ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - พรสัก ส่องแสง

หน้า: [1] 2 3 4 5 6 ... 9
1
ดูซีรี่ย์

แนะนำซีรี่ย์สนุกๆ คัดมาแล้วว่าน่าสนใจชวนติดตามทั้งเนื้อเรื่องและนักแสดง เหมาะสำหรับสายซีรี่ย์ขี้เบื่อเพราะจัดมาให้ทุกแนวตั้งแต่ซีรี่ย์ตลกเบาสมอง ดราม่าชวนติดตาม หรือแนวโรแมนติกฟินจิกหมอน รับรองวันหยุดนี้ไม่มีเหงา เพราะลิสต์ซีรี่ย์ยาวไปถึงเดือนหน้า

ถ้าช่วงนี้ยังไม่รู้จะดูเรื่องไหนดี อยากอัพเดตดูซีรี่ย์สนุกๆ เข้าลิสต์ต้องไม่พลาดเรื่องดังต่อไปนี้  ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย!

แนะนำซีรี่ย์ตลก เบาสมอง

คอซีรี่ย์ตัวจริงห้ามพลาดซีรี่ย์น้ำดีต่อไปนี้ด้วยประการทั้งปวง นอกจากจะได้ความบันเทิงแล้ว ยังมีข้อคิดให้คนดูได้คิดตาม และยังได้เรียนรู้วัฒนธรรมอีกด้วย แต่ถ้าใครไม่ชอบดูซีรี่ย์ที่ดราม่ามากจนเกินไป มาเริ่มที่ซีรี่ย์ตลกในตำนาน เบาสมองแต่บางซีนก็แอบซึ้งน้ำตาไหลกันก่อนเลย

Reply 1988 ปีไหนก็รักเธอ

ซีรี่ย์ ตลก

ขอบคุณรูปภาพจาก Facebook Viu Thailand

วันที่เข้าฉาย : 6 พฤศจิกายน 2015
จำนวนตอน : 20 ตอน
นักแสดงนำ : ด็อกซอน รับบทโดย ฮเยริ, ซอนอู รับบทโดย โกคยองพโย, ดงรยง รับบทโดย อีดงฮวี, จอง
ฮวาน รับบทโดย ยูจุนยอล, และแท็ก รับบทโดย พัคโบกอม

เรื่องย่อและรีวิว : เรื่องราวเกิดขึ้นในช่วงปี 1988 มีกลิ่นอายยุค 80 ให้คนดูได้หวนคิดถึงเรื่องราวในวันวาน ตัวละครหลักเป็นเด็กวัยมัธยม ในแต่ละตัวละครจะเชื่อมโยงไปถึงครอบครัวของแต่ละคนที่อาศัยอยู่ในย่านซังมุนดง เนื้อเรื่องจะดำเนินสลับไปมาระหว่างอดีตกับปัจจุบัน ทำให้คนดูลุ้นกันว่าใครกันแน่ที่เป็นสามีของนางเอกในปัจจุบัน ซีรี่ย์เรื่องนี้เป็นซีรี่ย์ยอดฮิตแนวรอมคอมในตำนานที่คอซีรี่ย์เกาหลีทุกคนต้องดู มีครบรส ทั้งตลกและซึ้งจนน้ำตาไหล เป็นซีรี่ย์ที่สนุกมาก การันตีด้วยเรตติ้งระดับท็อปในประวัติศาสตร์ช่องเคเบิลของประเทศเกาหลีใต้ มีทั้งแบบซีรี่ย์พากย์ไทยและซับไทย (มีแบบพากย์อีสานด้วย)

Mr. Queen (รักวุ่นวาย นายมเหสีหลงยุค)

ซีรี่ย์

ขอบคุณรูปภาพจาก Viu Thailand

วันที่เข้าฉาย : 12 ธันวาคม 2020
จำนวนตอน : 20 ตอน
นักแสดงนำ :  มเหสีคิมโซยง รับบทโดย ชินฮเยซอน, พระเจ้าชอลจง รับบทโดย คิมจองฮยอน, คิมบยองอิน รับบทโดย นาอินอู, สนมเอกอึย รับบทโดย ซอลอินอา, และพระพันปีหลวง รับบทโดย แพจงอ๊ก

เรื่องย่อและรีวิว : บงฮวานเชฟหนุ่มมากฝีมือเปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์ในยุคปัจจุบันที่วันดีคืนดีก็ย้อนยุคไปอยู่ในร่างของคิมโซยง มเหสีแห่งยุคโชซอน เขาได้พบกับพระราชาหรือพระเจ้าซอลจง จากร่างเชฟหนุ่มหล่อพราวเสน่ห์ กลับต้องไปอยู่ในร่างพระราชินีในวังหลวง ซีรี่ย์เรื่องนี้จึงทำให้คนดูหัวเราะท้องแข็งไปกับความทะเล้นของเชฟหนุ่มในร่างของพระราชินีที่อยู่ดีๆ ก็มีท่าทีเปลี่ยนไปราวฟ้ากับเหว รวมถึงฝีมือการแสดงของนางเอกทำให้ Mr. Queen เป็นซีรี่ย์แนวโรแมนติก คอเมดี้แบบย้อนยุคที่ทุกคนไม่ควรพลาด

แนะนำซีรี่ย์แนวแก้แค้น สะใจ ลุ้นระทึก

EVE (อีฟ ลวงรักสลักแค้น)

ซีรี่ย์เกาหลี

ขอบคุณรูปภาพจาก Viu

วันที่เข้าฉาย : 1 มิถุนายน 2565
จำนวนตอน : 16 ตอน
นักแสดงนำ : อีราเอล รับบทโดยซอเยจี, คังยุนกยอม รับบทโดยพัคบยองอึน, ซออึนพยอง รับบทโดย อีซังยอบ, และฮันโซรา รับบทโดยยูซอน   

เรื่องย่อและรีวิว : อีราเอล ภายนอกเธอดูสมบูรณ์แบบ สวย มีเสน่ห์ มีชีวิตครอบครัวที่อบอุ่น แต่ความจริงแล้วเธอกำลังวางแผนอะไรบางอย่างมาทั้งชีวิตของเธอ เพราะมีคนที่มีอิทธิพลกลุ่มหนึ่งได้พรากชีวิตอันสงบสุขของเธอไป เธอจึงยอมทำทุกวิถีทางเพื่อจะทำลายครอบครัวตระกูลเศรษฐีให้ย่อยยับเพื่อจะได้ความสงบสุขในใจของเธอกลับคืนมา เรียกได้ว่าเป็นซีรี่ย์เกาหลีอีกเรื่องที่ซอเยจีสวยทุกฉาก ดราม่าชวนติดตามสุดๆ เป็นอีกหนึ่งซีรีย์น่าดู

Doctor Prisoner หมอในเรือนจำ

ซีรี่ย์สนุกๆ

ขอบคุณรูปภาพจาก Viu

วันที่เข้าฉาย : 20 มีนาคม 2019
จำนวนตอน : 32 ตอน
นักแสดงนำ : นาอีเจ รับบทโดยนัมกุงมิน และฮันโซกึม รับบทโดยควอนนารา

เรื่องย่อและรีวิว : ขอบอกเลยว่าเรื่องนี้ยกให้เป็นที่หนึ่งในดวงใจ สำหรับซีรี่ย์แนวแก้แค้นที่อยากแนะนำ เพราะเนื้อเรื่องเข้มข้นชวนติดตาม ลุ้นระทึก เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับหมอนาอีแจ หมอฝีมือระดับเทพที่ถูกใส่ร้ายในคดีที่เขาไม่ได้ก่อ ทำให้เขาต้องติดคุก ซ้ำร้ายคุณแม่ของเขายังต้องมาเสียชีวิตเพราะกลุ่มคนหนึ่ง ทำให้เขาวางแผนที่จะให้คนเหล่านั้นชดใช้ความผิดให้ได้
เรื่องนี้เป็นแนวดราม่าที่มีการแพทย์ผสมอย่างลงตัว ถึงจะมีนางเอกแต่แทบจะไม่มีซีนโรแมนติกสักเท่าไหร่ ส่วนพระเอกหล่อและฉลาดมาก คนดูไม่หงุดหงิดแน่นอนแถมได้ความสะใจและความรู้แบบสุดๆ ซีรี่ย์เรื่องนี้แนะนำว่าต้องดู!

The Betrayal เกมรักทรยศ

แนะนำซีรีย์

ขอบคุณรูปภาพจากช่อง 3

วันที่เข้าฉาย : 23 สิงหาคม 2023
จำนวนตอน : 16 ตอน
นักแสดงนำ : พญ.เจนพิชชา พัฒนกิจ (หมอเจน) รับบทโดย แอน ทองประสม, คาริสา (เคท) รับบทโดย ธัญชนก กู๊ด, และอธิน พัฒนกิจ รับบทโดย อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม

เรื่องย่อและรีวิว : ชีวิตครอบครัวอันแสนสงบสุขของหมอเจน จิตแพทย์ฝีมือดีผู้มีสามีสุดฮอต (อธิน) ใครๆ ก็ต่างอิจฉาชีวิตสมบูรณ์แบบของเธอที่พร้อมด้วยหน้าที่การงานที่ดี สามีที่เอาใจใส่ และลูกๆ ที่น่ารัก แต่แล้วมาวันหนึ่งหมอเจนได้พบเส้นผมของสาวปริศนาบนผ้าพันคอของสามีโดยบังเอิญ เรื่องราวดราม่าชวนติดตามจึงเกิดขึ้น คนดูจะลุ้นไปกับหมอเจนแบบสุดๆ พร้อมทั้งฝีมือการแสดงระดับพระกาฬของนักแสดงนำ เรื่องนี้จึงเป็นซีรี่ย์ไทยดัดแปลงที่ไม่ควรพลาด ใครดูเวอร์ชันดั้งเดิมหรือเวอร์ชันเกาหลีแล้ว อยากให้ดูเวอร์ชันซีรี่ย์ไทยด้วย รับรองจะได้อีกอารมณ์แน่นอน

แนะนำซีรี่ย์แนวโรแมนติก ฟินจิกหมอน

What's Wrong With Secretary Kim? รักมั้ยนะ เลขาคิม?

ซีรี่ย์เกาหลีพากย์ไทย 2024

ขอบคุณรูปภาพจาก Viu

วันที่เข้าฉาย : 6 มิถุนายน 2018
จำนวนตอน : 16 ตอน
นักแสดงนำ :  อียองจุน รับบทโดยพัคซอจุน, คิมมิโซ รับบทโดยพัคมินยอง, และ อีซึงฮยอน รับบทโดยอีแทฮวัน

เรื่องย่อและรีวิว : คิมมิโซ เลขาสาวคนสวย ทำงานเก่ง ขยัน อดทน ของรองประธานบริษัทใหญ่ อียองจุน ผู้มากความสามารถ เขาค่อนข้างหลงตัวเอง และด้วยรูปลักษณ์ที่ดูดีทำให้เป็นที่หมายปองของไฮโซสาวทั่วประเทศ เขาทั้งสองเป็นเจ้านายและลูกน้องที่ทำงานเข้าขากันเป็นอย่างดียาวนานเกือบ 10 ปี
แต่อยู่มาวันหนึ่ง เลขาคิมก็มาขอลาออกด้วยเหตุผลส่วนตัว รองประธานจึงไม่เข้าใจว่าทำไมอยู่ดีๆ เธอถึงจะลาออกทั้งที่ทำงานกันมาอย่างยาวนานแบบเข้ากันได้ดีสุดๆ เขาจึงพยายามทุกวิถีทางที่จะรั้งเธอเอาไว้ เรื่องนี้นางเอกสวยน่ารักมาก เรียกได้ว่าเป็นเทรนการแต่งตัวแบบเลขาคิมอยู่ช่วงหนึ่ง เรื่องนี้เป็นซีรี่ย์แจ้งเกิดของนางเอกดังอย่างพัคมินยองเลยทีเดียว ใครชอบสายโรแมนติกคอมเมดี้ฟินๆ บอกเลยว่าต้องดูซีรี่ย์ยอดนิยมเรื่องนี้เลย

แนะนำซีรี่ย์ออกใหม่ปี 2024

Beauty Newbie หัวใจไม่มีปลอม

ซีรี่ย์ออนไลน์

ขอบคุณรูปภาพจาก GMMTV

วันที่เข้าฉาย : 19 กุมภาพันธ์ 2024
จำนวนตอน : 12 ตอน
นักแสดงนำ : หลิว รับบทโดยพิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ (ใบเฟิร์น), กาย รับบทโดย
เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร (วิน), เซ้นต์ รับบทโดยสพล อัศวมั่นคง (เกรท) และเฟย์
รับบทโดยรมิดา จีรนรภัทร (เจน)

เรื่องย่อและรีวิว : ซีรี่ย์เรื่องนี้มาจากเว็บตูนยอดฮิตของเกาหลี ซึ่งต่อมาในปี 2018 ได้ถูกนำไปสร้างเป็นซีรี่ย์เกาหลีแนวโรแมนติกเรื่องกังนัมบิวตี้หรือไอดีของฉันคือดอกไม้พลาสติกอีกด้วย เรียกได้ว่าซีรี่ย์ไทยเรื่องนี้เพิ่งจบกันไปแบบสดๆ ร้อนๆ สามารถดูย้อนหลังได้ทางซีรี่ย์ออนไลน์แบบครบทุกตอน

นักแสดงไทยที่คัดมานั้นเรียกได้ว่าตรงคาแรกเตอร์และมีฝีมือการแสดงที่ดีแบบสุดๆ ทำให้ซีรี่ย์ไทยเรื่องนี้น่าเก็บเข้าลิสต์เป็นอย่างมาก

ซีรี่ย์เรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับ หลิวนักศึกษามหาวิทยาลัยสาวคนหนึ่งที่ตัดสินใจทำศัลยกรรมทั้งหน้าให้สวยขึ้นจะได้ไม่มีใครมารังแกหรือดูถูกเธออีก (ไม่สวยก็อยู่ยากหน่อย) แต่โชคไม่เข้าข้างเพราะเธอดันมาอยู่คณะเดียวกับกาย นักศึกษาหนุ่มสุดหล่อผู้เป็นที่หมายปองของสาวๆ เขาดันจำได้ว่าหลิวคือเพื่อนเก่าของเขาสมัยมัธยมต้น ทำให้หลิวไม่ชอบกายเป็นอย่างมากเพราะกลัวว่ากายจะนำความลับของเธอไปบอกคนอื่น จุดเด่นอีกอย่างของเรื่องนี้คือบทของเฟย์เพื่อนที่สวยแบบธรรมชาติราวกับนางฟ้าของหลิว นิสัยที่แท้จริงของเธอจะสวยงามเหมือนรูปร่างและหน้าตาของเธอหรือไม่ แนะนำให้ทุกคนไปดู

สรุป รวมซีรี่ย์ไทยและเกาหลีแบบครบรส

วันหยุดนี้ใครอยากพักผ่อน ผ่อนคลายอยู่บ้านแนะนำให้ดูซีรี่ย์แนะนำที่เราคัดสรรมาให้ทุกคนแล้วว่าสนุก และดูได้ยาวๆ จนจบเรื่อง เหมาะสำหรับคนขี้เบื่อเพราะคัดมาให้ทุกแนว ทั้งตลกฮาน้ำตาเล็ด แก้แค้นชวนติดตาม หรือโรแมนติกฟินจิกหมอน ลองดูสักเรื่องรับรองติดใจแน่นอน หวังว่าทุกคนจะมีความสุขกับการดูซีรี่ย์เหมือนกับเรานะคะ


2
เอาท์เล็ท

รองเท้า เสื้อผ้า กระเป๋า เครื่องประดับนับว่าเป็นของที่ขายไม่ได้สำหรับสาว ๆ สายแฟชั่น แต่จะช็อปทั้งทีก็ต้องเอาให้คุ้ม ห้างเอาท์เล็ท (Outlet) แหล่งรวมสินค้าแฟชั่นแบรนด์เนมราคาสบายกระเป๋า ที่สาว ๆ สายแฟชั่นต้องไปลองเดินดูสักครั้ง ถ้าอยากรู้กันแล้วว่าสินค้าเอาท์เล็ท (Outlet) ดีอย่างไร ห้ามพลาดเนื้อหาในบทความนี้!

เอาท์เล็ทคืออะไร ขายแบรนด์เนมแท้จริงไหม?
ช็อปเอาท์เล็ท คือแหล่งรวมสินค้าแบรนด์เนมราคาสบายกระเป๋า ที่รวบรวมเสื้อผ้า เครื่องประดับ รองเท้า กระเป๋า และสินค้าแบรนด์เนมอื่น ๆ ทั้งของผู้ชายและผู้หญิงเอาไว้มากมาย แถมสินค้าเอาท์เล็ทยังมีราคาที่ถูกกว่าสินค้าที่ขายในช็อปทั่วไปมากกว่าครึ่ง โดยเหตุผลที่สินค้าเอาท์เล็ท (Outlet) มีราคาที่ถูกกว่าสินค้าออกช็อปเป็นเพราะสินค้าเอาท์เล็ท (Outlet) เป็นสินค้าที่ทางแบรนด์นำมาลดราคาเพื่อล้างสต๊อก โดยสินค้าที่ขายภายในช็อปอาจเป็นสินค้าที่เป็นคอลเลคชั่นเก่าที่เปิดตัวไปนานแล้ว มีตำหนิเล็กน้อย หรือเป็นสินค้าลิมิเต็ดที่ทางแบรนด์ตั้งใจนำมาจัดจำหน่ายตามห้างเอาท์เล็ท (Outlet)

ด้วยเหตุผลนี้สินค้าเอาท์เล็ท (Outlet) จึงเป็นสินค้าแบรนด์เนมแท้ 100% ที่มีราคาที่ถูกกว่าสินค้าที่ขายตามช็อป ใครที่กำลังสนใจหรือมีแพลนอยากไปซื้อของเอาท์เล็ทแต่ยังไม่มั่นใจว่าสินค้าเอาท์เล็ทดีไหม ถ้าช็อปไปจะเจอของปลอมหรือเปล่า เราบอกเลยว่าคุณสามารถสบายใจได้เลยเพราะสินค้าเอาท์เล็ท(Outlet) เป็นสินค้าแบรนด์เนมแท้ 100%

แนะนำเทคนิคเลือกซื้อสินค้าเอาท์เล็ทยังไงให้คุ้ม!
1. มองหาสินค้าที่ลดราคาสูงสุด
ถึงแม้สินค้าเอาท์เล็ท (Outlet) จะเป็นสินค้าแบรนด์เนมแท้ 100% ที่ถูกกว่าสินค้าออกช็อป แต่เราบอกเลยว่าสินค้าเอาท์เล็ท (Outlet) นั้นยังลดราคาให้ถูกลงได้อีก ก่อนไปช็อปสินค้าเอาท์เล็ทอย่าลืมที่จะมองหาโซนสินค้าเอาท์เล็ทลดราคาภายในห้าง เพราะสินค้าในโซนนั้นลดราคาสูงสุดถึง 80%

2. ใช้เวลาในการเลือกแบรนด์เนม เพราะของดีอาจอยู่ข้างใน
สำหรับท่านที่ยังไม่มีประสบการณ์การช็อปสินค้าเอาท์เล็ท (Outlet) เราบอกเลยว่าเมื่อท่านเข้าไปครั้งแรก ท่านจะละลานตากันสินค้าแบรนด์เนมราคาสุดคุ้มมากมาย แต่อย่าพึ่งรีบตัดสินใจซื้อเพราะของดีอาจซ่อนอยู่ ด้วยความที่ห้างเอาท์เล็ท (Outlet) เป็นแหล่งสินค้าแบรนด์เนม สินค้าภายในห้างจึงกระจายตัวอยู่ตามจุดต่าง ๆ มากมาย ถ้าท่านช็อปปิ้งสินค้าเอาท์เล็ท (Outlet) ครั้งแรก เราขอแนะนำให้เดินดูสินค้าให้ทั่วห้างก่อนตัดสินใจซื้อ

3. ช้อปกับเอาท์เล็ทที่เปิดโดยห้างสรรพสินค้า
ปัจจุบันสินค้าเอาท์เล็ท (Outlet) เป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย และเป็นที่รู้จักในวงกว้าง หากคุณเป็นมือใหม่หัดช็อปเอาท์เล็ท (Outlet) เราขอแนะนำให้ช็อปกับห้างที่ไว้ใจได้ เพราะสินค้าเอาท์เล็ท (Outlet) ในบางห้างอาจเป็นสินค้าที่ถูกนำเข้ามาอย่างผิดกฎหมาย หรือในเคสที่แย่ที่สุดคืออาจเป็นสินค้าปลอม

4. ใช้บัตรเครดิตอาจลดได้อีก
ช็อปเอาท์เล็ท (Outlet) ให้คุ้มกว่าเดิมด้วยโปรโมชันจากบัตรเครดิต หากท่านมีบัตรเครดิตอยู่ในมือรีบเช็คด่วน เพราะส่วนมากบัตรเครดิตจะมีโปรสำหรับผู้ถือบัตร ที่จะให้ส่วนลดทุกครั้งเมื่อช็อปสินค้าเอาท์เล็ท (Outlet)

รวมข้อดีเอาท์เล็ทที่คุณต้องรู้ก่อนช้อป!

สินค้า Outlet

แบรนด์เนมแท้
อย่างที่เราบอกไปว่าสินค้าเอาท์เล็ทเป็นสินค้าแบรนด์เนมของแท้ ทำให้ท่านสามารถช็อปแบรนด์เนมของแท้ 100% แบบไม่ต้องกังวล

สินค้าแบรนด์เนมบางชิ้นมีขายแค่ที่เอาท์เล็ทเท่านั้น!
ไม่ใช่แค่ของแท้ราคาถูกเท่านั้น เพราะช็อปเอาท์เล็ท (Outlet) ยังเป็นแหล่งรวมสินค้าลิมิเต็ดที่ทางแบรนด์ตั้งใจผลิตและจัดจำหน่ายเฉพาะช็อปเอาท์เล็ท (Outlet) ทำให้ท่านได้สินค้าแบรนด์เนมของแท้ราคาถูกแบบที่หาตามช็อปไม่ได้

เหมาะสำหรับคนงบน้อย
อย่างที่เราบอกไปว่าเอาท์เล็ท (Outlet) เป็นแหล่งรวมสินค้าแบรนด์เนมที่ราคาถูกกว่าช็อปมากกว่าครึ่ง แถมห้างเอาท์เล็ท (Outlet) ยังมีโปรโมชันลดราคาจากราคาป้ายที่ถูกอยู่แล้วอยู่บ่อยครั้ง ใครสายแบรนด์เนมงบจำกัดต้องจัดสินค้าเอาท์เล็ท (Outlet)

แบรนด์เนมเก่าที่หาซื้อยาก อยู่ที่นี่!
อย่างที่เราบอกไปว่าที่สินค้าเอาท์เล็ท (Outlet) มีราคาถูก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะสินค้าเอาท์เล็ท (Outlet) เป็นสินค้าคอลเลคชั่นเก่าที่ทางแบรนด์ตั้งใจนำมาขายในราคาที่ถูก หากท่านกำลังมองหาสินค้าแบรนด์เนมแรร์ไอเทมคอลเลคชั่นเก่าคุณอาจเจอสิ่งที่คุณตามหาที่ช็อปเอาท์เล็ท (Outlet) ก็ได้

แนะนำที่แหล่งช้อปเอาท์เล็ทที่น่าสนใจ ได้แบรนด์แท้ ราคาถูก!
ปัจจบันช็อปเอาท์เล็ท (Outlet) ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายและกระจายตัวอยู่ตาม Landmark ต่าง ๆ เป็นจำนวนมากโดยเฉพาะเอาท์เล็ทกรุงเทพ สำหรับท่านที่ยังไม่เคยมีประสบการณ์การช็อปสินค้า Outlet และไม่รู้ว่าช็อปเอาท์เล็ทมีอะไรบ้าง เราขอแนะนำเซ็นทรัลเอาท์เล็ท (Central Village Outlet) ช็อปเอาท์เล็ทสำหรับคนกรุง ที่เปิดตัวและได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม เนื่องจากเดินง่าย เดินสะดวก พื้นที่กว้างขวางสวยงาม มีการจัดร้านค้าได้เป็นหมวดหมู่ แถมยังสามารถพาน้องหมาน้องแมวมาเดินได้อีกด้วย รับรองว่าคนที่ช็อปเอาท์เล็ท (Outlet) ครั้งแรกไม่หลงอย่างแน่นอน 


3
ฝึกพูดภาษาอังกฤษ

ฝึกพูดภาษาอังกฤษด้วยตัวเองฟรี รวมทริคสำหรับคนที่เพิ่งหัดพูดภาษาอังกฤษ อยากพูดภาษาอังกฤษได้คล่อง ๆ บอกเลยว่าถ้าทำตามพูดได้แน่นอน

เพราะภาษาอังกฤษถือเป็นภาษาสากล ทำให้ใคร ๆ ก็อยากฝึกพูดภาษาอังกฤษ แต่หลายคนอาจจะรู้สึกว่ามันยากเพราะภาษาอังกฤษไม่ใช่ภาษาบ้านเกิด รวมทั้งอาจมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ทำให้รู้สึกยาก แต่ไม่ต้องห่วงไป เพราะเราได้รวบรวมเทคนิคการฝึกพูดภาษาอังกฤษเบื้องต้นมาไว้ให้แล้ว รับรองว่าถ้าอ่านจบ คุณจะได้เทคนิคดี ๆ ไปปรับใช้ในการฝึกพูดภาษาอังกฤษด้วยตัวเองจนสามารถพูดภาษาอังกฤษได้จนคล่องในที่สุด

ฝึกพูดภาษาอังกฤษดีอย่างไร

การฝึกพูดภาษาอังกฤษแน่นอนว่าย่อมมีข้อดี เพราะช่วยให้เรามั่นใจกล้าพูดกล้าแสดงออก การฝึกภาษาอังกฤษสามารถฝึกได้หลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นฝึกพูดภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง ฝึกกับครูที่สอน ฝึกกับเพื่อนหรือแม้กระทั่งฝึกพูดภาษาอังกฤษกับชาวต่างชาติ  โดยเฉพาะชาวต่างชาติก็จะยิ่งทำให้เราสามารถจดจำสำเนียงการออกเสียงที่ถูกต้องได้

และไม่ได้มีแค่เรื่องความมั่นใจ การออกเสียงที่ถูกต้องเป็นข้อดีเท่านั้น แต่ยังมีเรื่องของการสร้างมิตรภาพ สร้างความสัมพันธ์กับเพื่อนใหม่ ๆ อีกด้วย ทำให้ช่วยฝึกเรื่องทักษะการเข้าสังคม ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งวิธีฝึกพูดภาษาอังกฤษให้เก่ง เพราะภาษาอังกฤษเป็นตัวกลางภาษา มักใช้เป็นภาษาที่ 2 หากไม่ใช่ภาษาบ้านเกิด ภาษาอังกฤษจึงถือเป็นประตูไปสู่สากล ทำให้เราสามารถมีเพื่อนที่พูดภาษาอังกฤษได้ ไม่เพียงแต่เจ้าของภาษาเท่านั้น แต่เป็นเพื่อน ๆ ประเทศอื่นที่สามารถใช้ภาษาอังกฤษได้เช่นกัน

แนะนำ 5 วิธี ฝึกพูดภาษาอังกฤษให้ได้ผลดี

วิธีพูดภาษาอังกฤษให้เก่ง

เชื่อว่ามีหลาย ๆ คนรออ่านเทคนิคสำหรับวิธีการฝึกพูดภาษาอังกฤษอยู่กันแน่นอน ต้องทำยังไง ฝึกแบบไหนถึงจะเก่ง เรามีเทคนิคดี ๆ 5 เทคนิคมาแบ่งปัน
 
1. ฝึกพูดภาษาอังกฤษกับตัวเอง

การฝึกพูดภาษาอังกฤษกับตัวเอง ไม่ว่าจะพูดเปล่า ๆ ขึ้นมาหรือพูดหน้ากระจก เป็นการฝึกให้เราคุ้นชิน ช่วยให้เริ่มคิดคำต่าง ๆ เป็นภาษาอังกฤษ อีกทั้งยังเพิ่มความกล้า หากไม่รู้คำศัพท์คำไหนก็จะสามารถเปิดหาได้ทันทีโดยไม่กระอั่กกระอ่วนใจ ไม่ต้องกลัวโดนจำผิด มีความสบายใจ และเมื่อเราคุ้นเคยกับภาษาอังกฤษมากขึ้นก็จะทำให้เรากล้าที่จะใช้ภาษาอังกฤษกับคนอื่นมากขึ้น

2. ฝึกพูดภาษาอังกฤษกับเพื่อน

เพื่อนคนไทยด้วยกันเองนี่แหละที่จะช่วยฝึกภาษาอังกฤษให้คุณได้ อาจมีการตั้งกฎใช้ภาษาอังกฤษ 1-2 ชั่วโมง  โดยใครที่เผลอใช้ภาษาไทย อาจมีการทำโทษ โดนปรับ หรือเลี้ยงข้าวในกลุ่ม บอกเลยว่านอกจากจะได้ภาษาแล้วยังได้กระชับความสัมพันธ์กับเพื่อนอีกด้วย แต่ต้องกล้าพูดกันและไม่คอยจับผิดหรือล้อเลียนกันนะ!

3. ฝึกพูดภาษาอังกฤษกับเจ้าของภาษา

หากใครที่มีเพื่อนของเพื่อนเป็นเจ้าของภาษาหรือมีเพื่อนต่างชาติเจ้าของภาษา ก็อาจจะลองรวบรวมความกล้าฝึกพูดภาษาอังกฤษกับชาวต่างชาติเหล่านั้นดู หรือหากใครที่ไม่มีเพื่อนต่างชาติ ก็ลองโหลดแอปพลิเคชันหาเพื่อนต่างชาติมาดู เพราะปัจจุบันเทคโนโลยีกว้างไกล ผู้คนเปิดรับมากขึ้น บางแอปพลิเคชันก็มีจัดหมวดหมู่แยกไปเลยว่าสำหรับการแลกเปลี่ยนภาษาเท่านั้น ซึ่งหลาย ๆ คนได้เพื่อนเพิ่มมาจากด้านนี้เยอะมาก ดีไม่ดีอาจจะได้คนรู้ใจก็ได้ คราวนี้รับรองได้พูดภาษาอังกฤษทั้งวันแน่ ๆ

4. ฝึกพูดภาษาอังกฤษกับหนังหรือซีรีย์

การฝึกภาษาอังกฤษจากหนังหรือซีรีย์ทำให้คนสามารถพูดได้คล่องมานักต่อนักแล้ว นอกจากการฝึกพูดออกเสียงตามเจ้าของภาษา ยังได้ฝึกทักษะอื่น ๆ อีก ไม่ว่าจะเป็นทักษะการฟังหรือการอ่าน หากเข้าใจภาษาอังกฤษอยู่แล้วขอแนะนำให้ลองเปลี่ยนซับไตเติ้ลเป็นภาษาอังกฤษดูจะยิ่งทำให้ระดับภาษาของเราก้าวกระโดดอย่างน่าตกใจเลยทีเดียว

5. ฝึกพูดภาษาอังกฤษกับสถาบันสอนภาษา

แน่นอนว่าการฝึกพูดภาษาอังกฤษกับสถาบันสอนภาษาย่อมเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะจะมีสอนให้หมดไม่ว่าจะเป็นการออกเสียงที่ถูกต้องตามหลัก การใช้คำศัพท์ รวมทั้งระดับภาษา การสนทนาเพื่อการสื่อสาร การสนทนาเพื่อธุรกิจ นอกจากจะได้ฝึกสนทนาภาษาอังกฤษแล้ว บางสถาบันก็จะช่วยปรับบุคลิกเราไปด้วยเช่นกัน

มาดูกันว่าคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับฝึกพูดภาษาอังกฤษมีอะไรกันบ้าง

ฝึกพูดภาษาอังกฤษอย่างไรให้เห็นผล?

การจะฝึกพูดภาษาอังกฤษให้เห็นผล ต้องใช้เวลาฝึกคลุกคลีอย่างน้อย ๆ 1 เดือน วันละ 1-2 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อยเพราะการฝึกฝนต้องใช้เวลา ยิ่งให้เวลากับการฝึกก็จะยิ่งเห็นผล และเพื่อให้แน่ใจว่าการฝึกของเราได้ผลแน่นอนว่าต้องได้ลองใช้งานจริงด้วย

ไม่มีพื้นฐานเลยจะฝึกพูดภาษาอังกฤษได้ไหม?

หลายคนอาจจะกังวลเรื่องนี้ แต่บอกเลยว่าการฝึกภาษาอังกฤษ แม้จะไม่มีพื้นฐานแต่ถ้าเราตั้งใจอย่างไรก็เห็นผล ที่สำคัญต้องเอาตัวเองไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ได้ใช้ภาษานั้น ๆ ด้วย เพราะสมัยก่อน ก็มีหลาย ๆ กรณีที่มีคนพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย แต่ต้องไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ทุกคนพูดภาษาอังกฤษ ทำให้กลายเป็นว่าคนนั้นสามารถพูดได้คล่องปร๋อ เหมือนเจ้าของภาษาเลยทีเดียว

ฝึกมานานทำไมพูดภาษาอังกฤษไม่ได้สักที??

ในบางคนการฝึกพูดภาษาอังกฤษด้วยตัวเองอาจไม่เหมาะเท่าไหร่นัก จำเป็นต้องมีคนช่วยชี้แนะ การเข้าเรียนฝึกพูดภาษาอังกฤษกับสถาบันภาษาอาจจะเหมาะกว่า เพราะมีคนคอยให้คำแนะนำ การออกเสียง รูปปาก รวมทั้งได้ฝึกตอบโต้กับคนจริง ๆ ด้วย เพราะจะได้เข้าใจสถานการณ์และเรียนรู้ที่จะตอบโต้คู่สนทนาอย่างไร

สรุปฝึกพูดภาษาอังกฤษอย่างไรให้ได้ผล

การฝึกพูดภาษาอังกฤษให้ได้ผล ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งตัวผู้พูดเองและสิ่งแวดล้อม รวมถึงสไตล์การเรียนรู้ของแต่ละคน ควรมองหาวิธีการฝึกที่เหมาะกับตัวเอง ที่สำคัญคือต้องสม่ำเสมอและได้ใช้งานจริงอยู่เรื่อย ๆ เพราะจะช่วยให้สามารถพูดได้คล่อง ไม่ลืม และสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้ราวกับเป็นภาษาบ้านเกิดนั่นเอง

4
กลองไฟฟ้า

ณ ปัจจุบันที่เทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทในหลาย ๆ วงการ ซึ่งได้รวมถึงวงการเครื่องดนตรีด้วยเช่นกัน กลองก็เป็นหนึ่งในเครื่องดนตรีที่ได้รับการพัฒนาด้วยเทคโนโลยีจนเกิดเป็น “กลองไฟฟ้า” ขึ้นมา ซึ่งกลองไฟฟ้าได้กลายเป็นเครื่องดนตรีที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยคุณสมบัติที่หลากหลาย สามารถตอบโจทย์ทั้งนักดนตรีมือใหม่และมืออาชีพ

บทความนี้จะพาไปทำความรู้จักกับกลองไฟฟ้าว่าเหมาะใครบ้างและมีความแตกต่างจากกลองชุดอย่างไร พร้อมทั้งเปรียบเทียบคุณภาพและราคากลองไฟฟ้าว่ามีความแตกต่างอย่างไรบ้าง

กลองไฟฟ้าเหมาะกับใครบ้าง

กลองไฟฟ้า (Electric Drum) เป็นกลองประเภทหนึ่งที่ใช้แผ่นเซนเซอร์แทนหนังกลอง ทำให้เมื่อตีลงไปบนแผ่นเซนเซอร์สัญญาณเสียงจะถูกส่งไปยังเครื่องควบคุม (Drum Module) ทำให้เกิดเสียงเสมือนกลองจริง โดยกลองไฟฟ้าจะมีหลายแบบ หลายขนาด หลายราคาให้เลือกใช้งาน

ซึ่งข้อดีของกลองไฟฟ้าจะมีดังนี้

  • กลองไฟฟ้าสามารถเล่นได้ทุกที่ทุกเวลาโดยที่ไม่ต้องกังวลเรื่องเสียงรบกวน จึงเหมาะสำหรับฝึกซ้อมในบ้าน คอนโด หรือหอพัก
  • กลองไฟฟ้าสมัยใหม่จะมีเสียงกลองที่สมจริง มีความหลากหลาย และสามารถปรับแต่งได้ตามต้องการ
  • มีฟังก์ชันการใช้งานให้เลือกใช้มากมายทั้ง เมตรอนอม เสียงประกอบ หรือการบันทึกเสียงเป็นต้น
  • กลองไฟฟ้าแบบพกพามีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา พกพาสะดวก เหมาะสำหรับการฝึกซ้อมนอกสถานที่

นอกจากนี้จะมีกลองไฟฟ้าแบบครบชุดที่จะเหมาะสำหรับมืออาชีพกับกลองไฟฟ้าแบบชุดย่อยที่เหมาะสำหรับมือใหม่ให้ได้เลือกใช้งาน

กลองไฟฟ้ากับกลองชุดต่างกันอย่างไร

อย่างที่ได้ทราบกันไปแล้วว่ากลองไฟฟ้าถูกพัฒนามาจากกลองชุด ซึ่งส่งผลให้กลองทั้งสองประเภทนี้มีความแตกต่างกันทั้งในด้านวิธีการใช้งาน เสียง และการให้ความรู้สึกขณะใช้งาน โดยข้อแตกต่างระหว่างกลองไฟฟ้ากับกลองชุดจะมีดังนี้

  • วัสดุหน้ากลอง
    กลองไฟฟ้าจะเป็นแผ่นเซ็นเซอร์เชื่อมสัญญาณเสียงกับเครื่องควบคุม ขณะที่กลองชุดจะใช้หนังกลองแท้เมื่อตีจะเกิดเสียงตามธรรมชาติ
  • เสียง
    กลองไฟฟ้าสามารถปรับแต่งเสียงได้หลากหลาย ขณะที่กลองชุดจะมีเสียงกลองตามขนาด วัสดุ และวิธีการตี
  • ความรู้สึกขณะใช้งาน
    เนื่องจากกลองไฟฟ้าเป็นการตีลงบนแผ่นเซ็นเซอร์จึงทำให้รู้สึกนุ่มนวลกว่ากลองชุดที่รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนขณะตี
  • ลักษณะการใช้งาน
    กลองไฟฟ้าจะเหมาะสำหรับการฝึกซ้อมในพื้นที่ที่จำกัด ในขณะที่กลองชุดจะเหมาะสำหรับการเล่นดนตรีสดหรือการแสดงบนเวที

กลองไฟฟ้ามีราคาเท่าไรบ้าง

กลองชุดไฟฟ้า ราคา

กลองไฟฟ้ามีหลากหลายราคาให้เลือกซื้อตามฟังก์ชันการใช้งาน แบรนด์ รวมไปถึงรุ่นที่จำหน่าย โดยคร่าว ๆ แล้วราคากลองชุดไฟฟ้าสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่มตามราคาดังนี้

  • กลองไฟฟ้าราคาประหยัด จะมีราคาตั้งแต่ 5,000 - 15,000 บาท กลองไฟฟ้าในรุ่นนี้จะเหมาะสำหรับมือใหม่ที่กำลังเริ่มต้นหัดเล่น โดยจะมีฟังก์ชันการใช้งานไม่มากและเสียงกลองอาจไม่สมจริงเท่ารุ่นราคาที่แพงกว่า
  • กลองไฟฟ้าราคาปานกลาง จะมีราคาตั้งแต่ 15,000 - 40,000 บาท กลองไฟฟ้ารุ่นนี้จะเหมาะสำหรับมือสมัครเล่นและมืออาชีพ ด้วยฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครันพร้อมเสียงกลองที่สมจริง
  • กลองไฟฟ้าราคาสูง จะมีราคาตั้งแต่ 40,000 บาทขึ้นไป กลองไฟฟ้ารุ่นนี้จะเหมาะกับมืออาชีพ ด้วยฟังก์ชันการใช้งานที่ครบเครื่อง เสียงกลองที่สมจริง และใช้วัสดุในการผลิตที่มีคุณภาพสูง

กลองไฟฟ้าราคาถูกกับราคาแพงต่างกันไหม

จากที่ได้ทราบกันไปแล้วว่ากลองไฟฟ้านั้นมีให้เลือกหลายรุ่นหลายราคา ซึ่งความแตกต่างหลัก ๆ ระหว่างกลองไฟฟ้าราคาแพงกับกลองไฟฟ้าราคาถูกจะขึ้นอยู่กับรายละเอียดดังต่อไปนี้

  • ฟังก์ชันการใช้งาน กลองไฟฟ้าราคาถูกจะมีฟังก์ชันการใช้งานที่จำกัดเช่น ไม่มีเสียงประกอบ ไม่มีการบันทึกเสียง หรือการปรับเปลี่ยนเสียงเป็นต้น ซึ่งจะต่างจากกลองไฟฟ้าราคาแพงที่มีฟังก์ชันครบครัน
  • เสียง กลองไฟฟ้าราคาถูกจะมีเสียงกลองที่ไม่สมจริงเท่ากลองไฟฟ้าราคาแพง
  • วัสดุ วัสดุที่ใช้ในการผลิตกลองไฟฟ้าราคาถูกจะมีคุณภาพต่ำกว่ากลองไฟฟ้าที่มีราคาแพง
  • ความทนทาน สอดคล้องกับเรื่องวัสดุก็จะส่งผลให้กลองไฟฟ้าราคาถูกมีความทนทานน้อยกว่ากลองไฟฟ้าราคาแพงเช่นกัน
  • แบรนด์ อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่สร้างความแตกต่างระหว่างกลองไฟฟ้าราคาถูกกับกลองไฟฟ้าราคาแพงคือเรื่องของแบรนด์นั่นเอง ซึ่งจะสะท้อนออกมาผ่านภาพลักษณ์การออกแบบของแต่ละแบรนด์ที่มีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

ซื้อกลองไฟฟ้าที่ไหนดี

การเลือกซื้อกลองไฟฟ้าในปัจจุบันนั้นมีหลากหลายช่องทางให้เลือกซื้อไม่ว่าจะเป็น ห้างสรรพสินค้า ซื้อออนไลน์ทางเว็บไซต์ หรือจะเป็นร้านขายเครื่องดนตรี แต่ว่าช่องทางที่ดีที่สุดคือการเลือกซื้อกับร้านที่ขายกลองไฟฟ้าโดยเฉพาะ เพราะสามารถขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่ขายเครื่องดนตรีได้โดยตรง อีกทั้งยังสามารถทดลองเล่นรวมถึงสัมผัสสินค้าจริงได้ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อกลองไฟฟ้าได้อีกด้วย

สรุปเกี่ยวกับกลองไฟฟ้า

กลองไฟฟ้าถือได้ว่าเป็นเครื่องดนตรีที่มีการผสมผสานระหว่างเครื่องดนตรีกับเทคโนโลยีได้อย่างลงตัว อีกทั้งจุดเด่นของกลองไฟฟ้ายังมีให้เลือกหลายช่วงราคาและหลายรูปแบบ ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานที่แตกต่างกันได้ทั้งมือสมัครเล่นและมืออาชีพ สำหรับใครที่กำลังสนใจอยากเริ่มเล่นเครื่องดนตรีสักชิ้นหนึ่งกลองชุดไฟฟ้าถือได้ว่าเป็นเครื่องที่น่าสนใจสำหรับมือใหม่เป็นอย่างมาก

5
ภาวะมีบุตรยากเป็นปัญหาน่าหนักใจสำหรับหลายครอบครัว หลายคู่อยากเติมเต็มครอบครัวให้สมบูรณ์ด้วยการมีลูก แต่ด้วยปัจจัยสภาพร่างกายจึงทำให้ไม่สามารถมีลูกได้ แต่ปัญหานี้สามารถแก้ได้ด้วย IVF หรือการทำเด็กหลอดแก้ว มีหลายคนที่เข้าใจผิดว่า IVF ราคาแพง ทำให้คนถอดใจไม่ได้ตัดสินใจเลือก IVF มาแก้ปัญหาภาวะมีบุตรยาก ซึ่งนั่นเป็นความเข้าใจที่ผิด

ก่อนจะไปดูว่า IVF ราคาเท่าไหร่ เพื่อไปประกอบการตัดสินใจ เราต้องรู้ก่อนว่า IVF มีกระบวนการรักษาอย่างไร การทำ IVF คือ การผสมเทียมรูปแบบหนึ่ง โดยการคัดเซลล์อสุจิจากฝ่ายชาย และเซลล์ไข่จากฝ่ายหญิง ที่มีสภาพสมบูรณ์ มาใส่รวมกันในหลอดแก้ว เพื่อเร่งให้เกิดกระบวนการปฏิสนธิ เป็นที่มาของชื่อการทำเด็กหลอดแก้ว

ปัญหาภาวะมีบุตรยากนั้นมีตั้งแต่ ปัญหาด้านการหลั่งของฝ่ายชาย หรือท่อนำไข่ตีบของฝ่ายหญิง ดังนั้นการทำ IVF จะตัดกระบวนการที่เซลล์อสุจิต้องว่ายไปเซลล์ไข่เพื่อทำการปฏิสนธิ ช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ได้สูงมากขึ้น

ทุกกระบวนการของการทำ IVF จำเป็นต้องทำโดยผู้เชี่ยวชาญ และทำในห้องปลอดเชื้อ ซึ่งทุกกระบวนการย่อมมีต้นทุน อาจทำให้ IVF ราคาสูง แต่หากดูตัวเลขแล้ว มันก็ไม่ใช่ราคาที่แพงเกินจนไม่สามารถจับต้องได้ เพราะสิ่งที่ได้จากการทำ IVF นั้นคุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไป โดยรายละเอียด IVF ราคาเท่าไหร่ มาดูได้จากบทความนี้

IVF ราคาที่คุ้มค่าต่อการจ่าย

ค่าใช้จ่ายสำหรับการทำเด็กหลอดแก้ว IVF

เพื่อให้เห็นภาพรวมของค่าใช้จ่ายในการทำ IVF ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น เรามาดูในราคาในแต่ละขั้นตอนว่า ตัวเลขประมาณการอยู่ที่เท่าไหร่ เพื่อจะได้ทราบว่า IVF ราคาสูงมาจากส่วนไหนบ้าง

1. ปรึกษาแพทย์ และตรวจร่างกายเบื้องต้น : 1,500 - 2,000 บาท
2. ตรวจความผิดปกติในโพรงมดลูก : 15,000 - 20,000 บาท (สำหรับคุณผู้หญิงที่มีปัญหาเกี่ยวกับโพรงมดลูก)
3. การฉีดยาเพื่อกระตุ้นเซลล์ไข่ : 30,000 - 55,000 บาท
4. การตรวจอัลตราซาวด์ : 800 - 1,500 บาท
5. กระบวนการเก็บไข่, การปฏิสนธิภายนอก และการเพาะเลี้ยงเซลล์ในห้องปลอดเชื้อ : 50,000 - 60,000 บาท
6. การนำเซลล์เอ็มบริโอเข้าสู่มดลูก : 15,000 - 30,000 บาท
7. การเก็บตัวอย่างเซลล์อสุจิ : 25,000 - 30,000 บาท (สำหรับคุณผู้ชายที่มีปัญหาด้านการหลั่ง)
8. การเก็บแช่แข็งไข่หรือเอ็มบริโอ : 5,000 - 7,000 บาท (สำหรับคู่ที่ต้องการเก็บเอ็มบริโอ เนื่องจากยังไม่พร้อมตั้งครรภ์)
9. การนำเอ็มบริโอที่แช่แข็งไว้ กลับมาใช้ : 10,000 - 15,000 บาท (สำหรับคู่ที่ต้องการเก็บเอ็มบริโอ เนื่องจากยังไม่พร้อมตั้งครรภ์)
10. การตรวจทางพันธุกรรมในตัวอ่อน : 80,000 - 120,000 บาท (ไม่จำเป็นต้องตรวจทุกคน)
11. การตรวจครรภ์และเตรียมก่อนฝากครรภ์ : 2,500 - 4,500 บาท
รวม 70,000 - 270,000 บาท

จะเห็นได้ว่าราคาขั้นต่ำไปจนถึงราคาสูงสุดมีความแตกต่างค่อนข้างมาก เพราะในบางกระบวนการก็ไม่จำเป็นสำหรับบางคู่ และยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อราคา ดังนั้นจะเห็นได้ว่า IVF ราคาของมันไม่ได้แพงจนเกินเอื้อม

การทำเด็กหลอดแก้วเหมาะกับใคร การทำ IVF มีข้อดีอย่างไร

การทำเด็กหลอดแก้ว หรือการทำ IVF เหมาะกับคนกลุ่มนี้บ้าง ข้อมูลนี้ก็มีความจำเป็นที่ต้องศึกษาไว้ เนื่องจากการทำ IVF ราคาของมันอาจจะสูงเมื่อเทียบกับการผสมเทียบแบบอื่น ๆ ดังนั้นควรพิจารณาเบื้องต้นก่อนว่าปัจจัยภาวะมีบุตรยากของเรานั้นรุนแรงจนถึงขั้นที่ต้องทำ IVF หรือไม่ โดยกลุ่มผู้ที่เหมาะกับการทำ IVF มีดังนี้

• ฝ่ายหญิงมีปัญหาท่อนำไข่อุดตัน หรือมีปัญหาเกี่ยวกับเยื่อบุโพรงมดลูก
• ฝ่ายหญิงที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป เซลล์ไข่เสื่อมคุณภาพ
• ฝ่ายชายมีปัญหาด้านการหลั่ง และเซลล์อสุจิในน้ำเชื้อมีความผิดปกติ เช่น มีจำนวนอสุจิน้อย หรือเซลล์อสุจิเคลื่อนที่ได้ไม่ดี ไม่สามารถว่ายไปถึงรับไข่ได้
• คู่ที่พยายามมีบุตรมานานกว่า 3 ปีแต่ยังไม่ตั้งครรภ์
• คู่ที่เคยใช้วิธีผสมเทียม IUI หรือการฉีดน้ำเชื้อเข้าโพรงมดลูก แต่ยังไม่ตั้งครรภ์

IVF เหมาะกับใคร

การเตรียมตัวสำหรับการทำเด็กหลอดแก้ว IVF

จริงอยู่ที่อัตราการตั้งครรภ์จากการทำ IVF จะสูง แต่การเตรียมตัวก่อนทำ IVF ก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยเพิ่มโอกาสได้มากขึ้น แม้เล็กก็ตาม เพราะเนื่องจาก IVF ราคาสูงประมาณหนึ่ง ดังนั้นหากตัดสินใจจะลงมือทำแล้ว ก็ควรเตรียมตัวให้พร้อมก่อนเข้ากระบวนการ ลดทุกปัจจัยที่จะไปส่งผลกระทบกับการรักษา โดยการเตรียมตัวก่อนทำ IVF ของทั้งฝ่ายชาย และฝ่ายหญิง มีดังนี้

การเตรียมตัวก่อนการทำ IVF สำหรับฝ่ายชาย

• ไม่ควรสวมใส่กางเกงชั้นในที่รัดแน่นจนเกินไป
• หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้ร่างกายมีอุณหภูมิสูงเกินไป เช่น การลงแช่อ่างน้ำอุ่นและการทำซาวน่าก่อนเข้ากระบวนการ
• พักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง
• ไม่เครียดจนเกินไป ทำจิตใจให้สบาย
• ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่หักโหมจนเกินไป
• งดสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 3 เดือนก่อนเข้ากระบวนการ

การเตรียมตัวก่อนการทำ IVF สำหรับฝ่ายหญิง

• ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละไม่ต่ำกว่า 2 ลิตร และรับประทานอาหารจำพวกโปรตีน อย่างน้อยวันละประมาณ 60 มิลลิกรัม
• หากมีการทานยาเพื่อบรรเทาอาการปวด ก่อนทานควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง
• ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่หักโหมจนเกินไป
• ควรหลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟ หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน
• พักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง
• งดสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 3 เดือนก่อนเข้ากระบวนการ

การเตรียมตัวก่อนทำ IVF

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการทำ IVF

อายุ 40 สามารถทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) ได้หรือไม่ ?

สำหรับคุณผู้หญิงที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป เหมาะสมสำหรับการทำเด็กหลอดแก้วอย่างมาก เนื่องจากอายุ 40 ปี เซลล์ไข่จะเริ่มเสื่อม และการทำ IVF จะช่วยแก้ปัญหาข้อนี้ได้

ข้อจำกัดสำหรับการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) มีอะไรบ้าง?

ในบางกรณีที่อาการภาวะมีบุตรยากรุนแรงมาก เช่น ฝ่ายหญิง มดลูกมีความผิดปกติ หรือเป็นโรคร้ายแรงไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ ฝ่ายชาย เซลล์อสุจิมีปัญหาจนไม่สามารถปฏิสนธิได้ตามปกติ ปัญหาที่กล่าวมานี้เป็นข้อจำกัดของ IVF

สรุปข้อดีและราคาของการทำ IVF

IVF หรือการทำเด็กหลอดแก้วเป็นวิธีการผสมเทียมที่เพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ได้สูง ช่วยให้ครอบครัวที่มีปัญหาภาวะมีบุตรยากสามารถมีลูกน้อยได้ แม้ว่าหลายคนอาจจะมองว่า IVF ราคาค่อนข้างสูง แต่มันเป็นราคาที่คุ้มค่าหากสามารถเติมเต็มครอบครัวให้สมบูรณ์ได้ และหลายสถานบริการก็เปิดให้สามารถผ่อนชำระได้ เพื่อช่วยลดภาระทางการเงิน

ดังนั้นการเลือกศูนย์ดูแลผู้มีบุตรยาก ควรเลือกที่มีคุณภาพ มีมาตรฐานการรักษา และมีราคาที่เหมาะสม ซึ่ง Safe Fertility เป็นศูนย์ดูแลผู้มีบุตรยากที่มีประสบการณ์และความพร้อมในการให้คำปรึกษาและช่วยแก้ปัญหาภาวะมีบุตรยากให้กับทุกครอบครัว

6
ปลดหนี้

ปัญหาทางการเงินของคนวัยทำงานคงหนีไม่พ้นเรื่องของหนี้สิน ซึ่งแน่นอนว่าหลายคนมีความคิดที่จะปลดหนี้แต่เนื่องด้วยสภาพคล่องทางการเงินของแต่ละบุคคลไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนทำให้การปลดหนี้เป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก เนื่องจากในปัจจุบันค่าของชีพสูงขึ้นสวนทางกับรายได้จึงทำให้กลุ่มวัยทำงานมีการกู้สินเชื่อหรือหนี้นอกระบบมากขึ้นทุกปีทำให้ยากที่จะปลดหนี้ เกิดปัญหาหนี้เยอะอยากปลดหนี้หรือหาวิธีการปลดหนี้ให้เร็วที่สุดแต่ก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร ซึ่งบทความนี้จะมาแชร์เทคนิคการปลดหนี้ฉบับที่มนุษย์เงินเดือนสามารถทำตามได้ง่ายๆ

ปลดหนี้นอกระบบเปลี่ยนมากู้สินเชื่อถูกกฎหมาย

เมื่อขาดสภาพคล่องทางการเงินทำให้บางคนหันไปใช้วิธีการปลดหนี้แบบผิดๆ ทำให้เป็นหนี้นอกระบบซึ่งมีความเสี่ยงในหลายด้านอีกทั้งหนี้นอกระบบยังคิดดอกเบี้ยที่สูงเกินกว่ากฎหมายกำหนด ทำให้การหาเงินปลดหนี้นอกระบบเป็นเรื่องที่ทำได้ค่อนข้างยาก ซึ่งวิธีการปลดหนี้นอกระบบที่ดีที่สุดคือการเปลี่ยนจากปลดหนี้นอกระบบมาเป็นกู้สินเชื่อที่ถูกต้องตามกฎหมาย โดยทางธนาคารจะตรวจสอบเครดิตทางการเงินเพื่อให้สามารถกู้สินเชื่อผ่าน โดยคุณจะต้องไม่เป็นหนี้หรือค้างชำระหนี้มาก่อน ปลดหนี้กับธนาคารเป็นวิธีที่ดีกว่าปลดหนี้นอกระบบเพราะจ่ายอัตราดอกเบี้ยน้อยกว่าและสามารถผ่อนชำระได้ตามกำลัง ทำให้เกิดสภาพคล่องทางการเงิน

5 วิธีแนะนำ หนี้ครั้งนี้ต้องปลดได้!

หลีกเลี่ยงการเพิ่มจำนวนหนี้สิน

แน่นอนว่าบางคนอาจจะมีการกู้ยืมเงินกยศ. หรือการเป็นหนี้บัตรเครดิต หากต้องการปลดหนี้ควรที่จะต้องชำระหรือปลดหนี้กยศ. หลีกเลี่ยงการเป็นหนี้บัตรเครดิตโดยจะต้องหาวิธีปลดหนี้บัตรเครดิตหรือผ่อนชำระให้ครบจึงจะสามารถปลดหนี้ได้ และไม่ควรที่จะสร้างหนี้เพิ่มหากอยากหมดหนี้ เป็นการปรับพฤติกรรมการใช้จ่ายที่ควรทำเป็นอันดับแรกหากต้องการปลดหนี้ให้สำเร็จ

กู้เท่าที่จำเป็น

วิธีปลดหนี้ให้หมดเร็วนั้นควรเลือกกู้เท่าที่จำเป็นเท่านั้นเพื่อที่จะจะได้สามารถปลดหนี้ได้ไวขึ้น การกู้สินเชื่อเพื่อซื้อบ้านและอสังหาริมทรัพย์ ควรจะดูกำลังความสามารถในการผ่อนชำระหนี้ว่าสามารถผ่อนไหวและควรหาวิธีปลดหนี้ธกให้ไวที่สุดเพื่อให้มีอิสระทางการเงินที่มั่นคงในอนาคต การเป็นหนี้บัตรเครดิตในบางกรณีก็เป็นสิ่งที่จำเป็นเนื่องจากการขาดสภาพคล่องทางการเงิน แต่เราก็ควรที่จะต้องรู้วิธีปลดหนี้บัตรเครดิตเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบตามมา

ปรับนิสัย ไม่ฟุ้งเฟ้อ

การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้จ่ายโดยการลดหรือตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกไป จะทำให้สามารถปลดหนี้ได้ไวขึ้น วิธีการปลดหนี้วิธีนี้จะช่วยปรับนิสัยการใช้จ่ายในแต่ละวัน ทำให้สามารถหาทางออกเรื่องเงินและเป็นวิธีปลดหนี้เร็วที่สุด หากอยากปลดหนี้บัตรเครดิตควรเริ่มใช้วิธีนี้ในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม

เจรจากับเจ้าหนี้ดีกว่าหยุดใช้หนี้

หากเป็นหนี้อยากปลดหนี้หรือกู้ยืมเงินนอกระบบอยากปลดหนี้รายวัน ควรที่จะคุยกับเจ้าหนี้เพื่อต่อรองการผ่อนชำระหนี้ อยากปลดหนี้นอกระบบควรที่จะหาเงินก้อนปลดหนี้หรือเจรจาผ่อนชำระเป็นงวดๆ ควรที่จะทำสัญญาการกู้ยืมเงินเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อให้เกิดความมั่นใจทั้งสองฝ่าย วิธีปลดหนี้นอกระบบวิธีนี้จะทำให้สามารถปลดหนี้ได้เร็วที่สุด

เงินเดือนออก จ่ายหนี้ก่อนใช้เสมอ

หากคุณมีหนี้เยอะและอยากปลดหนี้ให้ได้ไวที่สุดควรที่จะชำระหนี้ทันทีเมื่อเงินเดือนเข้า การปลดหนี้ด้วยวิธีนี้ เป็นวิธีปลดหนี้ให้เร็วที่สุดสามารถทำได้ง่ายแต่ก็ต้องหักห้ามใจในการไม่สร้างหนี้เพิ่ม อยากปลดหนี้บัตรเครดิตปลดหนี้สินเชื่อในการกู้ยืม เช่น ธกส, กยศ, ปลดหนี้ออมสิน เป็นต้น วิธีนี้ก็เป็นวิธีที่สามารถปลดหนี้ที่ให้ผลลัพธ์ที่ดีที่อยากแนะนำ 

หนี้นอกระบบ ภัยร้ายที่ทุกคนต้องระวัง

แน่นอนว่าทุกๆคนน่าจะเคยได้ยินข่าวเรื่องของการทวงหนี้นอกระบบซึ่งเป็นหนี้ที่ผิดกฎหมาย ความน่ากลัวของหนี้นอกระบบคือการจ่ายอัตราดอกเบี้ยที่สูงเกินกว่ากฎหมายกำหนด การแบกรับดอกเบี้ยที่สูงทำให้ต้องหาวิธีปลดหนี้ซึ่งทำให้คนที่เป็นหนี้อยากปลดหนี้ให้ได้ไวที่สุด การใช้ความรุนแรงในการทวงหนี้นอกระบบทำให้จะต้องหาวิธีปลดหนี้รายวัน ซึ่งความเสี่ยงของหนี้นอกระบบจะไม่มีสัญญาการกู้เงินยืมเงินที่ชัดเจนทำให้ยากต่อการปลดหนี้ ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการกู้ยืมเงินนอกระบบและควรใช้วิธีปลดหนี้ที่ถูกต้อง

ข้อแนะนำหากมีหนี้นอกระบบ

วิธีปลดหนี้

เทคนิคปลดหนี้ที่สามารถทำได้ สำหรับคนที่ไม่มีเงินพอที่จะปลดหนี้นอกระบบหรือไม่มีอัตรากำลังพอที่จะผ่อนจ่ายดอกเบี้ยที่สูง โดยวิธีปลดหนี้หลักแสนหรือวิธีปลดหนี้รายวันคือการกู้สินเชื่อกับทางธนาคาร การขอสินเชื่อกับทางธนาคารเป็นการกู้ยืมเงินที่ถูกกฎหมายโดยจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ

1. สินเชื่อที่ไม่ใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน เป็นสินเชื่อส่วนบุคคลโดยทางธนาคารจะเป็นผู้ตรวจสอบเครดิตของผู้กู้ยืมก่อน จะต้องมีคุณสมบัติเป็นผู้ที่มีเครดิตทางการเงินที่ดี ไม่ติดเครดิตบูโรหรือประวัติการค้างชำระหนี้ เป็นผู้มีรายได้หรือมีงานประจำที่สามารถตรวจสอบได้ การปลดหนี้ด้วยสินเชื่อที่ไม่ใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันจะมีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าการใช้ หลักทรัพย์ค้ำประกันแต่ก็ถือว่าถูกกว่าดอกเบี้ยหนี้นอกระบบ

2. ปลดหนี้ด้วยสินเชื่อที่ใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน คือ การขอสินเชื่อกับทางธนาคารโดยการนำสินทรัพย์มาใช้เป็นหลักประกัน ส่วนมากจะนิยมใช้วิธีนี้ในการขอกู้กับทางธนาคารซึ่งจะทำให้ได้เงินก้อนสามารถนำไปปลดหนี้นอกระบบได้ สำหรับใครที่ต้องการปลดหนี้นอกระบบสามารถใช้สินทรัพย์ เช่น บ้าน ที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ รถยนต์ รถมอเตอร์ไซต์ เป็นหลักทรัพทย์ค้ำประกันในการปลดหนี้ซึ่งจะให้ดอกเบี้ยที่ถูกกว่าสินเชื่อที่ไม่ใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน

สรุปเกี่ยวกับการปลดหนี้

การปลดหนี้คือ การชำระหรือผ่อนจ่ายหนี้ที่กู้ยืมมา อยากปิดหนี้มีวิธีที่สามารถทำตามได้ไม่ยาก หากสามารถทำได้ก็สามารถปลดหนี้ได้อย่างแน่นอน อยากปลดหนี้บัตรเครดิตสามารถทำตามวิธีปลดหนี้บัตรเครดิตได้ตามเทคนิคดังกล่าว ควรหลีกเลี่ยงการเป็นหนี้นอกระบบซึ่งมีความเสี่ยงในการจ่ายอัตราดอกเบี้ยที่สูงเกินกว่ากฎหมายกำหนดอีกทั้งยังมีความเสี่ยงในการทวงหนี้โดยใช้ความรุนแรง หลังจากปลดหนี้ได้แล้วควรวางแผนทางการเงินให้รัดกุมเพื่อสภาพคล่องทางการเงินในอนาคตและไม่ควรก่อหนี้เพิ่ม


7
ฝากไข่

การฝากไข่ (Egg Freezing) เป็นอีกแนวทางรักษาสำหรับผู้มีบุตรยาก หรือผู้ต้องการเก็บเซลล์ไข่ในช่วงเวลาที่ดี เพื่อรอตั้งครรภ์ในวันที่พร้อม ดังนั้น การฝากไข่จึงช่วยลดความเสี่ยงการมีบุตรยาก ทำให้การฝากไข่ด้วยศูนย์รักษาผู้มีบุตรยากจึงได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้น แล้วการฝากไข่นี้ มีขั้นตอนอย่างไร ต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง แล้วค่าใช้จ่ายราคาเฉลี่ยประมาณเท่าใด บทความนี้มีคำตอบ

ค่าใช้จ่ายโดยรวมของการฝากไข่
การฝากไข่ (Egg Freezing) เป็นเทคโนโลยีทางการแพทย์ ในการแช่แข็งเก็บรักษาเซลล์ไข่ เพื่อช่วยแก้ปัญหาสำหรับผู้มีบุตรยาก โดยจะมีราคาแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับหลาย ๆ ปัจจัย เช่น

• สุขภาพของว่าที่คุณพ่อและคุณแม่ หากมีปัญหาสุขภาพหลายประการก็อาจจะจำเป็นต้องได้รับการดูแลหรือรับประทานยาบำรุงมากขึ้น
• แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง
• สถานพยาบาลที่เลือกใช้

แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว ค่าใช้จ่ายสำหรับฝากไข่ราคาประมาณ 100,000 – 200,000 บาท ทั้งนี้ หากมีความต้องการเพิ่มเติม เช่น ต้องการทำเด็กหลอดแก้วร่วมด้วยก็จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม แต่สำหรับการฝากไข่กับธนาคารหรือที่เก็บไข่ก็จะมีค่าฝากไข่ด้วยเช่นกัน ดังนั้น ก่อนตัดสินใจ ควรศึกษาข้อมูลรายละเอียดและเงื่อนไขในการฝากไข่กับแต่ละสถานพยาบาลให้ดี เพราะค่าใช้จ่ายราคาที่ต้องจ่ายไปนั้น ควรจะคุ้มค่ากับบริการต่าง ๆ ที่เราควรจะได้รับ

การเตรียมตัวก่อนเริ่มการฝากไข่

ราคา

กระบวนการฝากไข่ (Egg Freezing) เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน จำเป็นต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ดังนั้น ก่อนเข้ารับการฝากไข่ ทั้งผู้หญิงและผู้ชายควรเตรียมตัว ดังต่อไปนี้

• ศึกษาข้อมูลของสถานพยาบาลหรือศูนย์รักษาผู้มีบุตรยาก รวมถึงค่าใช้จ่ายราคาประมาณเท่าใด เพื่อเตรียมงบประมาณให้พร้อม
• เข้าพบแพทย์ เพื่อตรวจสุขภาพในเบื้องต้นและระดับฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับระบบการสืบพันธุ์  พร้อมแจ้งแพทย์เกี่ยวกับโรคประจำตัว
• รักษาสุขภาพให้ดี ก่อนเข้าฝากไข่ เช่น ควบคุมน้ำหนัก ออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
• ดูแลสุขภาพใจ ลดอาการตึงเครียด ไม่วิตกกังวล เพราะอาจจะทำให้เกิดปัญหาได้
• หลีกเลี่ยงการสูขบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงสารเคมีต่าง ๆ เช่น ยาทาเล็บ เครื่องสำอาง ที่อาจจะกระทบต่อการฝากไข่
• ตรวจสอบและแจ้งแพทย์เกี่ยวกับรอบเดือน เพื่อคำนวณช่วงไข่สุก
• ก่อนฝากไข่ ควรงดน้ำ งดอาหารทุกชนิด อย่างน้อย 8 ชั่วโมง

แล้วช่วงไข่สุกคืออะไร ช่วงไข่สุก หรือวันตกไข่ คือ วันที่ไข่สุกแล้วเคลื่อนตัวสู่ปลายท่อนำไข่ เพื่อรอปฏิสนธิกับอสุจิ ดังนั้น หากต้องการฝากไข่ ช่วงเวลาดังกล่าวจึงเหมาะสมที่สุด

กระบวนการในการฝากไข่
ในกระบวนการ Egg Freezing แพทย์จะมีขั้นตอนในการฝากไข่ ดังต่อไปนี้

1.แพทย์จะทำการตรวจร่างกายและฮอร์โมนต่าง ๆ เพื่อประเมินความพร้อมในการฝากไข่ เช่น เจาะเลือดเพื่อหาโรคติดเชื้อ ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือดแดงและเม็ดเลือดขาว ตรวจไวรัสหรือโรคต่าง ๆ วัดระดับฮอร์โมนของรังไข่ อัลตราซาวด์ทางช่องคลอด และวัดระดับฮอร์โมนที่บ่งบอกปริมาณสำรองของไข่ที่เหลืออยู่ในรังไข่

2.ทำการกระตุ้นรังไข่ด้วยการฉีดยา Gonal F, Puregon, Pergoveris และ Follitrope โดยแพทย์จะพิจารณาจากอายุและระดับฮอร์โมนในการกำหนดปริมาณยาและตัวยาในการฉีด พร้อมทั้งฉีดยา Orgalutran เพื่อป้องกันไม่ให้ไข่ตกก่อนเวลาร่วมด้วย

3.จากนั้น ประมาณ 3 - 5 วัน แพทย์จะติดตามอาการ พร้อมตรวจอัลตราซาวด์ดูการเจริญเติบโตของไข่ หากไข่ได้ขนาดใหญ่ตามความเหมาะสมแล้ว แพทย์จะฉีดยา hcG, Ovidrel, Diphereline หรือ Cetrotide เพื่อทำให้ไข่ตก

4.แพทย์จะเริ่มเก็บไข่ หลังฉีดยากระตุ้นประมาณ 34 - 36 ชั่วโมง โดยใช้อัลตราซาวด์เพื่อดูตำแหน่งไข่ให้ชัดเจน แล้วใช้เข็มสำหรับเก็บไข่สอดเข้าไปที่รังไข่ แล้วดูดเซลล์ไข่ออกมา

5.เมื่อแพทย์ดูดไข่ออกมาแล้ว จะเอาใส่หลอดแก้ว แล้วแช่แข็งในอุณหภูมิ -196 องศาเซลเซียส
 
ทั้งนี้ ในกระบวนการฝากไข่จำเป็นต้องใช้ยาสลบ โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที และควรพักฟื้นประมาณ 1 - 2 ชั่วโมง แล้วหากผู้ฝากไข่ต้องการตั้งครรภ์ ก็สามารถนำมาปฏิสนธิกับอสุจิฝ่ายชายได้ทันที

โอกาสที่จะท้องสำเร็จจากการใช้ไข่ที่แช่แข็งไว้ มากแค่ไหน

Egg Freezing

Egg Freezing หรือการฝากไข่ได้เพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ให้กับผู้หญิง แต่ทั้งนี้ โอกาสที่จะตั้งครรภ์สำเร็จก็ขึ้นอยู่กับหลาย ๆ ปัจจัย ได้แก่

• คุณภาพและความสมบูรณ์ของไข่ที่ถูกแช่แข็งไว้
• อายุของไข่และผู้ฝากไข่มีผลต่อโอกาสในการตั้งครรภ์ เพราะโอกาสตั้งครรภ์สำเร็จจะลดลง หากมีอายุที่เพิ่มขึ้น
• ปริมาณของไข่ที่ถูกแช่แข็งไว้มีผลต่อโอกาสในการตั้งครรภ์ หากมีปริมาณไข่มากก็มีโอกาสตั้งครรภ์สูง
• สภาพร่างกายของผู้หญิง อย่างเช่น สุขภาพของมดลูก ก็ล้วนแต่ส่งผลต่อการตั้งครรภ์
• การดูแลในกระบวนการแช่แข็งของสถานพยาบาลว่า ดูแลไข่ได้ดีหรือไม่ คุ้มค่ากับราคาหรือค่าใช้จ่ายหรือไม่

สรุป
การฝากไข่ (Egg Freezing) เป็นกระบวนการทางการแพทย์ เพื่อเตรียมความพร้อมให้แก่ผู้ต้องการมีบุตร เพราะช่วยเก็บรักษาไข่ในช่วงอายุที่เหมาะสม จนกระทั่งพร้อมที่จะตั้งครรภ์ แต่ทั้งนี้ การฝากไข่เป็นหัตถการที่จะต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก จึงควรเข้ารับคำปรึกษากับแพทย์เฉพาะทางอย่าง Safe fertility group ซึ่งเป็นศูนย์ผู้มีบุตรยากแห่งแรกในไทย ได้การรับรองคุณภาพคลินิกเด็กหลอดแก้ว (RTAC) จากประเทศออสเตรเลียและประเทศนิวซีแลนด์ จึงมั่นใจได้ อีกทั้งยังมีค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในราคาย่อมเยา


8
คีย์บอร์ด ยี่ห้อไหนดี

ในปัจจุบันคีย์บอร์ดกลายเป็นอุปกรณ์สำคัญสำหรับผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต รวมทั้งอุปกรณ์อื่นๆ   คีย์บอร์ดที่ดี ช่วยให้ใช้งานสะดวกสบาย รวดเร็ว แม่นยำ และช่วยลดอาการเมื่อยล้าจากการใช้งาน แต่คีย์บอร์ด ยี่ห้อไหนดี? ที่ใช่สำหรับคุณ เสียงเคาะแบบไหนเหมาะกับสไตล์การทำงานของคุณ? 

บทความนี้จะพาไปรู้จักกับประเภทของคีย์บอร์ด คีย์บอร์ดไร้สายและคำแนะนำในการเลือกซื้อ keyboard ไร้สาย ให้เหมาะกับความต้องการ พร้อมรายละเอียดอื่น ๆ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อคีย์บอร์ดรุ่นไหนดี หรือแป้นพิมพ์ที่ดีที่สุดให้เหมาะกับการใช้งาน ไปดูพร้อมกันได้เลย

คีย์บอร์ดและคีย์บอร์ดไร้สายทำไมเป็นที่นิยมในปัจจุบัน

คีย์บอร์ดและคีย์บอร์ดไร้สาย ได้รับความนิยมในยุคปัจจุบันอย่างมากหากยังไม่สามารถเลือกได้ว่าควรใช้คีย์บอร์ด ยี่ห้อไหนดี เรามีแนะนำดังนี้

1. ความสะดวกสบาย :

  • คีย์บอร์ด: ใช้งานสะดวก สัมผัสได้ถึงแรงกด เสียงตอบรับ เหมาะสำหรับการพิมพ์งาน เล่นเกม หรือใช้งานทั่วไป
  • คีย์บอร์ดไร้สาย: เคลื่อนย้ายสะดวก ใช้งานบนโต๊ะ บนโซฟา หรือบนตักได้ เหมาะสำหรับการทำงานนอกสถานที่ หรือต้องการพื้นที่บนโต๊ะทำงานกว้างขึ้น

2. ฟังก์ชันการทำงาน :

  • คีย์บอร์ด: มีฟังก์ชันหลากหลาย ปุ่มลัด ปุ่มควบคุมมีเดีย ปุ่มปรับแสงไฟ เหมาะสำหรับผู้ใช้ต้องการความสะดวกรวดเร็ว
  • คีย์บอร์ดไร้สาย: บางรุ่นมีฟังก์ชันเชื่อมต่อหลายอุปกรณ์ ใช้งานได้ทั้งกับคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรือสมาร์ทโฟน สะดวกต่อการใช้งาน

3. ดีไซน์ :

  • คีย์บอร์ด: มีดีไซน์หลากหลาย เหมาะกับสไตล์ตกแต่งโต๊ะทำงาน หรือความชอบส่วนตัว
  • คีย์บอร์ดไร้สาย: บางรุ่นมีดีไซน์บางเฉียบ พกพาสะดวก เหมาะกับผู้ใช้ต้องการความคล่องตัว

4. เทรนด์ :

  • คีย์บอร์ด: ยังคงเป็นอุปกรณ์จำเป็นสำหรับใช้งานคอมพิวเตอร์ แต่ผู้ใช้เริ่มมองหาคีย์บอร์ดที่มีฟังก์ชันการทำงานได้หลากหลาย ดีไซน์สวยงาม ราคาคุ้มค่า
  • คีย์บอร์ดไร้สาย: เป็นเทรนด์กำลังมาแรง ผู้ใช้เริ่มนิยมใช้  wireless keyboard  มากขึ้น เพราะสะดวก ใช้งานง่าย มีดีไซน์ทันสมัย

5 คีย์บอร์ด ยี่ห้อไหนดีปี 2024 ทำงาน เล่นเกม ครบจบในเครื่องเดียว

คีย์บอร์ดไร้สาย

คีย์บอร์ดยังคงเป็นอุปกรณ์จำเป็นและได้รับความนิยมอย่างมาก ผู้ใช้จำนวนมากมองหาคีย์บอร์ดหรือคีย์บอร์ด wireless ที่มีประสิทธิภาพ ใช้งานสะดวก ฟังก์ชันครบ ดีไซน์สวย หัวข้อนี้จะนำเสนอ 5 อันดับคีย์บอร์ด ยี่ห้อไหนดี จากแบรนด์ชั้นนำ พร้อมรายละเอียด รวมถึงจุดเด่นของแต่ละรุ่น เพื่อให้ผู้อ่านสามารถเปรียบเทียบและเลือกคีย์บอร์ดที่ดีที่สุดให้กับตัวเองได้ มาดูกันเลยคีย์บอร์ด ยี่ห้อไหนดีเหมาะกับคุณ

1. Logitech MX Keys

อันดับแรกแนะนําคีย์บอร์ดพิมพ์งาน Logitech MX Keys Mini Wireless Keyboardเป็นคีย์บอร์ดไร้สาย แบบมินิมอล ดีไซน์เรียบหรู ขนาดกะทัดรัด พกพาสะดวก สวิตช์ Low Profile Mechanical Keys ให้สัมผัสแป้นกดที่นุ่มนวล เงียบ ใช้งานสบาย เชื่อมต่อผ่าน Bluetooth หรือ USB Receiver ปุ่มปรับแต่งฟังก์ชัน Fn ปรับแต่งใช้งานได้หลากหลาย ชาร์จแบตเตอรี่ 1 ครั้ง ใช้งานได้นานถึง 10 วัน  เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการความสะดวกสบาย พกพาสะดวก และมีประสิทธิภาพในการทำงาน 

2. Keychron K2 V2
 
Keychron K2 V2 เป็นคีย์บอร์ดแบบ Tenkeyless (84 ปุ่ม)   ดีไซน์เรียบหรู ใช้งานสะดวก รองรับการใช้งานทั้งแบบมีสายและคีย์บอร์ดไร้สายมีไฟ RGB เพิ่มความสวยงาม เท่ห์ ไม่เหมือนใคร เชื่อมต่อ Bluetooth Low Energy, USB-C รองรับหลายระบบปฏิบัติการ Windows, macOS, Linux, Chrome OS, iPadOS, Android, iOS แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานถึง 72 ชั่วโมง เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการคีย์บอร์ดมีประสิทธิภาพ พกพาสะดวกและปรับแต่งได้หลากหลาย

3. Razer BlackWidow V3

Razer BlackWidow V3  เป็นคีย์บอร์ดเกมมิ่งแบบ Tenkeyless (ไม่มีปุ่ม Num Pad) ออกแบบมาเพื่อเล่นเกมโดยเฉพาะ มาพร้อมสวิตช์ Razer Mechanical Switches ทนทาน ใช้งานได้ยาวนานให้สัมผัสที่หลากหลาย ไฟ RGB ปรับแต่งสีไฟได้ 16.8 ล้านสี  เชื่อมต่อผ่าน USB ปุ่ม Macro ดีไซน์เรียบหรู แป้นพิมพ์ที่นิยมใช้ในปัจจุบันมีให้เลือก 3 แบบ คือ Green (คลิก สัมผัสหนัก) Yellow (Linear เงียบ) และ Orange (Tactile เงียบ)

4. Logitech G915 TKL

keyboard wireless แนะนํา Logitech G915 TKL เป็นคีย์บอร์ดไร้สาย ดีไซน์บางเฉียบ น้ำหนักเบา ใช้งานสบาย  ขนาดกะทัดรัด ประหยัดพื้นที่บนโต๊ะทำงาน มาพร้อมสวิตช์ Low Profile GL มีความทนทาน สัมผัสที่นุ่มนวล มีเสียงเงียบ เชื่อมต่อผ่าน Lightspeed Wireless ไฟ RGB Lightsync ปรับแต่งได้ตามต้องการ แบตเตอรี่ใช้งานยาวนานถึง 30 ชั่วโมง เหมาะสำหรับเล่นเกม ทำงาน หรือใช้งานทั่วไป

5. DEKAY 82 ULTRA

อันดับสุดท้าย keyboard ไร้สายแนะนํา DEKAY 82 ULTRA เป็น คีย์บอร์ด wireless รุ่นใหม่ล่าสุดจากแบรนด์ DEKAY  เป็นคีย์บอร์ดไร้สาย Mechanical ดีไซน์สวยงาม ทันสมัย เหมาะใช้งานหลากหลายรูปแบบ มาพร้อมคุณสมบัติครบครัน   สวิตช์ Hot-swappable ไฟ RGB ปุ่ม Knob รองรับใช้งานได้ทั้ง Windows/MAC/IOS/Android แบตเตอรี่ 4000mAh ใช้งานได้ยาวนานถึง 8 ชั่วโมง ราคาคุ้มค่า เหมาะสำหรับผู้กำลังมองหาคีย์บอร์ดที่ดีที่สุด มีให้เลือก 2 สี คือ สี Spring และ สี Forest

วิธีเลือก wireless keyboard หรือคีย์บอร์ด ยี่ห้อไหนดี ที่เหมาะสมยังขึ้นอยู่กับความต้องการและงบประมาณของผู้ใช้ ควรพิจารณาคุณสมบัติตามต้องการอย่างละเอียด หรือดูรีวิวคีย์บอร์ดไร้สายจากผู้ใช้อื่น ๆ เพื่อเลือกคีย์บอร์ดไร้สายที่ดีที่สุดสำหรับคุณ

ข้อดีของคีย์บอร์ดที่ผู้ใช้งานควรรู้

wireless keyboard

คีย์บอร์ด หรือแป้นพิมพ์ไร้สายเป็นอุปกรณ์ช่วยให้เราสามารถสื่อสาร ทำงานหรือสร้างสรรค์ผลงานต่าง ๆ  บนคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต รวมทั้งอุปกรณ์อื่น ๆ แต่ คีย์บอร์ด wireless ไม่ได้มีดีแค่ช่วยให้พิมพ์ได้เท่านั้น  ยังมีข้อดีอีกมากมายที่ผู้ใช้งานควรรู้  ดังนี้

1. เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน :

  • คีย์บอร์ดไร้สายที่ดี ช่วยให้การพิมพ์เร็วขึ้น แม่นยำขึ้น ลดการเกิดข้อผิดพลาด เหมาะสำหรับงานต้องพิมพ์เยอะๆ เช่น งานเขียน งานเอกสาร งาน coding
  • ปุ่มกดออกแบบมาอย่างเหมาะสม ช่วยลดอาการเมื่อยล้านิ้วมือ ข้อมือ หรือไหล่ สามารถทำงานได้นานขึ้น โดยไม่รู้สึกปวดเมื่อย
  • ปุ่มลัดต่างๆ ช่วยให้ทำงานสะดวก รวดเร็ว ประหยัดเวลา โดยไม่ต้องใช้เมาส์

2. เพิ่มความสะดวกสบาย :

  • คีย์บอร์ดไร้สาย ช่วยให้เคลื่อนย้ายไปใช้งานได้ทุกที่ ไม่ต้องกังวลเรื่องสายเคเบิลพันกัน
  • คีย์บอร์ดแบบ Ergonomic ออกแบบมาเพื่อรองรับสรีระ ช่วยลดอาการเมื่อยล้า ปวดเมื่อย จากการใช้งานเป็นเวลานาน
  • คีย์บอร์ดมีไฟ LED ช่วยให้มองเห็นตัวอักษรได้ชัดเจน เหมาะสำหรับการใช้งานในที่แสงน้อย

3. เพิ่มประสบการณ์การใช้งาน :

  • คีย์บอร์ดกลไก ให้สัมผัสแป้นกดนุ่มนวล เสียงเคาะฟังดูดี ช่วยเพิ่มอรรถรสในการใช้งาน
  • คีย์บอร์ดไฟ RGB ปรับแต่งสีไฟได้ตามต้องการ เพิ่มความสวยงาม เท่ห์ ไม่เหมือนใคร
  • คีย์บอร์ดเกมมิ่ง มาพร้อมปุ่ม Macro ปุ่มควบคุมพิเศษ รองรับการเล่นเกมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

4. เพิ่มความทนทาน :

  • คีย์บอร์ดไร้สายบางรุ่น ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง ทนทาน ใช้งานได้ยาวนาน
  • คีย์บอร์ดกันน้ำ ป้องกันน้ำหกใส่ ใช้งานได้โดยไม่ต้องกังวล
  • คีย์บอร์ดกันฝุ่น ป้องกันฝุ่นละออง ทำความสะอาดง่าย

เมื่อทราบถึงข้อดีของคีย์บอร์ดแล้ว ทุกคนสามารถตัดสินใจเลือกซื้อคีย์บอร์ด ยี่ห้อไหนดีให้กับตนเองมาใช้งานได้อย่างเหมาะสมตรงกับความต้องการได้มากที่สุด

สรุปเกี่ยวกับ keyboard ไร้สาย

keyboard ไร้สาย หรือแป้นพิมพ์ไร้สาย เหมาะสำหรับผู้ใช้งานต้องการความสะดวกสบาย เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน พกพาได้ง่ายเหมาะใช้งานในหลากหลายสถานการณ์  ผู้ใช้งานควรเลือกคีย์บอร์ดให้เหมาะกับความจำเป็น สไตล์การทำงาน งบประมาณ หรือดูจากรีวิวคีย์บอร์ดไร้สาย เพื่อเลือกซื้อคีย์บอร์ด ยี่ห้อไหนดี มาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

9
แอปเงินด่วน

เงินไม่พอใช้ทำไงดี? คำถามยอดฮิตของคนวัยทำงาน ที่พบเจอกับปัญหาเงินขาดมือเป็นประจำ เพราะหลายคนนอกจากจะต้องรับผิดชอบกับค่าใช้จ่ายส่วนตัวที่เกิดขึ้นในแต่ละเดือน ยังต้องส่งเงินให้กับคนข้างหลังด้วย ทำให้หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องขอสินเชื่อนอกระบบ แต่ถ้าคุณรู้จักกับแอปเงินด่วน ที่ช่วยให้คุณเข้าถึงแหล่งเงินด่วนยามฉุกเฉินแล้ว การบริหารเงินในแต่ละเดือนก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป!

ชวนหาคำตอบแอปกู้เงิน คืออะไร เหมือนหรือแตกต่างจากหนี้นอกระบบอย่างไรบ้าง?

หากไม่เคยดาวน์โหลดแอปเงินกู้มาก่อน หลายคนคงเข้าใจว่าแอฟกู้เงินเป็นหนี้นอกระบบที่คิดอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด แต่ความจริงแล้วแอปกู้เงินมีทั้งถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย ซึ่งคุณสามารถสังเกตได้จากอัตราดอกเบี้ยที่กำหนด ถ้าเกินกว่าร้อยละ 25% ต่อปีแสดงว่าเป็นแอปเงินกู้ผิดกฎหมายแน่นอน

นอกจากตรวจสอบจากอัตราดอกเบี้ยแล้ว คุณอาจนำรายชื่อแอปพลิเคชันไปเช็กได้ที่เว็บไซต์ของธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อตรวจสอบว่าเป็นผู้ให้บริการสินเชื่อถูกกฎหมายจริงหรือไม่? โดยตัวอย่างของแอปเงินกู้ถูกกฎหมาย เช่น PROMISE, AEON Thai Mobile, Krungthai NEXT ฯลฯ

จากรายชื่อของแอปกู้เงินตามที่กล่าวมาข้างต้น จะเห็นได้ว่าแอปเงินกู้ประกอบด้วยผู้ให้บริการในรูปแบบธนาคาร และผู้ให้บริการในรูปแบบ Non - Bank ทำให้พนักงานเงินเดือนที่กำลังขาดสภาพคล่อง เข้าถึงช่องทางแหล่งเงินด่วนได้หลากหลายมากกว่าเดิม โดยไม่ต้องเดินทางไปทำเรื่องถึงสาขาของธนาคาร เพราะไม่ว่าจะขั้นตอนการยื่นขอสินเชื่อ ส่งเอกสาร และอนุมัติ สามารถดำเนินการได้ครบทุกขั้นตอนผ่านปลายนิ้ว

และแอปเงินกู้ นอกจากจะทำเรื่องสมัครง่ายแล้ว ขั้นตอนการขอสินเชื่อ ก็ไม่ต้องวางหลักทรัพย์ค้ำประกันอีกด้วย ขอเพียงแค่มีคุณสมบัติตามที่สถาบันการเงินกำหนด และยื่นเอกสารครบถ้วน ก็ยื่นสมัครได้เลย

แนะนำ 5 แอปกู้เงินน่าสนใจ อนุมัติวงเงินตั้งแต่หลักหมื่น จนถึงหลักแสนบาท!

แอปเงินกู้

เมื่อทราบกันไปแล้วว่าแอปเงินกู้ คืออะไร แตกต่างจากสินเชื่อนอกระบบอย่างไรบ้าง หากสนใจแอฟกู้เงินถูกกฎหมาย แต่ยังไม่รู้ว่าควรดาวน์โหลดแอปพลิเคชันอะไรดี ในวันนี้เราได้รวบรวม 5 แอปเงินด่วนชื่อดังมาให้คุณเลือกถึงที่แล้ว

1. PROMISE

บริษัทผู้ให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น  ที่เสนออัตราดอกเบี้ยตั้งแต่ 15% - 25% *ต่อปี ซึ่งประกอบไปด้วยดอกเบี้ย 15% ต่อปี และค่าธรรมเนียมการใช้วงเงิน 0 - 10% ต่อปี พร้อมทำเรื่องอนุมัติสินเชื่อภายใน 1 ชั่วโมง* โดยไม่ต้องวางหลักทรัพย์ค้ำประกัน
 
สินเชื่อส่วนบุคคล PROMISE แม้ว่ารายได้เริ่มต้นไม่ถึง 1 หมื่นบาทต่อเดือน ก็ยื่นขอสินเชื่อได้ ซึ่งอนุมัติวงเงินกู้ตั้งแต่ 1.5 - 5 เท่าของรายได้ ให้วงเงินกู้สูงสุดถึง 3 แสนบาท ที่สำคัญ PROMISE ยังได้เอาใจผู้มีรายได้น้อยด้วยการออกแบบให้ผู้ขอสินเชื่อสามารถเลือกผ่อนชำระได้นานสูงสุดถึง 428 เดือน** และชำระคืนเงินกู้ต่ำเพียงแค่ 3% ของยอดคงเหลือ แต่ไม่ต่ำกว่า 300 บาท

   โดยคุณสมบัติของผู้สมัครสินเชื่อแอปเงินด่วน PROMISE มีดังต่อไปนี้
   1.บุคคลที่มีอายุตั้งแต่ 20 - 64 ปี
   2.จำกัดเฉพาะผู้ที่มีสัญชาติไทย
   3.บุคคลที่มีรายได้ต่อเดือน 8,000 บาท ขึ้นไป (ผู้ที่แสดงสลิปเงินเดือนหรือหนังสือรับรองเงินเดือนได้)
   4. อายุการทำงานปัจจุบัน 1 เดือนขึ้นไป
   5.มีที่พักอาศัยหรือที่ทำงานอยู่ในเขตพื้นที่ให้บริการ
   6.มีหมายเลขโทรศัพท์ที่ติดต่อได้

ส่วนเอกสารประกอบการยื่นสมัครใช้เพียง 2 อย่างเท่านั้น คือ บัตรประชาชนตัวจริง และสลิปเงินเดือนหรือหนังสือรับรองเงินเดือนตัวจริงอายุไม่เกิน 60 วัน อีกทั้งแอปกู้เงิน PROMISE ยังมาพร้อมกับช่องทางการสมัครที่หลากหลาย ได้แก่ การสมัครผ่านสาขาใกล้บ้านในหลายจังหวัดของประเทศ หรือผ่านเว็บไซต์ www .promise.co.th หรือผ่านแอปพลิเคชัน PROMISE

นอกจากนี้สินเชื่อส่วนบุคคล PROMISE ยังให้สิทธิพิเศษแก่ลูกค้าชั้นดีที่มีประวัติการผ่อนชำระหนี้ตรงเวลา และไม่เคยมีประวัติผิดนัดชำระ ด้วยการเสนอวงเงินสินเชื่อเพิ่มเติม ซึ่งช่วยให้พนักงานเงินเดือนรายได้น้อย มีเงินหมุนค่าใช้จ่ายรายเดือนมากขึ้น โดยสามารถยื่นเอกสารขอวงเงินสินเชื่อเพิ่มเติมตามที่บริษัท PROMISE กำหนด และอย่าลืมว่าควรกู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหวด้วยนะ

*กรุณาศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์ก่อนการสมัครที่ promise.co.th
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ และธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด

2. AEON THAI MOBILE

แอปเงินกู้ที่ให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ 3 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่

   1.สินเชื่อดิจิทัลยัวร์แคช อัตราดอกเบี้ยรวมค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินสูงสุดไม่เกิน 25% ต่อปี รายได้ขั้นต่ำของผู้สมัครเริ่มต้นที่ 8,000 บาท
   2.สินเชื่อเติมสุข อัตราดอกเบี้ยรวมค่าธรรมธรรมเนียมไม่เกิน 25% ต่อปี รายได้ขั้นต่ำของผู้สมัครเริ่มต้นที่ 5,000 บาท
และ 3.สินเชื่อดิจิทัล ยัวร์แคช-เอ อัตราดอกเบี้ยรวมค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินสูงสุดไม่เกิน 22% ต่อปี รายได้ผู้สมัคร 30,000 บาทขึ้นไป

3. Krungthai NEXT

แอปเงินกู้ถูกกฎหมายจากธนาคารกรุงไทยที่เสนอผลิตภัณฑ์สินเชื่อทั้งประเภทวางหลักทรัพย์ค้ำประกัน และไม่ต้องวางหลักทรัพย์ค้ำประกัน โดยสินเชื่อไม่ต้องวางหลักทรัพย์ค้ำประกันที่ทางกรุงไทยได้เปิดตัวออกมาล่าสุด คือ สินเชื่อกรุงไทยใจป้ำ ที่คิดอัตราดอกเบี้ย 20 -22% ต่อปี รายได้ขั้นต่ำของผู้สมัคร 15,000 บาท

4. True Money Wallet

ไม่ใช่แค่แอปพลิเคชันที่ช่วยให้การทำธุรกรรมโอนจ่ายเป็นเรื่องง่ายเท่านั้น เพราะ True Money Wallet ได้รับการพัฒนาต่อเนื่องจนกลายเป็นแอพยืมเงิน ที่ให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคล เพย์เน็กซ์เงินติดมือ ที่อนุมัติวงเงินสูงสุด 20,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 25% ต่อปี และเลือกผ่อนชำระได้สูงสุดไม่เกิน 5 เดือน

5. Shopee SEasyCash

นอกจากทาง Shopee จะเป็นแอปพลิเคชัน E-commerce ที่ช่วยให้ซื้อของได้อย่างสะดวกสบายแล้ว ล่าสุด Shopee ยังให้บริการกู้เงินถูกกฎหมายภายใต้ผลิตภัณฑ์สินเชื่อเงินสด Shopee SEasyCash คิดอัตราดอกเบี้ยสูงสุด 25% ต่อปี ขอสินเชื่อได้ขั้นต่ำ 500 บาทต่อครั้ง และเลือกผ่อนชำระได้สูงสุด 5 เดือน

สรุป

จะเห็นได้ว่า 5 แอปเงินด่วนที่กล่าวมาข้างต้นต่างมีจุดเด่นแตกต่างกันออกไป แต่ทั้งนี้เมื่อขอสินเชื่อจากแอปเงินกู้ผ่านแล้ว ควรใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง ซื้อของที่จำเป็นเท่านั้น ไม่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย มิเช่นนั้นแล้วจะทำให้บริหารจัดการเงินยาก จนไม่สามารถวางแผนการออม เพื่อเตรียมพร้อมสู่อนาคตทางการเงินที่ดีได้

10
 เพลงป๊อปยอดฮิต เป็นที่นิยมและแพร่หลาย

ในปัจจุบันที่ด้วยภาวะต่าง ๆ ที่สามารถก่อให้เกิดความเครียดได้ทั้งการทำงาน การเรียน การทำกิจกรรมหลาย ๆ อย่าง ดังนั้นเสียงเพลงที่ไพเราะ เนื้อหาที่เข้าถึงความรู้สึก ที่สามารถทำให้ตนเองผ่อนคลาย หรือช่วยให้ผ่านพ้นช่วงเวลานั้นไปได้ และหนึ่งสิ่งที่เป็นที่นิยมกันอย่างมากนั่นคือ เพลงป๊อป นั่นเอง

โดยเพลงป๊อปนั้นถือว่ามีบทบาทสำคัญในการแสดงถึงวัฒนธรรมในยุคนั้น ๆ สามารถแสดงได้ถึงค่านิยมต่าง ๆ ความเชื่อ และ รวมไปถึงความรู้สึกของผู้คนในยุคนั้น ซึ่งเพลงป๊อปนั้นยังมีอิทธิพลต่อการแสดง การเต้น และ แนวของแฟชั่นอีกด้วย ทำให้เพลงป๊อปเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย โดยเราจะมาดูกันว่า เพลงป๊อปนั้นคืออะไร มีที่มาจากไหน ทำไมถึงใช้คำว่าเพลงป๊อป ไปดูกัน

เพลงป๊อปมีประวัติและความเป็นมาเป็นอย่างไร

เพลงป๊อป หรือ ดนตรีป๊อป คือเพลงที่ใช้เรียกกันประเภทหนึ่งที่ถือกำเนิดขึ้นจากหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรในช่วงกลางทศวรรษที่ 1950 ซึ่งแท้จริงแล้วนั้นโดยคำว่าดนตรีป๊อปนั่นมาจากคำว่า “Popular” โดยรวมกับ music จึงเป็น popular music และถูกเรียกย่อเป็น pop music หรือ เพลงป๊อป นั่นเอง

ลักษณะหลักของเพลงป๊อปนั่นจะมีเมโลดี้ ทำนองที่ฟังง่าย ฟังสบาย ไม่ต้องเพ่งสมาธิในการฟัง มีท่วงทำนองที่พลิ้วไหว ขึ้นลง ทำนองที่ติดหู ทำให้ง่ายต่อการจดจำ และสามารถร้องตามได้ โดยตัวเพลงสามารถมีความยาวได้ตั้งแต่ 2-5นาที โดยส่วนมากจะมีคอรัสในจำนวนหนึ่งเพลงมากกว่า 2 ครั้งขึ้นไป ซึ่งเพลงป๊อปนั่นมักนำไปผสมกับแนวเพลงต่าง ๆ เพื่อเพิ่มเอกลักษณ์ และ กลิ่นอายของแนวเพลงนั้น ๆ เช่น แจ๊ส, ร็อก, R&B เป็นต้น

เพลงป๊อปในแต่ละยุคสมัยนั้นจะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันด้วยแนวเพลง ความคิด ความนิยมและยุคสมัย และ มีการวัฒนาการเรื่อยมาจวบจนปัจจุบันโดยมีดังนี้คือ

  • ทศวรรษ 1950 เพลงป๊อปนั้นได้ถือกำเนิดขึ้นจากการฉีกแนวเพลงต่าง ๆ โดยได้อิทธิพลจากดนตรีคันทรีและร็อกแอนด์โรล โดยศิลปินที่เป็นเจ้าของเพลงป๊อปโด่งดังเป็นที่พูดถึงจนถึงปัจจุบันนั่นคือ Elvis Presley ด้วยผลงานเพลงอมตะอย่าง Can’t Help Falling in Love ที่แค่ท่อนแรกของเพลงขึ้นก็ทำให้ขนลุกได้เลย
  • ทศวรรษ 1960 เพลงป๊อปนั้นเริ่มมีความหลากหลายมากขึ้นจากการผสมผสานแนวเพลงต่าง ๆ โดยศิลปินที่บุกเบิกคำว่าเพลงป๊อปในยุคนั้นนั่นทุกคนต้องรู้จักกันอย่างแน่นอนอย่างศิลปินวงสัญชาติอังกฤษอย่าง The Beatles ที่ทุกคนบนโลกยกให้เป็นประวัติศาสตร์ทางดนตรีอีกหน้าของมนุษย์
  • ทศวรรษ 1970 ที่ยุคของดนตรีดิสโก้มีอิทธิพลต่อเพลงป๊อปอย่างมาก และยุคที่แฟชั่นเริ่มมีการพัฒนาที่รวดเร็วขึ้น ทำให้วัฒนธรรมและยุคสมัยเริ่มเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว จึงทำให้มีความหลากหลายทางดนตรีมากขึ้น โดยมีศิลปินที่เป็นที่โด่งดังในยุคนี้คือ ABBA กับเพลงสุดสนุกสนานและโด่งดังอย่างมากในยุคสมัยนั้นอย่าง Dancing Queen และศิลปิน Bee Gees เชื่อว่าทุกคนในปัจจุบันเคยได้ยินผ่านโซลเชียล ยูทุป และ โฆษณาต่าง ๆ ด้วยเมโลดี้เพลงที่เป็นเอกลักษณ์อย่างเพลง Stayin’ Alive
  • ทศวรรษ 1980 เพลงในสมัยนั้นที่เป็นนิยมนั่นคือ เพลงเพื่อการเต้นรำ หรือ Pop Dancing และเป็นยุคที่ทำให้เพลงป๊อปโด่งดังไปทั่วโลกอย่างแท้จริงจากศิลปินในตำนานและเรียกได้ว่าเป็นราชินีเพลงป๊อปอย่าง Madonna อย่างเพลง Hung up ที่เรียกได้ว่าหากได้ยินก็ต้องลุกขึ้นมาเต้น และ ศิลปินที่ได้ฉายาว่าเป็นราชาเพลงป๊อปอย่าง Michael Jackson พร้อมกับท่า moon walk อันเป็นเอกลักษณ์ของเขา
  • ทศวรรษ 1990 โดยในยุค 90 นี้นเพลงอาร์แอนด์บี นั้นมีอิทธิพลอย่างมากต่อวงการเพลงต่าง ๆ โดยศิลปินที่ได้รับความนิยมอย่างมากและเป็นที่รู้จักกันอย่างดีนั่นคือวงบอยแบนด์อย่าง แบ็ค สตรีท บอยส์ (BackStreet Boys) ด้วยเพลง I want it that way กับประโยคสุดฮิตอย่าง Tell me why และ ศิลปินที่ไม่มีใครรู้จักอย่างเจ้าหญิงเพลงป๊อปอย่าง Britney Spears ด้วยเพลงในตำนานอย่าง Toxic ที่ปลุกจริตในตัวคุณ
  • ทศวรรษ 2000 ยุคที่ดนตรีผสมผสานกันมากมาย โดยเพลงป๊อปนั้นได้อิทธิพลจากอาร์แอนด์บีและดนตรีฮิปฮอป ซึ่งในยุคนั้นเริ่มเป็นการมาถึงของอินเตอร์เน็ตอย่างแพร่หลายทำให้มีศิลปินที่เป็นที่โด่งดังมากมายเช่น Beyoncé, Justin Bieber, Rihanna นั่นเอง
  • ทศวรรษ 2010 - ปัจจุบัน ดนตรีป๊อปได้มีผสมผสานมากมายรวมถึงดนตรีอิเล็กทรอนิกส์และดนตรี EDM ทำให้มีศิปปินชื่อเสียงมากมายได้เป็นที่นิยมอย่าง Taylor Swift, Ed Sheeran, Adele, The Chainsmokers

5 อันดับ เพลงป็อปยอดฮิต มีเพลงอะไรบ้าง

เพลงป๊อป ถ้าพูดง่ายๆนั่นคือเพลงที่ได้รับความนิยมและรู้จักอย่างแพร่หลาย โดยในหัวข้อนี้เราจะมาพูดถึงเพลงป๊อปไทยที่โด่งดังจากยุคต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นยุค 90 ยุค 2000 หรือ ปัจจุบันว่ามีเพลงอะไรบ้าง รับประกันว่าต้องเคยได้ยินแน่นอน โดยมีดังนี้คือ

1. เพื่อนสนิท - Endorphine
เพลงป๊อปยอดนิยมในช่วงต้นของยุค 2000 ด้วยทำนองที่ฟังง่าย เนื้อหาที่กินใจ หากใครประสบกับเหตุการณ์ในเพลงนั้นต้องเข้าถึงได้อย่างแน่นอน โดยเพลงป๊อปเพลงนี้สร้างกระแสนิยมได้เป็นอย่างมากจนติดอันดับเพลงป๊อปจากหลาย ๆ แห่งในสถานีวิทยุได้อย่างรวดเร็ว ด้วยประโยคสุดเจ็บกับท่อนฮุคของเพลงอย่าง “ห่างแค่เพียงเอื้อมมือ แต่มันก็แสนไกล ยิ่งเธอเป็นเหมือนเพื่อนสนิท ยิ่งไม่มีสิทธิ์จะบอกไป”

2. Season Change(ฤดูที่แตกต่าง) - Boyd Kosiyabong feat, Nop Ponchamni
เพลงป๊อปสุดโด่งดังช่วงปลายของยุค 90 ด้วยทำนองที่ฟังแล้วชื่นใจ สบาย ๆ ประโยคที่สละสลวย เนื้อเพลงความหมายดีจากศิลปินมากความสามารถอย่าง บอย โกสิยพงษ์ ร่วมกับ นพ พรชำนิ ในอัลบั้ม Rhythm & Boyd สุดในปัจจุบันนั้นหลาย ๆ คนยังให้เพลงนี้เป็นเพลงที่เพราะที่สุดตลอดกาล กับประโยคติดหูอย่าง “ อดทนเวลาที่ฝนพรำ อย่างน้อยก็ทำให้เราได้เห็นถึงความแตกต่าง”

3. จันทร์เจ้า - Slot Machine
เพลงป๊อปที่เป็นที่นิยมอย่างมากในงานต่าง ๆ หรือร้านอาหารด้วยเพลงจากศิลปินแนวร็อกอย่าง Slot Machine ที่เพลงมีเอกลักษณ์เป็นของตนเองอย่างเห็นได้ชัด เพลงถูกปล่อยในช่วงปี คศ.2011 ในอัลบั้ม Cell โดยด้วยเนื้อเพลงที่สื่อถึงความคิดถึง ทำนองที่สนุกและฟังสบายในตัว เนื้อหาเพลงที่มีความหมายและแฝงข้อคิดต่าง ๆ มากมาย ด้วยประโยคที่ก่อนทุกคนร้องนั้นต้องยกมือทำเป็นท่าสามเหลี่ยมพร้อมตะโกนว่า “I say goodbye”

4. โต๊ะริม - นนท์ ธนนท์
เพลงป๊อปสุดฮิลใจฟังไปเขินไปกับเพลงโต๊ะริม โดยปล่อยเมื่อปี 2565 เป็นเพลงป๊อปทำนองฟังสบายแต่สนุกติดหูชวนให้ร้องตาม โดยเพลงโต๊ะริมนั้นได้รับความนิยมจนขึ้นติดอันดับในหลายโซเชียลและมียอดวิวยูทูปถึง 113 ล้าน ตอกย้ำเพลงป๊อปสุดฮิตประจำปีได้อย่างไม่ต้องสงสัยด้วยทำนองที่ทุกคนต้องร้องตามอย่าง “เธอมาทำให้ละลาย โดนสาปให้ตายแล้วตายอีก”

5. บอกตัวเอง - Room 39 feat. โป่ง หินเหล็กไฟ
คุณภาพคับแก้วกับศิลปิน Room 39 กับเพลงที่สื่อถึงการที่ชีวิตต้องเดินต่อไปจากความผิดหวัง ไม่ง่ายที่จะลืมในแต่ละวันแต่ยังไงก็ต้องมีชิวีตต่อไป พร้อมกับนักร้องเพลงเสียงสุดดุดัน นุ่มลึกกับ โป่ง หินเหล็กไฟ ที่สามารถสื่อได้ถึงความหมายเนื้อหาของเพลงได้อย่างลึกซึ้งอย่างท่อน  “บอกตัวเองว่าเราต้องลืมเรื่องราวที่ผ่าน แม้ความจริงทรมาณ”

เพลง POP ยังนิยมอยู่ไหมในปัจจุบัน

ขึ้นชื่อว่าเพลงป๊อป แน่นอนว่าจะต้องเป็นเพลงที่ได้รับความนิยมจากด้วยหลายปัจจัยที่ทำให้คนชื่นชอบไม่ว่าจะเป็น ทำนองที่สบาย สนุก ฟังง่ายไม่บาดหู เข้าใจถึงเนื้อเพลงได้ง่าย สามารถร้องตามได้ ติดหู ซึ่งทำให้เพลงป๊อปนั้นที่ชื่นชอบอย่างแพร่ในปัจจุบันต่อไป

สรุป

เพลงป๊อปนั้นสามารถทำให้เห็นถึงคุณค่าถึงความคิด ความรู้สึก และค่านิยม ซึ่งเพียงป๊อปนั้นไม่จำเป็นต้องเป็นเพลงที่มีทำนองแบบเดียวสามารถนำแนวดนตรีอื่น ๆ มาผสมผสานเพื่อสร้างผลงานที่ดีขึ้นมาได้ โดยเพลงป๊อปที่ฟังง่าย ทำนองไพเราะ โน๊ตไหลไปกับทำนอง ร้องตามได้ง่าย ทำให้เพลงป๊อปเป็นที่นิยม


11
บริจาคเงินลดหย่อนภาษี

การบริจาคเงินอยู่คู่กับสังคมไทยมาอย่างช้านาน เนื่องจากสังคมไทยอยู่ได้ด้วยการพึ่งพาซึ่งกัน ดังจะเห็นได้ว่าเมื่อใดที่เกิดเหตุการณ์ร้ายแรง อาทิเช่น อัคคีภัย อุทกภัย วาตภัย แผ่นดินไหว หรือภัยร้ายแรงต่าง ๆ คนไทยก็มักจะแบ่งปันน้ำใจช่วยเหลือซึ่งกันและกันอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการบริจาคสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น หรือการเปิดรับบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ยากไร้ขาดแคลน

นอกจากภัยพิบัติจากธรรมชาติ และภัยพิบัติที่เกิดจากฝีมือมนุษย์จะทำให้มีผู้ที่ยากไร้ขาดแคลนเป็นจำนวนมากแล้ว ยังมีผู้ลี้ภัยอีกหลายคนในโลกที่ต้องการได้รับความคุ้มครอง และได้รับโอกาสการสนับสนุนทางการศึกษา จึงทำให้ทั่วโลกมีการตั้งศูนย์กลางรับบริจาค มูลนิธิ ตลอดจนสื่อกลางต่าง ๆ ที่เป็นตัวกลางในการช่วยเหลือผู้คน การบริจาคเงินมีอยู่หลายวิธีด้วยกัน จะมีอะไรบ้างคอลัมน์นี้ได้รวบรวมไว้ให้คุณแล้ว

แนะนำ 7 มูลนิธิ แหล่งรวมการบริจาคเงิน เพื่อช่วยเหลือผู้ยากไร้ 
การก่อตั้งมูลนิธิ หรือองค์กรต่าง ๆ เพื่อระดมเงินบริจาคช่วยเหลือผู้คน ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ในโลกนี้จะขาดไปเสียไม่ได้ ในปัจจุบันมีมูลนิธิที่เป็นสื่อกลางในการรวบรวมเงินบริจาคจากผู้คนมากมาย สามารถอำนวยความสะดวกให้ผู้คนบริจาคเงินช่วยเหลือในรูปแบบใหม่อย่างเช่นการบริจาคเงินออนไลน์อีกด้วย จะมีองค์กรใดบ้างไปดูกันเลย

1. องค์กร UNHCR

การบริจาค

องค์ระดับโลกที่ก่อตั้งมาอย่างยาวนาน เพื่อระดมทุนช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้กับผู้ลี้ภัย และผู้พลัดถิ่นทั่วโลกโดยไม่แบ่งแยกชาติ และศาสนา การบริจาคเงินให้กับ UNHCR สามารถรับรองได้ว่า เงินบริจาคของคุณทั้งหมดจะนำไปช่วยเหลือครอบครัวผู้ลี้ภัยอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นน้ำ อาหาร ที่พักพิง รวมไปถึงโอกาสทางการศึกษา ซึ่งเป็นปัจจัยพื้นฐานของการดำรงชีพ สามารถร่วมบริจาคได้ที่

เว็บไซต์ : -h ttps://www.unhcr.org/th/-
เฟซบุ๊ก : UNHCR ประเทศไทย
เบอร์โทรศัพท์ : 02-056-0000

2. องค์กร UNICEF

รับบริจาค

UNICEF คือมูลนิธิช่วยเหลือผู้ที่ยากไร้ขาดแคลนระดับโลกที่กระจายไปทั่วทุกภูมิภาค เป็นสื่อกลางในการรวบรวมเงินบริจาคเพื่อช่วยเหลือด้านความเป็นอยู่ของผู้คนจากทั่วทุกมุมโลก ไม่ว่าจะเป็นสงคราม ภัยพิบัติ วิกฤติเศรษฐกิจ โรคระบาด การขาดแคลนน้ำสะอาด การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ตลอดจนสุขอนามัยของเด็ก ๆ สำหรับในประเทศไทยสามารถร่วมบริจาคเงินได้ผ่าน UNICEF Thailand ผ่านทาง

เว็บไซต์ : - h ttps://unicef.or.th-
เฟซบุ๊ก : UNICEF Thailand
เบอร์โทรศัพท์ : 02-356-9499

บริจาค มูลนิธิ

สภากาชาดไทย เป็นองค์กรการกุศลเพื่อมนุษยธรรม ที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อ บรรเทาความทุกข์ยากจากเหตุการณ์สาธารณภัยพินาศ โดยไม่เลือกเชื้อชาติ ศาสนา หรือความเห็นต่างในทางการเมือง โดยมีแนวทางปฏิบัติตามหลักการกาชาดสากล เราจะเห็นได้ว่าเมื่อเกิดเหตุภัยพิบัติต่าง ๆ สภากาชาดจะเปิดรับบริจาคเงินเพื่อระดมเงินทุนไปช่วยเหลือผู้คนจากทั่วโลกอยู่เสมอ ร่วมบริจาคได้ที่

เว็บไซต์ : -h ttps://redcross.or.th-
เฟซบุ๊ก : สภากาชาดไทย Thai Red Cross Society
เบอร์โทรศัพท์ : 1664

4. มูลนิธิกระจกเงา

ร่วมบริจาค
 
มูลนิธิกระจกเงา เป็นองค์กรเพื่อพัฒนาสังคม สิทธิมนุษยชน และความมั่นคงของชีวิต โดยมุ่งหวังให้คุณภาพชีวิตของมนุษย์ดีขึ้น ให้ความช่วยเหลือผู้ที่ประสบกับปัญหาในครอบครัว คนไร้บ้าน ศูนย์ข้อมูลคนหาย หรือผู้ยากไร้ขาดที่พักพิง องค์กรรับบริจาคสิ่งของทุกชนิด รับบริจาคเงินออนไลน์ รวมถึงข้าวสารอาหารแห้งเพื่อการดำรงชีพผ่านทาง

เว็บไซต์ : -h ttps://mirror.or.th-
เฟซบุ๊ก :  มูลนิธิกระจกเงา
เบอร์โทรศัพท์ : 061-909-1840

5. สถานสงเคราะห์เด็กอ่อนพญาไท

บริจาคเงินออนไลน์
 
มูลนิธิแห่งนี้เป็นที่พึ่งพิงของเด็กแรกเกิดที่ถูกทอดทิ้งตามโรงพยาบาลต่าง ๆ ทั้งชายและหญิงที่มีอายุไม่เกิน 6 ปี รวมทั้งเด็กที่ถูกทอดทิ้งจากครอบครัว เพื่อพัฒนาและเสริมสร้างทักษะชีวิตให้เด็กและเยาวชนพร้อมคืนสู่ครอบครัวที่อบอุ่น ซึ่งนอกจากจะเปิดรับการบริจาคเงินในการเลี้ยงดูเด็กแล้ว ยังเปิดโอกาสในการขอรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมอีกด้วย ติดต่อสอบถามได้ที่

เว็บไซต์ : -h ttps://www.dcy.go.th/office/province/phayathaibabieshome-
เฟซบุ๊ก : สถานสงเคราะห์เด็กอ่อนพญาไท 
เบอร์โทรศัพท์ : 02-584-7255

6. มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์

บริจาคเงิน

เราสามารถแบ่งปันความสุขเพิ่มแสงสว่างให้กับคนตาบอดได้ผ่านองค์กรนี้ มูลนิธิคนตาบอดฯ ได้เปิดโอกาสให้ผู้คนร่วมบริจาคหลากหลายรูปแบบ ทั้งการบริจาคเงิน สิ่งของ รวมไปถึงแรงกายในการอ่านหนังสือให้กับคนตาบอดฟัง เพื่อสร้างประสบการณ์ให้กับผู้พิการทางสายตา และเพิ่มศักยภาพในการหาเลี้ยงชีพให้กับตนเอง โดยไม่เป็นภาระต่อสังคม ร่วมบริจาคให้มูลนิธิได้ที่

เว็บไซต์ : -h ttps://www.blind.or.th-
เฟซบุ๊ก : มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์
เบอร์โทรศัพท์ : 02-354-8365-68, 02-354-8370-71

7. มูลนิธิบ้านสงเคราะห์สัตว์พิการ

บริจาคเงินลดหย่อนภาษี

สัตว์โลกน่ารักเมื่อเจ็บไข้ได้ป่วยมีหลายรายที่ต้องถูกทิ้งให้ทนทุกข์ทรมาน มูลนิธิบ้านสงเคราะห์สัตว์พิการจึงเป็นศูนย์กลางในการรับบริจาคเงินเพื่อนำไปช่วยเหลือสัตว์ป่วย สัตว์พิการ ที่ต้องการการดูแลอย่างต่อเนื่อง การบริจาคเงินช่วยเหลือสัตว์น้อยที่พูดไม่ได้ สามารถสมทบทุนได้ตามกำลังศรัทธา เพื่อเป็นค่าอาหารและยา รวมไปถึงค่ารักษาต่าง ๆ ผ่านทาง

เว็บไซต์ : -h ttps://home4animals.org-
เฟซบุ๊ก : home4animalsth
เบอร์โทรศัพท์ : 065-887-4888, 02-584-4896, 02-961-5360

สรุปบริจาคเงิน คือการลงทุนเพื่อสังคมที่ดีขึ้น
การบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ยากไร้ขาดแคลนเป็นการสร้างบุญกุศลอันยิ่งใหญ่ ช่วยป้องกันเหตุการณ์ร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต เมื่อเกิดภาวะวิกฤต หรือมีสถานการณ์ฉุกเฉินต่าง ๆ มูลนิธิหรือองค์กรการกุศลจะมีเงินทุนเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ทันเวลา เพิ่มโอกาสช่วยชีวิตจากทั่วทุกมุมโลก 



12
กฎหมายแรงงาน

เมื่อคุณก้าวเข้าสู่ชีวิตการทำงาน มีสิ่งสำคัญที่คุณควรจะทราบเอาไว้ เพื่อไม่ให้คุณนั้นเสียประโยชน์ในสิทธิของตนเอง นั้นก็คือ กฎหมายแรงงาน ที่มีความสำคัญต่อลูกจ้าง นอกจากเรื่องของเงินเดือนแล้ว ยังมีสิทธิประโยชน์อื่น ๆ ที่คุณจะได้รับในระหว่างการทำงาน และเพื่อให้คุณไม่เสียสิทธิประโยชน์เหล่านั้น วันนี้เราได้รวมกฎหมายแรงงานเบื้องต้นที่จำเป็นต่อคุณเอาไว้ให้แล้ว จะมีอะไรบ้างนั้นไปดูกันเลย

กฎหมายแรงงานมีขึ้นเพื่ออะไร
กฎหมายแรงงาน คือ กฎหมายที่มีขึ้นเพื่อให้นายจ้างและลูกจ้างได้รับความเป็นธรรม ไม่เกิดการเอารัดเอาเปรียบกันระหว่างการทำงาน เป็นกฎหมายที่สร้างขึ้นเพื่อบัญญัติถึงสิทธิและหน้าที่ระหว่างนายจ้างและลูกจ้างในการจ้างงาน นอกจากเรื่องของเงินเดือนแล้วนั้น ยังมีกฎหมายอื่น ๆ อย่างเช่น กฎหมายการจ้างงาน กฎหมายแรงงานลาป่วย กฎคุ้มครองแรงงาน กฎหมายแรงงานเลิกจ้าง และอื่น ๆ อีกมากมาย
โดยกฎหมายแรงงานเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ต่อทั้งผู้ว่าจ้างและผู้ถูกจ้าง เพื่อให้ทุกคนได้สิทธิประโยชน์ที่เท่าเทียมกัน นอกจากนี้ยังรวมถึงสวัสดิการต่าง ๆ ที่ลูกจ้างจะต้องได้รับจากผู้ว่าจ้าง ความปลอดภัยในการทำงาน การลาหรือวันหยุดงาน ซึ่งทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามกฎหมายแรงงาน

ไขทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับกฎหมายแรงงาน

เงื่อนไขกฎหมายคุ้มครองแรงงาน

เพื่อป้องกันการถูกเอารัดเอาเปรียบ หรือเป็นการรักษาสิทธิประโยชน์ของตนเองไว้ ทั้งลูกจ้างและนายจ้างควรศึกษาเกี่ยวกับกฎหมายแรงงานว่ามีอะไรบ้าง ซึ่งวันนี้เราได้นำกฎหมายแรงงานเบื้องต้น ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงานมาไว้ให้กับทุกคนแล้ว

ชั่วโมงการทำงาน และเวลาพักตามกฎหมาย
ตามกฎหมายแรงงาน จะมีชั่วโมงการทำงานที่เหมาะสมถูกบัญญัติไว้ เพื่อไม่ให้ลูกจ้างเกิดความเหนื่อยล้า หรือทำงานหนักจนเกินไป ซึ่งตามกฎหมายแรงงานระบุไว้ว่า การทำงานทั่วไป จะกำหนดเวลาทำงานในหนึ่งวันไม่เกิน 8 ชั่วโมง และ ในหนึ่งสัปดาห์รวมแล้วไม่เกิน 48 ชั่วโมง ในส่วนของการพัก ลูกจ้างต้องมีเวลาพักไม่น้อยกว่า 1 ชั่วโมงต่อวัน โดยจะต้องเป็นการพักหลังจากที่ทำงานติดต่อกันไม่เกิน 5 ชั่วโมง
สำหรับประเภทงานที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพและความปลอดภัยของลูกจ้าง ตามกฎหมายแรงงานกำหนดไว้ว่า ต้องทำงานไม่เกิน 7 ชั่วโมงต่อวัน และรวมแล้วไม่เกิน 42 ชั่วโมงต่อสัปดาห์

สิทธิในการใช้วันลา และวันหยุดตามกฎหมาย
กฎหมายแรงงาน ที่ว่าด้วยการใช้วันลา และวันหยุดตามกฎหมายแรงงาน เพื่อให้ลูกจ้างได้พักผ่อนจากการทำงานที่เหนื่อยล้า ตามกฎหมายแรงงานแล้วกำหนดให้ลูกจ้างมีวันลา ดังนี้

  • ลาพักร้อน ตามกฎหมายแรงงานลูกจ้างที่มีอายุงาน 1 ปี สามารถลาพักร้อนได้ไม่น้อยกว่า 6 วัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับนโยบายของบริษัทแต่ละองค์กรอีกด้วย
  • ลาป่วย ตามกฎหมายแรงงานลูกจ้างสามารถลาป่วยได้ตามวันที่ป่วยจริง แต่หากมีการลาป่วย 3 วันขึ้นไป ให้ลูกจ้างยื่นใบรับรองแพทย์เพื่อเป็นหลักฐานที่ใช้ในการลาด้วย
  • ลากิจ  ตามกฎหมายแรงงานลูกจ้างสามารถลากิจได้ไม่น้อยกว่า 3 วัน และยังได้รับเงินเดือนตามปกติ
  • ลาคลอด ตามกฎหมายแรงงานลูกจ้างสามารถลาคลอดได้ 98 วัน แบ่งเป็นลาตรวจครรภ์ 8 วัน และลาคลอดบุตร 90 วัน และนายจ้างจะต้องให้เงินลูกจ้างเท่ากันกับเงินเดือนเดือนล่าสุดที่จ่าย
  • ลาทำหมัน ลูกจ้างสามารถลาได้ตามจำนวนที่ขึ้นอยู่กับใบรับรองแพทย์
  • ลาไปรับราชการทหาร ตามพระราชบัญญัติกฎหมายแรงงานกำหนดว่าให้ลูกจ้างลาได้ตามวันที่เรียก และต้องจ่ายเงินค่าจ้างในวันลานั้น แต่จะต้องไม่เกิน 60 วันต่อปี

นอกจากวันลาของลูกจ้างแล้ว ตามกฎหมายแรงงานยังมีวันหยุดที่เป็นสิทธิประโยชน์ของลูกจ้างอีกด้วย ซึ่งวันหยุดในประเทศไทยนั้นค่อนข้างเยอะ จะมีดังนี้ วันหยุดรายสัปดาห์  วันหยุดตามประเพณี วันหยุดราชการ และวันหยุดตามนโยบายของบริษัทอื่น ๆ

ข้อจำกัดและค่าแรงในการทำโอที
สำหรับการทำงานล่วงเวลา หรือการทำโอทีนั้นในกฎหมายแรงงานได้กำหนดไว้ว่า การทำงานล่วงเวลา หรือการทำงานในวันหยุด สามารถทำได้หากได้รับความยินยอมจากลูกจ้าง และจะต้องไม่มีข้อผูกมัดใดใดกับลูกจ้าง ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับประเภทของงาน เช่น หากหยุดแล้วจะเกิดความเสียหายกลางคัน หรือเป็นงานฉุกเฉิน ทั้งนี้ชั่วโมงการทำงานเมื่อรวมกันแล้วต้องไม่เกิน 36 ชั่วโมงต่อสัปดาห์

โดนไล่ออกทำอะไรได้บ้าง
สำหรับกฎหมายคุ้มครองแรงงานในกรณีโดนไล่ออกกะทันหันนั้น ก็มีเช่นเดียวกัน ซึ่งกฎหมายแรงงานที่ลูกจ้างควรรู้เมื่อโดนไล่ออกนั้น มีดังนี้

เมื่อลูกจ้างถูกไล่ออกกะทันหัน โดยการไล่ออกที่ลูกจ้างไม่เต็มใจหรือมีการบังคับให้เซ็นใบลาออก ลูกจ้างสามารถ ปฏิเสธและแจ้งกรมแรงงานเพื่อฟ้องร้องได้ หรือในกรณีที่นายจ้างต้องการเลิกจ้างนั้น ตัวนายจ้างต้องมีการจ่ายเงินชดเชยให้กับลูกจ้าง ซึ่งได้แก่ เงินชดเชย และค่าบอกกล่าวล่วงหน้าขึ้นอยู่กับอายุงานของลูกจ้าง ตามกฎหมายแรงงานมาตรา 118

รู้ทันกฎหมายแรงงาน ป้องกันการถูกเอาเปรียบจากหัวหน้าที่ไม่เป็นธรรม!
การศึกษาเกี่ยวกับกฎหมายแรงงานในปัจจุบันนั้นสำคัญอย่างมาก เพราะจะช่วยป้องกันสิทธิของตัวคุณเอง อีกทั้งยังป้องกันการถูกเอารัดเอาเปรียบจากผู้ว่าจ้างอีกด้วย ซึ่งกฎหมายคุ้มครองแรงงานนั้นก็ไม่ได้คุ้มครองแค่เฉพาะลูกจ้างเท่านั้น ยังคุ้มครองไปถึงนายจ้างอีกด้วย เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายได้รับความเป็นธรรมมากที่สุด หากคุณไม่อยากเสียสิทธิประโยชน์ของคุณไป การศึกษากฎหมายแรงงานเบื้องต้นจึงจำเป็นอย่างมากในปัจจุบัน


13
ครีมบำรุงผิว ยี่ห้อไหนดี

แนะนำการเลือกครีมบำรุงผิวหน้า ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนวทางการเลือกครีมถูกและดี จะต้องพิจารณาจากอะไร โดยคำนึงถึงช่องทางการขายที่หาซื้อง่าย ได้มาตรฐาน

แต่ละคน ต่างมีปัญหาสุขภาพผิวไม่เหมือนกัน การจะเลือกครีมทาหน้ายี่ห้อไหนดี ต้องคำนึงถึงหลายปัจจัย เห็นได้หลัก ๆ คือปัญหาคนหน้ามัน กับปัญหาคนหน้าแห้ง หากเลือกครีมบำรุงผิวหน้า ยี่ห้อไหนดีที่แก้ปัญหาได้ไม่ตรงจุด ก็เหมือนเสียเวลา เสียเงินไปฟรี ๆ ดังนั้น แนวทางสำหรับการมองหาครีมบำรุงผิว การเข้าใจในสรรพคุณหรือสารสกัดถือเป็นสิ่งสำคัญ รวมไปถึงปัจจัยของครีมถูกและดี มีความง่ายต่อการใช้งานที่เหมาะสมกับสภาพผิวหน้าที่สุด

วิธีครีมถูกและดีเลือกอย่างไร ให้ปลอดภัย?

หากพูดถึงครีมบำรุงผิวหน้าถูกและดี สิ่งสำคัญที่สุด คือความปลอดภัยที่ได้จากตัวครีมบำรุงผิว ไม่ว่าจะมีทั้งเลขจดแจ้งเครื่องสำอาง ที่ออกโดยอย. แน่นอนว่าเราควรตรวจสอบเบื้องต้นก่อนเสมอ นอกจากนี้ รีวิวก็ถือเป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้กัน เพื่อประกอบการตัดสินใจได้ง่าย การจะหาครีมบำรุงผิวหน้า ยี่ห้อไหนดี จะยังต้องคำนึงถึงปัจจัยเพิ่มเติม เพื่อไม่ให้เราเกิดอาการแพ้ หรือเลือกใช้ครีมได้ไม่ถูกวิธี โดยแบ่งแนวทางการเลือกออกได้ดังนี้

  • เลือกครีมถูกและดี โดยเน้นไปที่แนวทางการใช้งาน ว่าเราจะใช้สำหรับกันแดดบำรุงกลางวัน หรือเน้นการฟื้นฟูผิวตอนกลางคืน เพื่อให้เราได้สรรพคุณของตัวครีมเหมาะสมกับการใช้งานที่สุด
  • ควรเลือกครีมปรับสภาพผิว หรือครีมบำรุงผิวที่ได้มาตรฐาน มีเลขจดแจ้งชัดเจน สามารถตรวจสอบได้
  • เลือกครีมบำรุงผิวที่หาซื้อได้จาก ร้านค้าออนไลน์ หรือร้านค้าที่มีมาตรฐาน เพื่อคัดกรองคุณภาพของผลิตภัณฑ์ในเบื้องต้นได้ มีวันที่ผลิตหรือวันหมดอายุได้ชัดเจน
  • เลือกครีมบำรุงผิวหน้า ยี่ห้อไหนดี ที่เหมาะสมกับปัญหาผิวหน้า ที่มีอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นผิวที่ดำแดด, ผิวที่มีริ้วรอย, ผิวที่เป็นสิว ฝ้า กระ, ผิวแห้ง หรือผิวมัน โดยเช็กจากสรรพคุณเบื้องต้นที่ให้มาบนผลิตภัณฑ์
  • ครีมที่ใช้ดีที่สุด ไม่ใช่ครีมที่แพง แต่เป็นครีมที่มีสรรพคุณที่ตอบโจทย์กับเรา และมีความปลอดภัย ผ่านการศึกษารีวิวผลิตภัณฑ์
  • การเลือกครีมบำรุงผิวหน้า ยี่ห้อไหนดี จะต้องคำนึงสรรพคุณของส่วนผสม เราสามารถตรวจสอบ ว่าครีมของเรามีอะไรบ้างผ่านฉลากที่มี Ingredient สารสกัด ว่ามีสรรพคุณที่สอดคล้องกัน

5 อันดับครีมบำรุงผิวหน้า ยี่ห้อไหนดี หาซื้อง่าย หลากหลายสรรพคุณ

5 อันดับเครื่องสำอางประเภท ครีมบำรุงผิวหน้า ยี่ห้อไหนดี จะเน้นไปที่ตัวครีมบำรุงผิวที่มีสรรพคุณและสารสกัดที่หลากหลาย เพียงใช้แค่ตัวเดียว ก็จะได้ความคุ้มค่าในการใช้งาน แน่นอนว่าที่เราแนะนำ ย่อมมีการบำรุงทุกสภาพผิวที่มีปัญหา เพื่อให้สามารถแก้ปัญหาผิวให้กับคนได้ครอบคลุมที่สุด

1. Dr.Pong Advanced Skin Detoxifying Cream

ครีมบำรุงหน้ายี่ห้อไหนดี

ขอบคุณรูปภาพจาก’Watsons’

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบในการหาสินค้าประเภทครีมบำรุงหน้ายี่ห้อไหนดี Dr.Pong เป็นอีกแบรนด์ที่มีการผลิตออกมาหลากหลาย ซึ่งตัว Advanced Skin Detoxifying Cream เป็นครีมที่มีความโดดเด่นในด้านการเติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับชั้นผิว ทำให้เหมาะกับคนที่ผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื้น อีกทั้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ ชะลอวัย ป้องกันความเสียหายของเยื่อหุ้มเซลล์ หากใครที่อยากลองครีมบำรุงผิวหน้า ยี่ห้อไหนดี ที่เป็นที่นิยม เลือกตัวนี้ไม่ผิดหวัง

2. Smooth E Cream Plus White

ครีมทาหน้ายี่ห้อไหนดี

ขอบคุณรูปภาพจาก’smoothe’

แน่นอนว่าการแนะนำครีมบำรุงผิวหน้า ยี่ห้อไหนดีอย่าง Smooth E ที่โด่งดังในแง่ของครีมบำรุงผิวลดรอยแผลเป็น ที่เพิ่มสูตรใหม่ เหมาะทั้งรอยดำ รอยแผล และบำรุงสูตร Plus White เพิ่มความกระจ่างใส เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหารอยสิว รอยด่างดำ และผิวคล้ำ ชะลอการเสื่อมสภาพของผิว พร้อมริ้วรอยที่ดูจางลงได้ หากใครกำลังมองหาครีมทาหน้ายี่ห้อไหนดี ที่เน้นฟื้นฟูผิวให้กลับมากระจ่างใสตามโทนผิวของตัวเอง แนะนำ Smooth E ตัวนี้

3. OLAY Regenerist Micro-Sculpting Cream

ครีมถูกและดี

ขอบคุณรูปภาพจาก’konvy’

แนะนำครีมบำรุงกลางวัน Day Cream ที่เป็นครีมถูกและดี Olay Regenerist คือครีมที่เน้นในการเพิ่มความชุ่มชื้น และลดเลือนริ้วรอย ต้านการเกิดริ้วรอย Olay สูตรนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ เพราะด้วยตัว Amino-peptide ที่เพิ่มประสิทธิภาพในการลดเลือนริ้วรอย ยกกระชับผิว ทำให้ริ้วรอยจางลงได้ พร้อมกระตุ้นผิวให้สร้างคอลลาเจน กักเก็บความชุ่มชื้นได้ตลอดวัน หากใครกำลังหาครีมบำรุงผิวหน้า ยี่ห้อไหนดีที่เหมาะเรื่องริ้วรอย ต้องกระปุกนี้เลย

4. CeraVe Facial Moisturising Lotion

ครีมปรับสภาพผิว

ขอบคุณรูปภาพจาก’cerave’

Cerave ที่หนึ่งสำหรับครีมปรับสภาพผิวของทุกวัย นิยมในหมู่ของวัยรุ่น ที่ตัวครีมเน้นความใช้ง่าย ลดการแพ้ในเครื่องสำอางได้ดี เพราะไม่ใส่น้ำหอม ตัว Facial Moisturising จะเป็นครีมโลชันบำรุงผิวหน้า ที่เติมเต็มความชุ่มชื้นตลอดทั้งวัน ครบองค์ประกอบทั้ง กักเก็บความชุ่มชื้น แต่ไม่ทำให้ผิวอุดตัน พร้อมเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวมีสุขภาพดี หากใครกำลังมองหาครีมบำรุงผิวหน้า ยี่ห้อไหนดี ที่ดูแลผิวดี ไม่อยากเล่นท่ายาก Cerave คือที่หนึ่งเลย

5. La Roche-Posay Effaclar Duo Plus

ครีมที่ใช้ดีที่สุด

ขอบคุณรูปภาพจาก’larocheposay’

แนะนำ La Roche-Posay เป็นครีมที่ใช้ดีที่สุดในหมวดหมู่ของผู้ที่มีปัญหารอยสิว และความมันบนผิวหน้า ที่เน้นการควบคุมความมันส่วนเกิน ให้ผิวดูกระจ่างใส ลดเลือนรอยสิวดำ ป้องกันการเกิดสิวในระยะยาว เพิ่มความชุ่มชื้นได้ไม่เลอะหน้า สามารถทาครีมก่อนลงเมคอัพได้ หากใครกำลังมองหาครีมบำรุงผิวหน้า ยี่ห้อไหนดี ที่แก้ปัญหารอยสิว และควบคุมความมัน ลดสิวอุดตัน ครบทั้งองค์ประกอบของผู้มีปัญหาสิวและความมันอุดตัน

ข้อดีของครีมปรับสภาพผิว สามารถแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง

  • การเลือกใช้ครีมบำรุงผิวหน้า ยี่ห้อไหนดี ล้วนแล้วแต่เพิ่มความสวยงามบนใบหน้า ให้หน้าของเราดูกระจ่างใสตามโทนผิวเดิมของเรา เสริมบุคลิกภาพได้ดีจากการดูแลตัวเอง
  • สามารถแก้ปัญหาสภาพผิวของเราในระยะยาว
  • ชะลอสภาพผิวที่เสื่อมสภาพตามวัย
  • ไม่ว่าจะเป็นครีมทาหน้าผู้หญิง หรือผู้ชาย สามารถช่วยปรับสภาพผิวได้ทั้งคู่

สรุป

เลือกครีมบำรุงผิวหน้า ยี่ห้อไหนดี ที่เน้นความสะดวกสบายในการสั่งซื้อ รวมไปถึงครีมถูกและดี ทั้งหมดที่เราแนะนำ ถือเป็นตัวครีมที่ได้มาตรฐาน สามารถหาซื้อง่าย ได้รับความนิยมในท้องตลาด สามารถศึกษารีวิวครีมทาหน้าเพิ่มเติมได้ สำคัญคือหาซื้อจากร้านค้าที่ได้มาตรฐานด้วยเช่นกัน เพื่อหลีกเลี่ยงเครื่องสำอางปลอมในท้องตลาด

14
5 อันดับโต๊ะ ยี่ห้อไหนดี นั่งสบาย แก้ปัญหาออฟฟิตซินโดรม

คนที่มองหาโต๊ะทำงานที่เหมาะกับสรีระของร่างกาย แบบที่สามารถปรับระดับได้ตามที่ต้องการและมีราคาที่สามารถจับต้องได้ไปดู 5 อันดับโต๊ะ ยี่ห้อไหนดีกัน

ทุกวันนี้คนส่วนใหญ่มักจะทำงานสายออฟฟิศหรือต้องนั่งทำงานจ้องหน้าคอมมาเป็นเวลานานๆ การที่นั่งนานสามารถส่งผลให้มีอาการปวดหลัง ปวดคอ บ่า และไหล ตามมานั้นเอง เมื่อคุณนั่งทำงานกับโต๊ะที่ไม่รองรับสรีระของร่างกาย หรือขนาดของโต๊ะทำงานขนาดเล็กจนเกินไป จะทำให้มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคออฟฟิศซินโดรมอย่างมาก ในปัจจุบันนี้เลยมีการป้องกันและวิธีการแก้ไขโรคนี้คือการเลือกโต๊ะและเก้าอี้ที่เหมาะกับสรีระของร่างกายนั้นเอง

ในบทความนี้ทางเราจะมาแนะนำโต๊ะ ยี่ห้อไหนดี 5 อันดับที่สามารถใช้ในการทำงาน เล่นเกม อ่านหนังสือ ให้เหมาะร่างกายตัวเอง สำหรับใครที่กำลังมองหน้าโต๊ะคอม โต๊ะทำงานขนาดเล็ก หรือโต๊ะหนังสือ ใต้บทความนี้จะตอบคำถามเกี่ยวกับโต๊ะ ยี่ห้อไหนดี ให้คุณเอง

ในปัจจุบันโต๊ะมีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหนในการทำงาน

ในการทำงานออฟฟิศเราควรจะทำการเลือกโต๊ะ ยี่ห้อไหนดี ที่เหมาะกับสรีระของร่างกายในแต่ละบุคคล โดยโต๊ะที่ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับกับการทำงาน หากจะต้องนั่งทำงานเป็นเวลานานๆ หรือต้องยืนทำงานที่โต๊ะเป็นเวลานาน เพราะฉะนั้นโต๊ะทำงานก็จะต้องเหมาะกับสรีระร่างกายเช่นกัน เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาที่จะตามมาเกี่ยวกับสุขภาพ จากการเมื่อยล้าเป็นระยะเวลานานๆจนอาจจะเกิดโรคออฟฟิศซินโดรมได้

โดยโต๊ะที่สามารถปรับระดับได้ถูกผลิตออกมาหลายรูปแบบและหลายยี่ห้อ เพราะฉะนั้นโต๊ะทำงานมีให้เลือกมากมายตั้งแต่โต๊ะราคาถูกไปจนถึงโต๊ะที่มีราคาแพง ส่วนใหญ่แล้วจะขึ้นอยู่กับวัสดุที่นำมาผลิต การดีไซน์ และอายุของการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะทำงานเล็กๆ โต๊ะวางคอมพิวเตอร์ โต๊ะใหญ่ หรือโต๊ะหนังสือ ซึ่งคนก็จะเริ่มมีคำถามว่าควรเลือกซื้อยังไง เลือกโต๊ะ ยี่ห้อไหนดี ควรเลือกจากปัจจัยเหล่านี้

  • ควรเลือกโต๊ะทำงานที่สามารถปรับระดับของโต๊ะได้ แต่ในระหว่างการทำงานอาจจะต้องมีการใช้โต๊ะของบริษัท ซึ่งจะขอแนะนำให้ใช้โต๊ะที่ปรับระดับได้เพราะแต่ละคนมีความสูงและมีท่านั่งที่แตกต่างกันออกไป ยังรวมไปถึงเวลาอ่านหนังสือก็ควรใช้โต๊ะที่ปรับได้เช่นกัน เพื่อลดปัญหาออฟฟิศซินโดรมแถมยังช่วยให้ไม่มีการปวดเมื่อยระหว่างวันอีกด้วย
  • ควรเลือกจากความสูงของโต๊ะที่พอดีกับร่างกาย เพราะการที่จะต้องนั่งหรือยืนทำงานเป็นเวลานานๆ ทำให้เราต้องมีการก้มเงยอยู่บ่อยครั้ง จนอาจจะทำให้เกิดอาการปวดหลัง ปวดคอ บ่า ไหลได้ เพราะเหตุนี้การเลือกโต๊ะทำงานที่เหมาะสมกับตัวเอง แค่เลือกโต๊ะที่พอดีกับร่างกายก็สามารถลดอาการปวดเมื่อยลงได้ ควรไปทำการเลือกโต๊ะด้วยตัวเองเพื่อเป็นการทดลองใช้งานจริงๆ
  • ควรเลือกโต๊ะจากพื้นที่ที่ต้องการใช้สอย เพราะโต๊ะมีหลากหลายขนาดทั้งขนาดเล็ก กลาง ไปจนถึงใหญ่ สำหรับคนที่จะใช้โต๊ะคอมควรเลือกโต๊ะที่สามารถวางหน้าจอ และอุปกรณ์ต่างๆที่ต้องใช้งานได้ เพื่อให้เพียงพอต่อการใช้งาน ระยะห่างของหน้าจอคอมพิวเตอร์ควรห่างอย่างน้อย 60-70 เซนติเมตร เพื่อให้พอดีกับสายตาและท่านั่งที่เหมาะสม
  • ควรเลือกโต๊ะจากคุณภาพในการใช้งาน และห้ามมองแค่ดีไซน์ของโต๊ะเพียงอย่างเดียวเพราะโต๊ะที่สวยงามอาจจะไม่ได้เหมาะกับการใช้งานก็ได้ เพราะฉะนั้นควรนึกถึงการใช้งานเวลานั่งทำงานกับโต๊ะเป็นเวลานาน จึงควรเลือกจากวัสดุที่นำมาผลิตโต๊ะทำงานที่มีความแข็งแรง ทนทาน อายุการใช้งานที่ยาวนาน และคุ้มค่ากับราคาที่ได้จ่ายไป

5 อันดับโต๊ะ ยี่ห้อไหนดีที่เหมาะกับตัวคุณ

5 อันดับโต๊ะ ยี่ห้อไหนดีที่เหมาะกับตัวคุณ

1. Modernform

โต๊ะทำงานจากแบรนด์ Modernform มีระบบ Active Touch controller ที่สามารถทำการปรับระดับความสูงได้ตั้งแต่ 57 เซนติเมตร ไปจนถึง 124 เซนติเมตรเลย และยังบันทึกความสูงได้ถึง 2 ระดับ ตัวโต๊ะมีระบบกันไฟฟ้ากระชากเมื่อเกิดเหตุไฟดับ สามารถรองรับน้ำหนักได้มากที่สุดถึง 163 กิโลเมตรถือว่าสูงมากเลยทีเดียว เมื่อทำการเทียบกับโต๊ะทำงานปกติ ราคาเหมาะสมกับคุณภาพที่จะได้รับอย่างแน่นอน

2. REM13

โต๊ะหนังสือที่ปรับระดับได้จากแบรนด์ REM13 เพื่อสุขภาพของโต๊ะที่ทำมาจากวัสดุที่แข็งแรงอย่างเหล็กจะมีความหนาที่มั่นคง สามารถปรับความสูงได้ตั้งแต่ 60 เซนติเมตรไปจนถึง 125 เซนติเมตร สามารถรองรับน้ำหนักได้มากถึง 100 กิโลกรัม มีมอเตอร์ 2 ตัว เลยทำให้ปรับระดับของโต๊ะได้ตามที่ต้องการอย่างมีประสิทธิภาพ แถมยังมีระบบบันทึกความสูงที่ใช้เป็นประจำ มีระบบป้องกันมอเตอร์ไหม้จากการปรับระดับและยังมีระบบป้องกันการหนีบมืออัตโนมัติอีกด้วย

3. ProSpace

โต๊ะทำงานที่เหมาะสำหรับสายงานเขียน หรืองานตำแหน่งของไอทีที่จำเป็นจะต้องนั่งติดโต๊ะคอมอยู่เป็นระยะเวลานานๆ ทางแบรนด์ ProSpace ถือว่าเป็นโต๊ะทำงานที่เหมาะมากขนาดของโต๊ะมีความกว้างถึง 120*75*66-125 เซนติเมตร สามารถปรับระดับไฟฟ้ามอเตอร์คู่ได้อย่างไหลลื่นถึง 4 ระดับ ยังมีระบบเซนเซอร์ที่หยุดอัตโนมัติได้ จากน้ำหนักที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว มั่นใจในเรื่องของความปลอดภัยได้เลยเพราะใช้วัสดุที่มีคุณภาพด้วยไม้เมลามีนกันน้ำและกันความร้อนได้ดี

4. ERGONOZ

โต๊ะของแบรนด์ Ergonoz จะเป็นโต๊ะทำงานมีลิ้นชักแบบที่สามารถปรับระดับได้คือรุ่น Ergonoz Standing Desk Converter จะมีความโดดเด่นตรงที่มีชั้นวางที่เพิ่มขึ้นมา จึงทำให้สามารถวางคอมพิวเตอร์ได้มากถึง 2 จอเลย และชั้นที่ยื่นออกมาสำหรับวางแป้นพิมพ์ชั้นบนจะมีขนาด 40*77 เซนติเมตร ส่วนของชั้นล่างจะมีขนาด 32.5*62 เซนติเมตร ยังสามารถปรับความสูงได้ด้วยการปลดล็อกสปริงได้ตั้งแต่ 4 เซนติเมตร ถึง 40 เซนติเมตร เลยทีเดียว

5. FURRADEC

โต๊ะคอมจากทางแบรนด์ Furradec รุ่น JC35TS-RS2 เป็นโต๊ะคอมพิวเตอร์ที่ปรับระดับไฟฟ้าได้ วัสดุที่นำมาทำโต๊ะคือไม้ MDF โต๊ะจะมีความหนา 25 มิลลิเมตร มีการปิดขอบกันกระแทกไว้ด้วย PVC Edge เป็นอย่างดี ออกแบบมาเพื่อควบคุมระดับความสูงได้ 4 ระดับตั้งแต่ 75 เซนติเมตรจนถึง 121 เซนติเมตร สามารถรองรับน้ำหนักได้มากถึง 100 กิโลกรัม ด้วยระบบไฟฟ้าที่ทำให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์

ประโยชน์ของโต๊ะเพื่อสุขภาพมีอะไรบ้าง

ปัจจุบันตามบริษัทต่างๆเริ่มมีการทำงานในรูปแบบ work from home มากยิ่งขึ้น เพราะเหตุนี้คุณควรเริ่มมองหาโต๊ะทำงานที่สามารถปรับระดับได้จากทางเว็บไซต์ต่างๆ แนะนำโต๊ะเพื่อสุขภาพที่ดีในการเลือกโต๊ะที่เหมาะสมกับตัวคุณเอง จะยิ่งเป็นการส่งเสริมประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้น สำหรับผู้ใช้งานนอกจากการเลือกซื้อแล้วก็ควรดูด้วยว่า โต๊ะ ยี่ห้อไหนดี มีประโยชน์และข้อดีอะไรบ้าง

  • โต๊ะอ่านหนังสือถ้าใช้วิธีการเลือกดีๆ จะสามารถช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องสุขภาพได้มากกว่าเดิมจากการนั่งทำงานในท่าเดิมเป็นระยะเวลานานๆ อาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้ไปจนถึงเกิดโรคออฟฟิศซินโดรมได้ในอนาคตเลย
  • เลือกจากวัสดุที่ดีสามารถใช้งานได้ยาวนาน โดยโต๊ะที่มีการออกแบบมาเพื่อความทนทานสามารถรองรับน้ำหนักของคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่างๆ มีให้เลือกมากมายหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นโต๊ะไม้ โต๊ะเหล็ก หรือโต๊ะอะลูมิเนียม
  • โต๊ะใหญ่จะมีความสะดวกสบายต่อการวางของและมีพื้นที่ในการใช้สอยกับโต๊ะไม่ว่าจะวางจอคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์ต่างๆ ให้มีความเข้ากับแบบของบ้าน ปัจจุบันโต๊ะมักจะมีการดีไซน์ออกมาให้เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ทำให้บ้านสวยงามได้อีกหนึ่งอย่างเลย
  • โต๊ะที่สามารถปรับระดับได้ จะส่งเสริมในเรื่องการใช้งานได้มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นท่านั่งหรือท่ายืนให้ตรงกับสรีระร่างกายเพียงแค่นี้ ก็จะไม่เมื่อยคอ ไม่ปวดหลัง บ่า ไหลหรือท่ายืนเวลาเมื่อยขา และอยากเปลี่ยนบรรยากาศก็ทำได้

สรุป

สรุปโดยรวมแล้วว่า โต๊ะ ยี่ห้อไหนดี นั้น ขึ้นอยู่กับผู้ใช้งานพึงพอใจกับตัวเลือกมากน้อยแค่ไหน การเลือกโต๊ะในการทำงานถือว่าเป็นตัวช่วยที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของคุณได้ เพื่อสุขภาพที่สำคัญควรเลือกโต๊ะที่ปรับระดับได้จะทำให้เราสามารถปรับตามท่าทางตามสรีระของร่างกายได้ อีกทั้งการเลือกโต๊ะที่ดีมีคุณภาพ จะส่งผลให้เราสามารถนั่งทำงานได้นานมากยิ่งขึ้น โดยไม่มีการปวดหลัง และไม่เสี่ยงต่อการเป็นโรคออฟฟิศซินโดรมอีกด้วย

15
ปลดหนี้ คือ

หนี้ปัญหาใหญ่ที่ใครๆ ก็ไม่อยากเจอ พบกับวิธีปลดหนี้ง่ายๆ แต่ได้ผลจริง ที่พร้อมแชร์ให้กับทุกคน จะมีเทคนิคและเคล็ดลับในการปลดหนี้อะไรที่น่าสนใจอะไรบ้างมาดูกัน!

หนี้สถานการณ์สุดสยองที่ใคร ๆ ก็ไม่อยากเจอ สำหรับท่านที่เคยมีปัญหาหนี้สินรุมเร้าคงเข้าใจสถานการณ์นี้เป็นอย่างดี ในสภาพเศรษฐกิจแบบนี้ ปัญหาหนี้สินคงเป็นหนึ่งในปัญหาที่หลายคนพยายามหลีกเลี่ยง แต่ในบางครั้งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เราจะปลดหนี้อย่างไรให้ได้ผล

บทความนี้เราจะพาทุกท่านมาพบกับ 6 เคล็ดลับวิธีการปลดหนี้ง่ายๆ แต่ได้ผลจริง ที่เรารับรองเลยว่าเมื่อคุณอ่านบทความนี้จนจบคุณจะสามารถบริหารหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและสามารถปลดหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ วิธีปลดหนี้จะมีอะไรบ้าง แล้วเราควรบริหารหนี้สินอย่างไรให้ได้ผล ทุกท่านสามารถหาคำตอบได้ในเนื้อหาของบทความนี้

เทคนิคเคล็ดลับปลดหนี้ง่ายๆ แต่ได้ผลจริง
 
สินเชื่อปลดหนี้

สำหรับท่านที่กำลังประสบกับปัญหาหนี้สินรุมเร้าคงเข้าใจคำดีกับคำว่าชักหน้าไม่ถึงหลังเป็นอย่างดี อย่าให้หนี้เป็นนายของเราจนไม่มีความสุขในการใช้ชีวิต หัวข้อนี้เราจะพาทุกท่านมาพบกับเคล็ดลับการปลดหนี้ง่ายๆ แต่ได้ผลจริง จะมีเคล็ดลับอะไรบ้างมาดูกัน

1. เรียงลำดับว่าหนี้ไหนต้องรีบจ่ายสุด

สำหรับท่านที่มีปัญหาหนี้สินรุมเร้าหรือจำเป็นต้องจ่ายหนี้กับเจ้าหนี้หลายคนในระยะเวลาที่ไล่เลี่ยกัน จนไม่รู้ว่าควรวางแผนการปลดหนี้อย่างไรดี การเรียงลำดับความสำคัญของระยะเวลาการใช้หนี้สามารถช่วยคุณได้ อย่างที่เราทราบกันดีว่าระยะเวลา จำนวนเงิน และความถี่ในการจ่ายหนี้ของเจ้าหนี้แต่ละคน จะมีระยะเวลา จำนวนเงิน และความถี่ในการชำระหนี้ที่ไม่เท่ากัน

การที่เราวางแผนการปลดหนี้โดยใช้ระยะเวลา จำนวนเงิน และความถี่มาใช้เป็นตัวชี้วัดความสำคัญ เพื่อเรียงลำดับการจ่ายหนี้ก่อนและหลังให้กับเจ้าหนี้แต่ละคน จะช่วยให้ท่านสามารถเรียงลำดับความสำคัญและวางแผนการปลดหนี้ได้ง่ายขึ้น แถมวิธีนี้ยังเป็นวิธีง่าย ๆ ที่ช่วยให้คุณสามารถวางแผนการปลดหนี้ได้อย่างเป็นระบบ ทราบได้แน่ชัดว่าจำเป็นต้องใช้จ่ายเพื่อปลดหนี้ในวันไหน ต้องใช้ระยะเวลาเท่าไหร่ และเดือนนั้น ๆ ต้องใช้เงินไปกับการปลดหนี้กี่บาท

2. วางแผนการเงินใหม่

ไม่ว่าจะเป็นการเก็บออมหรือการปลดหนี้การวางแผนการเงินก็ยังเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้น ๆ ที่ช่วยให้คุณสามารถใช้จ่ายได้อย่างเป็นระบบ ไม่ว่าจะเป็นการปลดหนี้บัตรเครดิต การปลดหนี้รายวัน หรือการปลดหนี้แบบไหน หากคุณไม่มีการวางแผนการเงิน คุณจะไม่สามารถรู้ได้เลยว่าในหนึ่งเดือนคุณจำเป็นต้องใช้จ่ายไปกับหนี้และค่าใช้จ่ายส่วนตัวเท่าไหร่

คุณสามารถวางแผนการเงินเพื่อการปลดหนี้ได้ง่าย ๆ ผ่านการคำนวนจำนวนหนี้ที่คุณจำเป็นต้องจ่ายต่อเดือน บวกเข้ากับค่าใช้จ่ายจำเป็นเพื่อการดำรงชีวิตอย่าง ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเดินทาง ค่าอาหาร และค่าใช้จ่าย ๆ อื่น ๆ ที่จำเป็นต้องจ่าย จากนั้นจึงนำมาลบกับรายได้ต่อเดือนของคุณ ตัวเลขในส่วนที่เหลือคุณอาจนำเงินส่วนนั้นมาเก็บไว้เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในยามฉุกเฉิน เงินเก็บ หรือค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่จำเป็นตามความเหมาะสม เพียงเท่านี้คุณก็สามารถบริหารการปลดหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพได้แล้ว

3. ห้ามสร้างหนี้เพิ่มเด็ดขาด

หนึ่งในเคล็ดลับสำคัญสำหรับท่านที่ต้องการวิธีปลดหนี้ให้เร็วที่สุดคือการไม่สร้างหนี้เพิ่ม อย่างที่เราทราบกันดีว่าสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน อาจทำให้หลายท่านมีปัญหาการเงินแบบชักหน้าไม่ถึงหลัง จนต้องไปกู้หนี้ยืมสินมาเพื่อจ่ายค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่สำคัญที่จำเป็นต้องทำหากท่านต้องการปลดหนี้อย่างมีประสิทธิภาพคือการไม่สร้างหนี้เพิ่ม เพราะการสร้างหนี้ก้อนใหม่โดยที่ยังมีหนี้ก้อนเก่าอยู่นั้น จะทำให้คุณมีหนี้ติดตัวต่อไปแบบไม่จบไม่สิ้น

การปลดหนี้จึงไม่ควรสร้างหนี้ก้อนใหม่เพิ่ม และควรวางแผนการเงินใหม่เพื่อให้การชำระหนี้ก้อนเก่าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่มีการก่อหนี้เพิ่ม และมีเสถียรภาพทางการเงินที่ดีถึงแม้จะมีหนี้สินอยู่ในมือ

4. ทำบัญชีรายรับรายจ่าย

วิธีปลดหนี้บัตรเครดิต วิธีปลดหนี้นอกระบบ หรือวิธีการปลดหนี้รูปแบบไหน ๆ สิ่งที่ขาดไม่ได้คือการทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย สำหรับท่านที่สงสัยว่าบัญชีรายรับรายจ่ายจะช่วยอะไร ในเมื่อมันเป็นเพียงสิ่งง่าย ๆ ที่ใคร ๆ ก็ทำได้ เราบอกเลยว่าการทำบัญชีรายรับรายจ่ายอย่างสม่ำเสมอนั้นทรงพลังกว่าที่คุณคิด เพราะบัญชีรายรับรายจ่ายจะช่วยให้คุณเห็นพฤติกรรมการใช้จ่ายของคุณได้ชัดเจนขึ้น รู้ได้แน่ชัดว่าเงินในแต่ละวันหมดไปกับค่าใช้จ่ายในส่วนใดบ้าง สิ่งนี้จะช่วยให้คุณสามารถลดทอนค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกไปได้ แถมยังทำให้คุณสามารถวางแผนการเงินได้ง่ายขึ้นจากภาพรวมการใช้เงินในแต่ละวันของตัวเอง

5. ออมเงินเพื่ออนาคต

สำหรับท่านที่มีปัญหาหนี้สินและมีเป้าหมายในการปลดหนี้จนไม่มีเงินเก็บสำหรับการใช้จ่ายในอนาคต เราบอกเลยว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ และเป็นพฤติกรรมเสี่ยงที่จะทำให้เกิดหนี้ในอนาคต ถึงแม้เราจะมีเป้าหมายในการปลดหนี้ เราก็ไม่ควรลืมที่จะแบ่งส่วนรายได้เพื่อการออมสำหรับอนาคต เพราะเราไม่สามารถทราบได้เลยว่าในอนาคตเราจะมีค่าใช้จ่ายฉุกเฉินอะไรเข้ามาบ้าง การที่เราปลดหนี้จนไม่แบ่งเงินสำหรับการออม จึงเป็นพฤติกรรมที่เสี่ยงสำหรับการเป็นหนี้ในอนาคตจากการไม่มีเงินเก็บสำหรับค่าใช้จ่ายที่คาดไม่ถึง

สำหรับท่านที่สงสัยว่าเราจะมีเงินเก็บได้อย่างไรในเมื่อค่าใช้จ่ายในการปลดหนี้แต่ละเดือนนั้นสูงจนเราแทบจะไม่มีเงินใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เราบอกเลยว่าการทำบัญชีรายรับรายจ่ายเป็นสิ่งที่สามารถช่วยคุณได้ เพราะบัญชีรายรับรายจ่าย จะช่วยให้คุณเห็นภาพรวมการใช้เงินในแต่ละวันได้อย่างชัดเจน และช่วยให้คุณวางแผนการเงินเพื่อการปลดหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

6. หลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้

สำหรับท่านที่เป็นหนี้และต้องการที่จะปลดหนี้หลาย ๆ เจ้าพร้อมกัน อาจต้องพบกับปัญหาการมีเงินในกระเป๋าไม่เพียงพอต่อการชำระหนี้ จนจำเป็นต้องผิดนัดชำระหนี้อยู่บ่อยครั้ง เราบอกเลยว่าการผิดนัดชำระหนี้ไม่ได้ส่งผลเสียแค่ในเรื่องเครดิตการกู้เท่านั้น แต่การผิดนัดชำระหนี้ยังทำให้โดนค่าปรับ ค่าธรรมเนียม ดอกเบี้ย และค่าใช้จ่ายที่ทบดอกขึ้นมาเรื่อย ๆ จนเรามีกำลังทรัพย์ไม่พอที่จะปลดหนี้ในส่วนนั้น การปลดหนี้ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดจึงควรหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาหนี้ที่พอกพูนจากดอกเบี้ยทบต้น

สรุปแนวทางการปลดหนี้อย่างไรให้ได้ผล

หลังจากอ่านบทความนี้จนจบทุกท่านคงเห็นกันแล้วว่าการเป็นหนี้ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด และการปลดหนี้ก็ไม่ได้ยากเกินความสามารถ เพียงแค่เรามีการวางแผน มีสติในการใช้เงิน วางแผนการเงินอย่างเป็นระบบ และทำตามแผนการเงินที่วางไว้อย่างสม่ำเสมอ เพียงเท่านี้การปลดหนี้ก็เป็นสิ่งง่ายๆ ที่ใครๆ ก็สามารถทำได้

สุดท้ายนี้เราอยากบอกกับทุกท่านว่าปัญหาการเงินเป็นปัญหาที่สามารถแก้ไขได้ เพียงแค่เรามีสติในการใช้จ่ายและทำตามแผนการเงิน เพียงเท่านี้ไม่ว่าจะการปลดหนี้ การมีเงินเก็บ หรือการเก็บเงินเพื่อการใช้จ่ายในอนาคตก็เป็นแค่เรื่องง่ายที่ใคร ๆ ก็ทำได้

16
ลมเล่นไฟ

ขอบคุณรูปภาพจาก ’viu’

หากใครกำลังเบื่อละคร สามี ภรรยา ตบตี ลมเล่นไฟ คือละครชิงไหวชิงพริบ ผ่านตัวละครที่สมจริงในแง่ของความคิด ทัศนคติ การรับมือกับปัญหาและความซับซ้อนของความคิดคน แน่นอนว่าเหตุการณ์ของเมียหลวง เมียน้อยจะบานปลายได้ง่าย แต่จะเล่ายังไงให้สามารถรีเลทกับสังคมในปัจจุบัน และดูเข้มข้น ละครลมเล่นไฟ ถือเป็นละครที่มีเค้าโครงไม่แปลกใหม่ แต่เล่าได้กลมกล่อม กับความเทาของคน ภาพรวมลมเล่นไฟจะมีอะไรน่าสนใจบ้าง มาดูกัน

สาเหตุที่ควรรับชมละคร ลมเล่นไฟ สำหรับคอละครไทย

ลมเล่นไฟ เป็นละครที่เสิร์ฟความคุ้นเคยกับคนที่ชื่นชอบละครอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นความรักสามเศร้า ที่เกิดจากผู้ชายที่มีภรรยาอยู่แล้ว แต่กลับมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนอื่น และเกิดความขัดแย้ง การแตกร้าวของครอบครัว ในขณะที่ลมเล่นไฟตอนแรก แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของสามี (ดิน) กับภรรยาหลวง (พระพาย) ที่ไม่สมบูรณ์แบบเท่าก่อนแต่งงาน จนคนเราไม่สามารถโทษอะไรใครได้ ทั้งกระอักกระอ่วนและน่าเห็นใจ

เพราะความแข็งกร้าว และรักความสมบูรณ์แบบจนทำร้ายความสัมพันธ์ของเธอกับสามี จนดินรู้สึกว่าตัวเองเล็กลง และถูกควบคุมมากจนเกินไป แผลของทั้งคู่ทำให้ถูกมือที่สามอย่าง เฟลม เข้ามารุกล้ำตัวของดินได้ไม่ยากนัก แต่ภาพรวมของลมเล่นไฟ ออนแอร์มา เราก็จะได้เห็นความซับซ้อนของพล็อต ที่มีการเฉือนเหลี่ยมกันไม่ใช่แค่คน 3 คน แต่มีปัจจัยและปมของคนภายนอกเข้ามาเกี่ยวข้อง ลมเล่นไฟ จึงสร้างความน่าสนใจ และเดาเนื้อเรื่องไม่ได้

รวมไปถึงเส้นเรื่องของตัวละครเสริมแต่ละตัวที่ส่งผลกระทบ และเชื่อมโยงกับเส้นเรื่องหลักอย่างกลมกลืน สำหรับลมเล่นไฟ น่าสนใจว่าสุดท้ายแล้ว ความยุ่งเหยิงนี้จะเป็นอย่างไร สำคัญที่สุดของความน่าดูของเรื่องนี้คือนักแสดงนำอย่างเชอรี่ เข็มอัปสร ที่กลับมาคืนจอในรอบ 9 ปี กับบทบาทพระพาย ที่เข้มทั้งอารมณ์ และความโกรธเกรี้ยว ตามมาด้วย อแมนด้า ชาลิสา ออบดัม และ ธีรเดช เมธาวรายุทธ ที่แสดงได้สมบทบาท จนอินไม่ไหว ให้ใจทุกคน

เรื่องย่อละครลมเล่นไฟ Exes & Missus

ละครลมเล่นไฟ

ขอบคุณรูปภาพจาก ’viu’

ละครลมเล่นไฟ จะพูดถึงพระพายพัด หมอศัลยกรรมหัวใจสุดเนี้ยบ ที่ซีเรียสทั้งการทำงาน และครอบครัว จนส่งผลกระทบต่อดิน สามีที่อบอุ่นและใส่ใจ แต่การที่เขาถูกพระพายควบคุม และละเลยมากจนเกินไป ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เปราะบาง และถูกมือที่สามอย่าง เฟลม เข้ามาช่วงชิงได้แต่โดยง่าย ในลมเล่นไฟ แม้บทบาทของพระพายจะเป็นหมอที่ดีที่สุด และเป็นแม่ของลูกได้อย่างเพอร์เฟกต์๋ แต่ในฐานะของภรรยา กับขาดตกบกพร่องมาก

ในขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างเฟลมและดิน ก็ยิ่งถลำลึกขึ้นไปเรื่อย ๆ เฟลมไม่ใช่คนที่จะยอมปล่อยผู้ชายดี ๆ ไปง่าย ๆ และเห็นช่องว่างของความสัมพันธ์ของดินและพระพาย จึงทำให้เธอคิดแผนการ เพื่อได้ตัวดินมาอยู่ในครอบครอง แต่ทุกอย่างไม่ง่ายเอาเสียเลย ลมเล่นไฟ เรื่องย่อจะนำเสนอความเป็นเนื้อเรื่องธรรมดาของมือที่สามกับครอบครัว แต่สิ่งที่ลมเล่นไฟเล่าได้ดี คือความสมจริงของอารมณ์ ความมีมิติของคน ทำให้เราเชียร์ใครไม่ออก

ลมเล่นไฟ กับนักแสดงชั้นนำ ที่ร่วมกันขับเคี่ยวอย่างดุเดือด

ลมเล่นไฟ คือละครที่คืนจอนักแสดงอย่าง เชอรี่ เข็มอัปสร ที่เคยแสดงศักยภาพในวงการมาอย่างยาวนาน แต่หายหน้าหายตาไปมากกว่า 8 ปีในจอแก้ว มาเสิร์ฟแฟน ๆ ด้วยบทบาทที่เต็มไปด้วยความหลากหลายทางอารมณ์ และตัวละครที่ตรงไปตรงมา แต่มีความเป็นมนุษย์ที่ Toxic ในบทบาทของความเป็นภรรยา ในขณะที่อเล็ก ธีรเดช เมธาวรายุทธ กับเคมีของสามีในลมเล่นไฟที่เราสามารถจับต้องได้เลยว่า อบอุ่น และอ่อนแอในทางเดียวกัน

นอกจากความโดดเด่นของละครลมเล่นไฟนางเอกและพระเอกแล้ว มือที่สาม ก็ยังมาด้วยนักแสดงที่กำลังมาแรงในขณะนี้อย่าง อแมนด้า ชาลิสา ออบดัม ที่โด่งดังเปรี้ยงปร้างจากมาตาลดา กับบทบาทตัวร้ายในละครลมเล่นไฟ ที่มีความกลม แม้ภายนอกจะร้ายแค่ไหน ปมและเบื้องหลังของเธอ ก็ทำให้เรารู้สึกว่าไม่มีใครที่ผิดและถูกในคราวเดียวกัน รวมไปถึงละครลมเล่นไฟ นักแสดงที่มาสมทบ และนักแสดงอวุโสก็ตามมาแสดงอารมณ์กันอย่างคับคั่ง

รายละเอียดละครลมเล่นไฟโดยสรุป

• ละครลมเล่นไฟ Exes and Missus (2024)
• แนว : Melodrama, Romance, Family
• ลมเล่นไฟ ผู้กำกับ : วรวุฒิ นิยมทรัพย์
• ลมเล่นไฟตอนแรก ออกอากาศ : วันพฤหัสบดีที่ 28 มีนาคม 2567
• ค่าย : บริษัท เมกเกอร์ เจ กรุ๊ป จำกัด
• ผู้จัด : นก จริยา แอนโฟเน
• ลมเล่นไฟ นักแสดง : (พระพาย) เชอรี่ เข็มอัปสร, (ดิน) อาเล็ก ธีรเดช, (เฟลม) อแมนด้า ชาลิสา ออบดัม
• ลมเล่นไฟ ออนแอร์ :  ช่อง 3 HD, รับชมออนไลน์ ละครเรื่อง ลมเล่นไฟย้อนหลังทุกตอนที่ Viu

สรุป ลมเล่นไฟ ละครดราม่าที่ไม่ควรพลาด

ลมเล่นไฟ เป็นละครที่สะท้อนสังคมของคนในยุคปัจจุบัน ไม่มีใครดี หรือร้ายไปหมด แต่ทุกคนต่างมีมุมดีและร้ายเหมือน ๆ กัน ชีวิตครอบครัวก็เช่นกัน แต่ละคนก็มีหลายหน้าที่ สำคัญคือการทำพาร์ตของตัวเองให้ดีที่สุด และเอาใจใส่คนรอบข้างมากขึ้น ซึ่งหากใครอยากดูลมเล่นไฟ ย้อนหลัง ก็สามารถหาดูได้ใน Viu ออนไลน์ ดูฟรี และอย่าลืมติดตามละครลมเล่นไฟได้ทุกวันพุธและวันพฤหัสบดี เวลา 20.30 น. ทางช่อง 3 เผชิญกับความร้าวฉานได้เลย


17
เพิ่มกล้ามเนื้อ

หากเป็นคนหนึ่งที่กำลังประสบปัญหารูปร่างไม่กระชับ กล้ามเนื้อหย่อนยาน ไขมันสะสม แต่อยากจะมีสุขภาพแข็งแรง อายุยืนยาว ร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งที่จะต้องทำเพิ่มเติม คือ การเพิ่มกล้ามเนื้อนั่นเอง เป็นการเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง ในปริมาณที่เหมาะสมกับร่างกาย โดยทำได้ทั้งการออกกำลังกายสร้างกล้ามเนื้อ หรือใช้เทคโนโลยี Emsculpt ในการเพิ่มกล้ามเนื้อ

เพิ่มกล้ามเนื้อมีประโยชน์อย่างไร

การเพิ่มกล้ามเนื้อ ข้อดี

การเพิ่มกล้ามเนื้อ หมายถึง กระบวนการที่ร่างกายสร้างเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อใหม่ หรือทำให้กล้ามเนื้อที่มีอยู่ใหญ่ขึ้น แข็งแรงขึ้น ผ่านการออกกำลังกายและโภชนาการที่เหมาะสม ด้วยกลไกในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ดังนี้

• การออกกำลังกาย เป็นการกระตุ้นให้กล้ามเนื้อทำงานหนักขึ้น ทำให้กล้ามเนื้อเกิดการฉีกขาด ร่างกายจะซ่อมแซมและสร้างเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อใหม่ที่ใหญ่ขึ้น แข็งแรงขึ้น

• โภชนาการ ด้วยร่างกายต้องการโปรตีน เพื่อสร้างและซ่อมแซมกล้ามเนื้อ, คาร์โบไฮเดรตเพื่อพลังงานในการออกกำลัง และไขมันที่ดีต่อสุขภาพเพื่อสุขภาพโดยรวม

โดยวิธีเพิ่มกล้ามเนื้อสามารถทำได้หลายวิธี เช่น

• การออกกำลังกายเพิ่มกล้ามเนื้อ มีหลายรูปแบบ เช่น การยกน้ำหนัก การใช้ยางยืด การฝึกบอดี้เวท เน้นฝึกกล้ามเนื้อทุกส่วนอย่างสม่ำเสมอ

• โภชนาการ ด้วยการรับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูง เช่น เนื้อสัตว์ ปลา ไข่ ถั่ว เต้าหู้ หรือคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน เช่น ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีต ผัก ผลไม้ และทานไขมันดี เช่น น้ำมันมะกอก อะโวคาโด ถั่ว เป็นต้น

• พักผ่อนให้เพียงพอ เพราะร่างกายต้องการเวลาพักฟื้นเพื่อซ่อมแซมกล้ามเนื้อ

ด้วยวิธีสร้างกล้ามเนื้อจะทำให้ได้กล้ามเนื้อที่ใหญ่ขึ้น แข็งแรงขึ้น มีรูปร่างที่สมส่วน เผาผลาญพลังงานได้มากขึ้น มีความแข็งแรง ทนทานมากขึ้น และช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคกระดูกพรุน แต่อย่างไรก็ตาม ควรเริ่มต้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการออกกำลังกายหรือเทรนเนอร์ พร้อมทั้งเลือกท่าออกกำลังกายสร้างกล้ามเนื้อที่เหมาะสมกับสภาพร่างกาย

โดยทั่วไปแล้ว นิยมออกกำลังกายเพิ่มกล้ามเนื้อบริเวณต่าง ๆ เช่น เพิ่มกล้ามหน้าอก (Chest), หลัง (Back), ไหล่ (Shoulder), แขน (Arm), ขา (Leg), แกนกลางลำตัว (Core) เป็นต้น นอกจากกล้ามเนื้อหลัก ๆ เหล่านี้แล้ว ยังมีกล้ามเนื้อส่วนย่อยอื่น ๆ อีกมากมายที่สามารถเพิ่มได้ เช่น เพิ่มกล้ามเนื้อสะโพก, สร้างกล้ามก้น เป็นต้น การเลือกท่าออกกำลังกายที่เหมาะสมจะช่วยให้เพิ่มกล้ามเนื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการสร้างกล้ามเนื้อเหล่านี้ มีประโยชน์ ได้แก่

1. กล้ามเนื้อที่แข็งแรงช่วยให้สามารถยกของหนัก วิ่งเร็ว และออกแรงได้นานขึ้น เหมาะสำหรับการเล่นกีฬาหรือกิจกรรมต่าง ๆ
2. กล้ามเนื้อที่ชัดเจนช่วยให้รูปร่างดูดี มีสัดส่วน เผยให้เห็นกล้ามเนื้อหน้าท้อง กล้ามเนื้ออก กล้ามเนื้อแขน ขา สะโพก
3. กล้ามเนื้อเผาผลาญพลังงานมากกว่าไขมัน ร่างกายจะเผาผลาญแคลอรี่ได้มากขึ้นแม้จะไม่ได้ออกกำลังกาย และด้วยการเผาผลาญพลังงานที่มากขึ้นช่วยให้ควบคุมน้ำหนักได้ดีขึ้น ลดความเสี่ยงต่อโรคอ้วน
4. กล้ามเนื้อที่แข็งแรงช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคกระดูกพรุน โรคความดันโลหิตสูง
5. กล้ามเนื้อช่วยรองรับข้อต่อและกระดูก ป้องกันการบาดเจ็บ ลดความเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุน
6. การออกกำลังกายเพื่อเพิ่มกล้ามเนื้อช่วยลดความเครียด เพิ่มระดับฮอร์โมนแห่งความสุข ส่งผลดีต่อสุขภาพจิต
7. กล้ามเนื้อที่แข็งแรงช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น รู้สึกผ่อนคลาย
8. กล้ามเนื้อช่วยชะลอความเสื่อมของร่างกาย ช่วยให้ดูอ่อนเยาว์

ต้องการเพิ่มกล้ามเนื้อด้วยการออกกำลังกาย ควรทำอย่างไร

แนวทางสำคัญในการเพิ่มกล้ามเนื้อ คือ การออกกำลังกายสร้างกล้ามเนื้อ ช่วยให้รูปร่างสมส่วน แข็งแรง ทนทาน สุขภาพดี มีความมั่นใจ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข ซึ่งสามารถปฏิบัติตามได้ ดังนี้

การเตรียมตัวก่อน-หลังในการออกกำลังกายเพิ่มกล้ามเนื้อ

ทุกครั้ง ทั้งก่อนและหลังออกกำลังกายเพิ่มกล้ามเนื้อจำเป็นต้องมีการเตรียมตัวที่ดีและเหมาะสม เพื่อให้สามารถเพิ่มกล้ามเนื้อได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ

• การเตรียมตัวก่อนออกกำลังกายเพิ่มกล้ามเนื้อ

1. วอร์มอัพ เพื่อช่วยให้ร่างกายพร้อมสำหรับการออกกำลังกาย ลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ ควรวอร์มอัพ 5 - 10 นาที โดยทำกิจกรรมเบา ๆ เช่น วิ่งเหยาะ ๆ กระโดดเชือก ปั่นจักรยาน
2. ยืดกล้ามเนื้อแบบไดนามิก ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ เตรียมกล้ามเนื้อให้พร้อมสำหรับการออกกำลังกายสร้างกล้ามเนื้อ ควรยืดกล้ามเนื้อแบบไดนามิก 5 - 10 นาที เช่น ยืดแขน ขา หมุนข้อเท้า สะโพก
3. ควรรับประทานอาหารมื้อเบา ๆ 1 - 2 ชั่วโมงก่อนออกกำลังกาย ช่วยให้มีพลังงานสำหรับการออกกำลังกาย
4. ควรดื่มน้ำให้เพียงพอ 1 - 2 แก้วก่อนออกกำลังกายสร้างกล้ามเนื้อ ช่วยให้ร่างกายไม่ขาดน้ำ
5. ควรเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม เช่น รองเท้า เสื้อผ้า น้ำดื่ม

• การเตรียมตัวหลังออกกำลังกายเพิ่มกล้ามเนื้อ

1. การคูลดาวน์ โดยจะช่วยให้ร่างกายค่อย ๆ กลับสู่สภาวะปกติ ลดความเสี่ยงต่อการปวดเมื่อย ควรคูลดาวน์ 5 - 10 นาที โดยทำกิจกรรมเบา ๆ เช่น เดิน วิ่งเหยาะ ๆ ยืดกล้ามเนื้อ
2. ควรรับประทานอาหารมื้อใหญ่ 1 - 2 ชั่วโมงหลังออกกำลังกายสร้างกล้ามเนื้อ ช่วยให้กล้ามเนื้อฟื้นฟู
3. ควรทานโปรตีน 0.8 - 1 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม 1 - 2 ชั่วโมงหลังออกกำลังกาย ช่วยให้กล้ามเนื้อซ่อมแซมและพัฒนา
4. ควรดื่มน้ำให้เพียงพอ ช่วยให้ร่างกายไม่ขาดน้ำ
5. ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ 7 - 8 ชั่วโมงต่อวัน ช่วยให้กล้ามเนื้อฟื้นฟู

วิธีออกกำลังกายเพื่อเพิ่มกล้ามเนื้อ

สำหรับวิธีออกกำลังกายเพื่อเพิ่มกล้ามเนื้อนั้น มีหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับเป้าหมาย ความชอบ และสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล แต่นิยมใช้ Weight Training Exercise และโยคะ ซึ่งแต่ละวิธีมีรายละเอียด ดังนี้

1. Weight Training Exercise หรือ การฝึกกล้ามเนื้อด้วยน้ำหนัก เป็นวิธีออกกำลังกายที่เน้นสร้างกล้ามเนื้อโดยตรง ช่วยให้กล้ามเนื้อแข็งแรง เผาผลาญพลังงานได้มากขึ้น และเผาผลาญไขมันได้ดีขึ้น ควรฝึกกล้ามเนื้อแต่ละส่วน 2 - 3 ครั้งต่อสัปดาห์ และพักระหว่างเซต 30 - 60 วินาที โดยมีท่าออกกำลังกายที่นิยม เช่น

• Squat: ฝึกกล้ามเนื้อต้นขา สะโพก และแกนกลางลำตัว
• Deadlift: ฝึกกล้ามเนื้อหลัง ต้นขา สะโพก และแกนกลางลำตัว
• Bench press: เพิ่มกล้ามหน้าอก ไหล่ และแขนหน้า
• Pull-ups: ฝึกกล้ามเนื้อหลัง แขนหลัง และแกนกลางลำตัว
• Overhead press: ฝึกกล้ามเนื้อไหล่ แขนหน้า และแขนหลัง

2. โยคะ เป็นการออกกำลังกายที่ผสมผสานท่าทางการยืดเหยียด การทรงตัว และการหายใจ ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ เสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว และปรับสมดุลของร่างกาย ควรฝึกโยคะอย่างสม่ำเสมอ 3 - 5 ครั้งต่อสัปดาห์ ในสถานที่ที่เงียบสงบ อากาศถ่ายเทสะดวก โดยท่าโยคะที่ช่วยเพิ่มกล้ามเนื้อ ได้แก่

• Vajrasana (ท่าเพชร): ฝึกกล้ามเนื้อต้นขา สะโพก และข้อเท้า
• Adho Mukha Svanasana (ท่าหมาคว่ำ): ฝึกกล้ามเนื้อหลัง แขน ขา และแกนกลางลำตัว
• Plank Pose (ท่าแพลงก์): ฝึกกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว หน้าท้อง และหลัง
• Chaturanga Dandasana (ท่าลูกศรสี่หน้า): เพิ่มกล้ามหน้าอก ไหล่ แขน และแกนกลางลำตัว
• Trikonasana (ท่าสามเหลี่ยม): ฝึกกล้ามเนื้อลำตัว ขา และสะโพก

การเพิ่มกล้ามเนื้อด้วยเครื่อง Emsculpt

สร้างกล้ามเนื้อด้วยเครื่อง Emsculpt

นอกเหนือจากการเพิ่มกล้ามเนื้อด้วยการออกกำลังกายแล้วนั้น สำหรับผู้ที่ไม่สะดวกจะออกกำลังกายก็ยังสามารถเพิ่มกล้ามเนื้อได้ด้วยวิธีอื่น ๆ อีก คือ การใช้เครื่อง Emsculpt โดย Emsculpt เป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่ใช้พลังงานคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าความเข้มข้นสูง (HIFEM) กระตุ้นกล้ามเนื้อให้หดตัวอย่างรุนแรงและรวดเร็ว เปรียบเสมือนการออกกำลังกายแบบ High-Intensity Interval Training (HIIT) แต่ไม่ต้องเคลื่อนไหวร่างกาย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มกล้ามเนื้อ เผาผลาญไขมัน และกระชับสัดส่วนโดยไม่ต้องผ่าตัด

ประโยชน์ของการเพิ่มกล้ามเนื้อด้วยเครื่อง Emsculpt

โดยผลลัพธ์ที่ได้จากการเพิ่มกล้ามเนื้อด้วย Emsculpt เช่น

• Emsculpt สามารถเพิ่มขนาดกล้ามเนื้อได้ถึง 16% ภายในเวลาเพียง 4 - 6 สัปดาห์ โดยไม่ต้องออกกำลังกายหนัก ๆ
• ช่วยเผาผลาญไขมันได้ถึง 19% กระตุ้นให้ร่างกายเผาผลาญไขมันส่วนเกิน
• Emsculpt ช่วยกระชับสัดส่วน โดยเฉพาะบริเวณหน้าท้อง สะโพก และต้นขา
• ช่วยยกกระชับกล้ามเนื้อหน้าท้องและฟื้นฟูกล้ามเนื้อหลังคลอด เหมาะสำหรับผู้หญิงหลังคลอด
• ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว ช่วยให้ทรงตัวดีขึ้น
• Emsculpt ช่วยลดเซลลูไลท์ ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น และช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต
• การมีรูปร่างที่ดี Emsculpt จึงช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเอง
• Emsculpt ใช้เวลาในการทำเพียง 30 นาทีต่อครั้ง เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาออกกำลังกาย

นอกจากประโยชน์ที่มีต่อสุขภาพแล้ว การเพิ่มกล้ามเนื้อด้วย Emsculpt ยังมีข้อดีอีกหลายประการ คือ ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น ไม่รู้สึกเจ็บปวดในระหว่างทำ สามารถเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจนภายใน 4 - 6 สัปดาห์ แถมผลลัพธ์คงอยู่ยาวนาน 6 - 12 เดือน เหมาะกับทุกสภาพผิว

วิธีการทำงานของเครื่อง Emsculpt

ในวิธีการทำงานของเครื่อง Emsculpt เพื่อเพิ่มกล้ามเนื้อนั้น จะใช้พลังงานคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าความเข้มข้นสูง (HIFEM) โดยสามารถอธิบายเป็นขั้นตอนได้ ดังนี้

1. เครื่อง Emsculpt ทำงานโดยส่งพลังงานคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าความเข้มข้นสูง (HIFEM) ผ่านคอยล์ที่วางลงบนบริเวณของร่างกายที่ต้องการ พลังงานเหล่านี้ จะผ่านผิวหนังและชั้นไขมัน ไปกระตุ้นให้กล้ามเนื้อเกิดการหดตัวอย่างรุนแรงและรวดเร็ว มากกว่า 20,000 ครั้ง ในเวลา 30 นาที
2. การหดตัวของกล้ามเนื้อแบบรุนแรงนี้ จะกระตุ้นให้กล้ามเนื้อเกิดการเผาผลาญพลังงาน ไขมัน และเกิดการสร้างกล้ามเนื้อใหม่ขึ้น
3. ส่งผลให้กล้ามเนื้อมีขนาดใหญ่ขึ้น เผาผลาญไขมันส่วนเกิน กระชับสัดส่วนมากขึ้น

สรุปเกี่ยวกับการเพิ่มกล้ามเนื้อ

การเพิ่มกล้ามเนื้อ คือ กระบวนการที่ร่างกายสร้างกล้ามเนื้อใหม่ หรือทำให้กล้ามเนื้อที่มีอยู่ใหญ่ขึ้น แข็งแรงขึ้น ด้วยวิธีการต่าง ๆ ทั้งการออกกำลังกายสร้างกล้ามเนื้อและใช้ Emsculpt ซึ่งถือว่า เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ช่วยเพิ่มกล้ามเนื้อ เผาผลาญไขมัน และกระชับสัดส่วน โดยไม่ต้องผ่าตัด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมีหุ่นสวย โดยไม่ต้องเสียเวลาออกกำลังกาย สามารถเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจนภายใน 4 - 6 สัปดาห์ และผลลัพธ์คงอยู่ยาวนาน 6 - 12 เดือน แต่ทั้งนี้ จะต้องทำภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ


18
โรงงานผลิตสครับผิว

การดูแลตัวเองไม่เพียงแต่การเข้าคลินิกเสริมความงามหรือการทานอาหารที่มีประโยชน์เท่านั้น การดูแลผิวภายนอกอย่างการขัดผิวให้ดูมีออร่าอยู่เสมอก็เป็นอีกทางเลือกที่ได้รับความนิยม มีโรงงานผลิตสครับหลายเจ้าที่รับทำแบรนด์สครับผิวที่ครบวงจร ที่ให้คำปรึกษาจนไปถึงการขอขึ้นทะเบียนอย. ซึ่งมือใหม่ที่อยากทําแบรนด์สครับจะต้องศึกษาหาข้อมูลให้ดีก่อนการตัดสินใจ ซึ่งการเลือกโรงงานผลิตสครับควรจะต้องมีความน่าเชื่อถือ ปลอดภัย มีมาตรฐานและสามารถตรวจสอบได้ ซึ่งแน่นอนว่ามีหลายโรงงานรับทำสครับและทําแบรนด์สครับผิวสูตรที่พัฒนาสูตรให้แตกต่างจากโรงงานผลิตสครับผิวเจ้าอื่นๆ ในท้องตลาด หากคุณกำลังมองหาโรงงานผลิตสครับที่เหมาะกับคุณ ไม่ควรพลาดกับบทความนี้เพราะได้รวบรวมส่วนผสมที่โรงงานผลิตสครับผิวกายเลือกใช้ อีกทั้งยังมีขั้นตอนการสร้างแบรนด์สครับผิวที่มือใหม่ไม่ควรพลาด

โรงงานผลิตสครับคืออะไร?

โรงงานทําสครับ

โรงงานผลิตสครับแบบ OEM คือ สถานที่หรือบริษัทผลิตสครับ เป็นโรงงานรับผลิตสครับขัดผิวทุกรูปแบบอย่างครบวงจร โดยสามารถเลือกให้โรงงานผลิตเกลือขัดผิว สครับเนื้อครีม สครับเนื้อผลไม้ หรือแม้แต่รับผลิตสบู่สครับที่มีให้เลือกหลากหลายสูตรตามความต้องการของเจ้าของแบรนด์ ทางโรงงานผลิตสครับมีบริการที่ครบพร้อมทั้งการให้คำปรึกษาเรื่องการสร้างแบรนด์ ช่วยวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาด ช่วยออกแบบปรับปรุง พัฒนาสูตร และรับผลิตสครับผิวที่ได้มาตรฐาน มีทีมงานผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำ อีกทั้งยังควบคุมการผลิตอย่างมืออาชีพ ทำให้มั่นใจได้ว่าจะสามารถสร้างแบรนด์สครับที่ตรงใจได้ โรงงานผลิตสครับจะดูแลและให้บริการขอขึ้นทะเบียนเลขที่จดแจ้งอย. ให้ เพื่อให้สะดวกกับเจ้าของแบรนด์ ลดขั้นตอนความยุ่งยากในการทำแบรนด์ลง

ข้อดีของการเป็นเจ้าของแบรนด์ผลิตสครับ

ข้อดีของการเป็นเจ้าของแบรนด์หรือทําแบรนด์สครับผิวมีดังนี้

1. รู้จักวางแผนแก้ปัญหา บางครั้งในการทำธุรกิจมักจะเจออุปสรรคเข้ามาทำให้จะต้องรู้จักการวางแผนเพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ โดยทางโรงงานผลิตสครับก็มีทีมงานในการช่วยให้คำปรึกษาด้านการทำธุรกิจ
2. มีอิสระในการทำงาน ไม่ได้เป็นลูกน้องใคร สามารถเลือกเวลาการทำงานได้ โดยสามารถเข้าไปปรึกษากับทางโรงงานทำสครับเพื่อคิดค้นและพัฒนาสูตร
3. หากเลือกโรงงานสครับผิวดี มีคุณภาพก็จะทำให้เจ้าของแบรนด์มีรายได้ มีชื่อเสียงและประสบความสำเร็จ สามารถเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้และสามารถมีเงินทุนในการต่อยอดธุรกิจอื่นๆได้
4. การเลือกโรงงานทําสครับที่มีมาตรฐานก็จะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีให้กับเจ้าของแบรนด์ ทำให้ดูมีความน่าเชื่อถือ
5. เมื่อทำแบรนด์สครับให้ประสบความสำเร็จสามารถขยายฐานธุรกิจให้แข็งแรง มั่นคงได้ ทำให้มีกำลังในการจ้างพนักงานหรือซื้อเครื่องจักร อีกทั้งยังเป็นการสร้างรายได้ให้กับผู้อื่น เป็นการช่วยเหลือสังคมอย่างหนึ่ง ทำให้ธุรกิจมีความมั่งคง เป็นธุรกิจครอบครัวที่ส่งมอบเป็นมรดกให้กับรุ่นลูกหลานต่อไป

สั่งผลิตสครับกับโรงงานมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง

ในการสั่งผลิตกับโรงงานผลิตสครับ มีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยากอย่างที่คิด จะมีขั้นตอนดังนี้

ขั้นตอนที่ 1 : เลือกสูตรสครับที่ถูกใจ
ในขั้นตอนนี้ทางโรงงานสครับจจะให้เจ้าของแบรนด์เลือกสูตรตามที่ต้องการ โดยทางโรงงานจะรับผลิตสครับต่างๆ ตามสูตรหรือคิดค้นพัฒนาสูตร เช่น โรงงานจะผลิตสครับออแกนิคโดยใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ หรือทางโรงงานจะผลิตสครับสมุนไพรโดยอาจจะใช้ส่วนผสมจากขมิ้น อาจจะเลือกให้โรงงานผลิตสครับเป็นแบบครีมสครับ หรือรับผลิตสบู่สครับได้

ขั้นตอนที่ 2 : โรงงานผลิตสครับจะออกใบเสนอราคา และให้ชำระค่ามัดจำงวดแรก
เมื่อได้สูตรที่พึงพอใจแล้ว ทางโรงงานผลิตสครับผิวขาวจะออกใบเสนอราคา เพื่อให้เจ้าของแบรนด์ชำระเงินมัดจำล่วงหน้าก่อนทำการสั่งผลิตขั้นต่ำตามที่ระบุในเอกสาร

ขั้นตอนที่ 3 : ทางโรงงานผลิตสครับจะทำการคิดค้นวิจัยและพัฒนาสูตรสครับตามที่บรีฟไว้
ทีมผู้เชี่ยวชาญของโรงงานผลิตสครับจะทำการพัฒนาสูตรให้ได้สครับที่มีมาตรฐานตรงตามความของการของเจ้าของแบรนด์ หากต้องคิดค้นและออกแบบสูตรสครับใหม่ๆ อาจจะต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เมื่อผ่านแล้วจึงส่งตรวจเพื่อขอขึ้นทะเบียนอย. อย่างถูกต้องเพื่อความมั่นใจในโรงงานผลิตสครับขัดผิวและความเชื่อมั่นในปลอดภัยของสินค้า

ขั้นตอนที่ 4 : เริ่มกระบวนการผลิต
ทางโรงงานผลิตสครับจะเริ่มการสั่งผลิตครับผิวในรูปแบบต่างๆ เช่น โรงงานผลิตสครับมะขามพอกผิวกาย โรงงานผลิตสบู่สครับสูตรผลไม้ โรงงานผลิตสครับน้ำตาลออแกนิค โรงงานผลิตเกลือขัดผิว เป็นต้น

ขั้นตอนที่ 5 : ชำระเงินส่วนที่เหลือ
เมื่อทำการสั่งผลิตแบรนด์สครับครบจำนวนตามที่ตกลงกันแล้ว เจ้าของแบรนด์ชำระเงินส่วนที่เหลือให้กับโรงงานผลิตสครับ

ขั้นตอนที่ 6 : โรงงานผลิตสครับส่งมอบสินค้าให้กับเจ้าของแบรนด์
เมื่อชำระเงินครบตามจำนวนใบสั่งซื้อแล้ว ทางโรงงานสครับน้ำตาลจะส่งมอบสินค้าให้กับเจ้าของแบรนด์ถือเป็นกระบวนการสุดท้าย

สารสกัดยอดนิยมที่แบรนด์สครับนิยมใช้

1. Vitamin E
โรงงานผลิตสครับเลือกใช้วิตามินอีที่ช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระ และยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว

2. Milk
โรงงานสครับเลือกใช้ส่วนผสมของนมที่จะช่วยให้ผิวเนียนนุ่มชุ่มชื้น ช่วยกระชับผิว ลดเลือนริ้วรอยและปรับให้สีผิวกระจ่างใสขึ้น

3.Rice
โรงงานผลิตสครับออแกนิคเลือกใช้ส่วนผสมของข้าวเพราะช่วยทำให้ผิวความชุ่มชื้นจากภายใน และช่วยปรับสีผิว ลดการเกิดริ้วรอย ใช้ได้ทั้งคนที่มีผิวแห้งและผิวผสม

4. Jojoba Oil
โรงงานผลิตสครับจะใช้สารสกัดใน Jojoba Oil ที่มีวิตามิน E สูงช่วยในเรื่องต่อต้านอนุมูลอิสระ ลดริ้วรอย ทำให้ผิวแลดูชุ่มชื้นสุขภาพดี และช่วยรักษาผิวแห้งเสียจากการถูกแสงแดดทำร้าย

5. Collagen
ช่วยในการดูแลผิวให้ดูสดใสมีชีวิตชีวา มีออร่า ช่วยลดในเรื่องของฝ้า กระ จุดด่างดำ และริ้วรอย

ผลิตสครับภายใต้สูตรของตัวเองกับ Pure Derima Laboratories โรงงานผลิตสครับมาตรฐาน OEM

แน่นอนว่าเทรนการดูแลตัวเองให้ดูผิวสวย ขาว เนียนใสเป็นที่นิยมในปัจจุบัน การดูแลตัวเองก็เป็นการพัฒนาบุคลิกภาพอย่างหนึ่งที่จะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ให้ดูไม่แก่ อีกทั้งยังทำให้ผิวดูดีอ่อนวัยอยู่เสมอ จึงเป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลายๆ คนอยากทำแบรนด์สครับเพราะเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ อยู่ตลอดและหากเลือกผลิตกับโรงงานผลิตสครับที่มีคุณภาพดีก็สามารถรักษาฐานลูกค้าเก่าได้อีกด้วย ขอแนะนำ PURE DERIMA LABORATORIES เป็นโรงงานที่รับทำสครับที่มีคุณภาพน่าเชื่อถือ มีบริการอย่างครบวงจรแบบ one stop service ที่มีทีมงานผู้เชี่ยวชาญในการควบคุมและดูแลบริการก่อนและหลังรับสินค้า หากสนใจสามารถติดต่อได้ที่

Facebook page: Pure Derima Laboratories
Website: Pure Derima Laboratories
Tel: 02-285-4266 และ 061-656-1449
Line: @PureDerima
IG: PureDerima


19
ซีรี่ย์จีนพากย์ไทย

ใครที่เป็นคอซีรี่ย์ห้ามพลาด ซีรี่ย์จีนพากย์ไทย ที่ขนมาให้คุณได้ดูอย่างจุใจตลอดช่วงวันหยุดหรือวันธรรมดา ที่จะช่วยคลายเครียด และเป็นเพื่อนแก้เหงาให้กับคุณ สำหรับแฟนๆ ชาวคอซีรี่ย์จีนที่ชอบดูพร้อมฟังเสียงไทย เรามีซีรี่ย์จีนพากย์ไทยมาแนะนำให้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นซีรี่ย์จีนพากย์ไทยย้อนยุค , ซีรี่ย์จีนพากย์ไทยโรแมนติก , ซีรี่ย์จีนพากย์ไทยดราม่า จะมีเรื่องไหนบ้าง? ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย!

จุดเด่นของซีรี่ย์จีนพากย์ไทยที่มัดใจผู้ชมให้ชื่นชอบ

ซีรี่ย์จีนมีจุดเด่นในเรื่องการนำหลักข้อคิดจากตำราเรียน, ขงจื้อมาใช้ในละครจีนพากย์ไทยหลากหลายเรื่อง เช่น ไซอิ๋ว เปาบุ้นจิ้น เป็นต้น รวมถึงการนำนักแสดงมากความสามารถมาถ่ายทอดเรื่องราวให้ผู้ชมได้เรื่องเข้าใจง่ายขึ้น ซึ่งซีรี่ย์จีนพากย์ไทยย้อนยุคที่นอกเหนือจะเต็มไปด้วยความสนุก น่าตื่นตาตื่นใจ มีวิทยาการการถ่ายทำและการตัดต่อที่เหนือระดับขึ้นมาราวกับมืออาชีพจากฮอลลีวูด ยังสอดแทรกไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ชาติจีนที่ให้ผู้คนได้ความรู้ไปด้วยขณะรับชม รวมไปถึงการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศจีนอย่างก้าวกระโดด สร้างความต้องการเรียนภาษาและวัฒนธรรมของจีนในหมู่คนทั่วโลก ในมุมของโอกาสที่จะสามารถนำไปพัฒนาทักษะของตนเองได้

กระแสและจุดเด่นที่มาแรงเหล่านี้ทำให้ซีรี่ย์จีนได้รับความนิยมจากผู้ชมชาวไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และในหลายเรื่องถูกนำมาทำเป็นละครจีนพากย์ไทยให้ผู้ชมฟังสนุกได้อรรถรสกันมากขึ้นอีกด้วย

แนะนำ 4 ซีรี่ย์จีนพากย์ไทย พร้อมยกความสนุกมาให้ชม

แนะนำซีรี่ย์จีนพากย์ไทย สนุกๆ ที่ยกตัวอย่างเนื้อเรื่องย่อมาให้อ่านก่อนตัดสินใจ พร้อมบอกแหล่งดูซีรี่ย์จีนพากย์ไทยฟรีได้ที่นี่!

1. Eternal Love (สามชาติสามภพ ป่าท้อสิบหลี่)

ซีรี่ย์จีนพากย์ไทย ย้อนยุค

ขอบคุณรูปภาพจาก : viu

ซีรี่ย์จีนพากย์ไทยจบแล้ว ที่มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นพลุแตกทั้งในประเทศและต่างประเทศ อย่างเรื่องนี้ที่เป็นซีรี่ย์จีนพากย์ไทยย้อนยุคที่ผ่านการฉายซ้ำหลายรอบที่สามารถดูได้ไม่เบื่อเลย พร้อมนักแสดงที่เป็นที่นิยมในจีนหลายคนมารวมกันไว้ในเรื่องนี้

วันที่เข้าฉาย : 25 มีนาคม 2019

นักแสดง : หยางมี่ รับบท ไป๋เฉี่ยน / ซืออิน / ซู่ซู่ , จ้าวโหย่วถิง รับบท ม่อยวน / เย่หัว , ตี๋ลี่เร่อปา รับบท ไป๋ฟ่งจิ่ว , เกาเหว่ยกวง รับบท เทพราชาตงหัว

เรื่องย่อ : “ไป๋เฉี่ยน” จิ้งจอกเก้าหางลูกสาวของจักรพรรดิแห่งชิงชิว ที่จักรพรรดิฝากฝังให้เทพเจ๋อเยียนนำไปให้เทพแห่งสงครามม่อยวนรับเป็นศิษย์พร้อมสอนอิทธิฤทธิ์การใช้กำลังให้เก่งขึ้น จากการให้นางเปลี่ยนเป็นร่างผู้ชายและใช้นามว่า ซืออิน หลังจากอยู่ฝึกฝนเป็นศิษย์กับเทพม่อยวนได้สักระยะ ก็ได้มีเหตุการณ์ที่ทำให้ซืออินถูกคำสาปจนทำให้สูญเสียความทรงจำ และพลังของนางก็ได้หายไปด้วย เหตุการณ์นี้จึงทำให้นางพลัดตกลงไปยังโลกมนุษย์ในชาติที่สองและได้ร่างใหม่ที่ชื่อว่า ซู่ซู่ ในปัจจุบันนั้นเธอก็ได้รู้จักกับ “เย่หัว” (เทพแห่งสงครามม่อยวนหรือก็คืออาจารย์ของนางในอดีต) ที่ได้ลงมาตามหาเธอจนพบ และก่อเกิดเป็นความรักขึ้น ทั้งสองแต่งงานมีลูกด้วยกันได้สักพัก ก็มีเหตุการณ์ที่ทำให้ซู่ซู่ฟื้นความทรงจำของเธอและได้พลังกลับคืนมา จนได้ทราบว่าตัวเองคือ ไป๋เฉี่ยนจิ้งจอกเก้าหางลูกสาวของจักรพรรดิแห่งชิงชิว ซึ่งตอนนี้ก็คือ ราชินีแห่งชิงชิว ซึ่งในชาติที่สามนี้เองเธอกลับจำเย่หัวหรือสามีของเธอไม่ได้เลย เพื่อที่จำฟื้นความทรงจำของเธอกลับมาให้หมด เขาจะทำสำเร็จไหม? ติดตามซีรี่ย์จีนพากย์ไทยย้อนยุคติกเรื่อง “สามชาติสามภพ ป่าท้อสิบหลี่” กันต่อได้เลย

2. General and I (จอมนางคู่บัลลังก์)

ซีรี่ย์จีนพากย์ไทยจบแล้ว

ขอบคุณรูปภาพจาก : viu

ซีรี่ย์จีนพากย์ไทยเรื่องดังทั้งในไทยและต่างประเทศคงหนีไม่พ้นกับเรื่องนี้ ที่ได้ซุปเปอร์สตาร์ระดับแนวหน้าของประเทศจีนมาร่วมแสดง การันตีความสนุก พร้อมเรทติ้งทะลุจอ

วันที่เข้าฉาย : 2 มกราคม 2017

นักแสดง : แองเจลล่าเบบี้ รับบท ไป๋พิงถิง , จงฮั่นเหลียง รับบท ฉูเป่ยเจี๋ย , ซุนอี้โจว รับบท เหอเสีย

เรื่องย่อ : ซีรี่ย์จีนพากย์ไทยย้อนยุคที่ดัดแปลงมาจากนิยายเรื่อง จอมนางคู่บัลลังก์ โดยเรื่องราวเกิดจาก “ฉูเป่ยเจี๋ย” แม่ทัพใหญ่จากแคว้นจิ้น ที่พบรักกันกับ “ไป๋พิงถิง” สาวฉลาดรอบรู้และเป็นเชี่ยวชาญด้านการวางแผน ถูกยกย่องให้เป็นจูเก่อหญิงหรือเปรียบเสมือนขงเบ้งแห่งแคว้นเยียนนั่นเอง ทั้งสองแคว้นนี้เป็นศัตรูกัน นอกจากนี้ยังมีแคว้นเหลียงและแคว้นไป๋หลานที่เปิดศึกรบกันอย่างไม่เลิกรา ในทั้งหมดสี่แคว้นนี้ มีเจิ้นเป่ยหวังแห่งแคว้นจิ้นที่เป็นผู้นำทัพที่แข็งแกร่งที่สุด แถมยังเป็นสมองของกองทัพและกำลังหลักสำคัญในสนามรบ ที่มีนามว่า “ฉูเป่ยเจี๋ย” ทำให้ทั้งสามแคว้นต่างพากันเกรงกลัว ด้านแคว้นเหยียนมีเสาหลักในสนามรบอย่าง “จิ้งอันหวัง” และบุตรชายนาม “เหอเสีย” แถมยังมี
ไป๋พิงถิงที่มีความฉลาดรอบรู้คอยวางแผนกลยุทธทางการรบและการจัดกองกำลังทหารให้กับทั้งคู่อีกด้วย หลังจากที่เธอช่วยวางแผนกลศึกจนทำให้แคว้นจิ้นแพ้อย่างราบคาบ ทำให้จิ้งอันหวังมีอำนาจทางการเมืองมากยิ่งขึ้น จนสั่นคลอนบัลลังก์ของเจ้าเมืองเหยียนอย่างเลี่ยงไม่ได้ เขาสั่งกำจัดจิ้งอันหวังและลูกชาย (เหอเสีย) ทำให้ทั้งคู่ต้องหนีตายเอาชีวิตรอด แต่จิ้งอันหวังบิดาของเหอเสียกลับไม่รอด เขาเข้าใจผิดว่า ฉูเป่ยเจี๋ยเป็นคนสังหารบิดาของตนจึงอยากแก้แค้น ตัดภาพมาที่ ฉูเป่ยเจี๋ยบังเอิญเจอพิงถิงในสภาพบาดเจ็บจึงช่วยเธอเอาไว้ และพบว่าเธอมีปิ่นหยกของมารดาของเขา หรือก็คือแรกรักที่เคยช่วยชีวิตเขาในอดีต หลังจากทั้งคู่ได้กลับมาพบกันอีกครั้ง ด้วยความใกล้ชิดและผูกพัน ทำให้ความสัมพันธ์พัฒนากันอย่างรวดเร็ว แต่ต่างฝ่ายต่างเป็นคนของแคว้นศัตรูที่สู้รบกันมาอย่างยาวนาน พิงถิงและฉูเป่ยเจี๋ยจะทำอย่างไรต่อไปเพื่อหยุดสงครามครั้งสุดท้ายของเหอเสีย ติดตามซีรี่ย์จีนพากย์ไทยย้อนยุคเรื่อง “General and I (จอมนางคู่บัลลังก์)” กันต่อได้เลย

3. My Amazing Bride (เจ้าสาวหน้าใสของคุณชายโง่งม)

ซีรี่ย์จีนพากย์ไทย สนุกๆ

ขอบคุณรูปภาพจาก : viu

ซีรี่ย์จีนแนวโรแมนติกคอมเมดี้ที่เข้าฉายเมื่อหลายปีก่อน การันตีความฟินที่ทั้งสนุก ฮา ครบรส เบาสมอง ช่วยผ่อนคลายความเครียดให้กับคนดู พร้อมนักแสดงที่เคมีเข้ากันได้ดีอย่างจินซื่อเจียกับหลี่ซิ่น

วันที่เข้าฉาย : 5 กุมภาพันธ์ 2015

นักแสดง : หลี่ซิ่น รับบท ถังโต้วโต้ว , จิน ซื่อเจีย รับบท ป๋อหนาน , สวีไห่เฉียว รับบท ยูวันควาน

เรื่องย่อ : ซีรี่ย์จีนพากย์ไทยโรแมนติกชื่อดัง “ถังโต้วโต้ว” สาวงามไซซีร้านเต้าหู้ ที่เกิดในครอบครัวที่ไม่เอาไหนแถมยังยากจนอีกต่างหาก เมื่อเติบโตขึ้นจนกระทั่งถึงวัยออกเรือนแล้วเธอก็ยังคงเป็นโสด เพราะเชื่อมั่นว่าจะมีรักแท้เป็นชายที่รักและเข้าใจเธอไปหมดทุกเรื่อง เธอจึงเอาแต่เฝ้ารอชายหนุ่มผู้นั้นอย่างใจจดใจจ่อ แต่แล้ววันหนึ่งก็เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ครอบครัวตระกูลถังถูกศาลสั่งฟ้องให้ล่มสลาย โชคดีที่มี “กู่เซียงผิง” ฮูหยินเจ้าของจวนตระกูลเสิ่นเข้ามาช่วยเหลือเธอและครอบครัวไว้ และดันถูกใจถังโต้วโต้วเข้าให้ จึงอยากให้เธอแต่งงานกับลูกชายของนางที่ชื่อว่า “ป๋อหนาน” ชายหน้าตาดีผู้มีความอัจฉริยะมาตั้งแต่เด็ก หลังจากการแต่งงานเธอพบว่าเขาสมองหยุดโตและตอนนี้มีความรู้ความเข้าใจเหมือนแค่เด็กแปดขวบเท่านั้น แล้วเธอจะใช้ชีวิตอย่างไรต่อไปกับสามีที่โตแต่ตัว ติดตามซีรี่ย์จีนพากย์ไทยสนุกๆ เรื่อง “My Amazing Bride (เจ้าสาวหน้าใสของคุณชายโง่งม)” กันต่อได้เลย

4. My Boss (กับดักรักบอสตัวร้าย)

ซีรี่ย์จีนพากย์ไทยโรแมนติก

ขอบคุณรูปภาพจาก : thairath

ซีรี่ย์จีนพากย์ไทยโรแมนติกคอมเมดี้ ที่พึ่งเข้าไทยมาได้ไม่นานในปี 2024 นี้ ที่ขนนักแสดงมากความสามารถอย่างเฉินซิงซวี่ และจางรั่วหนานมาเล่นละครด้วยกันให้แฟนๆ ได้ปลื้มใจ พร้อมเคมีที่แสนลงตัวของทั้งคู่

วันที่เข้าฉาย : 4 มกราคม 2024

นักแสดง :  เฉินซิงซวี่ รับบท เฉียนเหิง , จางรั่วหนาน รับบท เฉินเหยา , เฉินเสี่ยวอวิ๋น รับบท เฉิงซี , หลี่จุนเซียน รับบท อู๋จุน

เรื่องย่อ : “เฉิงเหยา” ทนายสาวที่ถูกเพื่อนร่วมงานเก่ากลั่นแกล้งจนทำให้เธอต้องลาออกจากการเป็นทนาย หลังจากที่ลาออกไปไม่นานเธอก็โชคดีได้งานใหม่ที่สำนักทนายความชื่อดังแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้จากบ้านเธอมากๆ ทำให้เธอตัดสินใจหาที่อยู่ใหม่ใกล้ที่ทำงาน แต่ดันเกิดเรื่องไม่คาดฝันนั่นก็คือ เจ้าของห้องที่เธอไปเช่าดันทะเลาะกับสามีและหย่าร้างกัน ต่างฝ่ายไม่ยอมคุยกันและปล่อยห้องเช่าให้กับคนอื่นในเวลาเดียวกันพอดี หลังจากที่เธอไปถึงห้องเช่ากลับพบว่าตัวเองมีรูมเมทอยู่ด้วย นั่นก็คือ “เฉียนเหิง” เธอจึงยื่นข้อเสนอให้เขา โดยการให้เช่าห้องของเธอภายในระยะเวลาได้แค่สามวัน และต้องจ่ายค่าเช่าที่มากกว่าปกติ เขาไม่มีทางเลือกจึงตกลงทำสัญญาเช่าที่ไม่เป็นธรรมนี้ แต่ในวันต่อมาที่เธอต้องไปทำงานกลับพบว่า รูมเมทสามวันของเธอนั้นคือหัวหน้าสำนักงานกฎหมายที่ทำงานใหม่ของเธอนั่นเอง เขาลืมไม่ได้แน่นอนที่เธอทำแบบนั้นกับเขาไปก่อนหน้านี้ ทำให้เขาพยายามหาทางแก้แค้น โดยการบีบบังคับให้เธอออกจากที่นี่ซะ แล้วเฉียนเหิงจะทำสำเร็จไหม? ติดตามซีรี่ย์จีนพากย์ไทยโรแมนติกเรื่อง “My Boss กับดักรักบอสตัวร้าย” กันต่อได้เลย

สรุป ซีรี่ย์จีนพากย์ไทยดูฟรี

รวมซีรี่ย์จีนพากย์ไทยสนุกๆ ที่สามารถเลือกดูซ้ำได้อย่างไม่มีเบื่อ แฟนละครจีนพากย์ไทยห้ามพลาด กับซีรี่ย์ทุกแนวไม่ว่าจะเป็นแนวย้อนยุค แนวโรแมนติกคอมเมดี้ แนวดราม่า ที่พร้อมเสิร์ฟทุกความฟินจิกหมอนและความตื่นเต้นเร้าใจให้กับคนดูทุกท่านได้แล้วที่นี่! แถมยังมีช่องทางที่สามารถดูฟรีทั้งบนเว็บไซต์และแอฟพลิเคชันบนมือถือได้ทุกเรื่อง

20
ultraformer 3

ปัญหาริ้วรอย ร่องแก้มมีความหย่อนคล้อย รอยเหี่ยวย่นบนใบหน้าสัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณเริ่มมีอายุมากขึ้น ควรดูแลตัวเอง การทำ Ultraformer III เป็นนวัตกรรมการทำหัตถการแบบสมัยใหม่ที่ไม่ต้องง้อโบท็อก ฟิลเลอร์ หรือผ่าตัดยกกระชับก็สามารถกระชับใบหน้า ลดริ้วรอย ร่องแก้ม รอยตีนกาได้ พร้อมทั้งยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้กับผิว เพราะอายุที่เพิ่มขึ้นทำให้ร่างกายผลิตคอลลาเจนได้น้อยลง ultraformer 3 จะช่วยเข้าไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้กับผิวโดยไม่เป็นอันตราย ultraformer จะปล่อยพลังงานคลื่นเสียงความถี่สูงลงไปยังชั้นผิว SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) ได้อย่างลึกตรงจุด เทคโนโลยี Ultraformer IIIมีความปลอดภัยมีหลายประเทศที่ให้การยอมรับ และผ่านการตรวจสอบจากองค์การอาหารและยาในหลายประเทศแล้วว่าปลอดภัย มีการใช้ ultra former อย่างแพร่หลาย เช่น ประเทศไทย เกาหลี สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย รวมถึงประเทศในยุโรป ถ้าอยากรู้แล้วว่า Ultraformer III นั้นดีจริงไหม เห็นผลจริงหรือไม่ ติดตามในบทความนี้ได้เลย

Ultraformer III คืออะไร?

Ultraformer III คือ เครื่องที่ใช้ในการยกกระชับผิวหน้า กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้กับผิว สามารถช่วยลดเลือนริ้วรอย ทำให้ผิวดูเรียบเนียนและอ่อนเยาว์ขึ้น การทำงานของเครื่อง Ultraformer III จะเป็นการยิงคลื่นอัลตราซาวด์ ซึ่งเป็นคลื่นพลังงานเสียงที่มีความถี่สูงลงเข้าไปยังชั้นใต้ผิวหนังทำให้เกิดความร้อน ซึ่งจะทำให้เนื้อเยื่อชั้นใต้ผิวหนังเกิดการหดตัวและยกกระชับขึ้น การทำ Ultraformer III เป็นการทำหัตถการที่ไม่ต้องผ่าตัด หรือฉีดสารอะไรลงไปในผิวเหมือนการฉีดโบท็อก และฟิลเลอร์ แต่มีความคล้ายกับการทำ Ulthera ซึ่งมีความปลอดภัยสูง ไม่เป็นอันตรายต่อผิวหนัง ไม่มีแผลหลังทำ ไม่ต้องพักฟื้น hifu Ultraformer III จึงถือว่าง่าย สะดวก และปลอดภัยมาก

Ultraformer III ช่วยแก้ไขปัญหาในเรื่องอะไร เหมาะกับใคร?

ultraformer

เครื่อง Ultraformer III สามารถแก้ปัญหาในการยกกระชับผิว ช่วยลดริ้วรอย ร่องน้ำหมาก ผิวหย่อนคล้อย อีกทั้งยังช่วยการกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจนใหม่ และทำให้ไขมันในชั้นผิวหนังสลายตัวจากพลังงานคลื่นความร้อนโดยไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายอีกทั้ง Ultraformer ราคามีราคาไม่แพง โดยการทำ Ultraformer III เหมาะกับคนที่มีปัญหาผิวดังต่อไปนี้

1. การทำ ultraformer hifu เหมาะกับผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาผิวบนใบหน้าและลำคอที่มีความหย่อนคล้อย ไม่กระชับ

2. เครื่อง Ultraformer III จะช่วยแก้ปัญหาสำหรับคนที่มีร่องแก้มลึก มุมปากตก โดยการทำงานของเครื่อง ultraformer จะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้กับผิว ส่งผลทำให้สามารถยกกระชับและเติมร่องแก้มให้กลับมาดูตื้นขึ้น ช่วยแก้ปัญหายกกระชับมุมปากให้ยกขึ้น

3. เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยบริเวณหางตา หรือบริเวณรอบๆ ดวงตา ปัญหาหนังตาตกและคิ้วตก Ultraformer III จะทำให้ผิวในบริเวณนั้นเกิดการยกกระชับ เรียบเนียน

4. การทำ Ultraformer สามารถทำในบริเซรอื่นนอกเหนือจากบริเวณใบหน้าได้ เช่น การยกกระชับสัดส่วน ช่วยสลายไขมันบริเวณหน้าท้อง สะโพก เนินอก ต้นแขน ท้องแขน และต้นขา เป็นต้น

ข้อดี - ข้อเสียของ Ultraformer

ข้อดีของ Ultraformer III

การทำ Ultraformer III มีข้อดีคือช่วยในการปัญหาริ้วรอยบนใบหน้า และความหย่อนคล้อยของผิวได้อย่างตรงจุด ช่วยจัดการริ้วรอยบริเวณรอบดวงตาทำให้ดวงตาดูกลมโตดูอ่อนเยาว์ขึ้น ultraformer hifu ช่วยยกกระชับหนังตาและคิ้วที่ตกให้ยกขึ้นทำให้หน้าดูมีมิติมากขึ้น ลดไขมันเหนียง และช่วยทำให้กรอบหน้าดูชัด อีกทั้ง Ultraformer ยังสามารถสลายไขมันในบริเวณส่วนอื่นๆ ของร่างกายได้ เช่น บริเวณลำตัว เอว หน้าท้อง สะโพก ต้นแขน ต้นขา ท้องแขน และ Ultraformer III ยังถือว่าเป็นหัตถการที่มีความปลอดภัย ผ่านมาตรฐานสากล ultraformer ราคาถูก ไม่ต้องเจ็บตัว ไม่ต้องพักฟื้น ไม่ทำให้เกิดแผล เหมาะกับคนที่กลัวเข็มเพราะไม่ได้ใช้เข็มฉีดสารอะไรลงไป สามารถแต่งหน้าได้ตามปกติ

ข้อเสียของ Ultraformer III

การทำ Ultraformer III อาจจะรู้สึกเจ็บจี๊ดๆ ในบริเวณที่ทำเพียงเล็กน้อย ซึ่งก่อนทำจะมีเจ้าหน้าที่ทายาชาเพื่อลดความเจ็บปวดขณะที่ทำ แต่อาจจะรู้สึกได้เพียงเล็กน้อยเพราะการทำ hifu Ultraformer III เป็นการส่งคลื่นพลังงานความถี่สูงลงไปในชั้นลึกของผิวหนัง จึงทำให้ขณะทำ Ultraformer III จะมีความรู้สึกปวดนิดๆ ในบริเวณใต้ชั้นผิว การทำ Ultraformer หากไม่ศึกษาหาข้อมูลและเช็ครีวิวจากผู้ที่เคยทำ Ultraformer III ให้ละเอียดรอบคอบอาจจะเสี่ยงเจอคลินิกปลอม หรือเครื่อง Ultraformer III ที่ไม่ได้มาตรฐาน ส่งผลทำให้พลังงานคลื่นความถี่ไม่คงที่ เสี่ยงต่อการเกิดผิวไหม้ในจุดที่ทำ ข้อเสียอีกอย่างของการทำ hifu Ultraformer III คือจะต้องทำซ้ำหลายรอบจึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน

การดูแลตัวเองหลังทำ Ultraformer III

ultraformer

หลังจากการทำ Ultraformer III สามารถทำกิจกรรมได้ตามปกติ โดยไม่ต้องพักฟื้น แต่ควรระมัดระวังตัวเอง โดยไม่ทำการนวดในบริเวณที่ทำ Ultraformer หรือถูผิวหน้าแรงๆ ควรดูแลผิวและบำรุงโดยสามารถปฏิบัติตามได้ดังนี้

1. หมั่นทาครีมบำรุงผิวหน้าเป็นประจำสม่ำเสมอ และควรทาครีมกันแดดทุกครั้งก่อนออกบ้าน เพื่อป้องกันแสงแดดที่จะมาทำร้ายผิว หลังจากการทำ Ultraformer III ควรงดการออกแดดสัก 1-2 อาทิตย์

2. หลังจากการทำ Ultraformer ถ้ามีอาการปวดเมื่อยตามร่างกายหรือรู้สึกตึงผิวในบริเวณที่ทำสามารถทานยาแก้ปวดได้

3. งดสูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์หลังจากที่ทำ Ultraformer III อย่างน้อย 1-2 อาทิตย์เพราะจะเป็นการทำลายและหยุดยั้งการสร้างคอลลาเจนในชั้นใต้ผิว

4. หลังจากทำ Ultraformer III ควรดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อช่วยทำให้ผิวเก็บกักความชุ่มชื้น และไม่ควรปล่อยให้ผิวแห้งควรทำครีมบำรุงทุกเช้า-เย็น

5. หลังจากทำ Ultraformer สามารถควรล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าตามปกติ ควรใช้น้ำอุณหภูมิปกติ หลีกเลี่ยงการล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น

6. หลังยกกระชับหน้าด้วย ultraformer 3 สามารถแต่งหน้าและทำกิจกรรมต่างๆ ได้ตามปกติ โดยไม่ต้องพักฟื้น

7. งดการเจอหรือสัมผัสอากาศที่ร้อนหรือเย็นจัดเป็นเวลานานๆ

8. หลีกเลี่ยงการทำเลเซอร์หรือการใช้ความร้อนในบริเวณนั้นหลังทำ Ultraformer III

9. หลังทำ hifu Ultraformer III ไม่ควรนวด ถู หรือเกาผิวหน้าแรงๆ

ผลลัพธ์หลังที่ทำ Ultraformer III กว่าเห็นผลนานไหม? แล้วอยู่ได้นานกี่เดือน?

ผลลัพธ์การทำ Ultraformer III ของแต่ละคนไม่เท่ากัน ซึ่งส่วนใหญ่จะสามารถอยู่ได้ประมาณ 5 เดือนถึง 1 ปี การดูแลตัวเองหลังการทำ ultraformer 3 ของแต่ละคนจะส่งผลทำให้ผลลัพธ์มีประสิทธิภาพมากหรือน้อย หากรู้สึกว่าเริ่มไม่เห็นผลสามารถกลับมาทำ Ultraformer III ซ้ำได้ใหม่

สรุป

Ultraformer III คือ การยกกระชับผิวด้วยพลังงานคลื่นความถี่สูงที่สามารถลงลึกเข้าไปถึงชั้นใต้ผิวหนัง โดย Ultraformer III มีราคาที่ไม่แพง สามารถทำได้หลายจุดในร่างกาย Ultraformer III แก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ ให้กลับมาดูเรียบเนียน แก้ปัญหาร่องตื้นให้กลับมาดูผิวสุขภาพดีอ่อนเยาว์ขึ้น โดยการทำ Ultraformer III มีความปลอดภัยสูงได้รับมาตรฐานสากล ไม่ต้องเจ็บตัว ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ตอบโจทย์สำหรับคนรุ่นใหม่


21
สินเชื่อบ้านแลกเงิน

สำหรับคนที่กำลังมีปัญหาเรื่องเงินและติดปัญหาเรื่องการเคลียร์หนี้จากส่วนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต, หนี้จากการผ่อนรถ หรือว่าจากส่วนอื่น ๆ และต้องการเงินด่วนที่จะสามารถนำมาโปะหนี้ได้ทั้งหมดสินเชื่อบ้านแลกเงินเป็นวิธีที่ได้เงินจำนวนมาก โดยจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย แต่หลัก ๆ คือการตีราคาของบ้านหรือที่อยู่อาศัย นอกจากนี้ยังรวมถึงมีระยะเวลาการผ่อนชำระที่นาน เพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผู้กู้เป็นอย่างมาก

สินเชื่อบ้านแลกเงินคืออะไร ทำความรู้จักสินเชื่อประเภทนี้

สินเชื่อบ้านแลกเงิน คือ  สินเชื่ออเนกประสงค์สำหรับผู้ที่ต้องการเงิน และมีบ้าน, คอนโด หรืออาคารพาณิชย์ (สำหรับอาศัย) ที่มีการผ่อนชำระสิ้นสุดแล้ว โดยหลักการคือการจำนองบ้านกับธนาคารเพื่อได้เงินก้อนมาหรือเรียกง่าย ๆ ก็คือบ้านแลกเงิน จึงเป็นที่มาของคำว่า “สินเชื่อบ้านแลกเงิน” โดยการผ่อนชำระคืนธนาคาร สามารถเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด แต่สามารถเลือกแบบผ่อนชำระสูงสุดได้ถึง 30 ปี ซึ่งทำให้ผู้ที่กู้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น
 
สินเชื่อบ้านแลกเงินเหมาะกับใคร ?
- ผู้ที่มีหนี้จากหลายช่องทางไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต, หนี้จากการผ่อนรถ ฯลฯ และต้องการรวมหนี้เพื่อที่จะปลดหนี้ทีเดียว
- ผู้ที่ต้องการนำเงินก้อนมาใช้จ่ายหมุนเวียนหรือปรับปรุงรวมถึงต่อยอดบริษัท
- ผู้ที่ต้องการใช้เงินฉุกเฉิน
- ผู้ที่ต้องการนำเงินก้อนเพื่อมาลงทุน
 
โดยนอกจากนี้สินเชื่อบ้านแลกเงินยังเปิดโอกาสให้กับบุคคลที่ทำอาชีพอิสระหรือฟรีแลนซ์อีกด้วย และอีกสิ่งที่สำคัญคือบางธนาคารจะเปิดสินเชื่อบ้านแลกเงิน แบบไม่เช็คบูโร จึงเปิดโอกาสให้ผู้ที่ติดเครดิตบูโรสามารถยื่นขอสินเชื่อเข้ามาได้

สินเชื่อบ้านแลกเงินไม่เสี่ยงอย่างที่คิด

สำหรับคนที่ไม่เคยรู้จักสินเชื่อบ้านแลกเงินมาก่อน พอได้ยินอาจรู้สึกถึงความเสี่ยงที่ต้องนำเอาบ้านหรือที่อยู่อาศัยมาแล้วจะเสี่ยงโดนยึดไหม แต่ในความเป็นจริงไม่ใช่เป็นเรื่องที่เสี่ยงอย่างที่คิด เพราะสินเชื่อบ้านแลกเงินก็เป็นสินเชื่อประเภทหนึ่งที่เหมือนสินเชื่อประเภทอื่น ๆ ที่ต้องใช้หลักทรัพย์ในการค้ำประกัน โดยหากผู้ยื่นกู้มีการใช้จ่ายตรงเวลาต่อเนื่อง เป็นไปตามสัญญา ก็ไม่มีสาเหตุใด ๆ ที่ต้องกังวล 

ข้อดีของสินเชื่อบ้านแลกเงิน

ได้เงินก้อน
ข้อดีของสินเชื่อบ้านแลกเงินคือจะทำให้ผู้กู้สามารถได้เงินก้อน เพื่อนำมาใช้จ่ายในส่วนที่ผู้กู้กำลังต้องการ 
 
ขั้นตอนการจัดเตรียมเอกสารและยื่นเรื่องไม่ยุ่งยาก
โดยการเตรียมเอกสารและระยะเวลาในการดำเนินงานเพื่อที่จะอนุมัติสินเชื่อก็ใช้เวลาไม่นานโดยส่วนมาก ทำให้สินเชื่อบ้านแลกเงินจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คนเริ่มหันมานิยมใช้มากขึ้น 
 
สำหรับท่านที่ไม่ถนัดเรื่องการจัดเตรียมเอกสาร หรือไม่ทราบว่าต้องใช้เอกสารชนิดใดบ้างในการยื่น สามารถเข้ารับชมรายละเอียดได้ที่ :  https:// www. refinn.com
โดยจะเป็นบริษัทที่รับเรื่องตั้งแต่ตอนที่ท่านยื่นกู้ ช่วยแจกแจงถึงเอกสารที่ต้องใช้ในการยื่นสินเชื่อบ้านแลกเงิน จนกระทั่งยื่นเรื่องให้ จนถึงเรื่องผ่านการอนุมัติ นอกจากนี้ Refinn ยังมี Feature ที่สามารถคัดกรองธนาคารที่เหมาะกับท่านออกมาได้อีกด้วย เพียงกรอกเงินเดือน, รูปแบบของหลักประกัน, อายุ ฯลฯ ระบบของ Refinn ก็จะทำการคัดกรองธนาคารพร้อมกับรายละเอียดเบื้องต้นว่าจะมีดอกเบี้ยกี่เปอร์เซ็นต์ ต้องมีค่าใช้จ่ายใด ๆ บ้าง รวมถึงสามารถผ่อนได้กี่งวดอีกด้วย

ขั้นตอนการเตรียมเอกสารสำหรับการกู้สินเชื่อบ้านแลกเงิน

ขั้นตอนการเตรียมเอกสารสินเชื่อบ้านแลกเงิน

สำหรับในการยื่นกู้สินเชื่อบ้านแลกเงิน ต้องมีการเตรียมเอกสารทั้งหมดดังนี้

1. สำเนาบัตรประชาชนพร้อมเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง
2. สำเนาทะเบียนบ้านพร้อมเซ็นต์รับรองสำเนาถูกต้อง
3. กรณีที่เป็นผู้ทำงานประจำ ใช้เป็นหนังสือรับรองเงินเดือน, สลิปเงินเดือน 3 เดือนย้อนหลัง, Statement ย้อนหลัง 6 เดือน, สำเนาหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย 50 ทวิ

อาชีพอิสระหรือฟรีแลนซ์ ใช้เป็นสำเนาใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ, Statement ย้อนหลัง 6 เดือน, เอกสารเสียภาษี ภงด. 90/91, สำเนาหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย 50 ทวิ

เจ้าของกิจการ หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล อายุไม่เกิน 3 เดือน, Statement ในนามส่วนตัวและของบริษัท/กิจการ ย้อนหลัง 6 เดือน, สำเนาทะเบียนผู้ถือหุ้น ที่มีชื่อของผู้กู้ อายุไม่เกิน 3 เดือน, สำเนาทะเบียนการค้า

4. สำเนาสำหรับหลักประกัน จะขึ้นอยู่กับหลักประกันที่ยื่นกู้
 
โดยคุณสมบัติเบื้องต้นสำหรับผู้ที่ยื่นกู้คือ
1.ต้องมีอายุตั้งแต่ 20-65 ปี
2.สัญชาติไทย
3.มีรายได้ประจำจากการทำงานบริษัท, ฟรีแลนซ์หรือประกอบอาชีพอิสระ หรือเป็นเจ้าของกิจการ
 
ขั้นตอนในการยื่นกู้สินเชื่อบ้านแลกเงินกับ Refinn
เมื่อท่านได้ทราบถึงเอกสารที่ต้องเตรียมเพื่อใช้ในการยื่นกู้แล้ว ต่อไปคือวิธีการยื่นกู้โดยสามารถทำได้โดย
1. เตรียมหาข้อมูลและโปรโมชั่นต่าง ๆ ที่ธนาคารแต่ละที่เสนอมา
โดยหากท่านที่ไม่มีแนวทางหรือไอเดียว่าควรจะหาได้จากที่ใด แนะนำให้สามารถเข้าชมบริการ Refinn ที่จะรวบรวมโปรโมชั่นต่าง ๆ ของแต่ละธนาคาร รวบรวมมาให้ในที่เดียว ทำให้ง่ายและประหยัดเวลาต่อการยื่นกู้
2. สมัครสมาชิก
โดยเข้าไปที่เว็บไซต์ refinn
และทำการสมัครสมาชิก เพื่อเตรียมใช้ในการยื่นสมัครสินเชื่อ
3.กรอกข้อมูลส่วนตัวและรอให้ทาง Refinn ติดต่อกลับ
หลังจากที่กรอกข้อมูลเรียบร้อย เจ้าหน้าที่จะทำการติดต่อกลับมาเพื่อคอนเฟิร์มข้อมูลรวมถึงถามเกี่ยวกับเรื่องเอกสาร เพื่อเตรียมตัวในการยื่นกู้
4.ยื่นกู้
เมื่อมีการติดต่อคุยกับเจ้าหน้าที่แล้ว ขั้นตอนสุดท้ายคือเป็นการพูดคุยและยื่นเอกสารให้กับเจ้าหน้าที่ของธนาคาร และเป็นอันเสร็จสิ้น 

เคล็ดลับการเลือกสถาบันการเงินเพื่อขอสินเชื่อบ้านแลกเงิน

เช่นเดียวกับการกู้เงินในประเภทต่าง ๆ สินเชื่อบ้านแลกเงินก็มีปัจจัยที่ควรพิจารณาอย่างถี่ถ้วนก่อนทำการยื่นกู้ เพื่อที่จะได้ผลตอบแทนที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้กู้มากที่สุด โดยปัจจัยต่าง ๆ ที่ควรพิจารณาจะแบ่งออกได้เป็น

1. เลือกจากโปรโมชั่น
ท่านอาจมีคำถามกับตัวเองว่าจะเอาโฉนดที่ดินเข้าธนาคารไหนดี ปัจจัยแรกควรเลือกจากโปรโมชั่นซึ่งหลัก ๆ แล้วก็คือดอกเบี้ยที่คุ้มค่าที่สุดหรือต่ำที่สุด อย่างไรก็ตาม ในการพิจารณาจริงควรพิจารณาจากองค์รวม ในบางครั้งการที่ดอกเบี้ยต่ำสุดอาจหมายความว่าธนาคารได้มีการเล็งเห็นและให้ความสำคัญกับการลดดอกเบี้ยให้ต่ำแต่ไปเพิ่มค่าใช้จ่ายในส่วนอื่น ๆ แทน หรือในขณะเดียวกันหากมีดอกเบี้ยที่สูง ไม่ได้หมายความว่าจะไม่คุ้มค่าต่อการยื่นกู้เสมอไป เพราะอาจมีการลดค่าใช้จ่ายส่วนอื่น ๆ ไป

ดังนั้น ปัจจัยเรื่องโปรโมชั่น ถือเป็นเรื่องที่สำคัญอันดับแรก ๆ ที่ควรดู แต่ท้ายที่สุดก็ต้องอิงกับปัจจัยอื่น ๆ ด้วย เพื่อให้เข้าใจภาพรวมทั้งหมดของสัญญาที่ธนาคารให้มา 

โดยหลักในการให้โปรโมชั่นจากธนาคารก็จะมีหลักเกณฑ์ในการได้สิทธิ์ที่แตกต่างกันไป เช่นในบางธนาคารอาจจะมีการใช้เกณฑ์เงินเดือนในการกำหนดโปรโมชั่น โดยหากมีเงินเดือนถึง 30,000 บาท อาจได้ดีลที่ดีกว่าคนที่ได้เงินเดือนต่ำกว่า 30,000 บาท เป็นต้น 

2. เลือกจากหลักประกัน
ปัจจัยต่อมาคือหลักประกัน “สินเชื่อบ้านแลกเงิน” เป็นสินเชื่อที่ทางธนาคารจะกำหนดการให้วงเงินกู้จากหลักประกัน (บ้าน, ที่อยู่อาศัย หรือคอนโด ฯลฯ) เป็นหลัก ดังนั้นในการเลือกหลักประกัน ในกรณีที่มีหลักประกันให้เลือกหลายที่ ควรเลือกให้ตรงตามความเหมาะสมตามจำนวนเงินที่ต้องการกู้ เพราะหากใช้หลักประกันที่สูงเกินความจำเป็น อาจทำให้ต้องมีภาระในการใช้จ่ายเกินเหตุ หรือหากเลือกหลักประกันที่ราคาต่ำจนเกินไป อาจได้เงินยอดเงินกู้ที่ไม่เพียงพอได้

3. เลือกสินเชื่อที่เหมาะกับตัวเอง
ท้ายที่สุด หากพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ครบเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจว่าควรจะยื่นกู้กับธนาคารไหนที่เหมาะสมที่สุด โดยท่านต้องอยากได้ธนาคารที่ให้ข้อเสนอที่ตอบโจทย์ที่สุด ในความหมายคือจุดประสงค์ที่ท่านต้องการยื่นกู้คืออะไร เช่น ต้องการเงินเท่าไหร่ในการยื่นกู้ มีการวางแผนในการผ่อนชำระไว้กี่ปี ฯลฯ หากท่านทราบถึงจุดประสงค์ในการยื่นกู้แล้ว การเลือกสินเชื่อให้เหมาะสมกับตัวเองจะเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ง่ายขึ้น เพราะจะทำให้สามารถนำเอาข้อเสนอแต่ละที่มาลองพิจารณาว่าที่ไหนเหมาะกับตัวเองและที่ไหนที่ไม่เหมาะ

สินเชื่อบ้านแลกเงินกับธนาคารไหนดี?
เลือกจากปัจจัยข้างต้นที่กล่าวมาทั้งหมด นำมาประกอบกันและท่านจะสามารถเลือกธนาคารที่ให้ข้อเสนอที่ดีที่สุดแก่ท่านได้

สรุปข้อดีของสินเชื่อบ้านแลกเงิน

สินเชื่อบ้านแลกเงิน เป็นสินเชื่ออเนกประสงค์ที่ช่วยให้ผู้กู้สามารถได้เงินก้อนเพื่อมาใช้จ่ายในการหมุนเวียนบริษัท, การลงทุน, การเคลียร์หนี้ หรือแม้กระทั่งการใช้จ่ายอเนกประสงค์ โดยหลักการง่าย ๆ คือใช้บ้าน (เป็นหลักประกัน) แลกเงิน เพื่อให้ได้เงินก้อนมา โดยข้อดีคือสามารถได้เงินมาใช้จ่ายได้อย่างรวดเร็ว, ขั้นตอนการประเมินและทำเอกสารใช้เวลาไม่นาน รวมถึงสามารถรู้ตัวเลขเงินกู้ที่จะได้ก่อนล่วงหน้าเป็นจำนวนคร่าว ๆ เพื่อให้สามารถวางแผนการเงินได้ และไม่ใช่เพียงพนักงานประจำที่สามารถยื่นกู้สินเชื่อบ้านแลกเงินได้ สำหรับผู้ที่ประกอบอาชีพอิสระหรือฟรีแลนซ์ก็สามารถยื่นกู้ได้เช่นกัน
 
สำหรับท่านที่กำลังสนใจที่จะยื่นกู้สินเชื่อบ้านแลกเงินและไม่รู้ว่าต้องยื่นที่ไหน มีธนาคารใดที่เปิดรับบ้าง ต้องใช้เอกสารใดบ้าง และต้องการที่ปรึกษา แนะนำให้สามารถเข้ารับชมรายละเอียดได้ที่บริการ Refinn โดยจะเป็นบริการที่ช่วยให้ท่านสามารถรู้โปรโมชั่นจากธนาคารต่าง ๆ รวมถึงทราบอัตราดอกเบี้ย และจำนวนเงินที่จะได้กู้คร่าว ๆ อีกด้วย เพียงแค่กรอกข้อมูลพื้นฐานเช่น ฐานเงินเดือน, ประเภทหลักประกัน รวมถึงจำนวนเงินที่ต้องการกู้ เป็นต้น โดยเป็นบริการที่ดูแลท่านตั้งแต่ต้นจนจบเรื่องการอนุมัติสินเชื่อบ้านแลกเงิน ทำให้ท่านสามารถประหยัดเวลาและยังสรุปทางเลือกและข้อเสนอจากหลาย ๆ ธนาคารทำให้สามารถธนาคารที่ถูกใจได้อีกด้วย 


22
machine learning model คืออะไร

Machine learning คืออะไร ทำไมถึงเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในเรื่องการทำงาน, การซื้อ - ขาย, สื่อบันเทิงและในชีวิตประจำวันMachine learningมีประโยชน์ด้านไหน ทำไมแอปพลิเคชันต่าง ๆ จำเป็นต้องมีระบบนี้ เคยสงสัยกันไหมว่าทำไมแต่ละแอปพลิเคชันถึงรู้ว่าเราสนใจหนังประเภทไหน ชอบซื้อเสื้อผ้าแนวไหนหรือแม้แต่การเดินทางด้วย Google Map แจ้งเวลารถติดแบบอัตโนมัติ ซึ่งในการสร้างระบบเหล่านี้ถูกสร้างมากจาก Machine learning เราไปทำความรู้จักเทคโนโลยีอัจฉริยะนี้กัน

ทำความรู้จัก Machine learning

Machine learning แปลว่าอะไร

มาทำความรู้จัก Machine Learning การทำงานแทนมนุษย์อย่างละเอียดกันว่าจะเป็นระบบที่ช่วยประหยัดเวลาการทำงานในอุตสาหกรรมปัญญาประดิษฐ์อย่างไร และระบบ ai ml dl คืออะไร ดังนี้

• machine learning Ml คือ การทำให้คอมพิวเตอร์สามารถหาคำตอบเพื่อแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้เองจากการเรียนรู้ข้อมูลตามสภาพแวดล้อมของผู้ใช้ระบบทั้งแบบมีผู้สอนหรือไม่มีผู้สอนตามการตั้งค่าของระบบ Data Scientist คอมพิวเตอร์จะสามารถจำแนกข้อมูล (Data) และส่งข้อมูล (Output) ไปยังหน่วยอื่นด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องมีมนุษย์คอยควบคุมดูแล

• Artificial Intelligence คือ ปัญญาประดิษฐ์ช่วยเหลือการทำงานของมนุษย์ AI จะสามารถประมวลผลได้เองโดยอัตโนมัติและสามารถนำข้อมูลจาก Machine Learning ออกมาใช้ได้เปรียบเสมือนผู้ช่วยของคุณ จึงทำให้ธุรกิจที่ใช้สองระบบนี้ร่วมกันจะสามารถวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้าได้ เช่น ลูกค้าชอบสินค้าแบบไหนหรือวิเคราะห์ข้อมูลผู้ป่วยเป็นตัวช่วยในการประหยัดเวลาการทำงานแบบอัตโนมัติ

• Deep Learning คือ การให้คอมพิวเตอร์เรียนรู้ลักษณะข้อมูลจากพื้นฐานข้มูลที่มีอยู่ของมนุษย์ เปรียบเสมือนการทำงานของระบบประสาทและยังเป็นชุดเซตย่อยของ Machine Learning ด้วย ทำให้เมื่อนำระบบต่าง ๆ มาใช้งานร่วมกันจะเพิ่มประสิทธิภาพของการทำงานได้มากขึ้น

ประเภทของ Machine learning

การทำงานของ Machine Learning จะแบ่งประเภทของได้เป็น 3 แบบตามการป้อนชุดข้อมูลเพื่อให้ระบบได้เรียนรู้และการตั้งค่าของเจ้าของระบบ supervised learning (เรียนรู้แบบมีผู้สอน), unsupervised learning (เรียนรู้โดยไม่มีผู้สอน) และ Reinforcement Learning (เรียนรู้แบบเสริมกำลัง) ซึ่งสามารถนำมาต่อยอดประยุกต์ใช้ประโยชน์ได้มากมาย ได้แก่

Supervised learning
supervised learning คือการทำให้ระบบ Machine Learning สามารถหาคำตอบได้เองเหมือนศาสตร์แขนงหนึ่งของ AI จากการเรียนรู้ชุดข้อมูลหรือ Train Model สอนระบบปฏิบัติการมาระยะเวลาหนึ่ง เช่น การป้อนข้อมูล (Input) กับคอมพิวเตอร์และสอนให้คอมพิวเตอร์วิเคราะห์ (Feature Extraction)  จัดแยกหมวดหมู่องค์ประกอบเพื่อส่งข้อมูลไปยังระบบต่าง ๆ ถ้าระบบทำถูกต้องก็จะเพิ่มประสิทธิภาพของการทำงานที่ซับซ้อนได้มากขึ้น

Unsupervised learning
unsupervised learning คือการเรียนรู้แบบไม่มีผู้สอนเหมือนวิธีแรกระบบ Machine Learning จะเรียนรู้ด้วยตัวเองจากฐานข้อมูลของคอมพิวเตอร์และกำหนดสิ่งที่ต้องทำจากข้อมูลเหล่านั้น ผ่านการตั้งค่าของมนุษย์ ทำให้เมื่อคอมพิวเตอร์นำข้อมูลไปวิเคราะห์ (Feature Extraction) ก็สามารถวิเคราะห์ลักษณะได้เอง แต่จะไม่สามารถนำไปจัดหมวดหมู่และส่งต่อข้อมูลได้เหมือนวิธีแรก

Reinforcement learning
เป็นวิธีการให้ระบบเรียนรู้แบบเสริมกำลังจากการปฏิสัมพันธ์ระหว่าง Machine Learning กับสิ่งแวดล้อมรอบตัว ระบบจะผ่านการลองผิดลองถูกเหมือนอยู่ในสถานการณ์จำลองต่าง ๆ ทำให้ระบบเกิดการพัฒนาด้านการตัดสินใจได้หลายรูปแบบ เหมือนกับการเรียนรู้ของมนุษย์ที่ต้องตามโจทย์หรือเงื่อนไขบางอย่างให้สำเร็จตามข้อกำหนดเพื่อบรรลุเงื่อนไขที่กำหนด

การนำ Machine learning มาใช้ในชีวิตประจำวัน

Machine learning ถูกนำมาใช้ในชีวิตประจำวันหลายรูปแบบทั้งหน่วยงานภาครัฐ, โรงพยาบาล, การค้า, การขนส่ง ซึ่งการนำแมชชีนเลิร์นนิ่งมาช่วยในการทำงานนั้นจะเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้สูงมาก เช่น การตรวจใบหน้า การป้องกันข้อมูลจากมิจฉาชีพ ตรวจสอบความเสี่ยง ประเมินพร้อมวิเคราะห์ข้อมูลแบบอัตโนมัติและในแอปพลิเคชันต่าง ๆ ดังนี้

Google Map
Machine Learning นำมาประยุกต์ใช้ได้หลากหลาย โดยบริษัท Google ได้คิดค้นและพัฒนา Google Map ร่วมกับ Machine Learning เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้งานบนถนน ระบบจะค้นหาเส้นทางทำให้เราไปถึงจุดหมาย เลี่ยงพื้นที่รถติดสีแดงเพื่อประหยัดเวลาในการเดินทางให้มากที่สุด

Netflix
Netflix เองก็ใช้การทำงานจากระบบ Machine Learning เพื่อรวบรวมข้อมูลคอนเทนต์ความสนใจของผู้ใช้งานแต่ละคนและนำเสนอเนื้อหาเรานั้นให้ ผู้ใช้งานสนใจตัดสินใจเข้าไปรับชมด้วยภาพกราฟิกที่ตรงใจผู้ใช้งานหรือภาพนักแสดงที่เราชื่นชอบ

Face ID
Machine Learning ยังสามารถใช้กับระบบสแกนใบหน้า Face ID ได้ด้วยเพราะ ai Machine Learning คือการเรียนรู้ตลอดเวลาต่อให้เราเปลี่ยนทรงผมหรือใส่แว่นตาก็ยังสามารถจดจำใบหน้าได้ สะดวกต่อการใช้งานเพื่อรักษาความปลอดภัยของข้อมูลเป็นอย่างมาก

YouTube
YouTubee กับ Machine Learning ใช้รวบรวมข้อมูลและประมวลข้อมูลส่งกลับไปยังบริษัทต้นทาง เพื่อแนะนำวิดีโอที่ผู้ใช้งานสนใจ เหมือนทำให้แอปพลิเคชัน YouTube รู้ใจเรา นำเสนอผลงานจากพฤติกรรมให้ตรงตามแบบฉบับที่คุณชื่นชอบ

Martech
Machine Learning ยังสามารถจัดการกลุ่มเครื่องมือทางการตลาด Martech เพื่อรวบรวมข้อมูล ช่องทางติดต่อ ความสนใจของลูกค้าที่ใช้งานสินค้าเก็บกลับไปพัฒนา ออกแบบและวางแผนการตลาดกับบริษัทผู้ผลิตให้ตรงกับแนวตามความต้องการของกลุ่มลูกค้าได้ด้วย

บทสรุปของ Machine learning

การนำเทคโนโลยี Machine Learning เข้ามาใช้งานในองค์กรจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้ธุรกิจเติบโตขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพทดแทนแรงงานมนุษย์ประหยัดต้นทุนในการจ้างงานเปรียบเสมือนเทคโนโลยีอัจฉริยะเข้ามาเป็นผู้ช่วยในการทำงานของคุณ โดยขึ้นอยู่กับการเทรน Machine Learning ให้เหมาะสมกับความต้องการของแต่ละจุดทำให้ Machine Learning มีประโยชน์มากกว่าการเก็บข้อมูลและประมวลผลพฤติกรรมลูกค้า เนื่องจากนำมาประยุกต์ใช้เป็นระบบรักษาความปลอดภัยจาก Malware ต่าง ๆ ได้ด้วย


23
เก็บเงินเที่ยว

หลังจากที่ได้ผ่านการเรียนหรือทำงานมาอย่างหนักจนร่างกายและจิตใจอ่อนล้า การได้พักผ่อนอย่างการไปเที่ยวสถานที่ต่าง ๆ ที่อยากไปจะสามารถช่วยให้สภาพร่างกายและจิตใจได้รับการฟื้นฟูอย่างเต็มที่ โดยในบทความนี้จะมาแนะนำ 6 วิธีเก็บเงินเที่ยวที่สามารถทำตามได้จริงง่าย ๆ โดยเริ่มตั้งแต่เปิดบัญชีสำหรับเก็บเงินโดยเฉพาะ การกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนว่าเราจะไปที่ไหนต้องมีค่าใช้จ่ายเท่าไรบ้าง รวมไปถึงการใช้ตัวช่วยในการเก็บเงินที่จะทำให้การเก็บเงินเที่ยวไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

1. เปิดบัญชีเก็บเงินสำหรับการเที่ยวโดยเฉพาะ

วิธีเก็บเงินเที่ยว

ถ้าหากว่าคุณเป็นคนที่มักโอนไว โอนเร็ว เก็บเงินไม่ค่อยอยู่แล้วละก็ การเปิดบัญชีสำรองที่ไว้ใช้สำหรับเก็บเงินเที่ยวโดยเฉพาะน่าจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมอย่างยิ่ง เพราะเราจะเห็นจำนวนเงินที่เราสามารถใช้งานได้ในบัญชีหลักอย่างชัดเจน อีกทั้งการเก็บเงินแยกไว้อีกบัญชีนึงจะทำให้เราสามารถคำนวณได้ง่ายขึ้นว่าจะต้องแบ่งเงินเก็บสำหรับไปเที่ยวเดือนละเท่าไร

นอกจากนี้การเปิดบัญชีสำหรับเก็บเงินเที่ยวโดยเฉพาะ จะทำให้เราสามารถประเมินได้ว่าต้องเก็บเงินเพิ่มเติมอีกเท่าไร สำหรับลิสรายการค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่ได้มีการวางแผนเอาไว้และสามารถปรับเปลี่ยนแผนการเก็บเงินเที่ยวให้เหมาะสมกับการเที่ยวของเราได้

2. เก็บเงินให้มากพอก่อนใช้จ่าย
ถ้าหากยังเลือกสถานที่เที่ยวหรือเป้าหมายของการเก็บเงินเที่ยวไม่ได้ การเก็บเงินไปเรื่อย ๆ ให้มียอดที่มากพอสำหรับการใช้จ่ายต่าง ๆ โดยไม่กระทบกับค่าใช้จ่ายรายเดือนก็เป็นทางเลือกง่ายและไม่ต้องวางแผนอะไรมาก โดยมีข้อแนะนำว่าหากเป็นบัญชีแบบออมทรัพย์ ไม่ควรทำบัตร ATM เพื่อให้การนำเงินออกมาใช้จ่ายแต่ละครั้งมีความยุ่งยากมากยิ่งขึ้นจนทำให้ไม่อยากถอนเงินออกมาใช้ หรือจะใช้บัญชีฝากประจำในการเก็บเงินไปเรื่อย ๆ ซึ่งจะได้ดอกเบี้ยที่สูงกว่าบัญชีออมทรัพย์และยังมั่นใจได้ว่าจะสะสมเงินก้อนได้อย่างแน่นอน

3. กำหนดเป้าหมายในการเที่ยวให้ชัดเจน

วิธีเก็บเงินไปเที่ยว

วิธีเก็บเงินไปเที่ยวที่สำคัญที่สุดคือการกำหนดเป้าหมายให้ชัดเจนว่าเราอยากไปที่ไหน มีค่าใช้จ่ายอะไร เท่าไรบ้าง เพื่อจะได้สามารถวางแผนการเก็บเงินเที่ยวได้อย่างเหมาะสมกับเป้าหมายอย่างเช่น

หากเป็นการเที่ยวในประเทศอย่าง การเที่ยวเกาะล้าน ก็อาจจะมีการวางแผนเก็บเงินสัก 5,000 บาท สำหรับค่าที่พัก ค่าเดินทาง ค่าอาหาร และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เป็นต้น อาจจะใช้ระยะเวลาในการเก็บเงินเที่ยวสัก 1-2 เดือน

แต่ถ้าหากว่าเรามีเป้าหมายที่ใหญ่มากขึ้นอย่างการเก็บเงินไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ก็จะสูงขึ้นจากหลักพันกลายเป็นหลักหมื่น ทั้งค่าเดินทาง ค่าที่พัก ค่าอาหาร และค่าใช้จ่ายทั่วไป ทำให้ต้องเก็บเงินมากขึ้นหรือใช้ระยะเวลาในการเก็บเงินที่มากขึ้นด้วย

ซึ่งการไปเที่ยวแต่ละครั้งโดยเฉพาะการเที่ยวต่างประเทศเราคงไม่ได้อยากไปเที่ยวอย่างประหยัดจนลำบากในการไปท่องเที่ยว ดังนั้นการกำหนดการเป้าหมายที่ชัดเจนในการเก็บเงินเที่ยวแต่ละครั้งจะทำให้เราสามารถวางแผนในการเก็บเงินได้อย่างเหมาะสม

4. จำกัดวงเงินในการใช้จ่ายแต่ละครั้ง
สำหรับบางคนที่พอจะมีการวางแผนการเงินสำหรับค่าใช้จ่ายรายเดือนบ้างแล้ว ก็อาจจะมีการแบ่งเงินไว้สำหรับสิ่งของที่ตนเองอยากได้หรือแบ่งไว้สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันในแต่ละเดือน ซึ่งหากเรามีเป้าหมายที่จะเก็บเงินเที่ยวแล้วนั้น

การจำกัดวงเงินใช้จ่ายในแต่ละวันหรือรายสัปดาห์ก็จะช่วยให้เราไม่ใช้เงินเกินที่เราได้วางแผนไว้อย่างเช่นหากเราใช้เงินวันละ 300 บาท * 30 วัน ก็จะเป็นเงินจำนวน 9,000 บาทต่อเดือน ซึ่งถ้าเรามีการแบ่งเงินเป็นสัดส่วนและมีการจำกัดวงเงินที่ชัดเจนก็จะช่วยให้เราสามารถเก็บเงินเที่ยวได้ตรงตามเป้าหมายที่วางไว้

5. การตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออก

ออมเงินไปเที่ยว

อีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้การออมเงินไปเที่ยวเป็นเรื่องที่ง่ายมากยิ่งขึ้น คือการจำแนกค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในแต่ละเดือนหรือการทำบัญชีรายรับรายจ่าย และตัดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่ไม่จำเป็นออก

ซึ่งการทำบัญชีรายรับรายจ่ายจะช่วยให้เราสามารถรู้ได้ว่าในแต่ละเดือนเรามีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับอะไรไปบ้างและการใช้จ่ายเหล่านั้นเหมาะสมหรือมีความจำเป็นหรือไม่ ถ้าหากว่าตัดออกหรือเลือกใช้จ่ายอย่างอื่นที่มีราคาถูกลงจะสามารถเพิ่มเงินเก็บต่อเดือนได้มากยิ่งขึ้น ทำให้การเก็บเงินเที่ยวสามารถเป็นไปตามเป้าหมายได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

6. ตั้งใจเก็บเงินให้ได้ตามเป้าหมาย
หลังจากที่ได้มีการกำหนดเป้าหมายที่เที่ยวที่ต้องการไปและมีการวางแผนการเก็บเงินเที่ยวเรียบร้อยแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะส่งผลให้เราสามารถทำตามเป้าหมายที่วางไว้ได้คือ การปฏิบัติตามแผนที่ทำไว้อย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการจำกัดวงเงินในแต่ละวัน การแบ่งเงินเป็นสัดส่วน หรือการตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออก สิ่งเหล่านี้ต่าง ๆ เป็นแนวทางที่ถ้าได้มีการปฏิบัติตามอย่างสม่ำเสมอจะสามารถช่วยให้แผนการเก็บเงินเที่ยวแต่ละครั้งสามารถทำได้ตามเป้าหมายอย่างแน่นอน

MAKE by KBank ตัวช่วยสำคัญในการเก็บเงิน
หลังจากที่ได้รู้จักกับวิธีเก็บเงินเที่ยวทั้ง 6 แบบกันไปแล้วรู้สึกว่าการทำตามวิธีต่าง ๆ ดูยากจังเลย เราได้มีแอปพลิเคชันที่ช่วยให้การเก็บเงินเที่ยวเป็นเรื่องง่ายยิ่งขึ้นมาแนะนำอย่าง “MAKE by KBank” ผู้ช่วยเก็บเงินพร้อมแบ่งเงินเก็บเป็นส่วน ๆ ได้อย่างอิสระพร้อมฟีเจอร์สำคัญอย่าง “Cloud Pocket” และ “Expense Summary”

1. Cloud Pocket
Cloud Pocket เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้การแบ่งเงินเก็บเป็นสัดส่วนง่ายยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นส่วนเก็บเงินเที่ยว ส่วนของค่าใช้จ่ายรายเดือน หรือส่วนของค่าเดินทาง ซึ่งเราสามารถสร้าง Cloud Pocket เพิ่มขึ้นมาได้เรื่อย ๆ พร้อมทั้งนำเอา 6 วิธีเก็บเงินเที่ยวมาประยุกต์ใช้งานได้อย่างการจำกัดวงเงินในการใช้จ่ายแต่ละครั้ง Cloud Pocket ก็สามารถกำหนดลิมิตในการเก็บเงินแต่ละ Clound ได้เพื่อให้เห็นลิมิตในการใช้เงินของแต่ละ Cloud

นอกจากนี้ Cloud Pocket ยังสามารถล็อกกระเป๋าเงินเพื่อป้องกันมาถอนหรือโอนเงินออกได้อีกด้วย เพื่อให้เราไม่เผลอใช้จ่ายเกินวงเงินที่ได้วางแผนเอาไว้ ซึ่งรับรองได้ว่าฟีเจอร์นี้จะช่วยให้สามารถเก็บเงินเที่ยวได้ตามเป้าหมายง่ายขึ้นอย่างแน่นอน

2. Expense Summary
Expense Summary คือฟีเจอร์ที่จะช่วยสรุปค่าใช้จ่ายต่าง ๆ แบบอัตโนมัติแทนการทำรายรับรายจ่ายที่ช่วยให้เราสามารถรู้ได้ว่าในแต่ละเดือนเรามีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับอะไรไปบ้าง ส่งผลให้เราสามารถตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกเพื่อจะได้สามารถเก็บเงินเที่ยวตามเป้าหมายของเราได้มากยิ่งขึ้น

สรุปการเก็บเงินเที่ยว
สำหรับการทำงานหรือการเรียนที่สร้างความเหนื่อยล้าทั้งทางร่างกายและจิตใจ การได้ออกไปเที่ยวพักผ่อนตามสถานที่ต่าง ๆ จะช่วยสร้างความผ่อนคลายและช่วยเยียวยาจิตใจได้เป็นอย่างมาก ดังนั้นวิธีการเก็บเงินเที่ยวทั้ง 6 วิธีที่เราได้แนะนำไปพร้อมกับตัวช่วยเก็บเงินอย่างแอปพลิเคชัน “MAKE by KBank” จะช่วยให้ทุกการเก็บเงินของคุณเป็นไปได้และสามารถดำเนินตามแผนได้อย่างสม่ำเสมอ


24
ปิดโพรงใต้บ้าน แก้ปัญหาโพรงบ้าน

ปัญหาโพรงใต้บ้าน เป็นปัญหายอดนิยมของบ้านในปัจจุบัน มีสาเหตุจากปัจจัยหลายประการ ทำให้เกิดการทรุดตัวจนเกิดโพรงใต้บ้านและบริเวณรอบบ้าน ส่งผลให้บ้านดูไม่สวยงาม แล้วยังเสี่ยงต่อสัตว์ที่เข้าไปหลบซ่อนหรืออาศัยในโพรงใต้บ้าน ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัย ควรใช้บริการรับปิดโพรงใต้บ้าน แก้ปัญหาสภาพแวดล้อมบริเวณบ้าน รวมทั้งป้องกันความหายที่อาจจะเกิดตามมาอีกด้วย มาดูรายละเอียดว่าปิดโพรงใต้บ้าน มีวิธีการปิดโพรงด้วยวัสดุอะไรบ้าง มีข้อดีจากการปิดโพรงรอบบ้านอย่างไร มาดูไปพร้อมกัน

แนะนำวัสดุสำหรับปิดโพรงใต้บ้าน

รับปิดโพรงใต้บ้าน ส่วนใหญ่วัสดุที่ใช้สำหรับปิดโพรงใต้บ้านหรือปิดโพรงรอบบ้าน ขึ้นอยู่กับลักษณะของโพรง รวมทั้งจุดเด่นของวัสดุนั้น ๆ จึงควรเลือกใช้วัสดุปิดโพรงใต้บ้านราคาเหมาะสม มีความคุ้มค่าระยะยาว โดยวัสดุยอดนิยมที่ใช้รับปิดโพรงใต้บ้าน มีดังนี้

พื้นขอบคันหิน

การเลือกใช้พื้นขอบคันหิน สามารถแก้ปัญหาปิดโพรงใต้บ้านได้รวดเร็ว มีค่าใช้จ่ายไม่สูงมาก โดยการเลือกวัสดุขอบคันหิน นิยมใช้รับปิดโพรงใต้บ้านขนาดไม่เกิน 20 ซม. อีกทั้งยังเพิ่มความสวยงามให้กับบ้าน เพราะสามารถออกแบบสร้างสรรค์ได้หลากหลาย เช่น การวางขอบคันหินพร้อมทั้งกับการปลูกต้นไม้ขนาดเล็กเพิ่มความน่ารัก หรือการทาสีตามความต้องการให้บ้านน่าอยู่มากขึ้น

พื้นคอนกรีต

อีกหนึ่งวัสดุที่นิยมเลือกใช้กันก็คือพื้นคอนกรีต ถือได้ว่าได้รับการพัฒนาออกแบบ เพื่อนำมาใช้งานกับการปิดโพรงได้อย่างเหมาะสม โดยใช้วัสดุคอนกรีตที่มีคุณสมบัติเหมาะกับงานก่อสร้าง มีความแข็งแรง อีกทั้งมีความไหลลื่น จึงสามารถปิดโพรงใต้บ้านได้ดี ไม่มีการทรุดตัวจากดินเดิม ทั้งนี้ การเลือกใช้พื้นคอนกรีต จำเป็นต้องปรึกษาช่างมืออาชีพ ช่วยตรวจสอบความลึกของโพรง วิเคราะห์ปัญหา พร้อมทั้งประเมินวัสดุที่ใช้รับปิดโพรงใต้บ้านในปริมาณที่เหมาะสม

เสาเข็มไมโครไพล์

วิธีการแก้ปัญหาบ้านทรุดจนเกิดโพรงใต้บ้านด้วยการใช้เสาเข็มไมโครไพล์ นำมาตอกเสริมให้โครงสร้างบ้านมีประสิทธิภาพในการรับน้ำหนัก รับน้ำหนักได้ดีจนไม่เกิดการทรุดตัวตามมา โดยเสาเข็มไมโครไพล์ มีลักษณะเป็นเสาที่มีขนาดเล็กเพียง 1.50 เมตร ใช้งานสำหรับการก่อสร้างต่อเติมโครงสร้าง เพื่อสร้างความแข็งแรงมากขึ้น จะเห็นได้ว่า การรับปิดโพรงใต้บ้านโดยใช้เสาเข็มไมโครไพล์ เหมาะกับการนำมาใช้แก้ปัญหาบ้านทรุดตัว แล้วยังสร้างฐานโครงสร้างบ้านให้แข็งแรงมั่นคง

แผ่นสมาร์ทบอร์ด

การรับปิดโพรงใต้บ้าน ควรเลือกใช้แผ่นสมาร์ทบอร์ดที่มีความหนาเป็นพิเศษ เพิ่มความแข็งแรง ความทนทานต่อการใช้งานระยะยาว โดยการใช้สมาร์ทบอร์ดปิดโพรงใต้บ้านนี้ จะใช้สำหรับโพรงที่มีขนาดเล็ก มีขนาดประมาณไม่เกิน 20 ซม. โดยส่วนใหญ่นิยมใช้สมาร์ทบอร์ดขนาด 40 ซม. หรือ 60 ซม. ใช้ตามความเหมาะสม อีกทั้งยังช่วยป้องกันดินสไลด์ได้ด้วย นอกจากนี้ ยังสามารถทาสีเพิ่มสีสันให้กับบ้านให้มีชีวิตชีวาอีกทางหนึ่ง

แผ่นพีวีซี (PVC)

วิธีแก้ปัญหารับปิดโพรงใต้บ้านด้วยแผ่นพีวีซี ใช้เป็นวัสดุสำหรับปิดโพรงใต้บ้านที่มีความแข็งแรง มีความทนทาน ไม่ว่าจะเป็นทนน้ำ ทนความชื้น ทนสารเคมี แล้วก็ทนความร้อนได้ดี โดยแผ่นพีวีซีปิดโพรงด้วยการยึดติดกับคานดินของบ้านได้ ไม่ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างบ้านหรือการรับน้ำหนักเพิ่มขึ้น รวมทั้งสามารถรับแรงดันดินได้ การใช้แผ่นพีวีซี ควรจัดวางให้แผ่นมีระยะห่างเท่ากัน เพื่อความสวยงาม เป็นระเบียบเรียบร้อย

ทำไมควรใช้บริการรับปิดโพรงใต้บ้าน บริการปิดโพรงใต้บ้านดีอย่างไร

บริการรับปิดโพรงใต้บ้าน

การปิดโพรงใต้บ้านมีส่วนช่วยในการป้องกันด้านใดบ้าง มีข้อดีอย่างไร ทำไมจึงควรเลือกใช้บริการรับปิดโพรงใต้บ้าน มาดูข้อดีที่สำคัญหลัก ๆ มีดังนี้

1.พื้นแน่นหนา ปลอดภัย

การปิดโพรงใต้บ้าน ช่วยให้บ้านมีพื้นที่แน่นหนา มีความปลอดภัยทั้งจากตัวโครงสร้าง ลดการเสื่อมสภาพไม่เกิดการทรุดตัว บริการรับปิดโพรงใต้บ้าน มีขั้นตอนการบริการประเมินพื้นที่ ให้คำปรึกษาแนวทางแก้ปัญหาการทรุดตัว เลือกวิธีการที่เหมาะสมมากที่สุด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการสภาพพื้นที่โพรงใต้บ้านของแต่ละที่ด้วย

2.ทนทานทุกสภาวะอากาศ

บริการรับปิดโพรงใต้บ้าน เป็นวิธีการที่ช่วยให้บ้านมีความมั่นคง คงสภาพ มีโครงสร้างที่ดี ทนทานมากขึ้น โดยการเลือกใช้วัสดุปิดโพรงใต้บ้าน ควรใช้วัสดุที่มีคุณสมบัติที่แข็งแรง ทนทาน ใช้งานได้นาน รวมไปถึงทนทานทุกสภาวะอากาศด้วย

3.ป้องกันสัตว์ร้ายใต้โพรงบ้าน

เมื่อเกิดการทรุดตัวจนเกิดโพรงใต้บ้าน อาจมีสัตว์ร้ายที่เป็นอันตรายเข้าไปอยู่ภายใน ทำให้เกิดความเสี่ยงอันตรายต่อผู้อยู่อาศัยได้ เพราะไม่ทราบว่ามีสัตว์ประเภทใดบ้างที่เข้าไปอยู่ในโพรงบ้าน เพื่อป้องกันความเสี่ยงอันตรายต่อชีวิต ควรใช้บริการรับปิดโพรงใต้บ้าน ป้องกันอันตรายจากสัตว์ร้ายตามมา

4.ป้องกันดินทรุดรอบบ้าน

การใช้บริการรับปิดโพรงใต้บ้าน เป็นการแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุดของการทรุดตัว เพราะถ้าหากแก้ปัญหาการทรุดตัวได้เร็ว ก็จะทำให้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงในการซ่อมแซม อีกทั้งยังทำให้ดินไม่ทรุดตัว โครงสร้างไม่ได้รับความเสียหาย แล้วช่วยป้องกันไม่ให้ดินทรุดตัวรอบบ้านได้อีก โครงสร้างบ้านก็จะไม่เสื่อมสภาพด้วย

5.ป้องกันบ้านทรุด

หากใช้บริการรับปิดโพรงใต้บ้าน ก็จะมีการตรวจสอบ ประเมินปัญหาว่าบ้านทรุดตัวจนเกิดโพรงใต้บ้านมาจากปัญหาใด ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับโครงสร้างและการรับน้ำหนักได้ เพราะหากโครงสร้างไม่สามารถรับน้ำหนักได้ จึงทำให้เกิดการทรุดตัวของบ้านได้ ดังนั้น จึงควรให้ช่างรับปิดโพรงใต้บ้านมาประเมินโครงสร้าง ป้องกันบ้านทรุดตัวไม่ให้เสื่อมสภาพ

สรุป รับปิดโพรงใต้บ้านดีอย่างไร

การเลือกใช้บริการรับปิดโพรงใต้บ้าน มีส่วนช่วยให้โครงสร้างบ้านแน่นหนา มีความมั่นคง ปลอดภัย ทนทานต่อทุกสภาพอากาศ ป้องกันดินทรุดรอบตัวบ้าน ป้องกันความเสี่ยงบ้านทรุด รวมไปถึงป้องกันสัตว์ร้าย สัตว์มีพิษใต้โพรงบ้าน ดังนั้น การแก้ปัญหารับปิดโพรงใต้บ้าน ราคาเหมาะสม คุ้มค่า เลือกใช้วัสดุที่ตอบโจทย์มากที่สุด แก้ไขได้อย่างมีประสิทธิภาพ แล้วยังช่วยให้บ้านน่าอยู่มากยิ่งขึ้น เมื่อเกิดปัญหาโพรงใต้บ้าน อย่าให้เป็นปัญหาเรื้อรัง จะส่งผลเสียต่อโครงสร้างบ้าน ต้องเสียงบประมาณซ่อมแซมเยอะ ควรให้ทีมงานรับปิดโพรงใต้บ้าน ช่วยตรวจสอบปัญหา แนะนำแนวทางแก้ปัญหาโดยเร็ว


25
ผนังเบา

พื้นที่ภายในบ้าน หากต้องการจัดสรรให้สัดส่วนเป็นไปตามความต้องการ มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น เพื่อจัดสรรให้เป็นห้องนอน ห้องน้ำ ห้องทำงาน ห้องรับแขก และห้องนั่งเล่น ทำง่าย ๆ ได้ด้วยการติดตั้งผนังเบา ซึ่งผู้รับเหมา หรือช่างทำบ้านในปัจจุบันนิยมใช้ผนังเบาในการกั้นห้องต่าง ๆ ภายในบ้านให้เป็นสัดส่วนที่เหมาะสม

ผนังเบาเป็นอีกหนึ่งวิธีมักจะนิยมใช้ในการเป็นแผ่นผนังเบากั้นห้องของภายในบ้าน เนื่องจากโครงผนังเบาเป็นวัสดุที่เบากว่าอิฐ มีความแข็งแรง ทนทาน และติดตั้งได้ง่ายกว่าวัสดุอื่น ๆ ซึ่งตอบโจทย์บ้านในยุคใหม่ แถมสามารถออกแบบ ตกแต่งทาสีได้ตามไลฟ์สไตล์ของเจ้าของบ้านอีกด้วย

วัสดุผนังเบาคืออะไร?

ผนังเบา คือ แผ่นผนังที่มีน้ำหนักเบากว่าผนังก่ออิฐหรือผนังคอนกรีต ผนังเบาจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของผู้รับเหมาที่ใช้ผนังเบากั้นห้องตกแต่งภายในบ้าน หรือที่พักอยู่อาศัย สามารถติดตั้งได้สะดวกรวดเร็ว ช่วยประหยัดเวลาติดตั้ง ประหยัดค่าใช้จ่ายทั้งค่าวัสดุและค่าก่อสร้าง อีกทั้งยังเลือกใช้งานได้หลากหลายขึ้นอยู่กับการใช้งานต่าง ๆ

ผนังเบาเป็นผนังที่มีวัสดุนำมาใช้เป็นผนังเบากั้นห้องมีให้เลือกหลายประเภทได้แก่ โครงสร้างเหล็ก  ไม้ อะลูมิเนียม ปิดทับด้วยวัสดุแผ่นผนัง เช่น แผ่นยิปซัม แผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์บอร์ด หรือแผ่นไม้อัดซีเมนต์ การติดตั้งของโครงคร่าวผนังเบาติดตั้งด้วยการใช้ตะปู ตะปูเกลียวเป็นตัวยึด โดยน้ำหนักของผนังเบาหนักเพียง 20 – 50 กิโลกรัมต่อตารางเมตร

บ้านแบบไหนเหมาะกับการใช้ผนังเบา

ผนังเบาเป็นแผ่นกั้นห้องที่มีน้ำหนักเบา ติดตั้งได้ง่าย ติดตั้งได้รวดเร็ว และราคาผนังเบาถูกกว่าผนังแบบอื่น ๆ บ้านที่เหมาะกับการใช้ผนังเบาหรือกั้นห้องผนังเบา มีดังนี้

• มีโครงสร้างไม่แข็งแรง ถ้าหากโครงสร้างภายในบ้านไม่มีแข็งแรง เพราะผ่านอายุการใช้งานมานาน โครงสร้างบ้านทำด้วยไม้ หรือโครงสร้างบ้านทำด้วยเหล็ก การใช้ผนังมวลเบาจะไม่สร้างภาระให้กับโครงสร้างบ้าน และไม่ทำให้โครงสร้างการความเสียหายแต่อย่างใด เพราะผนังเบามีน้ำหนักเบา
• มีพื้นที่จำกัด หากจะจัดสรรภายในบ้านที่มีพื้นที่จำกัด อยากให้มีห้องเป็นสัดส่วนเพิ่มพื้นที่ใช้สอยผนังเบาจึงเหมาะสม เพราะว่าแผ่นผนังเบาใช้พื้นที่น้อยกว่าผนังก่ออิฐหรือผนังคอนกรีต
• มีความต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย และประหยัดเวลาในการต่อเติมบ้าน แผ่นกั้นผนังเบาติดตั้งได้ง่าย ใช้เวลาในการติดตั้งที่รวดเร็ว ผนังเบาราคาอยู่ประมาณ 180 -190 บาทต่อตารางเมตร ซึ่งมีราคาถูกกว่าผนังก่ออิฐหรือผนังคอนกรีต
• ต่อเติมอยู่บ่อย ๆ การใช้ผนังเบาสามารถรื้อถอน เคลื่อนย้าย เปลี่ยนแปลงได้ง่ายไม่ยุ่งยาก ถ้าหากใช้ผนังก่ออิฐหรือผนังคอนกรีต การรื้อถอน อาจจะต้องทำร้ายหรือทุบทิ้ง ซึ่งอาจจะทำให้เกิดความสร้างหายให้กับโครงบ้านได้
• เน้นความสวยงาม ผนังเบามีลวดลายและสีสันให้เลือกหลากหลาย เช่นผนังเบาลายไม้ และสามารถทาสีตกแต่งตามความต้องการได้ จึงเหมาะกับบ้านที่ต้องการตกแต่งสไตล์โมเดิร์น

ข้อดี - ข้อเสียของผนังเบาแต่ละประเภท

ผนังเบาที่ใช้ในการกั้นห้อง และต่อเติมภายในบ้าน ซึ่งผนังเบาจะมีอยู่ด้วยกันหลายประเภท เช่น ผนังเบาไม้อัด กั้นห้องแบบ ไม้อัดยาง ไม้อัดซีเมนต์ ไม้สังเคราะห์ หรือแบบยิปซั่ม และแบบไฟเบอร์ซีเมนต์ มีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่รูปแบบความต้องการของเจ้าของบ้าน

1. ประเภทไม้อัดยาง

ผนังเบาไม้อัดยาง

แผ่นไม้อัดยางทำจากไม้แผ่นบางที่นำมาอัดกันเป็นชั้น ๆ หลังจากนั้นใช้กาวเป็นตัวเชื่อมระหว่างไม้แต่ละแผ่น ซึ่งทำให้แผ่นไม้อัดยางสามารถเลือกความหนาของแผ่นได้ตั้งแต่ 3 - 20 มิลลิเมตร แผ่นไม้อัดยางจะมีลวดลายที่ธรรมชาติ โทนอบอุ่น และสามารถใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ

ข้อดี: ลวดลายสวยงามเป็นธรรมชาติ มีความแข็งแรงสูง ทนทาน ซ่อมแซมได้  ติดตั้งผนังเบาไม้อัดยางได้ง่าย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสามารถนำกลับมารีไซเคิลได้
ข้อเสีย:
ผนังเบาแผ่นไม้อัดยาง มีโอกาสที่จะเกิดความชื้น ทำให้เกิดเป็นเชื้อรา และบวมขึ้นที่แผ่นไม้อัดยางได้เพราะผนังเบาแผ่นไม้อัดยางทำมาจากธรรมชาติ

2. ประเภทไม้อัดซีเมนต์

ผนังเบาไม้อัดซีเมนต์

ผนังเบาแผ่นไม้อัดซีเมนต์เป็นวัสดุก่อสร้างที่ผลิตจาก ไม้ที่ถูกนำไปสับให้เป็นเศษไม้ หรือใช้เส้นใยเซลลูโลส หลังจากนนั้นนำเอามาผสมกับปูนซีเมนต์ เพื่อให้เนื้อของปูนซีเมนต์แทรกซึมเข้าถึงเศษไม้ และอัดขึ้นรูปด้วยความร้อนและแรงดันสูง จึงทำให้เหมาะกับทำผนังเบาในการกั้นห้องต่าง ๆ

ข้อดี: มีความแข็งแรง ทนทาน ทนต่อทุกสภาพอากาศ อายุการใช้งานนาน ไม่เกิดอาการบวม ไม้เกิดเชื้อรา สามารถตกแต่งด้วยการทาสีทับลงที่แผ่นผนังเบาแผ่นไม้อัดซีเมนต์ตามความต้องการ และสามารถใช้เป็นผนังเบาภายนอกหรือภายในก็ได้
ข้อเสีย: ผนังเบาแผ่นไม้อัดซีเมนต์เป็นวัสดุที่ไม่สามารถดัดง้อให้ทำให้โค้งตามโครงสร้างของบ้านได้ แผ่นไม้อัดซีเมนต์มีน้ำหนักอาจจะไม่เหมาะกับบ้านที่มีโครงสร้างไม่แข็งแรง และถ้าหากแผ่นเกิดการแตกหัก หรือชำรุดจนเศษไม้หลุดออกมาอาจจะทำให้เกิดปัญหาปลวกตามมาได้

3. ประเภทยิปซั่ม

ผนังเบายิปซั่ม

ผนังเบาแผ่นยิปซั่มผลิตจากการผงยิปซั่มเผา ปิดพื้นผิวด้วยกระดาษเหนียว หลังจากนั้นนำมาขึ้นรูปเป็นแผ่น ผนังเบาแผ่นยิปซั่มจึงมีน้ำหนักเบา สามารถตัดต่อได้ตามความต้องการ

ข้อดี: ราคาผนังเบายิปซั่มมีราคาถูก น้ำหนักเบา แข็งแรง ทนทาน ติดตั้งง่าย สามารถดัดโค้งง้อได้ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และผนังเบาแผ่นยิปซั่มมีหลากหลายประเภท เช่น แบบกันน้ำ แบบทนความร้อน แบบดูดซับเสียง เป็นต้น
ข้อเสีย: ผนังเบาแผ่นยิปซั่มทำมาจากกระดาษอาจจะทำให้ปลวกกินได้ หากเกิดติดตั้งตามที่ไม่เหมาะสม เช่นติดตั้งภายนอกของบ้าน

4. ประเภทไฟเบอร์ซีเมนต์

ผนังเบาไฟเบอร์ซีเมนต์

ผนังเบาแผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์ หรือที่เรียกกันว่า สมาร์ทบอร์ด ทำมาจากผงซีเมนต์ ผสมใยไฟเบอร์ และซิลิก้า นำไปอบด้วยเครื่องอบไอน้ำแรงดันสูง ผนังเบาแผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์จะไม่มีส่วนผสมไม้เหมือนกันผนังเบาอื่น ๆ 

ข้อดี: เนื้อเหนียว ยืดหยุ่นได้สามารถดัดโค้งโครงผนังได้ตามโครงสร้างบ้านได้ มีความแข็งแรง ทนทานสูง ไม่แตกหักง่าย กันน้ำ กันปลวก ทนความร้อนช่วยลดอุณหภูมิภายในบ้าน สามารถใช้ได้ทั้งภายในและภายนอก เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รีไซเคิลง่าย กั้นห้องด้วยผนังเบาแผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์ได้ และใช้เป็นฝ้า พื้นได้เหมือนกัน
ข้อเสีย: ผนังเบาแผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์จะมีน้ำหนักที่ค่อนข้างเยอะ และราคากั้นห้องผนังเบาแผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์มีราคาสูง และการโป๊วรอยต่อให้ดูเรียบเนียนทำได้ยาก

5. ประเภทไม้สังเคราะห์

ผนังเบาไม้สังเคราะห์

ผนังเบาแผ่นไม้สังเคราะห์ผลิตมาจากเส้นใยไม้ ขี้เลื่อย ผงไม้ ผสมกับพลาสติก หรือพอลิเมอร์ หลังจากนนั้นนำไปเข้ากระบวนการอัดให้เป็นแผ่นทำให้แผ่นมีความแข็งแรง  ซึ่งผนังเบาแผ่นไม้สังเคราะห์จะมีความคล้ายกับผนังเบาแผ่นไม้อัดซีเมนต์ แผ่นไม้สังเคราะห์เหมาะกับกั้นห้องผนังเบาห้องนอน และห้องอื่น ๆ ที่อยู่ภายในบ้าน

ข้อดี: ผิวสัมผัสเหมือนไม้จริง มีลวดลายที่ดูเป็นธรรมชาติ มีความแข็งแรง ทนทานสูง กันความชื้นได้ดี ไม่เกิดอาการบวม พอง
ข้อเสีย: ผนังเบาแผ่นไม้สังเคราะห์ไม่เหมาะสมกับการติดตั้งภายนอกบ้านถ้าหากโดดแสงแดด หรือโดดน้ำเป็นเวลานานอาจจะทำให้แผ่นเกิดการแตกหักได้

ผนังเบาสามารถใช้ทดแทนวัสดุอะไรได้บ้าง

ผนังเบาสามารถใช้ทดแทนวัสดุก่อสร้างแบบดั้งเดิมได้หลายอย่าง อาทิเช่น

1. ผนังก่ออิฐ ผนังเบาสามารถใช้ทดแทนผนังก่ออิฐได้ โดยเฉพาะผนังกั้นห้องภายใน ช่วยในการยึดวัสดุและสร้างความแข็งแรงให้กับผนัง และจากนั้นทาสี ติดวอลเปเปอร์ตกแต่งได้
2. ไม้กั้นห้อง ผนังเบามีความแข็งแรง ทนทาน ยืดหยุ่นดีกว่าไม้กั้นห้อง เหมาะกับการใช้งานระยะยาว
3. ฉากกั้นห้อง ผนังเบาติดตั้งง่าย รวดเร็ว และดูสวยงามกว่าฉากกั้นห้อง ผนังเบาบางประเภทมีคุณสมบัติพิเศษ เช่น กันความร้อน กันความร้อน
กั้นห้องด้วยผนังเบาราคาอาจถูกลงกว่าการใช้วัสดุเดิม ๆ ที่คุณเคยใช้

สรุปผนังเบา ประหยัดเวลาและค่าแรงช่าง

ที่พักอาศัย หรืออาคารหลังเก่าที่ถูกปล่อยทิ้งไว้ ไม่ได้ใช้งาน หากคุณสนใจที่จะรีโนเวทปรับปรุงให้กลับมาดูมีชีวิตชีวา น่าเข้าไปพักอยู่อาศัย หรือเพื่อต่อยอดเป็นรายได้ให้กับตนเองสามารถทำได้ และ “ผนังเบา” จะเป็นอีกหนึ่ง วัสดุก่อสร้างที่ติดตั้งได้รวดเร็วกว่าผนังก่ออิฐแบบดั้งเดิม ช่วยให้ประหยัดเวลาและค่าแรงช่าง ให้การรีโนเวทอาคารเก่าของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นและสำเร็จ


26
นอนไม่หลับ

อาการนอนไม่หลับ เป็นภาวะร่างกายที่แบ่งออกไปหลายปัจจัย ทั้งการทำงาน, พฤติกรรมการกิน, การนอน, และความรู้สึก ในขณะที่โรคนอนไม่หลับ เป็นอาการแทรกซ้อนจากหลายโรค เห็นได้ชัดว่า นอนไม่หลับไม่ใช่เราจะแก้ไข หรือรักษาไม่ได้ หากแต่ต้องการความเข้าใจ และสาเหตุของมันให้มาก แล้วเราจะทราบถึงทางแก้ที่ช่วยให้สุขภาพและสุขภาพจิตสามารถฟื้นฟู เรามาเริ่มต้นรู้จักโรคนอนไม่หลับ กันว่าเป็นอย่างไร

นอนไม่หลับ คืออะไร มีอาการอย่างไร
โรคนอนไม่หลับ (Insomnia) คือโรคที่มีอาการของคนที่มีปัญหาในการนอนหลับ ไม่ว่าจะเป็นอาการหลับยาก มีอาการหลับ ๆ ตื่น ๆ หรือหลับไม่สนิท ตื่นเป็นครั้งคราว สะดุ้งตื่นกลางดึก บางคนมีอาการฝันร้ายแทรกซ้อน รู้สึกง่วงแต่นอนไม่หลับ แน่นอนว่าเมื่อคุณภาพการนอนลดลง ส่งผลให้สภาพกายและสภาพจิตทำสิ่งต่าง ๆ ได้ไม่ดีพอ หากเรานอนไม่หลับ ก็ไม่ควรเพิกเฉยกับสิ่งเหล่านี้ เพราะอาการนอนไม่หลับส่งผลกระทบ หากรักษาไม่ถูกต้อง

ซึ่งร่างกายโดยปกติของมนุษย์ ต้องการ การพักผ่อนประมาณ 6-8 ชั่วโมง และในแต่ละคนจะมีช่วงเวลาในการพักผ่อนแตกต่างกัน การที่เรานอนไม่หลับเป็นเวลานาน จะส่งผลให้การดำเนินชีวิตประจำวันยากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นภาวะทางอารมณ์ ที่อาจมีการหงุดหงิดง่าย สมองทำงานผิดปกติ ทำอะไรช้า หรือหลง ๆ ลืม ๆ ด้านกายภาพจากการนอนไม่หลับ ก็ส่งผลให้ไม่มีเรี่ยวแรง การสื่อสารหรือติดต่อกับคนอื่นไม่มีประสิทธิภาพ และถึงขั้นเป็นโรคง่าย

สาเหตุของอาการนอนไม่หลับ ทั้งผู้เริ่มเป็น  และอาการเรื้อรัง

อาการนอนไม่หลับ

  • เบื้องต้น อาการนอนไม่หลับสมองไม่หยุดคิด มักเกิดจากความไม่พึงพอใจในตัวเอง เช่นความเครียด ความเศร้า ความผิดหวัง
  • นอนไม่หลับ มีสาเหตุจากโรคทางจิต ไม่ว่าจะเป็นโรคซึมเศร้า หรือโรควิตกกังวล
  • สาเหตุของโรคนอนไม่หลับด้านอาการเจ็บป่วย เช่นโรคที่เจ็บป่วยเรื้อรัง จนส่งผลทำให้นอนไม่หลับ ไม่ว่าจะเป็นโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ, โรคเกี่ยวกับทางเดินปัสสาวะ หรือโรคไอเรื้อรัง
  • อาการนอนไม่หลับที่เกิดจากกายภาพ เช่นอาการบาดเจ็บในส่วนต่าง ๆ ส่งผลให้วิถีการนอนเปลี่ยนไป หรือความเจ็บป่วยจากร่างกาย
  • สาเหตุจากการถูกกระตุ้นด้วยการดื่มหรือรับประทานบางสิ่ง เช่นกาแฟ, เครื่องดื่มชูกำลัง, แอลกอฮอล์
  • นอนไม่หลับด้วยสาเหตุจากปัจจัยด้านสภาพแวดล้อม ส่งผลต่อการนอนหลับยาก  ไม่ว่าจะเป็นอุณหภูมิภายในห้อง การนอนแปลกที่แปลกทาง, การเกิดเสียงดัง, การเดินทางต่างประเทศจนเกิดช่องว่างของเวลาพักผ่อน และการนอนดึกเนื่องจากต้องทำงานไม่เป็นเวลา

อาการนอนไม่หลับรูปแบบไหน ที่ควรพบแพทย์
หากเรามีอาการนอนไม่หลับจนถึงขั้นเรื้อรัง หรือหาสาเหตุของอาการไม่ได้ และส่งผลให้ร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพออาการก็จะหนักขึ้น จำเป็นต้องพบแพทย์โดยด่วน สามารถไปที่แผนกเวชศาสตร์โรคการนอนหลับ โดยเฉพาะผู้ที่มีอาการ หรือภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ ส่งผลให้คุณภาพการนอนลดลง มีอาการง่วงนอนตลอดเวลาไม่สดชื่น และอันตรายมาก หากไม่ได้เข้ารับการรักษาอย่างถูกวิธี ซึ่งภาวะการนอนไม่หลับรักษาได้

นอนไม่หลับส่งผลเสียกับเราอย่างไร

โรคนอนไม่หลับ ผลเสีย

สิ่งที่เกิดผลเสียหลังอาการนอนไม่หลับที่สุด คือร่างกายที่เสี่ยงต่อการถูกโรคแทรกซ้อน อันเนื่องมาจากร่างกายอ่อนแอ ทำให้มีโอกาสในการเกิดโรคได้ง่าย ทั้งโรคติดต่อ และภูมิแพ้ ในขณะเดียวกัน การทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันก็มีปัญหาเพราะการนอนไม่หลับ ทำอะไรช้าลง การทำงานของสมองมีปัญหา อาจหลงลืม หรือคิดอะไรนานกว่าปกติ ทั้งยังเสี่ยงต่ออันตราย หากขับรถด้วยตัวเอง หรือเดินอยู่ในจุดที่เสี่ยงอันตรายเมื่อหมดสติ เช่นตึกสูง

นอนไม่หลับ จำแนกตามอาการและวิธีรักษาอย่างไร
รักษาโรคนอนไม่หลับโดยไม่ใช้ยา
เบื้องต้น หากเราทราบสาเหตุของอาการนอนไม่หลับแล้ว การจัดลำดับความสำคัญในการรักษาก็จะง่ายขึ้น เช่นเรานอนไม่หลับเพราะสภาพแวดล้อม ก็สามารถแก้ไขด้วยการเปลี่ยนสภาพแวดล้อม พร้อมกับการหาอาหารบำรุง พร้อมศึกษาเทคนิคการผ่อนคลายทำให้นอนหลับ สำคัญคือหากต้องการวิธีทำให้นอนหลับอย่างมีประสิทธิภาพ จะต้องงดการงีบหลับระหว่างวัน หรือการนอนหลับกลางวันเป็นเวลานาน เพราะยิ่งทำให้การนอนให้หลับยากขึ้น

รักษาโรคนอนไม่หลับโดยใช้ยา
การให้ยาเกี่ยวกับการนอนหลับ ต้องผ่านการเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ก่อนเสมอ เพราะยานอนหลับส่งผลข้างเคียงได้ โดยการรักษานอนไม่หลับเบื้องต้นจะขึ้นอยู่กับอาการ เช่นนอนไม่หลับจากโรควิตกกังวล หรือซึมเศร้า ก็จะมีการจ่ายยาที่แตกต่างกัน แต่ในเบื้องต้น หากเราเป็นโรคนอนไม่หลับจะมีการจ่ายยานอนหลับในปริมาณที่เหมาะสม เพราะหากใช้มากเกินไป อาจจะทำให้ร่างกายชินและทำให้ยานอนหลับไม่ได้ผลอีกเลย

สรุปนอนไม่หลับ รักษาได้ เพียงเข้าใจตัวเอง
หากเรามีอาการนอนไม่หลับกระสับกระส่าย หรือรู้สึกง่วงนอนตลอดเวลาไม่สดชื่น นั่นคือสัญญาณของภาวะนอนไม่หลับ ซึ่งเป็นอาการที่ค่อนข้างซับซ้อน เพราะมีหลายปัจจัย แต่ทุกคนชอบมองข้ามเพราะไม่ได้ร้ายแรง แท้จริงโรคนอนไม่หลับ แต่ง่วงนอนตลอดเวลา เป็นสัญญาณของโรคต่าง ๆ ที่จะตามมา หรือเราได้เป็นโรคนั้นแล้ว ดังนั้นการเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพื่อให้รักษาอาการได้ทันท่วงที ก่อนจะเจอโรคแทรกซ้อนที่หนักกว่า


27
Sculptra

หนึ่งในหัตถการที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบันต้องหนีไม่พ้น “Sculptra” แม้หลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อการเสริมความงามด้วยหัตถการตัวนี้มาบ้างแต่อาจจะยังไม่รู้ว่า Sculptra คืออะไร? และมีหลักการทำงานอย่างไร เป็นคอลลาเจนที่ช่วยกระตุ้นผิวบนใบหน้าใช่หรือไม่? แล้ว Sculptra ดีไหม? ในบทความนี้จะพาทุกคนไปหาคำตอบเพื่อไขข้อสงสัยนี้ รวมไปถึงบอกถึงแนวทางในการดูแลตัวเองทั้งก่อนและหลังทำ

Sculptra คืออะไร? ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนได้จริงหรือไม่?

Sculptra คือ

แน่นอนว่า Sculptra คือหนึ่งในวิธีกระตุ้นคอลลาเจนให้กับผิวซึ่งต่างจากการฉีดคอลลาเจนเข้าไปยังผิวหน้าตรง ๆ โดย Sculptra นั้นประกอบไปด้วย Poly-L-Lactic Acid ซึ่งมีลักษณะเป็นเนื้อเจล เมื่อฉีดเข้าไปยังผิวหน้าจะช่วยกระตุ้นคอลลาเจนบนใบหน้าทำให้ริ้วรอยลดลงและผิวหนังกระชับขึ้น

จุดเด่นของการกระตุ้นคอลลาเจนด้วย Sculptra ที่แตกต่างจากหัตถการอื่น
การฉีด Sculptra นั้นมีราคาที่ค่อนข้างสูงกว่าการฉีดสารเติมเต็มบนใบหน้าประเภทอื่น ๆ เช่นฟิลเลอร์ ทำให้หลายคนนั้นเกิดข้อสงสัยและกังวลว่าผลลัพธ์ที่ได้นั้นจะดีกว่าการทำหัตถการประเภทอื่น ๆ จริงหรือเปล่า เช่นนั้นในหัวข้อนี้เราจะพาไปดูจุดเด่นของ Sculptra กัน

  • Sculptra กับฟิลเลอร์มีข้อแตกต่างกันตรงจุดที่การฉีด Sculptra นั้นเป็นการเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับผิวหน้า ซึ่งผลลัพธ์นั้นต้องใช้เวลาอย่างน้อยประมาณ 1 เดือนถึงเริ่มเห็นผลชัดเจน ส่วนการฉีดฟิลเลอร์นั้นเป็นการฉีดสารเติมเต็ม Hyaluronic acid (HA) เพื่อทำให้ผิวหน้าในบริเวณนั้นกระชับ เปล่งปลั่ง มีผลลัพธ์ด้านการลดริ้วรอยและปรับรูปหน้า
  • การเติมคอลลาเจนให้กับผิวหน้ามีผลลัพธ์ที่คงอยู่ยาวนานมากที่สุดคือประมาณ 2 ปี
  • Sculptra เป็นสาร Poly-L-Lactic Acid (PLLA-SCA) เพียงตัวเดียวที่ได้รับการรองรับจาก Food and Drug Administration (FDA) หรือองค์กรอาหารและยาของประเทศสหรัฐอเมริกา

ใครบ้านที่เหมาะกับการกระตุ้นคอลลาเจนด้วย Sculptra
การฉีดสารกระตุ้นคอลลาเจนให้กับผิวหน้านั้นเหมาะสมกับผู้ที่มีปัญหาดังนี้กวนใจ

  • ผู้ที่มีใบหน้าหย่อนคล้าย โดยเฉพาะในบริเวณแก้ม, ขมับ ซึ่งสามารถสังเกตเห็นได้ง่าย
  • ผู้ที่มีรอยตีนกาและริ้วรอยบนใบหน้าอันเนื่องมาจากผลลัพธ์ของการสูญเสียคอลลาเจนบนใบหน้า
  • ผู้ที่มีผิวหน้าไม่กระชับเต่งตึง Sculptra สามารถช่วยเพิ่มความเต่งตึงให้กับใบหน้าได้
  • ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ เนื่องจากนั้นการฉีด Sculptra ไม่ใช้การทำหัตถการที่เป็นการเปลี่ยนรูปหน้า เป็นเพียงการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเท่านั้น ดังนั้นรูปหน้าของท่านที่ทำการฉีดย่อมเหมือนเดิม แค่ดูกระชับสดใสขึ้นเท่านั้น
  • ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ในระยะยาว อย่างที่กล่าวไปในข้างต้นว่าผลลัพธ์ของ Sculptra นั้นอยู่ได้นานที่สุดถึง 2 ปีเพราะเป็นการเสริมสร้างความแข็งแรงของผิวจากภายใน

การกระตุ้นคอลลาเจนด้วย Sculptra อันตรายหรือไม่ เสี่ยงต่อการแพ้หรือไม่
การฉีด Sculptra เข้าไปยังผิวโดยแพทย์ผู้มากประสบการณ์นั้นเรียกได้ว่าเป็นการทำหัตถการที่ปลอดภัย แต่การเข้าใจถึงจุดเสี่ยงและผลข้างเคียงก็นับเป็นสิ่งสำคัญก่อนที่ทุกคนจะเลือกฉีด ดังนั้นการเลือกปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินสภาพผิวและเงื่อนไขทางร่างกายจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด นอกจากนี้เพื่อให้มั่นใจว่าเป็น Sculptra ของแท้ ควรเลือกใช้บริการกับคลินิกหรือสถานพยาบาลที่มีความน่าเชื่อถือ สะอาด ปลอดภัย รวมไปถึงอาจจะหารีวิวที่น่าเชื่อถือจากช่องทางต่าง ๆ จาก Social Media ก่อนใช้บริการ

ราคาโดยเฉลี่ยของการทำการกระตุ้นคอลลาเจนด้วย Sculptra
ในปัจจุบัน Sculptra 1 ขวดมีปริมาณทั้งหมด 10 CC จะมีราคาอยู่ที่ประมาณ 25,000-30,000 บาท ซึ่งปริมาณที่ใช้ในการฉีดแต่ละครั้งนั้นขึ้นอยู่กับแพทย์ในการพิจารณา

ขั้นตอนและแนวทางการทำการกระตุ้นคอลลาเจนด้วย Sculptra

ขั้นตอนการฉีด Schulptra

ขั้นตอนการฉีด Sculptra โดยแพทย์นั้นมีลำดับขั้นตอนดังนี้

1.ผู้ใช้บริการเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ รวมไปถึงคำนวณปริมาณ Sculptra ที่ต้องใช้และจุดที่ต้องการฉีดให้เหมาะสม
2.แพทย์จะทำการทำความสะอาดบริเวณที่จะทำการฉีด Sculptra และเช็ดให้แห้ง ในบางคลินิกอาจจะมีการทายาชาร่วมด้วย
3.แพทย์จะทำการฉีด Sculptra ไปยังบริเวณต่าง ๆ ที่ได้เลือกและตกลงเอาไว้กับคนไข้ โดยการใช้เข็มขนาดเล็กค่อย ๆ ฉีดลงไปบริเวณใต้ผิวหนังระหว่างชั้นผิวหนังกำพร้าและชั้นไขมัน
4.หลังจากฉีดเสร็จแพทย์จะตรวจสอบสภาพผิวหน้าเช็ดทำความสะอาดอีกครั้งพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลตัวเองหลังฉีด

วิธีการดูแลตัวเองก่อนและหลังการทำ Sculptra
หลายคนอาจจะเริ่มตัดสินใจได้แล้วว่าจะเลือกทำ Sculptra ดีหรือไม่ แต่อาจจะยังไม่รู้ว่าสามารถทำได้เลยหรือเปล่า? ต้องเตรียมตัวอย่างไร? ยิ่งไปกว่านั้นถ้าหลังจากฉีดเสร็จต้องออกไปทำงานตากลมแดดทั้งวันจะยังสามารถฉีดได้หรือเปล่า? ในหัวข้อนี้จะพาไปหาคำตอบกัน

วิธีการเตรียมตัวก่อนทำ Sculptra
  • ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์อย่างน้อย 4 วันก่อนวันนัดหมายกับแพทย์
  • ผู้เข้ารับการฉีดไม่ควรอยู่ในภาวะการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
  • งดการรับประทานยาหรืออาหารที่มีส่วนประกอบจำพวก น้ำมันตับปลา, ขมิ้น, วิตามิน E,ยาไอบูโพรเฟน เนื่องจากบางตัวยานั้นมีผลทำให้เลือดหยุดไหลยาก

แนวทางการดูแลตัวเองหลังทำ Sculptra
  • ระวังการระคายเคืองในบริเวณที่ฉีด Sculptra โดยการไม่จับหรือถูในบริเวณนั้น ๆ
  • เพื่อลดการอักเสบแนะนำให้ใช้นำแข็งประคบบริเวณที่อักเสบ
  • รักษาความสะอาดโดยการทำความสะอาดใบหน้าตามปกติ
  • งดออกกำลังกายหักโหมประมาณ 3 วัน

ผลข้างเคียงหลังการกระตุ้นคอลลาเจนด้วย Sculptra
หลังจากฉีด Sculptra อาจเกิดผลค้างเคียงขึ้นได้ตั้งแต่ขั้นเล็กน้อยไปจนถึงขั้นรุนแรง (โอกาสน้อย) ทางทีดีที่สุดคือการสังเกตอาการที่เกิดขึ้นในบริเวณที่ทำการฉีด Sculptra ว่ามีโอกาสที่จะเกิดอาการอะไรรุนแรงหรือไม่ ดังนี้

ผลข้างเคียงตามปกติ
  • Sculptra มีผลข้างเคียงโดยทั่วไปคืออาการ บวมแดง ปวดและอาการคันเล็กน้อย
  • อาการปวดแสบร้อนและเจ็บปวดบริเวณที่ฉีดสามารถเกิดขึ้นได้หลังฉีด Sculptra
**อาการเหล่านี้ควรหายไปได้เองในช่วงเวลาประมาณ 3 - 17 วันโดยเฉลี่ย

ผลข้างเคียงที่ควรไปพบแพทย์
  • อาการอักเสบบวมแดงเป็นเวลานานตั้งแต่ 1 สัปดาห์ขึ้นไป ควรพบแพทย์เพื่อตรวจหาอาการติดเชื้อของบริเวณที่ฉีด Sculptra
  • ควรพบแพทย์ในทันทีถ้าเริ่มมีอาการแพ้ เช่นปวดแสบร้อน
  • มีตุ่มบวมแดงเกิดขึ้นหลังฉีด Sculptra แล้วไม่ยุบตัวลงเป็นเวลานาน

การกระตุ้นคอลลาเจนด้วย Sculptra สามารถอยู่ได้นานแค่ไหน ต้องทำบ่อยหรือไม่
โดยทั่วไปแล้วผลลัพธ์ที่ได้จากการฉีด Sculptra เห็นผลได้ในช่วงระยะเวลาประมาณ 1 เดือนขึ้นไป หลังจากนั้นแพทย์จะทำการประเมินอีกครั้งว่าต้องทำการฉีดเพิ่มเติมหรือไม่ซึ่งหลังจากนั้นผลลัพธ์ที่ได้จะมีระยะเวลาอยู่ที่ประมาณ 1ปี - 2ปี ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล

สรุป Sculptra หน้าอ่อนวัยด้วยผลลัพธ์ที่ยืนยาว
ในปัจจุบันนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ ๆ ในการช่วยแก้ไขปัญหาใบหน้านั้นมีมากมายหลายวิธี การศึกษาหาข้อมูลให้ดีว่าการทำหัตถการประเภทนั้น ๆ เหมาะสมกับเราหรือไม่เป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง แต่สำหรับ Sculptra นั้น เนื่องจากเป็นการฉีดสาระกระตุ้นเท่านั้นไม่ได้ไม่การผ่าตัดหรือฉีดสารเติมเต็มเข้าไปอยู่ในผิวหน้าเป็นเวลานาน จึงนับได้ว่าเป็นการทำหัตถการที่ปลอดภัยและยังได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของอเมริกา


28
ฟิลเลอร์คาง

ปัญหาคางสั้น คางตัด คางบุ๋ม เป็นเรื่องที่ไม่ว่าคุณผู้หญิงหรือคุณผู้ชายหลายคนรู้สึกไม่มั่นใจ อยากจะให้คางเป็นทรงตามที่ตนเองต้องการ แต่ก็ไม่อยากผ่าตัดเพราะกลัวเจ็บ คุณสามารถเลือกวิธีที่ง่าย ปลอดภัย และเห็นผลลัพธ์อย่างชัดเจนคือ “ฟิลเลอร์คาง” ที่ตอบโจทย์ แก้ปัญหาคางทั้งหลายได้ทันที

ฟิลเลอร์คาง หลังฉีดเข้าไปจะเห็นผลลัพธ์แบบไม่ต้องรอเวลา เพราะเป็นสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอน (Hyaluronic Acid) ซึ่งจะเติมเต็มบริเวณคางให้ดูโดดเด่นขึ้นทันทีหลังการฉีด โดยไม่ต้องรอให้ร่างกายฟื้นฟู

ฟิลเลอร์คาง (Filler) คืออะไร?

fillerคาง

ฟิลเลอร์คาง คือ การฉีดสารเติมเต็มไฮยาลูรอนิคแอซิด หรือที่รู้จักกันว่า HA เป็นการฉีดฟิลเลอร์คางเพื่อแก้ไขรูปทรงของคาง เช่น คางสั้น คางตัด คางบุ๋ม ฟิลเลอร์คางจะทำให้คางยาวมากขึ้น มีรูปทรงคางแบบเรียวเล็ก หรือ ทำให้คางเป็นสัดส่วนเข้ารูปทรงของใบหน้า ฉีดคางด้วยฟิลเลอร์เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถเห็นผลได้ทันทีหลังฉีดฟิลเลอร์คาง และไม่มีผลข้างเคียงข้างที่จะเกิดขึ้นตรงบริเวณคาง เช่น อาการบวมซ้ำ เนื่องจาก HA เป็นสารที่สังเคราะห์ขึ้นมาเลียนแบบตามธรรมชาติของร่างกายเรา จึงไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย มีความปลอดภัยสูง และเนื้อสารฟิลเลอร์จะสลายหายไปตามธรรมชาติภายใน

ฟิลเลอร์ทำงานอย่างไร ช่วยให้คางเป็นอย่างไรหลังการฉีด
ฟิลเลอร์คางมีหลักการทำงานโดยการฉีดสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิคแอซิด (Hyaluronic Acid) เข้าไปบริเวณคาง สารนี้จะทำหน้าที่เติมเต็มเนื้อเยื่อใต้ชั้นผิวหนัง ช่วยให้คางดูโดดเด่นขึ้น ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ช่วยให้ผิวบริเวณคางมีความยืดหยุ่น แข็งแรง และดูอ่อนเยาว์ การเติมฟิลเลอร์คางยังช่วยให้บริเวณคางชุ่มชื้น อิ่มฟู เต่งตึง โดยฟิลเลอร์คางยังช่วยแก้ไขปัญหาคางต่าง ๆ เช่น

  • แก้ไขปัญหาคางตัด คางสั้น จนทำให้รูปทรงหน้าดูกลม หลังฉีดฟีลเลอร์คางช่วยให้คางยาวเหมาะกับใบหน้า
  • แก้ไขปัญหาคางถอย หรือคางงุ้มไปด้านหลัง หากฉีดฟิลเลอร์คาง1cc หรือ 2cc จะช่วยทำให้คางยาวออกมาและสามารถปรับแต่งให้เข้าดูยื่นไปด้านหน้าได้
  • แก้ไขปัญหาคางไม่เท่ากัน คางบุ๋ม ฟิลเลอร์คางจะช่วยไปเติมเต็มให้บริเวณคาง
  • ช่วยปรับทรงคางให้ปรับเข้ากับโหงวเฮ้ง

คางแบบไหนเหมาะกับการทำหัตถการด้วยฟิลเลอร์
ปัญหาคางของแต่ละคนมักจะไม่เหมือนกัน บางคนคางสั้น คางถอย คางบุ๋ม คางยื่นไปข้างหน้ามากเกินไป และปัญหาอื่น ๆ ฟิลเลอร์คางจึงเหมาะสมกับการแก้ไขปัญหาของคางโดยเฉพาะ ไม่ต้องผ่าตัด และไม่จำเป็นต้องพักฟื้นแต่อย่างใด การฉีดฟิลเลอร์คางสามารถเห็นผมลัพธ์ในทันทีหลังจากฉีด

แต่ในกรณีของคนที่มีปัญหาคางสั้น และคางถอยมากเกินไปฟิลเลอร์คางอาจจะไม่เหมาะสม เพราะว่าฟิลเลอร์คางไม่สามารถอยู่ได้ถาวร หากใช้ฟิลเลอร์คางมากจนเกินไปอาจะส่งผลทำให้ฟิลเลอร์คางเป็นก้อน และจำเป็นจะต้องฉีดสลายฟิลเลอร์คาง สุดท้ายปัญหาคางก็ยังคงเป็นอยู่เหมือนเดิม ซึ่งวิธีเหมาะสมในการปรับทรงคางควรเป็นการเสริมซิลิโคนที่คางจะเห็นผลได้ชัดมากกว่า เนื่องจากเสริมซิลิโคนที่คางจะทำให้คางยาวได้ตามความต้องการ และทำให้คางดูเหมาะสมกับใบหน้า

ข้อดี - ข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์คาง

ข้อเสียของฟิลเลอร์คาง


ข้อดี - ข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์คาง มีดังนี้

ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์คาง

  • เห็นผลลัพธ์ทันที การใช้ฟิลเลอร์ไม่ว่าจะฉีดคาง1cc หรือฉีดคาง2cc สามารถช่วยแก้ปัญหาคางสั้น คางบุ๋ม คางเบี้ยว คางไม่เท่ากัน ได้อย่างชัดเจน ซึ่งขนาดของ cc ขึ้นอยู่ปัญหาอาการของแต่ละบุคคล ควรขอคำแนะนำจากแพทย์ก่อน
  • ช่วยปรับรูปหน้าได้หลากหลายแบบ ฟิลเลอร์คางสามารถปรับรูปทรงคางให้ได้ตามต้องการ เช่น ปลายคางแหลม คางมน คางยาว คางสั้น ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละบุคคลเพื่อให้เป็นสัดเป็นส่วนเข้าไปใบหน้า
  • ไม่ต้องพักฟื้น การฉีดฟิลเลอร์คางเป็นวิธีการแก้ไขปัญหาคางที่รวดเร็วและไม่จำเป็นต้องพักฟื้น สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติหลังทำ
  • ผลลัพธ์อยู่ได้นาน ฟิลเลอร์คางสามารถอยู่ได้นาน 6 - 18 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์ปริมาณที่ฉีด และการดูแลฟิลเลอร์คาง
  • ความปลอดภัย ฟิลเลอร์คางเป็นสารที่สามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ โดยจะไม่ทิ้งสารตกค้างที่ก่อให้เกิดอันตรายกับร่างกาย ถ้าหากไม่ชอบผลลัพธ์สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ได้

ข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์คาง

  • ค่าใช้จ่ายอาจสูง ฉีดฟิลเลอร์คางราคาขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์ และปริมาณที่ฉีด
  • ผลลัพธ์อยู่ไม่ถาวร เนื่องจากฟิลเลอร์คางมีสาร HA ที่สามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ จำเป็นต้องฉีดฟิลเลอร์คางซ้ำเพื่อคงผลลัพธ์ยังคงอยู่
  • หากฉีดฟิลเลอร์คางกับผู้ที่ไม่เชี่ยวชาญ อาจจะทำให้การฉีดฟิลเลอร์คางเป็นก้อน และไม่ได้ตามรูปทรงที่ต้องการ

ฟิลเลอร์คางต่างจากการศัลยกรรมคางอย่างไร?
ฉีดฟิลเลอร์คางกับเสริมคาง เป็นวิธีการแก้ปัญหาคางที่ได้รับความนิยมทั้งสองวิธีการ แต่มีความแตกต่างกัน ดังนี้

ฟิลเลอร์คาง
  • เป็นการฉีดสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid เข้าไปบริเวณคาง โดยจะฉีดลงลึกชั้นใต้เยื่อหุ้มกระดูก เพื่อให้ฟิลเลอร์คางอักเสบ หรือเป็นก้อน
  • สารไฮยาลูรอนิคแอซิดในฟิลเลอร์คางไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย สามารถสลายได้ด้วยตนเอง และไม่ทิ้งสิ่งตกค้างไว้ในร่างกาย
  • ระยะเวลาในการทำจะอยู่ที่ประมาณ 30 นาที ไม่จำเป็นต้องใช้ยาชา หรือแปะยาชา เพราะฟิลเลอร์คางจะมีส่วนผสมของยาชาอยู่
  • ฟิลเลอร์คางสามารถเสริมให้คางยาวขึ้นได้ไม่เกิน 1 เซนติเมตร จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปทรงคางเล็กน้อย
  • การฉีดฟิลเลอร์คางไม่ต้องผ่าตัด ไม่เป็นรอบแผลเป็น และไม่ต้องพักฟื้น
  • หลังฉีดฟิลเลอร์คางสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันที
  • ฟิลเลอร์คางสามารถปรับแต่งทรงคางได้ตามความต้องการ และยังสามารถฉีดสลายฟิลเลอร์คางได้หากเกิดไม่ชอบ หรือไม่ถูกใจทรงของคาง
  • ฟิลเลอร์คางมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าศัลยกรรมคาง

ศัลยกรรมคาง
  • ศัลยกรรมคางเป็นการผ่าตัดเสริมคางด้วยซิลิโคน
  • คนที่มีปัญหาคางถอย คางสั้น คางบุ๋ม หรือมีรูปทรงที่ฟิลเลอร์คางไม่สามารถแก้ไขได้ การศัลยกรรมคางจึงเหมาะสมมากกว่า
  • ศัลยกรรมเป็นการผ่าตัด จำเป็นต้องมีระยะเวลาในการพักฟื้น และอาจจะเกิดอาการปวด หลังจากศัลยกรรมคาง
  • หลังศัลยกรรมจะเกิดอาการปวด บวม ซึ่งจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนหลังจากอาการบวมหาย
  • ผลลัพธ์ของการศัลยกรรมที่คางจะอยู่อย่างถาวร
  • ศัลยกรรมบริเวณคางมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าฟิลเลอร์คาง

ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้หลังการฉีดฟิลเลอร์คาง

ข้อเสียฟิลเลอร์คาง

ผลข้างเคียงของฟิลเลอร์คางที่สามารถเกิดขึ้นได้หลังฉีดฟิลเลอร์คาง โดยส่วนใหญ่จะไม่พบผลข้างเคียงที่รุนแรง แต่จะมีอาการเพียงเล็กน้อยซึ่งไม่เป็นอันตราย ผลข้างเคียงที่สามารถเกิดขึ้นได้ มีดังนี้

  • มีอาการบวมแดง ระบม และช้ำเพียงเล็กน้อยตรงบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์อาการมักเกิดขึ้นใน 2 - 3 วันแรก และจะหายไปเองภายใน 1 - 2 สัปดาห์
  • รู้สึกตึง ๆ บริเวณคาง หากจับที่คางอาจจะรู้สึกเจ็บเล็กน้อย

ฟิลเลอร์คางอยู่ได้กี่เดือน
ฟิลเลอร์คางเป็นสาร Hyaluronic Acid เป็นสารที่สามารถสลายตัวเองได้ ไม่ว่าผู้ฟิลเลอร์คาง2cc หรือ 1cc ก็ตามฟิลเลอร์คางจะอยู่ได้ตั้งแต่ 6 เดือนเป็นต้นไปจนถึงระยะเวลา 2 ปี ซึ่งระยะของฟิลเลอร์จะขึ้นอยู่ประเภทของฟิลเลอร์คาง การดูแล และอาหารการกินด้วยเช่นกัน

ฟิลเลอร์คางแก้ไขปัญหาคางได้อย่างตรงจุด
ฟิลเลอร์คางถือว่าเป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายอย่างมากในปัจจุบัน เพราะฟิลเลอร์คางสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันที่หลังจากฉีดฟิลเลอร์คาง ไม่ต้องพักฟื้น และไม่ต้องผ่าตัดให้เกิดรอยแผลเป็น ฟิลเลอร์คางผู้ชายก็สามารถทำได้ ไม่จำเป็นต้องผู้หญิงเสมอไป หรือผู้ที่มีปัญหาคาง

หากต้องการอยากจะทำหัตถการด้วยฟิลเลอร์คาง ควรเลือกทำกับผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ เลือกประเภทฟิลเลอร์คางที่มีมาตรฐาน และก่อนตัดสินใจทำควรดูรีวิวฉีดฟิลเลอร์คางตามคลินิกเสริมความงามก่อนตัดสินใจ

29
รับสกรีนบรรจุภัณฑ์

เมื่อเริ่มทำแบรนด์ผลิตภัณฑ์ออกมา แน่นอนว่าเจ้าของแบรนด์ทุกคนต้องการสร้างผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจและน่าดึงดูด ซึ่งมีหลายวิธีที่สามารถทำได้ ทางเลือกที่ดีที่สุดอาจจะเริ่มต้นด้วยการให้ความสำคัญกับการออกแบบบรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์ อย่างการสกรีนบรรจุภัณฑ์ให้ดูโดดเด่น ไม่เหมือนใคร ดังนั้นโรงงานรับสกรีนบรรจุภัณฑ์ หลายที่จึงต้องแข่งขันกันด้วยฝีมือการออกแบบ คุณภาพงาน และความรวดเร็วในการผลิต

ในบทความนี้เราจะพาทุกคนมารู้จักเกี่ยวกับบริการรับสกรีนบรรจุภัณฑ์ให้มากขึ้นว่ามีข้อดีอย่างไร ขั้นตอนกระบวนการรับสกรีนบรรจุภัณฑ์มีอะไรบ้าง

บริการรับสกรีนบรรจุภัณฑ์ มีข้อดีอย่างไร
ข้อดีของบริการรับสกรีนบรรจุภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็นสกรีนกระปุกครีม เครื่องสำอาง อาหารเสริม โลโก้ผลิตภัณฑ์ มีข้อดีอยู่หลายประการ เช่น

1. สร้างเอกลักษณ์ของตนเอง และความโดดเด่นให้กับสินค้า
การสร้างเอกลักษณ์ของสินค้าให้มีความโดดเด่นด้วยการสกรีนโลโก้ ข้อความ รูปภาพลงบนบรรจุภัณฑ์จะช่วยให้สินค้าดูมีเอกลักษณ์เป็นตนเอง สร้างความแตกต่างจากสินค้าประเภทเดียวกัน ดึงดูดความน่าสนใจให้กับลูกค้า และสร้างความจดจำของตัวสินค้าที่สามารถสื่อถึงตัวตนของแบรนด์ให้กับลูกค้าได้

2. เพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า
สินค้าที่ถูกออกแบบสกรีนที่ดูสวยงาม น่ารัก หรูหรา ทันสมัย สามารถแสดงให้เห็นถึงคุณค่าของสินค้านั้น ๆ ได้ สร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ ช่วยเพิ่มมูลค่าของสินค้าให้เพิ่มมากขึ้น กระตุ้นยอดขายให้เพิ่มมากขึ้น

3.กระตุ้นยอดขาย
บรรจุภัณฑ์ที่ถูกออกแบบให้มีความน่าดึงดูด ช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าเพิ่มมากขึ้น และการสกรีนลงบนบรรจุภัณฑ์เป็นการโฆษณาสินค้าโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

4.ประหยัดเวลาและประหยัดต้นทุน
หากคุณกำลังประกอบธุรกิจด้วยการสร้างแบรนด์ และสินค้าออกมาขายให้กับกลุ่มลูกค้ากำลังมองหาอยู่ บริการรับสกรีนบรรจุภัณฑ์จะช่วยทำให้คุณประหยัดเวลาและประหยัดต้นทุน โดยที่คุณไม่ต้องลงทุนซื้อเครื่องสกรีนเอง ไม่ต้องเสียเวลาหาซื้อวัสดุอุปกรณ์ เพราะบริการรับสกรีนบรรจุภัณฑ์จะช่วยดูแลธุรกิจของคุณได้แบบครบวงจร

5.สินค้ามีมาตรฐาน มีคุณภาพ
โรงงานที่รับสกรีนบรรจุภัณฑ์ หรือรับสกรีนขวด จะเป็นโรงงานที่มีเครื่องจักร และอุปกรณ์ที่ทันสมัยสินค้าที่จะได้รับมั่นใจได้ว่างานสกรีนจะออกมาสวยงาม และตรงตามความต้องการ

6.มีบริการครอบคลุมแบบครบวงจร
โรงงานที่รับสกรีนบรรจุภัณฑ์ส่วนใหญ่จะมีการบริการให้กับผู้ประกอบธุรกิจแบบครบวงจร เริ่มต้นตั้งแต่การออกแบบ การผลิต และจนไปถึงการจัดส่งสินค้า เป็นขั้นเป็นตอนมีความปลอดภัยสูง

กระบวนการรับสกรีนบรรจุภัณฑ์ มีอะไรบ้าง
1. ชี้แจงรายละเอียด
ขั้นตอนแรกของกระบวนการรับสกรีนบรรจุภัณฑ์ ลูกค้าต้องแจ้งรายละเอียดงานที่ต้องการ เช่น ประเภทบรรจุภัณฑ์ วัสดุ ขนาด สี จำนวน ลายที่จะสกรีน ฯลฯ รวมถึงต้องการเคลือบผิวแบบใด หรือลักษณะเฉพาะเจาะจงอื่น ๆ เมื่อได้รายละเอยดครบแล้วทางโรงงานจะประเมินราคาและแจ้งระยะเวลาในการผลิต

2. ตกลงราคา
ขั้นตอนต่อไปคือ ทางลูกค้าและทางโรงงานตกลงราคาและรายละเอียดงานทั้งหมดให้เรียบร้อย เช่น ระยะเวลาการผลิต การชำระเงิน การจัดส่ง และลูกค้าวางเงินมัดจำ นอกจากนี้ราคาสกรีนบรรจุภัณฑ์ จะราคาถูกหรือแพงอาจขึ้นอยู่กับจำนวน ความยากง่าย และลักษณะของผลิตภัณฑ์

3. ออกแบบงานสกรีน
มาต่อกันที่ขั้นตอนต่อไปของรับสกรีนบรรจุภัณฑ์ หลังจากตกลงราคา มัดจำเงินกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทางโรงงานจะเริ่มให้ทีมออกแบบทำการออกแบบงานสกรีน ตามบรีฟรายละเอียดที่ลูกค้าระบุไว้ ในส่วนนี้ลูกค้าสามารถแก้ไขงานออกแบบได้จนกว่าจะพอใจได้

4. ผลิตบล็อกสกรีนและงานจริง
เมื่อได้งานสกรีนที่ถูกใจแล้ว จากนั้นเริ่มโรงงานรับสกรีนจะผลิตบล็อกสกรีนตามงานออกแบบ ทดสอบงานสกรีนบนแผ่นตัวอย่าง ลูกค้าสามารถตรวจสอบและแจ้งแก้ไขได้หากยังไม่ถูกใจ เมื่อเรียบร้อยแล้วโรงงานจะเริ่มผลิตงานจริง และจัดส่งตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ต่อไป

บริการรับสกรีนบรรจุภัณฑ์ราคาเท่าไร? 

รับสกรีนบรรจุภัณฑ์ ราคาถูก

การรับสกรีนบรรจุภัณฑ์โดยทั่วไป จะมีอัตราค่าบริการเริ่มต้น

  • การผลิตสินค้าขั้นต่ำอยู่ที่ 500 ชิ้น
  • รับสกรีนบรรจุภัณฑ์ใน 1 งานจะมีค่าบล็อกอยู่ที่ 1500 บาทต่อชิ้น
  • เพนต์สีใน 1 งานสกรีน ราคาอยู่ที่  1500 บาทต่อชิ้น และต่อสี (ทุกครั้งในงานสกรีนจำเป็นต้องใช้สินค้าจริงในการทาสีจำนวน 5 ชิ้น เพื่อทดสอบสีก่อนลงสินค้าจริงทั้งหมด)
  • หากตกลงในการใช้บล็อกสกรีนบรรจุภัณฑ์ไปแล้ว แต่อยากเปลี่ยนแปลงบล็อกใหม่ภายหลัง จำเป็นจะต้องเสียค่าบล็อกเพิ่มใหม่อยู่ที่ 1500 บาทต่อชิ้น

อัตราค่าบริการรับสกรีนบรรจุภัณฑ์ ยกตัวอย่าง เช่น

พิมพ์สกรีนกระปุกครีม  1 สี 1 ด้าน

  • 500 ชิ้น ราคา 3 - 8 บาทต่อชิ้น
  • 1,000 ชิ้น ราคา  2 - 5 บาทต่อชิ้น

พิมพ์สกรีนกระปุกครีม 2 สี 2 ด้าน

  • 500 ชิ้น ราคา 5 - 10 บาทต่อชิ้น
  • 1,000 ชิ้น ราคา 4 - 8 บาทต่อชิ้น

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับรับสกรีนบรรจุภัณฑ์
สามารถขอแก้ไขงานออกแบบลายสกรีนบรรจุภัณฑ์ได้กี่ครั้ง?
โดยทั่วไปแล้ว ลูกค้าสามารถขอแก้ไขงานออกแบบลายสกรีนบรรจุภัณฑ์ได้ 2-3 ครั้ง ขึ้นอยู่กับข้อตกลงของแต่ละโรงงานรับสกรีนบรรจุภัณฑ์ เนื่องจากบางที่การแก้ไขงานออกแบบอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

สกรีนบรรจุภัณฑ์ขั้นต่ำกี่ชิ้น?
จำนวนขั้นต่ำในการสกรีน แต่ละโรงงานแตกต่างกันไป โดยทั่วไปจะอยู่ที่ 500 - 1000 ชิ้น บางโรงงานรับสกรีนบรรจุภัณฑ์นั้นมีบริการสกรีนบรรจุภัณฑ์ ไม่มีขั้นต่ำ หรือไม่จำกัดจำนวน

สรุปรับสกรีนบรรจุภัณฑ์ สร้างบรรจุภัณฑ์ที่ดึงดูดใจ
เพราะบรรจุภัณฑ์เปรียบเสมือนด่านแรกในการดึงดูดความสนใจของลูกค้า บรรจุภัณฑ์ที่สวยงาม โดดเด่น สะท้อนตัวตนแบรนด์จะช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าอยากหยิบสินค้าของคุณขึ้นมา ดังนั้นแล้วการเลือกโรงงานรับสกรีนบรรจุภัณฑ์ เป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก ควรเลือกโรงงานที่มีทีมออกแบบผลงานมืออาชีพ พร้อมเครื่องจักรที่ทันสมัยเพื่อให้ผลลัพธ์งานสกรีนคุณภาพสูง สร้างบรรจุภัณฑ์ที่ใช่ ดึงดูดลูกค้า เพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจของคุณ


30
Customer Lifetime Value

ในภาคธุรกิจหลายบริษัทมักจะตั้งมูลค่าหรือสถิติที่คาดว่าจะได้รับจากลูกค้า หรือที่เรียกว่า Customer Lifetime Value ซึ่งก็คือรายได้รวมที่บริษัทได้รับจากลูกค้าในหนึ่งคนที่ใช้สินค้าหรือบริการตลอดระยะเวลาที่ลูกค้าคนนั้นอยู่กับแบรนด์ของเรานั่นเอง โดยการคำนวณ Customer Lifetime Value  (CLV) นั้นทำได้อย่างไรบ้าง ไปดูตัวอย่างการคำนวณได้ที่บทความนี้

Customer Lifetime value คืออะไร สำคัญอย่างไรในการทำธุรกิจ

Lifetime Value คือ

Customer Lifetime value คือมูลค่าที่ลูกค้าหนึ่งคนใช้บริการหรือซื้อสินค้ากับธุรกิจของเราตามระยะเวลาที่ใช้จริง โดย Lifetime value จะเป็นตัวชี้วัดมูลค่าทางธุรกิจของคุณว่ามีมาก-น้อยแค่ไหน และข้อมูลที่ได้จะถูกนำมาวิเคราะห์ผลว่าควรลงทุนเพิ่มขึ้นแค่ไหนที่สามารถนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เพื่อให้สามารถดึงดูดใจลูกค้าเพิ่มมากขึ้นได้ และเพิ่มโอกาสในการสร้าง Brand loyalty อีกด้วย โดยสามารถคำนวณได้จากการนำเข้าข้อมูลสถิติทางการเงิน เพื่อนำไปวิเคราะห์  Lifetime value of a customer ต่อลูกค้าแต่ละคน และจะนำไปสู่การวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาด และบริหารธุรกิจอย่างไรให้มีประสิทธิในระยะยาวมากขึ้นด้วย

ประโยชน์ของการทำ Customer Lifetime value คืออะไร
ประโยชน์ของการทำ Customer Lifetime Value (CLV) ในธุรกิจ มีดังนี้

- สามารถนำข้อมูลที่ได้ไปวิเคราะห์ เพื่อวางกลยุทธ์และสร้างแคมเปญหรือกระตุ้นให้ลูกค้าเกิดปฏิสัมพันธ์กับทางแบรนด์มากขึ้น เพิ่มโอกาสของการเป็นลูกค้าประจำ (Brand loyalty) เน้นไปที่กลุ่มลูกค้าที่มีค่า CLV สูงๆ
- สามารถรักษาความสัมพันธ์กับฐานลูกค้าเก่า
- ช่วยให้องค์กรเติบโตมากขึ้น ลดโอกาสการสูญเสียลูกค้าได้
- สามารถคำนวณรายได้ที่เกิดขึ้น เพื่อนำไปวางแผนงบประมาณในปีถัดไปได้
- ทราบ Insight ของลูกค้าแต่ละคนว่ามีความคิดเห็นอย่างไร และมีการซื้อสินค้าและบริการตลอดชีพเท่าไหร่บ้าง เพื่อที่องค์กรจะนำฟีคแบคไปปรับปรุงและพัฒนาให้ดีขึ้น
- สามารถเจาะจงกลุ่มเป้าหมายที่ให้ค่า Customer Lifetime value ที่สูงๆ แก่ธุรกิจได้ เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายพวกนี้ให้มากขึ้น
- ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นลงได้ ในกรณีที่ธุรกิจของคุณไม่ทราบว่ากลุ่มลูกค้าของคุณคือใครกันแน่ การทราบค่า Lifetime value จะช่วยคิดคำนวณต้นทุนที่ควรใช้เท่าไหร่ และใช้กับใครถึงจะคุ้มค่าที่สุด
- สามารถกำหนดราคาสินค้าหรือบริการได้อย่างเหมาะสม
- สร้างความเชื่อมั่นให้กับองค์กรและในสายตาผู้บริโภค

สูตรการคำนวนเพื่อหา Customer Lifetime value
สูตร
การคำนวณ Customer Lifetime Value (CLV) มีสูตรแตกต่างกันไปตามลักษณะของแต่ละธุรกิจ ซึ่งสูตรที่นิยมใช้กันทั่วไป ได้แก่

Customer Lifetime Value = (รายได้รวม / จำนวนลูกค้าทั้งหมด) * ระยะเวลา

ตัวอย่าง
ยกตัวอย่างเช่น ธุรกิจของคุณมีรายได้รวมทั้งหมด 500,000 บาท ในระยะเวลา 1 ปีและมีจำนวนลูกค้าทั้งหมด 100 คน การคำนวณ CLV คือ

Customer Lifetime Value = (500,000 / 100) x 1 = 5,000 บาท

อย่าลืมว่าการคำนวณ Customer Lifetime Value ของแต่ละภาคธุรกิจไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับลักษณะของธุรกิจ และตัวแปรอื่นๆ เช่น อัตรากำไรหรือค่าใช้จ่ายต่อลูกค้า เป็นต้น

วิธีการและเคล็ดลับสำหรับการเพิ่ม Customer Lifetime Value

Customer Lifetime Value คืออะไร

พัฒนาการบริการเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ
รับฟังฟีคแบคจากลูกค้าเพื่อนำมาปรับปรุงและพัฒนาสินค้าหรือบริการ โดยนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์และทำความเข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภค ก่อนนำมาร่างแผนงานที่ตอบโจทย์กับความต้องการของลูกค้ามากที่สุด

สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า
การนำ Customer Lifetime Value มาวิเคราะห์ เพื่อรักษาความสัมพันธ์ที่ดีต่อลูกค้า โดยอาจมีการสร้างประสบการณ์การซื้อขายที่ดีและน่าจดจำ ทั้งบริการก่อนไปจนถึงหลังปิดการขายได้แล้ว เพื่อให้ลูกค้าพึงพอใจ และอาจส่งผลให้เกิดการบอกต่อเป็นวงกว้างได้

สร้าง Value ให้กับแบรนด์
ค่าที่องค์กรได้นั่นก็คือ Customer Lifetime Value ยังช่วยกำหนดสิ่งที่แบรนด์เล็งเห็นหรือโอกาสการสร้างมูลค่าให้แก่แบรนด์ได้ จวบจนไปถึงการนำไปสู่ Loyalty Program ที่สามารถสร้างเป็นแคมเปญต่างๆ ได้อีกด้วย เช่น Gift Voucher การสะสมแต้ม รางวัลพิเศษ การมอบของขวัญในวันสำคัญ เป็นต้น เป็นการรักษาฐานลูกค้าให้อยู่กับแบรนด์ไปนานๆ และช่วยเพิ่ม CLV ในระยะยาวอีกด้วย

เสนอสิทธิพิเศษให้กับกลุ่มเป้าหมาย
เมื่อทราบว่าลูกค้าต้องการอะไรเป็นพิเศษ หรือมีแนวโน้มในอนาคตที่อาจเกิดขึ้นได้ การนำเอาข้อมูลมาช่วยในการคิดค้นและออกแบบแคมเปญหรือสิทธิพิเศษ โปรโมชัน เพื่อสร้างแรงจูงใจให้กับลูกค้า และเป็นวิธีการเพิ่ม Lifetime Value อย่างมีประสิทธิภาพที่ดี

Upsell / Cross-Sell
การใช้ Upsell ในธุรกิจนอกจากจะทำให้มูลค่าของแบรนด์เพิ่มขึ้นแล้ว ยังทำให้สินค้าและบริการดูมีความน่าเชื่อถือและมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น เนื่องจากมีการปรับปรุงและพัฒนาธุรกิจจากการเช็คประวัติการใช้บริการของลูกค้ามาแล้ว ยิ่งทำให้สิ่งเหล่านี้ตอบโจทย์กับผู้บริโภคมากที่สุด ส่วน Cross-Sell จะช่วยให้ลูกค้ารู้สึกว่าสินค้าหรือบริการเสริมนั้นมีประโยชน์ไม่ต่างจากสินค้าหลัก โดยอาจทำเป็นการให้ของแถม ส่วนลด ข้อเสนอพิเศษที่น่าสนใจอื่นๆ

สรุป Customer Lifetime Value เพิ่มโอกาสการขาย
Customer Lifetime Value คือ มูลค่าที่ลูกค้าให้กับแบรนด์กลับมาตลอดระยะเวลาการใช้สินค้าหรือบริการ การเพิ่มค่า CLV เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งในการพัฒนาธุรกิจของคุณให้ไปได้ไกลกว่าเดิม โดยส่วนใหญ่แล้วจะวิเคราะห์ได้จากพฤติกรรมการซื้อ หรือฟีคแบคที่ได้รับจากลูกค้า เพื่อนำมาปรับปรุงและวางแผนให้กับองค์กรของคุณได้อย่างชาญฉลาด

31
งบการเงิน

เชื่อหรือไม่ว่า ปัญหาใหญ่ของผู้ประกอบการหรือเจ้าของธุรกิจคือเรื่องของ "งบการเงิน" เป็นเพราะว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่มักเชี่ยวชาญทางด้านการตลาด จุดอ่อน-จุดแข็งของธุรกิจ แต่กลับละเลยเรื่องของการเงินเพราะคิดว่าไม่ได้ส่งผลกระทบโดยตรงกับการทำธุรกิจ ซึ่งในความจริงแล้วการบริหารงบการเงินก็สำคัญไม่แพ้เรื่องอื่น ๆ

ในบทความนี้จะพามาทำความเข้าใจกับเรื่องของงบการเงินว่า งบการเงินคืออะไร ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง พร้อมอธิบายความสำคัญของการบริหารงบการเงินที่มีประสิทธิภาพเพื่อรักษาสภาพคล่องทางการเงินของธุรกิจ

งบการเงินคืออะไร?
 
งบการเงิน คือ รายละเอียดข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสถานะทางการเงินและผลการดำเนินการของธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นเงินเดือนพนักงาน, ค่าวัตถุดิบ, ค่าเช่า, รายได้ หรือกำไรสะสม ส่งผลให้การจัดทำรายงานงบการเงินเป็นเรื่องสำคัญที่จะช่วยให้เจ้าของธุรกิจเข้าใจสถานะทางการเงิน  ติดตามรายรับ-รายจ่าย นำไปสู่การวิเคราะห์และวางแผนกลยุทธ์ทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โดยงบการเงินสามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ประเภท ซึ่งจะมีรายละเอียดดังนี้

1.งบที่แสดงการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนของผู้ถือหุ้น

ประเภทแรกของงบการเงินคืองบที่แสดงการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนของผู้ถือหุ้น จะเป็นงบที่จะแสดงยอดเงินทุนในส่วนของผู้ถือหุ้นในช่วงปีว่ามีการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นสัดส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นจากกำไรสะสม หรือจะเป็นทุนลดลงเพราะปันผลให้ผู้ถือหุ้นมากเกินไป ซึ่งด้วยการแบ่งงบการเงินในส่วนนี้ออกมาจะทำให้เจ้าของธุรกิจสามารถประเมินความเสี่ยงทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

โดยสูตรการคำนวณจะมีดังนี้

ส่วนของผู้ถือหุ้นปลายปี = ส่วนของผู้ถือหุ้นต้นปี + กำไรสุทธิ - เงินปันผล + การเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ
ถ้าหากลองสมมติตัวอย่างส่วนของผู้ถือหุ้นต้นปี 1,000,000 บาท กำไรสุทธิ 200,000 บาท เงินปันผล 100,000 บาท และไม่มีการเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ จะได้ส่วนของผู้ถือหุ้นปลายปีเป็น 1,000,000 + 200,000 - 100,000 + 0 = 1,100,000 บาท

2.งบที่แสดงฐานะทางการเงิน

ประเภทถัดมาของงบการเงินคืองบที่แสดงฐานะทางการเงินหรือที่เรียกกันว่า งบฐานะการเงิน โดยจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก ๆ คือ

1. สินทรัพย์ คือ สิ่งที่กิจการเป็นเจ้าของ ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทดังนี้

• สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน เป็นสินทรัพย์ที่คาดว่าสามารถใช้งานได้มากกว่า 1 ปี
• สินทรัพย์หมุนเวียน เป็นสินทรัพย์ที่คาดว่าสามารถเปลี่ยนสภาพเป็นเงินสดได้ภายใน 1 ปี
• สินทรัพย์อื่น ๆ เป็นสินทรัพย์ที่ไม่ได้จัดอยู่ในสินทรัพย์ทั้ง 2 ประเภทที่กล่าวมา

2. หนี้สิน คือ สิ่งที่กิจการติดค้างชำระ ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทดังนี้

• หนี้สินระยะยาว เป็นหนี้สินที่คาดว่าจะใช้ระยะเวลาในการชำระมากกว่า 1 ปี
• หนี้สินหมุนเวียน เป็นหนี้สินที่คาดว่าจะใช้ระยะเวลาในการชำระภายใน 1 ปี
• หนี้สินอื่น ๆ เป็นหนี้สินที่ไม่ได้จัดอยู่ในหนี้สินทั้ง 2 ประเภทที่กล่าวมา

3. ส่วนของเจ้าของ คือ เงินลงทุนของเจ้าของเอง ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทดังนี้

• ทุนจดทะเบียน เป็นเงินที่เจ้าของธุรกิจลงทุนเอง
• ทุนสำรอง เป็นกำไรสะสมที่ยังไม่ได้จ่ายปันผล
• เงินทุนสำรองพิเศษ เป็นเงินทุนสำรองที่แยกจากทุนสำรองอีกที

โดยจะมีสมการในการคำนวณดังนี้: สินทรัพย์ = หนี้สิน + ส่วนของเจ้าของ

ซึ่งงบการเงินประเภทนี้จะช่วยให้เจ้าของธุรกิจทราบสถานะทางการเงินเบื้องต้นของกิจการ ถ้าหากพบว่ามีส่วนของเจ้าของมากกว่าส่วนหนี้สินนั่นแสดงให้เห็นว่าธุรกิจมีความมั่นคง สามารถจัดการชำระหนี้ได้ตามกำหนด แต่ถ้าหากมีส่วนของหนี้สินมากกว่านั่นแสดงให้เห็นว่ามีโอกาสที่ธุรกิจจะผิดชำระหนี้สูง

3.งบที่เกี่ยวกับกระแสเงินสด

อีกหนึ่งประเภทของงบการเงินคืองบที่เกี่ยวกับกระแสเงินสด จะเป็นงบที่แสดงให้เห็นที่มาที่ไปของกระแสเงินสดที่เข้า-ออกในธุรกิจ เปรียบเสมือนเป็นบัญชีรายรับ-รายจ่ายเพื่อแสดงให้เห็นสภาพคล่องของธุรกิจอยู่ตลอดเวลา

โดยกระแสเงินสดสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 กิจกรรมหลัก ๆ คือ

1. กิจกรรมจากการลงทุน (Cash Flow form investing activities - CFI) อย่างเงินสดที่ใช้ซื้อสินทรัพย์หรือเงินสดที่ได้รับจากการขายสินทรัพย์
2. กิจกรรมจากการระดมทุน (Cash Flow form Financing Activites - CFF) จะเป็นกิจกรรมที่เกี่ยวกับเงินสดที่ได้รับจากการออกหุ้น เงินสดที่ได้รับจากการกู้ยืม และเงินสดที่จ่ายเพื่อชำระหนี้
3. กิจกรรมจากการดำเนินงาน (Cash Flow from Operating activities - CFO) อย่างรายได้จากการซื้อขาย ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ รวมไปถึงกำไรสุทธิ

โดยจะมีสมการในการคำนวณงบกระแสเงินสดดังนี้:
เงินสดต้นงวด = กระแสเงินสดจากกิจกรรมลงทุน (CFI) + กระแสเงินสดจากกิจกรรมระดมทุน (CFF) + กระแสเงินสดจากกิจกรรมดำเนินงาน (CFO)

ซึ่งการดูงบการเงินกระแสเงินสดที่ดีควรมีกระแสเงินจากกิจกรรมดำเนินงาน กิจกรรมระดมทุน และกิจกรรมลงทุนที่เป็นบวก มีความสอดคล้องกับแผนกลยุทธ์ในการพัฒนาธุรกิจให้เคลื่อนต่อได้อย่างไม่มีสะดุด

4.งบกำไรขาดทุนของธุรกิจ

งบการเงินประเภทสุดท้ายคืองบกำไรขาดทุนของธุรกิจ เป็นงบที่เจ้าของธุรกิจทุกคนสามารถคำนวณได้ง่าย ๆ ซึ่งมีสูตรการคำนวณดังนี้: กำไร(ขาดทุน) = รายได้รวม - ค่าใช้จ่ายรวม
โดยที่รายได้รวม (Total Revenue) คือ ผลรวมของรายได้ ดอกเบี้ยรับ เงินปันผล หรือรายได้อื่น ๆ เป็นต้น
และค่าใช้จ่ายรวม (Total Expenses) คือ ผลรวมของต้นทุนวัตถุดิบ ต้นทุนทางการเงิน หรือภาษี เป็นต้น

งบกำไรขาดทุนของธุรกิจเป็นงบการเงินที่จะช่วยให้เจ้าของธุรกิจติดตามผลการดำเนินธุรกิจได้แบบคร่าว ๆ และรวดเร็วที่สุด ด้วยการประเมินรายได้และรายจ่ายของธุรกิจแบบคร่าว ๆ ที่ทำให้สามารถคาดการณ์ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว และเร่งหาวิธีการปรับกลยุทธ์แก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที ในกรณีที่ธุรกิจกำลังประสบกับปัญหาขาดทุน (รายจ่ายรวมมากกว่ารายรับรวม)

งบการเงินสำคัญอย่างไรต่อการทำธุรกิจ

งบการเงินหรืองบการเงินรวม คือ ภาพรวมทางการเงินของธุรกิจ ที่จะช่วยให้เจ้าของธุรกิจหรือผู้ร่วมลงทุนสามารถเข้าใจสถานะทางการเงินของทั้งกิจการ ซึ่งงบการเงินจะมีความสำคัญต่อการทำธุรกิจดังนี้

• สะท้อนภาพรวมทางการเงิน: ช่วยแสดงฐานะทางการเงิน ผลการดำเนินงาน รวมไปถึงกระแสเงินสดของทั้งธุรกิจ
• วิเคราะห์ประสิทธิภาพและผลการดำเนินงาน: ช่วยประเมินความสามารถในการทำกำไรของธุรกิจ รวมไปถึงติดตามผลลัพธ์จากกิจกรรมต่าง ๆ
• ประเมินความเสี่ยงในการลงทุน: นอกจากติดตามกระแสรายรับ-รายจ่ายของธุรกิจ งบการเงินยังมีส่วนช่วยในการประเมินความสามารถในการชำระหนี้ของธุรกิจ และประเมินความมั่นคงของกิจการอีกด้วย
• เป็นข้อมูลในการประกอบการตัดสินใจเกี่ยวกับการลงทุน การให้สินเชื่อ รวมไปถึงการบริหารงาน
• เปรียบเทียบผลการดำเนินงาน: ใช้เปรียบเทียบผลลัพธ์ทางการเงินกับในช่วงอดีต หรือใช้เปรียบเทียบกับคู่แข่ง
• เป็นแหล่งข้อมูลให้แก่ผู้เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็น นักลงทุน เจ้าหนี้ ลูกค้า ผู้บริหาร หรือหน่วยงานภาครัฐที่กำกับดูแล

สรุปเกี่ยวกับงบการเงิน

งบการเงินกลายเป็นส่วนสำคัญที่ขาดไม่ได้ในการดำเนินธุรกิจ เพราะแม้ว่าจะวางแผนในการพัฒนาองค์กรหรือธุรกิจดีแค่ไหน แต่ถ้าหากไม่บริหารงบการเงินของบริษัทให้ดีก็มีโอกาสที่แผนจะล้มเหลวหรือเกิดปัญหาหนี้สินบานปลายได้ ซึ่งจะเห็นได้ว่างบการเงินแต่ละประเภทก็จะให้ข้อมูลทางการเงินในมุมมองที่แตกต่างกัน การนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ในการประกอบการตัดสินใจและวางแผนกลยุทธ์ในการพัฒนาธุรกิจ จะช่วยให้สามารถตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพและบริหารธุรกิจได้อย่างยั่งยืน


32
สินเชื่อคืออะไร

การดำรงชีวิตในปัจจุบัน นอกเหนือจากปัจจัยสี่แล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญมากนั่นคือเงินทุนที่เรานำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นที่อยู่อาศัย อาหารและยา หรือข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน ล้วนแล้วแต่ต้องใช้เงินทุนทั้งสิ้น สินเชื่อจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน หรือค่าใช้จ่ายที่เราไม่สามารถชำระเงินได้หมดภายในครั้งเดียว

บทความนี้จะมาตอบทุกข้อสงสัยว่า สินเชื่อ คืออะไร? สินเชื่อมีกี่ประเภท? พร้อมทั้งบอกข้อดีและข้อเสียของสินเชื่อ

สินเชื่อ คืออะไร? วงเงินสินเชื่อคืออะไร?
หลายคนอาจเคยได้ยินคำว่าสินเขื่อ แต่ไม่เคยทราบมาก่อนเลยว่าสินเชื่อ คืออะไร เนื่องจากไม่เคยกู้สินเชื่อมาก่อน โดยสินเชื่อหมายถึง การกู้ยืมเงินจากธนาคาร สถาบันทางการเงิน หรือผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อ เพื่อจุดประสงค์ต่าง ๆ โดยจะมีระยะเวลาการชำระหนี้ และมีการคิดอัตราดอกเบี้ยตามข้อกำหนดและเงื่อนไขของผู้ให้บริการสินเชื่อ

นอกจากนี้หลายคนอาจยังสงสัยว่า วงเงินสินเชื่อคืออะไร? วงเงินสินเชื่อ คือ จำนวนเงินสูงสุดที่ผู้ให้กู้มีการพิจารณาอนุมัติให้กู้ยืม โดยอาจมีการคำนวณจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น รายได้, ประวัติการชำระหนี้, หลักทรัพย์ค้ำประกัน เป็นต้น การกำหนดวงเงินสินเชื่อเป็นสิ่งสำคัญในการช่วยควบคุมความเสี่ยงให้กับผู้ให้กู้ และเป็นการป้องกันปัญหาการผิดนัดชำระหนี้อีกด้วย

ประเภทสินเชื่อในแต่ละรูปแบบมีอะไรบ้าง

ประเภทของสินเชื่อ

หลังจากที่ได้ทราบความรู้เกี่ยวกับสินเชื่อเบื้องต้นกันแล้ว รวมถึงความหมายของสินเชื่อว่าสินเชื่อคืออะไร เราจะมาดูกันว่าในปัจจุบันมีสินเชื่ออะไรบ้าง

โดยประเภทของสินเชื่อสามารถจัดแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท ได้แก่ สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่ออเนกประสงค์ และสินเชื่อบ้าน ทั้งนี้สินเชื่อแต่ละประเภทมีรายละเอียดและเงื่อนไขที่แตกต่างกัน เพื่อตอบโจทย์จุดประสงค์ของผู้ขอกู้ในรูปแบบต่าง ๆ

1. สินเชื่อส่วนบุคคล
สินเชื่อส่วนบุคคล (Personal Loan) คือ สินเชื่อที่สามารถนำไปใช้สำหรับจุดประสงค์ต่าง ๆ ซึ่งขึ้นอยู่กับผู้ขอกู้ โดยเฉพาะเมื่อมีความจำเป็นที่ต้องใช้เงินสดก้อนใหญ่ สินเชื่อส่วนบุคคลเป็นประเภทสินเชื่อที่มีการปล่อยกู้ให้กับบุคคลทั่วไป โดยธนาคารจะมีการประเมินวงเงินสูงสุดที่สามารถให้กู้ได้ตามรายได้ต่อเดือนของผู้ขอกู้ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าผู้ขอกู้จะสามารถชำระเงินได้ครบตามกำหนด นอกจากนี้ผู้ให้บริการสินเชื่อจะมีการคิดค่าอัตราดอกเบี้ย (รายละเอียดและเงื่อนไขขึ้นอยู่กับสถาบันการเงินแต่ละแห่ง)

ตัวอย่างของสินเชื่อส่วนบุคคล เช่น บัตรกดเงินสด บัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคลแบบอื่น ๆ เป็นต้น

2. สินเชื่ออเนกประสงค์
สินเชื่ออเนกประสงค์ คือ ประเภทสินเชื่อที่มีระยะเวลาการชำระเงินที่ยาวนาน และมีวงเงินที่สูงกว่าสินเชื่อทั่ว ๆ ไป โดยเป็นสินเชื่อที่ผู้ขอกู้สามารถนำไปใช้จ่ายอย่างอเนกประสงค์ โดยไม่จำเป็นต้องระบุวัตถุประสงค์ในการขอสินเชื่อ สินเชื่ออเนกประสงค์อาจมีหรือไม่มีหลักประกันก็ได้ ขึ้นอยู่กับสินเชื่อนั้น ๆ หากเป็นสินเชื่ออเนกประสงค์ที่ต้องใช้หลักประกัน ผู้ขอกู้จะต้องใช้ทรัพย์สินที่มีมาเป็นหลักประกัน ไม่ว่าจะเป็นประเภทอสังหาริมทรัพย์ หรือ สังหาริมทรัพย์

3. สินเชื่อบ้าน
สำหรับผู้ที่กำลังหาซื้อบ้านหรือคอนโด สินเชื่อบ้าน ถือเป็นสินเชื่อที่จะช่วยตอบโจทย์ให้กับคุณ โดยสินเชื่อบ้านเป็นสินเชื่อที่สถาบันการเงินปล่อยเงินกู้เพื่อจุดประสงค์ของการซื้อบ้าน หรือสร้างบ้านโดยเฉพาะ โดยจะมีหลักประกันเป็นบ้านหรือคอนโดที่ขอยื่นกู้ หากผู้ขอกู้ไม่สามารถชำระเงินได้ตามเงื่อนไขที่กำหนด ธนาคารจะทำการยึดหลักประกันนั้น

ข้อดีของสินเชื่อ คืออะไรบ้าง
หลังจากได้ทราบแล้วว่าสินเชื่อคืออะไร และรูปแบบของสินเชื่อมีอะไรบ้างกันแล้ว มาดูกันว่าสินเชื่อมีข้อดีอย่างไรบ้าง คุ้มค่ากับการขอหรือไม่ สามารถช่วยแบ่งเบาภาระทางการเงินได้อย่างไรบ้าง เพื่อช่วยให้เพื่อน ๆ ที่กำลังลังเลใจอยู่ว่าจะขอสินเชื่อดีไหม สามารถตัดสินใจได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

1.สินเชื่อ เป็นตัวช่วยในการบรรเทาสภาพคล่องทางการเงินสำหรับผู้ที่กำลังประสบปัญหาการขาดสภาพคล่องทางการเงิน สินเชื่อเปรียบเสมือนเป็นเครื่องมืออย่างหนึ่ง ที่จะช่วยให้คุณสามารถบริหารจัดการค่าใช้จ่ายที่จำเป็นให้คล่องตัวมากยิ่งขึ้น และรับมือกับสถานการณ์ที่ทำให้ต้องใช้เงินก้อนในยามฉุกเฉินได้อย่างเป็นระบบ

2.สินเชื่อ เป็นแหล่งเงินด่วนที่สามารถเข้าถึงได้สะดวกรวดเร็วมากขึ้นกว่าสมัยก่อน
สำหรับผู้ที่ต้องการใช้เงินก้อน แต่ไม่มีทรัพย์สินเพียงพอที่จะชำระเงินได้ภายในครั้งเดียว สินเชื่อสามารถช่วยให้คุณเข้าถึงเงินก้อนได้ในยามฉุกเฉิน โดยสินเชื่อบางประเภทอาจได้รับการอนุมัติไวภายในไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถาบันการเงินนั้นๆ พร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่ต้องใช้เงินด่วน

3.สินเชื่อ สามารถแบ่งชำระเงินได้ตามความเหมาะสม
ถือเป็นข้อดีของสินเชื่อที่เชื่อว่าหลายคนถูกใจ เนื่องจากสินเชื่อเป็นเงินกู้ที่สามารถผ่อนชำระได้โดยที่ไม่ต้องจ่ายเป็นเงินก้อน นอกจากนี้สถาบันทางการเงินต่าง ๆ ยังมีการกำหนดอัตราดอกเบี้ยที่ชัดเจน ทำให้สามารถวางแผนค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนได้ดียิ่งขึ้น

ข้อควรระวังของสินเชื่อ คือ

นอกจากได้เข้าใจแล้วว่าข้อดีของสินเชื่อคืออะไร ผู้ขอกู้ควรศึกษาข้อควรระวังของสินเชื่อก่อนการตัดสินใจกู้ทุกครั้ง เนื่องจากสินเชื่อคือภาระผูกพันธ์ทางการเงินในระยะยาว

1.ควรศึกษาข้อมูลและเงื่อนไขผลิตภัณฑ์สินเชื่ออย่างละเอียดก่อนการตัดสินใจ[/size]
สินเชื่อแต่ละแหล่งอาจมีเงื่อนไขและรายละเอียดการชำระเงินที่แตกต่างกัน ผู้ที่ต้องการขอสินเชื่อควรศึกษาข้อมูลของสินเชื่อให้ดี เพื่อหลีกเลี่ยงสินเชื่อที่มีอัตราดอกเบี้ยสูง จนอาจเป็นการเพิ่มภาระหนี้สินที่มากเกินความจำเป็น

2.ควรกู้ยืมเท่าที่จำเป็น และสามารถชำระเงินคืนไหว
สินเชื่อถือเป็นหนี้สินประเภทหนึ่ง ที่เป็นภาระค่าใช้จ่ายในระยะยาว ดังนั้นหากไม่มั่นใจว่าจะสามารถชำระเงินคืนได้ไหวตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดตามเงื่อนไขของสินเชื่อนั้น ๆ แนะนำว่ายังไม่ควรขอสินเชื่อเพราะอาจเกิดปัญหาตามมาได้ และควรกู้สินเชื่อเฉพาะเมื่อจำเป็นเท่านั้น

3.หากผิดนัดชำระ อาจทำให้เกิดปัญหาได้
ผู้ขอกู้สินเชื่อควรวางแผนการชำระเงิน และรายรับรายจ่ายในแต่ละเดือนอย่างรอบคอบ เพราะหากไม่สามารถชำระเงินได้ตามงวด อาจทำให้ต้องเสียค่าปรับที่สูง ซึ่งอาจเป็นการสร้างหนี้ที่ไม่พึงประสงค์เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงที่จะโดนฟ้องร้องและดำเนินคดีได้อีกด้วย

สรุป
สินเชื่อคือตัวช่วยทางการเงินรูปแบบหนึ่งที่สามารถทำให้คุณเข้าถึงแหล่งเงินก้อนในเวลาอันสั้น เพื่อนำมาใช้จ่ายในยามฉุกเฉินได้ อย่างไรก็ดี ผู้ที่กำลังต้องการขอสินเชื่อควรศึกษาข้อมูลรายละเอียดและเงื่อนไขของสินเชื่อให้ดีก่อนการตัดสินใจ ควรกู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว เพื่อไม่ให้กลายเป็นภาระหนี้สินเกินตัวในภายหลัง


33
เจลทาแผลเป็น

บางคนอาจจะเคยเกิดอุบัติเหตุ หรือผ่านการผ่าตัด ศัลยกรรม ไฟไหม้ น้ำร้อนลวก ทำให้มีรอยแผลเป็นบนร่างกาย การใช้ซิลิโคนเจลก็เป็นตัวช่วยหนึ่งในการดูแลรอยแผลเป็นหลังจากที่แผลแห้งสนิทและหายดีแล้ว เพราะเมื่อทาซิลิโคนเจลหลังจากแผลหายดีแล้วจะช่วยลดรอยแผลเป็น หากใช้ครีมรักษาแผลเป็นอย่างต่อเนื่องจะทำให้รอยแผลเป็นค่อยๆ จางลงไป

ซิลิโคนเจลจะช่วยให้ผิวกักเก็บน้ำและเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ลดการคันและระคายเคืองแผล ซิลิโคนเจลเป็นครีมลดรอยแผลเป็นที่สามารถใช้ลบรอยแผลเป็นบนใบหน้าได้รอยแผลเป็นจากการเกิดอุบัติเหตุ แผลที่มาจากการผ่าตัด เช่น แผลคีลอยด์ แผลนูน รอยแผลเป็นบนหน้า รอยมีดบาด รอยขีดข่วน รอยน้ำร้อนลวก หรือรอยไหม้ หากอยากรู้ว่าซิลิโคนเจลมีประโยชน์อย่างไรและควรใช้อย่างไรสามารถติดตามได้จากบทความข้างล่างนี้เลย

ซิลิโคนเจล คืออะไร

ครีมทาแผลเป็น

ซิลิโคนเจล หรือ scar gel คือผลิตภัณฑ์หรือยาที่ใช้ในการรักษาแผลเป็นภายนอก โดยสรรพคุณของเจลทาแผลเป็นจะเข้าไปรักษารอยแผลเป็นและเก็บกักความชุ่มชื้นให้กับผิวลดการเสียน้ำ ช่วยในการกระตุ้นและช่วยสร้างคอลลาเจนทำให้แผลหายไวขึ้น การใช้ซิลิโคนเจลสามารถใช้ได้กับแผลเป็นที่นูนบวม แผลเป็นคีลอยด์ที่หายยาก

ในปัจจุบันซิลิโคนเจลที่วางขายในท้องตลาดจะมีอยู่ด้วยกัน 2 แบบ คือ แบบที่เป็นแผ่นซิลิโคนเจลและซิลิโคนเจลชนิดทาแบบครีมทาแผลเป็น ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความสะดวกของผู้ใช้งาน หากมีแผลเป็นที่ใหญ่และอยู่ในบริเวณยากต่อการใช้ครีมทาแผลเป็นก็สามารถใช้แผ่นแปะซิลิโคนเจลได้ แต่ถ้าเกิดรอยแผลเป็นบนใบหน้า หรือในจุดที่ต้องมีการขยับร่างกายบ่อยๆ ควรเลือกทาซิลิโคนเจลแบบทาภายนอกเพราะจะสะดวก และง่ายต่อการรักษามากกว่า

บอกลารอยแผลเป็นด้วยซิลิโคนเจล
เมื่ออ่านมาถึงจุดนี้หลายคนอาจจะเลือกใช้ซิลิโคนเจลเข้ามาช่วยในการรักษาและลบรอยแผลเป็น ก็เป็นสิ่งที่ดีที่จะทำให้รอยแผลเป็นนั้นค่อยๆหายไป วันนี้จะมาบอกถึงประโยชน์ของซิลิโคนเจลว่ามีอะไรบ้าง และมีส่วนผสมอะไรที่ช่วยในการลดรอยแผลเป็นผ่าตัด รอยนูน รอยไฟไหม้ น้ำร้อนลวก จะมีอะไรบ้างมาดูกันเลย

ส่วนผสมของซิลิโคนเจล
1.Silicone Gel ส่วนผสมหลักๆของครีมทาลดรอยแผลเป็น คือซิลิโคนเจลเป็นชนิดที่ใช้เฉพาะทางการแพทย์ มีสรรพคุณคุณในการเก็บกักน้ำ เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ช่วยคงสภาพและลดการสูญเสียน้ำในบริเวณผิวที่เกิดรอยแผลเป็น ตัวเจลลดรอยแผลเป็นจะช่วยลดการอักเสบ และยับหยั้งการทำงานของเส้นเลือดฝอยทำให้แผลหายไวขึ้น และซิลิโคนเจลจะช่วยลดโอกาสการเกิดแผลเป็นนูน หรือแผลเป็นคีลอยด์

2.Film Former คือส่วนผสมหนึ่งของสารที่มีชื่อว่า Baycusan ซึ่งช่วยในการสร้างฟิล์มเพื่อเคลือบรอยแผลเป็น หากทาซิลิโคนเจลลงบนผิวแล้ว ครีมทาแผลเป็นจะค่อยๆเปลี่ยนเป็นฟิล์มบางๆ เคลือบผิวในจุดที่ทา ตัว Film Former ในครีมรักษาแผลเป็นจะเป็นเกราะกำบัง และปกป้องผิวจากน้ำ ฝุ่น สิ่งสกปรก และ PM2.5 ทำให้แผลหายเร็วขึ้น ลดความเสี่ยงที่จะติดเชื้อและอักเสบ

3.Natural Extract เป็นซิลิโคนเจลที่มีสารสกัดจากธรรมชาติ 2 อย่างคือ Centella Asiatica เป็นสารสกัดที่ได้จากจากใบบัวบกและ Allium Cepa สารสกัดที่มาจากหัวหอม ซึ่งยาทารอยแผลเป็นมีสรรพคุณที่จะช่วยในการรักษาแผลเป็น และจะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้กับผิว ทำให้สามารถผลัดเซลล์ผิวใหม่ ลดรอยแผลเป็น และลดการอักเสบ บวม แดง

ประโยชน์ของซิลิโคนเจล
1.ซิลิโคนเจลช่วยในการลดรอยแผลเป็น ทำให้ขนาด ความนูนของแผลเป็นให้เล็กลง อีกทั้งยังช่วยทำให้รอยแผลเป็นดูเรียบขึ้น
2.การใช้ครีมทาแผลเป็นจะช่วยลดรอยดำ รอยแดงที่เกิดหลังแผลแห้งให้ดีขึ้น ช่วยลดความคล้ำของแผลเป็นให้ดูจางลง
3.ซิลิโคนเจลมีคุณสมบัติที่จะช่วยในการกักเก็บน้ำ และเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว
4.ครีมลดรอยแผลเป็นนูนจะช่วยเคลือบผิวป้องกันสิ่งสกปรก และลดการเกิดการอักเสบของแผล
5.ซิลิโคนเจลจะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้กับผิว ช่วยลดความนูนของรอยแผล
6.การทาครีมทาแผลหลังผ่าตัด จะช่วยลดอาการคันหรือเจ็บแสบในบริเวณแผลเป็นที่เกิดจากการแห้งของผิว
7.ซิลิโคนเจลหากใช้อย่างต่อเนื่องจะช่วยป้องกันการเกิดเป็นแผลแบบนูนขนาดใหญ่หรือคีลอยด์
8.ครีมลดรอยแผลเป็นผ่าตัดจะช่วยปรับให้ผิวบริเวณที่ทาอ่อนนุ่ม เรียบเนียนไม่แข็งกระด้าง

วิธีใช้ซิลิโคนเจล

ครีมทาแผลเป็น น้ําร้อนลวก

ครีมทาแผลเป็นควรทาตอนไหน และมีวิธีใช้ซิลิโคนเจลอย่างไร ควรใช้ครีมทาแผลเป็นตอนไหนให้ได้ผลที่ดีที่สุด หัวนี้จะมาไขคำตอบกัน

  • ก่อนใช้ซิลิโคนเจลควรอ่านคำแนะนำข้างกล่องก่อนให้ละเอียด
  • ควรทำความสะอาดผิวที่เป็นรอยแผลจากนั้นใช้กระดาศทิษชู่หรือผ้าสะอาดเช็ดให้แห้งก่อนลงครีมทาแผลผ่าตัด
  • ควรใช้ซิลิโคนเจลขนาดที่พอดีกับรอยแผลเป็น หากมีรอยแผลเป็นขนาดใหญ่ควรทาให้ทั่วๆ บริเวณ เช่น ทาครีมลดรอยแผลเป็นที่ขาเฉพาะจุดที่เกิดรอยแผลเป็นเท่านั้น
  • ค่อยๆ ทาซิลิโคนเจลให้รอบๆ รอยแผลเป็นแบบบาง ๆ ไม่ต้องถูวน หรือนวดลงน้ำหนักด้วยความแรง เพราะอาจจะเกิดการอักเสบของแผลได้
  • หากโดนน้ำร้อนลวกควรใช้ครีมทาแผลเป็น หลังจากที่แผลแห้งสนิทดีแล้วก่อน
  • หลังจากทาซิลิโคนเจลแล้ว ไม่ควรโดนน้ำ หรือทาครีมอย่างอื่นทับลงไป ควรรอให้ครีมลดรอยแผลเป็นแห้งสนิทดีก่อนสัก 1-2 นาที จากนั้นจึงสามารถแต่งหน้า หรือทาครีมทับได้ตามปกติ
  • ครีมทาแผลเป็นหรือแผลผ่าตัด ควรใช้วันละประมาณ 2 ครั้ง คือ เช้าและเย็นหลังอาบน้ำ ควรใช้อย่างสม่ำเสมอประมาณ 2-4 อาทิตย์ หรือจนกว่าแผลเป็นจะหายดีเพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนในการลดรอยแผลเป็น

ข้อควรระวังในการใช้ซิลิโคนเจล
คำเตือนสำรับการใช้ซิลิโคนเจล คือ ควรใช้กับแผลภายนอกที่แห้งสนิทแล้วเท่านั้น ห้ามใช้กับแผล เช่น แผลเปิด เนื้อเยื่ออ่อน แผลที่เป็นเยื่อเมือก จุดที่เป็นรอยแผลรอบๆ ดวงตา และไม่ควรใช้ร่วมกับยาภายนอกชนิดอื่นๆ หลังจากใช้ครีมทาแผลเป็นแล้วเกิดอาการผิดปกติ เช่น แพ้ เกิดผื่น คัน บวม แดง ปวดแสบปวดร้อน ให้หยุดและรีบไปพบแพทย์ทัน

สรุป ซิลิโคนเจล
ซิลิโคนเจล เป็นยาสำหรับรักษารอยแผลเป็นที่เกิดจากการผ่าตัด อุบัติเหตุ ไฟไหม้ น้ำร้อนลวก โดยลักษณะของแผลจะนูนบวม การใช้ครีมทาแผลเป็นจะช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้รอยแผลเป็นจางและยุบลง ทั้งนี้การใช้ซิลิโคนเจลควรใช้กับแผลเป็นที่แห้งสนิทแล้วเท่านั้น และหากเกิดอาการแพ้ให้รีบไปพบแพทย์ทันที


34
อาหารเสริมผู้สูงอายุ เพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพ

มนุษย์ เมื่อมีอายุที่มากขึ้น สภาพร่างกาย ระบบต่างเริ่มเสื่อมถอยลงไปตามอายุ ทำให้ผู้สูงอายุนั้นต้องดูแลสุขภาพอย่างสม่ำเสมออย่างการออกกำลังกาย และ เลือกกินอาหารที่มีประโยชน์มากกว่ารสชาติ ซึ่งอาหารที่มีประโยชน์นั้นไม่ใช่ทุกคนที่สามารถทำได้จึงเป็นที่มาผลิตภัณฑ์อาหารเสริมผู้สูงอายุ
เนื่องจากเมื่ออายุที่สูงขึ้นทำให้ผู้สูงอายุเริ่มมีอาการเบื่ออาหารจากการที่การลิ้มรสชาติที่น้อยลง ความอยากอาหารที่น้อยลงทำให้นำไปสู่สภาวะการขาดสารอาหารได้ และจากภาวะขาดสารอาหารนั้นทำให้ร่างกายอ่อนแอและเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ และ ป่วยได้

ดังนั้นหากผู้สูงอายุไม่ต้องมีอาการเบื่ออาหารตัวเลือกที่มีประสิทธิภาพนั่นคือ อาหารเสริมผู้สูงอายุที่ช่วยเติมสารอาหาร วิตามินต่าง ๆ ที่ร่างกายต้องการได้ ซึ่งอาหารเสริมผู้สูงอายุนั้นมีมากมายหลายชนิดเพื่อให้ตรงกับความต้องการ ไม่ว่าจะเป็น อาหารเสริมบำรุงสมองผู้สูงอายุ บำรุงสายตา กล้ามเนื้อ และ วิตามินเสริมบำรุงกระดูกผู้สูงอายุ กล้ามเนื้อ รวมไปถึงวิตามินช่วยนอนหลับผู้สูงอายุ แล้วเราควรเลือกอาหารเสริมผู้สูงอายุให้เหมาะสมอย่างไร บทความนี้มีคำตอบ

วิธีเลือกวิตามินและอาหารเสริมผู้สูงอายุ
การพิจารณาเลือกวิตามินและอาหารเสริมผู้สูงอายุนั้นมีหลายข้อที่ควรพิจารณาโดยขึ้นอยู่กับผู้สูงอายุว่ามีสภาพร่างกายเป็นอย่างไร ป่วยหรือไม่ โดยวิธีเลือกอาหารเสริมผู้สูงอายุมีดังนี้คือ

  • เลือกอาหารเสริมให้เหมาะกับภาวะร่างกายและอาการ เช่น หากมีอาการอ่อนเพลีย ไม่มีแรง ต้องการเสริมร่างกายให้มีความแข็งแรง ดังนั้นควรเลือกอาหารเสริมผู้สูงอายุที่มีวิตามินและแร่ธาตุที่เสริมภูมิคุ้มกันและมีสารช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ โดยวิตามินที่เหมาะสมนั่นคือ วิตามินเอ วิตามินบี วิตามินซี วิตามินอี ฟลาโวนอยด์ เบต้าแคโรทีน สังกะสี เป็นต้น เลือกอาหารเสริมผู้สูงอายุที่มีโปรตีนสูงเพื่อแก้ปัญหาเรื่องกล้ามเนื้อ สำหรับผู้สูงอายุที่มีปัญหาเรื่องกระดูก เข่า ส่วนข้อต่าง ๆ ควรเลือกอาหารเสริมที่มีคอลลาเจน หรือ แคลเซียมเพื่อช่วยเสริมกระดูก สำหรับผู้สูงอายุที่มีอาการเบื่ออาหารควรเลือกอาหารเสริมผู้สูงอายุที่มีคาร์โบไฮเดรต ไขมันดี โปรตีน วิตามินต่าง ๆ และ เกลือแร่หลายชนิด เพื่อให้ได้สารอาหารที่ครบถ้วน
  • พิจารณาถึงส่วนผสมที่ได้รับว่ามีวิตามิน แร่ธาตุ สารอาหารอะไรบ้าง แต่ละอย่างมีประโยชน์อย่างไร
  • ตรวจสอบส่วนผสมว่ามีส่วนผสมที่ผู้สูงอายุแพ้หรือไม่เช่น แพ้แล็กโทส แพ้กลูเตน แพ้โปรตีนจากสัตว์บางชนิด แพ้ถั่ว แพ้น้ำมันปลา ควรไม่รับประทานผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่ผู้สูงอายุแพ้
  • รูปแบบผลิตภัณฑ์ที่ผู้สูงอายุสามารถรับประทานได้ เช่น แคปซูล แบบผงสำหรับชง แบบเม็ด โดยแต่ละแบบจะมีวิธีการรับประทานที่แตกต่างกันไป
  • ตรวจสอบข้อมูลบนฉลาก โดยสิ่งที่ต้องดูบนบรรจุภัณฑ์นั่นคือ ชื่ออาหาร ปริมาณของสารอาหาร เลขที่ผลิตภัณฑ์ เครื่องหมาย อย. และ สถานที่ผลิต โดยต้องมีแสดงไว้ชัดเจน
  • ตรวจสอบวันเดือนปีที่ผลิตของผลิตภัณฑ์ว่าหมดอายุหรือใกล้หมดหรือไม่

แนะนำวิตามิน อาหารเสริมผู้สูงอายุ ยี่ห้อไหนดี

รับผลิตครีมสร้างแบรนด์

อาหารเสริมผู้สูงอายุนั้นมีหลายประเภทหลายชนิดเพื่อการบำรุงที่แตกต่างกันไปโดยเราจะมีแนะนำอาหารเสริมผู้สูงอายุที่บำรุงร่างกายในส่วนต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพดังนี้คือ

Blackmores Fish Oil

อาหารเสริมผู้สูงอายุ Fish oil

แบลคมอร์ส ฟิช ออยล์ อาหารเสริมผู้สูงอายุ น้ำมันปลาชนิดแคปซูล เป็นผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่เหมาะกับผู้สูงอายุและผู้ที่ต้องการน้ำมันปลา โดยแบลคมอร์ส ฟิช ออยล์นั้น เป็นน้ำมันปลาที่มีกระบวนการสกัดออกมาจากส่วนต่าง ๆ ของปลาที่อยู่ในทะเลน้ำลึก ซึ่งมีทำให้มีกรดไขมันกลุ่ม Omega-3 สูงได้แก่  EPA และ DHA โดยมีกรดไขมันกลุ่มโอเมก้า-3 300 มิลลิกรัมต่อแคปซูล ให้ประโยชน์บำรุงหัวใจ ผิว ตาและ สมอง ช่วยให้ระบบไหลเวียนของเลือดดีขึ้นทำให้ความดันลดลง จึงเหมาะสำหรับเป็นอาหารเสริมผู้สูงอายุ โดยผลิตภัณฑ์ผ่านการตรวจสอบปริมาณสารปรอทและตะกั่ว

ห้ามผู้ที่มีผู้ที่แพ้ปลาทะเล หรือ น้ำมันปลา รับประทาน ควรระวังในผู้ที่เลือดแข็งตัวช้า หรือผู้ที่ใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือดหรือแอสไพริน

วิธีรับประทาน : รับประทานวันละ  1-2 เม็ด พร้อมรับประทานอาหาร
ราคาปกติ : 799 บาท (80 แคปซูล)

Zinc Plus

อาหารเสริมผู้สูงอายุ Zinc Plus

ขอบคุณภาพจาก Entrasol

ซิงก์พลัสจาก Biopharm ผู้นำด้านจำหน่ายเวชภัณฑ์มากกว่า 45 ปี อาหารเสริมผู้สูงอายุ Zinc Plus มีส่วนผสมครบถ้วนด้วย ซิงก์ แมกนีเซียม แมงกานิส วินตามินเอ ไพริต๊อกซิน ดี-ไบโอติน ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของเส้นผมและเล็บ ให้เส้นผมคุณไม่ร่วง ไม่ขาดง่าย อีกทั้ง ซิงก์นั้นเป็นแร่ธาตุที่สำคัญอย่างมากต่อการทำงานต่าง ๆ ของร่างกาย

วิธีรับประทาน : ครั้งละ 1 เม็ด วันละ 1-2 ครั้ง หลังรับประทานอาหาร
เด็กและสตรีมีครรภ์ไม่ควรรับประทาน

Entrasol Platinum

อาหารเสริมผู้สูงอายุ Entrasol Platinium

ขอบคุณภาพจาก Entrasol

อาหารเสริมผู้สูงอายุไบโอฟาร์ม เอนทราซอล เครื่องดื่มโปรตีนสูง อาหารเสริมรูปแบบผงชงดื่ม พลังงาน 250 กิโลแคลอรี/แก้ว รสวานิลา สูตรครบถ้วน ผสมวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายหลายชนิด  รสชาติอร่อย โปรตีนสูง ซึ่งโปรตีนสำคัญอย่างมากสำหรับร่างกายช่วยในการเจริญเติบโตและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ วิตามินซี มีส่วนช่วยในการสร้างเนื้อเยื้อคอลลาเจน วิตามินดี ช่วยดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัส แคลเซียมสูง มีส่วนช่วยในกระบวนการสร้างกระดูกและฟันที่แข็งแรง พร้อมวิตามินและแร่ธาตุอื่น ๆ ที่จำเป็นสำหรับร่างกาย

วิธีรับประทาน : น้ำอุ่น หรือ น้ำเย็น 200 มล. ต่อเอนทราซอล 4 ช้อน คนให้เข้ากัน ดื่มได้ทันที
อาหารเสริมมีส่วนผสมของกลูเตน นม ผลิตภัณฑ์จากปลา และ ถั่วเหลือง
ผู้ป่วยควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญก่อนทำการรับประทาน

สามารถสั่งซื้อได้ทาง Lazada และ Shopee

Zenji เห็ดหลินจือสกัด LINGZHI ROSEHIP

อาหารเสริมผู้สูงอายุเห็ดหลินจือสกัด LINGZHI ROSEHIP

ขอบคุณภาพจาก Zenji

อาหารเสริมผู้สูงอายุหลิงจือ โรสฮิป ด้วยสารอาหารที่มีคุณประโยชน์มากมายด้วยสารสกัดจากเห็ดหลินจือ เช่น วิตามิน แคลเซียม โพแทสเซียม ธาตุเหล็ก สังกะสี อีกทั้งยังมีสารโมเลกุลชีวภาพที่สำคัญอย่าง ไตรเทอร์พีน ช่วยป้องกันโรคภูมิแพ้ ลดไขมันเลือด นิวคลีโอไทด์ ป้องกันลิ่มเลือดแข็งตัวในเส้นเลือด ลดความเสี่ยงโรคอัมพฤกษ์ เป็นต้น และสารสกัดจากโรสฮิป ที่มีวิตามินซี วิตามินเอ สูง อีกทั้งยังมีสารไลโคปิน สารต้านมะเร็ง และช่วยป้องกันผิวจากแสงแดด

วิธีรับประทาน : วันละ 1-2 แคปซูล หลังตื่นนอน หรือ ก่อนนอน

หากไม่ใช่ผู้สูงอายุ สามารถทานอาหารเสริมผู้สูงอายุได้มั้ย
จุดประสงค์ของผลิตภัณฑ์อาหารเสริมต่าง ๆ รวมไปถึงอาหารเสริมผู้สูงอายุนั้นเพื่อการดูแลสุขภาพด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นวิตามินต่าง ๆ แร่ธาตุ สารอาหารอื่น ๆ  ที่อาหารโดยทั่วไปหากเราไม่สรรหาก็อาจไม่ได้รับสารอาหารนั้น ทำให้แม้ไม่ใช่ผู้สูงอายุสามารถทานอาหารเสริมผู้สูงอายุได้หากเราต้องการสารอาหารประเภทนั้นจากการไม่ได้รับประทานอาหารที่ได้สารอาหารที่ครบถ้วน ตัวอย่างเช่น มีผู้ที่ไม่ใช่ทานผักใบเขียว หรือ ผลไม้ ทำให้ขาดวิตามินรวมไปถึงแร่ธาตุต่าง ๆ อาจเลือกทานอาหารเสริมที่สกัดจากผักใบเขียวหรือผลไม้ได้ แม้ในเชิงวิเคราะห์อาหารเสริมไม่สามารถทดแทนคุณค่าที่ได้รับจากอาหารจริงได้ แต่เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นดูแลสุขภาพร่างกายให้สารอาหารจากอาหารเสริมผู้สูงอายุเข้าไปทดแทนเพื่อให้สุขภาพดีขึ้น ทั้งนี้ควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่เพื่อได้รับสารอาหารต่าง ๆ อย่างครบถ้วน

สรุป อาหารเสริมผู้สูงอายุ เพื่อสุขภาพที่ยั่งยืน
อาหารเสริมผู้สูงอายุจุดประสงค์เพื่อการดูแลสุขภาพรูปแบบหนึ่งเนื่องจากการเสื่อมถอยของสภาพร่างกายตามอายุ และผู้สูงอายุมักมีอาการเบื่ออาหารจากการที่เริ่มเสียการรับรสชาติทำให้ไม่อยากกินอาหารและขาดสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย ทั้งนี้ควรตรวจสอบส่วนผสมของอาหารเสริมว่ามีส่วนผสมใดที่ผู้สูงอายุไม่สามารถรับประทานได้ และตรวจสอบความถูกต้องของผลิตภัณฑ์และวันหมดอายุเพื่อความปลอดภัย

35
ปัญหาการเงิน

ปัญหาการเงินปัญหาน่าหนักใจที่ใคร ๆ ก็ไม่อยากเจอ ปัญหาการเงินปัญหา หรือปัญหาค่าใช้จ่ายไม่เพียงพอต่อการใช้ชีวิตประจำวัน เป็นหนึ่งในปัญหายอดฮิตที่คนในวัยทำงานไม่อยากพบเจอปัญหาการเงินสามารถเกิดขึ้นได้จากหลากหลายปัจจัย ซึ่งการหมุนเงินไม่ทัน หรือการมีเงินใช้ไม่เพียงพอต่อการดำเนินชีวิต ก็ยังเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดหนี้ภายในครัวเรือน และการกู้หนี้นอกระบบ

บทความนี้จะมาพูดถึงปัญหาการเงินยอดนิยมที่มักจะเกิดขึ้นในครัวเรือนของคนไทย และสัญญาณเตือนปัญหาทางการเงินในอนาคต เพื่อให้เพื่อน ๆ ที่ยังไม่มีปัญหาการเงินสังเกต และระวังไม่ให้ปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้น พร้อมแนวทางการลดปัญหาทางการเงินที่ทำง่าย ๆ แต่ได้ผลจริง ถ้าอยากรู้กันแล้วว่าปัญหาการเงินที่คนส่วนใหญ่กำลังเผชิญมีอะไรบ้าง แล้วจะมีแนวทางการแก้ปัญหาอย่างไร เรามาต่อกันในเนื้อหาของบทความนี้

1. ใช้รายได้มากกว่า 45% ของเงินเดือนสำหรับการจ่ายชำระหนี้

ปัญหาการเงินหมุนเงินไม่ทัน

การชำระหนี้ตามกำหนดชำระนั้นเป็นเรื่องที่ดี แต่การที่ต้องชำระหนี้มากกว่า 45% ของเงินเดือนนั้น เป็นเรื่องที่ค่อนข้างเสี่ยง การชำระหนี้ในลักษณะนี้ก็มักจะนำมาซึ่งปัญหาการเงินในอนาคต อย่างที่เรากล่าวไปข้างต้นว่าปัญหาการเงินมักจะเริ่มจากหนี้ภายในครัวเรือน หากคุณเป็นคนที่ต้องใช้เงินเดือนกว่า 45% ในการชำระหนี้ในแต่ละเดือน คุณอาจต้องระวังปัญหาการเงินที่จะตามมาในอนาคต

วินัยทางการเงินที่ดีต้องมีรายรับ รายจ่าย รายการผ่อนชำระ และเงินเก็บออมสำหรับยามฉุกเฉินในอัตราที่สมดุลกัน ไม่มีสิ่งใดมากหรือน้อยจนเกินไป การที่เราต้องนำเงินเดือนกว่าครึ่งมาผ่อนชำระหนี้ในทุกเดือน ถือว่าเป็นสัญญาณปัญหาการเงินที่ต้องระวัง เพราะสิ่งนี้อาจนำมาซึ่งปัญหาการใช้เงินแบบเดือนชนเดือน หรือปัญหาหนี้สินทับถมในอนาคต

2. มีรายได้แต่ไม่มีเงินเก็บติดบัญชี

หากคุณเป็นผู้ที่หมดเงินกับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นทุกเดือน จนไม่มีเงินเก็บติดบัญชี ระวังให้ดี เพราะสิ่งนี้เป็นหนึ่งในสัญญาณที่จะนำมาซึ่งปัญหาการเงิน อย่างที่เราได้กล่าวไปข้างต้นว่า การใช้เงินแบบเดือนชนเดือน เป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงที่จะนำมาซึ่งปัญหาการเงินในอนาคต หากคุณเป็นคนที่กำลังประสบปัญหาการมีเงินใช้แต่ไม่มีเงินเก็บ ระวังให้ดี เพราะเมื่อไหร่ที่คุณจำเป็นต้องใช้เงินกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันอย่างค่ารักษาพยาบาล ค่าซ่อมแซมบ้าน หรือค่าใช้จ่ายจำเป็นอื่น ๆ เมื่อไหร่คุณก็จะมีหนี้สินติดตัวเมื่อนั้น

สิ่งนี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการวางแผนทางการเงิน โดยคุณอาจทำการแยกย่อยออกมาว่าในหนึ่งเดือน คุณมีค่าใช้จ่ายจำเป็นอะไรบ้าง สิ่งใดที่เป็นค่าใช้จ่ายที่ตัดได้ และตัดไม่ได้ เมื่อคุณทราบตัวเลขค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในแต่ละเดือนแล้ว การวางแผนทางการเงินของคุณก็จะง่ายขึ้น ลดปัญหาการเงินที่จะตามมาในอนาคต

3. ต้องกู้ยืมเงินมาใช้จ่ายหรือใช้หนี้บ่อย ๆ มีภาวะหมุนเงินไม่ทัน

ปัญหาด้านการเงิน

ทุกคนคงเคยได้ยินคำพูดที่ว่า การไม่มีหนี้สินเป็นลาภอันประเสริฐ หากคุณเป็นคนที่จำเป็นต้องกู้หนี้ยืมสินมาใช้สำหรับการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันบ่อย ๆ หรือจำเป็นต้องกู้หนี้ผู้อื่นเพื่อมาปิดหนี้เก่าที่กำลังจะครบกำหนดชำระ นี่อาจเป็นสัญญาณเตือนของการมีปัญหาการเงิน

หนี้ใคร ๆ ก็ไม่อยากเป็น แต่จะหลีกหนีจากปัญหาการเงินด้านหนี้สินได้อย่างไร หากคุณเป็นผู้ที่ประสบปัญหาการเงินด้านหนี้สิน การบริหารจัดการด้านการเงินอย่างเป็นระบบสามารถช่วยคุณได้ อย่างแรกที่คุณต้องทำคือการแยกรายจ่ายที่จำเป็น และรายรับคงที่ในแต่ละเดือน เงินที่เหลือจากรายรับและรายจ่าย ควรแบ่งออกมาเป็นเงินเก็บยามฉุกเฉินไม่น้อยกว่า 10% ของเงินเดือน และเงินส่วนที่เหลือให้ใช้สำหรับการชำระหนี้

การชำระหนี้ควรชำระมากกว่าขั้นต่ำ เพราะยิ่งเราเหลือเงินต้นน้อยเท่าไหร่ ดอกเบี้ยที่ต้องเสียในแต่ละเดือนก็จะน้อยลงเท่านั้น แถมยังทำให้คุณสามารถปลดหนี้ได้เร็วกว่ากำหนดอีกด้วย เพียงเท่านี้ปัญหาการเงินของคุณก็จะหมดไป

4. ชอบใช้เงินผ่อนมากกว่าเงินสด ผ่อนเล็กผ่อนน้อยตลอดเวลา

ปัญหาหนี้บัตรเครดิตปัญหาบานปลายไม่จบไม่สิ้นของคนวัยทำงาน ในบางครั้งปัญหานี้อาจมาจากการผ่อนเล็กผ่อนน้อยหลายครั้งต่อเดือน หรือการใช้เงินในปัจจุบันจนหมดจนต้องนำเงินในอนาคตมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน สิ่งนี้เป็นหนึ่งในนิสัยที่ทำให้เกิดปัญหาการเงิน

หากคุณกำลังประสบปัญหามีเงินเท่าไหร่ก็ใช้ไม่พอ การทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายสามารถช่วยคุณได้ การวางแผนการใช้เงินผ่านการแยกรายรับ รายจ่าย และเงินเก็บอย่างเป็นสัดส่วน เป็นหนึ่งในตัวช่วยสำคัญที่ทำให้คุณบริหารการเงินได้ง่ายขึ้น ช่วยลดปัญหาการเงินที่จะตามมาในอนาคต และยังทำให้คุณสามารถประมาณการรายจ่ายได้อย่างสมเหตุสมผล ลดอัตราการเกิดปัญหาการเงินในอนาคต

5. ไม่มีเงินสำรองในการใช้จ่ายยามฉุกเฉิน

ปัญหาการเงินหนี้ในครัวเรือน

นิสัยการใช้เงินแบบเดือนชนเดือนจนไม่มีเงินเก็บที่จะมานำใช้ในยามฉุกเฉิน เป็นหนึ่งในปัญหาการเงินที่นำมาซึ่งปัญหาหนี้สินในอนาคต แม้คุณจะไม่มีหนี้สินติดตัวในปัจจุบัน แต่การไม่มีเงินสำรองที่จะนำมาใช้ยามฉุกเฉิน ก็เป็นหนึ่งในปัญหาการเงินที่จะนำมาซึ่งปัญหาหนี้สินภายในครัวเรือน

โดยเฉพาะการไม่มีเงินใช้จ่ายสำหรับค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดฝันอย่างอุบัติเหตุ ค่าใช้จ่ายยามเจ็บไข้ได้ป่วย หรือค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เป็นเงินก้อนใหญ่ เมื่อมีเหตุการณ์ฉุกเฉินเหล่านี้ คุณก็จะมีหนี้ติดตัวในทันที การแบ่งสัดส่วนเงินเดือนจึงจำเป็นต้องแบ่งส่วนสำหรับค่าใช้จ่ายยามฉุกเฉิน เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงที่จะนำมาซึ่งปัญหาการเงินในอนาคต

6. เมื่อเกิดสถานการณ์หมุนเงินไม่ทันก็มักจะใช้บัตรเครดิตอีกใบในการหมุนเงินแทน

การหมุนเงินใช้จ่ายด้วยบัตรเครดิตสองใบ เป็นนิสัยทางการเงินที่จะนำมาซึ่งหนี้สินในอนาคต หากคุณเป็นคนที่ชอบหมุนเงินด้วยบัตรเครดิตสองใบ หรือโปะหนี้ด้วยบัตรเครดิตสองใบ เราต้องบอกว่านิสัยดังกล่าวเป็นนิสัยการเงินที่เป็นปัจจัยเสี่ยงในการเกิดปัญหาการเงินอันดับต้น ๆ

การใช้บัตรเครดิตในการหมุนเงิน เป็นการเพิ่มพูนหนี้สินให้หนักกว่าเดิม เป็นนิสัยที่นอกจากจะทำให้ปัญหาการเงินเพิ่มพูนกว่าเดิมแล้ว นิสัยนี้ยังอาจทำให้คุณเสียเครดิตทางการเงินไปตลอดชีวิต

7. ชอบชำระหนี้บัตรเครดิตแค่ขั้นต่ำของยอดชำระหนี้

ปัญหาด้านการเงินมีรายจ่ายมากกว่ารายรับ

การชำระเงินขั้นต่ำสำหรับหนี้บัตรเครดิต เป็นหนึ่งในปัญหาการเงินยอดฮิต ที่จะมาซึ่งปัญหาความยากจน การจ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิตเป็นเหมือนการหลีกหนีหนี้ ที่ไม่ได้มีผลให้หนี้สินที่อยู่ในมือลดลงเลย อีกทั้งการจ่ายเงินขั้นต่ำยังเป็นการพอกพูนหนี้ที่จะนำมาซึ่งปัญหาการเงินอย่างการชำระหนี้ไม่ไหวจนต้องกู้หนี้นอกระบบ หรือการใช้เงินแบบเดือนชนเดือนอีกด้วย

การชำระหนี้บัตรเครดิตที่ดี จึงควรชำระมากกว่าจำนวนขั้นต่ำที่ธนาคารกำหนด เพื่อไม่ให้หนี้สินพอกพูนจนกลายเป็นปัญหาการเงินในอนาคต

สรุปปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดปัญหาการเงิน พร้อมแนวทางการแก้ไขปัญหา

หลังจากอ่านบทความนี้จนจบ เพื่อน ๆ คงเห็นกันแล้วว่าปัญหาการเงินสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งสาเหตุบางอย่างก็เป็นสิ่งใกล้ตัวที่อยู่ในชีวิตประจำวันของเรา จนเราแทบจะมองว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องปกติ หากคุณเป็นผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาการเงินในอนาคต คุณควรหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้สิ่งเหล่านี้ติดเป็นนิสัย และหันมาวางแผนการเงินใหม่ เพื่อให้ปัญหาหนี้สิน หรือปัญหาการเงินอื่น ๆ ไม่เกิดขึ้นกับคุณและคนรอบข้าง

36
หนังรับรองเงินเดือน

หนังสือรับรองเงินเดือนคือ หลักฐานการทำงานและรายได้ ใบหนังสือรับรองเงินเดือนเปรียบเสมือนบัตรประชาชนทางการเงินของพนักงานซึ่งออกให้โดยฝ่ายทรัพยากรบุคคลของบริษัท เอกสารนี้มีหน้าที่ยืนยันสถานะการจ้างงาน ตำแหน่งงาน และเงินเดือนของพนักงาน บทความนี้จะมาแนะนำเกี่ยวกับความสำคัญและประโยชน์ของหนังรับรองเงินเดือนในด้านต่าง ๆ มาดูกัน

ความสำคัญของหนังสือรับรองเงินเดือนมีอะไรบ้าง

ความสำคัญหนังสือรับรองเงินเดือน

หนังสือรับรองเงินเดือนเป็นเอกสารสำคัญที่ออกโดยฝ่ายทรัพยากรบุคคลของบริษัท เพื่อยืนยันข้อมูลเกี่ยวกับการจ้างงานและรายได้ของพนักงาน การขอหนังสือรับรองเงินเดือนsalary certificate จากฝ่ายทรัพยากรบุคคลของบริษัทแต่ละแห่งอาจมีวิธีเขียนใบรับรองเงินเดือน และแบบฟอร์มขอใบรับรองเงินเดือน รวมถึงมีขั้นตอนการยื่นคำขอที่แตกต่างกันไปซึ่งฝ่ายทรัพยากรบุคคลของแต่ละบริษัทจะมีแบบฟอร์มใบรับรองเงินเดือนword หนังสือรับรองเงินเดือนภาษาอังกฤษword และรูปแบบหนังสือรับรองเงินเดือนของบริษัทอยู่แล้ว เพียงแต่อาจออกให้ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น หนังสือรับรองเงินเดือนdoc หนังสือรับรองเงินเดือนออนไลน์ หรือใบรับรองเงินเดือนpdf ซึ่งหนังสือรับรองเงินเดือนบริษัทมีบทบาทสำคัญในหลายแง่มุม ดังนี้

• ใบรับรองเงินเดือนบริษัทเป็นหลักฐานสำคัญที่ใช้เป็นหลักฐานประกอบการพิจารณาขอสินเชื่อของธนาคาร และสถาบันการเงินต่า ๆ เพื่อไปใช้ในการพิจารณาวงเงินสินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถ การขอมีบัตรเครดิต ซึ่งธนาคารหรือสถาบันทางการเงินจะต้องใช้ข้อมูลเงินเดือนเพื่อประเมินความสามารถในการผ่อนชำระหนี้ของผู้กู้
• หนังสือรับเงินเดือนเป็นหลักฐานประกอบการสมัครงานเพื่อตรวจสอบข้อมูลเงินเดือนและประวัติการทำงานของผู้สมัคร
• ใบรับรองเงินเดือนบริษัทเพื่อพิจารณาขอเช่าอสังหาริมทรัพย์ซึ่งเจ้าของบ้านหรือคอนโดมิเนียมอาจขอหนังสือรับรองเงินเดือนเพื่อพิจารณาว่าผู้เช่ามีรายได้เพียงพอต่อการจ่ายค่าเช่า
• หนังสือรับรองเงินเดือนอาจใช้ประกอบการทำธุรกรรมอื่น ๆ เช่น การขอเช่าซื้อรถยนต์ การสมัครสมาชิกคลับ และอื่น ๆ
• แบบใบรับรองเงินเดือนสามารถใช้ยืนยันสถานะการทำงานกับบริษัทได้ กรณีต้องการใช้ในการติดต่อธุรกิจ หรืออื่น ๆ

ใบรับรองเงินเดือนตัวอย่างการใช้งานที่สำคัญมีกรณีตัวอย่างดังต่อไปนี้

• ธนาคารแห่งหนึ่งให้ดูตัวอย่างแบบฟอร์มหนังสือรับรองเงินเดือนdoc เพื่อให้ผู้ประสงค์ยื่นขอสินเชื่อบ้านไปติดต่อขอรับรองเงินเดือนจากฝ่ายบุคคลของบริษัทที่ตนเองทำงาน
• ผู้สมัครงานกับบริษัทเอกชนต่างชาติแห่งหนึ่งได้แนบใบรับรองเงินเดือนภาษาอังกฤษเพื่อเสนอการพิจารณาสมัครงานไปพร้อมกับใบสมัครงานภาษาอังกฤษ
• ผู้เช่าแนบหนังสือรับรองการทํางานบริษัทเอกชนกับสัญญาเช่า
• สมาชิกคลับฟิตเนสใช้หนังสือรับรองเงินเดือนสมัครสมาชิก

ในบางบริษัทหรือองค์กรอาจให้ผู้ยื่นคำขอได้ตรวจสอบตัวอย่างหนังสือรับรองเงินเดือนจากแบบฟอร์มใบรับรองเงินเดือนword ของบริษัทก่อนที่จะออกเอกสารใบรับรองเงินเดือนฉบับจริงให้ เนื่องจากหนังสือรับรองเงินเดือนเหล่านี้ เป็นเอกสารสำคัญที่ใช้ประกอบการทำธุรกรรมทางการเงินต่าง ๆ จึงควรเก็บรักษาไว้เป็นความลับและตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้องก่อนนำไปใช้งาน

ประโยชน์ของหนังสือรับรองเงินเดือน
 
ประโยชน์หนังสือรับรองเงินเดือน

จะเห็นว่า หนังสือใบรับรองเงินเดือนเป็นเอกสารสำคัญเกี่ยวกับการรับรองเงินเดือน ที่จะระบุข้อมูลสำคัญด้านต่าง ๆ เช่น ข้อมูลพนักงาน ประกอบด้วย ชื่อ - นามสกุล ตำแหน่งงาน แผนก รหัสพนักงาน วันเริ่มทำงาน วันออกจากงาน เงินเดือน เงินเพิ่มอื่น ๆ ค่าตอบแทนอื่น ๆ และรายได้รับสุทธิ และด้านข้อมูลของบริษัท ประกอบด้วย ชื่อบริษัท ที่อยู่บริษัท เบอร์โทรศัพท์ และตราสัญลักษณ์ของบริษัท เป็นต้น  ดังนั้นจึงต้องเก็บรักษาไว้เป็นความลับ แต่ด้วยรูปแบบใบรับรองเงินเดือนสามารถนำไปติดต่อธุระสำคัญต่าง ๆ ได้ในหลายเรื่องมีดังนี้

• หนังสือรองรับเงินเดือนใช้ประกอบการพิจารณาขอสินเชื่อ เช่น  โดยธนาคารจะใช้ข้อมูลเงินเดือนเพื่อประเมินความสามารถในการผ่อนชำระหนี้ของผู้กู้ ช่วยเพิ่มโอกาสในการได้รับอนุมัติสินเชื่อ ช่วยให้ได้รับวงเงินสินเชื่อที่สูงขึ้น ช่วยให้ได้รับอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลง
• แบบฟอร์มหนังสือรับรองเงินเดือนใช้สมัครงาน โดยเฉพาะหากสมัครงานกับบริษัทเอกชนมักจะพิจารณาหนังสือรับรองเงินเดือนบริษัทเอกชน เพื่อนำไปประกอบการพิจารณาการจ้างและให้เงินเดือนแรกเข้า และช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับผู้สมัคร ช่วยให้บริษัทพิจารณาคุณสมบัติของผู้สมัครได้แม่นยำ จากฟอร์มใบรับรองเงินเดือนซึ่งทำให้เพิ่มโอกาสในการได้รับเลือกเข้าทำงาน
• แบบฟอร์มรับรองเงินเดือนใช้ยื่นประกอบการพิจารณาการเช่าอสังหาริมทรัพย์ ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับเจ้าของบ้านหรือคอนโดมิเนียมว่าผู้เช่ามีรายได้เพียงพอต่อการจ่ายค่าเช่า เพิ่มโอกาสในการได้รับอนุมัติเช่า
• แบบหนังสือรับรองเงินเดือนสามารถยื่นทำธุรกรรมทางการเงินอื่น ๆ ใช้ประกอบการขอเช่าซื้อรถยนต์ ใช้สมัครสมาชิกคลับ ใช้ยืนยันสถานะการทำงาน
ยืนยันสถานะการทำงาน ใช้ยืนยันสถานะการทำงานกับบริษัทได้ ใช้ในการติดต่อธุรกิจ หนังสือรับรองเงินเดือนภาษาอังกฤษใช้ในการขอวีซ่า

หนังสือรับรองเงินเดือนและอายุการใช้งาน

การออกหนังสือรับรองเงินเดือนแต่ละบริษัทจะกำหนดอายุการใช้งานไว้ด้วยซึ่งอายุการใช้งานของหนังสือรับรองเงินเดือนจะขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการใช้งาน ประเภทของการให้รับรองเงินเดือนด้วย โดยมีรายละเอียดดังนี้

• หนังสือรับรองเงินเดือนเพื่อนำไปใช้กับหน่วยงานราชการ หรือใช้สำหรับติดต่อหน่วยงานราชการต่าง ๆ โดยทั่วไปมีตัวอย่างใบรับรองเงินเดือน กำหนดอายุการใช้งานไม่เกิน 90 วัน นับตั้งแต่วันที่ออกหนังสือ
• หนังสือรับรองเงินเดือนเพื่อใช้ในการติดต่อกับทางธนาคารหรือสถาบันการเงินต่าง ๆ มีอายุการใช้งานไม่เกิน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ออกหนังสือ
• หนังสือรับรองเงินเดือนภาษาอังกฤษเพื่อใช้ยื่นขอวีซ่าไปต่างประเทศ ส่วนใหญ่มีอายุการใช้งานไม่เกิน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ออกหนังสือ
• หนังสือรับรองเงินเดือนเพื่อใช้สมัครงาน ไม่ว่าจะหนังสือใบรับรองเงินเดือนภาษาไทย หรือใบรับรองเงินเดือนภาษาอังกฤษ โดยทั่วไปไม่มีการกำหนดอายุการใช้งาน แต่แนะนำให้ใช้หนังสือที่ออกไม่เกิน 6 เดือน
• หนังสือรับรองเงินเดือนเพื่อใช้เช่าอสังหาริมทรัพย์ โดยทั่วไปไม่มีการกำหนดอายุการใช้งาน แต่แนะนำจากตัวอย่างหนังสือรับรองเงินเดือนwordที่พบบ่อย ให้รับรองอายุไม่เกิน 3 เดือน

นอกจากบริษัทที่เป็นผู้ออกหนังสือรับรองเงินเดือนให้พนักงานเป็นผู้กำหนดอายุการใช้งานแล้ว อายุการใช้งานของการรับรองเงินเดือนจะขึ้นอยู่กับนโยบายของหน่วยงานที่ขอหนังสือด้วยเช่นกัน ดังนั้นจึงควรตรวจสอบ รูปแบบใบรับรองเงินเดือนจากตัวอย่างเอกสารรับรองเงินเดือนกับหน่วยงานที่ต้องการใช้หนังสือรับรองเงินเดือนก่อน เพื่อความแน่ใจ เช่น ธนาคาร A อาจกำหนดตัวอย่างหนังสือรับรองเงินเดือนออกรถ ไม่เกิน 45 วัน หรือ บริษัท B อาจกำหนดให้ยื่นใบรับรองเงินเดือนภาษาอังกฤษแต่ไม่กำหนดอายุการใช้งานของหนังสือรับรองเงินเดือน เป็นต้น

สรุปประโยชน์และความสำคัญของหนังสือรับรองเงินเดือน

หนังสือรับรองเงินเดือนเป็นเอกสารที่มีข้อมูลส่วนบุคคล ประกอบด้วย อัตราเงินเดือน ตำแหน่งงาน เบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่ของบริษัทที่ออกโดยฝ่ายทรัพยากรบุคคลของบริษัท เพื่อยืนยันข้อมูลเกี่ยวกับการจ้างงานและรายได้ของพนักงาน เอกสารนี้มีประโยชน์หลายประการ เช่น ใช้ประกอบการขอสินเชื่อ สมัครงาน เช่าอสังหาริมทรัพย์ ทำธุรกรรมทางการเงินอื่น ๆ และมีอายุการใช้งานตามข้อกำหนดและนโยบายของแต่ละบริษัท หรือตามแต่วัตถุประสงค์ของการออกหนังสือแต่ละครั้ง ดังนั้น จึงควรเก็บรักษาหนังสือรับรองเงินเดือนpdf ไว้เป็นความลับไม่ให้ตกอยู่ในมือมิจฉาชีพเป็นอันขาด


37
ผนังเบา

ผนังเบา เป็นการกั้นห้องด้วยแผ่นผนังเบา โดยใช้วัสดุที่ทำมาจากวัสดุต่างๆ เช่น แผ่นยิปซัม แผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์ แผ่นไม้อัดซีเมนต์ แผ่นไม้อัดยาง แผ่นไม้สังเคราะห์ เป็นต้น แทนการใช้อิฐ หรือการก่ออิฐมวลเบา การใช้ในการก่อสร้างเพื่อกั้นทำเป็นห้องใหม่ ในพื้นที่เดิมที่มีอยู่อย่างจำกัด ซึ่งง่ายต่อการติดตั้งกับโครงผนัง การกั้นห้องด้วยผนังเบาจะทำให้สะดวกในการติดตั้งเพราะวัสดุมีน้ำหนักเบา สามารถยึดติดกับโครงคร่าวผนังเบาแล้วค่อยตกแต่ง ฉาบปูน ทาสีทับเพื่อความสวยงาม ถือว่าราคาถูก ประหยัดเวลาการทำงาน และสามารถใช้งานได้ดี ซึ่งการใช้ผนังเบากั้นห้องมีข้อดีอะไรบ้างมาดูกันเลย

ผนังเบามีข้อดีอย่างไร?

โดยปกติการทำห้องมักจะสร้างด้วยอิฐ หรือทำจากผนังอิฐมวลเบา แต่ถ้าต้องการต่อเติมปรับปรุง เพิ่มห้อง หรือเพิ่มพื้นที่ใช้งานภายในบ้าน การกั้นห้องสามารถทำได้เพียงแค่ติดตั้งผนังเบา ซึ่งไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอีกต่อไปในการทำห้องขึ้นมาใหม่ การกั้นห้องด้วยผนังเบานั้นมีข้อดีดังนี้

  • ติดตั้งและรื้อถอนออกง่าย สะดวกและประหยัดเวลา เนื่องจากผนังเบาทำจากวัสดุที่มีน้ำหนักเบาทำให้สะดวกและง่ายต่อการติดตั้งเข้ากับโครงผนังเบา สามารถลดเวลาการทำงานของช่างได้ เพราะการติดตั้งผนังเบานั้นทำได้ง่าย ผนังมวลเบาใช้เวลาในการติดตั้งไม่นานถ้าเทียบกับการก่อด้วยอิฐ
  • น้ำหนักเบา วัสดุที่นำมาใช้ทำผนังเบาส่วนใหญ่จะเป็นแผ่นยิปซัม แผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์ แผ่นไม้อัดซีเมนต์ แผ่นไม้อัดยาง แผ่นไม้สังเคราะห์ ซึ่งเป็นวัสดุที่มีน้ำหนักเบา ทำให้การกั้นห้องด้วยผนังเบาสามารถขนย้ายได้ง่าย
  • มีวัสดุให้เลือกใช้ที่หลากหลาย การกั้นห้องด้วยผนังเบาสามารถเลือกวัสดุให้เหมาะสมกับห้องที่ต้องการจะทำได้ เช่น การเลือกใช้แผ่นไม้สังเคราะห์ในการกั้นห้องนอนด้วยผนังเบา การใช้แผ่นไม้อัดซีเมนต์ในการยึดติดกับโครงเหล็กกั้นห้องผนังเบา เป็นต้น
  • การติดตั้งระบบน้ำและระบบไฟทำได้ง่าย การกั้นห้องด้วยผนังเบาจะไม่มีคานข้างบนทำให้ง่ายต่อการวางระบบไฟและน้ำ เนื่องจากผนังเบาจะเป็นผนังที่กลวงสามารถเดินสายไฟและวางระบบน้ำได้ง่าย
  • ราคาไม่แพง วัสดุที่ใช้ทำผนังเบามีราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับการก่อผนังที่ก่อจากอิฐมวลเบา
  • ผนังเบามีความทนทานสูง มีอายุการใช้งานที่ยาวนานเสมือนการก่อผนังอิฐมวลเบา แต่คุณภาพของวัสดุที่นำมาใช้อาจะต่างกันขึ้นอยู่กับประเภทการใช้งาน

ข้อควรรู้ก่อนติดตั้งผนังเบา

ในการกั้นห้องด้วยผนังเบา มีข้อดีหลายอย่างซึ่งเป็นแค่ส่วนหนึ่ง ในการตัดสินใจเลือกใช้วัสดุกั้นผนังเบา มีอะไรที่ควรรู้อีกบ้าง วันนี้จะมาบอกในหัวนี้

  • ผนังเบาอาจจะไม่ต้องใช้คานมารองรับ ก่อนการติดตั้งผนังเบาจะต้องมีโครงผนังเบา เช่นอะลูมิเนียม โครงซีลายผนังเบา โครงคร่าวไม้ ในการทำเป็นโครงขึ้นรูปก่อนการติดตั้งแผ่นผนังเบา ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องมีคานข้างบนเพราะวัสดุที่ใช้ทำแผ่นผนังเบามีน้ำหนักน้อยกว่าการฉาบปูน ซึ่งปกติการทำผนังจะก่อด้วยอิฐแล้วจึงฉาบปูน จึงต้องมีแนวคานเพื่อความแข็งแรง แต่การกั้นห้องด้วยผนังเบาไม่จำเป็นต้องมีคานรองรับ
  • ผนังเบาควรจะมีโครงสร้างที่แข็งแรง ในการทำห้อง โครงสร้างเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมากในการการทำห้อง การกั้นห้องด้วยผนังเบาจะมีความแข็งแรงน้อยกว่าการก่ออิฐ หรือการฉาบด้วยปูน ดังนั้นจึงควรศึกษา และเลือกใช้วัสดุที่แข็งแรง ทนทาน เหมาะสมกับการใช้งาน
  • การใช้อิฐมวลเบาในการทำผนังเบา อิฐมวลเบาเป็นผนังเบาสําเร็จรูปภายนอก เป็นการก่อเพื่อทำเป็นผนังกั้นห้อง เหมาะกับการทำเป็นผนังเบาภายนอก เพราะมีน้ำหนักที่ค่อนข้างหนักเหมือนอิฐ และมีคุณสมบัติในการกันเสียง ระบายความร้อนได้ดี แข็งแรง หากนำมาใช้ภายในจำเป็นต้องมีคานและมียุ่งยากในการทำ
  • ผนังเบาไม่ควรแขวนของหนัก เนื่องจากวัสดุที่ทำผนังเบามีน้ำหนักเบาจึงไม่เหมาะกับการทำชั้นวางของติดผนัง หรือแขวนกรอบรูป เพราะจะทำโครงผนังเบาไม่สามารถรับน้ำหนักได้ หากต้องการแขวนของหนัก เช่น โทรทัศน์ กรอบรูปขนาดใหญ่ หรือทำชั้นวางของ ควรเสริมโครงเหล็กให้ดีเพื่อสามารถรองรับน้ำหนัก
  • ควรเลือกใช้ผนังเบาให้เหมาะสม ในการกั้นห้องหรือทำห้อง ควรเลือกใช้แผ่นผนังเบาให้เหมาะสมกับการใช้งาน หรือเหมาะกับห้องนั้นๆ ซึ่งในปัจจุบันมีผนังเบาที่ใช้วัสดุที่หลากหลายในการทำ เช่น ซีลายผนังเบา ผนังเบายิปซั่ม ผนังเบาลายไม้ ผนังเบาไฟเบอร์ซีเมนต์ ผนังเบาไม้อัดกั้นห้อง เป็นต้น
  • การทำห้องด้วยผนังเบาไม่ได้เหมาะกับทุกห้อง การกั้นห้องด้วยผนังเบาเป็นการทำห้องเพื่อแบ่งสัดส่วนพื้นที่ ซึ่งไม่เหมาะกับบางห้อง เช่น ห้องน้ำ ห้องครัว เพราะน้ำอาจจะไหลซึมเข้าไปภายในโครงคร่าวผนังเบาจากรอยต่อระหว่างแผ่น ทำให้โครงคร่าวเกิดความเสียหายได้

ผนังเบาสามารถใช้แทนผนังอิฐได้หรือไม่?

ในการเลือกใช้วัสดุที่จะทำผนังอันดับแรกจะต้องดูความเหมาะสมและวางแผนก่อน ว่าห้องที่จะทำนั้นเป็นห้องอะไร ควรใช้ผนังเบาหรือการก่อด้วยอิฐ ซึ่งวัตถุประสงค์ในการใช้งานเป็นสิ่งสำคัญในการเลือกใช้วัสดุที่จะทำผนัง เพราะจะต้องดูความแข็งแรง ทนทาน เหมาะกับประโยชน์ใช้สอย และต้องใช้โครงสร้างให้เหมาะสม โดยโครงสร้างของผนังเบาจะมีหลายวัสดุให้เลือกใช้ เช่น โครงผนังเบาตัวu โครงผนังเบาอะลูมิเนียม โครงผนังเบาตัวc เป็นต้น

ประเภทของผนังเบาที่ควรทำความรู้จัก

ผนังเบากั้นห้อง

หลังจากที่ทราบความหมาย ข้อดี ของผนังเบาไปแล้ว ในหัวข้อนี้จะพูดถึงประเภทของผนังเบาในปัจจุบันที่นิยมนำมาทำเป็นผนังเบากั้นห้อง มีอะไรบ้างมาดูกันเลย

ผนังเบาประเภทไม้อัดยาง

จุดเด่น : สวยงามให้ความรู้สึกอบอุ่น โดยมีลวดลายไม้ที่เหมือนจริงเป็นธรรมชาติ แผ่นผนังเบามีความหนาแน่น แข็งแรงทนทาน สามารถซ่อมแซมง่าย รีไซเคิลได้ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังสามารถเข้าได้กับทุกสไตล์ของบ้าน

เหมาะกับการนำไปใช้งานประเภท : การทำผนังเบาห้องนอน หรือแบ่งพื้นที่เล็กๆ เพราะแผ่นไม้อัดยางมีความบางมาก จึงไม่เหมาะกับการใช้งานในการแขวน หรือทำห้องครัว ห้องน้ำ เพราะอาจจะทำให้แตกหัก หรือบวมน้ำได้ในอนาคต

ผนังเบาประเภทแผ่นซีเมนต์

จุดเด่น : เป็นแผ่นผนังเบาที่มีความแข็งแรง ทนทาน ไม่แตกหักง่าย มีความยืดหยุ่นสูงค่อนข้างเหนียว สามารถดัดตามโครงได้ หมดปัญหาเรื่องปลวกกินไม้เพราะทำจากไฟเบอร์ซีเมนต์ วัสดุที่นำมาทำผนังเบาไม่มีส่วนประกอบของไม้หรือกระดาษมา เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สามารถนำไปรีไซเคิลได้ แผ่นผนังเบาสามารถระบายความร้อนได้ดี ทำให้ผู้อยู่อาศัยไม่ร้อน

เหมาะกับการนำไปใช้งานประเภท : การนำไปทำฝ้า ผนังห้อง หรือพื้นห้องก็ได้ เพราะตัวแผ่นซีเมนต์สามารถยืดหยุ่นระบายความร้อนได้ดี ไฟเบอร์ซีเมนต์บอร์ด (Fiber Cement Board) หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าสมาร์ทบอร์ด (Smartboard) เป็นปูนซีเมนต์ผสมกับซิลิกา เซลลูโลส และน้ำ แผ่นผนังเบาซีเมนต์จึงสามารถนำไปใช้ได้หลากหลายเพราะมีความแข็งแรงทนทานเหมาะกับทุกสภาพผิว

ผนังเบาประเภทแผ่นยิปซั่ม

จุดเด่น : เป็นแผ่นผนังเบาที่มีน้ำหนักเบา ทนทาน ผิวเรียบ ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม สามารถติดตั้งง่าย ประหยัดเวลา อีกทั้งราคาผนังเบายิปซั่มยังมีราคาถูกเมื่อเทียบกับวัสดุผนังเบาประเภทอื่นๆ จึงทำให้แผ่นผนังเบากั้นห้องประเภทนี้เป็นที่นิยมเป็นอย่างมากเพราะมีหลายประเภท เช่น แผ่นยิปซัมสตรองบอร์ด แผ่นยิปซัมกันร้อนพิเศษ แผ่นยิปซัมลดเสียงสะท้อน แผ่นยิปซัมกันเชื้อรา แผ่นยิปซัมทนชื้น แผ่นยิปซัมทนไฟ แผ่นยิปซัมดัดโค้ง เป็นต้น

เหมาะกับการนำไปใช้งานประเภท : แผ่นผนังเบาแผ่นยิปซั่มสามารถนำไปใช้งานได้หลากหลาย การเลือกใช้งานแผ่นผนังเบายิปซัมต้องดูว่าต้องการใช้เพื่อวัตถุประสงค์อะไร เพราะมีให้เลือกหลากหลายประเภท เช่น แผ่นยิปซัมสตรองบอร์ด ใช้กับผนังที่ต้องการความแข็งแรงมากเป็นพิเศษ แผ่นยิปซัมกันร้อน เหมาะสำหรับการลดความร้อน ระบายอากาศ ช่วยประหยัดค่าไฟฟ้า แผ่นยิปซัมลดเสียงสะท้อน ใช้ลดเสียงสะท้อน ลดการเกิดเสียงก้อง เหมาะกับสถานที่ปิด เป็นต้น 

สรุปผนังเบาวัสดุสำหรับกั้นห้อง

ผนังเบา คือ วัสดุที่ใช้ทำผนังแทนการก่อด้วยอิฐ ซึ่งมีหลายประเภท เช่น ผนังเบาประเภทไม้อัดยาง ผนังเบาประเภทแผ่นซีเมนต์ ผนังเบาประเภทแผ่นยิปซั่ม ซึ่งการนำไปใช้งานนั้นต้องคำนึงถึงประโยชน์และความเหมาะสมในการเลือกวัสดุ เพราะแต่ละประเภทมีเอกลักษณ์ และคุณสมบัติที่ต่างกัน หากเลือกใช้ผิดอาจจะทำให้เกิดความเสียหาย และต้องซ่อมแซมอยู่เป็นประจำ โดยโครงผนัง ก็มีความสำคัญเพราะเป็นตัวทำให้แผ่นผนังเบาสามารถคงตัว การวางโครงสร้างที่แข็งแรงจะทำให้การติดตั้งแผ่นผนังเบามีความแข็งแรง ทนทานตามไปด้วย ดังนั้นหากต้องการกั้นห้องด้วยผนังเบาควรศึกษาหาข้อมูลให้ดีก่อน เช็คราคา และเลือกใช้แผ่นผนังเบาให้เหมาะสมกับประเภทห้อง จะได้มีความแข็งแรงทนทานสามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน

38
ฉีดโบลดริ้วรอย

เป็นที่รู้กันว่า โบท็อกคือตัวแทนของความสวยงาม ที่ทั้งรวดเร็ว และปลอดภัย ใครอยากสวยโดยไม่ต้องเข้ากระบวนการผ่าตัด หรือพักฟื้นที่ยาวนาน รวมไปถึงปัญหาของโรคประจำตัวและสุขภาพอื่น ๆ ที่กวนใจ ฉีดโบลดริ้วรอย ก็คืออีกเหตุผลหนึ่งที่สาว ๆ และหนุ่ม ๆ ที่มีริ้วรอยก่อนวัย ไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุทางพันธุกรรม หรือปัจจัยภายนอก โบท็อกริ้วรอยก็สามารถช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้นได้ หากเข้าใจข้อมูลและรายละเอียดเชิงลึก

ริ้วรอยบนหน้า เกิดจากสาเหตุใดบ้าง

โบท็อกหางตา

โดยหลัก ๆ แล้ว ริ้วรอยจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ทั้งปัญหาริ้วรอยจากปัจจัยภายนอก และปัจจัยจากพันธุกรรม แน่นอนว่า ไม่ว่าจะเป็นริ้วรอยแบบไหน การฉีดโบลดริ้วรอยสามารถช่วยได้หมด ซึ่งตำแหน่งของริ้วรอยที่นิยมเกิดจากปัจจัยเหล่านี้ ทั้งโบท็อกหางตา, โบท็อกตีนการอบดวงตา, หน้าผาก หรือใต้ตา แต่หากแบ่งสาเหตุของริ้วรอยบนใบหน้าเพื่อการฉีดโบท็อก จะแบ่งเป็นริ้วรอยถาวร และริ้วรอยจากแสดงสีหน้า ที่มีรายละเอียดดังนี้

ริ้วรอยถาวร
Static Wrinkles หรือเรียกว่าริ้วรอยถาวร ที่มีผลกระทบจากอายุที่มากขึ้น และมีสาเหตุจากปัจจัยภายนอกอย่างผิวที่เจอกับแสงแดดเป็นเวลานาน หรือเจอกับฝุ่นควันและขาดการดูแล จนทำให้เกิดริ้วรอย แน่นอนว่าเราสามารถฉีดโบลดริ้วรอยได้ เนื่องจากสาเหตุของริ้วรอยถาวร คือการที่ชั้นผิวสูญเสียอีลาสติน และคอลลาเจน ทำให้ผิวเสียและเกิดริ้วรอยถาวรที่แก้ได้ยาก ทางเลือกของโบท็อกลดริ้วรอย จึงถือเป็นวิธีที่แก้ได้ง่าย และรวดเร็วที่สุด

ริ้วรอยจากการแสดงสีหน้า
Dynamics wrinkles คือริ้วรอยที่เกิดจากการขยับกล้ามเนื้อบนใบหน้า หรือแสดงสีหน้า ไม่ว่าจะเป็นการยิ้ม การขมวดคิ้ว หรือการหัวเราะ ซึ่งร่องริ้วรอยที่พบจากการแสดงสีหน้าที่บ่อยที่สุด คือบริเวณหน้าผาก และบริเวณตีนกา โดยเราสามารถโบท็อกหน้าผาก รวมไปถึงตีนกาได้ การฉีดโบลดริ้วรอย ถือเป็นการแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด มีประสิทธิภาพ เพราะริ้วรอยเหล่านี้เกิดได้ทั้งบุคคลอายุน้อย เมื่ออายุเพิ่มขึ้นรอยก็ชัดขึ้น ทำให้ความมั่นใจลดลง

ฉีดโบลดริ้วรอย  คืออะไร มีประสิทธิภาพแค่ไหน
การฉีดโบลดริ้วรอย Botox for facial wrinkles คือการฉีดโบท็อกด้วยยี่ห้อ และปริมาณที่เหมาะสม ในการยกกระชับส่วนที่เป็นริ้วรอย ให้ชั้นผิวมีการเติมเต็มและตึงขึ้น ด้วยสาร Botulinum toxin A ที่ทำปฏิกิริยากับผิว ออกฤทธิ์ทางระบบประสาท ทำให้ผิวเกิดการคลายกล้ามเนื้อ และสามารถเสริมความงามได้ ฉีดโบลดริ้วรอย ก็เป็นหัตถการโบท็อกที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ใบหน้าไม่เกิดการพับบนชั้นผิว ทำให้สามารถลดริ้วรอยได้จริงและปลอดภัย

โดยสาเหตุเบื้องต้นที่โบท็อกมีความปลอดภัยเพราะทาง USFDA หรือองค์การอาหารและยาในประเทศสหรัฐอเมริกา ได้อนุมัติและยอมรับแล้วว่า Botoxริ้วรอย สามารถแก้ปัญหาริ้วรอยได้ และมีความปลอดภัยทั้งผู้ชาย และผู้หญิง ในอายุ 65 ปีลงมาได้อย่างมีประสิทธิภาพจากสาร Botulinum toxin A ทำให้การฉีดโบลดริ้วรอย จึงได้รับความนิยม และสืบเนื่องมาจนถึงไทย แน่นอนว่า โบท็อกลดริ้วรอย ก็ได้รับการอนุมัติจากอย.ไทยเช่นกัน

หลักการทำงานของโบท็อกลดริ้วรอย มีกระบวนการอย่างไร
การฉีดโบลดริ้วรอย มีหลักการทำงานที่เข้าใจง่าย โดย Neurotoxin เป็นระบบประสาท ที่ส่งผลตรงเมื่อได้รับ Botulinum toxin A หรือโบท็อก ซึ่งออกฤทธิ์ทำให้กล้ามเนื้อบนชั้นผิวคลายตัว หากเราได้เข้าสู่กระบวนการหลังฉีดโบลดริ้วรอย กล้ามเนื้อจะคลายตัวทันที 48 - 72 ชั่วโมง หลังจากนั้นภายใน 2 สัปดาห์ กล้ามเนื้อผิวหน้าจะอ่อนตัวและเข้าที่ และจะคงอยู่บนผิวหน้านาน 4 - 6 เดือน ผิวจะไม่เกิดการพับตัว ทำให้รอยย่นบนใบหน้าจางลง

กรณีที่การฉีดโบลดริ้วรอย ไม่ได้ผล อาจจะเกิดจากกระดูกทรุดตัวจนเกิดริ้วรอยร่องลึก ที่จำเป็นต้องใช้หัตถการวิธีอื่นในการแก้ไข แต่ส่วนใหญ่ในกลุ่มวัยรุ่นและวัยกลางคน ปัญหาทั่วไปมักจะเกิดจากการแสดงสีหน้า จนทำให้เกิดริ้วรอยย่นตรงสันจมูก, รอบดวงตา, รอยหน้าผาก การฉีดโบลดริ้วรอยไม่ว่าจะตำแหน่งไหน จะฉีดตีนกา, ฉีดโบหน้าผาก และรอบดวงตาก็แสดงผลตามหลักการทำงานเช่นเดียวกันทุกตำแหน่ง หากทำกับคลินิกที่มีมาตรฐาน

แก้ไขริ้วรอย นอกจากฉีดโบท็อก มีวิธีอื่นอีกที่ใกล้เคียงกันอีกหรือไหม

ฉีดโบลดริ้วรอย ราคา

ริ้วรอยบนใบหน้า สามารถแก้ไขได้หลากหลายวิธี แต่วิธีการฉีดโบท็อก ถือเป็นวิธีที่รวดเร็ว ไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องการ การผ่าตัดหรือพักฟื้น การดูแลหลังฉีดโบลดริ้วรอย ก็ไม่ยุ่งยาก และฉีดโบลดริ้วรอยราคาไม่ได้สูงเกินงบประมาณการเสริมความงามในปัจจุบัน แต่หากการฉีดโบลดริ้วรอย มีข้อจำกัดบางอย่าง เช่น การเกิดริ้วรอยร่องลึก อาจจะจำเป็นต้องเพิ่มหัตถการเสริมความงาม ที่เน้นการเติมเต็ม ยกกระชับ โดยแบ่งวิธีแก้ไขริ้วรอยเพิ่มเติมดังนี้

Filler - ฟิลเลอร์คือการฉีดสารเติมเต็ม Hyaluronic Acid ที่สามารถเติมเต็มและกระชับริ้วรอย ให้ผลเหมือนกับหัตถการฉีดโบลดริ้วรอย แต่จะเพิ่มมวลให้กับผิวหน้าในกรณีที่ผู้ที่มีร่องลึกของริ้วรอยบนใบหน้า แน่นอนว่ามีความสะดวกและปลอดภัยเช่นกัน

Thermage - เป็นหัตถการยกกระชับ ด้วยเทคโนโลยีคลื่นไฟฟ้าความถี่สูงไปยังชั้นหนังแท้ และไขมันใต้ผิวหนัง ยกกระชับริ้วรอย อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นให้ผิวกระชับด้วยการเพิ่มอัตราการสร้างคอลลาเจนให้กับชั้นผิว โดยเครื่อง Thermage จะเป็นกระบวนการที่แตกต่างจากการฉีดโบลดริ้วรอย ที่เป็นการใช้โบท็อกแต่ก็ยังปลอดภัยและรวดเร็ว

Ulthera - เป็นการยกกระชับผิวด้วยคลื่นความถี่สูงลงบนผิวหนังชั้นลึก ด้วยความถี่ที่กำหนดจะสามารถยกกระชับผิวโดยเฉพาะส่วนของริ้วรอยก็สามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ฉีดโบลดริ้วรอยเหมาะกับใคร กรณีไหนบ้าง
หลายคนยังสงสัยว่าตัวเองฉีดโบลดริ้วรอยดีไหม? แล้วสามารถฉีดได้หรือเปล่า? แน่นอนว่าเงื่อนไขการฉีดโบลดริ้วรอยค่อนข้างน้อย เพราะเป็นหัตถการเสริมความงามที่สะดวก ไม่ต้องผ่าตัด สำหรับผู้ชายและผู้หญิงที่มีปัญหาริ้วรอยจากการแสดงสีหน้า สามารถเข้ารับการฉีดโบลดริ้วรอยได้เลย เพราะโบท็อกจะช่วยให้ริ้วรอยในการแสดงสีหน้าตึงขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ โดยเราสามารถฉีดเฉพาะจุดที่มีริ้วรอยได้ ด้วยการเข้ารับคำปรึกษากับแพทย์

นอกจากนี้ ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยที่เกิดจากพันธุกรรมและช่วงอายุที่มากขึ้น ก็สามารถเข้ารับการฉีดโบลดริ้วรอยได้ แน่นอนว่า ปัญหาริ้วรอยร่องลึก อาจจะต้องเข้ารับการให้คำปรึกษา เพื่อหาวิธีการแก้ไขที่ดีที่สุดกับแพทย์ เพราะริ้วรอยช่วงวัย มักจะเป็นปัญหาริ้วรอยที่ต้องมีการแก้ไขทั้งใบหน้า สำคัญคือการจะดูว่าเราเหมาะกับวิธีการไหนในการลดริ้วรอย คือการเริ่มต้นเข้ารับคำปรึกษากับคลินิกก่อนเสมอ เพื่อดูว่าฉีดโบลดริ้วรอยอันตรายไหมกับเรา

ฉีดโบลดริ้วรอยปลอดภัยหรือไม่ มีอะไรรับรองมาตรฐาน
ฉีดโบลดริ้วรอยมีความปลอดภัย เพราะเป็นหัตถการที่ได้รับการยอมรับในมาตรฐานสากล ไม่ว่าจะเป็น USFDA หรือ US Food and Drug Administration ที่รับรองมาตรฐานอาหารและยา และเมื่อโบท็อกมาถึงประเทศไทย หลายคนอาจสงสัยว่า ฉีดโบลดริ้วรอยอันตรายไหมกับคนไทย แน่นอนว่าไม่อันตรายเลย เพราะ อย.ไทยก็มีการอนุมัติว่าโบท็อกปลอดภัย และตัวโบท็อกก็เป็นสารที่สามารถสลายออกจากร่างกายเองได้ โดยไม่เหลือสารตกค้างเลย

สรุปการฉีดโบลดริ้วรอย ทำได้จริง และปลอดภัย
หัตถการเสริมความงามลดริ้วรอยอย่างโบท็อก ถือเป็นการเสริมความอ่อนเยาว์ที่ลดความเสี่ยงต่ออันตรายในการเสริมความงาม เพราะการฉีดโบลดริ้วรอย สามารถแก้ไขปัญหาริ้วรอยได้หลากหลาย ไม่ว่าจะจากพันธุกรรม, อายุ  หรือจากสภาพแวดล้อมภายนอกก็เข้ารับการเสริมใบหน้าให้อ่อนเยาว์ได้ สำคัญที่สุด คือการหาคลินิกฉีดโบลดริ้วรอยที่ไหนดี ที่ตอบคำถามและแนะนำปัญหาด้านริ้วรอยได้อย่างตรงจุด และมีมาตรฐานการันตีความปลอดภัย


39
 ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแก้ไขใต้ตาลึก

ในปัจจุบันนี้การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งหัตถการที่สามารถช่วยลดปัญหาของคนที่มีปัญหาใต้ตาลึก เมื่อได้ทำการฉีดฟิลเลอร์เข้าไปนั้นจากหน้าที่ดูโทรมๆ ทำให้กลับมาดูสดใสขึ้นอีกครั้ง เพราะฉะนั้นการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาถึงมีการได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ทุกวันนี้คนส่วนใหญ่ชอบการฉีดfillerใต้ตาควบคู่ไปกับหน้าแก้มเพื่อทำให้ใบหน้าดูอิ่ม และดูเด็กลงอีกด้วย

เพราะเหตุนี้ก่อนจะทำการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาหรือการเติมไขมันใต้ตาควรทำการศึกษาก่อนว่า ฟิลเลอร์อันตรายไหม ฟิลเลอร์ช่วยอะไร มีผลข้างเคียงมากน้อยแค่ไหน และมีวิธีการดูแลอย่างไรที่จะทำให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นาน จากบทความข้างล่างนี้มีคำตอบให้คุณค่ะ

ปัญหาของคนที่มีร่องใต้ตาลึกเกิดจากอะไร
ปัญหาของร่องใต้ตาลึก ส่วนใหญ่แล้วมักจะเกิดจากส่วน Tear Through ที่อยู่ใกล้กับบริเวณใกล้ร่องน้ำตากับ Hollow Under Eye ตรงบริเวณเบ้าตา ที่เกิดการยุบตัวลงเมื่อมีอายุที่เพิ่มมากขึ้น อาจจะเป็นส่วนเดียวหรือทั้งสองส่วนเลยก็ได้ แต่ถ้าหากได้ทำการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแพทย์จะต้องทำการประเมินปัญหาก่อนว่ามีข้อบกพร่องที่จุดไหนบ้าง เพื่อให้แก้ไขอย่างตรงจุด

นอกจากนี้ปัญหาเรื่องของอายุที่เพิ่มมากขึ้น หรือคนที่ยังมีอายุน้อยๆ ก็ยังมีปัญหาใต้ตาได้เช่นกัน เนื่องจากว่าอาจจะมาจากพันธุกรรม ภูมิแพ้ หรือการเจริญเติบโตของกระดูกช่วงบริเวณเบ้าตาและใต้ตาไม่ดี จึงทำให้เกิดถุงใต้ตา ร่องใต้ตา และยังมีปัญหาจากการใช้สายตาที่ไม่ถูกต้องอีกด้วย จึงทำให้กล้ามเนื้อบริเวณรอบดวงตามีความหย่อนยานและมีริ้วรอยก่อนวัยอันควร

ฟิลเลอร์ใต้ตาคืออะไร
ฟิลเลอร์ใต้ตา (Filler) คือการทำหัตถกรรมที่ใช้สารเติมเต็มฉีดเข้าสู่บริเวณรอบดวงตา และนอกจากนี้การเติมฟิลเลอร์ใต้ตายังสามารถฉีดในบริเวณอื่นๆ ของใบหน้าได้อีกด้วย เช่น หน้าผาก ร่องแก้ม ขมับ ปากและคาง เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาต่างๆ ของใบหน้าช่วยทำให้ริ้วรอยบนใบหน้าดูตื้นขึ้นถ้าได้นำมาฉีดบริเวณใต้ตาจะสามารถแก้ไขปัญหาคนมีที่ใต้ตาคล้ำ ใต้ตาลึกได้อีกด้วย

ฟิลเลอร์ใต้ตาคืออะไร

ฟิลเลอร์ใต้ตาแก้ปัญหาและช่วยเรื่องอะไรบ้าง
ทำไมถึงต้องทำการฉีดfillerใต้ตา เพราะคนที่มีปัญหาบริเวณใต้ดวงตาจะสามารถเกิดได้กับทุกคน ตั้งแต่อายุน้อยไปจนถึงอายุที่มากขึ้นตามวัย โดยเฉพาะคนที่มีปัญหาติดต่อมาจากพันธุกรรมที่เกี่ยวกับโรคภูมิแพ้ กระดูกเบ้าตาไม่ดีตั้งแต่เกิด แต่หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามาจะสามารถแก้ไขปัญหารอยเหี่ยวย่น รอยคล้ำ เบ้าตาลึก ใต้ตาโทรมได้ จึงทำให้ฟิลเลอร์เป็นที่นิยมในปัจจุบันโดยจะช่วยแก้ปัญหาใต้ตาต่าง ๆ ดังนี้

  • ฟิลเลอร์ใต้ตา ช่วยลดปัญหาใต้ตาคล้ำ โดยการฉีดใต้ตายกกระชับผิวให้หลอดเลือดขยาย
  • สามารถทำการปรับรูปหน้าจากการฉีดไฮยาใต้ตา และยังช่วยให้ผิวบริเวณนั้นยกขึ้นเสริมโชคตามความเชื่อต่าง ๆ
  • สามารถแก้ไขเรื่องถุงใต้ตาโดยการใช้ฟิลเลอร์เข้ามาเติมเต็มผิวแทนไขมันที่หายไปตามอายุขัย
  • ฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถแก้ไขปัญหาริ้วรอยด้วยการฉีดฟิลเลอร์ให้ผิวบริเวณนั้นเต่งตึงขึ้น
  • การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาหรือการเติมใต้ตาช่วยแก้เรื่องตาลึก เบ้าตาโหล โดยแพทย์จะฉีดฟิลเลอร์เข้าไปในบริเวณบนตาเพื่อเป็นการทดแทนไขมันที่ตกลงมาจากปัจจัยหลายๆอย่าง

การทำฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับคนที่มีปัญหาแบบใด
ฟิลเลอร์ใต้ตาใช้ว่าใครก็สามารถมาฉีดได้เพราะการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับคนที่มีปัญหาในเรื่องของใต้ตาแต่ไม่อยากผ่าตัด แต่ก็ต้องการที่ได้ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว ซึ่งการฉีดใต้ตาเหมาะกับคน ดังนี้

  • คนที่มีปัญหาในเรื่องของดวงตาที่มีร่องใต้ตา มีถุงใต้ตา ใต้ตาคล้ำขอบตาดำ
  • คนที่ไม่มีเวลาในการพักผ่อน หรือพักฟื้นแต่ไม่อยากที่จะลางาน
  • คนที่ต้องการยกกระชับหน้าแค่บางจุดบนใบหน้า อยากดูเด็กลงอย่างเป็นธรรมชาติ

การทำฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับคนที่มีปัญหาแบบใด

ผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นหลังจากทำการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ใครหลายๆ คนอาจจะมีการเข้าใจผิดคิดว่าการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาผลข้างเคียงนั้นมีโอกาสเลี่ยงที่จะตาบอดได้ แต่แท้จริงแล้วนั้นส่วนใหญ่แล้วมักจะเกิดจากคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน และยังใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐานมาใช้ในการฉีดตามบริเวณต่างๆ เช่น ฟิลเลอร์หน้าผาก ฟิลเลอร์ใต้ตา ฟิลเลอร์จมูกและไหลเข้าสู่ดวงตาเนื่องจากเป็นเส้นเลือดบริเวณเดียวกัน

แต่ในปัจจุบันนี้ถือว่าพบได้น้อยมากๆแล้ว และยังมีโอกาสเกิดเพียงแค่หนึ่งในล้านเท่านั้น แต่ไม่ว่ายังไงก็ตามใครที่คิดจะทำการฉีดฟิลเลอร์ก็ควรศึกษาให้ดีก่อน และต้องระวังในการเลือกคลินิกอย่างมาก โดยทั่วไปแล้วผลข้างเคียงที่สามารถเกิดขึ้นได้จากการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามีดังนี้

1. เติมฟิลเลอร์ใต้ตามาแต่ทำไมใต้ตาถึงมีความคล้ำมากกว่าเดิม อาจจะเกิดจากเส้นเลือดบริเวณใต้ผิวหนังมีการฉีดขาด จึงทำให้ผิวบริเวณนั้นมีความคล้ำหรือมีสีเขียวเป็นรอยช้ำ แต่จะสามารถหายไปได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์

2. รอยช้ำบริเวณรอบดวงตา ซึ่งสาเหตุนี้จะเป็นผลข้างเคียงที่มักจะพบได้บ่อยที่สุด แต่สามารถหายได้เองภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากที่ได้ทำการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

3. อาการบวมบริเวณรอบๆ  ดวงตา ระหว่างนั้นห้ามทำการนวด กดหรือขยี้ตาเป็นเด็ดขาด เพราะอาจจะทำให้ฟิลเลอร์ใต้ตาเคลื่อนจากจุดที่ได้ทำการฉีด แต่ควรทำการประคบเย็นบ่อยๆ แทน จากนั้นอาการจะดีขึ้นภายใน 2 สัปดาห์

4. มีการอักเสบหรือติดเชื้อบริเวณรอบดวงตา แต่สิ่งนี้เป็นผลข้างเคียงที่พบได้น้อยจะมีอาการแสบๆร้อนๆ เจ็บปวดมากผิดปกติ หากมีอาการเหล่านี้ให้รีบไปพบแพทย์เพื่อทำการปรึกษาและหาวิธีการรักษาอย่างถูกวิธีในขั้นตอนต่อไป

5. มีความรู้สึกว่าบริเวณที่ได้ทำการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อน อาจจะเกิดขึ้นได้เนื่องจากฟิลเลอร์ยังไม่มีการเข้าที่ ควรที่จะทำการรอดูผลลัพธ์ต่อไปในอีก 2 สัปดาห์ บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์จะค่อยๆ เรียบขึ้น แต่ถ้าหากว่าฟิลเลอร์ยังมีความเป็นก้อนๆ อยู่ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อให้แพทย์หาสาเหตุว่าอาการดังกล่าวเกิดจากอะไร

ผลข้างเคียงจากการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้นานแค่ไหน
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้กี่เดือน และฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้นานไหมโดยปกติหากได้ทำการฉีดมาแล้วจะอยู่ได้อย่างน้อย 6 เดือนหรืออาจจะนานกว่านั้น แต่จะขึ้นอยู่กับเนื้อของฟิลเลอร์ว่าคนไข้ใช้ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหน รุ่นอะไร และยังรวมไปถึงพฤติกรรมในการใช้ชีวิตอีกด้วย หากคนไข้มีการดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ หรืออยู่ในที่ที่มีความร้อนเป็นประจำ การฉีดฟิลเลอร์มานั้นก็จะอยู่ไม่นานเท่าที่ควร เพราะฟิลเลอร์จะมีการสลายตัวเร็วมากกว่าเดิม

สรุปการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาดีจริงไหม
โดยรวมแล้วฟิลเลอร์ใต้ตาถือว่าเป็นหัตถการที่เมื่อได้รับการรักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จะมีความปลอดภัย และยังสามารถแก้ไขปัญหาผิวรอบดวงตาได้อย่างหลากหลาย คนที่สนใจควรทำการปรึกษาแพทย์ผิวหนังเฉพาะทางในด้านความสวยงามก่อนว่าปัญหารอบดวงตาที่เกิดขึ้นนั้นควรทำการรักษาแบบใด เพราะนอกจากfillerใต้ตาแล้ว ก็ยังมีการฉีดโบท็อก เลเซอร์ใต้ตา และการปลูกถ่ายเซลล์ไขมันอีกด้วย

สำหรับใครที่กำลังสนใจฟิลเลอร์ใต้ตาควรเลือกคลินิกให้ดี ทางคลินิกจะต้องมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยให้บริการอยู่ ต้องสะอาดและปลอดภัยเป็นหลักเพราะอาจจะมีการเกิดผลข้างเคียงต่างๆ ตามมา จากการแก้ไขปัญหาบริเวณรอบดวงตามีโอกาสที่จะติดเชื้อจากคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน การเติมใต้ตาผิดประเภทไม่เหมาะสมกับบริเวณนั้นจนไปถึงขั้นตาบอดได้

40
ซีรี่ย์เกาหลี

ซีรี่ย์เกาหลี 2024 แนะนำซีรีย์เกาหลีหลากหลายแนว หลากหลายอารมณ์ มีทั้งซีรี่ย์เกาหลีใหม่ และซีรีย์ระดับขึ้นหิ้ง และสามารถหาดูซีรี่ย์เกาหลีออนไลน์ออนไลน์ได้

Genre ของละคร หรือซีรี่ย์ในปัจจุบัน ไม่ได้มีแค่ความเป็นโรแมนติก คอเมดี้ หรือแอคชั่น ระทึกขวัญเพียงอย่างเดียว โดยเฉพาะ ซีรี่ย์เกาหลีที่เน้นองค์ประกอบของแนวต่าง ๆ ได้อย่างลงตัวมากขึ้น และเสิร์ฟเนื้อเรื่องที่เข้มข้น สะท้อนการเมืองและสภาพสังคมในปัจจุบันกับคนยุคใหม่ได้ ดังนั้น เราจะมาแนะนำ ซีรี่ย์เกาหลี 2024 ตอบโจทย์ทุกแนวที่อยากดูตั้งแต่ ซีรีย์เกาหลีโรแมนติก ไปจนถึง ซีรีย์เกาหลีย้อนยุค ที่การันตีว่าสนุกครบรส หาดูง่าย

แนะนำ 7 ซีรี่ย์เกาหลีมาแรง ทั้งเก่าและใหม่ล่าสุด ที่ไม่ควรพลาด

7 ซีรี่ย์เกาหลีที่เราจะแนะนำ จะมีทั้งซีรีย์ใหม่ รวมไปถึงซีรีย์เก่าที่หาดูผ่านออนไลน์ได้ ครอบคลุมทุกแนว โรแมนติกคอมเมดี้, แฟนตาซี, ระทึกขวัญ, ดราม่า เพื่อให้เราสามารถเลือกดูแนวซีรี่ย์เกาหลีที่ต้องการได้ พร้อมรีวิวและอธิบายเนื้อเรื่องคร่าว ๆ กับความน่าสนใจ ว่าทำไมเรื่องนี้ถือมีกระแส มีภาคต่อ และเป็นซีรี่ย์เกาหลีที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

1. Pyramid Game เกมพีระมิด

ซีรี่ย์เกาหลี pyramid game

ขอบคุณรูปภาพจาก viu

วันที่เข้าฉาย : 29 กุมภาพันธ์ 2567
นักแสดง : Bona, Jang Da A, Shin Seul K, Jung Ha Dami, Kang Na Eon
รีวิวเรื่องย่อ : Pyramid Game เกมพีระมิด ซีรี่ส์เกาหลี 2024 ที่น่าดูที่สุดในตอนนี้ ด้วยเนื้อเรื่องแนวดราม่า ระทึกขวัญ  เกี่ยวกับนักเรียนห้องห้า กับเกมสุดประหลาดอย่างเกมพีระมิด ที่จะมีโหวตคนแบบไม่แสดงชื่อในทุก ๆ เดือน เพื่อวัดผลให้คนที่ได้เกรดสูง จะเป็นผู้กดขี่คนที่เกรดต่ำกว่าตามลำดับชั้น และเกมสังคมที่เกิดขึ้น การเอาชีวิตรอดนั้น ใครกันคือผู้ชนะเกมนี้  เป็นซีรี่ส์เกาหลีที่สะท้อนสังคมของชนชั้น และการกลั่นแกล้งได้ตรง เข้าใจง่าย

2. Nothing Uncovered ปมร้อนซ่อนเงื่อน

ซีรี่ย์เกาหลีใหม่

ขอบคุณรูปภาพจาก viu

วันที่เข้าฉาย : 19 มีนาคม 2567
นักแสดง : Kim Ha Neul, Yeon Woo Jin, Jang Seung Jo
รีวิวเรื่องย่อ : ซอจองวอน นักข่าวสายบุก ผู้ไม่กลัวอำนาจมืดที่มีสามีชื่อว่า ซอลอูแจ นักเขียนนิยาย ซึ่งทั้งคู่ต่างมีชื่อเสียง และซอจองวอน จะต้องเข้าไปพัวพันกับคดีฆาตกรรม และพบเจอกับสามีเก่า ที่ทั้งเรื่องคือการเจอกับปมปริศนาที่เราไม่เข้าใจ เป็นซีรี่ย์เกาหลีใหม่ที่น่าสนใจในแง่ของการคลายปม ที่เมื่อเราเข้าใจบางสิ่ง แต่ก็จะมีปมที่น่าสงสัยเพิ่มเข้ามาอีก ซีรี่ย์เกาหลีเรื่องนี้เป็นแนวปริศนา ระทึกขวัญ กับความรักที่จะต้องลุ้นว่าสุดท้ายจะเป็นอย่างไร

3. LTNS (Long Time No Sex)

ดูซีรี่ย์เกาหลี

ขอบคุณรูปภาพจาก viu

วันที่เข้าฉาย : 19 มกราคม 2024
นักแสดง : Esom, Ahn Jae-hong
รีวิวเรื่องย่อ : ซีรี่ส์เกาหลีเนื้อหาแปลกใหม่ แนวเมโลดราม่า ที่มีความเหมาะสมกับผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กับคู่รักไร้เซ็กซ์ที่เริ่มระหองระแหง ความสัมพันธ์ที่กำลังจะดับ แต่กลับมาได้ด้วยธุรกิจใหม่ของทั้งคู่ กับการแบล็กเมลคู่รักที่มีปัญหาชู้หรือมือที่สาม ในขณะเดียวกัน ความสัมพันธ์และปมที่อยู่เบื้องลึกในจิตใจของทั้งสอง ก็เริ่มค่อย ๆ แสดงออกมาให้เห็น โดยการดูซีรีส์เกาหลีเรื่องนี้ ไม่ได้เจาะจงไปที่เรื่องเซ็กซ์ แต่พุ่งประเด็นไปที่ชีวิตคู่มากกว่า

4. Mr. Queen รักวุ่นวาย นายมเหสีหลงยุค

ซีรีย์เกาหลีย้อนยุค

ขอบคุณรูปภาพจาก viu

วันที่เข้าฉาย : 12 ธันวาคม 2020
นักแสดง : ชินฮเยซอน, คิมแทอู, คิมจองฮยอน, แบจงอ๊ก
รีวิวเรื่องย่อ : ซีรี่ย์เกาหลีพล็อตสุดปั่น ผสมผสานความโรแมนติกคอเมดี้อย่างลงตัว เรื่องราวของ บงฮวานชายผู้มีชีวิตพลิกผัน ดันเข้ามาอยู่ในร่างของคิมโซยง ราชินีในยุคโชซอน ที่ต้องปรับตัวและพบเจอกับสถานการณ์ความรักปลอม ๆ ระหว่างเธอกับพระเข้าชอลจง เป็นซีรีย์เกาหลีย้อนยุคที่กลมกล่อม และเหมาะกับทุกเพศทุกวัย ความตลกคอเมดี้ในเรื่องแต่ละส่วนก็ทำออกมาได้น่ารัก อมยิ้มกันไปตาม ๆ กัน เป็นซีรี่ย์เกาหลีที่ดูแล้วผ่อนคลาย

5. Something in the Rain

ซีรีย์เกาหลีโรแมนติก

ขอบคุณรูปภาพจาก viu

วันที่เข้าฉาย : 30 มีนาคม 2018
นักแสดง : Son Ye Jin, Jung Hae In, Jang So Yeon
รีวิวเรื่องย่อ : จินอาหญิงสาวอายุ 30+ เล่าชีวิตของสาวในร้านแฟรนไชส์กาแฟกับคนรอบตัว พบเจอกับจุนฮีหนุ่มน้อยน้องชายของเพื่อน เป็นซีรีย์เกาหลีโรแมนติก ที่พูดถึงความสัมพันธ์ต้องห้าม ความรักต่างวัยที่ทำถึง และมอบความอบอุ่นหัวใจไม่น้อย ทั้งเคมีของพระนางที่ตัวซีรี่ส์เกาหลีเรื่องนี้ ออกแบบสถานการณ์และความสัมพันธ์ที่ทำให้เราตกหลุมรัก แต่ก็ไม่ทิ้งปมชีวิตที่ทำให้ตัวละครแบนราบ กับซีรี่ส์เกาหลีที่เสิร์ฟความเป็นธรรมชาติ

6. The Escape of the Seven เกมล้างบาป ชีวิตแลกชีวิต

ซีรี่ย์เกาหลี แนะนํา

ขอบคุณรูปภาพจาก viu

วันที่เข้าฉาย : 15 กันยายน 2023
นักแสดง : Uhm Ki Joon, Hwang Jung Eum, Lee Yu Bi, Lee Joon, Shin Eun Kyung
รีวิวเรื่องย่อ : ซีรี่ย์เกาหลีที่รับชมได้เฉพาะใน Viu เท่านั้น กับเรื่องราวของเด็กสาวที่สูญหาย นำไปสู่การเชื่อมโยงของคน 7 คนที่ต้องมารวมตัวและพบเจอกับเรื่องราวสุดระทึกขวัญ และการดำดิ่งไปสู่ความเป็นมนุษย์และนำไปสู่การสูญสิ้นความเป็นมนุษย์ในคราวเดียวกัน ถือเป็นซีรี่ย์เกาหลี แนะนำที่มีทั้งความระทึก มีสืบสวนสอบสวน และที่สำคัญที่สุด The Escape of the Seven: Resurrection ซีรีย์ภาคใหม่ก็กำลังจะมา เตรียมตัวดูไว้ก่อนได้เลย

7. The Story of Park's Marriage Contract สัญญารักข้ามเวลา 

ซีรี่ย์เกาหลี ดูฟรี

ขอบคุณรูปภาพจาก viu

วันที่เข้าฉาย : 24 พฤศจิกายน 2023
นักแสดง : Bae In Hyuk, Lee Se Young, Yoo Seon Ho, Joo Hyun Young,
รีวิวเรื่องย่อ : ยอนอู หญิงสาวที่ถูกลักพาตัวไปโยนลงบ่อน้ำหลังสามีของเธอจากไปหลังคืนแต่งงาน และเมื่อเธอตื่นมา ก็พบว่าตัวเองอยู่ในโลกปัจจุบัน และได้ไปพบกับชายที่หน้าตาละม้ายเดียวกันกับสามีของเธอ เหตุการณ์อลมานได้เกิดขึ้น กลายเป็นการแต่งงานปลอม ๆ ที่ต้องคอยเอาใจช่วยทั้งคู่ต่อไป ถือเป็นซีรี่ย์เกาหลีเกิดใหม่ในแบบครบสูตรความโรแมนติก และตัวซีรี่ย์เป็นออริจินัล Viu สามารถหาซีรี่ย์เกาหลี ดูฟรีเรื่องนี้ได้ จิกหมอนดูได้เลย

สรุป ซีรี่ย์เกาหลี ใช้เวลาว่างกับความสุขเต็มอารมณ์

โดยภาพรวมแล้วซีรี่ย์เกาหลีที่ได้แนะนำในทั้งตัวที่กำลังฉายในปัจจุบัน, จบไปแล้ว หรือกำลังจะมีภาคต่อที่กำลังจะมาในปีนี้ สามารถหาดูได้ง่าย และดูผ่านมือถือ หรือสมาร์ตทีวีได้ ซีรี่ย์เกาหลีออนไลน์มีหลากหลายแนว ทั้งระทึกขวัญ ไปจนถึงคอเมดี้เบาสมอง เป็นทางเลือกในวันหยุดที่ต้องการพักผ่อนหาอะไรทำไม่ได้ ซีรี่ย์เกาหลีถือว่าตอบโจทย์วันสบาย สามารถทำกับครอบครัว หรือคู่รัก ดูจบก็มีเรื่องให้ถกให้พูดคุยกันต่อ

41
น้ำเกลือ

ปัจจุบันน้ำเกลือ (Normal Saline Solution ) หรือ น้ำเกลือใช้ภายนอก เป็นยาสามัญประจำบ้านที่หลายๆท่านรู้จักอย่างแพร่หลาย ที่สามารถช่วยล้างทำความสะอาดบาดแผลจากอุบัติเหตุ ยังช่วยทำความสะอาดสิ่งตกค้าง สิ่งสกปรกต่างๆบริเวณรอบบาดแผลให้สะอาด ทั้งในปัจจุบันยังสามารถช่วยในการทำความสะอาดจมูกของเด็กเล็กขณะเป็นไข้หวัด แม้แต่ช่วยทุเลาอาการคัดจมูกเรื้อรัง อาการไซนัสในผู้ใหญ่ เพื่อช่วยขจัดสิ่งอุดตันในโพรงจมูกให้รู้สึกหายใจได้สะดวกยิ่งขึ้น

แต่ประโยชน์ของน้ำเกลือ มีเพียงเท่านี้จริงไหม วันนี้เราไขความลับประโยชน์ต่างๆของน้ำเกลือ ตามบทความดังต่อนี้กันเถอะ

ทำความรู้จักกับน้ำเกลือ น้ำเกลือ คืออะไร?

น้ำเกลือ (Normal Saline Solution ) หรือ น้ำเกลือใช้ภายนอก คือ สารละลายโซเดียมคลอไรด์ 0.9 % ที่หาซื้อได้ตามร้านค้า ร้านขายยาทั่วไป ปราศจากเชื้อ ไม่มีสี ซึ่งใช้ในทางการแพทย์มายาวนาน เนื่องจากมีความเข้มข้นของสารละลายของเกลือภายในร่างกายของคน จึงเป็นที่นิยมใช้ในการผสมยาเข้าสู่กระแสเลือด รวมทั้งสามารถใช้ทำความสะอาดบาดแผล ยับยั้งป้องกันการเติบโตของแบคทีเรีย

น้ำเกลือสามารถใช้แบบไหนได้บ้าง

ประโยชน์น้ำเกลือ

สามารถใช้น้ำเกลือได้ดังต่อไปนี้

1. ใช้น้ำเกลือในการล้างบาดแผล ล้างแผลผ่าตัด ไม่ว่าจะเป็นบาดแผลสดจากอุบัติเหตุ หกล้ม โดยไม่กัดผิว
2. ใช้น้ำเกลือในการล้างคอนแทคเลนส์ สามารถใช้ทำความสะอาดสิ่งสกปรก เพื่อช่วยลดการระคายเคือง แต่ห้ามนำน้ำเกลือแช่แทนน้ำยาคอนแทคเลนส์เด็ดขาด
3. ใช้น้ำเกลือในการล้างดวงตา หากฝุ่น ผง เข้าตา สามารถนำน้ำเกลือที่ผ่านการฆ่าเชื้อทำความสะอาดดวงตาโดยไม่เป็นอันตรายต่อดวงตานั้นเอง
4. ใช้น้ำเกลือในการล้างจมูกในเด็ก และผู้ใหญ่ เพื่อชำระล้างเชื้อโรค แบคทีเรียที่อยู่ในโพรงจมูก ลดการคัดแน่นจมูก ลดความเหนียวจากน้ำมูกในเด็กเล็กจากอาการหวัดต่างๆ เพิ่มความชุ่มชื้นในเยื่อจมูก แม้แต่ลดอาการคัดจมูกจากอาการไซนัสในผู้ใหญ่ เพื่อให้หายใจได้สะดวกมากยิ่งขึ้นนั้นเอง
5. ใช้น้ำเกลือในการล้าง /บ้วนปาก เพื่อช่วยลดอาการร้อนใน ลดกลิ่นปาก เหมาะผู้ที่มีแผลในปากบ่อยๆจากการจัดฟัน
6.ใช้น้ำเกลือในการล้าง หรือเช็ดความสะอาดใบหน้า เพื่อขจัดสิ่งสกปรกจากฝุ่น อากาศจากภายนอก เพื่อลดการระคายเคือง เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหน้าได้อีกด้วย

วิธีการใช้น้ำเกลือ

  • การดูแลผิวหน้า  : สามารถใช้น้ำเกลือทำความสะอาดใบหน้า โดยใช้เป็นโทนเนอร์หลังการล้างหน้าได้ หยดน้ำเกลือลงบนสำลีพอให้ชุ่ม แล้วจึงเช็ดทำความสะอาดทั่วบริเวณผิวหน้า ตามด้วยผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอื่นๆได้ตามต้องการ

  • การทำความสะอาดบาดแผล
    1. หากเป็นบาดแผลทั่วไป สามารถใช้น้ำเกลือทำความสะอาดบริเวณรอบๆบาดแผล รวมทั้งบริเวณแผลให้สะอาดแล้วจึงปิดบาดแผล
    2.หากเป็นบาดแผลผ่าตัด ส่วนใหญ่แผลผ่าตัดทางแพทย์หรือพยาบาลจะทำการปิดบาดแผล ไม่ให้ท่านเกา/แคะบริเวณแผล แต่ท่านสามารถนำน้ำเกลือมาทำความสะอาดบริเวณรอบบาดแผลเพื่อลดการระคายเคือง รักษาความสะอาดรอบบาดแผลได้นั้นเอง

  • การใช้น้ำเกลือเพื่อทำความสะอาดจมูก : สามารถนำน้ำเกลือใส่หลอดฉีดยา (Syringe) ตามขนาดที่ต้องการ โดยฉีดน้ำเกลือเบาๆให้ไหลเข้าไปในโพรงจมูก ช่วยให้ชะล้างน้ำมูก สิ่งสกปรกต่างๆให้ออกมาได้

น้ำเกลือมีอันตรายหรือไม่ แล้วมีผลข้างเคียงไหม

ในกรณีที่ท่านใช้น้ำเกลือเพื่อทำความสะอาดใบหน้า รวมทั้งผู้ที่เป็นสิว การใช้น้ำเกลือทำความสะอาดอาจจะทำให้เกิดการระคายเคืองผิวสำหรับผู้มีผิวบอบบางแพ้สิ่งต่างๆง่าย หรือผู้มีผิวแห้งที่ส่งผลให้เกลือตกค้างบนใบหน้าได้ ดังนั้นควรใช้น้ำเกลือทำความสะอาดในช่วงบริเวณที่เป็นสิว เพื่อให้สิวเกิดการยุบตัวลงได้ หลังจากสิวในบริเวณนั้นหายควรหยุดใช้ทันที

ข้อควรระวังในการใช้น้ำเกลือคืออะไร ?

ข้อควรระวังในการใช้น้ำเกลือล้างแผล ควรอ่านฉลากของผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทุกครั้ง พร้อมบันทึกวันที่เปิดใช้ เนื่องจากเมื่อเปิดใช้น้ำเกลือแล้ว อาจจะมีแบคทีเรีย / เชื้อโรคที่สะสมในอากาศได้เข้าไปในผลิตภัณฑ์ที่บรรจุน้ำเกลือได้ หากท่านมีอาการบวมแดง เจ็บบริเวณแผล พร้อมกับมีหนองไหลออกจากบาดแผล ซึ่งอาจจะมีสิ่งแปลกปลอมติดอยู่ในบริเวณแผลได้ ท่านควรรีบเข้าพบแพทย์ในทันทีเพื่อรับการรักษาเพิ่มเติม

เราสามารถกินน้ำเกลือได้หรือไม่

หากในกรณีท่านล้างจมูกแล้วเกิดการสำลัก ทั้งอาจจะเผลอกินน้ำเกลือเข้าไป คงมีคำถามที่ค้างคาว่าน้ำเกลือจะส่งผลให้เกิดอันตรายต่อร่างกายหรือไม่นั้น

คำตอบ ก็คือ ไม่ส่งผลอันตรายใดๆต่อร่างกายค่ะ เนื่องจากน้ำเกลือมีตัวยาโซเดียมคลอไรด์ 0.9 % ซึ่งมีความเข้มข้นเท่ากับน้ำในเซลล์ของร่างกาย และน้ำเกลือยังผ่านการทำให้ปลอดเชื้อจากความร้อน จึงไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายนั้นเอง

สามารถน้ำเกลือใช้ล้างตาได้ไหม ?

น้ำเกลือใช้ล้างตาได้ไหม

สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ใช้ล้างตานั้น สามารถใช้ได้ทั้งน้ำยาล้างตา หรือน้ำเกลือได้ แต่ควรต้องเป็นผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากเชื้อ พร้อมทั้งไม่เติมวัตถุกันเสีย โดยมีคุณภาพมาตรฐานความปลอดภัย เพื่อไม่ให้เกิดการระคายเคืองดวงตาได้นั้นเอง

  • น้ำเกลือ สามารถใช้ได้ในกรณีหากมีสิ่งแปลกปลอม / สารเคมีกระเด็นเข้าตา
  • น้ำยาล้างตา สามารถใช้ได้ในกรณีมีอาการตาแดง ตาอักเสบ เคืองตา จากฝุ่นควัน ฝุ่นผง สิ่งสกปรกเข้าที่ตา

สามารถทำน้ำเกลือ ด้วยตนเองได้ไหม?

หากท่านต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย ท่านสามารถทำน้ำเกลือที่สามารถใช้ในการล้างจมูกได้ค่ะ โดยมีสูตรและวิธีทำง่ายๆดังต่อไปนี้

  • ส่วนประกอบ : น้ำต้มสุก/น้ำสะอาด 500 ซีซี(ประมาณครึ่งลิตร) , เกลือสะอาด 1 ช้อนชา และอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับใช้ฉีดน้ำเกลือล้างจมูก รวมทั้งอุปกรณ์เก็บน้ำเกลือ
  • วิธีทำ : ใส่เกลือสะอาด 1 ช้อนชา ลงในน้ำต้มสุก /น้ำสะอาด 500 ซีซี แล้วคนให้เข้ากัน จนกว่าเกลือที่ผสมลงไปจะละลาย แล้วจึงเทใส่อุปกรณ์ที่ต้องการใช้ แล้วล้างจมูกได้เลยค่ะ

ในส่วนของการทำน้ำเกลือเพื่อล้างแผลท่านสามารถทำได้เช่นเดียวกับการทำน้ำเกลือล้างจมูก เพียงใช้ น้ำต้มสุก/น้ำสะอาด ประมาณ 3.8 ลิตร(ห้ามใช้น้ำทะเล / น้ำบาดาลในการทำ) ต้มจนสุกประมาณ 5 นาที แล้วจึงเทเกลือบริสุทธิ์ 8 ช้อนชา คนให้เกลือละลาย โดยน้ำเกลือสำหรับล้างแผลจะมีอายุใช้งานได้ประมาณ 1 สัปดาห์ค่ะ (เก็บในอุณหภูมิปกติ)

น้ำเกลือที่ได้รับความนิยมในท้องตลาด มียี่ห้อไหนกันบ้าง

น้ำเกลือ (normal saline solution) มีด้วยกันหลากหลายยี่ห้อ ที่มีความปลอดภัยตามมาตรฐาน และอ่อนโยนตามท้องตลาดทั่วไป จะมียี่ห้อไหนบ้างที่ได้รับความนิยม ซึ่งมีดังต่อไปนี้

1. น้ำเกลือของ KLEAN & KARE

น้ำเกลือยี่ห้อ KLEAN & KARE

ขอบคุณภาพจาก klean and kare

รายละเอียด : น้ำเกลือปราศจากเชื้อ ผสมตัวยาโซเดียมคลอไรด์ 0.9%   มีอายุการใช้งาน 5 ปี (หากยังไม่เปิดใช้งาน) ในกรณีเปิดใช้งานมีอายุการใช้งานสูงสุด 30 วันนับจากวันที่เปิดครั้งแรก สามารถใช้ทำความสะอาดแผล ล้างจมูก ทำความสะอาดใบหน้า
ขนาดบรรจุ :  100 มล. / 200 มล. / 500 มล. / 1,000 มล.

2. น้ำเกลือของ Sofclens

น้ำเกลือยี่ห้อ Sofclens
ขอบคุณภาพจาก watsons

รายละเอียด : น้ำเกลือซอฟคลีน ผลิตโดยผ่านกระบวนการสเตอริไลส์ ปราศจากเชื้อ สามารถใช้ล้างจมูก ล้างตา
ขนาดบรรจุ :  100 มล. / 500 มล. / 1,000 มล.

3. น้ำเกลือของ Otsuka Seishoku Normal Saline 

น้ำเกลือยี่ห้อ Otsuka Seishoku

ขอบคุณภาพจาก theasianparent

รายละเอียด : น้ำเกลือของโอซูก้า เซโชกุ สามารถนำมาล้างจมูก เช็ดทำความสะอาดใบหน้า รักษา ช่วยลดการติดเชื้อจากบาดแผลได้
ขนาดบรรจุ : 1000 มล.

4. น้ำเกลือล้างแผล ตราเสือดาว  ห้างขายยาตราเสือดาว

น้ำเกลือตราเสือดาว ห้างขายยาตราเสือดาว

ขอบคุณภาพจาก shopee

รายละเอียด : น้ำเกลือตราเสือดาว  ช่วยทำความสะอาดบาดแผล โพรงจมูก
ขนาดบรรจุ : 120 มล. / 200 มล.  /  500 มล.

ราคาน้ำเกลือจะอยู่ที่เท่าไหร่
ราคาของน้ำเกลือ (normal saline solution) จะขึ้นอยู่กับขนาดของขวดบรรจุภัณฑ์  ตามแต่ละแหล่งที่ขายน้ำเกลือนั้นๆ ซึ่งแบ่งตามขนาดบรรจุได้ดังนี้
 
  • น้ำเกลือ (normal saline solution) ขนาด 100 มล. ราคาตามร้านขายยาทั่วไป ประมาณ 25 - 30 บาท
  • น้ำเกลือ (normal saline solution) ขนาด 200 มล.  ราคาตามร้านขายยาทั่วไป ประมาณ 35 - 40 บาท
  • น้ำเกลือ (normal saline solution) ขนาด 500 มล.  ราคาตามร้านขายยาทั่วไป ประมาณ 45 – 50 บาท
  • น้ำเกลือ (normal saline solution) ขนาด 1000 มล. ราคาตามร้านขายยาทั่วไป ประมาณ 55 – 65 บาท

สรุป

จะเห็นว่าน้ำเกลือมีประโยชน์ที่สามารถใช้สอยได้อย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการทำความสะอาดบาดแผล การทำความสะอาดใบหน้า ทั้งในผู้ที่เป็นสิว หรือแม้แต่การล้างจมูกในเด็กเล็ก และผู้ใหญ่  แต่อย่างไรก็ดีหากเปิดใช้น้ำเกลือจากผลิตภัณฑ์แล้วควรเขียนวันที่เปิดใช้งานครั้งแรก ซึ่งสามารถช่วยให้ท่านคำนวณวันหมดอายุของน้ำเกลือที่ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้นเอง

42
 ความรู้ทางการเงิน

เงินทองถือว่าเป็นสินทรัพย์ที่ใช้จ่ายเป็นประจำทุกวัน หากใช้จ่ายอย่างไม่ระวังก็อาจจะเกิดปัญหาตามมาได้ จนทำให้บางคนล้มละลายได้เลยทีเดียว ดังนั้น ความรู้ทางการเงินจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะจะช่วยให้ทุกคนมีความรู้ ความเข้าใจ สามารถบริหารจัดการการเงินได้อย่างมั่นใจ พร้อมทั้งช่วยลงทุน เพิ่มผลประกอบการอย่างมั่นคง เลือกกู้ยืมสินเชื่อได้เหมาะสมกับตนเอง เข้าใจสิทธิการลดหย่อนภาษี ทำให้สามารถวางแผนการเงินส่วนตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ความหมายและความสำคัญของความรู้ทางการเงิน

Financial literacy คือ

ความรู้ทางการเงินถือว่าเป็นสิ่งสำคัญในปัจจุบัน ที่จะช่วยให้สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมั่นคง เพราะเรื่องการเงิน ไม่ได้สำคัญเพียงแค่การออมเงิน แต่ยังรวมถึงโครงสร้างและการบริหารจัดการต่าง ๆ อีกด้วย

ความรู้ทางการเงิน หมายถึงอะไร?
ความรู้ทางการเงินหรือ Financial literacy คือ ความรู้ ความเข้าใจ และทักษะการบริหารจัดการทางด้านการเงิน เพื่อให้สามารถวางแผนการเงินส่วนตัวในการดำเนินชีวิตได้อย่างราบรื่น และเตรียมความพร้อมทางการเงินในอนาคต ลดปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นอย่างการสร้างหนี้ เพราะหากไม่เตรียมความพร้อมให้ดี หรือมีความรู้ด้านการเงินไม่มากพอก็อาจจะทำให้มีปัญหากู้ยืมในภายหลังได้ เช่น

  • การจัดทำงบประมาณใช้จ่าย
  • การเลือกลงทุนในกองทุนหรือสินทรัพย์ต่าง ๆ
  • การตัดสินใจกู้ยืมเงิน
  • การจัดทำภาษี
  • การบริหารจัดการการเงินส่วนตัว
  • การใช้ผลิตภัณฑ์ทางการเงินประเภทต่าง ๆ เช่น บัตรเครดิต สินเชื่อ ประกันชีวิต เป็นต้น

ดังนั้น การมีความรู้ทางการเงินจะช่วยให้สามารถบริหารจัดการ ตัดสินใจเกี่ยวกับทางการเงินได้อย่างละเอียด รอบคอบ ทำให้ชีวิตมีสุขภาพทางการเงินที่แข็งแรง มั่นคง และยั่งยืน

ความรู้ทางการเงินสำคัญอย่างไร?
เงินเป็นปัจจัยสำคัญในชีวิตประจำวัน ดังนั้น ความรู้ทางการเงินจึงเป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน เพราะส่งผลต่อการดำเนินชีวิตในปัจจุบัน รวมถึงความเสี่ยงทางการเงินที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตอีกด้วย โดยสามารถสรุปความสำคัญของความรู้เรื่องการเงินได้ ดังนี้

  • ความรู้ทางการเงินช่วยในการวางแผนชีวิตและตั้งเป้าหมายทางการเงิน เพราะการมีแผนทางการเงินที่ดี ทำให้มีการบริหารจัดการทางการเงินที่ดี ส่งผลให้มีโอกาสบรรลุเป้าหมายได้สำเร็จมากขึ้นและเร็วขึ้น
  • ความเข้าใจเกี่ยวกับการลงทุนและการบริหารจัดการเงินที่ถูกต้องจากความรู้ทางด้านการเงินจะช่วยลดความเสี่ยงและป้องกันการสูญเสียเงินอย่างไม่คาดคิด
  • ความรู้เรื่องการเงินเบื้องต้นช่วยให้เข้าใจเกี่ยวกับวิธีการจัดการหนี้ ทำให้สามารถกำจัดหนี้ โดยใช้แผนทางการเงินที่เหมาะสม ป้องกันไม่ให้หนี้กลายเป็นภาระทางการเงิน
  • ความรู้ทางการเงินช่วยในการเลือกลงทุนได้อย่างเหมาะสม เพื่อสร้างทรัพย์สินและเพิ่มมูลค่าทางการเงินในระยะยาว
  • ความรู้การเงินช่วยให้ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับการทำประกันชีวิตและประกันสุขภาพ ซึ่งถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดความเสี่ยงทางการเงินที่อาจจะเกิดขึ้น เนื่องจากเหตุการณ์ฉุกเฉินหรืออาการเจ็บไข้ได้ป่วย
  • การวางแผนการเงินส่วนตัวด้วยความรู้ทางการเงิน ทำสามารถจัดการกับเหตุการณ์ทางการเงินที่ไม่คาดคิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ความรู้ด้านการเงินช่วยในการปรับตัวและตอบสนองต่อเปลี่ยนแปลงทางการเงินที่อาจเกิดขึ้น เช่น การตกงาน, การเปลี่ยนงาน, การเปลี่ยนแปลงในสถานะครอบครัว
  • ความรู้ทางการเงินทำให้ตัดสินใจเกี่ยวกับการทำธุรกรรมทางการเงินได้ดีขึ้น สร้างนิสัยให้สามารถใช้เงินได้อย่างถูกต้อง
  • เข้าใจเกี่ยวกับหนี้สิน จึงสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น หรือไม่สร้างหนี้เสีย

เมื่อทุกคนมีความรู้ทางการเงินแล้ว ก็จะทำให้สังคมเกิดความเข้มแข็ง ด้วยทุกคนสามารถบริหารจัดการใช้เงินเป็น เลี้ยงดูตัวเองได้ในสถานการณ์ต่าง ๆ เป็นการเพิ่มคุณภาพชีวิตและสร้างสุขภาพทางการเงินที่มั่นคง ทั้งต่อตนเองและสังคมในระยะยาว

องค์ประกอบของความรู้ทางการเงิน

ความรู้ด้านการเงิน

ความรู้ทางการเงินประกอบด้วยหลายองค์ประกอบหลักที่ช่วยให้บุคคลสามารถบริหารจัดการเงินส่วนตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยองค์ประกอบหลักของ Financial literacy คือ

1. การจัดทำงบประมาณ (Budgeting) เป็นความรู้ทางการเงินขั้นพื้นฐาน เพราะเป็นการตรวจสอบสถานะการเงินของตนเองอย่างละเอียด โดยทำเป็นแผนการใช้จ่ายเงินในแต่ละรายการตามรายได้ที่มี เพื่อให้การบริหารเงินเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการจัดทำงบประมาณนี้ แบ่งออกเป็น ส่วนหลัก คือ งบค่าใช้จ่าย งบในการลงทุน งบในการออม และงบในการให้ (บริจาค) ซึ่งมีวิธีบริหารจัดการตามความรู้การเงิน คือ ใช้เงินในการชำระหนี้เสียก่อน แล้วจึงนำเงินที่เหลือมาใช้ ก่อนจะเก็บออม และลงทุนตามลำดับ

2.การลงทุน (Investing) เป็นอีกองค์ประกอบสำคัญของความรู้ทางการเงิน เพราะการลงทุน คือ การสร้างความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว ดังนั้น ก่อนลงทุนจึงควรศึกษารายละเอียดให้ดี เพราะการลงทุนเองก็มีความเสี่ยงด้วยเช่นกัน หากเตรียมความพร้อมมาดี ก็ช่วยเพิ่มพูนเงินที่มีอยู่ได้ โดยข้อควรรู้เกี่ยวกับการลงทุน คือ อัตราดอกเบี้ย ระดับราคา การกระจายความเสี่ยง การกระจายการลงทุน และดัชนีต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง

3.การกู้ยืม (Loan) เป็นความรู้เรื่องการเงินเบื้องต้น ซึ่งจะต้องทราบเกี่ยวกับรายละเอียดของดอกเบี้ยประเภทต่าง ๆ เช่น ดอกเบี้ยคงที่ ดอกเบี้ยลอยตัว ดอกเบี้ยทบต้น  รวมถึงข้อตกลงในการกู้ยืม และระยะเวลาการจ่ายหนี้คืน โดยสิ่งเหล่านี้ เป็นสาระสำคัญที่ต้องพิจารณาเงื่อนไขให้ดีก่อนตกลงกู้ยืม ว่า ตนเองสามารถผ่อนชำระหรือปิดหนี้ภายในระยะเวลาที่กำหนดหรือไม่ เมื่อเงินต้นรวมกับอัตราดอกเบี้ยแล้ว เป็นเงินก้อนที่สามารถชำระไหวหรือไม่

4.การเข้าใจเกี่ยวกับภาษี (Tax Knowledge) โดยความรู้ทางการเงินจะอธิบายเกี่ยวกับความรู้ในการจ่ายภาษี การคำนวณภาษีเงินได้จากงานประจำหรือช่องทางอื่น เช่น ค่าเช่า เงินรางวัล รายได้เสริม รวมถึงภาษีประเภทต่าง ๆ เช่น ภาษีมรดก ภาษีที่ดิน และสิทธิในการลดหย่อนภาษีต่าง ๆ เช่น เงินบริจาค การทำประกัน การดูแลบิดามารดาหรือบุตร เป็นต้น เพราะความรู้การเงินเหล่านี้ จะช่วยให้ใช้สิทธิ์ในการลดหย่อนได้อย่างเต็มที่ ทำให้มีเงินเหลือสำหรับเก็บออมมากขึ้น

5.การวางแผนการเงินส่วนตัว (Financial Planning) เป็นทักษะในการบริหารการเงินส่วนตัว เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพจากความรู้ทางการเงินในด้านต่าง ๆ ทำให้สามารถใช้ชีวิตทางการเงินได้อย่างมั่นคงและเหมาะสม ครบวงจรทางการเงิน เริ่มตั้งแต่ประเมินสถานะทางการเงินของตนเอง ลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น ออมเงินให้มากขึ้นด้วยการลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ อย่างมีความรู้ หากต้องการกู้ยืมก็จะพิจารณาและตัดสินใจเลือกสินเชื่อได้อย่างเหมาะสมกับบริบทการเงินของตนเอง พร้อมทั้งใช้สิทธิในการลดหย่อนภาษีอย่างคุ้มค่า

นอกเหนือจาก 5 องค์ประกอบหลักของความรู้ทางการเงินข้างต้นแล้ว ยังมีรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับความรู้เรื่องการเงินเบื้องต้นอีก ได้แก่
 
  • การจัดการหนี้ (Debt Management) เป็นความรู้ทางการเงินที่ช่วยให้สามารถวางแผนการเงินได้อย่างมั่นคง โดยจะต้องทราบยอดหนี้ทั้งหมด พร้อมตรวจสอบดอกเบี้ยและเงื่อนไขการชำระหนี้แต่ละรายการ กำหนดวัตถุประสงค์ของการจัดการหนี้ให้ชัดเจน เช่น ปิดหนี้ในระยะเวลาที่กำหนด ปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้เงิน หรือการปรับโครงสร้างหนี้ แล้วจึงลำดับความสำคัญและวางแผนการชำระหนี้ในแต่ละเดือน หมั่นกำกับติดตามผลการวางแผน เพื่อให้สามารถปรับแผนได้ตามสถานการณ์การเงินในแต่ละช่วงเวลา
  • การออม (Saving) เป็นขั้นตอนสำคัญในการสร้างเสถียรภาพทางการเงินตามความรู้ด้านการเงิน เริ่มจากการกำหนดวัตถุประสงค์ของการออมที่ชัดเจน เช่น เพื่อการศึกษา การท่องเที่ยว กรณีฉุกเฉิน แล้วกำหนดจำนวนเงินที่ต้องการออมในแต่ละรอบ โดยเลือกช่องทางการออมให้เหมาะสมกับบริบทของตนเอง เช่น บัญชีออมทรัพย์ การลงทุน หรือกองทุนสำรองฉุกเฉิน
  • การประกัน (Insurance) เป็นอีกหนึ่งความรู้ทางการเงินที่สำคัญ เพราะการทำประกันเป็นการปกป้องตัวเองและครอบครัวจากความเสี่ยงทางการเงินจากสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด ทั้งอุบัติเหตุและอาการเจ็บป่วย เริ่มจากพิจารณาความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น แล้วเลือกประกันที่ตรงกับความเสี่ยงและความต้องการ ไมว่าจะเป็นประกันสุขภาพ, ประกันชีวิต หรือประกันรถ โปรดตรวจสอบเงื่อนไขการชำระเงิน, ระยะเวลาคุ้มครอง และความคุ้มครองที่ได้รับ เพื่อให้เกิดความคุ้มค่ามากที่สุด
  • การเข้าใจเกี่ยวกับการเตรียมสำรองเงิน (Emergency Fund) เป็นส่วนสำคัญของความรู้เรื่องการเงิน เพื่อป้องกันตนเองจากสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด เพื่อเตรียมพร้อมทางการเงินในกรณีฉุกเฉิน เช่น การตกงาน ค่ารักษาพยาบาล หรือค่าซ่อมบำรุงฉุกเฉินในบ้าน เริ่มจากกำหนดจำนวนเงินสำรอง โดยใช้สัดส่วนเป็นรายจ่ายประจำประมาณ 3 - 6 เดือน พิจารณาจากรายจ่ายประจำในแต่ละเดือน เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าที่พัก ค่าเดินทาง ค่าอาหาร แล้วสำรองเงินไว้ในบัญชีที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายและไม่มีความเสี่ยง สิ่งสำคัญ คือ ใช้เงินสำรองเฉพาะในกรณีฉุกเฉินจริง ๆ ไม่นำออกมาใช้จ่ายฟุ่มเฟือย
  • การปรับตัวต่อเปลี่ยนแปลงทางการเงิน สำหรับความรู้ทางการเงิน คือ การทราบถึงสถานการณ์การเงินในปัจจุบัน สามารถปรับแผนการเงินได้ตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปไม่ว่าจะเป็นเพราะหน้าที่การงาน ครอบครัว หรือเศรษฐกิจต่าง ๆ ทำให้สามารถการเรียนรู้และพัฒนาทักษะในการบริหารเงินได้อย่างมั่นคงในทุกสถานการณ์

ความรู้ทางการเงินกับการแก้ปัญหาทางการเงิน

ความรู้เรื่องการเงิน

การมีความรู้ทางการเงินช่วยแก้ปัญหาทางการเงินได้อย่างเห็นผล ทำให้สามารถใช้เงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถอธิบายประโยชน์ของความรู้ด้านการเงิน เช่น

  • ความรู้ทางการเงินช่วยวางแผนการเงินส่วนตัวและการกำหนดเป้าหมายทางการเงิน ทำให้สามารถควบคุมการใช้จ่ายได้เป็นอย่างดี
  • ความเข้าใจเกี่ยวกับหนี้ของความรู้เรื่องการเงิน ทำให้สามารถบริหารจัดการหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ  อีกทั้งยังช่วยลดความเครียดทางการเงินที่เกิดขึ้นจากหนี้สินได้อีกด้วย
  • ความรู้ทางด้านการเงินช่วยให้ลงทุนอย่างมีสติ โดยเลือกลงทุนในทรัพย์สินที่เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ทางการเงินและระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
  • ช่วยให้เข้าใจถึงความสำคัญของการมีเงินสำรอง เพื่อป้องกันสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดต่าง ๆ
  • ความรู้ทางการเงินช่วยให้สามารถปรับตัวและตอบสนองต่อสถานการณ์ทางการเงินที่เปลี่ยนแปลงได้เป็นอย่างดี
  • ช่วยในการเลือกทำประกันที่เหมาะสมเพื่อป้องกันความเสี่ยงทางการเงินที่อาจเกิดขึ้นตามบริบทของแต่ละคน
  • ความรู้ทางการเงินทำให้เข้าใจถึงหลักการการลงทุนและการคำนวณความเสี่ยงช่วยลดความเสี่ยงทางการเงินในการลงทุน
  • ความรู้เรื่องการเงินเบื้องต้นช่วยในการวางแผนทางภาษี เพื่อใช้สิทธิลดหย่อนภาษีที่ต้องชำระ

สรุปเกี่ยวกับความรู้ทางการเงิน
ความรู้ทางการเงินหรือ Financial literacy คือ ความรู้ ความเข้าใจ และทักษะการบริหารจัดการทางด้านการเงินอย่างครบวงจร ตั้งแต่จัดทำงบประมาณ การลงทุน กู้ยืม ภาษี และวางแผนการบริหารเงินส่วนตัว หากใครต้องการศึกษาความรู้เพิ่มเติม สามารถดาวน์โหลด MAKE by KBank ซึ่งเป็นแอปที่ใช้ออมเงินด้วยฟีเจอร์หลากหลาย ช่วยให้ออมเงินได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังมีความรู้ดี ๆ จากผู้เชี่ยวชาญมาให้ความรู้ด้านการเงินอย่างไม่มีจำกัดอีกด้วย ทั้งช่วยออมเงินและเพิ่มความรู้ไปในตัว


43
วิธีเก็บเงิน

เงินตราเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องใช้ในทุก ๆ วัน เป็นสาเหตุว่าทำไมทุกคนต้องทำงาน นั่นก็เพื่อให้ได้เงินมาจับจ่ายใช้สอย แต่หากที่เงินได้มานั้น ไม่ได้มีการบริหารให้ดี ใช้จนหมด ก็คงไม่เป็นการดีสำหรับอนาคต ดังนั้นการเรียนรู้วิธีเก็บเงิน ได้เงินมาเท่าไหร่ควรใช้จ่ายอย่างไร ควรมีการแบ่งเงินเก็บ หรือใช้สูตรเก็บเงินอะไร บทความนี้จะมาแชร์ 5 วิธีเก็บเงิน ตัวช่วยเพื่อให้คุณสามารถมีเงินเก็บได้มากยิ่งขึ้น

ทำไมเราถึงต้องให้ความสำคัญกับวิธีเก็บเงิน ?
เพราะในแต่ละวัน เราต้องพบเจอหลายสิ่งหลายอย่างมากมาย ไม่สามารถคาดเดาได้ ยกตัวอย่างเช่น ล้มป่วยจนไม่สามารถทำงานต่อได้, อุบัติเหตุที่ทำให้ต้องเสียค่ารักษาพยาบาล ไม่ว่าจะเกิดกับตนเองหรือคนในครอบครัว, ต้องการเงินก้อนเพื่อไปใช้สำหรับการต่อยอดลงทุนทำธุรกิจ และรวมไปถึงเหตุฉุกเฉินอื่นที่จำเป็นต้องใช้เงิน และรู้วิธีเก็บเงินแบบจริงจัง

เป็นเหตุผลให้การมีเงินเก็บสำรองไว้ใช้ยามฉุกเฉินหรือเงินเย็นจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก ดังนั้นเราทุกคนถึงควรรู้จักวิธีเก็บเงินที่ถูกต้อง เพื่อให้การเก็บเงินสามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะหากไม่มีแนวทางและวิธีเก็บเงินที่ดี ก็อาจเป็นการเสียเวลา ไม่สามารถเห็นผลได้ชัดเจน

ใครบ้างที่ควรเรียนรู้วิธีเก็บเงิน ?
อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นไม่ว่าใครต่างก็ควรเรียนรู้วิธีเก็บเงิน เพราะไม่ว่าคุณจะทำอาชีพไหนหรืออายุเท่าไหร่ ทุกคนต่างก็จำเป็นต้องใช้เงิน จำเป็นต้องมีเงินสำรองกันทั้งนั้น โดยเราจะมายกตัวอย่างให้เห็นว่ามีคนกลุ่มไหนบ้างที่จำเป็นต้องเรียนรู้วิธีเก็บเงินที่ถูกต้อง

- บุคคลทั่วไปที่ทำงานมีรายได้ ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์เงินเดือน ข้าราชการ หรือแม้แต่ฟรีแลนซ์ จำเป็นต้องเรียนรู้วิธีเก็บเงิน เพื่อไม่ให้เงินที่หามาได้ในแต่ละเดือนต้องหมดไปเพราะลืมตัวใช้จ่ายเงินมากเกินไป

- บุคคลที่มีอายุมาก ใกล้เกษียณอายุ หรือเกษียณอายุแล้ว เพราะว่าคนกลุ่มนี้กำลังจะไม่สามารถหารายได้เหมือนแต่ก่อน ดังนั้นควรมีวิธีการเก็บเงินที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้มีเงินใช้เพียงพอในช่วงบั้นปลาย

- บุคคลที่ต้องการทำธุรกิจ และเหล่าผู้ประกอบการ คนกลุ่มนี้จำเป็นต้องใช้เงินมาก เพราะการดำเนินกิจการต่าง ๆ จำเป็นต้องใช้เงิน หากมีไม่เพียงพอก็อาจทำให้ธุรกิจหยุดชะงักได้ ดังนั้นควรมีเทคนิคเก็บเงิน กันเงินสำหรับใช้จ่ายฉุกเฉินให้เพียงพอเพื่อรองรับทุกสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา

- เด็ก ๆ ในช่วงวัยเรียน วัยรุ่น แม้จะยังไม่มีรายได้จากการทำงาน ก็จำเป็นต้องเรียนรู้วิธีเก็บเงิน เพราะเป็นวัยที่มีความอยากได้หลายสิ่ง หลายอย่าง แต่รายได้นั้นมีจำกัด หากเก็บเงินได้ดี มีความหักห้ามใจในสิ่งของเล็ก ๆ น้อย ก็จะช่วยให้สามารถซื้อของชิ้นใหญ่กว่าได้

เรียกได้ว่าแทบจะทุกคนเลยที่จำเป็นต้องเรียนรู้วิธีเก็บเงิน เพราะเมื่อใดก็ตามที่เงินขาดมือ มันจะส่งผลต่อสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตไม่มากก็น้อยอย่างแน่นอน ดังนั้นหากมีวิธีออมเงินที่เหมาะสม ก็การันตีได้เลยว่าไม่ว่าจะเจอสถานการณ์ไม่คาดฝันแค่ไหนก็สามารถรับมือได้อย่างแน่นอน

5 วิธีเก็บเงิน ไม่ธรรมดา แต่ทำแล้วได้ผลจริง!
ในหัวข้อนี้ เราจะมาแชร์ 5 วิธีเก็บเงินที่ทำแล้วได้ผลจริง อาจจะดูแปลกสำหรับหลายคนแต่หากได้ลองทำตาม เชื่อว่าจะสามารถเก็บเงินได้จริงอย่างแน่นอน โดย 5 วิธีเก็บเงิน ได้ผลจริง มีรายละเอียด ดังนี้

วิธีเก็บเงินให้ได้ผล

เปิดบัญชีเงินเก็บแยกออกไม่ใช้ร่วมกับบัญชีเงินใช้ประจำวัน
เพราะเทคโนโลยีที่มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องทำให้การจับจ่ายซื้อของในวันนี้ ไม่จำเป็นต้องใช้เงินสดเท่านั้นสามารถสแกนจ่ายได้ ต่อให้เอาเงินไปเก็บเงินในบัญชีธนาคาร เงินเหล่านั้นก็สามารถนำมาใช้ได้ง่ายแล้ว

ดังนั้นวิธีเก็บเงินแบบแรก ก็คือ ควรเปิดบัญชีฝากประจำแยกออกมา ไม่ใช้ร่วมกับบัญชีที่มีเงินเข้าออกตลอดเวลา เพราะบัญชีฝากประจำ หากจะถอนจำเป็นต้องมีเงื่อนไข เป็นการเพิ่มกระบวนการความยุ่งยาก หากจะถอนเงิน วิธีนี้จะช่วยให้เราสามารถเก็บเงินได้ดีขึ้น เพราะเราจะมีบัญชีเงินฝาก ที่มีแต่เงินเข้า ไม่มีเงินออก

นอกจากนี้การเลือกบัญชีประจำ ก็ควรเลือกจากธนาคารที่ให้ดอกเบี้ยเงินฝากได้สูง เพราะดอกเบี้ยจากธนาคารต่าง ๆ ก็มีความแตกต่างกัน

วิธีเก็บเงิน เปิดบัญชีฝากประจำ

ลดหวยลง หันมาเพิ่มเงินเก็บแทน
การซื้อหวยต่าง ๆ เป็นสิ่งที่พบเห็นได้ทั่วไปในสังคมไทย เพราะทุกคนต่างก็อยากรวย อยากหาเงินด้วยวิธีง่าย ๆ ทำให้ทุกคนต่างกันซื้อหวย และหวังว่าจะถูกรางวัลใหญ่ แต่มันมีโอกาสน้อยอย่างมากที่จะถูกรางวัล หากคุณเป็นที่ซื้อหวยมาก ๆ ลองใช้วิธีนี้

ตั้งกฎให้กับตัวเอง ลดปริมาณการซื้อหวย เมื่อรู้สึกว่าต้องการซื้อหวย พยายามหักห้ามใจ และให้นำเงินก้อนนั้นไปเก็บออมแทน นี่เป็นวิธีเก็บเงินที่จะได้เงินทุกครั้งเมื่อคิดจะซื้อหวย หากสามารถทำได้ เราจะรู้ว่าเราสามารถเก็บออมเงินได้ปริมาณมาก ถ้าเราสามารถหักห้ามใจไม่ซื้อหวย ซึ่งต่อให้ถูก จะคุ้มค่ากับเงินที่ลงไปหรือไม่

วิธีเก็บเงิน ลดหวย

ได้เหรียญมาอย่าใช้ หันมาเก็บแทนดีกว่า
เงินเหรียญหากเก็บไว้กับตัวมาก ๆ ก็หนักกระเป๋า ดังนั้นนำเงินเหล่านั้นไปเก็บไว้อีกที่อาจจะได้ประโยชน์มากกว่า หากเราทำแบบนี้จนเป็นนิสัย ได้เงินทอนจากการซื้อของมาเป็นเหรียญ อย่านำเหรียญเหล่านั้นมาใช้ แต่ให้นำเหรียญเหล่านั้นมาเก็บสะสมเรื่อย ๆ จะให้เราได้จำนวนเงินที่มากพอ วิธีนี้ก็เป็นอีกวิธีเก็บเงินที่สามารถทำได้ง่าย

วิธีเก็บเงิน สะสมเหรียญ

เมื่อได้เงินมา ก่อนใช้ ให้เก็บเสียก่อน
เมื่อได้เงินเดือน หรือเงินค่าแรงมา ด้วยความดีใจ ความลืมตัวอาจจะทำให้ใช้เงินที่ได้มาหมดในเวลาไม่นาน วิธีเก็บเงินที่ได้ประสิทธิภาพ คือ การกันเงินสำหรับเก็บออมก่อนเสมอ เมื่อมีรายได้เข้ามา ใก้แบ่งออกเป็น 3 ส่วน

1.ก้อนแรก สำหรับใช้หนี้ : ไม่ว่าจะเป็นหนี้บัตรเครดิต เงินที่กู้มา หรือเงินที่หยิบยืมมาจากผู้อื่น จำเป็นต้องจ่ายเจ้าหนี้ให้ครบทั้งหมดตามกำหนดการที่ตกลงการไว้

2.ก้อนที่สอง สำหรับเงินเก็บ : เมื่อใช้หนี้แล้ว ก่อนที่จะเริ่มใช้งาน จำเป็นต้องเก็บเงินเสียก่อน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของวิธีเก็บเงินในข้อนี้ การกันเงินเก็บเงินไว้ โดยเหลือเงินไว้ใช้จ่ายในปริมาณที่เหมาะสม หากเหลือเยอะเกินไป ก็อาจเผลอใช้จนหมดก็เป็นได้ เงินที่ต้องการจะเก็บก็ให้ฝากกับบัญชีฝากประจำ ตามที่กล่าวไว้ในวิธีแรก

3.ก้อนที่สาม สำหรับใช้จ่าย : เงินก้อนนี้ใช้สำหรับจับจ่ายใช้สอยสิ่งต่าง ๆ ที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน ซึ่งไม่ควรมีส่วนนี้มากเกินไป เพราะทุกวันมีสิ่งยั่วยุที่จะเอาเงินออกจากกระเป๋าเราได้เสมอ ดังนั้นเงินส่วนนี้ เก็บเท่าที่จำเป็น

เงินพิเศษ ไม่เอามาใช้ เก็บอย่างเดียว ได้เงินก้อนใหญ่แน่นอน
ทุกวันนี้หลายคนอาจจะไม่ได้ทำแค่อาชีพเดียว แต่อาจจะมีอาชีพเสริมทำเพิ่ม วิธีเก็บเงินวิธีสุดท้ายที่จะมาแนะนำ สำหรับคนที่มีอาชีพเสริม มีรายได้มากกว่า 1 ช่องทาง หากได้ค่าตอบแทนจากการทำอาชีพเสริมมาแล้ว ให้นำเงินก้อนนั้นไปเป็นเงินเก็บให้หมด และพยายามใช้เฉพาะเงินที่มาจากงานหลัก

อย่างไรก็ตามต้องไม่ฝืนตัวเองเกินไป หากเดือนไหนมีค่าใช้จ่ายมากกว่าที่คาดไว้ ก็นำเงินจากงานเสริมมาใช้ได้เช่นกัน แต่การนำเงินจากรายได้เสริมมาเป็นเงินเก็บเท่านั้นให้พยายามทำให้ย่อยจนเป็นนิสัย

วิธีเก็บเงิน กุญแจสู่ชีวิตที่มั่นคงอย่างยั่งยืน
จากที่กล่าวในบทความนี้ในเรื่องวิธีเก็บเงิน และเทคนิคเก็บเงินแบบต่าง ๆ มั่นใจได้ว่าหากนำไปปฏิบัติตาม จะสามารถเพิ่มปริมาณเงินเก็บได้อย่างแน่นอน การเก็บเงินเป็นสิ่งที่ดี แต่การปฏิบัติตามทุกอย่างโดยไม่ผ่อนผัน ก็อาจทำให้ชีวิตไม่มีความสุข เพราะเชื่อว่าเงินที่หามาได้แต่ละบาทนั้น ได้มาอย่างยากเย็น การนำเงินไปใช้เพื่อหาความสุขใส่ตัวบ้างเป็นเรื่องธรรมดา แต่ต้องไม่ลืมที่จะหักห้ามใจไม่ใช้ให้มากเกินไป

เราหวังว่าวิธีเก็บเงินที่ได้นำมาเสนอนี้ จะเป็นประโยชน์ ช่วยเป็นแนวทางวิธีการออมเงินให้หลาย ๆ คน เพราะการมีเงินเก็บออมไว้ย่อมเป็นเรื่องที่ดีกว่า เพราะใครจะรู้ว่าวันพรุ่งนี้จะมีเหตุไม่คาดคิดที่ต้องใช้เงินก้อนใหญ่หรือเปล่า

44
ปัญหาผิวแก้ไขให้ตรงจุดด้วยการฉีดรีจูรัน Rejuran คือเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ช่วยฟื้นฟูผิวหน้าซึ่งเป็นตัวช่วยในการซ่อมแซมผิวอย่างปลอดภัยที่มีสารสกัดจากธรรมชาติ

เทคโนโลยีแก้ไขผิวในปัจจุบันสามารถแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้หลายจุดทั่วทั้งใบหน้ารวมถึงผิวหนังส่วนอื่น ๆ ด้วยและยังให้ผลลัพธ์ที่ดีเห็นผลเร็วมากยิ่งขึ้นอีกด้วย ซึ่งการทำรีจูรัน (Rejuran) ก็เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีความงามที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก สามารถแก้ไขปัญหาผิวในส่วนต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี

สำหรับใครที่กำลังวางแผนทำรีจูรัน rejuran  ไม่ควรพลาดข้อควรรู้หรือข้อห้ามหลังฉีดรีจูรันและข้อควรรู้อื่น ๆ เกี่ยวกับการฉีดรีจูรัน รวมถึงคำถามยอดฮิตอย่างรีจูรันคืออะไรฉีดตรงไหนได้บ้าง หาคำตอบเหล่านี้ได้ในบทความนี้ที่ได้มัดรวมไว้ให้แล้ว

rejuran ราคาเท่าไหร่

รีจูรัน (Rejuran)  คืออะไร?  rejuran chanel เหมือนกันหรือไม่

รีจูรัน คือ เทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ช่วยฟื้นฟูผิวหน้าซึ่งเป็นตัวช่วยในการซ่อมแซมผิวอย่างปลอดภัยที่มีสารสกัดจากธรรมชาติ โดยการใช้ DNA WILD SALMON ที่มีความใกล้เคียงกับมนุษย์ที่สุด นำมาสกัดให้บริสุทธิ์ในรูปสารละลายชนิดใสและเพิ่มจำนวนเซลล์ไฟโบบลาสต์ที่มีหน้าที่ในการสร้างคอลลาเจน ใช้สำหรับฉีดกระตุ้นบนผิวหนังมีจุดเด่นในเรื่องการฟื้นฟูผิวช่วยให้ผิวฉ่ำวาวเรียบเนียน

ยกตัวอย่างรีจูรัน rejuran เกาหลีตัวดังที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะเป็นรีจูรันที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของประเทศเกาหลีกับรุ่น Rejuran healer หรือที่หลายคนรู้จักกันคือ Rejuran กล่องดำ ซึ่งในรุ่น rejuran healer เป็นทรีตเมนต์ที่ช่วยฟื้นฟูผิวที่ทำจากโมเลกุลชีวภาพที่เรียกว่าโพลีนิวคลีโอไทด์ (PN) ให้ความปลอดภัยและมั่นใจด้วยการรองรับจากผลวิจัยทางการแพทย์

นอกจากนี้ rejuran chanel ที่หลายคนอาจสงสัยว่าเหมือนหรือแต่แตกต่างกันอย่างไร ขอบอกเลยว่าทั้งสองตัวให้ผลลัพธ์ที่คล้ายกัน จะต่างกันตรงส่วนประกอบของตัวยาและ Meso chanel กับ rejuran ราคาที่ต่างกัน ตัวรีจูรันจะเน้นกระตุ้นสร้างคอลลาเจนเพื่อไปฟื้นฟูซ่อมแซมผิวใหม่เห็นผลไวกว่าแต่ chanel จะเน้นเพิ่มความชุ่มชื้นเห็นผลภายใน 7 วัน

Rejuran เห็นผลจริงไหม มีหลักการทำงานอย่างไร

ฉีด rejuran คือ เทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ได้รับการวิจัยมาเพื่อฉีดบำรุงฟื้นฟูผิว จะเริ่มจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทำการเตรียมผิวโดยการทายาชา ต่อมาจึงทำการฉีดรีจูรัน rejuran ที่ไม่มีการผสมกับสารใดเข้าไปตรงบริเวณผิวหนังแท้ตื้น ๆ หลังฉีดรีจูรันอาจมีตุ่มนูนขึ้นแล้วแต่บุคคล แต่จะสามารถหายได้เองภายในไม่กี่ชั่วโมง

เมื่อทำการฉีดรีจูรันเรียบร้อยแล้วตัวยาจะมีหลักการทำงานคือเข้าไปกระตุ้นการทำงานของเซลล์ไฟโบรบลาสต์ที่ตัวการสำคัญในการสร้างคอลลาเจน ซึ่งการทำรีจูรัน rejuran ให้เห็นผลลัพธ์ที่ดีควรฉีด 4 ครั้ง หลังฉีดรีจูรัน rejuran หนึ่งครั้งจะเริ่มเห็นผลในช่วง 3-5 วัน จะเห็นได้ชัดว่าผิวหนังเรียบเนียนและมีความชุ่มชื้นมากยิ่งขึ้น

เมื่อทำการฉีดรีจูรัน rejuran ครั้งที่ 2 หลังการรักษาผิวหนังจะดูเต่งตึงช่วยกระชับรูขุมขนริ้วรอยดูตื้นขึ้น ต่อมาทำรีจูรันครั้งที่ 3 จะช่วยให้ผิวแข็งแรงยกกระชับขึ้น และในการฉีดรีจูรัน rejuran ครั้งครั้งสุดท้ายครั้งที่ 4 ผิวบริเวณที่ได้รับการรักษาจะให้ความเรียบเนียนผิวแลดูอ่อนเยาว์เห็นผลได้อย่างชัดเจน

rejuran healer กล่องดำ

Rejuran ใช้สำหรับฉีดตรงไหนช่วยเรื่องอะไรบ้าง

rejuran คือเทคโนโลยีตัวดังที่เป็นตัวช่วยฟื้นฟูปัญหาผิวเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีมากยิ่งขึ้น สามารถช่วยแก้ปัญหาผิวได้อย่างปลอดภัยด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ โดย Rejuran ฉีดได้หลายจุดทั่วใบหน้าและแก้ไขปัญหาได้ดังต่อไปนี้

  • รีจูรันใบหน้า การฉีดรีจูรัน rejuran  บนใบหน้าสามารถช่วยแก้ปัญหาได้หลายจุดอย่างเช่นผิวหน้า หน้าผาก ร่องแก้ม ใต้ตา ซึ่งรีจูรันที่ฉีดบนใบหน้าจะช่วยแก้ปัญหารอยคล้ำใต้ตา ช่วยฟื้นฟูสภาพผิวของใบหน้าแก้ปัญหาริ้วรอยตื้น ๆ หรือหลุมสิว ช่วยกระชับรูขุมขนให้เล็กลงส่งผลให้ผิวหน้าเนียนละเอียดขึ้น
  • รีจูรันหลังมือ สำหรับใครที่มีปัญหามือหยาบแห้งกร้าน ก็สามารถใช้การฉีดรีจูรัน rejuran บนผิวหนัง เพื่อแก้ปัญหามือยาวกระด้างให้กลับมามีผิวที่เรียบเนียนดูสุขภาพดี
  • รีจูรันคอ ผิวหนังบริเวณคอสำหรับคนที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไปจะพบกับปัญหาริ้วรอยบนผิวหนังบริเวณคอซึ่งเป็นปัญหาที่สามารถแก้ไขได้โดยการฉีดรีจูรันบนผิวบริเวณลำคอจะช่วยยกกระชับลดริ้วรอยบริเวณลำคอได้ และยังช่วยให้ผิวหนังดูอิ่มน้ำเต็งตึงดูอ่อนเยาว์ขึ้น

วางแผนก่อนฉีด Rejuran ต้องรู้ข้อดีหรือข้อเสียมีอะไรบ้าง

แม้ว่าการทำรีจูรัน rejuran ช่วยซ่อมแซมและฟื้นฟูผิวเรียกได้ว่ามีข้อดีหลายอย่างด้วยกัน แต่ในข้อดีนี้อาจจะต้องมีข้อควรระวังหรือข้อเสียอยู่บ้าง ใครที่กำลังวางแผนหาข้อมูลก่อนฉีดรีจูรันควรทราบดังต่อไปนี้

  • ข้อดีฉีด rejuran คือ การฉีดรีจูรัน คือการฉีดสารสกัดจากธรรมชาติเข้าสู่ชั้นหนังแท้เพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนลดริ้วรอยและปัญหาต่าง ๆ บนผิวหนังให้กลับมาสุขภาพดีอีกครั้ง
  • ข้อเสียฉีด rejuran คือ การฉีดรีจูเพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดีจะต้องทำการฉีดหลายครั้ง รวมถึงมีข้อควรระวังเกี่ยวกับข้อห้ามหลังฉีดรีจูรัน ได้แก่งดแต่งหน้าหลังฉีดรีจูรัน 24 ชั่วโมง งดดื่มแอลกอฮอล์ ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ งดสูบบุหรี่และหลังฉีดรีจูรันอาจมีรอยช้ำสามารถใช้การประคบเย็นเพื่อลดอาการบวมลงได้

rejuran คืออะไร

สรุปเกี่ยวกับ Rejuran เหมาะกับใครบ้าง

การฉีดรีจูรัน (Rejuran )เป็นเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่มีการวิจัยและเป็นสารสกัดจากธรรมชาติมีทั้งข้อดีและข้อควรระวังสามารถรักษาด้วยการทำรีจันได้ทั้งคุณผู้ชายและคุณผู้หญิง ทั้งนี้การฉีดรีจูรัน rejuran  ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนเข้ารับการรักษาเพราะแต่ละบุคคลมีผิวหน้าที่ต่างกันอาจก่อให้เกิดการแพ้ได้ ทั้งในปัจจุบันการปรึกษาแพทย์ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปเพราะมีบริการ SkinX ปรึกษาแพทย์ทางออนไลน์พร้อมทั้งสั่งซื้อยาส่งถึงหน้าบ้าน

45
เก็บเงินซื้อรถ

ไม่ว่าใครเมื่อเข้าสู่อายุวัยทำงานแล้วก็คงอยากมีบ้านมีรถเป็นของตัวเอง หลายคนไม่สามารถซื้อเงินสดได้ทันที อาจจะต้องเก็บเงินดาวน์รถไปก่อน เพื่อให้ได้รถยนต์มาใช้ก่อนนั่นเอง บทความนี้จะบอกเคล็ดลับการเก็บเงินซื้อรถที่ได้ผลแน่นอน หากทำตามวิธีที่กล่าวมานั้น ก็อาจจะทำให้คุณได้รถมาขับก่อนใครแน่ๆ

แนะนำ 5 วิธีเก็บเงินซื้อรถที่ได้ผลดี

5 วิธี เก็บเงินซื้อรถที่หลายคนควรรู้ เพื่อทำให้ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ มีดังนี้

1. เซ็ตเป้าหมายรถในฝัน พร้อมเปรียบเทียบราคารถยนต์

การเก็บเงินออกรถ ขั้นแรกคือ การเซ็ตเป้าหมายรถที่ตั้งใจจะซื้อ ยกตัวอย่างเช่น ประเภทรถยนต์ ยี่ห้อ รุ่นรถในฝันที่อยากได้ เพื่อเช็กราคาและเปรียบเทียบว่าศูนย์ที่ไหนให้ราคาที่ดีกว่า เงื่อนไขอื่นๆ เช่น ประกันภัย การบริการหลังการขาย ส่วนลด ของแถมพิเศษ รวมไปถึงค่าใช้จ่ายแฝงนอกเหนือจากนี้ สิ่งสำคัญที่สุดในการซื้อรถยนต์ให้กับตัวเองเลยคือ การเห็นสภาพรถจริงและการทดลองขับ ซึ่งจะช่วยในการตัดสินใจได้ง่ายขึ้น เป็นการเตือนสติตัวเองให้รู้ว่าเราต้องเก็บเงินซื้อรถเท่าไหร่ เพื่อให้สามารถดาวน์รถหรือผ่อนได้ก่อนหากไม่สามารถออกรถยนต์ด้วยเงินสดได้ วิธีนี้จะช่วยให้คุณสามารถวางแผนการเก็บเงินขั้นต่ำในแต่ละเดือนแล้ว ยังสร้างแรงผลักดันให้กับตนเองอีกด้วย

2. หาข้อมูลหรือรายละเอียดค่าใช้จ่ายในการซื้อรถ

วิธีเก็บตังซื้อรถ ขั้นตอนที่สองคือ การศึกษาค่าใช้จ่ายในการซื้อรถยนต์ให้ดีและรอบคอบว่ามีค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องอะไรเพิ่มมาอีกบ้างนอกเหนือจากค่าตัวรถ ซึ่งค่าใช้ต่างๆ มีดังนี้

1. เงินดาวน์รถ เป็นเงินก้อนแรกเพื่อวางมัดจำในการออกรถ ยิ่งวางเงินดาวน์มากเท่าไหร่ เงินผ่อนที่ต้องจ่ายก็ยิ่งน้อย ดอกเบี้ยก็น้อยตามลงไปด้วย ดังนั้นควรเก็บเงินดาวน์รถให้ได้มากๆ เพื่อที่จะได้ปิดการผ่อนรถให้จบได้ไวขึ้น ใครที่ไม่อยากเจอดอกเบี้ยสูงๆ ก็ควรวางเงินก้อนสำหรับดาวน์รถให้ได้มากที่สุด ปกติแล้วควรวางมัดเงินดาวน์ไว้ที่ 20-30% ของรายได้ทั้งหมด เพื่อไม่ทำให้การเงินของคุณฝืดขัดจนเกินไป และสามารถมีเงินสำรองไว้ใช้จ่ายอื่นๆ อีกด้วย

2. ค่าผ่อนรถ หลังจากที่ได้รถมาใช้แล้ว ยังมีค่าผ่อนรถรายเดือนที่แต่ละคนต้องจ่าย ซึ่งราคาที่ต้องผ่อนให้ศูนย์จะไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับเงินดาวน์ที่วางไว้ในตอนต้นและราคารถยนต์ที่คุณเลือกซื้อ

3. ค่าน้ำมันรถหรือค่าไฟฟ้า ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่คุณอาจสามารถประเมินได้คร่าวๆ เท่านั้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ อย่างเช่น ค่าทางด่วน ค่าที่จอดรถ ค่าน้ำมันที่เพิ่มขึ้นในกรณีรถติดหรือเดินทางไปออกทริปต่างจังหวัด ที่สามารถคำนวณค่าใช้จ่ายออกมาเป็นหลักพันถึงหลักหมื่นได้เลย ซึ่งรถยนต์ไฟฟ้าเองก็มีค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าไฟที่ต้องชาร์จเพิ่มขึ้น แต่อาจจะมีข้อดีมากกว่า เนื่องจากราคาถูกกว่าค่าน้ำมัน หากคุณยังคิดว่าไม่สามารถแบกรับค่าใช้จ่ายเหล่านี้ได้ไหว แนะนำให้ใช้รถขนส่งสาธารณะไปก่อน เช่น รถเมล์ บีทีเอสหรือรถไฟฟ้าใต้ดิน ที่ภาระค่าใช้จ่ายไม่แสนสาหัส

4. ค่าต่อทะเบียน/ภาษี การเสียภาษีรถยนต์เป็นสิ่งที่คนมีรถต้องจ่ายทุกปีตามกฎหมายระบุไว้ หากใครหลีกเลี่ยงการเสียภาษีก็จะถูกปรับและถูกเรียกเงินเพิ่มตามจำนวนเดือนหรือปีที่ทะเบียนรถยนต์ขาดไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับราคา ขนาด และอายุของรถยนต์อีกด้วย

5. ค่าบำรุงรักษา จะเก็บเงินซื้อรถเพียงอย่างเดียวคงไม่ได้ ค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาหรือซ่อมบำรุงรถยนต์ให้มีสภาพที่ดี พร้อมใช้งานอยู่ตลอด เป็นสิ่งที่เจ้าของรถทุกคันควรทำ เพื่อความปลอดภัยให้การใช้งานรถยนต์ที่มีคุณภาพ ลดโอกาสการเสื่อมสภาพของรถ ลดอุบัติเหตุ แถมยังสามารถเก็งราคารถยนต์ได้ในอนาคตหากคุณต้องการขายรถมือสอง ดังนั้นการนำรถเข้าอู่เพื่อเช็คสภาพหรือทำความสะอาดรถยนต์ ย่อมมีค่าใช้จ่ายยิบย่อยเพิ่มเติมที่คุณอาจจะคาดไม่ถึง อย่างเช่น ค่าเปลี่ยนน้ำมันเครื่องหรือเบรก ไส้กรองต่างๆ ค่ายาง ค่าอะไหล่บางอย่างที่หลุดหายไปจากการใช้งาน ราคาที่ต้องจ่ายขึ้นอยู่กับรุ่นและยี่ห้อของรถยนต์อีกด้วย

6. ค่าประกันรถยนต์ ถึงแม้ว่าประกันภัยรถยนต์ไม่จำเป็นต้องทำทุกคัน แต่หากคุณเกิดอุบัติเหตุก็อาจทำให้สูญเสียชีวิตและทรัพย์สินจำนวนมากได้ ซึ่งรวมถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าซ่อมรถ ค่ารักษาพยาบาล ค่าคำขวัญ เป็นต้น การทำประกันรถยนต์นอกจากจะลดภาระค่าใช้จ่ายพวกนี้แล้ว ยังช่วยให้คุณไม่ต้องควักกระเป๋าตังตัวเองเพื่อจ่ายไปก่อนได้อีกด้วย

ดังนั้นการศึกษาค่าใช้จ่ายที่มาพร้อมกับการซื้อรถให้ดีเป็นเรื่องที่เจ้าของรถมือใหม่ควรคำนึงถึงอย่างมาก ไม่เพียงแค่คิดถึงวิธีเก็บเงินซื้อรถเพียงเท่านั้น แต่ยังมีรายจ่ายอื่นๆ ที่อาจตามมาให้ปวดหัวในภายหลังเช่นกัน

3. เลือกรูปแบบการจ่ายเงินซื้อรถ

ขั้นตอนที่สามของการจะเก็บเงินซื้อรถแต่ละครั้ง ควรรู้ว่าตัวเองสามารถจ่ายเงินแบบไหนได้บ้าง ซึ่งใครที่มีกำลังทรัพย์มากพอก็อาจจะเลือกซื้อรถยนต์ในเงินสด วิธีการนี้นอกจ่ายจะทำให้คุณหมดความกังวลในการเป็นหนี้สินแล้ว ยังช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายหรือดอกเบี้ยในระยะยาวได้อีกด้วย เป็นการจ่ายเงินก้อนรอบเดียวจบเลย

ส่วนอีกวิธีหนึ่งคือการจ่ายแบบผ่อน เป็นวิธีเก็บเงินออกรถที่ค่อยๆ สะสมตังไปทีละนิดเพื่อนำเงินมาออกรถใช้ก่อน มีข้อดีที่เราสามารถรับรถมาใช้ในระหว่างที่ผ่อนไปด้วยได้เลย ไม่ต้องจ่ายเป็นเงินก้อนโต ทำให้เราเหลือเงินเก็บที่สามารถนำไปใช้จ่ายอย่างอื่นได้ด้วย แต่วิธีการผ่อนจะต้องจ่ายตามกำหนดงวดรถให้ตรง ไม่งั้นคุณอาจถูกไฟแนนซ์ยึดรถคืนได้ และต้องเสียดอกเบี้ยทุกๆ เดือน

ดังนั้นรูปแบบการจ่ายเงินซื้อรถขึ้นอยู่กับการพิจารณาของผู้ซื้อ ว่าสะดวกหรือต้องการแบบไหนที่ไม่กระทบต่อตนเองหรือคนรอบข้างได้ และควรคำนึงถึงรายได้ ค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนให้ดี เพื่อที่จะสามารถแยกเงินเก็บมาซื้อรถในฝันของคุณได้โดยไม่มีปัญหาตามมา

4. วางแผนการเงินอย่างชาญฉลาดและรอบคอบ

ขั้นตอนที่สี่ การวางแผนการเงินให้รอบคอบ เมื่อคุณมีการตั้งเป้าหมายรถที่ต้องการซื้อ และศึกษารายละเอียดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องมาอย่างถี่ถ้วนแล้วนั้น การวางแผนการเงินเพื่อเก็บเงินออกรถให้ดีก็เป็นการประเมินตัวเองเบื้องต้นว่ามีกำลังเก็บออมที่เท่าไหร่ โดยอาจกำหนดเงินออมขั้นต่ำในแต่ละเดือนประกอบกับการพิจารณารายรับรายจ่ายทั้งหมด เพื่อทราบถึงภาพรวมสภาพคล่องทางการเงิน โดยอาจทำบัญชีสรุปค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน หรือการใช้แอปพลิเคชันในมือถือเพื่อวางแผนการเก็บออม แยกเงินออกเป็นสัดส่วน การวางแผนการเงินอย่างชาญฉลาดจะเพิ่มโอกาสในการซื้อรถในฝันของคุณได้ไวกว่าเดิม รวมถึงการจัดการกับค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นหรือตัดของฟุ่มเฟือยออกไป เพื่อทำให้การเก็บเงินซื้อรถของคุณใกล้ถึงฝั่งฝันมากขึ้น เพียงเท่านี้ก็สามารถทำให้การเก็บตังค์ซื้อรถของคุณเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเห็นผลจริงแล้ว

5. ฝึกวินัยในการออมเงิน

ขั้นตอนที่ห้า การสร้างวินัยในการเก็บเงินซื้อรถให้กับตนเอง เมื่อได้รถมาแล้วก็ใช่ว่าจะสิ้นสุดเลยทีเดียว ค่าใช้จ่ายหลังการซื้อรถนั้นยังดำเนินต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าอายุขัยของมันจนหมดหรือคุณต้องขายรถทิ้งไปซะก่อน ดังนั้นการฝึกออมเงินตั้งแต่เนิ่นๆ อาจจะเริ่มจากการฝากในบัญชีออมทรัพย์ก่อน นอกจากการออมเงินโดยการฝากประจำกับธนาคาร เพื่อรับดอกเบี้ยแล้วนั้น การนำเงินไปลงทุนเพื่อให้ผลกำไรงอกเงยขึ้นมาก็เป็นวิธีการเพิ่มมูลค่าเงินเก็บของคุณได้ไวขึ้น เพิ่มโอกาสบรรลุเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ ตัวอย่างการลงทุนเช่น การซื้อทอง หุ้น หรือกองทุน ที่มีโอกาสรับเงินปันผลมากกว่าการฝากแบบออมทรัพย์ไปเรื่อยๆ เป็นวิธีการเพิ่มรายได้อย่างหนึ่งที่ใครก็สามารถทำตามไว้ แต่ควรศึกษาให้ละเอียดรอบคอบก่อนตัดสินใจ เนื่องจากมีความเสี่ยงสูง แต่ผลลัพธ์ที่ได้ก็คุ้มค่าเช่นเดียวกัน

เก็บตังซื้อรถ

วิธีการคำนวณเงินผ่อนจ่ายกับธนาคาร

เมื่อกำหนดเป้าหมายและจำนวนเงินหรือระยะเวลาที่ต้องการผ่อนชำระเรียบร้อยแล้ว  เรามาลองดูวิธีการคำนวณเงินสำหรับการผ่อนจ่ายรถยนต์ได้เลย

สูตรการคำนวณ
   
เงินผ่อนต่อเดือน = [วงเงินที่กู้ + (วงเงินที่กู้ × อัตราดอกเบี้ย % × จำนวนปีผ่อนชำระ)]
จำนวนเดือนที่ต้องผ่อน

ยกตัวอย่าง รถยนต์ราคา 629,000 บาท จ่ายเงินดาวน์ไปแล้ว 20% เท่ากับ 125,800 บาท หมายความว่าต้องผ่อนอีก 503,200 บาท โดยเงื่อนไขของธนาคารกำหนดอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 1.99% ต่อปี โดยมีระยะเวลาผ่อนชำระอยู่ที่ 5 ปี หรือ 60 เดือน คำนวณเงินผ่อนที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือนได้ดังนี้

เงินผ่อนต่อเดือน = [503,000 + (503,000 × 1.99 % × 5)]
60

จะได้จำนวนเงินที่คุณต้องผ่อนเดือนละ 9,218 บาท หมายความว่าคุณจะต้องเสียดอกเบี้ยให้ธนาคารทั้งหมด 50,049 บาท เลยทีเดียว ดังนั้นการเก็บเงินดาวน์รถที่สูงขึ้น ยิ่งทำให้ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายให้ธนาคารลดน้อยลงด้วย

สรุป เก็บเงินซื้อรถให้สำเร็จตามเป้า

หากคุณตั้งเป้าหมายในการซื้อรถในฝันได้แล้ว อย่าลืมวางแผนการเก็บเงินซื้อรถให้ดีและมีประสิทธิภาพ โดยอาจเริ่มจากการทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย เพื่อวิเคราะห์ค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน หรือการแยกบัญชีธนาคารเพื่อใช้สำหรับเก็บออมโดยเฉพาะ อย่างแอปพลิเคชัน MAKE by KBank ของธนาคารกสิกร ที่สะดวก ใช้ง่ายและรวดเร็ว วิธีการเก็บตังซื้อรถต่างๆ ที่เราได้แนะนำไปนั้นจะช่วยทำให้คุณบรรลุเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ได้อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นการซื้อรถ ซื้อบ้านหรือที่ดิน หรือการเก็บเงินเพื่อไปลงทุนในอนาคต ขอแค่มีความมุ่งมั่นตั้งใจและพยายามก็ทำให้คุณได้สิ่งที่ปรารถนามาครอบครองได้แน่นอน

46
รับทำสติ๊กเกอร์ ราคาถูก

การทำ Branding เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการทำการตลาดในยุคปัจจุบัน โลโก้หรือตราสินค้าจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้กลุ่มเป้าหมายจดจำแบรนด์ของคุณได้ การแปะสติ๊กเกอร์แบรนด์บนตัวสินค้าหนึ่งในทางเลือกที่ดีสำหรับการทำ Branding ที่ได้ผลมาแบบยุคต่อยุค บทความนี้เราจะพาทุกท่านมาทำความรู้จักบริการรับทำสติ๊กเกอร์ พร้อมการออกแบบตราสินค้าแบบครบวงจร

บริการรับทำสติ๊กเกอร์บริการที่เพิ่มความสะดวกสบายด้านการทำ Branding ผ่านการสื่อสาร การสร้างคุณค่า และการสร้างการจดจำอย่างตรงจุด ด้วยการดีไซน์โลโก้ให้ตรงกับสิ่งที่แบรนด์ของคุณต้องการสื่อสาร ถ้าอยากรู้แล้วว่าบริการรับทำสติ๊กเกอร์คืออะไร มีข้อดีอย่างไรบ้าง ติดตามต่อได้ในเนื้อหาของบทความนี้

รายละเอียดบริการรับทำสติ๊กเกอร์
บริการรับทำสติ๊กเกอร์ไม่ได้มีเพียงแค่บริการรับปริ้นสติ๊กเกอร์ รับทําสติ๊กเกอร์ไดคัท และรับพิมพ์ฉลากสินค้าเท่านั้น เพราะการรับทำสติ๊กเกอร์หมายถึงการออกแบบฉลากสินค้า โลโก้ ป้ายราคา และอื่น ๆ ให้เหมาะสมกับแบรนด์ของคุณ ทั้งด้านการออกแบบที่สามารถสื่อสารตัวแบรนด์ออกมาได้ การเลือกประเภทกระดาษ-สีสันให้เหมาะสมกับการใช้งานในราคาที่จับต้องได้ ไม่ว่าคุณจะต้องการบริการรับพิมพ์สติ๊กเกอร์อิงค์เจ็ท, สติ๊กเกอร์ PVC, สติ๊กเกอร์โฮโลแกรม, สติ๊กเกอร์ PET, สติ๊กเกอร์กระดาษขาว หรือสติ๊กเกอร์ประเภทไหน ๆ บริการรับทำสติ๊กเกอร์ก็สามารถรังสรรค์ให้คุณได้ทั้งสิ้น

บริการรับทำสติ๊กเกอร์ เหมาะกับธุรกิจใดบ้าง
บริการรับทำสติ๊กเกอร์เป็นบริการที่เหมาะกับธุรกิจทุกประเภท เพราะไม่ว่าคุณจะเป็นธุรกิจขนาดเล็ก ขนาดกลาง หรือว่าขนาดใหญ่ การสร้างการจดจำก็เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจเติบโต

บริการรับทำสติ๊กเกอร์มีราคาเฉลี่ยอยู่ที่เท่าไร? 

รับติดสติ๊กเกอร์สินค้า

บริการสั่งทำสติ๊กเกอร์ราคาไม่แพงอย่างที่คิด ราคาเฉลี่ยของบริการรับทำสติ๊กเกอร์จะมีราคาเฉลี่ยต่อชิ้นอยู่ที่ 0.5 - 2 บาท ซึ่งอัตราการคิดราคาค่าบริการจะขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้งาน จำนวนที่สั่งผลิต ราคาค่าบริการสำหรับการออกแบบ และอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับอัตราค่าบริการของร้านรับทำสติ๊กเกอร์ร้านนั้น ๆ

ขั้นตอนและกระบวนการสำหรับบริการรับทำสติ๊กเกอร์

1. ชี้แจงรายละเอียด
ก่อนเริ่มกระบวนการรับทำสติ๊กเกอร์ โรงงานรับทำสติ๊กเกอร์จะมีการพูดคุยรายละเอียด ความต้องการ แนวทาง จุดประสงค์ และข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับตัวแบรนด์กับเจ้าของแบรนด์ก่อนเสมอ

2. ตกลงราคา
สำหรับท่านที่สงสัยว่าการสั่งทำสติ๊กเกอร์ราคาเท่าไหร่ ต้องใช้งบประมาณเยอะหรือไม่ คำถามนี้จะหมดไป เพราะโรงงานรับทำสติ๊กเกอร์ทำการพูดคุย และตกลงราคาก่อนที่จะเริ่มกระบวนการผลิตเสมอ

3. ยืนยันการสั่งผลิต
หลังจากพูดคุยเกี่ยวกับตัวสินค้า ตัวแบรนด์ แนวทาง วัสดุที่ใช้สำหรับการผลิต และราคาค่าดำเนินการเรียบร้อยแล้ว ทางโรงงานรับทำสติ๊กเกอร์จะทำการยืนยันการผลิต เพื่อเรียกเก็บค่ามัดจำกับเจ้าของแบรนด์ก่อนเริ่มงาน

4. รับ Product ของลูกค้า
สำหรับท่านที่ต้องการให้โรงงานรับทำสติ๊กเกอร์ แปะสติ๊กเกอร์ที่ผลิตออกมาบนตัวสินค้า ลูกค้าจำเป็นต้องทำการส่งมอบสินค้าภายใต้แบรนด์ลูกค้าให้ทางโรงงาน

5. ตรวจนับสินค้า
เมื่อโรงงานได้รับสินค้าจากแบรนด์ลูกค้าแล้ว โรงงานรับทำสติ๊กเกอร์จะทำการตรวจเช็คจำนวนของสินค้าที่ส่งมาก่อนเริ่มงาน เพื่อไม่ให้เกิดความคลาดเคลื่อน และข้อผิดพลาดด้านการปฏิบัติงาน

6. เริ่มกระบวนการผลิต
หลังจากขั้นตอนการยืนยันและตรวจเช็คเสร็จสิ้น โรงงานรับทำสติ๊กเกอร์จะทำการผลิตสติ๊กเกอร์ และนำแปะลงบนสินค้าของแบรนด์ลูกค้า

7. ชำระเงินในส่วนที่เหลือ
เมื่อขั้นตอนการผลิตและการดำเนินการทั้งหมดเสร็จสมบูรณ์ ทางโรงงานรับทำสติ๊กเกอร์จะทำการเรียบเก็บเงินในส่วนที่เหลือทั้งหมด ก่อนที่จะส่งสินค้าและสติ๊กเกอร์ให้กับลูกค้า

8. จัดส่งสินค้าถึงมือลูกค้า
หลังจากที่ทางโรงงานรับทำสติ๊กเกอร์ตรวจเช็คสินค้า และทางลูกค้าชำระเงินเรียบร้อยแล้ว ทางโรงงานรับทำสติ๊กเกอร์จะทำการส่งสินค้าทั้งหมดให้กับลูกค้า ตามวัน เวลา และสถานที่ที่ทางแบรนด์ตกลงไว้กับโรงงาน เพื่อมอบความสะดวกสบายขั้นสูงสุดให้กับผู้ว่าจ้าง

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับรับทำสติ๊กเกอร์

ราคาของบริการรับทำสติ๊กเกอร์อยู่ที่แผ่นละกี่บาท?
อัตราค่าบริการของร้านรับทำสติ๊กเกอร์จะมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 0.5 - 2 บาทโดยประมาณ ขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้สำหรับการผลิต รายละเอียดของงาน ราคาเริ่มต้นของการสั่งทำ การออกแบบกราฟิกดีไซน์ และอื่น ๆ ก่อนที่จะตัดสินใจใช้บริการรับทำสติ๊กเกอร์กับร้านใด ๆ จึงควรสอบถามอัตราค่าบริการเบื้องต้นกับทางร้านให้ดีก่อนสั่งผลิต

บริการรับทำสติ๊กเกอร์ใช้โปรแกรมอะไรในการออกแบบ?
Illustrator หรือโปรแกรมการสร้างลายเส้นสำหรับการออกแบบผลิตภัณฑ์ โปรแกรมยอดนิยมที่นักออกแบบกราฟิกดีไซน์สายรับทำสติ๊กเกอร์นิยมใช้สำหรับการออกแบบสติ๊กเกอร์กันอย่างแพร่หลาย และเป็นสากล

บริการรับทำสติ๊กเกอร์ดีอย่างไร-สรุปข้อดีของบริการรับทำสติ๊กเกอร์
การสร้างการจดจำให้กับตัวแบรนด์ผ่านสติ๊กเกอร์ฉลากสินค้า หนึ่งในทางเลือกที่ดีสำหรับการสร้างภาพลักษณ์และการจดจำที่ดีให้กับตัวแบรนด์ในราคาที่จับต้องได้ นอกจากข้อดีด้านการทำ Branding แล้วบริการรับทำสติ๊กเกอร์ยังเป็นหนึ่งในการทำการตลาดที่งบไม่บานปลาย เห็นผลได้จริง และยังสามารถเพิ่มความสะดวกสบายให้กับเจ้าของแบรนด์ได้อีกด้วย

47
สินเชื่อออนไลน์

ในยุคดิจิทัลนี้ หลายสิ่งหลายอย่างได้เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา รวมถึงการให้บริการสินเชื่อบุคคล ซึ่งหลายสถาบันการเงินได้เปลี่ยนให้เป็นสินเชื่อออนไลน์ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้กู้ทำธุรกรรมได้ง่ายกว่าที่เคย โดยสินเชื่อเงินด่วนอนุมัติเร็วออนไลน์ เป็นตัวช่วยทางการเงินที่เข้าถึงง่าย ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะต้องการเงินทุนฉุกเฉิน หรือจ่ายค่าใช้จ่าย โดดเด่นด้วยข้อดี คือ สมัครง่าย อนุมัติไว ผ่านระบบออนไลน์ 100% ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปธนาคาร

สินเชื่อออนไลน์ คืออะไร มีความจำเป็นต่อชีวิตประจำวันอย่างไร?

สินเชื่อบุคคล

สินเชื่อออนไลน์ หมายถึง บริการสินเชื่อที่ให้ผู้กู้สามารถสมัครและรับเงินกู้ผ่านช่องทางออนไลน์ทั้งหมด โดยไม่ต้องเดินทางไปที่ธนาคารหรือสถาบันการเงิน โดยผู้กู้สามารถสมัครผ่านเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ ได้ด้วยตนเอง โดยการขอสินเชื่อออนไลน์มีข้อดี คือ

  • สมัครสินเชื่อออนไลน์และรับเงินกู้ได้โดยไม่ต้องเดินทางไปที่ธนาคาร ด้วยความสะดวก รวดเร็ว
  • รู้ผลอนุมัติสินเชื่อออนไลน์ได้ภายในเวลาไม่นาน
  • มีตัวเลือกหลากหลายที่ให้บริการสินเชื่อออนไลน์ ผู้กู้สามารถเปรียบเทียบดอกเบี้ยและเงื่อนไขต่าง ๆ ก่อนตัดสินใจ
  • ผู้กู้สามารถสมัครสินเชื่อเงินด่วนได้ทุกที่ ทุกเวลา

แต่ข้อควรระวังของสินเชื่อเงินด่วนอนุมัติเร็วออนไลน์ คือ สินเชื่อออนไลน์บางประเภทอาจมีดอกเบี้ยสูง จึงควรศึกษารายละเอียดเงื่อนไขต่าง ๆ ก่อนตัดสินใจสมัคร ทั้งนี้ สินเชื่อออนไลน์มีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของผู้คนในหลาย ๆ ด้าน ดังนี้

  • การขอสินเชื่อออนไลน์ช่วยให้ผู้คนสามารถเข้าถึงเงินทุนได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องผ่านขั้นตอนยุ่งยากเหมือนการขอสินเชื่อส่วนบุคคลจากธนาคาร เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเงินทุนฉุกเฉิน หรือผู้ที่ไม่มีหลักประกัน
  • สินเชื่อออนไลน์สามารถช่วยจัดการกับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันหรือในสถานการณ์ฉุกเฉินได้ เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่าซ่อมแซมบ้าน หรือค่าเทอม
  • สินเชื่อออนไลน์ อนุมัติไวช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน ช่วยให้ผู้คนมีเงินทุนสำรองเผื่อไว้สำหรับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน
  • สินเชื่อด่วนออนไลน์ช่วยให้ผู้คนมีชีวิตที่ดีขึ้น โดยสามารถเข้าถึงสินค้าและบริการต่าง ๆ ที่จำเป็น

ยกตัวอย่างสถานการณ์ที่จำเป็นต้องใช้สินเชื่อออนไลน์ เช่น

  • สถานการณ์ฉุกเฉิน หากมีสมาชิกในครอบครัวป่วยหนักและต้องเข้ารักษาพยาบาลในโรงพยาบาล แต่มีเงินไม่เพียงพอที่จะจ่ายค่ารักษาพยาบาล สินเชื่อเงินด่วนอนุมัติเร็วออนไลน์สามารถช่วยให้มีเงินทุน เพื่อจ่ายค่ารักษาพยาบาล และช่วยชีวิตสมาชิกในครอบครัวไว้ได้
  • ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ อย่างค่าเทอม ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ค่าที่พัก ซึ่งหากถึงกำหนดที่จะต้องจ่าย ก็สามารถสมัครสินเชื่อออนไลน์นำเงินก้อนออกมาจัดการปัญหาเหล่านี้ได้

ด้วยสินเชื่อออนไลน์เป็นเครื่องมือทางการเงินที่มีประโยชน์ สามารถช่วยให้ผู้คนจัดการกับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันและช่วยให้ผู้คนมีชีวิตที่ดีขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญ คือ ความรับผิดชอบในการกู้ยืม วางแผนในการชำระคืนสินเชื่อบุคคลเหล่านี้ และควรกู้เท่าที่จำเป็นเท่านั้น

ทั้งนี้ ก่อนตัดสินใจสมัครสินเชื่อออนไลน์ ผู้กู้ควรศึกษาข้อมูล เปรียบเทียบดอกเบี้ยและเงื่อนไขต่าง ๆ ของสินเชื่อจากหลาย ๆ แหล่ง เลือกใช้บริการสินเชื่อออนไลน์จากธนาคารหรือสถาบันการเงินที่น่าเชื่อถือ และอ่านรายละเอียดเงื่อนไขต่าง ๆ ของสินเชื่ออย่างละเอียดก่อนตัดสินใจ

4 สินเชื่อออนไลน์อนุมัติไว วงเงินสูงที่น่าสนใจ

สินเชื่อเงินด่วนอนุมัติเร็วออนไลน์

การสมัครสินเชื่อออนไลน์ในปัจจุบันไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพียงแค่ศึกษาและเปรียบเทียบ ก่อนจะสมัครตามขั้นตอน เท่านี้ ก็สามารถกู้สินเชื่อเงินด่วนอนุมัติเร็วออนไลน์มาใช้ได้อย่างทันใจ โดยขอแนะนำ 4 สินเชื่อออนไลน์ที่ให้อนุมัติไว และเชื่อถือได้ ดังนี้

1. Promise
Promise เป็นสินเชื่อออนไลน์จากบริษัทในเครือของ SMBC Consumer Finance Co., Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทสินเชื่อชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น จึงสามารถมั่นใจในสถาบันการเงินได้อย่างแน่นอน โดย Promise โดดเด่นด้วยการสมัครสินเชื่อออนไลน์โดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน หากกู้ไปแล้ว เงินไม่พอใช้ จำเป็นต้องกู้เพิ่ม ก็สามารถทำได้ โดยไม่ต้องปิดบัญชีเดิม อีกทั้งยังสามารถปิดบัญชีก่อนกำหนด โดยไม่ต้องเสียค่ายกเลิกสัญญาได้อีกด้วย

โดยสินเชื่อออนไลน์ Promise กำหนดวงเงินให้กู้ได้ไม่เกิน ไม่เกิน 300,000 บาท* ด้วยอัตราดอกเบี้ยต่ำสุดที่ 15% และสูงสุด คือ 25% ต่อปี เป็นสินเชื่อเงินด่วนอนุมัติเร็วออนไลน์ภายใน 1 ชั่วโมง* ด้วยเงื่อนไข ดังนี้

  • มีสัญชาติไทย อายุ 20 – 64 ปี
  • มีรายได้ต่อเดือน 8,000 บาท ขึ้นไป (สามารถแสดงสลิปเงินเดือนหรือหนังสือรับรองเงินเดือน)
  • อายุการทำงานปัจจุบัน 1 เดือนขึ้นไป
  • มีที่พักอาศัย หรือมีที่ทำงานอยู่ในเขตพื้นที่ให้บริการ
  • มีหมายเลขโทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้

*กรุณาศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์ก่อนการสมัครที่ promise.co.th
 *เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ และธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
 *หากยื่นเอกสารครบถ้วนภายใน 18.00 น. และไม่มีเหตุขัดข้องด้านเอกสาร หรือระบบ จะสามารถอนุมัติได้ภายใน 1 ชั่วโมง หรือภายในวันถัดไป

2. LINE BK
สินเชื่อบุคคล LINE BK เป็นแอปพลิเคชันให้บริการสินเชื่อออนไลน์ภายใต้การดูแลของธนาคารกสิกรไทยและ LINE ซึ่งให้วงเงินกู้ไม่เกิน 50,000 บาท ด้วยอัตราดอกเบี้ย 33% ต่อปี ให้ระยะเวลาในการผ่อนได้นานสูงสุด 60 เดือน แต่จะใช้เวลาในการอนุมัติสินเชื่อเงินประมาณ 1 - 3 วันทำการ ด้วยเงื่อนไข คือ ต้องมีรายได้ขั้นต่ำ 5,000 บาท ต่อเดือน และใช้เพียง Statement สำหรับสมัครสินเชื่อออนไลน์เท่านั้น

3. True Money
การขอสินเชื่อออนไลน์ของ True Money ให้บริการสำหรับลูกค้าทรูรายเดือน ในการกู้สินเชื่อออนไลน์มาใช้ได้ในทันที โดยกำหนดวงเงินกู้ยืมไม่เกิน 10,000 บาท โดยแบ่งอัตราดอกเบี้ยตามการชำระ ถ้าเป็นการผ่อนชำระจะคิดดอกเบี้ย 25% ผ่อนได้นานสูงสุด 24 เดือน แต่หากจ่ายเต็มจำนวน ดอกเบี้ยจะเป็น 0% นั่นหมายความว่า หากชำระคืนเต็มจำนวนตามวันที่และเวลากำหนดไว้ ก็จะไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ยใด ๆ ถือว่า เป็นสินเชื่อออนไลน์อนุมัติทันที เพราะใช้เวลาอนุมัติเพียงแค่ 5 นาทีเท่านั้น

4. เงินทันเด้อ
สินเชื่อเงินด่วนออนไลน์ เงินทันเด้อ อยู่ภายใต้การดูแลของธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งให้วงเงินของสินเชื่อเงินก้อน 50,000 บาท ด้วยอัตราดอกเบี้ย 2.75% ต่อเดือน ผ่อนชำระได้นาน 15 เดือน ใช้เวลาอนุมัติภายใน 24 ชั่วโมง แต่สามารถทำเรื่องกู้ยืมได้ตลอดเวลา โดยไม่มีการวางเงินมัดจำหรือค่าธรรมเนียมใด ๆ แอบแฝง

สรุป
สินเชื่อออนไลน์ คือ บริการสินเชื่อบุคคลที่ให้ผู้กู้สามารถสมัครและรับเงินกู้ผ่านช่องทางออนไลน์ทั้งหมด โดยในปัจจุบัน มีตัวเลือกสินเชื่อเงินด่วนอนุมัติเร็วออนไลน์หลากหลายและได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เช่น Promise, LINE BK, True Money หรือ เงินทันเด้อ เป็นต้น ทั้งนี้การกู้ควรกู้เท่าที่จำเป็นและสามารถชำระคืนไหว


48
เรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัว

การเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวถือเป็นคอร์สเรียนอีกรูปแบบหนึ่งที่ผู้เรียนชื่นชอบและให้ความสนใจ เนื่องจากตอบโจทย์ในการพัฒนาทักษะของตัวผู้เรียนแบบเป็นส่วนตัวและสื่อสารได้ตรงใจมากกว่า โดยคอร์สเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวนั้นมีอยู่หลายรูปแบบด้วยกัน ไม่ว่าจะเน้นทุกทักษะหรือพัฒนาเฉพาะทางสำหรับเตรียมตัวสอบวัดระดับภาษาต่าง ๆ ซึ่งการเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวดียังไงและควรเลือกเรียนที่ไหนดี เรามาดูไปพร้อมกันเลย

เรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัว คอร์สเรียนนี้เหมาะกับใคร
การเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวเหมาะอย่างมากกับผู้เรียนที่มีความรู้ภาษาอังกฤษในระดับเริ่มต้น เพราะหากเลือกเรียนแบบกลุ่มอาจจะตามเนื้อหาในบทเรียนไม่ทันได้ การเรียนภาษาตัวต่อตัวยังเหมาะอย่างมากกับผู้เรียนที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ว่อกแว่กได้ง่าย ไม่ชอบเรียนกับคนกลุ่มใหญ่ หรือรู้สึกมั่นใจมากกว่าถ้าเรียนคอร์สแบบคนเดียว

การเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวเหมาะอย่างมากกับผู้เรียนเฉพาะทาง อย่างผู้ที่ต้องการย้ายถิ่นฐานแล้วเลือกเรียนภาษาเพื่อปรับสภาพแวดล้อม ผู้เรียนที่ต้องการเรียนในระดับภาษาเฉพาะทางอย่างอาชีพแพทย์หรือนักธุรกิจ รวมถึงผู้ที่ต้องการเสริมทักษะเฉพาะทางเพื่อนำไปใช้ในการทดสอบด้านภาษาซึ่งตรงกับความต้องการได้มากกว่า ไม่ต้องเสียเวลาย้ำจุดอื่นไปพร้อม ๆ ทุกคนในคลาสเรียนแบบรวม

นอกจากนี้แล้วการเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวยังเหมาะกับผู้ที่มีเวลาน้อยหรือมีเวลาจำกัด เพราะตารางเรียนมีความยืดหยุ่น สามารถเลือกเวลาเรียนได้ตรงใจมากกว่านั่นเอง

เรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัว เลือกเรียนแล้วดีอย่างไร
การเรียนภาษาอังกฤษมีประโยชน์อยู่หลายข้อด้วยกัน ซึ่งคอร์สเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวจะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้แก่ผู้เรียน สามารถเลือกตารางเวลาเรียนเองได้ว่าต้องการเรียนแบบไหนให้ตอบโจทย์และให้สอดคล้องกับเป้าหมายในระยะยาว ผู้เรียนสามารถสอบถามครูผู้สอนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวตรงจุดที่สงสัยได้ในทันที ไม่ต้องอายหรือรู้สึกขัดเขินเหมือนเวลายกมือถามคำถามในชั้นเรียนแบบกลุ่ม

การเรียนอังกฤษตัวต่อตัวไม่ได้มีประโยชน์กับตัวผู้เรียนเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ผู้สอนรู้ถึงจุดแข็ง-จุดอ่อนเฉพาะตัวบุคคลว่าควรพัฒนาจุดไหน รวมถึงนำไปปรับใช้กับวิธีการสอนให้เหมาะสมกับตัวผู้เรียนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของเนื้อหา นอกจากนี้แล้วติวเตอร์ภาษาอังกฤษตัวต่อตัวยังสามารถตอบคำถาม ช่วยเหลือในจุดที่พลาด หรือไขข้อสงสัยของผู้เรียนได้ถูกต้องแม่นยำมากที่สุด เรียกว่าการเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวมอบประโยชน์แก่ผู้เรียนได้อย่างเต็มที่

เรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัว เรียนที่ไหนดี ได้ประโยชน์มากสุด

คอร์สเรียนภาษาอังกฤษ ตัวต่อตัว

เรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวที่ไหนดีให้ตอบโจทย์ ตรงใจ และเหมาะกับความต้องการมากที่สุด? แนะนำว่าควรดูตั้งแต่เนื้อหาหลักสูตรว่าตรงกับจุดที่เราต้องการพัฒนามากน้อยแค่ไหน สามารถปรับได้ตามความสนใจอย่างไรบ้าง ซึ่งคอร์สเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวดังกล่าวควรได้รับการสอนโดยครูผู้เชี่ยวชาญ ไม่ว่าจะเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวกับครูต่างชาติหรือครูชาวไทย ที่พร้อมตอบคำถาม แก้ไขข้อผิดพลาด และให้คำแนะนำแก่เราได้ถูกต้องตามหลักภาษามากที่สุด

อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือสภาพแวดล้อมของการเรียนในคลาสว่ามีปัจจัยอื่นใดรบกวนหรือไม่ เพื่อให้ผู้เรียนอย่างเรา ๆ มีสมาธิกับการเรียนได้มากที่สุด นอกจากนี้แล้วตารางเวลาเรียนอังกฤษตัวต่อตัวของทางสถาบันควรยืดหยุ่นตามความต้องการของผู้เรียน โดยหากสถาบันสอนภาษามีคอร์สเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวแบบออนไลน์ก็จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายได้มากขึ้น ผู้เรียนสามารถเข้าถึงเนื้อหาได้จากทุกที่ทั้งยังประหยัดเวลาในการเดินทางได้อีกด้วย

รวมคำถามน่าสนใจเกี่ยวกับการเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัว
นอกจากที่กล่าวมาทั้งหมดแล้วยังมีคำถามอะไรน่าสนใจเกี่ยวกับการเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวอีกบ้าง เรามาดูกันเลย

ก่อนเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวควรเตรียมตัวยังไง?
ก่อนเลือกลงคอร์สเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวสักที่ เราควรวางเป้าหมายในการเรียนให้ชัดเจนเสียก่อนว่าลงเรียนคอร์สนี้เพื่อใช้ทำอะไร มีจุดไหนที่เราต้องการพัฒนา และอยากเน้นทักษะส่วนไหนเป็นพิเศษ เพื่อให้ทางสถาบันประเมินหลักสูตรการสอนได้เหมาะสมกับความต้องการ และครูผู้สอนปรับแนวทางในการสอนได้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด

เรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวกับเรียนแบบกลุ่ม อย่างไหนดีกว่า?
การเรียนภาษาอังกฤษทั้งสองแบบมีข้อดีที่แตกต่างกันออกไป อย่างการเรียนภาษาอังกฤษแบบกลุ่มจะช่วยพัฒนาในด้านการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นได้ดีกว่า ได้เห็นมุมมองที่หลากหลายมากขึ้นซึ่งอาจนำมาปรับใช้ในการพัฒนาทักษะของเราได้ ในขณะที่การเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวจะมุ่งเน้นไปที่ประสิทธิภาพของผู้เรียนและตอบโจทย์ความต้องการพัฒนาทักษะภาษาเฉพาะด้านได้มากกว่า

เลือกเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวแบบไหนถึงจะเหมาะ?
ปัจจัยในการเลือกคอร์สเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวให้เหมาะกับความต้องการมากที่สุด คือเลือกดูจากตารางเวลาเรียน สไตล์ของครูผู้สอน รวมถึงงบประมาณที่ต้องใช้ต่อคอร์สว่าเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวราคาถูกคุ้มค่ามากน้อยแค่ไหน สามารถเลือกดูได้จากรีวิวมากมายตามออนไลน์ หรือหากสถาบันสอนภาษาไหนมีให้ทดลองเรียนฟรีก็จะช่วยตอบคำถามได้ดีว่าคอร์สเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวดังกล่าวตรงกับความต้องการของเราหรือไม่

สรุปเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวให้ตอบโจทย์
การเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวเหมาะกับผู้เรียนที่ต้องการพัฒนาพื้นฐานส่วนตัวหรือทักษะความรู้ภาษาเฉพาะทางตามสายอาชีพ ซึ่งรูปแบบการเรียนประเภทนี้นั้นยืดหยุ่นทั้งในด้านเวลาและเนื้อหาบทเรียนที่สามารถปรับให้เข้ากับตัวผู้เรียนได้อย่างเหมาะสม ดังนั้น สำหรับใครที่ไม่เคยเรียนแบบเดี่ยวมาก่อนและอยากพัฒนาทักษะส่วนตัวแบบก้าวกระโดด การเลือกเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ


49
กลองชุด

กลองชุด คือ เครื่องดนตรีประเภทหนึ่ง ซึ่งมีจังหวะหนักแน่น คอยควบคุมทิศทางของดนตรี พร้อมทั้งช่วยปลุกเร้าผู้ฟังให้กระโดดโลดเต้นไปด้วยกันอย่างสนุกสนาน

ดนตรีถือว่าเป็นสื่อกลางที่หลายคนสามารถทำความเข้าใจได้ แม้จะไม่ได้ใช้ภาษาเดียวกัน แต่น้ำเสียง จังหวะและโทนเพลงสามารถทำให้ทุกคนเกิดอารมณ์ร่วมกันได้ โดยเครื่องดนตรีประเภทหนึ่งที่ช่วยสร้างจังหวะให้ทุกคนกระโดดโลดเต้นตามเนื้อเพลงได้ คือ กลองชุด เพราะกลองชุดเป็นเครื่องดนตรีอันทรงพลัง เต็มไปด้วยความท้าทายและความสนุกสนาน ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องตีสร้างจังหวะ แต่มันคือ หัวใจของวงดนตรี เป็นผู้กำหนดทิศทาง ควบคุมอารมณ์ และขับเคลื่อนบทเพลงให้มีชีวิตชีวา

กลองชุด คืออะไร?

กลองชุด (Drum Set) เป็นเครื่องดนตรีประเภทตีกระทบ ประกอบไปด้วยตัวกลองและฉาบจำนวนหลายใบ ผู้เล่นใช้ไม้กลองตี เพื่อสร้างจังหวะ ซึ่งเป็นเครื่องดนตรีที่มีเสียงหนักแน่น สามารถเพิ่มพลังให้กับบทเพลงได้หลากหลายแนว เช่น ร็อก, บลูส์, ป็อป, ฟังก์, ดิสโก้ และ แจ๊ส เป็นต้น กลองชุดจึงเป็นหนึ่งในเครื่องดนตรีที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก

ใครเหมาะสำหรับเล่นกลองชุด

กลองชุดเป็นเครื่องดนตรีที่เหมาะกับทุกคน ที่มีความสนใจและอยากเรียนรู้ โดยไม่จำกัดเพศ อายุ หรืออาชีพ  โดยสามารถแบ่งกลุ่มผู้ที่เหมาะสำหรับการเล่นกลองชุด ดังนี้

  • เด็ก: กลองชุดช่วยพัฒนาทักษะต่าง ๆ การประสานงานระหว่างมือและเท้า สมาธิ ความอดทน และความคิดสร้างสรรค์
  • วัยรุ่น: กลองชุดเป็นเครื่องดนตรีที่สนุกสนาน ท้าทาย ช่วยให้ผ่อนคลายความเครียด และสร้างความมั่นใจ
  • ผู้ใหญ่: กลองชุดช่วยให้คลายเครียด ออกกำลังกาย และสร้างความบันเทิง
  • นักดนตรี: กลองชุดเป็นเครื่องดนตรีที่สำคัญในวงดนตรีหลายประเภท
ทั้งนี้ ก่อนเล่นกลองชุดควรพิจารณาจากความสนใจ  เวลาในการฝึกซ้อม สถานที่หัดเล่นกลองชุด โดยไม่ส่งเสียงรบกวนผู้อื่น รวมถึงงบประมาณสำหรับซื้อกลองชุดใหญ่ อุปกรณ์ต่าง ๆ และค่าเรียน (ถ้ามี)

กลองชุดกับกลองไฟฟ้ามีความแตกต่างกันอย่างไร

ราคากลองชุด

กลองชุดและกลองไฟฟ้า ล้วนแต่เป็นเครื่องดนตรีประเภทตีกระทบเหมือนกัน แต่กลองไฟฟ้าจะใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการสร้างเสียงแทนการใช้หนังกลองและฉาบแบบกลองชุดทั่วไป โดยสามารถสรุปความแตกต่างระหว่างทั้ง 2 เครื่องดนตรีได้ ดังนี้

  • กลองชุดประกอบไปด้วยกลองและฉาบจำนวนหลายใบ ใช้ไม้กลองตีเพื่อสร้างเสียง โดยเป็นเสียงธรรมชาติ ราคากลองชุดค่อนข้างสูง เหมาะสำหรับผู้ที่มีพื้นที่สำหรับฝึกฝนและต้องการเล่นกลองชุดอย่างจริงจัง
  • กลองไฟฟ้าประกอบไปด้วยแพดกลองและฉาบไฟฟ้า ใช้ไม้กลองหรือแป้นตีเพื่อสร้างเสียง โดยเป็นเสียงที่จำลองมาจากกลองชุด ราคากลองไฟฟ้าจะถูกกว่ากลองชุด เหมาะสำหรับผู้ที่มีพื้นที่จำกัดและต้องการฝึกฝนการเล่นกลองโดยไม่รบกวนผู้อื่น
ดังนั้น กลองชุดและกลองไฟฟ้าต่างมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกัน ผู้เล่นควรเลือกกลองที่เหมาะกับความต้องการและสไตล์การเล่นของตัวเอง

การเล่นกลองชุด มีข้อดีอย่างไร

การเล่นเครื่องดนตรี ไม่ว่าจะประเภทใดก็ตามล้วนแต่มีข้อดี โดยเฉพาะการเล่นกลองชุด โดยมีข้อดี ดังต่อไปนี้

1. พัฒนาทักษะด้านร่างกายและสมอง

การเล่นกลองชุดช่วยพัฒนาทักษะต่าง ๆ การประสานงานระหว่างมือและเท้า การแยกประสาท สมาธิ ความอดทน และความคิดสร้างสรรค์ อีกทั้งยังถือว่าเป็นการออกกำลังกายที่ดี ช่วยให้เผาผลาญแคลอรีและเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แก่ผู้เล่น

2. เสริมสร้างบุคลิกภาพ

การเล่นกลองชุดช่วยให้ผู้เล่นมีความมั่นใจ กล้าแสดงออก กล้าคิดกล้าทำ มีวินัย รู้จักความรับผิดชอบ และทำงานเป็นทีม เพราะจะต้องเล่นดนตรีเป็นวง จึงต้องมีการประสานงานร่วมกับผู้อื่น เปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้พบปะผู้คนใหม่ ๆ และสร้างมิตรภาพ นอกจากนี้ การตีกลองชุดยังถือว่าเป็นการระบายอารมณ์ ผ่อนคลายความเครียด และความวิตกกังวลอีกช่องทางหนึ่ง พร้อมกันนั้น ยังทำให้ผู้เล่นรู้สึกสนุกสนาน เพลิดเพลิน และมีความสุข

3. พัฒนาทักษะทางดนตรี

การเล่นกลองชุดช่วยให้ผู้เล่นเรียนรู้เกี่ยวกับจังหวะ การอ่านโน้ต การเข้าใจทฤษฎีดนตรี และความคล่องแคล่วในการอ่านสัญลักษณ์ทางดนตรี โดยผู้เล่นจะต้องฟังจังหวะ เสียง และโทนเสียง เพื่อแยกแยะเสียงในจังหวะของการประสานเสียงของเครื่องดนตรีประเภทต่าง ๆ ตลอดจนฝึกความคิดสร้างสรรค์ในการสร้างจังหวะกลองใหม่ ๆ หรือฝึกไหวพริบในการเล่นกลองชุด

ด้วยกลองชุดมีข้อดีมากมาย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการพัฒนาทักษะด้านร่างกายและสมอง เสริมสร้างบุคลิกภาพ และพัฒนาทักษะทางดนตรีด้วยความสนุกสนาน ผ่อนคลายความเครียด อีกทั้งยังมีความท้าทาย เพราะกลองชุดมีเทคนิคการเล่นที่หลากหลาย ผู้เล่นสามารถพัฒนาทักษะและสไตล์การเล่นของตัวเองได้ ตลอดจนแสดงออกถึงความคิดสร้างสรรค์ผ่านเสียงดนตรี

ควรเลือกซื้อกลองชุดอย่างไร

หากต้องการซื้อกลองชุดควรพิจารณาอย่างรอบด้านด้วยปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้

  • งบประมาณ: กำหนดงบประมาณ เพราะค่าใช้จ่ายของกลองชุดรวมไปถึงค่ากลอง ฉาบ อุปกรณ์เสริม และค่าเรียน (ถ้ามี)
  • จำนวนกลอง: กลองชุดมีจำนวนกลองที่หลากหลาย เลือกจำนวนกลองให้เหมาะกับสไตล์การเล่น
  • ขนาดของกลอง: เลือกขนาดของกลองชุดให้เหมาะกับพื้นที่ฝึกฝนและสรีระของผู้เล่น
  • วัสดุของกลอง: กลองชุดมีวัสดุหลายประเภท เช่น ไม้ โลหะ อะคริลิก เลือกวัสดุให้เหมาะกับความชอบและงบประมาณ
  • แบรนด์: เลือกแบรนด์ของกลองชุดที่มีชื่อเสียงและน่าเชื่อถือ
ทั้งนี้ ก่อนตัดสินใจซื้อกลองชุด อาจจะติดต่อขอลองเล่นก่อน เพื่อให้แน่ใจว่า ชอบเสียงและขนาดของกลองชุด รวมทั้งเปรียบเทียบราคาจากหลาย ๆ แหล่ง และซื้อกลองชุดจากร้านขายกลองชุดที่เชื่อถือได้

กลองชุดราคาเริ่มต้นเท่าไร

แล้วกลองชุด ราคาเท่าไหร่ โดยทั่วไปแล้ว กลองชุด ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 5,000 บาท ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ วัสดุ และจำนวนกลอง เช่น

  • กลองชุด ราคาถูก 5,000 - 15,000 บาท มักทำจากไม้ MDF หรือวัสดุสังเคราะห์ มีจำนวนกลองน้อย ชิ้นส่วนอาจไม่แข็งแรง เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น
  • กลองชุด ราคา 15,000 - 30,000 บาท มักทำจากไม้จริง เช่น ไม้เบิร์ช ไม้เมเปิ้ล มีจำนวนกลองมากขึ้น ชิ้นส่วนมีความแข็งแรง ทนทาน เหมาะสำหรับผู้เล่นทั่วไป
  • กลองชุด ราคา 30,000 บาทขึ้นไป มักทำจากไม้คุณภาพสูง เช่น ไม้มะฮอกกานี ไม้โอ๊ค มีจำนวนกลองมาก ชิ้นส่วนคุณภาพสูง เหมาะสำหรับผู้เล่นมืออาชีพ

ยกตัวอย่างราคากลองชุดของยี่ห้อต่าง ๆ เช่น

  • กลองชุด Yamaha Stage Custom Birch ราคาเริ่มต้น 15,900 บาท
  • กลองชุด Pearl Roadshow ราคาเริ่มต้น 16,900 บาท
  • กลองชุด Ludwig Accent Drive ราคาเริ่มต้น 18,900 บาท

สรุปเกี่ยวกับกลองชุด

กลองชุด (Drum Set) เป็นเครื่องดนตรีประเภทตีกระทบ ประกอบไปด้วยตัวกลองและฉาบจำนวนหลายใบ เหมาะสำหรับผู้เล่นทุกเพศ ทุกวัย แตกต่างจากกลองไฟฟ้าด้วยการให้เสียงหนักแน่น เป็นธรรมชาติ การเล่นกลองชุดมีข้อดีหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาทักษะทางด้านร่างกาย สมอง และทางด้านดนตรี อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างบุคลิกภาพได้เป็นอย่างดี ดังนั้น หากต้องซื้อกลองชุด ควรศึกษาข้อมูลและเปรียบเทียบราคากลองชุดให้ดี เลือกซื้อจากร้านขายกลองชุดที่เชื่อถือได้เท่านั้น

50
กลอง

ดนตรีนั้นเป็นหนึ่งในวิธีการสื่อสารทางด้านอารมณ์ผ่านเสียงเครื่องดนตรีต่าง ๆ ซึ่งกลองนั้นเป็นหนึ่งในเครื่องดนตรีที่มีความเป็นมาที่ยาวนาน ด้วยเสียงที่เป็นเอกลักษณ์และมีความชัดเจน ทำให้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีความสนุกในการเล่น ไม่เพียงเท่านั้นยังช่วยเสริมทักษะต่าง ๆ ให้กับผู้เล่นกลองอีกด้วย

กลองนั้นเป็นหนึ่งบทบาทสำคัญในการเล่นดนตรี เมื่อต้องเล่นดนตรีร่วมกับเครื่องดนตรีอื่น ๆ ซึ่งส่วนมากกลองจะทำหน้าที่กำหนดจังหวะของดนตรีในแต่ละห้องเพลง ทำให้มีความท้าทายและสนุกสำหรับผู้เล่นดนตรีประเภทกลอง โดยข้อดีของการเล่นกลองมีอะไรบ้าง เหมาะกับใคร ราคาเริ่มต้นกลองเท่าไหร่ ไปดูกัน

ข้อดีของการเล่นกลอง ดีอย่างไร เสริมทักษะอะไรบ้าง

การฝึกฝนในการทำสิ่งต่าง ๆ นั้นมักจะได้ทักษะมาเสมอซึ่งรวมไปถึงการเล่นดนตรี เมื่อฝึกฝนเป็นประจำนอกจากจะทำให้เราชำนาญในเครื่องดนตรีชนิดนั้นแล้ว ยังได้ทักษะที่เราไม่รู้ตัวทางด้านอื่น ๆ อีกด้วย โดยผู้ที่เล่นกลองนั้นมีข้อดีดังนี้คือ

เพิ่มความอดทน

กลองชุดนั้นประกอบด้วยเครื่องดนตรีหลายชิ้น และมีการใช้งานที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งทำให้ต้องแยกประสาทในการใช้เครื่องดนตรีแต่ละชิ้นให้ถูกต้องและถูกจังหวะ ซึ่งจะมีความยากที่ต่างกันไปจากเครื่องดนตรีชนิดอื่น หากอดทนฝึกฝนจนเล่นได้นั้น เรียกได้ว่าต้องมีความอดทนและความชอบในระดับหนึ่ง

ผ่อนคลาย ระบายอารมณ์ ช่วยสร้างความคิดสร้างสรรค์

การเล่นกลองชนิดต่าง ๆ และกลองชุดนั้นจะต้องใช้กำลังแรงที่พอสมควร ขึ้นอยู่กับชนิดเพลงที่เราเล่น ซึ่งนอกจากการตีกลองจะช่วยให้ได้เพลิดเพลินไปกับเสียงเพลงและจังหวะที่เราสร้างขึ้นแล้ว ยังถึงได้ว่าเป็นการผ่อนคลาย ใช้แรงไปในทางที่ถูกต้อง ช่วยทำให้สมองโล่งและมีพื้นที่ให้ไอเดียดีๆผุดขึ้น

เสริมการควบคุม และการบริหาร

ผู้ที่ตีกลองนั้นสามารถจะเป็นคนควบคุมจังหวะของทำนอง ต้องคอยคุมจังหวะของเพลง และให้เครื่องดนตรีอื่น ๆ ไม่เสียจังหวะ หากเสียจังหวะมือกลองจะต้องทำให้จังหวะเข้าสู่ทำนองปกติอีกด้วย

ยืดหยุ่น ปรับตัวได้

การเล่นดนตรีนั้นมีหลายจังหวะ เพลงหลายชนิดหลายทำนอง ซึ่งมือกลองนั้นส่วนมากจะเป็นผู้เปลี่ยนและคุมจังหวะ ซึ่งต้องทำหน้าที่คอยสังเกตจังหวะของผู้เล่นดนตรีเครื่องอื่น ๆและปรับให้เหมาะกับตามสถานการณ์หน้างานอีกด้วย เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

กลอง เหมาะกับใครบ้าง

การตีกลองนั้นถือเป็นการเล่นดนตรีชนิดหนึ่งซึ่งเรียกได้ว่าเหมาะสำหรับทุกคนและทุกวัยที่สนใจ ซึ่งเด็กที่กำลังโตนั้นเหมาะกับการเล่นกลองเช่นเดียวกัน ซึ่งจะทำให้ช่วยฝึกแยกประสาทได้ไวขึ้น ซึ่งแม้คนสูงวัยก็สามารถฝึกเล่นกลองได้ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมทักษะต่าง ๆ โดยที่เราไม่รู้ตัวอย่างแน่นอน หากใครสนใจเรียนกลองนั้นหากมีงบสามารถไปเรียนตามสถานที่ต่าง ๆ ที่เปิดสอนเรียนกลองชุด หรือ หากใครต้องการเรียนด้วยตนเองสามารถซื้อคอร์สออนไลน์หรือดูตามสื่อต่าง ๆ ได้

กลอง ดูแลรักษาได้อย่างไรบ้าง

การดูแลรักษา กลอง มีวิธีอะไรบ้าง

การดูแลรักษากลองอย่างถูกวิธีนั้นจะช่วยให้กลองนั้นมีประสิทธิภาพที่ดีเหมือนใหม่ และใช้งานได้นาน โดยขั้นตอนการดูแลรักษานั้นไม่ยากอย่างที่คิด โดยมีวิธีดังนี้คือ

1. วัสดุกลองและอุปกรณ์ต่าง ๆที่เป็นโครเมียมควรหมั่นปัดฝุ่นด้วยแปรงปัดขนอ่อนเป็นประจำ
2. หากส่วนใดที่มีการหล่อลื่น และต้องการเติมควรหาน้ำมันหล่อลื่นที่เหมาะสม ทาบาง ๆ ตามจุดที่ต้องการ
3. ไม่ควรใช้น้ำยาขัดทองเหลืองกับฉาบ เนื่องจากอาจทำให้เสียงของฉาบเปลี่ยนไปได้
4. ไม่ควรจับฉากในขณะที่มือมีเหงื่อ หากสัมผัสควรเช็ดทำความสะอาดหลังการใช้งาน
5. ทำความสะอาดวัสดุต่าง ๆ ด้วยน้ำสบู่อ่อน และเช็ดให้แห้ง
6. หมั่นตรวจเช็คสภาพเครื่องดนตรีแต่ละชิ้นว่าเสียงเปลี่ยนไปหรือไม่

กลอง ราคาเริ่มต้นเท่าไร แพงหรือไม่

กลองชุดนั้นราคาจะแตกต่างกันไปหลายปัจจัย เช่น ราคาจะขึ้นอยู่ตามจำนวนเครื่องดนตรีของกลองชุดนั้น คุณภาพของวัสดุของหนังที่นำมาใช้หน้ากลอง วัสดุตัวกลอง จำนวนกลอง และจำนวนฉาบ ซึ่งจะมีราคาตั้งแต่ 8,000 บาทไปจนถึงหลัก 100,000 ซึ่งเป็นกลองที่มืออาชีพนั้นใช้เล่นดนตรีประกอบอาชีพนั่นเอง ซึ่งเราสามารถเลือกตามความเหมาะสม หากผู้ใดสนใจแต่กลัวเสียงรบกวน สามารถหาเลือกซื้อกลองไฟฟ้าที่สามารถใส่หูฟังและไม่รบกวนคนอื่นได้อีกด้วย

วิธีเลือกซื้อกลอง เลือกอย่างไรให้เหมาะกับเรา

การเลือกซื้อกลองนั้น ควรดูก่อนว่าเราเป็นผู้เริ่มต้นเรียนหรือไม่ หากสนใจเริ่มเรียนตีกลอง และมีงบที่จำกัด สามารถดูกลองชุดที่ราคาไม่สูงมากอาจจะเป็นหลักพันหรือหมื่นต้น ๆ เพื่อฝึกให้มีความคุ้นชิน หากใครที่ต้องการซื้อกลอง และต้องการเล่นดนตรีหลายประเภทอาจเลือกกลองที่มีเครื่องดนตรีหลายชิ้นเพื่อให้เหมาะกับประเภทดนตรีและทำนองต่าง ๆ หากใครที่ต้องการกลองชุดและไม่ต้องการให้เกิดเสียงดังรบกวนอาจเลือกเป็นกลองไฟฟ้าที่สามารถปรับเสียงได้หลายรูปแบบและสามารถใช้หูฟังเพื่อลดเสียงรบกวนได้อีกด้วย

ซื้อกลอง ที่ไหนดี ต้องดูอะไรบ้าง

สิ่งที่แนะนำสำหรับการเลือกซื้อกลองนั่นคือ ควรไปลองด้วยตนเองเพื่อการสัมผัสที่เราชอบหรือไม่ เสียงที่ได้ คุณภาพวัสดุต่าง ๆ ซึ่งสถานที่ที่เราเลือกไปซื้อควรมีความน่าเชื่อถือ มีสินค้าเป็นตัวเลือกให้เลือกมากมาย และมีบริการที่ดี ให้คำแนะนำลูกค้าที่มาสอบถามได้ จะช่วยให้ตัดสินใจซื้อกลองได้ดีขึ้น

สรุปกลอง เครื่องดนตรีที่ได้รับความนิยม

กลองนั้นมีหลากหลายประเภท และหนึ่งในประเภทที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากนั่นคือกลองชุด ที่มักอยู่ในวงดนตรีต่าง ๆ ซึ่งการตีกลองนั้นช่วยเสริมทักษะต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นความอดทน ผ่อนคลายระบายอารมณ์ เสริมความยืดหยุ่นในสถานการณ์ต่าง ๆ และการทำงานเป็นทีมเมื่อเล่นดนตรีกับผู้อื่น ซึ่งการเลือกซื้อกลองนั่นไม่ยาก เลือกกลองที่ผู้ซื้อสนใจ จำนวนเครื่องดนตรี เสียงที่ได้ ระบบต่าง ๆ เพื่อให้ตรงตามความต้องการของผู้ต้องการตีกลอง

หน้า: [1] 2 3 4 5 6 ... 9