ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


5 สัญญาณที่บอกว่าคุณควรเปลี่ยนบริษัทประกันในปีนี้

5 สัญญาณที่บอกว่าคุณควรเปลี่ยนบริษัทประกันในปีนี้
ในยุคที่ค่าใช้จ่ายทุกอย่างเพิ่มสูงขึ้น เจ้าของรถจำนวนไม่น้อยเริ่มมองหาประกันรถยนต์ที่ “คุ้มค่าและตอบโจทย์กว่าเดิม” การต่อประกันทุกปีไม่ควรเป็นเพียงกิจวัตร แต่ควรเป็นโอกาสสำคัญในการประเมินว่า “บริษัทประกันที่ใช้อยู่ยังดีพอหรือไม่”
หากคุณกำลังลังเลว่าควรเปลี่ยนบริษัทประกันรถยนต์หรือเปล่า ลองเช็ก 5 สัญญาณสำคัญ ต่อไปนี้ หากตรงกับข้อไหนมากกว่า 2 ข้อ มีโอกาสสูงที่คุณจะได้ประกันที่ดีกว่า ถูกกว่า หรือคุ้มค่ากว่าเดิมแน่นอน

1) ค่าเบี้ยประกันเพิ่มขึ้นทุกปี ทั้งที่ไม่เคยเคลม
หลายคนเจอปัญหา “เบี้ยปีต่อแพงเกินเหตุ” ทั้งที่ตลอดปีก่อนหน้าไม่ได้เคลมเลย หรือเคลมเพียงเล็กน้อย
 ปกติแล้วเบี้ยประกันควร คงที่ หรือ ลดลง หากไม่มีประวัติเคลม เพราะถือว่าเป็นผู้ใช้รถที่มีความเสี่ยงต่ำ
หากเบี้ยเพิ่มทีละนิดทุกปี อาจถึงเวลามองหาบริษัทใหม่
 ปัจจุบันมีหลายบริษัทเสนอราคาเบี้ยที่แข่งขันสูง โดยเฉพาะบนแพลตฟอร์ม'ประกันรถยนต์ออนไลน์ที่สามารถเช็กได้ทันทีว่าที่ไหนถูกกว่าและคุ้มค่ากว่า

2) บริการหลังการขายล่าช้าหรือไม่ใส่ใจ
อุบัติเหตุเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้ และช่วงเวลานั้นคือเวลาที่ “ประกันต้องทำงาน” หากคุณเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้
-โทรหาศูนย์เคลมไม่ได้
-เจ้าหน้าที่มาช้าเกิน 1 ชั่วโมง
-พูดไม่ดี ไม่ช่วยประสานงาน
-บริการไม่เป็นมืออาชีพ
นี่คือสัญญาณชัดเจนว่าควรพิจารณาบริษัทใหม่ เพราะ การบริการที่ดีสำคัญกว่าเบี้ยถูก หลายบริษัทปัจจุบันเน้นบริการเคลมด่วนผ่านแอปหรือแจ้งผ่านไลน์ ทำให้รวดเร็วและสะดวกกว่า.

3) ศูนย์ซ่อมหรืออู่ซ่อมในเครือมีน้อย
หากคุณต้องการซ่อมห้าง แต่บริษัทประกันที่ใช้อยู่มีศูนย์บริการในพื้นที่ของคุณน้อย อาจส่งผลให้:
-ต้องรอคิวซ่อมนาน
-ต้องนำรถไปไกล
-งานซ่อมไม่ตรงมาตรฐาน
การมีตัวเลือกศูนย์ซ่อมที่หลากหลาย และมีรีวิวดี ๆ คือหัวใจสำคัญของประกันรถยนต์ยุคนี้

4) ความคุ้มครองไม่ครอบคลุมต่อไลฟ์สไตล์ของคุณ
กฎหมายและกฎจราจรมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เช่น ความคุ้มครองอุบัติเหตุ คู่กรณี น้ำท่วม รถชนแบบไม่มีคู่กรณี หรือภัยธรรมชาติอื่น ๆ
หากกรมธรรม์ของคุณยังเป็นแบบเดิมหลายปี อาจไม่ครอบคลุมปัจจุบัน เช่น
-ไม่คุ้มครองน้ำท่วม
-ไม่คุ้มครองรถชนเสา/กำแพง
-ไม่คุ้มครองรถหาย
-ไม่มีบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน (Roadside Service)
ถ้าความคุ้มครองไม่ตอบโจทย์ แนะนำ เปลี่ยนบริษัทที่ให้ความคุ้มครองแบบครบที่สุดในราคาใกล้เคียงกัน

5) ช่องทางบริการไม่ทันสมัย ไม่รองรับออนไลน์
ยุคนี้หลายคนต้องการความสะดวก เช่น
 ✔ ส่งสำเนาทะเบียนผ่านมือถือ
 ✔ ต่อประกันออนไลน์ภายใน 5 นาที
 ✔ ชำระผ่านบัตรเครดิตหรือผ่อน 0%
 ✔ เช็กเบี้ยแบบ Real-time
หากบริษัทประกันเดิมยังไม่รองรับช่องทางออนไลน์ หรือมีขั้นตอนยุ่งยาก เช่น ให้ส่งเอกสารผ่านแฟกซ์ โทรหา Call Center ทุกครั้ง อาจถึงเวลาหาบริษัทที่ทันสมัยกว่า เช่นโบรกเกอร์ออนไลน์ที่รวมข้อเสนอจากหลายบริษัทให้คุณเปรียบเทียบในที่เดียว

สรุป — หากเจอครบ 5 ข้อ ควรเปลี่ยนประกันทันที เพื่อความคุ้มค่าตลอดปี
การเปลี่ยนบริษัทประกันไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอีกต่อไป ปัจจุบันมีระบบเปรียบเทียบเบี้ย ชำระ และต่อประกันออนไลน์แบบง่าย ๆ ภายในไม่กี่นาที คุณสามารถเลือกแผนประกันที่เหมาะกับพฤติกรรมการขับขี่ของตนเอง เพื่อให้ได้ทั้งราคาและความคุ้มครองที่ดีที่สุด

ความสำคัญของการต่อ'ประกันรถยนต์
การต่อประกันรถยนต์ทุกปีเป็นสิ่งที่ เจ้าของรถต้องให้ความสำคัญ เพราะช่วย
-ลดความเสี่ยงด้านค่าใช้จ่ายหนักเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
-คุ้มครองทั้งชีวิตและทรัพย์สินของคุณ
-เพิ่มความอุ่นใจทุกครั้งที่ขับรถ
-เลือกความคุ้มครองที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์และงบประมาณ
-ปกป้องรถจากเหตุการณ์ไม่คาดคิด เช่น น้ำท่วม รถหาย ไฟไหม้

หากต้องการ “'ประกันรถยนต์ที่ใช่ที่สุด” แนะนำเลือกโบรกเกอร์ประกันภัยหรือแพลตฟอร์มออนไลน์ที่รวบรวมประกันจากหลายบริษัท เช่น OOHOO.IO เพื่อให้คุณได้'ประกันรถยนต์ที่คุ้มค่า ราคาดี และเหมาะกับรถของคุณที่สุด