบบ OBM จะทำให้สินค้าที่ผลิตออกมาจะมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแบรนด์นั้นๆ ต่างจากการผลิตแบบ OEM และ ODM

    ข้อดีของโรงงานประเภท ODM

    • สามารถสั่งผลิตสินค้าได้ตามจำนวนที่ต้องการ ต่างจากโรงงาน OEM และ ODM ที่ต้องระบุจำนวนในการผลิตแต่ละครั้ง
    • สามารถวางแผนและปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ทางการตลาดได้เองไม่ซ้ำกับแบรนด์อื่น
    • สามารถคิดค้น หรือพัฒนาสูตร เพิ่มหรือลดส่วนผสมได้ตามที่ต้องการ
    • สินค้าที่ผลิตออกมามีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่ซ้ำกับสินค้าในท้องตลาด

    ข้อเสียของโรงงานประเภท ODM

    • เนื่องจากเจ้าของแบรนด์จัดตั้งทำโรงงานขึ้นมาเอง ทำให้ต้นทุนในการผลิตสูง เพราะจะต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเอง เช่น การจัดหาคน การเลือกเครื่องจักรที่ใช้ผลิต เป็นต้น
    • ต้นทุนการทำแบรนด์สูง เพราะเจ้าของจะต้องลงทุนในกระบวการผลิตเองทั้งหมด เช่น สารสกัด บรรจุภัณฑ์ โลโก้ และจะต้องจัดหาแรงงานในการผลิตอีกด้วย
    • มีความเสี่ยงสูงจากคู่แข่งทางการตลาด อาจจะเกิดการลอกเลียนแบบสินค้าได้ง่าย เหมือนกับการผลิตแบบ OEM ที่มาสามารถลอกเลียนสินค้าได้ง่าย
    • ไม่สามารถย้ายฐานการผลิตได้ เนื่องจากโรงงานเป็นของเจ้าของแบรนด์โดยตรง
    • ไม่มีผู้ที่ให้คำปรึกษา เหมือนกับการใช้บริการโรงงานผลิตแบบ OEM และ ODM จะมีเพียงทีมงานที่เจ้าของแบรนด์จัดหามาเท่านั้นทำให้มุมมองการตลาดแคบลง
    • มีค่าใช้จ่ายสำหรับแรงงาน ทั้งแรงงานเครื่องจักร และแรงงานคน รวมไปถึงการแบกภาระในการจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ เองทั้งหมด

    เลือกโรงงานแบบ oem ตัวช่วยของคนพึ่งเริ่มสร้างแบรนด์
    ทั้งหมดนี้เป็นข้อมูลการผลิตสินค้าทั้ง 3 แบบ คือ OEM, ODM, OBM ซึ่งในการทำแบรนด์สินค้าออกมาวางจำหน่ายสู่ท้องตลาดนั้น จะต้องคำนึกถึงปัจจัยหลายๆของตัวเจ้าของแบรนด์เอง ว่ามีความพร้อมและงบประมาณในการสั่งผลิตมากน้อยแค่ไหน

    การผลิตแบบ OEM คือ การผลิตที่เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังเริ่มต้นในการทำแบรนด์สินค้า ซึ่งควรที่จะศึกษาข้อมูล และเลือกโรงงานที่รับผลิต OEMได้มาตรฐาน สามารถตรวจสอบและมั่นใจได้สินค้าที่ผลิตออกมาจะมีความปลอดภัย มีการรับรองที่ถูกต้อง บริษัท PLD (Pure Derima Raboratories)  เป็นโรงงานที่สามารถผลิตแบบ OEM ที่มีบริการอย่างครบวงจรและได้มาตรฐานสากล แบบ One-Stop Service ที่ครบจบในที่เดียว มีทีมงานผู้เชี่ยวชาญ นักออกแบบโลโก้ และทีมงานในการวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดที่จะให้ปรึกษาและดูแลตลอดการผลิต

    90
    การหางานในเชียงรายหรือจังหวัดอื่น ๆ ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปคุณสามารถหางานเชียงรายหรือรับสมัครงานเชียงรายสามารถทำได้ง่าย ๆ ผ่านเว็บไซต์ที่สามารถหางานได้ทุกที่ทุกเวลามีงานว่างเชียงรายให้เลือกหลายรูปแบบทั้งแบบงานประจำ พาร์ทไทม์ ฟรีแลนซ์ สัญญาจ้างหรือจะเป็น ที่ฝึกงาน และตำแหน่งงานอีกมากมาย

    ดังนั้นบทความนี้จึงได้รวบรวมเกี่ยวกับควรรู้เกี่ยวกับการเริ่มหางานเชียงรายควรทราบเกี่ยวกับอะไรบ้างและเว็บไซต์ไหนน่าสนใจ ที่จะช่วยให้คุณหางานได้ตอบโจทย์ตามความต้องการ มาเพิ่มโอกาสหางานในเชียงรายที่ตรงใจไปพร้อมกัน

    สมัครงานเชียงรายล่าสุด


    หางานเชียงรายบนเว็บหางานดีว่าอย่างไร

    จังหวัดเชียงรายเป็นจังหวัดเหนือสุดของประเทศไทย ที่มีพรมแดนติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้านทั้งประเทศพม่าและลาว ทำให้มีธุรกิจบริษัทร้านค้ามากมายและมีการเปิดรับสมัครพนักงานอยู่หลายตำแหน่ง ซึ่งหากคุณคือหนึ่งในผู้คนที่ต้องการหางานเชียงรายคงไม่อยากพลาดตำแหน่งงานที่ต้องการอย่างแน่นอน

    ในปัจจุบันมีประกาศหางานที่เชียงรายมีหลายช่องทางเช่นบน Facebook mujสามารถค้นหาเชียงรายหางานหรือหางานเชียงรายวันนี้แต่เวปที่ลงประกาศงานอาจมีรายละเอียดที่ไม่ครบถ้วนหรือเป็นประกาศหางานที่นานมาแล้ว

    จะดีกว่าหรือไม่หากคุณสามารถทำการฝากประวัติหรือทำเรซูเม่ลงเว็บไซต์หางานเชียงราย ที่ช่วยเพิ่มโอกาสและช่วยให้คุณเป็นผู้สมัครงานเชียงรายล่าสุด อีกทั้งในเว็บไซต์หางานจะมีการอัพเดตและมีแจ้งเตือนตำแหน่งงานใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา ทำให้คุณไม่พลาดตำแหน่งงานที่ต้องการอย่างแน่นอน

    เชียงรายหางาน

    ก่อนเริ่มส่งเรซูเม่ในการหางานเชียงรายต้องทราบอะไรบ้าง

    ก่อนเริ่มหางานเชียงรายควรรู้เกี่ยวกับอะไรบ้างที่จะทำให้คุณสมัครงานในเชียงรายและได้งานได้ตรงตามที่วางแผนไว้อย่างเช่นตำแหน่ง เงินเดือน สถานที่ทำงาน เป็นต้น ซึ่งการเตรียมตัววางแผนที่ดีจะช่วยให้คนหางานได้เร็วมากยิ่งขึ้น รวมถึงได้งานตรงตามที่วางแผนไว้สิ่งที่ควรรู้ก่อนเริ่มหางานเชียงรายมีดังนี้

    • ระบุงานตำแหน่งงานให้ชัดเจน

    การลงสมัครงานเชียงรายคุณควรกำหนดตำแหน่งงานให้ชัดเจน ว่าต้องการสมัครงานตำแหน่งใดแผนกอะไรเพื่อเจาะจงให้ชัดเจน รวมถึงประสบการณ์ทำงานว่าเคยทำงานหน้าที่อะไรตำแหน่งงานนี้บ้าง เพื่อที่จะให้บริษัทที่ต้องการรับตำแหน่งนั้นค้นหาโปรไฟล์หรือเรซูเม่ของคุณและส่งผลให้หางานทำเชียงรายได้ตรงตามที่ต้องการ

    • กำหนดเงินเดือน

    เว็บไซต์หางานเชียงรายบางเว็บไซต์สามารถค้นหาเรทเงินเดือนที่ต้องการได้ ดังนั้นการฝากประวัติหางานของคุณควรกำหนดเรทเงินเดือนว่าอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่ อย่างเช่นตำแหน่งงานที่เชียงรายของคุณอยู่ที่ประมาณ 25,000-30,000 บาทเป็นต้น เมื่อมีประกาศลงรับสมัครงานก็จะทำให้คุณสมัครตำแหน่งที่มีเรทเงินเดือนประมาณนี้ได้

    • แนบผลงาน

    การแนบผลงานในเรซูเม่เพื่อหางานเชียงรายจะช่วยให้โปรไฟล์ของคุณเป็นที่น่าสนใจมากยิ่งขึ้น เพราะผลงานที่แนบไว้จะจะช่วยเพิ่มความสามารถในการทำงาน รวมถึงการหางานเด็กจบใหม่ที่สามารถลงผลงานในระหว่างการเรียนได้เช่นกัน

    • เว็บไซต์หางานเชียงรายที่มีการอัพเดตตลอดเวลา

    วิธีการเลือกเว็บไซต์หางานเชียงรายก็เป็นอีกหนึ่งข้อที่ควรรู้ก่อนจะลงฝากประวัติ ซึ่งเว็บเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือมีบริษัทชั้นนำมาลงประกาศรับสมัครงาน รวมถึงมีผู้คนสมัครใช้งานจำนวนมากก็จะทำให้เพิ่มโอกาสหางานในเชียงรายได้เร็วและตำแหน่งที่ตรงใจมากยิ่งขึ้น

    สมัครงานเชียงราย

    4 เว็บตัวช่วยหางานเชียงรายที่น่าสนใจ

    เว็บหางานที่น่าสนใจและมีการอัพเดตหางานเชียงรายล่าสุด มีการอัพเดตงานเชียงรายวันนี้ เพื่อให้คนที่ต้องการหาตำแหน่งงานว่างไม่พลาดงานที่ต้องการ และเป็นเว็บไซต์หางานที่มีบริษัทชั้นนำลงรับสมัครงานอยู่เป็นประจำรวมถึงบริษัทอื่น ๆ เตรียมเรซูเม่ของคุณให้พร้อมเพื่อลงฝากประวัติได้ที่เว็บไซต์ดังต่อไปนี้

    หางานเชียงรายวันนี้

    1. JobFinFin

    หางานเชียงรายที่ JobFinFin เว็บไซต์หางานที่ตอบโจทย์ทุกสายอาชีพเพิ่มโอกาสในการหาตำแหน่งงานว่างเชียงรายที่มีทั้งบริษัทชั้นนำ ,บริษัท sme, บริษัทสตาร์ทอัพ และเพื่อให้ง่ายต่อการค้นหาตำแหน่งงานหรือการฝากเรซูเม่ลงบนเว็บไซต์ คุณสามารถเลือกประเภทงานที่สนใจเพื่อให้ทางเว็บไซต์แนะนำงานที่ตรงใจ รวมถึงมีการแจ้งเตือนประเภทงานที่คุณสนใจผ่านทางอีเมลทำให้คุณไม่พลาดทุกตำแหน่งงาน

    อีกทั้งยังมีการติดตามสถานการณ์สมัครที่มีการส่งสมัครทุกใบ เพียงสมัครเข้าใช้งานภายในไม่กี่ขั้นตอนก็สามารถหางานเชียงรายได้ทุกตำแหน่งงาน รวมถึงการทำโปรไฟล์เพื่อเปิดรับโอกาสสำหรับงานที่น่าสนใจได้และอีกหนึ่งบริการที่น่าสนใจคือมีบริการค้นหางานที่อยู่ใกล้ผู้สมัคร ช่วยให้คุณหางานใกล้บ้านได้อย่างง่ายดาย

    2. JobsDB

    เว็บหางานทำเชียงรายที่ JobsDB สามารถค้นหาชื่อตำแหน่งรับสมัครงานเชียงรายหรือชื่อบริษัทรวมถึงประเภทงานที่คุณสามารถสร้างเรซูเม่เพื่อโพสต์ลงบนเว็บไซต์หางานเชียงรายได้ โดยที่คุณแค่อัพเดตโปรไฟล์อยู่สม่ำเสมอเพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถค้นหาเรซูเม่ของคุณเจอโดยที่ไม่จำเป็นต้องเฝ้าหน้าจออยู่ตลอดเวลา อีกทั้งยังสามารถกำหนดโปรไฟล์ให้มีความเป็นส่วนตัวได้ 3 ระดับคือ อนุญาตให้ดูข้อมูล, จำกัดการดูข้อมูล, ไม่อนุญาตให้ดูข้อมูล

    3. Fastwork

    ในปัจจุบันการทำงานไม่จำเป็นต้องเดินทางออกไปทำงานเท่านั้นแต่ยังมีงานที่สามารถทำงานที่ไหนก็ได้ อย่างฟรีแลนซ์ที่คุณสามารถหางานทำในเชียงรายได้ทางเว็บไซต์ Fastwork ที่มีการรับประกันการจ้างงานที่ผู้สมัครงานจะได้รับความคุ้มครองตั้งแต่เริ่มทำงานไปจนถึงได้รับงานที่พึงพอใจ ผู้สมัครสามารถค้นหาฟรีแลนที่ถูกใจพูดคุยรายละเอียดได้บนเว็บไซต์

    4. Linkedin

    เว็บไซต์ที่มีการลงรับสมัครงานเชียงราย สามารถค้นหางานใหม่ทั้งตำแหน่งงานหรือบริษัทที่สนใจ และการค้นหาอื่น ๆ เช่นเงินเดือน ตำแหน่งที่ตั้ง ระดับประสบการณ์ ประเภทของงานเป็นต้นเพื่อให้ผู้สมัครหางานในเชียงรายได้ตรงตามความต้องการนั้นเอง รวมถึงการพัฒนาตัวเองด้วยการค้นหาหลักสูตรหรือการฝึกอบรมในสายงานเพื่อเพิ่มความรู้ความสามารถ

    สรุป

    สุดท้ายนี้อย่าลืมวางแผนก่อนเริ่มหางานเชียงราย และทำเรซูเม่ของคุณให้มีเนื้อหาที่ครบถ้วนเพื่อเพิ่มโอกาสในการสมัครงานให้ประสบความสำเร็จ และการหางานเชียงรายล่าสุดจะทำให้คุณคือผู้สมัครอันดับแรก ๆ เป็นอีกวิธีที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการคัดเลือกเข้าทำงานด้วยเช่นกัน

    91
    คิ้วสแตนเลส

    วัสดุที่ใช้สำหรับงานตกแต่ง ไม่ว่าจะเป็น การตกแต่งภายใน หรือ Built-in ตัวบ้านเพื่อเพิ่มความสวยงาม ความหรูหรา และความทันสมัยของตัวบ้านให้มากขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถทำได้ด้วยคิ้วสเตนเลส เป็นวัสดุที่ใช้ตกแต่งภายใน เพื่อเพิ่มเสน่ห์แต่ยังคงมีความเรียบง่าย โดยคิ้วสเตนเลส จะมีหลายประเภทด้วยกันทั้งขนาด สี เนื้อของวัสดุ สามารถนำมาปรับใช้งานได้อย่างหลากหลาย

    นอกจากนี้คิ้วสแตนเลสยังสามารถนำมาตกแต่งอุปกรณ์เฟอร์นิเจอร์ให้มีความหรูหรามากขึ้น เพื่อการตกแต่งที่ลงตัวและสมบูรณ์แบบ วันนี้เราจะไปทำความรู้จักกับคิ้วสแตนเลสว่า คืออะไร ใช้งานอย่างไร คิ้วสแตนเลสแต่ละขนาด ควรนำมาใช้งานตกแต่งอย่างไรจึงจะเหมาะมากที่สุด นอกจากนี้แล้วความแตกต่างระหว่างกรุยเชิงสแตนเลสและคิ้วสแตนเลส คืออะไร

    คิ้วสแตนเลสกับงานตกแต่งคืออะไร?
    คิ้วสแตนเลส คือ วัสดุที่เป็นเหล็กกล้าไร้สนิม มีความทนทาน ต้านทานการกัดกร่อนได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีความเงางาม มีสีต่าง ๆ ให้เลือกจึงเหมาะกับการนำมาเป็นวัสดุอุปกรณ์สำหรับงานตกแต่งภายใน สามารถพบเห็นคิ้วสแตนเลสกับงานตกแต่งได้ อย่างเช่น งานตกแต่งภายในบ้าน ,งานตกแต่งผนังบริเวณโถงต้อนรับของโรงแรม หรืองานด้านสถาปัตยกรรม เป็นต้น

    คุณสมบัติของคิ้วสแตนเลสจะมีความแข็งแรง ทนต่อแรงกระแทก ไม่แตกหรือเปราะหักง่าย สามารถใช้งานได้ทั้งสภาพอากาศที่ร้อนหรือเย็นจัด อีกทั้งยังทำความสะอาดได้ง่าย ไม่เป็นที่สะสมของแบคทีเรีย จึงทำให้คิ้วสแตนเลสเป็นวัสดุที่นิยมนำมาใช้งานตกแต่ง

    คิ้วสแตนเลสกับกรุยเชิงสแตนเลสต่างกันไหม ? ใช้กับงานตกแต่งประเภทไหนบ้าง
    คิ้วสแตนเลสกับกรุยเชิงสแตนเลส เป็นอุปกรณ์ที่ใช้งานตกแต่งเพื่อเพิ่มความหรูหราให้กับชิ้นงานเหมือนกัน แต่จะแตกต่างกันเล็กน้อยที่คิ้วสแตนเลสจะใช้กับงานตกแต่งเข้ามุมกระเบื้องเพื่อป้องกันกระเบื้องแตกร้าว และยังสามารถตกแต่งผนังและพื้น สำหรับกรุยเชิงสแตนเลสจะใช้สำหรับการแบ่งพื้นที่ระหว่างวัสดุที่ไม่เหมือนกัน หรือใช้เป็นเส้นนำสายตา อีกทั้งยังสามารถนำมาแตกแต่งผนังและพื้นได้อีกด้วย

    คิ้วสแตนเลสกับกรุยเชิงสแตนเลสสามารถสรุปได้ว่ามันคือสิ่งเดียวกัน เพียงแต่คำว่าคิ้วสแตนเลสจะเป็นการครอบคลุมวัสดุที่เกี่ยวกับคิ้วสแตนเลสทั้งหมด แต่กรุยเชิงสแตนเลสนั้นจะเรียกใช้แทนบางประเภทเท่านั้น ได้แก่ คิ้วสแตนเลสตัวยู = กรุยเชิงสแตนเลสตัวยู ,คิ้วสแตนเลสตัวที = กรุยเชิงสแตนเลสตัวที เป็นต้น

    คิ้วสแตนเลสใช้กับงานตกแต่งอะไรได้บ้าง?

    คิ้วสแตนเลสใช้กับงานตกแต่งอะไรได้บ้าง

    ขอบคุณรูปภาพจาก NARA Stainless

    คิ้วสแตนเลสสามารถใช้กับงานตกแต่งได้หลากหลาย โดยสามารถใช้งานได้ดังต่อไปนี้
    .
    • คิ้วสแตนเลสใช้ตกแต่งสำหรับงานผนัง เพื่อเพิ่มความแข็งแรงและความสวยงามให้กับผนังได้ สามารถใช้เป็นการเพิ่มลวดลายบนผนังให้บ้านของคุณน่าอยู่มากยิ่งขึ้น
    • คิ้วสแตนเลสสามารถนำมาใช้งานกับงานตกแต่งบันได นอกจากเพิ่มความสวยงามยังสามารถช่วยเรื่องความปลอดภัย ลดรอยคมของขอบบันได และช่วยเพิ่มความแข็งแรง
    • คิ้วสแตนเลสสามารถใช้งานกับเฟอร์นิเจอร์ได้หลากหลายประเภท ป้องกันขอบเฟอร์นิเจอร์ ลดความคม และป้องกันการเสียหายของเฟอร์นิเจอร์ให้ใช้งานได้ยาวนานมากยิ่งขึ้น
    • คิ้วสแตนเลสสามารถนำมาใช้กับงานตกแต่งกระเบื้องทางเดิน เพื่อเพิ่มลวดลายที่สวยงาม และความหรูหราใกล้กับสถานที่ต่าง ๆ ได้ เช่น โรงแรม ห้างสรรพสินค้า หรือตามคลินิกต่าง ๆ เป็นต้น

    คิ้วสแตนเลสมีกี่แบบแต่ละแบบใช้งานอย่างไรบ้าง?

    คิ้วสแตนเลสมีกี่แบบ

    ขอบคุณรูปภาพจาก NARA Stainless

    คิ้วสแตนเลสสำหรับใช้งานตกแต่งมีหลายประเภทด้วยกัน โดยประเภทของคิ้วสแตนเลสที่นิยมนำมาใช้กันก็คือ รูปทรงตัวยู ,ตัวที และคิ้วกระเบื้อง ซึ่งคิ้วสแตนเลสแต่ละประเภทก็จะมีขนาดที่แตกต่างกันออกไป เช่น 10 หรือ 20 มิลลิเมตร โดยแต่ละประเภทสามารถใช้งานได้ดังต่อไปนี้

    • คิ้วสแตนเลสรูปตัวที เป็นคิ้วสแตนเลสที่มีรูปแบบที่โดดเด่นสวยงาม สามารถใช้กับงานตกแต่งทั้งผนังและพื้น ปกปิดรอยต่อกระเบื้อง และหินอ่อนได้เนียน สามารถนำไปใช้กับงานตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ได้ เพิ่มความหรูหราให้กับการตกแต่งภายในได้อย่างสมบูรณ์ อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มมิติให้กับงานตกแต่งได้อีกด้วย
    • คิ้วสแตนเลสรูปตัวยู เป็นคิ้วสแตนเลสที่สามารถนำไปใช้กับงานตกแต่งได้หลายประเภทเช่นกัน โดยสามารถนำไปใช้กับงานปิดมุม ขอบ พื้น และเพดานที่มีขนาดหน้ากว้าง 50 มม. ขึ้นไป เหมาะกับงานตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ สามารถใช้คู่กับวัสดุเช่น หินอ่อน กระเบื้อง และแกรนิตโตได้เป็นอย่างดี
    • คิ้วกระเบื้องสแตนเลส เป็นอีกหนึ่งประเภทของคิ้วสแตนเลสที่ได้รับความนิยมในการนำมาใช้กับงานตกแต่ง ซึ่งจะเน้นไปที่ด้านสถาปัตยกรรมเพื่อเพิ่มความโดดเด่น ความหรูหรา และความสวยงามได้อย่างสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น  สามารถนำไปใช้กับงานปิดขอบต่าง ๆ เช่น ขอบบันได และขอบเคาน์เตอร์ครัว ใช้ได้สำหรับงานออกแบบภายใน และภายนอก มีความแข็งแรงทนทาน และไม่เกิดรอยง่าย

    คิ้วสแตนเลสเหมาะกับการใช้งานตกแต่งประเภทไหน ?
    การใช้งานสำหรับคิ้วสแตนเลสอย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่าเหมาะกับการใช้งานตกแต่ง แต่นอกจากงานตกแต่งแล้วคิ้วสแตนเลสยังเหมาะกับงานประเภทอื่น ๆ เพื่อเพิ่มมิติความสวยงามให้กับชิ้นงานต่าง ๆ ได้ ดังต่อไปนี้

    • คิ้วสแตนเลสเหมาะกับงานตกแต่งด้านสถาปัตยกรรม นอกจากขนาดของคิ้วสแตนเลสที่มีให้เลือกหลายขนาดแล้ว สีของคิ้วสแตนเลสแต่ละสีก็เหมาะกับการนำมาใช้ตกแต่งงานด้านสถาปัตยกรรมให้ดูสวยงาม และโดดเด่นมากขึ้นได้เช่นกัน
    • คิ้วสแตนเลสสามารถใช้งานกับการตกแต่งทั้งภายในและภายนอกกับสถานที่ที่ต้องการเพิ่มความหรูหรา อย่างเช่น อาคาร, สำนักงาน, ห้างสรรพสินค้า หรือโรงแรม เป็นต้น
    • คิ้วสแตนเลสสามารถนำมาใช้กับงานตกแต่งฝ้า เพดานได้เป็นอย่างดี ใช้ได้ทั้งซ่อนไฟ และไม่ซ่อนไฟ ช่วยปกปิดร่องหลุ่มฝ้าเพดานได้เรียบเนียน

    คิ้วสแตนเลสติดตั้งอย่างไรได้บ้าง?
    การติดตั้งคิ้วสแตนเลสไม่ว่าจะขนาดเท่าไหร่ หรือประเภทไหนก็ตามก็จะมีการติดตั้งที่ไม่ต่างกัน และยังติดตั้งได้ง่ายอีกด้วย โดยคิ้วสแตนเลสโดยทั่วไปสามารถติดตั้งได้ดังต่อไปนี้

    • เลือกประเภทกาวที่เหมาะสมกับพื้นผิวของวัสดุที่ต้องการนำไปติด เพื่อให้การติดตั้งคิ้วสแตนเลสติดนาน และมีคุณภาพในการใช้งานมากยิ่งขึ้น
    • เตรียมพื้นที่สำหรับติดตั้งคิ้วสแตนเลสให้เหมาะกับการวาง และควรเพิ่มพื้นที่การยึดติดของกาวเพื่อให้คิ้วสแตนเลสยึดติดกับพื้นผิววัสดุได้ดีมากยิ่งขึ้นด้วย

    สำหรับการติดตั้งคิ้วสแตนเลสมีวิธีการที่ง่าย แต่ก็ยังมีข้อที่คุณควรระวังเอาไว้ ก็คือ หลีกเลี่ยงการใช้กาวชนิดที่มีกรดกับชิ้นงานคิ้วที่ผ่านการทำสี Anodize เนื่องจากไอระเหยของกาวอาจทำปฏิกิริยากับพื้นผิว และจะทำให้สีของคิ้วสแตนเลสผิดเพี้ยนได้ ซึ่งอาจทำให้งานตกแต่งของคุณไม่สวยงามตามที่คาดหวังไว้ และอาจต้องระวังเรื่องของความชื้น การเคลื่อนย้ายคิ้วสแตนเลสควรทำอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้เกิดการแตกหักของอุปกรณ์

    สรุปคิ้วสแตนเลส
    คิ้วสแตนเลสเป็นอุปกรณ์ที่นิยมใช้ในงานตกแต่งทั้งการตกแต่งภายใน และภายนอก นอกจากนี้ยังนิยมมาใช้ในงานด้านสถาปัตยกรรม เฟอร์นิเจอร์ เคาน์เตอร์ครัวต่าง ๆ เป็นต้น ซึ่งประเภทของคิ้วสแตนเลสก็มีให้เลือกหลากหลายขนาด และหลายประเภทด้วยกัน รวมถึงสีที่สามารถเลือกให้เข้ากับงานตกแต่งของคุณ ด้วยคุณสมบัติของคิ้วสแตนเลสที่มีความทนทาน ต้านทานการกัดกร่อนได้เป็นอย่างดี เพิ่มความแข็งแรงให้กับงานตกแต่ง จึงนับว่าคิ้วสแตนเลสเป็นอุปกรณ์ที่เหมาะกับการนำมาตกแต่งสถานที่ต่าง ๆ ให้ดูสวยงาม และเพิ่มความแข็งแรงให้มากขึ้นได้


    92
    ร่วมบริจาค

    การบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบปัญหา ถือเป็นการกระทำที่มีเกียรติ แสดงถึงความเห็นอกเห็นใจ เพื่อเป็นเครื่องช่วยเหลือชีวิตของเขาเหล่านั้น ที่กำลังพบความลำบาก ไม่ว่าจะเป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติ เช่น พายุเฮอริเคน แผ่นดินไหว น้ำท่วม หรือวิกฤตด้านมนุษยธรรมต่าง ๆ เป็นต้น ซึ่งบริจาคได้ทั้งเป็นเงิน หรือสิ่งของต่าง ๆ

    การบริจาคมีบทบาทสำคัญในการบรรเทาความทุกข์ทรมาน ทั้งยังช่วยเหลือการฟื้นฟู ซึ่งในบทความนี้เราได้รวบรวมข้อมูลต่าง ๆ ที่จะช่วยให้คุณสามารถบริจาคเงิน หรือสิ่งของต่าง ๆ ให้กับผู้ประสบภัยพิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ตกหล่น โดยเราจะแนะนำให้คุณรู้จักกับองค์กรที่มีชื่อเสียง ที่จะอำนวยความสะดวกในการบริจาคที่ง่าย ทั้งยังปลอดภัย รวมถึงวิธีคัดเลือกองค์กรที่เชื่อถือได้ สามารถตรวจผลลัพธ์ ของการบริจาคของคุณ และตอบคำถามทั่วไปที่เกี่ยวข้องกับการบริจาคอีกด้วย

    แนะนำองค์กรที่สามารถบริจาคได้ง่าย ๆ เพียงแค่ปลายนิ้ว
    เมื่อเกิดภัยพิบัติ หรือปัญหาต่าง ๆ ขึ้น หน่วยงานรัฐจะเป็นหน่วยงานแรกที่ต้องลงมาแก้ปัญหา แต่ก็สามารถช่วยเหลือได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะติดข้อจำกัดมากมาย ไม่ว่าจะเป็นด้านกฎหมาย ด้านงบประมาณ จำเป็นที่จะต้องมีองค์กร หรือโครงการต่าง ๆ ออกมา เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาได้อย่างทันท่วงที ซึ่งองค์กรเหล่านี้ก็จะมีรายได้หลักจากการรับบริจาค หรือจากรายได้เสริมส่วนอื่น ๆ

    สิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งนั้นคือ การที่จะต้องบริจาคผ่านองค์กรที่น่าเชื่อถือ ซึ่งสามารถให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ที่ต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพ นี่คือองค์กรที่มีชื่อเสียงบางแห่งที่ช่วยให้คุณสร้างความแตกต่างได้ด้วยการคลิกเพียงไม่กี่ครั้ง

    ติดต่อ บริจาคมูลนิธิกระจกเงา

    มูลนิธิกระจกเงา
    มูลนิธิกระจกเงา เป็นองค์กรอิสระที่ทำงานเกี่ยวกับการพัฒนาสังคม ในหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็น งานด้านสิทธิมนุษยชน ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ไปจนถึงงานพัฒนาอาสาสมัครต่าง ๆ เป็นต้น ซึ่งทำหน้าที่เป็นกระจกเงา ที่สะท้อนเรื่องราว ความเป็นจริงของสังคม พร้อมให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสังคม

    ติดต่อ บริจาคองค์กร UNHCR Thailand

    องค์กร UNHCR Thailand
    ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) แห่งประเทศไทย ทุ่มเทเพื่อช่วยเหลือผู้ลี้ภัยและผู้พลัดถิ่น ถือเป็นภารกิจหลักของพวกเขา การปกป้องสิทธิ ความเป็นอยู่ที่ดีของประชากรกลุ่มเปราะบางเหล่านี้ สำหรับการบริจาคให้กับ UNHCR ประเทศไทย จะมีส่วนสนับสนุนโครงการริเริ่มต่าง ๆ เพื่อจัดหาที่พักอาศัย ให้การศึกษา ให้การรักษาพยาบาล รวมถึงอุปกรณ์ที่จำเป็นแก่บุคคลและครอบครัวผู้พลัดถิ่น

    ติดต่อ บริจาคมูลนิธิปวีณาหงสกุล

    มูลนิธิปวีณาหงสกุล
    มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เป็นองค์กรหนึ่งที่ช่วยเหลือผู้ตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งเรื่องของการข่มขืน ทารุณกรรม ทำร้ายร่างกาย ถูกหลอกลวงจากขบวนการค้ามนุษย์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตัวอย่างเช่น การบังคับค้าประเวณี การนำเด็กมาเร่ขอทาน การใช้แรงงานเยี่ยงทาส เป็นต้น ไปจนถึงปัญหาภายในครอบครัวอีกด้วย

    อยากร่วมบริจาค ควรเลือกองค์กรไหนดี ? แล้วต้องทำอย่างไรบ้าง
    การเลือกองค์กรที่เหมาะสมสำหรับการบริจาคนั้น สิ่งสำคัญเพื่อให้แน่ใจว่าการเงิน หรือสิ่งของที่คุณต้องการบริจาคนั้นจะต้องถูกกฎหมาย สามารถส่งตรงถึงผู้ประสบปัญหาได้โดยตรง โดยปัจจัยที่ใช้ในการเลือกองค์กรที่ต้องการดังนี้

    1.เลือกกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ ควรเลือกกลุ่มเป้าหมายที่ประสบปัญหาตามที่คุณอยากช่วยเหลือ องค์กรต่าง ๆ อาจมีความเชี่ยวชาญในแต่ละด้านที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้นควรเลือกองค์กรที่สอดคล้องกับความต้องการของคุณ

    2.ตรวจสอบองค์กร ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียด เกี่ยวกับองค์กรที่คุณตั้งใจจะบริจาคให้ มีความโปร่งใส มีความรับผิดชอบ ไปจนถึงมีประวัติที่ได้รับการยอมรับ ว่ามีการบรรเทาภัยพิบัติหรือให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม

    3.ตรวจสอบวิธีการบริจาค ตรวจสอบวิธีการบริจาคที่มีอยู่ องค์กรส่วนใหญ่เสนอแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ปลอดภัย ซึ่งคุณสามารถบริจาคได้โดยใช้บัตรเครดิต การโอนเงินผ่านธนาคาร หรือแอปชำระเงินผ่านมือถือ

    4.กำหนดจำนวนเงินบริจาค ตัดสินใจเกี่ยวกับจำนวนเงินที่คุณต้องการบริจาค แม้แต่การบริจาคเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็สามารถสร้างความแตกต่างได้อย่างมาก เมื่อรวมกับการบริจาคของผู้อื่น

    5.มีจัดสรรที่ชัดเจน บางองค์กรอนุญาตให้คุณระบุการบริจาคของคุณให้กับโครงการย่อยต่าง ๆ อย่างเฉพาะจุดได้

    สำหรับผู้ที่ไม่รู้จะตัดสินใจเลือกองค์กรใดดี เราขอแนะนำ UNHCR ที่คอยให้ความช่วยเหลือผู้ลี้ภัยต่าง ๆ ที่เกิดมาจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ ไปจนถึงผลกระทบจากสงคราม ที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกวัน ซึ่งคุณสามารถมั่นใจได้ว่า สิ่งที่บริจาคไปจะถึงผู้ประสบปัญหาอย่างแน่นอน

    เป้าหมายของ UNHCR ในการรับบริจาค มีเป้าหมายที่ชัดเจน
    ก่อนที่จะบริจาคเงินให้กับ UNHCR (ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ) จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเข้าใจก่อนว่าองค์กรนี้ดำเนินงานโดยมีเป้าหมายที่ชัดเจนอย่างไร การบริจาคของคุณให้กับ UNHCR ไม่เพียงแต่เป็นการบริจาคเพื่อความสบายใจแล้ว ยังเป็นการลงทุนในการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอีกด้วย ที่นี่ เราเจาะลึกวัตถุประสงค์ของ UNHCR รวมถึงผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นกัน

    1. ที่พักพิงและที่อยู่อาศัย
    หนึ่งในเป้าหมายหลักของ UNHCR คือเพื่อให้แน่ใจว่าผู้พลัดถิ่นทั้งครอบครัว สามารถเข้าถึงที่พักพิงที่ปลอดภัย มั่นคง เงินบริจาคของคุณมีส่วนโดยตรงต่อการสร้าง ฟื้นฟู ไปจนถึงบำรุงรักษาศูนย์พักพิงในค่ายผู้ลี้ภัยต่าง ๆ ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤต ที่พักพิงเหล่านี้ให้ความคุ้มครอง การรักษาความปลอดภัยที่จำเป็นอย่างมากแก่ผู้ลี้ภัย

    2. การศึกษา
    การศึกษาเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน UNHCR ตระหนักถึงความสำคัญของการให้การศึกษาที่มีคุณภาพแก่เด็กรวมถึงเยาวชนผู้ลี้ภัย การบริจาคของคุณมีส่วนช่วยสร้างโรงเรียน จัดหาสื่อการเรียนรู้ที่จำเป็น ฝึกอบรมครู ด้วยการสนับสนุนโครงการนี้ คุณจะเสริมพลังความรู้ให้กับคนรุ่นต่อไป

    3. การดูแลสุขภาพ
    การเข้าถึงการรักษาพยาบาลถือเป็นภารกิจที่สำคัญอีกประการหนึ่งของ UNHCR ผู้พลัดถิ่นมักเผชิญกับความเสี่ยงด้านสุขภาพที่เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากสภาพความเป็นอยู่ที่ไม่สะดวกสบาย การเข้าถึงบริการทางการแพทย์ที่จำกัด การบริจาคของคุณช่วยให้ UNHCR สามารถสร้างสถานพยาบาล ให้บริการทางการแพทย์ และรับประกันว่าผู้ลี้ภัยจะได้รับการรักษา การดูแลทางการแพทย์ที่จำเป็น สิ่งนี้มีส่วนช่วยให้ผลลัพธ์ด้านสุขภาพดียิ่งขึ้น

    4. โอกาสในการดำรงชีวิต
    UNHCR ตระหนักถึงความสำคัญของการพึ่งพาตนเอง พวกเขาจึงทำงานเพื่อสร้างโอกาสในการดำรงชีวิตให้กับผู้ลี้ภัย ช่วยให้พวกเขาสามารถเลี้ยงดูตนเองและครอบครัวได้ การบริจาคของคุณช่วยสนับสนุนการฝึกอบรมสายอาชีพ โครงการการเป็นผู้ประกอบการ ซึ่งความคิดริเริ่มจะช่วยให้บุคคลเหล่านั้นได้มีชีวิตใหม่

    5. การคุ้มครองทางกฎหมาย
    UNHCR ทุ่มเทเพื่อสนับสนุนสิทธิ์ทางกฎหมายการคุ้มครองผู้ลี้ภัย พวกเขาทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อให้แน่ใจว่ากฎหมาย รวมถึงอนุสัญญาระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับผู้ลี้ภัย ต้องได้รับการยึดถือ ให้ความเคารพ การมีส่วนร่วมของคุณจะช่วยให้ความพยายามปรับปรุงกฎหมายให้กับผู้พลัดถิ่น ยกระดับความปลอดภัยของพวกเขา

    6. การตอบสนองต่อเหตุการณ์ฉุกเฉิน
    ในช่วงเวลาที่เกิดวิกฤตการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน UNHCR มีบทบาทสำคัญในการให้ความช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ การบริจาคของคุณช่วยให้ UNHCR สามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็วต่อภัยพิบัติต่าง ๆ ไปจนถึงผู้พลัดถิ่น ซึ่งเป็นสถานการณ์เร่งด่วนอื่น ๆ เพื่อให้มั่นใจว่าประชากรที่ได้รับผลกระทบจะได้รับความช่วยเหลือทันที รวมถึงที่พักพิง อาหาร น้ำสะอาด ไปจนถึงการรักษาพยาบาล

    7. ความเท่าเทียมทางเพศ
    UNHCR มุ่งมั่นที่จะส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ พร้อมปกป้องประชากรกลุ่มเปราะบาง รวมถึงผู้หญิงและเด็ก การบริจาคของคุณสนับสนุนโครงการตอบสนองความต้องการเหล่านี้ ถือเป็นความท้าทายเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังรวมถึงการคุ้มครองจากความรุนแรงทางเพศ การเข้าถึงบริการที่จำเป็น

    สามารถร่วมบริจาคในช่องทางไหนได้บ้าง ? ที่สะดวกสบายที่สุด

    บริจาคผ่านโทรศัพท์มือถือ

    เพื่อให้คุณสามารถเข้าถึงวิธีบริจาคได้ง่ายยิ่งขึ้น ด้วยช่องทางต่าง ๆ มากมาย ที่สะดวกสบาย ทั้งยังปลอดภัยอีกด้วย

    1. การบริจาคออนไลน์ องค์กรส่วนใหญ่นั้นมีเว็บไซต์เป็นของตนเอง ทั้งยังออกแบบให้เป็นมิตรกับผู้ใช้งานอีกด้วย ซึ่งคุณสามารถบริจาคเงินออนไลน์ได้อย่างปลอดภัย ไม่ว่าจะใช้บัตรเครดิต บัตรเดบิต หรือวิธีการชำระเงินดิจิทัลก็สามารถทำได้เช่นกัน

    2. แอปพลิเคชันมือถือ บางองค์กรมีแอปพลิเคชันในมือถือโดยเฉพาะ เพื่อให้คุณสามารถเข้าถึงการบริจาคได้เพียงไม่กี่ขั้นตอนผ่านทางสมาร์ทโฟนเท่านั้น

    3. การโอนเงินผ่านธนาคาร สำหรับผู้ที่ชื่นชอบวิธีการโอนผ่านธนาคารแบบเดิมๆ  หลายองค์กรจะแจ้งรายละเอียดบัญชีธนาคารอย่างชัดเจน เพื่อให้การทำรายการได้ง่ายยิ่งขึ้น

    คำถามที่มักพบบ่อยเกี่ยวกับบริจาคเพื่อการกุศล
    สำหรับผู้ที่กำลังมองหาช่องทางในบริจาคเพื่อการกุศล มักจะเกิดคำถามตามมามากมาย ซึ่งเราได้รวบรวมคำถามยอดนิยม เพื่อไขข้อข้องใจสำหรับทุกคน

    บริจาคกับทาง UNHCR เงินจะถึงมือผู้รับ 100 % เลยไหม ?
    การบริจาคของคุณนั้น จะไปถึงผู้รับอย่างรวดเร็ว และจะถูกนำไปใช้เพื่อผลประโยชน์อย่างสูงสุด แม้ว่าทางองค์กรจะมีค่าใช้จ่ายในการบริหาร แต่ในส่วนเงินบริจาคของคุณทั้งหมดนั้น จะถูกนำไปช่วยผู้ลี้ภัยทั้งหมดอย่างแน่นอน

    การบริจาคเพื่อลดหย่อนภาษี มีขั้นตอนอะไรบ้าง ?
    การบริจาคให้กับองค์กรการกุศลที่จดทะเบียนสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ หากต้องการขอลดหย่อนภาษี ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้รับใบเสร็จรับเงินหรือใบตอบรับจากองค์กรหรือไม่ ปรึกษาหน่วยงานด้านภาษีในพื้นที่ของคุณสำหรับหลักเกณฑ์เฉพาะเกี่ยวกับการขอหักภาษี

    สามารถบริจาคเงินอย่างเจาะจงให้แก่โครงการนั้นๆ ทำได้ไหม ?
    สามารถทำได้ องค์กรหลายแห่งจะมีโครงการทางเลือกนอกเหนือจากเป้าหมายหลักขององค์กร ทำให้คุณสามารถเลือกบริจาคโครงการที่ตรงกับความต้องการของคุณ ติดต่อองค์กรเพื่อสอบถามเกี่ยวกับการจัดสรรเงินบริจาคของคุณ

    สรุปการรับบริจาค
    ในช่วงเวลาที่เกิดเหตุการณ์อันตรายที่ทำให้หลาย ๆ คนต้องสูญเสียบางสิ่งบางอย่างไปนั้น การบริจาคเปรียบเหมือนแสงแห่งความหวัง ความมีน้ำใจของคุณสามารถให้สร้างที่พักพิง อาหาร การศึกษา ไปจนถึงการรักษาพยาบาลให้แก่ผู้ที่ประสบเหตุการณ์ต่าง ๆ ได้ ด้วยการเลือกองค์กรที่มีชื่อเสียง น่าเชื่อถือ เพื่อให้มั่นใจว่าสิ่งที่คุณบริจาคนั้นจะส่งไปถึงผู้รับอย่างครบถ้วน ซึ่งเพื่อให้การรับบริจาคง่ายขึ้น เหล่าองค์กรต่าง ๆ จึงใช้ประโยชน์จากความสะดวกในการบริจาคทางออนไลน์ เพื่อให้คุณสามารถช่วยเหลือและมอบโอกาสในชีวิตของผู้ประสบเหตุการณ์ที่เลวร้ายได้ตลอดเวลา

    93
    โทรศัพท์แอนดรอยด์ รุ่นไหนดี 2023

    โทรศัพท์แอนดรอยด์ Smart phone ยอดฮิตที่เป็นที่หมายปองของใครหลาย ๆ คน ปัจจุบันโทรศัพท์แอนดรอยด์ถูกพัฒนาให้มีฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย เพื่อให้ผู้คนสามารถเลือกซื้อได้ตามไลฟ์สไตล์และความชอบส่วนบุคคลที่แตกต่างกัน โทรศัพท์แอนดรอยด์แต่ละรุ่นจึงถูกออกแบบให้มีฟังก์ชันการใช้งานแตกต่างกันออกไป

    สำหรับท่านที่กำลังมองหาโทรศัพท์ android แต่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกรุ่นไหนดี แล้วรุ่นไหนที่จะมีฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตประจำวันของท่านมากที่สุด วันนี้เรามีโทรศัพท์แอนดรอยด์ยอดฮิตประจำปี 2023 ภายใต้แบรนด์ Sumsung แบรนด์มือถือชั้นนำที่ผลิตมือถือเรือธงออกมามากมาย พร้อมข้อมูลเปรียบเทียบ ราคา จุดเด่น ข้อดี ฟังก์ชันการใช้งาน และเคล็ดลับการเลือกซื้อโทรศัพท์แอนดรอย์ให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตมาแนะนำ ถ้าพร้อมแล้วเรามาเข้าสู่เนื้อหาในบทความกัน

    โทรศัพท์แอนดรอยด์ คืออะไร
    โทรศัพท์แอนดรอยด์ คือ โทรศัพท์พกพาเคลื่อนที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ (Android) เป็นซอฟต์แวร์ในการทำงาน ซึ่งซอฟต์แวร์ตัวนี้เป็นซอฟต์แวร์ที่ถูกพัฒนาโดยบริษัท Google โดยที่ทางบริษัทได้มีการพัฒนาให้ซอฟต์แวร์ตัวนี้ มีพฤติกรรมเลียนแบบมนุษย์ทั้งด้านกายภาพและพฤติกรรม

    ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ถูกพัฒนาให้สามารถแก้ไขและสร้างโค้ดได้ด้วยภาษาพูด สามารถเรียนรู้ได้ โดยที่มีภาษา Java เป็นตัวพัฒนาระบบ ด้วยความที่โทรศัพท์แอนดรอยด์ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เป็นซอฟต์แวร์ในการทำงาน โทรศัพท์แอนดรอยด์จึงเป็น Smart phone ที่ใช้งานง่าย มีความทันสมัย มีประสิทธิภาพ และมีการอัปเดตอยู่ตลอดเวลา

    นอกจากความฉลาดของระบบปฏิบัติการแล้ว โทรศัพท์แอนดรอยด์ยังเป็นโทรศัพท์มือถือที่ใช้งานง่าย มีฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย และมีการตั้งราคาที่ทำให้คนธรรมดาทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ เป็น Smarth phone ที่หากได้เปิดใจลองใช้สักครั้งจะต้องติดใจกับความฉลาดของระบบปฏิบัติการอย่างแน่นอน

    แนะนำโทรศัพท์แอนดรอยด์สุดฮิต มีรุ่นไหนบ้าง
    หลังจากรู้จักระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์กันไปแล้ว เราจะมาแนะนำโทรศัพท์แอนดรอยด์ 2023 และมือถือเรือธงหลากหลายราคา หลากหลายฟังก์ชัน หลากหลายการใช้งาน ภายใต้แบรนด์ Sumsung แบรนด์ Smart phone สุดฮิต ใครกำลังมองหาโทรศัพท์แอนดรอยด์อยู่ห้ามพลาด!

    1. Samsung Galaxy Z Fold4 ราคาเริ่มต้น 44,900 บาท

    มือถือแอนดรอยด์ Samsung Galaxy Z Fold4

    ขอบคุณภาพจาก -h ttps://images.samsung.com/is/image/samsung/assets/th/explore/entertainment/galaxy-z-fold4-new-fold-phone-2022/zfold4_carousel_group_desktop_920x582.jpg?$920_N_JPG $-

    โทรศัพท์แอนดรอยด์ดีไซน์โดดเด่น ที่มาพร้อมกับหน้าจอพับได้ ตัวเครื่องน้ำหนักเบาพกพาสะดวก หน้าจอกว้าง 7.6 นิ้ว ใช้งานดีไม่มีสะดุด เป็นโทรศัพท์แอนดรอยด์เรือธงเรื่องฟังก์ชันการใช้งานกล้องหลัง ที่กล้องหลักมีความละเอียดสูงถึง 50MP พร้อมกันสั่นแบบ OIS กล้อง Telephoto ความละเอียด 10MP พร้อมกันสั่นแบบ OIS และยังมีกล้อง Ultrawide ที่มีความละเอียดสูงถึง 12MP สามารถซูมได้สูงสุดกว่า 30x ในราคาเริ่มต้นเพียง 44,900 บาท ใครที่กำลังมองหาโทรศัพท์แอนดรอยด์กล้องสวยห้ามพลาด

    2. Samsung Galaxy S23 Ultra ราคาเริ่มต้น 43,900 บาท

    โทรศัพท์ android Samsung Galaxy S23 Ultra

    ขอบคุณภาพจาก -h ttps://images.samsung.com/th/smartphones/galaxy-s23-ultra/images/galaxy-s23-ultra-highlights-online-exclusive-colors.jp g-

    โทรศัพท์แอนดรอยด์ที่ดีที่สุด Samsung Galaxy S23 Ultra โทรศัพท์แอนดรอยด์ท็อปเรือธงประจำปี 2023 ดีไซน์ทันสมัยสเปคจัดเต็ม ที่มาพร้อมกับกล้องความละเอียดสูงถึง 200 MP วัสดุแข็งแรงทนทาน เหมาะกับคนที่ชอบทำกิจกรรมนอกบ้าน ด้านล่างของตัวเครื่องมีช่องเก็บ S Pen ทำให้สามารถใช้งานได้สะดวก จะวาดรูปก็ดี หรือจะตัดต่อวิดิโอก็ยังได้ ในราคาเริ่มต้นเพียง 49,100 บาท

    3. Samsung Galaxy S23 | S23+ ราคาเริ่มต้น 30,900 บาท

    มือถือ android Samsung Galaxy S23 | S23+

    ขอบคุณภาพจาก -h ttps://images.samsung.com/is/image/samsung/assets/th/smartphones/galaxy-s23/images/galaxy-s23-highlights-kv.jp g-

    โทรศัพท์แอนดรอยด์ที่มีดีไซน์โค้งมนเป็นเอกลักษณ์ เหมาะกับสาว ๆ ที่กำลังมองหามือถือแอนดรอยด์ดีไซน์น่ารักสีสันสดใส Samsung Galaxy S23 | S23+ มาพร้อมกับกล้องหลัง 3 ตัว โดยกล้องหลักมีความละเอียดสูงถึง 50MP กล้อง Ultrawide มีความละเอียด 12MP และกล้อง Telephoto มีความละเอียด 12MP หน้าจอ Dynamic AMOLED ขนาดตัวเครื่อง 6.6 นิ้ว พร้อมจอภาพแบบ Full HD+ (2340 x 1080) ในราคาเริ่มต้นเพียง 30,900 บาท

    4. Samsung Galaxy Z Flip4 ราคาเริ่มต้น 26,900 บาท

    โทรศัพท์แอนดรอยด์ 2023 Samsung Z Flip 4

    ขอบคุณภาพจาก -h ttps://images.samsung.com/is/image/samsung/p6pim/th/sm-f721blbethl/gallery/th-galaxy-z-flip4-f721-sm-f721blbethl-53422640 2-

    โทรศัพท์แอนดรอยด์พับได้สีสันสดใส ขนาดเล็กพกพาสะดวก เหมาะกับสาว ๆ ที่กำลังมองหาโทรศัพท์แอนดรอยด์ขนาดเล็ก Samsung Galaxy Z Flip4 โทรศัพท์ android จอกว้างขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ กันน้ำ มีกล้องหลังคู่ พร้อมกล้องหน้าอีกหนึ่งตัว โดยกล้องหลักมีความละเอียดสูงถึง 12 MP กล้อง Ultrawide ความละเอียด 12 MP ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 10 MP ในราคาเริ่มต้นเพียง 26,900 บาท

    5. Samsung Galaxy A54 5G ราคา 13,999 บาท
    มือถือ android Samsung Galaxy A54 5G

    ขอบคุณภาพจาก -h ttps://images.samsung.com/is/image/samsung/p6pim/th/feature/164460296/th-feature-speed-will-take-you-further-535756211?$900*N_JPG $-

    โทรศัพท์แอนดรอยด์ถูกและดี ที่ถูกวางให้เป็นโทรศัพท์เรือธงด้านดีไซน์และสีสันที่สดใส โดนใจวัยรุ่น มาพร้อมกับกล้องที่มีความคมชัดระดับ 4K พร้อมกันสั่นแบบ OSI แบตเตอรี่อึดสะใจ กันน้ำกันฝุ่น เหมาะกับสายลุยสายกิจกรรม ไม่จำเป็นต้องพกสายชาจให้เกะกะ ในราคาเริ่มต้นเพียง 13,999 บาทเท่านั้น

    6. Samsung Galaxy A34 5G ราคา 11,999 บาท

    มือถือแอนดรอยด์ Samsung Galaxy A34 5G

    ขอบคุณภาพจาก -h ttps://images.samsung.com/is/image/samsung/assets/th/saleguide/galaxy-a34-5g/galaxy-a34-5g-part2.jp g-

    โทรศัพท์แอนดรอยด์ ระดับกลางที่อัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์การใช้งานมากมาย มาพร้อมกับกล้องหลังสามตัวโดยกล้องหลักมีความละเอียดสูงถึง 48 MP ตัวเครื่องสีสันสดใสดีไซน์โค้งมน ขนาดความจุ 128 GB รองรับ 5G และ WIFI 6 พร้อมระบบสแกรนใบหน้า ในราคาเริ่มต้นเพียง 11,999 บาท เท่านั้น

    7. Samsung Galaxy A14 5G ราคา 6,999 บาท

    โทรศัพท์แอนดรอยด์ถูกและดี Samsung A14 5G

    ขอบคุณภาพจาก
    -h ttps://images.samsung.com/is/image/samsung/p6pim/th/feature/164337940/th-feature-galaxy-a14-5g-sm-a146-535153350?$FB_TYPE_K_JPG $-

    โทรศัพท์แอนดรอยด์ราคาถูกที่มีฟังก์ชันการใช้งานครบครันทั้งจอภาพที่มีความคมชัดระดับ FULL HD+ ความจุเครื่อง 128 GB ความจุแบต 5000 mAh รองรับเครือข่าย 5G พร้อมกล้อง 3 ตัว ที่มีละเอียดสูงถึง 50MP Auto HDR ในราคาเริ่มต้นเพียง 6,999 บาท ใครกำลังมองหาโทรศัพท์แอนดรอยด์ราคาถูกฟังก์ชันครบครันห้ามพลาด

    8. Samsung Galaxy A04s ราคา 4,699 บาท
    โทรศัพท์แอนดรอยด์ถูกและดี Samsung A04s

    ขอบคุณภาพจาก
    -h ttps://images.samsung.com/is/image/samsung/assets/th/explore/entertainment/best-budget-phones/a04_bestbudgetphone_pc.png?$920_N_PNG $-

    สำหรับท่านที่กำลังมองหาโทรศัพท์แอนดรอยด์ราคาถูก เราขอแนะนำ Samsung Galaxy A04s โทรศัพท์แอนดรอยด์ที่มาพร้อมกับสโลแกน “แบตอึดไม่มีขาดตอน” มีความจุแบตเตอรี่กว่า 5000 mAh พร้อมกล้องหลัง 3 ตัว จอกว้าง 6.5 นิ้ว ไร้ขอบ จอแสดงผลชัดระดับ HD น้ำหนักเบา ในราคาเริ่มต้นเพียง 4,999 บาท ใครมองหาโทรศัพท์แอนดรอยด์ราคาประหยัดห้ามพลาด

    เปรียบเทียบโทรศัพท์แอนดรอยด์แต่ละรุ่น
    หลังจากอ่านบทความมาจนถึงจุดนี้ ทุกท่านคงจะเห็นได้ว่าโทรศัพท์แอนดรอยด์แต่ละรุ่นนั้น มีความแตกต่างกันหลายด้านทั้งในด้านของราคา, สเปค, ขนาด, สีสัน, น้ำหนัก, ความจุ, ความคมชัด และอื่น ๆ บางท่านอาจเกิดความสับสนว่าควรเลือกโทรศัพท์รุ่นไหนดี แล้วโทรศัพท์ android รุ่นไหนดีสุด รุ่นไหนจะเหมาะกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคุณมากที่สุด มาดูกันในตารางเปรียบเทียบโทรศัพท์แอนดรอยด์ ตารางที่จะทำให้คุณตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น

    Samsung Galaxy Z Fold4
    • จอด้านหน้า Dynamic AMOLED  ความละเอียด HD+ ขนาด 6.2 นิ้ว
    • จอหลัก Dynamic AMOLED ความละเอียด QXGA+ ขนาด 6.7 นิ้ว
    • หน่วยความจำ 256GB/512GB
    • สี Gray/Green/Phantom/Black/Beige/Burgundy
    • ราคาเริ่มต้น 44,900 บาท

    Samsung Galaxy S23 Ultra
    • จอ Infinity-O Dynamic AMOLED 2X ความละเอียด QHD+ (3088 x 1440) รีเฟรชเรท 1 – 120Hz. ขนาด 6.8 นิ้ว
    • หน่วยความจำ  256GB/ 512GB/1TB
    • ความจุแบตเตอรี่ 5000 mAh
    • สี Red/Sky Blue/Lime/Graphite/Green/Phantom/Black/Lavender/Cream
    • ราคาเริ่มต้น 43,900 บาท

    Samsung Galaxy S23 | S23+
    • จอความละเอียด FHD+ รองรับค่า Refresh Rate ระดับ 120Hz
    • หน้าจอของ S23 ขนาด 6.1 นิ้ว และ S23+ ขนาด 6.6 นิ้ว
    • หน่วยความจำ  128GB
    • ความจุแบตเตอรี่ 3900 mAh/4700 mAh
    • สี Lavender/Cream/Phantom Black/Green
    • ราคาเริ่มต้น 30,900 บาท

    Samsung Galaxy Z Flip4
    • จอ Dynamic AMOLED 2X 24-bit (16 ล้านสี) ความละเอียด 512 x 260 พิกเซล ขนาด 6.7 นิ้ว
    • หน่วยความจำ  128GB/256GB/512GB
    • ความจุแบตเตอรี่ 3700 mAh
    • สี Pink/Blue/Gray/Purple
    • ราคาเริ่มต้น 26,900 บาท

    Samsung Galaxy A54 5G
    • จอ Super AMOLED, 120Hz, Full HD+ (1080 x 2408 pixels) ขนาด 6.4 นิ้ว
    • หน่วยความจำ  128GB/256GB
    • ความจุแบตเตอรี่ 5000 mAh
    • สี Black/Light Green
    • ราคาเริ่มต้น 13,999 บาท

    Samsung Galaxy A34 5G
    • จอ Super AMOLED 24-bit (16 ล้านสี) ขนาด 6.6 นิ้ว
    • หน่วยความจำ 128GB
    • ความจุแบตเตอรี่ 5000 mAh
    • สี Awesome Silver/Awesome Violet/Awesome Graphite
    • ราคาเริ่มต้น 11,999 บาท

    Samsung Galaxy A14 5G
    • จอ PLS TFT LCD 6.6" 2412 x 1080 pixels 90Hz FHD+ ขนาด 6.6 นิ้ว
    • หน่วยความจำ 128 GB
    • ความจุแบตเตอรี่ 5000 mAh
    • สี Silver/Black
    • ราคาเริ่มต้น 6,999 บาท

    Samsung Galaxy A04s
    • จอ LCD 24-bit (16 ล้านสี) ความละเอียด 720 x 1600 พิกเซล (270 ppi) ขนาด 6.5 นิ้ว
    • หน่วยความจำ 64 GB
    • ความจุแบตเตอรี่ 5000 mAh
    • สี Green/Black
    • ราคาเริ่มต้น 4,699 บาท

    Samsung Galaxy Z Fold4
    • จอด้านหน้า Dynamic AMOLED  ความละเอียด HD+ ขนาด 6.2 นิ้ว
    • จอหลัก Dynamic AMOLED ความละเอียด QXGA+ ขนาด 6.7 นิ้ว
    • หน่วยความจำ 256GB/512GB
    • สี Gray/Green/Phantom/Black/Beige/Burgundy
    • ราคาเริ่มต้น 44,900 บาท

    Samsung Galaxy S23 Ultra
    • จอ Infinity-O Dynamic AMOLED 2X ความละเอียด QHD+ (3088 x 1440) รีเฟรชเรท 1 – 120Hz. ขนาด 6.8 นิ้ว
    • หน่วยความจำ  256GB/ 512GB/1TB
    • ความจุแบตเตอรี่ 5000 mAh
    • สี Red/Sky Blue/Lime/Graphite/Green/Phantom/Black/Lavender/Cream
    • ราคาเริ่มต้น 43,900 บาท

    Samsung Galaxy S23 | S23+
    • จอความละเอียด FHD+ รองรับค่า Refresh Rate ระดับ 120Hz
    • หน้าจอของ S23 ขนาด 6.1 นิ้ว และ S23+ ขนาด 6.6 นิ้ว
    • หน่วยความจำ  128GB
    • ความจุแบตเตอรี่ 3900 mAh/4700 mAh
    • สี Lavender/Cream/Phantom Black/Green
    • ราคาเริ่มต้น 30,900 บาท

    Samsung Galaxy Z Flip4
    • จอ Dynamic AMOLED 2X 24-bit (16 ล้านสี) ความละเอียด 512 x 260 พิกเซล ขนาด 6.7 นิ้ว
    • หน่วยความจำ  128GB/256GB/512GB
    • ความจุแบตเตอรี่ 3700 mAh
    • สี Pink/Blue/Gray/Purple
    • ราคาเริ่มต้น 26,900 บาท

    Samsung Galaxy A54 5G
    • จอ Super AMOLED, 120Hz, Full HD+ (1080 x 2408 pixels) ขนาด 6.4 นิ้ว
    • หน่วยความจำ  128GB/256GB
    • ความจุแบตเตอรี่ 5000 mAh
    • สี Black/Light Green
    • ราคาเริ่มต้น 13,999 บาท

    Samsung Galaxy A34 5G
    • จอ Super AMOLED 24-bit (16 ล้านสี) ขนาด 6.6 นิ้ว
    • หน่วยความจำ 128GB
    • ความจุแบตเตอรี่ 5000 mAh
    • สี Awesome Silver/Awesome Violet/Awesome Graphite
    • ราคาเริ่มต้น 11,999 บาท

    Samsung Galaxy A14 5G
    • จอ PLS TFT LCD 6.6" 2412 x 1080 pixels 90Hz FHD+ ขนาด 6.6 นิ้ว
    • หน่วยความจำ 128 GB
    • ความจุแบตเตอรี่ 5000 mAh
    • สี Silver/Black
    • ราคาเริ่มต้น 6,999 บาท

    Samsung Galaxy A04s
    • จอ LCD 24-bit (16 ล้านสี) ความละเอียด 720 x 1600 พิกเซล (270 ppi) ขนาด 6.5 นิ้ว
    • หน่วยความจำ 64 GB
    • ความจุแบตเตอรี่ 5000 mAh
    • สี Green/Black
    • ราคาเริ่มต้น 4,699 บาท

    ข้อดีของโทรศัพท์แอนดรอยด์
    หลังจากทราบกันแล้วว่าโทรศัพท์แอนดรอยด์คืออะไร แล้วมีโทรศัพท์ android รุ่นไหนบ้างที่น่าสนใจในปี 2023 ต่อมาเราจะมีพูดถึงข้อดีและจุดเด่นของมือถือภายใต้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์กัน จะมีข้อดีด้านใดบ้างไปมาดูกัน

    1.ข้อดีในเรื่องของแอปพลิเคชัน: โทรศัพท์แอนดรอยด์สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันที่ไม่ได้อยู่ใน Google Play Store ได้ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถใช้งานแอปพลิเคชันได้หลากหลาย และดาวน์โหลดแอปพลิเคชันจากภายนอกได้อย่างไม่จำกัด
    2.ข้อดีในเรื่องของฟังก์ชันการใช้งาน: เนื่องจากระบบปฏิบัติการของโทรศัพท์แอนดรอยด์เป็นแบบเปิด ทำให้ผู้ใช้งานสามารถออกแบบฟังก์ชันการใช้งานได้ตามความต้องการของตัวเอง
    3.ข้อดีในเรื่องของการอัปเดตระบบปฏิบัติการ:โทรศัพท์แอนดรอยด์ไม่จำเป็นต้องอัปเดตระบบปฏิบัติทำให้ผู้ใช้งานโทรศัพท์แอนดรอยด์สามารถใช้งาน Smart phone ได้แบบไม่สะดุด ไม่จำเป็นต้องมานั่งอัปเดตระบบปฏิบัติการเองให้เสียเวลา เพราะระบบแอนดรอยด์มีการอัปเดตเองแบบอัตโนมัติ
    4.ข้อดีในเรื่องของ Multitasking: โทรศัพท์แอนดรอยด์สามารถใช้งานได้แบบ Full Multitask ทำให้ผู้ใช้งานสามารถใช้งานแอปพลิเคชันมากกว่า 2 แอปพลิเคชันได้ในเวลาเดียวกัน เป็นจุดเด่นที่จะทำให้ชีวิตการทำงานหรือการเรียนของคุณง่ายกว่าที่เคย

    สรุปวิธีการเลือกซื้อโทรศัพท์แอนดรอยด์
    หลังจากอ่านบทความนี้จนจบเราจะเห็นได้ว่า โทรศัพท์แอนดรอยด์เป็นโทรศัพท์มือถือที่มีจุดเด่นในเรื่องของการใช้งานที่ทั้งง่ายและหลากหลาย เหมาะกับท่านที่กำลังมองหา Smart phone ที่มีฟังก์ชันการใช้งานแบบไม่จำกัดกรอบความคิด ซึ่งโทรศัพท์แอนดรอยด์แต่ละรุ่นนั้น ก็มีจุดเด่นและราคาที่แตกต่างกันออกไป เพื่อที่จะตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานที่แตกต่างกัน ทำให้ทุกท่านสามารถเลือกซื้อโทรศัพท์แอนดรอยด์ได้ตามความชอบและไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตประจำวัน

    94
    ฉีด PRP

    สำหรับปัญหาที่เกี่ยวกับเส้นผมและหนังศีรษะของแต่ละคนนั้นจะมีปัญหาที่เหมือน ๆ กัน เช่น ผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน ปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นได้หลายปัจจัย การรักษาปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน แบบวิธีรักษาธรรมชาติ และกำลังเป็นที่นิยมอยู่ ณ ตอนนี้ก็คือ ฉีด PRP ซึ่งเป็นนวัตกรรมในรูปแบบใหม่ที่ได้รับความนิยมในการรักษาที่เกี่ยวกับเส้นผม และหนังศีรษะ ไม่เจ็บตัว และไม่ต้องผ่าตัด  ฉีด PRP ผม การนำเอาเลือดของตัวเองออกมา 10 มิลลิลิตร หลังจากนั้นมาปั่นกับเครื่องปั่น เพื่อแยกส่วนของเกล็ดเลือดอก เกล็ดเลือดที่ได้จะเข้มข้น อุดมไปด้วยสารอาหารที่เรียกว่า Growth factor ที่ช่วยในเรื่องของการชะลอผมหลุดร่วง กระตุ้นเส้นผมให้งอกขึ้นมาใหม่ และทำให้ผมแข็งแรงขึ้นมากขึ้น  ฉีด PRP หรือฉีดเกล็ดเลือดหน้าใสได้อีกเหมือนกัน

    ในบทความนี้ทางเราได้รวบรวมข้อมูลที่มีความเกี่ยวข้องกับฉีด PRP ขั้นตอนฉีด PRP แต่ละขั้นตอนมีอะไรบ้าง หรือฉีด PRP เหมาะสมกับใคร เห็นผลจริงหรือไม่? เมื่อฉีด PRP เข้าไป

    1.เตรียมตัวก่อนรักษาฉีด PRP ผม

    ฉีด PRP

    ขั้นตอนนี้เป็นส่วนสำคัญอย่างมากกับคนไข้ที่ต้องการรักษาปัญหาเกี่ยวกับเส้นผม ที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นผมร่วง ผมบาง ผมเป็นหย่อม แลัศีรษะล้าน หากคนไข้มีการเตรียมตัวมาดี จึงจะทำให้ประสิทธิภาพฉีด PRP เห็นผลมาขึ้น สิ่งที่ควรเตรียมตัวก่อนรักษาด้วยวิธีฉีด PRP ผม มีดังนี้

    • คนไข้ควรเตรียมความพร้อมของร่างกาย ควรนอนพักผ่อนให้เพียงพออย่างนอนวันละ 8 ชั่วโมงต่อวัน เพราะจะทำให้เกล็ดเลือดได้คุณภาพ
    • คนไข้ควรดื่มน้ำเปล่าให้ได้วันละ 1.5 - 2 ลิตรต่อวัน และพอถึงวันที่ต้องฉีด PRP ค่อย ๆ ดื่มให้ครบ 1.5 - 2 ลิตรเหมือนกัน
    • คนไข้จำเป็นต้องงดการรับประทานอาหารจำพวก ของมัน ของทอด ของหมัก ของดอง และอาหารที่มีไขมันสูง
    • ก่อนฉีด PRPคนไข้ควรงดดื่มเครื่องที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เครื่องที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน เช่นเหล้า เบียร์ ชา กาแฟ และงดสูบบุหรี่ ควรงดอย่างน้อยประมาณ 1 เดือน
    • คนไข้ควรงดรับประทานอาหารเสริม หรือวิตามินต่าง ๆ เช่น โสม น้ำมันตับปลา แปะก๊วย ถั่งเช่า หอยนางรม สมุนไพรอื่น ๆ วิตามินอี และวิตามินบี
    • คนไข้ที่รับประทานยาจำพวกยาต้านการอักเสบ หรือยาละลายลิ่มเลือด และยาที่อาจจะมีผลต่อการไหลของเลือด ควรงดรับประทานยาที่กล่าวมาข้างต้นก่อนฉีด PRPอย่างน้อยประมาณ 2- 3 วัน
    • คนไข้ควรทำความสะอาดเส้นผม หรือหนังศีรษะก่อนฉีด PRP เช่น สระผม แต่ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับบำรุงเส้นผม และผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผม เช่น เจล น้ำมันแต่งผม โพเมด และสเปรย์ฉีดผม
    • วันที่ฉีด PRP คนไข้ไม่จำเป็นต้องงดประทานอาหาร สามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติ

    2.พูดคุยสอบถามกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

    ฉีด PRP

    ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนแรกที่คนไข้จำเป็นต้องพูดคุยกับแพทย์ ทางแพทย์จะสอบถามถึงปัญหาอาการผมร่วง ผมบาง หน้าผากกว่า ศีรษะล้าน และอื่น ๆ  ที่เกิดขึ้นกับคนไข้เกิดจากสาเหตุอะไร เช่น กรรมพันธุ์ โรคประจำตัว หรือมีภาวะความเครียดสะสม และแพทย์จะแนะนำขั้นตอนการรักษาฉีด PRP อย่างละเอียดในแต่ละขั้นตอน

    3.เจาะเอาเลือดของคนไข้

    ฉีด PRP

    ขั้นตอนนี้เมื่อเข้ารับการรักษาฉีด PRPทางแพทย์จะเริ่มฉีดยาชาที่ตรงบริเวณต้นแขน เมื่อยาชาที่ฉีดเข้าไปเริ่มออกฤทธิ์ ทางแพทย์จะเริ่มเจาะเลือดตรงบริเวณต้นแขนของคนไข้อีกครั้ง และจะนำเอาเลือดออกมาประมาณ 10 - 20 มิลลิลิตร ใส่ในขวดภาชนะที่เก็บเลือด หลังจากนั้นเอาเลือดมาใส่ในภาชนะที่เก็บเลือดแล้ว ถัดไปจะนำมาใส่ในเครื่องเหวี่ยงสาร เพื่อปั่นคัดแยกเกล็ดเลือด หรือที่เรียกกันว่า PRP ซึ่งจะได้เป็นเกล็ดเลือดที่มีความเข้มข้นสูง และมีประสิทธิภาพ

    4.เริ่มรักษาโดยการฉีด PRP

    ฉีด PRP

    เมื่อแพทย์ได้เกล็ดเลือดที่มีความเข้มข้นสูง และมีประสิทธิภาพที่สามารถรักษาเพื่อกระตุ้นเซลล์รากผม และสามารถฟื้นฟูการทำงานของเซลล์ต่างๆ บริเวณรากผมได้แล้ว ทางแพทย์จะเริ่มทำความสะอาดตรงบริเวณที่คนไข้ต้องการ หลังจากนั้นทางแพทย์จะเริ่มฉีดยาชาอีกครั้งตรงที่ทำความสะอาด เมื่อยาชาเริ่มออกฤทธิ์ แพทย์จะนำเอาเกล็ดเลือด หรือ PRP  ฉีดเข้าไปที่หนังศีรษะของคนไข้ในปริมาณ 1 มิลลิลิตรต่อตารางเซนติเมตร ใช้เข็มขนาดเบอร์ 32 ฉีดด้วยความลึก 1.5 - 4 มิลลิเมตร พร้อมกับใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อลดอาการปวด เช่น น้ำแข็ง เครื่องสั่นลดปวด ร่วมกัน เมื่อแพทย์ฉีด PRP ให้กับคนไข้เสร็จเป็นที่เรียบร้อย ทางแพทย์จะฉายเลเซอร์ด้วยความเข้มข้นต่ำอีกประมาณ 20 นาทีให้กับคนไข้ เพื่อช่วยกระตุ้นฟื้นฟูการทำงานของเซลล์รากผมให้สร้างผมขึ้นมาใหม่ ช่วยบำรุงเส้นผม และหนังศีรษะ เมื่อถึงขั้นตอนนี้ถือว่าเป็นขั้นตอนรักษาสุดท้าย

    5.ข้อควรปฏิบัติตัวหลังจากฉีด PRP

    ฉีด PRP

    หลังฉีด PRP ผม ทางแพทย์จะแนะนำข้อควรปฏิบัติ และการดูแลเส้นผมให้กับคนไข้อย่างละเอียด มีดังนี้

    • คนไข้จำเป็นต้องงดทำความสะอาดบนเส้นผม เช่น สระผม และห้ามใช้ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับเส้นผม เช่น ครีมนวดผม เจล น้ำมันแต่งผม โพเมด และสเปรย์ฉีดผม เป็นอันเด็ดขาดเพราะอาจจะทำให้การฉีด PRP ไม่มีประสิทธิภาพ และอาจจะไม่สามารถกระตุ้นฟื้นฟูเซลล์รากผมได้
    • คนไข้ควรงดดื่มเครื่องที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เครื่องที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน เช่นเหล้า เบียร์ ชา กาแฟ และงดสูบบุหรี่ หลังฉีด PRP ผม โดยประมาณ 1 วัน เพราะไม่ฉะนั้นจะส่งผลกระทบการทำงานของเกล็ดเลือด
    • คนไข้ที่รับประทานยาจำพวกยาต้านการอักเสบ หรือยาละลายลิ่มเลือด และยาที่อาจจะมีผลต่อการไหลของเลือด หลังฉีด PRP ผม ยังคงต้องงดประทานยาโดยประมาณอีก 2 - 3 วัน เพื่อให้เกล็ดเลือดได้ทำงานอย่างปกติ
    • หลังฉีด PRP ผม 2- 3 วัน คนไข้มีความจำเป็นที่จะต้องสระผม คนไข้สามารถสระผมได้ แต่ควรใช้ยาสระผมที่มีสูตรอ่อนโยนกับเส้นผม หนังศีรษะ หรือใช้ยาสระผมที่แพทย์ได้แนะนำให้ ในขณะที่สระผมคนไข้ห้ามถู หรือขยี้ตรงเส้นผม กับหนังศีรษะแรงจนเกินไป หรือตรงบริเวณที่จะฉีดเกล็ดเลือด
    • ถ้าหากคนไข้มีอาการบวมช้ำตรงบริเวณศีรษะ หรือใบหน้า คนไข้สามารถประคบเย็นเพื่อช่วยลดอาการบวมช้ำได้ หรืออาจจะนอนให้ศีรษะอยู่สูงกว่าปลายทาง อาการบวมจะลดลงภายใน 2 วัน ในส่วนของรอยช้ำจะลดลงภายใน 14 วัน ขึ้นอยู่ตัวบุคคล
    • หลังฉีด PRP ผม คนไข้ห้ามโดนแสงแดดโดยเด็ดขาด เพราะอาจจะทำให้การทำงานของเกล็ดเลือดไม่มีประสิทธิภาพ และไม่สามารถฟื้นฟูให้เส้นผมที่งอกขึ้นมาใหม่มีสภาพที่แข็งแรง

    ฉีด PRP เหมาะสมกับใครบ้าง? และไม่เหมาะสมกับใคร?
    ฉีด PRP เหมาะสมกับคนไข้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับเส้นผม เช่น เส้นผมไม่แข็ง ผมร่วงง่าย ผมบาง และศีรษะที่ยังมีเซลล์รากผมอยู่ รวมถึงคนไข้ที่ต้องการรักษาโดยไม่ต้องผ่าตัด และไม่ต้องการนอนพักฟื้นตัวเป็นเวลานาน ๆ
    การฉีดเกล็ดเลือด หรือ PRP จึงเหมาะสมเพราะจะช่วยกระตุ้นฟื้นฟูเซลล์รากผมที่กำลังงอกขึ้นมาใหม่ให้เส้นผมมีสภาพที่แข็งแรงมากขึ้น

    ฉีด PRP ข้อเสีย ไม่สามารถรักษาคนไข้ที่เป็นโรคมะเร็ง ติดเชื้อ คนไข้ที่มีโรคผิวหนังบางประเภท คนไข้ที่มีปัญหาหนังศีรษะที่ไม่มีรากผม เนื่องจากอาจจะทำให้มองไม่เห็นรูขุมขน และคนไข้ที่เป็นโรคโลหิตจาง

    ฉีด PRP เห็นผลจริงหรือไม่?
    ฉีด PRP เป็นการรักษาในรูปแบบวิธีธรรมชาติ ด้วยนวัตกรรมแบบใหม่ ซึ่งจำเป็นอย่างมากที่จะต้องเข้ารับการรักษาฉีดเกล็ดเลือดอย่างต่อเนื่องกันประมาณ 3 - 10 ครั้ง และควรพบแพทย์ติดต่อกัน 2 - 3 เดือน หลังจากนั้นคนไข้จะเริ่มเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงบนศีรษะมีเส้นผมที่งอกขึ้นมาใหม่หนามากขึ้น และมีเส้นผมที่แข็งแรง

    บทสรุปฉีด PRP
    วิธีการรักษาอาการผมร่วง ผมบาง ผมอ่อนแอด้วยวิธีฉีด PRP เป็นวิธีที่รักษาโดยใช้สาร หรือเกล็ดเลือดที่มาจากตัวเอง จึงเป็นข้อดีที่ไม่ส่งผลให้เกิดผลกระทบกับคนไข้ เช่น อาการแพ้ หรือติดเชื้อ อีกทั้งข้อดีฉีด PRP ไม่ต้องเข้ารับการผ่าตัด ไม่ต้องใช้ระยะเวลาพักฟื้น สามารถใช้ชีวิต หรือทำงานได้อย่างปกติ แต่การฉีด PRP ราคาที่ค่อนข้างสูง ควรปรึกษาขอคำแนะนำกับแพทย์ก่อนตัดสินใจเข้ารับการรักษา

    95
    รับทำ Sale Page

    การทำธุรกิจออนไลน์นับว่าตอบโจทย์เป็นอย่างยิ่งกับยุคสมัยในปัจจุบัน อีกทั้งการสร้างหน้าเว็บไซต์ให้มีฟังก์ชันที่ครบถ้วน สะดวกและใช้งานง่าย จะช่วยเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจของคุณได้ โดยคุณสามารถปรับหน้าเว็บไซต์ให้เป็นหน้า Sale page เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขายของออนไลน์ แต่หากคุณไม่มีความรู้ในการปรับแต่งหน้าเว็บไซต์ สามารถใช้บริการรับทำ Sale Page จากบริษัทต่าง ๆ ได้ เป็นการออกแบบหน้า Sale Pageที่สะดวก มีฟังก์ชันที่ครบถ้วน ใช้งานง่าย ผู้บริโภคสามารถเข้าใจรายละเอียดสินค้าและกดสั่งซื้อสินค้าของคุณได้ภายในหน้าเดียว

    สำหรับบทความนี้เราจะไปทำความรู้จักกับการสร้าง Sale apge คืออะไร มีประโยชน์ในด้านใดบ้าง เหตุผลที่เจ้าของธุรกิจออนไลน์หลายคนเลือกใช้บริการรับทำ Sale page คืออะไร สำหรับวันนี้เราได้รวมข้อมูลต่าง ๆ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อเจ้าของธุรกิจออนไลน์หลาย ๆ ท่าน และผู้ที่สนใจเกี่ยวกับการทำ Sale page

    Sale Page คืออะไร ทำไมคนทำธุรกิจออนไลน์ต้องรู้จัก
    บริการรับทำ Sale page มีความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากการสร้าง Sale page เป็นเครื่องมือสำหรับการขายของออนไลน์ โดยการนำเสนอหน้าเว็บไซต์เพียงหน้าเดียวในการแสดงข้อมูลที่สำคัญ ๆ ของสินค้าและบริการ อย่างเช่น รายละเอียดสินค้าและบริการ รูปภาพ ข้อความ ราคา รวมไปถึงโปรโมชันต่าง ๆ เป็นต้น ซึ่งการทำ Sale page จะมีข้อดีที่เป็นจุดเด่นก็คือ ช่วยปิดการขายและสร้างยอดขายให้กับธุรกิจของคุณได้

    การสร้างหน้า Sale page เหมาะกับการตลาดออนไลน์ของผู้บริโภคในยุคปัจจุบันเป็นอย่างยิ่ง ด้วยการรายงานข้อมูลอย่างละเอียดที่สามารถเห็นได้ภายในเว็บไซต์หน้าเดียว มีความกระชับ เข้าใจง่าย ซึ่งเหมาะกับนิสัยของผู้บริโภคในปัจจุบันที่ไม่ชอบอ่านอะไรที่ยาวจนเกินไป หรือต้องคลิกไปหลาย ๆ หน้า และยังสะดวกต่อการเปิดใช้งานบนโทรศัพท์มือถืออีกด้วย 

    นอกจากนี้การทำหน้า Slae page หรือการเลือกใช้บริการรับทำ Sale page จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจออนไลน์ของคุณได้อีกด้วย ลูกค้ากล้าที่จะซื้อและตัดสินใจซื้อสินค้าของคุณได้อย่างง่ายดาย หากมีรีวิวต่าง ๆ ก็สามารถนำมาแสดงให้กับลูกค้าใหม่ ๆ ให้เห็นได้ด้วยเช่นกัน

    ธุรกิจแบบไหน เหมาะที่จะทำ Sale Page

    ธุรกิจแบบไหน เหมาะที่จะทำ Sale Page

    บริการรับทำ Sale page ที่จะช่วยปิดการขายได้อย่างรวดเร็ว และเป็นการเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจของคุณได้ โดยการสร้าง Sale page จะเหมาะกับธุรกิจบนโลกออนไลน์ทุกประเภท  ดังต่อไปนี้

    • การทำ Sale page หรือบริการรับทำ Sale page จะเหมาะกับการทำธุรกิจออนไลน์ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นสินค้าหรือบริการใดก็ตาม หากมีเว็บไซต์ก็สามารถทำ Sale page ได้ เพื่อเป็นการกระตุ้นยอดขายให้กับธุรกิจของคุณ
    • การทำ Sale page เหมาะกับธุรกิจประเภทโรงแรม รีสอร์ต หรือที่พักต่าง ๆ ที่ต้องแสดงรายละเอียดทั้งรูปภาพ รีวิว ข้อมูลต่าง ๆ ที่สำคัญต่อลูกค้า ทำให้การสร้างเว็บไซต์ หรือการทำ Sale page จะใช้งานได้สะดวกกว่าบนแพลตฟอร์มออนไลน์อื่น ๆ
    • การทำ Sale page จะเหมาะกับการทำธุรกิจที่ให้บริการทางการตลาด (Marketing Services) เช่น บริการโฆษณา ,การตลาดออนไลน์ ,การออกแบบกราฟิก หรือบริการทางดิจิทัลอื่น ๆ ก็สามารถใช้ Sale Page เพื่อโปรโมตและขายสินค้าหรือบริการของตนได้เช่นกัน
    • บริการรับทำ Sale page จะเหมาะกับผู้ที่ไม่มีความรู้ในการสร้างหน้า Sale page เป็นของตนเอง โดยคุณสามารถเลือกใช้บริการกับ บริษัทที่รับทำ Sale Pageได้ พร้อมการตกแต่งหน้าเว็บไซต์ให้ดูสวยงาม ดึงดูดผู้บริโภคมากขึ้น อีกทั้งมีฟังก์ชันการทำงานต่าง ๆ ที่ครบถ้วน สะดวกต่อการใช้งานของลูกค้า
    • การทำ Sale page เหมาะกับเจ้าของธุรกิจที่มีการขายของบนแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ อย่างเช่น  Facebook ,TikTok ,Instagram แต่รู้สึกว่าไม่เพียงพอ จึงต้องการสร้างเว็บไซต์ที่เน้นในเรื่องของการโปรโมตสินค้า เพิ่มยอดขาย หรือต้องการปิดการขายสินค้าให้รวดเร็วขึ้น

    Sale Page กับหน้าเว็บไซต์ทั่วไป ต่างกันอย่างไร
    หลาย ๆ คนอาจรู้จักกับเว็บไซต์กันเป็นอย่างดีว่ามันคืออะไร หน้าตาเป็นแบบไหน และสามารถใช้งานได้อย่างไร แต่พอ Sale page เข้ามาอาจทำให้หลายคนสงสัยว่า มันแตกต่างจากหน้าเว็บไซต์ปกติอย่างไร ซึ่งจริง ๆ แล้วหน้า Sale page ก็คือหน้าเว็บไซต์เเบบหนึ่ง ที่ออกแบบให้เน้นในเรื่องของการขายสินค้าและบริการ มีการตกแต่งที่สวยงาม ดึงดูดลูกค้ามากขึ้น ฟังก์ชันต่าง ๆ ที่ครบถ้วน พร้อมให้ลูกค้าเลือกและซื้อบริการภายในหน้าเดียวได้เลย

    ในขณะเดียวกันหน้าเว็บไซต์ทั่วไป หรือ Home page จะมีข้อมูลหรือเนื้อหาที่ค่อนข้างเยอะ จำเป็นต้องมีหลาย ๆ หน้า ทำให้ลูกค้าต้องเสียเวลาเลื่อนหาข้อมูลต่าง ๆ  รวมไปถึงขั้นตอนที่กว่าจะสั่งซื้อสินค้าได้ในแต่ละทีก็ยุ่งยากเกินไป ซึ่งนั้นอาจทำให้ลูกค้ากดออกจากหน้าเว็บไซต์ของคุณก็เป็นได้ ทำให้การสร้าง Sale page หรือบริการรับทำ Sale page เข้ามามีบทบาทในการเพิ่มความสะดวกในการสั่งซื้อสินค้าบนเว็บไซต์ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น จึงทำให้เป็นที่นิยมสำหรับเจ้าของธุรกิจหลายท่าน

    บริการรับทำ Sale Page เคล็ด(ไม่)ลับ ดันยอดขายในเวลาอันสั้น

    Sale Page

    เนื่องจากประโยชน์ของการทำ Sale page นั้นมีจุดเด่นในเรื่องของการกระตุ้นยอดขาย ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการทำให้ธุรกิจของคุณดำเนินต่อไปได้อย่างราบรื่น เจ้าของธุรกิจหลายท่ายจึงเลือกใช้บริการรับทำ Sale page เพื่อสร้างหน้าเว็บไซต์ที่เหมาะกับการขายของออนไลน์ในยุคปัจจุบัน โดยข้อดีของการสร้าง Sale page มีดังต่อไปนี้

    1.เว็บไซต์เข้าใจง่าย ใส่รายละเอียดสินค้าได้ครบ
    ในการสร้าง Sale page คุณสามารถที่จะนำเสนอรายละเอียดหรือข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าและบริการของคุณได้อย่างครบถ้วนภายในหน้าเดียว ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลการใช้งาน รูปภาพ ราคา รีวิว ช่องทางการซื้อ ช่องทางการจ่ายเงิน หรือช่องทางการติดต่อต่าง ๆ โดยข้อมูลทั้งหมดจะปรับแต่งให้เข้าใจได้ง่าย มีการใช้งานที่ง่าย เพิ่มประสบการณ์ที่ดีต่อลูกค้า และสามารถสร้างยอดขายให้กับธุรกิจของคุณได้

    2.เพิ่มโอกาสในการปิดการขายได้รวดเร็ว
    การทำ Sale page หรือการใช้บริการรับทำ Sale page จะช่วยปิดการขายให้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น เนื่องจากลูกค้าสามารถเห็นและเข้าใจข้อมูลต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจนภายในหน้าเดียว โดยที่ลูกค้าไปจำเป็นต้องเลื่อนไปหลาย ๆ หน้า เพื่อทำการสั่งซื้อหรือทำความเข้าใจกับสินค้าและบริการ จึงทำให้การสร้าง Sale page จะช่วยเพิ่มโอกาสที่ลูกค้าจะกดสั่งซื้อสินค้าของคุณให้รวดเร็วมากขึ้นได้

    3.Sale Page ปรับแต่งง่าย ทำได้ด้วยตัวเอง
    หน้า Sale page เป็นหน้าเว็บไซต์หนึ่งที่ต้องมีการตกแต่งให้สวยงาม มีความเหมาะสม สีสันที่มีความพอดีไม่มากจนเกินไป และไม่จืดชืดจนเกินไป เพื่อเป็นการสร้างความสนใจของลูกค้าได้ โดยคุณสามารถปรับหน้าเว็บไซต์ได้เอง แต่หากคุณไม่มั่นใจในการปรับแต่งรายละเอียดต่าง ๆ ก็สามารถเลือกใช้บริการรับทำ Sale page ได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งบริษัทรับทำ Sale Pageจะช่วยคุณออกแบบหน้าเว็บไซต์ เลือกสีที่เข้ากัน มีการคุมโทน การออกแบบกราฟิกที่จะช่วยสะดุดตาของลูกค้าได้ เป็นต้น

    4.ราคาถูกกว่าเว็บไซต์รูปแบบอื่น ๆ
    การทำ Sale page จะมีราคาที่ถูกกว่าการทำหน้าเว็บไซต์ในรูปแบบอื่น ๆ แต่สามารถให้คุณได้ใช้ฟังก์ชันที่ครบถ้วนได้ภายในหน้าเดียว แต่หากต้องการให้หน้า Sale page ของคุณมี Option เยอะมากขึ้นก็สามารถทำได้เช่นกัน เพียงแต่คุณก็ต้องเพิ่มงบประมาณในการทำเข้าไปด้วย

    5.นำไปใช้ทำการตลาดรูปแบบอื่น ๆ ได้
    อีกจุดเด่นหนึ่งของการทำ Sale page คือสามารถนำไปโปรโมตบนการตลาดในรูปแบบอื่นๆ ได้ โดยการแชร์ Link ไปยังช่องทางการขายอื่น ๆ  อย่างเช่น  Google, Facebook, หรือเว็บไซต์หลัก ฯลฯ เพื่อเป็นการบอกต่อ และสามารถเพิ่มกลุ่มลูกค้าให้มากขึ้นได้

    รับทำ Sale Page คุณภาพโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการทำเว็บไซต์ Markety
    ในการทำ Sale page หากคุณไม่มีความรู้หรือสร้าง Sale page ไม่เป็นก็สามารถเลือกใช้บริการรับทำ Sale page ได้จากบริษัทที่เปิดให้บริการ แต่คำถามคือเราควรเลือกทำ Sale Page กับเจ้าไหนดี เนื่องจากการทำ Sale page ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก จึงทำให้มีหลายบริษัทเปิดให้บริการในด้านนี้ ซึ่งวันนี้เราได้เลือกบริษัท Markety เป็นบริษัทรับทำ Sale page อันดับหนึ่งที่จะมาช่วยเพิ่มความโดดเด่นให้กับธุรกิจของคุณ เพื่อให้เหนือกว่าคู่แข่งในตลาด โดยทาง Markety จะช่วยสร้างเว็บไซต์ของคุณให้มีเอกลักษณ์และมีประสิทธิภาพในการขายของออนไลน์มากยิ่งขึ้น

    สำหรับจุดเด่นของบริการรับทำ Sale page จากทาง Markety มีดังนี้

    • รองรับการขายสินค้าทุกช่องทางภายในหน้าเดียว
    • สามารถใช้งานได้ทุกอุปกรณ์ไม่ว่าจะเป็น โทรศัพท์ แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์
    • รองรับการทำ SEO ,SEM
    • รองรับการชำระเงินทุกช่องทางไม่ว่าจะเป็นเงินโอน บัตรเครดิต หรือการเก็บเงินปลายทาง
    • มีปุ่มที่ Link ไปยังแพลตฟอร์มต่าง ๆ ได้ โดยที่ลูกค้าไม่ต้องออกหรือเข้าหน้าเว็บหลาย ๆ รอบ
    • มีระบบ Upsell เพื่อเพิ่มยอดขาย
    • มีระบบแจ้งเตือนทุกออเดอร์ผ่านทาง Line
    • การใช้งานเว็บไซต์มีความเสถียร โหลดเร็ว ไม่ต้องรอนาน

    จุดเด่นของบริการรับทำ Sale page จาก Markety ยังมีอีกมากมายที่จะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจของคุณ หากคุณสนใจสามารถติดต่อได้กับทางบริษัท Markety ได้ที่ เว็บไซต์ เบอร์โทร 02-002-9322 (ฝ่ายบริการลูกค้า) 084-509-5545 (ฝ่ายขาย) 061-924-7449 (ฝ่ายขาย) หรือ E-mail : -markety.thailand@ gmail.com-

    คำถามที่พบบ่อยการรับทำ Landing page
    คำถามที่พบได้บ่อยเกี่ยวกับบริการรับทำ Sale page

    บริการรับทำ Sale Page การันตียอดขายได้จริงไหม
    สำหรับบริการรับทำ Sale page จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขายของออนไลน์ได้ โดยทำให้ลูกค้าเข้าใจสินค้าและบริการของคุณได้อย่างชัดเจน ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าซื้อสินค้าและบริการของคุณ แต่ยอดขายนั้นก็จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยไม่ว่าจะเป็นคุณภาพของสินค้าและบริการ ความต้องการของตลาดในปัจจุบัน รวมไปถึงราคาที่จะต้องสมเหตุสมผลกับราคาสินค้าของคุณอีกด้วย ทำให้การสร้าง Sale page อาจไม่ได้เป็นตัวเลือกเดียวที่จะทำให้คุณสามารถสร้างยอดขายได้อย่างถล่มทลาย แต่จำเป็นต้องมีปัจจัยอื่น ๆ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเช่นกัน

    ทำ Sale Page เองได้ไหม จำเป็นต้องจ้างเสมอไปหรือเปล่า
    ในการทำ Sale page คุณสามารถทำเองได้ แต่การเลือกใช้บริการรับทำ Sale page จะแตกต่างจากกัน โดยที่การออกแบบหน้าเว็บไซต์ การจัดการกับองค์ประกอบต่าง ๆ ทางบริษัทจะมีการตกแต่งหน้าเว็บไซต์ที่สวยงาม และเหมาะกับประเภทของธุรกิจคุณ อีกทั้งฟังก์ชันต่าง ๆ ก็ครบถ้วน เหมาะกับการใช้งานของลูกค้าในยุคปัจจุบัน ซึ่งการจ้างผู้เชี่ยวชาญนั้น จะทำให้เว็บไซต์ของคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้นไปกว่าเดิม
     

    96
    ทาวน์โฮมบางนา

    บางนา หนึ่งในย่านทำเลทองที่ได้ได้รับความสนใจทั้งจากผู้คนทั่วไปรวมถึงนักอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ในปัจจุบันมีโครงการคอนโด บ้านเดี่ยว บ้านทาวน์เฮ้าส์ บ้านทาวน์โฮมบางนาเพิ่มขึ้นมากมาย เพราะมีสิ่งอำนวยความสะดวกครอบคลุม เข้าถึงการคมนาคมขนส่งสาธารณะ ทั้งยังสามารถใช้ถนนภายในย่านหลายสาย และมีทางพิเศษที่ช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้ชีวิตเดินทางเข้าออกย่านได้สบาย ๆ

    ทาวน์โฮมบางนา บ้านทำเลดีที่มีผู้สนใจอยู่มาก

    หากพูดถึงความน่าสนใจของบ้านทาวน์โฮมบางนา จุดเด่นที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลย คือ ทำเลที่ตั้ง เพราะทาวน์โฮมบางนาส่วนมากตั้งอยู่ในบริเวณที่มีถนนเส้นสำคัญเข้าถึงหลายสายด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นถนนสุขุมวิท, ถนนอุดมสุข, ถนนบางนา-ตราด, ถนนศรีนครินทร์ และถนนอื่น ๆ มีทางพิเศษเฉลิมมหานคร, ทางพิเศษบางนา-อาจณรงค์ และทางพิเศษบูรพาวิถี ทำให้ทุกช่วงเวลาในการเดินทางภายในย่านสะดวกสบายถึงขีดสุด

    สำหรับผู้ที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว ทาวน์โฮมแถวบางนาก็จะมีรถไฟฟ้าเข้าถึง และยังมีรถโดยสารประจำทางเคลื่อนผ่านตลอดทั้งวัน ทำให้เดินทางไปยังแหล่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล โรงเรียนหรือสถานที่อื่น ๆ ได้ไม่ยากในราคาไม่สูงมาก เป็นเหตุที่ทำให้ย่านบางนาเป็นที่ได้รับความสนใจ และมีบ้านต่าง ๆ รวมถึงบ้านทาวน์โฮมบางนาสร้างขึ้นจำนวนมาก

    เลือกทาวน์โฮมบางนาอย่างไรให้ถูกใจพร้อมอยู่ระยะยาว?

    ไม่ว่าจะมีแพลนซื้อบ้านสำหรับอยู่อาศัยในทำเลไหนก็จำเป็นต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วนเพื่อให้คุ้มค่ากับค่าใช้จ่ายในการซื้อบ้านมากที่สุด สำหรับการเลือกซื้อบ้านทาวน์โฮมบางนาเองก็มีเกณฑ์ที่ควรนำมาพิจารณา ดังนี้

    • งบประมาณ
    เป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ ในการเลือกซื้อทาวน์โฮม โดยการเลือกซื้อบ้านนั้นจะต้องคำนึงถึงความสามารถในการชำระเงิน ในกรณีที่มีงบไม่สูงมากก็อาจจะพิจารณาเลือกซื้อทาวน์โฮมบางนาในราคาที่ไม่สูงมากเพื่อสามารถชำระเงินผ่อนได้อย่างไรปัญหา

    • ทำเลที่ตั้ง
    ถึงแม้ว่าจะต้องการซื้อทาวน์โฮมแถวบางนา แต่บางนาเป็นย่านขนาดใหญ่ที่มีหลายโซนให้เลือกอยู่อาศัย ดังนั้นก่อนซื้อบ้านจะต้องตรวจสอบย่านที่ต้องการอยู่อาศัยเพื่อให้ได้ทำเลบ้านตรงกับที่ต้องการมากที่สุด

    • คุณสมบัติบ้าน
    การเลือกซื้อบ้านนั้นจะต้องพิจารณาถึงขนาดพื้นที่ด้วย หากอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ การเลือกซื้อทาวน์โฮม 3 ชั้นในย่านบางนาก็จะทำให้ได้พื้นที่ใช้สอยในบ้านเพิ่มขึ้น

    ใครบ้างที่เหมาะกับทาวน์โฮมบางนา?

    ทาวน์โฮมบางนาอยู่ในทำเลที่ห่างจากย่านใจกลางเมืองเล็กน้อย แต่ก็มีการเดินทางที่สามารถเข้าออกนอกย่านได้สบาย ทั้งยังมีห้างสรรพสินค้าที่มีชื่อเสียงต่าง ๆ มากมาย เช่น ซีคอนสแควร์ เมกาบางนา มีโรงพยาบาลและโรงเรียนคอยพร้อมให้บริการผู้คนในย่านและผู้สัญจรได้เป็นอย่างดี ทาวน์โฮมบางนาจึงเหมาะกับผู้อยู่อาศัยทุกกลุ่ม ดังนี้

    • ผู้ที่อยู่อาศัยเป็นครอบครัวขนาดเล็ก กลาง ใหญ่
    • ผู้ที่ไม่ชอบความแออัดอย่างย่านใจกลางเมือง
    • ผู้ที่ต้องการซื้อบ้านทาวน์โฮมบางนาในราคาที่ไม่สูงมาก แต่ได้พื้นที่ใช้สอยกว้าง
    • ผู้ที่ต้องการอยู่บ้านทาวน์โฮมบางนาตราดหรือโซนอื่น ๆ ในย่านที่เข้าถึงขนส่งสาธารณะ

    โครงการทาวน์โฮมบางนา น่าแนะนำจาก SC Asset

    สำหรับผู้ที่กำลังมองหาโครงการบ้านแถวบางนาที่น่าสนใจก็จะมีโครงการจากทาง SC Asset ที่การันตีบ้านที่โมเดิร์นที่ดีไซน์ทันสมัยเข้ากับสภาพแวดล้อม โดยทาวน์โฮมบางนาจาก SC Asset ที่น่าแนะนำจะมีอยู่ 2 โครงการด้วยกัน คือ วี คอมพาวด์ บางนา และ วี คอมพาวด์ บางนา-ศรีนครินทร์ โดยแต่ละโครงการก็จะมีจุดเด่นอย่างไรบ้าง ในที่นี้ก็จะมีสรุปจุดเด่นที่ทำให้โครงการทาวน์โฮมบางนาทั้งสองแห่งเป็นที่น่าสนใจเลือกซื้อ

    วี คอมพาวด์ บางนา

    วี คอมพาวด์ บางนา

    วี คอมพาวด์ บางนา(V Compound Bangna) เป็นทาวน์โฮมบางนาที่ถูกออกแบบในรูปแบบสไตล์ลอฟต์ ทำให้ตัวบ้านดูปลอดโปร่ง กว้างขวาง ด้วยดีไซน์ที่ทันสมัยทำให้ตัวบ้านยังดูใหม่ทุกครั้งที่มอง ในส่วนของส่วนกลางก็พร้อมมอบความสุขให้กับผู้อยู่อาศัย เพราะมีทั้งสระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, สวนส่วนกลาง และอื่น ๆ รวมถึงมีระบบรักษาความปลอดภัยตลอดทั้งวัน ทำให้รู้สึกอุ่นใจในการใช้ชีวิตในบ้านได้เป็นอย่างดี

    สำหรับทำเลที่ตั้งทาวน์โฮมบางนาจากโครงการนี้นั้นอยู่บริเวณย่านบางบ่อซึ่งมีถนนเชื่อมต่อพร้อมเดินทางหลายสาย และอยู่ไม่ไกลจากทางพิเศษบูรพาวิถี ด้วยคุณสมบัติครบครันแต่โครงการวีคอมพาวด์บางนามีบ้านราคาเริ่มต้นเพียง 2.69 ล้าน ซึ่งเป็นราคาที่ไม่แรงจนเกินไป จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีความใฝ่ฝันมีบ้านหลังงามในงบไม่สูงมากเป็นของตนเอง

    แหล่งอำนวยความสะดวกใกล้โครงการ

    ห้างสรรพสินค้า

    • มาร์เก็ตวิลเลจ สุวรรณภูมิ
    • แม็คโคร บางนา
    • เมกาบางนา
    • เซ็นทรัลบางนา

    โรงพยาบาล

    • โรงพยาบาลบางบ่อ
    • โรงพยาบาลบางนา 2
    • โรงพยาบาลรวมชัยประชารักษ์
    • โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 อินเตอร์

    โรงเรียน

    • โรงเรียนนวมินทราชูทิศ
    • โรงเรียนบดินทรเดชา สมุทรปราการ
    • มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ
    • มหาวิทยาลัยหัวเฉียว

    สถานที่อื่น ๆ

    • สนามบินสุวรรณภูมิ

    วี คอมพาวด์ บางนา-ศรีนครินทร์

    วี คอมพาวด์ บางนา-ศรีนครินทร์

    วี คอมพาวด์ บางนา-ศรีนครินทร์(V compound Bangna-Srinakarin) อีกหนึ่งโครงการทาวน์โฮมบางนาที่อยู่ใกล้ชิดติดกับแหล่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า โรงเรียน โรงพยาบาล สามารถแวะเวียนง่าย ๆ โดยใช้ถนนเทพารักษ์ต่อไปยังถนนศรีนคริทร์ ในเวลาเร่งรีบก็มีทางพิเศษกาญจนาภิเษกพร้อมใช้บริการ ทั้งยังไม่ไกลจากรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและสายสีเขียวมากนัก

    นอกจากการเดินทางที่แสนสะดวกแล้ว จุดเด่นของ v compound บางนา ศรีนครินทร์ ก็จะมีเรื่องของดีไซน์ที่เน้นสไตล์โมเดิร์นที่ดูทันสมัยเข้ากับบรรยากาศธรรมชาติรอบโครงการ พร้อมด้วยโซนส่วนกลางสำหรับพักผ่อนหรือทำกิจกรรมยามว่าง เช่น สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, สวน, coworking space และมีระบบรักษาความปลอดภัยให้กับผู้อาศัยตลอด 24 ชั่วโมงในราคาเริ่มต้น 3 ล้านบาทเท่านั้น

    แหล่งอำนวยความสะดวกใกล้โครงการ

    ห้างสรรพสินค้า

    • แจส เออเบิร์น ศรีนครินทร์
    • เซ็นทรัลบางนา
    • พาราไดซ์พาร์ค
    • ซีคอนสแควร์

    โรงพยาบาล

    • โรงพยาบาลสินแพทย์ เทพารักษ์
    • โรงพยาบาลศิครินทร์
    • โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ
    • โรงพยาบาลไทยนครินทร์

    โรงเรียน

    • โรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์กรุงเทพ
    • โรงเรียนอัสสัมชัญสมุทรปราการ
    • โรงเรียนเซนต์โยเซฟ บางนา
    • โรงเรียนบางกอกพัฒนา

    สถานที่อื่น ๆ

    • สนามบินสุวรรณภูมิ

    97
    ทาวน์โฮมกรุงเทพ

    ในขณะที่บ้าน Townhouse อย่างทาวน์เฮ้าส์ชั้นเดียวกรุงเทพราคาไม่เกิน 8 แสนเป็นตัวเลือกน่าสนใจสำหรับคนที่มองหาบ้านราคาไม่เกินล้าน บ้านทาวน์โฮมกรุงเทพถือเป็นที่พักอาศัยมาแรงยอดนิยมในปัจจุบัน ด้วยพื้นที่ใช้สอยที่มากกว่าทาวน์เฮ้าส์กรุงเทพและราคาถูกกว่าบ้านเดี่ยวส่วนใหญ่แต่ได้สิ่งอำนวยความสะดวกรวมถึงพื้นที่ต่าง ๆ ใกล้เคียงกัน หากคุณกำลังมองหาทาวน์โฮมกรุงเทพสภาพดี ราคาสบายในหลากหลายทำเลคุณภาพ เราได้รวบรวม 8 บ้านทาวน์โฮมล้านต้น ๆ กรุงเทพที่น่าสนใจและพร้อมอยู่มาแนะนำกัน

    ทาวน์โฮมกรุงเทพในราคาเริ่มต้น 1 - 3 ล้าน

    ทาวน์โฮมกรุงเทพสี่ห้องนอน

    ทาวน์โฮมกรุงเทพบ้านสวนโครงการ 2 เขตทุ่งครุ เป็นบ้านทาวน์โฮมสองชั้นบนเนื้อที่ 30.8 ตารางวา ภายในบ้านประกอบไปด้วย 4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ และพื้นที่สำหรับจอดรถ 1 คัน พร้อมเฟอร์นิเจอร์เครื่องปรับอากาศจำนวน 2 เครื่อง และปั๊มน้ำ การเดินทางสะดวกสบาย ทำเลที่ตั้งใกล้ห้างสรรพสินค้ามาตาเจมส์, ซีพีเฟรชมาร์ท, แม็กซ์แวลู ซูเปอร์มาร์เก็ต, โรงเรียนบูรณะศึกษา และทรัพย์สมบูรณ์สหคลินิก ราคาไม่เกิน 3 ล้าน ขายอยู่ที่ 2,750,000 บาท

    ทาวน์โฮมกรุงเทพสองล้าน

    ทาวน์โฮมกรุงเทพหมู่บ้านพฤกษา พรีเว่ เขตคันนายาว เป็นบ้านทาวน์โฮมสองชั้นบนเนื้อที่ 16.8 ตารางวา ภายในบ้านประกอบไปด้วย 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำแยกโซนเปียก-แห้ง 1 ห้องครัวและพื้นที่สำหรับจอดรถ 1 คันสามารถดัดแปลงเป็นห้องทำงานได้ ภายในตกแต่งเรียบร้อยพร้อมเฟอร์นิเจอร์ครบครัน มีปั๊มน้ำและถังเก็บน้ำติดตั้ง ทำเลดีติดถนนใหญ่เดินทางสะดวก ที่ตั้งใกล้เดอะ พรอมานาด, แฟชั่นไอส์แลนด์, โรงเรียนสอนแฟชั่นดีไซน์ และโรงพยาบาลพญาไท นวมินทร์ ราคาไม่เกิน 4 ล้าน ซื้อขายในราคา 3,000,000 บาท

    ทาวน์โฮมกรุงเทพราคาสบายเพียง 3 - 5 ล้าน

    ทาวน์โฮมกรุงเทพราคาสบาย

    ทาวน์โฮมกรุงเทพหมู่บ้านแสงตะวัน เขตบางบอน เป็นบ้านทาวน์โฮมสองชั้นบนเนื้อที่ 32.5 ตารางวา ภายในบ้านประกอบไปด้วย 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่น 1 ห้องครัว และพื้นที่สำหรับจอดรถ 2 คัน โครงการไม่มีค่าส่วนกลาง เลี้ยงสัตว์ได้ เดินทางเข้า-ออกได้ทั้งถนนเพชรเกษม ถนนบางบอน ถนนกาญจนาภิเษก ที่ตั้งใกล้ตลาดเจ้าสัว, เซ็นทรัลพระราม 2, เดอะมอลล์ บางแค, โรงพยาบาลวิชัยเวช, มหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์ และโรงเรียนสารสาสน์วิเทศบางบอน ซื้อขายในราคา 3,390,000 บาท

    ทาวน์โฮมกรุงเทพสามล้าน

    ทาวน์โฮมกรุงเทพหมู่บ้านกัสโต้ เขตหนองแขม เป็นบ้านทาวน์โฮมสองชั้นบนเนื้อที่ 25.6 ตารางวา ภายในบ้านประกอบไปด้วย 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องโถง 1 ห้องครัว และพื้นที่สำหรับจอดรถ 2 คัน ตัวบ้านรีโนเวทใหม่ มีพื้นที่ข้างบ้านและสวนหย่อม หมู่บ้านอยู่ติดถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งใต้ เดินทางได้ทั้งถนนเพชรเกษม ถนนกาญจนาภิเษก ถนนบางบอน ที่ตั้งใกล้ตลาดหนองแขม, เวิคตอเรียการ์เด้นท์, เดอะมอล์ บางแค, โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ บางแค และโรงเรียนสารสาสน์วิเทศหนองแขม ซื้อขายในราคา 3,790,000 บาท

    ทาวน์โฮมกรุงเทพทำเลดี ราคา 5 - 7 ล้าน

    ทาวน์โฮมกรุงเทพหกล้าน

    ทาวน์โฮมกรุงเทพโครงการบ้านกลางเมือง ซอยรามคำแหง 39 เขตวังทองหลาง เป็นบ้านทาวน์โฮมสามชั้นบนเนื้อที่ 18.8 ตารางวา ภายในบ้านประกอบไปด้วย 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และพื้นที่สำหรับจอดรถ 2 คัน โครงการเดินทางได้สะดวกทั้งรถประจำทางและรถยนต์ส่วนตัว อยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้ารามคำแหง รวมถึงสถานที่ใกล้เคียงอย่างฟู้ดแลนด์ หัวหมาก, แม็คโคร ทาวน์อินทาวน์, เดอะมอล์ รามคำแหง, โรงพยาบาลรามคำแหง, โรงพยาบาลแพทย์ปัญญา และโรงเรียน KIS International School ซื้อขายในราคา 6,690,000 บาท

    ทาวน์โฮมกรุงเทพสภาพดีในราคา 7 - 9 ล้าน

    ทาวน์โฮมกรุงเทพเจ็ดล้าน

    ทาวน์โฮมกรุงเทพหมู่บ้านเสียงสนนิเวศน์ ซอยสุขุมวิท 68 เขตบางนา เป็นบ้านทาวน์โฮมสองชั้นบนเนื้อที่ 24 ตารางวา ภายในบ้านประกอบไปด้วย 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ และพื้นที่สำหรับจอดรถ 1 คัน บ้านรีโนเวทใหม่พร้อมเฟอร์นิเจอร์วัสดุคุณภาพครบครันพร้อมเข้าอยู่ บ้านทำเลดีติดทางด่วนเฉลิมมหานครและสถานีรถไฟฟ้าอุดมสุขเพียง 800 เมตร

    มีสถานที่ใกล้เคียงอย่างอัคนาท พลาซ่า, แม็คโคร ทาวน์อินทาวน์, โรงพยาบาลผู้สูงอายุกล้วยน้ำไท 2, Bangkok Health Clinic, โรงเรียนบางกอกพัฒนา และโรงเรียน Wells International School ซื้อขายในราคา 7,490,000 บาท

    ทาวน์โฮมกรุงเทพเก้าล้าน

    ทาวน์โฮมกรุงเทพหมู่บ้านอินดี้ 2 บริเวณบางนา-รามคำแหง 2 เขตประเวศ เป็นบ้านทาวน์โฮมสามชั้นบนเนื้อที่ 40 ตารางวา ภายในบ้านประกอบไปด้วย 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ห้องครัว และพื้นที่สำหรับจอดรถ 2 คัน เฟอร์นิเจอร์ครบครันพร้อมเข้าอยู่ การเดินทางสะดวกสบาย ทำเลที่ตั้งใกล้ห้างสรรพสินค้าเมกา บางนา, ตลาดนัมเบอร์วัน, บุญถาวรสาขาบางนา, โรงเรียนราชวินิตบางแก้ว และรามคำแหง 2 คลินิกเวชกรรม ราคาขายเต็มอยู่ที่ 9,500,000 บาท

    ทาวน์โฮมกรุงเทพน่าอยู่ ราคา 10 ล้านขึ้นไป

    ทาวน์โฮมกรุงเทพสิบล้าน

    ทาวน์โฮมกรุงเทพหมู่ลีออง 2 ซอยสุขุมวิท 62 เขตประเวศ Townhome สามชั้นบนเนื้อที่ 25.1 ตารางวา ภายในบ้านประกอบไปด้วย 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องแต่งตัว 1 ห้องครัว และพื้นที่สำหรับจอดรถ 2 คัน บิวท์อินเฟอร์นิเจอร์ทั้งหลัง หมู่บ้านมีคลับเฮ้าส์ การเดินทางสะดวกสบายห่างจากสถานีรถไฟฟ้าบางจาก ถนนเชื่อมต่อพระราม 4 เอกมัยและบางนา อยู่ใกล้ทางด่วนสุขุมวิทและทางด่วนอาจณรงค์ ที่ตั้งใกล้เมเจอร์เอกมัย, เดอะฟิลล์ สุขุมวิท 54, โรงพยาบาลสุขุมวิท และโรงเรียน Wells International School ราคาขายเต็มอยู่ที่ 11,900,000 บาท

    ทาวน์โฮมกรุงเทพในราคาที่ถูกใจ

    เรียกได้ว่าทาวน์โฮมเป็นบ้านที่มีพื้นที่ใช้สอยรวมถึงฟังก์ชันทั่วไปครบครันกว่าทาวน์เฮ้าส์ราคาถูกกรุงเทพที่ราคาไม่เกิน 1.5 ล้านถึงราคาไม่เกิน 2 ล้านแต่ขายในราคาถูกกว่าบ้านเดี่ยว ซึ่งหากคุณกำลังมองหาบ้านทาวน์โฮมกรุงเทพเพื่ออยู่อาศัยในระยะยาว สิ่งสำคัญคือควรพิจารณาถึงพื้นที่ภายในบ้านที่ต้องการอย่าง 3 ห้องน้ำหรือ 5 ห้องนอน สิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบ รวมถึงการเดินทางไปยังแหล่งต่าง ๆ ว่าตอบโจทย์มากน้อยเพียงใด เท่านี้คุณก็เป็นเจ้าของทาวน์โฮมกรุงเทพที่ชื่นชอบในราคาที่ถูกใจได้ไม่ยาก

    98
    สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ

    เพื่อให้เข้าใจเกี่ยวกับสถานีตรววจวัดคุณภาพอากาศมากขึ้น เราจำเป็นจะต้องทราบจุดเริ่มต้นเสียก่อน โดยเริ่มตั้งแต่ปีคริสต์ศักราชที่ 1760 ซึ่งเป็นการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่หนึ่ง โดยเริ่มมีการนำเทคโนโลยีเครื่องจักรต่างเข้ามาช่วยในการทำงานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านการเกษตรกรรม การขนส่ง การคมนาคม การผลิตสินค้า ล้วนได้รับอิทธิพลทั้งสิ้น และด้วยการนำเทคโนโลยีมาใช้นี้เอง ทำให้คุณภาพชีวิต วิถีชีวิต และสังคมของมนุษย์พัฒนาไปอย่างมาก

    แต่ว่านอกจากด้านที่ดีนั้น ก็ย่อมมีด้านเสียเช่นกัน นั้นคือการเติบโตทางธุรกิจนั้นจึงให้กำเนิดโรงงานอุตสาหกรรมประเภทต่าง ๆ ขึ้นมากมายดังเช่นปัจจุบัน นอกจากทรัพยากรที่ถูกนำใช้งานอย่างมากขึ้น เพื่อตอบความสนองความต้องการที่ไม่สิ้นสุดแล้ว ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากกระบวนการผลิตเองก็ถือเป็นปัญหาที่สำคัญ

    เนื่องจากกระบวนการผลิตในเกือบทุกขั้นตอนนั้นใช้เครื่องจักรในการผลิตสินค้าและบริการต่าง ๆ ซึ่งในกระบวนการทำงานนั้นเองก็อาจจะทำให้เกิดมลพิษได้ ซึ่งสามารถเป็นได้ทั้งมลพิษทางน้ำ ที่จำเป็นจะต้องมีกระบวนการบำบัดให้ได้ตามมาตรฐานที่ทางกระทรวงอุตสาหกรรมกำหนดไว้ และอากาศเองก็เช่นกัน ซึ่งในกระบวนการตรวจสอบนี้ จำจะต้องใช้สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ เข้ามาช่วย

    ตอนนี้หลายคนอยาจะกำลังสงสัยว่า สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศนั้นมีความสำคัญอย่างไร แล้วแต่ละโรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ ถึงจำเป็นจะต้องใช้มัน บทความนี้จะช่วยอธิบายส่วนประกอบ และความสำคัญของ AQMS กัน ไปเริ่มกันเลย

    สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศคืออะไร?

    AQMS (Air Quality Monitoring Station) หรือก็คือสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศนั้นเอง ทำหน้าที่ตรวจสอบคุณภาพอากาศในบริเวณนั้น โดยสามารถตรวจสอบแก๊สหลัก ๆ รวมถึงฝุ่นละออง อันได้แก่ แก๊สซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2), ออกไซด์ของไนโตรเจน (NO), ฝุ่นละอองรวม (TSP), ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10), ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) เป็นต้น

    นอกจากที่กล่าวมาแล้วสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ ยังสามารถเก็บข้อมูลชนิดอื่น ๆ ได้อีกคือ ความเร็ว ทิศทางลม อุณหภูมิ ความชื้นสัมพัทธ์ ความดันบรรยากาศ ทั้งยังบอกปริมาณน้ำฝนแสงอาทิตย์ได้อีกด้วย

    ส่วนประกอบของสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ

    สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ มีส่วนประกอบ 6 ส่วนด้วยกัน ได้แก่

    • เครื่องเก็บตัวอย่างฝุ่นละอองรวม (TSP) ดักเก็บฝุ่นละอองเพื่อที่aจะสามารถนำมาวิเคราะห์ว่าขนาดของฝุ่นแต่ละขนาดมีปริมาณมากน้อยเพียงได้ ซึ่งฝุ่นละอองหลัก ๆ ที่นำมาวิเคราะห์กัน คือ PM10 และ PM2.5 ซึ่งทั้ง 2 ล้วนมีผลเสียต่างสุขภาพทั้งสิ้น และทั้ง 2 นั้นต่างมีวิธีการจัดการที่แตกต่างกัน
    • เครื่องวัดแก๊สซัลเฟอร์ไดออกไซต์ (SO2) วัดค่าแก๊สซัลเฟอร์ไดออกไซต์เพื่อที่ สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศจะตรวจสอบว่ามีค่าเกินเกณฑ์ปกติหรือไม่ โดยค่าเฉลี่ยปกติของแก๊สซัลเฟอร์ไดออกไซต์ คือ 0.02-0.1 ppm ถ้าแก๊สซัลเฟอร์ไดออกไซต์ได้ทำปฏิกิริยากับแก๊สออกซิเจน อาจจะทำให้เกิดฝนกรดได้
    • เครื่องตรวจออกไซต์ของไนโตรเจน (NO, NO2) มักเกิดจากเผาไหม้จากกิจกรรมของมนุษย์ โดยเมื่อแก๊สไนโตรเจนออกไซต์ไปรวบกับแก๊สซัลเฟอร์ไดออกไซต์เกิดเป็นฝนกรด กรดไนตริก และยังทำให้เกิดภาวะเรือนกระจกได้อีกด้วย
    • ชุดตรวจอุตุนิยมวิทยา ประกอบไปด้วยชุดวัดปริมาณน้ำฝน อุปกรณ์วัดองศาแสงอาทิตย์ อุปกรณ์วัดอุณหภูมิและความชื้น  อุปกรณ์วัดความดันบรรยากาศ และอุปกรณ์วัดความเร็วและทิศทางลม เพื่อที่ สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศจะเก็บข้อมูลต่าง ๆ ไปวิเคราะห์ต่อไป
    • อุปกรณ์เก็บข้อมูล ทำหน้าที่เก็บรวบรวมข้อมูลจากอุปกรณ์อื่น ๆ มาไว้ที่เดียว เพื่อให้การใช้งานข้อมูลของสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศสามารถทำได้สะดวกสบาย
    • อุปกรณ์มอนิเตอร์ ทำหน้าที่แสดงผลที่ได้จากอุปกรณ์ต่าง ๆ โดยการดึงข้อมูลมาจากอุปกรณ์เก็บข้อมูล เพื่อให้ผู้ใช้งานอ่านค่าได้โดยง่าย

    สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ มีประโยชน์อย่างไร

    สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ มีประโยชน์ใดหลาย ๆ ด้าน ด้วยชุดเครื่องมือที่หลากหลาย จึงสามารถเก็บข้อมูลได้หลายชนิด จึงสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ดังนี้

    • ใช้ตรวจสอบคุณภาพอากาศ และสภาพแวดล้อมภายในโรงงานอุตสาหกรรม
    • สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ ตรวจสอบคุณภาพอากาศ และสภาพแวดล้อมในส่วนต่าง ๆ ตามเมืองต่าง ๆ
    • นำข้อมูลที่ได้จากการตรวจวัดคุณภาพอากาศและสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ เพื่อนำไปปรับปรุงแก้ไขเพื่อลดมลพิษทางอากาศต่อไป
    • เนื่องจากชุดตรวจอุตุนิยมวิทยามีเครื่องวัดองศาแสงอาทิตย์ สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศจึงสามารถเก็บข้อมูลองศาของแสงอาทิตย์ในแต่ละช่วงเวลา ทำให้สามารถออกแบบวางแผนการติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ได้

    สถานีตรวจวัดคุณภาพาอากาศช่วยทำอะไรได้บ้าง

    ประโยชน์ของสถานีตรวจวัดคุณภาพาอากาศ

    สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ สามารถใช้งานได้ดังต่อไปนี้

    • สามารถแสดงผลคุณภาพอากาศ ทิศทางของลม และความเร็วลดได้แบบ Real-Time ทำให้สามารถรู้ข้อมูลในเวลานั้นได้ทันที
    • สามารถช่วยตรวจสอบคุณภาพแก๊สต่าง ๆ ที่ถูกปล่อยออกมาจากโรงงานอุตสาหกรรมได้ว่ามีค่าผ่านตามมาตรฐานที่กำหนดหรือไม่
    • สามารถช่วยวิเคราะห์ข้อมูลเปรียบเทียบก่อนและหลังปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิต หรือบำบัดต่าง ๆ เพื่อตรวจดูว่าผ่านเกณฑ์ตามมาตรฐานหรือไม่ ถ้าไม่ก็ต้องมีการปรับปรุงต่อไป
    • สามารถบอกคุณภาพอากาศ ค่าฝุ่นละออง PM10 และ PM2.5 แบบเฉลี่ยต่อวันได้

    สรุปเกี่ยวกับสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ

    สถานีตรวจสอบคุณภาพอากาศถูกออกแบบมาเพื่อประเมิน วิเคราะห์องค์ประกอบของอากาศในตำแหน่งเฉพาะ มาพร้อมกับเครื่องมือ รวมถึงเซ็นเซอร์ต่าง ๆ ที่ซับซ้อน โดยจะทำการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับมลพิษทางอากาศต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น อนุภาค (PM2.5 และ PM10) ไนโตรเจนไดออกไซด์ (NO2) ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2) คาร์บอนมอนอกไซด์ (CO) โอโซน ( O3) ไปจนถึงสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย (VOCs) เป็นต้น

    เครื่องมือเหล่านี้ใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยเพื่อให้การตรวจวัดแบบเรียลไทม์ ช่วยให้สามารถติดตามแนวโน้มคุณภาพอากาศ ความอันตรายต่อสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างแม่นยำ จากนั้นข้อมูลที่รวบรวมจะถูกส่งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการวางแผนเกี่ยวกับการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและสาธารณสุขต่อไป

    99
    อยากสร้างแบรนด์ตัวเองกับบริษัทรับผลิตสบู่เริ่มยังไงดีบทความนี้มีคำตอบ ขอบอกเลยว่าต้องเริ่มจากการเลือกโรงงานผลิตสบู่แบบครบวงจรจะช่วยให้การสร้างแบรนด์สินค้าสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญโรงงานรับผลิตสบู่ต้องมีมาตรฐานการรับรองที่น่าเชื่อถือและพร้อมให้คำปรึกษา ตั้งแต่เริ่มต้นการวิจัยและพัฒนาสูตรไปจนถึงกระบวนการส่งมอบสินค้า

    ผลิตสบู่เหลวสร้างแบรนด์

    แนวโน้มตลาดจากโรงงานผลิตสบู่

    สบู่เป็นผลิตภัณฑ์ใช้ในการทำความสะอาดทั้งร่างกายและใบหน้า และมีให้เลือกหลายประเภทอย่างเช่นสบู่ก้อน สบู่เหลว สบู่เจลลี่ สบู่แผ่น เป็นต้น เรียกได้ว่าสบู่เป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องใช้ในทุกวันและในปัจจุบันโรงงานผลิตสบู่มีการพัฒนาสูตรและเพิ่มส่วนผสมสมุนไพร Vitamin หรือสารสกัดที่มาจากธรรมชาติที่อ่อนโยนต่อผิวทำให้ผู้คนนิยมใช้สบู่ในการล้างหน้าหรือทำความสะอาดผิวมากยิ่งขึ้น

    สำหรับการสร้างแบรนด์ตัวเองเป็นสินค้าสบู่นับว่าเป็นทางเลือกที่น่าลงทุนเป็นอย่างมาก อีกทั้งแนวโน้มกลุ่มตลาดของแบรนด์สบู่จะมีการเติมโตขึ้นเรื่อย ๆ อีกด้วย ซึ่งการเลือกโรงงานผลิตสบู่ครบวงจรสามารถคิดค้นสูตรผ่านแลปผลิตสบู่ที่มีมาตรฐานควบคุมด้วยผู้เชี่ยวชาญยิ่งทำให้สินค้ามีคุณภาพส่งผลต่อการเลือกซื้ออีกด้วย

    3 สารสกัดยอดฮิตจากโรงงานรับผลิตสบู่

    ก่อนเริ่มต้นสร้างแบรนด์ตัวเองต้องทราบก่อนว่าสารสกัดยอดฮิตขายดีจากโรงงานผลิตสบู่มีอะไรที่น่าสนใจบ้าง และอาจนำไปต่อยอดพัฒนาสูตรกับโรงงานรับผลิตสบู่ทําแบรนด์ได้อย่างมีมาตรฐาน กับสารสกัดยอดฮิต 3 อย่างดังต่อไปนี้

    โรงงานรับผลิตสบู่ทําแบรนด์

    สารสกัดจากธรรมชาติ เป็นสูตรที่โรงงานผลิตสบู่ได้อย่างอ่อนโยนปราศจากสารเคมีเหมาะสำหรับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวแพ้ง่ายที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ โดยโรงงานสบู่ที่มีสารสกัดจากธรรมชาติจะพัฒนาสูตรร่วมกับผู้เชี่ยวชาญ ทำให้สบู่สูตรจากธรรมชาติไม่ก่อให้เกิดการแพ้จึงเป็นที่ได้รับการนิยมเป็นอย่างมาก

    สูตร Anti Acne Oil Control Cleansing Gel ปัญหาหน้ามันเป็นสิวก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาของผู้คนส่วนใหญ่ที่ต้องการเลือกใช้สบู่ที่มีส่วนผสมของ  Anti Acne เพื่อควบคุมความมันส่วนเกินบนใบหน้าและลดการเกิดสิว ซึ่งการสร้างแบรนด์ตัวเองและรับทำสบู่ที่มีส่วนผสมของ Anti Acne ก็ตอบโจทย์ของลูกค้ามากเลยทีเดียว

    สารสกัดช่วยในเรื่องบำรุงผิว แน่นอนว่าสบู่ใช้ทำความสะอาดสิ่งสกปรกได้อย่างดีเยี่ยม แต่จะดีกว่าหรือไม่หากในสบู่มีส่วนผสมที่ช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื่นที่โรงงานผลิตสบู่นิยมใช้สารสกัดอุดมไปด้วย วิตามิน B5 ,B3 เป็นต้น จะนิยมผลิตสบู่เหลวสร้างแบรนด์หรือเป็นสบู่ก้อน

    6 ขั้นตอนการสร้างแบรนด์กับโรงงานผลิตสบู่

    เมื่อทราบถึงประเภทและสารสกัดสุดฮิตที่นำมาผลิตสูตรสบู่เรียบร้อยแล้ว มาถึงขั้นตอนการสร้างแบรนด์กับโรงงานผลิตสบู่ที่มีขั้นตอนไม่ยุ่งยากและสำหรับใครที่ต้องการการสร้างแบรนด์ตัวเองแต่ยังขาดประสบการณ์ ทางโรงงานผลิตสบู่ที่มีประสบการณ์มาอย่างยาวนานสามารถให้คำปรึกษาได้ทุกขั้นตอน ซึ่งขั้นตอนการรับผลิตสบู่ด้วยระบบมาตรฐานมี 6 ขั้นตอนดังนี้

    Step 1 : เลือกสูตรสบู่

    ต้องการสร้างแบรนด์ตัวเองสามารถเลือกสูตรที่ต้องการกับโรงงานผลิตสบู่ ที่มีให้เลือกทั้งรูปแบบ ODMและ OEM รวมถึงการเลือกประเภทของสบู่ที่ต้องการผลิตโรงงานผลิตสบู่เหลว สบู่ก้อน สบู่แผ่น ออยล์อาบน้ำ หรือสบู่เจลลี่ได้ตามความต้องการ

    Step 2 : รับใบเสนอราคา และชำระมัดจำ

    ทางเจ้าหน้าที่ของโรงงานผลิตสบู่จะดำเนินการรับใบเสนอราคาและมีวิธีในการชำระเงินแบบแบ่งจ่าย โดยการมัดจำก่อนรับทำสบู่ 50% และในส่วนที่เหลือจะนำส่งใบเสนอราคาเพื่อชำระค่าบริการภายหลังที่โรงงานสบู่ผลิตเสร็จเรียบร้อยแล้ว

    Step 3 : คิดค้น วิจัย และพัฒนาสูตรสำหรับแบรนด์ของคุณ

    ในส่วนของการคิดค้นวิจัยและพัฒนาสูตรสำหรับ สร้างแบรนด์ของคุณนั้นทางโรงงานผลิตสบู่จะมีผู้เชี่ยวชาญที่ควบคุมในส่วนของแลปผลิตสบู่ทั้งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและนักเคมี เพื่อคิดค้นและพัฒนาสูตรร่วมกับคุณให้ได้สูตรตามที่ความต้องการ

    โรงงานผลิตสบู่เหลว

    Step 4 : เริ่มกระบวนการผลิต

    ทางโรงงานผลิตสบู่จะดำเนินขอใบอนุญาตขึ้นทะเบียนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.)  รวมถึงให้ลูกค้าออกแบบเลือกกล่องบรรจุภัณฑ์สินค้า จากนั้นจะทำการผลิตตามสูตรของลูกค้าที่ได้คิดค้นและพัฒนาสูตรในสร้างแบรนด์

    Step 5 : ชำระค่าใช้จ่ายส่วนที่เหลือ

    เมื่อโรงงานผลิตสบู่ดำเนินการผลิตสินค้าให้กับลูกค้าจะใช้เวลาในการผลิตประมาณ 14-20 วัน เมื่อครบกำหนดทางโรงงานสบู่จะทำใบเสนอราคาให้กับลูกค้าเพื่อชำระเงินส่วนที่เหลืออีก 50%

    Step 6 : โรงงานส่งสินค้าให้แก่ลูกค้า

    เมื่อโรงงานผลิตสบู่ทำการผลิตสินค้าและบรรจุลงกล่องเรียบร้อยแล้วจะนำส่งสินค้าให้กับลูกค้าตามที่อยู่ที่ระบุไว้ เมื่อได้รับสินค้าแล้วลูกค้าสามารถนำสินค้าวางขายได้ทันที

    เลือกโรงงานรับผลิตสบู่แบบ One Stop Service มาตรฐานสากลที่ไหนดี

    สำหรับการสร้างแบรนด์ของตัวเองต้องรู้เกี่ยวกับโรงงานรับผลิตสบู่แบบ One Stop Service มาตรฐานกตัวอย่างโรงงานผลิตสบู่ PURE DERIMA LABORATORIES ที่มีมาตรฐานรับรองจาก  GMP, ISO, FDA, Green Industry, HALAL, msds, coa พร้อมให้บริการผลิตสบู่แบบครบวงจร รวมถึงเป็นโรงงานผลิตรีบผลิตครีม ที่สามารถร่วมคิดค้นสูตรกับผู้เชี่ยวชาญเพื่อสร้างแบรนด์ตัวเองไปจนถึงขึ้นทะเบียนเครื่องสำอาง(อย.)

    ช่องทางการติดต่อ
    88/34-35 TTN Avenue Nanglinchee
    Road Chong Nonsi Subdistrict,
    Yannawa District Bangkok 10120
    Line : @purederima
    โทร : 02-285-4266

    100
    ในขณะที่เทคโนโลยีมีการพัฒนาก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง Samsung Galaxy A05s ราคาก็กลายเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงนวัตกรรมใหม่เหล่านั้น โดยนำเสนอการผสมผสานที่น่าประทับใจระหว่างความคุ้มค่าและประสิทธิภาพที่โดดเด่น เราจะมาเจาะลึกถึงวิวัฒนาการของเทคโนโลยีที่นำไปสู่การสร้าง Samsung Galaxy A05s ราคาคุ้มค่า ซึ่งจะเน้นคุณสมบัติที่โดดเด่นจากการใช้เทคโนโลยีในปัจจุบัน

    ด้วย Samsung Galaxy A05s ได้รวบรวมการทำงานร่วมกันที่ของเทคโนโลยีล้ำสมัย ด้วยงบประมาณที่จำกัด โดยไม่ได้ลดทอนประสิทธิภาพ โทรศัพท์รุ่นนี้มีคุณสมบัติมากมายที่ช่วยยกระดับประสบการณ์ผู้ใช้โดยไม่ทำให้ราคาสูงเกินไป ด้วยจอแสดงผลที่สดใส ไปจนถึงโปรเซสเซอร์ที่แข็งแกร่ง สำหรับผู้ที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนที่น่าเชื่อถือ มีคุณสมบัติหลากหลาย ด้วย Samsung Galaxy A05s ราคาที่คุ้มค่า เหมาะกับทุกคน

    Samsung A05s ราคา
    ขอบคุณรูปจาก https:// www. samsung.com/th/smartphones/galaxy-a/galaxy-a05s-silver-128gb-sm-a057fzshthl/

    ระหว่าง Samsung Galaxy A05s กับ Samsung Galaxy A05 ราคาแตกต่างกันอย่างไร ซื้อรุ่นไหนคุ้มกว่า

    สำหรับผู้ที่กำลังตัดสินใจเลือกซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นต่าง ๆ นั้น จำเป็นจะต้องมีการเปรียบความต่างของเทคโนโลยี ซึ่ง A05s ราคาจะแตกต่างกันไม่มาก ระหว่าง Samsung Galaxy A05s และ Samsung Galaxy A05 รุ่นก่อน เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจได้ง่ายขึ้น เราจะยกตัวอย่างข้อแตกต่างหลัก ๆ ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาจากรุ่นก่อน เพื่อให้ผู้อ่านสามารถตัดสินใจได้ง่ายยิ่งขึ้น มีดังต่อไปนี้

    • คุณสมบัติที่ได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น เมื่อเทียบกับราคาที่ต้องจ่าย แม้ว่าทั้งสองรุ่นจะมีคุณสมบัติขั้นสูง แต่ Samsung Galaxy A05s นั้นได้รับการปรับปรุงจุดดด้อยจากรุ่นเดิม แม้ราคาจะสูงขึ้นเล็กน้อย แต่นับว่าไม่สูงมาก เมื่อเทียบกับคุณสมบัติที่ได้
    • ประสิทธิภาพที่อัปเกรดแล้ว A05s นำเสนอตัวชี้วัดประสิทธิภาพที่ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น ทำให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์สมาร์ทโฟนที่มีความรวดเร็ว เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน
    • ความสามารถของกล้อง การเปรียบเทียบคุณสมบัติของกล้องอย่างละเอียดจะเห็นว่า A05s นั้นผสานรวมความสามารถในการถ่ายภาพที่มียิ่งขึ้น ซึ่งช่วยสื่ออารมณ์ของภาพได้ดียิ่งขึ้น
    จากที่กล่าวมาจะเห็นว่า Samsung Galaxy A05s ราคานั้นจะสูงว่า Samsung Galaxy A05 แต่ด้วยคุณสมบัติที่ได้รับการพัฒนาต่อยอด ช่วยลดข้อจำกัดจากรุ่นเดิมได้อย่างมาก ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับราคาที่เพิ่มขึ้นแล้ว ถือว่าคุ้มกับราคาที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก

    Samsung Galaxy A05s ราคาล่าสุดตอนนี้

    samsung A05s ราคาล่าสุด
    ขอบคุณรูปจาก https:// www. samsung.com/th/smartphones/galaxy-a/galaxy-a05s-silver-128gb-sm-a057fzshthl/

    Samsung Galaxy A05s เปิดตัวครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2023 เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยในไตรมาสที่ 4 โดย Samsung Galaxy A05s ราคาปิดตัวอยู่ที่ 5,499 บาท

    ในโลกของเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ราคาจึงมีความผันผวนอยู่มาก จึงจำเป็นที่จะต้องมีการอัพเดตข้อมูลอยู่เสมอ การรับข่าวสารเกี่ยวกับราคาตลาดปัจจุบัน Samsung Galaxy A05s นั้นเพิ่งได้เปิดตัวเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ทำให้A05s ราคานั้นยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรมาก ยกเว้นแต่ทางผู้จัดจำหน่ายต่าง ๆ จะออกโปรโมชั่นต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นยอดขาย ซึ่งจะมากน้อยแตกต่างกันไปจามผู้จัดจำหน่าย จึงต้องมีการหาข้อมูลมาเปรียบเทียบอย่างรอบคอบ เมื่อตัดสินใจจะซื้อ Samsung Galaxy A05s

    Samsung A05s ราคาพิเศษ ซื้อผ่านช่องทางไหนดี

    สำหรับ Samsung Galaxy A05s ราคาพิเศษนั้น เราสามารถเลือกซื้อได้จากหลากหลายช่องทาง ซึ่งเราจะมาทำความรู้จักช่องทางจัดจำหน่ายของ Samsung Galaxy A05s ว่ามีอะไรกันบ้าง โดยเริ่มจาก

    • ศูนย์บริการ Samsung ถือเป็นแหล่งข้อเสนอพิเศษที่เชื่อถือได้ของคุณ ศูนย์บริการซัมซุงมักเสนอโปรโมชั่น หรือส่วนลดพิเศษสำหรับผลิตภัณฑ์ของเขา ในส่วนนี้จะเจาะลึกว่าการเยี่ยมชมศูนย์บริการซัมซุงไม่เพียงแต่จะได้รับความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น คุณยังสามารถได้ทดลองใช้งานจริง รวมถึงยังสามารถที่จะได้ Samsung Galaxy A05s ราคาพิเศษอีกด้วย
    • ผู้จัดจำหน่ายที่ได้รับอนุญาต ซึ่งสามารถรับประกันได้ เมื่อต้องการราคาพิเศษ ผู้จัดจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะมักจะมาพร้อมกับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม เช่น การรับประกัน การสนับสนุนหลังการขาย ไปจนถึงของแถมต่าง ๆ
    • ช่องทางออนไลน์ ยุคดิจิทัลได้เปลี่ยนแปลงวิธีการซื้อสินค้าไปอย่างมาก ช่องทางออนไลน์มอบโอกาสมากมายสำหรับข้อเสนอสุดพิเศษต่าง ๆ คุณสามารถพบกับ A05s ราคาพิเศษได้อย่างง่ายดาย ทั้งคุณสามารถสำรวจแพลตฟอร์มออนไลน์ที่มีชื่อเสียง หรือเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซต่าง ๆ ที่มักจะออกโปรโมชั่น หรือส่วนลดต่าง ๆ อยู่เสมอ
    • ผู้ค้าปลีกที่เป็นพันธมิตร Samsung ได้ร่วมมือกับผู้ค้าปลีกหลายรายเพื่อนำเสนอ A05s ราคาพิเศษ ให้กับกลุ่มเป้าหมายในวงกว้าง สามารถนำไปสู่ข้อเสนอ รวมถึงโปรโมชั่นสุดพิเศษสำหรับผู้ที่กำลังสนใจ Samsung Galaxy A05s ให้สะดวกสบายในการซื้อของคุณผ่านพันธมิตรเหล่านี้
    • การประมูลออนไลน์ คว้าข้อเสนอที่มีเวลาจำกัด สำหรับผู้ที่ชื่นชอบความตื่นเต้น สำหรับ A05s ราคาที่มีการแข่งขัน ส่วนนี้สามารถหาได้จากการประมูลออนไลน์ การเข้าร่วมกิจกรรมที่ต้องคำนึงถึงราคาของ Samsung Galaxy A05s ในตลาด เพื่อเปรียบเทียบกับราคาพิเศษพร้อมส่วนลดที่มีอยู่แล้ว ว่าอะไรคุ้มกว่ากัน
    สำหรับผู้ที่กำลังมองหา Samsung A05s ราคาพิเศษนั้น สามารถเลือกซื้อกับผู้จัดจำหน่ายได้ตามที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นศูนย์บริการ samsung ตัวแทนจำหน่าย หรือจะเป็นช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ แต่ถ้าคุณไม่มั่นใจว่าสินค้าที่ได้จะมีตุณภาพดีมั้ย ของแท้หรือไม่ การซื้อผ่านทางศูนย์บริการ Samsung จะให้ความมั่นใจมากที่สุด

    คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Samsung A05s ราคาตอนนี้

    สำหรับผู้ที่สนใจ แล้วกำลังหาข้อมูล A05s ราคาตอนนี้อยู่นั้น มักมีคำถามเกิดข้อมากมาย เพื่อใช้ในการประกอบการตัดสินในการเลือกซื้อโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเราได้รวบรวมคำถามยอดนิยมเอามาให้แล้ว มีดังต่อไปนี้

    อยากซื้อ Samsung A05s ราคาพิเศษ นำเครื่องเก่าไปแลกเครื่องใหม่ได้ไหม รุ่นนี้เข้าร่วมรายการหรือไม่?

    ผู้อ่านต้องเข้าใจก่อนว่า Samsung นั้นไม่มีโปรโมชั่นในการนำมือถือเครื่องเก่า มาแลกรับส่วนลดในการซื้อเครื่องใหม่ แต่มักจะเป็นตัวแทนจำหน่าย ๆ ไม่ว่าจะเป็นร้านขายโทรศัพท์ ร้านขายสินค้าไอที ไปจนถึงผู้ให้บริการเครือข่ายสัญญาณโทรศัพท์ ที่ต้องคอยออกโปรโมชั่นต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นยอดขายในร้านให้สูงขึ้น ไปจนถึงการทำให้ร้านเป็นที่รู้จักในวงกว้างอีกด้วย

    เนื่องจาก Samsung Galaxy A05s เป็นโทรศัพท์รุ่นใหม่ที่พึ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา จึงถือเป็นโทรศัพท์อีกรุ่นหนึ่งที่ผู้จัดจำหน่ายจะเลือกจัดโปรโมชั่นโทรศัพท์เครื่องเก่า มาแลกเครื่องใหม่ ซึ่งต้องตรวจสอบเงื่อนไขขอโปรโมชั่นให้ครบถ้วน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมา

    ความแตกต่างระหว่าง Samsung Galaxy A05 และ Samsung Galaxy A05s มีอะไรบ้าง

    ข้อแตกต่างระหว่าง Samsung Galaxy A05 และ Samsung Galaxy A05s นั้นมีดังต่อไปนี้

    • ชิปเซตประมวลผล Samsung Galaxy A05 ใช้ Mediatek MT6769V/CZ Helio G85 (12nm) ส่วน Samsung Galaxy A05s ใช้ Qualcomm SM6225 Snapdragon 680 4G (6 nm)
    • กล้องหลัง Samsung Galaxy A05 มี 2 กล้อง ได้แก่ กล้องไวด์ 50 ล้านพิกเซล f/1.8 กับกล้องวัดระยะความลึก 2 ล้านพิกเซล f/2.4 ส่วน Samsung Galaxy A05s มีกล้อง 3 ตัว แบ่งเป็นกล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล f/1.8 กล้องมาโคร 2 ล้านพิกเซล f/2.4 และกล้องวัดระยะความลึก 2 ล้านพิกเซล f/2.4
    • กล้องหน้า Samsung Galaxy A05 มีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ส่วน Samsung Galaxy A05s นั้นมีความละเอียด 13 ล้านพิกเซล
    • จอแสดงผล Samsung Galaxy A05 มีความละเอียด 720 x 1600 พิกเซล ส่วน Samsung Galaxy A05s มีความละเอียด 1080 x 2400 พิกเซล
    • พื้นที่จัดเก็บข้อมูล Samsung Galaxy A05 มีความจุ 64 กับ 128 GB ส่วน Samsung Galaxy A05s มีความจุ 128 GB เท่านั้น
    เนื่องจากทั้ง 2 รุ่นมีข้อแตกต่างกันไม่มาก ทำให้ A05s ราคาจะสูงกว่า A05 อยู่เพียงเล็กน้อย ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับโทรศัพท์มือถือในราคาใกล้เคียงกัน ถือว่าคุ้มค่า คุ้มราคา

    สรุป Samsung Galaxy A05s ราคาดีน่าโดน

    สำหรับท่านใดที่กำลังมองหาโทรศัพท์รุ่นใหม่ คุณภาพครบครัน ในราคาไม่แพง Samsung Galaxy A05s ถือเป็นตัวเลือกที่ไม่อาจมองข้าม ด้วย A05s ราคานั้นไม่สูงมาก แต่กับมีประสิทธิภาพการทำงานที่สูง ไม่ว่าจะเป็นจอแสดงผลที่สวยงาม ตอบสนองรวดเร็ว ไปจนถึงกล้องที่มีความละเอียดสูง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือว่าครอบคลุมการใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างครบถ้วน เหมาะกับคนทุกเพศ ทุกวัย

    หน้า: 1 [2] 3 4 5 6 7 ... 9